📜
๙. โปฏฺปาทสุตฺตวณฺณนา
โปฏฺปาทปริพฺพาชกวตฺถุวณฺณนา
๔๐๖. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตฺตํ…เป… สาวตฺถิยนฺติ โปฏฺปาทสุตฺตํ. ตตฺรายํ อปุพฺพปทวณฺณนา. สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมติ สาวตฺถึ อุปนิสฺสาย โย เชตสฺส กุมารสฺส วเน อนาถปิณฺฑิเกน คหปตินา อาราโม การิโต, ตตฺถ วิหรติ. โปฏฺปาโท ปริพฺพาชโกติ นาเมน โปฏฺปาโท นาม ฉนฺนปริพฺพาชโก. โส กิร คิหิกาเล พฺราหฺมณมหาสาโล กาเมสุอาทีนวํ ทิสฺวา จตฺตาลีสโกฏิปริมาณํ โภคกฺขนฺธํ ปหาย ปพฺพชิตฺวา ติตฺถิยานํ คณาจริโย ชาโต. สมยํ ปวทนฺติ เอตฺถาติ สมยปฺปวาทโก, ตสฺมึ กิร าเน จงฺกีตารุกฺขโปกฺขรสาติปฺปภุตโย พฺราหฺมณา นิคณฺอเจลกปริพฺพาชกาทโย จ ปพฺพชิตา สนฺนิปติตฺวา อตฺตโน อตฺตโน สมยํ วทนฺติ กเถนฺติ ทีเปนฺติ, ตสฺมา โส อาราโม สมยปฺปวาทโกติ วุจฺจติ. สฺเวว จ ตินฺทุกาจีรสงฺขาตาย ติมฺพรูรุกฺขปนฺติยา ปริกฺขิตฺตตฺตา ตินฺทุกาจีโร. ยสฺมา ปเนตฺถ ปมํ เอกาว สาลา อโหสิ, ปจฺฉา มหาปฺุํ ปริพฺพาชกํ นิสฺสาย พหู สาลา กตา. ตสฺมา ตเมว เอกํ สาลํ อุปาทาย ลทฺธนามวเสน เอกสาลโกติ วุจฺจติ. มลฺลิกาย ปน ปเสนทิรฺโ เทวิยา อุยฺยานภูโต โส ปุปฺผผลสมฺปนฺโน อาราโมติ กตฺวา มลฺลิกาย อาราโมติ สงฺขฺยํ คโต. ตสฺมึ สมยปฺปวาทเก ตินฺทุกาจีเร เอกสาลเก มลฺลิกาย อาราเม.
ปฏิวสตีติ นิวาสผาสุตาย วสติ. อเถกทิวสํ ภควา ปจฺจูสสมเย สพฺพฺุตฺาณํ ¶ ปตฺถริตฺวา โลกํ ปริคฺคณฺหนฺโต าณชาลสฺส อนฺโตคตํ ปริพฺพาชกํ ทิสฺวา – ‘‘อยํ โปฏฺปาโท มยฺหํ าณชาเล ปฺายติ, กินฺนุ โข ภวิสฺสตี’’ติ อุปปริกฺขนฺโต อทฺทส – ‘‘อหํ อชฺช ตตฺถ คมิสฺสามิ, อถ มํ โปฏฺปาโท นิโรธฺจ นิโรธวุฏฺานฺจ ปุจฺฉิสฺสติ, ตสฺสาหํ สพฺพพุทฺธานํ าเณน สํสนฺทิตฺวา ตทุภยํ กเถสฺสามิ, อถ โส กติปาหจฺจเยน ¶ จิตฺตํ หตฺถิสาริปุตฺตํ คเหตฺวา มม ¶ สนฺติกํ อาคมิสฺสติ, เตสมหํ ธมฺมํ เทเสสฺสามิ, เทสนาวสาเน โปฏฺปาโท มํ สรณํ คมิสฺสติ, จิตฺโต หตฺถิสาริปุตฺโต มม สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิสฺสตี’’ติ. ตโต ปาโตว สรีรปฏิชคฺคนํ กตฺวา สุรตฺตทุปฏฺฏํ นิวาเสตฺวา วิชฺชุลตาสทิสํ กายพนฺธนํ พนฺธิตฺวา ยุคนฺธรปพฺพตํ ปริกฺขิปิตฺวา ิตมหาเมฆํ วิย เมฆวณฺณํ ปํสุกูลํ เอกํสวรคตํ กตฺวา ปจฺจคฺฆํ เสลมยปตฺตํ วามอํสกูเฏ ลคฺเคตฺวา สาวตฺถึ ปิณฺฑาย ปวิสิสฺสามีติ สีโห วิย หิมวนฺตปาทา วิหารา นิกฺขมิ. อิมมตฺถํ สนฺธาย – ‘‘อถ โข ภควา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
๔๐๗. เอตทโหสีติ นครทฺวารสมีปํ คนฺตฺวา อตฺตโน รุจิวเสน สูริยํ โอโลเกตฺวา อติปฺปคภาวเมว ทิสฺวา เอตํ อโหสิ. ยํนูนาหนฺติ สํสยปริทีปโน วิย นิปาโต, พุทฺธานฺจ สํสโย นาม นตฺถิ – ‘‘อิทํ กริสฺสาม, อิทํ น กริสฺสาม, อิมสฺส ธมฺมํ เทเสสฺสาม, อิมสฺส น เทเสสฺสามา’’ติ เอวํ ปริวิตกฺกปุพฺพภาโค ปเนส สพฺพพุทฺธานํ ลพฺภติ. เตนาห – ‘‘ยํนูนาห’’นฺติ, ยทิ ปนาหนฺติ อตฺโถ.
๔๐๘. อุนฺนาทินิยาติ อุจฺจํ นทมานาย, เอวํ นทมานาย จสฺสา อุทฺธํ คมนวเสน อุจฺโจ, ทิสาสุ ปตฺถฏวเสน มหา สทฺโทติ อุจฺจาสทฺทมหาสทฺทาย, เตสฺหิ ปริพฺพาชกานํ ปาโตว วุฏฺาย กตฺตพฺพํ นาม เจติยวตฺตํ วา โพธิวตฺตํ วา อาจริยุปชฺฌายวตฺตํ ¶ วา โยนิโส มนสิกาโร วา นตฺถิ. เตน เต ปาโตว วุฏฺาย พาลาตเป นิสินฺนา – ‘‘อิมสฺส หตฺโถ โสภโน, อิมสฺส ปาโท’’ติ เอวํ อฺมฺสฺส หตฺถปาทาทีนิ วา อารพฺภ, อิตฺถิปุริสทารกทาริกาทีนํ วณฺเณ วา, อฺํ วา กามสฺสาทภวสฺสาทาทิวตฺถุํ อารพฺภ กถํ สมุฏฺาเปตฺวา อนุปุพฺเพน ราชกถาทิอเนกวิธํ ติรจฺฉานกถํ กเถนฺติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อุนฺนาทินิยา อุจฺจาสทฺทมหาสทฺทาย อเนกวิหิตํ ติรจฺฉานกถํ กเถนฺติยา’’ติ.
ตโต โปฏฺปาโท ปริพฺพาชโก เต ปริพฺพาชเก โอโลเกตฺวา – ‘‘อิเม ปริพฺพาชกา อติวิย อฺมฺํ อคารวา, มยฺจ สมณสฺส โคตมสฺส ปาตุภาวโต ปฏฺาย สูริยุคฺคมเน ขชฺโชปนกูปมา ชาตา, ลาภสกฺกาโรปิ โน ปริหีโน. สเจ ปนิมํ านํ สมโณ โคตโม วา โคตมสฺส สาวโก วา คิหี อุปฏฺาโก วา ตสฺส อาคจฺเฉยฺย ¶ , อติวิย ลชฺชนียํ ภวิสฺสติ, ปริสโทโส โข ปน ปริสเชฏฺกสฺเสว อุปริ อาโรหตี’’ติ อิโตจิโต จ วิโลเกนฺโต ภควนฺตํ อทฺทส. เตน วุตฺตํ – ‘‘อทฺทสา โข โปฏฺปาโท ปริพฺพาชโก…เป… ตุณฺหี อเหสุ’’นฺติ.
๔๐๙. ตตฺถ ¶ สณฺเปสีติ สิกฺขาเปสิ, วชฺชมสฺสา ปฏิจฺฉาเทสิ. ยถา สุสณฺิตา โหติ, ตถา นํ เปสิ. ยถา นาม ปริสมชฺฌํ ปวิสนฺโต ปุริโส วชฺชปฏิจฺฉาทนตฺถํ นิวาสนํ สณฺเปติ, ปารุปนํ สณฺเปติ, รโชกิณฺณฏฺานํ ปฺุฉติ; เอวมสฺสา วชฺชปฏิจฺฉาทนตฺถํ – ‘‘อปฺปสทฺทา โภนฺโต’’ติ สิกฺขาเปนฺโต ยถา สุสณฺิตา โหติ, ตถา นํ เปสีติ อตฺโถ. อปฺปสทฺทกาโมติ อปฺปสทฺทํ อิจฺฉติ, เอโก นิสีทติ, เอโก ติฏฺติ, น คณสงฺคณิกาย ยาเปติ. อุปสงฺกมิตพฺพํ มฺเยฺยาติ อิธาคนฺตพฺพํ มฺเยฺย. กสฺมา ปเนส ภควโต อุปสงฺกมนํ ปจฺจาสีสตีติ? อตฺตโน วุทฺธึ ปตฺถยมาโน. ปริพฺพาชกา กิร พุทฺเธสุ วา พุทฺธสาวเกสุ วา อตฺตโน สนฺติกํ อาคเตสุ – ‘‘อชฺช อมฺหากํ สนฺติกํ สมโณ โคตโม อาคโต ¶ , สาริปุตฺโต อาคโต, น โข ปน เต ยสฺส วา ตสฺส วา สนฺติกํ คจฺฉนฺติ, ปสฺสถ อมฺหากํ อุตฺตมภาว’’นฺติ อตฺตโน อุปฏฺากานํ สนฺติเก อตฺตานํ อุกฺขิปนฺติ, อุจฺเจ าเน เปนฺติ, ภควโตปิ อุปฏฺาเก คณฺหิตุํ วายมนฺติ. เต กิร ภควโต อุปฏฺาเก ทิสฺวา เอวํ วทนฺติ – ‘‘ตุมฺหากํ สตฺถา ภวํ โคตโมปิ โคตมสาวกาปิ อมฺหากํ สนฺติกํ อาคจฺฉนฺติ, มยํ อฺมฺํ สมคฺคา. ตุมฺเห ปน อมฺเห อกฺขีหิปิ ปสฺสิตุํ น อิจฺฉถ, สามีจิกมฺมํ น กโรถ, กึ โว อมฺเหหิ อปรทฺธ’’นฺติ. อเถกจฺเจ มนุสฺสา – ‘‘พุทฺธาปิ เอเตสํ สนฺติกํ คจฺฉนฺติ กึ อมฺหาก’’นฺติ ตโต ปฏฺาย เต ทิสฺวา นปฺปมชฺชนฺติ. ตุณฺหี อเหสุนฺติ โปฏฺปาทํ ปริวาเรตฺวา นิสฺสทฺทา นิสีทึสุ.
๔๑๐. สฺวาคตํ, ภนฺเตติ สุฏฺุ อาคมนํ, ภนฺเต, ภควโต; ภควติ หิ โน อาคเต อานนฺโท โหติ, คเต โสโกติ ทีเปติ. จิรสฺสํ โข, ภนฺเตติ กสฺมา อาห? กึ ภควา ปุพฺเพปิ ตตฺถ คตปุพฺโพติ, น คตปุพฺโพ. มนุสฺสานํ ปน – ‘‘กุหึ คจฺฉนฺตา, กุโต อาคตตฺถ, กึ มคฺคมูฬฺหตฺถ, จิรสฺสํ อาคตตฺถา’’ติ เอวมาทโย ปิยสมุทาจารา ¶ โหนฺติ, ตสฺมา เอวมาห. เอวฺจ ปน วตฺวา น มานถทฺโธ หุตฺวา นิสีทิ, อุฏฺายาสนา ภควโต ปจฺจุคฺคมนมกาสิ. ภควนฺตฺหิ อุปคตํ ทิสฺวา อาสเนน อนิมนฺเตนฺโต วา อปจิตึ อกโรนฺโต วา ทุลฺลโภ. กสฺมา? อุจฺจากุลีนตาย. อยมฺปิ ปริพฺพาชโก อตฺตโน นิสินฺนาสนํ ปปฺโผเฏตฺวา ภควนฺตํ อาสเนน นิมนฺเตนฺโต – ‘‘นิสีทตุ, ภนฺเต, ภควา อิทมาสนํ ปฺตฺต’’นฺติ อาห. อนฺตรากถา วิปฺปกตาติ นิสินฺนานํ โว อาทิโต ปฏฺาย ยาว มมาคมนํ, เอตสฺมึ อนฺตเร กา นาม กถา วิปฺปกตา, มมาคมนปจฺจยา กตมา กถา ปริยนฺตํ น คตา, วทถ, ยาว นํ ปริยนฺตํ เนตฺวา เทมีติ สพฺพฺุปวารณํ ปวาเรสิ. อถ ปริพฺพาชโก – ‘‘นิรตฺถกกถา เอสา นิสฺสารา วฏฺฏสนฺนิสฺสิตา, น ตุมฺหากํ ปุรโต วตฺตพฺพตํ อรหตี’’ติ ทีเปนฺโต ‘‘ติฏฺเตสา ¶ , ภนฺเต’’ติอาทิมาห.
อภิสฺานิโรธกถาวณฺณนา
๔๑๑. ติฏฺเตสา ¶ , ภนฺเตติ สเจ ภควา โสตุกาโม ภวิสฺสติ, ปจฺฉาเปสา กถา น ทุลฺลภา ภวิสฺสติ, อมฺหากํ ปนิมาย กถาย อตฺโถ นตฺถิ. ภควโต ปนาคมนํ ลภิตฺวา มยํ อฺเทว สุการณํ ปุจฺฉามาติ ทีเปติ. ตโต ตํ ปุจฺฉนฺโต – ‘‘ปุริมานิ, ภนฺเต’’ติอาทิมาห. ตตฺถ โกตูหลสาลายนฺติ โกตูหลสาลา นาม ปจฺเจกสาลา นตฺถิ. ยตฺถ ปน นานาติตฺถิยา สมณพฺราหฺมณา นานาวิธํ กถํ ปวตฺเตนฺติ, สา พหูนํ – ‘‘อยํ กึ วทติ, อยํ กึ วทตี’’ติ โกตูหลุปฺปตฺติฏฺานโต โกตูหลสาลาติ วุจฺจติ. อภิสฺานิโรเธติ เอตฺถ อภีติ อุปสคฺคมตฺตํ. สฺานิโรเธติ จิตฺตนิโรเธ, ขณิกนิโรเธ กถา อุปฺปนฺนาติ อตฺโถ. อิทํ ปน ตสฺสา อุปฺปตฺติการณํ. ยทา กิร ภควา ชาตกํ วา กเถติ, สิกฺขาปทํ วา ปฺเปติ ตทา สกลชมฺพุทีเป ภควโต กิตฺติโฆโส ปตฺถรติ, ติตฺถิยา ตํ สุตฺวา – ‘‘ภวํ กิร โคตโม ปุพฺพจริยํ กเถสิ, มยํ กึ น สกฺโกม ตาทิสํ กิฺจิ กเถตุ’’นฺติ ภควโต ปฏิภาคกิริยํ กโรนฺตา เอกํ ภวนฺตรสมยํ กเถนฺติ – ‘‘ภวํ โคตโม สิกฺขาปทํ ปฺเปสิ, มยํ กึ น สกฺโกม ปฺเปตุ’’นฺติ อตฺตโน สาวกานํ กิฺจิเทว สิกฺขาปทํ ปฺเปนฺติ. ตทา ปน ¶ ภควา อฏฺวิธปริสมชฺเฌ นิสีทิตฺวา นิโรธกถํ กเถสิ. ติตฺถิยา ตํ สุตฺวา – ‘‘ภวํ กิร โคตโม นิโรธํ นาม กเถสิ, มยมฺปิ ตํ กเถสฺสามา’’ติ สนฺนิปติตฺวา กถยึสุ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อภิสฺานิโรเธ กถา อุทปาที’’ติ.
