📜
๕. กูฏทนฺตสุตฺตวณฺณนา
๓๒๓. ปุริมสุตฺตทฺวเยติ ¶ ¶ ¶ อมฺพฏฺโสณทณฺฑสุตฺตทฺวเย. วุตฺตนยเมวาติ ยํ ตตฺถ อาคตสทิสํ อิธาคตํ ตํ อตฺถวณฺณนโต วุตฺตนยเมว, ตตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติ อตฺโถ. ‘‘ตรุโณ อมฺพรุกฺโข อมฺพลฏฺิกา’’ติ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๒) พฺรหฺมชาลสุตฺตวณฺณนายํ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘อมฺพลฏฺิกา พฺรหฺมชาเล วุตฺตสทิสาวา’’ติ.
ยฺาวาฏํ สมฺปาเทตฺวา มหายฺํ อุทฺทิสฺส สวิฺาณกานิ, อวิฺาณกานิ จ ยฺูปกรณานิ อุปฏฺปิตานีติ วุตฺตํ ปาฬิยํ ‘‘มหายฺโ อุปกฺขโฏ’’ติ, ตํ อุปกฺขรณํ เตสํ ตถาสชฺชนนฺติ อาห ‘‘อุปกฺขโฏติ สชฺชิโต’’ติ. วจฺฉตรสตานีติ ยุวภาวปฺปตฺตานิ พลววจฺฉสตานิ, เต ปน วจฺฉา เอว โหนฺติ, น ทมฺมา พลิพทฺทา จาติ อาห ‘‘วจฺฉสตานี’’ติ. เอเตติ อุสภาทโย อุรพฺภปริโยสานา. อเนเกสนฺติ อเนกชาติกานํ. สงฺขฺยาวเสน อเนกตา สตฺตสตคฺคหเณเนว ปริจฺฉินฺนา. มิคปกฺขีนนฺติ มหึสรุรุปสทกุรุงฺคโคกณฺณมิคานฺเจว โมรกปิฺชรติตฺติรกโปตาทิปกฺขีนฺจ.
๓๒๘. ยฺสงฺขาตสฺส ปฺุสฺส โย สํกิเลโส, ตสฺส นิวารณโต ¶ นิเสธนโต วิธา วุจฺจนฺติ วิปฺปฏิสารวิโนทนา. ตโต เอว ตา ตํ ปฺุาภิสนฺทํ อวิจฺฉินฺทิตฺวา เปนฺตีติ ‘‘ปนา’’ติ วุตฺตา. ตาสํ ปน ยฺสฺส อาทิมชฺฌปริโยสานวเสน ตีสุ กาเลสุ ปวตฺติยา ยฺโ ติฏฺปโนติ อาห ‘‘ติฏฺปนนฺติ อตฺโถ’’ติ. ปริกฺขโรนฺติ อภิสงฺขโรนฺตีติ ปริกฺขารา, ปริวาราติ วุตฺตํ. ‘‘โสฬสปริกฺขารนฺติ โสฬสปริวาร’’นฺติ.
มหาวิชิตราชยฺกถาวณฺณนา
๓๓๖. ปุพฺพจริตนฺติ อตฺตโน ปุริมชาติสมฺภูตํ โพธิสมฺภารภูตํ ปฺุจริยํ. ตถา หิสฺส ¶ อนุคามิโนว นิธิสฺส ถาวโร นิธิ นิทสฺสิโต. อฑฺฒตา นาม วิภวสมฺปนฺนตา, สา ตํ ตํ อุปาทายุปาทาย วุจฺจตีติ อาห ‘‘โย โกจิ อตฺตโน สนฺตเกน วิภเวน อฑฺโฒ โหตี’’ติ ¶ . ตถา มหทฺธนตาปีติ ตํ อุกฺกํสคตํ ทสฺเสตุํ ‘‘มหตา อปริมาณสงฺขฺเยน ธเนน สมนฺนาคโต’’ติ วุตฺตํ. ภฺุชิตพฺพโต ปริภฺุชิตพฺพโต วิเสสโต กามา โภโค นามาติ อาห ‘‘ปฺจกามคุณวเสนา’’ติ. ปิณฺฑปิณฺฑวเสนาติ ภาชนาลงฺการาทิวิภาคํ อหุตฺวา เกวลํ ขณฺฑขณฺฑวเสน.
มาสกาทีติ อาทิ-สทฺเทน ถาลกาทึ สงฺคณฺหาติ. ภาชนาทีติ อาทิ-สทฺเทน วตฺถเสยฺยาวสถาทึ สงฺคณฺหาติ. สุวณฺณรชตมณิมุตฺตาเวฬุริยวชิรปวาฬานิ ‘‘สตฺตรตนานี’’ติ วทนฺติ. สาลิวีหิอาทิ ปุพฺพณฺณํ ปุรกฺขตํสสฺสผลนฺติ กตฺวา. ตพฺพิปริยายโต มุคฺคมาสาทิ อปรณฺณํ. เทวสิกํ…เป… วเสนาติ ทิวเส ทิวเส ปริภฺุชิตพฺพทาตพฺพวฑฺเฒตพฺพาทิวิธินา ปริวตฺตนกธนธฺวเสน.
โกฏฺํ วุจฺจติ ธฺสฺส อาปนฏฺานํ, โกฏฺภูตํ อคารํ โกฏฺาคารํ เตนาห ‘‘ธฺเน…เป… คาโร จา’’ติ. เอวํ ¶ สารคพฺภํ ‘‘โกโส’’ติ, ธฺสฺส อาปนฏฺานฺจ ‘‘โกฏฺาคาร’’นฺติ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตโต อฺถา ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อถ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ยถา อสิโน ติกฺขภาวปริหารโต ปริจฺฉโท ‘‘โกโส’’ติ วุจฺจติ, เอวํ รฺโ ติกฺขภาวปริหรณตฺตา จตุรงฺคินี เสนา ‘‘โกโส’’ติ อาห ‘‘จตุพฺพิโธ โกโส หตฺถี อสฺสา รถา ปตฺตี’’ติ. ‘‘วตฺถโกฏฺาคารคฺคหเณเนว สพฺพสฺสาปิ ภณฺฑฏฺปนฏฺานสฺส คหิตตฺตา ติวิธํ โกฏฺาคารนฺติ วุตฺตํ. ‘‘อิทํ เอวํ พหุ’’นฺติอาทิ ราชา ตมตฺถํ ชานนฺโตว ภณฺฑาคาริเกน กถาเปตฺวา ปริสาย นิสฺสทฺทภาวาปาทนตฺถฺจ อาห เอวํ เม ปกติกฺโขโภ น ภวิสฺสตีติ.
๓๓๗-๘. พฺราหฺมโณ จินฺเตสิ ชนปทสฺส อนุปทฺทวตฺถฺเจว ยฺสฺส จ จิรานุปวตฺตนตฺถฺจ, เตนาห ‘‘อยํ ราชา’’ติอาทิ.
สตฺตานํ หิตสฺส สุขสฺส จ วิทูสนโต อหิตสฺส ทุกฺขสฺส จ อาวหนโต โจรา เอว กณฺฏกา, เตหิ โจรกณฺฏเกหิ. ยถา คามวาสีนํ ฆาตา คามฆาตา, เอวํ ปนฺถิกานํ ทุหนา วิพาธนา ปนฺถทุหนา. อธมฺมการีติ ธมฺมโต อเปตสฺส อยุตฺตสฺส กรณสีโล, อตฺตโน วิชิเต ชนปทาทีนํ ตโต อนตฺถโต ตายเนน ขตฺติโย ¶ โย ขตฺตธมฺโม, ตสฺส วา อกรณสีโลติ อตฺโถ. ทสฺสโว เอว ขีลสทิสตฺตา ทสฺสุขีลํ. ยถา หิ เขตฺเต ขีลํ กสนาทีนํ สุขปฺปวตฺตึ ¶ , มูลสนฺตาเนน สสฺสสฺส พุทฺธิฺจ วิพนฺธติ, เอวํ ทสฺสโว รชฺเช ราชาณาย สุขปฺปวตฺตึ, มูลวิรุฬฺหิยา ชนปทานํ ¶ ปริพุทฺธิฺจ วิพนฺธนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ทสฺสโว เอว ขีลสทิสตฺตา ทสฺสุขีล’’นฺติ. วธ-สทฺโท หึสนตฺโถปิ โหตีติ วุตฺตํ ‘‘มารเณน วา โกฏฺฏเนน วา’’ติ. อทฺทุพนฺธนาทินาติ อาทิ-สทฺเทน รชฺชุพนฺธนสงฺขลิกพนฺธนาทึ สงฺคณฺหาติ. ชานิยาติ ธนชานิยา, เตนาห ‘‘สตํ คณฺหถา’’ติอาทิ. ปฺจสิขมุณฺฑกรณนฺติ กากปกฺขกรณํ. โคมยสิฺจนนฺติ สีเส ฉกโณทกาวเสจนํ. กุทณฺฑกพนฺธนนฺติ คทฺทุลพนฺธนํ. เอวมาทีนีติ อาทิ-สทฺเทน ขุรมุณฺฑํ กริตฺวา ภสฺมปุฏโปถนาทึ สงฺคณฺหาติ. อูหนิสฺสามีติ อุทฺธริสฺสามิ, อปเนสฺสามีติ อตฺโถ. อุสฺสหนฺตีติ ปุพฺเพ ตตฺถ กตปริจยตาย อุสฺสาหํ กาตุํ สกฺโกนฺติ. อนุปฺปเทตูติ อนุ อนุ ปเทตุ, เตนาห ‘‘ทินฺเน อปฺปโหนฺเต’’ติอาทิ. สกฺขิกรณปณฺณาโรปนานิ วฑฺฒิยา สห วา วินา วา ปุน คเหตุกามสฺส, อิธ ปน ตํ นตฺถีติ อาห ‘‘สกฺขึ อกตฺวา’’ติอาทิ, เตนาห ‘‘มูลจฺเฉชฺชวเสนา’’ติ. ปการโต ภณฺฑานิ อาภรติ สมฺภรติ ปริจยติ เอเตนาติ ปาภตํ, ภณฺฑมูลํ.
ทิวเส ทิวเส ทาตพฺพภตฺตํ เทวสิกภตฺตํ. ‘‘อนุมาสํ, อนุโปสถ’’นฺติอาทินา ทาตพฺพํ เวตนํ มาสิกาทิปริพฺพยํ. ตสฺส ตสฺส กุลานุรูเปน กมฺมานุรูเปน สูรภาวานุรูเปนาติ ปจฺเจกํ อนุรูป-สทฺโท โยเชตพฺโพ. เสนาปจฺจาทิ านนฺตรํ. สกกมฺมปสุตตฺตา ¶ , อนุปทฺทวตฺตา จ ธนธฺานํ ราสิโก ราสิการภูโต. เขเมน ิตาติ อนุปทฺทเวน ปวตฺตา, เตนาห ‘‘อภยา’’ติ, กุโตจิปิ ภยรหิตาติ อตฺโถ.
จตุปริกฺขารวณฺณนา
๓๓๙. ตสฺมึ ตสฺมึ กิจฺเจ อนุยนฺติ อนุวตฺตนฺตีติ อนุยนฺตา, อนุยนฺตา เอว อานุยนฺตา ยถา ‘‘อนุภาโว เอว อานุภาโว’’ติ. อสฺสาติ รฺโ. เตติ อานุยนฺตขตฺติยาทโย. อตฺตมนา น ภวิสฺสนฺติ ‘‘อมฺเห เอตฺถ พหิ กโรตี’’ติ. นิพนฺธวิปุลาคโม คาโม นิคโม, วิวฑฺฒิตมหาอาโย ¶ มหาคาโมติ อตฺโถ. ชนปท-สทฺโท เหฏฺา วุตฺตตฺโถ เอว. ฉนฺนํ ปกตีนํ วเสน รฺโ หิตสุขาภิพุทฺธิ, ตเทกเทสา จ อานุยนฺตาทโยติ วุตฺตํ ‘‘ยํ ตุมฺหากํ อนุชานนํ มม ภเวยฺย ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’ติ.
อมา สห ภวนฺติ กิจฺเจสูติ อมจฺจา, รชฺชกิจฺจโวสาสนกา. เต ปน รฺโ ปิยา, สหปวตฺตนกา จ โหนฺตีติ อาห ‘‘ปิยสหายกา’’ติ. รฺโ ปริสติ ภวาติ ปาริสชฺชา ¶ , เต ปน เกติ อาห ‘‘เสสา อาณตฺติกรา’’ติ, ยถาวุตฺตอานุยนฺตขตฺติยาที หิ อวเสสา รฺโ อาณากราติ อตฺโถ. สติปิ เทยฺยธมฺเม อานุภาวสมฺปตฺติยา, ปริวารสมฺปตฺติยา จ อภาเว ตาทิสํ ทาตุํ น สกฺกา, วุฑฺฒกาเล ¶ จ ตาทิสานมฺปิ ราชูนํ ตทุภยํ หายเตวาติ อาห ‘‘มหลฺลกกาเล…เป… น สกฺกา’’ติ. อนุมติยาติ อนุชานเนน, ปกฺขาติ สปกฺขา ยฺสฺส องฺคภูตา. ปริกฺขโรนฺตีติ ปริกฺขารา, สมฺภารา. อิเม ตสฺส ยฺสฺส องฺคภูตา ปริวารา วิย โหนฺตีติ อาห ‘‘ปริวารา ภวนฺตี’’ติ.
