📜

๑. สวิกรณาขฺยาตวิภาค

ตตฺถ ธาตูติ เกนฏฺเน ธาตุ? สกตฺถมฺปิ ธาเรตีติ ธาตุ, อตฺถาติสยโยคโต ปรตฺถมฺปิ ธาเรตีติ ธาตุ, วีสติยา อุปสคฺเคสุ เยน เกนจิ อุปสคฺเคน อตฺถวิเสสการเณน ปฏิพทฺธา อตฺถวิเสสมฺปิ ธาเรตีติ ธาตุ, ‘‘อยํ อิมิสฺสา อตฺโถ, อยมิโต ปจฺจโย ปโร’’ติอาทินา อเนกปฺปกาเรน ปณฺฑิเตหิ ธาริยติ เอสาติปิ ธาตุ, วิทหนฺติ วิทุโน เอตาย สทฺทนิปฺผตฺตึ อยโลหาทิมยํ อยโลหาทิธาตูหิ วิยาติปิ ธาตุ. เอวํ ตาว ธาตุสทฺทสฺสตฺโถ เวทิตพฺโพ.

ธาตุสทฺโท ชินมเต, อิตฺถิลิงฺคตฺตเน มโต;

สตฺเถ ปุลฺลิงฺคภาวสฺมึ, กจฺจายนมเต ทฺวิสุ.

อถ วา ชินมเต ‘‘ตโต โคตมิธาตูนี’’ติ เอตฺถ ธาตุสทฺโท ลิงฺควิปลฺลาเส วตฺตติ ‘‘ปพฺพตานิ วนานิ จา’’ติ เอตฺถ ปพฺพตสทฺโท วิย, น ปเนตฺถ วตฺตพฺพํ ‘‘อฏฺิวาจกตฺตา นปุํสกนิทฺเทโส’’ติ อฏฺิวาจกตฺเตปิ ‘‘ธาตุโย’’ติ อิตฺถิลิงฺคทสฺสนโต. ภูวาทโย สทฺทา ธาตโว. เสยฺยถิทํ? ภู อิ กุ เก ตกฺก ตก ตกิ สุกอิจฺจาทโย. คณโต เต อฏฺวิธา ภูวาทิคโณ รุธาทิคโณ ทิวาทิคโณ สฺวาทิคโณ กิยาทิคโณ คหาทิคโณ ตนาทิคโณ จุราทิคโณ จาติ. อิทานิ เตสํ วิกรณสฺิเต ปจฺจเย ทสฺเสสฺสาม. อเนกวิธา หิ ปจฺจยา นานปฺปกาเรสุ นามนาม กิตนาม สมาสนาม ตทฺธิตนามาขฺยาเตสุ ปวตฺตนโต. สงฺเขปโต ปน ทุวิธาว นามปจฺจโย อาขฺยาตปจฺจโย จาติ. ตตฺราปิ อาขฺยาตปจฺจยา ทุวิธา วิกรณปจฺจยโนวิกรณปจฺจยวเสน. ตตฺถ วิกรณปจฺจโย การาทิสตฺตรสวิโธ อคฺคหิตคฺคหเณน ปนฺนรสวิโธ จ. โนวิกรณปจฺจโย ปน ข ฉ สาทิเนกวิโธ. เย รูปนิปฺผตฺติยา อุปการกา อตฺถวิเสสสฺส โชตกา วา อโชตกา วา โลปนียา วา อโลปนียา วา, เต สทฺทา ปจฺจยา.

ปฏิจฺจ การณํ ตํ ตํ, เอนฺตีติ ปจฺจยาถ วา;

ปฏิจฺจ สทฺทนิปฺผตฺติ, อิโต เอตีติ ปจฺจยา.

นามิกปฺปจฺจยานํ โย, วิภาโค อาวิ เหสฺสติ;

นามกปฺเป ยโต ตสฺมา, น ตํ วิตฺถารยามเส.

โย โนวิกรณานํ ตุ, ปจฺจยานํ วิภาคโต;

โส ปนาขฺยาตกปฺปมฺหิ, วิตฺถาเรนา’คมิสฺสตีติ.

อิจฺจาเนกวิเธสุ ปจฺจเยสุ ‘‘วิกรณปจฺจยา นาม อิเม’’ติ สลฺลกฺเขตพฺพา. กถํ? ภูวาทิคณโต ปจฺจโย โหติ กตฺตริ, รุธาทิคณโต อการิวณฺเณกาโรการปจฺจยา โหนฺติ กตฺตริ, ปุพฺพมชฺฌฏฺาเน นิคฺคหีตาคโม จ, ทิวาทิคณโต ปจฺจโย โหติ กตฺตริ, สฺวาทิคณโต ณุ ณา อุณาปจฺจยา โหนฺติ กตฺตริ, กิยาทิคณโต นาปจฺจโย โหติ กตฺตริ, คหาทิคณโต ปฺป ณฺหาปจฺจยา โหนฺติ กตฺตริ, ตนาทิคณโต โอ ยิรปจฺจยา โหนฺติ กตฺตริ, จุราทิคณโต เณ ณยปจฺจยา โหนฺติ กตฺตริ.

กาโร จ อิวณฺโณ จ, เอ โอการา จ โย ตถา;

ณุ ณา อุณานา ปฺป ณฺหา-ยิรา เณ ณยปจฺจยา.

อคฺคหิตคฺคหเณน, เอวํ ปนฺนรเส’ริตา;

วิกรณวฺหยา เอเต, ปจฺจยาติ วิภาวเย.

เย เอวํ นิทฺทิฏฺเหิ วิกรณปจฺจเยหิ ตทฺเหิ จ สปฺปจฺจยา อฏฺวิธา ธาตุคณา สุตฺตนฺเตสุ พหูปการา, เตสฺวายํ ภูวาทิคโณ. ภู สตฺตายํ, ภูธาตุ วิชฺชมานตายํ วตฺตติ. สกมฺมิกากมฺมิกาสุ ธาตูสุ อยํ อกมฺมิกา ธาตุ, น ปน ‘‘ธมฺมภูโต’’ติอาทีสุ ปตฺติอตฺถวาจิกา อปรา ภูธาตุ วิย สกมฺมิกา. เอสา หิ ปริอภิอาทีหิ อุปสคฺเคหิ ยุตฺตาเยว สกมฺมิกา ภวติ, น อุป ปรา ปาตุอาทีหิ อุปสคฺคนิปาเตหิ ยุตฺตาปิ. อโต อิมิสฺสา สิทฺธานิ รูปานิ ทฺวิธา เยฺยานิ อกมฺมกปทานิ สกมฺมกปทานิ จาติ.

สุทฺธกตฺตุกฺริยาปทนิทฺเทส

ตตฺร ภวติ อุพฺภวติ สมุพฺภวติ ปภวติ ปราภวติ สมฺภวติ วิภวติ, โภติ สมฺโภติ วิโภติ ปาตุภวติ ปาตุพฺภวติ ปาตุโภติ, อิมานิ อกมฺมกปทานิ. เอตฺถ ปาตุอิติ นิปาโต, โส ‘‘อาวิภวติ ติโรภวตี’’ติอาทีสุ อาวิ ติโรนิปาตา วิย ภูธาตุโต นิปฺผนฺนาขฺยาตสทฺทสฺส เนว วิเสสกโร, น จ สกมฺมกตฺตสาธโก. อุอิจฺจาทโย อุปสคฺคา, เต ปน วิเสสกรา, น สกมฺมกตฺตสาธกา. เยสมตฺโถ กมฺเมน สมฺพนฺธนีโย น โหติ, ตานิ ปทานิ อกมฺมกานิ. อกมฺมกปทานํ ยถารหํ สกมฺมกากมฺมกวเสน อตฺโถ กเถตพฺโพ. ปริโภติ ปริภวติ, อภิโภติ อภิภวติ, อธิโภติ อธิภวติ, อติโภติ อติภวติ, อนุโภติ อนุภวติ, สมนุโภติ สมนุภวติ, อภิสมฺโภติ อภิสมฺภวติ, อิมานิ สกมฺมกปทานิ. เอตฺถ ปริอิจฺจาทโย อุปสคฺคา, เต ภูธาตุโต นิปฺผนฺนาขฺยาตสทฺทสฺส วิเสสกรา เจว สกมฺมกตฺตสาธกา จ. เยสมตฺโถ กมฺเมน สมฺพนฺธนีโย, ตานิ ปทานิ สกมฺมกานิ. สกมฺมกปทานํ สกมฺมกวเสน อตฺโถ กเถตพฺโพ, กฺวจิ อกมฺมกวเสนปิ. เอวํ สุทฺธกตฺตุกฺริยาปทานิ ภวนฺติ. อุทฺเทโสยํ.

ตตฺร ภวตีติ โหติ วิชฺชติ ปฺายติ สรูปํ ลภติ. อุพฺภวตีติ อุปฺปชฺชติ สรูปํ ลภติ. สมุพฺภวตีติ สมุปฺปชฺชติ สรูปํ ลภติ. ปภวตีติ โหติ สมฺภวติ. อถ วา ปภวตีติ ยโต กุโตจิ สนฺทติ, น วิจฺฉิชฺชติ, อวิจฺฉินฺนํ โหติ, ตํ ตํ านํ วิสรติ. ปราภวตีติ ปราภโว โหติ พฺยสนํ อาปชฺชติ อวุทฺธึ ปาปุณาติ. สมฺภวตีติ สุฏฺุ ภวติ วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชติ. วิภวตีติ อุจฺฉิชฺชติ วินสฺสติ วิปชฺชติ, วิเสสโต วา ภวติ สมฺปชฺชติ. โภติ สมฺโภติ วิโภตีติ อิมานิ ‘‘ภวติ สมฺภวติ วิภวตี’’ติ อิเมหิ ยถากฺกมํ สมานนิทฺเทสานิ. ปาตุภวตีติ ปกาสติ ทิสฺสติ ปฺายติ ปากฏํ โหติ. ปาตุพฺภวติ ปาตุโภตีติ อิมานิ ‘‘ปาตุภวตี’’ติ อิมินา สมานนิทฺเทสานิ. เอวํ อกมฺมกปทานํ ยถารหํ สกมฺมกากมฺมกวเสน อตฺถกถนํ ทฏฺพฺพํ. เอวมุตฺตรตฺราปิ อฺเสมฺปิ อกมฺมกปทานํ.

ปริโภติทุกาทีสุ ปน สตฺตสุ ทุเกสุ ยถากฺกมํ ทฺเว ทฺเว ปทานิ สมานตฺถานิ, ตสฺมา ทฺเว ทฺเว ปทานิเยว คเหตฺวา นิทฺทิสิสฺสาม. ตตฺร ปริโภติ ปริภวตีติ ปรํ หึสติ ปีเฬติ, อถ วา หีเฬติ อวชานาติ. อภิโภติ อภิภวตีติ ปรํ อชฺโฌตฺถรติ มทฺทติ. อธิโภติ อธิภวตีติ ปรํ อภิมทฺทิตฺวา ภวติ อตฺตโน วสํ วตฺตาเปติ. อติโภติ อติภวตีติ ปรํ อติกฺกมิตฺวา ภวติ. อนุโภติ อนุภวตีติ สุขทุกฺขํ เวเทติ ปริภุฺชติ สุขทุกฺขปฏิสํเวที โหติ. สมนุโภติ สมนุภวตีติ สุขทุกฺขํ สุฏฺุ เวเทติ สุฏฺุ ปริภุฺชติ สุฏฺุ สุขทุกฺขปฏิสํเวที โหติ. อภิสมฺโภติ อภิสมฺภวตีติ ปรํ อชฺโฌตฺถรติ มทฺทติ. เอวํ สกมฺมกปทานํ สกมฺมกวเสน อตฺถกถนํ ทฏฺพฺพํ. กตฺถจิ ปน คจฺฉตีติ ปวตฺตตีติ เอวํ อกมฺมกวเสนปิ. เอวมุตฺตรตฺราปิ อฺเสํ สกมฺมกปทานํ.

ปจฺจโย ปโร โหติ, ภูวาทิคณโต สติ;

สุทฺธกตฺตุกฺริยาขฺยาเน, สพฺพธาตุกนิสฺสิเต.

อยํ สุทฺธกตฺตุกฺริยาปทานํ นิทฺเทโส.

เหตุกตฺตุกฺริยาปทนิทฺเทส

ภาเวติ วิภาเวติสมฺภาเวติ ปริภาเวติ, เอวํ เหตุกตฺตุกฺริยาปทานิ ภวนฺติ. เอกกมฺมกวเสเนสมตฺโถ คเหตพฺโพ . ปจฺฉิมสฺส ปน ทฺวิกมฺมกวเสนปิ. ปริภาวาเปติ อภิภาวาเปติ อนุภาวาเปติ, เอวมฺปิ เหตุกตฺตุกฺริยาปทานิ ภวนฺติ. ทฺวิกมฺมกวเสเนสมตฺโถ คเหตพฺโพ. อิจฺเจวํ ทฺวิธา เหตุกตฺตุกฺริยาปทานิ เยฺยานิ, อฺานิปิ คเหตพฺพานิ.

ตตฺร ภาเวตีติ ปุคฺคโล ภาเวตพฺพํ ยํ กิฺจิ ภาเวติ อาเสวติ พหุลีกโรติ, อถ วา ภาเวตีติ วฑฺเฒติ. วิภาเวตีติ ภาเวตพฺพํ ยํ กิฺจิ วิภาเวติ วิเสเสน ภาเวติ, วิวิเธน วา อากาเรน ภาเวติ ภาวยติ วฑฺเฒติ, อถ วา วิภาเวตีติ อภาเวติ อนฺตรธาเปติ. สมฺภาเวตีติ ยสฺส กสฺสจิ คุณํ สมฺภาเวติ สมฺภาวยติ สุฏฺุ ปกาเสติ อุกฺกํเสติ. ปริภาเวตีติ ปริภาเวตพฺพํ ยํ กิฺจิ ปริภาเวติ ปริภาวยติ สมนฺตโต วฑฺเฒติ. เอวํ เอกกมฺมกวเสนตฺโถ คเหตพฺโพ. อถ วา ปริภาเวตีติ วาเสตพฺพํ วตฺถุํ ปริภาเวติ ปริภาวยติ วาเสติ คนฺธํ คาหาเปติ. เอวํ ทฺวิกมฺมกวเสนาปิ อตฺโถ คเหตพฺโพ. ปริภาวาเปตีติ ปุคฺคโล ปุคฺคเลน สปตฺตํ ปริภาวาเปติ หึสาเปติ, อถ วา ปริภาวาเปตีติ หีฬาเปติ อวชานาเปติ. อภิภาวาเปตีติ ปุคฺคโล ปุคฺคเลน สปตฺตํ อภิภาวาเปติ อชฺโฌตฺถราเปติ. อนุภาวาเปตีติ ปุคฺคโล ปุคฺคเลน สมฺปตฺตึ อนุภาวาเปติ ปริโภเชติ.

ปยุตฺโต กตฺตุนา โยเค, ิโตเยวาปฺปธานิเย;

กฺริยํ สาเธติ เอตสฺส, ทีปกํ สาสเน ปทํ.

กรณวจนํเยว, เยภุยฺเยน ปทิสฺสติ;

อาขฺยาเต การิตฏฺานํ, สนฺธาย กถิตํ อิทํ.

นาเม การิตฏฺานํ, ‘‘โพเธตา’’ อิติอาทิกํ;

‘‘สุนเขหิปิ ขาทาเปนฺติ’’, อิจฺจาทีนิ ปทานิ จ;

อาหริตฺวาน ทีเปยฺย, ปโยคกุสโล พุโธ.

ตตฺริทํ กรณวจนํ กมฺมตฺถทีปกํ, อุปโยคสามิวจนานิปิ ตทฺทีปกานิ โยเชตพฺพานิ. กถํ? ปริภาวาเปตีติ ปุคฺคโล ปุคฺคลํ สปตฺตํ ปริภาวาเปตีติ, ตถา ปริภาวาเปตีติ ปุคฺคโล ปุคฺคลสฺส สปตฺตํ ปริภาวาเปตีติ. เสสานิ นยานุสาเรน นิทฺทิสิตพฺพานิ. เอวํ สพฺพาเนตานิ กรโณปโยคสามิวจนานิ กมฺมตฺถทีปกานิเยว โหนฺติ, ตสฺมา ทฺวิกมฺมกวเสนตฺโถ คเหตพฺโพ.

อยํ เหตุกตฺตุกฺริยาปทานํ นิทฺเทโส.

กมฺมกฺริยาปทนิทฺเทส

ภวิยเต วิภวิยเต ปริภวิยเต อภิภวิยเต อนุภวิยเต ปริภูยเต อภิภูยเต อนุภูยเต, เอวํ กมฺมุโน กฺริยาปทานิ ภวนฺติ. อฺถา จ ภวิยฺยเต วิภวิยฺยเต ปริภวิยฺยเต อภิภวิยฺยเต อนุภวิยฺยเต ปริภุยฺยเต อภิภุยฺยเต อนุภุยฺยเตติ. เอตฺถ กมฺมุโน กฺริยาปทานิเยว กมฺมกตฺตุโน กฺริยาปทานิ กตฺวา โยเชตพฺพานิ. วิสุฺหิ กมฺมกตฺตุโน กฺริยาปทานิ น ลพฺภนฺติ.

ตตฺร ภวิยเตติ ภาเวตพฺพํ ยํ กิฺจิ ปุคฺคเลน ภาวิยเต อาเสวิยเต พหุลีกริยเต, อถ วา ภวิยเตติ วฑฺฒิยเต. วิภวิยเตติ วิภาเวตพฺพํ ยํ กิฺจิ ปุคฺคเลน วิภวิยเต วิเสเสน ภวิยเต, วิวิเธน วา อากาเรน ภวิยเต วฑฺฒิยเต, อถ วา วิภวิยเตติ อภวิยเต อนฺตรธาปิยเต. ปริภวิยเตติ สปตฺโต ปุคฺคเลน ปริภวิยเต หึสิยเต, อถ วา ปริภวิยเตติ หีฬิยเต อวชานิยเต. อภิภวิยเตติ สปตฺโต ปุคฺคเลน อภิภวิยเต อชฺโฌตฺถริยเต อภิมทฺทิยเต. อนุภวิยเตติ สมฺปตฺติ ปุคฺคเลน อนุภวิยเต ปริภุฺชิยเต. ปริภูยเตติอาทีนิ ตีณิ ‘‘ปริภวิยเต’’ติอาทีหิ ตีหิ สมานนิทฺเทสานิ. เสสานิ ปน ยถาวุตฺเตหิ ยํ กมฺมเมว ปธานโต คเหตฺวา นิทฺทิสิยติ ปทํ, ตํ กมฺมตฺถทีปกํ. ตสฺมา กตฺตริ เอกวจเนน นิทฺทิฏฺเปิ ยทิ กมฺมํ พหุวจนวเสน วตฺตพฺพํ, พหุวจนนฺตฺเว กมฺมุโน กฺริยาปทํ ทิสฺสติ. ยทิ ปเนกวจนวเสน วตฺตพฺพํ, เอกวจนนฺตฺเว. ตถา กตฺตริ พหุวจเนน นิทฺทิฏฺเปิ ยทิ กมฺมํ เอกวจนวเสน วตฺตพฺพํ, เอกวจนนฺตฺเว กมฺมุโน กฺริยาปทํ ทิสฺสติ. ยทิ ปน พหุวจนวเสน วตฺตพฺพํ, พหุวจนนฺตฺเว. กถํ? ภิกฺขุนา ธมฺโม ภวิยเต, ภิกฺขุนา ธมฺมา ภวิยนฺเต, ภิกฺขูหิ ธมฺโม ภวิยเต, ภิกฺขูหิ ธมฺมา ภวิยนฺเตติ. อิมินา นเยน สพฺพตฺถ กมฺมุโน กฺริยาปเทสุ โวหาโร กาตพฺโพ. ยสฺมึ ปน กมฺมุโน กฺริยาปเท กมฺมตฺถทีปเก กมฺมภูตสฺเสวตฺถสฺส กตฺตุภาวปริกปฺโป โหติ, ตํ กมฺมกตฺตุตฺถทีปกํ, ตํ กมฺมุโน กฺริยาปทโต วิสุํ น ลพฺภติ. อยํ ปเนตฺถ อตฺถวิฺาปเน ปโยครจนา. สยเมว ปริภวิยเต ทุพฺภาสิตํ ภณํ พาโล ตปฺปจฺจยา อฺเหิ ปริภูโตปิ, สยเมว อภิภวิยเต ปาปการี นิรเย นิรยปาเลหิ อภิภูโตปิ ตถารูปสฺส กมฺมสฺส สยํ กตตฺตาติ. เอตฺถ หิ สยเมว ปียเต ปานียํ, สยเมว กโฏ กริยเตติอาทีสุ วิย สุขาภิสงฺขรณียตา ลพฺภเตว, ตโต กมฺมกตฺตุตา จ.

อยํ กมฺมุโน กฺริยาปทานํ นิทฺเทโส.

ภาวกฺริยาปทนิทฺเทส

ภูยเต ภวิยเต อุพฺภวิยเต, เอวํ ภาวสฺส กฺริยาปทานิ ภวนฺติ. อฺถา จ ภุยฺยเต ภวิยฺยเต อุพฺภวิยฺยเตติ. ตตฺร ยถา ียเตปทสฺส านนฺติ ภาววเสน อตฺถกถนมิจฺฉนฺติ, เอวํ ภูยเตติอาทีนมฺปิ ภวนนฺติอาทินา ภาววเสน อตฺถกถนมิจฺฉิตพฺพํ. ยถา จ านํ ิติ ภวนนฺติอาทีหิ ภาววาจกกิตนฺตนามปเทหิ สทฺธึ สมฺพนฺเธ ฉฏฺิโยชนมิจฺฉนฺติ, น ตถา ียเต ภูยเตติอาทีหิ ภาววาจกาขฺยาตปเทหิ สทฺธึ สมฺพนฺเธ ฉฏฺิโยชนา อิจฺฉิตพฺพา สมฺพนฺเธ ปวตฺตฉฏฺิยนฺตสทฺเทหิ อสมฺพนฺธนียตฺตา อาขฺยาติกปทานํ. ยสฺมึ ปโยเค ยํ กมฺมุโน กฺริยาปเทน สมานคติกํ กตฺวา วินา กมฺเมน นิทฺทิสิยติ กฺริยาปทํ, กตฺตุวาจกปทํ ปน ปจฺจตฺตวจเนน วา กรณวจเนน วา นิทฺทิสิยติ, ตํ ตตฺถ ภาวตฺถทีปกํ. น หิ สพฺพถา กตฺตารมนิสฺสาย ภาโว ปวตฺตติ. เอวํ สนฺเตปิ ภาโว นาม เกวโล ภวนลวนปจนาทิโก ธาตุอตฺโถเยว. อกฺขรจินฺตกา ปน ‘‘ียเต ภูยเต’’ติอาทีสุ ภาววิสเยสุ กรณวจนเมว ปยุฺชนฺติ ‘‘นนุ นาม ปพฺพชิเตน สุนิวตฺเถน ภวิตพฺพํ สุปารุเตน อากปฺปสมฺปนฺเนนา’’ติอาทีสุ วิย, ตสฺมา เตสํ มเต ‘‘เตน อุพฺภวิยเต’’ติ กรณวจเนน โยเชตพฺพํ. ชินมเตน ปน ‘‘โส ภูยเต’’ติอาทินา ปจฺจตฺตวจเนเนว. สจฺจสงฺเขปปฺปกรเณ หิ ธมฺมปาลาจริเยน, นิทฺเทสปาฬิยํ ปน ธมฺมเสนาปตินา, ธชคฺคสุตฺตนฺเต ภควตา จ ภาวปทํ ปจฺจตฺตวจนาเปกฺขวเสนุ’จฺจาริตํ.

กถิโต สจฺจสงฺเขเป, ปจฺจตฺตวจเนน เว,

‘‘ภูยเต’’ อิติ สทฺทสฺส, สมฺพนฺโธ ภาวทีปโน.

นิทฺเทสปาฬิยํ ‘‘รูปํ, วิโภติ วิภวิยฺยติ’’;

อิติ ทสฺสนโต วาปิ, ปจฺจตฺตวจนํ ถิรํ.

ตถา ธชคฺคสุตฺตนฺเต, มุนินาหจฺจภาสิเต;

‘‘โส ปหียิสฺสติ’’ อิติ, ปาฬิทสฺสนโตปิ จ.

ปารมิตานุภาเวน, มเหสีนํว เทหโต;

สนฺติ นิปฺผาทนา, เนว, สกฺกตาทิวโจ วิย.

ปจฺจตฺตทสฺสเนเนว, ปุริสตฺตยโยชนํ;

เอกวจนิกฺจาปิ, พหุวจนิกมฺปิ จ;

กาตพฺพมิติ โน ขนฺติ, ปรสฺสปทอาทิเก.

ตสฺมา รูปํ วิภวิยฺยติ, รูปานิ วิภวิยฺยนฺติ, ตฺวํ วิภวิยฺยสิ, ตุมฺเห วิภวิยฺยถ, อหํ วิภวิยฺยามิ, มยํ วิภวิยฺยาม, รูปํ วิภวิยฺยเต, รูปานิ วิภวิยฺยนฺเต อิจฺเจวมาทิ ชินวจนานุรูปโต โยเชตพฺพํ. อตฺรายํ ปทโสธนา –

วิภวิยฺยตีติ อิทํ, กมฺมปทสมานกํ;

น จ กมฺมปทํ นาปิ, กมฺมกตฺตุปทาทิกํ.

ยทิ กมฺมปทํ เอตํ, ปจฺจตฺตวจนํ ปน;

กมฺมํ ทีเปยฺย กรณ-วจนํ กตฺตุทีปกํ.

ยทิ กมฺมกตฺตุปทํ, ‘‘ปียเต’’ติ ปทํ วิย;

สิยา สกมฺมกํ, เนตํ, ตถา โหตีติ ทีปเย.

ยทิ กตฺตุปทํ เอตํ, วิภวติปทํ วิย;

วินา ปจฺจยํ ติฏฺเ, น ตถา ติฏฺเต อิทํ.

น กตฺตริ ภุวาทีนํ, คเณ ปจฺจโย รุโต;

ทิวาทีนํ คเณเยว, กตฺตริ สมุทีริโต.

ภูธาตุ ทิวาทีนํ, ธาตูนํ ทิสฺสเต คเณ;

ภูวาทิกจุราทีนํ, คเณสุเยว ทิสฺสติ.

‘‘วิภวิยฺยติ’’ อิจฺจาโท, ตสฺมา ปจฺจโย ปน;

ภาเวเยวาติ วิฺเยฺยํ, วิฺุนา สมยฺุนา.

เอตฺถ หิ ปากฏํ กตฺวา, ภาวการกลกฺขณํ;

ทสฺสยิสฺสามหํ ทานิ, สกฺกจฺจํ เม นิโพธถ.

‘‘ติสฺโส คจฺฉติ’’อิจฺจตฺร, กตฺตารํ กตฺตุโน ปทํ;

‘‘ธมฺโม เทสิยติ’’จฺจตฺร, กมฺมํ ตุ กมฺมุโน ปทํ.

สรูปโต ปกาเสติ, ตสฺมา เต ปากฏา อุโภ;

ตถา วิภวิยฺยตีติ-อาทิภาวปทํ ปน.

สรูปโต น ทีเปติ, การกํ ภาวนามกํ;

ทพฺพภูตํ ตุ กตฺตารํ, ปกาเสติ สรูปโต.

กตฺตารํ ปน ทีเปนฺตํ, กตฺตุสนฺนิสฺสิตมฺปิ ตํ;

ภาวํ ทีเปติ สฺวากาโร, ปจฺจเยน วิภาวิโต.

ยสฺมา จ กตฺตุภาเวน, ภาโว นาม น ติฏฺติ;

กตฺตาว กตฺตุภาเวน, ภาวฏฺาเน ิโต ตโต.

ยชฺเชวํ กตฺตุโวหาโร, ภาวสฺส ตุ กถํ สิยา;

‘‘สาวกานํ สนฺนิปาโต, อโหสิ’’อิติอาทิสุ.

อิติ เจ นิสฺสยานํ ตุ, วสา นิสฺสิตสมฺภวา;

กตฺตุฏฺาเนปิ ภาวสฺส, กตฺตุปฺตฺติ สิชฺฌติ.

การเก กตฺตุกมฺมวฺเห, กฺริยาสนฺนิสฺสเย ยถา;

ธาเรนฺตี อาสนถาลี, กฺริยาธาโรติ กปฺปิตา.

ตถา ภาวปทํ ธีรา, กตฺตารํ ภาวนิสฺสยํ;

ทีปยนฺตมฺปิ กปฺเปนฺติ, ภาวสฺส วาจกํ อิติ.

เกจิ อทพฺพภูตสฺส, ภาวสฺเสกตฺตโต พฺรวุํ;

ภาเวเทกวโจวาทิ-ปุริสสฺเสว โหติติ.

ปาฬึ ปตฺวาน เตสํ ตุ, วจนํ อปฺปมาณกํ;

‘‘เต สํกิเลสิกา ธมฺมา, ปหียิสฺสนฺติ’’ อิติ หิ.

ปาโ ปาวจเน ทิฏฺโ, ตสฺมา เอวํ วเทมเส;

ปจฺจตฺตทสฺสเนเนว, ปุริสตฺตยโยชนํ.

วจเนหิ ยุตํ ทฺวีหิ, อิจฺฉิตพฺพนฺติ โน รุจิ;

ภาเว กฺริยาปทํ นาม, ปาฬิยํ อติทุทฺทสํ;

ตสฺมา ตคฺคหณูปาโย, วุตฺโต เอตฺตาวตา มยาติ.

อยํ ภาวสฺส กฺริยาปทานํ นิทฺเทโส.

เอวํ สุทฺธกตฺตุกฺริยาปทานิ เหตุกตฺตุกฺริยาปทานิ กมฺมุโน กฺริยาปทานิ, ภาวสฺส กฺริยาปทานิ จาติ จตุธา, กมฺมกตฺตุกฺริยาปเทหิ วา ปฺจธา ภูธาตุโต นิปฺผนฺนานิ กฺริยาปทานิ นานปฺปกาเรน นิทฺทิฏฺานิ, เอตานิ โลกิยานํ ภาวเภทวเสน โวหารเภโท โหตีติ ทสฺสนตฺถํ วิสุํ วิสุํ วุตฺตานิ. อตฺถโต ปน กมฺมกตฺตุภาวการกตฺตยวเสน ติวิธาเนว. เหตุกตฺตา หิ สุทฺธกตฺตุสงฺขาเต การเก ตสฺสงฺคภาวโต สงฺคหมุปคจฺฉติ, ตถา กมฺมกตฺตา กมฺมการเก, ภาโว ปน เกวโล. โส หิ คมนปจนลวนาทิวเสนาเนกวิโธปิ กฺริยาสภาวตฺตา เภทรหิโต การกนฺตโร. เอวํ สนฺเตปิ ทพฺพสนฺนิสฺสิตตฺตา ทพฺพเภเทน ภิชฺชติ. เตน ปาวจเน ภาววาจกํ ปทํ พหุวจนนฺตมฺปิ ทิสฺสติ. อาขฺยาติกปเท ภาวการกโวหาโร นิรุตฺตินยํ นิสฺสาย คโต, อตฺถโต ปน ภาวสฺส การกตา นุปปชฺชติ. โส หิ น กิฺจิ ชเนติ, น จ กฺริยาย นิมิตฺตํ. กฺริยานิมิตฺตภาโวเยว หิ การกลกฺขณํ. อิติ มุขฺยโต วา เหตุโต วา ภาวสฺส การกตา น ลพฺภติ. เอวํ สนฺเตปิ โส กรณมตฺตตฺตา การกํ. ตถา หิ กรณํ กาโร, กฺริยา, ตเทว การกนฺติ ภาวสฺส การกตา ทฏฺพฺพา. ยสฺมา ปน กฺริยานิมิตฺตภาโวเยว การกลกฺขณํ, ตสฺมา นามิกปเท การกลกฺขเณ ภาวการกนฺติ โวหารํ ปหาย กตฺตุกมฺมกรณสมฺปทานาปาทานาธิกรณานํ ฉนฺนํ วตฺถูนํ กตฺตุการกกมฺมการกนฺติอาทิ โวหาโร กริยติ เวยฺยากรเณหิ. เอวํ นิรุตฺตินยํ นิสฺสาย วุตฺตํ ภาวการกฺจ ทฺเว จ กมฺมกตฺตุการกานีติ การกตฺตยํ ภวติ. ตทฺทีปกฺจาขฺยาติกปทํ ติการกํ.

อิมมตฺถฺหิ สนฺธาย, วุตฺตมาจริเยหิปิ;

มหาเวยฺยากรเณหิ, นิรุตฺตินยทสฺสิภิ.

‘‘ยํ ติกาลํ ติปุริสํ, กฺริยาวาจิ ติการกํ;

อติลิงฺคํ ทฺวิวจนํ, ตทาขฺยาตนฺติ วุจฺจตี’’ติ.

อิธ ภาวกมฺเมสุ อตฺตโนปทุปฺปตฺตึ เกจิ อกฺขรจินฺตกา อวสฺสมิจฺฉนฺตีติ เตสํ มติวิภาวนตฺถมมฺเหหิ ภาวกมฺมานํ กฺริยาปทานิ อตฺตโนปทวเสนุทฺทิฏฺานิ เจว นิทฺทิฏฺานิ จ. สพฺพานิปิ ปเนตานิ ติการกานิ กฺริยาปทานิ กฺริยาปทมาลมิจฺฉตา ปรสฺสปทตฺตโนปทวเสน โยเชตพฺพานิ. ปาฬิอาทีสุ หิ ติการกานิ กฺริยาปทานิ ปรสฺสปทตฺตโนปทวเสน ทฺวิธา ิตานิ. เสยฺยถิทํ? ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ. สมาธิชฺฌานกุสลา, วนฺทนฺติ โลกนายกํ. โมนํ วุจฺจติ าณํ. อตฺถาภิสมยา ธีโร, ปณฺฑิโตติ ปวุจฺจติ. กถํ ปฏิปนฺนสฺส ปุคฺคลสฺส รูปํ วิโภติ วิภวิยฺยติ. โส ปหียิสฺสติ. ปณฺฑุกมฺพเล นิกฺขิตฺตํ ภาสเต ตปเต. ปูชโก ลภเต ปูชํ. ปุตฺตกามา ถิโย ยาจํ, ลภนฺเต ตาทิสํ สุตํ. อสิโต ตาทิ วุจฺจเต สพฺรหฺมา. อคฺคิชาทิ ปุพฺเพว ภูยเต. โส ปหีเยถาปิ โน ปหีเยถาติ เอวํ ทฺวิธา ิตานิ. อตฺริทํ ปาฬิววตฺถานํ –

ติการกานิ สพฺพานิ, กฺริยาปทานิ ปายโต;

ปรสฺสปทโยเคน, ทิสฺสนฺติ ปิฏกตฺตเย.

อตฺตโนปทยุตฺตานิ, จุณฺณิเยสุ ปเทสุ หิ;

อตีวปฺปานิ คาถาสุ, ปทานีติ พหูนิ ตุ.

คาถาสุ เจวิตรานิ, จุณฺณิเยสุ ปเทสุ จ;

สุพหูเนว หุตฺวาน, ทิสฺสนฺตีติ ปกาสเย.

ปทานํ นิทฺเทโส ปนติ อนฺติอาทีนํ เตสํ เตสํ วจนานมนุรูเปน โยเชตพฺโพ. เอวํ ติการกกฺริยาปทานิ สรูปโต ววตฺถานโต นิทฺเทสโต จ เวทิตพฺพานิ.

อิทานิ โนปสคฺคากมฺมิกาทิวเสน ภวติสฺส ธาตุสฺส วินิจฺฉยํ วทาม –

โนปสคฺคา อกมฺมา จ, โสปสคฺคา อกมฺมิกา;

โสปสคฺคา สกมฺมา จ, อิติ ภูติ วิภาวิตา.

อิทํ ตุ วจนํ ‘‘ธมฺม-ภูโต ภุตฺวา’’ติอาทิสุ;

ปตฺตานุภวนตฺถํ เม, วิวชฺเชตฺวา อุทีริตํ.

เอเตน ปน อตฺเถน, โนปสคฺคสกมฺมิกํ;

คเหตฺวา จตุธา โหติ, อิติ เยฺยํ วิเสสโต.

โนปสคฺคา อกมฺมา จ, โสปสคฺคา อกมฺมิกา;

ภูธาตุ การิเต สนฺเต, เอกกมฺมา ภวนฺติ หิ.

‘‘ภาเวติ กุสลํ ธมฺมํ, วิภาเวตี’’ติมานิธ;

ทสฺเสตพฺพานิ วิฺูหิ, สาสนฺูหิ สาสเน.

โสปสคฺคา สกมฺมา ตุ, การิตปฺปจฺจเย สติ;

ทฺวิกมฺมาเยว โหตีติ, าตพฺพํ วิฺุนา กถํ.

อภิภาเวนฺติ ปุริสา, ปุริเส ปาณชาติกํ;

อนุภาเวติ ปุริโส, สมฺปตฺตึ ปุริสํ อิติ.

อิทํ สกมฺมกํ นาม, อกมฺมกมิทํ อิติ;

กถมมฺเหหิ าตพฺพํ, วิตฺถาเรน วเทถ โน.

วิตฺถาเรเนว กึ วตฺตุํ, สกฺโกมิ เอกเทสโต;

กถยิสฺสามิ สกฺกจฺจํ, วทโต เม นิโพธถ.

อาขฺยาติกปทํ นาม, ทุวิธํ สมุทีริตํ;

สกมฺมกมกมฺมฺจ, อิติ วิฺู วิภาวเย.

ตตฺร ยสฺส ปโยคมฺหิ, ปทสฺส กตฺตุนา กฺริยา;

นิปฺผาทิตา วินา กมฺมํ, น โหติ ตํ สกมฺมกํ.

‘‘ปจตี’’ติ หิ วุตฺเต ตุ, เยน เกนจิ ชนฺตุนา;

โอทนํ วา ปนฺํ วา, กิฺจิ วตฺถุนฺติ ายติ.

ยสฺส ปน ปโยคมฺหิ, กมฺเมน รหิตา กฺริยา;

ปทสฺส ายเต เอตํ, อกมฺมกนฺติ ตีรเย.

‘‘ติฏฺติ เทวทตฺโต’’ติ, วุตฺเต เกนจิ ชนฺตุนา;

านํว พุทฺธิวิสโย, กมฺมภูตํ น กิฺจิปิ.

สกมฺมกปทํ ตตฺถ, กตฺตารํ กมฺมเมว จ;

ปกาเสติ ยถาโยค-มิติ วิฺู วิภาวเย.

‘‘โอทนํ ปจติ โปโส, โอทโน ปจฺจเต สยํ’’;

อิจฺจุทาหรณา เยฺยา, อวุตฺเตปิ อยํ นโย.

อกมฺมกปทํ นาม, กตฺตารํ ภาวเมว จ;

ยถารหํ ปกาเสติ, อิติ ธีโรปลกฺขเย.

กตฺตารํ ‘‘ติฏฺติ’’จฺจตฺร, สูเจติ ภาวนามกํ;

‘‘อุปฏฺียติ’’ อิจฺจตฺร, อวุตฺเตปิ อยํ นโย.

เอวํ สกมฺมกากมฺมํ, ตฺวา โยเชยฺย พุทฺธิมา;

ติกมฺมกฺจ ชาเนยฺย, กราโท การิเต สติ.

‘‘สุวณฺณํ กฏกํ โปโส, กาเรติ ปุริส’’นฺติ จ;

‘‘ปุริโส ปุริเส คามํ, รถํ วาเหติ’’อิจฺจปิ.

เอตฺถ ภวติธาตุมฺหิ, นโย เอโส น ลพฺภติ;

ตสฺมา ทฺวิกมฺมกฺเว, ปทเมตฺถ วิภาวิตํ.

เอทิโส จ นโย นาม, ปาฬิยํ ตุ น ทิสฺสติ;

เอกจฺจานํ มเตเนว, มยา เอวํ ปกาสิโต.

เอตฺถ จ ‘‘ตเมนํ ราชา, วิวิธา กมฺมการณา;

การาเปตี’’ติ โย ปาโ, นิทฺเทเส ตํ สุนิทฺทิเส.

‘‘มนุสฺเสหี’’ติ อาหริตฺวา, ปาเสสํ สุเมธโส;

‘‘สุนเขหิปิ ขาทาเปนฺติ’’, อิติ ปาสฺส ทสฺสนา.

เอตํ นยํ วิทู ตฺวา, โยเช ปาานุรูปโต;

‘‘สุวณฺณํ กฏกํ โปโส, กาเรติ ปุริเสนิ’’ติ.

วิกรณปฺปจฺจยาว, วุตฺตา เอตฺถ สรูปโต;

สคเณ สคเณ เตสํ, วุตฺตึ ทีเปตุเมว จ.

‘‘อสฺมึ คเณ อยํ ธาตุ, โหตี’’ติ เตหิ วิฺุโน;

วิฺาเปตุฺจ อฺเหิ, าปนา ปจฺจเยหิ น.

ตถา หิ ภาวกมฺเมสุ, วิหิโต ปจฺจโย ตุ โย;

อฏฺวิเธปิ ธาตูนํ, คณสฺมึ สมฺปวตฺตติ.

ภูธาตุเชสุ รูเปสุ, อสมฺโมหาย โสตุนํ;

นานาวิโธ นโย เอวํ, มยา เอตฺถ ปกาสิโต.

เย โลเก อปฺปยุตฺตา วิวิธวิกรณาขฺยาตสทฺเทสฺวเฉกา,

เต ปตฺวาขฺยาตสทฺเท อวิคตวิมตี โหนฺติ าณีปิ ตสฺมา;

อจฺจนฺตฺเว ธีโร สปรหิตรโต สาสเน ทฬฺหเปโม,

โยคํ เตสํ ปโยเค ปฏุตรมติตํ ปตฺถยาโน กเรยฺย.

อิติ นวงฺเค สาฏฺกเถ ปิฏกตฺตเย พฺยปฺปถคตีสุ

วิฺูนํ โกสลฺลตฺถาย กเต สทฺทนีติปฺปกรเณ

สวิกรณาขฺยาตวิภาโค นาม

ปโม ปริจฺเฉโท.