📜
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
ทีฆนิกาโย
สีลกฺขนฺธวคฺคปาฬิ
๑. พฺรหฺมชาลสุตฺตํ
ปริพฺพาชกกถา
๑. เอวํ ¶ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา อนฺตรา จ ราชคหํ อนฺตรา จ นาฬนฺทํ อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺโน โหติ มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ ปฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหิ. สุปฺปิโยปิ โข ปริพฺพาชโก อนฺตรา จ ราชคหํ อนฺตรา จ นาฬนฺทํ อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺโน โหติ สทฺธึ อนฺเตวาสินา พฺรหฺมทตฺเตน มาณเวน. ตตฺร สุทํ สุปฺปิโย ปริพฺพาชโก อเนกปริยาเยน พุทฺธสฺส อวณฺณํ ภาสติ, ธมฺมสฺส อวณฺณํ ภาสติ, สงฺฆสฺส อวณฺณํ ภาสติ; สุปฺปิยสฺส ปน ปริพฺพาชกสฺส อนฺเตวาสี พฺรหฺมทตฺโต มาณโว อเนกปริยาเยน พุทฺธสฺส วณฺณํ ภาสติ, ธมฺมสฺส ¶ วณฺณํ ภาสติ, สงฺฆสฺส วณฺณํ ภาสติ. อิติห เต อุโภ อาจริยนฺเตวาสี อฺมฺสฺส อุชุวิปจฺจนีกวาทา ภควนฺตํ ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต อนุพนฺธา [อนุพทฺธา (ก. สี. ปี.)] โหนฺติ ภิกฺขุสงฺฆฺจ.
๒. อถ โข ภควา อมฺพลฏฺิกายํ ราชาคารเก เอกรตฺติวาสํ อุปคจฺฉิ [อุปคฺฉิ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] สทฺธึ ¶ ภิกฺขุสงฺเฆน. สุปฺปิโยปิ โข ปริพฺพาชโก อมฺพลฏฺิกายํ ราชาคารเก เอกรตฺติวาสํ อุปคจฺฉิ [อุปคฺฉิ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] อนฺเตวาสินา พฺรหฺมทตฺเตน มาณเวน. ตตฺรปิ สุทํ สุปฺปิโย ปริพฺพาชโก อเนกปริยาเยน พุทฺธสฺส ¶ อวณฺณํ ภาสติ, ธมฺมสฺส อวณฺณํ ภาสติ, สงฺฆสฺส อวณฺณํ ภาสติ; สุปฺปิยสฺส ปน ¶ ปริพฺพาชกสฺส อนฺเตวาสี พฺรหฺมทตฺโต มาณโว อเนกปริยาเยน พุทฺธสฺส วณฺณํ ภาสติ, ธมฺมสฺส วณฺณํ ภาสติ, สงฺฆสฺส วณฺณํ ภาสติ. อิติห เต อุโภ อาจริยนฺเตวาสี อฺมฺสฺส อุชุวิปจฺจนีกวาทา วิหรนฺติ.
๓. อถ โข สมฺพหุลานํ ภิกฺขูนํ รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ ปจฺจุฏฺิตานํ มณฺฑลมาเฬ สนฺนิสินฺนานํ สนฺนิปติตานํ อยํ สงฺขิยธมฺโม อุทปาทิ – ‘‘อจฺฉริยํ, อาวุโส, อพฺภุตํ, อาวุโส, ยาวฺจิทํ เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน สตฺตานํ นานาธิมุตฺติกตา สุปฺปฏิวิทิตา. อยฺหิ สุปฺปิโย ปริพฺพาชโก อเนกปริยาเยน พุทฺธสฺส อวณฺณํ ภาสติ, ธมฺมสฺส อวณฺณํ ภาสติ, สงฺฆสฺส อวณฺณํ ภาสติ; สุปฺปิยสฺส ปน ปริพฺพาชกสฺส อนฺเตวาสี พฺรหฺมทตฺโต มาณโว อเนกปริยาเยน พุทฺธสฺส วณฺณํ ภาสติ, ธมฺมสฺส วณฺณํ ภาสติ, สงฺฆสฺส วณฺณํ ภาสติ. อิติหเม อุโภ อาจริยนฺเตวาสี อฺมฺสฺส อุชุวิปจฺจนีกวาทา ภควนฺตํ ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต อนุพนฺธา ¶ โหนฺติ ภิกฺขุสงฺฆฺจา’’ติ.
๔. อถ โข ภควา เตสํ ภิกฺขูนํ อิมํ สงฺขิยธมฺมํ วิทิตฺวา เยน มณฺฑลมาโฬ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. นิสชฺช โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘กายนุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา สนฺนิปติตา, กา จ ปน โว อนฺตรากถา วิปฺปกตา’’ติ? เอวํ วุตฺเต เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อิธ, ภนฺเต, อมฺหากํ รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ ปจฺจุฏฺิตานํ มณฺฑลมาเฬ สนฺนิสินฺนานํ สนฺนิปติตานํ อยํ สงฺขิยธมฺโม อุทปาทิ – ‘อจฺฉริยํ, อาวุโส, อพฺภุตํ, อาวุโส, ยาวฺจิทํ เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน สตฺตานํ นานาธิมุตฺติกตา สุปฺปฏิวิทิตา. อยฺหิ สุปฺปิโย ปริพฺพาชโก อเนกปริยาเยน พุทฺธสฺส อวณฺณํ ภาสติ, ธมฺมสฺส อวณฺณํ ภาสติ, สงฺฆสฺส ¶ อวณฺณํ ภาสติ; สุปฺปิยสฺส ปน ปริพฺพาชกสฺส อนฺเตวาสี พฺรหฺมทตฺโต มาณโว อเนกปริยาเยน พุทฺธสฺส วณฺณํ ภาสติ, ธมฺมสฺส วณฺณํ ภาสติ, สงฺฆสฺส วณฺณํ ภาสติ. อิติหเม อุโภ อาจริยนฺเตวาสี อฺมฺสฺส อุชุวิปจฺจนีกวาทา ภควนฺตํ ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต ¶ อนุพนฺธา โหนฺติ ภิกฺขุสงฺฆฺจา’ติ. อยํ โข โน, ภนฺเต, อนฺตรากถา วิปฺปกตา, อถ ภควา อนุปฺปตฺโต’’ติ.
๕. ‘‘มมํ วา, ภิกฺขเว, ปเร อวณฺณํ ภาเสยฺยุํ, ธมฺมสฺส วา อวณฺณํ ภาเสยฺยุํ, สงฺฆสฺส วา อวณฺณํ ¶ ภาเสยฺยุํ, ตตฺร ตุมฺเหหิ น อาฆาโต น อปฺปจฺจโย น เจตโส อนภิรทฺธิ กรณียา. มมํ วา, ภิกฺขเว ¶ , ปเร อวณฺณํ ภาเสยฺยุํ, ธมฺมสฺส วา อวณฺณํ ภาเสยฺยุํ, สงฺฆสฺส วา อวณฺณํ ภาเสยฺยุํ, ตตฺร เจ ตุมฺเห อสฺสถ กุปิตา วา อนตฺตมนา วา, ตุมฺหํ เยวสฺส เตน อนฺตราโย. มมํ วา, ภิกฺขเว, ปเร อวณฺณํ ภาเสยฺยุํ, ธมฺมสฺส วา อวณฺณํ ภาเสยฺยุํ, สงฺฆสฺส วา อวณฺณํ ภาเสยฺยุํ, ตตฺร เจ ตุมฺเห อสฺสถ กุปิตา วา อนตฺตมนา วา, อปิ นุ ตุมฺเห ปเรสํ สุภาสิตํ ทุพฺภาสิตํ อาชาเนยฺยาถา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘มมํ วา, ภิกฺขเว, ปเร อวณฺณํ ภาเสยฺยุํ, ธมฺมสฺส วา อวณฺณํ ภาเสยฺยุํ, สงฺฆสฺส วา อวณฺณํ ภาเสยฺยุํ, ตตฺร ตุมฺเหหิ อภูตํ อภูตโต นิพฺเพเตพฺพํ – ‘อิติเปตํ อภูตํ, อิติเปตํ อตจฺฉํ, นตฺถิ เจตํ อมฺเหสุ, น จ ปเนตํ อมฺเหสุ สํวิชฺชตี’ติ.
๖. ‘‘มมํ วา, ภิกฺขเว, ปเร วณฺณํ ภาเสยฺยุํ, ธมฺมสฺส วา วณฺณํ ภาเสยฺยุํ, สงฺฆสฺส วา วณฺณํ ภาเสยฺยุํ, ตตฺร ตุมฺเหหิ น อานนฺโท น โสมนสฺสํ น เจตโส อุปฺปิลาวิตตฺตํ กรณียํ. มมํ วา, ภิกฺขเว, ปเร วณฺณํ ภาเสยฺยุํ, ธมฺมสฺส วา วณฺณํ ภาเสยฺยุํ, สงฺฆสฺส วา วณฺณํ ภาเสยฺยุํ, ตตฺร เจ ตุมฺเห อสฺสถ อานนฺทิโน สุมนา อุปฺปิลาวิตา ตุมฺหํ เยวสฺส เตน อนฺตราโย. มมํ วา, ภิกฺขเว, ปเร วณฺณํ ภาเสยฺยุํ, ธมฺมสฺส วา วณฺณํ ภาเสยฺยุํ, สงฺฆสฺส วา วณฺณํ ภาเสยฺยุํ, ตตฺร ตุมฺเหหิ ภูตํ ภูตโต ปฏิชานิตพฺพํ – ‘อิติเปตํ ภูตํ, อิติเปตํ ตจฺฉํ, อตฺถิ เจตํ อมฺเหสุ, สํวิชฺชติ จ ปเนตํ อมฺเหสู’ติ.
จูฬสีลํ
๗. ‘‘อปฺปมตฺตกํ โข ปเนตํ, ภิกฺขเว, โอรมตฺตกํ สีลมตฺตกํ, เยน ปุถุชฺชโน ¶ ตถาคตสฺส วณฺณํ วทมาโน วเทยฺย. กตมฺจ ตํ, ภิกฺขเว, อปฺปมตฺตกํ โอรมตฺตกํ สีลมตฺตกํ, เยน ปุถุชฺชโน ตถาคตสฺส วณฺณํ วทมาโน วเทยฺย?
๘. ‘‘‘ปาณาติปาตํ ¶ ¶ ¶ ปหาย ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม นิหิตทณฺโฑ, นิหิตสตฺโถ, ลชฺชี, ทยาปนฺโน, สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี วิหรตี’ติ – อิติ วา หิ, ภิกฺขเว, ปุถุชฺชโน ตถาคตสฺส วณฺณํ วทมาโน วเทยฺย.
‘‘‘อทินฺนาทานํ ปหาย อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม ทินฺนาทายี ทินฺนปาฏิกงฺขี, อเถเนน สุจิภูเตน อตฺตนา วิหรตี’ติ – อิติ วา หิ, ภิกฺขเว, ปุถุชฺชโน ตถาคตสฺส วณฺณํ วทมาโน วเทยฺย.
‘‘‘อพฺรหฺมจริยํ ปหาย พฺรหฺมจารี สมโณ โคตโม อาราจารี [อนาจารี (ก.)] วิรโต [ปฏิวิรโต (กตฺถจิ)] เมถุนา คามธมฺมา’ติ – อิติ วา หิ, ภิกฺขเว, ปุถุชฺชโน ตถาคตสฺส วณฺณํ วทมาโน วเทยฺย.
๙. ‘‘‘มุสาวาทํ ปหาย มุสาวาทา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม สจฺจวาที สจฺจสนฺโธ เถโต [เโต (สฺยา. กํ.)] ปจฺจยิโก อวิสํวาทโก โลกสฺสา’ติ – อิติ วา หิ, ภิกฺขเว, ปุถุชฺชโน ตถาคตสฺส วณฺณํ วทมาโน วเทยฺย.
‘‘‘ปิสุณํ วาจํ ปหาย ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม, อิโต สุตฺวา น อมุตฺร อกฺขาตา อิเมสํ เภทาย, อมุตฺร วา สุตฺวา น อิเมสํ อกฺขาตา อมูสํ เภทาย. อิติ ภินฺนานํ วา สนฺธาตา, สหิตานํ วา อนุปฺปทาตา สมคฺคาราโม สมคฺครโต สมคฺคนนฺที ¶ สมคฺคกรณึ วาจํ ภาสิตา’ติ – อิติ วา หิ, ภิกฺขเว, ปุถุชฺชโน ตถาคตสฺส วณฺณํ วทมาโน วเทยฺย.
‘‘‘ผรุสํ วาจํ ปหาย ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม, ยา สา วาจา เนลา กณฺณสุขา เปมนียา หทยงฺคมา โปรี พหุชนกนฺตา พหุชนมนาปา ตถารูปึ วาจํ ภาสิตา’ติ – อิติ วา หิ, ภิกฺขเว, ปุถุชฺชโน ตถาคตสฺส วณฺณํ วทมาโน วเทยฺย.
‘‘‘สมฺผปฺปลาปํ ปหาย สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม กาลวาที ภูตวาที อตฺถวาที ธมฺมวาที วินยวาที, นิธานวตึ วาจํ ภาสิตา กาเลน สาปเทสํ ¶ ปริยนฺตวตึ อตฺถสํหิต’นฺติ – อิติ วา หิ, ภิกฺขเว, ปุถุชฺชโน ตถาคตสฺส วณฺณํ วทมาโน วเทยฺย.
๑๐. ‘พีชคามภูตคามสมารมฺภา ¶ ¶ [สมารพฺภา (สี. ก.)] ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม’ติ – อิติ วา หิ, ภิกฺขเว…เป….
‘‘‘เอกภตฺติโก สมโณ โคตโม รตฺตูปรโต วิรโต [ปฏิวิรโต (กตฺถจิ)] วิกาลโภชนา….
นจฺจคีตวาทิตวิสูกทสฺสนา [นจฺจคีตวาทิตวิสุกทสฺสนา (ก.)] ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม….
มาลาคนฺธวิเลปนธารณมณฺฑนวิภูสนฏฺานา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม….
อุจฺจาสยนมหาสยนา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม….
ชาตรูปรชตปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม….
อามกธฺปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม….
อามกมํสปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม….
อิตฺถิกุมาริกปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม….
ทาสิทาสปฏิคฺคหณา ¶ ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม….
อเชฬกปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม….
กุกฺกุฏสูกรปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม….
หตฺถิควสฺสวฬวปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม….
เขตฺตวตฺถุปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม….
ทูเตยฺยปหิณคมนานุโยคา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม….
กยวิกฺกยา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม….
ตุลากูฏกํสกูฏมานกูฏา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม….
อุกฺโกฏนวฺจนนิกติสาจิโยคา [สาวิโยคา (สฺยา. กํ. ก.)] ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม….
เฉทนวธพนฺธนวิปราโมสอาโลปสหสาการา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม’ติ – อิติ วา หิ, ภิกฺขเว, ปุถุชฺชโน ตถาคตสฺส วณฺณํ วทมาโน วเทยฺย.
จูฬสีลํ นิฏฺิตํ.
มชฺฌิมสีลํ
๑๑. ‘‘‘ยถา ¶ ¶ ¶ วา ปเนเก โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สทฺธาเทยฺยานิ โภชนานิ ภฺุชิตฺวา เต เอวรูปํ พีชคามภูตคามสมารมฺภํ อนุยุตฺตา วิหรนฺติ, เสยฺยถิทํ [เสยฺยถีทํ (สี. สฺยา.)] – มูลพีชํ ขนฺธพีชํ ผฬุพีชํ อคฺคพีชํ พีชพีชเมว ปฺจมํ [ปฺจมํ อิติ วา (สี. สฺยา. ก.)]; อิติ เอวรูปา พีชคามภูตคามสมารมฺภา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม’ติ – อิติ วา หิ, ภิกฺขเว, ปุถุชฺชโน ตถาคตสฺส วณฺณํ วทมาโน วเทยฺย.
๑๒. ‘‘‘ยถา วา ปเนเก โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สทฺธาเทยฺยานิ โภชนานิ ภฺุชิตฺวา เต เอวรูปํ สนฺนิธิการปริโภคํ อนุยุตฺตา วิหรนฺติ ¶ , เสยฺยถิทํ – อนฺนสนฺนิธึ ปานสนฺนิธึ วตฺถสนฺนิธึ ยานสนฺนิธึ สยนสนฺนิธึ คนฺธสนฺนิธึ อามิสสนฺนิธึ อิติ วา อิติ เอวรูปา สนฺนิธิการปริโภคา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม’ติ – อิติ วา หิ, ภิกฺขเว, ปุถุชฺชโน ตถาคตสฺส วณฺณํ วทมาโน วเทยฺย.
๑๓. ‘‘‘ยถา วา ปเนเก โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สทฺธาเทยฺยานิ โภชนานิ ภฺุชิตฺวา เต เอวรูปํ วิสูกทสฺสนํ อนุยุตฺตา วิหรนฺติ, เสยฺยถิทํ – นจฺจํ คีตํ วาทิตํ เปกฺขํ อกฺขานํ ปาณิสฺสรํ เวตาฬํ กุมฺภถูณํ [กุมฺภถูนํ (สฺยา. ก.), กุมฺภถูณํ (สี.)] โสภนกํ [โสภนฆรกํ (สี.), โสภนครกํ (สฺยา. กํ. ปี.)] จณฺฑาลํ วํสํ โธวนํ หตฺถิยุทฺธํ อสฺสยุทฺธํ มหึสยุทฺธํ [มหิสยุทฺธํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] อุสภยุทฺธํ อชยุทฺธํ เมณฺฑยุทฺธํ กุกฺกุฏยุทฺธํ วฏฺฏกยุทฺธํ ทณฺฑยุทฺธํ มุฏฺิยุทฺธํ นิพฺพุทฺธํ อุยฺโยธิกํ พลคฺคํ เสนาพฺยูหํ อนีกทสฺสนํ อิติ วา อิติ เอวรูปา วิสูกทสฺสนา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม’ติ – อิติ วา หิ, ภิกฺขเว, ปุถุชฺชโน ตถาคตสฺส วณฺณํ วทมาโน วเทยฺย.
๑๔. ‘‘‘ยถา วา ปเนเก โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สทฺธาเทยฺยานิ โภชนานิ ภฺุชิตฺวา เต เอวรูปํ ชูตปฺปมาทฏฺานานุโยคํ อนุยุตฺตา วิหรนฺติ, เสยฺยถิทํ – อฏฺปทํ ทสปทํ อากาสํ ปริหารปถํ สนฺติกํ ขลิกํ ฆฏิกํ สลากหตฺถํ อกฺขํ ปงฺคจีรํ วงฺกกํ โมกฺขจิกํ จิงฺคุลิกํ ¶ [จิงฺคุลกํ (ก. สี.)] ปตฺตาฬฺหกํ รถกํ ธนุกํ ¶ อกฺขริกํ มเนสิกํ ยถาวชฺชํ อิติ ¶ วา อิติ เอวรูปา ชูตปฺปมาทฏฺานานุโยคา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม’ติ – อิติ วา หิ, ภิกฺขเว, ปุถุชฺชโน ตถาคตสฺส วณฺณํ วทมาโน วเทยฺย.
๑๕. ‘‘‘ยถา วา ปเนเก โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สทฺธาเทยฺยานิ โภชนานิ ภฺุชิตฺวา เต ¶ เอวรูปํ อุจฺจาสยนมหาสยนํ อนุยุตฺตา วิหรนฺติ, เสยฺยถิทํ – อาสนฺทึ ปลฺลงฺกํ โคนกํ จิตฺตกํ ปฏิกํ ปฏลิกํ ตูลิกํ วิกติกํ อุทฺทโลมึ เอกนฺตโลมึ กฏฺฏิสฺสํ โกเสยฺยํ กุตฺตกํ หตฺถตฺถรํ อสฺสตฺถรํ รถตฺถรํ [หตฺถตฺถรณํ อสฺสตฺถรณํ รถตฺถรณํ (สี. ก. ปี.)] อชินปฺปเวณึ กทลิมิคปวรปจฺจตฺถรณํ สอุตฺตรจฺฉทํ อุภโตโลหิตกูปธานํ อิติ วา อิติ เอวรูปา อุจฺจาสยนมหาสยนา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม’ติ – อิติ วา หิ, ภิกฺขเว, ปุถุชฺชโน ตถาคตสฺส วณฺณํ วทมาโน วเทยฺย.
๑๖. ‘‘‘ยถา วา ปเนเก โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สทฺธาเทยฺยานิ โภชนานิ ภฺุชิตฺวา เต เอวรูปํ มณฺฑนวิภูสนฏฺานานุโยคํ อนุยุตฺตา วิหรนฺติ, เสยฺยถิทํ – อุจฺฉาทนํ ปริมทฺทนํ นฺหาปนํ สมฺพาหนํ อาทาสํ อฺชนํ มาลาคนฺธวิเลปนํ [มาลาวิเลปนํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] มุขจุณฺณํ มุขเลปนํ หตฺถพนฺธํ สิขาพนฺธํ ทณฺฑํ นาฬิกํ อสึ [ขคฺคํ (สี. ปี.), อสึ ขคฺคํ (สฺยา. กํ.)] ฉตฺตํ จิตฺรุปาหนํ อุณฺหีสํ มณึ วาลพีชนึ โอทาตานิ วตฺถานิ ทีฆทสานิ อิติ วา อิติ เอวรูปา มณฺฑนวิภูสนฏฺานานุโยคา ¶ ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม’ติ – อิติ วา หิ, ภิกฺขเว, ปุถุชฺชโน ตถาคตสฺส วณฺณํ วทมาโน วเทยฺย.
๑๗. ‘‘‘ยถา วา ปเนเก โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สทฺธาเทยฺยานิ โภชนานิ ภฺุชิตฺวา เต เอวรูปํ ติรจฺฉานกถํ อนุยุตฺตา วิหรนฺติ, เสยฺยถิทํ – ราชกถํ โจรกถํ มหามตฺตกถํ เสนากถํ ภยกถํ ยุทฺธกถํ อนฺนกถํ ปานกถํ วตฺถกถํ สยนกถํ มาลากถํ คนฺธกถํ าติกถํ ยานกถํ คามกถํ นิคมกถํ นครกถํ ชนปทกถํ อิตฺถิกถํ [อิตฺถิกถํ ปุริสกถํ (สฺยา. กํ. ก.)] สูรกถํ ¶ วิสิขากถํ กุมฺภฏฺานกถํ ปุพฺพเปตกถํ นานตฺตกถํ โลกกฺขายิกํ สมุทฺทกฺขายิกํ อิติภวาภวกถํ อิติ วา อิติ เอวรูปาย ติรจฺฉานกถาย ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม’ติ – อิติ วา หิ, ภิกฺขเว, ปุถุชฺชโน ตถาคตสฺส วณฺณํ วทมาโน วเทยฺย.
๑๘. ‘‘‘ยถา ¶ วา ปเนเก โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สทฺธาเทยฺยานิ โภชนานิ ภฺุชิตฺวา เต เอวรูปํ วิคฺคาหิกกถํ อนุยุตฺตา วิหรนฺติ, เสยฺยถิทํ – น ตฺวํ อิมํ ธมฺมวินยํ อาชานาสิ, อหํ อิมํ ธมฺมวินยํ อาชานามิ, กึ ตฺวํ อิมํ ธมฺมวินยํ อาชานิสฺสสิ, มิจฺฉา ปฏิปนฺโน ตฺวมสิ, อหมสฺมิ สมฺมา ปฏิปนฺโน, สหิตํ เม, อสหิตํ เต, ปุเรวจนียํ ปจฺฉา อวจ, ปจฺฉาวจนียํ ปุเร อวจ, อธิจิณฺณํ เต วิปราวตฺตํ, อาโรปิโต เต วาโท, นิคฺคหิโต ตฺวมสิ, จร วาทปฺปโมกฺขาย, นิพฺเพเหิ วา สเจ ปโหสีติ อิติ วา อิติ เอวรูปาย วิคฺคาหิกกถาย ¶ ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม’ติ – อิติ วา หิ, ภิกฺขเว, ปุถุชฺชโน ตถาคตสฺส วณฺณํ วทมาโน วเทยฺย.
๑๙. ‘‘‘ยถา ¶ วา ปเนเก โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สทฺธาเทยฺยานิ โภชนานิ ภฺุชิตฺวา เต เอวรูปํ ทูเตยฺยปหิณคมนานุโยคํ อนุยุตฺตา วิหรนฺติ, เสยฺยถิทํ – รฺํ, ราชมหามตฺตานํ, ขตฺติยานํ, พฺราหฺมณานํ, คหปติกานํ, กุมารานํ ‘‘อิธ คจฺฉ, อมุตฺราคจฺฉ, อิทํ หร, อมุตฺร อิทํ อาหรา’’ติ อิติ วา อิติ เอวรูปา ทูเตยฺยปหิณคมนานุโยคา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม’ติ – อิติ วา หิ, ภิกฺขเว, ปุถุชฺชโน ตถาคตสฺส วณฺณํ วทมาโน วเทยฺย.
๒๐. ‘‘‘ยถา วา ปเนเก โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สทฺธาเทยฺยานิ โภชนานิ ภฺุชิตฺวา เต กุหกา จ โหนฺติ, ลปกา จ เนมิตฺติกา จ นิปฺเปสิกา จ, ลาเภน ลาภํ นิชิคีํสิตาโร จ [ลาเภน ลาภํ นิชิคึ ภิตาโร (สี. สฺยา.), ลาเภน จ ลาภํ นิชิคีสิตาโร (ปี.)] อิติ [อิติ วา, อิติ (สฺยา. กํ. ก.)] เอวรูปา กุหนลปนา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม’ติ – อิติ วา หิ, ภิกฺขเว, ปุถุชฺชโน ตถาคตสฺส วณฺณํ วทมาโน วเทยฺย.
มชฺฌิมสีลํ นิฏฺิตํ.
มหาสีลํ
๒๑. ‘‘‘ยถา ¶ วา ปเนเก โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สทฺธาเทยฺยานิ โภชนานิ ภฺุชิตฺวา เต เอวรูปาย ติรจฺฉานวิชฺชาย มิจฺฉาชีเวน ชีวิตํ กปฺเปนฺติ ¶ , เสยฺยถิทํ – องฺคํ นิมิตฺตํ อุปฺปาตํ สุปินํ ลกฺขณํ มูสิกจฺฉินฺนํ อคฺคิโหมํ ทพฺพิโหมํ ถุสโหมํ กณโหมํ ตณฺฑุลโหมํ สปฺปิโหมํ เตลโหมํ มุขโหมํ โลหิตโหมํ องฺควิชฺชา วตฺถุวิชฺชา ¶ ขตฺตวิชฺชา [เขตฺตวิชฺชา (พหูสุ)] สิววิชฺชา ภูตวิชฺชา ภูริวิชฺชา อหิวิชฺชา วิสวิชฺชา วิจฺฉิกวิชฺชา มูสิกวิชฺชา สกุณวิชฺชา วายสวิชฺชา ปกฺกชฺฌานํ สรปริตฺตาณํ มิคจกฺกํ อิติ วา อิติ เอวรูปาย ติรจฺฉานวิชฺชาย มิจฺฉาชีวา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม’ติ – อิติ วา หิ, ภิกฺขเว, ปุถุชฺชโน ตถาคตสฺส วณฺณํ วทมาโน วเทยฺย.
๒๒. ‘‘‘ยถา วา ปเนเก โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สทฺธาเทยฺยานิ โภชนานิ ภฺุชิตฺวา เต เอวรูปาย ติรจฺฉานวิชฺชาย มิจฺฉาชีเวน ชีวิตํ กปฺเปนฺติ, เสยฺยถิทํ – มณิลกฺขณํ วตฺถลกฺขณํ ทณฺฑลกฺขณํ สตฺถลกฺขณํ อสิลกฺขณํ อุสุลกฺขณํ ธนุลกฺขณํ อาวุธลกฺขณํ อิตฺถิลกฺขณํ ปุริสลกฺขณํ กุมารลกฺขณํ กุมาริลกฺขณํ ทาสลกฺขณํ ทาสิลกฺขณํ หตฺถิลกฺขณํ ¶ อสฺสลกฺขณํ มหึสลกฺขณํ [มหิสลกฺขณํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] อุสภลกฺขณํ โคลกฺขณํ อชลกฺขณํ เมณฺฑลกฺขณํ กุกฺกุฏลกฺขณํ วฏฺฏกลกฺขณํ โคธาลกฺขณํ กณฺณิกาลกฺขณํ กจฺฉปลกฺขณํ มิคลกฺขณํ อิติ วา อิติ เอวรูปาย ติรจฺฉานวิชฺชาย มิจฺฉาชีวา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม’ติ – อิติ วา หิ, ภิกฺขเว, ปุถุชฺชโน ตถาคตสฺส วณฺณํ วทมาโน วเทยฺย.
๒๓. ‘‘‘ยถา วา ปเนเก โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สทฺธาเทยฺยานิ โภชนานิ ภฺุชิตฺวา เต เอวรูปาย ติรจฺฉานวิชฺชาย มิจฺฉาชีเวน ชีวิตํ กปฺเปนฺติ, เสยฺยถิทํ – รฺํ นิยฺยานํ ภวิสฺสติ, รฺํ ¶ อนิยฺยานํ ภวิสฺสติ, อพฺภนฺตรานํ รฺํ อุปยานํ ภวิสฺสติ, พาหิรานํ รฺํ ¶ อปยานํ ภวิสฺสติ, พาหิรานํ รฺํ อุปยานํ ภวิสฺสติ, อพฺภนฺตรานํ รฺํ อปยานํ ภวิสฺสติ, อพฺภนฺตรานํ รฺํ ชโย ภวิสฺสติ, พาหิรานํ รฺํ ปราชโย ภวิสฺสติ, พาหิรานํ รฺํ ชโย ภวิสฺสติ, อพฺภนฺตรานํ รฺํ ปราชโย ภวิสฺสติ, อิติ อิมสฺส ชโย ภวิสฺสติ, อิมสฺส ปราชโย ภวิสฺสติ อิติ วา อิติ เอวรูปาย ติรจฺฉานวิชฺชาย มิจฺฉาชีวา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม’ติ – อิติ วา หิ, ภิกฺขเว, ปุถุชฺชโน ตถาคตสฺส วณฺณํ วทมาโน วเทยฺย.
๒๔. ‘‘‘ยถา ¶ วา ปเนเก โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สทฺธาเทยฺยานิ โภชนานิ ภฺุชิตฺวา เต เอวรูปาย ติรจฺฉานวิชฺชาย มิจฺฉาชีเวน ชีวิตํ กปฺเปนฺติ, เสยฺยถิทํ – จนฺทคฺคาโห ภวิสฺสติ, สูริยคฺคาโห [สุริยคฺคาโห (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ภวิสฺสติ, นกฺขตฺตคฺคาโห ภวิสฺสติ, จนฺทิมสูริยานํ ปถคมนํ ภวิสฺสติ, จนฺทิมสูริยานํ อุปฺปถคมนํ ภวิสฺสติ, นกฺขตฺตานํ ปถคมนํ ภวิสฺสติ, นกฺขตฺตานํ อุปฺปถคมนํ ภวิสฺสติ, อุกฺกาปาโต ภวิสฺสติ, ทิสาฑาโห ภวิสฺสติ, ภูมิจาโล ภวิสฺสติ, เทวทุทฺรภิ [เทวทุนฺทุภิ (สฺยา. กํ. ปี.)] ภวิสฺสติ, จนฺทิมสูริยนกฺขตฺตานํ อุคฺคมนํ โอคมนํ สํกิเลสํ โวทานํ ภวิสฺสติ, เอวํวิปาโก จนฺทคฺคาโห ภวิสฺสติ, เอวํวิปาโก สูริยคฺคาโห ภวิสฺสติ, เอวํวิปาโก นกฺขตฺตคฺคาโห ภวิสฺสติ, เอวํวิปากํ จนฺทิมสูริยานํ ปถคมนํ ภวิสฺสติ, เอวํวิปากํ จนฺทิมสูริยานํ ¶ อุปฺปถคมนํ ภวิสฺสติ, เอวํวิปากํ นกฺขตฺตานํ ปถคมนํ ภวิสฺสติ, เอวํวิปากํ นกฺขตฺตานํ อุปฺปถคมนํ ภวิสฺสติ, เอวํวิปาโก อุกฺกาปาโต ภวิสฺสติ, เอวํวิปาโก ทิสาฑาโห ภวิสฺสติ, เอวํวิปาโก ภูมิจาโล ภวิสฺสติ, เอวํวิปาโก เทวทุทฺรภิ ภวิสฺสติ, เอวํวิปากํ จนฺทิมสูริยนกฺขตฺตานํ อุคฺคมนํ โอคมนํ สํกิเลสํ โวทานํ ภวิสฺสติ อิติ วา ¶ อิติ เอวรูปาย ติรจฺฉานวิชฺชาย มิจฺฉาชีวา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม’ติ – อิติ วา หิ, ภิกฺขเว, ปุถุชฺชโน ตถาคตสฺส วณฺณํ วทมาโน วเทยฺย.
๒๕. ‘‘‘ยถา ¶ วา ปเนเก โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สทฺธาเทยฺยานิ โภชนานิ ภฺุชิตฺวา เต เอวรูปาย ติรจฺฉานวิชฺชาย มิจฺฉาชีเวน ชีวิตํ กปฺเปนฺติ, เสยฺยถิทํ – สุวุฏฺิกา ภวิสฺสติ, ทุพฺพุฏฺิกา ภวิสฺสติ, สุภิกฺขํ ภวิสฺสติ, ทุพฺภิกฺขํ ภวิสฺสติ, เขมํ ภวิสฺสติ, ภยํ ภวิสฺสติ, โรโค ภวิสฺสติ, อาโรคฺยํ ภวิสฺสติ, มุทฺทา, คณนา, สงฺขานํ, กาเวยฺยํ, โลกายตํ อิติ วา อิติ เอวรูปาย ติรจฺฉานวิชฺชาย มิจฺฉาชีวา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม’ติ – อิติ วา หิ, ภิกฺขเว, ปุถุชฺชโน ตถาคตสฺส วณฺณํ วทมาโน วเทยฺย.
๒๖. ‘‘‘ยถา วา ปเนเก โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สทฺธาเทยฺยานิ โภชนานิ ภฺุชิตฺวา เต เอวรูปาย ติรจฺฉานวิชฺชาย มิจฺฉาชีเวน ชีวิตํ กปฺเปนฺติ ¶ , เสยฺยถิทํ – อาวาหนํ วิวาหนํ สํวรณํ วิวรณํ สํกิรณํ ¶ วิกิรณํ สุภคกรณํ ทุพฺภคกรณํ วิรุทฺธคพฺภกรณํ ชิวฺหานิพนฺธนํ หนุสํหนนํ หตฺถาภิชปฺปนํ หนุชปฺปนํ กณฺณชปฺปนํ อาทาสปฺหํ กุมาริกปฺหํ เทวปฺหํ อาทิจฺจุปฏฺานํ มหตุปฏฺานํ อพฺภุชฺชลนํ สิริวฺหายนํ อิติ วา อิติ เอวรูปาย ติรจฺฉานวิชฺชาย มิจฺฉาชีวา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม’ติ – อิติ วา หิ, ภิกฺขเว, ปุถุชฺชโน ตถาคตสฺส วณฺณํ วทมาโน วเทยฺย.
๒๗. ‘‘‘ยถา ¶ วา ปเนเก โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สทฺธาเทยฺยานิ โภชนานิ ภฺุชิตฺวา เต เอวรูปาย ติรจฺฉานวิชฺชาย มิจฺฉาชีเวน ชีวิตํ กปฺเปนฺติ, เสยฺยถิทํ – สนฺติกมฺมํ ปณิธิกมฺมํ ภูตกมฺมํ ภูริกมฺมํ วสฺสกมฺมํ โวสฺสกมฺมํ วตฺถุกมฺมํ วตฺถุปริกมฺมํ อาจมนํ นฺหาปนํ ชุหนํ วมนํ วิเรจนํ อุทฺธํวิเรจนํ อโธวิเรจนํ สีสวิเรจนํ กณฺณเตลํ เนตฺตตปฺปนํ นตฺถุกมฺมํ อฺชนํ ปจฺจฺชนํ สาลากิยํ สลฺลกตฺติยํ ทารกติกิจฺฉา มูลเภสชฺชานํ อนุปฺปทานํ โอสธีนํ ปฏิโมกฺโข อิติ วา อิติ เอวรูปาย ติรจฺฉานวิชฺชาย มิจฺฉาชีวา ปฏิวิรโต สมโณ โคตโม’ติ – อิติ วา หิ, ภิกฺขเว, ปุถุชฺชโน ตถาคตสฺส วณฺณํ วทมาโน วเทยฺย.
‘‘อิทํ โข, ภิกฺขเว, อปฺปมตฺตกํ โอรมตฺตกํ สีลมตฺตกํ, เยน ปุถุชฺชโน ตถาคตสฺส วณฺณํ วทมาโน วเทยฺย.
มหาสีลํ นิฏฺิตํ.
ปุพฺพนฺตกปฺปิกา
๒๘. ‘‘อตฺถิ ¶ ¶ , ภิกฺขเว, อฺเว ธมฺมา คมฺภีรา ทุทฺทสา ทุรนุโพธา สนฺตา ปณีตา อตกฺกาวจรา นิปุณา ปณฺฑิตเวทนียา, เย ตถาคโต สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทติ, เยหิ ตถาคตสฺส ยถาภุจฺจํ วณฺณํ สมฺมา วทมานา วเทยฺยุํ. กตเม จ เต, ภิกฺขเว, ธมฺมา คมฺภีรา ทุทฺทสา ทุรนุโพธา สนฺตา ปณีตา อตกฺกาวจรา นิปุณา ปณฺฑิตเวทนียา, เย ตถาคโต สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทติ, เยหิ ตถาคตสฺส ยถาภุจฺจํ วณฺณํ สมฺมา วทมานา วเทยฺยุํ?
๒๙. ‘‘สนฺติ ¶ , ภิกฺขเว, เอเก สมณพฺราหฺมณา ปุพฺพนฺตกปฺปิกา ปุพฺพนฺตานุทิฏฺิโน, ปุพฺพนฺตํ อารพฺภ อเนกวิหิตานิ อธิมุตฺติปทานิ [อธิวุตฺติปทานิ (สี. ปี.)] อภิวทนฺติ อฏฺารสหิ วตฺถูหิ. เต จ โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา กิมาคมฺม กิมารพฺภ ปุพฺพนฺตกปฺปิกา ปุพฺพนฺตานุทิฏฺิโน ปุพฺพนฺตํ อารพฺภ อเนกวิหิตานิ ¶ อธิมุตฺติปทานิ อภิวทนฺติ อฏฺารสหิ วตฺถูหิ?
สสฺสตวาโท
๓๐. ‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, เอเก สมณพฺราหฺมณา สสฺสตวาทา, สสฺสตํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ จตูหิ วตฺถูหิ. เต จ โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา กิมาคมฺม กิมารพฺภ สสฺสตวาทา สสฺสตํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ จตูหิ วตฺถูหิ?
๓๑. ‘‘อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา อาตปฺปมนฺวาย ปธานมนฺวาย อนุโยคมนฺวาย อปฺปมาทมนฺวาย สมฺมามนสิการมนฺวาย ตถารูปํ เจโตสมาธึ ผุสติ, ยถาสมาหิเต จิตฺเต ( ) [(ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปตฺติเลเส) (สฺยา. ก.)] อเนกวิหิตํ ¶ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ. เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย ติสฺโสปิ ชาติโย จตสฺโสปิ ชาติโย ปฺจปิ ชาติโย ทสปิ ชาติโย วีสมฺปิ ชาติโย ตึสมฺปิ ชาติโย จตฺตาลีสมฺปิ ชาติโย ปฺาสมฺปิ ชาติโย ชาติสตมฺปิ ชาติสหสฺสมฺปิ ชาติสตสหสฺสมฺปิ อเนกานิปิ ชาติสตานิ อเนกานิปิ ชาติสหสฺสานิ อเนกานิปิ ชาติสตสหสฺสานิ – ‘อมุตฺราสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อมุตฺร อุทปาทึ; ตตฺราปาสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อิธูปปนฺโน’ติ. อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ ¶ อนุสฺสรติ.
‘‘โส ¶ เอวมาห – ‘สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จ วฺโฌ กูฏฏฺโ เอสิกฏฺายิฏฺิโต; เต จ สตฺตา สนฺธาวนฺติ สํสรนฺติ จวนฺติ อุปปชฺชนฺติ, อตฺถิตฺเวว สสฺสติสมํ. ตํ กิสฺส เหตุ? อหฺหิ อาตปฺปมนฺวาย ปธานมนฺวาย ¶ อนุโยคมนฺวาย อปฺปมาทมนฺวาย สมฺมามนสิการมนฺวาย ตถารูปํ เจโตสมาธึ ผุสามิ, ยถาสมาหิเต จิตฺเต อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรามิ เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย ติสฺโสปิ ชาติโย จตสฺโสปิ ชาติโย ปฺจปิ ชาติโย ทสปิ ชาติโย วีสมฺปิ ¶ ชาติโย ตึสมฺปิ ชาติโย จตฺตาลีสมฺปิ ชาติโย ปฺาสมฺปิ ชาติโย ชาติสตมฺปิ ชาติสหสฺสมฺปิ ชาติสตสหสฺสมฺปิ อเนกานิปิ ชาติสตานิ อเนกานิปิ ชาติสหสฺสานิ อเนกานิปิ ชาติสตสหสฺสานิ – อมุตฺราสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อมุตฺร อุทปาทึ; ตตฺราปาสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อิธูปปนฺโนติ. อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรามิ. อิมินามหํ เอตํ ชานามิ ‘‘ยถา สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จ วฺโฌ กูฏฏฺโ เอสิกฏฺายิฏฺิโต; เต จ สตฺตา สนฺธาวนฺติ สํสรนฺติ จวนฺติ อุปปชฺชนฺติ, อตฺถิตฺเวว สสฺสติสม’’นฺติ. อิทํ, ภิกฺขเว, ปมํ านํ, ยํ อาคมฺม ยํ อารพฺภ เอเก สมณพฺราหฺมณา สสฺสตวาทา สสฺสตํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ.
๓๒. ‘‘ทุติเย จ โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา กิมาคมฺม กิมารพฺภ สสฺสตวาทา สสฺสตํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา อาตปฺปมนฺวาย ปธานมนฺวาย อนุโยคมนฺวาย อปฺปมาทมนฺวาย สมฺมามนสิการมนฺวาย ตถารูปํ เจโตสมาธึ ผุสติ, ยถาสมาหิเต จิตฺเต อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ. เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏํ ทฺเวปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏานิ ตีณิปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏานิ จตฺตาริปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏานิ ปฺจปิ ¶ สํวฏฺฏวิวฏฺฏานิ ทสปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏานิ – ‘อมุตฺราสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อมุตฺร อุทปาทึ; ตตฺราปาสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที ¶ เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อิธูปปนฺโน’ติ. อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ.
‘‘โส ¶ เอวมาห – ‘สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จ วฺโฌ กูฏฏฺโ เอสิกฏฺายิฏฺิโต; เต จ ¶ สตฺตา สนฺธาวนฺติ สํสรนฺติ จวนฺติ อุปปชฺชนฺติ, อตฺถิตฺเวว สสฺสติสมํ. ตํ กิสฺส เหตุ? อหฺหิ อาตปฺปมนฺวาย ปธานมนฺวาย อนุโยคมนฺวาย อปฺปมาทมนฺวาย สมฺมามนสิการมนฺวาย ตถารูปํ เจโตสมาธึ ผุสามิ ยถาสมาหิเต จิตฺเต อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรามิ. เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏํ ทฺเวปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏานิ ตีณิปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏานิ จตฺตาริปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏานิ ปฺจปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏานิ ทสปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏานิ. อมุตฺราสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อมุตฺร อุทปาทึ; ตตฺราปาสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อิธูปปนฺโนติ. อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรามิ. อิมินามหํ เอตํ ชานามิ ‘‘ยถา สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จ วฺโฌ กูฏฏฺโ เอสิกฏฺายิฏฺิโต, เต จ ¶ สตฺตา สนฺธาวนฺติ สํสรนฺติ จวนฺติ อุปปชฺชนฺติ, อตฺถิตฺเวว สสฺสติสม’’นฺติ. อิทํ, ภิกฺขเว, ทุติยํ านํ, ยํ อาคมฺม ยํ อารพฺภ เอเก สมณพฺราหฺมณา สสฺสตวาทา สสฺสตํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ.
๓๓. ‘‘ตติเย จ โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา กิมาคมฺม กิมารพฺภ สสฺสตวาทา สสฺสตํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา อาตปฺปมนฺวาย ปธานมนฺวาย อนุโยคมนฺวาย อปฺปมาทมนฺวาย สมฺมามนสิการมนฺวาย ¶ ตถารูปํ เจโตสมาธึ ผุสติ, ยถาสมาหิเต จิตฺเต อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ. เสยฺยถิทํ – ทสปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏานิ วีสมฺปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏานิ ตึสมฺปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏานิ จตฺตาลีสมฺปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏานิ – ‘อมุตฺราสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อมุตฺร อุทปาทึ; ตตฺราปาสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อิธูปปนฺโน’ติ. อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ.
‘‘โส ¶ เอวมาห – ‘สสฺสโต อตฺตา จ โลโก ¶ จ วฺโฌ กูฏฏฺโ เอสิกฏฺายิฏฺิโต; เต จ สตฺตา สนฺธาวนฺติ สํสรนฺติ จวนฺติ อุปปชฺชนฺติ, อตฺถิตฺเวว สสฺสติสมํ. ตํ กิสฺส เหตุ? อหฺหิ อาตปฺปมนฺวาย ปธานมนฺวาย อนุโยคมนฺวาย อปฺปมาทมนฺวาย สมฺมามนสิการมนฺวาย ตถารูปํ เจโตสมาธึ ผุสามิ, ยถาสมาหิเต จิตฺเต อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรามิ. เสยฺยถิทํ – ทสปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏานิ วีสมฺปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏานิ ตึสมฺปิ ¶ สํวฏฺฏวิวฏฺฏานิ จตฺตาลีสมฺปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏานิ – ‘อมุตฺราสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อมุตฺร อุทปาทึ; ตตฺราปาสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อิธูปปนฺโนติ. อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรามิ. อิมินามหํ เอตํ ชานามิ ‘‘ยถา สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จ วฺโฌ กูฏฏฺโ เอสิกฏฺายิฏฺิโต, เต จ สตฺตา สนฺธาวนฺติ สํสรนฺติ จวนฺติ อุปปชฺชนฺติ, อตฺถิตฺเวว สสฺสติสม’’นฺติ. อิทํ, ภิกฺขเว, ตติยํ านํ, ยํ อาคมฺม ยํ อารพฺภ เอเก สมณพฺราหฺมณา สสฺสตวาทา สสฺสตํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ.
๓๔. ‘‘จตุตฺเถ จ โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา กิมาคมฺม กิมารพฺภ สสฺสตวาทา สสฺสตํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ตกฺกี โหติ วีมํสี, โส ตกฺกปริยาหตํ วีมํสานุจริตํ สยํ ปฏิภานํ เอวมาห – ‘สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จ วฺโฌ กูฏฏฺโ เอสิกฏฺายิฏฺิโต; เต จ สตฺตา สนฺธาวนฺติ สํสรนฺติ จวนฺติ อุปปชฺชนฺติ, อตฺถิตฺเวว สสฺสติสม’นฺติ ¶ . อิทํ, ภิกฺขเว, จตุตฺถํ านํ, ยํ อาคมฺม ยํ อารพฺภ เอเก สมณพฺราหฺมณา สสฺสตวาทา สสฺสตํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ.
๓๕. ‘‘อิเมหิ โข เต, ภิกฺขเว, สมณพฺราหฺมณา สสฺสตวาทา สสฺสตํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ จตูหิ วตฺถูหิ. เย หิ เกจิ, ภิกฺขเว, สมณา วา พฺราหฺมณา วา สสฺสตวาทา สสฺสตํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ, สพฺเพ เต อิเมเหว จตูหิ วตฺถูหิ, เอเตสํ วา อฺตเรน; นตฺถิ อิโต พหิทฺธา.
๓๖. ‘‘ตยิทํ ¶ , ภิกฺขเว, ตถาคโต ปชานาติ – ‘อิเม ทิฏฺิฏฺานา เอวํคหิตา เอวํปรามฏฺา เอวํคติกา ภวนฺติ เอวํอภิสมฺปรายา’ติ, ตฺจ ตถาคโต ปชานาติ, ตโต จ อุตฺตริตรํ ปชานาติ; ตฺจ ปชานนํ [ปชานํ (?) ที. นิ. ๓.๓๖ ปาฬิอฏฺกถา ปสฺสิตพฺพํ] น ¶ ปรามสติ, อปรามสโต จสฺส ปจฺจตฺตฺเว นิพฺพุติ วิทิตา. เวทนานํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ ยถาภูตํ วิทิตฺวา อนุปาทาวิมุตฺโต, ภิกฺขเว, ตถาคโต.
๓๗. ‘‘อิเม โข เต, ภิกฺขเว, ธมฺมา คมฺภีรา ทุทฺทสา ทุรนุโพธา สนฺตา ปณีตา อตกฺกาวจรา ¶ นิปุณา ปณฺฑิตเวทนียา, เย ตถาคโต สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทติ, เยหิ ตถาคตสฺส ยถาภุจฺจํ วณฺณํ สมฺมา วทมานา วเทยฺยุํ.
ปมภาณวาโร.
เอกจฺจสสฺสตวาโท
๓๘. ‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, เอเก สมณพฺราหฺมณา เอกจฺจสสฺสติกา เอกจฺจอสสฺสติกา เอกจฺจํ สสฺสตํ เอกจฺจํ อสสฺสตํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ¶ ปฺเปนฺติ จตูหิ วตฺถูหิ. เต จ โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา กิมาคมฺม กิมารพฺภ เอกจฺจสสฺสติกา เอกจฺจอสสฺสติกา เอกจฺจํ สสฺสตํ เอกจฺจํ อสสฺสตํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ จตูหิ วตฺถูหิ?
๓๙. ‘‘โหติ โข โส, ภิกฺขเว, สมโย, ยํ กทาจิ กรหจิ ทีฆสฺส อทฺธุโน อจฺจเยน อยํ โลโก สํวฏฺฏติ. สํวฏฺฏมาเน โลเก เยภุยฺเยน สตฺตา อาภสฺสรสํวตฺตนิกา โหนฺติ. เต ตตฺถ โหนฺติ มโนมยา ปีติภกฺขา สยํปภา อนฺตลิกฺขจรา สุภฏฺายิโน, จิรํ ทีฆมทฺธานํ ติฏฺนฺติ.
๔๐. ‘‘โหติ โข โส, ภิกฺขเว, สมโย, ยํ กทาจิ กรหจิ ทีฆสฺส อทฺธุโน อจฺจเยน อยํ โลโก วิวฏฺฏติ. วิวฏฺฏมาเน โลเก สฺุํ พฺรหฺมวิมานํ ปาตุภวติ. อถ โข อฺตโร สตฺโต อายุกฺขยา ¶ วา ปฺุกฺขยา วา อาภสฺสรกายา จวิตฺวา สฺุํ พฺรหฺมวิมานํ อุปปชฺชติ. โส ¶ ตตฺถ โหติ มโนมโย ปีติภกฺโข สยํปโภ อนฺตลิกฺขจโร สุภฏฺายี, จิรํ ทีฆมทฺธานํ ติฏฺติ.
๔๑. ‘‘ตสฺส ตตฺถ เอกกสฺส ทีฆรตฺตํ นิวุสิตตฺตา อนภิรติ ปริตสฺสนา อุปปชฺชติ – ‘อโห วต อฺเปิ สตฺตา อิตฺถตฺตํ อาคจฺเฉยฺยุ’นฺติ. อถ อฺเปิ สตฺตา อายุกฺขยา วา ปฺุกฺขยา วา อาภสฺสรกายา จวิตฺวา พฺรหฺมวิมานํ อุปปชฺชนฺติ ตสฺส สตฺตสฺส สหพฺยตํ. เตปิ ตตฺถ โหนฺติ มโนมยา ปีติภกฺขา สยํปภา อนฺตลิกฺขจรา สุภฏฺายิโน, จิรํ ทีฆมทฺธานํ ติฏฺนฺติ.
๔๒. ‘‘ตตฺร ¶ , ภิกฺขเว, โย โส สตฺโต ปมํ อุปปนฺโน ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อหมสฺมิ พฺรหฺมา มหาพฺรหฺมา ¶ อภิภู อนภิภูโต อฺทตฺถุทโส วสวตฺตี อิสฺสโร กตฺตา นิมฺมาตา เสฏฺโ สชิตา [สชฺชิตา (สฺยา. กํ.)] วสี ปิตา ภูตภพฺยานํ. มยา อิเม สตฺตา นิมฺมิตา. ตํ กิสฺส เหตุ? มมฺหิ ปุพฺเพ เอตทโหสิ – ‘‘อโห วต อฺเปิ สตฺตา อิตฺถตฺตํ อาคจฺเฉยฺยุ’’นฺติ. อิติ มม จ มโนปณิธิ, อิเม จ สตฺตา อิตฺถตฺตํ อาคตา’ติ.
‘‘เยปิ เต สตฺตา ปจฺฉา อุปปนฺนา, เตสมฺปิ เอวํ โหติ – ‘อยํ โข ภวํ พฺรหฺมา มหาพฺรหฺมา อภิภู อนภิภูโต อฺทตฺถุทโส วสวตฺตี อิสฺสโร กตฺตา นิมฺมาตา เสฏฺโ สชิตา วสี ปิตา ภูตภพฺยานํ. อิมินา มยํ โภตา พฺรหฺมุนา นิมฺมิตา. ตํ กิสฺส เหตุ? อิมฺหิ มยํ อทฺทสาม อิธ ปมํ อุปปนฺนํ, มยํ ปนมฺห ปจฺฉา อุปปนฺนา’ติ.
๔๓. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, โย โส สตฺโต ปมํ อุปปนฺโน, โส ทีฆายุกตโร จ โหติ วณฺณวนฺตตโร จ มเหสกฺขตโร จ. เย ปน เต สตฺตา ปจฺฉา อุปปนฺนา, เต อปฺปายุกตรา จ โหนฺติ ทุพฺพณฺณตรา จ อปฺเปสกฺขตรา จ.
๔๔. ‘‘านํ โข ปเนตํ, ภิกฺขเว, วิชฺชติ, ยํ อฺตโร สตฺโต ตมฺหา กายา จวิตฺวา อิตฺถตฺตํ อาคจฺฉติ. อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ. อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต สมาโน ¶ อาตปฺปมนฺวาย ปธานมนฺวาย อนุโยคมนฺวาย อปฺปมาทมนฺวาย สมฺมามนสิการมนฺวาย ตถารูปํ เจโตสมาธึ ผุสติ, ยถาสมาหิเต จิตฺเต ตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ ¶ , ตโต ปรํ นานุสฺสรติ.
‘‘โส เอวมาห – ‘โย โข โส ภวํ พฺรหฺมา มหาพฺรหฺมา อภิภู อนภิภูโต อฺทตฺถุทโส วสวตฺตี อิสฺสโร กตฺตา นิมฺมาตา เสฏฺโ สชิตา วสี ปิตา ภูตภพฺยานํ, เยน มยํ โภตา พฺรหฺมุนา นิมฺมิตา, โส นิจฺโจ ธุโว สสฺสโต อวิปริณามธมฺโม สสฺสติสมํ ตเถว สฺสติ. เย ปน มยํ อหุมฺหา เตน โภตา พฺรหฺมุนา ¶ นิมฺมิตา, เต มยํ อนิจฺจา อทฺธุวา อปฺปายุกา จวนธมฺมา อิตฺถตฺตํ อาคตา’ติ. อิทํ โข, ภิกฺขเว, ปมํ านํ, ยํ อาคมฺม ยํ อารพฺภ เอเก สมณพฺราหฺมณา เอกจฺจสสฺสติกา เอกจฺจอสสฺสติกา เอกจฺจํ สสฺสตํ เอกจฺจํ อสสฺสตํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ.
๔๕. ‘‘ทุติเย จ โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา กิมาคมฺม กิมารพฺภ เอกจฺจสสฺสติกา เอกจฺจอสสฺสติกา ¶ เอกจฺจํ สสฺสตํ เอกจฺจํ อสสฺสตํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ? สนฺติ, ภิกฺขเว, ขิฑฺฑาปโทสิกา นาม เทวา, เต อติเวลํ หสฺสขิฑฺฑารติธมฺมสมาปนฺนา [หสขิฑฺฑารติธมฺมสมาปนฺนา (ก.)] วิหรนฺติ. เตสํ อติเวลํ หสฺสขิฑฺฑารติธมฺมสมาปนฺนานํ วิหรตํ สติ สมฺมุสฺสติ [ปมุสฺสติ (สี. สฺยา.)]. สติยา สมฺโมสา เต เทวา ตมฺหา กายา จวนฺติ.
๔๖. ‘‘านํ โข ปเนตํ, ภิกฺขเว, วิชฺชติ ยํ อฺตโร สตฺโต ตมฺหา กายา จวิตฺวา อิตฺถตฺตํ อาคจฺฉติ. อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ. อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต สมาโน อาตปฺปมนฺวาย ปธานมนฺวาย ¶ อนุโยคมนฺวาย อปฺปมาทมนฺวาย สมฺมามนสิการมนฺวาย ตถารูปํ เจโตสมาธึ ผุสติ, ยถาสมาหิเต จิตฺเต ตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, ตโต ปรํ นานุสฺสรติ.
‘‘โส เอวมาห – ‘เย โข เต โภนฺโต เทวา น ขิฑฺฑาปโทสิกา, เต น อติเวลํ หสฺสขิฑฺฑารติธมฺมสมาปนฺนา วิหรนฺติ. เตสํ น อติเวลํ หสฺสขิฑฺฑารติธมฺมสมาปนฺนานํ วิหรตํ สติ น สมฺมุสฺสติ. สติยา ¶ อสมฺโมสา เต เทวา ตมฺหา กายา น จวนฺติ; นิจฺจา ธุวา สสฺสตา อวิปริณามธมฺมา สสฺสติสมํ ตเถว สฺสนฺติ ¶ . เย ปน มยํ อหุมฺหา ขิฑฺฑาปโทสิกา, เต มยํ อติเวลํ หสฺสขิฑฺฑารติธมฺมสมาปนฺนา วิหริมฺหา. เตสํ โน อติเวลํ หสฺสขิฑฺฑารติธมฺมสมาปนฺนานํ วิหรตํ สติ สมฺมุสฺสติ. สติยา สมฺโมสา เอวํ มยํ ตมฺหา กายา จุตา อนิจฺจา อทฺธุวา อปฺปายุกา จวนธมฺมา อิตฺถตฺตํ อาคตา’ติ. อิทํ, ภิกฺขเว, ทุติยํ านํ, ยํ อาคมฺม ยํ อารพฺภ เอเก สมณพฺราหฺมณา เอกจฺจสสฺสติกา เอกจฺจอสสฺสติกา เอกจฺจํ สสฺสตํ เอกจฺจํ อสสฺสตํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ.
๔๗. ‘‘ตติเย จ โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา กิมาคมฺม กิมารพฺภ เอกจฺจสสฺสติกา เอกจฺจอสสฺสติกา เอกจฺจํ สสฺสตํ เอกจฺจํ อสสฺสตํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ? สนฺติ, ภิกฺขเว, มโนปโทสิกา นาม ¶ เทวา, เต อติเวลํ อฺมฺํ อุปนิชฺฌายนฺติ. เต อติเวลํ อฺมฺํ อุปนิชฺฌายนฺตา อฺมฺมฺหิ จิตฺตานิ ปทูเสนฺติ. เต อฺมฺํ ปทุฏฺจิตฺตา กิลนฺตกายา กิลนฺตจิตฺตา ¶ . เต เทวา ตมฺหา กายา จวนฺติ.
๔๘. ‘‘านํ โข ปเนตํ, ภิกฺขเว, วิชฺชติ ยํ อฺตโร สตฺโต ตมฺหา กายา จวิตฺวา อิตฺถตฺตํ อาคจฺฉติ. อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ. อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต สมาโน อาตปฺปมนฺวาย ปธานมนฺวาย อนุโยคมนฺวาย อปฺปมาทมนฺวาย ¶ สมฺมามนสิการมนฺวาย ตถารูปํ เจโตสมาธึ ผุสติ, ยถาสมาหิเต จิตฺเต ตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, ตโต ปรํ นานุสฺสรติ.
‘‘โส เอวมาห – ‘เย โข เต โภนฺโต เทวา น มโนปโทสิกา, เต นาติเวลํ อฺมฺํ อุปนิชฺฌายนฺติ. เต นาติเวลํ อฺมฺํ อุปนิชฺฌายนฺตา อฺมฺมฺหิ จิตฺตานิ นปฺปทูเสนฺติ. เต อฺมฺํ อปฺปทุฏฺจิตฺตา อกิลนฺตกายา อกิลนฺตจิตฺตา. เต เทวา ตมฺหา กายา น จวนฺติ, นิจฺจา ธุวา สสฺสตา อวิปริณามธมฺมา สสฺสติสมํ ตเถว ¶ สฺสนฺติ. เย ปน มยํ อหุมฺหา มโนปโทสิกา, เต มยํ อติเวลํ อฺมฺํ อุปนิชฺฌายิมฺหา. เต มยํ อติเวลํ อฺมฺํ อุปนิชฺฌายนฺตา อฺมฺมฺหิ จิตฺตานิ ปทูสิมฺหา, เต มยํ อฺมฺํ ปทุฏฺจิตฺตา กิลนฺตกายา กิลนฺตจิตฺตา. เอวํ มยํ ตมฺหา กายา จุตา อนิจฺจา อทฺธุวา อปฺปายุกา จวนธมฺมา อิตฺถตฺตํ อาคตา’ติ ¶ . อิทํ, ภิกฺขเว, ตติยํ านํ, ยํ อาคมฺม ยํ อารพฺภ เอเก สมณพฺราหฺมณา เอกจฺจสสฺสติกา เอกจฺจอสสฺสติกา เอกจฺจํ สสฺสตํ เอกจฺจํ อสสฺสตํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ.
๔๙. ‘‘จตุตฺเถ จ โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา กิมาคมฺม กิมารพฺภ เอกจฺจสสฺสติกา เอกจฺจอสสฺสติกา เอกจฺจํ สสฺสตํ เอกจฺจํ อสสฺสตํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ตกฺกี โหติ วีมํสี. โส ตกฺกปริยาหตํ วีมํสานุจริตํ สยํปฏิภานํ เอวมาห – ‘ยํ โข อิทํ วุจฺจติ จกฺขุํ อิติปิ โสตํ อิติปิ ฆานํ อิติปิ ชิวฺหา อิติปิ กาโย อิติปิ, อยํ อตฺตา อนิจฺโจ อทฺธุโว อสสฺสโต วิปริณามธมฺโม. ยฺจ โข อิทํ วุจฺจติ จิตฺตนฺติ วา มโนติ วา วิฺาณนฺติ วา อยํ อตฺตา นิจฺโจ ธุโว สสฺสโต อวิปริณามธมฺโม สสฺสติสมํ ตเถว สฺสตี’ติ. อิทํ, ภิกฺขเว, จตุตฺถํ านํ, ยํ อาคมฺม ยํ อารพฺภ เอเก สมณพฺราหฺมณา เอกจฺจสสฺสติกา เอกจฺจอสสฺสติกา เอกจฺจํ สสฺสตํ เอกจฺจํ อสสฺสตํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ.
๕๐. ‘‘อิเมหิ โข เต, ภิกฺขเว, สมณพฺราหฺมณา เอกจฺจสสฺสติกา เอกจฺจอสสฺสติกา เอกจฺจํ สสฺสตํ เอกจฺจํ อสสฺสตํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ จตูหิ ¶ วตฺถูหิ. เย หิ เกจิ, ภิกฺขเว, สมณา วา พฺราหฺมณา วา เอกจฺจสสฺสติกา เอกจฺจอสสฺสติกา เอกจฺจํ สสฺสตํ เอกจฺจํ อสสฺสตํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ, สพฺเพ เต อิเมเหว จตูหิ วตฺถูหิ, เอเตสํ วา อฺตเรน; นตฺถิ อิโต พหิทฺธา.
๕๑. ‘‘ตยิทํ ¶ , ภิกฺขเว, ตถาคโต ปชานาติ – ‘อิเม ทิฏฺิฏฺานา ¶ เอวํคหิตา เอวํปรามฏฺา เอวํคติกา ภวนฺติ เอวํอภิสมฺปรายา’ติ. ตฺจ ตถาคโต ปชานาติ, ตโต จ อุตฺตริตรํ ปชานาติ, ตฺจ ปชานนํ น ปรามสติ, อปรามสโต จสฺส ปจฺจตฺตฺเว นิพฺพุติ วิทิตา. เวทนานํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ ยถาภูตํ วิทิตฺวา อนุปาทาวิมุตฺโต, ภิกฺขเว, ตถาคโต.
๕๒. ‘‘อิเม โข เต, ภิกฺขเว, ธมฺมา คมฺภีรา ทุทฺทสา ทุรนุโพธา สนฺตา ปณีตา อตกฺกาวจรา นิปุณา ปณฺฑิตเวทนียา, เย ตถาคโต สยํ ¶ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทติ, เยหิ ตถาคตสฺส ยถาภุจฺจํ วณฺณํ สมฺมา วทมานา วเทยฺยุํ.
อนฺตานนฺตวาโท
๕๓. ‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, เอเก สมณพฺราหฺมณา อนฺตานนฺติกา อนฺตานนฺตํ โลกสฺส ปฺเปนฺติ จตูหิ วตฺถูหิ. เต จ โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา กิมาคมฺม กิมารพฺภ อนฺตานนฺติกา อนฺตานนฺตํ โลกสฺส ปฺเปนฺติ จตูหิ วตฺถูหิ?
๕๔. ‘‘อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา อาตปฺปมนฺวาย ปธานมนฺวาย อนุโยคมนฺวาย อปฺปมาทมนฺวาย สมฺมามนสิการมนฺวาย ตถารูปํ เจโตสมาธึ ผุสติ, ยถาสมาหิเต ¶ จิตฺเต อนฺตสฺี โลกสฺมึ วิหรติ.
‘‘โส เอวมาห – ‘อนฺตวา อยํ โลโก ปริวฏุโม. ตํ กิสฺส เหตุ? อหฺหิ อาตปฺปมนฺวาย ปธานมนฺวาย อนุโยคมนฺวาย อปฺปมาทมนฺวาย สมฺมามนสิการมนฺวาย ตถารูปํ เจโตสมาธึ ผุสามิ, ยถาสมาหิเต จิตฺเต อนฺตสฺี โลกสฺมึ วิหรามิ. อิมินามหํ เอตํ ชานามิ – ยถา อนฺตวา อยํ โลโก ปริวฏุโม’ติ. อิทํ, ภิกฺขเว, ปมํ านํ, ยํ อาคมฺม ยํ อารพฺภ เอเก สมณพฺราหฺมณา อนฺตานนฺติกา อนฺตานนฺตํ โลกสฺส ปฺเปนฺติ.
๕๕. ‘‘ทุติเย จ โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา กิมาคมฺม กิมารพฺภ อนฺตานนฺติกา อนฺตานนฺตํ โลกสฺส ปฺเปนฺติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา อาตปฺปมนฺวาย ปธานมนฺวาย อนุโยคมนฺวาย อปฺปมาทมนฺวาย สมฺมามนสิการมนฺวาย ตถารูปํ เจโตสมาธึ ¶ ผุสติ, ยถาสมาหิเต จิตฺเต อนนฺตสฺี โลกสฺมึ วิหรติ.
‘‘โส ¶ เอวมาห – ‘อนนฺโต อยํ โลโก อปริยนฺโต. เย เต สมณพฺราหฺมณา เอวมาหํสุ – ‘‘อนฺตวา อยํ โลโก ปริวฏุโม’’ติ, เตสํ มุสา. อนนฺโต อยํ โลโก อปริยนฺโต. ตํ กิสฺส เหตุ? อหฺหิ อาตปฺปมนฺวาย ปธานมนฺวาย อนุโยคมนฺวาย อปฺปมาทมนฺวาย สมฺมามนสิการมนฺวาย ตถารูปํ เจโตสมาธึ ผุสามิ ¶ , ยถาสมาหิเต จิตฺเต อนนฺตสฺี โลกสฺมึ วิหรามิ. อิมินามหํ เอตํ ชานามิ – ยถา อนนฺโต อยํ โลโก อปริยนฺโต’ติ. อิทํ, ภิกฺขเว, ทุติยํ ¶ านํ, ยํ อาคมฺม ยํ อารพฺภ เอเก สมณพฺราหฺมณา อนฺตานนฺติกา อนฺตานนฺตํ โลกสฺส ปฺเปนฺติ.
๕๖. ‘‘ตติเย จ โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา กิมาคมฺม กิมารพฺภ อนฺตานนฺติกา อนฺตานนฺตํ โลกสฺส ปฺเปนฺติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา อาตปฺปมนฺวาย ปธานมนฺวาย อนุโยคมนฺวาย อปฺปมาทมนฺวาย สมฺมามนสิการมนฺวาย ตถารูปํ เจโตสมาธึ ผุสติ, ยถาสมาหิเต จิตฺเต อุทฺธมโธ อนฺตสฺี โลกสฺมึ วิหรติ, ติริยํ อนนฺตสฺี.
‘‘โส เอวมาห – ‘อนฺตวา จ อยํ โลโก อนนฺโต จ. เย เต สมณพฺราหฺมณา เอวมาหํสุ – ‘‘อนฺตวา อยํ โลโก ปริวฏุโม’’ติ, เตสํ มุสา. เยปิ เต สมณพฺราหฺมณา เอวมาหํสุ – ‘‘อนนฺโต อยํ โลโก อปริยนฺโต’’ติ, เตสมฺปิ มุสา. อนฺตวา จ อยํ โลโก อนนฺโต จ. ตํ กิสฺส เหตุ? อหฺหิ อาตปฺปมนฺวาย ปธานมนฺวาย อนุโยคมนฺวาย อปฺปมาทมนฺวาย สมฺมามนสิการมนฺวาย ตถารูปํ เจโตสมาธึ ผุสามิ, ยถาสมาหิเต จิตฺเต อุทฺธมโธ อนฺตสฺี โลกสฺมึ วิหรามิ, ติริยํ อนนฺตสฺี. อิมินามหํ เอตํ ชานามิ – ยถา อนฺตวา จ อยํ โลโก อนนฺโต จา’ติ. อิทํ, ภิกฺขเว, ตติยํ านํ, ยํ อาคมฺม ยํ อารพฺภ เอเก สมณพฺราหฺมณา อนฺตานนฺติกา อนฺตานนฺตํ โลกสฺส ปฺเปนฺติ.
๕๗. ‘‘จตุตฺเถ จ โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา กิมาคมฺม กิมารพฺภ อนฺตานนฺติกา อนฺตานนฺตํ โลกสฺส ปฺเปนฺติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ¶ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ตกฺกี โหติ วีมํสี. โส ตกฺกปริยาหตํ วีมํสานุจริตํ สยํปฏิภานํ เอวมาห – ‘เนวายํ โลโก อนฺตวา, น ปนานนฺโต. เย เต สมณพฺราหฺมณา เอวมาหํสุ – ‘‘อนฺตวา อยํ โลโก ปริวฏุโม’’ติ, เตสํ มุสา. เยปิ เต สมณพฺราหฺมณา ¶ เอวมาหํสุ – ‘‘อนนฺโต อยํ โลโก อปริยนฺโต’’ติ, เตสมฺปิ มุสา. เยปิ เต สมณพฺราหฺมณา เอวมาหํสุ – ‘‘อนฺตวา จ อยํ โลโก อนนฺโต จา’’ติ, เตสมฺปิ มุสา. เนวายํ โลโก อนฺตวา ¶ , น ปนานนฺโต’ติ. อิทํ, ภิกฺขเว ¶ , จตุตฺถํ านํ, ยํ อาคมฺม ยํ อารพฺภ เอเก สมณพฺราหฺมณา อนฺตานนฺติกา อนฺตานนฺตํ โลกสฺส ปฺเปนฺติ.
๕๘. ‘‘อิเมหิ โข เต, ภิกฺขเว, สมณพฺราหฺมณา อนฺตานนฺติกา อนฺตานนฺตํ โลกสฺส ปฺเปนฺติ จตูหิ วตฺถูหิ. เย หิ เกจิ, ภิกฺขเว, สมณา วา พฺราหฺมณา วา อนฺตานนฺติกา อนฺตานนฺตํ โลกสฺส ปฺเปนฺติ, สพฺเพ เต อิเมเหว จตูหิ วตฺถูหิ, เอเตสํ วา อฺตเรน; นตฺถิ อิโต พหิทฺธา.
๕๙. ‘‘ตยิทํ, ภิกฺขเว, ตถาคโต ปชานาติ – ‘อิเม ทิฏฺิฏฺานา เอวํคหิตา เอวํปรามฏฺา เอวํคติกา ภวนฺติ เอวํอภิสมฺปรายา’ติ. ตฺจ ตถาคโต ปชานาติ, ตโต จ อุตฺตริตรํ ปชานาติ, ตฺจ ปชานนํ น ปรามสติ, อปรามสโต จสฺส ปจฺจตฺตฺเว นิพฺพุติ วิทิตา. เวทนานํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ ยถาภูตํ วิทิตฺวา อนุปาทาวิมุตฺโต, ภิกฺขเว, ตถาคโต.
๖๐. ‘‘อิเม โข เต, ภิกฺขเว, ธมฺมา คมฺภีรา ทุทฺทสา ¶ ทุรนุโพธา สนฺตา ปณีตา อตกฺกาวจรา นิปุณา ปณฺฑิตเวทนียา, เย ตถาคโต สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทติ, เยหิ ตถาคตสฺส ยถาภุจฺจํ วณฺณํ สมฺมา วทมานา วเทยฺยุํ.
อมราวิกฺเขปวาโท
๖๑. ‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, เอเก สมณพฺราหฺมณา อมราวิกฺเขปิกา, ตตฺถ ตตฺถ ปฺหํ ปุฏฺา สมานา วาจาวิกฺเขปํ อาปชฺชนฺติ อมราวิกฺเขปํ จตูหิ วตฺถูหิ. เต จ โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา กิมาคมฺม กิมารพฺภ อมราวิกฺเขปิกา ตตฺถ ตตฺถ ปฺหํ ปุฏฺา สมานา วาจาวิกฺเขปํ อาปชฺชนฺติ อมราวิกฺเขปํ จตูหิ วตฺถูหิ?
๖๒. ‘‘อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ‘อิทํ กุสล’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, ‘อิทํ อกุสล’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อหํ โข ‘‘อิทํ กุสล’’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานามิ, ‘‘อิทํ อกุสล’’นฺติ ¶ ยถาภูตํ นปฺปชานามิ. อหฺเจ โข ปน ‘‘อิทํ ¶ กุสล’’นฺติ ยถาภูตํ อปฺปชานนฺโต, ‘‘อิทํ อกุสล’’นฺติ ยถาภูตํ อปฺปชานนฺโต, ‘อิทํ กุสล’นฺติ วา พฺยากเรยฺยํ, ‘อิทํ อกุสล’นฺติ วา พฺยากเรยฺยํ, ตํ มมสฺส มุสา. ยํ มมสฺส มุสา ¶ , โส มมสฺส วิฆาโต. โย มมสฺส วิฆาโต โส มมสฺส อนฺตราโย’ติ. อิติ โส มุสาวาทภยา มุสาวาทปริเชคุจฺฉา เนวิทํ กุสลนฺติ พฺยากโรติ, น ปนิทํ อกุสลนฺติ พฺยากโรติ, ตตฺถ ตตฺถ ปฺหํ ปุฏฺโ สมาโน วาจาวิกฺเขปํ อาปชฺชติ อมราวิกฺเขปํ – ‘เอวนฺติปิ เม โน; ตถาติปิ เม โน; อฺถาติปิ เม โน; โนติปิ เม ¶ โน; โน โนติปิ เม โน’ติ. อิทํ, ภิกฺขเว, ปมํ านํ, ยํ อาคมฺม ยํ อารพฺภ เอเก สมณพฺราหฺมณา อมราวิกฺเขปิกา ตตฺถ ตตฺถ ปฺหํ ปุฏฺา สมานา วาจาวิกฺเขปํ อาปชฺชนฺติ อมราวิกฺเขปํ.
๖๓. ‘‘ทุติเย จ โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา กิมาคมฺม กิมารพฺภ อมราวิกฺเขปิกา ตตฺถ ตตฺถ ปฺหํ ปุฏฺา สมานา วาจาวิกฺเขปํ อาปชฺชนฺติ อมราวิกฺเขปํ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ‘อิทํ กุสล’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, ‘อิทํ อกุสล’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อหํ โข ‘‘อิทํ กุสล’’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานามิ, ‘‘อิทํ อกุสล’’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานามิ. อหฺเจ โข ปน ‘‘อิทํ กุสล’’นฺติ ยถาภูตํ อปฺปชานนฺโต, ‘‘อิทํ อกุสล’’นฺติ ยถาภูตํ อปฺปชานนฺโต, ‘‘อิทํ กุสล’’นฺติ วา พฺยากเรยฺยํ, ‘‘อิทํ อกุสล’นฺติ วา พฺยากเรยฺยํ, ตตฺถ เม อสฺส ฉนฺโท วา ราโค วา โทโส วา ปฏิโฆ วา. ยตฺถ [โย (?)] เม อสฺส ฉนฺโท วา ราโค วา โทโส วา ปฏิโฆ วา, ตํ มมสฺส อุปาทานํ. ยํ มมสฺส อุปาทานํ, โส มมสฺส วิฆาโต. โย มมสฺส วิฆาโต, โส มมสฺส อนฺตราโย’ติ. อิติ ¶ โส อุปาทานภยา อุปาทานปริเชคุจฺฉา เนวิทํ กุสลนฺติ พฺยากโรติ, น ปนิทํ อกุสลนฺติ พฺยากโรติ, ตตฺถ ตตฺถ ปฺหํ ปุฏฺโ สมาโน วาจาวิกฺเขปํ อาปชฺชติ อมราวิกฺเขปํ – ‘เอวนฺติปิ เม โน; ตถาติปิ เม โน; อฺถาติปิ ¶ เม โน; โนติปิ เม โน; โน โนติปิ เม โน’ติ. อิทํ, ภิกฺขเว, ทุติยํ านํ, ยํ อาคมฺม ยํ อารพฺภ เอเก สมณพฺราหฺมณา อมราวิกฺเขปิกา ¶ ตตฺถ ตตฺถ ปฺหํ ปุฏฺา สมานา วาจาวิกฺเขปํ อาปชฺชนฺติ อมราวิกฺเขปํ.
๖๔. ‘‘ตติเย จ โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา กิมาคมฺม กิมารพฺภ อมราวิกฺเขปิกา ตตฺถ ตตฺถ ปฺหํ ปุฏฺา สมานา วาจาวิกฺเขปํ อาปชฺชนฺติ อมราวิกฺเขปํ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ‘อิทํ กุสล’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, ‘อิทํ อกุสล’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อหํ โข ‘‘อิทํ กุสล’’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานามิ, ‘‘อิทํ อกุสล’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานามิ. อหฺเจ โข ปน ‘‘อิทํ กุสล’’นฺติ ยถาภูตํ อปฺปชานนฺโต ‘‘อิทํ อกุสล’’นฺติ ยถาภูตํ อปฺปชานนฺโต ‘‘อิทํ กุสล’’นฺติ วา พฺยากเรยฺยํ, ‘‘อิทํ อกุสล’’นฺติ วา พฺยากเรยฺยํ. สนฺติ หิ โข สมณพฺราหฺมณา ปณฺฑิตา นิปุณา ¶ กตปรปฺปวาทา วาลเวธิรูปา, เต ภินฺทนฺตา [โวภินฺทนฺตา (สี. ปี.)] มฺเ จรนฺติ ปฺาคเตน ทิฏฺิคตานิ, เต มํ ตตฺถ สมนุยฺุเชยฺยุํ สมนุคาเหยฺยุํ สมนุภาเสยฺยุํ. เย มํ ตตฺถ สมนุยฺุเชยฺยุํ สมนุคาเหยฺยุํ สมนุภาเสยฺยุํ, เตสาหํ น สมฺปาเยยฺยํ. เยสาหํ น สมฺปาเยยฺยํ, โส มมสฺส วิฆาโต. โย มมสฺส วิฆาโต, โส มมสฺส ¶ อนฺตราโย’ติ. อิติ โส อนุโยคภยา อนุโยคปริเชคุจฺฉา เนวิทํ กุสลนฺติ พฺยากโรติ, น ปนิทํ อกุสลนฺติ พฺยากโรติ, ตตฺถ ตตฺถ ปฺหํ ปุฏฺโ สมาโน วาจาวิกฺเขปํ อาปชฺชติ อมราวิกฺเขปํ – ‘เอวนฺติปิ เม โน; ตถาติปิ เม โน; อฺถาติปิ เม โน; โนติปิ เม โน; โน โนติปิ เม โน’ติ. อิทํ, ภิกฺขเว, ตติยํ านํ, ยํ อาคมฺม ยํ อารพฺภ ¶ เอเก สมณพฺราหฺมณา อมราวิกฺเขปิกา ตตฺถ ตตฺถ ปฺหํ ปุฏฺา สมานา วาจาวิกฺเขปํ อาปชฺชนฺติ อมราวิกฺเขปํ.
๖๕. ‘‘จตุตฺเถ จ โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา กิมาคมฺม กิมารพฺภ อมราวิกฺเขปิกา ตตฺถ ตตฺถ ปฺหํ ปุฏฺา สมานา วาจาวิกฺเขปํ อาปชฺชนฺติ อมราวิกฺเขปํ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา มนฺโท โหติ โมมูโห. โส มนฺทตฺตา โมมูหตฺตา ตตฺถ ตตฺถ ปฺหํ ปุฏฺโ สมาโน วาจาวิกฺเขปํ อาปชฺชติ อมราวิกฺเขปํ – ‘อตฺถิ ปโร โลโก’ติ อิติ เจ มํ ปุจฺฉสิ, ‘อตฺถิ ปโร โลโก’ติ อิติ เจ เม ¶ อสฺส, ‘อตฺถิ ปโร โลโก’ติ อิติ เต นํ พฺยากเรยฺยํ, ‘เอวนฺติปิ เม โน, ตถาติปิ เม โน, อฺถาติปิ เม โน, โนติปิ เม โน, โน โนติปิ เม โน’ติ. ‘นตฺถิ ปโร โลโก…เป… ‘อตฺถิ จ นตฺถิ จ ปโร โลโก…เป… ‘เนวตฺถิ น นตฺถิ ปโร โลโก…เป… ‘อตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา ¶ …เป… ‘นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา…เป… ‘อตฺถิ จ นตฺถิ จ สตฺตา โอปปาติกา…เป… ‘เนวตฺถิ น นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา…เป… ‘อตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ [สุกฏทุกฺกฏานํ (สี. สฺยา. กํ.)] กมฺมานํ ผลํ วิปาโก…เป… ‘นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก…เป… ‘อตฺถิ จ นตฺถิ จ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก…เป… ‘เนวตฺถิ น นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก…เป… ‘โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา…เป… ‘น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา…เป… ‘โหติ จ น จ โหติ [น โหติ จ (สี. ก.)] ตถาคโต ปรํ มรณา…เป… ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณาติ อิติ เจ มํ ปุจฺฉสิ, ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ อิติ เจ เม อสฺส, ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ อิติ เต นํ พฺยากเรยฺยํ, ‘เอวนฺติปิ เม โน, ตถาติปิ เม โน, อฺถาติปิ เม โน, โนติปิ เม โน, โน โนติปิ เม โน’ติ. อิทํ, ภิกฺขเว, จตุตฺถํ านํ, ยํ อาคมฺม ยํ อารพฺภ เอเก สมณพฺราหฺมณา อมราวิกฺเขปิกา ตตฺถ ตตฺถ ปฺหํ ปุฏฺา สมานา วาจาวิกฺเขปํ อาปชฺชนฺติ อมราวิกฺเขปํ.
๖๖. ‘‘อิเมหิ ¶ โข เต, ภิกฺขเว, สมณพฺราหฺมณา อมราวิกฺเขปิกา ¶ ตตฺถ ตตฺถ ปฺหํ ปุฏฺา สมานา วาจาวิกฺเขปํ อาปชฺชนฺติ อมราวิกฺเขปํ จตูหิ วตฺถูหิ. เย หิ เกจิ, ภิกฺขเว, สมณา วา พฺราหฺมณา วา อมราวิกฺเขปิกา ตตฺถ ตตฺถ ปฺหํ ปุฏฺา สมานา วาจาวิกฺเขปํ อาปชฺชนฺติ อมราวิกฺเขปํ ¶ , สพฺเพ เต อิเมเหว จตูหิ วตฺถูหิ, เอเตสํ วา อฺตเรน, นตฺถิ อิโต พหิทฺธา…เป… เยหิ ตถาคตสฺส ยถาภุจฺจํ วณฺณํ สมฺมา วทมานา วเทยฺยุํ.
อธิจฺจสมุปฺปนฺนวาโท
๖๗. ‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, เอเก สมณพฺราหฺมณา อธิจฺจสมุปฺปนฺนิกา อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ ทฺวีหิ วตฺถูหิ. เต จ โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา ¶ กิมาคมฺม กิมารพฺภ อธิจฺจสมุปฺปนฺนิกา อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ ทฺวีหิ วตฺถูหิ?
๖๘. ‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, อสฺสตฺตา นาม เทวา. สฺุปฺปาทา จ ปน เต เทวา ตมฺหา กายา จวนฺติ. านํ โข ปเนตํ, ภิกฺขเว, วิชฺชติ, ยํ อฺตโร สตฺโต ตมฺหา กายา จวิตฺวา อิตฺถตฺตํ อาคจฺฉติ. อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ. อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต สมาโน อาตปฺปมนฺวาย ปธานมนฺวาย อนุโยคมนฺวาย อปฺปมาทมนฺวาย สมฺมามนสิการมนฺวาย ตถารูปํ เจโตสมาธึ ผุสติ, ยถาสมาหิเต จิตฺเต สฺุปฺปาทํ อนุสฺสรติ, ตโต ปรํ ¶ นานุสฺสรติ. โส เอวมาห – ‘อธิจฺจสมุปฺปนฺโน อตฺตา จ โลโก จ. ตํ กิสฺส เหตุ? อหฺหิ ปุพฺเพ นาโหสึ, โสมฺหิ เอตรหิ อหุตฺวา สนฺตตาย ปริณโต’ติ. อิทํ, ภิกฺขเว, ปมํ านํ, ยํ อาคมฺม ยํ อารพฺภ เอเก สมณพฺราหฺมณา อธิจฺจสมุปฺปนฺนิกา อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ อตฺตานฺจ ¶ โลกฺจ ปฺเปนฺติ.
๖๙. ‘‘ทุติเย ¶ จ โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา กิมาคมฺม กิมารพฺภ อธิจฺจสมุปฺปนฺนิกา อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ตกฺกี โหติ วีมํสี. โส ตกฺกปริยาหตํ วีมํสานุจริตํ สยํปฏิภานํ เอวมาห – ‘อธิจฺจสมุปฺปนฺโน อตฺตา จ โลโก จา’ติ. อิทํ, ภิกฺขเว, ทุติยํ านํ, ยํ อาคมฺม ยํ อารพฺภ เอเก สมณพฺราหฺมณา อธิจฺจสมุปฺปนฺนิกา อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ.
๗๐. ‘‘อิเมหิ โข เต, ภิกฺขเว, สมณพฺราหฺมณา อธิจฺจสมุปฺปนฺนิกา อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ ทฺวีหิ วตฺถูหิ. เย หิ เกจิ, ภิกฺขเว, สมณา วา พฺราหฺมณา วา อธิจฺจสมุปฺปนฺนิกา อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ, สพฺเพ เต อิเมเหว ทฺวีหิ วตฺถูหิ, เอเตสํ วา อฺตเรน, นตฺถิ อิโต พหิทฺธา…เป… เยหิ ตถาคตสฺส ยถาภุจฺจํ วณฺณํ สมฺมา วทมานา วเทยฺยุํ.
๗๑. ‘‘อิเมหิ โข เต, ภิกฺขเว, สมณพฺราหฺมณา ปุพฺพนฺตกปฺปิกา ปุพฺพนฺตานุทิฏฺิโน ปุพฺพนฺตํ อารพฺภ อเนกวิหิตานิ อธิมุตฺติปทานิ อภิวทนฺติ อฏฺารสหิ ¶ วตฺถูหิ. เย หิ เกจิ, ภิกฺขเว, สมณา วา พฺราหฺมณา วา ปุพฺพนฺตกปฺปิกา ปุพฺพนฺตานุทิฏฺิโน ปุพฺพนฺตมารพฺภ อเนกวิหิตานิ อธิมุตฺติปทานิ อภิวทนฺติ, สพฺเพ เต อิเมเหว อฏฺารสหิ วตฺถูหิ, เอเตสํ วา อฺตเรน, นตฺถิ อิโต ¶ พหิทฺธา.
๗๒. ‘‘ตยิทํ, ภิกฺขเว, ตถาคโต ปชานาติ – ‘อิเม ทิฏฺิฏฺานา เอวํคหิตา เอวํปรามฏฺา เอวํคติกา ภวนฺติ เอวํอภิสมฺปรายา’ติ. ตฺจ ตถาคโต ปชานาติ, ตโต จ อุตฺตริตรํ ปชานาติ, ตฺจ ปชานนํ น ปรามสติ, อปรามสโต จสฺส ปจฺจตฺตฺเว นิพฺพุติ วิทิตา. เวทนานํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ ยถาภูตํ วิทิตฺวา อนุปาทาวิมุตฺโต, ภิกฺขเว, ตถาคโต.
๗๓. ‘‘อิเม ¶ โข เต, ภิกฺขเว, ธมฺมา คมฺภีรา ทุทฺทสา ทุรนุโพธา สนฺตา ปณีตา อตกฺกาวจรา นิปุณา ปณฺฑิตเวทนียา, เย ตถาคโต สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทติ ¶ , เยหิ ตถาคตสฺส ยถาภุจฺจํ วณฺณํ สมฺมา วทมานา วเทยฺยุํ.
ทุติยภาณวาโร.
อปรนฺตกปฺปิกา
๗๔. ‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, เอเก สมณพฺราหฺมณา อปรนฺตกปฺปิกา อปรนฺตานุทิฏฺิโน, อปรนฺตํ อารพฺภ อเนกวิหิตานิ อธิมุตฺติปทานิ อภิวทนฺติ จตุจตฺตารีสาย [จตุจตฺตาลีสาย (สฺยา. กํ.)] วตฺถูหิ. เต จ โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา กิมาคมฺม กิมารพฺภ อปรนฺตกปฺปิกา อปรนฺตานุทิฏฺิโน อปรนฺตํ อารพฺภ อเนกวิหิตานิ อธิมุตฺติปทานิ อภิวทนฺติ จตุจตฺตารีสาย วตฺถูหิ?
สฺีวาโท
๗๕. ‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, เอเก สมณพฺราหฺมณา อุทฺธมาฆาตนิกา ¶ สฺีวาทา อุทฺธมาฆาตนํ สฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ โสฬสหิ วตฺถูหิ. เต ¶ จ โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา กิมาคมฺม กิมารพฺภ อุทฺธมาฆาตนิกา สฺีวาทา อุทฺธมาฆาตนํ สฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ โสฬสหิ ¶ วตฺถูหิ?
๗๖. ‘‘‘รูปี อตฺตา โหติ อโรโค ปรํ มรณา สฺี’ติ นํ ปฺเปนฺติ. ‘อรูปี อตฺตา โหติ อโรโค ปรํ มรณา สฺี’ติ นํ ปฺเปนฺติ. ‘รูปี จ อรูปี จ อตฺตา โหติ…เป… เนวรูปี นารูปี อตฺตา โหติ… อนฺตวา อตฺตา โหติ… อนนฺตวา อตฺตา โหติ… อนฺตวา จ อนนฺตวา จ อตฺตา โหติ… เนวนฺตวา นานนฺตวา อตฺตา โหติ… เอกตฺตสฺี อตฺตา โหติ… นานตฺตสฺี อตฺตา โหติ… ปริตฺตสฺี อตฺตา โหติ… อปฺปมาณสฺี อตฺตา โหติ… เอกนฺตสุขี อตฺตา โหติ… เอกนฺตทุกฺขี อตฺตา โหติ. สุขทุกฺขี อตฺตา โหติ. อทุกฺขมสุขี อตฺตา โหติ อโรโค ปรํ มรณา สฺี’ติ นํ ปฺเปนฺติ.
๗๗. ‘‘อิเมหิ ¶ โข เต, ภิกฺขเว, สมณพฺราหฺมณา อุทฺธมาฆาตนิกา สฺีวาทา อุทฺธมาฆาตนํ สฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ โสฬสหิ วตฺถูหิ. เย หิ เกจิ, ภิกฺขเว, สมณา วา พฺราหฺมณา วา อุทฺธมาฆาตนิกา สฺีวาทา อุทฺธมาฆาตนํ สฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ, สพฺเพ เต อิเมเหว โสฬสหิ วตฺถูหิ, เอเตสํ วา อฺตเรน, นตฺถิ อิโต พหิทฺธา…เป… เยหิ ตถาคตสฺส ยถาภุจฺจํ วณฺณํ สมฺมา วทมานา วเทยฺยุํ.
อสฺีวาโท
๗๘. ‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, เอเก สมณพฺราหฺมณา อุทฺธมาฆาตนิกา อสฺีวาทา อุทฺธมาฆาตนํ อสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อฏฺหิ วตฺถูหิ. เต จ โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา กิมาคมฺม กิมารพฺภ อุทฺธมาฆาตนิกา ¶ อสฺีวาทา อุทฺธมาฆาตนํ อสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อฏฺหิ วตฺถูหิ?
๗๙. ‘‘‘รูปี อตฺตา โหติ อโรโค ปรํ มรณา อสฺี’ติ นํ ปฺเปนฺติ. ‘อรูปี อตฺตา โหติ อโรโค ปรํ มรณา อสฺี’ติ นํ ปฺเปนฺติ. ‘รูปี จ อรูปี จ อตฺตา โหติ…เป… เนวรูปี นารูปี อตฺตา โหติ… อนฺตวา อตฺตา โหติ… อนนฺตวา อตฺตา โหติ… อนฺตวา จ อนนฺตวา จ อตฺตา โหติ… เนวนฺตวา นานนฺตวา อตฺตา โหติ อโรโค ปรํ มรณา อสฺี’ติ นํ ปฺเปนฺติ.
๘๐. ‘‘อิเมหิ ¶ โข เต, ภิกฺขเว, สมณพฺราหฺมณา อุทฺธมาฆาตนิกา อสฺีวาทา อุทฺธมาฆาตนํ อสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อฏฺหิ วตฺถูหิ. เย หิ เกจิ, ภิกฺขเว, สมณา วา พฺราหฺมณา วา อุทฺธมาฆาตนิกา อสฺีวาทา อุทฺธมาฆาตนํ อสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ, สพฺเพ เต อิเมเหว อฏฺหิ วตฺถูหิ, เอเตสํ วา อฺตเรน, นตฺถิ อิโต พหิทฺธา…เป… ¶ ¶ เยหิ ตถาคตสฺส ยถาภุจฺจํ วณฺณํ สมฺมา วทมานา วเทยฺยุํ.
เนวสฺีนาสฺีวาโท
๘๑. ‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, เอเก สมณพฺราหฺมณา อุทฺธมาฆาตนิกา เนวสฺีนาสฺีวาทา, อุทฺธมาฆาตนํ เนวสฺีนาสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อฏฺหิ วตฺถูหิ. เต จ โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา กิมาคมฺม กิมารพฺภ อุทฺธมาฆาตนิกา เนวสฺีนาสฺีวาทา อุทฺธมาฆาตนํ เนวสฺีนาสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อฏฺหิ วตฺถูหิ?
๘๒. ‘‘‘รูปี อตฺตา โหติ อโรโค ปรํ มรณา เนวสฺีนาสฺี’ติ นํ ปฺเปนฺติ ‘อรูปี ¶ อตฺตา โหติ…เป… รูปี จ อรูปี จ อตฺตา โหติ… เนวรูปี นารูปี อตฺตา โหติ… อนฺตวา อตฺตา โหติ… อนนฺตวา อตฺตา โหติ… อนฺตวา จ อนนฺตวา จ อตฺตา โหติ… เนวนฺตวา นานนฺตวา อตฺตา โหติ อโรโค ปรํ มรณา เนวสฺีนาสฺี’ติ นํ ปฺเปนฺติ.
๘๓. ‘‘อิเมหิ โข เต, ภิกฺขเว, สมณพฺราหฺมณา อุทฺธมาฆาตนิกา เนวสฺีนาสฺีวาทา อุทฺธมาฆาตนํ เนวสฺีนาสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อฏฺหิ วตฺถูหิ. เย หิ เกจิ, ภิกฺขเว, สมณา วา พฺราหฺมณา วา อุทฺธมาฆาตนิกา เนวสฺีนาสฺีวาทา อุทฺธมาฆาตนํ เนวสฺีนาสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ, สพฺเพ เต อิเมเหว อฏฺหิ วตฺถูหิ…เป… ¶ ¶ เยหิ ตถาคตสฺส ยถาภุจฺจํ วณฺณํ สมฺมา วทมานา วเทยฺยุํ.
อุจฺเฉทวาโท
๘๔. ‘‘สนฺติ ¶ , ภิกฺขเว, เอเก สมณพฺราหฺมณา อุจฺเฉทวาทา สโต สตฺตสฺส อุจฺเฉทํ วินาสํ วิภวํ ปฺเปนฺติ สตฺตหิ วตฺถูหิ. เต จ โภนฺโต ¶ สมณพฺราหฺมณา กิมาคมฺม กิมารพฺภ อุจฺเฉทวาทา สโต สตฺตสฺส อุจฺเฉทํ วินาสํ วิภวํ ปฺเปนฺติ สตฺตหิ วตฺถูหิ?
๘๕. ‘‘อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา เอวํวาที โหติ เอวํทิฏฺิ [เอวํทิฏฺี (ก. ปี.)] – ‘ยโต โข, โภ, อยํ อตฺตา รูปี จาตุมหาภูติโก มาตาเปตฺติกสมฺภโว กายสฺส เภทา อุจฺฉิชฺชติ วินสฺสติ, น โหติ ปรํ มรณา, เอตฺตาวตา โข, โภ, อยํ อตฺตา สมฺมา สมุจฺฉินฺโน โหตี’ติ. อิตฺเถเก สโต สตฺตสฺส อุจฺเฉทํ วินาสํ วิภวํ ปฺเปนฺติ.
๘๖. ‘‘ตมฺโ เอวมาห – ‘อตฺถิ ¶ โข, โภ, เอโส อตฺตา, ยํ ตฺวํ วเทสิ, เนโส นตฺถีติ วทามิ; โน จ โข, โภ, อยํ อตฺตา เอตฺตาวตา สมฺมา สมุจฺฉินฺโน โหติ. อตฺถิ โข, โภ, อฺโ อตฺตา ทิพฺโพ รูปี กามาวจโร กพฬีการาหารภกฺโข. ตํ ตฺวํ น ชานาสิ น ปสฺสสิ. ตมหํ ชานามิ ปสฺสามิ. โส โข, โภ, อตฺตา ยโต กายสฺส เภทา อุจฺฉิชฺชติ วินสฺสติ, น โหติ ปรํ มรณา, เอตฺตาวตา โข, โภ, อยํ อตฺตา สมฺมา สมุจฺฉินฺโน โหตี’ติ. อิตฺเถเก สโต สตฺตสฺส อุจฺเฉทํ วินาสํ วิภวํ ปฺเปนฺติ.
๘๗. ‘‘ตมฺโ เอวมาห – ‘อตฺถิ โข, โภ, เอโส อตฺตา, ยํ ตฺวํ วเทสิ, เนโส นตฺถีติ วทามิ; โน จ โข, โภ, อยํ อตฺตา เอตฺตาวตา สมฺมา สมุจฺฉินฺโน โหติ. อตฺถิ โข, โภ, อฺโ อตฺตา ทิพฺโพ รูปี มโนมโย สพฺพงฺคปจฺจงฺคี อหีนินฺทฺริโย. ตํ ตฺวํ น ชานาสิ น ปสฺสสิ. ตมหํ ชานามิ ปสฺสามิ. โส โข, โภ, อตฺตา ยโต กายสฺส เภทา อุจฺฉิชฺชติ วินสฺสติ, น โหติ ปรํ มรณา, เอตฺตาวตา โข, โภ, อยํ อตฺตา สมฺมา สมุจฺฉินฺโน โหตี’ติ. อิตฺเถเก สโต สตฺตสฺส อุจฺเฉทํ วินาสํ วิภวํ ปฺเปนฺติ.
๘๘. ‘‘ตมฺโ เอวมาห – ‘อตฺถิ โข, โภ, เอโส อตฺตา, ยํ ตฺวํ วเทสิ, เนโส นตฺถีติ วทามิ; โน จ โข, โภ, อยํ อตฺตา เอตฺตาวตา ¶ สมฺมา สมุจฺฉินฺโน โหติ. อตฺถิ โข ¶ , โภ, อฺโ อตฺตา สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ ¶ อมนสิการา ‘‘อนนฺโต อากาโส’’ติ อากาสานฺจายตนูปโค. ตํ ตฺวํ น ชานาสิ ¶ น ปสฺสสิ. ตมหํ ชานามิ ปสฺสามิ. โส โข, โภ, อตฺตา ยโต กายสฺส เภทา อุจฺฉิชฺชติ วินสฺสติ, น โหติ ปรํ มรณา, เอตฺตาวตา โข, โภ, อยํ อตฺตา สมฺมา สมุจฺฉินฺโน โหตี’ติ. อิตฺเถเก สโต สตฺตสฺส อุจฺเฉทํ วินาสํ วิภวํ ปฺเปนฺติ.
๘๙. ‘‘ตมฺโ เอวมาห – ‘อตฺถิ โข, โภ, เอโส อตฺตา ยํ ตฺวํ วเทสิ, เนโส นตฺถีติ วทามิ; โน จ โข, โภ, อยํ อตฺตา เอตฺตาวตา สมฺมา สมุจฺฉินฺโน โหติ. อตฺถิ โข, โภ, อฺโ อตฺตา สพฺพโส อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘‘อนนฺตํ วิฺาณ’’นฺติ วิฺาณฺจายตนูปโค. ตํ ตฺวํ น ชานาสิ น ปสฺสสิ. ตมหํ ชานามิ ปสฺสามิ. โส โข, โภ, อตฺตา ยโต กายสฺส เภทา อุจฺฉิชฺชติ วินสฺสติ, น โหติ ปรํ มรณา, เอตฺตาวตา โข, โภ, อยํ อตฺตา สมฺมา สมุจฺฉินฺโน โหตี’ติ. อิตฺเถเก สโต สตฺตสฺส อุจฺเฉทํ วินาสํ วิภวํ ปฺเปนฺติ.
๙๐. ‘‘ตมฺโ เอวมาห – ‘อตฺถิ โข, โภ, โส อตฺตา, ยํ ตฺวํ วเทสิ, เนโส นตฺถีติ วทามิ; โน จ โข, โภ, อยํ อตฺตา เอตฺตาวตา สมฺมา สมุจฺฉินฺโน โหติ. อตฺถิ โข, โภ, อฺโ อตฺตา สพฺพโส วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘‘นตฺถิ กิฺจี’’ติ อากิฺจฺายตนูปโค. ตํ ตฺวํ น ชานาสิ น ปสฺสสิ. ตมหํ ชานามิ ปสฺสามิ. โส โข, โภ, อตฺตา ยโต กายสฺส เภทา อุจฺฉิชฺชติ วินสฺสติ, น โหติ ปรํ มรณา, เอตฺตาวตา โข ¶ , โภ, อยํ อตฺตา สมฺมา สมุจฺฉินฺโน โหตี’’ติ. อิตฺเถเก สโต สตฺตสฺส อุจฺเฉทํ วินาสํ วิภวํ ปฺเปนฺติ.
๙๑. ‘ตมฺโ เอวมาห – ‘‘อตฺถิ โข, โภ, เอโส อตฺตา, ยํ ตฺวํ วเทสิ, เนโส นตฺถีติ วทามิ; โน จ โข, โภ, อยํ อตฺตา เอตฺตาวตา สมฺมา สมุจฺฉินฺโน โหติ. อตฺถิ โข, โภ, อฺโ อตฺตา ¶ สพฺพโส อากิฺจฺายตนํ สมติกฺกมฺม ‘‘สนฺตเมตํ ปณีตเมต’’นฺติ เนวสฺานาสฺายตนูปโค. ตํ ตฺวํ น ชานาสิ น ปสฺสสิ. ตมหํ ชานามิ ปสฺสามิ. โส โข, โภ, อตฺตา ยโต กายสฺส เภทา อุจฺฉิชฺชติ วินสฺสติ, น โหติ ปรํ มรณา, เอตฺตาวตา โข, โภ, อยํ อตฺตา สมฺมา สมุจฺฉินฺโน โหตี’ติ. อิตฺเถเก สโต สตฺตสฺส อุจฺเฉทํ วินาสํ วิภวํ ปฺเปนฺติ.
๙๒. ‘‘อิเมหิ ¶ โข เต, ภิกฺขเว, สมณพฺราหฺมณา อุจฺเฉทวาทา สโต สตฺตสฺส อุจฺเฉทํ วินาสํ วิภวํ ปฺเปนฺติ สตฺตหิ วตฺถูหิ. เย หิ เกจิ, ภิกฺขเว, สมณา วา พฺราหฺมณา ¶ วา อุจฺเฉทวาทา สโต สตฺตสฺส อุจฺเฉทํ วินาสํ วิภวํ ปฺเปนฺติ, สพฺเพ เต อิเมเหว สตฺตหิ วตฺถูหิ…เป… เยหิ ตถาคตสฺส ยถาภุจฺจํ วณฺณํ สมฺมา วทมานา วเทยฺยุํ.
ทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาโท
๙๓. ‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, เอเก สมณพฺราหฺมณา ทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาทา สโต สตฺตสฺส ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ ปฺเปนฺติ ปฺจหิ วตฺถูหิ. เต จ โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา กิมาคมฺม กิมารพฺภ ทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาทา ¶ สโต สตฺตสฺส ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ ปฺเปนฺติ ปฺจหิ วตฺถูหิ?
๙๔. ‘‘อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา เอวํวาที โหติ เอวํทิฏฺิ – ‘‘ยโต โข, โภ, อยํ อตฺตา ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิโต สมงฺคีภูโต ปริจาเรติ, เอตฺตาวตา โข, โภ, อยํ อตฺตา ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ ปตฺโต โหตี’ติ. อิตฺเถเก สโต สตฺตสฺส ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ ปฺเปนฺติ.
๙๕. ‘‘ตมฺโ เอวมาห –‘อตฺถิ โข, โภ, เอโส อตฺตา, ยํ ตฺวํ วเทสิ, เนโส นตฺถีติ วทามิ; โน จ โข, โภ, อยํ อตฺตา เอตฺตาวตา ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ ปตฺโต โหติ. ตํ กิสฺส เหตุ? กามา หิ, โภ, อนิจฺจา ทุกฺขา วิปริณามธมฺมา, เตสํ วิปริณามฺถาภาวา อุปฺปชฺชนฺติ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา. ยโต โข ¶ , โภ, อยํ อตฺตา วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, เอตฺตาวตา โข, โภ, อยํ ¶ อตฺตา ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ ปตฺโต โหตี’ติ. อิตฺเถเก สโต สตฺตสฺส ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ ปฺเปนฺติ.
๙๖. ‘‘ตมฺโ ¶ เอวมาห – ‘อตฺถิ โข, โภ, เอโส อตฺตา, ยํ ตฺวํ วเทสิ, เนโส นตฺถีติ วทามิ; โน จ โข, โภ, อยํ อตฺตา เอตฺตาวตา ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ ปตฺโต โหติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ยเทว ตตฺถ วิตกฺกิตํ วิจาริตํ, เอเตเนตํ โอฬาริกํ อกฺขายติ. ยโต โข, โภ, อยํ อตฺตา วิตกฺกวิจารานํ ¶ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, เอตฺตาวตา โข, โภ, อยํ อตฺตา ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ ปตฺโต โหตี’ติ. อิตฺเถเก สโต สตฺตสฺส ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ ปฺเปนฺติ.
๙๗. ‘‘ตมฺโ เอวมาห – ‘อตฺถิ โข, โภ, เอโส อตฺตา, ยํ ตฺวํ วเทสิ, เนโส นตฺถีติ วทามิ; โน จ โข, โภ, อยํ อตฺตา เอตฺตาวตา ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ ปตฺโต โหติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ยเทว ตตฺถ ปีติคตํ เจตโส อุปฺปิลาวิตตฺตํ, เอเตเนตํ โอฬาริกํ อกฺขายติ. ยโต โข, โภ, อยํ อตฺตา ปีติยา จ วิราคา อุเปกฺขโก จ วิหรติ, สโต จ สมฺปชาโน, สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทติ, ยํ ตํ อริยา อาจิกฺขนฺติ ‘‘อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารี’’ติ, ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, เอตฺตาวตา โข, โภ, อยํ อตฺตา ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ ปตฺโต โหตี’ติ. อิตฺเถเก สโต สตฺตสฺส ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ ปฺเปนฺติ.
๙๘. ‘‘ตมฺโ เอวมาห – ‘อตฺถิ โข, โภ, เอโส อตฺตา, ยํ ตฺวํ วเทสิ, เนโส นตฺถีติ วทามิ; โน จ โข, โภ, อยํ อตฺตา เอตฺตาวตา ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ ปตฺโต โหติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ยเทว ตตฺถ สุขมิติ เจตโส อาโภโค, เอเตเนตํ โอฬาริกํ อกฺขายติ. ยโต โข, โภ, อยํ อตฺตา สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา ปุพฺเพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา อทุกฺขมสุขํ ¶ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, เอตฺตาวตา ¶ โข, โภ, อยํ อตฺตา ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ ปตฺโต โหตี’ติ. อิตฺเถเก สโต สตฺตสฺส ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ ปฺเปนฺติ.
๙๙. ‘‘อิเมหิ ¶ โข เต, ภิกฺขเว, สมณพฺราหฺมณา ทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาทา สโต สตฺตสฺส ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ ปฺเปนฺติ ปฺจหิ วตฺถูหิ. เย หิ เกจิ, ภิกฺขเว, สมณา วา พฺราหฺมณา วา ทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาทา สโต สตฺตสฺส ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ ปฺเปนฺติ, สพฺเพ เต อิเมเหว ปฺจหิ วตฺถูหิ…เป… ¶ เยหิ ตถาคตสฺส ยถาภุจฺจํ วณฺณํ สมฺมา วทมานา วเทยฺยุํ.
๑๐๐. ‘‘อิเมหิ โข เต, ภิกฺขเว, สมณพฺราหฺมณา อปรนฺตกปฺปิกา อปรนฺตานุทิฏฺิโน อปรนฺตํ อารพฺภ อเนกวิหิตานิ อธิมุตฺติปทานิ อภิวทนฺติ จตุจตฺตารีสาย วตฺถูหิ. เย หิ เกจิ, ภิกฺขเว, สมณา วา พฺราหฺมณา วา อปรนฺตกปฺปิกา อปรนฺตานุทิฏฺิโน อปรนฺตํ อารพฺภ อเนกวิหิตานิ อธิมุตฺติปทานิ อภิวทนฺติ, สพฺเพ เต อิเมเหว จตุจตฺตารีสาย วตฺถูหิ…เป… ¶ เยหิ ตถาคตสฺส ยถาภุจฺจํ วณฺณํ สมฺมา วทมานา วเทยฺยุํ.
๑๐๑. ‘‘อิเมหิ โข เต, ภิกฺขเว, สมณพฺราหฺมณา ปุพฺพนฺตกปฺปิกา จ อปรนฺตกปฺปิกา จ ปุพฺพนฺตาปรนฺตกปฺปิกา จ ปุพฺพนฺตาปรนฺตานุทิฏฺิโน ปุพฺพนฺตาปรนฺตํ อารพฺภ อเนกวิหิตานิ อธิมุตฺติปทานิ อภิวทนฺติ ทฺวาสฏฺิยา วตฺถูหิ.
๑๐๒. ‘‘เย หิ เกจิ, ภิกฺขเว, สมณา วา พฺราหฺมณา วา ปุพฺพนฺตกปฺปิกา วา อปรนฺตกปฺปิกา วา ปุพฺพนฺตาปรนฺตกปฺปิกา วา ปุพฺพนฺตาปรนฺตานุทิฏฺิโน ปุพฺพนฺตาปรนฺตํ อารพฺภ อเนกวิหิตานิ อธิมุตฺติปทานิ ¶ อภิวทนฺติ, สพฺเพ เต อิเมเหว ทฺวาสฏฺิยา วตฺถูหิ, เอเตสํ วา อฺตเรน; นตฺถิ อิโต พหิทฺธา.
๑๐๓. ‘‘ตยิทํ, ภิกฺขเว, ตถาคโต ปชานาติ – ‘อิเม ทิฏฺิฏฺานา เอวํคหิตา เอวํปรามฏฺา เอวํคติกา ภวนฺติ เอวํอภิสมฺปรายา’ติ. ตฺจ ตถาคโต ปชานาติ, ตโต จ อุตฺตริตรํ ปชานาติ, ตฺจ ปชานนํ น ปรามสติ, อปรามสโต จสฺส ปจฺจตฺตฺเว นิพฺพุติ ¶ วิทิตา. เวทนานํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ ยถาภูตํ วิทิตฺวา อนุปาทาวิมุตฺโต, ภิกฺขเว, ตถาคโต.
๑๐๔. ‘‘อิเม ¶ โข เต, ภิกฺขเว, ธมฺมา คมฺภีรา ทุทฺทสา ทุรนุโพธา สนฺตา ปณีตา อตกฺกาวจรา นิปุณา ปณฺฑิตเวทนียา, เย ตถาคโต สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทติ, เยหิ ตถาคตสฺส ยถาภุจฺจํ วณฺณํ สมฺมา วทมานา วเทยฺยุํ.
ปริตสฺสิตวิปฺผนฺทิตวาโร
๑๐๕. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา สสฺสตวาทา สสฺสตํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ จตูหิ วตฺถูหิ ¶ , ตทปิ เตสํ ภวตํ สมณพฺราหฺมณานํ อชานตํ อปสฺสตํ เวทยิตํ ตณฺหาคตานํ ปริตสฺสิตวิปฺผนฺทิตเมว.
๑๐๖. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา เอกจฺจสสฺสติกา เอกจฺจอสสฺสติกา เอกจฺจํ สสฺสตํ เอกจฺจํ อสสฺสตํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ จตูหิ วตฺถูหิ, ตทปิ เตสํ ภวตํ สมณพฺราหฺมณานํ อชานตํ อปสฺสตํ เวทยิตํ ตณฺหาคตานํ ปริตสฺสิตวิปฺผนฺทิตเมว.
๑๐๗. ‘‘ตตฺร ¶ , ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา อนฺตานนฺติกา อนฺตานนฺตํ โลกสฺส ปฺเปนฺติ จตูหิ วตฺถูหิ, ตทปิ เตสํ ภวตํ สมณพฺราหฺมณานํ อชานตํ อปสฺสตํ เวทยิตํ ตณฺหาคตานํ ปริตสฺสิตวิปฺผนฺทิตเมว.
๑๐๘. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา อมราวิกฺเขปิกา ตตฺถ ตตฺถ ปฺหํ ปุฏฺา สมานา วาจาวิกฺเขปํ อาปชฺชนฺติ อมราวิกฺเขปํ จตูหิ วตฺถูหิ, ตทปิ เตสํ ภวตํ สมณพฺราหฺมณานํ อชานตํ อปสฺสตํ เวทยิตํ ตณฺหาคตานํ ปริตสฺสิตวิปฺผนฺทิตเมว.
๑๐๙. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา อธิจฺจสมุปฺปนฺนิกา อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ ทฺวีหิ วตฺถูหิ, ตทปิ เตสํ ภวตํ สมณพฺราหฺมณานํ อชานตํ อปสฺสตํ เวทยิตํ ตณฺหาคตานํ ปริตสฺสิตวิปฺผนฺทิตเมว.
๑๑๐. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา ปุพฺพนฺตกปฺปิกา ปุพฺพนฺตานุทิฏฺิโน ปุพฺพนฺตํ ¶ อารพฺภ อเนกวิหิตานิ อธิมุตฺติปทานิ อภิวทนฺติ อฏฺารสหิ ¶ วตฺถูหิ, ตทปิ เตสํ ภวตํ สมณพฺราหฺมณานํ อชานตํ อปสฺสตํ เวทยิตํ ตณฺหาคตานํ ปริตสฺสิตวิปฺผนฺทิตเมว.
๑๑๑. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา อุทฺธมาฆาตนิกา สฺีวาทา อุทฺธมาฆาตนํ สฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ โสฬสหิ วตฺถูหิ, ตทปิ เตสํ ภวตํ สมณพฺราหฺมณานํ อชานตํ อปสฺสตํ เวทยิตํ ตณฺหาคตานํ ปริตสฺสิตวิปฺผนฺทิตเมว.
๑๑๒. ‘‘ตตฺร ¶ ¶ , ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา อุทฺธมาฆาตนิกา อสฺีวาทา อุทฺธมาฆาตนํ อสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อฏฺหิ วตฺถูหิ, ตทปิ เตสํ ภวตํ สมณพฺราหฺมณานํ อชานตํ อปสฺสตํ เวทยิตํ ตณฺหาคตานํ ปริตสฺสิตวิปฺผนฺทิตเมว.
๑๑๓. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา อุทฺธมาฆาตนิกา เนวสฺีนาสฺีวาทา อุทฺธมาฆาตนํ เนวสฺีนาสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อฏฺหิ วตฺถูหิ, ตทปิ เตสํ ภวตํ สมณพฺราหฺมณานํ อชานตํ อปสฺสตํ เวทยิตํ ตณฺหาคตานํ ปริตสฺสิตวิปฺผนฺทิตเมว.
๑๑๔. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา อุจฺเฉทวาทา สโต สตฺตสฺส อุจฺเฉทํ วินาสํ วิภวํ ปฺเปนฺติ สตฺตหิ วตฺถูหิ, ตทปิ เตสํ ภวตํ สมณพฺราหฺมณานํ อชานตํ อปสฺสตํ เวทยิตํ ตณฺหาคตานํ ปริตสฺสิตวิปฺผนฺทิตเมว.
๑๑๕. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา ทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาทา สโต สตฺตสฺส ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ ปฺเปนฺติ ปฺจหิ วตฺถูหิ, ตทปิ เตสํ ภวตํ สมณพฺราหฺมณานํ อชานตํ อปสฺสตํ เวทยิตํ ตณฺหาคตานํ ปริตสฺสิตวิปฺผนฺทิตเมว.
๑๑๖. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา อปรนฺตกปฺปิกา อปรนฺตานุทิฏฺิโน อปรนฺตํ อารพฺภ อเนกวิหิตานิ อธิมุตฺติปทานิ อภิวทนฺติ จตุจตฺตารีสาย วตฺถูหิ, ตทปิ เตสํ ภวตํ สมณพฺราหฺมณานํ อชานตํ อปสฺสตํ เวทยิตํ ตณฺหาคตานํ ปริตสฺสิตวิปฺผนฺทิตเมว.
๑๑๗. ‘‘ตตฺร ¶ ¶ , ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา ปุพฺพนฺตกปฺปิกา จ อปรนฺตกปฺปิกา จ ¶ ปุพฺพนฺตาปรนฺตกปฺปิกา จ ปุพฺพนฺตาปรนฺตานุทิฏฺิโน ปุพฺพนฺตาปรนฺตํ อารพฺภ อเนกวิหิตานิ อธิมุตฺติปทานิ อภิวทนฺติ ทฺวาสฏฺิยา วตฺถูหิ, ตทปิ เตสํ ภวตํ สมณพฺราหฺมณานํ อชานตํ อปสฺสตํ เวทยิตํ ตณฺหาคตานํ ปริตสฺสิตวิปฺผนฺทิตเมว.
ผสฺสปจฺจยาวาโร
๑๑๘. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา สสฺสตวาทา ¶ สสฺสตํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ จตูหิ วตฺถูหิ, ตทปิ ผสฺสปจฺจยา.
๑๑๙. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา เอกจฺจสสฺสติกา เอกจฺจอสสฺสติกา เอกจฺจํ สสฺสตํ เอกจฺจํ อสสฺสตํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ จตูหิ วตฺถูหิ, ตทปิ ผสฺสปจฺจยา.
๑๒๐. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา อนฺตานนฺติกา อนฺตานนฺตํ โลกสฺส ปฺเปนฺติ จตูหิ วตฺถูหิ, ตทปิ ผสฺสปจฺจยา.
๑๒๑. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา อมราวิกฺเขปิกา ตตฺถ ตตฺถ ปฺหํ ปุฏฺา สมานา วาจาวิกฺเขปํ อาปชฺชนฺติ อมราวิกฺเขปํ จตูหิ วตฺถูหิ, ตทปิ ผสฺสปจฺจยา.
๑๒๒. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา อธิจฺจสมุปฺปนฺนิกา อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ ทฺวีหิ วตฺถูหิ, ตทปิ ผสฺสปจฺจยา.
๑๒๓. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา ปุพฺพนฺตกปฺปิกา ปุพฺพนฺตานุทิฏฺิโน ปุพฺพนฺตํ อารพฺภ อเนกวิหิตานิ อธิมุตฺติปทานิ อภิวทนฺติ ¶ อฏฺารสหิ วตฺถูหิ, ตทปิ ผสฺสปจฺจยา.
๑๒๔. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา อุทฺธมาฆาตนิกา สฺีวาทา อุทฺธมาฆาตนํ สฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ โสฬสหิ วตฺถูหิ, ตทปิ ผสฺสปจฺจยา.
๑๒๕. ‘‘ตตฺร ¶ ¶ , ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา อุทฺธมาฆาตนิกา อสฺีวาทา อุทฺธมาฆาตนํ อสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อฏฺหิ วตฺถูหิ, ตทปิ ผสฺสปจฺจยา.
๑๒๖. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา อุทฺธมาฆาตนิกา เนวสฺีนาสฺีวาทา อุทฺธมาฆาตนํ เนวสฺีนาสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อฏฺหิ วตฺถูหิ, ตทปิ ผสฺสปจฺจยา.
๑๒๗. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา อุจฺเฉทวาทา สโต สตฺตสฺส อุจฺเฉทํ วินาสํ วิภวํ ปฺเปนฺติ สตฺตหิ วตฺถูหิ, ตทปิ ผสฺสปจฺจยา.
๑๒๘. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา ทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาทา สโต สตฺตสฺส ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ ปฺเปนฺติ ปฺจหิ วตฺถูหิ, ตทปิ ผสฺสปจฺจยา.
๑๒๙. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา อปรนฺตกปฺปิกา ¶ อปรนฺตานุทิฏฺิโน อปรนฺตํ อารพฺภ อเนกวิหิตานิ อธิมุตฺติปทานิ อภิวทนฺติ จตุจตฺตารีสาย วตฺถูหิ, ตทปิ ผสฺสปจฺจยา.
๑๓๐. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา ปุพฺพนฺตกปฺปิกา จ อปรนฺตกปฺปิกา ¶ จ ปุพฺพนฺตาปรนฺตกปฺปิกา จ ปุพฺพนฺตาปรนฺตานุทิฏฺิโน ปุพฺพนฺตาปรนฺตํ อารพฺภ อเนกวิหิตานิ อธิมุตฺติปทานิ อภิวทนฺติ ทฺวาสฏฺิยา วตฺถูหิ, ตทปิ ผสฺสปจฺจยา.
เนตํ านํ วิชฺชติวาโร
๑๓๑. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา สสฺสตวาทา สสฺสตํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ จตูหิ วตฺถูหิ, เต วต อฺตฺร ผสฺสา ปฏิสํเวทิสฺสนฺตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ.
๑๓๒. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา เอกจฺจสสฺสติกา เอกจฺจ อสสฺสติกา เอกจฺจํ สสฺสตํ เอกจฺจํ อสสฺสตํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ จตูหิ วตฺถูหิ, เต วต อฺตฺร ผสฺสา ปฏิสํเวทิสฺสนฺตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ.
๑๓๓. ‘‘ตตฺร ¶ ¶ , ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา อนฺตานนฺติกา อนฺตานนฺตํ โลกสฺส ปฺเปนฺติ จตูหิ วตฺถูหิ, เต วต อฺตฺร ผสฺสา ปฏิสํเวทิสฺสนฺตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ.
๑๓๔. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา อมราวิกฺเขปิกา ตตฺถ ตตฺถ ปฺหํ ปุฏฺา สมานา วาจาวิกฺเขปํ อาปชฺชนฺติ อมราวิกฺเขปํ จตูหิ วตฺถูหิ, เต วต อฺตฺร ผสฺสา ปฏิสํเวทิสฺสนฺตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ.
๑๓๕. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา อธิจฺจสมุปฺปนฺนิกา อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ ทฺวีหิ วตฺถูหิ, เต วต อฺตฺร ผสฺสา ปฏิสํเวทิสฺสนฺตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ.
๑๓๖. ‘‘ตตฺร ¶ , ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา ปุพฺพนฺตกปฺปิกา ปุพฺพนฺตานุทิฏฺิโน ปุพฺพนฺตํ อารพฺภ อเนกวิหิตานิ อธิมุตฺติปทานิ อภิวทนฺติ อฏฺารสหิ วตฺถูหิ, เต วต อฺตฺร ผสฺสา ปฏิสํเวทิสฺสนฺตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ.
๑๓๗. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา อุทฺธมาฆาตนิกา ¶ สฺีวาทา อุทฺธมาฆาตนํ สฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ โสฬสหิ วตฺถูหิ, เต วต อฺตฺร ผสฺสา ปฏิสํเวทิสฺสนฺตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ.
๑๓๘. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา อุทฺธมาฆาตนิกา อสฺีวาทา, อุทฺธมาฆาตนํ อสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อฏฺหิ วตฺถูหิ, เต วต อฺตฺร ผสฺสา ปฏิสํเวทิสฺสนฺตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ.
๑๓๙. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา อุทฺธมาฆาตนิกา เนวสฺีนาสฺีวาทา อุทฺธมาฆาตนํ เนวสฺีนาสฺึ อตฺตานํ ปฺเปนฺติ อฏฺหิ วตฺถูหิ, เต วต อฺตฺร ผสฺสา ปฏิสํเวทิสฺสนฺตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ.
๑๔๐. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา อุจฺเฉทวาทา สโต สตฺตสฺส อุจฺเฉทํ วินาสํ วิภวํ ปฺเปนฺติ สตฺตหิ วตฺถูหิ, เต วต อฺตฺร ผสฺสา ปฏิสํเวทิสฺสนฺตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ.
๑๔๑. ‘‘ตตฺร ¶ ¶ , ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา ทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาทา สโต สตฺตสฺส ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ ปฺเปนฺติ ปฺจหิ วตฺถูหิ, เต วต อฺตฺร ผสฺสา ปฏิสํเวทิสฺสนฺตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ.
๑๔๒. ‘‘ตตฺร ¶ , ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา อปรนฺตกปฺปิกา อปรนฺตานุทิฏฺิโน อปรนฺตํ อารพฺภ อเนกวิหิตานิ อธิมุตฺติปทานิ อภิวทนฺติ จตุจตฺตารีสาย วตฺถูหิ, เต วต อฺตฺร ผสฺสา ปฏิสํเวทิสฺสนฺตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ.
๑๔๓. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา ปุพฺพนฺตกปฺปิกา จ อปรนฺตกปฺปิกา จ ปุพฺพนฺตาปรนฺตกปฺปิกา จ ปุพฺพนฺตาปรนฺตานุทิฏฺิโน ปุพฺพนฺตาปรนฺตํ อารพฺภ อเนกวิหิตานิ อธิมุตฺติปทานิ อภิวทนฺติ ทฺวาสฏฺิยา วตฺถูหิ, เต วต อฺตฺร ผสฺสา ปฏิสํเวทิสฺสนฺตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ.
ทิฏฺิคติกาธิฏฺานวฏฺฏกถา
๑๔๔. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา สสฺสตวาทา สสฺสตํ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ จตูหิ วตฺถูหิ, เยปิ เต สมณพฺราหฺมณา เอกจฺจสสฺสติกา เอกจฺจอสสฺสติกา…เป… เยปิ เต สมณพฺราหฺมณา อนฺตานนฺติกา… เยปิ เต สมณพฺราหฺมณา อมราวิกฺเขปิกา… เยปิ เต สมณพฺราหฺมณา ¶ อธิจฺจสมุปฺปนฺนิกา… เยปิ เต สมณพฺราหฺมณา ปุพฺพนฺตกปฺปิกา… เยปิ เต สมณพฺราหฺมณา อุทฺธมาฆาตนิกา สฺีวาทา… เยปิ เต สมณพฺราหฺมณา อุทฺธมาฆาตนิกา อสฺีวาทา… เยปิ เต สมณพฺราหฺมณา อุทฺธมาฆาตนิกา เนวสฺีนาสฺีวาทา… เยปิ เต สมณพฺราหฺมณา อุจฺเฉทวาทา… เยปิ เต สมณพฺราหฺมณา ทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาทา… เยปิ เต สมณพฺราหฺมณา อปรนฺตกปฺปิกา… เยปิ เต สมณพฺราหฺมณา ปุพฺพนฺตกปฺปิกา จ อปรนฺตกปฺปิกา ¶ จ ปุพฺพนฺตาปรนฺตกปฺปิกา จ ปุพฺพนฺตาปรนฺตานุทิฏฺิโน ปุพฺพนฺตาปรนฺตํ อารพฺภ อเนกวิหิตานิ อธิมุตฺติปทานิ อภิวทนฺติ ทฺวาสฏฺิยา วตฺถูหิ, สพฺเพ เต ฉหิ ผสฺสายตเนหิ ผุสฺส ผุสฺส ปฏิสํเวเทนฺติ เตสํ เวทนาปจฺจยา ตณฺหา, ตณฺหาปจฺจยา อุปาทานํ, อุปาทานปจฺจยา ภโว, ภวปจฺจยา ชาติ, ชาติปจฺจยา ชรามรณํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา สมฺภวนฺติ.
วิวฏฺฏกถาทิ
๑๔๕. ‘‘ยโต ¶ ¶ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ฉนฺนํ ผสฺสายตนานํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ ยถาภูตํ ปชานาติ, อยํ อิเมหิ สพฺเพเหว อุตฺตริตรํ ปชานาติ.
๑๔๖. ‘‘เย หิ เกจิ, ภิกฺขเว, สมณา วา พฺราหฺมณา วา ปุพฺพนฺตกปฺปิกา วา อปรนฺตกปฺปิกา วา ปุพฺพนฺตาปรนฺตกปฺปิกา วา ปุพฺพนฺตาปรนฺตานุทิฏฺิโน ปุพฺพนฺตาปรนฺตํ อารพฺภ อเนกวิหิตานิ อธิมุตฺติปทานิ อภิวทนฺติ, สพฺเพ เต อิเมเหว ทฺวาสฏฺิยา วตฺถูหิ อนฺโตชาลีกตา, เอตฺถ สิตาว อุมฺมุชฺชมานา อุมฺมุชฺชนฺติ, เอตฺถ ปริยาปนฺนา อนฺโตชาลีกตาว อุมฺมุชฺชมานา อุมฺมุชฺชนฺติ.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ทกฺโข เกวฏฺโฏ วา เกวฏฺฏนฺเตวาสี วา สุขุมจฺฉิเกน ชาเลน ปริตฺตํ อุทกทหํ [อุทกรหทํ (สี. สฺยา. ปี.)] โอตฺถเรยฺย. ตสฺส เอวมสฺส – ‘เย โข เกจิ อิมสฺมึ อุทกทเห โอฬาริกา ปาณา, สพฺเพ เต อนฺโตชาลีกตา. เอตฺถ สิตาว อุมฺมุชฺชมานา ¶ อุมฺมุชฺชนฺติ; เอตฺถ ปริยาปนฺนา อนฺโตชาลีกตาว ¶ อุมฺมุชฺชมานา อุมฺมุชฺชนฺตี’ติ; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, เย หิ เกจิ สมณา วา พฺราหฺมณา วา ปุพฺพนฺตกปฺปิกา วา อปรนฺตกปฺปิกา วา ปุพฺพนฺตาปรนฺตกปฺปิกา วา ปุพฺพนฺตาปรนฺตานุทิฏฺิโน ปุพฺพนฺตาปรนฺตํ อารพฺภ อเนกวิหิตานิ อธิมุตฺติปทานิ อภิวทนฺติ, สพฺเพ เต อิเมเหว ทฺวาสฏฺิยา วตฺถูหิ อนฺโตชาลีกตา เอตฺถ สิตาว อุมฺมุชฺชมานา อุมฺมุชฺชนฺติ, เอตฺถ ปริยาปนฺนา อนฺโตชาลีกตาว อุมฺมุชฺชมานา อุมฺมุชฺชนฺติ.
๑๔๗. ‘‘อุจฺฉินฺนภวเนตฺติโก, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺส กาโย ติฏฺติ. ยาวสฺส กาโย สฺสติ, ตาว นํ ทกฺขนฺติ เทวมนุสฺสา. กายสฺส เภทา อุทฺธํ ชีวิตปริยาทานา น นํ ทกฺขนฺติ เทวมนุสฺสา.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อมฺพปิณฺฑิยา วณฺฏจฺฉินฺนาย ยานิ กานิจิ อมฺพานิ วณฺฏปฏิพนฺธานิ [วณฺฏูปนิพนฺธนานิ (สี. ปี.), วณฺฑปฏิพทฺธานิ (ก.)], สพฺพานิ ตานิ ตทนฺวยานิ ภวนฺติ; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, อุจฺฉินฺนภวเนตฺติโก ตถาคตสฺส กาโย ติฏฺติ, ยาวสฺส กาโย สฺสติ, ตาว นํ ทกฺขนฺติ เทวมนุสฺสา, กายสฺส เภทา อุทฺธํ ชีวิตปริยาทานา น นํ ทกฺขนฺติ เทวมนุสฺสา’’ติ.
๑๔๘. เอวํ ¶ ¶ วุตฺเต อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อจฺฉริยํ, ภนฺเต, อพฺภุตํ, ภนฺเต, โก นาโม อยํ, ภนฺเต, ธมฺมปริยาโย’’ติ? ‘‘ตสฺมาติห ตฺวํ, อานนฺท, อิมํ ธมฺมปริยายํ อตฺถชาลนฺติปิ นํ ธาเรหิ, ธมฺมชาลนฺติปิ นํ ธาเรหิ, พฺรหฺมชาลนฺติปิ นํ ธาเรหิ, ทิฏฺิชาลนฺติปิ นํ ธาเรหิ, อนุตฺตโร ¶ สงฺคามวิชโยติปิ นํ ธาเรหี’’ติ. อิทมโวจ ภควา.
๑๔๙. อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ. อิมสฺมิฺจ ปน เวยฺยากรณสฺมึ ภฺมาเน ทสสหสฺสี [สหสฺสี (กตฺถจิ)] โลกธาตุ อกมฺปิตฺถาติ.
พฺรหฺมชาลสุตฺตํ นิฏฺิตํ ปมํ.