📜
๗. สมุจฺจยสงฺคหอนุทีปนา
๑๖๒. สมุจฺจยสงฺคเห ¶ . อตฺตโน อาเวณิกภูเตน สามฺ ลกฺขเณนติ จ สมฺพนฺโธ. อฺาปเทเสน เอว ตทุภยลกฺขเณน สลกฺขณานิ นาม วุจฺจนฺตีติ อธิปฺปาโย. ‘‘นิพฺพานสฺสปิ สรูปโต ลพฺภมานสภาวตา’’ติ อฺนิสฺสย รหิเตน ลพฺภมานสภาวตา. นนุ นิพฺพานมฺปิ ราคกฺขโย โทสกฺขโย โมหกฺขโยติอาทินา อฺนิสฺสยทสฺสนํ อตฺถิ เยวาติ. ทสฺสนมตฺตํ อตฺถิ. นิพฺพานํ ปน ราคาทีหิ ปฏิพทฺธํ น โหติ. อถ โข เตหิ ทูรตรํ โหติ. ปฏิปกฺขตรํ, ปฏิวิรุทฺธตรํ. ยฺหิ รูปสฺส ขโย วโย เภโท อนิจฺจาติ วุตฺตํ. ตตฺถ รูปสฺส อุปฺปชฺชิตฺวา ขโย วุตฺโตติ โส รูปสฺส นิสฺสิโต เอว โหติ. อิธ ปน ราคาทีนํ ปุน อุปฺปาทสฺสปิ อภาโว วุตฺโตติ โส ราคาทีสุ อนิสฺสิโต เอว. น เกวลํ อนิสฺสิโต. อถ โข เตหิ ทูรตโร จ ปฏิปกฺขตโร จ เตสํ ปฏิปกฺขคุเณหิ อิมสฺสสิทฺธตฺตาติ. อนิปฺผนฺนรูปานิปิ อธิปฺเปตานิ เอว เตสมฺปิ ขนฺธายตนธาตุ สจฺเจสุ สงฺคหิตตฺตา.
อาสวาทีสุ. ‘‘ปาริวาสิยฏฺเนา’’ติ ปริวาสกรณฏฺเน. ‘‘มทนียฏฺเนา’’ติ มทนชนกฏฺเน. ‘‘ปริวาสํ คณฺหนฺตี’’ติ โทสเวปุลฺลํ อาปชฺชนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. ปุน ‘‘ปริวาสํ’’ติ ทุคฺคนฺธตาทิปริวาสํ. ‘‘อาสวภริตเมวา’’ติ อาสเวหิ ปูริตเมว. ‘‘ฉฬารมฺมณานิ ทูเสนฺตี’’ติ ตานิ สาสวาทิภาวํ ปาเปนฺตีติ อธิปฺปาโย. ‘‘ภวโต’’ติ ภูมิโต อิจฺเจวตฺโถ. อวธียติ ปริจฺฉินฺทียติ เอตสฺมาติ อวธิ. อปาทานํ วุจฺจติ. มริยาโท นาม ปริยนฺตปริจฺเฉโท. มริยาทมตฺตภูโต กฺริยาวิสโย มริยาทวิสโย. อวธิ นาม พฺยาปน วิธานํ, กฺริยา พฺยาปนสฺส วิสโย อภิวิธิวิสโย. ‘‘ยสฺสา’’ติ อวธิ วตฺถุสฺส. ‘‘อตฺตานํ’’ติ อวธิวตฺถุํ. ‘‘พหิกตฺวา’’ติ สมฺปตฺตมตฺตํ กตฺวาติ อธิปฺปาโย. อวธิวิจารณายํ. ‘‘สทฺทสฺสา’’ติ ¶ ภควโต กิตฺติสทฺทสฺส. ‘‘ตํ’’ติ อวธิภูตํ อตฺถํ. ‘‘ยโส’’ติ กิตฺติสทฺโท. ‘‘อิตรํ’’ติ อนภิวิธิวิสยํ พหิ กตฺวา ปวตฺตติ.
กามาสวาทีสุ. ‘‘ตนฺนาเมนา’’ติ กามนาเมน. ‘‘ตทารมฺมณา’’ติ กามธมฺมารมฺมณา. ‘‘อยมตฺโถ วา’’ติ กามียตีติอาทินา วุตฺโต ปจฺฉิมตฺโถว. ‘‘มหคฺคตกุสลธมฺมา’’ติ อิธาธิปฺเปตํ กมฺมภวํ สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘ตํ นิพฺพตฺตา’’ติ เตน นิพฺพตฺตา. ‘‘ตทารมฺมณา’’ติ ทุวิธภวารมฺมณา. ‘‘ตณฺหา เอวา’’ติ ภวตณฺหา เอว. ‘‘ภโว เอวา’’ติ ภวารมฺมณตาย ภวนามิกา ตณฺหา เอว. ‘‘อิเม เอวา’’ติ ตณฺหาทิฏฺิ อวิชฺชา เอว. ‘‘ปริวุตฺเถ สตี’’ติ ปริวสิเต สติ. ‘‘กามวิสยา’’ติ กามธมฺมวิสยา. ‘‘ตสฺมึ’’ติ กามาสเว. ภววิสยา มานาทโย ปริวุตฺถา เอวาติอาทินา โยเชตพฺพํ. ตถา ทิฏฺิวิสยาติ ปเทปิ.
‘‘อนสฺสาสิกํ กตฺวา’’ติ อสฺสาสปสฺสาสรหิตํ กตฺวา. ‘‘อวหนนฏฺเนา’’ติ อชฺโฌตฺถริตฺวา มารณฏฺเน. อโธกตฺวา มารณฏฺเนาติปิ ยุชฺชติ. ‘‘ทุตฺตรฏฺเนา’’ติ ตตฺถ ปตนฺตสฺส ตริตุํ ทุกฺกรฏฺเน. ‘‘วุตฺตนเยนา’’ติ อาสเวสุ วุตฺตนเยน.
‘‘วฏฺฏสฺมึ’’ติ ติวิธวฏฺฏสฺมึ. ‘‘ภวยนฺตเก’’ติ อวิชฺชาสงฺขาราทิเก ภวจกฺเก. ‘‘อามสนํ’’ติ ปทสฺส อตฺถํ ทสฺเสติ ‘‘ตถา ตถา กปฺเปตฺวา คหณ’’นฺติ. ‘‘สาสเน’’ติ ปริยตฺติสาสเน ตสฺมึ ตสฺมึ สุตฺตนฺเต. ‘‘ทิฏฺิโย ทิฏฺุปาทานํ’’ติ ทิฏฺิวตฺถูสุ ทฬฺหคฺคาหฏฺเน ทิฏฺิโย เอว ทิฏฺุปาทานํ. อตฺตวาทุปาทาเน. ปริกปฺป พุทฺธิ นาม มิจฺฉาาณํ วุจฺจติ. ‘‘อิสฺสร นิมฺมิตํ’’ติ สกลโลกิสฺสเรน มหาพฺรหฺมุนา อาทิกปฺปกาเล นิมฺมิตํ. ‘‘อธิจฺจ สมุปฺปนฺนํ’’ติ อเหตุ อปจฺจยา สมุปฺปนฺนํ. ‘‘อจฺจนฺตสสฺสตํ’’ติ ภวปรมฺปราสุ สสฺสตํ. ‘‘เอกจฺจสสฺสตํ’’ติ ภววิเสสํ ปตฺวา เอกจฺจานํ สตฺตานํ สสฺสตํ. ‘‘อุจฺฉินฺนํ’’ติ ยตฺถกตฺถจิ ปรมฺมรณา อุจฺฉินฺนํ. ปุราณฺจกมฺมํ ปริกฺขีณํ, นวฺจกมฺมํ อกตํ. เอวํ สํสาร สุทฺธีติอาทินา ¶ คหณนฺติ อตฺโถ. สนฺโต กาโย สกฺกาโย. ‘‘สนฺโต’’ติ ปรมตฺถโต วิชฺชมาโน. ‘‘กาโย’’ติ รูปกาโย, นามกาโย. อตฺตโน อตฺตโน กาโย วา สกฺกาโย. ปจฺจตฺตกาโย, ปาฏิปุคฺคลิก กาโยติ วุตฺตํ โหติ. ยถาวุตฺตกาย ทฺวยเมว. สกฺกาเย ทิฏฺิ สกฺกายทิฏฺิ. ตตฺถ ‘‘สกฺกาเย ทิฏฺี’’ติ ปุพฺพนฺตาปรนฺต กปฺปิกานํ วิย ปุพฺพนฺตา ปรนฺเตอจินฺเตตฺวา สพฺพสตฺตานํปิ อตฺตโน ขนฺเธสุ เอว ‘รูปํ เม อตฺตาติ วา’ อตฺตา เม รูปวาติ วา, อตฺตนิ เม รูปนฺติ วา, รูปสฺมึ เม อตฺตาติ วา, เอวมาทินา ธมฺมตา สิทฺธา ทิฏฺีติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อสฺสุตวา’’ติ ขนฺธเทสนาทิเก สฺุตธมฺมปฺปฏิสํ ยุตฺเต เทสนา ธมฺเม อสฺสุต ปุพฺพตฺตา นตฺถิ สุตํ เอตสฺสาติ อสฺสุตวา. ‘‘ปุถุชฺชโน’’ติ โลกิยมหาชโน. ตตฺถ ปริยาปนฺโน ปน เอกปุคฺคโลปิ ปุถุชฺชโนตฺเวว วุจฺจติ. โส สุตวาปิ อตฺถิ, อสฺสุตวาปิ อตฺถิ. อิธ อสฺสุตวา อธิปฺเปโต. อริย ปุคฺคโล ปน ตตฺถ ปริยาปนฺโน น โหติ. อหนฺติวา, มมาติ วา, มยีติ วา, เมติ วา, ปรามสน ปทานิ นาม. ‘‘เสสธมฺเมวา คเหตฺวา’’ติ รูปโต อวเสเส นามกฺขนฺธ ธมฺเม อตฺตา เมติ คเหตฺวา วา. ‘‘ธมฺม มุตฺตกํ วา อตฺตานํ คเหตฺวา’’ติ ปฺจกฺขนฺธธมฺมวิมุตฺตํ ปริกปฺปสิทฺธํ อตฺตานํ วา คเหตฺวา. จตสฺโส อวตฺถา ยสฺสาติ จตุราวตฺถิกา. เวทนาย สมฺโภครสตฺตา ‘‘สํภฺุชึ’’ติ วุตฺตํ. ‘‘สุขิโต’’ติ สุขเวทนาย สมงฺคีปุคฺคโล. ธมฺมโต ขนฺธ ปฺจกเมว. ตตฺถ ปน สุขเวทนาปธานตฺตา ตถา สมนุปสฺสนฺโต เวทนํ อตฺตาติ สมนุปสฺสติ นาม. ‘‘สมูหโต คเหตฺวา’’ติ อหมสฺมิ, อหํ เอโก สตฺโตติอาทินา สมูหโต. ‘‘วตฺถู’’ติ ปฺจกฺขนฺธา วุจฺจนฺติ. าตปริฺาทิวเสน อปริฺาตานิ วตฺถูนิ เอเตหีติ อปริฺาตวตฺถุกา. เอกมุหุตฺตมตฺเตปิ กาเล. รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสตีติอาทิกํ จตุราวตฺถํ สนฺธาย ‘‘กทาจิ อตฺตโต’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘อตฺตนิมิตฺตํ’’ติ อภิกฺกมนาทีสุ กายวจีมโน กฺริยาสุ อหํ อภิกฺกมามิ, อหํ ปฏิกฺกมามีติอาทินา จิตฺเต ทิสฺสมานา อตฺตจฺฉายา วุจฺจติ.
‘‘กามนฏฺเนา’’ติ ¶ อิจฺฉนฏฺเน. ‘‘ฉนฺทนฏฺเนา’’ติ ปตฺถนฏฺเน. ลีนภาโว นาม จิตฺตเจตสิกานํ ปฏิกุฏนํ. อาปาทียเต อาปาทนํ. ลีนภาวสฺส อาปาทนนฺติ วิคฺคโห. ‘‘ตนฺที’’ติ อาลสฺยํ วุจฺจติ. ‘‘วิชมฺภิตตา’’ นาม กิเลสวเสน กายงฺคานํ วิชมฺภนํ สมิฺชนปฺปสารณาทิกรณํ. สา เอว ปจฺจโย เอตสฺสาติ วิคฺคโห.
อนุสยปทตฺเถ. ‘‘อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ อุปฺปชฺชิตุํ สกฺโกนฺติ. น ปน เอกนฺตโต อุปฺปชฺชนฺติ. สนฺเตสุหิ เอกนฺตโต อุปฺปชฺชนฺเตสุ อนุสยา นาม น โหนฺติ สยนกิจฺจสฺเสว อภาวโต. ‘‘อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ วา อุปฺปชฺชิตุํ ปโหนฺติ. ปตฺโถทโน พหูนํ ชนานํ ปโหตีติอาทีสุ วิย. ปฺตฺติโยหิ อสภาวธมฺมชาติกตฺตา การณ ลาเภปิ อุปฺปชฺชิตุํ นปฺปโหนฺติ. อิเม ปน สภาวธมฺมชาติกตฺตา การณ ลาเภ สติ อุปฺปชฺชิตุํ ปโหนฺตีติ. เอวฺหิสติ, อุปฺปาทํ อปตฺตานํปิ เตสํ ปรมตฺถชาติกตา สิทฺธา โหตีติ. ‘‘สห อนุเสนฺตี’’ติ เอกโต อนุเสนฺตีติ วุตฺตา กามราคานุสโย จ ปฏิฆานุสโย จ มานานุสโย จ ทิฏฺานุสโย จ วิจิกิจฺฉานุสโย จ. อิเมสํ สตฺตานํ สตฺตสนฺตาเน อนุสยกิจฺจมตฺตํ เปตฺวา เอกโต อุปฺปตฺติ นาม นตฺถิ. ยทิ เอกโต อุปฺปชฺเชยฺยุํ. ทฺวาทสา กุสลจิตฺตานิ สตฺตสนฺตาเน นิจฺจกาลมฺปิ เอกโต อุปฺปชฺเชยฺยุํ. น จ อุปฺปชฺชนฺติ. ตสฺมา วิฺายติ อุปฺปชฺชนํ นาม อปฺปหีนฏฺเน อุปฺปชฺชนารหภาโว วุตฺโตติ. เสนฺตีติ วตฺวา ตทตฺถํ ทสฺเสติ ‘‘วิสุํ’’ติอาทินา. ‘‘อวุฏฺิตา’’ติ อุปฺปาทํ อปตฺตา. ‘‘ตถาปวตฺตา’’ติ จาลนากาเรน ปวตฺตา. ปุน ‘‘ตถาปวตฺตา’’ติ ชวนสหชาตากาเรน ปวตฺตา. ‘‘เยสํ’’ติ กามราคานุสยาทีนํ. ‘‘อาวชฺชนํ’’ติ อาวชฺชนจิตฺตํ. ‘‘ทมถํ’’ติ สุทนฺตภาวํ. ‘‘ตถา ปวตฺตา’’ติ จิตฺตสนฺตานานุสยนากาเรน ปวตฺตา. ตาอวตฺถา เยสํ เต ตทวตฺถิกา. ยทิ เต อุปฺปาทํ อปตฺตา. เอวํสติ, เต ปรมตฺถาปิ นาม น ภเวยฺยุนฺติ โจทนํ ปริหรติ ‘‘เต ปนา’’ติอาทินา. สเจ เต กุสลาพฺยากต จิตฺตสนฺตานมฺปิ อนุคตา. เอวํสติ, เต กุสลาพฺยากตานิ นาม ¶ สิยุนฺติ โจทนํ ปริหรติ ‘‘น จา’’ติอาทินา. อถ เต เอกนฺต อกุสลา สิยุํ. เอวํสติ, กุสลาพฺยากเตหิ วิรุทฺธา ภเวยฺยุํติ โจทนํ ปริหรติ ‘‘นาปี’’ติอาทินา. ยทิ อุปฺปาทํ อปตฺตา. เอวํสติ, กาลวิมุตฺตา สิยุนฺติ อาห ‘‘นาปิกาลตฺตย วินิมุตฺตา’’ติอาทึ. ‘‘สานุสเย จิตฺตสนฺตาเน’’ติ เสกฺขปุถุชฺชนานํ จิตฺตสนฺตาเน. ‘‘สห มคฺคุปฺปาทา’’ติ มคฺคุปฺปาเทน สเหว. ‘‘ตตฺถ ตตฺถ วุตฺโต’’ติ อฏฺกถาฏีกาสุ วุตฺโต. ‘‘อนาคตสามฺํ’’ติ อนาคตสทิสํ. น เอกนฺต อนาคตนฺติปิ วทนฺติ. กถํ เต สงฺขตชาติกา โหนฺตีติ อาห ‘‘เตหิ มคฺเค’’ติอาทึ. วิภาวนิปาเ. ‘‘อปฺปหีนา’’ติ มคฺเคน อปฺปหีนา. ‘‘ตทวตฺถา’’ติ อุปฺปชฺชนารหาวตฺถา. ‘‘ตํ สภาวตฺตา’’ติ กามราคาทิ สภาวตฺตา. ‘‘ตถา วุจฺจนฺตี’’ติ อนุสยาติ วุจฺจนฺติ. อนาคตา นาม น โหนฺติ. จิตฺตสนฺตาเน วตฺตมานภาเวน สิทฺธตฺตา. ‘‘หฺจิ ปชหตี’’ติ ยทิปชหติ. ‘‘เตนหี’’ติ ตโต เอว. ‘‘รตฺโต’’ติ ราคสมงฺคี หุตฺวา. ‘‘ทุฏฺโ’’ติ โทสสมงฺคี หุตฺวา. ‘‘มุฬฺโห’’ติ โมหสมงฺคี หุตฺวา ปชหตีติ โทโส อาปชฺชตีติ วุตฺตํ โหติ. ปริยุฏฺาน ปตฺตานํ ราคาทีนํ. ‘‘มคฺควชฺฌํ’’ติ มคฺเคน วธิตพฺพํ. ‘‘อุปฺปนฺนํ’’ติ ปจฺจุปฺปนฺนํ. วตฺตมานฺจ ตํ อุปฺปนฺนฺจาติ วตฺตมานุปฺปนฺนํ. ‘‘ภุตฺวา’’ติ อารมฺมณํ ปริภฺุชิตฺวา. วิคจฺฉตีติ วิคตํ. ภุตฺวา วิคตฺจ ตํ อุปฺปนฺนฺจาติ ภุตฺวา วิคตุปฺปนฺนํ. วิปจฺจนตฺถาย โอกาสํ กโรนฺตีติ โอกาสกตํ. โอกาสกตฺจ ตํ อุปฺปนฺนฺจาติ โอกาสกตุปฺปนฺนํ. สมุทาจาโร วุจฺจติ ภิยฺโย ปวตฺตนํ. สมุทาจาโร จ โส อุปฺปนฺนฺจาติ สมุทาจารุปฺปนฺนํ. ขนฺธปฺจก สงฺขาตํ ภูมึ ลภตีติ ภูมิลทฺธํ. ภูมิลทฺธฺจ ตํ อุปฺปนฺนฺจาติ ภูมิลทฺธุปฺปนฺนํ. อารมฺมณํ อธิกตรํ คณฺหาตีติ อารมฺมณาธิคฺคหิตํ. อารมฺมณาธิคฺคหิตฺจ ตํ อุปฺปนฺนฺจาติ อารมฺมณาธิคฺคหิตุปฺปนฺนํ. มหคฺคตชฺฌาเนน อวิกฺขมฺภิตฺจ ตํ อุปฺปนฺนฺจาติ อวิกฺขมฺภิตุปฺปนฺนํ. มคฺเคน อสมุคฺฆาฏิตฺจ ตํ อุปฺปนฺนฺจาติ อสมุคฺฆาฏิตุปฺปนฺนํ. เอวํ มคฺควชฺฌานํ อนุสยานํ อุปฺปนฺนภาเวน วุตฺตตฺตา ปจฺจุปฺปนฺนตา ¶ ปริยาโยว เตสํ วตฺตพฺโพติ. ‘‘เสกฺขา’’ติ สตฺตเสกฺขปุคฺคลา.
โอรมฺภาโค วุจฺจติ กามโลโกเจว ปุถุชฺชนภาโว จ. โอรมฺภาเค สนฺทิสฺสนฺตีติ โอรมฺภาคิยานิ. อุทฺธํภาโค วุจฺจติ มหคฺคตภาโวเจว อริยภาโว จ. อุทฺธํภาเค สนฺทิสฺสนฺตีติ อุทฺธํภาคิยานิ. ตตฺถ. กามจฺฉนฺโท, พฺยาปาโท,ติ อิมานิ ทฺเวสํ โยชนานิ กามโลกสงฺขาเต โอรมฺภาเค เอว สนฺทิสฺสนฺติ. ทิฏฺิ, วิจิกิจฺฉา, สีลพฺพตปรามาโส,ติ อิมานิ ตีณิ ปุถุชฺชนภาว สงฺขาเต. เสสานิ ปน ปฺจ มหคฺคตภาวสงฺขาเต จ อริยภาวสงฺขาเตจ อุทฺธํภาเคปิ สนฺทิสฺสนฺติ. อถวา. ปุริมานิ ปฺจยสฺส ตานิ มคฺเคน อปฺปหีนานิ, ตํ อุปริภวคฺเค ิตํปิ กามโลกสงฺขาตํ โอรมฺภาคํ อากฑฺฒนฺติ, ตสฺมา โอรมฺภาคาย สํวตฺตนฺตีติ โอรมฺภาคิยานิ. ปจฺฉิมานิ ปฺจ ยสฺส ตานิ อปฺปหีนานิ, ตํ กามโลเก ิตํปิ อุทฺธํภาคํ อากฑฺฒนฺติ, ตสฺมา อุทฺธํภาคาย สํวตฺตนฺตีติ อุทฺธํภาคิยานิ. ตตฺถหิ ทฺเวรูปารูปราคา เอกนฺเตน มหคฺคตภาวํ อากฑฺฒนฺติเยว. มาโน จ อุทฺธจฺจฺจ อวิชฺชาจาติ อิมานิ จ รูปารูปราคสหคตานิ หุตฺวา อากฑฺฒนฺติ. โอรํ เหฏฺิมํ กามโลกํ ภชนฺตีติ โอรมฺภาคิยานิ. อุทฺธํ รูปารูปโลกํ ภชนฺตีติ อุทฺธํภาคิยานีติปิ วณฺเณนฺติ. ‘‘อิตรานิ ปนา’’ติ ทฺเว อิสฺสา สํโยชน มจฺฉริยสํโยชนานิ. ‘‘กโมปน ทฺวินฺนํ ปี’’ติ อิธ สงฺคเห ทฺวินฺนํปิ อนุกฺกโมปน.
‘‘วิพาเธนฺตี’’ติ วิหึสนฺติ. ‘‘อุปตาเปนฺติจา’’ติ อุปคนฺตฺวา สนฺตาเปนฺติ. เสสเมตฺถ สุวิฺเยฺยํ.
อกุสลสงฺคหานุทีปนา นิฏฺิตา.
๑๖๓. มิสฺสกสงฺคเห. ‘‘จิตฺตปฺปฏิปาทนํ จิตฺตนิโยชนํ. ‘‘สุคติ ทุคฺคติ วิวฏฺฏสงฺขาตาสุ จา’’ติ สุคติภว ทุคฺคติ ภวนิพฺพานสงฺขาตาสุ จ. นิพฺพานฺหิ วฏฺฏโต คิคตตฺตา วิวฏฺฏนฺติ วุจฺจติ. ‘‘ทสฺสนาทีหิ เอวา’’ติ ทสฺสนสงฺกปฺปนาทีหิ เอว. อุชุคติ นาม ¶ หิตสุขสํวตฺตนิกา ปวตฺติ วุจฺจติ. วงฺกคตินาม อหิต ทุกฺขสํวตฺตนิกา ปวตฺติ. ‘‘ปถงฺคานี’’ติ ปถสฺสมคฺคสฺส องฺคานิ. มคฺโคติ จ อุปาโย วุจฺจตีติ อาห ‘‘อุปายงฺคานี’’ติ. ‘‘อิตรานี’’ติ สมฺมาทิฏฺิ สมฺมาสงฺกปฺปาทีนิ องฺคานิ. อุชุคติยา คมนสฺส อุปายงฺคานิ. อิเมปิ จตฺตาโร มคฺคงฺค ธมฺมา ธมฺมา นาม อาคตา. ‘‘ตถา ตถา ปวตฺตานํ’’ติ มุสาวาทาทิวเสน ปวตฺตานํ. ‘‘นา นามคฺโควา’’ติ มิจฺฉามคฺโค จ สมฺมามคฺโค จ.
‘‘อตฺตาธีนวุตฺติเก’’ติ อตฺตายตฺตปฺปวตฺติเก. อตฺตโน คติ นาม จกฺขุนฺทฺริยาทีนํ ทสฺสนาทิ กิจฺจเมว วุจฺจติ. ‘‘อิสฺสรา อธิปติโน’’ติ อิทํ อาธิปฺปจฺจตฺถปากฏตฺถํ วุตฺตํ. อตฺโถ ปน ภาวปฺปธานวเสน คเหตพฺโพ. อินฺทฺริยํ อิสฺสริยํ อาธิปฺปจฺจนฺติหิ อิเม เอกตฺถาติ. ‘‘อิตฺถาการานิ’’ นาม อิตฺถิลิงฺคปุริสลิงฺคาทิ. ‘‘อฺถา อปฺปวตฺติยํ’’ติ อิตฺถิสณฺาเน ปุริสลิงฺคาทีนํ, ปุริสสณฺาเน อิตฺถิลิงฺคาทีนํ อปฺปวตฺติยํ. เตนาห ‘‘ตถาหี’’ติอาทึ. มโน วิชานนกิจฺเจ สมฺปยุตฺตธมฺมานํ อิสฺสโร โหติ อนฺาภิภวนียภาเวน ปวตฺตนโตติ สมฺพนฺโธ. เอวํ ปรตฺถ. ‘‘อารมฺมณาธิมุจฺจเน’’ติ อารมฺมเณ นิราสงฺกปฺปวตฺติยํ. ‘‘อารมฺมณุปฏฺาเน’’ติ จิตฺเต พุทฺธคุณาธิกสฺส อารมฺมณสฺส อุปฏฺาเน. ‘‘จตุสจฺจธมฺโม’’ติ เตน ปุคฺคเลน อนฺาต ปุพฺโพ จตุสจฺจ ธมฺโม. อนฺาต ปุพฺพํ อมตํ วา ปทํ. อนฺาตํ สฺสามิ อิติ ปวตฺตํ อินฺทฺริยนฺติ สมาโส. ปฏิปนฺนสฺสาติ ปน อตฺถโต สิทฺธตฺตา วุตฺตํ. ‘‘วิปฺปกตภาเวนา’’ติ อนิฏฺงฺคตภาเวน. ปุนปฺปุนํ ชานนกิจฺจยุตฺตานํ มชฺเฌ ฉนฺนํเสกฺขานํ. เอเตน อวสทฺทสฺสยาว สพฺพกิเลสปฺปหานา ชานนนฺติ อตฺถํ ทีเปติ. ปถม มคฺเคน าตํ มริยาทํ อนติกฺกมฺม ชานนนฺติปิ วณฺเณนฺติ. อาชานิตตฺถาติ อฺาตาวี. อรหา ขีณาสโว กตกิจฺโจ วุสิต พฺรหฺมจริโย. อฺาตาวิโน อินฺทฺริยนฺติ อฺาตาวินฺทฺริยนฺติ อตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปรินิฏฺิต อาชานนกิจฺจสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘ตพฺพิมุตฺตี’’ติ อตฺตคฺคาห วิมุตฺติ. ‘‘ตสฺมึ วา’’ติ ตสฺมึ อตฺตนิวา. ‘‘สํกิลิฏฺโ’’ติ นานากิเลเสหิ สํกิเลสิโต. ‘‘วิปฺผนฺทิโต’’ติ นานาสุขทุกฺเขหิ ¶ สํกมฺปิโต. ‘‘โวทานปตฺติยา’’ติ วิสุทฺธิปตฺตตฺถาย. ‘‘ตายปฏิ ปตฺติยา’’ติ กรณตฺเถ, เหตุ อตฺเถ วา กรณวจนํ. ‘‘โวทานปตฺติยา’’ติ สามิอตฺเถ สามิวจนํ.
‘‘พลียนฺตี’’ติ นามธาตุนิทฺเทโส. เตนาห ‘‘พลสา กโรนฺตี’’ติ. ‘‘พลสา’’ติ พเลน. ปริโต สมนฺตโต เสนฺติ ปริวาเรนฺตีติ ปริสฺสยา. อสฺสทฺธสฺส ภาโว อสฺสทฺธิยํ. โกสชฺชสงฺขาเตน ปฏิปกฺขธมฺเมน. มุฏฺา นฏฺา สติ ยสฺสาติ มุฏฺสฺสติ. มุฏฺสฺสติสฺส ภาโว มุฏฺสฺสจฺจํ. ‘‘เสสทุก ทฺวยํ’’ติ อหิริกทุกํ หิริทุกฺจ.
คหปติ, ชายมฺปตี, ติอาทีสุ วิย ปติสทฺโท สามิอิสฺสร ปริยาโยติ อาห ‘‘ปตีติ สามิอิสฺสโร’’ติ. ‘‘ปเรสํ’’ติ สหชาเตสุ ปเรสํ อินฺทฺริยานํ. ‘‘ปเรหี’’ติ กมฺมตฺเถ กรณวจนํ. ปเร สหชาเต อินฺทฺริย ธมฺเมติ อตฺโถ. ‘‘อธิโก’’ติ อธิกตโร. ‘‘อตฺตาธีน วุตฺตีนํ’’ติ อตฺตายตฺตวุตฺตีนํ. ‘‘ฉนฺทาคมนวเสน วา’’ติ เอตฺถ อาคจฺฉติ ผลํ เอเตนาติ อาคมนํ. อาทิการณํ, มูลการณํ, ปภวการณํ. ฉนฺโท เอว อาคมนํ ฉนฺทาคมนํ. เตนาห ‘‘ปุพฺเพ อตีตภเวสู’’ติอาทึ. สมฺปยุตฺต ธมฺเม อตฺตปราธีเน กตฺวาติ สมฺพนฺโธ. มโหโฆ ติณปณฺณกสเฏ อตฺตปราธีเน กโรนฺโต วิยาติ โยชนา. ตตฺถ ‘‘อตฺตปราธีเน’’ติ อตฺตสงฺขาโตปโร อตฺตปโร. อตฺตปเรน อธีนา อตฺตปราธีนาติ อตฺโถ. ‘‘เสเสสุปี’’ติ เสเสสุ วีริย จิตฺต วีมํสาธิปตีสุปิ. เอเตน ‘วีริยเมว อธิปติ วีริยาธิปติ. วีริยวโต กึ นาม กมฺมํ น สิชฺฌตีติ เอวํ ปุพฺพาภิสงฺขารวเสน วา ปุพฺเพ อตีตภเวสุ สุฏฺุ อาเสวิตวีริยาคมนวเสน วา เตสุ เตสุ กลฺยาณ ปาปกมฺเมสุ สมฺปยุตฺต ธมฺเม มโหโฆ วิย ติณปณฺณกสเฏ อตฺตปราธีเน นิจฺจํ ปคฺคหิตธุเรกตฺวา ปวตฺตํ วีริย’นฺติอาทินยํ อติทิสติ. ‘‘ปจฺฉิมา ตโย ธมฺมา’’ติ วีริย จิตฺต วีมํสา ธมฺมา. ปรวเสปิ วตฺตนฺติ, ตทา เตสํ อธิปติภาโว นตฺถีติ โจทนา. อธิปติ กิจฺจํ นาม ธุรวาหิตาติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ตํ ตํ กิจฺจ วิเสสํ ¶ อนเปกฺขิตฺวา’’ติ จกฺขุนฺทฺริยํ ทสฺสน กิจฺเจ อิสฺสโร, โสตินฺทฺริยํ สวน กิจฺเจติอาทีสุ ตํ ตํ กิจฺจวิเสสํ อเปกฺขติ, ตถา อนเปกฺขิตฺวา. ‘‘วิชานนาทิ กิจฺจํ’’ติ ‘มโน อารมฺมณ วิชานเน’ติอาทินา วุตฺตํ สพฺพํ อินฺทฺริย กิจฺจํ.
ภุโส หรนฺติ วหนฺตีติ อาหารา. ‘‘ภุโส’’ติ อติเรกตรนฺติ อตฺโถ. กถํ ปน ภุโส หรนฺตีติ อาห ‘‘สหชาตาที’’ติอาทึ. เตเต ปจฺจย ธมฺมา เตเต ปจฺจยุปฺปนฺน ธมฺมา จาติ โยชนา. ‘‘เอตฺถา’’ติ อิมิสฺสํ ปาฬิยํ. ‘‘ปจฺจยาหาโร วา’’ติ เอตฺถ เหตุ อารมฺมณาทิโก สพฺโพปจฺจโย ปจฺจยาหาโร นาม. อาหาร ปจฺจโยปน วิสุํ เอโก ปจฺจยวิเสโส. ‘‘ปจฺจยฏฺเนา’’ติ เหตุ อารมฺมณาทิ ปจฺจยฏฺเน. ‘‘อาหารภูตา’’ติ อุปตฺถมฺภนกิจฺจวิเสสภูตาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘กฬีรงฺกุรานํ’’ติ กมฺมตฺเถ สามิวจนํ. ‘‘วฑฺฒิยา’’ติ วฑฺฒนตฺถาย. ‘‘ิติยา’’ติ ิตตฺถาย. อิเมสตฺตา วฏฺเฏ ปวตฺตนฺตีติ สมฺพนฺโธ. เสสเมตฺถ สุวิฺเยฺยํ. ‘‘ปกฺเข วิยูหิตฺวา’’ติ ปกฺเข สฺจาเลตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘ปกฺเข’’ติ วา ปกฺเขหิ วาตํ พฺยูหิตฺวา. ‘‘ตทนุสยิตสฺสา’’ติ ตสฺมึ วิปาก สนฺตาเน อนุสยิ ตสฺส. ‘‘วิภาเวตฺวา’’ติ ปจฺจกฺขโต วิภูตํ ปากฏํ กตฺวา. ‘‘อลภิตฺวา’’ติ จกฺขุมฺหิ อลภิตฺวา. อปสฺสิตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘ตตฺเถวา’’ติ นิวาสฏฺาเน เอว. ‘‘สมฺปยุตฺตา’’ติ วิฺาเณน สมฺปยุตฺตา. ภวึสุ วฑฺฒึ สูติ ภูตา. สมฺภวํ วุฑฺฒิการณํ เอสนฺติ คเวสนฺตีติ สมฺภเวสิโน. ‘‘วุตฺตนเยนา’’ติ ‘ยถา ยวพีชานํ วา สาลิพีชานํ วา’ติอาทินา วุตฺตนเยน. ‘‘อาหาเรตี’’ติ ปวตฺเตติ. ‘‘มโนสฺเจตนาหาโร’’ติ กุสลากุสล กมฺมภูโต มโนสฺเจตนาหาโร. ‘‘ตโย ภเว’’ติ ตโย กามภวาทิเก อุปปตฺติภเว. ิติยาติ จ อนุคฺคหายาติ จ วุตฺตํ. อิตรถา อุปฺปตฺติยาติ จ วุตฺตํ สิยาติ อธิปฺปาโย.
‘‘ทุพฺพลกิจฺจฏฺานวตฺถุกตฺตา’’ติ ทุพฺพลกิจฺจตฺตา ทุพฺพลฏฺานตฺตา ทุพฺพลวตฺถุกตฺตา. ‘‘อภินิปาต มตฺตานิ โหนฺตี’’ติ ทสฺสน สวนาทิ มตฺตานิ ¶ โหนฺตีติ อธิปฺปาโย. ‘‘วิตกฺก ปจฺฉิมกํ ฌานํ’’ติ ฌานานิ นาม วิตกฺกสฺส ปจฺฉานุคตํ โหตีติ อตฺโถ. ‘‘ตตฺถา’’ติ เตสุปฺจวิฺาเณสุ. ‘‘ตา’’ติ เวทนา เอกคฺคตา. ‘‘ตํ’’ติ ฌานกิจฺจํ. เอกคฺคตา พลวตี น โหตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘มคฺคินฺทฺริย พลภาวายา’’ติ มคฺคินฺทฺริย พลภาวตฺถาย. โลกุตฺตรวิปากานิ ชวนกิจฺจานิ จ สาธิปติกานิ จ โหนฺตีติ วุตฺตํ ‘‘ติภูมกานี’’ติอาทิ. เสสเมตฺถ สุโพธํ.
มิสฺสกสงฺคหานุทีปนา นิฏฺิตา.
๑๖๔. โพธิปกฺขิยสงฺคเห. ‘‘สติปฏฺานา’’ติ เอตฺถ ปสทฺโท ปมุขตฺโถ ปธานตฺโถติ อาห ‘‘ปมุขา ปธานา หุตฺวา’’ติ. าสทฺโท คตินิวตฺติ อตฺโถติ อาห ‘‘จิตฺตคมนํ นิวตฺเตตฺวา ปวตฺตนฺตี’’ติ. ‘‘กาเย อนุปสฺสนา’’ติ กาเย ปวตฺตา อนุปสฺสนา. ปุนปฺปุนํ ปสฺสนฺติ โยคิโน เอตายาติ อนุปสฺสนา. กตมํ ปสฺสนฺตีติ อาห ‘‘อสฺสาสปสฺสาสาทิกสฺสา’’ติอาทึ. กถฺจตํ ปสฺสนฺตีติ วุตฺตํ ‘‘ตํ ตํ กายภาเวนา’’ติอาทิ. อิทานิ ปุนปฺปุน สทฺทสฺส อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยาวา’’ติอาทิมาห. เวทนานุ ปสฺสนาทีสุปิ เอเสวนโย. ตํ น สุนฺทรํ. กสฺมา, สกลสฺส รูปกายสฺส อธิปฺเปตตฺตา. เสสเมตฺถ สุวิฺเยฺยํ. ยทิ เอวนฺติอาทีสุ. ‘‘อิตราปิ สิทฺธา’’ติ กายานุปสฺสนาทโยปิ สิทฺธา. กสฺมา, ธมฺมานุปสฺสนาย อนฺโตคธตฺตา. ‘‘ตถา อนุปสฺสนฺตสฺสา’’ติ รูปฺปนลกฺขณโต อนุปสฺสนฺตสฺส. ‘‘ตํ ตํ สมูหภูตรูปธมฺมวเสนา’’ติ อสฺสาสปสฺสาสาทิ สมูหภูตสฺส รูป ธมฺมสฺส วเสน. ‘‘สุภาทิวิปลฺลาสสฺสา’’ติ สุภ สุข นิจฺจวิปลฺลาสสฺส. ‘‘โอฬาริกสฺสา’’ติ สุปากฏวเสน โอฬาริกสฺส. ‘‘อตฺตูปนิพนฺธา’’ติ อตฺเตน อุปนิพนฺธา, ปฏิพทฺธา.
‘‘กามํ’’ติ เอกนฺเตน. อุปสุสฺสตูติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ยนฺตํ’’ติ ฌานาภิฺา มคฺคผลนิพฺพานํ. ‘‘วีริยสฺส สณฺานํ’’ติ วีริยคมนสฺส วีริยปฺปวตฺตนสฺส นิวตฺติวเสน สณฺานํ. อุปฺปนฺนสทฺเทน อตีต กิเลสาปิ ¶ ปจฺจุปฺปนฺน กิเลสาปิ คเหตพฺพา โหนฺตีติ อาห ‘‘อสุกสฺมึ กาเล’’ติอาทึ. ‘‘มยฺหํ อุปฺปนฺนํ’’ติ อิทานิ อุปฺปนฺนํ. ‘‘ปหานายา’’ติ เอตฺถ สมุจฺเฉทปฺปหานํ อธิปฺเปตนฺติ อาห ‘‘อนุปฺปาท ธมฺมตาปาทนกรณตฺถํ’’ติ. ตตฺถ อนุปฺปาโท ธมฺโม เยสํ เต อนุปฺปาท ธมฺมา. มคฺเคน ปหีนา อกุสล ธมฺมา. อนุปฺปาท ธมฺมานํ ภาโวติ วิคฺคโห. อนุปฺปาท ธมฺมตาย อาปาทนํ. ตสฺส กรณนฺติ สมาโส. ‘‘ทิสฺวา’’ติ เตสํ อุปฺปตฺติ วตฺถุํ ทิสฺวา. ‘‘ปจฺจยสมุจฺฉินฺทนตฺถํ’’ติ ปจฺจยภูตสฺส อนุสยสฺส สมุจฺฉินฺทนตฺถํ. ‘‘อปตฺตา’’ติ อิทานิ อปตฺตา. ‘‘สมเย’’ติ พุทฺธุปฺปาทนวมกฺขเณ. ‘‘นิยามํ น โอกฺกมนฺตี’’ติ อริยมคฺคสงฺขาตํ สมฺมตฺตนิยามํ น โอกฺกมนฺติ. นปฺปวิสนฺติ. กิเลเสหิ อโกเปตพฺพตาย อกุปฺโป ธมฺโม ยสฺสาติ อกุปฺป ธมฺโม. ขีณาสโว. อกุปฺป ธมฺมสฺส ภาโว อกุปฺป ธมฺมตา. อรหตฺต ผลํ. ‘‘เตสํ’’ติ กุสลานํ ธมฺมานํ. อุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ ปหานายาติ กตฺวา วิสุทฺธิธมฺเมสุ โยคํ กโรนฺตสฺส อนุกฺกเมน ภาวนา กมฺเม มตฺถกํ ปตฺเตอาทิโต ปฏฺาย อุปฺปนฺนาปิ ปาปกา ปหิยฺยนฺติ. อนุปฺปนฺนาปิ นุปฺปชฺชนฺติ. อนุปฺปนฺนาปิ กุสลา อุปฺปชฺชนฺติ. อุปฺปนฺนาปิ ภาวนา ปาริปูรึ คจฺฉนฺติ. เอสนโย อนุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ อนุปฺปาทายาติอาทีสุ. เอวํ จตูสุ มุเขสุ เอเกกมุเขนปิ สมฺมา ปทหนฺตสฺส สมฺมปฺปธานํ จตุกิจฺจสาธกํ โหติ. เตนาห ‘‘เอเตสุ ปนา’’ติอาทึ.
อภิวิสิฏฺเน ธมฺมววตฺถานฺาเณน าตพฺพา สพฺเพ ปรมตฺถ ธมฺมา อภิฺเยฺยา นาม. ‘‘อภิฺา สิทฺธี’’ติ อภิชานน กิจฺจสิทฺธิ. วิสุํ วิสุํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา าตพฺพา จตุสจฺจ ธมฺมา ปริฺเยฺยา นาม. เตหิ ทุกฺขสจฺจ ธมฺมา ปริฺาตพฺพภาเวน, สมุทย สจฺจ ธมฺมา ปหาตพฺพ ภาเวน, นิโรธสจฺจ ธมฺมา สจฺฉิกาตพฺพ ภาเวน, มคฺคสจฺจ ธมฺมา ภาเวตพฺพภาเวน าตพฺพา โหนฺตีติ. ‘‘ภาวนาสิทฺธี’’ติ ภาวนากิจฺจ สิทฺธิ. ตํ สํยุตฺตเก อิมายปาฬิยา สเมตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘วิภงฺเค ปนา’’ติ อิทฺธิปาทวิภงฺเค ปน. ‘‘จิตฺต เจตสิกราสี’’ติ สห ปุพฺพภาคภาวนาย อุตฺตริ มนุสฺส ธมฺมปริยา ปนฺนา ¶ จิตฺตเจตสิกราสิ. ‘‘ตตฺถ ปนา’’ติ วิภงฺเค ตสฺมึ อุตฺตรจูฬภาชนีเย ปน. ‘‘อิธา’’ติ อิมสฺมึ สงฺคเห.
จตฺตาริ โสตาปตฺติยงฺคานิ นาม พุทฺเธ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต. ธมฺเม, สงฺเฆ, อริยกนฺเตหิ สีเลหิ สมนฺนาคโตติ เอวํ วุตฺตานิ โสตาปตฺติยา องฺคานิ. ตตฺถ ‘‘อริยกนฺเตหี’’ติ อริยชเนหิ กามิเตหิ อิจฺฉิเตหิ. ‘‘สีเลหี’’ติ ปฺจนิจฺจสีเลหิ, อาชีวฏฺมกสีเลหิ วา. ‘‘สมฺมปฺปธาเนสู’’ติ สมฺมปฺปธานกิจฺเจสุ.
‘‘โสฬสหิกิจฺเจหี’’ติ เอเกกสฺมึ สจฺเจ จตฺตาริ จตฺตาริ กตฺวา โสฬสหิ กิจฺเจหิ. ปีฬนฏฺโ, สงฺขตฏฺโ, ติอาทีหิ โสฬสหิ อตฺเถหีติ วุตฺตํ โหติ. เต จ อตฺถา ปรโต อาคมิสฺสนฺติ. สติ เอว สมฺโพชฺฌงฺโคติ วุตฺตํ, กถํ ปน สาสติ สมฺโพธึ สมุฏฺาเปตีติ อาห ‘‘สาหี’’ติอาทึ. เอสนโย เสสโพชฺฌงฺเคสุปิ. ‘‘เตสุ ธมฺเมสู’’ติ อชฺฌตฺตพหิทฺธา ธมฺเมสุ. ‘‘ลีนสงฺโกจ โกสชฺชปกฺขํ’’ติ ลีนปกฺข สงฺโกจ ปกฺขโกสชฺช ปกฺขํ. ธุรํ สุฏฺุ ปคฺคณฺหาติ อุกฺขิปตีติ ธุรสมฺปคฺคโห. ‘‘ธุรํ’’ติ สมถธุรํ วิปสฺสนา ธุรฺจ. ‘‘อรติ อุกฺกณฺ ปกฺขํ’’ติ อรติปกฺข นิพฺพิทาปกฺขํ. ธมฺเม รติ ธมฺมรติ. ธมฺเม นนฺที ธมฺมนนฺที. ธมฺเม อาราโม ธมฺมาราโม. ‘‘สารมฺโภ’’ นาม จิตฺตวิเหสา. ‘‘ทรโถ’’ นาม จิตฺตสนฺตาโป. สมาหิโต ภิกฺขเว ยถาภูตํ ปชานาติ ปสฺสตีติ วจนโต ปฺาย สมาธิ ปาทกตา ปากฏาติ วุตฺตํ ‘‘ตสฺสา’’ติอาทึ. สมํ อวิสมํ อตฺตโน กิจฺจํ วหติ สีเลนาติ สมวาหี. สมวาหิสฺส ภาโว สมวาหิตา.
สา ปน จตุพฺพิธา โหตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ตสฺสา’’ติ สมฺมาทิฏฺิยา. ‘‘วิสาขา’’ติ อาลปน ปทํ. ‘สพฺเพ โลกุตฺตเร โหนฺตี’ติ วจนสฺส สมฺพนฺธํ ทสฺเสตุํ ‘‘เต ปน สตฺตตึสปฺปเภทา’’ติอาทิมาห. น วฏฺานานิ อสฺส อตฺถีติ นวฏฺานิกํ. ‘‘โลกุตฺตเร’’ติ โลกุตฺตร จิตฺเต. ‘‘อตฺตปฺปฏิปกฺขานํ’’ติ อตฺตนา อุชุปฺปฏิปกฺขานํ. ‘‘เต’’ติ โพธิปกฺขิย ธมฺมา. เอเตน ทสฺเสตีติ ¶ สมฺพนฺโธ. ‘‘กุณฺฑลิยา’’ติ เอวํ นามกํ พฺราหฺมณํ อาลปติ. ‘‘วิชฺชา’’ติ มคฺควิชฺชา. ‘‘วิมุตฺตี’’ติ ผลวิมุตฺติ.
โพธิปกฺขิยานุทีปนา นิฏฺิตา.
๑๖๕. สพฺพสงฺคเห. ‘‘ปฺจราสโย’’ติ ปฺจสงฺคหา. ‘‘อตีตาทิเภทภินฺนานํ’’ติ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนเภเทน, อชฺฌตฺต พหิทฺธาเภเทน, โอฬาริกสุขุมเภเทน, หีนปณีตเภเทน, ทูรสนฺติกเภเทน จ ภินฺนานํ. ‘‘อุปปตฺติ ทฺวาเรสู’’ติ จกฺขาทิ ทฺวาเรสุ. ‘‘กมฺมทฺวาเรสู’’ติ กายกมฺมทฺวาราทีสุ. ‘‘สงฺคมฺมา’’ติ สงฺคนฺตฺวา. ‘‘สมาคมฺมา’’ติ สมาคนฺตฺวา. ‘‘สาธารณ กิจฺจานิ วา’’ติ สพฺพิริยาปเถหิ สาธารณ กิจฺจานิวา. ปาฬิปาเ. ‘‘กิฺจา’’ติ กสฺมา จ. ‘‘สงฺขาเรวเทถา’’ติ สงฺขารา สงฺขารา อิติ ตุมฺเห วเทถ. ‘‘กิฺจสงฺขตํ’’ติ กตมฺจสงฺขตํ. ‘‘รูปํ รูปตฺถายา’’ติ รูปวิกติยา ชาตตฺถาย รูปสงฺขาตํ สงฺขตํ อภิสงฺขโรนฺตีติ อตฺโถ. อุปโภโค นาม วตฺถาภรณาทิโก อนฺโตโภโค. ปริโภโค นาม มฺจปีาทิโก พาหิร ปริโภโค. สมฺปรายิกฺจ เวทนนฺติ อธิกาโร. เสเสสุปิ สฺาสงฺขาร วิฺาเณสุปิ. ‘‘ทานํ ทานตฺถายา’’ติ ทานปฺุสฺส ชาตตฺถาย. ทานสงฺขาตํ สงฺขตํ อภิสงฺขโรนฺตีติ อตฺโถ. อถวา ทานสฺส อตฺโถ ทานตฺโถ. ‘‘อตฺโถ’’ติ จ วิปากตฺโถ ผลตฺโถ. ทานวิปากตฺถาย ทานผลตฺถาย ทานปฺุสงฺขาตํ สงฺขตํ อภิสงฺขโรนฺตีติ อตฺโถ. เอวํ เสเสสุปิ. ‘‘อนุยฺุชนฺตา’’ติ วิปสฺสนา กมฺมํ อนุยฺุชนฺตา. ‘‘ตีสุ ธมฺเมสุ กิลมิสฺสนฺตี’’ติ วุตฺตํ. กถํ กิลมิสฺสนฺตีติ อาห ‘‘ตถาหิ ยถา’’ติอาทึ. ‘‘สุขสฺิเตสุ ปฏิสรเณสู’’ติ จิตฺตสาตจิตฺตรติ ปฏิลาภตฺถาย ปฏิสรเณสุ อารมฺมเณสุ. ‘‘ตาหี’’ติ สมฺปตฺตีหิ. ‘‘ตา’’ติ สมฺปตฺติโย. ปรมุกฺกํสคตํ สุขสฺิตฏฺานํ โหติ. ตสฺมา ตตฺถ ทุกฺขานุปสฺสนาาณํ อติเรกตรํ ปวตฺเตตพฺพนฺติ ตทตฺถาย ภควา ตํ เวทนํ วิสุํ เอกํ ขนฺธํ กตฺวา ขนฺธ ¶ เทสนํ เทเสตีติ อธิปฺปาโย. เอสนโย ปรตฺถปิ. ‘‘าณสมฺมตํ’’ติ ปุถุชฺชเนหิ าณสมฺมตํ. ‘‘ปรมํ อตฺตานํ กตฺวา’’ติ โลเก วิฺุตฺตํ ปรมํ โหติ, ตสฺมา วิชานนํ ปรมํ อตฺตานํ กตฺวา. เสสเมตฺถ สุปากฏํ. ‘‘ยตฺถภฺุชตี’’ติอาทีสุ. ‘‘ยตฺถ ภฺุชตี’’ติ ยสฺมึ ภาชเน ภฺุชติ. ‘‘ยฺจ ภฺุชตี’’ติ ยฺจ โภชนํ ภฺุชติ. ‘‘เยน จ ภฺุชตี’’ติ เยนพฺยฺชเนน ภฺุชติ. ‘‘โย จ โภชโก’’ติ สมีเป ตฺวา ปริเวสโก. ‘‘โย จ ภฺุชิตา’’ติ โย จ ภฺุชโก.
‘‘สาสวา เอวา’’ติ สาสวา นาม โลกิย ธมฺมา. ‘‘อุสฺสาหนฺตา วิย โหนฺตี’’ติ อพฺยาปาร ธมฺมตฺตา วุตฺตํ. น หิ อพฺยาปาร ธมฺมานํ เอกนฺเตน อุสฺสาโห นาม อตฺถิ. ผลสฺส นิพฺพตฺตนโต ผลตฺถาย อุสฺสาหนฺตา วิย โหนฺตีติ. ‘‘อากิริตฺวา’’ติ ปตฺถริตฺวา. เสสเมตฺถ สุโพธํ.
ธาตุสงฺคเห. ‘‘อตฺตโน เอว สภาวํ’’ติ อตฺตโน สภาวํ เอวาติปิ ยุชฺชติ. ‘‘อีหา จ พฺยาปาโร จา’’ติ อภิกฺกมามิ ปฏิกฺกมามีติอาทินา อุสฺสาโห จ, อภิกฺกมนาทิ พฺยาปาโร จ. ‘‘น จ ชีวโยคา’’ติ น จ โลกิยมหาชน สมฺมเตน ชีเวน ยุตฺตา. อฏฺกถาปาเ. ยายติ เอตฺถาติ ยนฺตํ. อุทุกฺขลํ. ยนฺต จกฺกยฏฺินาม ยนฺต จกฺกสมฺพนฺธา มุสลยฏฺิ. อรณี วุจฺจติ อคฺคินิพฺพตฺตกตฺถาย กตา ทฺเว สารฆฏิกา. อธรารณี นาม เหฏฺารณี. อุตฺตรารณี นาม อุทฺธารณี. ‘‘สลฺลมิวา’’ติ กณฺโฑวิย. ‘‘สูลมิวา’’ติ วิชฺฌนกทณฺโฑ วิย. ‘‘อาตุราวิยา’’ติ เตหิสลฺลสูเลหิ วิทฺธคิลานา วิย. อยถาภุจฺจ นิมิตฺตํ นาม อยถาภูตํ สตฺตปุคฺคลาทินิมิตฺตํ. ‘‘วนมิโค วิยา’’ติ ติณ รูเป ปุริส สฺาลาโภ วนมิโค วิย. ‘‘องฺคารกาสุยํ’’ติ องฺคารกูเป. ‘‘นานาวิธุปทฺทว นิมิตฺตโต’’ติ นานาวิธานํ อุปทฺทวานํ อุปฺปตฺติ ปจฺจยโต. ‘‘วนมกฺกโฏ วิยา’’ติ วนวานโร วิย. ทุกฺเขน ทมนํ อสฺสาติ ทุทฺทมโน. ‘‘อสฺสขฬุงฺโก’’ติ ทุฏฺ อสฺโส. ‘‘ยตฺถ กามนิปาติโต’’ติ ยสฺมึ ยสฺมึ อารมฺมเณ ปติตุํ กาเมติ อิจฺฉติ, ตตฺถ ตตฺถ นิปาติโต. ปุคฺคลวเส ¶ อวตฺติตฺวา อารมฺมเณสุ ยทิจฺฉกํ นิปตนโตติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘รงฺคนโฏ วิยา’’ติ สมชฺชนฏโก วิย. สภาวโต อตฺถิ สํวิชฺชตีติ สนฺโต. ตโถติ จ อวิตโถติ จ อตฺถโต เอกํ. อฺโ ปกาโร อฺถา. นตฺถิ อฺถา อสฺสาติ อนฺถํ. ทุกฺขทุกฺขํ นาม กายิกทุกฺข เจตสิกทุกฺขํ. ‘‘กมฺมชานํ’’ติ วิปากกฺขนฺธกฏตฺตา รูปานํ. ‘‘อุปฺปตฺติยา’’ติ อุปฺปาทตฺถาย. ‘‘ปเควา’’ติ ปุเรตรเมว. ‘‘อุปฺปนฺนํ ปี’’ติ อุปฺปนฺนมฺปิ จกฺขุ. ‘‘ปวตฺติยา’’ติ สนฺตานฏฺิติยา ิตตฺถาย. ‘‘ปฏิชคฺคน ทุกฺขํ’’ติ โสธน ทุกฺขํ. ปจฺจยเวกลฺลํ นาม อาหารจฺเฉทาทิกํ. นนุ ภิชฺชนภเยน ปเคว ปจฺจยสมฺปาทนํ นาม สงฺขาร ทุกฺขเมว สิยาติ. สจฺจํ. อิธ ปน อาสนฺเน ภิชฺชนนิมิตฺตํ ทิสฺวา กตํ ปจฺจย สมฺปาทนํ อธิปฺเปตํ. ‘‘รกฺขาวรณคุตฺติ สํวิธาน ทุกฺขํ’’ติ นานาภยโต รกฺขณสฺส จ อาวรณสฺส จ โคปนสฺส จ สํวิธาน ทุกฺขํ. ‘‘ตทุภเยน สเหว สิชฺฌตี’’ติ กสิโครกฺขาทีนิ สงฺขาร กมฺมานิ วา รกฺขาวรณ คุตฺติสํ วิธานาทีนิวา กโรนฺตานํ ตํ ทุกฺข ทุกฺขํ ตทุภเยน ทุกฺเขน สเหว สิชฺฌติ. ‘‘เตสํ’’ติ จกฺขาทีนิ อสฺสาเทนฺตานํ น มุจฺจตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ปวตฺติ นิโรธ ภูตสฺสา’’ติ ปวตฺติยา นิโรธ ภูตสฺส. ‘‘ตํ ปชหติ เยวา’’ติ ตํ โลภํ ปชหติเยว. ‘‘ยาวเทวา’’ติ อุปริมปริยนฺเตน. อหํ อสฺมีติ ปวตฺโต มาโน อสฺมิมาโน. ตสฺส สมุคฺฆาตนํ สมุจฺฉินฺทนํ. ‘‘ปริฺาเตสู’’ติ เตสุ อนุสยิตาย ตณฺหาย ปหานวเสน ปริฺาเตสุ. ‘‘ตพฺพิปรีเตน ปนา’’ติ ตโต วิปรีเตน ปน. อสฺมิมานสฺส อนธิฏฺานภูตาติอาทิ อตฺเถน. อนินฺทฺริยพทฺธ ธมฺมา นาม ปถวีปพฺพตาทีสุ ปวตฺตา รูป ธมฺมา.
สตฺเต อนุกฺกณฺมาเน กโรตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘อิตี’’ติ ตสฺมา. เตสํ สตฺตานํ. ทุชฺชโห นาม นตฺถิ. ตสฺมา โลโภเยว ทุกฺขสมุทยาริย สจฺจํ นามาติ โยชนา. สาสวา กุสลา กุสล ธมฺมา สมุทยสจฺจํ นาม, ทุกฺข สจฺจภูตานํ วิปากกฺขนฺธกฏตฺตา รูปานํ สมุทยตฺตา สํวฑฺฒนตฺตา. มูลภาเวน วุตฺตา ¶ ‘อวิชฺชา ปจฺจยา สงฺขารา’ติอาทีสุ. ‘‘นนฺทนสทิสํ’’ติ เทวโลเก นนฺทนวนุยฺยานสทิสํ. ‘‘อาทิปภวปธานภูตา’’ติ ทุกฺข ธมฺมานํ อาทิภูตา, ปภวภูตา, ปธานภูตา. ‘‘ปภวภูตา’’ติ จ ปถมุปฺปตฺติเหตุภูตา. ‘‘เตสํ’’ติ ทุกฺข ธมฺมานํ.
‘‘กตฺถจี’’ติ กามภวาทีสุ กิสฺมิฺจิภเว. ‘‘กทาจี’’ติ อตีตาทิกาเลสุ กิสฺมิฺจิกาเล. ‘‘เกสฺจี’’ติ เทวมนุสฺสาทีสุ สตฺเตสุ เกสฺจิสตฺตานํ. ‘‘กุโตจี’’ติ พหูสุการเณสุ กุโตจิการณา. ‘‘กถฺจี’’ติ เกนจิปกาเรน.
‘‘ปริณาโม’’ติ ปริณมนํ อฺถาภาโว. ‘‘ตํ สมงฺคีนํ’’ติ เตหิ จกฺขาทีหิ สมงฺคีนํ ปุคฺคลํ. ปาฬิปาเ. ‘‘อาทิตฺตํ’’ติอาทีปิตํ สมุชฺชลนฺตํ. ‘‘เกนา’’ติ กรณภูเตน เกน อคฺคินา. ตถา อริยมคฺโค วิปริณาม ธมฺโม จ โหติ. โสวิปริณาม ทุกฺเขนปิ ปุคฺคลํ ภุสํ ปีเฬติเยวาติ โยชนา. ‘‘นา’’ติ น สิยา. สมนํ วูปสมนํ สนฺติ. สพฺพทุกฺขานํ สนฺตีติ วิคฺคโห. สพฺพํ วฏฺฏทุกฺขนฺติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ตสฺสา’’ติ อริยมคฺคสฺส. ‘‘ปวตฺตมานา จา’’ติ สนฺตติิติวเสน วตฺตมานา จ. ‘‘มหนฺตํ ปริฬาหทุกฺขํ’’ติ โสก ปริเทว ทุกฺข โทมนสฺสุปายาสานํ ปวตฺติวเสน มหนฺตํ ปริฬาห ทุกฺขํ. นิพฺพานสฺส อนุปฺปาท ธมฺมตฺตา อุปฺปาทตฺถาย ปจฺจโย นาม นตฺถิ. ตถา อปฺปวตฺติ ธมฺมตฺตา ปวตฺตตฺถาย. สมฺปาปุณิตพฺพตฺตา ปน สมฺปาปนตฺถาย ปจฺจโย อตฺถีติ อาห ‘‘สมฺปาปก ปจฺจยาภิสงฺขรณเลสํ’’ติ. สมฺปาปก ปจฺจยา นาม อริย มคฺโค จ ตสฺส ปจฺจยา จ.
ภวาภวสงฺขาตสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺสาติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ตเทวา’’ติ ตํ ทุกฺขกฺขนฺธํ เอว. อนุปุนปฺปุนํ ปทียเต อนุปฺปทานํ. ‘‘นิยฺยาตนฏฺโ’’ติ หนฺท คณฺหาติ สมฺปฏิจฺฉาปนฏฺโ. ‘‘ตโต’’ติ วฏฺฏทุกฺขโต. ‘‘มุจฺจนูปายสฺสา’’ติ ทานสีลนิกฺขมาทิกสฺส มุจฺจนูปายสฺส. ‘‘นิสฺสรณวิมุตฺติยา’’ติ นิสฺสรณ สงฺขาตาย วิมุตฺติยา. สงฺขาร ทุกฺขสฺส อภาวฏฺโ. ‘‘สมฺโมหสฺส ปหานวเสนา’’ติ เอเตน อิธ ทสฺสนํ นาม อิโต ปฏฺาย จตูสุ สจฺเจสุ อสมฺโมห ภาวปตฺติ เอว อาโลกปตฺติ เอว วุจฺจตีติ ทสฺเสติ ¶ . เตนาห ‘‘ปฏิวิชฺฌนฏฺโ’’ติ. ตณฺหาย ทาโส ตณฺหาทาโส. ตณฺหาทาสสฺส ภาโว ตณฺหาทาสพฺยํ. ปรวสโต วิมุตฺติวเสน อปราธีนตา ภุชิสฺสภาโว นาม. โลกิยมคฺคาหิ ตณฺหาทาสพฺยํ นาติวตฺตนฺติ. ตณฺหาวสํ ปูรยมานา ตณฺหาวิสยํ วิปากํ ชเนนฺติ. อยํ อริยมคฺโค เอว ตณฺหาย อนารมฺมณภาเว ิโต ตณฺหาทาสพฺยํ อติวตฺตติ. ตณฺหาวสํ ภินฺทมาโน ตณฺหาย อวิสยํ วิปากํ ชเนตีติ อธิปฺปาโย. ‘‘ทุกฺขมุตฺติยา’’ติ ทุกฺขโต มุจฺจนตฺถํ. ‘‘ทุกฺขวฑฺฒิยา’’ติ ทุกฺขวฑฺฒนตฺถาย. เสสเมตฺถ สุโพธํ. ‘‘ขยวิราค นิโรธ ภูโต’’ติ เอตฺถ กิเลส ธมฺมานํ วิรชฺชนํ วิคมนํ อนฺตรธานํ วิราโค. ‘‘อนตฺถ ปทานี’’ติ อหิตปทานิ. ภยาทีนวปทานิ. ‘‘ทฺวารฉกฺกอารมฺมณ ฉกฺกเภเทนา’’ติ ทฺวารฉกฺกํ ธมฺมารมฺมณํ โหติ. เอวํสติ, อารมฺมณ ฉกฺกนฺติ น วตฺตพฺพํ ธมฺมารมฺมณสฺส วิสุํ คหิตตฺตาติ. โน นวตฺตพฺพํ. กสฺมา, ทฺวารฉกฺกโต เสสานํ ธมฺมารมฺมณานํ อตฺถิตายาติ ทสฺเสตุํ ‘‘เอตฺถ จา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปรโต ‘‘เอตฺถปี’’ติอาทีสุ เอเสวนโยติ.
สพฺพสงฺคหานุทีปนา นิฏฺิตา.
สมุจฺจยสงฺคหทีปนิยาอนุทีปนา นิฏฺิตา.