📜
๓. อมฺพฏฺสุตฺตวณฺณนา
อทฺธานคมนวณฺณนา
๒๕๔. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ…เป… โกสเลสูติ อมฺพฏฺสุตฺตํ. ตตฺรายํ อปุพฺพปทวณฺณนา. โกสเลสูติ โกสลา นาม ชานปทิโน ราชกุมารา. เตสํ นิวาโส เอโกปิ ชนปโท รูฬฺหีสทฺเทน โกสลาติ วุจฺจติ, ตสฺมึ โกสเลสุ ชนปเท. โปราณา ปนาหุ – ยสฺมา ปุพฺเพ มหาปนาทํ ราชกุมารํ นานานาฏกาทีนิ ทิสฺวา สิตมตฺตมฺปิ อกโรนฺตํ สุตฺวา ราชา อาห – ‘‘โย มม ปุตฺตํ หสาเปติ, สพฺพาลงฺกาเรน นํ อลงฺกโรมี’’ติ. ตโต นงฺคลานิปิ ฉฑฺเฑตฺวา มหาชนกาเย สนฺนิปติเต มนุสฺสา สาติเรกานิ สตฺตวสฺสานิ นานากีฬาโย ทสฺเสตฺวาปิ ตํ หสาเปตุํ นาสกฺขึสุ, ตโต สกฺโก เทวราชา นาฏกํ เปเสสิ, โส ทิพฺพนาฏกํ ทสฺเสตฺวา หสาเปสิ. อถ เต มนุสฺสา อตฺตโน อตฺตโน วสโนกาสาภิมุขา ปกฺกมึสุ. เต ปฏิปเถ มิตฺตสุหชฺชาทโย ทิสฺวา ปฏิสนฺถารํ กโรนฺตา – ‘‘กจฺจิ โภ กุสลํ, กจฺจิ โภ กุสล’’นฺติ อาหํสุ. ตสฺมา ตํ ‘‘กุสล’’นฺติ วจนํ อุปาทาย โส ปเทโส โกสลาติ วุจฺจตีติ.
จาริกํ จรมาโนติ อทฺธานคมนํ คจฺฉนฺโต. จาริกา จ นาเมสา ภควโต ทุวิธา โหติ – ตุริตจาริกา จ, อตุริตจาริกา จ. ตตฺถ ทูเรปิ โพธเนยฺยปุคฺคลํ ทิสฺวา ตสฺส โพธนตฺถาย สหสา คมนํ ตุริตจาริกา นาม, สา มหากสฺสปสฺส ปจฺจุคฺคมนาทีสุ ทฏฺพฺพา. ภควา หิ มหากสฺสปตฺเถรํ ปจฺจุคฺคจฺฉนฺโต มุหุตฺเตน ติคาวุตํ มคฺคํ อคมาสิ. อาฬวกสฺสตฺถาย ตึสโยชนํ, ตถา ¶ องฺคุลิมาลสฺส. ปกฺกุสาติสฺส ปน ปฺจจตฺตาลีสโยชนํ. มหากปฺปินสฺส วีสโยชนสตํ. ธนิยสฺสตฺถาย สตฺตโยชนสตานิ อคมาสิ. ธมฺมเสนาปติโน สทฺธิวิหาริกสฺส วนวาสีติสฺสสามเณรสฺส ติคาวุตาธิกํ วีสโยชนสตํ.
เอกทิวสํ กิร เถโร – ‘‘ติสฺสสามเณรสฺส สนฺติกํ, ภนฺเต, คจฺฉามี’’ติ อาห. ภควา ¶ – ‘‘อหมฺปิ คมิสฺสามี’’ติ วตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ ¶ อามนฺเตสิ – ‘‘อานนฺท, วีสติสหสฺสานํ ฉฬภิฺานํ อาโรเจหิ, ภควา กิร วนวาสิสฺส ติสฺสสามเณรสฺส สนฺติกํ คมิสฺสตี’’ติ. ตโต ทุติยทิวเส วีสติสหสฺสขีณาสวปริวาโร อากาเส อุปฺปติตฺวา วีสติโยชนสตมตฺถเก ตสฺส โคจรคามทฺวาเร โอตริตฺวา จีวรํ ปารุปิ. ตํ กมฺมนฺตํ คจฺฉมานา มนุสฺสา ทิสฺวา – ‘‘สตฺถา โน อาคโต, มา กมฺมนฺตํ อคมิตฺถา’’ติ วตฺวา อาสนานิ ปฺเปตฺวา ยาคุํ ทตฺวา ปาตราสภตฺตํ กโรนฺตา – ‘‘กุหึ, ภนฺเต, ภควา คจฺฉตี’’ติ ทหรภิกฺขู ปุจฺฉึสุ. อุปาสกา น ภควา อฺตฺถ คจฺฉติ, อิเธว ติสฺสสามเณรสฺส ทสฺสนตฺถายาคโตติ. เต – ‘‘อมฺหากํ กุลูปกสฺส กิร เถรสฺส ทสฺสนตฺถาย สตฺถา อาคโต, โน วต โน เถโร โอรมตฺตโก’’ติ โสมนสฺสชาตา อเหสุํ.
อถ โข ภควโต ภตฺตกิจฺจปริโยสาเน สามเณโร คาเม ปิณฺฑาย จริตฺวา – ‘‘อุปาสกา, มหาภิกฺขุสงฺโฆ’’ติ ปุจฺฉิ. อถสฺส เต ‘‘สตฺถา, ภนฺเต, อาคโต’’ติ อาโรเจสุํ. โส ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา ปิณฺฑปาเตน อาปุจฺฉิ. สตฺถา ตสฺส ปตฺตํ หตฺเถน คเหตฺวา – ‘‘อลํ, ติสฺส, นิฏฺิตํ ภตฺตกิจฺจ’’นฺติ อาห. ตโต อุปชฺฌายํ อาปุจฺฉิตฺวา อตฺตโน ปตฺตาสเน นิสีทิตฺวา ภตฺตกิจฺจมกาสิ. อถสฺส ภตฺตกิจฺจปริโยสาเน สตฺถา มงฺคลํ วตฺวา นิกฺขมิตฺวา คามทฺวาเร ตฺวา – ‘‘กตโร เต, ติสฺส, วสนฏฺานํ คตมคฺโค’’ติ อาห. อยํ ภควาติ. มคฺคํ เทสยมาโน ปุรโต ยาหิ ติสฺสาติ. ภควา กิร สเทวกสฺส โลกสฺส มคฺคเทสโกปิ สมาโน สกเล ติคาวุเต มคฺเค ‘สามเณรํ ทฏฺุํ ¶ ลจฺฉามี’ติ ตํ มคฺคเทสกํ อกาสิ.
โส อตฺตโน วสนฏฺานํ คนฺตฺวา ภควโต วตฺตมกาสิ. อถ นํ ภควา – ‘‘กตโร เต, ติสฺส, จงฺกโม’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ตตฺถ คนฺตฺวา สามเณรสฺส นิสีทนปาสาเณ นิสีทิตฺวา – ‘‘ติสฺส, อิมสฺมึ าเน สุขํ วสี’’ติ ปุจฺฉิ. โส อาห – ‘‘อาม, ภนฺเต, อิมสฺมึ าเน วสนฺตสฺส สีหพฺยคฺฆหตฺถิมิคโมราทีนํ สทฺทํ สุณโต อรฺสฺา อุปฺปชฺชติ, ตาย สุขํ วสามี’’ติ. อถ นํ ภควา – ‘‘ติสฺส, ภิกฺขุสงฺฆํ สนฺนิปาเตหิ, พุทฺธทายชฺชํ เต ทสฺสามี’’ติ วตฺวา สนฺนิปติเต ภิกฺขุสงฺเฆ อุปสมฺปาเทตฺวา อตฺตโน วสนฏฺานเมว อคมาสีติ. อยํ ตุริตจาริกา นาม. ยํ ¶ ปน คามนิคมปฏิปาฏิยา เทวสิกํ โยชนทฺวิโยชนวเสน ปิณฺฑปาตจริยาทีหิ โลกํ อนุคฺคณฺหนฺตสฺส คมนํ, อยํ อตุริตจาริกา นาม.
อิมํ ปน จาริกํ จรนฺโต ภควา มหามณฺฑลํ, มชฺฌิมมณฺฑลํ, อนฺโตมณฺฑลนฺติ อิเมสํ ติณฺณํ มณฺฑลานํ อฺตรสฺมึ จรติ. ตตฺถ มหามณฺฑลํ นวโยชนสติกํ, มชฺฌิมมณฺฑลํ ฉโยชนสติกํ ¶ , อนฺโตมณฺฑลํ ติโยชนสติกํ. ยทา มหามณฺฑเล จาริกํ จริตุกาโม โหติ, มหาปวารณาย ปวาเรตฺวา ปาฏิปททิวเส มหาภิกฺขุสงฺฆปริวาโร นิกฺขมติ. สมนฺตา โยชนสตํ เอกโกลาหลํ โหติ. ปุริมํ ปุริมํ อาคตา นิมนฺเตตุํ ลภนฺติ. อิตเรสุ ทฺวีสุ มณฺฑเลสุ สกฺกาโร มหามณฺฑเล โอสรติ. ตตฺถ ภควา เตสุ เตสุ คามนิคเมสุ เอกาหํ ทฺวีหํ วสนฺโต มหาชนํ อามิสปฺปฏิคฺคเหน อนุคฺคณฺหนฺโต ธมฺมทาเนน จสฺส วิวฏฺฏสนฺนิสฺสิตํ กุสลํ วฑฺเฒนฺโต นวหิ มาเสหิ จาริกํ ปริโยสาเปติ. สเจ ปน อนฺโตวสฺเส ภิกฺขูนํ สมถวิปสฺสนา ตรุณา โหนฺติ, มหาปวารณาย อปวาเรตฺวา ปวารณาสงฺคหํ ทตฺวา กตฺติกปุณฺณมายํ ปวาเรตฺวา มิคสิรสฺส ปมปาฏิปททิวเส มหาภิกฺขุสงฺฆปริวาโร นิกฺขมิตฺวา มชฺฌิมมณฺฑเล โอสรติ. อฺเนปิ ¶ การเณน มชฺฌิมมณฺฑเล จาริกํ จริตุกาโม จตุมาสํ วสิตฺวาว นิกฺขมติ. วุตฺตนเยเนว อิตเรสุ ทฺวีสุ มณฺฑเลสุ สกฺกาโร มชฺฌิมมณฺฑเล โอสรติ. ภควา ปุริมนเยเนว โลกํ อนุคฺคณฺหนฺโต อฏฺหิ มาเสหิ จาริกํ ปริโยสาเปติ. สเจ ปน จตุมาสํ วุตฺถวสฺสสฺสาปิ ภควโต เวเนยฺยสตฺตา อปริปกฺกินฺทฺริยา โหนฺติ, เตสํ อินฺทฺริยปริปากํ อาคมยมาโน อปรมฺปิ เอกมาสํ วา ทฺวิติจตุมาสํ วา ตตฺเถว วสิตฺวา มหาภิกฺขุสงฺฆปริวาโร นิกฺขมติ. วุตฺตนเยเนว อิตเรสุ ทฺวีสุ มณฺฑเลสุ สกฺกาโร อนฺโตมณฺฑเล โอสรติ. ภควา ปุริมนเยเนว โลกํ อนุคฺคณฺหนฺโต สตฺตหิ วา ฉหิ วา ปฺจหิ วา จตูหิ วา มาเสหิ จาริกํ ปริโยสาเปติ. อิติ อิเมสุ ตีสุ มณฺฑเลสุ ยตฺถ กตฺถจิ จาริกํ จรนฺโต น จีวราทิเหตุ จรติ. อถ โข เย ทุคฺคตพาลชิณฺณพฺยาธิตา, เต กทา ตถาคตํ อาคนฺตฺวา ปสฺสิสฺสนฺติ. มยิ ปน จาริกํ จรนฺเต มหาชโน ตถาคตสฺส ทสฺสนํ ลภิสฺสติ. ตตฺถ เกจิ จิตฺตานิ ปสาเทสฺสนฺติ ¶ , เกจิ มาลาทีหิ ปูเชสฺสนฺติ, เกจิ กฏจฺฉุภิกฺขํ ทสฺสนฺติ, เกจิ มิจฺฉาทสฺสนํ ปหาย สมฺมาทิฏฺิกา ภวิสฺสนฺติ. ตํ เนสํ ภวิสฺสติ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายาติ. เอวํ โลกานุกมฺปกาย จาริกํ จรติ.
อปิ จ จตูหิ การเณหิ พุทฺธา ภควนฺโต จาริกํ จรนฺติ, ชงฺฆวิหารวเสน สรีรผาสุกตฺถาย, อตฺถุปฺปตฺติกาลาภิกงฺขนตฺถาย, ภิกฺขูนํ สิกฺขาปทปฺาปนตฺถาย, ตตฺถ ตตฺถ ปริปากคตินฺทฺริเย โพธเนยฺยสตฺเต โพธนตฺถายาติ. อปเรหิปิ จตูหิ การเณหิ พุทฺธา ภควนฺโต จาริกํ จรนฺติ พุทฺธํ สรณํ คจฺฉิสฺสนฺตีติ วา, ธมฺมํ, สงฺฆํ สรณํ คจฺฉิสฺสนฺตีติ วา, มหตา ธมฺมวสฺเสน จตสฺโส ปริสา สนฺตปฺเปสฺสามีติ วา. อปเรหิปิ ปฺจหิ การเณหิ พุทฺธา ภควนฺโต จาริกํ จรนฺติ ปาณาติปาตา วิรมิสฺสนฺตีติ วา, อทินฺนาทานา ¶ , กาเมสุมิจฺฉาจารา, มุสาวาทา, สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา วิรมิสฺสนฺตีติ วา. อปเรหิปิ อฏฺหิ การเณหิ พุทฺธา ภควนฺโต จาริกํ จรนฺติ – ปมํ ฌานํ ปฏิลภิสฺสนฺตีติ วา, ทุติยํ ¶ ฌานํ…เป… เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺตึ ปฏิลภิสฺสนฺตีติ วา. อปเรหิปิ อฏฺหิ การเณหิ พุทฺธา ภควนฺโต จาริกํ จรนฺติ – โสตาปตฺติมคฺคํ อธิคมิสฺสนฺตีติ วา, โสตาปตฺติผลํ…เป… อรหตฺตผลํ สจฺฉิกริสฺสนฺตีติ วาติ. อยํ อตุริตจาริกา, อิธ จาริกาติ อธิปฺเปตา. สา ปเนสา ทุวิธา โหติ – อนิพทฺธจาริกา จ นิพทฺธจาริกา จ. ตตฺถ ยํ คามนิคมนครปฏิปาฏิวเสน จรติ, อยํ อนิพทฺธจาริกา นาม. ยํ ปเนกสฺเสว โพธเนยฺยสตฺตสฺสตฺถาย คจฺฉติ, อยํ นิพทฺธจาริกา นาม. เอสา อิธ อธิปฺเปตา.
ตทา กิร ภควโต ปจฺฉิมยามกิจฺจปริโยสาเน ทสสหสฺสิโลกธาตุยา าณชาลํ ปตฺถริตฺวา โพธเนยฺยพนฺธเว โอโลเกนฺตสฺส โปกฺขรสาติพฺราหฺมโณ สพฺพฺุตฺาณชาลสฺส อนฺโต ปวิฏฺโ. อถ ภควา อยํ พฺราหฺมโณ มยฺหํ าณชาเล ปฺายติ, ‘‘อตฺถิ นุ ขฺวสฺส อุปนิสฺสโย’’ติ วีมํสนฺโต โสตาปตฺติมคฺคสฺส อุปนิสฺสยํ ทิสฺวา – ‘‘เอโส มยิ เอตํ ชนปทํ คเต ลกฺขณปริเยสนตฺถํ อมฺพฏฺํ อนฺเตวาสึ ปหิณิสฺสติ, โส มยา สทฺธึ วาทปฏิวาทํ กตฺวา นานปฺปการํ อสพฺภิวากฺยํ วกฺขติ, ตมหํ ทเมตฺวา นิพฺพิเสวนํ กริสฺสามิ. โส ¶ อาจริยสฺส กเถสฺสติ, อถสฺสาจริโย ตํ กถํ สุตฺวา อาคมฺม มม ลกฺขณานิ ปริเยสิสฺสติ, ตสฺสาหํ ธมฺมํ เทเสสฺสามิ. โส เทสนาปริโยสาเน โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิสฺสติ. เทสนา มหาชนสฺส สผลา ภวิสฺสตี’’ติ ปฺจภิกฺขุสตปริวาโร ตํ ชนปทํ ปฏิปนฺโน. เตน วุตฺตํ – ‘‘โกสเลสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ ปฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหี’’ติ.
เยน อิจฺฉานงฺคลนฺติ เยน ทิสาภาเคน อิจฺฉานงฺคลํ อวสริตพฺพํ. ยสฺมึ วา ปเทเส อิจฺฉานงฺคลํ. อิชฺฌานงฺคลนฺติปิ ปาโ. ตทวสรีติ ¶ เตน อวสริ, ตํ วา อวสริ. เตน ทิสาภาเคน คโต, ตํ วา ปเทสํ คโตติ อตฺโถ. อิจฺฉานงฺคเล วิหรติ อิจฺฉานงฺคลวนสณฺเฑติ อิจฺฉานงฺคลํ อุปนิสฺสาย อิจฺฉานงฺคลวนสณฺเฑ สีลขนฺธาวารํ พนฺธิตฺวา สมาธิโกนฺตํ อุสฺสาเปตฺวา สพฺพฺุตฺาณสรํ ปริวตฺตยมาโน ธมฺมราชา ยถาภิรุจิเตน วิหาเรน วิหรติ.
โปกฺขรสาติวตฺถุวณฺณนา
๒๕๕. เตน โข ปน สมเยนาติ เยน สมเยน ภควา ตตฺถ วิหรติ, เตน สมเยน, ตสฺมึ สมเยติ อยมตฺโถ. พฺรหฺมํ อณตีติ พฺราหฺมโณ, มนฺเต สชฺฌายตีติ อตฺโถ. อิทเมว หิ ชาติพฺราหฺมณานํ นิรุตฺติวจนํ. อริยา ปน พาหิตปาปตฺตา พฺราหฺมณาติ วุจฺจนฺติ. โปกฺขรสาตีติ ¶ อิทํ ตสฺส นามํ. กสฺมา โปกฺขรสาตีติ วุจฺจติ. ตสฺส กิร กาโย เสตโปกฺขรสทิโส, เทวนคเร อุสฺสาปิตรชตโตรณํ วิย โสภติ. สีสํ ปนสฺส กาฬวณฺณํ อินฺทนีลมณิมยํ วิย. มสฺสุปิ จนฺทมณฺฑเล กาฬเมฆราชิ วิย ขายติ. อกฺขีนิ นีลุปฺปลสทิสานิ. นาสา รชตปนาฬิกา วิย สุวฏฺฏิตา สุปริสุทฺธา. หตฺถปาทตลานิ เจว มุขทฺวารฺจ กตลาขารสปริกมฺมํ วิย โสภติ, อติวิย โสภคฺคปฺปตฺโต พฺราหฺมณสฺส อตฺตภาโว. อราชเก าเน ราชานํ กาตุํ ยุตฺตมิมํ พฺราหฺมณํ. เอวเมส สสฺสิริโก. อิติ นํ โปกฺขรสทิสตฺตา โปกฺขรสาตีติ สฺชานนฺติ.
อยํ ¶ ปน กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺธกาเล ติณฺณํ เวทานํ ปารคู ทสพลสฺส ทานํ ทตฺวา ธมฺมเทสนํ สุตฺวา เทวโลเก นิพฺพตฺติ. โส ตโต มนุสฺสโลกมาคจฺฉนฺโต มาตุกุจฺฉิวาสํ ชิคุจฺฉิตฺวา หิมวนฺตปเทเส มหาสเร ปทุมคพฺเภ นิพฺพตฺติ. ตสฺส จ สรสฺส อวิทูเร ตาปโส ปณฺณสาลาย วสติ. โส ตีเร ิโต ตํ ปทุมํ ทิสฺวา – ‘‘อิทํ ปทุมํ อวเสสปทุเมหิ มหนฺตตรํ. ปุปฺผิตกาเล นํ คเหสฺสามี’’ติ จินฺเตสิ. ตํ สตฺตาเหนาปิ น ปุปฺผติ. ตาปโส กสฺมา นุ โข อิทํ สตฺตาเหนาปิ น ปุปฺผติ. หนฺท นํ คเหสฺสามีติ โอตริตฺวา คณฺหิ. ตํ เตน นาฬโต ฉินฺนมตฺตํเยว ¶ ปุปฺผิตํ. อถสฺสพฺภนฺตเร สุวณฺณจุณฺณปิฺชรํ วิย รชตพิมฺพกํ ปทุมเรณุปิฺชรํ เสตวณฺณํ ทารกํ อทฺทส. โส มหาปฺุโ เอส ภวิสฺสติ. หนฺท นํ ปฏิชคฺคามีติ ปณฺณสาลํ เนตฺวา ปฏิชคฺคิตฺวา สตฺตวสฺสกาลโต ปฏฺาย ตโย เวเท อุคฺคณฺหาเปสิ. ทารโก ติณฺณํ เวทานํ ปารํ คนฺตฺวา ปณฺฑิโต พฺยตฺโต ชมฺพุทีเป อคฺคพฺราหฺมโณ อโหสิ. โส อปเรน สมเยน รฺโ โกสลสฺส สิปฺปํ ทสฺเสสิ. อถสฺส สิปฺเป ปสนฺโน ราชา อุกฺกฏฺํ นาม มหานครํ พฺรหฺมเทยฺยํ อทาสิ. อิติ นํ โปกฺขเร สยิตตฺตา โปกฺขรสาตีติ สฺชานนฺติ.
อุกฺกฏฺํ อชฺฌาวสตีติ อุกฺกฏฺนามเก นคเร วสติ. อภิภวิตฺวา วา อาวสติ. ตสฺส นครสฺส สามิโก หุตฺวา ยาย มริยาทาย ตตฺถ วสิตพฺพํ, ตาย มริยาทาย วสิ. ตสฺส กิร นครสฺส วตฺถุํ อุกฺกา เปตฺวา อุกฺกาสุ ชลมานาสุ อคฺคเหสุํ, ตสฺมา ตํ อุกฺกฏฺนฺติ วุจฺจติ. โอกฺกฏฺนฺติปิ ปาโ, โสเยวตฺโถ. อุปสคฺควเสน ปเนตฺถ ภุมฺมตฺเถ อุปโยควจนํ เวทิตพฺพํ. ตสฺส อนุปโยคตฺตา จ เสสปเทสุ. ตตฺถ ลกฺขณํ สทฺทสตฺถโต ปริเยสิตพฺพํ.
สตฺตุสฺสทนฺติ สตฺเตหิ อุสฺสทํ, อุสฺสนฺนํ พหุชนํ อากิณฺณมนุสฺสํ. โปสาวนิยหตฺถิอสฺสโมรมิคาทิอเนกสตฺตสมากิณฺณฺจาติ ¶ อตฺโถ. ยสฺมา ปเนตํ นครํ พหิ อาวิชฺฌิตฺวา ชาเตน หตฺถิอสฺสาทีนํ ฆาสติเณน เจว เคหจฺฉาทนติเณน จ สมฺปนฺนํ. ตถา ทารุกฏฺเหิ เจว เคหสมฺภารกฏฺเหิ จ. ยสฺมา จสฺสพฺภนฺตเร วฏฺฏจตุรสฺสาทิสณฺานา พหู โปกฺขรณิโย ชลชกุสุมวิจิตฺตานิ จ พหูนิ อเนกานิ ตฬากานิ อุทกสฺส นิจฺจภริตาเนว โหนฺติ, ตสฺมา สติณกฏฺโทกนฺติ วุตฺตํ. สห ธฺเนาติ สธฺํ ปุพฺพณฺณาปรณฺณาทิเภทํ พหุธฺสนฺนิจยนฺติ อตฺโถ ¶ . เอตฺตาวตา ยสฺมึ นคเร พฺราหฺมโณ เสตจฺฉตฺตํ อุสฺสาเปตฺวา ราชลีลาย วสติ, ตสฺส สมิทฺธิสมฺปตฺติ ทีปิตา โหติ.
ราชโต ลทฺธํ โภคฺคํ ราชโภคฺคํ. เกน ¶ ทินฺนนฺติ เจ? รฺา ปเสนทินา โกสเลน ทินฺนํ. ราชทายนฺติ รฺโ ทายภูตํ, ทายชฺชนฺติ อตฺโถ. พฺรหฺมเทยฺยนฺติ เสฏฺเทยฺยํ, ฉตฺตํ อุสฺสาเปตฺวา ราชสงฺเขเปน ภฺุชิตพฺพนฺติ อตฺโถ. อถ วา ราชโภคฺคนฺติ สพฺพํ เฉชฺชเภชฺชํ อนุสาสนฺเตน นทีติตฺถปพฺพตาทีสุ สุงฺกํ คณฺหนฺเตน เสตจฺฉตฺตํ อุสฺสาเปตฺวา รฺา หุตฺวา ภฺุชิตพฺพํ. รฺา ปเสนทินา โกสเลน ทินฺนํ ราชทายนฺติ เอตฺถ ตํ นครํ รฺา ทินฺนตฺตา ราชทายํ ทายกราชทีปนตฺถํ ปนสฺส ‘‘รฺา ปเสนทินา โกสเลน ทินฺน’’นฺติ อิทํ วุตฺตํ. พฺรหฺมเทยฺยนฺติ เสฏฺเทยฺยํ. ยถา ทินฺนํ น ปุน คเหตพฺพํ โหติ, นิสฺสฏฺํ ปริจฺจตฺตํ. เอวํ ทินฺนนฺติ อตฺโถ.
อสฺโสสีติ สุณิ อุปลภิ, โสตทฺวารสมฺปตฺตวจนนิคฺโฆสานุสาเรน อฺาสิ. โขติ อวธารณตฺเถ ปทปูรณมตฺเต วา นิปาโต. ตตฺถ อวธารณตฺเถน อสฺโสสิ เอว, นาสฺส โกจิ สวนนฺตราโย อโหสีติ อยมตฺโถ เวทิตพฺโพ. ปทปูรเณน ปน ปทพฺยฺชนสิลิฏฺตามตฺตเมว.
อิทานิ ยมตฺถํ พฺราหฺมโณ โปกฺขรสาติ อสฺโสสิ, ตํ ปกาเสนฺโต – ‘‘สมโณ ขลุ โภ โคตโม’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สมิตปาปตฺตา สมโณติ เวทิตพฺโพ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘สมิตาสฺส โหนฺติ ปาปกา อกุสลา ธมฺมา’’ติอาทิ (ม. นิ. ๑.๔๓๔). ภควา จ อนุตฺตเรน อริยมคฺเคน สมิตปาโป. เตนสฺส ยถาภูตคุณาธิคตเมตํ นามํ, ยทิทํ สมโณติ. ขลูติ อนุสฺสวนตฺเถ นิปาโต. โภติ พฺราหฺมณชาติสมุทาคตํ อาลปนมตฺตํ. วุตฺตมฺปิ เจตํ – ‘‘โภวาที นาม โส โหติ, สเจ โหติ สกิฺจโน’’ติ (ธ. ป. ๕๕). โคตโมติ ภควนฺตํ โคตฺตวเสน ปริกิตฺเตติ. ตสฺมา สมโณ ขลุ โภ โคตโมติ เอตฺถ สมโณ กิร โภ โคตมโคตฺโตติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
สกฺยปุตฺโตติ ¶ อิทํ ปน ภควโต อุจฺจากุลปริทีปนํ ¶ . สกฺยกุลา ปพฺพชิโตติ สทฺธาปพฺพชิตภาวปริทีปนํ. เกนจิ ปาริชฺุเน อนภิภูโต อปริกฺขีณํเยว ¶ ตํ กุลํ ปหาย สทฺธาย ปพฺพชิโตติ วุตฺตํ โหติ. ตโต ปรํ วุตฺตตฺถเมว. ตํ โข ปนาติอาทิ สามฺผเล วุตฺตเมว. สาธุ โข ปนาติ สุนฺทรํ โข ปน. อตฺถาวหํ สุขาวหนฺติ วุตฺตํ โหติ. ตถารูปานํ อรหตนฺติ ยถารูโป โส ภวํ โคตโม, เอวรูปานํ ยถาภูตคุณาธิคเมน โลเก อรหนฺโตติ ลทฺธสทฺธานํ อรหตํ. ทสฺสนํ โหตีติ ปสาทโสมฺมานิ อกฺขีนิ อุมฺมีเลตฺวา ทสฺสนมตฺตมฺปิ สาธุ โหตีติ, เอวํ อชฺฌาสยํ กตฺวา.
อมฺพฏฺมาณวกถา
๒๕๖. อชฺฌายโกติ อิทํ – ‘‘น ทานิเม ฌายนฺติ, น ทานิเม ฌายนฺตีติ โข, วาเสฏฺ, อชฺฌายกา อชฺฌายกา ตฺเวว ตติยํ อกฺขรํ อุปนิพฺพตฺต’’นฺติ, เอวํ ปมกปฺปิกกาเล ฌานวิรหิตานํ พฺราหฺมณานํ ครหวจนํ. อิทานิ ปน ตํ อชฺฌายตีติ อชฺฌายโก. มนฺเต ปริวตฺเตตีติ อิมินา อตฺเถน ปสํสาวจนํ กตฺวา โวหรนฺติ. มนฺเต ธาเรตีติ มนฺตธโร.
ติณฺณํ เวทานนฺติ อิรุเวทยชุเวทสามเวทานํ. โอฏฺปหตกรณวเสน ปารํ คโตติ ปารคู. สห นิฆณฺฑุนา จ เกฏุเภน จ สนิฆณฺฑุเกฏุภานํ. นิฆณฺฑูติ นิฆณฺฑุรุกฺขาทีนํ เววจนปกาสกํ สตฺถํ. เกฏุภนฺติ กิริยากปฺปวิกปฺโป กวีนํ อุปการาวหํ สตฺถํ. สห อกฺขรปฺปเภเทน สากฺขรปฺปเภทานํ. อกฺขรปฺปเภโทติ สิกฺขา จ นิรุตฺติ จ. อิติหาสปฺจมานนฺติ อาถพฺพณเวทํ จตุตฺถํ กตฺวา อิติห อาส, อิติห อาสาติ อีทิสวจนปฏิสํยุตฺโต ปุราณกถาสงฺขาโต อิติหาโส ปฺจโม เอเตสนฺติ อิติหาสปฺจมา, เตสํ อิติหาสปฺจมานํ เวทานํ.
ปทํ ตทวเสสฺจ พฺยากรณํ อธียติ เวเทติ จาติ ปทโก เวยฺยากรโณ. โลกายตํ วุจฺจติ วิตณฺฑวาทสตฺถํ. มหาปุริสลกฺขณนฺติ ¶ มหาปุริสานํ พุทฺธาทีนํ ลกฺขณทีปกํ ทฺวาทสสหสฺสคนฺถปมาณํ สตฺถํ. ยตฺถ โสฬสสหสฺสคาถาปริมาณา พุทฺธมนฺตา นาม อเหสุํ, เยสํ วเสน อิมินา ลกฺขเณน สมนฺนาคตา พุทฺธา นาม โหนฺติ, อิมินา ปจฺเจกพุทฺธา, อิมินา ทฺเว อคฺคสาวกา, อสีติ มหาสาวกา ¶ , พุทฺธมาตา, พุทฺธปิตา, อคฺคุปฏฺาโก, อคฺคุปฏฺายิกา, ราชา จกฺกวตฺตีติ อยํ วิเสโส ปฺายติ.
อนวโยติ ¶ อิเมสุ โลกายตมหาปุริสลกฺขเณสุ อนูโน ปริปูรการี, อวโย น โหตีติ วุตฺตํ โหติ. อวโย นาม โย ตานิ อตฺถโต จ คนฺถโต จ สนฺธาเรตุํ น สกฺโกติ. อนฺุาตปฏิฺาโตติ อนฺุาโต เจว ปฏิฺาโต จ. อาจริเยนสฺส ‘‘ยํ อหํ ชานามิ, ตํ ตฺวํ ชานาสี’’ติอาทินา อนฺุาโต. ‘‘อาม อาจริยา’’ติ อตฺตนา ตสฺส ปฏิวจนทานปฏิฺาย ปฏิฺาโตติ อตฺโถ. กตรสฺมึ อธิกาเร? สเก อาจริยเก เตวิชฺชเก ปาวจเน. เอส กิร พฺราหฺมโณ จินฺเตสิ ‘‘อิมสฺมึ โลเก ‘อหํ พุทฺโธ, อหํ พุทฺโธ’ติ อุคฺคตสฺส นามํ คเหตฺวา พหู ชนา วิจรนฺติ. ตสฺมา น เม อนุสฺสวมตฺเตเนว อุปสงฺกมิตุํ ยุตฺตํ. เอกจฺจฺหิ อุปสงฺกมนฺตสฺส อปกฺกมนมฺปิ ครุ โหติ, อนตฺโถปิ อุปฺปชฺชติ. ยํนูนาหํ มม อนฺเตวาสิกํ เปเสตฺวา – ‘พุทฺโธ วา, โน วา’ติ ชานิตฺวาว อุปสงฺกเมยฺย’’นฺติ, ตสฺมา มาณวํ อามนฺเตตฺวา อยํ ตาตาติอาทิมาห.
๒๕๗. ตํ ภวนฺตนฺติ ตสฺส โภโต โคตมสฺส. ตถา สนฺตํ เยวาติ ตถา สโตเยว. อิธาปิ หิ อิตฺถมฺภูตาขฺยานตฺถวเสเนว อุปโยควจนํ.
๒๕๘. ยถา กถํ ปนาหํ, โภ, ตนฺติ เอตฺถ กถํ ปนาหํ โภ ตํ ภวนฺตํ โคตมํ ชานิสฺสามิ, ยถา สกฺกา โส าตุํ, ตถา เม อาจิกฺขาหีติ อตฺโถ. ยถาติ วา นิปาตมตฺตเมเวตํ. กถนฺติ อยํ อาการปุจฺฉา. เกนากาเรนาหํ ตํ ภวนฺตํ โคตมํ ชานิสฺสามีติ อตฺโถ. เอวํ วุตฺเต กิร นํ อุปชฺฌาโย ‘‘กึ ตฺวํ, ตาต, ปถวิยํ ¶ ิโต, ปถวึ น ปสฺสามีติ วิย; จนฺทิมสูริยานํ โอภาเส ิโต, จนฺทิมสูริเย น ปสฺสามีติ วิย วทสี’’ติอาทีนิ วตฺวา ชานนาการํ ทสฺเสนฺโต อาคตานิ โข, ตาตาติอาทิมาห.
ตตฺถ มนฺเตสูติ เวเทสุ. ตถาคโต กิร อุปฺปชฺชิสฺสตีติ ปฏิกจฺเจว สุทฺธาวาสา เทวา เวเทสุ ลกฺขณานิ ปกฺขิปิตฺวา พุทฺธมนฺตา นาเมเตติ พฺราหฺมณเวเสเนว เวเท วาเจนฺติ. ตทนุสาเรน มเหสกฺขา สตฺตา ตถาคตํ ชานิสฺสนฺตีติ. เตน ปุพฺเพ เวเทสุ มหาปุริสลกฺขณานิ ¶ อาคจฺฉนฺติ. ปรินิพฺพุเต ปน ตถาคเต อนุกฺกเมน อนฺตรธายนฺติ. เตเนตรหิ นตฺถีติ. มหาปุริสสฺสาติ ปณิธิสมาทานาณกรุณาทิคุณมหโต ปุริสสฺส. ทฺเวเยว คติโยติ ทฺเวเยว นิฏฺา. กามฺจายํ คติสทฺโท ‘‘ปฺจ โข อิมา, สาริปุตฺต, คติโย’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๑๕๓) ภวเภเท วตฺตติ. ‘‘คติ มิคานํ ปวน’’นฺติอาทีสุ (ปริ. ๓๙๙) นิวาสฏฺาเน. ‘‘เอวํ อธิมตฺตคติมนฺโต’’ติอาทีสุ ปฺายํ. ‘‘คติคต’’นฺติอาทีสุ วิสฏภาเว. อิธ ปน นิฏฺายํ วตฺตตีติ เวทิตพฺโพ.
ตตฺถ ¶ กิฺจาปิ เยหิ ลกฺขเณหิ สมนฺนาคโต ราชา จกฺกวตฺตี โหติ, น เตเหว พุทฺโธ โหติ; ชาติสามฺโต ปน ตานิเยว ตานีติ วุจฺจนฺติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘เยหิ สมนฺนาคตสฺสา’’ติ. สเจ อคารํ อชฺฌาวสตีติ ยทิ อคาเร วสติ. ราชา โหติ จกฺกวตฺตีติ จตูหิ อจฺฉริยธมฺเมหิ, สงฺคหวตฺถูหิ จ โลกํ รฺชนโต ราชา, จกฺกรตนํ วตฺเตติ, จตูหิ สมฺปตฺติจกฺเกหิ วตฺตติ, เตหิ จ ปรํ วตฺเตติ, ปรหิตาย จ อิริยาปถจกฺกานํ วตฺโต เอตสฺมึ อตฺถีติ จกฺกวตฺตี. เอตฺถ จ ราชาติ สามฺํ. จกฺกวตฺตีติ วิเสสํ. ธมฺเมน จรตีติ ธมฺมิโก. าเยน สเมน วตฺตตีติ อตฺโถ. ธมฺเมน รชฺชํ ลภิตฺวา ราชา ชาโตติ ธมฺมราชา. ปรหิตธมฺมกรเณน วา ธมฺมิโก. อตฺตหิตธมฺมกรเณน ธมฺมราชา. จตุรนฺตาย อิสฺสโรติ จาตุรนฺโต, จตุสมุทฺทอนฺตาย, จตุพฺพิธทีปวิภูสิตาย ปถวิยา อิสฺสโรติ อตฺโถ. อชฺฌตฺตํ ¶ โกปาทิปจฺจตฺถิเก พหิทฺธา จ สพฺพราชาโน วิเชตีติ วิชิตาวี. ชนปทตฺถาวริยปฺปตฺโตติ ชนปเท ธุวภาวํ ถาวรภาวํ ปตฺโต, น สกฺกา เกนจิ จาเลตุํ. ชนปโท วา ตมฺหิ ถาวริยปฺปตฺโต อนุยุตฺโต สกมฺมนิรโต อจโล อสมฺปเวธีติ ชนปทตฺถาวริยปฺปตฺโต.
เสยฺยถิทนฺติ นิปาโต, ตสฺส เจตานิ กตมานีติ อตฺโถ. จกฺกรตนนฺติอาทีสุ จกฺกฺจ, ตํ รติชนนฏฺเน รตนฺจาติ จกฺกรตนํ. เอส นโย สพฺพตฺถ. อิเมสุ ปน รตเนสุ อยํ จกฺกวตฺติราชา จกฺกรตเนน อชิตํ ชินาติ, หตฺถิอสฺสรตเนหิ วิชิเต ยถาสุขํ อนุจรติ, ปริณายกรตเนน ¶ วิชิตมนุรกฺขติ, อวเสเสหิ อุปโภคสุขมนุภวติ. ปเมน จสฺส อุสฺสาหสตฺติโยโค, ปจฺฉิเมน มนฺตสตฺติโยโค, หตฺถิอสฺสคหปติรตเนหิ ปภุสตฺติโยโค สุปริปุณฺโณ โหติ, อิตฺถิมณิรตเนหิ ติวิธสตฺติโยคผลํ. โส อิตฺถิมณิรตเนหิ โภคสุขมนุภวติ, เสเสหิ อิสฺสริยสุขํ. วิเสสโต จสฺส ปุริมานิ ตีณิ อโทสกุสลมูลชนิตกมฺมานุภาเวน สมฺปชฺชนฺติ, มชฺฌิมานิ อโลภกุสลมูลชนิตกมฺมานุภาเวน, ปจฺฉิมเมกํ อโมหกุสลมูลชนิตกมฺมานุภาเวนาติ เวทิตพฺพํ. อยเมตฺถ สงฺเขโป. วิตฺถาโร ปน โพชฺฌงฺคสํยุตฺเต รตนสุตฺตสฺส อุปเทสโต คเหตพฺโพ.
ปโรสหสฺสนฺติ อติเรกสหสฺสํ. สูราติ อภีรุกชาติกา. วีรงฺครูปาติ เทวปุตฺตสทิสกายา. เอวํ ตาว เอเก วณฺณยนฺติ. อยํ ปเนตฺถ สพฺภาโว. วีราติ อุตฺตมสูรา วุจฺจนฺติ, วีรานํ องฺคํ วีรงฺคํ, วีรการณํ วีริยนฺติ วุตฺตํ โหติ. วีรงฺครูปํ เอเตสนฺติ วีรงฺครูปา, วีริยมยสรีรา วิยาติ วุตฺตํ โหติ. ปรเสนปฺปมทฺทนาติ สเจ ปฏิมุขํ ติฏฺเยฺย ปรเสนา ตํ ปริมทฺทิตุํ สมตฺถาติ อธิปฺปาโย. ธมฺเมนาติ ‘‘ปาโณ น หนฺตพฺโพ’’ติอาทินา ปฺจสีลธมฺเมน ¶ . อรหํ โหติ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โลเก วิวฏฺฏจฺฉโทติ เอตฺถ ราคโทสโมหมานทิฏฺิอวิชฺชาทุจฺจริตฉทเนหิ ¶ สตฺตหิ ปฏิจฺฉนฺเน กิเลสนฺธกาเร โลเก ตํ ฉทนํ วิวฏฺเฏตฺวา สมนฺตโต สฺชาตาโลโก หุตฺวา ิโตติ วิวฏฺฏจฺฉโท. ตตฺถ ปเมน ปเทน ปูชารหตา. ทุติเยน ตสฺสา เหตุ, ยสฺมา สมฺมาสมฺพุทฺโธติ, ตติเยน พุทฺธตฺตเหตุภูตา วิวฏฺฏจฺฉทตา วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. อถ วา วิวฏฺโฏ จ วิจฺฉโท จาติ วิวฏฺฏจฺฉโท, วฏฺฏรหิโต ฉทนรหิโต จาติ วุตฺตํ โหติ. เตน อรหํ วฏฺฏาภาเวน, สมฺมาสมฺพุทฺโธ ฉทนาภาเวนาติ เอวํ ปุริมปททฺวยสฺเสว เหตุทฺวยํ วุตฺตํ โหติ, ทุติเยน เวสารชฺเชน เจตฺถ ปุริมสิทฺธิ, ปเมน ทุติยสิทฺธิ, ตติยจตุตฺเถหิ ตติยสิทฺธิ โหติ. ปุริมฺจ ธมฺมจกฺขุํ, ทุติยํ พุทฺธจกฺขุํ, ตติยํ สมนฺตจกฺขุํ สาเธตีติ เวทิตพฺพํ. ตฺวํ มนฺตานํ ปฏิคฺคเหตาติ อิมินา’สฺส มนฺเตสุ สูรภาวํ ชเนติ.
๒๕๙. โสปิ ¶ ตาย อาจริยกถาย ลกฺขเณสุ วิคตสมฺโมโห เอโกภาสชาเต วิย พุทฺธมนฺเต สมฺปสฺสมาโน เอวํ โภติ อาห. ตสฺสตฺโถ – ‘ยถา, โภ, ตฺวํ วทสิ, เอวํ กริสฺสามี’ติ. วฬวารถมารุยฺหาติ วฬวายุตฺตํ รถํ อภิรูหิตฺวา. พฺราหฺมโณ กิร เยน รเถน สยํ วิจรติ, ตเมว รถํ ทตฺวา มาณวํ เปเสสิ. มาณวาปิ โปกฺขรสาติสฺเสว อนฺเตวาสิกา. โส กิร เตสํ – ‘‘อมฺพฏฺเน สทฺธึ คจฺฉถา’’ติ สฺํ อทาสิ.
ยาวติกา ยานสฺส ภูมีติ ยตฺตกํ สกฺกา โหติ ยาเนน คนฺตุํ, อยํ ยานสฺส ภูมิ นาม. ยานา ปจฺโจโรหิตฺวาติ อยานภูมึ, ทฺวารโกฏฺกสมีปํ คนฺตฺวา ยานโต ปฏิโอโรหิตฺวา.
เตน โข ปน สมเยนาติ ยสฺมึ สมเย อมฺพฏฺโ อารามํ ปาวิสิ. ตสฺมึ ปน สมเย, ิตมชฺฌนฺหิกสมเย. กสฺมา ปน ตสฺมึ สมเย จงฺกมนฺตีติ? ปณีตโภชนปจฺจยสฺส ถินมิทฺธสฺส วิโนทนตฺถํ, ทิวาปธานิกา วา เต. ตาทิสานฺหิ ปจฺฉาภตฺตํ จงฺกมิตฺวา นฺหายิตฺวา ¶ สรีรํ อุตุํ คาหาเปตฺวา นิสชฺช สมณธมฺมํ กโรนฺตานํ จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ. เยน เต ภิกฺขูติ โส กิร – ‘‘กุหึ สมโณ โคตโม’’ติ ปริเวณโต ปริเวณํ อนาคนฺตฺวา ‘‘ปุจฺฉิตฺวาว ปวิสิสฺสามี’’ติ วิโลเกนฺโต อรฺหตฺถี วิย มหาจงฺกเม จงฺกมมาเน ปํสุกูลิเก ภิกฺขู ทิสฺวา เตสํ สนฺติกํ อคมาสิ. ตํ สนฺธาย เยน เต ภิกฺขูติอาทิ วุตฺตํ. ทสฺสนายาติ ทฏฺุํ, ปสฺสิตุกามา หุตฺวาติ อตฺโถ.
๒๖๐. อภิฺาตโกลฺโติ ปากฏกุลโช. ตทา กิร ชมฺพุทีเป อมฺพฏฺกุลํ นาม ปากฏกุลมโหสิ ¶ . อภิฺาตสฺสาติ รูปชาติมนฺตกุลาปเทเสหิ ปากฏสฺส. อครูติ อภาริโก. โย หิ อมฺพฏฺํ าเปตุํ น สกฺกุเณยฺย, ตสฺส เตน สทฺธึ กถาสลฺลาโป ครุ ภเวยฺย. ภควโต ปน ตาทิสานํ มาณวานํ สเตนาปิ สหสฺเสนาปิ ¶ ปฺหํ ปุฏฺสฺส วิสฺสชฺชเน ทนฺธายิตตฺตํ นตฺถีติ มฺมานา – ‘‘อครุ โข ปนา’’ติ จินฺตยึสุ. วิหาโรติ คนฺธกุฏึ สนฺธาย อาหํสุ.
อตรมาโนติ อตุริโต, สณิกํ ปทปฺปมาณฏฺาเน ปทํ นิกฺขิปนฺโต วตฺตํ กตฺวา สุสมฺมฏฺํ มุตฺตาทลสินฺทุวารสนฺถรสทิสํ วาลิกํ อวินาเสนฺโตติ อตฺโถ. อาฬินฺทนฺติ ปมุขํ. อุกฺกาสิตฺวาติ อุกฺกาสิตสทฺทํ กตฺวา. อคฺคฬนฺติ ทฺวารกวาฏํ. อาโกเฏหีติ อคฺคนเขหิ สณิกํ กฺุจิกจฺฉิทฺทสมีเป อาโกเฏหีติ วุตฺตํ โหติ. ทฺวารํ กิร อติอุปริ อมนุสฺสา, อติเหฏฺา ทีฆชาติกา โกเฏนฺติ. ตถา อนาโกเฏตฺวา มชฺเฌ ฉิทฺทสมีเป โกเฏตพฺพนฺติ อิทํ ทฺวาราโกฏนวตฺตนฺติ ทีเปนฺตา วทนฺติ.
๒๖๑. วิวริ ภควา ทฺวารนฺติ น ภควา อุฏฺาย ทฺวารํ วิวริ. วิวริยตูติ ปน หตฺถํ ปสาเรสิ. ตโต ‘‘ภควา ตุมฺเหหิ ¶ อเนกาสุ กปฺปโกฏีสุ ทานํ ททมาเนหิ น สหตฺถา ทฺวารวิวรณกมฺมํ กต’’นฺติ สยเมว ทฺวารํ วิวฏํ. ตํ ปน ยสฺมา ภควโต มเนน วิวฏํ, ตสฺมา วิวริ ภควา ทฺวารนฺติ วตฺตุํ วฏฺฏติ.
ภควตา สทฺธึ สมฺโมทึสูติ ยถา ขมนียาทีนิ ปุจฺฉนฺโต ภควา เตหิ, เอวํ เตปิ ภควตา สทฺธึ สมปฺปวตฺตโมทา อเหสุํ. สีโตทกํ วิย อุณฺโหทเกน สมฺโมทิตํ เอกีภาวํ อคมํสุ. ยาย จ ‘‘กจฺจิ, โภ โคตม, ขมนียํ; กจฺจิ ยาปนียํ, กจฺจิ โภโต จ โคตมสฺส สาวกานฺจ อปฺปาพาธํ, อปฺปาตงฺกํ, ลหุฏฺานํ, พลํ, ผาสุวิหาโร’’ติอาทิกาย กถาย สมฺโมทึสุ, ตํ ปีติปาโมชฺชสงฺขาตสมฺโมทชนนโต สมฺโมทิตุํ ยุตฺตภาวโต จ สมฺโมทนียํ, อตฺถพฺยฺชนมธุรตาย สุจิรมฺปิ กาลํ สาเรตุํ นิรนฺตรํ ปวตฺเตตุํ อรหภาวโต สริตพฺพภาวโต จ สารณียํ. สุยฺยมานสุขโต สมฺโมทนียํ, อนุสฺสริยมานสุขโต จ สารณียํ. ตถา พฺยฺชนปริสุทฺธตาย สมฺโมทนียํ, อตฺถปริสุทฺธตาย สารณียํ. เอวํ อเนเกหิ ปริยาเยหิ สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา ปริโยสาเปตฺวา นิฏฺเปตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ.
อมฺพฏฺโ ¶ ปน มาณโวติ โส กิร ภควโต รูปสมฺปตฺติยํ จิตฺตปฺปสาทมตฺตมฺปิ อกตฺวา ‘‘ทสพลํ ¶ อปสาเทสฺสามี’’ติ อุทเร พทฺธสาฏกํ มฺุจิตฺวา กณฺเ โอลมฺเพตฺวา เอเกน หตฺเถน ทุสฺสกณฺณํ คเหตฺวา จงฺกมํ อภิรูหิตฺวา กาเลน พาหุํ, กาเลน อุทรํ, กาเลน ปิฏฺึ ทสฺเสนฺโต, กาเลน หตฺถวิการํ, กาเลน ภมุกวิการํ กโรนฺโต, ‘‘กจฺจิ เต โภ, โคตม, ธาตุสมตา, กจฺจิ ภิกฺขาหาเรน น กิลมถ, อกิลมถากาโรเยว ปน เต ปฺายติ; ถูลานิ หิ เต องฺคปจฺจงฺคานิ, ปาสาทิกตฺถ คตคตฏฺาเน. ‘เต พหุชนา ราชปพฺพชิโตติ จ พุทฺโธ’ติ จ อุปฺปนฺนพหุมานา ปณีตํ โอชวนฺตมาหารํ เทนฺติ. ปสฺสถ, โภ, เคหํ, จิตฺตสาลา วิย, ทิพฺพปาสาโท วิย. อิมํ มฺจํ ปสฺสถ, พิมฺโพหนํ ปสฺสถ, กึ เอวรูเป าเน วสนฺตสฺส สมณธมฺมํ กาตุํ ทุกฺกร’’นฺติ เอวรูปํ อุปฺปณฺฑนกถํ อนาจารภาวสารณียํ กเถติ, เตน ¶ วุตฺตํ – ‘‘อมฺพฏฺโ ปน มาณโว จงฺกมนฺโตปิ นิสินฺเนน ภควตา กิฺจิ กิฺจิ กถํ สารณียํ วีติสาเรติ, ิโตปิ นิสินฺเนน ภควตา กิฺจิ กิฺจิ กถํ สารณียํ วีติสาเรตี’’ติ.
๒๖๒. อถ โข ภควาติ อถ ภควา – ‘‘อยํ มาณโว หตฺถํ ปสาเรตฺวา ภวคฺคํ คเหตุกาโม วิย, ปาทํ ปสาเรตฺวา อวีจึ วิจริตุกาโม วิย, มหาสมุทฺทํ ตริตุกาโม วิย, สิเนรุํ อาโรหิตุกาโม วิย จ อฏฺาเน วายมติ, หนฺท, เตน สทฺธึ มนฺเตมี’’ติ อมฺพฏฺํ มาณวํ เอตทโวจ. อาจริยปาจริเยหีติ อาจริเยหิ จ เตสํ อาจริเยหิ จ.
ปมอิพฺภวาทวณฺณนา
๒๖๓. คจฺฉนฺโต วาติ เอตฺถ กามํ ตีสุ อิริยาปเถสุ พฺราหฺมโณ อาจริยพฺราหฺมเณน สทฺธึ สลฺลปิตุมรหติ. อยํ ปน มาณโว มานถทฺธตาย กถาสลฺลาปํ กโรนฺโต จตฺตาโรปิ อิริยาปเถ โยเชสฺสามีติ ‘‘สยาโน วา หิ, โภ โคตม, สยาเนนา’’ติ อาห.
ตโต ¶ กิร ตํ ภควา – ‘‘อมฺพฏฺ, คจฺฉนฺตสฺส วา คจฺฉนฺเตน, ิตสฺส วา ิเตน, นิสินฺนสฺส วา นิสินฺเนนาจริเยน สทฺธึ กถา นาม สพฺพาจริเยสุ ลพฺภติ. ตฺวํ ปน สยาโน สยาเนนาจริเยน สทฺธึ กเถสิ, กึ เต อาจริโย โครูปํ, อุทาหุ ตฺว’’นฺติ อาห. โส กุชฺฌิตฺวา – ‘‘เย จ โข เต, โภ โคตม, มุณฺฑกา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ มุณฺเฑ มุณฺฑาติ สมเณ จ สมณาติ วตฺตุํ วฏฺเฏยฺย. อยํ ปน หีเฬนฺโต มุณฺฑกา สมณกาติ อาห. อิพฺภาติ คหปติกา. กณฺหาติ กณฺหา, กาฬกาติ อตฺโถ. พนฺธุปาทาปจฺจาติ เอตฺถ พนฺธูติ พฺรหฺมา อธิปฺเปโต. ตฺหิ พฺราหฺมณา ปิตามโหติ โวหรนฺติ. ปาทานํ อปจฺจา ปาทาปจฺจา, พฺรหฺมุโน ปิฏฺิปาทโต ¶ ชาตาติ อธิปฺปาโย. ตสฺส กิร อยํ ลทฺธิ – พฺราหฺมณา พฺรหฺมุโน มุขโต นิกฺขนฺตา, ขตฺติยา อุรโต, เวสฺสา นาภิโต, สุทฺทา ชาณุโต, สมณา ปิฏฺิปาทโตติ. เอวํ กเถนฺโต จ ปเนส กิฺจาปิ อนิยเมตฺวา กเถติ. อถ โข ภควนฺตเมว วทามีติ กเถติ.
อถ โข ภควา – ‘‘อยํ อมฺพฏฺโ อาคตกาลโต ปฏฺาย มยา สทฺธึ กถยมาโน มานเมว นิสฺสาย กเถสิ, อาสีวิสํ ¶ คีวายํ คณฺหนฺโต วิย, อคฺคิกฺขนฺธํ อาลิงฺคนฺโต วิย, มตฺตวารณํ โสณฺฑาย ปรามสนฺโต วิย, อตฺตโน ปมาณํ น ชานาติ. หนฺท นํ ชานาเปสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘อตฺถิกวโต โข ปน เต, อมฺพฏฺา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อาคนฺตฺวา กตฺตพฺพกิจฺจสงฺขาโต อตฺโถ, เอตสฺส อตฺถีติ อตฺถิกํ, ตสฺส มาณวสฺส จิตฺตํ. อตฺถิกมสฺส อตฺถีติ อตฺถิกวา, ตสฺส อตฺถิกวโต ตว อิธาคมนํ อโหสีติ อตฺโถ.
โข ปนาติ นิปาตมตฺตํ. ยาเยว โข ปนตฺถายาติ เยเนว โข ปนตฺเถน. อาคจฺเฉยฺยาถาติ มม วา อฺเสํ วา สนฺติกํ ยทา กทาจิ อาคจฺเฉยฺยาถ. ตเมว อตฺถนฺติ อิทํ ปุริสลิงฺควเสเนว วุตฺตํ. มนสิ กเรยฺยาถาติ จิตฺเต กเรยฺยาถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ตฺวํ อาจริเยน อตฺตโน กรณีเยน เปสิโต, น อมฺหากํ ปริภวนตฺถาย, ตสฺมา ตเมว กิจฺจํ มนสิ กโรหีติ. เอวมสฺส อฺเสํ สนฺติกํ อาคตานํ วตฺตํ ทสฺเสตฺวา มานนิคฺคณฺหนตฺถํ ‘‘อวุสิตวาเยว โข ปนา’’ติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ ปสฺสถ โภ อยํ อมฺพฏฺโ มาณโว อาจริยกุเล อวุสิตวา ¶ อสิกฺขิโต อปฺปสฺสุโตว สมาโน. วุสิตมานีติ ‘‘อหํ วุสิตวา สิกฺขิโต พหุสฺสุโต’’ติ อตฺตานํ มฺติ. เอตสฺส หิ เอวํ ผรุสวจนสมุทาจาเร การณํ กิมฺตฺร อวุสิตตฺตาติ อาจริยกุเล อสํวุทฺธา อสิกฺขิตา อปฺปสฺสุตาเยว หิ เอวํ วทนฺตีติ.
๒๖๔. กุปิโตติ กุทฺโธ. อนตฺตมโนติ อสกมโน, กึ ปน ภควา ตสฺส กุชฺฌนภาวํ ตฺวา เอวมาห อุทาหุ อตฺวาติ? ตฺวา อาหาติ. กสฺมา ตฺวา อาหาติ? ตสฺส มานนิมฺมทนตฺถํ. ภควา หิ อฺาสิ – ‘‘อยํ มยา เอวํ วุตฺเต กุชฺฌิตฺวา มม าตเก อกฺโกสิสฺสติ. อถสฺสาหํ ยถา นาม กุสโล ภิสกฺโก โทสํ อุคฺคิเลตฺวา นีหรติ, เอวเมว โคตฺเตน โคตฺตํ, กุลาปเทเสน กุลาปเทสํ ¶ , อุฏฺาเปตฺวา ภวคฺคปฺปมาเณน วิย อุฏฺิตํ มานทฺธชํ มูเล เฉตฺวา นิปาเตสฺสามี’’ติ. ขุํเสนฺโตติ ฆฏฺเฏนฺโต. วมฺเภนฺโตติ หีเฬนฺโต. ปาปิโต ภวิสฺสตีติ จณฺฑภาวาทิโทสํ ปาปิโต ภวิสฺสติ.
จณฺฑาติ ¶ มานนิสฺสิตโกธยุตฺตา. ผรุสาติ ขรา. ลหุสาติ ลหุกา. อปฺปเกเนว ตุสฺสนฺติ วา ทุสฺสนฺติ วา อุทกปิฏฺเ อลาพุกฏาหํ วิย อปฺปเกเนว อุปฺลวนฺติ. ภสฺสาติ พหุภาณิโน. สกฺยานํ มุเข วิวเฏ อฺสฺส วจโนกาโส นตฺถีติ อธิปฺปาเยเนว วทติ. สมานาติ อิทํ สนฺตาติ ปุริมปทสฺส เววจนํ. น สกฺกโรนฺตีติ น พฺราหฺมณานํ สุนฺทเรนากาเรน กโรนฺติ. น ครุํ กโรนฺตีติ พฺราหฺมเณสุ คารวํ น กโรนฺติ. น มาเนนฺตีติ น มเนน ปิยายนฺติ. น ปูเชนฺตีติ มาลาทีหิ เนสํ ปูชํ น กโรนฺติ. น อปจายนฺตีติ อภิวาทนาทีหิ เนสํ อปจิติกมฺมํ นีจวุตฺตึ น ทสฺเสนฺติ ตยิทนฺติ ตํ อิทํ. ยทิเม สกฺยาติ ยํ อิเม สกฺยา น พฺราหฺมเณ สกฺกโรนฺติ…เป… น อปจายนฺติ, ตํ เตสํ อสกฺการกรณาทิ สพฺพํ น ยุตฺตํ, นานุโลมนฺติ อตฺโถ.
ทุติยอิพฺภวาทวณฺณนา
๒๖๕. อปรทฺธุนฺติ อปรชฺฌึสุ. เอกมิทาหนฺติ เอตฺถ อิทนฺติ นิปาตมตฺตํ. เอกํ อหนฺติ อตฺโถ. สนฺธาคารนฺติ รชฺชอนุสาสนสาลา. สกฺยาติ อภิสิตฺตราชาโน ¶ . สกฺยกุมาราติ อนภิสิตฺตา. อุจฺเจสูติ ยถานุรูเปสุ ปลฺลงฺกปีกเวตฺตาสนผลกจิตฺตตฺถรณาทิเภเทสุ. สฺชคฺฆนฺตาติ อุปฺปณฺฑนวเสน มหาหสิตํ หสนฺตา. สํกีฬนฺตาติ หสิตมตฺต กรณองฺคุลิสงฺฆฏฺฏนปาณิปฺปหารทานาทีนิ กโรนฺตา. มมฺเว มฺเติ เอวมหํ มฺามิ, มมฺเว อนุหสนฺติ, น อฺนฺติ.
กสฺมา ปน เต เอวมกํสูติ? เต ¶ กิร อมฺพฏฺสฺส กุลวํสํ ชานนฺติ. อยฺจ ตสฺมึ สมเย ยาว ปาทนฺตา โอลมฺเพตฺวา นิวตฺถสาฏกสฺส เอเกน หตฺเถน ทุสฺสกณฺณํ คเหตฺวา ขนฺธฏฺิกํ นาเมตฺวา มานมเทน มตฺโต วิย อาคจฺฉติ. ตโต – ‘‘ปสฺสถ โภ อมฺหากํ ทาสสฺส กณฺหายนโคตฺตสฺส อมฺพฏฺสฺส อาคมนการณ’’นฺติ วทนฺตา เอวมกํสุ. โสปิ อตฺตโน กุลวํสํ ชานาติ. ตสฺมา ‘‘มมฺเว มฺเ’’ติ ตกฺกยิตฺถ.
อาสเนนาติ ‘‘อิทมาสนํ, เอตฺถ นิสีทาหี’’ติ เอวํ อาสเนน นิมนฺตนํ นาม โหติ, ตถา น โกจิ อกาสิ.
ตติยอิพฺภวาทวณฺณนา
๒๖๖. ลฏุกิกาติ ¶ เขตฺตเลฑฺฑูนํ อนฺตเรนิวาสินี ขุทฺทกสกุณิกา. กุลาวเกติ นิวาสนฏฺาเน. กามลาปินีติ ยทิจฺฉกภาณินี, ยํ ยํ อิจฺฉติ ตํ ตํ ลปติ, น ตํ โกจิ หํโส วา โกฺโจ วา โมโร วา อาคนฺตฺวา ‘‘กึ ตฺวํ ลปสี’ติ นิเสเธติ. อภิสชฺชิตุนฺติ โกธวเสน ลคฺคิตุํ.
เอวํ วุตฺเต มาณโว – ‘‘อยํ สมโณ โคตโม อตฺตโน าตเก ลฏุกิกสทิเส กตฺวา อมฺเห หํสโกฺจโมรสทิเส กโรติ, นิมฺมาโน ทานิ ชาโต’’ติ มฺมาโน อุตฺตริ จตฺตาโร วณฺเณ ทสฺเสติ.
ทาสิปุตฺตวาทวณฺณนา
๒๖๗. นิมฺมาเทตีติ นิมฺมเทติ นิมฺมาเน กโรติ. ยํนูนาหนฺติ ยทิ ปนาหํ. ‘‘กณฺหายโนหมสฺมิ, โภ โคตมา’’ติ อิทํ กิร วจนํ อมฺพฏฺโ ติกฺขตฺตุํ ¶ มหาสทฺเทน อโวจ. กสฺมา อโวจ? กึ อสุทฺธภาวํ น ชานาตีติ? อาม ชานาติ. ชานนฺโตปิ ภวปฏิจฺฉนฺนเมตํ การณํ, ตํ อเนน น ทิฏฺํ. อปสฺสนฺโต มหาสมโณ กึ วกฺขตีติ มฺมาโน มานถทฺธตาย อโวจ. มาตาเปตฺติกนฺติ มาตาปิตูนํ สนฺตกํ. นามโคตฺตนฺติ ปณฺณตฺติวเสน นามํ, ปเวณีวเสน โคตฺตํ. อนุสฺสรโตติ อนุสฺสรนฺตสฺส กุลโกฏึ โสเธนฺตสฺส. อยฺยปุตฺตาติ สามิโน ปุตฺตา. ทาสิปุตฺโตติ ฆรทาสิยาว ปุตฺโต. ตสฺมา ยถา ทาเสน สามิโน อุปสงฺกมิตพฺพา, เอวํ อนุปสงฺกมนฺตํ ¶ ตํ ทิสฺวา สกฺยา อนุชคฺฆึสูติ ทสฺเสติ.
อิโต ปรํ ตสฺส ทาสภาวํ สกฺยานฺจ สามิภาวํ ปกาเสตฺวา อตฺตโน จ อมฺพฏฺสฺส จ กุลวํสํ อาหรนฺโต สกฺยา โข ปนาติอาทิมาห. ตตฺถ ทหนฺตีติ เปนฺติ, โอกฺกาโก โน ปุพฺพปุริโสติ, เอวํ กโรนฺตีติ อตฺโถ. ตสฺส กิร รฺโ กถนกาเล อุกฺกา วิย มุขโต ปภา นิจฺฉรติ, ตสฺมา ตํ ‘‘โอกฺกาโก’’ติ สฺชานึสูติ. ปพฺพาเชสีติ นีหริ.
อิทานิ เต นามวเสน ทสฺเสนฺโต – ‘‘โอกฺกามุข’’นฺติอาทิมาห. ตตฺรายํ อนุปุพฺพี กถา – ปมกปฺปิกานํ กิร รฺโ มหาสมฺมตสฺส โรโช นาม ปุตฺโต อโหสิ. โรชสฺส วรโรโช, วรโรชสฺส กลฺยาโณ, กลฺยาณสฺส วรกลฺยาโณ, วรกลฺยาณสฺส มนฺธาตา, มนฺธาตุสฺส วรมนฺธาตา ¶ , วรมนฺธาตุสฺส อุโปสโถ, อุโปสถสฺส วโร, วรสฺส อุปวโร, อุปวรสฺส มฆเทโว, มฆเทวสฺส ปรมฺปราย จตุราสีติขตฺติยสหสฺสานิ อเหสุํ. เตสํ ปจฺฉโต ตโย โอกฺกากวํสา อเหสุํ. เตสุ ตติยโอกฺกากสฺส ปฺจ มเหสิโย อเหสุํ – หตฺถา, จิตฺตา, ชนฺตุ, ชาลินี, วิสาขาติ. เอเกกิสฺสา ปฺจปฺจอิตฺถิสตปริวารา. สพฺพเชฏฺาย จตฺตาโร ปุตฺตา – โอกฺกามุโข, กรกณฺฑุ, หตฺถินิโก, สินิสูโรติ. ปฺจ ธีตโร – ปิยา, สุปฺปิยา, อานนฺทา, วิชิตา, วิชิตเสนาติ. อิติ สา นว ปุตฺเต วิชายิตฺวา กาลมกาสิ.
อถ ราชา อฺํ ทหรึ อภิรูปํ ราชธีตรํ อาเนตฺวา อคฺคมเหสิฏฺาเน เปสิ. สา ชนฺตุํ นาม ปุตฺตํ วิชายิ. อถ นํ ปฺจมทิวเส อลงฺกริตฺวา ¶ รฺโ ทสฺเสสิ. ราชา ตุฏฺโ ตสฺสา วรํ อทาสิ. สา าตเกหิ สทฺธึ มนฺเตตฺวา ปุตฺตสฺส รชฺชํ ยาจิ. ราชา – ‘‘นสฺส, วสลิ, มม ปุตฺตานํ อนฺตรายํ อิจฺฉสี’’ติ ตชฺเชสิ. สา ปุนปฺปุนํ รโห ราชานํ ปริโตเสตฺวา – ‘‘มหาราช, มุสาวาโท นาม น วฏฺฏตี’’ติอาทีนิ วตฺวา ยาจติเยว. อถ ราชา ปุตฺเต อามนฺเตสิ – ‘‘อหํ ตาตา, ตุมฺหากํ กนิฏฺํ ชนฺตุกุมารํ ทิสฺวา ตสฺส มาตุยา สหสา วรํ อทาสึ ¶ , สา ปุตฺตสฺส รชฺชํ ปริณาเมตุํ อิจฺฉติ. ตุมฺเห เปตฺวา มงฺคลหตฺถึ มงฺคลอสฺสํ มงฺคลรถฺจ ยตฺตเก อิจฺฉถ, ตตฺตเก หตฺถิอสฺสรเถ คเหตฺวา คจฺฉถ. มมจฺจเยน อาคนฺตฺวา รชฺชํ กเรยฺยาถา’’ติ, อฏฺหิ อมจฺเจหิ สทฺธึ อุยฺโยเชสิ.
เต นานปฺปการํ โรทิตฺวา กนฺทิตฺวา – ‘‘ตาต, อมฺหากํ โทสํ ขมถา’’ติ ราชานฺเจว ราโชโรเธ จ ขมาเปตฺวา, ‘‘มยมฺปิ ภาตูหิ สทฺธึ คจฺฉามา’’ติ ราชานํ อาปุจฺฉิตฺวา นครา นิกฺขนฺตา ภคินิโย อาทาย จตุรงฺคินิยา เสนาย ปริวุตา นครา นิกฺขมึสุ. ‘‘กุมารา ปิตุอจฺจเยน อาคนฺตฺวา รชฺชํ กาเรสฺสนฺติ, คจฺฉาม เน อุปฏฺหามา’’ติ จินฺเตตฺวา พหู มนุสฺสา อนุพนฺธึสุ. ปมทิวเส โยชนมตฺตา เสนา อโหสิ, ทุติเย ทฺวิโยชนมตฺตา, ตติเย ติโยชนมตฺตา. กุมารา มนฺตยึสุ – ‘‘มหา พลกาโย, สเจ มยํ กฺจิ สามนฺตราชานํ มทฺทิตฺวา ชนปทํ คณฺเหยฺยาม, โสปิ โน นปฺปสเหยฺย. กึ ปเรสํ ปีฬาย กตาย, มหา อยํ ชมฺพุทีโป, อรฺเ นครํ มาเปสฺสามา’’ติ หิมวนฺตาภิมุขา คนฺตฺวา นครวตฺถุํ ปริเยสึสุ.
ตสฺมิฺจ สมเย อมฺหากํ โพธิสตฺโต พฺราหฺมณมหาสาลกุเล นิพฺพตฺติตฺวา กปิลพฺราหฺมโณ นาม หุตฺวา นิกฺขมฺม อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา หิมวนฺตปสฺเส โปกฺขรณิยา ตีเร สากวนสณฺเฑ ปณฺณสาลํ มาเปตฺวา วสติ. โส กิร ภุมฺมชาลํ นาม วิชฺชํ ชานาติ, ยาย อุทฺธํ อสีติหตฺเถ อากาเส, เหฏฺา จ ภูมิยมฺปิ คุณโทสํ ปสฺสติ. เอตสฺมึ ปเทเส ติณคุมฺพลตา ¶ ทกฺขิณาวฏฺฏา ปาจีนาภิมุขา ชายนฺติ. สีหพฺยคฺฆาทโย มิคสูกเร สปฺปพิฬารา จ มณฺฑูกมูสิเก อนุพนฺธมานา ตํ ปเทสํ ปตฺวา น สกฺโกนฺติ เต อนุพนฺธิตุํ. เตหิ เต อฺทตฺถุ ¶ สนฺตชฺชิตา นิวตฺตนฺติเยว. โส – ‘‘อยํ ปถวิยา อคฺคปเทโส’’ติ ตฺวา ตตฺถ อตฺตโน ปณฺณสาลํ มาเปสิ.
อถ เต กุมาเร นครวตฺถุํ ปริเยสมาเน อตฺตโน วสโนกาสํ ¶ อาคเต ทิสฺวา ปุจฺฉิตฺวา ตํ ปวตฺตึ ตฺวา เตสุ อนุกมฺปํ ชเนตฺวา อโวจ – ‘‘อิมสฺมึ ปณฺณสาลฏฺาเน มาปิตํ นครํ ชมฺพุทีเป อคฺคนครํ ภวิสฺสติ. เอตฺถ ชาตปุริเสสุ เอเกโก ปุริสสตมฺปิ ปุริสสหสฺสมฺปิ อภิภวิตุํ สกฺขิสฺสติ. เอตฺถ นครํ มาเปถ, ปณฺณสาลฏฺาเน รฺโ ฆรํ กโรถ. อิมสฺมิฺหิ โอกาเส ตฺวา จณฺฑาลปุตฺโตปิ จกฺกวตฺติพเลน อติเสยฺโย’’ติ. นนุ, ภนฺเต, อยฺยสฺส วสโนกาโสติ? ‘‘มม วสโนกาโส’’ติ มา จินฺตยิตฺถ. มยฺหํ เอกปสฺเส ปณฺณสาลํ กตฺวา นครํ มาเปตฺวา กปิลวตฺถุนฺติ นามํ กโรถา’’ติ. เต ตถา กตฺวา ตตฺถ นิวาสํ กปฺเปสุํ.
อถามจฺจา – ‘‘อิเม ทารกา วยปฺปตฺตา, สเจ เนสํ ปิตา สนฺติเก ภเวยฺย, โส อาวาหวิวาหํ กเรยฺย. อิทานิ ปน อมฺหากํ ภาโร’’ติ จินฺเตตฺวา กุมาเรหิ สทฺธึ มนฺตยึสุ. กุมารา อมฺหากํ สทิสา ขตฺติยธีตโร นาม น ปสฺสาม, นาปิ ภคินีนํ สทิเส ขตฺติยกุมารเก, อสทิสสํโยเค จ โน อุปฺปนฺนา ปุตฺตา มาติโต วา ปิติโต วา อปริสุทฺธา ชาติสมฺเภทํ ปาปุณิสฺสนฺติ. ตสฺมา มยํ ภคินีหิเยว สทฺธึ สํวาสํ โรเจมาติ. เต ชาติสมฺเภทภเยน เชฏฺกภคินึ มาตุฏฺาเน เปตฺวา อวเสสาหิ สํวาสํ กปฺเปสุํ.
เตสํ ปุตฺเตหิ จ ธีตาหิ จ วฑฺฒมานานํ อปเรน สมเยน เชฏฺกภคินิยา กุฏฺโรโค อุทปาทิ, โกวิฬารปุปฺผสทิสานิ คตฺตานิ อเหสุํ. ราชกุมารา อิมาย สทฺธึ เอกโต นิสชฺชฏฺานโภชนาทีนิ กโรนฺตานมฺปิ อุปริ อยํ โรโค สงฺกมตีติ จินฺเตตฺวา เอกทิวสํ อุยฺยานกีฬํ คจฺฉนฺตา วิย ตํ ยาเน อาโรเปตฺวา อรฺํ ปวิสิตฺวา ภูมิยํ โปกฺขรณึ ขณาเปตฺวา ตตฺถ ขาทนียโภชนีเยน สทฺธึ ตํ ปกฺขิปิตฺวา ฆรสงฺเขเปน อุปริ ปทรํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ปํสุํ ทตฺวา ปกฺกมึสุ.
เตน ¶ จ สมเยน ราโม นาม พาราณสิราชา กุฏฺโรโค นาฏกิตฺถีหิ จ โอโรเธหิ จ ชิคุจฺฉิยมาโน เตน สํเวเคน เชฏฺปุตฺตสฺส รชฺชํ ทตฺวา อรฺํ ปวิสิตฺวา ตตฺถ ปณฺณสาลํ มาเปตฺวา ¶ มูลผลานิ ปริภฺุชนฺโต นจิรสฺเสว อโรโค สุวณฺณวณฺโณ หุตฺวา อิโต จิโต จ วิจรนฺโต ¶ มหนฺตํ สุสิรรุกฺขํ ทิสฺวา ตสฺสพฺภนฺตเร โสฬสหตฺถปฺปมาณํ โอกาสํ โสเธตฺวา ทฺวารฺจ วาตปานฺจ โยเชตฺวา นิสฺเสณึ พนฺธิตฺวา ตตฺถ วาสํ กปฺเปสิ. โส องฺคารกฏาเห อคฺคึ กตฺวา รตฺตึ มิคสูกราทีนํ สทฺเท สุณนฺโต สยติ. โส – ‘‘อสุกสฺมึ ปเทเส สีโห สทฺทมกาสิ, อสุกสฺมึ พฺยคฺโฆ’’ติ สลฺลกฺเขตฺวา ปภาเต ตตฺถ คนฺตฺวา วิฆาสมํสํ อาทาย ปจิตฺวา ขาทติ.
อเถกทิวสํ ตสฺมึ ปจฺจูสสมเย อคฺคึ ชาเลตฺวา นิสินฺเน ราชธีตาย สรีรคนฺเธน อาคนฺตฺวา พฺยคฺโฆ ตสฺมึ ปเทเส ปํสุํ วิยูหนฺโต ปทเร วิวรมกาสิ, เตน จ วิวเรน สา พฺยคฺฆํ ทิสฺวา ภีตา วิสฺสรมกาสิ. โส ตํ สทฺทํ สุตฺวา – ‘‘อิตฺถิสทฺโท เอโส’’ติ จ สลฺลกฺเขตฺวา ปาโตว ตตฺถ คนฺตฺวา – ‘‘โก เอตฺถา’’ติ อาห. มาตุคาโม สามีติ. กึ ชาติกาสีติ? โอกฺกากมหาราชสฺส ธีตา สามีติ. นิกฺขมาติ? น สกฺกา สามีติ. กึ การณาติ? ฉวิโรโค เม อตฺถีติ. โส สพฺพํ ปวตฺตึ ปุจฺฉิตฺวา ขตฺติยมาเนน อนิกฺขมนฺตึ – ‘‘อหมฺปิ ขตฺติโย’’ติ อตฺตโน ขตฺติยภาวํ ชานาเปตฺวา นิสฺเสณึ ทตฺวา อุทฺธริตฺวา อตฺตโน วสโนกาสํ เนตฺวา สยํ ปริภุตฺตเภสชฺชานิเยว ทตฺวา นจิรสฺเสว อโรคํ สุวณฺณวณฺณํ กตฺวา ตาย สทฺธึ สํวาสํ กปฺเปสิ. สา ปมสํวาเสเนว คพฺภํ คณฺหิตฺวา ทฺเว ปุตฺเต วิชายิ, ปุนปิ ทฺเวติ, เอวํ โสฬสกฺขตฺตุมฺปิ วิชายิ. เอวํ ทฺวตฺตึส ภาตโร อเหสุํ. เต อนุปุพฺเพน วุฑฺฒิปฺปตฺเต ปิตา สพฺพสิปฺปานิ สิกฺขาเปสิ.
อเถกทิวสํ เอโก รามรฺโ นครวาสี วนจรโก ปพฺพเต รตนานิ คเวสนฺโต ราชานํ ทิสฺวา สฺชานิตฺวา อาห – ‘‘ชานามหํ, เทว, ตุมฺเห’’ติ. ตโต นํ ราชา สพฺพํ ปวตฺตึ ปุจฺฉิ. ตสฺมึเยว จ ขเณ เต ทารกา อาคมึสุ. โส เต ทิสฺวา – ‘‘เก อิเม’’ติ อาห. ‘‘ปุตฺตา เม’’ติ จ วุตฺเต เตสํ มาติกวํสํ ¶ ปุจฺฉิตฺวา – ‘‘ลทฺธํ ทานิ เม ¶ ปาภต’’นฺติ นครํ คนฺตฺวา รฺโ อาโรเจสิ. โส ‘ปิตรํ อานยิสฺสามี’ติ จตุรงฺคินิยา เสนาย ตตฺถ คนฺตฺวา ปิตรํ วนฺทิตฺวา – ‘‘รชฺชํ, เทว, สมฺปฏิจฺฉา’’ติ ยาจิ. โส – ‘‘อลํ, ตาต, น ตตฺถ คจฺฉามิ, อิเธว เม อิมํ รุกฺขํ อปเนตฺวา นครํ มาเปหี’’ติ อาห. โส ตถา กตฺวา ตสฺส นครสฺส โกลรุกฺขํ อปเนตฺวา กตตฺตา โกลนครนฺติ จ พฺยคฺฆปเถ กตตฺตา พฺยคฺฆปถนฺติ จาติ ทฺเว นามานิ อาโรเปตฺวา ปิตรํ วนฺทิตฺวา อตฺตโน นครํ อคมาสิ.
ตโต วยปฺปตฺเต กุมาเร มาตา อาห – ‘‘ตาตา, ตุมฺหากํ กปิลวตฺถุวาสิโน สกฺยา มาตุลา สนฺติ. มาตุลธีตานํ ปน โว เอวรูปํ นาม เกสคฺคหณํ โหติ, เอวรูปํ ทุสฺสคหณํ. ยทา ¶ ตา นฺหานติตฺถํ อาคจฺฉนฺติ, ตทา คนฺตฺวา ยสฺส ยา รุจฺจติ, โส ตํ คณฺหตู’’ติ. เต ตเถว คนฺตฺวา ตาสุ นฺหตฺวา สีสํ สุกฺขาปยมานาสุ ยํ ยํ อิจฺฉึสุ, ตํ ตํ คเหตฺวา นามํ สาเวตฺวา อคมึสุ. สกฺยราชาโน สุตฺวา ‘‘โหตุ, ภเณ, อมฺหากํ าตกา เอว เต’’ติ ตุณฺหี อเหสุํ. อยํ สกฺยโกลิยานํ อุปฺปตฺติ. เอวํ เตสํ สกฺยโกลิยานํ อฺมฺํ อาวาหวิวาหํ กโรนฺตานํ ยาว พุทฺธกาลา อนุปจฺฉินฺโนว วํโส อาคโต. ตตฺถ ภควา สกฺยวํสํ ทสฺเสตุํ – ‘‘เต รฏฺสฺมา ปพฺพาชิตา หิมวนฺตปสฺเส โปกฺขรณิยา ตีเร’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สมฺมนฺตีติ วสนฺติ. สกฺยา วต โภติ รฏฺสฺมา ปพฺพาชิตา อรฺเ วสนฺตาปิ ชาติสมฺเภทมกตฺวา กุลวํสํ อนุรกฺขิตุํ สกฺยา, สมตฺถา, ปฏิพลาติ อตฺโถ. ตทคฺเคติ ตํ อคฺคํ กตฺวา, ตโต ปฏฺายาติ อตฺโถ. โส จ เนสํ ปุพฺพปุริโสติ โส โอกฺกาโก ราชา เอเตสํ ปุพฺพปุริโส. นตฺถิ เอเตสํ คหปติวํเสน สมฺเภทมตฺตมฺปีติ.
เอวํ สกฺยวํสํ ปกาเสตฺวา อิทานิ อมฺพฏฺวํสํ ปกาเสนฺโต – ‘‘รฺโ โข ปนา’’ติอาทิมาห. กณฺหํ ¶ นาม ชเนสีติ กาฬวณฺณํ อนฺโตกุจฺฉิยํเยว สฺชาตทนฺตํ ปรูฬฺหมสฺสุทาิกํ ปุตฺตํ วิชายิ. ปพฺยาหาสีติ ยกฺโข ชาโตติ ภเยน ปลายิตฺวา ทฺวารํ ปิธาย ิเตสุ ฆรมานุสเกสุ อิโต จิโต จ วิจรนฺโต โธวถ มนฺติอาทีนิ วทนฺโต อุจฺจาสทฺทมกาสิ.
๒๖๘. เต ¶ มาณวกา ภควนฺตํ เอตทโวจุนฺติ อตฺตโน อุปารมฺภโมจนตฺถาย – ‘‘เอตํ มา ภว’’นฺติอาทิวจนํ อโวจุํ. เตสํ กิร เอตทโหสิ – ‘‘อมฺพฏฺโ อมฺหากํ อาจริยสฺส เชฏฺนฺเตวาสี, สเจ มยํ เอวรูเป าเน เอกทฺเววจนมตฺตมฺปิ น วกฺขาม, อยํ โน อาจริยสฺส สนฺติเก อมฺเห ปริภินฺทิสฺสตี’’ติ อุปารมฺภโมจนตฺถํ เอวํ อโวจุํ. จิตฺเตน ปนสฺส นิมฺมทภาวํ อากงฺขนฺติ. อยํ กิร มานนิสฺสิตตฺตา เตสมฺปิ อปฺปิโยว. กลฺยาณวากฺกรโณติ มธุรวจโน. อสฺมึ วจเนติ อตฺตนา อุคฺคหิเต เวทตฺตยวจเน. ปฏิมนฺเตตุนฺติ ปุจฺฉิตํ ปฺหํ ปฏิกเถตุํ, วิสฺสชฺเชตุนฺติ อตฺโถ. เอตสฺมึ วา ทาสิปุตฺตวจเน. ปฏิมนฺเตตุนฺติ อุตฺตรํ กเถตุํ.
๒๖๙. อถ โข ภควาติ อถ โข ภควา – ‘‘สเจ อิเม มาณวกา เอตฺถ นิสินฺนา เอวํ อุจฺจาสทฺทํ กริสฺสนฺติ, อยํ กถา ปริโยสานํ น คมิสฺสติ. หนฺท, เน นิสฺสทฺเท กตฺวา อมฺพฏฺเเนว สทฺธึ กเถมี’’ติ เต มาณวเก เอตทโวจ. ตตฺถ มนฺตวฺโหติ มนฺตยถ. มยา สทฺธึ ปฏิมนฺเตตูติ มยา สห กเถตุ. เอวํ วุตฺเต มาณวกา จินฺตยึสุ – ‘‘อมฺพฏฺโ ตาว ทาสิปุตฺโตสีติ วุตฺเต ปุน สีสํ อุกฺขิปิตุํ นาสกฺขิ. อยํ โข ชาติ นาม ทุชฺชานา, สเจ ¶ อฺมฺปิ กิฺจิ สมโณ โคตโม ‘ตฺวํ ทาโส’ติ วกฺขติ, โก เตน สทฺธึ อฑฺฑํ กริสฺสติ. อมฺพฏฺโ อตฺตนา พทฺธํ ปุฏกํ อตฺตนาว โมเจตู’’ติ อตฺตานํ ปริโมเจตฺวา ตสฺเสว อุปริ ขิปนฺตา – ‘‘สุชาโต จ โภ โคตมา’’ติอาทิมาหํสุ.
๒๗๐. สหธมฺมิโกติ สเหตุโก สการโณ. อกามา พฺยากาตพฺโพติ อตฺตนา อนิจฺฉนฺเตนปิ พฺยากริตพฺโพ, อวสฺสํ วิสฺสชฺเชตพฺโพติ อตฺโถ. อฺเน ¶ วา อฺํ ปฏิจริสฺสสีติ อฺเน วจเนน อฺํ วจนํ ปฏิจริสฺสสิ อชฺโฌตฺถริสฺสสิ, ปฏิจฺฉาเทสฺสสีติ อตฺโถ. โย หิ ‘‘กึ โคตฺโต ตฺว’’นฺติ เอวํ ปุฏฺโ – ‘‘อหํ ตโย เวเท ชานามี’’ติอาทีนิ วทติ, อยํ อฺเน อฺํ ปฏิจรติ นาม. ปกฺกมิสฺสสิ วาติ ปุจฺฉิตํ ปฺหํ ชานนฺโตว อกเถตุกามตาย อุฏฺายาสนา ปกฺกมิสฺสสิ วา.
ตุณฺหี ¶ อโหสีติ สมโณ โคตโม มํ สามํเยว ทาสิปุตฺตภาวํ กถาเปตุกาโม, สามํ กถิเต จ ทาโส นาม ชาโตเยว โหติ. อยํ ปน ทฺวติกฺขตฺตุํ โจเทตฺวา ตุณฺหี ภวิสฺสติ, ตโต อหํ ปริวตฺติตฺวา ปกฺกมิสฺสามีติ จินฺเตตฺวา ตุณฺหี อโหสิ.
๒๗๑. วชิรํ ปาณิมฺหิ อสฺสาติ วชิรปาณิ. ยกฺโขติ น โย วา โส วา ยกฺโข, สกฺโก เทวราชาติ เวทิตพฺโพ. อาทิตฺตนฺติ อคฺคิวณฺณํ. สมฺปชฺชลิตนฺติ สุฏฺุ ปชฺชลิตํ. สโชติภูตนฺติ สมนฺตโต โชติภูตํ, เอกคฺคิชาลภูตนฺติ อตฺโถ. ิโต โหตีติ มหนฺตํ สีสํ, กนฺทลมกุฬสทิสา ทาา ภยานกานิ อกฺขินาสาทีนิ เอวํ วิรูปรูปํ มาเปตฺวา ิโต.
กสฺมา ปเนส อาคโตติ? ทิฏฺิวิสฺสชฺชาปนตฺถํ. อปิ จ – ‘‘อหฺเจว โข ปน ธมฺมํ เทเสยฺยํ, ปเร จ เม น อาชาเนยฺยุ’’นฺติ เอวํ ธมฺมเทสนาย อปฺโปสฺสุกฺกภาวํ อาปนฺเน ภควติ สกฺโก มหาพฺรหฺมุนา สทฺธึ อาคนฺตฺวา – ‘‘ภควา ธมฺมํ เทเสถ, ตุมฺหากํ อาณาย อวตฺตมาเน มยํ วตฺตาเปสฺสาม, ตุมฺหากํ ธมฺมจกฺกํ โหตุ, อมฺหากํ อาณาจกฺก’’นฺติ ปฏิฺํ อกาสิ. ตสฺมา – ‘‘อชฺช อมฺพฏฺํ ตาเสตฺวา ปฺหํ วิสฺสชฺชาเปสฺสามี’’ติ อาคโต.
ภควา เจว ปสฺสติ อมฺพฏฺโ จาติ ยทิ หิ ตํ อฺเปิ ปสฺเสยฺยุํ, ตํ การณํ อครุ อสฺส, ‘‘อยํ สมโณ โคตโม อมฺพฏฺํ อตฺตโน วาเท อโนตรนฺตํ ตฺวา ยกฺขํ อาวาเหตฺวา ทสฺเสสิ, ตโต อมฺพฏฺโ ภเยน กเถสี’’ติ วเทยฺยุํ. ตสฺมา ภควา เจว ปสฺสติ อมฺพฏฺโ จ. ตสฺส ตํ ทิสฺวาว สกลสรีรโต เสทา มุจฺจึสุ. อนฺโตกุจฺฉิ วิปริวตฺตมานา มหารวํ วิรวิ ¶ . โส ‘‘อฺเปิ นุ โข ¶ ปสฺสนฺตี’’ติ โอโลเกนฺโต กสฺสจิ โลมหํสมตฺตมฺปิ นาทฺทส. ตโต – ‘‘อิทํ ภยํ มเมว อุปฺปนฺนํ, สจาหํ ยกฺโขติ วกฺขามิ, ‘กึ ตวเมว อกฺขีนิ อตฺถิ, ตฺวเมว ยกฺขํ ปสฺสสิ, ปมํ ยกฺขํ อทิสฺวา สมเณน โคตเมน วาทสงฺฆฏฺเฏ ปกฺขิตฺโตว ยกฺขํ ปสฺสสี’ติ วเทยฺยุ’’นฺติ จินฺเตตฺวา ‘‘น ทานิ เม ¶ อิธ อฺํ ปฏิสรณํ อตฺถิ, อฺตฺร สมณา โคตมา’’ติ มฺมาโน อถ โข อมฺพฏฺโ มาณโว…เป… ภควนฺตํ เอตทโวจ.
๒๗๒. ตาณํ คเวสีติ ตาณํ คเวสมาโน. เลณํ คเวสีติ เลณํ คเวสมาโน. สรณํ คเวสีติ สรณํ คเวสมาโน. เอตฺถ จ ตายติ รกฺขตีติ ตาณํ. นิลียนฺติ เอตฺถาติ เลณํ. สรตีติ สรณํ, ภยํ หึสติ, วิทฺธํเสตีติ อตฺโถ. อุปนิสีทิตฺวาติ อุปคมฺม เหฏฺาสเน นิสีทิตฺวา. พฺรวิตูติ วทตุ.
อมฺพฏฺวํสกถา
๒๗๓-๒๗๔. ทกฺขิณชนปทนฺติ ทกฺขิณาปโถติ ปากฏํ. คงฺคาย ทกฺขิณโต ปากฏชนปทํ. ตทา กิร ทกฺขิณาปเถ พหู พฺราหฺมณตาปสา โหนฺติ, โส ตตฺถ คนฺตฺวา เอกํ ตาปสํ วตฺตปฏิปตฺติยา อาราเธสิ. โส ตสฺส อุปการํ ทิสฺวา อาห – ‘‘อมฺโภ, ปุริส, มนฺตํ เต เทมิ, ยํ อิจฺฉสิ, ตํ มนฺตํ คณฺหาหี’’ติ. โส อาห – ‘‘น เม อาจริย, อฺเน มนฺเตน, กิจฺจํ อตฺถิ, ยสฺสานุภาเวน อาวุธํ น ปริวตฺตติ, ตํ เม มนฺตํ เทหี’’ติ. โส – ‘‘ภทฺรํ, โภ’’ติ ตสฺส ธนุอคมนียํ อมฺพฏฺํ นาม วิชฺชํ อทาสิ, โส ตํ วิชฺชํ คเหตฺวา ตตฺเถว วีมํสิตฺวา – ‘‘อิทานิ เม มโนรถํ ปูเรสฺสามี’’ติ อิสิเวสํ คเหตฺวา โอกฺกากสฺส สนฺติกํ คโต. เตน วุตฺตํ – ‘‘ทกฺขิณชนปทํ คนฺตฺวา พฺรหฺมมนฺเต อธียิตฺวา ราชานํ โอกฺกากํ อุปสงฺกมิตฺวา’’ติ.
เอตฺถ พฺรหฺมมนฺเตติ อานุภาวสมฺปนฺนตาย เสฏฺมนฺเต. โก เนวํ’เร อยํ มยฺหํ ทาสิปุตฺโตติ โก นุ เอวํ อเร อยํ มม ทาสิปุตฺโต. โส ¶ ตํ ขุรปฺปนฺติ โส ราชา ตํ มาเรตุกามตาย สนฺนหิตํ สรํ ตสฺส มนฺตานุภาเวน เนว ขิปิตุํ น อปเนตุํ สกฺขิ, ตาวเทว สกลสรีเร สฺชาตเสโท ภเยน เวธมาโน อฏฺาสิ.
อมจฺจาติ มหามจฺจา. ปาริสชฺชาติ อิตเร ปริสาวจรา. เอตทโวจุนฺติ – ‘‘ทณฺฑกีรฺโ ¶ กิสวจฺฉตาปเส อปรทฺธสฺส อาวุธวุฏฺิยา สกลรฏฺํ วินฏฺํ ¶ . นาฬิเกโร ปฺจสุ ตาปสสเตสุ อชฺชุโน จ องฺคีรเส อปรทฺโธ ปถวึ ภินฺทิตฺวา นิรยํ ปวิฏฺโ’’ติ จินฺตยนฺตา ภเยน เอตํ โสตฺถิ, ภทฺทนฺเตติอาทิวจนํ อโวจุํ.
โสตฺถิ ภวิสฺสติ รฺโติ อิทํ วจนํ กณฺโห จิรํ ตุณฺหี หุตฺวา ตโต อเนกปฺปการํ ยาจียมาโน – ‘‘ตุมฺหากํ รฺา มาทิสสฺส อิสิโน ขุรปฺปํ สนฺนยฺหนฺเตน ภาริยํ กมฺมํ กต’’นฺติอาทีนิ จ วตฺวา ปจฺฉา อภาสิ. อุนฺทฺริยิสฺสตีติ ภิชฺชิสฺสติ, ถุสมุฏฺิ วิย วิปฺปกิริยิสฺสตีติ. อิทํ โส ‘‘ชนํ ตาเสสฺสามี’’ติ มุสา ภณติ. สรสนฺถมฺภนมตฺเตเยว หิสฺส วิชฺชาย อานุภาโว, น อฺตฺร. อิโต ปเรสุปิ วจเนสุ เอเสว นโย.
ปลฺโลโมติ ปนฺนโลโม. โลมหํสนมตฺตมฺปิสฺส น ภวิสฺสติ. อิทํ กิร โส ‘‘สเจ เม ราชา ตํ ทาริกํ ทสฺสตี’’ติ ปฏิฺํ กาเรตฺวา อวจ. กุมาเร ขุรปฺปํ ปติฏฺเปสีติ เตน ‘‘สโร โอตรตู’’ติ มนฺเต ปริวตฺติ, เต กุมารสฺส นาภิยํ ปติฏฺเปสิ. ธีตรํ อทาสีติ สีสํ โธวิตฺวา อทาสํ ภุชิสฺสํ กตฺวา ธีตรํ อทาสิ, อุฬาเร จ ตํ าเน เปสิ. มา โข ตุมฺเห มาณวกาติ อิทํ ปน ภควา – ‘‘เอเกน ปกฺเขน อมฺพฏฺโ สกฺยานํ าติ โหตี’’ติ ปกาเสนฺโต ตสฺส สมสฺสาสนตฺถํ อาห. ตโต อมฺพฏฺโ ฆฏสเตน อภิสิตฺโต วิย ปสฺสทฺธทรโถ หุตฺวา สมสฺสาเสตฺวา สมโณ โคตโม มํ ‘‘โตเสสฺสามี’’ติ เอเกน ปกฺเขน าตึ กโรติ, ขตฺติโย กิราหมสฺมี’’ติ จินฺเตสิ.
ขตฺติยเสฏฺภาววณฺณนา
๒๗๕. อถ ¶ โข ภควา – ‘‘อยํ อมฺพฏฺโ ขตฺติโยสฺมี’’ติ สฺํ กโรติ, อตฺตโน อขตฺติยภาวํ น ชานาติ, หนฺท นํ ชานาเปสฺสามีติ ขตฺติยวํสํ ทสฺเสตุํ อุตฺตริเทสนํ วฑฺเฒนฺโต – ‘‘ตํ กึ มฺสิ อมฺพฏฺา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อิธาติ อิมสฺมึ โลเก. พฺราหฺมเณสูติ พฺราหฺมณานํ อนฺตเร. อาสนํ วา อุทกํ วาติ อคฺคาสนํ วา อคฺโคทกํ วา. สทฺเธติ มตเก อุทฺทิสฺส กตภตฺเต. ถาลิปาเกติ มงฺคลาทิภตฺเต. ยฺเติ ยฺภตฺเต. ปาหุเนติ ปาหุนกานํ กตภตฺเต ปณฺณาการภตฺเต วา. อปิ นุสฺสาติ อปิ นุ อสฺส ขตฺติยปุตฺตสฺส. อาวฏํ วา อสฺส อนาวฏํ วาติ ¶ , พฺราหฺมณกฺาสุ นิวารณํ ภเวยฺย วา โน วา, พฺราหฺมณทาริกํ ลเภยฺย วา น วา ลเภยฺยาติ อตฺโถ. อนุปปนฺโนติ ขตฺติยภาวํ อปตฺโต, อปริสุทฺโธติ อตฺโถ.
๒๗๖. อิตฺถิยา ¶ วา อิตฺถึ กริตฺวาติ อิตฺถิยา วา อิตฺถึ ปริเยสิตฺวา. กิสฺมิฺจิเทว ปกรเณติ กิสฺมิฺจิเทว โทเส พฺราหฺมณานํ อยุตฺเต อกตฺตพฺพกรเณ. ภสฺสปุเฏนาติ ภสฺมปุเฏน, สีเส ฉาริกํ โอกิริตฺวาติ อตฺโถ.
๒๗๗. ชเนตสฺมินฺติ ชนิตสฺมึ, ปชายาติ อตฺโถ. เย โคตฺตปฏิสาริโนติ เย ชเนตสฺมึ โคตฺตํ ปฏิสรนฺติ – ‘‘อหํ โคตโม, อหํ กสฺสโป’’ติ, เตสุ โลเก โคตฺตปฏิสารีสุ ขตฺติโย เสฏฺโ. อนุมตา มยาติ มม สพฺพฺุตฺาเณน สทฺธึ สํสนฺทิตฺวา เทสิตา มยา อนฺุาตา.
ปมภาณวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
วิชฺชาจรณกถาวณฺณนา
๒๗๘. อิมาย ปน คาถาย วิชฺชาจรณสมฺปนฺโนติ อิทํ ปทํ สุตฺวา อมฺพฏฺโ จินฺเตสิ – ‘‘วิชฺชา นาม ตโย เวทา, จรณํ ปฺจ สีลานิ, ตยิทํ อมฺหากํเยว อตฺถิ, วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน ¶ เจ เสฏฺโ, มยเมว เสฏฺา’’ติ นิฏฺํ คนฺตฺวา วิชฺชาจรณํ ปุจฺฉนฺโต – ‘‘กตมํ ปน ตํ, โภ โคตม, จรณํ, กตมา จ ปน สา วิชฺชา’’ติ อาห. อถสฺส ภควา ตํ พฺราหฺมณสมเย สิทฺธํ ชาติวาทาทิปฏิสํยุตฺตํ วิชฺชาจรณํ ปฏิกฺขิปิตฺวา อนุตฺตรํ วิชฺชาจรณํ ทสฺเสตุกาโม – ‘‘น โข อมฺพฏฺา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ชาติวาโทติ ชาตึ อารพฺภ วาโท, พฺราหฺมณสฺเสวิทํ วฏฺฏติ, น สุทฺทสฺสาติอาทิ วจนนฺติ อตฺโถ. เอส นโย สพฺพตฺถ. ชาติวาทวินิพทฺธาติ ชาติวาเท วินิพทฺธา. เอส นโย สพฺพตฺถ.
ตโต อมฺพฏฺโ – ‘‘ยตฺถ ทานิ มยํ ลคฺคิสฺสามาติ จินฺตยิมฺห, ตโต โน สมโณ โคตโม มหาวาเต ถุสํ ธุนนฺโต วิย ทูรเมว อวกฺขิปิ. ยตฺถ ปน มยํ น ลคฺคาม, ตตฺถ โน นิโยเชสิ. อยํ โน วิชฺชาจรณสมฺปทา าตุํ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา ปุน วิชฺชาจรณสมฺปทํ ปุจฺฉิ. อถสฺส ¶ ภควา สมุทาคมโต ปภุติ วิชฺชาจรณํ ทสฺเสตุํ – ‘‘อิธ อมฺพฏฺ ตถาคโต’’ติอาทิมาห.
๒๗๙. เอตฺถ จ ภควา จรณปริยาปนฺนมฺปิ ติวิธํ สีลํ วิภชนฺโต ‘‘อิทมสฺส โหติ จรณสฺมิ’’นฺติ ¶ อนิยฺยาเตตฺวา ‘‘อิทมฺปิสฺส โหติ สีลสฺมิ’’นฺติ สีลวเสเนว นิยฺยาเตสิ. กสฺมา? ตสฺสปิ หิ กิฺจิ กิฺจิ สีลํ อตฺถิ, ตสฺมา จรณวเสน นิยฺยาติยมาเน ‘‘มยมฺปิ จรณสมฺปนฺนา’’ติ ตตฺถ ตตฺเถว ลคฺเคยฺย. ยํ ปน เตน สุปิเนปิ น ทิฏฺปุพฺพํ, ตสฺเสว วเสน นิยฺยาเตนฺโต ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อิทมฺปิสฺส โหติ จรณสฺมึ…เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, อิทมฺปิสฺส โหติ จรณสฺมินฺติอาทิมาห. เอตฺตาวตา อฏฺปิ สมาปตฺติโย จรณนฺติ นิยฺยาติตา โหนฺติ, วิปสฺสนา าณโต ปน ปฏฺาย อฏฺวิธาปิ ปฺา วิชฺชาติ นิยฺยาติตา.
จตุอปายมุขกถาวณฺณนา
๒๘๐. อปายมุขานีติ วินาสมุขานิ. อนภิสมฺภุณมาโนติ อสมฺปาปุณนฺโต, อวิสหมาโน วา. ขาริวิธมาทายาติ ¶ เอตฺถ ขารีติ อรณี กมณฺฑลุ สุชาทโย ตาปสปริกฺขารา. วิโธติ กาโช. ตสฺมา ขาริภริตํ กาชมาทายาติ อตฺโถ. เย ปน ขาริวิวิธนฺติ ปนฺติ, เต ‘‘ขารีติ กาชสฺส นามํ, วิวิธนฺติ พหุกมณฺฑลุอาทิปริกฺขาร’’นฺติ วณฺณยนฺติ. ปวตฺตผลโภชโนติ ปติตผลโภชโน. ปริจารโกติ กปฺปิยกรณปตฺตปฏิคฺคหณปาทโธวนาทิวตฺตกรณวเสน ปริจารโก. กามฺจ คุณาธิโกปิ ขีณาสวสามเณโร ปุถุชฺชนภิกฺขุโน วุตฺตนเยน ปริจารโก โหติ, อยํ ปน น ตาทิโส คุณวเสนปิ เวยฺยาวจฺจกรณวเสนปิ ลามโกเยว.
กสฺมา ปน ตาปสปพฺพชฺชา สาสนสฺส วินาสมุขนฺติ วุตฺตาติ? ยสฺมา คจฺฉนฺตํ คจฺฉนฺตํ สาสนํ ตาปสปพฺพชฺชาวเสน โอสกฺกิสฺสติ. อิมสฺมิฺหิ สาสเน ปพฺพชิตฺวา ติสฺโส สิกฺขา ปูเรตุํ อสกฺโกนฺตํ ลชฺชิโน สิกฺขากามา – ‘‘นตฺถิ ตยา สทฺธึ อุโปสโถ วา ปวารณา วา สงฺฆกมฺมํ วา’’ติ ชิคุจฺฉิตฺวา ปริวชฺเชนฺติ. โส ‘‘ทุกฺกรํ ขุรธารูปมํ สาสเน ปฏิปตฺติปูรณํ ทุกฺขํ, ตาปสปพฺพชฺชา ปน สุกรา เจว พหุชนสมฺมตา จา’’ติ วิพฺภมิตฺวา ตาปโส โหติ. อฺเ ตํ ทิสฺวา – ‘‘กึ ตยา กต’’นฺติ ปุจฺฉนฺติ. โส – ‘‘ภาริยํ ตุมฺหากํ สาสเน กมฺมํ, อิธ ปน สฉนฺทจาริโน มย’’นฺติ ¶ วทติ. โสปิ, ยทิ เอวํ อหมฺปิ เอตฺเถว ปพฺพชามีติ ตสฺส อนุสิกฺขนฺโต ตาปโส โหติ. เอวมฺเปิ อฺเปีติ กเมน ตาปสาว พหุกา โหนฺติ. เตสํ อุปฺปนฺนกาเล สาสนํ โอสกฺกิตํ นาม ภวิสฺสติ. โลเก เอวรูโป พุทฺโธ นาม อุปฺปชฺชิ, ตสฺส อีทิสํ นาม สาสนํ อโหสีติ สุตมตฺตเมว ภวิสฺสติ. อิทํ สนฺธาย ภควา ตาปสปพฺพชฺชํ สาสนสฺส วินาสมุขนฺติ อาห.
กุทาลปิฏกนฺติ ¶ กนฺทมูลผลคฺคหณตฺถํ กุทาลฺเจว ปิฏกฺจ. คามสามนฺตํ วาติ วิชฺชาจรณสมฺปทาทีนิ อนภิสมฺภุณนฺโต, กสิกมฺมาทีหิ จ ชีวิตํ นิปฺผาเทตุํ ทุกฺขนฺติ มฺมาโน พหุชนกุหาปนตฺถํ ¶ คามสามนฺเต วา นิคมสามนฺเต วา อคฺคิสาลํ กตฺวา สปฺปิเตลทธิมธุผาณิตติลตณฺฑุลาทีหิ เจว นานาทารูหิ จ โหมกรณวเสน อคฺคึ ปริจรนฺโต อจฺฉติ.
จตุทฺวารํ อคารํ กริตฺวาติ จตุมุขํ ปานาคารํ กตฺวา ตสฺส ทฺวาเร มณฺฑปํ กตฺวา ตตฺถ ปานียํ อุปฏฺเปตฺวา อาคตาคเต ปานีเยน อาปุจฺฉติ. ยมฺปิสฺส อทฺธิกา กิลนฺตา ปานียํ ปิวิตฺวา ปริตุฏฺา ภตฺตปุฏํ วา ตณฺฑุลาทีนิ วา เทนฺติ, ตํ สพฺพํ คเหตฺวา อมฺพิลยาคุอาทีนิ กตฺวา พหุตรํ อามิสคหณตฺถํ เกสฺจิ อนฺนํ เทติ, เกสฺจิ ภตฺตปจนภาชนาทีนิ. เตหิปิ ทินฺนํ อามิสํ วา ปุพฺพณฺณาทีนิ วา คณฺหติ, ตานิ วฑฺฒิยา ปโยเชติ. เอวํ วฑฺฒมานวิภโว โคมหึสทาสีทาสปริคฺคหํ กโรติ, มหนฺตํ กุฏุมฺพํ สณฺเปติ. อิมํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ – ‘‘จตุทฺวารํ อคารํ กริตฺวา อจฺฉตี’’ติ. ‘‘ตมหํ ยถาสตฺติ ยถาพลํ ปฏิปูเชสฺสามี’’ติ อิทํ ปนสฺส ปฏิปตฺติมุขํ. อิมินา หิ มุเขน โส เอวํ ปฏิปชฺชตีติ. เอตฺตาวตา จ ภควตา สพฺพาปิ ตาปสปพฺพชฺชา นิทฺทิฏฺา โหนฺติ.
กถํ? อฏฺวิธา หิ ตาปสา – สปุตฺตภริยา, อฺุฉาจริยา, อนคฺคิปกฺกิกา, อสามปากา, อสฺมมุฏฺิกา, ทนฺตวกฺกลิกา, ปวตฺตผลโภชนา, ปณฺฑุปลาสิกาติ. ตตฺถ เย เกณิยชฏิโล วิย กุฏุมฺพํ สณฺเปตฺวา วสนฺติ, เต สปุตฺตภริยา นาม.
เย ¶ ปน ‘‘สปุตฺตทารภาโว นาม ปพฺพชิตสฺส อยุตฺโต’’ติ ลายนมทฺทนฏฺาเนสุ วีหิมุคฺคมาสติลาทีนิ สงฺกฑฺฒิตฺวา ปจิตฺวา ปริภฺุชนฺติ, เต อฺุฉาจริยา นาม.
เย ‘‘ขเลน ขลํ วิจริตฺวา วีหึ อาหริตฺวา โกฏฺเฏตฺวา ปริภฺุชนํ นาม อยุตฺต’’นฺติ คามนิคเมสุ ตณฺฑุลภิกฺขํ คเหตฺวา ปจิตฺวา ปริภฺุชนฺติ, เต อนคฺคิปกฺกิกา นาม.
เย ปน ‘‘กึ ปพฺพชิตสฺส สามปาเกนา’’ติ คามํ ปวิสิตฺวา ปกฺกภิกฺขเมว คณฺหนฺติ ¶ , เต อสามปากา นาม.
เย ¶ ‘‘ทิวเส ทิวเส ภิกฺขาปริเยฏฺิ นาม ทุกฺขา ปพฺพชิตสฺสา’’ติ มุฏฺิปาสาเณน อมฺพาฏกาทีนํ รุกฺขานํ ตจํ โกฏฺเฏตฺวา ขาทนฺติ, เต อสฺมมุฏฺิกา นาม.
เย ปน ‘‘ปาสาเณน ตจํ โกฏฺเฏตฺวา วิจรณํ นาม ทุกฺข’’นฺติ ทนฺเตเหว อุพฺพาเฏตฺวา ขาทนฺติ, เต ทนฺตวกฺกลิกา นาม.
เย ‘‘ทนฺเตหิ อุพฺพาเฏตฺวา ขาทนํ นาม ทุกฺขํ ปพฺพชิตสฺสา’’ติ เลฑฺฑุทณฺฑาทีหิ ปหริตฺวา ปติตานิ ผลานิ ปริภฺุชนฺติ, เต ปวตฺตผลโภชนา นาม.
เย ปน ‘‘เลฑฺฑุทณฺฑาทีหิ ปาเตตฺวา ปริโภโค นาม อสารุปฺโป ปพฺพชิตสฺสา’’ติ สยํ ปติตาเนว ปุปฺผผลปณฺฑุปลาสาทีนิ ขาทนฺตา ยาเปนฺติ, เต ปณฺฑุปลาสิกา นาม.
เต ติวิธา – อุกฺกฏฺมชฺฌิมมุทุกวเสน. ตตฺถ เย นิสินฺนฏฺานโต อนุฏฺาย หตฺเถน ปาปุณนฏฺาเนว ปติตํ คเหตฺวา ขาทนฺติ, เต อุกฺกฏฺา. เย เอกรุกฺขโต อฺํ รุกฺขํ น คจฺฉนฺติ, เต มชฺฌิมา. เย ตํ ตํ รุกฺขมูลํ คนฺตฺวา ปริเยสิตฺวา ขาทนฺติ, เต มุทุกา.
อิมา ปน อฏฺปิ ตาปสปพฺพชฺชา อิมาหิ จตูหิเยว สงฺคหํ คจฺฉนฺติ. กถํ? เอตาสุ หิ สปุตฺตภริยา จ อฺุฉาจริยา จ อคารํ ภชนฺติ. อนคฺคิปกฺกิกา จ อสามปากา จ อคฺยาคารํ ภชนฺติ. อสฺมมุฏฺิกา จ ทนฺตวกฺกลิกา จ กนฺทมูลผลโภชนํ ภชนฺติ. ปวตฺตผลโภชนา จ ปณฺฑุปลาสิกา จ ปวตฺตผลโภชนํ ภชนฺติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘เอตฺตาวตา จ ภควตา สพฺพาปิ ตาปสปพฺพชฺชา นิทฺทิฏฺา โหนฺตี’’ติ.
๒๘๑-๒๘๒. อิทานิ ¶ ภควา สาจริยกสฺส อมฺพฏฺสฺส วิชฺชาจรณสมฺปทาย อปายมุขมฺปิ อปฺปตฺตภาวํ ทสฺเสตุํ ตํ กึ มฺสิ อมฺพฏฺาติอาทิมาห. ตํ อุตฺตานตฺถเมว. อตฺตนา อาปายิโกปิ อปริปูรมาโนติ อตฺตนา วิชฺชาจรณสมฺปทาย อาปายิเกนาปิ อปริปูรมาเนน.
ปุพฺพกอิสิภาวานุโยควณฺณนา
๒๘๓. ทตฺติกนฺติ ทินฺนกํ. สมฺมุขีภาวมฺปิ น ททาตีติ กสฺมา น ททาติ? โส กิร สมฺมุขา ¶ อาวฏฺฏนึ นาม วิชฺชํ ¶ ชานาติ. ยทา ราชา มหารเหน อลงฺกาเรน อลงฺกโต โหติ, ตทา รฺโ สมีเป ตฺวา ตสฺส อลงฺการสฺส นามํ คณฺหติ. ตสฺส ราชา นาเม คหิเต น เทมีติ วตฺตุํ น สกฺโกติ. ทตฺวา ปุน ฉณทิวเส อลงฺการํ อาหรถาติ วตฺวา, นตฺถิ, เทว, ตุมฺเหหิ พฺราหฺมณสฺส ทินฺโนติ วุตฺโต, ‘‘กสฺมา เม ทินฺโน’’ติ ปุจฺฉิ. เต อมจฺจา ‘โส พฺราหฺมโณ สมฺมุขา อาวฏฺฏนิมายํ ชานาติ. ตาย ตุมฺเห อาวฏฺเฏตฺวา คเหตฺวา คจฺฉตี’ติ อาหํสุ. อปเร รฺา สห ตสฺส อติสหายภาวํ อสหนฺตา อาหํสุ – ‘‘เทว, เอตสฺส พฺราหฺมณสฺส สรีเร สงฺขผลิตกุฏฺํ นาม อตฺถิ. ตุมฺเห เอตํ ทิสฺวาว อาลิงฺคถ ปรามสถ, อิทฺจ กุฏฺํ นาม กายสํสคฺควเสน อนุคจฺฉติ, มา เอวํ กโรถา’’ติ. ตโต ปฏฺาย ตสฺส ราชา สมฺมุขีภาวํ น เทติ.
ยสฺมา ปน โส พฺราหฺมโณ ปณฺฑิโต ขตฺตวิชฺชาย กุสโล, เตน สห มนฺเตตฺวา กตกมฺมํ นาม น วิรุชฺฌติ, ตสฺมา สาณิปาการสฺส อนฺโต ตฺวา พหิ ิเตน เตน สทฺธึ มนฺเตติ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘ติโร ทุสฺสนฺเตน มนฺเตตี’’ติ. ตตฺถ ติโรทุสฺสนฺเตนาติ ติโรทุสฺเสน. อยเมว วา ปาโ. ธมฺมิกนฺติ อนวชฺชํ. ปยาตนฺติ อภิหริตฺวา ทินฺนํ. กถํ ตสฺส ราชาติ ยสฺส รฺโ พฺราหฺมโณ อีทิสํ ภิกฺขํ ปฏิคฺคณฺเหยฺย, กถํ ตสฺส พฺราหฺมณสฺส โส ราชา สมฺมุขีภาวมฺปิ น ทเทยฺย. อยํ ปน อทินฺนกํ มายาย คณฺหติ, เตนสฺส สมฺมุขีภาวํ ราชา น เทตีติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพนฺติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโย. ‘‘อิทํ ปน การณํ เปตฺวา ราชานฺเจว พฺราหฺมณฺจ น อฺโ โกจิ ชานาติ. ตเทตํ เอวํ รหสฺสมฺปิ ปฏิจฺฉนฺนมฺปิ อทฺธา สพฺพฺู สมโณ โคตโมติ นิฏฺํ คมิสฺสตี’’ติ ภควา ปกาเสสิ.
๒๘๔. อิทานิ ¶ อยฺจ อมฺพฏฺโ, อาจริโย จสฺส มนฺเต นิสฺสาย อติมานิโน. เตน เตสํ มนฺตนิสฺสิตมานนิมฺมทนตฺถํ อุตฺตริ เทสนํ วฑฺเฒนฺโต ตํ กึ มฺสิ, อมฺพฏฺ, อิธ ราชาติอาทิมาห. ตตฺถ ¶ รถูปตฺถเรติ รถมฺหิ รฺโ านตฺถํ อตฺถริตฺวา สชฺชิตปเทเส. อุคฺเคหิ วาติ อุคฺคตุคฺคเตหิ วา อมจฺเจหิ. ราชฺเหีติ อนภิสิตฺตกุมาเรหิ. กิฺจิเทว มนฺตนนฺติ อสุกสฺมึ เทเส ตฬากํ วา มาติกํ วา กาตุํ วฏฺฏติ, อสุกสฺมึ คามํ วา นิคมํ วา นครํ วา นิเวเสตุนฺติ เอวรูปํ ปากฏมนฺตนํ. ตเทว มนฺตนนฺติ ยํ รฺา มนฺติตํ ตเทว. ตาทิเสหิเยว สีสุกฺเขปภมุกฺเขปาทีหิ อากาเรหิ มนฺเตยฺย. ราชภณิตนฺติ ยถา รฺา ภณิตํ, ตสฺสตฺถสฺส สาธนสมตฺถํ. โสปิ ตสฺสตฺถสฺส สาธนสมตฺถเมว ภณิตํ ภณตีติ อตฺโถ.
๒๘๕. ปวตฺตาโรติ ปวตฺตยิตาโร. เยสนฺติ เยสํ สนฺตกํ. มนฺตปทนฺติ เวทสงฺขาตํ มนฺตเมว ¶ . คีตนฺติ อฏฺกาทีหิ ทสหิ โปราณกพฺราหฺมเณหิ สรสมฺปตฺติวเสน สชฺฌายิตํ. ปวุตฺตนฺติ อฺเสํ วุตฺตํ, วาจิตนฺติ อตฺโถ. สมิหิตนฺติ สมุปพฺยูฬฺหํ ราสิกตํ, ปิณฺฑํ กตฺวา ปิตนฺติ อตฺโถ. ตทนุคายนฺตีติ เอตรหิ พฺราหฺมณา ตํ เตหิ ปุพฺเพ คีตํ อนุคายนฺติ อนุสชฺฌายนฺติ. ตทนุภาสนฺตีติ ตํ อนุภาสนฺติ, อิทํ ปุริมสฺเสว เววจนํ. ภาสิตมนุภาสนฺตีติ เตหิ ภาสิตํ สชฺฌายิตํ อนุสชฺฌายนฺติ. วาจิตมนุวาเจนฺตีติ เตหิ อฺเสํ วาจิตํ อนุวาเจนฺติ.
เสยฺยถิทนฺติ เต กตเมหิ อตฺโถ. อฏฺโกติอาทีนิ เตสํ นามานิ. เต กิร ทิพฺเพน จกฺขุนา โอโลเกตฺวา ปรูปฆาตํ อกตฺวา กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ภควโต ปาวจเนน สห สํสนฺทิตฺวา มนฺเต คนฺถึสุ. อปราปเร ปน พฺราหฺมณา ปาณาติปาตาทีนิ ปกฺขิปิตฺวา ตโย เวเท ภินฺทิตฺวา พุทฺธวจเนน สทฺธึ วิรุทฺเธ อกํสุ. เนตํ ¶ านํ วิชฺชตีติ เยน ตฺวํ อิสิ ภเวยฺยาสิ, เอตํ การณํ น วิชฺชติ. อิธ ภควา ยสฺมา – ‘‘เอส ปุจฺฉิยมาโนปิ, อตฺตโน อวตฺถรณภาวํ ตฺวา ปฏิวจนํ น ทสฺสตี’’ติ ชานาติ, ตสฺมา ปฏิฺํ อคเหตฺวาว ตํ อิสิภาวํ ปฏิกฺขิปิ.
๒๘๖. อิทานิ ¶ ยสฺมา เต โปราณา ทส พฺราหฺมณา นิรามคนฺธา อนิตฺถิคนฺธา รโชชลฺลธรา พฺรหฺมจาริโน อรฺายตเน ปพฺพตปาเทสุ วนมูลผลาหารา วสึสุ. ยทา กตฺถจิ คนฺตุกามา โหนฺติ, อิทฺธิยา อากาเสเนว คจฺฉนฺติ, นตฺถิ เตสํ ยาเนน กิจฺจํ. สพฺพทิสาสุ จ เนสํ เมตฺตาทิพฺรหฺมวิหารภาวนาว อารกฺขา โหติ, นตฺถิ เตสํ ปาการปุริสคุตฺตีหิ อตฺโถ. อิมินา จ อมฺพฏฺเน สุตปุพฺพา เตสํ ปฏิปตฺติ; ตสฺมา อิมสฺส สาจริยกสฺส เตสํ ปฏิปตฺติโต อารกภาวํ ทสฺเสตุํ – ‘‘ตํ กึ มฺสิ, อมฺพฏฺา’’ติอาทิมาห.
ตตฺถ วิจิตกาฬกนฺติ วิจินิตฺวา อปนีตกาฬกํ. เวกนตปสฺสาหีติ ทุสฺสปฏฺฏทุสฺสเวณิ อาทีหิ เวเกหิ นมิตผาสุกาหิ. กุตฺตวาเลหีติ โสภากรณตฺถํ กปฺเปตุํ, ยุตฺตฏฺาเนสุ กปฺปิตวาเลหิ. เอตฺถ จ วฬวานํเยว วาลา กปฺปิตา, น รถานํ, วฬวปยุตฺตตฺตา ปน รถาปิ ‘‘กุตฺตวาลา’’ติ วุตฺตา. อุกฺกิณฺณปริขาสูติ ขตปริขาสุ. โอกฺขิตฺตปลิฆาสูติ ปิตปลิฆาสุ. นครูปการิกาสูติ เอตฺถ อุปการิกาติ ปเรสํ อาโรหนิวารณตฺถํ สมนฺตา นครํ ปาการสฺส อโธภาเค กตสุธากมฺมํ วุจฺจติ. อิธ ปน ตาหิ อุปการิกาหิ ยุตฺตานิ นคราเนว ‘‘นครูปการิกาโย’’ติ อธิปฺเปตานิ. รกฺขาเปนฺตีติ ตาทิเสสุ นคเรสุ วสนฺตาปิ อตฺตานํ รกฺขาเปนฺติ. กงฺขาติ ‘‘สพฺพฺู, น สพฺพฺู’’ติ เอวํ สํสโย. วิมตีติ ตสฺเสว เววจนํ, วิรูปา ¶ มติ, วินิจฺฉินิตุํ อสมตฺถาติ อตฺโถ. อิทํ ภควา ‘‘อมฺพฏฺสฺส อิมินา อตฺตภาเวน มคฺคปาตุภาโว นตฺถิ, เกวลํ ทิวโส วีติวตฺตติ, อยํ โข ปน ลกฺขณปริเยสนตฺถํ อาคโต, ตมฺปิ ¶ กิจฺจํ นสฺสรติ. หนฺทสฺส สติชนนตฺถํ นยํ เทมี’’ติ อาห.
ทฺเวลกฺขณทสฺสนวณฺณนา
๒๘๗. เอวํ วตฺวา ปน ยสฺมา พุทฺธานํ นิสินฺนานํ วา นิปนฺนานํ วา โกจิ ลกฺขณํ ปริเยสิตุํ น สกฺโกติ, ิตานํ ปน จงฺกมนฺตานํ วา สกฺโกติ. อาจิณฺณฺเจตํ พุทฺธานํ ลกฺขณปริเยสนตฺถํ อาคตภาวํ ตฺวา อุฏฺายาสนา จงฺกมาธิฏฺานํ นาม, เตน ภควา อุฏฺายาสนา พหิ นิกฺขนฺโต. ตสฺมา อถ โข ภควาติอาทิ วุตฺตํ.
สมนฺเนสีติ ¶ คเวสิ, เอกํ ทฺเวติ วา คณยนฺโต สมานยิ. เยภุยฺเยนาติ ปาเยน, พหุกานิ อทฺทส, อปฺปานิ น อทฺทสาติ อตฺโถ. ตโต ยานิ น อทฺทส เตสํ ทีปนตฺถํ วุตฺตํ – ‘‘เปตฺวา ทฺเว’’ติ. กงฺขตีติ ‘‘อโห วต ปสฺเสยฺย’’นฺติ ปตฺถนํ อุปฺปาเทติ. วิจิกิจฺฉตีติ ตโต ตโต ตานิ วิจินนฺโต กิจฺฉติ น สกฺโกติ ทฏฺุํ. นาธิมุจฺจตีติ ตาย วิจิกิจฺฉาย สนฺนิฏฺานํ น คจฺฉติ. น สมฺปสีทตีติ ตโต – ‘‘ปริปุณฺณลกฺขโณ อย’’นฺติ ภควติ ปสาทํ นาปชฺชติ. กงฺขาย วา ทุพฺพลา วิมติ วุตฺตา, วิจิกิจฺฉาย มชฺฌิมา, อนธิมุจฺจนตาย พลวตี, อสมฺปสาเทน เตหิ ตีหิ ธมฺเมหิ จิตฺตสฺส กาลุสิยภาโว. โกโสหิเตติ วตฺถิโกเสน ปฏิจฺฉนฺเน. วตฺถคุยฺเหติ องฺคชาเต ภควโต หิ วรวารณสฺเสว โกโสหิตํ วตฺถคุยฺหํ สุวณฺณวณฺณํ ปทุมคพฺภสมานํ. ตํ โส วตฺถปฏิจฺฉนฺนตฺตา อปสฺสนฺโต, อนฺโตมุขคตาย จ ชิวฺหาย ปหูตภาวํ อสลฺลกฺเขนฺโต เตสุ ทฺวีสุ ลกฺขเณสุ กงฺขี อโหสิ วิจิกิจฺฉี.
๒๘๘. ตถารูปนฺติ ตํ รูปํ. กิเมตฺถ อฺเน วตฺตพฺพํ? วุตฺตเมตํ นาคเสนตฺเถเรเนว มิลินฺทรฺา ปุฏฺเน – ‘‘ทุกฺกรํ, ภนฺเต, นาคเสน, ภควตา กตนฺติ. กึ มหาราชาติ? มหาชเนน หิริกรโณกาสํ พฺรหฺมายุ พฺราหฺมณสฺส จ อนฺเตวาสิ อุตฺตรสฺส จ, พาวริสฺส อนฺเตวาสีนํ โสฬสพฺราหฺมณานฺจ ¶ , เสลสฺส พฺราหฺมณสฺส จ อนฺเตวาสีนํ ติสตมาณวานฺจ ทสฺเสสิ, ภนฺเตติ. น, มหาราช, ภควา คุยฺหํ ทสฺเสสิ. ฉายํ ภควา ทสฺเสสิ. อิทฺธิยา อภิสงฺขริตฺวา นิวาสนนิวตฺถํ กายพนฺธนพทฺธํ จีวรปารุตํ ฉายารูปกมตฺตํ ทสฺเสสิ มหาราชาติ. ฉายํ ทิฏฺเ สติ ทิฏฺํเยว นนุ, ภนฺเตติ? ติฏฺเตตํ, มหาราช, หทยรูปํ ทิสฺวา ¶ พุชฺฌนกสตฺโต ภเวยฺย, หทยมํสํ นีหริตฺวา ทสฺเสยฺย สมฺมาสมฺพุทฺโธติ. กลฺโลสิ, ภนฺเต, นาคเสนา’’ติ.
นินฺนาเมตฺวาติ นีหริตฺวา. อนุมสีติ กถินสูจึ วิย กตฺวา อนุมชฺชิ, ตถากรเณน เจตฺถ มุทุภาโว, กณฺณโสตานุมสเนน ทีฆภาโว, นาสิกโสตานุมสเนน ตนุภาโว, นลาฏจฺฉาทเนน ปุถุลภาโว ปกาสิโตติ เวทิตพฺโพ.
๒๘๙. ปฏิมาเนนฺโตติ ¶ อาคเมนฺโต, อาคมนมสฺส ปตฺเถนฺโต อุทิกฺขนฺโตติ อตฺโถ.
๒๙๐. กถาสลฺลาโปติ กถา จ สลฺลาโป จ, กถนํ ปฏิกถนนฺติ อตฺโถ.
๒๙๑. อโห วตาติ ครหวจนเมตํ. เรติ อิทํ หีฬนวเสน อามนฺตนํ. ปณฺฑิตกาติ ตเมว ชิคุจฺฉนฺโต อาห. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย. เอวรูเปน กิร โภ ปุริโส อตฺถจรเกนาติ อิทํ ยาทิโส ตฺวํ, เอทิเส อตฺถจรเก หิตการเก สติ ปุริโส นิรยํเยว คจฺเฉยฺย, น อฺตฺราติ อิมมตฺถํ สนฺธาย วทติ. อาสชฺช อาสชฺชาติ ฆฏฺเฏตฺวา ฆฏฺเฏตฺวา. อมฺเหปิ เอวํ อุปเนยฺย อุปเนยฺยาติ พฺราหฺมโณ โข ปน อมฺพฏฺ โปกฺขรสาตีติอาทีนิ วตฺวา เอวํ อุปเนตฺวา อุปเนตฺวา ปฏิจฺฉนฺนํ การณํ อาวิกริตฺวา สุฏฺุ ทาสาทิภาวํ อาโรเปตฺวา อวจ, ตยา อมฺเห อกฺโกสาปิตาติ อธิปฺปาโย. ปทสาเยว ปวตฺเตสีติ ปาเทน ปหริตฺวา ภูมิยํ ปาเตสิ. ยฺจ โส ปุพฺเพ อาจริเยน สทฺธึ รถํ อารุหิตฺวา สารถิ หุตฺวา อคมาสิ ¶ , ตมฺปิสฺส านํ อจฺฉินฺทิตฺวา รถสฺส ปุรโต ปทสา เยวสฺส คมนํ อกาสิ.
โปกฺขรสาติพุทฺธูปสงฺกมนวณฺณนา
๒๙๒-๒๙๖. อติวิกาโลติ สุฏฺุ วิกาโล, สมฺโมทนียกถายปิ กาโล นตฺถิ. อาคมา นุ ขฺวิธ โภติ อาคมา นุ โข อิธ โภ. อธิวาเสตูติ สมฺปฏิจฺฉตุ. อชฺชตนายาติ ยํ เม ตุมฺเหสุ การํ กโรโต อชฺช ภวิสฺสติ ปฺฺุจ ปีติปาโมชฺชฺจ ตทตฺถาย. อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวนาติ ภควา กายงฺคํ วา วาจงฺคํ วา อโจเปตฺวา อพฺภนฺตเรเยว ขนฺตึ ธาเรนฺโต ตุณฺหีภาเวน อธิวาเสสิ. พฺราหฺมณสฺส อนุคฺคหณตฺถํ มนสาว สมฺปฏิจฺฉีติ วุตฺตํ โหติ.
๒๙๗. ปณีเตนาติ ¶ อุตฺตเมน. สหตฺถาติ สหตฺเถน. สนฺตปฺเปสีติ สุฏฺุ ตปฺเปสิ ปริปุณฺณํ สุหิตํ ยาวทตฺถํ อกาสิ. สมฺปวาเรสีติ ¶ สุฏฺุ ปวาเรสิ, อลํ อลนฺติ หตฺถสฺาย ปฏิกฺขิปาเปสิ. ภุตฺตาวินฺติ ภุตฺตวนฺตํ. โอนีตปตฺตปาณินฺติ ปตฺตโต โอนีตปาณึ, อปนีตหตฺถนฺติ วุตฺตํ โหติ. โอนิตฺตปตฺตปาณินฺติปิ ปาโ. ตสฺสตฺโถ – โอนิตฺตํ นานาภูตํ วินาภูตํ ปตฺตํ ปาณิโต อสฺสาติ โอนิตฺตปตฺตปาณิ, ตํ โอนิตฺตปตฺตปาณึ. หตฺเถ จ ปตฺตฺจ โธวิตฺวา เอกมนฺเต ปตฺตํ นิกฺขิปิตฺวา นิสินฺนนฺติ อตฺโถ. เอกมนฺตํ นิสีทีติ ภควนฺตํ เอวํ ภูตํ ตฺวา เอกสฺมึ โอกาเส นิสีทีติ อตฺโถ.
๒๙๘. อนุปุพฺพึ กถนฺติ อนุปฏิปาฏิกถํ. อานุปุพฺพิกถา นาม ทานานนฺตรํ สีลํ, สีลานนฺตรํ สคฺโค, สคฺคานนฺตรํ มคฺโคติ เอเตสํ อตฺถานํ ทีปนกถา. เตเนว – ‘‘เสยฺยถิทํ ทานกถ’’นฺติอาทิมาห. โอการนฺติ อวการํ ลามกภาวํ. สามุกฺกํสิกาติ สามํ อุกฺกํสิกา, อตฺตนาเยว อุทฺธริตฺวา คหิตา, สยมฺภูาเณน ทิฏฺา, อสาธารณา อฺเสนฺติ อตฺโถ. กา ปน สาติ? อริยสจฺจเทสนา. เตเนวาห – ‘‘ทุกฺขํ, สมุทยํ, นิโรธํ, มคฺค’’นฺติ. ธมฺมจกฺขุนฺติ ¶ เอตฺถ โสตาปตฺติมคฺโค อธิปฺเปโต. ตสฺส อุปฺปตฺติอาการทสฺสนตฺถํ – ‘‘ยํ กิฺจิ สมุทยธมฺมํ, สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺม’’นฺติ อาห. ตฺหิ นิโรธํ อารมฺมณํ กตฺวา กิจฺจวเสน เอวํ สพฺพสงฺขตํ ปฏิวิชฺฌนฺตํ อุปฺปชฺชติ.
โปกฺขรสาติอุปาสกตฺตปฏิเวทนาวณฺณนา
๒๙๙. ทิฏฺโ อริยสจฺจธมฺโม เอเตนาติ ทิฏฺธมฺโม. เอส นโย เสสปเทสุปิ. ติณฺณา วิจิกิจฺฉา อเนนาติ ติณฺณวิจิกิจฺโฉ. วิคตา กถํกถา อสฺสาติ วิคตกถํกโถ. เวสารชฺชปฺปตฺโตติ วิสารทภาวํ ปตฺโต. กตฺถ? สตฺถุสาสเน. นาสฺส ปโร ปจฺจโย, น ปรสฺส สทฺธาย เอตฺถ วตฺตตีติ อปรปฺปจฺจโย. เสสํ สพฺพตฺถ วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานตฺถตฺตา จ ปากฏเมวาติ.
อิติ สุมงฺคลวิลาสินิยา ทีฆนิกายฏฺกถายํ
อมฺพฏฺสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.