📜
๒. เจตสิกสงฺคหอนุทีปนา
๖๘. เอวํ ¶ จิตฺต สงฺคหสฺส ทีปนึ กตฺวา เจตสิก สงฺคหสฺส ทีปนึ กโรนฺโต ปถมํ ปุพฺพาปรานุ สนฺธิฺจ อาทิคาถาย ปโยชน สมฺพนฺธฺจ ทสฺเสตุํ ‘‘เอวํ’’ติอาทิ มารทฺโธ. ตตฺถ ‘‘อนุปตฺต’’นฺติอาทิมฺหิ จิตฺตํ เจตสิกํ รูปํ, นิพฺพานมิติสพฺพถาติ เอวํ อนุกฺกโม วุตฺโต. เตน อนุกฺกเมน อนุปตฺตํ. เหตุ วิเสสนฺเจตํ. ยสฺมา จิตฺตสงฺคหานนฺตรํ เจตสิก สงฺคโห อนุปตฺโต, ตสฺมา อิทานิ ตํ สงฺคหํ กโรตีติ ทีเปติ. จตฺตาริ สมฺปโยค ลกฺขณานิ ‘เอกุปฺปาทตา, เอก นิโรธตา, เอกา รมฺมณตา, เอก วตฺถุกตา,ติ. ‘‘เจตสิ ยุตฺตา’’ติ จิตฺตสฺมึ นิยุตฺตา. จิตฺตํ นิสฺสาย อตฺตโน อตฺตโน กิจฺเจสุ อุสฺสุกฺกํ อาปนฺนาติ อตฺโถ. ‘‘เจตสา วายุตฺตา’’ติ จิตฺเตน วา สมฺปยุตฺตา. จิตฺเตน สห เอกีภาวํ คตาติ อตฺโถ. ‘‘สรูปทสฺสน’’นฺติ สงฺขฺยาสรูปทสฺสนํ. สิทฺธปทํ นาม ปกติ ปจฺจเยหิ นิปฺผนฺน ปทํ. ‘‘ปุพฺพนฺตโต’’ติ เอกสฺสสงฺขต ธมฺมสฺส ปถม ภาคโต. อุทฺธํ ปชฺชนํ นาม กตมนฺติ อาห ‘‘สรูปโต ปาตุภวน’’นฺติ. ธาตุ ปาเสุ-ชนิปาตุภาเว-ติ วุตฺตตฺตา อาห ‘‘ชาตีติ วุตฺตํ โหตี’’ติ. ‘‘สรูป วินาโส’’ติ สรูปโต ปาตุภวนฺตสฺส ภาวสฺส วินาโส อนฺตรธานํ. ‘‘เอวํ ปรตฺถ ปี’’ติ ปรสฺมึ เอกาลมฺพณวตฺถุกาทิปเทปิ. ‘‘เอก จิตฺตสฺสปิ พหุเทวา’’ติ จกฺขุ วิฺาณํ รูปํ ปสฺสนฺตํ เอกเมว รูปํ ปสฺสตีติ นตฺถิ. อเนกานิ เอวรูปานิ เอกโต กตฺวา ปสฺสติ. โสตวิฺาณาทีสุปิ เอเสว นโย. เอวฺจ กตฺวา ปาฬิยํ. จกฺขฺุจ ปฏิจฺจ รูเป จ อุปฺปชฺชติ จกฺขุ วิฺาณํ. โสตฺจ ปฏิจฺจ สทฺเท จ อุปฺปชฺชติ โสตวิฺาณนฺติอาทินา วตฺถุทฺวาเรสุ เอกวจนํ วตฺวา อารมฺมเณสุ พหุวจนํ กตนฺติ. ‘‘เอกตฺตํ อุปเนตฺวา’’ติ จกฺขุ วิฺาเณ พหูนิปิ รูปารมฺมณานิ รูปตา สมฺเน เอกีภาวํ กตฺวา เอกํ อารมฺมณนฺตฺเวว วุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย. สทฺทารมฺมณาทีสุปิ เอเสว นโย. ตํ น สุนฺทรํ. กสฺมา. อตฺถ วิเสสสฺส อวิฺาปนโต. โกปนายํ อตฺถ วิเสโสติ ¶ . ยาจิตฺตสฺส ชาติ, สาเยว ผสฺสาทีนนฺติอาทิโก อตฺโถ. เตนาห ‘‘อถ โข’’ติอาทึ. อธิปฺเปตา เอกุปฺปาทตา. เอส นโย เอก นิโรธตาทีสุ. ‘‘มูลฏีกาย’’นฺติ รูปกณฺฑมูลฏีกายํ. ‘‘สเหวา’’ติ เอกโต เอว. ‘‘อุปฺปาทาทิปฺปวตฺติโต’’ติ อุปฺปาทสฺส จ ชีรณสฺส จ นิโรธสฺส จ ปวตฺติโต. ‘‘อุปฺปาทาทโย’’ติ อุปฺปาท ชีรณ นิโรธา. ชาติชรามรณานีติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘เจตสิกามตา’’ติ เจตสิกา อิติ วิฺาตา. ‘‘ภาวปฺปธานํ’’ติ เอกุปฺปาท ภาโว เอกุปฺปาโทติ วุตฺโต. ตถา เอก นิโรธาทีสุ. ยถา อิทํปิ สงฺเฆรตนํ ปณีต-นฺติอาทีสุ อยํ รตน ภาโว ปณีโตติ เหตฺถ อตฺโถ. ‘‘เย’’ติ เย ธมฺมา. ‘‘สหชาต ปจฺจยุปฺปนฺน รูปานิ ปี’’ติ สหชาตปจฺจยโต อุปฺปนฺนานิ รูปานิปิ. เจตสิกานิ นาม สิยุนฺติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ตทา ยตฺต วุตฺติตายา’’ติ จิตฺตายตฺตวุตฺติยาย. ‘‘เจโตยุตฺตานี’’ติ เหตุ วิเสสนํ. ตเทว เหตุมนฺต วิเสสนนฺติ จ เหตุ อนฺโต นีตวิเสสนนฺติ จ เหตุ อนฺโต คธวิเสสนนฺติ จ วทนฺติ. ‘‘เตส’’นฺติ จิตฺตสฺส สหชาตปจฺจยุปฺปนฺนรูปานํ. ‘‘นานุโภนฺตี’’ติ นปาปุณนฺติ. ‘‘น หิ สกฺกา ชานิตุํ’’ติ เอเตน ภูตกถน วิเสสนานิ เอตานีติ ทีเปติ. ภูตกถนํปิ สมานํ วตฺติจฺฉาวเสน พฺยวจฺเฉทกํปิ สมฺภวติ. ‘‘วโยปฺายตี’’ติ วินาโส ปกาสติ. ‘‘ิตายา’’ติ ติฏฺ มานาย เวทนาย. อฺโ ปกาโร อฺถา. อฺถา ภาโว อฺถตฺตํ. ชราวเสน ปริณาโมติ วุตฺตํ โหติ. โย ปถวีธาตุยา อุปฺปาโท, ยา ิติ, ยา อภินิพฺพตฺติ, โย ปาตุภาโว. เอโส ทุกฺขสฺส อุปฺปาโท, เอสา โรคานํ ิติ, เอโส ชรามรณสฺส ปาตุภาโวติ โยชนา. ‘‘อิตรถา’’ติ อิโต อฺถา คหิเต สตีติ อตฺโถ. เอกสฺมึ รูปารูปกลาเป นานา ธมฺมานํ วเสน พหูสุ อุปฺปาเทสุ จ นิโรเธสุ จ คหิเตสูติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘วิการรูปานํ’’ติ วิฺตฺติ ทฺวย ลหุตาทิตฺตยานํ. สพฺพานิปิ อุปาทารูปานิ จตุนฺนํ มหาภูตานํ อุปาทาย ปวตฺตตฺตา มหาภูต คณนาย จตฺตาริ จตฺตาริ สิยุํติ อิมินา อธิปฺปาเยน ‘‘สพฺเพสมฺปิ วา’’ติอาทิวุตฺตํ. สพฺเพสมฺปิ วา จกฺขาทีนํ อุปาทารูปานํ เอเกกสฺมึ กลาเป ¶ พหุภาโว วตฺตพฺโพ สิยาติ โยชนา. กสฺมา พหุภาโว วตฺตพฺโพติ อาห ‘‘จตุนฺนํ มหาภูตาน’’นฺติอาทึ.
ยทิ เอวํ, เอกสฺมึ จิตฺตุปฺปาเท ลหุตาทีนิปิ เอเกกานิ เอว สิยุํ, อถ กิมตฺถํ ทฺเว ทฺเว กตฺวา วุตฺตานีติ อาห ‘‘กายลหุตา จิตฺต ลหุตาทโยปนา’’ติอาทึ. ‘‘อิมมตฺถํ อสลฺลกฺเขตฺวา’’ติ อีทิสํ วินิจฺฉยตฺตํ อจินฺเตตฺวาติ อธิปฺปาโย. วิภาวนิปาเ ‘‘จิตฺตานุปริวตฺติโน’’ติ เอเตน จิตฺเตน อุปฺปชฺชิตฺวา เตเนว จิตฺเตน สหนิรุชฺฌนวเสน จิตฺตํ อนุปริวตฺติสฺส. ‘‘ปสงฺคา’’ติ เจตสิกตา ปสงฺโค. ‘‘ปุเรตรมุปฺปชฺชิตฺวา’’ติ ปุเรตรํ เอเกน จิตฺเตน สห อุปฺปชฺชิตฺวาติ อธิปฺปาโย. ‘‘จิตฺตสฺสภงฺคกฺขเณ’’ติ อฺสฺส สตฺตร สม จิตฺตสฺส ภงฺคกฺขเณ. ตถา รูปธมฺมานํ ปสงฺโค น สกฺกา นีวาเรตุํ ติโยชนา. ‘‘ปสงฺโค’’ติ เจตสิกตา ปสงฺโค. ‘‘อลมติ ปปฺเจนา’’ติ อภิธมฺเม เวทนาตฺติเกฏีกาสุ วิย อติ วิตฺถาเรน นิรตฺถกํ โหตีติ อตฺโถ. ‘‘นิรตฺถกํ’’ติ วิภาวนิยํ ปปฺโจ นิรตฺถโก เอวาติ อธิปฺปาโย.
๖๙. ผสฺสวจนตฺเถ. ‘‘ผุสตี’’ติ อารมฺมณํ อาหนติ, สงฺฆฏฺเฏติ. ตฺจ สงฺฆฏฺฏ นํ นโทสปฏิฆสฺส วิย อารมฺมณสฺส วิพาธนํ โหติ, อถ โข ภมรสฺส ปทุม ปุปฺเผสุ ปุปฺผร สคฺคหณํ วิย วิชานน มตฺเต อตฺวา อารมฺมณ รสปาตุภาวตฺถํ ยถารมฺมณํ สํหนน เมวาติ ทสฺเสตุํ ‘‘ผุสนฺเจตฺถา’’ติอาทิมาห. ‘‘อาหจฺจา’’ติ อาหนิตฺวา สมฺปาปุณิตฺวา. ‘‘อุปหจฺจา’’ติ ตสฺเสว เววจนํ. อยมตฺโถ กถํ ปากโฏติ อาห ‘‘ยโต’’ติอาทึ. ตตฺถ ‘‘ยโต’’ติ ยํ การณา. ‘‘ตทนุภวนฺตี’’ติ ตํ อารมฺมณ รสํ อนุภวนฺตี, เวทนา ปาตุภวติ, เวทนา ปาตุภาวํ ทิสฺวา อารมฺมณปฺผุสนํ าเณ ปากฏํ โหตีติ อธิปฺปาโย. สฺวายํ ผุสน ลกฺขโณ, สงฺฆฏฺฏนรโส, สนฺนิปาตปจฺจุปฏฺาโน, อาปาตา คตวิสย ปทฏฺาโน. ตตฺถ สนฺนิปาโต นาม ติณฺณํ ติณฺณํ ทฺวารา รมฺมณ วิฺาณานํ สงฺคติ สมาคโม สโมธานํ. ตถาหิ วุตฺตํ. จกฺขฺุจ ปฏิจฺจ รูเป จ อุปฺปชฺชติ จกฺขุ วิฺาณํ, ติณฺณํ สงฺคติ ผสฺโส ติอาทิ. ‘‘สงฺฆฏฺฏนรโส’’ติ อารมฺมเณ สมฺมเทว ฆฏฺฏน ¶ กิจฺโจ. สงฺฆฏฺฏน กิจฺจตฺตา เอว ติณฺณํ สนฺนิปาโต หุตฺวา ธมฺม จินฺตาาณสฺส ปฏิมุขํ อุปฏฺาติ ปกาสตีติ. ‘‘สนฺนิปาต ปจฺจุปฏฺาโน’’. ปจฺจุปฏฺานนฺติ วา ปฺาณํ วุจฺจติ ธโชรถสฺส ปฺาณนฺติ เอตฺถ วิย. สนฺนิปาตากาโร ปจฺจุปฏฺานํ ยสฺสาติ สนฺนิปาตปจฺจุปฏฺาโน. เวทนาปจฺจุ ปฏฺาโน วา. ธูโมวิย อคฺคิสฺส. เวทนาผลํ ปจฺจุปฏฺานํ ยสฺสาติ วิคฺคโห. อฏฺสาลินิยํ ปน กสฺมา ปเนตฺถ ผสฺโส ปถมํ วุตฺโต ติปุจฺฉิตฺวา มหาอฏฺกถา วาโทตาว ทสฺสิโต. จิตฺตสฺส ปถมาภินิปาตตฺตา. อารมฺมณสฺมิฺหิ จิตฺตสฺส ปถมาภินิปาโต หุตฺวา ผสฺโส อารมฺมณํ ผุสมาโน อุปฺปชฺชติ. ตสฺมา ปถมํ วุตฺโต. ผสฺเสน ผุสฺสิตฺวา เวทนาย เวทยติ. สฺาย สฺชานาติ. เจตนาย เจตติ. เตน วุตฺตํ ผุฏฺโ ภิกฺขเว เวเทติ, ผุฏฺโ สฺชานาติ, ผุฏฺโ เจเตตีติ. อปิ จ อยํ ผสฺโส นาม ยถาปาสาทํ ปตฺวา ถมฺโภ นาม เสสทพฺพ สมฺภารานํ พลวปจฺจโย. เอวเมว สหชาต สมฺปยุตฺต