📜
๗. ชาลิยสุตฺตวณฺณนา
ทฺเวปพฺพชิตวตฺถุวณฺณนา
๓๗๘. ‘‘โฆสิเตน ¶ ¶ ¶ เสฏฺินา กเต อาราเม’’ติ วตฺวา ตตฺถ โกยํ โฆสิตเสฏฺิ นาม, กถฺจาเนน อาราโม การิโต, กถํ วา ตตฺถ ภควา วิหาสีติ ตํ สพฺพํ สมุทาคมโต ปฏฺาย สงฺเขปโตว ทสฺเสตุํ ‘‘ปุพฺเพ กิรา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตโตติ อลฺลกปฺปรฏฺโต. ตทาติ เตสํ ตํ คามํ ปวิฏฺทิวเส. พลวปายาสนฺติ ครุตรํ พหุปายาสํ. อสนฺนิหิเตติ เคหโต พหิ คเต. ภุสฺสตีติ รวติ. โฆสกเทวปุตฺโตตฺเวว นามํ อโหสิ สรโฆสสมฺปตฺติยา. เวยฺยตฺติเยนาติ ปฺาเวยฺยตฺติเยน. โฆสิตเสฏฺิ นาม ชาโต ตาย เอว จสฺส สรสมฺปตฺติยา โฆสิตนามตา.
สรีรสนฺตปฺปนตฺถนฺติ หิมวนฺเต ผลมูลาหารตาย กิลนฺตสรีรา โลณมฺพิลเสวเนน ตสฺส สนฺตปฺปนตฺถํ ปีนนตฺถํ. ตสิตาติ ปิปาสิตา. กิลนฺตาติ ปริสฺสนฺตกายา. เต กิร ตํ วฏรุกฺขํ ปตฺวา ตสฺส โสภาสมฺปตฺตึ ทิสฺวา มหานุภาวา มฺเ เอตฺถ อธิวตฺถา เทวตา, ‘‘สาธุ วตายํ เทวตา อมฺหากํ อทฺธานปริสฺสมํ วิโนเทยฺยา’’ติ จินฺเตสุํ, เตน วุตฺตํ ‘‘ตตฺถ อธิวตฺถา…เป… นิสีทึสู’’ติ. โสติ อนาถปิณฺฑิโก คหปติ. ภตกานนฺติ ภติยา เวยฺยาวจฺจํ กโรนฺตานํ ทาสเปสกมฺมกรานํ. ปกติภตฺตเวตนนฺติ ปกติยา ทาตพฺพภตฺตเวตนํ, ตทา อุโปสถิกตฺตา ¶ กมฺมํ อกโรนฺตานมฺปิ กมฺมกรณทิวเสน ทาตพฺพภตฺตเวตนเมวาติ อตฺโถ. กฺจีติ กฺจิปิ ภตกํ.
อุเปจฺจ ปรสฺส วาจาย อารมฺภนํ พาธนํ อุปารมฺโภ, โทสทสฺสนวเสน ฆฏฺฏนนฺติ อตฺโถ, เตนาห ‘‘อุปารมฺภาธิปฺปาเยน วาทํ อาโรเปตุกามา หุตฺวา’’ติ. วทนฺติ นินฺทนวเสน กเถนฺติ เอเตนาติ หิ วาโท, โทโส. ตํ อาโรเปตุกามา, ปติฏฺาเปตุกามา หุตฺวาติ อตฺโถ. ‘‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’’นฺติ, อิธ ยํ วตฺถุํ ชีวสฺิตํ, ตเทว สรีรสฺิตนฺติ ‘‘รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสตี’’ติ ¶ วาทํ คเหตฺวา วทนฺติ. รูปฺจ อตฺตานฺจ ¶ อทฺวยํ กตฺวา สมนุปสฺสนวเสน ‘‘สตฺโต’’ติ วา พาหิรกปริกปฺปิตํ อตฺตานํ สนฺธาย วทนฺติ. ภิชฺชตีติ นิรุทยวินาสวเสน วินสฺสติ. เตน ชีวสรีรานํ อนฺตฺตานุชานนโต, สรีรสฺส จ เภททสฺสนโต. น เหตฺถ ยถา เภทวตา สรีรโต อนฺตฺตา อทิฏฺโปิ ชีวสฺส เภโท วุตฺโต, เอวํ อทิฏฺเภทโต อนฺตฺตา สรีรสฺสาปิ อเภโทติ สกฺกา วิฺาตุํ ตสฺส เภทสฺส ปจฺจกฺขสิทฺธตฺตา, ภูตุปาทายรูปวินิมุตฺตสฺส จ สรีรสฺส อภาวโตติ อาห ‘‘อุจฺเฉทวาโท โหตี’’ติ.
