📜

๖. มหาลิสุตฺตวณฺณนา

พฺราหฺมณทูตวตฺถุวณฺณนา

๓๕๙. ปุนปฺปุนํวิสาลีภาวูปคมนโตติ ปุพฺเพ กิร ปุตฺตธีตุวเสน ทฺเว ทฺเว หุตฺวา โสฬสกฺขตฺตุํ ชาตานํ ลิจฺฉวีราชกุมารานํ สปริวารานํ อนุกฺกเมเนว วฑฺฒนฺตานํ นิวาสนฏฺานารามุยฺยานโปกฺขรณีอาทีนํ ปติฏฺานสฺส อปฺปโหนกตาย นครํ ติกฺขตฺตุํ คาวุตนฺตเรน คาวุตนฺตเรน ปริกฺขิปึสุ, เตนสฺส ปุนปฺปุนํ วิสาลีภาวํ คตตฺตา ‘‘เวสาลี’’ ตฺเวว นามํ ชาตํ, เตน วุตฺตํ ‘‘ปุนปฺปุนํ วิสาลีภาวูปคมนโต เวสาลีติ ลทฺธนามเก นคเร’’ติ. สยํชาตนฺติ สยเมว ชาตํ อโรปิมํ. มหนฺตภาเวเนวาติ รุกฺขคจฺฉานํ, ิโตกาสสฺส จ มหนฺตภาเวน, เตนาห ‘‘หิมวนฺเตน สทฺธึ เอกาพทฺธํ หุตฺวา’’ติ. กูฏาคารสาลาสงฺเขเปนาติ หํสวฏฺฏกจฺฉนฺเนน กูฏาคารสาลานิยาเมน. โกสเลสุ ชาตา, ภวา วา, ตํ วา รฏฺํ นิวาโส เอเตสนฺติ โกสลกา. เอวํ มาคธกา เวทิตพฺพา. ยสฺส อกรเณ ปุคฺคโล มหาชานิโย โหติ, ตํ กรณํ อรหตีติ กรณียํ เตน กรณีเยน, เตนาห ‘‘อวสฺสํ กตฺตพฺพกมฺเมนา’’ติ. ตํ กิจฺจนฺติ วุจฺจติ สติ สมวาเย กาตพฺพโต.

๓๖๐. ยา พุทฺธานํ อุปฺปชฺชนารหา นานตฺตสฺา, ตาสํ วเสน นานารมฺมณาจารโต. สมฺภวนฺตสฺเสว ปฏิเสโธ. ปฏิกฺกมฺมาติ นิวตฺติตฺวา ตถา จิตฺตํ อนุปฺปาเทตฺวา. สลฺลีโนติ ฌานสมาปตฺติยา เอกตฺตารมฺมณํ อลฺลีโน.

โอฏฺทฺธลิจฺฉวีวตฺถุวณฺณนา

๓๖๑. อทฺโธฏฺตายาติ ตสฺส กิร อุตฺตโรฏฺํ อปฺปกตาย ติริยํ ผาเลตฺวา อปนีตทฺธํ วิย ขายติ จตฺตาโร ทนฺเต, ทฺเว จ ทาา น ฉาเทติ, เตน นํ ‘‘โอฏฺทฺโธ’’ติ โวหรนฺติ. อยํ กิร อุปาสโก สทฺโธ ปสนฺโน ทายโก ทานปติ พุทฺธมามโก ธมฺมมามโก สงฺฆมามโก, เตนาห ปุเรภตฺตนฺติอาทิ.

๓๖๒. สาสเนยุตฺตปยุตฺโตติ ภาวนํ อนุยุตฺโต. สพฺพตฺถ สีหสมานวุตฺติโนปิ ภควโต ปริสาย มหนฺเต สติ ตทชฺฌาสยานุรูปํ ปวตฺติยมานาย ธมฺมเทสนาย วิเสโส โหตีติ อาห ‘‘มหนฺเตน อุสฺสาเหน ธมฺมํ เทเสสฺสตี’’ติ.

‘‘วิสฺสาสิโก’’ติ วตฺวา ตมสฺส วิสฺสาสิกภาวํ วิภาเวตุํ ‘‘อยฺหี’’ติอาทิ วุตฺตํ. เถรสฺส ขีณา สวสฺสสโต อาลสิยภาโว ‘‘อปฺปหีโน’’ติ น วตฺตพฺโพ, วาสนาเลสํ ปน อุปาทายาห ‘‘อีสกํ อปฺปหีโน วิย โหตี’’ติ. น หิ สาวกานํ สวาสนา กิเลสา ปหียนฺติ.

๓๖๓. วิเนยฺยชนานุโรเธน พุทฺธานํ ปาฏิหาริยวิชมฺภนํ โหตีติ วุตฺตํ ‘‘อถ โข ภควา’’ติอาทิ, เตเนวาห ‘‘สํสูจิตนิกฺขมโน’’ติ. คนฺธกุฏิโต นิกฺขมนเวลายฺหิ ฉพฺพณฺณา พุทฺธรสฺมิโย อาเวฬาเวฬายมลายมลา หุตฺวา สวิเสสา ปภสฺสรา วินิจฺฉรึสุ.

๓๖๔. ตโต ปรนฺติ ‘‘หิยฺโย’’ติ วุตฺตทิวสโต อนนฺตรํ ปรํ ปุริมตรํ อติสเยน ปุริมตฺตา. อิติ อิเมสุ ทฺวีสุ ววตฺถิโต ยถากฺกมํ ปุริมปุริมตรภาโว. เอวํ สนฺเตปิ ยเทตฺถ ‘‘ปุริมตร’’นฺติ วุตฺตํ, ตโต ปภุติ ยํ ยํ โอรํ, ตํ ตํ ปุริมํ, ยํ ยํ ปรํ, ตํ ตํ ปุริมตรํ, โอรปารภาวสฺส วิย ปุริมปุริมตรภาวสฺส จ อเปกฺขาสิทฺธิโต, เตนาห ‘‘ตโต ปฏฺายา’’ติอาทิ. มูลทิวสโต ปฏฺายาติอาทิทิวสโต ปฏฺาย. อคฺคนฺติ ปมํ. ตํ ปเนตฺถ ปรา อตีตา โกฏิ โหตีติ อาห ‘‘ปรโกฏึ กตฺวา’’ติ. ยํ-สทฺทโยเคน จายํ ‘‘วิหรามี’’ติ วตฺตมานปฺปโยโค, อตฺโถ ปน อตีตกาลวเสเนว เวทิตพฺโพ, เตนาห ‘‘วิหาสินฺติ วุตฺตํ โหตี’’ติ. ปมวิกปฺเป ‘‘วิหรามี’’ติ ปทสฺส ‘‘ยทคฺเค’’ติ อิมินา อุชุกํ สมฺพนฺโธ ทสฺสิโต, ทุติยวิกปฺเป ปน ‘‘ตีณิ วสฺสานี’’ติ อิมินาปิ.

ปิยชาติกานีติ อิฏฺสภาวานิ. สาตชาติกานีติ มธุรสภาวานิ. มธุรํ วิยาติ หิ ‘‘มธุร’’นฺติ วุจฺจติ มโนรมํ ยํ กิฺจิ. กามูปสฺหิตานีติ อารมฺมณํ กโรนฺเตน กาเมน อุปสํหิตานิ, กามนียานีติ อตฺโถ, เตนาห ‘‘กามสฺสาทยุตฺตานี’’ติ, กามสฺสาทสฺส ยุตฺตานิ โยคฺยานีติ อตฺโถ. สรีรสณฺาเนติ สรีรพิมฺเพ, อาธาเร เจตํ ภุมฺมํ. ตสฺมา สทฺเทนาติ ตํ นิสฺสาย ตโต อุปฺปนฺเนน สทฺเทนาติ อตฺโถ. มธุเรนาติ อิฏฺเน. เอตฺตาวตาติ ทิพฺพโสตาณสฺส ปริกมฺมากถนมตฺเตน. ‘‘อตฺตนา าตมฺปิ น กเถติ, กิมสฺส สาสเน อธิฏฺาเนนา’’ติ กุชฺฌนฺโต อาฆาตํ พนฺธิตฺวา สห กุชฺฌเนเนว ฌานาภิฺาหิ ปริหายิ. จินฺเตสีติ ‘‘กสฺมา นุ โข มยฺหํ ตํ ปริกมฺมํ น กเถสี’’ติ ปริวิตกฺเกนฺโต อโยนิโส อุมฺมุชฺชนวเสน จินฺเตสิ. อนุกฺกเมนาติ ปาถิกสุตฺเต อาคตนเยน ตํ ตํ อยุตฺตเมว จินฺเตนฺโต, ภาสนฺโต, กโรนฺโต จ อนุกฺกเมน. ภควติ พทฺธาฆาตตาย สาสเน ปติฏฺํ อลภนฺโต คิหิภาวํ ปตฺวา.

เอกํสภาวิตสมาธิวณฺณนา

๓๖๖-๓๗๑. เอกํสายาติ ตทตฺเถเยว จตุตฺถี, ตสฺมา เอกํสตฺถนฺติ อตฺโถ. อํส-สทฺโท เจตฺถ โกฏฺาสปริยาโย, โส จ อธิการโต ทิพฺพรูปทสฺสนทิพฺพสทฺทสฺสวนวเสน เวทิตพฺโพติ อาห ‘‘เอกโกฏฺาสายา’’ติอาทิ. อนุทิสายาติ ปุรตฺถิมทกฺขิณาทิเภทาย จตุพฺพิธาย อนุทิสาย. อุภยโกฏฺาสายาติ ทิพฺพรูปทสฺสนตฺถาย, ทิพฺพสทฺทสฺสวนตฺถาย จ. ภาวิโตติ ยถา ทิพฺพจกฺขุาณํ, ทิพฺพโสตาณฺจ สมธิคตํ โหติ, เอวํ ภาวิโต. ตยิทํ วิสุํ วิสุํ ปริกมฺมกรเณน อิชฺฌนฺตีสุ วตฺตพฺพํ นตฺถิ, เอกชฺฌํ อิชฺฌนฺตีสุปิ กเมเนว กิจฺจสิทฺธิ เอกชฺฌํ กิจฺจสิทฺธิยา อสมฺภวโต. ปาฬิยมฺปิ เอกสฺส อุภยสมตฺถตาสนฺทสฺสนตฺถเมว ‘‘ทิพฺพานฺจ รูปานํ ทสฺสนาย, ทิพฺพานฺจ สทฺทานํ สวนายา’’ติ วุตฺตํ, น เอกชฺฌํ กิจฺจสิทฺธิสมฺภวโต. ‘‘เอกํสภาวิโต สมาธิเหตู’’ติ อิมินา สุนกฺขตฺโต ทิพฺพจกฺขุาณาย เอว ปริกมฺมสฺส กตตฺตา วิชฺชมานมฺปิ ทิพฺพสทฺทํ นาสฺโสสฺสีติ ทสฺเสติ. อปณฺณกนฺติ อวิรชฺฌนกํ, อนวชฺชนฺติ วา อตฺโถ.

๓๗๒. ‘‘สมาธิ เอว’’ ภาเวตพฺพฏฺเน สมาธิภาวนา. ‘‘ทิพฺพโสตาณํ เสฏฺ’’นฺติ มฺมาเนนาปิ มหาลินา ทิพฺพจกฺขุาณมฺปิ เตน สห คเหตฺวา ‘‘เอตาสํ นูน ภนฺเต’’ติอาทินา ปุจฺฉิตนฺติ ‘‘อุภยํสภาวิตานํ สมาธีนนฺติ อตฺโถ’’ติ วุตฺตํ. พาหิราเอตา สมาธิภาวนา อนิยฺยานิกตฺตา. ตา หิ อิโต พาหิรกานมฺปิ อิชฺฌนฺติ. น อชฺฌตฺติกา ภควโต สามุกฺกํสิกภาเวน อปฺปเวทิตตฺตา. ยทตฺถนฺติ เยสํ อตฺถาย. เตติ เต อริยผลธมฺเม. เต หิ สจฺฉิกาตพฺพาติ.

จตุอริยผลวณฺณนา

๓๗๓. ตสฺมาติ วฏฺฏทุกฺเข สํโยชนโต. ‘‘มคฺคโสตํ อาปนฺโน’’ติ ผลฏฺสฺส วเสน วุตฺตํ. มคฺคฏฺโ หิ มคฺคโสตํ อาปชฺชติ. เตเนวาห ‘‘โสตาปนฺเน’’ติ, ‘‘โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺเน’’ติ (ม. นิ. ๓.๓๗๙) จ. อปตนธมฺโมติ อนุปฺปชฺชน- (ม. นิ. ๓.๓๗๙) สภาโว. ธมฺมนิยาเมนาติ มคฺคธมฺมนิยาเมน. เหฏฺิมนฺตโต สตฺตมภวโต อุปริ อนุปฺปชฺชนธมฺมตาย วา นิยโต. ปรํ อยนํ ปราคติ.

ตนุตฺตํ นาม ปวตฺติยา มนฺทตา, วิรฬตา จาติ อาห ‘‘ตนุตฺตา’’ติอาทิ. เหฏฺาภาคิยานนฺติ เหฏฺาภาคสฺส กามภวสฺสปจฺจยภาเวน หิตานํ. โอปปาติโกติ อุปปาติโก อุปปตเน สาธุการีติ กตฺวา. วิมุจฺจตีติ วิมุตฺติ, จิตฺตเมว วิมุตฺติ เจโตวิมุตฺตีติ อาห ‘‘สพฺพกิเลส…เป… อธิวจน’’นฺติ. จิตฺตสีเสน เจตฺถ สมาธิ คหิโต ‘‘จิตฺตํ ปฺฺจ ภาวย’’นฺติ. อาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๒๓; เปฏโก. ๒๒; มิ. ป. ๒.๙) วิย. ปฺาวิมุตฺตีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย, เตนาห ‘‘ปฺาว ปฺาวิมุตฺตี’’ติ. สามนฺติ อตฺตนาว, อปรปฺปจฺจเยนาติ อตฺโถ. อภิฺาติ ย-การโลเปน นิทฺเทโสติ อาห ‘‘อภิชานิตฺวา’’ติ.

อริยอฏฺงฺคิกมคฺควณฺณนา

๓๗๔-๕. อริยสาวโก นิพฺพานํ, อริยผลฺจ ปฏิปชฺชติ เอตายาติ ปฏิปทา, สา จ ตสฺส ปุพฺพภาโค เอวาติ อิธ ‘‘ปุพฺพภาคปฏิปทายา’’ติ อริยมคฺคมาห. ‘‘อฏฺ องฺคานิ อสฺสา’’ติ อฺปทตฺถสมาสํ อกตฺวา อฏฺงฺคานิ อสฺส สนฺตีติ อฏฺงฺคิโกติ ปทสิทฺธิ ทฏฺพฺพา.

สมฺมา อวิปรีตํ ยาถาวโต จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ ปจฺจกฺขโต ทสฺสนสภาวา สมฺมา ทสฺสนลกฺขณา. สมฺมเทว นิพฺพานารมฺมเณ จิตฺตสฺส อภินิโรปนสภาโว สมฺมา อภินิโรปนลกฺขโณ. จตุรงฺคสมนฺนาคตา วาจา ชนํ สงฺคณฺหาตีติ ตพฺพิปกฺขวิรติสภาวา สมฺมาวาจา เภทกรมิจฺฉาวาจาปหาเนน ชเน สมฺปยุตฺเต จ ปริคฺคณฺหนกิจฺจวตี โหตีติ สมฺมา ปริคฺคหณลกฺขณา. ยถา จีวรกมฺมาทิโก กมฺมนฺโต เอกํ กาตพฺพํ สมุฏฺาเปติ, ตํ ตํ กิริยานิปฺผาทโก วา เจตนาสงฺขาโต กมฺมนฺโต หตฺถปาทจลนาทิกํ กิริยํ สมุฏฺาเปติ, เอวํ สาวชฺชกตฺตพฺพกิริยาสมุฏฺาปกมิจฺฉากมฺมนฺตปฺปหาเนน สมฺมากมฺมนฺโต นิรวชฺชสมุฏฺาปนกิจฺจวา โหติ, สมฺปยุตฺเต จ สมุฏฺาเปนฺโต เอว ปวตฺตตีติ สมฺมา สมุฏฺาปนลกฺขโณ สมฺมากมฺมนฺโต. กายวาจานํ, ขนฺธสนฺตานสฺส จ สํกิเลสภูตมิจฺฉาชีวปฺปหาเนน สมฺมา โวทาปนลกฺขโณ สมฺมาอาชีโว. โกสชฺชปกฺขโต ปติตุํ อทตฺวา สมฺปยุตฺตธมฺมานํ ปคฺคณฺหนสภาโวติ สมฺมา ปคฺคาหลกฺขโณ สมฺมาวายาโม. สมฺมเทว อุปฏฺานสภาวาติ สมฺมา อุปฏฺานลกฺขณา สมฺมาสติ. วิกฺเขปวิทฺธํสเนน สมฺมเทว จิตฺตสฺส สมาทหนสภาโวติ สมฺมา สมาธานลกฺขโณ สมฺมาสมาธิ.

อตฺตโน ปจฺจนีกกิเลสา ทิฏฺเกฏฺา อวิชฺชาทโย. ปสฺสตีติ ปกาเสติ กิจฺจปฏิเวเธน ปฏิวิชฺฌติ, เตนาห ‘‘ตปฺปฏิจฺฉาทก…เป… อสมฺโมหโต’’ติ. เตเนว หิ สมฺมาทิฏฺิสงฺขาเตน องฺเคน ตตฺถ ปจฺจเวกฺขณา ปวตฺตตีติ ตเถวาติ อตฺตโน ปจฺจนีกกิเลเสหิ สทฺธินฺติ อตฺโถ.

กิจฺจโตติ ปุพฺพภาเคหิ ทุกฺขาทิาเณหิ กาตพฺพสฺส กิจฺจสฺส อิธ สาติสยํ นิปฺผตฺติโต อิมสฺเสว วา าณสฺส ทุกฺขาทิปฺปกาสนกิจฺจโต. จตฺตาริ นามานิ ลภติ จตูสุ สจฺเจสุ กาตพฺพกิจฺจนิปฺผตฺติโต. ตีณิ นามานิ ลภติ กามสงฺกปฺปาทิปฺปหานกิจฺจนิปฺผตฺติโต. สิกฺขาปทวิภงฺเค (วิภ. ๗๐๓) ‘‘วิรติเจตนา, สพฺเพ สมฺปยุตฺตธมฺมา จ สิกฺขาปทานี’’ติ วุจฺจนฺตีติ ตตฺถ ปธานานํ วิรติเจตนานํ วเสน ‘‘วิรติโยปิโหนฺติ เจตนาโยปี’’ติ อาห. มุสาวาทาทีหิ วิรมณกาเล วา วิรติโย, สุภาสิตาทิวาจาภาสนาทิกาเล จ เจตนาโย โยเชตพฺพา. มคฺคกฺขเณ วิรติโยว เจตนานํ อมคฺคงฺคตฺตา เอกสฺส าณสฺส ทุกฺขาทิาณตา วิย, เอกาย วิรติยา มุสาวาทาทิวิรติภาโว วิย จ เอกาย เจตนาย สมฺมาวาจาทิกิจฺจตฺตยสาธนสภาวาภาวา สมฺมาวาจาทิภาวาสิทฺธิโต, ตํสิทฺธิยฺจ องฺคตฺตยตฺตาสิทฺธิโต จ. สมฺมปฺปธานสติปฏฺานวเสนาติ จตุสมฺมปฺปธานจตุสติปฏฺานภาววเสน.

ปุพฺพภาเคปิ มคฺคกฺขเณปิ สมฺมาสมาธิเยวาติ. ยทิปิ สมาธิอุปการกานํ อภินิโรปนานุมชฺชนสมฺปิยายนพฺรูหนสนฺตสุขานํ วิตกฺกาทีนํ วเสน จตูหิ ฌาเนหิ สมฺมาสมาธิ วิภตฺโต, ตถาปิ วายาโม วิย อนุปฺปนฺนากุสลานุปฺปาทนาทิจตุวายามกิจฺจํ, สติ วิย จ อสุภาสุขานิจฺจานตฺเตสุ กายาทีสุ สุภาทิสฺาปหานจตุสติกิจฺจํ เอโก สมาธิ จตุกฺกชฺฌานสมาธิกิจฺจํ น สาเธตีติ ปุพฺพภาเคปิ ปมชฺฌานสมาธิ ปมชฺฌานสมาธิ เอว มคฺคกฺขเณปิ, ตถา ปุพฺพภาเคปิ จตุตฺถชฺฌานสมาธิ จตุตฺถชฺฌานสมาธิ เอว มคฺคกฺขเณปีติ อตฺโถ.

ตสฺมาติ ปฺาปชฺโชตตฺตา อวิชฺชนฺธการํ วิธมิตฺวา ปฺาสตฺถตฺตา กิเลสโจเร ฆาเตนฺโต. พหุการตฺตาติ ยฺวายํ อนาทิมติ สํสาเร อิมินา กทาจิปิ อสมุคฺฆาฏิตปุพฺโพ กิเลสคโณ ตสฺส สมุคฺฆาฏโก อริยมคฺโค . ตตฺถ จายํ สมฺมาทิฏฺิ ปริฺาภิสมยาทิวเสน ปวตฺติยา ปุพฺพงฺคมา โหตีติ พหุการา, ตสฺมา พหุการตฺตา.

ตสฺสาติ สมฺมาทิฏฺิยา. ‘‘พหุกาโร’’ติ วตฺวา ตํ พหุการตํ อุปมาย วิภาเวตุํ ‘‘ยถา หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘อยํ’’ ตมฺพกํสาทิมยตฺตา กูโฏ. อยํ สมสารตาย มหาสารตาย เฉโก. เอวนฺติ ยถา เหรฺิกสฺส จกฺขุนา ทิสฺวา กหาปณวิภาคชานเน กรณนฺตรํ พหุการํ ยทิทํ หตฺโถ, เอวํ โยคาวจรสฺส ปฺาย โอโลเกตฺวา ธมฺมวิภาคชานเน ธมฺมนฺตรํ พหุการํ ยทิทํ วิตกฺโก วิตกฺเกตฺวา ตทวโพธโต, ตสฺมา สมฺมาสงฺกปฺโป สมฺมาทิฏฺิยา พหุกาโรติ อธิปฺปาโย. ทุติยอุปมายํ เอวนฺติ ยถา ตจฺฉโก ปเรน ปริวตฺเตตฺวา ปริวตฺเตตฺวา ทินฺนํ ทพฺพสมฺภารํ วาสิยา ตจฺเฉตฺวา เคหกรณกมฺเม อุปเนติ, เอวํ โยคาวจโร วิตกฺเกน ลกฺขณาทิโต วิตกฺเกตฺวา ทินฺนธมฺเม ยาถาวโต ปริจฺฉินฺทิตฺวา ปริฺาภิสมยาทิกมฺเม อุปเนตีติ โยชนา. วจีเภทสฺส อุปการโก วิตกฺโก สาวชฺชานวชฺชวจีเภทนิวตฺตนปวตฺตนกราย สมฺมาวาจายปิ อุปการโก เอวาติ ‘‘สฺวาย’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.

วจีเภทสฺส นิยามิกา วาจา กายิกกิริยานิยามกสฺส กมฺมนฺตสฺส อุปการิกา. ตทุภยานนฺตรนฺติ ทุจฺจริตทฺวยปหายกสฺส สุจริตทฺวยปาริปูริเหตุภูตสฺส สมฺมาวาจาสมฺมากมฺมนฺตทฺวยสฺส อนนฺตรํ. อิทํ วีริยนฺติ จตุพฺพิธํ สมฺมปฺปธานวีริยํ. อินฺทฺริยสมตาทโย สมาธิสฺส อุปการธมฺมา. ตพฺพิปริยายโต อปการธมฺมา เวทิตพฺพา. คติโยติ นิปฺผตฺติโย, กิจฺจาทิสภาเว วา. สมนฺเนสิตฺวาติ อุปธาเรตฺวา.

ทฺเวปพฺพชิตวตฺถุวณฺณนา

๓๗๖-๗. ‘‘กสฺมา อารทฺธ’’นฺติ อนุสนฺธิการณํ ปุจฺฉิตฺวา ตํ วิภาเวตุํ ‘‘อยํ กิรา’’ติอาทิ วุตฺตํ, เตน อชฺฌาสยานุสนฺธิวเสน อุปริ เทสนา ปวตฺตาติ ทสฺเสติ. เตนาติ ตถาลทฺธิกตฺตา. อสฺสาติ ลิจฺฉวีรฺโ. เทสนายาติ สณฺหสุขุมายํ สุฺตปฏิสํยุตฺตายํ ยถาเทสิตเทสนายํ. นาธิมุจฺจตีติ น สทฺทหติ น ปสีทติ. ตนฺติธมฺมํ นาม กเถนฺโตติ เยสํ อตฺถาย ธมฺโม กถียติ, ตสฺมึ เตสํ อสติปิ มคฺคปฏิเวเธ เกวลํ สาสเน ตนฺติธมฺมํ กตฺวา กเถนฺโต. เอวรูปสฺสาติ สมฺมาสมฺพุทฺธตฺตา อวิปรีตธมฺมเทสนตาย เอวํปากฏธมฺมกายสฺส สตฺถุ. ยุตฺตํนุ โข เอตํ อสฺสาติ อสฺส ปมชฺฌานาทิสมธิคเมน สมาหิตจิตฺตสฺส กุลปุตฺตสฺส เอตํ ‘‘ตํ ชีว’’นฺติอาทินา อุจฺเฉทาทิคาหคหณํ อปิ นุ ยุตฺตนฺติ ปุจฺฉติ. ลทฺธิยา ปน ฌานาธิคมมตฺเตน น ตาว วิเวจิตตฺตา ‘‘เตหิ ยุตฺต’’นฺติ วุตฺตํ ตํ วาทํ ปฏิกฺขิปิตฺวาติ ฌานลาภิโนปิ ตํ คหณํ ‘‘อยุตฺตเมวา’’ติ ตํ อุจฺเฉทวาทํ สสฺสตวาทํ วา ปฏิกฺขิปิตฺวา. อตฺตมนา อเหสุนฺติ ยสฺมา ขีณาสโว วิคตสมฺโมโห ติณฺณวิจิกิจฺโฉ, ‘‘ตสฺมา ตสฺส ตถา วตฺตุํ น ยุตฺต’’นฺติ อุปฺปนฺนนิจฺฉยตาย ตํ มม วจนํ สุตฺวา อตฺตมนา อเหสุนฺติ อตฺโถ. โสปิ ลิจฺฉวี ราชา เต วิย สฺชาตนิจฺฉยตฺตา อตฺตมโน อโหสิ. ยํ ปเนตฺถ อตฺถโต อวิภตฺตํ, ตํ สุวิฺเยฺยเมว.

มหาลิสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา.