📜
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส.
อภิธานปฺปทีปิกาฏีกา
คนฺถารมฺภ
ยสฺส ¶ าณํ สทา าณํ, นาฺเยฺยา าณกํ วินา;
นิสฺเสสคุณยุตฺตสฺส, ตสฺส นตฺวา มเหสิโน.
สตฺถนฺตรา สมาทาย, สารํ สพฺพธรา ตถา;
กริยฺยเต’ภิธานปฺป-ทีปกสฺสตฺถวณฺณนา.
ปณามาทิวณฺณนา
[ก] อิธายํ คนฺถกาโร ปมมตฺตโน ปเรสมฺปิ สมฺมา หิตตฺถนิปฺผาทนตฺถํ ปฺุสมฺปท’มาจิโนติ ‘‘ตถาคโต’’จฺจาทินา. ตตฺถ กรุณากโร มหากรุณาย อุปฺปตฺติฏฺานภูโต โย ตถาคโต ภควา กโรปยาตํ อตฺตโน หตฺถคตํ สุขปฺปทํ สุขสฺส ปติฏฺานภูตํ สุขการณํ วา สุขทายกํ วา ปทํ นิพฺพานํ โอสชฺช จชิตฺวา กลิสมฺภเว ทุกฺขการณภูเต ¶ ภเว สํสาเร เกวลทุกฺกรํ สุกเรนาสมฺมิสฺสํ อจฺจนฺตทุกฺกรํ ปฺจวิธปริจฺจาคาทิกํ กรํ กโรนฺโต ปรตฺถํ ปเรสมตฺถํเยว อกา กตวา, ตเมทิสํ ตถาคตํ อหํ นมามิ.
[ข] ยฺจ ธมฺมํ ชรารุชาทิมุตฺตา ชราโรคาทีหิ วิมุตฺตา มุนิกฺุชรา มุนิเสฏฺา ภควนฺโต อปูชยุํ ปูชิตวนฺโต, ตถา อุตฺตเร อุตฺตเม สตฺตานํ วา สํสารมโหฆปกฺขนฺทานํ ตโต อุตฺตรณสมตฺเถ ยหึ ตเร ยสฺมึ ธมฺมปฺลเว ิตา สมฺมาปฏิปชฺชนวเสน อารูฬฺหา นรานรา มนุสฺสา จ เทวา จ ติวฏฺฏมฺพุนิธึ กิเลสกมฺมวิปากวฏฺฏสงฺขาเตหิ ตีหิ วฏฺเฏหิ อากุลิตํ สํสารมหมฺพุราสึ ตรึสุ ติณฺณา, อฆปฺปหํ กิเลสปฺปหานกรํ, สํสารทุกฺขปฺปหานกรํ วา ตํ ธมฺมมปิ อหํ นมามิ.
[ค] มุนินฺโทรสสูนุตํ ภควโต อุเร สมฺภวธมฺมเทสนาย อริยภาวปฺปตฺตตาย มุนินฺทสฺส โอรสปุตฺตภาวํ คตํ ปตฺตํ นุตํ กิเลสเขปนกํ สุปฺุเขตฺตํ ปฺุตฺถิกานํ ปฺุพีชวิรุหนฏฺานํ สุเขตฺตภูตํ ภุวเน โลเก สุตํ วิสฺสุตํ ¶ , สุตธรํ วา กิเลสสวนาภาเวน อสฺสุตํ อปาโณปิ ปาโณ กรียิตฺถาติ ปาณีกโต, ปาติโมกฺขสํวโร, โสว สํวโร เอตสฺสตฺถีติ ปาณีกตสํวโร, ตํ ปาณีกตสํวรํ, วรํ สีลาทิคุเณหิ สเทวเกหิ โลเกหิ ปตฺถนียํ. ‘‘เทวาปิ ตสฺส ปิหยนฺติ ตาทิโน’’ติ [อุทา. ๒๗] หิ วุตฺตํ. สทา สพฺพสฺมึ กาเล คุโณเฆน สีลาทิคุณสมูเหน นิรนฺตรนฺตรํ อวิจฺฉินฺนมานสํ, ปริปุณฺณจิตฺตํ วา คณมฺปิ อฏฺนฺนํ อริยปุคฺคลานํ สมูหํ อปิ อหํ นมามีติ เอวเมตฺถ ติณฺณมฺปิ สงฺเขปโต อตฺถโยชนา ทฏฺพฺพา.
[ฆ-ง] เอวํ ปฺุสมฺปทมาจินิตฺวา กิมภิมตํ สาธนียมิจฺจาห ‘‘ปกาสิสฺสมภิธานปฺปทีปิก’’นฺติ. พุทฺธาทีนมภิธานานํ สรูปวเสน, ลิงฺควเสน จ ปริทีปนโต ปกาสนโต ‘‘อภิธานปฺปทีปิก’’นฺติ ลทฺธนามํ สตฺถํ ปกาสิสฺสํ อนฺโตภาเวน นิปฺผนฺนํ พหิภาเวน ปกาสิสฺสํ. อนฺโตภาวสฺส หิ พหิภาวมเปกฺขิตฺวา ภาวิตมุปปนฺนํ. นนุ สนฺเตว ปุพฺพาจริยานํ นามลิงฺคปฺปกาสนานฺยมรโกสติกณฺโฑปฺปลินฺยาทฺยภิธานสตฺถานิ, ปาณินิ พฺยาฑิวรรุจิจนฺทโคมิ รุทฺทวามนาทิวิหิตานิ จ ลิงฺคสตฺถานิ, ตโต กิมิทมุจฺจเต อิจฺจาห ‘‘นามลิงฺคานิ พุทฺธภาสิตสฺสารหานิ ทสฺสยนฺโต’’ติ. เอเตน สนฺเตสฺวปิ ปุพฺพาจริยานํ สตฺเถสุ ยสฺมา น เตสุ นามลิงฺคานิ พุทฺธวจนานุรูปานิ โหนฺติ ¶ , ตสฺมา ตทนุรูปานิ นามลิงฺคานิ ทสฺสยนฺโต อภิธานสตฺถํ ปกาสิสฺสามีติ เอตมตฺถํ ทีเปติ. นมฺยเต อภิธียเต อตฺโถ อเนนาติ นามํ, สทฺทสตฺเถ นมุธาตุวเสน. ลิงฺคยเต ‘‘อิตฺถิยมโต อาปจฺจโย’’ตฺยาทินา วิภชฺชเตติ, อิตฺถาทโย วาเนน ลิงฺคียนฺเต พฺยฺชียนฺเตติ ลิงฺคํ, อิตฺถิปุมนปุํสกํ. กิเมตสฺส อภิธานสตฺถสฺส กรเณ ปโยชนนฺติ ปุจฺฉายํ ยสฺมึ สติ ตํ โสตาโร โสตุมุสฺสหนฺติ, ตํ ทสฺเสตุมาห ‘‘นามลิงฺเคสฺวิ’’จฺจาทิ. ยโต พุทฺธวจเน ปฏุโน ภาโว ปาฏวํ, ตเทว อตฺโถ ปโยชนํ, ตํ อิจฺฉนฺตีติ ปาฏวตฺถิโน, เตสํ ปาฏวตฺถีนํ โสตูนํ นามลิงฺเคสุ โกสลฺลํ กุสลตา เฉกภาโว พุทฺธวจเน มหพฺพลํ อตฺถสฺส นิจฺฉยการณํ โหติ, อโต ตสฺมา การณา พุทฺธภาสิตสฺสารหานิ นามลิงฺคานิ ทสฺสยนฺโต อภิธานปฺปทีปิกํ สตฺถํ ปกาสิสฺสนฺติ สมฺพนฺโธ.
[จ] อิทานิ สตฺถลหุภาวตฺถมาห ‘‘ภิยฺโย’’จฺจาทิ. ภิยฺโย พาหุลฺเลน รูปนฺตรา รูปเภเทน อิตฺถิปจฺจยปุมฺภาวาทิการิยกเตน ถีปุนฺนปุํสกํ เยฺยํ, โส จ นามานํ นามวิเสสนสฺส, นามปรามสิสพฺพนามสทฺทสฺส จ เยฺโย ปการนฺตราภาวา. ตตฺร นามานํ รูปเภโท ยถา – ฉุริกา สตฺย’สิปุตฺติ [อภิธาน ๓๙๒ คาถา]. อสิ ขคฺโค จ สายโก [อภิธาน ๓๙๑ คาถา]. ปานียํ สลิลํ ทกนฺติ [อภิธาน ๖๖๑ คาถา]. นามวิเสสนสฺส ยถา – นิสีโถ มชฺฌิมา รตฺตีติ [อภิธาน ๗๐ คาถา]. นามปรามสิสพฺพนามสทฺทสฺส ยถา – ¶ อากงฺขา รุจิ วุตฺตา สา, ตฺวธิกา ลาลสา ทฺวิสูติ [อภิธาน ๑๖๓ คาถา]. สาหจริเยน นิยตลิงฺเคนาวิปฺปโยคโต ถีปุนฺนปุํสกํ เยฺยํ. กตฺถจีติ ยตฺร รูปเภโท นตฺถิ, ตํ ยถา – มรีจิ มิคตณฺหิกา [อภิธาน ๖๕ คาถา]. รํสิมา ภากโร ภานุ [อภิธาน ๖๓ คาถา]. อาโป ปโย ชลํ วาริ [อภิธาน ๖๖๑ คาถา]. มรีฌาทโย หฺยภินฺนรูปตฺตา ลิงฺคนฺตเรปิ สมฺภาวิยนฺเตหิ นิยตลิงฺเคหิ มิคตณฺหิกาภากรชลาทิสทฺเทหิ สาหจริเยน ตํลิงฺเค นิจฺฉียนฺเต. อาหจฺจวิธาเนน อิตฺถิปุมนปุํสกานํ วิเสเสตฺวา กถเนน ถีปุนฺนปุํสกํ เยฺยํ. กฺวจีติ ยตฺร น รูปเภโท ลิงฺคนิณฺณยสฺส นิมิตฺตํ, น จ สาหจริยํ ลิงฺคเภโทภิมโต, เนกเมว วา ลิงฺคมิจฺฉเต, ตํ ยถา – วลฺลรี มฺชรี นารี [อภิธาน ๕๕๐ คาถา]. วิฏโป วิฏภีตฺถิยํ [อภิธาน ๕๔๗ คาถา]. ภีติตฺถี ภยมุตฺตาโส [อภิธาน ๑๖๖ คาถา]. วชิรํ ปุนฺนปุํสเกจฺจาทิ [อภิธาน ๒๔ คาถา].
[ฉ] อิทานิ รูปเภโทติ ลิงฺคนิณฺณยสฺส ปฏิปตฺติเหตุโก โย ภินฺนลิงฺคานํ ทฺวนฺโท, ตกฺกรณปฏิเสเธน อภินฺนลิงฺคานเมว ทฺวนฺโท กโตติ ปริภาสิตุมุปกฺกมเต ‘‘อภินฺนลิงฺคิน’’มิจฺจาทิ. อภินฺนลิงฺคีนํเยว นามานํ ทฺวนฺโท กโต, น ภินฺนลิงฺคีนํ, ยถา – วิมุตฺยสงฺขตธาตุ, สุทฺธินิพฺพุติโย สิยุนฺติ [อภิธาน ๙ คาถา]. น เกวลํ ทฺวนฺโทเยว, อถ โข เอกเสโสปฺยภินฺนลิงฺคานํเยว กโต, ยถา – นคฺโค ทิคมฺพราวตฺถา. [อภิธาน ๗๓๔ คาถา]สพฺพธรกเต ปน ‘‘ชีมูตา เมฆปพฺพตา’’ อิจฺจุทาหฏํ. นนุ จ ภินฺนลิงฺคานมฺปิ เอกเสโส กโต, ยถา ¶ – มาตา ปิตา ตุ ปิตโร, ปุตฺตา ตุ ปุตฺตธีตโร [อภิธาน ๒๔๙ คาถา]. สสุรา สสฺสุ สสุรา, ภาตุภคินิ ภาตโรติ [อภิธาน ๒๕๐ คาถา]. เอตฺถ หิ มาตา จ ปิตา จ ปิตโร, ปุตฺโต จ ธีตา จ ปุตฺตา, สสฺสุ จ สสุโร จ สสุรา, ภาตา จ ภคินี จ ภาตโรติ ภินฺนลิงฺคานมฺปิ เอกเสโส ทสฺสิโตติ. านนฺตเร เตสํ ภินฺนลิงฺคตาย ทสฺสิตตฺตา น โทโส. ตาโต ตุ ชนโก ปิตา [อภิธาน ๒๔๓ คาถา]. อมฺมา’มฺพา ชนนี มาตา [อภิธาน ๒๔๔ คาถา]. อปจฺจํ ปุตฺโตตฺรโช สุโต [อภิธาน ๒๔๐ คาถา]. นาริยํ ทุหิตา ธีตา [อภิธาน ๒๔๑ คาถา]. ชายาปตีนํ ชนนี, สสฺสุ วุตฺตาถ ตปฺปิตา. สสุโรติ อิจฺจาทิกฺหิ เตสํ [อภิธาน ๒๔๖ คาถา] านนฺตรนฺติ. ตถา เอตฺถ กมํ วินา ภินฺนลิงฺคานํ คณนปาโ วิย สงฺกโรปิ น กโต. ตตฺร หิ สคฺคทิสาทโย อตฺถา ยถากฺกมํ ตํสมฺพนฺธา จ สกฺกวิทิสาทโย อตฺถา สกสกสมฺพนฺธสหิตา ยถาภิธานํ สรูปปฏิปตฺยมตฺถภิเธยฺยา, ตถา ตปฺปริยายสมฺพนฺธานิ จ ยานิ นามานิ, ตานิ สพฺพานิ ตทภิธานาวสเร อภิเธยฺยานีติ สุเขเนกตฺเรว สกลนามปฏิปตฺติ สรูปปฏิปตฺติ จ ยถา สิยาติจฺเจตทตฺถํ กโม อภฺยุปคมฺยเต, ตถา จ สตฺยาวสฺสํ สคฺคาทิปริยาเย ทิวสทฺทาทโย, หราทฺยวสเร กุมาราทโย อภิเธยฺยา อิติ กมานุโรเธน ลิงฺคสงฺกโร ปริหริตุมสกฺกุเณยฺโย, ยถาวุตฺตนฺตุ กมํ วินา เนห สงฺกโร กโต, อิติ ปริยาเยน อิตฺถิปฺปกรณาทิกฺกเมน ยถาสมฺภวมภิธานโต, ตํ ยถา – อีติ ตฺวิตฺถี อชฺฺจ, อุปสคฺโค อุปทฺทโวติ [อภิธาน ๔๐๑ คาถา]. อตฺร หิ เย ติลิงฺคา, เต ติลิงฺคาวสเร เอว นิพทฺธา, น คณนปาา วิย อุจฺจารณวเสน, เอวํ สพฺพตฺร ยถาสมฺภวํ นียเต. วุตฺตฺจ –
‘‘เภทาขฺยานาย ¶ น ทฺวนฺโท, เนกเสโส น สงฺกโร;
กโตตฺร ภินฺนลิงฺคาน-มวุตฺตานํ กมํ วินา’’ติ [อมร ๑.๔].
อิทานิ ลิงฺควาจกานํ านวเสนตฺเถสุ คมนํ ทสฺเสตุมาห ‘‘ลิงฺควาจเก’’จฺจาทิ. คาถาปาทนฺตมชฺฌฏฺา คาถานํ ปาทานฺจ อนฺตมชฺฌฏฺา ลิงฺควาจกา อเนกตฺถลิงฺควาจกานิ าณทสฺสนาทีนิ ลิงฺคานิ ปุพฺพมตฺถํ วาจกวเสน ยนฺติ คจฺฉนฺติ. อปเร คาถาปาทานมาทิฏฺา ลิงฺควาจกา ปรมตฺถํ ยนฺติ คจฺฉนฺติ. ตํ ยถา –
ผเล วิปสฺสนาทิพฺพ-จกฺขุสพฺพฺุตาสุ จ;
ปจฺจเวกฺขณาณมฺหิ, มคฺเค จ าณทสฺสนํ[อภิธาน ๗๙๔ คาถา].
ณาโท สทฺธาจีวราทิ-เหตฺวาธาเรสุ ปจฺจโย;
กีฬาทิพฺพวิหาราโท, วิหาโร สุคตาลเย [อภิธาน ๘๕๗ คาถา].
ขคฺเค กุรูเร เนตฺตึโส, ปรสฺมิฺจาตฺร ตีสฺวมุ[อภิธาน ๑๐๘๙ คาถา];
กุสเล สุกตํ สุฏฺุ-กเต จ สุกโต ติสุ [อภิธาน ๙๓๘ คาถา].
สมโย สมวาเย จ, สมูเห การเณ ขเณ;
ปฏิเวเธ สิยา กาเล, ปหาเน ลาภทิฏฺิสุ [อภิธาน ๗๗๘ คาถา].
กนฺตาโร วนทุคฺเคสุ [อภิธาน ๑๑๐๗ คาถา].
เอตฺถ จ –
เยภุยฺยตาพฺยามิสฺเสสุ, วิสํโยเค จ เกวลํ;
ทฬฺหตฺเถนติเรเก จา-นวเสสมฺหิ ตํ ติสุ [อภิธาน ๗๘๖ คาถา].
สมาธิสฺมึ ปุเมกคฺโค-นากุเล วาจฺจลิงฺคิโก [อภิธาน ๑๐๓๕ คาถา].
ชเฬ ถูโล มหตฺยปิ [อภิธาน ๑๐๖๖ คาถา] จฺจาทีสุ
คาถามชฺฌฏฺานํ ¶ , ปาทนฺตมชฺฌฏฺานฺจ ลิงฺควาจกานํ ปุพฺพปรตฺเถสฺวปิ คมนภาวโต ‘‘ปุพฺพํ ยนฺตี’’ติ อิทํ เยภุยฺยวเสน วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. อถ วา คาถานํ มชฺฌนฺตฏฺา ปุพฺพํ ยนฺติ, คาถามชฺฌฏฺา, ปาทนฺตมชฺฌฏฺา จ ปุพฺพาปรฺจ ยนฺตีติ ยถาลาภโยชนา ทฏฺพฺพา.
[ช] อิทานิ วิเสสวิธิมฺหิ สตฺถลหุภาวตฺถํ ปริภาสเต ‘‘ปุมิตฺถิย’’มิจฺจาทิ. ปุมิตฺถิยํ ‘‘ทฺวีสู’’ติ ปทํ เยฺยํ, ยถา – อสนิ ทฺวีสุ [อภิธาน ๒๔ คาถา]. สพฺพลิงฺเค ลิงฺคตฺตเย ‘‘ตีสู’’ติ ปทํ เยฺยํ, ยถา – สตฺตนฺนํ ปูรเณ เสฏฺเ’ติสนฺเต สตฺตโม ติสุ [อภิธาน ๙๔๒ คาถา]. เอตฺถ จ นิสิทฺธลิงฺคนามํ ปาริเสสโต ‘‘เสสลิงฺค’’นฺติ เยฺยํ [นิสิทฺธลิงฺค เสสตฺถํ (อมร ๑.๕.)], ยถา – วสฺส สํวจฺฉรา นิตฺถีติ [อภิธาน ๘๑ คาถา]. อตฺร เจกลิงฺคนิเสธพฺยาขฺยาเนน ลิงฺคทฺวยวิธานนฺติ [เอกลิงฺคนิเสธพฺยาเชน ลิงฺคทฺวยาภิธานมิติ (อมรโกสจินฺตามณิฏีกา)].