ธมฺมานํ พลว ปจฺจโย โหติ. ตสฺมา ปถมํ วุตฺโตติ. สงฺคหกาเรน ปน อิทํ ปน อการณํ, เอกกฺขณสฺมิฺหิ อุปฺปนฺน ธมฺมานํ อยํ ปถมํ อุปฺปนฺโน อยํ ปจฺฉาติ อิทํ วตฺตุํ น ลพฺภา. พลวปจฺจยภาเวปิ ผสฺสสฺสการณํ น ทิสฺสตีติ เอวํ ตํ วาทํ ปฏิกฺขิเปตฺวา อิทํ วุตฺตํ เทสนา วาเรเนว ผสฺโส ปถมํ วุตฺโตติ. ตตฺถ ‘‘เทสนาวาเร เนวา’’ติ เทสนกฺกเมเนว, ตโต อฺํ การณํ นตฺถีติ อธิปฺปาโย. เตสุ ปน ทฺวีสุ วาเทสุ มหาอฏฺกถา วาโท เอว ยุตฺโต. ยฺหิ ตตฺถ วุตฺตํ จิตฺตสฺส ปถมาภินิปาโต หุตฺวาติ. ตตฺถ ปถมาภินิปาโตติ อิทํ กิจฺจปฺปธานตฺตา วุตฺตํ. น ปนฺเหิ เจตสิเกหิ วินา วิสุํ ปถมํ อุปฺปนฺนตฺตา. ยถา ตํ เย เกจิ ภิกฺขเว ธมฺมา อกุสลา อกุสลภาคิยา อกุสลปกฺขิกา. สพฺเพ เต มโนปุพฺพงฺคมา, มโน เตสํ ธมฺมานํ ปถมํ อุปฺปชฺชตีติ อิมสฺมึ สุตฺเต กิจฺจปฺปธานตฺตา มโน เตสํ ธมฺมานํ ปถมํ อุปฺปชฺชตีติ วุตฺตํ. น ปน สพฺพเจตสิเกหิ วินา วิสุํ ปถมํ อุปฺปนฺนตฺตาติ ทฏฺพฺพํ. พลวปจฺจย ภาเวปิ ผสฺสสฺสการณํ ทิสฺสติเยว. ผสฺโสเหตุ ผสฺโส ปจฺจโย เวทนากฺขนฺธสฺส ปฺา ปนาย. ผสฺโส เหตุ ผสฺโส ปจฺจโย สฺากฺขนฺธสฺส ปฺา นาย ¶ . ผสฺโส เหตุ ผสฺโส ปจฺจโย สงฺขารกฺขนฺธสฺส ปฺาปนายาติ หิ วุตฺตํ. ตสฺมา สพฺเพสํ เจตสิกานํ ธมฺมานํ ผสฺสปฺปธานตฺตา เอว ผสฺส พลวปจฺจยตฺตา เอว จ ผสฺโส ปถมํ วุตฺโตติ ทฏฺพฺพํ. เอตฺถ จ จิตฺตํ อารมฺมณ วิชานนฏฺเน ผสฺสาทีนํ สพฺพเจตสิก ธมฺมานํ ปุพฺพงฺคมํ โหติ, ปธานํ, เชฏฺกํ. ผสฺโส ปน อารมฺมณ สงฺฆฏฺฏนฏฺเน สพฺเพสํ เจตสิก ธมฺมานํ ปุพฺพงฺคโม โหติ, ปธาโน, เชฏฺโกติ อยํ ทฺวินฺนํ วิเสโสติ. เอตฺถ โจทโก ผุสนํ นาม สปฺปฏิฆรูปานํ เอว กิจฺจนฺติ มฺมาโน ‘‘นนุจา’’ติอาทินา โจเทติ. ‘‘นนุจา’’ติ โจเทธีติ ทีเปติ. ‘‘อปฺปฏิฆสภาวา’’ติ เหตุวิเสสนํ. ‘‘กิฺจี’’ติ กิฺจิวตฺถุํ. อยํ ปน ผสฺโส. ‘‘จิตฺตสฺส วิการา ปตฺตึ’’ติ จลน กมฺปน ถมฺภน เชคุจฺฉ ภย ตาส ฉมฺภิตตฺตา ทิวเสน วิการา ปชฺชนํ. ‘‘เวทนา วิเสสุปฺปตฺตึ’’ติ สุขเวทนียํ ผสฺสํ ปฏิจฺจ สุขเวทนา, ทุกฺขเวทนียํ ผสฺสํ ปฏิจฺจ ทุกฺข เวทนาติอาทินา นเยน ผสฺส วิเสสานุรูปํ เวทนา วิเสสุปฺปตฺตึ สาเธติ. เอตฺถ จ ผุสนํ นาม ทุวิธํ รูปปฺผุสนํ, นามปฺผุสน, นฺติ. ตตฺถ รูปปฺผุสนํ นาม โผฏฺพฺพ ธาตูนํ กิจฺจํ. นามปฺผุสนํ ทุวิธํ ผสฺสปฺผุสนํ, าณปฺผุสน, นฺติ. ตตฺถ าณปฺผุสนํ นาม าณปฺปฏิเวโธ. อปิ จ ฌานมคฺค ผล นิพฺพานานํ ปฏิลาโภปิ ผุสนนฺติ วุจฺจติ. ผุสนฺติ ธีรา นิพฺพานํ. โยคกฺเขมํ อนุตฺตรํ. ผุสามิ เนกฺขมํ สุขํ. อปุถุชฺชน เสวิตนฺติ-อาทีสุ. อิทํ อุปมา มตฺตํ สิยา, กสฺสจิ มนฺท ปฺสฺสาติ อธิปฺปาโย. ‘‘อิท’’นฺติ เขฬุปฺปาท วจนํ. วิฺุสฺส ปน อติปากฏ ผสฺส นิทสฺสเนน อปฺปากฏ ผสฺส วิภาวนํ ยุตฺตเมว. เตนาห ‘‘อติปากฏาย ปนา’’ติอาทึ.
๗๐. เวทนาวจนตฺเถ. ‘‘ตํสมงฺคีปุคฺคลานํ วา’’ติ เวทนา สมงฺคีปุคฺคลานํ วา. ‘‘สาตํ วา’’ติ สาธุรสํ วา. ‘‘อสฺสาตํ วา’’ติ อสาธุรสํ วา. ‘‘กึ เวทยตี’’ติ กตมํ เวทยติ. ‘‘สุขมฺปิ เวทยตี’’ติ สุขมฺปิ เวทนํ เวทยติ. อถวา ‘‘กิฺจเวทยตี’’ติ กถฺจเวทยติ. ‘‘สุขมฺปิ เวทยตี’’ติ สุขํ หุตฺวาปิ เวทยติ. สุข ภาเวน เวทยตีติ วุตฺตํ โหติ. เอวํ เสสปเทสุปิ. ‘‘กิจฺจนฺตรพฺยาวฏา’’ติ อฺกิจฺจพฺยาวฏา. อธิปติ ภาโว อาธิปจฺจํ. อินฺทฺริย กิจฺจํ. ‘‘เอวฺจ กตฺวา’’ติ ลทฺธคุณวจนํ. ราชารห โภชนํ ¶ ราชคฺคโภชนํ. ‘‘สูทสทิสตา’’ติ รฺโภตฺตการสทิสตา. ตตฺถ สูโท รฺโภตฺตํ ปจนฺโต รสชานนตฺถํ โถกํ คเหตฺวา ชิวฺหคฺเค เปตฺวา รสํ วีมํสติ. ยถิจฺฉิตํ ปน ภฺุชิตุํ อนิสฺสโร. ราชา เอว ยถิจฺฉิตํ ภฺุชิตุํ อิสฺสโร. ราชา วิย เวทนา. สูโท วิย เสสเจตสิก ธมฺมา.
๗๑. สฺาวจนตฺเถ. ‘‘สฺชานาตี’’ติ สุฏฺุ ชานาติ. สุฏฺุชานนฺจ นาม น วิฺาณสฺส วิย วิวิธชานนํ โหติ. น จ ปฺาย วิย ยถาภูตชานนํ โหติ. อถ โข ภูตํ วา โหตุ, อภูตํ วา. ยํ ยํ ฉ หิ วิฺาเณหิ วิชานาติ, ปฺาย วา ปชานาติ. ตสฺส ตสฺส ปจฺฉา อปฺปมุสฺสกรณ เมวาติ วุตฺตํ ‘‘ปุนชานนตฺถํ สฺาณํ กโรตี’’ติ. ตตฺถ ‘‘สฺาณ’’นฺติ นิมิตฺต กรณํ. ภวนฺตรํ ปตฺวาปิ อปฺปมุฏฺภาวํ สาเธติ โอปปาติก ปุคฺคลานนฺติ อธิปฺปาโย. เตหิ ปุริมํ อตฺตโน ภวํ ชานนฺติ. คพฺภเสยฺยกาปิ เกจิ ปุริมํ ภวํ ชานนฺติ, เยชาติสฺสร ปุคฺคลาติ วุจฺจนฺติ. ตตฺถ ‘‘อปฺปมุฏฺภาว’’นฺติ อนฏฺภาวํ. มิจฺฉาภินิเวส สฺา นาม อนิจฺเจ นิจฺจนฺติอาทิปฺปวตฺตา สฺา. ‘‘โพเธตุ’’นฺติ พุชฺฌาเปตุํ. ‘‘ทารุตจฺฉกสทิสาติ จ วุตฺตา’’ติ ทารุตจฺฉโก นาม กฏฺวฑฺฒกี. โส กฏฺกฺขนฺเธสุ นิมิตฺตการีโหติ. สุตจฺฉิตฉินฺทิเตสุ กฏฺเสุ นิมิตฺตานิ กตฺวา เปติ. ปจฺฉาตานิ โอโลเกตฺวา กฏฺานิ กมฺเม อุปเนติ. ‘‘หตฺถิ ทสฺสก อนฺธสทิสา’’ติ เอตฺถ เอโก กิร ราชา เกฬิปฺปสุโต โหติ. โส ชจฺจนฺธานําเน เอกํ หตฺถึ อาเนตฺวาเปนฺโต ชจฺจนฺเธ อาห ชานาถ โภ ตุมฺเห หตฺถินฺติ. เต หตฺถึ ชานิสฺสามาติ ปรามสิตฺวา อตฺตโน ปรามสิตํ ตํ ตํ องฺคมวหตฺถีติ อภินิวิสนฺติ. ทฬฺหํ สลฺลกฺเขนฺติ. ปุน ราชา เต ปุจฺฉิ กีทิโส โภ หตฺถีติ. เต รฺโ หตฺถิสณฺานํ อาจิกฺขนฺตา วิวาทํ อาปชฺชนฺติ. อาจิกฺขนเมว รฺโหตฺถิทสฺสนนฺติ กตฺวา เต หตฺถิทสฺสก อนฺธาติ วุจฺจนฺติ. ‘‘อุปฏฺิตวิสยคฺคหเณ’’ติ รตฺติยํ อนฺธกาเร รชฺชุกฺขณฺฑํ ปสฺสนฺตสฺส สปฺปสณฺานํ อุปฏฺาติ. โส อุปฏฺิตํ สณฺานมตฺตํ สปฺโปติ คณฺหาติ. เอวํ อุปฏฺิตวิสยคฺคหณํ โหติ. มิคโปตกานฺจ อรฺเเขตฺตมชฺเฌปุริสสณฺานํ ติณ รูปํ ปสฺสนฺตานํ ปุริสสณฺา นํ ¶ อุปฏฺาติ. เต อุปฏฺิตํ สณฺานมตฺตํ ปุริโสติ คณฺหิตฺวา โส อมฺเห ปหเรยฺยาติ ปลายนฺติ. วุตฺตา อฏฺสาลินิยํ.
๗๒. เจตนาวจนตฺเถ. เจเตตีติ เจตนา. เจตนฺเจตฺถ อภิสนฺธานํ วา วุจฺจติ ปกปฺปนํ วา อายูหนํ วาติ เอวํ ติธา อตฺถวิกปฺปํ ทสฺเสตุํ ‘‘สมฺปยุตฺต ธมฺเม’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ‘‘อภิสนฺทหตี’’ติ อภิมุขํ สนฺทหติ, สํโยคํ กโรติ. เตนาห ‘‘ปุนปฺปุนํ ฆเฏตี’’ติ. ‘‘ฆเฏตี’’ติ สมฺพนฺธติ. ‘‘ปกปฺเปติ วาเต’’ติ อถวา เต สมฺปยุตฺต ธมฺเม ปการโต กปฺเปติ, สชฺเชติ. เตนาห ‘‘สํวิทหตี’’ติ. ‘‘สํวิทหตี’’ติ ตฺวํ ผุสนกิจฺจํ กโรหิ, ตฺวํ เวทยิต กิจฺจํ กโรหิ, ตฺวํ สฺชานนกิจฺจํ กโรหีติอาทินา วทมานา วิย สํวิทหติ. ‘‘อายูหติวาเต’’ติ อถวา เตสมฺปยุตฺต ธมฺเม ภุโส พฺยูหยติ, ราสึ กโรติ. เตนาห ‘‘อารมฺมเณ สมฺปิณฺเฑตี’’ติ. ‘‘สโมสรนฺเต’’ติ เอกโต โอสรนฺเต. สงฺคมนฺเต. ‘‘สา’’ติ เจตนา. ‘‘ตายา’’ติ เจตนาย. ‘‘ตสฺมึ’’ติ รูปาทิเกวา อารมฺมเณ. ปฺุาปฺุ กิจฺเจวา. ปวตฺตมานาย สติยา. เชฏฺสิสฺโส นาม พหูสุ สิสฺเสสุ เชฏฺภูโต สิสฺโส. ตสฺมึ สชฺฌายนฺเต เสสา สพฺเพ สชฺฌายนฺติเยว. เตน โส อุภยกิจฺจ สาธโก โหติ. เอวํ มหาวฑฺฒกีปิ.
๗๓. เอกคฺคตาวจนตฺเถ. เอกตฺตารมฺมณํ นาม เอการมฺมณสฺสปิ พหูสุ สภาเวสุ เอกสภาวสงฺขาตํ อารมฺมณํ. ‘‘ตสฺมึ’’ จิตฺตสฺมึ. ‘‘นิวาเต’’ติ วาตรหิเต ปเทเส. ‘‘ทีปจฺจีนํ’’ติ ทีปชาลานํ.
๗๔. ชีวิตินฺทฺริยวจนตฺเถ. ‘‘อิสฺสรภาโว วุจฺจติ’’ ภาวปฺปธาน นเยนาติ อธิปฺปาโย. ‘‘อภิภวิตฺวา’’ติ ชีวน กิจฺเจ อตฺตโน วสํ วตฺตาเปตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. จิตฺต สนฺตานํ ชีวนฺตํ หุตฺวาติ สมฺพนฺโธ.
