📜

๔. โสณทณฺฑสุตฺตวณฺณนา

๓๐๐. เอวํ เม สุตํ…เป… องฺเคสูติ โสณทณฺฑสุตฺตํ. ตตฺรายํ อปุพฺพปทวณฺณนา. องฺเคสูติ องฺคา นาม องฺคปาสาทิกตาย เอวํ ลทฺธโวหารา ชานปทิโน ราชกุมารา, เตสํ นิวาโส เอโกปิ ชนปโท รูฬฺหิสทฺเทน องฺคาติ วุจฺจติ, ตสฺมึ องฺเคสุ ชนปเท. จาริกนฺติ อิธาปิ อตุริตจาริกา เจว นิพทฺธจาริกา จ อธิปฺเปตา. ตทา กิร ภควโต ทสสหสฺสิโลกธาตุํ โอโลเกนฺตสฺส โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ าณชาลสฺส อนฺโต ปฺายิตฺถ. อถ ภควา อยํ พฺราหฺมโณ มยฺหํ าณชาเล ปฺายติ. ‘อตฺถิ นุ ขฺวสฺสุปนิสฺสโย’ติ วีมํสนฺโต อทฺทส. ‘มยิ ตตฺถ คเต เอตสฺส อนฺเตวาสิโน ทฺวาทสหากาเรหิ พฺราหฺมณสฺส วณฺณํ ภาสิตฺวา มม สนฺติเก อาคนฺตุํ น ทสฺสนฺติ. โส ปน เตสํ วาทํ ภินฺทิตฺวา เอกูนตึส อากาเรหิ มม วณฺณํ ภาสิตฺวา มํ อุปสงฺกมิตฺวา ปฺหํ ปุจฺฉิสฺสติ. โส ปฺหวิสฺสชฺชนปริโยสาเน สรณํ คมิสฺสตี’ติ, ทิสฺวา ปฺจสตภิกฺขุปริวาโร ตํ ชนปทํ ปฏิปนฺโน. เตน วุตฺตํ – องฺเคสุ จาริกํ จรมาโน…เป… เยน จมฺปา ตทวสรีติ.

คคฺคราย โปกฺขรณิยา ตีเรติ ตสฺส จมฺปานครสฺส อวิทูเร คคฺคราย นาม ราชคฺคมเหสิยา ขณิตตฺตา คคฺคราติ ลทฺธโวหารา โปกฺขรณี อตฺถิ. ตสฺสา ตีเร สมนฺตโต นีลาทิปฺจวณฺณกุสุมปฏิมณฺฑิตํ มหนฺตํ จมฺปกวนํ. ตสฺมึ ภควา กุสุมคนฺธสุคนฺเธ จมฺปกวเน วิหรติ. ตํ สนฺธาย คคฺคราย โปกฺขรณิยา ตีเรติ วุตฺตํ. มาคเธน เสนิเยน พิมฺพิสาเรนาติ เอตฺถ โส ราชา มคธานํ อิสฺสรตฺตา มาคโธ. มหติยา เสนาย สมนฺนาคตตฺตา เสนิโย. พิมฺพีติ สุวณฺณํ. ตสฺมา สารสุวณฺณสทิสวณฺณตาย พิมฺพิสาโรติ วุจฺจติ.

๓๐๑-๓๐๒. พหู พหู หุตฺวา สํหตาติ สงฺฆา. เอเกกิสฺสาย ทิสาย สงฺโฆ เอเตสํ อตฺถีติ สงฺฆี. ปุพฺเพ นครสฺส อนฺโต อคณา พหิ นิกฺขมิตฺวา คณตํ ปตฺตาติ คณีภูตา. ขตฺตํ อามนฺเตสีติ. ขตฺตา วุจฺจติ ปุจฺฉิตปฺเห พฺยากรณสมตฺโถ มหามตฺโต, ตํ อามนฺเตสิ อาคเมนฺตูติ มุหุตฺตํ ปฏิมาเนนฺตุ, มา คจฺฉนฺตูติ วุตฺตํ โหติ.

โสณทณฺฑคุณกถา

๓๐๓. นานาเวรชฺชกานนฺติ นานาวิเธสุ รชฺเชสุ, อฺเสุ อฺเสุ กาสิโกสลาทีสุ รชฺเชสุ ชาตา, ตานิ วา เตสํ นิวาสา, ตโต วา อาคตาติ นานาเวรชฺชกา, เตสํ นานาเวรชฺชกานํ. เกนจิเทว กรณีเยนาติ ตสฺมึ กิร นคเร ทฺวีหิ กรณีเยหิ พฺราหฺมณา สนฺนิปตนฺติ – ยฺานุภวนตฺถํ วา มนฺตสชฺฌายนตฺถํ วา. ตทา จ ตสฺมึ นคเร ยมฺา นตฺถิ. โสณทณฺฑสฺส ปน สนฺติเก มนฺตสชฺฌายนตฺถํ เอเต สนฺนิปติตา. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘เกนจิเทว กรณีเยนา’’ติ. เต ตสฺส คมนํ สุตฺวา จินฺเตสุํ – ‘‘อยํ โสณทณฺโฑ อุคฺคตพฺราหฺมโณ เยภุยฺเยน จ อฺเ พฺราหฺมณา สมณํ โคตมํ สรณํ คตา, อยเมว น คโต. สฺวายํ สเจ ตตฺถ คมิสฺสติ, อทฺธา สมณสฺส โคตมสฺส อาวฏฺฏนิยา มายาย อาวฏฺฏิโต, ตํ สรณํ คมิสฺสติ. ตโต เอตสฺสาปิ เคหทฺวาเร พฺราหฺมณานํ สนฺนิปาโต น ภวิสฺสตี’’ติ. ‘‘หนฺทสฺส คมนนฺตรายํ กโรมา’’ติ สมฺมนฺตยิตฺวา ตตฺถ อคมํสุ. ตํ สนฺธาย – อถ โข เต พฺราหฺมณาติอาทิ วุตฺตํ.

ตตฺถ อิมินาปงฺเคนาติ อิมินาปิ การเณน. เอวํ เอตํ การณํ วตฺวา ปุน – ‘‘อตฺตโน วณฺเณ ภฺมาเน อตุสฺสนกสตฺโต นาม นตฺถิ. หนฺทสฺส วณฺณํ ภณเนน คมนํ นิวาเรสฺสามา’’ติ จินฺเตตฺวา ภวฺหิ โสณทณฺโฑ อุภโต สุชาโตติอาทีนิ การณานิ อาหํสุ.

อุภโตติ ทฺวีหิ ปกฺเขหิ. มาติโต จ ปิติโต จาติ โภโต มาตา พฺราหฺมณี, มาตุมาตา พฺราหฺมณี, ตสฺสาปิ มาตา พฺราหฺมณี; ปิตา พฺราหฺมโณ, ปิตุปิตา พฺราหฺมโณ, ตสฺสาปิ ปิตา พฺราหฺมโณติ, เอวํ ภวํ อุภโต สุชาโต มาติโต จ ปิติโต จ. สํสุทฺธคหณิโกติ สํสุทฺธา เต มาตุคหณี กุจฺฉีติ อตฺโถ. สมเวปากินิยา คหณิยาติ เอตฺถ ปน กมฺมชเตโชธาตุ ‘‘คหณี’’ติ วุจฺจติ.

ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคาติ เอตฺถ ปิตุปิตา ปิตามโห, ปิตามหสฺส ยุคํ ปิตามหยุคํ. ยุคนฺติ อายุปฺปมาณํ วุจฺจติ. อภิลาปมตฺตเมว เจตํ. อตฺถโต ปน ปิตามโหเยว ปิตามหยุคํ. ตโต อุทฺธํ สพฺเพปิ ปุพฺพปุริสา ปิตามหคฺคหเณเนว คหิตา. เอวํ ยาว สตฺตโม ปุริโส , ตาว สํสุทฺธคหณิโก. อถ วา อกฺขิตฺโต อนุปกุฏฺโ ชาติวาเทนาติ ทสฺเสนฺติ. อกฺขิตฺโตติ – ‘‘อปเนถ เอตํ, กึ อิมินา’’ติ เอวํ อกฺขิตฺโต อนวกฺขิตฺโต. อนุปกุฏฺโติ น อุปกุฏฺโ, น อกฺโกสํ วา นินฺทํ วา ลทฺธปุพฺโพ. เกน การเณนาติ? ชาติวาเทน. อิติปิ – ‘‘หีนชาติโก เอโส’’ติ เอวรูเปน วจเนนาติ อตฺโถ.

อฑฺโฒติ อิสฺสโร. มหทฺธโนติ มหตา ธเนน สมนฺนาคโต. ภวโต หิ เคเห ปถวิยํ ปํสุวาลิกา วิย พหุธนํ, สมโณ ปน โคตโม อธโน ภิกฺขาย อุทรํ ปูเรตฺวา ยาเปตีติ ทสฺเสนฺติ. มหาโภโคติ ปฺจกามคุณวเสน มหาอุปโภโค. เอวํ ยํ ยํ คุณํ วทนฺติ, ตสฺส ตสฺส ปฏิปกฺขวเสน ภควโต อคุณํเยว ทสฺเสมาติ มฺมานา วทนฺติ.

อภิรูโปติ อฺเหิ มนุสฺเสหิ อภิรูโป อธิกรูโป. ทสฺสนีโยติ ทิวสมฺปิ ปสฺสนฺตานํ อติตฺติกรณโต ทสฺสนโยคฺโค. ทสฺสเนเนว จิตฺตปสาทชนนโต ปาสาทิโก. โปกฺขรตา วุจฺจติ สุนฺทรภาโว, วณฺณสฺส โปกฺขรตา วณฺณโปกฺขรตา, ตาย วณฺณสมฺปตฺติยา ยุตฺโตติ อตฺโถ. โปราณา ปนาหุ – ‘‘โปกฺขรนฺติ สรีรํ วทนฺติ, วณฺณํ วณฺณเมวา’’ติ. เตสํ มเตน วณฺณฺจ โปกฺขรฺจ วณฺณโปกฺขรานิ. เตสํ ภาโว วณฺณโปกฺขรตา. อิติ ปรมาย วณฺณโปกฺขรตายาติ อุตฺตเมน ปริสุทฺเธน วณฺเณน เจว สรีรสณฺานสมฺปตฺติยา จาติ อตฺโถ. พฺรหฺมวณฺณีติ เสฏฺวณฺณี. ปริสุทฺธวณฺเณสุปิ เสฏฺเน สุวณฺณวณฺเณน สมนฺนาคโตติ อตฺโถ. พฺรหฺมวจฺฉสีติ มหาพฺรหฺมุโน สรีรสทิเสเนว สรีเรน สมนฺนาคโต. อขุทฺทาวกาโส ทสฺสนายาติ ‘‘โภโต สรีเร ทสฺสนสฺส โอกาโส น ขุทฺทโก มหา, สพฺพาเนว เต องฺคปจฺจงฺคานิ ทสฺสนียาเนว, ตานิ จาปิ มหนฺตาเนวา’’ติ ทีเปนฺติ.

สีลมสฺส อตฺถีติ สีลวา. วุทฺธํ วทฺธิตํ สีลมสฺสาติ วุทฺธสีลี. วุทฺธสีเลนาติ วุทฺเธน วทฺธิเตน สีเลน. สมนฺนาคโตติ ยุตฺโต. อิทํ วุทฺธสีลีปทสฺเสว เววจนํ. สพฺพเมตํ ปฺจสีลมตฺตเมว สนฺธาย วทนฺติ.

กลฺยาณวาโจติอาทีสุ กลฺยาณา สุนฺทรา ปริมณฺฑลปทพฺยฺชนา วาจา อสฺสาติ กลฺยาณวาโจ. กลฺยาณํ มธุรํ วากฺกรณํ อสฺสาติ กลฺยาณวากฺกรโณ. วากฺกรณนฺติ อุทาหรณโฆโส. คุณปริปุณฺณภาเวน ปุเร ภวาติ โปรี. ปุเร วา ภวตฺตา โปรี. โปริยา นาคริกิตฺถิยา สุขุมาลตฺตเนน สทิสาติ โปรี, ตาย โปริยา. วิสฺสฏฺายาติ อปลิพุทฺธาย สนฺทิฏฺวิลมฺพิตาทิโทสรหิตาย. อเนลคลายาติ เอลคเฬนวิรหิตาย. ยสฺส กสฺสจิ หิ กเถนฺตสฺส เอลา คฬนฺติ, ลาลา วา ปคฺฆรนฺติ, เขฬผุสิตานิ วา นิกฺขมนฺติ, ตสฺส วาจา เอลคฬํ นาม โหติ, ตพฺพิปริตายาติ อตฺโถ. อตฺถสฺส วิฺาปนิยาติ อาทิมชฺฌปริโยสานํ ปากฏํ กตฺวา ภาสิตตฺถสฺส วิฺาปนสมตฺถาย.

ชิณฺโณติ ชราชิณฺณตาย ชิณฺโณ. วุทฺโธติ องฺคปจฺจงฺคานํ วุทฺธิภาวมริยาทปฺปตฺโต. มหลฺลโกติ ชาติมหลฺลกตาย สมนฺนาคโต. จิรกาลปฺปสุโตติ วุตฺตํ โหติ. อทฺธคโตติ อทฺธานํ คโต, ทฺเว ตโย ราชปริวฏฺเฏ อตีโตติ อธิปฺปาโย. วโยอนุปฺปตฺโตติ ปจฺฉิมวยํ สมฺปตฺโต, ปจฺฉิมวโย นาม วสฺสสตสฺส ปจฺฉิโม ตติยภาโค.

อปิ จ ชิณฺโณติ โปราโณ, จิรกาลปฺปวตฺตกุลนฺวโยติ วุตฺตํ โหติ. วุทฺโธติ สีลาจาราทิคุณวุทฺธิยา ยุตฺโต. มหลฺลโกติ วิภวมหนฺตาย สมนฺนาคโต. อทฺธคโตติ มคฺคปฺปฏิปนฺโน พฺราหฺมณานํ วตจริยาทิมริยาทํ อวีติกฺกมฺม จรณสีโล. วโยอนุปฺปตฺโตติ ชาติวุทฺธภาวมฺปิ อนฺติมวยํ อนุปฺปตฺโต.

พุทฺธคุณกถา

๓๐๔. เอวํ วุตฺเตติ เอวํ เตหิ พฺราหฺมเณหิ วุตฺเต. โสณทณฺโฑ – ‘‘อิเม พฺราหฺมณา ชาติอาทีหิ มม วณฺณํ วทนฺติ, น โข ปน เมตํ ยุตฺตํ อตฺตโน วณฺเณ รชฺชิตุํ. หนฺทาหํ เอเตสํ วาทํ ภินฺทิตฺวา สมณสฺส โคตมสฺส มหนฺตภาวํ าเปตฺวา เอเตสํ ตตฺถ คมนํ กโรมี’’ติ จินฺเตตฺวา เตน หิ – โภ มมปิ สุณาถาติอาทิมาห. ตตฺถ เยปิ อุภโต สุชาโตติ อาทโย อตฺตโน คุเณหิ สทิสา คุณา เตปิ ; ‘‘โก จาหํ เก จ สมณสฺส โคตมสฺส ชาติสมฺปตฺติอาทโย คุณา’’ติ อตฺตโน คุเณหิ อุตฺตริตเรเยว มฺมาโน, อิตเร ปน เอกนฺเตเนว ภควโต มหนฺตภาวทีปนตฺถํ ปกาเสติ.

มยเมว อรหามาติ เอวํ นิยาเมนฺโตเวตฺถ อิทํ ทีเปติ – ‘‘ยทิ คุณมหนฺตตาย อุปสงฺกมิตพฺโพ นาม โหติ. ยถา หิ สิเนรุํ อุปนิธาย สาสโป, มหาสมุทฺทํ อุปนิธาย โคปทกํ, สตฺตสุ มหาสเรสุ อุทกํ อุปนิธาย อุสฺสาวพินฺทุ ปริตฺโต ลามโก. เอวเมว สมณสฺส โคตมสฺส ชาติสมฺปตฺติอาทโยปิ คุเณ อุปนิธาย อมฺหากํ คุณา ปริตฺตา ลามกา; ตสฺมา มยเมว อรหาม ตํ ภวนฺตํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุ’’นฺติ.

มหนฺตําติสํฆํ โอหายาติ มาติปกฺเข อสีติกุลสหสฺสานิ , ปิติปกฺเข อสีติกุลสหสฺสานีติ เอวํ สฏฺิกุลสตสหสฺสํ โอหาย ปพฺพชิโต.

ภูมิคตฺจ เวหาสฏฺฺจาติ เอตฺถ ราชงฺคเณ เจว อุยฺยาเน จ สุธามฏฺโปกฺขรณิโย สตฺตรตนานํ ปูเรตฺวา ภูมิยํ ปิตํ ธนํ ภูมิคตํ นาม. ปาสาทนิยูหาทโย ปริปูเรตฺวา ปิตํ เวหาสฏฺํ นาม. เอตํ ตาว กุลปริยาเยน อาคตํ. ตถาคตสฺส ปน ชาตทิวเสเยว สงฺโข, เอโล, อุปฺปโล, ปุณฺฑรีโกติ จตฺตาโร นิธโย อุคฺคตา. เตสุ สงฺโข คาวุติโก, เอโล อฑฺฒโยชนิโก, อุปฺปโล ติคาวุติโก, ปุณฺฑรีโก โยชนิโก. เตสุปิ คหิตํ คหิตํ ปูรติเยว, อิติ ภควา ปหูตํ หิรฺสุวณฺณํ โอหาย ปพฺพชิโตติ เวทิตพฺโพ.

ทหโรว สมาโนติ ตรุโณว สมาโน. สุสุกาฬเกโสติ สุฏฺุ กาฬเกโส, อฺชนวณฺณสทิสเกโส หุตฺวา วาติ อตฺโถ. ภทฺเรนาติ ภทฺทเกน. ปเมน วยสาติ ติณฺณํ วยานํ ปมวเยน. อกามกานนฺติ อนิจฺฉมานานํ. อนาทรตฺเถ สามิวจนํ. อสฺสูนิ มุเข เอเตสนฺติ อสฺสุมุขา, เตสํ อสฺสุมุขานํ, อสฺสูหิ กิลินฺนมุขานนฺติ อตฺโถ. รุทนฺตานนฺติ กนฺทิตฺวา โรทมานานํ. อขุทฺทาวกาโสติ เอตฺถ ภควโต อปริมาโณเยว ทสฺสนาย โอกาโสติ เวทิตพฺโพ.

ตตฺริทํ วตฺถุ – ราชคเห กิร อฺตโร พฺราหฺมโณ สมณสฺส โคตมสฺส ปมาณํ คเหตุํ น สกฺโกตีติ สุตฺวา ภควโต ปิณฺฑาย ปวิสนกาเล สฏฺิหตฺถํ เวฬุํ คเหตฺวา นครทฺวารสฺส พหิ ตฺวา สมฺปตฺเต ภควติ เวฬุํ คเหตฺวา สมีเป อฏฺาสิ. เวฬุ ภควโต ชาณุกมตฺตํ ปาปุณิ. ปุน ทิวเส ทฺเว เวฬู ฆเฏตฺวา สมีเป อฏฺาสิ. ภควาปิ ทฺวินฺนํ เวฬูนํ อุปริ กฏิมตฺตเมว ปฺายมาโน – ‘‘พฺราหฺมณ, กึ กโรสี’’ติ อาห. ตุมฺหากํ ปมาณํ คณฺหามีติ. ‘‘พฺราหฺมณ, สเจปิ ตฺวํ สกลจกฺกวาฬคพฺภํ ปูเรตฺวา ิเต เวฬู ฆเฏตฺวา อาคมิสฺสสิ, เนว เม ปมาณํ คเหตุํ สกฺขิสฺสสิ. น หิ มยา จตฺตาริ อสงฺขฺเยยานิ กปฺปสตสหสฺสฺจ ตถา ปารมิโย ปูริตา, ยถา เม ปโร ปมาณํ คณฺเหยฺย, อตุโล, พฺราหฺมณ, ตถาคโต อปฺปเมยฺโย’’ติ วตฺวา ธมฺมปเท คาถมาห –

‘‘เต ตาทิเส ปูชยโต, นิพฺพุเต อกุโตภเย;

น สกฺกา ปุฺํ สงฺขาตุํ, อิเมตฺตมปิ เกนจี’’ติ. (ธ. ป. ๓๖);

คาถาปริโยสาเน จตุราสีติปาณสหสฺสานิ อมตํ ปิวึสุ.

อปรมฺปิ วตฺถุ – ราหุ กิร อสุรินฺโท จตฺตาริ โยชนสหสฺสานิ อฏฺ จ โยชนสตานิ อุจฺโจ. พาหนฺตรมสฺส ทฺวาทสโยชนสตานิ. พหลนฺตเรน ฉ โยชนสตานิ. หตฺถตลปาทตลานํ ปุถุลโต ตีณิ โยชนสตานิ. องฺคุลิปพฺพานิ ปณฺณาสโยชนานิ. ภมุกนฺตรํ ปณฺณาสโยชนํ. มุขํ ทฺวิโยชนสตํ ติโยชนสตคมฺภีรํ ติโยชนสตปริมณฺฑลํ. คีวา ติโยชนสตํ. นลาฏํ ติโยชนสตํ. สีสํ นวโยชนสตํ. ‘‘โส อหํ อุจฺโจสฺมิ, สตฺถารํ โอนมิตฺวา โอโลเกตุํ น สกฺขิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา นาคจฺฉิ. โส เอกทิวสํ ภควโต วณฺณํ สุตฺวา – ‘‘ยถากถฺจ โอโลเกสฺสามี’’ติ อาคโต.

อถ ภควา ตสฺสชฺฌาสยํ วิทิตฺวา – ‘‘จตูสุ อิริยาปเถสุ กตเรน ทสฺเสสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘ิตโก นาม นีโจปิ อุจฺโจ วิย ปฺายติ. นิปนฺโนวสฺส อตฺตานํ ทสฺเสสฺสามี’’ติ ‘‘อานนฺท, คนฺธกุฏิปริเวเณ มฺจกํ ปฺาเปหี’’ติ วตฺวา ตตฺถ สีหเสยฺยํ กปฺเปสิ. ราหุ อาคนฺตฺวา นิปนฺนํ ภควนฺตํ คีวํ อุนฺนาเมตฺวา นภมชฺเฌ ปุณฺณจนฺทํ วิย อุลฺโลเกสิ. กิมิทํ อสุรินฺทาติ จ วุตฺเต – ‘‘ภควา โอนมิตฺวา โอโลเกตุํ น สกฺขิสฺสามี’’ติ นาคจฺฉินฺติ. น มยา, อสุรินฺท, อโธมุเขน ปารมิโย ปูริตา. อุทฺธคฺคเมว กตฺวา ทานํ ทินฺนนฺติ. ตํ ทิวสํ ราหุ สรณํ อคมาสิ. เอวํ ภควา อขุทฺทาวกาโส ทสฺสนาย.

จตุปาริสุทฺธิสีเลน สีลวา, ตํ ปน สีลํ อริยํ อุตฺตมํ ปริสุทฺธํ. เตนาห – ‘‘อริยสีลี’’ติ. ตเทตํ อนวชฺชฏฺเน กุสลํ. เตนาห – ‘‘กุสลสีลี’’ติ. กุสลสีเลนาติ อิทมสฺส เววจนํ.

พหูนํ อาจริยปาจริโยติ ภควโต เอเกกาย ธมฺมเทสนาย จตุราสีติปาณสหสฺสานิ อปริมาณาปิ เทวมนุสฺสา มคฺคผลามตํ ปิวนฺติ, ตสฺมา พหูนํ อาจริโย. สาวกเวเนยฺยานํ ปน ปาจริโยติ.

ขีณกามราโคติ เอตฺถ กามํ ภควโต สพฺเพปิ กิเลสา ขีณา. พฺราหฺมโณ ปน เต น ชานาติ. อตฺตโน ชานนฏฺาเนเยว คุณํ กเถติ. วิคตจาปลฺโลติ – ‘‘ปตฺตมณฺฑนา จีวรมณฺฑนา เสนาสนมณฺฑนา อิมสฺส วา ปูติกายสฺส…เป… เกลนา ปฏิเกลนา’’ติ (วิภ. ๘๕๔) เอวํ วุตฺตจาปลฺลา วิรหิโต.

อปาปปุเรกฺขาโรติ อปาเป นว โลกุตฺตรธมฺเม ปุรโต กตฺวา วิจรติ. พฺรหฺมฺาย ปชายาติ สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานมหากสฺสปาทิเภทาย พฺราหฺมณปชาย, เอติสฺสาย จ ปชาย ปุเรกฺขาโร. อยฺหิ ปชา สมณํ โคตมํ ปุรกฺขตฺวา จรตีติ อตฺโถ. อปิ จ อปาปปุเรกฺขาโรติ น ปาปํ ปุเรกฺขาโร น ปาปํ ปุรโต กตฺวา จรติ, น ปาปํ อิจฺฉตีติ อตฺโถ. กสฺส? พฺรหฺมฺาย ปชาย. อตฺตนา สทฺธึ ปฏิวิรุทฺธายปิ พฺราหฺมณปชาย อวิรุทฺโธ หิตสุขตฺถิโก เยวาติ วุตฺตํ โหติ.

ติโรรฏฺาติ ปรรฏฺโต. ติโรชนปทาติ ปรชนปทโต. ปฺหํ ปุจฺฉิตุํ อาคจฺฉนฺตีติ ขตฺติยปณฺฑิตาทโย เจว เทวพฺรหฺมนาคคนฺธพฺพาทโย จ – ‘‘ปฺเห อภิสงฺขริตฺวา ปุจฺฉิสฺสามา’’ติ อาคจฺฉนฺติ. ตตฺถ เกจิ ปุจฺฉาย วา โทสํ วิสฺสชฺชนสมฺปฏิจฺฉเน วา อสมตฺถตํ สลฺลกฺเขตฺวา อปุจฺฉิตฺวาว ตุณฺหี นิสีทนฺติ. เกจิ ปุจฺฉนฺติ. เกสฺจิ ภควา ปุจฺฉาย อุสฺสาหํ ชเนตฺวา วิสฺสชฺเชติ. เอวํ สพฺเพสมฺปิ เตสํ วิมติโย ตีรํ ปตฺวา มหาสมุทฺทสฺส อูมิโย วิย ภควนฺตํ ปตฺวา ภิชฺชนฺติ.

เอหิสฺวาคตวาทีติ เทวมนุสฺสปพฺพชิตคหฏฺเสุ ตํ ตํ อตฺตโน สนฺติกํ อาคตํ – ‘‘เอหิ สฺวาคต’’นฺติ เอวํ วทตีติ อตฺโถ. สขิโลติ ตตฺถ กตมํ สาขลฺยํ? ‘‘ยา สา วาจา เนลา กณฺณสุขา’’ติอาทินา นเยน วุตฺตสาขลฺเยน สมนฺนาคโต, มุทุวจโนติ อตฺโถ. สมฺโมทโกติ ปฏิสนฺถารกุสโล, อาคตาคตานํ จตุนฺนํ ปริสานํ – ‘‘กจฺจิ, ภิกฺขเว, ขมนียํ, กจฺจิ ยาปนีย’’นฺติอาทินา นเยน สพฺพํ อทฺธานทรถํ วูปสเมนฺโต วิย ปมตรํ สมฺโมทนียํ กถํ กตฺตาติ อตฺโถ. อพฺภากุฏิโกติ ยถา เอกจฺเจ ปริสํ ปตฺวา ถทฺธมุขา สงฺกุฏิตมุขา โหนฺติ, น เอทิโส, ปริสทสฺสเนน ปนสฺส พาลาตปสมฺผสฺเสน วิย ปทุมํ มุขปทุมํ วิกสติ ปุณฺณจนฺทสสฺสิริกํ โหติ. อุตฺตานมุโขติ ยถา เอกจฺเจ นิกุชฺชิตมุขา วิย สมฺปตฺตาย ปริสาย น กิฺจิ กเถนฺติ, อติทุลฺลภกถา โหนฺติ, น เอวรูโป. สมโณ ปน โคตโม สุลภกโถ. น ตสฺส สนฺติกํ อาคตาคตานํ – ‘‘กสฺมา มยํ อิธาคตา’’ติ วิปฺปฏิสาโร อุปฺปชฺชติ ธมฺมํ ปน สุตฺวา อตฺตมนาว โหนฺตีติ ทสฺเสติ. ปุพฺพภาสีติ ภาสนฺโต จ ปมตรํ ภาสติ, ตฺจ โข กาลยุตฺตํ ปมาณยุตฺตํ อตฺถนิสฺสิตเมว ภาสติ, น นิรตฺถกกถํ.

ตสฺมึ คาเม วาติ ยตฺถ กิร ภควา ปฏิวสติ, ตตฺถ มเหสกฺขา เทวตา อารกฺขํ คณฺหนฺติ, ตํ นิสฺสาย มนุสฺสานํ อุปทฺทโว น โหติ, ปํสุปิสาจกาทโยเยว หิ มนุสฺเส วิเหเนฺติ, เต ตาสํ อานุภาเวน ทูรํ อปกฺกมนฺติ. อปิ จ ภควโต เมตฺตาพเลนปิ น อมนุสฺสา มนุสฺเส วิเหเนฺติ.

สงฺฆีติอาทีสุ อนุสาสิตพฺโพ สยํ วา อุปฺปาทิโต สงฺโฆ อสฺส อตฺถีติ สงฺฆี. ตาทิโส จสฺส คโณ อตฺถีติ คณี. ปุริมปทสฺเสว วา เววจนเมตํ. อาจารสิกฺขาปนวเสน คณสฺส อาจริโยติ คณาจริโย. ปุถุติตฺถกรานนฺติ พหูนํ ติตฺถกรานํ. ยถาวา ตถา วาติ เยน วา เตน วา อเจลกาทิมตฺตเกนาปิ การเณน. สมุทาคจฺฉตีติ สมนฺตโต อุปคจฺฉติ อภิวฑฺฒติ.

อติถิ โน เต โหนฺตีติ เต อมฺหากํ อาคนฺตุกา, นวกา ปาหุนกา โหนฺตีติ อตฺโถ. ปริยาปุณามีติ ชานามิ. อปริมาณวณฺโณติ ตถารูเปเนว สพฺพฺุนาปิ อปฺปเมยฺยวณฺโณ – ‘‘ปเคว มาทิเสนา’’ติ ทสฺเสติ. วุตฺตมฺปิ เจตฺตํ –

‘‘พุทฺโธปิ พุทฺธสฺส ภเณยฺย วณฺณํ,

กปฺปมฺปิ เจ อฺมภาสมาโน;

ขีเยถ กปฺโป จิรทีฆมนฺตเร,

วณฺโณ น ขีเยถ ตถาคตสฺสา’’ติ.

๓๐๕. อิมํ ปน สตฺถุ คุณกถํ สุตฺวา เต พฺราหฺมณา จินฺตยึสุ – ยถา โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ สมณสฺส โคตมสฺส วณฺเณ ภณติ, อโนมคุโณ โส ภวํ โคตโม; เอวํ ตสฺส คุเณ ชานมาเนน โข ปน อาจริเยน อติจิรํ อธิวาสิตํ, หนฺท นํ อนุวตฺตามาติ อนุวตฺตึสุ. ตสฺมา เอวํ วุตฺเต ‘‘เต พฺราหฺมณา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อลเมวาติ ยุตฺตเมว. อปิ ปุโฏเสนาติ ปุโฏสํ วุจฺจติ ปาเถยฺยํ, ตํ คเหตฺวาปิ อุปสงฺกมิตุํ ยุตฺตเมวาติ อตฺโถ. ปุฏํเสนาติปิ ปาโ, ตสฺสตฺโถ, ปุโฏ อํเส อสฺสาติ ปุฏํโส, เตน ปุฏํเสน. อํเสน หิ ปาเถยฺยปุฏํ วหนฺเตนาปีติ วุตฺตํ โหติ.

โสณทณฺฑปริวิตกฺกวณฺณนา

๓๐๖-๓๐๘. ติโรวนสณฺฑคตสฺสาติ อนฺโตวนสณฺเฑ คตสฺส, วิหารพฺภนฺตรํ ปวิฏฺสฺสาติ อตฺโถ. อฺชลึ ปณาเมตฺวาติ เอเต อุภโตปกฺขิกา, เต เอวํ จินฺตยึสุ – ‘‘สเจ โน มิจฺฉาทิฏฺิกา โจเทสฺสนฺติ – ‘กสฺมา ตุมฺเห สมณํ โคตมํ วนฺทิตฺถา’ติ? เตสํ – ‘กึ อฺชลิมตฺตกรเณนาปิ วนฺทนํ นาม โหตี’ติ วกฺขาม. สเจ โน สมฺมาทิฏฺิกา โจเทสฺสนฺติ – ‘กสฺมา ตุมฺเห ภควนฺตํ น วนฺทิตฺถา’ติ. ‘กึ สีเสน ภูมิยํ ปหรนฺเตเนว วนฺทนํ นาม โหติ, นนุ อฺชลิกมฺมมฺปิ วนฺทนํ เอวา’ติ วกฺขามา’’ติ. นามโคตฺตนฺติ ‘‘โภ, โคตม, อหํ อสุกสฺส ปุตฺโต ทตฺโต นาม, มิตฺโต นาม, อิธาคโต’’ติ วทนฺตา นามํ สาเวนฺติ นาม. ‘‘โภ, โคตม, อหํ วาเสฏฺโ นาม, กจฺจาโน นาม, อิธาคโต’’ติ วทนฺตา โคตฺตํ สาเวนฺติ นาม. เอเต กิร ทลิทฺทา ชิณฺณา กุลปุตฺตา ‘‘ปริสมชฺเฌ นามโคตฺตวเสน ปากฏา ภวิสฺสามา’’ติ เอวมกํสุ. เย ปน ตุณฺหีภูตา นิสีทึสุ, เต เกราฏิกา เจว อนฺธพาลา จ. ตตฺถ เกราฏิกา – ‘‘เอกํ ทฺเว กถาสลฺลาเปปิ กโรนฺโต วิสฺสาสิโก โหติ, อถ วิสฺสาเส สติ เอกํ ทฺเว ภิกฺขา อทาตุํ น ยุตฺต’’นฺติ ตโต อตฺตานํ โมเจตฺวา ตุณฺหี นิสีทนฺติ. อนฺธพาลา อฺาณตาเยว อวกฺขิตฺตมตฺติกาปิณฺโฑ วิย ยตฺถ กตฺถจิ ตุณฺหีภูตา นิสีทนฺติ.

พฺราหฺมณปฺตฺติวณฺณนา

๓๐๙-๓๑๐. เจตสา เจโตปริวิตกฺกนฺติ ภควา – ‘‘อยํ พฺราหฺมโณ อาคตกาลโต ปฏฺาย อโธมุโข ถทฺธคตฺโต กึ จินฺตยมาโน นิสินฺโน, กึ นุ โข จินฺเตตี’’ติ อาวชฺชนฺโต อตฺตโน เจตสา ตสฺส จิตฺตํ อฺาสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺายา’’ติ. วิหฺตีติ วิฆาตํ อาปชฺชติ. อนุวิโลเกตฺวา ปริสนฺติ ภควโต สกสมเย ปฺหปุจฺฉเนน อุทเก มิยมาโน อุกฺขิปิตฺวา ถเล ปิโต วิย สมปสฺสทฺธกายจิตฺโต หุตฺวา ปริสํ สงฺคณฺหนตฺถํ ทิฏฺิสฺชาเนเนว ‘‘อุปธาเรนฺตุ เม โภนฺโต วจน’’นฺติ วทนฺโต วิย อนุวิโลเกตฺวา ปริสํ ภควนฺตํ เอตทโวจ.

๓๑๑-๓๑๓. สุชํ ปคฺคณฺหนฺตานนฺติ ยฺยชนตฺถาย สุชํ คณฺหนฺเตสุ พฺราหฺมเณสุ ปโม วา ทุติโย วาติ อตฺโถ. สุชาย ทิยฺยมานํ มหายาคํ ปฏิคฺคณฺหนฺตานนฺติ โปราณา. อิติ พฺราหฺมโณ สกสมยวเสน สมฺมเทว ปฺหํ วิสฺสชฺเชสิ. ภควา ปน วิเสสโต อุตฺตมพฺราหฺมณสฺส ทสฺสนตฺถํ – ‘‘อิเมสํ ปนา’’ติอาทิมาห. เอตทโวจุนฺติ สเจ ชาติวณฺณมนฺตสมฺปนฺโน พฺราหฺมโณ น โหติ, อถ โก จรหิ โลเก พฺราหฺมโณ ภวิสฺสติ? นาเสติ โน อยํ โสณทณฺโฑ, หนฺทสฺส วาทํ ปฏิกฺขิปิสฺสามาติ จินฺเตตฺวา เอตทโวจุํ. อปวทตีติ ปฏิกฺขิปติ. อนุปกฺขนฺทตีติ อนุปวิสติ. อิทํ – ‘‘สเจ ตฺวํ ปสาทวเสน สมณํ โคตมํ สรณํ คนฺตุกาโม, คจฺฉ; มา พฺราหฺมณสฺส สมยํ ภินฺที’’ติ อธิปฺปาเยน อาหํสุ.

๓๑๔. เอตทโวจาติ อิเมสุ พฺราหฺมเณสุ เอวํ เอกปฺปหาเรเนว วิรวนฺเตสุ ‘‘อยํ กถา ปริโยสานํ น คมิสฺสติ, หนฺท เน นิสฺสทฺเท กตฺวา โสณทณฺเฑเนว สทฺธึ กเถมี’’ติ จินฺเตตฺวา – ‘‘เอตํ สเจ โข ตุมฺหาก’’นฺติอาทิกํ วจนํ อโวจ.

๓๑๕-๓๑๖. สหธมฺเมนาติ สการเณน. สมสโมติ เปตฺวา เอกเทสสมตฺตํ สมภาเวน สโม, สพฺพากาเรน สโมติ อตฺโถ. อหมสฺส มาตาปิตโร ชานามีติ ภคินิยา ปุตฺตสฺส มาตาปิตโร กึ น ชานิสฺสติ, กุลโกฏิปริทีปนํ สนฺธาเยว วทติ. มุสาวาทมฺปิ ภเณยฺยาติ อตฺถภฺชนกํ มุสาวาทํ กเถยฺย. กึ วณฺโณ กริสฺสตีติ อพฺภนฺตเร คุเณ อสติ กึ กริสฺสติ? กิมสฺส พฺราหฺมณภาวํ รกฺขิตุํ สกฺขิสฺสตีติ อตฺโถ. อถาปิ สิยา ปุน – ‘‘ปกติสีเล ิตสฺส พฺราหฺมณภาวํ สาเธนฺตี’’ติ เอวมฺปิ สีลเมว สาเธสฺสติ, ตสฺมึ หิสฺส อสติ พฺราหฺมณภาโว นาโหสีติ สมฺโมหมตฺตํ วณฺณาทโย. อิทํ ปน สุตฺวา เต พฺราหฺมณา – ‘‘สภาวํ อาจริโย อาห, อการณาว มยํ อุชฺฌายิมฺหา’’ติ ตุณฺหี อเหสุํ.

สีลปฺากถาวณฺณนา

๓๑๗. ตโต ภควา ‘กถิโต พฺราหฺมเณน ปฺโห, กึ ปเนตฺถ ปติฏฺาตุํ สกฺขิสฺสติ, น สกฺขิสฺสตี’ติ? ตสฺส วีมํสนตฺถํ – ‘‘อิเมสํ ปน พฺราหฺมณา’’ติอาทิมาห. สีลปริโธตาติ สีลปริสุทฺธา. ยตฺถ สีลํ ตตฺถ ปฺาติ ยสฺมึ ปุคฺคเล สีลํ, ตตฺเถว ปฺา, กุโต ทุสฺสีเล ปฺา? ปฺารหิเต วา ชเฬ เอฬมูเค กุโต สีลนฺติ? สีลปฺาณนฺติ สีลฺจ ปฺาณฺจ สีลปฺาณํ. ปฺาณนฺติ ปฺาเยว. เอวเมตํ พฺราหฺมณาติ ภควา พฺราหฺมณสฺส วจนํ อนุชานนฺโต อาห. ตตฺถ สีลปริโธตา ปฺาติ จตุปาริสุทฺธิสีเลน โธตา. กถํ ปน สีเลน ปฺํ โธวตีติ? ยสฺส ปุถุชฺชนสฺส สีลํ สฏฺิอสีติวสฺสานิ อขณฺฑํ โหติ, โส มรณกาเลปิ สพฺพกิเลเส ฆาเตตฺวา สีเลน ปฺํ โธวิตฺวา อรหตฺตํ คณฺหาติ. กนฺทรสาลปริเวเณ มหาสฏฺิวสฺสตฺเถโร วิย. เถเร กิร มรณมฺเจ นิปชฺชิตฺวา พลวเวทนาย นิตฺถุนนฺเต , ติสฺสมหาราชา ‘‘เถรํ ปสฺสิสฺสามี’’ติ คนฺตฺวา ปริเวณทฺวาเร ิโต ตํ สทฺทํ สุตฺวา ปุจฺฉิ – ‘‘กสฺส สทฺโท อย’’นฺติ? เถรสฺส นิตฺถุนนสทฺโทติ. ‘‘ปพฺพชฺชาย สฏฺิวสฺเสน เวทนาปริคฺคหมตฺตมฺปิ น กตํ, น ทานิ นํ วนฺทิสฺสามี’’ติ นิวตฺติตฺวา มหาโพธึ วนฺทิตุํ คโต. ตโต อุปฏฺากทหโร เถรํ อาห – ‘‘กึ โน, ภนฺเต, ลชฺชาเปถ, สทฺโธปิ ราชา วิปฺปฏิสารี หุตฺวา น วนฺทิสฺสามี’’ติ คโตติ. กสฺมา อาวุโสติ? ตุมฺหากํ นิตฺถุนนสทฺทํ สุตฺวาติ. ‘‘เตน หิ เม โอกาสํ กโรถา’’ติ วตฺวา เวทนํ วิกฺขมฺภิตฺวา อรหตฺตํ ปตฺวา ทหรสฺส สฺํ อทาสิ – ‘‘คจฺฉาวุโส, อิทานิ ราชานํ อมฺเห วนฺทาเปหี’’ติ. ทหโร คนฺตฺวา – ‘‘อิทานิ กิร เถรํ, วนฺทถา’’ติ อาห. ราชา สํสุมารปติเตน เถรํ วนฺทนฺโต – ‘‘นาหํ อยฺยสฺส อรหตฺตํ วนฺทามิ, ปุถุชฺชนภูมิยํ ปน ตฺวา รกฺขิตสีลเมว วนฺทามี’’ติ อาห, เอวํ สีเลน ปฺํ โธวติ นาม. ยสฺส ปน อพฺภนฺตเร สีลสํวโร นตฺถิ, อุคฺฆาฏิตฺุตาย ปน จตุปฺปทิกคาถาปริโยสาเน ปฺาย สีลํ โธวิตฺวา สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณาติ. อยํ ปฺาย สีลํ โธวติ นาม. เสยฺยถาปิ สนฺตติมหามตฺโต.

๓๑๘. กตมํ ปน ตํ พฺราหฺมณาติ กสฺมา อาห? ภควา กิร จินฺเตสิ – ‘‘พฺราหฺมณา พฺราหฺมณสมเย ปฺจสีลานิ ‘สีล’นฺติ ปฺาเปนฺติ, เวทตฺตยอุคฺคหณปฺา ปฺาติ. อุปริวิเสสํ น ชานนฺติ. ยํนูนาหํ พฺราหฺมณสฺส อุตฺตริวิเสสภูตํ มคฺคสีลํ, ผลสีลํ, มคฺคปฺํ, ผลปฺฺจ ทสฺเสตฺวา อรหตฺตนิกูเฏน เทสนํ นิฏฺเปยฺย’’นฺติ. อถ นํ กเถตุกมฺยตาย ปุจฺฉนฺโต – ‘‘กตมํ ปน ตํ, พฺราหฺมณ, สีลํ กตมา สา ปฺา’’ติ อาห. อถ พฺราหฺมโณ – ‘‘มยา สกสมยวเสน ปฺโห วิสฺสชฺชิโต. สมโณ ปน มํ โคตโม ปุน นิวตฺติตฺวา ปุจฺฉติ, อิทานิสฺสาหํ จิตฺตํ ปริโตเสตฺวา วิสฺสชฺชิตุํ สกฺกุเณยฺยํ วา น วา? สเจ น สกฺขิสฺสํ ปมํ อุปฺปนฺนาปิ เม ลชฺชา ภิชฺชิสฺสติ. อสกฺโกนฺตสฺส ปน น สกฺโกมีติ วจเน โทโส นตฺถี’’ติ ปุน นิวตฺติตฺวา ภควโตเยว ภารํ กโรนฺโต ‘‘เอตฺตกปรมาว มย’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ เอตฺตกปรมาติ เอตฺตกํ สีลปฺาณนฺติ วจนเมว ปรมํ อมฺหากํ, เต มยํ เอตฺตกปรมา, อิโต ปรํ เอตสฺส ภาสิตสฺส อตฺถํ น ชานามาติ อตฺโถ.

อถสฺส ภควา สีลปฺาย มูลภูตสฺส ตถาคตสฺส อุปฺปาทโต ปภุติ สีลปฺาณํ ทสฺเสตุํ – ‘‘อิธ พฺราหฺมณ, ตถาคโต’’ติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ สามฺผเล วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ, อยํ ปน วิเสโส, อิธ ติวิธมฺปิ สีลํ – ‘‘อิทมฺปิสฺส โหติ สีลสฺมิ’’นฺติ เอวํ สีลมิจฺเจว นิยฺยาติตํ ปมชฺฌานาทีนิ จตฺตาริ ฌานานิ อตฺถโต ปฺาสมฺปทา. เอวํ ปฺาวเสน ปน อนิยฺยาเตตฺวา วิปสฺสนาปฺาย ปทฏฺานภาวมตฺเตน ทสฺเสตฺวา วิปสฺสนาปฺาโต ปฏฺาย ปฺา นิยฺยาติตาติ.

โสณทณฺฑอุปาสกตฺตปฏิเวทนากถา

๓๑๙-๓๒๒. สฺวาตนายาติ ปทสฺส อตฺโถ อชฺชตนายาติ เอตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. เตน มํ สา ปริสา ปริภเวยฺยาติ เตน ตุมฺเห ทูรโตว ทิสฺวา อาสนา วุฏฺิตการเณน มํ สา ปริสา – ‘‘อยํ โสณทณฺโฑ ปจฺฉิมวเย ิโต มหลฺลโก, โคตโม ปน ทหโร ยุวา นตฺตาปิสฺส นปฺปโหติ, โส นาม อตฺตโน นตฺตุมตฺตภาวมฺปิ อปฺปตฺตสฺส อาสนา วุฏฺาตี’’ติ ปริภเวยฺย. อาสนา เม ตํ ภวํ โคตโม ปจฺจุฏฺานนฺติ มม อคารเวน อวุฏฺานํ นาม นตฺถิ, โภคนาสนภเยน ปน น วุฏฺหิสฺสามิ, ตํ ตุมฺเห หิ เจว มยา จ าตุํ วฏฺฏติ. ตสฺมา อาสนา เม เอตํ ภวํ โคตโม ปจฺจุฏฺานํ ธาเรตูติ, อิมินา กิร สทิโส กุหโก ทุลฺลโภ, ภควติ ปนสฺส อคารวํ นาม นตฺถิ, ตสฺมา โภคนาสนภยา กุหนวเสน เอวํ วทติ. ปรปเทสุปิ เอเสว นโย. ธมฺมิยา กถายาติอาทีสุ ตงฺขณานุรูปาย ธมฺมิยา กถาย ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกํ อตฺถํ สนฺทสฺเสตฺวา กุสเล ธมฺเม สมาทเปตฺวา คณฺหาเปตฺวา. ตตฺถ นํ สมุตฺเตเชตฺวา สอุสฺสาหํ กตฺวา ตาย จ สอุสฺสาหตาย อฺเหิ จ วิชฺชมานคุเณหิ สมฺปหํเสตฺวา ธมฺมรตนวสฺสํ วสฺสิตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ. พฺราหฺมโณ ปน อตฺตโน กุหกตาย เอวมฺปิ ภควติ ธมฺมวสฺสํ วสฺสิเต วิเสสํ นิพฺพตฺเตตุํ นาสกฺขิ. เกวลมสฺส อายตึ นิพฺพานตฺถาย วาสนาภาคิยาย จ สพฺพา ปุริมปจฺฉิมกถา อโหสีติ.

อิติ สุมงฺคลวิลาสินิยา ทีฆนิกายฏฺกถายํ

โสณทณฺฑสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.