📜
๘. มหาสีหนาทสุตฺตวณฺณนา
อเจลกสฺสปวตฺถุวณฺณนา
๓๘๑. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ…เป… อุรฺุายํ วิหรตีติ มหาสีหนาทสุตฺตํ. ตตฺรายํ อปุพฺพปทวณฺณนา. อุรฺุายนฺติ อุรฺุาติ ตสฺส รฏฺสฺสปิ นครสฺสปิ เอตเทว นามํ, ภควา อุรฺุานครํ อุปนิสฺสาย วิหรติ. กณฺณกตฺถเล มิคทาเยติ ตสฺส นครสฺส อวิทูเร กณฺณกตฺถลํ นาม เอโก รมณีโย ภูมิภาโค อตฺถิ. โส มิคานํ อภยตฺถาย ทินฺนตฺตา ‘‘มิคทาโย’’ติ วุจฺจติ, ตสฺมึ กณฺณกตฺถเล มิคทาเย. อเจโลติ นคฺคปริพฺพาชโก. กสฺสโปติ ตสฺส นามํ. ตปสฺสินฺติ ตปนิสฺสิตกํ. ลูขาชีวินฺติ อเจลกมุตฺตาจาราทิวเสน ลูโข อาชีโว อสฺสาติ ลูขาชีวี, ตํ ลูขาชีวึ. อุปกฺโกสตีติ อุปณฺเฑติ. อุปวทตีติ หีเฬติ วมฺเภติ. ธมฺมสฺส จ อนุธมฺมํ พฺยากโรนฺตีติ โภตา โคตเมน วุตฺตการณสฺส อนุการณํ กเถนฺติ. สหธมฺมิโก วาทานุวาโทติ ปเรหิ วุตฺตการเณน สการโณ หุตฺวา ตุมฺหากํ วาโท วา อนุวาโท วา วิฺูหิ ครหิตพฺพํ, การณํ โกจิ อปฺปมตฺตโกปิ กึ น อาคจฺฉติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ, ‘‘กึ สพฺพากาเรนปิ ตว วาเท คารยฺหํ การณํ ¶ นตฺถี’’ติ. อนพฺภกฺขาตุกามาติ น อภูเตน วตฺตุกามา.
๓๘๒. เอกจฺจํ ตปสฺสึ ลูขาชีวินฺติอาทีสุ อิเธกจฺโจ อเจลกปพฺพชฺชาทิตปนิสฺสิตตฺตา ตปสฺสี ‘‘ลูเขน ชีวิตํ กปฺเปสฺสามี’’ติ ติณโคมยาทิภกฺขนาทีหิ นานปฺปกาเรหิ อตฺตานํ กิลเมติ, อปฺปปฺุตาย จ สุเขน ชีวิตวุตฺติเมว น ลภติ, โส ตีณิ ทุจฺจริตานิ ปูเรตฺวา นิรเย นิพฺพตฺตติ.
อปโร ตาทิสํ ตปนิสฺสิโตปิ ปฺุวา โหติ, ลภติ ลาภสกฺการํ. โส ‘‘น ทานิ มยา สทิโส อตฺถี’’ติ อตฺตานํ อุจฺเจ าเน สมฺภาเวตฺวา ‘‘ภิยฺโยโสมตฺตาย ลาภํ อุปฺปาเทสฺสามี’’ติ ¶ อเนสนวเสน ตีณิ ทุจฺจริตานิ ปูเรตฺวา นิรเย นิพฺพตฺตติ. อิเม ทฺเว สนฺธาย ปมนโย วุตฺโต.
อปโร ตปนิสฺสิตโก ลูขาชีวี อปฺปปฺุโ โหติ, น ลภติ สุเขน ชีวิตวุตฺตึ. โส ‘‘มยฺหํ ปุพฺเพปิ อกตปฺุตาย สุขชีวิกา นุปฺปชฺชติ ¶ , หนฺททานิ ปฺุานิ กโรมี’’ติ ตีณิ สุจริตานิ ปูเรตฺวา สคฺเค นิพฺพตฺตติ.
อปโร ลูขาชีวี ปฺุวา โหติ, ลภติ สุเขน ชีวิตวุตฺตึ. โส – ‘‘มยฺหํ ปุพฺเพปิ กตปฺุตาย สุขชีวิกา อุปฺปชฺชตี’’ติ จินฺเตตฺวา อเนสนํ ปหาย ตีณิ สุจริตานิ ปูเรตฺวา สคฺเค นิพฺพตฺตติ. อิเม ทฺเว สนฺธาย ทุติยนโย วุตฺโต.
เอโก ปน ตปสฺสี อปฺปทุกฺขวิหารี โหติ พาหิรกาจารยุตฺโต ตาปโส วา ฉนฺนปริพฺพาชโก วา, อปฺปปฺุตาย จ มนาเป ปจฺจเย น ลภติ. โส อเนสนวเสน ตีณิ ทุจฺจริตานิ ปูเรตฺวา อตฺตานํ สุเข เปตฺวา นิรเย นิพฺพตฺตติ.
อปโร ¶ ปฺุวา โหติ, โส – ‘‘น ทานิ มยา สทิโส อตฺถี’’ติ มานํ อุปฺปาเทตฺวา อเนสนวเสน ลาภสกฺการํ วา อุปฺปาเทนฺโต มิจฺฉาทิฏฺิวเสน – ‘‘สุโข อิมิสฺสา ปริพฺพาชิกาย ทหราย มุทุกาย โลมสาย สมฺผสฺโส’’ติอาทีนิ จินฺเตตฺวา กาเมสุ ปาตพฺยตํ วา อาปชฺชนฺโต ตีณิ ทุจฺจริตานิ ปูเรตฺวา นิรเย นิพฺพตฺตติ. อิเม ทฺเว สนฺธาย ตติยนโย วุตฺโต.
อปโร ปน อปฺปทุกฺขวิหารี อปฺปปฺุโ โหติ, โส – ‘‘อหํ ปุพฺเพปิ อกตปฺุตาย สุเขน ชีวิกํ น ลภามี’’ติ ตีณิ สุจริตานิ ปูเรตฺวา สคฺเค นิพฺพตฺตติ.
อปโร ปฺุวา โหติ, โส – ‘‘ปุพฺเพปาหํ กตปฺุตาย สุขํ ลภามิ, อิทานิ ปฺุานิ กริสฺสามี’’ติ ตีณิ สุจริตานิ ปูเรตฺวา สคฺเค นิพฺพตฺตติ. อิเม ทฺเว สนฺธาย จตุตฺถนโย วุตฺโต. อิทํ ติตฺถิยวเสน อาคตํ, สาสเนปิ ปน ลพฺภติ.
เอกจฺโจ หิ ธุตงฺคสมาทานวเสน ลูขาชีวี โหติ, อปฺปปฺุตาย วา สกลมฺปิ คามํ วิจริตฺวา อุทรปูรํ น ลภติ. โส – ‘‘ปจฺจเย อุปฺปาเทสฺสามี’’ติ เวชฺชกมฺมาทิวเสน วา อเนสนํ ¶ กตฺวา, อรหตฺตํ วา ปฏิชานิตฺวา, ตีณิ วา กุหนวตฺถูนิ ปฏิเสวิตฺวา นิรเย นิพฺพตฺตติ.
อปโร ¶ จ ตาทิโสว ปฺุวา โหติ. โส ตาย ปฺุสมฺปตฺติยา มานํ ชนยิตฺวา อุปฺปนฺนํ ลาภํ ถาวรํ กตฺตุกาโม อเนสนวเสน ตีณิ ทุจฺจริตานิ ปูเรตฺวา นิรเย อุปฺปชฺชติ.
อปโร สมาทินฺนธุตงฺโค อปฺปปฺุโว โหติ, น ลภติ สุเขน ชีวิตวุตฺตึ. โส – ‘‘ปุพฺเพปาหํ อกตปฺุตาย กิฺจิ น ลภามิ, สเจ อิทานิ อเนสนํ กริสฺสํ, อายติมฺปิ ทุลฺลภสุโข ภวิสฺสามี’’ติ ตีณิ สุจริตานิ ปูเรตฺวา อรหตฺตํ ปตฺตุํ อสกฺโกนฺโต สคฺเค นิพฺพตฺตติ.
อปโร ปฺุวา โหติ, โส – ‘‘ปุพฺเพปาหํ กตปฺุตาย เอตรหิ สุขิโต, อิทานิปิ ปฺุํ กริสฺสามี’’ติ อเนสนํ ปหาย ตีณิ สุจริตานิ ปูเรตฺวา อรหตฺตํ ปตฺตุํ อสกฺโกนฺโต สคฺเค นิพฺพตฺตติ.
๓๘๓. อาคติฺจาติ – ‘‘อสุกฏฺานโต นาม อิเม อาคตา’’ติ เอวํ อาคติฺจ. คติฺจาติ อิทานิ คนฺตพฺพฏฺานฺจ. จุติฺจาติ ตโต จวนฺจ. อุปปตฺติฺจาติ ตโต จุตานํ ปุน อุปปตฺติฺจ. กึ สพฺพํ ตปํ ครหิสฺสามีติ – ‘‘เกน การเณน ครหิสฺสามิ, ครหิตพฺพเมว หิ มยํ ครหาม, ปสํสิตพฺพํ ปสํสาม, น ภณฺฑิกํ กโรนฺโต มหารชโก วิย โธตฺจ อโธตฺจ เอกโต กโรมา’’ติ ทสฺเสติ. อิทานิ ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต – ‘‘สนฺติ กสฺสป เอเก สมณพฺราหฺมณา’’ติอาทิมาห.
๓๘๔. ยํ เต เอกจฺจนฺติ ปฺจวิธํ สีลํ, ตฺหิ โลเก น โกจิ ‘‘น สาธู’’ติ วทติ. ปุน ยํ เต เอกจฺจนฺติ ปฺจวิธํ เวรํ, ตํ น ¶ โกจิ ‘‘สาธู’’ติ วทติ. ปุน ยํ เต เอกจฺจนฺติ ปฺจทฺวาเร อสํวรํ, เต กิร – ‘‘จกฺขุ นาม น นิรุนฺธิตพฺพํ, จกฺขุนา มนาปํ รูปํ ทฏฺพฺพ’’นฺติ วทนฺติ, เอส นโย โสตาทีสุ. ปุน ยํ เต เอกจฺจนฺติ ปฺจทฺวาเร สํวรํ.
เอวํ ปเรสํ วาเทน สห อตฺตโน วาทสฺส สมานาสมานตํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อตฺตโน วาเทน ¶ สห ปเรสํ วาทสฺส สมานาสมานตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยํ มย’’นฺติอาทิมาห. ตตฺราปิ ปฺจสีลาทิวเสเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
สมนุยฺุชาปนกถาวณฺณนา
๓๘๕. สมนุยฺุชนฺตนฺติ ¶ สมนุยฺุชนฺตุ, เอตฺถ จ ลทฺธึ ปุจฺฉนฺโต สมนุยฺุชติ นาม, การณํ ปุจฺฉนฺโต สมนุคาหติ นาม, อุภยํ ปุจฺฉนฺโต สมนุภาสติ นาม. สตฺถารา วา สตฺถารนฺติ สตฺถารา วา สทฺธึ สตฺถารํ อุปสํหริตฺวา – ‘‘กึ เต สตฺถา เต ธมฺเม สพฺพโส ปหาย วตฺตติ, อุทาหุ สมโณ โคตโม’’ติ. ทุติยปเทปิ เอเสว นโย.
อิทานิ ตมตฺถํ โยเชตฺวา ทสฺเสนฺโต – ‘‘เย อิเมสํ ภวต’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ อกุสลา อกุสลสงฺขาตาติ อกุสลา เจว ‘‘อกุสลา’’ติ จ สงฺขาตา าตา โกฏฺาสํ วา กตฺวา ปิตาติ อตฺโถ. เอส นโย สพฺพปเทสุ. อปิ เจตฺถ สาวชฺชาติ สโทสา. น อลมริยาติ นิทฺโทสฏฺเน อริยา ภวิตุํ นาลํ อสมตฺถา.
๓๘๖-๓๙๒. ยํ วิฺู สมนุยฺุชนฺตาติ เยน วิฺู อมฺเห จ อฺเ จ ปุจฺฉนฺตา เอวํ วเทยฺยุํ, ตํ านํ วิชฺชติ, อตฺถิ ตํ การณนฺติ อตฺโถ. ยํ วา ปน โภนฺโต ปเร คณาจริยาติ ปเร ปน โภนฺโต คณาจริยา ยํ วา ตํ วา อปฺปมตฺตกํ ปหาย วตฺตนฺตีติ อตฺโถ. อมฺเหว ตตฺถ เยภุยฺเยน ปสํเสยฺยุนฺติ อิทํ ภควา สตฺถารา สตฺถารํ สมนุยฺุชเนปิ อาห – สงฺเฆน สํฆํ สมนุยฺุชเนปิ. กสฺมา? สงฺฆปสํสายปิ สตฺถุเยว ปสํสาสิทฺธิโต. ปสีทมานาปิ หิ พุทฺธสมฺปตฺติยา สงฺเฆ, สงฺฆสมฺปตฺติยา จ พุทฺเธ ปสีทนฺติ, ตถา หิ ภควโต สรีรสมฺปตฺตึ ¶ ทิสฺวา, ธมฺมเทสนํ วา สุตฺวา ภวนฺติ วตฺตาโร – ‘‘ลาภา วต โภ สาวกานํ เย เอวรูปสฺส สตฺถุ สนฺติกาวจรา’’ติ, เอวํ พุทฺธสมฺปตฺติยา สงฺเฆ ปสีทนฺติ. ภิกฺขูนํ ปนาจารโคจรํ อภิกฺกมปฏิกฺกมาทีนิ จ ทิสฺวา ภวนฺติ วตฺตาโร – ‘‘สนฺติกาวจรานํ วต โภ สาวกานํ อยฺจ อุปสมคุโณ สตฺถุ กีว รูโป ภวิสฺสตี’’ติ, เอวํ สงฺฆสมฺปตฺติยา พุทฺเธ ปสีทนฺติ. อิติ ยา สตฺถุปสํสา, สา สงฺฆสฺส. ยา สงฺฆสฺส ปสํสา, สา สตฺถูติ สงฺฆปสํสายปิ สตฺถุเยว ปสํสาสิทฺธิโต ภควา ทฺวีสุปิ นเยสุ – ‘‘อมฺเหว ตตฺถ เยภุยฺเยน ปสํเสยฺยุ’’นฺติ อาห. สมโณ โคตโม อิเม ธมฺเม อนวเสสํ ปหาย วตฺตติ, ยํ วา ปน โภนฺโต ปเร คณาจริยาติอาทีสุปิ ปเนตฺถ อยมธิปฺปาโย – สมฺปตฺตสมาทานเสตุฆาตวเสน ¶ หิ ติสฺโส วิรติโย. ตาสุ สมฺปตฺตสมาทาน วิรติมตฺตเมว อฺเสํ โหติ, เสตุฆาตวิรติ ปน สพฺเพน สพฺพํ ¶ นตฺถิ. ปฺจสุ ปน ตทงฺควิกฺขมฺภนสมุจฺเฉทปฏิปสฺสทฺธินิสฺสรณปฺปหาเนสุ อฏฺสมาปตฺติวเสน เจว วิปสฺสนามตฺตวเสน จ ตทงฺควิกฺขมฺภนปฺปหานมตฺตเมว อฺเสํ โหติ. อิตรานิ ตีณิ ปหานานิ สพฺเพน สพฺพํ นตฺถิ. ตถา สีลสํวโร, ขนฺติสํวโร, าณสํวโร, สติสํวโร, วีริยสํวโรติ ปฺจ สํวรา, เตสุ ปฺจสีลมตฺตเมว อธิวาสนขนฺติมตฺตเมว จ อฺเสํ โหติ, เสสํ สพฺเพน สพฺพํ นตฺถิ.
ปฺจ โข ปนิเม อุโปสถุทฺเทสา, เตสุ ปฺจสีลมตฺตเมว อฺเสํ โหติ. ปาติโมกฺขสํวรสีลํ สพฺเพน สพฺพํ นตฺถิ. อิติ อกุสลปฺปหาเน จ กุสลสมาทาเน จ, ตีสุ วิรตีสุ, ปฺจสุ ปหาเนสุ, ปฺจสุ สํวเรสุ, ปฺจสุ อุทฺเทเสสุ, – ‘‘อหเมว จ มยฺหฺจ สาวกสงฺโฆ โลเก ปฺายติ, มยา หิ สทิโส สตฺถา นาม, มยฺหํ สาวกสงฺเฆน สทิโส สงฺโฆ นาม นตฺถี’’ติ ภควา สีหนาทํ นทติ.
อริยอฏฺงฺคิกมคฺควณฺณนา
๓๙๓. เอวํ สีหนาทํ ¶ นทิตฺวา ตสฺส สีหนาทสฺส อวิปรีตภาวาวโพธนตฺถํ – ‘‘อตฺถิ, กสฺสป, มคฺโค’’ติอาทิมาห. ตตฺถ มคฺโคติ โลกุตฺตรมคฺโค. ปฏิปทาติ ปุพฺพภาคปฏิปทา. กาลวาทีติอาทีนิ พฺรหฺมชาเล วณฺณิตานิ. อิทานิ ตํ ทุวิธํ มคฺคฺจ ปฏิปทฺจ เอกโต กตฺวา ทสฺเสนฺโต – ‘‘อยเมว อริโย’’ติอาทิมาห. อิทํ ปน สุตฺวา อเจโล จินฺเตสิ – ‘‘สมโณ โคตโม มยฺหํเยว มคฺโค จ ปฏิปทา จ อตฺถิ, อฺเสํ นตฺถีติ มฺติ, หนฺทสฺสาหํ อมฺหากมฺปิ มคฺคํ กเถมี’’ติ. ตโต อเจลกปฏิปทํ กเถสิ. เตนาห – ‘‘เอวํ วุตฺเต อเจโล กสฺสโป ภควนฺตํ เอตทโวจ…เป… อุทโกโรหนานุโยคมนุยุตฺโต วิหรตี’’ติ.
ตโปปกฺกมกถาวณฺณนา
๓๙๔. ตตฺถ ตโปปกฺกมาติ ตปารมฺภา, ตปกมฺมานีติ อตฺโถ. สามฺสงฺขาตาติ สมณกมฺมสงฺขาตา. พฺรหฺมฺสงฺขาตาติ พฺราหฺมณกมฺมสงฺขาตา. อเจลโกติ นิจฺโจโล, นคฺโคติ อตฺโถ. มุตฺตาจาโรติ วิสฏฺาจาโร, อุจฺจารกมฺมาทีสุ โลกิยกุลปุตฺตาจาเรน วิรหิโต ¶ ิตโกว อุจฺจารํ กโรติ, ปสฺสาวํ กโรติ, ขาทติ, ภฺุชติ จ. หตฺถาปเลขโนติ หตฺเถ ปิณฺฑมฺหิ ิเต ชิวฺหาย หตฺถํ อปลิขติ, อุจฺจารํ วา กตฺวา หตฺถสฺมิฺเว ทณฺฑกสฺี หุตฺวา หตฺเถน อปลิขติ. ‘‘ภิกฺขาคหณตฺถํ เอหิ, ภนฺเต’’ติ วุตฺโต น เอตีติ น เอหิภทฺทนฺติโก. ‘‘เตน หิ ¶ ติฏฺ, ภนฺเต’’ติ วุตฺโตปิ น ติฏฺตีติ นติฏฺภทฺทนฺติโก. ตทุภยมฺปิ กิร โส – ‘‘เอตสฺส วจนํ กตํ ภวิสฺสตี’’ติ น กโรติ. อภิหฏนฺติ ปุเรตรํ คเหตฺวา อาหฏํ ภิกฺขํ, อุทฺทิสฺสกตนฺติ ‘‘อิมํ ตุมฺเห อุทฺทิสฺส กต’’นฺติ เอวํ อาโรจิตํ ภิกฺขํ. น นิมนฺตนนฺติ ‘‘อสุกํ นาม กุลํ วา วีถึ วา คามํ วา ปวิเสยฺยาถา’’ติ เอวํ นิมนฺติตภิกฺขมฺปิ น สาทิยติ, น คณฺหติ. น ¶ กุมฺภิมุขาติ กุมฺภิโต อุทฺธริตฺวา ทิยฺยมานํ ภิกฺขํ น คณฺหติ. น กโฬปิมุขาติ กโฬปีติ อุกฺขลิ วา ปจฺฉิ วา, ตโตปิ น คณฺหติ. กสฺมา? กุมฺภิกโฬปิโย มํ นิสฺสาย กฏจฺฉุนา ปหารํ ลภนฺตีติ. น เอฬกมนฺตรนฺติ อุมฺมารํ อนฺตรํ กตฺวา ทิยฺยมานํ น คณฺหติ. กสฺมา? ‘‘อยํ มํ นิสฺสาย อนฺตรกรณํ ลภตี’’ติ. ทณฺฑมุสเลสุปิ เอเสว นโย.
ทฺวินฺนนฺติ ทฺวีสุ ภฺุชมาเนสุ เอกสฺมึ อุฏฺาย เทนฺเต น คณฺหติ. กสฺมา? ‘‘เอกสฺส กพฬนฺตราโย โหตี’’ติ. น คพฺภินิยาติอาทีสุ ปน ‘‘คพฺภินิยา กุจฺฉิยํ ทารโก กิลมติ. ปายนฺติยา ทารกสฺส ขีรนฺตราโย โหติ, ปุริสนฺตรคตาย รติอนฺตราโย โหตี’’ติ น คณฺหติ. สํกิตฺตีสูติ สํกิตฺเตตฺวา กตภตฺเตสุ, ทุพฺภิกฺขสมเย กิร อเจลกสาวกา อเจลกานํ อตฺถาย ตโต ตโต ตณฺฑุลาทีนิ สมาทเปตฺวา ภตฺตํ ปจนฺติ. อุกฺกฏฺโ อเจลโก ตโตปิ น ปฏิคฺคณฺหติ. น ยตฺถ สาติ ยตฺถ สุนโข – ‘‘ปิณฺฑํ ลภิสฺสามี’’ติ อุปฏฺิโต โหติ, ตตฺถ ตสฺส อทตฺวา อาหฏํ น คณฺหติ. กสฺมา? เอตสฺส ปิณฺฑนฺตราโย โหตีติ. สณฺฑสณฺฑจารินีติ สมูหสมูหจารินี, สเจ หิ อเจลกํ ทิสฺวา – ‘‘อิมสฺส ภิกฺขํ ทสฺสามา’’ติ มนุสฺสา ภตฺตเคหํ ปวิสนฺติ, เตสุ จ ปวิสนฺเตสุ กโฬปิมุขาทีสุ นิลีนา มกฺขิกา อุปฺปติตฺวา สณฺฑสณฺฑา จรนฺติ, ตโต อาหฏํ ภิกฺขํ น คณฺหติ. กสฺมา? มํ นิสฺสาย มกฺขิกานํ โคจรนฺตราโย ชาโตติ.
ถุโสทกนฺติ ¶ สพฺพสสฺสสมฺภาเรหิ กตํ โสวีรกํ. เอตฺถ จ สุราปานเมว สาวชฺชํ, อยํ ปน สพฺเพสุปิ สาวชฺชสฺี. เอกาคาริโกติ โย เอกสฺมึเยว เคเห ภิกฺขํ ลภิตฺวา นิวตฺตติ ¶ . เอกาโลปิโกติ โย เอเกเนว อาโลเปน ยาเปติ. ทฺวาคาริกาทีสุปิ เอเสว นโย. เอกิสฺสาปิ ทตฺติยาติ เอกาย ทตฺติยา. ทตฺติ นาม เอกา ขุทฺทกปาติ โหติ, ยตฺถ อคฺคภิกฺขํ ปกฺขิปิตฺวา เปนฺติ. เอกาหิกนฺติ เอกทิวสนฺตริกํ. อทฺธมาสิกนฺติ อทฺธมาสนฺตริกํ. ปริยายภตฺตโภชนนฺติ วารภตฺตโภชนํ, เอกาหวาเรน ทฺวีหวาเรน สตฺตาหวาเรน อฑฺฒมาสวาเรนาติ เอวํ ทิวสวาเรน อาคตภตฺตโภชนํ.
๓๙๕. สากภกฺโขติ ¶ อลฺลสากภกฺโข. สามากภกฺโขติ สามากตณฺฑุลภกฺโข. นีวาราทีสุ นีวาโร นาม อรฺเ สยํชาตา วีหิชาติ. ททฺทุลนฺติ จมฺมกาเรหิ จมฺมํ ลิขิตฺวา ฉฑฺฑิตกสฏํ. หฏํ วุจฺจติ สิเลโสปิ เสวาโลปิ. กณนฺติ กุณฺฑกํ. อาจาโมติ ภตฺตอุกฺขลิกาย ลคฺโค ฌามกโอทโน, ตํ ฉฑฺฑิตฏฺานโตว คเหตฺวา ขาทติ, ‘‘โอทนกฺชิย’’นฺติปิ วทนฺติ. ปิฺากาทโย ปากฏา เอว. ปวตฺตผลโภชีติ ปติตผลโภชี.
๓๙๖. สาณานีติ สาณวากโจฬานิ. มสาณานีติ มิสฺสกโจฬานิ. ฉวทุสฺสานีติ มตสรีรโต ฉฑฺฑิตวตฺถานิ, เอรกติณาทีนิ วา คนฺเถตฺวา กตนิวาสนานิ. ปํสุกูลานีติ ปถวิยํ ฉฑฺฑิตนนฺตกานิ. ติรีฏานีติ รุกฺขตจวตฺถานิ. อชินนฺติ อชินมิคจมฺมํ. อชินกฺขิปนฺติ ตเทว มชฺเฌ ผาลิตกํ. กุสจีรนฺติ กุสติณานิ คนฺเถตฺวา กตจีรํ. วากจีรผลกจีเรสุปิ เอเสว นโย. เกสกมฺพลนฺติ มนุสฺสเกเสหิ กตกมฺพลํ. ยํ สนฺธาย ¶ วุตฺตํ –
‘‘เสยฺยถาปิ ภิกฺขเว, ยานิ กานิจิ ตนฺตาวุตานิ วตฺถานิ, เกสกมฺพโล เตสํ ปฏิกิฏฺโ อกฺขายติ. เกสกมฺพโล, ภิกฺขเว, สีเต สีโต, อุณฺเห อุณฺโห อปฺปคฺโฆ จ ทุพฺพณฺโณ จ ทุคฺคนฺโธ ทุกฺขสมฺผสฺโส’’ติ.
วาฬกมฺพลนฺติ ¶ อสฺสวาเลหิ กตกมฺพลํ. อุลูกปกฺขิกนฺติ อุลูกปกฺขานิ คนฺเถตฺวา กตนิวาสนํ. อุกฺกุฏิกปฺปธานมนุยุตฺโตติ อุกฺกุฏิกวีริยํ อนุยุตฺโต, คจฺฉนฺโตปิ อุกฺกุฏิโกว หุตฺวา อุปฺปติตฺวา อุปฺปติตฺวา คจฺฉติ. กณฺฏกาปสฺสยิโกติ อยกณฺฏเก วา ปกติกณฺฏเก วา ภูมิยํ โกฏฺเฏตฺวา ตตฺถ จมฺมํ อตฺถริตฺวา านจงฺกมาทีนิ กโรติ. เสยฺยนฺติ สยนฺโตปิ ตตฺเถว เสยฺยํ กปฺเปติ. ผลกเสยฺยนฺติ รุกฺขผลเก เสยฺยํ. ถณฺฑิลเสยฺยนฺติ ถณฺฑิเล อุจฺเจ ภูมิาเน เสยฺยํ. เอกปสฺสยิโกติ เอกปสฺเสเนว สยติ. รโชชลฺลธโรติ สรีรํ เตเลน มกฺขิตฺวา รชุฏฺานฏฺาเน ติฏฺติ, อถสฺส สรีเร รโชชลฺลํ ลคฺคติ, ตํ ธาเรติ. ยถาสนฺถติโกติ ลทฺธํ อาสนํ อโกเปตฺวา ยเทว ลภติ, ตตฺเถว นิสีทนสีโล. เวกฏิโกติ วิกฏขาทนสีโล. วิกฏนฺติ คูถํ วุจฺจติ. อปานโกติ ปฏิกฺขิตฺตสีตุทกปาโน. สายํ ตติยมสฺสาติ สายตติยกํ. ปาโต, มชฺฌนฺหิเก, สายนฺติ ทิวสสฺส ติกฺขตฺตุํ ปาปํ ปวาเหสฺสามีติ อุทโกโรหนานุโยคํ อนุยุตฺโต วิหรตีติ.
ตโปปกฺกมนิรตฺถกตาวณฺณนา
๓๙๗. อถ ¶ ภควา สีลสมฺปทาทีหิ วินา เตสํ ตโปปกฺกมานํ นิรตฺถกตํ ทสฺเสนฺโต – ‘‘อเจลโก เจปิ กสฺสป โหตี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อารกา วาติ ทูเรเยว. อเวรนฺติ ¶ โทสเวรวิรหิตํ. อพฺยาปชฺชนฺติ โทมนสฺสพฺยาปชฺชรหิตํ.
๓๙๘. ทุกฺกรํ, โภ โคตมาติ อิทํ กสฺสโป ‘‘มยํ ปุพฺเพ เอตฺตกมตฺตํ สามฺฺจ พฺรหฺมฺฺจาติ วิจราม, ตุมฺเห ปน อฺํเยว สามฺฺจ พฺรหฺมฺฺจ วทถา’’ติ ทีเปนฺโต อาห. ปกติ โข เอสาติ ปกติกถา เอสา. อิมาย จ, กสฺสป, มตฺตายาติ ‘‘กสฺสป ยทิ อิมินา ปมาเณน เอวํ ปริตฺตเกน ปฏิปตฺติกฺกเมน สามฺํ วา พฺรหฺมฺํ วา ทุกฺกรํ สุทุกฺกรํ นาม อภวิสฺส, ตโต เนตํ อภวิสฺส กลฺลํ วจนาย ทุกฺกรํ สามฺ’’นฺติ อยเมตฺถ ปทสมฺพนฺเธน สทฺธึ อตฺโถ. เอเตน นเยน สพฺพตฺถ ปทสมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ.
๓๙๙. ทุชฺชาโนติ ¶ อิทมฺปิ โส ‘‘มยํ ปุพฺเพ เอตฺตเกน สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา โหตีติ วิจราม, ตุมฺเห ปน อฺถา วทถา’’ติ อิทํ สนฺธายาห. อถสฺส ภควา ตํ ปกติวาทํ ปฏิกฺขิปิตฺวา สภาวโตว ทุชฺชานภาวํ อาวิกโรนฺโต ปุนปิ – ‘‘ปกติ โข’’ติอาทิมาห. ตตฺราปิ วุตฺตนเยเนว ปทสมฺพนฺธํ กตฺวา อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
สีลสมาธิปฺาสมฺปทาวณฺณนา
๔๐๐-๔๐๑. กตมา ปน สา, โภ โคตมาติ กสฺมา ปุจฺฉติ. อยํ กิร ปณฺฑิโต ภควโต กเถนฺตสฺเสว กถํ อุคฺคเหสิ, อถ อตฺตโน ปฏิปตฺติยา นิรตฺถกตํ วิทิตฺวา สมโณ โคตโม – ‘‘ตสฺส ‘จายํ สีลสมฺปทา, จิตฺตสมฺปทา, ปฺาสมฺปทา อภาวิตา โหติ อสจฺฉิกตา, อถ โข โส อารกาว สามฺา’ติอาทิมาห. หนฺท ทานิ นํ ตา สมฺปตฺติโย ปุจฺฉามี’’ติ สีลสมฺปทาทิวิชานนตฺถํ ปุจฺฉติ. อถสฺส ภควา พุทฺธุปฺปาทํ ทสฺเสตฺวา ตนฺติธมฺมํ กเถนฺโต ตา สมฺปตฺติโย ทสฺเสตุํ – ‘‘อิธ กสฺสปา’’ติอาทิมาห. อิมาย จ กสฺสป สีลสมฺปทายาติ อิทํ อรหตฺตผลเมว สนฺธาย วุตฺตํ. อรหตฺตผลปริโยสานฺหิ ภควโต สาสนํ. ตสฺมา อรหตฺตผลสมฺปยุตฺตาหิ สีลจิตฺตปฺาสมฺปทาหิ ¶ อฺา อุตฺตริตรา วา ปณีตตรา วา สีลาทิสมฺปทา นตฺถีติ อาห.
สีหนาทกถาวณฺณนา
๔๐๒. เอวฺจ ¶ ปน วตฺวา อิทานิ อนุตฺตรํ มหาสีหนาทํ นทนฺโต – ‘‘สนฺติ กสฺสป เอเก สมณพฺราหฺมณา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อริยนฺติ นิรุปกฺกิเลสํ ปรมวิสุทฺธํ. ปรมนฺติ อุตฺตมํ, ปฺจสีลานิ หิอาทึ กตฺวา ยาว ปาติโมกฺขสํวรสีลา สีลเมว, โลกุตฺตรมคฺคผลสมฺปยุตฺตํ ปน ปรมสีลํ นาม. นาหํ ตตฺถาติ ตตฺถ สีเลปิ ปรมสีเลปิ อหํ อตฺตโน สมสมํ มม สีลสเมน สีเลน มยา สมํ ปุคฺคลํ น ปสฺสามีติ อตฺโถ. อหเมว ตตฺถ ภิยฺโยติ อหเมว ตสฺมึ สีเล อุตฺตโม. กตมสฺมึ? ยทิทํ อธิสีลนฺติ ยํ เอตํ อุตฺตมํ สีลนฺติ อตฺโถ. อิติ อิมํ ปมํ สีหนาทํ นทติ.
ตโปชิคุจฺฉวาทาติ ¶ เย ตโปชิคุจฺฉํ วทนฺติ. ตตฺถ ตปตีติ ตโป, กิเลสสนฺตาปกวีริยสฺเสตํ นามํ, ตเทว เต กิเลเส ชิคุจฺฉตีติ ชิคุจฺฉา. อริยา ปรมาติ เอตฺถ นิทฺโทสตฺตา อริยา, อฏฺอารมฺภวตฺถุวเสนปิ อุปฺปนฺนา วิปสฺสนาวีริยสงฺขาตา ตโปชิคุจฺฉา ตโปชิคุจฺฉาว, มคฺคผลสมฺปยุตฺตา ปรมา นาม. อธิเชคุจฺฉนฺติ อิธ ชิคุจฺฉภาโว เชคุจฺฉํ, อุตฺตมํ เชคุจฺฉํ อธิเชคุจฺฉํ, ตสฺมา ยทิทํ อธิเชคุจฺฉํ, ตตฺถ อหเมว ภิยฺโยติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ปฺาธิกาเรปิ กมฺมสฺสกตาปฺา จ วิปสฺสนาปฺา จ ปฺา นาม, มคฺคผลสมฺปยุตฺตา ปรมา ปฺา นาม. อธิปฺนฺติ เอตฺถ ลิงฺควิปลฺลาโส เวทิตพฺโพ, อยํ ปเนตฺถตฺโถ – ยายํ อธิปฺา นาม อหเมว ตตฺถ ภิยฺโยติ วิมุตฺตาธิกาเร ¶ ตทงฺควิกฺขมฺภนวิมุตฺติโย วิมุตฺติ นาม, สมุจฺเฉทปฏิปสฺสทฺธินิสฺสรณวิมุตฺติโย ปน ปรมา วิมุตฺตีติ เวทิตพฺพา. อิธาปิ จ ยทิทํ อธิวิมุตฺตีติ ยา อยํ อธิวิมุตฺติ, อหเมว ตตฺถ ภิยฺโยติ อตฺโถ.
๔๐๓. สฺุาคาเรติ สฺุเ ฆเร, เอกโกว นิสีทิตฺวาติ อธิปฺปาโย. ปริสาสุ จาติ อฏฺสุ ปริสาสุ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘จตฺตาริมานิ, สาริปุตฺต, ตถาคตสฺส เวสารชฺชานิ. เยหิ เวสารชฺเชหิ สมนฺนาคโต ตถาคโต อาสภํ านํ ปฏิชานาติ, ปริสาสุ สีหนาทํ นทตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๕๐) สุตฺตํ วิตฺถาเรตพฺพํ.
ปฺหฺจ นํ ปุจฺฉนฺตีติ ปณฺฑิตา เทวมนุสฺสา นํ ปฺหํ อภิสงฺขริตฺวา ปุจฺฉนฺติ. พฺยากโรตีติ ¶ ตงฺขณฺเว วิสฺสชฺเชสิ. จิตฺตํ อาราเธตีติ ปฺหาวิสฺสชฺชเนน มหาชนสฺส จิตฺตํ ปริโตเสติเยว. โน จ โข โสตพฺพํ มฺนฺตีติ จิตฺตํ อาราเธตฺวา กเถนฺตสฺสปิสฺส วจนํ ปเร โสตพฺพํ น มฺนฺตีติ, เอวฺจ วเทยฺยุนฺติ อตฺโถ. โสตพฺพฺจสฺส มฺนฺตีติ เทวาปิ มนุสฺสาปิ มหนฺเตเนว อุสฺสาเหน โสตพฺพํ มฺนฺติ. ปสีทนฺตีติ สุปสนฺนา กลฺลจิตฺตา มุทุจิตฺตา โหนฺติ. ปสนฺนาการํ กโรนฺตีติ น มุทฺธปฺปสนฺนาว โหนฺติ, ปณีตานิ จีวราทีนิ เวฬุวนวิหาราทโย จ มหาวิหาเร ปริจฺจชนฺตา ปสนฺนาการํ กโรนฺติ. ตถตฺตายาติ ยํ โส ธมฺมํ เทเสติ ตถา ภาวาย, ธมฺมานุธมฺมปฏิปตฺติปูรณตฺถาย ปฏิปชฺชนฺตีติ อตฺโถ. ตถตฺตาย จ ปฏิปชฺชนฺตีติ ตถภาวาย ปฏิปชฺชนฺติ, ตสฺส หิ ¶ ภควโต ธมฺมํ สุตฺวา เกจิ สรเณสุ เกจิ ปฺจสุ สีเลสุ ปติฏฺหนฺติ, อปเร นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชนฺติ. ปฏิปนฺนา จ อาราเธนฺตีติ ตฺจ ปน ปฏิปทํ ปฏิปนฺนา ปูเรตุํ สกฺโกนฺติ, สพฺพากาเรน ปน ปูเรนฺติ, ปฏิปตฺติปูรเณน ¶ ตสฺส โภโต โคตมสฺส จิตฺตํ อาราเธนฺตีติ วตฺตพฺพา.
อิมสฺมึ ปโนกาเส ตฺวา สีหนาทา สโมธาเนตพฺพา. เอกจฺจํ ตปสฺสึ นิรเย นิพฺพตฺตํ ปสฺสามีติ หิ ภควโต เอโก สีหนาโท. อปรํ สคฺเค นิพฺพตฺตํ ปสฺสามีติ เอโก. อกุสลธมฺมปฺปหาเน อหเมว เสฏฺโติ เอโก. กุสลธมฺมสมาทาเนปิ อหเมว เสฏฺโติ เอโก. อกุสลธมฺมปฺปหาเน มยฺหเมว สาวกสงฺโฆ เสฏฺโติ เอโก. กุสลธมฺมสมาทาเนปิ มยฺหํเยว สาวกสงฺโฆ เสฏฺโติ เอโก. สีเลน มยฺหํ สทิโส นตฺถีติ เอโก. วีริเยน มยฺหํ สทิโส นตฺถีติ เอโก. ปฺาย…เป… วิมุตฺติยา…เป… สีหนาทํ นทนฺโต ปริสมชฺเฌ นิสีทิตฺวา นทามีติ เอโก. วิสารโท หุตฺวา นทามีติ เอโก. ปฺหํ มํ ปุจฺฉนฺตีติ เอโก. ปฺหํ ปุฏฺโ วิสฺสชฺเชมีติ เอโก. วิสฺสชฺชเนน ปรสฺส จิตฺตํ อาราเธมีติ เอโก. สุตฺวา โสตพฺพํ มฺนฺตีติ เอโก. สุตฺวา เม ปสีทนฺตีติ เอโก. ปสนฺนาการํ กโรนฺตีติ เอโก. ยํ ปฏิปตฺตึ เทเสมิ, ตถตฺตาย ปฏิปชฺชนฺตีติ เอโก. ปฏิปนฺนา จ มํ อาราเธนฺตีติ เอโก. อิติ ปุริมานํ ทสนฺนํ เอเกกสฺส – ‘‘ปริสาสุ จ นทตี’’ติ อาทโย ทส ทส ปริวารา. เอวํ เต ทส ปุริมานํ ทสนฺนํ ปริวารวเสน สตํ ปุริมา จ ทสาติ ทสาธิกํ สีหนาทสตํ โหติ. อิโต อฺสฺมึ ปน สุตฺเต เอตฺตกา สีหนาทา ทุลฺลภา, เตนิทํ สุตฺตํ มหาสีหนาทนฺติ วุจฺจติ. อิติ ภควา ‘‘สีหนาทํ โข สมโณ โคตโม นทติ, ตฺจ โข สฺุาคาเร นทตี’’ติ เอวํ วาทานุ วาทํ ปฏิเสเธตฺวา อิทานิ ปริสติ นทิตปุพฺพํ สีหนาทํ ทสฺเสนฺโต ‘‘เอกมิทาห’’นฺติอาทิมาห.
ติตฺถิยปริวาสกถาวณฺณนา
๔๐๔. ตตฺถ ¶ ¶ ตตฺร มํ อฺตโร ตปพฺรหฺมจารีติ ตตฺร ราชคเห คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเต วิหรนฺตํ มํ อฺตโร ตปพฺรหฺมจารี นิคฺโรโธ นาม ปริพฺพาชโก ¶ . อธิเชคุจฺเฉติ วีริเยน ปาปชิคุจฺฉนาธิกาเร ปฺหํ ปุจฺฉิ. อิทํ ยํ ตํ ภควา คิชฺฌกูเฏ มหาวิหาเร นิสินฺโน อุทุมฺพริกาย เทวิยา อุยฺยาเน นิสินฺนสฺส นิคฺโรธสฺส จ ปริพฺพาชกสฺส สนฺธานสฺส จ อุปาสกสฺส ทิพฺพาย โสตธาตุยา กถาสลฺลาปํ สุตฺวา อากาเสนาคนฺตฺวา เตสํ สนฺติเก ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิตฺวา นิคฺโรเธน อธิเชคุจฺเฉ ปุฏฺปฺหํ วิสฺสชฺเชสิ, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปรํ วิย มตฺตายาติ ปรมาย มตฺตาย, อติมหนฺเตเนว ปมาเณนาติ อตฺโถ. โก หิ, ภนฺเตติ เปตฺวา อนฺธพาลํ ทิฏฺิคติกํ อฺโ ปณฺฑิตชาติโก ‘‘โก นาม ภควโต ธมฺมํ สุตฺวา น อตฺตมโน อสฺสา’’ติ วทติ. ลเภยฺยาหนฺติ อิทํ โส – ‘‘จิรํ วต เม อนิยฺยานิกปกฺเข โยเชตฺวา อตฺตา กิลมิโต, ‘สุกฺขนทีตีเร นฺหายิสฺสามี’ติ สมฺปริวตฺเตนฺเตน วิย ถุเส โกฏฺเฏนฺเตน วิย น โกจิ อตฺโถ นิปฺผาทิโต. หนฺทาหํ อตฺตานํ โยเค โยเชสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อาห. อถ ภควา โย อเนน ขนฺธเก ติตฺถิยปริวาโส ปฺตฺโต, โย อฺติตฺถิยปุพฺโพ สามเณรภูมิยํ ิโต – ‘‘อหํ ภนฺเต, อิตฺถนฺนาโม อฺติตฺถิยปุพฺโพ อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อากงฺขามิ อุปสมฺปทํ, สฺวาหํ, ภนฺเต, สํฆํ จตฺตาโร มาเส ปริวาสํ ยาจามี’’ติอาทินา (มหาว. ๘๖) นเยน สมาทิยิตฺวา ปริวสติ, ตํ สนฺธาย – ‘‘โย โข, กสฺสป, อฺติตฺถิยปุพฺโพ’’ติอาทิมาห.
๔๐๕. ตตฺถ ปพฺพชฺชนฺติ วจนสิลิฏฺตาวเสเนว วุตฺตํ, อปริวสิตฺวาเยว หิ ปพฺพชฺชํ ลภติ. อุปสมฺปทตฺถิเกน ปน นาติกาเลน คามปฺปเวสนาทีนิ อฏฺ วตฺตานิ ปูเรนฺเตน ปริวสิตพฺพํ. อารทฺธจิตฺตาติ อฏฺวตฺตปูรเณน ¶ ตุฏฺจิตฺตา, อยเมตฺถ สงฺเขปตฺโถ. วิตฺถารโต ปเนส ติตฺถิยปริวาโส สมนฺตปาสาทิกาย วินยฏฺกถายํ ปพฺพชฺชขนฺธกวณฺณนาย วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ. อปิ จ เมตฺถาติ อปิ จ เม เอตฺถ. ปุคฺคลเวมตฺตตา วิทิตาติ ปุคฺคลนานตฺตํ วิทิตํ. ‘‘อยํ ปุคฺคโล ปริวาสารโห, อยํ น ปริวาสารโห’’ติ อิทํ มยฺหํ ปากฏนฺติ ทสฺเสติ. ตโต กสฺสโป จินฺเตสิ – ‘‘อโห อจฺฉริยํ พุทฺธสาสนํ, ยตฺถ เอวํ ฆํสิตฺวา โกฏฺเฏตฺวา ยุตฺตเมว คณฺหนฺติ, อยุตฺตํ ฉฑฺเฑนฺตี’’ติ, ตโต สุฏฺุตรํ ปพฺพชฺชาย สฺชาตุสฺสาโห – ‘‘สเจ ภนฺเต’’ติอาทิมาห.
อถ ¶ โข ภควา ตสฺส ติพฺพจฺฉนฺทตํ วิทิตฺวา – ‘‘น กสฺสโป ปริวาสํ อรหตี’’ติ อฺตรํ ภิกฺขุํ อามนฺเตสิ – ‘‘คจฺฉ ภิกฺขุ กสฺสปํ นฺหาเปตฺวา ปพฺพาเชตฺวา อาเนหี’’ติ. โส ¶ ตถา กตฺวา ตํ ปพฺพาเชตฺวา ภควโต สนฺติกํ อาคมาสิ. ภควา ตํ คณมชฺเฌ นิสีทาเปตฺวา อุปสมฺปาเทสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อลตฺถ โข อเจโล กสฺสโป ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, อลตฺถ อุปสมฺปท’’นฺติ. อจิรูปสมฺปนฺโนติ อุปสมฺปนฺโน หุตฺวา นจิรเมว. วูปกฏฺโติ วตฺถุกามกิเลสกาเมหิ กาเยน เจว จิตฺเตน จ วูปกฏฺโ. อปฺปมตฺโตติ กมฺมฏฺาเน สตึ อวิชหนฺโต. อาตาปีติ กายิกเจตสิกสงฺขาเตน วีริยาตาเปน อาตาปี. ปหิตตฺโตติ กาเย จ ชีวิเต จ อนเปกฺขตาย เปสิตจิตฺโต วิสฺสฏฺอตฺตภาโว. ยสฺสตฺถายาติ ยสฺส อตฺถาย. กุลปุตฺตาติ อาจารกุลปุตฺตา. สมฺมเทวาติ เหตุนาว การเณเนว. ตทนุตฺตรนฺติ ตํ อนุตฺตรํ. พฺรหฺมจริยปริโยสานนฺติ มคฺคพฺรหฺมจริยสฺส ปริโยสานภูตํ อรหตฺตผลํ. ตสฺส หิ อตฺถาย กุลปุตฺตา ปพฺพชนฺติ. ทิฏฺเว ธมฺเมติ อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว. สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวาติ อตฺตนาเยว ปฺาย ปจฺจกฺขํ ¶ กตฺวา, อปรปฺปจฺจยํ กตฺวาติ อตฺโถ. อุปสมฺปชฺช วิหาสีติ ปาปุณิตฺวา สมฺปาเทตฺวา วิหาสิ, เอวํ วิหรนฺโต จ ขีณา ชาติ…เป… อพฺภฺาสีติ.
เอวมสฺส ปจฺจเวกฺขณภูมึ ทสฺเสตฺวา อรหตฺตนิกูเฏน เทสนํ นิฏฺาเปตุํ ‘‘อฺตโร โข ปนายสฺมา กสฺสโป อรหตํ อโหสี’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ อฺตโรติ เอโก. อรหตนฺติ อรหนฺตานํ, ภควโต สาวกานํ อรหนฺตานํ อพฺภนฺตโร อโหสีติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโย. ยํ ยํ ปน อนฺตรนฺตรา น วุตฺตํ, ตํ ตํ ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตตฺตา ปากฏเมวาติ.
อิติ สุมงฺคลวิลาสินิยา ทีฆนิกายฏฺกถายํ
มหาสีหนาทสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.