๗๕. มนสีการวจนตฺเถ. สมาสมชฺเฌ สการาคโม. กรธาตุโยเค อีการาคโม จ ทฏฺพฺโพ. อลุตฺต สตฺตมี ปทนฺถิ เกจิ. เอวํ สติ อีทีฆตฺตํ นสิชฺฌติ. ‘‘อสฺุํ’’ติ อริตฺตํ. ‘‘ปฏิปาเทตี’’ติ ¶ ปฏิปชฺชนํ กิจฺจสาธนํ การาเปติ. อตฺถโต นิโยเชติ นามาติ อาห ‘‘โยเชตี’’ติ. ‘‘อิทเมว ทฺวยํ’’ติ อาวชฺชน ทฺวยํ. ‘‘ตํ’’ติ ตํ ทฺวยํ. อุปตฺถมฺภิตํ หุตฺวา อารมฺมเณ นินฺนํ กโรตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘โยนิโส’’ติ อุปาเยน หิตสุข มคฺเคน. ‘‘อโยนิโส’’ติ อนุปาเยน อหิต อสุข มคฺเคน. ‘‘สมุทาจิณฺณนินฺนนิยามิตาทีหี’’ติ เอตฺถ สมุทาจิณฺณํ นาม อาจิณฺณ กมฺมวเสน สุฏฺุ ปุนปฺปุนํ อาจริตํ. นินฺนํ นาม อิทํ นาม ปสฺสามิ, อิทํ นาม กริสฺสามีติ ปุพฺเพ เอว อชฺฌาสเยน นินฺนํ. นิยามิตํ นาม อิทํ นาม กตฺตพฺพํ, อิทํ นาม น กตฺตพฺพํ, กตฺตพฺพํ กโรมิ, อกตฺตพฺพํ นกโรมีติ เอวํ นิยามิตํ. ‘‘อสติ การณ วิเสเส’’ติ ภวงฺค จิตฺตํ วีถิจิตฺตุปฺปตฺติยา อสติ, วีถิจิตฺตานิ จ กายจิตฺตานํ อกลฺลาทิเกวา อธิมตฺตสฺส อารมฺมณนฺตรสฺส อุปฏฺาเนวา อสติ. ‘‘สาธารณา’’ติ เอตฺถ สํสทฺเท พินฺทุ โลโป, ทีฆตฺตฺจาติ อาห ‘‘สมํ ธาเรนฺตีติ สาธารณา’’ติ.
๗๖. วิตกฺกวจนตฺเถ. ‘‘ตถา ตถา สงฺกปฺเปตฺวา’’ติ กามสงฺกปฺปาทีนํ เนกฺขมฺมสงฺกปฺปาทีนฺจวเสน เตน เตน ปกาเรน สุฏฺุ จินฺเตตฺวา. ‘‘ตํ’’ติ อารมฺมณํ. ‘‘เต’’ติ สมฺปยุตฺต ธมฺเม. ‘‘อวิตกฺกมฺปิ จิตฺตํ’’ติ ปฺจวิฺาณ จิตฺตฺจ ทุตียา ทิชฺฌาน จิตฺตฺจ. ‘‘อปิจา’’ติ กิฺจิ วตฺตพฺพํ อตฺถีติ อตฺโถ. ‘‘ทุตียชฺฌานาทีนิ จา’’ติ ทุตียชฺฌาน จิตฺตาทีนิ จ. ‘‘อุปจาร ภาวนา วเสนา’’ติ สมุทาจิณฺณ วสิภูตาย อุปจาร ภาวนาย วเสน. ‘‘กึ วา เอตายยุตฺติยา’’ติ สวิตกฺก จิตฺตสนฺตาเนติอาทิกาย ยุตฺติยา กึ ปโยชนํ อตฺถีติ อตฺโถ. กิฺจิ ปโยชนํ นตฺถีติ อธิปฺปาโย. อารมฺมณํ อาโรหติเยว อารมฺมเณน อวินาภาววุตฺติกตฺตา. ‘‘ตํ’’ติ จิตฺตํ. นิยามโก นาม นาวํ อิจฺฉิต ทิสาเทสนิโยชโก. ‘‘อกุสลํ ปตฺวา’’ติ วุตฺตํ. กุสลํ ปตฺวา ปน กถํติ. กุสลํ ปตฺวาปิ ปติรูปเทสาวาสาทิวเสน สมุทา จิณฺณ นินฺนาทิวเสน จ ลทฺธ ปจฺจเย สติ จิตฺตมฺปิ สทฺธาสติ อาทโยปิ อารมฺมณ รูหเน ถามคตา เอว. อลทฺธ ปจฺจเย ปน สติ อกุสล ภาเว ตฺวา ถามคตํ โหติ. ‘‘มนสิการ วีริย สตีนํ’’ติ ภาวนา พลปตฺตา นนฺติ อธิปฺปาโย ¶ . เอวํ ปน สติ, วิตกฺกสฺส โอกาโส นตฺถีติ. อตฺถิ. สงฺกปฺปน กิจฺจ วิเสสตฺตา. ตฺหิ กิจฺจํ อฺเสํ อสาธารณํ, วิตกฺกสฺเสว กิจฺจนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘วิตกฺโกปนา’’ติอาทิมาห. ‘‘สารมฺมณ สภาวา’’ติ เหตุ วิเสสนเมตํ. ‘‘ตถา วุตฺโต’’ติ วิตกฺโกติ วุตฺโต.
๗๗. วิจารวจนตฺเถ. ‘‘วิจรตี’’ติ เอกเมกสฺมึ เอว อารมฺมเณ วิวิเธน จรติ, ปวตฺตติ. สภาวากาโร นาม นีลปีตาทิโก อคมฺภีโร อารมฺมณ สภาโว จ อารมฺมณสฺส นานา ปวตฺตากาโร จ. ‘‘อนุมชฺชนวเสนา’’ติ ปุนปฺปุนํ มชฺชนวเสน โสธนวเสน. วิตกฺโก โอฬาริโก จ โหตีติอาทินา โยเชตพฺพํ. ‘‘โอฬาริโก’’ติ วิจารโต โอฬาริโก. เอวํ เสสปเทสุ. ‘‘ฆณฺฑาภิฆาโต วิยา’’ติ ฆณฺฑาภิฆาเตน ปถมุปฺปนฺนสทฺโท วิยาติ วทนฺติ. ตถาหิ วิจาโร ฆณฺฑสฺส อนุรโว วิย วุตฺโตติ. ทณฺฑเกน ฆณฺฑสฺส อภิฆาต กิริยา วา ฆณฺฑาภิฆาโต. ตถาหิ อารมฺมเณ เจตโส ปถมาภิ นิปาโต วิตกฺโกติ จ, อาหนน ปริยาหนน รโสติ จ วุตฺตํ. ‘‘ฆณฺฑานุรโว วิยา’’ติ ฆณฺฑสฺส อนุรวสทฺโท วิย.
๗๘. อธิโมกฺขวจนตฺเถ. ‘‘สํสปฺปนํ’’ติ อนวตฺถานํ. ‘‘ปกฺขโต มุจฺจนวเสนา’’ติ เอวํ นุ โขติ เอโก ปกฺโข, โนนุ โขติ ทุตีโย ปกฺโข. ตาทิสมฺหา ปกฺขโต มุจฺจนวเสน.
๗๙. วีริยวจนตฺเถ. ‘‘วีรสฺสา’’ติ วิสฺสฏฺสฺส. โส จ กายวจีมโน กมฺเมสุ ปจฺจุ ปฏฺิเตสุ สีตุณฺหาทิ ทุกฺข ภยโต อลีน วุตฺติวเสน ปวตฺโตติ อาห ‘‘กมฺมสูรสฺสา’’ติ. เอเตน อโนตฺตปฺปึ นิวตฺเตติ. อโนตฺตวฺวีหิ ปาปสูโร, อยํ กมฺม สูโรติ. ‘‘มหนฺตํ ปิกมฺม’’นฺติ กุสีตสฺส มหนฺตนฺติ มฺิตํ กมฺมํ. เอวํ เสเสสุ. ‘‘อปฺปกโต คณฺหาตี’’ติ อปฺปกภาเวน คณฺหาติ. อปฺปกเมวิทนฺติ มฺตีติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อตฺต กิลมถํ’’ติ กายจิตฺตกฺเขทํ. ‘‘ตํ’’ติ วีริยํ. ‘‘ตถาปวตฺติยา’’ติ กมฺมสูรภาเวน ปวตฺติยา. ‘‘เหตุเจ วา’’ติ เอเตน ภาวสทฺทสฺส อตฺถํ วทติ. ‘‘กายจิตฺต กิริยาภูตํ’’ติ เอเตน กมฺมสทฺทสฺส อตฺถํ. ‘‘วิธินา’’ติ ¶ ตสฺส ปวตฺติยา ปุพฺพาภิสงฺขาร วิธาเนน. ตเมว วิธานํ กมฺเมสุ เนตพฺพตฺตา นโยติ จ, อุเปตพฺพตฺตา อุปาโยติ จ วุจฺจตีติ อาห ‘‘นเยน อุปาเยนา’’ติ. ตเมว วิธานํ ทสฺเสติ ‘‘วีริยวโต’’ติอาทินา. ‘‘อีรนฺตี’’ติ เอรยนฺติ. ‘‘กิจฺจ สมฺปตฺติยา’’ติ อารมฺมณ วิชานน ผุสนาทิ กิจฺจ สมฺปตฺติ อตฺถาย. พฺยาวฏานิ กายจิตฺตานิ เยสนฺติ วิคฺคโห. ‘‘พฺยาวฏานี’’ติ อุสฺสาหิตานิ. ‘‘ถูณูปตฺถมฺภน สทิสํ’’ติ ชิณฺณสฺส เคหสฺส อปตนตฺถาย สารตฺถมฺเภน อุปตฺถมฺภนสทิสํ. อุปตฺถมฺภกตฺถมฺภสทิสนฺติปิ วทนฺติ. ‘‘สพฺพ สมฺปตฺตีนํ มูลํ’’ติ สพฺพาสํ โลกิย สมฺปตฺตีนํ โลกุตฺตร สมฺปตฺตี นฺจ มูลํ. กสฺมา, ปฺุกมฺม สมฺปตฺติยา จ ปารมิ ปฺุสมฺปตฺติยา จ ปติฏฺานตฺตา. สติหิ ปฺุกมฺมสมฺปตฺติยา สพฺพา โลกิย สมฺปตฺติ สิชฺฌติ. สติ จ ปารมิ ปฺุ สมฺปตฺติยา สพฺพาโลกุตฺตร สมฺปตฺติ สิชฺฌตีติ. เอเตน หีน วีริโย นาม สพฺพ สมฺปตฺติโต ปริพาหิโยติ ทีเปติ.
๘๐. ปีติวจนตฺเถ. ‘‘ปินยตี’’ติ ปิเนติ, ปินํ กโรตีติ อาห ‘‘ตปฺเปตี’’ติ. โตเสตีติ อตฺโถ. ‘‘ตุฏฺึ’’ติ ตุสิตํ, ปหฏฺํ. ‘‘สุหิตํ’’ติ สุธาตํ, สุปุณฺณํ, วทฺธิตํ. อเนกตฺถตฺตา ธาตูนํ ‘‘วฑฺเฒตี’’ติ วุตฺตํ. ‘‘ปินนฺตี’’ติ ตปฺปนฺติ, โชตนฺติ, วิโรจนฺติ, ทิวา ตปฺปติอาทิจฺโจติอาทีสุ วิย. ขุทฺทิกา ปีติ นาม โลมหํส น มตฺตการิกา ปีติ. ขณิกา ปีติ นาม ขเณ ขเณ วิชฺชุปฺปาทสทิสา ปีติ. โอกฺกนฺติกา ปีติ นาม สรีรํ โอกฺกมิตฺวา โอกฺกมิตฺวาภิชฺชนฺตี ปีติ. อุพฺเพคาปีติ นาม กายํ อุทคฺคํ กตฺวา อากาเส อุลฺลงฺฆาเปนฺตี ปีติ. ผรณา ปีติ นาม กปฺปาสวตฺติยํ ผรณกเตลํ วิย สกลกายํ ผรณวเสน ปวตฺตา ปีติ.
๘๑. ฉนฺทวจนตฺเถ. ‘‘อภิสนฺธี’’ติ อภิลาโส, อภิกงฺขนํ. ‘‘กตฺตุสทฺโท’’ติ กรธาตุ วเสน วุตฺตํ. ‘‘สพฺพกิริยา ปทานี’’ติ สพฺพานิ ตุมิจฺฉตฺถ กิริยา ปทานิ. ‘‘อตฺถิโก’’ติ อสิทฺโธ หุตฺวา สาเธตุํ อิจฺฉิโต อตฺโถ อสฺสาติ อตฺถิโก. อิจฺฉนฺโตติปิ วทนฺติ. ‘‘อาราเธตุกามตา วเสนา’’ติ สาเธตุ กามตาวเสน, สมฺปาเทตุ กามตา วเสน. อุสุํ สรํ อ สนฺติ ¶ ขิปนฺตีติ อิสฺสาสา. อิการสฺส อุกาโร. ธนุคฺคหา. ‘‘ยเสน วา’’ติ ปริวาเรน วา, กิตฺติ สทฺเทน วา. ‘‘สเร’’ติ กณฺเฑ. วิภาวนิปาเ นานาวาท โสธนตฺถํ อยฺจาติอาทิวุตฺตํ. ‘‘ยทคฺเคนา’’ติ เยน การณ โกฏฺาเสน. สงฺคหิตาติ สมฺพนฺโธ. ‘‘วิสฺสชฺชิตพฺพ ยุตฺตเกนา’’ติ วิสฺสชฺชิตพฺพ โยคฺเยน. ‘‘เตน อตฺถิโก เยวา’’ติ ปทุทฺธาโร. ‘‘โส น ยุชฺชตี’’ติ โส อตฺโถ น ยุชฺชติ. ‘‘ขิปิต อุสูนํ’’ติ ปุพฺพภาเค ขิปิต อุสูนํ. ‘‘อตฺถโต ปนา’’ติ อธิปฺปายตฺถโต ปน. ‘‘หตฺถปฺปสารณํ วิยา’’ติ โลเก กิฺจิ อิจฺฉนฺตสฺส ชนสฺส หตฺถปฺปสารณํ วิยาติ อธิปฺปาโย. ‘‘ถามปตฺโต’’ติ อธิปติ ภาว ปตฺโตติ วุตฺตํ โหติ. เตนาห ‘‘ตถาเหสา’’ติอาทึ. ‘‘ตณฺหาย หตฺเถ ิตา’’ติ อุปจาร วจนเมตํ. ตณฺหาย ปริคฺคหิตาติ วุตฺตํ โหติ. นสกฺขิสฺสนฺติเยว, โน นสกฺขิสฺสนฺติ. ตสฺมา เวทิตพฺพเมตํ ฉนฺโทเยว ตณฺหาย พลวตโรติ. กสฺมา พลวตโรติ. อาทีนวานิสํส ทสฺสนฺาเณน ยุตฺตตฺตาติ.
๘๒. ‘‘ปกิรนฺตี’’ติ ปตฺถรนฺติ. ‘‘สมานา’’ติ สาวชฺเชหิ ยุตฺตา สาวชฺชา, อนวชฺเชหิ ยุตฺตา อนวชฺชาติ เอวํ สทิสา, สาธารณา.
อฺสมานราสิมฺหิอนุทีปนา นิฏฺิตา.
๘๓. อกุสลราสิมฺหิ. ‘‘มุยฺหตี’’ติ าตพฺพสฺสเยฺย ธมฺมสฺส อฺาณ วเสน สมฺมุยฺหติ, จิตฺตสฺส อนฺธภาโว โหติ. จตุรงฺคตโม นาม ‘กาฬปกฺข จาตุทฺทสิ ทิวโส, อฑฺฒรตฺติ สมโย, ติพฺพวนสณฺโฑ, พหลเมฆจฺฉนฺโน,ติ อยํ จตุรงฺคตโม. โส จกฺขุสฺส อนฺธภาวํ กโรติ. เอวํ ตสฺส ตมสฺส จกฺขุสฺส อนฺธภาวกรณํ วิย. าณคติโก โหตีติ ทฏฺพฺโพ อฏฺกถา นเยน. ตเมว อฏฺกถา นยํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตถา เหสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อภิธมฺมฏีกายํ ปน มิจฺฉา าณนฺติ มิจฺฉา วิตกฺโก อธิปฺเปโต. โส หิ มิจฺฉา สงฺกปฺโป หุตฺวา นานปฺปการ จินฺตา ปวตฺติ วเสน าณคติโก โหติ. โมโห ปน จิตฺตสฺส อนฺธี ภูโต ¶ , นานาจินฺตน กิจฺจ รหิโต, กถํ าณคติโก ภเวยฺยาติ ตสฺส อธิปฺปาโย. ‘‘ปาป กิริยาสู’’ติ ทุจฺจริต กมฺเมสุ. ‘‘อุปาย จินฺตาวเสนา’’ติ กตกมฺมสฺส สิทฺธตฺถาย สตฺถาวุธาทิวิธาเนสุ นานาอุปาย จินฺตาวเสน. อปฺปฏิ ปชฺชนํ อปฺปฏิ ปตฺติ. าณ คตึ อคมนนฺติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘อฺาณเมว วุจฺจตี’’ติ. ‘‘าณคติกา’’ติ าณปฺปวตฺติยา สมานปฺปวตฺติกา. โลโภ าณ คติโก มายาสาเยฺย กมฺเมสุ วิจิตฺตปฺปวตฺติกตฺตา. วิจาโร าณ คติโก. ตถาหิ โส ฌานงฺเคสุ วิจิกิจฺฉาย ปฏิปกฺโขติ วุตฺโต. จิตฺตสฺส าณ คติ กตา วิจิตฺตตฺถวาจเกน จิตฺตสทฺเทน สิทฺโธ. เต จ ธมฺมา สพฺพ สตฺเตสุ าณ คติกา น โหนฺติ. าณูปนิสฺสยํ ลภิตฺวา เอว โหนฺตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘เตหี’’ติอาทิมาห. เต สาเธนฺตีติ สมฺพนฺโธ. ปกติยา วิฺุชาติกา นาม ติเหตุกปฺปฏิ สนฺธิกา. อฺปฺปฏิ สนฺธิกาปิ โพธิสตฺต ภูมิยํ ิตา วา ปฺาปสุต ภวโต อาคตา วา. สุตปริยตฺติ สมฺปนฺนา นาม ทฺวิเหตุกปฺปฏิ สนฺธิกาปิ อิมสฺมึ ภเว พหุสฺสุต สมฺปนฺนา จ ปริยตฺติ กมฺม สมฺปนฺนา จ.
๘๔. อหิริกวจนตฺเถ. ‘‘น หิรียตี’’ติ นาม ธาตุ ปทเมตํ. หรายติ ลชฺชตีติ หิรี. หเร ลชฺชายํติ ธาตุ. น หิรี อหิรีติ วจนตฺโถ. ‘‘รุจึ อุปฺปาเทตฺวา’’ติ คามสู กรสฺส คูถราสิ ทสฺสเน วิย จิตฺตโรจน จิตฺต ขมนํ อุปฺปาเทตฺวา. อตฺตานํ ปาปกมฺม ลิมฺปโต จิตฺตสฺส อลีนตา อชิคุจฺฉนํ นาม. อตฺตานํ อสปฺปุริส ภาวปตฺติโต จิตฺตสฺส อลีนตา อลชฺชา นาม.
๘๕. อโนตฺตปฺปวจนตฺเถ. ‘‘น ภายตี’’ติ ปาปกมฺมํ ภยโต น อุปฏฺาติ. ‘‘น อุตฺรสตี’’ติ ปาปกมฺม เหตุ น กมฺปติ. ‘‘ตาสู’’ติ ปาปกิริยาสุ. ‘‘อสารชฺชมานํ กตฺวา’’ติ สูรํ วิสฺสฏฺํ กตฺวา. อสารชฺชํ นาม สูรภาโว. อนุตฺตาโส นาม ปาปกมฺม เหตุ จิตฺตสฺส อกมฺปนํ. คาถายํ. อชิคุจฺฉนสีโล ปุคฺคโล อเชคุจฺฉี. ‘‘ปาปา’’ติ ปาปกมฺมโต. ‘‘สูกโร’’ติ คามสูกโร. โส คูถโต อเชคุจฺฉี. อหิริโก ปาปโต อเชคุจฺฉีติ โยชนา. อภายนสีโล อภีรู. ‘‘สลโภ’’ติ ปฏงฺโค. ‘‘ปาวกา’’ติ ¶ ทีปชาลมฺหา. สลโภ ปาวกมฺหา อภีรู วิย อโนตฺตวฺวี ปาปโต อภีรูติ โยชนา.
๘๖. อุทฺธจฺจวจนตฺเถ. ‘‘อุทฺธรตี’’ติ อุกฺขิปติ. อารมฺมณสฺมึ น สนฺนิ สีทติ. วิกฺขิปตีติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘วฏฺเฏตฺวา’’ติ อาวฏฺเฏตฺวา. ‘‘วิสฺสฏฺเคณฺฑุโก วิยา’’ติ วิสฺสชฺชิโต สารเคณฺฑุโก วิย. ‘‘ธชปฏากา วิยา’’ติ วาเตริตา ธชปฏากา วิย.
๘๗. โลภวจนตฺเถ. ‘‘ลุพฺภตี’’ติ คิชฺฌติ, อภิกงฺขติ. อภิสชฺชนํ อภิลคฺคนํ. มกฺกฏํ อาลิมฺปติ พนฺธติ เอเตนาติ มกฺกฏา เลโป. ‘‘ตตฺต กปาเล’’ติ อคฺคินาสนฺตตฺเต ฆฏ กปาเล. เตลสฺส วตฺถมฺหิ อฺชนํ อภิลคฺคนํ เตลฺชนํ. รชฺชนํ ปฏิสชฺชนํ ราโค. เตลฺชน ภูโต ราโค เตลฺชน ราโค. น กิเลสราโค. รตฺติ ทิวํ ปวตฺตนฏฺเน ตณฺหา เอว นทีโสตสทิสตฺตา ตณฺหา นที. ‘‘สตฺตานํ’’ติ ปุถุชฺชน สตฺตานํ. ‘‘สุกฺขกฏฺสาขาปลาสติณกสฏานี’’ติ สุกฺข กฏฺกสฏานิ, สุกฺข สาขา กสฏานีติอาทินา โยเชตพฺพํ. กสฏ สทฺเทน อสารภาวํ ทีเปติ. ‘‘นที วิยา’’ติ ปพฺพเตยฺยา นที วิย.
๘๘. ทิฏฺิวจนตฺเถ. ‘‘ทสฺสนํ’’ติ ปริกปฺปนา สิทฺเธสุ มิจฺฉา สภาเวสุ วิปรีต ทสฺสนํ. เตนาห ‘‘ธมฺมานํ’’ติอาทึ. ตตฺถ ‘‘ธมฺมานํ’’ติ รูปารูป ธมฺมานํ, อนิจฺจตาทิ ธมฺมานฺจ. ‘‘ยาถาว สภาเวสู’’ติ ภูตสภาเวสุ. ภูตสภาโว หิ ยถา ธมฺมํ อวติ รกฺขตีติ อตฺเถน ยาถาโวติ วุจฺจติ. อตฺตานํ ปณฺฑิตํ มฺนฺตีติ ปณฺฑิต มานิโน. ปฏิเวธฺาณํ นาม อริย มคฺคฺาณํ. ปรมํ วชฺชนฺติ ทฏฺพฺพา โลเก มหาสาวชฺชฏฺเน ตํ สทิสสฺส อฺสฺส วชฺชสฺส อภาวโตติ อธิปฺปาโย.
๘๙. มานวจนตฺเถ. ‘‘มฺตี’’ติ ภูตสภาวํ อติกฺกมฺม อธิกํ กตฺวา อหมสฺมีติอาทินา เตน เตน อภูตากาเรน มฺติ. เตนาห ‘‘อหํ โลเก’’ติอาทึ. ตตฺถ ‘‘กฏฺกถิงฺคโร วิยา’’ติ สุกฺขทารุกฺขนฺโธ วิย. โส ปน อุปตฺถมฺภิโต มฺตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘อตฺตานํ อจฺจุคฺคตํ มฺตี’’ติ ปุคฺคลํ มาเนน อภินฺนํ กตฺวา วุตฺตํ. ‘‘อุนฺนติ ลกฺขโณ’’ติ อุนฺนมน สภาโว.
๙๐. โทสวจนตฺเถ ¶ . จณฺเฑน กายวจี มโนกมฺเมน สมนฺนาคโต จณฺฑิโก. จณฺฑิกสฺส ภาโว จณฺฑิกฺกํ. ‘‘ปหตาสีวิโส วิยา’’ติ ทณฺเฑน ปหโต อาสีวิโส วิย. ‘‘วิสปฺปนฏฺเนา’’ติ สกลกาเย วิวิเธน สปฺปนฏฺเน, ผรณฏฺเน. อิทฺจ ตํ สมุฏฺาน รูปานํ ผรณ วเสน วุตฺตํ. ‘‘อสนิปาโต วิยา’’ติ สุกฺขา สนิปตนํ วิย. ‘‘ทาวคฺคิวิยา’’ติ อรฺคฺคิ วิย. ‘‘สปตฺโต วิยา’’ติ ทุฏฺเวรี วิย. ‘‘วิสสํสฏฺปูติมุตฺตํ วิยา’’ติ ยถา มุตฺตํ นาม ปกติยา เอว ทุคฺคนฺธตฺตา ปฏิกุลตฺตา ทูเร ฉฏฺฏนียนฺติ อหิตเมว โหติ. ปุน ปูติภาเว สติ, ทูรตเร ฉฏฺเฏตพฺพํ. วิสสํสฏฺเปน วตฺตพฺพเมวนตฺถิ. สพฺพโส อหิตราสิ โหติ. เอวํ โทโสปิ ตํ สมงฺคีโน ตสฺมึ ขเณ ปเรสํ อมนาปิยตํ อาปาเทติ. อตฺตหิต ปรหิต วินาสฺจ กาเรติ, ปรมฺมรณา อปายฺจ ปาเปตีติ สพฺพโส อหิตราสิ โหติ. เตน วุตฺตํ ‘‘วิสสํสฏฺปูติ มุตฺตํ วิย ทฏฺพฺโพ’’ติ.
๙๑. อิสฺสาวจนตฺเถ. ทุวิธา อิสฺสาลทฺธสมฺปตฺติ วิสยา จลภิตพฺพ สมฺปตฺติ วิสยา จ. ตตฺถ ลทฺธ สมฺปตฺติ วิสยํ ตาวทสฺเสติ ‘‘ปเรสํ ปกติยา’’ติอาทินา. ลทฺธ สมฺปตฺติคฺคหเณน อตีต สมฺปตฺติปิ สงฺคหิตาติ ทฏฺพฺพา. อิสฺสาปกติกาหิ เกจิ อสุโก นาม ปุพฺเพ เอวํ สมฺปตฺติโก อโหสีติ วา, อหํ ปุพฺเพ เอวํ สมฺปตฺติโก อโหสินฺติ วา สุตฺวา นสหนฺติเยว. ตํ วจนํ โสตุํปิ น อิจฺฉนฺตีติ. อสุโกติอาทินา ลภิตพฺพสมฺปตฺติ วิสยํ ทสฺเสติ.
๙๒. มจฺฉริยวจนตฺเถ. ‘‘มม เอวา’’ติ มมปกฺเข เอวาติ อธิปฺปาโย. ‘‘คุณชาตํ’’วาติ อตฺตนิวิชฺชมานํ สิปฺปวิชฺชาทิ สมฺปตฺติ คุณชาตํ วา. ‘‘วตฺถุ วา’’ติ ธนธฺาทิวตฺถุ วา. ‘‘อวิปฺผาริกตาวเสนา’’ติ อฺเน ตํ สิปฺปวิชฺชาทิกํ วา ธนธฺาทิกํ วา มยฺหํ เทหีติ วุตฺเต ปรหิตตฺถาย ทาตพฺพ ยุตฺตกํ ทสฺสามีติ เอวํ จิตฺเตสติ, ปรหิตปฺผรณาวเสน ตํ จิตฺตํ วิปฺผาริกํ นาม โหติ. เทหีติ วจนมฺปิ โสตุํ อนิจฺฉนฺโต ปรหิตตฺถาย อวิปฺผาริก จิตฺโต นาม โหติ. เอวํ อวิปฺผาริกตาวเสน จรติ ปวตฺตตีติ มจฺฉรฺจ การสฺส ฉ การํ ¶ กตฺวา. ตถา ปวตฺตํ จิตฺตํ. ปุคฺคโล ปน มจฺฉรีติ วุจฺจติ. ‘‘ตํ’’ติ ลทฺธสมฺปตฺตึ. ‘‘ปเรหิ สาธารณํ ทิสฺวา’’ติอาทินา โยเชตพฺพํ. สาธารณนฺติ จ ทฺวิสนฺตกํ วาติ สนฺตกํ วา ภวิสฺสมานํ, ปเรหิ วา ปริภฺุชิยมานํ. ‘‘นิคฺคุหนลกฺขณํ’’ติ รกฺขาวรณคุตฺตีหิสงฺโคปน สภาวํ. อตฺตนา ลทฺธ สมฺปตฺติ นาม อิสฺสาย อวิสโย. ลภิตพฺพสมฺปตฺติ ปน อุภย สาธารณํ. ตสฺมา ตตฺถ อุภินฺนํ วิเสโส วตฺตพฺโพติ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘เอตฺถ จา’’ติอาทิมาห. ‘‘ยสฺส ลาภํ น อิจฺฉตี’’ติ อตฺตนา ลภตุ วา มาวา, เกวลํ ปร สมฺปตฺตึ อสหนฺโต ยสฺส ปรสฺส ลาภํ น อิจฺฉติ. ‘‘จิตฺต วิฆาโต’’ติ จิตฺต วิหฺนํ. ‘‘อตฺตนา ลทฺธุํ อิจฺฉตี’’ติ ปโร สมฺปชฺชตุ วา มาวา, ยตฺถ ปรลาเภสติ, อตฺตนา น ลภิสฺสติ, ตตฺถ อตฺตนาว ลทฺธุํ อิจฺฉติ. ยตฺถ อตฺตนา จ ลภติ, ปโร จ ลภติ, ตตฺถ วิฆาโต นตฺถีติ อธิปฺปาโย. ‘‘อลพฺภมานกํ จินฺเตตฺวา’’ติ อตฺตนา อลภิสฺสมานํ สลฺลกฺเขตฺวา.
