📜

ทกฺขิณอินฺทิยรฏฺิกภาวยุตฺติ

พหู ปน อาธุนิกา วิจกฺขณา ธมฺมานนฺทาทโย ‘‘อาจริยพุทฺธโฆสตฺเถโร ทกฺขิณอินฺทิยรฏฺิโก’’ติ วทนฺติ. อยํ ปเนตฺถ ยุตฺติ, เยภุยฺเยน หิ อฏฺกถาฏีกาการา เถรา ทกฺขิณอินฺทิยรฏฺิกาเยว. ตถา หิ พุทฺธวํสฏฺกถาย จ อภิธมฺมาวตารฏฺกถาย จ วินยวินิจฺฉยฏฺกถาย จ การโก อาจริยพุทฺธทตฺตตฺเถโร โจฬรฏฺเ ตมฺพปณฺณินทิยํ อุรคนคเร ชาโต อาจริยพุทฺธโฆเสน เอกกาลิโก จ. ปรมตฺถวินิจฺฉย-นามรูปปริจฺเฉท-อภิธมฺมตฺถสงฺคหานํ การโก อาจริยอนุรุทฺธตฺเถโร[เอกจฺเจ ปน วทนฺติ-ปรมตฺถวินิจฺฉยการโก เอโก, นามรูปปริจฺเฉทอภิธมฺมตฺถสงฺคหานํ การโก เอโกติ ทฺเว อนุรุทฺธตฺเถราติ]กฺจิวรรฏฺเ กาเวรินครชาติโก. ขุทฺทกนิกายปริยาปนฺนอุทานาทิปาฬิยา สํวณฺณนาภูตาย ปรมตฺถทีปนิยา การโก อาจริยธมฺมปาลตฺเถโรปิ ทกฺขิณอินฺทิยรฏฺเ กฺจิปุรชาติโก. ตเถวายมฺปีติ เวทิตพฺโพ. วุตฺตฺหิ มโนรถปูรณิยา นาม องฺคุตฺตรฏฺกถาย นิคมเน –

‘‘อายาจิโต สุมตินา, เถเรน ภทนฺตโชติปาเลน;

กฺจิปุราทีสุ มยา, ปุพฺเพ สทฺธึ วสนฺเตนา’’ติ.

เอตฺถ จ กฺจิปุรํ นาม มทรสนครสฺส อีสกํ ปจฺฉิมนิสฺสิเต ทกฺขิณทิสาภาเค ปฺจจตฺตาลีสมิลปฺปมาเณ ปเทเส อิทานิ กฺชีวร อิติ โวหริตนครเมว.

ตถา ปปฺจสูทนิยา นาม มชฺฌิมฏฺกถาย นิคมเนปิ –

‘‘อายาจิโต สุมตินา, เถเรน พุทฺธมิตฺเตน;

ปุพฺเพ มยูรทูต [มยูรรูป (สี.), มยูรสุตฺต (สฺยา.)] ปฏฺฏนมฺหิ สทฺธึ วสนฺเตนา’’ติ – วุตฺตํ.

เอตฺถ จ มยูรทูตปฏฺฏนํ นาม อิทานิ มทรสนครสมีเป มิลโปร อิติ โวหริตฏฺานนฺติ โปราณปฺปวตฺติคเวสีหิ วุตฺตํ.

อิมาหิ ปน นิคมนคาถาหิ ทกฺขิณอินฺทิยรฏฺเเยว นิวุตฺถปุพฺพตํ ปกาเสติ, โพธิมณฺฑสมีเป วา, มรมฺมรฏฺเ วา นิวุตฺถปุพฺพตาย ปกาสนฺจ น ทิสฺสติ. เตน อาจริยพุทฺธโฆโส ทกฺขิณอินฺทิยรฏฺิโก น โหตีติ น สกฺกา ปฏิกฺขิปิตุํ.

สมนฺตปาสาทิกายมฺปิ วินยฏฺกถายํ (๓, ๑๓) อาจริเยน เอวํ วุตฺตํ –

‘‘ยํ ปน อนฺธกฏฺกถายํ ‘อปริกฺขิตฺเต ปมุเข อนาปตฺตีติ ภูมิยํ วินา ชคติยา ปมุขํ สนฺธาย กถิต’นฺติ วุตฺตํ, ตํ อนฺธกรฏฺเ ปาเฏกฺกสนฺนิเวสา เอกจฺฉทนา คพฺภปาฬิโย สนฺธาย วุตฺต’’นฺติ.

อิมินา ปน วจเนน ‘‘อนฺธกฏฺกถา อนฺธกรฏฺิเกหิ เถเรหิ กตา’’ติ ปากฏา โหติ, อาจริยพุทฺธโฆโสปิ จ อนฺธกฏฺกถาย สนฺธายภาสิตมฺปิ ตนฺเทสิกคพฺภปาฬิสนฺนิเวสาการมฺปิ สุฏฺุ ชานาติ, ตสฺมา ตนฺเทสิโก น โหตีติ น สกฺกา วตฺตุนฺติ.

ตถา อิมสฺสปิ วิสุทฺธิมคฺคสฺส นิคมเน – ‘‘โมรณฺฑเขฏกวตฺตพฺเพนา’’ติ วุตฺตํ. เอตฺถ จ เขโฏติ ปทสฺส คาโมติ วา, ชานปทานํ กสฺสกานํ นิวาโสติ วา, ขุทฺทกนครนฺติ วา ตโย อตฺถา สกฺกตาภิธาเน ปกาสิตา, ทกฺขิณอินฺทิยรฏฺเสุ จ ยาวชฺชตนาปิ คาโม เขฑาติ โวหรียติ. ตสฺมา โมรณฺฑวฺหเย เขเฏ ชาโต โมรณฺฑเขฏโก, โมรณฺฑเขฏโก อิติ วตฺตพฺโพ โมรณฺฑเขฏกวตฺตพฺโพ, เตน โมรณฺฑเขฏกวตฺตพฺเพนาติ วจนตฺถํ กตฺวา ‘‘โมรณฺฑคาเม ชาโตติ วตฺตพฺเพน เถเรนา’’ติ อตฺโถ คเหตพฺโพ. อิทานิ ปน ทกฺขิณอินฺทิยรฏฺเ คุนฺตาชนปเท นาคารชุนโกณฺฑโต เอกปณฺณาสมิลมตฺเต (๕๑) อมรวติโต จ อฏฺปณฺณาสมิลมตฺเต (๕๘) ปเทเส โกตเนมลิปุรีติ จ คุนฺทลปลฺลีติ จ โวหริตํ านทฺวยมตฺถิ, ตตฺถ จ พหูนิ พุทฺธสาสนิกโปราณสนฺตกานิ ทิฏฺานิ, เนมลีติ เตลคุโวหาโร จ โมรสฺส, คุนฺทลุ อิติ จ อณฺฑสฺส, ตสฺมา ตํ านทฺวยเมว ปุพฺเพ โมรณฺฑเขโฏติ โวหริโต อาจริยพุทฺธโฆสสฺส ชาติคาโม ภเวยฺยาติ โปราณฏฺานคเวสีหิ คหิโต. ยสฺมา ปเนตํ ‘‘โมรณฺฑเขฏกวตฺตพฺเพนา’’ติ ปทํ ‘‘โมรณฺฑคามชาเตนา’’ติ ปทํ วิย ปาฬินยานุจฺฉวิกํ น โหติ, อฺเหิ จ พหูหิ วิเสสนปเทหิ เอกโต อฏฺตฺวา วิเสสฺยปทสฺส ปจฺฉโต วิสุํ ิตํ, อาคมฏฺกถาทีสุ จ น ทิสฺสติ, ตสฺมา เอตํ เกนจิ ตํกาลิเกน อาจริยสฺส ชาติฏฺานํ สฺชานนฺเตน ปกฺขิตฺตํ วิย ทิสฺสตีติ.

อิเมสุ ปน ตีสุ ‘‘อาจริยพุทฺธโฆโส โพธิมณฺฑสมีเป ชาโตติ จ มรมฺมรฏฺิโกติ จ ทกฺขิณอินฺทิยรฏฺิโก’’ติ จ วุตฺตวจเนสุ ปจฺฉิมเมว พลวตรํ โหติ อาจริยสฺเสว วจนนิสฺสิตตฺตา, ตสฺมา ตเทว นิสฺสาย อาจริยพุทฺธโฆสตฺเถรสฺส อุปฺปตฺติ เอวํ เวทิตพฺพา.