ตตฺเรกจฺเจติ เตสุ เอกจฺเจ. ปุริโม เจตฺถ ยฺวายํ พาหิเร ติตฺถายตเน ปพฺพชิโต จิตฺตปฺปวตฺติยํ โทสํ ทิสฺวา อจิตฺตกภาโว สนฺโตติ สมาปตฺตึ ภาเวตฺวา อิโต จุโต ปฺจ กปฺปสตานิ อสฺีภเว ตฺวา ปุน อิธ อุปฺปชฺชติ. ตสฺส สฺุปฺปาเท จ นิโรเธ จ เหตุํ อปสฺสนฺโต – อเหตู อปฺปจฺจยาติ อาห.
ทุติโย ¶ นํ นิเสเธตฺวา มิคสิงฺคตาปสสฺส อสฺกภาวํ คเหตฺวา – ‘‘อุเปติปิ อเปติปี’’ติ อาห. มิคสิงฺคตาปโส กิร อตฺตนฺตโป โฆรตโป ปรมธิตินฺทฺริโย อโหสิ. ตสฺส สีลเตเชน สกฺกวิมานํ อุณฺหํ อโหสิ. สกฺโก เทวราชา ‘‘สกฺกฏฺานํ นุ โข ตาปโส ปตฺเถตี’’ติ อลมฺพุสํ นาม เทวกฺํ – ‘ตาปสสฺส ตปํ ภินฺทิตฺวา เอหี’ติ เปเสสิ. สา ตตฺถ คตา. ตาปโส ปมทิวเส ตํ ทิสฺวาว ปลายิตฺวา ปณฺณสาลํ ปาวิสิ. ทุติยทิวเส กามจฺฉนฺทนีวรเณน ภคฺโค ตํ หตฺเถ อคฺคเหสิ, โส เตน ทิพฺพผสฺเสน ผุฏฺโ วิสฺี หุตฺวา ติณฺณํ ¶ สํวจฺฉรานํ อจฺจเยน สฺํ ปฏิลภิ. ตํ โส ทิฏฺิคติโก – ‘‘ติณฺณํ สํวจฺฉรานํ อจฺจเยน นิโรธา วุฏฺิโต’’ติ มฺมาโน เอวมาห.
ตติโย นํ นิเสเธตฺวา อาถพฺพณปโยคํ สนฺธาย ‘‘อุปกฑฺฒนฺติปิ อปกฑฺฒนฺติปี’’ติ อาห. อาถพฺพณิกา กิร อาถพฺพณํ ปโยเชตฺวา สตฺตํ สีสจฺฉินฺนํ วิย หตฺถจฺฉินฺนํ วิย มตํ วิย จ กตฺวา ทสฺเสนฺติ. ตสฺส ปุน ปากติกภาวํ ทิสฺวา โส ทิฏฺิคติโก – ‘‘นิโรธา วุฏฺิโต อย’’นฺติ มฺมาโน เอวมาห.
จตุตฺโถ นํ นิเสเธตฺวา ยกฺขทาสีนํ มทนิทฺทํ สนฺธาย ‘‘สนฺติ หิ โภ เทวตา’’ติอาทิมาห. ยกฺขทาสิโย กิร สพฺพรตฺตึ เทวตูปหารํ กุรุมานา นจฺจิตฺวา คายิตฺวา อรุโณทเย เอกํ สุราปาตึ ปิวิตฺวา ¶ ปริวตฺติตฺวา สุปิตฺวา ทิวา วุฏฺหนฺติ. ตํ ทิสฺวา โส ทิฏฺิคติโก – ‘‘สุตฺตกาเล นิโรธํ สมาปนฺนา, ปพุทฺธกาเล นิโรธา วุฏฺิตา’’ติ มฺมาโน เอวมาห.
อยํ ปน โปฏฺปาโท ปริพฺพาชโก ปณฺฑิตชาติโก. เตนสฺส ตํ กถํ สุตฺวา วิปฺปฏิสาโร อุปฺปชฺชิ. ‘‘อิเมสํ กถา เอฬมูคกถา วิย จตฺตาโร หิ นิโรเธ เอเต ปฺเปนฺติ, อิมินา จ นิโรเธน นาม เอเกน ภวิตพฺพํ, น พหุนา. เตนาปิ เอเกน อฺเเนว ภวิตพฺพํ, โส ปน อฺเน าตุํ น ¶ สกฺกา อฺตฺร สพฺพฺุนา. สเจ ภควา อิธ อภวิสฺส ‘อยํ นิโรโธ อยํ น นิโรโธ’ติ ทีปสหสฺสํ วิย อุชฺชาเลตฺวา อชฺชเมว ปากฏํ อกริสฺสา’’ติ ทสพลฺเว อนุสฺสริ. ตสฺมา ‘‘ตสฺส มยฺหํ ภนฺเต’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อโห นูนาติ อนุสฺสรณตฺเถ นิปาตทฺวยํ, เตน ตสฺส ภควนฺตํ อนุสฺสรนฺตสฺส เอตทโหสิ ‘‘อโห นูน ภควา อโห นูน สุคโต’’ติ. โย อิเมสนฺติ โย เอเตสํ นิโรธธมฺมานํ สุกุสโล นิปุโณ เฉโก, โส ภควา อโห นูน กเถยฺย, สุคโต อโห นูน กเถยฺยาติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโย. ปกตฺูติ จิณฺณวสิตาย ปกตึ สภาวํ ชานาตีติ ปกตฺู. กถํ นุ โขติ อิทํ ปริพฺพาชโก ‘‘มยํ ภควา น ชานาม, ตุมฺเห ชานาถ, กเถถ โน’’ติ อายาจนฺโต วทติ. อถ ภควา กเถนฺโต ‘‘ตตฺร โปฏฺปาทา’’ติอาทิมาห.
อเหตุกสฺุปฺปาทนิโรธกถาวณฺณนา
๔๑๒. ตตฺถ ตตฺราติ เตสุ สมณพฺราหฺมเณสุ. อาทิโตว เตสํ อปรทฺธนฺติ เตสํ อาทิมฺหิเยว ¶ วิรทฺธํ, ฆรมชฺเฌเยว ปกฺขลิตาติ ทีเปติ. สเหตู สปฺปจฺจยาติ เอตฺถ เหตุปิ ปจฺจโยปิ การณสฺเสว นามํ, สการณาติ อตฺโถ. ตํ ปน การณํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สิกฺขา เอกา’’ติ อาห. ตตฺถ สิกฺขา เอกา สฺา อุปฺปชฺชนฺตีติ สิกฺขาย เอกจฺจา สฺา ชายนฺตีติ อตฺโถ.
๔๑๓. กา จ สิกฺขาติ ภควา อโวจาติ กตมา จ สา สิกฺขาติ ภควา วิตฺถาเรตุกมฺยตาปุจฺฉาวเสน อโวจ. อถ ยสฺมา อธิสีลสิกฺขา อธิจิตฺตสิกฺขา อธิปฺาสิกฺขาติ ติสฺโส สิกฺขา โหนฺติ. ตสฺมา ตา ทสฺเสนฺโต ภควา สฺาย สเหตุกํ อุปฺปาทนิโรธํ ทีเปตุํ พุทฺธุปฺปาทโต ปภุติ ตนฺติธมฺมํ เปนฺโต ‘‘อิธ โปฏฺปาท, ตถาคโต โลเก’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อธิสีลสิกฺขา ¶ อธิจิตฺตสิกฺขาติ ทฺเว เอว สิกฺขา สรูเปน อาคตา, ตติยา ปน ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทาติ โข โปฏฺปาท มยา เอกํสิโก ธมฺโม เทสิโต’’ติ เอตฺถ สมฺมาทิฏฺิสมฺมาสงฺกปฺปวเสน ปริยาปนฺนตฺตา อาคตาติ เวทิตพฺพา. กามสฺาติ ปฺจกามคุณิกราโคปิ อสมุปฺปนฺนกามจาโรปิ ¶ . ตตฺถ ปฺจกามคุณิกราโค อนาคามิมคฺเคน สมุคฺฆาตํ คจฺฉติ, อสมุปฺปนฺนกามจาโร ปน อิมสฺมึ าเน วฏฺฏติ. ตสฺมา ตสฺส ยา ปุริมา กามสฺาติ ตสฺส ปมชฺฌานสมงฺคิโน ยา ปุพฺเพ อุปฺปนฺนปุพฺพาย กามสฺาย สทิสตฺตา ปุริมา กามสฺาติ วุจฺเจยฺย, สา นิรุชฺฌติ, อนุปฺปนฺนาว นุปฺปชฺชตีติ อตฺโถ.
วิเวกชปีติสุขสุขุมสจฺจสฺีเยว ตสฺมึ สมเย โหตีติ ตสฺมึ ปมชฺฌานสมเย วิเวกชปีติสุขสงฺขาตา สุขุมสฺา สจฺจา โหติ, ภูตา โหตีติ อตฺโถ. อถ วา กามจฺฉนฺทาทิโอฬาริกงฺคปฺปหานวเสน สุขุมา จ สา ภูตตาย สจฺจา จ สฺาติ สุขุมสจฺจสฺา, วิเวกเชหิ ปีติสุเขหิ สมฺปยุตฺตา สุขุมสจฺจสฺาติ วิเวกชปีติสุขสุขุมสจฺจสฺา สา อสฺส อตฺถีติ วิเวกชปีติสุขสุขุมสจฺจสฺีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เอส นโย สพฺพตฺถ. เอวมฺปิ สิกฺขาติ เอตฺถ ยสฺมา ปมชฺฌานํ สมาปชฺชนฺโต อธิฏฺหนฺโต, วุฏฺหนฺโต จ สิกฺขติ, ตสฺมา ตํ เอวํ สิกฺขิตพฺพโต สิกฺขาติ วุจฺจติ. เตนปิ สิกฺขาสงฺขาเตน ปมชฺฌาเนน เอวํ เอกา วิเวกชปีติสุขสุขุมสจฺจสฺา อุปฺปชฺชติ. เอวํ เอกา กามสฺา นิรุชฺฌตีติ อตฺโถ. อยํ สิกฺขาติ ภควา อโวจาติ อยํ ปมชฺฌานสงฺขาตา เอกา สิกฺขาติ, ภควา อาห. เอเตนุปาเยน สพฺพตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
ยสฺมา ปน อฏฺมสมาปตฺติยา องฺคโต สมฺมสนํ พุทฺธานํเยว โหติ, สาวเกสุ สาริปุตฺตสทิสานมฺปิ ¶ นตฺถิ, กลาปโต สมฺมสนํเยว ปน สาวกานํ โหติ, อิทฺจ ‘‘สฺา สฺา’’ติ, เอวํ องฺคโต สมฺมสนํ อุทฺธฏํ. ตสฺมา ¶ อากิฺจฺายตนปรมํเยว สฺํ ทสฺเสตฺวา ปุน ตเทว สฺคฺคนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘ยโต โข โปฏฺปาท…เป… สฺคฺคํ ผุสตี’’ติ อาห.
๔๑๔. ตตฺถ ¶ ยโต โข โปฏฺปาท ภิกฺขูติ โย นาม โปฏฺปาท ภิกฺขุ. อิธ สกสฺี โหตีติ อิธ สาสเน สกสฺี โหติ, อยเมว วา ปาโ, อตฺตโน ปมชฺฌานสฺาย สฺวา โหตีติ อตฺโถ. โส ตโต อมุตฺร ตโต อมุตฺราติ โส ภิกฺขุ ตโต ปมชฺฌานโต อมุตฺร ทุติยชฺฌาเน, ตโตปิ อมุตฺร ตติยชฺฌาเนติ เอวํ ตาย ตาย ฌานสฺาย สกสฺี สกสฺี หุตฺวา อนุปุพฺเพน สฺคฺคํ ผุสติ. สฺคฺคนฺติ อากิฺจฺายตนํ วุจฺจติ. กสฺมา? โลกิยานํ กิจฺจการกสมาปตฺตีนํ อคฺคตฺตา. อากิฺจฺายตนสมาปตฺติยฺหิ ตฺวา เนวสฺานาสฺายตนมฺปิ นิโรธมฺปิ สมาปชฺชนฺติ. อิติ สา โลกิยานํ กิจฺจการกสมาปตฺตีนํ อคฺคตฺตา สฺคฺคนฺติ วุจฺจติ, ตํ ผุสติ ปาปุณาตีติ อตฺโถ.
อิทานิ อภิสฺานิโรธํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตสฺส สฺคฺเค ิตสฺสา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ เจเตยฺยํ, อภิสงฺขเรยฺยนฺติ ปททฺวเย จ ฌานํ สมาปชฺชนฺโต เจเตติ นาม, ปุนปฺปุนํ กปฺเปตีติ อตฺโถ. อุปริสมาปตฺติอตฺถาย นิกนฺตึ กุรุมาโน อภิสงฺขโรติ นาม. อิมา จ เม สฺา นิรุชฺเฌยฺยุนฺติ อิมา อากิฺจฺายตนสฺา นิรุชฺเฌยฺยุํ. อฺา จ โอฬาริกาติ อฺา จ โอฬาริกา ภวงฺคสฺา อุปฺปชฺเชยฺยุํ. โส น เจว เจเตติ น อภิสงฺขโรตีติ เอตฺถ กามํ เจส เจเตนฺโตว น เจเตติ, อภิสงฺขโรนฺโตว นาภิสงฺขโรติ. อิมสฺส ภิกฺขุโน อากิฺจฺายตนโต วุฏฺาย เนวสฺานาสฺายตนํ สมาปชฺชิตฺวา ‘‘เอกํ ทฺเว จิตฺตวาเร สฺสามี’’ติ อาโภคสมนฺนาหาโร นตฺถิ. อุปรินิโรธสมาปตฺตตฺถาย เอว ปน อาโภคสมนฺนาหาโร อตฺถิ, สฺวายมตฺโถ ปุตฺตฆราจิกฺขเณน ทีเปตพฺโพ.
ปิตุฆรมชฺเฌน กิร คนฺตฺวา ปจฺฉาภาเค ปุตฺตสฺส ฆรํ โหติ, ตโต ปณีตํ โภชนํ อาทาย อาสนสาลํ อาคตํ ทหรํ เถโร – ‘‘มนาโป ปิณฺฑปาโต กุโต อาภโต’’ติ ปุจฺฉิ. โส ‘‘อสุกสฺส ฆรโต’’ติ ลทฺธฆรเมว อาจิกฺขิ. เยน ปนสฺส ปิตุฆรมชฺเฌน คโตปิ อาคโตปิ ¶ ตตฺถ อาโภโคปิ นตฺถิ. ตตฺถ อาสนสาลา วิย อากิฺจฺายตนสมาปตฺติ ¶ ทฏฺพฺพา, ปิตุเคหํ วิย เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺติ, ปุตฺตเคหํ วิย นิโรธสมาปตฺติ, อาสนสาลาย ตฺวา ปิตุฆรํ อมนสิกริตฺวา ปุตฺตฆราจิกฺขณํ วิย อากิฺจฺายตนโต วุฏฺาย เนวสฺานาสฺายตนํ สมาปชฺชิตฺวา ‘‘เอกํ ทฺเว จิตฺตวาเร สฺสามี’’ติ ปิตุฆรํ อมนสิกริตฺวาว ¶ อุปรินิโรธสมาปตฺตตฺถาย มนสิกาโร, เอวเมส เจเตนฺโตว น เจเตติ, อภิสงฺขโรนฺโตว นาภิสงฺขโรติ. ตา เจว สฺาติ ตา ฌานสฺา นิรุชฺฌนฺติ. อฺา จาติ อฺา จ โอฬาริกา ภวงฺคสฺา นุปฺปชฺชนฺติ. โส นิโรธํ ผุสตีติ โส เอวํ ปฏิปนฺโน ภิกฺขุ สฺาเวทยิตนิโรธํ ผุสติ วินฺทติ ปฏิลภติ.
อนุปุพฺพาภิสฺานิโรธสมฺปชานสมาปตฺตินฺติ เอตฺถ อภีติ อุปสคฺคมตฺตํ, สมฺปชานปทํ นิโรธปเทน อนฺตริกํ กตฺวา วุตฺตํ. อนุปฏิปาฏิยา สมฺปชานสฺานิโรธสมาปตฺตีติ อยํ ปเนตฺถตฺโถ. ตตฺราปิ สมฺปชานสฺานิโรธสมาปตฺตีติ สมฺปชานนฺตสฺส อนฺเต สฺา นิโรธสมาปตฺติ สมฺปชานนฺตสฺส วา ปณฺฑิตสฺส ภิกฺขุโน สฺานิโรธสมาปตฺตีติ อยํ วิเสสตฺโถ.
อิทานิ อิธ ตฺวา นิโรธสมาปตฺติกถา กเถตพฺพา. สา ปเนสา สพฺพากาเรน วิสุทฺธิมคฺเค ปฺาภาวนานิสํสาธิกาเร กถิตา, ตสฺมา ตตฺถ กถิตโตว คเหตพฺพา.
เอวํ ภควา โปฏฺปาทสฺส ปริพฺพาชกสฺส นิโรธกถํ กเถตฺวา – อถ นํ ตาทิสาย กถาย อฺตฺถ อภาวํ ปฏิชานาเปตุํ ‘‘ตํ กึ มฺสี’’ติอาทิมาห. ปริพฺพาชโกปิ ‘‘ภควา อชฺช ตุมฺหากํ กถํ เปตฺวา น มยา เอวรูปา กถา สุตปุพฺพา’’ติ ปฏิชานนฺโต, ‘‘โน เหตํ ภนฺเต’’ติ วตฺวา ปุน สกฺกจฺจํ ภควโต กถาย อุคฺคหิตภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘เอวํ โข อหํ ภนฺเต’’ติอาทิมาห. อถสฺส ภควา ‘‘สุอุคฺคหิตํ ตยา’’ติ อนุชานนฺโต ‘‘เอวํ โปฏฺปาทา’’ติ อาห.
๔๑๕. อถ ปริพฺพาชโก ‘‘ภควตา ‘อากิฺจฺายตนํ สฺคฺค’นฺติ วุตฺตํ. เอตเทว นุ โข สฺคฺคํ, อุทาหุ อวเสสสมาปตฺตีสุปิ ¶ สฺคฺคํ อตฺถี’’ติ จินฺเตตฺวา ตมตฺถํ ปุจฺฉนฺโต ‘‘เอกฺเว นุ โข’’ติอาทิมาห. ภควาปิสฺส วิสฺสชฺเชสิ. ตตฺถ ปุถูปีติ พหูนิปิ. ยถา ยถา โข, โปฏฺปาท, นิโรธํ ¶ ผุสตีติ ปถวีกสิณาทีสุ เยน เยน กสิเณน, ปมชฺฌานาทีนํ วา เยน เยน ฌาเนน. อิทํ วุตฺตํ โหติ – สเจ หิ ปถวีกสิเณน กรณภูเตน ปถวีกสิณสมาปตฺตึ เอกวารํ สมาปชฺชนฺโต ปุริมสฺานิโรธํ ผุสติ เอกํ สฺคฺคํ, อถ ทฺเว วาเร, ตโย วาเร, วารสตํ, วารสหสฺสํ, วารสตสหสฺสํ วา สมาปชฺชนฺโต ปุริมสฺานิโรธํ ผุสติ, สตสหสฺสํ, สฺคฺคานิ. เอส นโย เสสกสิเณสุ. ฌาเนสุปิ สเจ ปมชฺฌาเนน กรณภูเตน เอกวารํ ปุริมสฺานิโรธํ ผุสติ เอกํ สฺคฺคํ. อถ ทฺเว วาเร ¶ , ตโย วาเร, วารสตํ, วารสหสฺสํ, วารสตสหสฺสํ วา ปุริมสฺานิโรธํ ผุสติ, สตสหสฺสํ สฺคฺคานิ. เอส นโย เสสชฺฌานสมาปตฺตีสุปิ. อิติ เอกวารํ สมาปชฺชนวเสน วา สพฺพมฺปิ สฺชานนลกฺขเณน สงฺคเหตฺวา วา เอกํ สฺคฺคํ โหติ, อปราปรํ สมาปชฺชนวเสน พหูนิ.
๔๑๖. สฺา นุ โข, ภนฺเตติ ภนฺเต นิโรธสมาปชฺชนกสฺส ภิกฺขุโน ‘‘สฺา นุ โข ปมํ อุปฺปชฺชตี’’ติ ปุจฺฉติ. ตสฺส ภควา ‘‘สฺา โข, โปฏฺปาทา’’ติ พฺยากาสิ. ตตฺถ สฺาติ ฌานสฺา. าณนฺติ วิปสฺสนาาณํ. อปโร นโย, สฺาติ วิปสฺสนา สฺา. าณนฺติ มคฺคาณํ. อปโร นโย, สฺาติ มคฺคสฺา. าณนฺติ ผลาณํ. ติปิฏกมหาสิวตฺเถโร ปนาห –
กึ อิเม ภิกฺขู ภณนฺติ, โปฏฺปาโท เหฏฺา ภควนฺตํ นิโรธํ ปุจฺฉิ. อิทานิ นิโรธา วุฏฺานํ ปุจฺฉนฺโต ‘‘ภควา นิโรธา วุฏฺหนฺตสฺส กึ ปมํ อรหตฺตผลสฺา อุปฺปชฺชติ, อุทาหุ ปจฺจเวกฺขณาณ’’นฺติ วทติ. อถสฺส ภควา ยสฺมา ผลสฺา ปมํ อุปฺปชฺชติ, ปจฺฉา ปจฺจเวกฺขณาณํ ¶ . ตสฺมา ‘‘สฺา โข โปฏฺปาทา’’ติ อาห. ตตฺถ สฺุปฺปาทาติ อรหตฺตผลสฺาย อุปฺปาทา, ปจฺฉา ‘‘อิทํ อรหตฺตผล’’นฺติ เอวํ ปจฺจเวกฺขณาณุปฺปาโท โหติ. อิทปฺปจฺจยา กิร เมติ ผลสมาธิสฺาปจฺจยา กิร มยฺหํ ปจฺจเวกฺขณาณํ อุปฺปนฺนนฺติ.
สฺาอตฺตกถาวณฺณนา
๔๑๗. อิทานิ ปริพฺพาชโก ยถา นาม คามสูกโร คนฺโธทเกน นฺหาเปตฺวา คนฺเธหิ อนุลิมฺปิตฺวา มาลาทามํ ปิฬนฺธิตฺวา สิริสยเน อาโรปิโตปิ ¶ สุขํ น วินฺทติ, เวเคน คูถฏฺานเมว คนฺตฺวา สุขํ วินฺทติ. เอวเมว ภควตา สณฺหสุขุมติลกฺขณพฺภาหตาย เทสนาย นฺหาปิตวิลิตฺตมณฺฑิโตปิ นิโรธกถาสิริสยนํ อาโรปิโตปิ ตตฺถ สุขํ น วินฺทนฺโต คูถฏฺานสทิสํ อตฺตโน ลทฺธึ คเหตฺวา ตเมว ปุจฺฉนฺโต ‘‘สฺา นุ โข, ภนฺเต, ปุริสสฺส อตฺตา’’ติอาทิมาห. อถสฺสานุมตึ คเหตฺวา พฺยากาตุกาโม ภควา – ‘‘กํ ปน ตฺว’’นฺติอาทิมาห. ตโต โส ‘‘อรูปี อตฺตา’’ติ เอวํ ลทฺธิโก สมาโนปิ ‘‘ภควา เทสนาย สุกุสโล, โส เม อาทิโตว ลทฺธึ มา วิทฺธํเสตู’’ติ จินฺเตตฺวา อตฺตโน ลทฺธึ ปริหรนฺโต ‘‘โอฬาริกํ โข’’ติอาทิมาห. อถสฺส ภควา ตตฺถ โทสํ ทสฺเสนฺโต ‘‘โอฬาริโก จ หิ เต’’ติอาทิมาห ¶ . ตตฺถ เอวํ สนฺตนฺติ เอวํ สนฺเต. ภุมฺมตฺเถ หิ เอตํ อุปโยควจนํ. เอวํ สนฺตํ อตฺตานํ ปจฺจาคจฺฉโต ตวาติ อยํ วา เอตฺถ อตฺโถ. จตุนฺนํ ขนฺธานํ เอกุปฺปาเทกนิโรธตฺตา กิฺจาปิ ยา สฺา อุปฺปชฺชติ, สาว นิรุชฺฌติ. อปราปรํ อุปาทาย ปน ‘‘อฺา จ สฺา อุปฺปชฺชนฺติ, อฺา จ สฺา นิรุชฺฌนฺตี’’ติ วุตฺตํ.
๔๑๘-๔๒๐. อิทานิ อฺํ ลทฺธึ ทสฺเสนฺโต – ‘‘มโนมยํ โข อหํ, ภนฺเต’’ติอาทึ วตฺวา ตตฺราปิ โทเส ทินฺเน ยถา นาม อุมฺมตฺตโก ยาวสฺส สฺา นปฺปติฏฺาติ, ตาว อฺํ คเหตฺวา อฺํ วิสฺสชฺเชติ, สฺาปติฏฺานกาเล ปน วตฺตพฺพเมว วทติ, เอวเมว ¶ อฺํ คเหตฺวา อฺํ วิสฺสชฺเชตฺวา อิทานิ อตฺตโน ลทฺธึเยว วทนฺโต ‘‘อรูปี โข’’ติอาทิมาห. ตตฺราปิ ยสฺมา โส สฺาย อุปฺปาทนิโรธํ อิจฺฉติ, อตฺตานํ ปน สสฺสตํ มฺติ. ตสฺมา ตเถวสฺส โทสํ ทสฺเสนฺโต ภควา ‘‘เอวํ สนฺตมฺปี’’ติอาทิมาห. ตโต ปริพฺพาชโก มิจฺฉาทสฺสเนน อภิภูตตฺตา ภควตา วุจฺจมานมฺปิ ตํ นานตฺตํ อชานนฺโต ‘‘สกฺกา ปเนตํ, ภนฺเต, มยา’’ติอาทิมาห. อถสฺส ภควา ยสฺมา โส สฺาย อุปฺปาทนิโรธํ ปสฺสนฺโตปิ สฺามยํ อตฺตานํ นิจฺจเมว มฺติ. ตสฺมา ‘‘ทุชฺชานํ โข’’ติอาทิมาห.
ตตฺถายํ สงฺเขปตฺโถ – ตว อฺา ทิฏฺิ, อฺา ขนฺติ, อฺา รุจิ, อฺถาเยว เต ทสฺสนํ ปวตฺตํ, อฺเทว จ เต ขมติ เจว รุจฺจติ จ, อฺตฺร ¶ จ เต อาโยโค, อฺิสฺสาเยว ปฏิปตฺติยา ยุตฺตปยุตฺตตา, อฺตฺถ จ เต อาจริยกํ, อฺสฺมึ ติตฺถายตเน อาจริยภาโว. เตน ตยา เอวํ อฺทิฏฺิเกน อฺขนฺติเกน อฺรุจิเกน อฺตฺราโยเคน อฺตฺราจริยเกน ทุชฺชานํ เอตนฺติ. อถ ปริพฺพาชโก – ‘‘สฺา วา ปุริสสฺส อตฺตา โหตุ, อฺา วา สฺา, ตํ สสฺสตาทิ ภาวมสฺส ปุจฺฉิสฺส’’นฺติ ปุน ‘‘กึ ปน ภนฺเต’’ติอาทิมาห.
ตตฺถ โลโกติ อตฺตานํ สนฺธาย วทติ. น เหตํ โปฏฺปาท อตฺถสฺหิตนฺติ โปฏฺปาท เอตํ ทิฏฺิคตํ น อิธโลกปรโลกอตฺถนิสฺสิตํ, น อตฺตตฺถปรตฺถนิสฺสิตํ. น ธมฺมสํหิตนฺติ น นวโลกุตฺตรธมฺมนิสฺสิตํ. นาทิพฺรหฺมจริยกนฺติ สิกฺขตฺตยสงฺขาตสฺส สาสนพฺรหฺมจริยกสฺส น อาทิมตฺตํ, อธิสีลสิกฺขามตฺตมฺปิ น โหติ. น นิพฺพิทายาติ สํสารวฏฺเฏ นิพฺพินฺทนตฺถาย น สํวตฺตติ. น ¶ วิราคายาติ วฏฺฏวิราคตฺถาย น สํวตฺตติ. น นิโรธายาติ วฏฺฏสฺส นิโรธกรณตฺถาย น สํวตฺตติ. น อุปสมายาติ วฏฺฏสฺส วูปสมนตฺถาย น สํวตฺตติ. น อภิฺายาติ วฏฺฏาภิชานนาย ปจฺจกฺขกิริยาย น สํวตฺตติ. น สมฺโพธายาติ วฏฺฏสมฺพุชฺฌนตฺถาย น ¶ สํวตฺตติ. น นิพฺพานายาติ อมตมหานิพฺพานสฺส ปจฺจกฺขกิริยาย น สํวตฺตติ.
อิทํ ทุกฺขนฺติอาทีสุ ตณฺหํ เปตฺวา เตภูมกา ปฺจกฺขนฺธา ทุกฺขนฺติ, ตสฺเสว ทุกฺขสฺส ปภาวนโต สปฺปจฺจยา ตณฺหา ทุกฺขสมุทโยติ. อุภินฺนํ อปฺปวตฺติ ทุกฺขนิโรโธติ, อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทาติ มยา พฺยากตนฺติ อตฺโถ. เอวฺจ ปน วตฺวา ภควา ‘‘อิมสฺส ปริพฺพาชกสฺส มคฺคปาตุภาโว วา ผลสจฺฉิกิริยา วา นตฺถิ, มยฺหฺจ ภิกฺขาจารเวลา’’ติ จินฺเตตฺวา ตุณฺหี อโหสิ. ปริพฺพาชโกปิ ตํ อาการํ ตฺวา ภควโต คมนกาลํ อาโรเจนฺโต วิย ‘‘เอวเมต’’นฺติอาทิมาห.
๔๒๑. วาจาสนฺนิโตทเกนาติ วจนปโตเทน. สฺฌพฺภริมกํสูติ สฺฌพฺภริตํ นิรนฺตรํ ผุฏฺํ อกํสุ, อุปริ วิชฺฌึสูติ วุตฺตํ โหติ. ภูตนฺติ สภาวโต วิชฺชมานํ. ตจฺฉํ, ตถนฺติ ตสฺเสว เววจนํ. ธมฺมฏฺิตตนฺติ นวโลกุตฺตรธมฺเมสุ ¶ ิตสภาวํ. ธมฺมนิยามตนฺติ โลกุตฺตรธมฺมนิยามตํ. พุทฺธานฺหิ จตุสจฺจวินิมุตฺตา กถา นาม นตฺถิ. ตสฺมา สา เอทิสา โหติ.
จิตฺตหตฺถิสาริปุตฺตโปฏฺปาทวตฺถุวณฺณนา
๔๒๒. จิตฺโต จ หตฺถิสาริปุตฺโตติ โส กิร สาวตฺถิยํ หตฺถิอาจริยสฺส ปุตฺโต ภควโต สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา ตีณิ ปิฏกานิ อุคฺคเหตฺวา สุขุเมสุ อตฺถนฺตเรสุ กุสโล อโหสิ, ปุพฺเพ กตปาปกมฺมวเสน ปน สตฺตวาเร วิพฺภมิตฺวา คิหิ ชาโต. กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺธสฺส กิร สาสเน ทฺเว สหายกา อเหสุํ, อฺมฺํ สมคฺคา เอกโตว สชฺฌายนฺติ. เตสุ เอโก อนภิรโต คิหิภาเว จิตฺตํ อุปฺปาเทตฺวา อิตรสฺส อาโรเจสิ. โส คิหิภาเว อาทีนวํ ปพฺพชฺชาย อานิสํสํ ¶ ทสฺเสตฺวา ตํ โอวทิ. โส ตํ สุตฺวา อภิรมิตฺวา ปุเนกทิวสํ ตาทิเส จิตฺเต อุปฺปนฺเน ตํ เอตทโวจ ‘‘มยฺหํ อาวุโส เอวรูปํ จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ – ‘อิมาหํ ปตฺตจีวรํ ตุยฺหํ ทสฺสามี’ติ’’. โส ปตฺตจีวรโลเภน ตสฺส คิหิภาเว อานิสํสํ ทสฺเสตฺวา ปพฺพชฺชาย อาทีนวํ กเถสิ. อถสฺส ตํ สุตฺวาว คิหิภาวโต จิตฺตํ วิรชฺชิตฺวา ปพฺพชฺชายเมว อภิรมิ. เอวเมส ตทา สีลวนฺตสฺส ภิกฺขุโน คิหิภาเว อานิสํสกถาย กถิตตฺตา อิทานิ ฉ วาเร วิพฺภมิตฺวา สตฺตเม วาเร ปพฺพชิโต. มหาโมคฺคลฺลานสฺส, มหาโกฏฺิกตฺเถรสฺส จ อภิธมฺมกถํ กเถนฺตานํ อนฺตรนฺตรา กถํ โอปาเตติ. อถ นํ มหาโกฏฺิกตฺเถโร อปสาเทติ. โส ¶ มหาสาวกสฺส กถิเต ปติฏฺาตุํ อสกฺโกนฺโต วิพฺภมิตฺวา คิหิ ชาโต. โปฏฺปาทสฺส ปนายํ คิหิสหายโก โหติ. ตสฺมา วิพฺภมิตฺวา ทฺวีหตีหจฺจเยน โปฏฺปาทสฺส สนฺติกํ คโต. อถ นํ โส ทิสฺวา ‘‘สมฺม กึ ตยา กตํ, เอวรูปสฺส นาม สตฺถุ สาสนา อปสกฺกนฺโตสิ, เอหิ ปพฺพชิตุํ อิทานิ เต วฏฺฏตี’’ติ ตํ คเหตฺวา ภควโต สนฺติกํ อคมาสิ. เตน วุตฺตํ ‘‘จิตฺโต จ หตฺถิสาริปุตฺโต โปฏฺปาโท จ ปริพฺพาชโก’’ติ.
๔๒๓. อนฺธาติ ปฺาจกฺขุโน นตฺถิตาย อนฺธา, ตสฺเสว อภาเวน อจกฺขุกา. ตฺวํเยว เนสํ เอโก จกฺขุมาติ สุภาสิตทุพฺภาสิตชานนภาวมตฺเตน ปฺาจกฺขุนา จกฺขุมา. เอกํสิกาติ เอกโกฏฺาสา. ปฺตฺตาติ ¶ ปิตา. อเนกํสิกาติ น เอกโกฏฺาสา เอเกเนว โกฏฺาเสน สสฺสตาติ วา อสสฺสตาติ วา น วุตฺตาติ อตฺโถ.
เอกํสิกธมฺมวณฺณนา
๔๒๔-๔๒๕. สนฺติ โปฏฺปาทาติ อิทํ ภควา กสฺมา อารภิ? พาหิรเกหิ ปฺาปิตนิฏฺาย อนิยฺยานิกภาวทสฺสนตฺถํ. สพฺเพ หิ ติตฺถิยา ยถา ภควา อมตํ นิพฺพานํ, เอวํ อตฺตโน อตฺตโน สมเย โลกถุปิกาทิวเสน นิฏฺํ ปฺเปนฺติ, สา จ น นิยฺยานิกา. ยถา ปฺตฺตา ¶ หุตฺวา น นิยฺยาติ น คจฺฉติ, อฺทตฺถุ ปณฺฑิเตหิ ปฏิกฺขิตฺตา นิวตฺตติ, ตํ ทสฺเสตุํ ภควา เอวมาห. ตตฺถ เอกนฺตสุขํ โลกํ ชานํ ปสฺสนฺติ ปุรตฺถิมาย ทิสาย เอกนฺตสุโข โลโก ปจฺฉิมาทีนํ วา อฺตรายาติ เอวํ ชานนฺตา เอวํ ปสฺสนฺตา วิหรถ. ทิฏฺปุพฺพานิ โข ตสฺมึ โลเก มนุสฺสานํ สรีรสณฺานาทีนีติ. อปฺปาฏิหีรกตนฺติ อปฺปาฏิหีรกตํ ปฏิหรณวิรหิตํ, อนิยฺยานิกนฺติ วุตฺตํ โหติ.
๔๒๖-๔๒๗. ชนปทกลฺยาณีติ ชนปเท อฺาหิ อิตฺถีหิ วณฺณสณฺานวิลาสากปฺปาทีหิ อสทิสา.
ตโยอตฺตปฏิลาภวณฺณนา
๔๒๘. เอวํ ภควา ปเรสํ นิฏฺาย อนิยฺยานิกตฺตํ ทสฺเสตฺวา อตฺตโน นิฏฺาย นิยฺยานิกภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตโย โข เม โปฏฺปาทา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อตฺตปฏิลาโภติ อตฺตภาวปฏิลาโภ, เอตฺถ จ ภควา ตีหิ อตฺตภาวปฏิลาเภหิ ตโย ภเว ทสฺเสสิ. โอฬาริกตฺตภาวปฏิลาเภน ¶ อวีจิโต ปฏฺาย ปรนิมฺมิตวสวตฺติปริโยสานํ กามภวํ ทสฺเสสิ. มโนมยอตฺตภาวปฏิลาเภน ปมชฺฌานภูมิโต ปฏฺาย อกนิฏฺพฺรหฺมโลกปริโยสานํ รูปภวํ ทสฺเสสิ. อรูปอตฺตภาวปฏิลาเภน อากาสานฺจายตนพฺรหฺมโลกโต ปฏฺาย เนวสฺานาสฺายตนพฺรหฺมโลกปริโยสานํ อรูปภวํ ทสฺเสสิ. สํกิเลสิกา ธมฺมา นาม ทฺวาทส อกุสลจิตฺตุปฺปาทา. โวทานิยา ธมฺมา นาม สมถวิปสฺสนา.
๔๒๙. ปฺาปาริปูรึ ¶ เวปุลฺลตฺตนฺติ มคฺคปฺาผลปฺานํ ปาริปูริฺเจว วิปุลภาวฺจ. ปามุชฺชนฺติ ตรุณปีติ. ปีตีติ พลวตุฏฺิ. กึ วุตฺตํ โหติ? ยํ อโวจุมฺห ‘‘สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหิรตี’’ติ, ตตฺถ ตสฺส เอวํ วิหรโต ตํ ปาโมชฺชฺเจว ภวิสฺสติ, ปีติ จ นามกายปสฺสทฺธิ จ สติ จ สูปฏฺิตา อุตฺตมาณฺจ สุโข จ วิหาโร. สพฺพวิหาเรสุ จ อยเมว วิหาโร ‘‘สุโข’’ติ วตฺตุํ ยุตฺโต ‘‘อุปสนฺโต ปรมมธุโร’’ติ. ตตฺถ ¶ ปมชฺฌาเน ปาโมชฺชาทโย ฉปิ ธมฺมา ลพฺภนฺติ, ทุติยชฺฌาเน ทุพฺพลปีติสงฺขาตํ ปาโมชฺชํ นิวตฺตติ, เสสา ปฺจ ลพฺภนฺติ. ตติเย ปีติ นิวตฺตติ, เสสา จตฺตาโร ลพฺภนฺติ. ตถา จตุตฺเถ. อิเมสุ จตูสุ ฌาเนสุ สมฺปสาทนสุตฺเต สุทฺธวิปสฺสนา ปาทกชฺฌานเมว กถิตํ. ปาสาทิกสุตฺเต จตูหิ มคฺเคหิ สทฺธึ วิปสฺสนา กถิตา. ทสุตฺตรสุตฺเต จตุตฺถชฺฌานิกผลสมาปตฺติ กถิตา. อิมสฺมึ โปฏฺปาทสุตฺเต ปาโมชฺชํ ปีติเววจนเมว กตฺวา ทุติยชฺฌานิกผลสมาปตฺตินาม กถิตาติ เวทิตพฺพา.
๔๓๒-๔๓๗. อยํ วา โสติ เอตฺถ วา สทฺโท วิภาวนตฺโถ โหติ. อยํ โสติ เอวํ วิภาเวตฺวา ปกาเสตฺวา พฺยากเรยฺยาม. ยถาปเร ‘‘เอกนฺตสุขํ อตฺตานํ สฺชานาถา’’ติ ปุฏฺา ‘‘โน’’ติ วทนฺติ, น เอวํ วทามาติ อตฺโถ. สปฺปาฏิหีรกตนฺติ สปฺปาฏิหรณํ, นิยฺยานิกนฺติ อตฺโถ. โมโฆ โหตีติ ตุจฺโฉ โหติ, นตฺถิ โส ตสฺมึ สมเยติ อธิปฺปาโย. สจฺโจ โหตีติ ภูโต โหติ, สฺเวว ตสฺมึ สมเย สจฺโจ โหตีติ อตฺโถ. เอตฺถ ปนายํ จิตฺโต อตฺตโน อสพฺพฺุตาย ตโย อตฺตปฏิลาเภ กเถตฺวา อตฺตปฏิลาโภ นาม ปฺตฺติมตฺตํ เอตนฺติ อุทฺธริตุํ นาสกฺขิ, อตฺตปฏิลาโภ ตฺเวว นิยฺยาเตสิ. อถสฺส ภควา รูปาทโย เจตฺถ ธมฺมา, อตฺตปฏิลาโภติ ปน นามมตฺตเมตํ, เตสุ เตสุ รูปาทีสุ สติ เอวรูปา โวหารา โหนฺตีติ ทสฺเสตุกาโม ตสฺเสว กถํ คเหตฺวา นามปฺตฺติวเสน นิยฺยาตนตฺถํ ‘‘ยสฺมึ จิตฺต สมเย’’ติอาทิมาห.
๔๓๘. เอวฺจ ปน วตฺวา ปฏิปุจฺฉิตฺวา วินยนตฺถํ ปุน ‘‘สเจ ตํ, จิตฺต, เอวํ ปุจฺเฉยฺยุ’’นฺติอาทิมาห ¶ . ตตฺถ โย เม อโหสิ อตีโต อตฺตปฏิลาโภ ¶ , สฺเวว เม อตฺตปฏิลาโภ, ตสฺมึ สมเย สจฺโจ อโหสิ, โมโฆ อนาคโต โมโฆ ปจฺจุปฺปนฺโนติ ¶ เอตฺถ ตาว อิมมตฺถํ ทสฺเสติ – ยสฺมา เย เต อตีตา ธมฺมา, เต เอตรหิ นตฺถิ, อเหสุนฺติ ปน สงฺขฺยํ คตา, ตสฺมา โสปิ เม อตฺตปฏิลาโภ ตสฺมึเยว สมเย สจฺโจ อโหสิ. อนาคตปจฺจุปฺปนฺนานํ ปน ธมฺมานํ ตทา อภาวา ตสฺมึ สมเย ‘‘โมโฆ อนาคโต, โมโฆ ปจฺจุปฺปนฺโน’’ติ, เอวํ อตฺถโต นามมตฺตเมว อตฺตปฏิลาภํ ปฏิชานาติ. อนาคตปจฺจุปฺปนฺเนสุปิ เอเสว นโย.
๔๓๙-๔๔๓. อถ ภควา ตสฺส พฺยากรเณน สทฺธึ อตฺตโน พฺยากรณํ สํสนฺทิตุํ ‘‘เอวเมว โข จิตฺตา’’ติอาทีนิ วตฺวา ปุน โอปมฺมโต ตมตฺถํ สาเธนฺโต ‘‘เสยฺยถาปิ จิตฺต ควา ขีร’’นฺติอาทิมาห. ตตฺรายํ สงฺเขปตฺโถ, ยถา ควา ขีรํ, ขีราทีหิ จ ทธิอาทีนิ ภวนฺติ, ตตฺถ ยสฺมึ สมเย ขีรํ โหติ, น ตสฺมึ สมเย ทธีติ วา นวนีตาทีสุ วา อฺตรนฺติ สงฺขฺยํ นิรุตฺตึ นามํ โวหารํ คจฺฉติ. กสฺมา? เย ธมฺเม อุปาทาย ทธีติอาทิ โวหารา โหนฺติ, เตสํ อภาวา. อถ โข ขีรํ ตฺเวว ตสฺมึ สมเย สงฺขฺยํ คจฺฉติ. กสฺมา? เย ธมฺเม อุปาทาย ขีรนฺติ สงฺขฺยา นิรุตฺติ นามํ โวหาโร โหติ, เตสํ ภาวาติ. เอส นโย สพฺพตฺถ. อิมา โข จิตฺตาติ โอฬาริโก อตฺตปฏิลาโภ อิติ จ มโนมโย อตฺตปฏิลาโภ อิติ จ อรูโป อตฺตปฏิลาโภ อิติ จ อิมา โข จิตฺต โลกสมฺา โลเก สมฺามตฺตกานิ สมนุชานนมตฺตกานิ เอตานิ. ตถา โลกนิรุตฺติมตฺตกานิ วจนปถมตฺตกานิ โวหารมตฺตกานิ นามปณฺณตฺติมตฺตกานิ เอตานีติ. เอวํ ภควา เหฏฺา ตโย อตฺตปฏิลาเภ กเถตฺวา อิทานิ สพฺพเมตํ โวหารมตฺตกนฺติ วทติ. กสฺมา? ยสฺมา ปรมตฺถโต สตฺโต นาม นตฺถิ, สฺุโ ตุจฺโฉ เอส โลโก.
พุทฺธานํ ปน ทฺเว กถา สมฺมุติกถา จ ปรมตฺถกถา จ. ตตฺถ ‘‘สตฺโต โปโส เทโว พฺรหฺมา’’ติอาทิกา ‘‘สมฺมุติกถา’’ นาม. ‘‘อนิจฺจํ ทุกฺขมนตฺตา ขนฺธา ธาตุโย อายตนานิ สติปฏฺานา สมฺมปฺปธานา’’ติอาทิกา ปรมตฺถกถา นาม. ตตฺถ โย สมฺมุติเทสนาย ‘‘สตฺโต’’ติ ¶ วา ‘‘โปโส’’ติ วา ‘‘เทโว’’ติ วา ‘‘พฺรหฺมา’’ติ วา วุตฺเต วิชานิตุํ ปฏิวิชฺฌิตุํ นิยฺยาตุํ ¶ อรหตฺตชยคฺคาหํ คเหตุํ สกฺโกติ, ตสฺส ภควา อาทิโตว ‘‘สตฺโต’’ติ วา ‘‘โปโส’’ติ วา ‘‘เทโว’’ติ วา ‘‘พฺรหฺมา’’ติ วา กเถติ, โย ปรมตฺถเทสนาย ‘‘อนิจฺจ’’นฺติ วา ‘‘ทุกฺข’’นฺติ วาติอาทีสุ อฺตรํ สุตฺวา วิชานิตุํ ปฏิวิชฺฌิตุํ นิยฺยาตุํ อรหตฺตชยคฺคาหํ คเหตุํ สกฺโกติ, ตสฺส ‘‘อนิจฺจ’’นฺติ วา ‘‘ทุกฺข’’นฺติ วาติอาทีสุ อฺตรเมว กเถติ. ตถา สมฺมุติกถาย ¶ พุชฺฌนกสตฺตสฺสาปิ น ปมํ ปรมตฺถกถํ กเถติ. สมฺมุติกถาย ปน โพเธตฺวา ปจฺฉา ปรมตฺถกถํ กเถติ. ปรมตฺถกถาย พุชฺฌนกสตฺตสฺสาปิ น ปมํ สมฺมุติกถํ กเถติ. ปรมตฺถกถาย ปน โพเธตฺวา ปจฺฉา สมฺมุติกถํ กเถติ. ปกติยา ปน ปมเมว ปรมตฺถกถํ กเถนฺตสฺส เทสนา ลูขาการา โหติ, ตสฺมา พุทฺธา ปมํ สมฺมุติกถํ กเถตฺวา ปจฺฉา ปรมตฺถกถํ กเถนฺติ. สมฺมุติกถํ กเถนฺตาปิ สจฺจเมว สภาวเมว อมุสาว กเถนฺติ. ปรมตฺถกถํ กเถนฺตาปิ สจฺจเมว สภาวเมว อมุสาว กเถนฺติ.
ทุเว สจฺจานิ อกฺขาสิ, สมฺพุทฺโธ วทตํ วโร;
สมฺมุตึ ปรมตฺถฺจ, ตติยํ นูปลพฺภติ.
สงฺเกตวจนํ สจฺจํ, โลกสมฺมุติการณํ;
ปรมตฺถวจนํ สจฺจํ, ธมฺมานํ ภูตลกฺขณนฺติ.
ยาหิ ตถาคโต โวหรติ อปรามสนฺติ ยาหิ โลกสมฺาหิ โลกนิรุตฺตีหิ ตถาคโต ตณฺหามานทิฏฺิปรามาสานํ อภาวา อปรามสนฺโต โวหรตีติ เทสนํ วินิวฏฺเฏตฺวา อรหตฺตนิกูเฏน นิฏฺาเปสิ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
อิติ สุมงฺคลวิลาสินิยา ทีฆนิกายฏฺกถายํ
โปฏฺปาทสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.