อฏฺปริกฺขารวณฺณนา
๓๔๐. ยสสาติ อานุภาเวน, เตนาห ‘‘อาณาปนสมตฺถตายา’’ติ. สทฺทหตีติ ‘‘ทาตา ทานสฺส ผลํ ปจฺจนุโภตี’’ติ ปตฺติยายติ. ทาเน สูโรติ ทานสูโร เทยฺยธมฺเม อีสกมฺปิ สงฺคํ อกตฺวา มุตฺตจาโค. สฺวายมตฺโถ กมฺมสฺสกตฺาณสฺส ติกฺขวิสทภาเวน เวทิตพฺโพ, เตนาห ‘‘น สทฺธามตฺตเกเนวา’’ติอาทิ. ยสฺส หิ กมฺมสฺสกตา ปจฺจกฺขโต วิย อุปฏฺาติ, โส เอวํ วุตฺโต. ยํ ทานํ เทตีติ ยํ เทยฺยธมฺมํ ปรสฺส เทติ. ตสฺส ปติ หุตฺวาติ ตพฺพิสยํ โลภํ สุฏฺุ อภิภวนฺโต ตสฺส อธิปติ หุตฺวา เทติ อนธิภวนียตฺตา. ‘‘น ทาโส, น สหาโย’’ติ วตฺวา ตทุภยํ อนฺวยโต, พฺยติเรกโต จ ทสฺเสตุํ ‘‘โย หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ทาโส หุตฺวา เทติ ตณฺหาย ทานสฺส ทาสพฺยตํ อุปคตตฺตา. สหาโย หุตฺวา เทติ ตสฺส ปิยภาวานิสฺสชฺชนโต. สามี หุตฺวา เทติ ตตฺถ ตณฺหาทาสพฺยโต อตฺตานํ ¶ โมเจตฺวา อภิภุยฺย ปวตฺตนโต. สามิปริโภคสทิสา เหตสฺสายํ ปวตฺตตีติ.
สมิตปาปา ¶ สมณา, พาหิตปาปา พฺราหฺมณา อุกฺกฏฺนิทฺเทเสน, ปพฺพชฺชามตฺตสมณา ชาติมตฺตพฺราหฺมณา ปน กปณาทิคฺคหเณเนเวตฺถ คหิตาติ อธิปฺปาโย. ทุคฺคตาติ ทุกฺกรชีวิกํ อุปคตา กสิรวุตฺติกา, เตนาห ‘‘ทลิทฺทมนุสฺสา’’ติ. อทฺธิกาติ อทฺธานมคฺคคามิโน. วณิพฺพกาติ ทายกานํ คุณกิตฺตนวเสน, กมฺมผลกิตฺตนมุเขน จ ยาจนกา เสยฺยถาปิ นคฺคจริยาทโย, เตนาห ‘‘อิฏฺํ ทินฺน’’นฺติอาทิ. ‘‘ปสตมตฺต’’นฺติ วีหิตณฺฑุลาทิวเสน วุตฺตํ, ‘‘สราวมตฺต’’นฺติ ยาคุภตฺตาทิวเสน. โอปานํ วุจฺจติ โอคาเหตฺวา ปาตพฺพโต นทิตฬากาทีนํ สพฺพสาธารณติตฺถํ โอปานํ วิย ภูโตติ โอปานภูโต, เตนาห ‘‘อุทปานภูโต’’ติอาทิ. สุตเมว สุตชาตนฺติ ชาต-สทฺทสฺส อนตฺถนฺตรวาจกตมาห ยถา ‘‘โกสชาต’’นฺติ.
อตีตาทิอตฺถจินฺตนสมตฺถตา นามสฺส รฺโ อนุมานวเสน, อิติกตฺตพฺพตาวเสน จ เวทิตพฺพา ¶ , น พุทฺธานํ วิย ตตฺถ ปจฺจกฺขทสฺสิตายาติ ทสฺเสตุํ ‘‘อตีเต’’ติอาทิ วุตฺตํ. อฑฺฒตาทโย ตาว ยฺสฺส ปริกฺขารา โหนฺตุ เตหิ วินา ตสฺส อสิชฺฌนโต, สุชาตตา สุรูปตา ปน กถนฺติ อาห ‘‘เอเตหิ กิรา’’ติอาทิ. เอตฺถ จ เกจิ ‘‘ยถา อฑฺฒตาทโย ยฺสฺส เอกํสโต องฺคานิ, น เอวมภิชาตตา, อภิรูปตา จาติ ทสฺเสตุํ กิรสทฺทคฺคหณ’’นฺติ วทนฺติ ‘‘อยํ ทุชฺชาโต’’ติอาทิ วจนสฺส อเนกนฺติกตํ มฺมานา, ตยิทํ อสารํ, สพฺพสาธารณวเสน เหส ยฺารมฺโภ ตตฺถ สิยา เกสฺจิ ตถาปริวิตกฺโกติ ตสฺสาปิ อวกาสาภาวาทสฺสนตฺถํ ตถา วุตฺตตฺตา. กิร-สทฺโท ปน ตทา พฺราหฺมเณน จินฺติตาการสูจนตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เอวมาทีนีติ อาทิ-สทฺเทน ‘‘อยํ วิรูโป ทลิทฺโท ¶ อปฺเปสกฺโข อสฺสทฺโธ อปฺปสฺสุโต อนตฺถฺู น เมธาวี’’ติ เอเตสํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ.
จตุปริกฺขาราทิวณฺณนา
๓๔๑. ‘‘สุชํ ปคฺคณฺหนฺตาน’’นฺติ ปุโรหิตสฺส สยเมว กฏจฺฉุคฺคหณโชตเนน เอวํ สหตฺถา, สกฺกจฺจฺจ ทาเน ยุตฺตตา อิจฺฉิตพฺพาติ ทสฺเสติ ¶ . เอวํ ทุชฺชาตสฺสาติ เอตฺถาปิ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
๓๔๒. ติณฺณํ านานนฺติ ทานสฺส อาทิมชฺฌปริโยสานภูตาสุ ตีสุ ภูมีสุ, อวตฺถาสูติ อตฺโถ. จลนฺตีติ กมฺปนฺติ ปุริมากาเรน น ติฏฺนฺติ. กรณตฺเถติ ตติยาวิภตฺติอตฺเถ. กตฺตริ เหตํ สามิวจนํ กรณียสทฺทาเปกฺขาย. ‘‘ปจฺจานุตาโป น กตฺตพฺโพ’’ติ วตฺวา ตสฺส อกรณูปายํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปุพฺพเจตนา ปน อจลา ปติฏฺเปตพฺพา’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ อจลาติ ทฬฺหา เกนจิ อสํหีรา. ปติฏฺเปตพฺพาติ สุปติฏฺิตา กาตพฺพา. เอวํ กรเณน หิ ยถา ตํ ทานํ สมฺปติ ยถาธิปฺปายํ นิปฺปชฺชติ, เอวํ อายติมฺปิ วิปุลผลตายาติ อาห ‘‘เอวฺหิ ทานํ มหปฺผลํ โหตีติ ทสฺเสตี’’ติ, วิปฺปฏิสาเรน อนุปกฺกิลิฏฺภาวโต. มฺุจเจตนาติ ปริจฺจาคเจตนา. ตสฺสา นิจฺจลภาโว นาม มุตฺตจาคตา ปุพฺพาภิสงฺขารวเสน อุฬารภาโว, สมนุสฺสรณเจตนาย ปน นิจฺจลภาโว ‘‘อโห มยา ทานํ ทินฺนํ สาธุ สุฏฺู’’ติ ตสฺส สกฺกจฺจํ ปจฺจเวกฺขณาวเสน เวทิตพฺโพ. ตถา อกโรนฺตสฺสาติ มฺุจเจตนํ, ตตฺถ ปจฺจาสมนุสฺสรณเจตนฺจ วุตฺตนเยน นิจฺจลํ อกโรนฺตสฺส วิปฺปฏิสารํ อุปฺปาเทนฺตสฺส. เขตฺตวิเสเส ปริจฺจาคสฺส กตตฺตา ลทฺเธสุปิ อุฬาเรสุ ¶ โภเคสุ จิตฺตํ นาปิ นมติ. ยถา กถนฺติ อาห ‘‘มหาโรรุวํ อุปปนฺนสฺส เสฏฺิคหปติโน วิยา’’ติ.
โส ¶ กิร ตครสิขึ ปจฺเจกพุทฺธํ อตฺตโน เคหทฺวาเร ปิณฺฑาย ิตํ ทิสฺวา ‘‘อิมสฺส สมณสฺส ปิณฺฑปาตํ เทหี’’ติ ภริยํ อาณาเปตฺวา ราชุปฏฺานตฺถํ ปกฺกามิ. เสฏฺิภริยา สปฺปฺชาติกา, สา จินฺเตสิ ‘‘มยา เอตฺตเกน กาเลน ‘อิมสฺส เทถา’ติ วจนมตฺตํ ปิสฺส น สุตปุพฺพํ, อยฺจ มฺเ อโหสิ ปจฺเจกสมฺพุทฺโธ, ยถา ตถา อทตฺวา ปณีตํ ปิณฺฑปาตํ ทสฺสามี’’ติ อุปคนฺตฺวา ปจฺเจกสมฺพุทฺธํ ปฺจปติฏฺิเตน วนฺทิตฺวา ปตฺตํ อาทาย อนฺโตนิเวสเน ปฺตฺตาสเน นิสีทาเปตฺวา ปริสุทฺเธหิ สาลิตณฺฑุเลหิ ภตฺตํ สมฺปาเทตฺวา ตทนุรูปํ ขาทนียํ, พฺยฺชนํ, สูเปยฺยฺจ อภิสงฺขริตฺวา พหิ คนฺเธหิ อลงฺกริตฺวา ปจฺเจกสมฺพุทฺธสฺส หตฺเถสุ ปติฏฺเปตฺวา วนฺทิ. ปจฺเจกพุทฺโธ ‘‘อฺเสมฺปิ ปจฺเจกพุทฺธานํ สงฺคหํ ¶ กริสฺสามี’’ติ อปริภฺุชิตฺวาว อนุโมทนํ กตฺวา ปกฺกามิ. โสปิ โข เสฏฺิ ราชุปฏฺานํ กตฺวา อาคจฺฉนฺโต ปจฺเจกพุทฺธํ ทิสฺวา อหํ ‘‘ตุมฺหากํ ปิณฺฑปาตํ เทถา’’ติ วตฺวา ปกฺกนฺโต, อปิ โว ลทฺโธ ปิณฺฑปาโตติ. อาม เสฏฺิ ลทฺโธติ. ‘‘ปสฺสามา’’ติ คีวํ อุกฺขิปิตฺวา โอโลเกสิ. อถสฺส ปิณฺฑปาตคนฺโธ อุฏฺหิตฺวา นาสปุฏํ ปูเรสิ. โส ‘‘มหา วต เม ธนพฺยโย ชาโต’’ติ จิตฺตํ สนฺธาเรตุํ อสกฺโกนฺโต ปจฺฉา วิปฺปฏิสารี อโหสิ. วิปฺปฏิสารสฺส ปน อุปฺปนฺนากาโร ‘‘วรเมต’’นฺติอาทินา (สํ. นิ. ๑.๑๓๑) ปาฬิยํ อาคโตเยว. ภาตุ ปนายํ เอกํ ปุตฺตกํ ¶ สาปเตยฺยการณา ชีวิตา โวโรเปสิ, เตน มหาโรรุวํ อุปปนฺโน. ปิณฺฑปาตทาเนน ปเนส สตฺตกฺขตฺตุํ สุคฺคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺโน, สตฺตกฺขตฺตุเมว จ เสฏฺิกุเล นิพฺพตฺโต, น จาสฺส อุฬาเรสุ โภเคสุ จิตฺตํ นมิ, เตน วุตฺตํ ‘‘นาปิ อุฬาเรสุ โภเคสุ จิตฺตํ นมตี’’ติ.
๓๔๓. อากโรติ อตฺตโน อนุรูปตาย สมริยาทํ สปริจฺเฉทํ ผลํ นิพฺพตฺเตตีติ อากาโร, การณนฺติ อาห ‘‘ทสหิ อากาเรหีติ ทสหิ การเณหี’’ติ. ปฏิคฺคาหกโต วาติ พลวตโร หุตฺวา อุปฺปชฺชมาโน ปฏิคฺคาหกโตว อุปฺปชฺชติ, อิตโร ปน เทยฺยธมฺมโต, ปริวารชนโตปิ อุปฺปชฺเชยฺเยว. อุปฺปชฺชิตุํ ยุตฺตนฺติ อุปฺปชฺชนารหํ. เตสํเยว ปาณาติปาตีนํ. ยชนํ นาเมตฺถ ทานํ อธิปฺเปตํ, น อคฺคิชุหนนฺติ อาห ‘‘ยชตํ ภวนฺติ เทตุ ภว’’นฺติ. วิสฺสชฺชตูติ มุตฺตจาควเสน วิสฺสชฺชตุ. อพฺภนฺตรนฺติ อชฺฌตฺตํ, สกสนฺตาเนติ อตฺโถ.
๓๔๔. เหฏฺา โสฬส ปริกฺขารา วุตฺตา ยฺสฺส เต วตฺถุํ กตฺวา, อิธ ปน สนฺทสฺสนาทิวเสน อนุโมทนาย อารทฺธตฺตา วุตฺตํ ‘‘โสฬสหิ อากาเรหี’’ติ. ทสฺเสตฺวา อตฺตโน เทสนานุภาเวน ปจฺจกฺขโต วิย ผลํ ทสฺเสตฺวา, อเนกวารํ ปน กถนโต จ อาเมฑิตวจนํ. ตมตฺถนฺติ ยถาวุตฺตํ ทานผลวเสน กมฺมผลสมฺพนฺธํ. สมาทเปตฺวาติ สุตมตฺตเมว อกตฺวา ¶ ยถา ราชา ตมตฺถํ สมฺมเทว อาทิยติ ¶ จิตฺเต กโรนฺโต สุคฺคหิตํ กตฺวา คณฺหาติ, ตถา สกฺกจฺจํ อาทาเปตฺวา. อาเมฑิตการณํ เหฏฺา วุตฺตเมว.
‘‘วิปฺปฏิสารวิโนทเนนา’’ติ ¶ อิทํ นิทสฺสนมตฺตํ โลภโทสโมหอิสฺสามจฺฉริยมานาทโยปิ หิ ทานจิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสา, เตสํ วิโนทเนนปิ ตํ สมุตฺเตชิตํ นาม โหติ ติกฺขวิสทภาวปฺปตฺติโต. อาสนฺนตรภาวโต วา วิปฺปฏิสารสฺส ตพฺพิโนทนเมว คหิตํ, ปวตฺติเตปิ หิ ทาเน ตสฺส สมฺภวโต. ยาถาวโต วิชฺชมาเนหิ คุเณหิ ตุฏฺปหฏฺภาวาปาทนํ สมฺปหํสนนฺติ อาห ‘‘สุนฺทรํ เต…เป… ถุตึ กตฺวา กเถสี’’ติ. ธมฺมโตติ สจฺจโต. สจฺจฺหิ ธมฺมโต อนเปตตฺตา ธมฺมํ, อุปสมจริยาภาวโต สมํ, ยุตฺตภาเวน การณนฺติ จ วุจฺจตีติ.
๓๔๕. ตสฺมึ ยฺเ รุกฺขติณจฺเฉโทปิ นาม นาโหสิ, กุโต ปาณวโธติ ปาณวธาภาวสฺเสว ทฬฺหีกรณตฺถํ สพฺพโส วิปรีตคาหาวิทูสิตฺจสฺส ทสฺเสตุํ ปาฬิยํ ‘‘เนว คาโว หฺึสู’’ติ อาทึ วตฺวาปิ ‘‘น รุกฺขา ฉิชฺชึสู’’ติอาทิ วุตฺตํ, เตนาห ‘‘กึ ปน คาโว’’ติอาทิ. พริหิสตฺถายาติ ปริจฺเฉทนตฺถาย. วนมาลาสงฺเขเปนาติ วนปุปฺเผหิ คนฺถิตมาลานิยาเมน. ภูมิยํ วา ปตฺถรนฺตีติ เวทิภูมึ ปริกฺขิปนฺตา ตตฺถ ปนฺถรนฺติ. อนฺโตเคหทาสาทโยติ อนฺโตชาตธนกฺกีตกรมรานีตสยํทาสา. ปุพฺพเมวาติ ภติกรณโต ปเคว. คเหตฺวา กโรนฺตีติ ทิวเส ทิวเส คเหตฺวา กโรนฺติ. ตชฺชิตาติ ¶ คชฺชิตา. ปิยสมุทาจาเรเนวาติ อิฏฺวจเนเนว. ผาณิเตน เจวาติ เอตฺถ จ-สทฺโท อวุตฺตสมุจฺจยตฺโถ, เตน ปณีตปณีตานํ นานปฺปการานํ ขาทนียโภชนียาทีนฺเจว วตฺถมาลาคนฺธวิเลปนยานเสยฺยาทีนฺจ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ, เตนาห ‘‘ปณีเตหิ สปฺปิเตลาทิสมฺมิสฺเสเหวา’’ติอาทิ.
๓๔๖. สํ นาม ธนํ, ตสฺส ปตีติ สปติ, ธนวา. ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกหิตาวหตฺตา ตสฺส หิตนฺติ สาปเตยฺยํ, ตเทว ธนํ. เตนาห ‘‘ปหูตํ สาปเตยฺยํ อาทายาติ พหุํ ธนํ คเหตฺวา’’ติ. คามภาเคนาติ สงฺกิตฺตนวเสน คาเม วา คเหตพฺพภาเคน.
๓๔๗. ‘‘ยาคุํ ปิวิตฺวา’’ติ ยาคุสีเสน ปาตราสโภชนมาห. ปุรตฺถิเมน ยฺวาฏสฺสาติ รฺโ ทานสาลาย นาติทูเร ปุรตฺถิมทิสาภาเคติ ¶ อตฺโถ, ยโต ตตฺถ ปาตราสํ ภฺุชิตฺวา อกิลนฺตรูปาเยว สายนฺเห สาลํ ปาปุณนฺติ ‘‘ทกฺขิเณน ยฺวาฏสฺสา’’ติ อาทีสุปิ เอเสว นโย.
๓๔๘. ปริหาเรนาติ ¶ ภควนฺตํ ครุํ กตฺวา อคารวปริหาเรน.
นิจฺจทานอนุกุลยฺวณฺณนา
๓๔๙. อุฏฺาย สมุฏฺายาติ ทาเน อุฏฺานวีริยํ สกฺกจฺจํ กตฺวา. อปฺปสมฺภารตโรติ อติวิย ปริตฺตสมฺภาโร. สมารภียติ ยฺโ เอเตหีติ สมารมฺภา, สมฺภารสมฺภรณวเสน ปวตฺตสตฺตปีฬา. อปฺปฏฺตโรติ ปน อติวิย อปฺปกิจฺโจติ อตฺโถ. วิปากสฺิตํ อติสเยน มหนฺตํ สทิสผลํ เอตสฺสาติ ¶ มหปฺผลตโร. อุทยสฺิตํ อติสเยน มหนฺตํ นิสฺสนฺทาทิผลํ เอตสฺสาติ มหานิสํสตโร. ธุวทานานีติ ธุวานิ ถิรานิ อจฺฉินฺนานิ กตฺวา ทาตพฺพทานานิ. อนุกุลยฺานีติ อนุกุลํ กุลานุกฺกมํ อุปาทาย ทาตพฺพทานานิ, เตนาห ‘‘อมฺหาก’’นฺติอาทิ. นิพทฺธทานานีติ นิพนฺเธตฺวา นิยเมตฺวา ปเวณีวเสน ปวตฺติตทานานิ.
หตฺถิทนฺเตน ปวตฺติตา ทนฺตมยสลากา, ยตฺถ ทายกานํ นามํ องฺกนฺติ. รฺโติ เสตวาหนรฺโ.
อาทีนีติ อาทิ-สทฺเทน ‘‘เสโน วิย มํสเปสึ กสฺมา โอกฺขนฺทิตฺวา คณฺหาสี’’ติ เอวมาทีนํ สงฺคโห. ปุพฺพเจตนามฺุจเจตนาอปรเจตนาสมฺปตฺติยา ทายกสฺส วเสน ตีณิ องฺคานิ, วีตราคตาวีตโทสตาวีตโมหตาปฏิปตฺติยา ทกฺขิเณยฺยสฺส วเสน ตีณีติ เอวํ ฉฬงฺคสมนฺนาคตาย ทกฺขิณาย. อปราปรํ อุปฺปชฺชนกเจตนาวเสน มหานที วิย, มโหโฆ วิย จ อิโต จิโต จ อภิสนฺทิตฺวา โอกฺขนฺทิตฺวา ปวตฺติยา ปฺุเมว ปฺุาภิสนฺโท.
๓๕๐. กิจฺจปริโยสานํ นตฺถิ ทิวเส ทิวเส ทายกสฺส พฺยาปาราปชฺชนโต, เตนาห ‘‘เอเกนา’’ติอาทิ. กิจฺจปริโยสานํ อตฺถิ ยถารทฺธสฺส อาวาสสฺส กติปเยนาปิ กาเลน ปริสมาเปตพฺพโต, เตนาห ¶ ‘‘ปณฺณสาล’’นฺติอาทิ. สุตฺตนฺตปริยาเยนาติ สุตฺตนฺตปาฬินเยน. (ม. นิ. ๑.๑๒, ๑๓; อ. นิ. ๒.๕๘) นว อานิสํสาติ สีตปฏิฆาตาทโย ปฏิสลฺลานารามปริโยสานา นว อุทยา. อปฺปมตฺตตาย เจเต วุตฺตา.
