📜
๑๙. สพฺพคณวินิจฺฉย
อิโต ปรํ ปวกฺขามิ, สพฺพคณวินิจฺฉยํ;
โสตูนํ ปฏุภาวตฺถํ, ปรเม ปิฏกตฺตเย.
ปจฺจยาทิวิภาเคหิ, นเยหิ วิวิเธหิ ตํ;
สุขคฺคาหาย โสตูนํ, สุณาถ มม ภาสโต.
ตตฺถ ปโม ภูวาทิคโณ, ทุติโย รุธาทิคโณ, ตติโย ทิวาทิคโณ, จตุตฺโถ สฺวาทิคุโณ, ปฺจโม กิยาทิคโณ, ฉฏฺโ คหาทิคโณ, สตฺตโม ตนาทิคโณ, อฏฺโม จุราทิคโณ, อิมสฺมึ ภควโต ปาวจเน อฏฺวิธา ธาตุคณา ภวนฺติ. เอเตสุ วิกรณปจฺจยวเสน –
ภูวาทิโต อกาโร จ, สานุสาโร รุธาทิโต;
อกาโร เจวิวณฺโณ จ, เอกาโรการเมว จ.
ยปจฺจโย ทิวาทิมฺหา, ณุ ณา อุณา สุวาทิโต;
กฺยาทิโต ปน นาเยว, ปฺปณฺหา ปน คหาทิโต.
โอยิรา ¶ ตุ ตนาทิมฺหา, เณ ณยา จ จุราทิโต;
อคฺคหิตคฺคหเณน, ปจฺจยา ทส ปฺจ จ.
หิยฺยตฺตนี สตฺตมี จ, วตฺตมานา จ ปฺจมี;
จตสฺเสตา ปวุจฺจนฺติ, สพฺพธาตุกนามิกา.
เอเตสุ วิสเยสฺเวว, อกาโร สุทฺธกตฺตริ;
อฺตฺร ข ฉ สาทีหิ, สหาปิ จุปลพฺภติ.
‘‘ภวติ โหติ สมฺโภติ, เชติ ชยติ กียติ;
เฑติ ยาติ อิติ เอติ, อวติ โกติ สงฺกติ.
ภิกฺขติ ปิวติ ปาติ, วเทติ วทติ’’ อิติ;
ภูวาทิธาตุรูปานิ, ภวนฺตีติ ปกาสเย.
รูปํ ‘‘รุนฺธติ รุนฺธีติ, รุนฺเธติ ปุน รุนฺธิติ;
สุมฺโภติ’’จฺจาทีรูปานิ, รุธาทีนฺติ ทีปเย.
‘‘ทิพฺพติ สิพฺพติ เจว, ยุชฺชติ วิชฺชติ ตถา;
ฆายติ หายติ’’จฺจาทิ, รูปมาหุ ทิวาทินํ.
‘‘สุโณติ จ สุณาติ จ, วุโณติ จ วุณาติ จ;
ปาปุณาติ หิโนตี’’ติ, อาทิรูปํ สุวาทินํ.
‘‘กินาติ จ ชินาติ จ, ธุนาติ จ มุนาติ จ;
อสฺนาติ’’จฺจาทิรูปฺจ, กฺยาทีนนฺติ วิภาวเย.
‘‘เฆปฺปติ ปฏิคฺคณฺหาติ, สณฺหฺจ สณฺหโกติ จ;
กณฺหํ ตณฺหา จ ติณฺหุณฺห’’-มิจฺจาทิ จ คหาทินํ.
‘‘ตโนติ จ กโรติ จ, กยิรติ สโนติ จ;
สกฺโกต’ปฺโปติ ปปฺโปติ’’-จฺจาทิรูปํ ตนาทินํ.
‘‘โจเรติ โจรยนฺเต จ, จินฺเตติ จินฺตยนฺติ จ;
มนฺเตติ’’จฺจาทิกฺจาปิ, รูปมาหุ จุราทินํ.
วิกรณวเสเนวํ, รูปเภโท ปกาสิโต;
ธาตูนํ ธาตุเภทาทิ-กุสลสฺส มตานุโค.
กิริยาย ¶ ธารณโต, ธาตโว เอกธา มตา;
ทฺวิธาปิ จ ปวุจฺจนฺติ, สกมฺมากมฺมโต ปน.
ตตฺถ สกมฺมกา นาม, คมิภกฺขาทยา สิยุํ;
าสาทโย อกมฺมา จ, อุปสคฺคํ วินา วเท;
สกมฺมกกมฺมภูโต, ทิวุ อิจฺจาทโย ปุน;
คเหตฺวาน ติธา โหนฺติ, เอวฺจาปิ วิภาวเย.
สกมฺมเก ทฺวิธา ภิตฺวา, เอกกมฺมทฺวิกมฺมโต;
อกมฺมเกหิ สทฺธึ เต, ติวิธาปิ ภวนฺติ หิ.
อกมฺมกา รุตาเยว, เอกกมฺมา คมาทโย;
โหนฺติ ทฺวิกมฺมกา นาม, ทุหิกรวหาทโย.
สกมฺมากมฺมกตฺตมฺหิ, ธาตูนมุปสคฺคโต;
นิยโม นตฺถิ โส ตสฺมา, น มยา เอตฺถ วุจฺจติ.
เอกฏฺานา คมิจฺจาที, ทฺวิฏฺานา ภูปจาทโย;
ติฏฺานา สฺวาทโย เอวํ, านโตปิ ติธา มตา.
คุปาทโย นิโยเคน, อาขฺยาตตฺเต สวุทฺธิกา;
วจ ตุราทโย น หิ, วุทฺธิกา การิตํ วินา;
ขิ ชิ อิจฺจาทโย ธาตู, สวุทฺธาวุทฺธิกา มตา;
อิติ วุทฺธิวเสนาปิ, ติวิโธ ธาตุสงฺคโห.
อลุตฺตวิกรณา จ, ลุตฺตวิกรณา ตถา;
ลุตฺตาลุตฺตวิกรณา, เอวมฺปิ ติวิธา สิยุํ.
ตตฺราลุตฺตวิกรณา, คมิ รุธิ ทิวาทโย;
ปา ภาทโย ชินิจฺจาที, กมโต อิตเร สิยุํ.
สุทฺธสฺสรา เอกสฺสรา, ตถาเนกสฺสราติ จ;
ติธา ภวนฺติ ยุยาตา-ปาภาลาที กราทโย.
จตุธาทินโย จาปิ, ลพฺภมานวเสน จ;
คเหตพฺโพ นยฺูหิ, ยถาวุตฺตานุสารโต.
ปุน ¶ สุทฺธสฺสรา ธาตู, เอกสฺสรา จ สตฺตธา;
อาอิวณฺณอุวณฺณนฺต-เอโอนฺตวสา มตา.
อวณฺณิวณฺณุวณฺณนฺเต-การนฺตานํ วเสน เว;
อเนกสฺสรธาตู จ, สตฺตธาว ปกิตฺติตา.
เอวํ ปนฺนรสธาปิ, ธาตูนมิธ สงฺคโห;
ตปฺปเภทํ ปกาเสยฺยุํ, อิอุอิจฺจาทินา วิทู.
ตตฺร ‘‘อิคติยํ, อิ อชฺฌยเน, อุ สทฺเท’’ อิจฺเจเต สุทฺธสฺสรา ธาตโว. ยา รา ลา อิจฺจาทโย เอกสฺสรา อาการนฺตา. ขิชินิอิจฺจาทโย เอกสฺสรา อิการนฺตา. ปีอิจฺจาทโย เอกสฺสรา อีการนฺตา. ขุ ทุ กุ อิจฺจาทโย เอกสฺสรา อุการนฺตา, ภู หู อิจฺจาทโย เอกสฺสรา อูการนฺตา. เข เช เส อิจฺจาทโย เอกสฺสรา เอการนฺตา. โส อิจฺจาทโย เอกสฺสรา โอการนฺตา.
กร ปจ สงฺคาม อิจฺจาทโย อเนกสฺสรา อการนฺตา, โอมาอิจฺจาทโย อเนกสฺสรา อาการนฺตา, สกิ อิจฺจาทโย อเนกสฺสรา อิการนฺตา. จกฺขี อิจฺจาทโย อเนกสฺสรา อีการนฺตา. อนฺธุอิจฺจาทโย อเนกสฺสรา อุการนฺตา. กกฺขู อิจฺจาทโย อเนกสฺสรา อูการนฺตา. คิเล มิเล อิจฺจาทโย อเนกสฺสรา เอการนฺตาติ เอวํ ปนฺนรสวิเธน ธาตุสงฺคโห.
อถ เตตฺตึสวิเธนปิ ธาตุสงฺคโห ภวติ. กถํ?
ธาตู สุทฺธสฺสรา เจว, ปุน เจกสฺสราปิ จ;
กการนฺตา ขการนฺตา, คนฺตา ฆนฺตา จ ธาตโว.
จการนฺตา ฉการนฺตา, ชนฺตา ฌนฺตา จ นฺตกา;
ฏการนฺตา การนฺตา, ฑนฺตา ฒนฺตา จ ณนฺตกา.
ตนฺตา เจว ตถา ถนฺตา, ทนฺตา ธนฺตา จ นนฺตกา;
ปนฺตา ผนฺตา พการนฺตา, ภนฺตา มนฺตา จ ยนฺตกา.
รนฺตา ¶ ลนฺตา วการนฺตา, สนฺตา หนฺตา จ ฬนฺตกา;
อิติ เตตฺตึสธา เยฺโย, ธาตูนมิธ สงฺคโห.
มเต สตฺถุสฺส ฒณฬา, ปทาทิมฺหิ น ทิสฺสเร;
เตเนกสฺสรธาตูสุ, ฒณฬา น กถียเร.
อิการนฺตติการนฺต-วเสน ตุ ยถารหํ;
นามํ สมฺโภติ ธาตูนํ, อิติปฺปจฺจยโยคโต.
ปจิภิกฺขิฉิทิขาทิ, กโรติ ภวติ คมิ;
คติคจฺฉติโหตีติ, อาทิโวหารมุทฺธเร.
เอวํ เตตฺตึสเภเทหิ คหิเตสุ นิขิเลสุ ธาตูสุ –
สหหึสอีหวสา, สีหสทฺทคตึ วเท;
สหนโต หนนโต, สีโหติ หิ ครู วทุํ.
ตถา หิ สีโห วาตาตปาทิปริสฺสยมฺปิ สหติ, ‘‘กึ เม พหูหิ ฆาฏิเตหี’’ติ อตฺตโน โคจรตฺถาย ขุทฺทเก ปาเณ อคณฺหนฺโต, ‘‘มาหํ ขุทฺทเก ปาเณ วิสมคเต สงฺฆาตํ อาปาเทสี’’ติ อนุทฺทยวเสน สหิตพฺเพ ขุทฺทกสตฺเตปิ สหติ. หึสิตพฺเพ ปน กายูปปนฺเน สูกรมหึสาทโย สตฺเต หึสติ, ตสฺมาปิ ‘‘สีโห’’ติ วุจฺจติ. ยถา ปน กนฺตนฏฺเน อาทิอนฺตวิปลฺลาสโต ตกฺกํ วุจฺจติ, เอวํ หึสนฏฺเนปิ สีโหติ เวทิตพฺโพ. อถ วา สพฺพิริยาปเถสุ ทฬฺหวีริยตฺตา สุฏฺุ อีหตีติ สีโห. วุตฺตฺหิ –
‘‘ยถา สีโห มิคราชา, นิสชฺชฏฺานจงฺกเม;
อลีนวีริโย โหติ, ปคฺคหิตมโน สทา’’ติ.
อปโร นโย –
สหนา จ หึสนา จ, ตถา สีฆชวตฺตโต;
สีโห อิจฺจปิ ภาเสยฺย, สกฺยสีหสฺส สาสเน.
วุตฺตฺหิ ¶ สุตฺตนิปาตฏฺกถายํ ‘‘สหรา จ หนนา จ สีฆชวตฺตา จ สีโห’’ติ.
อิทานิ ตทตฺถุทฺธาโร วุจฺจเต, สีหสทฺโท ‘‘สีโห ภิกฺขเว มิคราชา’’ติอาทีสุ มิคราเช อาคโต. ‘‘อถ โข สีโห เสนาปติ เยน ภควา เตนุปสงฺกมี’’ติอาทีสุ ปฺตฺติยํ. ‘‘สีโหติ โข ภิกฺขเว ตถาคตสฺเสตํ อธิวจนํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสา’’ติอาทีสุ ตถาคเต. ตตฺถ ตถาคเต สทิสกปฺปนาย อาคโต.
เอตฺเถตํ วุจฺจติ –
สีเห ปฺตฺติยฺจาปิ, พุทฺเธ อปฺปฏิปุคฺคเล;
อิเมสุ ตีสุ อตฺเถสุ, สีหสทฺโท ปวตฺตติ.
รูปิรุปฺปติธาตูหิ, รูปสทฺทคตึ วเท;
‘‘รูปยติ รุปฺปตี’’ติ, วตฺวา นิพฺพจนทฺวยํ.
วุตฺตฺเหตํ ครูหิ ‘‘รูปยตีติ รูปํ, วณฺณวิการํ อาปชฺชมานํ หทยงฺคตภาวํ ปกาเสตีติ อตฺโถ’’ติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘รูปนฺติ เกนฏฺเน รูปํ? รุปฺปนฏฺเนา’’ติ. ภควตา ปเนตํ วุตฺตํ ‘‘กิฺจ ภิกฺขเว รูปํ วเทถ, รุปฺปตีติ โข ภิกฺขเว ตสฺมา รูปนฺติ วุจฺจติ. เกน รุปฺปติ, สีเตนปิ รุปฺปตี’’ติ วิตฺถาโร. อตฺถุทฺธาโร ปนสฺส เหฏฺา วุตฺโตว.
ปสวเตมนตฺเถน, ธาตุนา อุทินา ปน;
สมุทฺทสทฺทนิปฺผตฺตึ, วเทยฺย มติมา นโร.
เอตฺถ ¶ หิ สมุทฺโทติ อฏฺหิ อจฺฉริยพฺภุตธมฺเมหิ สมนฺนาคตตฺตา สมุทฺทติ อตฺตสนฺนิสฺสิตานํ มจฺฉมกราทีนํ ปีติโสมนสฺสํ ปสวติ ชเนตีติ สมุทฺโท. อยมสฺมากํ ขนฺติ. อฏฺกถาจริยา ปน ‘‘สมุทฺทนฏฺเน สมุทฺโท, กิเลทนฏฺเน เตนมนฏฺเนาติ วุตฺตํ โหตี’’ติ วทนฺติ. มิลินฺทปฺเห ปน อายสฺมา นาคเสโน ‘‘ภนฺเต นาคเสน สมุทฺโท สมุทฺโทติ วุจฺจติ, เกน การเณน อาปํ อุทกํ สมุทฺโทติ วุจฺจตี’’ติ มิลินฺเทน รฺา ปุฏฺโ อาห ‘‘ยตฺตกํ มหาราช อุทกํ, ตตฺตกํ โลณํ, ยตฺตกํ โลณํ, ตตฺตกํ อุทกํ, อุทกสมตฺตา สมุทฺโทติ วุจฺจตี’’ติ. ตทา รฺา มิลินฺเทน ‘‘กลฺโลสิ ภนฺเต นาคเสนา’’ติ วุตฺตํ. เอตฺถ หิ สมํ อุทเกน โลณํ เอตฺถาติ สมุทฺโทติ นิพฺพจนํ เวทิตพฺพํ ‘‘นีโลท’’นฺติอาทีสุ วิย. ตตฺถ ภทนฺตนาคเสนมตฺจ อมฺหากํ มตฺจ ปกติสมุทฺทํ สนฺธาย วุตฺตตฺตา น วิรุชฺฌติ, อฏฺกถาจริยานํ มตมฺปิ ‘‘ตณฺหาสมุทฺโท’’ติ จ ‘‘สมุทฺโทเปโส’’ติ จ อาคตานิ สมุทฺทสริกฺขกานิ จ ตณฺหาจกฺขุโสตาทีนิ สนฺธาย วุตฺตตฺตา น วิรุชฺฌตีติ ทฏฺพฺพํ.
ขาทธาตุวสา จาปิ, ขนุธาตุวเสน วา;
ขนิโต วาปิ ธาตุมฺหา, ธาโต ขํปุพฺพโตปิ วา;
ขนฺธสทฺทสฺส นิปฺผตฺตึ, สทฺทกฺขนฺธวิทู วเท.
ตตฺถ ‘‘สํขิตฺเตน ปฺจุปาทานกฺขนฺธาปิ ทุกฺขา’’ติ วจนโต สยมฺปิ ทุกฺขธมฺโมเยว สมาโน ชาติชราพฺยาธิมรณทุกฺขาทีหิ อเนเกหิ ทุกฺเขหิ ขชฺชติ ขาทิยตีติ ขนฺโธ, เตเหว ทุกฺเขหิ ขฺติ อวทาริยตีติปิ ขนฺโธ, ขนิยติ ปริขฺตีติปิ ขนฺโธ, อตฺเตน วา อตฺตนิเยน วา ตุจฺฉตฺตา ขํ สฺุาการํ ธาเรตีติปิ ขนฺโธ, รูปกฺขนฺธาทิ. อตฺถุทฺธารโต ปน –
ขนฺธสทฺโท ¶ ราสิคุณ-ปณฺณตฺตีสุ จ รูฬฺหิยํ;
โกฏฺาเส เจว อํเส จ, วตฺตตีติ วิภาวเย.
วุตฺตฺเหตํ สมฺโมหวิโนทนิยํ วิภงฺคฏฺกถายํ – ขนฺธสทฺโท สมฺพหุเลสุ าเนสุ นิปตติ ราสิมฺหิ คุเณ ปณฺณตฺติยํ รูฬฺหิยนฺติ. ‘‘เสยฺยถาปิ ภิกฺขเว มหาสมุทฺเท น สุกรํ อุทกสฺส ปมาณํ คเหตุํ ‘‘เอตฺตกานิ อุทกาฬฺหกานี’ติ วา ‘เอตฺตกานิ อุทกาฬฺหกสตานี’ติ วา ‘เอตฺตกานิ อุทกาฬฺหกสหสฺสานี’ติ วา ‘เอตฺตกานิ อุทกาฬฺหกสตสหสฺสานี’ติ วา, อถ โข อสงฺขฺเยยฺโย อปฺปเมยฺโย มหาอุทกกฺขนฺโธตฺเวว สงฺขํ คจฺฉตี’’ติอาทีสุ หิ ราสิโต ขนฺโธ นาม. น หิ ปริตฺตกํ อุทกํ อุทกกฺขนฺโธติ วุจฺจติ, พหุกเมว วุจฺจติ, ตถา น ปริตฺตกํ รโช รชกฺขนฺโธ, น อปฺปมตฺตกา คาโว ควกฺขนฺโธ, น อปฺปมตฺตกํ พลํ พลกฺขนฺโธ, น อปฺปมตฺตกํ ปฺุํ ปฺุกฺขนฺโธติ วุจฺจติ. พหุกเมว หิ รโช รชกฺขนฺโธ, พหุกา จ ควาทโย ควกฺขนฺโธ, พลกฺขนฺโธ, ปฺุกฺขนฺโธติ วุจฺจนฺติ. ‘‘สีลกฺขนฺโธ สมาธิกฺขนฺโธ’’ติอาทีสุ ปน คุณโต ขนฺโธ นาม. ‘‘อทฺทสา ขา ภควา มหนฺตํ ทารุกฺขนฺธํ คงฺคาย นทิยา โสเตน วุยฺหมาน’’นฺติ เอตฺถ ปณฺณตฺติโต ขนฺโธ นาม. ‘‘ยํ จิตฺตํ มโน มานสํ…เป… วิฺาณํ วิฺาณกฺขนฺโธ’’ติอาทีสุ รูฬฺหีโต ขนฺโธ นาม. สฺวายมิธ ราสิโต อธิปฺเปโต. อยฺหิ ขนฺธฏฺโ นาม ปิณฺฑฏฺโ ปูคฏฺโ ฆฏฏฺโ ราสฏฺโ, ตสฺมา ราสิลกฺขณา ขนฺธาติ เวทิตพฺพา. โกฏฺาสฏฺาติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ. โลกสฺมิฺหิ อิณํ คเหตฺวา โจทิยมานา ‘‘ทฺวีหิ ขนฺเธหิ ทสฺสาม, ตีหิ ขนฺเธหิ ทสฺสามา’’ติ ¶ วทนฺติ. อิติ โกฏฺาสลกฺขณา ขนฺธาติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ. เอวเมตฺถ ‘‘รูปกฺขนฺโธติ รูปราสิ รูปโกฏฺาโส, เวทนากฺขนฺโธติ เวทนาราสิ เวทนาโกฏฺาโส’’ติ อิมินา นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ‘‘ขนฺเธ ภารํ. ขนฺธโต โอตาเรติ, มหาหนุสภกฺขนฺโธ’’ติอาทีสุ ปน อํโส ‘‘ขนฺโธ’’ติ วุจฺจติ.
อาปุพฺพยตโต จาปิ, อายูปปทโต ปุน;
ตนุโต ตนิโต วาปิ, อายตนรโว คโต.
วุตฺตมฺปิ เจตํ – อายตนโต, อายานํ วา ตนนโต, อายตสฺส จ นยนโต อายตนนฺติ เวทิตพฺพํ. จกฺขุ รูปาทีสุ หิ ตํตํทฺวารารมฺมณา จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา เสน เสน อนุภวนาทิกิจฺเจน อายตนฺติ อุฏฺหนฺติ ฆฏนฺติ วายมนฺตีติ วา วุตฺตํ โหติ. เต จ ปน อายภูเต ธมฺเม เอตานิ ตนนฺติ วิตฺถาเรนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. อิทฺจ อนมตคฺเค สํสาเร ปวตฺตํ อตีว อายตํ สํสารทุกฺขํ ยาว น นิวตฺตติ, ตาว นยนฺติ, ปวตฺตยนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. อิติ สพฺเพปิเม ธมฺมา อายตนโต, อายานํ วา ตนนโต, อายตสฺส จ นยนโต อายตนนฺติ วุจฺจนฺติ.
อปิจ นิวาสฏฺานฏฺเน อากรฏฺเน สโมสรณฏฺานฏฺเน สฺชาติเทสฏฺเน การณฏฺเน อายตนํ เวทิตพฺพํ. ตถา หิ ‘‘โลเก อิสฺสรายตนํ วาสุเทวายตน’’นฺติอาทีสุ นิวาสฏฺานํ อายตนนฺติ วุจฺจติ. ‘‘สุวณฺณายตนํ รชตายตน’’นฺติอาทีสุ อากโร, สาสเน ปน ‘‘มโนรเม อายตเน, เสวนฺติ นํ วิหงฺคมา’’ติอาทีสุ สโมสรณฏฺานํ ¶ . ‘‘ทกฺขิณาปโถ คุนฺนํ อายตน’’นฺติอาทีสุ สฺชาติเทโส. ‘‘ตตฺร ตตฺเรว สกฺขิภพฺพตํ ปาปุณาติ สติ สติอายตเน’’ติอาทีสุ การณํ.
จกฺขุอาทีสุ จาปิ จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา นิวสนฺติ ตทายตฺตวุตฺติตายาติ จกฺขาทโย จ เนสํ นิวาสฏฺานํ. จกฺขาทีสุ เต อากิณฺณา ตนฺนิสฺสิตตฺตา ตทารมฺมณตฺตา จาติ จกฺขาทโย จ เนสํ อากโร. จกฺขาทโย จ เนสํ สโมสรณฏฺานํ ตตฺถ ตตฺถ ทฺวารารมฺมณวเสน สโมสรณโต. จกฺขาทโย จ เนสํ สฺชาติเทโส ตนฺนิสฺสยารมฺมณภาเวน ตตฺเถว อุปฺปตฺติโต, จกฺขาทโย จ เนสํ การณํ เตสํ อภาเว อภาวโต. อิติ นิวาสฏฺานฏฺเน อากรฏฺเน สโมสรณฏฺานฏฺเน สฺชาติเทสฏฺเน การณฏฺเนาติ อิเมหิ การเณหิ เอเต ธมฺมา อายตนนฺติ วุจฺจนฺติ, ตสฺมา ยถาวุตฺเตนตฺเถน จกฺขุ จ ตํ อายตนฺจาติ จกฺขายตนํ…เป… ธมฺมา จ เต อายตนฺจาติ ธมฺมายตนนฺติ เอวํ ตาเวตฺถ อตฺถโต วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโยติ. อิจฺเจวํ –
นิวาโส อากโร เจว, ชาติเทโส จ การณํ;
สโมสรณฏฺานฺจ, วุจฺจตา’ยตนํ อิติ;
วิทิวิเทหิ ธาตูหิ, อการปุพฺพเกหิ วา;
อนฺตวิรหิตสทฺทู-ปปเทน ชุนาปิ วา.
อวิชฺชาสทฺทนิปฺผตฺติ, ทีเปตพฺพา สุธีมตา.
เอตฺถ ปูเรตุํ อยุตฺตฏฺเน กายทุจฺจริตาทิ อวินฺทิยํ นาม, อลทฺธพฺพนฺติ อตฺโถ, ตํ อวินฺทิยํ วินฺทตีติ อวิชฺชา, ตพฺพิปรีตโต กายสุจริตาทิ วินฺทิยํ นาม, ตํ วินฺทิยํ น วินฺทตีติ อวิชฺชา. ขนฺธานํ ราสฏฺํ, อายตนานํ อายตนฏฺํ, ธาตูนํ สฺุฏฺํ, สจฺจานํ ตถฏฺํ, อินฺทฺริยานํ อธิปติยฏฺํ อวิทิตํ กโรตีติ ¶ อวิชฺชา. ทุกฺขาทีนํ ปีฬนาทิวเสน วุตฺตํ จตุพฺพิธํ อตฺถํ อวิทิตํ กโรตีติ อวิชฺชา, อนฺตวิรหิเต สํสาเร สพฺพภวโยนิคติวิฺาณฏฺิติสตฺตาวาเสสุ สตฺเต ชวาเปตีติ อวิชฺชา, ปรมตฺถโต อวิชฺชมาเนสุ อิตฺถิปุริสาทีสุ ชวติ, วิชฺชมาเนสุปิ ขนฺธาทีสุ น ชวตีติ อวิชฺชา.
ยํ ปน อฏฺกถายํ ‘‘อปิจ จกฺขุวิฺาณาทีนํ วตฺถารมฺมณปฏิจฺจสมุปฺปาทปฏิจฺจสมุปฺปนฺนา นํ ธมฺมานํ ฉาทนโตปิ อวิชฺชา’’ติ วุตฺตํ, เอตํ น สทฺทตฺถโต วุตฺตํ, อถ โข อวิชฺชาย ฉาทนกิจฺจตฺตา วุตฺตํ. ตถา หิ อภิธมฺมฏีกายํ อิทํ วุตฺตํ –
‘‘พฺยฺชนตฺถํ ทสฺเสตฺวา สภาวตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘อปิจา’ติอาทิมาห, จกฺขุวิฺาณาทีนํ วตฺถารมฺมณานิ ‘อิทํ วตฺตุ, อิทมารมฺมณ’นฺติ อวิชฺชาย าตุํ น สกฺกาติ อวิชฺชา ตปฺปฏิจฺฉาทิกา วุตฺตา, วตฺถารมฺมณสภาวจฺฉาทนโต เอว อวิชฺชาทีนํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทภาวสฺส, ชรามรณาทีนํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนภาวสฺส จ ฉาทนโต ปฏิจฺจสมุปฺปาทปฏิจฺจสมุปฺปนฺนฉาทนํ เวทิตพฺพนฺติ. ตตฺถ ทุคฺคติคามิกมฺมสฺส วิเสสปฺปจฺจยตฺตา อวิชฺชา ‘อวินฺทิยํ วินฺทตี’ติ วุตฺตา, ตถา วิเสสปจฺจโย วินฺทนียสฺส น โหตีติ ‘วินฺทิยํ น วินฺทตี’ติ จ, อตฺตนิสฺสิตานํ จกฺขุวิฺาณาทีนํ ปวตฺตาปนํ อุปฺปาทนํ อายตนํ, สมฺโมหภาเวเนว อนภิสมยภูตตฺตา ‘อวิทิตํ อฺาตํ กโรติ, อนฺตวิรหิเต ชวาเปตี’ติ วณฺณาคมวิปริยายวิการวินาสธาตุอตฺถวิเสสโยเคหิ ปฺจวิธสฺส นิรุตฺติลกฺขณสฺส วเสน ตีสุปิ ปเทสุ อการวิการชกาเร คเหตฺวา อฺเสํ วณฺณานํ โลปํ กตฺวา ชการสฺส จ ทุติยสฺส อาคมํ กตฺวา อวิชฺชาติ วุตฺตา’’ติ.
อรหธาตุโต ¶ เยฺยา, อรหํสทฺทสณฺิติ;
อรารูปปทหน-ธาตุโต วาถวา ปน.
รหโต รหิโต จาปิ, อการปุพฺพโต อิธ;
วุจฺจเต อสฺส นิปฺผตฺติ, อารกาทิรวสฺสิตา.
ตถา หิ อรหนฺติ อคฺคทกฺขิเณยฺยตฺตา จีวราทิปจฺจเย อรหติ ปูชาวิเสสฺจาติ อรหํ. วุตฺตฺจ –
‘‘ปูชาวิเสสํ สห ปจฺจเยหิ,
ยสฺมา อยํ อรหติ โลกนาโถ;
อตฺถานุรูปํ อรหนฺติ โลเก,
ตสฺมา ชิโน อรหติ นามเมต’’นฺติ.
ตถา โส กิเลสารโย มคฺเคน หนีติ อรหํ. วุตฺตฺจ –
‘‘ยสฺมา ราคาทิสงฺขาตา, สพฺเพปิ อรโย หตา;
ปฺาสตฺเถน นาเถน, ตสฺมาปิ อรหํ มโต’’ติ.
ยฺเจตํ อวิชฺชาภวตณฺหามยนาภึ ปฺุาทิอภิสงฺขารารํ ชรามรณเนมึ อาสวสมุทยมเยน อกฺเขน วิชฺฌิตฺวา วิภวรเถ สมาโยชิตํ อนาทิกาลปฺปวตฺตํ สํสารจกฺกํ, ตสฺส โส โพธิมณฺเฑ วีริยปาเทหิ สีลปถวิยํ ปติฏฺาย สทฺธาหตฺเถน กมฺมกฺขยกรํ าณปรสุํ คเหตฺวา สพฺเพ อเร หนีติปิ อรหํ. วุตฺตฺจ –
‘‘อรา สํสารจกฺกสฺส, หตา าณาสินา ยโต;
โลกนาเถน เตเนส, อรหนฺติ ปวุจฺจตี’’ติ.
ตถา อตฺตหิตํ ปรหิตฺจ ปริปูเรตุํ สมฺมา ปฏิปชฺชนฺเตหิ สาธูหิ ทูรโต รหิตพฺพา ปริจฺจชิตพฺพา ปริหาตพฺพาติ รหา, ราคาทโย ปาปธมฺมา, น สนฺติ เอตสฺส รหาติ ¶ อรหํ. ‘‘อรโห’’ติ วตฺตพฺเพ โอการสฺส สานุสารํ อการาเทสํ กตฺวา ‘‘อรหํ’’นฺติ วุตฺตํ. อาห จ –
‘‘ปาปธมฺมา รหา นาม, สาธูหิ รหิตพฺพโต;
เตสํ สุฏฺุ ปหีนตฺตา, ภควา อรหํ มโต’’ติ.
อถ วา ขีณาสเวหิ เสกฺเขหิ กลฺยาณปุถุชฺชเนหิ จ น รหิตพฺโพ น ปริจฺจชิตพฺโพ, เต จ ภควาติ อรหํ. อาห จ –
‘‘เย จ สจฺฉิกตธมฺมา,
อริยา สุทฺธโคจรา;
น เตหิ รหิโต โหติ,
นาโถ เตนา’รหํ มโต’’ติ.
รโหติ จ คมนํ วุจฺจติ, นตฺถิ เอตสฺส รโห คมนํ คตีสุ ปจฺจาชาตีติ อรหํ. อาห จ –
‘‘รโห วา คมนํ ยสฺส, สํสาเร นตฺถิ สพฺพโส;
ปหีนชาติมรโณ, อรหํ สุคโต มโต’’ติ.
ปาสํสตฺตา วา ภควา อรหํ. อกฺขรจินฺตกา หิ ปสํสายํ อรหสทํ วณฺเณนฺติ. ปาสํสภาโว จ ภควโต อนฺสาธารโณ ยถาภุจฺจคุณาธิคโต สเทวเก โลเก สุปฺปติฏฺิโต. อิติ ปาสํสตฺตาปิ ภควา อรหํ. อาห จ –
‘‘คุเณหิ สทิโส นตฺถิ, ยสฺมา โลเก สเทวเก;
ตสฺมา ปาสํสิยตฺตาปิ, อรหํ ทฺวิปทุตฺตโม’’ติ.
อิมานิ ¶ นิพฺพจนานิ ‘‘อรห ปูชายํ, หน หึสายํ, รห จาเค, รหิ คติย’’นฺติ อิเมสํ ธาตูนํ วเสน อิธ วุตฺตานิ กิเลเสหิ อารกตฺตา ‘‘อรห’’นฺติ จ ปาปกรเณ รหาภาวา ‘‘อรห’’นฺติ จ อสปฺปุริสานํ อารกา ทูเรติ ‘‘อรห’’นฺติ จ สปฺปุริสานํ อารกา อาสนฺเนติ ‘‘อรห’’นฺติ จ. นิพฺพจนานิ ปน ธาตุสทฺทนิสฺสิตานิ น โหนฺตีติ อิธ น คหิตานิ. ปสํสา ปน อตฺถโต ปูชา เอวาติ ‘‘อรห ปูชาย’’นฺติ ธาตุสฺส อตฺโถ ภวิตุํ ยุตฺโตติ อิธ อมฺเหหิ คหิตา, อฏฺกถาจริเยหิ ตุ อรหสทฺทสฺส ลพฺภมานวเสน สพฺเพปิ อตฺถา คหิตา ธาตุนิสฺสิตา จ อธาตุนิสฺสิตา จ. กถํ? –
อารกตฺตา หตตฺตา จ, กิเลสารีน โส มุนิ;
หตสํสารจกฺกาโร, ปจฺจยาทีน จารโห;
น รโห กโรติ ปาปานิ, อรหํ เตน วุจฺจตีติ.
ฏีกาจริเยหิปิ ตเถว คหิตา. กถํ? –
อารกา มนฺทพุทฺธีนํ, อารกา จ วิชานตํ;
รหานํ สุปฺปหีนตฺตา, วิทูนมรเหยฺยโต;
ภเวสุ จ รหาภาวา, ปาสํสา อรหํ ชิโนติ.
ยถา ปน อรหํสทฺทสฺส, เอวํ อรหาสทฺทสฺสาปิ นิพฺพจนานิ เวทิตพฺพานิ.
สุปุพฺพคมิโต เจว, สุปุพฺพคทิโตปิ จ;
ธีโร สุคตสทฺทสฺส, นิปฺผตฺตึ สมุทีรเย.
เอตฺถ หิ สุคโตติ โสภนํ คตํ เอตสฺสาติ สุคโต, สุนฺทรํ านํ คโตติ สุคโต, สมฺมา คโตติ สุคโต, สมฺมา จ คทตีติ สุคโตติ ธาตุนิสฺสิตํ อตฺถํ คเหตฺวา สทฺทนิปฺผตฺติ กาตพฺพา. วุตฺตฺหิ อฏฺกถาสุ –
‘‘โสภนคมนตฺตา ¶ , สุนฺทรํ านํ คตตฺตา, สมฺมา คตตฺตา, สมฺมา จ คทตฺตา สุคโต. คมนมฺปิ หิ คตนฺติ วุจฺจติ, ตฺจ ภควโต โสภนํ ปริสุทฺธมนวชฺชํ. กึ ปน ตนฺติ? อริยมคฺโค, เตเนส คมเนน เขมํ ทิสํ อสชฺชมาโน คโตติ โสภนคมนตฺตา สุคโต’’ติอาทิ.
ภคสทฺทูปปทโต, วนุโต วมุโตปิ จ;
ภควาสทฺทนิปฺผตฺตึ, ปวเท อฺถาปิ วา.
อตฺริมานิ นิพฺพจนานิ – ภคสงฺขาตา โลกิยโลกุตฺตรสมฺปตฺติโย วนิ ภชิ เสวีติ ภควา. โสมนสฺสกุมารตฺตภาวาทีสุ จริมตฺตภาเว จ ภคสงฺขาตํ สิรึ อิสฺสริยํ ยสฺจ วมิ อุคฺคิริ เขฬปิณฺฑํ วิย อนเปกฺโข ฉฑฺฑยีติ ภควา. อถ วา นกฺขตฺเตหิ สมํ ปวตฺตตฺตา ภคสงฺขาเต สิเนรุยุคนฺธรอุตฺตรกุรุหิมวนฺตาทิภาชนโลเก วมิ, ตนฺนิวาสิตตฺตาวาสสมติกฺกมนโต ตปฺปฏิพทฺธฉนฺทราคปฺปหาเนน ปชหีติ ภควาติ.
ปรธาตุวสา วาปิ, ปรูปปทโตปิ วา;
มุโต ตถา มชโต จ, มยโต มุนโต มิโต.
ปุน มิโตติ เอเตหิ, ธาตูหิ ขลุ สตฺตหิ;
วเท ปรมสทฺทสฺส, นิปฺผตฺตึ ชินสาสเน.
อุตฺตมวาจีปรม-สทฺเทน สห อฏฺหิ;
ปเทหิ ปารมีสทฺทํ, วเท ตทฺธิตปจฺจยึ.
ปารสทฺทูปปทโต, มชโตปิ มุโตถ วา;
มยโต วา มุนโต วา, มิโต วา ปุนปิ มิโต.
เอเตหิ ฉหิ ธาตูหิ, มหาปุริสวาจกํ;
ปารมีสทฺทมีเรนฺติ, ตโต ปารมิตารวํ.
เอตฺถ ¶ ตาว อุตฺตมตฺถวาจกปรมสทฺทวเสน ปารมีนิพฺพจนํ กเถสฺสาม. ตโต ปรธาตุวเสน, ตโต ปรสทฺทูปปทมุธาตาทิวเสน ตโต ปารสทฺทูปปทมชธาตาทิวเสน.
ทานสีลาทิคุณวิเสสโยเคน สตฺตุตฺตมตาย ปรมา. มหาโพธิสตฺตา โพธิสตฺตา, เตสํ ภาโว, กมฺมํ วา ปารมี, ทานาทิกฺริยา. อถ วา ปรติ ปาเลติ ปูเรติ จาติ ปรโม, ทานาทีนํ คุณานํ ปาลโก ปูรโก จ โพธิสตฺโต, ปรมสฺส อยํ, ปรมสฺส วา ภาโว, กมฺมํ วา ปารมี, ทานาทิกฺริยา. อถ วา ปรํ สตฺตํ อตฺตนิ มวติ พนฺธติ คุณวิเสสโยเคนาติ ปรโม, ปรํ วา อธิกตรํ มชฺชติ สุชฺฌติ กิเลสมลโตติ ปรโม, ปรํ วา เสฏฺํ นิพฺพานํ มยติ คจฺฉตีติ ปรโม, ปรํ วา โลกํ ปมาณภูเตน าณวิเสเสน อิธโลกํ วิย มุนาติ ปริจฺฉินฺทตีติ ปรโม, ปรํ วา อติวิย สีลาทิคุณคณํ อตฺตโน สนฺตาเน มิโนติ ปกฺขิปตีติ ปรโม, ปรํ วา อตฺตภูตโต ธมฺมกายโต อฺํ ปฏิปกฺขํ วา ตทนตฺถกรํ กิเลสโจรคณํ มินาติ หึสตีติ ปรโม, มหาสตฺโต, ปรมสฺส อยํ, ปรมสฺส วา ภาโว, กมฺมํ วา ปารมี, ทานาทิกฺริยา.
อปโร นโย – ปาเร นิพฺพาเน มชฺชติ สุชฺฌติ, สตฺเต จ มชฺเชติ โสเธตีติ ปารมี, มหาปุริโส, ตสฺส ภาโว, กมฺมํ วา ปารมิตา. ปาเร นิพฺพาเน สตฺเต มวติ พนฺธติ โยเชอีติ ปารมี, ปารํ วา นิพฺพานํ มยติ คจฺฉติ, สตฺเต จ มาเยติ คเมตีติ ปารมี, มุนาติ วา ปารํ นิพฺพานํ ยาถาวโต, ตตฺถ วา สตฺเต มิโนติ ปกฺขิปตีติ ปารมี, กิเลสารึ วา สตฺตานํ ปาเร นิพฺพาเน มินาติ หึสตีติ ปารมี, มหาปุริโส, ตสฺส ภาโว, กมฺมํ วา ปารมิตา, ทานาทิกฺริยาว. อิมินา นเยน ปารมีนํ สทฺทตฺโถ เวทิตพฺโพ.
กรธาตุวสา ¶ วาปิ, กิรธาตุวเสน วา;
กํสทฺทูปปทรุธิ-ธาตุโต วาปิ ทีปเย;
กรุณาสทฺทนิปฺผตฺตึ, มหากรุณสาสเน.
ตตฺถ กรุณาติ ปรทุกฺเข สติ สาธูนํ หทยกมฺปนํ กโรตีติ กรุณา. กิรติ ปรทุกฺกํ วิกฺขิปตีติ กรุณา. กํ วุจฺจติ สุขํ, ตํ รุนฺธติ วิพาธติ การุณิกํ น สุขาเปตีติปิ กรุณา.
วิทิวิธวิทธาตุ-วเสน ปริทีปเย;
วิชฺชาสทฺทสฺส นิปฺผตฺตึ, สทฺทนิปฺผตฺติโกวิโท.
ตตฺถ วิชฺชาติ วินฺทิยํ กายสุจริตาทึ วินฺทติ ยาถาวโต อุปลภตีติ วิชฺชา. ตโมขนฺธาทิปทาลนฏฺเน วา อตฺตโน ปฏิปกฺขํ วิชฺฌตีติ วิชฺชา. ตโต เอว อตฺตโน วิสยํ วิทิตํ กโรตีติปิ วิชฺชา.
เมธธาตุวสา เจว, เมธาธาตูหิ จ ทฺวิธา;
เมธาสทฺทสฺส นิปฺผตฺตึ, เมธาวี สมุทีรเย.
ตตฺถ เมธาติ สมฺโมหํ เมธติ หึสตีติ เมธา. ปาปเก วา อกุสเล ธมฺเม เมธติ หึสตีติปิ เมธา. อถ วา –
‘‘ปฺา หิ เสฏฺา กุสลา วทนฺติ,
นกฺขตฺตราชาริว ตารกานํ;
สีลํ สิริฺจาปิ สตฺจ ธมฺโม,
อนฺวายิกา ปฺวโต ภวนฺตี’’ติ
วจนโต ปน เมธติ สีเลน สิริยา สตฺจ ธมฺเมหิ สห คจฺฉติ, น เอกิกา หุตฺวา ติฏฺตีติปิ เมธา. อปโร นโย – สุขุมมฺปิ อตฺถํ ธมฺมฺจ ขิปฺปเมว เมติ จ ธาเรติ จาติ เมธา, เอตฺถ เมตีติ คณฺหาตีติ อตฺโถ. ตถา หิ ¶ อฏฺสาลินิยํ วุตฺตํ ‘‘อสนิ วิย สิลุจฺจเย กิเลเส เมธติ หึสตีติ เมธา, ขิปฺปํ คหณธารณฏฺเน วา เมธา’’ติ.
รนฺชธาตุวสา เจว, ราปุพฺพติรโตปิ จ;
รตฺติสทฺทสฺส นิปฺผตฺตึ, สทฺทตฺถฺู วิภาวเย.
รนฺชนฺติ สตฺตา เอตฺถาติ รตฺติ, รา สทฺโท ติยฺยติ ฉิชฺชติ เอตฺถาติ รตฺติ, สตฺตานํ สทฺทสฺส วูปสมกาโลติ อตฺโถ.
มา มาเน อิติ โสอนฺต, กมฺมนีติ จุโภหิ ตุ;
ธาตูหิ มาสสทฺทสฺส, นิปฺผตฺตึ สมุทีรเย.
ตถา หิ สตฺตานํ อายุํ มานนฺโต วิย สิยติ อนฺตํ กโรตีติ มาโส, จิตฺตมาสาทโย ทฺวาทส มาสา. เสยฺยถิทํ? จิตฺโต วิสาโข เชฏฺโ อาสาฬฺโห สาวโณ ภทฺโท อสฺสยุโช กตฺติโก มาคสิโร ผุสฺโส มาโฆ ผคฺคุโณติ. ตตฺร จิตฺโต มาโส ‘‘รมฺมโก’’ติ วุจฺจติ. ‘‘ยถาปิ รมฺมเก มาเส, พหู ปุปฺผนฺติ วาริชา’’ติ ปาฬิ ทิสฺสติ. ภทฺโท ปน ‘‘โปฏฺปาโท’’ติ วุจฺจติ.
อถ วา มาโสติ อปรณฺณวิเสสสฺสปิ สุวณฺณมาสสฺสปิ นามํ. ตตฺถ อปรณฺณวิเสโส ยถาปริมิเต กาเล อสิยติ ภกฺขิยตีติ มาโส, อิตโร ปน ‘‘มม อิท’’นฺติ มสิยติ อามสิยติ คณฺหิยตีติ มาโสติ วุจฺจติ.
สํปุพฺพวทจเรหิ, สํวจฺฉรรวสฺส ตุ;
นิปฺผตฺตึ สมุทีเรยฺย, สกฺยสีหสฺส สาสเน.
ตถา หิ ตํ ตํ สตฺตํ ธมฺมปฺปวตฺติฺจ สงฺคมฺม วทนฺโต วิย จรติ ปวตฺตตีติ สํวจฺฉโร.
ภิทิภิกฺขิธาตุวสา ¶ , อถ วา ภยวาจกํ;
ภีสทฺทํ ปุริมํ กตฺวา, อิกฺขธาตุวเสน จ;
ภิกฺขุสทฺทสฺส นิปฺผตฺตึ, กถเยยฺย วิจกฺขโณ.
ตถา หิ กิเลเส ภินฺทตีติ ภิกฺขุ. ฉินฺนภินฺนปฏธโรติปิ ภิกฺขุ. ภิกฺขนสีโลติปิ ภิกฺขุ. สํสาเร ภยํ อิกฺขติ, อิกฺขนสีโลติ วา ภิกฺขุ.
สทภิทีหิ ธาตูหิ, สพฺภิสทฺทคตึ วเท;
สปฺปุริเส จ นิพฺพาเน, เอส สทฺโท ปวตฺตติ.
อตฺริมานิ นิพฺพจนานิ – สีทนสภาเว กิเลเส ภินฺทตีติ สพฺภิ, สปฺปุริโส, โย ‘‘อริโย’’ติปิ ‘‘ปณฺฑิโต’’ติปิ วุจฺจติ. อปิจ สีทนสภาวา กิเลสา ภิชฺชนฺติ เอตฺถาติ สพฺภิ, นิพฺพานํ, ยํ ‘‘ราคกฺขโย’’ติอาทินามํ ลภติ. ตถา หิ สํยุตฺตฏฺกถายํ วุตฺตํ ‘‘ยสฺมา นิพฺพานํ อาคมฺม สีทนสภาวา กิเลสา ภิชฺชนฺติ, ตสฺมา ตํ สพฺภีติ วุจฺจตี’’ติ.
เอตฺเถตํ วทาม –
‘‘ยสฺมา นิพฺพานมาคม, สํสีทนสภาวิโน;
กฺเลสา ภิชฺชนฺติ ตํ ตสฺมา, สพฺภีติ อมตํ’พฺรวุ’’นฺติ.
พฺรูธาตุสทธาตูหิ, ภิสิสทฺทสฺส สมฺภวํ;
คุเณหิ พฺรูหิตา ธีรา, โปราณาจริยา’พฺรวุํ.
ตถา หิ พฺรวนฺตา เอตฺถ สีทนฺตีติ ภิสีติ ภิสิสทฺทสฺส สมฺภวํ โปราณา กถยึสุ.
สุขธาตุวสา จาปิ, สุปุพฺพขาทโตปิ วา;
สุปุพฺพขนุโต วาปิ, สุขสทฺทคตึ วเท.
สุขนฺติ ¶ หิ สุขยตีติ สุขํ. ยสฺสุปฺปชฺชติ, ตํ สุขิตํ กโรตีติ อตฺโถ. สุฏฺุ ทุกฺขํ ขาทตีติปิ สุขํ. สุฏฺฏุ ทุกฺขํ ขนตีติปิ สุขํ.
ทุกฺขธาตุวสา จาปิ, ทุปุพฺพขาทโตปิ วา;
ทุปุพฺพขนุโต วาปิ, ทุกฺขสทฺทคตึ วเท.
ทุกฺขนฺติ หิ ทุกฺขยตีติ ทุกฺขํ. ยสฺสุปฺปชฺชติ, ตํ ทุกฺขิตํ กโรตีติ อตฺโถ. ทุฏฺุ สุขํ ขาทตีติปิ ทุกฺขํ. ทุฏฺุ สุขํ ขนตีติปิ ทุกฺขํ. อถ วา ทฺวิธา สุขํ ขนตีติปิ ทุกฺขํ.
คนฺธธาตุวสา จาปิ, คมุธาตุวเสน วา;
คมุธาธาตุโต วาปิ, คนฺธสทฺทคตึ วเท.
ตถา หิ คนฺธยตีติ คนฺโธ, อตฺตโน วตฺถุํ สูจยติ ‘‘อิทํ สุคนฺธํ, อิทํ ทุคฺคนฺธ’’นฺติ ปกาเสติ, ปฏิจฺฉนฺนํ, วา ปุปฺผผลาทึ ‘‘อิทเมตฺถ อตฺถี’’ติ เปสฺุํ กโรนฺโต วิย อโหสีติ อตฺโถ. อถ วา คนฺธยติ ฉินฺทติ มนาปคนฺโธ สุคนฺธภาเวน ทุคฺคนฺธํ, อมนาปคนฺโธ จ ทุคฺคนฺธภาเวน สุคนฺธนฺติ คนฺโธ. เอตฺถ ปน คนฺธสทฺทสฺส เฉทนวาจกตฺเต –
‘‘อติชาตํ อนุชาตํ, ปุตฺตมิจฺฉนฺติ ปณฺฑิตา;
อวชาตํ น อิจฺฉนฺติ, โย โหติ กุลคนฺธโน’’ติ
อยํ ปาฬิ นิทสฺสนํ. วายุนา วา นียมาโน คจฺฉตีติ คนฺโธ. กจฺจายนสฺมิฺหิ ‘‘ขาทามคมานํ ขนฺธนฺธคนฺธา’’ติ ขาทอมคมิอิจฺเจเตสํ ธาตูนํ ยถากฺกมํ ขนฺธ อนฺธคนฺธาเทสา วุตฺตา. อถ วา คจฺฉนฺโต ธริยเต โสติ คนฺโธ. วุตฺตฺเหตํ ภทนฺเตน พุทฺธทตฺตาจริเยน เวยฺยากรเณน นิรุตฺตินยทสฺสินา ‘‘ธริยตีติ คจฺฉนฺโต, คนฺโธ สูจนโตปิ วา’’ติ.
รสธาตุวสา เจว, รมาสธาตุโตปิ จ;
รสสทฺทสฺส นิปฺผตฺตึ, อาหุ ธมฺมรสฺุโน.
รโสติ ¶ หิ รสนฺติ ตํ อสฺสาเทนฺตีติ รโส, รมนฺตา ตํ อสนฺตีติปิ รโส. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘รมมานา น’สนฺตีติ รโสติ ปริทีปิโต’’ติ. ตตฺรายมตฺโถ – เทวมนุสฺสาทโย สตฺตา ยสฺมา รมมานา นํ ธมฺมชาตํ อสนฺติ ภกฺขนฺติ, ตสฺมา ตํ ธมฺมชาตํ รโส นามาติ นิรุตฺตฺูหิ ปริทีปิโตติ. ปทจฺเฉโท ปน เอวํ เวทิตพฺโพ –
นํ อสนฺติ น สนฺตีติ, ปทจฺเฉโท สิยา ตหึ;
กมฺมการกภาเวน, อตฺโถ หิ ตตฺถ อิจฺฉิโต.
อิติ วุตฺตานุสาเรน, อวุตฺเตสุ ปเทสุปิ;
ยถารหํ นยฺูหิ, นโย เนยฺโย สุโสภโน.
ธาตุจินฺตาย เย มุตฺตา, อนิปฺผนฺนาติ เต มตา;
เต จาปิ พหโว สนฺติ, ปีตโลหิตกาทโย;
นิปฺผนฺเน อปิ ธาตูหิ, สทฺเท ธคาอิติอาทโย;
อนิปฺผนฺนํว เปกฺขนฺติ, ควาทิวิธิเภทโต.
ตถา หิ ‘‘คจฺฉตีติ โค’’, อิติ วุตฺตปทํ ปุน;
อนิปฺผนฺนํ กริตฺวาน, ‘‘คาโว’’ อิจฺจาทิกํพฺรวุํ.
เอกนฺเตน อนิปฺผนฺนา, สทฺทา วิฑูฑภาทโย;
ธาตุรูปกสทฺทา จ, ‘‘ปพฺพตายติ’’อาทโย.
เสยฺยถิทํ? ‘‘วิฑูฑโภ, ติสฺโส, เยวาปโน, ปีตํ, โลหิตํ’’ อิจฺเจวมาทีนิ นามิกปทานิ อนิปฺผนฺนานิ ภวนฺติ. ‘‘นีลํ, ปีตํ, เยวาปนโก’’ อิจฺจาทีนิ ปน นีลวณฺเณ ปีตวณฺเณ. เก เร เค สทฺเทติ ธาตุวเสน อาคตตฺตา นีลตีติ นีลํ, ปีตตีติ ปีตํ, เย วา ปน อิติวจเนน ภควตา กิยเต กถิยเตติ เยวาปนโกติ นิพฺพจนมรหนฺตีติ นิปฺผนฺนานีติ วตฺตพฺพานิ. เกจิ ปเนตฺถ วเทยฺยุํ ‘‘นนุ นีลติ ปีตตีติอาทีนิ กฺริยาปทานิ เตปิฏเก พุทฺธวจเน น ทิสฺสนฺตี’’ติ? กิฺจาปิ ¶ น ทิสฺสนฺติ, ตถาปิ เอตรหิ อวิชฺชมานา ปุราณภาสา เอสาติ คเหตพฺพานิ. ยถา หิ ‘‘นาถตีติ นาโถ’’ติ เอตฺถ กิฺจาปิ ‘‘นาถตี’’ติ กฺริยาปทํ พุทฺธวจเน น ทิสฺสติ, ตถาปิ นาถ ยาจโนปตาปิสฺสริยาสีสเนสูติ ธาตุโน ทิฏฺตฺตา อฏฺกถาจริยา คณฺหึสุเยว, เอวํ สมฺปทมิทํ ทฏฺพฺพํ. น หิ กฺริยาปทปริหีโน ธาตุ วุจฺเจยฺย.
กิฺจ ภิยฺโย – ยถา ‘‘ยาว พฺยาติ นิมีสติ, ตตฺราปิ รสติพฺพโย’’ติ ชาตกปาฬิยํ อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท เทวมนุสฺสานํ โวหารปเถ อสฺจรนฺตํ ปุราณภาสาภูตํ ‘‘พฺยาตี’’ติ กฺริยาปทมฺปิ ทิสฺสติ, ตถา ‘‘นีลติ, ปีตตี’’ติอาทีหิปิ ปุราณภาสาภูเตหิ กฺริยาปเทหิ ภวิตพฺพํ. ตตฺถ ยาว พฺยาตีติ ยาว อุมฺมีสติ. อยฺหิ ตสฺมึ กาเล โวหาโร, ยสฺมึ กาเล โพธิสตฺโต จูฬโพธิ นาม ปริพฺพาชโก อโหสิ. ยถา ปน วิฑูฑภสทฺทาทโย ธาตุวเสน อนิปฺผนฺนา นาม วุจฺจนฺติ, ตถา ‘‘ปพฺพตายติ, สมุทฺทายติ, จิจฺจิฏายติ, ธูมายติ, ทุทฺทุภายติ, เมตฺตายติ, กรุณายติ, มมายติ’’ อิจฺเจวมาทโย จ ‘‘ฉตฺตียติ, วตฺถียติ, ปริกฺขารียติ, ธนียติ, ปฏียติ’’ อิจฺเจวมาทโย จ ‘‘อติหตฺถยติ, อุปวีณยติ, ทฬฺหยติ, ปมาณยติ, กุสลยติ, วิสุทฺธยติ’’ อิจฺเจวมาทโย จ ธาตุวเสน อนิปฺผนฺนาเยว นาม วุจฺจนฺติ.
ตตฺถ ‘‘ปพฺพตายตี’’ติอาทีสุ สงฺโฆ ปพฺพตมิว อตฺตานมาจรติ ปพฺพตายติ, เอวํ สมุทฺทายติ. สทฺโท จิจฺจิฏมิว อตฺตานมาจรติ จิจฺจิฏายติ. วตฺถุ ธูมมิว อตฺตานมาจรติ ธูมายติ. สทฺโท ทุทฺทุภอิติ อาจรติ ทุทฺทุภายติ, ภิกฺขุ เมตฺตายติ, ตถา กรุณายติ. ‘‘มม อิท’’นฺติ คณฺหติ มมายติ. อฉตฺตํ ฉตฺตมิว อาจรติ ฉตฺตียติ. อปุตฺตํ ¶ ปุตฺตมิว อาจรติ ปุตฺตียติ, สิสฺสํ อาจริโย, อตฺตโน ปตฺตมิจฺฉติ ปตฺตียติ. เอวํ วตฺถียติ, ปริกฺขารียติ, จีวรียติ, ธนียติ, ปฏียติ. หตฺถินา อติกฺกมติ อติหตฺถยติ. วีณาย อุปคายติ อุปวีณยติ. ทฬฺหํ กโรติ วีริยํ ทฬฺหยติ. ปมาณํ กโรติ ปมาณยติ. กุสลํ ปุจฺฉติ กุสลยติ. วิสุทฺธา โหติ รตฺติ วิสุทฺธายติ.
ตตฺรายํ ปทมาลา – ‘‘ปพฺพตายติ, ปพฺพตายนฺติ. ปพฺพตายสิ, ปพฺพตายถ. ปพฺพตายามิ, ปพฺพตายามา’’ติ อิมินา นเยน อฏฺนฺนํ วิภตฺตีนํ วเสน เสสํ สพฺพํ โยเชตพฺพํ, เอวํ ‘‘สมุทฺทายติ, ฉตฺตียตี’’ติอาทีสุ. ตตฺร การิตวเสนปิ ‘‘ปพฺพตายนฺตํ ปโยชยติ ปพฺพตายติ, ปุตฺติยนฺตํ ปโยชยติ ปุตฺตียติ’’ อิจฺจาทิ ปทสิทฺธิ ภวติ. อยํ ปน ปทมาลา – ปพฺพตายติ, ปพฺพตายนฺติ. ปพฺพตายสิ. เสสํ โยเชตพฺพํ. อิจฺเจวํ ธาตุวเสน นิปฺผนฺนานิปฺผนฺนปทานิ วิภาวิตานิ.
อิทานิ ธาตุคณลกฺขณํ, อธาตุลกฺขณํ, การิตปจฺจยโยคํ, สการิเตกกมฺมทฺวิกมฺมติกมฺมปทํ, อูหนียรูปคณํ, ธาตูนํ เอกคณิกทฺวิคณิกเตคณิกปทํ, สุทฺธกตฺตุเหตุกตฺตุปทรูปํ, กมฺมภาวปทรูปํ, เอกการิตทฺวิการิตปทํ, อการิตทฺวิกมฺมกปทฺจ สพฺพเมตํ ยถารหํ กถยาม.
ตตฺร สพฺพธาตุกนิสฺสิเต สุทฺธกตฺตุปฺปโยเค สุทฺธสฺสรธาตุโต วา เอกสฺสรโต วา อเนกสฺสรโต วา อปจฺจยสฺส ปรภาโว ภูวาทิคณลกฺขณํ สามฺลกฺขณวเสน, วิเสสลกฺขณวเสน ปน อาขฺยาตตฺเต อิการนฺตาเนกสฺสรธาตุโต สห อปจฺจเยน นิจฺจํ นิคฺคหีตาคมนฺจ นามิกตฺเต นิคฺคหีตาคมนมตฺตฺจ ภูวาทิคณลกฺขณํ. อากฺยาตตฺเต กตฺตริ ธาตูหิ อปจฺจเยน สทฺธึนิยตวเสน นิคฺคหีตาคมนํ รุธาทิคณลกฺขณํ สามฺลกฺขณวเสน, วิเสสลกฺขณวเสน ¶ ปน อาขฺยาตตฺเต กตฺตริ ธาตูหิ อิวณฺเณกาโรการปจฺจเยหิ สทฺธึ นิยตวเสน นิคฺคหีตาคมนฺจ นามกตฺเต อนิยตวเสน นิคฺคหีตาคมนมตฺตฺจ รุธาทิคณลกฺขณํ. กตฺตริ ธาตูหิ อาเทสลาภาลาภิโน ยปจฺจยสฺส ปรภาโว ทิวาทิคณลกฺขณํ. กตฺตริ ธาตูหิ ยถารหํ ณุ ณา อุณาปจฺจยานํ ปรภาโว สฺวาทิคณลกฺขณํ. กตฺตริ ธาตูหิ นาปจฺจยสฺส ปรภาโว กิยาทิคณลกฺขณํ. กตฺตริ ธาตูหิ อาขฺยาตตฺเต อปฺปกตรปฺปโยควเสน นามิกตฺเต ปจุรปฺปโยควเสน ปฺปณฺหาปจฺจยานํ ปรภาโว คหาทิคณลกฺขณํ. กตฺตริ ธาตูหิ ยถาสมฺภวํ โอยิรปฺปจฺจยานํ ปรภาโว ตนาทิคณลกฺขณํ. อาขฺยาตตฺเต กตฺตริ ธาตูหิ สพฺพถา เณณยปฺปจฺจยานํ ปรภาโว จุราทิคณลกฺขณํ สามฺลกฺขณวเสน, วิเสสลกฺขณวเสน ปน อาขฺยาตตฺเต อิการนฺตธาตุโต สห เณ ณยปจฺจเยหิ นิจฺจํ นิคฺคหีตาคมนฺจ นามิกตฺเต นิคฺคหีตาคมนมตฺตฺจ จุราทิคณลกฺขณํ. คณสูจกานํ ปจฺจยานมปรตฺตํ อธาตุลกฺขณํ. อิติ ธาตุคณลกฺขณมธาตุลกฺขณํ วิภาวิตํ.
การิตปจฺจยสฺส โยเค ‘‘เณ ณโย ณาเป ณาปโย จา’’ติ อิเม จตฺตาโร การิตปจฺจยา.
เณ ณยาสุํ อุวณฺณนฺตา,
อาทนฺตา ปจฺฉิมา ทุเว;
เสสโต จตุโรทฺเว วา,
ณโยเยว อธาตุโต.
ตตฺร สาเวติ, สาวยติ. ภาเวติ, ภาวยติ, โอภาเสติ, โอภาสยติ. อิมานิ การิเต อุวณฺณนฺตธาตุรูปานิ.
ทาเปติ ¶ , ทาปยติ. หาเปติ, หาปยติ. นฺหาเปติ, นฺหาปยติ. นหาเปติ, นหาปยติ. อาการนฺตธาตุรูปานิ.
โสเสติ, โสสยติ. โสสาเปติ, โสสาปยติ. โฆสาเปติ, โฆสาปยติ. อการนฺตธาตุรุปานิ.
มคฺโค สํสารโต โลกํ าเปติ, าปยติ. อิธาตุรูปานิ นิคฺคจฺฉาเปตีติ เอเตสมตฺโถ. อิมานิ หิ นิปุพฺพาย อิธาตุยา วเสน สมฺภูตานิ เหตุกตฺตุรูปานิ. ตถา หิ สุทฺธกตฺตุภาเวน มคฺโค สยํ ายติ, สํสารโต นิคฺคจฺฉตีติ าโยติ วุจฺจติ.
ปาเวติ, ปาวยติ, อุธาตุรูปานิ. วทาเปตีติ เอเตสมตฺโถ. อิมานิ หิ ปปุพฺพาย อุธาตุยา วเสน สมฺภูตานิ เหตุกตฺตุรูปานิ. ตถา หิ ‘‘โย อาตุมานํ สยเมว ปาวา’’ติ สุทฺธกตฺตุปทํ อาหจฺจภาสิตํ ทิสฺสติ.
เขเปติ, เขปยติ. กงฺเขติ, กงฺขยติ, กงฺขาเปติ, กงฺขาปยติ. อาจิกฺขาเปติ, อาจิกฺขาปยติ. อิวณฺณนฺตธาตุรูปานิ.
ขิเยติ, ขิยยติ. มิลาเยติ, มิลายยติ. เอการนฺตธาตุรูปานิ.
สิเยติ, สิยยติ. โอการนฺตธาตุรูปานิ.
ปพฺพตายายติ, ปุตฺติยายติ. อธาตุนิสฺสิตานิ รูปานิ. อิมินา นเยน เสสานิ อวุตฺตานิปิ รูปานิ สกฺกา วิฺาตุํ วิฺุนา ปาฬินยฺุนาติ วิตฺถาโร น ทสฺสิโต. อิติ การิตปจฺจยโยโค สงฺเขเปน วิภาวิโต.
อิทานิ ¶ สการิเตกกมฺมาทีนิ พฺรูม –
อกมฺมกา เอกกมฺมา, ทฺวิกมฺมา วาปิ โหนฺติ หิ;
การิตปจฺจเย ลทฺเธ, สกมฺมา จ ทฺวิกมฺมกา.
สยํ โสเธติ โส ภูมึ, โสธาเปติ ปเรมหึ;
นรํ กมฺมํ การยติ, วิฺเยฺยํ กมโต อิทํ.
ทฺวิกมฺมิกา สมฺภวนฺติ, ติกมฺมา เอตฺถ ทีปเย;
‘‘อิสฺสโร เสวกํ คามํ, อชํ นาเยติ’’ อิจฺจปิ.
‘‘นโร นเรน วา คามํ, อชํ นาเยติ’’อิจฺจปิ;
กมฺมตฺถทีปกํเยว, กรณํ เอตฺถ อิจฺฉิตํ.
อิติ สการิเตกกมฺมาทีนิ วิภาวิตานิ.
อิทานิ อูหนียรูปคณํ พฺรูม – โหติ, โภติ, สมฺโภติ, อิทํ ภูวาทิรูปํ. สุมฺโภติ, ปริสุมฺโภติ, อิทํ รุธาทิคูปํ. นินฺทติ, วินินฺทติ, พนฺธติ, อิทํ ภูวาทิรูปํ. ฉินฺทติ, ภินฺทติ, รุนฺธติ, อิทํ รุธาทิรูปํ. เทติ, เนติ, วเทติ, อนฺเวติ, อิทํ ภูวาทิรูปํ. รุนฺเธติ, ปฏิรุนฺเธติ, อิทํ รุธาทิรูปํ. พุทฺเธติ, ปลิพุทฺเธติ, อิทํ จุราทิรูปํ. ชยติ, สยติ, ปลายติ, มิลายติ, คายติ, อิทํ ภูวาทิรูปํ. หายติ, สายติ, นฺหายติ, อิทํ ทิวาทิรูปํ. กถยติ, จินฺตยติ, ภาชยติ, อิทํ จุราทิรูปํ. คพฺพติ, ปคพฺพติ, อิทํ ภูวาทิรูปํ. กุพฺพติ, กฺรุพฺพติ, อิทํ ตนาทิรูปํ. หิโนติ, จิโนติ, อิทํ สฺวาทิรูปํ. ตโนติ, สโนติ, กโรติ, อิทํ ตนาทิรูปํ. จินฺเตติ, จินฺตยติ, อิทํ กตฺตุรูปฺเจว เหตุกตฺตุรูปฺจ. กนฺเตติ, กนฺตยติ, อิทํ เหตุกตฺตุรูปเมว. ภกฺเขติ, ภกฺขยติ, วาเทติ, วาทยติ, อิทํ สุทฺธกตฺตุรูปฺเจว เหตุกตฺตุรูปฺจ. มิยฺยตีติ กตฺตุปทฺเจว กมฺมปทฺจ. ภาเวถาติ พหุวจนฺเจว เอกวจนฺจ. สํยมิสฺสนฺติ อนาคตวจนฺเจว อตีตวจนฺจ. อนุสาสตีติ อาขฺยาตฺเจว นามิกฺจ. คจฺฉํ วิธมํ นิกฺขณนฺติ นามิกฺเจว ¶ อาขฺยาตฺจ. เอตฺถ อาขฺยาตตฺเต คจฺฉนฺติ อนาคตวจนํ, วิธมนฺติ อตีตวจนํ, นิขณนฺติ ปริกปฺปวจนํ, สพฺพํ วา เอตํ ปทํ อนาคตาธิวจนนฺติปิ วตฺตุํ วฏฺฏเตว. อิมินา นเยน อฺานิปิ อูหนียปทานิ นานปฺปการโต โยเชตพฺพานิ. อิมานิ ปทานิ ทุพฺพิฺเยฺยวิเสสานิ มนฺทพุทฺธีนํ สมฺโมหกรานิ อาจริยปาจริเย ปยิรุปาสิตฺวา เวทนียานีติ อูหนียรูปคโณ วิภาวิโต.
อิทานิ เอกคณิกาทีนิ วทาม – ธา ธารเณ, ภูวาทิคณิกวเสนายํ เอกคณิกา สกมฺมิกา ธาตุ. ภควา สกลโลกสฺส หิตํ ทธาติ วิทธาติ, ปุริโส อตฺถํ สํวิเธติ, นิธึ นิเธติ, อิมานิ สุทฺธกตฺตริ ภวนฺติ. ‘‘สํวิธาเปติ, วิธาเปตี’’ติ อิมานิ เหตุกตฺตริ ภวนฺติ. กมฺเม ปน ภาเว จ ‘‘อนุวิธียตี’’ติอาทีนิ ภวนฺติ. ตถา หิ กมฺเม ‘‘นิธิ นาม นิธียตี’’ติ จ ‘‘ธียติ ธปิยตีติ เธยฺย’’นฺติ จ รูปานิ ทิสฺสนฺติ. ตตฺถ กมฺเม ‘‘กมฺมํ สตฺเตหิ อนุวิธิยฺยติ, กมฺมานิ สตฺเตหิ อนุวิธิยฺยนฺติ. โภ กมฺม ตฺวํ สตฺเตหิ อนุวิธิยฺยสิ, อหํ กมฺมํ สตฺเตหิ อนุวิธิยฺยามี’’ติอาทินา โยเชตพฺพํ. ภาเว ปน ‘‘สตฺโต ทุกฺขํ อนุวิธิยฺยติ, สตฺตา ทุกฺขํ อนุวิธิยฺยนฺติ, โต สตฺต ตฺวํ ทุกฺขํ อนุวิธิยฺยสี’’ติ โยเชตพฺพํ. อยํ นโย อติวิย สุขุโม ปาฬินยานุกูโล.
