📜
๓. ปกิณฺณกสงฺคหอนุทีปนา
๑๒๙. ปกิณฺณกสงฺคเห ¶ . อุภินฺนํ จิตฺต เจตสิกานํ. ‘‘เตปฺาสา’’ติ เตปฺาสวิธา. ‘‘ภาโว’’ติ วิชฺชมานกิริยา. โย ลกฺขณ รสาทีสุ ลกฺขณนฺติ วุจฺจติ. เตนาห ‘‘ธมฺมานํ’’ติอาทึ. ปวตฺโตติ ปาเสส ปทํ. เอเตน ‘เวทนา เภเทน จิตฺตเจตสิกานํ สงฺคโห’ติอาทีสุปิ เวทนา เภเทน ปวตฺโต จิตฺตเจตสิกานํ สงฺคโหติอาทินา สมฺพนฺธํ ทสฺเสติ. ‘‘วจนตฺโถ ทสฺสิโต’’ติ, กถํ ทสฺสิโตติ อาห ‘‘เวทนา เภเทน จิตฺตเจตสิกานํ สงฺคโห’’ติอาทิ. ‘‘เตสํ ทานิ ยถารหํ’’ติ เอตฺถ ‘‘เตสํ’’ติ จิตฺตเจตสิกานํ, สงฺคโห นามาติ สมฺพนฺโธ. เอเตน อยํ สงฺคโห จิตฺต เจตสิกานํ เอว สงฺคโหติ สิทฺธํ โหติ. เวทนา เหตุโต. ล. ลมฺพณวตฺถุโต สงฺคโห นามาติ สมฺพนฺโธ. เอเตน อุปริ เวทนา สงฺคโหติอาทีสุ เวทนาโต สงฺคโห เวทนา สงฺคโห. ล. วตฺถุโต สงฺคโห วตฺถุ สงฺคโหติ สิทฺธํ โหติ, เวทนาโตติอาทีสุ จ เวทนา เภทโตติอาทิ อตฺถโต สิทฺธํ โหติ. เอวํ ฉนฺนํ ปกิณฺณกสงฺคหานํ วจนตฺโถ ทสฺสิโต. เตนาห ‘‘เวทนา เภเทนา’’ติอาทึ. อาทินา ทสฺสิโตติ สมฺพนฺโธ. ‘‘สงฺคโห นาม นิยฺยเต’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘นีโต นาม อตฺถี’’ติ วุตฺตํ. ‘‘นิยฺยเต’’ติ จ ปวตฺตียเตติ อตฺโถ. นนุ เตสํ ‘‘สงฺคโห นาม นิยฺยเต’’ติ วุตฺตตฺตา ทฺวีหิ จิตฺต เจตสิเกหิ เอว อยํ สงฺคโห เนตพฺโพติ. น. จิตฺเตน นีเต เจตสิเกหิ วิสุํ เนตพฺพ กิจฺจสฺส อภาวโตติ ทสฺเสตุํ ‘‘จิตฺเต ปน สิทฺเธ’’ติอาทิ วุตฺตํ.
๑๓๐. เวทนา สงฺคเห. เวทนา เภทํ นิสฺสาย อิมสฺส สงฺคหสฺส ปวตฺตตฺตา ‘‘นิสฺสย ธมฺม ปริคฺคหตฺถ’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘สํยุตฺตเก’’ติ เวทนา สํยุตฺตเก. ‘‘อารมฺมณํ อนุโภนฺตี’’ติ อารมฺมณ รสํ อนุโภนฺติ. ‘‘เต’’ติ เตชนา. ‘‘ตํ’’ติ ตํ อารมฺมณํ. ‘‘สาตโต’’ติ สุขาการโต. ‘‘อสฺสาตโต’’ติ ทุกฺขา การโต ¶ . ตโต อฺโปกาโร นตฺถิ, ตสฺมา เวทนา อนุภวน ลกฺขเณน ติวิธา เอว โหตีติ โยชนา. ‘‘ทฺเว’’ติ ทฺเว เวทนาโย. อุเปกฺขํ สุเข สงฺคเหตฺวา สุขทุกฺขวเสน วา ทฺเว เวทนา วุตฺตาติ โยชนา. ‘‘สนฺตสฺมึ เอสา ปณีเต สุเข’’ติ ฌานสมฺปยุตฺตํ อทุกฺขม สุขํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปฺจ เภทาทีสุ วิตฺถาโร เวทนา สํยุตฺเต คเหตพฺโพ. เวทยิตนฺติ จ เวทนาติ จ อตฺถโต เอกํ. ‘‘สพฺพํ ตํ ทุกฺขสฺมึ’’ติ สพฺพํ ตํ เวทยิตํ ทุกฺขสฺมึ เอว ปวิฏฺํ โหติ. สงฺขาร ทุกฺขตํ อานนฺท มยา สนฺธาย ภาสิตํ สงฺขาร วิปริณามตฺจ, ยํ กิฺจิ เวทยิตํ, สพฺพํ ตํ ทุกฺขสฺมึติ ปาฬิ. ‘‘อินฺทฺริยเภทวเสนา’’ติ โสมนสฺส สหคตํ, อุเปกฺขาสหคตํ, โทมนสฺส สหคตํ, สุขสหคตํ, ทุกฺข สหคตนฺติ เอวํ อินฺทฺริย เภทวเสน. ‘‘เยสุ ธมฺเมสู’’ติ สมฺปยุตฺต ธมฺเมสุ. ‘‘เตสํ’’ติ สมฺปยุตฺต ธมฺมานํ. ตตฺถ สุขสมฺปยุตฺตา ธมฺมา กายิก สุข สมฺปยุตฺต เจตสิก สุข สมฺปยุตฺต วเสน ทุวิธา. เอวํ อิสฺสรฏฺานภูตานํ สมฺปยุตฺต ธมฺมานํ ทุวิธตฺตา อนุภวน เภเท ตีสุ เวทนาสุ เอกํ สุข เวทนํ ทฺวิธา ภินฺทิตฺวา สุขินฺทฺริยํ โสมนสฺสินฺทฺริยนฺติ วุตฺตํ. ทุกฺขสมฺปยุตฺต ธมฺเมสุปิ เอเสวนโย. ‘‘อปิ จา’’ติ กิฺจิ วตฺตพฺพํ อตฺถีติ อตฺโถ. ‘‘เตปี’’ติ อุเปกฺขา สมฺปยุตฺตาปิ ธมฺมา. จกฺขาทิ ปสาทกายา นาม จกฺขุ โสต ฆาน ชิวฺหา ปสาทกายา. เตสุ นิสฺสิตา นาม จกฺขุ วิฺาณ จิตฺตุปฺปาทาทโย. ‘‘สพฺภาวา’’ติ สนฺตภาวโต สํวิชฺชมาน ภาวโต ทุวิธา โหนฺตีติ โยชนา. ‘‘เอก รสตฺตา’’ติ มชฺฌตฺตภาเวน เอกรสตฺตา. ‘‘อิตรานี’’ติ โสมนสฺส โทมนสฺส อุเปกฺขินฺทฺริยานิ. เสสเมตฺถ สุวิฺเยฺยํ.
๑๓๑. เหตุสงฺคเห. ‘‘สุปฺปติฏฺิตภาวสาธนํ’’ติ สุฏฺุ ปติฏฺหนฺตีติ สุปฺปติฏฺิตา. สุปฺปติฏฺิต ภาวสาธนํ เหตุ กิจฺจํ นามาติ โยชนา. ‘‘อิเมปิ ธมฺมา’’ติ อิเมปิ ฉ เหตุ ธมฺมา. ‘‘ตตฺถา’’ติ เตสุ อารมฺมเณสุ, สาเธนฺติ. ตสฺมา สุปฺปติฏฺิต ภาวสาธนํ เหตุกิจฺจํ นามาติ วุตฺตํ. ‘‘อปเร ปนา’’ติ ปฏฺานฏฺ กถายํ ¶ อาคโต เรวตตฺเถร วาโท. ‘‘ธมฺมานํ กุสลาทิ ภาวสาธนํ’’ติ สหชาตธมฺมานํ กุสลภาวสาธนํ อกุสลภาวสาธนํ อพฺยากตภาวสาธนํ. ‘‘เอวํ สนฺเต’’ติอาทิ ตํ วาทํ ปฏิกฺขิปนฺตานํ ปฏิกฺเขปวจนํ. ‘‘เยส’’นฺติ โมหมูล จิตฺต ทฺวเย โมโห จ อเหตุก จิตฺตุปฺปาท รูป นิพฺพานานิ จ. ‘‘น สมฺปชฺเชยฺยา’’ติ สหชาต เหตุโน อภาวา ตสฺส โมหสฺส อกุสล ภาโว, อิตเร สฺจ อพฺยากต ภาโว น สมฺปชฺเชยฺย. อิทํ วุตฺตํ โหติ. เหตุ นาม สหชาต ธมฺมานํ กุสลาทิภาวํ สาเธตีติ วุตฺตํ. เอวํ สติ, โส โมโห สมฺปยุตฺต ธมฺมานํ อกุสล ภาวํ สาเธยฺย. อตฺตโน ปน อกุสล ภาวํ สาเธนฺโต สหชาโต อฺโ เหตุ นตฺถิ. ตสฺมา ตสฺส อกุสลภาโว น สมฺปชฺเชยฺย. ตถา อเหตุก จิตฺตุปฺปาท รูป นิพฺพานานฺจ อพฺยากตภาวํ สาเธนฺโต โกจิ สหชาโต เหตุ นาม นตฺถีติ เตสมฺปิ อพฺยากต ภาโว น สมฺปชฺเชยฺย. น จ น สมฺปชฺชติ. ตสฺมา โส เถรวาโท น ยุตฺโตติ. เอตฺถ สิยา. โสจ โมโห อตฺตโน ธมฺมตาย อกุสโล โหติ. ตานิ จ อเหตุก จิตฺตุปฺปาทรูป นิพฺพานานิ อตฺตโน ธมฺมตาย อพฺยากตานิ โหนฺตีติ. เอวํ สนฺเต, ยถา เต ธมฺมา. ตถา อฺเปิ ธมฺมา อตฺตโน ธมฺมตาย เอว กุสลา กุสลา พฺยากตา ภวิสฺสนฺติ. น เจตฺถ การณํ อตฺถิ, เยนการเณน เต เอว ธมฺมา อตฺตโน ธมฺมตาย อกุสลา พฺยากตา โหนฺติ. อฺเ ปน ธมฺมา อตฺตโน ธมฺมตาย กุสลา กุสลา พฺยากตา น โหนฺติ, เหตูหิ เอว โหนฺตีติ. ตสฺมา เตสํ สพฺเพสมฺปิ กุสลาทิ ภาวตฺถาย เหตูหิ ปโยชนํ นตฺถิ. ตสฺมา โส เถรวาโท น ยุตฺโต เยวาติ. น เกวลฺจ ตสฺมึ เถรวาเท เอตฺตโก โทโส อตฺถิ. อถ โข อฺโปิ โทโส อตฺถีติ ทสฺเสตุํ ‘‘ยานิ จา’’ติอาทิมาห. ตตฺถายํ อธิปฺปาโย. สเจ ธมฺมานํ กุสลาทิ ภาโว สหชาต เหตุปฺปฏิพทฺโธ สิยา. เอวํ สติ, เหตุ ปจฺจเย กุสล เหตุโต ลทฺธ ปจฺจยานิ รูปานิ กุสลานิ ภเวยฺยุํ. อกุสล เหตุโต ลทฺธ ปจฺจยานิ รูปานิ อกุสลานิ ภเวยฺยุํ ¶ . น จ ภวนฺติ. ตสฺมา โส วาโท อยุตฺโต เยวาติ. อิทานิ ปุน ตํ เถรวาทํ ปคฺคเหตุํ ‘‘ยถาปนา’’ติอาทิมาห. ‘‘ธมฺเมสู’’ติ จตุสฺสจฺจ ธมฺเมสุ. มุยฺหนกิริยา นาม อนฺธการ กิริยา. ธมฺมจฺฉนฺโท นาม ทานํ ทาตุกาโม, สีลํ ปูเรตุกาโม, ภาวนํ ภาเวตุกาโม อิจฺจาทินา ปวตฺโต ฉนฺโท. ‘‘อกฺขนฺตี’’ติ อกฺขมนํ, อโรจนํ, อมนาโป. ปาป ธมฺม ปาปา รมฺมณ วิโรโธ นาม กามราคฏฺานีเยหิ สตฺตวิธ เมถุน ธมฺมาทีหิ ปาป ธมฺเมหิ เจว ปฺจกามคุณา รมฺมเณ หิ จ จิตฺตสฺส วิโรโธ, เชคุจฺโฉ ปฏิกูโล. มุยฺหนกิริยา ปน เอกนฺต อกุสล ชาติกา เอว โหติ. เอตฺตาวตา โมหมูล จิตฺต ทฺวเย โมโห อตฺตโน ธมฺมตาย อกุสโล โหตีติ อิมมตฺถํ ปติฏฺาเปติ. ‘‘เอวํ สนฺเต’’ติอาทิกํ ตตฺถ โทสาโรปนํ วิธมติ. อิทานิ อเหตุก จิตฺตุปฺปาท รูป นิพฺพานานิ อตฺตโน ธมฺมตาย อพฺยากตานิ โหนฺตีติ อิมมตฺถํ ปติฏฺาเปตุํ ‘‘โยจ ธมฺโม’’ติอาทิมาห. ‘‘เอตฺตกเมวา’’ติ อฺํ ทุกฺกร การณํ นตฺถีติ อธิปฺปาโย. ‘‘อเหตุก จิตฺตานํ’’ติ อเหตุก จิตฺตุปฺปาทานํ. อตฺตโน ธมฺมตาย เอว สิทฺโธ. เอตฺตาวตา-อเหตุก. ล. นิพฺพานานิ อตฺตโน ธมฺมตาย อพฺยากตานิ โหนฺตี-ติ อิมมตฺถํ ปติฏฺาเปติ. ‘‘เอวํ สนฺเต’’ติอาทิ ตตฺถ โทสาโรปนํ อปเนติ. อิทานิ สพฺโพปิ โมโห อตฺตโน ธมฺมตาย อกุสล ภาเวตฺวา อฺเสํ อิจฺฉา นาม อตฺถิ, อกฺขนฺติ นาม อตฺถีติ เอวํ วุตฺตานํ อิจฺฉา อกฺขนฺติ ธมฺมานมฺปิ อกุสล ภาวํ สาเธตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถ โมโห’’ติอาทิมาห. ‘‘มุยฺหน นิสฺสนฺทานิ เอวา’’ติ มุยฺหนกิริยาย นิสฺสนฺทปฺผลานิ เอว. น เกวลํ โส โลภาทีนํ อกุสลภาวํ สาเธติ, อถ โข อโลภาทีนมฺปิ กุสลภาวํ โส เอว สาเธตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘อโลภาทีนฺจา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘อวิชฺชานุสเยน สเหว สิทฺโธ’’ติ ตานิ สตฺตสนฺตาเน อวิชฺชานุสเย อปฺปหีเน กุสลานิ โหนฺติ. ปหีเน กิริยานิ โหนฺตีติ อธิปฺปาโย. อิทานิ โลภ โทสานํ อโลภาทีนฺจ เหตุ กิจฺจํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตานิ ปน โลภาทีนี’’ติอาทิ วุตฺตํ. รชฺชน ทุสฺสนานํ นิสฺสนฺทานิ รชฺชนาทินิสฺสนฺทานิ. ‘‘ทิฏฺิ มานาทีนี’’ติ ¶ ทิฏฺิ มาน อิสฺสา มจฺฉริยาทีนิ. อรชฺชน อทุสฺสน อมุยฺหนานํ นิสฺสนฺทานิ อรชฺชนาทิ นิสฺสนฺทานิ. ‘‘สทฺธาทีนี’’ติ สทฺธา สติ หิริ โอตฺตปฺปาทีนิ. ‘‘เหตุมุเขนปี’’ติ อเหตุก จิตฺตุปฺปาท รูป นิพฺพานานํ อพฺยากตภาโว อตฺตโน ธมฺมตาย สิทฺโธติ วุตฺโต. สเหตุก วิปาก กฺริยานํ อพฺยากต ภาโว ปน อตฺตโน ธมฺมตาย สิทฺโธติปิ สหชาต เหตูนํ เหตุ กิจฺเจน สิทฺโธติปิ วตฺตุํ วฏฺฏตีติ อธิปฺปาโย. วิภาว นิปาเ. ‘‘มคฺคิตพฺโพ’’ติ คเวสิตพฺโพ. อถ เตสํ กุสลาทิ ภาโว เสสสมฺปยุตฺต เหตุปฺปฏิ พทฺโธ สิยาติ โยชนา. ‘‘อปฺปฏิ พทฺโธ’’ติ เหตุนา อปฺปฏิ พทฺโธ. ‘‘กุสลาทิภาโว’’ติ กุสลาทิภาโว สิยา. ‘‘โส’’ติ กุสลาทิภาโว. ‘‘อเหตุกานํ’’ติ อเหตุก จิตฺตุปฺปาท รูป นิพฺพานานํ. อิทานิ ‘ยานิ จ ลทฺธเหตุ ปจฺจยานี’ติอาทิ วจนํ ปฏิกฺขิปนฺโต ‘‘ยถาจา’’ติอาทิมาห. ‘‘รูปารูป ธมฺเมสู’’ติ นิทฺธารเณ ภุมฺม วจนํ. ‘‘อรูป ธมฺเมสุ เอวา’’ติ นิทฺธารณียํ. น รูป ธมฺเมสุ ผรนฺติ. เอวํ สติ, กสฺมา เต รูป ธมฺมา ฌานปจฺจยุปฺปนฺเนสุ วุตฺตาติ อาห ‘‘เต ปนา’’ติอาทึ. เสสเมตฺถ สุวิฺเยฺยํ. ‘‘ตํ ปน เตสํ’’ติ เตสํ หํสาทีนํ ตํ วณฺณวิเสสํ. ‘‘โยนิโย’’ติ มาตาปิตุ ชาติโย. ‘‘อพฺยากตานํ ปนาติ สพฺพํ’’ติ อพฺยากตานํ ปน อพฺยากตภาโว นิรนุสย สนฺตานปฺปฏิ พทฺโธ, กมฺมปฺปฏิ พทฺโธ, อวิปากภาวปฺปฏิ พทฺโธ จาติ ทฏฺพฺพนฺติ อิทํ สพฺพํ. ‘‘วุตฺต ปกฺเขปตติ เยวา’’ติ ตสฺมึ ปกฺเข อนฺโตคธเมวาติ อธิปฺปาโย.