ยสฺมา อาวาสํ เทนฺเตน นาม สพฺพมฺปิ ปจฺจยชาตํ ทินฺนเมว โหติ. ทฺเว ตโย คาเม ปิณฺฑาย จริตฺวา กิฺจิ ¶ อลทฺธา อาคตสฺสปิ ฉายูทกสมฺปนฺนํ อารามํ ปวิสิตฺวา นฺหายิตฺวา ปติสฺสเย มุหุตฺตํ นิปชฺชิตฺวา วุฏฺาย นิสินฺนสฺส กาเย พลํ อาหริตฺวา ปกฺขิตฺตํ วิย โหติ ¶ . พหิ วิจรนฺตสฺส จ กาเย วณฺณธาตุ วาตาตเปหิ กิลมติ, ปติสฺสยํ ปวิสิตฺวา ทฺวารํ ปิธาย มุหุตฺตํ นิปนฺนสฺส วิสภาคสนฺตติ วูปสมฺมติ, สภาคสนฺตติ ปติฏฺาติ, วณฺณธาตุ อาหริตฺวา ปกฺขิตฺตา วิย โหติ. พหิ วิจรนฺตสฺส จ ปาเท กณฺฏโก วิชฺฌติ, ขาณุ ปหรติ, สรีสปาทิปริสฺสยา เจว โจรภยฺจ อุปฺปชฺชติ, ปติสฺสยํ ปวิสิตฺวา ทฺวารํ ปิธาย นิปนฺนสฺส สพฺเพ เต ปริสฺสยา น โหนฺติ, สชฺฌายนฺตสฺส ธมฺมปีติสุขํ, กมฺมฏฺานํ มนสิ กโรนฺตสฺส อุปสมสุขฺจ อุปฺปชฺชติ พหิทฺธา วิกฺเขปาภาวโต. พหิ วิจรนฺตสฺส จ กาเย เสทา มุจฺจนฺติ, อกฺขีนิ ผนฺทนฺติ, เสนาสนํ ปวิสนกฺขเณ มฺจปีาทีนิ น ปฺายนฺติ, มุหุตฺตํ นิสินฺนสฺส ปน อกฺขีนํ ปสาโท อาหริตฺวา ปกฺขิตฺโต วิย โหติ, ทฺวารวาตปานมฺจปีาทีนิ ปฺายนฺติ. เอตสฺมิฺจ อาวาเส วสนฺตํ ทิสฺวา มนุสฺสา จตูหิ ปจฺจเยหิ สกฺกจฺจํ อุปฏฺหนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อาวาสํ เทนฺเตน นาม สพฺพมฺปิ ปจฺจยชาตํ ทินฺนเมว โหตี’’ติ, ตสฺมา เอเต ยถาวุตฺตา สพฺเพปิ อานิสํสา เวทิตพฺพา. เตน วุตฺตํ ‘‘อปฺปมตฺตตาย เจเต วุตฺตา’’ติ.
สีตนฺติ อชฺฌตฺตํ ธาตุกฺโขภวเสน วา พหิทฺธา อุตุวิปริณามวเสน วา อุปฺปชฺชนกสีตํ. อุณฺหนฺติ อคฺคิสนฺตาปํ, ตสฺส วนฑาหาทีสุ (วนทาหาทีสุ วา สารตฺถ. ฏี. จูฬวคฺค ๓.๒๙๕) สมฺภโว เวทิตพฺโพ. ปฏิหนฺตีติ ปฏิพาหติ, ยถา ตทุภยวเสน กายจิตฺตานํ พาธนํ น โหติ, เอวํ กโรติ. สีตุณฺหพฺภาหเต ¶ หิ สรีเร วิกฺขิตฺตจิตฺโต ภิกฺขุ โยนิโส ปทหิตุํ น สกฺโกติ. วาฬมิคานีติ สีหพฺยคฺฆาทิจณฺฑมิเค. คุตฺตเสนาสนฺหิ อารฺกมฺปิ ปวิสิตฺวา ทฺวารํ ปิธาย นิสินฺนสฺส เต ปริสฺสยา น โหนฺตีติ. สรีสเปติ เย เกจิ สรนฺเต คจฺฉนฺเต ทีฆชาติเก สปฺปาทิเก. มกเสติ นิทสฺสนมตฺตเมตํ, ฑํสาทีนมฺปิ เอเตสฺเวว ¶ (เอตเนว สารตฺถ. ฏี. จูฬวคฺค ๓.๒๙๕) สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. สิสิเรติ สิสิรกาลวเสน, สตฺตาหวทฺทลิกาทิวเสน จ อุปฺปนฺเน สิสิรสมฺผสฺเส. วุฏฺิโยติ ยทา ตทา อุปฺปนฺนา วสฺสวุฏฺิโย ปฏิหนตีติ โยชนา.
วาตาตโป โฆโรติ รุกฺขคจฺฉาทีนํ อุมฺมูลภฺชนาทิวเสน ปวตฺติยา โฆโร สรชอรชาทิเภโท วาโต เจว คิมฺหปริฬาหสมเยสุ อุปฺปตฺติยา โฆโร สูริยาตโป จ. ปฏิหฺตีติ ปฏิพาหียติ. เลณตฺถนฺติ นานารมฺมณโต จิตฺตํ นิวตฺเตตฺวา ปฏิสลฺลานารามตฺถํ. สุขตฺถนฺติ วุตฺตปริสฺสยาภาเวน ผาสุวิหารตฺถํ. ฌายิตุนฺติ อฏฺตึสาย อารมฺมเณสุ ยตฺถ กตฺถจิ จิตฺตํ อุปนิพนฺธิตฺวา อุปนิชฺฌายิตุํ. วิปสฺสิตุนฺติ อนิจฺจาทิโต สงฺขาเร สมฺมสิตุํ.
วิหาเรติ ¶ ปติสฺสเย. การเยติ การาเปยฺย. รมฺเมติ มโนรเม นิวาสสุเข. วาสเยตฺถ พหุสฺสุเตติ กาเรตฺวา ปน เอตฺถ วิหาเรสุ พหุสฺสุเต สีลวนฺเต กลฺยาณธมฺเม นิวาเสยฺย, เต นิวาเสนฺโต ปน เตสํ พหุสฺสุตานํ ยถา ปจฺจเยหิ กิลมโถ น โหติ, เอวํ อนฺนฺจ ปานฺจ วตฺถเสนาสนานิ จ ทเทยฺย อุชุภูเตสุ อชฺฌาสยสมฺปนฺเนสุ กมฺมกมฺมผลานํ, รตนตฺตยคุณานฺจ สทฺทหเนน วิปฺปสนฺเนน เจตสา.
อิทานิ คหฏฺปพฺพชิตานํ อฺมฺูปการิตํ ทสฺเสตุํ ¶ ‘‘เต ตสฺสา’’ติ คาถมาห. ตตฺถ เตติ พหุสฺสุตา. ตสฺสาติ อุปาสกสฺส. ธมฺมํ เทเสนฺตีติ สกลวฏฺฏทุกฺขปนูทนํ สทฺธมฺมํ เทเสนฺติ. ยํ โส ธมฺมํ อิธฺายาติ โส อุปาสโก ยํ สทฺธมฺมํ อิมสฺมึ สาสเน สมฺมาปฏิปชฺชเนน ชานิตฺวา อคฺคมคฺคาธิคเมน อนาสโว หุตฺวา ปรินิพฺพาติ เอกาทสคฺคิวูปสเมน สีติ ภวติ.
สีตปฏิฆาตาทโย วิปสฺสนาวสานา เตรส, อนฺนาทิลาโภ, ธมฺมสฺสวนํ, ธมฺมาวโพโธ, ปรินิพฺพานนฺติ เอวํ สตฺตรส.
๓๕๑. อตฺตโน สนฺตกาติ อตฺตนิยา. ทุปฺปริจฺจชนํ โลภํ นิคฺคณฺหิตุํ อสกฺโกนฺตสฺส. สงฺฆสฺส วา คณสฺส วา สนฺติเกติ โยชนา. ตตฺถาติ ¶ ยถาคหิเต สรเณ. นตฺถิ ปุนปฺปุนํ กตฺตพฺพตา วิฺูชาติกสฺสาติ อธิปฺปาโย. ‘‘ชีวิตปริจฺจาคมยํ ปฺุ’’นฺติ ‘‘สเจ ตฺวํ น ยถาคหิตํ สรณํ ภินฺทิสฺสติ, เอวาหํ ตํ มาเรมี’’ติ ยทิปิ โกจิ ติณฺเหน สตฺเถน ชีวิตา โวโรเปยฺย, ตถาปิ ‘‘เนวาหํ พุทฺธํ น พุทฺโธติ, ธมฺมํ น ธมฺโมติ, สงฺฆํ น สงฺโฆติ วทามี’’ติ ทฬฺหตรํ กตฺวา คหิตสรณสฺส วเสน วุตฺตํ.
๓๕๒. สรณํ อุปคเตน กายวาจาจิตฺเตหิ สกฺกจฺจํ วตฺถุตฺตยปูชา กาตพฺพา, ตตฺถ จ สํกิเลโส ปริหนิตพฺโพ, สิกฺขาปทานิ ปน สมาทานมตฺตํ, สมฺปตฺตวตฺถุโต วิรมณมตฺตฺจาติ สรณคมนโต สีลสฺส อปฺปฏฺตรตา, อปฺปสมารมฺภตรตา จ เวทิตพฺพา. สพฺเพสํ สตฺตานํ ชีวิตทานาทินา ทณฺฑนิธานโต, สกลโลกิยโลกุตฺตรคุณาธิฏฺานโต จสฺส มหปฺผลมหานิสํสตรตา ทฏฺพฺพา.
วกฺขมานนเยน ¶ จ เวรเหตุตาย เวรํ วุจฺจติ ปาณาติปาตาทิปาปธมฺโม, ตํ มณติ ‘‘มยิ อิธ ิตาย กถํ อาคจฺฉสี’’ติ ตชฺเชนฺตี วิย นีหรตีติ เวรมณี, ตโต วา ปาปธมฺมโต ¶ วิรมติ เอตายาติ ‘‘วิรมณี’’ติ วตฺตพฺเพ นิรุตฺตินเยน อิการสฺส เอการํ กตฺวา ‘‘เวรมณี’’ติ วุตฺตา. อสมาทินฺนสีลสฺส สมฺปตฺตโต ยถาอุปฏฺิตวีติกฺกมิตพฺพวตฺถุโต วิรติ สมฺปตฺตวิรติ. สมาทานวเสน อุปฺปนฺนา วิรติ สมาทานวิรติ. เสตุ วุจฺจติ อริยมคฺโค, ตปฺปริยาปนฺนา หุตฺวา ปาปธมฺมานํ สมุจฺเฉทวเสน ฆาตนวิรติ เสตุฆาตวิรติ. อิทานิ ติสฺโส วิรติโย สรูปโต ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปริหรตีติ อวีติกฺกมวเสน ปริวชฺเชติ. น หนามีติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท อาทิอตฺโถ, เตน ‘‘อทินฺนํ นาทิยามี’’ติ เอวํ อาทีนํ สงฺคโห, วา-สทฺเทน วา, เตนาห ‘‘สิกฺขาปทานิ คณฺหนฺตสฺสา’’ติ.
มคฺคสมฺปยุตฺตาติ สมฺมาทิฏฺิยาทิมคฺคสมฺปยุตฺตา. อิทานิ ตาสํ วิรตีนํ อารมฺมณโต วิภาคํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปุริมา ทฺเวติ สมฺปตฺตสมาทานวิรติโย. ปจฺฉิมาติ เสตุฆาตวิรติ. สพฺพานิปิ ภินฺนานิ โหนฺติ เอกชฺฌํ สมาทินฺนตฺตา. ตเทว ภิชฺชติ วิสุํ วิสุํ สมาทินฺนตฺตา ¶ . คหฏฺวเสน เจตํ วุตฺตํ. เภโท นาม นตฺถิ ปฏิปกฺขสมุจฺฉินฺทเนน อกุปฺปสภาวตฺตา, เตนาห ‘‘ภวนฺตเรปี’’ติ. โยนิสิทฺธนฺติ มนุสฺสติรจฺฉานานํ อุทฺธํ ติริยเมว ทีฆตา วิย ชาติสิทฺธนฺติ อตฺโถ. โพธิสตฺเต กุจฺฉิคเต โพธิสตฺตมาตุสีลํ วิย ธมฺมตาย สภาเวเนว สิทฺธํ ธมฺมตาสิทฺธํ, มคฺคธมฺมตาย วา อริยมคฺคานุภาเวน สิทฺธํ ธมฺมตาสิทฺธํ. ทิฏฺิอุชุกรณํ ¶ นาม ภาริยํ ทุกฺขํ, ตสฺมา สรณคมนํ สิกฺขาปทสมาทานโต มหฏฺตรเมว, น อปฺปฏฺตรนฺติ อธิปฺปาโย. ยถา ตถา วา คณฺหนฺตสฺสาปีติ อาทรคารวํ อกตฺวา สมาทิยนฺตสฺสาปิ. สาธุกํ คณฺหนฺตสฺสาปีติ สกฺกจฺจํ สีลานิ สมาทิยนฺตสฺสาปิ, น ทิคุณํ, ติคุณํ วา อุสฺสาโห กรณีโย.
อภยทานตาย สีลสฺส ทานภาโว, อนวเสสํ วา สตฺตนิกายํ ทยติ เตน รกฺขตีติ ทานํ, สีลํ. ‘‘อคฺคานี’’ติ าตตฺตา อคฺคฺานิ. จิรรตฺตตาย าตตฺตา รตฺตฺานิ. ‘‘อริยานํ สาธูนํ วํสานี’’ติ าตตฺตา วํสฺานิ.‘‘โปราณานี’’ติอาทีสุ ปุริมานํ เอตานิ โปราณานิ. สพฺพโส เกนจิปิ ปกาเรน สาธูหิ น กิณฺณานิ น ขิตฺตานิ น ฉฑฺฑิตานีติ อสงฺกิณฺณานิ. อยฺจ นโย เนสํ ยถา อตีเต, เอวํ เอตรหิ, อนาคเต จาติ อาห ‘‘อสงฺกิณฺณปุพฺพานิ น สงฺกิยนฺติ น สงฺกิยิสฺสนฺตี’’ติ. ตโต เอว อปฺปปิกุฏฺานิ น ปฏิกฺขิตฺตานิ. น หิ กทาจิปิ วิฺู สมณพฺราหฺมณา หึสาทิปาปธมฺมํ อนุชานนฺติ. อปริมาณานํ สตฺตานํ อภยํ เทตีติ สพฺเพสุ ภูเตสุ นิหิตทณฺฑตฺตา สกลสฺสปิ สตฺตนิกายสฺส ภยาภาวํ เทติ. น หิ อริยสาวกโต กสฺสจิ ภยํ โหติ. อเวรนฺติ เวราภาวํ. อพฺยาปชฺฌนฺติ นิทฺทุกฺขตํ.
นนุ ¶ จ ปฺจสีลํ สพฺพกาลิกํ, น จ เอกนฺตโต วิมุตฺตายตนํ, สรณคมนํ ปน พุทฺธุปฺปาทเหตุกํ, เอกนฺตวิมุตฺตายตนฺจ, ตตฺถ กถํ สรณาคมนโต ปฺจสีลสฺส มหปฺผลตาติ อาห ‘‘กิฺจาปี’’ติอาทิ. เชฏฺกนฺติ อุตฺตมํ. ‘‘สรณคมเนเยว ปติฏฺายา’’ติ ¶ อิมินา ตสฺส สีลสฺส สรณคมเนน อภิสงฺขตตมาห.
๓๕๓. อีทิสเมวาติ เอวํ สํกิเลสํ ปฏิปกฺขเมว หุตฺวา. เหฏฺา วุตฺเตหิ คุเณหีติ เอตฺถ เหฏฺา วุตฺตคุณา นาม สรณคมนํ, สีลสมฺปทา, อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารตาติ เอวํ อาทโย. ปมชฺฌานํ นิพฺพตฺเตนฺโต น กิลมตีติ ¶ โยชนา. ตานีติ ปมชฺฌานาทีนิ. ‘‘ปมชฺฌาน’’นฺติ อุกฺกฏฺนิทฺเทโส อยนฺติ อาห ‘‘เอกํ กปฺป’’นฺติ, เอกํ มหากปฺปนฺติ อตฺโถ. หีนํ ปน ปมชฺฌานํ, มชฺฌิมฺจ อสงฺขฺเยยฺยกปฺปสฺส ตติยํ ภาคํ, อุปฑฺฒกปฺปฺจ อายุํ เทติ. ‘‘ทุติยํ อฏฺกปฺเป’’ติ อาทีสุปิ อิมินา นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ, มหากปฺปวเสเนว จ คเหตพฺพํ. ยสฺมา วา ปณีตานิเยเวตฺถ ฌานานิ อธิปฺเปตานิ มหปฺผลตรภาวทสฺสนปรตฺตา เทสนาย, ตสฺมา ‘‘ปมชฺฌานํ เอกํ กปฺป’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตเทวาติ จตุตฺถชฺฌานเมว. ยทิ เอวํ กถํ อารุปฺปตาติ อาห ‘‘อากาสานฺจายตนาที’’ติอาทิ.
สมฺมเทว นิจฺจสฺาทิปฏิปกฺขวิธมนวเสน ปวตฺตมานา ปุพฺพภาคิเย เอว โพธิปกฺขิยธมฺเม สมฺมาเนนฺตี วิปสฺสนา วิปสฺสกสฺส อนปฺปกํ ปีติโสมนสฺสํ สมาวหตีติ อาห ‘‘วิปสฺสนา…เป… อภาวา’’ติ. เตนาห ภควา –
‘‘ยโต ยโต สมฺมสติ, ขนฺธานํ อุทยพฺพยํ;
ลภตี ปีติปาโมชฺชํ, อมตํ ตํ วิชานต’’นฺติ. (ธ. ป. ๓๗๔);
ยสฺมา อยํ เทสนา อิมินา อนุกฺกเมน อิมานิ าณานิ นิพฺพตฺเตนฺตสฺส ¶ วเสน ปวตฺติตา, ตสฺมา ‘‘วิปสฺสนาาเณ ปติฏฺาย นิพฺพตฺเตนฺโต’’ติ เหฏฺิมํ เหฏฺิมํ อุปริมสฺส อุปริมสฺส ปติฏฺาภูตํ กตฺวา วุตฺตํ. สมานรูปนิมฺมานํ นาม มโนมยิทฺธิยา อฺเหิ อสาธารณกิจฺจนฺติ อาห ‘‘อตฺตโน…เป… มหปฺผลา’’ติ. วิกุพฺพนทสฺสนสมตฺถตายาติ หตฺถิอสฺสาทิวิวิธรูปกรณํ วิกุพฺพนํ, ตสฺส ทสฺสนสมตฺถภาเวน. อิจฺฉิติจฺฉิตฏฺานํ นาม ปุริมชาตีสุ อิจฺฉิติจฺฉิโต ขนฺธปฺปเทโส. สมาเปนฺโตติ ปริโยสาเปนฺโต.
กูฏทนฺตอุปาสกตฺตปฏิเวทนากถาวณฺณนา
๓๕๔-๘. สพฺเพ ¶ เต ปาณโยติ ‘‘สตฺต จ อุสภสตานี’’ติอาทินา วุตฺเต สพฺเพ ปาณิโน. อากุลภาโวติ ภควโต สนฺติเก ธมฺมสฺส สุตตฺตา ปาณีสุ อนุทฺทยํ อุปฏฺเปตฺวา ิตสฺส ‘‘กถฺหิ นาม มยา ตาว พหู ปาณิโน มารณตฺถาย พนฺธาปิตา’’ติ จิตฺเต ปริพฺยากุลภาโว ¶ อุทปาทิ. สุตฺวาติ ‘‘พนฺธนโต โมจิตา’’ติ สุตฺวา. กามจฺฉนฺทวิคเมน กลฺลจิตฺตตา อโรคจิตฺตตา, พฺยาปาทวิคเมน เมตฺตาวเสน มุทุจิตฺตตา อกถินจิตฺตตา, อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจปฺปหาเนน วิกฺเขปวิคมนโต วินีวรณจิตฺตตา เตหิ น ปิหิตจิตฺตตา, ถินมิทฺธวิคเมน อุทคฺคจิตฺตตา สํปคฺคณฺหนวเสน อลีนจิตฺตตา, วิจิกิจฺฉาวิคเมน สมฺมาปฏิปตฺติยา อธิมุตฺตตาย ปสนฺนจิตฺตตา จ โหตีติ อาห ‘‘กลฺลจิตฺตนฺติอาทิ อนุปุพฺพิกถานุภาเวน วิกฺขมฺภิตนีวรณตํ สนฺธาย วุตฺต’’นฺติ. ยํ ปเนตฺถ อตฺถโต อวิภตฺตํ, ตํ สุวิฺเยฺยเมว.
กูฏทนฺตสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา.