📜
๕. กูฏทนฺตสุตฺตวณฺณนา
๓๒๓. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ…เป… มคเธสูติ กูฏทนฺตสุตฺตํ. ตตฺรายํ อปุพฺพปทวณฺณนา. มคเธสูติ มคธา นาม ชานปทิโน ราชกุมารา, เตสํ นิวาโส เอโกปิ ชนปโท รูฬฺหีสทฺเทน มคธาติ วุจฺจติ, ตสฺมึ มคเธสุ ชนปเท. อิโต ปรํ ปุริมสุตฺตทฺวเย วุตฺตนยเมว. อมฺพลฏฺิกา พฺรหฺมชาเล วุตฺตสทิสาว. กูฏทนฺโตติ ตสฺส พฺราหฺมณสฺส นามํ. อุปกฺขโฏติ สชฺชิโต. วจฺฉตรสตานีติ วจฺฉสตานิ. อุรพฺภาติ ตรุณเมณฺฑกา วุจฺจนฺติ. เอเต ตาว ปาฬิยํ อาคตาเยว. ปาฬิยํ ปน อนาคตานมฺปิ อเนเกสํ มิคปกฺขีนํ สตฺตสตฺตสตานิ สมฺปิณฺฑิตาเนวาติ เวทิตพฺพานิ. สพฺพสตฺตสติกยาคํ กิเรส ยชิตุกาโม โหติ. ถูณูปนีตานีติ พนฺธิตฺวา ปนตฺถาย ยูปสงฺขาตํ ถูณํ อุปนีตานิ.
๓๒๘. ติวิธนฺติ เอตฺถ วิธา วุจฺจติ ปนา, ติฏฺปนนฺติ อตฺโถ. โสฬสปริกฺขารนฺติ โสฬสปริวารํ.
๓๓๐-๓๓๖. ปฏิวสนฺตีติ ยฺานุภวนตฺถาย ปฏิวสนฺติ. ภูตปุพฺพนฺติ อิทํ ภควา ปถวีคตํ นิธึ อุทฺธริตฺวา ปุรโต ราสึ กโรนฺโต วิย ภวปฏิจฺฉนฺนํ ปุพฺพจริตํ ทสฺเสนฺโต อาห. มหาวิชิโตติ โส กิร สาครปริยนฺตํ มหนฺตํ ปถวีมณฺฑลํ ¶ วิชินิ, อิติ มหนฺตํ วิชิตมสฺสาติ มหาวิชิโต ตฺเวว สงฺขฺยํ อคมาสิ. อฑฺโฒติอาทีสุ โย โกจิ อตฺตโน สนฺตเกน วิภเวน อฑฺโฒ โหติ, อยํ ปน น เกวลํ อฑฺโฒเยว, มหทฺธโน มหตา อปริมาณสงฺขฺเยน ธเนน สมนฺนาคโต. ปฺจกามคุณวเสน มหนฺตา อุฬารา โภคา อสฺสาติ มหาโภโค. ปิณฺฑปิณฺฑวเสน เจว สุวณฺณมาสกรชตมาสกาทิวเสน จ ชาตรูปรชตสฺส ปหูตตาย ปหูตชาตรูปรชโต, อเนกโกฏิสงฺขฺเยน ชาตรูปรชเตน สมนฺนาคโตติ อตฺโถ. วิตฺตีติ ตุฏฺิ, วิตฺติยา อุปกรณํ วิตฺตูปกรณํ ตุฏฺิการณนฺติ อตฺโถ. ปหูตํ นานาวิธาลงฺการสุวณฺณรชตภาชนาทิเภทํ วิตฺตูปกรณมสฺสาติ ปหูตวิตฺตูปกรโณ. สตฺตรตนสงฺขาตสฺส ¶ นิทหิตฺวา ปิตธนสฺส สพฺพปุพฺพณฺณาปรณฺณสงฺคหิตสฺส ธฺสฺส จ ปหูตตาย ปหูตธนธฺโ ¶ . อถวา อิทมสฺส เทวสิกํ ปริพฺพยทานคฺคหณาทิวเสน ปริวตฺตนธนธฺวเสน วุตฺตํ.
ปริปุณฺณโกสโกฏฺาคาโรติ โกโส วุจฺจติ ภณฺฑาคารํ, นิทหิตฺวา ปิเตน ธเนน ปริปุณฺณโกโส, ธฺเน ปริปุณฺณโกฏฺาคาโร จาติ อตฺโถ. อถวา จตุพฺพิโธ โกโส – หตฺถี, อสฺสา, รถา, ปตฺตีติ. โกฏฺาคารํ ติวิธํ – ธนโกฏฺาคารํ, วตฺถโกฏฺาคารํ, ธฺโกฏฺาคารนฺติ, ตํ สพฺพมฺปิ ปริปุณฺณมสฺสาติ ปริปุณฺณโกสโกฏฺาคาโร. อุทปาทีติ อุปฺปชฺชิ. อยํ กิร ราชา เอกทิวสํ รตนาวโลกนจาริกํ นาม นิกฺขนฺโต. โส ภณฺฑาคาริกํ ปุจฺฉิ – ‘‘ตาต, อิทํ เอวํ พหุธนํ เกน สงฺฆริต’’นฺติ? ตุมฺหากํ ปิตุปิตามหาทีหิ ยาว สตฺตมา กุลปริวฏฺฏาติ. อิทํ ปน ธนํ สงฺฆริตฺวา เต กุหึ คตาติ? สพฺเพว เต, เทว, มรณวสํ ปตฺตาติ. อตฺตโน ธนํ อคเหตฺวาว คตา, ตาตาติ? เทว, กึ วเทถ, ธนํ นาเมตํ ปหาย คมนียเมว, โน อาทาย คมนียนฺติ. อถ ราชา นิวตฺติตฺวา สิรีคพฺเภ นิสินฺโน – ‘อธิคตา โข เม’ติอาทีนิ จินฺเตสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาที’’ติ.
๓๓๗. พฺราหฺมณํ ¶ อามนฺเตตฺวาติ กสฺมา อามนฺเตสิ? อยํ กิเรวํ จินฺเตสิ – ‘‘ทานํ เทนฺเตน นาม เอเกน ปณฺฑิเตน สทฺธึ มนฺเตตฺวา ทาตุํ วฏฺฏติ, อนามนฺเตตฺวา กตกมฺมฺหิ ปจฺฉานุตาปํ กโรตี’’ติ. ตสฺมา อามนฺเตสิ. อถ พฺราหฺมโณ จินฺเตสิ – ‘‘อยํ ราชา มหาทานํ ทาตุกาโม, ชนปเท จสฺส พหู โจรา, เต อวูปสเมตฺวา ทานํ เทนฺตสฺส ขีรทธิตณฺฑุลาทิเก ทานสมฺภาเร อาหรนฺตานํ นิปฺปุริสานิ เคหานิ โจรา วิลุมฺปิสฺสนฺติ ชนปโท โจรภเยเนว โกลาหโล ภวิสฺสติ, ตโต รฺโ ทานํ น จิรํ ปวตฺติสฺสติ, จิตฺตมฺปิสฺส เอกคฺคํ น ภวิสฺสติ, หนฺท, นํ เอตมตฺถํ สฺาเปมี’’ติ ตโต ตมตฺถํ สฺาเปนฺโต ‘‘โภโต, โข รฺโ’’ติอาทิมาห.
๓๓๘. ตตฺถ สกณฺฏโกติ โจรกณฺฏเกหิ สกณฺฏโก. ปนฺถทุหนาติ ปนฺถทุหา, ปนฺถฆาตกาติ อตฺโถ. อกิจฺจการี อสฺสาติ อกตฺตพฺพการี ¶ อธมฺมการี ภเวยฺย. ทสฺสุขีลนฺติ โจรขีลํ. วเธน วาติ มารเณน วา โกฏฺฏเนน วา. พนฺธเนนาติ อทฺทุพนฺธนาทินา. ชานิยาติ หานิยา; ‘‘สตํ คณฺหถ, สหสฺสํ คณฺหถา’’ติ เอวํ ปวตฺติตทณฺเฑนาติ อตฺโถ. ครหายาติ ปฺจสิขมุณฺฑกรณํ, โคมยสิฺจนํ, คีวาย กุทณฺฑกพนฺธนนฺติ ¶ เอวมาทีนิ กตฺวา ครหปาปเนน. ปพฺพาชนายาติ รฏฺโต นีหรเณน. สมูหนิสฺสามีติ สมฺมา เหตุนา นเยน การเณน อูหนิสฺสามิ. หตาวเสสกาติ มตาวเสสกา. อุสฺสหนฺตีติ อุสฺสาหํ กโรนฺติ. อนุปฺปเทตูติ ทินฺเน อปฺปโหนฺเต ปุน อฺมฺปิ พีชฺจ ภตฺตฺจ กสิอุปกรณภณฺฑฺจ สพฺพํ เทตูติ อตฺโถ. ปาภตํ อนุปฺปเทตูติ สกฺขึ อกตฺวา ปณฺเณ อนาโรเปตฺวา มูลจฺเฉชฺชวเสน ภณฺฑมูลํ เทตูติ อตฺโถ. ภณฺฑมูลสฺส หิ ปาภตนฺติ นามํ. ยถาห –
‘‘อปฺปเกนปิ เมธาวี, ปาภเตน วิจกฺขโณ;
สมุฏฺาเปติ อตฺตานํ, อณุํ อคฺคึว สนฺธม’’นฺติ. (ชา. ๑.๑.๔);
ภตฺตเวตนนฺติ เทวสิกํ ภตฺตฺเจว มาสิกาทิปริพฺพยฺจ ¶ ตสฺส ตสฺส กุสลกมฺมสูรภาวานุรูเปน านนฺตรคามนิคมาทิทาเนน สทฺธึ เทตูติ อตฺโถ. สกมฺมปสุตาติ กสิวาณิชฺชาทีสุ สเกสุ กมฺเมสุ อุยฺยุตฺตา พฺยาวฏา. ราสิโกติ ธนธฺานํ ราสิโก. เขมฏฺิตาติ เขเมน ิตา อภยา. อกณฺฏกาติ โจรกณฺฏกรหิตา. มุทา โมทมานาติ โมทา โมทมานา. อยเมว วา ปาโ, อฺมฺํ ปมุทิตจิตฺตาติ อธิปฺปาโย. อปารุตฆราติ โจรานํ อภาเวน ทฺวารานิ อสํวริตฺวา วิวฏทฺวาราติ อตฺโถ. เอตทโวจาติ ชนปทสฺส สพฺพากาเรน อิทฺธผีตภาวํ ตฺวา เอตํ อโวจ.
จตุปริกฺขารวณฺณนา
๓๓๙. เตน หิ ภวํ ราชาติ พฺราหฺมโณ กิร จินฺเตสิ – ‘‘อยํ ราชา มหาทานํ ทาตุํ อติวิย อุสฺสาหชาโต. สเจ ปน อตฺตโน อนุยนฺตา ขตฺติยาทโย อนามนฺเตตฺวา ทสฺสติ. นาสฺส เต อตฺตมนา ภวิสฺสนฺติ; ยถา ทานํ เต อตฺตมนา โหนฺติ, ตถา กริสฺสามี’’ติ. ตสฺมา ‘‘เตน หิ ภว’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ เนคมาติ นิคมวาสิโน. ชานปทาติ ชนปทวาสิโน ¶ . อามนฺตยตนฺติ อามนฺเตตุ ชานาเปตุ. ยํ มม อสฺสาติ ยํ ตุมฺหากํ อนุชานนํ มม ภเวยฺย. อมจฺจาติ ปิยสหายกา. ปาริสชฺชาติ เสสา อาณตฺติการกา. ยชตํ ภวํ ราชาติ ยชตุ ภวํ, เต กิร – อยํ ราชา ‘‘อหํ อิสฺสโร’’ติ ปสยฺห ทานํ อทตฺวา อมฺเห อามนฺเตสิ, อโหเนน สุฏฺุ กต’’นฺติ อตฺตมนา เอวมาหํสุ. อนามนฺติเต ปนสฺส ยฺฏฺานํ ทสฺสนายปิ น คจฺเฉยฺยุํ. ยฺกาโล มหาราชาติ เทยฺยธมฺมสฺมิฺหิ อสติ มหลฺลกกาเล จ เอวรูปํ ทานํ ทาตุํ น สกฺกา, ตฺวํ ปน มหาธโน เจว ตรุโณ จ, เอเตน เต ¶ ยฺกาโลติ ทสฺเสนฺตา วทนฺติ. อนุมติปกฺขาติ อนุมติยา ปกฺขา, อนุมติทายกาติ อตฺโถ. ปริกฺขารา ภวนฺตีติ ปริวารา ภวนฺติ. ‘‘รโถ สีลปริกฺขาโร, ฌานกฺโข จกฺกวีริโย’’ติ (สํ. นิ. ๕.๔) เอตฺถ ปน อลงฺกาโร ปริกฺขาโรติ วุตฺโต.
อฏฺปริกฺขารวณฺณนา
๓๔๐. อฏฺหงฺเคหีติ ¶ อุภโต สุชาตาทีหิ อฏฺหิ องฺเคหิ. ยสสาติ อาณาปนสมตฺถตาย. สทฺโธติ ทานสฺส ผลํ อตฺถีติ สทฺทหติ. ทายโกติ ทานสูโร. น สทฺธามตฺตเกเนว ติฏฺติ, ปริจฺจชิตุมฺปิ สกฺโกตีติ อตฺโถ. ทานปตีติ ยํ ทานํ เทติ, ตสฺส ปติ หุตฺวา เทติ, น ทาโส, น สหาโย. โย หิ อตฺตนา มธุรํ ภฺุชติ, ปเรสํ อมธุรํ เทติ, โส ทานสงฺขาตสฺส เทยฺยธมฺมสฺส ทาโส หุตฺวา เทติ. โย ยํ อตฺตนา ภฺุชติ, ตเทว เทติ, โส สหาโย หุตฺวา เทติ. โย ปน อตฺตนา เยน เกนจิ ยาเปติ, ปเรสํ มธุรํ เทติ, โส ปติ เชฏฺโก สามี หุตฺวา เทติ, อยํ ตาทิโสติ อตฺโถ. สมณพฺราหฺมณกปณทฺธิกวณิพฺพกยาจกานนฺติ เอตฺถ สมิตปาปา สมณา, พาหิตปาปา พฺราหฺมณา. กปณาติ ทุคฺคตา ทลิทฺทมนุสฺสา. อทฺธิกาติ ปถาวิโน. วณิพฺพกาติ เย – ‘‘อิฏฺํ ทินฺนํ, กนฺตํ, มนาปํ, กาเลน อนวชฺชํ ทินฺนํ, ททํ จิตฺตํ ปสาเทยฺย, คจฺฉตุ ภวํ พฺรหฺมโลก’’นฺติอาทินา นเยน ทานสฺส วณฺณํ โถมยมานา วิจรนฺติ. ยาจกาติ เย – ‘‘ปสตมตฺตํ เทถ, สราวมตฺตํ เทถา’’ติอาทีนิ วตฺวา ยาจมานา วิจรนฺติ. โอปานภูโตติ อุทปานภูโต. สพฺเพสํ สาธารณปริโภโค, จตุมหาปเถ ขตโปกฺขรณี ¶ วิย หุตฺวาติ อตฺโถ. สุตชาตสฺสาติ เอตฺถ สุตเมว สุตชาตํ. อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺเน อตฺเถ จินฺเตตุนฺติ เอตฺถ – ‘‘อตีเต ปฺุสฺส กตตฺตาเยว เม อยํ สมฺปตฺตี’’ติ, เอวํ จินฺเตนฺโต อตีตมตฺถํ จินฺเตตุํ ปฏิพโล นาม โหติ. ‘‘อิทานิ ปฺุํ กตฺวาว อนาคเต สกฺกา สมฺปตฺตึ ปาปุณิตุ’’นฺติ จินฺเตนฺโต อนาคตมตฺถํ จินฺเตตุํ ปฏิพโล นาม โหติ. ‘‘อิทํ ปฺุกมฺมํ นาม สปฺปุริสานํ อาจิณฺณํ, มยฺหฺจ โภคาปิ สํวิชฺชนฺติ, ทายกจิตฺตมฺปิ อตฺถิ; หนฺทาหํ ปฺุานิ กโรมี’’ติ ¶ จินฺเตนฺโต ปจฺจุปฺปนฺนมตฺถํ จินฺเตตุํ ปฏิพโล นาม โหตีติ เวทิตพฺโพ. อิติ อิมานีติ เอวํ ยถา วุตฺตานิ เอตานิ. เอเตหิ กิร อฏฺหงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส ทานํ สพฺพทิสาหิ มหาชโน อุปสงฺกมติ. ‘‘อยํ ทุชฺชาโต กิตฺตกํ กาลํ ทสฺสติ, อิทานิ วิปฺปฏิสารี หุตฺวา อุปจฺฉินฺทิสฺสตี’’ติ เอวมาทีนิ จินฺเตตฺวา น โกจิ อุปสงฺกมิตพฺพํ มฺติ. ตสฺมา เอตานิ อฏฺงฺคานิ ปริกฺขารา ภวนฺตีติ วุตฺตานิ.
จตุปริกฺขาราทิวณฺณนา
๓๔๑. สุชํ ¶ ปคฺคณฺหนฺตานนฺติ มหายาคปฏิคฺคณฺหนฏฺาเน ทานกฏจฺฉุํ ปคฺคณฺหนฺตานํ. อิเมหิ จตูหีติ เอเตหิ สุชาตาทีหิ. เอเตสุ หิ อสติ – ‘‘เอวํ ทุชฺชาตสฺส สํวิธาเนน ปวตฺตทานํ กิตฺตกํ กาลํ ปวตฺติสฺสตี’’ติอาทีนิ วตฺวา อุปสงฺกมิตาโร น โหนฺติ. ครหิตพฺพาภาวโต ปน อุปสงฺกมนฺติเยว. ตสฺมา อิมานิปิ ปริกฺขารา ภวนฺตีติ วุตฺตานิ.
๓๔๒. ติสฺโส วิธา เทเสสีติ ตีณิ ปนานิ เทเสสิ. โส กิร จินฺเตสิ – ‘‘ทานํ ททมานา นาม ติณฺณํ านานํ อฺตรสฺมึ จลนฺติ หนฺทาหํ อิมํ ราชานํ เตสุ าเนสุ ปมตรฺเว นิจฺจลํ กโรมี’’ติ. เตนสฺส ติสฺโส วิธา เทเสสีติ. โส โภโต รฺโติ อิทํ กรณตฺเถ สามิวจนํ. โภตา รฺาติ วา ปาโ. วิปฺปฏิสาโร น กรณีโยติ ‘‘โภคานํ วิคมเหตุโก ปจฺฉานุตาโป น กตฺตพฺโพ, ปุพฺพเจตนา ปน อจลา ปติฏฺเปตพฺพา, เอวฺหิ ทานํ มหปฺผลํ โหตี’’ติ ทสฺเสติ. อิตเรสุปิ ทฺวีสุ าเนสุ เอเสว นโย. มฺุจเจตนาปิ หิ ปจฺฉาสมนุสฺสรณเจตนา ¶ จ นิจฺจลาว กาตพฺพา. ตถา อกโรนฺตสฺส ทานํ น มหปฺผลํ โหติ, นาปิ อุฬาเรสุ โภเคสุ จิตฺตํ นมติ, มหาโรรุวํ อุปปนฺนสฺส เสฏฺิคหปติโน วิย.
๓๔๓. ทสหากาเรหีติ ทสหิ การเณหิ. ตสฺส กิร เอวํ อโหสิ – สจายํ ราชา ทุสฺสีเล ทิสฺวา – ‘‘นสฺสติ วต เม ทานํ, ยสฺส เม เอวรูปา ทุสฺสีลา ภฺุชนฺตี’’ติ สีลวนฺเตสุปิ วิปฺปฏิสารํ อุปฺปาเทสฺสติ, ทานํ น มหปฺผลํ ภวิสฺสติ. วิปฺปฏิสาโร จ นาม ทายกานํ ปฏิคฺคาหกโตว อุปฺปชฺชติ ¶ , หนฺทสฺส ปมเมว ตํ วิปฺปฏิสารํ วิโนเทมีติ. ตสฺมา ทสหากาเรหิ อุปจฺฉิชฺชิตุํ ยุตฺตํ ปฏิคฺคาหเกสุปิ วิปฺปฏิสารํ วิโนเทสีติ. เตสฺเว เตนาติ เตสฺเว เตน ปาเปน อนิฏฺโ วิปาโก ภวิสฺสติ, น อฺเสนฺติ ทสฺเสติ. ยชตํ ภวนฺติ เทตุ ภวํ. สชฺชตนฺติ วิสฺสชฺชตุ. อนฺตรนฺติ อพฺภนฺตรํ.
๓๔๔. โสฬสหิ อากาเรหิ จิตฺตํ สนฺทสฺเสสีติ อิธ พฺราหฺมโณ รฺโ มหาทานานุโมทนํ นาม อารทฺโธ. ตตฺถ สนฺทสฺเสสีติ – ‘อิทํ ทานํ ทาตา เอวรูปํ สมฺปตฺตึ ลภตี’ติ ทสฺเสตฺวา ทสฺเสตฺวา กเถสิ. สมาทเปสีติ ตทตฺถํ สมาทเปตฺวา กเถสิ. สมุตฺเตเชสีติ วิปฺปฏิสารวิโนทเนนสฺส จิตฺตํ โวทาเปสิ. สมฺปหํเสสีติ ‘สุนฺทรํ เต กตํ, มหาราช, ทานํ ททมาเนนา’ติ ถุตึ กตฺวา กเถสิ. วตฺตา ธมฺมโต นตฺถีติ ธมฺเมน สเมน การเณน วตฺตา นตฺถิ.
๓๔๕. น ¶ รุกฺขา ฉิชฺชึสุ ยูปตฺถาย น ทพฺภา ลูยึสุ พริหิสตฺถายาติ เย ยูปนามเก มหาถมฺเภ อุสฺสาเปตฺวา – ‘‘อสุกราชา อสุกามจฺโจ อสุกพฺราหฺมโณ เอวรูปํ นาม มหายาคํ ยชตี’’ติ นามํ ลิขิตฺวา เปนฺติ. ยานิ จ ทพฺภติณานิ ลายิตฺวา วนมาลาสงฺเขเปน ยฺสาลํ ปริกฺขิปนฺติ, ภูมิยํ วา ปตฺถรนฺติ, เตปิ น รุกฺขา ฉิชฺชึสุ, น ทพฺภา ลูยึสุ. กึ ปน คาโว วา อชาทโย วา หฺิสฺสนฺตีติ ทสฺเสติ. ทาสาติ อนฺโตเคหทาสาทโย. เปสฺสาติ เย ปุพฺพเมว ธนํ คเหตฺวา กมฺมํ กโรนฺติ. กมฺมกราติ เย ภตฺตเวตนํ คเหตฺวา กโรนฺติ. ทณฺฑตชฺชิตา ¶ นาม ทณฺฑยฏฺิมุคฺคราทีนิ คเหตฺวา – ‘‘กมฺมํ กโรถ กโรถา’’ติ เอวํ ¶ ตชฺชิตา. ภยตชฺชิตา นาม – สเจ กมฺมํ กโรสิ, กุสลํ. โน เจ กโรสิ, ฉินฺทิสฺสาม วา พนฺธิสฺสาม วา มาเรสฺสาม วาติ เอวํ ภเยน ตชฺชิตา. เอเต ปน น ทณฺฑตชฺชิตา, น ภยตชฺชิตา, น อสฺสุมุขา โรทมานา ปริกมฺมานิ อกํสุ. อถ โข ปิยสมุทาจาเรเนว สมุทาจริยมานา อกํสุ. น หิ ตตฺถ ทาสํ วา ทาสาติ, เปสฺสํ วา เปสฺสาติ, กมฺมกรํ วา กมฺมกราติ อาลปนฺติ. ยถานามวเสเนว ปน ปิยสมุทาจาเรน อาลปิตฺวา อิตฺถิปุริสพลวนฺตทุพฺพลานํ อนุรูปเมว กมฺมํ ทสฺเสตฺวา – ‘‘อิทฺจิทฺจ กโรถา’’ติ วทนฺติ. เตปิ อตฺตโน รุจิวเสเนว กโรนฺติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘เย อิจฺฉึสุ, เต อกํสุ; เย น อิจฺฉึสุ, น เต อกํสุ. ยํ อิจฺฉึสุ, ตํ อกํสุ; ยํ น อิจฺฉึสุ, น ตํ อกํสู’’ติ. สปฺปิเตลนวนีตทธิมธุผาณิเตน เจว โส ยฺโ นิฏฺานมคมาสีติ ราชา กิร พหินครสฺส จตูสุ ทฺวาเรสุ อนฺโตนครสฺส จ มชฺเฌติ ปฺจสุ าเนสุ มหาทานสาลาโย การาเปตฺวา เอเกกิสฺสาย สาลาย สตสหสฺสํ สตสหสฺสํ กตฺวา ทิวเส ทิวเส ปฺจสตสหสฺสานิ วิสฺสชฺเชตฺวา สูริยุคฺคมนโต ปฏฺาย ตสฺส ตสฺส กาลสฺส อนุรูเปหิ สหตฺเถน สุวณฺณกฏจฺฉุํ คเหตฺวา ปณีเตหิ สปฺปิเตลาทิสมฺมิสฺเสเหว ยาคุขชฺชกภตฺตพฺยฺชนปานกาทีหิ มหาชนํ สนฺตปฺเปสิ. ภาชนานิ ปูเรตฺวา คณฺหิตุกามานํ ตเถว ทาเปสิ. สายณฺหสมเย ปน วตฺถคนฺธมาลาทีหิ สมฺปูเชสิ. สปฺปิอาทีนํ ปน มหาจาฏิโย ปูราเปตฺวา – ‘‘โย ยํ ปริภฺุชิตุกาโม, โส ตํ ปริภฺุชตู’’ติ อเนกสเตสุ าเนสุ ปาเปสิ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘สปฺปิเตลนวนีตทธิมธุผาณิเตน เจว โส ยฺโ นิฏฺานมคมาสี’’ติ.
๓๔๖. ปหูตํ สาปเตยฺยํ อาทายาติ พหุํ ธนํ คเหตฺวา. เต กิร จินฺเตสุํ – ‘‘อยํ ราชา สปฺปิเตลาทีนิ ชนปทโต อนาหราเปตฺวา อตฺตโน สนฺตกเมว นีหริตฺวา มหาทานํ เทติ. อมฺเหหิ ปน ‘ราชา น กิฺจิ อาหราเปตี’ติ น ยุตฺตํ ตุณฺหี ภวิตุํ. น หิ รฺโ ฆเร ธนํ อกฺขยธมฺมเมว, อมฺเหสุ จ อเทนฺเตสุ โก อฺโ รฺโ ทสฺสติ, หนฺทสฺส ธนํ อุปสํหรามา’’ติ ¶ เต คามภาเคน จ นิคมภาเคน ¶ จ นครภาเคน จ สาปเตยฺยํ สํหริตฺวา สกฏานิ ปูเรตฺวา รฺโ อุปหรึสุ. ตํ สนฺธาย – ‘‘ปหูตํ สาปเตยฺย’’นฺติอาทิมาห.
๓๔๗. ปุรตฺถิเมน ¶ ยฺวาฏสฺสาติ ปุรตฺถิมโต นครทฺวาเร ทานสาลาย ปุรตฺถิมภาเค. ยถา ปุรตฺถิมทิสโต อาคจฺฉนฺตา ขตฺติยานํ ทานสาลาย ยาคุํ ปิวิตฺวา รฺโ ทานสาลาย ภฺุชิตฺวา นครํ ปวิสนฺติ. เอวรูเป าเน ปฏฺเปสุํ. ทกฺขิเณน ยฺวาฏสฺสาติ ทกฺขิณโต นครทฺวาเร ทานสาลาย วุตฺตนเยเนว ทกฺขิณภาเค ปฏฺเปสุํ. ปจฺฉิมุตฺตเรสุปิ เอเสว นโย.
๓๔๘. อโห ยฺโ, อโห ยฺสมฺปทาติ พฺราหฺมณา สปฺปิอาทีหิ นิฏฺานคมนํ สุตฺวา – ‘‘ยํ โลเก มธุรํ, ตเทว สมโณ โคตโม กเถติ, หนฺทสฺส ยฺํ ปสํสามา’’ติ ตุฏฺจิตฺตา ปสํสมานา เอวมาหํสุ. ตุณฺหีภูโตว นิสินฺโน โหตีติ อุปริ วตฺตพฺพมตฺถํ จินฺตยมาโน นิสฺสทฺโทว นิสินฺโน โหติ. อภิชานาติ ปน ภวํ โคตโมติ อิทํ พฺราหฺมโณ ปริหาเรน ปุจฺฉนฺโต อาห. อิตรถา หิ – ‘‘กึ ปน ตฺวํ, โภ โคตม, ตทา ราชา อโหสิ, อุทาหุ ปุโรหิโต พฺราหฺมโณ’’ติ เอวํ อุชุกเมว ปุจฺฉยมาโน อคารโว วิย โหติ.
นิจฺจทานอนุกุลยฺวณฺณนา
๓๔๙. อตฺถิ ปน, โภ โคตมาติ – อิทํ พฺราหฺมโณ ‘‘สกลชมฺพุทีปวาสีนํ อุฏฺาย สมุฏฺาย ทานํ นาม ทาตุํ ครุกํ สกลชนปโท จ อตฺตโน กมฺมานิ อกโรนฺโต นสฺสิสฺสติ, อตฺถิ นุ โข อมฺหากมฺปิ อิมมฺหา ยฺา อฺโ ยฺโ อปฺปสมารมฺภตโร เจว มหปฺผลตโร จา’’ติ เอตมตฺถํ ปุจฺฉนฺโต อาห. นิจฺจทานานีติ ธุวทานานิ นิจฺจภตฺตานิ. อนุกุลยฺานีติ – ‘‘อมฺหากํ ปิตุปิตามหาทีหิ ปวตฺติตานี’’ติ กตฺวา ปจฺฉา ทุคฺคตปุริเสหิปิ วํสปรมฺปราย ปวตฺเตตพฺพานิ ยาคานิ, เอวรูปานิ กิร สีลวนฺเต อุทฺทิสฺส นิพทฺธทานานิ ตสฺมึ กุเล ทลิทฺทาปิ น อุปจฺฉินฺทนฺติ.
ตตฺริทํ ¶ วตฺถุ – อนาถปิณฺฑิกสฺส กิร ฆเร ปฺจ นิจฺจภตฺตสตานิ ทียึสุ. ทนฺตมยสลากานิ ปฺจสตานิ อเหสุํ. อถ ตํ กุลํ อนุกฺกเมน ทาลิทฺทิเยน อภิภูตํ, เอกา ตสฺมึ กุเล ทาริกา เอกสลากโต อุทฺธํ ทาตุํ นาสกฺขิ. สาปิ ปจฺฉา เสตวาหนรชฺชํ คนฺตฺวา ขลํ โสเธตฺวา ลทฺธธฺเน ตํ สลากํ อทาสิ. เอโก เถโร รฺโ ¶ อาโรเจสิ. ราชา ตํ ¶ อาเนตฺวา อคฺคมเหสิฏฺาเน เปสิ. สา ตโต ปฏฺาย ปุน ปฺจปิ สลากภตฺตสตานิ ปวตฺเตสิ.
ทณฺฑปฺปหาราติ – ‘‘ปฏิปาฏิยา ติฏฺถ ติฏฺถา’’ติ อุชุํ คนฺตฺวา คณฺหถ คณฺหถาติ จ อาทีนิ วตฺวา ทียมานา ทณฺฑปฺปหาราปิ คลคฺคาหาปิ ทิสฺสนฺติ. อยํ โข, พฺราหฺมณ, เหตุ…เป… มหานิสํสตรฺจาติ. เอตฺถ ยสฺมา มหายฺเ วิย อิมสฺมึ สลากภตฺเต น พหูหิ เวยฺยาวจฺจกเรหิ วา อุปกรเณหิ วา อตฺโถ อตฺถิ, ตสฺมา เอตํ อปฺปฏฺตรํ. ยสฺมา เจตฺถ น พหูนํ กมฺมจฺเฉทวเสน ปีฬาสงฺขาโต สมารมฺโภ อตฺถิ, ตสฺมา อปฺปสมารมฺภตรํ. ยสฺมา เจตํ สงฺฆสฺส ยิฏฺํ ปริจฺจตฺตํ, ตสฺมา ยฺนฺติ วุตฺตํ, ยสฺมา ปน ฉฬงฺคสมนฺนาคตาย ทกฺขิณาย มหาสมุทฺเท อุทกสฺเสว น สุกรํ ปฺุาภิสนฺทสฺส ปมาณํ กาตุํ, อิทฺจ ตถาวิธํ. ตสฺมา ตํ มหปฺผลตรฺจ มหานิสํสตรฺจาติ เวทิตพฺพํ. อิทํ สุตฺวา พฺราหฺมโณ จินฺเตสิ – อิทมฺปิ นิจฺจภตฺตํ อุฏฺาย สมุฏฺาย ททโต ทิวเส ทิวเส เอกสฺส กมฺมํ นสฺสติ. นวนโว อุสฺสาโห จ ชเนตพฺโพ โหติ, อตฺถิ นุ โข อิโตปิ อฺโ ยฺโ อปฺปฏฺตโร จ อปฺปสมารมฺภตโร จาติ. ตสฺมา ‘‘อตฺถิ ปน, โภ โคตมา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ยสฺมา สลากภตฺเต กิจฺจปริโยสานํ นตฺถิ, เอเกน อุฏฺาย สมุฏฺาย อฺํ กมฺมํ อกตฺวา สํวิธาตพฺพเมว. วิหารทาเน ปน กิจฺจปริโยสานํ อตฺถิ. ปณฺณสาลํ วา หิ กาเรตุํ โกฏิธนํ วิสฺสชฺเชตฺวา มหาวิหารํ วา, เอกวารํ ธนปริจฺจาคํ กตฺวา การิตํ สตฺตฏฺวสฺสานิปิ วสฺสสตมฺปิ วสฺสสหสฺสมฺปิ คจฺฉติเยว. เกวลํ ชิณฺณปติตฏฺาเน ปฏิสงฺขรณมตฺตเมว กาตพฺพํ ¶ โหติ. ตสฺมา อิทํ วิหารทานํ สลากภตฺตโต อปฺปฏฺตรํ อปฺปสมารมฺภตรฺจ โหติ. ยสฺมา ปเนตฺถ สุตฺตนฺตปริยาเยน ยาวเทว สีตสฺส ปฏิฆาตายาติ อาทโย นวานิสํสา วุตฺตา, ขนฺธกปริยาเยน.
‘‘สีตํ อุณฺหํ ปฏิหนฺติ, ตโต วาฬมิคานิ จ;
สิรึสเป จ มกเส จ, สิสิเร จาปิ วุฏฺิโย.
ตโต วาตาตโป โฆโร, สฺชาโต ปฏิหฺติ;
เลณตฺถฺจ สุขตฺถฺจ, ฌายิตฺุจ วิปสฺสิตุํ.
วิหารทานํ ¶ สงฺฆสฺส, อคฺคํ พุทฺเธน วณฺณิตํ;
ตสฺมา หิ ปณฺฑิโต โปโส, สมฺปสฺสํ อตฺถมตฺตโน;
วิหาเร การเย รมฺเม, วาสเยตฺถ พหุสฺสุเต.
ตสฺมา อนฺนฺจ ปานฺจ, วตฺถเสนาสนานิ จ;
ทเทย อุชุภูเตสุ, วิปฺปสนฺเนน เจตสา.
เต ตสฺส ธมฺมํ เทเสนฺติ, สพฺพทุกฺขาปนูทนํ;
ยํ โส ธมฺมํ อิธฺาย, ปรินิพฺพาติ อนาสโว’’ติ. (จูฬว. ๒๙๕);
สตฺตรสานิสํสา วุตฺตา. ตสฺมา เอตํ สลากภตฺตโต มหปฺผลตรฺจ มหานิสํสตรฺจาติ เวทิตพฺพํ. สงฺฆสฺส ปน ปริจฺจตฺตตฺตาว ยฺโติ วุจฺจติ. อิทมฺปิ สุตฺวา พฺราหฺมโณ จินฺเตสิ – ‘‘ธนปริจฺจาคํ กตฺวา วิหารทานํ ¶ นาม ทุกฺกรํ, อตฺตโน สนฺตกา หิ กากณิกาปิ ปรสฺส ทุปฺปริจฺจชา, หนฺทาหํ อิโตปิ อปฺปฏฺตรฺจ อปฺปสมารมฺภตรฺจ ยฺํ ปุจฺฉามี’’ติ. ตโต ตํ ปุจฺฉนฺโต – ‘‘อตฺถิ ปน โภ’’ติอาทิมาห.
๓๕๐-๓๕๑. ตตฺถ ยสฺมา สกึ ปริจฺจตฺเตปิ วิหาเร ปุนปฺปุนํ ฉาทนขณฺฑผุลฺลปฺปฏิสงฺขรณาทิวเสน กิจฺจํ อตฺถิเยว, สรณํ ปน เอกภิกฺขุสฺส วา สนฺติเก สงฺฆสฺส วา คณสฺส วา สกึ คหิตํ คหิตเมว โหติ, นตฺถิ ตสฺส ปุนปฺปุนํ กตฺตพฺพตา, ตสฺมา ตํ วิหารทานโต อปฺปฏฺตรฺจ อปฺปสมารมฺภตรฺจ โหติ. ยสฺมา จ สรณคมนํ นาม ติณฺณํ รตนานํ ชีวิตปริจฺจาคมยํ ปฺุกมฺมํ สคฺคสมฺปตฺตึ เทติ, ตสฺมา มหปฺผลตรฺจ มหานิสํสตรฺจาติ เวทิตพฺพํ. ติณฺณํ ปน รตนานํ ชีวิตปริจฺจาควเสน ยฺโติ วุจฺจติ.
๓๕๒. อิทํ ¶ สุตฺวา พฺราหฺมโณ จินฺเตสิ – ‘‘อตฺตโน ชีวิตํ นาม ปรสฺส ปริจฺจชิตุํ ทุกฺกรํ, อตฺถิ นุ โข อิโตปิ อปฺปฏฺตโร ยฺโ’’ติ ตโต ตํ ปุจฺฉนฺโต ปุน ‘‘อตฺถิ ปน, โภ โคตมา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ปาณาติปาตา เวรมณีติอาทีสุ เวรมณี นาม วิรติ. สา ติวิธา โหติ – สมฺปตฺตวิรติ, สมาทานวิรติ เสตุฆาตวิรตีติ. ตตฺถ โย สิกฺขาปทานิ อคเหตฺวาปิ เกวลํ อตฺตโน ชาติโคตฺตกุลาปเทสาทีนิ อนุสฺสริตฺวา – ‘‘น เม อิทํ ปติรูป’’นฺติ ¶ ปาณาติปาตาทีนิ น กโรติ, สมฺปตฺตวตฺถุํ ปริหรติ. ตโต อารกา วิรมติ. ตสฺส สา วิรติ สมฺปตฺตวิรตีติ เวทิตพฺพา.
‘‘อชฺชตคฺเค ชีวิตเหตุปิ ปาณํ น หนามี’’ติ วา ‘‘ปาณาติปาตา วิรมามี’’ติ วา ‘‘เวรมณึ สมาทิยามี’’ติ วา เอวํ สิกฺขาปทานิ คณฺหนฺตสฺส ปน วิรติ สมาทานวิรตีติ เวทิตพฺพา.
อริยสาวกานํ ปน มคฺคสมฺปยุตฺตา วิรติ เสตุฆาตวิรติ นาม. ตตฺถ ปุริมา ทฺเว วิรติโย ยํ โวโรปนาทิวเสน วีติกฺกมิตพฺพํ ชีวิตินฺทฺริยาทิวตฺถุ, ตํ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺตนฺติ. ปจฺฉิมา นิพฺพานารมฺมณาว. เอตฺถ จ โย ปฺจ สิกฺขาปทานิ เอกโต คณฺหติ, ตสฺส เอกสฺมึ ภินฺเน สพฺพานิ ภินฺนานิ โหนฺติ. โย เอเกกํ คณฺหติ, โส ยํ วีติกฺกมติ, ตเทว ¶ ภิชฺชติ. เสตุฆาตวิรติยา ปน เภโท นาม นตฺถิ, ภวนฺตเรปิ หิ อริยสาวโก ชีวิตเหตุปิ เนว ปาณํ หนติ น สุรํ ปิวติ. สเจปิสฺส สุรฺจ ขีรฺจ มิสฺเสตฺวา มุเข ปกฺขิปนฺติ, ขีรเมว ปวิสติ, น สุรา. ยถา กึ? โกฺจสกุณานํ ขีรมิสฺสเก อุทเก ขีรเมว ปวิสติ? น อุทกํ. อิทํ โยนิสิทฺธนฺติ เจ, อิทํ ธมฺมตาสิทฺธนฺติ จ เวทิตพฺพํ. ยสฺมา ปน สรณคมเน ทิฏฺิอุชุกกรณํ นาม ภาริยํ. สิกฺขาปทสมาทาเน ปน วิรติมตฺตกเมว. ตสฺมา เอตํ ยถา วา ตถา วา คณฺหนฺตสฺสาปิ สาธุกํ คณฺหนฺตสฺสาปิ อปฺปฏฺตรฺจ อปฺปสมารมฺภตรฺจ. ปฺจสีลสทิสสฺส ปน ทานสฺส อภาวโต เอตฺถ มหปฺผลตา มหานิสํสตา จ เวทิตพฺพา. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘ปฺจิมานิ ¶ , ภิกฺขเว, ทานานิ มหาทานานิ อคฺคฺานิ รตฺตฺานิ วํสฺานิ โปราณานิ อสํกิณฺณานิ อสํกิณฺณปุพฺพานิ น สงฺกิยนฺติ น สงฺกิยิสฺสนฺติ อปฺปฏิกุฏฺานิ สมเณหิ พฺราหฺมเณหิ วิฺูหิ. กตมานิ ปฺจ? อิธ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก ปาณาติปาตํ ปหาย ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ. ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อปริมาณานํ สตฺตานํ อภยํ เทติ, อเวรํ เทติ อพฺยาปชฺฌํ เทติ. อปริมาณานํ สตฺตานํ อภยํ ทตฺวา อเวรํ ทตฺวา อพฺยาปชฺฌํ ทตฺวา อปริมาณสฺส อภยสฺส อเวรสฺส อพฺยาปชฺฌสฺส ภาคี โหติ. อิทํ, ภิกฺขเว, ปมํ ทานํ มหาทานํ…เป… วิฺูหีติ.
ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อทินฺนาทานํ ปหาย…เป… กาเมสุมิจฺฉาจารํ ¶ ปหาย…เป… มุสาวาทํ ปหาย…เป… สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานํ ปหาย…เป… อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ปฺจ ทานานิ มหาทานานิ อคฺคฺานิ…เป… วิฺูหี’’ติ (อ. นิ. ๘.๓๙).
อิทฺจ ปน สีลปฺจกํ – ‘‘อตฺตสิเนหฺจ ชีวิตสิเนหฺจ ปริจฺจชิตฺวา รกฺขิสฺสามี’’ติ สมาทินฺนตาย ยฺโติ วุจฺจติ. ตตฺถ กิฺจาปิ ปฺจสีลโต สรณคมนเมว เชฏฺกํ, อิทํ ปน สรณคมเนเยว ปติฏฺาย รกฺขิตสีลวเสน มหปฺผลนฺติ วุตฺตํ.
๓๕๓. อิทมฺปิ ¶ สุตฺวา พฺราหฺมโณ จินฺเตสิ – ‘‘ปฺจสีลํ นาม รกฺขิตุํ ครุกํ, อตฺถิ นุ โข อฺํ กิฺจิ อีทิสเมว หุตฺวา อิโต อปฺปฏฺตรฺจ มหปฺผลตรฺจา’’ติ. ตโต ตํ ปุจฺฉนฺโต ปุนปิ – ‘‘อตฺถิ ปน, โภ โคตมา’’ติอาทิมาห. อถสฺส ภควา ติวิธสีลปาริปูริยํ ิตสฺส ปมชฺฌานาทีนํ ยฺานํ อปฺปฏฺตรฺจ มหปฺผลตรฺจ ทสฺเสตุกาโม พุทฺธุปฺปาทโต ปฏฺาย เทสนํ อารภนฺโต ‘‘อิธ พฺราหฺมณา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ยสฺมา เหฏฺา วุตฺเตหิ คุเณหิ สมนฺนาคโต ปมํ ฌานํ, ปมชฺฌานาทีสุ ิโต ทุติยชฺฌานาทีนิ นิพฺพตฺเตนฺโต น กิลมติ, ตสฺมา ตานิ อปฺปฏฺานิ อปฺปสมารมฺภานิ. ยสฺมา ปเนตฺถ ปมชฺฌานํ เอกํ กปฺปํ พฺรหฺมโลเก อายุํ เทติ. ทุติยํ อฏฺกปฺเป. ตติยํ จตุสฏฺิกปฺเป. จตุตฺถํ ปฺจกปฺปสตานิ. ตเทว อากาสานฺจายตนาทิสมาปตฺติวเสน ¶ ภาวิตํ วีสติ, จตฺตาลีสํ, สฏฺิ, จตุราสีติ จ กปฺปสหสฺสานิ อายุํ เทติ; ตสฺมา มหปฺผลตรฺจ มหานิสํสตรฺจ. นีวรณาทีนํ ปน ปจฺจนีกานํ ธมฺมานํ ปริจฺจตฺตตฺตา ตํ ยฺนฺติ เวทิตพฺพํ.
วิปสฺสนาาณมฺปิ ยสฺมา จตุตฺถชฺฌานปริโยสาเนสุ คุเณสุ ปติฏฺาย นิพฺพตฺเตนฺโต น กิลมติ, ตสฺมา อปฺปฏฺํ อปฺปสมารมฺภํ; วิปสฺสนาสุขสทิสสฺส ปน สุขสฺส อภาวา มหปฺผลํ. ปจฺจนีกกิเลสปริจฺจาคโต ยฺโติ. มโนมยิทฺธิปิ ยสฺมา วิปสฺสนาาเณ ปติฏฺาย นิพฺพตฺเตนฺโต น กิลมติ, ตสฺมา อปฺปฏฺา อปฺปสมารมฺภา; อตฺตโน สทิสรูปนิมฺมานสมตฺถตาย มหปฺผลา. อตฺตโน ปจฺจนีกกิเลสปริจฺจาคโต ยฺโ. อิทฺธิวิธาณาทีนิปิ ยสฺมา มโนมยาณาทีสุ ปติฏฺาย นิพฺพตฺเตนฺโต น กิลมติ, ตสฺมา อปฺปฏฺานิ อปฺปสมารมฺภานิ, อตฺตโน อตฺตโน ปจฺจนีกกิเลสปฺปหานโต ยฺโ. อิทฺธิวิธํ ปเนตฺถ นานาวิธวิกุพฺพนทสฺสนสมตฺถตาย. ทิพฺพโสตํ เทวมนุสฺสานํ สทฺทสวนสมตฺถตาย; เจโตปริยาณํ ¶ ปเรสํ โสฬสวิธจิตฺตชานนสมตฺถตาย; ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณํ อิจฺฉิติจฺฉิตฏฺานสมนุสฺสรณสมตฺถตาย; ทิพฺพจกฺขุ อิจฺฉิติจฺฉิตรูปทสฺสนสมตฺถตาย; อาสวกฺขยาณํ อติปณีตโลกุตฺตรมคฺคสุขนิปฺผาทนสมตฺถตาย มหปฺผลนฺติ เวทิตพฺพํ. ยสฺมา ปน อรหตฺตโต วิสิฏฺตโร อฺโ ยฺโ นาม นตฺถิ, ตสฺมา อรหตฺตนิกูเฏเนว เทสนํ สมาเปนฺโต – ‘‘อยมฺปิ โข, พฺราหฺมณา’’ติอาทิมาห.
กูฏทนฺตอุปาสกตฺตปฏิเวทนาวณฺณนา
๓๕๔-๓๕๘. เอวํ ¶ วุตฺเตติ เอวํ ภควตา วุตฺเต เทสนาย ปสีทิตฺวา สรณํ คนฺตุกาโม กูฏทนฺโต พฺราหฺมโณ – ‘เอตํ อภิกฺกนฺตํ โภ, โคตมา’ติอาทิกํ วจนํ อโวจ. อุปวายตูติ อุปคนฺตฺวา สรีรทรถํ นิพฺพาเปนฺโต ตนุสีตโล วาโต วายตูติ. อิทฺจ ปน วตฺวา พฺราหฺมโณ ปุริสํ เปเสสิ – ‘‘คจฺฉ, ตาต, ยฺวาฏํ ปวิสิตฺวา สพฺเพ เต ปาณโย พนฺธนา โมเจหี’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ ปฏิสฺสุณิตฺวา ตถา กตฺวา อาคนฺตฺวา ‘‘มุตฺตา โภ, เต ปาณโย’’ติ อาโรเจสิ. ยาว ¶ พฺราหฺมโณ ตํ ปวตฺตึ น สุณิ, น ตาว ภควา ธมฺมํ เทเสสิ. กสฺมา? ‘‘พฺราหฺมณสฺส จิตฺเต อากุลภาโว อตฺถี’’ติ. สุตฺวา ปนสฺส ‘‘พหู วต เม ปาณา โมจิตา’’ติ จิตฺตจาโร วิปฺปสีทติ. ภควา ตสฺส วิปฺปสนฺนมนตํ ตฺวา ธมฺมเทสนํ อารภิ. ตํ สนฺธาย – ‘‘อถ โข ภควา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปุน ‘กลฺลจิตฺต’นฺติอาทิ อานุปุพฺพิกถานุภาเวน วิกฺขมฺภิตนีวรณตํ สนฺธาย วุตฺตํ. เสสํ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
อิติ สุมงฺคลวิลาสินิยา ทีฆนิกายฏฺกถายํ
กูฏทนฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.