📜

๑๒. โลหิจฺจสุตฺตวณฺณนา

โลหิจฺจพฺราหฺมณวตฺถุวณฺณนา

๕๐๑. สาลวติกาติ อิตฺถิลิงฺควเสน ตสฺส คามสฺส นามํ. คามณิกาภาเวนาติ เกจิ. โลหิโต นาม ตสฺส กุเล ปุพฺพปุริโส, ตสฺส วเสน โลหิจฺโจติ ตสฺส พฺราหฺมณสฺส โคตฺตโต อาคตํ นามํ.

๕๐๒. ‘‘ทิฏฺิคต’’นฺติ ลทฺธิมตฺตํ อธิปฺเปตนฺติ อาห ‘‘น ปน อุจฺเฉทสสฺสตานํ อฺตร’’นฺติ. น หิ อุจฺเฉทสสฺสตคาหวินิมุตฺโต โกจิ ทิฏฺิคาโห อตฺถิ. ‘‘ภาสติ เยวา’’ติ ตสฺสา ลทฺธิยา โลเก ปากฏภาวํ ทสฺเสติ. อตฺตโต อฺโ ปโรติ ยถา อนุสาสกโต อนุสาสิตพฺโพ ปโร, เอวํ อนุสาสิตพฺพโตปิ อนุสาสโก ปโรติ วุตฺตํ ‘‘ปโร ปรสฺสาติ ปโร โย’’ติอาทิ. กึ-สทฺทาเปกฺขาย เจตฺถ ‘‘กริสฺสตี’’ติ อนาคตกาลวจนํ, อนาคเตปิ วา เตน ตสฺส กาตพฺพํ นตฺถีติ ทสฺสนตฺถํ. กุสลํ ธมฺมนฺติ อนวชฺชธมฺมํ นิกฺกิเลสธมฺมํ วิโมกฺขธมฺมนฺติ อตฺโถ. ‘‘ปเรสํ ธมฺมํ กเถสฺสามี’’ติ เตหิ อตฺตานํ ปริวาราเปตฺวา วิจรณํ กึ อตฺถิยํ อาสยพุทฺธสฺสาปิ อนุโรเธน วินา ตํ น โหตีติ ตสฺมา อตฺตนา ปฏิลทฺธํ…เป… วิหาตพฺพนฺติ วทติ. เตนาห ‘‘เอวํ สมฺปทมิทํ ปาปกํ โลภธมฺมํ วทามี’’ติ.

๕๐๔. โสติ โลหิจฺโจ พฺราหฺมโณ.

๕๐๘. กถาผาสุกตฺถนฺติ กถาสุขตฺถํ, สุเขน กถํ กเถตุฺเจว โสตุฺจาติ อตฺโถ. อปฺเปว นาม สิยาติ เอตฺถ ปีติวเสน อาเมฑิตํ ทฏฺพฺพํ. ตถา หิ ตํ ‘‘พุทฺธคชฺชิต’’นฺติ วุจฺจติ . ภควา หิ อีทิเสสุ าเนสุ วิเสสโต ปีติโสมนสฺสชาโต โหติ. เตนาห ‘‘อยํ กิเรตฺถ อธิปฺปาโย’’ติอาทิ.

โลหิจฺจพฺราหฺมณานุโยควณฺณนา

๕๐๙. สมุทยสฺชาตีติ อายุปฺปาโท. อนุปุพฺโพ กมฺปี-สทฺโท อากงฺขนตฺโถ โหตีติ ‘‘อิจฺฉตีติ อตฺโถ’’ติ วุตฺตํ. สาติสเยน วา หิเตน อนุกมฺปโก อนุคฺคณฺหนโก หิตานุกมฺปี. สมฺปชฺชตีติ อาเสวนลาเภน นิปฺปชฺชติ พลวตี โหติ, อวคฺคหาติ อตฺโถ, เตนาห ‘‘นิยตา โหตี’’ติ. นิรเย นิพฺพตฺตติ มิจฺฉาทิฏฺิโก.

๕๑๐-๑๑. ทุติยํ อุปปตฺตินฺติ ‘‘นนุ ราชา ปเสนที โกสโล’’ติอาทินา ทุติยํ อุปปตฺตึ สาธนยุตฺตึ. การณฺหิ ภควา อุปมามุเขน ทสฺเสติ. เย จิเมติ เย จ อิเม กุลปุตฺตา ทิพฺพา คพฺภา ปริปาเจนฺตีติ โยชนา. อสกฺกุณนฺตา อุปนิสฺสยสมฺปตฺติยา, าณปริปากสฺส วา อภาเวน. เย ปน ‘‘ปริปจฺจนฺตี’’ติ ปนฺติ, เตสํ ‘‘ทิพฺเพ คพฺเภ’’ติ วจนวิปลฺลาเสน ปโยชนํ นตฺถิ. อตฺโถ จ ทุติยวิกปฺเป วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ. อหิตานุกมฺปิตา จ ตํสมงฺคิสตฺตวเสน. ทิวิ ภวาติ ทิพฺพา. คพฺเภนฺติ ปริปจฺจนวเสน สนฺตานํ ปพนฺเธนฺตีติ คพฺภา. ‘‘ฉนฺนํ เทวโลกาน’’นฺติ นิทสฺสนวจนเมตํ. พฺรหฺมโลกสฺสาปิ หิ ทิพฺพคพฺภภาโว ลพฺภเตว ทิพฺพวิหารเหตุกตฺตา. เอวฺจ กตฺวา ‘‘ภาวนํ ภาวยมานา’’ติ อิทมฺปิ วจนํ สมตฺถิตํ โหติ. ภวนฺติ เอตฺถ ยถารุจิ สุขสมปฺปิตาติ ภวา, วิมานานิ. เทวภาวาวหตฺตา ทิพฺพา. วุตฺตนเยเนว คพฺภา. ทานาทโย เทวโลกสํวตฺตนิยปุฺวิเสสา.ทิพฺพา ภวาติ เทวโลกปริยาปนฺนา อุปปตฺติภวา. ตทาวโห หิ กมฺมภโว ปุพฺเพ คหิโต.

ตโยโจทนารหวณฺณนา

๕๑๓. อนิยมิเตเนวาติ อนิยเมเนว ‘‘ตฺวํ เอวํทิฏฺิโก เอวํ สตฺตานํ อนตฺถสฺส การโก’’ติ เอวํ อนุทฺเทสิเกเนว . มานนฺติ ‘‘อหเมตํ ชานามิ, อหเมตํ ปสฺสามี’’ติ เอวํ ปณฺฑิตมานํ. ภินฺทิตฺวาติ วิธเมตฺวา, ชหาเปตฺวาติ อตฺโถ. ตโย สตฺถาเรติ อสมฺปาทิตอตฺตหิโต อโนวาทกรสาวโก, อสมฺปาทิตอตฺตหิโต โอวาทกรสาวโก, สมฺปาทิตอตฺตหิโต อโนวาทกรสาวโกติ อิเม ตโย สตฺถาเร. จตุตฺโถ ปน สมฺมาสมฺพุทฺโธ น โจทนารโห โหตีติ ‘‘เตน ปุจฺฉิเต เอว กเถสฺสามี’’ติ โจทนารเห ตโย สตฺถาเร ปมํ ทสฺเสสิ , ปจฺฉา จตุตฺถํสตฺถารํ. กามฺเจตฺถ จตุตฺโถ สตฺถา เอโก อทุติโย อนฺสาธารโณ, ตถาปิ โส เยสํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมานํ วเสน ‘‘ธมฺมมโย กาโย’’ติ วุจฺจติ, เตสํ สมุทายภูโตปิ เต คุณาวยเว สตฺถุฏฺานิเย กตฺวา ทสฺเสนฺโต ภควา ‘‘อยมฺปิ โข, โลหิจฺจ, สตฺถา’’ติ อภาสิ.

อฺาติ ย-การโลเปน นิทฺเทโส ‘‘สยํ อภิฺา’’ติ อาทีสุ (ที. นิ. ๑.๒๘, ๓๗, ๕๒; ม. นิ. ๑.๒๘๔; ๒.๓๔๑; อ. นิ. ๒.๕; ๑๐.๑๑; มหาว. ๑๑; ธ. ป. ๓๕๓; กถา. ๔๐๕) วิย. อฺายาติ จ ตทตฺถิเย สมฺปทานวจนนฺติ อาห ‘‘อาชานนตฺถายา’’ติ. สาวกตฺตํ ปฏิชานิตฺวา ิตตฺตา เอกเทเสนสฺส สาสนํ กโรนฺตีติ อาห ‘‘นิรนฺตรํ ตสฺส สาสนํ อกตฺวา’’ติ. อุกฺกมิตฺวา วตฺตนฺตีติ ยถิจฺฉิตํ กโรนฺตีติ อตฺโถ. ปฏิกฺกมนฺติยาติ อนภิรติยา อคารเวน อปคจฺฉนฺติยา, เตนาห ‘‘อนิจฺฉนฺติยา’’ติอาทิ. เอกายาติ เอกาย อิตฺถิยา. เอโก อิจฺเฉยฺยาติ เอโก ปุริโส ตาย อนิจฺฉนฺติยา สมฺปโยคํ กาเมยฺย. โอสกฺกนาทิมุเขน อิตฺถิปุริสสมฺพนฺธนิทสฺสนํ เคหสิตอเปกฺขาวเสน ตสฺส สตฺถุโน สาวเกสุ ปฏิปตฺตีติ ทสฺเสติ. อติวิย วิรตฺตภาวโต ทฏฺุมฺปิ อนิจฺฉมานํ. โลเภนาติ ปริวารวเสน อุปฺปชฺชนกลาภสกฺการโลเภน. ตตฺถ สมฺปาเทหีติ ตสฺมึ ปฏิปตฺติธมฺเม ปติฏฺิตํ กตฺวา สมฺปาเทหิ. อุชุํ กโรหิ กายวงฺกาทิวิคเมน.

๕๑๕. เอวํ โจทนํ อรหตีติ เอวํ วุตฺตนเยน สาวเกสุ อปฺโปสฺสุกฺกภาวาปาทเน นิโยชนวเสน โจทนํ อรหติ, น ปโม วิย ‘‘เอวรูโป ตว โลภธมฺโม’’ติอาทินา, น จ ทุติโย วิย ‘‘อตฺตานเมว ตาว ตตฺถ สมฺปาเทหี’’ติอาทินา. กสฺมา? สมฺปาทิตอตฺตหิตตาย ตติยสฺส.

นโจทนารหสตฺถุวณฺณนา

๕๑๖. ‘‘น โจทนารโห’’ติ เอตฺถ ยสฺมา โจทนารหตา นาม สตฺถุวิปฺปฏิปตฺติยา วา สาวกวิปฺปฏิปตฺติยา วา อุภยวิปฺปฏิปตฺติยา วา, ตยิทํ สพฺพมฺปิ อิมสฺมึ สตฺถริ นตฺถิ, ตสฺมา น โจทนารโหติ อิมมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘อยฺหี’’ติอาทิ วุตฺตํ.

๕๑๗. มยาคหิตาย ทิฏฺิยาติ สพฺพโส อนวชฺเช สมฺมาปฏิปนฺเน ปเรสํ สมฺมเทว สมฺมาปฏิปตฺตึ เทสฺเสนฺเต สตฺถริ อภูตโทสาโรปนวเสน มิจฺฉาคหิตาย นิรยคามินิยา ปาปทิฏฺิยา . นรกปปาตนฺติ นรกสงฺขาตํ มหาปปาตํ. ปปตนฺติ ตตฺถาติ หิ ปปาโต. สคฺคมคฺคถเลติ สคฺคคามิมคฺคภูเต ปุฺธมฺมถเล. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.

โลหิจฺจสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา.