📜
๘. ปจฺจยสงฺคหอนุทีปนา
๑๖๖. เยหิปกาเรหิ ¶ ยถา. เตสํ วิภาโค ตํ วิภาโค. อยฺจนิทฺเทโส เอกเสสนิทฺเทโส, วิจฺฉาโลปนิทฺเทโสวาติ ทสฺเสตุํ ‘‘เตสํ’’ติอาทิมาห. น สเมติ. คาถายํ ‘เยสํ’ติอาทินา ตีหิ-ย-สทฺเทหิ ทสฺสิตานํ ติณฺณํ อตฺถานํ-ต-สทฺทตฺถ สมฺภวโต. ต-สทฺทตฺถานฺจ อนุสนฺธิยํ ปริปุณฺณํ กตฺวา วตฺตพฺพโต. ‘‘สมุปฺปชฺชตี’’ติ สุฏฺุ ปริปุณฺณํ กตฺวา อุปฺปชฺชติ, ปาตุภวติ. ‘‘อวินา’’ติ อวินา หุตฺวา. ‘‘สหชาต ธมฺเมหี’’ติ อวิชฺชา ปจฺจยา สงฺขาราติอาทีสุ สงฺขาราทีนํ สหชาต ธมฺเมหิ สเหว อุปฺปชฺชนํ. ‘‘กลาปวเสนา’’ติ สุทฺธ ธมฺม กลาปวเสน. ‘‘สามฺ ลกฺขณํ’’ติ สาธารณ ลกฺขณํ. ‘‘อตฺโถ’’ติ อิทปฺปจฺจยตา สทฺทสฺส อตฺโถ. ‘‘อยมตฺโถ ปฏิกฺขิตฺโต’’ติ ‘สมุปฺปชฺชนํ สมุปฺปาโท’ติ อยํภาวสาธนตฺโถ ปฏิกฺขิตฺโต. ‘‘อยเมวา’’ติ อยํ ภาวสาธนตฺโถ เอว. ชรามรณํ สมฺภวตีติ โยชนา. ‘‘อุปฺปาทาวา ตถาคตานํ’’ติ สมฺมาสมฺพุทฺธานํ อุปฺปาเทวา สติ. ‘‘อนุปฺปาทาวา’’ติ อนุปฺปาเทวา สติ. ‘‘ิตาว สาธาตู’’ติ ชาติยา สติ ชรามรณสฺส ปวตฺติสภาโว โลเก ิโตเยว. กตมา ปน สาธาตูติ อาห ‘‘ธมฺมฏฺิตตา’’ติอาทึ. ตตฺถ ‘‘ธมฺมฏฺิตตา’’ติ เกนจิ อกตา สภาวฏฺิตตา. ‘‘ธมฺมนิยามตา’’ติ สภาวนิยามตา. ‘‘ตตฺร ตถตา’’ติ ตสฺมึ สามฺลกฺขเณ สงฺขต ธมฺมานํ ตถตา. สามฺ ลกฺขณเมว ปฏิจฺจสมุปฺปาโท นามาติ ทสฺเสติ, น อวิชฺชาทิโก ปจฺจย ธมฺโม. กสฺมา, เตหิ วจเนหิ ธมฺมนิยามตา มตฺตสฺส ทสฺสิตตฺตา. อวิชฺชาทีนํ ธมฺม สรูปานํ อทสฺสิตตฺตา. ‘‘ธมฺมนิยามตามตฺตํ’’ติ จ ยถา วุตฺตสามฺ ลกฺขณเมว วุจฺจติ. ยทิ ภาวสาธนํ อิจฺเฉยฺย, ภาวสาธนํ นาม กตฺตุรหิตํ ภเวยฺย. กตฺตุรหิเต จ สติ, กถํ ปฏิจฺจ กฺริยาย สมานกตฺตุกตา ลพฺภติ. อลทฺเธ จ สมานกตฺตุกตฺเต กถฺจ ปุพฺพกาเลตฺวา ¶ ปจฺจยสมฺภโวติ. อยํ ภาวสาธนํ อิจฺฉนฺตสฺส พฺยฺชนยุตฺติวิโรโธ. ตํ ปริหรนฺโต น เจตฺถาติอาทิมาห. คมฺภีโรจานนฺท ปฏิจฺจสมุปฺปาโท คมฺภีราว ภาโสจาติ ภควตา วุตฺตํ. ภาวสาธเน จ กเต อุปฺปชฺชน กฺริยามตฺตํ นาม วิสุํ เอโก ธมฺโม น โหตีติ กถํ ตํ คมฺภีรํ สิยาติ. อยํ ภาวสาธนํ อิจฺฉนฺตสฺส คมฺภีรวจน วิโรโธ. ตํ ปริหรนฺโต ‘‘สงฺขต ธมฺเมสุ จา’’ติอาทิมาห. อปิ จ สงฺขต ลกฺขณํ นาม สงฺขต ธมฺมโตปิ คมฺภีรํ โหติ. ตถาหิ จิตฺตํ นาม สงฺขต ธมฺโม. ตฺจ อตฺถิ เมจิตฺตํ นามาติ สตฺตานํ ปากฏํ โหติ. ตสฺส ปน อนิจฺจตา สงฺขาตํ สงฺขต ลกฺขณํ อปากฏํ โหติ สุฏฺุ สนฺตติยา ปฏิจฺฉนฺนํ. ตถา เวทนา นาม สุขาวา ทุกฺขาวา สงฺขต ธมฺโม. สา จ อตฺถิ เมเวทนาติ สตฺตานํ ปากฏา โหติ. ตสฺสา ปน อนิจฺจตา สงฺขาตํ สงฺขต ลกฺขณํ อปากฏํ โหติ สุฏฺุ สนฺตติยา ปฏิจฺฉนฺนํ. เอวํ เสเสสุ นามธมฺเมสุ จ รูปธมฺเมสุ จ. ยโต สตฺตสุ วิสุทฺธีสุ สงฺขต ธมฺม ววตฺถาน สงฺขาตํ ทิฏฺิวิสุทฺธิาณฺจ อวิชฺชาทิปจฺจย ปริคฺคห สงฺขาตํ กงฺขาวิตรณ วิสุทฺธิาณฺจ ปถมํ สมฺปาเทตฺวา ปจฺฉา ทสวิธานิ สงฺขต ลกฺขณานุปสฺสนา าณานิ สมฺปาเทตพฺพานิ โหนฺตีติ. ยถา จ อนิจฺจตา สงฺขาตํ สงฺขต ลกฺขณํ สงฺขต ธมฺมโต คมฺภีรํ โหติ. ตถา อิทมฺปิ ปฏิจฺจสมุปฺปาท สงฺขาตํ สงฺขต ลกฺขณํ สงฺขต ธมฺมโต คมฺภีรํ โหตีติ ทฏฺพฺพํ.
‘‘ตพฺภาวภาวีภาโว’’ติ เอตฺถ ภวติ สํวิชฺชตีติ ภาโว. โส โส อวิชฺชาทิโก ภาโว ตพฺภาโว. ตพฺภาเว ภวนฺติ สมฺภวนฺติ สีเลนาติ ตพฺภาวภาวิโน. สงฺขาราทโย. ‘‘ภาโว’’ติ อุปฺปตฺติการณํ. ตพฺภาวภาวีนํ ภาโวติ ตพฺภาวภาวิ ภาโวติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตสฺมึ ตสฺมึ’’ติอาทิมาห. อปิ จ ‘‘ภาโว’’ติ วิชฺชมานตา วุจฺจติ. ตสฺส ตสฺส ปจฺจย ธมฺมสฺส ภาโวติ ตพฺภาโว. ตพฺภาเว สติ ภวนฺติ สมฺภวนฺติ ธมฺมตายาติ ตพฺภาวภาวิโน. เตสํ ภาโวติปิ ยุชฺชติเยว. ‘‘เหตฺวาทิ ปจฺจย สตฺตินิยามํ’’ติ เหตุปจฺจโย, อารมฺมณ ปจฺจโย, ติอาทีสุ เหตุสทฺท อารมฺมณ สทฺทาทโย โลภาทีนํ รูปารมฺมณาทีนฺจ ¶ ธมฺมานํ ตํ ตํ ปจฺจย สตฺติวิเสสํ ทีเปนฺติ. เตสฺจ โส โส ปจฺจย สตฺติวิเสโส วิสุํ ธมฺมนิยาโม โหติ, เอวํ เหตฺวาทิ ปจฺจยสตฺตินิยามํ นิวตฺเตติ. ‘‘ตถา ตถา’’ติ มูลฏฺโคจรวิสยฏฺาทิเกน เตน เตน ปจฺจยากาเรน. โส หิ วุจฺจตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ปจฺจย ธมฺมุทฺธาร มตฺเต อตฺวา’’ติ ปจฺจย ธมฺมานํ นาม สฺาวเสน อุทฺธรณมตฺตํ อกตฺวาติ อธิปฺปาโย. ‘‘อาหจฺจา’’ติ อาหนิตฺวา ตํ ตํ ปจฺจยสตฺติ วิเสสํ ปาเปตฺวาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘มตฺถกํ ปาเปตฺวา’’ติ. ปจฺจยสตฺติ วิเสโส หิ เหตุผลทีปเน ตโต อุตฺตริ วตฺตพฺพ กิจฺจาภาวโต มตฺถกํ นาม โหตีติ. ‘‘อโนสกฺกมานา’’ติ อนิวตฺตมานา. ‘‘เอตายา’’ติ ปจฺจย สตฺติยา. ปปฺเจนฺเต อาจริเย.
เอตสฺมา การณา ผลํ เอตเทว ปฏิจฺจ อนาคตปกฺขโต ปจฺจุปฺปนฺนปกฺขํ อาคจฺฉติ ปาตุพฺภวตีติ ปจฺจโย. อุปฺปตฺติการณํ ปวตฺติการณฺจ. ตตฺถ อุปฺปตฺติการณํ ชนกปจฺจโย. ปวตฺติการณํ อุปตฺถมฺภก ปจฺจโย. ‘‘เอเตนา’’ติ เหตุนา. ‘‘กายวจี มโนกมฺมํ’’ติ เอตฺถ ‘‘กมฺมํ’’ติ กฺริยาวุจฺจติ, คมน าน นิสชฺชสยนาทิกํ กายิก กฺริยฺจ. อาลาป สลฺลาป กถน สชฺฌายน คายนาทิกํ วาจสิก กฺริยฺจ. วิชานน จินฺตน วีมํสนาทิกํ มานสิก กฺริยฺจ. ‘‘อภิสงฺขโรนฺตี’’ติ อภินิปฺผาเทนฺติ. ‘‘เอเตหี’’ติ เอเตหิ โลกิยกุสลา กุสล เจตนา ธมฺเมหิ. อปิ จ สงฺขโรนฺติ สตฺตา เอเตหีติ สงฺขารา. ‘‘สงฺขโรนฺตี’’ติ กึ สงฺขโรนฺติ. อตฺตภาวํ สงฺขโรนฺติ. ภวาภวํ สงฺขโรนฺติ. ทิฏฺธมฺมิกมฺปิ อตฺถํ วา อนตฺถํ วา สงฺขโรนฺติ. สมฺปรายิกมฺปิ อตฺถํ วา อนตฺถํ วา สงฺขโรนฺตีติอาทินา. จกฺขุมฺปิ สงฺขโรนฺติ, โสตํปิ สงฺขโรนฺตีติอาทินา. ทสฺสนมฺปิ สงฺขโรนฺติ, สวนมฺปิ สงฺขโรนฺตีติอาทินา จ วตฺตุํ วฏฺฏติเยว. ‘‘วิชานาตี’’ติ วิวิเธน ชานาติ. ภูเตนปิ ชานาติ, อภูเตนปิ ชานาติ. ‘‘นมตี’’ติ โคจร วิสยตฺถาย นมติ. ‘‘รุปฺปตี’’ติ กุปฺปติ, โขภติ. ‘‘ผุสตี’’ติ สํหนติ. ‘‘เวทยตี’’ติ วิทิตํ กโรติ. ตํ ตํ อารมฺมณํ ลคฺคนวเสน ภุสํ นหติ พนฺธติ, มฺุจิตุํ น เทตีติ ตณฺหาติปิ ยุชฺชติ. ‘‘อุปาทิยตี’’ติ ¶ ทฬฺหํ คณฺหาติ. เตนาห ‘‘อมฺุจคฺคาหํ คณฺหาตี’’ติ. ภวตีติ ภโว. อุปปตฺติภโว. ภวนฺติ เอเตนาติ ภโว. กมฺมภโว. ‘‘ชนนํ’’ติ อภินวสฺส ปาตุพฺภวนํ. ‘‘ชีรณํ’’ติ อภินวภาวโต หายนํ. ‘‘โสจนํ’’ติ จิตฺตสนฺตาปนํ. ‘‘ปริเทวนํ’’ติ โรทนํ. ‘‘ทุกฺขํ’’ติ กายรุชฺชนํ. ‘‘โทมนสฺสํ’’ติ จิตฺตรุชฺชนํ. ‘‘วิสีทนํ’’ติ พาฬฺหํ จิตฺตกิลมถภาเวน วิรูปํ หุตฺวา จิตฺตสฺสสีทนํ. ถามพลขิยฺยนํ. ยโต อสฺสาสปสฺสาสานํ วิรูปปฺปวตฺติวา ตงฺขเณ สพฺพโส อุปรุชฺฌนํ วา โหตีติ. ‘‘เกนจิ สุเขนา’’ติ ทุกฺขสจฺจโต วิมุตฺเตน เกนจิ สนฺติสุเขน.
‘‘ทุกฺขปฺปฏิจฺฉาทิกา’’ติ ภยฏฺเน ทุกฺขภูตานํ เตภูมิก ธมฺมานํ ทุกฺขภาวปฺปฏิจฺฉาทิกา. ‘‘สมุทยปฺปฏิจฺฉาทิกา’’ติ ตณฺหาย ทุกฺข สมุทย ภาวปฺปฏิจฺฉาทิกา. ‘‘นิโรธปฺปฏิจฺฉาทิกา’’ติ ตณฺหานิโรธสฺเสว ทุกฺขนิโรธ ภาวปฺปฏิจฺฉาทิกา. ‘‘มคฺคปฺปฏิจฺฉาทิกา’’ติ อฏฺงฺคีก มคฺคสฺเสว ทุกฺขนิโรธ มคฺคภาวปฺปฏิจฺฉาทิกา. ปุพฺพนฺโต วุจฺจติ อตีเตกาเล ภวปรมฺปรา. อปรนฺโต วุจฺจติ อนาคเต ภวปรมฺปรา. ปุพฺพนฺตา ปรนฺโต วุจฺจติ ตทุภยํ. ‘‘ปฏิจฺจสมุปฺปาทปฺปฏิจฺฉาทิกา’’ติ ปจฺจุปฺปนฺนภเว ขนฺธานํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทปฺปฏิจฺฉาทิกา. ‘‘สุตฺตนฺติกนเยนา’’ติ อภิธมฺเมปิ วิภงฺเค สุตฺตนฺต ภาชนียํ นาม อาคตํ. เตน สุตฺตนฺต ภาชนียนเยน. สาสวา กุสลา กุสล เจตนา สงฺขารา นามาติ โยชนา. ‘‘อภิธมฺมนเยนา’’ติ วิภงฺเค อภิธมฺมภาชนียนเยน. อฏฺกถาปาเ. อวิชฺชา กิริย ธมฺมานํ เนว อุปนิสฺสย ปจฺจยตฺตํ ลภติ. กุสลา กุสลมูลานิ กิริย ธมฺมานํ น อุปนิสฺสย ปจฺจยตฺตํ ลภนฺตีติ โยชนา. กิริย ธมฺมา อวิชฺชาโต จ กุสลา กุสล มูเลหิ จ อุปนิสฺสย ปจฺจยํ น ลภนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘ปจฺจยากาโร’’ติ ปฏิจฺจ สมุปฺปาโท. ‘‘อวิชฺชาวิราคา’’ติ อวิชฺชา วิคมนโต. เตสํปิกิริย ธมฺมานํ. วิฺาณาทีสุปิ กิริย วิฺาณํ, กิริย นามํ, กิริย มนายตนํ, กิริยผสฺโส, กิริย เวทนาติ อตฺถิตาย ‘‘เอสนโย วิฺาณาทีสุปี’’ติ วุตฺตํ. ‘‘กุสลา กุสล วิปากสมฺปยุตฺตํ’’ติ กุสล วิฺาณ สมฺปยุตฺตํ, อกุสลวิฺาณสมฺปยุตฺตํ ¶ , วิปาก วิฺาณ สมฺปยุตฺตํ. ‘‘ตํ อนุปปนฺนํ’’ติ ปวตฺติวิปากวิฺาณ สหคตสฺส ขนฺธตฺตยสฺส ตํ สหชาตสฺส จิตฺตชรูปสฺส จ อวสิฏฺตฺตา ตํ น สมฺปนฺนํติ อตฺโถ. ตตฺถ หิ วิฺาณปเท ปวตฺติวเสน ทฺวตฺตึสวิธํ วิปากจิตฺตํ วิฺาณํ นามาติ วุตฺตํ. เอวฺจสติ, นาม รูปปเทปิ ปวตฺติวเสน ตทุภยํ ปวตฺติวิฺาณสหคตํปิ คเหตพฺพเมวาติ. ‘‘ตํ ตํ วิฺาณ สมฺปยุตฺตา’’ติ ปฏิสนฺธิวิฺาณ ปวตฺติ วิฺาณสมฺปยุตฺตา. ‘‘ตณฺหุปาทานานิปากฏานี’’ติ ฉ ตณฺหา รูปตณฺหา สทฺทตณฺหาทิวเสน. จตฺตาริ อุปาทานานิ กามุปาทานาทิวเสนาติ เอวํ ปากฏานิเยว. ‘‘ลกฺขณมตฺตานี’’ติ สงฺขต ธมฺมานํ สงฺขตภาวสลฺลกฺขณ นิมิตฺตมตฺตานิ. ‘‘าติพฺยสนาทีหี’’ติ าติวินาสนาทีหิ. ‘‘าติพฺยสนาทินิมิตฺตํ’’ติ าติวินาสนาทิการณา.
‘‘ขนฺธทุกฺเข’’ติ ปจฺจกฺขนฺธสงฺขาเต ทุกฺขสจฺเจ. ขนฺธปฺปวตฺติ มคฺโค นาม ตณฺหาสมุทโย เอว. ขนฺธนิโรธ มคฺโค นาม อริยมคฺโค. ‘‘ขนฺธ สมุทยภูตา’’ติ ขนฺธปฺปวตฺติยา การณภูตา. ‘‘อวิชฺชานิ วุฏานํ’’ติ อวิชฺชายนีวาริตานํ ปิหิตานํ. ‘‘อปฺปหีน ภวาภิลาสานํ’’ติ มคฺเคน อปฺปหีน ภวปตฺถนานํ. อปฺปหีนภวตณฺหานนฺติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘วิพนฺโธ’’ติ อนฺตราโย. ‘‘อุทยภูตานํ’’ติ วฑฺฒิภูตานํ. ‘‘อวสฺสโย’’ติ นิสฺสโย. สุขเวทนา วิเสสโต ตณฺหาย ปจฺจโย โหตีติ วุตฺตํ ‘‘สุขเวทนาสทิโส’’ติอาทิ. โทมนสฺสานํ ปน ตสฺสา ปจฺจยภาโว ปรโต ปริเยฏฺิตณฺหายํ ปากโฏ ภวิสฺสติ. อุเปกฺขา เวทนาปิ ทุกฺเขน ปีฬิตสฺส สุขาเน ติฏฺติ. สุขํ วิย ตํ ปตฺเถตีติ. สมุทา จริตฺวา ปริจยิตฺวา. ‘‘ตณฺหา เอวา’’ติ กามตณฺหา เอว. ‘‘อตฺตนิ จา’’ติ ทิฏฺิยฺจาติ อธิปฺปาโย. ‘‘อตฺตโน อารมฺมเณสู’’ติ อตฺต ชีว โลกาทีสุ ทิฏฺิยาคหิตา รมฺมเณสุ. ‘‘อสฺสาทน ขมนโรจนภูตายา’’ติ สาธุวตายํ มมทสฺสนนฺติ เอวํ รชฺชน ตุสฺสน กนฺติภูตาย. ‘‘อุปาทานียสฺสา’’ติ ทฬฺหํ คเหตพฺพสฺส. ‘‘อตฺถสฺสา’’ติ อตฺตโน อตฺตาทิกสฺส อตฺถสฺส. คาถายํ ¶ .‘‘ภวํ โหตี’’ติ ภวนฺโต วฑฺฒนฺโต โหติ. ‘‘ปราภโว’’ติ วินาสนฺโต.
‘‘อทฺธานวนฺเต ธมฺเม’’ติ เตกาลิกสงฺขต ธมฺเม. อปตมาเน กตฺวาติ ปาเสโส. ยถา อุปาทานํติ ทิสฺวา อุปาทารูปํติ ปเท อาทาสทฺโท วิฺายติ. น อุปุพฺพ ปทสทฺโท. อิตรถา อุปาทานนฺติ นสิชฺฌติ. เอวํ อทฺธา, อทฺธาน, ปเทสุปิ. เตนาห ‘‘อทฺธานํ’’ติ นสิชฺฌตีติ. สํขิปนฺติ วีสตาการา เอเตสูติ สงฺเขปา. สงฺคหา. ‘‘วฏฺฏธมฺมา’’ติ สงฺขาราทโย ธมฺมา. ‘‘เอตฺถา’’ติ เอตาสุ อวิชฺชาตณฺหาสุ. กถํ ติฏฺนฺตีติ อาห ‘‘ตทายตฺตวุตฺติตายา’’ติ. ‘‘ปติฏฺา’’ติ สุปฺปติฏฺิตฏฺานานิ. ‘‘ปภวา’’ติ วฏฺฏธมฺมปรมฺปรปฺปวตฺติยา มูล ปธาน การณานิ. ตตฺถ เหตุ จ เทเสตพฺโพ โหติ. อิตรถา อิสฺสรนิมฺมานทิฏฺิ อเหตุก ทิฏฺีนํ โอกาโส สิยาติ. ผลฺจ เทเสตพฺพํ โหติ. อิตรถา อุจฺเฉททิฏฺิยา โอกาโส สิยาติ. ‘‘อทฺธุโน’’ติ ทีฆกาลสฺส. ‘‘นิวตฺเตตี’’ติ สมุจฺฉินฺทติ. ‘‘อเหตู อปจฺจยา สตฺตา ปวตฺตนฺตี’’ติ ปุพฺพเหตุรหิตา ปุพฺพปจฺจยรหิตา หุตฺวา อิเมสตฺตา ปวตฺตนฺติ. ‘‘อวิชฺชาทีหิ สาเธตพฺโพ น โหตี’’ติ ภวปรมฺปราสุ นิจฺโจ หุตฺวา สนฺธาวนฺตสฺส อวิชฺชาทีหิ กตฺตพฺพ กิจฺจํ น โหตีติ อธิปฺปาโย. ‘‘เกสฺจิ น สมฺภวนฺติเยวา’’ติ อนาคามีนํ อรหนฺตานฺจ น สมฺภวนฺติเยว. มหาอาทีนวราสิทสฺสนตฺถํ โสกาทิวจนํ โหตีติ โยชนา. ‘‘เตสํ’’ติ อฺเสํ ปจฺจยานํ. ‘‘ลทฺธา’’ติ อตฺถโต ลทฺธา. ‘‘ตทวินาภาวิภาวลกฺขเณนา’’ติ เอตฺถ เตน เตน ปจฺจเยน อวินาภาวีนํ ภาโว, โส เอว ลกฺขณนฺติ วิคฺคโห. ‘‘ปรตฺถ ปี’’ติ อิโต ปเรสุ ตณฺหุปาทาน ภวคฺคหเณนาติอาทีสุปิ. ‘‘อาทิโต’’ติอาทิมฺหิ. วิภาวนิปาเ. ‘‘กิเลสภาวสามฺโต’’ติ กิเลสภาเวน สมานตฺตา สทิสตฺตา. ‘‘ลกฺขิตพฺพ ธมฺเมหี’’ติ วิฺาณาทีหิ. ‘‘ปถเมน ทุตียสฺสา’’ติ ปถมสงฺเขเปน สทฺธึ ทุตียสฺส สงฺเขปสฺส เอกา สนฺธีติอาทินา โยเชตพฺพํ. ‘‘โลกสฺส ปากฏ โวหาเรนา’’ติ ¶ กิเลสธมฺมา กมฺมธมฺมา จ โลเก เหตูติ ปากฏา โหนฺติ. วิปากธมฺมา ปน ผลนฺติ ปากฏา. เอวํ โลเก ปากฏ โวหาเรน. อิธ ปน กิเลสธมฺมกมฺมธมฺมา วา โหนฺตุ, วิปากธมฺมา วา, โย โย ปจฺจยปกฺเข ิโต, โส โส เหตูติปิ วตฺตพฺโพเยว. โย โย ปจฺจยุปฺปนฺน ปกฺเข ิโต, โส โส ผลนฺติทสฺเสนฺโต ‘‘เหตุผลสทฺทาปนา’’ติอาทิมาห. อฏฺกถา ปาเ. ‘‘สชฺชนฺตสฺสา’’ติ สํวิทหนฺตสฺส. ‘‘อายูหน สงฺขารา นามา’’ติอาทิโต ปฏฺาย สมุจฺจยนสงฺขารา นาม. ‘‘ทกฺขิณํ’’ติ ทานวตฺถุํ. ทกฺขิโณทกํ วา. ‘‘เอตฺถ จา’’ติ อิมสฺมึ ตตียปฺจเก จ. ‘‘วุตฺตนเยเน วา’’ติ ปถมปฺจเก วุตฺตนเยเนว. วิภาวนิปาเ. ‘‘อายตึ ปฏิสนฺธิยา ปจฺจยเจตนา ภโว นามา’’ติ อิทํ อุทฺเทสปาฬิยํ ยถาทิฏฺปาวเสเนว วุตฺตํ. ตถา ปุริมกมฺมภวสฺมึ อิธ ปฏิสนฺธิยา ปจฺจยเจตนา สงฺขารา นามาติ อิทฺจ. อิธ ปน ปุพฺเพเยว ทฺวีสุเหตุปฺจเกสุ ทฺวินฺนํ สงฺขาร กมฺมภวานํ สงฺคหิตตฺตา อฏฺกถายํ วุตฺตนเยเนว ทฺวินฺนํ สงฺขาร กมฺมภวานํ วิเสโส ยุตฺโต. เตนาห ‘‘ตํ อิธ น ยุชฺชตี’’ติ. ‘‘สงฺคหิตตฺตา’’ติ ปุพฺเพเยว สงฺคหิตตฺตา. ‘‘เอตํ’’ติ วิภาวนิ วจนํ. ‘‘ธมฺมวิภาครกฺขณตฺถํ’’ติ วิภงฺเค ภวปเท อุปปตฺติภวสฺสปิ วิภตฺตตฺตา เอวํ วิภตฺตสฺส ธมฺมวิภาคสฺส รกฺขณตฺถํ. ผลปฺจกโต อนฺํปิ อุปปตฺติภวํ อฺํวิย กตฺวา ‘อุปปตฺติภวสงฺขาโต ภเวกเทโส’ติ วุตฺตํ. โส จ อุปปตฺติภโว นาม ปจฺจุปฺปนฺนเหตูหิ นิพฺพตฺตตฺตา จตุตฺเถ ผลปฺจเก เอว สงฺคหิโต. ตสฺมา เตน อุปปตฺติภวสทฺเทน จตุตฺถ ปฺจกเมว คหิตนฺติ ยุตฺตํ. อิตรถา ทฺเว ผลปฺจกานิ วิปากวฏฺฏนฺติ วุตฺเต สิทฺธเมว โหติ. เอวฺจสติ อวเสสา จาติ เอตฺถ ทุตียผลปฺจกเมว อวสิฏฺํ โหตีติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘อวิชฺชา นาม โมโห, โส จ อกุสล มูล’’นฺติอาทิ อภิธมฺเม มูลยมเก มูลนาเมน อาคตตฺตา วุตฺตํ. ทฺวีสุปนภว จกฺเกสุ ปุริมจกฺเก อวิชฺชา อาทิ โหติ. ปจฺฉิมจกฺเก ตณฺหา. อาทิ จ นาม มูลนฺติ จ สีสนฺติ จ วตฺตุํ วฏฺฏตีติ ปริยายํ ทสฺเสตุํ ‘‘อถวา’’ติอาทิ วุตฺตํ ¶ .‘‘อาคมนสมฺภาเรสู’’ติ อตีตภวโต อิมํภวํ อาคมนสมฺภาเรสุ. ตณฺหา เอว สีสํ กตฺวา วุตฺตาติ โยชนา. ‘‘เตสํ อนฺตเร’’ติ อวิชฺชาสงฺขารานํ อนฺตเร. ตณฺหาย โอกาโส นตฺถีติ กสฺมา วุตฺตํ. นนุ อวิชฺชาย สติ, ตณฺหา นาม เอกนฺเตน สมฺภวติเยว. สา จ สงฺขารานํ พลวปจฺจโย โหติ. ตสฺมา สา อวิชฺชา ปจฺจยา ตณฺหา, ตณฺหา ปจฺจยา สงฺขาราติ วตฺตพฺพา สิยาติ. ตํ ปริหริตุํ ‘‘อยฺหี’’ติอาทิวุตฺตํ. ปฏิโลมปฏิจฺจสมุปฺปาโท นาม อวิชฺชานิโรธา สงฺขารนิโรโธติ เอวํ ปวตฺโต ปฏิจฺจสมุปฺปาโท. ‘‘ชรามรณมุจฺฉยาติอาทิ นวตฺตพฺพํ สิยา’’ติ ชรามรณมุจฺฉายาติอาทิวจนํ อนุโลมปฏิจฺจสมุปฺปาท สมฺพนฺธ วจนนฺติ กตฺวา วุตฺตํ. ‘‘อุปริวฏฺฏมูล ธมฺมปฺปฏิปาทกานํ’’ติ อุปริ ทุติยานาคตภาวาทีสุ อวิชฺชาตณฺหา สงฺขาตานํ วฏฺฏมูลธมฺมานํ นิโยชกานํ. ‘‘เต ปี’’ติ โสกาทโย ทุกฺขธมฺมาปิ. ‘‘อาสวสมฺภูตา’’ติ อาสเวหิ สมฺภูตา สฺชาตา. ‘‘เตสํ’’ติ โสกาทีนํ ทุกฺขธมฺมานํ. ‘‘ชรามรณงฺเค คหณํ’’ติ ทฺวาทสสุ องฺเคสุ ชรามรณงฺเค สงฺคหณํ. ‘‘ปวฑฺฒตี’’ติ ภุสํ วฑฺฒติ. ‘‘อาสวสมุทยา’’ติ อาสวสมุปฺปาทา. ‘‘อวิชฺชาสมุทโย’’ติ อวิชฺชาสมุปฺปาโท. ‘‘อวิชฺชาปจฺจยาสงฺขาราตี’’ติ เอตฺถ อิติสทฺโท อาทิอตฺโถ. ‘‘นานาพฺยสน ผุฏฺสฺสา’’ติ าติพฺยสนาทีหิ นานาพฺยสเนหิ ผุฏฺสฺส, วิหึสิตสฺส. ‘‘ยโต’’ติ ยํ การณา, อวิชฺชาตณฺหานํ วฑฺฒนการณา. ‘‘วฏฺฏํ’’ติ สงฺขาราทิกํ ภวจกฺกํ. สํมุยฺหนํ สมฺโมโห. ปริเยสนํ ปริเยฏฺิ. วิปจฺจตีติ วิปาโก. วิปาโก เอว เวปกฺกํ. สมฺโมโห เวปกฺกํ อสฺสาติ สมฺโมหเวปกฺกํ. ตถา ปริเยฏฺิเว ปกฺกฺจาติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ ‘‘ตทุภยํ’’ติอาทินา. ตทุภยํ วิปากํ เอตสฺสาติ กตฺวา ทุกฺขํ สมฺโมหเวปกฺกนฺติ จ ปริเยฏฺิเวปกฺกนฺติ จ วุจฺจตีติ โยชนา. อปิ จ, สมฺโมหํ วิปาเจติ สฺชเนตีติ สมฺโมห เวปกฺกํ. เอวํ ปริเยฏฺิเวปกฺกนฺติปิ ยุชฺชติ. ‘‘กิจฺฉํ’’ติ กสิรํ ทุกฺขํ อาปนฺโน. ‘‘มิยฺยตี’’ติ มรติ. ‘‘จ วตี’’ติ สงฺกมติ. ‘‘อุปปชฺชตี’’ติ ภวนฺตรํ อุเปติ. ‘‘อถ จ ปนา’’ติ เอวํภูตสฺส ¶ สโต. ‘‘ชรามรณสฺสา’’ติ ชรามรณ สงฺขาตสฺส อิมสฺส ทุกฺขสฺสาติ สมฺพนฺโธ. ‘‘นิสฺสรณํ’’ติ นิคฺคมนํ. ‘‘นปฺปชานาตี’’ติ อยํ โลโก นปฺปชานาติ. ‘‘อาคติยา’’ติ อิมสฺมึ ภเว ปฏิสนฺธิวิฺาณุปฺปตฺติวเสน อาคมเนน. ‘‘คติยา จา’’ติ อนาคตภเว ชาติปาตุพฺภาววเสน คมเนน จ. อาทิสงฺขาโต ปุพฺพปริยนฺโต ยสฺส อตฺถีติอาทิมนฺตํ. น อาทิมนฺตํ อนาทิมนฺตํ. ‘‘วฏฺฏปฺปวตฺตสฺสา’’ติ ติวิธวฏฺฏสงฺขาตสฺส ปพนฺธปฺปวตฺตสฺส. ชาติยา วุตฺตาย สพฺพานิ ตสฺสา นิทานานิ วุตฺตานิ เอว โหนฺตีติ กตฺวา ‘‘ชาติยา เอว วา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘อิจฺเจวํ’’ติ อิติ เอวํ. ตตฺถ อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาราติอาทินา นเยน ปฏฺเปสิ มหามุนีติ สมฺพนฺโธ. อาจริย วาเทปน ‘‘อิจฺเจวํ’’ติ ชรามรณ มุจฺฉายาติอาทินานเยน. อาพนฺธํ อนาทิกนฺติ สมฺพนฺโธ. อิธปิ ตเมว สมฺพนฺธํ คเหตฺวา โยเชติ ‘‘อิจฺเจวํ อาพนฺธนฺติ. ล. ปุนปฺปุนํ อาพนฺธํ’’ติ. อวิชฺชา อาทิมฺหิ วุตฺตา. ตสฺมา สา สยํ อเหตุ อปจฺจยา หุตฺวา วฏฺฏสฺส อาทิปจฺจยภูตา โหตีติ โจทนา. ตํ ปริหรติ ‘‘วฏฺฏสฺสา’’ติอาทินา. ‘‘วฏฺฏกถาย สีสภูตตฺตา’’ติ วฏฺฏสฺส อาทินาม นตฺถิ. ตสฺส ปน ปวตฺติ นิวตฺติโย อตฺถิ. ชานนฺเตหิ ตาสํ ปกาสนตฺถาย ปฏิจฺจสมุปฺปาทกถานาม วฏฺฏกถา เอกนฺเตน กเถตพฺพา โหติ. กเถนฺเตหิ จ วฏฺฏธมฺมานํ มชฺเฌ กตมสฺส ธมฺมสฺส กิจฺจํ วฏฺฏปฺปวตฺตตฺถาย ปธานตรํ โหตีติ ชานิตพฺพํ โหติ. ตทา กิจฺจวเสน ปธานตรํ เอกํ ธมฺมํ มูลํ สีสํ กตฺวา วฏฺฏกถา กเถตพฺพาติ. อิทํ วฏฺฏกถาย สีสํ นาม. ตตฺถ อวิชฺชา นาม โมโห. โส จ มุยฺหนกิริยา. อนฺธภาวกรณฺจสฺส กิจฺจํ. น จ ปฺา จกฺขุสฺส อนฺธภาวกรณ สทิสํ อฺํ วฏฺฏสฺส ปวตฺตตฺถาย ปธานกิจฺจํ นาม อตฺถิ. ตสฺมา อวิชฺชา เอเวตฺถ สพฺพปฺปธาน กิจฺจตฺตา วฏฺฏกถาย สีสภูตา โหติ. เอวํ วฏฺฏกถาย สีสภูตตฺตา สา อาทิมฺหิ วุตฺตาติ. ‘‘อนาทิกภาโว เอว ทสฺสิโต’’ติ อนาทิกภาโว ทสฺสิโต เอว. โน น ทสฺสิโตติ อตฺโถ. อิติ เอตํ อตฺถชาตํ ปจฺจกฺขโต สิทฺธํ. ‘‘อิธา’’ติ อิมสฺมึภเว. ‘‘ตสฺสา’’ติ อตีต ภวปริยาปนฺนาย ¶ อวิชฺชาย. ‘‘อฺาย อวิชฺชาย เอวา’’ติ อตีตภวโตปิ ปุริมภเว สิทฺธาย อฺาย อวิชฺชาย เอว. ‘‘ตสฺสาปี’’ติ ปุริมตรภเว อวิชฺชายปิ. ‘‘อตฺตภาโว’’ติ ปุริมตโร อตฺตภาโว. ‘‘ปธาน ปจฺจยภูตตฺตา’’ติ ปุพฺเพ วุตฺตนเยน อนฺธภาวกรณ กิจฺจตฺตา วฏฺฏปฺปวตฺติยา ปธาน ปจฺจยภูตา โหติ. เอวํ ปธานปจฺจยภูตตฺตา. ‘‘ตสฺส ตสฺสาติ นิฏฺานเมว น ปฺาเยยฺยา’’ติ ตสฺส ปจฺจยสฺส ปจฺจโย วตฺตพฺโพ. ตสฺสปิ ปจฺจยสฺส ปจฺจโย วตฺตพฺโพติ เอวํ วสฺสสตมฺปิ วสฺสสหสฺสํปิ นิฏฺานเมว น ปฺาเยยฺย. ‘‘วุตฺโตเยวา’’ติ อวิชฺชาย ปจฺจโย วุตฺโตเยว. ‘‘ปฺจนีวรณาติสฺสวจนียํ’’ติ ปฺจนีวรณ ธมฺมา อวิชฺชาย อาหาโรติ วจนียํ ภเวยฺย. ตตฺถ ‘‘อาหาโร’’ติ พลวปจฺจโย วุจฺจตีติ.
ปฏิจฺจสมุปฺปาทนยานุทีปนา นิฏฺิตา.
๑๖๗. ปฏฺานนเย. ‘‘เหตุ จ โส ปจฺจโย จา’’ติ เอตฺถ โลโภ เหตุชาติกตฺตา เหตุ จ โหติ. อารมฺมณานนฺตราทิ ปจฺจเยน อฺธมฺมสฺส ปจฺจโย จ โหตีติ อตฺถสฺส สมฺภวโต ‘‘เหตุ หุตฺวา ปจฺจโย’’ติ วณฺเณติ. เอวํ วณฺณิเตปิ ‘‘เหตุ หุตฺวา ปจฺจโย’’ติ เหตุ โหนฺโต ปจฺจโยติ อตฺเถ สติ, โส เยวตฺโถ สมฺภวตีติ ‘‘ปุน เหตุภาเวน ปจฺจโย’’ติ วณฺเณติ. เอตฺถ สิยา, เหตุ จ โส ปจฺจโย จาติ เอตฺถ ปท ทฺวยํ เอกธมฺมาธิกรณตฺตา ตุลฺยาธิกรณํ โหติ. เหตุภาเวน ปจฺจโยติ เอตฺถ ปน ปททฺวยํ ตุลฺยาธิกรณํ น โหติ. ปุริม ปทฺหิ ธมฺม ภาวปฺปธานํ, ปจฺฉิมํ ธมฺมปฺปธานนฺติ. เอวํ สนฺเต ตุลฺยาธิกรณํ วากฺยํ ภินฺนาธิกรณํ กตฺวา วณฺเณตีติ น ยุตฺตเมตนฺติ. โน น ยุตฺตํ. มุขฺโยปจารมตฺเตน นานตฺถตฺตา. ปจฺฉิมวากฺยํหิ มุขฺยวจนํ. ปุริมวากฺยํ อุปจาร วจนํ. อุปจารวจเน จ อุปจารตฺโถ ยุชฺชติ. มุขฺยวจเน มุขฺยตฺโถติ. ‘‘เหฏฺาวุตฺตเมวา’’ติ ปกิณฺณกสงฺคเห วุตฺตเมว. หิโนนฺติ เอตฺถาติ เหตุ. หิโนนฺติ เอเตนาติ เหตุ. ¶ ตตฺถ ‘‘หิโนนฺตี’’ติ สุฏฺุปติฏฺหนฺติ. เก ปติฏฺหนฺตีติ อาห ‘‘สหชาต ธมฺมา’’ติ. กถฺจ สุฏฺุปติฏฺหนฺตีติ อาห ‘‘วุทฺธิ วิรุฬฺหิ เวปุลฺลปตฺตวเสนา’’ติ. กสฺมา เต สุฏฺุ ปติฏฺหนฺตีติ. ปติฏฺิตฏฺานสฺส ปติฏฺิตการณสฺส วา ถามพลสมฺปนฺนตฺตาติ ทสฺเสตุํ ‘‘อารมฺมเณ ทฬฺหนิปาตินา ถามพลสมฺปนฺเนนา’’ติ วุตฺตํ. เหตุวิเสสนฺเจตํ. อารมฺมเณ ทฬฺหนิปาติมฺหิ ถามพลสมฺปนฺเน เอตฺถ ธมฺเมติปิ โยเชตพฺพํ. อุปการโกติ จ อุปลทฺธิเยวาติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ยาทิเสนสภาเวนา’’ติ เหตุภาวาทิสภาเวน. ‘‘อุปลทฺธิเยวา’’ติ กสฺมา วุตฺตํ. นนุ อุปการก สทฺโท กตฺตารํ วา กาเรตารํ วา วทตีติ. โวหารมตฺเตน วทติ. ธมฺมโต ปน กตฺตา วา กาเรตา วา นตฺถีติ ทสฺเสตุํ ‘‘น หิ สภาว ธมฺเมสู’’ติอาทิมาห. ยทิ ธมฺมโต กตฺตาวา กาเรตาวา นตฺถิ. กสฺมา อุปการโกติ วุจฺจตีติ อาห ‘‘ตถา อุปลทฺธิยํ ปนา’’ติอาทึ.
อารมฺมณปจฺจเย. ‘‘อชฺโฌลมฺพมานา’’ติ อารมฺมณ กรณวเสน อธิโอลมฺพมานา. ‘‘อารมฺมณภาเวนา’’ติ โคจรวิสยภาเวน.
อธิปติปจฺจเย. ‘‘ครุกตา’’ติ อสฺสาทนาภินนฺทนาทิวเสน วา สทฺธาปสาทาทิวเสน วา ครุกตา. ‘‘สามิโน วิย ทาเส’’ติ สามิโน อตฺตโนทาเส อตฺตโนวเส วตฺตยมานา วิย. สหชาตาธิปติ ปน เหฏฺา สมุจฺจย สงฺคเห วุตฺโตติ อิธ น วุตฺโต.
อนนฺตรปจฺจยทฺวเย. ‘‘อนฺตรํ’’ติ ฉิทฺทํ วิวรํ. ‘‘สนฺตานํ’’ติ จิตฺตสนฺตานํ. ‘‘สนฺตานานุพนฺธวเสนา’’ติ จิตฺตสนฺตานํ ปุนปฺปุนํ พนฺธนวเสน. อุปฺปาทนนฺติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ธมฺมนฺตรสฺสา’’ติ นามกฺขนฺธ ธมฺมนฺตรสฺส. ‘‘อนนฺตร ปจฺจยตา’’ติ อนนฺตรปจฺจย กิจฺจนฺติ วุตฺตํ โหติ. ยํ กิฺจิ ธมฺมนฺตรํ. ‘‘ปุริมปจฺฉิมภาคปฺปวตฺตานํ’’ติ นิโรธสฺส อสฺีภวสฺส จ ปุริมภาเค จ ปจฺฉิมภาเค จ ปวตฺตานํ. ‘‘จิตฺตุปฺปาทานํ ปี’’ติ นิโรธสฺส ปุพฺพภาเค เนวสฺานาสฺายตน กุสล กฺริย จิตฺตุปฺปาทานํ. ปจฺฉาภาเค อนาคามิผล อรหตฺตผลจิตฺตุปฺปาทานํ ¶ . อสฺีภวสฺส ปุพฺพภาเค กามภเว จุติ จิตฺตุปฺปาทานํ. ปจฺฉาภาเค กามภเว เอว ปฏิสนฺธิ จิตฺตุปฺปาทานํ. เตสุ ปน กถํ อนนฺตรํ นาม สิยา. ทฺวินฺนํ ทฺวินฺนํ ปุริมภาค ปจฺฉิม ภาคานํ มชฺเฌ อจิตฺตกสฺส กาลสฺส อจิตฺตกสฺส รูปสนฺตานสฺส จ อนฺตริกตฺตาติ โจทนา. ตํ ปริหริตุํ ‘‘น หิ อภาวภูโต’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘เตสํ’’ติ ทฺวินฺนํ ทฺวินฺนํ จิตฺตุปฺปาทานํ. รูปธมฺโม อนฺตรํ น จ กโรติ นาม. อรูปธมฺมานํ อนนฺตรตา นามาติอาทินา โยชนา โหติ. ‘‘ตถาปวตฺตน สมตฺถตา’’ติ เอกีภูตานํ วิย อตฺตโน อนนฺตเร ธมฺมนฺตรํ อุปฺปาทเน สมตฺถตา.
สหชาตปจฺจเย. ‘‘เย ปน ธมฺมา’’ติ ปจฺจยุปฺปนฺน ธมฺมา. ‘‘อตฺตนี’’ติ ปจฺจย ธมฺโม วุจฺจติ.
‘‘อฺมฺํ อุปตฺถมฺภนฺตํ ติทณฺฑํ วิยา’’ติ ภูมิยํ อฺมฺํ นิสฺสาย อุสฺสิตา ตโยทณฺฑา อฺมฺํ อุปตฺถมฺภนฺตา วิย. ‘‘ปุริเมนา’’ติ ปุริเมน สหชาต ปจฺจเยน. ‘‘อิตรีตโร ปตฺถมฺภนํ’’ติ อฺมฺโ ปตฺถมฺภนํ.
‘‘สูโท’’ติ ภตฺตการโก. ‘‘อุกฺขลี’’ติ ภตฺตปจนกุมฺภี. ‘‘วุฏฺิธารา’’ติ เมฆวุฏฺิธารา. ‘‘อุปนิสฺสโย’’ติ ภตฺตุปฺปตฺติยา อุปนิสฺสโย. ‘‘ตาสุ อสตี’’ติ สาลิกฺเขตฺต วุฏฺิธาราสุ อสติ. ‘‘พลวตรฏฺเนา’’ติ พลวตรนิสฺสยฏฺเน. ‘‘ปกตูปนิสฺสโย’’ติ เอตฺถ ‘‘ปกโต’’ติ ภุสํ กโต. เตนาห ‘‘สุฏฺุกโต’’ติ. กรณฺจ อตฺตโน สนฺตาเน สุฏฺุอุปฺปาทนฺจ สุฏฺุอุปเสวนฺจ ทฏฺพฺพนฺติ สมฺพนฺโธ. ‘‘วุตฺตปฺปกาเรนา’’ติ ‘ยถา กเต สตี’ติอาทินา วุตฺตปฺปกาเรน.
‘‘นิสฺสยารมฺมณ ธมฺมา เอวา’’ติ นิสฺสย ปจฺจย ธมฺม อารมฺมณ ปจฺจย ธมฺมา เอว. ‘‘ปุเรชาตตามตฺตวิสิฏฺา’’ติ เอตฺถ มตฺตสทฺเทน นิสฺสยารมฺมณสตฺติโต วิสุํ ปุเรชาตสตฺติ นาม นตฺถีติ ทสฺเสติ. วิสุํ ปุเรชาตสตฺติ นาม อตฺถีติปิ วทนฺติ. ตํ วาทํ ทสฺเสตุํ ‘‘อาจริยานนฺทตฺเถเรนา’’ติอาทิมาห. เอตฺถ ปฺจวตฺถูนิ จ ปฺจารมฺมณานิ จ ปุเรชาตตฺตา เอว สุฏฺุพลวตาย ปฺจวิฺาณานํ วตฺถุ กิจฺจ อารมฺมณ กิจฺจานิ สาเธนฺติ. ตถา หทยวตฺถุ จ มโนธาตุ ¶ มโนวิฺาณธาตู นนฺติ. อยํ วิสุํ ปุเรชาตสตฺติ วิเสโสติ วเทยฺย. สจฺจํ. สุทฺธมโน ทฺวาเรปน อิธ ตฺวา นิรเยสุ เอวรูปานิ นิรยคฺคิรูปานิ อตฺถิ. อิทานิ เทเวสุ จ เอวรูปานิ ทิพฺพรูปานิ อตฺถีติ จินฺตยนฺตานมฺปิ, เตสุ ปุเร เอวรูปานิ อุปฺปชฺชึสูติ วา, เตสุ อนาคเต เอวรูปานิ อุปฺปชฺชิสฺสนฺตีติ วา จินฺตยนฺตานํปิตานิ รูปานิ นิพฺพิเสสานิ หุตฺวา มโนวิฺาณานํ อารมฺมณ ปจฺจยตฺตํ คจฺฉนฺติ. ตตฺถ ปุเร ชาตานิ หุตฺวา ตทา วิชฺชมานานิ ปจฺจุปฺปนฺนรูปานิ อารมฺมณ ปุเรชาตปจฺจโย. อิตรานิ อารมฺมณ ปจฺจโย เอว. น เจตฺถ ปุเรชาตานํ ปจฺจุปฺปนฺนรูปานํ ปุเรชาตตฺเตน วิเสโส อตฺถิ. น จ ตานิ ปุเรชาตปจฺจโย น โหนฺติ. ยทิ วิสุํ ปุเรชาตสตฺติวิเสโส ปุเรชาตปจฺจโยติ วเทยฺย. ตานิ ปุเรชาตปจฺจโย นาม น ภเวยฺยุํ. กสฺมา, ตาทิสสฺส วิเสสสฺส นตฺถิตาย. น จ นภวนฺติ. กสฺมา, ปุเรชาตมตฺตวิเสสสฺส อตฺถิตาย. เอตฺถ วเทยฺยุํ, ปฺจทฺวาเรสุ ปน ปุพฺเพ วุตฺตนเยน วิสุํ ปุเรชาตสตฺติวิเสโส ทิสฺสตีติ. กิฺจาปิทิสฺสติ. โส ปน พหุวิธานํ นิสฺสย ปจฺจย อารมฺมณปจฺจยานํ มชฺเฌ นิสฺสย สตฺติวิเสโส เอว, อารมฺมณ สตฺติวิเสโส เอว จาติ. อปิ จ วิสุํ ปุเรชาต สตฺติวิเสโส นาม นตฺถีติ อิทํ ยถาวุตฺเต สุทฺธมโนทฺวาเร ตพฺพิเสสาภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ. วิสุํ ปุเรชาต สตฺติวิเสโส นาม อตฺถีติ อิทํ ปฺจทฺวาเรสุ ตพฺพิเสสสฺส อตฺถิภาวํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ. ยํ รุจฺจติ, ตํ คเหตพฺพํ.
ปจฺฉาชาตปจฺจเย. ‘‘รุกฺขโปตกานํ วิยา’’ติ ปจฺฉา อาสิฺจิยมานํ อุทกํ รุกฺขโปตกานํ วุทฺธวิรุฬฺหภาวํ ปาเปตฺวา อุปตฺถมฺภนวเสน อุปการโก วิยาติ โยชนา. อาหารํ อาสึ สตีติ อาหาราสา. ชิฆจฺฉา, ปิปาสา, ตณฺหา. ตาย สมฺปยุตฺตา เจตนาติ วิคฺคโห. สา ปน อาหาราสา เจตนา อุปตฺถมฺภติ เยวาติ สมฺพนฺโธ. ‘‘อยมตฺโถ’’ติ ‘สุปากเฏนา’ติอาทินา วุตฺโต อยมตฺโถ. สพฺพาเจสาวิจารณา คิชฺโฌปมาย อุปมามตฺตภาวํ นีวาเรตา โหตีติ.
อาเสวนฺติ ¶ ตํ ปจฺจย ธมฺมํ ปจฺจยุปฺปนฺนา ธมฺมาติ อาเสวนํ. เอเตน ภุโส ปจฺจยุปฺปนฺน ธมฺเมหิ อาเสวิตพฺพตฺตา อาเสวนนฺติ วุจฺจตีติ ทสฺเสตีติ. ‘‘ตํ’’ติ ตํ ปุริมํ ปุริมํ ปจฺจย ธมฺมํ. ‘‘ภชนฺตี’’ติ อุเปนฺติ. เก ภชนฺตีติ อาห ‘‘อปราปรํ อุปฺปชฺชมานา ธมฺมา’’ติ. ‘‘ธมฺมา’’ติ จ อนนฺตรุปฺปนฺนา จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา. กถฺจ ตํ เตภชนฺตีติ อาห ‘‘สุฏฺุเสวมานา วิย ภชมานา วิย ปวตฺตนฺตี’’ติ. วิย สทฺเทน โลเก กิฺจิชนํ เกจิชนา เกนจิ อตฺเถน สุฏฺุเสวนฺตา วิยาติ ทสฺเสติ. กถํ สุฏฺุเสวิยมานา วิย โหนฺตีติ อาห ‘‘ตสฺส ปุริมสฺสา’’ติอาทึ. ปุริมสฺส อนนฺตรสฺส จิตฺตุปฺปาทสฺสาติ อตฺโถ. ‘‘สพฺพปริปูรํ อาการํ’’ติ ชวเวคสหิเตหิ วิชานน ผุสนาทีหิ สาวชฺชาน วชฺชาทีหิ จ สพฺเพหิ ชวนคุเณหิ ปริปูรํ อาการํ. ‘‘อาเสเวตี’’ติ มํ สุฏฺุ เสวถาติ นิโยเชนฺตํ วิย โหติ. เตนาห ‘‘อตฺตโน วาสํ’’ติอาทึ. ตตฺถ ‘‘วาสํ’’ติ วาสนํ. ‘‘สุฏฺุ คาหาเปตี’’ติ ปริปุณฺณํ เทตีติ วุตฺตํ โหติ. เอเตน ยถา โลเก เอโก ปเรสํ ยถิจฺฉิตํ เทติ. เอวํ เทนฺตํ ปน ปเร ภชนฺติเยว. มํ ภชถาติ นิโยชนกิจฺจํ นตฺถิ. เอวเมว อิธปิ สุฏฺุวาสทานเมว ภชาปนํ นามาติ ทสฺเสติ. ‘‘วฑฺเฒติ วา’’ติ เอเตน อาเสวนา ภาวนา วฑฺฒนาติ อิมํปริยายตฺถํ วทติ. ปุริมาภิโยโค นาม อาทิโต ปฏฺาย สชฺฌายนาทิกมฺเมสุ ยถาสตฺติ ยถาพลํ วา ยามกรณํ. ตถา กโรนฺตสฺส ตํ อุคฺคหณ กมฺมํ อุปรูปริ ปคุณภาวํ คจฺฉตีติ. ‘‘อาเสวนฏฺเนา’’ติ วฑฺฒาปนฏฺเน, อุปการโกติ สมฺพนฺโธ. ‘‘สชาติยานํ’’ติ กุสลาทิภาเวน สมานชาติกานํ.
กายงฺคาภิสงฺขรณํ นาม กายสฺเจตนากิจฺจํ. วาจงฺคาภิสงฺขรณํ วจีสฺเจตนากิจฺจํ. จิตฺตงฺคาภิสงฺขรณํ มโนสฺเจตนากิจฺจํ. ‘‘กิริยาภาเวนา’’ติ ทสฺสนสวนาทิกิจฺเจสุ คมนาน นิสชฺชาทิกิจฺเจสุ สํวิธานกิริยาภาเวน. ‘‘วตฺถุมฺหี’’ติ คพฺภวตฺถุมฺหิ. ยถาวุตฺตาภิสงฺขรณกิจฺจํ นาม กายงฺควาจงฺค จิตฺตงฺคาภิสงฺขรณ กิจฺจํ. ‘‘ตทภิสงฺขรณเวคชนิตํ’’ติ ตสฺส กายงฺคาทิกสฺส ¶ อภิสงฺขรณเวเคน ชนิตํ กิริยาวิเสส นิธานกิจฺจนฺติ สมฺพนฺโธ. ‘‘สนฺตาเน’’ติ จิตฺตสนฺตาเน.
วิปจฺจนภาโว จ นาม ปาตุภาโวติ สมฺพนฺโธ. นิรุสฺสาห สนฺตภาโว นาม กุสลา กุสลานํ วิย กายงฺควาจงฺคาภิสงฺขรณ กิจฺเจสุ จ อายตึ วิปจฺจน กิจฺเจสุ จ นิรุสฺสาหภาเวน สนฺตภาโว. น กิเลสุ ปสนฺตภาเวน. จิตฺตาภิสงฺขรณ กิจฺเจสุปน สมฺปยุตฺตเจตนาวเสน ยโถปฏฺิเตสุ อารมฺมเณสุ สมฺปยุตฺตธมฺมานํ เอกโต สนฺนิปาตคมนุสฺสาหมตฺตํ อตฺถิ. ตโตปรํ ปน สุปิน ทสฺสน กิจฺจํปิ นตฺถีติ. ‘‘มนฺทมนฺทากาเรนา’’ติ มนฺทโต อติมนฺทากาเรน. กิฺจิชานน จิตฺตํ นาม กมฺมาทิ อารมฺมณํ อปฺปมตฺตกํปิ ชานนํ วีถิจิตฺตํ. ตสฺส ปวตฺติยา.
‘‘อรูปิโน’’ติ อรูปลกฺขณ สมงฺคิโน. นามลกฺขณ สมงฺคีโนติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘ชนยนฺตาปี’’ติ สหชาต ธมฺเม ชเนนฺตาปิ. ‘‘สนฺตานฏฺิติยา’’ติ ปพนฺธปฺปติฏฺานสฺส.
‘‘กสฺมาปเนตฺถา’’ติอาทีสุ. ‘‘ภาวินฺทฺริย ทฺวยํ’’ติ อิตฺถินฺทฺริย ปุริสินฺทฺริย ทฺวยํ. ‘‘อิธา’’ติ อิมสฺมึ อินฺทฺริยปจฺจเย. กสฺมา น คหิตํ. นนุ อิตฺถิลิงฺคาทีนํ ปวตฺติการณตฺตา อิธ คเหตพฺพเมวาติ อธิปฺปาโย. ชนกตฺตํ นาม ชนก กิจฺจํ. เอวํ เสเสสุปิ. ‘‘เอตํตยํปิ นตฺถี’’ติ ชนกตฺตาทิกิจฺจตฺตยํปิ นตฺถิ. เอวํสนฺเตกถํ ลิงฺคาทีนํ ปวตฺติการณํ โหตีติอาห ‘‘เกวลํ ปนา’’ติอาทึ. ‘‘ทฺวยํ’’ติ อิตฺถิภาวปุมฺภาว ทฺวยํ. น อินฺทฺริย ปจฺจยตฺเตน อินฺทฺริยํ นาม โหติ. ยถาหิ เอโก ราชา อตฺตโน วิชิเต เคหานิ กโรนฺติ. เอวํ กโรนฺตูติ เคหสณฺานํ ปฏฺเปติ. สพฺเพชนา ตเถว กโรนฺติ, โน อฺถา. ตตฺถ ราชา เคหุปฺปตฺติยา จ เคหฏฺิติยา จ กิฺจิ กิจฺจํ น กโรติ. เคหสามิกาวา เคหวฑฺฒกิโน วา กโรนฺติ. กโรนฺตา ปน รฺา ปฏฺปิตํ สณฺานํ อนติกฺกมิตฺวาว กโรนฺติ. เอวเมว มิทํ ทฏฺพฺพํ. อุปคนฺตฺวา ฌายนฏฺเนาติ สมฺพนฺโธ. อุปสทฺโท อุปนิสฺสย ปเทวิย อุปริ อตฺโถ. ‘‘อุปรี’’ติ จ ถามพลวุทฺธิวเสนาติ อาห ‘‘ตสฺมึ วา’’ติอาทึ. ‘‘ตสฺมึ’’ติ อารมฺมเณ.
‘‘สุคติ ¶ ทุคฺคติ นิพฺพาน สมฺปาปกฏฺเนา’’ติ วุตฺตํ. โส อตฺโถ อพฺยากตมคฺคงฺเคสุ นตฺถิ. เอวฺจสติ ตานิ กถํ มคฺคปจฺจยตฺตํ คจฺฉนฺตีติ อาห ‘‘เอตฺถ จา’’ติอาทึ. ‘‘สมฺมาทสฺสนาทินา’’ติ สมฺมาทสฺสน สงฺกปฺปนาทินา. ‘‘เตสํ’’ติ สมฺมาทิฏฺีนํ. ‘‘เตสํ ปี’’ติ อพฺยากต ภูตานํ สมฺมาทิฏฺีนมฺปิ. ‘‘เตเนวฏฺเนา’’ติ สมฺมาทสฺสนาทินา ลกฺขณฏฺเน. อถวา. ‘‘เตเนวฏฺเนา’’ติ สุคติ นิพฺพาน สมฺปาปกฏฺเเน วาติ อตฺโถ. เอวฺจสติ สเหตุกา วิปาก กฺริยา พฺยากตธมฺมาปิ เตเนวฏฺเน สพฺพโส กุสลสทิสา สิยุนฺติ. น สิยุํ, ปจฺจย เวกลฺลตฺตา. วิปากาพฺยากตาหิ กมฺมเวเคน สนฺตาเน ปติตมตฺตตฺตา นิรุสฺสาหสนฺตสภาวโต ตํ สมฺปยุตฺตา เจตนา นานกฺขณิก กมฺมปจฺจยตฺตํ น คจฺฉติ. กิริยาพฺยากตา จ นิรนุสยสนฺตาเน อุปฺปนฺนตฺตา ตํ สมฺปยุตฺตเจตนาปิ ตปฺปจฺจยตฺตํ น คจฺฉติเยว. ตสฺมา เตสุ วิปาก กฺริยาพฺยากเตสุ สมฺมาทิฏฺาทีนิปิ สุคติ สมฺปาปกฏฺํ น สาเธนฺติ. กิเลสปฺปหาน กิจฺจสฺส อภาวโต นิพฺพาน สมฺปาปกฏฺมฺปิ นสาเธนฺติ. สภาว ลกฺขณเวกลฺลตาปน เตสํ สมฺมาทิฏฺาทีนํ นตฺถิเยว. ตสฺมา ตานิ มคฺคปจฺจเย สงฺคหิตานีติ. อินฺทฺริย ธมฺเมสุ อรูปินฺทฺริยานํ อาธิปฺปจฺจ กิจฺจํ อรูปธมฺเม สฺเวว ผรติ. รูปธมฺมา ปน ตํ สมุฏฺิตตฺตา เอว ตปฺปจฺจยุปฺปนฺเนสุ วุตฺตา. ตถา เหตุ กมฺม มคฺค ฌาเนสุ. เตน วุตฺตํ ‘‘เอสนโย กมฺมินฺทฺริยฌานปจฺจเยสุปี’’ติ. ตตฺถ กมฺมสทฺเทน นานกฺขณิก ปจฺจโย คเหตพฺโพ.
‘‘สมฺปยุตฺตาสงฺกา สมฺภวตี’’ติ สหชาตา นามธมฺมา ตํ สมุฏฺาน รูเปหิ, ปจฺฉาชาตา จ อตฺตโน อตฺตโน ปจฺจยุปฺปนฺนรูเปหิ, วตฺถุ ธมฺมา จ ตนฺนิสฺสิตนามธมฺเมหิ กาลโต จ านโต จ เอก สมฺพนฺธตฺตา เตสุ สมฺปยุตฺตาสงฺกา สมฺภวติ. ‘‘วิปฺปยุตฺตปจฺจยปฺปสงฺโค นตฺถี’’ติ อารมฺมณานนฺตราทิปจฺจยาปิ อตฺตโน ปจฺจยุปฺปนฺเนหิ สมฺปยุตฺตา น โหนฺติ. ตสฺมา เตปิ วิปฺปยุตฺตปจฺจย ภาเวน วตฺตพฺพาติ เอวรูโป วิปฺปยุตฺตปจฺจยปฺปสงฺโค เตสุ อารมฺมณ ปจฺจยาทีสุ นตฺถีติ อธิปฺปาโย.
‘‘เหฏฺาวุตฺตปฺปกาเรสุ เอวา’’ติ เอตฺถ เอวสทฺเทน ปจฺจยนฺตรํ น โหตีติ ¶ ทสฺเสติ. ยทิ ปจฺจยนฺตรํ น โหติ, น วตฺตพฺโพเยว. กสฺมา, เทสกสฺส ปุนรุตฺตินิรตฺถกวาทิตา ปตฺติโตติ. โน น วตฺตพฺโพ. กสฺมา, โลเก โย สยํ นตฺถิ, วิคโต โหติ. โส กสฺส ปจฺจโย ภวิตุํ อรหตีติ เอวรูปสฺส มิจฺฉาภินิเวสสฺส ปหานโต. เตน อิมมตฺถํ าเปติ, โลเก เกจิธมฺมา สยํ อตฺถิกาเล เอว อฺเสํ ปจฺจยา โหนฺติ, โน นตฺถิกาเล. เกจิ ธมฺมา สยํ นตฺถิกาเล เอว อฺเสํ ปจฺจยา โหนฺติ, โน อตฺถิกาเลติ อยฺจวิภาโค อวสฺสํ อิจฺฉิตพฺโพ เยวาติ. ‘‘โอกาสทานสงฺขาเตนา’’ติ ตสฺส อฺสฺส จิตฺตุปฺปาทสฺส อุปฺปตฺติยา โอกาสทานสงฺขาเตน.
สุตฺตนฺเต, อตฺถีติ อย เมโก อนฺโตติ สตฺตานํ เสฏฺสารภูโต อตฺตานาม อนมตคฺเค สํสาเร นิจฺจกาลํ อตฺถิ. อุจฺเฉโท วา วิโมกฺโข วา สพฺพโส นตฺถิ. อยํ สสฺสตวาโท นาม เอโกวิสมนฺโต เอกาวิสมาโกฏิ. นตฺถีติ สตฺโตนาม เอกภวปรโม โหติ, มรณโต ปรํ นตฺถิ. เอกนฺเตน อุจฺฉิชฺชติ. อยํ อุจฺเฉทวาโท นาม ทุตีโย วิสมนฺโต ทุตียาวิสมโกฏิ. อิเม ปฏิจฺจ สมุปฺปาทํ อชานนฺตานํ อุโภวิสมนฺตา นาม. ชานนฺตานํ ปน ตาทิโส อตฺตานาม นตฺถิ, โย อตฺถีติ วา นตฺถีติ วา วตฺตพฺโพ ภเวยฺย. สุทฺธธมฺมปฺปพนฺโธ เอว อตฺถิ. ตสฺส จ ยาว อวิชฺชา อปฺปหีนา โหติ, ตาว อุจฺเฉโท นาม นตฺถิ. อวิชฺชาย ปน ปหีนาย ตโตปรํ น ปวตฺตติ. อตฺถิ นาม น โหติ. อยํ อนฺตทฺวยมุตฺโต มชฺฌิมาโย นาม. พหุํ นานตฺถ สมฺภวํ วณฺเณนฺติเยว. วณฺเณนฺตานํปิ เตสํ พหุ ปโยชนํ นตฺถิ เยวาติ อธิปฺปาโย.
ปจฺจยุทฺเทสานุทีปนา นิฏฺิตา.
๑๖๘. ปจฺจยนิทฺเทเส. ‘‘ปฺจธา’’ติ ปฺจวิเธหิ ปจฺจเยหิ. ‘‘เอกธา’’ติ เอกวิเธน ปจฺจเยน. เอวํ เสเสสุปิ. ‘‘อวิจฺเฉทายา’’ติ อวิจฺเฉทตฺถาย. ‘‘ปฏิปาทนายา’’ติ โยชนตฺถาย. โย โกจิ จิตฺตุปฺปาโท อวิรุทฺธสฺส ยสฺส กสฺสจิ จิตฺตุปฺปาทสฺส ¶ ปจฺจโย น น โหตีติ โยชนา. ‘‘ปุนุปฺปนฺนานํ’’ติ นิรุชฺฌิตฺวา ปุน อุปฺปนฺนานํ. ‘‘ปุริมานิ ชวนานี’’ติ เอตฺถ มคฺโค โคตฺรภุโต อาเสวน ปจฺจยํ ลภติ. ผลสฺส ปน โส ภินฺนชาติกตฺตา อาเสวน ปจฺจโย น โหติ. ผลํ ปน สพฺพโส อาเสวน มุตฺตํ โหติ. ตสฺมา ตทุภยํ อิธ ปุริมชวนสงฺขฺยํ น คจฺฉตีติ วุตฺตํ ‘‘มคฺค ผลชวนวชฺชานี’’ติ. ผลชวนวชฺชานํ ปจฺฉิมานํ ชวนานํ. ‘‘สพฺพาการปาริปูรํ’’ติ เอตฺถ กุสลาทิชาติปิ สงฺคหิตาติ วุตฺตํ ‘‘ชาติมตฺเตนปี’’ติ. อภินฺนา เอว สิยุํ. น ปน ภินฺนา โหนฺติ. กทาจิ เกจิภินฺนา เอว โหนฺติ. ตสฺมา ภินฺนชาติกา ธมฺมา. ล. น สกฺโกนฺตีติ โยชนา. ‘‘กามาวจรภาวโต มหคฺคตานุตฺตรภาวปตฺติ นามา’’ติ จิตฺตสนฺตานสฺสาติ อธิปฺปาโย. โคตฺร ภุจิตฺตํ กามภูมิ. ฌานจิตฺตํ มหคฺคตภูมิ. มคฺคจิตฺตํ โลกุตฺตร ภูมิ. กมฺมเจตนาย นิรุทฺธายปิ ตสฺสา ปวตฺตากาโร นนิรุชฺฌติ. จิตฺตสนฺตานํ อนุคจฺฉติ. โส เอว อายตึ วิปากธมฺมราสิ หุตฺวา ปาตุพฺภวติ. ตสฺมา โส วิปากสฺส พีชสงฺขฺยํ คจฺฉติ. โส จ ยาว น วิปจฺจติ. ตาว สํสารปฺปวตฺติยา สติ, อนฺตรา วินฏฺโ นาม น โหติ. ตสฺมา กมฺมเจตนา อุปฺปชฺชมานา จิตฺตสนฺตาเน ตสฺส พีชสฺส นิธานตฺถาย อุปฺปชฺชติ, นิรุชฺฌมานา จ นิทหิตฺวา เอว นิรุชฺฌตีติ วุตฺตํ ‘‘อตฺตโน ปวตฺตาการสงฺขาต พีชนิธานฺจา’’ติ. ‘‘เจตนาย โหตี’’ติ เจตนาย สาธารณํ โหติ. ปุเรชาตา สาลรุกฺขโปตกา ปจฺจยา โหนฺตีติ สมฺพนฺโธ. ปุริมจิตฺตกฺขเณสุ อุปฺปนฺนา จตุสมุฏฺานิกรูปธมฺมาติ สมฺพนฺธิตพฺพํ. ‘‘อาหารชกาโย’’ติ เอวํ วุตฺตาติ ปาเสโส. ‘‘ปจฺฉา ชาเตนา’’ติ ปจฺฉาชาตปจฺจเยน ปโยชนํ นตฺถิ. ชิณฺณปตรุกฺขสฺส อุทกาสิฺจนํ วิย โหตีติ อธิปฺปาโย. ‘‘ยทคฺเคนา’’ติ เยนการณ โกฏฺาเสน. ‘‘วตฺถุ รูปํ’’ติ นิโรธาสนฺนํ หทยวตฺถุ รูปํ. ‘‘เอวมยํ ปี’’ติ เอวํ อยํ ปจฺฉาชาตปจฺจโยปิ. วิวิเธน อากาเรน ผรณํ กาลนฺตร เทสนฺตร คมนํ วิปฺผาโร. มหนฺโต วิปฺผาโร ยสฺสาติ สมาโส. ‘‘วตฺถุมฺหี’’ติ หทยวตฺถุมฺหิ. ปฺจหิ ขนฺเธหิ โวกิณฺโณ สมฺมิสฺโสติ ปฺจโวกาโร. กาม รูปภโว ¶ . วินา อุปฺปชฺชิตุํ น สกฺโกติ. รูปวิราคภาวนาพเลน รูปสฺส อวิกฺขมฺภิตตฺตาติ อธิปฺปาโย. ‘‘ปุเรชาตํ วา’’ติ เอกจิตฺตกฺขณาตีเต ปุเรชาตํ วา. ‘‘วฑฺฒนปกฺเข ิตํ วา’’ติ ตโต ปจฺฉา ยาว อฏฺม จิตฺตกฺขณา วฑฺฒนปกฺเข ิตํ วา. ‘‘อุปฺปนฺนํ วตฺถู’’ติ อุปฺปนฺนํ วตฺถุรูปํ. ‘‘เอตฺถา’’ติ อิมสฺมึ ปุเรชาต ปจฺจเย. กิฺจาปิ ทิสฺสตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ปจฺจนีเย’’ติ ปจฺจนีย วาเร. ‘‘ตํ’’ติ อารมฺมณปุเรชาตํ. ตสฺส อารมฺมณสฺส อปริพฺยตฺตตฺตาวาติ สมฺพนฺโธ. การณํ วทนฺติ ปฏฺานฏีกาจริยา. อรูปภเว มรณาสนฺนกาเล กสฺสจิ คตินิมิตฺตุ ปฏฺานํ อฏฺกถาสุ วุตฺตเมว. เอวฺจสติ, ตตฺถ อารมฺมณ ปุเรชาตํ ลทฺธพฺพเมว. ปฏฺาเนปน ตสฺมึภเว สพฺพํ ปุเรชาตปจฺจยํ ปฏิกฺขิปติ. กสฺมา อิติ เจ, วตฺถุ ปุเรชาตปจฺจยสฺส ตตฺถ อลทฺธพฺพตฺตาติ อิมินา อธิปฺปาเยน ‘‘อารุปฺเปวิยา’’ติ วุตฺตํ. เอตฺถ จ ปฏฺาเน อรูปภเว ทฺเวปิ ปุเรชาตปจฺจยา ปฏิกฺขิตฺตา, ตสฺมา สพฺเพปิ อรูป ปุคฺคลา สพฺพํปิ รูปธมฺมํ อารมฺมณํ น กโรนฺตีติปิ วทนฺติ. เอวฺจ กตฺวา อารมฺมณ สงฺคหทีปนิยํ ‘อสฺีภวโต จุตานํ วิย อรูปภวโต จุตานํปิ คตินิมิตฺตภูตํ กามปฏิสนฺธิยา อารมฺมณํ ภวนฺตเร เกนจิทฺวาเรน อคฺคหิตํ, เกวลํ กมฺมพเลเนว อุปฏฺาปิต’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘คูถกุณปาทีนี’’ติ คูถฺจ มตปูติสรีรานิ จ. ‘‘เอวํ วุตฺเตหี’’ติ ปฏฺาเน วุตฺเตหิ. เต ปน อกุสลา ธมฺมา กถํ จตุภูมิก กุสลานํ อุปนิสฺสย ปจฺจยา โหนฺตีติ อาห ‘‘ตตฺถ อานนฺตริย วชฺชานี’’ติอาทึ. ตตฺถ อานนฺตริย กมฺมกตานํ กิเลสาวรณ กมฺมาวรเณหิ สมนฺนาคตตฺตา ฌานมคฺคปฺปฏิลาโภ นาม นตฺถีติ วุตฺตํ ‘‘อานนฺตริย วชฺชานี’’ติ. ‘‘ตานี’’ติ ราคาทีนิ อกุสลานิ จตุภูมิก กุสลานํ อุปฺปตฺติยา พลวนิสฺสยา โหนฺตีติ โยชนา. ‘‘สมติกฺกมมุเขนา’’ติ ปฏฺาเน อกุสโล ธมฺโม กุสลสฺส ธมฺมสฺส อุปนิสฺสย ปจฺจเยน ปจฺจโยติ เอตสฺส ปฺหสฺส วิภงฺเค ปาณํ หนฺตฺวา ตสฺส ปฏิฆา ตตฺถาย ทานํ เทติ, สีลํ สมาทิยติ, อุโปสถกมฺมํ กโรติ, ฌานํ อุปฺปาเทติ, มคฺคํ อุปฺปาเทติ, อภิฺํ อุปฺปาเทตีติ วุตฺตํ. ตตฺถ ‘‘ตสฺส ¶ ปฏิฆาตตฺถายา’’ติ ตสฺส ปาณาติปาตกมฺมสฺส ปฏิหนนตฺถาย ปหานตฺถาย สมติกฺกมนตฺถายาติ วุตฺตํ โหติ. โส เจ ปาณาติปาตี ปุคฺคโล ปุน สํเวคํ อาปชฺชิตฺวา ตสฺส กมฺมสฺส สมติกฺกมนตฺถาย ทานํ เทติ, สีลํ สมาทิยติ, อุโปสถ กมฺมํ กโรติ. ตทา ตํ ปาณาติ ปาตกมฺมํ ตํ ปุคฺคลํ ทานกมฺเมนิโยเชติ นาม. ตถา สีลกมฺเม อุโปสถ กมฺเมติ. ยถาหิ ราชา เอวํ วเทยฺย อิมสฺมึ ทิวเส โย อุโปสถํ นุปวสติ, ตํ ฆาเตสฺสามีติ. ตทา สพฺเพปิ นาครา อุโปสถํ อุปวเสยฺยุํ. เอวมิทํ ทฏฺพฺพํ. ราชาวิย หิ ตสฺส ปาณาติปาตกมฺมํ. นาครา วิย โส ปาณฆาตโก. อุโปสถ กมฺม กุสลานิ วิย ตสฺส ทานสีล อุโปสถ กมฺม กุสลานีติ. ‘‘ฌานํ อุปฺปาเทติ, มคฺคํ อุปฺปาเทติ, อภิฺํ อุปฺปาเทตี’’ติ ปเทสุปิ เอเสวนโย. เอวํ สมติกฺกมมุเขน เอกํปิ อกุสลํ สพฺพานิ จตุภูมิก กุสลานิ อุปนิสฺสย สตฺติยา ชเนติ ปวตฺเตตีติ เวทิตพฺพํ. ‘‘ตานิเยว สพฺพานี’’ติ อานนฺตริย กมฺมสหิตานิสพฺพานิ อกุสลานิเยว สพฺเพสํ อกุสลานํ อพฺยากต ธมฺมานํ อุปฺปตฺติยา พลวนิสฺสยา โหนฺตีติ โยชนา. ทานสีลาทโย กุสลา ธมฺมา. สุฏฺุ พลวํ กมฺมํ อธิปฺเปตํ, น ทุพฺพลํ. อุปนิสฺสยฏฺานตฺตา. เตสํปิ รูปธมฺมานํ พลวนิสฺสยา นนุโหนฺตีติ สมฺพนฺโธ. กถํ โหนฺตีติ อาห ‘‘พหิทฺธารุกฺขติณาทีนํ’’ติอาทึ. ตตฺถ ปถวีรส อาโปรสวสฺโสทก พีชานิ รุกฺขติณาทีนํ พลวนิสฺสยา โหนฺติ. มูลเภสชฺชาทีนิ อชฺฌตฺตํ สนฺตานํ พลวนิสฺสยา โหนฺตีติ โยชนา. ‘‘ปกตสฺเสวา’’ติ ปถมตรํ กตสฺส อุปฺปาทนาทิกมฺมสฺเสว. ‘‘น เอวํ รูปสนฺตาเนนา’’ติ เอวํ รูปสนฺตาเนน อุปฺปาทิตา อุปเสวิตา ธมฺมา นตฺถิ. ‘‘ตํ’’ติ อุตุพีชาทิกํ. กมฺมาทิกฺจ. ‘‘ปกตํ’’ติ ปุเรตรํ อุปฺปาทิตฺจ อุปเสวิตฺจ. สเจตนสฺเสว เจตนํ ปกปฺปนํ ปกรณนฺติ สมฺพนฺโธ. เจตนํ ปกปฺปนํ ปกรณํ นามาติ อตฺโถ. ‘‘ปกปฺปนํ’’ติ จ สํวิธานํ. ‘‘กิฺจี’’ติ กิฺจิกมฺมาทิกํ อุตุโภชนาทิกฺจ. อตฺตโน จ อุปฺปนฺนา ราคาทโย ปรสฺส จ สนฺตาเน ปรสฺส จ อุปฺปนฺนา ราคาทโย อตฺตโน จ สนฺตาเนติ โยชนา ¶ . ‘‘นิทสฺสนํ’’ติ อุทาหรณํ โหติ. มโนปโทสิกเทวา อฺมฺํ ทิสฺวา อตฺตโน มนํ ปทูเสนฺติ. พาฬฺหํ อิสฺสาธมฺมํ อุปฺปาเทนฺติ. ตสฺมึเยว ขเณ จวนฺติ. เตสํ ทฺเว อิสฺสาธมฺมา อฺมฺสฺส พลวนิสฺสยา โหนฺตีติ. กามาวจร กุสลสฺส พลวนิสฺสยา โหนฺตีติอาทินา โยเชตพฺพํ. วิภาวนิปาเ. ฌาน มคฺค ผล วิปสฺสนาทิเภทํ อาลมฺพณํ ปจฺจเวกฺขน อสฺสาทนาทิ ธมฺเม อตฺตาธีเน กโรตีติ โยชนา. ‘‘อตฺตาธีเน’’ติ อตฺตายตฺเต อตฺตาพทฺเธ. ปฏฺาเน ปฺหวาเร ทานํ ทตฺวา สีลํสมาทิยิตฺวา อุโปสถกมฺมํ กตฺวา ตํ ครุํ กตฺวา ปจฺจเวกฺขติ. ปุพฺเพ สุจิณฺณานิ ครุํ กตฺวา ปจฺจเวกฺขนฺตีติอาทินา อาคตตฺตาทาน สีล. ล. นิพฺพานานิ เจวาติ วุตฺตํ. ราคํ ครุํกตฺวา อสฺสาเทนฺติ, อภินนฺทตีติอาทินา, จกฺขุํ ครุํ กตฺวา อสฺสาเทนฺตีติอาทินา จ อาคตตฺตา ‘‘ราค ทิฏฺิ จกฺขุ โสตาทีนิจา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘ปรตฺถ ปี’’ติ ปรโต นิสฺสย ปจฺจยาทีสุปิ. ‘‘โส เอวา’’ติ ปจฺจุปตฺถมฺภโก เอว. ‘‘กิฺจี’’ติ กิฺจิมตฺตํปิ. มหาภูเต กิฺจิ อุปตฺถมฺเภตุํ น สกฺโกนฺตีติ โยชนา. นนุ อาหาร รูปํ มหาภูเต อุปตฺถมฺเภตุํ สกฺโกติ. ชีวิตรูปฺจ กมฺมชมหาภูเต อนุปาเลตุนฺติ. สจฺจํ. อิธ ปน สหชาตปจฺจย กิจฺจํ อธิปฺเปตํ. เตสฺจ ทฺวินฺนํ สหชาตปจฺจย กิจฺจํ นตฺถิ. ตํ ปรโต อาวี ภวิสฺสตีติ. ‘‘วตฺถุ วิปากานํ’’ติ วตฺถุรูปํ วิปากานํ. ปฏฺานปาเ. อารมฺมณฺจ, นิสฺสโย จ, ปุเรชาตฺจ, วิปฺปยุตฺโต จ, อตฺถิ จ, อวิคโต จา,ติ ฉสุปจฺจเยสุ ฆฏิเตสุ ตีณิ วิสชฺชนานิ ลพฺภนฺตีติ โยชนา. ตีณิ วิสชฺชนานิ นาม วตฺถุ กุสลานํ ขนฺธานํ ฉ หิ ปจฺจเยหิ ปจฺจโย. วตฺถุ อกุสลานํ, วตฺถุ อพฺยากตานนฺติ. เอตฺถ จ อตฺตโน อชฺฌตฺตํ วตฺถุํ อารพฺภ วตฺถุ เม อนิจฺจนฺติอาทินา สมฺมสนฺตสฺส วตฺถุรูปํ กุสลานํ ขนฺธานํ ฉหิ ปจฺจเยหิ ปจฺจโย. เอตํ มม, เอโส หมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา,ติ อุปาทิยนฺตสฺส วตฺถุ รูปํ อกุสลานํ. อุภยตฺถปิ อาวชฺชนกฺขเณ อพฺยากตานํ. อรหโต ปน ตํ อนิจฺจนฺติอาทินา สมฺมสนฺตสฺส กฺริยาพฺยากตานํ ขนฺธานนฺติ. เตนาห ‘‘ปจฺจุปฺปนฺนํ วตฺถุํ’’ติอาทึ. ตตฺถ ‘‘ปจฺจุปฺปนฺนํ วตฺถุํ’’ติ ¶ อตฺตโน ปจฺจุปฺปนฺนํ วตฺถุํ. อธิฏฺานวิธาเน ปน อากาส คมเน รูปกายํ อารพฺภจิตฺตํ วิย กายํ ลหุกํ อธิฏฺหนฺตสฺส ตปฺปริยาปนฺนํ วตฺถุ อภิฺาจิตฺต ทฺวยสฺสาติ โยเชตพฺพํ. ‘‘อนิฏฺเาเน’’ติ ชวนจิตฺตสฺส อาวชฺชเนน วินา อุปฺปชฺชนํ นาม กตฺถจิ อิจฺฉิตพฺพํ โหติ. กตฺถจิ อนิจฺฉิตพฺพํ. ตตฺถ นิโรธสมาปตฺติโต วุฏฺาเน, มคฺควีถีสุ โคตฺรภุโวทานฏฺาเน, อาคนฺตุก ภวงฺคฏฺาเนติ อิทํ อิจฺฉิตพฺพฏฺานํ นาม. อิโต อฺํ อนิจฺฉิตฏฺานํ นาม. เอวํ อนิจฺฉิตพฺเพ าเนติ อตฺโถ. ‘‘ปกติกาเล’’ติ มรณาสนฺนกาลโต อฺสฺมึกาเล. ‘‘ตานิวา’’ติ อตฺตโน อตฺตโน นิสฺสยวตฺถูนิวา. ‘‘อฺํ วา’’ติ วตฺถุโต อฺํ รูปาทิกํ วา. ‘‘ภินฺนารมฺมณานิ นามา’’ติ อฺํ อาวชฺชนสฺส อารมฺมณํ, อฺํ ชวนานนฺติ เอวํ ชวนานิ อาวชฺชเนน ภินฺนารมฺมณานิ วา. เตน วุตฺตํ ‘‘ปจฺฉาอุปฺปนฺนานี’’ติอาทิ. ‘‘เตสํ’’ติ วีถิจิตฺตานํ. ‘‘ตเทวา’’ติ ตํ เอววตฺถุ รูปํ. ‘‘วตฺถุ จา’’ติ นิสฺสโย จ. ‘‘เตสํ’’ติ อฏฺกถาจริยานํ. น หิ คเหตุํ สกฺโกนฺตีติ สมฺพนฺโธ. เสสเมตฺถ สุโพธํ. ‘‘กสฺมา วุตฺตํ’’ติอาทีสุ. ‘‘ตสฺส ยกฺขสฺสา’’ติ อินฺทกนามสฺส ตสฺสยกฺขสฺส. ‘‘อิตเรสํปี’’ติ สํเสทโชปปาติกานํปิ. ‘‘ทุวิเธนา’’ติ รูปชนน กิจฺจํ รูปูปตฺถมฺภน กิจฺจนฺติ เอวํ ทุวิเธน. อถวา ‘‘ทุวิเธนา’’ติ อชฺฌตฺตาหารสฺส อุปตฺถมฺภนํ พหิทฺธาหารสฺส อุปตฺถมฺภนนฺติ เอวํ ทุวิเธน. ‘‘ตถารูปานฺจา’’ติ อปฺปนาปตฺตกมฺมวิเสเสน สิทฺธานฺจ. ‘‘อชฺฌตฺตาหาโรปี’’ติ ปิสทฺเทน ยถาวุตฺตชีวิตินฺทฺริยฺจ อรูปาหาเร จ สมฺปิณฺเฑติ. ‘‘วตฺถุวิปากานํ’’ติ วตฺถุรูปํ วิปากานํ. ‘‘สพฺพถา’’ติ อพฺยายปทํ. ตฺจ สพฺพวิภตฺติยุตฺตํ. อิธ ปน ปจฺจตฺตวจนนฺติ อาห ‘‘สพฺพถา’’ติ สพฺพปฺปการนฺติ. ปกาโร จ เวทิตพฺโพติ สมฺพนฺโธ. กถํ เวทิตพฺโพติ อาห ‘‘ติวิโธ’’ติอาทึ. ‘‘สหชาเต สงฺคเหตพฺพํ’’ติ ปจฺจยภาเวน สงฺคเหตพฺพํ. สหชนนํ นาม อตฺตนา สห ชเนนฺตสฺส สหชนนํ. ตฺจ กมฺมจิตฺตาทีนํ วิย วิสุํ ชนนกิจฺจํ น โหติ. อตฺตนิ อุปฺปชฺชนฺเต เอว อิตรานิ รูปานิ อุปฺปชฺชนฺติ. อนุปฺปชฺชนฺเต น อุปฺปชฺชนฺตีติ เอวรูปํ ชนนกิจฺจํ เวทิตพฺพํ ¶ .‘‘วินาว สหุปฺปาทนกิจฺเจนา’’ติ อตฺตนา สหุปฺปาทนกิจฺเจ อาหารสฺส พฺยาปาโร นตฺถีติ อธิปฺปาโย. เตเนว สหชาตานิ อุปตฺถมฺภนฺโตปิ สหชาตปจฺจยตฺตํ น คจฺฉตีติ. เอสนโย รูปชีวิตินฺทฺริเยปิ. เตน วุตฺตํ ‘‘ชีวิตํปี’’ติอาทิ. ‘‘ตีสู’’ติ อารมฺมณฺจ อุปนิสฺสโย จ อตฺถิจาติ อิเมสุ ตีสุ. อารมฺมณาธิปติมฺหิ ปุเรชาตา รมฺมณาธิปติปิ อตฺถิ. โส ปุเรชาตตฺถิ ปจฺจโย เอวาติ อตฺถิปจฺจเย สงฺคหิโต. ‘‘ตสฺมึ กเต ปวตฺตมานานํ’’ติ ตสฺมึ กมฺเม กเต ตสฺส กตตฺตา เอว ปวตฺตมานานํ. อารมฺมณากาโร โคจรวิสยากาโร. ‘‘สนฺตานวิเสสํ กตฺวา’’ติ พีชนิธานํ กตฺวาติ อธิปฺปาโย. ‘‘เต’’ติ อารมฺมณปจฺจย กมฺม ปจฺจยา. ‘‘อกาลิโก’’ติ มคฺคเจตนาวเสน อกาลิโก. โสหิ อตฺตโน อนนฺตเรผลํ ชเนติ. ตสฺมา อาคเมตพฺพสฺส อายติกาลสฺส อภาวา อกาลิโกติ วุจฺจติ. อวเสโส นานกฺขณิกปจฺจโย กาลิโก. ‘‘ปจฺจยฏฺเนา’’ติ ปจฺจยกิจฺเจน. โลกปฺปวตฺติยา กมฺมเหตุกตฺตาติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ผลเหตู ปจาเรนา’’ติ ผลภูตาย สพฺพโลกปฺปวตฺติยา เหตุภูตสฺส กมฺมสฺส นามํ ผลมฺหิ อาโรเปตฺวา โวหาเรน สพฺเพปิ เตวีสติปจฺจยา กมฺมสภาวํ นาติวตฺตนฺตีติ โยชนา. กมฺมปจฺจย สงฺขฺยํ คจฺฉนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘วิชฺชมานา เยวา’’ติ อตฺถิปจฺจยา เอวาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘สาสนยุตฺติยา วิรุทฺธเมวา’’ติ เอตฺถ สาสนยุตฺติ นาม ตีณิปิฏกานิ. ‘‘วิรุทฺธเมวา’’ติ อารมฺมณ ปจฺจยภูตา สพฺเพ ปถวี ปพฺพต นทีสมุทฺท อชฏากาสาทโย จ สพฺพาปฺตฺติโย จ นิพฺพานฺจ กมฺมสงฺขฺยํ คจฺฉนฺตีติ วทนฺโต จ, สพฺเพ อตีตานาคต ธมฺมา อตฺถิปจฺจยา เอวาติ วทนฺโต จ, ตีหิ ปิฏเกหิปิ วิรุชฺฌติเยว. ปฏฺานปาฬิยา ปน วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. อตฺถิ สทฺโทหิ ปฏฺาเน ปจฺจุปฺปนฺนภาเวน วิชฺชมานตฺโถ. น ปรมตฺถ ธมฺม ภาเวน. นาปิโลก สมฺมุติวเสน. น หิ ปรมตฺถ ธมฺม ภูตาปิ อตีตานาคตธมฺมา อิธ อตฺถิ สงฺขฺยํ คจฺฉนฺติ. นาปิปฺตฺติ โหติ. ‘‘อฺมฺปฺปฏิพทฺธโอกาเส’’ติ อฺมฺํ นิสฺสยนิสฺสิตภาเว น ปฏิพทฺเธ ¶ กามรูปภโวกาเส. ‘‘ยโต’’ติ ยมฺหาปฏิสนฺธิ วิฺาณโต. ‘‘ยโต’’ติ วา ยมฺหาสีสโต, ยมฺหาพีชโต นิพฺพตฺตีติ โยชนา. ‘‘พีชโต วิย มหารุกฺขสฺสา’’ติ พีชปจฺจยา กฬีรงฺกุราทิกสฺส มหารุกฺขสนฺตานสฺส นิพฺพตฺติวิย. ปาฬิปาเ. ‘‘น โอกฺกมิสฺสถา’’ติ สเจ น โอกฺกเมยฺย. ‘‘สมุจฺจิสฺสถา’’ติ อปินุโข สมุจฺเจยฺย, วฑฺเฒยฺย. ‘‘โวกฺกมิสฺสถา’’ติ สเจ วิคเมยฺย, วินาเสยฺย. ‘‘อภินิพฺพตฺติสฺสถา’’ติ อปินุโข อภินิพฺพตฺเตยฺย, ปาตุภเวยฺย. ‘‘โวจฺฉิชฺชิสฺสถา’’ติ สเจอุจฺฉิชฺเชยฺย. ‘‘อาปชฺชิสฺสถา’’ติ อปินุโข อาปชฺเชยฺย. ‘‘ยทิทํ’’ติ ยํ อิทํ. ‘‘อิทํ’’ติ นิปาตมตฺตํ. ‘‘วิฺาณํ’’ติ ปฏิสนฺธิวิฺาณํ. ยํ วิฺาณํ อตฺถิ. เอเสว วิฺาณ ธมฺโมติ โยชนา. ‘‘รูปุปฺปตฺติยา’’ติ รูปุปฺปาทสฺส. วิฺาณํ ปจฺจโย เอตสฺสาติ วิฺาณ ปจฺจยา. รูปุปฺปตฺติ. ‘‘รูปปฺปเวณิยา’’ติ กมฺมชรูปสนฺตติยา. ‘‘อุตุอาหาราปี’’ติ อชฺฌตฺต อุตุอชฺฌตฺต อาหาราปิ. อิทฺจ สมฺภวยุตฺติ วเสน วุตฺตํ. อตฺถโต ปน ปุริมุปฺปนฺนาย รูปปฺปเวณิยา อสติ, อชฺฌตฺตํ เต อุตุอาหาราปิ นตฺถิเยว. พหิทฺธา อุตุปน อสติปิ ปุริมุปฺปนฺนาย รูปปฺปเวณิยา รูปํ น ชเนตีติ น วตฺตพฺพํ. ฏีกาปาเ. ‘‘อรูปํ ปนา’’ติ อรูปภูมิปน. ‘‘ยสฺมึรูเป’’ติ กมฺมชรูเป. ‘‘ปจฺจยภาโว อตฺถี’’ติ ปจฺฉิมรูปุปฺปตฺติยา ปจฺจยสตฺติ อตฺถิ. กสฺมา วิฺายตีติ เจ. ‘‘ปุตฺตสฺสา’’ติอาทิมาห. ‘‘พีชภาวสงฺขาตํ’’ติ อมฺพพีชาทีนํ พีชภาวสงฺขาตํ. ‘‘นิยามรูปํ นามา’’ติ อุตุวิเสสมาห. ‘‘ยถา วา ตถา วา’’ติ อนิยมโตติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘โยนิภาวสงฺขาตํ’’ติ ตํ ตํ โคตฺตกุลชาตีนํ ชาติภาวสงฺขาตํ. ‘‘นิยามรูปํ’’ติ อุตุวิเสส สงฺขาตํ นิยามรูปํ. สทิสานิ รูปสณฺานานิ เยสนฺติ วิคฺคโห. ‘‘ปฏิสนฺธิรูปสฺเสว อานุภาโว’’ติ กลลกาลาทีสุ อุปฺปนฺนสฺส ปฏิสนฺธิรูปสฺเสว อานุภาโว. ปุน ตเมวตฺถํ วิเสเสตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิมาห. ‘‘สมุทาคตํ’’ติ สุฏฺุ อุปรูปริอาคตํ. อิตฺถิภาวาทิรูปํ พีชรูปฺจ นิยาเมตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘นิยามกํ’’ติ นานาวณฺณสณฺานาทีนํ นิยามกํ. ‘‘ตตฺถ ¶ อิมสฺมึ ภเว’’ติอาทีสุ. ธนฺจ ธฺฺจ ตโต อวเสสา สพฺเพอุปโภคปริโภคาจาติ วิคฺคโห. วิชฺชา จ สิปฺปฺจ นานาพหุสฺสุตฺจ ปริยตฺติ จาติ ทฺวนฺโท. ‘‘อนาคตานํ ตาสํ’’ติ ตาสํ อภินวธนธฺาทิสมฺปตฺตีนํ. ‘‘อุปนิสฺสย ปจฺจยตา’’ติ ปุพฺพโยคกมฺมสฺส อุปนิสฺสย ปจฺจยตา. ตตฺถ ธนธฺโภคานํ ปฏิลาภตฺถาย ปุพฺพโยคกรณํ นาม กสิกมฺม วาณิชฺชกมฺมาทีนํ กรณํ. ตตฺถ กสิกมฺเม ตาว ธนธฺโภคานํ ปฏิลาภตฺถาย กสิกมฺมกรเณ ธนธฺโภคา อนาคตูปนิสฺสย ปจฺจโย. อิทานิ กสิกมฺมกรณํ ตสฺส ปจฺจยุปฺปนฺนํ. ธนธฺ โภคานํ ปฏิลาภปริโภคกาเลสุ กสิกมฺมกรณํ อตีตูปนิสฺสย ปจฺจโย. เตสํ ปฏิลาโภ จ ปริโภโค จ ตสฺส ปจฺจยุปฺปนฺโน. กสิกมฺมกรณกฺขเณ ปน เขตฺต, วตฺถุ, พีช, เมฆวุฏฺิโย จ นงฺคลาทีนิ กสิภณฺฑานิ จ โคมหึสา จ กมฺมการก ปุริสา จ ปจฺจุปฺปนฺนูปนิสฺสโย. กสิกมฺมกรณํ ตสฺส ปจฺจยุปฺปนฺนํ. กมฺมสาธิกสฺส มาตาปิตาทโย ปุพฺพปุริสา ตสฺส กมฺมสฺส อตีตูปนิสฺสย ปจฺจโย. ตํ กมฺมํ ตสฺส ปจฺจยุปฺปนฺนนฺติ. เอวํ เสเสสุปิ. เสสํ สุวิฺเยฺยํ.
‘‘ปฺจวิธ’’นฺติอาทีสุ. ‘‘สณฺานตฺตํ’’ติ อณุ, ตชฺชารี, รถเรณุ, ลิกฺขาทีนิ อุปาทาย สพฺเพสํ รูปสณฺานานํ ภาโว สณฺานตฺตํ. ‘‘ภาโว’’ติ จ เตสํ ปวตฺติ วุจฺจติ. ‘‘ปวตฺติ เหตู’’ติ จ ปรมตฺถ รูป ธมฺมา เอว. ‘‘อนุปคมนโต’’ติ เอตฺถ สภาวโต อติสุขุมตฺตา อนุปคมนํ เวทิตพฺพํ. อธิวจนสงฺขาตํ นามาภิธานนฺติ วิคฺคโห. ‘‘อธิวจนํ’’ติ จ อตฺถปฺปกาสกตฺตา อธิกํ วจนํ อธิวจนํ. ‘‘นามาภิธาน’’นฺติ จ นามปฺตฺติ วุจฺจติ. ‘‘คเหตพฺพ ภาโว’’ติ อิทํ จิตฺตํ นาม, อยํ ผสฺโสนามาติอาทินา กเถนฺตานํ สนฺติกา นามาภิธานํ สุตฺวา ตทนุรูปสฺส สภาวตฺถสฺส ชานนวเสน าเณน คเหตพฺพภาโว. นาม ปฺตฺตานุสาเรน ชานิตพฺพตฺตา นามนฺติ วุจฺจตีติ วุตฺตํ โหติ. อารมฺมเณ นมตีติ นามํ. อารมฺมณิก ธมฺมา วา เอตฺถ นมนฺตีติ นามนฺติปิ ยุชฺชติ.
อิมสฺมึ ¶ ปจฺจยสงฺคเห ปจฺจยธมฺเมสุ ปฺตฺตีนํปิ สงฺคหิตตฺตา ปฺตฺติ สงฺคโหปิ เถเรน อิธ นิกฺขิตฺโต. ตตฺถ ‘‘ปฺาวียตี’’ติ เอตฺถ ปฺาปนํ นาม โวหารฏฺปนํ. ตฺจปนํ ทฺวีหิการเณหิ สิชฺฌติ วทนฺตานํ โวหาเรน จ, สุณนฺตานํ สมฺปฏิจฺฉเนน จาติ ทสฺเสตุํ ‘‘อยํ ปี’’ติอาทิมาห. ‘‘สมฺปฏิจฺฉียตี’’ติ ยถา ปุพฺพปุริเสหิ โวหรียติ, ตถา ปจฺฉิม ชนปรมฺปราหิ โวหรียตีติ วุตฺตํ โหติ. ปกาเรน าปียตีติ ปฺตฺตีติปิ ยุชฺชติ. ‘‘พฺยฺชนตฺโถ’’ติ มนุสฺส, เทว, ปถวี, ปพฺพตาทิโก สทฺทตฺโถ. ‘‘ปฺา ปียนฺตี’’ติ ปกาเรน ปียนฺติ. สทฺทปฺตฺตึ อาหาติ อธิกาโร. อธิมตฺตภาวปฺปกาโร นาม ปถวีปพฺพตาทีสุ ปถวีธาตุยา อธิมตฺต ภาววิเสโส. นที สมุทฺโททกาทีสุ อาโปธาตุยา. อคฺคิกฺขนฺเธสุ เตโชธาตุยา. วาตกฺขนฺเธสุ วาโยธาตุยาติ เอวํ อธิมตฺต ภาววิเสโส. วิวิเธน ปกาเรน ปริณมนํ วิปริณาโมติ อาห ตถา ตถา วิปริณามาการนฺติ. ปถวีปพฺพตาทิโวหาโร สณฺิตาการํ นิสฺสาย ปวตฺโต น โหติ. ปถวี นาม เอวํ สณฺานา, ปพฺพโต นาม เอวํ สณฺาโนติ สณฺานนิยโม นตฺถิ. ปํสุสิลานํ ราสิปฺุชปฺปวตฺติมตฺเตน โวหาโร สิทฺโธติ วุตฺตํ ‘‘น หิ อิธ สณฺานํ ปธานํ’’ติ. ‘‘กฏฺาทโย เอว วุจฺจนฺตี’’ติ เต เอวสณฺานนานตฺตํ ปฏิจฺจ นานาโวหาเรน วุจฺจนฺติ. ปถวี ปพฺพต นที สมุทฺทาทีสุ วิย ภูตานํ ปวตฺติวิเสสากาเรนาติ วุตฺตํ ‘‘น หิ อิธ สมูโห ปธานํ’’ติ. ‘‘อุปาทาปฺตฺตี’’ติ ปฺจกฺขนฺธ ธมฺเม อุปาทาย เตหิ อนฺํ เอกีภูตํ กตฺวา ปฺตฺติ. น อากาส ปฺตฺติ ทิสาเทสปฺตฺติโย วิย เตหิ ขนฺเธหิ มฺุจิตฺวา ปฺตฺติ. ‘‘ยโต’’ติ ยมฺหาทิสโต. ‘‘ลทฺธปฺปกาสตฺตา’’ติ ลทฺธปฺปภาสตฺตา. ‘‘อหสฺสา’’ติ ทิวสสฺส. อุทฺธุมาตกาทีนิ ‘อุทฺธุมาตกํ ปฏิกูลํ’ติอาทินา ปฏิกูลวเสน มนสิกโรนฺตสฺสปิ นิมิตฺตํ อุปฏฺหนฺตํ ภูตวิการปฺปกาเรน อุปฏฺหตีติ กตฺวา ภูตนิมิตฺเต สงฺคณฺหาติ. ‘‘อฏฺกถายํ’’ติ ปุคฺคลปฺตฺติ อฏฺกถายํ. ‘‘ตาสํ’’ติ ภูมิปพฺพตาทิกานํ อตฺถ ปฺตฺตีนํ. ‘‘ตถา ตถา’’ติ ¶ อยํ ภูมิ, อยํ ปพฺพโต, ติอาทินา เตน เตน โวหาเรน. อตฺถานํ ปรมตฺถานํ ฉายาติ อตฺถจฺฉายา. ‘‘ฉายา’’ติ จ นิมิตฺตจฺฉายาโย วุจฺจนฺติ. อตฺถจฺฉายานํ อากาโร อตฺถจฺฉายากาโร. ‘‘อากาโร’’ติ จ นานาสมูห นานาสณฺานาทิโก อากาโร. อตฺโถติ วา สทฺทาภิเธยฺโย วจนตฺโถ. โสเยว สมูหาการาทิ นิมิตฺต มตฺตตฺตา อตฺถจฺฉายากาโรติ วุจฺจตีติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ ‘‘สทฺทาภิเธยฺย สงฺขาเตนา’’ติอาทินา. ‘‘ทพฺพปฺปฏิพิมฺพากาเรนา’’ติ ทพฺพสงฺขาเตน ปฏิพิมฺพากาเรน. ‘‘โอลมฺพิยา’’ติ อวลมฺพิตฺวา. ‘‘คณนูปคํ กตฺวา’’ติ อย เมโก อตฺโถ, อิทเมกํ วตฺถูติ เอวํ คณนูปคํ กตฺวา. ‘‘อิเมฉา’’ติ อิเม ฉสทฺทปฺตฺติ โวหารา นาม นามกมฺมาทิ นาม. ‘‘อตฺตนี’’ติ นามปท สงฺขาเต อตฺตนิ. อตฺถ วิสยํ เอว หุตฺวา ปวตฺตติ ภาสฺูนนฺติ อธิปฺปาโย. ‘‘นาเม สตี’’ติ อกฺขรสมูโห ปทํ, ปทสมูโห วากฺยนฺติ เอวํ วุตฺเต นามปเท วิชฺชมาเน สติ. ‘‘ตทุคฺคณฺหนฺตานํ’’ติ ตํ ตํ นามปทํ วาจุคฺคตกรณ วเสน อุคฺคณฺหนฺตานํ ชนานํ. ‘‘ตทตฺถา’’ติ ตสฺส ตสฺส นาม ปทสฺส อตฺถา. ‘‘อาคจฺฉนฺติ เยวา’’ติ ภาสฺูนํ าณาภิมุขํ อาคจฺฉนฺติเยว. เอเตน อตฺตนิ อตฺถสฺส นามนํ นาม อตฺถโชตน กิจฺจเมวาติ ทีเปติ. ‘‘สุณนฺตานํ าณํ’’ติ เอตฺถ ‘‘าณํ’’ติ อุปลกฺขณ วจนํ, อกุสล วิฺาณสฺสปิ อธิปฺเปตตฺตา. ‘‘ตํ ตํ อตฺถาภิมุขํ นาเมตี’’ติ อารมฺมณ กรณวเสน นาเมติ. ‘‘นามคฺคหณ วเสนา’’ติ อยํ อสุโกนาม โหตูติ เอวํ นามคฺคหณวเสน. ‘‘ธารียตี’’ติ ยาวชีวํปิ อปฺปมุสฺสมานํ กตฺวา ธารียติ. นีหริตฺวา วุจฺจติ อตฺโถ เอตายาติ นิรุตฺติ. ‘‘เอตายา’’ติ กรณภูตาย เอตายนามชาติยา. ‘‘อวิทิตปกฺเข’’ติ นามปทํ อสฺสุตกาเล อวิฺาตปกฺเข. ‘‘ตโต นีหริตฺวา’’ติ อวิทิตปกฺขโต าเณน นีหริตฺวา. ‘‘กถียตี’’ติ ตํ สุตกาเล วทนฺเตน สุณนฺตสฺส อาจิกฺขียติ ชานาปียติ. ‘‘อตฺถสฺสา’’ติ อวิทิตปกฺเข ิตสฺส อตฺถสฺส. ‘‘เอตสฺเส วา’’ติ นามปทสฺเสว. นามปทนฺติ จ กฺริย ปทํปิ ¶ , อุปสคฺคปทมฺปิ, นิปาตปทมฺปิ, ปาฏิปทิกปทํปิ, อิธ นามปทนฺตฺเวว วุจฺจติ. ‘‘วิเสสนภูตานํ’’ติ อฺปทตฺถสมาเส สมาสปทานํ อตฺถา วิเสสนา นาม. เอวํ วิเสสนภูตานํ. ‘‘ปุคฺคลสฺสา’’ติ อฺปทตฺถภูตสฺส อภิฺาลาภี ปุคฺคลสฺส. ‘‘วทนฺตี’’ติ อานนฺทาจริยํ สนฺธาย วุตฺตํ. โส หิ ธมฺมสงฺคณิยํ ปฺตฺติทุกนิทฺเทเส มูลฏีกายํ ตถา วทติ. ‘‘ตพฺภาวํ’’ติ อกฺขร ปทพฺยฺชนภาวํ. ‘‘อสฺสา’’ติ นามปฺตฺติยา. อกฺขรปทพฺยฺชนํ โคจโร อารมฺมณํ อสฺสาติ วิคฺคโห. ‘‘อนุสาเรนา’’ติ อนุคมเนน. ‘‘โลกสงฺเกต นิมฺมิตา’’ติ โลกสงฺเกตฺาเณน ปวตฺติตา. ‘‘โลกสงฺเกตฺาณํ’’ติ จ อิทํ นามํ อิมสฺสตฺถสฺส นามํ, อยมตฺโถ อิมสฺส นามสฺส อตฺโถติ เอวํ ปุเรตรํ โลกสฺาณ ชานนกฺาณํ. ‘‘อตีต สทฺทมตฺตารมฺมณา’’ติ โสตวิฺาณ วีถิยา อารมฺมณํ หุตฺวา นิรุทฺธํ อตีต สทฺทมตฺตํ กุรุมานา. ‘‘เตน วุตฺตวจเน’’ติ เตน สิกฺขํ ปจฺจกฺขนฺเตน ภิกฺขุนา สิกฺขํ ปจฺจกฺขามีติ วุตฺตวจเน. ปจฺจุปฺปนฺนํ สทฺทํ โสตวิฺาณ วีถิยา, อตีตฺจ สทฺทํ มโนวิฺาณ วีถิยาติ โยชนา. ‘‘ตานิ อกฺขรานี’’ติ สิกฺขํ ปจฺจกฺขามีติ วากฺเย อวยวกฺขรานิ. ‘‘อยํ อกฺขร สมูโห’’ติ อิทํ นามปทนฺติ วุตฺตํ โหติ. เอตสฺส อตฺถสฺส. ‘‘วินิจฺฉยวีถึ’’ติ อกฺขร ปทสลฺลกฺขณวีถิฺจ. ‘‘เอกกฺขเร สทฺเท’’ติ ‘โค’ อิจฺจาทิเก เอกกฺขเร ปฺตฺติ สทฺเท. ‘‘ยา’’ติ นาม ปฺตฺติ. ‘‘วทนฺตสฺส มนสา’’ติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ปุพฺพภาเค’’ติ ยํ กิฺจิ อตฺถํ ปเรสํ วตฺตุกาโม วทนฺโต ตสฺส ตสฺส อตฺถสฺส นามํ ปถมํ มโนทฺวารวีถิยา นิยเมตฺวา เอว วทติ, ตํ นามํ ปุพฺพภาเค วทนฺเตน มนสา ววตฺถาปิตา นามปฺตฺตีติ วุจฺจติ. ปฏิปาฏิกถนํ ปวตฺติกฺกมกถนํ. ‘‘วุตฺตํ’’ติ อฏฺกถาสุ วุตฺตํ. ตถา อทฺธมตฺติกนฺติ จ วุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. ‘‘วุตฺตํ’’ติ จ สทฺทสตฺเถสุ วุตฺตํ.
คาถายํ. ‘‘มตฺตา’’ติ เอกวิชฺชุปฺปาทกฺขณํ วุจฺจติ. เอกา มตฺตายสฺสาติ เอกมตฺโต. ‘‘ทีฆมุจฺจเต’’ติ ทีโฆ นาม วุจฺจเต. ‘‘ปฺลุโต’’ติ นานปฺปกาเรน รุโต คายิโตติ ปรุโต ¶ . โส เอว รการสฺส ลการํ กตฺวา ปกาเร จ สรโลปํ กตฺวา ปฺลุโตติ วุจฺจติ. คีตนฺติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘ปรมตฺถ สทฺทสงฺฆาฏานํ’’ติ ปรมฺปรา ปวตฺตานํ ปรมตฺถ สทฺทราสีนํ. ‘‘อเนกโกฏิสตสหสฺสานิ จิตฺตานี’’ติ ชวนวีถีนํ อนฺตรนฺตรา ภวงฺคจิตฺเตหิ สทฺธึ อเนกโกฏิสตสหสฺสานิ จิตฺตานิ.
ปฏฺานนยานุทีปนา นิฏฺิตา.
ปจฺจยสงฺคหานุทีปนา นิฏฺิตา.