‘‘อฺํ ชีวํ อฺํ สรีร’’นฺติ อฺเทว วตฺถุํ ชีวสฺิตํ, อฺํ วตฺถุํ สรีรสฺิตนฺติ ‘‘รูปวนฺตํ อตฺตานํ สมนุปสฺสตี’’ติอาทินยปฺปวตฺตํ ¶ วาทํ คเหตฺวา วทนฺติ. รูเป เภทสฺส ทิฏฺตฺตา, อตฺตนิ จ ตทภาวโต อตฺตา นิจฺโจติ อาปนฺนเมวาติ อาห ‘‘ตุมฺหากํ…เป… อาปชฺชตี’’ติ.
๓๗๙-๓๘๐. ตยิทํ เนสํ วฺฌาสุตสฺส ทีฆรสฺสตาปริกปฺปนสทิสนฺติ กตฺวา ปนีโยยํ ปฺโหติ ตตฺถ ราชนิมีลนํ กตฺวา สตฺถา อุปริ เนสํ ‘‘เตน หาวุโส สุณาถา’’ติอาทินา ธมฺมเทสนํ อารภีติ อาห ‘‘อถ ภควา’’ติอาทิ. ตสฺสา เยวาติ มชฺฌิมาย ปฏิปทาย.
สทฺธาปพฺพชิตสฺสาติ สทฺธาย ปพฺพชิตสฺส ‘‘เอวมหํ อิโต วฏฺฏทุกฺขโต นิสฺสริสฺสามี’’ติ เอวํ ปพฺพชฺชํ อุปคตสฺส ตทนุรูปฺจ สีลํ ปูเรตฺวา ปมชฺฌาเนน สมาหิตจิตฺตสฺส. เอตํ วตฺตุนฺติ เอตํ กิเลสวฏฺฏปริพุทฺธิทีปนํ ‘‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’’นฺติอาทิกํ ทิฏฺิสํกิเลสนิสฺสิตํ วจนํ วตฺตุนฺติ อตฺโถ. นิพฺพิจิกิจฺโฉ น โหตีติ ธมฺเมสุ ติณฺณวิจิกิจฺโฉ น โหติ, ตตฺถ ตตฺถ อาสปฺปนปริสปฺปนวเสน ปวตฺตตีติ อตฺโถ.
เอตเมวํ ชานามีติ เยน โส ภิกฺขุ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, เอตํ สสมฺปยุตฺตธมฺมํ จิตฺตนฺติ เอวํ ชานามิ. โน จ เอวํ วทามีติ ยถา ทิฏฺิคติกา ตํ ธมฺมชาตํ สนิสฺสยํ อเภทโต คณฺหนฺตา ‘‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’’นฺติ วา ตทุภยํ เภทโต คณฺหนฺตา ‘‘อฺํ ชีวํ อฺํ สรีร’’นฺติ วา อตฺตโน มิจฺฉาคาหํ ปเวเทนฺติ, อหํ ปน น เอวํ วทามิ ตสฺส ธมฺมสฺส สุปริฺาตตฺตา, เตนาห ‘‘อถ โข’’ติอาทิ ¶ . พาหิรกา เยภุยฺเยน กสิณชฺฌานานิ ¶ เอว นิพฺพตฺเตนฺตีติ อาห ‘‘กสิณปริกมฺมํ ภาวนฺเตสฺสา’’ติ. ยสฺมา ภาวนานุภาเวน ฌานาธิคโม, ภาวนา จ ปถวีกสิณาทิสฺชานนมุเขน โหตีติ สฺาสีเสน ¶ นิทฺทิสียติ, ตสฺมา อาห ‘‘สฺาพเลน อุปฺปนฺน’’นฺติ. เตนาห – ‘‘ปถวีกสิณเมโก สฺชานาตี’’ติอาทิ. ‘‘น กลฺลํ ตสฺเสต’’นฺติ อิทํ ยสฺมา ภควตา ตตฺถ ตตฺถ ‘‘อถ จ ปนาหํ น วทามี’’ติ วุตฺตํ, ตสฺมา น วตฺตพฺพํ กิเรตํ เกวลินา อุตฺตมปุริเสนาติ อธิปฺปาเยนาห, เตน วุตฺตํ ‘‘มฺมานา วทนฺตี’’ติ. เสสํ สพฺพตฺถ สุวิฺเยฺยเมว.
ชาลิยสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา.