📜
๓. การกกณฺฑ
อถ ¶ วิภตฺตีนมตฺถเภทา วุจฺจนฺเต.
ตตฺถ เอกมฺปิ อตฺถํ กมฺมาทิวเสน, เอกตฺตาทิวเสน จ วิภชนฺตีติ วิภตฺติโย, สฺยาทโย. ตา ปน ปมาทิเภเทน สตฺตวิธา.
ตตฺถ กสฺมึ อตฺเถ ปมา?
ลิงฺคตฺถาภิธานมตฺเต ปมาวิภตฺติ โหติ.
ลิงฺคสฺส อตฺโถ ลิงฺคตฺโถ. เอตฺถ จ ลีนํ องฺคนฺติ ลิงฺคํ, อปากโฏ อวยโว, ปุริโสติอาทีนฺหิ ปกติปฺปจฺจยาทิวิภาคกปฺปนาย นิปฺผาทิตานํ สทฺทปฺปติรูปกานํ นามิกปทานํ ปมํ เปตพฺพํ ปกติรูปํ อปากฏตฺตา, อวยวตฺตา จ ลิงฺคนฺติ วุจฺจติ. อถ วา วิสทาวิสโทภยรหิตาการโวหารสงฺขาเตน ติวิธลิงฺเคน สหิตตฺถสฺส, ตพฺพินิมุตฺตสฺสุปสคฺคาทีนมตฺถสฺส จ ลีนสฺส คมนโต, ลิงฺคนโต วา ลิงฺคนฺติ อนฺวตฺถนามวเสน วา ‘‘ธาตุปฺปจฺจยวิภตฺติวชฺชิตมตฺถวํ ลิงฺค’’นฺติ วจนโต ปรสมฺาวเสน วา ลิงฺคนฺติ อิธ ปาฏิปทิกาปรนามเธยฺยํ สฺยาทิวิภตฺยนฺตปทปกติรูปเมว วุจฺจตีติ ทฏฺพฺพํ.
ลิงฺคสฺสตฺโถ นาม ปพนฺธวิเสสากาเรน ปวตฺตมาเน รูปาทโย อุปาทาย ปฺาปียมาโน ตทฺานฺภาเวน อนิพฺพจนีโย สมูหสนฺตานาทิเภโท อุปาทาปฺตฺติสงฺขาโต ฆฏปฏาทิโวหารตฺโถ จ ปถวีธาตุผสฺสาทีนํ สภาวธมฺมานํ ¶ กาลเทสาทิเภทภินฺนานํ วิชาติยวินิวตฺโต สชาติยสาธารโณ ยถาสงฺเกตมาโรปสิทฺโธ ตชฺชาปฺตฺติสงฺขาโต กกฺขฬตฺตผุสนาทิสามฺากาโร จ.
โส ปน กมฺมาทิสํสฏฺโ, สุทฺโธ จาติ ทุวิโธ. ตตฺถ กมฺมาทีสุ ทุติยาทีนํ วิธียมานตฺตา กมฺมาทิสํสคฺครหิโต ลิงฺคสงฺขฺยาปริมาณยุตฺโต, ตพฺพินิมุตฺตุปสคฺคาทิปทตฺถภูโต จ สุทฺโธ สทฺทตฺโถ อิธ ลิงฺคตฺโถ นาม.
โย ปน อาขฺยาตกิตกตทฺธิตสมาเสหิ วุตฺโต กมฺมาทิสํสฏฺโ อตฺโถ, โสปิ ทุติยาทีนํ ปุน อตฺตนา วตฺตพฺพสฺส อตฺถวิเสสสฺสาภาเวน อวิสยตฺตา, ลิงฺคตฺถมตฺตสฺส สมฺภวโต จ ปมาเยว วิสโย.
โหติ เจตฺถ –
ปมาวุปสคฺคตฺเถ, เกสฺจตฺเถ นิปาตสทฺทานํ;
ลิงฺคาทิเก จ สุทฺเธ-ภิหิเต กมฺมาทิอตฺเถปิ.
สลิงฺเค ตาว – เอโส ปุริโส, เอเต ปุริสา, เอสา กฺา, เอตา กฺาโย, เอตํ จิตฺตํ, เอตานิ จิตฺตานิ.
สสงฺขฺเย – เอโก ทฺเว.
สปริมาเณ – โทโณ ขารี อาฬฺหกํ.
ลิงฺคาทิวินิมุตฺเต สตฺตามตฺเต – จ วา ห อหํ อตฺถิ สกฺกาลพฺภา อิจฺจาทิ.
‘‘ลิงฺคตฺเถ ปมา’’ติ อธิกิจฺจ ‘‘อาลปเน จา’’ติ อาลปนตฺเถ จ ปมา, อภิมุขํ กตฺวา ลปนํ อาลปนํ, อามนฺตนํ อวฺหานนฺติ อตฺโถ.
เอตฺถ จ อามนฺตนํ นาม ปเคว ลทฺธสรูปสฺส สทฺเทน อภิมุขีกรณํ, กตาภิมุโข ปน ‘‘คจฺฉา’’ติอาทินา นเยน กฺริยาย ¶ โยชียติ, ตสฺมา อามนฺตนสมเย กฺริยาโยคาภาวโต อิทํ การกโวหารํ น ลภติ.
วุตฺตฺจ
‘‘สทฺเทนาภิมุขีกาโร, วิชฺชมานสฺส วตฺถุโน;
อามนฺตนํ วิธาตพฺเพ, นตฺถิ ‘ราชา ภเว’ติท’’นฺติ.
โภ ปุริส เอหิ, โภ ปุริสา วา, ภวนฺโต ปุริสา เอถ.
กสฺมึ อตฺเถ ทุติยา?
กมฺมตฺเถ ลิงฺคมฺหา ทุติยาวิภตฺติ โหติ.
อนภิหิเต เอวายํ, ‘‘กมฺมนิ ทุติยายํ ตฺโต’’ติ วจนฺเจตฺถ าปกํ.
กึ กมฺมํ?
‘‘เยน วา กยิรเต ตํ กรณ’’นฺติ อิโต ‘‘วา’’ติ วตฺตเต.
ยํ วา กโรติ, ยํ วา วิกโรติ, ยํ วา ปาปุณาติ, ตํ การกํ กมฺมสฺํ โหติ.
อิธ ลิงฺคกาลวจนมตนฺตํ. กรียตีติ กมฺมํ. ตตฺถ การกํ, สาธกํ กฺริยานิปฺผตฺติยา การณมุจฺจเต, ตํ ปน การกํ ฉพฺพิธํ กมฺมํ กตฺตา กรณํ สมฺปทานมปาทานโมกาโส จาติ. ตตฺถ สภาวโต, ปริกปฺปโต วา กมฺมาทิมฺหิ สติเยว กฺริยาภาวโต กมฺมาทีนํ ฉนฺนมฺปิ การกโวหาโร สิทฺโธว โหติ.
ตํ ¶ ปน กมฺมํ ติวิธํ นิพฺพตฺตนียํ วิกรณียํ ปาปณียฺจาติ. ยถา – มาตา ปุตฺตํ วิชายติ, อาหาโร สุขํ ชนยติ. ฆฏํ กโรติ เทวทตฺโต, กฏฺมงฺคารํ กโรติ, สุวณฺณํ เกยูรํ, กฏกํ วา กโรติ, วีหโย ลุนาติ. เทวทตฺโต นิเวสนํ ปวิสติ, อาทิจฺจํ ปสฺสติ, ธมฺมํ สุณาติ, ปณฺฑิเต ปยิรุปาสติ.
วุตฺตฺจ
‘‘นิพฺพตฺติวิกติปฺปตฺติ-เภเทน ติวิธํ มตํ;
กตฺตุ กฺริยาภิคมฺมํ ตํ, สุขงฺคารํ นิเวสน’’นฺติ.
เอตฺถ จ อิจฺฉิตานิจฺฉิตกถิตากถิตาทิเภทมนเปกฺขิตฺวา สพฺพสงฺคาหกวเสน ‘‘ยํ กโรติ ตํ กมฺม’’นฺติ วุตฺตตฺตา, อตฺถนฺตรวิกปฺปนวาธิการโต จ สพฺพตฺถ อิมินาว กมฺมสฺา โหติ.
ตตฺถ อนิจฺฉิตกมฺมํ ยถา – กณฺฏกํ มทฺทติ, วิสํ คิลติ, คามํ คจฺฉนฺโต รุกฺขมูลํ อุปคจฺฉติ.
อกถิตกมฺมํ ยถา – ยฺทตฺตํ กมฺพลํ ยาจเต พฺราหฺมโณ. เอตฺถ หิ ‘‘กมฺพล’’มิติ กถิตกมฺมํ ทฺวิกมฺมิกาย ยาจนกฺริยาย ปตฺตุมิจฺฉิตตรตฺตา. ‘‘ยฺทตฺต’’มิติ อปฺปธานตฺตา อกถิตกมฺมํ. ตถา สมิทฺธํ ธนํ ภิกฺขเต, อชํ คามํ นยติ, ปราภวนฺตํ ปุริสํ, มยํ ปุจฺฉาม โคตมํ, ภควา ภิกฺขู เอตทโวจ อิจฺจาทิ.
อภิหิตกมฺเม ปน น โหติ, ยถา – กโฏ กรียเต เทวทตฺเตน, สุคเตน เทสิโต ธมฺโม, ยฺทตฺโต กมฺพลํ ยาจียเต พฺราหฺมเณน อิจฺจาทิ.
‘‘ทุติยา’’ติ อธิกาโร.
๒๘๖. คติ ¶ พุทฺธิ ภุช ป หร กร สยาทีนํ การิเต วา.
คมุ สปฺป คติมฺหิ, พุธ โพธเน, พุธ อวคมเน วา, ภุช ปาลนพฺยวหรเณสุ, ป พฺยตฺติยํ วาจายํ, หร หรเณ, กร กรเณ, สิ สเย อิจฺเจวมาทีนํ ธาตูนํ ปโยเค การิเต สติ ปโยชฺชกกตฺตุภูเต กมฺมนิ ลิงฺคมฺหา ทุติยาวิภตฺติ โหติ วา. นิจฺจสมฺปตฺเต วิกปฺปตฺโถยํ, เตน ตสฺส ปกฺเข ตติยา โหติ.
โย โกจิ ปุริโส คามํ คจฺฉติ, ตมฺโ ปโยชยติ. ปุริโส ปุริสํ คามํ คมยติ, ปุริเสน วา คามํ คมยติ. เอวํ สิสฺสํ ธมฺมํ โพเธติ อาจริโย, มาตา ปุตฺตํ โภชนํ โภชยติ, สิสฺสํ ธมฺมํ ปาเติ อาจริโย, ปุริโส ปุริสํ ภารํ หาเรติ, ตถา ปุริโส ปุริสํ กมฺมํ การยติ, ปุริเสน วา กมฺมํ การาปยติ, ปุริโส ปุริสํ สยาปยติ. เอวํ สพฺพตฺถ การิเต กตฺตุกมฺมนิ ทุติยา.
การิเตติ กึ? ปุริโส คามํ คจฺฉติ.
อภิหิเต น ภวติ, ปุริเสน ปุริโส คามํ คมียเต, สิสฺโส ธมฺมํ โพธียเต อิจฺจาทิ.
อจฺจนฺตํ นิรนฺตรํ สํโยโคอจฺจนฺตสํโยโค. กาลทฺธานํ ทพฺพคุณกฺริยาหิ อจฺจนฺตสํโยเค เตหิ กาลทฺธานวาจีหิ ลิงฺเคหิ ทุติยาวิภตฺติ โหติ.
กาเล ตาว – สตฺตาหํ ควปานํ, มาสํ มํโสทนํ, สรทํ รมณียา นที, สพฺพกาลํ รมณียํ นนฺทนํ, มาสํ สชฺฌายติ, ตโย มาเส อภิธมฺมํ เทเสสิ.
อทฺธาเน ¶ – โยชนํ วนราชิ, โยชนํ ทีโฆ ปพฺพโต, โกสํ สชฺฌายติ.
อจฺจนฺตสํโยเคติ กึ? มาเส มาเส ภฺุชติ, โยชเน โยชเน วิหารํ ปติฏฺาเปสิ.
กมฺมปฺปวจนีเยหิ นิปาโตปสคฺเคหิ ยุตฺเต โยเค สติ ลิงฺคมฺหา ทุติยาวิภตฺติ โหติ.
กมฺมํ ปวจนียํ เยสํ เต กมฺมปฺปวจนียา, ปรสมฺาวเสน วา อนฺวาทโย กมฺมปฺปวจนียา.
ตตฺถ อนุสทฺทสฺส ลกฺขเณ, สหตฺเถ, หีเน จ กมฺมปฺปวจนียสฺา วุตฺตา. ยถา – ปพฺพชิตมนุ ปพฺพชึสุ, นทิมนฺววสิตา พาราณสี, นทิยา สห อวพทฺธาติ อตฺโถ, อนุ สาริปุตฺตํ ปฺวา.
ลกฺขณาทีสุ ‘‘ลกฺขณิ’ตฺถมฺภูตกฺขานภาค วิจฺฉาสุ ปติ ปริ อนโว’’ติ ปติ ปริ อนูนํ กมฺมปฺปวจนียสฺา วุตฺตา.
ลกฺขเณ สูริยุคฺคมนํ ปติ ทิพฺพา ภกฺขา ปาตุภเวยฺยุํ, รุกฺขํ ปติ วิชฺโชตเต จนฺโท, รุกฺขํ ปริ, รุกฺขํ อนุ.
อิตฺถมฺภูตกฺขาเน สาธุ เทวทตฺโต มาตรํ ปติ, มาตรํ ปริ, มาตรํ อนุ.
ภาเค ยเทตฺถ มํ ปติ สิยา, มํ ปริ, มํ อนุ, ตํ ทียตุ.
วิจฺฉาโยเค ¶ อตฺถมตฺถํ ปติ สทฺโท นิวิสติ, รุกฺขํ รุกฺขํ ปติ วิชฺโชตเต จนฺโท, รุกฺขํ รุกฺขํ ปริ, รุกฺขํ รุกฺขํ อนุ.
‘‘อภิรภาเค’’ติ อภิสฺส ภาควชฺชิเตสุ ลกฺขณาทีสุ กมฺมปฺปวจนียสฺา วุตฺตา. ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต, สาธุ เทวทตฺโต มาตรํ อภิ.
นิปาเต ธิ พฺราหฺมณสฺส หนฺตาร มิจฺเจวมาทิ.
๒๘๙. กฺวจิ ทุติยา ฉฏฺีนมตฺเถ.
ฉฏฺีนํ อตฺเถ กฺวจิ ทุติยาวิภตฺติ โหติ. อนฺตราอภิโต ปริโต ปติ ปฏิภาติโยเค อยํ. อนฺตรา จ ราชคหํ อนฺตรา จ นาฬนฺทํ อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺโน, ราชคหสฺส จ นาฬนฺทาย จ มชฺเฌติ อตฺโถ. อภิโต คามํ วสติ, ปริโต คามํ วสติ, นทึ เนรฺชรํ ปติ, เนรฺชราย นทิยา สมีเปติ อตฺโถ. ปฏิภนฺตุ ตํ จุนฺท โพชฺฌงฺคา, อุปมา มํ ปฏิภาติ, อุปมา มยฺหํ อุปฏฺหตีติ อตฺโถ.
‘‘กฺวจิ ทุติยา, อตฺเถ’’ติ จ วตฺตเต.
ตติยาสตฺตมีนมตฺเถ จ กฺวจิ ลิงฺคมฺหา ทุติยาวิภตฺติ โหติ.
ตติยตฺเถ สเจ มํ นาลปิสฺสติ, ตฺวฺจ มํ นาภิภาสสิ, วินา สทฺธมฺมํ กุโต สุขํ, อุปายมนฺตเรน น อตฺถสิทฺธิ.
สตฺตมิยตฺเถ ¶ – กาเล, อุปานฺวชฺฌาวสสฺส ปโยเค, อธิสิฏฺาวสานํ ปโยเค, ตปฺปานจาเร จ ทุติยา.
กาเล ตาว – ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา, เอกํ สมยํ ภควา. อิมํ รตฺตึ จตฺตาโร มหาราชาโน.
อุปาทิปุพฺพสฺส วสธาตุสฺส ปโยเค – คามํ อุปวสติ, คามํ อนุวสติ, วิหารํ อธิวสติ, คามํ อาวสติ, อคารํ อชฺฌาวสติ. ตถา ปถวึ อธิเสสฺสติ, คามํ อธิติฏฺติ, คามํ อชฺฌาวสติ.
ตปฺปานจาเรสุ – นทึ ปิวติ, คามํ จรติ อิจฺจาทิ.
กสฺมึ อตฺเถ ตติยา?
กรณการเก ตติยาวิภตฺติ โหติ.
กึ กรณํ?
เยน วา กตฺตา อุปกรณภูเตน วตฺถุนา กฺริยํ อพฺยวธาเนน กโรติ, เยน วา วิกโรติ, เยน วา ปาปุณาติ, ตํ การกํ กรณสฺํ โหติ.
กรียเต อเนนาติ กรณํ, เอตฺถ จ สติปิ สพฺพการกานํ กฺริยาสาธกตฺเต ‘‘เยน วา กยิรเต’’ติ วิเสเสตฺวา วจนํ กตฺตูปกรณภูเตสุ การเกสุ สาธกตมสฺเสว คหณตฺถํ.
วุตฺตฺจ ¶
‘‘ยสฺส สพฺพวิเสเสน, กฺริยาสํสิทฺธิเหตุตา;
สมฺภาวียติ ตํ วุตฺตํ, กรณํ นาม การก’’นฺติ.
ตํ ปน ทุวิธํ อชฺฌตฺติก พาหิรวเสน.
ยถา – หตฺเถน กมฺมํ กโรติ, จกฺขุนา รูปํ ปสฺสติ, มนสา ธมฺมํ วิฺาย. ทตฺเตน วีหโย ลุนาติ, อคฺคินา กุฏึ ฌาเปติ.
‘‘ตติยา’’ติ อธิกาโร.
กตฺตริ จ การเก ลิงฺคมฺหา ตติยาวิภตฺติ โหติ. จคฺคหเณน อิตฺถมฺภูตลกฺขเณ, กฺริยาปวคฺเค, ปุพฺพสทิสสมูนตฺถ กลห นิปุณ มิสฺสก สขิลตฺถาทิโยเค, กาลทฺธาเนสุ, ปจฺจตฺตกมฺมตฺถปฺจมิยตฺถาทีสุ จ ตติยา.
โก จ กตฺตา?
โย กฺริยํ อตฺตปฺปธาโน หุตฺวา กโรติ, โส กตฺตุสฺโ โหติ.
โส ติวิโธ สุทฺธกตฺตา เหตุกตฺตา กมฺมกตฺตาติ. ตตฺถ โย สยเมว กฺริยํ กโรติ, โส สุทฺธกตฺตา. โย อฺํ กาตุํ สมตฺถํ อกโรนฺตํ กมฺมํ นิโยเชติ, โส เหตุกตฺตา, ยถา – คนฺตุํ สมตฺโถ เทวทตฺโต, ตมฺโ ปโยเชติ ‘‘คมยติ เทวทตฺต’’นฺติ.
ยํ ปน ตตฺถ ตตฺถ คจฺฉติ เทวทตฺโต, ตมฺโ ปโยชยติ ‘‘คมยติ เทวทตฺต’’นฺติ เหตฺวตฺถนิทสฺสนํ, ตมฺปิ สามตฺถิยทสฺสนวเสน ¶ วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ. อฺถา ยทิ สยเมว คจฺฉติ, กึ ตตฺถ ปโยชกพฺยาปาเรน อกโรนฺตํ พเลน การยติ, ปาสาณํ อุฏฺาปยตีติอาทิกฺจ น สิชฺเฌยฺย.
เอตฺถ ปน
‘‘กตฺตา’’ติ วตฺตเต.
โย กตฺตารํ กาเรติ, โส เหตุสฺโ โหติ, กตฺตา จาติ เหตุกตฺตุสฺา.
โย ปน ปรสฺส กฺริยํ ปฏิจฺจ กมฺมภูโตปิ สุกรตฺตา สยเมว สิชฺฌนฺโต วิย โหติ, โส กมฺมกตฺตา นาม, ยถา – สยํ กรียเต กโฏ, สยเมว ปจฺจเต โอทโนติ.
วุตฺตฺจ
‘‘อตฺตปฺปธาโน กิริยํ, โย นิพฺพตฺเตติ การโก;
อปฺปยุตฺโต ปยุตฺโต วา, ส กตฺตาติ ปวุจฺจติ.
เหตุกตฺตาติ กถิโต,
กตฺตุโน โย ปโยชโก;
กมฺมกตฺตาติ สุกโร,
กมฺมภูโต กถียเต’’ติ.
