📜

นิสฺสยฏฺกถาวิภาวนา

วิสุทฺธิมคฺโค ปน น เกวลํ ปุพฺเพ วุตฺตปฺปกาเรเนว กโต, อถ โข วุจฺจมานปฺปกาเรนาปิ. ตถา หิ อาจริยพุทฺธโฆสตฺเถโร โปราณฏฺกถาหิ สมาหริตฺวา ภาสาปริวตฺตนวเสน ทสฺเสนฺโตปิ ยา ยา อตฺถวณฺณนา วา วินิจฺฉโย วา สํสยิตพฺโพ โหติ, ตตฺถ ตตฺถ วินยฏฺกถายํ วุตฺตนฺติ วา (๑, ๒๖๓), วินยฏฺกถาสุ วุตฺตํ, มชฺฌิมฏฺกถาสุ ปนาติ วา (๑, ๗๐), องฺคุตฺตรภาณกาติ วา (๑, ๗๒), อฏฺกถาจริยานํ มตานุสาเรน วินิจฺฉโยติ วา (๑, ๙๙), วุตฺตมฺปิ เจตํ อฏฺกถาสูติ วา (๑, ๑๑๘), ตํ อฏฺกถาสุ ปฏิกฺขิตฺตนฺติ วา (๑, ๑๓๔), ทีฆภาณกสํยุตฺตภาณกานํ มตนฺติ วา, มชฺฌิมภาณกา อิจฺฉนฺตีติ วา (๑, ๒๖๗), อฏฺกถาสุ วินิจฺฉโยติ วา, เอวํ ตาว ทีฆภาณกา, มชฺฌิมภาณกา ปนาหูติ วา (๑, ๒๗๗), องฺคุตฺตรฏฺกถายํ ปน…เป… อยํ กโม วุตฺโต, โส ปาฬิยา น สเมตีติ วา (๑, ๓๐๙), เอวํ ตาว มชฺฌิมภาณกา, สํยุตฺตภาณกา ปนาติ วา (๒, ๖๒), สํยุตฺตฏฺกถายํ วุตฺตนฺติ วา (๒, ๖๓), อฏฺกถายํ ปนาติ วา (๒, ๘๐) เอวํ ตํตํอตฺถวณฺณนาวินิจฺฉยานํ นิสฺสยมฺปิ วิภาเวตฺวา ปจฺฉิมชนานํ อุปฺปชฺชมานสํสยํ วิโนเทนฺโตเยว เต ทสฺเสสิ.

เตนิมสฺส วิสุทฺธิมคฺคสฺส กรณกาเล สพฺพาปิ สีหฬฏฺกถาโย อาจริยสฺส สนฺติเก สนฺตีติ จ, ปุพฺเพเยว ตา อาจริเยน สีหฬตฺเถรานํ สนฺติเก สุตาติ จ, ตาหิ คเหตพฺพํ สพฺพํ คเหตฺวา อยํ วิสุทฺธิมคฺโค อาจริเยน ลิขิโตติ จ อยมตฺโถ อติวิย ปากโฏ โหติ. ตสฺมา ยํ มหาวํเส –

‘‘สงฺโฆ คาถาทฺวยํ ตสฺสา’ทาสิ สามตฺถิยํ ตวา’’ติอาทินา ‘‘คาถาทฺวยเมว โอโลเกตฺวา กิฺจิปิ อฺํ โปตฺถกํ อโนโลเกตฺวา อาจริยพุทฺธโฆโส วิสุทฺธิมคฺคํ อกาสี’’ติ อธิปฺปาเยน อภิตฺถุติวจนํ วุตฺตํ, ตํ อภิตฺถุติมตฺตเมวาติ เวทิตพฺพํ.