๙๓. กุกฺกุจฺจวจนตฺเถ. ‘‘กิริยา กตํ’’ติ กต สทฺทสฺสภาว สาธนมาห. เอวํ วจนตฺถํ ทสฺเสตฺวา อภิเธยฺยตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อตฺถโต ปนา’’ติอาทิมาห. ‘‘อนุโสจน วเสนา’’ติ ปจฺฉา ปุนปฺปุนํ จิตฺตสนฺตาปวเสน. โส กุกตนฺติ วุจฺจตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘กุสล ธมฺเมสู’’ติ ปฺุ กิริยวตฺถุ ธมฺเมสุ จิตฺต ปริยาทานาย เอว สํวตฺตติ. กุกฺกุจฺจ สมงฺคี ปุคฺคโล ปฺุกมฺมํ กโรนฺโตปิ จิตฺต สุขํ น ลภติ. พหุชน มชฺเฌ วสิตฺวา นานากิจฺจานิ กโรนฺโต นานา ติรจฺฉาน กถํ กเถนฺโต จิตฺต สุขํ ลภติ. ตทา ตสฺส ปฺุกมฺม กรณตฺถาย จิตฺตํ ปริยาทียติ, ปริกฺขิยฺยติ. จิตฺตวสํ คจฺฉนฺโต วิจรติ. เอวํ จิตฺต ปริยาทานาย เอว สํวตฺตติ. ‘‘อฏฺกถายํ’’ติ อฏฺสาลินิยํ. ‘‘กตา กตสฺส สาวชฺชานวชฺชสฺสา’’ติ ปุพฺเพ กตสฺส สาวชฺชกมฺมสฺส, อกตสฺส อนวชฺช กมฺมสฺส. กมฺมตฺเถสามิวจนํ. ‘‘อภิมุขคมนํ’’ติ อารมฺมณ กรณวเสน จิตฺตสฺส อภิมุขปฺปวตฺตนํ. เอเตน ปฏิมุขํ สรณํ จินฺตนํ ปฏิสาโรติ ทสฺเสติ. ‘‘อกตํ น กโรตี’’ติ อกตํ กาตุํ น สกฺโกตีติ อธิปฺปาโย. เอวํ กตํ น กโรตีติ เอตฺถปิ. ‘‘วิรูโป’’ติ ¶ วีภจฺโฉ อโสภโณ. ‘‘กุจฺฉิโต’’ติ ครหิตพฺโพ. นนุ ปุพฺเพ จิตฺตุปฺปาโท กุจฺฉิโตติ วุตฺโต. อฏฺกถายํ ปน วิปฺปฏิสาโร กุจฺฉิโตติ วุตฺโต. อุภยเมตํ น สเมตีติ. โน น สเมติ, อฺถานุ ปปตฺติโตติ ทสฺเสตุํ ‘‘เอตฺถ จา’’ติอาทิมาห. ‘‘เยน จ การเณนา’’ติ กตากตํ ปฏิจฺจ นิรตฺถก จิตฺตปฺปวตฺติ การเณน. โส จิตฺตุปฺปาโทว กุกตปเท คเหตุํ ยุตฺโต, นวิภาวนิยํ วิย กตากต ทุจฺจริต สุจริตนฺติ อธิปฺปาโย. นนุ วิภาวนิยมฺปิ โส จิตฺตุปฺปาโทว อุปจาร นเยน คหิโตติ เจ. ยุตฺติ วเสน จ อฏฺกถาคเมน จ มุขฺยโต สิทฺเธ สติ, กึ อุปจาร นเยน. เตนาห ‘‘วิภาวนิยํ ปนา’’ติอาทึ. กุกตสฺสภาโว กุกฺกุจฺจํ, อการสฺส อุการํ กตฺวาติ อยํ อฏฺกถานโย. อิทานิ สทฺทสตฺถนเยน อปรํ วจนตฺถฺจ อธิปฺปายตฺถฺจ ทสฺเสตุํ ‘‘อปิ จา’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ‘‘ธาตุปาเสู’’ติ อกฺขรธาตุปฺปกาสเนสุ นิรุตฺติ ปาเสุ. ปนฺติเยว, โน น ปนฺติ. เต จ อตฺถา เจตโส วิปฺปฏิสาโร มโน วิเลโขติ เอวํ ปาฬิยํ วุตฺเตหิ กุกฺกุจฺจปริยาเยหิ สเมนฺติเยว. ตสฺมา อยํ อปโรนโย อิธ อวสฺสํ วตฺตพฺโพ เยวาติ ทีเปติ. วิปฺปฏิ สาริปุคฺคโล จ ตํ ตํ ปฺุกมฺมํ กโรนฺโตปิ วิปฺปฏิ สารคฺคินา ทยฺหมาน จิตฺโต ปฺุกมฺเม จิตฺตปฺปสาทํ นลภติ. จิตฺต สุขํ น วินฺทติ. กึ อิมินา กมฺเมนาติ ตํ ปหาย ยตฺถ จิตฺต สุขํ วินฺทติ, ตตฺถ วิจรติ. เอวํ วิปฺปฏิสาโร ปฺุกมฺมโต สงฺโกจนํ นาม โหตีติ. กิเลสสลฺลิขนํ นาม สนฺตุฏฺิ สลฺเลขปฺปฏิปตฺติยํ ิตสฺส ตทงฺคปฺปหานาทิวเสน ตํ ตํ กิเลสปฺปหานํ วุจฺจติ. ‘‘อนุตฺถุนนากาเรนา’’ติ ปุนปฺปุนํ วิลปนากาเรน. สงฺโกจตีติ วตฺวา ตสฺส อุภยํ อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘กุสลกมฺม สมาทาเน’’ติอาทิมาห. นมิตุมฺปิ น เทติ. กุโต สมาทาตุํ วา วฑฺเฒตุํ วา ทสฺสตีติ อธิปฺปาโย. ‘‘ตนุกรเณนา’’ติ ทุพฺพลกรเณน. วิเสสนฏฺเกรณ วจนํ. ‘‘โส’’ติ ธมฺมสมูโห. ตํ ปน กุกฺกุจฺจํ. เกจิ ปน กุกฺกุจฺจํ ปจฺจุปฺปนฺน สุจริต ทุจฺจริตา รมฺมณมฺปิ อนาคต สุจริต ทุจฺจริตา รมฺมณมฺปิ กปฺเปนฺติ. ตํ ปฏิกฺขิปนฺโต ‘‘เตนา’’ติอาทิมาห ¶ . มหานิทฺเทสปาเ ทฺวีหากาเรหิ อุปฺปชฺชติ กุกฺกุจฺจํ เจตโส วิปฺปฏิสาโร มโนวิเลโขติ ปาโ. ‘‘กตตฺตา จา’’ติ อกตฺตพฺพสฺส กตตฺตา จ. ‘‘อกตตฺตา จา’’ติ กตฺตพฺพสฺส อกตตฺตา จ. เกจิ ปน อยํ วิปฺปฏิสาโร นาม กทาจิ กสฺสจิ เกนจิ การเณน ปุพฺเพกต สุจริตมฺปิ อกต ทุจฺจริตมฺปิ อารพฺภ อุปฺปชฺชติ. อุมฺมตฺตกสทิสฺหิ ปุถุชฺชน จิตฺตนฺติ วทนฺติ. ตํ ปฏิกฺขิปนฺโต ‘‘เอเตนา’’ติอาทิมาห. โส ปน เกสฺจิ วาเท วิปฺปฏิสาโร นาม โทมนสฺสํ โหติ, น กุกฺกุจฺจนฺติ อธิปฺปาโย. โสจ โข ทฺวิธา ภาโว. อปายภเยน ตชฺชียนฺติ ตาสียนฺตีติ อปายภย ตชฺชิตา. ‘‘น อฺเสํ’’ติ สุจริต ทุจฺจริตํ อชานนฺตานํ อมนสิกโรนฺตานฺจ น โหติ. กถํ วิฺายตีติ เจ. สุจริตทุจฺจริต นาเมน อนุโสจนาการสฺส ทสฺสิตตฺตาติ วุตฺตํ ‘‘อกตํ เม’’ติอาทิ. ยาถาวมาโน นาม เสยฺยสฺส เสยฺโย หมสฺมีติ สทิสสฺส สทิโสหมสฺมีติ หีนสฺส หีโนหมสฺมีติอาทินา ปวตฺโต ภูตมาโน. ยฺจกุกฺกุจฺจํ อุปฺปชฺชตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘อกตฺวา’’ติ ตํ กลฺยาณ กมฺมํ อกตฺวา. ‘‘กตฺวา’’ติ ตํ ปาปกมฺมํ กตฺวา. อิทํ ปน ปุพฺเพกตา กตกาเล เอว อยาถาวํ โหติ. อนุโสจน กาเลปน ยาถาวเมว. ‘‘หตฺถ กุกฺกุจฺจํ’’ติ เอตฺถ สงฺโกจนตฺโถ น ลพฺภติ. กุจฺฉิต กิริยตฺโถ เอว ลพฺภติ. หตฺถโลลตาหิ หตฺถ กุกฺกุจฺจนฺติ วุจฺจติ. ปาทโลลตา จ ปาทกุกฺกุจฺจํ. เตนาห ‘‘อสํยต กุกฺกุจฺจํ นามา’’ติ. ยํ ปน กุกฺกุจฺจํ. ‘‘ตํ’’ติ ตํ วตฺถุํ. กุกฺกุจฺจํ กโรนฺตีติ กุกฺกุจฺจายนฺตา. นามธาตุ ปทฺเหตํ. กปฺปติ นุ โข, น นุ โข กปฺปตีติ เอวํ วินย สํสยํ อุปฺปาเทนฺตาติ อตฺโถ. ‘‘กุกฺกุจฺจปฺปกตตายา’’ติ กุกฺกุจฺเจน อปกตตาย อภิภูตตาย. ‘‘อตฺตโน อวิสเย’’ติ อาณาจกฺกาเน. อาณาจกฺก สามิโน พุทฺธสฺสวิสยตฺตา อตฺตโน สาวก ภูตสฺส อวิสเยติ อตฺโถ. เย ปน กโรนฺติเยว กุกฺกุจฺจายนฺตา ปีติ อธิปฺปาโย. ‘‘อาปตฺตึ’’ติ ทุกฺกฏาปตฺตึ.
๙๔-๙๕. ถินมิทฺธวจนตฺเถสุ. ‘‘จิตฺตํ มนฺทมนฺทํ กตฺวา’’ติ จินฺตน กิจฺเจ อติมนฺทํ ปริทุพฺพลํ กตฺวา. จิตฺตํ คิลานํ มิลาตํ กตฺวาติ ¶ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อชฺโฌตฺถรตี’’ติ อภิภวติ. อารมฺมณ วิชานเน วา ชวนกิจฺเจ วา ปริหีนถามพลํ กโรติ. ‘‘ถิยตี’’ติ ปทํ ปาฬิวเสน สิทฺธนฺติ อาห ‘‘ถินํ ถิยนา’’ติอาทึ. ‘‘อกมฺมฺภูเต กตฺวา’’ติ กายกมฺมาทีสุ อกมฺมกฺขเม ปริทุพฺพเล กตฺวา. [มุคฺคเรน โปเถตฺวา วิยาติ วุตฺตํ โหติ ]. ‘‘เต’’ติ จิตฺต เจตสิเก สมฺปยุตฺต ธมฺเม. ‘‘โอลียาเปตฺวา’’ติ อวลีเน อวสีทนฺเต กตฺวา. เตนาห ‘‘อิริยา ปถํ ปี’’ติอาทึ. ถินํ จิตฺตํ อภิภวติ, วิชานน กิจฺจสฺส เคลฺตฺตา ถินสฺส. มิทฺธํ เจตสิเก อภิภวติ, ผุสนาทิ กิจฺจสฺส เคลฺตฺตา มิทฺธสฺสาติ อธิปฺปาโย.
