📜
ปตฺชลิวาทวิจารณา
๓. อถ เตน ‘‘ปาตฺชลีมตํ ปริวตฺเตตี’’ติ วจนมฺปิ เอวํ วิจาริตํ.
(ก) ‘‘พุทฺธโฆโส ปตฺชลิสฺส วา อฺเสํ วา อุตฺตรอินฺทิยรฏฺิกานํ วาทํ อปฺปกเมว อฺาสิ. ปตฺชลิวาเทสุ หิ อณิมา ลฆิมาติ อิทเมว ทฺวยํ ทสฺเสสิ [วิสุทฺธิ. ๑.๑๔๔] ตตุตฺตริ โยคสุตฺตํ อชานนฺโต, ปตฺชลิวาทสฺส จ ตุเลตฺวา ทีปนา ตสฺส คนฺเถสุ น ทิสฺสติ, ปตฺชลินา กตปกรณฺจ ปตฺชลีติ นามมตฺตมฺปิ จ ตตฺถ ทีปิตํ นตฺถิ. วิสุทฺธิมคฺเค ปน ปฺาภูมินิทฺเทเส ‘ปกติวาทีนํ ปกติ วิยา’ติ [วิสุทฺธิ. ๒.๕๘๔] ปกติวาท (สํขฺยาวาท) นามมตฺตํ ปกาสิตํ, ตตฺเถว จ ‘ปฏิฺา เหตูติอาทีสุ หิ โลเก วจนาวยโว ¶ เหตูติ วุจฺจตี’ติ [วิสุทฺธิ. ๒.๕๙๕] อุทาหริตํ, เตน ายติ ‘พุทฺธโฆโส อินฺทิยตกฺกนยทีปเก ายคนฺถสฺมึ กิฺจิ มูลภาคมตฺตํ อปริปุณฺณํ ชานาตี’ติ’’.
ตํ ปน สพฺพมฺปิ เกวลํ อาจริยสฺส อพฺภาจิกฺขณมตฺตเมว. อติคมฺภีรสฺส หิ อติครุกาตพฺพสฺส สุปริสุทฺธสฺส ปิฏกตฺตยสฺส อตฺถสํวณฺณนํ กโรนฺเตน สุปริสุทฺโธเยว ปาฬินโย จ อฏฺกถานโย จ โปราณเถรวาทา จาติ อีทิสาเยว อตฺถา ปกาเสตพฺพา, ยํ วา ปน อตฺถสํวณฺณนาย อุปการกํ สทฺทวินิจฺฉยปฏิสํยุตฺตํ โลกิยคนฺถวจนํ, ตเทว จ ยถารหํ ปกาเสตพฺพํ, น ปน อนุปการานิปิ ตํตํคนฺถตกฺกตฺตุนามานิ จ, เตหิ วุตฺตวจนานิ จ พหูนิ, น จ เตสํ อปฺปกาสเนน ‘‘น เต อฏฺกถาจริโย ชานาตี’’ติ วตฺตพฺโพ. ยทิ หิ ยํ ยํ โลกิยคนฺถํ อตฺตนา ชานาติ, ตํ สพฺพํ อนุปการมฺปิ อตฺตโน อฏฺกถายมาเนตฺวา ปกาเสยฺย, อติวิตฺถารา จ สา ภเวยฺย อปริสุทฺธา จ อสมฺมานิตา จ สาสนิกวิฺูหีติ อาจริเยน ปตฺชลิวาทาทโย น วิตฺถาเรน ปกาสิตาติ าตพฺพํ, อฺทตฺถุ เยหิ เยหิ โลกิยคนฺเถหิ กิฺจิ กิฺจิ อาจริเยน อาเนตฺวา ปกาสิตํ, เต เต จ คนฺถา, อฺเปิ จ ตาทิสา อาจริเยน าตาตฺเวว ชานิตพฺพา วิฺูหิ, ยถา สมุทฺทสฺส เอกเทสํ ทิสฺวา สพฺโพปิ สมุทฺโท เอทิโสติ ายติ. อาจริโย ปน ยตฺถ ยตฺถ เวทปฏิสํยุตฺตวจนานิ อาคตานิ, ตตฺถ ตตฺถ เวทคนฺเถหิปิ กิฺจิ กิฺจิ อาเนตฺวา ปกาเสสิเยว. ตถา หิ อาจริเยน สุมงฺคลวิลาสินิยํ นาม ทีฆนิกายฏฺกถายํ –
‘‘ติณฺณํ เวทานนฺติ อิรุเวทยชุเวทสามเวทาน’’นฺติ [ที. นิ. อฏฺ. ๑.๒๕๖] จ,
‘‘อิติหาสปฺจมานนฺติ อถพฺพณเวทํ จตุตฺถํ กตฺวา อิติห อาส อิติห อาสาติ อีทิสวจนปฏิสํยุตฺโต ปุราณกถาสงฺขาโต อิติหาโส ปฺจโม เอเตสนฺติ อิติหาสปฺจมา, เตสํ อิติหาสปฺจมานํ เวทาน’’นฺติ [ที. นิ. อฏฺ. ๑.๒๕๖] จ,
‘‘ยิฏฺํ วุจฺจติ มหายาโค’’ติ [ที. นิ. อฏฺ. ๑.๑๗๐-๑๗๒] จ,
‘‘อคฺคิโหมนฺติ ¶ เอวรูเปน ทารุนา เอวํ หุเต อิทํ นาม โหตีติ อคฺคิชุหนํ. ทพฺพิโหมาทีนิปิ อคฺคิโหมาเนว, เอวรูปาย ทพฺพิยา อีทิเสหิ กณาทีหิ หุเต อิทํ นาม โหตีติ เอวํ ปวตฺติวเสน ปน วิสุํ วุตฺตานี’’ติ [ที. นิ. อฏฺ. ๑.๒๑] จ,
‘‘สาสปาทีนิ ปน มุเขน คเหตฺวา อคฺคิมฺหิ ปกฺขิปนํ, วิชฺชํ ปริชปฺปิตฺวา ชุหนํ วา มุขโหม’’นฺติ [ที. นิ. อฏฺ. ๑.๒๑] จ –
เอวมาทินา เวทปฏิสํยุตฺตวจนานิ เวทคนฺถานุรูปโต วณฺณิตานิ. ตานิ จ โปราณฏฺกถาโต ภาสาปริวตฺตนวเสน วุตฺตานิปิ ภเวยฺยุํ, เวทคนฺเถสุ ปน อโกวิเทน ยาถาวโต ภาสาปริวตฺตนํ กาตุมฺปิ น สุกรเมว, ตสฺมา อาจริยสฺส เวทคนฺเถสุ โกวิทภาโวปิ ปากโฏเยว. เอวํ เวทคนฺเถสุ จ ตทฺโลกิยคนฺเถสุ จ สุโกวิทสฺเสว สมานสฺส เตสํ วิตฺถารโต อปฺปกาสนํ ยถาวุตฺตการเณเนวาติ เวทิตพฺพํ.
อปิ จ อาจริโย อตฺตโน คนฺถารมฺเภเยว –
‘‘ตโต จ ภาสนฺตรเมว หิตฺวา,
วิตฺถารมคฺคฺจ สมาสยิตฺวา;
วินิจฺฉยํ สพฺพมเสสยิตฺวา…เป…
ยสฺมา อยํ เหสฺสติ วณฺณนาปี’’ติ [ปารา. อฏฺ. ๑.คนฺถารมฺภกถา] จ.
‘‘อปเนตฺวาน ตโตหํ, สีหฬภาสํ มโนรมํ ภาสํ;
ตนฺตินยานุจฺฉวิกํ, อาโรเปตฺวา วิคตโทสํ.
สมยํ อวิโลเมนฺโต, เถรานํ เถรวํสปทีปานํ;
สุนิปุณวินิจฺฉยานํ, มหาวิหาเร นิวาสินํ;
หิตฺวา ปุนปฺปุนาคต-มตฺถํ อตฺถํ ปกาสยิสฺสามี’’ติ [ที. นิ. อฏฺ. ๑.คนฺถารมฺภกถา] จ–
เอวํ โปราณฏฺกถานํ ภาสาปริวตฺตนสํขิปนวเสเนว วิเสเสตฺวา อภินวฏฺกถาโย กริสฺสามีติ ปฏิฺํ กตฺวา ยถาปฏิฺาตเมว อกาสิ, น อตฺตโน าณปฺปภาเวน วิเสเสตฺวาติปิ เวทิตพฺพํ. ตสฺมา อฏฺกถาสุ ¶ ปตฺชลิวาทาทีนํ วิตฺถารโต อปฺปกาสนมารพฺภ ‘‘พุทฺธโฆโส ปตฺชลิวาทาทีนิ ปริปุณฺณํ น ชานาตี’’ติ วจนํ เกวลํ อาจริยสฺส อพฺภาจิกฺขณมตฺตเมวาติ.