นนุ จ ‘‘สํโยโค ชายเต’’ติอาทีสุ กถํ ปุเร อสโต ชนนกฺริยาย กตฺตุภาโวสิยาติ? วุจฺจเต – โลกสงฺเกตสิทฺโธ หิ สทฺทปฺปโยโค, อวิชฺชมานมฺปิ หิ โลโก สทฺทาภิเธยฺยตาย วิชฺชมานํ วิย คเหตฺวา โวหรติ ¶ , วิกปฺปพุทฺธิคหิตากาโรเยว หิ สทฺเทนาภิธียเต, น ตุ วตฺถุสภาโว, อฺถา สุตมยาเณนปิ ปจฺจกฺเขน วิย วตฺถุสภาวสจฺฉิกรณปฺปสงฺโค จ มุสาวาท กุทิฏฺิวาทาทีนมภาวปฺปสงฺโค จ สิยา, ตสฺมา พุทฺธิปริกปฺปิตปฺตฺติวเสนปิ สทฺทปฺปวตฺติ โหตีติ อสโต สํโยคาทิสฺสปิ โหเตว ชนนกฺริยาย กตฺตุการกตาติ.
ยถาห
‘‘โวหารวิสโย สทฺโท, เนกนฺตปรมตฺถิโก;
พุทฺธิสงฺกปฺปิโต อตฺโถ, ตสฺสตฺโถติ ปวุจฺจติ.
พุทฺธิยา คหิตตฺตา หิ, สํโยโค ชายเต อิติ;
สํโยโค วิชฺชมาโนว, กตฺตา ภวติ ชาติยา’’ติ.
ตตฺร ตติยา ชิเนน เทสิโต ธมฺโม, พุทฺเธน ชิโต มาโร, อหินา ทฏฺโ นโร, พุทฺเธน โพธิโต โลโก, สทฺเธหิ การิโต วิหาโร.
อภิหิเต น ภวติ. กฏํ กโรติ เทวทตฺโต, กาเรติ วา.
อิตฺถมฺภูตสฺส ลกฺขเณ – สา ภินฺเนน สีเสน ปคฺฆรนฺเตน โลหิเตน ปฏิวิสฺสกานํ อุชฺฌาเปสิ, อูนปฺจพนฺธเนน ปตฺเตน อฺํ นวํ ปตฺตํ เจตาเปยฺย, ติทณฺฑเกน ปริพฺพาชกมทฺทกฺขิ.
อปวคฺเค – เอกาเหเนว พาราณสึ ปายาสิ, นวหิ มาเสหิ วิหารํ นิฏฺาเปสิ, โยชเนน อธีตํ พฺยากรณํ, กฺริยาปวคฺโคติ กฺริยาย อาสุํ ปรินิฏฺาปนํ.
ปุพฺพาทิโยเค ¶ – มาเสน ปุพฺโพ, ปิตรา สทิโส, มาตรา สโม, กหาปเณน อูโน, ธเนน วิกโล, อสินา กลโห, อาจาเรน นิปุโณ, วาจาย นิปุโณ, คุเฬน มิสฺสกํ, ติเลน มิสฺสกํ, วาจาย สขิโล, มณินา อตฺโถ, ธเนน อตฺโถ, ปิตรา ตุลฺโย.
กาลทฺธาเนสุ – มาเสน ภฺุชติ, โยชเนน คจฺฉติ.
ปจฺจตฺเต – อตฺตนาว อตฺตานํ สมฺมนฺนติ.
กมฺมตฺเถ – ติเลหิ เขตฺเต วปติ.
ปฺจมิยตฺเถ – สุมุตฺตา มยํ เตน มหาสมเณน.
สห สทฺธึ สมํ นานา วินา อลํ กิมิจฺเจวมาทีหิ โยเค ลิงฺคมฺหา ตติยาวิภตฺติ โหติ, จสทฺเทน สหตฺเถปิ.
ตตฺถ สหสทฺเทน โยโค กฺริยา คุณ ทพฺพ สมวาเย สมฺภวติ. ยถา – วิตกฺเกน สห วตฺตติ, ปุตฺเตน สห ถูโล, อนฺเตวาสิกสทฺธิวิหาริเกหิ สห อาจริยุปชฺฌายานํ ลาโภ, นิสีทิ ภควา สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน, สหสฺเสน สมํ มิตา, สพฺเพหิ เม ปิเยหิ มนาเปหิ นานาภาโว วินาภาโว, สงฺโฆ วินาปิ คคฺเคน อุโปสถํ กเรยฺย, อลํ เต อิธ วาเสน, กึ เม เอเกน ติณฺเณน, ปุริเสน ถามทสฺสินา, กึ เต ชฏาหิ ทุมฺเมธ, กึ เต อชินสาฏิยา.
สหตฺเถ ¶ – เทวทตฺโต ราชคหํ ปาวิสิ โกกาลิเกน ปจฺฉาสมเณน, ทุกฺโข พาเลหิ สํวาโส.
โยคคฺคหณมิหานุวตฺตเต, เหตฺวตฺเถ, เหตฺวตฺถปฺปโยเค จ ลิงฺคมฺหา ตติยาวิภตฺติ โหติ.
กิสฺมิฺจิ ผเล ทิฏฺสามตฺถิยํ การณํ เหตุ, โสเยว อตฺโถ, ตสฺมึ เหตฺวตฺเถ, อนฺเนน วสติ, ธมฺเมน วสติ, วิชฺชาย วสติ.
น ชจฺจาวสโล โหติ,
น ชจฺจา โหติ พฺราหฺมโณ;
กมฺมุนา วสโล โหติ,
กมฺมุนา โหติ พฺราหฺมโณ.
ทาเนน โภควา, อาจาเรน กุลี.
เกน ปาณิ กามทโท, เกน ปาณิ มธุสฺสโว;
เกน เต พฺรหฺมจริเยน, ปฺุํ ปาณิมฺหิ อิชฺฌติ.
เหตฺวตฺถปฺปโยเค – เกน นิมิตฺเตน, เกน ปโยชเนน, เกนฏฺเน, เกน เหตุนา วสติ.
สตฺตมฺยตฺเถ จ ลิงฺคมฺหา ตติยาวิภตฺติ โหติ.
กาลทฺธานทิสาเทสาทีสุ จายํ. เตน สมเยน, เตน กาเลน, กาเลน ธมฺมสฺสวณํ, โส โว มมจฺจเยน สตฺถา, มาเสน ภฺุชติ, โยชเนน ธาวติ. ปุรตฺถิเมน ธตรฏฺโ, ทกฺขิเณน วิรูฬฺหโก, ปจฺฉิเมน วิรูปกฺโข, อุตฺตเรน ¶ กสิวนฺโต ชโนฆมปเรน จ, เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ อิจฺจาทิ.
เยน พฺยาธิมตา องฺเคน องฺคิโน วิกาโร ลกฺขียเต, ตตฺถ ตติยาวิภตฺติ โหติ. เอตฺถ จ องฺคมสฺส อตฺถีติ องฺคํ, สรีรํ. อกฺขินา กาโณ, หตฺเถน กุณี, ปาเทน ขฺโช, ปิฏฺิยา ขุชฺโช.
วิเสสียติ วิเสสิตพฺพํ อเนนาติ วิเสสนํ, โคตฺตาทิ. ตสฺมึ โคตฺตนามชาติสิปฺปวโยคุณสงฺขาเต วิเสสนตฺเถ ตติยาวิภตฺติ โหติ, จสทฺเทน ปกติอาทีหิ จ. โคตฺเตน โคตโม นาโถ.
สาริปุตฺโตติ นาเมน, วิสฺสุโต ปฺวา จ โส;
ชาติยา ขตฺติโย พุทฺโธ, โลเก อปฺปฏิปุคฺคโล.
ตทหุ ปพฺพชิโต สนฺโต, ชาติยา สตฺตวสฺสิโก;
โสปิ มํ อนุสาเสยฺย, สมฺปฏิจฺฉามิ มตฺถเก.
สิปฺเปน นฬกาโร โส, เอกูนตึโส วยสา, วิชฺชาย สาธุ, ปฺาย สาธุ, ตปสา อุตฺตโม, สุวณฺเณน อภิรูโป.
ปกติอาทีสุ – ปกติยา อภิรูโป, เยภุยฺเยน มตฺติกา, สเมน ธาวติ, วิสเมน ธาวติ, ทฺวิโทเณน ธฺํ กิณาติ, สหสฺเสน อสฺสเก กิณาติ อิจฺจาทิ.
กสฺมึ อตฺเถ จตุตฺถี?
๓๐๑. สมฺปทาเน ¶ จตุตฺถี.
สมฺปทานการเก ลิงฺคมฺหา จตุตฺถีวิภตฺติ โหติ.
กิฺจ สมฺปทานํ?
๓๐๒. ยสฺส ทาตุกาโม โรจเต ธารยเต วา ตํ สมฺปทานํ.
ยสฺส วา ทาตุกาโม, ยสฺส วา โรจเต, ยสฺส วา ธารยเต, ตํ การกํ สมฺปทานสฺํ โหติ. สมฺมา ปทียเต อสฺสาติ สมฺปทานํ, ปฏิคฺคาหโก.
ตํ ปน ติวิธํ ทิยฺยมานสฺสานิวารณชฺเฌสนานุมติวเสน. ยถา – พุทฺธสฺส ปุปฺผํ ยชติ, โพธิรุกฺขสฺส ชลํ ททาติ. อชฺเฌสเน – ยาจกานํ ธนํ ททาติ. อนุมติยํ – ภิกฺขูนํ ทานํ เทติ.
ยถาห
‘‘อนิรากรณาราธ-นาพฺภนฺุวเสน หิ;
สมฺปทานํ ติธา วุตฺตํ, รุกฺข ยาจก ภิกฺขโว’’ติ.
ทาตุกาโมติ กึ? รฺโ ทณฺฑํ ททาติ.
โรจนาทีสุ ปน – สมณสฺส โรจเต สจฺจํ, มายสฺมนฺตานมฺปิ สงฺฆเภโท รุจฺจิตฺถ, ยสฺสายสฺมโต ขมติ, เทวทตฺตสฺส สุวณฺณจฺฉตฺตํ ธารยเต ยฺทตฺโต.
‘‘สมฺปทานํ, วา’’ติ จ วตฺตเต.
๓๐๓. สิลาฆ หนุ า สป ธาร ปิห กุธ ทุหิ สฺสาสูย ราธิกฺข ปจฺจาสุณ อนุปติคิณปุพฺพกตฺตาโรจนตฺถตทตฺถ ตุมตฺถาลมตฺถ มฺานาทรปฺปาณินิ คตฺยตฺถกมฺมนิ อาสิสตฺถ สมฺมุติ ภิยฺยสตฺตมฺยตฺเถสุ จ.
จตุปฺปทมิทํ ¶ . สิลาฆ กตฺถเน, หนุ อปนยเน, า คตินิวตฺติมฺหิ, สป อกฺโกเส, ธร ธารเณ, ปิห อิจฺฉายํ อิจฺเจเตสํ ธาตูนํ ปโยเค, กุธ โกเป, ทุห ชิฆํสายํ, อิสฺส อิสฺสายํ, อุสูย โทสาวิกรเณ อิจฺเจเตสํ ตทตฺถวาจีนฺจ ธาตูนํ ปโยเค จ ราธ หึสาสํราเธสุ, อิกฺข ทสฺสนงฺเกสูติ อิเมสํ ปโยเค จ ปติ อาปุพฺพสฺส สุ สวเณติ อิมสฺส จ อนุปติปุพฺพสฺส เคสทฺเทติ อิมสฺส จ ปุพฺพกตฺตา จ อาโรจนตฺถปฺปโยเค, ตทตฺเถ, ตุมตฺเถ, อลมตฺถปฺปโยเค จ มฺติปฺปโยเค อนาทเร อปฺปาณินิ จ คตฺยตฺถานํ กมฺมนิ จ อาสิสตฺถปฺปโยเค จ สมฺมุติ ภิยฺยปฺปโยเคสุ จ สตฺตมฺยตฺเถ จาติ ตํ กมฺมาทิการกํ สมฺปทานสฺํ โหติ, จสทฺทคฺคหเณน ปหิณติกปฺปติ ปโหติ อุปมาฺชลิกรณ ผาสุ อตฺถเสยฺยปฺปภุติโยเค จ ปุเร วิย จตุตฺถี.
สิลาฆาทิปฺปโยเค ตาว – พุทฺธสฺส สิลาฆเต. อุปชฺฌายสฺส สิลาฆเต, โถเมตีติ อตฺโถ.
หนุเต มยฺหเมว, หนุเต ตุยฺหเมว, อปลปตีติ อตฺโถ.
อุปติฏฺเยฺย สกฺยปุตฺตานํ วฑฺฒกี, เอตฺถ จ อุปฏฺานํ นาม อุปคมนํ. ภิกฺขุสฺส ภฺุชมานสฺส ปานีเยน วา วิธูปเนน วา อุปติฏฺเยฺย.
ตุยฺหํ สปเต, มยฺหํ สปเต, เอตฺถ จ สปนํ นาม สจฺจกรณํ.
ธารยติปฺปโยเค ธนิโกเยว สมฺปทานํ, สุวณฺณํ เต ธารยเต, อิณํ ธารยตีติ อตฺโถ. ตสฺส รฺโ มยํ นาคํ ธารยาม.
ปิหปฺปโยเค ¶ อิจฺฉิโตเยว, เทวาปิ ตสฺส ปิหยนฺติ ตาทิโน, เทวาปิ เตสํ ปิหยนฺติ, สมฺพุทฺธานํ สตีมตํ, ปตฺเถนฺตีติ อตฺโถ.
โกธาทิอตฺถานํ ปโยเค ยํ ปติ โกโป, ตสฺส กุชฺฌ มหาวีร, ยทิหํ ตสฺส กุปฺเปยฺยํ.
ทุหยติ ทิสานํ เมโฆ, โย มิตฺตานํ น ทุพฺภติ.
ติตฺถิยา อิสฺสนฺติ สมณานํ.
ทุชฺชนา คุณวนฺตานํ อุสูยนฺติ, กา อุสูยา วิชานตํ.
ราธิกฺขปฺปโยเค ยสฺส วิปุจฺฉนํ กมฺมวิขฺยาปนตฺถํ, วาธิการโต ทุติยา จ. อาราโธ เม รฺโ, รฺโ อปรชฺฌติ, ราชานํ วา อปรชฺฌติ, กฺยาหํ อยฺยานํ อปรชฺฌามิ, กฺยาหํ อยฺเย อปรชฺฌามิ วา.
อายสฺมโต อุปาลิตฺเถรสฺส อุปสมฺปทาเปกฺโข อุปติสฺโส, อายสฺมนฺตํ วา.
ปจฺจาสุณ อนุปติคิณานํ ปุพฺพกตฺตา จ สุโณติสฺส ธาตุสฺส ปจฺจาโยเค, คิณสฺส จ อนุปติโยเค ปุพฺพสฺส กมฺมุโน โย กตฺตา, โส สมฺปทานสฺโ โหติ. ยถา – ภควา ภิกฺขู เอตทโวจ, เอตฺถ ‘‘ภิกฺขู’’ติ อกถิตกมฺมํ, ‘‘เอต’’นฺติ กถิตกมฺมํ, ปุพฺพสฺส วจนกมฺมสฺส กตฺตา ภควา. ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ, อาสุณนฺติ พุทฺธสฺส ภิกฺขู, ตถา ภิกฺขุ ชนํ ธมฺมํ สาเวติ, ตสฺส ภิกฺขุโน ชโน อนุคิณาติ, ตสฺส ภิกฺขุโน ชโน ปติคิณาติ, สาธุการทานาทินา ตํ อุสฺสาหยตีติ อตฺโถ.
โย วเทติ ส กตฺตาติ, วุตฺตํ กมฺมนฺติ วุจฺจติ;
โย ปฏิคฺคาหโก ตสฺส, สมฺปทานํ วิชานิยาติ.
อาโรจนตฺถปฺปโยเค ¶ ยสฺส อาโรเจติ, ตํ สมฺปทานํ. อาโรจยามิ โว ภิกฺขเว, ปฏิเวทยามิ โว ภิกฺขเว, อามนฺตยามิ เต มหาราช, อามนฺต โข ตํ คจฺฉามาติ วา. เอตฺถ จ อาโรจนสทฺทสฺส กถนปฺปการตฺถตฺตา เทสนตฺถาทิปฺปโยเคปิ จตุตฺถี. ธมฺมํ โว เทเสสฺสามิ, เทเสตุ ภนฺเต ภควา ธมฺมํ ภิกฺขูนํ, ยถา โน ภควา พฺยากเรยฺย, นิรุตฺตึ เต ปวกฺขามิ อิจฺจาทิ.
ตทตฺเถ สมฺปทานสฺา, จตุตฺถี จ.
‘‘อโต, วา’’ติ จ วตฺตเต.
อการนฺตโต ลิงฺคมฺหา ปรสฺส จตุตฺเถกวจนสฺส อายาเทโส โหติ วา, สรโลปาทิ.
พุทฺธสฺสตฺถาย ธมฺมสฺสตฺถาย สงฺฆสฺสตฺถาย ชีวิตํ ปริจฺจชามิ, ปิณฺฑปาตํ ปฏิเสวามิ เนว ทวาย น มทาย น มณฺฑนาย น วิภูสนาย, อูนสฺส ปาริปูริยา, อตฺถาย หิตาย สุขาย สํวตฺตติ.
ตุมตฺเถ – โลกานุกมฺปาย, โลกมนุกมฺปิตุนฺติ อตฺโถ. ตถา ผาสุวิหาราย.
อลํสทฺทสฺส อตฺถา อรหปฏิกฺเขปา. อรหตฺเถ – อลํ เม รชฺชํ, อลํ ภิกฺขุ ปตฺตสฺส, อกฺขธุตฺโต ปุริสปุคฺคโล นาลํ ทารภรณาย, อลํ มลฺโล มลฺลสฺส, อรหติ มลฺโล มลฺลสฺส.
ปฏิกฺเขเป ¶ – อลํ เต อิธ วาเสน, อลํ เม หิรฺสุวณฺเณน, กึ เม เอเกน ติณฺเณน, กึ เต ชฏาหิ ทุมฺเมธ, กึ เตตฺถ จตุมฏฺสฺส.
มฺติปฺปโยเค อนาทเร อปฺปาณินิ กมฺมนิเยว – กฏฺสฺส ตุวํ มฺเ, กฬิงฺครสฺส ตุวํ มฺเ, ชีวิตํ ติณายปิ น มฺมาโน.
อนาทเรติ กึ? สุวณฺณํ ตํ มฺเ. อปฺปาณินีติ กึ? คทฺรภํ ตุวํ มฺเ.
คตฺยตฺถกมฺมนิ วาธิการโต ทุติยา จ. อปฺโป สคฺคาย คจฺฉติ, อปฺโป สคฺคํ คจฺฉติ, นิพฺพานาย วชนฺติยา, มูลาย ปฏิกสฺเสยฺย, มูลํ ปฏิกสฺเสยฺย.
อาสีสนตฺเถ อายุภทฺทกุสลาทิโยเคเยว, อายสฺมโต ทีฆายุ โหตุ, ‘‘โตติตา สสฺมึนาสู’’ติ นฺตุสฺส สวิภตฺติสฺส โต อาเทโส. ภทฺทํ ภวโต โหตุ, กุสลํ ภวโต โหตุ, อนามยํ ภวโต โหตุ, สุขํ ภวโต โหตุ, อตฺถํ ภวโต โหตุ, หิตํ ภวโต โหตุ, สฺวาคตํ ภวโต โหตุ, โสตฺถิ โหตุ สพฺพสตฺตานํ.
สมฺมุติปฺปโยเค – สาธุ สมฺมุติ เม ตสฺส ภควโต ทสฺสนาย.
ภิยฺยปฺปโยเค ภิยฺโยโส มตฺตาย.
สตฺตมิยตฺเถ อาวิกรณ ปาตุภวนาทิโยเค – ตุยฺหฺจสฺส อาวิกโรมิ, ตสฺส เม สกฺโก ปาตุรโหสิ.
จสทฺทคฺคหเณน ¶ ปหิณาทิกฺริยาโยเค, ผาสุอาทินามปโยเค จ – ตสฺส ปหิเณยฺย, ภิกฺขูนํ ทูตํ ปาเหสิ, กปฺปติ สมณานํ อาโยโค, เอกสฺส ทินฺนํ ทฺวินฺนํ ติณฺณํ ปโหติ, อุปมํ เต กริสฺสามิ, อฺชลึ เต ปคฺคณฺหามิ. ตถา ตสฺส ผาสุ โหติ, โลกสฺสตฺโถ, มณินา เม อตฺโถ, เสยฺโย เม อตฺโถ อิจฺจาทิ.
‘‘จตุตฺถี’’ติ วตฺตเต.
นโมสทฺทโยเค, โสตฺถิสฺวาคตาทีหิ จ โยเค ลิงฺคมฺหา จตุตฺถีวิภตฺติ โหติ. นโม เต พุทฺธ วีรตฺถุ, นโม กโรหิ นาคสฺส, นมตฺถุ พุทฺธานํ, นมตฺถุ โพธิยา, โสตฺถิ ปชานํ, สฺวาคตํ เต มหาราช, อโถ เต อทุราคตํ.
‘‘กาเล, ภวิสฺสตี’’ติ จ วตฺตเต.
ภาววาจิมฺหิ จตุตฺถีวิภตฺติ โหติ ภวิสฺสติกาเล. ภวนํ ภาโว. ปจฺจิสฺสเต, ปจนํ วา ปาโก, ปากาย วชติ, ปจิตุํ คจฺฉตีติ อตฺโถ. เอวํ โภคาย วชติ อิจฺจาทิ.
กสฺมึ อตฺเถ ปฺจมี?
กิมปาทานํ?
๓๐๘. ยสฺมาทเปติ ¶ ภยมาทตฺเต วา ตทปาทานํ.
ยสฺมา วา อวธิโต อเปติ, ยสฺมา วา ภยเหตุโต ภยํ ภวติ, ยสฺมา วา อกฺขาตารา วิชฺชํ อาททาติ, ตํ การกํ อปาทานสฺํ โหติ. อปเนตฺวา อิโต อาททาตีติ อปาทานํ.
ตํ ปน ติวิธํ วิสยเภเทน นิทฺทิฏฺวิสยํ, อุปาตฺตวิสยํ, อนุเมยฺยวิสยฺจาติ.
อปาทานสฺาวิสยสฺส กฺริยาวิเสสสฺส นิทฺทิฏฺตฺตา นิทฺทิฏฺวิสยํ. ยถา – คามา อเปนฺติ มุนโย, นครา นิคฺคโต ราชา.
เอตฺถ จ ‘‘ปาปา จิตฺตํ นิวารเย, ปาปา นิวาเรนฺตี’’ติอาทีสุ ยทิปิ กายสํโยคปุพฺพกาปคมนํ นตฺถิ, ตถาปิ จิตฺตสํโยคปุพฺพกสฺส อปคมนสฺส สมฺภวโต อิมินา จ อปาทานสฺา.
ยตฺถ ปน อปคมนกฺริยํ อุปาตฺตํ อชฺฌาหฏํ วิสยํ กตฺวา ปวตฺตติ, ตํ อุปาตฺตวิสยํ. ยถา – วลาหกา วิชฺโชตเต วิชฺชุ, กุสูลโต ปจตีติ. เอตฺถ จ ‘‘วลาหกา นิกฺขมฺม, กุสูลโต อปเนตฺวา’’ติ จ ปุพฺพกฺริยา อชฺฌาหรียติ.
อนุเมยฺยวิสยํ ยถา – มาถุรา ปาฏลิปุตฺตเกหิ อภิรูปา. เอตฺถ หิ เกนจิ คุเณน อุกฺกํสียนฺตีติ อนุเมยฺโยว กฺริยาวิเสโส. อิธ ปน ทูรนฺติกาทิสุตฺเต วิภตฺตคฺคหเณน อปาทานสฺา.
วุตฺตฺจ
‘‘นิทฺทิฏฺวิสยํ กิฺจิ, อุปาตฺตวิสยํ ตถา;
อนุเมยฺยวิสยฺจาติ, อปาทานํ ติธา มต’’นฺติ.
ตเทว ¶ จลาจลวเสน ทุวิธมฺปิ โหติ.
จลํ ยถา – ธาวตา หตฺถิมฺหา ปติโต องฺกุสธารี.
อจลํ ยถา – ปพฺพตา โอตรนฺติ วนจรา.
ภยเหตุมฺหิ – โจรา ภยํ ชายติ, ตณฺหาย ชายตี ภยํ, ปาปโต อุตฺตสติ, อกฺขาตริ – อุปชฺฌายา สิกฺขํ คณฺหาติ, อาจริยมฺหา อธีเต, อาจริยโต สุณาติ.
‘‘อปาทาน’’นฺติ อธิกาโร.
๓๐๙. ธาตุนามานมุปสคฺคโยคาทีสฺวปิ จ.
ธาตโว จ นามานิ จ ธาตุนามานิ, เตสํ อวิหิตลกฺขณานํ ธาตุนามานํ ปโยเค, อุปสคฺคโยเค จ อาทิสทฺเทน นิปาตโยเค จ ตํยุตฺตํ การกํ อปาทานสฺํ โหติ.
ธาตุปฺปโยเค ตาว – ปราชิโยเค โย อสยฺโห, ปภูโยเค ปภโว, ชนิโยเค ชายมานสฺส ปกติ จ. ยถา – พุทฺธสฺมา ปราเชนฺติ อฺติตฺถิยา. หิมวตา ปภวนฺติ ปฺจ มหานทิโย, อนวตตฺตมฺหา มหาสรา ปภวนฺติ, อจิรวติยา ปภวนฺติ กุนฺนทิโย. กามโต ชายตี โสโก, ยสฺมา โส ชายเต คินิ, อุรสฺมา ชาโต ปุตฺโต, กมฺมโต ชาตํ อินฺทฺริยํ.
นามปฺปโยเค อฺตฺถิตราทีหิ ยุตฺเต – นาฺตฺร ทุกฺขา สมฺโภติ, นาฺํ ทุกฺขา นิรุชฺฌติ, ตโต อฺเน กมฺเมน, ตโต อิตรํ, อุภโต สุชาโต ปุตฺโต อิจฺจาทิ.
อุปสคฺคยุตฺเตสุ ¶ อปปรีหิ วชฺชนตฺเถหิ โยเค, มริยาทาภิวิธิอตฺเถ อาโยเค ปตินา ปตินิธิปติทานตฺเถน โยเค จ. ยถา – อปสาลาย อายนฺติ วาณิชา, สาลํ วชฺเชตฺวาติ อตฺโถ. ตถา ปริปพฺพตา เทโว วสฺสติ, ปพฺพตํ วชฺเชตฺวาติ อตฺโถ. มริยาทายํ – อาปพฺพตา เขตฺตํ. อภิวิธิมฺหิ – อาพฺรหฺมโลกา สทฺโท อพฺภุคฺคจฺฉติ, พฺรหฺมโลกํ อภิพฺยาเปตฺวาติ อตฺโถ. ปตินิธิมฺหิ – พุทฺธสฺมา ปติ สาริปุตฺโต ธมฺมเทสนาย อาลปติ เตมาสํ. ปติทาเน – ฆตมสฺส เตลสฺมา ปติ ททาติ, กนกมสฺส หิรฺสฺมา ปติ ททาติ.
นิปาตยุตฺเตสุ ริเต นานา วินาทีหิ โยเค – ริเต สทฺธมฺมา กุโต สุขํ ลภติ. เต ภิกฺขู นานากุลา ปพฺพชิตา. วินา สทฺธมฺมา นตฺถฺโ โกจิ นาโถ โลเก วิชฺชติ. อริเยหิ ปุถเควายํ ชโน, ยาว พฺรหฺมโลกา สทฺโท อพฺภุคฺคจฺฉติ.
อปิคฺคหเณน กมฺมาปาทานการกมชฺเฌปิ ปฺจมี กาลทฺธาเนหิ, ปกฺขสฺมา วิชฺฌติ มิคํ ลุทฺทโก, อิโต ปกฺขสฺมา มิคํ วิชฺฌตีติ วุตฺตํ โหติ. เอวํ มาสสฺมา ภฺุชติ โภชนํ, โกสา วิชฺฌติ กฺุชรํ.
จสทฺทคฺคหเณน ปภุตฺยาทิอตฺเถ, ตทตฺถปฺปโยเค จ – ยโตหํ ภคินิ อริยาย ชาติยา ชาโต, ยโต สรามิ อตฺตานํ, ยโต ปตฺโตสฺมิ วิฺุตํ, ยตฺวาธิกรณเมนํ, ยโต ปภุติ, ยโต ปฏฺาย, ตโต ปฏฺาย อิจฺจาทิ.
๓๑๐. รกฺขณตฺถานมิจฺฉิตํ ¶ .
รกฺขณตฺถานํ ธาตูนํ ปโยเค ยํ อิจฺฉิตํ, ตํ การกํ อปาทานสฺํ โหติ, จการาธิการโต อนิจฺฉิตฺจ. รกฺขณฺเจตฺถ นิวารณํ, ตายนฺจ. กาเก รกฺขนฺติ ตณฺฑุลา, ยวา ปฏิเสเธนฺติ คาโว.
อนิจฺฉิตํ ยถา – ปาปา จิตฺตํ นิวารเย, ปาปานิวาเรนฺติ, ราชโต วา โจรโต วา อคฺคิโต วา อุทกโต วา นานาภยโต วา นานาโรคโต วา นานาอุปทฺทวโต วา อารกฺขํ คณฺหนฺตุ.
‘‘อิจฺฉิต’’มิติ วตฺตเต.
เยน อทสฺสนมิจฺฉิตํ อนฺตรธายนฺเตน, ตํ การกํ อปาทานสฺํ โหติ วา, อนฺตรธาเนวายํ. อุปชฺฌายา อนฺตรธายติ สิสฺโส, นิลียตีติ อตฺโถ. มาตาปิตูหิ อนฺตรธายติ ปุตฺโต.
วาติ กึ? เชตวเน อนฺตรหิโต. เยนาติ กึ? ยกฺโข ตตฺเถว อนฺตรธายติ.
๓๑๒. ทูรนฺติกทฺธกาลนิมฺมานตฺวาโลปทิสาโยควิภตฺตารปฺปโยค สุทฺธปฺปโมจน เหตุ วิวิตฺตปฺปมาณ ปุพฺพโยค พนฺธน คุณวจน ปฺห กถนโถกากตฺตูสุ จ.
ทูรตฺเถ, อนฺติกตฺเถ, อทฺธนิมฺมาเน, กาลนิมฺมาเน, ตฺวาโลเป, ทิสาโยเค, วิภตฺเต, อารติปฺปโยเค, สุทฺธตฺถปฺปโยเค, ปโมจนตฺถปฺปโยเค, เหตฺวตฺเถ, วิวิตฺตตฺถปฺปโยเค, ปมาณตฺเถ, ปุพฺพโยเค, พนฺธนตฺถปฺปโยเค, คุณวจเน ¶ , ปฺเห, กถเน, โถกตฺเถ, อกตฺตริ จ ยทวธิภูตํ, เหตุกมฺมาทิภูตฺจ, ตํ การกํ อปาทานสฺํ โหติ, จสทฺเทน ยถาโยคํ ทุติยา, ตติยา, ฉฏฺี จ.
เอตฺถ จ ทูรนฺติกฺจ ทูรนฺติกตฺถฺจาติ ทูรนฺติกนฺติ สรูเปกเสสํ กตฺวา วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ, เตน ทูรนฺติกตฺถปฺปโยเค, ตทตฺเถ จ อปาทานสฺโ โหติ.
ทูรตฺถปฺปโยเค ตาว – กีวทูโร อิโต นฬการคาโม, ตโต หเว ทูรตรํ วทนฺติ, คามโต นาติทูเร. อารกา เต โมฆปุริสา อิมสฺมา ธมฺมวินยา, อารกา เตหิ ภควา. ทูรตฺเถ – ทูรโตว นมสฺสนฺติ, อทฺทส ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ.
อนฺติกตฺถปฺปโยเค – อนฺติกํ คามา, อาสนฺนํ คามา, สมีปํ คามา, คามสฺส สมีปนฺติ อตฺโถ.
ทุติยา, ตติยา จ, ทูรํ คามํ อาคโต, ทูเรน คาเมน อาคโต, ทูรโต คามา อาคโตติ อตฺโถ. ทูรํ คาเมน วา. อนฺติกํ คามํ อาคโต, อนฺติกํ คาเมน วา, อาสนฺนํ คามํ, อาสนฺนํ คาเมน วา อิจฺจาทิ.
อทฺธกาลนิมฺมาเน นิมฺมานํ นาม ปริมาณํ, ตสฺมึ คมฺยมาเน – อิโต มถุราย จตูสุ โยชเนสุ สงฺกสฺสํ, ราชคหโต ปฺจจตฺตาลีสโยชนมตฺถเก สาวตฺถิ.
กาลนิมฺมาเน – อิโต เอกนวุติกปฺปมตฺถเก วิปสฺสี ภควา โลเก อุทปาทิ, อิโต วสฺสสหสฺสจฺจเยน พุทฺโธ โลเก อุปฺปชฺชิสฺสติ.
ตฺวาปจฺจยนฺตสฺส โลโป นาม ตทตฺถสมฺภเวปิ อวิชฺชมานตา, ตสฺมึ ตฺวาโลเป กมฺมาธิกรเณสุ – ปาสาทา สงฺกเมยฺย, ปาสาทํ อภิรุหิตฺวา สงฺกเมยฺยาติ อตฺโถ ¶ . ตถา หตฺถิกฺขนฺธา สงฺกเมยฺย, อภิธมฺมา ปุจฺฉนฺติ, อภิธมฺมํ สุตฺวา วา, อภิธมฺมา กถยนฺติ, อภิธมฺมํ ปิตฺวา วา, อาสนา วุฏฺเหยฺย, อาสเน นิสีทิตฺวา วา.
ทิสตฺถวาจีหิ โยเค, ทิสตฺเถ จ – อิโต สา ปุริมา ทิสา, อิโต สา ทกฺขิณา ทิสา, อิโต สา ปจฺฉิมา ทิสา, อิโต สา อุตฺตรา ทิสา, อวีจิโต อุปริภวคฺคา, อุทฺธํ ปาทตลา, อโธ เกสมตฺถกา อิจฺจาทิ. ทิสตฺเถ – ปุรตฺถิมโต ทกฺขิณโตติอาทิ. เอตฺถ ปน สตฺตมิยตฺเถ โตปจฺจโยปิ ภวิสฺสติ.
วิภตฺตํ นาม สยํ วิภตฺตสฺเสว ตทฺโต คุเณน วิภชนํ, ตสฺมึ วิภตฺเต – ยโต ปณีตตโร วา วิสิฏฺตโร วา นตฺถิ, อตฺตทนฺโต ตโต วรํ. กิฺจาปิ ทานโต สีลเมว วรํ, ตโต มยา สุตา อสฺสุตเมว พหุตรํ, สีลเมว สุตา เสยฺโย. ฉฏฺี จ, ฉนฺนวุตีนํ ปาสณฺฑานํ ปวรํ ยทิทํ สุคตวินโย.
อารติปฺปโยโค นาม วิรมณตฺถสทฺทปฺปโยโค. ตตฺถ – อสทฺธมฺมา อารติ, วิรติ ปาปา, ปาณาติปาตา เวรมณี, อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต, อปฺปฏิวิรโต มุสาวาทา.
สุทฺธตฺถปฺปโยเค – โลภนีเยหิ ธมฺเมหิ สุทฺโธ อสํสฏฺโ, มาติโต จ ปิติโต จ สุทฺโธ อนุปกฺกุฏฺโ อครหิโต.
ปโมจนตฺถปฺปโยเค ¶ – ปริมุตฺโต ทุกฺขสฺมาติ วทามิ, มุตฺโต มารพนฺธนา, น เต มุจฺจนฺติ มจฺจุนา, มุตฺโตหํ สพฺพปาเสหิ.
เหตฺวตฺเถ, สรูเปกเสสสฺส คหิตตฺตา เหตฺวตฺถปฺปโยเค จ สพฺพนามโต – กสฺมา นุ ตุมฺหํ ทหรา น มียเร, กสฺมา อิเธว มรณํ ภวิสฺสติ, กสฺมา เหตุนา, ยสฺมา จ กมฺมานิ กโรนฺติ, ยสฺมา ติห ภิกฺขเว, ตสฺมา ติห ภิกฺขเว เอวํ สิกฺขิตพฺพํ, ตสฺมา พุทฺโธสฺมิ พฺราหฺมณ, ยสฺมา การณา, ตสฺมา การณา, กึ การณา. ทุติยา, ฉฏฺี จ, กึ การณํ, ตํ กิสฺส เหตุ, กิสฺส ตุมฺเห กิลมถ.
เกน เหตุนา, เกน การเณน, เยน มิเธกจฺเจ สตฺตา, เตน นิมิตฺเตน, เตน วุตฺตมิจฺจาทีสุ ‘‘เหตฺวตฺเถ จา’’ติ ตติยา.
วิวิตฺตํ นาม วิเวจนํ, ตทตฺถปฺปโยเค – วิวิตฺโต ปาปกา ธมฺมา, วิวิจฺเจว กาเมหิ, วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ.
ปมาณตฺเถ ตติยา จ, อายามโต จ วิตฺถารโต จ โยชนํ, คมฺภีรโต จ ปุถุลโต จ โยชนํ จนฺทภาคาย ปริมาณํ, ปริกฺเขปโต นวโยชนสตปริมาโณ มชฺฌิมปเทโส.
ทีฆโส นว วิทตฺถิโย สุคตวิทตฺถิยา ปมาณิกา กาเรตพฺพา.
เอตฺถ จ ‘‘สฺมาหิสฺมึน’’มิจฺจาทิโต ‘‘สฺมา’’ติ จ ‘‘โส, วา’’ติ จ วตฺตมาเน
๓๑๓. ทีโฆเรหิ ¶ .
ทีฆ โอรอิจฺเจเตติ สฺมาวจนสฺส โสอาเทโส โหติ วา.
ทีฆโส, ทีฆมฺหา วา, [โอรโส, โอรมฺหา วา] ตติยา จ, โยชนํ อายาเมน, โยชนํ วิตฺถาเรน, โยชนํ อุพฺเพเธน สาสปราสิ.
ปมตฺถวาจเกน ปุพฺพสทฺเทน โยโค ปุพฺพโยโค, เอตฺถ จ ปุพฺพคฺคหณํ อทิสตฺถวุตฺติโน ปุพฺพาทิคฺคหณสฺสุปลกฺขณนฺติ ทฏฺพฺพํ, เตน ปราทิโยเคปิ. ยถา – ปุพฺเพว เม ภิกฺขเว สมฺโพธา, อิโต ปุพฺเพนาโหสิ, ตโต ปรํ ปจฺจนฺติมา ชนปทา, ธาตุลิงฺเคหิ ปรา ปจฺจยา, ตโต อปเรน สมเยน, ตโต อุตฺตริมฺปิ อิจฺจาทิ.
พนฺธนตฺถปฺปโยเค พนฺธนเหตุมฺหิ อิเณ ปฺจมี, ตติยา จ โหติ, สตสฺมา พทฺโธ นโร รฺา, สเตน วา พทฺโธ นโร.
ผลสาธนเหตุภูตสฺส คุณสฺส วจนํ คุณวจนํ, ตสฺมึ คุณวจเน ปฺจมี, ตติยา จ, อิสฺสริยา ชนํ รกฺขติ ราชา, อิสฺสริเยน วา, สีลโต นํ ปสํสนฺติ, สีเลน วา, ปฺาย วิมุตฺติมโน อิจฺจาทิ.
ปฺหกถเนสุ – กุโตสิ ตฺวํ, กุโต ภวํ, ปาฏลิปุตฺตโต. เอตฺถ จ กถนํ นาม วิสฺสชฺชนํ.
โถกตฺเถ อสตฺววจเน กรเณ ตติยา จ, โถกา มุจฺจติ, โถเกน มุจฺจติ วา, อปฺปมตฺตกา มุจฺจติ, อปฺปมตฺตเกน วา, กิจฺฉา มุจฺจติ, กิจฺเฉน วา.
อกตฺตริ ¶ อการเก าปกเหตุมฺหิ – กมฺมสฺส กตตฺตา อุปจิตตฺตา อุสฺสนฺนตฺตา วิปุลตฺตา อุปฺปนฺนํ โหติ จกฺขุวิฺาณ, น ตาวิทํ นามรูปํ อเหตุกํ สพฺพตฺถ สพฺพทา สพฺเพสฺจ เอกสทิสภาวาปตฺติโต.
หุตฺวา อภาวโต นิจฺจา, อุทยพฺพยปีฬนา;
ทุกฺขา อวสวตฺติตฺตา, อนตฺตาติ ติลกฺขณํ.
‘‘ปฺจมี’’ติ วตฺตเต.
กโรติ อตฺตโน ผลนฺติ การณํ, การกเหตุ [ชนกเหตุ], ตสฺมึ การณตฺเถ จ ปฺจมีวิภตฺติ โหติ, วิกปฺเปนายํ, เหตฺวตฺเถ ตติยาย จ วิหิตตฺตา, อนนุโพธา อปฺปฏิเวธา จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ ยถาภูตํ อทสฺสนา เอวมิทํ ทีฆมทฺธานํ สนฺธาวิตํ สํสริตํ, อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา, สงฺขารปจฺจยา วิฺาณํ, อวิชฺชาย ตฺเวว อเสสวิราคนิโรธา สงฺขารนิโรโธ, สงฺขารนิโรธา วิฺาณนิโรโธ, วิฺาณนิโรธา อิจฺจาทิ.
กสฺมึ อตฺเถ ฉฏฺี?
โก จ สามี?
๓๑๖. ยสฺส วา ปริคฺคโห ตํ สามี.
ปริคฺคยฺหตีติ ปริคฺคโห, โย ยสฺส ปริคฺคโห อายตฺโต สมฺพนฺธี, ตํ ปติ โส อตฺโถ สามิสฺโ โหติ. วาคฺคหเณน สามิตพฺพ รุชาทิโยเคปิ.
เอตฺถ ¶ จ กฺริยาภิสมฺพนฺธาภาวา น การกตา สมฺภวติ. สามิภาโว หิ กฺริยาการกภาวสฺส ผลภาเวน คหิโต, ตถา หิ ‘‘รฺโ ปุริโส’’ติ วุตฺเต ยสฺมา ราชา ททาติ, ปุริโส จ ปติคฺคณฺหาติ, ตสฺมา ‘‘ราชปุริโส’’ติ วิฺายติ. เอวํ โย ยสฺส อายตฺโต เสวกาทิภาเวน วา ภณฺฑภาเวน วา สมีป สมูหาวยววิการ การิยอวตฺถา ชาติ คุณ กฺริยาทิวเสน วา, ตสฺส สพฺพสฺสาปิ โส สมฺพนฺธาธารภูโต วิเสสนฏฺานี อาคมีวเสน ติวิโธปิ อตฺโถ สามี นามาติ คเหตพฺโพ.
วุตฺตฺจ
‘‘กฺริยาการกสฺชาโต,
อสฺเสทํ ภาวเหตุโก;
สมฺพนฺโธ นาม โส อตฺโถ,
ตตฺถ ฉฏฺี วิธียเต.
ปารตนฺตฺยฺหิ สมฺพนฺโธ,
ตตฺถ ฉฏฺี ภเวติโต;
อุปาธิฏฺานา คมิโต,
น วิเสสฺยาทิโต ติโต’’ติ.
วิเสสนโต ตาว – รฺโ ปุริโสติ, เอตฺถ จ ราชา ปุริสํ อฺสามิโต วิเสเสติ นิวตฺเตตีติ วิเสสนํ, ปุริโส เตน วิเสสียตีติ วิเสสิตพฺโพ, เอวํ สพฺพตฺถ วิเสสิตพฺพโยเค วิเสสนโตว ฉฏฺี.
ภณฺเฑน สมฺพนฺเธ – ปหูตํ เม ธนํ สกฺก, เอตสฺส ปฏิวีโส, ภิกฺขุสฺส ปตฺตจีวรํ.
สมีปสมฺพนฺเธ – อมฺพวนสฺส อวิทูเร, นิพฺพานสฺเสว สนฺติเก.
สมูหสมฺพนฺเธ ¶ – สุวณฺณสฺส ราสิ, ภิกฺขูนํ สมูโห.
อวยวสมฺพนฺเธ – มนุสฺสสฺเสว เต สีสํ, รุกฺขสฺส สาขา.
วิการสมฺพนฺเธ – สุวณฺณสฺส วิกติ, ภฏฺธฺานํ สตฺตุ.
การิยสมฺพนฺเธ – ยวสฺส องฺกุโร, เมฆสฺส สทฺโท, ปุตฺตาปิ ตสฺส พหโว, กมฺมานํ ผลํ วิปาโก.
อวตฺถาสมฺพนฺเธ – ขนฺธานํ ปาตุภาโว, ขนฺธานํ ชรา, ขนฺธานํ เภโท.
ชาติสมฺพนฺเธ – มนุสฺสสฺส ภาโว, มนุสฺสานํ ชาติ.
คุณสมฺพนฺเธ – สุวณฺณสฺส วณฺโณ, วณฺโณ น ขีเยถ ตถาคตสฺส, พุทฺธสฺส คุณโฆโส, ปุปฺผานํ คนฺโธ, ผลานํ รโส, จิตฺตสฺส ผุสนา, สิปฺปิกานํ สตํ นตฺถิ, ติลานํ มุฏฺิ, เตสํ สมาโยโค, สนฺธิโน วิโมกฺโข, ตถาคตสฺส ปฺาปารมึ อารพฺภ, ปุพฺพจริยํ วา, สุขํ เต, ทุกฺขํ เต, เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ, ปฺาย ปฏุภาโว, รูปสฺส ลหุตา, รูปสฺส มุทุตา, รูปสฺส อุปจโย.
กฺริยาสมฺพนฺเธ – ปาทสฺส อุกฺขิปนํ, ปาทสฺส อวกฺเขปนํ วา, หตฺถสฺส สมิฺชนํ, ปาทานํ ปสารณํ, ธาตูนํ คมนํ, ธาตูนํเยว านํ, นิสชฺชา, สยนํ วา. ตถา ตสฺส นามโคตฺตาทิ, ตสฺส การณํ, ตสฺส มาตาปิตโร, ตสฺส ปุรโต ปาตุรโหสิ, ตสฺส ปจฺฉโต, นครสฺส ทกฺขิณโต, วสฺสานํ ตติเย มาเส, น ตสฺส อุปมา, กุเวรสฺส พลิ อิจฺจาทิ.
านิโต ¶ – ยเมทนฺตสฺสาเทโส, โอ อวสฺส.
อาคมิโต – ปุถสฺสาคโม อิจฺจาทิ.
สามิโยเค – เทวานมินฺโท, มิคานํ ราชา.
ตพฺพ รุชาทิโยเค – มหาเสนาปตีนํ อุชฺฌาเปตพฺพํ วิกนฺทิตพฺพํ วิรวิตพฺพํ, เทวทตฺตสฺส รุชติ, ตสฺส โรโค อุปฺปชฺชติ, รชกสฺส วตฺถํ ททาติ, มุสาวาทสฺส โอตฺตปฺปํ อิจฺจาทิ.
‘‘กฺวจิ, ตติยาสตฺตมีน’’นฺติ จ วตฺตเต.
ตติยาสตฺตมีนมตฺเถ กฺวจิ ฉฏฺีวิภตฺติ โหติ.
ยชสฺส กรเณ – ปุปฺผสฺส พุทฺธํ ยชติ, ปุปฺเผน วา, ฆตสฺส อคฺคึ ชุโหติ.
สุหิตตฺถโยเค – ปตฺตํ โอทนสฺส ปูเรตฺวา, โอทเนนาติ อตฺโถ. อิมเมว กายํ ปูรํ นานปฺปการสฺส อสุจิโน ปจฺจเวกฺขติ, ปูรํ หิรฺสุวณฺณสฺส, ปูรติ พาโล ปาปสฺส.
ตุลฺยตฺถกิมลมาทิโยเค – ปิตุสฺส ตุลฺโย, ปิตรา วา ตุลฺโย, มาตุ สทิโส, มาตรา สทิโส วา, กึ ตสฺส จ ตุฏฺสฺส, กึ เตน ตุฏฺเนาติ อตฺโถ. อลํ ตสฺส จ ตุฏฺสฺส.
กตฺตริ กิตปฺปจฺจยโยเค – โสภนา กจฺจายนสฺส กติ, กจฺจายเนน วา, รฺโ สมฺมโต, รฺา วา, เอวํ รฺโ ¶ ปูชิโต, รฺโ สกฺกโต, รฺโ อปจิโต, รฺโ มานิโต, อมตํ เตสํ ภิกฺขเว อปริภุตฺตํ, เยสํ กายคตาสติ อปริภุตฺตา อิจฺจาทิ.
สตฺตมิยตฺเถ กุสลาทิโยเค – กุสลา นจฺจคีตสฺส สิกฺขิตา จาตุริตฺถิโย, กุสโล ตฺวํ รถสฺส องฺคปจฺจงฺคานํ, กุสโล มคฺคสฺส, กุสโล อมคฺคสฺส, สนฺติ หิ ภนฺเต อุฬารา ยกฺขา ภควโต ปสนฺนา, ทิวสสฺส ติกฺขตฺตุํ, ทิวเส ติกฺขตฺตุํ วา, มาสสฺส ทฺวิกฺขตฺตุํ อิจฺจาทิ.
‘‘กฺวจิ, ฉฏฺี’’ติ จ วตฺตเต.
ทุติยาปฺจมีนมตฺเถ จ กฺวจิ ฉฏฺีวิภตฺติ โหติ.
ทุติยตฺเถ กมฺมนิ กิตกโยเค – ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร, สหสา กมฺมสฺส กตฺตาโร, อมตสฺส ทาตา, ภินฺนานํ สนฺธาตา, สหิตานํ อนุปฺปทาตา, โพเธตา ปชาย, กมฺมสฺส การโก นตฺถิ, วิปากสฺส จ เวทโก, อวิสํวาทโก โลกสฺส, ปาปานํ อกรณํ สุขํ, จตุนฺนํ มหาภูตานํ อุปาทาย ปสาโท, อจฺฉริโย อรชเกน วตฺถานํ ราโค, อจฺฉริโย อโคปาลเกน คาวีนํ โทโห.
ตถา สริจฺฉาทีนํ กมฺมนิ – มาตุ สรติ, มาตรํ สรติ, น เตสํ โกจิ สรติ, สตฺตานํ กมฺมปฺปจฺจยา, ปุตฺตสฺส อิจฺฉติ, ปุตฺตมิจฺฉติ.
กโรติสฺส ¶ ปติยตเน จ – ปติยตนํ อภิสงฺขาโร, อุทกสฺส ปติกุรุเต, อุทกํ ปติกุรุเต, กณฺฑสฺส ปติกุรุเต, กณฺฑํ ปติกุรุเต.
ปฺจมิยตฺเถ ปริหานิภยตฺถโยเค – อสฺสวนตา ธมฺมสฺส ปริหายนฺติ, กึ นุ โข อหํ ตสฺส สุขสฺส ภายามิ, สพฺเพ ตสนฺติ ทณฺฑสฺส, สพฺเพ ภายนฺติ มจฺจุโน, ภีโต จตุนฺนํ อาสิวิสานํ อิจฺจาทิ.
กฺวจีติ กึ? คมฺภีรฺจ กถํ กตฺตา, กาเลน ธมฺมึ กถํ ภาสิตา โหติ, ปเรสํ ปฺุานิ อนุโมทิตา, พุชฺฌิตา สจฺจานิ, กฏํ การโก, ปสโว ฆาตโก.
ตถา น นิฏฺาทีสุ จ – สุขกามี วิหารํ กโต, รถํ กตวนฺโต, รถํ กตาวี, กฏํ กตฺวา, กฏํ กโรนฺโต, กฏํ กราโน, กฏํ กุรุมาโน อิจฺจาทิ.
กสฺมึ อตฺเถ สตฺตมี?
โอกาสการเก สตฺตมีวิภตฺติ โหติ.
โก จ โอกาโส?
อาธารียติ อสฺมินฺติ อาธาโร, อธิกรณํ. กตฺตุกมฺมสมเวตานํ นิสชฺชปจนาทิกฺริยานํ ปติฏฺานฏฺเน โย อาธาโร, ตํ การกํ โอกาสสฺํ โหติ.
กเฏ ¶ นิสีทติ เทวทตฺโต, ถาลิยํ โอทนํ ปจติ. เอตฺถ หิ เทวทตฺตตณฺฑุลานํ กตฺตุกมฺมานํ ธารณโต ตํสมเวตํ อาสนปจนสงฺขาตํ กฺริยํ ธาเรติ นาม.
โส ปนายโมกาโส จตุพฺพิโธ พฺยาปิโก โอปสิเลสิโก สามีปิโก เวสยิโกติ.
ตตฺถ พฺยาปิโก นาม ยตฺถ สกโลปิ อาธารภูโต อตฺโถ อาเธยฺเยน ปตฺถโฏ โหติ, ยสฺมิฺจ อาเธยฺยภูตํ กิฺจิ พฺยาเปตฺวา ติฏฺติ, ตํ ยถา – ติเลสุ เตลํ อตฺถิ, ขีเลสุ ชลํ, ทธิมฺหิ สปฺปีติ.
โอปสิเลสิโก นาม ปจฺเจกสิทฺธานํ ภาวานํ ยตฺถ อุปสิเลเสน อุปคโม โหติ, ยสฺมิฺจ อาเธยฺโย อุปสิลิสฺสติ อลฺลียิตฺวา ติฏฺติ, ตํ ยถา – อาสเน นิสินฺโน สงฺโฆ, ถาลิยํ โอทนํ ปจติ, ฆเฏสุ อุทกํ อตฺถิ, ทูเร ิโต, สมีเป ิโตติ.
สามีปิโก นาม ยตฺถ สมีเป สมีปิโวหารํ กตฺวา ตทายตฺตวุตฺติตาทีปนตฺถํ อาธารภาโว วิกปฺปียติ, ตํ ยถา – คงฺคายํ โฆโส วสติ, คงฺคาย สมีเป วโช วสตีติ อตฺโถ. ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน, สาวตฺถิยา สมีเปติ อตฺโถ.
เวสยิโก นาม ยตฺถ อฺตฺถาภาววเสน, เทสนฺตราวจฺเฉทวเสน วา อาธารภาโว ปริกปฺโป, ตํ ยถา – อากาเส สกุณา ปกฺขนฺติ, ภูมีสุ มนุสฺสา จรนฺติ, ชเลสุ มจฺฉา, ปาเทสุ ปติโต, ปาปสฺมึ รมตี มโน, ปสนฺโน พุทฺธสาสเน, ปฺาย สาธุ, วินเย นิปุโณ, มาตริ สาธุ, ปิตริ นิปุโณ อิจฺจาทิ.
สพฺโพปิ ¶ จายมาธาโร ปธานวเสน วา ปริกปฺปิตวเสน วา กฺริยาย ปติฏฺา ภวตีติ โอกาโสตฺเวว วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ.
วุตฺตฺเจตํ
‘‘กิริยา กตฺตุกมฺมานํ,
ยตฺถ โหติ ปติฏฺิตา;
‘โอกาโส’ติ ปวุตฺโต โส,
จตุธา พฺยาปิกาทิโต.
พฺยาปิโก ติลขีราทิ,
กโฏ โอปสิเลสิโก;
สามีปิโก ตุ คงฺคาทิ,
อากาโส วิสโย มโต’’ติ.
‘‘ฉฏฺี, สตฺตมี’’ติ จ อธิกาโร.
๓๒๑. สามิสฺสราธิปติทายาทสกฺขีปติภูปสูตกุสเลหิ จ.
สามี อิสฺสร อธิปติ ทายาท สกฺขิปติภู ปสูต กุสลอิจฺเจเตหิ โยเค ฉฏฺีวิภตฺติ โหติ, สตฺตมี จ. อุภยตฺถํ วจนํ.
ควํ สามิ, โคสุ สามิ, ควํ อิสฺสโร, โคสุ อิสฺสโร, ควํ อธิปติ, โคสุ อธิปติ, ควํ ทายาโท, โคสุ ทายาโท, ควํ สกฺขิ, โคสุ สกฺขิ, ควํ ปติภู, โคสุ ปติภู, ควํ ปสูโต, โคสุ ปสูโต, ควํ กุสโล, โคสุ กุสโล.
นีหริตฺวา ธารณํ นิทฺธารณํ, ชาติ คุณ กฺริยา นาเมหิ สมุทายโต เอกเทสสฺส ปุถกฺกรณํ, ตสฺมึ นิทฺธารณตฺเถ คมฺยมาเน ¶ ตโต สมุทายวาจิลิงฺคมฺหา ฉฏฺีวิภตฺติ โหติ, สตฺตมี จ.
มนุสฺสานํ ขตฺติโย สูรตโม, มนุสฺเสสุ ขตฺติโย สูรตโม, กณฺหา คาวีนํ สมฺปนฺนขีรตมา, กณฺหา คาวีสุ สมฺปนฺนขีรตมา, อทฺธิกานํ ธาวนฺโต สีฆตโม, อทฺธิเกสุ ธาวนฺโต สีฆตโม, อายสฺมา อานนฺโท อรหตํ อฺตโร อโหสิ, อรหนฺเตสุ วา อิจฺจาทิ.
อนาทเร คมฺยมาเน ภาววตา ลิงฺคมฺหา ฉฏฺีวิภตฺติ โหติ, สตฺตมี จ. อกามกานํ มาตาปิตูนํ รุทนฺตานํ ปพฺพชิ, มาตาปิตูสุ รุทนฺเตสุ ปพฺพชิ.
อาโกฏยนฺโต โส เนติ,
สิวิราชสฺส เปกฺขโต;
มจฺจุ คจฺฉติ อาทาย,
เปกฺขมาเน มหาชเน.
๓๒๔. กมฺมกรณนิมิตฺตตฺเถสุ สตฺตมี.
กมฺมกรณนิมิตฺตอิจฺเจเตสฺวตฺเถสุ ลิงฺคมฺหา สตฺตมีวิภตฺติ โหติ.
กมฺมตฺเถ – ภิกฺขูสุ อภิวาเทนฺติ, มุทฺธนิ จุมฺพิตฺวา, ปุริสสฺส พาหาสุ คเหตฺวา.
กรณตฺเถ – หตฺเถสุ ปิณฺฑาย จรนฺติ, ปตฺเตสุ ปิณฺฑาย จรนฺติ, ปเถสุ คจฺฉนฺติ, โสปิ มํ อนุสาเสยฺย, สมฺปฏิจฺฉามิ มตฺถเก.
นิมิตฺตตฺเถ ¶ – ทีปิ จมฺเมสุ หฺเต, กฺุชโร ทนฺเตสุ หฺเต, อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวี, สมฺปชานมุสาวาเท ปาจิตฺติยํ, มุสาวาทนิมิตฺตํ มุสาวาทปฺปจฺจยาติ อตฺโถ.
‘‘สตฺตมี’’ติ อธิกาโร.
สมฺปทานตฺเถ จ ลิงฺคมฺหา สตฺตมีวิภตฺติ โหติ. สงฺเฆ ทินฺนํ มหปฺผลํ, สงฺเฆ โคตมิ เทหิ, สงฺเฆ เต ทินฺเน อหฺเจว ปูชิโต ภวิสฺสามิ.
ยา ปลาลมยํ มาลํ, นารี ทตฺวาน เจติเย;
อลตฺถ กฺจนมยํ, มาลํ โพชฺฌงฺคิกฺจ สา.
ปฺจมฺยตฺเถ จ ลิงฺคมฺหา สตฺตมีวิภตฺติ โหติ. กทลีสุ คเช รกฺขนฺติ.
กาโล นาม นิเมส ขณ ลย มุหุตฺต ปุพฺพณฺหาทิโก, ภาโว นาม กฺริยา, สา เจตฺถ กฺริยนฺตรูปลกฺขณาว อธิปฺเปตา, ตสฺมึ กาลตฺเถ จ ภาวลกฺขเณ ภาวตฺเถ จ ลิงฺคมฺหา สตฺตมีวิภตฺติ โหติ.
กาเล – ปุพฺพณฺหสมเย คโต, สายนฺหสมเย อาคโต, อกาเล วสฺสติ ตสฺส, กาเล ตสฺส น วสฺสติ, ผุสฺสมาสมฺหา ตีสุ มาเสสุ เวสาขมาโส, อิโต สตสหสฺสมฺหิ, กปฺเป อุปฺปชฺชิ จกฺขุมา.
ภาเวนภาวลกฺขเณ ¶ – ภิกฺขุสงฺเฆสุ โภชียมาเนสุ คโต, ภุตฺเตสุ อาคโต, โคสุ ทุยฺหมานาสุ คโต, ทุทฺธาสุ อาคโต, ชายมาเน โข สาริปุตฺต โพธิสตฺเต อยํ ทสสหสฺสิโลกธาตุ สํกมฺปิ สมฺปกมฺปิ สมฺปเวธิ.
ปาสาณา สกฺขรา เจว, กลา ขาณุกณฺฏกา;
สพฺเพ มคฺคา วิวชฺเชนฺติ, คจฺฉนฺเต โลกนายเก.
อิมสฺมึ สติ อิทํ โหติ อิจฺจาทิ.
ทฺวิปทมิทํ. อธิกตฺเถ, อิสฺสรตฺเถ จ วตฺตมาเนหิ อุปอธิอิจฺเจเตหิ โยเค อธิกิสฺสรวจเน คมฺยมาเน ลิงฺคมฺหา สตฺตมีวิภตฺติ โหติ.
อธิกวจเน – อุป ขาริยํ โทโณ, ขาริยา โทโณ อธิโกติ อตฺโถ. ตถา อุป นิกฺเข กหาปณํ, อธิ เทเวสุ พุทฺโธ, สมฺมุติอุปปตฺติวิสุทฺธิเทวสงฺขาเตหิ ติวิเธหิปิ เทเวหิ สพฺพฺู พุทฺโธว อธิโกติ อตฺโถ.
อิสฺสรวจเน – อธิ พฺรหฺมทตฺเต ปฺจาลา, พฺรหฺมทตฺติสฺสรา ปฺจาลาติ อตฺโถ.
๓๒๙. มณฺฑิตุสฺสุกฺเกสุ ตติยา จ.
มณฺฑิตอุสฺสุกฺกอิจฺเจเตสฺวตฺเถสุ คมฺยมาเนสุ ลิงฺคมฺหา ตติยาวิภตฺติ โหติ, สตฺตมี จ. มณฺฑิตสทฺโท ปเนตฺถ ปสนฺนตฺถวาจโก, อุสฺสุกฺกสทฺโท สอีหตฺโถ. าเณน ปสนฺโน, าณสฺมึ ปสนฺโน, าเณน อุสฺสุกฺโก, าณสฺมึ อุสฺสุกฺโก สปฺปุริโส.
การกํ ¶ ฉพฺพิธํ สฺา-วสา ฉพฺพีสตีวิธํ;
ปเภทา สตฺตธา กมฺมํ, กตฺตา ปฺจวิโธ ภเว.
กรณํ ทุวิธํ โหติ, สมฺปทานํ ติธา มตํ;
อปาทานํ ปฺจวิธํ, อาธาโร ตุ จตุพฺพิโธ.
วิภตฺติโย ปน ปจฺจตฺตวจนาทิวเสน อฏฺวิธา ภวนฺติ. ยถาห
‘‘ปจฺจตฺตมุปโยคฺจ, กรณํ สมฺปทานิยํ;
นิสฺสกฺกํ สามิวจนํ, ภุมฺมาลปนมฏฺม’’นฺติ.
อิติ ปทรูปสิทฺธิยํ การกกณฺโฑ
ตติโย.