📜

๒. สามฺผลสุตฺตวณฺณนา

ราชามจฺจกถาวณฺณนา

๑๕๐. เอวํเม สุตํ…เป… ราชคเหติ สามฺผลสุตฺตํ. ตตฺรายํ อปุพฺพปทวณฺณนา – ราชคเหติ เอวํนามเก นคเร. ตฺหิ มนฺธาตุมหาโควินฺทาทีหิ ปริคฺคหิตตฺตา ราชคหนฺติ วุจฺจติ. อฺเปิ เอตฺถ ปกาเร วณฺณยนฺติ, กึ เตหิ? นามมตฺตเมตํ ตสฺส นครสฺส. ตํ ปเนตํ พุทฺธกาเล จ จกฺกวตฺติกาเล จ นครํ โหติ, เสสกาเล สุฺํ โหติ ยกฺขปริคฺคหิตํ, เตสํ วสนวนํ หุตฺวา ติฏฺติ. วิหรตีติ อวิเสเสน อิริยาปถทิพฺพพฺรหฺมอริยวิหาเรสุ อฺตรวิหารสมงฺคิปริทีปนเมตํ. อิธ ปน านคมนนิสชฺชสยนปฺปเภเทสุ อิริยาปเถสุ อฺตรอิริยาปถสมาโยคปริทีปนํ. เตน ิโตปิ คจฺฉนฺโตปิ นิสินฺโนปิ สยาโนปิ ภควา วิหรติ เจว เวทิตพฺโพ. โส หิ เอกํ อิริยาปถพาธนํ อฺเน อิริยาปเถน วิจฺฉินฺทิตฺวา อปริปตนฺตํ อตฺตภาวํ หรติ ปวตฺเตติ, ตสฺมา วิหรตีติ วุจฺจติ.

ชีวกสฺส โกมารภจฺจสฺส อมฺพวเนติ อิทมสฺส ยํ โคจรคามํ อุปนิสฺสาย วิหรติ, ตสฺส สมีปนิวาสนฏฺานปริทีปนํ. ตสฺมา – ราชคเห วิหรติ ชีวกสฺส โกมารภจฺจสฺส อมฺพวเนติ ราชคหสมีเป ชีวกสฺส โกมารภจฺจสฺส อมฺพวเน วิหรตีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. สมีปตฺเถ เหตํ ภุมฺมวจนํ. ตตฺถ ชีวตีติ ชีวโก, กุมาเรน ภโตติ โกมารภจฺโจ. ยถาห – ‘‘กึ ภเณ, เอตํ กาเกหิ สมฺปริกิณฺณนฺติ? ทารโก เทวาติ. ชีวติ ภเณติ? ชีวติ, เทวาติ. เตน หิ, ภเณ ตํ ทารกํ อมฺหากํ อนฺเตปุรํ เนตฺวา ธาตีนํ เทถ โปเสตุนฺติ. ตสฺส ชีวตีติ ชีวโกติ นามํ อกํสุ. กุมาเรน โปสาปิโตติ โกมารภจฺโจติ นามํ อกํสู’’ติ (มหาว. ๓๒๘) อยํ ปเนตฺถ สงฺเขโป. วิตฺถาเรน ปน ชีวกวตฺถุขนฺธเก อาคตเมว. วินิจฺฉยกถาปิสฺส สมนฺตปาสาทิกาย วินยฏฺกถายํ วุตฺตา.

อยํ ปน ชีวโก เอกสฺมึ สมเย ภควโต โทสาภิสนฺนํ กายํ วิเรเจตฺวา สิเวยฺยกํ ทุสฺสยุคํ ทตฺวา วตฺถานุโมทนาปริโยสาเน โสตาปตฺติผเล ปติฏฺาย จินฺเตสิ – ‘‘มยา ทิวสสฺส ทฺวตฺติกฺขตฺตุํ พุทฺธุปฏฺานํ คนฺตพฺพํ, อิทฺจ เวฬุวนํ อติทูเร, มยฺหํ ปน อมฺพวนํ อุยฺยานํ อาสนฺนตรํ, ยํนูนาหํ เอตฺถ ภควโต วิหารํ กาเรยฺย’’นฺติ. โส ตสฺมึ อมฺพวเน รตฺติฏฺานทิวาานเลณกุฏิมณฺฑปาทีนิ สมฺปาเทตฺวา ภควโต อนุจฺฉวิกํ คนฺธกุฏึ การาเปตฺวา อมฺพวนํ อฏฺารสหตฺถุพฺเพเธน ตมฺพปฏฺฏวณฺเณน ปากาเรน ปริกฺขิปาเปตฺวา พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ สจีวรภตฺเตน สนฺตปฺเปตฺวา ทกฺขิโณทกํ ปาเตตฺวา วิหารํ นิยฺยาเตสิ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘ชีวกสฺส โกมารภจฺจสฺส อมฺพวเน’’ติ.

อฑฺฒเตฬเสหิ ภิกฺขุสเตหีติ อฑฺฒสเตน อูเนหิ เตรสหิ ภิกฺขุสเตหิ. ราชาติอาทีสุ ราชติ อตฺตโน อิสฺสริยสมฺปตฺติยา จตูหิ สงฺคหวตฺถูหิ มหาชนํ รฺเชติ วฑฺเฒตีติ ราชา. มคธานํ อิสฺสโรติ มาคโธ. อชาโตเยว รฺโ สตฺตุ ภวิสฺสตีติ เนมิตฺตเกหิ นิทฺทิฏฺโติ อชาตสตฺตุ.

ตสฺมึ กิร กุจฺฉิคเต เทวิยา เอวรูโป โทหโฬ อุปฺปชฺชิ – ‘‘อโห วตาหํ รฺโ ทกฺขิณพาหุโลหิตํ ปิเวยฺย’’นฺติ, สา ‘‘ภาริเย าเน โทหโฬ อุปฺปนฺโน, น สกฺกา กสฺสจิ อาโรเจตุ’’นฺติ ตํ กเถตุํ อสกฺโกนฺตี กิสา ทุพฺพณฺณา อโหสิ. ตํ ราชา ปุจฺฉิ – ‘‘ภทฺเท, ตุยฺหํ อตฺตภาโว น ปกติวณฺโณ, กึ การณ’’นฺติ? ‘‘มา ปุจฺฉ, มหาราชาติ’’. ‘‘ภทฺเท, ตฺวํ อตฺตโน อชฺฌาสยํ มยฺหํ อกเถนฺตี กสฺส กเถสฺสสี’’ติ ตถา ตถา นิพนฺธิตฺวา กถาเปสิ. สุตฺวา จ – ‘‘พาเล, กึ เอตฺถ ตุยฺหํ ภาริยสฺา อโหสี’’ติ เวชฺชํ ปกฺโกสาเปตฺวา สุวณฺณสตฺถเกน พาหุํ ผาลาเปตฺวา สุวณฺณสรเกน โลหิตํ คเหตฺวา อุทเกน สมฺภินฺทิตฺวา ปาเยสิ. เนมิตฺตกา ตํ สุตฺวา – ‘‘เอส คพฺโภ รฺโ สตฺตุ ภวิสฺสติ, อิมินา ราชา หฺิสฺสตี’’ติ พฺยากรึสุ. เทวี สุตฺวา – ‘‘มยฺหํ กิร กุจฺฉิโต นิกฺขนฺโต ราชานํ มาเรสฺสตี’’ติ คพฺภํ ปาเตตุกามา อุยฺยานํ คนฺตฺวา กุจฺฉึ มทฺทาเปสิ, คพฺโภ น ปตติ. สา ปุนปฺปุนํ คนฺตฺวา ตเถว กาเรสิ. ราชา กิมตฺถํ อยํ อภิณฺหํ อุยฺยานํ คจฺฉตีติ ปริวีมํสนฺโต ตํ การณํ สุตฺวา – ‘‘ภทฺเท, ตว กุจฺฉิยํ ปุตฺโตติ วา ธีตาติ วา น ปฺายติ, อตฺตโน นิพฺพตฺตทารกํ เอวมกาสีติ มหา อคุณราสิปิ โน ชมฺพุทีปตเล อาวิภวิสฺสติ, มา ตฺวํ เอวํ กโรหี’’ติ นิวาเรตฺวา อารกฺขํ อทาสิ. สา คพฺภวุฏฺานกาเล ‘‘มาเรสฺสามี’’ติ จินฺเตสิ. ตทาปิ อารกฺขมนุสฺสา ทารกํ อปนยึสุ. อถาปเรน สมเยน วุฑฺฒิปฺปตฺตํ กุมารํ เทวิยา ทสฺเสสุํ. สา ตํ ทิสฺวาว ปุตฺตสิเนหํ อุปฺปาเทสิ, เตน นํ มาเรตุํ นาสกฺขิ. ราชาปิ อนุกฺกเมน ปุตฺตสฺส โอปรชฺชมทาสิ.

อเถกสฺมึ สมเย เทวทตฺโต รโหคโต จินฺเตสิ – ‘‘สาริปุตฺตสฺส ปริสา มหาโมคฺคลฺลานสฺส ปริสา มหากสฺสปสฺส ปริสาติ, เอวมิเม วิสุํ วิสุํ ธุรา, อหมฺปิ เอกํ ธุรํ นีหรามี’’ติ. โส ‘‘น สกฺกา วินา ลาเภน ปริสํ อุปฺปาเทตุํ, หนฺทาหํ ลาภํ นิพฺพตฺเตมี’’ติ จินฺเตตฺวา ขนฺธเก อาคตนเยน อชาตสตฺตุํ กุมารํ อิทฺธิปาฏิหาริเยน ปสาเทตฺวา สายํ ปาตํ ปฺจหิ รถสเตหิ อุปฏฺานํ อาคจฺฉนฺตํ อติวิสฺสตฺถํ ตฺวา เอกทิวสํ อุปสงฺกมิตฺวา เอตทโวจ – ‘‘ปุพฺเพ โข, กุมาร, มนุสฺสา ทีฆายุกา, เอตรหิ อปฺปายุกา, เตน หิ ตฺวํ กุมาร, ปิตรํ หนฺตฺวา ราชา โหหิ, อหํ ภควนฺตํ หนฺตฺวา พุทฺโธ ภวิสฺสามี’’ติ กุมารํ ปิตุวเธ อุยฺโยเชติ.

โส – ‘‘อยฺโย เทวทตฺโต มหานุภาโว, เอตสฺส อวิทิตํ นาม นตฺถี’’ติ อูรุยา โปตฺถนิยํ พนฺธิตฺวา ทิวา ทิวสฺส ภีโต อุพฺพิคฺโค อุสฺสงฺกี อุตฺรสฺโต อนฺเตปุรํ ปวิสิตฺวา วุตฺตปฺปการํ วิปฺปการํ อกาสิ. อถ นํ อมจฺจา คเหตฺวา อนุยุฺชิตฺวา – ‘‘กุมาโร จ หนฺตพฺโพ, เทวทตฺโต จ, สพฺเพ จ ภิกฺขู หนฺตพฺพา’’ติ สมฺมนฺตยิตฺวา รฺโ อาณาวเสน กริสฺสามาติ รฺโ อาโรเจสุํ.

ราชา เย อมจฺจา มาเรตุกามา อเหสุํ, เตสํ านนฺตรานิ อจฺฉินฺทิตฺวา, เย น มาเรตุกามา, เต อุจฺเจสุ าเนสุ เปตฺวา กุมารํ ปุจฺฉิ – ‘‘กิสฺส ปน ตฺวํ, กุมาร, มํ มาเรตุกาโมสี’’ติ? ‘‘รชฺเชนมฺหิ, เทว, อตฺถิโก’’ติ. ราชา ตสฺส รชฺชํ อทาสิ.

โส มยฺหํ มโนรโถ นิปฺผนฺโนติ เทวทตฺตสฺส อาโรเจสิ. ตโต นํ โส อาห – ‘‘ตฺวํ สิงฺคาลํ อนฺโตกตฺวา เภริปริโยนทฺธปุริโส วิย สุกิจฺจการิมฺหีติ มฺสิ, กติปาเหเนว เต ปิตา ตยา กตํ อวมานํ จินฺเตตฺวา สยเมว ราชา ภวิสฺสตี’’ติ. อถ, ภนฺเต, กึ กโรมีติ? มูลฆจฺจํ ฆาเตหีติ. นนุ, ภนฺเต, มยฺหํ ปิตา น สตฺถวชฺโฌติ? อาหารุปจฺเฉเทน นํ มาเรหีติ. โส ปิตรํ ตาปนเคเห ปกฺขิปาเปสิ, ตาปนเคหํ นาม กมฺมกรณตฺถาย กตํ ธูมฆรํ. ‘‘มม มาตรํ เปตฺวา อฺสฺส ทฏฺุํ มา เทถา’’ติ อาห. เทวี สุวณฺณสรเก ภตฺตํ ปกฺขิปิตฺวา อุจฺฉงฺเคนาทาย ปวิสติ. ราชา ตํ ภุฺชิตฺวา ยาเปติ. โส – ‘‘มยฺหํ ปิตา กถํ ยาเปตี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา – ‘‘มยฺหํ มาตุ อุจฺฉงฺคํ กตฺวา ปวิสิตุํ มา เทถา’’ติ อาห. ตโต ปฏฺาย เทวี โมฬิยํ ปกฺขิปิตฺวา ปวิสติ. ตมฺปิ สุตฺวา ‘‘โมฬึ พนฺธิตฺวา ปวิสิตุํ มา เทถา’’ติ. ตโต สุวณฺณปาทุกาสุ ภตฺตํ เปตฺวา ปิทหิตฺวา ปาทุกา อารุยฺห ปวิสติ. ราชา เตน ยาเปติ. ปุน ‘‘กถํ ยาเปตี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ตมตฺถํ สุตฺวา ‘‘ปาทุกา อารุยฺห ปวิสิตุมฺปิ มา เทถา’’ติ อาห. ตโต ปฏฺาย เทวี คนฺโธทเกน นฺหายิตฺวา สรีรํ จตุมธุเรน มกฺเขตฺวา ปารุปิตฺวา ปวิสติ. ราชา ตสฺสา สรีรํ เลหิตฺวา ยาเปติ. ปุน ปุจฺฉิตฺวา ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา ‘‘อิโต ปฏฺาย มยฺหํ มาตุ ปเวสนํ นิวาเรถา’’ติ อาห. เทวี ทฺวารมูเล ตฺวา ‘‘สามิ, พิมฺพิสาร, เอตํ ทหรกาเล มาเรตุํ น อทาสิ, อตฺตโน สตฺตุํ อตฺตนาว โปเสสิ, อิทํ ปน ทานิ เต ปจฺฉิมทสฺสนํ, นาหํ อิโต ปฏฺาย ตุมฺเห ปสฺสิตุํ ลภามิ, สเจ มยฺหํ โทโส อตฺถิ, ขมถ เทวา’’ติ โรทิตฺวา กนฺทิตฺวา นิวตฺติ.

ตโต ปฏฺาย รฺโ อาหาโร นตฺถิ. ราชา มคฺคผลสุเขน จงฺกเมน ยาเปติ. อติวิย อสฺส อตฺตภาโว วิโรจติ. โส – ‘‘กถํ, เม ภเณ, ปิตา ยาเปตี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘จงฺกเมน, เทว, ยาเปติ; อติวิย จสฺส อตฺตภาโว วิโรจตี’’ติ สุตฺวา ‘จงฺกมํ ทานิสฺส หาเรสฺสามี’ติ จินฺเตตฺวา – ‘‘มยฺหํ ปิตุ ปาเท ขุเรน ผาเลตฺวา โลณเตเลน มกฺเขตฺวา ขทิรงฺคาเรหิ วีตจฺจิเตหิ ปจถา’’ติ นฺหาปิเต เปเสสิ. ราชา เต ทิสฺวา – ‘‘นูน มยฺหํ ปุตฺโต เกนจิ สฺตฺโต ภวิสฺสติ, อิเม มม มสฺสุกรณตฺถายาคตา’’ติ จินฺเตสิ. เต คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา อฏฺํสุ. ‘กสฺมา อาคตตฺถา’ติ จ ปุฏฺา ตํ สาสนํ อาโรเจสุํ. ‘‘ตุมฺหากํ รฺโ มนํ กโรถา’’ติ จ วุตฺตา ‘นิสีท, เทวา’ติ วตฺวา จ ราชานํ วนฺทิตฺวา – ‘‘เทว, มยํ รฺโ อาณํ กโรม, มา อมฺหากํ กุชฺฌิตฺถ, นยิทํ ตุมฺหาทิสานํ ธมฺมราชูนํ อนุจฺฉวิก’’นฺติ วตฺวา วามหตฺเถน โคปฺผเก คเหตฺวา ทกฺขิณหตฺเถน ขุรํ คเหตฺวา ปาทตลานิ ผาเลตฺวา โลณเตเลน มกฺเขตฺวา ขทิรงฺคาเรหิ วีตจฺจิเตหิ ปจึสุ. ราชา กิร ปุพฺเพ เจติยงฺคเณ สอุปาหโน อคมาสิ, นิสชฺชนตฺถาย ปฺตฺตกฏสารกฺจ อโธเตหิ ปาเทหิ อกฺกมิ, ตสฺสายํ นิสฺสนฺโทติ วทนฺติ. รฺโ พลวเวทนา อุปฺปนฺนา. โส – ‘‘อโห พุทฺโธ, อโห ธมฺโม, อโห สงฺโฆ’’ติ อนุสฺสรนฺโตเยว เจติยงฺคเณ ขิตฺตมาลา วิย มิลายิตฺวา จาตุมหาราชิกเทวโลเก เวสฺสวณสฺส ปริจารโก ชนวสโภ นาม ยกฺโข หุตฺวา นิพฺพตฺติ.

ตํ ทิวสเมว อชาตสตฺตุสฺส ปุตฺโต ชาโต, ปุตฺตสฺส ชาตภาวฺจ ปิตุมตภาวฺจ นิเวเทตุํ ทฺเว เลขา เอกกฺขเณเยว อาคตา. อมจฺจา – ‘‘ปมํ ปุตฺตสฺส ชาตภาวํ อาโรเจสฺสามา’’ติ ตํ เลขํ รฺโ หตฺเถ เปสุํ. รฺโ ตงฺขเณเยว ปุตฺตสิเนโห อุปฺปชฺชิตฺวา สกลสรีรํ โขเภตฺวา อฏฺิมิฺชํ อาหจฺจ อฏฺาสิ. ตสฺมึ ขเณ ปิตุคุณมฺาสิ – ‘‘มยิ ชาเตปิ มยฺหํ ปิตุ เอวเมว สิเนโห อุปฺปนฺโน’’ติ. โส – ‘‘คจฺฉถ, ภเณ, มยฺหํ ปิตรํ วิสฺสชฺเชถา’’ติ อาห. ‘‘กึ วิสฺสชฺชาเปถ, เทวา’’ติ อิตรํ เลขํ หตฺเถ ปยึสุ.

โส ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา โรทมาโน มาตุสมีปํ คนฺตฺวา – ‘‘อโหสิ นุ, โข, อมฺม, มยฺหํ ปิตุ มยิ ชาเต สิเนโห’’ติ? สา อาห – ‘‘พาลปุตฺต, กึ วเทสิ, ตว ทหรกาเล องฺคุลิยา ปีฬกา อุฏฺหิ. อถ ตํ โรทมานํ สฺาเปตุํ อสกฺโกนฺตา ตํ คเหตฺวา วินิจฺฉยฏฺาเน นิสินฺนสฺส ตว ปิตุ สนฺติกํ อคมํสุ. ปิตา เต องฺคุลึ มุเข เปสิ. ปีฬกา มุเขเยว ภิชฺชิ. อถ โข ปิตา ตว สิเนเหน ตํ โลหิตมิสฺสกํ ปุพฺพํ อนิฏฺุภิตฺวาว อชฺโฌหริ. เอวรูโป เต ปิตุ สิเนโห’’ติ. โส โรทิตฺวา ปริเทวิตฺวา ปิตุ สรีรกิจฺจํ อกาสิ.

เทวทตฺโตปิ อชาตสตฺตุํ อุปสงฺกมิตฺวา – ‘‘ปุริเส, มหาราช, อาณาเปหิ, เย สมณํ โคตมํ ชีวิตา โวโรเปสฺสนฺตี’’ติ วตฺวา เตน ทินฺเน ปุริเส เปเสตฺวา สยํ คิชฺฌกูฏํ อารุยฺห ยนฺเตน สิลํ ปวิชฺฌิตฺวา นาฬาคิริหตฺถึ มุฺจาเปตฺวาปิ เกนจิ อุปาเยน ภควนฺตํ มาเรตุํ อสกฺโกนฺโต ปริหีนลาภสกฺกาโร ปฺจ วตฺถูนิ ยาจิตฺวา ตานิ อลภมาโน เตหิ ชนํ สฺาเปสฺสามีติ สงฺฆเภทํ กตฺวา สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเนสุ ปริสํ อาทาย ปกฺกนฺเตสุ อุณฺหโลหิตํ มุเขน ฉฑฺเฑตฺวา นวมาเส คิลานมฺเจ นิปชฺชิตฺวา วิปฺปฏิสารชาโต – ‘‘กุหึ เอตรหิ สตฺถา วสตี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘เชตวเน’’ติ วุตฺเต มฺจเกน มํ อาหริตฺวา สตฺถารํ ทสฺเสถาติ วตฺวา อาหริยมาโน ภควโต ทสฺสนารหสฺส กมฺมสฺส อกตตฺตา เชตวเน โปกฺขรณีสมีเปเยว ทฺเวธา ภินฺนํ ปถวึ ปวิสิตฺวา มหานิรเย ปติฏฺิโตติ. อยเมตฺถ สงฺเขโป. วิตฺถารกถานโย ขนฺธเก อาคโต. อาคตตฺตา ปน สพฺพํ น วุตฺตนฺติ. เอวํ อชาโตเยว รฺโ สตฺตุ ภวิสฺสตีติ เนมิตฺตเกหิ นิทฺทิฏฺโติ อชาตสตฺตุ.

เวเทหิปุตฺโตติ อยํ โกสลรฺโ ธีตาย ปุตฺโต, น วิเทหรฺโ. เวเทหีติ ปน ปณฺฑิตาธิวจนเมตํ. ยถาห – ‘‘เวเทหิกา คหปตานี (ม. นิ. ๑.๒๒๖), อยฺโย อานนฺโท เวเทหมุนี’’ติ (สํ. นิ. ๒.๑๕๔). ตตฺรายํ วจนตฺโถ – วิทนฺติ เอเตนาติ เวโท, าณสฺเสตํ อธิวจนํ. เวเทน อีหติ ฆฏติ วายมตีติ เวเทหี. เวเทหิยา ปุตฺโต เวเทหิปุตฺโต.

ตทหูติ ตสฺมึ อหุ, ตสฺมึ ทิวเสติ อตฺโถ. อุปวสนฺติ เอตฺถาติ อุโปสโถ, อุปวสนฺตีติ สีเลน วา อนสเนน วา อุเปตา หุตฺวา วสนฺตีติ อตฺโถ. อยํ ปเนตฺถ อตฺถุทฺธาโร – ‘‘อายามาวุโส, กปฺปิน, อุโปสถํ คมิสฺสามา’’ติอาทีสุ ปาติโมกฺขุทฺเทโส อุโปสโถ. ‘‘เอวํ อฏฺงฺคสมนฺนาคโต โข, วิสาเข, อุโปสโถ อุปวุตฺโถ’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๘.๔๓) สีลํ. ‘‘สุทฺธสฺส เว สทา ผคฺคุ, สุทฺธสฺสุโปสโถ สทา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๗๙) อุปวาโส. ‘‘อุโปสโถ นาม นาคราชา’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๒๔๖) ปฺตฺติ . ‘‘น, ภิกฺขเว, ตทหุโปสเถ สภิกฺขุกา อาวาสา’’ติอาทีสุ (มหาว. ๑๘๑) อุปวสิตพฺพทิวโส. อิธาปิ โสเยว อธิปฺเปโต. โส ปเนส อฏฺมี จาตุทฺทสี ปนฺนรสีเภเทน ติวิโธ. ตสฺมา เสสทฺวยนิวารณตฺถํ ปนฺนรเสติ วุตฺตํ. เตเนว วุตฺตํ – ‘‘อุปวสนฺติ เอตฺถาติ อุโปสโถ’’ติ.

โกมุทิยาติ กุมุทวติยา. ตทา กิร กุมุทานิ สุปุปฺผิตานิ โหนฺติ, ตานิ เอตฺถ สนฺตีติ โกมุที. จาตุมาสินิยาติ จาตุมาสิยา, สา หิ จตุนฺนํ มาสานํ ปริโยสานภูตาติ จาตุมาสี. อิธ ปน จาตุมาสินีติ วุจฺจติ. มาสปุณฺณตาย อุตุปุณฺณตาย สํวจฺฉรปุณฺณตาย ปุณฺณา สมฺปุณฺณาติ ปุณฺณา. มา อิติ จนฺโท วุจฺจติ, โส เอตฺถ ปุณฺโณติ ปุณฺณมา. เอวํ ปุณฺณาย ปุณฺณมายาติ อิมสฺมึ ปททฺวเย จ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

ราชามจฺจปริวุโตติ เอวรูปาย รชตฆฏวินิคฺคตาหิ ขีรธาราหิ โธวิยมานทิสาภาคาย วิย, รชตวิมานวิจฺจุเตหิ มุตฺตาวฬิสุมนกุสุมทามเสตทุกูลกุมุทวิสเรหิ สมฺปริกิณฺณาย วิย จ, จตุรุปกฺกิเลสวิมุตฺตปุณฺณจนฺทปฺปภาสมุทโยภาสิตาย รตฺติยา ราชามจฺเจหิ ปริวุโตติ อตฺโถ. อุปริปาสาทวรคโตติ ปาสาทวรสฺส อุปริคโต. มหารเห สมุสฺสิตเสตจฺฉตฺเต กฺจนาสเน นิสินฺโน โหติ. กสฺมา นิสินฺโน? นิทฺทาวิโนทนตฺถํ. อยฺหิ ราชา ปิตริ อุปกฺกนฺตทิวสโต ปฏฺาย – ‘‘นิทฺทํ โอกฺกมิสฺสามี’’ติ นิมีลิตมตฺเตสุเยว อกฺขีสุ สตฺติสตอพฺภาหโต วิย กนฺทมาโนเยว ปพุชฺฌิ. กิเมตนฺติ จ วุตฺเต, น กิฺจีติ วทติ. เตนสฺส อมนาปา นิทฺทา, อิติ นิทฺทาวิโนทนตฺถํ นิสินฺโน. อปิ จ ตสฺมึ ทิวเส นกฺขตฺตํ สงฺฆุฏฺํ โหติ. สพฺพํ นครํ สิตฺตสมฺมฏฺํ วิปฺปกิณฺณวาลุกํ ปฺจวณฺณกุสุมลาชปุณฺณฆฏปฏิมณฺฑิตฆรทฺวารํ สมุสฺสิตธชปฏากวิจิตฺรสมุชฺชลิตทีปมาลาลงฺกตสพฺพทิสาภาคํ วีถิสภาเคน รจฺฉาสภาเคน นกฺขตฺตกีฬํ อนุภวมาเนน มหาชเนน สมากิณฺณํ โหติ. อิติ นกฺขตฺตทิวสตายปิ นิสินฺโนติ วทนฺติ. เอวํ ปน วตฺวาปิ – ‘‘ราชกุลสฺส นาม สทาปิ นกฺขตฺตเมว, นิทฺทาวิโนทนตฺถํเยว ปเนส นิสินฺโน’’ติ สนฺนิฏฺานํ กตํ.

อุทานํอุทาเนสีติ อุทาหารํ อุทาหริ, ยถา หิ ยํ เตลํ มานํ คเหตุํ น สกฺโกติ, วิสฺสนฺทิตฺวา คจฺฉติ, ตํ อวเสโกติ วุจฺจติ. ยฺจ ชลํ ตฬากํ คเหตุํ น สกฺโกติ, อชฺโฌตฺถริตฺวา คจฺฉติ, ตํ โอโฆติ วุจฺจติ; เอวเมว ยํ ปีติวจนํ หทยํ คเหตุํ น สกฺโกติ, อธิกํ หุตฺวา อนฺโต อสณฺหิตฺวา พหินิกฺขมติ, ตํ อุทานนฺติ วุจฺจติ. เอวรูปํ ปีติมยํ วจนํ นิจฺฉาเรสีติ อตฺโถ.

โทสินาติ โทสาปคตา, อพฺภา, มหิกา, ธูโม, รโช, ราหูติ อิเมหิ ปฺจหิ อุปกฺกิเลเสหิ วิรหิตาติ วุตฺตํ โหติ. ตสฺมา รมณียาติอาทีนิ ปฺจ โถมนวจนานิ. สา หิ มหาชนสฺส มนํ รมยตีติ รมณียา. วุตฺตโทสวิมุตฺตาย จนฺทปฺปภาย โอภาสิตตฺตา อติวิย สุรูปาติ อภิรูปา. ทสฺสิตุํ ยุตฺตาติ ทสฺสนียา. จิตฺตํ ปสาเทตีติ ปาสาทิกา. ทิวสมาสาทีนํ ลกฺขณํ ภวิตุํ ยุตฺตาติ ลกฺขฺา.

กํ นุ ขฺวชฺชาติ กํ นุ โข อชฺช. สมณํ วา พฺราหฺมณํ วาติ สมิตปาปตาย สมณํ. พาหิตปาปตาย พฺราหฺมณํ. ยํ โน ปยิรุปาสโตติ วจนพฺยตฺตโย เอส, ยํ อมฺหากํ ปฺหปุจฺฉนวเสน ปยิรุปาสนฺตานํ มธุรํ ธมฺมํ สุตฺวา จิตฺตํ ปสีเทยฺยาติ อตฺโถ. อิติ ราชา อิมินา สพฺเพนปิ วจเนน โอภาสนิมิตฺตกมฺมํ อกาสิ. กสฺส อกาสีติ? ชีวกสฺส. กิมตฺถํ? ภควโต ทสฺสนตฺถํ. กึ ภควนฺตํ สยํ ทสฺสนาย อุปคนฺตุํ น สกฺโกตีติ? อาม, น สกฺโกติ. กสฺมา? มหาปราธตาย.

เตน หิ ภควโต อุปฏฺาโก อริยสาวโก อตฺตโน ปิตา มาริโต, เทวทตฺโต จ ตเมว นิสฺสาย ภควโต พหุํ อนตฺถมกาสิ, อิติ มหาปราโธ เอส, ตาย มหาปราธตาย สยํ คนฺตุํ น สกฺโกติ. ชีวโก ปน ภควโต อุปฏฺาโก, ตสฺส ปิฏฺิฉายาย ภควนฺตํ ปสฺสิสฺสามีติ โอภาสนิมิตฺตกมฺมํ อกาสิ. กึ ชีวโก ปน – ‘‘มยฺหํ อิทํ โอภาสนิมิตฺตกมฺม’’นฺติ ชานาตีติ? อาม ชานาติ. อถ กสฺมา ตุณฺหี อโหสีติ? วิกฺเขปปจฺเฉทนตฺถํ.

ตสฺสฺหิ ปริสติ ฉนฺนํ สตฺถารานํ อุปฏฺากา พหู สนฺนิปติตา, เต อสิกฺขิตานํ ปยิรุปาสเนน สยมฺปิ อสิกฺขิตาว. เต มยิ ภควโต คุณกถํ อารทฺเธ อนฺตรนฺตรา อุฏฺายุฏฺาย อตฺตโน สตฺถารานํ คุณํ กเถสฺสนฺติ, เอวํ เม สตฺถุ คุณกถา ปริโยสานํ น คมิสฺสติ. ราชา ปน อิเมสํ กุลูปเก อุปสงฺกมิตฺวา คหิตาสารตาย เตสํ คุณกถาย อนตฺตมโน หุตฺวา มํ ปฏิปุจฺฉิสฺสติ, อถาหํ นิพฺพิกฺเขปํ สตฺถุ คุณํ กเถตฺวา ราชานํ สตฺถุ สนฺติกํ คเหตฺวา คมิสฺสามีติ ชานนฺโตว วิกฺเขปปจฺเฉทนตฺถํ ตุณฺหี อโหสีติ.

เตปิ อมจฺจา เอวํ จินฺเตสุํ – ‘‘อชฺช ราชา ปฺจหิ ปเทหิ รตฺตึ โถเมติ, อทฺธา กิฺจิ สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา อุปสงฺกมิตฺวา ปฺหํ ปุจฺฉิตฺวา ธมฺมํ โสตุกาโม, ยสฺส เจส ธมฺมํ สุตฺวา ปสีทิสฺสติ, ตสฺส จ มหนฺตํ สกฺการํ กริสฺสติ, ยสฺส ปน กุลูปโก สมโณ ราชกุลูปโก โหติ, ภทฺทํ ตสฺสา’’ติ.

๑๕๑-๑๕๒. เต เอวํ จินฺเตตฺวา – ‘‘อหํ อตฺตโน กุลูปกสมณสฺส วณฺณํ วตฺวา ราชานํ คเหตฺวา คมิสฺสามิ, อหํ คมิสฺสามี’’ติ อตฺตโน อตฺตโน กุลูปกานํ วณฺณํ กเถตุํ อารทฺธา. เตนาห – ‘‘เอวํ วุตฺเต อฺตโร ราชามจฺโจ’’ติอาทิ. ตตฺถ ปูรโณติ ตสฺส สตฺถุปฏิฺสฺส นามํ. กสฺสโปติ โคตฺตํ. โส กิร อฺตรสฺส กุลสฺส เอกูนทาสสตํ ปูรยมาโน ชาโต, เตนสฺส ปูรโณติ นามํ อกํสุ. มงฺคลทาสตฺตา จสฺส ‘‘ทุกฺกฏ’’นฺติ วตฺตา นตฺถิ, อกตํ วา น กตนฺติ. โส ‘‘กิมหํ เอตฺถ วสามี’’ติ ปลายิ. อถสฺส โจรา วตฺถานิ อจฺฉินฺทึสุ, โส ปณฺเณน วา ติเณน วา ปฏิจฺฉาเทตุมฺปิ อชานนฺโต ชาตรูเปเนว เอกํ คามํ ปาวิสิ. มนุสฺสา ตํ ทิสฺวา ‘‘อยํ สมโณ อรหา อปฺปิจฺโฉ, นตฺถิ อิมินา สทิโส’’ติ ปูวภตฺตาทีนิ คเหตฺวา อุปสงฺกมนฺติ. โส – ‘‘มยฺหํ สาฏกํ อนิวตฺถภาเวน อิทํ อุปฺปนฺน’’นฺติ ตโต ปฏฺาย สาฏกํ ลภิตฺวาปิ น นิวาเสสิ, ตเทว ปพฺพชฺชํ อคฺคเหสิ, ตสฺส สนฺติเก อฺเปิ อฺเปีติ ปฺจสตมนุสฺสา ปพฺพชึสุ. ตํ สนฺธายาห – ‘‘ปูรโณ กสฺสโป’’ติ.

ปพฺพชิตสมูหสงฺขาโต สงฺโฆ อสฺส อตฺถีติ สงฺฆี. สฺเวว คโณ อสฺส อตฺถีติ คณี. อาจารสิกฺขาปนวเสน ตสฺส คณสฺส อาจริโยติ คณาจริโย. าโตติ ปฺาโต ปากโฏ. ‘‘อปฺปิจฺโฉ สนฺตุฏฺโ. อปฺปิจฺฉตาย วตฺถมฺปิ น นิวาเสตี’’ติ เอวํ สมุคฺคโต ยโส อสฺส อตฺถีติ ยสสฺสี. ติตฺถกโรติ ลทฺธิกโร. สาธุสมฺมโตติ อยํ สาธุ, สุนฺทโร, สปฺปุริโสติ เอวํ สมฺมโต. พหุชนสฺสาติ อสฺสุตวโต อนฺธพาลปุถุชฺชนสฺส. ปพฺพชิตโต ปฏฺาย อติกฺกนฺตา พหู รตฺติโย ชานาตีติ รตฺตฺู. จิรํ ปพฺพชิตสฺส อสฺสาติ จิรปพฺพชิโต, อจิรปพฺพชิตสฺส หิ กถา โอกปฺปนียา น โหติ, เตนาห ‘‘จิรปพฺพชิโต’’ติ. อทฺธคโตติ อทฺธานํ คโต, ทฺเว ตโย ราชปริวฏฺเฏ อตีโตติ อธิปฺปาโย. วโยอนุปฺปตฺโตติ ปจฺฉิมวยํ อนุปฺปตฺโต. อิทํ อุภยมฺปิ – ‘‘ทหรสฺส กถา โอกปฺปนียา น โหตี’’ติ เอตํ สนฺธาย วุตฺตํ.

ตุณฺหีอโหสีติ สุวณฺณวณฺณํ มธุรรสํ อมฺพปกฺกํ ขาทิตุกาโม ปุริโส อาหริตฺวา หตฺเถ ปิตํ กาชรปกฺกํ ทิสฺวา วิย ฌานาภิฺาทิคุณยุตฺตํ ติลกฺขณพฺภาหตํ มธุรํ ธมฺมกถํ โสตุกาโม ปุพฺเพ ปูรณสฺส ทสฺสเนนาปิ อนตฺตมโน อิทานิ คุณกถาย สุฏฺุตรํ อนตฺตมโน หุตฺวา ตุณฺหี อโหสิ. อนตฺตมโน สมาโนปิ ปน ‘‘สจาหํ เอตํ ตชฺเชตฺวา คีวายํ คเหตฺวา นีหราเปสฺสามิ, ‘โย โย กเถสิ, ตํ ตํ ราชา เอวํ กโรตี’ติ ภีโต อฺโปิ โกจิ กิฺจิ น กเถสฺสตี’’ติ อมนาปมฺปิ ตํ กถํ อธิวาเสตฺวา ตุณฺหี เอว อโหสิ. อถฺโ – ‘‘อหํ อตฺตโน กุลูปกสฺส วณฺณํ กเถสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา วตฺตุํ อารภิ. เตน วุตฺตํ – อฺตโรปิ โขติอาทิ. ตํ สพฺพํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

เอตฺถ ปน มกฺขลีติ ตสฺส นามํ. โคสาลาย ชาตตฺตา โคสาโลติ ทุติยํ นามํ. ตํ กิร สกทฺทมาย ภูมิยา เตลฆฏํ คเหตฺวา คจฺฉนฺตํ – ‘‘ตาต, มา ขลี’’ติ สามิโก อาห. โส ปมาเทน ขลิตฺวา ปติตฺวา สามิกสฺส ภเยน ปลายิตุํ อารทฺโธ. สามิโก อุปธาวิตฺวา ทุสฺสกณฺเณ อคฺคเหสิ. โส สาฏกํ ฉฑฺเฑตฺวา อเจลโก หุตฺวา ปลายิ. เสสํ ปูรณสทิสเมว.

๑๕๓. อชิโตติ ตสฺส นามํ. เกสกมฺพลํ ธาเรตีติ เกสกมฺพโล. อิติ นามทฺวยํ สํสนฺทิตฺวา อชิโต เกสกมฺพโลติ วุจฺจติ . ตตฺถ เกสกมฺพโล นาม มนุสฺสเกเสหิ กตกมฺพโล. ตโต ปฏิกิฏฺตรํ วตฺถํ นาม นตฺถิ. ยถาห – ‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ยานิ กานิจิ ตนฺตาวุตานํ วตฺถานํ, เกสกมฺพโล เตสํ ปฏิกิฏฺโ อกฺขายติ. เกสกมฺพโล, ภิกฺขเว, สีเต สีโต, อุณฺเห อุณฺโห, ทุพฺพณฺโณ ทุคฺคนฺโธ ทุกฺขสมฺผสฺโส’’ติ (อ. นิ. ๓.๑๓๘).

๑๕๔. ปกุโธติ ตสฺส นามํ. กจฺจายโนติ โคตฺตํ. อิติ นามโคตฺตํ สํสนฺทิตฺวา ปกุโธ กจฺจายโนติ วุจฺจติ. สีตุทกปฏิกฺขิตฺตโก เอส, วจฺจํ กตฺวาปิ อุทกกิจฺจํ น กโรติ, อุณฺโหทกํ วา กฺชิยํ วา ลภิตฺวา กโรติ, นทึ วา มคฺโคทกํ วา อติกฺกมฺม – ‘‘สีลํ เม ภินฺน’’นฺติ วาลิกถูปํ กตฺวา สีลํ อธิฏฺาย คจฺฉติ. เอวรูโป นิสฺสิรีกลทฺธิโก เอส.

๑๕๕. สฺจโยติ ตสฺส นามํ. เพลฏฺสฺส ปุตฺโตติ เพลฏฺปุตฺโต.

๑๕๖. อมฺหากํ คณฺนกิเลโส ปลิพนฺธนกิเลโส นตฺถิ, กิเลสคณฺรหิตา มยนฺติ เอวํวาทิตาย ลทฺธนามวเสน นิคณฺโ. นาฏสฺส ปุตฺโต นาฏปุตฺโต.

โกมารภจฺจชีวกกถาวณฺณนา

๑๕๗. อถโข ราชาติ ราชา กิร เตสํ วจนํ สุตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อหํ ยสฺส ยสฺส วจนํ น โสตุกาโม, โส โส เอว กเถสิ. ยสฺส ปนมฺหิ วจนํ โสตุกาโม, เอส นาควสํ ปิวิตฺวา ิโต สุปณฺโณ วิย ตุณฺหีภูโต, อนตฺโถ วต เม’’ติ. อถสฺส เอตทโหสิ – ‘‘ชีวโก อุปสนฺตสฺส พุทฺธสฺส ภควโต อุปฏฺาโก, สยมฺปิ อุปสนฺโต, ตสฺมา วตฺตสมฺปนฺโน ภิกฺขุ วิย ตุณฺหีภูโตว นิสินฺโน, น เอส มยิ อกเถนฺเต กเถสฺสติ, หตฺถิมฺหิ โข ปน มทฺทนฺเต หตฺถิสฺเสว ปาโท คเหตพฺโพ’’ติ เตน สทฺธึ สยํ มนฺเตตุมารทฺโธ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อถ โข ราชา’’ติ. ตตฺถ กึ ตุณฺหีติ เกน การเณน ตุณฺหี. อิเมสํ อมจฺจานํ อตฺตโน อตฺตโน กุลูปกสมณสฺส วณฺณํ กเถนฺตานํ มุขํ นปฺปโหติ . กึ ยถา เอเตสํ, เอวํ ตว กุลูปกสมโณ นตฺถิ, กึ ตฺวํ ทลิทฺโท, น เต มม ปิตรา อิสฺสริยํ ทินฺนํ, อุทาหุ อสฺสทฺโธติ ปุจฺฉติ.