นามิกปทตฺเต ‘‘ธาตู’’ติอาทีนิ ภวนฺติ. ตตฺถ ธาตูติ สลกฺขณํ ทธาติ ธาเรตีติ ธาตุ. อฏฺกถาสุ ปน ‘‘สลกฺขณธารณโต ทุกฺขวิธานโต ทุกฺขธานโต จ ธาตู’’ติ วุตฺตํ. ธาตูติ ปถวีธาตาทิธาตุโย. ตตฺถ สลกฺขณธารณโตติ ยถา ติตฺถิยปริกปฺปิโต ปกติ อตฺตาติ เอวมาทิโก สภาวโต นตฺถิ, น เอวเมตา, เอตา ปน สลกฺขณํ สภาวํ ธาเรนฺตีติ ธาตุโย ¶ . ทุกฺขวิธานโตติ ทุกฺขสฺส วิทหนโต. เอตา หิ ธาตุโย การณภาเวน ววตฺถิตา หุตฺวา ยถา อยโลหาทิธาตุโย อยโลหาทิอเนกปฺปการํ สํสารทุกฺขํ วิทหนฺติ. ทุกฺขธานโตติ อนปฺปกสฺส ทุกฺขสฺส วิธานมตฺตโต อวสวตฺตนโต, ตํ วา ทุกฺขํ เอตาหิ การณภูตาหิ สตฺเตหิ อนุวิธียติ, ตถาวิหิตฺจ ตํ เอเตสฺเวว ธียติ ปิยติ, เอวํ ทุกฺขธานโต ธาตุโย. อปิจ นิชฺชีวฏฺโ ธาตโวติ คเหตพฺพํ. ตถา หิ ภควา ‘‘ฉ ธาตุโยสํ ภิกฺขุ ปุริโส’’ติอาทีสุ ชีวสฺาสมูหนตฺถํ ธาตุเทสนํ อกาสีติ. โย ปน ตตฺถ อมฺเหหิ ภาวฏฺาเน ‘‘สตฺโต ทุกฺขํ อนุวิธิยฺยตี’’ติ ติปุริสมณฺฑิโต เอกวจนพหุวจนิโก ปมาวิภตฺติปฺปโยโค วุตฺโต. โส –
‘‘ทูสิโต คิริทตฺเตน, หโย สามสฺส ปณฺฑโว;
โปราณํ ปกตึ หิตฺวา, ตสฺเสวานุวิธิยฺยตี’’ติ จ
‘‘มาตา หิ ตว อิรนฺธติ, วิธุรสฺส หทยํ ธนิยฺยตี’’ติ จ ‘‘เต สํกิเลสิกา ธมฺมา ปหียิสฺสนฺตี’’ติ จ อิมาสํ ปาฬีนํ วเสน สารโต ปจฺเจตพฺโพ. ตตฺถ ปณฺฑโว นาม อสฺโส คิริทตฺตนามกสฺส อสฺสโคปกสฺส ปกตึ อนุวิธิยฺยติ อนุกโรตีติ อตฺโถ. เอตฺถ จ ยทิ กตฺตุปทํ อิจฺฉิตํ สิยา, ‘‘อนุวิทธาตี’’ติ ปาฬิ วตฺตพฺพา สิยา. ยทิ กมฺมปทํ อิจฺฉิตํ สิยา, ‘‘ปณฺฑเวนา’’ติ ตติยนฺตํ กตฺตุปทํ วตฺตพฺพํ สิยา, เอวํ อวจเนน ‘‘อนุวิธิยฺยตี’’ติ อิทํ ภาวปทนฺติ สิทฺธํ. น เกนจิ เอตฺถ วตฺตุํ สกฺกา ‘‘ทิวาทิคเณ กตฺตริ วิหิตยปจฺจยสฺส วเสน วุตฺตํ อิทํ รูป’’นฺติ, ธาธาตุยา ทิวาทิคเณ อปฺปวตฺตนโต, เอกนฺตภูวาทิคณิกตฺตา จ. ทุติยปฺปโยเค ปน ยทิ กตฺตุปทํ อิจฺฉิตํ สิยา, ‘‘ธนุเต’’ติ ปาฬิ วตฺตพฺพา สิยา. ยทิ กมฺมปทํ อิจฺฉิตํ สิยา, ‘‘ธาตุยา’’ติ วตฺตพฺพํ สิยา ¶ . เอวํ อวจเนน ‘‘ธนิยฺยตี’’ติ อิทมฺปิ ภาวปทนฺติ สิทฺธํ. เอตฺถ ‘‘ธนิยฺยตีติ ปตฺเถติ, อิจฺฉตีติ อตฺโถ’’ติ อฏฺกถายํ วุตฺตํ. ‘‘ธนุ ยาจเน’’ติ ธาตุ เอสา เอกนฺเตน ตนาทิคเณเยว วตฺตติ. ตติยปฺปโยเค ‘‘ปหียิสฺสนฺตี’’ติ ยทิ ภูวาทิคเณ ‘‘หา จาเค’’ติ ธาตุยา รูปํ สิยา, กตฺตริ ‘‘ปชหิสฺสนฺตี’’ติ รูปํ สิยา, ‘‘กสฺมา โน ปชหิสฺสตี’’ติ เอตฺถ วิย. กมฺมปทํ ปน ‘‘ปชหิยิสฺสนฺตี’’ติ สิยา. ยสฺมา ‘‘ปหียิสฺสนฺตี’’ติ อิทํ ทิวาทิคเณ ‘‘หา ปริหานิย’’นฺติ ธาตุยา รูปตฺตา ‘‘ปหายิสฺสนฺตี’’ติ กตฺตุปทรูปํ สิยา ‘‘อาชฺโ กุรุเต เวคํ, หายนฺติ ตตฺถ วฬวา’’ติ อกมฺมกสฺส กตฺตุปทรูปสฺส ทสฺสนโต, ตสฺมา ‘‘ปหายิสฺสนฺตี’’ติ อวตฺวา ‘‘ปหียิสฺสนฺตี’’ติ วจเนน ยปจฺจโย ภาเว วตฺตตีติ ายติ.
เกจิ ปเนตฺถ วเทยฺยุํ ‘‘โส ปหียิสฺสติ. เต สํกิเลสิกา ธมฺมา ปหียิสฺสนฺติ. รูปํ วิภวิยฺยติ. อคฺคิชาหิ ปุพฺเพว ภูยเต’ติอาทีสุ ยปจฺจโย กมฺเมเยว วิหิโต, น ภาเว. กมฺมกตฺตุวเสน หิ อิเม ปโยคา ทฏฺพฺพา, สยเมว ปียเต ปานียํ, สยเมว กโฏ กริยเตติ ปโยคา วิยา’’ติ. ตํ น, เอวฺหิ สติ ‘‘ปชหิยิสฺสนฺตี’’ติอาทีนิ สกมฺมกธาตุรูปานิ วตฺตพฺพานิ ‘‘ปียเต กริยเต’’ติ รูปานิ วิย. เอตฺถ ปน ภาวฏฺาเน กตฺตุโน ิตภาโว เหฏฺา นานปฺปกาเรน ทสฺสิโตติ น วุตฺโต. เย สทฺทสตฺเถ มตํ คเหตฺวา สาสนิกา ครู ภาเว อทพฺพวุตฺติโน ภาวสฺเสกตฺตา เอกวจนเมว, ตฺจ ปมปุริสสฺเสว ‘‘ภูยเต เทวทตฺเตน เทวทตฺเตน สมฺปตฺตึ อนุภวนนฺติ อตฺโถ’’ติ ปโยคฺจ ตทตฺถโยชนฺจ ¶ วทนฺติ. เตสํ ตํ วจนํ ปาฬิยา, อฏฺกถาทีหิ จ น สเมติ, ตสฺมา ยถาวุตฺโตเยวตฺโถ อายสฺมนฺเตหิ ธาเรตพฺโพ.
ชร โรเค. ชรติ, ชริยฺยติ. ชรวโยหานิยํ. ชีรติ, ชิยฺยติ. อิมา ทฺเวปิ ภูวาทิ คณิกวเสน เอกคณิกา. ตาสํ อยํ สาธารณรูปวิภาวนา. ‘‘เยน จ สนฺตปฺปติ, เยน จ ชริยฺยตี’’ติอาทิ. ตตฺถ เยน จ ชริยฺยตีติ เยน เตโชคเตน กุปิเตน อยํ กาโย เอกาหิกาทิชรโรเคน ชริยฺยติ ชรติ. อถ วา เยน จ ชริยติ เยน อยํ กาโย ชีรติ อินฺทฺริยเวกลฺยตํ พลกฺขยํ ปลิตวลิตาทิฺจ ปาปุณาติ.
มร ปาณจาเค. ภูวาทิคณิโกยํ อกมฺมโก จ. สตฺโต มรติ, มิยฺยติ. กิฺจาปิ อยํ ธาตุ ‘‘มร ปาณจาเค’’ติ วจนโต สกมฺมโก วิย ทิสฺสติ, ตถาปิ ‘‘ปุตฺโต มรติ. กิจฺฉํ วตายํ โลโก อาปนฺโน ชายติ จ ชิยฺยติ จ มิยฺยติ จา’’ติ เอวมาทีนํ กมฺมรหิตปฺปโยคานํ ทสฺสนโต อกมฺมโกเยวาติ ทฏฺพฺพํ. อตฺถโยชนานเยน ปน มรตีติ ปาณํ จชตีติ กมฺมํ อาเนตฺวา กเถตุํ ลพฺภติ. ‘‘มรติ, มิยตี’’ติ อิมานิ สุทฺธกตฺตุปทานิ, ‘‘สตฺโต สตฺตํ มาเรติ, มารยติ, มาราเปติ, มาราปยตี’’ติ อิมานิ การิตปทสงฺขาตานิ เหตุกตฺตุปทานิ. เอตฺถ จ โย อมตํ สตฺตํ มรณํ ปาเปติ, โส วธโก มาเรติ มารยติ มาราเปติ มาราปยตีติ จ วุจฺจติ. สตฺโต สตฺเตหิ มาริยติ มาราปิยตีติ อิมานิ กมฺมปทานิ. ภาวปทมปฺปสิทฺธํ. เอวมฺตฺราปิ ปสิทฺธตา จ อปฺปสิทฺธตา จ อุปปริกฺขิตพฺพา.
ขาท ภกฺขเณ. อยํ ปน ภูวาทิคณิกวเสน เอกคณิโก สกมฺมโก ธาตุ. ขาทติ, สงฺขาทติ, อิมานิ สุทฺธกตฺตุปทานิ ¶ . ปุริโส ปุริเสน ปุริสํ วา ปูวํ ขาเทติ ขาทยติ ขาทาเปติ ขาทาปยติ, อิมานิ เหตุกตฺตุปทานิ. เอตฺถ จ โย อขาทนฺตํ ขาทนฺตํ วา ขาทาหีติ ปโยเชติ, โส ขาทาปโก ขาเทติ ขาทยติ ขาทาเปติ ขาทาปยตีติ จ วุจฺจติ. ขชฺชติ, สํขชฺชติ, สงฺขาทิยติ. อิมานิ กมฺมปทานิ. อตฺรปนายํ ปาฬิ ‘‘อตีตํ ปาหํ อทฺธานํ รูเปน ขชฺชึ, เสยฺยถาปาหํ เอตรหิ ปจฺจุปฺปนฺเนน รูเปน ขชฺชามิ. อหฺเจว โข ปน อนาคตํ รูปํ อภินนฺเทยฺยํ, อนาคเตนปาหํ รูเปน ขชฺเชยฺยํ, เสยฺยถาเปตรหิ ขชฺชามี’’ติ. ภาวปทํ น ลพฺภติ สกมฺมกตฺตา อิมสฺส ธาตุสฺส. ภูวาทิคโณ. อยํ นามธาตุ เอกนฺตรุธาทิคณิโกติ อปฺปสิทฺโธ.
ทิวาทิคเณ ตา ปาลเน. โลกํ ตายติ สนฺตายติ. อิมานิ สกมฺมกานิ สุทฺธกตฺตุปทานิ. เหตุกตฺตุปทํ ปน กมฺมปทฺจ ภาวปทฺจ อปฺปสิทฺธานิ.
สุธ สํสุทฺธิยํ. จิตฺตํ สุชฺฌติ วิสุชฺฌติ. อิมานิ อกมฺมกานิ สุทฺธกตฺตุปทานิ. โสเธติ, โสธยติ, โสธาเปติ, โสธาปยติ, อิมานิ เหตุกตฺตุรูปานิ. เอตฺถ จ โย อสุทฺธํ านํ สุทฺธํ กโรติ, โส โสธโก โสเธติ, โสธยตีติ วุจฺจติ, เอส นโย อฺตฺราปิ อีทิเสสุ าเนสุ. โย ปน อสุทฺธฏฺานํ สยํ อโสเธตฺวา ‘‘ตฺวํ โสเธหี’’ติ อฺํ ปโยเชติ, โส โสธาปโก โสธาเปติ โสธาปยตีติ วุจฺจติ. เอส นโย อฺตฺราปิ อีทิเสสุ าเนสุ. ตถา หิ ‘‘กาเรติ, การยติ, การาเปติ, การาปยตี’’ติอาทีสุ อยํ นโย น ลพฺภติ, เอวํ ลพฺภมานนโย จ อลพฺภมานนโย จ สพฺพตฺถ อุปปริกฺขิตพฺโพ. อิมา ปเนตฺถ ปาฬิโย –
‘‘ปจฺจนฺตเทสวิสเย, นิมนฺเตตฺวา ตถาคตํ;
ตสฺส อาคมนํ มคฺคํ, โสเธนฺติ ตุฏฺมานสา’’ติ จ
‘‘มคฺคํ ¶ โสเธมหํ ตทา’’ติ จ. อิมา หิ ปาฬิโย สหตฺถา โสธนํ สนฺธาย วุตฺตา. ‘‘อายสฺมา ปิลินฺทวจฺโฉ ราชคเห ปพฺภารํ โสธาเปติ เลณํ กตฺตุกาโม’’ติ ปน ปาฬิ, ‘‘กึ ภนฺเต เถโร การาเปตี’’ติ, ‘‘ปพฺภารํ มหาราช โสธาเปมิ เลณํ กตฺตกาโม’’ติ จ ปาฬิ. อิมา ปเรหิ โสธาปนํ สนฺธาย วุตฺตา. ‘‘กสฺส โสธิยติ มคฺโค’’ติ อิทํ กมฺมปทํ, ภาวปทํ ปน อปฺปสิทฺธํ. อิมินา นเยน ยาว จุราทิคณา โยเชตพฺพํ.
ทฺวิคณิกตฺเต สุภ โสเภ. โสภติ วตายํ ปุริโส. สุภ ปหาเร. โย โน คาโวว สุมฺภติ สุมฺโภติ อิจฺจปิ ทิสฺสติ. ‘‘สุมฺโภตี’’ติ จ กจฺจายนมเต รูปํ, อิมานิ กตฺตุปทานิ. นครํ โสเภติ, โสภยติ. ปุริโส ปุริเส โจรํ สุมฺเภติ, สุมฺภยติ, สุมฺภาเปติ, สุมฺภาปยติ. อิมานิ เหตุกตฺตุปทานิ. กมฺมภาวปทานิ ลพฺภมานาลพฺภมานวเสน ยถาสมฺภวํ โยเชตพฺพานิ. ภูวาทิรุธาทิคณิกรูปานิ.
ปจ ปาเก. ปุริโส ภตฺตํ ปจติ. เนรยิโก นิรเย ปจฺจติ. กมฺมํ ปจฺจติ. ภตฺตํ ปจฺจติ. ปารมิโย ปริปจฺจนฺติ. ผลานิ ปริปจฺจนฺติ, ปกฺกานิ โหนฺตีติ อตฺโถ. ครโว ปน –
าณยุตฺตวรํ ตตฺถ, ทตฺวา สนฺธึ ติเหตุกํ;
ปจฺฉา ปจฺจติ ปากานํ, ปวตฺเต อฏฺเก ทุเวติ จ –
‘‘อสงฺขารํ สสงฺขาร-วิปากานิ น ปจฺจตี’’ติ จ เอวํ ปจติปทสฺส ทฺวิคณิกรูปสฺส สกมฺมกตฺตํ อิจฺฉนฺติ. เอวํ ปน สาฏฺกเถ เตปิฏเก พุทฺธวจเน กุโต ลพฺภา. เตปิฏเก หิ พุทฺธวจเน ‘‘กปฺปํ นิรยมฺหิ ปจฺจติ. ยาว ปาปํ น ปจฺจติ. นิรยมฺหิ ¶ อปจฺจิ โส’’ติ เอวํ อกมฺมกตฺตํเยว ทิสฺสติ. เอตฺถ วเทยฺยุํ ‘‘นนุ ปจ ปาเก’ติ อยํ ธาตุ สกมฺมโก, เตน ‘ปจฺจตี’ติ ปทสฺส ทิวาทิคณิกรูปสฺสปิ สโต สกมฺมกตฺตํ ยุชฺชติ, ตสฺมาเยว ‘ปจฺจติ ปากานํ ปวตฺเต อฏฺเก ทุเว’ติอาทีสุ วุตฺต’’นฺติ. เอตฺถ วุจฺจเต – ยถา ‘‘ฉิทิ ทฺวิธากรเณ, ภิทิ วิทารเณ’’ติ ธาตูนํ รุธาทิคเณ ปวตฺตานํ ‘‘รุกฺขํ ฉินฺทติ, ภิตฺตึ ภินฺทตี’’ติ รูปปทานํ สกมฺมกตฺเตปิ สติ ทิวาทิคณํ ปตฺตานํ เตสํ ธาตูนํ ‘‘อุทกํ ฉิชฺชติ, ฆโฏ ภิชฺชตี’’ติ รูปปทานิ อกมฺมกานิเยว ภวนฺติ, ยถา ภูวาทิคเณ ปวตฺตสฺส ปจธาตุสฺส ‘‘ภตฺตํ ปจตี’’ติ รูปปทสฺส สกมฺมกตฺเตปิ สติ ทิวาทิคณํ ปตฺตสฺส ‘‘นิรเย ปจฺจติ, กมฺมานิ วิปจฺจนฺตี’’ติ รูปปทานิ อกมฺมกานิเยว ภวนฺติ.
อถาปิ วเทยฺยุํ ‘‘นนุ จ โภ ยถา ‘อาสเวหิ จิตฺตานิ วิมุจฺจึสู’ติ เอตฺถ ‘‘อาสวโต จิตฺตานิ วิมุจฺจึสู’ติ จ ‘อาสเวหิ กตฺตุภูเตหิ จิตฺตานิ วิมุจฺจึสู’ติ จ เอวํ ทิวาทิคณิกสฺส ธาตุสฺส ‘วิมุจฺจึสู’ติ รูปปทสฺส อกมฺมกตฺตฺจ สกมฺมกตฺตฺจ ภวติ, ตถา ‘นิรเย ปจฺจติ, กมฺมานิ วิปจฺจนฺตี’ติ จ อกมฺมกตฺเตนปิ ภวิตพฺพํ. ‘ปจฺจติ ปากานํ ปวตฺเต อฏฺเก ทุเว, อสงฺขารํ สสงฺขารวิปากานิ น ปจฺจตี’ติ สกมฺมกตฺเตนปิ ภวิตพฺพ’’นฺติ. อกมฺมกตฺเตเนว ภวิตพฺพํ, น สกมฺมกตฺเตน, ‘‘ปจฺจติ ปากาน’’นฺติอาทินา วุตฺตปฺปโยคานํ ‘‘อาสเวหิ จิตฺตานิ วิมุจฺจึสู’’ติ ปโยเคน อสมานตฺตา. ตถา เหตฺถ ‘‘วิมุจฺจึสู’’ติ ปทํ กมฺมรหิตกตฺตุวาจกยปจฺจยนฺตมฺปิ ภวติ กตฺตุสหิตกมฺมวาจกยปจฺจยนฺตมฺปิ. ‘‘วิมุจฺจึสู’’ติ อิมสฺส หิ ปทสฺส กมฺมรหิตยปจฺจยวนฺตตฺตา ‘‘อาสเวหี’’ติ กรณวจนํ อปาทานการกวาจกํ ภวติ. ‘จิตฺตานี’’ติ ปจฺจตฺตวจนํ ปน กตฺตุการกวาจกํ ภวติ. ตถา ‘‘วิมุจฺจึสู’’ติ ปทสฺส กตฺตุสหิตกมฺมวาจกตฺตา ‘‘อาสเวหี’’ติ ¶ กรณวจนํ กตฺตุการกวาจกํ ภวติ. ‘‘จิตฺตานี’’ติ ปจฺจตฺตวจนํ ปน กมฺมการกวาจกํ ภวติ. อยํ นโย ‘‘ปจฺจติ ปากาน’’นฺติอาทินา วุตฺตปฺปโยเคสุ น ลพฺภติ. ตถา หิ ตตฺถ ปจฺจตฺตวจนํ กตฺตารํ วทติ, อุปโยควจนํ กมฺมํ วทตีติ ทฏฺพฺพํ. การิเต ‘‘ปุริโส ปุริเสน ปุริสํ วา ภตฺตํ ปาเจติ ปาจยติ ปาจาเปติ ปาจาปยตี’’ติ จ, ‘‘อนนฺเต โพธิสมฺภาเร, ปริปาเจสิ นายโก’’ติ ทสฺสนโต ปน ‘‘ปริปาเจติ, ปริปาจยตี’’ติ จ รูปานิ ภวนฺติ. อิมานิ เหตุกตฺตุปทานิ. กมฺเม – ยฺทตฺเตน โอทโน ปจฺจเต, ภาวปทํ อปฺปสิทฺธํ. อิมานิ ภูวาทิทิวาทิคณิกรูปานิ. อิมินา นเยน อฺานิปิ ทฺวิคณิกรูปานิ โยเชตพฺพานิ.
เตคณิกตฺเต สุ ปสเว. เหตุผลํ สวติ, ปสวติ. สุ สวเน. สทฺโธ ธมฺมํ สุโณติ, สุณาติ. สุ หึสายํ. โยโธ ปจฺจามิตฺตํ สุนาติ. อิมานิ ยถากฺกมํ ภูวาทิสฺวาทิกิยาทิคณิกานิ กตฺตุปทานิ. ตถา เหตุนา ผลํ สวิยฺยติ, อุนฺนาทสทฺโท ปถวีอุนฺทฺริยสทฺโท วิย สุยฺยติ. โยเธน ปจฺจมิตฺโต สุนิยฺยติ. อิมานิ กมฺมปทานิ. ภาวปทํ น ลพฺภติ สกมฺมกตฺตา อิเมสํ ธาตูนํ. อิมินา นเยน อฺานิปิ เตคณิกรูปานิ อุปปริกฺขิตฺวา โยเชตพฺพานิ. อตฺร ปนายํ นยวิภาวนา –
ภฺวาทิรุธาทิกา ธาตู, สฺวาทิทิวาทิกา ตถา;
รุธาทิกทิวาทิฏฺา, ภูวาทิกจุราทิกา.
ภูวาทิกคหาทิฏฺา, ภฺวาทิสฺวาทิกิยาทิกา;
เอวมาทิปฺปเภเทหิ, วิตฺถาเรนฺตุ วิจกฺขณา.
อิจฺเจวํ สงฺเขปโต ยถารหํ เอกคณิกทฺวิคณิกเตคณิกวเสน สุทฺธกตฺตุเหตุกตฺตุกมฺมภาวปทานิ จ สการิเตกกมฺมานิ ¶ จ สการิตทฺวิกมฺมานิ จ สการิตติกมฺมานิ จ ทสฺสิตานิ.
อิทานิ เอกการิตทฺวิการิตปทานํ วจโนกาโส อนุปฺปตฺโต, ตสฺมา ตํ วทาม. โส อนฺตกมฺมนิ. อรหตฺตมคฺโค มานํ สิยติ, กมฺมํ ปริโยสิยติ. อิมานิ ตาว สุทฺธกตฺตุปทานิ. เอตฺถ มานํ สิยตีติ มานํ สมุจฺฉินฺทติ. กมฺมํ ปริโยสิยตีติ กมฺมํ นิปฺผชฺชติ. ปริ อว อิจฺจุปสคฺควเสน หิ อิทํ ปทํ อกมฺมกํ ภวติ, อตฺโถ ปน ‘‘ปริโยสานํ คจฺฉตี’’ติ สกมฺมกวเสน คเหตพฺโพ. อตฺตนา วิปฺปกตํ อตฺตนา ปริโยสาเปติ. อิทเมกํ การิตํ เหตุกตฺตุปทํ. เอตฺถ ปน ปริอว อิจฺจุปสคฺควเสน อกมฺมกภูตสฺส โสธาตุสฺส ลทฺธการิตปจฺจยตฺตา เอกกมฺมเมว สการิตปทํ ภวติ. อตฺตนา วิปฺปกตํ ปเรหิ ปริโยสาวาเปติ. อิทํ ทฺวิการิตํ เหตุกตฺตุปทํ. เอตฺถ จ ปน ปริ อว อิจฺจุปสคฺควเสน อกมฺมกภูตสฺส โสธาตุสฺส ลทฺธการิตปจฺจยทฺวยตฺตา ทฺวิกมฺมกํ สการิตปทํ ภวติ. ‘‘ปริโยสาวาเปตี’’ติ อิทมฺปิ ปริ อว ปุพฺพสฺมา โสธาตุมฺหา ณาเป ณาเป อิติ ปจฺจยทฺวยํ กตฺวา อวสทฺทสฺโสการฺจ กตฺวา ตโต ยการาคมฺจ อนุพนฺธณการโลปฺจ ปมปจฺจเย ปการสฺส วการฺจ ทฺวีสุ จ าเนสุ ปุพฺพสรโลปํ กตฺวา นิปฺผชฺชตีติ ทฏฺพฺพํ.
อิทานิ ตา ปาฬิโย อตฺถนฺตรวิฺาปนตฺถํ อาหจฺจเทสิตากาเรน เอกโต กถยาม – ‘‘อตฺตนา วิปฺปกตํ อตฺตนา ปริโยสาเปติ, อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺส. อตฺตนา วิปฺปกตํ ปเรหิ ปริโยสาวาเปติ, อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺสา’’ติ เอตฺถ ‘‘ภิกฺขู’’ติ เหตุกตฺตุปทํ อาเนตพฺพํ. อตฺตนา วิปฺปกตนฺติ เอตฺถ จ อตฺตนาติ วิปฺปกรณกฺริยาย กตฺตุการกวาจกํ กรณวจนํ. วิปฺปกตนฺติ กมฺมการกวาจกํ ¶ อุปโยควจนํ. อตฺตนา ปริโยสาเปตีติ เอตฺถ ปน อตฺตนาติ อพฺยยปทภูเตน สยํสทฺเทน สมานตฺถํ วิภตฺยนฺตปติรูปกํ อพฺยยปทํ, สยํสทฺทสทิสํ วา ตติยาวิภตฺยนฺตํ อพฺยยปทํ. ตถา หิ ‘‘อตฺตนา ปริโยสาเปตี’’ติ วุตฺตวจนสฺส ‘‘สยํ ปริโยสาเปตี’’ติ อตฺโถ ภวติ ‘‘อตฺตนา จ ปาณาติปาตี’’ติอาทีสุ วิย. ปเรหิ ปริโยสาวาเปตีติ เอตฺถ ปน ปเรหีติ กมฺมการกวาจกํ กรณวจนนฺติ คเหตพฺพํ, ‘‘สุนเขหิปิ ขาทาเปนฺตี’’ติ เอตฺถ ‘‘สุนเขหี’’ติ ปทํ วิย. เอตฺถ หิ ยถา ‘‘ราชาโน โจรํ สุนเข ขาทาเปนฺตี’’ติ อุปโยควเสน อตฺโถ ภวติ, ตถา ‘‘ภิกฺขุ อตฺตนา วิปฺปกตํ ปเร ชเน ปริโยสาวาเปตี’’ติ อุปโยควเสน อตฺโถ ภวติ. เอวํ อิมสฺมึ อจฺฉริยพฺภุตนยวิจิตฺเต ภควโต ปาวจเน ทฺวิการิตปจฺจยวนฺตมฺปิ ปทมตฺถีติ สารโต ปจฺเจตพฺพํ. อยํ นโย สุขุโม สาสเน อาทรํ กตฺวา อายสฺมนฺเตหิ สาธุกํ มนสิ กาตพฺโพ. ยสฺส หิ อตฺถาย อิทํ ปกรณํ กริมฺห, น อยํ อตฺตโน มติ, อถ โข ปุพฺพาจริยานํ สนฺติกา ลทฺธตฺตา เตสฺเว มตีติ ทฏฺพฺพํ.
อิทานิ อการิตทฺวิกมฺมิกปทานํ วจโนกาโส อนุปฺปตฺโต, ตสฺมา ตานิ กถยาม, ตานิ จ โข ธาตุวเสน เอวํ เวทิตพฺพานิ สวินิจฺฉยานิ. เสยฺยถิทํ?
ทุหิกรวหิปุจฺฉิ, ยาจิ ภิกฺขิ จ นิพฺรูติ;
ภณิวทิวจิภาสิ, สาสิทหินาถธาตุ.
รุธิ ชิ จิปภุตีติ, เย เต ทฺวิกมฺมกา ธีรา;
ปวทุมปิ วิยุตฺตา, การิตปฺปจฺจเยหิ จ.
อปาทานาทิเก ปุพฺพ-วิธิมฺหา สหิเม’พฺรวุํ;
อุปโยควจนสฺส, นิมิตฺตนฺติ สนนฺตนา.
เอเต ¶ ทุหาทโย ธาตู, ติกมฺมาปิ ภวนฺติ ตุ;
การิตปฺปจฺจเย ลทฺเธ, อิติ อาจริยา’พฺรวุํ.
ตตฺริมานิ อุทาหรณานิ – ควํ ปโย ทุหติ โคปาลโก. คาวึ ขีรํ ทุหติ โคปาลทารโก. ตตฺถ ปโยติ อุปโยควจนํ, ‘‘ยโส ลทฺธา น มชฺเชยฺยา’’ติ เอตฺถ ‘‘ยโส’’ติ ปทมิว. มโนคณิกสฺส หิ อีทิสมฺปิ อุปโยควจนํ โหติ อฺาทิสมฺปิ. อิสฺสโร โคปาลํ ควํ ปโย ทุหาเปติ. โคปาเลน คาโว ขีรํ ทุหิตา. โคหิ ปโย ทุหตีติ เอตฺถ อปาทานวิสยตฺตา ทฺวิกมฺมกภาโว นตฺถิ. ‘‘วิสาณโต ควํ ทุหํ, ยตฺถ ขีรํ น วินฺทตี’’ติ เอตฺถ ปน อปาทานวิสยตฺเตปิ ควาวยวภูตสฺส วิสาณสฺส วิสุํ คหิตตฺตา ‘‘ควํ ขีรํ ทุหนฺโต’’ติ ทฺวิกมฺมิกภาโว ลพฺภตีติ ทฏฺพฺพํ. ทุหิโน ปโยโคยํ.
กโรติสฺส ปโยเค กฏฺมงฺคารํ กโรติ, สุวณฺณํ กฏกํ กโรติ, สเจ เช สจฺจํ ภณสิ, อทาสึ ตํ กโรมิ. เอตฺถ จ องฺคารํ กโรตีติ ปริจฺจตฺตการณวเสน วุตฺตํ. กฏฺฺหิ องฺคารภาวสฺส การณํ, องฺคาเร กเต การณภูตสฺส กฏฺสฺส กฏฺภาโว วิคจฺฉติ. กฏกํ กโรตีติ อิทํ อปริจฺจตฺตการณวเสน วุตฺตํ. สุวณฺณฺหิ กฏกภาวสฺส การณํ, กฏเก กเตปิ การกภูตสฺส สุวณฺณสฺส สุวณฺณภาโว น วิคจฺฉติ, อถ โข วิเสสนฺตรุปฺปตฺติภาเวน สมฺปชฺชติ. อทาสึ ตํ กโรมีติ อิทํ ปน านนฺตรทานวเสน วุตฺตํ ‘‘อุปราชํ มหาราชํ กโรมี’’ติ เอตฺถ วิย. ตตฺถ ‘‘อิสฺสโร ปุริเสน ปุริสํ วา กฏฺมงฺคารํ กาเรติ. ตถา สุวณฺณํ กฏกํ กาเรตี’’ติ ติกมฺมิกปฺปโยโคปิ ทฏฺพฺโพ. ตถา ‘‘พฺรหฺมทตฺโต รชฺชํ กาเรตี’’ติ, ‘‘พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต’’ติ ทฺวิกมฺมกปฺปโยโค.
เอตฺเถเก ¶ วเทยฺยุํ ‘‘นนุ จ โภ เอตฺถ เอกเมว กมฺมํ ทิสฺสติ, เกนายํ ปโยโค ทฺวิกมฺมิกปฺปโยโค โหตี’’ติ. กิฺจาปิ เอกเมว ทิสฺสติ, ตถาปิ อตฺถโต ทฺเวเยว กมฺมานิ ทิสฺสนฺตีติ คเหตพฺพํ. ตถา หิ พฺรหฺมทตฺโต รชฺชํ กาเรตีติ เอตฺถ พฺรหฺมทตฺโต อตฺตโน ราชภาวํ มหาชเนน การยตีติ อตฺโถ. เอวํ ปน อตฺเถ คหิเต ‘‘รชฺชํ กาเรหิ ภทฺทนฺเต, กึ อรฺเ กริสฺสสี’’ติอาทีสุปิ ตฺวํ อตฺตโน ราชภาวํ อมฺเหหิ การาเปหิ, อตฺตานํ รชฺเช อภิสิฺจาเปหิ, มยํ ตํ รชฺเช อภิสิฺจิตุกามาติ อตฺโถ สมตฺถิโต ภวติ.
พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเตติ เอตฺถาปิ พฺรหฺมทตฺเต อตฺตโน ราชภาวํ มหาชเนน การยนฺเตติ อตฺโถ ภวติ. สาสนสฺมิฺหิ การิตวิสเย กรณวจนํ อุปโยคตฺถฺเว ทีเปติ, ตสฺมา อตฺถโต ทฺเวเยว กมฺมนิ ทิสฺสนฺตีติ วทาม. อยมตฺโถ อภิธมฺมฏีกายํ จกฺขุนฺทฺริยาทินิพฺพจนตฺถวิภาวนาย ทีเปตพฺโพ. ตถา หิ อภิธมฺมฏีกายํ อิทํ วุตฺตํ ‘‘จกฺขุทฺวาเร อินฺทตฺตํ กาเรตีติ จกฺขุทฺวารภาเว ตํทฺวาริเกหิ อตฺตโน อินฺทภาวํ ปรมิสฺสรภาวํ การยตีติ อตฺโถ. ตฺหิ เต รูปคฺคหเณ อตฺตานํ อนุวตฺเตติ, เต จ ตํ อนุวตฺตนฺตี’’ติ. ยทิ ปน กรธาตุ ทฺวิกมฺมโก, เอวํ สนฺเต ‘‘พฺรหฺมทตฺโต รชฺชํ กาเรตี’’ติอาทีสุ ลทฺธการิตปจฺจยตฺตา ‘‘กาเรตี’’ติอาทีหิ ปเทหิ ติกมฺมเกหิเยว ภวิตพฺพนฺติ? น, นิยมาภาวโต, ตาทิสสฺส จ ปโยคสฺส โวหารปเถ อนาคตตฺตา.
กฏฺํ ปุริเสน องฺคารํ กตํ. สุวณฺณํ กมฺมาเรน กฏกํ กตํ, ทาสี สามิเกน อทาสึ กตา, เอวมฺเปตฺถ ทฺวิกมฺมกปฺปโยคา เวทิตพฺพา. สุวณฺเณน กฏกํ กโรตีติ เอตฺถ ¶ หิ วิเสสนตฺเถ ปวตฺตกรณวิสยตฺตา ทฺวิกมฺมิกภาโว น ลพฺภตีติ ทฏฺพฺพํ. อยํ นโย อฺตฺราปิ อุปปริกฺขิตฺวา ยถาสมฺภวํ เนตพฺโพ. กโรติสฺส ปโยโคยํ.
วหิอาทีนํ ปโยเค ราชปุริสา รถํ คามํ วหนฺติ. อยํ ราชา มํ นามํ ปุจฺฉติ. ปราภวนฺตํ ปุริสํ, มยํ ปุจฺฉาม โคตมํ. อายสฺมา อุปาลิ อายสฺมตา มหากสฺสเปน วินยํ ปุฏฺโ. เทวทตฺโต ราชานํ กมฺพลํ ยาจติ. เต มํ อสฺเส อยาจิสุํ. ธนํ ตํ ตาต ยาจติ. พฺราหฺมโณ นาคํ มณึ ยาจติ. นาโค มณึ ยาจิโต พฺราหฺมเณน พฺรหฺมุนา อายาจิโต ธมฺมเทสนํ ภควา. ตาปโส กุลํ โภชนํ ภิกฺขติ. อชํ คามํ เนติ. อโช คามํ นีโต. มุตฺโต จมฺเปยฺยโก นาโค, ราชานํ เอตทพฺรวิ.
เอตฺถ ราชานนฺติ มุขฺยโต กมฺมํ วุตฺตํ. เอตนฺติ คุณโต. ตถา ราชานนฺติ อกถิตกมฺมํ วุตฺตํ. เอตนฺติ กถิตกมฺมํ. เอส นโย อฺตฺราปิ อุปปริกฺขิตฺวา ยถารหํ โยเชตพฺโพ. เอวเมว ‘‘พฺรูหิ ภควา’’ติอาทีสุ สมฺปทานวิสยตฺตา ทฺวิกมฺมกภาโว น ลพฺภติ. ภิกฺขุ มหาราชานํ ธมฺมํ ภณติ. ยํ มํ ภณสิ สารถิ. ยํ มํ วทติ. ภควนฺตํ เอตทโวจ. ปิตา ปุตฺตํ ภาสติ. ยํ มํ ตฺวํ อนุสาสสิ. สกฺยา โข ปน อมฺพฏฺ ราชานํ โอกฺกากํ ปิตามหํ ทหนฺติ. ภควา ภิกฺขู ตํ ตํ หิตปฏิปตฺตึ นาถติ. คาโว วชํ รุนฺธติ โคปาลโก. ธุตฺโต ธุตฺตชนํ ธนํ ชินาติ. เอตฺถ จ ‘‘กมนุตฺตรํ รตฺนวรํ ชินามา’’ติ ปุณฺณกชาตกปาฬิ นิทสฺสนํ. ตตฺถายมตฺโถ ‘‘มยํ ชนินฺทา กตรํ ราชานํ อนุตฺตรํ รตฺนวรํ ชินามา’’ติ. อิฏฺกาโย ปาการํ จิโนติ วฑฺฒกี. อฺานิปิ โยเชตพฺพานิ.
เอตฺถ ¶ เกจิ ปุจฺเฉยฺยุํ ‘‘คนฺธกุฏึ ปทกฺขิณํ กโรติ, พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิ. อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตู’ติ ปโยเคสุ กึ ทฺวิกมฺมกภาโว ลพฺภตี’’ติ? เอตฺถ วุจฺจเต – ‘‘คนฺธกุฏึ ปทกฺขิณํ กโรตี’’ติ เอตฺถ น ลพฺภติ คุณคุณีนํ วเสน คหิตตฺตา. ‘‘พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามี’’ติ เอตฺถาปิ น ลพฺภติ ‘‘สรณํ อิติ คจฺฉามี’’ติ อิติสทฺทโลปวเสน วุตฺตตฺตา. ตถา หิ พุทฺธนฺติ อุปโยควจนํ. สรณนฺติ ปจฺจตฺตวจนํ. ‘‘พุทฺธํ มม สรณํ ปรายณํ, อฆสฺส ตาตา หิตสฺส จ วิธาตา’’ติ อิมินา อธิปฺปาเยน ‘‘ภชามิ เสวามิ พุชฺฌามี’’ติ อตฺโถ. ‘‘อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตู’’ติ เอตฺถ ปน ทฺวิกมฺมกภาโว ลพฺภตีติ วตฺตพฺโพ ‘‘มํ อิโต ปฏฺาย อุปาสกํ ธาเรตู’’ติ อตฺถสมฺภวโต ‘‘สกฺยา โข ปน อมฺพฏฺ ราชานํ โอกฺกากํ ปิตามหํ ทหนฺตี’’ติ ทหธาตุปฺปโยเคน สมานตฺตา จ, อธิปฺปายตฺถโต ปน ‘‘มํ ‘อุปาสโก เม อย’นฺติ ธาเรตู’’ติ อตฺโถ สมฺภวตีติ ทฏฺพฺพํ. เอวํ อการิตานิ ทฺวิกมฺมิกธาตุรูปานิ วิภาวิตานิ.
อิจฺเจวมมฺเหหิ อาทิโต ปฏฺาย ภควโต สาสนตฺถํ ยถาสตฺติ ยถาพลํ ธาตุโย จ ตํรูปานิ จ ตทนุรูเปหิ นานาปเทหิ นานาอตฺเถหิ นานานเยหิ จ โยเชตฺวา วิภาวิตานิ, เอวํ วิภาเวนฺเตหิปิ อมฺเหหิ ตาสํ สรูปปริจฺเฉโท อตฺถปริจฺเฉโท วา น สกฺกา สพฺพโส วตฺตุํ. ตทุภยฺหิ โก สพฺพโส วตฺตุํ สกฺขิสฺสติ อฺตฺร อาคมาธิคมสมฺปนฺเนหิ ปภินฺนปฏิสมฺภิเทหิ มหาขีณาสเวหิ.
อตฺถาติสยยุตฺตาปิ, ธาตู โหนฺติ ยโต ตโต. ปโยคโตนุคนฺตพฺพา, อเนกตฺถา หิ ธาตโว.
เยเนกตฺถธรา ¶ จรนฺติ วิวิธา นาถสฺส ปาเ วเร,
เตเนกตฺถธราว โหนฺติ สหิตา นานูปสคฺเคหิเว;
ธาตูนํ ปน เตสมตฺถปรมํ ขีณาสเว ปณฺฑิเต,
วชฺเชตฺวา ปฏิสมฺภิทามติยุเต โก สพฺพโส ภณตีติ.
อิติ นวงฺเค สาฏฺกเถ ปิฏกตฺตเย พฺยปฺปถคตีสุ วิฺูนํ
โกสลฺลตฺถาย กเต สทฺทนีติปฺปกรเณ
สพฺพคณวินิจฺฉโย นาม เอกูนวีสติโม ปริจฺเฉโท
สห รูปวิภาวนาย ธาตุวิภาวนา นิฏฺิตา.
ธาตุมาลา นิฏฺิตา.