คนฺถลาหวํ วิธาเยทานิ ปฏิปตฺติลาหวตฺถมาห ‘‘อภิธานนฺตรารมฺเภ’’อิจฺจาทิ. อภิธานนฺตรสฺส อฺสฺส อภิธานสฺส อารมฺเภ สติ, ตุ อนฺโต ยสฺส อภิธานสฺส, อถ อาทิ ยสฺส อภิธานสฺสาติ อิทํ อภิธานทฺวยฺจ เยฺยํ. ตฺวนฺตมถาทิกํ นามาทิปทํ ปุพฺเพน น สมฺพชฺฌเตติ ภาโว. ตตฺร นามปทํ ยถา – ชิโน สกฺโก ตุ สิทฺธตฺโถ [อภิธาน ๔ คาถา]. เกสโว จกฺกปาณฺยถ [อภิธาน ๑๖ คาถา]. มหิสฺสโร สิโว สูลี [อภิธาน ๑๖ คาถา]. ลิงฺคปทํ ยถา – ปุเม ตุ ปณฺหิ ปาสณิ [อภิธาน ๒๗๗ คาถา]. ปุเม ตูตุ รโช ปุปฺผํ [อภิธาน ๒๓๘ คาถา]. สา ติโรกรณีปฺยถ ¶ [อภิธาน ๒๙๘ คาถา]. ปุนฺนปุํสกมุลฺโลจํ [อภิธาน ๒๙๙ คาถา]. อตฺถปทํ ยถา – อุทเร ตุ ตถา ปาจา’นลสฺมึ คหณีตฺถิยํ [อภิธาน ๙๗๓ คาถา]. ปณีโต ตีสุ มธุเร, อุตฺตเม วิหิเตปฺยถ. อฺชเส วิสิขายฺจ, ปนฺติยํ วีถิ นาริยํ [อภิธาน ๙๔๐ คาถา]. อถสทฺเทน จตฺร อนนฺตริยตฺเถน สกปริยาโยปลกฺขณโต อโถ สทฺทาทีสุ จ น ปุพฺเพน สมฺพชฺฌเต. ปาณโก จาปฺยโถ อุจฺจาลิงฺโค โลมสปาณโกติ [อภิธาน ๖๒๓ คาถา].
[ฌ] อิทานิ พุทฺธวจนานมนุรูปานมฺปิ ปจุรปฺปโยคานเมว เกสฺจิ คหณํ อตฺตโน สตฺถนฺตราปสยฺหตาวเสน อหํการปุพฺพิกาภาวฺจ ทสฺเสตุมาห ‘‘ภิยฺโย ปโยค’’มิจฺจาทิ. โสคเต สุคตสฺส วจนภูเต อาคเม ปิฏกตฺตเย, ตฺหิ อาคจฺฉนฺติ ติวิธสมฺปตฺติโย เอเตนาติ อาคโมติ วุจฺจติ. ตสฺมึ ภิยฺโย ปโยคํ พาหุลฺเลน ปยุชฺชเตติ ปโยโค, ตํ อาคมฺม คเหตฺวา กฺวจิ อรฺวคฺคาทีสุ นิฆณฺฏุยุตฺติฺจ นิฆณฺฏุนามเก สตฺเถ อาคตํ พุทฺธวจนานุรูปํ ยุตฺติฺจ อานีย อาเนตฺวา นามลิงฺคํ กถียติ อนฺโตภาเวน นิปฺผนฺนํ พหิภาเวน ปกาสียเต. อาวิภาวตฺตเมว หิ ชฺตฺตํ สนฺตการิยการิโน. อาสีสายํ วา อวสฺสมฺภาวิโนปิ วจนสฺส วตฺตมานตฺถวตฺติจฺฉาย วตฺตมานตฺตํ, ตถา หิ โลเก อวสฺสมฺภาวิโน สิทฺธิมภิสนฺธาย ภาวินมปฺปตฺตํ วตฺตมานตฺเตน วา อตีตตฺเตน วา วตฺตุมิจฺฉติ, ตํ ยถา – ‘‘อิทํ มมมปาปเย’’ติ โกจิ เกนจาภิหิโต สนฺโต อวสฺสํ ตํ ภวิสฺสตีติ มฺมาโน ปาปิยมานํ ปตฺตํ วา วตฺตุมิจฺฉติ ¶ , ตโตเยว ‘‘อาสีสายํ ภูตมิว เจ’’ติ [ปาณินิ ๓.๓.๑๓๒] ตทติเทสวจนํ ปจฺจาขฺยายเต.
ปณามาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.