📜
วินยฏฺกถากรณํ
อาจริโย ปน อิมํ วิสุทฺธิมคฺคปกรณํ ยถาวุตฺตปฺปกาเรน กตฺวา อฺาปิ ติปิฏกฏฺกถาโย อนุกฺกเมน อกาสิ. กถํ? สมนฺตปาสาทิกํ นาม วินยฏฺกถํ พุทฺธสิริตฺเถเรน อชฺเฌสิโต มหาวิหารสฺส ทกฺขิณภาเค ปธานฆรปริเวเณ มหานิคมสฺสามิโน ปาสาเท วสนฺโต อกาสิ. สา ปเนสา สิริปาโลติ นามนฺตรสฺส มหานามรฺโ วีสติมวสฺเส (๙๗๓-พุ-ว) อารทฺธา เอกวีสติมวสฺเส (๙๗๔-พุ-ว) นิฏฺานปฺปตฺตา อโหสิ. ตฺจ ปน กโรนฺโต มหามหินฺทตฺเถเรนาภตํ สีหฬภาสาย สงฺขตํ มหาอฏฺกถํ ตสฺสา สรีรํ กตฺวา มหาปจฺจรีกุรุนฺทีสงฺเขปอนฺธกฏฺกถาหิ จ คเหตพฺพํ คเหตฺวา สีหฬทีเป ยาว วสภราชกาลา ปากฏานํ โปราณ วินยธรมหาเถรานํ วินิจฺฉยภูตํ เถรวาทมฺปิ ปกฺขิปิตฺวา อกาสิ. วุตฺตฺเหตํ สมนฺตปาสาทิกายํ –
‘‘สํวณฺณนํ ตฺจ สมารภนฺโต, ตสฺสา มหาอฏฺกถํ สรีรํ;
กตฺวา มหาปจฺจริยํ ตเถว, กุรุนฺทินามาทิสุ วิสฺสุตาสุ.
วินิจฺฉโย ¶ อฏฺกถาสุ วุตฺโต, โย ยุตฺตมตฺถํ อปริจฺจชนฺโต;
ตโตปิ อนฺโตคธเถรวาทํ, สํวณฺณนํ สมฺม สมารภิสฺส’’นฺติ จ.
‘‘มหาเมฆวนุยฺยาเน, ภูมิภาเค ปติฏฺิโต;
มหาวิหาโร โย สตฺถุ, มหาโพธิวิภูสิโต.
ยํ ตสฺส ทกฺขิเณ ภาเค, ปธานฆรมุตฺตมํ;
สุจิจาริตฺตสีเลน, ภิกฺขุสงฺเฆน เสวิตํ.
อุฬารกุลสมฺภูโต, สงฺฆุปฏฺายโก สทา;
อนากุลาย สทฺธาย, ปสนฺโน รตนตฺตเย.
มหานิคมสามีติ, วิสฺสุโต ตตฺถ การยิ;
จารุปาการสฺจิตํ, ยํ ปาสาทํ มโนรมํ.
สนฺทจฺฉายตรูเปตํ, สมฺปนฺนสลิลาสยํ;
วสตา ตตฺร ปาสาเท, มหานิคมสามิโน.
สุจิสีลสมาจารํ, เถรํ พุทฺธสิริวฺหยํ;
ยา อุทฺทิสิตฺวา อารทฺธา, อิทฺธา วินยวณฺณนา.
ปาลยนฺตสฺส สกลํ, ลงฺกาทีปํ นิรพฺพุทํ;
รฺโ สิรินิวาสสฺส[สิริยา นิวาสฏฺโนภูตสฺส สิริปาลนามกสฺส รฺโ (วิมติ, อนฺติมวิฏฺเ)], สิริปาลยสสฺสิโน.
สมวีสติเม วสฺเส, ชยสํวจฺฉเร อยํ;
อารทฺธา เอกวีสมฺหิ, สมฺปตฺเต ปรินิฏฺิตา.
อุปทฺทวากุเล โลเก, นิรุปทฺทวโต อยํ;
เอกสํวจฺฉเรเนว, ยถา นิฏฺํ อุปาคตา’’ติ [ปริ. อฏฺ. นิคมนกถา] จ.
อยฺจ สมนฺตปาสาทิกา วินยฏฺกถา อธุนา มุทฺทิตฉฏฺสงฺคีติโปตฺถกวเสน สหสฺสโต อุปริ อฏฺปณฺณาสาธิกติสตมตฺตปิฏฺปริมาณา (๑๓๕๘) โหติ, ตสฺสา จ เอกสํวจฺฉเรน นิฏฺาปิตตฺตํ อุปนิธาย จตุวีสาธิกสตฺตสตมตฺตปิฏฺปริมาโณ (๗๒๔) วิสุทฺธิมคฺโคปิ อนฺตมโส ฉปฺปฺจมาเสหิ นิฏฺาปิโต ภเวยฺยาติ สกฺกา าตุํ. ตสฺมา ยํ พุทฺธโฆสุปฺปตฺติยํ มหาวํสวจนํ นิสฺสาย ‘‘วิสุทฺธิมคฺโค อาจริยพุทฺธโฆเสน ¶ เอกรตฺเตเนว ติกฺขตฺตุํ ลิขิตฺวา นิฏฺาปิโต’’ติ อภิตฺถุติวจนํ วุตฺตํ, ตํ ตกฺการกสฺส อภิตฺถุติมตฺตเมวาติ เวทิตพฺพํ.
นนุ จ อิมิสฺสํ อฏฺกถายํ ‘‘สุมงฺคลวิลาสินิย’’นฺติอาทินา วิเสสนามวเสน อาคมฏฺกถานํ อติเทโส ทิสฺสติ [ปารา. อฏฺ. ๑.๑๕], กถมิมิสฺสา ตาหิ ปมตรํ กตภาโว เวทิตพฺโพติ? อาจริยสฺส อฏฺกถาสุ อฺมฺาติเทสโต, วินยปิฏกสฺส ครุกาตพฺพตรภาวโต, มหาวิหารวาสีหิ วิเสเสน ครุกตภาวโต, สงฺคีติกฺกมานุรูปภาวโต, อิเธว ปริปุณฺณนิทานกถาปกาสนโต, นิคมเน จ ปมํ สีหฬฏฺกถาโย สุตฺวา กรณปฺปกาสนโต เปตฺวา วิสุทฺธิมคฺคํ อยเมว ปมํ กตาติ เวทิตพฺพา. วิสุทฺธิมคฺเค ปน วินยฏฺกถายนฺติ วา วินยฏฺกถาสูติ วา มชฺฌิมฏฺกถาสูติ วา เอวํ สามฺนามวเสเนว อติเทโส ทิสฺสติ, น สมนฺตปาสาทิกาทิวิเสสนามวเสน. ตสฺมาสฺส สพฺพปมํ กตภาโว ปากโฏเยว. อาคมฏฺกถานํ อิธาติเทโส [ปารา. อฏฺ. ๑.๑๕] อิมิสฺสาปิ ตตฺถาติ [ที. นิ. อฏฺ. ๑.๘] เอวํ อฺมฺาติเทโส ปน อาจริยสฺส มนสา สุววตฺถิตวเสน วา สกฺกา ภวิตุํ, อปุพฺพาจริมปรินิฏฺาปเนน วา. กถํ? อาจริเยน หิ วิสุทฺธิมคฺคํ สพฺพโส นิฏฺาเปตฺวา สมนฺตปาสาทิกาทึ เอเกกมฏฺกถํ กโรนฺเตเนว ยตฺถ ยตฺถ อตฺถวณฺณนา วิตฺถารโต อฺฏฺกถาสุ ปกาเสตพฺพา โหติ, ตตฺถ ตตฺถ ‘‘อิมสฺมึ นาม าเน กเถสฺสามี’’ติ มนสา สุววตฺถิตํ ววตฺถเปตฺวา ตฺจ อติทิสิตฺวา ยถาววตฺถิตานปฺปตฺตกาเล ตํ วิตฺถารโต กเถนฺเตน ตา กตา วา ภเวยฺยุํ. เอเกกิสฺสาย วา นิฏฺานาสนฺนปฺปตฺตกาเล ตํ เปตฺวา อฺฺจ อฺฺจ ตถา กตฺวา สพฺพาปิ อปุพฺพาจริมํ ปรินิฏฺาปิตา ภเวยฺยุนฺติ เอวํ ทฺวินฺนํ ปการานมฺตรวเสน อาจริยสฺสาฏฺกถาสุ อฺมฺาติเทโส โหตีติ เวทิตพฺพนฺติ.