๑๓๒. กิจฺจสงฺคเห. ตสฺมึ ปริกฺขีเณติ สมฺพนฺโธ. ‘‘กมฺมสฺสา’’ติ กมฺมนฺตรสฺส. จุตสฺส สตฺตสฺส อภินิพฺพตฺตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ภวนฺตราทิปฺปฏิ สนฺธาน วเสนา’’ติ ภวนฺตรสฺส อาทิโกฏิยา ปฏิสนฺธาน วเสน. ภวสนฺตานสฺส ปวตฺตีติ สมฺพนฺโธ. กถํ ปวตฺตีติ อาห ‘‘ยาว ตํ กมฺมํ’’ติอาทึ. ‘‘อวิจฺเฉทปฺปวตฺติ ปจฺจยงฺคภาเวนา’’ติ อวิจฺเฉทปฺปวตฺติยา ปธาน ปจฺจย สงฺขาเตน องฺคภาเวน. เอเตน ภวงฺคปเท องฺคสทฺทสฺส อตฺถํ วทติ ¶ . เตนาห ‘‘ตสฺสหี’’ติอาทึ. ‘‘ตสฺสา’’ติ ภวงฺคสฺส. อาวชฺชนํ อาวฏฺฏนนฺติ เอโก วจนตฺโถ. ตํ วา อาวชฺเชตีติ เอโก. ‘‘ตํ’’ติ จิตฺต สนฺตานํ. อาวฏฺฏติ วา ตํ เอตฺถาติ เอโก. อาวฏฺฏติ วา ตํ เอเตนาติ เอโก. ‘‘ตํ’’ติ จิตฺต สนฺตานํ. อาวชฺเชติ วาติ เอโก. ‘‘โวฏฺพฺพนํ’’ติ วิ-อว-ปนํติ ปทจฺเฉโท. วิภาวนิ วิจารณายํ. ‘‘เอกาวชฺชน ปริกมฺม จิตฺตโต’’ติ มคฺเคน วา อภิฺาย วา เอกํ สมานํ อาวชฺชนํ อสฺสาติ วิคฺคโห. ตสฺสํ วีถิยํ ‘อาวชฺชนํ, ปริกมฺมํ, อุปจาโร, อนุโลมํ, โคตฺรภู,ติ เอตฺถ ปริกมฺม ชวนจิตฺตํ อิธ ปริกมฺม จิตฺตนฺติ วุตฺตํ. ‘‘ตานี’’ติ มคฺคา ภิฺาชวนานิ. ‘‘ตตฺถา’’ติ ตสฺมึ วิภาวนิ ปาเ. ‘‘ทีฆํ อทฺธานํ’’ติ สกลรตฺติยํ วา สกล ทิวสํ วา นิทฺโทกฺกมน วเสน ทีฆํ กาลํ. เสสเมตฺถ สุวิฺเยฺยํ. ‘‘ปฏิสนฺธิยาานํ’’ติ ปฏิสนฺธิกิจฺจสฺส านํ. กาโลหิ นาม วิสุํ จิตฺตสฺส อารมฺมณ ภูโต เอโก ปฺตฺติ ธมฺโมติ เอเตน กาโล นาม สภาวโต อวิชฺชมานตฺตา กถํ กิจฺจานํ ปวตฺติฏฺานํ นาม สกฺกา ภวิตุนฺติ อิมํ อาสงฺกํ วิโสเธติ. ‘‘อิตรถา’’ติ ตถา อคฺคเหตฺวา อฺถา กิจฺจฏฺานานํ อเภเท คหิเต สตีติ อตฺโถ. ‘‘สยํ โสมนสฺส ยุตฺตํปี’’ติ กทาจิ สยํ โสมนสฺส ยุตฺตํปิ. ‘‘ตํ’’ติ โสมนสฺส สนฺตีรณํ. ‘‘ลทฺธปจฺจย ภาเวนา’’ติ ลทฺธอนนฺตร ปจฺจยภาเวน. ‘‘อาเสวน ภาว รหิตํ ปี’’ติ อาเสวน คุณ รหิตมฺปิ. ตฺหิ อาเสวน ปจฺจเย ปจฺจโยปิ น โหติ, ปจฺจยุปฺปนฺนมฺปิ น โหตีติ. ‘‘ปริกมฺม ภาวนา พเลน จ ปวตฺตตฺตา’’ติ อิทํ ผลสมาปตฺติ วีถิยํ ผลชวเนสุ ปากฏํ. เสสเมตฺถสุโพธเมว.
๑๓๓. ทฺวารสงฺคเห. ‘‘อาทาสปฏฺฏมโย’’ติ อาทาสปฏฺเฏน ปกโต. ‘‘ทฺเว เอวา’’ติ ทฺเว เอว ทฺวารานิ. ‘‘ทฺวาร สทิสตฺตา’’ติ นคร ทฺวาร สทิสตฺตา. ‘‘กมฺมวิเสส มหาภูต วิเสส สิทฺเธนา’’ติ เอตฺถ กมฺมวิเสเสน จ มหาภูต วิเสเสน จ สิทฺโธติ วิคฺคโห. อาวชฺชนาทีนิ จ วีถิ จิตฺตานิ คณฺหนฺติ. ‘‘ยมฺหี’’ติ ยสฺมึ ¶ จกฺขุมฺหิ. ตเทว จกฺขุ จกฺขุทฺวารํ นามาติ สมฺพนฺโธ. ‘‘เตสํ ทฺวินฺนํ’’ติ รูป นิมิตฺตานฺจ อาวชฺชนาทิ วีถิจิตฺตานฺจ. ‘‘วิสย วิสยี ภาวูปคมนสฺสา’’ติ เอตฺถ รูป นิมิตฺตานํ วิสยภาวสฺส อุปคมนํ นาม จกฺขุ มณฺเฑ อาปาตาคมนํ วุจฺจติ. อาวชฺชนาทีนํ วิสยี ภาวสฺส อุปคมนํ นาม เตสํ นิมิตฺตานํ อารมฺมณ กรณํ วุจฺจติ. ‘‘มุขปฺปถภูตตฺตา’’ติ มุขมคฺคภูตตฺตา. เอวํ ทฺวาร สทฺทสฺส กรณ สาธนยุตฺตึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อธิกรณ สาธน ยุตฺตึ ทสฺเสติ ‘‘อถวา’’ติอาทินา. ‘‘รูปานํ’’ติ รูป นิมิตฺตานํ. ‘‘จกฺขุเมว จกฺขุ ทฺวาร’’นฺติ เอเตน จกฺขุเมว ทฺวารํ จกฺขุ ทฺวารนฺติ อวธารณ สมาสํ ทสฺเสติ. ‘‘การณํ วุตฺตเมวา’’ติ เหฏฺา จิตฺตสงฺคเห มโนทฺวาราวชฺชนปเท วุตฺตเมว. สพฺพํ เอกูน นวุติวิธํ จิตฺตํ มโนทฺวารเมว นาม โหติ. ตถาหิ วุตฺตํ อฏฺสาลินิยํ อยํ นามมโน มโนทฺวารํ นาม น โหตีติ น วตฺตพฺโพติ. ‘‘อุปปตฺติ ทฺวารเมวา’’ติ อุปปตฺติภว ปริยาปนฺนํ กมฺมชทฺวารเมว. ‘‘อิธ จา’’ติ อิมสฺมึ สงฺคหคนฺเถ จ. ยฺจ สาธก วจนนฺติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ตตฺถา’’ติ วิภาวนิยํ. ‘‘ตตฺเถว ตํ ยุตฺตํ’’ติ ตสฺมึ ปาฬิปฺปเทเส เอว ตํ สาธก วจนํ ยุตฺตํ. อิตเร ทฺเว ปจฺจยาติ สมฺพนฺโธ. ‘‘มนฺจาติ เอตฺถา’’ติ มนฺจ ปฏิจฺจ ธมฺเม จ อุปฺปชฺชติ มโนวิฺาณํติ วากฺเย มนฺจาติปเท. ตตฺถ ปน ชวน มโนวิฺาณสฺส อุปฺปตฺติยา จตูสุ ปจฺจเยสุ มนฺจาติ เอตฺถ ทฺวารภูตํ ภวงฺคมโน จ อาวชฺชน มโน จาติ ทฺเว ปจฺจยา ลพฺภนฺติ. ธมฺเม จาติ ปเท ธมฺมารมฺมณ สงฺขาโต เอโก ปจฺจโย ลพฺภติ. จ สทฺเทน มโนวิฺาณ สมฺปยุตฺตกฺขนฺธา คยฺหนฺติ. เอวํ จตฺตาโร ปจฺจยา โหนฺติ. ‘‘เอตฺถ จา’’ติ อิมสฺมึ อฏฺกถา วจเน. ‘‘สนฺนิหิต ปจฺจยานํ เอว ตตฺถ อธิปฺเปตตฺตา’’ติ ปฏิจฺจ สทฺทสามตฺถิเยน อาสนฺเน ธรมานปจฺจยานํ เอว ตสฺมึ ปาฬิวากฺเย อธิปฺเปตตฺตา. ‘‘ทฺวารภาวารหสฺสา’’ติ วิสย วิสยีนํ วุตฺต นเยน ปวตฺติ มุขภาวารหสฺส. เอเตน อารมฺมณานิ อาปาตํ อาคจฺฉนฺตุ วา, มาวา, วีถิ จิตฺตานิ ปวตฺตนฺตุวา, มาวา, อปฺปมาณํ. ปภสฺสรปฺปสนฺนภาเวน ทฺวารภาวา รหตา เอว ปมาณนฺติ ทีเปติ. ‘‘นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ’’ติ สนฺนิฏฺานํ เอตฺถ คนฺตพฺพํ. ทฺวารวิการ ¶ มูลกานิ ตาทิสานิ กิจฺจานิ เยสํ ตานิ ตํ กิจฺจวนฺตานิ. ‘‘กมฺมวเสน สิชฺฌนฺตี’’ติ สตฺตสนฺตาเน ปวตฺตนฺตีติ อธิปฺปาโย. ตํ กิจฺจวนฺตานิ จิตฺตานิ. วิภาวนิ ปาเ ‘‘มโนทฺวาร สงฺขาต ภวงฺคโต’’ติ มโนทฺวาร สงฺขาต ภวงฺค ภาวโต จ. ‘‘อารมฺมณนฺตรคฺคหณวเสน อปฺปวตฺติโต’’ติ ปฏิสนฺธิ จิตฺเตน ยถา คหิตํ กมฺมกมฺมนิมิตฺตาทิกํ อารมฺมณํ มฺุจิตฺวา ปวตฺติกาเล ฉสุ ทฺวาเรสุ อาปาตาคตสฺส อารมฺมณนฺตรสฺส คหณ วเสน อปฺปวตฺติโต จ. เหฏฺาปิ ปฺจทฺวารา วชฺชน จกฺขุ วิฺาณ สมฺปฏิจฺฉน สนฺตีรณ โวฏฺพฺพน กามาวจรชวน ตทา รมฺมณ วเสนาติอาทินา กิจฺจสีเสเนว. ล. วุตฺโต. เอตฺถหิ อาวชฺชน สมฺปฏิจฺฉนาทีนิ กิจฺจ วิเสสานํ นามานิ โหนฺติ. ‘‘เจ’’ติ เจ วเทยฺย. ‘‘นา’’ติ น วตฺตพฺพํ. ‘‘ตถา อสฺสุตตฺตา’’ติ เอกูน วีสติ ทฺวาร วิมุตฺตานีติ จ, ฉ ทฺวาริกานิ เจว ทฺวาร วิมุตฺตานีติ จ, มหคฺคต วิปากานิ ทฺวาร วิมุตฺตาเน วาติ จ, สุตํ. น ปน ทฺวาริก วิมุตฺตานีติ สุตํ.
๑๓๔. อารมฺมณ สงฺคเห. ‘‘ทุพฺพล ปุริเสนา’’ติ เคลฺาภิภูตตฺตา วา ชราภิภูตตฺตา วา ทณฺเฑน วา รชฺชุเกน วา วินา อุฏฺาตุมฺปิ ปติฏฺาตุมฺปิ อปราปรํ คนฺตุมฺปิ อสกฺโกนฺเตน ทุพฺพล ปุริเสน ทณฺฑกํ วา รชฺชุกํ วา อาลมฺพิยติ. อาลมฺพิตฺวา อุฏฺาติ. ปติฏฺาติ. อปราปรํ คจฺฉติ. เอวเมว. อมฺุจ มาเนหิ หุตฺวาติ ปาเสโส. ‘‘อาคนฺตฺวา’’ติ อารมฺมณ กรณ วเสน ตโต ตโต อาคนฺตฺวา. ‘‘วิสุํ สิทฺธานี’’ติ อาลมฺพิยตีติ เอตสฺมึ อตฺเถ สติ, อาลมฺพณนฺติ สิชฺฌติ. อารมฺมณนฺติ น สิชฺฌติ. ตานิ เอตฺถ อาคนฺตฺวา รมนฺตีติ เอตสฺมึ อตฺเถ สติ, อารมฺมณนฺติ สิชฺฌติ. อาลมฺพณนฺติ น สิชฺฌติ. เอวฺจ สติ เอกํ ปทํ ทฺวีหิวากฺเยหิ ทสฺสนํ น สุนฺทรนฺติ. ‘‘อฺานิ อารมฺมณานี’’ติ รูปารมฺมณโต อฺานิ สทฺทารมฺมณาทีนิ. ‘‘อาคจฺฉตี’’ติ อาวิภาวํ คจฺฉติ, อุปฺปาทปฺปวตฺติ วเสน ปจฺจกฺขภาวํ ปาปุณาติ. ‘‘อาคจฺฉิตฺถา’’ติ อาวิภาวํ คจฺฉิตฺถ, อุปฺปาทปฺปวตฺติ วเสน ปจฺจกฺขภาวํ ปาปุณิตฺถ. ‘‘อนาคตํ’’ติ เอตฺถ น กาโร อวตฺถา วเสน ปฏิเสโธ. โย ธมฺโม ¶ ปจฺจย สามคฺคิยํ สติ อาคมน ชาติโก อุปฺปชฺชน สีโล. โส เอว อิทานิ อาคจฺฉติ, อิทานิ อาคจฺฉิตฺถ, อิทานิ อาคมน ชาติยํ ิโต, นาคจฺฉติ นาคจฺฉิตฺถาติ อิมินา อตฺเถน โส อนาคโต นาม. นิพฺพาน ปฺตฺติโย ปน อาคมน ชาติกา น โหนฺติ. ตสฺมา อาคมนปฺปสงฺคาภาวโต อนาคตาติ น วุจฺจนฺตีติ. เตนาห ‘‘อุปฺปาท ชาติกา’’ติอาทึ. ‘‘ตํ วิจาเรตพฺพํ’’ติ วตฺวา วิจารณาการํ ทสฺเสติ ‘‘สพฺเพปิหี’’ติอาทินา. เต ยทา วตฺตพฺพ ปกฺเข ติฏฺนฺตีติ สมฺพนฺโธ. อุปฺปาท ชาติกานฺเว สงฺขต ธมฺมานํ. ตาสํ นิพฺพาน ปฺตฺตีนํ. ‘‘น ตถา อิเมสํ’’ติ อิเมสํ ทฺวาร วิมุตฺตานํ อารมฺมณํ ปน ตถา น โหตีติ โยชนา. ‘‘ตตฺถา’’ติ ตสฺมึ ภว วิเสเส. วิภาวนิปาเ ‘‘อาวชฺชนสฺสวิยา’’ติ อาวชฺชนสฺส อารมฺมณํ วิย. อคฺคหิตเมว หุตฺวา. ‘‘เอกวชฺชน วีถิยํ อคฺคหิต ภาโว อิธ น ปมาณ’’นฺติ ฉ ทฺวารคฺคหิตนฺติ อิธ อปฺปมาณํ. ภวนฺตเร คหิตสฺส อธิปฺเปตตฺตา. ‘‘กาลวิมุตฺต สามฺํ’’วาติ ยํ กิฺจิกาล วิมุตฺตํ วา น โหตีติ อธิปฺปาโย. อาคมสิทฺธิ โวหาโร นาม ‘‘กมฺมนฺติ วา, กมฺมนิมิตฺตนฺติ วา, คติ นิมิตฺตนฺติ วา, ปสิทฺโธ โวหาโร วุจฺจติ. อชาต สตฺตุราชา สงฺกิจฺจชาตเกปิ ปิตรํ มาเรติ. ตสฺมา ‘‘ทฺวีสุภเวสู’’ติ วุตฺตํ. ‘‘ฉ หิ ทฺวาเรหี’’ติ กรณ ภูเตหิ ฉหิ จกฺขาทิ ทฺวาเรหิ. ‘‘มรณาสนฺน ชวเนหี’’ติ กตฺตุ ภูเตหิ มรณาสนฺเน ปวตฺเตหิ ฉ ทฺวาริก ชวเนหิ. ‘‘อเนกํ สภาวํ’’ติ อเนกนฺต ภาวํ. ยฺหิ อารมฺมณนฺติ สมฺพนฺโธ. ‘‘เกนจิ ทฺวาเรน อคฺคหิตเมว โหตี’’ติ เอตฺถ อสฺี ภวโต จุตานํ สตฺตานํ กามปฏิสนฺธิยา กมฺมาทิ อารมฺมณํ ภวนฺตเร เกนจิ ทฺวาเรน อคฺคหิตนฺติ ยุตฺตํ. กสฺมา, ตสฺมึ ภเว กสฺสจิทฺวารสฺเสว อภาวโต. อรูปภวโต จุตานํ ปน กามปฏิสนฺธิยา คติ นิมิตฺต สมฺมตํ อารมฺมณํ กถํ ภวนฺตเร เกนจิ ทฺวาเรน อคฺคหิตํ ภเวยฺย, มโนทฺวารคฺคหิตเมว ภเวยฺยาติ อิมํ โจทนํ วิโสเธตุํ ‘‘เอตฺถ จ ยสฺมา ปฏฺาเน’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตโต จุตานํ สตฺตานํ ยา กามปฏิสนฺธิ, ตสฺสากามปฏิ สนฺธิยา. ปจฺจุปฺปนฺนํ คตินิมิตฺตํ ¶ อารมฺมณํ เอติสฺสาติ วิคฺคโห. กามปฏิสนฺธิ. ปเรสํ ปโยค พเลนาปิ กมฺมาทีนํ อุปฏฺานํ นาม โหตีติอาทินา โยเชตพฺพํ. ‘‘สุฏฺุ อาเสวิตานํ’’ติ จิรกาลํ สงฺฆ วตฺต เจติยวตฺต กรณาทิวเสน ตํ ตํ ภาวนา กมฺมวเสน จ สุฏฺุ อาเสวิตานํ กมฺมกมฺมนิมิตฺตานํ. ‘‘โหติ เยวา’’ติ กมฺมาทีนํ อุปฏฺานํ นาม โหติเยว. ‘‘อาคนฺตฺวา’’ติ อิมํ มนุสฺส โลกํ อาคนฺตฺวา คณฺหนฺติเยว. ตทาปิ นิรยปาเลหิ ทสฺสิตํ ตํ ตํ คติ นิมิตฺตํ อารมฺมณํ กตฺวา จวนฺติ. ‘‘ตํ’’ติ เรวตึ นาม อิตฺถึ. นนุ นิรยปาลา นาม ตาวตึสา ภวนํ คนฺตุํ น สกฺกุเณยฺยุนฺติ. โน นสกฺกุเณยฺยุํ. กสฺมา, มหิทฺธิก ยกฺข ชาติกตฺตาติ ทสฺเสตุํ ‘‘เตหี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘เวสฺสวณ ทูตา’’ติ เวสฺสวณมหาราชสฺส ทูตา. ‘‘อุปจารชฺฌาเนตฺวา’’ติ อปฺปนาฌานํ อปตฺตตาย อุปจารภาวนาภูเต กามาวจรชฺฌาเนตฺวา. ‘‘ตาเนว นิมิตฺตานี’’ติ ปถวีกสิณ นิมิตฺตาทีนิ ปฏิภาค นิมิตฺตานิ. ‘‘กามปฏิสนฺธิยา อารมฺมณํ’’ติ เตหิ นิมิตฺตารมฺมเณหิ อฺํ อุปจาร ภาวนา กมฺมํ วา ยํ กิฺจิ อนุรูปํ คติ นิมิตฺตํ วา. ‘‘ตาเนว นิมิตฺตานิ คเหตฺวา’’ติ วจเนน ตานิ นิมิตฺตานิ มรณาสนฺน ชวเนหิ คหิตานีติ ทสฺเสติ. ตานิ จ ปฺตฺติ ธมฺมตฺตา กามปฏิสนฺธิยา อารมฺมณํ น โหนฺตีติ. ‘‘ปจฺจุปฺปนฺนคติ นิมิตฺเต สิทฺเธ สิทฺธเมวา’’ติ ตสฺมึ ภเว คตสฺส ตตฺถ ยาวชีวมฺปิ อนุ ภวิตพฺพํ อารมฺมณํ นาม ตสฺมึ ขเณ ธรมานํ ปจฺจุปฺปนฺนมฺปิ อตฺถิ. ตโต วฑฺฒมานํ อนาคตมฺปิ อตฺถิ. ตตฺถ ปจฺจุปฺปนฺเน อุปฏฺหนฺเต ปฏิสนฺธิยา อารมฺมณํ สมฺปชฺชติ. อนาคตํ ปน อนุปฏฺหนฺตมฺปิ ปจฺจุปฺปนฺเน อนฺโตคธสทิสํ โหตีติ อธิปฺปาโย. วิภาวนิ ปาเน จ ปจฺจุปฺปนฺน คตินิมิตฺตํ วิย อาปาตมาคตํ, กสฺมา, ปจฺจุปฺปนฺน คติ นิมิตฺเตเนว กิจฺจ สิทฺธิโต-ติ อธิปฺปาโย. เสสเมตฺถ สุโพธํ. ‘‘ตานิหี’’ติอาทีสุ. เกจิ วทนฺติ. อเนโชสนฺติ มารพฺภ. ยํ กาลมกรีมุนีติ วุตฺตตฺตา สพฺพฺุ พุทฺธาทีนํ ปรินิพฺพาน จุติ จิตฺตํ สนฺติ ลกฺขณํ นิพฺพานํ อารมฺมณํ กโรตีติ. ตํ สพฺพถาปิ กามาวจรา ลมฺพณา เนวาติ อิมินา อปเนตพฺพนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘ตา นิหิ ¶ สพฺพฺุ พุทฺธานํ อุปฺปนฺนานิ ปี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘โลกุตฺตร ธมฺมา’’ติอาทีสุ. ‘‘ตานี’’ติ ทฺวาทสา กุสล จิตฺตานิ อฏฺาณ วิปฺปยุตฺต กุสล กฺริย ชวนานิ จ. อชฺฌาน ลาภิโน ปุถุชฺชนา มหคฺคตชฺฌานานิปิ อาลมฺพิตุํ น สกฺโกนฺตีติ วุตฺตํ ‘‘ปฺตฺติยา สห กามาวจรา รมฺมณานี’’ติ. ‘‘ตาเน วา’’ติ าณ สมฺปยุตฺต กาม กุสลานิ เอว. ฌานลาภีนํ ตาเนว าณ สมฺปยุตฺตกาม กุสลานิ. เหฏฺิม ผลฏฺานํ ตาเนว อตฺตนา อธิคต มคฺคผล นิพฺพานา รมฺมณานิ. ‘‘ฌานานิ ปตฺเถนฺตี’’ติ อายตึ ฌานลาภิโน ภเวยฺยามาติ ปตฺถนํ กโรนฺติ. ‘‘เตสํ ปี’’ติ เตสํ ปุถุชฺชนานมฺปิ. ‘‘เต’’ติ เต โลกุตฺตร ธมฺมา. ‘‘อนุโภนฺตี’’ติ สมฺปาปุณนฺติ. ‘‘นวนิปาเต’’ติ องฺคุตฺตร นิกาเย นวนิปาเต. เสสํ สพฺพํ สุวิฺเยฺยเมว.
๑๓๕. วตฺถุสงฺคเห. ‘‘วตฺถู’’ติ นิสฺสย วิเสโส วุจฺจติ. ตานิ นิสฺสย วตฺถูนิ เยสํ ตานิ ตพฺพตฺถุกานิ. ‘‘เตสฺจ สทฺโท น ยุชฺชตี’’ติ เตสํ วาเท จ สทฺโท น ยุชฺชติ. น หิ อลุตฺต จ การํ ทฺวนฺท ปทํ นาม อตฺถีติ. ‘‘ปุพฺพปเทสุ อาเนตพฺโพ’’ติ จกฺขุ วตฺถุ จ โสตวตฺถุ จาติอาทินา อาเนตพฺโพ. สมาส ปทํ น ยุชฺชติ. น หิ สมาส ปทโต เอก เทสํ อฺตฺถ อาเนตุํ ยุชฺชตีติ. อวิภตฺติก นิทฺเทโส นาม จกฺขุํ, โสตํ, ฆานํ, ชิวฺหา, กาโย, หทยํ, วตฺถุ จาติ วตฺตพฺเพ ปุพฺพปเทสุ อวิภตฺติก นิทฺเทโส. เอวฺจสติ วตฺถุ สทฺโท จ สทฺโท จ ปุพฺพปเทสุ อาเนตุํ ลพฺภนฺตีติ. กามตณฺหาย อธีเนน อายตฺเตน กามาวจร กมฺเมน นิพฺพตฺตา กามตณฺหาธีน กมฺม นิพฺพตฺตา. ‘‘รูปาทีนํ ปริโภโค’’ติ รูปาทีนํ ปฺจกามคุณานํ ปริโภโค. ‘‘ปริตฺตกมฺมํ ปี’’ติ สพฺพํ กามาวจร กมฺมมฺปิ. ‘‘ปูรยมานํ’’ติ ปริปูเรนฺตํ. จกฺขุ ทสฺสนานุตฺตริยํ นาม. โสตํ สวนานุตฺตริยํ นาม. สพฺเพสํ ทสฺสน กิจฺจานํ มชฺเฌ พุทฺธ ทสฺสนา ทิวเสน อนุตฺตรํ ทสฺสนํ ชเนตีติ ทสฺสนานุตฺตริยํ. เอวํ สวนานุตฺตริเยปิ จตุสจฺจ ธมฺมสฺสวนา ทิวเสนาติ วตฺตพฺพํ. ‘‘อชฺฌตฺต พหิทฺธ สนฺตา เนสุ ปี’’ติ ¶ อชฺฌตฺต สนฺตาเนปิ พหิทฺธ สนฺตาเนปิ. ‘‘สุทฺเธ’’ติ เกนจิ อาโลเกน จ อนฺธกาเรน จ วิรหิเต. อาโลโก หิ เอโก รูป วิเสโส. ตถา อนฺธกาโร จ. เต จ ตตฺถ นตฺถิ. ‘‘อิมสฺมึ สงฺคเห’’ติ วตฺถุ สงฺคเห. วิสิฏฺํ ชานนํ วิชานนํ. ตฺจ วิชานนํ ตีสุ มโนธาตูสุ นตฺถีติ วุตฺตํ ‘‘วิชานน กิจฺจาภาวโต’’ติ. อาวชฺชน กิจฺจํ กิเมตนฺติ, มนสิการ มตฺตํ โหติ. สมฺปฏิจฺฉน กิจฺจฺจ ปฺจวิฺาเณหิ ยถา คหิตาเนว ปฺจารมฺมณานิ สมฺปฏิจฺฉน มตฺตํ โหติ. เตนาห ‘‘วิเสสชานน กิจฺจานิ น โหนฺตี’’ติ. ทสฺสนํ, สวนํ, ฆายนํ, สายนํ, ผุสน, นฺติ อิมานิ กิจฺจานิ โถกํ วิเสส ชานน กิจฺจานิ โหนฺตีติ วุตฺตํ ‘‘ปจฺจกฺขโต ทสฺสนา ทิวเสนา’’ติอาทึ. โถกํ วิเสส ชานน กิจฺจานิ โหนฺติ. ตสฺมา ตานิ ปฺจวิฺาณานีติ วุตฺตานิ. อวเสสา ปน สนฺตีรณาทโย มโนวิฺาณธาตุโย นามาติ สมฺพนฺโธ. นนุ มนนฏฺเน มโน จ ตํ วิชานนฏฺเน วิฺาณฺจาติ วุตฺเตปิ ปฺจวิฺาเณหิ วิเสโส นตฺถีติ อาห ‘‘อติสฺสย วิเสส ชานน ธาตุโยติ อตฺโถ’’ติ. เอวํ สนฺเตปิ โส อตฺโถ สทฺทยุตฺติยา สิทฺโธ น โหติ. ยทิจฺฉา วเสน วุตฺโต โหตีติ อาห ‘‘ปริยาย ปทานํ’’ติอาทิ. เอเตน โส อตฺโถ สทฺทยุตฺติยา เอว สิทฺโธ. น ยทิจฺฉาวเสน วุตฺโตติ ทสฺเสติ. ‘‘วิเสสน สมาเส’’ติ มโน จ ตํ วิฺาณฺจาติ มโนวิฺาณนฺติ เอวรูเป กมฺมธารย สมาเส. ‘‘ปทฏฺานํ’’ติ เอตฺถ ปทนฺติ จ านนฺติ จ การณตฺถ วจนานิ, ตสฺมา ปริยาย สทฺทา นาม. ปทฺจ ตํ านฺจาติ วุตฺเต อติสฺสย การณนฺติ อตฺโถ วิฺายติ. ตถา ทุกฺข ทุกฺขํ, รูป รูปํ, ราช ราชา, เทวเทโวติอาทีนิ. ‘‘กตฺถจิ ทิสฺสติ ยุชฺชติ จา’’ติ น หิ กตฺถจิ ทิสฺสติ จ. สเจปิ กตฺถจิ ทิสฺเสยฺย, น หิ ยุชฺชติ จาติ อตฺโถ. ‘‘มนโส วิฺาณํ’’ติ เอตฺถ ปฏิสนฺธิ จิตฺตโต ปฏฺาย ยาวจุติ จิตฺตา อนฺตเร สพฺพํ จิตฺต สนฺตานํ สตฺต วิฺาณ ธาตูนํ วเสน วิภาคํ กตฺวา อตฺโถ วตฺตพฺโพ. ปฺจทฺวารา วชฺชนฺจ สมฺปฏิจฺฉน ทฺวยฺจ มโนธาตุ มตฺตตฺตา มโน นาม. ปฺจวิฺาณานิ วิฺาณ มตฺตานิ นาม. อวเสสานิ สพฺพานิ วิฺาณานิ มนสฺส วิฺาณนฺติ ¶ อตฺเถน มโนวิฺาณานิ นาม. ตตฺถ ‘‘มนสฺส วิฺาณํ’’ติ อนนฺตร ปจฺจย ภูตสฺส วา มนสฺส ปจฺจยุปฺปนฺน ภูตํ วิฺาณํ. เอตฺถ สมฺปฏิจฺฉน ทฺวยํ ปจฺจยมโน นาม. สนฺตีรณโต ปฏฺาย ยาว ทฺวารนฺตเร ปฺจทฺวารา วชฺชนํ นาคจฺฉติ, ตาว อนฺตเร สพฺพํ มโนวิฺาณ สนฺตานํ ปจฺจยุปฺปนฺน วิฺาณํ นาม. ปุน ‘‘มนสฺส วิฺาณ’’นฺติ ปจฺจยุปฺปนฺน ภูตสฺส มนสฺส ปจฺจย ภูตํ วิฺาณํ. เอตฺถ ปฺจทฺวารา วชฺชนํ ปจฺจยุปฺปนฺน มโน นาม. ตโต ปุเร สพฺพํ มโนวิฺาณ สนฺตานํ ปจฺจย มโน นาม. เสสํ สุวิฺเยฺยํ. อวเสสาปนาติอาทีสุ. ‘‘มโนวิฺาณธาตุ ภาวํ สมฺภาเวตี’’ติ อวเสสา ปน ธมฺมา มโนวิฺาณธาตุ จ นาม โหนฺติ, หทย วตฺถฺุจ นิสฺสายเยว วตฺตนฺตีติ เอวํ เตสํ ธมฺมานํ มโนวิฺาณธาตุ ภาวฺจ สมฺภาเวติ, วณฺเณติ. สุฏฺุ ปกาเสตีติ อตฺโถ. เอตฺถ ปนาติอาทีสุ. ‘‘ปาฬิยํ’’ติ อินฺทฺริย สํยุตฺต ปาฬิยํ. ทุตียชฺฌาเน เอว อปริเสส นิโรธ วจนํ วิรุทฺธํ สิยา. กถํ, สเจ ปฏิโฆ อนีวรณา วตฺโถ นาม นตฺถิ. ปถมชฺฌานโต ปุพฺเพ เอว โส นิรุทฺโธ สิยา. อถ ทุตียชฺฌานุปจาเรปิ โส อุปฺปชฺเชยฺย, ปถมชฺฌานมฺปิ ปริหีนํ สิยา. ตสฺมึ ปริหีเน สติ, ทุตียชฺฌานมฺปิ นุปฺปชฺเชยฺย. เอวํ วิรุทฺธํ สิยา. ‘‘ปุริม การณเมวา’’ติ อนีวรณา วตฺถสฺส ปฏิฆสฺส อภาวโตติ การณํ เอว. ปรโตโฆโส นาม สาวกานํ สมฺมาทิฏฺิปฺปฏิลาภาย ปธาน ปจฺจโย โหติ. โส จ อรูปภเว นตฺถิ. ธมฺมาภิสมโย นาม จตุสจฺจ ธมฺมปฺปฏิเวโธ, พุทฺธา จ ปจฺเจก สมฺพุทฺธา จ สยมฺภุโน ปรโต โฆเสน วินา ธมฺมํ ปฏิวิชฺฌนฺติ. เต จ ตตฺถ นุปฺปชฺชนฺติ. ‘‘รูปวิราค ภาวนายา’’ติ รูปวิราค ภาวนา พเลน. เตสํ รูปาวจร จิตฺตานํ. ‘‘สมติกฺกนฺตตฺตา’’ติ เตสุ นิกนฺติปฺปหานวเสน สุฏฺุ อติกฺกนฺตตฺตา. เสสํ สพฺพํ สุวิฺเยฺยํ.
ปกิณฺณกสงฺคหทีปนิยาอนุทีปนานิฏฺิตา.