📜
๕. โอการนฺตปุลฺลิงฺคนามิกปทมาลา
ภู ธาตุโต ปวตฺตานํ, นามิกานมิโต ปรํ;
นามมาลํ ปกาสิสฺสํ, นามมาลนฺตรมฺปิ จ.
วิปฺปกิณฺณกถา เอตฺถ, เอวํ วุตฺเต น เหสฺสติ;
ปเภโท นามมาลานํ, ปริปุณฺโณว เหหิติ.
ปุพฺพาจริยสีหานํ, ตสฺมา อิธ มตํ สุตํ;
ปุเรจรํ กริตฺวาน, วกฺขามิ สวินิจฺฉยํ.
ปุริโส, ปุริสา. ปุริสํ, ปุริเส. ปุริเสน, ปุริเสหิ, ปุริเสภิ. ปุริสสฺส, ปุริสานํ. ปุริสา, ปุริสสฺมา, ปุริสมฺหา, ปุริเสหิ, ปุริเสภิ. ปุริสสฺส, ปุริสานํ. ปุริเส, ปุริสสฺมึ, ปุริสมฺหิ, ปุริเสสุ. โภ ปุริส, ภวนฺโต ปุริสา.
อยมายสฺมตา มหากจฺจาเนน ปภินฺนปฏิสมฺภิเทน กตสฺมา นิรุตฺติปิฏกโต อุทฺธริโต ปุริสอิจฺเจตสฺส ปกติรูปสฺส ¶ นามิกปทมาลานโย. ตตฺร ปุริสวจนเอกวจนปุถุวจเนสุ ปจฺจตฺตวจนาทีนิ ภวนฺติ. ตํ ยถา? ปุริโส ติฏฺติ, ปุริสา ติฏฺนฺติ. ตตฺร ปุริโสติ ปุริสวจเน เอกวจเน ปจฺจตฺตวจนํ ภวติ, ปุริสาติ ปุริสวจเน ปุถุวจเน ปจฺจตฺตวจนํ ภวติ.
ปุริสํ ปสฺสติ, ปุริเส ปสฺสติ. ตตฺร ปุริสนฺติ ปุริสวจเน เอกวจเน อุปโยควจนํ ภวติ, ปุริเสติ ปุริสวจเน ปุถุวจเน อุปโยควจนํ ภวติ.
ปุริเสน กตํ, ปุริเสหิ กตํ, ปุริเสภิ กตํ. ตตฺร ปุริเสนาติ ปุริสวจเน เอกวจเน กรณวจนํ ภวติ, ปุริเสหิ, ปุริเสภีติ ปุริสวจเน ปุถุวจเน กรณวจนํ ภวติ.
ปุริสสฺส ทียเต, ปุริสานํ ทียเต. ตตฺร ปุริสสฺสาติ ปุริสวจเน เอกวจเน สมฺปทานวจนํ ภวติ, ปุริสานนฺติ ปุริสวจเน ปุถุวจเน สมฺปทานวจนํ ภวติ.
ปุริสา นิสฺสฏํ, ปุริสสฺมา นิสฺสฏํ, ปุริสมฺหา นิสฺสฏํ, ปุริเสหิ นิสฺสฏํ, ปุริเสภิ นิสฺสฏํ. ตตฺร ปุริสาติ ปุริสวจเน เอกวจเน นิสฺสกฺกวจนํ ภวติ. ปุริสสฺมาติ…เป… ปุริสมฺหาติ ปุริสวจเน เอกวจเน นิสฺสกฺกวจนํ ภวติ, ปุริเสหิ, ปุริเสภีติ ปุริสวจเน ปุถุวจเน นิสฺสกฺกวจนํ ภวติ.
ปุริสสฺส ปริคฺคโห, ปุริสานํ ปริคฺคโห. ตตฺร ปุริสสฺสาติ ปุริสวจเน เอกวจเน สามิวจนํ ภวติ, ปุริสานนฺติ ปุริสวจเน ปุถุวจเน สามิวจนํ ภวติ.
ปุริเส ปติฏฺิตํ, ปุริสสฺมึ ปติฏฺิตํ, ปุริสมฺหิ ปติฏฺิตํ, ปุริเสสุ ปติฏฺิตํ. ตตฺร ปุริเสติ ปุริสวจเน เอกวจเน ภุมฺมวจนํ ภวติ, ปุริสสฺมินฺติ…เป… ปุริสมฺหีติ…เป… ปุริเสสูติ ปุริสวจเน ปุถุวจเน ภุมฺมวจนํ ภวติ.
โภ ¶ ปุริส ติฏฺ, ภวนฺโต ปุริสา ติฏฺถ. ตตฺร โภ ปุริสอิติ ปุริสวจเน เอกวจเน อาลปนํ ภวติ, ภวนฺโต ปุริสาอิติ ปุริสวจเน ปุถุวจเน อาลปนํ ภวตีติ อิมินา นเยน สพฺพตฺถ นโย วิตฺถาเรตพฺโพ.
ยมกมหาเถเรน กตาย ปน จูฬนิรุตฺติยํ ‘‘โภ ปุริส’’อิติ รสฺสวเสน อาลปเนกวจนํ วตฺวา ‘‘โภ ปุริสา’’อิติ ทีฆวเสน อาลปนพหุวจนํ วุตฺตํ. กิฺจาปิ ตาทิโส นโย นิรุตฺติปิฏเก นตฺถิ, ตถาปิ พหูนมาลปนวิสเย ‘‘โภ ยกฺขา’’อิติอาทีนํ อาลปนพหุวจนานํ ชาตกฏฺกถาทีสุ ทิสฺสนโต ปสตฺถตโรว โหติ วิฺูนํ ปมาณฺจ, ตสฺมา อิมินา ยมกมหาเถรมเตนปิ ‘‘ปุริโส ปุริสา ปุริส’’นฺติอาทีนิ วตฺวา อามนฺตเน ‘‘โภ ปุริส, โภ ปุริสา, ภวนฺโต ปุริสา’’ติ นามิกปทมาลา โยเชตพฺพา.
ตตฺถ ปุริโสติ ปมาย เอกวจนํ. ปุริสาติ พหุวจนํ. ปุริสนฺติ ทุติยาย เอกวจนํ. ปุริเสติ พหุวจนํ. ปุริเสนาติ ตติยาย เอกวจนํ. ปุริเสหิ, ปุริเสภีติ ทฺเว พหุวจนานิ. ปุริสสฺสาติ จตุตฺถิยา เอกวจนํ. ปุริสานนฺติ พหุวจนํ. ปุริสา, ปุริสสฺมา, ปุริสมฺหาติ ตีณิ ปฺจมิยา เอกวจนานิ. ปุริเสหิ, ปุริเสภีติ ทฺเว พหุวจนานิ. ปุริสสฺสาติ ฉฏฺิยา เอกวจนํ. ปุริสานนฺติ พหุวจนํ. ปุริเส, ปุริสสฺมึ, ปุริสมฺหีติ ตีณิ สตฺตมิยา เอกวจนานิ. ปุริเสสูติ พหุวจนํ. โภ ปุริสาติ อฏฺมิยา เอกวจนํ. โภ ปุริสา, ภวนฺโต ปุริสาติ ทฺเว พหุวจนานิ.
กิฺจาเปเตสุ ‘‘ปุริสา’’ติ อิทํ ปมาปฺจมีอฏฺมีนํ, ‘‘ปุริเส’’ติ อิทํ ทุติยาสตฺตมีนํ, ‘‘ปุริเสหิ, ปุริเสภี’’ติ ตติยาปฺจมีนํ, ‘‘ปุริสาน’’นฺติ จตุตฺถีฉฏฺีนํ เอกสทิสํ, ตถาปิ อตฺถวเสน อสงฺกรภาโว เวทิตพฺโพ. กถํ? ‘‘ปุริโส ¶ ติฏฺติ, ปุริสา ติฏฺนฺติ. ปุริสํ ปสฺสติ, ปุริเส ปสฺสตี’’ติอาทินา.
ตตฺถ จ โภติ อามนฺตนตฺเถ นิปาโต. โส น เกวลํ เอกวจนํเยว โหติ, อถ โข พหุวจนมฺปิ โหตีติ ‘‘โภ ปุริสา’’อิติ พหุวจนปฺปโยโคปิ คหิโต. ‘‘ภวนฺโต’’ติทํ ปน พหุวจนเมว โหตีติ ‘‘ปุริสา’’ติ ปุน วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. อิติ ยมกมหาเถเรน ‘‘โภ ปุริส’’อิติ รสฺสวเสน อาลปเนกวจนํ วตฺวา ‘‘โภ ปุริสา’’อิติ ทีฆวเสน อาลปนพหุวจนํ วุตฺตํ. ตถา หิ ปาฬิยํ อฏฺกถาสุ จ นิปาตภูโต โภสทฺโท เอกวจนพหุวจนวเสน ทฺวิธา ภิชฺชติ. อตฺริมานิ นิทสฺสนปทานิ – ‘‘อปิ นุ โข สปริคฺคหานํ เตวิชฺชานํ พฺราหฺมณานํ อปริคฺคเหน พฺรหฺมุนา สทฺธึ สํสนฺทติ สเมตีติ, โน หิทํ โภ โคตม. อจฺฉริยํ โภ อานนฺท, อพฺภุตํ โภ อานนฺท, เอหิ โภ สมณ, โภ ปพฺพชิต’’อิจฺจาทิปาฬิโต อฏฺกถาโต จ โภสทฺทสฺส เอกวจนปฺปโยเค ปวตฺตินิทสฺสนํ, ‘‘เตน หิ โภ มมปิ สุณาถ. ยถา มยเมว อรหาม ตํ ภวนฺตํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ, นาหํ โภ สมณสฺส โคตมสฺส สุภาสิตํ สุภาสิตโต นาพฺภนุโมทามิ, ปสฺสถ โภ อิมํ กุลปุตฺตํ. โภ ยกฺขา อหํ อิมํ ตุมฺหากํ ภาเชตฺวา ทเทยฺยํ. อปริสุทฺโธ ปนมฺหิ, โภ ธุตฺตา ตุมฺหากํ กฺริยา มยฺหํ น รุจฺจติ. โส เต ปุริเส อาห โภ ตุมฺเห มํ มาเรนฺตา รฺโ ทสฺเสตฺวาว มาเรถา’’ติ อิจฺจาทิ ปน ปาฬิโต อฏฺกถาโต จ โภสทฺทสฺส พหุวจนปฺปโยเค ปวตฺตินิทสฺสนํ. กจฺจายนปฺปกรเณ ปน ‘‘โภ ปุริส, โภ ปุริสา’’ติ ปททฺวยํ อาลปเนกวจนวเสน วุตฺตํ. ตํ ยถา อาคเมหิ น วิรุชฺฌติ, ตถา คเหตพฺพํ.
เกจิ ¶ ปน อทูรฏฺสฺสาลปเน ‘‘โภ ปุริส’’อิติ รสฺสวเสน อาลปเนกวจนํ อิจฺฉนฺติ, ทูรฏฺสฺสาลปเน ปน ‘‘โภ ปุริสา’’อิติ ทีฆวเสน อาลปเนกวจนํ อิจฺฉนฺติ. อทูรฏฺานํ ทูรฏฺานฺจ ปุริสานํ อิตฺถีนฺจ อาลปเน น กิฺจิ วทนฺติ. ตถา อทูรฏฺาย ทูรฏฺาย จ อิตฺถิยา อาลปเน เต ปุจฺฉิตพฺพา ‘‘อทูรฏฺานํ ทูรฏฺานฺจ ปุริสานมาลปเน กถํ วตฺตพฺพ’’นฺติ. อทฺธา เต เอวํ ปุฏฺา อุตฺตริ กิฺจิ วตฺตุํ น สกฺขิสฺสนฺติ. เอวมฺปิ เต เจ วเทยฺยุํ ‘‘ภวนฺโต ปุริสาติ อิมินาว อทูรฏฺานํ ทูรฏฺานฺจ ปุริสานมาลปนํ ภวตี’’ติ. ตทา เต วตฺตพฺพา ‘‘ยทิ ภวนฺโต ปุริสา’’ติ อิมินา อทฺเวชฺเฌน วจเนน อทูรฏฺานํ ทูรฏฺานฺจ ปุริสานมาลปนํ ภวติ, เอวํ สนฺเต ‘‘โภ ปุริส’’อิติ รสฺสปเทนปิ ทูรฏฺสฺส จ ปุริสสฺสาลปนํ วตฺตพฺพํ, เอวํ อวตฺวา กิมตฺถํ อทูรฏฺสฺสาลปเน ‘‘โภ ปุริส’’อิติ รสฺสวเสน อาลปเนกวจนํ อิจฺฉถ, กิมตฺถฺจ ทูรฏฺสฺสาลปเน ‘‘โภ ปุริสา’’อิติ ทีฆวเสน อาลปเนกวจนํ อิจฺฉถ.
นนุ ‘‘ตคฺฆ ภควา โพชฺฌงฺคา, ตคฺฆ สุคต โพชฺฌงฺคา’’ติอาทีสุ อาลปนปทภูตํ ‘‘ภควา’’อิติ ทีฆปทํ สมีเป ิตกาเลปิ ทูเร ิตกาเลปิ พุทฺธสฺสาลปนปทํ ภวิตุมรหเตว, ตถา อาลปนปทภูตํ ‘‘สุคต’’อิติ รสฺสปทมฺปิ. ยสฺมา ปเนเตสุ ‘‘ภควา’’ติ อาลปนปทสฺส น กตฺถจิปิ รสฺสตฺตํ ทิสฺสติ, ‘‘สุคตา’’ติ อาลปนปทสฺส จ น กตฺถจิปิ ทีฆตฺตํ ทิสฺสติ, ตสฺมา ทีฆรสฺสมตฺตาเภทํ อจินฺเตตฺวา ‘‘ปุริส’’อิติ รสฺสวเสน วุตฺตปทํ ปกติสฺสรวเสน สมีเป ิตสฺส ปุริสสฺส อามนฺตนกาเล อทูรฏฺสฺสาลปนปทํ ภวติ, อายตสฺสรวเสน ทูเร ิตปุริสสฺส อามนฺตนกาเล ทูรฏฺสฺสาลปนปทํ ภวตีติ คเหตพฺพํ. ตถา ‘‘ภวนฺโต ปุริสา, โภ ยกฺขา, โภ ธุตฺตา’’ติอาทีนิ ¶ ทีฆวเสน วุตฺตานิ อาลปนพหุวจนปทานิปิ ปกติสฺสรวเสน สมีเป ิตปุริสานํ อามนฺตนกาเล อทูรฏฺานมาลปนปทานิ ภวนฺติ, อายตสฺสรวเสน ทูเร ิตปุริสาทีนํ อามนฺตนกาเล ทูรฏฺานมาลปนปทานิ ภวนฺตีติ คเหตพฺพานิ. ตถา หิ พฺราหฺมณา กตฺถจิ กตฺถจิ รสฺสฏฺาเนปิ ทีฆฏฺาเนปิ อายเตน สเรน มชฺฌิมายเตน สเรน อจฺจายเตน จ สเรน เวทํ ปนฺติ ลิขิตุมสกฺกุเณยฺเยน คีตสฺสเรน วิย. อิติ สพฺพกฺขเรสุปิ อายเตน สเรนุจฺจารณํ ลพฺภเตว ลิขิตุมสกฺกุเณยฺยํ, ตสฺมา อสมฺปถมโนตริตฺวา ‘‘โภ ปุริส’’อิติ วจเนน ทูรฏฺสฺส จ อทูรฏฺสฺส จ ปุริสสฺสาลปนํ ภวติ, ‘‘โภ ปุริสา, ภวนฺโต ปุริสา’’ติ อิเมหิ วจเนหิปิ ทูรฏฺานฺจ อทูรฏฺานฺจ ปุริสานมาลปนํ ภวตีติ ทฏฺพฺพํ. อิติ ทูรฏฺสฺส อทูรฏฺานฺจ อายเตน สเรน อามนฺตนเมว ปมาณํ, น ทีฆรสฺสมตฺตาวิเสโส, ตสฺมา ‘‘โภ สตฺถ, โภ ราช, โภ คจฺฉ, โภ มุนิ, โภ ทณฺฑิ, โภ ภิกฺขุ, โภ สยมฺภุ, โภติ กฺเ, โภติ ปตฺติ, โภติ อิตฺถิ, โภติ ยาคุ, โภติ วธุ, โภ กุล, โภ อฏฺิ, โภ จกฺขุ’’อิจฺเจวมาทีหิ ปเทหิ อทูรฏฺสฺสาลปนฺจ ทูรฏฺสฺสาลปนฺจ ภวติ. ‘‘ภวนฺโต สตฺถา, สตฺถาโร, โภติโย กฺา, กฺาโย’’ติ เอวมาทีหิปิ ปเทหิ อทูรฏฺานฺจาลปนํ ภวตีติ ทฏฺพฺพํ.
อิทํ ปเนตฺถ สนฺนิฏฺานํ –
ตสฺส ตํ วจนํ สุตฺวา, รฺโ ปุตฺตํ อทสฺสยุํ;
ปุตฺโต จ ปิตรํ ทิสฺวา, ทูรโตวชฺฌภาสถ.
อาคจฺฉุ โทวาริกา ขคฺคพนฺธา,
กาสาวิยา หนฺตุ มมํ ชนินฺท;
อกฺขาหิ เม ปุจฺฉิโต เอตมตฺถํ,
อปราโธ โก นฺวิธ มมชฺช อตฺถิ.
เอวํ ¶ สทฺธมฺมราเชน, โวหารกุสเลน เว;
สุเทสิเต โสมนสฺส-ชาตเก สพฺพทสฺสินา.
ทูรฏฺาเนปิ รสฺสตฺตํ, ‘‘ชนินฺท’’อิติ ทิสฺสติ;
น กตฺถจิปิ ทีฆตฺตํ, อิติ นีติ มยา มตา.
อิทมฺเปตฺถ วตฺตพฺพํ ‘‘กุโต นุ โภ อิทมายาตํ ‘ทูรฏฺสฺสาลปนํ อทูรฏฺสฺสาลปนมิ’ติ’’? สทฺทสตฺถโต. สทฺทสตฺถํ นาม น สพฺพโส พุทฺธวจนสฺโสปการกํ, เอกเทเสน ปน โหติ.
อิมสฺมึ ปกรเณ ‘‘พหุวจน’’นฺติ วา ‘‘ปุถุวจน’’นฺติ วา ‘‘อเนกวจน’’นฺติ วา อตฺถโต เอกํ, พฺยฺชนเมว นานํ, ตสฺมา สพฺพตฺถ ‘‘พหุวจน’’นฺติ วา ‘‘ปุถุวจน’’นฺติ วา ‘‘อเนกวจน’’นฺติ วา โวหาโร กาตพฺโพ, ปุถุวจนํ อเนกวจนนฺติ จ อิทํ สาสเน นิรุตฺตฺูนํ โวหาโร, อิตรํ สทฺทสตฺถวิทูนํ.
กสฺมา ปน อิมสฺมึ ปกรเณ ทฺวิวจนํ น วุตฺตนฺติ? ยสฺมา พุทฺธวจเน ทฺวิวจนํ นาม นตฺถิ, ตสฺมา น วุตฺตนฺติ. นนุ พุทฺธวจเน วจนตฺตยํ อตฺถิ, ตถา หิ ‘‘อายสฺมา’’ติ อิทํ เอกวจนํ, ‘‘อายสฺมนฺตา’’ติ อิทํ ทฺวิวจนํ, ‘‘อายสฺมนฺโต’’ติ อิทํ พหุวจนนฺติ? ตนฺน, ยทิ ‘‘อายสฺมนฺตา’’ติ อิทํ วจนํ ทฺวิวจนํ ภเวยฺย, ‘‘ปุริโส ปุริสา’’ติอาทีสุ กตรํ ทฺวิวจนนฺติ วเทยฺยาถ, ตสฺมา พุทฺธวจเน ทฺวิวจนํ นาม นตฺถิ. เตเนว หิ สิ โย อํ โย นา หีติอาทินา เอกวจนพหุวจนาเนว ทสฺสิตานีติ.
นนุ จ โภ ‘‘สุณนฺตุ เม อายสฺมนฺตา, อชฺช อุโปสโถ ปนฺนรโส. ยทายสฺมนฺตานํ ปตฺตกลฺลํ, มยํ อฺมฺํ ปาริสุทฺธิอุโปสถํ กเรยฺยามา’’ติ ปาฬิยํ ทฺเว สนฺธาย ‘‘อายสฺมนฺตา’’ติ วุตฺตํ, ‘‘อุทฺทิฏฺา โข อายสฺมนฺโต จตฺตาโร ปาราชิกา ธมฺมา’’ติอาทีสุ ปน ปาฬีสุ พหโว สนฺธาย ‘‘อายสฺมนฺโต’’ติ วุตฺตํ, น จ สกฺกา วตฺตุํ ‘‘ยถา ตถา วุตฺต’’นฺติ ¶ , ปริวาสาทิอาโรจเนปิ อฏฺกถาจริเยหิ วิฺาตสุคตาธิปฺปาเยหิ ‘‘ทฺวินฺนํ อาโรเจนฺเตน ‘อายสฺมนฺตา ธาเรนฺตู’ติ, ติณฺณํ อาโรเจนฺเตน ‘อายสฺมนฺโต ธาเรนฺตู’ติ วตฺตพฺพ’’นฺติ วุตฺตตฺตาติ? สจฺจํ วุตฺตํ, ตํ ปน วินยโวหารวเสน วุตฺตนฺติ. นนุ วินโย พุทฺธวจนํ, กสฺมา ‘‘พุทฺธวจเน ทฺวิวจนํ นาม นตฺถี’’ติ วทถาติ? สจฺจํ วินโย พุทฺธวจนํ, ตถาปิ วินยกมฺมวเสน วุตฺตตฺตา อุปลกฺขณมตฺตํ, น สพฺพสาธารณพหุวจนปริยาปนฺนํ. ยทิ หิ ‘‘อายสฺมนฺตา’’ติ อิทํ ทฺวิวจนํ สิยา, ตปฺปโยคานิปิ กฺริยาปทานิ ทฺวิวจนาเนว สิยุํ, ตถารูปานิปิ กฺริยาปทานิ น สนฺติ. น หิ อกฺขรสมยโกวิโท ฌานลาภีปิ ทิพฺพจกฺขุนา วสฺสสตมฺปิ วสฺสสหสฺสมฺปิ สมเวกฺขนฺโต พุทฺธวจเน เอกมฺปิ กฺริยาปทํ ทฺวิวจนนฺติ ปสฺเสยฺย, เอวํ กฺริยาปเทสุ ทฺวิวจนสฺสาภาวา นามิกปเทสุ ทฺวิวจนํ นตฺถิ. นามิกปเทสุ ตทภาวาปิ กฺริยาปเทสุ ตทภาโว เวทิตพฺโพ. สกฺกฏภาสายํ ทฺวีสุปิ ทฺวิวจนานิ สนฺติ, มาคธภาสายํ ปน นตฺถิ.
อปิจ ‘‘ปุถุวจน’’นฺติ นิรุตฺติโวหาโรปิ ‘‘พุทฺธวจเน ทฺวิวจนํ นตฺถี’’ติ เอตมตฺถํ ทีเปติ. ตฺหิ สกฺกฏภาสายํ วุตฺตา ทฺวิวจนโต พหุวจนโต จ วิสุํภูตํ วจนํ, ตตฺถ วา วุตฺเตหิ อตฺเถหิ วิสุํภูตสฺส อตฺถสฺส วจนํ ‘‘ปุถุวจน’’นฺติ วุจฺจติ. กถมิทํ สกฺกฏภาสายํ วุตฺตา ทฺวิวจนโต พหุวจนโต จ วิสุํภูตํ วจนนฺติ เจ? ยสฺมา สกฺกฏภาสายํ ‘‘ปุถุวจน’’นฺติ โวหาโร นตฺถิ, ตสฺมา อิทํ เตหิ สกฺกฏภาสายํ วุตฺเตหิ ทฺวิวจนพหุวจเนหิ วิสุํภูตอตฺถสฺส วจนนฺติ วุจฺจติ. กถฺจ ปน สกฺกฏภาสายํ วุตฺเตหิ วิสุํภูตสฺส อตฺถสฺส วจนนฺติ ปุถุวจนนฺติ เจ? ยสฺมา สกฺกฏภาสายํ ทฺเว อุปาทาย ทฺวิวจนํ วุตฺตํ, น ติจตุปฺจาทิเก ¶ พหโว อุปาทาย, พหโว ปน อุปาทาย พหุวจนํ วุตฺตํ, น ทฺเว อุปาทาย, อยํ สกฺกฏภาสาย วิเสโส. มาคธภาสายํ ปน ทฺวิติจตุปฺจาทิเก พหโว อุปาทาย ปุถุวจนํ วุตฺตํ, ตสฺมา สกฺกฏภาสายํ วุตฺเตหิ อตฺเถหิ วิสุํภูตสฺส อตฺถสฺส วจนนฺติ ปุถุวจนนฺติ วุจฺจติ. อยํ มาคธภาสาย วิเสโส. ตสฺมาตฺร ปุถุภูตสฺส, ปุถุโน วา อตฺถสฺส วจนํ ‘‘ปุถุวจน’’นฺติ อตฺโถ สมธิคนฺตพฺโพ.
อิทานิ ‘‘ปุริโส, ปุริสา, ปุริส’’นฺติ นิรุตฺติปิฏกโต อุทฺธริตนยํ นิสฺสาย ปกติรูปภูตสฺส ภูตสทฺทสฺส นามิกปทมาลา วุจฺจเต –
ภูโต, ภูตา. ภูตํ, ภูเต. ภูเตน, ภูเตหิ, ภูเตภิ. ภูตสฺส, ภูตานํ. ภูตา, ภูตสฺมา, ภูตมฺหา, ภูเตหิ, ภูเตภิ. ภูตสฺส, ภูตานํ. ภูเต, ภูตสฺมึ, ภูตมฺหิ, ภูเตสุ. โภ ภูต, ภวนฺโต ภูตา.
อถ วา ‘‘โภ ภูตา’’อิติ พหุวจนํ วิฺเยฺยํ. ยถา ปเนตฺถ ภูตอิจฺเจตสฺส ปกติรูปสฺส นามิกปทมาลา ปุริสนเยน โยชิตา, เอวํ ภาวกาทีนฺจ อฺเสฺจ ตํสทิสานํ นามิกปทมาลา ปุริสนเยน โยเชตพฺพา. เอตฺถฺานิ ตํสทิสานิ นาม ‘‘พุทฺโธ’’ติอาทีนํ ปทานํ พุทฺธอิจฺจาทีนิ ปกติรูปานิ.
พุทฺโธ ธมฺโม สงฺโฆ มคฺโค,
ขนฺโธ กาโย กาโม กปฺโป;
มาโส ปกฺโข ยกฺโข ภกฺโข,
นาโค เมโฆ โภโค ยาโค.
ราโค โทโส โมโห มาโน,
มกฺโข ถมฺโภ โกโธ โลโภ;
หาโส เวโร ทาโห เตโช,
ฉนฺโท กาโส สาโส โรโค.
อสฺโส ¶ สสฺโส อิสฺโส สิสฺโส,
สีโห พฺยคฺโฆ รุกฺโข เสโล;
อินฺโท สกฺโก เทโว คาโม,
จนฺโท สูโร โอโฆ ทีโป.
ปสฺโส ยฺโ จาโค วาโท,
หตฺโถ ปตฺโต โสโส เคโธ;
โสโม โยโธ คจฺโฉ อจฺโฉ,
เคโห มาโฬ อฏฺโฏ สาโล.
นโร นโค มิโค สโส,
สุโณ พโก อโช ทิโช;
หโย คโช ขโร สโร,
ทุโม ตโล ปโฏ ธโช.
อุรโค ปฏโค วิหโค ภุชโค,
ขรโภ สรโภ ปสโท ควโช;
มหิโส วสโภ อสุโร ครุโฬ,
ตรุโณ วรุโณ พลิโส ปลิโฆ.
สาโล ธโว จ ขทิโร,
โคธุโม สฏฺิโก ยโว;
กฬาโย จ กุลตฺโถ จ,
ติโล มุคฺโค จ ตณฺฑุโล.
ขตฺติโย พฺราหฺมโณ เวสฺโส,
สุทฺโท ธุตฺโต จ ปุกฺกุโส;
จณฺฑาโล ปติโก ปฏฺโ,
มนุสฺโส รถิโก รโถ.
ปพฺพชิโต ¶ คหฏฺโ จ,
โคโณ โอฏฺโ จ คทฺรโภ;
มาตุคาโม จ โอโรโธ,
อิจฺจาทีนิ วิภาวเย.
เกเจตฺถ วเทยฺยุํ ‘‘นนุ โภ ‘โอโรธา จ กุมารา จา’ติ ปาสฺส ทสฺสนโต โอโรธสทฺโท อิตฺถิลิงฺโค’’ติ? ตนฺน, ตตฺถ หิ ‘‘โอโรธา’’ติ อิทํ โอการนฺตปุลฺลิงฺคเมว, นา’การนฺติตฺถิลิงฺคํ, ตุมฺเห ปน ‘‘อาการนฺติตฺถิลิงฺค’’นฺติ มฺมานา เอวํ วทถ, น ปนิทํ อาการนฺติตฺถิลิงฺคํ, อถ โข ‘‘มาตุคามา’’ติปทํ วิย พหุวจนวเสน วุตฺตมาการนฺตปทนฺติ. นนุ จ โภ สมฺโมหวิโนทนิยาทีสุ โอโรธสทฺทสฺส อิตฺถิลิงฺคตา ปากฏา, กถนฺติ เจ? ‘‘รุกฺเข อธิวตฺถา เทวตา เถรสฺส กุทฺธา ปมเมว มนํ ปโลเภตฺวา ‘อิโต เต สตฺตทิวสมตฺถเก อุปฏฺาโก ราชา มริสฺสตี’ติ สุปิเน อาโรเจสิ. เถโร ตํ กถํ สุตฺวา ราโชโรธานํ อาจิกฺขิ. ตา เอกปฺปหาเรเนว มหาวิรวํ วิรวึสู’’ติ. เอตฺถ หิ ‘‘ราโชโรธาน’’นฺติ วตฺวา ‘‘ตา’’ติ วุตฺตตฺตาว โอโรธสทฺทสฺส อิตฺถิลิงฺคตา ปากฏาติ? ตนฺน, อตฺถสฺส ทุคฺคหณโต. ทุคฺคหิโต หิ เอตฺถ ตุมฺเหหิ อตฺโถ, เอตฺถ ปน โอโรธสทฺเทน อิตฺถิปทตฺถสฺส กถนโต อิตฺถิปทตฺถํ สนฺธาย ‘‘ตา’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘ตา อิตฺถิโย’’ติ อยเมวตฺโถ. ตุมฺเห ปน อมาตาปิตรสํวทฺธตฺตา อาจริยกุเล จ อนิวุฏฺตฺตา เอตํ สุขุมตฺถมชานนฺตา ยํ วา ตํ วา มุขารูฬฺหํ วทถ.
ภฺุชนตฺถํ กถนตฺถํ, มุขํ โหตีติ โน วเท;
ยํ วา ตํ วา มุขารูฬฺหํ, วจนํ ปณฺฑิโต นโรติ.
น มยํโภ ยํ วา ตํ วา มุขารูฬฺหํ วทาม, อฏฺกถาจริยานฺเว วจนํ คเหตฺวา วทาม, อฏฺกถาเยว อมฺหากํ ปฏิสรณํ ¶ , น มยํ ตุมฺหากํ สทฺทหามาติ. อมฺหากํ สทฺทหถ วา มา วา, มา ตุมฺเห ‘‘อฏฺกถาจริยานฺเว วจนํ คเหตฺวา วทามา’’ติ อฏฺกถาจริเย อพฺภาจิกฺขถ. น หิ อฏฺกถาจริเยหิ ‘‘โอโรธสทฺโท อิตฺถิลิงฺโค’’ติ วุตฺตฏฺานมตฺถิ, ตสฺมาปิ อฏฺกถาจริเย อพฺภาจิกฺขถ, น ยุตฺตํ พุทฺธาทีนํ ครูนมพฺภาจิกฺขนํ มหโต อนตฺถสฺส ลาภาย สํวตฺตนโต. วุตฺตฺเหตํ ภควตา ‘‘อตฺตนา ทุคฺคหิเตน อมฺเห เจว อพฺภาจิกฺขติ, พหฺุจ อปฺุํ ปสวติ, ตโต อตฺตานฺจ ขณตี’’ติ.
เอวํ อพฺภาจิกฺขนสฺส อยุตฺตตํ สาวชฺชตฺจ ทสฺเสตฺวา ปุนปิ เต อิทํ วตฺตพฺพา – ชาตกฏฺกถายมฺปิ ตุมฺเหหิ อาหฏอุทาหรณสทิสํ อุทาหรณมตฺถิ, ตํ สุณาถ. โกสิยชาตกฏฺกถายฺหิ ‘‘สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เอกํ สาวตฺถิยํ มาตุคามํ อารพฺภ กเถสิ. สา กิเรกสฺส สทฺธสฺส ปสนฺนสฺส อุปาสกพฺราหฺมณสฺส พฺราหฺมณี ทุสฺสีลา ปาปธมฺมา’’ติ ปาโ ทิสฺสติ. เอตฺถ หิ ‘‘มาตุคามํ อารพฺภ กเถสี’’ติ วตฺวา ‘‘สา’’ติ วุตฺตตฺตา ตุมฺหากํ มเตน มาตุคามสทฺโท อิตฺถิลิงฺโคเยว สิยา, น ปุลฺลิงฺโค, กิมิทํ อฏฺกถาวจนมฺปิ น ปสฺสถ, ตเทว ปน อฏฺกถาวจนํ ปสฺสถ, กึ สา เอว อฏฺกถา ตุมฺหากํ ปฏิสรณํ, น ตทฺาติ.
ยทิ ตาสทฺทํ อเปกฺขิตฺวา โอโรธสทฺทสฺส อิตฺถิลิงฺคตฺตมิจฺฉถ, เอตฺถาปิ สาสทฺทมเปกฺขิตฺวา มาตุคามสทฺทสฺส อิตฺถิลิงฺคตฺตมิจฺฉถาติ. เอวํ วุตฺตา เต นิรุตฺตรา อปฺปฏิภานา มงฺกุภูตา ปตฺตกฺขนฺธา อโธมุขา ปชฺฌาเยยฺยุํ. เอตฺถาปิ มาตุคามสทฺเทน อิตฺถิปทตฺถสฺส กถนโต อิตฺถิปทตฺถํ สนฺธาย ‘‘สา’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘สา อิตฺถี’’ติ อยเมวตฺโถ. กตฺถจิ ¶ หิ ปธานวาจเกน ปุลฺลิงฺเคน นปุํสกลิงฺเคน วา สมานาธิกรณสฺส คุณสทฺทสฺส อภิเธยฺยลิงฺคานุวตฺติตฺตาปุลฺลิงฺควเสน วา นปุํสกลิงฺควเสน วา นิทฺทิสิตพฺพตฺเตปิ ลิงฺคมนเปกฺขิตฺวา อิตฺถิปทตฺถเมวาเปกฺขิตฺวา อิตฺถิลิงฺคนิทฺเทโส ทิสฺสติ. ตํ ยถา? ‘‘อิธ วิสาเข มาตุคาโม สุสํวิหิตกมฺมนฺตา โหติ สงฺคหิตปริชนา ภตฺตุมนาปํ จรติ, สมฺภตํ อนุรกฺขตี’’ติ จ, ‘‘โก นุ โข ภนฺเต เหตุ โก ปจฺจโย, เยน มิเธกจฺโจ มาตุคาโม ทุพฺพณฺณา จ โหติ ทุรูปา สุปาปิกา ทสฺสนาย, ทลิทฺทา จ โหติ อปฺปสฺสกา อปฺปโภคา อปฺเปสกฺขา จ. อิธ มลฺลิเก เอกจฺโจ มาตุคาโม โกธนา โหติ อุปายาสพหุลา, อปฺปมฺปิ วุตฺตา สมานา อภิสชฺชติ กุปฺปติ พฺยาปชฺชติ ปติตฺถิยติ โกปฺจ โทสฺจ อปฺปจฺจยฺจ ปาตุกโรตี’’ติ จ, ‘‘ตํ โข ปน ภิกฺขเว อิตฺถิรตนํ รฺโ จกฺกวตฺติสฺส ปุพฺพุฏฺายินี ปจฺฉานิปาตินี กึการปฏิสฺสาวินี’’ติ จ อิเม ปโยคา.
กตฺถจิ ปน ปธานวาจเกน นปุํสกลิงฺเคน สมานาธิกรณสฺส คุณสทฺทสฺส อภิเธยฺยลิงฺคานุวตฺติตฺตา นปุํสกลิงฺควเสน นิทฺทิสิตพฺพตฺเตปิ ลิงฺคมนเปกฺขิตฺวา ปุริสปทตฺถเมวาเปกฺขิตฺวา ปุลฺลิงฺคนิทฺเทโส ทิสฺสติ. ตํ ยถา? ‘‘ปฺจ ปจฺเจกพุทฺธสตานิ อิมสฺมึ อิสิคิลิสฺมึ ปพฺพเต จิรนิวาสิโน อเหสุํ. ตํ โข ปน รฺโ จกฺกวตฺติสฺส ปริณายกรตนํ าตานํ ปเวเสตา อฺาตานํ นิวาเรตา’’ติ. กตฺถจิ ปธานวาจเกน ลิงฺคตฺตเยน สมานาธิกรณสฺส คุณสทฺทสฺส อภิเธยฺยลิงฺคานุรูปํ นิทฺเทโส ทิสฺสติ. ตํ ยถา? สา อิตฺถี ‘‘สีลวตี กลฺยาณธมฺมา. อฏฺหิ โข นกุลมาเต ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต มาตุคาโม กายสฺส เภทา ปรมฺมรณา มนาปกายิกานํ เทวานํ ¶ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. สทฺโธ ปุริสปุคฺคโล, สทฺธํ กุลํ, จิตฺตํ ทนฺตํ สุขาวห’’นฺติ.
เสยฺยอิติ สทฺโท ปน เยภุยฺเยน โอการนฺตภาเว ตฺวา ลิงฺคตฺตยานุกูโล ภวติ เอกากาเรเนว ติฏฺนโต. กถํ? เสยฺโย อมิตฺโต มติยา อุเปโต. เอสาว ปูชนา เสยฺโย, เอกาหํ ชีวิตํ เสยฺโย.
‘‘ธมฺเมน จ อลาโภ โย,
โย จ ลาโภ อธมฺมิโก;
อลาโภ ธมฺมิโก เสยฺโย,
ยฺเจ ลาโภ อธมฺมิโก.
ยโส จ อปฺปพุทฺธีนํ, วิฺูนํ อยโส จ โย;
อยโสว เสยฺโย วิฺูนํ, น ยโส อปฺปพุทฺธินํ.
ทุมฺเมเธหิ ปสํสา จ, วิฺูหิ ครหา จ ยา;
ครหาว เสยฺโย วิฺูหิ, ยฺเจ พาลปฺปสํสนา.
สุขฺจ กามมยิกํ, ทุกฺขฺจ ปวิเวกิกํ;
ปวิเวกํ ทุกฺขํ เสยฺโย, ยฺเจ กามมยํ สุขํ.
ชีวิตฺจ อธมฺเมน, ธมฺเมน มรณฺจ ยํ;
มรณํ ธมฺมิกํ เสยฺโย, ยฺเจ ชีเว อธมฺมิก’’นฺติ.
เอวมยํ เสยฺย อิติ สทฺโท โอการนฺตภาเว ตฺวา ลิงฺคตฺตยานุกูโล ภวติ. กตฺถจิ ปน อาการนฺตภาเว ตฺวา อิตฺถิลิงฺคานุกูโล ทิสฺสติ ‘‘อิตฺถีปิ หิ เอกจฺจิยา, เสยฺยา โปส ชนาธิปา’’ติ. นิคฺคหีตนฺโต ปน หุตฺวา นปุํสกลิงฺคานุกูโล อปสิทฺโธ. เอวํปกาเร ปโยเค กึ ตุมฺเห น ปสฺสถาติ. เอวํ วุตฺตา จ เต นิรุตฺตราว ภวิสฺสนฺติ.
สเจปิ ¶ เต เอตฺถ เอวํ วเทยฺยุํ ‘‘ตตฺถ ตตฺถ สุตฺตปฺปเทเส อฏฺกถาทีสุ จ ‘มาตุคาโม’ติ วา ‘มาตุคาเมนา’ติ วา โอการนฺตปุลฺลิงฺคภาเวน มาตุคามสทฺทสฺส ทสฺสนโต ปุลฺลิงฺคภูตํ มาตุคามสทฺทํ อนเปกฺขิตฺวา อิตฺถิปทตฺถเมว อเปกฺขิตฺวา ‘‘สา อิตฺถี’’ติ อิตฺถีสทฺเทน สาสทฺทสฺส สมฺพนฺธคฺคหณํ มยํ สมฺปฏิจฺฉาม, ‘โอโรโธ’ติ วา ‘โอโรเธนา’ติ วา โอการนฺตปุลฺลิงฺคภาเวน ิตสฺส โอโรธสทฺทสฺส อทสฺสนโต ปน ตุมฺเหหิ วุตฺตํ ปุริมตฺถํ น สมฺปฏิจฺฉามา’’ติ. ตทา เตสํ อิมานิ วินยปาฬิยํ อาคตปทานิ ทสฺเสตพฺพานิ ‘‘เตน โข ปน สมเยน ราชา อุเทโน อุยฺยาเน ปริจาเรสิ สทฺธึ โอโรเธน, อถ โข รฺโ อุเทนสฺส โอโรโธ ราชานํ อุเทนํ เอตทโวจา’’ติ. เอวํ อิมานิ สุตฺตปทานิ ทสฺเสตฺวา สุตฺตนิปาตฏฺกถายํ ‘‘ราโม นาม ราชา กุฏฺโรคี โอโรเธหิ จ นาฏเกหิ จ ชิคุจฺฉมาโน’’ติ วจนฺจ ทสฺเสตฺวา ‘‘คจฺฉถ ตุมฺเห ครุกุลมุปคนฺตฺวา ภควโต สทฺธมฺมสฺส จิรฏฺิตตฺถํ สาธุกํ ปทพฺยฺชนานิ อุคฺคณฺหถา’’ติ อุยฺโยเชตพฺพา.
อิทานิ มาตุคามสทฺทาทีสุ กิฺจิ วินิจฺฉยํ วทาม – มาตุคามสทฺโท จ โอโรธสทฺโท จ ทารสทฺโท จาติ อิเม อิตฺถิปทตฺถวาจกาปิ สมานา เอกนฺเตน ปุลฺลิงฺคา ภวนฺติ. เตสุ ทารสทฺทสฺส เอกสฺมึ อตฺเถ วตฺตมานสฺสาปิ พหุวจนกตฺตเมว สทฺทสตฺถวิทู อิจฺฉนฺติ, น เอกวจนกตฺตํ. มยํ ปน ทารสทฺทสฺส เอกสฺมึ อตฺเถ เอกวจนกตฺตํ, เยภุยฺเยน ปน พหุวจนกตฺตํ อนุชานาม, พวฺหตฺเถ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. ปาฬิยฺหิ ทารสทฺโท เยภุยฺเยน พหุวจนโก ภวติ, เอกวจนโก อปฺโป. ตตฺริเม ปโยคา –
‘‘ทาสา ¶ จ ทาสฺโย อนุชีวิโน จ,
ปุตฺตา จ ทารา จ มยฺจ สพฺเพ;
ธมฺมฺจรามปฺปรโลกเหตุ,
ตสฺมา หิ อมฺหํ ทหรา น มิยฺยเร’’ติ จ,
‘‘โย าตีนํ สขีนํ วา, ทาเรสุ ปฏิทิสฺสติ;
สหสา สมฺปิยาเยน, ตํ ชฺาวสโล อิตี’’ติ จ,
‘‘เสหิ ทาเรหิ’สนฺตุฏฺโ, เวสิยาสุ ปทิสฺสติ;
ทิสฺสติ ปรทาเรสุ, ตํ ปราภวโต มุข’’นฺติ จ,
‘‘ปุตฺเตสุ ทาเรสุ จ ยา อเปกฺขา’’ติ จ พฺยาเส, สมาเส ปน ‘‘ปุตฺตทารา ทิสา ปจฺฉา, ปุตฺตทาเรหิ มตฺตโน’’ติ จ เอวมาทโย พหุวจนปฺปโยคา พหโว ภวนฺติ.
เอกวจนปฺปโยคา ปน อปฺปา. เสยฺยถิทํ? ‘‘ครูนํ ทาเร, ธมฺมํ จเร โยปิ สมฺุชกํ จเร, ทารฺจ โปสํ ททมปฺปกสฺมิ’’นฺติ จ,
‘‘เย คหฏฺา ปฺุกรา, สีลวนฺโต อุปาสกา;
ธมฺเมน ทารํ โปเสนฺติ, เต นมสฺสามิ มาตลี’’ติ จ,
‘‘ปรทารํ น คจฺเฉยฺยํ, สทารปสุโต สิย’’นฺติ จ,
‘‘โย อิจฺเฉ ปุริโส โหตุํ, ชาตึ ชาตึ ปุนปฺปุนํ;
ปรทารํ วิวชฺเชยฺย, โธตปาโทว กทฺทม’’นฺติ จ
เอวมาทโย เอกวจนปฺปโยคา อปฺปา.
สมาหารลกฺขณวเสน ปเนส ทารสทฺโท นปุํสกลิงฺเคกวจโนปิ กตฺถจิ ภวติ. ‘‘อาทาย ปุตฺตทารํ. ปุตฺตทารสฺส สงฺคโห’’อิติ เอวํ อิธ วุตฺตปฺปกาเรน ลิงฺคฺจ อตฺถฺจ สลฺลกฺเขตฺวา ‘‘ปุริโส ปุริสา’’ติ ปวตฺตํ ปุริสสทฺทนยํ นิสฺสาย ¶ สพฺเพสํ ‘‘ภูโต ภาวโก ภโว’’ติอาทีนํ ภูธาตุมยานํ อฺเสฺโจการนฺตปทานํ นามิกปทมาลาสุ สทฺธาสมฺปนฺเนหิ กุลปุตฺเตหิ สทฺธมฺมฏฺิติยา โกสลฺลมุปฺปาเทตพฺพํ.
กึ ปน สพฺพานิ โอการนฺตปทานิ ปุริสนเย สพฺพปฺปกาเรน เอกสทิสาเนว หุตฺวา ปวิฏฺานีติ? น ปวิฏฺานิ. กานิจิ หิ โอการนฺตปทานิ ปุริสนเย สพฺพถา ปวิฏฺานิ จ โหนฺติ, เอกเทเสน ปวิฏฺานิ จ, กานิจิ โอการนฺตปทานิ ปุริสนเย เอกเทเสน ปวิฏฺานิ จ โหนฺติ, เอกเทเสน น ปวิฏฺานิ จ, กานิจิ โอการนฺตปทานิ ปุริสนเย สพฺพถา อปฺปวิฏฺาเนว. ตตฺร กตมานิ กานิจิ โอการนฺตปทานิ ปุริสนเย สพฺพถา ปวิฏฺานิ จ โหนฺติ, เอกเทเสน ปวิฏฺานิ จ? ‘‘สโร วโย เจโต’’ติอาทีนิ. สโรอิติ หิ อยํสทฺโท อุสุสทฺทสรวนอการาทิสรวาจโก เจ, ปุริสนเย สพฺพถา ปวิฏฺโ. รหทวาจโก เจ, มโนคณปกฺขิกตฺตา ปุริสนเย เอกเทเสน ปวิฏฺโ. วโยอิติ สทฺโท ปริหานิวาจโก เจ, ปุริสนเย สพฺพถา ปวิฏฺโ. อายุโกฏฺาสวาจโก เจ, มโนคณปกฺขิกตฺตา ปุริสนเย เอกเทเสน ปวิฏฺโ. เจโต อิติ สทฺโท ยทิ ปณฺณตฺติวาจโก, ปุริสนเย สพฺพถา ปวิฏฺโ. ยทิ ปน จิตฺตวาจโก, มโนคณปกฺขิกตฺตา ปุริสนเย เอกเทเสน ปวิฏฺโ. มโนคโณ จ นาม –
มโน วโจ วโย เตโช,
ตโป เจโต ตโม ยโส;
อโย ปโย สิโร ฉนฺโท,
สโร อุโร รโห อโห –
อิเม โสฬส.
อิทานิ ยถาวุตฺตสฺส ปากฏีกรณตฺถํ มนสทฺทาทีนํ นามิกปทมาลํ กถยาม –
มโน ¶ , มนา. มนํ, มโน, มเน. มนสา, มเนน, มเนหิ, มเนภิ. มนโส, มนสฺส, มนานํ. มนา, มนสฺมา, มนมฺหา, มเนหิ, มเนภิ. มนโส, มนสฺส, มนานํ. มนสิ, มเน, มนสฺมึ, มนมฺหิ, มเนสุ. โภ มน, ภวนฺโต มนา.
อถ วา ‘‘โภ มนา’’อิติ พหุวจนมฺปิ เยฺยํ. เอวํ วโจ, วจา. วจํ, วโจ, วเจ. วจสาติอาทินา นามิกปทมาลา โยเชตพฺพา. อหสทฺทสฺส ปน ภุมฺเมกวจนฏฺาเน อหสิ, อเห, อหสฺมึ, อหมฺหิ, อหุ, อหนีติ โยเชตพฺพา.
อิทานิ รูปนฺตรวิเสสทสฺสนตฺถํ นปุํสกลิงฺคสฺส มนสทฺทสฺสปิ นามิกปทมาลํ วทาม, อฏฺาเน อยํ กถิตาติ น โจเทตพฺพํ.
มนํ, มนานิ, มนา. มนํ, มนานิ, มเน. มเนน, มเนหิ, มเนภิ. มนสฺส, มนโส, มนานํ. มนา, มนสฺมา, มนมฺหา, มเนหิ, มเนภิ. มนสฺส, มนโส, มนานํ. มเน, มนสฺมึ, มนมฺหิ, มเนสุ. โภ มน, ภวนฺโต มนา. อถ วา ‘‘โภ มนานิ, โภ มนา’’เอวมฺปิ พหุวจนํ เวทิตพฺพํ. เอวมุตฺตรตฺราปิ นโย.
เอตฺถ จ ปุลฺลิงฺคสฺส มนสทฺทสฺส ปจฺจตฺตกรณสมฺปทานสามิภุมฺมวจนานิ มโน มนสา มนโส มนสีติ รูปานิ เปตฺวา ยานิ เสสานิ, นปุํสกลิงฺคสฺส จ มนสทฺทสฺส ปจฺจตฺตวจนานิ ‘‘มนํ มนานี’’ติ รูปานิ จ, อฏฺมฺโยปโยควจนานํ ‘‘มนํ มนานี’’ติ รูปทฺวยฺจ เปตฺวา ยานิ เสสานิ, ตานิ สพฺพานิ กมโต สมสมานิ.
เกจิ โอการนฺโต มโนอิติ สทฺโท นปุํสกลิงฺโคติ วทนฺติ, เต วตฺตพฺพา – ยทิ โส นปุํสกลิงฺโค สิยา, ตสฺสทิเสหิ วโจ วโยติอาทิสทฺเทหิปิ นปุํสกลิงฺเคเหว ภวิตพฺพํ, น ‘‘เต นปุํสกลิงฺคา’’ติ ครู วทนฺติ, ‘‘ปุลฺลิงฺคา’’อิจฺเจว วทนฺติ. ยสฺมา จ ปาฬิยํ ‘‘กาโย อนิจฺโจ; มโน ¶ อนิจฺโจ’’ติ จ ‘‘กาโย ทุกฺโข, มโน ทุกฺโข’’ติ จ ‘‘นิจฺโจ วา อนิจฺโจ วาติ อนิจฺโจ ภนฺเต’’ติ จ เอวมาทโย ปุลฺลิงฺคปฺปโยคา พหโว ทิฏฺา. เตน ายติ มโนสทฺโท เอกนฺเตน ปุลฺลิงฺโคติ. ยทิ ปน นปุํสกลิงฺโคสิยา, ‘‘อนิจฺโจ ทุกฺโข’’ติ เอวมาทีนิ ตํสมานาธิกรณานิ อเนกปทสตานิปิ นปุํสกลิงฺคาเนว สิยุํ. น หิ ตานิ นปุํสกลิงฺคานิ, อถ โข อภิเธยฺยลิงฺคานุวตฺตกานิ วาจฺจลิงฺคานิ. เอวํ มโนสทฺทสฺส ปุลฺลิงฺคตา ปจฺเจตพฺพาติ, สเจ มโนสทฺโท นปุํสกลิงฺโค น โหติ, กถํ ‘‘มนานี’’ติ นปุํสกรูปํ ทิสฺสตีติ? สจฺจํ ‘‘มนานี’’ติ นปุํสกลิงฺคเมว, ตถาปิ มโนคเณ ปมุขภาเวน คหิตสฺโสการนฺตสฺส มนสทฺทสฺส รูปํ น โหติ. อถ กิฺจรหีติ เจ? จิตฺตสทฺเทน สมานลิงฺคสฺส สมานสุติตฺเตปิ มโนคเณ อปริยาปนฺนสฺส นิคฺคหีตนฺตสฺเสว มนสทฺทสฺส รูปํ. มนสทฺโท หิ ปุนฺนปุํสกวเสน ทฺวิธา ภิชฺชติ ‘‘มโน มนํ’’อิติ ยถา ‘‘อชฺชโวอชฺชว’’นฺติ. ‘‘มโน เจ นปฺปทุสฺสติ. สนฺตํ ตสฺส มนํ โหตี’’ติ หิ ปาฬิ. ยทิ จ โส มโนสทฺโท นปุํสกลิงฺโค น โหติ.
‘‘ครุ เจติยปพฺพตวตฺตนิยา,
ปมทา ปมทา ปมทา วิมทํ;
สมณํ สุนิสมฺม อกา หสิตํ,
ปติตํ อสุเภสุ มุนิสฺส มโน’’ติ
เอตฺถ มโนสทฺเทน สมานาธิกรโณ ‘‘ปติต’’นฺติ สทฺโท นปุํสกลิงฺคภาเวน กสฺมา สนฺนิหิโต. ยสฺมา จ สมานาธิกรณปทํ นปุํสกลิงฺคภาเวน สนฺนิหิตํ, ตสฺมา สทฺทนฺตรสนฺนิธานวเสน มโนสทฺโท นปุํสกลิงฺโคติ ายตีติ? ตนฺน, สมานาธิกรณปทสฺส สพฺพตฺถ ลิงฺควิเสสาโชตนโต. ยทิ หิ สมานาธิกรณปทํ สพฺพตฺถ ลิงฺควิเสสํ โชเตยฺย, ‘‘จตฺตาโร อินฺทฺริยานี’’ติ เอตฺถาปิ ‘‘จตฺตาโร’’ติ ¶ ปทํ อินฺทฺริยสทฺทสฺส ปุลฺลิงฺคตฺตํ กเรยฺย, น จ กาตุํ สกฺโกติ. อินฺทฺริยสทฺโท หิ เอกนฺเตน นปุํสกลิงฺโค. ยทิ ตุมฺเห ‘‘ปติต’’นฺติ สมานาธิกรณปทํ นิสฺสาย มโนสทฺทสฺส นปุํสกลิงฺคตฺตมิจฺฉถ, ‘‘จตฺตาโร อินฺทฺริยานี’’ติ เอตฺถปิ ‘‘จตฺตาโร’’ติ สมานาธิกรณปทํ นิสฺสาย อินฺทฺริยสทฺทสฺส ปุลฺลิงฺคตฺตํ อิจฺฉถาติ. น มยํ โภ อินฺทฺริยสทฺทสฺส ปุลฺลิงฺคตฺตํ อิจฺฉาม, อถ โข นปุํสกลิงฺคตฺตํเยว อิจฺฉาม, ‘‘จตฺตาโร’’ติ ปทํ ลิงฺควิปลฺลาสวเสน ิตตฺตา ‘‘จตฺตารี’’ติ คณฺหาม, ตสฺมา ‘‘จตฺตาริ อินฺทฺริยานี’’ติ อตฺถํ ธาเรมาติ. ยทิ เอวํ ‘‘ปติตํ อสุเภสุ มุนิสฺส มโน’’ติ เอตฺถาปิ ‘‘ปติต’’นฺติ ปทํ ลิงฺควิปลฺลาสวเสน ิตนฺติ มนฺตฺวา ‘‘ปติโต’’ติ อตฺถํ ธาเรถาติ. น ธาเรม เอตฺถ ลิงฺควิปลฺลาสสฺส อนิจฺฉิตพฺพโต. ยทิ หิ มโนสทฺโท ปุลฺลิงฺโค สิยา, ตํสมานาธิกรณปทํ ‘‘ปติโต’’ติ วตฺตพฺพํ สิยา. กิมาจริโย เอวํ วตฺตุํ น ชานิ, ชานมาโน เอว โส ‘‘ปติโต’’ติ นาโวจ, ‘‘ปติต’’นฺติ ปนาโวจ, เตน ายติ ‘‘มโนสทฺโท นปุํสกลิงฺโค’’ติ. มา ตุมฺเห เอวํ วเทถ, สมานาธิกรณปทํ นาม กตฺถจิ ปธานลิงฺคมนุวตฺตติ, กตฺถจิ นานุวตฺตติ, ตสฺมา น ตํ ลิงฺควิเสสโชตเน เอกนฺตโต ปมาณํ. ‘‘มาตุคาโม, โอโรโธ, อาวุโส วิสาข, เอหิ วิสาเข, จิตฺตานิ อฏฺีนี’’ติ เอวมาทิรูปวิเสโสเยว ปมาณํ. ยทิ สมานาธิกรณปเทเยว ลิงฺควิเสโส อธิคนฺตพฺโพ สิยา, ‘‘จตฺตาโร จ มหาภูตา’’ติอาทีสุ ลิงฺคววตฺถานํ น สิยา. ยสฺมา เอวมาทีสุปิ าเนสุ ลิงฺคววตฺถานํ โหติเยว. กถํ? ‘‘จตฺตาโร’’ติ ปุลฺลิงฺคํ ‘‘มหาภูตา’’ติ นปุํสกนฺติ, ตสฺมา ‘‘ปติตํ อสุเภสุ มุนิสฺส มโน’’ติ เอตฺถาปิ ‘‘ปติต’’นฺติ นปุํสกลิงฺคํ ‘‘มโน’’ติ ปุลฺลิงฺคนฺติ ววตฺถานํ ภวตีติ. อิทํ สุตฺวา เต ตุณฺหี ภวิสฺสนฺติ. ตโต ¶ เตสํ ตุณฺหีภูตานํ อิทํ วตฺตพฺพํ – ยสฺมา มโนคเณ ปวตฺตานํ ปทานํ สมานาธิกรณปทานิ กตฺถจิ นปุํสกวเสน โยเชตพฺพานิ, ตสฺมา มโนคเณ ปมุขสฺส มโนสทฺทสฺสปิ สมานาธิกรณปทานิ กตฺถจิ นปุํสกวเสน โยชิตานิ. ตถา หิ ปุพฺพาจริยา ‘‘สทฺธมฺมเตชวิหตํ วิลยํ ขเณน, เวเนยฺยสตฺตหทเยสุ ตโม’ปยาติ. ทุกฺขํ วโจ เอตสฺมินฺติ ทุพฺพโจ. อวนตํ สิโร ยสฺส โสยํ อวํสิโร, อปฺปกํ ราคาทิ รโช เยสํ ปฺามเย อกฺขิมฺหิ เต อปฺปรชกฺขา’’ติอาทินา สทฺทรจนํ กุพฺพึสุ, น ปน เตหิ วโจ สิโร รโชสทฺทาทีนํ นปุํสกลิงฺคตฺตํ วิภาเวตุํ อีทิสี สทฺทรจนา กตา, อถ โข สิโรมโนสทฺทานํ มโนคเณ ปวตฺตานํ ปุลฺลิงฺคสทฺทานํ กตฺถจิปิ อีทิสานิปิ ลิงฺควิปลฺลาสวเสน ิตานิ สมานาธิกรณปทานิ โหนฺตีติ ปเรสํ ชานาปนาธิปฺปายวติยา อนุกมฺปาย วิรจิตา. เอตฺถาปิ ตุมฺหากํ มเตน มโนสทฺทสฺส นปุํสกลิงฺคตฺเต สติ วโจ สิโร อิจฺจาทโยปิ นปุํสกลิงฺคตฺตมาปชฺชนฺติ นปุํสกลิงฺควเสน สมานาธิกรณปทานํ นิทฺทิฏฺตฺตา. กึ ปเนเตสมฺปิ นปุํสกลิงฺคตฺตํ อิจฺฉถาติ. อทฺธา เต อิทมฺปิ สุตฺวา นิพฺเพเตุมสกฺโกนฺตา ตุณฺหี ภวิสฺสนฺติ. กิฺจาปิ เต อฺํ คเหตพฺพการณํ อปสฺสนฺตา เอวํ วเทยฺยุํ ‘‘ยทิ โภ มโน สทฺโท นปุํสกลิงฺโคน โหติ, กสฺมา เวยฺยากรณา ‘มโนสทฺโท นปุํสกลิงฺโค’ติ วทนฺตี’’ติ? เต วตฺตพฺพา – ยทิ ตุมฺเห เวยฺยากรณมตํ คเหตฺวา มโนสทฺทสฺส นปุํสกลิงฺคตฺตํ โรเจถ, นนุ ภควาเยว โลเก อสทิโส มหาเวยฺยากรโณ มหาปุริโส วิสารโท ปรปฺปวาทมทฺทโน. ภควนฺตฺหิ ปทกา เวยฺยากรณา อมฺพฏฺมาณวโปกฺขรสาติโสณทณฺฑาทโย จ พฺราหฺมณา สจฺจกนิคณฺาทโย จ ปริพฺพาชกา ¶ วาเทน น สมฺปาปุณึสุ, อฺทตฺถุ ภควาเยว มตฺตวารณคณมชฺเฌ เกสรสีโห วิย อสมฺภีโต เนสํ เนสํ วาทํ มทฺเทสิ, มหนฺเต จ เน อตฺเถ ปติฏฺาเปสิ, เอวํวิเธน ภควตา โวหารกุสเลน ยสฺมา ‘‘กาโย อนิจฺโจ’’ติ จ ‘‘กาโย ทุกฺโข, มโน อนิจฺโจ, มโน ทุกฺโข’’ติ จ เอวมาทินา วุตฺตา มโนสทฺทสฺส ปุลฺลิงฺคภาวสูจนิกา พหู ปาฬิโย ทิสฺสนฺติ, ตสฺมา มโนสทฺโท ปุลฺลิงฺโคเยวาติ สารโต ปจฺเจตพฺโพติ. เอวํ วุตฺตา เต นิรุตฺตรา อปฺปฏิภานา มงฺกุภูตา ปตฺตกฺขนฺธา อโธมุขา ปชฺฌายิสฺสนฺติ.
อิทานิ สรสทฺทาทีนํ นามิกปทมาลา วิเสสโต วุจฺจเต –
สโร, สรา. สรํ, สเร. สเรน, สเรหิ, สเรภิ. สรสฺส, สรานํ. สรา, สรสฺมา, สรมฺหา, สเรหิ, สเรภิ. สรสฺส, สรานํ. สเร, สรสฺมึ, สรมฺหิ, สเรสุ. โภ สร, ภวนฺโต สรา.
อยํ ปุริสนเย สพฺพถา ปวิฏฺสฺส อุสุสทฺทสรวนอการาทิสรวาจกสฺส สรสทฺทสฺส นามิกปทมาลา.
อยํ ปน ปุริสนเย เอกเทเสน ปวิฏฺสฺส มโนคณปกฺขิกสฺส รหทวาจกสฺส สรสทฺทสฺส นามิกปทมาลา –
สโร, สรา. สรํ, สโร, สเร. สรสา, สเรน, สเรหิ, สเรภิ. สรโส, สรสฺส, สรานํ. สรา, สรสฺมา, สรมฺหา, สเรหิ, สเรภิ. สรโส, สรสฺส, สรานํ. สรสิ, สเร, สรสฺมึ, สรมฺหิ, สเรสุ. โภ สร, ภวนฺโต สรา, โภ สรา อิติ วา.
วโย, วยา. วยํ, วเย. วเยน, วเยหิ, วเยภีติ ปุริสนเยน เ ยฺโย. อยํ ปุริสนเย สพฺพถา ปวิฏฺสฺส ปริหานิวาจกสฺส วยสทฺทสฺส นามิกปทมาลา.
อยํ ¶ ปน ปุริสนเย เอกเทเสน ปวิฏฺสฺส มโนคณปกฺขิกสฺส อายุโกฏฺาสวาจกสฺส วยสทฺทสฺส นามิกปทมาลา – วโย, วยา. วยํ, วโย, วเย. วยสา, วเยน, วเยหิ, วเยภีติ มนนเยน เยฺโย. ตสฺส เจโต ปฏิสฺโสสิ, อรฺเ ลุทฺทโคจโร. เจตา หนึสุ เวทพฺพํ.
เจโต, เจตา. เจตํ, เจเต. เจเตน, เจเตหิ, เจเตภีติ ปุริสนเยน เยฺโย. อยํ ปุริสนเย สพฺพถา ปวิฏฺสฺส ปณฺณตฺติวาจกสฺส เจตสทฺทสฺส นามิกปทมาลา.
อยํ ปน ปุริสนเย เอกเทเสน ปวิฏฺสฺส จิตฺตวาจกสฺส เจตสทฺทสฺส นามิกปทมาลา – เจโต, เจตา. เจตํ, เจโต, เจเต. เจตสา, เจเตน, เจเตหิ, เจเตภีติ มนนเยน เยฺโย. ยโส กุลปุตฺโต, ยสํ กุลปุตฺตํ, ยเสน กุลปุตฺเตนาติ เอกวจนวเสน ปุริสนเยน โยเชตพฺพา, เอกวจนปุถุวจนวเสน วา. เอวํ กานิจิ โอการนฺตปทานิ ปุริสนเย สพฺพถา ปวิฏฺานิ จ โหนฺติ, เอกเทเสน ปวิฏฺานิ จาติ อิมินา นเยน สพฺพปทานิ ปฺาจกฺขุนา อุปปริกฺขิตฺวา วิเสโส เวทิตพฺโพ. อวิเสสฺุโน หิ เอวมาทิวิภาคํ อชานนฺตา ยํ วา ตํ วา พฺยฺชนํ โรเปนฺตา ยถาธิปฺเปตํ อตฺถํ วิราเธนฺติ, ตสฺมา โย เอตฺถ อมฺเหหิ ปกาสิโต วิภาโค, โส สทฺธาสมฺปนฺเนหิ กุลปุตฺเตหิ สกฺกจฺจมุคฺคเหตพฺโพ. กตมานิ กานิจิ โอการนฺตปทานิ ปุริสนเย เอกเทเสน ปวิฏฺานิ จ เอกเทเสน น ปวิฏฺานิ จ? มโน วโจ เตโชสทฺทาทโย เจว อยฺยสทฺโท จ, ตตฺร มนสทฺทาทีนํ นามิกปทมาลา เหฏฺา วิภาวิตา.
อยฺยสทฺทสฺส ¶ ปน นามิกปทมาลายํ ‘‘อยฺโย, อยฺยา. อยฺยํ, อยฺเย’’ติ ปุริสนเยน วตฺวา อาลปนฏฺาเน ‘‘โภ อยฺย, โภ อยฺโย’’ติ ทฺเว เอกวจนานิ, ‘‘ภวนฺโต อยฺยา, ภวนฺโต อยฺโย’’ติ ทฺเว พหุวจนานิ จ วตฺตพฺพานิ. เอตฺถ อยฺโย อิติ สทฺโท ปจฺจตฺตวจนภาเว เอกวจนํ, อาลปนวจนภาเว เอกวจนฺเจว พหุวจนฺจ. ตตฺริเม ปโยคา ‘‘อยฺโย กิร สาคโต อมฺพติตฺถิเกน นาเคน สงฺคาเมสิ, ปิวตุ ภนฺเต อยฺโย สาคโต กาโปติกํ ปสนฺน’’นฺติ เอวมาทีนิ อยฺโยสทฺทสฺส ปจฺจตฺเตกวจนปฺปโยคานิ, ‘‘อถ โข สา อิตฺถี ตํ ปุริสํ เอตทโวจ ‘นายฺโย โส ภิกฺขุ มํ นิปฺปาเฏสิ, อปิจ อหเมว เตน ภิกฺขุนา คจฺฉามิ, อการโก โส ภิกฺขุ, คจฺฉ ขมาเปหี’ติ’’ เอวมาทีนิ อยฺโยสทฺทสฺส อาลปเนกวจนปฺปโยคานิ, ‘‘เอถ’ยฺโย ราชวสตึ, นิสีทิตฺวา สุณาถ เม. เอถ มยํ อยฺโย สมเณสุ สกฺยปุตฺติเยสุ ปพฺพชิสฺสามา’’ติ เอวมาทีนิ อยฺโยสทฺทสฺส อาลปนพหุวจนปฺปโยคานิ. ภวติ จตฺร –
อยฺโย อิติ อยํ สทฺโท, ปจฺจตฺเตกวโจ ภเว;
อาลปเน พหุวโจ, ภเว เอกวโจปิ จ –
เอวํ กานิจิ โอการนฺตปทานิ ปุริสนเย เอกเทเสน ปวิฏฺานิ จ โหนฺติ เอกเทเสน น ปวิฏฺานิ จ.
กตมานิ กานิจิ โอการนฺตปทานิ ปุริสนเย สพฺพถา อปฺปวิฏฺานิ? โคสทฺโทเยว. โคสทฺทสฺส หิ อยํ นามิกปทมาลา –
โค, คาโว, คโว. คาวุํ, คาวํ, ควํ, คาโว, คโว. คาเวน, คเวน, โคหิ, โคภิ. คาวสฺส, ควสฺส, ควํ, คุนฺนํ, โคนํ. คาวา, คาวสฺมา, คาวมฺหา, ควา, ควสฺมา, ควมฺหา, โคหิ, โคภิ. คาวสฺส, ควสฺส, ควํ, คุนฺนํ, โคนํ. คาเว, คาวสฺมึ, คาวมฺหิ, คเว, ควสฺมึ ¶ , ควมฺหิ, คาเวสุ, คเวสุ, โคสุ. โภ โค, ภวนฺโต คาโว, คโว. อยํ ปุริสนเย สพฺพถา อปฺปวิฏฺสฺส โคสทฺทสฺส นามิกปทมาลา.
นนุ จ โภ โคสทฺโท อตฺตนา สมฺภูตโคณสทฺทมาลาวเสน ปุริสนเย เอกเทเสน ปวิฏฺโ เจว เอกเทเสน น ปวิฏฺโ จาติ? สจฺจํ. โคณสทฺโท โคสทฺทวเสน สมฺภูโตปิ ‘‘วตฺติจฺฉานุปุพฺพิกา สทฺทปฏิปตฺตี’’ติ วจนโต โคสทฺทโต วิสุํ อมฺเหหิ คเหตฺวา ปุริสนเย ปกฺขิตฺโต. ตสฺส หิ วิสุํ คหเณ ยุตฺติ ทิสฺสติ สฺยาทีสุ เอกากาเรเนว ติฏฺนโต, ตสฺมา โคสทฺทโต สมฺภูตมฺปิ โคณสทฺทํ อนเปกฺขิตฺวา สุทฺธํ โคสทฺทเมว คเหตฺวา ปุริสนเย สพฺพถา โคสทฺทสฺส อปฺปวิฏฺตา วุตฺตา.
นนุ จ โภ ปจฺจตฺตวจนภูโต โคอิติ สทฺโท ปุริโสติ สทฺเทน สทิสตฺตา ปุริสนเย เอกเทเสน ปวิฏฺโติ? ตนฺน, โคสทฺโท หิ นิจฺจโมการนฺโต, น ปุริสสทฺทาทโย วิย ปมํ อการนฺตภาเว ตฺวา ปจฺฉา ปฏิลทฺโธการนฺตฏฺโ. เตเนว หิ ปจฺจตฺตวจนฏฺาเนปิ อาลปนวจนฏฺาเนปิ โคอิจฺเจว ติฏฺติ. ยทิ ปจฺจตฺตวจนตฺตํ ปฏิจฺจ โคสทฺทสฺส ปุริสนเย เอกเทเสน ปวิฏฺตา อิจฺฉิตพฺพา, ‘‘กานิจิ โอการนฺตปทานี’’ติ เอวํ วุตฺตา โอการนฺตกถา กมตฺถํ ทีเปยฺย, นิปฺผลาว สา กถา สิยา, ตสฺมา อมฺเหหิ ยถาวุตฺโต นโยเยว อายสฺมนฺเตหิ มนสิ กาตพฺโพ. เอวํ โคสทฺทสฺส ปุริสนเย สพฺพถา อปฺปวิฏฺตา ทฏฺพฺพา.
เกเจตฺถ เอวํ ปุจฺเฉยฺยุํ ‘‘โคสทฺทสฺส ตาว ‘โค, คาโว, คโว. คาวุํ, คาวํ, ควํ’ อิจฺจาทินา นเยน ปุริสนเย สพฺพถา อปฺปวิฏฺตา อมฺเหหิ าตา, ชรคฺคว ปุงฺควาทิสทฺทา ปน กุตฺร นเย ¶ ปวิฏฺา’’ติ? เตสํ เอวํ พฺยากาตพฺพํ ‘‘ชรคฺคว ปุงฺควาทิสทฺทา สพฺพถาปิ ปุริสนเย ปวิฏฺา’’ติ. ตถา หิ เตสํ โคสทฺทโต อยํ วิเสโส, ชรนฺโต จ โส โค จาติ ชรคฺคโว. เอตฺถ นการโลโป ตการสฺส จ คการตฺตํ ภวติ สมาสปทตฺตา, สมาเส จ สิมฺหิ ปเร โคสทฺทสฺโสการสฺส อวาเทโส ลพฺภติ, ตสฺมา ปาฬิยํ ‘‘วิสาเณน ชรคฺคโว’’ติ เอกวจนรูปํ ทิสฺสติ. ตถา หิ อฺตฺถ อนุปปทตฺตา คโวอิติ พหุวจนปทํเยว ทิสฺสติ. อิธ ปน โสปปทตฺตา สมาสปทภาวมาคมฺม ‘‘ชรคฺคโว’’ติ เอกวจนปทํเยว ทิสฺสติ. ตถา หิ ชรคฺคโวติ เอตฺถ ชรนฺตา จ เต คโว จาติ เอวํ พหุวจนวเสน นิพฺพจนียตา น ลพฺภติ โลกสงฺเกตวเสน เอกสฺมึ อตฺเถ นิรูฬฺหตฺตาติ. ‘‘ชรคฺคโว, ชรคฺควา. ชรคฺควํ, ชรคฺคเว. ชรคฺคเวนา’’ติ ปุริสนเยน นามิกปทมาลา โยเชตพฺพา. เอส นโย ปุงฺคโว สกฺยปุงฺคโวติอาทีสุปิ.
ตตฺร ปุงฺคโวติ คุนฺนํ ยูถปติ นิสภสงฺขาโต อุสโภ. โย ปาฬิยํ ‘‘มุหุตฺตชาโตว ยถา ควํปติ, สเมหิ ปาเทหิ ผุสี วสุนฺธร’’นฺติ จ ‘‘ควฺเจ ตรมานานํ, อุชุํ คจฺฉติ ปุงฺคโว’’ติ จ อาคโต. อีทิเสสุ ปน าเนสุ เกจิ ‘‘ปุมา จ โส โค จาติ ปุงฺคโว’’ติ วจนตฺถํ ภณนฺติ. มยํ ปน ปธาเน นิรูฬฺโห อยํ สทฺโทติ วจนตฺถํ น ภณาม. น หิ ปุงฺโกกิโลติอาทิสทฺทานํ โกกิลาทีนํ ปุมฺภาวปฺปกาสนมตฺเต สมตฺถตา วิย อิมสฺส ปุมฺภาวปฺปกาสนมตฺเต สมตฺถตา สมฺภวติ, อถ โข ปธานภาวปฺปกาสเน จ สมตฺถตา สมฺภวติ. เตน ‘‘สกฺยปุงฺคโว’’ติอาทีสุ นิสภสงฺขาโต ปุงฺคโว วิยาติ ปุงฺคโว, สกฺยานํ, สกฺเยสุ ¶ วา ปุงฺคโว สกฺยปุงฺคโวติอาทินา สมาสปทตฺโถ คเหตพฺโพ. อถ วา อุตฺตรปทตฺเต ิตานํ สีหพฺยคฺฆนาคาทิสทฺทานํ เสฏฺวาจกตฺตา ‘‘สกฺยปุงฺคโว’’ติอาทีนํ ‘‘สกฺยเสฏฺโ’’ติอาทินา อตฺโถ คเหตพฺโพ. อิติ สพฺพถาปิ ปุริสนเย ปวตฺตนโต ชรคฺคว ปุงฺควาทิสทฺทานํ โคสทฺทสฺส ปทมาลโต วิสทิสปทมาลตา ววตฺถเปตพฺพา. โคสทฺทสฺส ปน ปุริสนเย สพฺพถา อปฺปวิฏฺตา จ ววตฺถเปตพฺพา.
อาปสทฺเท อาจริยานํ ลิงฺควจนวเสน มติเภโท วิชฺชติ, ตสฺมา ตํมเตน ตสฺส ปุริสนเย สพฺพถา อปฺปวิฏฺตา ภวติ. ‘‘องฺคุตฺตราเปสู’’ติ ปาฬิยา อฏฺกถายํ ‘‘มหิยา ปน นทิยา อุตฺตเรน อาโป’’ติ วุตฺตํ, ฏีกายํ ปน ตํ อุลฺลิงฺคิตฺวา ‘‘มหิยา นทิยา อาโป ตสฺส ชนปทสฺส อุตฺตเรน โหนฺติ, ตาสํ อวิทูรตฺตา โส ชนปโท อุตฺตราโป’’ติ วุตฺตํ. เอวํ อาปสทฺทสฺส เอกนฺเตน อิตฺถิลิงฺคตา พหุวจนตา จ อาจริเยหิ อิจฺฉิตา, เตสํ มเต อาโปอิติ อิตฺถิลิงฺเค ปมาพหุวจนรูเป โหนฺเต ทุติยาตติยาปฺจมีสตฺตมีนํ พหุวจนรูปานิ กีทิสานิ สิยุํ. ตถา หิ ‘‘ปุริเส, ปุริเสหิ ปุริเสภิ ปุริเสสู’’ติ รูปวโต ปุลฺลิงฺคสฺส วิย โอการนฺติตฺถิลิงฺคสฺส เอการเอหิ การาทิยุตฺตานิ รูปานิ กตฺถจิปิ น ทิสฺสนฺติ. อโต เตสํ มเต ปทมาลานโย อตีว ทุกฺกโร.
อาปสทฺทสฺส ครโว, สทฺทสตฺถนยํ ปติ;
พหุวจนตฺจิตฺถิ-ลิงฺคภาวฺจ อพฺรวุํ.
อิจฺจาปสทฺทสฺส ¶ อิตฺถิลิงฺคพหุวจนนฺตตา เวยฺยากรณานํ มตํ นิสฺสาย อนุมตาติ เวทิตพฺพา. อฏฺสาลินิยํ ปน อาโป อิติ สทฺทสฺส นปุํสกลิงฺเคกวจนวเสน วุตฺโต ปโยโค ทิฏฺโ ‘‘โอมตฺตํ ปน อาโป อธิมตฺตปถวีคติกํ ชาต’’นฺติ. ชาตกปาฬิยํ ตุ ตสฺเสกวจนนฺตตา ทิฏฺา. ตถา หิ ‘‘สุจึ สุคนฺธํ สลิลํ, อาโป ตตฺถาภิสนฺทตี’’ติ. อิมสฺมึ ปเทเส อาโป อิติ สทฺโท เอกวจนฏฺาเน ิโต ทิฏฺโ. เกเจตฺถ วเทยฺยุํ ‘‘อาโปติ สงฺขํ คตํ สลิลํ สุจิ สุคนฺธํ หุตฺวา ตตฺถ อภิสนฺทตีติ สลิลํสทฺทวเสน เอกวจนปฺปโยโค กโต, น นามสทฺทวเสน. อาปสทฺโท หิ เอกนฺเตนิตฺถิลิงฺโค เจว พหุวจนนฺโต จ. ตถา หิ ‘อาโป ตตฺถาภิสนฺทนฺตี’ติ พหุวจนวเสน ตปฺปโยโค วตฺตพฺโพปิ ฉนฺทานุรกฺขณตฺถํ วจนวิปลฺลาสวเสน นิทฺทิฏฺโ’’ติ. ตนฺน, ‘‘อาโป ตตฺถาภิสนฺทเร’’ติ วตฺตุํ สกฺกุเณยฺยตฺตา ‘‘ตานิ อชฺช ปทิสฺสเร’’ติ พหุวจนปฺปโยคา วิย. ยสฺมา เอวํ น วุตฺตํ, ยสฺมา จ ปน ปาฬิยํ ‘‘อาโป ลพฺภติ, เตโช ลพฺภติ, วาโย ลพฺภตี’’ติ เอกวจนปฺปโยโค ทิสฺสติ, ตสฺมา ‘‘อาโป’’ติ สทฺทสฺส เอกวจนนฺตตา ปจฺจกฺขโต ทิฏฺาติ.
อถาปิ เจ วเทยฺยุํ – นนุ ปาฬิยํเยว ตสฺส พหุวจนนฺตตา ปจฺจกฺขโต ทิฏฺา ‘‘อาโป จ เทวา ปถวี จ, เตโช วาโย ตทาคมุ’’นฺติ? ตมฺปิ น. เอตฺถ หิ ‘‘เทวา’’ติ สทฺทํ อเปกฺขิตฺวา ‘‘อาคมุ’’นฺติ พหุวจนปฺปโยโค กโต, น ‘‘อาโป’’ติ สทฺทํ. ยทิ ‘‘อาโป’’ติ สทฺทํ สนฺธาย พหุวจนปฺปโยโค กโต สิยา, ‘‘ปถวี’’ติ ‘‘เตโช’’ติ ‘‘วาโย’’ติ จ สทฺทมฺปิ สนฺธาย พหุวจนปฺปโยโค กโต สิยา ¶ . เอวํ สนฺเต ปถวี เตโช วาโยสทฺทาปิ พหุวจนกภาวมาปชฺเชยฺยุํ, น ปน อาปชฺชนฺติ. น เหเต พหุวจนกา, อถ โข เอกวจนกา เอว. รูฬฺหีวเสน เต ปวตฺตา ปกติอาปาทีสุ อตฺเถสุ อปฺปวตฺตนโต. ตถา หิ อาโปกสิณาทีสุ ปริกมฺมํ กตฺวา นิพฺพตฺตา เทวา อารมฺมณวเสน ‘‘อาโป’’ติอาทินามํ ลภนฺตีติ. เอวํ วุตฺตาปิ เต เอวํ วเทยฺยุํ ‘‘นนุ จ โภ ‘องฺคุตฺตราเปสู’ติ พหุวจนปาฬิ ทิสฺสตี’’ติ? เต วตฺตพฺพา – อสมฺปถมวติณฺณา ตุมฺเห, น หิ ตุมฺเห สทฺทปฺปวตฺตึ ชานาถ, ‘‘องฺคุตฺตราเปสู’’ติ พหุวจนํ ปน ‘‘กุรูสุ องฺเคสุ องฺคานํ มคธาน’’นฺติอาทีนิ พหุวจนานิ วิย รูฬฺหีวเสน เอกสฺสาปิ ชนปทสฺส วุตฺตํ, น อาปสงฺขาตํ อตฺถํ สนฺธาย. ‘‘องฺคุตฺตราเปสู’’ติ เอตฺถ หิ อาปสงฺขาโต อตฺโถ อุปสชฺชนีภูโต, ปุลฺลิงฺคพหุวจเนน ปน วุตฺโต ชนปทสงฺขาโต อตฺโถเยว ปธาโน ‘‘อาคตสมโณ สงฺฆาราโม’’ติ เอตฺถ สมณสงฺขาตํ อตฺถํ อุปสชฺชนกํ กตฺวา ปวตฺตสฺส อาคตสมณสทฺทสฺส สงฺฆารามสงฺขาโต อตฺโถ วิย, ตสฺมา อาปสงฺขาตํ อตฺถํ คเหตฺวา โย องฺคุตฺตราโป นาม ชนปโท, ตสฺมึ องฺคุตฺตราเปสุ ชนปเทติ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ตถา หิ ‘‘องฺคุตฺตราเปสุ วิหรติ อาปณํ นาม องฺคานํ นิคโม’’ติ ปาฬิ ทิสฺสติ. ตตฺถ อุตฺตเรน มหามหิยา นทิยา อาโป เยสํ เต อุตฺตราปา, องฺคา จ เต อุตฺตราปา จาติ องฺคุตฺตราปา, เตสุ องฺคุตฺตราเปสุ. เอวํ เอกสฺมึ ชนปเทเยว พหุวจนํ น อาปสงฺขาเต อตฺเถ, เตน อฏฺกถายํ วุตฺตํ ‘‘ตสฺมึ องฺคุตฺตราเปสุ ชนปเท’’ติ. เอวํ วุตฺตา เต นิรุตฺตรา ภวิสฺสนฺติ.
ตถาปิ เย เอวํ วทนฺติ ‘‘อาปสทฺโท อิตฺถิลิงฺโค เจว พหุวจนโกจา’’ติ. เต ปุจฺฉิตพฺพา ‘‘กึ ปฏิจฺจ ตุมฺเห อายสฺมนฺโต ‘อาปสทฺโท อิตฺถิลิงฺโค เจว พหุวจนโก จา’ติ วทถา’’ติ ¶ ? เต เอวํ ปุฏฺา เอวํ วเทยฺยุํ – ‘‘องฺคาเยว โส ชนปโท, มหิยา ปน นทิยา อุตฺตเรน อาโป, ตาสํ อวิทูรตฺตา อุตฺตราโปติ วุจฺจตี’’ติ จ ‘‘มหิยา ปน นทิยา อาโป ตสฺส ชนปทสฺส อุตฺตเรน โหนฺติ, ตาสํ อวิทูรตฺตา โส ชนปโท อุตฺตราโปติ วุจฺจตี’’ติ จ เอวํ ปุพฺพาจริเยหิ อภิสงฺขโต สทฺทรจนาวิเสโส ทิสฺสติ, ตสฺมา อิตฺถิลิงฺโค เจว พหุวจนโก จา’’ติ วทามาติ. สจฺจํ ทิสฺสติ, โส ปน สทฺทสตฺเถ เวยฺยากรณานํ มตํ คเหตฺวา อภิสงฺขโต, สทฺทสตฺถฺจ นาม น สพฺพถา พุทฺธวจนสฺโสปการกํ, เอกเทเสน ปน โหติ, ตสฺมา กจฺจายนปฺปกรเณ อิจฺฉิตานิจฺฉิตสงฺคหวิวชฺชนํ กาตุํ ‘‘ชินวจนยุตฺตฺหิ, ลิงฺคฺจ นิปฺปชฺชเต’’ติ ลกฺขณานิ วุตฺตานิ.
ยทิ จ อาปสทฺโท อิตฺถิลิงฺคพหุวจนโก, กถํ อาโปติ ปทํ สิชฺฌตีติ? อาปสทฺทโต ปมาโยวจนํ กตฺวา ตสฺโสการาเทสฺจ กตฺวา อาโปติ ปทํ สิชฺฌติ ‘‘คาโว’’ติ ปทมิวาติ. วิสมมิทํ นิทสฺสนํ, ‘‘คาโว’’ติ ปทฺหิ นิจฺโจการนฺเตน โคสทฺเทน สมฺภูตํ. ตถา หิ โยมฺหิ ปเร โคสทฺทนฺตสฺสาวาเทสํ กตฺวา ตโต โยนโมการาเทสํ กตฺวา ‘‘คาโว’’ติ นิปฺผชฺชติ, อาปสทฺเท ปน ทฺเว อาเทสา น สนฺติ. พุทฺธวจนฺหิ ปตฺวา อาปสทฺโท อการนฺตตาปกติโก ชาโต, น อฺถาปกติโกติ.
เอวํ วุตฺตาปิ เต ‘‘อิทเมว สจฺจํ, นาฺ’’นฺติ เจตสิ สนฺนิธาย อาธานคฺคาหิทุปฺปฏินิสฺสคฺคิภาเว, ‘‘น วจนปจฺจนีกสาเตน สุวิชานํ สุภาสิต’’นฺติ เอวํ วุตฺตปจฺจนีกสาตภาเว จ ตฺวา เอวํ วเทยฺยุํ ‘‘ยเถว คาโวสทฺโท, ตเถว อาโปสทฺโท กึ อิตฺถิลิงฺโค น ภวิสฺสติ พหุวจนโก จา’’ติ? ตโต เตสํ อิมานิ สุตฺตปทานิ ทสฺเสตพฺพานิ. เสยฺยถิทํ? ‘‘อาปํ อาปโต สฺชานาติ, อาปํ อาปโต ¶ สฺตฺวา อาปํ มฺติ, อาปสฺมึ มฺติ, อาปํ เมติ มฺติ, อาปํ อภินนฺทตี’’ติ เอวํ สุตฺตปทานิ ทสฺเสตฺวา ‘‘อาปนฺติ อิทํ กตรวจน’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพา. อทฺธา เต อาปสทฺทสฺส พหุวจนนฺตภาวเมว อิจฺฉมานา วกฺขนฺติ ‘‘ทุติยาพหุวจน’’นฺติ. เต วตฺตพฺพา ‘‘นนุ โยวจนํ น สุยฺยตี’’ติ? เต วเทยฺยุํ ‘‘โยวจนํ กตอมาเทสตฺตา น สุยฺยตี’’ติ. ยํ ยํ โภนฺโต อิจฺฉนฺติ, ตํ ตํ มุขารูฬฺหํ วทนฺติ.
‘‘อาปโต’’ติ อิทํ ปน กึ โภนฺโต วทนฺตีติ? ‘‘อาปโต’’ติ อิทมฺปิ ‘‘พหุวจนกํ โตปจฺจยนฺต’’นฺติ วทาม โตปจฺจยสฺส เอกตฺเถ จ พวฺหตฺเถ จ ปวตฺตนโต. อิติ ตุมฺเห พหุวจนกตฺตํเยว อิจฺฉมานา ‘‘อาโปสทฺโท จ โยวจนนฺโต’’ติ ภณถ, ‘‘อาปโต’’ติ อิทมฺปิ ‘‘พหุวจนกํ โตปจฺจยนฺต’’นฺติ ภณถ, ‘‘อาปสฺมึ มฺตี’’ติ เอตฺถ ปน ‘‘อาปสฺมิ’’นฺติทํ กตรวจนนฺตํ กตราเทเสน สมฺภูตนฺติ? อทฺธา เต เอวํ ปุฏฺา นิรุตฺตรา ภวิสฺสนฺติ. ตถา เยสํ เอวํ โหติ ‘‘อาปสทฺโท อิตฺถิลิงฺโค เจว พหุวจนโก จา’’ติ, เต ปุจฺฉิตพฺพา ‘‘ยํ อาจริเยหิ เวยฺยากรณมตํ คเหตฺวา ‘ยา อาโป’ติ จ ‘ตาส’นฺติ จ วุตฺตํ, ตตฺถ ‘กึ ตาส’นฺติ วจเน ‘อาปาน’นฺติ ปทํ อาเนตฺวา อตฺโถ วตฺตพฺโพ, อุทาหุ อาปสฺสา’’ติ? ‘‘อาปาน’นฺติ ปทมาเนตฺวา อตฺโถ วตฺตพฺโพ’’ติ เจ, เอวฺจ สติ ‘‘ยา อาปา’’ติ วตฺตพฺพํ ‘‘ยา กฺา ติฏฺนฺตี’’ติ ปทมิว. อถ ‘‘อาปา’’ติ ปทํ นาม นตฺถิ, ‘‘อาโป’’ติ ปทํเยว พหุวจนกนฺติ เจ, เอวํ สติ ‘‘ตาส’’นฺติ เอตฺถาปิ ‘‘อาปสฺสา’’ติ ปทํ อาเนตฺวา อตฺโถ เวทิตพฺโพ. กสฺมาติ เจ? ยสฺมา ‘‘อาโป’’ติ ปจฺจตฺเตกวจนสฺส ตุมฺหากํ มเตน พหุวจนตฺเต สติ ‘‘อาปสฺสา’’ติ ปทมฺปิ พหุวจนนฺติ กตฺวา ตาสํสทฺเทน โยเชตฺวา วตฺตุํ ยุตฺติโตติ. เอวํ สติ ‘‘อาปาน’’นฺติ ¶ ปทสฺส อภาเวเนว ภวิตพฺพํ. ยถา ปน ‘‘ปุริโส, ปุริสา. ปุริสํ, ปุริเส’’ติ จ, ‘‘โค, คาโว, คโว. คาวุ’’นฺติ จ เอกวจนพหุวจนานิ ภวนฺติ, เอวํ ‘‘อาโป, อาปา. อาปํ, อาเป’’ติ เอกวจนพหุวจเนหิ ภวิตพฺพํ. เอวฺจ สติ ‘‘อาปสทฺโท พหุวจนโกเยว โหตี’’ติ น วตฺตพฺพํ.
เย เอวํ วทนฺติ, เตสํ วจนํ สโทสํ ทุปฺปริหรณียํ มูลปริยายสุตฺเต ‘‘อาปํ มฺติ อาปสฺมิ’’นฺติ เอกวจนปาฬีนํ ทสฺสนโต, วิสุทฺธิมคฺคาทีสุ จ ‘‘วิสฺสนฺทนภาเวน ตํ ตํ านํ อาโปติ อปฺโปตีติ อาโป’’ติอาทิกสฺส เอกวจนวเสน วุตฺตนิพฺพจนสฺส ทสฺสนโต. ยถา ปน ปาฬิยํ อิตฺถิลิงฺเคปิ ปริยาปนฺโน โคสทฺโท ‘‘ตา คาโว ตโต ตโต ทณฺเฑน อาโกเฏยฺยา’’ติ จ ‘‘อนฺนทา พลทา เจตา’’ติ จ อาทินา พวฺหตฺถทีปเกหิ อิตฺถิลิงฺคภูเตหิ สพฺพนามิกปเทหิ จ อสพฺพนามิกปเทหิ จ สมานาธิกรณภาเวน วุตฺโต ทิสฺสติ, น ตถา ปาฬิยํ พวฺหตฺถทีปเกหิ อิตฺถิลิงฺคภูเตหิ สพฺพนามิกปเทหิ วา อสพฺพนามิกปเทหิ วา สมานาธิกรณภาเวน วุตฺโต อาปสทฺโท ทิสฺสติ. ยทิ หิ อาปสทฺโท อิตฺถิลิงฺโค สิยา, กฺสทฺทโต อาปจฺจโย วิย อาปสทฺทโต อาปจฺจโย วา สิยา, นทสทฺทโต วิย จ อีปจฺจโย วา สิยา, อุภยมฺปิ นตฺถิ, อุภยาภาวโต อิตฺถิลิงฺเค วุตฺตํ สพฺพมฺปิ วิธานํ ตตฺถ น ลพฺภติ, เตน ายติ ‘‘อาปสทฺโท อนิตฺถิลิงฺโค’’ติ. นนุ จ โภ โคสทฺทโตปิ อาปจฺจโย นตฺถิ, ตทภาวโต อิตฺถิลิงฺเค วุตฺตวิธานํ น ลพฺภติ, เอวํ สนฺเต กสฺมา โสเยว อิตฺถิลิงฺโค โหติ, น ปนายํ อาปสทฺโทติ?
เอตฺถ วุจฺจเต – โคสทฺโท น นิโยคา อิตฺถิลิงฺโค, อถ โข ปุลฺลิงฺโคว. อิตฺถิลิงฺคภาเว ปน ตมฺหา อาปจฺจเย ¶ อโหนฺเตปิ อีปจฺจโย วิกปฺเปน โหติ, อฺมฺปิ อิตฺถิลิงฺเค วุตฺตวิธานํ ลพฺภติ. โส หิ นิจฺจโมการนฺตตาปกติยํ ตฺวา ‘‘โค, คาวี’’ติอาทินา อตฺตโน อิตฺถิลิงฺครูปานํ นิพฺพตฺติการณภูโต, เตน โส อิตฺถิลิงฺโค ภวติ. อาปสทฺเท ปน อีปจฺจยาทิ น ลพฺภติ. เตน โส อิตฺถิลิงฺโคติ น วตฺตพฺโพ. ยถา วา โคสทฺทสฺส อวิสทาการโวหารตํ ปฏิจฺจ อิตฺถิลิงฺคภาโว อุปปชฺชติ, น ตถา อาปสทฺทสฺส. อาปสทฺทสฺส หิ อนากุลรูปกฺกมตฺตา อวิสทาการโวหารตา น ทิสฺสติ, ยาย เอโส อิตฺถิลิงฺโค สิยา. เอวํ วุตฺตา เต นิรุตฺตรา ภวิสฺสนฺติ.
ตถา เยสํ เอวํ โหติ ‘‘อาปสทฺโท สพฺพทา อิตฺถิลิงฺโค เจว พหุวจนโก จา’’ติ, เต วตฺตพฺพา – ยถา อิตฺถิลิงฺคภูตสฺส กฺาสทฺทสฺส ปมํ กฺอิติ รสฺสวเสน ปิตสฺส อาปจฺจยโต ปรํ สฺมึวจนํ สรูปโต น ติฏฺติ, ยํภาเวน จ ยาภาเวน จ ติฏฺติ ‘‘กฺายํ, กฺายา’’ติ, น ตถา ‘‘อิตฺถิลิงฺค’’นฺติ ตุมฺเหหิ คหิตสฺส อาโปสทฺทสฺส ปมํ อาปอิติ รสฺสวเสน ปิตสฺส ปรํ สฺมึวจนํ ยํภาเวน จ ยาภาเวน จ ติฏฺติ, อถ โข สรูปโตเยว ติฏฺติ ‘‘อาปสฺมึ มฺตี’’ติ. ยทิ ปน อาปสทฺโท อิตฺถิลิงฺโค สิยา, สฺมึวจนํ สรูปโต น ติฏฺเยฺย. ยสฺมา จ สฺมึวจนํ สรูปโต ติฏฺติ, ตสฺมา อาปสทฺโท น อิตฺถิลิงฺโค. น หิ จตุราสีติธมฺมกฺขนฺธสหสฺสสงฺคเหสุ อเนกโกฏิสตสหสฺเสสุ ปาฬิปฺปเทเสสุ เอกสฺมิมฺปิ ปาฬิปฺปเทเส ปมํ อการนฺตภาเวน เปตพฺพานํ อิตฺถิลิงฺคสทฺทานํ ปรโต ิตํ สฺมึวจนํ สรูปโต ติฏฺตีติ. เอวํ วุตฺตา เต นิรุตฺตรา ภวิสฺสนฺติ.
เกจิ ปเนตฺถ เอวํ วเทยฺยุํ ‘‘อาปสทฺโท นปุํสกลิงฺโค, ตถา หิ อฏฺสาลินิยํ ‘โอมตฺตํ ปน อาโป อธิมตฺตปถวีคติกํ ¶ ชาต’นฺติ นปุํสกลิงฺคภาเวน ตํสมานาธิกรณปทานิ นิทฺทิฏฺานี’’ติ? ตนฺน, มโนคเณ ปวตฺเตหิ ตม วจ สิรสทฺทาทีหิ วิย อาปสทฺเทนปิ สมานาธิกรณปทานํ กตฺถจิ นปุํสกลิงฺคภาเวน นิทฺทิสิตพฺพตฺตา. ปุพฺพาจริยานฺหิ สทฺทรจนาสุ ‘‘สทฺธมฺมเตชวิหตํ วิลยํ ขเณน, เวเนยฺยสตฺตหทเยสุ ตโม ปยาตี’’ติ เอตฺถ ‘‘ตโม’’ติปเทน สมานาธิกรณํ ‘‘วิหต’’นฺติ นปุํสกลิงฺคํ ทิสฺสติ, ตถา ‘‘ทุกฺขํ วโจ เอตสฺมึ วิปจฺจนีกสาเต ปุคฺคเลติ ทุพฺพโจ’’ติ เอตฺถ ‘‘วโจ’’ติ ปเทน สมานาธิกรณํ ‘‘ทุกฺข’’นฺติ นปุํสกลิงฺคํ, ‘‘อวนตํ สิโร ยสฺส โส อวนตสิโร’’ติ เอตฺถ ‘‘สิโร’’ติ ปเทน สมานาธิกรณํ ‘‘อวนต’’นฺติ นปุํสกลิงฺคํ, ‘‘อปฺปํ ราคาทิรโช เยสํ ปฺามเย อกฺขิมฺหิ เต อปฺปรชกฺขา’’ติ เอตฺถ ‘‘รโช’’ติ ปเทน สมานาธิกรณํ ‘‘อปฺป’’นฺติ นปุํสกลิงฺคํ ทิสฺสติ. น เต อาจริยา เตหิ สมานาธิกรณปเทหิ ตมวจสิรสทฺทาทีนํ นปุํสกลิงฺคตฺตวิฺาปนตฺถํ ตถาวิธํ สทฺทรจนํ กุพฺพึสุ, อถ โข ‘‘โสภนํ มโน ตสฺสาติ สุมโน’’ติ เอตฺถ วิย มโนคเณ ปวตฺตปุลฺลิงฺคานํ ปโยเค นปุํสกลิงฺคภาเวนปิ สมานาธิกรณปทานิ กตฺถจิ โหนฺตีติ ทสฺสนตฺถํ กุพฺพึสุ. ยถา จ ‘‘วิหต’’นฺติอาทิกา สทฺทรจนา ตมวจสิรสทฺทาทีนํ นปุํสกลิงฺคตฺตวิฺาปนตฺถํ น กตา, ตถา ‘‘โอมตฺต’’นฺติ จ ‘‘อธิมตฺตปถวีคติกํ ชาต’’นฺติ จ สทฺทรจนาปิ อาปสทฺทสฺส นปุํสกลิงฺคตฺตวิฺาปนตฺถํ น กตา. ยสฺมา ปน มโนคเณ ปวตฺเตหิ มนสทฺทาทีหิ เอกเทเสน สมานคติกตฺตา อาปสทฺเทนปิ นปุํสกลิงฺคสฺส สมานาธิกรณตา ยุชฺชติ, ตสฺมา อฏฺสาลินิยํ ‘‘โอมตฺตํ ปน อาโป อธิมตฺตปถวีคติกํ ชาต’’นฺติ นปุํสกลิงฺคสฺส อาปสทฺเทน สมานาธิกรณตา กตา. ตถาปิ อาปสทฺโท ¶ มนสทฺทาทีหิ เอกเทเสน สมานคติโก สมาสปทตฺเต มชฺโฌการสฺส ‘‘อาโปกสิณํ, อาโปคต’’นฺติอาทิปฺปโยคสฺส ทสฺสนโต, ตสฺมา ‘‘โอมตฺต’’นฺติอาทิวจนํ อาปสทฺทสฺส นปุํสกลิงฺคตฺตวิฺาปนตฺถํ วุตฺตนฺติ น คเหตพฺพํ, ลิงฺควิปริยยวเสน ปน กตฺถจิ เอวมฺปิ สทฺทคติ โหตีติ าปนตฺถํ วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ. ‘‘โอมตฺโต’’ติ จ ‘‘อธิมตฺตปถวีคติโก ชาโต’’ติ จ ลิงฺคํ ปริวตฺเตตพฺพํ. ยทิ หิ อาปสทฺโท นปุํสกลิงฺโค สิยา, สนิการานิ’สฺส ปจฺจตฺโตปโยครูปานิ พุทฺธวจนาทีสุ วิชฺเชยฺยุํ, น ตาทิสานิ สนฺติ. กิฺจิ ภิยฺโย – โอการนฺตํ นาม นปุํสกลิงฺคํ กตฺถจิปิ นตฺถิ, นิคฺคหีตนฺตอิการนฺต อุการนฺตวเสน หิ ติวิธานิเยว นปุํสกลิงฺคานิ. เตน อาปสทฺทสฺส นปุํสกลิงฺคตา นุปปชฺชตีติ. เอวํ วุตฺตา เต นิรุตฺตรา ภวิสฺสนฺติ. อิจฺโจการนฺตวเสน คหิตสฺส อาปสทฺทสฺส อิตฺถิลิงฺคตา จ นปุํสกลิงฺคตา จ เอกนฺตโต นตฺถิ, นิคฺคหีตนฺตวเสน ปน คหิตสฺส กตฺถจิ นปุํสกลิงฺคตา สิยา ‘‘ภนฺเต นาคเสน สมุทฺโท สมุทฺโทติ วุจฺจติ, เกน การเณน อาปํ อุทกํ สมุทฺโทติ วุจฺจตี’’ติ ปโยคทสฺสนโต. เอตฺถ ปเนเก วเทยฺยุํ ‘‘ยทิ โภ โอการนฺตวเสน คหิตสฺส อาปสทฺทสฺส อิตฺถินปุํสกลิงฺควเสน ทฺวิลิงฺคตา นตฺถิ, โอการนฺโต อาปสทฺโท กตรลิงฺโค’’ติ? ปุลฺลิงฺโคติ มยํ วทามาติ.
ยทิ จ โภ อาปสทฺโท ปุลฺลิงฺโค. ยถา อาปสทฺทสฺส ปุลฺลิงฺคตา ปฺาเยยฺย, นิชฺฌานกฺขมตา จ ภเวยฺย, ตถา สุตฺตํ อาหรถาติ. ‘‘อาหริสฺสามิสุตฺตํ, น โน สุตฺตาหรเณ ภาโร อตฺถี’’ติ เอวฺจ ปน วตฺวา เตสํ อิมานิ สุตฺตปทานิ ทสฺเสตพฺพานิ. เสยฺยถิทํ? ‘‘อาโป อุปลพฺภตีติ? อามนฺตา. อาปสฺส กตฺตา กาเรตา อุปลพฺภตีติ? น ¶ เหวํ วตฺตพฺเพ. อตีโต อาโป อตฺถีติ? อามนฺตา. เตน อาเปน อาปกรณียํ กโรตีติ? น เหวํ วตฺตพฺเพ. อาปํ มฺติ อาปสฺมึ มฺตี’’ติ อิมานิ สุตฺตปทานิ.
เอตฺถ จ ‘‘อุปลพฺภตี’’ติอาทินา อาปสทฺทสฺส เอกวจนตา สิทฺธา, ตาย สิทฺธาย พหุวจนตาปิ สิทฺธาเยว. เอกวจนตาเยว หิ สทฺทสตฺเถ ปฏิสิทฺธา, น พหุวจนตา, เตน ‘‘อาเปนา’’ติ อิมินา ปน อาปสทฺทสฺส อิตฺถิลิงฺคภาววิคโม สิทฺโธ อิตฺถิลิงฺเค เอนาเทสาภาวโต. ‘‘อาปสฺส, อาปสฺมิ’’นฺติ อิมินาปิ อิตฺถิลิงฺคภาววิคโมเยว อิตฺถิลิงฺเค สรูปโต นา สฺมา สฺมึ วจนานมภาวา. ‘‘อตีโต’’ติ อิมินา อิตฺถิลิงฺคนปุํสกลิงฺคภาววิคโม โอการนฺตนปุํสกลิงฺคสฺส อภาวโต, โอการนฺตสฺส คุณนามภูตสฺส อิตฺถิลิงฺคสฺส จ อภาวโต.
อปิจ พุทฺธวจนาทีสุ ‘‘จิตฺตานิ, รูปานี’’ติอาทีนิ วิย สนิการานํ รูปานํ อทสฺสนโต โอการนฺตภาเวน คหิตสฺส นปุํสกลิงฺคภาววิคโม อตีว ปากโฏ. อปรมฺเปตฺถ วตฺตพฺพํ – ‘‘อตีโต อาโป อตฺถีติ? อามนฺตา’’ติ เอตฺถ ‘‘อตีโต’’ติ อิมินา อาปสทฺทสฺส วิสทาการโวหารตาสูจเกน โอการนฺตปเทน ตสฺส อวิสทาการโวหารตาย จ อุภยมุตฺตาการโวหารตาย จ อภาโว สิทฺโธ. ตสฺส จ อวิสทาการโวหารตาย อภาเว สิทฺเธ อิตฺถิลิงฺคภาโว ทูรตโร. อุภยมุตฺตาการโวหารตาย จ อภาเว สิทฺเธ นปุํสกลิงฺคภาโวปิ ทูรตโรเยว. อิติ น กตฺถจิปิ โอการนฺตภาเวน คหิโต อาปสทฺโท อิตฺถิลิงฺโค วา นปุํสกลิงฺโค วา ภวติ. มิลินฺทปฺเห ปน นิคฺคหีตนฺตวเสน อาคโต นปุํสกลิงฺโคติ เวทิตพฺโพ, น เจตฺถ วตฺตพฺพํ ‘‘อตีโต’’ติ ‘‘เตนา’’ติ ¶ จ อิมานิ ลิงฺควิปลฺลาสวเสน วุตฺตานีติ วาจฺจลิงฺคานมนุวตฺตาปกสฺส อภิเธยฺยลิงฺคภูตสฺส อาปสทฺทสฺส ‘‘กฺาย จิตฺตานี’’ติอาทีนํ วิย อิตฺถินปุํสกลิงฺครูปานํ อภาวโต. อปิจ โวหารกุสลา ตถาคตา ตถาคตสาวกา จ, เตหิเยว อุตฺตมปุริเสหิ โวหารกุสเลหิ ‘‘อตีโต อาโป’’ติอาทินา วุตฺตตฺตาปิ ‘‘อตีโต’’ติ ‘‘เตนา’’ติ จ อิมานิ ลิงฺควิปลฺลาสวเสน วุตฺตานีติ น จินฺเตตพฺพานิ, ตสฺมา ตํสมานาธิกรโณ โอการนฺตภาเวน คหิโต อาปสทฺโท เอกวจนนฺโต ปุลฺลิงฺโค เจว ยถาปโยคํ เอกวจนพหุวจนโก จาติ เวทิตพฺโพ ‘‘อาโป, อาปา. อาปํ, อาเป’’ติอาทินา โยเชตพฺพตฺตา. เอวํ วุตฺตานิ สุตฺตปทานิ สวินิจฺฉยานิ สุตฺวา อทฺธา เต อาปสทฺทสฺส อิตฺถิลิงฺคพหุวจนตาวาทิโน นิรุตฺตรา ภวิสฺสนฺติ.
เอตฺถ โกจิ วเทยฺย – ปาฬิยํ ปุลฺลิงฺคนโย เอกวจนนโย จ กึ อฏฺกถาฏีกาจริเยหิ น ทิฏฺโ, เย อาปสทฺทสฺส อิตฺถิลิงฺคพหุวจนตฺตํ วณฺเณสุนฺติ? โน น ทิฏฺโ, ทิฏฺโเยว โส นโย เตหิ. ยสฺมา ปน เต น เกวลํ สาฏฺกเถ เตปิฏเก พุทฺธวจเนเยว วิสารทา, อถ โข สกเลปิ สทฺทสตฺเถ วิสารทา, ตสฺมา สทฺทสตฺเถ อตฺตโน ปณฺฑิจฺจํ ปกาเสตุํ, ‘‘สทฺทสตฺเถ จ อีทิโส นโย วุตฺโต’’ติ วิฺาเปตฺุจ สทฺทสตฺถนยํ คเหตฺวา อาปสทฺทสฺส อิตฺถิลิงฺคพหุวจนกตฺตํ วณฺเณสุนฺติ นตฺถิ เตสํ โทโส. ตถา หิ มูลปริยายสุตฺตนฺตฏฺกถายํ เตหิเยว วุตฺตํ อาปสทฺทสฺส ปุลฺลิงฺเคกวจนกตฺตสูจนกํ ‘‘ลกฺขณสสมฺภารารมฺมณสมฺมุติวเสน จตุพฺพิโธ อาโป, เตสู’’ติอาทิ, ตสฺมา นตฺถิ เตสํ โทโส. ปูชารหา หิ เต อายสฺมนฺโต, นโมเยว เตสํ ¶ กโรม, น เตสํ วจนํ โจทนาภาชนํ. เย ปน อุชุวิปจฺจนีกวาทา ทฬฺหเมว อาปสทฺทสฺส อิตฺถิลิงฺคพหุวจนตฺตํ มมายนฺติ, เตสํเยว วจนํ โจทนาภาชนํ. ยสฺมา ปน มยํ ปาฬินยานุสาเรน อนฺตทฺวยวโต อาปสทฺทสฺส ปุลฺลิงฺคตฺตํ นปุํสกลิงฺคตฺตฺจ วิทธาม, ตสฺมา โย โกจิ อิทํ วาทํ มทฺทิตฺวา อฺํ วาทํ ปติฏฺาเปตุํ สกฺขิสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ, อิทฺจ ปน านํ มหาคหนํ ทุปฺปฏิวิชฺฌนฏฺเน, ปรมสุขุมฺจ กตาณสมฺภาเรหิ ปรมสุขุมาเณหิ ปณฺฑิเตหิ เวทนียตฺตา. สพฺพมิทฺหิ วจนํ เตสุ เตสุ าเนสุ อตฺถพฺยฺชนปริคฺคหเณ โสตูนํ ปรมโกสลฺลชนนตฺถฺเจว สาสเน อาทรํ อกตฺวา สทฺทสตฺถมเตน กาลํ วีตินาเมนฺตานํ สาถลิกานํ ปมาทวิหารนิเสธนตฺถฺจ สาสนสฺสาติมหนฺตภาวทีปนตฺถฺจ วุตฺตํ, น อตฺตุกฺกํสนปรวมฺภนตฺถนฺติ อิมิสฺสํ นีติยํ สทฺธาสมฺปนฺเนหิ กุลปุตฺเตหิ โยโค กรณีโย ภควโต สาสนสฺส จิรฏฺิตตฺถํ.
ยสฺมา ปน ปาฬิโต อฏฺกถา พลวตี นาม นตฺถิ, ตสฺมา ปาฬินยานุรูเปเนว อาปสทฺทสฺส นามิกปทมาลํ โยเชสฺสาม โสตูนมสมฺโมหตฺถํ, กิเมตฺถ สทฺทสตฺถนโย กริสฺสติ. อตฺรายํ อุทานปาฬิ ‘‘กึ กยิรา อุทปาเนน, อาปา เจ สพฺพทา สิยุ’’นฺติ.
อาโป, อาปา. อาปํ, อาเป. อาเปน, อาเปหิ, อาเปภิ. อาปสฺส, อาปานํ. อาปา, อาปสฺมา, อาปมฺหา, อาเปหิ, อาเปภิ. อาปสฺส, อาปานํ. อาเป, อาปสฺมึ, อาปมฺหิ, อาเปสุ. โภ อาป, ภวนฺโต อาปา.
สพฺพนามาทีหิปิ โยเชสฺสาม – โย อาโป, เย อาปา. ยํ อาปํ, เย อาเป. เยน อาเปน, เสสํ เนยฺยํ ¶ , โส อาโป, เต อาปา. อตีโต อาโป, อตีตา อาปา. เสสํ เนยฺยํ. อิจฺเจวํ –
ปุริเสน สมา อาป-สทฺทาที สพฺพถา มตา;
น สพฺพถาว โคสทฺโท, ปุริเสน สโม มโต.
มนาที เอกเทเสน, ปุริเสน สมา มตา;
สราที เอกเทเสน, สพฺพถา วา สมา มตา.
เย ปเนตฺถ สทฺทา ‘‘มโนคโณ’’ติ วุตฺตา, กถํ เตสํ มโนคณภาโว สลฺลกฺเขตพฺโพติ? วุจฺจเต เตสํ มโนคณภาวสลฺลกฺขณการณํ –
มโนคโณ มโนคณา-
ทิกา เจวา’มโนคโณ;
อิติ สทฺทา ติธา เยฺยา,
มโนคณวิภาวเน.
เย เต นา ส สฺมึวิสเย,
สา โส สฺยนฺตา ภวนฺติ จ;
สมาสตทฺธิตนฺตตฺเต,
มชฺโฌการา จ โหนฺติ หิ.
โสการนฺตปโยคา จ, กฺริยาโยคมฺหิ ทิสฺสเร;
เอวํวิธา จ เต สทฺทา, เยฺยา ‘‘มโนคโณ’’อิติ.
อตฺร ตสฺสตฺถสฺส สาธกานิ ปโยคานิ สาสนโต จ โลกโต จ ยถารหมาหริตฺวา ทสฺเสสฺสาม – มนสา เจ ปสนฺเนน, ภาสติ วา กโรติ วา. น มยฺหํ มนโส ปิโย. สาธุกํ มนสิ กโรถ. มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา. มโนรมํ, มโนธาตุ, มโนมเยน กาเยน, อิทฺธิยา อุปสงฺกมิ. โย เว ‘‘ทสฺส’’นฺติ วตฺวาน, อทาเน กุรุเต มโน. วจสา ปริจิตา. วจโส วจสิ.
วโจรสฺมีหิ ¶ โพเธสิ, เวเนยฺยกุมุทฺจิทํ;
ราโค สาราครหิโต, วิสุทฺโธ พุทฺธจนฺทิมา.
กสฺสปสฺส วโจ สุตฺวา, อลาโต เอตทพฺรวิ;
เอส ภิยฺโย ปสีทามิ, สุตฺวาน มุนิโน วโจ.
สขา จ มิตฺโต จ มมาสิ สีวิก, สุสิกฺขิโต สาธุ กโรหิ เม วโจ. เอกูนตึโส วยสา สุภทฺท. วยโส, วยสิ, วโยวุทฺโธ, วโยคุณา อนุปุพฺพํ ชหนฺติ. ชลนฺตมิว เตชสา. เตชโส, เตชสิ, เตโชธาตุกุสโล. เตโชกสิณํ. ตปสา อุตฺตโม, ตปโส, ตปสิ, ตโปธโน, ตโปชิคุจฺฉา. กสฺมา ภวํ วิชนมรฺนิสฺสิโต, ตโป อิธ กฺรุพฺพสิ พฺรหฺมปตฺติยา. เจตสา อฺาสิ, เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ, เอตมตฺถํ เจตสิ สนฺนิธาย, เจโตปริวิตกฺกมฺาย. เจโตปริยาณํ, เจโต ปริจฺฉินฺทติ, โส ปรสตฺตานํ ปรปุคฺคลานํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ชานาติ. ตมสา, ตมโส, ตมสิ, ตโมนุโท, ตโมหโร. นวาหเมตํ ยสสา ททามิ. ยสโส, ยสสิ, ยโส โภคสมปฺปิโต. ยโสลทฺธาโข ปนสฺมากํ โภคา. ยโสธรา เทวี, ยโส ลทฺธา น มชฺเชยฺย. อยสาว มลํ สมุฏฺิตํ. อยโส, อยสิ, อโยปาการปริยนฺตํ, อยสา ปฏิกุชฺชิตํ. เสยฺโย อโยคุโฬ ภุตฺโต, อโยปตฺโต ¶ , อโยมยํ, อโย กนฺตตีติ อโยกนฺโต. ฆเตน วา ภฺุชสฺสุ ปยสา วา, สาธุ ขลุ ปยโส ปานํ ยฺทตฺเตน, ปยสิ โอชา, ปโยธรา, ปโยนิธิ. สหสฺสเนตฺโต สิรสา ปฏิคฺคหิ. สิรโส, สิรสิ อฺชลึ กตฺวา, วนฺทิตพฺพํ อิสิทฺธชํ. สิโรรุหา, สิโร ฉินฺทติ. โย กาเม ปริวชฺเชติ, สปฺปสฺเสว ปทาสิโร. สิโร เต วชฺฌยิตฺวาน. สรสา, สรโส, ตีณิ อุปฺปลชาตานิ, ตสฺมึ สรสิ พฺราหฺมณ. สโรรุหํ. ยํ เอตา อุปเสวนฺติ, ฉนฺทสาวา ธเนนวา. สาวิตฺตี ฉนฺทโส มุขํ. ฉนฺทสิ, ฉนฺโทวิจิติ, ฉนฺโทภงฺโค, อุรสา ปนุทหิสฺสามิ, อุรโส, อุรสิ ชายติ, อุรสิโลโม, อุโรมชฺเฌ วิชฺฌิ. รหสา, รหโส, รหสิ, รโหคโต นิสีทิตฺวา, เอวํ จินฺเตสหํ ตทา. อหสา, อหสิ. ชายนฺติ ตตฺถ ปาโรหา, อโหรตฺตานมจฺจเยติ อิมานิ ปโยคานิ. เอตฺถ จ ‘‘มเนน, มนสฺส, มเน, มนสฺมึ, มนมฺหี’’ติอาทีนิ จ ‘‘มนอายตนํ ตมปรายโน อยปตฺโต ฉนฺทหานี’’ติอาทีนิ จ ‘‘น มนํ อฺาสิ. ยสํ ลทฺธาน ทุมฺเมโธ. ‘‘สิรํ ฉินฺทตี’’ติอาทีนิ จ รูปานิ มโนคณภาวปฺปกาสกานิ น โหนฺตีติ น ทสฺสิตานิ, น อลพฺภมานวเสน, ตสฺมาตฺร อิมา อาทิโต ปฏฺาย มโนคณภาววิภาวินี คาถาโย ภวนฺติ –
‘‘มนสา ¶ มนโส มนสิ’’,
อิติอาทิวสา ิตา;
สา โส สฺยนฺตา สทฺทรูปา,
วุตฺตา ‘‘มโนคโณ’’อิติ.
มโนธาตุ วโจรสฺมิ,
วโยวุทฺโธ ตโปคุโณ;
เตโชธาตุ ตโมนาโส,
ยโสโภคสมปฺปิโต.
เจโตปริวิตกฺโก จ, อโยปตฺโต ปโยธรา;
สิโรรุหา สโรรุหํ, อุโรมชฺเฌ รโหคโต.
ฉนฺโทภงฺโค อโหรตฺตํ, มโนมย’มโยมยํ;
เอวํวิโธ วิเสโส โย, ลกฺขณนฺตํ มโนคเณ.
‘‘วโจ สุตฺวา, สิโร ฉินฺทิ, อโย กนฺตติ’’ อิจฺจปิ;
อุปโยคสฺส สํสิทฺธิ, ลกฺขณนฺตํ มโนคเณ.
มโนคเณ วุตฺตนโย, อิตฺถิลิงฺเค น ลพฺภติ;
ปุนฺนปุํสกลิงฺเคสุ, ลพฺภเตว ยถารหํ.
อิจฺเจวํ สพฺพถาปิ –
สา โส สฺยนฺตานิ รูปานิ, สนฺทิสฺสนฺติ มโนคเณ;
มชฺโฌการนฺตรูปา จ, โสการนฺตูปโยคตา.
อิทํ มโนคณลกฺขณํ. เอวํ มโนคณลกฺขณํ อนากุลํ นิคฺคุมฺพํ นิชฺชฏํ สมุทฺทิฏฺํ.
อถ มโนคณาทิลกฺขณํ กถยาม –
เย เต นา สสฺมึวิสเย,
สา โส สฺยนฺตา ยถารหํ;
สมาสตทฺธิตนฺตตฺเต,
มชฺโฌกาโร น โหนฺติ ตุ.
โสการนฺตูปโยคา ¶ จ,
กฺริยาโยเค น โหนฺติ เต;
สทฺทา เอวํวิธา สพฺเพ;
มโนคณาทิกา มตา.
เสยฺยถิทํ? ‘‘พิลํ ปทํ มุข’’มิจฺจาทโย. เตสํ รูปานิ ภวนฺติ – พิลสา, พิลโส, พิลสิ, พิลคโต, พิลํ ปาวิสิ. ปทสาว อคมาสิ, ตีณิ ปทวารานิ, มากาสิ มุขสา ปาปํ, มุขคตํ โภชนํ ฉฑฺฑาเปติ. สจฺเจน ทนฺโต ทมสา อุเปโต. รสวรํ รสมยํ รสํ ปิวีติ. อิทํ มโนคณาทิกลกฺขณํ.
อปรมฺปิ ภวติ –
เย สมาสาทิภาวมฺหิ, มชฺโฌการาว โหนฺติ ตุ;
นา ส สฺมึวิสเย สาโส-สฺยนฺตา ปน น โหนฺติหิ.
โสการนฺตูปโยคา จ,
กฺริยาโยเค น โหนฺติ เต;
สทฺทา เอวํวิธา จาปิ,
มโนคณาทิกา มตา.
เสยฺยถิทํ? ‘‘อาโป วาโย สรโท’’อิจฺเจวมาทโย. เตสํ รูปานิ ภวนฺติ – อาโปธาตุ, วาโยธาตุ, อาโปกสิณํ, วาโยกสิณํ, อาโปมยํ, วาโยมยํ, ชีว ตฺวํ สรโทสตํ, สรทกาโล. อาเปน, อาปสฺส, อาเป, อาปสฺมึ, อาปมฺหิ. วาเยน, วายสฺส, วาเย, วายสฺมึ, วายมฺหิ. สรเทน, สรทสฺส, สรเท, สรทสฺมึ, สรทมฺหิ. อาปํ อาปโต สฺชานาติ. วายํ วายโต สฺชานาติ. สรทํ ปตฺเถติ, สรทํ รมณียา นที.
เกจิ ¶ ปเนตฺถ วเทยฺยุํ ‘‘นนุ สาสเน วายสทฺโท วิย วายุสทฺโทปิ มโนคณาทีสุ อิจฺฉิตพฺโพ’’ติ? เอตฺถ วุจฺจเต –
‘‘วายุ วาโย’’ติ เอเตสุ, ปจฺฉิโมเยว อิจฺฉิโต;
มโนคณาทีสุ นาทิ, อาทิคฺคหวเสนิธ.
‘‘มโนธาตุ วาโยธาตุ’’, อิจฺจาทีนิ ปทานิ หิ;
อการนฺตวเสเนว, มชฺโฌการานิ สิชฺฌเร.
วายุสทฺทมฺหิ คหิเต, อาทิคฺคหวเสนิธ;
‘‘วาโยธาตู’’ติ โอมชฺฌํ, รูปเมว น เหสฺสติ.
ยถา หิ อายุสทฺทสฺส, รูปํ ทิสฺสติ สาคมํ;
‘‘อายุสา เอกปุตฺต’’นฺติ, มนสาทิปทํ วิย.
น ตถา วายุสทฺทสฺส, รูปํ ทิสฺสติ สาคมํ;
ตสฺมา มโนคณาทิมฺหิ, ตสฺโส’กาโส น วิชฺชติ.
ตถา หิ ‘‘วายติ อิติ, วาโย’’ อิติ ครู วทุํ;
‘‘วาโยธาตู’’ติ เอตสฺส, ปทสฺสตฺถํ ตหึ ตหึ.
ยตฺถ ปถวี จ อาโป จ, เตโช วาโย น คาธติ;
เอตฺถ อาปาทิกํ สทฺท-ตฺติกํ มโนคณาทิเก.
อิทมฺปิ มโนคณาทิกลกฺขณํ. เอตฺถ มโนคณาทิกา ทฺวิธา ภิชฺชนฺติ พิล ปทาทิโต อาปาทิโต จ. เอวํ มโนคณาทิกลกฺขณํ อนากุลํ นิคฺคุมฺพํ นิชฺชฏํ สมุทฺทิฏฺํ.
อถ อมโนคณลกฺขณํ กถยาม –
เย จ นาวิสเย โสนฺตา, เย จ สฺมาวิสเย สิยุํ;
สทฺทา เอวํปการา เต, อมโนคณสฺิตา.
เก ¶ เต? อตฺถพฺยฺชนกฺขรสทฺทาทโย เจว ทีโฆรสทฺทา จ. เอเตสุ หิ อตฺถสทฺทาทีนํ นาวจนฏฺาเน ‘‘อตฺถโส พฺยฺชนโส อกฺขรโส สุตฺตโส อุปายโส สพฺพโส านโส’’ติอาทีนิ โสนฺตานิ รูปานิ ภวนฺติ. ทีโฆรสทฺทานํ ปน สฺมาวจนฏฺาเน ‘‘ทีฆโส โอรโส’’ติ โสนฺตานิ รูปานิ ภวนฺติ. อิทํ อมโนคณลกฺขณํ.
อปรมฺปิ ภวติ –
สพฺพถา วินิมุตฺตา เย, สา โส สฺยนฺตาทิภาวโต;
เอวํวิธาปิ เต สทฺทา, อมโนคณสฺิตา.
เก เต? ‘‘ปุริโส กฺา จิตฺต’’มิจฺจาทโย. อิทมฺปิ อมโนคณลกฺขณํ. เอวํ อมโนคณลกฺขณํ อนากุลํ นิคฺคุมฺพํ นิชฺชฏํ สมุทฺทิฏฺํ.
เอวํ ทสฺสิเตสุ มโนคณลกฺขณาทีสุ โกจิ วเทยฺย ‘‘ยทิทํ ตุมฺเหหิ วุตฺตํ ‘เย สมาสาทิภาวมฺหิ, มชฺโฌการาว โหนฺติ ตู’ติอาทินา มโนคณาทิกลกฺขณํ, เตน ‘‘ปโรสตํ โคมยํ โคธโน’’อิจฺจาทีสุ โคปรสทฺทาทโยปิ มโนคณาทิกภาวํ อาปชฺชนฺตีติ? นาปชฺชนฺติ. กสฺมาติ เจ? ยสฺมา –
เอตฺถ มโนคณาทีนํ, อนฺตสฺโสตฺตํ ปฏิจฺจิทํ;
‘‘มชฺโฌการา’’ติ วจนํ, วุตฺตํ น ตฺวาคมาทิกํ.
‘‘ปโรสตํ โคมย’’นฺติ-อาทีสุ อมโนคโณ;
ปุพฺพภูตํ ปทํ โอสฺสา-คมตฺตา’นิจฺจตาย จ.
ตสฺมา นาปชฺชนฺติ. อิติ สพฺพถาปิ อมโนคณลกฺขณํ นิสฺเสสโต ทสฺสิตํ. อิจฺเจวํ มโนคณวิภาวนายํ มโนคโณ มโนคณาทิโก อมโนคโณ จาติ ติธา เภโท เวทิตพฺโพ.
ตตฺถ ¶ มโนคเณ ปริยาปนฺนสทฺทานํ สมาสํ ปตฺวา ‘‘อพฺยคฺคมนโส นโร, ถิรเจตสํ กุลํ, สทฺเธยฺยวจสา อุปาสิกาติอาทินา ลิงฺคตฺตยวเสน อฺถาปิ รูปานิ ภวนฺติ. เอตฺถ ปน เกจิ เอวํ วทนฺติ ‘‘ยทา มนสทฺโท สกตฺเถ อวตฺติตฺวา ‘อพฺยคฺโค มโน ยสฺส โสยํ อพฺยคฺคมนโส, อลีโน มโน ยสฺส โสยํ อลีนมนโส’ติ เอวํ อฺตฺเถ วตฺตติ, ตทา ปุริสนเยเนว นามิกปทมาลา ลพฺภติ, น มโนคณนเยนา’’ติ. ตํ น คเหตพฺพํ อุภินฺนมฺปิ ยถารหํ ลพฺภนโต. ตถา หิ วิสุทฺธิมคฺเค ปุคฺคลาเปกฺขนวเสน ‘‘ขนฺติโสรจฺจเมตฺตาทิ-คุณภูสิตเจตโส. อชฺเฌสนํ คเหตฺวานา’’ติ เอตฺถ มโนคณนโย ทิสฺสติ. ตฏฺฏีกายมฺปิ ‘‘อชฺเฌสิโต ทาานาค-ตฺเถเรน ถิรเจตสา’’ติ มโนคณนโย ทิสฺสติ, ตสฺมา เตสํ วจนํ น คเหตพฺพํ. เอวํ วทนฺตา จ เต อพฺยคฺคมนสทฺทาทีนํ อพฺยคฺคมนสอิจฺจาทินา สการนฺตปกติภาเวน เปตพฺพภาวํ วิพฺภนฺตมติวเสน จินฺเตตฺวา สพฺพาสุ วิภตฺตีสุ, ทฺวีสุ จ วจเนสุ ปุริสนเยน โยเชตพฺพตํ มฺนฺติ. เอวฺจ สติ ‘‘คุณภูสิตเจตโส, ถิรเจตสา’’ติ ฉฏฺีจตุตฺถีตติยารูปานิ นสิยุํ, อฺานิเยว อนภิมตานิ รูปานิ สิยุํ. ยสฺมา สิยุํ, ตสฺมา เอวํ อคฺคเหตฺวา อยํ วิเสโส คเหตพฺโพ.
ยตฺถ หิ สมาสวเสน มนสทฺโท เจตสทฺทาทโย จ สกตฺเถ อวตฺติตฺวา อฺตฺเถ วตฺตนฺติ, ตตฺถ สการาคมานํ ปทานํ นามิกปทมาลา ปุริสนเยน จ มโนคเณ มนนเยน จ ยถารหํ ลพฺภติ. นิสฺสการาคมานํ ปน ปุริสนเยเนว ลพฺภติ. ยตฺถ ปน สมาสวิสเยเยว มนาทิสทฺทา สกตฺเถ วตฺตนฺติ, ตตฺถ นิสฺสการาคมานํ นามิกปทมาลา ปุริสนเยน จ มโนคเณ มนนเยน จ ลพฺภติ.
อิทานิ ¶ อิมสฺสตฺถสฺส อาวิภาวตฺถํ, สทฺทคตีสุ จ วิฺูนํ โกสลฺลุปฺปาทนตฺถํ ยถาวุตฺตานํ ปทานํ ปทมาลา ติธา กตฺวา ทสฺสยิสฺสาม – ‘‘พฺยาสตฺโต มโน ยสฺส โสยํ พฺยาสตฺตมนโส นโร’’ติ เอวมจฺจนฺตํ ปุคฺคลาเปกฺขกสฺส อิมสฺส ปทสฺส –
พฺยาสตฺตมนโส นโร, พฺยาสตฺตมนสา นรา. พฺยาสตฺตมนสํ นรํ, พฺยาสตฺตมนเส นเร. พฺยาสตฺตมนสา, พฺยาสตฺตมเนน นเรน, พฺยาสตฺตมเนหิ, พฺยาสตฺตมเนภิ นเรหิ. พฺยาสตฺตมนโส, พฺยาสตฺตมนสฺส นรสฺส, พฺยาสตฺตมนานํ นรานํ. พฺยาสตฺตมนา, พฺยาสตฺตมนสฺมา, พฺยาสตฺตมนมฺหา นรา, พฺยาสตฺตมเนหิ, พฺยาสตฺตมเนภิ นเรหิ. พฺยาสตฺตมนโส, พฺยาสตฺตมนสฺส นรสฺส, พฺยาสตฺตมนานํ นรานํ. พฺยาสตฺตมนสิ, พฺยาสตฺตมเน, พฺยาสตฺตมนสฺมึ, พฺยาสตฺตมนมฺหิ นเร, พฺยาสตฺตมเนสุ นเรสุ. โภ พฺยาสตฺตมนส นร, ภวนฺโต พฺยาสตฺตมนสา นราติ นามิกปทมาลา ภวติ.
เอวํ สการาคมสฺส ลพฺภมานาลพฺภมานตา ววตฺถเปตพฺพา. เอตฺถ หิ ปมาทุติยาวิภตฺตีนํ เอกวจนพหุวจนฏฺาเน จ ตติยาจตุตฺถีฉฏฺีสตฺตมีนํ เอกวจนฏฺาเน จ ยถารหํ สาคโม ภวติ อาเทสสรวิภตฺติสรปรตฺตา. อยฺจ นโย สุขุโม สาธุกํ มนสิ กาตพฺโพ.
อปโร นโย – ‘‘พฺยาสตฺโต มโน ยสฺส โสยํ พฺยาสตฺตมโน’’ติ เอวมฺปิ ปุคฺคลาเปกฺขกสฺส อิมสฺส ปทสฺส ‘‘พฺยาสตฺตมโน นโร, พฺยาสตฺตมนา นรา. พฺยาสตฺตมนํ นร’’นฺติอาทินา ปุริสนเยเนว นามิกปทมาลา ภวติ. เอตฺถ ปน สพฺพถาปิ สาคโม นตฺถิ. อปโรปิ นโย – ‘‘พฺยาสตฺโต จ โส มโน จาติ พฺยาสตฺตมโน’’ติ เอวํ จิตฺตาเปกฺขกสฺสปิ อิมสฺส ปทสฺส ‘‘พฺยาสตฺตมโน, พฺยาสตฺตมนา. พฺยาสตฺตมนํ, พฺยาสตฺตมเน. พฺยาสตฺตมนสา, พฺยาสตฺตมเนนา’’ติอาทินา มโนคเณ มนนเยน นามิกปทมาลา ภวติ, เอตฺถ ปน ตติยาจตุตฺถีฉฏฺีสตฺตมีนํ ¶ เอกวจนฏฺาเนเยว สาคโม ภวติ อาเทสสรปรตฺตา. ยถา จ เอตฺถ, เอวํ ‘‘อลีนมนโส นโร’’ติอาทีสุปิ อยํ ติวิโธ นโย เวทิตพฺโพ.
นปุํสกลิงฺเค ปน วตฺตพฺเพ ‘‘พฺยาสตฺตมนสํ กุลํ, พฺยาสตฺตมนานิ กุลานิ. พฺยาสตฺตมนสํ กุลํ, พฺยาสตฺตมนานิ กุลานิ. พฺยาสตฺตมนสา กุเลนา’’ติอาทินา นามิกปทมาลา โยเชตพฺพา. เอตฺถ ปน ปมาทุติยาตติยาจตุตฺถีฉฏฺีสตฺตมีนํ เอกวจนฏฺาเนเยว ยถารหํ สาคโม ภวติ อาเทสสรวิภตฺติสรปรตฺตา, อยมฺปิ นโย สุขุโม สาธุกํ มนสิ กาตพฺโพ.
อิตฺถิลิงฺเค ปน วตฺตพฺเพ ‘‘พฺยาสตฺตมนสา อิตฺถี’’ติ เอวํ ปเมกวจนฏฺาเนเยว สาคมํ วตฺวา ตโต ‘‘พฺยาสตฺตมนา, พฺยาสตฺตมนาโย อิตฺถิโย. พฺยาสตฺตมนํ อิตฺถิ’’นฺติ กฺานเยน โยเชตพฺพา. ‘‘เอวํ สทฺเธยฺยวจสา อุปาสิกา, สทฺเธยฺยวจาโย อุปาสิกาโย. สทฺเธยฺยวจํ อุปาสิก’’นฺติอาทินาปิ. ‘‘พฺยาสตฺตมนํ กุลํ, พฺยาสตฺตมนา อิตฺถี’’ติอาทินา ปน จิตฺตกฺานเยน โยเชตพฺพา. เอตฺถ ปน สพฺพถาปิ สาคโม นตฺถิ.
โสตูนํ าณปฺปเภทชนนตฺถํ อปราปิ นามิกปทมาลาโย ทสฺสยิสฺสาม สหนิพฺพจเนน – มโน เอว มานสํ, สมุสฺสาหิตํ มานสํ ยสฺส โสยํ สมุสฺสาหิตมานโส. ‘‘สมุสฺสาหิตมานโส, สมุสฺสาหิตมานสา. สมุสฺสาหิตมานสํ, สมุสฺสาหิตมานเส. สมุสฺสาหิตมานเสนา’’ติ ปุริสนเยน โยเชตพฺพา. สุนฺทรา เมธา อสฺส อตฺถีติ สุเมธโส. ‘‘สุเมธโส, สุเมธสา. สุเมธสํ, สุเมธเส. สุเมธเสนา’’ติ ปุริสนเยน, เอวํ ‘‘ภูริเมธโส’’ติอาทีนมฺปิ. ตตฺริเม ปโยคา –
‘‘ยํ ¶ วทนฺติ สุเมโธติ, ภูริปฺํ สุเมธสํ;
กึ นุ ตมฺหา วิปฺปวสิ, มุหุตฺตมปิ ปิงฺคิย;
โคตมา ภูริปฺาณา, โคตมา ภูริเมธสา.
นาหํ ตมฺหา วิปฺปวสามิ, มุหุตฺตมปิ พฺราหฺมณ;
โคตมา ภูริปฺาณา, โคตมา ภูริเมธสา’’ติ.
อิตฺถิลิงฺเค วตฺตพฺเพ ‘‘สมุสฺสาหิตมานสา สุเมธสา’’ติ รูปานิ, นปุํสเก วตฺตพฺเพ ‘‘สมุสฺสาหิตมานสํ สุเมธส’’นฺติ รูปานิ, กฺา จิตฺตนเยน เอเตสํ ปทมาลา โยเชตพฺพา. โอการนฺตปุลฺลิงฺคฏฺาเน อิตฺถิลิงฺคาทิวินิจฺฉโย นยปฺปกาสนตฺถํ กโต. วิเสสโต หิ โอการนฺตกถาเยว อิธาธิปฺเปตา. อปิจ โลเก นีติ นาม นานปฺปกาเรหิ กถิตา เอว โสภติ, อยฺจ สาสเน นีติ, ตสฺมา นานปฺปกาเรหิ กถิตาติ.
สพฺพานิ นยโต เอวํ, โอการนฺตปทานิเม;
ปุลฺลิงฺคานิ ปวุตฺตานิ, สาสนตฺถํ มเหสิโน.
วิเสโส เตสุ เกสฺจิ, ปาฬิยํ โย ปทิสฺสติ;
ปจฺจตฺตวจนฏฺาเน, ปกาเสสฺสามิ ตํ’ธุนา.
‘‘วนปฺปคุมฺเพ ยถ ผุสฺสิตคฺเค’’, อิติอาทินเยน หิ;
กตฺถโจทนฺตปุลฺลิงฺค-รูปานิ อฺถา สิยุํ.
ปจฺจตฺตวจนิจฺเจว, ตฺจ รูปํ ปกาสเย;
‘‘ปจฺจตฺเต ภุมฺมนิทฺเทโส’’, อิติ ภาสนฺติ เกจน.
ตตฺร กานิจิ สุตฺตปทานิ ทสฺเสสฺสาม – นตฺถิ อตฺตกาเร, นตฺถิ ปรกาเร, นตฺถิ ปุริสกาเร, ปริยนฺตกเต สํสาเร, ชีเว สตฺตเม, น เหวํ วตฺตพฺเพ, พาเล จ ปณฺฑิเต จ สนฺธาวิตฺวา สํสริตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสนฺตีติ. อิมานิ ¶ เอกวจนพหุวจนวเสน ทฺวิธา คเหตพฺพานิ. ปจฺจตฺเตกวจนพหุวจนานฺจ เอการาเทโส เวทิตพฺโพ.
เย ปน ‘‘วนปฺปคุมฺเพติ ปจฺจตฺตวจนสฺส ภุมฺมวจนนิทฺเทโส’’ติ วทนฺติ, เต วตฺตพฺพา ‘‘ยทิ วนปฺปคุมฺเพติ ปจฺจตฺตวจนสฺส ภุมฺมวจนนิทฺเทโส, เอวฺจ สติ ‘ถาลิยํ โอทนํ ปจตี’ติ เอตฺถ วิย อาธารสุติสมฺภวโต ‘คิมฺหาน มาเส ปมสฺมึ คิมฺเห’ติ อิทํ กตรตฺถํ โชเตตี’’ติ? เต วเทยฺยุํ ‘‘น มยํ โภ ‘วนปฺปคุมฺเพติ อิทํ ภุมฺมวจน’นฺติ วทาม, อถ โข ‘ปจฺจตฺตวจนสฺส ภุมฺมวจนนิทฺเทโส’ติ วทามา’’ติ. เอวมฺปิ โทโสเยว ตุมฺหากํ, นนุ ‘‘สงฺเฆ โคตมิ เทหี’’ติ เอตฺถาปิ สมฺปทานวจนสฺส ภุมฺมวจนนิทฺเทโสติ วุตฺเตปิ สงฺฆสฺส ทานกฺริยาย อาธารภาวโต ‘‘สงฺเฆ’’ติ วจนํ สุณนฺตานํ อาธารสุติ จ อาธารปริกปฺโป จ โหติเยว. น หิ สกฺกา เอวํ ปวตฺตํ จิตฺตํ นิวาเรตุํ, ตสฺมา เอตฺถ เอวํ ปน วิเสโส คเหตพฺโพ ‘‘ปจฺจตฺตวจนสฺสปิ กตฺถจิ ภุมฺมวจนสฺส วิย รูปํ โหตี’’ติ. เอวฺหิ คหิเต น โกจิ วิโรโธ. อีทิเสสุ หิ าเนสุ นิรุตฺติปฺปเภทกุสโล โลกานุกมฺปโก ภควา ปจฺจตฺตวจนวเสน นิทฺทิสิตพฺเพ สติ เอวํ อนิทฺทิสิตฺวา โลกสฺส สมฺโมหมุปฺปาทยนฺโต วิย กถํ ภุมฺมวจนนิทฺเทสํ กริสฺสติ, ตสฺมา สทฺทสามฺเลสมตฺตํ คเหตฺวา ‘‘ภุมฺมวจนนิทฺเทโส’’ติ น วตฺตพฺพํ. ยทิ สทฺทสามฺํ คเหตฺวา ภุมฺมวจนนิทฺเทสํ อิจฺฉถ, ‘‘ปจฺจตฺเตกวจนสฺส อุปโยคพหุวจนนิทฺเทโส’’ติปิ อิจฺฉิตพฺพํ สิยา.
อปิจ ตเถว ‘‘อตฺตกาเร’’ติ ปจฺจตฺตวจนสฺส ภุมฺมวจนนิทฺเทเส สติ อาธารสุติสมฺภวโต ‘‘อตฺตการสฺมึ กิฺจิ วตฺถุ นตฺถี’’ติ อนธิปฺเปโต อตฺโถ สิยา, น ปน ‘‘อตฺตกาโร นตฺถี’’ติ อธิปฺเปโต อตฺโถ. ‘‘อุปโยคพหุวจนนิทฺเทโส’’ติ คหเณปิ อุปโยคตฺถสฺส นตฺถิสทฺเทน ¶ อวตฺตพฺพตฺตา โทโสเยว สิยา, อตฺถิสทฺทาทีนํ วิย ปน นตฺถิสทฺทสฺสปิ ปมาย โยคโต ‘‘อตฺตกาเร’’ติ อิทํ ปจฺจตฺตวจนเมวาติ วิฺายติ. ‘‘พาเล จ ปณฺฑิเต จ สนฺธาวิตฺวา สํสริตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสนฺตี’’ติ เอตฺถาปิ ปจฺจตฺตวจนสฺส ‘‘ภุมฺมวจนนิทฺเทโส’’ติ วา ‘‘อุปโยควจนนิทฺเทโส’’ติ วา คหเณ สติ ‘‘พาลา จ ปณฺฑิตา จา’’ติ เอตฺตกมฺปิ วตฺตุํ อชานนโทโส สิยา, ‘‘กริสฺสนฺตี’’ติ ปทโยคโต ปน ‘‘พาเล จา’’ติอาทิ ปจฺจตฺตวจนเมวาติ วิฺายติ. ยถา ปน นิคฺคหีตาคมวเสนุจฺจาริเต ‘‘จกฺขุํ อุทปาที’’ติ ปเท ปจฺจตฺตวจนสฺส ‘‘จกฺขุํ เม เทหิ ยาจิโต’’ติ เอตฺถ อุปโยควจเนน สุติวเสน สมานตฺเตปิ ปจฺจตฺตวจนตฺโถเยว โสตาเร ปฏิภาติ ‘‘อุทปาที’’ติอาขฺยาเตน กถิตตฺตา, น ปน วิภตฺติวิปลฺลาสตฺถภูโต อุปโยควจนตฺโถ ‘‘อุทปาที’’ติอาขฺยาเตน อวจนียตฺตา, ‘‘จกฺขุํ อุทปาที’’ติ หิ ภควตา วุตฺตกาเล โก ‘‘จกฺขุํ อุทปาที’’ติ ปทํ ปริวตฺติตฺวา อตฺถมาจิกฺขติ, ตถา ‘‘พาเล ปณฺฑิเต’’ติอาทีนมฺปิ ปจฺจตฺตวจนานํ อปเรหิ ‘‘พาเล ปณฺฑิเต’’ติอาทีหิ ภุมฺโมปโยควจเนหิ สุติวเสน สมานตฺเตปิ ปจฺจตฺตวจนตฺโถเยว โสตาเร ปฏิภาติ, น อิตรวจนตฺโถ ยถาปโยคํ อตฺถสฺส คเหตพฺพตฺตา. อิติ ‘‘วนปฺปคุมฺเพ, พาเล, ปณฺฑิเต’’ติอาทีนํ สุทฺธปจฺจตฺตวจนตฺตฺเว สารโต ปจฺเจตพฺพํ, น สุติสามฺเน ภุมฺโมปโยควจนตฺตํ.
ยํ ปนาจริเยน ชาตกฏฺกถายํ –
‘‘ตโย คิรึ ติอนฺตรํ กามยามิ,
ปฺจาลา กุรุโย เกกเก จ;
ตตุตฺตรึ พฺราหฺมณ กามยามิ,
ติกิจฺฉ มํ พฺราหฺมณ กามนีต’’นฺติ –
อิมสฺส ¶ กามนีตชาตกสฺส สํวณฺณนายํ ‘‘เกกเก จาติ ปจฺจตฺเต อุปโยควจนํ, เตน เกกกสฺส รฏฺํ ทสฺเสตี’’ติ วุตฺตํ. เอวํ วทนฺโต จ โส ‘‘ปุริเส ปสฺสติ, ปุริเส ปติฏฺิต’’นฺติ, ‘‘ปสฺสามิ โลเก สธเน มนุสฺเส’’ติ จ อาทีสุ เยภุยฺเยน ‘‘ปุริเส, โลเก, สธเน, มนุสฺเส’’ติอาทีนํ อุปโยคพหุวจนภุมฺเมกวจนภาเวน อาคตตฺตา ปจฺจตฺเตกวจนพหุวจนภาวสฺส ปน อปากฏตฺตา เยภุยฺยปฺปวตฺตึ สนฺธาย ‘‘อิทมฺปิ ตาทิสเมวา’’ติ มฺมาโน วทติ มฺเ. อาจริยา หิ กตฺถจิ อตฺตโน รุจิยาปิ วิสุํ วิสุํ กเถนฺติ. อยํ ปน อมฺหากํ รุจิ – ‘‘เกกเก’’ติ อิทํ ปจฺจตฺตวจนเมว ‘‘ปฺจาลา, กุรุโย’’ติ สหชาตปทานิ วิย, รฏฺวาจกตฺตา ปน ‘‘กุรุโย’’ติ ปทมิว พหุวจนวเสน วุตฺตํ. น หิ ภควา ‘‘ขตฺติโย, พฺราหฺมโณ, เวสฺโส’’ติอาทีสุ วิย สมานวิภตฺตีหิ นิทฺทิสิตพฺเพสุ สหชาตปเทสุ ปจฺฉิมํ อุปโยควจนวเสน นิทฺทิเสยฺย, ยุตฺติ จ น ทิสฺสติ ‘‘ปฺจาลา’’ติ, ‘‘กุรุโย’’ติ ปจฺจตฺตวจนํ วตฺวา ‘‘เกกเก’’ติ อุปโยควจนสฺส วจเน, ตสฺมา ‘‘เกกเก’’ติ อิทํ ปจฺจตฺตวจนเมว. ตถา หิ สนฺธิวิโสธนวิธายโก อาจริโย ตาทิสานํ ปทานํ ปจฺจตฺตวจนตฺตฺเว วิภาเวนฺโต สามํ กเต ปกรเณ ‘‘วนปฺปคุมฺโพ วนปฺปคุมฺเพ, สุขํ ทุกฺขํ ชีโว, สุเข ทุกฺเข ชีเว’’ติ อาห, ฏีกายมฺปิ จ เตสํ ปจฺจตฺตวจนภาวเมว วิภาเวนฺโต ‘‘วนปฺปคุมฺโพ, สุขํ, ทุกฺขํ, ชีโว’’ติ สาธนียํ รูปํ ปติฏฺเปตฺวา นิคฺคหีตโลปวเสน อกาโรการานฺจ เอการาเทสวเสน ‘‘วนปฺปคุมฺเพ, สุเข, ทุกฺเข, ชีเว’’ติ รูปนิปฺผตฺติมาห. สา ปาฬินยานุ กูลา. กจฺจายนาจริเยนปิ ปาฬินยํ นิสฺสาย ‘‘ทฺวิปเท ตุลฺยาธิกรเณ’’ติ ปจฺจตฺตพหุวจนปทํ วุตฺตํ. เตนาห วุตฺติยํ ‘‘ทฺเว ปทานิ ตุลฺยาธิกรณานี’’ติ. ‘‘ทฺวิปเท ตุลฺยาธิกรเณ’’ติ ¶ จ อิทํ ‘‘อฏฺ นาคาวาสสตานี’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘อฏฺ นาคาวาสสเต’’ติ ปทมิว วุจฺจตีติ ทฏฺพฺพํ.
เกจิ ปน เตสํ ภุมฺเมกวจนตฺตํ อิจฺฉนฺติ. ตตฺถ ยทิ ‘‘วนปฺปคุมฺเพ’’ติ ปจฺจตฺเต ภุมฺมวจนํ, ‘‘เกกเก’’ติ จ ปจฺจตฺเต อุปโยควจนํ, ‘‘เอเสเส เอเก เอกฏฺเ’’ติ เอตฺถ ‘‘เอเสเส’’ติ อิมานิปิ ปจฺจตฺเต ภุมฺมวจนานิ วา สิยุํ, อุปโยควจนานิ วา. ยเถตานิ เอวํวิธานิ น โหนฺติ, สุทฺธปจฺจตฺตวจนานิเยว โหนฺติ, ตถา ‘‘วนปฺปคุมฺเพ, เกกเก’’ติอาทีนิปิ ตถาวิธานิ น โหนฺติ, สุทฺธปจฺจตฺตวจนานิเยว โหนฺติ. อิจฺเจวํ สพฺพถาปิ ‘‘วนปฺปคุมฺเพ, พาเล, ปณฺฑิเต, เกกเก’’ติ, ‘‘วิรตฺเต โกสิยายเน, อฏฺ นาคาวาสสเต, เก ปุริเส, เอเสเส’’ติ เอวมาทีนํ อเนเกสํ ปุริสลิงฺคอิตฺถิลิงฺคนปุํสกลิงฺคสพฺพนามเอกวจนอเนกวจนวเสน สาสนวเร ิตานํ ปทานํ นิปฺผตฺติ ปจฺจตฺเตกวจนปุถุวจนานเมการาเทสวเสเนว ภวตีติ อวสฺสมิทํ สมฺปฏิจฺฉิตพฺพํ. เอวํ ‘‘วนปฺปคุมฺเพ, พาเล, ปณฺฑิเต’’ติอาทีนํ สุทฺธปจฺจตฺตวจนตา อตีว สุขุมา ทุพฺพิฺเยฺยา, สทฺเธน กุลปุตฺเตน อาจริเย ปยิรุปาสิตฺวา ตทุปเทสํ สกฺกจฺจํ คเหตฺวา ชานิตพฺพา. พุทฺธวจนสฺมิฺหิ สทฺทโต จ อตฺถโต จ อธิปฺปายโต จ อกฺขรจินฺตกานํ าณจกฺขุสมฺมุยฺหนฏฺานภูตา ปาฬินยา วิวิธา ทิสฺสนฺติ.
ตตฺถ สทฺทโต ตาว อิทํ สมฺมุยฺหนฏฺานํ – ‘‘วิรตฺตา โกสิยายนี’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘วิรตฺเต โกสิยายเน’’ติ อิตฺถิลิงฺคปจฺจตฺตวจนํ ทิสฺสติ, ‘‘โก ปุริโส’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘เก ปุริเส’’ติ สพฺพนามิกปจฺจตฺตวจนํ ทิสฺสติ, ‘‘กินฺนาโม เต อุปชฺฌาโย’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘โกนาโม เต อุปชฺฌาโย’’ติ สมาสปทํ ปุลฺลิงฺควิสยํ ทิสฺสติ. กึ นามํ เอตสฺสาติ ¶ โกนาโมติ หิ สมาโส. เตน ‘‘โกนามา อิตฺถี, โกนามํ กุล’’นฺติ อยมฺปิ นโย คเหตพฺโพ. ‘‘กฺว เต พลํ มหาราชา’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘โก เต พลํ มหาราชา’’ติ เอตฺถ กฺวสทฺเทน อีสกํ สมานสุติโก สตฺตมิยนฺโต โกสทฺโท ทิสฺสติ, กฺว โกสทฺทา หิ อฺมฺมีสกสมานสุติกา. ตถา ‘‘อิธ เหมนฺตคิมฺเหสุ, อิธ เหมนฺตคิมฺหิสุ, น เตนตฺถํ อพนฺธิ โส, น เตนตฺถํ อพนฺธิสู’’ติ อฺานิปิ โยเชตพฺพานิ.
อตฺถโต ปน อิทํ สมฺมุยฺหนฏฺานํ – ‘‘ยํ น กฺจนทฺเวปิฺฉ, อนฺเธน ตมสา คต’’นฺติ เอตฺถ นกาโร ‘‘กต’’นฺติ อิมินา สมฺพนฺธิตพฺโพ. น กตนฺติ กตํ วิยาติ อตฺโถ. เอตฺถ หิ นกาโร อุปมาเน วตฺตติ, น ปฏิเสเธ.
‘‘อสฺสทฺโธ อกตฺู จ,
สนฺธิจฺเฉโท จ โย นโร;
หตาวกาโส วนฺตาโส,
ส เว อุตฺตมโปริโส’’ติ
เอวมาทีนิปิ อฺานิ โยเชตพฺพานิ.
อธิปฺปายโต อิทํ สมฺมุยฺหนฏฺานํ – ‘‘ตณฺหํ อสฺมิมานํ สสฺสตุจฺเฉททิฏฺิโย ทฺวาทสายตนนิสฺสิตํ นนฺทิราคฺจ หนฺตฺวา พฺราหฺมโณ อนีโฆ ยาตี’’ติ วตฺตพฺเพปิ ตถา อวตฺวา ตเมวตฺถํ คเหตฺวา อฺเน ปริยาเยน
‘‘มาตรํ ปิตรํ หนฺตฺวา, ราชาโน ทฺเว จ ขตฺติเย;
รฏฺํ สานุจรํ หนฺตฺวา, อนีโฆ ยาติ พฺราหฺมโณ’’ติ
วุตฺตํ.
‘‘วนํ ¶ ฉินฺทถ มา รุกฺขํ, วนโต ชายเต ภยํ;
เฉตฺวา วนฺจ วนถํ, นิพฺพนา โหถ ภิกฺขโว’’ติ
เอวมาทีนิปิ อฺานิ โยเชตพฺพานิ. เอวํ พุทฺธวจเน สทฺทโต จ อตฺถโต จ อธิปฺปายโต จ อกฺขรจินฺตกานํ าณจกฺขุสมฺมุยฺหนฏฺานภูตา ปาฬินยา วิวิธา ทิสฺสนฺติ. ยถาห –
‘‘ชานนฺตา อปิ สทฺทสตฺถมขิลํ มุยฺหนฺติ ปากฺกเม,
เยภุยฺเยน หิ โลกนีติวิธุรา ปาเ นยา วิชฺชเร;
ปณฺฑิจฺจมฺปิ ปหาย พาหิรคตํ เอตฺเถว ตสฺมา พุโธ,
สิกฺเขยฺยามลธมฺมสาครตเร นิพฺพานติตฺถูปเค’’ติ.
เอวํ ปาฬินยานํ ทุพฺพิฺเยฺยตฺตา ‘‘วนปฺปคุมฺเพ, พาเล จ, ปณฺฑิเต จา’’ติอาทีนํ สุทฺธปจฺจตฺตวจนตฺตฺเว สารโต ปจฺเจตพฺพํ, น สุติสามฺเน ภุมฺโมปโยควจนตฺตํ ภุมฺโมปโยควจเนหิ เตสํ สมานสุติกตฺเตปิ ปจฺจตฺตโชตกตฺตา. สมานสุติกาปิ หิ สทฺทา อตฺถปฺปกรณลิงฺคสทฺทนฺตราภิสมฺพนฺธาทิวเสน อตฺถวิเสสโชตกา ภวนฺติ. ตํ ยถา? ‘‘สีโห คายตี’’ติ วุตฺเต ‘‘เอวํนามโก ปุริโส’’ติ อตฺโถ วิฺายติ. ‘‘สีโห นงฺคุฏฺํ จาเลตี’’ติ วุตฺเต ปน ‘‘มิคราชา’’ติ วิฺายติ. เอวํ อตฺถวเสน สมานสุติกานํ อตฺถวิเสสโชตนํ ภวติ. สงฺคาเม ตฺวา ‘‘สินฺธวมาเนหี’’ติ วุตฺเต ‘‘อสฺโส’’ติ วิฺายติ. โรคิสาลายํ ปน ‘‘สินฺธวมาเนหี’’ติ วุตฺเต ‘‘ลวณ’’นฺติ วิฺายติ. เอวํ ปกรณวเสน สมานสุติกานํ อตฺถวิเสสโชตนํ ภวติ. ‘‘อิสฺสา’’ติ วุตฺเต ‘‘เอวํนามิกา ธมฺมชาตี’’ติ วิฺายติ. ‘‘อิสฺโส’’ติ วุตฺเต ปน ‘‘อจฺฉมิโค’’ติ วิฺายติ. เอวํ ลิงฺควเสน เอกเทสสมานสุติกานํ อตฺถวิเสสโชตนํ ภวติ. เอตฺถ ปน กิฺจาปิ ‘‘เทวทตฺตํ ปกฺโกส ฆฏธารกํ ¶ ทณฺฑธารก’’นฺติอาทีสุปิ ฆฏทณฺฑาทีนิ ลิงฺคํ, ตถาปิ สมานสุติกาธิการตฺตา น ตํ อิธาธิปฺเปตํ.
‘‘อิสฺสา อุปฺปชฺชตี’’ติ จ ‘‘อิสฺสา ปุริสมนุพนฺธึสู’’ติ จ วุตฺเต ปน สพฺพถา สมานสุติกานํ สทฺทนฺตราภิสมฺพนฺธวเสน ยถาวุตฺตอตฺถวิเสสโชตนํ ภวติ. ตถา ‘‘สีโห ภิกฺขเว มิคราชา สายนฺหสมยํ อาสยา นิกฺขมตี’’ติ วุตฺเต ‘‘มิคาธิโป เกสรสีโห’’ติ วิฺายติ. ‘‘สีโห สมณุทฺเทโส, สีโห เสนาปตี’’ติ จ วุตฺเต ปน ‘‘สีโห นาม สามเณโร, สีโห นาม เสนาปตี’’ติ วิฺายติ. เอวมฺปิ สทฺทนฺตราภิสมฺพนฺธวเสน สมานสุติกานํ อตฺถวิเสสโชตนํ ภวติ. ‘‘อทฺทสํสุ โข ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู สตฺตรสวคฺคิเย ภิกฺขู วิหารํ ปฏิสงฺขโรนฺเต’’ติ เอวมฺปิ สทฺทนฺตราภิสมฺพนฺธวเสน สมานสุติกานํ ปจฺจตฺโตปโยคตฺถสงฺขาตอตฺถวิเสสโชตนํ ภวติ. ตถา ‘‘สิฺจ ภิกฺขุ อิมํ นาวํ, อฺตโร ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจา’’ติ เอวมฺปิ สทฺทนฺตราภิสมฺพนฺธวเสน สมานสุติกานํ อาลปนตฺถปจฺจตฺตตฺถสงฺขาตอตฺถวิเสสโชตนํ ภวติ, ตสฺมา ‘‘วนปฺปคุมฺเพ ยถ ผุสฺสิตคฺเค’’ติอาทีนิ ภุมฺโมปโยควจเนหิ สทิสตฺเตปิสทฺทนฺตราภิสมฺพนฺธวเสน สุทฺธปจฺจตฺตวจนานีติ คเหตพฺพานิ. ปจฺจตฺเตกวจนพหุวจนานํ เอว หิ เอการาเทสวเสน เอวํวิธานิ รูปานิ ภวนฺติ ภุมฺโมปโยควจนานิ วิยาติ. นนุ จ โภ เอวํวิธานํ รูปานํ ปาฬิยํ ทิสฺสนโต ‘เอการนฺตมฺปิ ปุลฺลิงฺคํ อตฺถี’ติ วตฺตพฺพนฺติ? น วตฺตพฺพํ, โอการนฺตภาโวคธรูปวิเสสตฺตา เตสํ รูปานํ. อาเทสวเสน หิ สิทฺธตฺตา วิสุํ เอการนฺตปุลฺลิงฺคํ นาม นตฺถิ, ตสฺมา ปุลฺลิงฺคานํ ยถาวุตฺตสตฺตวิธตาเยว คเหตพฺพาติ.
เกจิ ¶ ปน วเทยฺยุํ ‘‘ยายํ ปุริสสทฺทนยํ คเหตฺวา ‘ภูโต, ภูตา. ภูต’นฺติอาทินา สพฺเพสโมการนฺตปทานํ นามิกปทมาลา วิภตฺตา, ตตฺถ จตุตฺเถกวจนสฺส อายาเทสสหิตานิ รูปานิ กิมตฺถํ น วุตฺตานี’’ติ? วิเสสทสฺสนตฺถํ. ตาทิสานิ หิ จตุตฺเถกวจนรูปานิ ปาฬินเย โปราณฏฺกถานเย จ อุปปริกฺขิยมาเน ‘‘คตฺยตฺถกมฺมนิ, นยนตฺถกมฺมนิ, วิภตฺติวิปริณาเม, ตทตฺเถ จา’’ติ สงฺเขปโต อิเมสุ จตูสุเยว าเนสุ, ปเภทโต ปน สตฺตสุ าเนสุ ทิสฺสนฺติ. ทานโรจนธารณนโมโยคาทิเภเท ปน ยตฺถ กตฺถจิ สมฺปทานวิสเย น ทิสฺสนฺติ, อิติ อิมํ วิเสสํ ทสฺเสตุํ น วุตฺตานีติ. นนุ ทานกฺริยาโยเค ‘‘อภิรูปาย กฺา เทยฺยา’’ติ จตุตฺเถกวจนสฺส อายาเทสสหิตรูปทสฺสนโต อิมสฺมิมฺปิ สทฺทนีติปฺปกรเณ ‘‘ปุริสาย, ภูตายา’’ติอาทีนิ วตฺตพฺพานิ, เอวํ สนฺเต กสฺมา ‘‘ทานโรจนธารณนโมโยคาทิเภเท ปน ยตฺถ กตฺถจิ สมฺปทานวิสเย น ทิสฺสนฺตี’’ติ วุตฺตนฺติ? อปาฬินยตฺตา. ‘‘อภิรูปาย กฺา เทยฺยา’’ติ อยฺหิ สทฺทสตฺถโต อาคโต นโย, น พุทฺธวจนโต. พุทฺธวจนฺหิ ปตฺวา ‘‘อภิรูปสฺส กฺา เทยฺยา’’ติ ปทรูปํ ภวิสฺสตีติ. นนุ จ โภ นโมโยคาทีสุปิ จตุตฺเถกวจนสฺส อายาเทโส ทิสฺสตีติ. สาสนาวจราปิ หิ นิปุณา ปณฺฑิตา ‘‘นโม พุทฺธายา’’ติอาทีนิ วตฺวา รตนตฺตยํ วนฺทนฺติ. เกจิ ปน –
‘‘นโม พุทฺธาย พุทฺธสฺส,
นโม ธมฺมาย ธมฺมิโน;
นโม สงฺฆาย สงฺฆสฺส,
นโมกาเรน โสตฺถิ เม’’ติ จ,
‘‘มุเข ¶ สรสิ สมฺผุลฺเล, นยนุปฺปลปงฺกเช;
ปาทปงฺกชปูชาย, พุทฺธาย สตตํ ทเท’’ติ จ,
‘‘นโร นรํ ยาจติ กิฺจิ วตฺถุํ, นเรน ทูโต ปหิโต นรายา’’ติ จ คาถารจนมฺปิ กุพฺพนฺตีติ? สจฺจํ, สาสนาวจราปิ นิปุณา ปณฺฑิตา ‘‘นโม พุทฺธายา’’ติอาทีนิวตฺวา รตนตฺตยํ วนฺทนฺติ, คาถารจนมฺปิ กุพฺพนฺติ, เอวํ สนฺเตปิ เต สทฺทสตฺเถ กตปริจยวเสน สทฺทสตฺถโต นยํ คเหตฺวา ตถารูปา คาถาปิ จุณฺณิยปทานิปิ อภิสงฺขโรนฺติ, ‘‘นโม พุทฺธายา’’ติอาทีนิ วตฺวา รตนตฺตยํ วนฺทนฺติ. เย ปน สทฺทสตฺเถ อกตปริจยา อนฺตมโส พาลทารกา, เตปิ อฺเสํ วจนํ สุตฺวา กตปริจยวเสน ‘‘นโม พุทฺธายา’’ติอาทีนิ วตฺวา รตนตฺตยํ วนฺทนฺติ, ‘‘นโม พุทฺธสฺสา’’ติ วทนฺตา ปน อปฺปกตรา. กตฺถจิ หิ ปเทเส กุมารเก อกฺขรสมยํ อุคฺคณฺหาเปนฺตา ครู อกฺขรานมาทิมฺหิ ‘‘นโม พุทฺธายา’’ติ สิกฺขาเปนฺติ, น ปน ‘‘นโม พุทฺธสฺสา’’ติ, เอวํ สนฺเตปิ ปาฬินเย โปราณฏฺกถานเย จ อุปปริกฺขิยมาเน เปตฺวา คตฺยตฺถกมฺมาทิฏฺานจตุกฺกํ, ปเภทโต สตฺตฏฺานํ วา ทานโรจนธารณนโมโยคาทิเภเท ยตฺถ กตฺถจิ สมฺปทานวิสเย จตุตฺเถกวจนสฺส อายาเทสสหิตานิ รูปานิ น ทิสฺสนฺติ, ตสฺมา เกหิจิ อภิสงฺขตานิ ‘‘นโม พุทฺธาย, พุทฺธาย ทานํ เทนฺตี’’ติ ปทานิ ปาฬึ ปตฺวา ‘‘นโม พุทฺธสฺส, พุทฺธสฺส ทานํ เทนฺตี’’ติ อฺรูปานิ ภวนฺตีติ ทฏฺพฺพํ. อยํ ปน ปาฬินยอฏฺกถานยานุรูเปน อายาเทสสฺส ปโยครจนา – ‘‘พุทฺธาย สรณํ คจฺฉติ, พุทฺธํ สรณํ คจฺฉตี’’ติ วา, ‘‘พุทฺธาย นครํ เนนฺติ, พุทฺธํ นครํ เนนฺตี’’ติ วา, ‘‘พุทฺธาย สกฺกโต ธมฺโม, พุทฺเธน สกฺกโต ธมฺโม’’ติ วา, ‘‘พุทฺธาย ชีวิตํ ปริจฺจชติ, พุทฺธสฺส อตฺถาย ชีวิตํ ปริจฺจชตี’’ติ วา, ‘‘พุทฺธาย อเปนฺติ อฺติตฺถิยา, พุทฺธสฺมา อเปนฺติ อฺติตฺถิยา’’ติ วา ¶ , ‘‘พุทฺธาย ธมฺมตา, พุทฺธสฺส ธมฺมตา’’ติ วา, ‘‘พุทฺธาย ปสนฺโน, พุทฺเธ ปสนฺโน’’ติ วา อิติ ปเภทโต อิมํ สตฺตานํ วิวชฺเชตฺวา อฺตฺถ อายาเทโส น ทิสฺสติ. ตถา หิ –
ปาเ มหานมกฺการ-สงฺขาเต สาธุนนฺทเน;
สมฺปทาเน นโมโยเค, อายาเทโส น ทิสฺสติ.
เอตฺถ มหานมกฺการปาโ นาม ‘‘นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสา’’ติ ปาโ. อตฺราปิ อายาเทโส น ทิสฺสติ. วมฺมิกสุตฺเตปิ ‘‘นโม กโรหิ นาคสฺสา’’ติ เอวํ อายาเทโส น ทิสฺสติ. อมฺพฏฺสุตฺเตปิ ‘‘โสตฺถิ ภทนฺเต โหตุ รฺโ, โสตฺถิ ชนปทสฺส’’. เอวํ อายาเทโส น ทิสฺสติ.
‘‘สุปฺปพุทฺธ’’นฺติ ปาสฺส, อตฺถสํวณฺณนายปิ;
สมฺปทาเน นโมโยเค, อายาเทโส น ทิสฺสติ.
ตถา หิ
‘‘สุปฺปพุทฺธํ ปพุชฺฌนฺติ, สทา โคตมสาวกา;
เยสํ ทิวา จ รตฺโต จ, นิจฺจํ พุทฺธคตา สตี’’ติ
อิมิสฺสา ปาฬิยา อฏฺกถายํ ‘‘สมฺมาทิฏฺิกสฺส ปุตฺโต คุฬํ ขิปมาโน พุทฺธานุสฺสตึ อาวชฺเชตฺวา ‘นโม พุทฺธสฺสา’ติ วตฺวา คุฬํ ขิปตี’’ติ อายาเทสวชฺชิโต สทฺทรจนาวิเสโส ทิสฺสติ. สคาถาวคฺควณฺณนายมฺปิ ธนฺชานีสุตฺตฏฺกถายํ ‘‘ตฺวํ ิตาปิ นิสินฺนาปิ ขิปิตฺวาปิ กาเสตฺวาปิ ‘นโม พุทฺธสฺสา’ติ ตสฺส มุณฺฑกสฺส สมณกสฺส นมกฺการํ กโรสี’’ติ อายาเทสวชฺชิโต สทฺทรจนาวิเสโส ทิสฺสติ. ตถา ตตฺถ ตตฺถ ‘‘พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส ทานํ เทติ. ตสฺส ¶ ปุริสสฺส ภตฺตํ น รุจฺจติ. สมณสฺส โรจเต สจฺจํ, พุทฺธสฺส ฉตฺตํ ธาเรติ, พุทฺธสฺส สิลาฆเต’’ติอาทินา อายาเทสวิวชฺชิโต สทฺทรจนาวิเสโส ทิสฺสติ. เอวํ ทานโรจนาทีสุ พหูสุ สมฺปทานวิสเยสุ จตุตฺเถกวจนสฺส อายาเทสสหิตํ รูปํ น ทิสฺสติ.
คตฺยตฺถกมฺมาทีสุ ปน จตูสุ าเนสุ ทิสฺสติ. ตถา หิ ‘‘มูลาย ปฏิกสฺเสยฺย, อปฺโป สคฺคาย คจฺฉตี’’ติ เจตฺถ คตฺยตฺถกมฺมนิ ทิสฺสติ. เอตฺถ หิ ‘‘มูลํ ปฏิกสฺเสยฺย, อปฺโป สคฺคํ คจฺฉตี’’ติ จ อตฺโถ. ‘‘ปฏิกสฺเสยฺยา’’ติ เจตฺถ กส คติยนฺติ ธาตุสฺส ปติอุปสคฺเคน วิเสสิตตฺตา ‘‘อากฑฺเฒยฺยา’’ติ อตฺโถ ภวติ. ‘‘อยํ ปุริโส มม อตฺถกาโม, โย มํ คเหตฺวาน ทกาย เนตี’’ติ เอตฺถ นยนตฺถกมฺมนิ ทิสฺสติ. เอตฺถ หิ มํ อุทกํ เนติ, อตฺตโน วสนกโสพฺภํ ปาเปตีติ อตฺโถ. ‘‘วิรมถายสฺมนฺโต มม วจนายา’’ติ เอตฺถ วิภตฺติวิปริณาเม ทิสฺสติ. มม วจนโต วิรมถาติ หิ นิสฺสกฺกวจนวเสน อตฺโถ. ‘‘มหาคณาย ภตฺตา เม’’ติ เอตฺถาปิ วิภตฺติวิปริณาเม ทิสฺสติ. มม มหโต หํสคณสฺส ภตฺตาติ หิ สามิวจนวเสน อตฺโถ. มม หํสราชาติ เจตฺถ อธิปฺปาโย. ‘‘อสกฺกตา จสฺม ธนฺจยายา’’ติ เอตฺถาปิ วิภตฺติวิปริณาเม ทิสฺสติ. มยํ ธนฺจยสฺส รฺโ อสกฺกตา จ ภวามาติ หิ กตฺตุตฺเถ สามิวจนํ. ตถา หิ ‘‘ธนฺจยสฺสา’’ติ วา ‘‘ธนฺจเยนา’’ติ วา วตฺตพฺเพ เอวํ อวตฺวา ‘‘ธนฺจยายา’’ติ สมฺปทานวจนํ ทานกฺริยาทิกสฺส สมฺปทานวิสยสฺส อภาวโต วิภตฺติวิปริณาเมเยว ยุชฺชติ, ตสฺมา ธนฺจยราเชน มยํ อสกฺกตา จ ภวามาติ อตฺโถ คเหตพฺโพ. อฺมฺปิ วิภตฺติวิปริณามฏฺานํ มคฺคิตพฺพํ.
‘‘วิราคาย ¶ อุปสมาย นิโรธายา’’ติอาทีนิ ปน อเนกสหสฺสานิ อายาเทสสหิตานิ สทฺทรูปานิ ตทตฺเถ ปวตฺตนฺติ. อฏฺกถาจริยาปิ หิ ธมฺมวินยสทฺทตฺถํ วณฺเณนฺตา ‘‘ธมฺมานํ วินยาย. อนวชฺชธมฺมตฺถฺเหส วินโย, น ภวโภคาทิอตฺถ’’นฺติ ตทตฺถวเสเนว อายาเทสสหิตํ สทฺทรูปํ ปยฺุชึสุ, เอวํ จตุตฺเถกวจนสฺส อายาเทสสหิตานิ รูปานิ คตฺยตฺถกมฺมนิ นยนตฺถกมฺมนิ วิภตฺติวิปริณาเม ตทตฺเถ จาติ อิเมสุ จตูสุเยว าเนสุ ทิสฺสนฺติ, น ปน ทานโรจนาทิเภเท ยตฺถ กตฺถจิ สมฺปทานวิสเย. ตถา หิ นิรุตฺติปิฏเก ‘‘อตฺถายาติ สมฺปทานวจน’’นฺติ อายาเทสสหิตํ สทฺทรูปํ วุตฺตํ, ปุริสสทฺทาทิวเสน ปน ตาทิสานิ รูปานิ น วุตฺตานิ ตาทิสานํ สทฺทรูปานํ ยตฺถ กตฺถจิ อปฺปวตฺตนโต. กจฺจายนปฺปกรเณปิ หิ ‘‘อาย จตุตฺเถกวจนสฺส ตู’’ติ ลกฺขณสฺส วุตฺติยํ ‘‘อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสาน’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘ปุริสายา’’ติ วา ‘‘สมณายา’’ติ วา ‘‘พฺราหฺมณายา’’ติ วา น วุตฺตนฺติ.
เอตฺถ สิยา – นนุ โภ ตสฺเสว วุตฺติยํ ‘‘จตุตฺถีติ กิมตฺถํ ปุริสสฺส มุขํ. เอกวจนสฺสาติ กิมตฺถํ ปุริสานํ ททาติ. วาติ กิมตฺถํ ทาตา โหติ สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘ปุริสาย สมณาย พฺราหฺมณายา’’ติอาทีนิ ปทรูปานิ นยโต ทสฺสิตานิ, เกวลํ ปน มุขสทฺทโยคโต พหุวจนภาวโต วิกปฺปนโต จ ‘‘ปุริสายา’’ติอาทีนิ น สิชฺฌนฺติ, มุขสทฺทโยคาทิวิรหิเต ปน าเน อวสฺสํ สิชฺฌนฺตีติ? เอตฺถ วุจฺจเต – ‘‘จตุตฺถีติ กิมตฺถํ ปุริสสฺส มุข’’นฺติ วทนฺโต ‘‘สเจ อายาเทโส ภเวยฺย ¶ , จตุตฺถิยา เอว ภวติ, น ฉฏฺิยา’’ติ ทสฺเสนฺโต ‘‘มุข’’นฺติ ปทํ ทสฺเสสิ, น จ เตน ‘‘มุขสทฺทฏฺาเน เทตีติอาทิเก สมฺปทานวิสยภูเต กฺริยาปเท ิเต อายาเทโส โหตี’’ติ ทสฺเสติ. ‘‘เอกวจนสฺสาติ กิมตฺถํ ปุริสานํ ททาตี’’ติ วทนฺโตปิ ‘‘เอกวจนสฺเสว อายาเทโส โหติ, น พหุวจนสฺสา’’ติ ทสฺเสติ. ‘‘ททาตี’’ติ อิทํ ปทํ ‘‘ปุริสาน’’นฺติ ปทสฺส สมฺปทานวจนตฺตํ าเปตุํ อโวจ, น จ ‘‘เทตีติอาทิเก สมฺปทานวิสยภูเต กฺริยาปเท สติ จตุตฺเถกวจนสฺส อายาเทโส โหตี’’ติ อิมมตฺถํ วิฺาเปติ. ‘‘วาติ กิมตฺถํ ทาตา โหติ สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา’’ติ จ วทนฺโตปิ ‘‘สมฺปทาเนเยว วิกปฺเปน อายาเทโส โหตี’’ติ วิฺาเปติ, น ทานาทิกฺริยํ ปฏิจฺจ อายาเทสวิธานํ าเปติ.
ยทิ ปน ทานาทิกฺริยํ ปฏิจฺจ อายาเทสวิธานํ สิยา, วุตฺติการเกน ลกฺขณสฺส วุตฺติยํ มูโลทาหรเณเยว ‘‘อตฺถาย หิตายา’’ติ ตทตฺถปโยคานิ วิย ‘‘ปุริสาย ทียเต’’ติอาทิ วตฺตพฺพํ สิยา, น จ วุตฺตํ. กสฺมาติ เจ? พุทฺธวจเน โปราณฏฺกถาสุ จ ตาทิสสฺส ปโยคสฺส อภาวา. นิรุตฺติปิฏเก หิ ปภินฺนปฏิสมฺภิโท โส อายสฺมา มหากจฺจาโน ‘‘ปุริสสฺส ทียเต’’ติ อายาเทสรหิตานิเยว รูปานิ ทสฺเสติ, ‘‘อตฺถายาติ สมฺปทานวจน’’นฺติ ภณนฺโตปิ จ เถโร ทานาทิกฺริยาเปกฺขํ อกตฺวา จตุตฺเถกวจนสฺส อายาเทสสหิตํ รูปเมว นิทฺทิสิ. เตน โส ปโยโค ตทตฺถปฺปโยโคติ วิฺายติ. อิติ อิเมหิ การเณหิ ชานิตพฺพํ ‘‘ทานาทิกฺริยํ ปฏิจฺจ อายาเทสวิธานํ น กต’’นฺติ. ยชฺเชวํ ‘‘อตฺถาย หิตายา’’ติอาทีนิเยว ตทตฺถปฺปโยคานิ ‘‘อาย จตุตฺเถกวจนสฺส ตู’’ติ ลกฺขณสฺส วิสยา ภเวยฺยุํ, นาฺานีติ? ตนฺน, อฺานิปิ วิสยาเยว ตสฺส. กตมานิ? ‘‘มูลาย ปฏิกสฺเสยฺย, อปฺโป ¶ สคฺคาย คจฺฉติ, ทกาย เนติ, วิรมถายสฺมนฺโต มมวจนาย, คณาย ภตฺตา’’ติอาทีนิ. ‘‘สคฺคสฺส คมเนน วา’’ติอาทีนิ ปน วาธิการตฺตา อวิสยาวาติ.
นนุ จ โภ เอวํ สนฺเต วุตฺติการเกน มูโลทาหรเณสุ ‘‘อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสาน’’นฺติ วตฺวา ‘‘มูลาย ปฏิกสฺเสยฺยา’’ติอาทีนิปิ วตฺตพฺพานิ, กิมุทาหรเณ ปน ‘‘วาติ กิมตฺถํ สคฺคสฺส คมเนน วา’’ติ วตฺตพฺพนฺติ? สจฺจํ, อวจเน การณมตฺถิ, ตํ สุณาถ – ‘‘มูลาย ปฏิกสฺเสยฺย, อปฺโป สคฺคาย คจฺฉตี’’ติ เอตฺถ หิ ‘‘มูลาย, สคฺคายา’’ติ ปทานิ สุทฺธสมฺปทานวจนานิ น โหนฺติ คตฺยตฺถกมฺมนิ วตฺตนโต, ตสฺมา มูโลทาหรเณสุ น วุตฺตานิ. ตถา ‘‘ทกาย เนตี’’ติ เอตฺถ ‘‘ทกายา’’ติ ปทํ นยนตฺถกมฺมนิ วตฺตนโต สุทฺธสมฺปทานวจนํ น โหตีติ น วุตฺตํ. ‘‘วิรมถายสฺมนฺโต มม วจนายา’’ติ เอตฺถ ปน ‘‘วจนายา’’ติ ปทํ นิสฺสกฺกวจนตฺเถ วตฺตนโต, ‘‘คณาย ภตฺตา’’ติ เอตฺถ ‘‘คณายา’’ติ ปทํ สามิวจนตฺเถ วตฺตนโต, ‘‘อสกฺกตา จสฺม ธนฺจยายา’’ติ เอตฺถ ‘‘ธนฺจยายา’’ติ ปทํ กตฺตุวเสน สามิอตฺเถ วตฺตนโต สุทฺธสมฺปทานวจนํ น โหตีติ น วุตฺตํ. กิมุทาหรเณปิ ‘‘สคฺคสฺสา’’ติ ปทํ คมนสทฺทสนฺนิธานโต คตฺยตฺถกมฺมนิ วตฺตนโต สุทฺธสมฺปทานวจนํ น โหตีติ ‘‘วาติ กิมตฺถํ สคฺคสฺส คมเนน วา’’ติ น วุตฺตํ. เอวฺเหตฺถ วุตฺตนเยน พุทฺธวจนํ โปราณฏฺกถานยฺจ ปตฺวา จตุตฺเถกวจนสฺส อายาเทสสหิตานิ รูปานิ คตฺยตฺถกมฺมาทีสุ จตูสุเยว าเนสุ ทิสฺสนฺติ, น ปน ทานโรจนาทิเภเท ยตฺถ กตฺถจิ สมฺปทานวิสเยติ ทฏฺพฺพํ.
นนุ จ โภ ‘‘จนฺทนสารํ เชฏฺิกาย อทาสิ สุวณฺณมาลํ กนิฏฺายา’’ติ ทานปฺปโยเค จตุตฺเถกวจนสฺส อายาเทสสหิตรูปทสฺสนโต ‘‘ราชกฺาย ทียเต, ราชกฺาย ¶ รุจฺจติ อลงฺกาโร, ราชกฺาย ฉตฺตํ ธาเรติ, ราชกฺาย นโม กโรหิ, ราชกฺาย โสตฺถิ ภวตุ, ราชกฺาย สิลาฆเต’’ติอาทีหิปิ ปโยเคหิ ภวิตพฺพํ, อถ กสฺมา ‘‘พุทฺธวจนํ โปราณฏฺกถานยฺจ ปตฺวา จตุตฺเถกวจนสฺส อายาเทสสหิตานิ รูปานิ คตฺยตฺถกมฺมาทีสุ จตูสุเยว าเนสุ ทิสฺสนฺติ, น ปน ทานโรจนาทิเภเท ยตฺถ กตฺถจิ สมฺปทานวิสเย’’ติ วทถาติ? อุปฺปถมวติณฺโณ ภวํ, น หิ ภวํ อมฺหากํ วจนตฺถํ ชานาติ. อยฺเหตฺถ อมฺหากํ วจนตฺโถ – สพฺพานิปิ อิตฺถิลิงฺคานิ เอกวจนวเสน ตติยาจตุตฺถีปฺจมีฉฏฺีสตฺตมีาเนสุ สมสมานิ โหนฺติ, อปฺปานิ อสมานิ, ตสฺมา ตานิ เปตฺวา ปุลฺลิงฺคนปุํสกลิงฺเคสุ ปุริสาทิ จิตฺตาทิสทฺทานํ อการนฺตปกติภาเว ิตานํ จตุตฺเถกวจนสฺส อายาเทสสหิตานิ รูปานิ พุทฺธวจนาทีสุ ทานโรจนาทิเภเท ยตฺถ กตฺถจิ สมฺปทานวิสเย น ทิสฺสนฺติ. เตเนว หิ ‘‘มูลาย, สคฺคาย, ทกาย, วจนาย, คณายา’’ติอาทีนิ คตฺยตฺถกมฺมาทีสุ ตีสุ ‘‘อภิฺาย, สมฺโพธาย, นิพฺพานายา’’ติ เอวมาทีนิ ปน อเนกสตานิ ติลิงฺคปทานิ ตทตฺเถเยวาติ อิเมสุ จตูสุ าเนสุ ทิสฺสนฺติ. ‘‘เทติ, โรจติ, ธาเรตี’’ติอาทีสุ ปน สุทฺธสมฺปทานวิสเยสุ น ทิสฺสนฺติ. ภวนฺติ จตฺร –
จตุตฺเถกวจนสฺส, อายาเทเสน สํยุตํ;
รูปํ อนิตฺถิลิงฺคานํ, าเนสุ จตุสุฏฺิตํ.
คตฺยตฺถกมฺมนิ เจว, นยนตฺถสฺส กมฺมนิ;
วิภตฺติยา วิปลฺลาเส, ตทตฺเถ จาติ นิทฺทิเส.
‘‘มูลาย ปฏิกสฺเสยฺย, อปฺโป สคฺคาย คจฺฉติ’’;
เอวํ คตฺยตฺถกมฺมสฺมึ, ทิฏฺมมฺเหหิ สาสเน.
‘‘ทกาย ¶ เนติ’’ อิจฺเจวํ, นยนตฺถสฺส กมฺมนิ;
‘‘วจนายา’’ติ นิสฺสกฺเก, วิรมณปฺปโยคโต.
‘‘คณาย’’อิติ สามิสฺมึ, ‘‘ภตฺตา’’ติ สทฺทโยคโต;
‘‘ธนฺจยายา’’ติ ปทํ, กตฺตุตฺเถ สามิสูจกํ.
‘‘อสกฺกตา’’ติ สทฺทสฺส, โยคโตติ วินิทฺทิเส;
อฺโ จาปิ วิปลฺลาโส, มคฺคิตพฺโพ วิภาวินา.
‘‘อภิฺาย สมฺโพธาย, นิพฺพานายา’’ติมานิ ตุ;
ลิงฺคตฺตยวเสเนว, ตทตฺถสฺมึ วินิทฺทิเส.
เอวํ ปาานุโลเมน, กถิโต อายสมฺภโว;
อิทนฺตุ สุขุมํ านํ, จินฺเตตพฺพํ ปุนปฺปุนํ.
โอการนฺตวเสเนว, นานานยสุมณฺฑิตา;
ปทมาลา มเหสิสฺส, สาสนตฺถํ ปกาสิตา.
อิมมติมธุรฺเจ จิตฺติกตฺวา สุเณยฺยุํ,
วิวิธนยวิจิตฺตํ สาธโว สทฺทนีตึ;
ชินวรวจเนเต สทฺทโต ชาตกงฺขํ,
กุมุทมิว’สินา เว สุฏฺุ ฉินฺเทยฺยุเมตฺถ.
อิติ นวงฺเค สาฏฺกเถ ปิฏกตฺตเย พฺยปฺปถคตีสุ วิฺูนํ
โกสลฺลตฺถาย กเต สทฺทนีติปฺปกรเณ
สวินิจฺฉโย โอการนฺตปุลฺลิงฺคานํ ปกติรูปสฺส
นามิกปทมาลาวิภาโค นาม
ปฺจโม ปริจฺเฉโท.
อการนฺโตการนฺตตาปกติกโอการนฺตปุลฺลิงฺคํ นิฏฺิตํ.