📜

๑. พฺรหฺมชาลสุตฺตวณฺณนา

ปริพฺพาชกกถาวณฺณนา

อิมิสฺสา ปมมหาสงฺคีติยา วตฺตมานาย วินยสงฺคหาวสาเน สุตฺตนฺตปิฏเก อาทินิกายสฺส อาทิสุตฺตํ พฺรหฺมชาลํ ปุจฺฉนฺเตน อายสฺมตา มหากสฺสเปน – ‘‘พฺรหฺมชาลํ, อาวุโส อานนฺท, กตฺถ ภาสิต’’นฺติ, เอวมาทิวุตฺตวจนปริโยสาเน ยตฺถ จ ภาสิตํ, ยฺจารพฺภ ภาสิตํ, ตํ สพฺพํ ปกาเสนฺโต อายสฺมา อานนฺโท เอวํ เม สุตนฺติอาทิมาห. เตน วุตฺตํ ‘‘พฺรหฺมชาลสฺสาปิ เอวํ เม สุตนฺติอาทิกํ อายสฺมตา อานนฺเทน ปมมหาสงฺคีติกาเล วุตฺตํ นิทานมาที’’ติ.

. ตตฺถ เอวนฺติ นิปาตปทํ. เมติอาทีนิ นามปทานิ. ปฏิปนฺโน โหตีติ เอตฺถ ปฏีติ อุปสคฺคปทํ, โหตีติ อาขฺยาตปทนฺติ. อิมินา ตาว นเยน ปทวิภาโค เวทิตพฺโพ.

อตฺถโต ปน เอวํ-สทฺโท ตาว อุปมูปเทสสมฺปหํสนครหณวจนสมฺปฏิคฺคหาการนิทสฺสนาวธารณาทิอเนกตฺถปฺปเภโท. ตถาเหส – ‘‘เอวํ ชาเตน มจฺเจน, กตฺตพฺพํ กุสลํ พหุ’’นฺติ (ธ. ป. ๕๓) เอวมาทีสุ อุปมายํ อาคโต. ‘‘เอวํ เต อภิกฺกมิตพฺพํ, เอวํ เต ปฏิกฺกมิตพฺพ’’นฺติอาทีสุ (อ. นิ. ๔.๑๒๒) อุปเทเส. ‘‘เอวเมตํ ภควา, เอวเมตํ สุคตา’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๓.๖๖) สมฺปหํสเน. ‘‘เอวเมวํ ปนายํ วสลี ยสฺมึ วา ตสฺมึ วา ตสฺส มุณฺฑกสฺส สมณกสฺส วณฺณํ ภาสตี’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๑๘๗) ครหเณ. ‘‘เอวํ, ภนฺเตติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุ’’นฺติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๑) วจนสมฺปฏิคฺคเห. ‘‘เอวํ พฺยา โข อหํ, ภนฺเต, ภควตา ธมฺมํ เทสิตํ อาชานามี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓๙๘) อากาเร. ‘‘เอหิ ตฺวํ, มาณวก, เยน สมโณ อานนฺโท เตนุปสงฺกม, อุปสงฺกมิตฺวา มม วจเนน สมณํ อานนฺทํ อปฺปาพาธํ อปฺปาตงฺกํ ลหุฏฺานํ พลํ ผาสุวิหารํ ปุจฺฉ. ‘‘สุโภ มาณโว โตเทยฺยปุตฺโต ภวนฺตํ อานนฺทํ อปฺปาพาธํ อปฺปาตงฺกํ ลหุฏฺานํ พลํ ผาสุวิหารํ ปุจฺฉตี’’ติ. ‘‘เอวฺจ วเทหิ, สาธุ กิร ภวํ อานนฺโท เยน สุภสฺส มาณวสฺส โตเทยฺยปุตฺตสฺส นิเวสนํ, เตนุปสงฺกมตุ อนุกมฺปํ อุปาทายา’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๔๔๕) นิทสฺสเน. ‘‘ตํ กึ มฺถ, กาลามา, อิเม ธมฺมา กุสลา วา อกุสลา วาติ? อกุสลา, ภนฺเต. สาวชฺชา วา อนวชฺชา วาติ? สาวชฺชา, ภนฺเต. วิฺุครหิตา วา วิฺุปฺปสตฺถา วาติ? วิฺุครหิตา, ภนฺเต. สมตฺตา สมาทินฺนา อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺตนฺติ โน วา, กถํ โว เอตฺถ โหตีติ? สมตฺตา, ภนฺเต, สมาทินฺนา อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺตนฺติ, เอวํ โน เอตฺถ โหตี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๓.๖๖) อวธารเณ. สฺวายมิธ อาการนิทสฺสนาวธารเณสุ ทฏฺพฺโพ.

ตตฺถ อาการตฺเถน เอวํ-สทฺเทน เอตมตฺถํ ทีเปติ, นานานยนิปุณมเนกชฺฌาสยสมุฏฺานํ, อตฺถพฺยฺชนสมฺปนฺนํ, วิวิธปาฏิหาริยํ, ธมฺมตฺถเทสนาปฏิเวธคมฺภีรํ, สพฺพสตฺตานํ สกสกภาสานุรูปโต โสตปถมาคจฺฉนฺตํ ตสฺส ภควโต วจนํ สพฺพปฺปกาเรน โก สมตฺโถ วิฺาตุํ, สพฺพถาเมน ปน โสตุกามตํ ชเนตฺวาปิ ‘เอวํ เม สุตํ’ มยาปิ เอเกนากาเรน สุตนฺติ.

นิทสฺสนตฺเถน – ‘‘นาหํ สยมฺภู, น มยา อิทํ สจฺฉิกต’’นฺติ อตฺตานํ ปริโมเจนฺโต – ‘เอวํ เม สุตํ’, ‘มยาปิ เอวํ สุต’นฺติ อิทานิ วตฺตพฺพํ สกลํ สุตฺตํ นิทสฺเสติ.

อวธารณตฺเถน – ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ พหุสฺสุตานํ ยทิทํ อานนฺโท, คติมนฺตานํ, สติมนฺตานํ, ธิติมนฺตานํ, อุปฏฺากานํ ยทิทํ อานนฺโท’’ติ (อ. นิ. ๑.๒๒๓). เอวํ ภควตา – ‘‘อายสฺมา อานนฺโท อตฺถกุสโล, ธมฺมกุสโล, พฺยฺชนกุสโล, นิรุตฺติกุสโล, ปุพฺพาปรกุสโล’’ติ (อ. นิ. ๕.๑๖๙). เอวํ ธมฺมเสนาปตินา จ ปสตฺถภาวานุรูปํ อตฺตโน ธารณพลํ ทสฺเสนฺโต สตฺตานํ โสตุกามตํ ชเนติ – ‘เอวํ เม สุตํ’, ตฺจ โข อตฺถโต วา พฺยฺชนโต วา อนูนมนธิกํ, เอวเมว น อฺถา ทฏฺพฺพ’’นฺติ.

เม-สทฺโท ตีสุ อตฺเถสุ ทิสฺสติ. ตถา หิสฺส – ‘‘คาถาภิคีตํ เม อโภชเนยฺย’’นฺติอาทีสุ (สุ. นิ. ๘๑) มยาติ อตฺโถ. ‘‘สาธุ เม, ภนฺเต, ภควา สงฺขิตฺเตน ธมฺมํ เทเสตู’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๔.๘๘) มยฺหนฺติ อตฺโถ. ‘‘ธมฺมทายาทา เม, ภิกฺขเว , ภวถา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๒๙) มมาติ อตฺโถ. อิธ ปน มยา สุตนฺติ จ, มม สุตนฺติ จ อตฺถทฺวเย ยุชฺชติ.

สุตนฺติ อยํ สุต-สทฺโท สอุปสคฺโค จ อนุปสคฺโค จ – คมนวิสฺสุตกิลินฺน-อุปจิตานุโยค-โสตวิฺเยฺย-โสตทฺวารานุสาร-วิฺาตาทิอเนกตฺถปฺปเภโท, ตถา หิสฺส ‘‘เสนาย ปสุโต’’ติอาทีสุ คจฺฉนฺโตติ อตฺโถ. ‘‘สุตธมฺมสฺส ปสฺสโต’’ติอาทีสุ (อุทา. ๑๑) วิสฺสุตธมฺมสฺสาติ อตฺโถ. ‘‘อวสฺสุตา อวสฺสุตสฺสา’’ติอาทีสุ (ปาจิ. ๖๕๗) กิลินฺนากิลินฺนสฺสาติ อตฺโถ. ‘‘ตุมฺเหหิ ปุฺํ ปสุตํ อนปฺปก’’นฺติอาทีสุ (ขุ. ปา. ๗.๑๒) อุปจิตนฺติ อตฺโถ. ‘‘เย ฌานปสุตา ธีรา’’ติอาทีสุ (ธ. ป. ๑๘๑) ฌานานุยุตฺตาติ อตฺโถ. ‘ทิฏฺํ สุตํ มุต’นฺติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๒๔๑) โสตวิฺเยฺยนฺติ อตฺโถ. ‘‘สุตธโร สุตสนฺนิจโย’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓๓๙) โสตทฺวารานุสารวิฺาตธโรติ อตฺโถ. อิธ ปนสฺส โสตทฺวารานุสาเรน อุปธาริตนฺติ วา อุปธารณนฺติ วาติ อตฺโถ. ‘เม’ สทฺทสฺส หิ ‘มยา’ติ อตฺเถ สติ ‘เอวํ มยา สุตํ’ โสตทฺวารานุสาเรน อุปธาริตนฺติ ยุชฺชติ. ‘มมา’ติ อตฺเถ สติ เอวํ มม สุตํ โสตทฺวารานุสาเรน อุปธารณนฺติ ยุชฺชติ.

เอวเมเตสุ ตีสุ ปเทสุ เอวนฺติ โสตวิฺาณาทิวิฺาณกิจฺจนิทสฺสนํ. เมติ วุตฺตวิฺาณสมงฺคิปุคฺคลนิทสฺสนํ. สุตนฺติ อสฺสวนภาวปฏิกฺเขปโต อนูนาธิกาวิปรีตคฺคหณนิทสฺสนํ. ตถา เอวนฺติ ตสฺสา โสตทฺวารานุสาเรน ปวตฺตาย วิฺาณวีถิยา นานปฺปกาเรน อารมฺมเณ ปวตฺติภาวปฺปกาสนํ. เมติ อตฺตปฺปกาสนํ. สุตนฺติ ธมฺมปฺปกาสนํ. อยฺเหตฺถ สงฺเขโป – ‘‘นานปฺปกาเรน อารมฺมเณ ปวตฺตาย วิฺาณวีถิยา มยา น อฺํ กตํ, อิทํ ปน กตํ, อยํ ธมฺโม สุโต’’ติ.

ตถา เอวนฺติ นิทฺทิสิตพฺพธมฺมปฺปกาสนํ. เมติ ปุคฺคลปฺปกาสนํ. สุตนฺติ ปุคฺคลกิจฺจปฺปกาสนํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ. ‘‘ยํ สุตฺตํ นิทฺทิสิสฺสามิ, ตํ มยา เอวํ สุต’’นฺติ.

ตถา เอวนฺติ ยสฺส จิตฺตสนฺตานสฺส นานาการปฺปวตฺติยา นานตฺถพฺยฺชนคฺคหณํ โหติ, ตสฺส นานาการนิทฺเทโส. เอวนฺติ หิ อยมาการปฺตฺติ. เมติ กตฺตุนิทฺเทโส. สุตนฺติ วิสยนิทฺเทโส. เอตฺตาวตา นานาการปฺปวตฺเตน จิตฺตสนฺตาเนน ตํ สมงฺคิโน กตฺตุ วิสยคฺคหณสนฺนิฏฺานํ กตํ โหติ.

อถวา เอวนฺติ ปุคฺคลกิจฺจนิทฺเทโส. สุตนฺติ วิฺาณกิจฺจนิทฺเทโส. เมติ อุภยกิจฺจยุตฺตปุคฺคลนิทฺเทโส. อยํ ปเนตฺถ สงฺเขโป, ‘‘มยา สวนกิจฺจวิฺาณสมงฺคินา ปุคฺคเลน วิฺาณวเสน ลทฺธสวนกิจฺจโวหาเรน สุต’’นฺติ.

ตตฺถ เอวนฺติ จ เมติ จ สจฺจิกฏฺปรมตฺถวเสน อวิชฺชมานปฺตฺติ. กิฺเหตฺถ ตํ ปรมตฺถโต อตฺถิ, ยํ เอวนฺติ วา เมติ วา นิทฺเทสํ ลเภถ? สุตนฺติ วิชฺชมานปฺตฺติ. ยฺหิ ตํ เอตฺถ โสเตน อุปลทฺธํ, ตํ ปรมตฺถโต วิชฺชมานนฺติ. ตถา ‘เอว’นฺติ จ, เมติ จ, ตํ ตํ อุปาทาย วตฺตพฺพโต อุปาทาปฺตฺติ. ‘สุต’นฺติ ทิฏฺาทีนิ อุปนิธาย วตฺตพฺพโต อุปนิธาปฺตฺติ. เอตฺถ จ เอวนฺติ วจเนน อสมฺโมหํ ทีเปติ. น หิ สมฺมูฬฺโห นานปฺปการปฏิเวธสมตฺโถ โหติ. ‘สุต’นฺติ วจเนน สุตสฺส อสมฺโมสํ ทีเปติ. ยสฺส หิ สุตํ สมฺมุฏฺํ โหติ, น โส กาลนฺตเรน มยา สุตนฺติ ปฏิชานาติ. อิจฺจสฺส อสมฺโมเหน ปฺาสิทฺธิ, อสมฺโมเสน ปน สติสิทฺธิ. ตตฺถ ปฺาปุพฺพงฺคมาย สติยา พฺยฺชนาวธารณสมตฺถตา, สติปุพฺพงฺคมาย ปฺาย อตฺถปฏิเวธสมตฺถตา. ตทุภยสมตฺถตาโยเคน อตฺถพฺยฺชนสมฺปนฺนสฺส ธมฺมโกสสฺส อนุปาลนสมตฺถโต ธมฺมภณฺฑาคาริกตฺตสิทฺธิ.

อปโร นโย, เอวนฺติ วจเนน โยนิโส มนสิการํ ทีเปติ. อโยนิโส มนสิกโรโต หิ นานปฺปการปฏิเวธาภาวโต. สุตนฺติ วจเนน อวิกฺเขปํ ทีเปติ, วิกฺขิตฺตจิตฺตสฺส สวนาภาวโต. ตถา หิ วิกฺขิตฺตจิตฺโต ปุคฺคโล สพฺพสมฺปตฺติยา วุจฺจมาโนปิ ‘‘น มยา สุตํ, ปุน ภณถา’’ติ ภณติ. โยนิโส มนสิกาเรน เจตฺถ อตฺตสมฺมาปณิธึ ปุพฺเพ จ กตปุฺตํ สาเธติ, สมฺมา อปฺปณิหิตตฺตสฺส ปุพฺเพ อกตปุฺสฺส วา ตทภาวโต. อวิกฺเขเปน สทฺธมฺมสฺสวนํ สปฺปุริสูปนิสฺสยฺจ สาเธติ. น หิ วิกฺขิตฺตจิตฺโต โสตุํ สกฺโกติ, น จ สปฺปุริเส อนุปสฺสยมานสฺส สวนํ อตฺถีติ.

อปโร นโย, ยสฺมา เอวนฺติ ยสฺส จิตฺตสนฺตานสฺส นานาการปฺปวตฺติยา นานตฺถพฺยฺชนคฺคหณํ โหติ, ตสฺส นานาการนิทฺเทโสติ วุตฺตํ, โส จ เอวํ ภทฺทโก อากาโร น สมฺมาอปฺปณิหิตตฺตโน ปุพฺเพ อกตปุฺสฺส วา โหติ, ตสฺมา เอวนฺติ อิมินา ภทฺทเกนากาเรน ปจฺฉิมจกฺกทฺวยสมฺปตฺติมตฺตโน ทีเปติ. สุตนฺติ สวนโยเคน ปุริมจกฺกทฺวยสมฺปตฺตึ. น หิ อปฺปติรูปเทเส วสโต สปฺปุริสูปนิสฺสยวิรหิตสฺส วา สวนํ อตฺถิ. อิจฺจสฺส ปจฺฉิมจกฺกทฺวยสิทฺธิยา อาสยสุทฺธิสิทฺธา โหติ, ปุริมจกฺกทฺวยสิทฺธิยา ปโยคสุทฺธิ, ตาย จ อาสยสุทฺธิยา อธิคมพฺยตฺติสิทฺธิ, ปโยคสุทฺธิยา อาคมพฺยตฺติสิทฺธิ. อิติ ปโยคาสยสุทฺธสฺส อาคมาธิคมสมฺปนฺนสฺส วจนํ อรุณุคฺคํ วิย สูริยสฺส อุทยโต โยนิโส มนสิกาโร วิย จ กุสลกมฺมสฺส อรหติ ภควโต วจนสฺส ปุพฺพงฺคมํ ภวิตุนฺติ าเน นิทานํ เปนฺโต – ‘‘เอวํ เม สุต’’นฺติอาทิมาห.

อปโร นโย, ‘เอว’นฺติ อิมินา นานปฺปการปฏิเวธทีปเกน วจเนน อตฺตโน อตฺถปฏิภานปฏิสมฺภิทาสมฺปตฺติสพฺภาวํ ทีเปติ. ‘สุต’นฺติ อิมินา โสตพฺพปฺปเภทปฏิเวธทีปเกน ธมฺมนิรุตฺติปฏิสมฺภิทาสมฺปตฺติสพฺภาวํ. ‘เอว’นฺติ จ อิทํ โยนิโส มนสิการทีปกํ วจนํ ภาสมาโน – ‘‘เอเต มยา ธมฺมา มนสานุเปกฺขิตา, ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธา’’ติ ทีเปติ. ‘สุต’นฺติ อิทํ สวนโยคทีปกํ วจนํ ภาสมาโน – ‘‘พหู มยา ธมฺมา สุตา ธาตา วจสา ปริจิตา’’ติ ทีเปติ. ตทุภเยนาปิ อตฺถพฺยฺชนปาริปูรึ ทีเปนฺโต สวเน อาทรํ ชเนติ. อตฺถพฺยฺชนปริปุณฺณฺหิ ธมฺมํ อาทเรน อสฺสุณนฺโต มหตา หิตา ปริพาหิโร โหตีติ, ตสฺมา อาทรํ ชเนตฺวา สกฺกจฺจํ อยํ ธมฺโม โสตพฺโพติ.

‘‘เอวํ เม สุต’’นฺติ อิมินา ปน สกเลน วจเนน อายสฺมา อานนฺโท ตถาคตปฺปเวทิตํ ธมฺมํ อตฺตโน อทหนฺโต อสปฺปุริสภูมึ อติกฺกมติ. สาวกตฺตํ ปฏิชานนฺโต สปฺปุริสภูมึ โอกฺกมติ. ตถา อสทฺธมฺมา จิตฺตํ วุฏฺาเปติ, สทฺธมฺเม จิตฺตํ ปติฏฺาเปติ. ‘‘เกวลํ สุตเมเวตํ มยา, ตสฺเสว ภควโต วจน’’นฺติ ทีเปนฺโต อตฺตานํ ปริโมเจติ, สตฺถารํ อปทิสติ, ชินวจนํ อปฺเปติ, ธมฺมเนตฺตึ ปติฏฺาเปติ.

อปิจ ‘‘เอวํ เม สุต’’นฺติ อตฺตนา อุปฺปาทิตภาวํ อปฺปฏิชานนฺโต ปุริมวจนํ วิวรนฺโต – ‘‘สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตมิทํ มยา ตสฺส ภควโต จตุเวสารชฺชวิสารทสฺส ทสพลธรสฺส อาสภฏฺานฏฺายิโน สีหนาทนาทิโน สพฺพสตฺตุตฺตมสฺส ธมฺมิสฺสรสฺส ธมฺมราชสฺส ธมฺมาธิปติโน ธมฺมทีปสฺส ธมฺมสรณสฺส สทฺธมฺมวรจกฺกวตฺติโน สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส วจนํ, น เอตฺถ อตฺเถ วา ธมฺเม วา ปเท วา พฺยฺชเน วา กงฺขา วา วิมติ วา กาตพฺพา’’ติ สพฺเพสํ เทวมนุสฺสานํ อิมสฺมึ ธมฺเม อสฺสทฺธิยํ วินาเสติ, สทฺธาสมฺปทํ อุปฺปาเทติ. เตเนตํ วุจฺจติ –

‘‘วินาสยติ อสฺสทฺธํ, สทฺธํ วฑฺเฒติ สาสเน;

เอวํ เม สุตมิจฺเจวํ, วทํ โคตมสาวโก’’ติ.

เอกนฺติ คณนปริจฺเฉทนิทฺเทโส. สมยนฺติ ปริจฺฉินฺนนิทฺเทโส. เอกํ สมยนฺติ อนิยมิตปริทีปนํ. ตตฺถ สมยสทฺโท –

‘‘สมวาเย ขเณ กาเล, สมูเห เหตุทิฏฺิสุ;

ปฏิลาเภ ปหาเน จ, ปฏิเวเธ จ ทิสฺสติ’’.

ตถา หิสฺส – ‘‘อปฺเปวนาม สฺเวปิ อุปสงฺกเมยฺยาม กาลฺจ สมยฺจ อุปาทายา’’ติ เอวมาทีสุ (ที. นิ. ๑.๔๔๗) สมวาโย อตฺโถ. ‘‘เอโกว โข ภิกฺขเว, ขโณ จ สมโย จ พฺรหฺมจริยวาสายา’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๘.๒๙) ขโณ. ‘‘อุณฺหสมโย ปริฬาหสมโย’’ติอาทีสุ (ปาจิ. ๓๕๘) กาโล. ‘‘มหาสมโย ปวนสฺมิ’’นฺติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๓๓๒) สมูโห. ‘‘สมโยปิ โข เต, ภทฺทาลิ, อปฺปฏิวิทฺโธ อโหสิ, ภควา โข สาวตฺถิยํ วิหรติ, ภควาปิ มํ ชานิสฺสติ, ภทฺทาลิ นาม ภิกฺขุ สตฺถุสาสเน สิกฺขาย อปริปูรการี’ติ. อยมฺปิ โข, เต ภทฺทาลิ, สมโย อปฺปฏิวิทฺโธ อโหสี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๒.๑๓๕) เหตุ. ‘‘เตน โข ปน สมเยน อุคฺคหมาโน ปริพฺพาชโก สมณมุณฺฑิกาปุตฺโต สมยปฺปวาทเก ตินฺทุกาจีเร เอกสาลเก มลฺลิกาย อาราเม ปฏิวสตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๒.๒๖๐) ทิฏฺิ.

‘‘ทิฏฺเ ธมฺเม จ โย อตฺโถ, โย จตฺโถ สมฺปรายิโก;

อตฺถาภิสมยา ธีโร, ปณฺฑิโตติ ปวุจฺจตี’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๑๒๘) –

อาทีสุ ปฏิลาโภ. ‘‘สมฺมา มานาภิสมยา อนฺตมกาสิ ทุกฺขสฺสา’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๗.๙) ปหานํ. ‘‘ทุกฺขสฺส ปีฬนฏฺโ สงฺขตฏฺโ สนฺตาปฏฺโ วิปริณามฏฺโ อภิสมยฏฺโ’’ติอาทีสุ (ปฏิ. ๑๐๘) ปฏิเวโธ. อิธ ปนสฺส กาโล อตฺโถ. เตน สํวจฺฉรอุตุมาสฑฺฒมาสรตฺติทิวปุพฺพณฺหมชฺฌนฺหิกสายนฺหปมมชฺฌิ-มปจฺฉิมยามมุหุตฺตาทีสุ กาลปฺปเภทภูเตสุ สมเยสุ เอกํ สมยนฺติ ทีเปติ.

ตตฺถ กิฺจาปิ เอเตสุ สํวจฺฉราทีสุ สมเยสุ ยํ ยํ สุตฺตํ ยสฺมึ ยสฺมึ สํวจฺฉเร อุตุมฺหิ มาเส ปกฺเข รตฺติภาเค วา ทิวสภาเค วา วุตฺตํ, สพฺพํ ตํ เถรสฺส สุวิทิตํ สุววตฺถาปิตํ ปฺาย. ยสฺมา ปน – ‘‘เอวํ เม สุตํ’’ อสุกสํวจฺฉเร อสุกอุตุมฺหิ อสุกมาเส อสุกปกฺเข อสุกรตฺติภาเค อสุกทิวสภาเค วาติ เอวํ วุตฺเต น สกฺกา สุเขน ธาเรตุํ วา อุทฺทิสิตุํ วา อุทฺทิสาเปตุํ วา, พหุ จ วตฺตพฺพํ โหติ, ตสฺมา เอเกเนว ปเทน ตมตฺถํ สโมธาเนตฺวา ‘‘เอกํ สมย’’นฺติ อาห. เย วา อิเม คพฺโภกฺกนฺติสมโย, ชาติสมโย, สํเวคสมโย, อภินิกฺขมนสมโย, ทุกฺกรการิกสมโย, มารวิชยสมโย, อภิสมฺโพธิสมโย ทิฏฺธมฺมสุขวิหารสมโย, เทสนาสมโย, ปรินิพฺพานสมโยติ, เอวมาทโย ภควโต เทวมนุสฺเสสุ อติวิย ปกาสา อเนกกาลปฺปเภทา เอว สมยา. เตสุ สมเยสุ เทสนาสมยสงฺขาตํ เอกํ สมยนฺติ ทีเปติ. โย จายํ าณกรุณากิจฺจสมเยสุ กรุณากิจฺจสมโย, อตฺตหิตปรหิตปฏิปตฺติสมเยสุ ปรหิตปฏิปตฺติสมโย, สนฺนิปติตานํ กรณียทฺวยสมเยสุ ธมฺมิกถาสมโย เทสนาปฏิปตฺติสมเยสุ เทสนาสมโย, เตสุปิ สมเยสุ อฺตรํ สมยํ สนฺธาย ‘‘เอกํ สมย’’นฺติ อาห.

กสฺมา ปเนตฺถ ยถา อภิธมฺเม ‘‘ยสฺมึ สมเย กามาวจร’’นฺติ (ธ. ส. ๑) จ, อิโต อฺเสุ จ สุตฺตปเทสุ – ‘‘ยสฺมึ สมเย, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหี’’ติ จ ภุมฺมวจนนิทฺเทโส กโต, วินเย จ – ‘‘เตน สมเยน พุทฺโธ ภควา’’ติ กรณวจเนน, ตถา อกตฺวา ‘‘เอกํ สมย’’นฺติ อุปโยควจนนิทฺเทโส กโตติ? ตตฺถ ตถา อิธ จ อฺถา อตฺถสมฺภวโต. ตตฺถ หิ อภิธมฺเม อิโต อฺเสุ สุตฺตปเทสุ จ อธิกรณตฺโถ ภาเวน ภาวลกฺขณตฺโถ จ สมฺภวติ. อธิกรณฺหิ กาลตฺโถ, สมูหตฺโถ จ สมโย, ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตานํ ผสฺสาทิธมฺมานํ ขณสมวายเหตุสงฺขาตสฺส จ สมยสฺส ภาเวน เตสํ ภาโว ลกฺขียติ, ตสฺมา ตทตฺถโชตนตฺถํ ตตฺถ ภุมฺมวจนนิทฺเทโส กโต.

วินเย จ เหตุอตฺโถ กรณตฺโถ จ สมฺภวติ. โย หิ โส สิกฺขาปทปฺตฺติสมโย สาริปุตฺตาทีหิปิ ทุพฺพิฺเยฺโย, เตน สมเยน เหตุภูเตน กรณภูเตน จ สิกฺขาปทานิ ปฺาปยนฺโต สิกฺขาปทปฺตฺติเหตุฺจ อเปกฺขมาโน ภควา ตตฺถ ตตฺถ วิหาสิ, ตสฺมา ตทตฺถโชตนตฺถํ ตตฺถ กรณวจเนน นิทฺเทโส กโต.

อิธ ปน อฺสฺมิฺจ เอวํ ชาติเก อจฺจนฺตสํโยคตฺโถ สมฺภวติ. ยฺหิ สมยํ ภควา อิมํ อฺํ วา สุตฺตนฺตํ เทเสสิ, อจฺจนฺตเมว ตํ สมยํ กรุณาวิหาเรน วิหาสิ, ตสฺมา ตทตฺถโชตนตฺถํ อิธ อุปโยควจนนิทฺเทโส กโตติ.

เตเนตํ วุจฺจติ –

‘‘ตํ ตํ อตฺถมเปกฺขิตฺวา, ภุมฺเมน กรเณน จ;

อฺตฺร สมโย วุตฺโต, อุปโยเคน โส อิธา’’ติ.

โปราณา ปน วณฺณยนฺติ – ‘‘ตสฺมึ สมเย’’ติ วา, ‘‘เตน สมเยนา’’ติ วา, ‘‘เอกํ สมย’’นฺติ วา, อภิลาปมตฺตเภโท เอส, สพฺพตฺถ ภุมฺมเมวตฺโถติ. ตสฺมา ‘‘เอกํ สมย’’นฺติ วุตฺเตปิ ‘‘เอกสฺมึ สมเย’’ติ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

ภควาติ ครุ. ครุฺหิ โลเก ภควาติ วทนฺติ. อยฺจ สพฺพคุณวิสิฏฺตาย สพฺพสตฺตานํ ครุ, ตสฺมา ภควาติ เวทิตพฺโพ. โปราเณหิปิ วุตฺตํ –

‘‘ภควาติ วจนํ เสฏฺํ, ภควาติ วจนมุตฺตมํ;

ครุ คารวยุตฺโต โส, ภควา เตน วุจฺจตี’’ติ.

อปิ จ –

‘‘ภาคฺยวา ภคฺควา ยุตฺโต, ภเคหิ จ วิภตฺตวา;

ภตฺตวา วนฺตคมโน, ภเวสุ ภควา ตโต’’ติ.

อิมิสฺสา คาถาย วเสนสฺส ปทสฺส วิตฺถารอตฺโถ เวทิตพฺโพ. โส จ วิสุทฺธิมคฺเค พุทฺธานุสฺสตินิทฺเทเส วุตฺโตเยว.

เอตฺตาวตา เจตฺถ เอวํ เม สุตนฺติ วจเนน ยถาสุตํ ธมฺมํ ทสฺเสนฺโต ภควโต ธมฺมกายํ ปจฺจกฺขํ กโรติ. เตน ‘‘นยิทํ อติกฺกนฺตสตฺถุกํ ปาวจนํ, อยํ โว สตฺถา’’ติ สตฺถุ อทสฺสเนน อุกฺกณฺิตํ ชนํ สมสฺสาเสติ.

เอกํ สมยํ ภควาติ วจเนน ตสฺมึ สมเย ภควโต อวิชฺชมานภาวํ ทสฺเสนฺโต รูปกายปรินิพฺพานํ สาเธติ. เตน ‘‘เอวํวิธสฺส นาม อริยธมฺมสฺส เทสโก ทสพลธโร วชิรสงฺฆาต สมานกาโย โสปิ ภควา ปรินิพฺพุโต, เกน อฺเน ชีวิเต อาสา ชเนตพฺพา’’ติ ชีวิตมทมตฺตํ ชนํ สํเวเชติ, สทฺธมฺเม จสฺส อุสฺสาหํ ชเนติ.

เอวนฺติ จ ภณนฺโต เทสนาสมฺปตฺตึ นิทฺทิสติ. เม สุตนฺติ สาวกสมฺปตฺตึ. เอกํ สมยนฺติ กาลสมฺปตฺตึ. ภควาติ เทสกสมฺปตฺตึ.

อนฺตรา จ ราชคหํ อนฺตรา จ นาฬนฺทนฺติ อนฺตรา-สทฺโท การณขณจิตฺตเวมชฺฌวิวราทีสุ ทิสฺสติ. ‘‘ตทนฺตรํ โก ชาเนยฺย อฺตฺร ตถาคตา’’ติ (อ. นิ. ๖.๔๔) จ, ‘‘ชนา สงฺคมฺม มนฺเตนฺติ มฺจ ตฺจ กิมนฺตร’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๒๒๘) จ อาทีสุ หิ การเณ อนฺตรา-สทฺโท. ‘‘อทฺทส มํ, ภนฺเต, อฺตรา อิตฺถี วิชฺชนฺตริกาย ภาชนํ โธวนฺตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๒.๑๔๙) ขเณ. ‘‘ยสฺสนฺตรโต น สนฺติ โกปา’’ติอาทีสุ (อุทา. ๒๐) จิตฺเต. ‘‘อนฺตรา โวสานมาปาที’’ติอาทีสุ (จูฬว. ๓๕๐) เวมชฺเฌ. ‘‘อปิ จายํ, ภิกฺขเว, ตโปทา ทฺวินฺนํ มหานิรยานํ อนฺตริกาย อาคจฺฉตี’’ติอาทีสุ (ปารา. ๒๓๑) วิวเร. สฺวายมิธ วิวเร วตฺตติ, ตสฺมา ราชคหสฺส จ นาฬนฺทาย จ วิวเรติ เอวเมตฺถตฺโถ เวทิตพฺโพ. อนฺตรา-สทฺเทน ปน ยุตฺตตฺตา อุปโยควจนํ กตํ. อีทิเสสุ จ าเนสุ อกฺขรจินฺตกา ‘‘อนฺตรา คามฺจ นทิฺจ ยาตี’’ติ เอวํ เอกเมว อนฺตราสทฺทํ ปยุชฺชนฺติ, โส ทุติยปเทนปิ โยเชตพฺโพ โหติ, อโยชิยมาเน อุปโยควจนํ น ปาปุณาติ. อิธ ปน โยเชตฺวาเยว วุตฺโตติ.

อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺโนโหตีติ อทฺธานสงฺขาตํ มคฺคํ ปฏิปนฺโน โหติ, ‘‘ทีฆมคฺค’’นฺติ อตฺโถ. อทฺธานคมนสมยสฺส หิ วิภงฺเค ‘‘อฑฺฒโยชนํ คจฺฉิสฺสามีติ ภุฺชิตพฺพ’’นฺติอาทิวจนโต (ปาจิ. ๒๑๘) อฑฺฒโยชนมฺปิ อทฺธานมคฺโค โหติ. ราชคหโต ปน นาฬนฺทา โยชนเมว.

มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธินฺติ ‘มหตา’ติ คุณมหตฺเตนปิ มหตา, สงฺขฺยามหตฺเตนปิ มหตา. โส หิ ภิกฺขุสงฺโฆ คุเณหิปิ มหา อโหสิ, อปฺปิจฺฉตาทิคุณสมนฺนาคตตฺตา. สงฺขฺยายปิ มหา, ปฺจสตสงฺขฺยตฺตา. ภิกฺขูนํ สงฺโฆ ‘ภิกฺขุสงฺโฆ’, เตน ภิกฺขุสงฺเฆน. ทิฏฺิสีลสามฺสงฺฆาตสงฺขาเตน สมณคเณนาติ อตฺโถ. สทฺธินฺติ เอกโต.

ปฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหีติ ปฺจมตฺตา เอเตสนฺติ ปฺจมตฺตานิ. มตฺตาติ ปมาณํ วุจฺจติ, ตสฺมา ยถา ‘‘โภชเน มตฺตฺู’’ติ วุตฺเต ‘‘โภชเน มตฺตํ ชานาติ, ปมาณํ ชานาตี’’ติ อตฺโถ โหติ, เอวมิธาปิ – ‘‘เตสํ ภิกฺขุสตานํ ปฺจมตฺตา ปฺจปมาณ’’นฺติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ภิกฺขูนํ สตานิ ภิกฺขุสตานิ, เตหิ ปฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหิ.

สุปฺปิโยปิโข ปริพฺพาชโกติ สุปฺปิโยติ ตสฺส นามํ. ปิ-กาโร มคฺคปฺปฏิปนฺนสภาคตาย ปุคฺคลสมฺปิณฺฑนตฺโถ. โข-กาโร ปทสนฺธิกโร, พฺยฺชนสิลิฏฺตาวเสน วุตฺโต. ปริพฺพาชโกติ สฺชยสฺส อนฺเตวาสี ฉนฺนปริพฺพาชโก. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘ยทา ภควา ตํ อทฺธานมคฺคํ ปฏิปนฺโน, ตทา สุปฺปิโยปิ ปริพฺพาชโก ปฏิปนฺโน อโหสี’’ติ. อตีตกาลตฺโถ เหตฺถ โหติ-สทฺโท.

สทฺธึ อนฺเตวาสินา พฺรหฺมทตฺเตน มาณเวนาติ – เอตฺถ อนฺเต วสตีติ อนฺเตวาสี. สมีปจาโร สนฺติกาวจโร สิสฺโสติ อตฺโถ. พฺรหฺมทตฺโตติ ตสฺส นามํ. มาณโวติ สตฺโตปิ โจโรปิ ตรุโณปิ วุจฺจติ.

‘‘โจทิตา เทวทูเตหิ, เย ปมชฺชนฺติ มาณวา;

เต ทีฆรตฺตํ โสจนฺติ, หีนกายูปคา นรา’’ติ. (ม. นิ. ๓.๒๗๑) –

อาทีสุ หิ สตฺโต มาณโวติ วุตฺโต. ‘‘มาณเวหิปิ สมาคจฺฉนฺติ กตกมฺเมหิปิ อกตกมฺเมหิปี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๒.๑๔๙) โจโร. ‘‘อมฺพฏฺโ มาณโว, องฺคโก มาณโว’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๓๑๖) ตรุโณ ‘มาณโว’ติ วุตฺโต. อิธาปิ อยเมวตฺโถ. อิทฺหิ วุตฺตํ โหติ – พฺรหฺมทตฺเตน นาม ตรุณนฺเตวาสินา สทฺธินฺติ.

ตตฺราติ ตสฺมึ อทฺธานมคฺเค, เตสุ วา ทฺวีสุ ชเนสุ. สุทนฺติ นิปาตมตฺตํ. อเนกปริยาเยนาติ ปริยาย-สทฺโท ตาว วารเทสนาการเณสุ วตฺตติ. ‘‘กสฺส นุ โข, อานนฺท, อชฺช ปริยาโย ภิกฺขุนิโย โอวทิตุ’’นฺติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๓๙๘) หิ วาเร ปริยายสทฺโท วตฺตติ. ‘‘มธุปิณฺฑิกปริยาโยตฺเวว นํ ธาเรหี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๒๐๕) เทสนายํ. ‘‘อิมินาปิ โข, เต ราชฺ, ปริยาเยน เอวํ โหตู’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๔๑๑) การเณ. สฺวายมิธาปิ การเณ วตฺตติ, ตสฺมา อยเมตฺถ อตฺโถ – ‘‘อเนกวิเธน การเณนา’’ติ, ‘‘พหูหิ การเณหี’’ติ วุตฺตํ โหติ.

พุทฺธสฺส อวณฺณํ ภาสตีติ อวณฺณวิรหิตสฺส อปริมาณวณฺณสมนฺนาคตสฺสาปิ พุทฺธสฺส ภควโต – ‘‘ยํ โลเก ชาติวุฑฺเฒสุ กตฺตพฺพํ อภิวาทนาทิสามีจิกมฺมํ ‘สามคฺคิรโส’ติ วุจฺจติ, ตํ สมณสฺส โคตมสฺส นตฺถิ ตสฺมา อรสรูโป สมโณ โคตโม, นิพฺโภโค, อกิริยวาโท, อุจฺเฉทวาโท, เชคุจฺฉี, เวนยิโก, ตปสฺสี, อปคพฺโภ. นตฺถิ สมณสฺส โคตมสฺส อุตฺตริมนุสฺสธมฺโม อลมริยาณทสฺสนวิเสโส. ตกฺกปริยาหตํ สมโณ โคตโม ธมฺมํ เทเสติ, วีมํสานุจริตํ, สยํปฏิภานํ. สมโณ โคตโม น สพฺพฺู, น โลกวิทู, น อนุตฺตโร, น อคฺคปุคฺคโล’’ติ. เอวํ ตํ ตํ อการณเมว การณนฺติ วตฺวา ตถา ตถา อวณฺณํ โทสํ นินฺทํ ภาสติ.

ยถา จ พุทฺธสฺส, เอวํ ธมฺมสฺสาปิ ตํ ตํ อการณเมว การณโต วตฺวา – ‘‘สมณสฺส โคตมสฺส ธมฺโม ทุรกฺขาโต, ทุปฺปฏิเวทิโต, อนิยฺยานิโก, อนุปสมสํวตฺตนิโก’’ติ ตถา ตถา อวณฺณํ ภาสติ.

ยถา จ ธมฺมสฺส, เอวํ สงฺฆสฺสาปิ ยํ วา ตํ วา อการณเมว การณโต วตฺวา – ‘‘มิจฺฉาปฏิปนฺโน สมณสฺส โคตมสฺส สาวกสงฺโฆ, กุฏิลปฏิปนฺโน, ปจฺจนีกปฏิปทํ อนนุโลมปฏิปทํ อธมฺมานุโลมปฏิปทํ ปฏิปนฺโน’’ติ ตถา ตถา อวณฺณํ ภาสติ.

อนฺเตวาสี ปนสฺส – ‘‘อมฺหากํ อาจริโย อปรามสิตพฺพํ ปรามสติ, อนกฺกมิตพฺพํ อกฺกมติ, สฺวายํ อคฺคึ คิลนฺโต วิย, หตฺเถน อสิธารํ ปรามสนฺโต วิย, มุฏฺินา สิเนรุํ ปทาเลตุกาโม วิย, กกจทนฺตปนฺติยํ กีฬมาโน วิย, ปภินฺนมทํ จณฺฑหตฺถึ หตฺเถน คณฺหนฺโต วิย จ วณฺณารหสฺเสว รตนตฺตยสฺส อวณฺณํ ภาสมาโน อนยพฺยสนํ ปาปุณิสฺสติ. อาจริเย โข ปน คูถํ วา อคฺคึ วา กณฺฏกํ วา กณฺหสปฺปํ วา อกฺกมนฺเต, สูลํ วา อภิรูหนฺเต, หลาหลํ วา วิสํ ขาทนฺเต, ขาโรทกํ วา ปกฺขลนฺเต, นรกปปาตํ วา ปปตนฺเต, น อนฺเตวาสินา ตํ สพฺพมนุกาตพฺพํ โหติ. กมฺมสฺสกา หิ สตฺตา อตฺตโน กมฺมานุรูปเมว คตึ คจฺฉนฺติ. เนว ปิตา ปุตฺตสฺส กมฺเมน คจฺฉติ, น ปุตฺโต ปิตุ กมฺเมน, น มาตา ปุตฺตสฺส, น ปุตฺโต มาตุยา, น ภาตา ภคินิยา, น ภคินี ภาตุ, น อาจริโย อนฺเตวาสิโน, น อนฺเตวาสี อาจริยสฺส กมฺเมน คจฺฉติ. มยฺหฺจ อาจริโย ติณฺณํ รตนานํ อวณฺณํ ภาสติ, มหาสาวชฺโช โข ปนาริยูปวาโทติ. เอวํ โยนิโส อุมฺมุชฺชิตฺวา อาจริยวาทํ มทฺทมาโน สมฺมาการณเมว การณโต อปทิสนฺโต อเนกปริยาเยน ติณฺณํ รตนานํ วณฺณํ ภาสิตุมารทฺโธ, ยถา ตํ ปณฺฑิตชาติโก กุลปุตฺโต’’. เตน วุตฺตํ – ‘‘สุปฺปิยสฺส ปน ปริพฺพาชกสฺส อนฺเตวาสี พฺรหฺมทตฺโต มาณโว อเนกปริยาเยน พุทฺธสฺส วณฺณํ ภาสติ, ธมฺมสฺส วณฺณํ ภาสติ, สงฺฆสฺส วณฺณํ ภาสตี’’ติ.

ตตฺถ วณฺณนฺติ วณฺณ-สทฺโท สณฺาน-ชาติ-รูปายตน-การณ-ปมาณ-คุณ-ปสํสาทีสุ ทิสฺสติ . ตตฺถ ‘‘มหนฺตํ สปฺปราชวณฺณํ อภินิมฺมินิตฺวา’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๑๔๒) สณฺานํ วุจฺจติ. ‘‘พฺราหฺมโณว เสฏฺโ วณฺโณ, หีโน อฺโ วณฺโณ’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๒.๔๐๒) ชาติ. ‘‘ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคโต’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๓๐๓) รูปายตนํ.

‘‘น หรามิ น ภฺชามิ, อารา สิงฺฆามิ วาริชํ;

อถ เกน นุ วณฺเณน, คนฺธตฺเถโนติ วุจฺจตี’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๒๓๔) –

อาทีสุ การณํ. ‘‘ตโย ปตฺตสฺส วณฺณา’’ติอาทีสุ (ปารา. ๖๐๒) ปมาณํ. ‘‘กทา สฺูฬฺหา ปน, เต คหปติ, อิเม สมณสฺส โคตมสฺส วณฺณา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๒.๗๗) คุโณ. ‘‘วณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสตี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๒.๑๓๕) ปสํสา. อิธ คุโณปิ ปสํสาปิ. อยํ กิร ตํ ตํ ภูตเมว การณํ อปทิสนฺโต อเนกปริยาเยน รตนตฺตยสฺส คุณูปสฺหิตํ ปสํสํ อภาสิ. ตตฺถ – ‘‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติอาทินา (ปารา. ๑) นเยน, ‘‘เย ภิกฺขเว, พุทฺเธ ปสนฺนา อคฺเค เต ปสนฺนา’’ติอาทินา ‘‘เอกปุคฺคโล, ภิกฺขเว, โลเก อุปฺปชฺชมาโน อุปฺปชฺชติ…เป… อสโม อสมสโม’’ติอาทินา (อ. นิ. ๑.๑๗๔) จ นเยน พุทฺธสฺส วณฺโณ เวทิตพฺโพ. ‘‘สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม’’ติ (ที. นิ. ๒.๑๕๙) จ ‘‘อาลยสมุคฺฆาโต วฏฺฏุปจฺเฉโท’’ติ (อิติ. ๙๐, อ. นิ. ๔.๓๔) จ, ‘‘เย ภิกฺขเว, อริเย อฏฺงฺคิเก มคฺเค ปสนฺนา, อคฺเค เต ปสนฺนา’’ติ จ เอวมาทีหิ นเยหิ ธมฺมสฺส วณฺโณ เวทิตพฺโพ. ‘‘สุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ’’ติ (ที. นิ. ๒.๑๕๙) จ, ‘‘เย, ภิกฺขเว, สงฺเฆ ปสนฺนา, อคฺเค เต ปสนฺนา’’ติ (อ. นิ. ๔.๓๔) จ เอวมาทีหิ ปน นเยหิ สงฺฆสฺส วณฺโณ เวทิตพฺโพ. ปโหนฺเตน ปน ธมฺมกถิเกน ปฺจนิกาเย นวงฺคํ สตฺถุสาสนํ จตุราสีติธมฺมกฺขนฺธสหสฺสานิ โอคาหิตฺวา พุทฺธาทีนํ วณฺโณ ปกาเสตพฺโพ. อิมสฺมิฺหิ าเน พุทฺธาทีนํ คุเณ ปกาเสนฺโต อติตฺเถน ปกฺขนฺโท ธมฺมกถิโกติ น สกฺกา วตฺตุํ. อีทิเสสุ หิ าเนสุ ธมฺมกถิกสฺส ถาโม เวทิตพฺโพ. พฺรหฺมทตฺโต ปน มาณโว อนุสฺสวาทิมตฺตสมฺพนฺธิเตน อตฺตโน ถาเมน รตนตฺตยสฺส วณฺณํ ภาสติ.

อิติห เต อุโภ อาจริยนฺเตวาสีติ เอวํ เต ทฺเว อาจริยนฺเตวาสิกา. อฺมฺสฺสาติ อฺโ อฺสฺส. อุชุวิปจฺจนีกวาทาติ อีสกมฺปิ อปริหริตฺวา อุชุเมว วิวิธปจฺจนีกวาทา, อเนกวารํ วิรุทฺธวาทา เอว หุตฺวาติ อตฺโถ. อาจริเยน หิ รตนตฺตยสฺส อวณฺเณ ภาสิเต อนฺเตวาสี วณฺณํ ภาสติ, ปุน อิตโร อวณฺณํ, อิตโร วณฺณนฺติ เอวํ อาจริโย สารผลเก วิสรุกฺขอาณึ อาโกฏยมาโน วิย ปุนปฺปุนํ รตนตฺตยสฺส อวณฺณํ ภาสติ. อนฺเตวาสี ปน สุวณฺณรชตมณิมยาย อาณิยา ตํ อาณึ ปฏิพาหยมาโน วิย ปุนปฺปุนํ รตนตฺตยสฺส วณฺณํ ภาสติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อุชุวิปจฺจนีกวาทา’’ติ.

ภควนฺตํ ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต อนุพนฺธา โหนฺติ ภิกฺขุสงฺฆฺจาติ ภควนฺตฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจ ปจฺฉโต ปจฺฉโต ทสฺสนํ อวิชหนฺตา อิริยาปถานุพนฺธเนน อนุพนฺธา โหนฺติ, สีสานุโลกิโน หุตฺวา อนุคตา โหนฺตีติ อตฺโถ.

กสฺมา ปน ภควา ตํ อทฺธานํ ปฏิปนฺโน? กสฺมา จ สุปฺปิโย อนุพนฺโธ? กสฺมา จ โส รตนตฺตยสฺส อวณฺณํ ภาสตีติ? ภควา ตาว ตสฺมึ กาเล ราชคหปริวตฺตเกสุ อฏฺารสสุ มหาวิหาเรสุ อฺตรสฺมึ วสิตฺวา ปาโตว สรีรปฺปฏิชคฺคนํ กตฺวา ภิกฺขาจารเวลายํ ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต ราชคเห ปิณฺฑาย จรติ. โส ตํ ทิวสํ ภิกฺขุสงฺฆสฺส สุลภปิณฺฑปาตํ กตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต ภิกฺขุสงฺฆํ ปตฺตจีวรํ คาหาเปตฺวา – ‘‘นาฬนฺทํ คมิสฺสามี’’ติ, ราชคหโต นิกฺขมิตฺวา ตํ อทฺธานํ ปฏิปนฺโน. สุปฺปิโยปิ โข ตสฺมึ กาเล ราชคหปริวตฺตเก อฺตรสฺมึ ปริพฺพาชการาเม วสิตฺวา ปริพฺพาชกปริวุโต ราชคเห ภิกฺขาย จรติ. โสปิ ตํ ทิวสํ ปริพฺพาชกปริสาย สุลภภิกฺขํ กตฺวา ภุตฺตปาตราโส ปริพฺพาชเก ปริพฺพาชกปริกฺขารํ คาหาเปตฺวา – นาฬนฺทํ คมิสฺสามิจฺเจว ภควโต ตํ มคฺคํ ปฏิปนฺนภาวํ อชานนฺโตว อนุพนฺโธ. สเจ ปน ชาเนยฺย นานุพนฺเธยฺย. โส อชานิตฺวาว คจฺฉนฺโต คีวํ อุกฺขิปิตฺวา โอโลกยมาโน ภควนฺตํ อทฺทส พุทฺธสิริยา โสภมานํ รตฺตกมฺพลปริกฺขิตฺตมิว ชงฺคมกนกคิริสิขรํ.

ตสฺมึ กิร สมเย ทสพลสฺส สรีรโต นิกฺขมิตฺวา ฉพฺพณฺณรสฺมิโย สมนฺตา อสีติหตฺถปฺปมาเณ ปเทเส อาธาวนฺติ วิธาวนฺติ รตนาเวฬรตนทามรตนจุณฺณวิปฺปกิณฺณํ วิย, ปสาริตรตนจิตฺตกฺจนปฏมิว, รตฺตสุวณฺณรสนิสิฺจมานมิว, อุกฺกาสตนิปาตสมากุลมิว, นิรนฺตรวิปฺปกิณฺณกณิการปุปฺผมิว วายุเวคกฺขิตฺตจีนปิฏฺจุณฺณมิว, อินฺทธนุวิชฺชุลตาตาราคณปฺปภาวิสรวิปฺผุริตวิจฺฉริตมิว จ ตํ วนนฺตรํ โหติ.

อสีติ อนุพฺยฺชนานุรฺชิตฺจ ปน ภควโต สรีรํ วิกสิตกมลุปฺปลมิว, สรํ สพฺพปาลิผุลฺลมิว ปาริจฺฉตฺตกํ, ตารามรีจิวิกสิตมิว, คคนตลํ สิริยา อวหสนฺตมิว, พฺยามปฺปภาปริกฺเขปวิลาสินี จสฺส ทฺวตฺตึสวรลกฺขณมาลา คนฺเถตฺวา ปิตทฺวตฺตึสจนฺทมาลาย ทฺวตฺตึสสูริยมาลาย ปฏิปาฏิยา ปิตทฺวตฺตึสจกฺกวตฺติทฺวตฺตึสสกฺกเทวราชทฺวตฺตึสมหาพฺรหฺมานํ สิรึ สิริยา อภิภวนฺติมิว. ตฺจ ปน ภควนฺตํ ปริวาเรตฺวา ิตา ภิกฺขู สพฺเพว อปฺปิจฺฉา สนฺตุฏฺา ปวิวิตฺตา อสํสฏฺา โจทกา ปาปครหิโน วตฺตาโร วจนกฺขมา สีลสมฺปนฺนา สมาธิปฺาวิมุตฺติวิมุตฺติฺาณทสฺสนสมฺปนฺนา. เตสํ มชฺเฌ ภควา รตฺตกมฺพลปาการปริกฺขิตฺโต วิย กฺจนถมฺโภ, รตฺตปทุมสณฺฑมชฺฌคตา วิย สุวณฺณนาวา, ปวาฬเวทิกาปริกฺขิตฺโต วิย อคฺคิกฺขนฺโธ, ตาราคณปริวาริโต วิย ปุณฺณจนฺโท มิคปกฺขีนมฺปิ จกฺขูนิ ปีณยติ, ปเคว เทวมนุสฺสานํ. ตสฺมิฺจ ปน ทิวเส เยภุยฺเยน อสีติมหาเถรา เมฆวณฺณํ ปํสุกูลํ เอกํสํ กริตฺวา กตฺตรทณฺฑํ อาทาย สุวมฺมวมฺมิตา วิย คนฺธหตฺถิโน วิคตโทสา วนฺตโทสา ภินฺนกิเลสา วิชฏิตชฏา ฉินฺนพนฺธนา ภควนฺตํ ปริวารยึสุ. โส สยํ วีตราโค วีตราเคหิ, สยํ วีตโทโส วีตโทเสหิ, สยํ วีตโมโห วีตโมเหหิ, สยํ วีตตณฺโห วีตตณฺเหหิ, สยํ นิกฺกิเลโส นิกฺกิเลเสหิ, สยํ พุทฺโธ อนุพุทฺเธหิ ปริวาริโต; ปตฺตปริวาริตํ วิย เกสรํ, เกสรปริวาริตา วิย กณฺณิกา, อฏฺนาคสหสฺสปริวาริโต วิย ฉทฺทนฺโต นาคราชา, นวุติหํสสหสฺสปริวาริโต วิย ธตรฏฺโ หํสราชา, เสนงฺคปริวาริโต วิย จกฺกวตฺติราชา, เทวคณปริวาริโต วิย สกฺโก เทวราชา, พฺรหฺมคณปริวาริโต วิย หาริโต มหาพฺรหฺมา, อปริมิตกาลสฺจิตปุฺพลนิพฺพตฺตาย อจินฺเตยฺยาย อโนปมาย พุทฺธลีลาย จนฺโท วิย คคนตลํ ตํ มคฺคํ ปฏิปนฺโน โหติ.

อเถวํ ภควนฺตํ อโนปมาย พุทฺธลีลาย คจฺฉนฺตํ ภิกฺขู จ โอกฺขิตฺตจกฺขู สนฺตินฺทฺริเย สนฺตมานเส อุปรินเภ ิตํ ปุณฺณจนฺทํ วิย ภควนฺตํเยว นมสฺสมาเน ทิสฺวาว ปริพฺพาชโก อตฺตโน ปริสํ อวโลเกสิ. สา โหติ กาชทณฺฑเก โอลมฺเพตฺวา คหิโตลุคฺควิลุคฺคปิฏฺกติทณฺฑโมรปิฺฉมตฺติกาปตฺตปสิพฺพกกุณฺฑิกาทิอเนกปริกฺขารภารภริตา . ‘‘อสุกสฺส หตฺถา โสภณา, อสุกสฺส ปาทา’’ติ เอวมาทินิรตฺถกวจนา มุขรา วิกิณฺณวาจา อทสฺสนียา อปาสาทิกา. ตสฺส ตํ ทิสฺวา วิปฺปฏิสาโร อุทปาทิ.

อิทานิ เตน ภควโต วณฺโณ วตฺตพฺโพ ภเวยฺย. ยสฺมา ปเนส ลาภสกฺการหานิยา เจว ปกฺขหานิยา จ นิจฺจมฺปิ ภควนฺตํ อุสูยติ. อฺติตฺถิยานฺหิ ยาว พุทฺโธ โลเก นุปฺปชฺชติ, ตาวเทว ลาภสกฺการา นิพฺพตฺตนฺติ, พุทฺธุปฺปาทโต ปน ปฏฺาย ปริหีนลาภสกฺการา โหนฺติ , สูริยุคฺคมเน ขชฺโชปนกา วิย นิสฺสิรีกตํ อาปชฺชนฺติ. อุปติสฺสโกลิตานฺจ สฺชยสฺส สนฺติเก ปพฺพชิตกาเลเยว ปริพฺพาชกา มหาปริสา อเหสุํ, เตสุ ปน ปกฺกนฺเตสุ สาปิ เตสํ ปริสา ภินฺนา. อิติ อิเมหิ ทฺวีหิ การเณหิ อยํ ปริพฺพาชโก ยสฺมา นิจฺจมฺปิ ภควนฺตํ อุสูยติ, ตสฺมา ตํ อุสูยวิสุคฺคารํ อุคฺคิรนฺโต รตนตฺตยสฺส อวณฺณเมว ภาสตีติ เวทิตพฺโพ.

. อถ โข ภควา อมฺพลฏฺิกายํ ราชาคารเก เอกรตฺติวาสํ อุปคจฺฉิ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆนาติ ภควา ตาย พุทฺธลีลาย คจฺฉมาโน อนุปุพฺเพน อมฺพลฏฺิกาทฺวารํ ปาปุณิตฺวา สูริยํ โอโลเกตฺวา – ‘‘อกาโล ทานิ คนฺตุํ, อตฺถสมีปํ คโต สูริโย’’ติ อมฺพลฏฺิกายํ ราชาคารเก เอกรตฺติวาสํ อุปคจฺฉิ.

ตตฺถ อมฺพลฏฺิกาติ รฺโ อุยฺยานํ. ตสฺส กิร ทฺวารสมีเป ตรุณอมฺพรุกฺโข อตฺถิ, ตํ ‘‘อมฺพลฏฺิกา’’ติ วทนฺติ. ตสฺส อวิทูเร ภวตฺตา อุยฺยานมฺปิ อมฺพลฏฺิกา ตฺเวว สงฺขฺยํ คตํ. ตํ ฉายูทกสมฺปนฺนํ ปาการปริกฺขิตฺตํ สุโยชิตทฺวารํ มฺชุสา วิย สุคุตฺตํ. ตตฺถ รฺโ กีฬนตฺถํ ปฏิภานจิตฺตวิจิตฺตํ อคารํ อกํสุ. ตํ ‘‘ราชาคารก’’นฺติ วุจฺจติ.

สุปฺปิโยปิ โขติ สุปฺปิโยปิ ตสฺมึ าเน สูริยํ โอโลเกตฺวา – ‘‘อกาโล ทานิ คนฺตุํ, พหู ขุทฺทกมหลฺลกา ปริพฺพาชกา, พหุปริสฺสโย จ อยํ มคฺโค โจเรหิปิ วาฬยกฺเขหิปิ วาฬมิเคหิปิ. อยํ โข ปน สมโณ โคตโม อุยฺยานํ ปวิฏฺโ, สมณสฺส จ โคตมสฺส วสนฏฺาเน เทวตา อารกฺขํ คณฺหนฺติ, หนฺทาหมฺปิ อิธ เอกรตฺติวาสํ อุปคนฺตฺวา สฺเวว คมิสฺสามี’’ติ ตเทวุยฺยานํ ปาวิสิ. ตโต ภิกฺขุสงฺโฆ ภควโต วตฺตํ ทสฺเสตฺวา อตฺตโน อตฺตโน วสนฏฺานํ สลฺลกฺเขสิ. ปริพฺพาชโกปิ อุยฺยานสฺส เอกปสฺเส ปริพฺพาชกปริกฺขาเร โอตาเรตฺวา วาสํ อุปคจฺฉิ สทฺธึ อตฺตโน ปริสาย. ปาฬิยมารูฬฺหวเสเนว ปน – ‘‘สทฺธึ อตฺตโน อนฺเตวาสินา พฺรหฺมทตฺเตน มาณเวนา’’ติ วุตฺตํ.

เอวํ วาสํ อุปคโต ปน โส ปริพฺพาชโก รตฺติภาเค ทสพลํ โอโลเกสิ. ตสฺมิฺจ สมเย สมนฺตา วิปฺปกิณฺณตารกา วิย ปทีปา ชลนฺติ, มชฺเฌ ภควา นิสินฺโน โหติ, ภิกฺขุสงฺโฆ จ ภควนฺตํ ปริวาเรตฺวา. ตตฺถ เอกภิกฺขุสฺสปิ หตฺถกุกฺกุจฺจํ วา ปาทกุกฺกุจฺจํ วา อุกฺกาสิตสทฺโท วา ขิปิตสทฺโท วา นตฺถิ. สา หิ ปริสา อตฺตโน จ สิกฺขิตสิกฺขตาย สตฺถริ จ คารเวนาติ ทฺวีหิ การเณหิ นิวาเต ปทีปสิขา วิย นิจฺจลา สนฺนิสินฺนาว อโหสิ. ปริพฺพาชโก ตํ วิภูตึ ทิสฺวา อตฺตโน ปริสํ โอโลเกสิ. ตตฺถ เกจิ หตฺถํ ขิปนฺติ, เกจิ ปาทํ, เกจิ วิปฺปลปนฺติ, เกจิ นิลฺลาลิตชิวฺหา ปคฺฆริตเขฬา, ทนฺเต ขาทนฺตา กากจฺฉมานา ฆรุฆรุปสฺสาสิโน สยนฺติ. โส รตนตฺตยสฺส คุณวณฺเณ วตฺตพฺเพปิ อิสฺสาวเสน ปุน อวณฺณเมว อารภิ. พฺรหฺมทตฺโต ปน วุตฺตนเยเนว วณฺณํ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ตตฺราปิ สุทํ สุปฺปิโย ปริพฺพาชโก’’ติ สพฺพํ วตฺตพฺพํ. ตตฺถ ตตฺราปีติ ตสฺมิมฺปิ, อมฺพลฏฺิกายํ อุยฺยาเนติ อตฺโถ.

. สมฺพหุลานนฺติ พหุกานํ. ตตฺถ วินยปริยาเยน ตโย ชนา ‘‘สมฺพหุลา’’ติ วุจฺจนฺติ. ตโต ปรํ สงฺโฆ. สุตฺตนฺตปริยาเยน ปน ตโย ตโยว ตโต ปฏฺาย สมฺพหุลา. อิธ สุตฺตนฺตปริยาเยน ‘‘สมฺพหุลา’’ติ เวทิตพฺพา. มณฺฑลมาเฬติ กตฺถจิ ทฺเว กณฺณิกา คเหตฺวา หํสวฏฺฏกจฺฉนฺเนน กตา กูฏาคารสาลาปิ ‘‘มณฺฑลมาโฬ’’ติ วุจฺจติ, กตฺถจิ เอกํ กณฺณิกํ คเหตฺวา ถมฺภปนฺตึ ปริกฺขิปิตฺวา กตา อุปฏฺานสาลาปิ ‘‘มณฺฑลมาโฬ’’ติ วุจฺจติ. อิธ ปน นิสีทนสาลา ‘‘มณฺฑลมาโฬ’’ติ เวทิตพฺโพ. สนฺนิสินฺนานนฺติ นิสชฺชนวเสน. สนฺนิปติตานนฺติ สโมธานวเสน. อยํ สงฺขิยธมฺโมติ สงฺขิยา วุจฺจติ กถา , กถาธมฺโมติ อตฺโถ. อุทปาทีติ อุปฺปนฺโน. กตโม ปน โสติ? อจฺฉริยํ อาวุโสติ เอวมาทิ. ตตฺถ อนฺธสฺส ปพฺพตาโรหณํ วิย นิจฺจํ น โหตีติ อจฺฉริยํ. อยํ ตาว สทฺทนโย. อยํ ปน อฏฺกถานโย – อจฺฉราโยคฺคนฺติ อจฺฉริยํ. อจฺฉรํ ปหริตุํ ยุตฺตนฺติ อตฺโถ. อภูตปุพฺพํ ภูตนฺติ อพฺภุตํ. อุภยํ เปตํ วิมฺหยสฺเสวาธิวจนํ. ยาวฺจิทนฺติ ยาว จ อิทํ เตน สุปฺปฏิวิทิตตาย อปฺปเมยฺยตฺตํ ทสฺเสติ.

เตน ภควตา ชานตา…เป… สุปฺปฏิวิทิตาติ เอตฺถายํ สงฺเขปตฺโถ. โย โส ภควา สมตึส ปารมิโย ปูเรตฺวา สพฺพกิเลเส ภฺชิตฺวา อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธ, เตน ภควตา เตสํ เตสํ สตฺตานํ อาสยานุสยํ ชานตา, หตฺถตเล ปิตํ อามลกํ วิย สพฺพเยฺยธมฺมํ ปสฺสตา.

อปิ จ ปุพฺเพนิวาสาทีหิ ชานตา, ทิพฺเพน จกฺขุนา ปสฺสตา. ตีหิ วิชฺชาหิ ฉหิ วา ปน อภิฺาหิ ชานตา, สพฺพตฺถ อปฺปฏิหเตน สมนฺตจกฺขุนา ปสฺสตา. สพฺพธมฺมชานนสมตฺถาย วา ปฺาย ชานตา, สพฺพสตฺตานํ จกฺขุวิสยาตีตานิ ติโรกุฏฺฏาทิคตานิปิ รูปานิ อติวิสุทฺเธน มํสจกฺขุนา ปสฺสตา. อตฺตหิตสาธิกาย วา สมาธิปทฏฺานาย ปฏิเวธปฺาย ชานตา, ปรหิตสาธิกาย กรุณาปทฏฺานาย เทสนาปฺาย ปสฺสตา.

อรีนํ หตตฺตา ปจฺจยาทีนฺจ อรหตฺตา อรหตา. สมฺมา สามฺจ สพฺพธมฺมานํ พุทฺธตฺตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน อนฺตรายิกธมฺเม วา ชานตา, นิยฺยานิกธมฺเม ปสฺสตา, กิเลสารีนํ หตตฺตา อรหตา. สมฺมา สามฺจ สพฺพธมฺมานํ พุทฺธตฺตา สมฺมาสมฺพุทฺเธนาติ. เอวํ จตูเวสารชฺชวเสน จตูหากาเรหิ โถมิเตน สตฺตานํ นานาธิมุตฺติกตา นานชฺฌาสยตา สุปฺปฏิวิทิตา ยาว จ สุฏฺุ ปฏิวิทิตา.

อิทานิสฺส สุปฺปฏิวิทิตภาวํ ทสฺเสตุํ อยฺหีติอาทิมาห. อิทํ วุตฺตํ โหติ ยา จ อยํ ภควตา ‘‘ธาตุโส, ภิกฺขเว, สตฺตา สํสนฺทนฺติ สเมนฺติ, หีนาธิมุตฺติกา หีนาธิมุตฺติเกหิ สทฺธึ สํสนฺทนฺติ สเมนฺติ, กลฺยาณาธิมุตฺติกา กลฺยาณาธิมุตฺติเกหิ สทฺธึ สํสนฺทนฺติ สเมนฺติ. อตีตมฺปิ โข, ภิกฺขเว, อทฺธานํ ธาตุโสว สตฺตา สํสนฺทึสุ สมึสุ, หีนาธิมุตฺติกา หีนาธิมุตฺติเกหิ…เป… กลฺยาณาธิมุตฺติกา กลฺยาณาธิมุตฺติเกหิ สทฺธึ สํสนฺทึสุ สมึสุ, อนาคตมฺปิ โข, ภิกฺขเว, อทฺธานํ…เป… สํสนฺทิสฺสนฺติ สเมสฺสนฺติ, เอตรหิปิ โข, ภิกฺขเว, ปจฺจุปฺปนฺนํ อทฺธานํ ธาตุโสว สตฺตา สํสนฺทนฺติ สเมนฺติ, หีนาธิมุตฺติกา หีนาธิมุตฺติเกหิ…เป… กลฺยาณาธิมุตฺติกา กลฺยาณาธิมุตฺติเกหิ สทฺธึ สํสนฺทนฺติ สเมนฺตี’’ติ เอวํ สตฺตานํ นานาธิมุตฺติกตา, นานชฺฌาสยตา, นานาทิฏฺิกตา, นานาขนฺติตา, นานารุจิตา, นาฬิยา มินนฺเตน วิย ตุลาย ตุลยนฺเตน วิย จ นานาธิมุตฺติกตาาเณน สพฺพฺุตฺาเณน วิทิตา, สา ยาว สุปฺปฏิวิทิตา. ทฺเวปิ นาม สตฺตา เอกชฺฌาสยา ทุลฺลภา โลกสฺมึ. เอกสฺมึ คนฺตุกาเม เอโก าตุกาโม โหติ, เอกสฺมึ ปิวิตุกาเม เอโก ภุฺชิตุกาโม. อิเมสุ จาปิ ทฺวีสุ อาจริยนฺเตวาสีสุ อยฺหิ ‘‘สุปฺปิโย ปริพฺพาชโก…เป… ภควนฺตํ ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต อนุพนฺธา โหนฺติ ภิกฺขุสงฺฆฺจา’’ติ. ตตฺถ อิติหเมติ อิติห อิเม, เอวํ อิเมติ อตฺโถ. เสสํ วุตฺตนยเมว.

. อถ โข ภควา เตสํ ภิกฺขูนํ อิมํ สงฺขิยธมฺมํ วิทิตฺวาติ เอตฺถ วิทิตฺวาติ สพฺพฺุตฺาเณน ชานิตฺวา. ภควา หิ กตฺถจิ มํสจกฺขุนา ทิสฺวา ชานาติ – ‘‘อทฺทสา โข ภควา มหนฺตํ ทารุกฺขนฺธํ คงฺคาย นทิยา โสเตน วุยฺหมาน’’นฺติอาทีสุ (สํ. นิ. ๔.๒๔๑) วิย. กตฺถจิ ทิพฺพจกฺขุนา ทิสฺวา ชานาติ – ‘‘อทฺทสา โข ภควา ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน ตา เทวตาโย สหสฺสสฺเสว ปาฏลิคาเม วตฺถูนิ ปริคณฺหนฺติโย’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๑๕๒) วิย. กตฺถจิ ปกติโสเตน สุตฺวา ชานาติ – ‘‘อสฺโสสิ โข ภควา อายสฺมโต อานนฺทสฺส สุภทฺเทน ปริพฺพาชเกน สทฺธึ อิมํ กถาสลฺลาป’’นฺติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๒๑๓) วิย. กตฺถจิ ทิพฺพโสเตน สุตฺวา ชานาติ – ‘‘อสฺโสสิ โข ภควา ทิพฺพาย โสตธาตุยา วิสุทฺธาย อติกฺกนฺตมานุสิกาย สนฺธานสฺส คหปติสฺส นิคฺโรเธน ปริพฺพาชเกน สทฺธึ อิมํ กถาสลฺลาป’’นฺติอาทีสุ (ที. นิ. ๓.๕๔) วิย. อิธ ปน สพฺพฺุตฺาเณน สุตฺวา อฺาสิ. กึ กโรนฺโต อฺาสิ? ปจฺฉิมยามกิจฺจํ, กิจฺจฺจ นาเมตํ สาตฺถกํ, นิรตฺถกนฺติ ทุวิธํ โหติ. ตตฺถ นิรตฺถกกิจฺจํ ภควตา โพธิปลฺลงฺเกเยว อรหตฺตมคฺเคน สมุคฺฆาตํ กตํ. สาตฺถกํเยว ปน ภควโต กิจฺจํ โหติ. ตํ ปฺจวิธํ – ปุเรภตฺตกิจฺจํ, ปจฺฉาภตฺตกิจฺจํ, ปุริมยามกิจฺจํ, มชฺฌิมยามกิจฺจํ, ปจฺฉิมยามกิจฺจนฺติ.

ตตฺริทํ ปุเรภตฺตกิจฺจํ –

ภควา หิ ปาโตว อุฏฺาย อุปฏฺากานุคฺคหตฺถํ สรีรผาสุกตฺถฺจ มุขโธวนาทิสรีรปริกมฺมํ กตฺวา ยาว ภิกฺขาจารเวลา ตาว วิวิตฺตาสเน วีตินาเมตฺวา, ภิกฺขาจารเวลายํ นิวาเสตฺวา กายพนฺธนํ พนฺธิตฺวา จีวรํ ปารุปิตฺวา ปตฺตมาทาย กทาจิ เอกโก, กทาจิ ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต, คามํ วา นิคมํ วา ปิณฺฑาย ปวิสติ; กทาจิ ปกติยา, กทาจิ อเนเกหิ ปาฏิหาริเยหิ วตฺตมาเนหิ. เสยฺยถิทํ, ปิณฺฑาย ปวิสโต โลกนาถสฺส ปุรโต ปุรโต คนฺตฺวา มุทุคตวาตา ปถวึ โสเธนฺติ, วลาหกา อุทกผุสิตานิ มุฺจนฺตา มคฺเค เรณุํ วูปสเมตฺวา อุปริ วิตานํ หุตฺวา ติฏฺนฺติ, อปเร วาตา ปุปฺผานิ อุปสํหริตฺวา มคฺเค โอกิรนฺติ, อุนฺนตา ภูมิปฺปเทสา โอนมนฺติ, โอนตา อุนฺนมนฺติ, ปาทนิกฺเขปสมเย สมาว ภูมิ โหติ, สุขสมฺผสฺสานิ ปทุมปุปฺผานิ วา ปาเท สมฺปฏิจฺฉนฺติ. อินฺทขีลสฺส อนฺโต ปิตมตฺเต ทกฺขิณปาเท สรีรโต ฉพฺพณฺณรสฺมิโย นิกฺขมิตฺวา สุวณฺณรสปิฺชรานิ วิย จิตฺรปฏปริกฺขิตฺตานิ วิย จ ปาสาทกูฏาคาราทีนิ อลงฺกโรนฺติโย อิโต จิโต จ ธาวนฺติ, หตฺถิอสฺสวิหงฺคาทโย สกสกฏฺาเนสุ ิตาเยว มธุเรนากาเรน สทฺทํ กโรนฺติ, ตถา เภริวีณาทีนิ ตูริยานิ มนุสฺสานฺจ กายูปคานิ อาภรณานิ. เตน สฺาเณน มนุสฺสา ชานนฺติ – ‘‘อชฺช ภควา อิธ ปิณฺฑาย ปวิฏฺโ’’ติ. เต สุนิวตฺถา สุปารุตา คนฺธปุปฺผาทีนิ อาทาย ฆรา นิกฺขมิตฺวา อนฺตรวีถึ ปฏิปชฺชิตฺวา ภควนฺตํ คนฺธปุปฺผาทีหิ สกฺกจฺจํ ปูเชตฺวา วนฺทิตฺวา – ‘‘อมฺหากํ, ภนฺเต, ทส ภิกฺขู, อมฺหากํ วีสติ, ปฺาสํ…เป… สตํ เทถา’’ติ ยาจิตฺวา ภควโตปิ ปตฺตํ คเหตฺวา อาสนํ ปฺเปตฺวา สกฺกจฺจํ ปิณฺฑปาเตน ปฏิมาเนนฺติ. ภควา กตภตฺตกิจฺโจ เตสํ สตฺตานํ จิตฺตสนฺตานานิ โอโลเกตฺวา ตถา ธมฺมํ เทเสติ, ยถา เกจิ สรณคมเนสุ ปติฏฺหนฺติ, เกจิ ปฺจสุ สีเลสุ, เกจิ โสตาปตฺติสกทาคามิอนาคามิผลานํ อฺตรสฺมึ; เกจิ ปพฺพชิตฺวา อคฺคผเล อรหตฺเตติ. เอวํ มหาชนํ อนุคฺคเหตฺวา อุฏฺายาสนา วิหารํ คจฺฉติ. ตตฺถ คนฺตฺวา มณฺฑลมาเฬ ปฺตฺตวรพุทฺธาสเน นิสีทติ, ภิกฺขูนํ ภตฺตกิจฺจปริโยสานํ อาคมยมาโน. ตโต ภิกฺขูนํ ภตฺตกิจฺจปริโยสาเน อุปฏฺาโก ภควโต นิเวเทติ. อถ ภควา คนฺธกุฏึ ปวิสติ. อิทํ ตาว ปุเรภตฺตกิจฺจํ.

อถ ภควา เอวํ กตปุเรภตฺตกิจฺโจ คนฺธกุฏิยา อุปฏฺาเน นิสีทิตฺวา ปาเท ปกฺขาเลตฺวา ปาทปีเ ตฺวา ภิกฺขุสงฺฆํ โอวทติ – ‘‘ภิกฺขเว, อปฺปมาเทน สมฺปาเทถ, ทุลฺลโภ พุทฺธุปฺปาโท โลกสฺมึ, ทุลฺลโภ มนุสฺสตฺตปฏิลาโภ, ทุลฺลภา สมฺปตฺติ, ทุลฺลภา ปพฺพชฺชา, ทุลฺลภํ สทฺธมฺมสฺสวน’’นฺติ. ตตฺถ เกจิ ภควนฺตํ กมฺมฏฺานํ ปุจฺฉนฺติ. ภควาปิ เตสํ จริยานุรูปํ กมฺมฏฺานํ เทติ. ตโต สพฺเพปิ ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา อตฺตโน อตฺตโน รตฺติฏฺานทิวาฏฺานานิ คจฺฉนฺติ. เกจิ อรฺํ, เกจิ รุกฺขมูลํ, เกจิ ปพฺพตาทีนํ อฺตรํ, เกจิ จาตุมหาราชิกภวนํ…เป… เกจิ วสวตฺติภวนนฺติ. ตโต ภควา คนฺธกุฏึ ปวิสิตฺวา สเจ อากงฺขติ, ทกฺขิเณน ปสฺเสน สโต สมฺปชาโน มุหุตฺตํ สีหเสยฺยํ กปฺเปติ. อถ สมสฺสาสิตกาโย วุฏฺหิตฺวา ทุติยภาเค โลกํ โวโลเกติ. ตติยภาเค ยํ คามํ วา นิคมํ วา อุปนิสฺสาย วิหรติ ตตฺถ มหาชโน ปุเรภตฺตํ ทานํ ทตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ สุนิวตฺโถ สุปารุโต คนฺธปุปฺผาทีนิ อาทาย วิหาเร สนฺนิปตติ. ตโต ภควา สมฺปตฺตปริสาย อนุรูเปน ปาฏิหาริเยน คนฺตฺวา ธมฺมสภายํ ปฺตฺตวรพุทฺธาสเน นิสชฺช ธมฺมํ เทเสติ กาลยุตฺตํ สมยยุตฺตํ, อถ กาลํ วิทิตฺวา ปริสํ อุยฺโยเชติ, มนุสฺสา ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา ปกฺกมนฺติ. อิทํ ปจฺฉาภตฺตกิจฺจํ.

โส เอวํ นิฏฺิตปจฺฉาภตฺตกิจฺโจ สเจ คตฺตานิ โอสิฺจิตุกาโม โหติ, พุทฺธาสนา วุฏฺาย นฺหานโกฏฺกํ ปวิสิตฺวา อุปฏฺาเกน ปฏิยาทิตอุทเกน คตฺตานิ อุตุํ คณฺหาเปติ. อุปฏฺาโกปิ พุทฺธาสนํ อาเนตฺวา คนฺธกุฏิปริเวเณ ปฺเปติ. ภควา สุรตฺตทุปฏฺฏํ นิวาเสตฺวา กายพนฺธนํ พนฺธิตฺวา อุตฺตราสงฺคํ เอกํสํ กริตฺวา ตตฺถ คนฺตฺวา นิสีทติ เอกโกว มุหุตฺตํ ปฏิสลฺลีโน, อถ ภิกฺขู ตโต ตโต อาคมฺม ภควโต อุปฏฺานํ อาคจฺฉนฺติ. ตตฺถ เอกจฺเจ ปฺหํ ปุจฺฉนฺติ, เอกจฺเจ กมฺมฏฺานํ, เอกจฺเจ ธมฺมสฺสวนํ ยาจนฺติ. ภควา เตสํ อธิปฺปายํ สมฺปาเทนฺโต ปุริมยามํ วีตินาเมติ. อิทํ ปุริมยามกิจฺจํ.

ปุริมยามกิจฺจปริโยสาเน ปน ภิกฺขูสุ ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา ปกฺกนฺเตสุ สกลทสสหสฺสิโลกธาตุเทวตาโย โอกาสํ ลภมานา ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา ปฺหํ ปุจฺฉนฺติ, ยถาภิสงฺขตํ อนฺตมโส จตุรกฺขรมฺปิ. ภควา ตาสํ เทวตานํ ปฺหํ วิสฺสชฺเชนฺโต มชฺฌิมยามํ วีตินาเมติ. อิทํ มชฺฌิมยามกิจฺจํ.

ปจฺฉิมยามํ ปน ตโย โกฏฺาเส กตฺวา ปุเรภตฺตโต ปฏฺาย นิสชฺชาย ปีฬิตสฺส สรีรสฺส กิลาสุภาวโมจนตฺถํ เอกํ โกฏฺาสํ จงฺกเมน วีตินาเมติ. ทุติยโกฏฺาเส คนฺธกุฏึ ปวิสิตฺวา ทกฺขิเณน ปสฺเสน สโต สมฺปชาโน สีหเสยฺยํ กปฺเปติ. ตติยโกฏฺาเส ปจฺจุฏฺาย นิสีทิตฺวา ปุริมพุทฺธานํ สนฺติเก ทานสีลาทิวเสน กตาธิการปุคฺคลทสฺสนตฺถํ พุทฺธจกฺขุนา โลกํ โวโลเกติ. อิทํ ปจฺฉิมยามกิจฺจํ.

ตสฺมึ ปน ทิวเส ภควา ปุเรภตฺตกิจฺจํ ราชคเห ปริโยสาเปตฺวา ปจฺฉาภตฺเต มคฺคํ อาคโต, ปุริมยาเม ภิกฺขูนํ กมฺมฏฺานํ กเถตฺวา, มชฺฌิมยาเม เทวตานํ ปฺหํ วิสฺสชฺเชตฺวา, ปจฺฉิมยาเม จงฺกมํ อารุยฺห จงฺกมมาโน ปฺจนฺนํ ภิกฺขุสตานํ อิมํ สพฺพฺุตฺาณํ อารพฺภ ปวตฺตํ กถํ สพฺพฺุตฺาเณเนว สุตฺวา อฺาสีติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ปจฺฉิมยามกิจฺจํ กโรนฺโต อฺาสี’’ติ.

ตฺวา จ ปนสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อิเม ภิกฺขู มยฺหํ สพฺพฺุตฺาณํ อารพฺภ คุณํ กเถนฺติ, เอเตสฺจ สพฺพฺุตฺาณกิจฺจํ น ปากฏํ, มยฺหเมว ปากฏํ. มยิ ปน คเต เอเต อตฺตโน กถํ นิรนฺตรํ อาโรเจสฺสนฺติ, ตโต เนสํ อหํ ตํ อฏฺุปฺปตฺตึ กตฺวา ติวิธํ สีลํ วิภชนฺโต, ทฺวาสฏฺิยา าเนสุ อปฺปฏิวตฺติยํ สีหนาทํ นทนฺโต, ปจฺจยาการํ สโมธาเนตฺวา พุทฺธคุเณ ปากเฏ กตฺวา, สิเนรุํ อุกฺขิเปนฺโต วิย สุวณฺณกูเฏน นภํ ปหรนฺโต วิย จ ทสสหสฺสิโลกธาตุกมฺปนํ พฺรหฺมชาลสุตฺตนฺตํ อรหตฺตนิกูเฏน นิฏฺาเปนฺโต เทเสสฺสามิ, สา เม เทสนา ปรินิพฺพุตสฺสาปิ ปฺจวสฺสสหสฺสานิ สตฺตานํ อมตมหานิพฺพานํ สมฺปาปิกา ภวิสฺสตี’’ติ. เอวํ จินฺเตตฺวา เยน มณฺฑลมาโฬ เตนุปสงฺกมีติ . เยนาติ เยน ทิสาภาเคน, โส อุปสงฺกมิตพฺโพ. ภุมฺมตฺเถ วา เอตํ กรณวจนํ, ยสฺมึ ปเทเส โส มณฺฑลมาโฬ, ตตฺถ คโตติ อยเมตฺถ อตฺโถ.

ปฺตฺเต อาสเน นิสีทีติ พุทฺธกาเล กิร ยตฺถ ยตฺถ เอโกปิ ภิกฺขุ วิหรติ สพฺพตฺถ พุทฺธาสนํ ปฺตฺตเมว โหติ. กสฺมา? ภควา กิร อตฺตโน สนฺติเก กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา ผาสุกฏฺาเน วิหรนฺเต มนสิ กโรติ – ‘‘อสุโก มยฺหํ สนฺติเก กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา คโต, สกฺขิสฺสติ นุ โข วิเสสํ นิพฺพตฺเตตุํ โน วา’’ติ. อถ นํ ปสฺสติ กมฺมฏฺานํ วิสฺสชฺเชตฺวา อกุสลวิตกฺกํ วิตกฺกยมานํ, ตโต ‘‘กถฺหิ นาม มาทิสสฺส สตฺถุ สนฺติเก กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา วิหรนฺตํ อิมํ กุลปุตฺตํ อกุสลวิตกฺกา อภิภวิตฺวา อนมตคฺเค วฏฺฏทุกฺเข สํสาเรสฺสนฺตี’’ติ ตสฺส อนุคฺคหตฺถํ ตตฺเถว อตฺตานํ ทสฺเสตฺวา ตํ กุลปุตฺตํ โอวทิตฺวา อากาสํ อุปฺปติตฺวา ปุน อตฺตโน วสนฏฺานเมว คจฺฉติ. อเถวํ โอวทิยมานา เต ภิกฺขู จินฺตยึสุ – ‘‘สตฺถา อมฺหากํ มนํ ชานิตฺวา อาคนฺตฺวา อมฺหากํ สมีเป ิตํเยว อตฺตานํ ทสฺเสติ’’. ตสฺมึ ขเณ – ‘‘ภนฺเต, อิธ นิสีทถ, อิธ นิสีทถา’’ติ อาสนปริเยสนํ นาม ภาโรติ. เต อาสนํ ปฺเปตฺวาว วิหรนฺติ. ยสฺส ปีํ อตฺถิ, โส ตํ ปฺเปติ. ยสฺส นตฺถิ, โส มฺจํ วา ผลกํ วา กฏฺํ วา ปาสาณํ วา วาลุกปุฺชํ วา ปฺเปติ. ตํ อลภมานา ปุราณปณฺณานิปิ สงฺกฑฺฒิตฺวา ตตฺถ ปํสุกูลํ ปตฺถริตฺวา เปนฺติ. อิธ ปน รฺโ นิสีทนาสนเมว อตฺถิ, ตํ ปปฺโผเฏตฺวา ปฺเปตฺวา ปริวาเรตฺวา เต ภิกฺขู ภควโต อธิมุตฺติกาณมารพฺภ คุณํ โถมยมานา นิสีทึสุ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘ปฺตฺเต อาสเน นิสีที’’ติ.

เอวํ นิสินฺโน ปน ชานนฺโตเยว กถาสมุฏฺาปนตฺถํ ภิกฺขู ปุจฺฉิ. เต จสฺส สพฺพํ กถยึสุ. เตน วุตฺตํ – ‘‘นิสชฺช โข ภควา’’ติอาทิ. ตตฺถ กาย นุตฺถาติ กตมาย นุ กถาย สนฺนิสินฺนา ภวถาติ อตฺโถ. กาย เนตฺถาติปิ ปาฬิ, ตสฺสา กตมาย นุ เอตฺถาติ อตฺโถ กาย โนตฺถาติปิ ปาฬิ. ตสฺสาปิ ปุริโมเยว อตฺโถ.

อนฺตรากถาติ , กมฺมฏฺานมนสิการอุทฺเทสปริปุจฺฉาทีนํ อนฺตรา อฺา เอกา กถา. วิปฺปกตาติ, มม อาคมนปจฺจยา อปรินิฏฺิตา สิขํ อปฺปตฺตา. เตน กึ ทสฺเสติ? ‘‘นาหํ ตุมฺหากํ กถาภงฺคตฺถํ อาคโต, อหํ ปน สพฺพฺุตาย ตุมฺหากํ กถํ นิฏฺาเปตฺวา มตฺถกปฺปตฺตํ กตฺวา ทสฺสามีติ อาคโต’’ติ นิสชฺเชว สพฺพฺุปวารณํ ปวาเรติ. อยํ โข โน, ภนฺเต, อนฺตรากถา วิปฺปกตา , อถ ภควา อนุปฺปตฺโตติ เอตฺถาปิ อยมธิปฺปาโย. อยํ ภนฺเต อมฺหากํ ภควโต สพฺพฺุตฺาณํ อารพฺภ คุณกถา วิปฺปกตา, น ราชกถาทิกา ติรจฺฉานกถา, อถ ภควา อนุปฺปตฺโต; ตํ โน อิทานิ นิฏฺาเปตฺวา เทเสถาติ.

