📜

๑๓. เตวิชฺชสุตฺตวณฺณนา

๕๑๘. เอวํเม สุตํ…เป… โกสเลสูติ เตวิชฺชสุตฺตํ. ตตฺรายํ อนุตฺตานปทวณฺณนา. มนสากฏนฺติ ตสฺส คามสฺส นามํ. อุตฺตเรน มนสากฏสฺสาติ มนสากฏโต อวิทูเร อุตฺตรปสฺเส. อมฺพวเนติ ตรุณอมฺพรุกฺขสณฺเฑ, รมณีโย กิร โส ภูมิภาโค, เหฏฺา รชตปฏฺฏสทิสา วาลิกา วิปฺปกิณฺณา, อุปริ มณิวิตานํ วิย ฆนสาขาปตฺตํ อมฺพวนํ. ตสฺมึ พุทฺธานํ อนุจฺฉวิเก ปวิเวกสุเข อมฺพวเน วิหรตีติ อตฺโถ.

๕๑๙. อภิฺาตา อภิฺาตาติ กุลจาริตฺตาทิสมฺปตฺติยา ตตฺถ ตตฺถ ปฺาตา. จงฺกีติอาทีนิ เตสํ นามานิ. ตตฺถ จงฺกี โอปาสาทวาสิโก. ตารุกฺโข อิจฺฉานงฺคลวาสิโก. โปกฺขรสาตี อุกฺกฏฺวาสิโก. ชาณุโสณี สาวตฺถิวาสิโก. โตเทยฺโย ตุทิคามวาสิโก. อฺเ จาติ อฺเ จ พหุชนา. อตฺตโน อตฺตโน นิวาสฏฺาเนหิ อาคนฺตฺวา มนฺตสชฺฌายกรณตฺถํ ตตฺถ ปฏิวสนฺติ. มนสากฏสฺส กิร รมณียตาย เต พฺราหฺมณา ตตฺถ นทีตีเร เคหานิ กาเรตฺวา ปริกฺขิปาเปตฺวา อฺเสํ พหูนํ ปเวสนํ นิวาเรตฺวา อนฺตรนฺตรา ตตฺถ คนฺตฺวา วสนฺติ.

๕๒๐-๕๒๑. วาเสฏฺภารทฺวาชานนฺติ วาเสฏฺสฺส จ โปกฺขรสาติโน อนฺเตวาสิกสฺส, ภารทฺวาชสฺส จ ตารุกฺขนฺเตวาสิกสฺส. เอเต กิร ทฺเว ชาติสมฺปนฺนา ติณฺณํ เวทานํ ปารคู อเหสุํ. ชงฺฆวิหารนฺติ อติจิรนิสชฺชปจฺจยา กิลมถวิโนทนตฺถาย ชงฺฆจารํ. เต กิร ทิวสํ สชฺฌายํ กตฺวา สายนฺเห วุฏฺาย นฺหานียสมฺภารคนฺธมาลเตลโธตวตฺถานิ คาหาเปตฺวา อตฺตโน ปริชนปริวุตา นฺหายิตุกามา นทีตีรํ คนฺตฺวา รชตปฏฺฏวณฺเณ วาลิกาสณฺเฑ อปราปรํ จงฺกมึสุ. เอกํ จงฺกมนฺตํ อิตโร อนุจงฺกมิ, ปุน อิตรํ อิตโรติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อนุจงฺกมนฺตานํ อนุวิจรนฺตาน’’นฺติ. มคฺคามคฺเคติ มคฺเค จ อมคฺเค จ. กตมํ นุ โข ปฏิปทํ ปูเรตฺวา กตเมน มคฺเคน สกฺกา สุขํ พฺรหฺมโลกํ คนฺตุนฺติ เอวํ มคฺคามคฺคํ อารพฺภ กถํ สมุฏฺาเปสุนฺติ อตฺโถ. อฺชสายโนติ อุชุมคฺคสฺเสตํ เววจนํ, อฺชสา วา อุชุกเมว เอเตน อายนฺติ อาคจฺฉนฺตีติ อฺชสายโน นิยฺยานิโก นิยฺยาตีติ นิยฺยายนฺโต นิยฺยาติ, คจฺฉนฺโต คจฺฉตีติ อตฺโถ.

ตกฺกรสฺส พฺรหฺมสหพฺยตายาติ โย ตํ มคฺคํ กโรติ ปฏิปชฺชติ, ตสฺส พฺรหฺมุนา สทฺธึ สหภาวาย, เอกฏฺาเน ปาตุภาวาย คจฺฉตีติ อตฺโถ. ยฺวายนฺติ โย อยํ. อกฺขาโตติ กถิโต ทีปิโต. พฺราหฺมเณน โปกฺขรสาตินาติ อตฺตโน อาจริยํ อปทิสติ. อิติ วาเสฏฺโ สกเมว อาจริยวาทํ โถเมตฺวา ปคฺคณฺหิตฺวา วิจรติ. ภารทฺวาโชปิ สกเมวาติ. เตน วุตฺตํ ‘‘เนว โข อสกฺขิ วาเสฏฺโ’’ติอาทิ.

ตโต วาเสฏฺโ ‘‘อุภินฺนมฺปิ อมฺหากํ กถา อนิยฺยานิกาว, อิมสฺมิฺจ โลเก มคฺคกุสโล นาม โภตา โคตเมน สทิโส นตฺถิ, ภวฺจ โคตโม อวิทูเร วสติ, โส โน ตุลํ คเหตฺวา นิสินฺนวาณิโช วิย กงฺขํ ฉินฺทิสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา ตมตฺถํ ภารทฺวาชสฺส อาโรเจตฺวา อุโภปิ คนฺตฺวา อตฺตโน กถํ ภควโต อาโรเจสุํ. เตน วุตฺตํ ‘‘อถ โข วาเสฏฺโ…เป… ยฺวายํ อกฺขาโต พฺราหฺมเณน ตารุกฺเขนา’’ติ.

๕๒๒. เอตฺถ โภ โคตมาติ เอตสฺมึ มคฺคามคฺเค. วิคฺคโห วิวาโทติอาทีสุ ปุพฺพุปฺปตฺติโก วิคฺคโห. อปรภาเค วิวาโท. ทุวิโธปิ เอโส นานาอาจริยานํ วาทโต นานาวาโท.

๕๒๓. อถ กิสฺมึ ปน โวติ ตฺวมฺปิ อยเมว มคฺโคติ อตฺตโน อาจริยวาทเมว ปคฺคยฺห ติฏฺสิ, ภารทฺวาโชปิ อตฺตโน อาจริยวาทเมว, เอกสฺสาปิ เอกสฺมึ สํสโย นตฺถิ. เอวํ สติ กิสฺมึ โว วิคฺคโหติ ปุจฺฉติ.

๕๒๔. มคฺคามคฺเค, โภ โคตมาติ มคฺเค โภ โคตม อมคฺเค จ, อุชุมคฺเค จ อนุชุมคฺเค จาติ อตฺโถ. เอส กิร เอกพฺราหฺมณสฺสาปิ มคฺคํ ‘‘น มคฺโค’’ติ น วทติ. ยถา ปน อตฺตโน อาจริยสฺส มคฺโค อุชุมคฺโค, น เอวํ อฺเสํ อนุชานาติ, ตสฺมา ตเมวตฺถํ ทีเปนฺโต ‘‘กิฺจาปิ โภ โคตมา’’ติอาทิมาห.

สพฺพานิ ตานีติ ลิงฺควิปลฺลาเสน วทติ, สพฺเพ เตติ วุตฺตํ โหติ. พหูนีติ อฏฺ วา ทส วา. นานามคฺคานีติ มหนฺตามหนฺตชงฺฆมคฺคสกฏมคฺคาทิวเสน นานาวิธานิ สามนฺตา คามนทีตฬากเขตฺตาทีหิ อาคนฺตฺวา คามํ ปวิสนมคฺคานิ.

๕๒๕-๕๒๖. ‘‘นิยฺยนฺตีติ วาเสฏฺ วเทสี’’ติ ภควา ติกฺขตฺตุํ วจีเภทํ กตฺวา ปฏิฺํ การาเปสิ. กสฺมา? ติตฺถิยา หิ ปฏิชานิตฺวา ปจฺฉา นิคฺคยฺหมานา อวชานนฺติ. โส ตถา กาตุํ น สกฺขิสฺสตีติ.

๕๒๗-๕๒๙. เตว เตวิชฺชาติ เต เตวิชฺชา. วกาโร อาคมสนฺธิมตฺตํ. อนฺธเวณีติ อนฺธปเวณี, เอเกน จกฺขุมตา คหิตยฏฺิยา โกฏึ เอโก อนฺโธ คณฺหติ, ตํ อนฺธํ อฺโ ตํ อฺโติ เอวํ ปณฺณาสสฏฺิ อนฺธา ปฏิปาฏิยา ฆฏิตา อนฺธเวณีติ วุจฺจติ. ปรมฺปรสํสตฺตาติ อฺมฺํ ลคฺคา, ยฏฺิคาหเกนปิ จกฺขุมตา วิรหิตาติ อตฺโถ. เอโก กิร ธุตฺโต อนฺธคณํ ทิสฺวา ‘‘อสุกสฺมึ นาม คาเม ขชฺชโภชฺชํ สุลภ’’นฺติ อุสฺสาเหตฺวา ‘‘เตน หิ ตตฺถ โน สามิ เนหิ, อิทํ นาม เต เทมา’’ติ วุตฺเต, ลฺชํ คเหตฺวา อนฺตรามคฺเค มคฺคา โอกฺกมฺม มหนฺตํ คจฺฉํ อนุปริคนฺตฺวา ปุริมสฺส หตฺเถน ปจฺฉิมสฺส กจฺฉํ คณฺหาเปตฺวา ‘‘กิฺจิ กมฺมํ อตฺถิ, คจฺฉถ ตาว ตุมฺเห’’ติ วตฺวา ปลายิ, เต ทิวสมฺปิ คนฺตฺวา มคฺคํ อวินฺทมานา ‘‘กุหึ โน จกฺขุมา, กุหึ มคฺโค’’ติ ปริเทวิตฺวา มคฺคํ อวินฺทมานา ตตฺเถว มรึสุ. เต สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘ปรมฺปรสํสตฺตา’’ติ. ปุริโมปีติ ปุริเมสุ ทสสุ พฺราหฺมเณสุ เอโกปิ. มชฺฌิโมปีติ มชฺฌิเมสุ อาจริยปาจริเยสุ เอโกปิ. ปจฺฉิโมปีติ อิทานิ เตวิชฺเชสุ พฺราหฺมเณสุ เอโกปิ. หสฺสกฺเวาติ หสิตพฺพเมว. นามกฺเวาติ ลามกํเยว. ตเทตํ อตฺถาภาเวน ริตฺตกํ, ริตฺตกตฺตาเยว ตุจฺฉกํ. อิทานิ พฺรหฺมโลโก ตาว ติฏฺตุ, โย เตวิชฺเชหิ น ทิฏฺปุพฺโพว. เยปิ จนฺทิมสูริเย เตวิชฺชา ปสฺสนฺติ, เตสมฺปิ สหพฺยตาย มคฺคํ เทเสตุํ นปฺปโหนฺตีติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘ตํ กึ มฺสี’’ติอาทิมาห.

๕๓๐. ตตฺถ ยโต จนฺทิมสูริยา อุคฺคจฺฉนฺตีติ ยสฺมึ กาเล อุคฺคจฺฉนฺติ. ยตฺถ จ โอคฺคจฺฉนฺตีติ ยสฺมึ กาเล อตฺถเมนฺติ, อุคฺคมนกาเล จ อตฺถงฺคมนกาเล จ ปสฺสนฺตีติ อตฺโถ. อายาจนฺตีติ ‘‘อุเทหิ ภวํ จนฺท, อุเทหิ ภวํ สูริยา’’ติ เอวํ อายาจนฺติ. โถมยนฺตีติ ‘‘โสมฺโม จนฺโท, ปริมณฺฑโล จนฺโท, สปฺปโภ จนฺโท’’ติอาทีนิ วทนฺตา ปสํสนฺติ. ปฺชลิกาติ ปคฺคหิตอฺชลิกา. นมสฺสมานาติ ‘‘นโม นโม’’ติ วทมานา.

๕๓๑-๕๓๒. ยํ ปสฺสนฺตีติ เอตฺถ นฺติ นิปาตมตฺตํ. กึ ปน น กิราติ เอตฺถ อิธ ปน กึ วตฺตพฺพํ. ยตฺถ กิร เตวิชฺเชหิ พฺราหฺมเณหิ น พฺรหฺมา สกฺขิทิฏฺโติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

อจิรวตีนทีอุปมากถา

๕๔๒. สมติตฺติกาติ สมภริตา. กากเปยฺยาติ ยตฺถ กตฺถจิ ตีเร ิเตน กาเกน สกฺกา ปาตุนฺติ กากเปยฺยา. ปารํ ตริตุกาโมติ นทึ อติกฺกมิตฺวา ปรตีรํ คนฺตุกาโม. อวฺเหยฺยาติ ปกฺโกเสยฺย. เอหิ ปาราปารนฺติ อมฺโภ ปาร อปารํ เอหิ, อถ มํ สหสาว คเหตฺวา คมิสฺสสิ, อตฺถิ เม อจฺจายิกกมฺมนฺติ อตฺโถ.

๕๔๔. เย ธมฺมา พฺราหฺมณการกาติ เอตฺถ ปฺจสีลทสกุสลกมฺมปถเภทา ธมฺมา พฺราหฺมณการกาติ เวทิตพฺพา , ตพฺพิปรีตา อพฺราหฺมณการกา. อินฺทมวฺหายามาติ อินฺทํ อวฺหายาม ปกฺโกสาม. เอวํ พฺราหฺมณานํ อวฺหายนสฺส นิรตฺถกตํ ทสฺเสตฺวา ปุนปิ ภควา อณฺณวกุจฺฉิยํ สูริโย วิย ชลมาโน ปฺจสตภิกฺขุปริวุโต อจิรวติยา ตีเร นิสินฺโน อปรมฺปิ นทีอุปมํเยว อาหรนฺโต ‘‘เสยฺยถาปี’’ติอาทิมาห.

๕๔๖. กามคุณาติ กามยิตพฺพฏฺเน กามา, พนฺธนฏฺเน คุณา. ‘‘อนุชานามิ ภิกฺขเว, อหตานํ วตฺถานํ ทิคุณํ สงฺฆาฏิ’’นฺติ (มหาว. ๓๔๘) เอตฺถ หิ ปฏลฏฺโ คุณฏฺโ. ‘‘อจฺเจนฺติ กาลา ตรยนฺติ รตฺติโย, วโยคุณา อนุปุพฺพํ ชหนฺตี’’ติ เอตฺถ ราสฏฺโ คุณฏฺโ. ‘‘สตคุณา ทกฺขิณา ปาฏิกงฺขิตพฺพา’’ติ (ม. นิ. ๓.๓๗๙) เอตฺถ อานิสํสฏฺโ คุณฏฺโ. ‘‘อนฺตํ อนฺตคุณํ (ขุ. ปา. ๓.๑) กยิรา มาลาคุเณ พหู’’ติ (ธ. ป. ๕๓) จ เอตฺถ พนฺธนฏฺโ คุณฏฺโ. อิธาปิ เอเสว อธิปฺเปโต. เตน วุตฺตํ ‘‘พนฺธนฏฺเน คุณา’’ติ. จกฺขุวิฺเยฺยาติ จกฺขุวิฺาเณน ปสฺสิตพฺพา. เอเตนุปาเยน โสตวิฺเยฺยาทีสุปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิฏฺาติ ปริยิฏฺา วา โหนฺตุ, มา วา, อิฏฺารมฺมณภูตาติ อตฺโถ. กนฺตาติ กามนียา. มนาปาติ มนวฑฺฒนกา. ปิยรูปาติ ปิยชาติกา. กามูปสฺหิตาติ อารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปชฺชมาเนน กาเมน อุปสฺหิตา. รชนียาติ รฺชนียา, ราคุปฺปตฺติการณภูตาติ อตฺโถ.

คธิตาติ เคเธน อภิภูตา หุตฺวา. มุจฺฉิตาติ มุจฺฉาการปฺปตฺตาย อธิมตฺตกาย ตณฺหาย อภิภูตา. อชฺโฌปนฺนาติ อธิโอปนฺนา โอคาฬฺหา ‘‘อิทํ สาร’’นฺติ ปรินิฏฺานปฺปตฺตา หุตฺวา. อนาทีนวทสฺสาวิโนติ อาทีนวํ อปสฺสนฺตา. อนิสฺสรณปฺาติ อิทเมตฺถ นิสฺสรณนฺติ, เอวํ ปริชานนปฺาวิรหิตา, ปจฺจเวกฺขณปริโภควิรหิตาติ อตฺโถ.

๕๔๘. อาวรณาติอาทีสุ อาวรนฺตีติ อาวรณา. นิวาเรนฺตีติ นีวรณา. โอนนฺธนฺตีติ โอนาหนา. ปริโยนนฺธนฺตีติ ปริโยนาหนา. กามจฺฉนฺทาทีนํ วิตฺถารกถา วิสุทฺธิมคฺคโต คเหตพฺพา.

๕๔๙-๕๕๐. อาวุตา นิวุตา โอนทฺธา ปริโยนทฺธาติ ปทานิ อาวรณาทีนํ วเสน วุตฺตานิ. สปริคฺคโหติ อิตฺถิปริคฺคเหน สปริคฺคโหติ ปุจฺฉติ. อปริคฺคโห โภ โคตมาติอาทีสุปิ กามจฺฉนฺทสฺส อภาวโต อิตฺถิปริคฺคเหน อปริคฺคโห. พฺยาปาทสฺส อภาวโต เกนจิ สทฺธึ เวรจิตฺเตน อเวโร. ถินมิทฺธสฺส อภาวโต จิตฺตเคลฺสงฺขาเตน พฺยาปชฺเชน อพฺยาปชฺโช. อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจาภาวโต อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจาทีหิ สํกิเลเสหิ อสํกิลิฏฺจิตฺโต สุปริสุทฺธมานโส. วิจิกิจฺฉาย อภาวโต จิตฺตํ วเส วตฺเตติ. ยถา จ พฺราหฺมณา จิตฺตคติกา โหนฺตีติ, จิตฺตสฺส วเสน วตฺตนฺติ, น ตาทิโสติ วสวตฺตี.

๕๕๒. อิธโข ปนาติ อิธ พฺรหฺมโลกมคฺเค. อาสีทิตฺวาติ อมคฺคเมว ‘‘มคฺโค’’ติ อุปคนฺตฺวา. สํสีทนฺตีติ ‘‘สมตล’’นฺติ สฺาย ปงฺกํ โอติณฺณา วิย อนุปฺปวิสนฺติ. สํสีทิตฺวา วิสารํ ปาปุณนฺตีติ เอวํ ปงฺเก วิย สํสีทิตฺวา วิสารํ องฺคมงฺคสํภฺชนํ ปาปุณนฺติ. สุกฺขตรํ มฺเ ตรนฺตีติ มรีจิกาย วฺเจตฺวา ‘‘กากเปยฺยา นที’’ติ สฺาย ‘‘ตริสฺสามา’’ติ หตฺเถหิ จ ปาเทหิ จ วายมมานา สุกฺขตรณํ มฺเ ตรนฺติ. ตสฺมา ยถา หตฺถปาทาทีนํ สํภฺชนํ ปริภฺชนํ, เอวํ อปาเยสุ สํภฺชนํ ปริภฺชนํ ปาปุณนฺติ. อิเธว จ สุขํ วา สาตํ วา น ลภนฺติ. ตสฺมา อิทํ เตวิชฺชานํ พฺราหฺมณานนฺติ ตสฺมา อิทํ พฺรหฺมสหพฺยตาย มคฺคทีปกํ เตวิชฺชกํ ปาวจนํ เตวิชฺชานํ พฺราหฺมณานํ. เตวิชฺชาอิริณนฺติ เตวิชฺชาอรฺํ อิริณนฺติ หิ อคามกํ มหาอรฺํ วุจฺจติ. เตวิชฺชาวิวนนฺติ ปุปฺผผเลหิ อปริโภครุกฺเขหิ สฺฉนฺนํ นิรุทกํ อรฺํ . ยตฺถ มคฺคโต อุกฺกมิตฺวา ปริวตฺติตุมฺปิ น สกฺกา โหนฺติ, ตํ สนฺธายาห ‘‘เตวิชฺชาวิวนนฺติปิ วุจฺจตี’’ติ. เตวิชฺชาพฺยสนนฺติ เตวิชฺชานํ ปฺจวิธพฺยสนสทิสเมตํ. ยถา หิ าติโรคโภค ทิฏฺิ สีลพฺยสนปฺปตฺตสฺส สุขํ นาม นตฺถิ, เอวํ เตวิชฺชานํ เตวิชฺชกํ ปาวจนํ อาคมฺม สุขํ นาม นตฺถีติ ทสฺเสติ.

๕๕๔. ชาตสํวฑฺโฒติ ชาโต จ วฑฺฒิโต จ, โย หิ เกวลํ ตตฺถ ชาโตว โหติ, อฺตฺถ วฑฺฒิโต, ตสฺส สมนฺตา คามมคฺคา น สพฺพโส ปจฺจกฺขา โหนฺติ, ตสฺมา ชาตสํวฑฺโฒติ อาห. ชาตสํวฑฺโฒปิ โย จิรนิกฺขนฺโต, ตสฺส น สพฺพโส ปจฺจกฺขา โหนฺติ. ตสฺมา ‘‘ตาวเทว อวสฏ’’นฺติ อาห, ตงฺขณเมว นิกฺขนฺตนฺติ อตฺโถ. ทนฺธายิตตฺตนฺติ อยํ นุ โข มคฺโค, อยํ น นุโขติ กงฺขาวเสน จิรายิตตฺตํ. วิตฺถายิตตฺตนฺติ ยถา สุขุมํ อตฺถชาตํ สหสา ปุจฺฉิตสฺส กสฺสจิ สรีรํ ถทฺธภาวํ คณฺหาติ, เอวํ ถทฺธภาวคฺคหณํ. น ตฺเววาติ อิมินา สพฺพฺุตฺาณสฺส อปฺปฏิหตภาวํ ทสฺเสติ. ตสฺส หิ ปุริสสฺส มาราวฏฺฏนาทิวเสน สิยา าณสฺส ปฏิฆาโต. เตน โส ทนฺธาเยยฺย วา วิตฺถาเยยฺย วา. สพฺพฺุตฺาณํ ปน อปฺปฏิหตํ, น สกฺกา ตสฺส เกนจิ อนฺตราโย กาตุนฺติ ทีเปติ.

๕๕๕. อุลฺลุมฺปตุ ภวํ โคตโมติ อุทฺธรตุ ภวํ โคตโม. พฺราหฺมณึ ปชนฺติ พฺราหฺมณทารกํ, ภวํ โคตโม มม พฺราหฺมณปุตฺตํ อปายมคฺคโต อุทฺธริตฺวา พฺรหฺมโลกมคฺเค ปติฏฺเปตูติ อตฺโถ. อถสฺส ภควา พุทฺธุปฺปาทํ ทสฺเสตฺวา สทฺธึ ปุพฺพภาคปฏิปทาย เมตฺตาวิหาราทิพฺรหฺมโลกคามิมคฺคํ เทเสตุกาโม ‘‘เตน หิ วาเสฏฺา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ‘‘อิธ ตถาคโต’’ติอาทิ สามฺผเล วิตฺถาริตํ. เมตฺตาสหคเตนาติอาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ สพฺพํ วิสุทฺธิมคฺเค พฺรหฺมวิหารกมฺมฏฺานกถายํ วุตฺตํ. เสยฺยถาปิ วาเสฏฺ พลวา สงฺขธโมติอาทิ ปน อิธ อปุพฺพํ. ตตฺถ พลวาติ พลสมฺปนฺโน. สงฺขธโมติ สงฺขธมโก. อปฺปกสิเรนาติ อกิจฺเฉน อทุกฺเขน. ทุพฺพโล หิ สงฺขธโม สงฺขํ ธมนฺโตปิ น สกฺโกติ จตสฺโส ทิสา สเรน วิฺาเปตุํ, นาสฺส สงฺขสทฺโท สพฺพโต ผรติ. พลวโต ปน วิปฺผาริโก โหติ, ตสฺมา ‘‘พลวา’’ติอาทิมาห. เมตฺตาย เจโตวิมุตฺติยาติ เอตฺถ เมตฺตาติ วุตฺเต อุปจาโรปิ อปฺปนาปิ วฏฺฏติ, ‘‘เจตฺโตวิมุตฺตี’’ติ วุตฺเต ปน อปฺปนาว วฏฺฏติ. ยํ ปมาณกตํ กมฺมนฺติ ปมาณกตํ กมฺมํ นาม กามาวจรํ วุจฺจติ. อปฺปมาณกตํ กมฺมํ นาม รูปารูปาวจรํ. ตฺหิ ปมาณํ อติกฺกมิตฺวา โอทิสฺสกอโนทิสฺสกทิสาผรณวเสน วฑฺเฒตฺวา กตตฺตา อปฺปมาณกตนฺติ วุจฺจติ. น ตํ ตตฺราวสิสฺสติ น ตํ ตตฺราวติฏฺตีติ ตํ กามาวจรกมฺมํ ตสฺมึ รูปาวจรารูปาวจรกมฺเม น โอหียติ, น ติฏฺติ. กึ วุตฺตํ โหติ – ตํ กามาวจรกมฺมํ ตสฺส รูปารูปาวจรกมฺมสฺส อนฺตรา ลคฺคิตุํ วา าตุํ วา รูปารูปาวจรกมฺมํ ผริตฺวา ปริยาทิยิตฺวา อตฺตโน โอกาสํ คเหตฺวา ปติฏฺาตุํ น สกฺโกติ. อถ โข รูปาวจรารูปาวจรกมฺมเมว กามาวจรํ มโหโฆ วิย ปริตฺตํ อุทกํ ผริตฺวา ปริยาทิยิตฺวา อตฺตโน โอกาสํ คเหตฺวา ติฏฺติ. ตสฺส วิปากํ ปฏิพาหิตฺวา สยเมว พฺรหฺมสหพฺยตํ อุปเนตีติ. เอวํวิหารีติ เอวํ เมตฺตาทิวิหารี.

๕๕๙. เอเตมยํ ภวนฺตํ โคตมนฺติ อิทํ เตสํ ทุติยํ สรณคมนํ. ปมเมว เหเต มชฺฌิมปณฺณาสเก วาเสฏฺสุตฺตํ สุตฺวา สรณํ คตา, อิมํ ปน เตวิชฺชสุตฺตํ สุตฺวา ทุติยมฺปิ สรณํ คตา. กติปาหจฺจเยน ปพฺพชิตฺวา อคฺคฺสุตฺเต อุปสมฺปทฺเจว อรหตฺตฺจ อลตฺถุํ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

อิติ สุมงฺคลวิลาสินิยา ทีฆนิกายฏฺกถายํ

เตวิชฺชสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

นิฏฺิตา จ เตรสสุตฺตปฏิมณฺฑิตสฺส สีลกฺขนฺธวคฺคสฺส

อตฺถวณฺณนาติ.

สีลกฺขนฺธวคฺคฏฺกถา นิฏฺิตา.