ตโต ชีวกสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อยํ ราชา มํ กุลูปกสมณสฺส คุณํ กถาเปติ, น ทานิ เม ตุณฺหีภาวสฺส กาโล, ยถา โข ปนิเม ราชานํ วนฺทิตฺวา นิสินฺนาว อตฺตโน กุลูปกสมณานํ คุณํ กถยึสุ, น มยฺหํ เอวํ สตฺถุคุเณ กเถตุํ ยุตฺต’’นฺติ อุฏฺายาสนา ภควโต วิหาราภิมุโข ปฺจปติฏฺิเตน วนฺทิตฺวา ทสนขสโมธานสมุชฺชลํ อฺชลึ สิรสิ ปคฺคเหตฺวา – ‘‘มหาราช, มา มํ เอวํ จินฺตยิตฺถ, ‘อยํ ยํ วา ตํ วา สมณํ อุปสงฺกมตี’ติ, มม สตฺถุโน หิ มาตุกุจฺฉิโอกฺกมเน, มาตุกุจฺฉิโต นิกฺขมเน, มหาภินิกฺขมเน, สมฺโพธิยํ, ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตเน จ, ทสสหสฺสิโลกธาตุ กมฺปิตฺถ, เอวํ ยมกปาฏิหาริยํ อกาสิ, เอวํ เทโวโรหณํ, อหํ สตฺถุโน คุเณ กถยิสฺสามิ, เอกคฺคจิตฺโต สุณ, มหาราชา’’ติ วตฺวา – ‘‘อยํ เทว, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ตํ โข ปน ภควนฺตนฺติ อิตฺถมฺภูตาขฺยานตฺเถ อุปโยควจนํ, ตสฺส โข ปน ภควโตติ อตฺโถ. กลฺยาโณติ กลฺยาณคุณสมนฺนาคโต, เสฏฺโติ วุตฺตํ โหติ. กิตฺติสทฺโทติ กิตฺติเยว. ถุติโฆโส วา. อพฺภุคฺคโตติ สเทวกํ โลกํ อชฺโฌตฺถริตฺวา อุคฺคโต. กินฺติ? ‘‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ…เป… ภควา’’ติ.

ตตฺรายํ ปทสมฺพนฺโธ – โส ภควา อิติปิ อรหํ อิติปิ สมฺมาสมฺพุทฺโธ…เป… อิติปิ ภควาติ. อิมินา จ อิมินา จ การเณนาติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถ อารกตฺตา อรีนํ, อรานฺจ หตตฺตา, ปจฺจยาทีนํ อรหตฺตา, ปาปกรเณ รหาภาวาติ, อิเมหิ ตาว การเณหิ โส ภควา อรหนฺติ เวทิตพฺโพติอาทินา นเยน มาติกํ นิกฺขิปิตฺวา สพฺพาเนว เจตานิ ปทานิ วิสุทฺธิมคฺเค พุทฺธานุสฺสตินิทฺเทเส วิตฺถาริตานีติ ตโต เนสํ วิตฺถาโร คเหตพฺโพ.

ชีวโก ปน เอกเมกสฺส ปทสฺส อตฺถํ นิฏฺาเปตฺวา – ‘‘เอวํ, มหาราช, อรหํ มยฺหํ สตฺถา, เอวํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ…เป… เอวํ ภควา’’ติ วตฺวา – ‘‘ตํ, เทโว, ภควนฺตํ ปยิรุปาสตุ, อปฺเปว นาม เทวสฺส ตํ ภควนฺตํ ปยิรุปาสโต จิตฺตํ ปสีเทยฺยา’’ติ อาห. เอตฺถ จ ตํ เทโว ปยิรุปาสตูติ วทนฺโต ‘‘มหาราช, ตุมฺหาทิสานฺหิ สเตนปิ สหสฺเสนปิ สตสหสฺเสนปิ ปุฏฺสฺส มยฺหํ สตฺถุโน สพฺเพสํ จิตฺตํ คเหตฺวา กเถตุํ ถาโม จ พลฺจ อตฺถิ, วิสฺสตฺโถ อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺเฉยฺยาสิ มหาราชา’’ติ อาห.

รฺโปิ ภควโต คุณกถํ สุณนฺตสฺส สกลสรีรํ ปฺจวณฺณาย ปีติยา นิรนฺตรํ ผุฏํ อโหสิ. โส ตงฺขณฺเว คนฺตุกาโม หุตฺวา – ‘‘อิมาย โข ปน เวลาย มยฺหํ ทสพลสฺส สนฺติกํ คจฺฉโต น อฺโ โกจิ ขิปฺปํ ยานานิ โยเชตุํ สกฺขิสฺสติ อฺตฺร ชีวกา’’ติ จินฺเตตฺวา – ‘‘เตน หิ, สมฺม ชีวก, หตฺถิยานานิ กปฺปาเปหี’’ติ อาห.

๑๕๘. ตตฺถ เตน หีติ อุยฺโยชนตฺเถ นิปาโต. คจฺฉ, สมฺม ชีวกาติ วุตฺตํ โหติ. หตฺถิยานานีติ อเนเกสุ อสฺสรถาทีสุ ยาเนสุ วิชฺชมาเนสุปิ หตฺถิยานํ อุตฺตมํ; อุตฺตมสฺส สนฺติกํ อุตฺตมยาเนเนว คนฺตพฺพนฺติ จ, อสฺสยานรถยานานิ สสทฺทานิ, ทูรโตว เตสํ สทฺโท สุยฺยติ, หตฺถิยานสฺส ปทานุปทํ คจฺฉนฺตาปิ สทฺทํ น สุณนฺติ. นิพฺพุตสฺส ปน โข ภควโต สนฺติเก นิพฺพุเตเหว ยาเนหิ คนฺตพฺพนฺติ จ จินฺตยิตฺวา หตฺถิยานานีติ อาห.

ปฺจมตฺตานิ หตฺถินิกาสตานีติ ปฺจ กเรณุสตานิ. กปฺปาเปตฺวาติ อาโรหณสชฺชานิ กาเรตฺวา. อาโรหณียนฺติ อาโรหณโยคฺคํ, โอปคุยฺหนฺติ อตฺโถ. กึ ปเนส รฺา วุตฺตํ อกาสิ อวุตฺตนฺติ? อวุตฺตํ. กสฺมา? ปณฺฑิตตาย. เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ราชา อิมาย เวลาย คจฺฉามีติ วทติ, ราชาโน จ นาม พหุปจฺจตฺถิกา. สเจ อนฺตรามคฺเค โกจิ อนฺตราโย โหติ, มมฺปิ ครหิสฺสนฺติ – ‘‘ชีวโก ราชา เม กถํ คณฺหาตีติ อกาเลปิ ราชานํ คเหตฺวา นิกฺขมตี’’ติ. ภควนฺตมฺปิ ครหิสฺสนฺติ ‘‘สมโณ โคตโม, ‘มยฺหํ กถา วตฺตตี’ติ กาลํ อสลฺลกฺเขตฺวาว ธมฺมํ กเถตี’’ติ. ตสฺมา ยถา เนว มยฺหํ, น ภควโต, ครหา อุปฺปชฺชติ; รฺโ จ รกฺขา สุสํวิหิตา โหติ, ตถา กริสฺสามี’’ติ.

ตโต อิตฺถิโย นิสฺสาย ปุริสานํ ภยํ นาม นตฺถิ, ‘สุขํ อิตฺถิปริวุโต คมิสฺสามี’ติ ปฺจ หตฺถินิกาสตานิ กปฺปาเปตฺวา ปฺจ อิตฺถิสตานิ ปุริสเวสํ คาหาเปตฺวา – ‘‘อสิโตมรหตฺถา ราชานํ ปริวาเรยฺยาถา’’ติ วตฺวา ปุน จินฺเตสิ – ‘‘อิมสฺส รฺโ อิมสฺมึ อตฺตภาเว มคฺคผลานํ อุปนิสฺสโย นตฺถิ, พุทฺธา จ นาม อุปนิสฺสยํ ทิสฺวาว ธมฺมํ กเถนฺติ. หนฺทาหํ, มหาชนํ สนฺนิปาตาเปมิ, เอวฺหิ สติ สตฺถา กสฺสจิเทว อุปนิสฺสเยน ธมฺมํ เทเสสฺสติ, สา มหาชนสฺส อุปการาย ภวิสฺสตี’’ติ. โส ตตฺถ ตตฺถ สาสนํ เปเสสิ, เภรึ จราเปสิ – ‘‘อชฺช ราชา ภควโต สนฺติกํ คจฺฉติ, สพฺเพ อตฺตโน วิภวานุรูเปน รฺโ อารกฺขํ คณฺหนฺตู’’ติ.

ตโต มหาชโน จินฺเตสิ – ‘‘ราชา กิร สตฺถุทสฺสนตฺถํ คจฺฉติ, กีทิสี วต โภ ธมฺมเทสนา ภวิสฺสติ, กึ โน นกฺขตฺตกีฬาย, ตตฺเถว คมิสฺสามา’’ติ. สพฺเพ คนฺธมาลาทีนิ คเหตฺวา รฺโ อาคมนํ อากงฺขมานา มคฺเค อฏฺํสุ. ชีวโกปิ รฺโ ปฏิเวเทสิ – ‘‘กปฺปิตานิ โข เต, เทว, หตฺถิยานานิ, ยสฺส ทานิ กาลํ มฺสี’’ติ. ตตฺถ ยสฺส ทานิ กาลํ มฺสีติ อุปจารวจนเมตํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘ยํ ตยา อาณตฺตํ, ตํ มยา กตํ, อิทานิ ตฺวํ ยสฺส คมนสฺส วา อคมนสฺส วา กาลํ มฺสิ, ตเทว อตฺตโน รุจิยา กโรหี’’ติ.

๑๕๙. ปจฺเจกา อิตฺถิโยติ ปาฏิเยกฺกา อิตฺถิโย, เอเกกิสฺสา หตฺถินิยา เอเกกํ อิตฺถินฺติ วุตฺตํ โหติ. อุกฺกาสุ ธาริยมานาสูติ ทณฺฑทีปิกาสุ ธาริยมานาสุ. มหจฺจ ราชานุภาเวนาติ มหตา ราชานุภาเวน. มหจฺจาติปิ ปาฬิ, มหติยาติ อตฺโถ, ลิงฺควิปริยาโย เอส. ราชานุภาโว วุจฺจติ ราชิทฺธิ. กา ปนสฺส ราชิทฺธิ? ติโยชนสตานํ ทฺวินฺนํ มหารฏฺานํ อิสฺสริยสิรี. ตสฺส หิ อสุกทิวสํ ราชา ตถาคตํ อุปสงฺกมิสฺสตีติ ปมตรํ สํวิทหเน อสติปิ ตงฺขณฺเว ปฺจ อิตฺถิสตานิ ปุริสเวสํ คเหตฺวา ปฏิมุกฺกเวนานิ อํเส อาสตฺตขคฺคานิ มณิทณฺฑโตมเร คเหตฺวา นิกฺขมึสุ. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘ปจฺเจกา อิตฺถิโย อาโรเปตฺวา’’ติ.

อปราปิ โสฬสสหสฺสขตฺติยนาฏกิตฺถิโย ราชานํ ปริวาเรสุํ. ตาสํ ปริยนฺเต ขุชฺชวามนกกิราตาทโย. ตาสํ ปริยนฺเต อนฺเตปุรปาลกา วิสฺสาสิกปุริสา. เตสํ ปริยนฺเต วิจิตฺรเวสวิลาสิโน สฏฺิสหสฺสมตฺตา มหามตฺตา. เตสํ ปริยนฺเต วิวิธาลงฺการปฏิมณฺฑิตา นานปฺปการอาวุธหตฺถา วิชฺชาธรตรุณา วิย นวุติสหสฺสมตฺตา รฏฺิยปุตฺตา. เตสํ ปริยนฺเต สตคฺฆนิกานิ นิวาเสตฺวา ปฺจสตคฺฆนิกานิ เอกํสํ กตฺวา สุนฺหาตา สุวิลิตฺตา กฺจนมาลาทินานาภรณโสภิตา ทสสหสฺสมตฺตา พฺราหฺมณา ทกฺขิณหตฺถํ อุสฺสาเปตฺวา ชยสทฺทํ โฆสนฺตา คจฺฉนฺติ. เตสํ ปริยนฺเต ปฺจงฺคิกานิ ตูริยานิ. เตสํ ปริยนฺเต ธนุปนฺติปริกฺเขโป. ตสฺส ปริยนฺเต หตฺถิฆฏา. หตฺถีนํ ปริยนฺเต คีวาย คีวํ ปหรมานา อสฺสปนฺติ. อสฺสปริยนฺเต อฺมฺํ สงฺฆฏฺฏนรถา. รถปริยนฺเต พาหาย พาหํ ปหรยมานา โยธา. เตสํ ปริยนฺเต อตฺตโน อตฺตโน อนุรูปาย อาภรณสมฺปตฺติยา วิโรจมานา อฏฺารส เสนิโย. อิติ ยถา ปริยนฺเต ตฺวา ขิตฺโต สโร ราชานํ น ปาปุณาติ, เอวํ ชีวโก โกมารภจฺโจ รฺโ ปริสํ สํวิทหิตฺวา อตฺตนา รฺโ อวิทูเรเนว คจฺฉติ – ‘‘สเจ โกจิ อุปทฺทโว โหติ, ปมตร รฺโ ชีวิตทานํ ทสฺสามี’’ติ. อุกฺกานํ ปน เอตฺตกานิ สตานิ วา สหสฺสานิ วาติ ปริจฺเฉโท นตฺถีติ เอวรูปึ ราชิทฺธึ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘มหจฺจราชานุภาเวน เยน ชีวกสฺส โกมารภจฺจสฺส อมฺพวนํ, เตน ปายาสี’’ติ.

อหุเทว ภยนฺติ เอตฺถ จิตฺตุตฺราสภยํ, าณภยํ, อารมฺมณภยํ, โอตฺตปฺปภยนฺติ จตุพฺพิธํ ภยํ, ตตฺถ ‘‘ชาตึ ปฏิจฺจ ภยํ ภยานก’’นฺติอาทินา นเยน วุตฺตํ จิตฺตุตฺราสภยํ นาม. ‘‘เตปิ ตถาคตสฺส ธมฺมเทสนํ สุตฺวา เยภุยฺเยน ภยํ สํเวคํ สนฺตาสํ อาปชฺชนฺตี’’ติ (สํ. นิ. ๓.๗๘) เอวมาคตํ าณภยํ นาม. ‘‘เอตํ นูน ตํ ภยเภรวํ อาคจฺฉตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๙) เอตฺถ วุตฺตํ อารมฺมณภยํ นาม.

‘‘ภีรุํ ปสํสนฺติ, น หิ ตตฺถ สูรํ;

ภยา หิ สนฺโต, น กโรนฺติ ปาป’’นฺติ . (สํ. นิ. ๑.๓๓);

อิทํ โอตฺตปฺปภยํ นาม. เตสุ อิธ จิตฺตุตฺราสภยํ, อหุ อโหสีติ อตฺโถ. ฉมฺภิตตฺตนฺติ ฉมฺภิตสฺส ภาโว. สกลสรีรจลนนฺติ อตฺโถ. โลมหํโสติ โลมหํสนํ, อุทฺธํ ิตโลมตาติ อตฺโถ. โส ปนายํ โลมหํโส ธมฺมสฺสวนาทีสุ ปีติอุปฺปตฺติกาเล ปีติยาปิ โหติ . ภีรุกชาติกานํ สมฺปหารปิสาจาทิทสฺสเนสุ ภเยนาปิ. อิธ ภยโลมหํโสติ เวทิตพฺโพ.

กสฺมา ปเนส ภีโตติ? อนฺธกาเรนาติ เอเก วทนฺติ. ราชคเห กิร ทฺวตฺตึส มหาทฺวารานิ, จตุสฏฺิ ขุทฺทกทฺวารานิ. ชีวกสฺส อมฺพวนํ ปาการสฺส จ คิชฺฌกูฏสฺส จ อนฺตรา โหติ. โส ปาจีนทฺวาเรน นิกฺขมิตฺวา ปพฺพตจฺฉายาย ปาวิสิ, ตตฺถ ปพฺพตกูเฏน จนฺโท ฉาทิโต, ปพฺพตจฺฉายาย จ รุกฺขจฺฉายาย จ อนฺธการํ อโหสีติ, ตมฺปิ อการณํ. ตทา หิ อุกฺกานํ สตสหสฺสานมฺปิ ปริจฺเฉโท นตฺถิ.

อยํ ปน อปฺปสทฺทตํ นิสฺสาย ชีวเก อาสงฺกาย ภีโต. ชีวโก กิรสฺส อุปริปาสาเทเยว อาโรเจสิ – ‘‘มหาราช อปฺปสทฺทกาโม ภควา, อปฺปสทฺเทเนว อุปสงฺกมิตพฺโพ’’ติ. ตสฺมา ราชา ตูริยสทฺทํ นิวาเรสิ. ตูริยานิ เกวลํ คหิตมตฺตาเนว โหนฺติ, วาจมฺปิ อุจฺจํ อนิจฺฉารยมานา อจฺฉราสฺาย คจฺฉนฺติ. อมฺพวเนปิ กสฺสจิ ขิปิตสทฺโทปิ น สุยฺยติ. ราชาโน จ นาม สทฺทาภิรตา โหนฺติ. โส ตํ อปฺปสทฺทตํ นิสฺสาย อุกฺกณฺิโต ชีวเกปิ อาสงฺกํ อุปฺปาเทสิ. ‘‘อยํ ชีวโก มยฺหํ อมฺพวเน อฑฺฒเตฬสานิ ภิกฺขุสตานี’’ติ อาห. เอตฺถ จ ขิปิตสทฺทมตฺตมฺปิ น สุยฺยติ, อภูตํ มฺเ, เอส วฺเจตฺวา มํ นครโต นีหริตฺวา ปุรโต พลกายํ อุปฏฺเปตฺวา มํ คณฺหิตฺวา อตฺตนา ฉตฺตํ อุสฺสาเปตุกาโม. อยฺหิ ปฺจนฺนํ หตฺถีนํ พลํ ธาเรติ. มม จ อวิทูเรเนว คจฺฉติ, สนฺติเก จ เม อาวุธหตฺโถ เอกปุริโสปิ นตฺถิ. อโห วต เม อนตฺโถ’’ติ. เอวํ ภายิตฺวา จ ปน อภีโต วิย สนฺธาเรตุมฺปิ นาสกฺขิ. อตฺตโน ภีตภาวํ ตสฺส อาวิ อกาสิ. เตน วุตฺตํ. ‘‘อถ โข ราชา…เป… น นิคฺโฆโส’’ติ. ตตฺถ สมฺมาติ วยสฺสาภิลาโป เอส, กจฺจิ มํ วยสฺสาติ วุตฺตํ โหติ. น ปลมฺเภสีติ ยํ นตฺถิ ตํ อตฺถีติ วตฺวา กจฺจิ มํ น วิปฺปลมฺภยสิ. นิคฺโฆโสติ กถาสลฺลาปนิคฺโฆโส.

มา ภายิ, มหาราชาติ ชีวโก – ‘‘อยํ ราชา มํ น ชานาติ ‘นายํ ปรํ ชีวิตา โวโรเปตี’ติ; สเจ โข ปน นํ น อสฺสาเสสฺสามิ, วินสฺเสยฺยา’’ติ จินฺตยิตฺวา ทฬฺหํ กตฺวา สมสฺสาเสนฺโต ‘‘มา ภายิ มหาราชา’’ติ วตฺวา ‘‘น ตํ เทวา’’ติอาทิมาห. อภิกฺกมาติ อภิมุโข กม คจฺฉ, ปวิสาติ อตฺโถ. สกึ วุตฺเต ปน ทฬฺหํ น โหตีติ ตรมาโนว ทฺวิกฺขตฺตุํ อาห. เอเต มณฺฑลมาเฬ ทีปา ฌายนฺตีติ มหาราช, โจรพลํ นาม น ทีเป ชาเลตฺวา ติฏฺติ, เอเต จ มณฺฑลมาเฬ ทีปา ชลนฺติ. เอตาย ทีปสฺาย ยาหิ มหาราชาติ วทติ.

สามฺผลปุจฺฉาวณฺณนา

๑๖๐. นาคสฺส ภูมีติ ยตฺถ สกฺกา หตฺถึ อภิรูฬฺเหน คนฺตุํ, อยํ นาคสฺส ภูมิ นาม. นาคา ปจฺโจโรหิตฺวาติ วิหารสฺส พหิทฺวารโกฏฺเก หตฺถิโต โอโรหิตฺวา. ภูมิยํ ปติฏฺิตสมกาลเมว ปน ภควโต เตโช รฺโ สรีรํ ผริ. อถสฺส ตาวเทว สกลสรีรโต เสทา มุจฺจึสุ, สาฏกา ปีเฬตฺวา อปเนตพฺพา วิย อเหสุํ. อตฺตโน อปราธํ สริตฺวา มหาภยํ อุปฺปชฺชิ. โส อุชุกํ ภควโต สนฺติกํ คนฺตุํ อสกฺโกนฺโต ชีวกํ หตฺเถ คเหตฺวา อารามจาริกํ จรมาโน วิย ‘‘อิทํ เต สมฺม ชีวก สุฏฺุ การิตํ อิทํ สุฏฺุ การิต’’นฺติ วิหารสฺส วณฺณํ ภณมาโน อนุกฺกเมน เยน มณฺฑลมาฬสฺส ทฺวารํ เตนุปสงฺกมิ, สมฺปตฺโตติ อตฺโถ.

กหํ ปน สมฺมาติ กสฺมา ปุจฺฉีติ. เอเก ตาว ‘‘อชานนฺโต’’ติ วทนฺติ. อิมินา กิร ทหรกาเล ปิตรา สทฺธึ อาคมฺม ภควา ทิฏฺปุพฺโพ, ปจฺฉา ปน ปาปมิตฺตสํสคฺเคน ปิตุฆาตํ กตฺวา อภิมาเร เปเสตฺวา ธนปาลํ มุฺจาเปตฺวา มหาปราโธ หุตฺวา ภควโต สมฺมุขีภาวํ น อุปคตปุพฺโพติ อสฺชานนฺโต ปุจฺฉตีติ. ตํ อการณํ, ภควา หิ อากิณฺณวรลกฺขโณ อนุพฺยฺชนปฏิมณฺฑิโต ฉพฺพณฺณาหิ รสฺมีหิ สกลํ อารามํ โอภาเสตฺวา ตาราคณปริวุโต วิย ปุณฺณจนฺโท ภิกฺขุคณปริวุโต มณฺฑลมาฬมชฺเฌ นิสินฺโน, ตํ โก น ชาเนยฺย. อยํ ปน อตฺตโน อิสฺสริยลีลาย ปุจฺฉติ. ปกติ เหสา ราชกุลานํ, ยํ ชานนฺตาปิ อชานนฺตา วิย ปุจฺฉนฺติ. ชีวโก ปน ตํ สุตฺวา – ‘อยํ ราชา ปถวิยํ ตฺวา กุหึ ปถวีติ, นภํ อุลฺโลเกตฺวา กุหึ จนฺทิมสูริยาติ, สิเนรุมูเล ตฺวา กุหึ สิเนรูติ วทมาโน วิย ทสพลสฺส ปุรโต ตฺวา กุหึ ภควา’ติ ปุจฺฉติ. ‘‘หนฺทสฺส ภควนฺตํ ทสฺเสสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา เยน ภควา เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา ‘‘เอโส มหาราชา’’ติอาทิมาห. ปุรกฺขโตติ ปริวาเรตฺวา นิสินฺนสฺส ปุรโต นิสินฺโน.

๑๖๑. เยน ภควา เตนุปสงฺกมีติ ยตฺถ ภควา ตตฺถ คโต, ภควโต สนฺติกํ อุปคโตติ อตฺโถ. เอกมนฺตํ อฏฺาสีติ ภควนฺตํ วา ภิกฺขุสํฆํ วา อสงฺฆฏฺฏยมาโน อตฺตโน าตุํ อนุจฺฉวิเก เอกสฺมึ ปเทเส ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอโกว อฏฺาสิ. ตุณฺหีภูตํ ตุณฺหีภูตนฺติ ยโต ยโต อนุวิโลเกติ, ตโต ตโต ตุณฺหีภูตเมวาติ อตฺโถ. ตตฺถ หิ เอกภิกฺขุสฺสปิ หตฺถกุกฺกุจฺจํ วา ปาทกุกฺกุจฺจํ วา ขิปิตสทฺโท วา นตฺถิ, สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิตํ นาฏกปริวารํ ภควโต อภิมุเข ิตํ ราชานํ วา ราชปริสํ วา เอกภิกฺขุปิ น โอโลเกสิ. สพฺเพ ภควนฺตํเยว โอโลกยมานา นิสีทึสุ.

ราชา เตสํ อุปสเม ปสีทิตฺวา วิคตปงฺกตาย วิปฺปสนฺนรหทมิว อุปสนฺตินฺทฺริยํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปุนปฺปุนํ อนุวิโลเกตฺวา อุทานํ อุทาเนสิ. ตตฺถ อิมินาติ เยน กายิเกน จ วาจสิเกน จ มานสิเกน จ สีลูปสเมน ภิกฺขุสงฺโฆ อุปสนฺโต, อิมินา อุปสเมนาติ ทีเปติ. ตตฺถ ‘‘อโห วต เม ปุตฺโต ปพฺพชิตฺวา อิเม ภิกฺขู วิย อุปสนฺโต ภเวยฺยา’’ติ นยิทํ สนฺธาย เอส เอวมาห. อยํ ปน ภิกฺขุสงฺฆํ ทิสฺวา ปสนฺโน ปุตฺตํ อนุสฺสริ. ทุลฺลภฺหิ ลทฺธา อจฺฉริยํ วา ทิสฺวา ปิยานํ าติมิตฺตาทีนํ อนุสฺสรณํ นาม โลกสฺส ปกติเยว. อิติ ภิกฺขุสงฺฆํ ทิสฺวา ปุตฺตํ อนุสฺสรมาโน เอส เอวมาห.

อปิ จ ปุตฺเต อาสงฺกาย ตสฺส อุปสมํ อิจฺฉมาโน เปส เอวมาห. เอวํ กิรสฺส อโหสิ, ปุตฺโต เม ปุจฺฉิสฺสติ – ‘‘มยฺหํ ปิตา ทหโร. อยฺยโก เม กุหิ’’นฺติ. โส ‘‘ปิตรา เต ฆาติโต’’ติ สุตฺวา ‘‘อหมฺปิ ปิตรํ ฆาเตตฺวา รชฺชํ กาเรสฺสามี’’ติ มฺิสฺสติ. อิติ ปุตฺเต อาสงฺกาย ตสฺส อุปสมํ อิจฺฉมาโน เปส เอวมาห. กิฺจาปิ หิ เอส เอวมาห. อถ โข นํ ปุตฺโต ฆาเตสฺสติเยว. ตสฺมิฺหิ วํเส ปิตุวโธ ปฺจปริวฏฺเฏ คโต. อชาตสตฺตุ พิมฺพิสารํ ฆาเตสิ, อุทโย อชาตสตฺตุํ . ตสฺส ปุตฺโต มหามุณฺฑิโก นาม อุทยํ. ตสฺส ปุตฺโต อนุรุทฺโธ นาม มหามุณฺฑิกํ. ตสฺส ปุตฺโต นาคทาโส นาม อนุรุทฺธํ. นาคทาสํ ปน – ‘‘วํสจฺเฉทกราชาโน อิเม, กึ อิเมหี’’ติ รฏฺวาสิโน กุปิตา ฆาเตสุํ.

อคมา โข ตฺวนฺติ กสฺมา เอวมาห? ภควา กิร รฺโ วจีเภเท อกเตเยว จินฺเตสิ – ‘‘อยํ ราชา อาคนฺตฺวา ตุณฺหี นิรโว ิโต, กึ นุ โข จินฺเตสี’’ติ. อถสฺส จิตฺตํ ตฺวา – ‘‘อยํ มยา สทฺธึ สลฺลปิตุํ อสกฺโกนฺโต ภิกฺขุสงฺฆํ อนุวิโลเกตฺวา ปุตฺตํ อนุสฺสริ, น โข ปนายํ มยิ อนาลปนฺเต กิฺจิ กเถตุํ สกฺขิสฺสติ, กโรมิ เตน สทฺธึ กถาสลฺลาป’’นฺติ. ตสฺมา รฺโ วจนานนฺตรํ ‘‘อคมา โข ตฺวํ, มหาราช, ยถาเปม’’นฺติ อาห. ตสฺสตฺโถ – มหาราช, ยถา นาม อุนฺนเม วุฏฺํ อุทกํ เยน นินฺนํ เตน คจฺฉติ, เอวเมว ตฺวํ ภิกฺขุสงฺฆํ อนุวิโลเกตฺวา เยน เปมํ เตน คโตติ.

อถ รฺโ เอตทโหสิ – ‘‘อโห อจฺฉริยา พุทฺธคุณา, มยา สทิโส ภควโต อปราธการโก นาม นตฺถิ, มยา หิสฺส อคฺคุปฏฺาโก ฆาติโต, เทวทตฺตสฺส จ กถํ คเหตฺวา อภิมารา เปสิตา, นาฬาคิริ มุตฺโต, มํ นิสฺสาย เทวทตฺเตน สิลา ปวิทฺธา, เอวํ มหาปราธํ นาม มํ อาลปโต ทสพลสฺส มุขํ นปฺปโหติ; อโห ภควา ปฺจหากาเรหิ ตาทิลกฺขเณ สุปฺปติฏฺิโต. เอวรูปํ นาม สตฺถารํ ปหาย พหิทฺธา น ปริเยสิสฺสามา’’ติ โส โสมนสฺสชาโต ภควนฺตํ อาลปนฺโต ‘‘ปิโย เม, ภนฺเต’’ติอาทิมาห.

๑๖๒. ภิกฺขุสงฺฆสฺสอฺชลึ ปณาเมตฺวาติ เอวํ กิรสฺส อโหสิ ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา อิโตจิโต จ คนฺตฺวา ภิกฺขุสงฺฆํ วนฺทนฺเตน จ ภควา ปิฏฺิโต กาตพฺโพ โหติ, ครุกาโรปิ เจส น โหติ. ราชานํ วนฺทิตฺวา อุปราชานํ วนฺทนฺเตนปิ หิ รฺโ อคารโว กโต โหติ. ตสฺมา ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา ิตฏฺาเนเยว ภิกฺขุสงฺฆสฺส อฺชลึ ปณาเมตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. กฺจิเทว เทสนฺติ กฺจิ โอกาสํ.

อถสฺส ภควา ปฺหปุจฺฉเน อุสฺสาหํ ชเนนฺโต อาห – ‘‘ปุจฺฉ, มหาราช, ยทากงฺขสี’’ติ. ตสฺสตฺโถ – ‘‘ปุจฺฉ ยทิ อากงฺขสิ, น เม ปฺหวิสฺสชฺชเน ภาโร อตฺถิ’’. อถ วา ‘‘ปุจฺฉ, ยํ อากงฺขสิ, สพฺพํ เต วิสฺสชฺเชสฺสามี’’ติ สพฺพฺุปวารณํ ปวาเรสิ, อสาธารณํ ปจฺเจกพุทฺธอคฺคสาวกมหาสาวเกหิ. เต หิ ยทากงฺขสีติ น วทนฺติ, สุตฺวา เวทิสฺสามาติ วทนฺติ. พุทฺธา ปน – ‘‘ปุจฺฉ, อาวุโส, ยทากงฺขสี’’ติ (สํ. นิ. ๑.๒๓๗), วา ‘‘ปุจฺฉ, มหาราช, ยทากงฺขสี’’ติ วา,

‘‘ปุจฺฉ, วาสว, มํ ปฺหํ, ยํ กิฺจิ มนสิจฺฉสิ;

ตสฺส ตสฺเสว ปฺหสฺส, อหํ อนฺตํ กโรมิ เต’’ติ. (ที. นิ. ๒.๓๕๖) วา;

เตน หิ ตฺวํ, ภิกฺขุ, สเก อาสเน นิสีทิตฺวา ปุจฺฉ, ยทากงฺขสีติ วา,

‘‘พาวริสฺส จ ตุยฺหํ วา, สพฺเพสํ สพฺพสํสยํ;

กตาวกาสา ปุจฺฉวฺโห, ยํ กิฺจิ มนสิจฺฉถา’’ติ. (สุ. นิ. ๑๐๓๖) วา;

‘‘ปุจฺฉ มํ, สภิย, ปฺหํ, ยํ กิฺจิ มนสิจฺฉสิ;

ตสฺส ตสฺเสว ปฺหสฺส, อหํ อนฺตํ กโรมิ เต’’ติ. (สุ. นิ. ๕๑๗) วา;

เตสํ เตสํ ยกฺขนรินฺทเทวสมณพฺราหฺมณปริพฺพาชกานํ สพฺพฺุปวารณํ ปวาเรนฺติ. อนจฺฉริยฺเจตํ, ยํ ภควา พุทฺธภูมึ ปตฺวา เอตํ ปวารณํ ปวาเรยฺย. โย โพธิสตฺตภูมิยํ ปเทสาเณ ิโต –

‘‘โกณฺฑฺ , ปฺหานิ วิยากโรหิ;

ยาจนฺติ ตํ อิสโย สาธุรูปา.

โกณฺฑฺ, เอโส มนุเชสุ ธมฺโม;

ยํ วุทฺธมาคจฺฉติ เอส ภาโร’’ติ. (ชา. ๒.๑๗.๖๐);

เอวํ สกฺกาทีนํ อตฺถาย อิสีหิ ยาจิโต –

‘‘กตาวกาสา ปุจฺฉนฺตุ โภนฺโต,

ยํ กิฺจิ ปฺหํ มนสาภิปตฺถิตํ;

อหฺหิ ตํ ตํ โว วิยากริสฺสํ,

ตฺวา สยํ โลกมิมํ ปรฺจา’’ติ. (ชา. ๒.๑๗.๖๑);

เอวํ สรภงฺคกาเล. สมฺภวชาตเก จ สกลชมฺพุทีปํ ติกฺขตฺตุํ วิจริตฺวา ปฺหานํ อนฺตกรํ อทิสฺวา สุจิรเตน พฺราหฺมเณน, ปฺหํ ปุฏฺุํ โอกาเส การิเต ชาติยา สตฺตวสฺสิโก รถิกาย ปํสุํ กีฬนฺโต ปลฺลงฺกมาภุชิตฺวา อนฺตรวีถิยํ นิสินฺโนว –

‘‘ตคฺฆ เต อหมกฺขิสฺสํ, ยถาปิ กุสโล ตถา;

ราชา จ โข ตํ ชานาติ, ยทิ กาหติ วา น วา’’ติ. (ชา. ๑.๑๖.๑๗๒);

สพฺพฺุปวารณํ ปวาเรสิ.

๑๖๓. เอวํ ภควตา สพฺพฺุปวารณาย ปวาริตาย อตฺตมโน ราชา ปฺหํ ปุจฺฉนฺโต – ‘‘ยถา นุ โข อิมานิ, ภนฺเต’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สิปฺปเมว สิปฺปายตนํ. ปุถุสิปฺปายตนานีติ พหูนิ สิปฺปานิ. เสยฺยถิทนฺติ กตเม ปน เต. หตฺถาโรหาติอาทีหิ เย ตํ ตํ สิปฺปํ นิสฺสาย ชีวนฺติ, เต ทสฺเสติ. อยฺหิ อสฺสาธิปฺปาโย – ‘‘ยถา อิเมสํ สิปฺปูปชีวีนํ ตํ ตํ สิปฺปํ นิสฺสาย สนฺทิฏฺิกํ สิปฺปผลํ ปฺายติ. สกฺกา นุ โข เอวํ สนฺทิฏฺิกํ สามฺผลํ ปฺาเปตุ’’นฺติ. ตสฺมา สิปฺปายตนานิ อาหริตฺวา สิปฺปูปชีวิโน ทสฺเสติ.

ตตฺถ หตฺถาโรหาติ สพฺเพปิ หตฺถาจริยหตฺถิเวชฺชหตฺถิเมณฺฑาทโย ทสฺเสติ. อสฺสาโรหาติ สพฺเพปิ อสฺสาจริยอสฺสเวชฺชอสฺสเมณฺฑาทโย. รถิกาติ สพฺเพปิ รถาจริยรถโยธรถรกฺขาทโย. ธนุคฺคหาติ ธนุอาจริยา อิสฺสาสา. เจลกาติ เย ยุทฺเธ ชยธชํ คเหตฺวา ปุรโต คจฺฉนฺติ. จลกาติ อิธ รฺโ านํ โหตุ, อิธ อสุกมหามตฺตสฺสาติ เอวํ เสนาพฺยูหการกา. ปิณฺฑทายกาติ สาหสิกมหาโยธา. เต กิร ปรเสนํ ปวิสิตฺวา ปรสีสํ ปิณฺฑมิว เฉตฺวา เฉตฺวา ทยนฺติ, อุปฺปติตฺวา อุปฺปติตฺวา นิคฺคจฺฉนฺตีติ อตฺโถ. เย วา สงฺคามมชฺเฌ โยธานํ ภตฺตปาตึ คเหตฺวา ปริวิสนฺติ, เตสมฺเปตํ นามํ. อุคฺคาราชปุตฺตาติ อุคฺคตุคฺคตา สงฺคามาวจรา ราชปุตฺตา. ปกฺขนฺทิโนติ เย ‘‘กสฺส สีสํ วา อาวุธํ วา อาหรามา’’ติ ‘‘วตฺวา อสุกสฺสา’’ติ วุตฺตา สงฺคามํ ปกฺขนฺทิตฺวา ตเทว อาหรนฺติ, อิเม ปกฺขนฺทนฺตีติ ปกฺขนฺทิโน. มหานาคาติ มหานาคา วิย มหานาคา, หตฺถิอาทีสุปิ อภิมุขํ อาคจฺฉนฺเตสุ อนิวตฺติตโยธานเมตํ อธิวจนํ. สูราติ เอกนฺตสูรา, เย สชาลิกาปิ สจมฺมิกาปิ สมุทฺทํ ตริตุํ สกฺโกนฺติ. จมฺมโยธิโนติ เย จมฺมกฺจุกํ วา ปวิสิตฺวา สรปริตฺตาณจมฺมํ วา คเหตฺวา ยุชฺฌนฺติ. ทาสิกปุตฺตาติ พลวสิเนหา ฆรทาสโยธา. อาฬาริกาติ ปูวิกา. กปฺปกาติ นฺหาปิกา. นฺหาปกาติ เย นฺหาเปนฺติ. สูทาติ ภตฺตการกา. มาลาการาทโย ปากฏาเยว. คณกาติ อจฺฉิทฺทกปากา. มุทฺทิกาติ หตฺถมุทฺทาย คณนํ นิสฺสาย ชีวิโน. ยานิ วา ปนฺานิปีติ อยการทนฺตการจิตฺตการาทีนิ. เอวํคตานีติ เอวํ ปวตฺตานิ. เต ทิฏฺเว ธมฺเมติ เต หตฺถาโรหาทโย ตานิ ปุถุสิปฺปายตนานิ ทสฺเสตฺวา ราชกุลโต มหาสมฺปตฺตึ ลภมานา สนฺทิฏฺิกเมว สิปฺปผลํ อุปชีวนฺติ. สุเขนฺตีติ สุขิตํ กโรนฺติ. ปีเณนฺตีติ ปีณิตํ ถามพลูเปตํ กโรนฺติ. อุทฺธคฺคิกาทีสุ อุปริ ผลนิพฺพตฺตนโต อุทฺธํ อคฺคมสฺสา อตฺถีติ อุทฺธคฺคิกา. สคฺคํ อรหตีติ โสวคฺคิกา. สุโข วิปาโก อสฺสาติ สุขวิปากา. สุฏฺุ อคฺเค รูปสทฺทคนฺธรสโผฏฺพฺพอายุวณฺณสุขยสอาธิปเตยฺยสงฺขาเต ทส ธมฺเม สํวตฺเตติ นิพฺพตฺเตตีติ สคฺคสํวตฺตนิกา. ตํ เอวรูปํ ทกฺขิณํ ทานํ ปติฏฺเปนฺตีติ อตฺโถ. สามฺผลนฺติ เอตฺถ ปรมตฺถโต มคฺโค สามฺํ. อริยผลํ สามฺผลํ. ยถาห – ‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, สามฺํ? อยเมว อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค. เสยฺยถิทํ, สมฺมาทิฏฺิ…เป… สมฺมาสมาธิ. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สามฺํ. กตมานิ จ, ภิกฺขเว, สามฺผลานิ? โสตาปตฺติผลํ…เป… อรหตฺตผล’’นฺติ (สํ. นิ. ๕.๓๕). ตํ เอส ราชา น ชานาติ. อุปริ อาคตํ ปน ทาสกสฺสโกปมํ สนฺธาย ปุจฺฉติ.

อถ ภควา ปฺหํ อวิสฺสชฺเชตฺวาว จินฺเตสิ – ‘‘อิเม พหู อฺติตฺถิยสาวกา ราชามจฺจา อิธาคตา, เต กณฺหปกฺขฺจ สุกฺกปกฺขฺจ ทีเปตฺวา กถียมาเน อมฺหากํ ราชา มหนฺเตน อุสฺสาเหน อิธาคโต, ตสฺสาคตกาลโต ปฏฺาย สมโณ โคตโม สมณโกลาหลํ สมณภณฺฑนเมว กเถตีติ อุชฺฌายิสฺสนฺติ, น สกฺกจฺจํ ธมฺมํ โสสฺสนฺติ, รฺา ปน กถียมาเน อุชฺฌายิตุํ น สกฺขิสฺสนฺติ, ราชานเมว อนุวตฺติสฺสนฺติ. อิสฺสรานุวตฺตโก หิ โลโก. ‘หนฺทาหํ รฺโว ภารํ กโรมี’ติ รฺโ ภารํ กโรนฺโต ‘‘อภิชานาสิ โน ตฺว’’นฺติอาทิมาห.

๑๖๔. ตตฺถ อภิชานาสิ โน ตฺวนฺติ อภิชานาสิ นุ ตฺวํ. อยฺจ โน-สทฺโท ปรโต ปุจฺฉิตาติ ปเทน โยเชตพฺโพ. อิทฺหิ วุตฺตํ โหติ – ‘‘มหาราช, ตฺวํ อิมํ ปฺหํ อฺเ สมณพฺราหฺมเณ ปุจฺฉิตา นุ, อภิชานาสิ จ นํ ปุฏฺภาวํ, น เต สมฺมุฏฺ’’นฺติ. สเจ เต อครูติ สเจ ตุยฺหํ ยถา เต พฺยากรึสุ, ตถา อิธ ภาสิตุํ ภาริยํ น โหติ, ยทิ น โกจิ อผาสุกภาโว อตฺถิ, ภาสสฺสูติ อตฺโถ. น โข เม ภนฺเตติ กึ สนฺธายาห? ปณฺฑิตปติรูปกานฺหิ สนฺติเก กเถตุํ ทุกฺขํ โหติ, เต ปเท ปเท อกฺขเร อกฺขเร โทสเมว วทนฺติ. เอกนฺตปณฺฑิตา ปน กถํ สุตฺวา สุกถิตํ ปสํสนฺติ, ทุกฺกถิเตสุ ปาฬิปทอตฺถพฺยฺชเนสุ ยํ ยํ วิรุชฺฌติ, ตํ ตํ อุชุกํ กตฺวา เทนฺติ. ภควตา จ สทิโส เอกนฺตปณฺฑิโต นาม นตฺถิ. เตนาห – ‘‘น โข เม, ภนฺเต, ครุ; ยตฺถสฺส ภควา นิสินฺโน ภควนฺตรูโป วา’’ติ.

ปูรณกสฺสปวาทวณฺณนา

๑๖๕. เอกมิทาหนฺติ เอกํ อิธ อหํ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวาติ สมฺโมทชนกํ สริตพฺพยุตฺตกํ กถํ ปริโยสาเปตฺวา.

๑๖๖. ‘‘กโรโต โข, มหาราช, การยโต’’ติอาทีสุ กโรโตติ สหตฺถา กโรนฺตสฺส. การยโตติ อาณตฺติยา กาเรนฺตสฺส. ฉินฺทโตติ ปเรสํ หตฺถาทีนิ ฉินฺทนฺตสฺส. ปจโตติ ปเร ทณฺเฑน ปีเฬนฺตสฺส. โสจยโตติ ปรสฺส ภณฺฑหรณาทีหิ โสจยโต. โสจาปยโตติ โสกํ สยํ กโรนฺตสฺสปิ ปเรหิ การาเปนฺตสฺสปิ . กิลมโตติ อาหารุปจฺเฉทพนฺธนาคารปฺปเวสนาทีหิ สยํ กิลมนฺตสฺสปิ ปเรหิ กิลมาเปนฺตสฺสปิ. ผนฺทโต ผนฺทาปยโตติ ปรํ ผนฺทนฺตํ ผนฺทนกาเล สยมฺปิ ผนฺทโต ปรมฺปิ ผนฺทาปยโต. ปาณมติปาตาปยโตติ ปาณํ หนนฺตสฺสปิ หนาเปนฺตสฺสปิ. เอวํ สพฺพตฺถ กรณการณวเสเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

สนฺธินฺติ ฆรสนฺธึ. นิลฺโลปนฺติ มหาวิโลปํ. เอกาคาริกนฺติ เอกเมว ฆรํ ปริวาเรตฺวา วิลุปฺปนํ. ปริปนฺเถติ อาคตาคตานํ อจฺฉินฺทนตฺถํ มคฺเค ติฏฺโต. กโรโต น กรียติ ปาปนฺติ ยํ กิฺจิ ปาปํ กโรมีติ สฺาย กโรโตปิ ปาปํ น กรียติ, นตฺถิ ปาปํ. สตฺตา ปน ปาปํ กโรมาติ เอวํสฺิโน โหนฺตีติ ทีเปติ. ขุรปริยนฺเตนาติ ขุรเนมินา, ขุรธารสทิสปริยนฺเตน วา. เอกํ มํสขลนฺติ เอกํ มํสราสึ. ปุฺชนฺติ ตสฺเสว เววจนํ. ตโตนิทานนฺติ เอกมํสขลกรณนิทานํ.

ทกฺขิณนฺติ ทกฺขิณตีเร มนุสฺสา กกฺขฬา ทารุณา, เต สนฺธาย ‘‘หนนฺโต’’ติอาทิมาห. อุตฺตรตีเร สตฺตา สทฺธา โหนฺติ ปสนฺนา พุทฺธมามกา ธมฺมมามกา สงฺฆมามกา, เต สนฺธาย ททนฺโตติอาทิมาห. ตตฺถ ยชนฺโตติ มหายาคํ กโรนฺโต. ทเมนาติ อินฺทฺริยทเมน อุโปสถกมฺเมน วา. สํยเมนาติ สีลสํยเมน. สจฺจวชฺเชนาติ สจฺจวจเนน. อาคโมติ อาคมนํ, ปวตฺตีติ อตฺโถ. สพฺพถาปิ ปาปปุฺานํ กิริยเมว ปฏิกฺขิปติ.

อมฺพํ ปุฏฺโ ลพุชํ พฺยากโรติ นาม, โย กีทิโส อมฺโพ กีทิสานิ วา อมฺพสฺส ขนฺธปณฺณปุปฺผผลานีติ วุตฺเต เอทิโส ลพุโช เอทิสานิ วา ลพุชสฺส ขนฺธปณฺณปุปฺผผลานีติ พฺยากโรติ. วิชิเตติ อาณาปวตฺติเทเส. อปสาเทตพฺพนฺติ วิเหเตพฺพํ. อนภินนฺทิตฺวาติ ‘‘สาธุ สาธู’’ติ เอวํ ปสํสํ อกตฺวา. อปฺปฏิกฺโกสิตฺวาติ พาลทุพฺภาสิตํ ตยา ภาสิตนฺติ เอวํ อปฺปฏิพาหิตฺวา. อนุคฺคณฺหนฺโตติ สารโต อคฺคณฺหนฺโต. อนิกฺกุชฺชนฺโตติ สารวเสเนว อิทํ นิสฺสรณํ, อยํ ปรมตฺโถติ หทเย อฏฺเปนฺโต. พฺยฺชนํ ปน เตน อุคฺคหิตฺเจว นิกฺกุชฺชิตฺจ.

มกฺขลิโคสาลวาทวณฺณนา

๑๖๗-๑๖๙. มกฺขลิวาเท ปจฺจโยติ เหตุเววจนเมว, อุภเยนาปิ วิชฺชมานเมว กายทุจฺจริตาทีนํ สํกิเลสปจฺจยํ, กายสุจริตาทีนฺจ วิสุทฺธิปจฺจยํ ปฏิกฺขิปติ. อตฺตกาเรติ อตฺตกาโร. เยน อตฺตนา กตกมฺเมน อิเม สตฺตา เทวตฺตมฺปิ มารตฺตมฺปิ พฺรหฺมตฺตมฺปิ สาวกโพธิมฺปิ ปจฺเจกโพธิมฺปิ สพฺพฺุตมฺปิ ปาปุณนฺติ, ตมฺปิ ปฏิกฺขิปติ. ทุติยปเทน ยํ ปรการํ ปรสฺส โอวาทานุสาสนึ นิสฺสาย เปตฺวา มหาสตฺตํ อวเสโส ชโน มนุสฺสโสภคฺยตํ อาทึ กตฺวา ยาว อรหตฺตํ ปาปุณาติ, ตํ ปรการํ ปฏิกฺขิปติ. เอวมยํ พาโล ชินจกฺเก ปหารํ เทติ นาม. นตฺถิ ปุริสกาเรติ เยน ปุริสกาเรน สตฺตา วุตฺตปฺปการา สมฺปตฺติโย ปาปุณนฺติ , ตมฺปิ ปฏิกฺขิปติ. นตฺถิ พลนฺติ ยมฺหิ อตฺตโน พเล ปติฏฺิตา สตฺตา วีริยํ กตฺวา ตา สมฺปตฺติโย ปาปุณนฺติ, ตํ พลํ ปฏิกฺขิปติ. นตฺถิ วีริยนฺติอาทีนิ สพฺพานิ ปุริสการเววจนาเนว. ‘‘อิทํ โน วีริเยน อิทํ ปุริสถาเมน, อิทํ ปุริสปรกฺกเมน ปวตฺต’’นฺติ เอวํ ปวตฺตวจนปฏิกฺเขปกรณวเสน ปเนตานิ วิสุํ อาทิยนฺติ.

สพฺเพ สตฺตาติ โอฏฺโคณคทฺรภาทโย อนวเสเส ปริคฺคณฺหาติ. สพฺเพ ปาณาติ เอกินฺทฺริโย ปาโณ, ทฺวินฺทฺริโย ปาโณติอาทิวเสน วทติ. สพฺเพ ภูตาติ อณฺฑโกสวตฺถิโกเสสุ ภูเต สนฺธาย วทติ. สพฺเพ ชีวาติ สาลิยวโคธุมาทโย สนฺธาย วทติ. เตสุ หิ โส วิรูหนภาเวน ชีวสฺี. อวสา อพลา อวีริยาติ เตสํ อตฺตโน วโส วา พลํ วา วีริยํ วา นตฺถิ. นิยติสงฺคติภาวปริณตาติ เอตฺถ นิยตีติ นิยตา. สงฺคตีติ ฉนฺนํ อภิชาตีนํ ตตฺถ ตตฺถ คมนํ. ภาโวติ สภาโวเยว. เอวํ นิยติยา จ สงฺคติยา จ ภาเวน จ ปริณตา นานปฺปการตํ ปตฺตา. เยน หิ ยถา ภวิตพฺพํ, โส ตเถว ภวติ. เยน น ภวิตพฺพํ, โส น ภวตีติ ทสฺเสติ. ฉสฺเววาภิชาตีสูติ ฉสุ เอว อภิชาตีสุ ตฺวา สุขฺจ ทุกฺขฺจ ปฏิสํเวเทนฺติ. อฺา สุขทุกฺขภูมิ นตฺถีติ ทสฺเสติ.

โยนิปมุขสตสหสฺสานีติ ปมุขโยนีนํ อุตฺตมโยนีนํ จุทฺทสสตสหสฺสานิ อฺานิ จ สฏฺิสตานิ อฺานิ จ ฉสตานิ. ปฺจ จ กมฺมุโนสตานีติ ปฺจกมฺมสตานิ จ. เกวลํ ตกฺกมตฺตเกน นิรตฺถกํ ทิฏฺึ ทีเปติ. ปฺจ จ กมฺมานิ ตีณิ จ กมฺมานีติอาทีสุปิ เอเสว นโย. เกจิ ปนาหุ – ‘‘ปฺจ จ กมฺมานีติ ปฺจินฺทฺริยวเสน ภณติ. ตีณีติ กายกมฺมาทิวเสนา’’ติ. กมฺเม จ อุปฑฺฒกมฺเม จาติ เอตฺถ ปนสฺส กายกมฺมฺจ วจีกมฺมฺจ กมฺมนฺติ ลทฺธิ, มโนกมฺมํ อุปฑฺฒกมฺมนฺติ. ทฺวฏฺิปฏิปทาติ ทฺวาสฏฺิ ปฏิปทาติ วทติ. ทฺวฏฺนฺตรกปฺปาติ เอกสฺมึ กปฺเป จตุสฏฺิ อนฺตรกปฺปา นาม โหนฺติ. อยํ ปน อฺเ ทฺเว อชานนฺโต เอวมาห.

ฉฬาภิชาติโยติ กณฺหาภิชาติ, นีลาภิชาติ, โลหิตาภิชาติ, หลิทฺทาภิชาติ, สุกฺกาภิชาติ, ปรมสุกฺกาภิชาตีติ อิมา ฉ อภิชาติโย วทติ. ตตฺถ โอรพฺภิกา, สากุณิกา, มาควิกา, สูกริกา, ลุทฺทา, มจฺฉฆาตกา โจรา, โจรฆาตกา, พนฺธนาคาริกา, เย วา ปนฺเปิ เกจิ กุรูรกมฺมนฺตา, อยํ กณฺหาภิชาตีติ (อ. นิ. ๖.๕๗) วทติ. ภิกฺขู นีลาภิชาตีติ วทติ, เต กิร จตูสุ ปจฺจเยสุ กณฺฏเก ปกฺขิปิตฺวา ขาทนฺติ. ‘‘ภิกฺขู กณฺฏกวุตฺติกา’’ติ (อ. นิ. ๖.๕๗) อยฺหิสฺส ปาฬิเยว. อถ วา กณฺฏกวุตฺติกา เอว นาม เอเก ปพฺพชิตาติ วทติ. โลหิตาภิชาติ นาม นิคณฺา เอกสาฏกาติ วทติ. อิเม กิร ปุริเมหิ ทฺวีหิ ปณฺฑรตรา. คิหี โอทาตวสนา อเจลกสาวกา หลิทฺทาภิชาตีติ วทติ. เอวํ อตฺตโน ปจฺจยทายเก นิคณฺเหิปิ เชฏฺกตเร กโรติ. อาชีวกา อาชีวกินิโย สุกฺกาภิชาตีติ วทติ. เต กิร ปุริเมหิ จตูหิ ปณฺฑรตรา. นนฺโท, วจฺโฉ, กิโส, สงฺกิจฺโฉ, มกฺขลิโคสาโล, ปรมสุกฺกาภิชาตีติ (อ. นิ. ๖.๕๗) วทติ. เต กิร สพฺเพหิ ปณฺฑรตรา.

อฏฺ ปุริสภูมิโยติ มนฺทภูมิ, ขิฑฺฑาภูมิ, ปทวีมํสภูมิ, อุชุคตภูมิ, เสกฺขภูมิ, สมณภูมิ , ชินภูมิ, ปนฺนภูมีติ อิมา อฏฺ ปุริสภูมิโยติ วทติ. ตตฺถ ชาตทิวสโต ปฏฺาย สตฺตทิวเส สมฺพาธฏฺานโต นิกฺขนฺตตฺตา สตฺตา มนฺทา โหนฺติ โมมูหา, อยํ มนฺทภูมีติ วทติ. เย ปน ทุคฺคติโต อาคตา โหนฺติ, เต อภิณฺหํ โรทนฺติ เจว วิรวนฺติ จ, สุคติโต อาคตา ตํ อนุสฺสริตฺวา หสนฺติ, อยํ ขิฑฺฑาภูมิ นาม. มาตาปิตูนํ หตฺถํ วา ปาทํ วา มฺจํ วา ปีํ วา คเหตฺวา ภูมิยํ ปทนิกฺขิปนํ ปทวีมํสภูมิ นาม. ปทสา คนฺตุํ สมตฺถกาเล อุชุคตภูมิ นาม. สิปฺปานิ สิกฺขิตกาเล เสกฺขภูมิ นาม. ฆรา นิกฺขมฺม ปพฺพชิตกาเล สมณภูมิ นาม. อาจริยํ เสวิตฺวา ชานนกาเล ชินภูมิ นาม. ภิกฺขุ จ ปนฺนโก ชิโน น กิฺจิ อาหาติ เอวํ อลาภึ สมณํ ปนฺนภูมีติ วทติ.

เอกูนปฺาส อาชีวกสเตติ เอกูนปฺาสอาชีวกวุตฺติสตานิ. ปริพฺพาชกสเตติ ปริพฺพาชกปพฺพชฺชาสตานิ. นาคาวาสสเตติ นาคมณฺฑลสตานิ. วีเส อินฺทฺริยสเตติ วีสตินฺทฺริยสตานิ. ตึเส นิรยสเตติ ตึส นิรยสตานิ. รโชธาตุโยติ รชโอกิรณฏฺานานิ, หตฺถปิฏฺิปาทปิฏฺาทีนิ สนฺธาย วทติ. สตฺต สฺีคพฺภาติ โอฏฺโคณคทฺรภอชปสุมิคมหึเส สนฺธาย วทติ. สตฺต อสฺีคพฺภาติ สาลิวีหิยวโคธูมกงฺคุวรกกุทฺรูสเก สนฺธาย วทติ. นิคณฺิคพฺภาติ คณฺิมฺหิ ชาตคพฺภา, อุจฺฉุเวฬุนฬาทโย สนฺธาย วทติ. สตฺต เทวาติ พหู เทวา. โส ปน สตฺตาติ วทติ. มนุสฺสาปิ อนนฺตา, โส สตฺตาติ วทติ. สตฺตปิสาจาติ ปิสาจา มหนฺตมหนฺตา สตฺตาติ วทติ. สราติ มหาสรา, กณฺณมุณฺฑรถการอโนตตฺตสีหปฺปปาตฉทฺทนฺตมนฺทากินีกุณาลทเห คเหตฺวา วทติ.

ปวุฏาติ คณฺิกา. ปปาตาติ มหาปปาตา. ปปาตสตานีติ ขุทฺทกปปาตสตานิ. สุปินาติ มหาสุปินา. สุปินสตานีติ ขุทฺทกสุปินสตานิ. มหากปฺปิโนติ มหากปฺปานํ. ตตฺถ เอกมฺหา มหาสรา วสฺสสเต วสฺสสเต กุสคฺเคน เอกํ อุทกพินฺทุํ นีหริตฺวา สตฺตกฺขตฺตุํ ตมฺหิ สเร นิรุทเก กเต เอโก มหากปฺโปติ วทติ. เอวรูปานํ มหากปฺปานํ จตุราสีติสตสหสฺสานิ เขเปตฺวา พาเล จ ปณฺฑิเต จ ทุกฺขสฺสนฺตํ กโรนฺตีติ อยมสฺส ลทฺธิ. ปณฺฑิโตปิ กิร อนฺตรา วิสุชฺฌิตุํ น สกฺโกติ. พาโลปิ ตโต อุทฺธํ น คจฺฉติ.

สีเลนาติ อเจลกสีเลน วา อฺเน วา เยน เกนจิ. วเตนาติ ตาทิเสเนว วเตน. ตเปนาติ ตโปกมฺเมน. อปริปกฺกํ ปริปาเจติ นาม, โย ‘‘อหํ ปณฺฑิโต’’ติ อนฺตรา วิสุชฺฌติ. ปริปกฺกํ ผุสฺส ผุสฺส พฺยนฺตึ กโรติ นาม โย ‘‘อหํ พาโล’’ติ วุตฺตปริมาณํ กาลํ อติกฺกมิตฺวา ยาติ. เหวํ นตฺถีติ เอวํ นตฺถิ. ตฺหิ อุภยมฺปิ น สกฺกา กาตุนฺติ ทีเปติ. โทณมิเตติ โทเณน มิตํ วิย. สุขทุกฺเขติ สุขทุกฺขํ. ปริยนฺตกเตติ วุตฺตปริมาเณน กาเลน กตปริยนฺเต. นตฺถิหายนวฑฺฒเนติ นตฺถิ หายนวฑฺฒนานิ. น สํสาโร ปณฺฑิตสฺส หายติ, น พาลสฺส วฑฺฒตีติ อตฺโถ. อุกฺกํสาวกํเสติ อุกฺกํสาวกํสา. หายนวฑฺฒนานเมตํ อธิวจนํ.

อิทานิ ตมตฺถํ อุปมาย สาเธนฺโต ‘‘เสยฺยถาปิ นามา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สุตฺตคุเฬติ เวเตฺวา กตสุตฺตคุเฬ. นิพฺเพิยมานเมว ปเลตีติ ปพฺพเต วา รุกฺขคฺเค วา ตฺวา ขิตฺตํ สุตฺตปฺปมาเณน นิพฺเพิยมานเมว คจฺฉติ, สุตฺเต ขีเณ ตตฺเถว ติฏฺติ, น คจฺฉติ. เอวเมว วุตฺตกาลโต อุทฺธํ น คจฺฉตีติ ทสฺเสติ.

อชิตเกสกมฺพลวาทวณฺณนา

๑๗๐-๑๗๒. อชิตวาเท นตฺถิ ทินฺนนฺติ ทินฺนผลาภาวํ สนฺธาย วทติ. ยิฏฺํ วุจฺจติ มหายาโค. หุตนฺติ ปเหณกสกฺกาโร อธิปฺเปโต. ตมฺปิ อุภยํ ผลาภาวเมว สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ. สุกตทุกฺกฏานนฺติ สุกตทุกฺกฏานํ, กุสลากุสลานนฺติ อตฺโถ. ผลํ วิปาโกติ ยํ ผลนฺติ วา วิปาโกติ วา วุจฺจติ, ตํ นตฺถีติ วทติ. นตฺถิ อยํ โลโกติ ปรโลเก ิตสฺส อยํ โลโก นตฺถิ, นตฺถิ ปโร โลโกติ อิธ โลเก ิตสฺสาปิ ปโร โลโก นตฺถิ, สพฺเพ ตตฺถ ตตฺเถว อุจฺฉิชฺชนฺตีติ ทสฺเสติ. นตฺถิ มาตา นตฺถิ ปิตาติ เตสุ สมฺมาปฏิปตฺติมิจฺฉาปฏิปตฺตีนํ ผลาภาววเสน วทติ. นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกาติ จวิตฺวา อุปปชฺชนกา สตฺตา นาม นตฺถีติ วทติ.

จาตุมหาภูติโกติ จตุมหาภูตมโย. ปถวี ปถวิกายนฺติ อชฺฌตฺติกปถวีธาตุ พาหิรปถวีธาตุํ. อนุเปตีติ อนุยายติ. อนุปคจฺฉตีติ ตสฺเสว เววจนํ. อนุคจฺฉตีติปิ อตฺโถ. อุภเยนาปิ อุเปติ, อุปคจฺฉตีติ ทสฺเสติ. อาปาทีสุปิ เอเสว นโย. อินฺทฺริยานีติ มนจฺฉฏฺานิ อินฺทฺริยานิ อากาสํ ปกฺขนฺทนฺติ. อาสนฺทิปฺจมาติ นิปนฺนมฺเจน ปฺจมา, มฺโจ เจว จตฺตาโร มฺจปาเท คเหตฺวา ิตา จตฺตาโร ปุริสา จาติ อตฺโถ. ยาวาฬาหนาติ ยาว สุสานา. ปทานีติ ‘อยํ เอวํ สีลวา อโหสิ, เอวํ ทุสฺสีโล’ติอาทินา นเยน ปวตฺตานิ คุณาคุณปทานิ, สรีรเมว วา เอตฺถ ปทานีติ อธิปฺเปตํ. กาโปตกานีติ กโปตวณฺณานิ, ปาราวตปกฺขวณฺณานีติ อตฺโถ. ภสฺสนฺตาติ ภสฺมนฺตา, อยเมว วา ปาฬิ. อาหุติโยติ ยํ ปเหณกสกฺการาทิเภทํ ทินฺนทานํ, สพฺพํ ตํ ฉาริกาวสานเมว โหติ, น ตโต ปรํ ผลทายกํ หุตฺวา คจฺฉตีติ อตฺโถ. ทตฺตุปฺตฺตนฺติ ทตฺตูหิ พาลมนุสฺเสหิ ปฺตฺตํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘พาเลหิ อพุทฺธีหิ ปฺตฺตมิทํ ทานํ, น ปณฺฑิเตหิ. พาลา เทนฺติ, ปณฺฑิตา คณฺหนฺตี’ติ ทสฺเสติ.

ตตฺถ ปูรโณ ‘‘กโรโต น กรียติ ปาป’’นฺติ วทนฺโต กมฺมํ ปฏิพาหติ. อชิโต ‘‘กายสฺส เภทา อุจฺฉิชฺชตี’’ติ วทนฺโต วิปากํ ปฏิพาหติ. มกฺขลิ ‘‘นตฺถิ เหตู’’ติ วทนฺโต อุภยํ ปฏิพาหติ. ตตฺถ กมฺมํ ปฏิพาหนฺเตนาปิ วิปาโก ปฏิพาหิโต โหติ, วิปากํ ปฏิพาหนฺเตนาปิ กมฺมํ ปฏิพาหิตํ โหติ. อิติ สพฺเพเปเต อตฺถโต อุภยปฺปฏิพาหกา อเหตุกวาทา เจว อกิริยวาทา จ นตฺถิกวาทา จ โหนฺติ.

เย วา ปน เตสํ ลทฺธึ คเหตฺวา รตฺติฏฺาเน ทิวาาเน นิสินฺนา สชฺฌายนฺติ วีมํสนฺติ, เตสํ ‘‘กโรโต น กรียติ ปาปํ, นตฺถิ เหตุ, นตฺถิ ปจฺจโย, มโต อุจฺฉิชฺชตี’’ติ ตสฺมึ อารมฺมเณ มิจฺฉาสติ สนฺติฏฺติ, จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ, ชวนานิ ชวนฺติ, ปมชวเน สเตกิจฺฉา โหนฺติ, ตถา ทุติยาทีสุ, สตฺตเม พุทฺธานมฺปิ อเตกิจฺฉา อนิวตฺติโน อริฏฺกณฺฏกสทิสา. ตตฺถ โกจิ เอกํ ทสฺสนํ โอกฺกมติ, โกจิ ทฺเว, โกจิ ตีณิปิ, เอกสฺมึ โอกฺกนฺเตปิ, ทฺวีสุ ตีสุ โอกฺกนฺเตสุปิ, นิยตมิจฺฉาทิฏฺิโกว โหติ; ปตฺโต สคฺคมคฺคาวรณฺเจว โมกฺขมคฺคาวรณฺจ, อภพฺโพ ตสฺสตฺตภาวสฺส อนนฺตรํ สคฺคมฺปิ คนฺตุํ, ปเคว โมกฺขํ. วฏฺฏขาณุ นาเมส สตฺโต ปถวิโคปโก, เยภุยฺเยน เอวรูปสฺส ภวโต วุฏฺานํ นตฺถิ.

‘‘ตสฺมา อกลฺยาณชนํ, อาสีวิสมิโวรคํ;

อารกา ปริวชฺเชยฺย, ภูติกาโม วิจกฺขโณ’’ติ.

ปกุธกจฺจายนวาทวณฺณนา

๑๗๓-๑๗๕. ปกุธวาเท อกฏาติ อกตา. อกฏวิธาติ อกตวิธานา. เอวํ กโรหีติ เกนจิ การาปิตาปิ น โหนฺตีติ อตฺโถ. อนิมฺมิตาติ อิทฺธิยาปิ น นิมฺมิตา. อนิมฺมาตาติ อนิมฺมาปิตา, เกจิ อนิมฺมาเปตพฺพาติ ปทํ วทนฺติ, ตํ เนว ปาฬิยํ, น อฏฺกถายํ ทิสฺสติ. วฺฌาทิปทตฺตยํ วุตฺตตฺถเมว. น อิฺชนฺตีติ เอสิกตฺถมฺโภ วิย ิตตฺตา น จลนฺติ. น วิปริณมนฺตีติ ปกตึ น ชหนฺติ. น อฺมฺํ พฺยาพาเธนฺตีติ น อฺมฺํ อุปหนนฺติ. นาลนฺติ น สมตฺถา. ปถวิกาโยติอาทีสุ ปถวีเยว ปถวิกาโย, ปถวิสมูโห วา. ตตฺถาติ เตสุ ชีวสตฺตเมสุ กาเยสุ. สตฺตนฺนํ ตฺเวว กายานนฺติ ยถา มุคฺคราสิอาทีสุ ปหตํ สตฺถํ มุคฺคาทีนํ อนฺตเรน ปวิสติ, เอวํ สตฺตนฺนํ กายานํ อนฺตเรน ฉิทฺเทน วิวเรน สตฺถํ ปวิสติ. ตตฺถ อหํ อิมํ ชีวิตา โวโรเปมีติ เกวลํ สฺามตฺตเมว โหตีติ ทสฺเสติ.

นิคณฺนาฏปุตฺตวาทวณฺณนา

๑๗๖-๑๗๘. นาฏปุตฺตวาเท จาตุยามสํวรสํวุโตติ จตุโกฏฺาเสน สํวเรน สํวุโต. สพฺพวาริวาริโตจาติ วาริตสพฺพอุทโก ปฏิกฺขิตฺตสพฺพสีโตทโกติ อตฺโถ. โส กิร สีโตทเก สตฺตสฺี โหติ, ตสฺมา น ตํ วฬฺเชติ. สพฺพวาริยุตฺโตติ สพฺเพน ปาปวารเณน ยุตฺโต. สพฺพวาริธุโตติ สพฺเพน ปาปวารเณน ธุตปาโป. สพฺพวาริผุโฏติ สพฺเพน ปาปวารเณน ผุฏฺโ. คตตฺโตติ โกฏิปฺปตฺตจิตฺโต. ยตตฺโตติ สํยตจิตฺโต. ิตตฺโตติ สุปฺปติฏฺิตจิตฺโต. เอตสฺส วาเท กิฺจิ สาสนานุโลมมฺปิ อตฺถิ, อสุทฺธลทฺธิตาย ปน สพฺพา ทิฏฺิเยว ชาตา.

สฺจยเพลฏฺปุตฺตวาทวณฺณนา

๑๗๙-๑๘๑. สฺจยวาโท อมราวิกฺเขเป วุตฺตนโย เอว.

ปมสนฺทิฏฺิกสามฺผลวณฺณนา

๑๘๒. โสหํ, ภนฺเตติ โส อหํ ภนฺเต, วาลุกํ ปีเฬตฺวา เตลํ อลภมาโน วิย ติตฺถิยวาเทสุ สารํ อลภนฺโต ภควนฺตํ ปุจฺฉามีติ อตฺโถ.

๑๘๓. ยถา เต ขเมยฺยาติ ยถา เต รุจฺเจยฺย. ทาโสติ อนฺโตชาตธนกฺกีตกรมรานีตสามํทาสพฺโยปคตานํ อฺตโร. กมฺมกาโรติ อนลโส กมฺมกรณสีโลเยว. ทูรโต ทิสฺวา ปมเมว อุฏฺหตีติ ปุพฺพุฏฺายี. เอวํ อุฏฺิโต สามิโน อาสนํ ปฺเปตฺวา ปาทโธวนาทิกตฺตพฺพกิจฺจํ กตฺวา ปจฺฉา นิปตติ นิสีทตีติ ปจฺฉานิปาตี. สามิกมฺหิ วา สยนโต อวุฏฺิเต ปุพฺเพเยว วุฏฺาตีติ ปุพฺพุฏฺายี. ปจฺจูสกาลโต ปฏฺาย ยาว สามิโน รตฺตึ นิทฺโทกฺกมนํ, ตาว สพฺพกิจฺจานิ กตฺวา ปจฺฉา นิปตติ, เสยฺยํ กปฺเปตีติ ปจฺฉานิปาตี. กึ กโรมิ, กึ กโรมีติ เอวํ กึการเมว ปฏิสุณนฺโต วิจรตีติ กึ การปฏิสฺสาวี. มนาปเมว กิริยํ กโรตีติ มนาปจารี. ปิยเมว วทตีติ ปิยวาที. สามิโน ตุฏฺปหฏฺํ มุขํ อุลฺโลกยมาโน วิจรตีติ มุขุลฺโลกโก.

เทโว มฺเติ เทโว วิย. โสวตสฺสาหํ ปุฺานิ กเรยฺยนฺติ โส วต อหํ เอวรูโป อสฺสํ, ยทิ ปุฺานิ กเรยฺยนฺติ อตฺโถ. ‘‘โส วตสฺส’สฺส’’นฺติปิ ปาโ, อยเมวตฺโถ. ยํนูนาหนฺติ สเจ ทานํ ทสฺสามิ, ยํ ราชา เอกทิวสํ เทติ, ตโต สตภาคมฺปิ ยาวชีวํ น สกฺขิสฺสามิ ทาตุนฺติ ปพฺพชฺชายํ อุสฺสาหํ กตฺวา เอวํ จินฺตนภาวํ ทสฺเสติ.

กาเยน สํวุโตติ กาเยน ปิหิโต หุตฺวา อกุสลสฺส ปเวสนทฺวารํ ถเกตฺวาติ อตฺโถ. เอเสว นโย เสสปททฺวเยปิ. ฆาสจฺฉาทนปรมตายาติ ฆาสจฺฉาทเนน ปรมตาย อุตฺตมตาย, เอตทตฺถมฺปิ อเนสนํ ปหาย อคฺคสลฺเลเขน สนฺตุฏฺโติ อตฺโถ. อภิรโต ปวิเวเกติ ‘‘กายวิเวโก จ วิเวกฏฺกายานํ, จิตฺตวิเวโก จ เนกฺขมฺมาภิรตานํ, ปรมโวทานปฺปตฺตานํ อุปธิวิเวโก จ นิรุปธีนํ ปุคฺคลานํ วิสงฺขารคตาน’’นฺติ เอวํ วุตฺเต ติวิเธปิ วิเวเก รโต; คณสงฺคณิกํ ปหาย กาเยน เอโก วิหรติ, จิตฺตกิเลสสงฺคณิกํ ปหาย อฏฺสมาปตฺติวเสน เอโก วิหรติ, ผลสมาปตฺตึ วา นิโรธสมาปตฺตึ วา ปวิสิตฺวา นิพฺพานํ ปตฺวา วิหรตีติ อตฺโถ. ยคฺเฆติ โจทนตฺเถ นิปาโต.

๑๘๔. อาสเนนปินิมนฺเตยฺยามาติ นิสินฺนาสนํ ปปฺโผเฏตฺวา อิธ นิสีทถาติ วเทยฺยาม. อภินิมนฺเตยฺยามปิ นนฺติ อภิหริตฺวาปิ นํ นิมนฺเตยฺยาม. ตตฺถ ทุวิโธ อภิหาโร – วาจาย เจว กาเยน จ. ตุมฺหากํ อิจฺฉิติจฺฉิตกฺขเณ อมฺหากํ จีวราทีหิ วเทยฺยาถ เยนตฺโถติ วทนฺโต หิ วาจาย อภิหริตฺวา นิมนฺเตติ นาม. จีวราทิเวกลฺลํ สลฺลกฺเขตฺวา อิทํ คณฺหาถาติ ตานิ เทนฺโต ปน กาเยน อภิหริตฺวา นิมนฺเตติ นาม. ตทุภยมฺปิ สนฺธาย อภินิมนฺเตยฺยามปิ นนฺติ อาห. เอตฺถ จ คิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาโรติ ยํ กิฺจิ คิลานสฺส สปฺปายํ โอสธํ. วจนตฺโถ ปน วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺโต. รกฺขาวรณคุตฺตินฺติ รกฺขาสงฺขาตฺเจว อาวรณสงฺขาตฺจ คุตฺตึ. สา ปเนสา น อาวุธหตฺเถ ปุริเส เปนฺเตน ธมฺมิกา นาม สํวิทหิตา โหติ. ยถา ปน อเวลาย กฏฺหาริกปณฺณหาริกาทโย วิหารํ น ปวิสนฺติ, มิคลุทฺทกาทโย วิหารสีมาย มิเค วา มจฺเฉ วา น คณฺหนฺติ, เอวํ สํวิทหนฺเตน ธมฺมิกา นาม รกฺขา สํวิหิตา โหติ, ตํ สนฺธายาห – ‘‘ธมฺมิก’’นฺติ.

๑๘๕. ยทิ เอวํ สนฺเตติ ยทิ ตว ทาโส ตุยฺหํ สนฺติกา อภิวาทนาทีนิ ลเภยฺย. เอวํ สนฺเต. อทฺธาติ เอกํสวจนเมตํ. ปมนฺติ ภณนฺโต อฺสฺสาปิ อตฺถิตํ ทีเปติ. เตเนว จ ราชา สกฺกา ปน, ภนฺเต, อฺมฺปีติอาทิมาห.

ทุติยสนฺทิฏฺิกสามฺผลวณฺณนา

๑๘๖-๑๘๘. กสตีติ กสฺสโก. เคหสฺส ปติ, เอกเคหมตฺเต เชฏฺโกติ คหปติโก. พลิสงฺขาตํ กรํ กโรตีติ กรการโก. ธฺราสึ ธนราสิฺจ วฑฺเฒตีติ ราสิวฑฺฒโก.

อปฺปํวาติ ปริตฺตกํ วา อนฺตมโส ตณฺฑุลนาฬิมตฺตกมฺปิ. โภคกฺขนฺธนฺติ โภคราสึ. มหนฺตํ วาติ วิปุลํ วา. ยถา หิ มหนฺตํ ปหาย ปพฺพชิตุํ ทุกฺกรํ, เอวํ อปฺปมฺปีติ ทสฺสนตฺถํ อุภยมาห. ทาสวาเร ปน ยสฺมา ทาโส อตฺตโนปิ อนิสฺสโร, ปเคว โภคานํ. ยฺหิ ตสฺส ธนํ, ตํ สามิกานฺเว โหติ, ตสฺมา โภคคฺคหณํ น กตํ. าติเยว าติปริวฏฺโฏ.

ปณีตตรสามฺผลวณฺณนา

๑๘๙. สกฺกา ปน, ภนฺเต, อฺมฺปิ ทิฏฺเว ธมฺเมติ อิธ เอวเมวาติ น วุตฺตํ. ตํ กสฺมาติ เจ, เอวเมวาติ หิ วุจฺจมาเน ปโหติ ภควา สกลมฺปิ รตฺตินฺทิวํ ตโต วา ภิยฺโยปิ เอวรูปาหิ อุปมาหิ สามฺผลํ ทีเปตุํ. ตตฺถ กิฺจาปิ เอตสฺส ภควโต วจนสวเน ปริยนฺตํ นาม นตฺถิ, ตถาปิ อตฺโถ ตาทิโสเยว ภวิสฺสตีติ จินฺเตตฺวา อุปริ วิเสสํ ปุจฺฉนฺโต เอวเมวาติ อวตฺวา – ‘‘อภิกฺกนฺตตรฺจ ปณีตตรฺจา’’ติ อาห. ตตฺถ อภิกฺกนฺตตรนฺติ อภิมนาปตรํ อติเสฏฺตรนฺติ อตฺโถ. ปณีตตรนฺติ อุตฺตมตรํ. เตน หีติ อุยฺโยชนตฺเถ นิปาโต. สวเน อุยฺโยเชนฺโต หิ นํ เอวมาห. สุโณหีติ อภิกฺกนฺตตรฺจ ปณีตตรฺจ สามฺผลํ สุณาติ.

สาธุกํ มนสิกโรหีติ เอตฺถ ปน สาธุกํ สาธูติ เอกตฺถเมตํ. อยฺหิ สาธุ-สทฺโท อายาจนสมฺปฏิจฺฉนสมฺปหํสนสุนฺทร ทฬฺหีกมฺมาทีสุ ทิสฺสติ. ‘‘สาธุ เม, ภนฺเต, ภควา สงฺขิตฺเตน ธมฺมํ เทเสตู’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๔.๙๕) หิ อายาจเน ทิสฺสติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเตติ โข โส ภิกฺขุ ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๘๖) สมฺปฏิจฺฉเน. ‘‘สาธุ สาธุ, สาริปุตฺตา’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๓.๓๔๙) สมฺปหํสเน.

‘‘สาธุ ธมฺมรุจิ ราชา, สาธุ ปฺาณวา นโร;

สาธุ มิตฺตานมทฺทุพฺโภ, ปาปสฺสากรณํ สุข’’นฺติ. (ชา. ๒.๑๗.๑๐๑);

อาทีสุ สุนฺทเร. ‘‘เตน หิ, พฺราหฺมณ, สุโณหิ สาธุกํ มนสิ กโรหี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๕.๑๙๒) สาธุกสทฺโทเยว ทฬฺหีกมฺเม, อาณตฺติยนฺติปิ วุจฺจติ . อิธาปิ อสฺส เอตฺเถว ทฬฺหีกมฺเม จ อาณตฺติยฺจ เวทิตพฺโพ. สุนฺทเรปิ วฏฺฏติ. ทฬฺหีกมฺมตฺเถน หิ ทฬฺหมิมํ ธมฺมํ สุณาหิ, สุคฺคหิตํ คณฺหนฺโต. อาณตฺติอตฺเถน มม อาณตฺติยา สุณาหิ, สุนฺทรตฺเถน สุนฺทรมิมํ ภทฺทกํ ธมฺมํ สุณาหีติ เอวํ ทีปิตํ โหติ.

มนสิ กโรหีติ อาวชฺช, สมนฺนาหราติ อตฺโถ, อวิกฺขิตฺตจิตฺโต หุตฺวา นิสาเมหิ, จิตฺเต กโรหีติ อธิปฺปาโย. อปิ เจตฺถ สุโณหีติ โสตินฺทฺริยวิกฺเขปนิวารณเมตํ. สาธุกํ มนสิ กโรหีติ มนสิกาเร ทฬฺหีกมฺมนิโยชเนน มนินฺทฺริยวิกฺเขปนิวารณํ. ปุริมฺเจตฺถ พฺยฺชนวิปลฺลาสคฺคาหวารณํ, ปจฺฉิมํ อตฺถวิปลฺลาสคฺคาหวารณํ. ปุริเมน จ ธมฺมสฺสวเน นิโยเชติ, ปจฺฉิเมน สุตานํ ธมฺมานํ ธารณูปปริกฺขาทีสุ. ปุริเมน จ สพฺยฺชโน อยํ ธมฺโม, ตสฺมา สวนีโยติ ทีเปติ . ปจฺฉิเมน สตฺโถ, ตสฺมา สาธุกํ มนสิ กาตพฺโพติ. สาธุกปทํ วา อุภยปเทหิ โยเชตฺวา ยสฺมา อยํ ธมฺโม ธมฺมคมฺภีโร เจว เทสนาคมฺภีโร จ, ตสฺมา สุณาหิ สาธุกํ, ยสฺมา อตฺถคมฺภีโร จ ปฏิเวธคมฺภีโร จ, ตสฺมา สาธุกํ มนสิ กโรหีติ เอวํ โยชนา เวทิตพฺพา. ภาสิสฺสามีติ สกฺกา มหาราชาติ เอวํ ปฏิฺาตํ สามฺผลเทสนํ วิตฺถารโต ภาสิสฺสามิ. ‘‘เทเสสฺสามี’’ติ หิ สงฺขิตฺตทีปนํ โหติ. ภาสิสฺสามีติ วิตฺถารทีปนํ. เตนาห วงฺคีสตฺเถโร –

‘‘สงฺขิตฺเตนปิ เทเสติ, วิตฺถาเรนปิ ภาสติ;

สาฬิกายิว นิคฺโฆโส, ปฏิภานํ อุทีรยี’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๒๑๔);

เอวํ วุตฺเต อุสฺสาหชาโต หุตฺวา – ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข ราชา มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต ภควโต ปจฺจสฺโสสิ ภควโต วจนํ สมฺปฏิจฺฉิ, ปฏิคฺคเหสีติ วุตฺตํ โหติ.

๑๙๐. อถสฺส ภควา เอตทโวจ, เอตํ อโวจ, อิทานิ วตฺตพฺพํ ‘‘อิธ มหาราชา’’ติอาทึ สกลํ สุตฺตํ อโวจาติ อตฺโถ. ตตฺถ อิธาติ เทสาปเทเส นิปาโต, สฺวายํ กตฺถจิ โลกํ อุปาทาย วุจฺจติ. ยถาห – ‘‘อิธ ตถาคโต โลเก อุปฺปชฺชตี’’ติ. กตฺถจิ สาสนํ ยถาห – ‘‘อิเธว, ภิกฺขเว, ปโม สมโณ, อิธ ทุติโย สมโณ’’ติ (อ. นิ. ๔.๒๔๑). กตฺถจิ โอกาสํ. ยถาห –

‘‘อิเธว ติฏฺมานสฺส, เทวภูตสฺส เม สโต;

ปุนรายุ จ เม ลทฺโธ, เอวํ ชานาหิ มาริสา’’ติ. (ที. นิ. ๒.๓๖๙);

กตฺถจิ ปทปูรณมตฺตเมว. ยถาห ‘‘อิธาหํ, ภิกฺขเว, ภุตฺตาวี อสฺสํ ปวาริโต’’ติ (ม. นิ. ๑.๓๐). อิธ ปน โลกํ อุปาทาย วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ. มหาราชาติ ยถา ปฏิฺาตํ เทสนํ เทเสตุํ ปุน มหาราชาติ อาลปติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘มหาราช อิมสฺมึ โลเก ตถาคโต อุปฺปชฺชติ อรหํ…เป… พุทฺโธ ภควา’’ติ. ตตฺถ ตถาคตสทฺโท พฺรหฺมชาเล วุตฺโต. อรหนฺติอาทโย วิสุทฺธิมคฺเค วิตฺถาริตา. โลเก อุปฺปชฺชตีติ เอตฺถ ปน โลโกติ – โอกาสโลโก สตฺตโลโก สงฺขารโลโกติ ติวิโธ. อิธ ปน สตฺตโลโก อธิปฺเปโต. สตฺตโลเก อุปฺปชฺชมาโนปิ จ ตถาคโต น เทวโลเก, น พฺรหฺมโลเก, มนุสฺสโลเกว อุปฺปชฺชติ. มนุสฺสโลเกปิ น อฺสฺมึ จกฺกวาเฬ, อิมสฺมึเยว จกฺกวาเฬ. ตตฺราปิ น สพฺพฏฺาเนสุ, ‘‘ปุรตฺถิมาย ทิสาย คชงฺคลํ นาม นิคโม ตสฺสาปเรน มหาสาโล, ตโต ปรา ปจฺจนฺติมา ชนปทา โอรโต มชฺเฌ, ปุรตฺถิมทกฺขิณาย ทิสาย สลฬวตี นาม นที. ตโต ปรา ปจฺจนฺติมา ชนปทา, โอรโต มชฺเฌ, ทกฺขิณาย ทิสาย เสตกณฺณิกํ นาม นิคโม, ตโต ปรา ปจฺจนฺติมา ชนปทา, โอรโต มชฺเฌ, ปจฺฉิมาย ทิสาย ถูณํ นาม พฺราหฺมณคาโม, ตโต ปรา ปจฺจนฺติมา ชนปทา, โอรโต มชฺเฌ, อุตฺตราย ทิสาย อุสิรทฺธโช นาม ปพฺพโต, ตโต ปรา ปจฺจนฺติมา ชนปทา โอรโต มชฺเฌ’’ติ เอวํ ปริจฺฉินฺเน อายามโต ติโยชนสเต, วิตฺถารโต อฑฺฒเตยฺยโยชนสเต, ปริกฺเขปโต นวโยชนสเต มชฺฌิมปเทเส อุปฺปชฺชติ. น เกวลฺจ ตถาคโต, ปจฺเจกพุทฺธา, อคฺคสาวกา, อสีติมหาเถรา, พุทฺธมาตา, พุทฺธปิตา, จกฺกวตฺตี ราชา อฺเ จ สารปฺปตฺตา พฺราหฺมณคหปติกา เอตฺเถวุปฺปชฺชนฺติ.

ตตฺถ ตถาคโต สุชาตาย ทินฺนมธุปายาสโภชนโต ยาว อรหตฺตมคฺโค, ตาว อุปฺปชฺชติ นาม, อรหตฺตผเล อุปฺปนฺโน นาม. มหาภินิกฺขมนโต วา ยาว อรหตฺตมคฺโค. ตุสิตภวนโต วา ยาว อรหตฺตมคฺโค. ทีปงฺกรปาทมูลโต วา ยาว อรหตฺตมคฺโค, ตาว อุปฺปชฺชติ นาม, อรหตฺตผเล อุปฺปนฺโน นาม. อิธ สพฺพปมํ อุปฺปนฺนภาวํ สนฺธาย อุปฺปชฺชตีติ วุตฺตํ. ตถาคโต โลเก อุปฺปนฺโน โหตีติ อยฺเหตฺถ อตฺโถ.

โส อิมํ โลกนฺติ โส ภควา อิมํ โลกํ. อิทานิ วตฺตพฺพํ นิทสฺเสติ. สเทวกนฺติ สห เทเวหิ สเทวกํ. เอวํ สห มาเรน สมารกํ, สห พฺรหฺมุนา สพฺรหฺมกํ, สห สมณพฺราหฺมเณหิ สสฺสมณพฺราหฺมณึ. ปชาตตฺตา ปชา, ตํ ปชํ. สห เทวมนุสฺเสหิ สเทวมนุสฺสํ. ตตฺถ สเทวกวจเนน ปฺจ กามาวจรเทวคฺคหณํ เวทิตพฺพํ. สมารก – วจเนน ฉฏฺกามาวจรเทวคฺคหณํ. สพฺรหฺมกวจเนน พฺรหฺมกายิกาทิพฺรหฺมคฺคหณํ. สสฺสมณพฺราหฺมณีวจเนน สาสนสฺส ปจฺจตฺถิกปจฺจามิตฺตสมณพฺราหฺมณคฺคหณํ, สมิตปาปพาหิตปาปสมณพฺราหฺมณคฺคหณฺจ. ปชาวจเนน สตฺตโลกคฺคหณํ. สเทวมนุสฺสวจเนน สมฺมุติเทวอวเสสมนุสฺสคฺคหณํ. เอวเมตฺถ ตีหิ ปเทหิ โอกาสโลเกน สทฺธึ สตฺตโลโก. ทฺวีหิ ปชาวเสน สตฺตโลโกว คหิโตติ เวทิตพฺโพ.

อปโร นโย, สเทวกคฺคหเณน อรูปาวจรเทวโลโก คหิโต. สมารกคฺคหเณน ฉ กามาวจรเทวโลโก. สพฺรหฺมกคฺคหเณน รูปี พฺรหฺมโลโก. สสฺสมณพฺราหฺมณาทิคฺคหเณน จตุปริสวเสน สมฺมุติเทเวหิ วา สห มนุสฺสโลโก, อวเสสสพฺพสตฺตโลโก วา.

อปิ เจตฺถ สเทวกวจเนน อุกฺกฏฺปริจฺเฉทโต สพฺพสฺส โลกสฺส สจฺฉิกตภาวมาห. ตโต เยสํ อโหสิ – ‘‘มาโร มหานุภาโว ฉ กามาวจริสฺสโร วสวตฺตี, กึ โสปิ เอเตน สจฺฉิกโต’’ติ, เตสํ วิมตึ วิธมนฺโต ‘‘สมารก’’นฺติ อาห. เยสํ ปน อโหสิ – ‘‘พฺรหฺมา มหานุภาโว เอกงฺคุลิยา เอกสฺมึ จกฺกวาฬสหสฺเส อาโลกํ ผรติ, ทฺวีหิ …เป… ทสหิ องฺคุลีหิ ทสสุ จกฺกวาฬสหสฺเสสุ อาโลกํ ผรติ. อนุตฺตรฺจ ฌานสมาปตฺติสุขํ ปฏิสํเวเทติ, กึ โสปิ สจฺฉิกโต’’ติ, เตสํ วิมตึ วิธมนฺโต สพฺรหฺมกนฺติ อาห. ตโต เย จินฺเตสุํ – ‘‘ปุถู สมณพฺราหฺมณา สาสนสฺส ปจฺจตฺถิกา, กึ เตปิ สจฺฉิกตา’’ติ, เตสํ วิมตึ วิธมนฺโต สสฺสมณพฺราหฺมณึ ปชนฺติ อาห. เอวํ อุกฺกฏฺุกฺกฏฺานํ สจฺฉิกตภาวํ ปกาเสตฺวา อถ สมฺมุติเทเว อวเสสมนุสฺเส จ อุปาทาย อุกฺกฏฺปริจฺเฉทวเสน เสสสตฺตโลกสฺส สจฺฉิกตภาวํ ปกาเสนฺโต สเทวมนุสฺสนฺติ อาห. อยเมตฺถ ภาวานุกฺกโม.

โปราณา ปนาหุ สเทวกนฺติ เทเวหิ สทฺธึ อวเสสโลกํ. สมารกนฺติ มาเรน สทฺธึ อวเสสโลกํ. สพฺรหฺมกนฺติ พฺรหฺเมหิ สทฺธึ อวเสสโลกํ. เอวํ สพฺเพปิ ติภวูปเค สตฺเต ตีหากาเรหิ ตีสุ ปเทสุ ปกฺขิปิตฺวา ปุน ทฺวีหิ ปเทหิ ปริยาทิยนฺโต สสฺสมณพฺราหฺมณึ ปชํ สเทวมนุสฺสนฺติ อาห. เอวํ ปฺจหิปิ ปเทหิ เตน เตนากาเรน เตธาตุกเมว ปริยาทินฺนนฺติ.

สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทตีติ เอตฺถ ปน สยนฺติ สามํ อปรเนยฺโย หุตฺวา. อภิฺาติ อภิฺาย, อธิเกน าเณน ตฺวาติ อตฺโถ. สจฺฉิกตฺวาติ ปจฺจกฺขํ กตฺวา, เอเตน อนุมานาทิปฏิกฺเขโป กโต โหติ. ปเวเทตีติ โพเธติ วิฺาเปติ ปกาเสติ.

โส ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ…เป… ปริโยสานกลฺยาณนฺติ โส ภควา สตฺเตสุ การุฺตํ ปฏิจฺจ หิตฺวาปิ อนุตฺตรํ วิเวกสุขํ ธมฺมํ เทเสติ. ตฺจ โข อปฺปํ วา พหุํ วา เทเสนฺโต อาทิกลฺยาณาทิปฺปการเมว เทเสติ. อาทิมฺหิปิ, กลฺยาณํ ภทฺทกํ อนวชฺชเมว กตฺวา เทเสติ, มชฺเฌปิ, ปริโยสาเนปิ, กลฺยาณํ ภทฺทกํ อนวชฺชเมว กตฺวา เทเสตีติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถ อตฺถิ เทสนาย อาทิมชฺฌปริโยสานํ, อตฺถิ สาสนสฺส. เทสนาย ตาว จตุปฺปทิกายปิ คาถาย ปมปาโท อาทิ นาม, ตโต ทฺเว มชฺฌํ นาม, อนฺเต เอโก ปริโยสานํ นาม. เอกานุสนฺธิกสฺส สุตฺตสฺส นิทานํ อาทิ, อิทมโวจาติ ปริโยสานํ, อุภินฺนมนฺตรา มชฺฌํ. อเนกานุสนฺธิกสฺส สุตฺตสฺส ปมานุสนฺธิ อาทิ, อนฺเต อนุสนฺธิ ปริโยสานํ, มชฺเฌ เอโก วา ทฺเว วา พหู วา มชฺฌเมว.

สาสนสฺส ปน สีลสมาธิวิปสฺสนา อาทิ นาม. วุตฺตมฺปิ เจตํ – ‘‘โก จาทิ กุสลานํ ธมฺมานํ? สีลฺจ สุวิสุทฺธํ ทิฏฺิ จ อุชุกา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๓๖๙). ‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, มชฺฌิมา ปฏิปทา ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺธา’’ติ เอวํ วุตฺโต ปน อริยมคฺโค มชฺฌํ นาม. ผลฺเจว นิพฺพานฺจ ปริโยสานํ นาม. ‘‘เอตทตฺถมิทํ, พฺราหฺมณ, พฺรหฺมจริยํ, เอตํ สารํ, เอตํ ปริโยสาน’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๓๒๔) หิ เอตฺถ ผลํ ปริโยสานนฺติ วุตฺตํ. ‘‘นิพฺพาโนคธํ หิ, อาวุโส วิสาข, พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ, นิพฺพานปรายนํ นิพฺพานปริโยสาน’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๔๖๖) เอตฺถ นิพฺพานํ ปริโยสานนฺติ วุตฺตํ. อิธ เทสนาย อาทิมชฺฌปริโยสานํ อธิปฺเปตํ. ภควา หิ ธมฺมํ เทเสนฺโต อาทิมฺหิ สีลํ ทสฺเสตฺวา มชฺเฌ มคฺคํ ปริโยสาเน นิพฺพานํ ทสฺเสติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘โส ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณ’’นฺติ. ตสฺมา อฺโปิ ธมฺมกถิโก ธมฺมํ กเถนฺโต –

‘‘อาทิมฺหิ สีลํ ทสฺเสยฺย, มชฺเฌ มคฺคํ วิภาวเย;

ปริโยสานมฺหิ นิพฺพานํ, เอสา กถิกสณฺิตี’’ติ.

สาตฺถํ สพฺยฺชนนฺติ ยสฺส หิ ยาคุภตฺตอิตฺถิปุริสาทิวณฺณนานิสฺสิตา เทสนา โหติ, น โส สาตฺถํ เทเสติ. ภควา ปน ตถารูปํ เทสนํ ปหาย จตุสติปฏฺานาทินิสฺสิตํ เทสนํ เทเสติ. ตสฺมา สาตฺถํ เทเสตีติ วุจฺจติ. ยสฺส ปน เทสนา เอกพฺยฺชนาทิยุตฺตา วา สพฺพนิโรฏฺพฺยฺชนา วา สพฺพวิสฺสฏฺสพฺพนิคฺคหีตพฺยฺชนา วา, ตสฺส ทมิฬกิราตสวราทิมิลกฺขูนํ ภาสา วิย พฺยฺชนปาริปูริยา อภาวโต อพฺยฺชนา นาม เทสนา โหติ. ภควา ปน –

‘‘สิถิลํ ธนิตฺจ ทีฆรสฺสํ, ครุกํ ลหุกฺจ นิคฺคหีตํ;

สมฺพนฺธววตฺถิตํ วิมุตฺตํ, ทสธา พฺยฺชนพุทฺธิยา ปเภโท’’ติ.

เอวํ วุตฺตํ ทสวิธํ พฺยฺชนํ อมกฺเขตฺวา ปริปุณฺณพฺยฺชนเมว กตฺวา ธมฺมํ เทเสติ, ตสฺมา สพฺยฺชนํ ธมฺมํ เทเสตีติ วุจฺจติ. เกวลปริปุณฺณนฺติ เอตฺถ เกวลนฺติ สกลาธิวจนํ. ปริปุณฺณนฺติ อนูนาธิกวจนํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ สกลปริปุณฺณเมว เทเสติ, เอกเทสนาปิ อปริปุณฺณา นตฺถีติ. อุปเนตพฺพอปเนตพฺพสฺส อภาวโต เกวลปริปุณฺณนฺติ เวทิตพฺพํ. ปริสุทฺธนฺติ นิรุปกฺกิเลสํ. โย หิ อิมํ ธมฺมเทสนํ นิสฺสาย ลาภํ วา สกฺการํ วา ลภิสฺสามีติ เทเสติ, ตสฺส อปริสุทฺธา เทสนา โหติ. ภควา ปน โลกามิสนิรเปกฺโข หิตผรเณน เมตฺตาภาวนาย มุทุหทโย อุลฺลุมฺปนสภาวสณฺิเตน จิตฺเตน เทเสติ. ตสฺมา ปริสุทฺธํ ธมฺมํ เทเสตีติ วุจฺจติ.

พฺรหฺมจริยํ ปกาเสตีติ เอตฺถ ปนายํ พฺรหฺมจริย-สทฺโท ทาเน เวยฺยาวจฺเจ ปฺจสิกฺขาปทสีเล อปฺปมฺาสุ เมถุนวิรติยํ สทารสนฺโตเส วีริเย อุโปสถงฺเคสุ อริยมคฺเค สาสเนติ อิเมสฺวตฺเถสุ ทิสฺสติ.

‘‘กึ เต วตํ กึ ปน พฺรหฺมจริยํ,

กิสฺส สุจิณฺณสฺส อยํ วิปาโก;

อิทฺธี ชุตี พลวีริยูปปตฺติ,

อิทฺจ เต นาค, มหาวิมานํ.

อหฺจ ภริยา จ มนุสฺสโลเก,

สทฺธา อุโภ ทานปตี อหุมฺหา;

โอปานภูตํ เม ฆรํ ตทาสิ,

สนฺตปฺปิตา สมณพฺราหฺมณา จ.

ตํ เม วตํ ตํ ปน พฺรหฺมจริยํ,

ตสฺส สุจิณฺณสฺส อยํ วิปาโก;

อิทฺธี ชุตี พลวีริยูปปตฺติ,

อิทฺจ เม ธีร มหาวิมาน’’นฺติ. (ชา. ๒.๑๗.๑๕๙๕);

อิมสฺมิฺหิ ปุณฺณกชาตเก ทานํ พฺรหฺมจริยนฺติ วุตฺตํ.

‘‘เกน ปาณิ กามทโท, เกน ปาณิ มธุสฺสโว;

เกน เต พฺรหฺมจริเยน, ปุฺํ ปาณิมฺหิ อิชฺฌติ.

เตน ปาณิ กามทโท, เตน ปาณิ มธุสฺสโว;

เตน เม พฺรหฺมจริเยน, ปุฺํ ปาณิมฺหิ อิชฺฌตี’’ติ. (เป. ว. ๒๗๕,๒๗๗);

อิมสฺมึ องฺกุรเปตวตฺถุมฺหิ เวยฺยาวจฺจํ พฺรหฺมจริยนฺติ วุตฺตํ. ‘‘เอวํ, โข ตํ ภิกฺขเว, ติตฺติริยํ นาม พฺรหฺมจริยํ อโหสี’’ติ (จูฬว. ๓๑๑) อิมสฺมึ ติตฺติรชาตเก ปฺจสิกฺขาปทสีลํ พฺรหฺมจริยนฺติ วุตฺตํ. ‘‘ตํ โข ปน เม, ปฺจสิข, พฺรหฺมจริยํ เนว นิพฺพิทาย น วิราคาย น นิโรธาย…เป… ยาวเทว พฺรหฺมโลกูปปตฺติยา’’ติ (ที. นิ. ๒.๓๒๙) อิมสฺมึ มหาโควินฺทสุตฺเต จตสฺโส อปฺปมฺาโย พฺรหฺมจริยนฺติ วุตฺตา. ‘‘ปเร อพฺรหฺมจารี ภวิสฺสนฺติ, มยเมตฺถ พฺรหฺมจารี ภวิสฺสามา’’ติ (ม. นิ. ๑.๘๓) อิมสฺมึ สลฺเลขสุตฺเต เมถุนวิรติ พฺรหฺมจริยนฺติ วุตฺตา.

‘‘มยฺจ ภริยา นาติกฺกมาม,

อมฺเห จ ภริยา นาติกฺกมนฺติ;

อฺตฺร ตาหิ พฺรหฺมจริยํ จราม,

ตสฺมา หิ อมฺหํ ทหรา น มียเร’’ติ. (ชา. ๑.๔.๙๗);

มหาธมฺมปาลชาตเก สทารสนฺโตโส พฺรหฺมจริยนฺติ วุตฺโต. ‘‘อภิชานามิ โข ปนาหํ, สาริปุตฺต, จตุรงฺคสมนฺนาคตํ พฺรหฺมจริยํ จริตา, ตปสฺสี สุทํ โหมี’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๕๕) โลมหํสนสุตฺเต วีริยํ พฺรหฺมจริยนฺติ วุตฺตํ.

‘‘หีเนน พฺรหฺมจริเยน, ขตฺติเย อุปปชฺชติ;

มชฺฌิเมน จ เทวตฺตํ, อุตฺตเมน วิสุชฺฌตี’’ติ. (ชา. ๑.๘.๗๕);

เอวํ นิมิชาตเก อตฺตทมนวเสน กโต อฏฺงฺคิโก อุโปสโถ พฺรหฺมจริยนฺติ วุตฺโต. ‘‘อิทํ โข ปน เม, ปฺจสิข, พฺรหฺมจริยํ เอกนฺตนิพฺพิทาย วิราคาย นิโรธาย…เป… อยเมว อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค’’ติ (ที. นิ. ๒.๓๒๙) มหาโควินฺทสุตฺตสฺมึเยว อริยมคฺโค พฺรหฺมจริยนฺติ วุตฺโต. ‘‘ตยิทํ พฺรหฺมจริยํ อิทฺธฺเจว ผีตฺจ วิตฺถาริกํ พาหุชฺํ ปุถุภูตํ ยาว เทวมนุสฺเสหิ สุปฺปกาสิต’’นฺติ (ที. นิ. ๓.๑๗๔) ปาสาทิกสุตฺเต สิกฺขตฺตยสงฺคหิตํ สกลสาสนํ พฺรหฺมจริยนฺติ วุตฺตํ. อิมสฺมิมฺปิ าเน อิทเมว พฺรหฺมจริยนฺติ อธิปฺเปตํ. ตสฺมา พฺรหฺมจริยํ ปกาเสตีติ โส ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ…เป… ปริสุทฺธํ. เอวํ เทเสนฺโต จ สิกฺขตฺตยสงฺคหิตํ สกลสาสนํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสตีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. พฺรหฺมจริยนฺติ เสฏฺฏฺเน พฺรหฺมภูตํ จริยํ. พฺรหฺมภูตานํ วา พุทฺธาทีนํ จริยนฺติ วุตฺตํ โหติ.

๑๙๑. ตํ ธมฺมนฺติ ตํ วุตฺตปฺปการสมฺปทํ ธมฺมํ. สุณาติ คหปติ วาติ กสฺมา ปมํ คหปตึ นิทฺทิสติ? นิหตมานตฺตา, อุสฺสนฺนตฺตา จ. เยภุยฺเยน หิ ขตฺติยกุลโต ปพฺพชิตา ชาตึ นิสฺสาย มานํ กโรนฺติ. พฺราหฺมณกุลา ปพฺพชิตา มนฺเต นิสฺสาย มานํ กโรนฺติ. หีนชจฺจกุลา ปพฺพชิตา อตฺตโน อตฺตโน วิชาติตาย ปติฏฺาตุํ น สกฺโกนฺติ. คหปติทารกา ปน กจฺเฉหิ เสทํ มุฺจนฺเตหิ ปิฏฺิยา โลณํ ปุปฺผมานาย ภูมึ กสิตฺวา ตาทิสสฺส มานสฺส อภาวโต นิหตมานทปฺปา โหนฺติ. เต ปพฺพชิตฺวา มานํ วา ทปฺปํ วา อกตฺวา ยถาพลํ สกลพุทฺธวจนํ อุคฺคเหตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรนฺตา สกฺโกนฺติ อรหตฺเต ปติฏฺาตุํ. อิตเรหิ จ กุเลหิ นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชิตา นาม น พหุกา, คหปติกาว พหุกา. อิติ นิหตมานตฺตา อุสฺสนฺนตฺตา จ ปมํ คหปตึ นิทฺทิสตีติ.

อฺตรสฺมึ วาติ อิตเรสํ วา กุลานํ อฺตรสฺมึ. ปจฺจาชาโตติ ปติชาโต. ตถาคเต สทฺธํ ปฏิลภตีติ ปริสุทฺธํ ธมฺมํ สุตฺวา ธมฺมสฺสามิมฺหิ ตถาคเต – ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ วต โส ภควา’’ติ สทฺธํ ปฏิลภติ. อิติ ปฏิสฺจิกฺขตีติ เอวํ ปจฺจเวกฺขติ. สมฺพาโธ ฆราวาโสติ สเจปิ สฏฺิหตฺเถ ฆเร โยชนสตนฺตเรปิ วา ทฺเว ชายมฺปติกา วสนฺติ, ตถาปิ เนสํ สกิฺจนสปลิโพธฏฺเน ฆราวาโส สมฺพาโธเยว. รโชปโถติ ราครชาทีนํ อุฏฺานฏฺานนฺติ มหาอฏฺกถายํ วุตฺตํ. อาคมนปโถติปิ วทนฺติ. อลคฺคนฏฺเน อพฺโภกาโส วิยาติ อพฺโภกาโส. ปพฺพชิโต หิ กูฏาคารรตนปาสาทเทววิมานาทีสุ ปิหิตทฺวารวาตปาเนสุ ปฏิจฺฉนฺเนสุ วสนฺโตปิ เนว ลคฺคติ, น สชฺชติ, น พชฺฌติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อพฺโภกาโส ปพฺพชฺชา’’ติ. อปิ จ สมฺพาโธ ฆราวาโส กุสลกิริยาย โอกาสาภาวโต. รโชปโถ อสํวุตสงฺการฏฺานํ วิย รชานํ กิเลสรชานํ สนฺนิปาตฏฺานโต. อพฺโภกาโส ปพฺพชฺชา กุสลกิริยาย ยถาสุขํ โอกาสสพฺภาวโต.

นยิทํสุกรํ…เป… ปพฺพเชยฺยนฺติ เอตฺถายํ สงฺเขปกถา, ยเทตํ สิกฺขตฺตยพฺรหฺมจริยํ เอกมฺปิ ทิวสํ อขณฺฑํ กตฺวา จริมกจิตฺตํ ปาเปตพฺพตาย เอกนฺตปริปุณฺณํ, จริตพฺพํ เอกทิวสมฺปิ จ กิเลสมเลน อมลีนํ กตฺวา จริมกจิตฺตํ ปาเปตพฺพตาย เอกนฺตปริสุทฺธํ . สงฺขลิขิตนฺติ ลิขิตสงฺขสทิสํ โธตสงฺขสปฺปฏิภาคํ จริตพฺพํ. อิทํ น สุกรํ อคารํ อชฺฌาวสตา อคารมชฺเฌ วสนฺเตน เอกนฺตปริปุณฺณํ…เป… จริตุํ, ยํนูนาหํ เกเส จ มสฺสุฺจ โอหาเรตฺวา กสายรสปีตตาย กาสายานิ พฺรหฺมจริยํ จรนฺตานํ อนุจฺฉวิกานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา ปริทหิตฺวา อคารสฺมา นิกฺขมิตฺวา อนคาริยํ ปพฺพเชยฺยนฺติ. เอตฺถ จ ยสฺมา อคารสฺส หิตํ กสิวาณิชฺชาทิกมฺมํ อคาริยนฺติ วุจฺจติ, ตฺจ ปพฺพชฺชาย นตฺถิ, ตสฺมา ปพฺพชฺชา อนคาริยนฺติ าตพฺพา, ตํ อนคาริยํ. ปพฺพเชยฺยนฺติ ปฏิปชฺเชยฺยํ.

๑๙๒-๑๙๓. อปฺปํ วาติ สหสฺสโต เหฏฺา โภคกฺขนฺโธ อปฺโป นาม โหติ, สหสฺสโต ปฏฺาย มหา. อาพนฺธนฏฺเน าติเยว าติปริวฏฺโฏ. โสปิ วีสติยา เหฏฺา อปฺโป นาม โหติ, วีสติยา ปฏฺาย มหา. ปาติโมกฺขสํวรสํวุโตติ ปาติโมกฺขสํวเรน สมนฺนาคโต. อาจารโคจรสมฺปนฺโนติ อาจาเรน เจว โคจเรน จ สมฺปนฺโน. อณุมตฺเตสูติ อปฺปมตฺตเกสุ. วชฺเชสูติ อกุสลธมฺเมสุ. ภยทสฺสาวีติ ภยทสฺสี. สมาทายาติ สมฺมา อาทิยิตฺวา. สิกฺขติ สิกฺขาปเทสูติ สิกฺขาปเทสุ ตํ ตํ สิกฺขาปทํ สมาทิยิตฺวา สิกฺขติ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺโต.

กายกมฺมวจีกมฺเมน สมนฺนาคโต กุสเลน ปริสุทฺธาชีโวติ เอตฺถ อาจารโคจรคฺคหเณเนว จ กุสเล กายกมฺมวจีกมฺเม คหิเตปิ ยสฺมา อิทํ อาชีวปาริสุทฺธิสีลํ นาม น อากาเส วา รุกฺขคฺคาทีสุ วา อุปฺปชฺชติ, กายวจีทฺวาเรสุเยว ปน อุปฺปชฺชติ; ตสฺมา ตสฺส อุปฺปตฺติทฺวารทสฺสนตฺถํ กายกมฺมวจีกมฺเมน สมนฺนาคโต กุสเลนาติ วุตฺตํ. ยสฺมา ปน เตน สมนฺนาคโต, ตสฺมา ปริสุทฺธาชีโว. สมณมุณฺฑิกปุตฺตสุตฺตนฺตวเสน (ม. นิ. ๒.๒๖๐) วา เอวํ วุตฺตํ. ตตฺถ หิ ‘‘กตเม จ, ถปติ, กุสลา สีลา? กุสลํ กายกมฺมํ, กุสลํ วจีกมฺมํ, ปริสุทฺธํ อาชีวมฺปิ โข อหํ ถปติ สีลสฺมึ วทามี’’ติ วุตฺตํ. ยสฺมา ปน เตน สมนฺนาคโต, ตสฺมา ปริสุทฺธาชีโวติ เวทิตพฺโพ.

สีลสมฺปนฺโนติ พฺรหฺมชาเล วุตฺเตน ติวิเธน สีเลน สมนฺนาคโต โหติ. อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวาโรติ มนจฺฉฏฺเสุ อินฺทฺริเยสุ ปิหิตทฺวาโร โหติ. สติสมฺปชฺเน สมนฺนาคโตติ อภิกฺกนฺเต ปฏิกฺกนฺเตติอาทีสุ สตฺตสุ าเนสุ สติยา เจว สมฺปชฺเน จ สมนฺนาคโต โหติ. สนฺตุฏฺโติ จตูสุ ปจฺจเยสุ ติวิเธน สนฺโตเสน สนฺตุฏฺโ โหติ.

จูฬสีลวณฺณนา

๑๙๔-๒๑๑. เอวํ มาติกํ นิกฺขิปิตฺวา อนุปุพฺเพน ภาเชนฺโต ‘‘กถฺจ, มหาราช, ภิกฺขุ สีลสมฺปนฺโน โหตี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อิทมฺปิสฺส โหติ สีลสฺมินฺติ อิทมฺปิ อสฺส ภิกฺขุโน ปาณาติปาตา เวรมณิ สีลสฺมึ เอกํ สีลํ โหตีติ อตฺโถ. ปจฺจตฺตวจนตฺเถ วา เอตํ ภุมฺมํ. มหาอฏฺกถายฺหิ อิทมฺปิ ตสฺส สมณสฺส สีลนฺติ อยเมว อตฺโถ วุตฺโต. เสสํ พฺรหฺมชาเล วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อิทมสฺส โหติ สีลสฺมินฺติ อิทํ อสฺส สีลํ โหตีติ อตฺโถ.

๒๑๒. น กุโตจิ ภยํ สมนุปสฺสติ, ยทิทํ สีลสํวรโตติ ยานิ อสํวรมูลกานิ ภยานิ อุปฺปชฺชนฺติ, เตสุ ยํ อิทํ ภยํ สีลสํวรโต ภเวยฺย, ตํ กุโตจิ เอกสํวรโตปิ น สมนุปสฺสติ. กสฺมา? สํวรโต อสํวรมูลกสฺส ภยสฺส อภาวา. มุทฺธาภิสิตฺโตติ ยถาวิธานวิหิเตน ขตฺติยาภิเสเกน มุทฺธนิ อวสิตฺโต. ยทิทํ ปจฺจตฺถิกโตติ ยํ กุโตจิ เอกปจฺจตฺถิกโตปิ ภยํ ภเวยฺย, ตํ น สมนุปสฺสติ. กสฺมา? ยสฺมา นิหตปจฺจามิตฺโต. อชฺฌตฺตนฺติ นิยกชฺฌตฺตํ, อตฺตโน สนฺตาเนติ อตฺโถ. อนวชฺชสุขนฺติ อนวชฺชํ อนินฺทิตํ กุสลํ สีลปทฏฺาเนหิ อวิปฺปฏิสารปาโมชฺชปีติปสฺสทฺธิธมฺเมหิ ปริคฺคหิตํ กายิกเจตสิกสุขํ ปฏิสํเวเทติ. เอวํ โข, มหาราช, ภิกฺขุ สีลสมฺปนฺโน โหตีติ เอวํ นิรนฺตรํ วิตฺถาเรตฺวา ทสฺสิเตน ติวิเธน สีเลน สมนฺนาคโต ภิกฺขุ สีลสมฺปนฺโน นาม โหตีติ สีลกถํ นิฏฺาเปสิ.

อินฺทฺริยสํวรกถา

๒๑๓. อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารภาชนีเย จกฺขุนา รูปนฺติ อยํ จกฺขุสทฺโท กตฺถจิ พุทฺธจกฺขุมฺหิ วตฺตติ, ยถาห – ‘‘พุทฺธจกฺขุนา โลกํ โวโลเกสี’’ติ (มหาว. ๙). กตฺถจิ สพฺพฺุตฺาณสงฺขาเต สมนฺตจกฺขุมฺหิ, ยถาห – ‘‘ตถูปมํ ธมฺมมยํ, สุเมธ, ปาสาทมารุยฺห สมนฺตจกฺขู’’ติ (มหาว. ๘). กตฺถจิ ธมฺมจกฺขุมฺหิ ‘‘วิรชํ วีตมลํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาที’’ติ (มหาว. ๑๖) หิ เอตฺถ อริยมคฺคตฺตยปฺา. ‘‘จกฺขุํ อุทปาทิ าณํ อุทปาที’’ติ (มหาว. ๑๕) เอตฺถ ปุพฺเพนิวาสาทิาณํ ปฺาจกฺขูติ วุจฺจติ. ‘‘ทิพฺเพน จกฺขุนา’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๘๔) อาคตฏฺาเนสุ ทิพฺพจกฺขุมฺหิ วตฺตติ. ‘‘จกฺขุฺจ ปฏิจฺจ รูเป จา’’ติ เอตฺถ ปสาทจกฺขุมฺหิ วตฺตติ. อิธ ปนายํ ปสาทจกฺขุโวหาเรน จกฺขุวิฺาเณ วตฺตติ, ตสฺมา จกฺขุวิฺาเณน รูปํ ทิสฺวาติ อยเมตฺถตฺโถ. เสสปเทสุ ยํ วตฺตพฺพํ สิยา, ตํ สพฺพํ วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตํ. อพฺยาเสกสุขนฺติ กิเลสพฺยาเสกวิรหิตตฺตา อพฺยาเสกํ อสมฺมิสฺสํ ปริสุทฺธํ อธิจิตฺตสุขํ ปฏิสํเวเทตีติ.

สติสมฺปชฺกถา

๒๑๔. สติสมฺปชฺภาชนียมฺหิ อภิกฺกนฺเต ปฏิกฺกนฺเตติ เอตฺถ ตาว อภิกฺกนฺตํ วุจฺจติ คมนํ, ปฏิกฺกนฺตํ นิวตฺตนํ, ตทุภยมฺปิ จตูสุ อิริยาปเถสุ ลพฺภติ. คมเน ตาว ปุรโต กายํ อภิหรนฺโต อภิกฺกมติ นาม . ปฏินิวตฺตนฺโต ปฏิกฺกมติ นาม. าเนปิ ิตโกว กายํ ปุรโต โอนาเมนฺโต อภิกฺกมติ นาม, ปจฺฉโต อปนาเมนฺโต ปฏิกฺกมติ นาม. นิสชฺชาย นิสินฺนโกว อาสนสฺส ปุริมองฺคาภิมุโข สํสรนฺโต อภิกฺกมติ นาม, ปจฺฉิมองฺคปเทสํ ปจฺจาสํสรนฺโต ปฏิกฺกมติ นาม. นิปชฺชเนปิ เอเสว นโย.

สมฺปชานการี โหตีติ สมฺปชฺเน สพฺพกิจฺจการี. สมฺปชฺเมว วา การี. โส หิ อภิกฺกนฺตาทีสุ สมฺปชฺํ กโรเตว. น กตฺถจิ สมฺปชฺวิรหิโต โหติ. ตตฺถ สาตฺถกสมฺปชฺํ, สปฺปายสมฺปชฺํ, โคจรสมฺปชฺํ อสมฺโมหสมฺปชฺนฺติ จตุพฺพิธํ สมฺปชฺํ. ตตฺถ อภิกฺกมนจิตฺเต อุปฺปนฺเน จิตฺตวเสเนว อคนฺตฺวา – ‘‘กินฺนุ เม เอตฺถ คเตน อตฺโถ อตฺถิ นตฺถี’’ติ อตฺถานตฺถํ ปริคฺคเหตฺวา อตฺถปริคฺคณฺหนํ สาตฺถกสมฺปชฺํ. ตตฺถ จ อตฺโถติ เจติยทสฺสนโพธิสงฺฆเถรอสุภทสฺสนาทิวเสน ธมฺมโต วุฑฺฒิ. เจติยํ วา โพธึ วา ทิสฺวาปิ หิ พุทฺธารมฺมณํ, สงฺฆทสฺสเนน สงฺฆารมฺมณํ, ปีตึ อุปฺปาเทตฺวา ตเทว ขยวยโต สมฺมสนฺโต อรหตฺตํ ปาปุณาติ. เถเร ทิสฺวา เตสํ โอวาเท ปติฏฺาย, อสุภํ ทิสฺวา ตตฺถ ปมชฺฌานํ อุปฺปาเทตฺวา ตเทว ขยวยโต สมฺมสนฺโต อรหตฺตํ ปาปุณาติ. ตสฺมา เอเตสํ ทสฺสนํ สาตฺถกนฺติ วุตฺตํ. เกจิ ปน อามิสโตปิ วุฑฺฒิ อตฺโถเยว, ตํ นิสฺสาย พฺรหฺมจริยานุคฺคหาย ปฏิปนฺนตฺตาติ วทนฺติ.

ตสฺมึ ปน คมเน สปฺปายาสปฺปายํ ปริคฺคเหตฺวา สปฺปายปริคฺคณฺหนํ สปฺปายสมฺปชฺํ. เสยฺยถิทํ – เจติยทสฺสนํ ตาว สาตฺถกํ, สเจ ปน เจติยสฺส มหาปูชาย ทสทฺวาทสโยชนนฺตเร ปริสา สนฺนิปตนฺติ, อตฺตโน วิภวานุรูปา อิตฺถิโยปิ ปุริสาปิ อลงฺกตปฏิยตฺตา จิตฺตกมฺมรูปกานิ วิย สฺจรนฺติ. ตตฺร จสฺส อิฏฺเ อารมฺมเณ โลโภ โหติ, อนิฏฺเ ปฏิโฆ, อสมเปกฺขเน โมโห อุปฺปชฺชติ, กายสํสคฺคาปตฺตึ วา อาปชฺชติ. ชีวิตพฺรหฺมจริยานํ วา อนฺตราโย โหติ, เอวํ ตํ านํ อสปฺปายํ โหติ. วุตฺตปฺปการอนฺตรายาภาเว สปฺปายํ. โพธิทสฺสเนปิ เอเสว นโย. สงฺฆทสฺสนมฺปิ สาตฺถํ. สเจ ปน อนฺโตคาเม มหามณฺฑปํ กาเรตฺวา สพฺพรตฺตึ ธมฺมสฺสวนํ กโรนฺเตสุ มนุสฺเสสุ วุตฺตปฺปกาเรเนว ชนสนฺนิปาโต เจว อนฺตราโย จ โหติ, เอวํ ตํ านํ อสปฺปายํ โหติ. อนฺตรายาภาเว สปฺปายํ. มหาปริสปริวารานํ เถรานํ ทสฺสเนปิ เอเสว นโย.

อสุภทสฺสนมฺปิ สาตฺถํ, ตทตฺถทีปนตฺถฺจ อิทํ วตฺถุ – เอโก กิร ทหรภิกฺขุ สามเณรํ คเหตฺวา ทนฺตกฏฺตฺถาย คโต. สามเณโร มคฺคา โอกฺกมิตฺวา ปุรโต คจฺฉนฺโต อสุภํ ทิสฺวา ปมชฺฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา ตเทว ปาทกํ กตฺวา สงฺขาเร สมฺมสนฺโต ตีณิ ผลานิ สจฺฉิกตฺวา อุปริมคฺคตฺถาย กมฺมฏฺานํ ปริคฺคเหตฺวา อฏฺาสิ. ทหโร ตํ อปสฺสนฺโต สามเณราติ ปกฺโกสิ. โส ‘มยา ปพฺพชิตทิวสโต ปฏฺาย ภิกฺขุนา สทฺธึ ทฺเว กถา นาม น กถิตปุพฺพา. อฺสฺมิมฺปิ ทิวเส อุปริ วิเสสํ นิพฺพตฺเตสฺสามี’ติ จินฺเตตฺวา กึ, ภนฺเตติ ปฏิวจนมทาสิ. ‘เอหี’ติ จ วุตฺเต เอกวจเนเนว อาคนฺตฺวา, ‘ภนฺเต, อิมินา ตาว มคฺเคเนว คนฺตฺวา มยา ิโตกาเส มุหุตฺตํ ปุรตฺถาภิมุโข ตฺวา โอโลเกถา’ติ อาห. โส ตถา กตฺวา เตน ปตฺตวิเสสเมว ปาปุณิ. เอวํ เอกํ อสุภํ ทฺวินฺนํ ชนานํ อตฺถาย ชาตํ. เอวํ สาตฺถมฺปิ ปเนตํ ปุริสสฺส มาตุคามาสุภํ อสปฺปายํ, มาตุคามสฺส จ ปุริสาสุภํ อสปฺปายํ, สภาคเมว สปฺปายนฺติ เอวํ สปฺปายปริคฺคณฺหนํ สปฺปายสมฺปชฺํ นาม.

เอวํ ปริคฺคหิตสาตฺถกสปฺปายสฺส ปน อฏฺตึสาย กมฺมฏฺาเนสุ อตฺตโน จิตฺตรุจิยํ กมฺมฏฺานสงฺขาตํ โคจรํ อุคฺคเหตฺวา ภิกฺขาจารโคจเร ตํ คเหตฺวาว คมนํ โคจรสมฺปชฺํ นาม. ตสฺสาวิภาวนตฺถํ อิทํ จตุกฺกํ เวทิตพฺพํ –

อิเธกจฺโจ ภิกฺขุ หรติ, น ปจฺจาหรติ; เอกจฺโจ ปจฺจาหรติ, น หรติ; เอกจฺโจ ปน เนว หรติ, น ปจฺจาหรติ; เอกจฺโจ หรติ จ, ปจฺจาหรติ จาติ. ตตฺถ โย ภิกฺขุ ทิวสํ จงฺกเมน นิสชฺชาย จ อาวรณีเยหิ ธมฺเมหิ จิตฺตํ ปริโสเธตฺวา ตถา รตฺติยา ปมยาเม, มชฺฌิมยาเม เสยฺยํ กปฺเปตฺวา ปจฺฉิมยาเมปิ นิสชฺชจงฺกเมหิ วีตินาเมตฺวา ปเคว เจติยงฺคณโพธิยงฺคณวตฺตํ กตฺวา โพธิรุกฺเข อุทกํ อาสิฺจิตฺวา, ปานียํ ปริโภชนียํ ปจฺจุปฏฺเปตฺวา อาจริยุปชฺฌายวตฺตาทีนิ สพฺพานิ ขนฺธกวตฺตานิ สมาทาย วตฺตติ. โส สรีรปริกมฺมํ กตฺวา เสนาสนํ ปวิสิตฺวา ทฺเว ตโย ปลฺลงฺเก อุสุมํ คาหาเปนฺโต กมฺมฏฺานํ อนุยุฺชิตฺวา ภิกฺขาจารเวลายํ อุฏฺหิตฺวา กมฺมฏฺานสีเสเนว ปตฺตจีวรมาทาย เสนาสนโต นิกฺขมิตฺวา กมฺมฏฺานํ มนสิกโรนฺโตว เจติยงฺคณํ คนฺตฺวา, สเจ พุทฺธานุสฺสติกมฺมฏฺานํ โหติ, ตํ อวิสฺสชฺเชตฺวาว เจติยงฺคณํ ปวิสติ. อฺํ เจ กมฺมฏฺานํ โหติ, โสปานมูเล ตฺวา หตฺเถน คหิตภณฺฑํ วิย ตํ เปตฺวา พุทฺธารมฺมณํ ปีตึ คเหตฺวา เจติยงฺคณํ อารุยฺห, มหนฺตํ เจติยํ เจ, ติกฺขตฺตุํ ปทกฺขิณํ กตฺวา จตูสุ าเนสุ วนฺทิตพฺพํ. ขุทฺทกํ เจติยํ เจ, ตเถว ปทกฺขิณํ กตฺวา อฏฺสุ าเนสุ วนฺทิตพฺพํ. เจติยํ วนฺทิตฺวา โพธิยงฺคณํ ปตฺเตนาปิ พุทฺธสฺส ภควโต สมฺมุขา วิย นิปจฺจาการํ ทสฺเสตฺวา โพธิ วนฺทิตพฺพา. โส เอวํ เจติยฺจ โพธิฺจ วนฺทิตฺวา ปฏิสามิตฏฺานํ คนฺตฺวา ปฏิสามิตภณฺฑกํ หตฺเถน คณฺหนฺโต วิย นิกฺขิตฺตกมฺมฏฺานํ คเหตฺวา คามสมีเป กมฺมฏฺานสีเสเนว จีวรํ ปารุปิตฺวา คามํ ปิณฺฑาย ปวิสติ. อถ นํ มนุสฺสา ทิสฺวา อยฺโย โน อาคโตติ ปจฺจุคฺคนฺตฺวา ปตฺตํ คเหตฺวา อาสนสาลาย วา เคเห วา นิสีทาเปตฺวา ยาคุํ ทตฺวา ยาว ภตฺตํ น นิฏฺาติ, ตาว ปาเท โธวิตฺวา เตเลน มกฺเขตฺวา ปุรโต เต นิสีทิตฺวา ปฺหํ วา ปุจฺฉนฺติ, ธมฺมํ วา โสตุกามา โหนฺติ. สเจปิ น กถาเปนฺติ, ชนสงฺคหตฺถํ ธมฺมกถา นาม กาตพฺพา เยวาติ อฏฺกถาจริยา วทนฺติ. ธมฺมกถา หิ กมฺมฏฺานวินิมุตฺตา นาม นตฺถิ, ตสฺมา กมฺมฏฺานสีเสเนว ธมฺมกถํ กเถตฺวา กมฺมฏฺานสีเสเนว อาหารํ ปริภุฺชิตฺวา อนุโมทนํ กตฺวา นิวตฺติยมาเนหิปิ มนุสฺเสหิ อนุคโตว คามโต นิกฺขมิตฺวา ตตฺถ เต นิวตฺเตตฺวา มคฺคํ ปฏิปชฺชติ.

อถ นํ ปุเรตรํ นิกฺขมิตฺวา พหิคาเม กตภตฺตกิจฺจา สามเณรทหรภิกฺขู ทิสฺวา ปจฺจุคฺคนฺตฺวา ปตฺตจีวรมสฺส คณฺหนฺติ. โปราณกภิกฺขู กิร อมฺหากํ อุปชฺฌาโย อาจริโยติ น มุขํ โอโลเกตฺวา วตฺตํ กโรนฺติ, สมฺปตฺตปริจฺเฉเทเนว กโรนฺติ. เต ตํ ปุจฺฉนฺติ – ‘‘ภนฺเต, เอเต มนุสฺสา ตุมฺหากํ กึ โหนฺติ, มาติปกฺขโต สมฺพนฺธา ปิติปกฺขโต’’ติ? กึ ทิสฺวา ปุจฺฉถาติ? ตุมฺเหสุ เอเตสํ เปมํ พหุมานนฺติ. อาวุโส, ยํ มาตาปิตูหิปิ ทุกฺกรํ, ตํ เอเต อมฺหากํ กโรนฺติ, ปตฺตจีวรมฺปิ โน เอเตสํ สนฺตกเมว, เอเตสํ อานุภาเวน เนว ภเย ภยํ, น ฉาตเก ฉาตกํ ชานาม. อีทิสา นาม อมฺหากํ อุปการิโน นตฺถีติ เตสํ คุเณ กเถนฺโต คจฺฉติ. อยํ วุจฺจติ หรติ น ปจฺจาหรตีติ.

ยสฺส ปน ปเคว วุตฺตปฺปการํ วตฺตปฏิปตฺตึ กโรนฺตสฺส กมฺมชเตโชธาตุ ปชฺชลติ, อนุปาทินฺนกํ มุฺจิตฺวา อุปาทินฺนกํ คณฺหาติ, สรีรโต เสทา มุฺจนฺติ, กมฺมฏฺานํ วีถึ นาโรหติ, โส ปเคว ปตฺตจีวรมาทาย เวคสา เจติยํ วนฺทิตฺวา โครูปานํ นิกฺขมนเวลายเมว คามํ ยาคุภิกฺขาย ปวิสิตฺวา ยาคุํ ลภิตฺวา อาสนสาลํ คนฺตฺวา ปิวติ, อถสฺส ทฺวตฺติกฺขตฺตุํ อชฺโฌหรณมตฺเตเนว กมฺมชเตโชธาตุ อุปาทินฺนกํ มุฺจิตฺวา อนุปาทินฺนกํ คณฺหาติ, ฆฏสเตน นฺหาโต วิย เตโชธาตุ ปริฬาหนิพฺพานํ ปตฺวา กมฺมฏฺานสีเสน ยาคุํ ปริภุฺชิตฺวา ปตฺตฺจ มุขฺจ โธวิตฺวา อนฺตราภตฺเต กมฺมฏฺานํ มนสิกตฺวา อวเสสฏฺาเน ปิณฺฑาย จริตฺวา กมฺมฏฺานสีเสน อาหารฺจ ปริภุฺชิตฺวา ตโต ปฏฺาย โปงฺขานุโปงฺขํ อุปฏฺหมานํ กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา อาคจฺฉติ, อยํ วุจฺจติ ปจฺจาหรติน หรตีติ. เอทิสา จ ภิกฺขู ยาคุํ ปิวิตฺวา วิปสฺสนํ อารภิตฺวา พุทฺธสาสเน อรหตฺตปฺปตฺตา นาม คณนปถํ วีติวตฺตา. สีหฬทีเปเยว เตสุ เตสุ คาเมสุ อาสนสาลายํ วา น ตํ อาสนมตฺถิ, ยตฺถ ยาคุํ ปิวิตฺวา อรหตฺตปฺปตฺตา ภิกฺขู นตฺถีติ.

โย ปน ปมาทวิหารี โหติ, นิกฺขิตฺตธุโร สพฺพวตฺตานิ ภินฺทิตฺวา ปฺจวิธเจโตขีลวินิพนฺธจิตฺโต วิหรนฺโต – ‘‘กมฺมฏฺานํ นาม อตฺถี’’ติ สฺมฺปิ อกตฺวา คามํ ปิณฺฑาย ปวิสิตฺวา อนนุโลมิเกน คิหิสํสคฺเคน สํสฏฺโ จริตฺวา จ ภุฺชิตฺวา จ ตุจฺโฉ นิกฺขมติ, อยํ วุจฺจติ เนว หรติ น ปจฺจาหรตีติ.

โย ปนายํ – ‘‘หรติ จ ปจฺจาหรติ จา’’ติ วุตฺโต, โส คตปจฺจาคตวตฺตวเสเนว เวทิตพฺโพ. อตฺตกามา หิ กุลปุตฺตา สาสเน ปพฺพชิตฺวา ทสปิ วีสมฺปิ ตึสมฺปิ จตฺตาลีสมฺปิ ปฺาสมฺปิ สตมฺปิ เอกโต วสนฺตา กติกวตฺตํ กตฺวา วิหรนฺติ, ‘‘อาวุโส, ตุมฺเห น อิณฏฺฏา, น ภยฏฺฏา, น ชีวิกาปกตา ปพฺพชิตา, ทุกฺขา มุจฺจิตุกามา ปเนตฺถ ปพฺพชิตา, ตสฺมา คมเน อุปฺปนฺนกิเลสํ คมเนเยว นิคฺคณฺหถ, ตถา าเน, นิสชฺชาย, สยเน อุปฺปนฺนกิเลสํ สยเนว นิคฺคณฺหถา’’ติ.

เต เอวํ กติกวตฺตํ กตฺวา ภิกฺขาจารํ คจฺฉนฺตา อฑฺฒอุสภอุสภอฑฺฒคาวุตคาวุตนฺตเรสุ ปาสาณา โหนฺติ, ตาย สฺาย กมฺมฏฺานํ มนสิกโรนฺตาว คจฺฉนฺติ. สเจ กสฺสจิ คมเน กิเลโส อุปฺปชฺชติ, ตตฺเถว นํ นิคฺคณฺหาติ. ตถา อสกฺโกนฺโต ติฏฺติ, อถสฺส ปจฺฉโต อาคจฺฉนฺโตปิ ติฏฺติ. โส ‘‘อยํ ภิกฺขุ ตุยฺหํ อุปฺปนฺนวิตกฺกํ ชานาติ, อนนุจฺฉวิกํ เต เอต’’นฺติ อตฺตานํ ปฏิโจเทตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา ตตฺเถว อริยภูมึ โอกฺกมติ; ตถา อสกฺโกนฺโต นิสีทติ. อถสฺส ปจฺฉโต อาคจฺฉนฺโตปิ นิสีทตีติ โสเยว นโย. อริยภูมึ โอกฺกมิตุํ อสกฺโกนฺโตปิ ตํ กิเลสํ วิกฺขมฺเภตฺวา กมฺมฏฺานํ มนสิกโรนฺโตว คจฺฉติ, น กมฺมฏฺานวิปฺปยุตฺเตน จิตฺเตน ปาทํ อุทฺธรติ, อุทฺธรติ เจ, ปฏินิวตฺติตฺวา ปุริมปเทสํเยว เอติ. อาลินฺทกวาสี มหาผุสฺสเทวตฺเถโร วิย.

โส กิร เอกูนวีสติวสฺสานิ คตปจฺจาคตวตฺตํ ปูเรนฺโต เอว วิหาสิ, มนุสฺสาปิ อทฺทสํสุ อนฺตรามคฺเค กสนฺตา จ วปนฺตา จ มทฺทนฺตา จ กมฺมานิ จ กโรนฺตา เถรํ ตถาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา – ‘‘อยํ เถโร ปุนปฺปุนํ นิวตฺติตฺวา คจฺฉติ, กินฺนุ โข มคฺคมูฬฺโห, อุทาหุ กิฺจิ ปมุฏฺโ’’ติ สมุลฺลปนฺติ. โส ตํ อนาทิยิตฺวา กมฺมฏฺานยุตฺตจิตฺเตเนว สมณธมฺมํ กโรนฺโต วีสติวสฺสพฺภนฺตเร อรหตฺตํ ปาปุณิ, อรหตฺตปฺปตฺตทิวเส จสฺส จงฺกมนโกฏิยํ อธิวตฺถา เทวตา องฺคุลีหิ ทีปํ อุชฺชาเลตฺวา อฏฺาสิ. จตฺตาโรปิ มหาราชาโน สกฺโก จ เทวานมินฺโท พฺรหฺมา จ สหมฺปติ อุปฏฺานํ อคมํสุ. ตฺจ โอภาสํ ทิสฺวา วนวาสี มหาติสฺสตฺเถโร ตํ ทุติยทิวเส ปุจฺฉิ – ‘‘รตฺติภาเค อายสฺมโต สนฺติเก โอภาโส อโหสิ, กึ โส โอภาโส’’ติ? เถโร วิกฺเขปํ กโรนฺโต โอภาโส นาม ทีโปภาโสปิ โหติ, มณิโอภาโสปีติ เอวมาทิมาห. ตโต ‘ปฏิจฺฉาเทถ ตุมฺเห’ติ นิพทฺโธ ‘อามา’ติ ปฏิชานิตฺวา อาโรเจสิ. กาฬวลฺลิมณฺฑปวาสี มหานาคตฺเถโร วิย จ.

โสปิ กิร คตปจฺจาคตวตฺตํ ปูเรนฺโต – ปมํ ตาว ภควโต มหาปธานํ ปูเชสฺสามีติ สตฺตวสฺสานิ านจงฺกมเมว อธิฏฺาสิ. ปุน โสฬสวสฺสานิ คตปจฺจาคตวตฺตํ ปูเรตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิ. โส กมฺมฏฺานยุตฺเตเนว จิตฺเตน ปาทํ อุทฺธรนฺโต, วิยุตฺเตน อุทฺธเฏ ปฏินิวตฺเตนฺโต คามสมีปํ คนฺตฺวา ‘‘คาวี นุ ปพฺพชิโต นู’’ติ อาสงฺกนียปเทเส ตฺวา จีวรํ ปารุปิตฺวา กจฺฉกนฺตรโต อุทเกน ปตฺตํ โธวิตฺวา อุทกคณฺฑูสํ กโรติ. กึ การณา? มา เม ภิกฺขํ ทาตุํ วา วนฺทิตุํ วา อาคเต มนุสฺเส ‘ทีฆายุกา โหถา’ติ วจนมตฺเตนาปิ กมฺมฏฺานวิกฺเขโป อโหสีติ. ‘‘อชฺช, ภนฺเต, กติมี’’ติ ทิวสํ วา ภิกฺขุคณนํ วา ปฺหํ วา ปุจฺฉิโต ปน อุทกํ คิลิตฺวา อาโรเจติ. สเจ ทิวสาทีนิ ปุจฺฉกา น โหนฺติ, นิกฺขมนเวลาย คามทฺวาเร นิฏฺุภิตฺวาว ยาติ.

กลมฺพติตฺถวิหาเร วสฺสูปคตา ปฺาสภิกฺขู วิย จ. เต กิร อาสฬฺหิปุณฺณมายํ กติกวตฺตํ อกํสุ – ‘‘อรหตฺตํ อปฺปตฺวา อฺมฺํ นาลปิสฺสามา’’ติ, คามฺจ ปิณฺฑาย ปวิสนฺตา อุทกคณฺฑูสํ กตฺวา ปวิสึสุ. ทิวสาทีสุ ปุจฺฉิเตสุ วุตฺตนเยเนว ปฏิปชฺชึสุ. ตตฺถ มนุสฺสา นิฏฺุภนํ ทิสฺวา ชานึสุ – ‘‘อชฺเชโก อาคโต, อชฺช ทฺเว’’ติ. เอวฺจ จินฺเตสุํ – ‘‘กินฺนุ โข เอเต อมฺเหหิเยว สทฺธึ น สลฺลปนฺติ, อุทาหุ อฺมฺมฺปิ. สเจ อฺมฺมฺปิ น สลฺลปนฺติ, อทฺธา วิวาทชาตา ภวิสฺสนฺติ. เอถ เน อฺมฺํ ขมาเปสฺสามา’’ติ, สพฺเพ วิหารํ คนฺตฺวา ปฺาสาย ภิกฺขูสุ ทฺเวปิ ภิกฺขู เอโกกาเส นาทฺทสํสุ. ตโต โย เตสุ จกฺขุมา ปุริโส, โส อาห – ‘‘น โภ กลหการกานํ วสโนกาโส อีทิโส โหติ, สุสมฺมฏฺํ เจติยงฺคณโพธิยงฺคณํ, สุนิกฺขิตฺตา สมฺมชฺชนิโย, สูปฏฺปิตํ ปานียํ ปริโภชนีย’’นฺติ, เต ตโตว นิวตฺตา. เตปิ ภิกฺขู อนฺโต เตมาเสเยว อรหตฺตํ ปตฺวา มหาปวารณาย วิสุทฺธิปวารณํ ปวาเรสุํ.

เอวํ กาฬวลฺลิมณฺฑปวาสี มหานาคตฺเถโร วิย, กลมฺพติตฺถวิหาเร วสฺสูปคตภิกฺขู วิย จ กมฺมฏฺานยุตฺเตเนว จิตฺเตน ปาทํ อุทฺธรนฺโต คามสมีปํ คนฺตฺวา อุทกคณฺฑูสํ กตฺวา วีถิโย สลฺลกฺเขตฺวา, ยตฺถ สุราโสณฺฑธุตฺตาทโย กลหการกา จณฺฑหตฺถิอสฺสาทโย วา นตฺถิ, ตํ วีถึ ปฏิปชฺชติ. ตตฺถ จ ปิณฺฑาย จรมาโน น ตุริตตุริโต วิย ชเวน คจฺฉติ. น หิ ชเวน ปิณฺฑปาติยธุตงฺคํ นาม กิฺจิ อตฺถิ. วิสมภูมิภาคปฺปตฺตํ ปน อุทกสกฏํ วิย นิจฺจโล หุตฺวา คจฺฉติ. อนุฆรํ ปวิฏฺโ จ ทาตุกามํ วา อทาตุกามํ วา สลฺลกฺเขตฺวา ตทนุรูปํ กาลํ อาคเมนฺโต ภิกฺขํ ปฏิลภิตฺวา อาทาย อนฺโตคาเม วา พหิคาเม วา วิหารเมว วา อาคนฺตฺวา ยถา ผาสุเก ปติรูเป โอกาเส นิสีทิตฺวา กมฺมฏฺานํ มนสิกโรนฺโต อาหาเร ปฏิกูลสฺํ อุปฏฺเปตฺวา อกฺขพฺภฺชน – วณเลปนปุตฺตมํสูปมวเสน ปจฺจเวกฺขนฺโต อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ อาหารํ อาหาเรติ, เนว ทวาย น มทาย น มณฺฑนาย น วิภูสนาย…เป… ภุตฺตาวี จ อุทกกิจฺจํ กตฺวา มุหุตฺตํ ภตฺตกิลมถํ ปฏิปฺปสฺสมฺเภตฺวา ยถา ปุเรภตฺตํ, เอวํ ปจฺฉาภตฺตํ ปุริมยามํ ปจฺฉิมยามฺจ กมฺมฏฺานเมว มนสิ กโรติ, อยํ วุจฺจติ หรติ จ ปจฺจาหรติ จาติ.

อิทํ ปน หรณปจฺจาหรณสงฺขาตํ คตปจฺจาคตวตฺตํ ปูเรนฺโต ยทิ อุปนิสฺสยสมฺปนฺโน โหติ, ปมวเย เอว อรหตฺตํ ปาปุณาติ. โน เจ ปมวเย ปาปุณาติ, อถ มชฺฌิมวเย; โน เจ มชฺฌิมวเย ปาปุณาติ, อถ มรณสมเย; โน เจ มรณสมเย ปาปุณาติ, อถ เทวปุตฺโต หุตฺวา; โน เจ เทวปุตฺโต หุตฺวา ปาปุณาติ, อนุปฺปนฺเน พุทฺเธ นิพฺพตฺโต ปจฺเจกโพธึ สจฺฉิกโรติ. โน เจ ปจฺเจกโพธึ สจฺฉิกโรติ, อถ พุทฺธานํ สมฺมุขีภาเว ขิปฺปาภิฺโ โหติ; เสยฺยถาปิ เถโร พาหิโย ทารุจีริโย มหาปฺโ วา, เสยฺยถาปิ เถโร สาริปุตฺโต มหิทฺธิโก วา, เสยฺยถาปิ เถโร มหาโมคฺคลฺลาโน ธุตวาโท วา, เสยฺยถาปิ เถโร มหากสฺสโป ทิพฺพจกฺขุโก วา, เสยฺยถาปิ เถโร อนุรุทฺโธ วินยธโร วา, เสยฺยถาปิ เถโร อุปาลิ ธมฺมกถิโก วา, เสยฺยถาปิ เถโร ปุณฺโณ มนฺตาณิปุตฺโต อารฺิโก วา, เสยฺยถาปิ เถโร เรวโต พหุสฺสุโต วา, เสยฺยถาปิ เถโร อานนฺโท ภิกฺขากาโม วา, เสยฺยถาปิ เถโร ราหุโล พุทฺธปุตฺโตติ. อิติ อิมสฺมึ จตุกฺเก ยฺวายํ หรติ จ ปจฺจาหรติ จ, ตสฺส โคจรสมฺปชฺํ สิขาปตฺตํ โหติ.

อภิกฺกมาทีสุ ปน อสมฺมุยฺหนํ อสมฺโมหสมฺปชฺํ, ตํ เอวํ เวทิตพฺพํ – อิธ ภิกฺขุ อภิกฺกมนฺโต วา ปฏิกฺกมนฺโต วา ยถา อนฺธพาลปุถุชฺชนา อภิกฺกมาทีสุ – ‘‘อตฺตา อภิกฺกมติ, อตฺตนา อภิกฺกโม นิพฺพตฺติโต’’ติ วา, ‘‘อหํ อภิกฺกมามิ, มยา อภิกฺกโม นิพฺพตฺติโต’’ติ วา สมฺมุยฺหนฺติ, ตถา อสมฺมุยฺหนฺโต ‘‘อภิกฺกมามี’’ติ จิตฺเต อุปฺปชฺชมาเน เตเนว จิตฺเตน สทฺธึ จิตฺตสมุฏฺานา วาโยธาตุ วิฺตฺตึ ชนยมานา อุปฺปชฺชติ. อิติ จิตฺตกิริยวาโยธาตุวิปฺผารวเสน อยํ กายสมฺมโต อฏฺิสงฺฆาโต อภิกฺกมติ. ตสฺเสวํ อภิกฺกมโต เอเกกปาทุทฺธรเณ ปถวีธาตุ อาโปธาตูติ ทฺเว ธาตุโย โอมตฺตา โหนฺติ มนฺทา, อิตรา ทฺเว อธิมตฺตา โหนฺติ พลวติโย; ตถา อติหรณวีติหรเณสุ. โวสฺสชฺชเน เตโชธาตุ วาโยธาตูติ ทฺเว ธาตุโย โอมตฺตา โหนฺติ มนฺทา, อิตรา ทฺเว อธิมตฺตา พลวติโย, ตถา สนฺนิกฺเขปนสนฺนิรุชฺฌเนสุ. ตตฺถ อุทฺธรเณ ปวตฺตา รูปารูปธมฺมา อติหรณํ น ปาปุณนฺติ, ตถา อติหรเณ ปวตฺตา วีติหรณํ, วีติหรเณ ปวตฺตา โวสฺสชฺชนํ, โวสฺสชฺชเน ปวตฺตา สนฺนิกฺเขปนํ, สนฺนิกฺเขปเน ปวตฺตา สนฺนิรุชฺฌนํ น ปาปุณนฺติ. ตตฺถ ตตฺเถว ปพฺพํ ปพฺพํ สนฺธิ สนฺธิ โอธิ โอธิ หุตฺวา ตตฺตกปาเล ปกฺขิตฺตติลานิ วิย ปฏปฏายนฺตา ภิชฺชนฺติ. ตตฺถ โก เอโก อภิกฺกมติ, กสฺส วา เอกสฺส อภิกฺกมนํ? ปรมตฺถโต หิ ธาตูนํเยว คมนํ, ธาตูนํ านํ, ธาตูนํ นิสชฺชนํ, ธาตูนํ สยนํ. ตสฺมึ ตสฺมึ โกฏฺาเส สทฺธึ รูเปน.

อฺํ อุปฺปชฺชเต จิตฺตํ, อฺํ จิตฺตํ นิรุชฺฌติ;

อวีจิมนุสมฺพนฺโธ, นทีโสโตว วตฺตตีติ.

เอวํ อภิกฺกมาทีสุ อสมฺมุยฺหนํ อสมฺโมหสมฺปชฺํ นามาติ.

นิฏฺิโต อภิกฺกนฺเต ปฏิกฺกนฺเต สมฺปชานการี โหตีติ ปทสฺส อตฺโถ.

อาโลกิเต วิโลกิเตติ เอตฺถ ปน อาโลกิตํ นาม ปุรโต เปกฺขณํ. วิโลกิตํ นาม อนุทิสาเปกฺขณํ. อฺานิปิ เหฏฺา อุปริ ปจฺฉโต เปกฺขณวเสน โอโลกิตอุลฺโลกิตาปโลกิตานิ นาม โหนฺติ, ตานิ อิธ น คหิตานิ. สารุปฺปวเสน ปน อิมาเนว ทฺเว คหิตานิ, อิมินา วา มุเขน สพฺพานิปิ ตานิ คหิตาเนวาติ.

ตตฺถ ‘‘อาโลเกสฺสามี’’ติ จิตฺเต อุปฺปนฺเน จิตฺตวเสเนว อโนโลเกตฺวา อตฺถปริคฺคณฺหนํ สาตฺถกสมฺปชฺํ, ตํ อายสฺมนฺตํ นนฺทํ กายสกฺขึ กตฺวา เวทิตพฺพํ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา – ‘‘สเจ, ภิกฺขเว, นนฺทสฺส ปุรตฺถิมา ทิสา อาโลเกตพฺพา โหติ, สพฺพํ เจตสา สมนฺนาหริตฺวา นนฺโท ปุรตฺถิมํ ทิสํ อาโลเกติ – ‘เอวํ เม ปุรตฺถิมํ ทิสํ อาโลกยโต น อภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสวิสฺสนฺตี’ติ. อิติห ตตฺถ สมฺปชาโน โหติ (อ. นิ. ๘.๙). สเจ, ภิกฺขเว, นนฺทสฺส ปจฺฉิมา ทิสา…เป… อุตฺตรา ทิสา…เป… ทกฺขิณา ทิสา…เป… อุทฺธํ…เป… อโธ…เป… อนุทิสา อนุวิโลเกตพฺพา โหติ, สพฺพํ เจตสา สมนฺนาหริตฺวา นนฺโท อนุทิสํ อนุวิโลเกติ – ‘เอวํ เม อนุทิสํ อนุวิโลกยโต น อภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสวิสฺสนฺตี’ติ. อิติห ตตฺถ สมฺปชาโน โหตี’’ติ.

อปิ จ อิธาปิ ปุพฺเพ วุตฺตเจติยทสฺสนาทิวเสเนว สาตฺถกตา จ สปฺปายตา จ เวทิตพฺพา, กมฺมฏฺานสฺส ปน อวิชหนเมว โคจรสมฺปชฺํ. ตสฺมา เอตฺถ ขนฺธธาตุอายตนกมฺมฏฺานิเกหิ อตฺตโน กมฺมฏฺานวเสเนว, กสิณาทิกมฺมฏฺานิเกหิ วา ปน กมฺมฏฺานสีเสเนว อาโลกนํ วิโลกนํ กาตพฺพํ. อพฺภนฺตเร อตฺตา นาม อาโลเกตา วา วิโลเกตา วา นตฺถิ, ‘อาโลเกสฺสามี’ติ ปน จิตฺเต อุปฺปชฺชมาเน เตเนว จิตฺเตน สทฺธึ จิตฺตสมุฏฺานา วาโยธาตุ วิฺตฺตึ ชนยมานา อุปฺปชฺชติ. อิติ จิตฺตกิริยวาโยธาตุวิปฺผารวเสน เหฏฺิมํ อกฺขิทลํ อโธ สีทติ, อุปริมํ อุทฺธํ ลงฺเฆติ. โกจิ ยนฺตเกน วิวรนฺโต นาม นตฺถิ. ตโต จกฺขุวิฺาณํ ทสฺสนกิจฺจํ สาเธนฺตํ อุปฺปชฺชตีติ เอวํ ปชานนํ ปเนตฺถ อสมฺโมหสมฺปชฺํ นาม. อปิ จ มูลปริฺา อาคนฺตุกตาว กาลิกภาววเสน เปตฺถ อสมฺโมหสมฺปชฺํ เวทิตพฺพํ. มูลปริฺาวเสน ตาว –

ภวงฺคาวชฺชนฺเจว, ทสฺสนํ สมฺปฏิจฺฉนํ;

สนฺตีรณํ โวฏฺพฺพนํ, ชวนํ ภวติ สตฺตมํ.

ตตฺถ ภวงฺคํ อุปปตฺติภวสฺส องฺคกิจฺจํ สาธยมานํ ปวตฺตติ, ตํ อาวฏฺเฏตฺวา กิริยมโนธาตุ อาวชฺชนกิจฺจํ สาธยมานา, ตํนิโรธา จกฺขุวิฺาณํ ทสฺสนกิจฺจํ สาธยมานํ, ตํนิโรธา วิปากมโนธาตุ สมฺปฏิจฺฉนกิจฺจํ สาธยมานา, ตํนิโรธา วิปากมโนวิฺาณธาตุ สนฺตีรณกิจฺจํ สาธยมานา, ตํนิโรธา กิริยมโนวิฺาณธาตุ โวฏฺพฺพนกิจฺจํ สาธยมานา , ตํนิโรธา สตฺตกฺขตฺตุํ ชวนํ ชวติ. ตตฺถ ปมชวเนปิ – ‘‘อยํ อิตฺถี, อยํ ปุริโส’’ติ รชฺชนทุสฺสนมุยฺหนวเสน อาโลกิตวิโลกิตํ นาม น โหติ. ทุติยชวเนปิ…เป… สตฺตมชวเนปิ. เอเตสุ ปน ยุทฺธมณฺฑเล โยเธสุ วิย เหฏฺุปริยวเสน ภิชฺชิตฺวา ปติเตสุ – ‘‘อยํ อิตฺถี, อยํ ปุริโส’’ติ รชฺชนาทิวเสน อาโลกิตวิโลกิตํ โหติ. เอวํ ตาเวตฺถ มูลปริฺาวเสน อสมฺโมหสมฺปชฺํ เวทิตพฺพํ.

จกฺขุทฺวาเร ปน รูเป อาปาถมาคเต ภวงฺคจลนโต อุทฺธํ สกกิจฺจนิปฺผาทนวเสน อาวชฺชนาทีสุ อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺเธสุ อวสาเน ชวนํ อุปฺปชฺชติ, ตํ ปุพฺเพ อุปฺปนฺนานํ อาวชฺชนาทีนํ เคหภูเต จกฺขุทฺวาเร อาคนฺตุกปุริโส วิย โหติ. ตสฺส ยถา ปรเคเห กิฺจิ ยาจิตุํ ปวิฏฺสฺส อาคนฺตุกปุริสสฺส เคหสฺสามิเกสุ ตุณฺหีมาสิเนสุ อาณากรณํ น ยุตฺตํ, เอวํ อาวชฺชนาทีนํ เคหภูเต จกฺขุทฺวาเร อาวชฺชนาทีสุปิ อรชฺชนฺเตสุ อทุสฺสนฺเตสุ อมุยฺหนฺเตสุ จ รชฺชนทุสฺสนมุยฺหนํ อยุตฺตนฺติ เอวํ อาคนฺตุกภาววเสน อสมฺโมหสมฺปชฺํ เวทิตพฺพํ.

ยานิ ปเนตานิ จกฺขุทฺวาเร โวฏฺพฺพนปริโยสานานิ จิตฺตานิ อุปฺปชฺชนฺติ, ตานิ สทฺธึ สมฺปยุตฺตธมฺเมหิ ตตฺถ ตตฺเถว ภิชฺชนฺติ, อฺมฺํ น ปสฺสนฺตีติ, อิตฺตรานิ ตาวกาลิกานิ โหนฺติ. ตตฺถ ยถา เอกสฺมึ ฆเร สพฺเพสุ มานุสเกสุ มเตสุ อวเสสสฺส เอกสฺส ตงฺขณฺเว มรณธมฺมสฺส น ยุตฺตา นจฺจคีตาทีสุ อภิรติ นาม. เอวเมว เอกทฺวาเร สสมฺปยุตฺเตสุ อาวชฺชนาทีสุ ตตฺถ ตตฺเถว มเตสุ อวเสสสฺส ตงฺขเณเยว มรณธมฺมสฺส ชวนสฺสาปิ รชฺชนทุสฺสนมุยฺหนวเสน อภิรติ นาม น ยุตฺตาติ. เอวํ ตาวกาลิกภาววเสน อสมฺโมหสมฺปชฺํ เวทิตพฺพํ.

อปิ จ ขนฺธายตนธาตุปจฺจยปจฺจเวกฺขณวเสน เปตํ เวทิตพฺพํ. เอตฺถ หิ จกฺขุ เจว รูปา จ รูปกฺขนฺโธ, ทสฺสนํ วิฺาณกฺขนฺโธ, ตํสมฺปยุตฺตา เวทนา เวทนากฺขนฺโธ, สฺา สฺากฺขนฺโธ, ผสฺสาทิกา สงฺขารกฺขนฺโธ. เอวเมเตสํ ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ สมวาเย อาโลกนวิโลกนํ ปฺายติ. ตตฺถ โก เอโก อาโลเกติ, โก วิโลเกติ?

ตถา จกฺขุ จกฺขายตนํ, รูปํ รูปายตนํ, ทสฺสนํ มนายตนํ, เวทนาทโย สมฺปยุตฺตธมฺมา ธมฺมายตนํ. เอวเมเตสํ จตุนฺนํ อายตนานํ สมวาเย อาโลกนวิโลกนํ ปฺายติ. ตตฺถ โก เอโก อาโลเกติ, โก วิโลเกติ?

ตถา จกฺขุ จกฺขุธาตุ, รูปํ รูปธาตุ, ทสฺสนํ จกฺขุวิฺาณธาตุ, ตํสมฺปยุตฺตา เวทนาทโย ธมฺมา ธมฺมธาตุ. เอวเมตาสํ จตุนฺนํ ธาตูนํ สมวาเย อาโลกนวิโลกนํ ปฺายติ. ตตฺถ โก เอโก อาโลเกติ, โก วิโลเกติ?

ตถา จกฺขุ นิสฺสยปจฺจโย, รูปา อารมฺมณปจฺจโย, อาวชฺชนํ อนนฺตรสมนนฺตรูปนิสฺสยนตฺถิวิคตปจฺจโย , อาโลโก อุปนิสฺสยปจฺจโย, เวทนาทโย สหชาตปจฺจโย. เอวเมเตสํ ปจฺจยานํ สมวาเย อาโลกนวิโลกนํ ปฺายติ. ตตฺถ โก เอโก อาโลเกติ, โก วิโลเกตีติ? เอวเมตฺถ ขนฺธายตนธาตุปจฺจยปจฺจเวกฺขณวเสนปิ อสมฺโมหสมฺปชฺํ เวทิตพฺพํ.

สมิฺชิเต ปสาริเตติ ปพฺพานํ สมิฺชนปสารเณ. ตตฺถ จิตฺตวเสเนว สมิฺชนปสารณํ อกตฺวา หตฺถปาทานํ สมิฺชนปสารณปจฺจยา อตฺถานตฺถํ ปริคฺคณฺหิตฺวา อตฺถปริคฺคณฺหนํ สาตฺถกสมฺปชฺํ. ตตฺถ หตฺถปาเท อติจิรํ สมิฺเชตฺวา วา ปสาเรตฺวา วา ิตสฺส ขเณ ขเณ เวทนา อุปฺปชฺชติ, จิตฺตํ เอกคฺคตํ น ลภติ, กมฺมฏฺานํ ปริปตติ, วิเสสํ นาธิคจฺฉติ. กาเล สมิฺเชนฺตสฺส กาเล ปสาเรนฺตสฺส ปน ตา เวทนา นุปฺปชฺชนฺติ, จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ, กมฺมฏฺานํ ผาตึ คจฺฉติ, วิเสสมธิคจฺฉตีติ , เอวํ อตฺถานตฺถปริคฺคณฺหนํ เวทิตพฺพํ.

อตฺเถ ปน สติปิ สปฺปายาสปฺปายํ ปริคฺคณฺหิตฺวา สปฺปายปริคฺคณฺหนํ สปฺปายสมฺปชฺํ. ตตฺรายํ นโย –

มหาเจติยงฺคเณ กิร ทหรภิกฺขู สชฺฌายํ คณฺหนฺติ, เตสํ ปิฏฺิปสฺเสสุ ทหรภิกฺขุนิโย ธมฺมํ สุณนฺติ. ตตฺเรโก ทหโร หตฺถํ ปสาเรนฺโต กายสํสคฺคํ ปตฺวา เตเนว การเณน คิหี ชาโต. อปโร ภิกฺขุ ปาทํ ปสาเรนฺโต อคฺคิมฺหิ ปสาเรสิ, อฏฺิมาหจฺจ ปาโท ฌายิ. อปโร วมฺมิเก ปสาเรสิ, โส อาสีวิเสน ฑฏฺโ. อปโร จีวรกุฏิทณฺฑเก ปสาเรสิ, ตํ มณิสปฺโป ฑํสิ. ตสฺมา เอวรูเป อสปฺปาเย อปสาเรตฺวา สปฺปาเย ปสาเรตพฺพํ. อิทเมตฺถ สปฺปายสมฺปชฺํ.

โคจรสมฺปชฺํ ปน มหาเถรวตฺถุนา ทีเปตพฺพํ – มหาเถโร กิร ทิวาาเน นิสินฺโน อนฺเตวาสิเกหิ สทฺธึ กถยมาโน สหสา หตฺถํ สมิฺเชตฺวา ปุน ยถาาเน เปตฺวา สณิกํ สมิฺเชสิ. ตํ อนฺเตวาสิกา ปุจฺฉึสุ – ‘‘กสฺมา, ภนฺเต, สหสา หตฺถํ สมิฺชิตฺวา ปุน ยถาาเน เปตฺวา สณิกํ สมิฺชิยิตฺถา’’ติ? ยโต ปฏฺายาหํ, อาวุโส, กมฺมฏฺานํ มนสิกาตุํ อารทฺโธ, น เม กมฺมฏฺานํ มุฺจิตฺวา หตฺโถ สมิฺชิตปุพฺโพ, อิทานิ ปน เม ตุมฺเหหิ สทฺธึ กถยมาเนน กมฺมฏฺานํ มุฺจิตฺวา สมิฺชิโต. ตสฺมา ปุน ยถาาเน เปตฺวา สมิฺเชสินฺติ. สาธุ , ภนฺเต, ภิกฺขุนา นาม เอวรูเปน ภวิตพฺพนฺติ. เอวเมตฺถาปิ กมฺมฏฺานาวิชหนเมว โคจรสมฺปชฺนฺติ เวทิตพฺพํ.

อพฺภนฺตเร อตฺตา นาม โกจิ สมิฺเชนฺโต วา ปสาเรนฺโต วา นตฺถิ, วุตฺตปฺปการจิตฺตกิริยวาโยธาตุวิปฺผาเรน ปน สุตฺตากฑฺฒนวเสน ทารุยนฺตสฺส หตฺถปาทลจลนํ วิย สมิฺชนปสารณํ โหตีติ เอวํ ปริชานนํ ปเนตฺถ อสมฺโมหสมฺปชฺนฺติ เวทิตพฺพํ.

สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธารเณติ เอตฺถ สงฺฆาฏิจีวรานํ นิวาสนปารุปนวเสน ปตฺตสฺส ภิกฺขาปฏิคฺคหณาทิวเสน ปริโภโค ธารณํ นาม. ตตฺถ สงฺฆาฏิจีวรธารเณ ตาว นิวาเสตฺวา วา ปารุปิตฺวา วา ปิณฺฑาย จรโต อามิสลาโภ สีตสฺส ปฏิฆาตายาติอาทินา นเยน ภควตา วุตฺตปฺปกาโรเยว จ อตฺโถ อตฺโถ นาม. ตสฺส วเสน สาตฺถกสมฺปชฺํ เวทิตพฺพํ.

อุณฺหปกติกสฺส ปน ทุพฺพลสฺส จ จีวรํ สุขุมํ สปฺปายํ, สีตาลุกสฺส ฆนํ ทุปฏฺฏํ. วิปรีตํ อสปฺปายํ. ยสฺส กสฺสจิ ชิณฺณํ อสปฺปายเมว, อคฺคฬาทิทาเนน หิสฺส ตํ ปลิโพธกรํ โหติ. ตถา ปฏฺฏุณฺณทุกูลาทิเภทํ โลภนียจีวรํ. ตาทิสฺหิ อรฺเ เอกกสฺส นิวาสนฺตรายกรํ ชีวิตนฺตรายกรฺจาปิ โหติ. นิปฺปริยาเยน ปน ยํ นิมิตฺตกมฺมาทิมิจฺฉาชีววเสน อุปฺปนฺนํ, ยฺจสฺส เสวมานสฺส อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, ตํ อสปฺปายํ. วิปรีตํ สปฺปายํ. ตสฺส วเสเนตฺถ สปฺปายสมฺปชฺํ. กมฺมฏฺานาวิชหนวเสเนว โคจรสมฺปชฺํ เวทิตพฺพํ.

อพฺภนฺตเร อตฺตา นาม โกจิ จีวรํ ปารุเปนฺโต นตฺถิ, วุตฺตปฺปกาเรน จิตฺตกิริยวาโยธาตุวิปฺผาเรเนว ปน จีวรปารุปนํ โหติ. ตตฺถ จีวรมฺปิ อเจตนํ, กาโยปิ อเจตโน. จีวรํ น ชานาติ – ‘‘มยา กาโย ปารุปิโต’’ติ. กาโยปิ น ชานาติ – ‘‘อหํ จีวเรน ปารุปิโต’’ติ. ธาตุโยว ธาตุสมูหํ ปฏิจฺฉาเทนฺติ ปฏปิโลติกายโปตฺถกรูปปฏิจฺฉาทเน วิย. ตสฺมา เนว สุนฺทรํ จีวรํ ลภิตฺวา โสมนสฺสํ กาตพฺพํ, น อสุนฺทรํ ลภิตฺวา โทมนสฺสํ.

นาควมฺมิกเจติยรุกฺขาทีสุ หิ เกจิ มาลาคนฺธธูมวตฺถาทีหิ สกฺการํ กโรนฺติ, เกจิ คูถมุตฺตกทฺทมทณฺฑสตฺถปฺปหาราทีหิ อสกฺการํ. น เตหิ นาควมฺมิกรุกฺขาทโย โสมนสฺสํ วา โทมนสฺสํ วา กโรนฺติ. เอวเมว เนว สุนฺทรํ จีวรํ ลภิตฺวา โสมนสฺสํ กาตพฺพํ , น อสุนฺทรํ ลภิตฺวา โทมนสฺสนฺติ, เอวํ ปวตฺตปฏิสงฺขานวเสเนตฺถ อสมฺโมหสมฺปชฺํ เวทิตพฺพํ.

ปตฺตธารเณปิ ปตฺตํ สหสาว อคฺคเหตฺวา อิมํ คเหตฺวา ปิณฺฑาย จรมาโน ภิกฺขํ ลภิสฺสามีติ, เอวํ ปตฺตคฺคหณปจฺจยา ปฏิลภิตพฺพํ อตฺถวเสน สาตฺถกสมฺปชฺํ เวทิตพฺพํ.

กิสทุพฺพลสรีรสฺส ปน ครุปตฺโต อสปฺปาโย, ยสฺส กสฺสจิ จตุปฺจคณฺิกาหโต ทุพฺพิโสธนีโย อสปฺปาโยว. ทุทฺโธตปตฺโตปิ น วฏฺฏติ, ตํ โธวนฺตสฺเสว จสฺส ปลิโพโธ โหติ. มณิวณฺณปตฺโต ปน โลภนีโย, จีวเร วุตฺตนเยเนว อสปฺปาโย, นิมิตฺตกมฺมาทิวเสน ลทฺโธ ปน ยฺจสฺส เสวมานสฺส อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, อยํ เอกนฺตอสปฺปาโยว. วิปรีโต สปฺปาโย. ตสฺส วเสเนตฺถ สปฺปายสมฺปชฺํ. กมฺมฏฺานาวิชหนวเสเนว จ โคจรสมฺปชฺํ เวทิตพฺพํ.

อพฺภนฺตเร อตฺตา นาม โกจิ ปตฺตํ คณฺหนฺโต นตฺถิ, วุตฺตปฺปกาเรน จิตฺตกิริยวาโยธาตุวิปฺผารวเสเนว ปตฺตคฺคหณํ นาม โหติ. ตตฺถ ปตฺโตปิ อเจตโน, หตฺถาปิ อเจตนา. ปตฺโต น ชานาติ – ‘‘อหํ หตฺเถหิ คหิโต’’ติ. หตฺถาปิ น ชานนฺติ – ‘‘อมฺเหหิ ปตฺโต คหิโต’’ติ. ธาตุโยว ธาตุสมูหํ คณฺหนฺติ, สณฺฑาเสน อคฺคิวณฺณปตฺตคฺคหเณ วิยาติ. เอวํ ปวตฺตปฏิสงฺขานวเสเนตฺถ อสมฺโมหสมฺปชฺํ เวทิตพฺพํ.

อปิ จ ยถา ฉินฺนหตฺถปาเท วณมุเขหิ ปคฺฆริตปุพฺพโลหิตกิมิกุเล นีลมกฺขิกสมฺปริกิณฺเณ อนาถสาลายํ นิปนฺเน อนาถมนุสฺเส ทิสฺวา, เย ทยาลุกา ปุริสา, เต เตสํ วณมตฺตโจฬกานิ เจว กปาลาทีหิ จ เภสชฺชานิ อุปนาเมนฺติ. ตตฺถ โจฬกานิปิ เกสฺจิ สณฺหานิ, เกสฺจิ ถูลานิ ปาปุณนฺติ. เภสชฺชกปาลกานิปิ เกสฺจิ สุสณฺานานิ, เกสฺจิ ทุสฺสณฺานานิ ปาปุณนฺติ, น เต ตตฺถ สุมนา วา ทุมฺมนา วา โหนฺติ . วณปฏิจฺฉาทนมตฺเตเนว หิ โจฬเกน, เภสชฺชปฏิคฺคหณมตฺเตเนว จ กปาลเกน เตสํ อตฺโถ. เอวเมว โย ภิกฺขุ วณโจฬกํ วิย จีวรํ, เภสชฺชกปาลกํ วิย จ ปตฺตํ, กปาเล เภสชฺชมิว จ ปตฺเต ลทฺธํ ภิกฺขํ สลฺลกฺเขติ, อยํ สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธารเณ อสมฺโมหสมฺปชฺเน อุตฺตมสมฺปชานการีติ เวทิตพฺโพ.

อสิตาทีสุ อสิเตติ ปิณฺฑปาตโภชเน. ปีเตติ ยาคุอาทิปาเน. ขายิเตติ ปิฏฺขชฺชาทิขาทเน. สายิเตติ มธุผาณิตาทิสายเน. ตตฺถ เนว ทวายาติอาทินา นเยน วุตฺโต อฏฺวิโธปิ อตฺโถ อตฺโถ นาม. ตสฺเสว วเสน สาตฺถกสมฺปชฺํ เวทิตพฺพํ.

ลูขปณีตติตฺตมธุรรสาทีสุ ปน เยน โภชเนน ยสฺส ผาสุ น โหติ, ตํ ตสฺส อสปฺปายํ. ยํ ปน นิมิตฺตกมฺมาทิวเสน ปฏิลทฺธํ, ยฺจสฺส ภุฺชโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, ตํ เอกนฺตอสปฺปายเมว, วิปรีตํ สปฺปายํ. ตสฺส วเสเนตฺถ สปฺปายสมฺปชฺํ. กมฺมฏฺานาวิชหนวเสเนว จ โคจรสมฺปชฺํ เวทิตพฺพํ.

อพฺภนฺตเร อตฺตา นาม โกจิ ภุฺชโก นตฺถิ, วุตฺตปฺปการจิตฺตกิริยวาโยธาตุวิปฺผาเรเนว ปตฺตปฺปฏิคฺคหณํ นาม โหติ. จิตฺตกิริยวาโยธาตุวิปฺผาเรเนว หตฺถสฺส ปตฺเต โอตารณํ นาม โหติ. จิตฺตกิริยวาโยธาตุวิปฺผาเรเนว อาโลปกรณํ อาโลปอุทฺธารณํ มุขวิวรณฺจ โหติ, น โกจิ กุฺจิกาย ยนฺตเกน วา หนุกฏฺีนิ วิวรติ. จิตฺตกิริยวาโยธาตุวิปฺผาเรเนว อาโลปสฺส มุเข ปนํ, อุปริทนฺตานํ มุสลกิจฺจสาธนํ, เหฏฺิมทนฺตานํ อุทุกฺขลกิจฺจสาธนํ, ชิวฺหาย หตฺถกิจฺจสาธนฺจ โหติ. อิติ ตตฺถ อคฺคชิวฺหาย ตนุกเขโฬ มูลชิวฺหาย พหลเขโฬ มกฺเขติ. ตํ เหฏฺาทนฺตอุทุกฺขเล ชิวฺหาหตฺถปริวตฺตกํ เขโฬทเกน เตมิตํ อุปริทนฺตมุสลสฺจุณฺณิตํ โกจิ กฏจฺฉุนา วา ทพฺพิยา วา อนฺโตปเวเสนฺโต นาม นตฺถิ, วาโยธาตุยาว ปวิสติ. ปวิฏฺํ ปวิฏฺํ โกจิ ปลาลสนฺถารํ กตฺวา ธาเรนฺโต นาม นตฺถิ, วาโยธาตุวเสเนว ติฏฺติ. ิตํ ิตํ โกจิ อุทฺธนํ กตฺวา อคฺคึ ชาเลตฺวา ปจนฺโต นาม นตฺถิ, เตโชธาตุยาว ปจฺจติ. ปกฺกํ ปกฺกํ โกจิ ทณฺฑเกน วา ยฏฺิยา วา พหิ นีหารโก นาม นตฺถิ, วาโยธาตุเยว นีหรติ. อิติ วาโยธาตุ ปฏิหรติ จ, วีติหรติ จ, ธาเรติ จ, ปริวตฺเตติ จ, สฺจุณฺเณติ จ, วิโสเสติ จ, นีหรติ จ. ปถวีธาตุ ธาเรติ จ, ปริวตฺเตติ จ, สฺจุณฺเณติ จ, วิโสเสติ จ. อาโปธาตุ สิเนเหติ จ, อลฺลตฺตฺจ อนุปาเลติ. เตโชธาตุ อนฺโตปวิฏฺํ ปริปาเจติ. อากาสธาตุ อฺชโส โหติ. วิฺาณธาตุ ตตฺถ ตตฺถ สมฺมาปโยคมนฺวาย อาภุชตีติ. เอวํ ปวตฺตปฏิสงฺขานวเสเนตฺถ อสมฺโมหสมฺปชฺํ เวทิตพฺพํ.

อปิ จ คมนโต ปริเยสนโต ปริโภคโต อาสยโต นิธานโต อปริปกฺกโต ปริปกฺกโต ผลโต นิสฺสนฺทโต สมฺมกฺขนโตติ, เอวํ ทสวิธปฏิกูลภาวปจฺจเวกฺขณโต เปตฺถ อสมฺโมหสมฺปชฺํ เวทิตพฺพํ. วิตฺถารกถา ปเนตฺถ วิสุทฺธิมคฺเค อาหารปฏิกูลสฺานิทฺเทสโต คเหตพฺพา.

อุจฺจารปสฺสาวกมฺเมติ อุจฺจารสฺส จ ปสฺสาวสฺส จ กรเณ. ตตฺถ ปตฺตกาเล อุจฺจารปสฺสาวํ อกโรนฺตสฺส สกลสรีรโต เสทา มุจฺจนฺติ, อกฺขีนิ ภมนฺติ, จิตฺตํ น เอกคฺคํ โหติ, อฺเ จ โรคา อุปฺปชฺชนฺติ. กโรนฺตสฺส ปน สพฺพํ ตํ น โหตีติ อยเมตฺถ อตฺโถ. ตสฺส วเสน สาตฺถกสมฺปชฺํ เวทิตพฺพํ.

อฏฺาเน อุจฺจารปสฺสาวํ กโรนฺตสฺส ปน อาปตฺติ โหติ, อยโส วฑฺฒติ, ชีวิตนฺตราโย โหติ, ปติรูเป าเน กโรนฺตสฺส สพฺพํ ตํ น โหตีติ อิทเมตฺถ สปฺปายํ ตสฺส วเสน สปฺปายสมฺปชฺํ. กมฺมฏฺานาวิชหนวเสเนว จ โคจรสมฺปชฺํ เวทิตพฺพํ.

อพฺภนฺตเร อตฺตา นาม อุจฺจารปสฺสาวกมฺมํ กโรนฺโต นตฺถิ, จิตฺตกิริยวาโยธาตุวิปฺผาเรเนว ปน อุจฺจารปสฺสาวกมฺมํ โหติ . ยถา วา ปน ปกฺเก คณฺเฑ คณฺฑเภเทน ปุพฺพโลหิตํ อกามตาย นิกฺขมติ. ยถา จ อติภริตา อุทกภาชนา อุทกํ อกามตาย นิกฺขมติ. เอวํ ปกฺกาสยมุตฺตวตฺถีสุ สนฺนิจิตา อุจฺจารปสฺสาวา วายุเวคสมุปฺปีฬิตา อกามตายปิ นิกฺขมนฺติ. โส ปนายํ เอวํ นิกฺขมนฺโต อุจฺจารปสฺสาโว เนว ตสฺส ภิกฺขุโน อตฺตโน โหติ, น ปรสฺส, เกวลํ สรีรนิสฺสนฺโทว โหติ. ยถา กึ? ยถา อุทกตุมฺพโต ปุราณุทกํ ฉฑฺเฑนฺตสฺส เนว ตํ อตฺตโน โหติ, น ปเรสํ; เกวลํ ปฏิชคฺคนมตฺตเมว โหติ; เอวํ ปวตฺตปฏิสงฺขานวเสเนตฺถ อสมฺโมหสมฺปชฺํ เวทิตพฺพํ.

คตาทีสุ คเตติ คมเน. ิเตติ าเน. นิสินฺเนติ นิสชฺชาย. สุตฺเตติ สยเน. ชาคริเตติ ชาครเณ. ภาสิเตติ กถเน. ตุณฺหีภาเวติ อกถเน. ‘‘คจฺฉนฺโต วา คจฺฉามีติ ปชานาติ, ิโต วา ิโตมฺหีติ ปชานาติ, นิสินฺโน วา นิสินฺโนมฺหีติ ปชานาติ, สยาโน วา สยาโนมฺหีติ ปชานาตี’’ติ อิมสฺมิฺหิ สุตฺเต อทฺธานอิริยาปถา กถิตา. ‘‘อภิกฺกนฺเต ปฏิกฺกนฺเต อาโลกิเต วิโลกิเต สมิฺชิเต ปสาริเต’’ติ อิมสฺมึ มชฺฌิมา. ‘‘คเต ิเต นิสินฺเน สุตฺเต ชาคริเต’’ติ อิธ ปน ขุทฺทกจุณฺณิยอิริยาปถา กถิตา. ตสฺมา เตสุปิ วุตฺตนเยเนว สมฺปชานการิตา เวทิตพฺพา.

ติปิฏกมหาสิวตฺเถโร ปนาห – โย จิรํ คนฺตฺวา วา จงฺกมิตฺวา วา อปรภาเค ิโต อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘‘จงฺกมนกาเล ปวตฺตา รูปารูปธมฺมา เอตฺเถว นิรุทฺธา’’ติ . อยํ คเต สมฺปชานการี นาม.

โย สชฺฌายํ วา กโรนฺโต, ปฺหํ วา วิสฺสชฺเชนฺโต, กมฺมฏฺานํ วา มนสิกโรนฺโต จิรํ ตฺวา อปรภาเค นิสินฺโน อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘‘ิตกาเล ปวตฺตา รูปารูปธมฺมา เอตฺเถว นิรุทฺธา’’ติ. อยํ ิเต สมฺปชานการี นาม.

โย สชฺฌายาทิกรณวเสเนว จิรํ นิสีทิตฺวา อปรภาเค อุฏฺาย อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘‘นิสินฺนกาเล ปวตฺตา รูปารูปธมฺมา เอตฺเถว นิรุทฺธา’’ติ. อยํ นิสินฺเน สมฺปชานการี นาม.

โย ปน นิปนฺนโก สชฺฌายํ วา กโรนฺโต กมฺมฏฺานํ วา มนสิกโรนฺโต นิทฺทํ โอกฺกมิตฺวา อปรภาเค อุฏฺาย อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘‘สยนกาเล ปวตฺตา รูปารูปธมฺมา เอตฺเถว นิรุทฺธา’’ติ. อยํ สุตฺเต ชาคริเต จ สมฺปชานการี นาม. กิริยมยจิตฺตานฺหิ อปฺปวตฺตนํ โสปฺปํ นาม, ปวตฺตนํ ชาคริตํ นาม.

โย ปน ภาสมาโน – ‘‘อยํ สทฺโท นาม โอฏฺเ จ ปฏิจฺจ, ทนฺเต จ ชิวฺหฺจ ตาลุฺจ ปฏิจฺจ, จิตฺตสฺส จ ตทนุรูปํ ปโยคํ ปฏิจฺจ ชายตี’’ติ สโต สมฺปชาโนว ภาสติ. จิรํ วา ปน กาลํ สชฺฌายํ วา กตฺวา, ธมฺมํ วา กเถตฺวา, กมฺมฏฺานํ วา ปวตฺเตตฺวา, ปฺหํ วา วิสฺสชฺเชตฺวา, อปรภาเค ตุณฺหีภูโต อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘‘ภาสิตกาเล อุปฺปนฺนา รูปารูปธมฺมา เอตฺเถว นิรุทฺธา’’ติ. อยํ ภาสิเต สมฺปชานการี นาม.

โย ตุณฺหีภูโต จิรํ ธมฺมํ วา กมฺมฏฺานํ วา มนสิกตฺวา อปรภาเค อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘‘ตุณฺหีภูตกาเล ปวตฺตา รูปารูปธมฺมา เอตฺเถว นิรุทฺธา’’ติ. อุปาทารูปปฺปวตฺติยฺหิ สติ ภาสติ นาม, อสติ ตุณฺหี ภวติ นามาติ. อยํ ตุณฺหีภาเว สมฺปชานการี นามาติ.

ตยิทํ มหาสิวตฺเถเรน วุตฺตํ อสมฺโมหธุรํ มหาสติปฏฺานสุตฺเต อธิปฺเปตํ. อิมสฺมึ ปน สามฺผเล สพฺพมฺปิ จตุพฺพิธํ สมฺปชฺํ ลพฺภติ. ตสฺมา วุตฺตนเยเนว เจตฺถ จตุนฺนํ สมฺปชฺานํ วเสน สมฺปชานการิตา เวทิตพฺพา. สมฺปชานการีติ จ สพฺพปเทสุ สติสมฺปยุตฺตสฺเสว สมฺปชฺสฺส วเสน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. สติสมฺปชฺเน สมนฺนาคโตติ เอตสฺส หิ ปทสฺส อยํ วิตฺถาโร. วิภงฺคปฺปกรเณ ปน – ‘‘สโต สมฺปชาโน อภิกฺกมติ, สโต สมฺปชาโน ปฏิกฺกมตี’’ติ เอวํ เอตานิ ปทานิ วิภตฺตาเนว. เอวํ, โข มหาราชาติ เอวํ สติสมฺปยุตฺตสฺส สมฺปชฺสฺส วเสน อภิกฺกมาทีนิ ปวตฺเตนฺโต สติสมฺปชฺเน สมนฺนาคโต นาม โหตีติ อตฺโถ.

สนฺโตสกถา

๒๑๕. อิธ, มหาราช, ภิกฺขุ สนฺตุฏฺโ โหตีติ เอตฺถ สนฺตุฏฺโติ อิตรีตรปจฺจยสนฺโตเสน สมนฺนาคโต. โส ปเนส สนฺโตโส ทฺวาทสวิโธ โหติ, เสยฺยถิทํ – จีวเร ยถาลาภสนฺโตโส, ยถาพลสนฺโตโส, ยถาสารุปฺปสนฺโตโสติ ติวิโธ. เอวํ ปิณฺฑปาตาทีสุ. ตสฺสายํ ปเภทวณฺณนา –

อิธ ภิกฺขุ จีวรํ ลภติ, สุนฺทรํ วา อสุนฺทรํ วา. โส เตเนว ยาเปติ, อฺํ น ปตฺเถติ, ลภนฺโตปิ น คณฺหติ. อยมสฺส จีวเร ยถาลาภสนฺโตโส. อถ ปน ปกติทุพฺพโล วา โหติ, อาพาธชราภิภูโต วา, ครุจีวรํ ปารุปนฺโต กิลมติ. โส สภาเคน ภิกฺขุนา สทฺธึ ตํ ปริวตฺเตตฺวา ลหุเกน ยาเปนฺโตปิ สนฺตุฏฺโว โหติ. อยมสฺส จีวเร ยถาพลสนฺโตโส. อปโร ปณีตปจฺจยลาภี โหติ. โส ปตฺตจีวราทีนํ อฺตรํ มหคฺฆปตฺตจีวรํ พหูนิ วา ปน ปตฺตจีวรานิ ลภิตฺวา อิทํ เถรานํ จิรปพฺพชิตานํ, อิทํ พหุสฺสุตานํ อนุรูปํ, อิทํ คิลานานํ, อิทํ อปฺปลาภีนํ โหตูติ ทตฺวา เตสํ ปุราณจีวรํ วา คเหตฺวา สงฺการกูฏาทิโต วา นนฺตกานิ อุจฺจินิตฺวา เตหิ สงฺฆาฏึ กตฺวา ธาเรนฺโตปิ สนฺตุฏฺโว โหติ. อยมสฺส จีวเร ยถาสารุปฺปสนฺโตโส.

อิธ ปน ภิกฺขุ ปิณฺฑปาตํ ลภติ ลูขํ วา ปณีตํ วา, โส เตเนว ยาเปติ, อฺํ น ปตฺเถติ, ลภนฺโตปิ น คณฺหติ. อยมสฺส ปิณฺฑปาเต ยถาลาภสนฺโตโส. โย ปน อตฺตโน ปกติวิรุทฺธํ วา พฺยาธิวิรุทฺธํ วา ปิณฺฑปาตํ ลภติ, เยนสฺส ปริภุตฺเตน อผาสุ โหติ. โส สภาคสฺส ภิกฺขุโน ตํ ทตฺวา ตสฺส หตฺถโต สปฺปายโภชนํ ภุฺชิตฺวา สมณธมฺมํ กโรนฺโตปิ สนฺตุฏฺโว โหติ. อยมสฺส ปิณฺฑปาเต ยถาพลสนฺโตโส. อปโร พหุํ ปณีตํ ปิณฺฑปาตํ ลภติ. โส ตํ จีวรํ วิย เถรจิรปพฺพชิตพหุสฺสุตอปฺปลาภีคิลานานํ ทตฺวา เตสํ วา เสสกํ ปิณฺฑาย วา จริตฺวา มิสฺสกาหารํ ภุฺชนฺโตปิ สนฺตุฏฺโว โหติ. อยมสฺส ปิณฺฑปาเต ยถาสารุปฺปสนฺโตโส.

อิธ ปน ภิกฺขุ เสนาสนํ ลภติ, มนาปํ วา อมนาปํ วา, โส เตน เนว โสมนสฺสํ, น โทมนสฺสํ อุปฺปาเทติ; อนฺตมโส ติณสนฺถารเกนปิ ยถาลทฺเธเนว ตุสฺสติ. อยมสฺส เสนาสเน ยถาลาภสนฺโตโส. โย ปน อตฺตโน ปกติวิรุทฺธํ วา พฺยาธิวิรุทฺธํ วา เสนาสนํ ลภติ, ยตฺถสฺส วสโต อผาสุ โหติ, โส ตํ สภาคสฺส ภิกฺขุโน ทตฺวา ตสฺส สนฺตเก สปฺปายเสนาสเน วสนฺโตปิ สนฺตุฏฺโว โหติ. อยมสฺส เสนาสเน ยถาพลสนฺโตโส.

อปโร มหาปุฺโ เลณมณฺฑปกูฏาคาราทีนิ พหูนิ ปณีตเสนาสนานิ ลภติ. โส ตานิ จีวรํ วิย เถรจิรปพฺพชิตพหุสฺสุตอปฺปลาภีคิลานานํ ทตฺวา ยตฺถ กตฺถจิ วสนฺโตปิ สนฺตุฏฺโว โหติ. อยมสฺส เสนาสเน ยถาสารุปฺปสนฺโตโส. โยปิ – ‘‘อุตฺตมเสนาสนํ นาม ปมาทฏฺานํ, ตตฺถ นิสินฺนสฺส ถินมิทฺธํ โอกฺกมติ, นิทฺทาภิภูตสฺส ปุน ปฏิพุชฺฌโต กามวิตกฺกา ปาตุภวนฺตี’’ติ ปฏิสฺจิกฺขิตฺวา ตาทิสํ เสนาสนํ ปตฺตมฺปิ น สมฺปฏิจฺฉติ. โส ตํ ปฏิกฺขิปิตฺวา อพฺโภกาสรุกฺขมูลาทีสุ วสนฺโตปิ สนฺตุฏฺโว โหติ. อยมฺปิสฺส เสนาสเน ยถาสารุปฺปสนฺโตโส.

อิธ ปน ภิกฺขุ เภสชฺชํ ลภติ, ลูขํ วา ปณีตํ วา, โส ยํ ลภติ, เตเนว ตุสฺสติ, อฺํ น ปตฺเถติ, ลภนฺโตปิ น คณฺหติ. อยมสฺส คิลานปจฺจเย ยถาลาภสนฺโตโส. โย ปน เตเลน อตฺถิโก ผาณิตํ ลภติ. โส ตํ สภาคสฺส ภิกฺขุโน ทตฺวา ตสฺส หตฺถโต เตลํ คเหตฺวา อฺเทว วา ปริเยสิตฺวา เภสชฺชํ กโรนฺโตปิ สนฺตุฏฺโว โหติ. อยมสฺส คิลานปจฺจเย ยถาพลสนฺโตโส.

อปโร มหาปุฺโ พหุํ เตลมธุผาณิตาทิปณีตเภสชฺชํ ลภติ. โส ตํ จีวรํ วิย เถรจิรปพฺพชิตพหุสฺสุตอปฺปลาภีคิลานานํ ทตฺวา เตสํ อาภเตน เยน เกนจิ ยาเปนฺโตปิ สนฺตุฏฺโว โหติ. โย ปน เอกสฺมึ ภาชเน มุตฺตหรีฏกํ เปตฺวา เอกสฺมึ จตุมธุรํ – ‘‘คณฺหาหิ, ภนฺเต, ยทิจฺฉสี’’ติ วุจฺจมาโน สจสฺส เตสุ อฺตเรนปิ โรโค วูปสมฺมติ, อถ มุตฺตหรีฏกํ นาม พุทฺธาทีหิ วณฺณิตนฺติ จตุมธุรํ ปฏิกฺขิปิตฺวา มุตฺตหรีฏเกเนว เภสชฺชํ กโรนฺโต ปรมสนฺตุฏฺโว โหติ. อยมสฺส คิลานปจฺจเย ยถาสารุปฺปสนฺโตโส.

อิมินา ปน ทฺวาทสวิเธน อิตรีตรปจฺจยสนฺโตเสน สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน อฏฺ ปริกฺขารา วฏฺฏนฺติ. ตีณิ จีวรานิ, ปตฺโต, ทนฺตกฏฺจฺเฉทนวาสิ, เอกา สูจิ, กายพนฺธนํ ปริสฺสาวนนฺติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –

‘‘ติจีวรฺจ ปตฺโต จ, วาสิ สูจิ จ พนฺธนํ;

ปริสฺสาวเนน อฏฺเเต, ยุตฺตโยคสฺส ภิกฺขุโน’’ติ.

เต สพฺเพ กายปริหาริกาปิ โหนฺติ กุจฺฉิปริหาริกาปิ. กถํ? ติจีวรํ ตาว นิวาเสตฺวา จ ปารุปิตฺวา จ วิจรณกาเล กายํ ปริหรติ, โปเสตีติ กายปริหาริกํ โหติ. จีวรกณฺเณน อุทกํ ปริสฺสาเวตฺวา ปิวนกาเล ขาทิตพฺพผลาผลคหณกาเล จ กุจฺฉึ ปริหรติ; โปเสตีติ กุจฺฉิปริหาริกํ โหติ.

ปตฺโตปิ เตน อุทกํ อุทฺธริตฺวา นฺหานกาเล กุฏิปริภณฺฑกรณกาเล จ กายปริหาริโก โหติ. อาหารํ คเหตฺวา ภุฺชนกาเล กุจฺฉิปริหาริโก.

วาสิปิ ตาย ทนฺตกฏฺจฺเฉทนกาเล มฺจปีานํ องฺคปาทจีวรกุฏิทณฺฑกสชฺชนกาเล จ กายปริหาริกา โหติ. อุจฺฉุเฉทนนาฬิเกราทิตจฺฉนกาเล กุจฺฉิปริหาริกา.

สูจิปิ จีวรสิพฺพนกาเล กายปริหาริกา โหติ. ปูวํ วา ผลํ วา วิชฺฌิตฺวา ขาทนกาเล กุจฺฉิปริหาริกา.

กายพนฺธนํ พนฺธิตฺวา วิจรณกาเล กายปริหาริกํ. อุจฺฉุอาทีนิ พนฺธิตฺวา คหณกาเล กุจฺฉิปริหาริกํ.

ปริสฺสาวนํ เตน อุทกํ ปริสฺสาเวตฺวา นฺหานกาเล, เสนาสนปริภณฺฑกรณกาเล จ กายปริหาริกํ. ปานียํ ปริสฺสาวนกาเล, เตเนว ติลตณฺฑุลปุถุกาทีนิ คเหตฺวา ขาทนกาเล จ กุจฺฉิปริหาริยํ. อยํ ตาว อฏฺปริกฺขาริกสฺส ปริกฺขารมตฺตา. นวปริกฺขาริกสฺส ปน เสยฺยํ ปวิสนฺตสฺส ตตฺรฏฺกํ ปจฺจตฺถรณํ วา กุฺจิกา วา วฏฺฏติ. ทสปริกฺขาริกสฺส นิสีทนํ วา จมฺมขณฺฑํ วา วฏฺฏติ. เอกาทสปริกฺขาริกสฺส ปน กตฺตรยฏฺิ วา เตลนาฬิกา วา วฏฺฏติ. ทฺวาทสปริกฺขาริกสฺส ฉตฺตํ วา อุปาหนํ วา วฏฺฏติ. เอเตสุ จ อฏฺปริกฺขาริโกว สนฺตุฏฺโ, อิตเร อสนฺตุฏฺา มหิจฺฉา มหาภาราติ น วตฺตพฺพา. เอเตปิ หิ อปฺปิจฺฉาว สนฺตุฏฺาว สุภราว สลฺลหุกวุตฺติโนว. ภควา ปน น ยิมํ สุตฺตํ เตสํ วเสน กเถสิ, อฏฺปริกฺขาริกสฺส วเสน กเถสิ. โส หิ ขุทฺทกวาสิฺจ สูจิฺจ ปริสฺสาวเน ปกฺขิปิตฺวา ปตฺตสฺส อนฺโต เปตฺวา ปตฺตํ อํสกูเฏ ลคฺเคตฺวา ติจีวรํ กายปฏิพทฺธํ กตฺวา เยนิจฺฉกํ สุขํ ปกฺกมติ. ปฏินิวตฺเตตฺวา คเหตพฺพํ นามสฺส น โหติ. อิติ อิมสฺส ภิกฺขุโน สลฺลหุกวุตฺติตํ ทสฺเสนฺโต ภควา – ‘‘สนฺตุฏฺโ โหติ กายปริหาริเกน จีวเรนา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ กายปริหาริเกนาติ กายปริหรณมตฺตเกน. กุจฺฉิปริหาริเกนาติ กุจฺฉิปริหรณมตฺตเกน. สมาทาเยว ปกฺกมตีติ อฏฺปริกฺขารมตฺตกํ สพฺพํ คเหตฺวาว กายปฏิพทฺธํ กตฺวาว คจฺฉติ. ‘‘มม วิหาโร ปริเวณํ อุปฏฺาโก’’ติ อาสงฺโค วา พนฺโธ วา น โหติ. โส ชิยา มุตฺโต สโร วิย, ยูถา อปกฺกนฺโต มทหตฺถี วิย จ อิจฺฉิติจฺฉิตํ เสนาสนํ วนสณฺฑํ รุกฺขมูลํ วนปพฺภารํ ปริภุฺชนฺโต เอโกว ติฏฺติ, เอโกว นิสีทติ. สพฺพิริยาปเถสุ เอโกว อทุติโย.

‘‘จาตุทฺทิโส อปฺปฏิโฆ จ โหติ,

สนฺตุสฺสมาโน อิตรีตเรน;

ปริสฺสยานํ สหิตา อฉมฺภี,

เอโก จเร ขคฺควิสาณกปฺโป’’ติ. (สุ. นิ. ๔๒);

เอวํ วณฺณิตํ ขคฺควิสาณกปฺปตํ อาปชฺชติ.

อิทานิ ตมตฺถํ อุปมาย สาเธนฺโต – ‘‘เสยฺยถาปี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ปกฺขี สกุโณติ ปกฺขยุตฺโต สกุโณ. เฑตีติ อุปฺปตติ. อยํ ปเนตฺถ สงฺเขปตฺโถ – สกุณา นาม ‘‘อสุกสฺมึ ปเทเส รุกฺโข ปริปกฺกผโล’’ติ ตฺวา นานาทิสาหิ อาคนฺตฺวา นขปตฺตตุณฺฑาทีหิ ตสฺส ผลานิ วิชฺฌนฺตา วิธุนนฺตา ขาทนฺติ. ‘อิทํ อชฺชตนาย, อิทํ สฺวาตนาย ภวิสฺสตี’ติ เตสํ น โหติ. ผเล ปน ขีเณ เนว รุกฺขสฺส อารกฺขํ เปนฺติ, น ตตฺถ ปตฺตํ วา นขํ วา ตุณฺฑํ วา เปนฺติ. อถ โข ตสฺมึ รุกฺเข อนเปกฺโข หุตฺวา, โย ยํ ทิสาภาคํ อิจฺฉติ, โส เตน สปตฺตภาโรว อุปฺปติตฺวา คจฺฉติ. เอวเมว อยํ ภิกฺขุ นิสฺสงฺโค นิรเปกฺโข เยน กามํ ปกฺกมติ. เตน วุตฺตํ ‘‘สมาทาเยว ปกฺกมตี’’ติ.

นีวรณปฺปหานกถา

๒๑๖. โสอิมินา จาติอาทินา กึ ทสฺเสติ? อรฺวาสสฺส ปจฺจยสมฺปตฺตึ ทสฺเสติ. ยสฺส หิ อิเม จตฺตาโร ปจฺจยา นตฺถิ, ตสฺส อรฺวาโส น อิชฺฌติ. ติรจฺฉานคเตหิ วา วนจรเกหิ วา สทฺธึ วตฺตพฺพตํ อาปชฺชติ. อรฺเ อธิวตฺถา เทวตา – ‘‘กึ เอวรูปสฺส ปาปภิกฺขุโน อรฺวาเสนา’’ติ เภรวสทฺทํ สาเวนฺติ, หตฺเถหิ สีสํ ปหริตฺวา ปลายนาการํ กโรนฺติ. ‘‘อสุโก ภิกฺขุ อรฺํ ปวิสิตฺวา อิทฺจิทฺจ ปาปกมฺมํ อกาสี’’ติ อยโส ปตฺถรติ. ยสฺส ปเนเต จตฺตาโร ปจฺจยา อตฺถิ, ตสฺส อรฺวาโส อิชฺฌติ. โส หิ อตฺตโน สีลํ ปจฺจเวกฺขนฺโต กิฺจิ กาฬกํ วา ติลกํ วา อปสฺสนฺโต ปีตึ อุปฺปาเทตฺวา ตํ ขยวยโต สมฺมสนฺโต อริยภูมึ โอกฺกมติ. อรฺเ อธิวตฺถา เทวตา อตฺตมนา วณฺณํ ภณนฺติ. อิติสฺส อุทเก ปกฺขิตฺตเตลพินฺทุ วิย ยโส วิตฺถาริโก โหติ.

ตตฺถ วิวิตฺตนฺติ สุฺํ, อปฺปสทฺทํ, อปฺปนิคฺโฆสนฺติ อตฺโถ. เอตเทว หิ สนฺธาย วิภงฺเค – ‘‘วิวิตฺตนฺติ สนฺติเก เจปิ เสนาสนํ โหติ, ตฺจ อนากิณฺณํ คหฏฺเหิ ปพฺพชิเตหิ. เตน ตํ วิวิตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. เสติ เจว อาสติ จ เอตฺถาติ เสนาสนํ มฺจปีาทีนเมตํ อธิวจนํ. เตนาห – ‘‘เสนาสนนฺติ มฺโจปิ เสนาสนํ , ปีมฺปิ, ภิสิปิ, พิมฺโพหนมฺปิ, วิหาโรปิ, อฑฺฒโยโคปิ, ปาสาโทปิ, หมฺมิยมฺปิ, คุหาปิ, อฏฺโฏปิ, มาโฬปิ เลณมฺปิ, เวฬุคุมฺโพปิ, รุกฺขมูลมฺปิ, มณฺฑโปปิ, เสนาสนํ, ยตฺถ วา ปน ภิกฺขู ปฏิกฺกมนฺติ, สพฺพเมตํ เสนาสน’’นฺติ (วิภ. ๕๒๗).

อปิ จ – ‘‘วิหาโร อฑฺฒโยโค ปาสาโท หมฺมิยํ คุหา’’ติ อิทํ วิหารเสนาสนํ นาม. ‘‘มฺโจ ปีํ ภิสิ พิมฺโพหน’’นฺติ อิทํ มฺจปีเสนาสนํ นาม. ‘‘จิมิลิกา จมฺมขณฺโฑ ติณสนฺถาโร ปณฺณสนฺถาโร’’ติ อิทํ สนฺถตเสนาสนํ นาม. ‘‘ยตฺถ วา ปน ภิกฺขู ปฏิกฺกมนฺตี’’ติ อิทํ โอกาสเสนาสนํ นามาติ. เอวํ จตุพฺพิธํ เสนาสนํ โหติ, ตํ สพฺพํ เสนาสนคฺคหเณน สงฺคหิตเมว.

อิธ ปนสฺส สกุณสทิสสฺส จาตุทฺทิสสฺส ภิกฺขุโน อนุจฺฉวิกเสนาสนํ ทสฺเสนฺโต อรฺํ รุกฺขมูลนฺติอาทิมาห. ตตฺถ อรฺนฺติ นิกฺขมิตฺวา พหิ อินฺทขีลา สพฺพเมตํ อรฺนฺติ. อิทํ ภิกฺขุนีนํ วเสน อาคตํ. ‘‘อารฺกํ นาม เสนาสนํ ปฺจธนุสติกํ ปจฺฉิม’’นฺติ (ปารา. ๖๕๔) อิทํ ปน อิมสฺส ภิกฺขุโน อนุรูปํ. ตสฺส ลกฺขณํ วิสุทฺธิมคฺเค ธุตงฺคนิทฺเทเส วุตฺตํ. รุกฺขมูลนฺติ ยํ กิฺจิ สนฺทจฺฉายํ วิวิตฺตรุกฺขมูลํ. ปพฺพตนฺติ เสลํ. ตตฺถ หิ อุทกโสณฺฑีสุ อุทกกิจฺจํ กตฺวา สีตาย รุกฺขจฺฉายาย นิสินฺนสฺส นานาทิสาสุ ขายมานาสุ สีเตน วาเตน พีชิยมานสฺส จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ. กนฺทรนฺติ กํ วุจฺจติ อุทกํ, เตน ทาริตํ, อุทเกน ภินฺนํ ปพฺพตปเทสํ. ยํ นทีตุมฺพนฺติปิ, นทีกุฺชนฺติปิ วทนฺติ. ตตฺถ หิ รชตปฏฺฏสทิสา วาลิกา โหติ, มตฺถเก มณิวิตานํ วิย วนคหณํ, มณิขนฺธสทิสํ อุทกํ สนฺทติ. เอวรูปํ กนฺทรํ โอรุยฺห ปานียํ ปิวิตฺวา คตฺตานิ สีตานิ กตฺวา วาลิกํ อุสฺสาเปตฺวา ปํสุกูลจีวรํ ปฺเปตฺวา นิสินฺนสฺส สมณธมฺมํ กโรโต จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ. คิริคุหนฺติ ทฺวินฺนํ ปพฺพตานํ อนฺตเร, เอกสฺมึเยว วา อุมคฺคสทิสํ มหาวิวรํ สุสานลกฺขณํ วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตํ. วนปตฺถนฺติ คามนฺตํ อติกฺกมิตฺวา มนุสฺสานํ อนุปจารฏฺานํ, ยตฺถ น กสนฺติ น วปนฺติ, เตเนวาห – ‘‘วนปตฺถนฺติ ทูรานเมตํ เสนาสนานํ อธิวจน’’นฺติอาทิ. อพฺโภกาสนฺติ อจฺฉนฺนํ. อากงฺขมาโน ปเนตฺถ จีวรกุฏึ กตฺวา วสติ. ปลาลปุฺชนฺติ ปลาลราสิ. มหาปลาลปุฺชโต หิ ปลาลํ นิกฺกฑฺฒิตฺวา ปพฺภารเลณสทิเส อาลเย กโรนฺติ, คจฺฉคุมฺภาทีนมฺปิ อุปริ ปลาลํ ปกฺขิปิตฺวา เหฏฺา นิสินฺนา สมณธมฺมํ กโรนฺติ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ.

ปจฺฉาภตฺตนฺติ ภตฺตสฺส ปจฺฉโต. ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโตติ ปิณฺฑปาตปริเยสนโต ปฏิกฺกนฺโต. ปลฺลงฺกนฺติ สมนฺตโต อูรุพทฺธาสนํ. อาภุชิตฺวาติ พนฺธิตฺวา. อุชุํ กายํ ปณิธายาติ อุปริมํ สรีรํ อุชุํ เปตฺวา อฏฺารส ปิฏฺิกณฺฏกฏฺิเก โกฏิยา โกฏึ ปฏิปาเทตฺวา. เอวฺหิ นิสินฺนสฺส จมฺมมํสนฺหารูนิ น ปณมนฺติ. อถสฺส ยา เตสํ ปณมนปจฺจยา ขเณ ขเณ เวทนา อุปฺปชฺเชยฺยุํ, ตา นุปฺปชฺชนฺติ. ตาสุ อนุปฺปชฺชมานาสุ จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ, กมฺมฏฺานํ น ปริปตติ, วุฑฺฒึ ผาตึ เวปุลฺลํ อุปคจฺฉติ. ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวาติ กมฺมฏฺานาภิมุขํ สตึ ปยิตฺวา. มุขสมีเป วา กตฺวาติ อตฺโถ. เตเนว วิภงฺเค วุตฺตํ – ‘‘อยํ สติ อุปฏฺิตา โหติ สูปฏฺิตา นาสิกคฺเค วา มุขนิมิตฺเต วา, เตน วุจฺจติ ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา’’ติ (วิภ. ๕๓๗). อถวา ปรีติ ปริคฺคหฏฺโ. มุขนฺติ นิยฺยานฏฺโ. สตีติ อุปฏฺานฏฺโ. เตน วุจฺจติ – ‘‘ปริมุขํ สติ’’นฺติ. เอวํ ปฏิสมฺภิทายํ วุตฺตนเยนเปตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ตตฺรายํ สงฺเขโป – ‘‘ปริคฺคหิตนิยฺยานสตึ กตฺวา’’ติ.

๒๑๗. อภิชฺฌํ โลเกติ เอตฺถ ลุชฺชนปลุชฺชนฏฺเน ปฺจุปาทานกฺขนฺธา โลโก, ตสฺมา ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ ราคํ ปหาย กามจฺฉนฺทํ วิกฺขมฺเภตฺวาติ อยเมตฺถตฺโถ. วิคตาภิชฺเฌนาติ วิกฺขมฺภนวเสน ปหีนตฺตา วิคตาภิชฺเฌน, น จกฺขุวิฺาณสทิเสนาติ อตฺโถ. อภิชฺฌาย จิตฺตํ ปริโสเธตีติ อภิชฺฌาโต จิตฺตํ ปริโมเจติ. ยถา ตํ สา มุฺจติ เจว, มุฺจิตฺวา จ น ปุน คณฺหติ, เอวํ กโรตีติ อตฺโถ. พฺยาปาทปโทสํ ปหายาติอาทีสุปิ เอเสว นโย. พฺยาปชฺชติ อิมินา จิตฺตํ ปูติกุมฺมาสาทโย วิย ปุริมปกตึ วิชหตีติ พฺยาปาโท. วิการาปตฺติยา ปทุสฺสติ, ปรํ วา ปทูเสติ วินาเสตีติ ปโทโส. อุภยเมตํ โกธสฺเสวาธิวจนํ . ถินํ จิตฺตเคลฺํ. มิทฺธํ เจตสิกเคลฺํ, ถินฺจ มิทฺธฺจ ถินมิทฺธํ. อาโลกสฺีติ รตฺติมฺปิ ทิวาทิฏฺาโลกสฺชานนสมตฺถาย วิคตนีวรณาย ปริสุทฺธาย สฺาย สมนฺนาคโต. สโต สมฺปชาโนติ สติยา จ าเณน จ สมนฺนาคโต. อิทํ อุภยํ อาโลกสฺาย อุปการตฺตา วุตฺตํ. อุทฺธจฺจฺจ กุกฺกุจฺจฺจ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ. ติณฺณวิจิกิจฺโฉติ วิจิกิจฺฉํ ตริตฺวา อติกฺกมิตฺวา ิโต. ‘‘กถมิทํ กถมิท’’นฺติ เอวํ นปฺปวตฺตตีติ อกถํกถี. กุสเลสุ ธมฺเมสูติ อนวชฺเชสุ ธมฺเมสุ. ‘‘อิเม นุ โข กุสลา กถมิเม กุสลา’’ติ เอวํ น วิจิกิจฺฉติ. น กงฺขตีติ อตฺโถ. อยเมตฺถ สงฺเขโป. อิเมสุ ปน นีวรเณสุ วจนตฺถลกฺขณาทิเภทโต ยํ วตฺตพฺพํ สิยา, ตํ สพฺพํ วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตํ.

๒๑๘. ยา ปนายํ เสยฺยถาปิ มหาราชาติ อุปมา วุตฺตา. ตตฺถ อิณํ อาทายาติ วฑฺฒิยา ธนํ คเหตฺวา. พฺยนฺตึ กเรยฺยาติ วิคตนฺตํ กเรยฺย , ยถา เตสํ กากณิกมตฺโตปิ ปริยนฺโต นาม นาวสิสฺสติ, เอวํ กเรยฺย; สพฺพโส ปฏินิยฺยาเตยฺยาติ อตฺโถ. ตโต นิทานนฺติ อาณณฺยนิทานํ. โส หิ ‘‘อณโณมฺหี’’ติ อาวชฺชนฺโต พลวปาโมชฺชํ ลภติ, โสมนสฺสํ อธิคจฺฉติ, เตน วุตฺตํ – ‘‘ลเภถ ปาโมชฺชํ, อธิคจฺเฉยฺย โสมนสฺส’’นฺติ.

๒๑๙. วิสภาคเวทนุปฺปตฺติยา กกเจเนว จตุอิริยาปถํ ฉินฺทนฺโต อาพาธตีติ อาพาโธ, สฺวาสฺส อตฺถีติ อาพาธิโก. ตํ สมุฏฺาเนน ทุกฺเขน ทุกฺขิโต. อธิมตฺตคิลาโนติ พาฬฺหคิลาโน. นจฺฉาเทยฺยาติ อธิมตฺตพฺยาธิปเรตตาย น รุจฺเจยฺย. พลมตฺตาติ พลเมว, พลฺจสฺส กาเย น ภเวยฺยาติ อตฺโถ. ตโตนิทานนฺติ อาโรคฺยนิทานํ. ตสฺส หิ – ‘‘อโรโคมฺหี’’ติ อาวชฺชยโต ตทุภยํ โหติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ลเภถ ปาโมชฺชํ, อธิคจฺเฉยฺย โสมนสฺส’’นฺติ.

๒๒๐. น จสฺส กิฺจิ โภคานํ วโยติ กากณิกมตฺตมฺปิ โภคานํ วโย น ภเวยฺย. ตโตนิทานนฺติ พนฺธนาโมกฺขนิทานํ. เสสํ วุตฺตนเยเนว สพฺพปเทสุ โยเชตพฺพํ.

๒๒๑-๒๒๒. อนตฺตาธีโนติ น อตฺตนิ อธีโน, อตฺตโน รุจิยา กิฺจิ กาตุํ น ลภติ. ปราธีโนติ ปเรสุ อธีโน ปรสฺเสว รุจิยา วตฺตติ. น เยน กามํ คโมติ เยน ทิสาภาเคนสฺส คนฺตุกามตา โหติ, อิจฺฉา อุปฺปชฺชติ คมนาย, เตน คนฺตุํ น ลภติ. ทาสพฺยาติ ทาสภาวา. ภุชิสฺโสติ อตฺตโน สนฺตโก. ตโตนิทานนฺติ ภุชิสฺสนิทานํ. กนฺตารทฺธานมคฺคนฺติ กนฺตารํ อทฺธานมคฺคํ, นิรุทกํ ทีฆมคฺคนฺติ อตฺโถ. ตโตนิทานนฺติ เขมนฺตภูมินิทานํ.

๒๒๓. อิเม ปฺจ นีวรเณ อปฺปหีเนติ เอตฺถ ภควา อปฺปหีนกามจฺฉนฺทนีวรณํ อิณสทิสํ, เสสานิ โรคาทิสทิสานิ กตฺวา ทสฺเสติ. ตตฺรายํ สทิสตา. โย หิ ปเรสํ อิณํ คเหตฺวา วินาเสติ, โส เตหิ อิณํ เทหีติ วุจฺจมาโนปิ ผรุสํ วุจฺจมาโนปิ พชฺฌมาโนปิ วธียมาโนปิ กิฺจิ ปฏิพาหิตุํ น สกฺโกติ, สพฺพํ ติติกฺขติ. ติติกฺขาการณํ หิสฺส ตํ อิณํ โหติ. เอวเมว โย ยมฺหิ กามจฺฉนฺเทน รชฺชติ, ตณฺหาสหคเตน ตํ วตฺถุํ คณฺหติ, โส เตน ผรุสํ วุจฺจมาโนปิ พชฺฌมาโนปิ วธียมาโนปิ สพฺพํ ติติกฺขติ, ติติกฺขาการณํ หิสฺส โส กามจฺฉนฺโท โหติ, ฆรสามิเกหิ วธียมานานํ อิตฺถีนํ วิยาติ, เอวํ อิณํ วิย กามจฺฉนฺโท ทฏฺพฺโพ.

ยถา ปน ปิตฺตโรคาตุโร มธุสกฺกราทีสุปิ ทินฺเนสุ ปิตฺตโรคาตุรตาย เตสํ รสํ น วินฺทติ, ‘‘ติตฺตกํ ติตฺตก’’นฺติ อุคฺคิรติเยว. เอวเมว พฺยาปนฺนจิตฺโต หิตกาเมหิ อาจริยุปชฺฌาเยหิ อปฺปมตฺตกมฺปิ โอวทิยมาโน โอวาทํ น คณฺหติ. ‘‘อติ วิย เม ตุมฺเห อุปทฺทเวถา’’ติอาทีนิ วตฺวา วิพฺภมติ. ปิตฺตโรคาตุรตาย โส ปุริโส มธุสกฺกราทีนํ วิย โกธาตุรตาย ฌานสุขาทิเภทํ สาสนรสํ น วินฺทตีติ. เอวํ โรโค วิย พฺยาปาโท ทฏฺพฺโพ.

ยถา ปน นกฺขตฺตทิวเส พนฺธนาคาเร พทฺโธ ปุริโส นกฺขตฺตสฺส เนว อาทึ น มชฺฌํ น ปริโยสานํ ปสฺสติ. โส ทุติยทิวเส มุตฺโต อโห หิยฺโย นกฺขตฺตํ มนาปํ, อโห นจฺจํ, อโห คีตนฺติอาทีนิ สุตฺวาปิ ปฏิวจนํ น เทติ. กึ การณา? นกฺขตฺตสฺส อนนุภูตตฺตา. เอวเมว ถินมิทฺธาภิภูโต ภิกฺขุ วิจิตฺตนเยปิ ธมฺมสฺสวเน ปวตฺตมาเน เนว ตสฺส อาทึ น มชฺฌํ น ปริโยสานํ ชานาติ. โสปิ อุฏฺิเต ธมฺมสฺสวเน อโห ธมฺมสฺสวนํ, อโห การณํ, อโห อุปมาติ ธมฺมสฺสวนสฺส วณฺณํ ภณมานานํ สุตฺวาปิ ปฏิวจนํ น เทติ. กึ การณา? ถินมิทฺธวเสน ธมฺมกถาย อนนุภูตตฺตา. เอวํ พนฺธนาคารํ วิย ถินมิทฺธํ ทฏฺพฺพํ.

ยถา ปน นกฺขตฺตํ กีฬนฺโตปิ ทาโส – ‘‘อิทํ นาม อจฺจายิกํ กรณียํ อตฺถิ, สีฆํ ตตฺถ คจฺฉาหิ. โน เจ คจฺฉสิ, หตฺถปาทํ วา เต ฉินฺทามิ กณฺณนาสํ วา’’ติ วุตฺโต สีฆํ คจฺฉติเยว . นกฺขตฺตสฺส อาทิมชฺฌปริโยสานํ อนุภวิตุํ น ลภติ, กสฺมา? ปราธีนตาย, เอวเมว วินเย อปกตฺุนา วิเวกตฺถาย อรฺํ ปวิฏฺเนาปิ กิสฺมิฺจิเทว อนฺตมโส กปฺปิยมํเสปิ อกปฺปิยมํสสฺาย อุปฺปนฺนาย วิเวกํ ปหาย สีลวิโสธนตฺถํ วินยธรสฺส สนฺติกํ คนฺตพฺพํ โหติ, วิเวกสุขํ อนุภวิตุํ น ลภติ, กสฺมา? อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจาภิภูตตายาติ. เอวํ ทาสพฺยํ วิย อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ทฏฺพฺพํ.

ยถา ปน กนฺตารทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺโน ปุริโส โจเรหิ มนุสฺสานํ วิลุตฺโตกาสํ ปหโตกาสฺจ ทิสฺวา ทณฺฑกสทฺเทนปิ สกุณสทฺเทนปิ ‘‘โจรา อาคตา’’ติ อุสฺสงฺกิตปริสงฺกิโตว โหติ, คจฺฉติปิ ติฏฺติปิ นิวตฺตติปิ, คตฏฺานโต อคตฏฺานเมว พหุตรํ โหติ. โส กิจฺเฉน กสิเรน เขมนฺตภูมึ ปาปุณาติ วา น วา ปาปุณาติ. เอวเมว ยสฺส อฏฺสุ าเนสุ วิจิกิจฺฉา อุปฺปนฺนา โหติ, โส – ‘‘พุทฺโธ นุ โข, โน นุ โข พุทฺโธ’’ติอาทินา นเยน วิจิกิจฺฉนฺโต อธิมุจฺจิตฺวา สทฺธาย คณฺหิตุํ น สกฺโกติ. อสกฺโกนฺโต มคฺคํ วา ผลํ วา น ปาปุณาตีติ. ยถา กนฺตารทฺธานมคฺเค – ‘‘โจรา อตฺถิ นตฺถี’’ติ ปุนปฺปุนํ อาสปฺปนปริสปฺปนํ อปริโยคาหนํ ฉมฺภิตตฺตํ จิตฺตสฺส อุปฺปาเทนฺโต เขมนฺตปตฺติยา อนฺตรายํ กโรติ, เอวํ วิจิกิจฺฉาปิ – ‘‘พุทฺโธ นุ โข, น พุทฺโธ’’ติอาทินา นเยน ปุนปฺปุนํ อาสปฺปนปริสปฺปนํ อปริโยคาหนํ ฉมฺภิตตฺตํ จิตฺตสฺส อุปฺปาทยมานา อริยภูมิปฺปตฺติยา อนฺตรายํ กโรตีติ กนฺตารทฺธานมคฺโค วิย วิจิกิจฺฉา ทฏฺพฺพา.

๒๒๔. อิทานิ – ‘‘เสยฺยถาปิ, มหาราช, อาณณฺย’’นฺติ เอตฺถ ภควา ปหีนกามจฺฉนฺทนีวรณํ อาณณฺยสทิสํ, เสสานิ อาโรคฺยาทิสทิสานิ กตฺวา ทสฺเสติ. ตตฺรายํ สทิสตา, ยถา หิ ปุริโส อิณํ อาทาย กมฺมนฺเต ปโยเชตฺวา สมิทฺธตํ ปตฺโต – ‘‘อิทํ อิณํ นาม ปลิโพธมูล’’นฺติ จินฺเตตฺวา สวฑฺฒิกํ อิณํ นิยฺยาเตตฺวา ปณฺณํ ผาลาเปยฺย. อถสฺส ตโต ปฏฺาย เนว โกจิ ทูตํ เปเสติ, น ปณฺณํ. โส อิณสามิเก ทิสฺวาปิ สเจ อิจฺฉติ, อาสนา อุฏฺหติ, โน เจ น อุฏฺหติ, กสฺมา? เตหิ สทฺธึ นิลฺเลปตาย อลคฺคตาย. เอวเมว ภิกฺขุ – ‘‘อยํ กามจฺฉนฺโท นาม ปลิโพธมูล’’นฺติ จินฺเตตฺวา ฉ ธมฺเม ภาเวตฺวา กามจฺฉนฺทนีวรณํ ปชหติ. เต ปน ฉ ธมฺเม มหาสติปฏฺาเน วณฺณยิสฺสาม. ตสฺเสวํ ปหีนกามจฺฉนฺทสฺส ยถา อิณมุตฺตสฺส ปุริสสฺส อิณสฺสามิเก ทิสฺวา เนว ภยํ น ฉมฺภิตตฺตํ โหติ. เอวเมว ปรวตฺถุมฺหิ เนว สงฺโค น พทฺโธ โหติ. ทิพฺพานิปิ รูปานิ ปสฺสโต กิเลโส น สมุทาจรติ. ตสฺมา ภควา อาณณฺยมิว กามจฺฉนฺทปฺปหานํ อาห.

ยถา ปน โส ปิตฺตโรคาตุโร ปุริโส เภสชฺชกิริยาย ตํ โรคํ วูปสเมตฺวา ตโต ปฏฺาย มธุสกฺกราทีนํ รสํ วินฺทติ. เอวเมว ภิกฺขุ ‘‘อยํ พฺยาปาโท นาม มหา อนตฺถกโร’’ติ ฉ ธมฺเม ภาเวตฺวา พฺยาปาทนีวรณํ ปชหติ. สพฺพนีวรเณสุ ฉ ธมฺเม มหาสติปฏฺาเนเยว วณฺณยิสฺสาม. น เกวลฺจ เตเยว, เยปิ ถินมิทฺธาทีนํ ปหานาย ภาเวตพฺพา, เตปิ สพฺเพ ตตฺเถว วณฺณยิสฺสาม. โส เอวํ ปหีนพฺยาปาโท ยถา ปิตฺตโรควิมุตฺโต ปุริโส มธุสกฺกราทีนํ รสํ สมฺปิยายมาโน ปฏิเสวติ, เอวเมว อาจารปณฺณตฺติอาทีนิ สิกฺขาปทานิ สิรสา สมฺปฏิจฺฉิตฺวา สมฺปิยายมาโน สิกฺขติ. ตสฺมา ภควา อาโรคฺยมิว พฺยาปาทปฺปหานํ อาห.

ยถา โส นกฺขตฺตทิวเส พนฺธนาคารํ ปเวสิโต ปุริโส อปรสฺมึ นกฺขตฺตทิวเส – ‘‘ปุพฺเพปิ อหํ ปมาทโทเสน พทฺโธ, เตน นกฺขตฺตํ นานุภวึ. อิทานิ อปฺปมตฺโต ภวิสฺสามี’’ติ ยถาสฺส ปจฺจตฺถิกา โอกาสํ น ลภนฺติ, เอวํ อปฺปมตฺโต หุตฺวา นกฺขตฺตํ อนุภวิตฺวา – ‘อโห นกฺขตฺตํ, อโห นกฺขตฺต’นฺติ อุทานํ อุทาเนสิ, เอวเมว ภิกฺขุ – ‘‘อิทํ ถินมิทฺธํ นาม มหาอนตฺถกร’’นฺติ ฉ ธมฺเม ภาเวตฺวา ถินมิทฺธนีวรณํ ปชหติ, โส เอวํ ปหีนถินมิทฺโธ ยถา พนฺธนา มุตฺโต ปุริโส สตฺตาหมฺปิ นกฺขตฺตสฺส อาทิมชฺฌปริโยสานํ อนุภวติ, เอวเมว ธมฺมนกฺขตฺตสฺส อาทิมชฺฌปริโยสานํ อนุภวนฺโต สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณาติ. ตสฺมา ภควา พนฺธนา โมกฺขมิว ถินมิทฺธปฺปหานํ อาห.

ยถา ปน ทาโส กิฺจิเทว มิตฺตํ อุปนิสฺสาย สามิกานํ ธนํ ทตฺวา อตฺตานํ ภุชิสฺสํ กตฺวา ตโต ปฏฺาย ยํ อิจฺฉติ, ตํ กโรติ. เอวเมว ภิกฺขุ – ‘‘อิทํ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ นาม มหา อนตฺถกร’’นฺติ ฉ ธมฺเม ภาเวตฺวา อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ปชหติ. โส เอวํ ปหีนอุทฺธจฺจกุกฺกุจฺโจ ยถา ภุชิสฺโส ปุริโส ยํ อิจฺฉติ, ตํ กโรติ, น ตํ โกจิ พลกฺกาเรน ตโต นิวตฺเตติ , เอวเมว ยถา สุขํ เนกฺขมฺมปฏิปทํ ปฏิปชฺชติ, น ตํ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ พลกฺกาเรน ตโต นิวตฺเตติ. ตสฺมา ภควา ภุชิสฺสํ วิย อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจปฺปหานํ อาห.

ยถา พลวา ปุริโส หตฺถสารํ คเหตฺวา สชฺชาวุโธ สปริวาโร กนฺตารํ ปฏิปชฺเชยฺย, ตํ โจรา ทูรโตว ทิสฺวา ปลาเยยฺยุํ. โส โสตฺถินา ตํ กนฺตารํ นิตฺถริตฺวา เขมนฺตํ ปตฺโต หฏฺตุฏฺโ อสฺส. เอวเมว ภิกฺขุ ‘‘อยํ วิจิกิจฺฉา นาม มหา อนตฺถการิกา’’ติ ฉ ธมฺเม ภาเวตฺวา วิจิกิจฺฉํ ปชหติ . โส เอวํ ปหีนวิจิกิจฺโฉ ยถา พลวา ปุริโส สชฺชาวุโธ สปริวาโร นิพฺภโย โจเร ติณํ วิย อคเณตฺวา โสตฺถินา นิกฺขมิตฺวา เขมนฺตภูมึ ปาปุณาติ, เอวเมว ภิกฺขุ ทุจฺจริตกนฺตารํ นิตฺถริตฺวา ปรมํ เขมนฺตภูมึ อมตํ มหานิพฺพานํ ปาปุณาติ. ตสฺมา ภควา เขมนฺตภูมึ วิย วิจิกิจฺฉาปหานํ อาห.

๒๒๕. ปาโมชฺชํ ชายตีติ ตุฏฺากาโร ชายติ. ปมุทิตสฺส ปีติ ชายตีติ ตุฏฺสฺส สกลสรีรํ โขภยมานา ปีติ ชายติ. ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภตีติ ปีติสมฺปยุตฺตจิตฺตสฺส ปุคฺคลสฺส นามกาโย ปสฺสมฺภติ, วิคตทรโถ โหติ. สุขํ เวเทตีติ กายิกมฺปิ เจตสิกมฺปิ สุขํ เวทยติ. จิตฺตํ สมาธิยตีติ อิมินา เนกฺขมฺมสุเขน สุขิตสฺส อุปจารวเสนปิ อปฺปนาวเสนปิ จิตฺตํ สมาธิยติ.

ปมชฺฌานกถา

๒๒๖. โส วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรตีติอาทิ ปน อุปจารสมาธินา สมาหิเต จิตฺเต อุปริวิเสสทสฺสนตฺถํ อปฺปนาสมาธินา สมาหิเต จิตฺเต ตสฺส สมาธิโน ปเภททสฺสนตฺถํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อิมเมว กายนฺติ อิมํ กรชกายํ. อภิสนฺเทตีติ เตเมติ สฺเนเหติ, สพฺพตฺถ ปวตฺตปีติสุขํ กโรติ. ปริสนฺเทตีติ สมนฺตโต สนฺเทติ. ปริปูเรตีติ วายุนา ภสฺตํ วิย ปูเรติ. ปริปฺผรตีติ สมนฺตโต ผุสติ. สพฺพาวโต กายสฺสาติ อสฺส ภิกฺขุโน สพฺพโกฏฺาสวโต กายสฺส กิฺจิ อุปาทินฺนกสนฺตติปวตฺติฏฺาเน ฉวิมํสโลหิตานุคตํ อณุมตฺตมฺปิ านํ ปมชฺฌานสุเขน อผุฏํ นาม น โหติ.

๒๒๗. ทกฺโขติ เฉโก ปฏิพโล นฺหานียจุณฺณานิ กาตุฺเจว ปโยเชตุฺจ สนฺเนตุฺจ. กํสถาเลติ เยน เกนจิ โลเหน กตภาชเน. มตฺติกภาชนํ ปน ถิรํ น โหติ. สนฺเนนฺตสฺส ภิชฺชติ. ตสฺมา ตํ น ทสฺเสติ. ปริปฺโผสกํปริปฺโผสกนฺติ สิฺจิตฺวา สิฺจิตฺวา. สนฺเนยฺยาติ วามหตฺเถน กํสถาลํ คเหตฺวา ทกฺขิณหตฺเถน ปมาณยุตฺตํ อุทกํ สิฺจิตฺวา สิฺจิตฺวา ปริมทฺทนฺโต ปิณฺฑํ กเรยฺย. สฺเนหานุคตาติ อุทกสิเนเหน อนุคตา. สฺเนหปเรตาติ อุทกสิเนเหน ปริคฺคหิตา. สนฺตรพาหิราติ สทฺธึ อนฺโตปเทเสน เจว พหิปเทเสน จ สพฺพตฺถกเมว อุทกสิเนเหน ผุฏาติ อตฺโถ. น จ ปคฺฆรณีติ น จ พินฺทุ พินฺทุ อุทกํ ปคฺฆรติ, สกฺกา โหติ หตฺเถนปิ ทฺวีหิปิ ตีหิปิ องฺคุลีหิ คเหตุํ โอวฏฺฏิกายปิ กาตุนฺติ อตฺโถ.

ทุติยชฺฌานกถา

๒๒๘-๒๒๙. ทุติยชฺฌานสุขูปมายํ อุพฺภิโททโกติ อุพฺภินฺนอุทโก, น เหฏฺา อุพฺภิชฺชิตฺวา อุคฺคจฺฉนกอุทโก. อนฺโตเยว ปน อุพฺภิชฺชนกอุทโกติ อตฺโถ. อายมุขนฺติ อาคมนมคฺโค. เทโวติ เมโฆ. กาเลน กาลนฺติ กาเล กาเล, อนฺวทฺธมาสํ วา อนุทสาหํ วาติ อตฺโถ. ธารนฺติ วุฏฺึ. น อนุปฺปเวจฺเฉยฺยาติ น จ ปเวเสยฺย, น วสฺเสยฺยาติ อตฺโถ. สีตา วาริธารา อุพฺภิชฺชิตฺวาติ สีตํ ธารํ อุคฺคนฺตฺวา รหทํ ปูรยมานํ อุพฺภิชฺชิตฺวา. เหฏฺา อุคฺคจฺฉนอุทกฺหิ อุคฺคนฺตฺวา อุคฺคนฺตฺวา ภิชฺชนฺตํ อุทกํ โขเภติ, จตูหิ ทิสาหิ ปวิสนอุทกํ ปุราณปณฺณติณกฏฺทณฺฑกาทีหิ อุทกํ โขเภติ, วุฏฺิอุทกํ ธารานิปาตปุพฺพุฬเกหิ อุทกํ โขเภติ. สนฺนิสินฺนเมว ปน หุตฺวา อิทฺธินิมฺมิตมิว อุปฺปชฺชมานํ อุทกํ อิมํ ปเทสํ ผรติ, อิมํ ปเทสํ น ผรตีติ นตฺถิ, เตน อผุโฏกาโส นาม น โหตีติ. ตตฺถ รหโท วิย กรชกาโย. อุทกํ วิย ทุติยชฺฌานสุขํ. เสสํ ปุริมนเยเนว เวทิตพฺพํ.

ตติยชฺฌานกถา

๒๓๐-๒๓๑. ตติยชฺฌานสุขูปมายํ อุปฺปลานิ เอตฺถ สนฺตีติ อุปฺปลินี. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย. เอตฺถ จ เสตรตฺตนีเลสุ ยํ กิฺจิ อุปฺปลํ อุปฺปลเมว. อูนกสตปตฺตํ ปุณฺฑรีกํ, สตปตฺตํ ปทุมํ. ปตฺตนิยมํ วา วินาปิ เสตํ ปทุมํ, รตฺตํ ปุณฺฑรีกนฺติ อยเมตฺถ วินิจฺฉโย. อุทกานุคฺคตานีติ อุทกโต น อุคฺคตานิ. อนฺโต นิมุคฺคโปสีนีติ อุทกตลสฺส อนฺโต นิมุคฺคานิเยว หุตฺวา โปสีนิ, วฑฺฒีนีติ อตฺโถ. เสสํ ปุริมนเยเนว เวทิตพฺพํ.

จตุตฺถชฺฌานกถา

๒๓๒-๒๓๓. จตุตฺถชฺฌานสุขูปมายํ ปริสุทฺเธน เจตสา ปริโยทาเตนาติ เอตฺถ นิรุปกฺกิเลสฏฺเน ปริสุทฺธํ, ปภสฺสรฏฺเน ปริโยทาตนฺติ เวทิตพฺพํ. โอทาเตน วตฺเถนาติ อิทํ อุตุผรณตฺถํ วุตฺตํ. กิลิฏฺวตฺเถน หิ อุตุผรณํ น โหติ, ตงฺขณโธตปริสุทฺเธน อุตุผรณํ พลวํ โหติ. อิมิสฺสาย หิ อุปมาย วตฺถํ วิย กรชกาโย, อุตุผรณํ วิย จตุตฺถชฺฌานสุขํ. ตสฺมา ยถา สุนฺหาตสฺส ปุริสสฺส ปริสุทฺธํ วตฺถํ สสีสํ ปารุปิตฺวา นิสินฺนสฺส สรีรโต อุตุ สพฺพเมว วตฺถํ ผรติ. น โกจิ วตฺถสฺส อผุโฏกาโส โหติ. เอวํ จตุตฺถชฺฌานสุเขน ภิกฺขุโน กรชกายสฺส น โกจิ โอกาโส อผุโฏ โหตีติ. เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อิเมสํ ปน จตุนฺนํ ฌานานํ อนุปทวณฺณนา จ ภาวนานโย จ วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺโตติ อิธ น วิตฺถาริโต.

เอตฺตาวตา เจส รูปชฺฌานลาภีเยว, น อรูปชฺฌานลาภีติ น เวทิตพฺโพ. น หิ อฏฺสุ สมาปตฺตีสุ จุทฺทสหากาเรหิ จิณฺณวสีภาวํ วินา อุปริ อภิฺาธิคโม โหติ. ปาฬิยํ ปน รูปชฺฌานานิเยว อาคตานิ. อรูปชฺฌานานิ อาหริตฺวา กเถตพฺพานิ.

วิปสฺสนาาณกถา

๒๓๔. โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต…เป… อาเนฺชปฺปตฺเตติ โส จุทฺทสหากาเรหิ อฏฺสุ สมาปตฺตีสุ จิณฺณวสีภาโว ภิกฺขูติ ทสฺเสติ . เสสเมตฺถ วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตนเยน เวทิตพฺพํ. าณทสฺสนาย จิตฺตํ อภินีหรตีติ เอตฺถ าณทสฺสนนฺติ มคฺคาณมฺปิ, วุจฺจติ ผลาณมฺปิ, สพฺพฺุตฺาณมฺปิ, ปจฺจเวกฺขณาณมฺปิ, วิปสฺสนาาณมฺปิ. ‘‘กึ นุ โข, อาวุโส, าณทสฺสนวิสุทฺธตฺถํ ภควติ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสตี’’ติ (มหานิ. ๑.๒๕๗) เอตฺถ หิ มคฺคาณํ าณทสฺสนนฺติ วุตฺตํ. ‘‘อยมฺโ อุตฺตริมนุสฺสธมฺโม อลมริยาณทสฺสนวิเสโส อธิคโต ผาสุวิหาโร’’ติ (ม. นิ. ๑.๓๒๘) เอตฺถ ผลาณํ. ‘‘ภควโตปิ โข าณทสฺสนํ อุทปาทิ สตฺตาหกาลงฺกโต อาฬาโร กาลาโม’’ติ (มหาว. ๑๐) เอตฺถ สพฺพฺุตฺาณํ. ‘‘าณฺจ ปน เม ทสฺสนํ อุทปาทิ อกุปฺปา เม วิมุตฺติ, อยมนฺติมา ชาตี’’ติ (มหาว. ๑๖) เอตฺถ ปจฺจเวกฺขณาณํ อิธ ปน าณทสฺสนาย จิตฺตนฺติ อิทํ วิปสฺสนาาณํ าณทสฺสนนฺติ วุตฺตนฺติ.

อภินีหรตีติ วิปสฺสนาาณสฺส นิพฺพตฺตนตฺถาย ตนฺนินฺนํ ตปฺโปณํ ตปฺปพฺภารํ กโรติ. รูปีติ อาทีนมตฺโถ วุตฺโตเยว. โอทนกุมฺมาสูปจโยติ โอทเนน เจว กุมฺมาเสน จ อุปจิโต วฑฺฒิโต. อนิจฺจุจฺฉาทนปริมทฺทนเภทนวิทฺธํสนธมฺโมติ หุตฺวา อภาวฏฺเน อนิจฺจธมฺโม. ทุคฺคนฺธวิฆาตตฺถาย ตนุวิเลปเนน อุจฺฉาทนธมฺโม. องฺคปจฺจงฺคาพาธวิโนทนตฺถาย ขุทฺทกสมฺพาหเนน ปริมทฺทนธมฺโม. ทหรกาเล วา อูรูสุ สยาเปตฺวา คพฺภาวาเสน ทุสฺสณฺิตานํ เตสํ เตสํ องฺคานํ สณฺานสมฺปาทนตฺถํ อฺฉนปีฬนาทิวเสน ปริมทฺทนธมฺโม. เอวํ ปริหริโตปิ เภทนวิทฺธํสนธมฺโม ภิชฺชติ เจว วิกิรติ จ, เอวํ สภาโวติ อตฺโถ. ตตฺถ รูปี จาตุมหาภูติโกติอาทีสุ ฉหิ ปเทหิ สมุทโย กถิโต. อนิจฺจปเทน สทฺธึ ปจฺฉิเมหิ ทฺวีหิ อตฺถงฺคโม. เอตฺถ สิตํ เอตฺถ ปฏิพทฺธนฺติ เอตฺถ จาตุมหาภูติเก กาเย นิสฺสิตฺจ ปฏิพทฺธฺจ.

๒๓๕. สุโภติ สุนฺทโร. ชาติมาติ ปริสุทฺธากรสมุฏฺิโต. สุปริกมฺมกโตติ สุฏฺุ กตปริกมฺโม อปนีตปาสาณสกฺขโร. อจฺโฉติ ตนุจฺฉวิ. วิปฺปสนฺโนติ สุฏฺุ ปสนฺโน. สพฺพาการสมฺปนฺโนติ โธวนเวธนาทีหิ สพฺเพหิ อากาเรหิ สมฺปนฺโน. นีลนฺติอาทีหิ วณฺณสมฺปตฺตึ ทสฺเสติ. ตาทิสฺหิ อาวุตํ ปากฏํ โหติ. เอวเมว โขติ เอตฺถ เอวํ อุปมาสํสนฺทนํ เวทิตพฺพํ. มณิ วิย หิ กรชกาโย. อาวุตสุตฺตํ วิย วิปสฺสนาาณํ. จกฺขุมา ปุริโส วิย วิปสฺสนาลาภี ภิกฺขุ, หตฺเถ กริตฺวา ปจฺจเวกฺขโต อยํ โข มณีติ มณิโน อาวิภูตกาโล วิย วิปสฺสนาาณํ, อภินีหริตฺวา นิสินฺนสฺส ภิกฺขุโน จาตุมหาภูติกกายสฺส อาวิภูตกาโล, ตตฺริทํ สุตฺตํ อาวุตนฺติ สุตฺตสฺสาวิภูตกาโล วิย วิปสฺสนาาณํ, อภินีหริตฺวา นิสินฺนสฺส ภิกฺขุโน ตทารมฺมณานํ ผสฺสปฺจมกานํ วา สพฺพจิตฺตเจตสิกานํ วา วิปสฺสนาาณสฺเสว วา อาวิภูตกาโลติ.

อิทฺจ วิปสฺสนาาณํ มคฺคาณานนฺตรํ. เอวํ สนฺเตปิ ยสฺมา อภิฺาวาเร อารทฺเธ เอตสฺส อนฺตราวาโร นตฺถิ ตสฺมา อิเธว ทสฺสิตํ. ยสฺมา จ อนิจฺจาทิวเสน อกตสมฺมสนสฺส ทิพฺพาย โสตธาตุยา เภรวํ สทฺทํ สุณโต, ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติยา เภรเว ขนฺเธ อนุสฺสรโต, ทิพฺเพน จกฺขุนา เภรวมฺปิ รูปํ ปสฺสโต ภยสนฺตาโส อุปฺปชฺชติ, น อนิจฺจาทิวเสน กตสมฺมสนสฺส ตสฺมา อภิฺํ ปตฺตสฺส ภยวิโนทนเหตุสมฺปาทนตฺถมฺปิ อิทํ อิเธว ทสฺสิตํ. อปิ จ ยสฺมา วิปสฺสนาสุขํ นาเมตํ มคฺคผลสุขสมฺปาทกํ ปาฏิเยกฺกํ สนฺทิฏฺิกํ สามฺผลํ ตสฺมาปิ อาทิโตว อิทํ อิธ ทสฺสิตนฺติ เวทิตพฺพํ.

มโนมยิทฺธิาณกถา

๒๓๖-๒๓๗. มโนมยนฺติ มเนน นิพฺพตฺติตํ. สพฺพงฺคปจฺจงฺคินฺติ สพฺเพหิ องฺเคหิ จ ปจฺจงฺเคหิ จ สมนฺนาคตํ. อหีนินฺทฺริยนฺติ สณฺานวเสน อวิกลินฺทฺริยํ. อิทฺธิมตา นิมฺมิตรูปฺหิ สเจ อิทฺธิมา โอทาโต ตมฺปิ โอทาตํ. สเจ อวิทฺธกณฺโณ ตมฺปิ อวิทฺธกณฺณนฺติ เอวํ สพฺพากาเรหิ เตน สทิสเมว โหติ. มุฺชมฺหา อีสิกนฺติอาทิ อุปมาตฺตยมฺปิ หิ สทิสภาวทสฺสนตฺถเมว วุตฺตํ. มุฺชสทิสา เอว หิ ตสฺส อนฺโต อีสิกา โหติ. โกสิสทิโสเยว อสิ, วฏฺฏาย โกสิยา วฏฺฏํ อสิเมว ปกฺขิปนฺติ, ปตฺถฏาย ปตฺถฏํ . กรณฺฑาติ อิทมฺปิ อหิกฺจุกสฺส นามํ, น วิลีวกรณฺฑกสฺส. อหิกฺจุโก หิ อหินา สทิโสว โหติ. ตตฺถ กิฺจาปิ ‘‘ปุริโส อหึ กรณฺฑา อุทฺธเรยฺยา’’ติ หตฺเถน อุทฺธรมาโน วิย ทสฺสิโต, อถ โข จิตฺเตเนวสฺส อุทฺธรณํ เวทิตพฺพํ. อยฺหิ อหิ นาม สชาติยํ ิโต, กฏฺนฺตรํ วา รุกฺขนฺตรํ วา นิสฺสาย, ตจโต สรีรํ นิกฺกฑฺฒนปฺปโยคสงฺขาเตน ถาเมน, สรีรํ ขาทยมานํ วิย ปุราณตจํ ชิคุจฺฉนฺโตติ อิเมหิ จตูหิ การเณหิ สยเมว กฺจุกํ ปชหติ, น สกฺกา ตโต อฺเน อุทฺธริตุํ, ตสฺมา จิตฺเตน อุทฺธรณํ สนฺธาย อิทํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อิติ มุฺชาทิสทิสํ อิมสฺส ภิกฺขุโน สรีรํ, อีสิกาทิสทิสํ นิมฺมิตรูปนฺติ. อิทเมตฺถ โอปมฺมสํสนฺทนํ. นิมฺมานวิธานํ ปเนตฺถ ปรโต จ อิทฺธิวิธาทิปฺจอภิฺากถา สพฺพากาเรน วิสุทฺธิมคฺเค วิตฺถาริตาติ ตตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. อุปมามตฺตเมว หิ อิธ อธิกํ.

อิทฺธิวิธาณาทิกถา

๒๓๘-๒๓๙. ตตฺถ เฉกกุมฺภการาทโย วิย อิทฺธิวิธาณลาภี ภิกฺขุ ทฏฺพฺโพ. สุปริกมฺมกตมตฺติกาทโย วิย อิทฺธิวิธาณํ ทฏฺพฺพํ. อิจฺฉิติจฺฉิตภาชนวิกติอาทิกรณํ วิย ตสฺส ภิกฺขุโน วิกุพฺพนํ ทฏฺพฺพํ.

๒๔๐-๒๔๑. ทิพฺพโสตธาตุอุปมายํ ยสฺมา กนฺตารทฺธานมคฺโค สาสงฺโก โหติ สปฺปฏิภโย. ตตฺถ อุสฺสงฺกิตปริสงฺกิเตน ‘อยํ เภริสทฺโท’, ‘อยํ มุทิงฺคสทฺโท’ติ น สกฺกา ววตฺถเปตุํ, ตสฺมา กนฺตารคฺคหณํ อกตฺวา เขมมคฺคํ ทสฺเสนฺโต อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺโนติ อาห. อปฺปฏิภยฺหิ เขมมคฺคํ สีเส สาฏกํ กตฺวา สณิกํ ปฏิปนฺโน วุตฺตปฺปกาเร สทฺเท สุขํ ววตฺถเปติ. ตสฺส สวเนน เตสํ เตสํ สทฺทานํ อาวิภูตกาโล วิย โยคิโน ทูรสนฺติกเภทานํ ทิพฺพานฺเจว มานุสฺสกานฺจ สทฺทานํ อาวิภูตกาโล เวทิตพฺโพ.

๒๔๒-๒๔๓. เจโตปริยาณูปมายํ ทหโรติ ตรุโณ. ยุวาติ โยพฺพนฺเนน สมนฺนาคโต. มณฺฑนกชาติโกติ ยุวาปิ สมาโน น อาลสิโย น กิลิฏฺวตฺถสรีโร, อถ โข มณฺฑนปกติโก, ทิวสสฺส ทฺเว ตโย วาเร นฺหายิตฺวา สุทฺธวตฺถปริทหนอลงฺการกรณสีโลติ อตฺโถ. สกณิกนฺติ กาฬติลกวงฺคมุขทูสิปีฬกาทีนํ อฺตเรน สโทสํ. ตตฺถ ยถา ตสฺส มุขนิมิตฺตํ ปจฺจเวกฺขโต มุเข โทโส ปากโฏ โหติ, เอวํ เจโตปริยาณาย จิตฺตํ อภินีหริตฺวา นิสินฺนสฺส ภิกฺขุโน ปเรสํ โสฬสวิธํ จิตฺตํ ปากฏํ โหตีติ เวทิตพฺพํ.

๒๔๔-๒๔๕. ปุพฺเพนิวาสาณูปมายํ ตํ ทิวสํ กตกิริยา ปากฏา โหตีติ ตํ ทิวสํ คตคามตฺตยเมว คหิตํ. ตตฺถ คามตฺตยคตปุริโส วิย ปุพฺเพนิวาสาณลาภี ทฏฺพฺโพ, ตโย คามา วิย ตโย ภวา ทฏฺพฺพา, ตสฺส ปุริสสฺส ตีสุ คาเมสุ ตํ ทิวสํ กตกิริยาย อาวิภาโว วิย ปุพฺเพนิวาสาย จิตฺตํ อภินีหริตฺวา นิสินฺนสฺส ภิกฺขุโน ตีสุ ภเวสุ กตกิริยาย ปากฏภาโว ทฏฺพฺโพ.

๒๔๖-๒๔๗. ทิพฺพจกฺขูปมายํ วีถึ สฺจรนฺเตติ อปราปรํ สฺจรนฺเต. วีถึ จรนฺเตติปิ ปาโ. อยเมวตฺโถ. ตตฺถ นครมชฺเฌ สิงฺฆาฏกมฺหิ ปาสาโท วิย อิมสฺส ภิกฺขุโน กรชกาโย ทฏฺพฺโพ, ปาสาเท ิโต จกฺขุมา ปุริโส วิย อยเมว ทิพฺพจกฺขุํ ปตฺวา ิโต ภิกฺขุ, เคหํ ปวิสนฺตา วิย ปฏิสนฺธิวเสน มาตุกุจฺฉิยํ ปวิสนฺตา, เคหา นิกฺขมนฺตา วิย มาตุกุจฺฉิโต นิกฺขมนฺตา, รถิกาย วีถึ สฺจรนฺตา วิย อปราปรํ สฺจรณกสตฺตา, ปุรโต อพฺโภกาสฏฺาเน มชฺเฌ สิงฺฆาฏเก นิสินฺนา วิย ตีสุ ภเวสุ ตตฺถ ตตฺถ นิพฺพตฺตสตฺตา, ปาสาทตเล ิตปุริสสฺส เตสํ มนุสฺสานํ อาวิภูตกาโล วิย ทิพฺพจกฺขุาณาย จิตฺตํ อภินีหริตฺวา นิสินฺนสฺส ภิกฺขุโน ตีสุ ภเวสุ นิพฺพตฺตสตฺตานํ อาวิภูตกาโล ทฏฺพฺโพ. อิทฺจ เทสนาสุขตฺถเมว วุตฺตํ. อารุปฺเป ปน ทิพฺพจกฺขุสฺส โคจโร นตฺถีติ.

อาสวกฺขยาณกถา

๒๔๘. โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเตติ อิธ วิปสฺสนาปาทกํ จตุตฺถชฺฌานจิตฺตํ เวทิตพฺพํ. อาสวานํ ขยาณายาติ อาสวานํ ขยาณนิพฺพตฺตนตฺถาย. เอตฺถ จ อาสวานํ ขโย นาม มคฺโคปิ ผลมฺปิ นิพฺพานมฺปิ ภงฺโคปิ วุจฺจติ. ‘‘ขเย าณํ, อนุปฺปาเท าณ’’นฺติ เอตฺถ หิ มคฺโค อาสวานํ ขโยติ วุตฺโต. ‘‘อาสวานํ ขยา สมโณ โหตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๓๘) เอตฺถ ผลํ.

‘‘ปรวชฺชานุปสฺสิสฺส, นิจฺจํ อุชฺฌานสฺิโน;

อาสวา ตสฺส วฑฺฒนฺติ, อารา โส อาสวกฺขยา’’ติ. (ธ. ป. ๒๕๓);

เอตฺถ นิพฺพานํ. ‘‘อาสวานํ ขโย วโย เภโท อนิจฺจตา อนฺตรธาน’’นฺติ เอตฺถ ภงฺโค. อิธ ปน นิพฺพานํ อธิปฺเปตํ. อรหตฺตมคฺโคปิ วฏฺฏติเยว.

จิตฺตํอภินีหรตีติ วิปสฺสนา จิตฺตํ ตนฺนินฺนํ ตปฺโปณํ ตปฺปพฺภารํ กโรติ. โส อิทํ ทุกฺขนฺติอาทีสุ ‘‘เอตฺตกํ ทุกฺขํ, น อิโต ภิยฺโย’’ติ สพฺพมฺปิ ทุกฺขสจฺจํ สรสลกฺขณปฏิเวเธน ยถาภูตํ ปชานาตีติ อตฺโถ. ตสฺส จ ทุกฺขสฺส นิพฺพตฺติกํ ตณฺหํ ‘‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’’ติ. ตทุภยมฺปิ ยํ านํ ปตฺวา นิรุชฺฌติ, ตํ เตสํ อปฺปวตฺตึ นิพฺพานํ ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’’ติ; ตสฺส จ สมฺปาปกํ อริยมคฺคํ ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’’ติ สรสลกฺขณปฏิเวเธน ยถาภูตํ ปชานาตีติ อตฺโถ.

เอวํ สรูปโต สจฺจานิ ทสฺเสตฺวา ปุน กิเลสวเสน ปริยายโต ทสฺเสนฺโต ‘‘อิเม อาสวา’’ติอาทิมาห. ตสฺส เอวํ ชานโต เอวํ ปสฺสโตติ ตสฺส ภิกฺขุโน เอวํ ชานนฺตสฺส เอวํ ปสฺสนฺตสฺส, สห วิปสฺสนาย โกฏิปฺปตฺตํ มคฺคํ กเถสิ. กามาสวาติ กามาสวโต. วิมุจฺจตีติ อิมินา มคฺคกฺขณํ ทสฺเสติ. วิมุตฺตสฺมินฺติ อิมินา ผลกฺขณํ. วิมุตฺตมิติ าณํ โหตีติ อิมินา ปจฺจเวกฺขณาณํ. ขีณา ชาตีติอาทีหิ ตสฺส ภูมึ. เตน หิ าเณน ขีณาสโว ปจฺจเวกฺขนฺโต ขีณา ชาตีติอาทีนิ ปชานาติ.

กตมา ปนสฺส ชาติ ขีณา? กถฺจ นํ ปชานาตีติ? น ตาวสฺส อตีตา ชาติ ขีณา, ปุพฺเพว ขีณตฺตา. น อนาคตา, อนาคเต วายามาภาวโต. น ปจฺจุปฺปนฺนา, วิชฺชมานตฺตา. ยา ปน มคฺคสฺส อภาวิตตฺตา อุปฺปชฺเชยฺย เอกจตุปฺจโวการภเวสุ เอกจตุปฺจกฺขนฺธปฺปเภทา ชาติ, สา มคฺคสฺส ภาวิตตฺตา อายตึ อนุปฺปาทธมฺมตํ อาปชฺชเนน ขีณา. ตํ โส มคฺคภาวนาย ปหีนกิเลเส ปจฺจเวกฺขิตฺวา ‘‘กิเลสาภาเว วิชฺชมานมฺปิ กมฺมํ อายตึ อปฺปฏิสนฺธิกํว โหตี’’ติ ชานนฺโต ปชานาติ.

วุสิตนฺติ วุตฺถํ ปริวุตฺถํ. พฺรหฺมจริยนฺติ มคฺคพฺรหฺมจริยํ. ปุถุชฺชนกลฺยาณเกน หิ สทฺธึ สตฺต เสกฺขา พฺรหฺมจริยวาสํ วสนฺติ นาม, ขีณาสโว วุตฺถวาโส, ตสฺมา โส อตฺตโน พฺรหฺมจริยวาสํ ปจฺจเวกฺขนฺโต วุสิตํ พฺรหฺมจริยนฺติ ปชานาติ. กตํกรณียนฺติ จตูสุ สจฺเจสุ จตูหิ มคฺเคหิ ปริฺาปหานสจฺฉิกิริยาภาวนาวเสน โสฬสวิธํ กิจฺจํ นิฏฺาปิตํ. เตน เตน มคฺเคน ปหาตพฺพกิเลสา ปหีนา, ทุกฺขมูลํ สมุจฺฉินฺนนฺติ อตฺโถ. ปุถุชฺชนกลฺยาณกาทโย หิ ตํ กิจฺจํ กโรนฺติ, ขีณาสโว กตกรณีโย. ตสฺมา โส อตฺตโน กรณียํ ปจฺจเวกฺขนฺโต กตํ กรณียนฺติ ปชานาติ. นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ อิทานิ ปุน อิตฺถภาวาย เอวํ โสฬสกิจฺจภาวาย กิเลสกฺขยภาวาย วา กตฺตพฺพํ มคฺคภาวนากิจฺจํ เม นตฺถีติ ปชานาติ. อถ วา อิตฺถตฺตายาติ อิตฺถภาวโต อิมสฺมา เอวํ ปการา. อิทานิ วตฺตมานขนฺธสนฺตานา อปรํ ขนฺธสนฺตานํ มยฺหํ นตฺถิ. อิเม ปน ปฺจกฺขนฺธา ปริฺาตา ติฏฺนฺติ ฉินฺนมูลกา รุกฺขา วิย, เต จริมกจิตฺตนิโรเธน อนุปาทาโน วิย ชาตเวโท นิพฺพายิสฺสนฺติ อปณฺณตฺติกภาวฺจ คมิสฺสนฺตีติ ปชานาติ.

๒๔๙. ปพฺพตสงฺเขเปติ ปพฺพตมตฺถเก. อนาวิโลติ นิกฺกทฺทโม. สิปฺปิโย จ สมฺพุกา จ สิปฺปิสมฺพุกํ. สกฺขรา จ กถลานิ จ สกฺขรกถลํ. มจฺฉานํ คุมฺพา ฆฏาติ มจฺฉคุมฺพํ. ติฏฺนฺตมฺปิ จรนฺตมฺปีติ เอตฺถ สกฺขรกถลํ ติฏฺติเยว, อิตรานิ จรนฺติปิ ติฏฺนฺติปิ. ยถา ปน อนฺตรนฺตรา ิตาสุปิ นิสินฺนาสุปิ วิชฺชมานาสุปิ ‘‘เอตา คาโว จรนฺตี’’ติ จรนฺติโย อุปาทาย อิตราปิ จรนฺตีติ วุจฺจนฺติ. เอวํ ติฏฺนฺตเมว สกฺขรกถลํ อุปาทาย อิตรมฺปิ ทฺวยํ ติฏฺนฺตนฺติ วุตฺตํ. อิตรฺจ ทฺวยํ จรนฺตํ อุปาทาย สกฺขรกถลมฺปิ จรนฺตนฺติ วุตฺตํ. ตตฺถ จกฺขุมโต ปุริสสฺส ตีเร ตฺวา ปสฺสโต สิปฺปิกสมฺพุกาทีนํ วิภูตกาโล วิย อาสวานํ ขยาย จิตฺตํ อภินีหริตฺวา นิสินฺนสฺส ภิกฺขุโน จตุนฺนํ สจฺจานํ วิภูตกาโล ทฏฺพฺโพติ.

เอตฺตาวตา วิปสฺสนาาณํ, มโนมยาณํ, อิทฺธิวิธาณํ, ทิพฺพโสตาณํ, เจโตปริยาณํ, ปุพฺเพนิวาสาณํ, ทิพฺพจกฺขุวเสน นิปฺผนฺนํ อนาคตํสาณยถากมฺมูปคาณทฺวยํ, ทิพฺพจกฺขุาณํ, อาสวกฺขยาณนฺติ ทส าณานิ นิทฺทิฏฺานิ โหนฺติ. เตสํ อารมฺมณวิภาโค ชานิตพฺโพ – ตตฺถ วิปสฺสนาาณํ ปริตฺตมหคฺคตอตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนอชฺฌตฺตพหิทฺธาวเสน สตฺตวิธารมฺมณํ. มโนมยาณํ นิมฺมิตพฺพรูปายตนมตฺตเมว อารมฺมณํ กโรตีติ ปริตฺตปจฺจุปฺปนฺนพหิทฺธารมฺมณํ. อาสวกฺขยาณํ อปฺปมาณพหิทฺธานวตฺตพฺพารมฺมณํ. อวเสสานํ อารมฺมณเภโท วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺโต. อุตฺตริตรํ วา ปณีตตรํ วาติ เยน เกนจิ ปริยาเยน อิโต เสฏฺตรํ สามฺผลํ นาม นตฺถีติ ภควา อรหตฺตนิกูเฏน เทสนํ นิฏฺาเปสิ.

อชาตสตฺตุอุปาสกตฺตปฏิเวทนากถา

๒๕๐. ราชา ตตฺถ ตตฺถ สาธุการํ ปวตฺเตนฺโต อาทิมชฺฌปริโยสานํ สกฺกจฺจํ สุตฺวา ‘‘จิรํ วตมฺหิ อิเม ปฺเห ปุถู สมณพฺราหฺมเณ ปุจฺฉนฺโต, ถุเส โกฏฺเฏนฺโต วิย กิฺจิ สารํ นาลตฺถํ, อโห วต ภควโต คุณสมฺปทา, โย เม ทีปสหสฺสํ ชาเลนฺโต วิย มหนฺตํ อาโลกํ กตฺวา อิเม ปฺเห วิสฺสชฺเชสิ. สุจิรํ วตมฺหิ ทสพลสฺส คุณานุภาวํ อชานนฺโต วฺจิโต’’ติ จินฺเตตฺวา พุทฺธคุณานุสฺสรณสมฺภูตาย ปฺจวิธาย ปีติยา ผุฏสรีโร อตฺตโน ปสาทํ อาวิกโรนฺโต อุปาสกตฺตํ ปฏิเวเทสิ. ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘เอวํ วุตฺเต ราชา’’ติอาทิ อารทฺธํ.

ตตฺถ อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเตติ อยํ อภิกฺกนฺตสทฺโท ขยสุนฺทราภิรูปอพฺภนุโมทเนสุ ทิสฺสติ. ‘‘อภิกฺกนฺตา ภนฺเต, รตฺติ, นิกฺขนฺโต ปโม ยาโม, จิรนิสินฺโน ภิกฺขุสงฺโฆ’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๘.๒๐) หิ ขเย ทิสฺสติ. ‘‘อยํ เม ปุคฺคโล ขมติ, อิเมสํ จตุนฺนํ ปุคฺคลานํ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๔.๑๐๐) สุนฺทเร.

‘‘โก เม วนฺทติ ปาทานิ, อิทฺธิยา ยสสา ชลํ;

อภิกฺกนฺเตน วณฺเณน, สพฺพา โอภาสยํ ทิสา’’ติ. (วิ. ว. ๘๕๗);

อาทีสุ อภิรูเป. ‘‘อภิกฺกนฺตํ โภ, โคตมา’’ติอาทีสุ (ปารา. ๑๕) อพฺภนุโมทเน. อิธาปิ อพฺภนุโมทเนเยว. ยสฺมา จ อพฺภนุโมทเน, ตสฺมา ‘สาธุ สาธุ ภนฺเต’ติ วุตฺตํ โหตีติ เวทิตพฺโพ.

ภเย โกเธ ปสํสายํ, ตุริเต โกตูหลจฺฉเร;

หาเส โสเก ปสาเท จ, กเร อาเมฑิตํ พุโธติ.

อิมินา จ ลกฺขเณน อิธ ปสาทวเสน, ปสํสาวเสน จายํ ทฺวิกฺขตฺตุํ วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ. อถวา อภิกฺกนฺตนฺติ อภิกนฺตํ อติอิฏฺํ อติมนาปํ อติสุนฺทรนฺติ วุตฺตํ โหติ.

เอตฺถ เอเกน อภิกฺกนฺตสทฺเทน เทสนํ โถเมติ, เอเกน อตฺตโน ปสาทํ. อยฺเหตฺถ อธิปฺปาโย, อภิกฺกนฺตํ ภนฺเต, ยทิทํ ภควโต ธมฺมเทสนา, ‘อภิกฺกนฺตํ’ ยทิทํ ภควโต ธมฺมเทสนํ อาคมฺม มม ปสาโทติ. ภควโตเยว วา วจนํ ทฺเว ทฺเว อตฺเถ สนฺธาย โถเมติ. ภควโต วจนํ อภิกฺกนฺตํ โทสนาสนโต, อภิกฺกนฺตํ คุณาธิคมนโต. ตถา สทฺธาชนนโต, ปฺาชนนโต, สาตฺถโต, สพฺยฺชนโต, อุตฺตานปทโต, คมฺภีรตฺถโต, กณฺณสุขโต, หทยงฺคมโต, อนตฺตุกฺกํสนโต , อปรวมฺภนโต, กรุณาสีตลโต, ปฺาวทาตโต, อาปาถรมณียโต, วิมทฺทกฺขมโต, สุยฺยมานสุขโต, วีมํสิยมานหิตโตติ เอวมาทีหิ โยเชตพฺพํ.

ตโต ปรมฺปิ จตูหิ อุปมาหิ เทสนํเยว โถเมติ. ตตฺถ นิกฺกุชฺชิตนฺติ อโธมุขปิตํ เหฏฺามุขชาตํ วา. อุกฺกุชฺเชยฺยาติ อุปริ มุขํ กเรยฺย. ปฏิจฺฉนฺนนฺติ ติณปณฺณาทิฉาทิตํ. วิวเรยฺยาติ อุคฺฆาเฏยฺย. มูฬฺหสฺส วาติ ทิสามูฬฺหสฺส. มคฺคํ อาจิกฺเขยฺยาติ หตฺเถ คเหตฺวา ‘‘เอส มคฺโค’’ติ วเทยฺย, อนฺธกาเรติ กาฬปกฺขจาตุทฺทสี อฑฺฒรตฺตฆนวนสณฺฑเมฆปฏเลหิ จตุรงฺเค ตเม. อยํ ตาว อนุตฺตานปทตฺโถ. อยํ ปน สาธิปฺปายโยชนา. ยถา โกจิ นิกฺกุชฺชิตํ อุกฺกุชฺเชยฺย, เอวํ สทฺธมฺมวิมุขํ อสทฺธมฺเม ปติตํ มํ อสทฺธมฺมา วุฏฺาเปนฺตน. ยถา ปฏิจฺฉนฺนํ วิวเรยฺย, เอวํ กสฺสปสฺส ภควโต สาสนนฺตรธานา ปภุติ มิจฺฉาทิฏฺิคหนปฏิจฺฉนฺนํ สาสนํ วิวรนฺเตน, ยถา มูฬฺหสฺส มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, เอวํ กุมฺมคฺคมิจฺฉามคฺคปฺปฏิปนฺนสฺส เม สคฺคโมกฺขมคฺคํ อาวิกโรนฺเตน, ยถา อนฺธกาเร เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย, เอวํ โมหนฺธการนิมุคฺคสฺส เม พุทฺธาทิรตนรูปานิ อปสฺสโต ตปฺปฏิจฺฉาทกโมหนฺธการวิทฺธํสกเทสนาปชฺโชตธารเกน มยฺหํ ภควตา เอเตหิ ปริยาเยหิ ปกาสิตตฺตา อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโตติ.

เอวํ เทสนํ โถเมตฺวา อิมาย เทสนาย รตนตฺตเย ปสนฺนจิตฺโต ปสนฺนาการํ กโรนฺโต เอสาหนฺติอาทิมาห. ตตฺถ เอสาหนฺติ เอโส อหํ . ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉามีติ ภควา เม สรณํ, ปรายนํ, อฆสฺส ตาตา, หิตสฺส จ วิธาตาติ. อิมินา อธิปฺปาเยน ภควนฺตํ คจฺฉามิ ภชามิ เสวามิ ปยิรุปาสามิ, เอวํ วา ชานามิ พุชฺฌามีติ. เยสฺหิ ธาตูนํ คติอตฺโถ, พุทฺธิปิ เตสํ อตฺโถ. ตสฺมา คจฺฉามีติ อิมสฺส ชานามิ พุชฺฌามีติ อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต. ธมฺมฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจาติ เอตฺถ ปน อธิคตมคฺเค สจฺฉิกตนิโรเธ ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชมาเน จตูสุ อปาเยสุ อปตมาเน ธาเรตีติ ธมฺโม, โส อตฺถโต อริยมคฺโค เจว นิพฺพานฺจ. วุตฺตฺเจตํ – ‘‘ยาวตา, ภิกฺขเว, ธมฺมา สงฺขตา, อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค เตสํ อคฺคมกฺขายตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๓๔) วิตฺถาโร. น เกวลฺจ อริยมคฺโค เจว นิพฺพานฺจ. อปิ จ โข อริยผเลหิ สทฺธึ ปริยตฺติธมฺโมปิ . วุตฺตฺเหตํ ฉตฺตมาณวกวิมาเน –

‘‘ราควิราคมเนชมโสกํ, ธมฺมมสงฺขตมปฺปฏิกูลํ;

มธุรมิมํ ปคุณํ สุวิภตฺตํ, ธมฺมมิมํ สรณตฺถมุเปหี’’ติ. (วิ. ว. ๘๘๗);

เอตฺถ หิ ราควิราโคติ มคฺโค กถิโต. อเนชมโสกนฺติ ผลํ. ธมฺมมสงฺขตนฺติ นิพฺพานํ. อปฺปฏิกูลํ มธุรมิมํ ปคุณํ สุวิภตฺตนฺติ ปิฏกตฺตเยน วิภตฺตา ธมฺมกฺขนฺธาติ. ทิฏฺิสีลสํฆาเตน สํหโตติ สงฺโฆ, โส อตฺถโต อฏฺ อริยปุคฺคลสมูโห. วุตฺตฺเหตํ ตสฺมิฺเว วิมาเน –

‘‘ยตฺถ จ ทินฺนมหปฺผลมาหุ, จตูสุ สุจีสุ ปุรีสยุเคสุ;

อฏฺ จ ปุคฺคลธมฺมทสา เต, สงฺฆมิมํ สรณตฺถมุเปหี’’ติ. (วิ. ว. ๘๘๘);

ภิกฺขูนํ สงฺโฆ ภิกฺขุสงฺโฆ. เอตฺตาวตา ราชา ตีณิ สรณคมนานิ ปฏิเวเทสิ.

สรณคมนกถา

อิทานิ เตสุ สรณคมเนสุ โกสลฺลตฺถํ สรณํ, สรณคมนํ, โย จ สรณํ คจฺฉติ, สรณคมนปฺปเภโท, สรณคมนผลํ, สงฺกิเลโส, เภโทติ, อยํ วิธิ เวทิตพฺโพ. เสยฺยถิทํ – สรณตฺถโต ตาว หึสตีติ สรณํ. สรณคตานํ เตเนว สรณคมเนน ภยํ สนฺตาสํ ทุกฺขํ ทุคฺคติปริกิเลสํ หนติ วินาเสตีติ อตฺโถ, รตนตฺตยสฺเสเวตํ อธิวจนํ.

อถ วา หิเต ปวตฺตเนน อหิตา จ นิวตฺตเนน สตฺตานํ ภยํ หึสติ พุทฺโธ. ภวกนฺตารา อุตฺตารเณน อสฺสาสทาเนน จ ธมฺโม; อปฺปกานมฺปิ การานํ วิปุลผลปฏิลาภกรเณน สงฺโฆ . ตสฺมา อิมินาปิ ปริยาเยน รตนตฺตยํ สรณํ. ตปฺปสาทตคฺครุตาหิ วิหตกิเลโส ตปฺปรายณตาการปฺปวตฺโต จิตฺตุปฺปาโท สรณคมนํ. ตํ สมงฺคีสตฺโต สรณํ คจฺฉติ. วุตฺตปฺปกาเรน จิตฺตุปฺปาเทน เอตานิ เม ตีณิ รตนานิ สรณํ, เอตานิ ปรายณนฺติ เอวํ อุเปตีติ อตฺโถ. เอวํ ตาว สรณํ, สรณคมนํ, โย จ สรณํ คจฺฉติ, อิทํ ตยํ เวทิตพฺพํ.

สรณคมนปฺปเภเท ปน ทุวิธํ สรณคมนํ – โลกุตฺตรํ โลกิยฺจ. ตตฺถ โลกุตฺตรํ ทิฏฺสจฺจานํ มคฺคกฺขเณ สรณคมนุปกฺกิเลสสมุจฺเฉเทน อารมฺมณโต นิพฺพานารมฺมณํ หุตฺวา กิจฺจโต สกเลปิ รตนตฺตเย อิชฺฌติ. โลกิยํ ปุถุชฺชนานํ สรณคมนุปกฺกิเลสวิกฺขมฺภเนน อารมฺมณโต พุทฺธาทิคุณารมฺมณํ หุตฺวา อิชฺฌติ. ตํ อตฺถโต พุทฺธาทีสุ วตฺถูสุ สทฺธาปฏิลาโภ สทฺธามูลิกา จ สมฺมาทิฏฺิ ทสสุ ปุฺกิริยวตฺถูสุ ทิฏฺิชุกมฺมนฺติ วุจฺจติ. ตยิทํ จตุธา วตฺตติ – อตฺตสนฺนิยฺยาตเนน, ตปฺปรายณตาย, สิสฺสภาวูปคมเนน, ปณิปาเตนาติ.

ตตฺถ อตฺตสนฺนิยฺยาตนํ นาม – ‘‘อชฺชาทึ กตฺวา อหํ อตฺตานํ พุทฺธสฺส นิยฺยาเตมิ, ธมฺมสฺส, สงฺฆสฺสา’’ติ เอวํ พุทฺธาทีนํ อตฺตปริจฺจชนํ. ตปฺปรายณตา นาม ‘‘อชฺชาทึ กตฺวา ‘อหํ พุทฺธปรายโณ, ธมฺมปรายโณ, สงฺฆปรายโณ’ติ. มํ ธาเรถา’’ติ เอวํ ตปฺปรายณภาโว. สิสฺสภาวูปคมนํ นาม – ‘‘อชฺชาทึ กตฺวา – ‘อหํ พุทฺธสฺส อนฺเตวาสิโก, ธมฺมสฺส, สงฺฆสฺส อนฺเตวาสิโก’ติ มํ ธาเรถา’’ติ เอวํ สิสฺสภาวูปคโม. ปณิปาโต นาม – ‘‘อชฺชาทึ กตฺวา อหํ อภิวาทนปจฺจุฏฺานอฺชลิกมฺมสามีจิกมฺมํ พุทฺธาทีนํเยว ติณฺณํ วตฺถูนํ กโรมี’ติ มํ ธาเรถา’’ติ เอวํ พุทฺธาทีสุ ปรมนิปจฺจากาโร. อิเมสฺหิ จตุนฺนํ อาการานํ อฺตรมฺปิ กโรนฺเตน คหิตํเยว โหติ สรณํ.

อปิ จ ภควโต อตฺตานํ ปริจฺจชามิ, ธมฺมสฺส, สงฺฆสฺส, อตฺตานํ ปริจฺจชามิ, ชีวิตํ ปริจฺจชามิ, ปริจฺจตฺโตเยว เม อตฺตา, ปริจฺจตฺตํเยว ชีวิตํ, ชีวิตปริยนฺติกํ พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิ, พุทฺโธ เม สรณํ เลณํ ตาณนฺติ ; เอวมฺปิ อตฺตสนฺนิยฺยาตนํ เวทิตพฺพํ. ‘‘สตฺถารฺจ วตาหํ ปสฺเสยฺยํ, ภควนฺตเมว ปสฺเสยฺยํ, สุคตฺจ วตาหํ ปสฺเสยฺยํ, ภควนฺตเมว ปสฺเสยฺยํ, สมฺมาสมฺพุทฺธฺจ วตาหํ ปสฺเสยฺยํ, ภควนฺตเมว ปสฺเสยฺย’’นฺติ (สํ. นิ. ๒.๑๕๔). เอวมฺปิ มหากสฺสปสฺส สรณคมนํ วิย สิสฺสภาวูปคมนํ เวทิตพฺพํ.

‘‘โส อหํ วิจริสฺสามิ, คามา คามํ ปุรา ปุรํ;

นมสฺสมาโน สมฺพุทฺธํ, ธมฺมสฺส จ สุธมฺมต’’นฺติ. (สุ. นิ. ๑๙๔);

เอวมฺปิ อาฬวกาทีนํ สรณคมนํ วิย ตปฺปรายณตา เวทิตพฺพา. อถ โข พฺรหฺมายุ พฺราหฺมโณ อุฏฺายาสนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา ภควโต ปาเทสุ สิรสา นิปติตฺวา ภควโต ปาทานิ มุเขน จ ปริจุมฺพติ, ปาณีหิ จ ปริสมฺพาหติ, นามฺจ สาเวติ – ‘‘พฺรหฺมายุ อหํ, โภ โคตม พฺราหฺมโณ, พฺรหฺมายุ อหํ, โภ โคตม พฺราหฺมโณ’’ติ (ม. นิ. ๒.๓๙๔) เอวมฺปิ ปณิปาโต ทฏฺพฺโพ.

โส ปเนส าติภยาจริยทกฺขิเณยฺยวเสน จตุพฺพิโธ โหติ. ตตฺถ ทกฺขิเณยฺยปณิปาเตน สรณคมนํ โหติ, น อิตเรหิ. เสฏฺวเสเนว หิ สรณํ คณฺหาติ, เสฏฺวเสน จ ภิชฺชติ. ตสฺมา โย สากิโย วา โกลิโย วา – ‘‘พุทฺโธ อมฺหากํ าตโก’’ติ วนฺทติ, อคฺคหิตเมว โหติ สรณํ. โย วา – ‘‘สมโณ โคตโม ราชปูชิโต มหานุภาโว อวนฺทียมาโน อนตฺถมฺปิ กเรยฺยา’’ติ ภเยน วนฺทติ, อคฺคหิตเมว โหติ สรณํ. โย วา โพธิสตฺตกาเล ภควโต สนฺติเก กิฺจิ อุคฺคหิตํ สรมาโน พุทฺธกาเล วา –

‘‘จตุธา วิภเช โภเค, ปณฺฑิโต ฆรมาวสํ;

เอเกน โภคํ ภุฺเชยฺย, ทฺวีหิ กมฺมํ ปโยชเย;

จตุตฺถฺจ นิธาเปยฺย, อาปทาสุ ภวิสฺสตี’’ติ. (ที. นิ. ๓.๒๖๕);

เอวรูปํ อนุสาสนึ อุคฺคเหตฺวา – ‘‘อาจริโย เม’’ติ วนฺทติ, อคฺคหิตเมว โหติ สรณํ. โย ปน – ‘‘อยํ โลเก อคฺคทกฺขิเณยฺโย’’ติ วนฺทติ, เตเนว คหิตํ โหติ สรณํ.

เอวํ คหิตสรณสฺส จ อุปาสกสฺส วา อุปาสิกาย วา อฺติตฺถิเยสุ ปพฺพชิตมฺปิ าตึ – ‘‘าตโก เม อย’’นฺติ วนฺทโต สรณคมนํ น ภิชฺชติ, ปเคว อปพฺพชิตํ. ตถา ราชานํ ภยวเสน วนฺทโต. โส หิ รฏฺปูชิตตฺตา อวนฺทียมาโน อนตฺถมฺปิ กเรยฺยาติ. ตถา ยํ กิฺจิ สิปฺปํ สิกฺขาปกํ ติตฺถิยมฺปิ – ‘‘อาจริโย เม อย’’นฺติ วนฺทโตปิ น ภิชฺชติ, เอวํ สรณคมนปฺปเภโท เวทิตพฺโพ.

เอตฺถ จ โลกุตฺตรสฺส สรณคมนสฺส จตฺตาริ สามฺผลานิ วิปากผลํ, สพฺพทุกฺขกฺขโย อานิสํสผลํ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘โย จ พุทฺธฺจ ธมฺมฺจ, สงฺฆฺจ สรณํ คโต;

จตฺตาริ อริยสจฺจานิ, สมฺมปฺปฺาย ปสฺสติ.

ทุกฺขํ ทุกฺขสมุปฺปาทํ, ทุกฺขสฺส จ อติกฺกมํ;

อริยํ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ, ทุกฺขูปสมคามินํ.

เอตํ โข สรณํ เขมํ, เอตํ สรณมุตฺตมํ;

เอตํ สรณมาคมฺม, สพฺพทุกฺขา ปมุจฺจตี’’ติ. (ธ. ป. ๑๙๒);

อปิ จ นิจฺจาทิโต อนุปคมนาทิวเสน เปตสฺส อานิสํสผลํ เวทิตพฺพํ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘อฏฺานเมตํ อนวกาโส, ยํ ทิฏฺิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล กฺจิ สงฺขารํ นิจฺจโต อุปคจฺเฉยฺย…เป… กฺจิ สงฺขารํ สุขโต…เป… กฺจิ ธมฺมํ อตฺตโต อุปคจฺเฉยฺย…เป… มาตรํ ชีวิตา โวโรเปยฺย…เป… ปิตรํ…เป… อรหนฺตํ…เป… ปทุฏฺจิตฺโต ตถาคตสฺส โลหิตํ อุปฺปาเทยฺย…เป…. สงฺฆํ ภินฺเทยฺย…เป… อฺํ สตฺถารํ อุทฺทิเสยฺย, เนตํ านํ วิชฺชตี’’ติ (อ. นิ. ๑.๒๙๐). โลกิยสฺส ปน สรณคมนสฺส ภวสมฺปทาปิ โภคสมฺปทาปิ ผลเมว. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘เย เกจิ พุทฺธํ สรณํ คตาเส, น เต คมิสฺสนฺติ อปายภูมึ;

ปหาย มานุสํ เทหํ, เทวกายํ ปริปูเรสฺสนฺตี’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๓๗);

อปรมฺปิ วุตฺตํ – ‘‘อถ โข สกฺโก เทวานมินฺโท อสีติยา เทวตาสหสฺเสหิ สทฺธึ เยนายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน เตนุปสงฺกมิ…เป… เอกมนฺตํ ิตํ โข สกฺกํ เทวานมินฺทํ อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน เอตทโวจ – ‘‘สาธุ โข, เทวานมินฺท, พุทฺธํ สรณคมนํ โหติ. พุทฺธํ สรณคมนเหตุ โข, เทวานมินฺท, เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺติ…เป… เต อฺเ เทเว ทสหิ าเนหิ อธิคณฺหนฺติ – ทิพฺเพน อายุนา, ทิพฺเพน วณฺเณน, ทิพฺเพน สุเขน, ทิพฺเพน ยเสน, ทิพฺเพน อาธิปเตยฺเยน, ทิพฺเพหิ รูเปหิ สทฺเทหิ คนฺเธหิ รเสหิ โผฏฺพฺเพหี’’ติ (สํ. นิ. ๔.๓๔๑). เอส นโย ธมฺเม จ สงฺเฆ จ. อปิ จ เวลามสุตฺตาทีนํ วเสนาปิ สรณคมนสฺส ผลวิเสโส เวทิตพฺโพ. เอวํ สรณคมนสฺส ผลํ เวทิตพฺพํ.

ตตฺถ จ โลกิยสรณคมนํ ตีสุ วตฺถูสุ อฺาณสํสยมิจฺฉาาณาทีหิ สํกิลิสฺสติ, น มหาชุติกํ โหติ, น มหาวิปฺผารํ. โลกุตฺตรสฺส นตฺถิ สํกิเลโส. โลกิยสฺส จ สรณคมนสฺส ทุวิโธ เภโท – สาวชฺโช จ อนวชฺโช จ. ตตฺถ สาวชฺโช อฺสตฺถาราทีสุ อตฺตสนฺนิยฺยาตนาทีหิ โหติ, โส จ อนิฏฺผโล โหติ. อนวชฺโช กาลกิริยาย โหติ, โส อวิปากตฺตา อผโล. โลกุตฺตรสฺส ปน เนวตฺถิ เภโท. ภวนฺตเรปิ หิ อริยสาวโก อฺํ สตฺถารํ น อุทฺทิสตีติ. เอวํ สรณคมนสฺส สํกิเลโส จ เภโท จ เวทิตพฺโพติ.

อุปาสกํ มํ ภนฺเต ภควา ธาเรตูติ มํ ภควา ‘‘อุปาสโก อย’’นฺติ เอวํ ธาเรตุ, ชานาตูติ อตฺโถ. อุปาสกวิธิโกสลฺลตฺถํ ปเนตฺถ – โก อุปาสโก? กสฺมา อุปาสโกติ วุจฺจติ ? กิมสฺส สีลํ? โก อาชีโว? กา วิปตฺติ? กา สมฺปตฺตีติ? อิทํ ปกิณฺณกํ เวทิตพฺพํ.

ตตฺถ โก อุปาสโกติ โย โกจิ สรณคโต คหฏฺโ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘ยโต โข, มหานาม, พุทฺธํ สรณํ คโต โหติ, ธมฺมํ สรณํ คโต โหติ, สงฺฆํ สรณํ คโต โหติ. เอตฺตาวตา โข, มหานาม, อุปาสโก โหตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๑๐๓๓).

กสฺมา อุปาสโกติ รตนตฺตยํ อุปาสนโต. โส หิ พุทฺธํ อุปาสตีติ อุปาสโก, ตถา ธมฺมํ สํฆํ.

กิมสฺสสีลนฺติ ปฺจ เวรมณิโย. ยถาห – ‘‘ยโต โข, มหานาม, อุปาสโก ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ, อทินฺนาทานา… กาเมสุมิจฺฉาจารา… มุสาวาทา… สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรโต โหติ, เอตฺตาวตา โข, มหานาม, อุปาสโก สีลวา โหตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๑๐๓๓).

โกอาชีโวติ ปฺจ มิจฺฉาวณิชฺชา ปหาย ธมฺเมน สเมน ชีวิตกปฺปนํ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘ปฺจิมา, ภิกฺขเว, วณิชฺชา อุปาสเกน อกรณียา. กตมา ปฺจ? สตฺถวณิชฺชา, สตฺตวณิชฺชา, มํสวณิชฺชา, มชฺชวณิชฺชา, วิสวณิชฺชา. อิมา โข, ภิกฺขเว, ปฺจ วณิชฺชา อุปาสเกน อกรณียา’’ติ (อ. นิ. ๕.๑๗๗).

กา วิปตฺตีติ ยา ตสฺเสว สีลสฺส จ อาชีวสฺส จ วิปตฺติ, อยมสฺส วิปตฺติ. อปิ จ ยาย เอส จณฺฑาโล เจว โหติ, มลฺจ ปติกุฏฺโ จ, สาปิสฺส วิปตฺตีติ เวทิตพฺพา. เต จ อตฺถโต อสฺสทฺธิยาทโย ปฺจ ธมฺมา โหนฺติ. ยถาห – ‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อุปาสโก อุปาสกจณฺฑาโล จ โหติ, อุปาสกมลฺจ, อุปาสกปติกุฏฺโ จ. กตเมหิ ปฺจหิ? อสฺสทฺโธ โหติ, ทุสฺสีโล โหติ, โกตูหลมงฺคลิโก โหติ, มงฺคลํ ปจฺเจติ, โน กมฺมํ, อิโต จ พหิทฺธา ทกฺขิเณยฺยํ ปริเยสติ, ตตฺถ จ ปุพฺพการํ กโรตี’’ติ (อ. นิ. ๕.๑๗๕).

กา สมฺปตฺตีติ ยา จสฺส สีลสมฺปทา เจว อาชีวสมฺปทา จ, สา สมฺปตฺติ; เย จสฺส รตนภาวาทิกรา สทฺธาทโย ปฺจ ธมฺมา. ยถาห – ‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อุปาสโก อุปาสกรตนฺจ โหติ, อุปาสกปทุมฺจ, อุปาสกปุณฺฑรีกฺจ. กตเมหิ ปฺจหิ? สทฺโธ โหติ, สีลวา โหติ, น โกตูหลมงฺคลิโก โหติ, กมฺมํ ปจฺเจติ, โน มงฺคลํ, น อิโต พหิทฺธา ทกฺขิเณยฺยํ คเวสติ, อิธ จ ปุพฺพการํ กโรตี’’ติ (อ. นิ. ๕.๑๗๕).

อชฺชตคฺเคติ เอตฺถายํ อคฺคสทฺโท อาทิโกฏิโกฏฺาสเสฏฺเสุ ทิสฺสติ. ‘‘อชฺชตคฺเค, สมฺม โทวาริก, อาวรามิ ทฺวารํ นิคณฺานํ นิคณฺีน’’นฺติอาทีสุ (ม. นิ. ๒.๗๐) หิ อาทิมฺหิ ทิสฺสติ. ‘‘เตเนว องฺคุลคฺเคน ตํ องฺคุลคฺคํ ปรามเสยฺย . อุจฺฉคฺคํ เวฬคฺค’’นฺติอาทีสุ (กถา. ๒๘๑) โกฏิยํ. ‘‘อมฺพิลคฺคํ วา มธุรคฺคํ วา ติตฺตกคฺคํ วา วิหารคฺเคน วา ปริเวณคฺเคน วา ภาเชตุ’’นฺติอาทีสุ (จูฬว. ๓๑๗) โกฏฺาเส. ‘‘ยาวตา, ภิกฺขเว, สตฺตา อปทา วา…เป… ตถาคโต เตสํ อคฺคมกฺขายตี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๔.๓๔) เสฏฺเ. อิธ ปนายํ อาทิมฺหิ ทฏฺพฺโพ. ตสฺมา อชฺชตคฺเคติ อชฺชตํ อาทึ กตฺวาติ เอวเมตฺถตฺโถ เวทิตพฺโพ. อชฺชตนฺติ อชฺชภาวํ. อชฺชทคฺเคติ วา ปาโ, ทกาโร ปทสนฺธิกโร. อชฺช อคฺคนฺติ อตฺโถ.

ปาณุเปตนฺติ ปาเณหิ อุเปตํ. ยาว เม ชีวิตํ ปวตฺตติ, ตาว อุเปตํ อนฺสตฺถุกํ ตีหิ สรณคมเนหิ สรณํ คตํ อุปาสกํ กปฺปิยการกํ มํ ภควา ธาเรตุ ชานาตุ. อหฺหิ สเจปิ เม ติขิเณน อสินา สีสํ ฉินฺเทยฺย, เนว พุทฺธํ ‘‘น พุทฺโธ’’ติ วา, ธมฺมํ ‘‘น ธมฺโม’’ติ วา, สงฺฆํ ‘‘น สงฺโฆ’’ติ วา วเทยฺยนฺติ.

เอวํ อตฺตสนฺนิยฺยาตเนน สรณํ คนฺตฺวา อตฺตนา กตํ อปราธํ ปกาเสนฺโต อจฺจโย มํ, ภนฺเตติอาทิมาห. ตตฺถ อจฺจโยติ อปราโธ. มํ อจฺจคมาติ มํ อติกฺกมฺม อภิภวิตฺวา ปวตฺโต. ธมฺมิกํ ธมฺมราชานนฺติ เอตฺถ ธมฺมํ จรตีติ ธมฺมิโก. ธมฺเมเนว ราชา ชาโต, น ปิตุฆาตนาทินา อธมฺเมนาติ ธมฺมราชา. ชีวิตา โวโรเปสินฺติ ชีวิตา วิโยเชสึ. ปฏิคฺคณฺหาตูติ ขมตุ. อายตึ สํวรายาติ อนาคเต สํวรตฺถาย. ปุน เอวรูปสฺส อปราธสฺส โทสสฺส ขลิตสฺส อกรณตฺถาย.

๒๕๑. ตคฺฆาติ เอกํเส นิปาโต. ยถา ธมฺมํ ปฏิกโรสีติ ยถา ธมฺโม ิโต ตเถว กโรสิ, ขมาเปสีติ วุตฺตํ โหติ. ตํ เต มยํ ปฏิคฺคณฺหามาติ ตํ ตว อปราธํ มยํ ขมาม. วุฑฺฒิเหสา, มหาราช อริยสฺส วินเยติ เอสา, มหาราช, อริยสฺส วินเย พุทฺธสฺส ภควโต สาสเน วุฑฺฒิ นาม. กตมา? ยายํ อจฺจยํ อจฺจยโต ทิสฺวา ยถาธมฺมํ ปฏิกริตฺวา อายตึ สํวราปชฺชนา, เทสนํ ปน ปุคฺคลาธิฏฺานํ กโรนฺโต – ‘‘โย อจฺจยํ อจฺจยโต ทิสฺวา ยถาธมฺมํ ปฏิกโรติ, อายตึ สํวรํ อาปชฺชตี’’ติ อาห.

๒๕๒. เอวํ วุตฺเตติ เอวํ ภควตา วุตฺเต. หนฺท จ ทานิ มยํ ภนฺเตติ เอตฺถ หนฺทาติ วจสายตฺเถ นิปาโต. โส หิ คมนวจสายํ กตฺวา เอวมาห. พหุกิจฺจาติ พลวกิจฺจา. พหุกรณียาติ ตสฺเสว เววจนํ. ยสฺสทานิ ตฺวนฺติ ยสฺส อิทานิ ตฺวํ มหาราช คมนสฺส กาลํ มฺสิ ชานาสิ, ตสฺส กาลํ ตฺวเมว ชานาสีติ วุตฺตํ โหติ. ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามีติ ติกฺขตฺตุํ ปทกฺขิณํ กตฺวา ทสนขสโมธานสมุชฺชลํ อฺชลึ สิรสิ ปติฏฺเปตฺวา ยาว ทสฺสนวิสยํ ภควโต อภิมุโขว ปฏิกฺกมิตฺวา ทสฺสนวิชหนฏฺานภูมิยํ ปฺจปติฏฺิเตน วนฺทิตฺวา ปกฺกามิ.

๒๕๓. ขตายํ, ภิกฺขเว, ราชาติ ขโต อยํ, ภิกฺขเว, ราชา. อุปหตายนฺติ อุปหโต อยํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อยํ, ภิกฺขเว, ราชา ขโต อุปหโต ภินฺนปติฏฺโ ชาโต, ตถาเนน อตฺตนาว อตฺตา ขโต, ยถา อตฺตโน ปติฏฺา น ชาตาติ. วิรชนฺติ ราครชาทิวิรหิตํ. ราคมลาทีนํเยว วิคตตฺตา วีตมลํ. ธมฺมจกฺขุนฺติ ธมฺเมสุ วา จกฺขุํ, ธมฺมมยํ วา จกฺขุํ, อฺเสุ าเนสุ ติณฺณํ มคฺคานเมตํ อธิวจนํ. อิธ ปน โสตาปตฺติมคฺคสฺเสว. อิทํ วุตฺตํ โหติ – สเจ อิมินา ปิตา ฆาติโต นาภวิสฺส, อิทานิ อิเธวาสเน นิสินฺโน โสตาปตฺติมคฺคํ ปตฺโต อภวิสฺส, ปาปมิตฺตสํสคฺเคน ปนสฺส อนฺตราโย ชาโต. เอวํ สนฺเตปิ ยสฺมา อยํ ตถาคตํ อุปสงฺกมิตฺวา รตนตฺตยํ สรณํ คโต, ตสฺมา มม สาสนมหนฺตตาย ยถา นาม โกจิ ปุริสสฺส วธํ กตฺวา ปุปฺผมุฏฺิมตฺเตน ทณฺเฑน มุจฺเจยฺย, เอวเมว โลหกุมฺภิยํ นิพฺพตฺติตฺวา ตึสวสฺสสหสฺสานิ อโธ ปตนฺโต เหฏฺิมตลํ ปตฺวา ตึสวสฺสสหสฺสานิ อุทฺธํ คจฺฉนฺโต ปุนปิ อุปริมตลํ ปาปุณิตฺวา มุจฺจิสฺสตีติ อิทมฺปิ กิร ภควตา วุตฺตเมว, ปาฬิยํ ปน น อารูฬฺหํ.

อิทํ ปน สุตฺตํ สุตฺวา รฺา โกจิ อานิสํโส ลทฺโธติ? มหาอานิสํโส ลทฺโธ. อยฺหิ ปิตุ มาริตกาลโต ปฏฺาย เนว รตฺตึ น ทิวา นิทฺทํ ลภติ, สตฺถารํ ปน อุปสงฺกมิตฺวา อิมาย มธุราย โอชวนฺติยา ธมฺมเทสนาย สุตกาลโต ปฏฺาย นิทฺทํ ลภิ. ติณฺณํ รตนานํ มหาสกฺการํ อกาสิ. โปถุชฺชนิกาย สทฺธาย สมนฺนาคโต นาม อิมินา รฺา สทิโส นาโหสิ. อนาคเต ปน วิชิตาวี นาม ปจฺเจกพุทฺโธ หุตฺวา ปรินิพฺพายิสฺสตีติ . อิทมโวจ ภควา. อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ.

อิติ สุมงฺคลวิลาสินิยา ทีฆนิกายฏฺกถายํ

สามฺผลสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.