เอตฺตาวตา จ ยํ อายสฺมตา อานนฺเทน กมลกุวลยุชฺชลวิมลสาธุรสสลิลาย โปกฺขรณิยา สุขาวตรณตฺถํ นิมฺมลสิลาตลรจนวิลาสโสภิตรตนโสปานํ, วิปฺปกิณฺณมุตฺตาตลสทิสวาลุกากิณฺณปณฺฑรภูมิภาคํ ติตฺถํ วิย สุวิภตฺตภิตฺติวิจิตฺรเวทิกาปริกฺขิตฺตสฺส นกฺขตฺตปถํ ผุสิตุกามตาย วิย, วิชมฺภิตสมุสฺสยสฺส ปาสาทวรสฺส สุขาโรหณตฺถํ ทนฺตมยสณฺหมุทุผลกกฺจนลตาวินทฺธมณิคณปฺปภาสมุทยุชฺชลโสภํ โสปานํ วิย, สุวณฺณวลยนูปุราทิสงฺฆฏฺฏนสทฺทสมฺมิสฺสิตกถิตหสิตมธุรสฺสรเคหชนวิจริตสฺส อุฬาริสฺสริวิภวโสภิตสฺส มหาฆรสฺส สุขปฺปเวสนตฺถํ สุวณฺณรชตมณิมุตฺตปวาฬาทิชุติวิสฺสรวิชฺโชติตสุปฺปติฏฺิตวิสาลทฺวารพาหํ มหาทฺวารํ วิย จ อตฺถพฺยฺชนสมฺปนฺนสฺส พุทฺธคุณานุภาวสํสูจกสฺส อิมสฺส สุตฺตสฺส สุขาวคหณตฺถํ กาลเทสเทสกวตฺถุปริสาปเทสปฏิมณฺฑิตํ นิทานํ ภาสิตํ, ตสฺสตฺถวณฺณนา สมตฺตาติ.

. อิทานิ – ‘‘มมํ วา, ภิกฺขเว, ปเร อวณฺณํ ภาเสยฺยุ’’นฺติอาทินา นเยน ภควตา นิกฺขิตฺตสฺส สุตฺตสฺส วณฺณนาย โอกาโส อนุปฺปตฺโต. สา ปเนสา สุตฺตวณฺณนา. ยสฺมา สุตฺตนิกฺเขปํ วิจาเรตฺวา วุจฺจมานา ปากฏา โหติ, ตสฺมา สุตฺตนิกฺเขปํ ตาว วิจารยิสฺสาม. จตฺตาโร หิ สุตฺตนิกฺเขปา – อตฺตชฺฌาสโย, ปรชฺฌาสโย, ปุจฺฉาวสิโก, อฏฺุปฺปตฺติโกติ.

ตตฺถ ยานิ สุตฺตานิ ภควา ปเรหิ อนชฺฌิฏฺโ เกวลํ อตฺตโน อชฺฌาสเยเนว กเถสิ; เสยฺยถิทํ, อากงฺเขยฺยสุตฺตํ, วตฺถสุตฺตํ, มหาสติปฏฺานํ, มหาสฬายตนวิภงฺคสุตฺตํ, อริยวํสสุตฺตํ, สมฺมปฺปธานสุตฺตนฺตหารโก, อิทฺธิปาทอินฺทฺริยพลโพชฺฌงฺคมคฺคงฺคสุตฺตนฺตหารโกติ เอวมาทีนิ; เตสํ อตฺตชฺฌาสโย นิกฺเขโป.

ยานิ ปน ‘‘ปริปกฺกา โข ราหุลสฺส วิมุตฺติปริปาจนิยา ธมฺมา; ยํนูนาหํ ราหุลํ อุตฺตรึ อาสวานํ ขเย วิเนยฺย’’นฺติ; (สํ. นิ. ๔.๑๒๑) เอวํ ปเรสํ อชฺฌาสยํ ขนฺตึ มนํ อภินีหารํ พุชฺฌนภาวฺจ อเวกฺขิตฺวา ปรชฺฌาสยวเสน กถิตานิ; เสยฺยถิทํ, จูฬราหุโลวาทสุตฺตํ, มหาราหุโลวาทสุตฺตํ, ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนํ, ธาตุวิภงฺคสุตฺตนฺติ เอวมาทีนิ; เตสํ ปรชฺฌาสโย นิกฺเขโป.

ภควนฺตํ ปน อุปสงฺกมิตฺวา จตสฺโส ปริสา, จตฺตาโร วณฺณา, นาคา, สุปณฺณา, คนฺธพฺพา, อสุรา, ยกฺขา, มหาราชาโน, ตาวตึสาทโย เทวา, มหาพฺรหฺมาติ เอวมาทโย – ‘‘โพชฺฌงฺคา โพชฺฌงฺคา’’ติ, ภนฺเต, วุจฺจนฺติ. ‘‘นีวรณา นีวรณา’’ติ, ภนฺเต, วุจฺจนฺติ; ‘‘อิเม นุ โข, ภนฺเต, ปฺจุปาทานกฺขนฺธา’’. ‘‘กึ สูธ วิตฺตํ ปุริสสฺส เสฏฺ’’นฺติอาทินา นเยน ปฺหํ ปุจฺฉนฺติ. เอวํ ปุฏฺเน ภควตา ยานิ กถิตานิ โพชฺฌงฺคสํยุตฺตาทีนิ, ยานิ วา ปนฺานิปิ เทวตาสํยุตฺต-มารสํยุตฺต-พฺรหฺมสํยุตฺต-สกฺกปฺห-จูฬเวทลฺล-มหาเวทลฺล-สามฺผล-อาฬวก-สูจิโลม-ขรโลมสุตฺตาทีนิ; เตสํ ปุจฺฉาวสิโก นิกฺเขโป.

ยานิ ปน ตานิ อุปฺปนฺนํ การณํ ปฏิจฺจ กถิตานิ, เสยฺยถิทํ – ธมฺมทายาทํ, จูฬสีหนาทํ, จนฺทูปมํ, ปุตฺตมํสูปมํ, ทารุกฺขนฺธูปมํ, อคฺคิกฺขนฺธูปมํ, เผณปิณฺฑูปมํ, ปาริจฺฉตฺตกูปมนฺติ เอวมาทีนิ; เตสํ อฏฺุปฺปตฺติโก นิกฺเขโป.

เอวเมเตสุ จตูสุ นิกฺเขเปสุ อิมสฺส สุตฺตสฺส อฏฺุปฺปตฺติโก นิกฺเขโป. อฏฺุปฺปตฺติยา หิ อิทํ ภควตา นิกฺขิตฺตํ. กตราย อฏฺุปฺปตฺติยา? วณฺณาวณฺเณ. อาจริโย รตนตฺตยสฺส อวณฺณํ อภาสิ, อนฺเตวาสี วณฺณํ. อิติ อิมํ วณฺณาวณฺณํ อฏฺุปฺปตฺตึ กตฺวา เทสนากุสโล ภควา – ‘‘มมํ วา, ภิกฺขเว, ปเร อวณฺณํ ภาเสยฺยุ’’นฺติ เทสนํ อารภิ. ตตฺถ มมนฺติ , สามิวจนํ, มมาติ อตฺโถ. วาสทฺโท วิกปฺปนตฺโถ. ปเรติ, ปฏิวิรุทฺธา สตฺตา. ตตฺราติ เย อวณฺณํ วทนฺติ เตสุ.

น อาฆาโตติอาทีหิ กิฺจาปิ เตสํ ภิกฺขูนํ อาฆาโตเยว นตฺถิ, อถ โข อายตึ กุลปุตฺตานํ อีทิเสสุปิ าเนสุ อกุสลุปฺปตฺตึ ปฏิเสเธนฺโต ธมฺมเนตฺตึ เปติ. ตตฺถ อาหนติ จิตฺตนฺติ ‘อาฆาโต’; โกปสฺเสตํ อธิวจนํ. อปฺปตีตา โหนฺติ เตน อตุฏฺา อโสมนสฺสิกาติ อปฺปจฺจโย; โทมนสฺสสฺเสตํ อธิวจนํ. เนว อตฺตโน น ปเรสํ หิตํ อภิราธยตีติ อนภิรทฺธิ; โกปสฺเสตํ อธิวจนํ. เอวเมตฺถ ทฺวีหิ ปเทหิ สงฺขารกฺขนฺโธ, เอเกน เวทนากฺขนฺโธติ ทฺเว ขนฺธา วุตฺตา. เตสํ วเสน เสสานมฺปิ สมฺปยุตฺตธมฺมานํ การณํ ปฏิกฺขิตฺตเมว.

เอวํ ปเมน นเยน มโนปโทสํ นิวาเรตฺวา, ทุติเยน นเยน ตตฺถ อาทีนวํ ทสฺเสนฺโต อาห – ‘‘ตตฺร เจ ตุมฺเห อสฺสถ กุปิตา วา อนตฺตมนา วา, ตุมฺหํ เยวสฺส เตน อนฺตราโย’’ติ. ตตฺถ ‘ตตฺร เจ ตุมฺเห อสฺสถา’ติ เตสุ อวณฺณภาสเกสุ, ตสฺมึ วา อวณฺเณ ตุมฺเห ภเวยฺยาถ เจ; ยทิ ภเวยฺยาถาติ อตฺโถ. ‘กุปิตา’ โกเปน, อนตฺตมนา โทมนสฺเสน. ‘ตุมฺหํ เยวสฺส เตน อนฺตราโย’ติ ตุมฺหากํเยว เตน โกเปน, ตาย จ อนตฺตมนตาย ปมชฺฌานาทีนํ อนฺตราโย ภเวยฺย.

เอวํ ทุติเยน นเยน อาทีนวํ ทสฺเสตฺวา, ตติเยน นเยน วจนตฺถสลฺลกฺขณมตฺเตปิ อสมตฺถตํ ทสฺเสนฺโต – ‘‘อปิ นุ ตุมฺเห ปเรส’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ ปเรสนฺติ เยสํ เกสํ จิ. กุปิโต หิ เนว พุทฺธปจฺเจกพุทฺธอริยสาวกานํ, น มาตาปิตูนํ, น ปจฺจตฺถิกานํ สุภาสิตทุพฺภาสิตสฺส อตฺถํ อาชานาติ. ยถาห –

‘‘กุทฺโธ อตฺถํ น ชานาติ, กุทฺโธ ธมฺมํ น ปสฺสติ;

อนฺธํ ตมํ ตทา โหติ, ยํ โกโธ สหเต นรํ.

อนตฺถชนโน โกโธ, โกโธ จิตฺตปฺปโกปโน;

ภยมนฺตรโต ชาตํ, ตํ ชโน นาวพุชฺฌตี’’ติ. (อ. นิ. ๗.๖๔);

เอวํ สพฺพถาปิ อวณฺเณ มโนปโทสํ นิเสเธตฺวา อิทานิ ปฏิปชฺชิตพฺพาการํ ทสฺเสนฺโต – ‘‘ตตฺร ตุมฺเหหิ อภูตํ อภูตโต’’ติอาทิมาห.

ตตฺถ ตตฺร ตุมฺเหหีติ, ตสฺมึ อวณฺเณ ตุมฺเหหิ. อภูตํ อภูตโต นิพฺเพเตพฺพนฺติ ยํ อภูตํ, ตํ อภูตภาเวเนว อปเนตพฺพํ. กถํ? อิติเปตํ อภูตนฺติอาทินา นเยน. ตตฺรายํ โยชนา – ‘‘ตุมฺหากํ สตฺถา น สพฺพฺู, ธมฺโม ทุรกฺขาโต, สงฺโฆ ทุปฺปฏิปนฺโน’’ติอาทีนิ สุตฺวา น ตุณฺหี ภวิตพฺพํ. เอวํ ปน วตฺตพฺพํ – ‘‘อิติ เปตํ อภูตํ, ยํ ตุมฺเหหิ วุตฺตํ, ตํ อิมินาปิ การเณน อภูตํ, อิมินาปิ การเณน อตจฺฉํ, ‘นตฺถิ เจตํ อมฺเหสุ’, ‘น จ ปเนตํ อมฺเหสุ สํวิชฺชติ’, สพฺพฺูเยว อมฺหากํ สตฺถา, สฺวากฺขาโต ธมฺโม, สุปฺปฏิปนฺโน สงฺโฆ, ตตฺร อิทฺจิทฺจ การณ’’นฺติ. เอตฺถ จ ทุติยํ ปทํ ปมสฺส, จตุตฺถฺจ ตติยสฺส เววจนนฺติ เวทิตพฺพํ. อิทฺจ อวณฺเณเยว นิพฺเพนํ กาตพฺพํ, น สพฺพตฺถ. ยทิ หิ ‘‘ตฺวํ ทุสฺสีโล, ตวาจริโย ทุสฺสีโล, อิทฺจิทฺจ ตยา กตํ, ตวาจริเยน กต’’นฺติ วุตฺเต ตุณฺหีภูโต อธิวาเสติ, อาสงฺกนีโย โหติ. ตสฺมา มโนปโทสํ อกตฺวา อวณฺโณ นิพฺเพเตพฺโพ. ‘‘โอฏฺโสิ, โคโณสี’’ติอาทินา ปน นเยน ทสหิ อกฺโกสวตฺถูหิ อกฺโกสนฺตํ ปุคฺคลํ อชฺฌุเปกฺขิตฺวา อธิวาสนขนฺติเยว ตตฺถ กาตพฺพา.

. เอวํ อวณฺณภูมิยํ ตาทิลกฺขณํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ วณฺณภูมิยํ ทสฺเสตุํ ‘‘มมํ วา, ภิกฺขเว, ปเร วณฺณํ ภาเสยฺยุ’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ ปเรติ เย เกจิ ปสนฺนา เทวมนุสฺสา. อานนฺทนฺติ เอเตนาติ อานนฺโท, ปีติยา เอตํ อธิวจนํ. สุมนสฺส ภาโว โสมนสฺสํ, เจตสิกสุขสฺเสตํ อธิวจนํ. อุปฺปิลาวิโน ภาโว อุปฺปิลาวิตตฺตํ. กสฺส อุปฺปิลาวิตตฺตนฺติ? เจตโสติ. อุทฺธจฺจาวหาย อุปฺปิลาปนปีติยา เอตํ อธิวจนํ. อิธาปิ ทฺวีหิ ปเทหิ สงฺขารกฺขนฺโธ, เอเกน เวทนากฺขนฺโธ วุตฺโต.

เอวํ ปมนเยน อุปฺปิลาวิตตฺตํ นิวาเรตฺวา, ทุติเยน ตตฺถ อาทีนวํ ทสฺเสนฺโต – ‘‘ตตฺร เจ ตุมฺเห อสฺสถา’’ติอาทิมาห. อิธาปิ ตุมฺหํ เยวสฺส เตน อนฺตราโยติ เตน อุปฺปิลาวิตตฺเตน ตุมฺหากํเยว ปมชฺฌานาทีนํ อนฺตราโย ภเวยฺยาติ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. กสฺมา ปเนตํ วุตฺตํ? นนุ ภควตา –

‘‘พุทฺโธติ กิตฺตยนฺตสฺส, กาเย ภวติ ยา ปีติ;

วรเมว หิ สา ปีติ, กสิเณนาปิ ชมฺพุทีปสฺส.

ธมฺโมติ กิตฺตยนฺตสฺส, กาเย ภวติ ยา ปีติ;

วรเมว หิ สา ปีติ, กสิเณนาปิ ชมฺพุทีปสฺส.

สงฺโฆติ กิตฺตยนฺตสฺส, กาเย ภวติ ยา ปีติ;

วรเมว หิ สา ปีติ, กสิเณนาปิ ชมฺพุทีปสฺสา’’ติ จ.

‘‘เย, ภิกฺขเว, พุทฺเธ ปสนฺนา, อคฺเค เต ปสนฺนา’’ติ จ เอวมาทีหิ อเนกสเตหิ สุตฺเตหิ รตนตฺตเย ปีติโสมนสฺสเมว วณฺณิตนฺติ. สจฺจํ วณฺณิตํ, ตํ ปน เนกฺขมฺมนิสฺสิตํ. อิธ – ‘‘อมฺหากํ พุทฺโธ, อมฺหากํ ธมฺโม’’ติอาทินา นเยน อายสฺมโต ฉนฺนสฺส อุปฺปนฺนสทิสํ เคหสฺสิตํ ปีติโสมนสฺสํ อธิปฺเปตํ. อิทฺหิ ฌานาทิปฏิลาภาย อนฺตรายกรํ โหติ. เตเนวายสฺมา ฉนฺโนปิ ยาว พุทฺโธ น ปรินิพฺพายิ, ตาว วิเสสํ นิพฺพตฺเตตุํ นาสกฺขิ, ปรินิพฺพานกาเล ปฺตฺเตน ปน พฺรหฺมทณฺเฑน ตชฺชิโต ตํ ปีติโสมนสฺสํ ปหาย วิเสสํ นิพฺพตฺเตสิ. ตสฺมา อนฺตรายกรํเยว สนฺธาย อิทํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อยฺหิ โลภสหคตา ปีติ. โลโภ จ โกธสทิโสว. ยถาห –

‘‘ลุทฺโธ อตฺถํ น ชานาติ, ลุทฺโธ ธมฺมํ น ปสฺสติ;

อนฺธํ ตมํ ตทา โหติ, ยํ โลโภ สหเต นรํ.

อนตฺถชนโน โลโภ, โลโภ จิตฺตปฺปโกปโน;

ภยมนฺตรโต ชาตํ, ตํ ชโน นาวพุชฺฌตี’’ติ. (อิติวุ. ๘๘);

ตติยวาโร ปน อิธ อนาคโตปิ อตฺถโต อาคโต เยวาติ เวทิตพฺโพ. ยเถว หิ กุทฺโธ, เอวํ ลุทฺโธปิ อตฺถํ น ชานาตีติ.

ปฏิปชฺชิตพฺพาการทสฺสนวาเร ปนายํ โยชนา – ‘‘ตุมฺหากํ สตฺถา สพฺพฺู อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ, ธมฺโม สฺวากฺขาโต, สงฺโฆ สุปฺปฏิปนฺโน’’ติอาทีนิ สุตฺวา น ตุณฺหี ภวิตพฺพํ. เอวํ ปน ปฏิชานิตพฺพํ – ‘‘อิติเปตํ ภูตํ, ยํ ตุมฺเหหิ วุตฺตํ, ตํ อิมินาปิ การเณน ภูตํ, อิมินาปิ การเณน ตจฺฉํ. โส หิ ภควา อิติปิ อรหํ, อิติปิ สมฺมาสมฺพุทฺโธ; ธมฺโม อิติปิ สฺวากฺขาโต, อิติปิ สนฺทิฏฺิโก ; สงฺโฆ อิติปิ สุปฺปฏิปนฺโน, อิติปิ อุชุปฺปฏิปนฺโน’’ติ. ‘‘ตฺวํ สีลวา’’ติ ปุจฺฉิเตนาปิ สเจ สีลวา, ‘‘สีลวาหมสฺมี’’ติ ปฏิชานิตพฺพเมว. ‘‘ตฺวํ ปมสฺส ฌานสฺส ลาภี…เป… อรหา’’ติ ปุฏฺเนาปิ สภาคานํ ภิกฺขูนํเยว ปฏิชานิตพฺพํ. เอวฺหิ ปาปิจฺฉตา เจว ปริวชฺชิตา โหติ, สาสนสฺส จ อโมฆตา ทีปิตา โหตีติ. เสสํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

จูฬสีลวณฺณนา

. อปฺปมตฺตกํ โข ปเนตํ, ภิกฺขเวติ โก อนุสนฺธิ? อิทํ สุตฺตํ ทฺวีหิ ปเทหิ อาพทฺธํ วณฺเณน จ อวณฺเณน จ. ตตฺถ อวณฺโณ – ‘‘อิติ เปตํ อภูตํ อิติ เปตํ อตจฺฉ’’นฺติ, เอตฺเถว อุทกนฺตํ ปตฺวา อคฺคิวิย นิวตฺโต. วณฺโณ ปน ภูตํ ภูตโต ปฏิชานิตพฺพํ – ‘‘อิติ เปตํ ภูต’’นฺติ เอวํ อนุวตฺตติเยว. โส ปน ทุวิโธ พฺรหฺมทตฺเตน ภาสิตวณฺโณ จ ภิกฺขุสงฺเฆน อจฺฉริยํ อาวุโสติอาทินา นเยน อารทฺธวณฺโณ จ. เตสุ ภิกฺขุสงฺเฆน วุตฺตวณฺณสฺส อุปริ สุฺตาปกาสเน อนุสนฺธึ ทสฺเสสฺสติ. อิธ ปน พฺรหฺมทตฺเตน วุตฺตวณฺณสฺส อนุสนฺธึ ทสฺเสตุํ ‘‘อปฺปมตฺตกํ โข ปเนตํ, ภิกฺขเว’’ติ เทสนา อารทฺธา.

ตตฺถ อปฺปมตฺตกนฺติ ปริตฺตสฺส นามํ. โอรมตฺตกนฺติ ตสฺเสว เววจนํ. มตฺตาติ วุจฺจติ ปมาณํ. อปฺปํ มตฺตา เอตสฺสาติ อปฺปมตฺตกํ. โอรํ มตฺตา เอตสฺสาติ โอรมตฺตกํ. สีลเมว สีลมตฺตกํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘อปฺปมตฺตกํ โข, ปเนตํ ภิกฺขเว, โอรมตฺตกํ สีลมตฺตกํ’ นาม เยน ‘‘ตถาคตสฺส วณฺณํ วทามี’’ติ อุสฺสาหํ กตฺวาปิ วณฺณํ วทมาโน ปุถุชฺชโน วเทยฺยาติ. ตตฺถ สิยา – นนุ อิทํ สีลํ นาม โยคิโน อคฺควิภูสนํ? ยถาหุ โปราณา –

‘‘สีลํ โยคิสฺส’ลงฺกาโร, สีลํ โยคิสฺส มณฺฑนํ;

สีเลหิ’ลงฺกโต โยคี, มณฺฑเน อคฺคตํ คโต’’ติ.

ภควตาปิ จ อเนเกสุ สุตฺตสเตสุ สีลํ มหนฺตเมว กตฺวา กถิตํ. ยถาห – ‘‘อากงฺเขยฺย เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ‘สพฺรหฺมจารีนํ ปิโย จสฺสํ มนาโป จ ครุ จ ภาวนีโย จา’ติ, สีเลสฺเววสฺส ปริปูรการี’’ติ (ม. นิ. ๑.๖๕) จ.

‘‘กิกีว อณฺฑํ, จมรีว วาลธึ;

ปิยํว ปุตฺตํ, นยนํว เอกกํ.

ตเถว สีลํ, อนุรกฺขมานา;

สุเปสลา โหถ, สทา สคารวา’’ติ จ.

‘‘น ปุปฺผคนฺโธ ปฏิวาตเมติ;

น จนฺทนํ ตคฺครมลฺลิกา วา.

สตฺจ คนฺโธ ปฏิวาตเมติ;

สพฺพา ทิสา สปฺปุริโส ปวายติ.

จนฺทนํ ตครํ วาปิ, อุปฺปลํ อถ วสฺสิกี;

เอเตสํ คนฺธชาตานํ, สีลคนฺโธ อนุตฺตโร.

อปฺปมตฺโต อยํ คนฺโธ, ยฺวายํ ตครจนฺทนํ;

โย จ สีลวตํ คนฺโธ, วาติ เทเวสุ อุตฺตโม.

เตสํ สมฺปนฺนสีลานํ, อปฺปมาทวิหารินํ;

สมฺมทฺา วิมุตฺตานํ, มาโร มคฺคํ น วินฺทตี’’ติ จ. (ธ. ป. ๕๗);

‘‘สีเล ปติฏฺาย นโร สปฺโ, จิตฺตํ ปฺฺจ ภาวยํ;

อาตาปี นิปโก ภิกฺขุ, โส อิมํ วิชฏเย ชฏ’’นฺติ จ. (สํ. นิ. ๑.๒๓);

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, เย เกจิ พีชคามภูตคามา วุฑฺฒึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชนฺติ, สพฺเพ เต ปถวึ นิสฺสาย, ปถวิยํ ปติฏฺาย; เอวเมเต พีชคามภูตคามา วุฑฺฒึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชนฺติ. เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สีลํ นิสฺสาย สีเล ปติฏฺาย สตฺตโพชฺฌงฺเค ภาเวนฺโต สตฺตโพชฺฌงฺเค พหุลีกโรนฺโต วุฑฺฒึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ ปาปุณาติ ธมฺเมสู’’ติ (สํ. นิ. ๕.๑๕๐) จ. เอวํ อฺานิปิ อเนกานิ สุตฺตานิ ทฏฺพฺพานิ. เอวมเนเกสุ สุตฺตสเตสุ สีลํ มหนฺตเมว กตฺวา กถิตํ. ตํ ‘‘กสฺมา อิมสฺมึ าเน อปฺปมตฺตก’’นฺติ อาหาติ? อุปริ คุเณ อุปนิธาย. สีลฺหิ สมาธึ น ปาปุณาติ, สมาธิ ปฺํ น ปาปุณาติ, ตสฺมา อุปริมํ อุปนิธาย เหฏฺิมํ โอรมตฺตกํ นาม โหติ. กถํ สีลํ สมาธึ น ปาปุณาติ? ภควา หิ อภิสมฺโพธิโต สตฺตเม สํวจฺฉเร สาวตฺถินคร – ทฺวาเร กณฺฑมฺพรุกฺขมูเล ทฺวาทสโยชเน รตนมณฺฑเป โยชนปฺปมาเณ รตนปลฺลงฺเก นิสีทิตฺวา ติโยชนิเก ทิพฺพเสตจฺฉตฺเต ธาริยมาเน ทฺวาทสโยชนาย ปริสาย อตฺตาทานปริทีปนํ ติตฺถิยมทฺทนํ – ‘‘อุปริมกายโต อคฺคิกฺขนฺโธ ปวตฺตติ, เหฏฺิมกายโต อุทกธารา ปวตฺตติ…เป… เอเกกโลมกูปโต อคฺคิกฺขนฺโธ ปวตฺตติ, เอเกกโลมกูปโต อุทกธารา ปวตฺตติ, ฉนฺนํ วณฺณาน’’นฺติอาทินยปฺปวตฺตํ ยมกปาฏิหาริยํ ทสฺเสติ. ตสฺส สุวณฺณวณฺณสรีรโต สุวณฺณวณฺณา รสฺมิโย อุคฺคนฺตฺวา ยาว ภวคฺคา คจฺฉนฺติ, สกลทสสหสฺสจกฺกวาฬสฺส อลงฺกรณกาโล วิย โหติ, ทุติยา ทุติยา รสฺมิโย ปุริมาย ปุริมาย ยมกยมกา วิย เอกกฺขเณ วิย ปวตฺตนฺติ.

ทฺวินฺนฺจ จิตฺตานํ เอกกฺขเณ ปวตฺติ นาม นตฺถิ. พุทฺธานํ ปน ภควนฺตานํ ภวงฺคปริวาสสฺส ลหุกตาย ปฺจหากาเรหิ อาจิณฺณวสิตาย จ, ตา เอกกฺขเณ วิย ปวตฺตนฺติ. ตสฺสา ตสฺสา ปน รสฺมิยา อาวชฺชนปริกมฺมาธิฏฺานานิ วิสุํ วิสุํเยว.

นีลรสฺมิอตฺถาย หิ ภควา นีลกสิณํ สมาปชฺชติ, ปีตรสฺมิอตฺถาย ปีตกสิณํ, โลหิตโอทาตรสฺมิอตฺถาย โลหิตโอทาตกสิณํ, อคฺคิกฺขนฺธตฺถาย เตโชกสิณํ, อุทกธารตฺถาย อาโปกสิณํ สมาปชฺชติ. สตฺถา จงฺกมติ, นิมฺมิโต ติฏฺติ วา นิสีทติ วา เสยฺยํ วา กปฺเปตีติ สพฺพํ วิตฺถาเรตพฺพํ. เอตฺถ เอกมฺปิ สีลสฺส กิจฺจํ นตฺถิ, สพฺพํ สมาธิกิจฺจเมว. เอวํ สีลํ สมาธึ น ปาปุณาติ.

ยํ ปน ภควา กปฺปสตสหสฺสาธิกานิ จตฺตาริ อสงฺขฺเยยฺยานิ ปารมิโย ปูเรตฺวา, เอกูนตึสวสฺสกาเล จกฺกวตฺติสิรีนิวาสภูตา ภวนา นิกฺขมฺม อโนมานทีตีเร ปพฺพชิตฺวา, ฉพฺพสฺสานิ ปธานโยคํ กตฺวา, วิสาขปุณฺณมายํ อุรุเวลคาเม สุชาตาย ทินฺนํ ปกฺขิตฺตทิพฺโพชํ มธุปายาสํ ปริภุฺชิตฺวา, สายนฺหสมเย ทกฺขิณุตฺตเรน โพธิมณฺฑํ ปวิสิตฺวา อสฺสตฺถทุมราชานํ ติกฺขตฺตุํ ปทกฺขิณํ กตฺวา, ปุพฺพุตฺตรภาเค ิโต ติณสนฺถารํ สนฺถริตฺวา, ติสนฺธิปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา, จตุรงฺคสมนฺนาคตํ เมตฺตากมฺมฏฺานํ ปุพฺพงฺคมํ กตฺวา, วีริยาธิฏฺานํ อธิฏฺาย, จุทฺทสหตฺถปลฺลงฺกวรคโต สุวณฺณปีเ ปิตํ รชตกฺขนฺธํ วิย ปฺาสหตฺถํ โพธิกฺขนฺธํ ปิฏฺิโต กตฺวา, อุปริ มณิฉตฺเตน วิย โพธิสาขาย ธาริยมาโน, สุวณฺณวณฺเณ จีวเร ปวาฬสทิเสสุ โพธิองฺกุเรสุ ปตมาเนสุ, สูริเย อตฺถํ อุปคจฺฉนฺเต มารพลํ วิธมิตฺวา, ปมยาเม ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสริตฺวา, มชฺฌิมยาเม ทิพฺพจกฺขุํ วิโสเธตฺวา, ปจฺจูสกาเล สพฺพพุทฺธานมาจิณฺเณ ปจฺจยากาเร าณํ โอตาเรตฺวา, อานาปานจตุตฺถชฺฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา, ตเทว ปาทกํ กตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา, มคฺคปฏิปาฏิยา อธิคเตน จตุตฺถมคฺเคน สพฺพกิเลเส เขเปตฺวา สพฺพพุทฺธคุเณ ปฏิวิชฺฌิ, อิทมสฺส ปฺากิจฺจํ. เอวํ สมาธิ ปฺํ น ปาปุณาติ.

ตตฺถ ยถา หตฺเถ อุทกํ ปาติยํ อุทกํ น ปาปุณาติ, ปาติยํ อุทกํ ฆเฏ อุทกํ น ปาปุณาติ, ฆเฏ อุทกํ โกลมฺเพ อุทกํ น ปาปุณาติ, โกลมฺเพ อุทกํ จาฏิยํ อุทกํ น ปาปุณาติ, จาฏิยํ อุทกํ มหากุมฺภิยํ อุทกํ น ปาปุณาติ, มหากุมฺภิยํ อุทกํ กุโสพฺเภ อุทกํ น ปาปุณาติ, กุโสพฺเภ อุทกํ กนฺทเร อุทกํ น ปาปุณาติ, กนฺทเร อุทกํ กุนฺนทิยํ อุทกํ น ปาปุณาติ, กุนฺนทิยํ อุทกํ ปฺจมหานทิยํ อุทกํ น ปาปุณาติ, ปฺจมหานทิยํ อุทกํ จกฺกวาฬมหาสมุทฺเท อุทกํ น ปาปุณาติ, จกฺกวาฬมหาสมุทฺเท อุทกํ สิเนรุปาทเก มหาสมุทฺเท อุทกํ น ปาปุณาติ. ปาติยํ อุทกํ อุปนิธาย หตฺเถ อุทกํ ปริตฺตํ…เป… สิเนรุปาทกมหาสมุทฺเท อุทกํ อุปนิธาย จกฺกวาฬมหาสมุทฺเท อุทกํ ปริตฺตํ. อิติ อุปรูปริ อุทกํ พหุกํ อุปาทาย เหฏฺา เหฏฺา อุทกํ ปริตฺตํ โหติ.

เอวเมว อุปริ อุปริ คุเณ อุปาทาย เหฏฺา เหฏฺา สีลํ อปฺปมตฺตกํ โอรมตฺตกนฺติ เวทิตพฺพํ. เตนาห – ‘‘อปฺปมตฺตกํ โข ปเนตํ, ภิกฺขเว, โอรมตฺตกํ สีลมตฺตก’’นฺติ.

เยนปุถุชฺชโนติ, เอตฺถ –

‘‘ทุเว ปุถุชฺชนา วุตฺตา, พุทฺเธนาทิจฺจพนฺธุนา;

อนฺโธ ปุถุชฺชโน เอโก, กลฺยาเณโก ปุถุชฺชโน’’ติ.

ตตฺถ ยสฺส ขนฺธธาตุอายตนาทีสุ อุคฺคหปริปุจฺฉาสวนธารณปจฺจเวกฺขณานิ นตฺถิ, อยํ อนฺธปุถุชฺชโน. ยสฺส ตานิ อตฺถิ, โส กลฺยาณปุถุชฺชโน. ทุวิโธปิ ปเนส –

‘‘ปุถูนํ ชนนาทีหิ, การเณหิ ปุถุชฺชโน;

ปุถุชฺชนนฺโตคธตฺตา, ปุถุวายํ ชโน อิติ’’.

โส หิ ปุถูนํ นานปฺปการานํ กิเลสาทีนํ ชนนาทีหิ การเณหิ ปุถุชฺชโน. ยถาห –

‘‘ปุถุ กิเลเส ชเนนฺตีติ ปุถุชฺชนา, ปุถุ อวิหตสกฺกายทิฏฺิกาติ ปุถุชฺชนา, ปุถุ สตฺถารานํ มุขุลฺโลกิกาติ ปุถุชฺชนา, ปุถุ สพฺพคตีหิ อวุฏฺิตาติ ปุถุชฺชนา, ปุถุ นานาภิสงฺขาเร อภิสงฺขโรนฺตีติ ปุถุชฺชนา, ปุถุ นานาโอเฆหิ วุยฺหนฺติ, ปุถุ สนฺตาเปหิ สนฺตปฺปนฺติ, ปุถุ ปริฬาเหหิ ปริฑยฺหนฺติ, ปุถุ ปฺจสุ กามคุเณสุ รตฺตา คิทฺธา คถิตา มุจฺฉิตา อชฺโฌปนฺนา ลคฺคา ลคฺคิตา ปลิพุทฺธาติ ปุถุชฺชนา, ปุถุ ปฺจหิ นีวรเณหิ อาวุตา นิวุตา โอวุตา ปิหิตา ปฏิจฺฉนฺนา ปฏิกุชฺชิตาติ ปุถุชฺชนา’’ติ. ปุถูนํ คณนปถมตีตานํ อริยธมฺมปรมฺมุขานํ นีจธมฺมสมาจารานํ ชนานํ อนฺโตคธตฺตาปิ ปุถุชฺชโน, ปุถุวายํ วิสุํเยว สงฺขฺยํ คโต วิสํสฏฺโ สีลสุตาทิคุณยุตฺเตหิ อริเยหิ ชเนหีติ ปุถุชฺชโนติ.

ตถาคตสฺสาติ อฏฺหิ การเณหิ ภควา ตถาคโต. ตถา อาคโตติ ตถาคโต, ตถา คโตติ ตถาคโต, ตถลกฺขณํ อาคโตติ ตถาคโต, ตถธมฺเม ยาถาวโต อภิสมฺพุทฺโธติ ตถาคโต, ตถทสฺสิตาย ตถาคโต, ตถวาทิตาย ตถาคโต, ตถาการิตาย ตถาคโต, อภิภวนฏฺเน ตถาคโตติ.

กถํ ภควา ตถา อาคโตติ ตถาคโต? ยถา สพฺพโลกหิตาย อุสฺสุกฺกมาปนฺนา ปุริมกา สมฺมาสมฺพุทฺธา อาคตา, ยถา วิปสฺสี ภควา อาคโต, ยถา สิขี ภควา, ยถา เวสฺสภู ภควา, ยถา กกุสนฺโธ ภควา, ยถา โกณาคมโน ภควา, ยถา กสฺสโป ภควา อาคโต . กึ วุตฺตํ โหติ? เยน อภินีหาเรน เอเต ภควนฺโต อาคตา, เตเนว อมฺหากมฺปิ ภควา อาคโต. อถ วา ยถา วิปสฺสี ภควา…เป… ยถา กสฺสโป ภควา ทานปารมึ ปูเรตฺวา, สีลเนกฺขมฺมปฺาวีริยขนฺติสจฺจอธิฏฺานเมตฺตาอุเปกฺขาปารมึ ปูเรตฺวา, อิมา ทส ปารมิโย, ทส อุปปารมิโย, ทส ปรมตฺถปารมิโยติ สมตึสปารมิโย ปูเรตฺวา องฺคปริจฺจาคํ, นยนธนรชฺชปุตฺตทารปริจฺจาคนฺติ อิเม ปฺจ มหาปริจฺจาเค ปริจฺจชิตฺวา ปุพฺพโยคปุพฺพจริยธมฺมกฺขานาตตฺถจริยาทโย ปูเรตฺวา พุทฺธิจริยาย โกฏึ ปตฺวา อาคโต; ตถา อมฺหากมฺปิ ภควา อาคโต. อถ วา ยถา วิปสฺสี ภควา…เป… กสฺสโป ภควา จตฺตาโร สติปฏฺาเน, จตฺตาโร สมฺมปฺปธาเน, จตฺตาโร อิทฺธิปาเท, ปฺจินฺทฺริยานิ, ปฺจ พลานิ, สตฺต โพชฺฌงฺเค, อริยํ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ ภาเวตฺวา พฺรูเหตฺวา อาคโต, ตถา อมฺหากมฺปิ ภควา อาคโต. เอวํ ตถา อาคโตติ ตถาคโต.

‘‘ยเถว โลกมฺหิ วิปสฺสิอาทโย,

สพฺพฺุภาวํ มุนโย อิธาคตา;

ตถา อยํ สกฺยมุนีปิ อาคโต,

ตถาคโต วุจฺจติ เตน จกฺขุมา’’ติ.

เอวํ ตถา อาคโตติ ตถาคโต.

กถํ ตถา คโตติ ตถาคโต? ยถา สมฺปติชาโต วิปสฺสี ภควา คโต…เป… กสฺสโป ภควา คโต.

กถฺจ โส ภควา คโต ? โส หิ สมฺปติ ชาโตว สเมหิ ปาเทหิ ปถวิยํ ปติฏฺาย อุตฺตราภิมุโข สตฺตปทวีติหาเรน คโต. ยถาห – ‘‘สมฺปติชาโต โข, อานนฺท, โพธิสตฺโต สเมหิ ปาเทหิ ปติฏฺหิตฺวา อุตฺตราภิมุโข สตฺตปทวีติหาเรน คจฺฉติ, เสตมฺหิ ฉตฺเต อนุธาริยมาเน สพฺพา จ ทิสา อนุวิโลเกติ, อาสภึ วาจํ ภาสติ – ‘อคฺโคหมสฺมิ โลกสฺส, เชฏฺโหมสฺมิ โลกสฺส, เสฏฺโหมสฺมิ โลกสฺส, อยมนฺติมา ชาติ, นตฺถิทานิ ปุนพฺภโว’ติ’’ (ที. นิ. ๒.๓๑).

ตฺจสฺส คมนํ ตถํ อโหสิ? อวิตถํ อเนเกสํ วิเสสาธิคมานํ ปุพฺพนิมิตฺตภาเวน. ยฺหิ โส สมฺปติชาโตว สเมหิ ปาเทหิ ปติฏฺหิ. อิทมสฺส จตุริทฺธิปาทปฏิลาภสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ.

อุตฺตราภิมุขภาโว ปน สพฺพโลกุตฺตรภาวสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ.

สตฺตปทวีติหาโร, สตฺตโพชฺฌงฺครตนปฏิลาภสฺส.

‘‘สุวณฺณทณฺฑา วีติปตนฺติ จามรา’’ติ, เอตฺถ วุตฺตจามรุกฺเขโป ปน สพฺพติตฺถิยนิมฺมทฺทนสฺส.

เสตจฺฉตฺตธารณํ, อรหตฺตวิมุตฺติวรวิมลเสตจฺฉตฺตปฏิลาภสฺส.

สตฺตมปทูปริ ตฺวา สพฺพทิสานุวิโลกนํ, สพฺพฺุตานาวรณาณปฏิลาภสฺส.

อาสภิวาจาภาสนํ อปฺปฏิวตฺติยวรธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ.

ตถา อยํ ภควาปิ คโต, ตฺจสฺส คมนํ ตถํ อโหสิ, อวิตถํ, เตสํเยว วิเสสาธิคมานํ ปุพฺพนิมิตฺตภาเวน.

เตนาหุ โปราณา –

‘‘มุหุตฺตชาโตว ควมฺปตี ยถา,

สเมหิ ปาเทหิ ผุสี วสุนฺธรํ;

โส วิกฺกมี สตฺต ปทานิ โคตโม,

เสตฺจ ฉตฺตํ อนุธารยุํ มรู.

คนฺตฺวาน โส สตฺต ปทานิ โคตโม,

ทิสา วิโลเกสิ สมา สมนฺตโต;

อฏฺงฺคุเปตํ คิรมพฺภุทีรยิ,

สีโห ยถา ปพฺพตมุทฺธนิฏฺิโต’’ติ.

เอวํ ตถา คโตติ ตถาคโต.

อถ วา ยถา วิปสฺสี ภควา…เป… ยถา กสฺสโป ภควา, อยมฺปิ ภควา ตเถว เนกฺขมฺเมน กามจฺฉนฺทํ ปหาย คโต , อพฺยาปาเทน พฺยาปาทํ, อาโลกสฺาย ถินมิทฺธํ, อวิกฺเขเปน อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ, ธมฺมววตฺถาเนน วิจิกิจฺฉํ ปหาย าเณน อวิชฺชํ ปทาเลตฺวา, ปาโมชฺเชน อรตึ วิโนเทตฺวา, ปมชฺฌาเนน นีวรณกวาฏํ อุคฺฆาเฏตฺวา, ทุติยชฺฌาเนน วิตกฺกวิจารํ วูปสเมตฺวา, ตติยชฺฌาเนน ปีตึ วิราเชตฺวา, จตุตฺถชฺฌาเนน สุขทุกฺขํ ปหาย, อากาสานฺจายตนสมาปตฺติยา รูปสฺาปฏิฆสฺานานตฺตสฺาโย สมติกฺกมิตฺวา, วิฺาณฺจายตนสมาปตฺติยา อากาสานฺจายตนสฺํ, อากิฺจฺายตนสมาปตฺติยา วิฺาณฺจายตนสฺํ, เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺติยา อากิฺจฺายตนสฺํ สมติกฺกมิตฺวา คโต.

อนิจฺจานุปสฺสนาย นิจฺจสฺํ ปหาย, ทุกฺขานุปสฺสนาย สุขสฺํ, อนตฺตานุปสฺสนาย อตฺตสฺํ, นิพฺพิทานุปสฺสนาย นนฺทึ, วิราคานุปสฺสนาย ราคํ, นิโรธานุปสฺสนาย สมุทยํ, ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสนาย อาทานํ, ขยานุปสฺสนาย ฆนสฺํ, วยานุปสฺสนาย อายูหนํ, วิปริณามานุปสฺสนาย ธุวสฺํ, อนิมิตฺตานุปสฺสนาย นิมิตฺตํ, อปฺปณิหิตานุปสฺสนาย ปณิธึ, สุฺตานุปสฺสนาย อภินิเวสํ, อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย สาราทานาภินิเวสํ, ยถาภูตาณทสฺสเนน สมฺโมหาภินิเวสํ, อาทีนวานุปสฺสนาย อาลยาภินิเวสํ, ปฏิสงฺขานุปสฺสนาย อปฺปฏิสงฺขํ, วิวฏฺฏานุปสฺสนาย สํโยคาภินิเวสํ, โสตาปตฺติมคฺเคน ทิฏฺเกฏฺเ กิเลเส ภฺชิตฺวา, สกทาคามิมคฺเคน โอฬาริเก กิเลเส ปหาย, อนาคามิมคฺเคน อณุสหคเต กิเลเส สมุคฺฆาเฏตฺวา, อรหตฺตมคฺเคน สพฺพกิเลเส สมุจฺฉินฺทิตฺวา คโต. เอวมฺปิ ตถา คโตติ ตถาคโต.

กถํ ตถลกฺขณํ อาคโตติ ตถาคโต?ปถวีธาตุยา กกฺขฬตฺตลกฺขณํ ตถํ อวิตถํ. อาโปธาตุยา ปคฺฆรณลกฺขณํ. เตโชธาตุยา อุณฺหตฺตลกฺขณํ. วาโยธาตุยา วิตฺถมฺภนลกฺขณํ. อากาสธาตุยา อสมฺผุฏฺลกฺขณํ. วิฺาณธาตุยา วิชานนลกฺขณํ.

รูปสฺส รุปฺปนลกฺขณํ. เวทนาย เวทยิตลกฺขณํ. สฺาย สฺชานนลกฺขณํ. สงฺขารานํ อภิสงฺขรณลกฺขณํ. วิฺาณสฺส วิชานนลกฺขณํ.

วิตกฺกสฺส อภินิโรปนลกฺขณํ. วิจารสฺส อนุมชฺชนลกฺขณํ ปีติยา ผรณลกฺขณํ. สุขสฺส สาตลกฺขณํ. จิตฺเตกคฺคตาย อวิกฺเขปลกฺขณํ. ผสฺสสฺส ผุสนลกฺขณํ.

สทฺธินฺทฺริยสฺส อธิโมกฺขลกฺขณํ. วีริยินฺทฺริยสฺส ปคฺคหลกฺขณํ. สตินฺทฺริยสฺส อุปฏฺานลกฺขณํ. สมาธินฺทฺริยสฺส อวิกฺเขปลกฺขณํ. ปฺินฺทฺริยสฺส ปชานนลกฺขณํ.

สทฺธาพลสฺส อสฺสทฺธิเย อกมฺปิยลกฺขณํ. วีริยพลสฺส โกสชฺเช, สติพลสฺส มุฏฺสฺสจฺเจ. สมาธิพลสฺส อุทฺธจฺเจ, ปฺาพลสฺส อวิชฺชาย อกมฺปิยลกฺขณํ.

สติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฏฺานลกฺขณํ. ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ปวิจยลกฺขณํ. วีริยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ปคฺคหลกฺขณํ. ปีติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ผรณลกฺขณํ. ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส วูปสมลกฺขณํ. สมาธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อวิกฺเขปลกฺขณํ. อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ปฏิสงฺขานลกฺขณํ.

สมฺมาทิฏฺิยา ทสฺสนลกฺขณํ. สมฺมาสงฺกปฺปสฺส อภินิโรปนลกฺขณํ. สมฺมาวาจาย ปริคฺคหลกฺขณํ. สมฺมากมฺมนฺตสฺส สมุฏฺานลกฺขณํ. สมฺมาอาชีวสฺส โวทานลกฺขณํ. สมฺมาวายามสฺส ปคฺคหลกฺขณํ. สมฺมาสติยา อุปฏฺานลกฺขณํ. สมฺมาสมาธิสฺส อวิกฺเขปลกฺขณํ.

อวิชฺชาย อฺาณลกฺขณํ. สงฺขารานํ เจตนาลกฺขณํ. วิฺาณสฺส วิชานนลกฺขณํ. นามสฺส นมนลกฺขณํ. รูปสฺส รุปฺปนลกฺขณํ. สฬายตนสฺส อายตนลกฺขณํ. ผสฺสสฺส ผุสนลกฺขณํ. เวทนาย เวทยิตลกฺขณํ. ตณฺหาย เหตุลกฺขณํ. อุปาทานสฺส คหณลกฺขณํ. ภวสฺส อายูหนลกฺขณํ. ชาติยา นิพฺพตฺติลกฺขณํ. ชราย ชีรณลกฺขณํ. มรณสฺส จุติลกฺขณํ.

ธาตูนํ สุฺตาลกฺขณํ. อายตนานํ อายตนลกฺขณํ. สติปฏฺานานํ อุปฏฺานลกฺขณํ. สมฺมปฺปธานานํ ปทหนลกฺขณํ. อิทฺธิปาทานํ อิชฺฌนลกฺขณํ. อินฺทฺริยานํ อธิปติลกฺขณํ. พลานํ อกมฺปิยลกฺขณํ. โพชฺฌงฺคานํ นิยฺยานลกฺขณํ. มคฺคสฺส เหตุลกฺขณํ.

สจฺจานํ ตถลกฺขณํ. สมถสฺส อวิกฺเขปลกฺขณํ. วิปสฺสนาย อนุปสฺสนาลกฺขณํ. สมถวิปสฺสนานํ เอกรสลกฺขณํ. ยุคนทฺธานํ อนติวตฺตนลกฺขณํ.

สีลวิสุทฺธิยา สํวรลกฺขณํ. จิตฺตวิสุทฺธิยา อวิกฺเขปลกฺขณํ. ทิฏฺิวิสุทฺธิยา ทสฺสนลกฺขณํ.

ขเย าณสฺส สมุจฺเฉทนลกฺขณํ. อนุปฺปาเท าณสฺส ปสฺสทฺธิลกฺขณํ.

ฉนฺทสฺส มูลลกฺขณํ. มนสิการสฺส สมุฏฺาปนลกฺขณํ. ผสฺสสฺส สโมธานลกฺขณํ. เวทนาย สโมสรณลกฺขณํ. สมาธิสฺส ปมุขลกฺขณํ. สติยา อาธิปเตยฺยลกฺขณํ. ปฺาย ตตุตฺตริยลกฺขณํ. วิมุตฺติยา สารลกฺขณํ… อมโตคธสฺส นิพฺพานสฺส ปริโยสานลกฺขณํ ตถํ อวิตถํ. เอวํ ตถลกฺขณํ าณคติยา อาคโต อวิรชฺฌิตฺวา ปตฺโต อนุปฺปตฺโตติ ตถาคโต. เอวํ ตถลกฺขณํ อาคโตติ ตถาคโต.

กถํ ตถธมฺเม ยาถาวโต อภิสมฺพุทฺโธติ ตถาคโต? ตถธมฺมา นาม จตฺตาริ อริยสจฺจานิ. ยถาห – ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, ตถานิ อวิตถานิ อนฺถานิ. กตมานิ จตฺตาริ? ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ภิกฺขเว, ตถเมตํ อวิตถเมตํ อนฺถเมต’’นฺติ (สํ. นิ. ๕.๑๐๙๐) วิตฺถาโร. ตานิ จ ภควา อภิสมฺพุทฺโธ, ตสฺมา ตถานํ ธมฺมานํ อภิสมฺพุทฺธตฺตา ตถาคโตติ วุจฺจติ. อภิสมฺพุทฺธตฺโถ เหตฺถ คตสทฺโท.

อปิ จ ชรามรณสฺส ชาติปจฺจยสมฺภูตสมุทาคตฏฺโ ตโถ อวิตโถ อนฺโถ…เป…, สงฺขารานํ อวิชฺชาปจฺจยสมฺภูตสมุทาคตฏฺโ ตโถ อวิตโถ อนฺโถ…เป…, ตถา อวิชฺชาย สงฺขารานํ ปจฺจยฏฺโ, สงฺขารานํ วิฺาณสฺส ปจฺจยฏฺโ…เป…, ชาติยา ชรามรณสฺส ปจฺจยฏฺโ ตโถ อวิตโถ อนฺโถ. ตํ สพฺพํ ภควา อภิสมฺพุทฺโธ, ตสฺมาปิ ตถานํ ธมฺมานํ อภิสมฺพุทฺธตฺตา ตถาคโตติ วุจฺจติ. เอวํ ตถธมฺเม ยาถาวโต อภิสมฺพุทฺโธติ ตถาคโต.

กถํ ตถทสฺสิตาย ตถาคโต? ภควา ยํ สเทวเก โลเก…เป…, สเทวมนุสฺสาย ปชาย อปริมาณาสุ โลกธาตูสุ อปริมาณานํ สตฺตานํ จกฺขุทฺวาเร อาปาถมาคจฺฉนฺตํ รูปารมฺมณํ นาม อตฺถิ, ตํ สพฺพาการโต ชานาติ ปสฺสติ. เอวํ ชานตา ปสฺสตา จ, เตน ตํ อิฏฺานิฏฺาทิวเสน วา ทิฏฺสุตมุตวิฺาเตสุ ลพฺภมานกปทวเสน วา. ‘‘กตมํ ตํ รูปํ รูปายตนํ? ยํ รูปํ จตุนฺนํ มหาภูตานํ อุปาทาย วณฺณนิภา สนิทสฺสนํ สปฺปฏิฆํ นีลํ ปีตก’’นฺติอาทินา (ธ. ส. ๖๑๖) นเยน อเนเกหิ นาเมหิ เตรสหิ วาเรหิ ทฺเวปฺาสาย นเยหิ วิภชฺชมานํ ตถเมว โหติ, วิตถํ นตฺถิ. เอส นโย โสตทฺวาราทีสุปิ อาปาถํ อาคจฺฉนฺเตสุ สทฺทาทีสุ. วุตฺตฺเจตํ ภควตา – ‘‘ยํ ภิกฺขเว, สเทวกสฺส โลกสฺส…เป… สเทวมนุสฺสาย ปชาย ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ มนสา, ตมหํ ชานามิ. ตมหํ อพฺภฺาสึ, ตํ ตถาคตสฺส วิทิตํ, ตํ ตถาคโต น อุปฏฺาสี’’ติ (อ. นิ. ๔.๒๔). เอวํ ตถทสฺสิตาย ตถาคโต. ตตฺถ ตถทสฺสี อตฺเถ ตถาคโตติ ปทสมฺภโว เวทิตพฺโพ.

กถํ ตถวาทิตาย ตถาคโต? ยํ รตฺตึ ภควา โพธิมณฺเฑ อปราชิตปลฺลงฺเก นิสินฺโน ติณฺณํ มารานํ มตฺถกํ มทฺทิตฺวา อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธ, ยฺจ รตฺตึ ยมกสาลานมนฺตเร อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายิ, เอตฺถนฺตเร ปฺจจตฺตาลีสวสฺสปริมาเณ กาเล ปมโพธิยาปิ มชฺฌิมโพธิยาปิ ปจฺฉิมโพธิยาปิ ยํ ภควตา ภาสิตํ – สุตฺตํ, เคยฺยํ…เป… เวทลฺลํ, ตํ สพฺพํ อตฺถโต จ พฺยฺชนโต จ อนุปวชฺชํ, อนูนมนธิกํ, สพฺพาการปริปุณฺณํ, ราคมทนิมฺมทนํ, โทสโมหมทนิมฺมทนํ. นตฺถิ ตตฺถ วาลคฺคมตฺตมฺปิ อวกฺขลิตํ, สพฺพํ ตํ เอกมุทฺทิกาย ลฺฉิตํ วิย, เอกนาฬิยา มิตํ วิย, เอกตุลาย ตุลิตํ วิย จ, ตถเมว โหติ อวิตถํ อนฺถํ. เตนาห – ‘‘ยฺจ, จุนฺท, รตฺตึ ตถาคโต อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุชฺฌติ, ยฺจ รตฺตึ อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายติ, ยํ เอตสฺมึ อนฺตเร ภาสติ ลปติ นิทฺทิสติ, สพฺพํ ตํ ตเถว โหติ, โน อฺถา. ตสฺมา ‘ตถาคโต’ติ วุจฺจตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๒๓). คทตฺโถ เหตฺถ คตสทฺโท. เอวํ ตถวาทิตาย ตถาคโต.

อปิ จ อาคทนํ อาคโท, วจนนฺติ อตฺโถ. ตโย อวิปรีโต อาคโท อสฺสาติ, ท-การสฺส ต-การํ กตฺวา ตถาคโตติ เอวเมตสฺมึ อตฺเถ ปทสิทฺธิ เวทิตพฺพา.

กถํ ตถาการิตาย ตถาคโต? ภควโต หิ วาจาย กาโย อนุโลเมติ, กายสฺสปิ วาจา, ตสฺมา ยถาวาที ตถาการี, ยถาการี ตถาวาที จ โหติ. เอวํภูตสฺส จสฺส ยถาวาจา, กาโยปิ ตถา คโต ปวตฺโตติ อตฺโถ. ยถา จ กาโย, วาจาปิ ตถา คตา ปวตฺตาติ ตถาคโต. เตเนวาห – ‘‘ยถาวาที, ภิกฺขเว, ตถาคโต ตถาการี, ยถาการี ตถาวาที . อิติ ยถาวาที ตถาการี ยถาการี ตถาวาที. ตสฺมา ‘ตถาคโต’ติ วุจฺจตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๒๓). เอวํ ตถาการิตาย ตถาคโต.

กถํ อภิภวนฏฺเน ตถาคโต? อุปริ ภวคฺคํ เหฏฺา อวีจึ ปริยนฺตํ กตฺวา ติริยํ อปริมาณาสุ โลกธาตูสุ สพฺพสตฺเต อภิภวติ สีเลนปิ สมาธินาปิ ปฺายปิ วิมุตฺติยาปิ, วิมุตฺติาณทสฺสเนนปิ น ตสฺส ตุลา วา ปมาณํ วา อตฺถิ; อตุโล อปฺปเมยฺโย อนุตฺตโร ราชาติราชา เทวเทโว สกฺกานํ อติสกฺโก พฺรหฺมานํ อติพฺรหฺมา. เตนาห – ‘‘สเทวเก, ภิกฺขเว, โลเก…เป… สเทวมนุสฺสาย ปชาย ตถาคโต อภิภู อนภิภูโต อฺทตฺถุทโส วสวตฺตี, ตสฺมา ‘ตถาคโต’ติ วุจฺจตี’’ติ.

ตตฺเรวํ ปทสิทฺธิ เวทิตพฺพา. อคโท วิย อคโท. โก ปเนส? เทสนาวิลาสมโย เจว ปุฺุสฺสโย จ. เตน เหส มหานุภาโว ภิสกฺโก ทิพฺพาคเทน สปฺเป วิย สพฺพปรปฺปวาทิโน สเทวกฺจ โลกํ อภิภวติ. อิติ สพฺพาโลกาภิภวเน ตโถ อวิปรีโต เทสนาวิลาสมโย เจว ปุฺุสฺสโย จ อคโท อสฺสาติ. ท-การสฺส ต-การํ กตฺวา ตถาคโตติ เวทิตพฺโพ. เอวํ อภิภวนฏฺเน ตถาคโต.

อปิ จ ตถาย คโตติปิ ตถาคโต, ตถํ คโตติปิ ตถาคโต. คโตติ อวคโต, อตีโต ปตฺโต ปฏิปนฺโนติ อตฺโถ.

ตตฺถ สกลโลกํ ตีรณปริฺาย ตถาย คโต อวคโตติ ตถาคโต. โลกสมุทยํ ปหานปริฺาย ตถาย คโต อตีโตติ ตถาคโต. โลกนิโรธํ สจฺฉิกิริยาย ตถาย คโต ปตฺโตติ ตถาคโต. โลกนิโรธคามินึ ปฏิปทํ ตถํ คโต ปฏิปนฺโนติ ตถาคโต. เตน วุตฺตํ ภควตา –

‘‘โลโก, ภิกฺขเว, ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺโธ, โลกสฺมา ตถาคโต วิสํยุตฺโต. โลกสมุทโย, ภิกฺขเว, ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺโธ, โลกสมุทโย ตถาคตสฺส ปหีโน. โลกนิโรโธ, ภิกฺขเว, ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺโธ, โลกนิโรโธ ตถาคตสฺส สจฺฉิกโต. โลกนิโรธคามินี ปฏิปทา, ภิกฺขเว, ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺธา, โลกนิโรธคามินี ปฏิปทา ตถาคตสฺส ภาวิตา. ยํ ภิกฺขเว, สเทวกสฺส โลกสฺส…เป… สพฺพํ ตํ ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺธํ. ตสฺมา, ตถาคโตติ วุจฺจตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๒๓).

ตสฺสปิ เอวํ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิทมฺปิ จ ตถาคตสฺส ตถาคตภาวทีปเน มุขมตฺตเมว. สพฺพากาเรน ปน ตถาคโตว ตถาคตสฺส ตถาคตภาวํ วณฺเณยฺย.

กตมฺจ ตํ ภิกฺขเวติ เยน อปฺปมตฺตเกน โอรมตฺตเกน สีลมตฺตเกน ปุถุชฺชโน ตถาคตสฺส วณฺณํ วทมาโน วเทยฺย, ตํ กตมนฺติ ปุจฺฉติ? ตตฺถ ปุจฺฉา นาม อทิฏฺโชตนา ปุจฺฉา, ทิฏฺสํสนฺทนา ปุจฺฉา, วิมติจฺเฉทนา ปุจฺฉา, อนุมติปุจฺฉา, กเถตุกมฺยตา ปุจฺฉาติ ปฺจวิธา โหติ.

ตตฺถ กตมา อทิฏฺโชตนา ปุจฺฉา? ปกติยา ลกฺขณํ อฺาตํ โหติ, อทิฏฺํ อตุลิตํ อตีริตํ อวิภูตํ อวิภาวิตํ, ตสฺส าณาย ทสฺสนาย ตุลนาย ตีรณาย วิภาวนาย ปฺหํ ปุจฺฉติ, อยํ อทิฏฺโชตนา ปุจฺฉา.

กตมา ทิฏฺสํสนฺทนา ปุจฺฉา? ปกติยา ลกฺขณํ าตํ โหติ, ทิฏฺํ ตุลิตํ ตีริตํ วิภูตํ วิภาวิตํ, ตสฺส อฺเหิ ปณฺฑิเตหิ สทฺธึ สํสนฺทนตฺถาย ปฺหํ ปุจฺฉติ, อยํ ทิฏฺสํสนฺทนา ปุจฺฉา.

กตมา วิมติจฺเฉทนา ปุจฺฉา? ปกติยา สํสยปกฺขนฺโท โหติ, วิมติปกฺขนฺโท, ทฺเวฬฺหกชาโต, ‘‘เอวํ นุ โข, น นุ โข, กินฺนุ โข, กถํ นุ โข’’ติ. โส วิมติจฺเฉทนตฺถาย ปฺหํ ปุจฺฉติ. อยํ วิมติจฺเฉทนา ปุจฺฉา.

กตมา อนุมติปุจฺฉา? ภควา ภิกฺขูนํ อนุมติยา ปฺหํ ปุจฺฉติ – ‘‘ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเว, รูปํ นิจฺจํ วา อนิจฺจํ วา’’ติ. อนิจฺจํ, ภนฺเต. ยํ ปนานิจฺจํ , ทุกฺขํ วา ตํ สุขํ วาติ? ทุกฺขํ ภนฺเตติ (มหาว. ๒๑) สพฺพํ วตฺตพฺพํ, อยํ อนุมติปุจฺฉา.

กตมา กเถตุกมฺยตา ปุจฺฉา? ภควา ภิกฺขูนํ กเถตุกมฺยตาย ปฺหํ ปุจฺฉติ. จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, สติปฏฺานา. กตเม จตฺตาโร?…เป… อฏฺิเม ภิกฺขเว มคฺคงฺคา. กตเม อฏฺาติ, อยํ กเถตุกมฺยตา ปุจฺฉา.

อิติ อิมาสุ ปฺจสุ ปุจฺฉาสุ อทิฏฺสฺส ตาว กสฺสจิ ธมฺมสฺส อภาวโต ตถาคตสฺส อทิฏฺโชตนา ปุจฺฉา นตฺถิ. ‘‘อิทํ นาม อฺเหิ ปณฺฑิเตหิ สมณพฺราหฺมเณหิ สทฺธึ สํสนฺทิตฺวา เทเสสฺสามี’’ติ สมนฺนาหารสฺเสว อนุปฺปชฺชนโต ทิฏฺสํสนฺทนา ปุจฺฉาปิ นตฺถิ. ยสฺมา ปน พุทฺธานํ เอกธมฺเมปิ อาสปฺปนา ปริสปฺปนา นตฺถิ, โพธิมณฺเฑเยว สพฺพา กงฺขา ฉินฺนา; ตสฺมา วิมติจฺเฉทนา ปุจฺฉาปิ นตฺถิเยว. อวเสสา ปน ทฺเว ปุจฺฉา พุทฺธานํ อตฺถิ, ตาสุ อยํ กเถตุกมฺยตา ปุจฺฉา นาม.

. อิทานิ ตํ กเถตุกมฺยตาย ปุจฺฉาย ปุจฺฉิตมตฺถํ กเถตุํ ‘‘ปาณาติปาตํ ปหายา’’ติอาทิมาห.

ตตฺถ ปาณสฺส อติปาโต ปาณาติปาโต, ปาณวโธ, ปาณฆาโตติ วุตฺตํ โหติ. ปาโณติ เจตฺถ โวหารโต สตฺโต, ปรมตฺถโต ชีวิตินฺทฺริยํ, ตสฺมึ ปน ปาเณ ปาณสฺิโน ชีวิตินฺทฺริยุปจฺเฉทกอุปกฺกมสมุฏฺาปิกา กายวจีทฺวารานํ อฺตรทฺวารปฺปวตฺตา วธกเจตนา ปาณาติปาโต. โส คุณวิรหิเตสุ ติรจฺฉานคตาทีสุ ปาเณสุ ขุทฺทเก ปาเณ อปฺปสาวชฺโช, มหาสรีเร มหาสาวชฺโช, กสฺมา? ปโยคมหนฺตตาย. ปโยคสมตฺเตปิ วตฺถุมหนฺตตาย. คุณวนฺเตสุ มนุสฺสาทีสุ อปฺปคุเณ ปาเณ อปฺปสาวชฺโช, มหาคุเณ มหาสาวชฺโช. สรีรคุณานํ ปน สมภาเว สติ กิเลสานํ อุปกฺกมานฺจ มุทุตาย อปฺปสาวชฺโช, ติพฺพตาย มหาสาวชฺโชติ เวทิตพฺโพ.

ตสฺส ปฺจ สมฺภารา โหนฺติ – ปาโณ, ปาณสฺิตา, วธกจิตฺตํ, อุปกฺกโม, เตน มรณนฺติ . ฉ ปโยคา – สาหตฺถิโก, อาณตฺติโก, นิสฺสคฺคิโย, ถาวโร, วิชฺชามโย, อิทฺธิมโยติ. อิมสฺมึ ปนตฺเถ วิตฺถาริยมาเน อติวิย ปปฺโจ โหติ, ตสฺมา ตํ น วิตฺถารยาม, อฺฺจ เอวรูปํ. อตฺถิเกหิ ปน สมนฺตปาสาทิกํ วินยฏฺกถํ โอโลเกตฺวา คเหตพฺพํ.

ปหายาติ อิมํ ปาณาติปาตเจตนาสงฺขาตํ ทุสฺสีลฺยํ ปชหิตฺวา. ปฏิวิรโตติ ปหีนกาลโต ปฏฺาย ตโต ทุสฺสีลฺยโต โอรโต วิรโตว. นตฺถิ ตสฺส วีติกฺกมิสฺสามีติ จกฺขุโสตวิฺเยฺยา ธมฺมา ปเคว กายิกาติ อิมินาว นเยน อฺเสุปิ เอวรูเปสุ ปเทสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

สมโณติ ภควา สมิตปาปตาย ลทฺธโวหาโร. โคตโมติ โคตฺตวเสน. น เกวลฺจ ภควาเยว ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต, ภิกฺขุสงฺโฆปิ ปฏิวิรโต, เทสนา ปน อาทิโต ปฏฺาย เอวํ อาคตา, อตฺถํ ปน ทีเปนฺเตน ภิกฺขุสงฺฆวเสนาปิ ทีเปตุํ วฏฺฏติ.

นิหิตทณฺโฑ นิหิตสตฺโถติ ปรูปฆาตตฺถาย ทณฺฑํ วา สตฺถํ วา อาทาย อวตฺตนโต นิกฺขิตฺตทณฺโฑ เจว นิกฺขิตฺตสตฺโถ จาติ อตฺโถ. เอตฺถ จ เปตฺวา ทณฺฑํ สพฺพมฺปิ อวเสสํ อุปกรณํ สตฺตานํ วิเหนภาวโต สตฺถนฺติ เวทิตพฺพํ. ยํ ปน ภิกฺขู กตฺตรทณฺฑํ วา ทนฺตกฏฺํ วา วาสึ ปิปฺผลิกํ วา คเหตฺวา วิจรนฺติ, น ตํ ปรูปฆาตตฺถาย. ตสฺมา นิหิตทณฺโฑ นิหิตสตฺโถ ตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉติ.

ลชฺชีติ ปาปชิคุจฺฉนลกฺขณาย ลชฺชาย สมนฺนาคโต. ทยาปนฺโนติ ทยํ เมตฺตจิตฺตตํ อาปนฺโน. สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปีติ; สพฺเพ ปาณภูเต หิเตน อนุกมฺปโก. ตาย ทยาปนฺนตาย สพฺเพสํ ปาณภูตานํ หิตจิตฺตโกติ อตฺโถ. วิหรตีติ อิริยติ ยเปติ ยาเปติ ปาเลติ . อิติ วา หิ, ภิกฺขเวติ เอวํ วา ภิกฺขเว. วา สทฺโท อุปริ ‘‘อทินฺนาทานํ ปหายา’’ติอาทีนิ อเปกฺขิตฺวา วิกปฺปตฺโถ วุตฺโต, เอวํ สพฺพตฺถ ปุริมํ วา ปจฺฉิมํ วา อเปกฺขิตฺวา วิกปฺปภาโว เวทิตพฺโพ.

อยํ ปเนตฺถ สงฺเขโป – ภิกฺขเว, ปุถุชฺชโน ตถาคตสฺส วณฺณํ วทมาโน เอวํ วเทยฺย – ‘‘สมโณ โคตโม ปาณํ น หนติ, น ฆาเตติ, น ตตฺถ สมนุฺโ โหติ, วิรโต อิมสฺมา ทุสฺสีลฺยา; อโห, วต เร พุทฺธคุณา มหนฺตา’’ติ, อิติ มหนฺตํ อุสฺสาหํ กตฺวา วณฺณํ วตฺตุกาโมปิ อปฺปมตฺตกํ โอรมตฺตกํ อาจารสีลมตฺตกเมว วกฺขติ. อุปริ อสาธารณภาวํ นิสฺสาย วณฺณํ วตฺตุํ น สกฺขิสฺสติ. น เกวลฺจ ปุถุชฺชโนว โสตาปนฺนสกทาคามิอนาคามิอรหนฺโตปิ ปจฺเจกพุทฺธาปิ น สกฺโกนฺติเยว; ตถาคโตเยว ปน สกฺโกติ, ตํ โว อุปริ วกฺขามีติ, อยเมตฺถ สาธิปฺปายา อตฺถวณฺณนา. อิโต ปรํ ปน อปุพฺพปทเมว วณฺณยิสฺสาม.

อทินฺนาทานํ ปหายาติ เอตฺถ อทินฺนสฺส อาทานํ อทินฺนาทานํ, ปรสํหรณํ, เถยฺยํ, โจริกาติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถ อทินฺนนฺติ ปรปริคฺคหิตํ, ยตฺถ ปโร ยถากามการิตํ อาปชฺชนฺโต อทณฺฑารโห อนุปวชฺโช จ โหติ. ตสฺมึ ปรปริคฺคหิเต ปรปริคฺคหิตสฺิโน, ตทาทายกอุปกฺกมสมุฏฺาปิกา เถยฺยเจตนา อทินฺนาทานํ. ตํ หีเน ปรสนฺตเก อปฺปสาวชฺชํ, ปณีเต มหาสาวชฺชํ, กสฺมา? วตฺถุปณีตตาย. วตฺถุสมตฺเต สติ คุณาธิกานํ สนฺตเก วตฺถุสฺมึ มหาสาวชฺชํ . ตํ ตํ คุณาธิกํ อุปาทาย ตโต ตโต หีนคุณสฺส สนฺตเก วตฺถุสฺมึ อปฺปสาวชฺชํ.

ตสฺส ปฺจ สมฺภารา โหนฺติ – ปรปริคฺคหิตํ, ปรปริคฺคหิตสฺิตา, เถยฺยจิตฺตํ, อุปกฺกโม, เตน หรณนฺติ. ฉ ปโยคา – สาหตฺถิกาทโยว. เต จ โข ยถานุรูปํ เถยฺยาวหาโร, ปสยฺหาวหาโร, ปฏิจฺฉนฺนาวหาโร, ปริกปฺปาวหาโร, กุสาวหาโรติ อิเมสํ อวหารานํ วเสน ปวตฺตา, อยเมตฺถ สงฺเขโป. วิตฺถาโร ปน สมนฺตปาสาทิกายํ วุตฺโต.

ทินฺนเมว อาทิยตีติ ทินฺนาทายี. จิตฺเตนปิ ทินฺนเมว ปฏิกงฺขตีติ ทินฺนปาฏิกงฺขี. เถเนตีติ เถโน. น เถเนน อเถเนน. อเถนตฺตาเยว สุจิภูเตน. อตฺตนาติ อตฺตภาเวน. อเถนํ สุจิภูตํ อตฺตานํ กตฺวา วิหรตีติ วุตฺตํ โหติ. เสสํ ปมสิกฺขาปเท วุตฺตนเยเนว โยเชตพฺพํ. ยถา จ อิธ, เอวํ สพฺพตฺถ.

อพฺรหฺมจริยนฺติ อเสฏฺจริยํ. พฺรหฺมํ เสฏฺํ อาจารํ จรตีติ พฺรหฺมจารี. อาราจารีติ อพฺรหฺมจริยโต ทูรจารี. เมถุนาติ ราคปริยุฏฺานวเสน สทิสตฺตา เมถุนกาติ ลทฺธโวหาเรหิ ปฏิเสวิตพฺพโต เมถุนาติ สงฺขฺยํ คตา อสทฺธมฺมา. คามธมฺมาติ คามวาสีนํ ธมฺมา.

. มุสาวาทํ ปหายาติ เอตฺถ มุสาติ วิสํวาทนปุเรกฺขารสฺส อตฺถภฺชนโก วจีปโยโค กายปโยโค, วา วิสํวาทนาธิปฺปาเยน ปนสฺส ปรวิสํวาทกกายวจีปโยคสมุฏฺาปิกา เจตนา มุสาวาโท.

อปโร นโย, ‘มุสา’ติ อภูตํ อตจฺฉํ วตฺถุ. ‘วาโท’ติ ตสฺส ภูตโต ตจฺฉโต วิฺาปนํ. ลกฺขณโต ปน อตถํ วตฺถุํ ตถโต ปรํ วิฺาเปตุกามสฺส ตถาวิฺตฺติสมุฏฺาปิกา เจตนา มุสาวาโท. โส ยมตฺถํ ภฺชติ, ตสฺส อปฺปตาย อปฺปสาวชฺโช, มหนฺตตาย มหาสาวชฺโช.

อปิ จ คหฏฺานํ อตฺตโน สนฺตกํ อทาตุกามตาย นตฺถีติอาทินยปฺปวตฺโต อปฺปสาวชฺโช, สกฺขินา หุตฺวา อตฺถภฺชนตฺถํ วุตฺโต มหาสาวชฺโช, ปพฺพชิตานํ อปฺปกมฺปิ เตลํ วา สปฺปึ วา ลภิตฺวา หสาธิปฺปาเยน – ‘‘อชฺช คาเม เตลํ นที มฺเ สนฺทตี’’ติ ปูรณกถานเยน ปวตฺโต อปฺปสาวชฺโช, อทิฏฺํเยว ปน ทิฏฺนฺติอาทินา นเยน วทนฺตานํ มหาสาวชฺโช.

ตสฺส จตฺตาโร สมฺภารา โหนฺติ – อตถํ วตฺถุ, วิสํวาทนจิตฺตํ, ตชฺโช วายาโม, ปรสฺส ตทตฺถวิชานนนฺติ. เอโก ปโยโค สาหตฺถิโกว. โส กาเยน วา กายปฏิพทฺเธน วา วาจาย วา ปรวิสํวาทนกิริยากรเณน ทฏฺพฺโพ. ตาย เจ กิริยาย ปโร ตมตฺถํ ชานาติ, อยํ กิริยสมุฏฺาปิกเจตนากฺขเณเยว มุสาวาทกมฺมุนา พชฺฌติ.

ยสฺมา ปน ยถา กายกายปฏิพทฺธวาจาหิ ปรํ วิสํวาเทติ, ตถา ‘‘อิทมสฺส ภณาหี’’ติ อาณาเปนฺโตปิ ปณฺณํ ลิขิตฺวา ปุรโต นิสฺสชฺชนฺโตปิ, ‘‘อยมตฺโถ เอวํ ทฏฺพฺโพ’’ติ กุฑฺฑาทีสุ ลิขิตฺวา เปนฺโตปิ. ตสฺมา เอตฺถ อาณตฺติกนิสฺสคฺคิยถาวราปิ ปโยคา ยุชฺชนฺติ, อฏฺกถาสุ ปน อนาคตตฺตา วีมํสิตฺวา คเหตพฺพา.

สจฺจํ วทตีติ สจฺจวาที. สจฺเจน สจฺจํ สนฺทหติ ฆเฏตีติ สจฺจสนฺโธ. น อนฺตรนฺตรา มุสา วทตีติ อตฺโถ. โย หิ ปุริโส กทาจิ มุสา วทติ, กทาจิ สจฺจํ, ตสฺส มุสาวาเทน อนฺตริตตฺตา สจฺจํ สจฺเจน น ฆฏียติ; ตสฺมา โส น สจฺจสนฺโธ. อยํ ปน น ตาทิโส, ชีวิตเหตุปิ มุสา อวตฺวา สจฺเจน สจฺจํ สนฺทหติ เยวาติ สจฺจสนฺโธ.

เถโตติ ถิโร ถิรกโถติ อตฺโถ. เอโก หิ ปุคฺคโล หลิทฺทิราโค วิย, ถุสราสิมฺหิ นิขาตขาณุ วิย, อสฺสปิฏฺเ ปิตกุมฺภณฺฑมิว จ น ถิรกโถ โหติ, เอโก ปาสาณเลขา วิย, อินฺทขีโล วิย จ ถิรกโถ โหติ, อสินา สีสํ ฉินฺทนฺเตปิ ทฺเว กถา น กเถติ, อยํ วุจฺจติ เถโต.

ปจฺจยิโกติ ปตฺติยายิตพฺพโก, สทฺธายิตพฺพโกติ อตฺโถ. เอกจฺโจ หิ ปุคฺคโล น ปจฺจยิโก โหติ, ‘‘อิทํ เกน วุตฺตํ, อสุเกนา’’ติ วุตฺเต ‘‘มา ตสฺส วจนํ สทฺทหถา’’ติ วตฺตพฺพตํ อาปชฺชติ. เอโก ปจฺจยิโก โหติ, ‘‘อิทํ เกน วุตฺตํ, อสุเกนา’’ติ วุตฺเต ‘‘ยทิ เตน วุตฺตํ, อิทเมว ปมาณํ, อิทานิ อุปปริกฺขิตพฺพํ นตฺถิ, เอวเมว อิท’’นฺติ วตฺตพฺพตํ อาปชฺชติ, อยํ วุจฺจติ ปจฺจยิโก. อวิสํวาทโก โลกสฺสาติ ตาย สจฺจวาทิตาย โลกํ น วิสํวาเทตีติ อตฺโถ.

ปิสุณํวาจํ ปหายาติอาทีสุ ยาย วาจาย ยสฺส ตํ วาจํ ภาสติ, ตสฺส หทเย อตฺตโน ปิยภาวํ, ปรสฺส จ สุฺภาวํ กโรติ, สา ปิสุณา วาจา.

ยาย ปน อตฺตานมฺปิ ปรมฺปิ ผรุสํ กโรติ, ยา วาจา สยมฺปิ ผรุสา, เนว กณฺณสุขา น หทยงฺคมา, อยํ ผรุสา วาจา.

เยน สมฺผํ ปลปติ นิรตฺถกํ, โส สมฺผปฺปลาโป.

เตสํ มูลภูตา เจตนาปิ ปิสุณวาจาทินาเมว ลภติ, สา เอว จ อิธาธิปฺเปตาติ.

ตตฺถ สํกิลิฏฺจิตฺตสฺส ปเรสํ วา เภทาย อตฺตโน ปิยกมฺยตาย วา กายวจีปโยคสมุฏฺาปิกา เจตนา ปิสุณวาจา. สา ยสฺส เภทํ กโรติ, ตสฺส อปฺปคุณตาย อปฺปสาวชฺชา, มหาคุณตาย มหาสาวชฺชา.

ตสฺสา จตฺตาโร สมฺภารา – ภินฺทิตพฺโพ ปโร, ‘‘อิติ อิเม นานา ภวิสฺสนฺติ, วินา ภวิสฺสนฺตี’’ติ เภทปุเรกฺขารตา วา, ‘‘อิติ อหํ ปิโย ภวิสฺสามิ วิสฺสาสิโก’’ติ ปิยกมฺยตา วา, ตชฺโช วายาโม, ตสฺส ตทตฺถวิชานนนฺติ. อิเมสํ เภทายาติ, เยสํ อิโตติ วุตฺตานํ สนฺติเก สุตํ เตสํ เภทาย.

ภินฺนานํ วา สนฺธาตาติ ทฺวินฺนํ มิตฺตานํ วา สมานุปชฺฌายกาทีนํ วา เกนจิเทว การเณน ภินฺนานํ เอกเมกํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘ตุมฺหากํ อีทิเส กุเล ชาตานํ เอวํ พหุสฺสุตานํ อิทํ น ยุตฺต’’นฺติอาทีนิ วตฺวา สนฺธานํ กตฺตา อนุกตฺตา. อนุปฺปทาตาติ สนฺธานานุปฺปทาตา. ทฺเว ชเน สมคฺเค ทิสฺวา – ‘‘ตุมฺหากํ เอวรูเป กุเล ชาตานํ เอวรูเปหิ คุเณหิ สมนฺนาคตานํ อนุจฺฉวิกเมต’’นฺติอาทีนิ วตฺวา ทฬฺหีกมฺมํ กตฺตาติ อตฺโถ. สมคฺโค อาราโม อสฺสาติ สมคฺคาราโม. ยตฺถ สมคฺคา นตฺถิ, ตตฺถ วสิตุมฺปิ น อิจฺฉตีติ อตฺโถ. สมคฺคราโมติปิ ปาฬิ, อยเมเวตฺถ อตฺโถ. สมคฺครโตติ สมคฺเคสุ รโต, เต ปหาย อฺตฺถ คนฺตุมฺปิ น อิจฺฉตีติ อตฺโถ. สมคฺเค ทิสฺวาปิ สุตฺวาปิ นนฺทตีติ สมคฺคนนฺที,สมคฺคกรณึ วาจํ ภาสิตาติ ยา วาจา สตฺเต สมคฺเคเยว กโรติ , ตํ สามคฺคิคุณปริทีปิกเมว วาจํ ภาสติ, น อิตรนฺติ.

ปรสฺส มมฺมจฺเฉทกกายวจีปโยคสมุฏฺาปิกา เอกนฺตผรุสเจตนา ผรุสาวาจา. ตสฺสา อาวิภาวตฺถมิทํ วตฺถุ – เอโก กิร ทารโก มาตุวจนํ อนาทิยิตฺวา อรฺํ คจฺฉติ, ตํ มาตา นิวตฺเตตุมสกฺโกนฺตี – ‘‘จณฺฑา ตํ มหึสี อนุพนฺธตู’’ติ อกฺโกสิ. อถสฺส ตเถว อรฺเ มหึสี อุฏฺาสิ. ทารโก ‘‘ยํ มม มาตา มุเขน กเถสิ, ตํ มา โหตุ, ยํ จิตฺเตน จินฺเตสิ ตํ โหตู’’ติ, สจฺจกิริยมกาสิ. มหึสี ตตฺเถว พทฺธา วิย อฏฺาสิ. เอวํ มมฺมจฺเฉทโกปิ ปโยโค จิตฺตสณฺหตาย น ผรุสา วาจา โหติ. มาตาปิตโร หิ กทาจิ ปุตฺตเก เอวํ วทนฺติ – ‘‘โจรา โว ขณฺฑาขณฺฑํ กโรนฺตู’’ติ, อุปฺปลปตฺตมฺปิ จ เนสํ อุปริ ปตนฺตํ น อิจฺฉนฺติ. อาจริยุปชฺฌายา จ กทาจิ นิสฺสิตเก เอวํ วทนฺติ – ‘‘กึ อิเม อหิรีกา อโนตฺตปฺปิโน จรนฺติ, นิทฺธมถ เน’’ติ, อถ จ เนสํ อาคมาธิคมสมฺปตฺตึ อิจฺฉนฺติ. ยถา จ จิตฺตสณฺหตาย ผรุสา วาจา น โหติ, เอวํ วจนสณฺหตาย อผรุสา วาจา น โหติ. น หิ มาราเปตุกามสฺส – ‘‘อิมํ สุขํ สยาเปถา’’ติ วจนํ อผรุสา วาจา โหติ, จิตฺตผรุสตาย ปเนสา ผรุสา วาจาว. สา ยํ สนฺธาย ปวตฺติตา, ตสฺส อปฺปคุณตาย อปฺปสาวชฺชา, มหาคุณตาย มหาสาวชฺชา. ตสฺสา ตโย สมฺภารา – อกฺโกสิตพฺโพ ปโร, กุปิตจิตฺตํ, อกฺโกสนาติ.

เนลาติ เอลํ วุจฺจติ โทโส, นาสฺสา เอลนฺติ เนลา, นิทฺโทสาติ อตฺโถ. ‘‘เนลงฺโค เสตปจฺฉาโท’’ติ, (อุทา. ๖๕) เอตฺถ วุตฺตเนลํ วิย. กณฺณสุขาติ พฺยฺชนมธุรตาย กณฺณานํ สุขา, สูจิวิชฺฌนํ วิย กณฺณสูลํ น ชเนติ. อตฺถมธุรตาย สกลสรีเร โกปํ อชเนตฺวา เปมํ ชเนตีติ เปมนียา. หทยํ คจฺฉติ, อปฺปฏิหฺมานา สุเขน จิตฺตํ ปวิสตีติ หทยงฺคมา. คุณปริปุณฺณตาย ปุเร ภวาติ โปรี ปุเร สํวฑฺฒนารี วิย สุกุมาราติปิ โปรี. ปุรสฺส เอสาติปิ โปรี. นครวาสีนํ กถาติ อตฺโถ. นครวาสิโน หิ ยุตฺตกถา โหนฺติ. ปิติมตฺตํ ปิตาติ วทนฺติ, ภาติมตฺตํ ภาตาติ วทนฺติ, มาติมตฺตํ มาตาติ วทนฺติ. เอวรูปี กถา พหุโน ชนสฺส กนฺตา โหตีติ พหุชนกนฺตา. กนฺตภาเวเนว พหุโน ชนสฺส มนาปา จิตฺตวุฑฺฒิกราติ พหุชนมนาปา.

อนตฺถวิฺาปิกา กายวจีปโยคสมุฏฺาปิกา อกุสลเจตนา สมฺผปฺปลาโป. โส อาเสวนมนฺทตาย อปฺปสาวชฺโช, อาเสวนมหนฺตตาย มหาสาวชฺโช, ตสฺส ทฺเว สมฺภารา – ภารตยุทฺธสีตาหรณาทินิรตฺถกกถาปุเรกฺขารตา, ตถารูปี กถา กถนฺจ.

กาเลน วทตีติ กาลวาที วตฺตพฺพยุตฺตกาลํ สลฺลกฺเขตฺวา วทตีติ อตฺโถ. ภูตํ ตถํ ตจฺฉํ สภาวเมว วทตีติ ภูตวาที. ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกตฺถสนฺนิสฺสิตเมว กตฺวา วทตีติ อตฺถวาที. นวโลกุตฺตรธมฺมสนฺนิสฺสิตํ กตฺวา วทตีติ ธมฺมวาที สํวรวินยปหานวินยสนฺนิสฺสิตํ กตฺวา วทตีติ วินยวาที.

นิธานํ วุจฺจติ ปโนกาโส, นิธานมสฺสา อตฺถีติ นิธานวตี. หทเย นิธาตพฺพยุตฺตกํ วาจํ ภาสิตาติ อตฺโถ. กาเลนาติ เอวรูปึ ภาสมาโนปิ จ – ‘‘อหํ นิธานวตึ วาจํ ภาสิสฺสามี’’ติ น อกาเลน ภาสติ, ยุตฺตกาลํ ปน อเปกฺขิตฺวาว ภาสตีติ อตฺโถ. สาปเทสนฺติ สอุปมํ, สการณนฺติ อตฺโถ. ปริยนฺตวตินฺติ ปริจฺเฉทํ ทสฺเสตฺวา ยถาสฺสา ปริจฺเฉโท ปฺายติ, เอวํ ภาสตีติ อตฺโถ. อตฺถสํหิตนฺติ อเนเกหิปิ นเยหิ วิภชนฺเตน ปริยาทาตุํ อสกฺกุเณยฺยตาย อตฺถสมฺปนฺนํ ภาสติ. ยํ วา โส อตฺถวาที อตฺถํ วทติ, เตน อตฺเถน สหิตตฺตา อตฺถสํหิตํ วาจํ ภาสติ, น อฺํ นิกฺขิปิตฺวา อฺํ ภาสตีติ วุตฺตํ โหติ.

๑๐. พีชคามภูตคามสมารมฺภาติ มูลพีชํ ขนฺธพีชํ ผฬุพีชํ อคฺคพีชํ พีชพีชนฺติ ปฺจวิธสฺส พีชคามสฺส เจว, ยสฺส กสฺสจิ นีลติณรุกฺขาทิกสฺส ภูตคามสฺส จ สมารมฺภา, เฉทนเภทนปจนาทิภาเวน วิโกปนา ปฏิวิรโตติ อตฺโถ.

เอกภตฺติโกติ ปาตราสภตฺตํ สายมาสภตฺตนฺติ ทฺเว ภตฺตานิ, เตสุ ปาตราสภตฺตํ อนฺโตมชฺฌนฺหิเกน ปริจฺฉินฺนํ, อิตรํ มชฺฌนฺหิกโต อุทฺธํ อนฺโต อรุเณน. ตสฺมา อนฺโตมชฺฌนฺหิเก ทสกฺขตฺตุํ ภุฺชมาโนปิ เอกภตฺติโกว โหติ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘เอกภตฺติโก’’ติ.

รตฺติยา โภชนํ รตฺติ, ตโต อุปรโตติ รตฺตูปรโต. อติกฺกนฺเต มชฺฌนฺหิเก ยาว สูริยตฺถงฺคมนา โภชนํ วิกาลโภชนํ นาม. ตโต วิรตตฺตา วิรโต วิกาลโภชนา. กทา วิรโต? อโนมานทีตีเร ปพฺพชิตทิวสโต ปฏฺาย.

สาสนสฺส อนนุโลมตฺตา วิสูกํ ปฏาณีภูตํ ทสฺสนนฺติ วิสูกทสฺสนํ. อตฺตนา นจฺจนนจฺจาปนาทิวเสน นจฺจา จ คีตา จ วาทิตา จ อนฺตมโส มยูรนจฺจาทิวเสนปิ ปวตฺตานํ นจฺจาทีนํ วิสูกภูตา ทสฺสนา จาติ นจฺจคีตวาทิตวิสูกทสฺสนา. นจฺจาทีนิ หิ อตฺตนา ปโยเชตุํ วา ปเรหิ ปโยชาเปตุํ วา ปยุตฺตานิ ปสฺสิตุํ วา เนว ภิกฺขูนํ น ภิกฺขุนีนฺจ วฏฺฏนฺติ.

มาลาทีสุ มาลาติ ยํ กิฺจิ ปุปฺผํ. คนฺธนฺติ ยํ กิฺจิ คนฺธชาตํ. วิเลปนนฺติ ฉวิราคกรณํ. ตตฺถ ปิฬนฺธนฺโต ธาเรติ นาม, อูนฏฺานํ ปูเรนฺโต มณฺเฑติ นาม, คนฺธวเสน ฉวิราควเสน จ สาทิยนฺโต วิภูเสติ นาม. านํ วุจฺจติ การณํ. ตสฺมา ยาย ทุสฺสีลฺยเจตนาย ตานิ มาลาธารณาทีนิ มหาชโน กโรติ, ตโต ปฏิวิรโตติ อตฺโถ.

อุจฺจาสยนํ วุจฺจติ ปมาณาติกฺกนฺตํ. มหาสยนนฺติ อกปฺปิยปจฺจตฺถรณํ. ตโต วิรโตติ อตฺโถ.

ชาตรูปนฺติ สุวณฺณํ. รชตนฺติ กหาปโณ, โลหมาสโก, ชตุมาสโก, ทารุมาสโกติ เย โวหารํ คจฺฉนฺติ. ตสฺส อุภยสฺสาปิ ปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต, เนว นํ อุคฺคณฺหาติ, น อุคฺคณฺหาเปติ, น อุปนิกฺขิตฺตํ สาทิยตีติ อตฺโถ.

อามกธฺปฏิคฺคหณาติ, สาลิวีหิยวโคธูมกงฺคุวรกกุทฺรูสกสงฺขาตสฺส สตฺตวิธสฺสาปิ อามกธฺสฺส ปฏิคฺคหณา. น เกวลฺจ เอเตสํ ปฏิคฺคหณเมว, อามสนมฺปิ ภิกฺขูนํ น วฏฺฏติเยว. อามกมํสปฏิคฺคหณาติ เอตฺถ อฺตฺร โอทิสฺส อนุฺาตา อามกมํสมจฺฉานํ ปฏิคฺคหณเมว ภิกฺขูนํ น วฏฺฏติ, โน อามสนํ.

อิตฺถิกุมาริกปฏิคฺคหณาติ เอตฺถ อิตฺถีติ ปุริสนฺตรคตา, อิตรา กุมาริกา นาม, ตาสํ ปฏิคฺคหณมฺปิ อามสนมฺปิ อกปฺปิยเมว.

ทาสิทาสปฏิคฺคหณาติ เอตฺถ ทาสิทาสวเสเนว เตสํ ปฏิคฺคหณํ น วฏฺฏติ. ‘‘กปฺปิยการกํ ทมฺมิ, อารามิกํ ทมฺมี’’ติ เอวํ วุตฺเต ปน วฏฺฏติ.

อเชฬกาทีสุ เขตฺตวตฺถุปริโยสาเนสุ กปฺปิยากปฺปิยนโย วินยวเสน อุปปริกฺขิตพฺโพ. ตตฺถ เขตฺตํ นาม ยสฺมึ ปุพฺพณฺณํ รุหติ. วตฺถุ นาม ยสฺมึ อปรณฺณํ รุหติ. ยตฺถ วา อุภยมฺปิ รุหติ, ตํ เขตฺตํ. ตทตฺถาย อกตภูมิภาโค วตฺถุ. เขตฺตวตฺถุสีเสน เจตฺถ วาปิตฬากาทีนิปิ สงฺคหิตาเนว.

ทูเตยฺยํ วุจฺจติ ทูตกมฺมํ, คิหีนํ ปหิตํ ปณฺณํ วา สาสนํ วา คเหตฺวา ตตฺถ ตตฺถ คมนํ. ปหิณคมนํ วุจฺจติ ฆรา ฆรํ เปสิตสฺส ขุทฺทกคมนํ. อนุโยโค นาม ตทุภยกรณํ. ตสฺมา ทูเตยฺยปหิณคมนานํ อนุโยคาติ. เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

กยวิกฺกยาติ กยา จ วิกฺกยา จ. ตุลากูฏาทีสุ กูฏนฺติ วฺจนํ. ตตฺถ ตุลากูฏํ นาม รูปกูฏํ องฺคกูฏํ, คหณกูฏํ, ปฏิจฺฉนฺนกูฏนฺติ จตุพฺพิธํ โหติ. ตตฺถ รูปกูฏํ นาม ทฺเว ตุลา สมรูปา กตฺวา คณฺหนฺโต มหติยา คณฺหาติ, ททนฺโต ขุทฺทิกาย เทติ. องฺคกูฏํ นาม คณฺหนฺโต ปจฺฉาภาเค หตฺเถน ตุลํ อกฺกมติ, ททนฺโต ปุพฺพภาเค. คหณกูฏํ นาม คณฺหนฺโต มูเล รชฺชุํ คณฺหาติ, ททนฺโต อคฺเค. ปฏิจฺฉนฺนกูฏํ นาม ตุลํ สุสิรํ กตฺวา อนฺโต อยจุณฺณํ ปกฺขิปิตฺวา คณฺหนฺโต ตํ ปจฺฉาภาเค กโรติ, ททนฺโต อคฺคภาเค.

กํโส วุจฺจติ สุวณฺณปาติ, ตาย วฺจนํ กํสกูฏํ. กถํ? เอกํ สุวณฺณปาตึ กตฺวา อฺา ทฺเว ติสฺโส โลหปาติโย สุวณฺณวณฺเณ กโรติ, ตโต ชนปทํ คนฺตฺวา กิฺจิเทว อฑฺฒํ กุลํ ปวิสิตฺวา – ‘‘สุวณฺณภาชนานิ กิณถา’’ติ วตฺวา อคฺเฆ ปุจฺฉิเต สมคฺฆตรํ ทาตุกามา โหนฺติ. ตโต เตหิ – ‘‘กถํ อิเมสํ สุวณฺณภาโว ชานิตพฺโพ’’ติ วุตฺเต, ‘‘วีมํสิตฺวา คณฺหถา’’ติ สุวณฺณปาตึ ปาสาเณ ฆํสิตฺวา สพฺพา ปาติโย ทตฺวา คจฺฉติ.

มานกูฏํ นาม หทยเภทสิขาเภทรชฺชุเภทวเสน ติวิธํ โหติ. ตตฺถ หทยเภโท สปฺปิเตลาทิมินนกาเล ลพฺภติ. ตานิ หิ คณฺหนฺโต เหฏฺาฉิทฺเทน มาเนน – ‘‘สณิกํ อาสิฺจา’’ติ วตฺวา อนฺโตภาชเน พหุํ ปคฺฆราเปตฺวา คณฺหาติ, ททนฺโต ฉิทฺทํ ปิธาย สีฆํ ปูเรตฺวา เทติ.

สิขาเภโท ติลตณฺฑุลาทิมินนกาเล ลพฺภติ. ตานิ หิ คณฺหนฺโต สณิกํ สิขํ อุสฺสาเปตฺวา คณฺหาติ, ททนฺโต เวเคน ปูเรตฺวา สิขํ ฉินฺทนฺโต เทติ.

รชฺชุเภโท เขตฺตวตฺถุมินนกาเล ลพฺภติ. ลฺชํ อลภนฺตา หิ เขตฺตํ อมหนฺตมฺปิ มหนฺตํ กตฺวา มินนฺติ.

อุกฺโกฏนาทีสุ อุกฺโกฏนนฺติ อสฺสามิเก สามิเก กาตุํ ลฺชคฺคหณํ. วฺจนนฺติ เตหิ เตหิ อุปาเยหิ ปเรสํ วฺจนํ. ตตฺริทเมกํ วตฺถุ – เอโก กิร ลุทฺทโก มิคฺจ มิคโปตกฺจ คเหตฺวา อาคจฺฉติ , ตเมโก ธุตฺโต – ‘‘กึ โภ, มิโค อคฺฆติ, กึ มิคโปตโก’’ติ อาห. ‘‘มิโค ทฺเว กหาปเณ, มิคโปตโก เอก’’นฺติ จ วุตฺเต เอกํ กหาปณํ ทตฺวา มิคโปตกํ คเหตฺวา โถกํ คนฺตฺวา นิวตฺโต – ‘‘น เม โภ, มิคโปตเกน อตฺโถ, มิคํ เม เทหี’’ติ อาห. เตน หิ – ทฺเว กหาปเณ เทหีติ. โส อาห – ‘‘นนุ เต โภ, มยา ปมํ เอโก กหาปโณ ทินฺโน’’ติ? ‘‘อาม, ทินฺโน’’ติ. ‘‘อิทํ มิคโปตกํ คณฺห, เอวํ โส จ กหาปโณ, อยฺจ กหาปณคฺฆนโก มิคโปตโกติ ทฺเว กหาปณา ภวิสฺสนฺตี’’ติ. โส ‘‘การณํ วทตี’’ติ สลฺลกฺเขตฺวา มิคโปตกํ คเหตฺวา มิคํ อทาสีติ. นิกตีติ โยควเสน วา มายาวเสน วา อปามงฺคํ ปามงฺคนฺติ, อมณึ มณินฺติ, อสุวณฺณํ สุวณฺณนฺติ กตฺวา ปติรูปเกน วฺจนํ. สาจิโยโคติ กุฏิลโยโค, เอเตสํเยว อุกฺโกฏนาทีนเมตํ นามํ. ตสฺมา – อุกฺโกฏนสาจิโยโค, วฺจนสาจิโยโค, นิกติสาจิโยโคติ, เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เกจิ อฺํ ทสฺเสตฺวา อฺสฺส ปริวตฺตนํ สาจิโยโคติ วทนฺติ. ตํ ปน วฺจเนเนว สงฺคหิตํ.

เฉทนาทีสุ เฉทนนฺติ หตฺถจฺเฉทนาทิ. วโธติ มารณํ. พนฺโธติ รชฺชุพนฺธนาทีหิ พนฺธนํ. วิปราโมโสติ หิมวิปราโมโส, คุมฺพวิปราโมโสติ ทุวิโธ. ยํ หิมปาตสมเย หิเมน ปฏิจฺฉนฺนา หุตฺวา มคฺคปฺปฏิปนฺนํ ชนํ มุสนฺติ, อยํ หิมวิปราโมโส. ยํ คุมฺพาทีหิ ปฏิจฺฉนฺนา มุสนฺติ, อยํ คุมฺพวิปราโมโส. อาโลโป วุจฺจติ คามนิคมาทีนํ วิโลปกรณํ. สหสากาโรติ สาหสิกกิริยา. เคหํ ปวิสิตฺวา มนุสฺสานํ อุเร สตฺถํ เปตฺวา อิจฺฉิตภณฺฑานํ คหณํ. เอวเมตสฺมา เฉทน…เป… สหสาการา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโมติ. อิติ วา หิ, ภิกฺขเว, ปุถุชฺชโน ตถาคตสฺส วณฺณํ วทมาโน วเทยฺยาติ.

เอตฺตาวตา จูฬสีลํ นิฏฺิตํ โหติ.

มชฺฌิมสีลวณฺณนา

๑๑. อิทานิ มชฺฌิมสีลํ วิตฺถาเรนฺโต ‘‘ยถา วา ปเนเก โภนฺโต’’ติอาทิมาห. ตตฺรายํ อนุตฺตานปทวณฺณนา. สทฺธาเทยฺยานีติ กมฺมฺจ ผลฺจ อิธโลกฺจ ปรโลกฺจ สทฺทหิตฺวา ทินฺนานิ. ‘อยํ เม าตี’ติ วา, ‘มิตฺโต’ติ วา, อิทํ ปฏิกริสฺสติ, อิทํ วา เตน กตปุพฺพนฺติ วา, เอวํ น ทินฺนานีติ อตฺโถ. เอวํ ทินฺนานิ หิ น สทฺธาเทยฺยานิ นาม โหนฺติ . โภชนานีติ เทสนาสีสมตฺตเมตํ, อตฺถโต ปน สทฺธาเทยฺยานิ โภชนานิ ภุฺชิตฺวา จีวรานิ ปารุปิตฺวา เสนาสนานิ เสวมานา คิลานเภสชฺชํ ปริภุฺชมานาติ สพฺพเมตํ วุตฺตเมว โหติ.

เสยฺยถิทนฺติ นิปาโต. ตสฺสตฺโถ กตโม โส พีชคามภูตคาโม, ยสฺส สมารมฺภํ อนุยุตฺตา วิหรนฺตีติ. ตโต ตํ ทสฺเสนฺโต มูลพีชนฺติอาทิมาห. ตตฺถ มูลพีชํ นาม หลิทฺทิ, สิงฺคิเวรํ, วจา, วจตฺตํ, อติวิสา, กฏุกโรหิณี, อุสีรํ, ภทฺทมุตฺตกนฺติ เอวมาทิ. ขนฺธพีชํ นาม อสฺสตฺโถ, นิคฺโรโธ, ปิลกฺโข, อุทุมฺพโร, กจฺฉโก, กปิตฺถโนติ เอวมาทิ. ผฬุพีชํ นาม อุจฺฉุ, นโฬ, เวฬูติ เอวมาทิ. อคฺคพีชํ นาม อชฺชกํ, ผณิชฺชกํ, หิริเวรนฺติ เอวมาทิ. พีชพีชํ นาม ปุพฺพณฺณํ อปรณฺณนฺติ เอวมาทิ. สพฺพฺเหตํ รุกฺขโต วิโยชิตํ วิรุหนสมตฺถเมว ‘‘พีชคาโม’’ติ วุจฺจติ. รุกฺขโต ปน อวิโยชิตํ อสุกฺขํ ‘‘ภูตคาโม’’ติ วุจฺจติ. ตตฺถ ภูตคามสมารมฺโภ ปาจิตฺติยวตฺถุ, พีชคามสมารมฺโภ ทุกฺกฏวตฺถูติ เวทิตพฺโพ.

๑๒. สนฺนิธิการปริโภคนฺติ สนฺนิธิกตสฺส ปริโภคํ. ตตฺถ ทุวิธา กถา, วินยวเสน จ สลฺเลขวเสน จ. วินยวเสน ตาว ยํ กิฺจิ อนฺนํ อชฺช ปฏิคฺคหิตํ อปรชฺชุ สนฺนิธิการกํ โหติ, ตสฺส ปริโภเค ปาจิตฺติยํ . อตฺตนา ลทฺธํ ปน สามเณรานํ ทตฺวา, เตหิ ลทฺธํ ปาเปตฺวา ทุติยทิวเส ภุฺชิตุํ วฏฺฏติ, สลฺเลโข ปน น โหติ.

ปานสนฺนิธิมฺหิปิ เอเสว นโย. ตตฺถ ปานํ นาม อมฺพปานาทีนิ อฏฺ ปานานิ, ยานิ จ เตสํ อนุโลมานิ. เตสํ วินิจฺฉโย สมนฺตปาสาทิกายํ วุตฺโต.

วตฺถสนฺนิธิมฺหิ อนธิฏฺิตํ อวิกปฺปิตํ สนฺนิธิ จ โหติ, สลฺเลขฺจ โกเปติ, อยํ ปริยายกถา. นิปฺปริยายโต ปน ติจีวรสนฺตุฏฺเน ภวิตพฺพํ, จตุตฺถํ ลภิตฺวา อฺสฺส ทาตพฺพํ. สเจ ยสฺส กสฺสจิ ทาตุํ น สกฺโกติ, ยสฺส ปน ทาตุกาโม โหติ, โส อุทฺเทสตฺถาย วา ปริปุจฺฉตฺถาย วา คโต, อาคตมตฺเต ทาตพฺพํ, อทาตุํ น วฏฺฏติ. จีวเร ปน อปฺปโหนฺเต สติยา ปจฺจาสาย อนุฺาตกาลํ เปตุํ วฏฺฏติ. สูจิสุตฺตจีวรการกานํ อลาเภน ตโต ปรมฺปิ วินยกมฺมํ กตฺวา เปตุํ วฏฺฏติ. ‘‘อิมสฺมึ ชิณฺเณ ปุน อีทิสํ กุโต ลภิสฺสามี’’ติ ปน เปตุํ น วฏฺฏติ, สนฺนิธิ จ โหติ, สลฺเลขฺจ โกเปติ.

ยานสนฺนิธิมฺหิ ยานํ นาม วยฺหํ, รโถ, สกฏํ, สนฺทมานิกา, สิวิกา, ปาฏงฺกีติ; เนตํ ปพฺพชิตสฺส ยานํ. อุปาหนา ปน ปพฺพชิตสฺส ยานํเยว. เอกภิกฺขุสฺส หิ เอโก อรฺตฺถาย, เอโก โธตปาทกตฺถายาติ, อุกฺกํสโต ทฺเว อุปาหนสงฺฆาฏา วฏฺฏนฺติ. ตติยํ ลภิตฺวา อฺสฺส ทาตพฺโพ. ‘‘อิมสฺมึ ชิณฺเณ อฺํ กุโต ลภิสฺสามี’’ติ หิ เปตุํ น วฏฺฏติ, สนฺนิธิ จ โหติ, สลฺเลขฺจ โกเปติ.

สยนสนฺนิธิมฺหิ สยนนฺติ มฺโจ. เอกสฺส ภิกฺขุโน เอโก คพฺเภ, เอโก ทิวาาเนติ อุกฺกํสโต ทฺเว มฺจา วฏฺฏนฺติ. ตโต อุตฺตริ ลภิตฺวา อฺสฺส ภิกฺขุโน วา คณสฺส วา ทาตพฺโพ; อทาตุํ น วฏฺฏติ. สนฺนิธิ จ โหติ, สลฺเลขฺจ โกเปติ.

คนฺธสนฺนิธิมฺหิ ภิกฺขุโน กณฺฑุกจฺฉุฉวิโทสาทิอาพาเธ สติ คนฺธา วฏฺฏนฺติ. เต คนฺเธ อาหราเปตฺวา ตสฺมึ โรเค วูปสนฺเต อฺเสํ วา อาพาธิกานํ ทาตพฺพา, ทฺวาเร ปฺจงฺคุลิฆรธูปนาทีสุ วา อุปเนตพฺพา. ‘‘ปุน โรเค สติ ภวิสฺสนฺตี’’ติ ปน เปตุํ น วฏฺฏติ, สนฺนิธิ จ โหติ, สลฺเลขฺจ โกเปติ.

อามิสนฺติ วุตฺตาวเสสํ ทฏฺพฺพํ. เสยฺยถิทํ, อิเธกจฺโจ ภิกฺขุ – ‘‘ตถารูเป กาเล อุปการาย ภวิสฺสตี’’ติ ติลตณฺฑุลมุคฺคมาสนาฬิเกรโลณมจฺฉมํสวลฺลูรสปฺปิเตลคุฬภาชนาทีนิ อาหราเปตฺวา เปติ. โส วสฺสกาเล กาลสฺเสว สามเณเรหิ ยาคุํ ปจาเปตฺวา ปริภุฺชิตฺวา ‘‘สามเณร, อุทกกทฺทเม ทุกฺขํ คามํ ปวิสิตุํ, คจฺฉ อสุกํ กุลํ คนฺตฺวา มยฺหํ วิหาเร นิสินฺนภาวํ อาโรเจหิ; อสุกกุลโต ทธิอาทีนิ อาหรา’’ติ เปเสติ. ภิกฺขูหิ – ‘‘กึ, ภนฺเต, คามํ ปวิสิสฺสถา’’ติ วุตฺเตปิ, ‘‘ทุปฺปเวโส, อาวุโส, อิทานิ คาโม’’ติ วทติ. เต – ‘‘โหตุ, ภนฺเต, อจฺฉถ ตุมฺเห, มยํ ภิกฺขํ ปริเยสิตฺวา อาหริสฺสามา’’ติ คจฺฉนฺติ. อถ สามเณโรปิ ทธิอาทีนิ อาหริตฺวา ภตฺตฺจ พฺยฺชนฺจ สมฺปาเทตฺวา อุปเนติ, ตํ ภุฺชนฺตสฺเสว อุปฏฺากา ภตฺตํ ปหิณนฺติ, ตโตปิ มนาปํ มนาปํ ภุฺชติ. อถ ภิกฺขู ปิณฺฑปาตํ คเหตฺวา อาคจฺฉนฺติ, ตโตปิ มนาปํ มนาปํ คีวายามกํ ภุฺชติเยว. เอวํ จตุมาสมฺปิ วีตินาเมติ. อยํ วุจฺจติ – ‘‘ภิกฺขุ มุณฺฑกุฏุมฺพิกชีวิกํ ชีวติ, น สมณชีวิก’’นฺติ. เอวรูโป อามิสสนฺนิธิ นาม โหติ.

ภิกฺขุโน ปน วสนฏฺาเน เอกา ตณฺฑุลนาฬิ, เอโก คุฬปิณฺโฑ, จตุภาคมตฺตํ สปฺปีติ เอตฺตกํ นิเธตุํ วฏฺฏติ, อกาเล สมฺปตฺตโจรานํ อตฺถาย. เต หิ เอตฺตกมฺปิ อามิสปฏิสนฺถารํ อลภนฺตา ชีวิตาปิ โวโรเปยฺยุํ, ตสฺมา สเจ เอตฺตกํ นตฺถิ, อาหราเปตฺวาปิ เปตุํ วฏฺฏติ. อผาสุกกาเล จ ยเทตฺถ กปฺปิยํ, ตํ อตฺตนาปิ ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. กปฺปิยกุฏิยํ ปน พหุํ เปนฺตสฺสาปิ สนฺนิธิ นาม นตฺถิ. ตถาคตสฺส ปน ตณฺฑุลนาฬิอาทีสุ วา ยํ กิฺจิ จตุรตนมตฺตํ วา ปิโลติกขณฺฑํ ‘‘อิทํ เม อชฺช วา สฺเว วา ภวิสฺสตี’’ติ ปิตํ นาม นตฺถิ.

๑๓. วิสูกทสฺสเนสุ นจฺจํ นาม ยํ กิฺจิ นจฺจํ, ตํ มคฺคํ คจฺฉนฺเตนาปิ คีวํ ปสาเรตฺวา ทฏฺุํ น วฏฺฏติ. วิตฺถารวินิจฺฉโย ปเนตฺถ สมนฺตปาสาทิกายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. ยถา เจตฺถ, เอวํ สพฺเพสุ สิกฺขาปทปฏิสํยุตฺเตสุ สุตฺตปเทสุ. อิโต ปรฺหิ เอตฺตกมฺปิ อวตฺวา ตตฺถ ตตฺถ ปโยชนมตฺตเมว วณฺณยิสฺสามาติ.

เปกฺขนฺติ นฏสมชฺชํ. อกฺขานนฺติ ภารตยุชฺฌนาทิกํ. ยสฺมึ าเน กถียติ, ตตฺถ คนฺตุมฺปิ น วฏฺฏติ. ปาณิสฺสรนฺติ กํสตาฬํ, ปาณิตาฬนฺติปิ วทนฺติ. เวตาฬนฺติ ฆนตาฬํ, มนฺเตน มตสรีรุฏฺาปนนฺติปิ เอเก. กุมฺภถูณนฺติ จตุรสฺสอมฺพณกตาฬํ, กุมฺภสทฺทนฺติปิ เอเก. โสภนกนฺติ นฏานํ อพฺโภกฺกิรณํ, โสภนกรํ วา, ปฏิภานจิตฺตนฺติ วุตฺตํ โหติ. จณฺฑาลนฺติ อโยคุฬกีฬา, จณฺฑาลานํ สาณโธวนกีฬาติปิ วทนฺติ. วํสนฺติ เวฬุํ อุสฺสาเปตฺวา กีฬนํ.

โธวนนฺติ อฏฺิโธวนํ, เอกจฺเจสุ กิร ชนปเทสุ กาลงฺกเต าตเก น ฌาเปนฺติ, นิขณิตฺวา เปนฺติ. อถ เนสํ ปูติภูตํ กายํ ตฺวา นีหริตฺวา อฏฺีนิ โธวิตฺวา คนฺเธหิ มกฺเขตฺวา เปนฺติ. เต นกฺขตฺตกาเล เอกสฺมึ าเน อฏฺีนิ เปตฺวา เอกสฺมึ าเน สุราทีนิ เปตฺวา โรทนฺตา ปริเทวนฺตา สุรํ ปิวนฺติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ – ‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว , ทกฺขิเณสุ ชนปเทสุ อฏฺิโธวนํ นาม, ตตฺถ โหติ อนฺนมฺปิ ปานมฺปิ ขชฺชมฺปิ โภชฺชมฺปิ เลยฺยมฺปิ เปยฺยมฺปิ นจฺจมฺปิ คีตมฺปิ วาทิตมฺปิ. อตฺเถตํ, ภิกฺขเว, โธวนํ, เนตํ นตฺถีติ วทามี’’ติ (อ. นิ. ๑๐.๑๐๗). เอกจฺเจ ปน อินฺทชาเลน อฏฺิโธวนํ โธวนนฺติปิ วทนฺติ.

หตฺถิยุทฺธาทีสุ ภิกฺขุโน เนว หตฺถิอาทีหิ สทฺธึ ยุชฺฌิตุํ, น เต ยุชฺฌาเปตุํ, น ยุชฺฌนฺเต ทฏฺุํ วฏฺฏติ. นิพฺพุทฺธนฺติ มลฺลยุทฺธํ. อุยฺโยธิกนฺติ ยตฺถ สมฺปหาโร ทิสฺสติ. พลคฺคนฺติ พลคณนฏฺานํ. เสนาพฺยูหนฺติ เสนานิเวโส, สกฏพฺยูหาทิวเสน เสนาย นิเวสนํ. อนีกทสฺสนนฺติ – ‘‘ตโย หตฺถี ปจฺฉิมํ หตฺถานีก’’นฺติอาทินา (ปาจิ. ๓๒๔) นเยน วุตฺตสฺส อนีกสฺส ทสฺสนํ.

๑๔. ปมาโท เอตฺถ ติฏฺตีติ ปมาทฏฺานํ. ชูตฺจ ตํ ปมาทฏฺานฺจาติ ชูตปฺปมาทฏฺานํ. เอเกกาย ปนฺติยา อฏฺ อฏฺ ปทานิ อสฺสาติ อฏฺปทํ ทสปเทปิ เอเสว นโย. อากาสนฺติ อฏฺปททสปเทสุ วิย อากาเสเยว กีฬนํ. ปริหารปถนฺติ ภูมิยํ นานาปถมณฺฑลํ กตฺวา ตตฺถ ตตฺถ ปริหริตพฺพํ, ปถํ ปริหรนฺตานํ กีฬนํ. สนฺติกนฺติ สนฺติกกีฬนํ. เอกชฺฌํ ปิตา สาริโย วา สกฺขราโย วา อจาเลนฺตา นเขเนว อปเนนฺติ จ อุปเนนฺติ จ, สเจ ตตฺถ กาจิ จลติ, ปราชโย โหติ, เอวรูปาย กีฬาเยตํ อธิวจนํ. ขลิกนฺติ ชูตผลเก ปาสกกีฬนํ. ฆฏิกา วุจฺจติ ทีฆทณฺฑเกน รสฺสทณฺฑกํ ปหรณกีฬนํ. สลากหตฺถนฺติ ลาขาย วา มฺชิฏฺิกาย วา ปิฏฺโทเกน วา สลากหตฺถํ เตเมตฺวา – ‘‘กึ โหตู’’ติ ภูมิยํ วา ภิตฺติยํ วา ตํ ปหริตฺวา หตฺถิอสฺสาทิรูปทสฺสนกีฬนํ. อกฺขนฺติ คุฬกีฬา. ปงฺคจีรํ วุจฺจติ ปณฺณนาฬิกํ, ตํ ธมนฺตา กีฬนฺติ. วงฺกกนฺติ คามทารกานํ กีฬนกํ ขุทฺทกนงฺคลํ. โมกฺขจิกา วุจฺจติ สมฺปริวตฺตนกีฬา, อากาเส วา ทณฺฑกํ คเหตฺวา ภูมิยํ วา สีสํ เปตฺวา เหฏฺุปริยภาเวน ปริวตฺตนกีฬาติ วุตฺตํ โหติ. จิงฺคุลิกํ วุจฺจติ ตาลปณฺณาทีหิ กตํ วาตปฺปหาเรน ปริพฺภมนจกฺกํ. ปตฺตาฬฺหกํ วุจฺจติ ปณฺณนาฬิกา. ตาย วาลุกาทีนิ มินนฺตา กีฬนฺติ. รถกนฺติ ขุทฺทกรถํ. ธนุกนฺติ ขุทฺทกธนุเมว. อกฺขริกา วุจฺจติ อากาเส วา ปิฏฺิยํ วา อกฺขรชานนกีฬา. มเนสิกา นาม มนสา จินฺติตชานนกีฬา. ยถาวชฺชํ นาม กาณกุณิขุชฺชาทีนํ ยํ ยํ วชฺชํ, ตํ ตํ ปโยเชตฺวา ทสฺสนกีฬา.

๑๕. อาสนฺทินฺติ ปมาณาติกฺกนฺตาสนํ. อนุยุตฺตา วิหรนฺตีติ อิทํ อเปกฺขิตฺวา ปน สพฺพปเทสุ อุปโยควจนํ กตํ. ปลฺลงฺโกติ ปาเทสุ วาฬรูปานิ เปตฺวา กโต. โคนโกติ ทีฆโลมโก มหาโกชโว, จตุรงฺคุลาธิกานิ กิร ตสฺส โลมานิ. จิตฺตกนฺติ วานวิจิตฺตํ อุณฺณามยตฺถรณํ. ปฏิกาติ อุณฺณามโย เสตตฺถรโณ. ปฏลิกาติ ฆนปุปฺผโก อุณฺณามยตฺถรโณ. โย อามลกปตฺโตติปิ วุจฺจติ. ตูลิกาติ ติณฺณํ ตูลานํ อฺตรปุณฺณา ตูลิกา. วิกติกาติ สีหพฺยคฺฆาทิรูปวิจิตฺโร อุณฺณามยตฺถรโณ. อุทฺทโลมีติ อุภยโตทสํ อุณฺณามยตฺถรณํ, เกจิ ‘‘เอกโตอุคฺคตปุปฺผ’’นฺติ วทนฺติ. เอกนฺตโลมีติ เอกโตทสํ อุณฺณามยตฺถรณํ. เกจิ ‘‘อุภโตอุคฺคตปุปฺผ’’นฺติ วทนฺติ. กฏฺฏิสฺสนฺติ รตนปริสิพฺพิตํ โกเสยฺยกฏฺฏิสฺสมยปจฺจตฺถรณํ. โกเสยฺยนฺติ รตนปริสิพฺพิตเมว โกสิยสุตฺตมยปจฺจตฺถรณํ. สุทฺธโกเสยฺยํ ปน วฏฺฏตีติ วินเย วุตฺตํ. ทีฆนิกายฏฺกถายํ ปน ‘‘เปตฺวา ตูลิกํ สพฺพาเนว โคนกาทีนิ รตนปริสิพฺพิตานิ น วฏฺฏนฺตี’’ติ วุตฺตํ.

กุตฺตกนฺติ โสฬสนฺนํ นาฏกิตฺถีนํ ตฺวา นจฺจนโยคฺคํ อุณฺณามยตฺถรณํ. หตฺถตฺถรํ อสฺสตฺถรนฺติ หตฺถิอสฺสปิฏฺีสุ อตฺถรณอตฺถรกาเยว. รถตฺถเรปิ เอเสว นโย. อชินปฺปเวณีติ อชินจมฺเมหิ มฺจปฺปมาเณน สิพฺพิตฺวา กตา ปเวณี. กทลีมิคปวรปจฺจตฺถรณนฺติ กทลีมิคจมฺมํ นาม อตฺถิ, เตน กตํ ปวรปจฺจตฺถรณํ; อุตฺตมปจฺจตฺถรณนฺติ อตฺโถ. ตํ กิร เสตวตฺถสฺส อุปริ กทลีมิคจมฺมํ ปตฺถริตฺวา สิพฺเพตฺวา กโรนฺติ. สอุตฺตรจฺฉทนฺติ สห อุตฺตรจฺฉเทน, อุปริพทฺเธน รตฺตวิตาเนน สทฺธินฺติ อตฺโถ. เสตวิตานมฺปิ เหฏฺา อกปฺปิยปจฺจตฺถรเณ สติ น วฏฺฏติ, อสติ ปน วฏฺฏติ. อุภโตโลหิตกูปธานนฺติ สีสูปธานฺจ ปาทูปธานฺจาติ มฺจสฺส อุภโตโลหิตกํ อุปธานํ, เอตํ น กปฺปติ. ยํ ปน เอกเมว อุปธานํ อุโภสุ ปสฺเสสุ รตฺตํ วา โหติ ปทุมวณฺณํ วา วิจิตฺรํ วา, สเจ ปมาณยุตฺตํ, วฏฺฏติ. มหาอุปธานํ ปน ปฏิกฺขิตฺตํ. อโลหิตกานิ ทฺเวปิ วฏฺฏนฺติเยว. ตโต อุตฺตริ ลภิตฺวา อฺเสํ ทาตพฺพานิ. ทาตุํ อสกฺโกนฺโต มฺเจ ติริยํ อตฺถริตฺวา อุปริ ปจฺจตฺถรณํ ทตฺวา นิปชฺชิตุมฺปิ ลภติ. อาสนฺทีอาทีสุ ปน วุตฺตนเยเนว ปฏิปชฺชิตพฺพํ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อาสนฺทิยา ปาเท ฉินฺทิตฺวา ปริภุฺชิตุํ, ปลฺลงฺกสฺส วาเฬ ภินฺทิตฺวา ปริภุฺชิตุํ, ตูลิกํ วิชเฏตฺวา พิมฺโพหนํ กาตุํ, อวเสสํ ภุมฺมตฺถรณํ กาตุ’’นฺติ (จูฬว. ๒๙๗).

๑๖. อุจฺฉาทนาทีสุ มาตุกุจฺฉิโต นิกฺขนฺตทารกานํ สรีรคนฺโธ ทฺวาทสวสฺสปตฺตกาเล นสฺสติ, เตสํ สรีรทุคฺคนฺธหรณตฺถาย คนฺธจุณฺณาทีหิ อุจฺฉาเทนฺติ, เอวรูปํ อุจฺฉาทนํ น วฏฺฏติ. ปุฺวนฺเต ปน ทารเก อูรูสุ นิปชฺชาเปตฺวา เตเลน มกฺเขตฺวา หตฺถปาทอูรุนาภิอาทีนํ สณฺานสมฺปาทนตฺถํ ปริมทฺทนฺติ, เอวรูปํ ปริมทฺทนํ น วฏฺฏติ.

นฺหาปนนฺติ เตสํเยว ทารกานํ คนฺธาทีหิ นฺหาปนํ. สมฺพาหนนฺติ มหามลฺลานํ วิย หตฺถปาเท มุคฺคราทีหิ ปหริตฺวา พาหุวฑฺฒนํ. อาทาสนฺติ ยํ กิฺจิ อาทาสํ ปริหริตุํ น วฏฺฏติ. อฺชนนฺติ อลงฺการฺชนเมว. มาลาติ พทฺธมาลา วา อพทฺธมาลา วา. วิเลปนนฺติ ยํ กิฺจิ ฉวิราคกรณํ. มุขจุณฺณํ มุขเลปนนฺติ มุเข กาฬปีฬกาทีนํ หรณตฺถาย มตฺติกกกฺกํ เทนฺติ, เตน โลหิเต จลิเต สาสปกกฺกํ เทนฺติ, เตน โทเส ขาทิเต ติลกกฺกํ เทนฺติ, เตน โลหิเต สนฺนิสินฺเน หลิทฺทิกกฺกํ เทนฺติ, เตน ฉวิวณฺเณ อารูฬฺเห มุขจุณฺณเกน มุขํ จุณฺเณนฺติ, ตํ สพฺพํ น วฏฺฏติ.

หตฺถพนฺธาทีสุ หตฺเถ วิจิตฺรสงฺขกปาลาทีนิ พนฺธิตฺวา วิจรนฺติ, ตํ วา อฺํ วา สพฺพมฺปิ หตฺถาภรณํ น วฏฺฏติ, อปเร สิขํ พนฺธิตฺวา วิจรนฺติ. สุวณฺณจีรกมุตฺตลตาทีหิ จ ตํ ปริกฺขิปนฺติ; ตํ สพฺพํ น วฏฺฏติ. อปเร จตุหตฺถทณฺฑํ วา อฺํ วา ปน อลงฺกตทณฺฑกํ คเหตฺวา วิจรนฺติ, ตถา อิตฺถิปุริสรูปาทิวิจิตฺตํ เภสชฺชนาฬิกํ สุปริกฺขิตฺตํ วามปสฺเส โอลคฺคิตํ; อปเร กณฺณิกรตนปริกฺขิตฺตโกสํ อติติขิณํ อสึ, ปฺจวณฺณสุตฺตสิพฺพิตํ มกรทนฺตกาทิวิจิตฺตํ ฉตฺตํ, สุวณฺณรชตาทิวิจิตฺรา โมรปิฺฉาทิปริกฺขิตฺตา อุปาหนา, เกจิ รตนมตฺตายามํ จตุรงฺคุลวิตฺถตํ เกสนฺตปริจฺเฉทํ ทสฺเสตฺวา เมฆมุเข วิชฺชุลตํ วิย นลาเฏ อุณฺหีสปฏฺฏํ พนฺธนฺติ, จูฬามณึ ธาเรนฺติ, จามรวาลพีชนึ ธาเรนฺติ, ตํ สพฺพํ น วฏฺฏติ.

๑๗. อนิยฺยานิกตฺตา สคฺคโมกฺขมคฺคานํ ติรจฺฉานภูตา กถาติ ติรจฺฉานกถา. ตตฺถ ราชานํ อารพฺภ มหาสมฺมโต มนฺธาตา ธมฺมาโสโก เอวํ มหานุภาโวติอาทินา นเยน ปวตฺตา กถา ราชกถา. เอส นโย โจรกถาทีสุ. เตสุ อสุโก ราชา อภิรูโป ทสฺสนีโยติอาทินา นเยน เคหสฺสิตกถาว ติรจฺฉานกถา โหติ. โสปิ นาม เอวํ มหานุภาโว ขยํ คโตติ เอวํ ปวตฺตา ปน กมฺมฏฺานภาเว ติฏฺติ. โจเรสุ มูลเทโว เอวํ มหานุภาโว, เมฆมาโล เอวํ มหานุภาโวติ เตสํ กมฺมํ ปฏิจฺจ อโห สูราติ เคหสฺสิตกถาว ติรจฺฉานกถา. ยุทฺเธปิ ภารตยุทฺธาทีสุ อสุเกน อสุโก เอวํ มาริโต, เอวํ วิทฺโธติ กามสฺสาทวเสเนว กถา ติรจฺฉานกถา. เตปิ นาม ขยํ คตาติ เอวํ ปวตฺตา ปน สพฺพตฺถ กมฺมฏฺานเมว โหติ. อปิ จ อนฺนาทีสุ เอวํ วณฺณวนฺตํ คนฺธวนฺตํ รสวนฺตํ ผสฺสสมฺปนฺนํ ขาทิมฺห ภุฺชิมฺหาติ กามสฺสาทวเสน กเถตุํ น วฏฺฏติ. สาตฺถกํ ปน กตฺวา ปุพฺเพ เอวํ วณฺณาทิสมฺปนฺนํ อนฺนํ ปานํ วตฺถํ สยนํ มาลํ คนฺธํ สีลวนฺตานํ อทมฺห, เจติเย ปูชํ กริมฺหาติ กเถตุํ วฏฺฏติ. าติกถาทีสุ ปน ‘‘อมฺหากํ าตกา สูรา สมตฺถา’’ติ วา ‘‘ปุพฺเพ มยํ เอวํ วิจิตฺเรหิ ยาเนหิ วิจริมฺหา’’ติ วา อสฺสาทวเสน วตฺตุํ น วฏฺฏติ. สาตฺถกํ ปน กตฺวา ‘‘เตปิ โน าตกา ขยํ คตา’’ติ วา ‘‘ปุพฺเพ มยํ เอวรูปา อุปาหนา สงฺฆสฺส อทมฺหา’’ติ วา กเถตุํ วฏฺฏติ. คามกถาปิ สุนิวิฏฺทุนฺนิวิฏฺสุภิกฺขทุพฺภิกฺขาทิวเสน วา ‘‘อสุกคามวาสิโน สูรา สมตฺถา’’ติ วา เอวํ อสฺสาทวเสน น วฏฺฏติ. สาตฺถกํ ปน กตฺวา ‘‘สทฺธา ปสนฺนา’’ติ วา ‘‘ขยวยํ คตา’’ติ วา วตฺตุํ วฏฺฏติ. นิคมนครชนปทกถาทีสุปิ เอเสว นโย.

อิตฺถิกถาปิ วณฺณสณฺานาทีนิ ปฏิจฺจ อสฺสาทวเสน น วฏฺฏติ, สทฺธา ปสนฺนา ขยวยํ คตาติ เอวเมว วฏฺฏติ. สูรกถาปิ ‘นนฺทิมิตฺโต นาม โยโธ สูโร อโหสี’ติ อสฺสาทวเสน น วฏฺฏติ. สทฺโธ อโหสิ ขยํ คโตติ เอวเมว วฏฺฏติ. วิสิขากถาปิ ‘‘อสุกา วิสิขา สุนิวิฏฺา ทุนฺนิวิฏฺา สูรา สมตฺถา’’ติ อสฺสาทวเสน น วฏฺฏติ. สทฺธา ปสนฺนา ขยวยํ คตาติ เอวเมว วฏฺฏติ.

กุมฺภฏฺานกถาติ อุทกฏฺานกถา, อุทกติตฺถกถาติปิ วุจฺจติ, กุมฺภทาสิกถา วา, สาปิ ‘‘ปาสาทิกา นจฺจิตุํ คายิตุํ เฉกา’’ติ อสฺสาทวเสน น วฏฺฏติ; สทฺธา ปสนฺนาติอาทินา นเยเนว วฏฺฏติ. ปุพฺพเปตกถาติ อตีตาติกถา. ตตฺถ วตฺตมานาติกถาสทิโส วินิจฺฉโย.

นานตฺตกถาติ ปุริมปจฺฉิมกถาหิ วิมุตฺตา อวเสสา นานาสภาวา นิรตฺถกกถา. โลกกฺขายิกาติ อยํ โลโก เกน นิมฺมิโต, อสุเกน นาม นิมฺมิโต. กาโก เสโต, อฏฺีนํ เสตตฺตา; พลากา รตฺตา. โลหิตสฺส รตฺตตฺตาติ เอวมาทิกา โลกายตวิตณฺฑสลฺลาปกถา.

สมุทฺทกฺขายิกา นาม กสฺมา สมุทฺโท สาคโร? สาครเทเวน ขโต, ตสฺมา สาคโร. ขโต เมติ หตฺถมุทฺทาย สยํ นิเวทิตตฺตา ‘‘สมุทฺโท’’ติ เอวมาทิกา นิรตฺถกา สมุทฺทกฺขายนกถา. ภโวติ วุฑฺฒิ. อภโวติ หานิ. อิติ ภโว, อิติ อภโวติ ยํ วา ตํ วา นิรตฺถกการณํ วตฺวา ปวตฺติตกถา อิติภวาภวกถา.

๑๘. วิคฺคาหิกกถาติ วิคฺคหกถา, สารมฺภกถา. ตตฺถ สหิตํ เมติ มยฺหํ วจนํ สหิตํ สิลิฏฺํ อตฺถยุตฺตํ การณยุตฺตนฺติ อตฺโถ. อสหิตํ เตติ ตุยฺหํ วจนํ อสหิตํ อสิลิฏฺํ. อธิจิณฺณํ เต วิปราวตฺตนฺติ ยํ ตุยฺหํ ทีฆรตฺตาจิณฺณวเสน สุปฺปคุณํ, ตํ มยฺหํ เอกวจเนเนว วิปราวตฺตํ ปริวตฺติตฺวา ิตํ, น กิฺจิ ชานาสีติ อตฺโถ.

อาโรปิโตเต วาโทติ มยา ตว โทโส อาโรปิโต. จร วาทปฺปโมกฺขายาติ โทสโมจนตฺถํ จร, วิจร; ตตฺถ ตตฺถ คนฺตฺวา สิกฺขาติ อตฺโถ. นิพฺเพเหิ วา สเจ ปโหสีติ อถ สยํ ปโหสิ, อิทานิเมว นิพฺเพเหีติ.

๑๙. ทูเตยฺยกถายํ อิธ คจฺฉาติ อิโต อสุกํ นาม านํ คจฺฉ. อมุตฺราคจฺฉาติ ตโต อสุกํ นาม านํ อาคจฺฉ. อิทํ หราติ อิโต อิทํ นาม หร. อมุตฺร อิทํ อาหราติ อสุกฏฺานโต อิทํ นาม อิธ อาหร. สงฺเขปโต ปน อิทํ ทูเตยฺยํ นาม เปตฺวา ปฺจ สหธมฺมิเก รตนตฺตยสฺส อุปการปฏิสํยุตฺตฺจ คิหีสาสนํ อฺเสํ น วฏฺฏติ.

๒๐. กุหกาติอาทีสุ ติวิเธน กุหนวตฺถุนา โลกํ กุหยนฺติ, วิมฺหาปยนฺตีติ กุหกา. ลาภสกฺการตฺถิกา หุตฺวา ลปนฺตีติ ลปกา. นิมิตฺตํ สีลเมเตสนฺติ เนมิตฺติกา. นิปฺเปโส สีลเมเตสนฺติ นิปฺเปสิกา. ลาเภน ลาภํ นิชิคีสนฺติ มคฺคนฺติ ปริเยสนฺตีติ ลาเภน ลาภํ นิชิคีสิตาโร. กุหนา, ลปนา, เนมิตฺติกตา, นิปฺเปสิกตา, ลาเภน ลาภํ นิชิคีสนตาติ เอตาหิ สมนฺนาคตานํ ปุคฺคลานํ เอตํ อธิวจนํ. อยเมตฺถ สงฺเขโป. วิตฺถาเรน ปเนตา กุหนาทิกา วิสุทฺธิมคฺเค สีลนิทฺเทเสเยว ปาฬิฺจ อฏฺกถฺจ อาหริตฺวา ปกาสิตาติ.

เอตฺตาวตา มชฺฌิมสีลํ นิฏฺิตํ โหติ.

มหาสีลวณฺณนา

๒๑. อิโต ปรํ มหาสีลํ โหติ. องฺคนฺติ หตฺถปาทาทีสุ เยน เกนจิ เอวรูเปน องฺเคน สมนฺนาคโต ทีฆายุ ยสวา โหตีติอาทินยปฺปวตฺตํ องฺคสตฺถํ. นิมิตฺตนฺติ นิมิตฺตสตฺถํ. ปณฺฑุราชา กิร ติสฺโส มุตฺตาโย มุฏฺิยํ กตฺวา เนมิตฺติกํ ปุจฺฉิ – ‘‘กึ เม หตฺเถ’’ติ? โส อิโต จิโต จ วิโลเกสิ, ตสฺมิฺจ สมเย ฆรโคลิกาย มกฺขิกา คยฺหนฺตี มุตฺตา, โส ‘‘มุตฺตา’’ติ อาห. ปุน ‘‘กตี’’ติ ปุฏฺโ กุกฺกุฏสฺส ติกฺขตฺตุํ รวนฺตสฺส สทฺทํ สุตฺวา ‘‘ติสฺโส’’ติ อาห. เอวํ ตํ ตํ อาทิสิตฺวา นิมิตฺตมนุยุตฺตา วิหรนฺติ.

อุปฺปาตนฺติ อสนิปาตาทีนํ มหนฺตานํ อุปฺปติตํ, ตฺหิ ทิสฺวา ‘‘อิทํ ภวิสฺสติ, เอวํ ภวิสฺสตี’’ติ อาทิสนฺติ. สุปินนฺติ โย ปุพฺพณฺหสมเย สุปินํ ปสฺสติ, เอวํ วิปาโก โหติ; โย อิทํ นาม ปสฺสติ, ตสฺส อิทํ นาม โหตีติอาทินา นเยน สุปินกํ อนุยุตฺตา วิหรนฺติ. ลกฺขณนฺติ อิมินา ลกฺขเณน สมนฺนาคโต ราชา โหติ, อิมินา อุปราชาติอาทิกํ. มูสิกจฺฉินฺนนฺติ อุนฺทูรขายิตํ. เตนาปิ หิ อหเต วา วตฺเถ อนหเต วา วตฺเถ อิโต ปฏฺาย เอวํ ฉินฺเน อิทํ นาม โหตีติ อาทิสนฺติ. อคฺคิโหมนฺติ เอวรูเปน ทารุนา เอวํ หุเต อิทํ นาม โหตีติ อคฺคิชุหนํ. ทพฺพิโหมาทีนิปิ อคฺคิโหมาเนว, เอวรูปาย ทพฺพิยา อีทิเสหิ กณาทีหิ หุเต อิทํ นาม โหตีติ เอวํ ปวตฺติวเสน ปน วิสุํ วุตฺตานิ.

ตตฺถ กโณติ กุณฺฑโก. ตณฺฑุลาติ สาลิอาทีนฺเจว ติณชาตีนฺจ ตณฺฑุลา. สปฺปีติ โคสปฺปิอาทิกํ. เตลนฺติ ติลเตลาทิกํ. สาสปาทีนิ ปน มุเขน คเหตฺวา อคฺคิมฺหิ ปกฺขิปนํ, วิชฺชํ ปริชปฺปิตฺวา ชุหนํ วา มุขโหมํ. ทกฺขิณกฺขกชณฺณุโลหิตาทีหิ ชุหนํ โลหิตโหมํ. องฺควิชฺชาติ ปุพฺเพ องฺคเมว ทิสฺวา พฺยากรณวเสน องฺคํ วุตฺตํ, อิธ องฺคุลฏฺึ ทิสฺวา วิชฺชํ ปริชปฺปิตฺวา อยํ กุลปุตฺโต วา โน วา, สิรีสมฺปนฺโน วา โน วาติอาทิพฺยากรณวเสน องฺควิชฺชา วุตฺตา. วตฺถุวิชฺชาติ ฆรวตฺถุอารามวตฺถาทีนํ คุณโทสสลฺลกฺขณวิชฺชา. มตฺติกาทิวิเสสํ ทิสฺวาปิ หิ วิชฺชํ ปริชปฺปิตฺวา เหฏฺา ปถวิยํ ตึสรตนมตฺเต, อากาเส จ อสีติรตนมตฺเต ปเทเส คุณโทสํ ปสฺสนฺติ. ขตฺตวิชฺชาติ อพฺเภยฺยมาสุรกฺขราชสตฺถาทิสตฺถํ. สิววิชฺชาติ สุสาเน ปวิสิตฺวา สนฺติกรณวิชฺชา, สิงฺคาลรุตวิชฺชาติปิ วทนฺติ. ภูตวิชฺชาติ ภูตเวชฺชมนฺโต. ภูริวิชฺชาติ ภูริฆเร วสนฺเตน อุคฺคเหตพฺพมนฺโต. อหิวิชฺชาติ สปฺปทฏฺติกิจฺฉนวิชฺชา เจว สปฺปาวฺหายนวิชฺชา จ. วิสวิชฺชาติ ยาย, ปุราณวิสํ วา รกฺขนฺติ, นววิสํ วา กโรนฺติ วิสวนฺตเมว วา. วิจฺฉิกวิชฺชาติ วิจฺฉิกทฏฺติกิจฺฉนวิชฺชา. มูสิกวิชฺชายปิ เอเสว นโย. สกุณวิชฺชาติ สปกฺขกอปกฺขกทฺวิปทจตุปฺปทานํ รุตคตาทิวเสน สกุณาณํ. วายสวิชฺชาติ กากรุตาณํ, ตํ วิสุฺเว สตฺถํ, ตสฺมา วิสุํ วุตฺตํ.

ปกฺกชฺฌานนฺติ ปริปากคตจินฺตา. อิทานิ ‘‘อยํ เอตฺตกํ ชีวิสฺสติ, อยํ เอตฺตก’’นฺติ เอวํ ปวตฺตํ อาทิฏฺาณนฺติ อตฺโถ. สรปริตฺตาณนฺติ สรรกฺขณํ, ยถา อตฺตโน อุปริ น อาคจฺฉติ, เอวํ กรณวิชฺชา. มิคจกฺกนฺติ อิทํ สพฺพสงฺคาหิกํ สพฺพสกุณจตุปฺปทานํ รุตาณวเสน วุตฺตํ.

๒๒. มณิลกฺขณาทีสุ เอวรูโป มณิ ปสตฺโถ, เอวรูโป อปสตฺโถ, สามิโน อาโรคฺยอิสฺสริยาทีนํ เหตุ โหติ, น โหตีติ, เอวํ วณฺณสณฺานาทิวเสน มณิอาทีนํ ลกฺขณํ อนุยุตฺตา วิหรนฺตีติ อตฺโถ. ตตฺถ อาวุธนฺติ เปตฺวา อสิอาทีนิ อวเสสํ อาวุธํ. อิตฺถิลกฺขณาทีนิปิ ยมฺหิ กุเล เต อิตฺถิปุริสาทโย วสนฺติ, ตสฺส วุฑฺฒิหานิวเสเนว เวทิตพฺพานิ. อชลกฺขณาทีสุ ปน เอวรูปานํ อชาทีนํ มํสํ ขาทิตพฺพํ, เอวรูปานํ น ขาทิตพฺพนฺติ อยํ วิเสโส เวทิตพฺโพ.

อปิ เจตฺถ โคธาย ลกฺขเณ จิตฺตกมฺมปิฬนฺธนาทีสุปิ เอวรูปาย โคธาย สติ อิทํ นาม โหตีติ อยํ วิเสโส เวทิตพฺโพ. อิทฺเจตฺถ วตฺถุ – เอกสฺมึ กิร วิหาเร จิตฺตกมฺเม โคธํ อคฺคึ ธมมานํ อกํสุ. ตโต ปฏฺาย ภิกฺขูนํ มหาวิวาโท ชาโต. เอโก อาคนฺตุกภิกฺขุ ตํ ทิสฺวา มกฺเขสิ. ตโต ปฏฺาย วิวาโท มนฺทีภูโต โหติ. กณฺณิกลกฺขณํ ปิฬนฺธนกณฺณิกายปิ เคหกณฺณิกายปิ วเสน เวทิตพฺพํ. กจฺฉปลกฺขณํ โคธาลกฺขณสทิสเมว. มิคลกฺขณํ สพฺพสงฺคาหิกํ สพฺพจตุปฺปทานํ ลกฺขณวเสน วุตฺตํ.

๒๓. รฺํ นิยฺยานํ ภวิสฺสตีติ อสุกทิวเส อสุกนกฺขตฺเตน อสุกสฺส นาม รฺโ นิคฺคมนํ ภวิสฺสตีติ เอวํ ราชูนํ ปวาสคมนํ พฺยากโรติ. เอส นโย สพฺพตฺถ. เกวลํ ปเนตฺถ อนิยฺยานนฺติ วิปฺปวุตฺถานํ ปุน อาคมนํ. อพฺภนฺตรานํ รฺํ อุปยานํ ภวิสฺสติ, พาหิรานํ รฺํ อปยานนฺติ อนฺโตนคเร อมฺหากํ ราชา ปฏิวิรุทฺธํ พหิราชานํ อุปสงฺกมิสฺสติ, ตโต ตสฺส ปฏิกฺกมนํ ภวิสฺสตีติ เอวํ รฺํ อุปยานาปยานํ พฺยากโรติ. ทุติยปเทปิ เอเสว นโย. ชยปราชยา ปากฏาเยว.

๒๔. จนฺทคฺคาหาทโย อสุกทิวเส ราหุ จนฺทํ คเหสฺสตีติ พฺยากรณวเสเนว เวทิตพฺพา. อปิ จ นกฺขตฺตสฺส องฺคารกาทิคาหสมาโยโคปิ นกฺขตฺตคาโหเยว. อุกฺกาปาโตติ อากาสโต อุกฺกานํ ปตนํ. ทิสาฑาโหติ ทิสากาลุสิยํ อคฺคิสิขธูมสิขาทีหิ อากุลภาโว วิย. เทวทุทฺรภีติ สุกฺขวลาหกคชฺชนํ. อุคฺคมนนฺติ อุทยนํ. โอกฺกมนนฺติ อตฺถงฺคมนํ. สํกิเลสนฺติ อวิสุทฺธตา. โวทานนฺติ วิสุทฺธตา. เอวํ วิปาโกติ โลกสฺส เอวํ วิวิธสุขทุกฺขาวโห.

๒๕. สุวุฏฺิกาติ เทวสฺส สมฺมาธารานุปฺปเวจฺฉนํ. ทุพฺพุฏฺิกาติ อวคฺคาโห, วสฺสวิพนฺโธติ วุตฺตํ โหติ. มุทฺทาติ หตฺถมุทฺทา. คณนา วุจฺจติ อจฺฉิทฺทกคณนา. สงฺขานนฺติ สงฺกลนสฏุปฺปาทนาทิวเสน ปิณฺฑคณนา. ยสฺส สา ปคุณา โหติ, โส รุกฺขมฺปิ ทิสฺวา เอตฺตกานิ เอตฺถ ปณฺณานีติ ชานาติ. กาเวยฺยนฺติ ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, กวี. กตเม จตฺตาโร? จินฺตากวิ, สุตกวิ, อตฺถกวิ, ปฏิภานกวี’’ติ (อ. นิ. ๔.๒๓๑). อิเมสํ จตุนฺนํ กวีนํ อตฺตโน จินฺตาวเสน วา; ‘‘เวสฺสนฺตโร นาม ราชา อโหสี’’ติอาทีนิ สุตฺวา สุตวเสน วา; อิมสฺส อยํ อตฺโถ, เอวํ ตํ โยเชสฺสามีติ เอวํ อตฺถวเสน วา; กิฺจิเทว ทิสฺวา ตปฺปฏิภาคํ กตฺตพฺพํ กริสฺสามีติ เอวํ านุปฺปตฺติกปฏิภานวเสน วา; ชีวิกตฺถาย กพฺยกรณํ. โลกายตํ วุตฺตเมว.

๒๖. อาวาหนํ นาม อิมสฺส ทารกสฺส อสุกกุลโต อสุกนกฺขตฺเตน ทาริกํ อาเนถาติ อาวาหกรณํ. วิวาหนนฺติ อิมํ ทาริกํ อสุกสฺส นาม ทารกสฺส อสุกนกฺขตฺเตน เทถ, เอวมสฺสา วุฑฺฒิ ภวิสฺสตีติ วิวาหกรณํ. สํวรณนฺติ สํวรณํ นาม ‘อชฺช นกฺขตฺตํ สุนฺทรํ, อชฺเชว สมคฺคา โหถ, อิติ โว วิโยโค น ภวิสฺสตี’ติ เอวํ สมคฺคกรณํ. วิวรณํ นาม ‘สเจ วิยุชฺชิตุกามตฺถ, อชฺเชว วิยุชฺชถ , อิติ โว ปุน สํโยโค น ภวิสฺสตี’ติ เอวํ วิสํโยคกรณํ. สงฺกิรณนฺติ ‘อุฏฺานํ วา อิณํ วา ทินฺนํ ธนํ อชฺช สงฺกฑฺฒถ, อชฺช สงฺกฑฺฒิตฺหิ ตํ ถาวรํ โหตี’ติ เอวํ ธนปิณฺฑาปนํ. วิกิรณนฺติ ‘สเจ ปโยคอุทฺธาราทิวเสน ธนํ ปโยชิตุกามตฺถ, อชฺช ปโยชิตํ ทิคุณจตุคฺคุณํ โหตี’ติ เอวํ ธนปโยชาปนํ. สุภคกรณนฺติ ปิยมนาปกรณํ วา สสฺสิรีกกรณํ วา. ทุพฺภคกรณนฺติ ตพฺพิปรีตํ. วิรุทฺธคพฺภกรณนฺติ วิรุทฺธสฺส วิลีนสฺส อฏฺิตสฺส มตสฺส คพฺภสฺส กรณํ. ปุน อวินาสาย เภสชฺชทานนฺติ อตฺโถ. คพฺโภ หิ วาเตน, ปาณเกหิ, กมฺมุนา จาติ ตีหิ การเณหิ วินสฺสติ. ตตฺถ วาเตน วินสฺสนฺเต นิพฺพาปนียํ สีตลํ เภสชฺชํ เทติ, ปาณเกหิ วินสฺสนฺเต ปาณกานํ ปฏิกมฺมํ กโรติ, กมฺมุนา วินสฺสนฺเต ปน พุทฺธาปิ ปฏิพาหิตุํ น สกฺโกนฺติ.

ชิวฺหานิพนฺธนนฺติ มนฺเตน ชิวฺหาย พนฺธกรณํ. หนุสํหนนนฺติ มุขพนฺธมนฺเตน ยถา หนุกํ จาเลตุํ น สกฺโกนฺติ, เอวํ พนฺธกรณํ. หตฺถาภิชปฺปนนฺติ หตฺถานํ ปริวตฺตนตฺถํ มนฺตชปฺปนํ. ตสฺมึ กิร มนฺเต สตฺตปทนฺตเร ตฺวา ชปฺปิเต อิตโร หตฺเถ ปริวตฺเตตฺวา ขิปติ. กณฺณชปฺปนนฺติ กณฺเณหิ สทฺทํ อสฺสวนตฺถาย วิชฺชาย ชปฺปนํ. ตํ กิร ชปฺปิตฺวา วินิจฺฉยฏฺาเน ยํ อิจฺฉติ, ตํ ภณติ, ปจฺจตฺถิโก ตํ น สุณาติ, ตโต ปฏิวจนํ สมฺปาเทตุํ น สกฺโกติ. อาทาสปฺหนฺติ อาทาเส เทวตํ โอตาเรตฺวา ปฺหปุจฺฉนํ. กุมาริกปฺหนฺติ กุมาริกาย สรีเร เทวตํ โอตาเรตฺวา ปฺหปุจฺฉนํ. เทวปฺหนฺติ ทาสิยา สรีเร เทวตํ โอตาเรตฺวา ปฺหปุจฺฉนํ. อาทิจฺจุปฏฺานนฺติ ชีวิกตฺถาย อาทิจฺจปาริจริยา. มหตุปฏฺานนฺติ ตเถว มหาพฺรหฺมปาริจริยา. อพฺภุชฺชลนนฺติ มนฺเตน มุขโต อคฺคิชาลานีหรณํ. สิริวฺหายนนฺติ ‘‘เอหิ สิริ, มยฺหํ สิเร ปติฏฺาหี’’ติ เอวํ สิเรน สิริยา อวฺหายนํ.

๒๗. สนฺติกมฺมนฺติ เทวฏฺานํ คนฺตฺวา สเจ เม อิทํ นาม สมิชฺฌิสฺสติ, ตุมฺหากํ อิมินา จ อิมินา จ อุปหารํ กริสฺสามีติ สมิทฺธิกาเล กตฺตพฺพํ สนฺติปฏิสฺสวกมฺมํ. ตสฺมึ ปน สมิทฺเธ ตสฺส กรณํ ปณิธิกมฺมํ นาม. ภูริกมฺมนฺติ ภูริฆเร วสิตฺวา คหิตมนฺตสฺส ปโยคกรณํ. วสฺสกมฺมํ โวสฺสกมฺมนฺติ เอตฺถ วสฺโสติ ปุริโส, โวสฺโสติ ปณฺฑโก . อิติ โวสฺสสฺส วสฺสกรณํ วสฺสกมฺมํ, วสฺสสฺส โวสฺสกรณํ โวสฺสกมฺมํ. ตํ ปน กโรนฺโต อจฺฉนฺทิกภาวมตฺตํ ปาเปติ, น ลิงฺคํ อนฺตรธาเปตุํ สกฺโกติ. วตฺถุกมฺมนฺติ อกตวตฺถุสฺมึ เคหปติฏฺาปนํ. วตฺถุปริกมฺมนฺติ ‘‘อิทฺจิทฺจาหรถา’’ติ วตฺวา วตฺถุพลิกมฺมกรณํ. อาจมนนฺติ อุทเกน มุขสุทฺธิกรณํ. นฺหาปนนฺติ อฺเสํ นฺหาปนํ. ชุหนนฺติ เตสํ อตฺถาย อคฺคิชุหนํ. วมนนฺติ โยคํ ทตฺวา วมนกรณํ. วิเรจเนปิ เอเสว นโย. อุทฺธํวิเรจนนฺติ อุทฺธํ โทสานํ นีหรณํ. อโธวิเรจนนฺติ อโธ โทสานํ นีหรณํ. สีสวิเรจนนฺติ สิโรวิเรจนํ. กณฺณเตลนฺติ กณฺณานํ พนฺธนตฺถํ วา วณหรณตฺถํ วา เภสชฺชเตลปจนํ. เนตฺตตปฺปนนฺติ อกฺขิตปฺปนเตลํ. นตฺถุกมฺมนฺติ เตเลน โยเชตฺวา นตฺถุกรณํ. อฺชนนฺติ ทฺเว วา ตีณิ วา ปฏลานิ นีหรณสมตฺถํ ขารฺชนํ. ปจฺจฺชนนฺติ นิพฺพาปนียํ สีตลเภสชฺชฺชนํ. สาลากิยนฺติ สลากเวชฺชกมฺมํ. สลฺลกตฺติยนฺติ สลฺลกตฺตเวชฺชกมฺมํ. ทารกติกิจฺฉา วุจฺจติ โกมารภจฺจเวชฺชกมฺมํ. มูลเภสชฺชานํ อนุปฺปาทนนฺติ อิมินา กายติกิจฺฉนํ ทสฺเสติ. โอสธีนํ ปฏิโมกฺโขติ ขาราทีนิ ทตฺวา ตทนุรูเป วเณ คเต เตสํ อปนยนํ.

เอตฺตาวตา มหาสีลํ นิฏฺิตํ โหติ.

ปุพฺพนฺตกปฺปิกสสฺสตวาทวณฺณนา

๒๘. เอวํ พฺรหฺมทตฺเตน วุตฺตวณฺณสฺส อนุสนฺธิวเสน ติวิธํ สีลํ วิตฺถาเรตฺวา อิทานิ ภิกฺขุสงฺเฆน วุตฺตวณฺณสฺส อนุสนฺธิวเสน – ‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, อฺเว ธมฺมา คมฺภีรา ทุทฺทสา’’ติอาทินา นเยน สุฺตาปกาสนํ อารภิ. ตตฺถ ธมฺมาติ คุเณ, เทสนายํ, ปริยตฺติยํ, นิสฺสตฺเตติ เอวมาทีสุ ธมฺมสทฺโท วตฺตติ.

‘‘น หิ ธมฺโม อธมฺโม จ, อุโภ สมวิปากิโน;

อธมฺโม นิรยํ เนติ, ธมฺโม ปาเปติ สุคฺคติ’’นฺติ. (เถรคา. ๓๐๔);

อาทีสุ หิ คุเณ ธมฺมสทฺโท. ‘‘ธมฺมํ, โว ภิกฺขเว, เทเสสฺสามิ อาทิกลฺยาณ’’นฺติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๔๒๐) เทสนายํ. ‘‘อิธ ภิกฺขุ ธมฺมํ ปริยาปุณาติ สุตฺตํ , เคยฺย’’นฺติอาทีสุ (อ. นิ. ๕.๗๓) ปริยตฺติยํ. ‘‘ตสฺมึ โข ปน สมเย ธมฺมา โหนฺติ, ขนฺธา โหนฺตี’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๑๒๑) นิสฺสตฺเต. อิธ ปน คุเณ วตฺตติ. ตสฺมา อตฺถิ, ภิกฺขเว, อฺเว ตถาคตสฺส คุณาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

คมฺภีราติ มหาสมุทฺโท วิย มกสตุณฺฑสูจิยา อฺตฺร ตถาคตา อฺเสํ าเณน อลพฺภเนยฺยปติฏฺา, คมฺภีรตฺตาเยว ทุทฺทสา. ทุทฺทสตฺตาเยว ทุรนุโพธา. นิพฺพุตสพฺพปริฬาหตฺตา สนฺตา, สนฺตารมฺมเณสุ ปวตฺตนโตปิ สนฺตา. อติตฺติกรณฏฺเน ปณีตา, สาทุรสโภชนํ วิย. อุตฺตมาณวิสยตฺตา น ตกฺเกน อวจริตพฺพาติ อตกฺกาวจรา. นิปุณาติ สณฺหสุขุมสภาวตฺตา. พาลานํ อวิสยตฺตา, ปณฺฑิเตหิเยว เวทิตพฺพาติ ปณฺฑิตเวทนียา.

เย ตถาคโต สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทตีติ เย ธมฺเม ตถาคโต อนฺเนยฺโย หุตฺวา สยเมว อภิวิสิฏฺเน าเณน ปจฺจกฺขํ กตฺวา ปเวเทติ, ทีเปติ, กเถติ, ปกาเสตีติ อตฺโถ. เยหีติ เยหิ คุณธมฺเมหิ. ยถาภุจฺจนฺติ ยถาภูตํ. วณฺณํ สมฺมา วทมานา วเทยฺยุนฺติ ตถาคตสฺส วณฺณํ วตฺตุกามา สมฺมา วเทยฺยุํ, อหาเปตฺวา วตฺตุํ สกฺกุเณยฺยุนฺติ อตฺโถ. กตเม จ ปน เต ธมฺมา ภควตา เอวํ โถมิตาติ? สพฺพฺุตฺาณํ. ยทิ เอวํ, กสฺมา พหุวจนนิทฺเทโส กโตติ? ปุถุจิตฺตสมาโยคโต เจว, ปุถุอารมฺมณโต จ. ตฺหิ จตูสุ าณสมฺปยุตฺตมหากิริยจิตฺเตสุ ลพฺภติ, น จสฺส โกจิ ธมฺโม อารมฺมณํ นาม น โหติ. ยถาห – ‘‘อตีตํ สพฺพํ ชานาตีติ สพฺพฺุตฺาณํ, ตตฺถ อาวรณํ นตฺถีติ อนาวรณาณ’’นฺติอาทิ (ปฏิ. ม. ๑.๑๒๐). อิติ ปุถุจิตฺตสมาโยคโต ปุนปฺปุนํ อุปฺปตฺติวเสน ปุถุอารมฺมณโต จ พหุวจนนิทฺเทโส กโตติ.

‘‘อฺเวา’’ติ อิทํ ปเนตฺถ ววตฺถาปนวจนํ, ‘‘อฺเว, น ปาณาติปาตา เวรมณิอาทโย. คมฺภีราว น อุตฺตานา’’ติ เอวํ สพฺพปเทหิ โยเชตพฺพํ. สาวกปารมีาณฺหิ คมฺภีรํ, ปจฺเจกโพธิาณํ ปน ตโต คมฺภีรตรนฺติ ตตฺถ ววตฺถานํ นตฺถิ, สพฺพฺุตฺาณฺจ ตโตปิ คมฺภีรตรนฺติ ตตฺถาปิ ววตฺถานํ นตฺถิ, อิโต ปนฺํ คมฺภีรตรํ นตฺถิ; ตสฺมา คมฺภีรา วาติ ววตฺถานํ ลพฺภติ. ตถา ทุทฺทสาว ทุรนุโพธา วาติ สพฺพํ เวทิตพฺพํ.

กตเมจ เต ภิกฺขเวติ อยํ ปน เตสํ ธมฺมานํ กเถตุกมฺยตา ปุจฺฉา. สนฺติ, ภิกฺขเว, เอเก สมณพฺราหฺมณาติอาทิ ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนํ. กสฺมา ปเนตํ เอวํ อารทฺธนฺติ เจ? พุทฺธานฺหิ จตฺตาริ านานิ ปตฺวา คชฺชิตํ มหนฺตํ โหติ, าณํ อนุปวิสติ, พุทฺธาณสฺส มหนฺตภาโว ปฺายติ, เทสนา คมฺภีรา โหติ, ติลกฺขณาหตา, สุฺตาปฏิสํยุตฺตา. กตมานิ จตฺตาริ? วินยปฺตฺตึ, ภูมนฺตรํ, ปจฺจยาการํ, สมยนฺตรนฺติ. ตสฺมา – ‘‘อิทํ ลหุกํ, อิทํ ครุกํ, อิทํ สเตกิจฺฉํ, อิทํ อเตกิจฺฉํ, อยํ อาปตฺติ, อยํ อนาปตฺติ, อยํ เฉชฺชคามินี, อยํ วุฏฺานคามินี, อยํ เทสนาคามินี, อยํ โลกวชฺชา, อยํ ปณฺณตฺติวชฺชา, อิมสฺมึ วตฺถุสฺมึ อิทํ ปฺเปตพฺพ’’นฺติ ยํ เอวํ โอติณฺเณ วตฺถุสฺมึ สิกฺขาปทปฺาปนํ นาม, ตตฺถ อฺเสํ ถาโม วา พลํ วา นตฺถิ; อวิสโย เอส อฺเสํ, ตถาคตสฺเสว วิสโย. อิติ วินยปฺตฺตึ ปตฺวา พุทฺธานํ คชฺชิตํ มหนฺตํ โหติ, าณํ อนุปวิสติ…เป… สุฺตาปฏิสํยุตฺตาติ.

ตถา อิเม จตฺตาโร สติปฏฺานา นาม…เป… อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค นาม, ปฺจ ขนฺธา นาม, ทฺวาทส อายตนานิ นาม, อฏฺารส ธาตุโย นาม, จตฺตาริ อริยสจฺจานิ นาม, พาวีสตินฺทฺริยานิ นาม, นว เหตู นาม, จตฺตาโร อาหารา นาม, สตฺต ผสฺสา นาม, สตฺต เวทนา นาม, สตฺต สฺา นาม, สตฺต เจตนา นาม, สตฺต จิตฺตานิ นาม. เอเตสุ เอตฺตกา กามาวจรา ธมฺมา นาม, เอตฺตกา รูปาวจรอรูปาวจรปริยาปนฺนา ธมฺมา นาม, เอตฺตกา โลกิยา ธมฺมา นาม, เอตฺตกา โลกุตฺตรา ธมฺมา นามาติ จตุวีสติสมนฺตปฏฺานํ อนนฺตนยํ อภิธมฺมปิฏกํ วิภชิตฺวา กเถตุํ อฺเสํ ถาโม วา พลํ วา นตฺถิ, อวิสโย เอส อฺเสํ, ตถาคตสฺเสว วิสโย. อิติ ภูมนฺตรปริจฺเฉทํ ปตฺวา พุทฺธานํ คชฺชิตํ มหนฺตํ โหติ, าณํ อนุปวิสติ…เป… สุฺตาปฏิสํยุตฺตาติ.

ตถา อยํ อวิชฺชา สงฺขารานํ นวหากาเรหิ ปจฺจโย โหติ, อุปฺปาโท หุตฺวา ปจฺจโย โหติ, ปวตฺตํ หุตฺวา, นิมิตฺตํ, อายูหนํ, สํโยโค, ปลิโพโธ, สมุทโย, เหตุ, ปจฺจโย หุตฺวา ปจฺจโย โหติ, ตถา สงฺขาราทโย วิฺาณาทีนํ. ยถาห – ‘‘กถํ ปจฺจยปริคฺคเห ปฺา ธมฺมฏฺิติาณํ? อวิชฺชา สงฺขารานํ อุปฺปาทฏฺิติ จ ปวตฺตฏฺิติ จ, นิมิตฺตฏฺิติ จ, อายูหนฏฺิติ จ, สํโยคฏฺิติ จ, ปลิโพธฏฺิติ จ, สมุทยฏฺิติ จ, เหตุฏฺิติ จ, ปจฺจยฏฺิติ จ, อิเมหิ นวหากาเรหิ อวิชฺชา ปจฺจโย, สงฺขารา ปจฺจยสมุปฺปนฺนา, อุโภเปเต ธมฺมา ปจฺจยสมุปฺปนฺนาติ ปจฺจยปริคฺคเห ปฺา ธมฺมฏฺิติาณํ. อตีตมฺปิ อทฺธานํ, อนาคตมฺปิ อทฺธานํ อวิชฺชา สงฺขารานํ อุปฺปาทฏฺิติ จ…เป… ชาติ ชรามรณสฺส อุปฺปาทฏฺิติ จ…เป… ปจฺจยฏฺิติ จ, อิเมหิ นวหากาเรหิ ชาติ ปจฺจโย, ชรามรณํ ปจฺจยสมุปฺปนฺนํ, อุโภเปเต ธมฺมา ปจฺจยสมุปฺปนฺนาติ ปจฺจยปริคฺคเห ปฺา ธมฺมฏฺิติาณ’’นฺติ (ปฏิ. ม. ๑.๔๕). เอวมิมํ ตสฺส ตสฺส ธมฺมสฺส ตถา ตถา ปจฺจยภาเวน ปวตฺตํ ติวฏฺฏํ ติยทฺธํ ติสนฺธึ จตุสงฺเขปํ วีสตาการํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ วิภชิตฺวา กเถตุํ อฺเสํ ถาโม วา พลํ วา นตฺถิ, อวิสโย เอส อฺเสํ, ตถาคตสฺเสว วิสโย, อิติ ปจฺจยาการํ ปตฺวา พุทฺธานํ คชฺชิตํ มหนฺตํ โหติ, าณํ อนุปวิสติ…เป… สุฺตาปฏิสํยุตฺตาติ.

ตถา จตฺตาโร ชนา สสฺสตวาทา นาม, จตฺตาโร เอกจฺจสสฺสตวาทา, จตฺตาโร อนฺตานนฺติกา, จตฺตาโร อมราวิกฺเขปิกา, ทฺเว อธิจฺจสมุปฺปนฺนิกา, โสฬส สฺีวาทา, อฏฺ อสฺีวาทา, อฏฺ เนวสฺีนาสฺีวาทา, สตฺต อุจฺเฉทวาทา, ปฺจ ทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาทา นาม. เต อิทํ นิสฺสาย อิทํ คณฺหนฺตีติ ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิคตานิ ภินฺทิตฺวา นิชฺชฏํ นิคฺคุมฺพํ กตฺวา กเถตุํ อฺเสํ ถาโม วา พลํ วา นตฺถิ, อวิสโย เอส อฺเสํ, ตถาคตสฺเสว วิสโย. อิติ สมยนฺตรํ ปตฺวา พุทฺธานํ คชฺชิตํ มหนฺตํ โหติ, าณํ อนุปวิสติ, พุทฺธาณสฺส มหนฺตตา ปฺายติ, เทสนา คมฺภีรา โหติ, ติลกฺขณาหตา, สุฺตาปฏิสํยุตฺตาติ.

อิมสฺมึ ปน าเน สมยนฺตรํ ลพฺภติ, ตสฺมา สพฺพฺุตฺาณสฺส มหนฺตภาวทสฺสนตฺถํ เทสนาย จ สุฺตาปกาสนวิภาวนตฺถํ สมยนฺตรํ อนุปวิสนฺโต ธมฺมราชา – ‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, เอเก สมณพฺราหฺมณา’’ติ เอวํ ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนํ อารภิ.

๒๙. ตตฺถ สนฺตีติ อตฺถิ สํวิชฺชนฺติ อุปลพฺภนฺติ. ภิกฺขเวติ อาลปนวจนํ. เอเกติ เอกจฺเจ. สมณพฺราหฺมณาติ ปพฺพชฺชูปคตภาเวน สมณา, ชาติยา พฺราหฺมณา. โลเกน วา สมณาติ จ พฺราหฺมณาติ จ เอวํ สมฺมตา. ปุพฺพนฺตํ กปฺเปตฺวา วิกปฺเปตฺวา คณฺหนฺตีติ ปุพฺพนฺตกปฺปิกา. ปุพฺพนฺตกปฺโป วา เอเตสํ อตฺถีติ ปุพฺพนฺตกปฺปิกา. ตตฺถ อนฺโตติ อยํ สทฺโท อนฺตอพฺภนฺตรมริยาทลามกปรภาคโกฏฺาเสสุ ทิสฺสติ. ‘‘อนฺตปูโร อุทรปูโร’’ติอาทีสุ หิ อนฺเต อนฺตสทฺโท. ‘‘จรนฺติ โลเก ปริวารฉนฺนา อนฺโต อสุทฺธา พหิ โสภมานา’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๑๒๒) อพฺภนฺตเร. ‘‘กายพนฺธนสฺส อนฺโต ชีรติ (จูฬว. ๒๗๘). ‘‘สา หริตนฺตํ วา ปนฺถนฺตํ วา เสลนฺตํ วา อุทกนฺตํ วา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓๐๔) มริยาทายํ. ‘‘อนฺตมิทํ, ภิกฺขเว, ชีวิกานํ ยทิทํ ปิณฺโฑลฺย’’นฺติอาทีสุ (สํ. นิ. ๓.๘๐) ลามเก. ‘‘เอเสวนฺโต ทุกฺขสฺสา’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๒.๕๑) ปรภาเค. สพฺพปจฺจยสงฺขโย หิ ทุกฺขสฺส ปรภาโค โกฏีติ วุจฺจติ. ‘‘สกฺกาโย โข, อาวุโส, เอโก อนฺโต’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๖.๖๑) โกฏฺาเส. สฺวายํ อิธาปิ โกฏฺาเส วตฺตติ.

กปฺปสทฺโทปิ – ‘‘ติฏฺตุ, ภนฺเต ภควา กปฺปํ’’ (ที. นิ. ๒.๑๖๗), ‘‘อตฺถิ กปฺโป นิปชฺชิตุํ’’ (อ. นิ. ๘.๘๐), ‘‘กปฺปกเตน อกปฺปกตํ สํสิพฺพิตํ โหตี’’ติ, (ปาจิ. ๓๗๑) เอวํ อายุกปฺปเลสกปฺปวินยกปฺปาทีสุ สมฺพหุเลสุ อตฺเถสุ วตฺตติ. อิธ ตณฺหาทิฏฺีสุ วตฺตตีติ เวทิตพฺโพ. วุตฺตมฺปิ เจตํ – ‘‘กปฺปาติ ทฺเว กปฺปา, ตณฺหากปฺโป จ ทิฏฺิกปฺโป จา’’ติ (มหานิ. ๒๘). ตสฺมา ตณฺหาทิฏฺิวเสน อตีตํ ขนฺธโกฏฺาสํ กปฺเปตฺวา ปกปฺเปตฺวา ิตาติ ปุพฺพนฺตกปฺปิกาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เตสํ เอวํ ปุพฺพนฺตํ กปฺเปตฺวา ิตานํ ปุนปฺปุนํ อุปฺปชฺชนวเสน ปุพฺพนฺตเมว อนุคตา ทิฏฺีติ ปุพฺพนฺตานุทิฏฺิโน. เต เอวํทิฏฺิโน ตํ ปุพฺพนฺตํ อารพฺภ อาคมฺม ปฏิจฺจ อฺมฺปิ ชนํ ทิฏฺิคติกํ กโรนฺตา อเนกวิหิตานิ อธิมุตฺติปทานิ อภิวทนฺติ อฏฺารสหิ วตฺถูหิ.

ตตฺถ อเนกวิหิตานีติ อเนกวิธานิ. อธิมุตฺติปทานีติ อธิวจนปทานิ. อถ วา ภูตํ อตฺถํ อภิภวิตฺวา ยถาสภาวโต อคฺคเหตฺวา ปวตฺตนโต อธิมุตฺติโยติ ทิฏฺิโย วุจฺจนฺติ. อธิมุตฺตีนํ ปทานิ อธิมุตฺติปทานิ, ทิฏฺิทีปกานิ วจนานีติ อตฺโถ. อฏฺารสหิ วตฺถูหีติ อฏฺารสหิ การเณหิ.

๓๐. อิทานิ เยหิ อฏฺารสหิ วตฺถูหิ อภิวทนฺติ, เตสํ กเถตุกมฺยตาย ปุจฺฉาย ‘‘เต จ โข โภนฺโต’’ติอาทินา นเยน ปุจฺฉิตฺวา ตานิ วตฺถูนิ วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว’’ติอาทิมาห. ตตฺถ วทนฺติ เอเตนาติ วาโท, ทิฏฺิคตสฺเสตํ อธิวจนํ. สสฺสโต วาโท เอเตสนฺติ สสฺสตวาทา, สสฺสตทิฏฺิโนติ อตฺโถ. เอเตเนว นเยน อิโต ปเรสมฺปิ เอวรูปานํ ปทานํ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. สสฺสตํ อตฺตานฺจ โลกฺจาติ รูปาทีสุ อฺตรํ อตฺตาติ จ โลโกติ จ คเหตฺวา ตํ สสฺสตํ อมรํ นิจฺจํ ธุวํ ปฺเปนฺติ. ยถาห – ‘‘รูปํ อตฺตา เจว โลโก จ สสฺสโต จาติ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ ตถา เวทนํ, สฺํ, สงฺขาเร, วิฺาณํ อตฺตา เจว โลโก จ สสฺสโต จาติ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺตี’’ติ.

๓๑. อาตปฺปมนฺวายาติอาทีสุ วีริยํ กิเลสานํ อาตาปนภาเวน อาตปฺปนฺติ วุตฺตํ. ตเทว ปทหนวเสน ปธานํ. ปุนปฺปุนํ ยุตฺตวเสน อนุโยโคติ. เอวํ ติปฺปเภทํ วีริยํ อนฺวาย อาคมฺม ปฏิจฺจาติ อตฺโถ. อปฺปมาโท วุจฺจติ สติยา อวิปฺปวาโส. สมฺมา มนสิกาโรติ อุปายมนสิกาโร, ปถมนสิกาโร, อตฺถโต าณนฺติ วุตฺตํ โหติ. ยสฺมิฺหิ มนสิกาเร ิตสฺส ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติ าณํ อิชฺฌติ, อยํ อิมสฺมึ าเน มนสิกาโรติ อธิปฺเปโต. ตสฺมา วีริยฺจ สติฺจ าณฺจ อาคมฺมาติ อยเมตฺถ สงฺเขปตฺโถ. ตถารูปนฺติ ตถาชาติกํ. เจโตสมาธินฺติ จิตฺตสมาธึ. ผุสตีติ วินฺทติ ปฏิลภติ. ยถา สมาหิเต จิตฺเตติ เยน สมาธินา สมฺมา อาหิเต สุฏฺุ ปิเต จิตฺตมฺหิ อเนกวิหิตํปุพฺเพนิวาสนฺติอาทีนํ อตฺโถ วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺโต.

โส เอวมาหาติ โส เอวํ ฌานานุภาวสมฺปนฺโน หุตฺวา ทิฏฺิคติโก เอวํ วทติ. วฺโฌติ วฺฌปสุวฺฌตาลาทโย วิย อผโล กสฺสจิ อชนโกติ. เอเตน ‘‘อตฺตา’’ติ จ ‘‘โลโก’’ติ จ คหิตานํ ฌานาทีนํ รูปาทิชนกภาวํ ปฏิกฺขิปติ. ปพฺพตกูฏํ วิย ิโตติ กูฏฏฺโ. เอสิกฏฺายิฏฺิโตติ เอสิกฏฺายี วิย หุตฺวา ิโตติ เอสิกฏฺายิฏฺิโต. ยถา สุนิขาโต เอสิกตฺถมฺโภ นิจฺจโล ติฏฺติ, เอวํ ิโตติ อตฺโถ. อุภเยนปิ โลกสฺส วินาสาภาวํ ทีเปติ. เกจิ ปน อีสิกฏฺายิฏฺิโตติ ปาฬึ วตฺวา มุฺเช อีสิกา วิย ิโตติ วทนฺติ . ตตฺรายมธิปฺปาโย – ยทิทํ ชายตีติ วุจฺจติ, ตํ มุฺชโต อีสิกา วิย วิชฺชมานเมว นิกฺขมติ. ยสฺมา จ อีสิกฏฺายิฏฺิโต, ตสฺมา เตว สตฺตา สนฺธาวนฺติ, อิโต อฺตฺถ คจฺฉนฺตีติ อตฺโถ.

สํสรนฺตีติ อปราปรํ สฺจรนฺติ. จวนฺตีติ เอวํ สงฺขฺยํ คจฺฉนฺติ. ตถา อุปปชฺชนฺตีติ. อฏฺกถายํ ปน ปุพฺเพ ‘‘สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จา’’ติ วตฺวา อิทานิ เต จ สตฺตา สนฺธาวนฺตีติอาทินา วจเนน อยํ ทิฏฺิคติโก อตฺตนาเยว อตฺตโน วาทํ ภินฺทติ, ทิฏฺิคติกสฺส ทสฺสนํ นาม น นิพทฺธํ, ถุสราสิมฺหิ นิขาตขาณุ วิย จฺจลํ, อุมฺมตฺตกปจฺฉิยํ ปูวขณฺฑคูถโคมยาทีนิ วิย เจตฺถ สุนฺทรมฺปิ อสุนฺทรมฺปิ โหติ เยวาติ วุตฺตํ. อตฺถิตฺเวว สสฺสติสมนฺติ เอตฺถ สสฺสตีติ นิจฺจํ วิชฺชมานตาย มหาปถวึว มฺติ, ตถา สิเนรุปพฺพตจนฺทิมสูริเย. ตโต เตหิ สมํ อตฺตานํ มฺมานา อตฺถิ ตฺเวว สสฺสติสมนฺติ วทนฺติ.

อิทานิ สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จาติอาทิกาย ปฏิฺาย สาธนตฺถํ เหตุํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตํ กิสฺส เหตุ? อหฺหิ อาตปฺปมนฺวายา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อิมินามหํ เอตํ ชานามีติ อิมินา วิเสสาธิคเมน อหํ เอตํ ปจฺจกฺขโต ชานามิ, น เกวลํ สทฺธามตฺตเกเนว วทามีติ ทสฺเสติ, มกาโร ปเนตฺถ ปทสนฺธิกรณตฺถํ วุตฺโต. อิทํ, ภิกฺขเว, ปมํ านนฺติ จตูหิ วตฺถูหีติ วตฺถุสทฺเทน วุตฺเตสุ จตูสุ าเนสุ อิทํ ปมํ านํ, อิทํ ชาติสตสหสฺสมตฺตานุสฺสรณํ ปมํ การณนฺติ อตฺโถ.

๓๒-๓๓. อุปริ วารทฺวเยปิ เอเสว นโย. เกวลฺหิ อยํ วาโร อเนกชาติสตสหสฺสานุสฺสรณวเสน วุตฺโต. อิตเร ทสจตฺตาลีสสํวฏฺฏวิวฏฺฏกปฺปานุสฺสรณวเสน. มนฺทปฺโ หิ ติตฺถิโย อเนกชาติสตสหสฺสมตฺตํ อนุสฺสรติ, มชฺฌิมปฺโ ทสสํวฏฺฏวิวฏฺฏกปฺปานิ, ติกฺขปฺโ จตฺตาลีสํ, น ตโต อุทฺธํ.

๓๔. จตุตฺถวาเร ตกฺกยตีติ ตกฺกี, ตกฺโก วา อสฺส อตฺถีติ ตกฺกี. ตกฺเกตฺวา วิตกฺเกตฺวา ทิฏฺิคาหิโน เอตํ อธิวจนํ. วีมํสาย สมนฺนาคโตติ วีมํสี. วีมํสา นาม ตุลนา รุจฺจนา ขมนา. ยถา หิ ปุริโส ยฏฺิยา อุทกํ วีมํสิตฺวา โอตรติ, เอวเมว โย ตุลยิตฺวา รุจฺจิตฺวา ขมาเปตฺวา ทิฏฺึ คณฺหาติ, โส ‘‘วีมํสี’’ติ เวทิตพฺโพ. ตกฺกปริยาหตนฺติ ตกฺเกน ปริยาหตํ, เตน เตน ปริยาเยน ตกฺเกตฺวาติ อตฺโถ. วีมํสานุจริตนฺติ ตาย วุตฺตปฺปการาย วีมํสาย อนุจริตํ. สยํปฏิภานนฺติ อตฺตโน ปฏิภานมตฺตสฺชาตํ. เอวมาหาติ สสฺสตทิฏฺึ คเหตฺวา เอวํ วทติ.

ตตฺถ จตุพฺพิโธ ตกฺกี – อนุสฺสุติโก, ชาติสฺสโร, ลาภี, สุทฺธตกฺกิโกติ. ตตฺถ โย ‘‘เวสฺสนฺตโร นาม ราชา อโหสี’’ติอาทีนิ สุตฺวา ‘‘เตน หิ ยทิ เวสฺสนฺตโรว ภควา, สสฺสโต อตฺตา’’ติ ตกฺกยนฺโต ทิฏฺึ คณฺหาติ, อยํ อนุสฺสุติโก นาม. ทฺเว ติสฺโส ชาติโย สริตฺวา – ‘‘อหเมว ปุพฺเพ อสุกสฺมึ นาม อโหสึ, ตสฺมา สสฺสโต อตฺตา’’ติ ตกฺกยนฺโต ชาติสฺสรตกฺกิโก นาม. โย ปน ลาภิตาย ‘‘ยถา เม อิทานิ อตฺตา สุขี โหติ, อตีเตปิ เอวํ อโหสิ, อนาคเตปิ ภวิสฺสตี’’ติ ตกฺกยิตฺวา ทิฏฺึ คณฺหาติ, อยํ ลาภีตกฺกิโก นาม. ‘‘เอวํ สติ อิทํ โหตี’’ติ ตกฺกมตฺเตเนว คณฺหนฺโต ปน สุทฺธตกฺกิโก นาม.

๓๕. เอเตสํ วา อฺตเรนาติ เอเตสํเยว จตุนฺนํ วตฺถูนํ อฺตเรน เอเกน วา ทฺวีหิ วา ตีหิ วา. นตฺถิ อิโต พหิทฺธาติ อิเมหิ ปน วตฺถูหิ พหิ อฺํ เอกํ การณมฺปิ สสฺสตปฺตฺติยา นตฺถีติ อปฺปฏิวตฺติยํ สีหนาทํ นทติ.

๓๖. ตยิทํ, ภิกฺขเว, ตถาคโต ปชานาตีติ ภิกฺขเว, ตํ อิทํ จตุพฺพิธมฺปิ ทิฏฺิคตํ ตถาคโต นานปฺปการโต ชานาติ. ตโต ตํ ปชานนาการํ ทสฺเสนฺโต อิเม ทิฏฺิฏฺานาติอาทิมาห. ตตฺถ ทิฏฺิโยว ทิฏฺิฏฺานา นาม. อปิ จ ทิฏฺีนํ การณมฺปิ ทิฏฺิฏฺานเมว. ยถาห ‘‘กตมานิ อฏฺ ทิฏฺิฏฺานานิ? ขนฺธาปิ ทิฏฺิฏฺานํ, อวิชฺชาปิ, ผสฺโสปิ , สฺาปิ, วิตกฺโกปิ, อโยนิโสมนสิกาโรปิ, ปาปมิตฺโตปิ, ปรโตโฆโสปิ ทิฏฺิฏฺาน’’นฺติ. ‘‘ขนฺธา เหตุ, ขนฺธา ปจฺจโย ทิฏฺิฏฺานํ อุปาทาย สมุฏฺานฏฺเน, เอวํ ขนฺธาปิ ทิฏฺิฏฺานํ. อวิชฺชา เหตุ…เป… ปาปมิตฺโต เหตุ. ปรโตโฆโส เหตุ, ปรโตโฆโส ปจฺจโย ทิฏฺิฏฺานํ อุปาทาย สมุฏฺานฏฺเน, เอวํ ปรโตโฆโสปิ ทิฏฺิฏฺาน’’นฺติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๒๔). เอวํคหิตาติ ทิฏฺิสงฺขาตา ตาว ทิฏฺิฏฺานา – ‘‘สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จา’’ติ เอวํคหิตา อาทินฺนา, ปวตฺติตาติ อตฺโถ. เอวํปรามฏฺาติ นิราสงฺกจิตฺตตาย ปุนปฺปุนํ อามฏฺา ปรามฏฺา, ‘อิทเมว สจฺจํ, โมฆมฺ’นฺติ ปรินิฏฺาปิตา . การณสงฺขาตา ปน ทิฏฺิฏฺานา ยถา คยฺหมานา ทิฏฺิโย สมุฏฺาเปนฺติ, เอวํ อารมฺมณวเสน จ ปวตฺตนวเสน จ อาเสวนวเสน จ คหิตา. อนาทีนวทสฺสิตาย ปุนปฺปุนํ คหณวเสน ปรามฏฺา. เอวํคติกาติ เอวํ นิรยติรจฺฉานเปตฺติวิสยคติกานํ อฺตรคติกา. เอวํ อภิสมฺปรายาติ อิทํ ปุริมปทสฺเสว เววจนํ, เอวํวิธปรโลกาติ วุตฺตํ โหติ.

ตฺจ ตถาคโต ปชานาตีติ น เกวลฺจ ตถาคโต สการณํ สคติกํ ทิฏฺิคตเมว ปชานาติ, อถ โข ตฺจ สพฺพํ ปชานาติ, ตโต จ อุตฺตริตรํ สีลฺเจว สมาธิฺจ สพฺพฺุตฺาณฺจ ปชานาติ. ตฺจ ปชานนํ น ปรามสตีติ ตฺจ เอวํวิธํ อนุตฺตรํ วิเสสํ ปชานนฺโตปิ อหํ ปชานามีติ ตณฺหาทิฏฺิมานปรามาสวเสน ตฺจ น ปรามสติ. อปรามสโต จสฺส ปจฺจตฺตฺเว นิพฺพุติ วิทิตาติ เอวํ อปรามสโต จสฺส อปรามาสปจฺจยา สยเมว อตฺตนาเยว เตสํ ปรามาสกิเลสานํ นิพฺพุติ วิทิตา. ปากฏํ, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺส นิพฺพานนฺติ ทสฺเสติ.

อิทานิ ยถาปฏิปนฺเนน ตถาคเตน สา นิพฺพุติ อธิคตา, ตํ ปฏิปตฺตึ ทสฺเสตุํ ยาสุ เวทนาสุ รตฺตา ติตฺถิยา ‘‘อิธ สุขิโน ภวิสฺสาม, เอตฺถ สุขิโน ภวิสฺสามา’’ติ ทิฏฺิคหนํ ปวิสนฺติ, ตาสํเยว เวทนานํ วเสน กมฺมฏฺานํ อาจิกฺขนฺโต เวทนานํ สมุทยฺจาติอาทิมาห. ตตฺถ ยถาภูตํ วิทิตฺวาติ ‘‘อวิชฺชาสมุทยา เวทนาสมุทโยติ ปจฺจยสมุทยฏฺเน เวทนากฺขนฺธสฺส อุทยํ ปสฺสติ, ตณฺหาสมุทยา เวทนาสมุทโยติ ปจฺจยสมุทยฏฺเน เวทนากฺขนฺธสฺส อุทยํ ปสฺสติ, กมฺมสมุทยา เวทนาสมุทโยติ ปจฺจยสมุทยฏฺเน เวทนากฺขนฺธสฺส อุทยํ ปสฺสติ, ผสฺสสมุทยา เวทนาสมุทโยติ ปจฺจยสมุทยฏฺเน เวทนากฺขนฺธสฺส อุทยํ ปสฺสติ (ปฏิ. ม. ๑.๕๐). นิพฺพตฺติลกฺขณํ ปสฺสนฺโตปิ เวทนากฺขนฺธสฺส อุทยํ ปสฺสตี’’ติ อิเมสํ ปฺจนฺนํ ลกฺขณานํ วเสน เวทนานํ สมุทยํ ยถาภูตํ วิทิตฺวา; ‘‘อวิชฺชานิโรธา เวทนานิโรโธติ ปจฺจยนิโรธฏฺเน เวทนากฺขนฺธสฺส วยํ ปสฺสติ, ตณฺหานิโรธา เวทนานิโรโธติ ปจฺจยนิโรธฏฺเน เวทนากฺขนฺธสฺส วยํ ปสฺสติ , กมฺมนิโรธา เวทนานิโรโธติ ปจฺจยนิโรธฏฺเน เวทนากฺขนฺธสฺส วยํ ปสฺสติ, ผสฺสนิโรธา เวทนานิโรโธติ ปจฺจยนิโรธฏฺเน เวทนากฺขนฺธสฺส วยํ ปสฺสติ. วิปริณามลกฺขณํ ปสฺสนฺโตปิ เวทนากฺขนฺธสฺส วยํ ปสฺสตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๕๐) อิเมสํ ปฺจนฺนํ ลกฺขณานํ วเสน เวทนานํ อตฺถงฺคมํ ยถาภูตํ วิทิตฺวา, ‘‘ยํ เวทนํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ สุขํ โสมนสฺสํ, อยํ เวทนาย อสฺสาโท’’ติ (สํ. นิ. ๓.๒๖) เอวํ อสฺสาทฺจ ยถาภูตํ วิทิตฺวา, ‘‘ยํ เวทนา อนิจฺจา ทุกฺขา วิปริณามธมฺมา, อยํ เวทนาย อาทีนโว’’ติ เอวํ อาทีนวฺจ ยถาภูตํ วิทิตฺวา, ‘‘โย เวทนาย ฉนฺทราควินโย ฉนฺทราคปฺปหานํ, อิทํ เวทนาย นิสฺสรณ’’นฺติ เอวํ นิสฺสรณฺจ ยถาภูตํ วิทิตฺวา วิคตฉนฺทราคตาย อนุปาทาโน อนุปาทาวิมุตฺโต, ภิกฺขเว, ตถาคโต; ยสฺมึ อุปาทาเน สติ กิฺจิ อุปาทิเยยฺย, อุปาทินฺนตฺตา จ ขนฺโธ ภเวยฺย, ตสฺส อภาวา กิฺจิ ธมฺมํ อนุปาทิยิตฺวาว วิมุตฺโต ภิกฺขเว ตถาคโตติ.

๓๗. อิเม โข เต, ภิกฺขเวติ เย เต อหํ – ‘‘กตเม, จ เต, ภิกฺขเว, ธมฺมา คมฺภีรา’’ติ อปุจฺฉึ, ‘‘อิเม โข เต, ภิกฺขเว, ตฺจ ตถาคโต ปชานาติ ตโต จ อุตฺตริตรํ ปชานาตี’’ติ เอวํ นิทฺทิฏฺา สพฺพฺุตฺาณธมฺมา คมฺภีรา ทุทฺทสา…เป… ปณฺฑิตเวทนียาติ เวทิตพฺพา. เยหิ ตถาคตสฺส เนว ปุถุชฺชโน, น โสตาปนฺนาทีสุ อฺตโร วณฺณํ ยถาภูตํ วตฺตุํ สกฺโกติ, อถ โข ตถาคโตว ยถาภูตํ วณฺณํ สมฺมา วทมาโน วเทยฺยาติ เอวํ ปุจฺฉมาเนนาปิ สพฺพฺุตฺาณเมว ปุฏฺํ, นิยฺยาเตนฺเตนาปิ ตเทว นิยฺยาติตํ, อนฺตรา ปน ทิฏฺิโย วิภตฺตาติ.

ปมภาณวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

เอกจฺจสสฺสตวาทวณฺณนา

๓๘. เอกจฺจสสฺสติกาติ เอกจฺจสสฺสตวาทา. เต ทุวิธา โหนฺติ – สตฺเตกจฺจสสฺสติกา, สงฺขาเรกจฺจสสฺสติกาติ. ทุวิธาปิ อิธ คหิตาเยว.

๓๙. นฺติ นิปาตมตฺตํ. กทาจีติ กิสฺมิฺจิ กาเล. กรหจีติ ตสฺเสว เววจนํ. ทีฆสฺสอทฺธุโนติ ทีฆสฺส กาลสฺส. อจฺจเยนาติ อติกฺกเมน . สํวฏฺฏตีติ วินสฺสติ. เยภุยฺเยนาติ เย อุปริพฺรหฺมโลเกสุ วา อรูเปสุ วา นิพฺพตฺตนฺติ, ตทวเสเส สนฺธาย วุตฺตํ. ฌานมเนน นิพฺพตฺตตฺตา มโนมยา. ปีติ เตสํ ภกฺโข อาหาโรติ ปีติภกฺขา. อตฺตโนว เตสํ ปภาติ สยํปภา. อนฺตลิกฺเข จรนฺตีติ อนฺตลิกฺขจรา. สุเภสุ อุยฺยานวิมานกปฺปรุกฺขาทีสุ ติฏฺนฺตีติ, สุภฏฺายิโน สุภา วา มโนรมฺมวตฺถาภรณา หุตฺวา ติฏฺนฺตีติ สุภฏฺายิโน. จิรํ ทีฆมทฺธานนฺติ อุกฺกํเสน อฏฺ กปฺเป.

๔๐. วิวฏฺฏตีติ สณฺาติ. สุฺํ พฺรหฺมวิมานนฺติ ปกติยา นิพฺพตฺตสตฺตานํ นตฺถิตาย สุฺํ, พฺรหฺมกายิกภูมิ นิพฺพตฺตตีติ อตฺโถ. ตสฺส กตฺตา วา กาเรตา วา นตฺถิ, วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตนเยน ปน กมฺมปจฺจยอุตุสมุฏฺานา รตนภูมิ นิพฺพตฺตติ. ปกตินิพฺพตฺติฏฺาเนสุเยว เจตฺถ อุยฺยานกปฺปรุกฺขาทโย นิพฺพตฺตนฺติ. อถ สตฺตานํ ปกติยา วสิตฏฺาเน นิกนฺติ อุปฺปชฺชติ, เต ปมชฺฌานํ ภาเวตฺวา ตโต โอตรนฺติ, ตสฺมา อถ โข อฺตโร สตฺโตติอาทิมาห. อายุกฺขยา วา ปุฺกฺขยา วาติ เย อุฬารํ ปุฺกมฺมํ กตฺวา ยตฺถ กตฺถจิ อปฺปายุเก เทวโลเก นิพฺพตฺตนฺติ, เต อตฺตโน ปุฺพเลน าตุํ น สกฺโกนฺติ, ตสฺส ปน เทวโลกสฺส อายุปฺปมาเณเนว จวนฺตีติ อายุกฺขยา จวนฺตีติ วุจฺจนฺติ. เย ปน ปริตฺตํ ปุฺกมฺมํ กตฺวา ทีฆายุกเทวโลเก นิพฺพตฺตนฺติ, เต ยาวตายุกํ าตุํ น สกฺโกนฺติ, อนฺตราว จวนฺตีติ ปุฺกฺขยา จวนฺตีติ วุจฺจนฺติ. ทีฆมทฺธานํ ติฏฺตีติ กปฺปํ วา อุปฑฺฒกปฺปํ วา.

๔๑. อนภิรตีติ อปรสฺสาปิ สตฺตสฺส อาคมนปตฺถนา. ยา ปน ปฏิฆสมฺปยุตฺตา อุกฺกณฺิตา, สา พฺรหฺมโลเก นตฺถิ. ปริตสฺสนาติ อุพฺพิชฺชนา ผนฺทนา, สา ปเนสา ตาสตสฺสนา, ตณฺหาตสฺสนา, ทิฏฺิตสฺสนา, าณตสฺสนาติ จตุพฺพิธา โหติ. ตตฺถ ‘‘ชาตึ ปฏิจฺจ ภยํ ภยานกํ ฉมฺภิตตฺตํ โลมหํโส เจตโส อุตฺราโส. ชรํ… พฺยาธึ… มรณํ ปฏิจฺจ…เป… อุตฺราโส’’ติ (วิภ. ๙๒๑) อยํ ตาสตสฺสนา นาม. ‘‘อโห วต อฺเปิ สตฺตา อิตฺถตฺตํ อาคจฺเฉยฺยุ’’นฺติ (ที. นิ. ๓.๓๘) อยํ ตณฺหาตสฺสนา นาม. ‘‘ปริตสฺสิตวิปฺผนฺทิตเมวา’’ติ อยํ ทิฏฺิตสฺสนา นาม. ‘‘เตปิ ตถาคตสฺส ธมฺมเทสนํ สุตฺวา เยภุยฺเยน ภยํ สํเวคํ สนฺตาสํ อาปชฺชนฺตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๓๓) อยํ าณตสฺสนา นาม. อิธ ปน ตณฺหาตสฺสนาปิ ทิฏฺิตสฺสนาปิ วฏฺฏติ. พฺรหฺมวิมานนฺติ อิธ ปน ปมาภินิพฺพตฺตสฺส อตฺถิตาย สุฺนฺติ น วุตฺตํ. อุปปชฺชนฺตีติ อุปปตฺติวเสน อุปคจฺฉนฺติ. สหพฺยตนฺติ สหภาวํ.

๔๒. อภิภูติ อภิภวิตฺวา ิโต เชฏฺโกหมสฺมีติ. อนภิภูโตติ อฺเหิ อนภิภูโต. อฺทตฺถูติ เอกํสวจเน นิปาโต. ทสฺสนวเสน ทโส, สพฺพํ ปสฺสามีติ อตฺโถ. วสวตฺตีติ สพฺพํ ชนํ วเส วตฺเตมิ. อิสฺสโร กตฺตา นิมฺมาตาติ อหํ โลเก อิสฺสโร, อหํ โลกสฺส กตฺตา จ นิมฺมาตา จ, ปถวี – หิมวนฺต-สิเนรุ-จกฺกวาฬ-มหาสมุทฺท-จนฺทิม-สูริยา มยา นิมฺมิตาติ. เสฏฺโ สชิตาติ อหํ โลกสฺส อุตฺตโม จ สชิตา จ, ‘‘ตฺวํ ขตฺติโย นาม โหหิ, ตฺวํ พฺราหฺมโณ, เวสฺโส, สุทฺโท, คหฏฺโ, ปพฺพชิโต นาม. อนฺตมโส ตฺวํ โอฏฺโ โหหิ, โคโณ โหหี’’ติ ‘‘เอวํ สตฺตานํ สํวิสเชตา อห’’นฺติ มฺติ. วสี ปิตา ภูตภพฺยานนฺติ (ที. นิ. ๑.๑๗) อหมสฺมิ จิณฺณวสิตาย วสี, อหํ ปิตา ภูตานฺจ ภพฺยานฺจาติ มฺติ. ตตฺถ อณฺฑชชลาพุชา สตฺตา อนฺโตอณฺฑโกเส เจว อนฺโตวตฺถิมฺหิ จ ภพฺยา นาม, พหิ นิกฺขนฺตกาลโต ปฏฺาย ภูตา นาม. สํเสทชา ปมจิตฺตกฺขเณ ภพฺยา, ทุติยโต ปฏฺาย ภูตา. โอปปาติกา ปมอิริยาปเถ ภพฺยา, ทุติยโต ปฏฺาย ภูตาติ เวทิตพฺพา. เต สพฺเพปิ มยฺหํ ปุตฺตาติ สฺาย ‘‘อหํ ปิตา ภูตภพฺยาน’’นฺติ มฺติ.

อิทานิ การณโต สาเธตุกาโม – ‘‘มยา อิเม สตฺตา นิมฺมิตา’’ติ ปฏิฺํ กตฺวา ‘‘ตํ กิสฺส เหตู’’ติอาทิมาห. อิตฺถตฺตนฺติ อิตฺถภาวํ, พฺรหฺมภาวนฺติ อตฺโถ. อิมินา มยนฺติ อตฺตโน กมฺมวเสน จุตาปิ อุปปนฺนาปิ จ เกวลํ มฺนามตฺเตเนว ‘‘อิมินา มยํ นิมฺมิตา’’ติ มฺมานา วงฺกจฺฉิทฺเท วงฺกอาณี วิย โอนมิตฺวา ตสฺเสว ปาทมูลํ คจฺฉนฺตีติ.

๔๓. วณฺณวนฺตตโร จาติ วณฺณวนฺตตโร, อภิรูโป ปาสาทิโกติ อตฺโถ. มเหสกฺขตโรติ อิสฺสริยปริวารวเสน มหายสตโร.

๔๔. านํโข ปเนตนฺติ การณํ โข ปเนตํ. โส ตโต จวิตฺวา อฺตฺร น คจฺฉติ, อิเธว อาคจฺฉติ, ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. อคารสฺมาติ เคหา. อนคาริยนฺติ ปพฺพชฺชํ. ปพฺพชฺชา หิ ยสฺมา อคารสฺส หิ ตํ กสิโครกฺขาทิกมฺมํ ตตฺถ นตฺถิ, ตสฺมา อนคาริยนฺติ วุจฺจติ. ปพฺพชตีติ อุปคจฺฉติ. ตโต ปรํ นานุสฺสรตีติ ตโต ปุพฺเพนิวาสา ปรํ น สรติ, สริตุํ อสกฺโกนฺโต ตตฺถ ตฺวา ทิฏฺึ คณฺหาติ.

นิจฺโจติอาทีสุ ตสฺส อุปปตฺตึ อปสฺสนฺโต นิจฺโจติ วทติ, มรณํ อปสฺสนฺโต ธุโวติ, สทาภาวโต สสฺสโตติ, ชราวเสนาปิ วิปริณามสฺส อภาวโต อวิปริณามธมฺโมติ. เสสเมตฺถ ปมวาเร อุตฺตานเมวาติ.

๔๕-๔๖. ทุติยวาเร ขิฑฺฑาย ปทุสฺสนฺติ วินสฺสนฺตีติ ขิฑฺฑาปโทสิกา, ปทูสิกาติปิ ปาฬึ ลิขนฺติ, สา อฏฺกถายํ นตฺถิ. อติเวลนฺติ อติกาลํ, อติจิรนฺติ อตฺโถ. หสฺสขิฑฺฑารติธมฺมสมาปนฺนาติ หสฺสรติ ธมฺมฺเจว ขิฑฺฑารติธมฺมฺจ สมาปนฺนา อนุยุตฺตา, เกฬิหสฺสสุขฺเจว กายิกวาจสิกกีฬาสุขฺจ อนุยุตฺตา, วุตฺตปฺปการรติธมฺมสมงฺคิโน หุตฺวา วิหรนฺตีติ อตฺโถ.

สติ สมฺมุสฺสตีติ ขาทนียโภชนีเยสุ สติ สมฺมุสฺสติ. เต กิร ปุฺวิเสสาธิคเตน มหนฺเตน อตฺตโน สิริวิภเวน นกฺขตฺตํ กีฬนฺตา ตาย สมฺปตฺติมหนฺตตาย – ‘‘อาหารํ ปริภุฺชิมฺห, น ปริภุฺชิมฺหา’’ติปิ น ชานนฺติ. อถ เอกาหาราติกฺกมนโต ปฏฺาย นิรนฺตรํ ขาทนฺตาปิ ปิวนฺตาปิ จวนฺติเยว, น ติฏฺนฺติ. กสฺมา? กมฺมชเตชสฺส พลวตาย, กรชกายสฺส มนฺทตาย, มนุสฺสานฺหิ กมฺมชเตโช มนฺโท, กรชกาโย พลวา. เตสํ เตชสฺส มนฺทตาย กรชกายสฺส พลวตาย สตฺตาหมฺปิ อติกฺกมิตฺวา อุณฺโหทกอจฺฉยาคุอาทีหิ สกฺกา วตฺถุํ อุปตฺถมฺเภตุํ. เทวานํ ปน เตโช พลวา โหติ, กรชํ มนฺทํ. เต เอกํ อาหารเวลํ อติกฺกมิตฺวาว สณฺาตุํ น สกฺโกนฺติ. ยถา นาม คิมฺหานํ มชฺฌนฺหิเก ตตฺตปาสาเณ ปิตํ ปทุมํ วา อุปฺปลํ วา สายนฺหสมเย ฆฏสเตนาปิ สิฺจิยมานํ ปากติกํ น โหติ, วินสฺสติเยว. เอวเมว ปจฺฉา นิรนฺตรํ ขาทนฺตาปิ ปิวนฺตาปิ จวนฺติเยว, น ติฏฺนฺติ. เตนาห ‘‘สติยา สมฺโมสา เต เทวา ตมฺหา กายา จวนฺตี’’ติ. กตเม ปน เต เทวาติ? อิเม เทวาติ อฏฺกถายํ วิจารณา นตฺถิ, ‘‘เทวานํ กมฺมชเตโช พลวา โหติ, กรชํ มนฺท’’นฺติ อวิเสเสน วุตฺตตฺตา ปน เย เกจิ กพฬีการาหารูปชีวิโน เทวา เอวํ กโรนฺติ, เตเยว จวนฺตีติ เวทิตพฺพา. เกจิ ปนาหุ – ‘‘นิมฺมานรติปรนิมฺมิตวสวตฺติโน เต เทวา’’ติ. ขิฑฺฑาปทุสฺสนมตฺเตเนว เหเต ขิฑฺฑาปโทสิกาติ วุตฺตา. เสสเมตฺถ ปุริมนเยเนว เวทิตพฺพํ.

๔๗-๔๘. ตติยวาเร มเนน ปทุสฺสนฺติ วินสฺสนฺตีติ มโนปโทสิกา, เอเต จาตุมหาราชิกา. เตสุ กิร เอโก เทวปุตฺโต – นกฺขตฺตํ กีฬิสฺสามีติ สปริวาโร รเถน วีถึ ปฏิปชฺชติ, อถฺโ นิกฺขมนฺโต ตํ ปุรโต คจฺฉนฺตํ ทิสฺวา – ‘โภ อยํ กปโณ’, อทิฏฺปุพฺพํ วิย เอตํ ทิสฺวา – ‘‘ปีติยา อุทฺธุมาโต วิย ภิชฺชมาโน วิย จ คจฺฉตี’’ติ กุชฺฌติ. ปุรโต คจฺฉนฺโตปิ นิวตฺติตฺวา ตํ กุทฺธํ ทิสฺวา – กุทฺธา นาม สุวิทิตา โหนฺตีติ กุทฺธภาวมสฺส ตฺวา – ‘‘ตฺวํ กุทฺโธ, มยฺหํ กึ กริสฺสสิ, อยํ สมฺปตฺติ มยา ทานสีลาทีนํ วเสน ลทฺธา, น ตุยฺหํ วเสนา’’ติ ปฏิกุชฺฌติ. เอกสฺมิฺหิ กุทฺเธ อิตโร อกุทฺโธ รกฺขติ, อุโภสุ ปน กุทฺเธสุ เอกสฺส โกโธ อิตรสฺส ปจฺจโย โหติ. ตสฺสปิ โกโธ อิตรสฺส ปจฺจโย โหตีติ อุโภ กนฺทนฺตานํเยว โอโรธานํ จวนฺติ. อยเมตฺถ ธมฺมตา. เสสํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

๔๙-๕๒. ตกฺกีวาเท อยํ จกฺขาทีนํ เภทํ ปสฺสติ, จิตฺตํ ปน ยสฺมา ปุริมํ ปุริมํ ปจฺฉิมสฺส ปจฺฉิมสฺส ปจฺจยํ ทตฺวาว นิรุชฺฌติ, ตสฺมา จกฺขาทีนํ เภทโต พลวตรมฺปิ จิตฺตสฺส เภทํ น ปสฺสติ. โส ตํ อปสฺสนฺโต ยถา นาม สกุโณ เอกํ รุกฺขํ ชหิตฺวา อฺสฺมึ นิลียติ, เอวเมว อิมสฺมึ อตฺตภาเว ภินฺเน จิตฺตํ อฺตฺร คจฺฉตีติ คเหตฺวา เอวมาห. เสสเมตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

อนฺตานนฺตวาทวณฺณนา

๕๓. อนฺตานนฺติกาติ อนฺตานนฺตวาทา, อนฺตํ วา อนนฺตํ วา อนฺตานนฺตํ วา เนวนฺตานานนฺตํ วา อารพฺภ ปวตฺตวาทาติ อตฺโถ.

๕๔-๖๐. อนฺตสฺีโลกสฺมึ วิหรตีติ ปฏิภาคนิมิตฺตํ จกฺกวาฬปริยนฺตํ อวฑฺเฒตฺวา ตํ – ‘‘โลโก’’ติ คเหตฺวา อนฺตสฺี โลกสฺมึ วิหรติ, จกฺกวาฬปริยนฺตํ กตฺวา วฑฺฒิตกสิโณ ปน อนนฺตสฺี โหติ, อุทฺธมโธ อวฑฺเฒตฺวา ปน ติริยํ วฑฺเฒตฺวา อุทฺธมโธ อนฺตสฺี, ติริยํ อนนฺตสฺี. ตกฺกีวาโท วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. อิเม จตฺตาโรปิ อตฺตนา ทิฏฺปุพฺพานุสาเรเนว ทิฏฺิยา คหิตตฺตา ปุพฺพนฺตกปฺปิเกสุ ปวิฏฺา.

อมราวิกฺเขปวาทวณฺณนา

๖๑. น มรตีติ อมรา. กา สา? เอวนฺติปิ เม โนติอาทินา นเยน ปริยนฺตรหิตา ทิฏฺิคติกสฺส ทิฏฺิ เจว วาจา จ. วิวิโธ เขโปติ วิกฺเขโป, อมราย ทิฏฺิยา วาจาย จ วิกฺเขโปติ อมราวิกฺเขโป, โส เอเตสํ อตฺถีติ อมราวิกฺเขปิกา, อปโร นโย – อมรา นาม เอกา มจฺฉชาติ, สา อุมฺมุชฺชนนิมุชฺชนาทิวเสน อุทเก สนฺธาวมานา คเหตุํ น สกฺกาติ, เอวเมว อยมฺปิ วาโท อิโตจิโต จ สนฺธาวติ, คาหํ น อุปคจฺฉตีติ อมราวิกฺเขโปติ วุจฺจติ. โส เอเตสํ อตฺถีติ อมราวิกฺเขปิกา.

๖๒. ‘‘อิทํกุสล’’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานาตีติ ทส กุสลกมฺมปเถ ยถาภูตํ นปฺปชานาตีติ อตฺโถ. อกุสเลปิ ทส อกุสลกมฺมปถาว อธิปฺเปตา. โส มมสฺส วิฆาโตติ ‘‘มุสา มยา ภณิต’’นฺติ วิปฺปฏิสารุปฺปตฺติยา มม วิฆาโต อสฺส, ทุกฺขํ ภเวยฺยาติ อตฺโถ. โส มมสฺส อนฺตราโยติ โส มม สคฺคสฺส เจว มคฺคสฺส จ อนฺตราโย อสฺส. มุสาวาทภยา มุสาวาทปริเชคุจฺฉาติ มุสาวาเท โอตฺตปฺเปน เจว หิริยา จ. วาจาวิกฺเขปํ อาปชฺชตีติ วาจาย วิกฺเขปํ อาปชฺชติ. กีทิสํ? อมราวิกฺเขปํ, อปริยนฺตวิกฺเขปนฺติ อตฺโถ.

เอวนฺติปิ เม โนติอาทีสุ เอวนฺติปิ เม โนติ อนิยมิตวิกฺเขโป . ตถาติปิ เม โนติ ‘‘สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จา’’ติ วุตฺตํ สสฺสตวาทํ ปฏิกฺขิปติ. อฺถาติปิ เม โนติ สสฺสตโต อฺถา วุตฺตํ เอกจฺจสสฺสตํ ปฏิกฺขิปติ. โนติปิ เม โนติ – ‘‘น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’’ติ วุตฺตํ อุจฺเฉทํ ปฏิกฺขิปติ. โน โนติปิ เม โนติ ‘‘เนว โหติ น น โหตี’’ติ วุตฺตํ ตกฺกีวาทํ ปฏิกฺขิปติ. สยํ ปน ‘‘อิทํ กุสล’’นฺติ วา ‘‘อกุสล’’นฺติ วา ปุฏฺโ น กิฺจิ พฺยากโรติ. ‘‘อิทํ กุสล’’นฺติ ปุฏฺโ ‘‘เอวนฺติปิ เม โน’’ติ วทติ. ตโต ‘‘กึ อกุสล’’นฺติ วุตฺเต ‘‘ตถาติปิ เม โน’’ติ วทติ. ‘‘กึ อุภยโต อฺถา’’ติ วุตฺเต ‘‘อฺถาติปิ เม โน’’ติ วทติ. ตโต ‘‘ติวิเธนาปิ น โหติ, กึ เต ลทฺธี’’ติ วุตฺเต ‘‘โนติปิ เม โน’’ติ วทติ. ตโต ‘‘กึ โน โนติ เต ลทฺธี’’ติ วุตฺเต ‘‘โน โนติปิ เม โน’’ติ เอวํ วิกฺเขปเมว อาปชฺชติ, เอกสฺมิมฺปิ ปกฺเข น ติฏฺติ.

๖๓. ฉนฺโท วา ราโค วาติ อชานนฺโตปิ สหสา กุสลเมว ‘‘กุสล’’นฺติ วตฺวา อกุสลเมว ‘‘อกุสล’’นฺติ วตฺวา มยา อสุกสฺส นาม เอวํ พฺยากตํ, กึ ตํ สุพฺยากตนฺติ อฺเ ปณฺฑิเต ปุจฺฉิตฺวา เตหิ – ‘‘สุพฺยากตํ, ภทฺรมุข, กุสลเมว ตยา กุสลํ, อกุสลเมว อกุสลนฺติ พฺยากต’’นฺติ วุตฺเต นตฺถิ มยา สทิโส ปณฺฑิโตติ เอวํ เม ตตฺถ ฉนฺโท วา ราโค วา อสฺสาติ อตฺโถ. เอตฺถ จ ฉนฺโท ทุพฺพลราโค, ราโค พลวราโค. โทโส วา ปฏิโฆ วาติ กุสลํ ปน ‘‘อกุสล’’นฺติ, อกุสลํ วา ‘‘กุสล’’นฺติ วตฺวา อฺเ ปณฺฑิเต ปุจฺฉิตฺวา เตหิ – ‘‘ทุพฺยากตํ ตยา’’ติ วุตฺเต เอตฺตกมฺปิ นาม น ชานามีติ ตตฺถ เม อสฺส โทโส วา ปฏิโฆ วาติ อตฺโถ. อิธาปิ โทโส ทุพฺพลโกโธ, ปฏิโฆ พลวโกโธ.

ตํมมสฺส อุปาทานํ, โส มมสฺส วิฆาโตติ ตํ ฉนฺทราคทฺวยํ มม อุปาทานํ อสฺส, โทสปฏิฆทฺวยํ วิฆาโต. อุภยมฺปิ วา ทฬฺหคฺคหณวเสน อุปาทานํ , วิหนนวเสน วิฆาโต. ราโค หิ อมุฺจิตุกามตาย อารมฺมณํ คณฺหาติ ชลูกา วิย. โทโส วินาเสตุกามตาย อาสีวิโส วิย. อุโภปิ เจเต สนฺตาปกฏฺเน วิหนนฺติ เยวาติ ‘‘อุปาทาน’’นฺติ จ ‘‘วิฆาโต’’ติ จ วุตฺตา. เสสํ ปมวารสทิสเมว.

๖๔. ปณฺฑิตาติ ปณฺฑิจฺเจน สมนฺนาคตา. นิปุณาติ สณฺหสุขุมพุทฺธิโน สุขุมอตฺถนฺตรํ ปฏิวิชฺฌนสมตฺถา. กตปรปฺปวาทาติ วิฺาตปรปฺปวาทา เจว ปเรหิ สทฺธึ กตวาทปริจยา จ. วาลเวธิรูปาติ วาลเวธิธนุคฺคหสทิสา. เต ภินฺทนฺตา มฺเติ วาลเวธิ วิย วาลํ สุขุมานิปิ ปเรสํ ทิฏฺิคตานิ อตฺตโน ปฺาคเตน ภินฺทนฺตา วิย จรนฺตีติ อตฺโถ. เต มํ ตตฺถาติ เต สมณพฺราหฺมณา มํ เตสุ กุสลากุสเลสุ. สมนุยุฺเชยฺยุนฺติ ‘‘กึ กุสลํ, กึ อกุสลนฺติ อตฺตโน ลทฺธึ วทา’’ติ ลทฺธึ ปุจฺเฉยฺยุํ. สมนุคาเหยฺยุนฺติ ‘‘อิทํ นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘เกน การเณน เอตมตฺถํ คาเหยฺยุ’’นฺติ การณํ ปุจฺเฉยฺยุํ. สมนุภาเสยฺยุนฺติ ‘‘อิมินา นาม การเณนา’’ติ วุตฺเต การเณ โทสํ ทสฺเสตฺวา ‘‘น ตฺวํ อิทํ ชานาสิ, อิทํ ปน คณฺห, อิทํ วิสฺสชฺเชหี’’ติ เอวํ สมนุยุฺเชยฺยุํ. น สมฺปาเยยฺยนฺติ น สมฺปาเทยฺยํ, สมฺปาเทตฺวา กเถตุํ น สกฺกุเณยฺยนฺติ อตฺโถ. โส มมสฺส วิฆาโตติ ยํ ตํ ปุนปฺปุนํ วตฺวาปิ อสมฺปายนํ นาม, โส มม วิฆาโต อสฺส, โอฏฺตาลุชิวฺหาคลโสสนทุกฺขเมว อสฺสาติ อตฺโถ. เสสเมตฺถาปิ ปมวารสทิสเมว.

๖๕-๖๖. มนฺโทติ มนฺทปฺโ อปฺสฺเสเวตํ นามํ. โมมูโหติ อติสมฺมูฬฺโห. โหติตถาคโตติอาทีสุ สตฺโต ‘‘ตถาคโต’’ติ อธิปฺเปโต. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. อิเมปิ จตฺตาโร ปุพฺเพ ปวตฺตธมฺมานุสาเรเนว ทิฏฺิยา คหิตตฺตา ปุพฺพนฺตกปฺปิเกสุ ปวิฏฺา.

อธิจฺจสมุปฺปนฺนวาทวณฺณนา

๖๗. ‘‘อธิจฺจสมุปฺปนฺโน อตฺตา จ โลโก จา’’ติ ทสฺสนํ อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ. ตํ เอเตสํ อตฺถีติ อธิจฺจสมุปฺปนฺนิกา. อธิจฺจสมุปฺปนฺนนฺติ อการณสมุปฺปนฺนํ.

๖๘-๗๓. อสฺสตฺตาติ เทสนาสีสเมตํ, อจิตฺตุปฺปาทา รูปมตฺตกอตฺตภาวาติ อตฺโถ. เตสํ เอวํ อุปฺปตฺติ เวทิตพฺพา – เอกจฺโจ หิ ติตฺถายตเน ปพฺพชิตฺวา วาโยกสิเณ ปริกมฺมํ กตฺวา จตุตฺถชฺฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา ฌานา วุฏฺาย – ‘‘จิตฺเต โทสํ ปสฺสติ, จิตฺเต สติ หตฺถจฺเฉทาทิทุกฺขฺเจว สพฺพภยานิ จ โหนฺติ, อลํ อิมินา จิตฺเตน, อจิตฺตกภาโวว สนฺโต’’ติ, เอวํ จิตฺเต โทสํ ปสฺสิตฺวา อปริหีนชฺฌาโน กาลํ กตฺวา อสฺสตฺเตสุ นิพฺพตฺตติ, จิตฺตมสฺส จุติจิตฺตนิโรเธน อิเธว นิวตฺตติ, รูปกฺขนฺธมตฺตเมว ตตฺถ ปาตุภวติ. เต ตตฺถ ยถา นาม ชิยาเวคกฺขิตฺโต สโร ยตฺตโก ชิยาเวโค, ตตฺตกเมว อากาเส คจฺฉติ. เอวเมว ฌานเวคกฺขิตฺตา อุปปชฺชิตฺวา ยตฺตโก ฌานเวโค, ตตฺตกเมว กาลํ ติฏฺนฺติ, ฌานเวเค ปน ปริหีเน ตตฺถ รูปกฺขนฺโธ อนฺตรธายติ, อิธ ปน ปฏิสนฺธิสฺา อุปฺปชฺชติ. ยสฺมา ปน ตาย อิธ อุปฺปนฺนสฺาย เตสํ ตตฺถ จุติ ปฺายติ, ตสฺมา ‘‘สฺุปฺปาทา จ ปน เต เทวา ตมฺหา กายา จวนฺตี’’ติ วุตฺตํ. สนฺตตายาติ สนฺตภาวาย. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. ตกฺกีวาโทปิ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพติ.

อปรนฺตกปฺปิกวณฺณนา

๗๔. เอวํ อฏฺารส ปุพฺพนฺตกปฺปิเก ทสฺเสตฺวา อิทานิ จตุจตฺตารีสํ อปรนฺตกปฺปิเก ทสฺเสตุํ – ‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อนาคตโกฏฺาสสงฺขาตํ อปรนฺตํ กปฺเปตฺวา คณฺหนฺตีติ อปรนฺตกปฺปิกา, อปรนฺตกปฺโป วา เอเตสํ อตฺถีติ อปรนฺตกปฺปิกา. เอวํ เสสมฺปิ ปุพฺเพ วุตฺตปฺปการนเยเนว เวทิตพฺพํ.

สฺีวาทวณฺณนา

๗๕. อุทฺธมาฆาตนิกาติ อาฆาตนํ วุจฺจติ มรณํ, อุทฺธมาฆาตนา อตฺตานํ วทนฺตีติ อุทฺธมาฆาตนิกา. สฺีติ ปวตฺโต วาโท, สฺีวาโท, โส เอเตสํ อตฺถีติ สฺีวาทา.

๗๖-๗๗. รูปี อตฺตาติอาทีสุ กสิณรูปํ ‘‘อตฺตา’’ติ ตตฺถ ปวตฺตสฺฺจสฺส ‘‘สฺา’’ติ คเหตฺวา วา อาชีวกาทโย วิย ตกฺกมตฺเตเนว วา ‘‘รูปี อตฺตา โหติ, อโรโค ปรํ มรณา สฺี’’ติ นํ ปฺเปนฺติ. ตตฺถ อโรโคติ นิจฺโจ. อรูปสมาปตฺตินิมิตฺตํ ปน ‘‘อตฺตา’’ติ สมาปตฺติสฺฺจสฺส ‘‘สฺา’’ติ คเหตฺวา วา นิคณฺาทโย วิย ตกฺกมตฺเตเนว วา ‘‘อรูปี อตฺตา โหติ, อโรโค ปรํ มรณา สฺี’’ติ นํ ปฺเปนฺติ. ตติยา ปน มิสฺสกคาหวเสน ปวตฺตา ทิฏฺิ. จตุตฺถา ตกฺกคาเหเนว. ทุติยจตุกฺกํ อนฺตานนฺติกวาเท วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. ตติยจตุกฺเก สมาปนฺนกวเสน เอกตฺตสฺี , อสมาปนฺนกวเสน นานตฺตสฺี, ปริตฺตกสิณวเสน ปริตฺตสฺี, วิปุลกสิณวเสน อปฺปมาณสฺีติ เวทิตพฺพา. จตุตฺถจตุกฺเก ปน ทิพฺเพน จกฺขุนา ติกจตุกฺกชฺฌานภูมิยํ นิพฺพตฺตมานํ ทิสฺวา ‘‘เอกนฺตสุขี’’ติ คณฺหาติ. นิรเย นิพฺพตฺตมานํ ทิสฺวา ‘‘เอกนฺตทุกฺขี’’ติ. มนุสฺเสสุ นิพฺพตฺตมานํ ทิสฺวา ‘‘สุขทุกฺขี’’ติ. เวหปฺผลเทเวสุ นิพฺพตฺตมานํ ทิสฺวา ‘‘อทุกฺขมสุขี’’ติ คณฺหาติ. วิเสสโต หิ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณลาภิโน ปุพฺพนฺตกปฺปิกา โหนฺติ, ทิพฺพจกฺขุกา อปรนฺตกปฺปิกาติ.

อสฺีวาทวณฺณนา

๗๘-๘๓. อสฺีวาโท สฺีวาเท อาทิมฺหิ วุตฺตานํ ทฺวินฺนํ จตุกฺกานํ วเสน เวทิตพฺโพ. ตถา เนวสฺีนาสฺีวาโท. เกวลฺหิ ตตฺถ ‘‘สฺี อตฺตา’’ติ คณฺหนฺตานํ ตา ทิฏฺิโย, อิธ ‘‘อสฺี’’ติ จ ‘‘เนวสฺีนาสฺี’’ติ จ. ตตฺถ น เอกนฺเตน การณํ ปริเยสิตพฺพํ. ทิฏฺิคติกสฺส หิ คาโห อุมฺมตฺตกปจฺฉิสทิโสติ วุตฺตเมตํ.

อุจฺเฉทวาทวณฺณนา

๘๔. อุจฺเฉทวาเท สโตติ วิชฺชมานสฺส. อุจฺเฉทนฺติ อุปจฺเฉทํ . วินาสนฺติ อทสฺสนํ. วิภวนฺติ ภาววิคมํ. สพฺพาเนตานิ อฺมฺเววจนาเนว. ตตฺถ ทฺเว ชนา อุจฺเฉททิฏฺึ คณฺหนฺติ, ลาภี จ อลาภี จ. ลาภี อรหโต ทิพฺเพน จกฺขุนา จุตึ ทิสฺวา อุปปตฺตึ อปสฺสนฺโต, โย วา จุติมตฺตเมว ทฏฺุํ สกฺโกติ, น อุปปาตํ; โส อุจฺเฉททิฏฺึ คณฺหาติ. อลาภี จ ‘‘โก ปรโลกํ น ชานาตี’’ติ กามสุขคิทฺธตาย วา. ‘‘ยถา รุกฺขโต ปณฺณานิ ปติตานิ น ปุน วิรุหนฺติ, เอวเมว สตฺตา’’ติอาทินา ตกฺเกน วา อุจฺเฉทํ คณฺหาติ. อิธ ปน ตณฺหาทิฏฺีนํ วเสน ตถา จ อฺถา จ วิกปฺเปตฺวาว อิมา สตฺต ทิฏฺิโย อุปฺปนฺนาติ เวทิตพฺพา.

๘๕. ตตฺถ รูปีติ รูปวา. จาตุมหาภูติโกติ จตุมหาภูตมโย. มาตาปิตูนํ เอตนฺติ มาตาเปตฺติกํ. กึ ตํ? สุกฺกโสณิตํ. มาตาเปตฺติเก สมฺภูโต ชาโตติ มาตาเปตฺติกสมฺภโว. อิติ รูปกายสีเสน มนุสฺสตฺตภาวํ ‘‘อตฺตา’’ติ วทติ. อิตฺเถเกติ อิตฺถํ เอเก เอวเมเกติ อตฺโถ.

๘๖. ทุติโย ตํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ทิพฺพตฺตภาวํ วทติ. ทิพฺโพติ เทวโลเก สมฺภูโต. กามาวจโรติ ฉ กามาวจรเทวปริยาปนฺโน. กพฬีการํ อาหารํ ภกฺขตีติ กพฬีการาหารภกฺโข.

๘๗. มโนมโยติ ฌานมเนน นิพฺพตฺโต. สพฺพงฺคปจฺจงฺคีติ สพฺพงฺคปจฺจงฺคยุตฺโต. อหีนินฺทฺริโยติ ปริปุณฺณินฺทฺริโย. ยานิ พฺรหฺมโลเก อตฺถิ, เตสํ วเสน อิตเรสฺจ สณฺานวเสเนตํ วุตฺตํ.

๘๘-๙๒. สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมาติอาทีนํ อตฺโถ วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺโต. อากาสานฺจายตนูปโคติอาทีสุ ปน อากาสานฺจายตนภวํ อุปคโตติ, เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

ทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาทวณฺณนา

๙๓. ทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาเท ทิฏฺธมฺโมติ ปจฺจกฺขธมฺโม วุจฺจติ, ตตฺถ ตตฺถ ปฏิลทฺธตฺตภาวสฺเสตํ อธิวจนํ. ทิฏฺธมฺเม นิพฺพานํ ทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ, อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว ทุกฺขวูปสมนนฺติ อตฺโถ. ตํ วทนฺตีติ ทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาทา. ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานนฺติ ปรมํ ทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ อุตฺตมนฺติ อตฺโถ.

๙๔. ปฺจหิ กามคุเณหีติ มนาปิยรูปาทีหิ ปฺจหิ กามโกฏฺาเสหิ พนฺธเนหิ วา. สมปฺปิโตติ สุฏฺุ อปฺปิโต อลฺลีโน หุตฺวา. สมงฺคีภูโตติ สมนฺนาคโต. ปริจาเรตีติ เตสุ กามคุเณสุ ยถาสุขํ อินฺทฺริยานิ จาเรติ สฺจาเรติ อิโตจิโต จ อุปเนติ. อถ วา ลฬติ รมติ กีฬติ. เอตฺถ จ ทุวิธา กามคุณา – มานุสกา เจว ทิพฺพา จ. มานุสกา มนฺธาตุกามคุณสทิสา ทฏฺพฺพา, ทิพฺพา ปรนิมฺมิตวสวตฺติเทวราชสฺส กามคุณสทิสาติ. เอวรูเป กาเม อุปคตานฺหิ เต ทิฏฺธมฺมนิพฺพานสมฺปตฺตึ ปฺเปนฺติ.

๙๕. ทุติยวาเร หุตฺวา อภาวฏฺเน อนิจฺจา ปฏิปีฬนฏฺเน ทุกฺขา, ปกติชหนฏฺเน วิปริณามธมฺมาติ เวทิตพฺพา. เตสํ วิปริณามฺถาภาวาติ เตสํ กามานํ วิปริณามสงฺขาตา อฺถาภาวา, ยมฺปิ เม อโหสิ, ตมฺปิ เม นตฺถีติ วุตฺตนเยน อุปฺปชฺชนฺติ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา. ตตฺถ อนฺโตนิชฺฌายนลกฺขโณ โสโก, ตนฺนิสฺสิตลาลปฺปนลกฺขโณ ปริเทโว, กายปฺปฏิปีฬนลกฺขณํ ทุกฺขํ, มโนวิฆาตลกฺขณํ โทมนสฺสํ, วิสาทลกฺขโณ อุปายาโส, วิวิจฺเจว กาเมหีติอาทีนมตฺโถ วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺโต.

๙๖. วิตกฺกิตนฺติ อภินิโรปนวเสน ปวตฺโต วิตกฺโก. วิจาริตนฺติ อนุมชฺชนวเสน ปวตฺโต วิจาโร. เอเตเนตนฺติ เอเตน วิตกฺกิเตน จ วิจาริเตน จ เอตํ ปมชฺฌานํ โอฬาริกํ สกณฺฑกํ วิย ขายติ.

๙๗-๙๘. ปีติคตนฺติ ปีติเยว. เจตโส อุปฺปิลาวิตตฺตนฺติ จิตฺตสฺส อุปฺปิลภาวกรณํ. เจตโส อาโภโคติ ฌานา วุฏฺาย ตสฺมึ สุเข ปุนปฺปุนํ จิตฺตสฺส อาโภโค มนสิกาโร สมนฺนาหาโรติ. เสสเมตฺถ ทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาเท อุตฺตานเมว.

เอตฺตาวตา สพฺพาปิ ทฺวาสฏฺิทิฏฺิโย กถิตา โหนฺติ. ยาสํ สตฺเตว อุจฺเฉททิฏฺิโย, เสสา สสฺสตทิฏฺิโย.

๑๐๐-๑๐๔. อิทานิ – ‘‘อิเมหิ โข เต, ภิกฺขเว’’ติ อิมินา วาเรน สพฺเพปิ เต อปรนฺตกปฺปิเก เอกชฺฌํ นิยฺยาเตตฺวา สพฺพฺุตฺาณํ วิสฺสชฺเชติ. ปุน – ‘‘อิเมหิ, โข เต ภิกฺขเว’’ติอาทินา วาเรน สพฺเพปิ เต ปุพฺพนฺตาปรนฺตกปฺปิเก เอกชฺฌํ นิยฺยาเตตฺวา ตเทว าณํ วิสฺสชฺเชติ. อิติ ‘‘กตเม จ เต, ภิกฺขเว, ธมฺมา’’ติอาทิมฺหิ ปุจฺฉมาโนปิ สพฺพฺุตฺาณเมว ปุจฺฉิตฺวา วิสฺสชฺชมาโนปิ สตฺตานํ อชฺฌาสยํ ตุลาย ตุลยนฺโต วิย สิเนรุปาทโต วาลุกํ อุทฺธรนฺโต วิย ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิคตานิ อุทฺธริตฺวา สพฺพฺุตฺาณเมว วิสฺสชฺเชติ. เอวมยํ ยถานุสนฺธิวเสน เทสนา อาคตา.

ตโย หิ สุตฺตสฺส อนุสนฺธี – ปุจฺฉานุสนฺธิ, อชฺฌาสยานุสนฺธิ, ยถานุสนฺธีติ. ตตฺถ ‘‘เอวํ วุตฺเต อฺตโร ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – กึ นุ โข, ภนฺเต, โอริมํ ตีรํ, กึ ปาริมํ ตีรํ, โก มชฺเฌ สํสีโท, โก ถเล อุสฺสาโท, โก มนุสฺสคฺคาโห, โก อมนุสฺสคฺคาโห, โก อาวฏฺฏคฺคาโห, โก อนฺโตปูติภาโว’’ติ (สํ. นิ. ๔.๒๔๑) เอวํ ปุจฺฉนฺตานํ ภควตา วิสฺสชฺชิตสุตฺตวเสน ปุจฺฉานุสนฺธิ เวทิตพฺโพ.

อถ โข อฺตรสฺส ภิกฺขุโน เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘‘อิติ กิร โภ รูปํ อนตฺตา…, เวทนา…, สฺา…, สงฺขารา …, วิฺาณํ อนตฺตา, อนตฺตกตานิ กิร กมฺมานิ กมตฺตานํ ผุสิสฺสนฺตี’’ติ. อถ โข ภควา ตสฺส ภิกฺขุโน เจตสา เจโต ปริวิตกฺกมฺาย ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘านํ โข ปเนตํ, ภิกฺขเว, วิชฺชติ, ยํ อิเธกจฺโจ โมฆปุริโส อวิทฺวา อวิชฺชาคโต ตณฺหาธิปเตยฺเยน เจตสา สตฺถุสาสนํ อติธาวิตพฺพํ มฺเยฺย – ‘‘อิติ กิร โภ รูปํ อนตฺตา…เป… ผุสิสฺสนฺตี’’ติ. ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเว, รูปํ นิจฺจํ วา อนิจฺจํ วา’’ติ (ม. นิ. ๓.๑๐). เอวํ ปเรสํ อชฺฌาสยํ วิทิตฺวา ภควตา วุตฺตสุตฺตวเสน อชฺฌาสยานุสนฺธิ เวทิตพฺโพ.

เยน ปน ธมฺเมน อาทิมฺหิ เทสนา อุฏฺิตา, ตสฺส ธมฺมสฺส อนุรูปธมฺมวเสน วา ปฏิปกฺขวเสน วา เยสุ สุตฺเตสุ อุปริ เทสนา อาคจฺฉติ, เตสํ วเสน ยถานุสนฺธิ เวทิตพฺโพ. เสยฺยถิทํ, อากงฺเขยฺยสุตฺเต เหฏฺา สีเลน เทสนา อุฏฺิตา, อุปริ ฉ อภิฺา อาคตา. วตฺถสุตฺเต เหฏฺา กิเลเสน เทสนา อุฏฺิตา, อุปริ พฺรหฺมวิหารา อาคตา. โกสมฺพกสุตฺเต เหฏฺา ภณฺฑเนน อุฏฺิตา, อุปริ สารณียธมฺมา อาคตา. กกจูปเม เหฏฺา อกฺขนฺติยา อุฏฺิตา, อุปริ กกจูปมา อาคตา. อิมสฺมิมฺปิ พฺรหฺมชาเล เหฏฺา ทิฏฺิวเสน เทสนา อุฏฺิตา, อุปริ สุฺตาปกาสนํ อาคตํ. เตน วุตฺตํ – ‘‘เอวมยํ ยถานุสนฺธิวเสน เทสนา อาคตา’’ติ.

ปริตสฺสิตวิปฺผนฺทิตวารวณฺณนา

๑๐๕-๑๑๗. อิทานิ มริยาทวิภาคทสฺสนตฺถํ – ‘‘ตตฺร ภิกฺขเว’’ติอาทิกา เทสนา อารทฺธา. ตทปิ เตสํ ภวตํ สมณพฺราหฺมณานํ อชานตํ อปสฺสตํ เวทยิตํ ตณฺหาคตานํ ปริตสฺสิตวิปฺผนฺทิตเมวาติ เยน ทิฏฺิอสฺสาเทน ทิฏฺิสุเขน ทิฏฺิเวทยิเตน เต โสมนสฺสชาตา สสฺสตํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ จตูหิ วตฺถูหิ, ตทปิ เตสํ ภวนฺตานํ สมณพฺราหฺมณานํ ยถาภูตํ ธมฺมานํ สภาวํ อชานนฺตานํ อปสฺสนฺตานํ เวทยิตํ ตณฺหาคตานํ เกวลํ ตณฺหาคตานํเยว ตํ เวทยิตํ, ตฺจ โข ปเนตํ ปริตสฺสิตวิปฺผนฺทิตเมว. ทิฏฺิสงฺขาเตน เจว ตณฺหาสงฺขาเตน จ ปริตสฺสิเตน วิปฺผนฺทิตเมว จลิตเมว กมฺปิตเมว ถุสราสิมฺหิ นิขาตขาณุสทิสํ, น โสตาปนฺนสฺส ทสฺสนมิว นิจฺจลนฺติ ทสฺเสติ. เอส นโย เอกจฺจสสฺสตวาทาทีสุปิ.

ผสฺสปจฺจยวารวณฺณนา

๑๑๘-๑๓๐. ปุน – ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา สสฺสตวาทา’’ติอาทิ ปรมฺปรปจฺจยทสฺสนตฺถํ อารทฺธํ . ตตฺถ ตทปิ ผสฺสปจฺจยาติ เยน ทิฏฺิอสฺสาเทน ทิฏฺิสุเขน ทิฏฺิเวทยิเตน เต โสมนสฺสชาตา สสฺสตํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ จตูหิ วตฺถูหิ, ตทปิ ตณฺหาทิฏฺิปริผนฺทิตํ เวทยิตํ ผสฺสปจฺจยาติ ทสฺเสติ. เอส นโย สพฺพตฺถ.

๑๓๑-๑๔๓. อิทานิ ตสฺส ปจฺจยสฺส ทิฏฺิเวทยิเต พลวภาวทสฺสนตฺถํ ปุน – ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา สสฺสตวาทา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ เต วต อฺตฺร ผสฺสาติ เต วต สมณพฺราหฺมณา ตํ เวทยิตํ วินา ผสฺเสน ปฏิสํเวทิสฺสนฺตีติ การณเมตํ นตฺถีติ. ยถา หิ ปตโต เคหสฺส อุปตฺถมฺภนตฺถาย ถูณา นาม พลวปจฺจโย โหติ, น ตํ ถูณาย อนุปตฺถมฺภิตํ าตุํ สกฺโกติ, เอวเมว ผสฺโสปิ เวทนาย พลวปจฺจโย, ตํ วินา อิทํ ทิฏฺิเวทยิตํ นตฺถีติ ทสฺเสติ. เอส นโย สพฺพตฺถ.

ทิฏฺิคติกาธิฏฺานวฏฺฏกถาวณฺณนา

๑๔๔. อิทานิ ตตฺร ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา สสฺสตวาทา สสฺสตํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ จตูหิ วตฺถูหิ, เยปิ เต สมณพฺราหฺมณา เอกจฺจสสฺสติกาติอาทินา นเยน สพฺพทิฏฺิเวทยิตานิ สมฺปิณฺเฑติ. กสฺมา? อุปริ ผสฺเส ปกฺขิปนตฺถาย. กถํ? สพฺเพ เต ฉหิ ผสฺสายตเนหิ ผุสฺส ผุสฺส ปฏิสํเวเทนฺตีติ. ตตฺถ ฉ ผสฺสายตนานิ นาม – จกฺขุผสฺสายตนํ, โสตผสฺสายตนํ, ฆานผสฺสายตนํ, ชิวฺหาผสฺสายตนํ, กายผสฺสายตนํ, มโนผสฺสายตนนฺติ อิมานิ ฉ. สฺชาติ-สโมสรณ-การณ-ปณฺณตฺติมตฺตตฺเถสุ หิ อยํ อายตนสทฺโท ปวตฺตติ. ตตฺถ – ‘‘กมฺโพโช อสฺสานํ อายตนํ, คุนฺนํ ทกฺขิณาปโถ’’ติ สฺชาติยํ ปวตฺตติ, สฺชาติฏฺาเนติ อตฺโถ. ‘‘มโนรเม อายตเน, เสวนฺติ นํ วิหงฺคมา’’ติ (อ. นิ. ๕.๓๘) สโมสรเณ. ‘‘สติ สติอายตเน’’ติ (อ. นิ. ๓.๑๐๒) การเณ. ‘‘อรฺายตเน ปณฺณกุฏีสุ สมฺมนฺตี’’ติ (สํ. นิ. ๑.๒๕๕) ปณฺณตฺติมตฺเต. สฺวายมิธ สฺชาติอาทิอตฺถตฺตเยปิ ยุชฺชติ. จกฺขาทีสุ หิ ผสฺสปฺจมกา ธมฺมา สฺชายนฺติ สโมสรนฺติ, ตานิ จ เตสํ การณนฺติ อายตนานิ. อิธ ปน ‘‘จกฺขุฺจ ปฏิจฺจ รูเป จ อุปฺปชฺชติ จกฺขุวิฺาณํ, ติณฺณํ สงฺคติ ผสฺโส’’ติ (สํ. นิ. ๒.๔๓) อิมินา นเยน ผสฺสสีเสเนว เทสนํ อาโรเปตฺวา ผสฺสํ อาทึ กตฺวา ปจฺจยปรมฺปรํ ทสฺเสตุํ ผสฺสายตนาทีนิ วุตฺตานิ.

ผุสฺส ผุสฺส ปฏิสํเวเทนฺตีติ ผุสิตฺวา ผุสิตฺวา ปฏิสํเวเทนฺติ. เอตฺถ จ กิฺจาปิ อายตนานํ ผุสนกิจฺจํ วิย วุตฺตํ, ตถาปิ น เตสํ ผุสนกิจฺจตา เวทิตพฺพา. น หิ อายตนานิ ผุสนฺติ, ผสฺโสว ตํ ตํ อารมฺมณํ ผุสติ, อายตนานิ ปน ผสฺเส อุปนิกฺขิปิตฺวา ทสฺสิตานิ; ตสฺมา สพฺเพ เต ฉ ผสฺสายตนสมฺภเวน ผสฺเสน รูปาทีนิ อารมฺมณานิ ผุสิตฺวา ตํ ทิฏฺิเวทนํ ปฏิสํเวทยนฺตีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

เตสํ เวทนาปจฺจยา ตณฺหาติอาทีสุ เวทนาติ ฉ ผสฺสายตนสมฺภวา เวทนา. สา รูปตณฺหาทิเภทาย ตณฺหาย อุปนิสฺสยโกฏิยา ปจฺจโย โหติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘เตสํ เวทนาปจฺจยา ตณฺหา’’ติ. สา ปน จตุพฺพิธสฺส อุปาทานสฺส อุปนิสฺสยโกฏิยา เจว สหชาตโกฏิยา จ ปจฺจโย โหติ. ตถา อุปาทานํ ภวสฺส. ภโว ชาติยา อุปนิสฺสยโกฏิยา ปจฺจโย โหติ.

ชาตีติ ปเนตฺถ สวิการา ปฺจกฺขนฺธา ทฏฺพฺพา, ชาติ ชรามรณสฺส เจว โสกาทีนฺจ อุปนิสฺสยโกฏิยา ปจฺจโย โหติ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถารโต ปน ปฏิจฺจสมุปฺปาทกถา วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตา. อิธ ปนสฺส ปโยชนมตฺตเมว เวทิตพฺพํ. ภควา หิ วฏฺฏกถํ กเถนฺโต – ‘‘ปุริมา, ภิกฺขเว, โกฏิ น ปฺายติ อวิชฺชาย, ‘อิโต ปุพฺเพ อวิชฺชา นาโหสิ, อถ ปจฺฉา สมภวี’ติ เอวฺเจตํ, ภิกฺขเว, วุจฺจติ, อถ จ ปน ปฺายติ ‘‘อิทปฺปจฺจยา อวิชฺชา’’ติ (อ. นิ. ๑๐.๖๑) เอวํ อวิชฺชาสีเสน วา, ปุริมา, ภิกฺขเว, โกฏิ น ปฺายติ ภวตณฺหาย…เป… ‘‘อิทปฺปจฺจยา ภวตณฺหา’’ติ (อ. นิ. ๑๐.๖๒) เอวํ ตณฺหาสีเสน วา, ปุริมา, ภิกฺขเว, โกฏิ น ปฺายติ ภวทิฏฺิยา…เป… ‘‘อิทปฺปจฺจยา ภวทิฏฺี’’ติ เอวํ ทิฏฺิสีเสน วา กเถสิ’’. อิธ ปน ทิฏฺิสีเสน กเถนฺโต เวทนาราเคน อุปฺปชฺชมานา ทิฏฺิโย กเถตฺวา เวทนามูลกํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ กเถสิ. เตน อิทํ ทสฺเสติ – ‘‘เอวเมเต ทิฏฺิคติกา, อิทํ ทสฺสนํ คเหตฺวา ตีสุ ภเวสุ จตูสุ โยนีสุ ปฺจสุ คตีสุ สตฺตสุ วิฺาณฏฺิตีสุ นวสุ สตฺตาวาเสสุ อิโต เอตฺถ เอตฺโต อิธาติ สนฺธาวนฺตา สํสรนฺตา ยนฺเต ยุตฺตโคโณ วิย, ถมฺเภ อุปนิพทฺธกุกฺกุโร วิย, วาเตน วิปฺปนฺนฏฺนาวา วิย จ วฏฺฏทุกฺขเมว อนุปริวตฺตนฺติ, วฏฺฏทุกฺขโต สีสํ อุกฺขิปิตุํ น สกฺโกนฺตี’’ติ.

วิวฏฺฏกถาทิวณฺณนา

๑๔๕. เอวํ ทิฏฺิคติกาธิฏฺานํ วฏฺฏํ กเถตฺวา อิทานิ ยุตฺตโยคภิกฺขุอธิฏฺานํ กตฺวา วิวฏฺฏํ ทสฺเสนฺโต – ‘‘ยโต โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขู’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ยโตติ ยทา. ฉนฺนํ ผสฺสายตนานนฺติ เยหิ ฉหิ ผสฺสายตเนหิ ผุสิตฺวา ปฏิสํเวทยมานานํ ทิฏฺิคติกานํ วฏฺฏํ วตฺตติ, เตสํเยว ฉนฺนํ ผสฺสายตนานํ. สมุทยนฺติอาทีสุ อวิชฺชาสมุทยา จกฺขุสมุทโยติอาทินา เวทนากมฺมฏฺาเน วุตฺตนเยน ผสฺสายตนานํ สมุทยาทโย เวทิตพฺพา. ยถา ปน ตตฺถ ‘‘ผสฺสสมุทยา ผสฺสนิโรธา’’ติ วุตฺตํ, เอวมิธ, ตํ จกฺขาทีสุ – ‘‘อาหารสมุทยา อาหารนิโรธา’’ติ เวทิตพฺพํ. มนายตเน ‘‘นามรูปสมุทยา นามรูปนิโรธา’’ติ.

อุตฺตริตรํ ปชานาตีติ ทิฏฺิคติโก ทิฏฺิเมว ชานาติ. อยํ ปน ทิฏฺิฺจ ทิฏฺิโต จ อุตฺตริตรํ สีลสมาธิปฺาวิมุตฺตินฺติ ยาว อรหตฺตา ชานาติ. โก เอวํ ชานาตีติ? ขีณาสโว ชานาติ, อนาคามี, สกทาคามี, โสตาปนฺโน, พหุสฺสุโต, คนฺถธโร ภิกฺขุ ชานาติ, อารทฺธวิปสฺสโก ชานาติ. เทสนา ปน อรหตฺตนิกูเฏเนว นิฏฺาปิตาติ.

๑๔๖. เอวํ วิวฏฺฏํ กเถตฺวา อิทานิ ‘‘เทสนาชาลวิมุตฺโต ทิฏฺิคติโก นาม นตฺถี’’ติ ทสฺสนตฺถํ ปุน – ‘‘เย หิ เกจิ, ภิกฺขเว’’ติ อารภิ. ตตฺถ อนฺโตชาลีกตาติ อิมสฺส มยฺหํ เทสนาชาลสฺส อนฺโตเยว กตา. เอตฺถ สิตา วาติ เอตสฺมึ มม เทสนาชาเล สิตา นิสฺสิตา อวสิตาว. อุมฺมุชฺชมานา อุมฺมุชฺชนฺตีติ กึ วุตฺตํ โหติ? เต อโธ โอสีทนฺตาปิ อุทฺธํ อุคฺคจฺฉนฺตาปิ มม เทสนาชาเล สิตาว หุตฺวา โอสีทนฺติ จ อุคฺคจฺฉนฺติ จ. เอตฺถ ปริยาปนฺนาติ เอตฺถ มยฺหํ เทสนาชาเล ปริยาปนฺนา, เอเตน อาพทฺธา อนฺโตชาลีกตา จ หุตฺวา อุมฺมุชฺชมานา อุมฺมุชฺชนฺติ, น เหตฺถ อสงฺคหิโต ทิฏฺิคติโก นาม อตฺถีติ.

สุขุมจฺฉิเกนาติ สณฺหอจฺฉิเกน สุขุมจฺฉิทฺเทนาติ อตฺโถ. เกวฏฺโฏ วิย หิ ภควา, ชาลํ วิย เทสนา, ปริตฺตอุทกํ วิย ทสสหสฺสิโลกธาตุ, โอฬาริกา ปาณา วิย ทฺวาสฏฺิทิฏฺิคติกา. ตสฺส ตีเร ตฺวา โอโลเกนฺตสฺส โอฬาริกานํ ปาณานํ อนฺโตชาลีกตภาวทสฺสนํ วิย ภควโต สพฺพทิฏฺิคตานํ เทสนาชาลสฺส อนฺโตกตภาวทสฺสนนฺติ เอวเมตฺถ โอปมฺมสํสนฺทนํ เวทิตพฺพํ.

๑๔๗. เอวํ อิมาหิ ทฺวาสฏฺิยา ทิฏฺีหิ สพฺพทิฏฺีนํ สงฺคหิตตฺตา สพฺเพสํ ทิฏฺิคติกานํ เอตสฺมึ เทสนาชาเล ปริยาปนฺนภาวํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อตฺตโน กตฺถจิ อปริยาปนฺนภาวํ ทสฺเสนฺโต – ‘‘อุจฺฉินฺนภวเนตฺติโก, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺส กาโย’’ติอาทิมาห. ตตฺถ นยนฺติ เอตายาติ เนตฺติ. นยนฺตีติ คีวาย พนฺธิตฺวา อากฑฺฒนฺติ, รชฺชุยา เอตํ นามํ. อิธ ปน เนตฺติสทิสตาย ภวตณฺหา เนตฺตีติ อธิปฺเปตา. สา หิ มหาชนํ คีวาย พนฺธิตฺวา ตํ ตํ ภวํ เนติ อุปเนตีติ ภวเนตฺติ. อรหตฺตมคฺคสตฺเถน อุจฺฉินฺนา ภวเนตฺติ อสฺสาติ อุจฺฉินฺนภวเนตฺติโก.

กายสฺส เภทา อุทฺธนฺติ กายสฺส เภทโต อุทฺธํ. ชีวิตปริยาทานาติ ชีวิตสฺส สพฺพโส ปริยาทินฺนตฺตา ปริกฺขีณตฺตา, ปุน อปฺปฏิสนฺธิกภาวาติ อตฺโถ. น ตํ ทกฺขนฺตีติ ตํ ตถาคตํ. เทวา วา มนุสฺสา วา น ทกฺขิสฺสนฺติ, อปณฺณตฺติกภาวํ คมิสฺสตีติ อตฺโถ.

เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเวติ, อุปมายํ ปน อิทํ สํสนฺทนํ. อมฺพรุกฺโข วิย หิ ตถาคตสฺส กาโย, รุกฺเข ชาตมหาวณฺโฏ วิย ตํ นิสฺสาย ปุพฺเพ ปวตฺตตณฺหา. ตสฺมึ วณฺเฏ อุปนิพทฺธา ปฺจปกฺกทฺวาทสปกฺกอฏฺารสปกฺกปริมาณา อมฺพปิณฺฑี วิย ตณฺหาย สติ ตณฺหูปนิพนฺธนา หุตฺวา อายตึ นิพฺพตฺตนกา ปฺจกฺขนฺธา ทฺวาทสายตนานิ อฏฺารส ธาตุโย. ยถา ปน ตสฺมึ วณฺเฏ ฉินฺเน สพฺพานิ ตานิ อมฺพานิ ตทนฺวยานิ โหนฺติ, ตํเยว วณฺฏํ อนุคตานิ, วณฺฏจฺเฉทา ฉินฺนานิ เยวาติ อตฺโถ; เอวเมว เย ภวเนตฺติวณฺฏสฺส อนุปจฺฉินฺนตฺตา อายตึ อุปฺปชฺเชยฺยุํ ปฺจกฺขนฺธา ทฺวาทสายตนานิ อฏฺารสธาตุโย, สพฺเพ เต ธมฺมา ตทนฺวยา โหนฺติ ภวเนตฺตึ อนุคตา, ตาย ฉินฺนาย ฉินฺนา เยวาติ อตฺโถ.

ยถา ปน ตสฺมิมฺปิ รุกฺเข มณฺฑูกกณฺฏกวิสสมฺผสฺสํ อาคมฺม อนุปุพฺเพน สุสฺสิตฺวา มเต – ‘‘อิมสฺมึ าเน เอวรูโป นาม รุกฺโข อโหสี’’ติ โวหารมตฺตเมว โหติ, น ตํ รุกฺขํ โกจิ ปสฺสติ, เอวํ อริยมคฺคสมฺผสฺสํ อาคมฺม ตณฺหาสิเนหสฺส ปริยาทินฺนตฺตา อนุปุพฺเพน สุสฺสิตฺวา วิย ภินฺเน อิมสฺมึ กาเย, กายสฺส เภทา อุทฺธํ ชีวิตปริยาทานา น ตํ ทกฺขนฺติ, ตถาคตมฺปิ เทวมนุสฺสา น ทกฺขิสฺสนฺติ, เอวรูปสฺส นาม กิร สตฺถุโน อิทํ สาสนนฺติ โวหารมตฺตเมว ภวิสฺสตีติ อนุปาทิเสสนิพฺพานธาตุํ ปาเปตฺวา เทสนํ นิฏฺเปสิ.

๑๔๘. เอวํวุตฺเต อายสฺมา อานนฺโทติ เอวํ ภควตา อิมสฺมึ สุตฺเต วุตฺเต เถโร อาทิโต ปฏฺาย สพฺพํ สุตฺตํ สมนฺนาหริตฺวา เอวํ พุทฺธพลํ ทีเปตฺวา กถิตสุตฺตสฺส น ภควตา นามํ คหิตํ, หนฺทสฺส นามํ คณฺหาเปสฺสามีติ จินฺเตตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ.

ตสฺมาติห ตฺวนฺติอาทีสุ อยมตฺถโยชนา – อานนฺท, ยสฺมา อิมสฺมึ ธมฺมปริยาเย อิธตฺโถปิ ปรตฺโถปิ วิภตฺโต, ตสฺมาติห ตฺวํ อิมํ ธมฺมปริยายํ ‘‘อตฺถชาล’’นฺติปิ นํ ธาเรหิ; ยสฺมา ปเนตฺถ พหู ตนฺติธมฺมา กถิตา, ตสฺมา ‘‘ธมฺมชาล’’นฺติปิ นํ ธาเรหิ; ยสฺมา จ เอตฺถ เสฏฺฏฺเน พฺรหฺมํ สพฺพฺุตฺาณํ วิภตฺตํ, ตสฺมา ‘‘พฺรหฺมชาล’’นฺติปิ นํ ธาเรหิ; ยสฺมา เอตฺถ ทฺวาสฏฺิทิฏฺิโย วิภตฺตา, ตสฺมา ‘‘ทิฏฺิชาล’’นฺติปิ นํ ธาเรหิ; ยสฺมา ปน อิมํ ธมฺมปริยายํ สุตฺวา เทวปุตฺตมารมฺปิ ขนฺธมารมฺปิ มจฺจุมารมฺปิ กิเลสมารมฺปิ สกฺกา มทฺทิตุํ, ตสฺมา ‘‘อนุตฺตโร สงฺคามวิชโยติปิ นํ ธาเรหี’’ติ.

อิทมโวจ ภควาติ อิทํ นิทานาวสานโต ปภุติ ยาว ‘‘อนุตฺตโร สงฺคามวิชโยติปิ นํ ธาเรหี’’ติ สกลํ สุตฺตนฺตํ ภควา ปเรสํ ปฺาย อลพฺภเนยฺยปติฏฺํ ปรมคมฺภีรํ สพฺพฺุตฺาณํ ปกาเสนฺโต สูริโย วิย อนฺธการํ ทิฏฺิคตมหนฺธการํ วิธมนฺโต อโวจ.

๑๔๙. อตฺตมนา เต ภิกฺขูติ เต ภิกฺขู อตฺตมนา สกมนา, พุทฺธคตาย ปีติยา อุทคฺคจิตฺตา หุตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. ภควโต ภาสิตนฺติ เอวํ วิจิตฺรนยเทสนาวิลาสยุตฺตํ อิทํ สุตฺตํ กรวีกรุตมฺชุนา กณฺณสุเขน ปณฺฑิตชนหทยานํ อมตาภิเสกสทิเสน พฺรหฺมสฺสเรน ภาสมานสฺส ภควโต วจนํ. อภินนฺทุนฺติ อนุโมทึสุ เจว สมฺปฏิจฺฉึสุ จ. อยฺหิ อภินนฺทสทฺโท – ‘‘อภินนฺทติ อภิวทตี’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๓.๕) ตณฺหายมฺปิ อาคโต. ‘‘อนฺนเมวาภินนฺทนฺติ, อุภเย เทวมานุสา’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๔๓) อุปคมเนปิ.

‘‘จิรปฺปวาสึ ปุริสํ, ทูรโต โสตฺถิมาคตํ;

าติมิตฺตา สุหชฺชา จ, อภินนฺทนฺติ อาคต’’นฺติ. (ธ. ป. ๒๑๙);

อาทีสุ สมฺปฏิจฺฉเนปิ. ‘‘อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๒๐๕) อนุโมทเนปิ. สฺวายมิธ อนุโมทนสมฺปฏิจฺฉเนสุ ยุชฺชติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อภินนฺทุนฺติ อนุโมทึสุ เจว สมฺปฏิจฺฉึสุ จา’’ติ.

สุภาสิตํ สุลปิตํ, ‘‘สาธุ สาธู’’ติ ตาทิโน;

อนุโมทมานา สิรสา, สมฺปฏิจฺฉึสุ ภิกฺขโวติ.

อิมสฺมิฺจ ปน เวยฺยากรณสฺมินฺติ อิมสฺมึ นิคฺคาถกสุตฺเต. นิคฺคาถกตฺตา หิ อิทํ เวยฺยากรณนฺติ วุตฺตํ.

ทสสหสฺสีโลกธาตูติ ทสสหสฺสจกฺกวาฬปริมาณา โลกธาตุ. อกมฺปิตฺถาติ น สุตฺตปริโยสาเนเยว อกมฺปิตฺถาติ เวทิตพฺพา. ภฺมาเนติ หิ วุตฺตํ. ตสฺมา ทฺวาสฏฺิยา ทิฏฺิคเตสุ วินิเวเตฺวา เทสิยมาเนสุ ตสฺส ตสฺส ทิฏฺิคตสฺส ปริโยสาเน ปริโยสาเนติ ทฺวาสฏฺิยา าเนสุ อกมฺปิตฺถาติ เวทิตพฺพา.

ตตฺถ อฏฺหิ การเณหิ ปถวีกมฺโป เวทิตพฺโพ – ธาตุกฺโขเภน, อิทฺธิมโต อานุภาเวน, โพธิสตฺตสฺส คพฺโภกฺกนฺติยา, มาตุกุจฺฉิโต นิกฺขมเนน, สมฺโพธิปฺปตฺติยา, ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตเนน, อายุสงฺขาโรสฺสชฺชเนน, ปรินิพฺพาเนนาติ. เตสํ วินิจฺฉยํ – ‘‘อฏฺ โข อิเม, อานนฺท, เหตู อฏฺ ปจฺจยา มหโต ภูมิจาลสฺส ปาตุภาวายา’’ติ เอวํ มหาปรินิพฺพาเน อาคตาย ตนฺติยา วณฺณนากาเล วกฺขาม. อยํ ปน มหาปถวี อปเรสุปิ อฏฺสุ าเนสุ อกมฺปิตฺถ – มหาภินิกฺขมเน, โพธิมณฺฑูปสงฺกมเน, ปํสุกูลคฺคหเณ, ปํสุกูลโธวเน, กาฬการามสุตฺเต, โคตมกสุตฺเต, เวสฺสนฺตรชาตเก, อิมสฺมึ พฺรหฺมชาเลติ. ตตฺถ มหาภินิกฺขมนโพธิมณฺฑูปสงฺกมเนสุ วีริยพเลน อกมฺปิตฺถ. ปํสุกูลคฺคหเณ ทฺวิสหสฺสทีปปริวาเร จตฺตาโร มหาทีเป ปหาย ปพฺพชิตฺวา สุสานํ คนฺตฺวา ปํสุกูลํ คณฺหนฺเตน ทุกฺกรํ ภควตา กตนฺติ อจฺฉริยเวคาภิหตา อกมฺปิตฺถ. ปํสุกูลโธวนเวสฺสนฺตรชาตเกสุ อกาลกมฺปเนน อกมฺปิตฺถ. กาฬการามโคตมกสุตฺเตสุ – ‘‘อหํ สกฺขี ภควา’’ติ สกฺขิภาเวน อกมฺปิตฺถ. อิมสฺมึ ปน พฺรหฺมชาเล ทฺวาสฏฺิยา ทิฏฺิคเตสุ วิชเฏตฺวา นิคฺคุมฺพํ กตฺวา เทสิยมาเนสุ สาธุการทานวเสน อกมฺปิตฺถาติ เวทิตพฺพา.

น เกวลฺจ เอเตสุ าเนสุเยว ปถวี อกมฺปิตฺถ, อถ โข ตีสุ สงฺคเหสุปิ มหามหินฺทตฺเถรสฺส อิมํ ทีปํ อาคนฺตฺวา โชติวเน นิสีทิตฺวา ธมฺมํ เทสิตทิวเสปิ อกมฺปิตฺถ. กลฺยาณิยวิหาเร จ ปิณฺฑปาติยตฺเถรสฺส เจติยงฺคณํ สมฺมชฺชิตฺวา ตตฺเถว นิสีทิตฺวา พุทฺธารมฺมณํ ปีตึ คเหตฺวา อิมํ สุตฺตนฺตํ อารทฺธสฺส สุตฺตปริโยสาเน อุทกปริยนฺตํ กตฺวา อกมฺปิตฺถ. โลหปาสาทสฺส ปาจีนอมฺพลฏฺิกฏฺานํ นาม อโหสิ. ตตฺถ นิสีทิตฺวา ทีฆภาณกตฺเถรา พฺรหฺมชาลสุตฺตํ อารภึสุ, เตสํ สชฺฌายปริโยสาเนปิ อุทกปริยนฺตเมว กตฺวา ปถวี อกมฺปิตฺถาติ.

เอวํ ยสฺสานุภาเวน, อกมฺปิตฺถ อเนกโส;

เมทนี สุตฺตเสฏฺสฺส, เทสิตสฺส สยมฺภุนา.

พฺรหฺมชาลสฺส ตสฺสีธ, ธมฺมํ อตฺถฺจ ปณฺฑิตา;

สกฺกจฺจํ อุคฺคเหตฺวาน, ปฏิปชฺชนฺตุ โยนิโสติ.

อิติ สุมงฺคลวิลาสินิยา ทีฆนิกายฏฺกถายํ

พฺรหฺมชาลสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.