📜
ชาติเทสวิจารณา
๑. ตตฺถ หิ เตน ธมฺมานนฺเทน ‘‘พุทฺธโฆโส โพธิมณฺฑสมีเป (พุทฺธคยายํ) ชาโตติ น ยุตฺตเมต’’นฺติ วตฺวา ตํสาธนตฺถาย จตฺตาริ พฺยติเรกการณานิ ทสฺสิตานิ. กถํ?
(ก) ‘‘พุทฺธโฆเสน ปกาสิเตสุ ตํกาลิกวตฺถูสุ เอกมฺปิ ตํ นตฺถิ, ยํ มคเธสุ อุปฺปนฺน’’นฺติ ปมํ การณํ ทสฺสิตํ. ตทการณเมว. อาจริยพุทฺธโฆสตฺเถโร หิ สงฺคหฏฺกถาโย กโรนฺโต โปราณฏฺกถาโยเยว ¶ สํขิปิตฺวา, ภาสาปริวตฺตนมตฺเตน จ วิเสเสตฺวา อกาสิ, น ปน ยํ วา ตํ วา อตฺตโน ทิฏฺสุตํ ทสฺเสตฺวา. วุตฺตฺเหตํ อาจริเยน –
‘‘สํวณฺณนํ ตฺจ สมารภนฺโต,
ตสฺสา มหาอฏฺกถํ สรีรํ;
กตฺวา มหาปจฺจริยํ ตเถว,
กุรุนฺทินามาทิสุ วิสฺสุตาสุ.
วินิจฺฉโย อฏฺกถาสุ วุตฺโต,
โย ยุตฺตมตฺถํ อปริจฺจชนฺโต;
อโถปิ อนฺโตคธเถรวาทํ,
สํวณฺณนํ สมฺม สมารภิสฺส’’นฺติ [ปารา. อฏฺ. ๑.คนฺถารมฺภกถา] จ.
‘‘ตโต จ ภาสนฺตรเมว หิตฺวา,
วิตฺถารมคฺคฺจ สมาสยิตฺวา;
วินิจฺฉยํ สพฺพมเสสยิตฺวา,
ตนฺติกฺกมํ กิฺจิ อโวกฺกมิตฺวา.
สุตฺตนฺติกานํ วจนานมตฺถํ,
สุตฺตานุรูปํ ปริทีปยนฺตี;
ยสฺมา อยํ เหสฺสติ วณฺณนาปิ,
สกฺกจฺจ ตสฺมา อนุสิกฺขิตพฺพา’’ติ [ปารา. อฏฺ. ๑.คนฺถารมฺภกถา] จ.
ยเถว จ อาจริยพุทฺธโฆเสน อตฺตโน อฏฺกถาสุ ตํกาลิกานิ มาคธิกานิ วตฺถูนิ น ปกาสิตานิ, ตเถว สีหฬิกานิปิ ทกฺขิณอินฺทิยรฏฺิกานิปิ. น หิ ตตฺถ วสภราชกาลโต (๖๐๙-๖๕๓ -พุทฺธวสฺส) ปจฺฉา อุปฺปนฺนวตฺถูนิ ทิฏฺานิ เปตฺวา มหาเสนราชวตฺถุํ [ปารา. อฏฺ. ๒.๒๓๖-๒๓๗], อาจริโย จ ตโต ติสตมตฺตวสฺเสหิ ปจฺฉาตเร มหานามรฺโ กาเล (๙๕๓-๙๗๕-พุ-ว) สีหฬทีปมุปาคโต. ตสฺมา อฏฺกถาสุ ตํกาลิกมาคธิกวตฺถูนํ อปฺปกาสนมตฺเตน น สกฺกา ตกฺกตฺตา น มาคธิโกติ าตุนฺติ.
[ข) ปุนปิ ¶ เตน ‘‘สพฺเพสุปิ พุทฺธโฆสคนฺเถสุ อุตฺตรอินฺทิยเทสายตฺตํ ปจฺจกฺขโต ทิฏฺสฺส วิย ปกาสนํ นตฺถี’’ติ ทุติยํ การณํ ทสฺสิตํ. ตสฺสปิ อการณภาโว ปุริมวจเนเนว เวทิตพฺโพ. อปิจ สารตฺถปฺปกาสินิยา นาม สํยุตฺตฏฺกถายํ, สุมงฺคลวิลาสินิยา นาม ทีฆนิกายฏฺกถายฺจ วุตฺตสํวณฺณนายปิ เวทิตพฺโพ. ตตฺถ หิ –
‘‘ยเถว หิ กลมฺพนทีตีรโต ราชมาตุวิหารทฺวาเรน ถูปารามํ คนฺตพฺพํ โหติ, เอวํ หิรฺวติกาย นาม นทิยา ปาริมตีรโต สาลวนํ อุยฺยานํ. ยถา อนุราธปุรสฺส ถูปาราโม, เอวํ ตํ กุสินาราย โหติ. ถูปารามโต ทกฺขิณทฺวาเรน นครํ ปวิสนมคฺโค ปาจีนมุโข คนฺตฺวา อุตฺตเรน นิวตฺตติ, เอวํ อุยฺยานโต สาลปนฺติ ปาจีนมุขา คนฺตฺวา อุตฺตเรน นิวตฺตา. ตสฺมา ตํ อุปวตฺตนนฺติ วุจฺจตี’’ติ [สํ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๑๘๖; ที. นิ. อฏฺ. ๒.๑๙๘] –
ปจฺจกฺขโต ทิฏฺสฺส วิย ปกาสนมฺปิ ทิสฺสเตว. ตมฺปิ ปน โปราณฏฺกถาหิ ภาสาปริวตฺตนมตฺตเมวาติ คเหตพฺพํ, ตาทิสาย อตฺถสํวณฺณนาย มหามหินฺทตฺเถรกาลโตเยว ปภุติ วุตฺตาย เอว ภวิตพฺพตฺตาติ.
[ค) ปุนปิ เตน ‘‘อุณฺหสฺสาติ อคฺคิสนฺตาปสฺส, ตสฺส วนทาหาทีสุ สมฺภโว เวทิตพฺโพ’’ติ วิสุทฺธิมคฺเค (๑, ๓๐-ปิฏฺเ) วุตฺตสํวณฺณนํ ปกาเสตฺวา ‘‘ตสฺสา ปนสฺส อวหสนียภาโว ปากโฏเยวา’’ติ จ หีเฬตฺวา ‘‘อินฺทิยรฏฺเ ปน อุตฺตรเทเสสุ คิมฺหกาเล วตฺถจฺฉาทนรหิตา มานุสกายจฺฉวิ สูริยสนฺตาเปน เอกํสโต ทยฺหติ, ตํ น ชานนฺติ ทกฺขิณอินฺทิยเทสิกา’’ติ ตติยํ การณํ ทฬฺหตรภาเวน ทสฺสิตํ. ตตฺถ ปน ยทิ ‘‘สูริยสนฺตาเปน เอกํสโต ทยฺหตี’’ติ เอตํ อุชุกโต สูริยรสฺมิสนฺตาเปเนว ทฑฺฒภาวํ สนฺธาย วุจฺเจยฺย, เอวํ สติ ฑํสมกสวาตาตปสรีสปสมฺผสฺสานนฺติ ปเท อาตปสทฺเทน สมานตฺถตฺตา น ยุตฺตเมว. ยทิ ปน สูริยสนฺตาปสฺชาเตน อุณฺหอุตุนา ทฑฺฒภาวํ สนฺธาย วุจฺเจยฺย, เอวํ สติ อุตฺตรอินฺทิยเทเสสุ, อฺตฺถ จ ตาทิเสสุ อติอุณฺหฏฺาเนสุ สูริยสนฺตาปสฺชาตสฺส อุณฺหอุตุโน ปฏิฆาตาย ¶ จีวรํ เสนาสนฺจ ปฏิเสวียตีติ อยมตฺโถ น น ยุตฺโต. ตถา หิ วุตฺตํ วินยฏฺกถายํ (๓, ๕๘)
‘‘สีตํ อุณฺหนฺติ อุตุวิสภาควเสน วุตฺต’’นฺติ.