๙๖. วิจิกิจฺฉาวจนตฺเถ. ‘‘จิกิจฺฉนํ’’ติ โรคาปนย นตฺเถ กิตธาตุวเสน สิทฺธํ สงฺขต กิริยา ปทนฺติ อาห ‘‘าณปฺปฏิกาโรติ อตฺโถ’’ติ. ‘‘ปฏิกาโร’’ติ จ โรคสฺส ปฏิปกฺข กมฺมํ. ‘‘เอตายา’’ติ นิสฺสกฺกวจนํ. วิจินนฺติ ธมฺมํ วิจินนฺตีติ วิจิโน. ธมฺม วีมํสกา. กิจฺฉติ กิลมติ เอตายาติ กิจฺฉา. วิจินํ กิจฺฉาติ วิจิกิจฺฉาติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สภาวํ’’ติอาทิมาห. ‘‘วิจิกิจฺฉตี’’ติ สงฺขตธาตุปทํ. ตฺจ กงฺขายํ วตฺตตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘วิจิกิจฺฉติ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ทฺวิธา เอฬยติ กมฺปตีติ ทฺเวฬกํ. ตถา ปวตฺตํ จิตฺตํ. ทฺเวฬกสฺส ภาโวติ วิคฺคโห. ‘‘พุทฺธาทีสุ อฏฺสู’’ติ พุทฺเธ กงฺขติ, ธมฺเม กงฺขติ, สงฺเฆ กงฺขติ, สิกฺขาย กงฺขติ, ปุพฺพนฺเต กงฺขติ, อปรนฺเต กงฺขติ, ปุพฺพนฺตา ปรนฺเต กงฺขติ, อิทปฺปจฺจยตา ปฏิจฺจ สมุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ กงฺขตีติ เอวํ วุตฺเตสุ อฏฺสุ สทฺเธยฺย วตฺถูสุ. ตตฺถ ‘‘พุทฺเธ กงฺขตี’’ติ อิติปิ โส ภควา อรหํติอาทินา วุตฺเตสุ พุทฺธคุเณสุ อสทฺทหนฺโต พุทฺเธ กงฺขติ นาม. สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโมติอาทินา วุตฺเตสุ ธมฺม คุเณสุ อสทฺทหนฺโต ธมฺเม กงฺขติ นาม. สุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆติอาทินา วุตฺเตสุ สงฺฆคุเณสุ อสทฺทหนฺโต สงฺเฆ กงฺขติ นาม. ติสฺสนฺนํ สิกฺขานํ วฏฺฏ ทุกฺขโต นิยฺยานฏฺเสุ อสทฺทหนฺโต สิกฺขาย กงฺขติ นาม. อตฺตโน อตีต ภวสฺส อตฺถิ นตฺถิภาเว กงฺขนฺโต ปุพฺพนฺเต กงฺขติ นาม. อตฺตโน ปรมฺมรณา อนาคต ภวสฺส อตฺถิ นตฺถิภาเว กงฺขนฺโต อปรนฺเต กงฺขติ นาม. ตทุภยสฺส อตฺถิ นตฺถิ ภาเว ¶ กงฺขนฺโต ปุพฺพนฺตา ปรนฺเต กงฺขติ นาม. อิมสฺมึ ภเว อตฺตโน ขนฺธานํ ปฏิจฺจ สมุปฺปาเท จ ปฏิจฺจ สมุปฺปนฺนภาเว จ กงฺขนฺโต อิทปฺปจฺจยตา ปฏิจฺจ สมุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ กงฺขติ นาม. ‘‘วิมติ วเสนา’’ติ เวมติกภาเวน. ปวตฺตมานา วิจิกิจฺฉา. วิจิกิจฺฉา ปฏิรูปกา นาม สพฺพ ธมฺเมสุ อปฺปฏิหตพุทฺธีนํ สพฺพฺุ พุทฺธานํ เอว นตฺถีติ วุตฺตํ ‘‘อสพฺพฺูนํ’’ติอาทิ.
อกุสลราสิมฺหิอนุทีปนา นิฏฺิตา.
๙๗. สทฺธาวจนตฺเถ. ‘‘สนฺนิสินฺนํ’’ติ อจลิตํ. ‘‘สุฏฺู’’ติ อนสฺสนฺตํ อจลนฺตฺจ กตฺวา. ‘‘ธาเรตี’’ติ เอวเมว โหตีติ สลฺลกฺขณวเสน ธาเรติ. ตถา เปตีติ. สทฺทหนฺติ วา สทฺธา สมฺปนฺนา สตฺตา. สทฺธาตุํ อรหนฺตีติ สทฺเธยฺยานิ. อกาลุสฺสํ วุจฺจติ อนาวิลํ จิตฺตํ. อกาลุสฺสํ เอว อกาลุสฺสิยํ. ตสฺส ภาโวติ วิคฺคโห. ‘‘โอกปฺปนา’’ติ อโหสาธุ อโหสุฏฺูติ อธิมุจฺจนวเสน จินฺตนา. ‘‘มิจฺฉาธิโมกฺโข เยวา’’ติ ทิฏฺิสมฺปยุตฺโต อธิโมกฺโขเยว. ‘‘วิตฺเต อสตี’’ติ ธเน อสติ. ธนฺหิ วิตฺตนฺติ วุจฺจติ. ยํ ยํ อิจฺฉติ, ตํ ตํ วินฺทนฺติ เอเตนาติ กตฺวา. ‘‘เตสํ’’ติ มนุสฺสานํ.
๙๘. สติวจนตฺเถ. ‘‘สรตี’’ติ อนุสฺสรติ. ‘‘กตานี’’ติ ปุพฺเพกตานิ. ‘‘กตฺตพฺพานี’’ติ อิทานิ วา ปจฺฉา วา กตฺตพฺพานิ. กลฺยาณ กมฺมํ นามปกติยา จิตฺตสฺส รติฏฺานํ น โหติ. ปาป กมฺมเมว จิตฺตสฺส รติฏฺานํ โหติ. ตสฺมา กลฺยาณ กมฺเม เอว อปฺปมชฺชิตุํ วิสุํ สตินาม อิจฺฉิตพฺพา. ปาปกมฺเม ปน วิสุํ สติยา กิจฺจํ นตฺถิ. สพฺเพปิ จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา อปมตฺต รูปา โหนฺติ. เตนาห ‘‘อิตราปนา’’ติอาทึ. ‘‘สติเยว น โหตี’’ติ วิสุํ สติ นามโก เอโก เจตสิโกเยว น โหติ. กตมา ปน สา โหตีติ อาห ‘‘กตสฺสา’’ติอาทึ. ตตฺถ กตสฺส อปฺปมชฺชนํ นาม เกสฺจิ อนุโมทนวเสน เกสฺจิ อนุโสจนวเสน อปฺปมชฺชนํ. กตฺตพฺพสฺส อปฺปมชฺชนํ นาม นิจฺจกาลมฺปิ กาตุํ อภิมุขตา. ‘‘กตสฺสา’’ติ ¶ วา ภุมฺมตฺเถ สามิวจนํ. ตถา เสเสสุ ทฺวีสุ ปเทสุ. สพฺเพสุ ราชกมฺเมสุ นิยุตฺโต สพฺพกมฺมิโก. ‘‘นิยุตฺโต’’ติ อปฺปมตฺโต หุตฺวา พฺยาวฏกาย จิตฺโต. สพฺเพสุ าเนสุ อิจฺฉิตพฺพาติ สพฺพตฺถิกา. สา หิ ฉสุ ทฺวาเรสุ จิตฺตสฺส อารกฺข กิจฺจา โหติ อินฺทฺริย สํวรณ ธมฺมตฺตา. ตสฺมา ฉสุ ทฺวาเรสุ อิฏฺารมฺมเณ โลภมูลจิตฺตสฺส อนุปฺปชฺชนตฺถาย สา อิจฺฉิตพฺพา, อนิฏฺา รมฺมเณ โทสมูล จิตฺตสฺส, มชฺฌตฺตารมฺมเณ โมหมูล จิตฺตสฺสาติ. อปิ จ, โพชฺฌงฺค ภาวนา าเนสุ อิทํ สุตฺต ปทํ วุตฺตํ. ตสฺมา ภาวนา จิตฺตสฺส ลีนฏฺาเนปิ สา อิจฺฉิตพฺพา ลีนปกฺขโต จิตฺตสฺส นีวารณตฺถายาติอาทินา โยเชตพฺพา.
๙๙-๑๐๐. หิริโอตฺตปฺปวจนตฺเถสุ. ‘‘กายทุจฺจริตาทีหิ ลชฺชตี’’ติ ตานิกาตุํ ลชฺชติ. ตานิ หีนกมฺมานิ ลามกกมฺมานีติ หีเฬตฺวา ตโต อตฺตานํ รกฺขิตุํ อิจฺฉติ. เตนาห ‘‘ชิคุจฺฉตี’’ติ. ‘‘อุกฺกณฺตี’’ติ วิรุชฺฌติ, วิโยคํ อิจฺฉติ. ‘‘เตหิ เยวา’’ติ กาย ทุจฺจริตาทีหิเยว. ‘‘อุพฺพิชฺชตี’’ติ อุตฺตสติ, ภยโต อุปฏฺาติ. คาถาสุ. ‘‘อลชฺชิเยสู’’ติ อลชฺชิตพฺเพสุ กลฺยาณ กมฺเมสุ. ‘‘ลชฺชเร’’ติ ลชฺชนฺติ. ‘‘อภเย’’ติ อภายิตพฺเพ กลฺยาณกมฺเม. ยสฺมา ปน สปฺปุริสา อตฺตานํ ปริหรนฺตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘หิริยา อตฺตนิ คารวํ อุปฺปาเทตฺวา’’ติ อตฺตโน ชาติคุณาทิกํ วา สีล คุณาทิกํ วา ครุํ กตฺวา มาทิสสฺส เอว รูปํ ปาปกมฺมํ อยุตฺตํ กาตุํ. ยทิ กเรยฺยํ, ปจฺฉา อตฺตานํ อสุทฺธํ ตฺวา ทุกฺขีทุมฺมโน ภเวยฺยนฺติ เอวํ หิริยา อตฺตนิ คารวํ อุปฺปาเทตฺวา. ‘‘โอตฺตปฺเปน ปเรสุ คารวํ อุปฺปาเทตฺวา’’ติ ปรานุวาทภยํ ภายิตฺวาติ อธิปฺปาโย. ตตฺถ ปรานุวาทภยํ นาม ปเรสํ สาธุ ชนานํ ครหา ภยํ. อฺมฺปิ อปายภยํ สํสาร วฏฺฏภยฺจ เอตฺถ สงฺคยฺหติเยว. โลกํปาเลนฺตีติ โลกปาลา. ‘‘โลกํ’’ติ สตฺตโลกํ. ‘‘ปาเลนฺตี’’ติ อปาย ภยโต รกฺขนฺติ.
๑๐๑. อโลภวจนตฺเถ. อกาโร วิรุทฺธตฺโถติอาห ‘‘โลภปฺปฏิปกฺโข’’ติ. โลภสฺส ปฏิวิรุทฺโธติ อตฺโถ. ปฏิวิรุทฺธตา จ ปหายก ปหาตพฺพ ภาเวน เวทิตพฺพาติ ทสฺเสตุํ ‘‘โสหี’’ติอาทิมาห ¶ . ตตฺถ โส เนกฺขมฺมธาตุวเสน หุตฺวา ปวตฺตตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘หิต สฺิเตสู’’ติ อิทํ เม อตฺถาย หิตาย สุขายาติ เอวํ สฺิเตสุ. ‘‘ลคฺคนวเสนา’’ติ อมฺุจิตุกามตาวเสน. เตสฺเวว ปวตฺตตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ภวโภค สมฺปตฺติโย คูถราสึ วิย หีเฬตฺวา’’ติ อิทํ โพธิสตฺตานํ วเสน นิทสฺสน วจนํ. ตตฺถ ‘‘หีเฬตฺวา’’ติ ครหิตฺวา. นิกฺขมนฺติ เอเตนาติ เนกฺขมฺโม. โส เอว ธาตูติ เนกฺขมฺมธาตุ.
๑๐๒. อยํ นโย โทสปฺปฏิปกฺโข, โมหปฺปฏิปกฺโขติอาทีสุปิ เนตพฺโพ.
๑๐๓. ตตฺร มชฺฌตฺตตายํ. ‘‘ลีนุทฺธจฺจานํ’’ติ จิตฺตสฺส ลีนตา เอโก วิสมปกฺโข. อุทฺธฏตา ทุตีโย วิสมปกฺโข. ลีนํ จิตฺตํ โกสชฺเช วิสมปกฺเข ปตติ. อุทฺธฏํ จิตฺตํ อุทฺธจฺเจ วิสมปกฺเข ปตติ. ตทุภยมฺปิ อกุสล ปกฺขิกํ โหติ. ตถา จิตฺตสฺส อติ ลูขตา เอโก วิสม ปกฺโข. อติปหฏฺตา เอโกติอาทินา สพฺพํ โพชฺฌงฺควิธานํ วิตฺถาเรตพฺพํ. ตตฺร มชฺฌตฺตตา ปน สมฺปยุตฺต ธมฺเม อุโภสุ อนฺเตสุ ปาเตตุํ อทตฺวา สยํ มชฺฌิมปฺปฏิปทายํ ทฬฺหํ ติฏฺติ.
๑๐๔. ปสฺสทฺธาทีสุ. ‘‘ตตฺถ ตํ วีนฺทนฺตี’’ติ เตสุ ปฺุ กมฺเมสุ ตํ จิตฺต สุขํ ปฏิลภนฺติ.
๑๐๕. ลหุตา ทฺวเย. ‘‘ตตฺตปาสาเณ’’ติ สนฺตตฺเต ปาสาณปิฏฺเ. ‘‘ตตฺถา’’ติ ปฺุกมฺเมสุ.
๑๐๖-๑๑๐. มุทุตา ทฺวยาทีสุ สพฺพํ สุวิฺเยฺยํ.
๑๑๑. วิรติตฺตเย. ‘‘กถา, เจตนา, วิรติ, วเสนา’’ติ ‘กถาสมฺมาวาจา, เจตนา สมฺมาวาจา, วิรติ สมฺมาวาจา, วเสน. ตํ กถาวาจํ สมุฏฺาเปตีติ ตํ สมุฏฺาปิกา. ยา ปน ปาป วิรมณากาเรน จิตฺตสฺส ปวตฺตีติ โยชนา. ‘‘สมาทิยนฺตสฺส วา’’ติ มุสาวาทา วิรมามีติอาทินา วจีเภทํ กตฺวา สมาทิยนฺตสฺส วา. ‘‘อธิฏฺหนฺตสฺส วา’’ติ วจีเภทํ อกตฺวา จิตฺเตเนว ตถา อธิฏฺหนฺตสฺส วา. อิเมหิ ทฺวีหิ ปเทหิ สมาทาน วิรติปฺปวตฺตึ วทติ ¶ . ‘‘อวีติกฺกมนฺตสฺส วา’’ติ เอเตน สมฺปตฺต วิรติปฺปวตฺตึ วทติ. ‘‘เอตายา’’ติ สมฺมาวาจา วิรติยา. สา ปน กตฺตุนา จ กฺริยาย จ สหภาวินี หุตฺวา สมาทาน กฺริยํ สุฏฺุตรํ สาเธติ. ตสฺมา สา กรณ สาธนํ นาม โหติ. เตนาห ‘‘กรณตฺเถวากรณ วจน’’นฺติ. พหูสุชวนวาเรสุ ปวตฺตมาเนสุ ปุริม ปุริม ชวนวารปริยาปนฺนา สมฺมาวาจา ปจฺฉิม ปจฺฉิม ชวนวารสมุฏฺิตาย สมาทาน กฺริยาย ปจฺจโย โหติ. สา ปน ตาย กฺริยาย อสหภาวิตฺตา กรณลกฺขณํ น สมฺปชฺชติ. เหตุ ลกฺขเณ ติฏฺติ. เตนาห ‘‘เหตุ อตฺเถวา กรณวจน’’นฺติ. อิทฺจ อตฺถโต ลพฺภมานตฺตา วุตฺตํ. สมฺมาวาจาติ ปทํ ปน กิตสาธน ปทตฺตากรณตฺเถ เอวสิทฺธํ. น หิ อการก ภูโต เหตุ อตฺโถ สาธนํ นาม สมฺภวติ. ‘‘สมาทาน วจนานี’’ติ สมฺมาวาจา สมุฏฺิตานิ สมาทาน วจนานิ. ‘‘ตโต’’ติ ตโตปรํ. ‘‘เตสํ’’ติ เต สํวทมานานํ. อิทฺจ สพฺพํ สมฺมาวาจาติ วจเน วจีเภทวาจํ ปธานํ กตฺวา วุตฺตํ. สมฺปตฺตวิรติ สมุจฺเฉท วิรติภูตาย ปน สมฺมาวาจาย วจีเภเทน กิจฺจํ นตฺถิ. วิรติ กิจฺจ เมวปธานนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘ปวตฺตมานา’’ติ ปวตฺตมานตฺตา. วิเสสน เหตุ ปทเมตํ.
๑๑๒-๑๑๓. สมฺมากมฺมนฺเตปิ สมฺมาอาชีเวปิ วตฺตพฺพํ นตฺถิ.
๑๑๔. ‘‘สมฺปตฺตํ วตฺถุํ’’ติ ปาณาติ ปาตาทิกมฺมสฺส วตฺถุํ. สาปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณาเยว. กสฺมา, อตฺตโน ปจฺจกฺเข สมฺปตฺต วเสนวตฺถุสฺสธรมานตฺตา. ‘‘สมาทิยนฺตสฺส วา อุปฺปนฺนา’’ติ ปาณาติ ปาตาปฏิวิรมาธีติอาทินา สมาทิยนฺตสฺสยา สมาทานกฺขเณ อุปฺปนฺนา วิรติ. ‘‘สา ปน ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณา โหตี’’ติ เอตฺถ กถํ ปจฺจุปฺปนฺนา รมฺมณา โหตีติ. ปาณาติ ปาตาปฏิวิรมาธีติ วทนฺตสฺส จิตฺตํ อนุกฺกเมน ปาณสทฺทาทีนํ อตฺถํ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺตติ. ตตฺถ ‘‘ปาโณ’’ติ โวหารโต สตฺโต. ปรมตฺถโต ชีวิตินฺทฺริยํ. โส จ สตฺโต ตฺจชีวิตินฺทฺริยํ โลเก สพฺพกาลมฺปิ สํวิชฺชติเยว. เอวรูปํ ชีวิตินฺทฺริย สามฺํ สนฺธาย ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณาติ วุตฺตํ. อทินฺนาทานา ปฏิวิรมาธีติอาทีสุปิ เอเสว นโย. ‘‘อนาคตา รมฺมณาวา’’ติ ¶ เอตฺถ เอกทิวสํ นิยเมตฺวา สมาทิยนฺตสฺส ตสฺมึ ทิวเส ธรมาน สตฺตาปิ อตฺถิ. อุปฺปชฺชิสฺสมานสตฺตาปิ อตฺถิ. ตทุภยมฺปิ ปาณวจเน สงฺคหิตเมว. ปาณุเปตํ กตฺวา สมาทิยนฺตสฺส วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. อปิ จ อนาคตกาลิกมฺปิ สมาทานํ อตฺถิเยว. อหํ อสุกทิวสโต ปฏฺาย ยาวชีวมฺปิ ปาณาติปาตา วิรมาธีติอาทิ. เอวํ สมาทาน วิรติ อนาคตา รมฺมณาปิ โหตีติ. ‘‘ปจฺจยสมุจฺเฉทวเสนา’’ติ ตํ ตํ กิเลสานุสย สงฺขาตสฺส ปจฺจยสฺส สมุจฺเฉทวเสน. เสสเมตฺถ สุวิฺเยฺยํ.
๑๑๕-๑๑๖. อปฺปมฺาทฺวเย. อปิจาติอาทีสุ. ‘‘กลิสมฺภเวภเว’’ติ ทุกฺขุปฺปตฺติปจฺจยภูเต สํสารภเว. ‘‘ปาเปกลิ ปราชเย’’ติ กลิสทฺโท ปาเป จ ปราชเย จ วตฺตตีติ อตฺโถ. สตฺเตหิ กลึ อวนฺติ รกฺขนฺติ เอตายาติ กรุณา. สตฺเตหีติ จ รกฺขณตฺถโยเค อิจฺฉิตสฺมึ อตฺเถ อปาทาน วจนํ. ยถา-กาเก รกฺขนฺติ ตณฺฑุลา-ติ. สตฺเตวา กลิโต อวนฺติ รกฺขนฺติ เอตายาติ กรุณา. กลิโตติ จ รกฺขณตฺถ โยเค อนิจฺฉิตสฺมิมฺปิ อปาทานวจนํ. ยถา-ปาปาจิตฺตํ นิวารเยติ. เอกสฺมึ สตฺเต ปวตฺตาปิ อปฺปมฺา เอว นาม โหนฺติ. ยถา ตํ สพฺพฺุตฺาณํ เอกสฺมึ อารมฺมเณ ปวตฺตมฺปิ สพฺพฺุตฺาณเมว โหตีติ.
๑๑๗. ปฺินฺทฺริเย วตฺตพฺพํ นตฺถิ.
โสภณราสิมฺหิอนุทีปนา นิฏฺิตา.
๑๑๘. เอตํ ปริมาณํ อสฺสาติ เอตฺตาวํ. ‘‘เอตฺตาวตา’’ติ เอตฺตาวนฺเตน-ผสฺโส, เวทนา, สฺา,ติอาทิวจนกฺกเมน. ‘‘จิตฺตุปฺปาเทสู’’ติ เอตฺถ-กตเม ธมฺมา ทสฺสเนน ปหาตพฺพา. จตฺตาโร ทิฏฺิคตสมฺปยุตฺต จิตฺตุปฺปาทา-ติอาทีสุ จิตฺตเจตสิก สมูโห จิตฺตุปฺปาโทติ วุจฺจติ. อิธ ปน จิตฺตานิ เอว จิตฺตุปฺปาทาติ วุจฺจนฺตีติ อาห ‘‘จิตฺตุปฺปาเทสูติ จิตฺเตสุ อิจฺเจว อตฺโถ’’ติ. ‘‘สพฺพทุพฺพลตฺตา’’ติ สพฺพจิตฺเตหิ ทุพฺพลตรตฺตา. ‘‘ภาวนา พเลนา’’ติ วิตกฺก วิราคสตฺติ ¶ ยุตฺเตน อุปจาร ภาวนา พเลน, วุฏฺาน คามินิ วิปสฺสนา ภาวนา พเลน จ. ‘‘พลนายกตฺตา’’ติ พล ธมฺมานํ นายกตฺตา, เชฏฺกตฺตา.
๑๑๙. อกุสล เจตสิเกสุ. ‘‘ปจฺฉิมํ’’ติ สพฺเพสุปิ ทฺวาทสา กุสล จิตฺเตสูติ วจนํ. ‘‘ปุริมสฺสา’’ติ สพฺพา กุสล สาธารณา นามาติ วจนสฺส. ‘‘สมตฺตน วจนํ’’ติ-กสฺมา สพฺพากุสล สาธารณา นามาติ. ยสฺมา สพฺเพสุปิ. ล. จิตฺเตสุ ลพฺภนฺติ, ตสฺมา สพฺพา กุสล สาธารณา นามา-ติ เอวํ สาธน วจนํ. ยสฺมา ปน อิเมหิ จตูหิ วินานุปฺปชฺชนฺติ, ตสฺมา เต สพฺเพสุ เตสุ ลพฺภนฺตีติ โยชนา. กสฺมา วินา นุปฺปชฺชนฺตีติ อาห ‘‘น หิตานี’’ติอาทึ. ‘‘เตหี’’ติ ปาเปหิ. สพฺพ ปาป ธมฺมโตติ อตฺโถ. ‘‘ตถา ตถา อามสิตฺวา’’ติ ทิฏฺิ ขนฺเธสุ นิจฺโจ ธุโว สสฺสโตติอาทินา อามสติ. มาโน อหนฺติ วา เสยฺโย สทิโสติอาทินา วา อามสติ. เอวํ ตถา ตถา อามสิตฺวา. ‘‘เตสู’’ติ ทิฏฺิมาเนสุ. นิทฺธารเณ ภุมฺมํ. ทิฏฺิ ปรามสนฺตี ปวตฺตตีติ โยชนา. ‘‘ตํ คหิตาการ’’นฺติ ตํ อหนฺติ คหิตํ นิมิตฺตาการํ. สกฺกาย ทิฏฺิ เอว คติ เยสํ เต ทิฏฺิ คติกา. อวิกฺขมฺภิต สกฺกาย ทิฏฺิกา. ‘‘อหนฺติ คณฺหนฺตี’’ติ มาเนน คณฺหนฺติ. ‘‘น หิ มานสฺส วิยา’’ติ ยถา มานสฺส อตฺตสมฺปคฺคหเณ พฺยาปาโร อตฺถิ, น ตถา ทิฏฺิยา อตฺตสมฺปคฺคหเณ พฺยาปาโร อตฺถีติ โยชนา. เอตฺถ จ อตฺตสมฺปคฺคหณํ นาม ปเรหิ สทฺธึ อตฺตานํ เสยฺยาทิวเสน สุฏฺุปคฺคหณํ. ‘‘น จ ทิฏฺิยา วิยา’’ติ ยถา ทิฏฺิยา ธมฺมานํ อยาถาวปกฺขปริกปฺปเน พฺยาปาโร อตฺถีติ โยชนา. ตตฺถ อยาถาวปกฺโข นาม อตฺตา สสฺสโต อุจฺฉินฺโนติอาทิ. มจฺฉริยํ อตฺตสมฺปตฺตีสุ ลคฺคนโลภสมุฏฺิตตฺตา โลภสมฺปยุตฺตเมว สิยาติ โจทนํ ปริหรนฺโต ‘‘มจฺฉริยํ ปนา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ‘‘ตาสํ’’ติ อตฺตสมฺปตฺตีนํ. เสสเมตฺถ สุวิฺเยฺยํ.
๑๒๐. โสภณเจตสิเกสุ. ‘‘ตีสุ ขนฺเธสุ’’ติ สีลกฺขนฺธ สมาธิกฺขนฺธ ปฺากฺขนฺเธสุ จ. ‘‘สมฺมาทิฏฺิ ปจฺฉิมโก’’ติ สมฺมาทิฏฺิยา ปจฺฉโต อนุพนฺธโกติ อตฺโถ. สมฺมาทิฏฺิยา ปริวา รมตฺโตติ ¶ วุตฺตํ โหติ. ‘‘ตสฺมึ อสติ ปี’’ติ ทุตียชฺฌานิก มคฺคาทีสุ ตสฺมึ สมฺมาสงฺกปฺเป อสนฺเตปิ. ‘‘สีลสมาธิกฺขนฺธ ธมฺเมสุ ปนา’’ติ ‘สมฺมาวาจา, สมฺมากมฺมนฺโต, สมฺมาอาชีโว,ติ อิเม ตโย ธมฺมา สีลกฺขนฺธ ธมฺมา นาม. สมฺมา วายาโม, สมฺมาสติ, สมฺมาสมาธี,ติ อิเม ตโย ธมฺมา สมาธิกฺขนฺธา นาม. อิเมสุ สีลกฺขนฺธ สมาธิกฺขนฺเธสุ. ‘‘เอโก เอกสฺส กิจฺจํ น สาเธตี’’ติ เตสุ สมฺมาวาจา สมฺมากมฺมนฺตสฺส กิจฺจํ น สาเธติ. สมฺมา อาชีวสฺส กิจฺจํ น สาเธติ. สมฺมากมฺมนฺโต จ สมฺมาวาจาย กิจฺจํ น สาเธตีติอาทินา สพฺพํ วตฺตพฺพํ. ‘‘สีเลสุ ปริปูรการิตา วเสนา’’ติ สีลปฺปฏิปกฺข ธมฺมานํ สมุจฺฉินฺทการิตา วเสนาติ อธิปฺปาโย. มุสาวาท วิรติ มุสาวาทเมว ปชหิตุํ สกฺโกติ. น อิตรานิ ปิสุณวาจาทีนีติ โยชนา. เอตฺถ สิยา. มุสาวาทวิรติ นาม กุสล ธมฺโม โหติ. กุสล ธมฺโม จ นาม สพฺพสฺส อกุสล ธมฺมสฺส ปฏิปกฺโข. เอกสฺมิมฺปิ กุสล ธมฺเม อุปฺปชฺชมาเน ตสฺมึ สนฺตาเน สพฺพานิ อกุสลานิ ปชหิตุํ สกฺโกนฺตีติ วตฺตพฺพานิ. อถ จ ปน มุสาวาท วิรติ มุสาวาทเมว ปชหิตุํ สกฺโกติ, น อิตรานีติ วุตฺตํ. กถมิทํ ทฏฺพฺพนฺติ. วุจฺจเต. ปชหิตุํ สกฺโกตีติ อิทํ ปฺจสุ ปหาเนสุ ตทงฺคปฺปหาน วจนํ. ตทงฺคปฺปหานนฺติ จ เตน เตน กุสลงฺเคน ตสฺส ตสฺส อกุสลงฺคสฺส ปหานํ ตทงฺคปฺปหานํ นาม. อิทํ วุตฺตํ โหติ, อิธ สปฺปุริโส ปาณาติปาตา ปฏิวิรมามีติอาทินา วิสุํ วิสุํ สิกฺขาปทานิ สมาทิยิตฺวา ปาณาติ ปาตวิรติ สงฺขาเตน กุสลงฺเคน ปาณาติปาต สงฺขาตํ อกุสลงฺคํ ปชหติ. อทินฺนาทาน วิรติ สงฺขาเตน กุสลงฺเคน อทินฺนาทาน สงฺขาตํ อกุสลงฺคํ ปชหตีติอาทินา วิตฺถาเรตพฺพํ. เอกสฺมิมฺปิ กุสล ธมฺเม อุปฺปชฺชมาเน ตสฺมึ สนฺตาเน สพฺพานิ อกุสลานิ น อุปฺปชฺชนฺตีติ เอตฺถ ปน อโนกาสตฺตา เอว น อุปฺปชฺชนฺติ, น ปหานตฺตา. น หิ ตสฺมึ สนฺตาเน ตสฺมึ ขเณ ตานิ อกุสลานิ เอว น อุปฺปชฺชนฺติ. อถโข สพฺพานิ อฺานิ กุสล จิตฺตานิ จ น อุปฺปชฺชนฺติ. สพฺพานิ อพฺยากต จิตฺตานิ จ น อุปฺปชฺชนฺติ. ตานิ อโนกา สตฺตา เอว น อุปฺปชฺชนฺติ. น ปหานตฺตา น อุปฺปชฺชนฺติ. ตทงฺคปฺปหานาทิ วเสน ปน ปหานํ สนฺธาย อิธ ¶ ปชหิตุํ สกฺโกติ-น สกฺโกตีติ วุตฺตํ. เอตฺตาวตา ตทงฺคปฺปหานํ นาม สุปากฏํ โหติ. มุสาวาท วิรติ มุสาวาทเมว ปชหิตุํ สกฺโกติ. น อิตรานีติ อิทฺจ สุฏฺุ อุปปนฺนํ โหตีติ. ‘‘เอตฺถ จา’’ติอาทีสุ กายงฺคโจปนตฺถาย วาจงฺคโจปนตฺถาย จ ปวตฺตานิ กายวจีโจ ปน ภาคิยานิ นาม. กามาวจร กุสเลสฺเวว วิรติโย สนฺทิสฺสนฺติ. ‘‘กามาวจร กุสเลสุ ปี’’ติ นิทฺธารเณ ภุมฺมวจนํ. กามภูมิยํ อุปฺปนฺเนสุ เอว กามาวจร กุสเลสุ สนฺทิสฺสนฺติ. ติวิธ กุหนวตฺถูนิ จ วิรมิตพฺพวตฺถุฏฺาเนิตานิ. เอตฺถ จ กุหนํ นาม วิมฺหาปนํ ลาภสกฺการ สิโลกตฺถาย มนุสฺสานํ นานามายาสาเยฺย กมฺมานิ กตฺวา อจฺฉริยพฺภุต ภาวกรณนฺติ วุตฺตํ โหติ. ตํ ปน ติวิธํ ‘ปจฺจยปฺปฏิเสวนกุหนฺจ, สามนฺตชปฺปน กุหนฺจ, อิริยา ปถสณฺา ปน กุหนฺจ. ตตฺถ มหิจฺโฉเยว สมาโน อปฺปิจฺฉาการํ ทสฺเสตฺวา อาทิโต อาคตา คเต จตุปจฺจเย ปฏิกฺขิปิตฺวา ปจฺฉา พหุํ พหุํ อาคเต ปจฺจเย ปฏิคฺคณฺหาติ. อิทํ ปจฺจยปฺปฏิเสวน กุหนํ นาม. ปาปิจฺโฉเยว สมาโน อยํ ฌานลาภีติ วา อภิฺาลาภีติ วา อรหาติ วา ชโน มํ สมฺภาเวตูติ สมฺภาวนํ อิจฺฉนฺโต อตฺตานํ อุตฺตริ มนุสฺส ธมฺมานํ สนฺติเก เต วา อตฺตโน สนฺติเก กตฺวา วฺเจติ. อิทํ สามนฺตชปฺปน กุหนํ นาม. ปาปิจฺโฉเยว สมาโน อยํ สนฺตวุตฺติ สมาหิโต อารทฺธวีริโยติ ชโน มํ สมฺภาเวตูติ สมฺภาวนํ อิจฺฉนฺโต อิริยา ปถ นิสฺสิตํ นานาวฺจนํ กโรติ. อิทํ อิริยา ปถ สณฺาปน กุหนํ นาม. ‘‘สิกฺขาปทสฺส วตฺถูนี’’ติ สุรา ปาน วิกาล โภชน นจฺจคีตวาทิต ทสฺสน สวนาทีนิ. สุราเมรยปานา วิรมาธีติ สมาทิยนฺตสฺส สุราเมรยปาน เจตนา วิรมิตพฺพ วตฺถุ นาม. วิกาล โภชนา วิรมามีติ สมาทิยนฺตสฺส วิกาเล ยาวกาลิก วตฺถุสฺส ปริภฺุชน เจตนา วิรมิตพฺพ วตฺถุ นาม. เสเสสุปิ เอเสว นโย. โลกุตฺตร จิตฺเตสุ. ‘สพฺพถาปี,ติ จ ‘นิยตา’ติ จ ‘เอกโต วา’ติ จ ตีณิ วิเสสนานิ. โลกิเยสุ ปน ‘กทาจี’ติ จ ‘วิสุํ วิสุํ’ติ จ ทฺเว ทฺเว วิเสสนานิ. ตตฺถ โลกุตฺตเรสุ ‘สพฺพถาปี’ติ อิทํ สมุจฺเฉทปฺปหาน ทสฺสนํ ¶ โลกิเยสุปิ ตพฺพิปรีตํ ตทงฺคปฺปหาน ทสฺสนํ อธิปฺเปตนฺติ กตฺวา ‘‘เอเกก ทุจฺจริตปฺปหานวเสเน วา’’ติ วุตฺตํ.
๑๒๑. อปฺปมฺาสุ. ‘‘วิภงฺเค’’ติ อปฺปมฺา วิภงฺเค. ‘‘การฺุปฺปกติกสฺสา’’ติ การฺุสภาวสฺส. ‘‘อนิสฺสุกิโน’’ติ อิสฺสาธมฺมรหิตสฺส. ถามคตา กรุณา โทส สมุฏฺิตํ วิหึสํ ปชหติ. ถามคตา มุทิตา โทสสมุฏฺิตํ อรตึ ปชหตีติ วุตฺตํ ‘‘วิหึสา อรตีนํ นิสฺสรณ ภูตา’’ติ. เอตฺถ จ อรติ นาม สฺุาคาเรสุ จ ภาวนา กมฺเมสุ จ นิพฺพิทา. โทส นิสฺสรเณ สติ โทมนสฺสนิสฺสรณมฺปิ สิทฺธเมว. นิสฺสรณฺจ นาม ปฏิปกฺข ธมฺม สณฺาเนน โหติ. ตสฺมา ปุพฺพภาเคปิ อปฺปมฺาสุ นิจฺจํ โสมนสฺส สณฺานํ เวทิตพฺพนฺติ อธิปฺปาเยน ‘‘โทมนสฺสปฺปฏิปกฺขฺจา’’ติอาทิมาห. ‘‘อฏฺกถายปิ สห วิรุทฺโธ’’ติ อฏฺสาลินิยํ อุเปกฺขา สหคต กามาวจร กุสล จิตฺเตสุ กรุณา มุทิตา ปริกมฺมกาเลปิ หิ อิเมสํ อุปฺปตฺติ มหาอฏฺกถายํ อนฺุาตา เอวา-ติ วุตฺตํ. ตาย อฏฺกถายปิ สห วิรุทฺโธ. เสสเมตฺถ สุวิฺเยฺยํ. ‘‘ปฏิกูลา รมฺมเณสุ ปน…เป… วตฺตพฺพเมว นตฺถี’’ติ ปฏิกูลา รมฺมณานิ นาม โสมนสฺเสน ทูเร โหนฺติ, ตถา ทุกฺขิต สตฺตา จ, ตสฺมา ตทา รมฺมณานิ อสุภ ภาวนา จิตฺตานิ จ กรุณา ภาวนา จิตฺตานิ จ อาทิโต อุเปกฺขา สหคตา เนวาติ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. ‘‘สาหิเวทนุเปกฺขา นามา’’ติ กามาวจร เวทนุเปกฺขา วุตฺตา. วิภาวนิปาเ, ‘‘อฺวิหิตสฺส ปี’’ติ อฺํ อารมฺมณํ มนสิกโรนฺตสฺสปิ. สชฺฌายนํ สมฺปชฺชติ, สมฺมสนํ สมฺปชฺชตีติ ปาเสโส. อิติ ตสฺมา. เอตฺถ สิยา ‘‘ตํ ปฏิกฺขิตฺตํ โหตี’’ติ กสฺมา วุตฺตํ. น นุ ตมฺปิ อุเปกฺขา สหคต จิตฺเตสุ กรุณา มุทิตานํ สมฺภวํ สาเธติ เยวาติ. สจฺจํ สาเธติเยว. เตน ปน ปริจย วเสน เตสุ ตาสํ สมฺภวํ ทีเปติ. อิธ ปน ‘‘เอตฺถ จา’’ติอาทินา ‘‘ปฏิกูลา รมฺมเณสู’’ติอาทินา จ ปริจเยน วินา ปกติยา ตาสํ อุเปกฺขา เวทนาย เอว สห ปวตฺติ พหุลตา วุตฺตาติ. ‘‘โยคกมฺม พเลนา’’ติ ยฺุชน วีริย กมฺม พเลน.
๑๒๒. เจโต ¶ ยุตฺตานํ จิตฺต เจตสิกานํ. ‘‘เอตฺถ จา’’ติอาทีสุ. เหฏฺา จ วุตฺโต ‘กทาจิ สนฺทิสฺสนฺติ วิสุํ วิสุํ, กทาจิ นานา หุตฺวา ชายนฺตี’ติ. อุปริ จ วกฺขติ ‘อปฺปมฺา วิรติโย ปเนตฺถ ปฺจปิ ปจฺเจกเมว โยเชตพฺพา’ติ. อิสฺสาทีนฺจ นานา กทาจิ โยโค อุปริ ‘อิสฺสามจฺเฉร กุกฺกุจฺจานิ ปเนตฺถ ปจฺเจกเมว โยเชตพฺพานี’ติ วกฺขติ. มานถิน มิทฺธานํ ปน นานา กทาจิ โยโค อิธ วตฺตพฺโพ. ‘‘กทาจี’’ติ วตฺวา ตทตฺถํ วิวรติ ‘‘เตสํ’’ติอาทินา. ‘‘เตสํ’’ติ ทิฏฺิ วิปฺปยุตฺตานํ. ‘‘นิทฺทาภิภูต วเสนา’’ติ นิทสฺสน วจนเมตํ. เตน โกสชฺชาทีนมฺปิ คหณํ เวทิตพฺพํ. ‘‘อกมฺมฺตายา’’ติ อกมฺมฺภาเวน. เตหิ อิสฺสามจฺฉริย กุกฺกุจฺเจหิ. เตน จ มาเนน. กิจฺจ วิโรเธ วา อารมฺมณ วิโรเธ วา นานาภาโว. อวิโรเธ สหภาโว.
๑๒๓. ‘‘โยคฏฺานปริจฺฉินฺทน วเสนา’’ติ สพฺพจิตฺต สาธารณา ตาว สพฺเพสุปิ เอกูนนวุติจิตฺตุปฺปาเทสุ, วิตกฺโก ปฺจปฺา สจิตฺเตสูติอาทินา ยุตฺตฏฺาน ภูตานํ จิตฺตานํ คณนสงฺขฺยาปริจฺเฉทวเสน. ‘‘ยุตฺต ธมฺมราสิ ปริจฺฉินฺทน วเสนา’’ติ อนุตฺตเร ฉตฺตึส, มหคฺคเต ปฺจตึสาติอาทินา ยุตฺต ธมฺมราสีนํ คณน สงฺขฺยา ปริจฺเฉท วเสน. เสสํ สุวิฺเยฺยํ. ‘‘ปาฬิยํ’’ติ ธมฺมสงฺคณิ ปาฬิยํ. ‘‘เตสํ นยานํ’’ติ จตุกฺก ปฺจก นยานํ.
๑๒๔. ‘‘กายวจี วิโสธน กิจฺจา’’ติ กายทฺวารวจีทฺวาร โสธน กิจฺจา.
๑๒๕. โลกุตฺตร วิรตีนํ โลกุตฺตร วิปาเกสุปิ อุปฺปชฺชนโต ‘‘อิทฺจ…เป… ทฏฺพฺพ’’นฺติ. ตาสํ อปฺปมฺานํ. เตสุ มหาวิปาเกสุ. สตฺตปฺตฺตาทีนิ อารมฺมณานิ ยสฺสาติ วิคฺคโห. ‘‘เตนา’’ติ กุสเลน. ‘‘วิกปฺป รหิตตฺตา’’ติ วิวิธาการ จินฺตน รหิตตฺตา. อปฺปนาปตฺต กมฺม วิเสเสหิ นิพฺพตฺตา อปฺปนาปตฺตกมฺม วิเสส นิพฺพตฺตา. ปฺตฺติ วิเสสานิ นาม ปถวีกสิณ นิมิตฺตาทีนิ. ‘‘อปิ จา’’ติอาทีสุ. น ปฺตฺติ ธมฺเมหิ อตฺถิ. เอวฺจ สติ, กามวิปากานิ กามตณฺหาย อารมฺมณภูตา ปฺตฺติโยปิ อาลมฺเพยฺยุนฺติ. ‘‘สงฺคหนยเภทการกา’’ติ ปถ มชฺฌานิก ¶ จิตฺเตสุ ฉตฺตึส. ทุตียชฺฌานิก จิตฺเตสุ ปฺจตึสาติอาทินา สงฺคหนยเภทสฺส การกา.
๑๒๖. ‘‘เอตฺถ จา’’ติอาทีสุ. ‘‘ปฺจสุ อสงฺขาริเกสู’’ติ นิทฺธารเณ ภุมฺมวจนํ. ตถา ปฺจสุ สสงฺขาริเกสูติ. เสสเมตฺถ สุวิฺเยฺยํ.
๑๒๘. ‘‘ภูมิ ชาติ สมฺปโยคาทิเภเทนา’’ติ ผสฺโสตาว จตุพฺพิโธ โหติ กามาวจโร, รูปาวจโร, อรูปาวจโร จาติ. อยํ ภูมิเภโท.
ทฺวาทสากุสลา ผสฺสา, กุสลา เอกวีสติ;
ฉตฺตึเสว วิปากา จ, วีสติ กฺริยา มตา.
อิติ อยํ ชาติเภโท. โสมนสฺส สหคโต, ทิฏฺิคต สมฺปยุตฺโต, อสงฺขาริโก จ, สสงฺขาริโก จาติอาทินา สมฺปโยคาทิเภโท วตฺตพฺโพ. ‘‘จิตฺเตน สมํ เภท’’นฺติ อตฺตนา วา สมฺปยุตฺเตน จิตฺตเภเทน สมํ เภทํ. เอกูนน วุติยา จิตฺเตสุ วา. เอตฺถ จ วิจิกิจฺฉา เจตสิกํ เอกสฺมึ จิตฺเต ยุตฺตนฺติ เอกเมว โหติ. โทโส, อิสฺสา, มจฺฉริยํ, กุกฺกุจฺจนฺติ อิเม จตฺตาโร ทฺวีสุ จิตฺเตสุ ยุตฺตาติ วิสุํ วิสุํ ทฺเว ทฺเว โหนฺติ. ตถา ทิฏฺิมานา ปจฺเจกํ จตฺตาโร. ถินมิทฺธํ ปจฺเจกํ ปฺจาติอาทินา สพฺพํ วตฺตพฺพนฺติ.
เจตสิกสงฺคหทีปนิยาอนุทีปนา นิฏฺิตา.