📜

๑๓. เตวิชฺชสุตฺตวณฺณนา

๕๑๘. อุตฺตเรนาติ เอตฺถ เอน-สทฺโท ทิสาวาจีสทฺทโต ปฺจมีอนฺตโต อทูรตฺโถ อิจฺฉิโต, ตสฺมา อุตฺตเรน-สทฺเทน อทูรตฺถโชตนํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อทูเร อุตฺตรปสฺเส’’ติ อาห. อกฺขรจินฺตกา ปน เอน-สทฺทโยเค อวธิวาจินิ ปเท อุปโยควจนํ อิจฺฉนฺติ. อตฺโถ ปน สามิวเสเนว อิจฺฉิโตติ อิธ สามิวจนวเสเนว วุตฺตํ.

๕๑๙. กุลจาริตฺตาทีติ อาทิ-สทฺเทน มนฺตชฺเฌนาภิรูปตาทิสมฺปตฺตึ สงฺคณฺหาติ. มนฺตสชฺฌายกรณตฺถนฺติ อาถพฺพณมนฺตานํ สชฺฌายกรณตฺถํ, เตนาห ‘‘อฺเสํ พหูนํ ปเวสนํ นิวาเรตฺวา’’ติ.

มคฺคามคฺคกถาวณฺณนา

๕๒๐. ‘‘ชงฺฆจาร’’นฺติ จงฺกมโต อิโต จิโต จ จรณมาห. โส หิ ชงฺฆาสุ กิลมถวิโนทนตฺโถ จาโรติ ตถา วุตฺโต. เตนาห ‘‘อนุจงฺกมนฺตานํ อนุวิจรนฺตาน’’นฺติ. เตนาติ อุโภสุปิ อนุจงฺกมนานุวิจารณานํ ลพฺภนโต. สหายา หิ เต อฺมฺ สภาควุตฺติกา. ‘‘มคฺโค’’ติ อิจฺฉิตฏฺานํ อุชุกํ มคฺคติ อุปคจฺฉติ เอเตนาติ มคฺโค, อุชุมคฺโค. ตทฺโ อมคฺโค, ตสฺมึ มคฺเค จ อมคฺเค จ. ปฏิปทนฺติ พฺรหฺมโลกคามิมคฺคสฺส ปุพฺพภาคปฏิปทํ.

นิยฺยาตีติ นิยฺยานีโย, โส เอว ‘‘นิยฺยานิโก’’ติ วุตฺโตติ อาห ‘‘นิยฺยายนฺโต’’ติ. ยสฺมา นิยฺยาตปุคฺคลวเสนสฺส นิยฺยานิกภาโว , ตสฺมา ‘‘นิยฺยายนฺโต’’ติ ปุคฺคลสฺส โยนิโส ปฏิปชฺชนวเสน นิยฺยายนฺโต มคฺโค ‘‘นิยฺยาตี’’ติ วุตฺโต. กโรตีติ อตฺตโน สนฺตาเน อุปฺปาเทติ. อุปฺปาเทนฺโตเยว หิ ตตฺถ ปฏิปชฺชติ นาม. สห พฺเยติ วตฺตตีติ สหพฺโย, สหวตฺตนโก . ตสฺส ภาโว สหพฺยตาติ อาห ‘‘สหภาวายา’’ติอาทิ. สหภาโวติ จ สโลกตา, สมีปตา วา เวทิตพฺพา, เตนาห ‘‘เอกฏฺาเน ปาตุภาวายา’’ติ. สกเมว อาจริยวาทนฺติ อตฺตโน อาจริเยน โปกฺขรสาตินา กถิตเมว อาจริยวาทํ. โถเมตฺวา ปคฺคณฺหิตฺวา ‘‘อยเมว อุชุมคฺโค อยมฺชสายโน’’ติ ปสํสิตฺวา อุกฺกํสิตฺวา. ภารทฺวาโชปิสกเมวาติ ภารทฺวาโชปิ มาณโว อตฺตโน อาจริเยน ตารุกฺเขน กถิตเมว อาจริยวาทํ โถเมตฺวา ปคฺคณฺหิตฺวา วิจรตีติ โยชนา. เตน วุตฺตนฺติ เตน ยถา ตถา วา อภินิวิฏฺภาเวน วุตฺตํ ปาฬิยํ.

๕๒๑-๒. อนิยฺยานิกา วาติ อปฺปาฏิหาริยาว อฺมฺสฺส วาเท โทสํ ทสฺเสตฺวา อวิปรีตตฺถทสฺสนตฺถํ อุตฺตรรหิตา เอว. อฺมฺสฺส วาทสฺส อาทิโต วิรุทฺธคฺคหณํ วิคฺคโห, สฺเวว วิวทนวเสน อปราปรํ อุปฺปนฺโน วิวาโทติ อาห ‘‘ปุพฺพุปฺปตฺติโก วิคฺคโห อปรภาเค วิวาโท’’ติ. ทุวิโธปิ เอโส วิคฺคโห, วิวาโทติ ทฺวิธา วุตฺโตปิ วิโรโธ. นานาอาจริยานํ วาทโตติ นานารุจิกานํ อาจริยานํ วาทภาวโต. นานาวาโท นานาวิโธ วาโทติ กตฺวา.

๕๒๓. เอกสฺสาปีติ ตุมฺเหสุ ทฺวีสุ เอกสฺสาปิ. เอกสฺมินฺติ สกวาทปรวาเทสุ เอกสฺมิมฺปิ. สํสโย นตฺถีติ ‘‘มคฺโค นุ โข, น มคฺโค นุ โข’’ติ สํสโย วิจิกิจฺฉา นตฺถิ. อฺชสายนภาเว ปน สํสโย. เตนาห ‘‘เอส กิรา’’ติอาทิ. ภควา ปน ยทิ สพฺพตฺถ มคฺคสฺิโน, เอวํ สติ ‘‘กิสฺมึ โว วิคฺคโห’’ติ ปุจฺฉติ.

๕๒๔. ‘‘อิจฺฉิตฏฺานํ อุชุกํ มคฺคติ อุปคจฺฉติ เอเตนาติ มคฺโค, อุชุมคฺโค. ตทฺโ อมคฺโค’’ติ วุตฺโต วายมตฺโถ. สพฺเพ เตติ สพฺเพปิ เต นานาอาจริเยหิ วุตฺตมคฺคา.

เย ปาฬิยํ ‘‘อทฺธริยา พฺราหฺมณา’’ติอาทินา วุตฺตา. อทฺธโร นาม ยฺวิเสโส, ตทุปโยคิภาวโต ‘‘อทฺธริยา’’ ตฺเวว วุจฺจนฺติ ยชูนิ, ตานิ สชฺฌายนฺตีติ อทฺธริยา, ยชุพฺเพทิโน. เย จ ติตฺติริอิสินา กเต มนฺเต สชฺฌายนฺติ, เต ติตฺติริยา, ยชุพฺเพทิโน เอว. ยชุพฺเพทสาขา เหสา, ยทิทํ ติตฺติรํ. ฉนฺโท วุจฺจติ วิเสสโต สามเวโท, ตํ สเรน กายนฺตีติ ฉนฺโทกา, สามเวทิโน. ‘‘ฉนฺโทคา’’ติปิ ปนฺติ, โส เอวตฺโถ. พหโว อิรโย เอตฺถาติ พวฺหาริ, อิรุพฺเพโท. ตํ อธียนฺตีติ พวฺหาริชฺฌา.

‘‘พหูนี’’ติ เอตฺถายํ อุปมาสํสนฺทนา – ยถา เต นานามคฺคา เอกํสโต ตสฺส คามสฺส วา นิคมสฺส วา ปเวสาย โหนฺติ, เอวํ พฺราหฺมเณหิ ปฺาปิยมานาปิ นานามคฺคา พฺรหฺมโลกูปคมนาย พฺรหฺมุนา สหพฺยตาย เอกํเสเนว โหนฺตีติ.

๕๒๗-๕๒๙. ว-กาโร อาคมสนฺธิมตฺตนฺติ อนตฺถโก ว-กาโร, เตน วณฺณาคเมน ปทนฺตรสนฺธิมตฺตํ กตนฺติ อตฺโถ. อนฺธปเวณีติ อนฺธปนฺติ. ‘‘ปฺาสสฏฺิ อนฺธา’’ติ อิทํ ตสฺสา อนฺธปเวณิยา มหโต คจฺฉคุมฺพสฺส อนุปริคมนโยคฺยตาทสฺสนํ. เอวฺหิ เต ‘‘สุจิรํ เวลํ มคฺคํ คจฺฉามา’’ติ เอวํ สฺิโน โหนฺติ. นามกํเยวาติ อตฺถาภาวโต นามมตฺตํเยว, ตํ ปน ภาสิตํ เตหิ สารสฺิตมฺปิ นามมตฺตตาย อสารภาวโต นิหีนเมวาติ อาห ‘‘ลามกํเยวา’’ติ.

๕๓๐. ยโตติ ภุมฺมตฺเถ นิสฺสกฺกวจนํ, สามฺโชตนา จ วิเสเส อวติฏฺตีติ อาห ‘‘ยสฺมึ กาเล’’ติ. อายาจนฺตีติ ปตฺเถนฺติ. อุคฺคมนํ โลกสฺส พหุการภาวโต ตถา โถมนาติ. อยํ กิร พฺราหฺมณานํ ลทฺธิ ‘‘พฺราหฺมณานํ อายาจนาย จนฺทิมสูริยา คนฺตฺวา โลเก โอภาสํ กโรนฺตี’’ติ.

๕๓๒. อิธ ปน กึ วตฺตพฺพนฺติ อิมสฺมึ ปน อปฺปจฺจกฺขภูตสฺส พฺรหฺมุโน สหพฺยตาย มคฺคเทสเน เตวิชฺชานํ กึ วตฺตพฺพํ อตฺถิ, เย ปจฺจกฺขภูตานมฺปิ จนฺทิมสูริยานํ สหพฺยตาย มคฺคํ เทเสตุํ น สกฺโกนฺตีติ อธิปฺปาโย. ‘‘ยตฺถา’’ติ ‘‘อิธ ปนา’’ติ วุตฺตเมวตฺถํ ปจฺจามสติ.

อจิรวตีนทีอุปมากถาวณฺณนา

๕๔๒. สมภริตาติ สมฺปุณฺณา. ตโต เอว กากเปยฺยา. ปาราติ ปรตีรํ. อปารนฺติ โอริมตีรํ. เอหีติ อาคจฺฉ.

๕๔๔. ปฺจสีล…เป… เวทิตพฺพา ยมนิยมาทิพฺราหฺมณธมฺมานํ ตทนฺโตคธภาวโต. ตพฺพิปรีตาติ ปฺจสีลาทิวิปรีตา ปฺจ เวราทโย. ‘‘ปุนปี’’ติ วตฺวา ‘‘อปรมฺปี’’ติ วจนํ อิตรายปิ นทิ อุปมาย สงฺคณฺหนตฺถํ.

๕๔๖. กามยิตพฺพฏฺเนาติ กามนียภาเวน. พนฺธนฏฺเนาติ เตเนว กาเมตพฺพภาเวน สตฺตานํ จิตฺตสฺส อาพนฺธนภาเวน. กามฺจายํ คุณ-สทฺโท อตฺถนฺตเรสุปิ ทิฏฺปฺปโยโค, เตสํ ปเนตฺถ อสมฺภวโต ปาริเสสาเยน พนฺธนฏฺเเยว ยุตฺโตติ ทสฺเสตุํ ‘‘อนุชานามี’’ติอาทินา อตฺถุทฺธาโร อารทฺโธ, เอเสวาติ พนฺธนฏฺโ เอว. น หิ รูปาทีนํ กาเมตพฺพภาเว วุจฺจมาเน ปฏลฏฺโ ยุชฺชติ ตถา กาเมตพฺพตาย อนธิปฺเปตตฺตา. ราสฏฺอานิสํสฏฺเสุปิ เอเสว นโย ตถาปิ กาเมตพฺพตาย อนธิปฺเปตตฺตา. ปาริเสสโต ปน พนฺธนฏฺโ คหิโต. ยทคฺเคน หิ เนสํ กาเมตพฺพตา, ตทคฺเคน พนฺธนภาโว จาติ.

โกฏฺาสฏฺโปิ เตสุ ยุชฺชเตว จกฺขุวิฺเยฺยาทิโกฏฺาสภาเวน เนสํ กาเมตพฺพโต. โกฏฺาเส จ คุณ-สทฺโท ทิสฺสติ ‘‘ทิคุณํ วฑฺเฒตพฺพ’’นฺติอาทีสุ, สมฺปทาฏฺโปิ –

‘‘อสงฺขฺเยยฺยานิ นามานิ, สคุเณน มเหสิโน;

คุเณน นามมุทฺเธยฺยํ, อปิ นามสหสฺสโต’’ติ. (ธ. ส. อฏฺ. ๑๓๑๓; อุทา. อฏฺ. ๕๓; ปฏิ. ม. อฏฺ. ๗๖);

อาทีสุ โสปิ อิธ น ยุชฺชตีติ อนุทฺธโฏ.

จกฺขุวิฺเยฺยาติ จกฺขุวิฺาเณน วิชานิตพฺพา, เตน ปน วิชานนํ ทสฺสนเมวาติ อาห ‘‘ปสฺสิตพฺพา’’ติ. ‘‘โสตวิฺาเณน โสตพฺพา’’ติ เอวมาทิ เอเตนุปาเยนาติ อติทิสติ. คเวสิตมฺปิ ‘‘อิฏฺ’’นฺติ วุจฺจติ, ตํ อิธ นาธิปฺเปตนฺติ อาห ‘‘ปริยิฏฺา วา โหนฺตุ มา วา’’ติ. อิฏฺารมฺมณภูตาติ สุขารมฺมณภูตา. กามนียาติ กาเมตพฺพา. อิฏฺภาเวน มนํ อปฺปายนฺตีติ มนาปา. ปิยชาติกาติ ปิยสภาวา.

เคเธนาติ โลเภน อภิภูตา หุตฺวา ปฺจกามคุเณ ปริภุฺชนฺตีติ โยชนา. มุจฺฉาการนฺติ โมหนาการํ. อธิโอสนฺนาติ อธิคฺคยฺห อชฺโฌสาย อวสนฺนา, เตนาห ‘‘โอคาฬฺหา’’ติ. ปรินิฏฺานปฺปตฺตาติ คิลิตฺวา ปรินิฏฺาปนวเสน ปรินิฏฺานํ อุปคตา. อาทีนวนฺติ กามปริโภเค สมฺปติ, อายติฺจ โทสํ อปสฺสนฺตา. ฆาสจฺฉาทนาทิสมฺโภคนิมิตฺตสํกิเลสโต นิสฺสรนฺติ อปคจฺฉนฺติ เอเตนาติ นิสฺสรณํ, โยนิโส ปจฺจเวกฺขิตฺวา เตสํ ปริโภคปฺา. ตทภาวโต อนิสฺสรณปฺาติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิทเมตฺถา’’ติอาทิมาห.

๕๔๘-๙. อาวรนฺตีติ กุสลปฺปวตฺตึ อาทิโตว นิวาเรนฺติ. นิวาเรนฺตีติ นิรวเสสโต วารยนฺติ. โอนนฺธนฺตีติ โอคาหนฺตา วิย ฉาเทนฺติ. ปริโยนนฺธนฺตีติ สพฺพโส ฉาเทนฺติ. อาวรณาทีนํ วเสนาติ อาวรณาทิอตฺถานํ วเสน. เต หิ อาเสวนพลวตาย ปุริมปุริเมหิ ปจฺฉิมปจฺฉิมา ทฬฺหตรตมาทิภาวปฺปตฺตา วุตฺตา.

สํสนฺทนกถาวณฺณนา

๕๕๐. อิตฺถิปริคฺคเห สติ ปุริสสฺส ปฺจกามคุณปริคฺคโห ปริปุณฺโณ เอว โหตีติ วุตฺตํ ‘‘สปริคฺคโหติ อิตฺถิปริคฺคเหน สปริคฺคโห’’ติ. ‘‘อิตฺถิปริคฺคเหน อปริคฺคโห’’ติ จ อิทํ เตวิชฺชพฺราหฺมเณสุ ทิสฺสมานปริคฺคหานํ ทุฏฺุลฺลตมปริคฺคหาภาวทสฺสนํ. เอวํภูตานํ เตวิชฺชานํ พฺราหฺมณานํ กา พฺรหฺมุนา สํสนฺทนา, พฺรหฺมา ปน สพฺเพน สพฺพํ อปริคฺคโหติ. เวรจิตฺเตน อเวโร, กุโต เอตสฺส เวรปฺปโยโคติ อธิปฺปาโย. จิตฺตเคลฺสงฺขาเตนาติ จิตฺตุปฺปาทเคลฺสฺิเตน, เตนสฺส สพฺพรูปกายเคลฺภาโว วุตฺโต โหติ. พฺยาปชฺเฌนาติ ทุกฺเขน. อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจาทีหีติ อาทิ-สทฺเทน ตเทกฏฺา สํกิเลสธมฺมา สงฺคยฺหนฺติ. อปฺปฏิปตฺติเหตุภูตาย วิจิกิจฺฉาย สติ น กทาจิ จิตฺตํ ปุริสสฺส วเส วตฺตติ, ปหีนาย ปน สิยา วสวตฺตนนฺติ อาห ‘‘วิจิกิจฺฉาย อภาวโต จิตฺตํ วเส วตฺเตตี’’ติ. จิตฺตคติกาติ จิตฺตวสิกา, เตนาห จิตฺตสฺส วเส วตฺตนฺตี’’ติ. น ตาทิโสติ พฺราหฺมณา วิย จิตฺตวสิโก น โหติ, อถ โข วสีภูตชฺฌานาภิฺตาย จิตฺตํ อตฺตโน วเส วตฺเตตีติ วสวตฺตี.

๕๕๒. พฺรหฺมโลกมคฺเคติ พฺรหฺมโลกคามิมคฺเค ปฏิปชฺชิตพฺเพ, ปฺเปตพฺเพ วา, ตํ ปฺเปนฺตาติ อธิปฺปาโย. อุปคนฺตฺวาติ อมคฺคเมว ‘‘มคฺโค’’ติ มิจฺฉาปฏิปชฺชเนน อุปคนฺตฺวา, ปฏิชานิตฺวา วา. ปงฺกํ โอติณฺณา วิยาติ มตฺถเก เอกงฺคุลํ วา อุปฑฺฒงฺคุลํ วา สุกฺขตาย ‘‘สมตล’’นฺติ สฺาย อเนกโปริสํ มหาปงฺกํ โอติณฺณา วิย. อนุปฺปวิสนฺตีติ อปายมคฺคํ พฺรหฺมโลกมคฺคสฺาย โอคาหยนฺติ. ตโต เอว สํสีทิตฺวา วิสาทํ ปาปุณนฺติ. เอวนฺติ ‘‘สมตล’’นฺติอาทินา วุตฺตนเยน. สํสีทิตฺวาติ นิมฺมุชฺชิตฺวา. สุกฺขตรณํ มฺเ ตรนฺตีติ สุกฺขนทิตรณํ ตรนฺติ มฺเ. ตสฺมาติ ยสฺมา เตวิชฺชา อมคฺคเมว ‘‘มคฺโค’’ติ อุปคนฺตฺวา สํสีทนฺติ, ตสฺมา. ยถาเตติ ยถา เต ‘‘สมตล’’นฺติ สฺาย ปงฺกํ โอติณฺณา. อิเธว จาติ อิมสฺมิฺจ อตฺตภาเว. สุขํ วา สาตํ วา น ลภนฺตีติ ฌานสุขํ วา วิปสฺสนาสาตํ วา น ลภนฺติ, กุโต มคฺคสุขํ วา นิพฺพานสาตํ วาติ อธิปฺปาโย. มคฺคทีปกนฺติ มคฺคทีปกาภิมตํ. ‘‘อิริณ’’นฺติ อรฺานิยา อิทํ อธิวจนนฺติ อาห ‘‘อคามกํ มหารฺ’’นฺติ . มิครุรุอาทีนมฺปิ อนุปโภครุกฺเขหิ. ปริวตฺติตุมฺปิ น สกฺกา โหนฺติ มหากณฺฏกตาย. าตีนํ พฺยสนํ วินาโส าติพฺยสนํ. เอวํ โภคสีลพฺยสนานิ เวทิตพฺพานิ. โรโค เอว พฺยสติ วิพาธตีติ โรคพฺยสนํ. เอวํ ทิฏฺิพฺยสนมฺปิ ทฏฺพฺพํ.

๕๕๔. ชาตสํวฑฺโฒติ ชาโต หุตฺวา สํวฑฺฒิโต. น สพฺพโส ปจฺจกฺขา โหนฺติ ปริจยาภาวโต. จิรนิกฺขนฺโตติ นิกฺขนฺโต หุตฺวา จิรกาโล. ทนฺธายิตตฺตนฺติ วิสฺสชฺชเน มนฺทตฺตํ สณิกวุตฺติ, ตํ ปน สํสยวเสน จิรายนํ นาม โหตีติ อาห ‘‘กงฺขาวเสน จิรายิตตฺต’’นฺติ. วิตฺถายิตตฺตนฺติ สารชฺชิตตฺตํ. อฏฺกถายํ ปน วิตฺถายิตตฺตํ นาม ฉมฺภิตตฺตนฺติ อธิปฺปาเยน ‘‘ถทฺธภาวคฺคหณ’’นฺติ วุตฺตํ.

๕๕๕. อุ-อิติ อุปสคฺคโยเค ลุมฺป-สทฺโท อุทฺธรณตฺโถ โหตีติ ‘‘อุลฺลุมฺปตู’’ติ ปทสฺส อุทฺธรตูติ อตฺถมาห. อุปสคฺควเสน หิ ธาตุ-สทฺทา อตฺถวิเสสวุตฺติโน โหนฺติ ยถา ‘‘อุทฺธรตู’’ติ.

พฺรหฺมโลกมคฺคเทสนาวณฺณนา

๕๕๖. ยสฺส อติสเยน พลํ อตฺถิ, โส ‘‘พลวา’’ติ วุตฺโตติ อาห ‘‘พลสมฺปนฺโน’’ติ. สงฺขํ ธมยตีติ สงฺขธมโก, ตํ ธมยิตฺวา ตโต สทฺทปวตฺตโก. อปฺปนาว วฏฺฏติ ปฏิปกฺขโต สมฺมเทว เจตโส วิมุตฺติภาวโต.

ปมาณกตํ กมฺมํ นาม กามาวจรํ ปมาณกรานํ สํกิเลสธมฺมานํ อวิกฺขมฺภนโต. ตถา หิ ตํ พฺรหฺมวิหารปุพฺพภาคภูตํ ปมาณํ อติกฺกมิตฺวา โอทิสฺสกอโนทิสฺสกทิสาผรณวเสน วฑฺเฒตุํ น สกฺกา. วุตฺตวิปริยายโต ปน อปฺปมาณกตํ กมฺมํ นาม รูปารูปาวจรํ, เตนาห ‘‘ตฺหี’’ติอาทิ. ตตฺถ อรูปาวจเร โอทิสฺสกาโนทิสฺสกวเสน ผรณํ น ลพฺภติ, ตถา ทิสาผรณํ.

เกจิ ปน ตํ อาคมนวเสน ลพฺภตีติ วทนฺติ, ตทยุตฺตํ. น หิ พฺรหฺมวิหารนิสฺสนฺโท อารุปฺปํ, อถ โข กสิณนิสฺสนฺโท, ตสฺมา ยํ สุวิภาวิตํ วสีภาวํ ปาปิตํ อารุปฺปํ, ตํ ‘‘อปฺปมาณกต’’นฺติ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ยํ วา สาติสยํ พฺรหฺมวิหารภาวนาย อภิสงฺขเตน สนฺตาเนน นิพฺพตฺติตํ, ยฺจ พฺรหฺมวิหารสมาปตฺติโต วุฏฺาย สมาปนฺนํ อรูปาวจรชฺฌานํ, ตํ อิมินา ปริยาเยน ผรณปฺปมาณวเสน อปฺปมาณกตนฺติ วตฺตุํ วฏฺฏตีติ อปเร. วีมํสิตฺวา คเหตพฺพํ.

รูปาวจรารูปาวจรกมฺเมติ รูปาวจรกมฺเม, อรูปาวจรกมฺเม จ สติ. น โอหียติ น ติฏฺตีติ กตูปจิตมฺปิ กามาวจรกมฺมํ ยถาธิคเต มหคฺคตชฺฌาเน อปริหีเน ตํ อภิภวิตฺวา ปฏิพาหิตฺวา สยํ โอหียกํ หุตฺวา ปฏิสนฺธึ ทาตุํ สมตฺถภาเว น ติฏฺติ. ลคฺคิตุนฺติ อาวริตุํ นิเสเธตุํ. าตุนฺติ ปฏิพโล หุตฺวา าตุํ. ผริตฺวาติ ปฏิปฺผริตฺวา. ปริยาทิยิตฺวาติ ตสฺส สามตฺถิยํ เขเปตฺวา. กมฺมสฺส ปริยาทิยนํ นาม ตสฺส วิปากุปฺปาทนํ นิเสเธตฺวา อตฺตโน วิปากุปฺปาทนนฺติ อาห ‘‘ตสฺส วิปากํ ปฏิพาหิตฺวา’’ติอาทิ. เอวํ เมตฺตาทิวิหารีติ เอวํ วุตฺตานํ เมตฺตาทีนํ พฺรหฺมวิหารานํ วเสน เมตฺตาทิวิหารี.

๕๕๙. อคฺคฺสุตฺเต…เป… อลตฺถุนฺติ อคฺคฺสุตฺเต อาคตนเยน อุปสมฺปทฺเจว อรหตฺตฺจ อลตฺถุํ ปฏิลภึสุ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.

เตวิชฺชสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา.

นิฏฺิตา จ เตรสสุตฺตปฏิมณฺฑิตสฺส สีลกฺขนฺธวคฺคสฺส อตฺถวณฺณนาย

ลีนตฺถปฺปกาสนาติ.

สีลกฺขนฺธวคฺคฏีกา นิฏฺิตา.