สา ปน วิสุทฺธิมคฺเค ปทตฺถสํวณฺณนา โปราณสุตฺตนฺตฏฺกถาหิ อาคตา ภเวยฺย. ตถา หิ วุตฺตํ ปปฺจสูทนิยา นาม มชฺฌิมนิกายฏฺกถาย สพฺพาสวสุตฺตวณฺณนายํ (๑, ๕๘) ‘‘อุณฺหนฺติ เจตฺถ อคฺคิสนฺตาโปว เวทิตพฺโพ, สูริยสนฺตาปวเสน ปเนตํ วตฺถุ วุตฺต’’นฺติ. เอตฺถ จ สจายมตฺโถ อาจริเยน อตฺตโน มติวเสน วุตฺโต อสฺส, ตสฺส วตฺถุสฺส โปราณฏฺกถายํ วุตฺตภาวฺจ ตสฺสา อตฺถสํวณฺณนาย อตฺตโน มติภาวฺจ ยุตฺตภาวฺจ ปกาเสยฺย. อาจริโย หิ ยตฺถ ยตฺถ โปราณฏฺกถาสุ อวุตฺตตฺถํ วิเสเสตฺวา ทสฺเสติ, ตตฺถ ตตฺถ ตาทิสํ าปกวจนมฺปิ ปกาเสติเยว, ยถา สุมงฺคลวิลาสินิยํ (๑, ๗๒) ‘‘เอตฺถ อาณตฺติยนิสฺสคฺคิยถาวราปิ ปโยคา ยุชฺชนฺติ, อฏฺกถาสุ ปน อนาคตตฺตา วีมํสิตฺวา คเหตพฺพา’’ติ วจนํ, ยถา จ ปปฺจสูทนิยํ (๑, ๓๐) ‘‘อวิจาริตเมตํ โปราเณหิ, อยํ ปน อตฺตโน มตี’’ติ วจนํ. น เจตฺถ กิฺจิปิ าปกวจนํ ปกาสิตํ. ตสฺมา ‘‘ยเทตํ ‘อุณฺหสฺสาติ อคฺคิสนฺตาปสฺสา’ติ จ, ‘อุณฺหนฺติ เจตฺถ อคฺคิสนฺตาโปว เวทิตพฺโพ’ติ จ วจนํ, เอตํ โปราณสุตฺตนฺตฏฺกถาวจน’’นฺติ เวทิตพฺพนฺติ.
(ฆ) ปุนปิ เตน ‘‘ปปฺจสูทนิยา นาม มชฺฌิมนิกายฏฺกถายํ โคปาลกสุตฺตํ สํวณฺเณนฺโต [ม. นิ. อฏฺ. ๑.๓๕๐] พุทฺธโฆโส ‘มคธวิเทหรฏฺานํ อนฺตเร คงฺคาย นทิยา มชฺเฌ วาลุกตฺถลทีปกา อตฺถี’ติ สทฺทหติ มฺเ. พุทฺธโฆเสน ปน ทิฏฺคงฺคา สีหฬทีเป มหาเวลิคงฺคาเยว, น ปน อินฺทิยรฏฺิกานํ เสฏฺสมฺมตา มหาคงฺคาติ ปากโฏเยวายมตฺโถ’’ติ จตุตฺถํ การณํ ทสฺสิตํ. ตํ ปน อิทานิ มหาคงฺคาย มชฺเฌ ตสฺมึ าเน ตาทิสํ ทีปกํ อทิสฺวา ‘‘ปุพฺเพปิ เอวเมว ภเวยฺยา’’ติ เอกํสโต คเหตฺวา วุตฺตวจนมตฺตเมว. นทิโย ปน สพฺพทาปิ เตเนวากาเรน ติฏฺนฺตีติ น สกฺกา คเหตุนฺติ ปากโฏเยวายมตฺโถ. ตสฺมา ยถา ปุพฺเพ ตสฺส โคปาลสฺส กาเล ตสฺมึ าเน มชฺเฌ คงฺคาย ตาทิสา ทีปกา สํวิชฺชมานา อเหสุํ, ตเถว โปราณฏฺกถาสุ เอส อตฺโถ สํวณฺณิโต, ¶ ตเทว จ วจนํ อาจริเยน ภาสาปริวตฺตนํ กตฺวา ปกาสิตนฺติ เอวเมว คเหตพฺพํ. ตสฺมา ตมฺปิ อการณเมวาติ.