📜
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
ทีฆนิกาเย
มหาวคฺคฏฺกถา
๑. มหาปทานสุตฺตวณฺณนา
ปุพฺเพนิวาสปฏิสํยุตฺตกถา
๑. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ…เป… กเรริกุฏิกายนฺติ มหาปทานสุตฺตํ. ตตฺรายํ อปุพฺพปทวณฺณนา – กเรริกุฏิกายนฺติ กเรรีติ วรุณรุกฺขสฺส นามํ, กเรริมณฺฑโป ตสฺสา กุฏิกาย ทฺวาเร ิโต, ตสฺมา ‘‘กเรริกุฏิกา’’ติ วุจฺจติ, ยถา โกสมฺพรุกฺขสฺส ทฺวาเร ิตตฺตา ‘‘โกสมฺพกุฏิกา’’ติ. อนฺโตเชตวเน กิร กเรริกุฏิ โกสมฺพกุฏิ คนฺธกุฏิ สลฬาคารนฺติ จตฺตาริ มหาเคหานิ, เอเกกํ สตสหสฺสปริจฺจาเคน นิปฺผนฺนํ. เตสุ สลฬาคารํ รฺา ปเสนทินา การิตํ, เสสานิ อนาถปิณฺฑิเกน การิตานิ. อิติ ภควา อนาถปิณฺฑิเกน คหปตินา ถมฺภานํ อุปริ การิตาย เทววิมานกปฺปาย กเรริกุฏิกายํ วิหรติ ¶ . ปจฺฉาภตฺตนฺติ เอกาสนิกขลุปจฺฉาภตฺติกานํ ปาโตว ภุตฺตานํ อนฺโตมชฺฌนฺหิเกปิ ปจฺฉาภตฺตเมว. อิธ ปน ปกติภตฺตสฺส ปจฺฉโต ‘‘ปจฺฉาภตฺต’’นฺติ อธิปฺเปตํ. ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตานนฺติ ปิณฺฑปาตโต ปฏิกฺกนฺตานํ, ภตฺตกิจฺจํ นิฏฺเปตฺวา อุฏฺิตานนฺติ อตฺโถ.
กเรริมณฺฑลมาเฬติ ตสฺเสว กเรริมณฺฑปสฺส อวิทูเร กตาย นิสีทนสาลาย. โส กิร กเรริมณฺฑโป คนฺธกุฏิกาย จ สาลาย จ ¶ อนฺตเร โหติ, ตสฺมา คนฺธกุฏีปิ กเรริกุฏิกาปิ สาลาปิ – ‘‘กเรริมณฺฑลมาโฬ’’ติ วุจฺจติ. ปุพฺเพนิวาสปฏิสํยุตฺตาติ ‘‘เอกมฺปิ ชาตึ, ทฺเวปิ ชาติโย’’ติ เอวํ วิภตฺเตน ปุพฺเพนิวุตฺถกฺขนฺธสนฺตานสงฺขาเตน ปุพฺเพนิวาเสน สทฺธึ โยเชตฺวา ปวตฺติตา. ธมฺมีติ ธมฺมสํยุตฺตา.
อุทปาทีติ อโห อจฺฉริยํ ทสพลสฺส ปุพฺเพนิวาสาณํ ¶ , ปุพฺเพนิวาสํ นาม เก อนุสฺสรนฺติ, เก นานุสฺสรนฺตีติ. ติตฺถิยา อนุสฺสรนฺติ, สาวกา จ ปจฺเจกพุทฺธา จ พุทฺธา จ อนุสฺสรนฺติ. กตรติตฺถิยา อนุสฺสรนฺติ? เย อคฺคปฺปตฺตกมฺมวาทิโน, เตปิ จตฺตาลีสํเยว กปฺเป อนุสฺสรนฺติ, น ตโต ปรํ. สาวกา กปฺปสตสหสฺสํ อนุสฺสรนฺติ. ทฺเว อคฺคสาวกา อสงฺขฺเยยฺยฺเจว กปฺปสตสหสฺสฺจ. ปจฺเจกพุทฺธา ทฺเว อสงฺขฺเยยฺยานิ กปฺปสตสหสฺสฺจ. พุทฺธานํ ปน เอตฺตกนฺติ ปริจฺเฉโท นตฺถิ, ยาวตกํ อากงฺขนฺติ, ตาวตกํ อนุสฺสรนฺติ.
ติตฺถิยา ขนฺธปฏิปาฏิยา อนุสฺสรนฺติ, ปฏิปาฏึ มฺุจิตฺวา น สกฺโกนฺติ. ปฏิปาฏิยา อนุสฺสรนฺตาปิ อสฺภวํ ปตฺวา ขนฺธปฺปวตฺตึ น ปสฺสนฺติ, ชาเล ปติตา กุณฺา วิย, กูเป ปติตา ปงฺคุฬา วิย จ โหนฺติ. เต ตตฺถ ตฺวา ‘‘เอตฺตกเมว, อิโต ปรํ นตฺถี’’ติ ทิฏฺึ คณฺหนฺติ. อิติ ติตฺถิยานํ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสรณํ อนฺธานํ ยฏฺิโกฏิคมนํ วิย โหติ. ยถา หิ อนฺธา ยฏฺิโกฏิคฺคาหเก สติเยว คจฺฉนฺติ, อสติ ตตฺเถว นิสีทนฺติ, เอวเมว ติตฺถิยา ขนฺธปฏิปาฏิยาว อนุสฺสริตุํ สกฺโกนฺติ, ปฏิปาฏึ วิสฺสชฺเชตฺวา น สกฺโกนฺติ.
สาวกาปิ ขนฺธปฏิปาฏิยาว อนุสฺสรนฺติ, อสฺภวํ ปตฺวา ขนฺธปฺปวตฺตึ น ปสฺสนฺติ. เอวํ สนฺเตปิ เต วฏฺเฏ สํสรณกสตฺตานํ ขนฺธานํ อภาวกาโล นาม นตฺถิ. อสฺภเว ปน ปฺจกปฺปสตานิ ปวตฺตนฺตีติ ตตฺตกํ กาลํ อติกฺกมิตฺวา พุทฺเธหิ ทินฺนนเย ตฺวา ปรโต อนุสฺสรนฺติ; เสยฺยถาปิ อายสฺมา โสภิโต. ทฺเว อคฺคสาวกา ปน ปจฺเจกพุทฺธา จ ¶ จุติปฏิสนฺธึ โอโลเกตฺวา อนุสฺสรนฺติ. พุทฺธานํ จุติปฏิสนฺธิกิจฺจํ นตฺถิ, ยํ ยํ านํ ปสฺสิตุกามา โหนฺติ, ตํ ตเทว ปสฺสนฺติ.
ติตฺถิยา ¶ จ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรมานา อตฺตนา ทิฏฺกตสุตเมว อนุสฺสรนฺติ. ตถา สาวกา จ ปจฺเจกพุทฺธา ¶ จ. พุทฺธา ปน อตฺตนา วา ปเรหิ วา ทิฏฺกตสุตํ สพฺพเมว อนุสฺสรนฺติ.
ติตฺถิยานํ ปุพฺเพนิวาสาณํ ขชฺโชปนกโอภาสสทิสํ, สาวกานํ ปทีโปภาสสทิสํ, อคฺคสาวกานํ โอสธิตารโกภาสสทิสํ, ปจฺเจกพุทฺธานํ จนฺโทภาสสทิสํ, พุทฺธานํ สรทสูริยมณฺฑโลภาสสทิสํ. ตสฺส เอตฺตกานิ ชาติสตานิ ชาติสหสฺสานิ ชาติสตสหสฺสานีติ วา เอตฺตกานิ กปฺปสตานิ กปฺปสหสฺสานิ กปฺปสตสหสฺสานีติ วา นตฺถิ, ยํ กิฺจิ อนุสฺสรนฺตสฺส เนว ขลิตํ, น ปฏิฆาตํ โหติ, อาวชฺชนปฏิพทฺธเมว อากงฺขมนสิการจิตฺตุปฺปาทปฏิพทฺธเมว โหติ. ทุพฺพลปตฺตปุเฏ เวคกฺขิตฺตนาราโจ วิย, สิเนรุกูเฏ วิสฺสฏฺอินฺทวชิรํ วิย จ อสชฺชมานเมว คจฺฉติ. ‘‘อโห มหนฺตํ ภควโต ปุพฺเพนิวาสาณ’’นฺติ เอวํ ภควนฺตํเยว อารพฺภ กถา อุปฺปนฺนา, ชาตา ปวตฺตาติ อตฺโถ. ตํ สพฺพมฺปิ สงฺเขปโต ทสฺเสตุํ ‘‘อิติปิ ปุพฺเพนิวาโส, อิติปิ ปุพฺเวนิวาโส’’ติ เอตฺตกเมว ปาฬิยํ วุตฺตํ. ตตฺถ อิติปีติ เอวมฺปิ.
๒-๓. อสฺโสสิ โข…เป… อถ ภควา อนุปฺปตฺโตติ เอตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ พฺรหฺมชาลสุตฺตวณฺณนายํ วุตฺตเมว. อยเมว หิ วิเสโส – ตตฺถ สพฺพฺุตฺาเณน อสฺโสสิ, อิธ ทิพฺพโสเตน. ตตฺถ จ วณฺณาวณฺณกถา วิปฺปกตา, อิธ ปุพฺเพนิวาสกถา. ตสฺมา ภควา – ‘‘อิเม ภิกฺขู มม ปุพฺเพนิวาสาณํ อารพฺภ คุณํ โถเมนฺติ, ปุพฺเพนิวาสาณสฺส ปน เม นิปฺผตฺตึ น ชานนฺติ; หนฺท เนสํ ตสฺส นิปฺผตฺตึ กเถตฺวา ทสฺสามี’’ติ อาคนฺตฺวา ปกติยาปิ พุทฺธานํ นิสีทิตฺวา ธมฺมเทสนตฺถเมว ปิเต ตงฺขเณ ภิกฺขูหิ ปปฺโผเฏตฺวา ทินฺเน วรพุทฺธาสเน นิสีทิตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว’’ติ ปุจฺฉาย จ ‘‘อิธ ¶ , ภนฺเต’’ติอาทิปฏิวจนสฺส จ ปริโยสาเน เตสํ ปุพฺเพนิวาสปฏิสํยุตฺตํ ธมฺมึ กถํ กเถตุกาโม อิจฺเฉยฺยาถ โนติอาทิมาห. ตตฺถ อิจฺเฉยฺยาถ โนติ อิจฺเฉยฺยาถ นุ. อถ นํ ปหฏฺมานสา ภิกฺขู ยาจมานา เอตสฺส ภควาติอาทิมาหํสุ. ตตฺถ เอตสฺสาติ เอตสฺส ธมฺมิกถากรณสฺส.
๔. อถ ¶ ภควา เตสํ ยาจนํ คเหตฺวา กเถตุกาโม ‘‘เตน หิ, ภิกฺขเว, สุณาถา’’ติ เต ¶ โสตาวธารณสาธุกมนสิกาเรสุ นิโยเชตฺวา อฺเสํ อสาธารณํ ฉินฺนวฏุมกานุสฺสรณํ ปกาเสตุกาโม อิโต โส, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ ยํ วิปสฺสีติ ยสฺมึ กปฺเป วิปสฺสี. อยฺหิ ‘ย’นฺติ สทฺโท ‘‘ยํ เม, ภนฺเต, เทวานํ ตาวตึสานํ สมฺมุขา สุตํ สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ, อาโรเจมิ ตํ, ภควโต’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๒๐๓) ปจฺจตฺตวจเน ทิสฺสติ. ‘‘ยํ ตํ อปุจฺฉิมฺห อกิตฺตยี โน, อฺํ ตํ ปุจฺฉาม ตทิงฺฆ พฺรูหี’’ติอาทีสุ (สุ. นิ. ๘๘๑) อุปโยควจเน. ‘‘อฏฺานเมตํ, ภิกฺขเว, อนวกาโส, ยํ เอกิสฺสา โลกธาตุยา’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๑.๒๗๗) กรณวจเน. อิธ ปน ภุมฺมตฺเถติ ทฏฺพฺโพ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ยสฺมึ กปฺเป’’ติ. อุทปาทีติ ทสสหสฺสิโลกธาตุํ อุนฺนาเทนฺโต อุปฺปชฺชิ.
ภทฺทกปฺเปติ ปฺจพุทฺธุปฺปาทปฏิมณฺฑิตตฺตา สุนฺทรกปฺเป สารกปฺเปติ ภควา อิมํ กปฺปํ โถเมนฺโต เอวมาห. ยโต ปฏฺาย กิร อมฺหากํ ภควตา อภินีหาโร กโต, เอตสฺมึ อนฺตเร เอกกปฺเปปิ ปฺจ พุทฺธา นิพฺพตฺตา นาม นตฺถิ. อมฺหากํ ภควโต อภินีหารสฺส ปุรโต ปน ตณฺหงฺกโร, เมธงฺกโร, สรณงฺกโร, ทีปงฺกโรติ จตฺตาโร พุทฺธา เอกสฺมึ กปฺเป นิพฺพตฺตึสุ. เตสํ โอรภาเค เอกํ อสงฺขฺเยยฺยํ พุทฺธสฺุเมว อโหสิ.
อสงฺขฺเยยฺยกปฺปปริโยสาเน ปน โกณฺฑฺโ นาม พุทฺโธ เอโกว เอกสฺมึ กปฺเป อุปฺปนฺโน. ตโตปิ อสงฺขฺเยยฺยํ พุทฺธสฺุเมว อโหสิ. อสงฺขฺเยยฺยกปฺปปริโยสาเน มงฺคโล, สุมโน, เรวโต, โสภิโตติ จตฺตาโร พุทฺธา เอกสฺมึ กปฺเป อุปฺปนฺนา ¶ . ตโตปิ อสงฺขฺเยยฺยํ พุทฺธสฺุเมว อโหสิ. อสงฺขฺเยยฺยกปฺปปริโยสาเน ปน อิโต กปฺปสตสหสฺสาธิกสฺส อสงฺขฺเยยฺยสฺส อุปริ อโนมทสฺสี, ปทุโม, นารโทติ ตโย พุทฺธา เอกสฺมึ กปฺเป อุปฺปนฺนา. ตโตปิ อสงฺขฺเยยฺยํ พุทฺธสฺุเมว อโหสิ. อสงฺขฺเยยฺยกปฺปปริโยสาเน ปน อิโต กปฺปสตสหสฺสานํ อุปริ ปทุมุตฺตโร ภควา เอโกว เอกสฺมึ กปฺเป อุปฺปนฺโน. ตสฺส โอรภาเค อิโต ตึสกปฺปสหสฺสานํ อุปริ สุเมโธ, สุชาโตติ ทฺเว พุทฺธา เอกสฺมึ กปฺเป อุปฺปนฺนา. ตโต โอรภาเค อิโต อฏฺารสนฺนํ กปฺปสหสฺสานํ อุปริ ปิยทสฺสี, อตฺถทสฺสี, ธมฺมทสฺสีติ ตโย พุทฺธา ¶ เอกสฺมึ กปฺเป อุปฺปนฺนา. อถ อิโต จตุนวุติกปฺเป สิทฺธตฺโถ นาม พุทฺโธ เอโกว เอกสฺมึ กปฺเป อุปฺปนฺโน. อิโต ทฺเว นวุติกปฺเป ติสฺโส, ผุสฺโสติ ทฺเว พุทฺธา เอกสฺมึ กปฺเป อุปฺปนฺนา. อิโต เอกนวุติกปฺเป วิปสฺสี ภควา อุปฺปนฺโน. อิโต เอกตึเส กปฺเป สิขี, เวสฺสภูติ ทฺเว พุทฺธา อุปฺปนฺนา. อิมสฺมึ ภทฺทกปฺเป กกุสนฺโธ, โกณาคมโน, กสฺสโป, โคตโม อมฺหากํ สมฺมาสมฺพุทฺโธติ จตฺตาโร พุทฺธา อุปฺปนฺนา, เมตฺเตยฺโย อุปฺปชฺชิสฺสติ. เอวมยํ กปฺโป ปฺจพุทฺธุปฺปาทปฏิมณฺฑิตตฺตา สุนฺทรกปฺโป สารกปฺโปติ ภควา อิมํ กปฺปํ โถเมนฺโต เอวมาห.
กึ ¶ ปเนตํ พุทฺธานํเยว ปากฏํ โหติ – ‘‘อิมสฺมึ กปฺเป เอตฺตกา พุทฺธา อุปฺปนฺนา วา อุปฺปชฺชิสฺสนฺตีติ วา’’ติ, อุทาหุ อฺเสมฺปิ ปากฏํ โหตีติ? อฺเสมฺปิ ปากฏํ โหติ. เกสํ? สุทฺธาวาสพฺรหฺมานํ. กปฺปสณฺานกาลสฺมิฺหิ เอกมสงฺขฺเยยฺยํ เอกงฺคณํ หุตฺวา ิเต โลกสนฺนิวาเส โลกสฺส สณฺานตฺถาย เทโว วสฺสิตุํ อารภติ. อาทิโตว อนฺตรฏฺเก หิมปาโต วิย โหติ. ตโต ติลมตฺตา กณมตฺตา ตณฺฑุลมตฺตา มุคฺค-มาส-พทร-อามลก-เอฬาลุก-กุมฺภณฺฑ-อลาพุมตฺตา อุทกธารา หุตฺวา อนุกฺกเมน อุสภทฺเวอุสภอฑฺฒคาวุตคาวุตทฺเวคาวุตอฑฺฒโยชนโยชนทฺวิโยชน…เป… โยชนสตโยชนสหสฺสโยชนสตสหสฺสมตฺตา ¶ หุตฺวา โกฏิสตสหสฺสจกฺกวาฬพฺภนฺตเร ยาว อวินฏฺพฺรหฺมโลกา ปูเรตฺวา ติฏฺนฺติ. อถ ตํ อุทกํ อนุปุพฺเพน ภสฺสติ, ภสฺสนฺเต อุทเก ปกติเทวโลกฏฺาเนสุ เทวโลกา สณฺหนฺติ, เตสํ สณฺหนวิธานํ วิสุทฺธิมคฺเค ปุพฺเพนิวาสกถายํ วุตฺตเมว.
มนุสฺสโลกสณฺหนฏฺานํ ปน ปตฺเต อุทเก ธมกรณมุเข ปิหิเต วิย วาตวเสน ตํ อุทกํ สนฺติฏฺติ, อุทกปิฏฺเ อุปฺปลินิปณฺณํ วิย ปถวี สณฺหติ. มหาโพธิปลฺลงฺโก วินสฺสมาเน โลเก ปจฺฉา วินสฺสติ, สณฺหมาเน ปมํ สณฺหติ. ตตฺถ ปุพฺพนิมิตฺตํ หุตฺวา เอโก ปทุมินิคจฺโฉ อุปฺปชฺชติ, ตสฺส สเจ ตสฺมึ กปฺเป พุทฺโธ นิพฺพตฺติสฺสติ, ปุปฺผํ อุปฺปชฺชติ. โน เจ, นุปฺปชฺชติ. อุปฺปชฺชมานฺจ สเจ เอโก พุทฺโธ นิพฺพตฺติสฺสติ, เอกํ อุปฺปชฺชติ. สเจ ทฺเว, ตโย, จตฺตาโร, ปฺจ พุทฺธา นิพฺพตฺติสฺสนฺติ, ปฺจ อุปฺปชฺชนฺติ. ตานิ จ โข เอกสฺมึเยว นาเฬ กณฺณิกาพทฺธานิ หุตฺวา. สุทฺธาวาสพฺรหฺมาโน ‘‘อายาม ¶ , มยํ มาริสา, ปุพฺพนิมิตฺตํ ปสฺสิสฺสามา’’ติ มหาโพธิปลฺลงฺกฏฺานํ อาคจฺฉนฺติ, พุทฺธานํ อนิพฺพตฺตนกปฺเป ปุปฺผํ น โหติ. เต ปน อปุปฺผิตคจฺฉํ ทิสฺวา – ‘‘อนฺธกาโร วต โภ โลโก ภวิสฺสติ, มตา มตา สตฺตา อปาเย ปูเรสฺสนฺติ, ฉ เทวโลกา นว พฺรหฺมโลกา สฺุา ภวิสฺสนฺตี’’ติ อนตฺตมนา โหนฺติ. ปุปฺผิตกาเล ปน ปุปฺผํ ทิสฺวา – ‘‘สพฺพฺุโพธิสตฺเตสุ มาตุกุจฺฉึ โอกฺกมนฺเตสุ นิกฺขมนฺเตสุ สมฺพุชฺฌนฺเตสุ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตนฺเตสุ ยมกปาฏิหาริยํ กโรนฺเตสุ เทโวโรหนํ กโรนฺเตสุ อายุสงฺขารํ โอสฺสชฺชนฺเตสุ ปรินิพฺพายนฺเตสุ ทสสหสฺสจกฺกวาฬกมฺปนาทีนิ ปาฏิหาริยานิ ทกฺขิสฺสามา’’ติ จ ‘‘จตฺตาโร อปายา ปริหายิสฺสนฺติ, ฉ เทวโลกา นว พฺรหฺมโลกา ปริปูเรสฺสนฺตี’’ติ จ อตฺตมนา อุทานํ อุทาเนนฺตา อตฺตโน อตฺตโน พฺรหฺมโลกํ คจฺฉนฺติ. อิมสฺมึ ภทฺทกปฺเป ปฺจ ปทุมานิ อุปฺปชฺชึสุ. เตสํ นิมิตฺตานํ อานุภาเวน จตฺตาโร พุทฺธา อุปฺปนฺนา, ปฺจโม อุปฺปชฺชิสฺสติ. สุทฺธาวาสพฺรหฺมาโนปิ ¶ ตานิ ปทุมานิ ทิสฺวา อิมมตฺถํ ชานึสุ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อฺเสมฺปิ ปากฏํ โหตี’’ติ.
อายุปริจฺเฉทวณฺณนา
๕-๗. อิติ ¶ ภควา – ‘‘อิโต โส, ภิกฺขเว’’ติอาทินา นเยน กปฺปปริจฺเฉทวเสน ปุพฺเพนิวาสํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ เตสํ พุทฺธานํ ชาติปริจฺเฉทาทิวเสน ทสฺเสตุํ วิปสฺสี, ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตตฺถ อายุปริจฺเฉเท ปริตฺตํ ลหุกนฺติ อุภยเมตํ อปฺปกสฺเสว เววจนํ. ยฺหิ อปฺปกํ, ตํ ปริตฺตฺเจว ลหุกฺจ โหติ.
อปฺปํ วา ภิยฺโยติ วสฺสสตโต วา อุปริ อปฺปํ, อฺํ วสฺสสตํ อปตฺวา วีสํ วา ตึสํ วา จตฺตาลีสํ วา ปณฺณาสํ วา สฏฺิ วา วสฺสานิ ชีวติ. เอวํ ทีฆายุโก ปน อติทุลฺลโภ, อสุโก กิร เอวํ จิรํ ชีวตีติ ตตฺถ ตตฺถ คนฺตฺวา ทฏฺพฺโพ โหติ. ตตฺถ วิสาขา อุปาสิกา วีสวสฺสสตํ ชีวติ, ตถา โปกฺขรสาติ พฺราหฺมโณ, พฺรหฺมายุ พฺราหฺมโณ, เสโล พฺราหฺมโณ, พาวริยพฺราหฺมโณ, อานนฺทตฺเถโร, มหากสฺสปตฺเถโรติ. อนุรุทฺธตฺเถโร ปน วสฺสสตฺเจว ปณฺณาสฺจ วสฺสานิ, พากุลตฺเถโร วสฺสสตฺเจว สฏฺิ จ วสฺสานิ. อยํ สพฺพทีฆายุโก. โสปิ ทฺเว วสฺสสตานิ น ชีวติ.
วิปสฺสีอาทโย ¶ ปน สพฺเพปิ โพธิสตฺตา เมตฺตาปุพฺพภาเคน โสมนสฺสสหคตาณสมฺปยุตฺตอสงฺขาริกจิตฺเตน มาตุกุจฺฉิสฺมึ ปฏิสนฺธึ คณฺหึสุ. เตน จิตฺเตน คหิตาย ปฏิสนฺธิยา อสงฺขฺเยยฺยํ อายุ, อิติ สพฺเพ พุทฺธา อสงฺขฺเยยฺยายุกา. เต กสฺมา อสงฺขฺเยยฺยํ น อฏฺํสุ? อุตุโภชนวิปตฺติยา. อุตุโภชนวเสน หิ อายุ หายติปิ วฑฺฒติปิ.
ตตฺถ ยทา ราชาโน อธมฺมิกา โหนฺติ, ตทา อุปราชาโน, เสนาปติ, เสฏฺิ, สกลนครํ, สกลรฏฺํ อธมฺมิกเมว โหติ; อถ เตสํ อารกฺขเทวตา, ตาสํ เทวตานํ มิตฺตา ภูมฏฺเทวตา, ตาสํ เทวตานํ มิตฺตา อากาสฏฺกเทวตา, อากาสฏฺกเทวตานํ มิตฺตา อุณฺหวลาหกา เทวตา, ตาสํ มิตฺตา อพฺภวลาหกา เทวตา, ตาสํ มิตฺตา สีตวลาหกา เทวตา, ตาสํ มิตฺตา วสฺสวลาหกา เทวตา, ตาสํ มิตฺตา จาตุมหาราชิกา ¶ เทวตา, ตาสํ มิตฺตา ตาวตึสา เทวตา, ตาสํ มิตฺตา ยามา เทวตาติ เอวมาทิ. เอวํ ยาว ภวคฺคา เปตฺวา อริยสาวเก สพฺพา เทวพฺรหฺมปริสาปิ อธมฺมิกาว โหนฺติ. ตาสํ อธมฺมิกตาย วิสมํ จนฺทิมสูริยา ปริหรนฺติ, วาโต ยถามคฺเคน น วายติ, อยถามคฺเคน วายนฺโต อากาสฏฺกวิมานานิ โขเภติ, วิมาเนสุ โขภิเตสุ เทวตานํ กีฬนตฺถาย จิตฺตานิ น นมนฺติ, เทวตานํ กีฬนตฺถาย จิตฺเตสุ อนมนฺเตสุ ¶ สีตุณฺหเภโท อุตุ ยถากาเลน น สมฺปชฺชติ, ตสฺมึ อสมฺปชฺชนฺเต น สมฺมา เทโว วสฺสติ, กทาจิ วสฺสติ, กทาจิ น วสฺสติ; กตฺถจิ วสฺสติ, กตฺถจิ น วสฺสติ, วสฺสนฺโตปิ วปฺปกาเล องฺกุรกาเล นาฬกาเล ปุปฺผกาเล ขีรคฺคหณาทิกาเลสุ ยถา ยถา สสฺสานํ อุปกาโร น โหติ, ตถา ตถา วสฺสติ จ วิคจฺฉติ จ, เตน สสฺสานิ วิสมปากานิ โหนฺติ, วิคตคนฺธวณฺณรสาทิสมฺปนฺนานิ. เอกภาชเน ปกฺขิตฺตตณฺฑุเลสุปิ เอกสฺมึ ปเทเส ภตฺตํ อุตฺตณฺฑุลํ โหติ, เอกสฺมึ อติกิลินฺนํ, เอกสฺมึ สมปากํ. ตํ ปริภุตฺตํ กุจฺฉิยมฺปิ ตีหากาเรหิ ปจฺจติ. เตน สตฺตา พหฺวาพาธา เจว โหนฺติ, อปฺปายุกา จ. เอวํ ตาว อุตุโภชนวเสน อายุ หายติ.
ยทา ¶ ปน ราชาโน ธมฺมิกา โหนฺติ, ตทา อุปราชาโนปิ ธมฺมิกา โหนฺตีติ ปุริมนเยเนว ยาว พฺรหฺมโลกา สพฺเพปิ ธมฺมิกา โหนฺติ. เตสํ ธมฺมิกตฺตา สมํ จนฺทิมสูริยา ปริหรนฺติ, ยถามคฺเคน วาโต วายติ, ยถามคฺเคน วายนฺโต อากาสฏฺกวิมานานิ น โขเภติ, เตสํ อโขภา เทวตานํ กีฬนตฺถาย จิตฺตานิ นมนฺติ. เอวํ กาเลน อุตุ สมฺปชฺชติ, เทโว สมฺมา วสฺสติ, วปฺปกาลโต ปฏฺาย สสฺสานํ อุปการํ กโรนฺโต กาเล วสฺสติ, กาเล วิคจฺฉติ, เตน สสฺสานิ สมปากานิ สุคนฺธานิ สุวณฺณานิ สุรสานิ โอชวนฺตานิ โหนฺติ, เตหิ สมฺปาทิตํ โภชนํ ปริภุตฺตมฺปิ สมฺมา ปริปากํ คจฺฉติ ¶ , เตน สตฺตา อโรคา ทีฆายุกา โหนฺติ. เอวํ อุตุโภชนวเสน อายุ วฑฺฒติ.
ตตฺถ วิปสฺสี ภควา อสีติวสฺสสหสฺสายุกกาเล นิพฺพตฺโต, สิขี สตฺตติวสฺสสหสฺสายุกกาเลติ อิทํ อนุปุพฺเพน ปริหีนสทิสํ กตํ, น ปน เอวํ ปริหีนํ, วฑฺฒิตฺวา วฑฺฒิตฺวา ปริหีนนฺติ เวทิตพฺพํ. กถํ? อิมสฺมึ ตาว กปฺเป กกุสนฺโธ ภควา จตฺตาลีสวสฺสสหสฺสายุกกาเล นิพฺพตฺโต, อายุปฺปมาณํ ปฺจ โกฏฺาเส กตฺวา จตฺตาริ ตฺวา ปฺจเม วิชฺชมาเนเยว ปรินิพฺพุโต. ตํ อายุ ปริหายมานํ ทสวสฺสกาลํ ปตฺวา ปุน วฑฺฒมานํ อสงฺขฺเยยฺยํ หุตฺวา ตโต ปริหายมานํ ตึสวสฺสสหสฺสกาเล ิตํ; ตทา โกณาคมโน ภควา นิพฺพตฺโต. ตสฺมิมฺปิ ตเถว ปรินิพฺพุเต ตํ อายุ ทสวสฺสกาลํ ปตฺวา ปุน วฑฺฒมานํ อสงฺขฺเยยฺยํ หุตฺวา ปริหายิตฺวา วีสติวสฺสสหสฺสกาเล ิตํ; ตทา กสฺสโป ภควา นิพฺพตฺโต. ตสฺมิมฺปิ ตเถว ปรินิพฺพุเต ตํ อายุ ทสวสฺสกาลํ ปตฺวา ปุน วฑฺฒมานํ อสงฺขฺเยยฺยํ หุตฺวา ปริหายิตฺวา วสฺสสตกาลํ ปตฺตํ, อถ อมฺหากํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ นิพฺพตฺโต. เอวํ อนุปุพฺเพน ปริหายิตฺวา ปริหายิตฺวา วฑฺฒิตฺวา วฑฺฒิตฺวา ปริหีนนฺติ เวทิตพฺพํ. ตตฺถ ยํ ยํ อายุปริมาเณสุ ¶ มนุสฺเสสุ พุทฺธา นิพฺพตฺตนฺติ, เตสมฺปิ ตํ ตเทว อายุปริมาณํ โหตีติ เวทิตพฺพํ.
อายุปริจฺเฉทวณฺณนา นิฏฺิตา.
โพธิปริจฺเฉทวณฺณนา
๘. โพธิปริจฺเฉเท ¶ ปน ปาฏลิยา มูเลติ ปาฏลิรุกฺขสฺส เหฏฺา. ตสฺสา ปน ปาฏลิยา ขนฺโธ ตํ ทิวสํ ปณฺณาสรตโน หุตฺวา อพฺภุคฺคโต, สาขา ปณฺณาสรตนาติ อุพฺเพเธน รตนสตํ อโหสิ. ตํ ทิวสฺจ สา ปาฏลิ กณฺณิกาพทฺเธหิ วิย ปุปฺเผหิ มูลโต ปฏฺาย เอกสฺฉนฺนา อโหสิ, ทิพฺพคนฺธํ วายติ. น เกวลฺจ ตทา อยเมว ปุปฺผิตา, ทสสหสฺสจกฺกวาเฬ สพฺพปาฏลิโย ปุปฺผิตา. น เกวลฺจ ปาฏลิโย, ทสสหสฺสจกฺกวาเฬ สพฺพรุกฺขานํ ขนฺเธสุ ขนฺธปทุมานิ, สาขาสุ สาขาปทุมานิ, ลตาสุ ลตาปทุมานิ, อากาเส อากาสปทุมานิ ปุปฺผิตานิ, ปถวิตลํ ¶ ภินฺทิตฺวาปิ มหาปทุมานิ อุฏฺิตานิ. มหาสมุทฺโทปิ ปฺจวณฺเณหิ ปทุเมหิ นีลุปฺปลรตฺตุปฺปเลหิ จ สฺฉนฺโน อโหสิ. สกลทสสหสฺสจกฺกวาฬํ ธชมาลากุลํ ตตฺถ ตตฺถ นิพทฺธปุปฺผทามวิสฺสฏฺมาลาคุฬวิปฺปกิณฺณํ นานาวณฺณกุสุมสมุชฺชลํ นนฺทนวนจิตฺตลตาวนมิสฺสกวนผารุสกวนสทิสํ อโหสิ. ปุรตฺถิมจกฺกวาฬมุขวฏฺฏิยํ อุสฺสิตทฺธชา ปจฺฉิมจกฺกวาฬมุขวฏฺฏึ อภิหนนฺติ. ปจฺฉิมทกฺขิณอุตฺตรจกฺกวาฬมุขวฏฺฏิยํ อุสฺสิตทฺธชา ทกฺขิณจกฺกวาฬมุขวฏฺฏึ อภิหนนฺติ. เอวํ อฺมฺสิรีสมฺปตฺตานิ จกฺกวาฬานิ อเหสุํ. อภิสมฺพุทฺโธติ สกลํ พุทฺธคุณวิภวสิรึ ปฏิวิชฺฌมาโน จตฺตาริ สจฺจานิ อภิสมฺพุทฺโธ.
‘‘สิขี, ภิกฺขเว, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ปุณฺฑรีกสฺส มูเล อภิสมฺพุทฺโธ’’ติอาทีสุปิ อิมินาว นเยน ปทวณฺณนา เวทิตพฺพา. เอตฺถ ปน ปุณฺฑรีโกติ เสตมฺพรุกฺโข. ตสฺสาปิ ตเทว ปริมาณํ. ตํ ทิวสฺจ โสปิ ทิพฺพคนฺเธหิ ปุปฺเผหิ สุสฺฉนฺโน อโหสิ. น เกวลฺจ ปุปฺเผหิ, ผเลหิปิ สฺฉนฺโน อโหสิ. ตสฺส เอกโต ตรุณานิ ผลานิ, เอกโต มชฺฌิมานิ ผลานิ, เอกโต นาติปกฺกานิ ผลานิ, เอกโต สุปกฺกานิ ปกฺขิตฺตทิพฺโพชานิ วิย สุรสานิ โอลมฺพนฺติ. ยถา โส, เอวํ สกลทสสหสฺสจกฺกวาเฬสุ ¶ ปุปฺผูปครุกฺขา ปุปฺเผหิ, ผลูปครุกฺขา ผเลหิ ปฏิมณฺฑิตา อเหสุํ.
สาโลติ สาลรุกฺโข. ตสฺสาปิ ตเทว ปริมาณํ, ตเถว ปุปฺผสิรีวิภโว เวทิตพฺโพ. สิรีสรุกฺเขปิ เอเสว นโย. อุทุมฺพรรุกฺเข ปุปฺผานิ ¶ นาเหสุํ, ผลวิภูติ ปเนตฺถ อมฺเพ วุตฺตนยาว, ตถา นิคฺโรเธ, ตถา อสฺสตฺเถ. อิติ สพฺพพุทฺธานํ เอโกว ปลฺลงฺโก, รุกฺขา ปน อฺเปิ โหนฺติ. เตสุ ยสฺส ยสฺส รุกฺขสฺส มูเล จตุมคฺคาณสงฺขาตโพธึ พุทฺธา ปฏิวิชฺฌนฺติ, โส โส โพธีติ วุจฺจติ. อยํ โพธิปริจฺเฉโท นาม.
สาวกยุคปริจฺเฉทวณฺณนา
๙. สาวกยุคปริจฺเฉเท ปน ขณฺฑติสฺสนฺติ ขณฺโฑ จ ติสฺโส จ. เตสุ ขณฺโฑ เอกปิติโก กนิฏฺภาตา, ติสฺโส ปุโรหิตปุตฺโต ¶ . ขณฺโฑ ปฺาปารมิยา มตฺถกํ ปตฺโต, ติสฺโส สมาธิปารมิยา มตฺถกํ ปตฺโต. อคฺคนฺติ เปตฺวา วิปสฺสึ ภควนฺตํ อวเสเสหิ สทฺธึ อสทิสคุณตาย อุตฺตมํ. ภทฺทยุคนฺติ อคฺคตฺตาเยว ภทฺทยุคํ. อภิภูสมฺภวนฺติ อภิภู จ สมฺภโว จ. เตสุ อภิภู ปฺาปารมิยา มตฺถกํ ปตฺโต. สิขินา ภควตา สทฺธึ อรุณวติโต พฺรหฺมโลกํ คนฺตฺวา พฺรหฺมปริสาย วิวิธานิ ปาฏิหาริยานิ ทสฺเสนฺโต ธมฺมํ เทเสตฺวา ทสสหสฺสิโลกธาตุํ อนฺธกาเรน ผริตฺวา – ‘‘กึ อิท’’นฺติ สฺชาตสํเวคานํ โอภาสํ ผริตฺวา – ‘‘สพฺเพ เม รูปฺจ ปสฺสนฺตุ, สทฺทฺจ สุณนฺตู’’ติ อธิฏฺหิตฺวา – ‘‘อารมฺภถา’’ติ คาถาทฺวยํ (สํ. นิ. ๑.๑๘๕) ภณนฺโต สทฺทํ สาเวสิ. สมฺภโว สมาธิปารมิยา มตฺถกํ ปตฺโต อโหสิ.
โสณุตฺตรนฺติ โสโณ จ อุตฺตโร จ. เตสุปิ โสโณ ปฺาปารมึ ปตฺโต, อุตฺตโร สมาธิปารมึ ปตฺโต อโหสิ. วิธุรสฺชีวนฺติ วิธุโร จ สฺชีโว จ. เตสุ วิธุโร ปฺาปารมึ ปตฺโต อโหสิ, สฺชีโว สมาธิปารมึ ปตฺโต. สมาปชฺชนพหุโล รตฺติฏฺานทิวาฏฺานกุฏิเลณมณฺฑปาทีสุ สมาปตฺติพเลน ฌายนฺโต เอกทิวสํ อรฺเ นิโรธํ สมาปชฺชิ, อถ นํ วนกมฺมิกาทโย ‘‘มโต’’ติ สลฺลกฺเขตฺวา ฌาเปสุํ. โส ยถาปริจฺเฉเทน สมาปตฺติโต อุฏฺาย จีวรานิ ปปฺโผเฏตฺวา คามํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. ตทุปาทาเยว จ นํ ‘‘สฺชีโว’’ติ สฺชานึสุ. ภิยฺโยสุตฺตรนฺติ ภิยฺโยโส จ อุตฺตโร จ. เตสุ ภิยฺโยโส ปฺาย อุตฺตโร, อุตฺตโร สมาธินา อคฺโค อโหสิ. ติสฺสภารทฺวาชนฺติ ติสฺโส จ ภารทฺวาโช จ ¶ . เตสุ ติสฺโส ปฺาปารมึ ปตฺโต, ภารทฺวาโช สมาธิปารมึ ปตฺโต อโหสิ ¶ . สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานนฺติ สาริปุตฺโต จ โมคฺคลฺลาโน จ. เตสุ สาริปุตฺโต ปฺาวิสเย, โมคฺคลฺลาโน สมาธิวิสเย อคฺโค อโหสิ. อยํ สาวกยุคปริจฺเฉโท นาม.
สาวกสนฺนิปาตปริจฺเฉทวณฺณนา
๑๐. สาวกสนฺนิปาตปริจฺเฉเท ¶ วิปสฺสิสฺส ภควโต ปมสนฺนิปาโต จตุรงฺคิโก อโหสิ, สพฺเพ เอหิภิกฺขู, สพฺเพ อิทฺธิยา นิพฺพตฺตปตฺตจีวรา, สพฺเพ อนามนฺติตาว อาคตา, อิติ เต จ โข ปนฺนรเส อุโปสถทิวเส. อถ สตฺถา พีชนึ คเหตฺวา นิสินฺโน อุโปสถํ โอสาเรสิ. ทุติยตติเยสุปิ เอเสว นโย. ตถา เสสพุทฺธานํ สพฺพสนฺนิปาเตสุ. ยสฺมา ปน อมฺหากํ ภควโต ปมโพธิยาว สนฺนิปาโต อโหสิ, อิทฺจ สุตฺตํ อปรภาเค วุตฺตํ, ตสฺมา ‘‘มยฺหํ, ภิกฺขเว, เอตรหิ เอโก สาวกานํ สนฺนิปาโต’’ติ อนิฏฺเปตฺวา ‘‘อโหสี’’ติ วุตฺตํ.
ตตฺถ อฑฺฒเตฬสานิ ภิกฺขุสตานีติ ปุราณชฏิลานํ สหสฺสํ, ทฺวินฺนํ อคฺคสาวกานํ ปริวารานิ อฑฺฒเตยฺยสตานีติ อฑฺฒเตฬสานิ ภิกฺขุสตานิ. ตตฺถ ทฺวินฺนํ อคฺคสาวกานํ อภินีหารโต ปฏฺาย วตฺถุํ กเถตฺวา ปพฺพชฺชา ทีเปตพฺพา. ปพฺพชิตานํ ปน เตสํ มหาโมคฺคลฺลาโน สตฺตเม ทิวเส อรหตฺตํ ปตฺโต. ธมฺมเสนาปติ ปนฺนรสเม ทิวเส คิชฺฌกูฏปพฺพตมชฺเฌ สูกรขตเลณปพฺภาเร ภาคิเนยฺยสฺส ทีฆนขปริพฺพาชกสฺส สชฺชิเต ธมฺมยาเค เวทนาปริคฺคหสุตฺตนฺเต (ม. นิ. ๒.๒๐๑) เทสิยมาเน เทสนํ อนุพุชฺฌมานํ าณํ เปเสตฺวา สาวกปารมิาณํ ปตฺโต. ภควา เถรสฺส อรหตฺตปฺปตฺตึ ตฺวา เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา เวฬุวเนเยว ปจฺจุฏฺาสิ. เถโร – ‘‘กุหึ นุ โข ภควา คโต’’ติ อาวชฺชนฺโต เวฬุวเน ปติฏฺิตภาวํ ตฺวา สยมฺปิ เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา เวฬุวเนเยว ปจฺจุฏฺาสิ. อถ ภควา ปาติโมกฺขํ โอสาเรสิ. ตํ สนฺนิปาตํ สนฺธาย ภควา – ‘‘อฑฺฒเตฬสานิ ภิกฺขุสตานี’’ติ อาห. อยํ สาวกสนฺนิปาตปริจฺเฉโท นาม.
อุปฏฺากปริจฺเฉทวณฺณนา
๑๑. อุปฏฺากปริจฺเฉเท ¶ ปน อานนฺโทติ นิพทฺธุปฏฺากภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ. ภควโต หิ ปมโพธิยํ อนิพทฺธา อุปฏฺากา อเหสุํ. เอกทา นาคสมาโล ปตฺตจีวรํ คเหตฺวา วิจริ, เอกทา นาคิโต, เอกทา อุปวาโน, เอกทา สุนกฺขตฺโต, เอกทา จุนฺโท สมณุทฺเทโส, เอกทา สาคโต ¶ , เอกทา เมฆิโย. ตตฺถ ¶ เอกทา ภควา นาคสมาลตฺเถเรน สทฺธึ อทฺธานมคฺคปฏิปนฺโน ทฺเวธาปถํ ปตฺโต. เถโร มคฺคา โอกฺกมฺม – ‘‘ภควา, อหํ อิมินา มคฺเคน คจฺฉามี’’ติ อาห. อถ นํ ภควา – ‘‘เอหิ ภิกฺขุ, อิมินา มคฺเคน คจฺฉามา’’ติ อาห. โส – ‘‘หนฺท, ภควา, ตุมฺหากํ ปตฺตจีวรํ คณฺหถ, อหํ อิมินา มคฺเคน คจฺฉามี’’ติ วตฺวา ปตฺตจีวรํ ฉมายํ เปตุํ อารทฺโธ. อถ นํ ภควา – ‘‘อาหร, ภิกฺขู’’ติ วตฺวา ปตฺตจีวรํ คเหตฺวา คโต. ตสฺสปิ ภิกฺขุโน อิตเรน มคฺเคน คจฺฉโต โจรา ปตฺตจีวรฺเจว หรึสุ, สีสฺจ ภินฺทึสุ. โส – ‘‘ภควา อิทานิ เม ปฏิสรณํ, น อฺโ’’ติ จินฺเตตฺวา โลหิเตน คฬิเตน ภควโต สนฺติกํ อคมาสิ. ‘‘กิมิทํ ภิกฺขู’’ติ จ วุตฺเต ตํ ปวตฺตึ อาโรเจสิ. อถ นํ ภควา – ‘‘มา จินฺตยิ, ภิกฺขุ, เอตํเยว เต การณํ สลฺลกฺเขตฺวา นิวารยิมฺหา’’ติ วตฺวา นํ สมสฺสาเสสิ.
เอกทา ปน ภควา เมฆิยตฺเถเรน สทฺธึ ปาจีนวํสมิคทาเย ชนฺตุคามํ อคมาสิ. ตตฺราปิ เมฆิโย ชนฺตุคาเม ปิณฺฑาย จริตฺวา นทีตีเร ปาสาทิกํ อมฺพวนํ ทิสฺวา – ‘‘ภควา, ตุมฺหากํ ปตฺตจีวรํ คณฺหถ, อหํ ตสฺมึ อมฺพวเน สมณธมฺมํ กโรมี’’ติ วตฺวา ภควตา ติกฺขตฺตุํ นิวาริยมาโนปิ คนฺตฺวา อกุสลวิตกฺเกหิ อุปทฺทุโต อนฺวาสตฺโต (อ. นิ. ๙.๓; อุทาน ปริจฺเฉโท ๓๑ ทฏฺพฺโพ). ปจฺจาคนฺตฺวา ตํ ปวตฺตึ อาโรเจสิ. ตมฺปิ ภควา – ‘‘อิทเมว เต การณํ สลฺลกฺเขตฺวา นิวารยิมฺหา’’ติ วตฺวา อนุปุพฺเพน สาวตฺถึ อคมาสิ. ตตฺถ คนฺธกุฏิปริเวเณ ปฺตฺตวรพุทฺธาสเน นิสินฺโน ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขเว, อิทานิมฺหิ มหลฺลโก, ‘เอกจฺเจ ภิกฺขู อิมินา มคฺเคน คจฺฉามา’ติ วุตฺเต อฺเน คจฺฉนฺติ, เอกจฺเจ มยฺหํ ปตฺตจีวรํ นิกฺขิปนฺติ, มยฺหํ นิพทฺธุปฏฺากํ เอกํ ภิกฺขุํ ชานาถา’’ติ. ภิกฺขูนํ ธมฺมสํเวโค อุทปาทิ. อถายสฺมา สาริปุตฺโต อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา – ‘‘อหํ ¶ , ภนฺเต, ตุมฺเหเยว ปตฺถยมาโน สตสหสฺสกปฺปาธิกํ อสงฺขฺเยยฺยํ ปารมิโย ปูรยึ, นนุ มาทิโส มหาปฺโ อุปฏฺาโก นาม วฏฺฏติ, อหํ อุปฏฺหิสฺสามี’’ติ อาห. ตํ ภควา – ‘‘อลํ สาริปุตฺต, ยสฺสํ ¶ ทิสายํ ตฺวํ วิหรสิ, อสฺุาเยว เม สา ทิสา, ตว โอวาโท พุทฺธานํ โอวาทสทิโส, น เม ตยา อุปฏฺากกิจฺจํ อตฺถี’’ติ ปฏิกฺขิปิ. เอเตเนวุปาเยน มหาโมคฺคลฺลานํ อาทึ กตฺวา อสีติมหาสาวกา อุฏฺหึสุ. เต สพฺเพปิ ภควา ปฏิกฺขิปิ.
อานนฺทตฺเถโร ปน ตุณฺหีเยว นิสีทิ. อถ นํ ภิกฺขู เอวมาหํสุ – ‘‘อาวุโส, อานนฺท, ภิกฺขุสงฺโฆ อุปฏฺากฏฺานํ ยาจติ, ตฺวมฺปิ ยาจาหี’’ติ. โส อาห – ‘‘ยาจิตฺวา ลทฺธุปฏฺานํ ¶ นาม อาวุโส กีทิสํ โหติ, กึ มํ สตฺถา น ปสฺสติ, สเจ โรจิสฺสติ, อานนฺโท มํ อุปฏฺาตูติ วกฺขตี’’ติ. อถ ภควา – ‘‘น, ภิกฺขเว, อานนฺโท อฺเน อุสฺสาเหตพฺโพ, สยเมว ชานิตฺวา มํ อุปฏฺหิสฺสตี’’ติ อาห. ตโต ภิกฺขู – ‘‘อุฏฺเหิ, อาวุโส อานนฺท, อุฏฺเหิ อาวุโส อานนฺท, ทสพลํ อุปฏฺากฏฺานํ ยาจาหี’’ติ อาหํสุ. เถโร อุฏฺหิตฺวา จตฺตาโร ปฏิกฺเขเป, จตสฺโส จ อายาจนาติ อฏฺ วเร ยาจิ.
จตฺตาโร ปฏิกฺเขปา นาม – ‘‘สเจ เม, ภนฺเต, ภควา อตฺตนา ลทฺธํ ปณีตํ จีวรํ น ทสฺสติ, ปิณฺฑปาตํ น ทสฺสติ, เอกคนฺธกุฏิยํ วสิตุํ น ทสฺสติ, นิมนฺตนํ คเหตฺวา น คมิสฺสติ, เอวาหํ ภควนฺตํ อุปฏฺหิสฺสามี’’ติ วตฺวา – ‘‘กึ ปเนตฺถ, อานนฺท, อาทีนวํ ปสฺสสี’’ติ วุตฺเต – ‘‘สจาหํ, ภนฺเต, อิมานิ วตฺถูนิ ลภิสฺสามิ, ภวิสฺสนฺติ วตฺตาโร – ‘อานนฺโท ทสพเลน ลทฺธํ ปณีตํ จีวรํ ปริภฺุชติ, ปิณฺฑปาตํ ปริภฺุชติ, เอกคนฺธกุฏิยํ วสติ, เอกโต นิมนฺตนํ คจฺฉติ, เอตํ ลาภํ ลภนฺโต ตถาคตํ อุปฏฺาติ, โก เอวํ อุปฏฺหโต ภาโร’ติ’’ อิเม จตฺตาโร ปฏิกฺเขเป ยาจิ.
จตสฺโส อายาจนา นาม – ‘‘สเจ, ภนฺเต, ภควา มยา คหิตนิมนฺตนํ คมิสฺสติ, สจาหํ ติโรรฏฺา ติโรชนปทา ภควนฺตํ ทฏฺุํ อาคตํ ปริสํ อาคตกฺขเณ เอว ภควนฺตํ ทสฺเสตุํ ลจฺฉามิ, ยทา เม กงฺขา อุปฺปชฺชติ, ตสฺมึเยว ขเณ ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตุํ ลจฺฉามิ, ยํ ภควา มยฺหํ ปรมฺมุขา ธมฺมํ เทเสติ, ตํ อาคนฺตฺวา มยฺหํ กเถสฺสติ, เอวาหํ ภควนฺตํ ¶ อุปฏฺหิสฺสามี’’ติ วตฺวา – ‘‘กํ ปเนตฺถ, อานนฺท, อานิสํสํ ปสฺสสี’’ติ ¶ วุตฺเต – ‘‘อิธ, ภนฺเต, สทฺธา กุลปุตฺตา ภควโต โอกาสํ อลภนฺตา มํ เอวํ วทนฺติ – ‘สฺเว, ภนฺเต อานนฺท, ภควตา สทฺธึ อมฺหากํ ฆเร ภิกฺขํ คณฺเหยฺยาถา’ติ, สเจ ภนฺเต ภควา ตตฺถ น คมิสฺสติ, อิจฺฉิตกฺขเณเยว ปริสํ ทสฺเสตุํ, กงฺขฺจ วิโนเทตุํ โอกาสํ น ลจฺฉามิ, ภวิสฺสนฺติ วตฺตาโร – ‘กึ อานนฺโท ทสพลํ อุปฏฺาติ, เอตฺตกมฺปิสฺส อนุคฺคหํ ภควา น กโรตี’ติ. ภควโต จ ปรมฺมุขา มํ ปุจฺฉิสฺสนฺติ – ‘อยํ, อาวุโส อานนฺท, คาถา, อิทํ สุตฺตํ, อิทํ ชาตกํ, กตฺถ เทสิต’นฺติ. สจาหํ ตํ น สมฺปาทยิสฺสามิ, ภวิสฺสนฺติ วตฺตาโร – ‘เอตฺตกมฺปิ, อาวุโส, น ชานาสิ, กสฺมา ตฺวํ ฉายา วิย ภควนฺตํ อวิชหนฺโต ทีฆรตฺตํ วิจรสี’ติ. เตนาหํ ปรมฺมุขา เทสิตสฺสปิ ธมฺมสฺส ปุน กถนํ อิจฺฉามี’’ติ อิมา จตสฺโส อายาจนา ยาจิ. ภควาปิสฺส อทาสิ.
เอวํ อิเม อฏฺ วเร คเหตฺวา นิพทฺธุปฏฺาโก อโหสิ. ตสฺเสว านนฺตรสฺสตฺถาย กปฺปสตสหสฺสํ ¶ ปูริตานํ ปารมีนํ ผลํ ปาปุณีติ อิมสฺส นิพทฺธุปฏฺากภาวํ สนฺธาย – ‘‘มยฺหํ, ภิกฺขเว, เอตรหิ อานนฺโท ภิกฺขุ อุปฏฺาโก อคฺคุปฏฺาโก’’ติ อาห. อยํ อุปฏฺากปริจฺเฉโท นาม.
๑๒. ปิติปริจฺเฉโท อุตฺตานตฺโถเยว.
วิหารํ ปาวิสีติ กสฺมา วิหารํ ปาวิสิ? ภควา กิร เอตฺตกํ กเถตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘น ตาว มยา สตฺตนฺนํ พุทฺธานํ วํโส นิรนฺตรํ มตฺถกํ ปาเปตฺวา กถิโต, อชฺช มยิ ปน วิหารํ ปวิฏฺเ อิเม ภิกฺขู ภิยฺโยโส มตฺตาย ปุพฺเพนิวาสาณํ อารพฺภ วณฺณํ กถยิสฺสนฺติ. อถาหํ อาคนฺตฺวา นิรนฺตรํ พุทฺธวํสํ กเถตฺวา มตฺถกํ ปาเปตฺวา ทสฺสามี’’ติ ภิกฺขูนํ กถาวารสฺส โอกาสํ ทตฺวา อุฏฺายาสนา วิหารํ ปาวิสิ.
ยฺเจตํ ภควา ตนฺตึ กเถสิ, ตตฺถ กปฺปปริจฺเฉโท, ชาติปริจฺเฉโท, โคตฺตปริจฺเฉโท, อายุปริจฺเฉโท, โพธิปริจฺเฉโท, สาวกยุคปริจฺเฉโท, สาวกสนฺนิปาตปริจฺเฉโท, อุปฏฺากปริจฺเฉโท, ปิติปริจฺเฉโทติ นวิเม วารา อาคตา, สมฺพหุลวาโร อนาคโต, อาเนตฺวา ปน ทีเปตพฺโพ.
สมฺพหุลวารกถาวณฺณนา
สพฺพโพธิสตฺตานฺหิ ¶ ¶ เอกสฺมึ กุลวํสานุรูเป ปุตฺเต ชาเต นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชิตพฺพนฺติ อยเมว วํโส, อยํ ปเวณี. กสฺมา? สพฺพฺุโพธิสตฺตานฺหิ มาตุกุจฺฉึ โอกฺกมนโต ปฏฺาย ปุพฺเพ วุตฺตปฺปการานิ อเนกานิ ปาฏิหาริยานิ โหนฺติ, ตตฺร เนสํ ยทิ เนว ชาตนครํ, น ปิตา, น มาตา, น ภริยา, น ปุตฺโต ปฺาเยยฺย, ‘‘อิมสฺส เนว ชาตนครํ, น ปิตา, น ภริยา, น ปุตฺโต ปฺายติ, เทโว วา สกฺโก วา มาโร วา พฺรหฺมา วา เอส มฺเ, เทวานฺจ อีทิสํ ปาฏิหาริยํ อนจฺฉริย’’นฺติ มฺมาโน ชโน เนว โสตพฺพํ, น สทฺธาตพฺพํ มฺเยฺย. ตโต อภิสมโย น ภเวยฺย, อภิสมเย อสติ นิรตฺถโกว พุทฺธุปฺปาโท, อนิยฺยานิกํ สาสนํ โหติ. ตสฺมา สพฺพโพธิสตฺตานํ – ‘‘เอกสฺมึ กุลวํสานุรูเป ปุตฺเต ชาเต นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชิตพฺพ’’นฺติ อยเมว วํโส อยํ ปเวณี. ตสฺมา ปุตฺตาทีนํ วเสน สมฺพหุลวาโร อาเนตฺวา ทีเปตพฺโพ.
สมฺพหุลปริจฺเฉทวณฺณนา
ตตฺถ ¶ –
สมวตฺตกฺขนฺโธ อตุโล, สุปฺปพุทฺโธ จ อุตฺตโร;
สตฺถวาโห วิชิตเสโน, ราหุโล ภวติ สตฺตโมติ.
เอเต ตาว สตฺตนฺนมฺปิ โพธิสตฺตานํ อนุกฺกเมเนว สตฺต ปุตฺตา เวทิตพฺพา.
ตตฺถ ราหุลภทฺเท ตาว ชาเต ปณฺณํ อาหริตฺวา มหาปุริสสฺส หตฺเถ ปยึสุ. อถสฺส ตาวเทว สกลสรีรํ โขเภตฺวา ปุตฺตสิเนโห อฏฺาสิ. โส จินฺเตสิ – ‘‘เอกสฺมึ ตาว ชาเต เอวรูโป ปุตฺตสิเนโห, ปโรสหสฺสํ กิร เม ปุตฺตา ภวิสฺสนฺติ, เตสุ เอเกกสฺมึ ชาเต อิทํ สิเนหพนฺธนํ เอวํ วฑฺฒนฺตํ ทุพฺเภชฺชํ ภวิสฺสติ, ราหุ ชาโต, พนฺธนํ ชาต’’นฺติ อาห. ตํ ทิวสเมว จ รชฺชํ ปหาย นิกฺขนฺโต. เอส นโย สพฺเพสํ ปุตฺตุปฺปตฺติยนฺติ. อยํ ปุตฺตปริจฺเฉโท.
สุตนา ¶ สพฺพกามา จ, สุจิตฺตา อถ โรจินี;
รุจคฺคตี สุนนฺทา จ, พิมฺพา ภวติ สตฺตมาติ.
เอตา เตสํ สตฺตนฺนมฺปิ ปุตฺตานํ มาตโร อเหสุํ. พิมฺพาเทวี ปน ราหุลกุมาเร ชาเต ราหุลมาตาติ ปฺายิตฺถ. อยํ ภริยปริจฺเฉโท.
วิปสฺสี ¶ กกุสนฺโธติ อิเม ปน ทฺเว โพธิสตฺตา ปยุตฺตอาชฺรถมารุยฺห มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขมึสุ. สิขี โกณาคมโนติ อิเม ทฺเว หตฺถิกฺขนฺธวรคตา หุตฺวา นิกฺขมึสุ. เวสฺสภู สุวณฺณสิวิกาย นิสีทิตฺวา นิกฺขมิ. กสฺสโป อุปริปาสาเท มหาตเล นิสินฺโนว อานาปานจตุตฺถชฺฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา ฌานา อุฏฺาย ตํ ฌานํ ปาทกํ กตฺวา – ‘‘ปาสาโท อุคฺคนฺตฺวา โพธิมณฺเฑ โอตรตู’’ติ อธิฏฺาสิ. ปาสาโท อากาเสน คนฺตฺวา โพธิมณฺเฑ โอตริ. มหาปุริโสปิ ตโต โอตริตฺวา ภูมิยํ ตฺวา – ‘‘ปาสาโท ยถาาเนเยว ปติฏฺาตู’’ติ จินฺเตสิ. โส ยถาาเน ปติฏฺาสิ. มหาปุริโสปิ สตฺต ทิวสานิ ปธานมนุยฺุชิตฺวา โพธิปลฺลงฺเก ¶ นิสีทิตฺวา สพฺพฺุตํ ปฏิวิชฺฌิ. อมฺหากํ ปน โพธิสตฺโต กณฺฏกํ อสฺสวรมารุยฺห นิกฺขนฺโตติ. อยํ ยานปริจฺเฉโท.
วิปสฺสิสฺส ปน ภควโต โยชนปฺปมาเณ ปเทเส วิหาโร ปติฏฺาสิ, สิขิสฺส ติคาวุเต, เวสฺสภุสฺส อฑฺฒโยชเน, กกุสนฺธสฺส คาวุเต, โกณาคมนสฺส อฑฺฒคาวุเต, กสฺสปสฺส วีสติอุสเภ. อมฺหากํ ภควโต ปกติมาเนน โสฬสกรีเส, ราชมาเนน อฏฺกรีเส ปเทเส วิหาโร ปติฏฺิโตติ. อยํ วิหารปริจฺเฉโท.
วิปสฺสิสฺส ปน ภควโต เอกรตนายามา วิทตฺถิวิตฺถารา อฏฺงฺคุลุพฺเพธา สุวณฺณิฏฺกา กาเรตฺวา จูฬํเสน ฉาเทตฺวา วิหารฏฺานํ กิณึสุ. สิขิสฺส สุวณฺณยฏฺิผาเลหิ ฉาเทตฺวา กิณึสุ. เวสฺสภุสฺส สุวณฺณหตฺถิปาทานิ กาเรตฺวา เตสํ จูฬํเสน ฉาเทตฺวา กิณึสุ. กกุสนฺธสฺส วุตฺตนเยเนว สุวณฺณิฏฺกาหิ ฉาเทตฺวา กิณึสุ. โกณาคมนสฺส วุตฺตนเยเนว สุวณฺณกจฺฉเปหิ ฉาเทตฺวา กิณึสุ. กสฺสปสฺส ¶ สุวณฺณกฏฺฏีหิเยว ฉาเทตฺวา กิณึสุ. อมฺหากํ ภควโต สลกฺขณานํ กหาปณานํ จูฬํเสน ฉาเทตฺวา กิณึสุ. อยํ วิหารภูมิคฺคหณธนปริจฺเฉโท.
ตตฺถ ¶ วิปสฺสิสฺส ภควโต ตถา ภูมึ กิณิตฺวา วิหารํ กตฺวา ทินฺนุปฏฺาโก ปุนพฺพสุมิตฺโต นาม อโหสิ, สิขิสฺส สิริวฑฺฒโน นาม, เวสฺสภุสฺส โสตฺถิโย นาม, กกุสนฺธสฺส อจฺจุโต นาม, โกณาคมนสฺส อุคฺโค นาม, กสฺสปสฺส สุมโน นาม, อมฺหากํ ภควโต สุทตฺโต นาม. สพฺเพ เจเต คหปติมหาสาลา เสฏฺิโน อเหสุนฺติ. อยํ อุปฏฺากปริจฺเฉโท นาม.
อปรานิ จตฺตาริ อวิชหิตฏฺานานิ นาม โหนฺติ. สพฺพพุทฺธานฺหิ โพธิปลฺลงฺโก อวิชหิโต, เอกสฺมึเยว าเน โหติ. ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนํ อิสิปตเน มิคทาเย อวิชหิตเมว โหติ. เทโวโรหนกาเล สงฺกสฺสนครทฺวาเร ปมปทคณฺิกา อวิชหิตาว โหติ. เชตวเน คนฺธกุฏิยา จตฺตาริ มฺจปาทฏฺานานิ อวิชหิตาเนว โหนฺติ. วิหาโร ปน ขุทฺทโกปิ มหนฺโตปิ โหติ, วิหาโรปิ น วิชหิโตเยว, นครํ ปน วิชหติ. ยทา นครํ ปาจีนโต โหติ, ตทา วิหาโร ปจฺฉิมโต; ยทา นครํ ทกฺขิณโต, ตทา วิหาโร อุตฺตรโต. ยทา นครํ ปจฺฉิมโต, ตทา วิหาโร ปาจีนโต; ยทา นครํ อุตฺตรโต, ตทา วิหาโร ทกฺขิณโต. อิทานิ ปน นครํ อุตฺตรโต, วิหาโร ทกฺขิณโต.
สพฺพพุทฺธานฺจ ¶ อายุเวมตฺตํ, ปมาณเวมตฺตํ, กุลเวมตฺตํ, ปธานเวมตฺตํ, รสฺมิเวมตฺตนฺติ ปฺจ เวมตฺตานิ โหนฺติ. อายุเวมตฺตํ นาม เกจิ ทีฆายุกา โหนฺติ, เกจิ อปฺปายุกา. ตถา หิ ทีปงฺกรสฺส วสฺสสตสหสฺสํ อายุปฺปมาณํ อโหสิ, อมฺหากํ ภควโต วสฺสสตํ อายุปฺปมาณํ.
ปมาณเวมตฺตํ นาม เกจิ ทีฆา โหนฺติ เกจิ รสฺสา. ตถา หิ ทีปงฺกโร อสีติหตฺโถ อโหสิ, สุมโน นวุติหตฺโถ, อมฺหากํ ภควา อฏฺารสหตฺโถ.
กุลเวมตฺตํ ¶ นาม เกจิ ขตฺติยกุเล นิพฺพตฺตนฺติ, เกจิ พฺราหฺมณกุเล. ปธานเวมตฺตํ นาม เกสฺจิ ปธานํ อิตฺตรกาลเมว โหติ, ยถา กสฺสปสฺส ภควโต. เกสฺจิ อทฺธนิยํ, ยถา อมฺหากํ ภควโต.
รสฺมิเวมตฺตํ นาม มงฺคลสฺส ภควโต สรีรรสฺมิ ทสสหสฺสิโลกธาตุปฺปมาณา อโหสิ. อมฺหากํ ภควโต สมนฺตา พฺยามมตฺตา ¶ . ตตฺร รสฺมิเวมตฺตํ อชฺฌาสยปฺปฏิพทฺธํ, โย ยตฺตกํ อิจฺฉติ, ตสฺส ตตฺตกํ สรีรปฺปภา ผรติ. มงฺคลสฺส ปน นิจฺจมฺปิ ทสสหสฺสิโลกธาตุํ ผรตูติ อชฺฌาสโย อโหสิ. ปฏิวิทฺธคุเณสุ ปน กสฺสจิ เวมตฺตํ นาม นตฺถิ.
อปรํ อมฺหากํเยว ภควโต สหชาตปริจฺเฉทฺจ นกฺขตฺตปริจฺเฉทฺจ ทีเปสุํ. สพฺพฺุโพธิสตฺเตน กิร สทฺธึ ราหุลมาตา, อานนฺทตฺเถโร, ฉนฺโน, กณฺฏโก, นิธิกุมฺโภ, มหาโพธิ, กาฬุทายีติ อิมานิ สตฺต สหชาตานิ. มหาปุริโส จ อุตฺตราสาฬฺหนกฺขตฺเตเนว มาตุกุจฺฉึ โอกฺกมิ, มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขมิ, ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตสิ, ยมกปาฏิหาริยํ อกาสิ. วิสาขานกฺขตฺเตน ชาโต จ อภิสมฺพุทฺโธ จ ปรินิพฺพุโต จ. มาฆนกฺขตฺเตนสฺส สาวกสนฺนิปาโต จ อโหสิ, อายุสงฺขาโรสฺสชฺชนฺจ, อสฺสยุชนกฺขตฺเตน เทโวโรหนนฺติ เอตฺตกํ อาหริตฺวา ทีเปตพฺพํ. อยํ สมฺพหุลปริจฺเฉโท นาม.
๑๓. อิทานิ อถ โข เตสํ ภิกฺขูนนฺติอาทีสุ เต ภิกฺขู – ‘‘อาวุโส, ปุพฺเพนิวาสสฺส นาม อยํ คติ, ยทิทํ จุติโต ปฏฺาย ปฏิสนฺธิอาโรหนํ. ยํ ปน อิทํ ปฏิสนฺธิโต ปฏฺาย ปจฺฉามุขํ าณํ เปเสตฺวา จุติ คนฺตพฺพํ, อิทํ อติครุกํ. อากาเส ปทํ ทสฺเสนฺโต วิย ภควา กเถสี’’ติ อติวิมฺหยชาตา หุตฺวา – ‘‘อจฺฉริยํ, อาวุโส,’’ติอาทีนิ วตฺวา ปุน อปรมฺปิ การณํ ทสฺเสนฺโต – ‘‘ยตฺร หิ นาม ตถาคโต’’ติอาทิมาหํสุ ¶ . ตตฺถ ยตฺร หิ นามาติ อจฺฉริยตฺเถ นิปาโต, โย นาม ตถาคโตติ อตฺโถ. ฉินฺนปปฺเจติ เอตฺถ ปปฺจา นาม ตณฺหา มาโน ทิฏฺีติ อิเม ตโย กิเลสา. ฉินฺนวฏุเมติ เอตฺถ วฏุมนฺติ กุสลากุสลกมฺมวฏฺฏํ วุจฺจติ. ปริยาทินฺนวฏฺเฏติ ตสฺเสว เววจนํ, ปริยาทินฺนสพฺพกมฺมวฏฺเฏติ อตฺโถ. สพฺพทุกฺขวีติวตฺเตติ สพฺพํ วิปากวฏฺฏสงฺขาตํ ทุกฺขํ วีติวตฺเต ¶ . อนุสฺสริสฺสตีติ อิทํ ยตฺราติ นิปาตวเสน อนาคตวจนํ, อตฺโถ ปเนตฺถ อตีตวเสน เวทิตพฺโพ. ภควา หิ เต พุทฺเธ อนุสฺสริ, น อิทานิ อนุสฺสริสฺสติ. เอวํสีลาติ ¶ มคฺคสีเลน ผลสีเลน โลกิยโลกุตฺตรสีเลน เอวํสีลา. เอวํธมฺมาติ เอตฺถ สมาธิปกฺขา ธมฺมา อธิปฺเปตา, มคฺคสมาธินา ผลสมาธินา โลกิยโลกุตฺตรสมาธินา, เอวํสมาธโยติ อตฺโถ. เอวํปฺาติ มคฺคปฺาทิวเสเนว เอวํปฺา. เอวํวิหารีติ เอตฺถ ปน เหฏฺา สมาธิปกฺขานํ ธมฺมานํ คหิตตฺตา วิหาโร คหิโตว ปุน กสฺมา คหิตเมว คณฺหาตีติ เจ; น อิทํ คหิตเมว, อิทฺหิ นิโรธสมาปตฺติทีปนตฺถํ วุตฺตํ. ตสฺมา เอวํ นิโรธสมาปตฺติวิหารี เต ภควนฺโต อเหสุนฺติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
เอวํวิมุตฺตาติ เอตฺถ วิกฺขมฺภนวิมุตฺติ, ตทงฺควิมุตฺติ, สมุจฺเฉทวิมุตฺติ, ปฏิปฺปสฺสทฺธิวิมุตฺติ, นิสฺสรณวิมุตฺตีติ ปฺจวิธา วิมุตฺติ. ตตฺถ อฏฺ สมาปตฺติโย สยํ วิกฺขมฺภิเตหิ นีวรณาทีหิ วิมุตฺตตฺตา วิกฺขมฺภนวิมุตฺตีติ สงฺขฺยํ คจฺฉนฺติ. อนิจฺจานุปสฺสนาทิกา สตฺตานุปสฺสนา สยํ ตสฺส ตสฺส ปจฺจนีกงฺควเสน ปริจฺจตฺตาหิ นิจฺจสฺาทีหิ วิมุตฺตตฺตา ตทงฺควิมุตฺตีติ สงฺขฺยํ คจฺฉนฺติ. จตฺตาโร อริยมคฺคา สยํ สมุจฺฉินฺเนหิ กิเลเสหิ วิมุตฺตตฺตา สมุจฺเฉทวิมุตฺตีติ สงฺขฺยํ คจฺฉนฺติ. จตฺตาริ สามฺผลานิ มคฺคานุภาเวน กิเลสานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธนฺเต อุปฺปนฺนตฺตา ปฏิปฺปสฺสทฺธิวิมุตฺตีติ สงฺขฺยํ คจฺฉนฺติ. นิพฺพานํ สพฺพกิเลเสหิ นิสฺสฏตฺตา อปคตตฺตา ทูเร ิตตฺตา นิสฺสรณวิมุตฺตีติ สงฺขฺยํ คจฺฉติ. อิติ อิมาสํ ปฺจนฺนํ วิมุตฺตีนํ วเสน – ‘‘เอวํ วิมุตฺตา’’ติ เอตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
๑๔. ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโตติ เอกีภาวา วุฏฺิโต.
๑๖. ‘‘อิโต โส, ภิกฺขเว’’ติ โก อนุสนฺธิ? อิทฺหิ สุตฺตํ – ‘‘ตถาคตสฺเสเวสา, ภิกฺขเว, ธมฺมธาตุ สุปฺปฏิวิทฺธา’’ติ จ ‘‘เทวตาปิ ตถาคตสฺส เอตมตฺถํ อาโรเจสุ’’นฺติ จ อิเมหิ ทฺวีหิ ปเทหิ อาพทฺธํ. ตตฺถ เทวตาโรจนปทํ สุตฺตนฺตปริโยสาเน เทวจาริกโกลาหลํ ทสฺเสนฺโต วิจาเรสฺสติ ¶ . ธมฺมธาตุปทานุสนฺธิวเสน ปน อยํ เทสนา ¶ อารทฺธา. ตตฺถ ขตฺติโย ชาติยาติอาทีนิ เอกาทสปทานิ นิทานกณฺเฑ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ.
โพธิสตฺตธมฺมตาวณฺณนา
๑๗. อถ ¶ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสี โพธิสตฺโตติอาทีสุ ปน วิปสฺสีติ ตสฺส นามํ, ตฺจ โข วิวิเธ อตฺเถ ปสฺสนกุสลตาย ลทฺธํ. โพธิสตฺโตติ ปณฺฑิตสตฺโต พุชฺฌนกสตฺโต. โพธิสงฺขาเตสุ วา จตูสุ มคฺเคสุ สตฺโต อาสตฺโต ลคฺคมานโสติ โพธิสตฺโต. สโต สมฺปชาโนติ เอตฺถ สโตติ สติเยว. สมฺปชาโนติ าณํ. สตึ สูปฏฺิตํ กตฺวา าเณน ปริจฺฉินฺทิตฺวา มาตุกุจฺฉึ โอกฺกมีติ อตฺโถ. โอกฺกมีติ อิมินา จสฺส โอกฺกนฺตภาโว ปาฬิยํ ทสฺสิโต, น โอกฺกมนกฺกโม. โส ปน ยสฺมา อฏฺกถํ อารูฬฺโห, ตสฺมา เอวํ เวทิตพฺโพ –
สพฺพโพธิสตฺตา หิ สมตึส ปารมิโย ปูเรตฺวา, ปฺจ มหาปริจฺจาเค ปริจฺจชิตฺวา, าตตฺถจริยโลกตฺถจริยพุทฺธจริยานํ โกฏึ ปตฺวา, เวสฺสนฺตรสทิเส ตติเย อตฺตภาเว ตฺวา, สตฺต มหาทานานิ ทตฺวา, สตฺตกฺขตฺตุํ ปถวึ กมฺเปตฺวา, กาลงฺกตฺวา, ทุติยจิตฺตวาเร ตุสิตภวเน นิพฺพตฺตนฺติ. วิปสฺสี โพธิสตฺโตปิ ตเถว กตฺวา ตุสิตปุเร นิพฺพตฺติตฺวา สฏฺิสตสหสฺสาธิกา สตฺตปฺาส วสฺสโกฏิโย ตตฺถ อฏฺาสิ. อฺทา ปน ทีฆายุกเทวโลเก นิพฺพตฺตา โพธิสตฺตา น ยาวตายุกํ ติฏฺนฺติ. กสฺมา? ตตฺถ ปารมีนํ ทุปฺปูรณียตฺตา. เต อธิมุตฺติกาลกิริยํ กตฺวา มนุสฺสปเถเยว นิพฺพตฺตนฺติ. ปารมีนํ ปูเรนฺโต ปน ยถา อิทานิ เอเกน อตฺตภาเวน สพฺพฺุตํ อุปเนตุํ สกฺโกนฺติ, เอวํ สพฺพโส ปูริตตฺตา ตทา วิปสฺสี โพธิสตฺโต ตตฺถ ยาวตายุกํ อฏฺาสิ.
เทวตานํ ปน – ‘‘มนุสฺสานํ คณนาวเสน อิทานิ สตฺตหิ ทิวเสหิ จุติ ภวิสฺสตี’’ติ ปฺจ ปุพฺพนิมิตฺตานิ อุปฺปชฺชนฺติ – มาลา มิลายนฺติ, วตฺถานิ กิลิสฺสนฺติ, กจฺเฉหิ เสทา มุจฺจนฺติ, กาเย ทุพฺพณฺณิยํ โอกฺกมติ, เทโว เทวาสเน น สณฺาติ. ตตฺถ ¶ มาลาติ ปฏิสนฺธิคฺคหณทิวเส ปิฬนฺธนมาลา ¶ , ตา กิร สฏฺิสตสหสฺสาธิกา สตฺตปณฺณาส วสฺสโกฏิโย อมิลายิตฺวา ตทา มิลายนฺติ. วตฺเถสุปิ เอเสว นโย. เอตฺตกํ ปน กาลํ เทวานํ เนว สีตํ น อุณฺหํ โหติ, ตสฺมึ กาเล สรีรา พินฺทุพินฺทุวเสน เสทา มุจฺจนฺติ. เอตฺตกฺจ กาลํ เตสํ สรีเร ขณฺฑิจฺจปาลิจฺจาทิวเสน วิวณฺณตา น ปฺายติ, เทวธีตา โสฬสวสฺสุทฺเทสิกา วิย ขายนฺติ, เทวปุตฺตา วีสติวสฺสุทฺเทสิกา วิย ขายนฺติ, มรณกาเล ปน เตสํ กิลนฺตรูโป อตฺตภาโว โหติ. เอตฺตกฺจ เตสํ กาลํ เทวโลเก อุกฺกณฺิตา นาม นตฺถิ, มรณกาเล ปน นิสฺสสนฺติ วิชมฺภนฺติ, สเก อาสเน นาภิรมนฺติ.
อิมานิ ¶ ปน ปุพฺพนิมิตฺตานิ ยถา โลเก มหาปฺุานํ ราชราชมหามตฺตาทีนํเยว อุกฺกาปาตภูมิจาลจนฺทคฺคาหาทีนิ นิมิตฺตานิ ปฺายนฺติ, น สพฺเพสํ; เอวํ มเหสกฺขเทวตานํเยว ปฺายนฺติ, น สพฺเพสํ. ยถา จ มนุสฺเสสุ ปุพฺพนิมิตฺตานิ นกฺขตฺตปากาทโยว ชานนฺติ, น สพฺเพ; เอวํ ตานิปิ น สพฺพเทวตา ชานนฺติ, ปณฺฑิตา เอว ปน ชานนฺติ. ตตฺถ เย มนฺเทน กุสลกมฺเมน นิพฺพตฺตา เทวปุตฺตา, เต เตสุ อุปฺปนฺเนสุ – ‘‘อิทานิ โก ชานาติ, ‘กุหึ นิพฺพตฺเตสฺสามา’ติ’’ ภายนฺติ. เย มหาปฺุา, เต ‘‘อมฺเหหิ ทินฺนํ ทานํ, รกฺขิตํ สีลํ, ภาวิตํ ภาวนํ อาคมฺม อุปริ เทวโลเกสุ สมฺปตฺตึ อนุภวิสฺสามา’’ติ น ภายนฺติ. วิปสฺสี โพธิสตฺโตปิ ตานิ ปุพฺพนิมิตฺตานิ ทิสฺวา ‘‘อิทานิ อนนฺตเร อตฺตภาเว พุทฺโธ ภวิสฺสามี’’ติ น ภายติ. อถสฺส เตสุ นิมิตฺเตสุ ปาตุภูเตสุ ทสสหสฺสจกฺกวาฬเทวตา สนฺนิปติตฺวา – ‘‘มาริส, ตุมฺเหหิ ทส ปารมิโย ปูเรนฺเตหิ น สกฺกสมฺปตฺตึ, น มารสมฺปตฺตึ, น พฺรหฺมสมฺปตฺตึ, น จกฺกวตฺติสมฺปตฺตึ ปตฺเถนฺเตหิ ปูริตา, โลกนิตฺถรณตฺถาย ปน พุทฺธตฺตํ ปตฺถยมาเนหิ ปูริตา. โส โว, อิทานิ กาโล, มาริส, พุทฺธตฺตาย, สมโย, มาริส, พุทฺธตฺตายา’’ติ ยาจนฺติ.
อถ มหาสตฺโต ตาสํ เทวตานํ ปฏิฺํ อทตฺวาว กาลทีปเทสกุลชเนตฺติอายุปริจฺเฉทวเสน ปฺจมหาวิโลกนํ นาม วิโลเกสิ. ตตฺถ ‘‘กาโล นุ โข, น กาโล’’ติ ปมํ กาลํ วิโลเกสิ. ตตฺถ ¶ วสฺสสตสหสฺสโต อุทฺธํ วฑฺฒิตอายุกาโล กาโล นาม น โหติ. กสฺมา? ตทา หิ สตฺตานํ ชาติชรามรณานิ น ¶ ปฺายนฺติ, พุทฺธานฺจ ธมฺมเทสนา นาม ติลกฺขณมุตฺตา นตฺถิ. เต เตสํ – ‘‘อนิจฺจํ ทุกฺขมนตฺตา’’ติ กเถนฺตานํ – ‘‘กึ นาเมตํ กเถนฺตี’’ติ เนว โสตุํ, น สทฺทหิตุํ มฺนฺติ, ตโต อภิสมโย น โหติ, ตสฺมึ อสติ อนิยฺยานิกํ สาสนํ โหติ. ตสฺมา โส อกาโล. วสฺสสตโต อูนอายุกาโลปิ กาโล น โหติ. กสฺมา? ตทา หิ สตฺตา อุสฺสนฺนกิเลสา โหนฺติ, อุสฺสนฺนกิเลสานฺจ ทินฺโน โอวาโท โอวาทฏฺาเน น ติฏฺติ, อุทเก ทณฺฑราชิ วิย ขิปฺปํ วิคจฺฉติ. ตสฺมา โสปิ อกาโลว. วสฺสสตสหสฺสโต ปฏฺาย เหฏฺา, วสฺสสตโต ปฏฺาย อุทฺธํ อายุกาโล กาโล นาม, ตทา จ อสีติวสฺสสหสฺสายุกา มนุสฺสา. อถ มหาสตฺโต – ‘‘นิพฺพตฺติตพฺพกาโล’’ติ กาลํ ปสฺสิ.
ตโต ทีปํ วิโลเกนฺโต สปริวาเร จตฺตาโร ทีเป โอโลเกตฺวา – ‘‘ตีสุ ทีเปสุ พุทฺธา น นิพฺพตฺตนฺติ, ชมฺพุทีเปเยว นิพฺพตฺตนฺตี’’ติ ทีปํ ปสฺสิ.
ตโต ¶ – ‘‘ชมฺพุทีโป นาม มหา, ทสโยชนสหสฺสปริมาโณ, กตรสฺมึ นุ โข ปเทเส พุทฺธา นิพฺพตฺตนฺตี’’ติ เทสํ วิโลเกนฺโต มชฺฌิมเทสํ ปสฺสิ. มชฺฌิมเทโส นาม – ‘‘ปุรตฺถิมาย ทิสาย คชงฺคลํ นาม นิคโม’’ติอาทินา (มหาว. ๒๕๙) นเยน วินเย วุตฺโตว. โส อายามโต ตีณิ โยชนสตานิ, วิตฺถารโต อฑฺฒเตยฺยานิ, ปริกฺเขปโต นวโยชนสตานีติ. เอตสฺมิฺหิ ปเทเส พุทฺธา ปจฺเจกพุทฺธา อคฺคสาวกา อสีติ มหาสาวกา จกฺกวตฺติราชาโน อฺเ จ มเหสกฺขา ขตฺติยพฺราหฺมณคหปติมหาสาลา อุปฺปชฺชนฺติ. อิทฺเจตฺถ พนฺธุมตี นาม นครํ, ตตฺถ มยา นิพฺพตฺติตพฺพนฺติ นิฏฺํ อคมาสิ.
ตโต กุลํ วิโลเกนฺโต – ‘‘พุทฺธา นาม โลกสมฺมเต กุเล นิพฺพตฺตนฺติ. อิทานิ จ ขตฺติยกุลํ โลกสมฺมตํ, ตตฺถ นิพฺพตฺติสฺสามิ, พนฺธุมา นาม เม ราชา ปิตา ภวิสฺสตี’’ติ กุลํ ปสฺสิ.
ตโต ¶ มาตรํ วิโลเกนฺโต – ‘‘พุทฺธมาตา นาม โลลา สุราธุตฺตา น โหติ, กปฺปสตสหสฺสํ ปูริตปารมี, ชาติโต ปฏฺาย อขณฺฑปฺจสีลา โหติ, อยฺจ พนฺธุมตี นาม เทวี อีทิสา, อยํ เม มาตา ภวิสฺสติ ¶ , ‘‘กิตฺตกํ ปนสฺสา อายู’’ติ อาวชฺชนฺโต ‘‘ทสนฺนํ มาสานํ อุปริ สตฺต ทิวสานี’’ติ ปสฺสิ.
อิติ อิมํ ปฺจมหาวิโลกนํ วิโลเกตฺวา ‘‘กาโล, เม มาริสา, พุทฺธภาวายา’’ติ เทวตานํ สงฺคหํ กโรนฺโต ปฏิฺํ ทตฺวา – ‘‘คจฺฉถ, ตุมฺเห’’ติ ตา เทวตา อุยฺโยเชตฺวา ตุสิตเทวตาหิ ปริวุโต ตุสิตปุเร นนฺทนวนํ ปาวิสิ. สพฺพเทวโลเกสุ หิ นนฺทนวนํ อตฺถิเยว. ตตฺร นํ เทวตา อิโต จุโต สุคตึ คจฺฉาติ ปุพฺเพกตกุสลกมฺโมกาสํ สารยมานา วิจรนฺติ. โส เอวํ เทวตาหิ กุสลํ สารยมานาหิ ปริวุโต ตตฺถ วิจรนฺโตเยว จวิ.
เอวํ จุโต จ ‘จวามี’ติ ชานาติ, จุติจิตฺตํ น ชานาติ. ปฏิสนฺธึ คเหตฺวาปิ ชานาติ, ปฏิสนฺธิจิตฺตเมว น ชานาติ. ‘‘อิมสฺมึ เม าเน ปฏิสนฺธึ คหิตา’’ติ เอวํ ปน ชานาติ. เกจิ ปน เถรา – ‘‘อาวชฺชนปริยาโย นาม ลทฺธุํ วฏฺฏติ, ทุติยตติยจิตฺตวาเร เอว ชานิสฺสตี’’ติ วทนฺติ. ติปิฏกมหาสีวตฺเถโร ปน อาห – ‘‘มหาสตฺตานํ ปฏิสนฺธิ น อฺเสํ ปฏิสนฺธิสทิสา, โกฏิปฺปตฺตํ ปน เตสํ สติสมฺปชฺํ. ยสฺมา ปน เตเนว จิตฺเตน ตํ จิตฺตํ าตุํ น สกฺกา, ตสฺมา จุติจิตฺตํ น ชานาติ. จุติกฺขเณปิ ‘จวามี’ติ ชานาติ. ปฏิสนฺธิจิตฺตํ น ชานาติ. ‘อสุกสฺมึ เม าเน ปฏิสนฺธิ คหิตา’ติ ชานาติ, ตสฺมึ ¶ กาเล ทสสหสฺสิโลกธาตุ กมฺปตี’’ติ. เอวํ สโต สมฺปชาโน มาตุกุจฺฉึ โอกฺกมนฺโต ปน เอกูนวีสติยา ปฏิสนฺธิจิตฺเตสุ เมตฺตาปุพฺพภาคสฺส โสมนสฺสสหคตาณสมฺปยุตฺตอสงฺขาริกกุสลจิตฺตสฺส สทิสมหาวิปากจิตฺเตน ปฏิสนฺธิ คณฺหิ. มหาสีวตฺเถโร ปน อุเปกฺขาสหคเตนาติ อาห. ยถา ¶ จ อมฺหากํ ภควา, เอวํ โสปิ อาสาฬฺหีปุณฺณมายํ อุตฺตราสาฬฺหนกฺขตฺเตเนว ปฏิสนฺธึ อคฺคเหสิ.
ตทา กิร ปุเร ปุณฺณมาย สตฺตมทิวสโต ปฏฺาย วิคตสุราปานํ มาลาคนฺธาทิวิภูติสมฺปนฺนํ นกฺขตฺตกีฬํ อนุภวมานา โพธิสตฺตมาตา สตฺตเม ทิวเส ปาโต อุฏฺาย คนฺโธทเกน นหายิตฺวา สพฺพาลงฺการวิภูสิตา วรโภชนํ ภฺุชิตฺวา อุโปสถงฺคานิ อธิฏฺาย สิริคพฺภํ ปวิสิตฺวา สิริสยเน นิปนฺนา นิทฺทํ โอกฺกมมานา อิทํ สุปินํ อทฺทส – ‘‘จตฺตาโร กิร ¶ นํ มหาราชาโน สยเนเนว สทฺธึ อุกฺขิปิตฺวา อโนตตฺตทหํ เนตฺวา นหาเปตฺวา ทิพฺพวตฺถํ นิวาเสตฺวา ทิพฺพคนฺเธหิ วิลิมฺเปตฺวา ทิพฺพปุปฺผานิ ปิฬนฺธิตฺวา, ตโต อวิทูเร รชตปพฺพโต, ตสฺส อนฺโต กนกวิมานํ อตฺถิ, ตสฺมึ ปาจีนโต สีสํ กตฺวา นิปชฺชาเปสุํ. อถ โพธิสตฺโต เสตวรวารโณ หุตฺวา ตโต อวิทูเร เอโก สุวณฺณปพฺพโต, ตตฺถ จริตฺวา ตโต โอรุยฺห รชตปพฺพตํ อภิรุหิตฺวา กนกวิมานํ ปวิสิตฺวา มาตรํ ปทกฺขิณํ กตฺวา ทกฺขิณปสฺสํ ผาเลตฺวา กุจฺฉึ ปวิฏฺสทิโส อโหสิ’’.
อถ ปพุทฺธา เทวี ตํ สุปินํ รฺโ อาโรเจสิ. ราชา วิภาตาย รตฺติยา จตุสฏฺิมตฺเต พฺราหฺมณปาโมกฺเข ปกฺโกสาเปตฺวา หริตูปลิตฺตาย ลาชาทีหิ กตมงฺคลสกฺการาย ภูมิยา มหารหานิ อาสนานิ ปฺเปตฺวา ตตฺถ นิสินฺนานํ พฺราหฺมณานํ สปฺปิมธุสกฺกราภิสงฺขตสฺส วรปายาสสฺส สุวณฺณรชตปาติโย ปูเรตฺวา สุวณฺณรชตปาตีเหว ปฏิกุชฺชิตฺวา อทาสิ, อฺเหิ จ อหตวตฺถกปิลคาวีทานาทีหิ เนสํ สนฺตปฺเปสิ. อถ เนสํ สพฺพกามสนฺตปฺปิตานํ ตํ สุปินํ อาโรเจตฺวา – ‘‘กึ ภวิสฺสตี’’ติ ปุจฺฉิ. พฺราหฺมณา อาหํสุ – ‘‘มา จินฺตยิ, มหาราช, เทวิยา เต กุจฺฉิมฺหิ คพฺโภ ปติฏฺิโต, โส จ โข ปุริสคพฺโภ น อิตฺถิคพฺโภ, ปุตฺโต เต ภวิสฺสติ. โส สเจ อคารํ อชฺฌาวสิสฺสติ, ราชา ภวิสฺสติ จกฺกวตฺตี. สเจ อคารา นิกฺขมฺม ปพฺพชิสฺสติ, พุทฺโธ ภวิสฺสติ โลเก วิวฏฺฏจฺฉโท’’ติ. อยํ ตาว – ‘‘มาตุกุจฺฉึ โอกฺกมี’’ติ เอตฺถ วณฺณนากฺกโม.
อยเมตฺถ ¶ ธมฺมตาติ อยํ เอตฺถ มาตุกุจฺฉิโอกฺกมเน ธมฺมตา, อยํ สภาโว, อยํ นิยาโมติ ¶ วุตฺตํ โหติ. นิยาโม จ นาเมส กมฺมนิยาโม, อุตุนิยาโม, พีชนิยาโม, จิตฺตนิยาโม, ธมฺมนิยาโมติ ปฺจวิโธ (ธ. ส. อฏฺ. ๔๙๘).
ตตฺถ กุสลสฺส อิฏฺวิปากทานํ, อกุสลสฺส อนิฏฺวิปากทานนฺติ อยํ กมฺมนิยาโม. ตสฺส ทีปนตฺถํ – ‘‘น อนฺตลิกฺเข’’ติ (ขุ. ปา. ๑๒๗) คาถาย วตฺถูนิ วตฺตพฺพานิ. อปิจ เอกา กิร อิตฺถี สามิเกน สทฺธึ ภณฺฑิตฺวา อุพฺพนฺธิตฺวา มริตุกามา ¶ รชฺชุปาเส คีวํ ปเวเสสิ. อฺตโร ปุริโส วาสึ นิเสนฺโต ตํ อิตฺถิกมฺมํ ทิสฺวา รชฺชุํ ฉินฺทิตุกาโม – ‘‘มา ภายิ, มา ภายี’’ติ ตํ สมสฺสาเสนฺโต อุปธาวิ. รชฺชุ อาสีวิโส หุตฺวา อฏฺาสิ. โส ภีโต ปลายิ. อิตรา ตตฺเถว มริ. เอวมาทีนิ เจตฺถ วตฺถูนิ ทสฺเสตพฺพานิ.
เตสุ เตสุ ชนปเทสุ ตสฺมึ ตสฺมึ กาเล เอกปฺปหาเรเนว รุกฺขานํ ปุปฺผผลคหณาทีนิ, วาตสฺส วายนํ อวายนํ, อาตปสฺส ติกฺขตา มนฺทตา, เทวสฺส วสฺสนํ อวสฺสนํ, ปทุมานํ ทิวา วิกสนํ รตฺตึ มิลายนนฺติ เอวมาทิ อุตุนิยาโม.
ยํ ปเนตํ สาลิพีชโต สาลิผลเมว, มธุรโต มธุรสํเยว, ติตฺตโต ติตฺตรสํเยว ผลํ โหติ, อยํ พีชนิยาโม.
ปุริมา ปุริมา จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา ปจฺฉิมานํ ปจฺฉิมานํ จิตฺตเจตสิกานํ ธมฺมานํ อุปนิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโยติ เอวํ ยเทตํ จกฺขุวิฺาณาทีนํ อนนฺตรา สมฺปฏิจฺฉนาทีนํ นิพฺพตฺตนํ, อยํ จิตฺตนิยาโม.
ยา ปเนสา โพธิสตฺตานํ มาตุกุจฺฉิโอกฺกมนาทีสุ ทสสหสฺสิโลกธาตุกมฺปนาทีนํ ปวตฺติ, อยํ ธมฺมนิยาโม นาม. เตสุ อิธ ธมฺมนิยาโม อธิปฺเปโต. ตสฺมา ตเมวตฺถํ ทสฺเสนฺโต ธมฺมตา เอสา ภิกฺขเวติอาทิมาห.
๑๘. ตตฺถ กุจฺฉึ โอกฺกมตีติ เอตฺถ กุจฺฉึ โอกฺกนฺโต โหตีติ อยเมวตฺโถ ¶ . โอกฺกนฺเต หิ ตสฺมึ เอวํ โหติ, น โอกฺกมมาเน. อปฺปมาโณติ วุฑฺฒิปฺปมาโณ, วิปุโลติ อตฺโถ. อุฬาโรติ ตสฺเสว เววจนํ. อุฬารานิ อุฬารานิ ขาทนียานิ ขาทนฺตีติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓๙๙) หิ มธุรํ อุฬารนฺติ วุตฺตํ. อุฬาราย ขลุ ภวํ วจฺฉายโน สมณํ โคตมํ ปสํสาย ปสํสตีติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๒๘๘) เสฏฺํ อุฬารนฺติ วุตฺตํ. อิธ ปน วิปุลํ ¶ อธิปฺเปตํ. เทวานํ เทวานุภาวนฺติ เอตฺถ เทวานํ อยมานุภาโว นิวตฺถวตฺถสฺส ปภา ทฺวาทสโยชนานิ ผรติ, ตถา สรีรสฺส, ตถา อลงฺการสฺส, ตถา วิมานสฺส, ตํ อติกฺกมิตฺวาติ อตฺโถ.
โลกนฺตริกาติ ¶ ติณฺณํ ติณฺณํ จกฺกวาฬานํ อนฺตรา เอเกโก โลกนฺตริโก โหติ, ติณฺณํ สกฏจกฺกานํ วา ติณฺณํ ปตฺตานํ วา อฺมฺํ อาหจฺจ ปิตานํ มชฺเฌ โอกาโส วิย. โส ปน โลกนฺตริกนิรโย ปริมาณโต อฏฺโยชนสหสฺโส โหติ. อฆาติ นิจฺจวิวฏา. อสํวุตาติ เหฏฺาปิ อปฺปติฏฺา. อนฺธการาติ ตมภูตา. อนฺธการติมิสาติ จกฺขุวิฺาณุปฺปตฺตินิวารณโต อนฺธภาวกรณติมิเสน สมนฺนาคตา. ตตฺถ กิร จกฺขุวิฺาณํ น ชายติ. เอวํมหิทฺธิกาติ จนฺทิมสูริยา กิร เอกปฺปหาเรเนว ตีสุ ทีเปสุ ปฺายนฺติ, เอวํ มหิทฺธิกา. เอเกกาย ทิสาย นว นว โยชนสตสหสฺสานิ อนฺธการํ วิธมิตฺวา อาโลกํ ทสฺเสนฺติ, เอวํมหานุภาวา. อาภาย นานุโภนฺตีติ อตฺตโน ปภาย นปฺปโหนฺติ. เต กิร จกฺกวาฬปพฺพตสฺส เวมชฺเฌน วิจรนฺติ, จกฺกวาฬปพฺพตฺจ อติกฺกมฺม โลกนฺตริกนิรยา. ตสฺมา เต ตตฺถ อาภาย นปฺปโหนฺติ.
เยปิ ตตฺถ สตฺตาติ เยปิ ตสฺมึ โลกนฺตริกมหานิรเย สตฺตา อุปฺปนฺนา. กึ ปน กมฺมํ กตฺวา ตตฺถ อุปฺปชฺชนฺตีติ. ภาริยํ ทารุณํ มาตาปิตูนํ ธมฺมิกสมณพฺราหฺมณานฺจ อุปริ อปราธํ, อฺฺจ ทิวเส ทิวเส ปาณวธาทิสาหสิกกมฺมํ กตฺวา อุปฺปชฺชนฺติ, ตมฺพปณฺณิทีเป อภยโจรนาคโจราทโย วิย. เตสํ อตฺตภาโว ติคาวุติโก โหติ, วคฺคุลีนํ วิย ทีฆนขา โหนฺติ. เต รุกฺเข วคฺคุลิโย วิย นเขหิ จกฺกวาฬปพฺพเต ลคฺคนฺติ. ยทา ¶ สํสปฺปนฺตา อฺมฺสฺส หตฺถปาสํ คตา โหนฺติ, อถ ‘‘ภกฺโข โน ลทฺโธ’’ติ มฺมานา ตตฺถ วาวฏา วิปริวตฺติตฺวา โลกสนฺธารกอุทเก ปตนฺติ, วาเต ปหรนฺเตปิ มธุกผลานิ วิย ฉิชฺชิตฺวา อุทเก ปตนฺติ, ปติตมตฺตาว อจฺจนฺตขาเร อุทเก ปิฏฺปิณฺฑิ วิย วิลียนฺติ.
อฺเปิ กิร โภ สนฺติ สตฺตาติ โภ ยถา มยํ มหาทุกฺขํ อนุภวาม, เอวํ อฺเ กิร สตฺตาปิ อิมํ ทุกฺขมนุภวนตฺถาย อิธูปปนฺนาติ ตํ ทิวสํ ปสฺสนฺติ. อยํ ปน โอภาโส เอกยาคุปานมตฺตมฺปิ น ติฏฺติ, อจฺฉราสงฺฆาฏมตฺตเมว วิชฺโชภาโส วิย นิจฺฉริตฺวา – ‘‘กึ อิท’’นฺติ ภณนฺตานํเยว อนฺตรธายติ. สงฺกมฺปตีติ สมนฺตโต กมฺปติ. อิตรทฺวยํ ปุริมปทสฺเสว เววจนํ. ปุน อปฺปมาโณ จาติอาทิ นิคมนตฺถํ วุตฺตํ.
๑๙. จตฺตาโร ¶ ¶ นํ เทวปุตฺตา จาตุทฺทิสํ รกฺขาย อุปคจฺฉนฺตีติ เอตฺถ จตฺตาโรติ จตุนฺนํ มหาราชานํ วเสน วุตฺตํ. ทสสหสฺสจกฺกวาเฬสุ ปน จตฺตาโร จตฺตาโร กตฺวา จตฺตาลีสสหสฺสานิ โหนฺติ. ตตฺถ อิมสฺมึ จกฺกวาเฬ มหาราชาโน ขคฺคหตฺถา โพธิสตฺตสฺส อารกฺขตฺถาย อุปคนฺตฺวา สิริคพฺภํ ปวิฏฺา, อิตเร คพฺภทฺวารโต ปฏฺาย อวรุทฺธเก ปํสุปิสาจกาทิยกฺขคเณ ปฏิกฺกมาเปตฺวา ยาว จกฺกวาฬา อารกฺขํ คณฺหึสุ.
กิมตฺถาย ปนายํ รกฺขา? นนุ ปฏิสนฺธิกฺขเณ กลลกาลโต ปฏฺาย สเจปิ โกฏิสตสหสฺสมารา โกฏิสตสหสฺสสิเนรุํ อุกฺขิปิตฺวา โพธิสตฺตสฺส วา โพธิสตฺตมาตุยา วา อนฺตรายกรณตฺถํ อาคจฺเฉยฺยุํ, สพฺเพ อนฺตราว อนฺตรธาเยยฺยุํ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ภควตา รุหิรุปฺปาทวตฺถุสฺมึ – ‘‘อฏฺานเมตํ, ภิกฺขเว, อนวกาโส, ยํ ปรุปกฺกเมน ตถาคตํ ชีวิตา โวโรเปยฺย. อนุปกฺกเมน, ภิกฺขเว, ตถาคตา ปรินิพฺพายนฺติ. คจฺฉถ, ตุมฺเห ภิกฺขเว, ยถาวิหารํ, อรกฺขิยา, ภิกฺขเว ตถาคตา’’ติ (จูฬว. ๓๔๑). เอวเมว, เตน ปรุปกฺกเมน น เตสํ ชีวิตนฺตราโย ¶ อตฺถิ, สนฺติ โข ปน อมนุสฺสา วิรูปา ทุทฺทสิกา เภรวรูปา มิคปกฺขิโน, เยสํ รูปํ วา ทิสฺวา สทฺทํ วา สุตฺวา โพธิสตฺตมาตุ ภยํ วา สนฺตาโส วา อุปฺปชฺเชยฺย, เตสํ นิวารณตฺถาย รกฺขํ อคฺคเหสุํ. อปิจ โพธิสตฺตสฺส ปฺุเตเชน สฺชาตคารวา อตฺตโน คารวโจทิตาปิ เต เอวมกํสุ.
กึ ปน เต อนฺโตคพฺภํ ปวิสิตฺวา ิตา จตฺตาโร มหาราชาโน โพธิสตฺตสฺส มาตุยา อตฺตานํ ทสฺเสนฺติ, น ทสฺเสนฺตีติ? นหานมณฺฑนโภชนาทิสรีรกิจฺจกาเล น ทสฺเสนฺติ, สิริคพฺภํ ปวิสิตฺวา วรสยเน นิปนฺนกาเล ปน ทสฺเสนฺติ. ตตฺถ กิฺจาปิ อมนุสฺสทสฺสนํ นาม มนุสฺสานํ สปฺปฏิภยํ โหติ, โพธิสตฺตสฺส มาตา ปน อตฺตโน เจว ปุตฺตสฺส จ ปฺุานุภาเวน เต ทิสฺวา น ภายติ, ปกติอนฺเตปุรปาลเกสุ วิย อสฺสา เอเตสุ จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ.
๒๐. ปกติยา สีลวตีติ สภาเวเนว สีลสมฺปนฺนา. อนุปฺปนฺเน กิร พุทฺเธ มนุสฺสา ตาปสปริพฺพาชกานํ สนฺติเก วนฺทิตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา สีลํ คณฺหนฺติ. โพธิสตฺตมาตาปิ กาลเทวิลสฺส อิสิโน สนฺติเก ¶ สีลํ คณฺหาติ. โพธิสตฺเต ปน กุจฺฉิคเต อฺสฺส ปาทมูเล นิสีทิตุํ นาม น สกฺกา, สมานาสเน นิสีทิตฺวา คหิตสีลมฺปิ อาวชฺชนกรณมตฺตํ โหติ. ตสฺมา สยเมว สีลํ อคฺคเหสีติ วุตฺตํ โหติ.
๒๑. ปุริเสสูติ ¶ โพธิสตฺตสฺส ปิตรํ อาทึ กตฺวา เกสุจิ มนุสฺเสสุ ปุริสาธิปฺปายจิตฺตํ นุปฺปชฺชติ. โพธิสตฺตมาตุรูปํ ปน กุสลา สิปฺปิกา โปตฺถกมฺมาทีสุปิ กาตุํ น สกฺโกนฺติ. ตํ ทิสฺวา ปุริสสฺส ราโค นุปฺปชฺชตีติ น สกฺกา วตฺตุํ, สเจ ปน ตํ รตฺตจิตฺโต อุปสงฺกมิตุกาโม โหติ, ปาทา น วหนฺติ, ทิพฺพสงฺขลิกา วิย พชฺฌนฺติ. ตสฺมา ‘‘อนติกฺกมนียา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
๒๒. ปฺจนฺนํ กามคุณานนฺติ ปุพฺเพ กามคุณูปสฺหิตนฺติ อิมินา ปุริสาธิปฺปายวเสน วตฺถุปฏิกฺเขโป กโต, อิธ อารมฺมณปฺปฏิลาโภ ทสฺสิโต. ตทา กิร เทวิยา เอวรูโป ปุตฺโต กุจฺฉึ อุปปนฺโนติ สุตฺวา สมนฺตโต ราชาโน ¶ มหคฺฆอาภรณตูริยาทิวเสน ปฺจทฺวารารมฺมณวตฺถุภูตํ ปณฺณาการํ เปเสนฺติ. โพธิสตฺตสฺส จ โพธิสตฺตมาตุ จ กตกมฺมสฺส อุสฺสนฺนตฺตา ลาภสกฺการสฺส ปมาณปริจฺเฉโท นตฺถิ.
๒๓. อกิลนฺตกายาติ ยถา อฺา อิตฺถิโย คพฺภภาเรน กิลมนฺติ หตฺถปาทา อุทฺธุมาตตาทีนิ ปาปุณนฺติ, เอวํ ตสฺสา โกจิ กิลมโถ นาโหสิ. ติโรกุจฺฉิคตนฺติ อนฺโตกุจฺฉิคตํ. ปสฺสตีติ กลลาทิกาลํ อติกฺกมิตฺวา สฺชาตองฺคปจฺจงฺคอหีนินฺทฺริยภาวํ อุปคตํเยว ปสฺสติ. กิมตฺถํ ปสฺสติ? สุขวาสตฺถํเยว. ยเถว หิ มาตา ปุตฺเตน สทฺธึ นิปนฺนา วา นิสินฺนา วา – ‘‘หตฺถํ วาสฺส ปาทํ วา โอลมฺพนฺตํ อุกฺขิปิตฺวา สณฺเปสฺสามี’’ติ สุขวาสตฺถํ ปุตฺตํ โอโลเกติ, เอวํ โพธิสตฺตมาตาปิ ยํ ตํ มาตุ อุฏฺานคมนปริวตฺตนนิสชฺชาทีสุ อุณฺหสีตโลณิกติตฺตกกฏุกาหารอชฺโฌหรณกาเลสุ จ คพฺภสฺส ทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ, ‘‘อตฺถิ นุ โข เม ตํ ปุตฺตสฺสา’’ติ สุขวาสตฺถํ โอโลกยมานา ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา นิสินฺนํ โพธิสตฺตํ ปสฺสติ. ยถา หิ อฺเ อนฺโตกุจฺฉิคตา ปกฺกาสยํ อวตฺถริตฺวา อามาสยํ อุกฺขิปิตฺวา อุทรปฏลํ ปิฏฺิโต กตฺวา ปิฏฺิกณฺฑกํ นิสฺสาย อุกฺกุฏิกํ ทฺวีสุ มุฏฺีสุ หนุกํ เปตฺวา เทเว ¶ วสฺสนฺเต รุกฺขสุสิเร มกฺกฏา วิย นิสีทนฺติ, น เอวํ โพธิสตฺโต, โพธิสตฺโต ปน ปิฏฺิกณฺฑกํ ปิฏฺิโต กตฺวา ธมฺมาสเน ธมฺมกถิโก วิย ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา ปุรตฺถาภิมุโข นิสีทติ. ปุพฺเพกตกมฺมํ ปนสฺสา วตฺถุํ โสเธติ, สุทฺเธ วตฺถุมฺหิ สุขุมจฺฉวิลกฺขณํ นิพฺพตฺตติ. อถ นํ กุจฺฉิตโจ ปฏิจฺฉาเทตุํ น สกฺโกติ, โอโลเกนฺติยา พหิิโต วิย ปฺายติ. ตมตฺถํ อุปมาย วิภาเวนฺโต ภควา เสยฺยถาปีติอาทิมาห. โพธิสตฺโต ปน อนฺโตกุจฺฉิคโต มาตรํ น ปสฺสติ. น หิ อนฺโตกุจฺฉิยํ จกฺขุวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ.
๒๔. กาลงฺกโรตีติ ¶ น วิชาตภาวปจฺจยา, อายุปริกฺขเยเนว. โพธิสตฺเตน วสิตฏฺานฺหิ เจติยกุฏิสทิสํ โหติ, อฺเสํ อปริโภคารหํ, น จ สกฺกา โพธิสตฺตมาตรํ ¶ อปเนตฺวา อฺํ อคฺคมเหสิฏฺาเน เปตุนฺติ ตตฺตกํเยว โพธิสตฺตมาตุ อายุปฺปมาณํ โหติ, ตสฺมา ตทา กาลงฺกโรติ. กตรสฺมึ ปน วเย กาลํ กโรตีติ? มชฺฌิมวเย. ปมวยสฺมิฺหิ สตฺตานํ อตฺตภาเว ฉนฺทราโค พลวา โหติ, เตน ตทา สฺชาตคพฺภา อิตฺถี คพฺภํ อนุรกฺขิตุํ น สกฺโกติ, คพฺโภ พหฺวาพาโธ โหติ. มชฺฌิมวยสฺส ปน ทฺเว โกฏฺาเส อติกฺกมฺม ตติเย โกฏฺาเส วตฺถุ วิสทํ โหติ, วิสเท วตฺถุมฺหิ นิพฺพตฺตทารกา อโรคา โหนฺติ, ตสฺมา โพธิสตฺตมาตาปิ ปมวเย สมฺปตฺตึ อนุภวิตฺวา มชฺฌิมวยสฺส ตติเย โกฏฺาเส วิชายิตฺวา กาลํ กโรตีติ อยเมตฺถ ธมฺมตา.
๒๕. นว วา ทส วาติ เอตฺถ วา สทฺทสฺส วิกปฺปนวเสน สตฺต วา อฏฺ วา เอกาทส วา ทฺวาทส วาติ เอวมาทีนํ สงฺคโห เวทิตพฺโพ. ตตฺถ สตฺตมาสชาโต ชีวติ, สีตุณฺหกฺขโม ปน น โหติ. อฏฺมาสชาโต น ชีวติ, อวเสสา ชีวนฺติ.
๒๗. เทวา ปมํ ปฏิคฺคณฺหนฺตีติ ขีณาสวา สุทฺธาวาสพฺรหฺมาโน ปฏิคฺคณฺหนฺติ. กถํ ปฏิคฺคณฺหนฺติ? ‘‘สูติเวสํ คณฺหิตฺวา’’ติ เอเก. ตํ ปน ปฏิกฺขิปิตฺวา อิทํ วุตฺตํ – ‘ตทา โพธิสตฺตมาตา สุวณฺณขจิตํ วตฺถํ นิวาเสตฺวา มจฺฉกฺขิสทิสํ ทุกูลปฏํ ยาว ปาทนฺตา ปารุปิตฺวา อฏฺาสิ. อถสฺสา สลฺลหุกคพฺภวุฏฺานํ อโหสิ, ธมกรณโต อุทกนิกฺขมนสทิสํ. อถ เต ปกติพฺรหฺมเวเสเนว อุปสงฺกมิตฺวา ปมํ สุวณฺณชาเลน ¶ ปฏิคฺคเหสุํ. เตสํ หตฺถโต จตฺตาโร มหาราชาโน อชินปฺปเวณิยา ปฏิคฺคเหสุํ. ตโต มนุสฺสา ทุกูลจุมฺพฏเกน ปฏิคฺคเหสุํ’. เตน วุตฺตํ – ‘‘เทวา ปมํ ปฏิคฺคณฺหนฺติ, ปจฺฉา มนุสฺสา’’ติ.
๒๘. จตฺตาโร นํ เทวปุตฺตาติ จตฺตาโร มหาราชาโน. ปฏิคฺคเหตฺวาติ อชินปฺปเวณิยา ปฏิคฺคเหตฺวา. มเหสกฺโขติ มหาเตโช มหายโส ลกฺขณสมฺปนฺโน.
๒๙. วิสโทว นิกฺขมตีติ ยถา อฺเ สตฺตา โยนิมคฺเค ลคฺคนฺตา ภคฺควิภคฺคา นิกฺขมนฺติ, น เอวํ นิกฺขมติ, อลคฺโค ¶ หุตฺวา นิกฺขมตีติ อตฺโถ อุเทนาติ อุทเกน. เกนจิ อสุจินาติ ยถา อฺเ สตฺตา กมฺมชวาเตหิ อุทฺธํปาทา อโธสิรา โยนิมคฺเค ปกฺขิตฺตา สตโปริสํ นรกปปาตํ ปตนฺตา วิย, ตาฬจฺฉิทฺเทน นิกฺกฑฺฒิยมานา หตฺถี วิย มหาทุกฺขํ อนุภวนฺตา นานาอสุจิมกฺขิตาว นิกฺขมนฺติ, น เอวํ โพธิสตฺโต. โพธิสตฺตฺหิ กมฺมชวาตา ¶ อุทฺธปาทํ อโธสิรํ กาตุํ น สกฺโกนฺติ. โส ธมฺมาสนโต โอตรนฺโต ธมฺมกถิโก วิย, นิสฺเสณิโต โอตรนฺโต ปุริโส วิย จ ทฺเว หตฺเถ จ ทฺเว ปาเท จ ปสาเรตฺวา ิตโกว มาตุกุจฺฉิสมฺภเวน เกนจิ อสุจินา อมกฺขิโตว นิกฺขมติ.
อุทกสฺส ธาราติ อุทกวฏฺฏิโย. ตาสุ สีตา สุวณฺณกฏาเห ปตติ อุณฺหา รชตกฏาเห. อิทฺจ ปถวิตเล เกนจิ อสุจินา อสมฺมิสฺสํ เตสํ ปานียปริโภชนียอุทกฺเจว อฺเหิ อสาธารณํ กีฬาอุทกฺจ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ, อฺสฺส ปน สุวณฺณรชตฆเฏหิ อาหริยมานอุทกสฺส เจว หํสวตฺตกาทิโปกฺขรณีคตสฺส จ อุทกสฺส ปริจฺเฉโท นตฺถิ.
๓๑. สมฺปติชาโตติ มุหุตฺตชาโต. ปาฬิยํ ปน มาตุกุจฺฉิโต นิกฺขนฺตมตฺโต วิย ทสฺสิโต, น เอวํ ทฏฺพฺพํ. นิกฺขนฺตมตฺตฺหิ นํ ปมํ พฺรหฺมาโน สุวณฺณชาเลน ปฏิคฺคณฺหึสุ, เตสํ หตฺถโต จตฺตาโร มหาราชาโน อชินปฺปเวณิยา, เตสํ หตฺถโต มนุสฺสา ทุกูลจุมฺพฏเกน. มนุสฺสานํ หตฺถโต มุจฺจิตฺวา ปถวิยํ ปติฏฺิโต. เสตมฺหิ ฉตฺเต อนุธาริยมาเนติ ทิพฺพเสตจฺฉตฺเต อนุธาริยมานมฺหิ. เอตฺถ จ ฉตฺตสฺส ปริวารานิ ขคฺคาทีนิ ¶ ปฺจ ราชกกุธภณฺฑานิปิ อาคตาเนว. ปาฬิยํ ปน ราชคมเน ราชา วิย ฉตฺตเมว วุตฺตํ. เตสุ ฉตฺตเมว ปฺายติ, น ฉตฺตคฺคาหโก. ตถา ขคฺคตาลวณฺฏโมรหตฺถกวาฬพีชนีอุณฺหีสมตฺตาเยว ปฺายนฺติ, น เตสํ คาหกา. สพฺพานิ กิร ตานิ อทิสฺสมานรูปา เทวตา คณฺหึสุ. วุตฺตฺเจตํ –
‘‘อเนกสาขฺจ ¶ สหสฺสมณฺฑลํ,
ฉตฺตํ มรู ธารยุมนฺตลิกฺเข;
สุวณฺณทณฺฑา วิปตนฺติ จามรา,
น ทิสฺสเร จามรฉตฺตคาหกา’’ติ. (สุ. นิ. ๖๙๓);
สพฺพา จ ทิสาติ อิทํ สตฺตปทวีติหารูปริ ิตสฺส วิย สพฺพทิสานุวิโลกนํ วุตฺตํ, น โข ปเนวํ ทฏฺพฺพํ. มหาสตฺโต หิ มนุสฺสานํ หตฺถโต มุจฺจิตฺวา ปวิยํ ปติฏฺิโต ปุรตฺถิมํ ทิสํ โอโลเกสิ. อเนกานิ จกฺกวาฬสหสฺสานิ เอกงฺคณานิ อเหสุํ. ตตฺถ เทวมนุสฺสา คนฺธมาลาทีหิ ปูชยมานา – ‘‘มหาปุริส, อิธ ตุมฺเหหิ สทิโสปิ นตฺถิ, กุโต อุตฺตริตโร’’ติ อาหํสุ. เอวํ จตสฺโส ทิสา, จตสฺโส อนุทิสา, เหฏฺา, อุปรีติ ทส ทิสา อนุวิโลเกตฺวา อตฺตนา สทิสํ อทิสฺวา – ‘‘อยํ อุตฺตรา ทิสา’’ติ อุตฺตราภิมุโข สตฺตปทวีติหาเรน อคมาสีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อาสภินฺติ อุตฺตมํ. อคฺโคติ คุเณหิ สพฺพปโม. อิตรานิ ¶ ทฺเว ปทานิ เอตสฺเสว เววจนานิ. อยมนฺติมา ชาติ, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโวติ ปททฺวเยน อิมสฺมึ อตฺตภาเว ปตฺตพฺพํ อรหตฺตํ พฺยากาสิ.
เอตฺถ จ สเมหิ ปาเทหิ ปถวิยา ปติฏฺานํ จตุริทฺธิปาทปฏิลาภสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, อุตฺตราภิมุขภาโว มหาชนํ อชฺโฌตฺถริตฺวา อภิภวิตฺวา คมนสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, สตฺตปทคมนํ สตฺตโพชฺฌงฺครตนปฏิลาภสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, ทิพฺพเสตจฺฉตฺตธารณํ วิมุตฺติวรฉตฺตปฏิลาภสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, ปฺจราชกกุธภณฺฑานํ ปฏิลาโภ ปฺจหิ วิมุตฺตีหิ วิมุจฺจนสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, สพฺพทิสานุวิโลกนํ อนาวรณาณปฏิลาภสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, อาสภิวาจาภาสนํ อปฺปฏิวตฺติยธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, ‘‘อยมนฺติมา ชาตี’’ติ สีหนาโท อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพานสฺส ปุพฺพนิมิตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ ¶ . อิเม ¶ วารา ปาฬิยํ อาคตา, สมฺพหุลวาโร ปน นาคโต, อาหริตฺวา ทีเปตพฺโพ.
มหาปุริสสฺส หิ ชาตทิวเส ทสสหสฺสิโลกธาตุ กมฺปิ. ทสสหสฺสิโลกธาตุมฺหิ เทวตา เอกจกฺกวาเฬ สนฺนิปตึสุ. ปมํ เทวา ปฏิคฺคณฺหึสุ, ปจฺฉา มนุสฺสา. ตนฺติพทฺธา วีณา จมฺมพทฺธา เภริโย จ เกนจิ อวาทิตา สยเมว วชฺชึสุ. มนุสฺสานํ อนฺทุพนฺธนาทีนิ ขณฺฑาขณฺฑํ ฉิชฺชึสุ. สพฺพโรคา วูปสมึสุ, อมฺพิเลน โธตตมฺพมลํ วิย วิคจฺฉึสุ. ชจฺจนฺธา รูปานิ ปสฺสึสุ. ชจฺจพธิรา สทฺทํ สุณึสุ. ปีสปฺปี ชวสมฺปนฺนา อเหสุํ. ชาติชฬานมฺปิ เอฬมูคานํ สติ ปติฏฺาสิ. วิเทสปกฺขนฺทา นาวา สุปฏฺฏนํ ปาปุณึสุ. อากาสฏฺกภูมฏฺกรตนานิ สกเตโชภาสิตานิ อเหสุํ. เวริโน เมตฺตจิตฺตํ ปฏิลภึสุ. อวีจิมฺหิ อคฺคิ นิพฺพายิ. โลกนฺตเรสุ อาโลโก อุทปาทิ. นทีสุ ชลํ นปฺปวตฺตติ. มหาสมุทฺเท มธุรสํ อุทกํ อโหสิ. วาโต น วายิ. อากาสปพฺพตรุกฺขคตา สกุณา ภสฺสิตฺวา ปถวิคตา อเหสุํ. จนฺโท อติวิโรจิ. สูริโย น อุณฺโห, น สีตโล, นิมฺมโล อุตุสมฺปนฺโน อโหสิ. เทวตา อตฺตโน อตฺตโน วิมานทฺวาเร ตฺวา อปฺโผฏนเสฬนเจลุกฺเขปาทีหิ มหากีฬกํ กีฬึสุ. จาตุทฺทีปิกมหาเมโฆ วสฺสิ. มหาชนํ เนว ขุทา น ปิปาสา ปีเฬสิ. ทฺวารกวาฏานิ สยเมว วิวรึสุ. ปุปฺผูปคผลูปคา รุกฺขา ปุปฺผผลานิ คณฺหึสุ. ทสสหสฺสิโลกธาตุ เอกทฺธชมาลา อโหสิ.
ตตฺราปิ ทสสหสฺสิโลกธาตุกมฺโป สพฺพฺุตฺาณปฏิลาภสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ. เทวตานํ เอกจกฺกวาเฬ สนฺนิปาโต ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนกาเล เอกปฺปหาเรเนว สนฺนิปติตฺวา ธมฺมํ ปฏิคฺคณฺหนสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ. ปมํ เทวตานํ ปฏิคฺคหณํ จตุนฺนํ รูปาวจรชฺฌานานํ ปฏิลาภสฺส ¶ ปุพฺพนิมิตฺตํ. ปจฺฉา มนุสฺสานํ ปฏิคฺคหณํ ¶ จตุนฺนํ อรูปาวจรชฺฌานานํ ปฏิลาภสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ. ตนฺติพทฺธวีณานํ สยํ วชฺชนํ อนุปุพฺพวิหารปฏิลาภสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ. จมฺมพทฺธเภรีนํ วชฺชนํ มหติยา ธมฺมเภริยา อนุสฺสาวนสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ. อนฺทุพนฺธนาทีนํ เฉโท อสฺมิมานสมุจฺเฉทสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ. มหาชนสฺส โรควิคโม จตุสจฺจปฏิลาภสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ. ชจฺจนฺธานํ รูปทสฺสนํ ทิพฺพจกฺขุปฏิลาภสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ ¶ . พธิรานํ สทฺทสฺสวนํ ทิพฺพโสตธาตุปฏิลาภสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ. ปีสปฺปีนํ ชวสมฺปทา จตุริทฺธิปาทปฏิลาภสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ. ชฬานํ สติปติฏฺานํ จตุสติปฏฺานปฏิลาภสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ. วิเทสปกฺขนฺทนาวานํ สุปฏฺฏนสมฺปาปุณนํ จตุปฏิสมฺภิทาธิคมสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ. รตนานํ สกเตโชภาสิตตฺตํ ยํ โลกสฺส ธมฺโมภาสํ ทสฺเสสฺสติ, ตสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ.
เวรีนํ เมตฺตจิตฺตปฏิลาโภ จตุพฺรหฺมวิหารปฏิลาภสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ. อวีจิมฺหิ อคฺคินิพฺพายนํ เอกาทสอคฺคินิพฺพายนสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ. โลกนฺตริกาโลโก อวิชฺชนฺธการํ วิธมิตฺวา าณาโลกทสฺสนสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ. มหาสมุทฺทสฺส มธุรตา นิพฺพานรเสน เอกรสภาวสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ. วาตสฺส อวายนํ ทฺวาสฏฺิทิฏฺิคตภินฺทนสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ. สกุณานํ ปถวิคมนํ มหาชนสฺส โอวาทํ สุตฺวา ปาเณหิ สรณคมนสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ. จนฺทสฺส อติวิโรจนํ พหุชนกนฺตตาย ปุพฺพนิมิตฺตํ. สูริยสฺส อุณฺหสีตวิวชฺชนอุตุสุขตา กายิกเจตสิกสุขปฺปตฺติยา ปุพฺพนิมิตฺตํ. เทวตานํ วิมานทฺวาเรสุ ตฺวา อปฺโผฏนาทีหิ กีฬนํ พุทฺธภาวํ ปตฺวา อุทานํ อุทานสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ. จาตุทฺทีปิกมหาเมฆวสฺสนํ มหโต ธมฺมเมฆวสฺสนสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ. ขุทาปีฬนสฺส อภาโว กายคตาสติอมตปฏิลาภสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ. ปิปาสาปีฬนสฺส อภาโว วิมุตฺติสุเขน ¶ สุขิตภาวสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ. ทฺวารกวาฏานํ สยเมว วิวรณํ อฏฺงฺคิกมคฺคทฺวารวิวรณสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ. รุกฺขานํ ปุปฺผผลคฺคหณํ วิมุตฺติปุปฺเผหิ ปุปฺผิตสฺส จ สามฺผลภารภริตภาวสฺส จ ปุพฺพนิมิตฺตํ. ทสสหสฺสิโลกธาตุยา เอกทฺธชมาลิตา อริยทฺธชมาลมาลิตาย ปุพฺพนิมิตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อยํ สมฺพหุลวาโร นาม.
เอตฺถ ปฺหํ ปุจฺฉนฺติ – ‘‘ยทา มหาปุริโส ปถวิยํ ปติฏฺหิตฺวา อุตฺตราภิมุโข ปทสา คนฺตฺวา อาสภึ วาจํ อภาสิ, ตทา กึ ปถวิยา คโต, อุทาหุ อากาเสน; ทิสฺสมาโน คโต, อุทาหุ อทิสฺสมาโน; อเจลโก คโต, อุทาหุ อลงฺกตปฏิยตฺโต; ทหโร หุตฺวา คโต ¶ , อุทาหุ มหลฺลโก; ปจฺฉาปิ กึ ตาทิโสว อโหสิ, อุทาหุ ปุน พาลทารโก’’ติ? อยํ ปน ปฺโห เหฏฺาโลหปาสาเท สมุฏฺิโต ติปิฏกจูฬาภยตฺเถเรน วิสฺสชฺชิโตว. เถโร กิร เอตฺถ นิยติปุพฺเพกตกมฺมอิสฺสรนิมฺมานวาทวเสน ¶ ตํ ตํ พหุํ วตฺวา อวสาเน เอวํ พฺยากริ – ‘‘มหาปุริโส ปถวิยา คโต, มหาชนสฺส ปน อากาเสน คจฺฉนฺโต วิย อโหสิ. ทิสฺสมาโน คโต, มหาชนสฺส ปน อทิสฺสมาโน วิย อโหสิ. อเจลโก คโต, มหาชนสฺส ปน อลงฺกตปฏิยตฺโต วิย อุปฏฺาสิ. ทหโรว คโต, มหาชนสฺส ปน โสฬสวสฺสุทฺเทสิโก วิย อโหสิ. ปจฺฉา ปน พาลทารโกว อโหสิ, น ตาทิโส’’ติ. ปริสา จสฺส – ‘‘พุทฺเธน วิย หุตฺวา โภ เถเรน ปฺโห กถิโต’’ติ อตฺตมนา อโหสิ. โลกนฺตริกวาโร วุตฺตนโย เอว.
อิมา จ ปน อาทิโต ปฏฺาย กถิตา สพฺพธมฺมตา สพฺพโพธิสตฺตานํ โหนฺตีติ เวทิตพฺพา.
ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขณวณฺณนา
๓๓. อทฺทส โขติ ทุกูลจุมฺพฏเก นิปชฺชาเปตฺวา อานีตํ อทฺทส. มหาปุริสสฺสาติ ชาติโคตฺตกุลปเทสาทิวเสน มหนฺตสฺส ปุริสสฺส. ทฺเว คติโยติ ทฺเว นิฏฺา, ทฺเว นิปฺผตฺติโย. อยฺหิ คติสทฺโท – ‘‘ปฺจ โข อิมา, สาริปุตฺต, คติโย’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๕๓) เอตฺถ นิรยาทิเภทาย สตฺเตหิ คนฺตพฺพคติยา ¶ วตฺตติ. ‘‘อิเมสํ โข อหํ ภิกฺขูนํ สีลวนฺตานํ กลฺยาณธมฺมานํ เนว ชานามิ อาคตึ วา คตึ วา’’ติ (ม. นิ. ๑.๕๐๘) เอตฺถ อชฺฌาสเย. ‘‘นิพฺพานํ อรหโต คตี’’ติ (ปริ. ๓๓๙) เอตฺถ ปฏิสฺสรเณ. ‘‘อปิ จ ตฺยาหํ พฺรหฺเม คติฺจ ปชานามิ, ชุติฺจ ปชานามิ เอวํมหิทฺธิโก พโก พฺรหฺมา’’ติ (ม. นิ. ๑.๕๐๓) เอตฺถ นิปฺผตฺติยํ วตฺตติ. สฺวายมิธาปิ นิปฺผตฺติยํ วตฺตตีติ เวทิตพฺโพ. อนฺาติ อฺา คติ นิปฺผตฺติ นาม นตฺถิ.
ธมฺมิโกติ ทสกุสลธมฺมสมนฺนาคโต อคติคมนวิรหิโต. ธมฺมราชาติ อิทํ ปุริมปทสฺเสว เววจนํ. ธมฺเมน วา ลทฺธรชฺชตฺตา ธมฺมราชา. จาตุรนฺโตติ ¶ ปุรตฺถิมสมุทฺทาทีนํ จตุนฺนํ สมุทฺทานํ วเสน จตุรนฺตาย ปถวิยา อิสฺสโร. วิชิตาวีติ วิชิตสงฺคาโม. ชนปโท อสฺมึ ถาวริยํ ถิรภาวํ ปตฺโตติ ชนปทตฺถาวริยปฺปตฺโต. จณฺฑสฺส หิ รฺโ พลิทณฺฑาทีหิ โลกํ ปีฬยโต มนุสฺสา มชฺฌิมชนปทํ ฉฑฺเฑตฺวา ปพฺพตสมุทฺทตีราทีนิ นิสฺสาย ปจฺจนฺเต วาสํ กปฺเปนฺติ. อติมุทุกสฺส รฺโ โจเรหิ สาหสิกธนวิโลปปีฬิตา มนุสฺสา ปจฺจนฺตํ ปหาย ชนปทมชฺเฌ วาสํ กปฺเปนฺติ, อิติ เอวรูเป ราชินิ ชนปโท ถิรภาวํ น ปาปุณาติ. อิมสฺมึ ปน ¶ กุมาเร รชฺชํ การยมาเน เอตสฺส ชนปโท ปาสาณปิฏฺิยํ เปตฺวา อโยปฏฺเฏน ปริกฺขิตฺโต วิย ถิโร ภวิสฺสตีติ ทสฺเสนฺโต – ‘‘ชนปทตฺถาวริยปฺปตฺโต’’ติ อาหํสุ.
สตฺตรตนสมนฺนาคโตติ เอตฺถ รติชนนฏฺเน รตนํ. อปิจ –
‘‘จิตฺตีกตํ มหคฺฆฺจ, อตุลํ ทุลฺลภทสฺสนํ;
อโนมสตฺตปริโภคํ, รตนํ เตน วุจฺจติ’’.
จกฺกรตนสฺส จ นิพฺพตฺตกาลโต ปฏฺาย อฺํ เทวฏฺานํ นาม น โหติ, สพฺเพ คนฺธปุปฺผาทีหิ ตสฺเสว ปูชฺจ อภิวาทนาทีนิ จ กโรนฺตีติ จิตฺตีกตฏฺเน รตนํ. จกฺกรตนสฺส จ เอตฺตกํ นาม ธนํ อคฺฆตีติ ¶ อคฺโฆ นตฺถิ, อิติ มหคฺฆฏฺเนาปิ รตนํ. จกฺกรตนฺจ อฺเหิ โลเก วิชฺชมานรตเนหิ อสทิสนฺติ อตุลฏฺเนาปิ รตนํ. ยสฺมา จ ปน ยสฺมึ กปฺเป พุทฺธา อุปฺปชฺชนฺติ, ตสฺมึเยว จกฺกวตฺติโน อุปฺปชฺชนฺติ, พุทฺธา จ กทาจิ กรหจิ อุปฺปชฺชนฺติ, ตสฺมา ทุลฺลภทสฺสนฏฺเนาปิ รตนํ. ตเทตํ ชาติรูปกุลอิสฺสริยาทีหิ อโนมสฺส อุฬารสตฺตสฺเสว อุปฺปชฺชติ, น อฺสฺสาติ อโนมสตฺตปริโภคฏฺเนาปิ รตนํ. ยถา จกฺกรตนํ, เอวํ เสสานิปีติ. อิเมหิ สตฺตหิ รตเนหิ ปริวารภาเวน เจว สพฺพโภคูปกรณภาเวน จ สมนฺนาคโตติ สตฺตรตนสมนฺนาคโต.
อิทานิ เตสํ สรูปโต ทสฺสนตฺถํ ตสฺสิมานีติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ จกฺกรตนนฺติอาทีสุ อยํ สงฺเขปาธิปฺปาโย – ทฺเวสหสฺสทีปปริวารานํ จตุนฺนํ มหาทีปานํ สิริวิภวํ คเหตฺวา ทาตุํ สมตฺถํ จกฺกรตนํ ปาตุภวติ. ตถา ปุเรภตฺตเมว สาครปริยนฺตํ ปถวึ อนุสํยายนสมตฺถํ เวหาสงฺคมํ หตฺถิรตนํ, ตาทิสเมว อสฺสรตนํ, จตุรงฺคสมนฺนาคเต อนฺธกาเร ¶ โยชนปฺปมาณํ อนฺธการํ วิธมิตฺวา อาโลกทสฺสนสมตฺถํ มณิรตนํ, ฉพฺพิธโทสวิวชฺชิตํ มนาปจาริ อิตฺถิรตนํ, โยชนปฺปมาเณ อนฺโตปถวิคตํ นิธึ ทสฺสนสมตฺถํ คหปติรตนํ, อคฺคมเหสิยา กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺติตฺวา สกลรชฺชมนุสาสนสมตฺถํ เชฏฺปุตฺตสงฺขาตํ ปริณายกรตนํ ปาตุภวติ.
ปโรสหสฺสนฺติ อติเรกสหสฺสํ. สูราติ อภีรุกา. วีรงฺครูปาติ วีรานํ องฺคํ วีรงฺคํ, วีริยสฺเสตํ นามํ, วีรงฺคํ รูปเมเตสนฺติ วีรงฺครูปา, วีริยชาติกา วีริยสภาวา วีริยมยา อกิลาสุโน อเหสุํ. ทิวสมฺปิ ยุชฺฌนฺตา น กิลมนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. สาครปริยนฺตนฺติ จกฺกวาฬปพฺพตํ สีมํ กตฺวา ิตสมุทฺทปริยนฺตํ. อทณฺเฑนาติ เย กตาปราเธ สตฺเต สตมฺปิ สหสฺสมฺปิ ¶ คณฺหนฺติ, เต ธนทณฺเฑน รชฺชํ กาเรนฺติ. เย เฉชฺชเภชฺชํ อนุสาสนฺติ, เต สตฺถทณฺเฑน. อยํ ปน ทุวิธมฺปิ ทณฺฑํ ปหาย อทณฺเฑน อชฺฌาวสติ. อสตฺเถนาติ ¶ เย เอกโตธาราทินา สตฺเถน ปรํ วิเหสนฺติ, เต สตฺเถน รชฺชํ กาเรนฺติ นาม. อยํ ปน สตฺเถน ขุทฺทมกฺขิกายปิ ปิวนมตฺตํ โลหิตํ กสฺสจิ อนุปฺปาเทตฺวา ธมฺเมเนว – ‘‘เอหิ โข มหาราชา’’ติ เอวํ ปฏิราชูหิ สมฺปฏิจฺฉิตาคมโน วุตฺตปฺปการํ ปถวึ อภิวิชินิตฺวา อชฺฌาวสติ, อภิภวิตฺวา สามี หุตฺวา วสตีติ อตฺโถ.
เอวํ เอกํ นิปฺผตฺตึ กเถตฺวา ทุติยํ กเถตุํ สเจ โข ปนาติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ราคโทสโมหมานทิฏฺิกิเลสตณฺหาสงฺขาตํ ฉทนํ อาวรณํ วิวฏํ วิทฺธํสิตํ วิวฏกํ เอเตนาติ วิวฏจฺฉโท. ‘‘วิวฏฺฏจฺฉทา’’ติปิ ปาโ, อยเมว อตฺโถ.
๓๕. เอวํ ทุติยํ นิปฺผตฺตึ กเถตฺวา ตาสํ นิมิตฺตภูตานิ ลกฺขณานิ ทสฺเสตุํ อยฺหิ, เทว, กุมาโรติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สุปฺปติฏฺิตปาโทติ ยถา อฺเสํ ภูมิยํ ปาทํ เปนฺตานํ อคฺคปาทตลํ วา ปณฺหิ วา ปสฺสํ วา ปมํ ผุสติ, เวมชฺเฌ วา ปน ฉิทฺทํ โหติ, อุกฺขิปนฺตานํ อคฺคตลาทีสุ เอกโกฏฺาโสว ปมํ อุฏฺหติ, น เอวมสฺส. อสฺส ปน สุวณฺณปาทุกตลมิว เอกปฺปหาเรเนว สกลํ ปาทตลํ ภูมึ ผุสติ, เอกปฺปหาเรเนว ภูมิโต อุฏฺหติ. ตสฺมา อยํ สุปฺปติฏฺิตปาโท.
จกฺกานีติ ¶ ทฺวีสุ ปาทตเลสุ ทฺเว จกฺกานิ, เตสํ อรา จ เนมิ จ นาภิ จ ปาฬิยํ วุตฺตาว. สพฺพาการปริปูรานีติ อิมินา ปน อยํ วิเสโส เวทิตพฺโพ, เตสํ กิร จกฺกานํ ปาทตลสฺส มชฺเฌ นาภิ ทิสฺสติ, นาภิปริจฺฉินฺนา วฏฺฏเลขา ทิสฺสติ, นาภิมุขปริกฺเขปปฏฺโฏ ทิสฺสติ, ปนาฬิมุขํ ทิสฺสติ, อรา ทิสฺสนฺติ, อเรสุ วฏฺฏิเลขา ทิสฺสนฺติ, เนมิมณิกา ทิสฺสนฺติ. อิทํ ตาว ปาฬิยํ อาคตเมว. สมฺพหุลวาโร ปน อนาคโต, โส เอวํ ทฏฺพฺโพ – สตฺติ, สิริวจฺโฉ, นนฺทิ, โสวตฺติโก, วฏํสโก, วฑฺฒมานกํ, มจฺฉยุคฬํ, ภทฺทปีํ, องฺกุสโก, ปาสาโท, โตรณํ, เสตจฺฉตฺตํ, ขคฺโค, ตาลวณฺฏํ, โมรหตฺถโก, วาฬพีชนี, อุณฺหีสํ, มณิ, ปตฺโต, สุมนทามํ, นีลุปฺปลํ, รตฺตุปฺปลํ, เสตุปฺปลํ, ปทุมํ, ปุณฺฑรีกํ, ปุณฺณฆโฏ ¶ , ปุณฺณปาติ, สมุทฺโท, จกฺกวาโฬ, หิมวา, สิเนรุ, จนฺทิมสูริยา, นกฺขตฺตานิ, จตฺตาโร มหาทีปา, ทฺวิปริตฺตทีปสหสฺสานิ, อนฺตมโส จกฺกวตฺติรฺโ ปริสํ อุปาทาย สพฺโพ จกฺกลกฺขณสฺเสว ปริวาโร.
อายตปณฺหีติ ¶ ทีฆปณฺหิ, ปริปุณฺณปณฺหีติ อตฺโถ. ยถา หิ อฺเสํ อคฺคปาโท ทีโฆ โหติ, ปณฺหิมตฺถเก ชงฺฆา ปติฏฺาติ, ปณฺหึ ตจฺเฉตฺวา ปิตา วิย โหติ, น เอวํ มหาปุริสสฺส. มหาปุริสสฺส ปน จตูสุ โกฏฺาเสสุ ทฺเว โกฏฺาสา อคฺคปาโท โหติ, ตติเย โกฏฺาเส ชงฺฆา ปติฏฺาติ, จตุตฺถโกฏฺาเส อารคฺเคน วฏฺเฏตฺวา ปิตา วิย รตฺตกมฺพลเคณฺฑุกสทิสา ปณฺหิ โหติ.
ทีฆงฺคุลีติ ยถา อฺเสํ กาจิ องฺคุลิโย ทีฆา โหนฺติ, กาจิ รสฺสา, น เอวํ มหาปุริสสฺส. มหาปุริสสฺส ปน มกฺกฏสฺเสว ทีฆา หตฺถปาทงฺคุลิโย มูเล ถูลา, อนุปุพฺเพน คนฺตฺวา อคฺเค ตนุกา, นิยฺยาสเตเลน มทฺทิตฺวา วฏฺฏิตหริตาลวฏฺฏิสทิสา โหนฺติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ทีฆงฺคุลี’’ติ.
มุทุตลุนหตฺถปาโทติ สปฺปิมณฺเฑ โอสาเรตฺวา ปิตํ สตวารวิหตกปฺปาสปฏลํ วิย มุทุ. ยถา จ อิทานิ ชาตมตฺตสฺส, เอวํ วุฑฺฒกาเลปิ มุทุตลุนาเยว ภวิสฺสนฺติ, มุทุตลุนา หตฺถปาทา เอตสฺสาติ มุทุตลุนหตฺถปาโท.
ชาลหตฺถปาโทติ น จมฺเมน ปฏิพทฺธองฺคุลนฺตโร. เอทิโส หิ ผณหตฺถโก ปุริสโทเสน อุปหโต ปพฺพชฺชํ น ปฏิลภติ. มหาปุริสสฺส ปน ¶ จตสฺโส หตฺถงฺคุลิโย ปฺจปิ ปาทงฺคุลิโย เอกปฺปมาณา โหนฺติ, ตาสํ เอกปฺปมาณตาย ยวลกฺขณํ อฺมฺํ ปฏิวิชฺฌิตฺวา ติฏฺติ. อถสฺส หตฺถปาทา กุสเลน วฑฺฒกินา โยชิตชาลวาตปานสทิสา โหนฺติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ชาลหตฺถปาโท’’ติ.
อุทฺธํ ปติฏฺิตโคปฺผกตฺตา อุสฺสงฺขา ปาทา อสฺสาติ อุสฺสงฺขปาโท. อฺเสฺหิ ปิฏฺิปาเท โคปฺผกา โหนฺติ, เตน เตสํ ปาทา อาณิพทฺธา วิย พทฺธา โหนฺติ, น ยถาสุขํ ปริวฏฺฏนฺติ, คจฺฉนฺตานํ ปาทตลานิปิ น ทิสฺสนฺติ. มหาปุริสสฺส ปน อารุหิตฺวา อุปริ โคปฺผกา ปติฏฺหนฺติ, เตนสฺส นาภิโต ปฏฺาย อุปริมกาโย นาวาย ปิตสุวณฺณปฏิมา วิย นิจฺจโล โหติ, อโธกาโยว อิฺชติ, สุเขน ปาทา ¶ ปริวฏฺฏนฺติ, ปุรโตปิ ปจฺฉโตปิ อุภยปสฺเสสุปิ ตฺวา ปสฺสนฺตานํ ปาทตลานิ ปฺายนฺติ, น หตฺถีนํ วิย ปจฺฉโตเยว.
เอณิชงฺโฆติ เอณิมิคสทิสชงฺโฆ มํสุสฺสเทน ปริปุณฺณชงฺโฆ, น เอกโต พทฺธปิณฺฑิกมํโส ¶ , สมนฺตโต สมสณฺิเตน มํเสน ปริกฺขิตฺตาหิ สุวฏฺฏิตาหิ สาลิคพฺภยวคพฺภสทิสาหิ ชงฺฆาหิ สมนฺนาคโตติ อตฺโถ.
อโนนมนฺโตติ อนมนฺโต, เอเตนสฺส อขุชฺชอวามนภาโว ทีปิโต. อวเสสชนา หิ ขุชฺชา วา โหนฺติ วามนา วา. ขุชฺชานํ อุปริมกาโย อปริปุณฺโณ โหติ, วามนานํ เหฏฺิมกาโย. เต อปริปุณฺณกายตฺตา น สกฺโกนฺติ อโนนมนฺตา ชณฺณุกานิ ปริมชฺชิตุํ. มหาปุริโส ปน ปริปุณฺณอุภยกายตฺตา สกฺโกติ.
โกโสหิตวตฺถคุยฺโหติ อุสภวารณาทีนํ วิย สุวณฺณปทุมกณฺณิกสทิเสหิ โกเสหิ โอหิตํ ปฏิจฺฉนฺนํ วตฺถคุยฺหํ อสฺสาติ โกโสหิตวตฺถคุยฺโห. วตฺถคุยฺหนฺติ วตฺเถน คุหิตพฺพํ องฺคชาตํ วุจฺจติ.
สุวณฺณวณฺโณติ ชาติหิงฺคุลเกน มชฺชิตฺวา ทีปิทาาย ฆํสิตฺวา เครุกปริกมฺมํ กตฺวา ปิตฆนสุวณฺณรูปสทิโสติ อตฺโถ. เอเตนสฺส ฆนสินิทฺธสณฺหสรีรตํ ทสฺเสตฺวา ฉวิวณฺณทสฺสนตฺถํ กฺจนสนฺนิภตฺตโจติ วุตฺตํ. ปุริมสฺส วา เววจนเมตํ.
รโชชลฺลนฺติ ¶ รโช วา มลํ วา. น อุปลิมฺปตีติ น ลคฺคติ ปทุมปลาสโต อุทกพินฺทุ วิย วิวฏฺฏติ. หตฺถโธวนาทีนิ ปน อุตุคฺคหณตฺถาย เจว ทายกานํ ปฺุผลตฺถาย จ พุทฺธา กโรนฺติ, วตฺตสีเสนาปิ จ กโรนฺติเยว. เสนาสนํ ปวิสนฺเตน หิ ภิกฺขุนา ปาเท โธวิตฺวา ปวิสิตพฺพนฺติ วุตฺตเมตํ.
อุทฺธคฺคโลโมติ อาวฏฺฏปริโยสาเน อุทฺธคฺคานิ หุตฺวา มุขโสภํ อุลฺโลกยมานานิ วิย ิตานิ โลมานิ อสฺสาติ อุทฺธคฺคโลโม.
พฺรหฺมุชุคตฺโตติ พฺรหฺมา วิย อุชุคตฺโต, อุชุเมว อุคฺคตทีฆสรีโร ภวิสฺสติ. เยภุยฺเยน หิ สตฺตา ขนฺเธ กฏิยํ ¶ ชาณูสูติ ตีสุ าเนสุ นมนฺติ, เต กฏิยํ นมนฺตา ปจฺฉโต นมนฺติ, อิตเรสุ ทฺวีสุ าเนสุ ปุรโต. ทีฆสรีรา ปน เอเก ปสฺสวงฺกา โหนฺติ, เอเก มุขํ อุนฺนเมตฺวา นกฺขตฺตานิ คณยนฺตา วิย จรนฺติ, เอเก อปฺปมํสโลหิตา สูลสทิสา โหนฺติ, เอเก ปุรโต ปพฺภารา โหนฺติ, ปเวธมานา คจฺฉนฺติ. อยํ ปน อุชุเมว อุคฺคนฺตฺวา ทีฆปฺปมาโณ เทวนคเร อุสฺสิตสุวณฺณโตรณํ วิย ภวิสฺสตีติ ทีเปนฺติ. ยถา เจตํ, เอวํ ยํ ยํ ชาตมตฺตสฺส ¶ สพฺพโส อปริปุณฺณํ มหาปุริสลกฺขณํ โหติ, ตํ ตํ อายตึ ตถาภาวิตํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
สตฺตุสฺสโทติ ทฺเว หตฺถปิฏฺิโย ทฺเว ปาทปิฏฺิโย ทฺเว อํสกูฏานิ ขนฺโธติ อิเมสุ สตฺตสุ าเนสุ ปริปุณฺโณ มํสุสฺสโท อสฺสาติ สตฺตุสฺสโท. อฺเสํ ปน หตฺถปาทปิฏฺาทีสุ สิราชาลํ ปฺายติ, อํสกูฏกฺขนฺเธสุ อฏฺิโกฏิโย. เต มนุสฺสา เปตา วิย ขายนฺติ, น ตถา มหาปุริโส, มหาปุริโส ปน สตฺตสุ าเนสุ ปริปุณฺณมํสุสฺสทตฺตา นิคูฬฺหสิราชาเลหิ หตฺถปิฏฺาทีหิ วฏฺเฏตฺวา สุฏฺปิตสุวณฺณาฬิงฺคสทิเสน ขนฺเธน สิลารูปกํ วิย ขายติ, จิตฺตกมฺมรูปกํ วิย จ ขายติ.
สีหสฺส ปุพฺพทฺธํ วิย กาโย อสฺสาติ สีหปุพฺพทฺธกาโย. สีหสฺส หิ ปุรตฺถิมกาโยว ปริปุณฺโณ โหติ, ปจฺฉิมกาโย อปริปุณฺโณ. มหาปุริสสฺส ปน สีหสฺส ปุพฺพทฺธกาโย วิย สพฺโพ กาโย ปริปุณฺโณ. โสปิ สีหสฺเสว ตตฺถ ตตฺถ วินตุนฺนตาทิวเสน ทุสฺสณฺิตวิสณฺิโต ¶ น โหติ, ทีฆยุตฺตฏฺาเน ปน ทีโฆ, รสฺสถูลกิสปุถุลอนุวฏฺฏิตยุตฺตฏฺาเนสุ ตถาวิโธว โหติ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา –
‘‘มนาปิเยว โข, ภิกฺขเว, กมฺมวิปาเก ปจฺจุปฏฺิเต เยหิ องฺเคหิ ทีเฆหิ โสภติ, ตานิ องฺคานิ ทีฆานิ สณฺนฺติ. เยหิ องฺเคหิ รสฺเสหิ โสภติ, ตานิ องฺคานิ รสฺสานิ สณฺนฺติ. เยหิ องฺเคหิ ถูเลหิ โสภติ, ตานิ องฺคานิ ถูลานิ สณฺนฺติ. เยหิ องฺเคหิ กิเสหิ โสภติ, ตานิ องฺคานิ กิสานิ สณฺนฺติ. เยหิ องฺเคหิ ปุถุเลหิ โสภติ, ตานิ องฺคานิ ¶ ปุถุลานิ สณฺนฺติ. เยหิ องฺเคหิ วฏฺเฏหิ โสภติ, ตานิ องฺคานิ วฏฺฏานิ สณฺนฺตี’’ติ.
อิติ นานาจิตฺเตน ปฺุจิตฺเตน จิตฺติโต ทสหิ ปารมีหิ สชฺชิโต มหาปุริสสฺส อตฺตภาโว, โลเก สพฺพสิปฺปิโน วา สพฺพอิทฺธิมนฺโต วา ปติรูปกมฺปิ กาตุํ น สกฺโกนฺติ.
จิตนฺตรํโสติ อนฺตรํสํ วุจฺจติ ทฺวินฺนํ โกฏฺฏานํ อนฺตรํ, ตํ จิตํ ปริปุณฺณํ อนฺตรํสํ อสฺสาติ จิตนฺตรํโส. อฺเสฺหิ ตํ านํ นินฺนํ โหติ, ทฺเว ปิฏฺิโกฏฺฏา ปาฏิเยกฺกา ปฺายนฺติ. มหาปุริสสฺส ปน กฏิโต ปฏฺาย มํสปฏลํ ยาว ขนฺธา อุคฺคมฺม สมุสฺสิตสุวณฺณผลกํ วิย ปิฏฺึ ฉาเทตฺวา ปติฏฺิตํ.
นิคฺโรธปริมณฺฑโลติ ¶ นิคฺโรโธ วิย ปริมณฺฑโล. ยถา ปฺาสหตฺถตาย วา สตหตฺถตาย วา สมกฺขนฺธสาโข นิคฺโรโธ ทีฆโตปิ วิตฺถารโตปิ เอกปฺปมาโณว โหติ, เอวํ กายโตปิ พฺยามโตปิ เอกปฺปมาโณ. ยถา อฺเสํ กาโย ทีโฆ วา โหติ พฺยาโม วา, น เอวํ วิสมปฺปมาโณติ อตฺโถ. เตเนว ยาวตกฺวสฺส กาโยติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ยาวตโก อสฺสาติ ยาวตกฺวสฺส.
สมวฏฺฏกฺขนฺโธติ สมวฏฺฏิตกฺขนฺโธ. ยถา เอเก โกฺจา วิย จ พกา วิย จ วราหา วิย จ ทีฆคลา วงฺกคลา ปุถุลคลา จ โหนฺติ ¶ , กถนกาเล สิราชาลํ ปฺายติ, มนฺโท สโร นิกฺขมติ, น เอวํ มหาปุริสสฺส. มหาปุริสสฺส ปน สุวฏฺฏิตสุวณฺณาฬิงฺคสทิโส ขนฺโธ โหติ, กถนกาเล สิราชาลํ น ปฺายติ, เมฆสฺส วิย คชฺชิโต สโร มหา โหติ.
รสคฺคสคฺคีติ เอตฺถ รสํ คสนฺติ หรนฺตีติ รสคฺคสา. รสหรณีนเมตํ อธิวจนํ, ตา อคฺคา อสฺสาติ รสคฺคสคฺคี. มหาปุริสสฺส กิร สตฺตรสหรณีสหสฺสานิ อุทฺธคฺคานิ หุตฺวา คีวายเมว ปฏิมุกฺกานิ. ติลผลมตฺโตปิ อาหาโร ชิวฺหคฺเค ปิโต สพฺพกายํ อนุผรติ. เตเนว มหาปธานํ ปทหนฺตสฺส เอกตณฺฑุลาทีหิปิ กฬายยูสปสตมตฺเตนาปิ กายสฺส ยาปนํ อโหสิ. อฺเสํ ปน ตถา อภาวา น สกลํ กายํ โอชา ผรติ. เตน เต พหฺวาพาธา โหนฺติ.
สีหสฺเสว ¶ หนุ อสฺสาติ สีหหนุ. ตตฺถ สีหสฺส เหฏฺิมหนุเมว ปริปุณฺณํ โหติ, น อุปริมํ. มหาปุริสสฺส ปน สีหสฺส เหฏฺิมํ วิย ทฺเวปิ ปริปุณฺณานิ ทฺวาทสิยา ปกฺขสฺส จนฺทสทิสานิ โหนฺติ. อถ เนมิตฺตกา หนุกปริยนฺตํ โอโลเกนฺตาว อิเมสุ หนุเกสุ เหฏฺิเม วีสติ อุปริเม วีสตีติ จตฺตาลีสทนฺตา สมา อวิรฬา ปติฏฺหิสฺสนฺตีติ สลฺลกฺเขตฺวา อยฺหิ เทว, กุมาโร จตฺตาลีสทนฺโต โหตีติอาทิมาหํสุ. ตตฺรายมตฺโถ, อฺเสฺหิ ปริปุณฺณทนฺตานมฺปิ ทฺวตฺตึส ทนฺตา โหนฺติ. อิมสฺส ปน จตฺตาลีสํ ภวิสฺสนฺติ. อฺเสฺจ เกจิ ทนฺตา อุจฺจา, เกจิ นีจาติ วิสมา โหนฺติ, อิมสฺส ปน อยปฏฺฏเกน ฉินฺนสงฺขปฏลํ วิย สมา ภวิสฺสนฺติ. อฺเสํ กุมฺภิลานํ วิย ทนฺตา วิรฬา โหนฺติ, มจฺฉมํสานิ ขาทนฺตานํ ทนฺตนฺตรํ ปูเรนฺติ. อิมสฺส ปน กนกผลกายํ สมุสฺสิตวชิรปนฺติ วิย อวิรฬา ตูลิกาย ทสฺสิตปริจฺเฉทา วิย ทนฺตา ภวิสฺสนฺติ. อฺเสฺจ ปูติทนฺตา อุฏฺหนฺติ. เตน กาจิ ทาา กาฬาปิ วิวณฺณาปิ โหนฺติ. อยํ ปน สุฏฺุ สุกฺกทาโ โอสธิตารกมฺปิ อติกฺกมฺม วิโรจมานาย ปภาย สมนฺนาคตทาโ ภวิสฺสติ.
ปหูตชิวฺโหติ ¶ ปุถุลชิวฺโห. อฺเสํ ชิวฺหา ถูลาปิ โหนฺติ กิสาปิ รสฺสาปิ ถทฺธาปิ วิสมาปิ, มหาปุริสสฺส ปน ชิวฺหา มุทุ ทีฆา ปุถุลา วณฺณสมฺปนฺนา โหติ. โส หิ เอตํ ลกฺขณํ ปริเยสิตุํ อาคตานํ กงฺขาวิโนทนตฺถํ มุทุกตฺตา ตํ ชิวฺหํ กถินสูจึ วิย วฏฺเฏตฺวา อุโภ นาสิกโสตานิ ปรามสติ, ทีฆตฺตา อุโภ กณฺณโสตานิ ปรามสติ ¶ , ปุถุลตฺตา เกสนฺตปริโยสานํ เกวลมฺปิ นลาฏํ ปฏิจฺฉาเทติ. เอวมสฺส มุทุทีฆปุถุลภาวํ ปกาเสนฺโต เตสํ กงฺขํ วิโนเทติ. เอวํ ติลกฺขณสมฺปนฺนํ ชิวฺหํ สนฺธาย ‘‘ปหูตชิวฺโห’’ติ วุตฺตํ.
พฺรหฺมสฺสโรติ อฺเ ฉินฺนสฺสราปิ ภินฺนสฺสราปิ กากสฺสราปิ โหนฺติ, อยํ ปน มหาพฺรหฺมุโน สรสทิเสน สเรน สมนฺนาคโต ภวิสฺสติ, มหาพฺรหฺมุโน หิ ปิตฺตเสมฺเหหิ อปลิพุทฺธตฺตา สโร วิสโท โหติ. มหาปุริเสนาปิ กตกมฺมํ ตสฺส วตฺถุํ โสเธติ. วตฺถุโน สุทฺธตฺตา นาภิโต ¶ ปฏฺาย สมุฏฺหนฺโต สโร วิสโท อฏฺงฺคสมนฺนาคโตว สมุฏฺาติ. กรวีโก วิย ภณตีติ กรวีกภาณี, มตฺตกรวีกรุตมฺชุโฆโสติ อตฺโถ.
อภินีลเนตฺโตติ น สกลนีลเนตฺโต, นีลยุตฺตฏฺาเน ปนสฺส อุมาปุปฺผสทิเสน อติวิสุทฺเธน นีลวณฺเณน สมนฺนาคตานิ เนตฺตานิ โหนฺติ, ปีตยุตฺตฏฺาเน กณิการปุปฺผสทิเสน ปีตวณฺเณน, โลหิตยุตฺตฏฺาเน พนฺธุชีวกปุปฺผสทิเสน โลหิตวณฺเณน, เสตยุตฺตฏฺาเน โอสธิตารกสทิเสน เสตวณฺเณน, กาฬยุตฺตฏฺาเน อทฺทาริฏฺกสทิเสน กาฬวณฺเณน สมนฺนาคตานิ. สุวณฺณวิมาเน อุคฺฆาฏิตมณิสีหปฺชรสทิสานิ ขายนฺติ.
โคปขุโมติ เอตฺถ ปขุมนฺติ สกลจกฺขุภณฺฑํ อธิปฺเปตํ, ตํ กาฬวจฺฉกสฺส พหลธาตุกํ โหติ, รตฺตวจฺฉกสฺส วิปฺปสนฺนํ, ตํมุหุตฺตชาตตรุณรตฺตวจฺฉกสทิสจกฺขุภณฺโฑติ อตฺโถ. อฺเสฺหิ จกฺขุภณฺฑา อปริปุณฺณา โหนฺติ, หตฺถิมูสิกาทีนํ อกฺขิสทิเสหิ วินิคฺคเตหิปิ คมฺภีเรหิปิ อกฺขีหิ สมนฺนาคตา โหนฺติ. มหาปุริสสฺส ปน โธวิตฺวา มชฺชิตฺวา ปิตมณิคุฬิกา วิย มุทุสินิทฺธนีลสุขุมปขุมาจิตานิ อกฺขีนิ.
อุณฺณาติ อุณฺณโลมํ. ภมุกนฺตเรติ ทฺวินฺนํ ภมุกานํ เวมชฺเฌ นาสิกมตฺถเกเยว ชาตา, อุคฺคนฺตฺวา ปน นลาฏเวมชฺเฌ ชาตา. โอทาตาติ ปริสุทฺธา, โอสธิตารกสมานวณฺณา. มุทูติ สปฺปิมณฺเฑ โอสาเรตฺวา ปิตสตวารวิหตกปฺปาสปฏลสทิสา. ตูลสนฺนิภาติ สิมฺพลิตูลลตาตูลสมานา, อยมสฺส โอทาตตาย อุปมา. สา ปเนสา โกฏิยํ คเหตฺวา อากฑฺฒิยมานา อุปฑฺฒพาหุปฺปมาณา โหติ, วิสฺสฏฺา ¶ ทกฺขิณาวฏฺฏวเสน อาวฏฺฏิตฺวา อุทฺธคฺคา หุตฺวา ¶ สนฺติฏฺติ. สุวณฺณผลกมชฺเฌ ปิตรชตปุพฺพุฬกํ วิย, สุวณฺณฆฏโต นิกฺขมมานา ขีรธารา วิย, อรุณปฺปภารฺชิเต คคนปฺปเทเส โอสธิตารกา วิย จ อติมโนหราย สิริยา วิโรจติ.
อุณฺหีสสีโสติ ¶ อิทํ ปริปุณฺณนลาฏตฺจ ปริปุณฺณสีสตํ จาติ ทฺเว อตฺถวเส ปฏิจฺจ วุตฺตํ. มหาปุริสสฺส หิ ทกฺขิณกณฺณจูฬิกโต ปฏฺาย มํสปฏลํ อุฏฺหิตฺวา สกลนลาฏํ ฉาทยมานํ ปูรยมานํ คนฺตฺวา วามกณฺณจูฬิกายํ ปติฏฺิตํ, ตํ รฺโ พนฺธอุณฺหีสปฏฺโฏ วิย วิโรจติ. มหาปุริสสฺส กิร อิมํ ลกฺขณํ ทิสฺวา ราชูนํ อุณฺหีสปฏฺฏํ อกํสุ. อยํ ตาว เอโก อตฺโถ. อฺเ ปน ชนา อปริปุณฺณสีสา โหนฺติ, เกจิ กปิสีสา, เกจิ ผลสีสา, เกจิ อฏฺิสีสา, เกจิ หตฺถิสีสา, เกจิ ตุมฺพสีสา, เกจิ ปพฺภารสีสา. มหาปุริสสฺส ปน อารคฺเคน วฏฺเฏตฺวา ปิตํ วิย สุปริปุณฺณํ อุทกปุพฺพุฬสทิสํ สีสํ โหติ. ตตฺถ ปุริมนเย อุณฺหีสเวิตสีโส วิยาติ อุณฺหีสสีโส. ทุติยนเย อุณฺหีสํ วิย สพฺพตฺถ ปริมณฺฑลสีโสติ อุณฺหีสสีโส.
วิปสฺสีสมฺาวณฺณนา
๓๗. สพฺพกาเมหีติ อิทํ ลกฺขณานิ ปริคฺคณฺหาเปตฺวา ปจฺฉา กตํ วิย วุตฺตํ, น ปเนวํ ทฏฺพฺพํ. ปมฺหิ เต เนมิตฺตเก สนฺตปฺเปตฺวา ปจฺฉา ลกฺขณปริคฺคณฺหนํ กตนฺติ เวทิตพฺพํ. ตสฺส วิตฺถาโร คพฺโภกฺกนฺติยํ วุตฺโตเยว. ปาเยนฺตีติ ถฺํ ปาเยนฺติ. ตสฺส กิร นิทฺโทเสน มธุเรน ขีเรน สมนฺนาคตา สฏฺิ ธาติโย อุปฏฺาเปสิ, ตถา เสสาปิ เตสุ เตสุ กมฺเมสุ กุสลา สฏฺิสฏฺิเยว. ตาสํ เปสนการเก สฏฺิ ปุริเส, ตสฺส ตสฺส กตากตภาวํ สลฺลกฺขเณ สฏฺิ อมจฺเจ อุปฏฺาเปสิ. เอวํ จตฺตาริ สฏฺิโย อิตฺถีนํ, ทฺเว สฏฺิโย ปุริสานนฺติ ฉ สฏฺิโย อุปฏฺกานํเยว อเหสุํ. เสตจฺฉตฺตนฺติ ทิพฺพเสตจฺฉตฺตํ. กุลทตฺติยํ ปน สิริคพฺเภเยว ติฏฺติ. มา นํ สีตํ วาติอาทีสุ มา อภิภวีติ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. สฺวาสฺสุทนฺติ โส อสฺสุทํ. องฺเกเนว องฺกนฺติ อฺสฺส พาหุนาว อฺสฺส พาหุํ. อฺสฺส จ อํสกูเฏเนว ¶ อฺสฺส อํสกูฏํ. ปริหริยตีติ นียติ, สมฺปาปิยตีติ อตฺโถ.
๓๘. มฺชุสฺสโรติ อขรสฺสโร. วคฺคุสฺสโรติ เฉกนิปุณสฺสโร. มธุรสฺสโรติ สาตสฺสโร. เปมนิยสฺสโรติ เปมชนกสฺสโร. ตตฺริทํ ¶ กรวีกานํ มธุรสฺสรตาย – กรวีกสกุเณ กิร มธุรรสํ อมฺพปกฺกํ มุขตุณฺฑเกน ปหริตฺวา ปคฺฆริตรสํ ปิวิตฺวา ปกฺเขน ¶ ตาลํ ทตฺวา วิกูชมาเน จตุปฺปทา มตฺตา วิย ลฬิตุํ อารภนฺติ. โคจรปสุตาปิ จตุปฺปทา มุขคตานิ ติณานิ ฉฑฺเฑตฺวา ตํ สทฺทํ สุณนฺติ. วาฬมิคา ขุทฺทกมิเค อนุพนฺธมานา อุกฺขิตฺตํ ปาทํ อนิกฺขิปิตฺวาว ติฏฺนฺติ. อนุพทฺธมิคา จ มรณภยํ ชหิตฺวา ติฏฺนฺติ. อากาเส ปกฺขนฺทา ปกฺขิโนปิ ปกฺเข ปสาเรตฺวา ตํ สทฺทํ สุณมานาว ติฏฺนฺติ. อุทเก มจฺฉาปิ กณฺณปฏลํ ปปฺโผเฏตฺวา ตํ สทฺทํ สุณมานาว ติฏฺนฺติ. เอวํ มธุรสฺสรา กรวีกา.
อสนฺธิมิตฺตาปิ ธมฺมาโสกสฺส เทวี – ‘‘อตฺถิ นุ โข, ภนฺเต, พุทฺธสฺสเรน สทิโส กสฺสจิ สโร’’ติ สงฺฆํ ปุจฺฉิ. อตฺถิ กรวีกสกุณสฺสาติ. กุหึ, ภนฺเต, เต สกุณาติ? หิมวนฺเตติ. สา ราชานํ อาห – ‘‘เทว, อหํ กรวีกสกุณํ ปสฺสิตุกามามฺหี’’ติ. ราชา – ‘‘อิมสฺมึ ปฺชเร นิสีทิตฺวา กรวีโก อาคจฺฉตู’’ติ สุวณฺณปฺชรํ วิสฺสชฺเชสิ. ปฺชโร คนฺตฺวา เอกสฺส กรวีกสฺส ปุรโต อฏฺาสิ. โส – ‘‘ราชาณาย อาคโต ปฺชโร, น สกฺกา น คนฺตุ’’นฺติ ตตฺถ นิสีทิ. ปฺชโร อาคนฺตฺวา รฺโ ปุรโต อฏฺาสิ. น กรวีกสทฺทํ การาเปตุํ สกฺโกนฺติ. อถ ราชา – ‘‘กถํ, ภเณ, อิเม สทฺทํ น กโรนฺตี’’ติ อาห. าตเก อทิสฺวา เทวาติ. อถ นํ ราชา อาทาเสหิ ปริกฺขิปาเปสิ. โส อตฺตโน ฉายํ ทิสฺวา – ‘‘าตกา เม อาคตา’’ติ มฺมาโน ปกฺเขน ตาลํ ทตฺวา มธุรสฺสเรน มณิวํสํ ธมมาโน วิย วิรวิ. สกลนคเร มนุสฺสา มตฺตา วิย ลฬึสุ. อสนฺธิมิตฺตา จินฺเตสิ – ‘‘อิมสฺส ตาว ติรจฺฉานคตสฺส เอวํ มธุโร สทฺโท, กีทิโส นุ โข สพฺพฺุตฺาณสิริปตฺตสฺส ภควโต สทฺโท อโหสี’’ติ ปีตึ อุปฺปาเทตฺวา ตํ ปีตึ อวิชหิตฺวา สตฺตหิ ชงฺฆสเตหิ สทฺธึ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺาสิ. เอวํ มธุโร กิร ¶ กรวีกสทฺโทติ. ตโต ปน สตภาเคน สหสฺสภาเคน จ มธุรตโร วิปสฺสิสฺส กุมารสฺส สทฺโท อโหสีติ เวทิตพฺโพ.
๓๙. กมฺมวิปากชนฺติ น ภาวนามยํ, กมฺมวิปากวเสน ปน เทวตานํ จกฺขุสทิสเมว มํสจกฺขุ อโหสิ ¶ , เยน นิมิตฺตํ กตฺวา ติลวาเห ปกฺขิตฺตํ เอกติลมฺปิ อยํ โสติ อุทฺธริตฺวา ทาตุํ สกฺโกติ.
๔๐. วิปสฺสีติ เอตฺถ อยํ วจนตฺโถ, อนฺตรนฺตรา นิมีลชนิตนฺธการวิรเหน วิสุทฺธํ ปสฺสติ, วิวเฏหิ จ อกฺขีหิ ปสฺสตีติ วิปสฺสี; ทุติยวาเร วิเจยฺย วิเจยฺย ปสฺสตีติ วิปสฺสี; วิจินิตฺวา วิจินิตฺวา ปสฺสตีติ อตฺโถ.
อตฺเถ ปนายตีติ อตฺเถ ชานาติ ปสฺสติ, นยติ วา ปวตฺเตตีติ อตฺโถ. เอกทิวสํ กิร ¶ วินิจฺฉยฏฺาเน นิสีทิตฺวา อตฺเถ อนุสาสนฺตสฺส รฺโ อลงฺกตปฏิยตฺตํ มหาปุริสํ อาเนตฺวา หตฺเถ ปยึสุ. ตสฺส ตํ องฺเกกตฺวา อุปลาฬยมานสฺเสว อมจฺจา สามิกํ อสฺสามิกํ อกํสุ. โพธิสตฺโต อนตฺตมนสทฺทํ นิจฺฉาเรสิ. ราชา – ‘‘กิเมตํ, อุปธาเรถา’’ติ อาห. อุปธาริยมานา อฺํ อทิสฺวา – ‘‘อฑฺฑสฺส ทุพฺพินิจฺฉิตตฺตา เอวํ กตํ ภวิสฺสตี’’ติ ปุน สามิกํเยว สามิกํ กตฺวา ‘‘ตฺวา นุ โข กุมาโร เอวํ กโรตี’’ติ วีมํสนฺตา ปุน สามิกํ อสฺสามิกํ อกํสุ. ปุนปิ โพธิสตฺโต ตเถว สทฺทํ นิจฺฉาเรสิ. อถ ราชา – ‘‘ชานาติ มหาปุริโส’’ติ ตโต ปฏฺาย อปฺปมตฺโต อโหสิ. อิทํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘วิเจยฺย วิเจยฺย กุมาโร อตฺเถ ปนายตี’’ติ.
๔๒. วสฺสิกนฺติอาทีสุ ยตฺถ สุขํ โหติ วสฺสกาเล วสิตุํ, อยํ วสฺสิโก. อิตเรสุปิ เอเสว นโย. อยํ ปเนตฺถ วจนตฺโถ วสฺสาวาโส วสฺสํ, วสฺสํ อรหตีติ วสฺสิโก. อิตเรสุปิ เอเสว นโย.
ตตฺถ วสฺสิโก ปาสาโท นาติอุจฺโจ โหติ, นาตินีโจ, ทฺวารวาตปานานิปิสฺส นาติพหูนิ นาติตนูนิ, ภูมตฺถรณปจฺจตฺถรณขชฺชโภชฺชานิเปตฺถ มิสฺสกาเนว วฏฺฏนฺติ. เหมนฺติเก ถมฺภาปิ ภิตฺติโยปิ นีจา โหนฺติ, ทฺวารวาตปานานิ ตนุกานิ สุขุมจฺฉิทฺทานิ, อุณฺหปฺปเวสนตฺถาย ภิตฺตินิยูหานิ นีหริยนฺติ. ภูมตฺถรณปจฺจตฺถรณนิวาสนปารุปนานิ ปเนตฺถ อุณฺหวิริยานิ ¶ กมฺพลาทีนิ วฏฺฏนฺติ. ขชฺชโภชฺชํ สินิทฺธํ กฏุกสนฺนิสฺสิตํ นิรุทกสนฺนิสฺสิตฺจ. คิมฺหิเก ถมฺภาปิ ภิตฺติโยปิ อุจฺจา โหนฺติ, ทฺวารวาตปานานิ ปเนตฺถ พหูนิ วิปุลชาตานิ โหนฺติ, ภูมตฺถรณาทีนิ ทุกูลมยานิ วฏฺฏนฺติ. ขชฺชโภชฺชานิ มธุรสสนฺนิสฺสิตภริตานิ. วาตปานสมีเปสุ เจตฺถ ¶ นว จาฏิโย เปตฺวา อุทกสฺส ปูเรตฺวา นีลุปฺปลาทีหิ สฺฉาเทนฺติ. เตสุ เตสุ ปเทเสสุ อุทกยนฺตานิ กโรนฺติ, เยหิ เทเว วสฺสนฺเต วิย อุทกธารา นิกฺขมนฺติ.
นิปฺปุริเสหีติ ปุริสวิรหิเตหิ. น เกวลฺเจตฺถ ตูริยาเนว นิปฺปุริสานิ, สพฺพฏฺานานิปิ นิปฺปุริสาเนว, โทวาริกาปิ อิตฺถิโยว, นหาปนาทิปริกมฺมกราปิ อิตฺถิโยว. ราชา กิร – ‘‘ตถารูปํ อิสฺสริยสุขสมฺปตฺตึ อนุภวมานสฺส ปุริสํ ทิสฺวา ปุริสาสงฺกา อุปฺปชฺชติ, สา เม ปุตฺตสฺส มา อโหสี’’ติ สพฺพกิจฺเจสุ อิตฺถิโยว เปสีติ.
ปมภาณวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
ชิณฺณปุริสวณฺณนา
๔๓. ทุติยภาณวาเร ¶ โคปานสิวงฺกนฺติ โคปานสี วิย วงฺกํ. โภคฺคนฺติ ขนฺเธ, กฏิยํ, ชาณูสูติ ตีสุ าเนสุ โภคฺควงฺกํ. ทณฺฑปรายนนฺติ ทณฺฑคติกํ ทณฺฑปฏิสรณํ. อาตุรนฺติ ชราตุรํ. คตโยพฺพนนฺติ อติกฺกนฺตโยพฺพนํ ปจฺฉิมวเย ิตํ. ทิสฺวาติ อฑฺฒโยชนปฺปมาเณน พลกาเยน ปริวุโต สุสํวิหิตารกฺโขปิ คจฺฉนฺโต ยทา รโถ ปุรโต โหติ, ปจฺฉา พลกาโย, ตาทิเส โอกาเส สุทฺธาวาสขีณาสวพฺรหฺเมหิ อตฺตโน อานุภาเวน รถสฺส ปุรโตว ทสฺสิตํ, ตํ ปุริสํ ปสฺสิตฺวา. สุทฺธาวาสา กิร – ‘‘มหาปุริโส ปงฺเก คโช วิย ปฺจสุ กามคุเณสุ ลคฺโค, สติมสฺส อุปฺปาเทสฺสามา’’ติ ตํ ทสฺเสสุํ. เอวํ ทสฺสิตฺจ ตํ โพธิสตฺโต เจว ปสฺสติ สารถิ จ. พฺรหฺมาโน หิ โพธิสตฺตสฺส อปฺปมาทตฺถํ สารถิสฺส จ กถาสลฺลาปตฺถํ ตํ ทสฺเสสุํ. กึ ปเนโสติ ‘‘เอโส ชิณฺโณติ กึ วุตฺตํ โหติ, นาหํ, โภ อิโต ปุพฺเพ เอวรูปํ อทฺทส’’นฺติ ปุจฺฉิ.
เตน ¶ หีติ ยทิ มยฺหมฺปิ เอวรูเปหิ เกเสหิ เอวรูเปน จ กาเยน ภวิตพฺพํ, เตน หิ สมฺม สารถิ. อลํ ทานชฺช อุยฺยานภูมิยาติ – ‘‘อชฺช อุยฺยานภูมึ ปสฺสิสฺสามา’’ติ คจฺฉาม, อลํ ตาย อุยฺยานภูมิยาติ สํวิคฺคหทโย สํเวคานุรูปมาห. อนฺเตปุรํ คโตติ อิตฺถิชนํ วิสฺสชฺเชตฺวา สิริคพฺเภ เอกโกว นิสินฺโน. ยตฺร หิ นามาติ ยาย ชาติยา สติ ชรา ปฺายติ, สา ชาติ ธิรตฺถุ ¶ ธิกฺกตา อตฺถุ, ชิคุจฺฉาเมตํ ชาตินฺติ, ชาติยา มูลํ ขณนฺโต นิสีทิ, ปเมน สลฺเลน หทเย วิทฺโธ วิย.
๔๕. สารถึ อามนฺตาเปตฺวาติ ราชา กิร เนมิตฺตเกหิ กถิตกาลโต ปฏฺาย โอหิตโสโต วิจรติ, โส ‘‘กุมาโร อุยฺยานํ คจฺฉนฺโต อนฺตรามคฺเค นิวตฺโต’’ติ สุตฺวา สารถึ อามนฺตาเปสิ. มา เหว โขติอาทีสุ รชฺชํ กาเรตุ, มา ปพฺพชตุ, พฺราหฺมณานํ วจนํ มา สจฺจํ โหตูติ เอวํ จินฺเตสีติ อตฺโถ.
พฺยาธิปุริสวณฺณนา
๔๗. อทฺทส โขติ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว สุทฺธาวาเสหิ ทสฺสิตํ อทฺทส. อาพาธิกนฺติ อิริยาปถภฺชนเกน วิสภาคพาเธน อาพาธิกํ. ทุกฺขิตนฺติ โรคทุกฺเขน ทุกฺขิตํ. พาฬฺหคิลานนฺติ อธิมตฺตคิลานํ. ปลิปนฺนนฺติ นิมุคฺคํ. ชรา ปฺายิสฺสติ พฺยาธิ ปฺายิสฺสตีติ ¶ อิธาปิ ยาย ชาติยา สติ อิทํ ทฺวยํ ปฺายติ, ธิกฺกตา สา ชาติ, อชาตํ เขมนฺติ ชาติยา มูลํ ขณนฺโต นิสีทิ, ทุติเยน สลฺเลน วิทฺโธ วิย.
กาลงฺกตปุริสวณฺณนา
๕๐. วิลาตนฺติ สิวิกํ. เปตนฺติ อิโต ปฏิคตํ. กาลงฺกตนฺติ กตกาลํ, ยตฺตกํ เตน กาลํ ชีวิตพฺพํ, ตํ สพฺพํ กตฺวา นิฏฺเปตฺวา มตนฺติ อตฺโถ. อิมมฺปิสฺส ปุริมนเยเนว พฺรหฺมาโน ทสฺเสสุํ. ยตฺร หิ นามาติ อิธาปิ ยาย ชาติยา สติ อิทํ ตยํ ปฺายติ, ธิกฺกตา สา ชาติ, อชาตํ เขมนฺติ ชาติยา มูลํ ขณนฺโต นิสีทิ, ตติเยน สลฺเลน วิทฺโธ วิย.
ปพฺพชิตวณฺณนา
๕๒. ภณฺฑุนฺติ ¶ มุณฺฑํ. อิมมฺปิสฺส ปุริมนเยเนว พฺรหฺมาโน ทสฺเสสุํ. สาธุ ธมฺมจริยาติอาทีสุ อยํ เทว ธมฺมจรณภาโว สาธูติ จินฺเตตฺวา ปพฺพชิโตติ เอวํ เอกเมกสฺส ปทสฺส โยชนา เวทิตพฺพา. สพฺพานิ เจตานิ ทสกุสลกมฺมปถเววจนาเนว. อวสาเน ปน อวิหึสาติ กรุณาย ปุพฺพภาโค. อนุกมฺปาติ เมตฺตาย ปุพฺพภาโค. เตนหีติ อุยฺโยชนตฺเถ นิปาโต. ปพฺพชิตํ หิสฺส ทิสฺวา จิตฺตํ ปพฺพชฺชาย นินฺนํ ชาตํ. อถ เตน สทฺธึ กเถตุกาโม หุตฺวา สารถึ อุยฺโยเชนฺโต เตน หีติอาทิมาห.
โพธิสตฺตปพฺพชฺชาวณฺณนา
๕๔. อถ ¶ โข, ภิกฺขเวติ – ‘‘ปพฺพชิตสฺส สาธุ ธมฺมจริยา’’ติอาทีนิ จ อฺฺจ พหุํ มหาชนกาเยน รกฺขิยมานสฺส ปุตฺตทารสมฺพาเธ ฆเร วสโต อาทีนวปฏิสํยุตฺตฺเจว มิคภูเตน เจตสา ยถาสุขํ วเน วสโต ปพฺพชิตสฺส วิเวกานิสํสปฏิสํยุตฺตฺจ ธมฺมึ กถํ สุตฺวา ปพฺพชิตุกาโม หุตฺวา – อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสี กุมาโร สารถึ อามนฺเตสิ.
อิมานิ จตฺตาริ ทิสฺวา ปพฺพชิตํ นาม สพฺพโพธิสตฺตานํ วํโสว ตนฺติเยว ปเวณีเยว. อฺเปิ จ โพธิสตฺตา ยถา อยํ วิปสฺสี กุมาโร, เอวํ จิรสฺสํ จิรสฺสํ ปสฺสนฺติ. อมฺหากํ ปน โพธิสตฺโต จตฺตาริปิ เอกทิวสํเยว ทิสฺวา มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขมิตฺวา อโนมานทีตีเร ¶ ปพฺพชิโต. เตเนว ราชคหํ ปตฺวา ตตฺถ รฺา พิมฺพิสาเรน – ‘‘กิมตฺถํ, ปณฺฑิต, ปพฺพชิโตสีติ’’ ปุฏฺโ อาห –
‘‘ชิณฺณฺจ ทิสฺวา ทุขิตฺจ พฺยาธิตํ,
มตฺจ ทิสฺวา คตมายุสงฺขยํ;
กาสายวตฺถํ ปพฺพชิตฺจ ทิสฺวา,
ตสฺมา อหํ ปพฺพชิโตมฺหิ ราชา’’ติ.
มหาชนกายอนุปพฺพชฺชาวณฺณนา
๕๕. สุตฺวาน เตสนฺติ เตสํ จตุราสีติยา ปาณสหสฺสานํ สุตฺวา เอตทโหสิ. โอรโกติ อูนโก ลามโก. อนุปพฺพชึสูติ อนุปพฺพชิตานิ ¶ . กสฺมา ปเนตฺถ ยถา ปรโต ขณฺฑติสฺสานํ อนุปพฺพชฺชาย – ‘‘พนฺธุมติยา ราชธานิยา นิกฺขมิตฺวา’’ติ วุตฺตํ, เอวํ น วุตฺตนฺติ? นิกฺขมิตฺวา สุตตฺตา. เอเต กิร สพฺเพปิ วิปสฺสิสฺส กุมารสฺส อุปฏฺากปริสาว, เต ปาโตว อุปฏฺานํ อาคนฺตฺวา กุมารํ อทิสฺวา ปาตราสตฺถาย คนฺตฺวา ภุตฺตปาตราสา อาคมฺม ‘‘กุหึ กุมาโร’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อุยฺยานภูมึ คโต’’ติ สุตฺวา ‘‘ตตฺเถว นํ ทกฺขิสฺสามา’’ติ นิกฺขมนฺตา นิวตฺตมานํ สารถึ ทิสฺวา – ‘‘กุมาโร ปพฺพชิโต’’ติ จสฺส วจนํ สุตฺวา สุตฏฺาเนเยว สพฺพาภรณานิ โอมฺุจิตฺวา อนฺตราปณโต กาสาวปีตานิ วตฺถานิ อาหราเปตฺวา เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา ปพฺพชึสุ. อิติ นครโต นิกฺขมิตฺวา พหินคเร สุตตฺตา เอตฺถ – ‘‘พนฺธุมติยา ราชธานิยา นิกฺขมิตฺวา’’ติ น วุตฺตํ.
จาริกํ ¶ จรตีติ คตคตฏฺาเน มหามณฺฑปํ กตฺวา ทานํ สชฺเชตฺวา อาคมฺม สฺวาตนาย นิมนฺติโต ชนสฺส อายาจิตภิกฺขเมว ปฏิคฺคณฺหนฺโต จตฺตาโร มาเส จาริกํ จริ.
อากิณฺโณติ อิมินา คเณน ปริวุโต. อยํ ปน วิตกฺโก โพธิสตฺตสฺส กทา อุปฺปนฺโนติ? สฺเว วิสาขปุณฺณมา ภวิสฺสตีติ จาตุทฺทสีทิวเส. ตทา กิร โส – ‘‘ยเถว มํ อิเม ปุพฺเพ คิหิภูตํ ปริวาเรตฺวา จรนฺติ, อิทานิปิ ตเถว, กึ อิมินา คเณนา’’ติ คณสงฺคณิกาย อุกฺกณฺิตฺวา ‘‘อชฺเชว คจฺฉามี’’ติ จินฺเตตฺวา ปุน ‘‘อชฺช อเวลา, สเจ อิทานิ คมิสฺสามิ, สพฺเพว อิเม ชานิสฺสนฺติ, สฺเวว คมิสฺสามี’’ติ จินฺเตสิ. ตํ ทิวสฺจ อุรุเวลคามสทิเส คาเม คามวาสิโน สฺวาตนาย นิมนฺตยึสุ. เต จตุราสีติสหสฺสานมฺปิ เตสํ ¶ ปพฺพชิตานํ มหาปุริสสฺส จ ปายาสเมว ปฏิยาทยึสุ. อถ มหาปุริโส ปุนทิวเส ตสฺมึเยว คาเม เตหิ ปพฺพชิเตหิ สทฺธึ ภตฺตกิจฺจํ กตฺวา วสนฏฺานเมว อคมาสิ. ตตฺถ เต ปพฺพชิตา มหาปุริสสฺส วตฺตํ ทสฺเสตฺวา อตฺตโน อตฺตโน รตฺติฏฺานทิวาฏฺานานิ ปวิฏฺา. โพธิสตฺโตปิ ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา นิสินฺโน.
‘‘ิเต มชฺฌนฺหิเก กาเล, สนฺนิสีเวสุ ปกฺขิสุ;
สณเตว พฺรหารฺํ, ตํ ภยํ ปฏิภาติ ม’’นฺติ. (สํ. นิ. ๑.๑๕);
เอวรูเป ¶ อวิเวการามานํ ภยกาเล สพฺพสตฺตานํ สทรถกาเลเยว – ‘‘อยํ กาโล’’ติ นิกฺขมิตฺวา ปณฺณสาลาย ทฺวารํ ปิทหิตฺวา โพธิมณฺฑาภิมุโข ปายาสิ. อฺทาปิ จ ตสฺมึ าเน วิจรนฺโต โพธิมณฺฑํ ปสฺสติ, นิสีทิตุํ ปนสฺส จิตฺตํ น นมิตปุพฺพํ. ตํ ทิวสํ ปนสฺส าณํ ปริปากคตํ, ตสฺมา อลงฺกตํ โพธิมณฺฑํ ทิสฺวา อาโรหนตฺถาย จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ. โส ทกฺขิณทิสาภาเคน อุปคมฺม ปทกฺขิณํ กตฺวา ปุรตฺถิมทิสาภาเค จุทฺทสหตฺถํ ปลฺลงฺกํ ปฺเปตฺวา จตุรงฺควีริยํ อธิฏฺหิตฺวา – ‘‘ยาว พุทฺโธ น โหมิ, น ตาว อิโต วุฏฺหามี’’ติ ปฏิฺํ กตฺวา นิสีทิ. อิทมสฺส วูปกาสํ สนฺธาย – ‘‘เอโกว คณมฺหา วูปกฏฺโ วิหาสี’’ติ วุตฺตํ.
อฺเเนว ¶ ตานีติ เต กิร สายํ โพธิสตฺตสฺส อุปฏฺานํ อาคนฺตฺวา ปณฺณสาลํ ปริวาเรตฺวา นิสินฺนา ‘‘อติวิกาโล ชาโต, อุปธาเรถา’’ติ วตฺวา ปณฺณสาลํ วิวริตฺวา ตํ อปสฺสนฺตาปิ ‘‘กุหึ คโต’’ติ นานุพนฺธึสุ, ‘‘คณวาเส นิพฺพินฺโน เอโก วิหริตุกาโม มฺเ มหาปุริโส, พุทฺธภูตํเยว นํ ปสฺสิสฺสามา’’ติ วตฺวา อนฺโตชมฺพุทีปาภิมุขา จาริกํ ปกฺกนฺตา.
โพธิสตฺตอภิเวสวณฺณนา
๕๗. วาสูปคตสฺสาติ โพธิมณฺเฑ เอกรตฺติวาสํ อุปคตสฺส. รโหคตสฺสาติ รหสิ คตสฺส. ปฏิสลฺลีนสฺสาติ เอกีภาววเสน นิลีนสฺส. กิจฺฉนฺติ ทุกฺขํ. จวติ จ อุปปชฺชติ จาติ อิทํ ทฺวยํ ปน อปราปรํ จุติปฏิสนฺธึ สนฺธาย วุตฺตํ. ชรามรณสฺสาติ เอตฺถ ยสฺมา ปพฺพชนฺโต ชิณฺณพฺยาธิมตฺเตเยว ทิสฺวา ปพฺพชิโต, ตสฺมาสฺส ชรามรณเมว อุปฏฺาติ. เตเนวาห ¶ – ‘‘ชรามรณสฺสา’’ติ. อิติ ชรามรณํ มูลํ กตฺวา อภินิวิฏฺสฺส ภวคฺคโต โอตรนฺตสฺส วิย – อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส เอตทโหสิ.
โยนิโสมนสิการาติ อุปายมนสิการา ปถมนสิการา. อนิจฺจาทีนิ หิ อนิจฺจาทิโตว มนสิกโรโต โยนิโสมนสิกาโร นาม โหติ. อยฺจ – ‘‘กิสฺมึ นุ โข สติชาติอาทีนิ โหนฺติ, กิสฺมึ อสติ น โหนฺตี’’ติ อุทยพฺพยานุปสฺสนาวเสน ปวตฺตตฺตา เตสํ อฺตโร ¶ . ตสฺมาสฺส อิโต โยนิโสมนสิการา อิมินา อุปายมนสิกาเรน อหุ ปฺาย อภิสมโย, โพธิสตฺตสฺส ปฺาย ยสฺมึ สติ ชรามรณํ โหติ, เตน ชรามรณการเณน สทฺธึ สมาคโม อโหสิ. กึ ปน ตนฺติ? ชาติ. เตนาห – ‘‘ชาติยา โข สติ ชรามรณํ โหตี’’ติ. ยา จายํ ชรามรณสฺส การณปริคฺคาหิกา ปฺา, ตาย สทฺธึ โพธิสตฺตสฺส สมาคโม อโหสีติ อยเมตฺถ อตฺโถ. เอเตนุปาเยน สพฺพปทานิ เวทิตพฺพานิ.
นามรูเป โข สติ วิฺาณนฺติ เอตฺถ ปน สงฺขาเรสุ สติ วิฺาณนฺติ จ, อวิชฺชาย สติ สงฺขาราติ จ วตฺตพฺพํ ภเวยฺย, ตทุภยมฺปิ น คหิตํ. กสฺมา? อวิชฺชาสงฺขารา หิ อตีโต ภโว เตหิ สทฺธึ อยํ วิปสฺสนา น ฆฏิยติ. มหาปุริโส หิ ปจฺจุปฺปนฺนวเสน อภินิวิฏฺโติ. นนุ จ อวิชฺชาสงฺขาเรหิ อทิฏฺเหิ น สกฺกา พุทฺเธน ภวิตุนฺติ. สจฺจํ น สกฺกา, อิมินา ปน เต ภวอุปาทานตณฺหาวเสเนว ทิฏฺาติ. อิมสฺมึ าเน ¶ วิตฺถารโต ปฏิจฺจสมุปฺปาทกถา กเถตพฺพา. สา ปเนสา วิสุทฺธิมคฺเค กถิตาว.
๕๘. ปจฺจุทาวตฺตตีติ ปฏินิวตฺตติ. กตมํ ปเนตฺถ วิฺาณํ ปจฺจุทาวตฺตตีติ? ปฏิสนฺธิวิฺาณมฺปิ วิปสฺสนาาณมฺปิ. ตตฺถ ปฏิสนฺธิวิฺาณํ ปจฺจยโต ปฏินิวตฺตติ, วิปสฺสนาาณํ อารมฺมณโต. อุภยมฺปิ นามรูปํ นาติกฺกมติ, นามรูปโต ปรํ น คจฺฉติ. เอตฺตาวตา ชาเยถ วาติอาทีสุ วิฺาเณ นามรูปสฺส ปจฺจเย โหนฺเต, นามรูเป จ วิฺาณสฺส ปจฺจเย โหนฺเต, ทฺวีสุปิ อฺมฺปจฺจเยสุ โหนฺเตสุ เอตฺตเกน ชาเยถ วา…เป… อุปปชฺเชถ วา, อิโต หิ ปรํ กึ อฺํ ชาเยยฺย วา…เป… อุปปชฺเชยฺย วา. นนุ เอตเทว ชายติ จ…เป… อุปปชฺชติ จาติ? เอวํ สทฺธึ อปราปรจุติปฏิสนฺธีหิ ปฺจ ปทานิ ทสฺเสตฺวา ปุน ตํ เอตฺตาวตาติ วุตฺตมตฺถํ นิยฺยาเตนฺโต – ‘‘ยทิทํ นามรูปปจฺจยา วิฺาณํ, วิฺาณปจฺจยา นามรูป’’นฺติ วตฺวา ตโต ปรํ อนุโลมปจฺจยาการวเสน วิฺาณปจฺจยา นามรูปมูลํ ¶ อายติมฺปิ ชาติชรามรณํ ทสฺเสตุํ นามรูปปจฺจยา สฬายตนนฺติอาทิมาห. ตตฺถ เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส สมุทโย โหตีติ สกลสฺส ชาติชรามรณโสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสาทิเภทสฺส ทุกฺขราสิสฺส นิพฺพตฺติ โหติ. อิติ มหาปุริโส สกลสฺส วฏฺฏทุกฺขสฺส นิพฺพตฺตึ อทฺทส.
๕๙. สมุทโย ¶ สมุทโยติ โขติ นิพฺพตฺติ นิพฺพตฺตีติ โข. ปุพฺเพ อนนุสฺสุเตสูติ น อนุสฺสุเตสุ อสฺสุตปุพฺเพสุ. จกฺขุํ อุทปาทีติอาทีสุ อุทยทสฺสนปฺาเวสา. ทสฺสนฏฺเน จกฺขุ, าตกรณฏฺเน าณํ, ปชานนฏฺเน ปฺา, นิพฺพิชฺฌิตฺวา ปฏิวิชฺฌิตฺวา อุปฺปนฺนฏฺเน วิชฺชา, โอภาสฏฺเน จ อาโลโกติ วุตฺตา. ยถาห – ‘‘จกฺขุํ อุทปาทีติ ทสฺสนฏฺเน. าณํ อุทปาทีติ าตฏฺเน. ปฺา อุทปาทีติ ปชานนฏฺเน. วิชฺชา อุทปาทีติ ปฏิเวธฏฺเน. อาโลโก อุทปาทีติ โอภาสฏฺเน. จกฺขุธมฺโม ทสฺสนฏฺโ อตฺโถ. าณธมฺโม าตฏฺโ อตฺโถ. ปฺาธมฺโม ปชานนฏฺโ อตฺโถ. วิชฺชาธมฺโม ปฏิเวธฏฺโ อตฺโถ. อาโลโก ธมฺโม โอภาสฏฺโ อตฺโถ’’ติ (ปฏิ. ม. ๒.๓๙). เอตฺตเกหิ ปเทหิ กึ ¶ กถิตนฺติ? อิมสฺมึ สติ อิทํ โหตีติ ปจฺจยสฺชานนมตฺตํ กถิตํ. อถวา วีถิปฏิปนฺนา ตรุณวิปสฺสนา กถิตาติ.
๖๑. อธิคโต โข มฺยายนฺติ อธิคโต โข เม อยํ. มคฺโคติ วิปสฺสนามคฺโค. โพธายาติ จตุสจฺจพุชฺฌนตฺถาย, นิพฺพานพุชฺฌนตฺถาย เอว วา. อปิ จ พุชฺฌตีติ โพธิ, อริยมคฺคสฺเสตํ นามํ, ตทตฺถายาติปิ วุตฺตํ โหติ. วิปสฺสนามคฺคมูลโก หิ อริยมคฺโคติ. อิทานิ ตํ มคฺคํ นิยฺยาเตนฺโต – ‘‘ยทิทํ นามรูปนิโรธาติอาทิมาห. เอตฺถ จ วิฺาณนิโรโธติอาทีหิ ปจฺจตฺตปเทหิ นิพฺพานเมว กถิตํ. อิติ มหาปุริโส สกลสฺส วฏฺฏทุกฺขสฺส อนิพฺพตฺตินิโรธํ อทฺทส.
๖๒. นิโรโธ นิโรโธติ โขติ อนิพฺพตฺติ อนิพฺพตฺติติ โข. จกฺขุนฺติอาทีนิ วุตฺตตฺถาเนว. อิธ ปน สพฺเพเหว เอเตหิ ปเทหิ – ‘‘อิมสฺมึ อสติ อิทํ น โหตี’’ติ นิโรธสฺชานนมตฺตเมว กถิตํ, อถวา วุฏฺานคามินี พลววิปสฺสนา กถิตาติ.
๖๓. อปเรน สมเยนาติ เอวํ ปจฺจยฺจ ปจฺจยนิโรธฺจ วิทิตฺวา ตโต อปรภาเค. อุปาทานกฺขนฺเธสูติ อุปาทานสฺส ปจฺจยภูเตสุ ขนฺเธสุ. อุทยพฺพยานุปสฺสีติ ตเมว ปมํ ทิฏฺํ อุทยฺจ วยฺจ อนุปสฺสมาโน. วิหาสีติ สิขาปตฺตํ วุฏฺานคามินิวิปสฺสนํ วหนฺโต วิหริ. อิทํ กสฺมา วุตฺตํ? สพฺเพเยว หิ ปูริตปารมิโน โพธิสตฺตา ปจฺฉิมภเว ปุตฺตสฺส ชาตทิวเส ¶ ¶ มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชิตฺวา ปธานมนุยฺุชิตฺวา โพธิปลฺลงฺกมารุยฺห มารพลํ วิธมิตฺวา ปมยาเม ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรนฺติ, ทุติยยาเม ทิพฺพจกฺขุํ วิโสเธนฺติ, ตติยยาเม ปจฺจยาการํ สมฺมสิตฺวา อานาปานจตุตฺถชฺฌานโต อุฏฺาย ปฺจสุ ขนฺเธสุ อภินิวิสิตฺวา อุทยพฺพยวเสน สมปฺาส ลกฺขณานิ ทิสฺวา ยาว โคตฺรภุาณา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อริยมคฺเคน สกเล พุทฺธคุเณ ปฏิวิชฺฌนฺติ. อยมฺปิ มหาปุริโส ปูริตปารมี. โส ยถาวุตฺตํ สพฺพํ อนุกฺกมํ กตฺวา ปจฺฉิมยาเม อานาปานจตุตฺถชฺฌานโต อุฏฺาย ปฺจสุ ขนฺเธสุ อภินิวิสิตฺวา วุตฺตปฺปการํ อุทยพฺพยวิปสฺสนํ อารภิ. ตํ ทสฺเสตุํ อิทํ วุตฺตํ.
ตตฺถ ¶ อิติ รูปนฺติ อิทํ รูปํ, เอตฺตกํ รูปํ, อิโต อุทฺธํ รูปํ นตฺถีติ รุปฺปนสภาวฺเจว ภูตุปาทายเภทฺจ อาทึ กตฺวา ลกฺขณรสปจฺจุปฏฺานปทฏฺานวเสน อนวเสสรูปปริคฺคโห วุตฺโต. อิติ รูปสฺส สมุทโยติ อิมินา เอวํ ปริคฺคหิตสฺส รูปสฺส สมุทยทสฺสนํ วุตฺตํ. ตตฺถ อิตีติ เอวํ สมุทโย โหตีติ อตฺโถ. ตสฺส วิตฺถาโร – ‘‘อวิชฺชาสมุทยา รูปสมุทโย, ตณฺหาสมุทยา รูปสมุทโย, กมฺมสมุทยา รูปสมุทโย, อาหารสมุทยา รูปสมุทโยติ, นิพฺพตฺติลกฺขณํ ปสฺสนฺโตปิ รูปกฺขนฺธสฺส อุทยํ ปสฺสตี’’ติ เอวํ เวทิตพฺโพ. อตฺถงฺคเมปิ ‘‘อวิชฺชานิโรธา รูปนิโรโธ…เป… วิปริณามลกฺขณํ ปสฺสนฺโตปิ รูปกฺขนฺธสฺส นิโรธํ ปสฺสตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๕๐) อยมสฺส วิตฺถาโร.
อิติ เวทนาติอาทีสุปิ อยํ เวทนา, เอตฺตกา เวทนา, อิโต อุทฺธํ เวทนา นตฺถิ. อยํ สฺา, อิเม สงฺขารา, อิทํ วิฺาณํ, เอตฺตกํ วิฺาณํ, อิโต อุทฺธํ วิฺาณํ นตฺถีติ เวทยิตสฺชานนอภิสงฺขรณวิชานนสภาวฺเจว สุขาทิรูปสฺาทิ ผสฺสาทิ จกฺขุวิฺาณาทิ เภทฺจ อาทึ กตฺวา ลกฺขณรสปจฺจุปฏฺานปทฏฺานวเสน อนวเสสเวทนาสฺาสงฺขารวิฺาณปริคฺคโห วุตฺโต. อิติ เวทนาย สมุทโยติอาทีหิ ปน เอวํ ปริคฺคหิตานํ เวทนาสฺาสงฺขารวิฺาณานํ สมุทยทสฺสนํ วุตฺตํ. ตตฺราปิ อิตีติ เอวํ สมุทโย โหตีติ อตฺโถ. เตสมฺปิ วิตฺถาโร – ‘‘อวิชฺชาสมุทยา เวทนาสมุทโย’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๕๐) รูเป วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. อยํ ปน วิเสโส – ตีสุ ขนฺเธสุ ‘‘อาหารสมุทยา’’ติ อวตฺวา ‘‘ผสฺสสมุทยา’’ติ วตฺตพฺพํ. วิฺาณกฺขนฺเธ ‘‘นามรูปสมุทยา’’ติ ¶ อตฺถงฺคมปทมฺปิ เตสํเยว วเสน โยเชตพฺพํ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน อุทยพฺพยวินิจฺฉโย สพฺพาการปริปูโร วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺโต. ตสฺส ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ อุทยพฺพยานุปสฺสิโน วิหรโตติ ตสฺส วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส อิเมสุ รูปาทีสุ ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ สมปฺาสลกฺขณวเสน อุทยพฺพยานุปสฺสิโน วิหรโต ยถานุกฺกเมน วฑฺฒิเต วิปสฺสนาาเณ อนุปฺปาทนิโรเธน นิรุชฺฌมาเนหิ ¶ อาสวสงฺขาเตหิ กิเลเสหิ อนุปาทาย อคฺคเหตฺวาว จิตฺตํ วิมุจฺจติ, ตเทตํ ¶ มคฺคกฺขเณ วิมุจฺจติ นาม, ผลกฺขเณ วิมุตฺตํ นาม; มคฺคกฺขเณ วา วิมุตฺตฺเจว วิมุจฺจติ จ, ผลกฺขเณ วิมุตฺตเมว.
เอตฺตาวตา จ มหาปุริโส สพฺพพนฺธนา วิปฺปมุตฺโต สูริยรสฺมิสมฺผุฏฺมิว ปทุมํ สุวิกสิตจิตฺตสนฺตาโน จตฺตาริ มคฺคาณานิ, จตฺตาริ ผลาณานิ, จตสฺโส ปฏิสมฺภิทา, จตุโยนิปริจฺเฉทกาณํ, ปฺจคติปริจฺเฉทกาณํ, ฉ อสาธารณาณานิ, สกเล จ พุทฺธคุเณ หตฺถคเต กตฺวา ปริปุณฺณสงฺกปฺโป โพธิปลฺลงฺเก นิสินฺโนว –
‘‘อเนกชาติสํสารํ, สนฺธาวิสฺสํ อนิพฺพิสํ;
คหการํ คเวสนฺโต, ทุกฺขา ชาติ ปุนปฺปุนํ.
คหการก ทิฏฺโสิ, ปุน เคหํ น กาหสิ;
สพฺพา เต ผาสุกา ภคฺคา, คหกูฏํ วิสงฺขตํ;
วิสงฺขารคตํ จิตฺตํ, ตณฺหานํ ขยมชฺฌคา’’ติ. (ธ. ป. ๑๕๓, ๑๕๔);
‘‘อโยฆนหตสฺเสว, ชลโต ชาตเวทโส;
อนุปุพฺพูปสนฺตสฺส, ยถา น ายเต คติ.
เอวํ สมฺมาวิมุตฺตานํ, กามพนฺโธฆตารินํ;
ปฺาเปตุํ คติ นตฺถิ, ปตฺตานํ อจลํ สุข’’นฺติ. (อุทา. ๘๐);
เอวํ มนสิ กโรนฺโต สรเท สูริโย วิย, ปุณฺณจนฺโท วิย จ วิโรจิตฺถาติ.
ทุติยภาณวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
พฺรหฺมยาจนกถาวณฺณนา
๖๔. ตติยภาณวาเร ¶ ¶ ยํนูนาหํ ธมฺมํ เทเสยฺยนฺติ ยทิ ปนาหํ ธมฺมํ เทเสยฺยํ. อยํ ปน วิตกฺโก กทา อุปฺปนฺโนติ? พุทฺธภูตสฺส อฏฺเม สตฺตาเห. โส กิร พุทฺโธ หุตฺวา สตฺตาหํ โพธิปลฺลงฺเก นิสีทิ, สตฺตาหํ โพธิปลฺลงฺกํ โอโลเกนฺโต อฏฺาสิ, สตฺตาหํ รตนจงฺกเม จงฺกมิ, สตฺตาหํ รตนคพฺเภ ธมฺมํ วิจินนฺโต นิสีทิ, สตฺตาหํ อชปาลนิคฺโรเธ นิสีทิ, สตฺตาหํ มุจลินฺเท นิสีทิ, สตฺตาหํ ราชายตเน นิสีทิ. ตโต อุฏฺาย อฏฺเม สตฺตาเห ปุน อาคนฺตฺวา อชปาลนิคฺโรเธ นิสินฺนมตฺตสฺเสว ¶ สพฺพพุทฺธานํ อาจิณฺณสมาจิณฺโณ อยฺเจว อิโต อนนฺตโร จ วิตกฺโก อุปฺปนฺโนติ.
ตตฺถ อธิคโตติ ปฏิวิทฺโธ. ธมฺโมติ จตุสจฺจธมฺโม. คมฺภีโรติ อุตฺตานภาวปฏิกฺเขปวจนเมตํ. ทุทฺทโสติ คมฺภีรตฺตาว ทุทฺทโส ทุกฺเขน ทฏฺพฺโพ, น สกฺกา สุเขน ทฏฺุํ. ทุทฺทสตฺตาว ทุรนุโพโธ ทุกฺเขน อวพุชฺฌิตพฺโพ, น สกฺกา สุเขน อวพุชฺฌิตุํ. สนฺโตติ นิพฺพุโต. ปณีโตติ อตปฺปโก. อิทํ ทฺวยํ โลกุตฺตรเมว สนฺธาย วุตฺตํ. อตกฺกาวจโรติ ตกฺเกน อวจริตพฺโพ โอคาหิตพฺโพ น โหติ, าเณเนว อวจริตพฺโพ. นิปุโณติ สณฺโห. ปณฺฑิตเวทนีโยติ สมฺมาปฏิปทํ ปฏิปนฺเนหิ ปณฺฑิเตหิ เวทิตพฺโพ. อาลยรามาติ สตฺตา ปฺจสุ กามคุเณสุ อลฺลียนฺติ, ตสฺมา เต อาลยาติ วุจฺจนฺติ. อฏฺสตตณฺหาวิจริตานิ อาลยนฺติ, ตสฺมา อาลยาติ วุจฺจนฺติ. เตหิ อาลเยหิ รมนฺตีติ อาลยรามา. อาลเยสุ รตาติ อาลยรตา. อาลเยสุ สุฏฺุ มุทิตาติ อาลยสมฺมุทิตา. ยเถว หิ สุสชฺชิตํ ปุปฺผผลภริตรุกฺขาทิสมฺปนฺนํ อุยฺยานํ ปวิฏฺโ ราชา ตาย ตาย สมฺปตฺติยา รมติ, ปมุทิโต อาโมทิโต โหติ, น อุกฺกณฺติ, สายํ นิกฺขมิตุํ น อิจฺฉติ, เอวมิเมหิปิ กามาลยตณฺหาลเยหิ สตฺตา รมนฺติ, สํสารวฏฺเฏ ปมุทิตา อนุกฺกณฺิตา วสนฺติ. เตน เนสํ ภควา ทุวิธมฺปิ อาลยํ อุยฺยานภูมึ วิย ทสฺเสนฺโต – ‘‘อาลยรามา’’ติอาทิมาห.
ยทิทนฺติ นิปาโต, ตสฺส านํ สนฺธาย – ‘‘ยํ อิท’’นฺติ, ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ สนฺธาย – ‘‘โย อย’’นฺติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อิทปฺปจฺจยตาปฏิจฺจสมุปฺปาโทติ อิเมสํ ปจฺจยา อิทปฺปจฺจยา, อิทปฺปจฺจยา เอว อิทปฺปจฺจยตา, อิทปฺปจฺจยตา จ สา ปฏิจฺจสมุปฺปาโท จาติ อิทปฺปจฺจยตาปฏิจฺจสมุปฺปาโท. สงฺขาราทิปจฺจยานํ ¶ อวิชฺชาทีนํ เอตํ อธิวจนํ. สพฺพสงฺขารสมโถติอาทิ สพฺพํ นิพฺพานเมว. ยสฺมา หิ ตํ อาคมฺม สพฺพสงฺขารวิปฺผนฺทิตานิ สมฺมนฺติ ¶ วูปสมฺมนฺติ ตสฺมา – ‘‘สพฺพสงฺขารสมโถ’’ติ วุจฺจติ. ยสฺมา จ ตํ อาคมฺม สพฺเพ อุปธโย ปฏินิสฺสฏฺา โหนฺติ, สพฺพา ตณฺหา ขียนฺติ ¶ , สพฺเพ กิเลสราคา วิรชฺชนฺติ, สพฺพํ ทุกฺขํ นิรุชฺฌติ, ตสฺมา ‘‘สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโค ตณฺหากฺขโย วิราโค นิโรโธ’’ติ วุจฺจติ. สา ปเนสา ตณฺหา ภเวน ภวํ, ผเลน วา สทฺธึ กมฺมํ วินติ สํสิพฺพตีติ กตฺวา วานนฺติ วุจฺจติ. ตโต วานโต นิกฺขนฺตนฺติ นิพฺพานํ. โส มมสฺส กิลมโถติ ยา อชานนฺตานํ เทสนา นาม, โส มม กิลมโถ อสฺส, สา มม วิเหสา อสฺสาติ อตฺโถ. กายกิลมโถ เจว กายวิเหสา จ อสฺสาติ วุตฺตํ โหติ, จิตฺเต ปน อุภยมฺเปตํ พุทฺธานํ นตฺถิ.
๖๕. อปิสฺสูติ อนุพฺรูหนตฺเถ นิปาโต. โส – ‘‘น เกวลํ เอตทโหสิ, อิมาปิ คาถา ปฏิภํสู’’ติ ทีเปติ. วิปสฺสินฺติอาทีสุ วิปสฺสิสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสาติ อตฺโถ. อนจฺฉริยาติ อนุอจฺฉริยา. ปฏิภํสูติ ปฏิภานสงฺขาตสฺส าณสฺส โคจรา อเหสุํ, ปริวิตกฺกยิตพฺพตํ ปาปุณึสุ.
กิจฺเฉนาติ ทุกฺเขน, น ทุกฺขาย ปฏิปทาย. พุทฺธานฺหิ จตฺตาโรปิ มคฺคา สุขปฏิปทาว โหนฺติ. ปารมีปูรณกาเล ปน สราคสโทสสโมหสฺเสว สโต อาคตาคตานํ ยาจกานํ อลงฺกตปฏิยตฺตํ สีสํ ฉินฺทิตฺวา คลโลหิตํ นีหริตฺวา สุอฺชิตานิ อกฺขีนิ อุปฺปาเฏตฺวา กุลวํสปทีปกํ ปุตฺตํ มนาปจารินึ ภริยนฺติ เอวมาทีนิ เทนฺตสฺส อฺานิ จ ขนฺติวาทิสทิเสสุ อตฺตภาเวสุ เฉชฺชเภชฺชาทีนิ ปาปุณนฺตสฺส อาคมนียปฏิปทํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. หลนฺติ เอตฺถ หกาโร นิปาตมตฺโต, อลนฺติ อตฺโถ. ปกาสิตุนฺติ เทเสตุํ; เอวํ กิจฺเฉน อธิคตสฺส ธมฺมสฺส อลํ เทเสตุํ; โก อตฺโถ เทสิเตนาติ วุตฺตํ โหติ. ราคโทสปเรเตหีติ ราคโทสผุฏฺเหิ ราคโทสานุคเตหิ วา.
ปฏิโสตคามินฺติ นิจฺจาทีนํ ปฏิโสตํ อนิจฺจํ ทุกฺขมนตฺตาสุภนฺติ เอวํ คตํ จตุสจฺจธมฺมํ. ราครตฺตาติ กามราเคน ภวราเคน ทิฏฺิราเคน จ รตฺตา. น ทกฺขนฺตีติ อนิจฺจํ ทุกฺขมนตฺตา อสุภนฺติ อิมินา สภาเวน น ปสฺสิสฺสนฺติ ¶ , เต อปสฺสนฺเต โก สกฺขิสฺสติ เอวํ คาหาเปตุํ? ตโมขนฺเธน อาวุฏาติ ¶ อวิชฺชาราสินา อชฺโฌตฺถฏา.
อปฺโปสฺสุกฺกตายาติ นิรุสฺสุกฺกภาเวน, อเทเสตุกามตายาติ อตฺโถ. กสฺมา ปนสฺส เอวํ จิตฺตํ นมิ? นนุ เอส – ‘‘มุตฺโต โมเจสฺสามี, ติณฺโณ ตาเรสฺสามิ’’,
‘‘กึ ¶ เม อฺาตเวเสน, ธมฺมํ สจฺฉิกเตนิธ;
สพฺพฺุตํ ปาปุณิตฺวา, สนฺตาเรสฺสํ สเทวก’’นฺติ.
ปตฺถนํ กตฺวา ปารมิโย ปูเรตฺวา สพฺพฺุตํ ปตฺโตติ. สจฺจเมตํ, ปจฺจเวกฺขณานุภาเวน ปนสฺส เอวํ จิตฺตํ นมิ. ตสฺส หิ สพฺพฺุตํ ปตฺวา สตฺตานํ กิเลสคหนตํ ธมฺมสฺส จ คมฺภีรตํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส สตฺตานํ กิเลสคหนตา จ ธมฺมคมฺภีรตา จ สพฺพากาเรน ปากฏา ชาตา. อถสฺส – ‘‘อิเม สตฺตา กฺชิกปุณฺณลาพุ วิย ตกฺกภริตจาฏิ วิย วสาเตลปีตปิโลติกา วิย อฺชนมกฺขิตหตฺถา วิย กิเลสภริตา อติสํกิลิฏฺา ราครตฺตา โทสทุฏฺา โมหมูฬฺหา, เต กึ นาม ปฏิวิชฺฌิสฺสนฺตี’’ติ จินฺตยโต กิเลสคหนปจฺจเวกฺขณานุภาเวนาปิ เอวํ จิตฺตํ นมิ.
‘‘อยฺจ ธมฺโม ปถวีสนฺธารกอุทกกฺขนฺโธ วิย คมฺภีโร, ปพฺพเตน ปฏิจฺฉาเทตฺวา ปิโต สาสโป วิย ทุทฺทโส, สตธา ภินฺนสฺส วาลสฺส โกฏิยา โกฏึ ปฏิปาทนํ วิย ทุรนุโพโธ, นนุ มยา หิ อิมํ ธมฺมํ ปฏิวิชฺฌิตุํ วายมนฺเตน อทินฺนํ ทานํ นาม นตฺถิ, อรกฺขิตํ สีลํ นาม นตฺถิ, อปริปูริตา กาจิ ปารมี นาม นตฺถิ. ตสฺส เม นิรุสฺสาหํ วิย มารพลํ วิธมนฺตสฺสาปิ ปถวี น กมฺปิตฺถ, ปมยาเม ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรนฺตสฺสาปิ น กมฺปิตฺถ, มชฺฌิมยาเม ทิพฺพจกฺขุํ วิโสเธนฺตสฺสาปิ น กมฺปิตฺถ, ปจฺฉิมยาเม ปน ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ ปฏิวิชฺฌนฺตสฺเสว เม ทสสหสฺสิโลกธาตุ กมฺปิตฺถ. อิติ มาทิเสนาปิ ติกฺขาเณน กิจฺเฉเนวายํ ธมฺโม ปฏิวิทฺโธ ตํ โลกิยมหาชนา กถํ ปฏิวิชฺฌิสฺสนฺตี’’ติ ธมฺมคมฺภีรตาปจฺจเวกฺขณานุภาเวนาปิ เอวํ จิตฺตํ นมีติ เวทิตพฺพํ.
อปิจ ¶ พฺรหฺมุนา ยาจิเต เทเสตุกามตายปิสฺส เอวํ จิตฺตํ ¶ นมิ. ชานาติ หิ ภควา – ‘‘มม อปฺโปสฺสุกฺกตาย จิตฺเต นมมาเน มํ มหาพฺรหฺมา ธมฺมเทสนํ ยาจิสฺสติ, อิเม จ สตฺตา พฺรหฺมครุกา, เต ‘สตฺถา กิร ธมฺมํ น เทเสตุกาโม อโหสิ, อถ นํ มหาพฺรหฺมา ยาจิตฺวา เทสาเปสิ, สนฺโต วต โภ ธมฺโม, ปณีโต วต โภ ธมฺโม’ติ มฺมานา สุสฺสูสิสฺสนฺตี’’ติ. อิมมฺปิสฺส การณํ ปฏิจฺจ อปฺโปสฺสุกฺกตาย จิตฺตํ นมิ, โน ธมฺมเทสนายาติ เวทิตพฺพํ.
๖๖. อฺตรสฺสาติ เอตฺถ กิฺจาปิ ‘‘อฺตโร’’ติ วุตฺตํ, อถ โข อิมสฺมึ จกฺกวาเฬ เชฏฺกมหาพฺรหฺมา เอโสติ เวทิตพฺโพ. นสฺสติ วต โภ โลโกติ โส กิร อิมํ สทฺทํ ตถา นิจฺฉาเรสิ, ยถา ทสสหสฺสิโลกธาตุพฺรหฺมาโน สุตฺวา สพฺเพ สนฺนิปตึสุ. ยตฺร หิ นามาติ ¶ ยสฺมึ นาม โลเก. ปุรโต ปาตุรโหสีติ เตหิ ทสหิ พฺรหฺมสหสฺเสหิ สทฺธึ ปาตุรโหสิ. อปฺปรชกฺขชาติกาติ ปฺามเย อกฺขิมฺหิ อปฺปํ ปริตฺตํ ราคโทสโมหรชํ เอเตสํ, เอวํ สภาวาติ อปฺปรชกฺขชาติกา. อสฺสวนตาติ อสฺสวนตาย. ภวิสฺสนฺตีติ ปุริมพุทฺเธสุ ทสปฺุกิริยวตฺถุวเสน กตาธิการา ปริปากคตา ปทุมานิ วิย สูริยรสฺมิสมฺผสฺสํ, ธมฺมเทสนํเยว อากงฺขมานา จตุปฺปทิกคาถาวสาเน อริยภูมึ โอกฺกมนารหา น เอโก, น ทฺเว, อเนกสตสหสฺสา ธมฺมสฺส อฺาตาโร ภวิสฺสนฺตีติ ทสฺเสติ.
๖๙. อชฺเฌสนนฺติ เอวํ ติกฺขตฺตุํ ยาจนํ. พุทฺธจกฺขุนาติ อินฺทฺริยปโรปริยตฺตาเณน จ อาสยานุสยาเณน จ. อิเมสฺหิ ทฺวินฺนํ าณานํ ‘‘พุทฺธจกฺขู’’ติ นามํ, สพฺพฺุตฺาณสฺส ‘‘สมนฺตจกฺขู’’ติ, ติณฺณํ มคฺคาณานํ ‘‘ธมฺมจกฺขู’’ติ. อปฺปรชกฺเขติอาทีสุ เยสํ วุตฺตนเยเนว ปฺาจกฺขุมฺหิ ราคาทิรชํ อปฺปํ, เต อปฺปรชกฺขา. เยสํ ตํ มหนฺตํ, เต มหารชกฺขา. เยสํ สทฺธาทีนิ อินฺทฺริยานิ ติกฺขานิ, เต ติกฺขินฺทฺริยา. เยสํ ตานิ มุทูนิ, เต มุทินฺทฺริยา. เยสํ เตเยว สทฺธาทโย อาการา สุนฺทรา, เต สฺวาการา. เย กถิตการณํ สลฺลกฺเขนฺติ, สุเขน สกฺกา โหนฺติ วิฺาเปตุํ, เต สุวิฺาปยา. เย ปรโลกฺเจว วชฺชฺจ ภยโต ปสฺสนฺติ, เต ปรโลกวชฺชภยทสฺสาวิโน นาม.
อยํ ¶ ¶ ปเนตฺถ ปาฬิ – ‘‘สทฺโธ ปุคฺคโล อปฺปรชกฺโข, อสฺสทฺโธ ปุคฺคโล มหารชกฺโข.… อารทฺธวีริโย…เป… กุสีโต… อุปฏฺิตสฺสติ… มุฏฺสฺสติ… สมาหิโต… อสมาหิโต… ปฺวา… ทุปฺปฺโ ปุคฺคโล มหารชกฺโข. ตถา สทฺโธ ปุคฺคโล ติกฺขินฺทฺริโย…เป… ปฺวา ปุคฺคโล ปรโลกวชฺชภยทสฺสาวี, ทุปฺปฺโ ปุคฺคโล น ปรโลกวชฺชภยทสฺสาวี. โลโกติ ขนฺธโลโก, ธาตุโลโก, อายตนโลโก, สมฺปตฺติภวโลโก, วิปตฺติภวโลโก, สมฺปตฺติสมฺภวโลโก, วิปตฺติสมฺภวโลโก. เอโก โลโก – สพฺเพ สตฺตา อาหารฏฺิติกา. ทฺเว โลกา – นามฺจ รูปฺจ. ตโย โลกา – ติสฺโส เวทนา. จตฺตาโร โลกา – จตฺตาโร อาหารา. ปฺจ โลกา – ปฺจุปาทานกฺขนฺธา. ฉ โลกา – ฉ อชฺฌตฺติกานิ อายตนานิ. สตฺต โลกา – สตฺต วิฺาณฏฺิติโย. อฏฺ โลกา – อฏฺ โลกธมฺมา. นว โลกา – นว สตฺตาวาสา. ทส โลกา – ทสายตนานิ. ทฺวาทส โลกา – ทฺวาทสายตนานิ. อฏฺารส โลกา – อฏฺารส ธาตุโย. วชฺชนฺติ สพฺเพ กิเลสา วชฺชํ, สพฺเพ ทุจฺจริตา วชฺชํ, สพฺเพ อภิสงฺขารา วชฺชํ, สพฺเพ ภวคามิกมฺมา วชฺชํ. อิติ อิมสฺมิฺจ โลเก อิมสฺมิฺจ วชฺเช ติพฺพา ภยสฺา ปจฺจุปฏฺิตา โหติ, เสยฺยถาปิ อุกฺขิตฺตาสิเก วธเก ¶ . อิเมหิ ปฺาสาย อากาเรหิ อิมานิ ปฺจินฺทฺริยานิ ชานาติ ปสฺสติ อฺาติ ปฏิวิชฺฌติ, อิทํ ตถาคตสฺส อินฺทฺริยปโรปริยตฺเต าณ’’นฺติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๑๒).
อุปฺปลินิยนฺติ อุปฺปลวเน. อิตเรสุปิ เอเสว นโย. อนฺโตนิมุคฺคโปสีนีติ ยานิ อฺานิปิ ปทุมานิ อนฺโตนิมุคฺคาเนว โปสยนฺติ. อุทกํ อจฺจุคฺคมฺม ิตานีติ อุทกํ อติกฺกมิตฺวา ิตานิ. ตตฺถ ยานิ อจฺจุคฺคมฺม ิตานิ, ตานิ สูริยรสฺมิสมฺผสฺสํ อาคมยมานานิ ิตานิ อชฺช ปุปฺผนกานิ. ยานิ สโมทกํ ิตานิ, ตานิ สฺเว ปุปฺผนกานิ. ยานิ อุทกานุคฺคตานิ อนฺโตอุทกโปสีนิ, ตานิ ตติยทิวเส ปุปฺผนกานิ. อุทกา ปน อนุคฺคตานิ อฺานิปิ สโรชอุปฺปลาทีนิ นาม ¶ อตฺถิ, ยานิ เนว ปุปฺผิสฺสนฺติ, มจฺฉกจฺฉปภกฺขาเนว ภวิสฺสนฺติ, ตานิ ปาฬึ นารูฬฺหานิ. อาหริตฺวา ปน ทีเปตพฺพานีติ ทีปิตานิ. ยเถว หิ ตานิ จตุพฺพิธานิ ปุปฺผานิ, เอวเมว อุคฺฆฏิตฺู, วิปฺจิตฺู, เนยฺโย, ปทปรโมติ จตฺตาโร ปุคฺคลา. ตตฺถ ยสฺส ¶ ปุคฺคลสฺส สห อุทาหฏเวลาย ธมฺมาภิสมโย โหติ, อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล อุคฺฆฏิตฺู. ยสฺส ปุคฺคลสฺส สงฺขิตฺเตน ภาสิตสฺส วิตฺถาเรน อตฺเถ วิภชิยมาเน ธมฺมาภิสมโย โหติ, อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล วิปฺจิตฺู. ยสฺส ปุคฺคลสฺส อุทฺเทสโต ปริปุจฺฉโต โยนิโสมนสิกโรโต กลฺยาณมิตฺเต เสวโต ภชโต ปยิรุปาสโต อนุปุพฺเพน ธมฺมาภิสมโย โหติ, อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล เนยฺโย. ยสฺส ปุคฺคลสฺส พหุมฺปิ สุณโต พหุมฺปิ ภณโต พหุมฺปิ คณฺหโต พหุมฺปิ ธารยโต พหุมฺปิ วาจยโต น ตาย ชาติยา ธมฺมาภิสมโย โหติ, อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ปทปรโม (ปุ. ป. ๑๔๘, ๑๔๙, ๑๕๐, ๑๕๑).
ตตฺถ ภควา อุปฺปลวนาทิสทิสํ ทสสหสฺสิโลกธาตุํ โอโลเกนฺโต – ‘‘อชฺช ปุปฺผนกานิ วิย อุคฺฆฏิตฺู, สฺเว ปุปฺผนกานิ วิย วิปฺจิตฺู, ตติยทิวเส ปุปฺผนกานิ วิย เนยฺโย, มจฺฉกจฺฉปภกฺขานิ วิย ปทปรโม’’ติ อทฺทส. ปสฺสนฺโต จ – ‘‘เอตฺตกา อปฺปรชกฺขา, เอตฺตกา มหารชกฺขา. ตตฺราปิ เอตฺตกา อุคฺฆฏิตฺู’’ติ เอวํ สพฺพาการโต อทฺทส. ตตฺถ ติณฺณํ ปุคฺคลานํ อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว ภควโต ธมฺมเทสนา อตฺถํ สาเธติ, ปทปรมานํ อนาคเต วาสนตฺถาย โหติ.
อถ ภควา อิเมสํ จตุนฺนํ ปุคฺคลานํ อตฺถาวหํ ธมฺมเทสนํ วิทิตฺวา เทเสตุกมฺยตํ อุปฺปาเทตฺวา ปุน เต สพฺเพสุปิ ตีสุ ภเวสุ สพฺเพ สตฺเต ภพฺพาภพฺพวเสน ทฺเว โกฏฺาเส อกาสิ. เย สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘เย เต สตฺตา กมฺมาวรเณน สมนฺนาคตา, วิปากาวรเณน สมนฺนาคตา, กิเลสาวรเณน ¶ สมนฺนาคตา, อสฺสทฺธา อจฺฉนฺทิกา ทุปฺปฺา อภพฺพา นิยามํ โอกฺกมิตุํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ สมฺมตฺตํ, อิเม เต สตฺตา อภพฺพา. กตเม สตฺตา ภพฺพา? เย เต สตฺตา น กมฺมาวรเณน…เป…อิเม เต สตฺตา ภพฺพา’’ติ (วิภ. ๘๒๗; ปฏิ. ม. ๑.๑๑๔).
ตตฺถ สพฺเพปิ อภพฺพปุคฺคเล ¶ ปหาย ภพฺพปุคฺคเลเยว าเณน ปริคฺคเหตฺวา – ‘‘เอตฺตกา ราคจริตา, เอตฺตกา โทสโมหวิตกฺกสทฺธาพุทฺธิจริตา’’ติ ฉ โกฏฺาเส อกาสิ. เอวํ กตฺวา – ‘‘ธมฺมํ เทเสสฺสามี’’ติ จินฺเตสิ ¶ . พฺรหฺมา ตํ ตฺวา โสมนสฺสชาโต ภควนฺตํ คาถาหิ อชฺฌภาสิ. อิทํ สนฺธาย – ‘‘อถ โข โส, ภิกฺขเว, มหาพฺรหฺมา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
๗๐. ตตฺถ อชฺฌภาสีติ อธิอภาสิ, อธิกิจฺจ อารพฺภ อภาสีติ อตฺโถ.
เสเล ยถา ปพฺพตมุทฺธนิฏฺิโตติ เสลมเย เอกคฺฆเน ปพฺพตมุทฺธนิ ยถาิโตว, น หิ ตตฺถ ิตสฺส ทสฺสนตฺถํ คีวุกฺขิปนปสารณาทิกิจฺจํ อตฺถิ. ตถูปมนฺติ ตปฺปฏิภาคํ เสลปพฺพตูปมํ. อยํ ปเนตฺถ สงฺเขปตฺโถ, ยถา เสลปพฺพตมุทฺธนิ ยถาิโตว จกฺขุมา ปุริโส สมนฺตโต ชนตํ ปสฺเสยฺย, ตถา ตฺวมฺปิ สุเมธ, สุนฺทรปฺสพฺพฺุตฺาเณน สมนฺตจกฺขุ ภควา ธมฺมมยํ ปฺามยํ ปาสาทมารุยฺห สยํ อเปตโสโก โสกาวติณฺณํ ชาติชราภิภูตํ ชนตํ อเปกฺขสฺสุ, อุปธารย อุปปริกฺข.
อยเมตฺถ อธิปฺปาโย – ยถา หิ ปพฺพตปาเท สมนฺตา มหนฺตํ เขตฺตํ กตฺวา ตตฺถ เกทารปาฬีสุ กุฏิกาโย กตฺวา รตฺตึ อคฺคึ ชาเลยฺยุํ. จตุรงฺคสมนฺนาคตฺจ อนฺธการํ อสฺส. อถสฺส ปพฺพตสฺส มตฺถเก ตฺวา จกฺขุมโต ปุริสสฺส ภูมึ โอโลกยโต เนว เขตฺตํ, น เกทารปาฬิโย, น กุฏิโย, น ตตฺถ สยิตมนุสฺสา ปฺาเยยฺยุํ, กุฏิกาสุ ปน อคฺคิชาลมตฺตเมว ปฺาเยยฺย. เอวํ ธมฺมปาสาทมารุยฺห สตฺตนิกายํ โอโลกยโต ตถาคตสฺส เย เต อกตกลฺยาณา สตฺตา, เต เอกวิหาเร ทกฺขิณชาณุปสฺเส นิสินฺนาปิ พุทฺธจกฺขุสฺส อาปาถํ นาคจฺฉนฺติ, รตฺตึ ขิตฺตสรา วิย โหนฺติ. เย ปน กตกลฺยาณา เวเนยฺยปุคฺคลา, เต ตสฺส ทูเร ิตาปิ อาปาถํ อาคจฺฉนฺติ, โส อคฺคิ วิย หิมวนฺตปพฺพโต วิย จ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘ทูเร สนฺโต ปกาเสนฺติ, หิมวนฺโตว ปพฺพโต;
อสนฺเตตฺถ น ทิสฺสนฺติ, รตฺตึ ขิตฺตา ยถา สรา’’ติ. (ธ. ป. ๓๐๔);
อุฏฺเหีติ ¶ ¶ ภควโต ธมฺมเทสนตฺถํ จาริกจรณํ ยาจนฺโต ภณติ. วีราติอาทีสุ ภควา วีริยวนฺตตาย วีโร, เทวปุตฺตมจฺจุกิเลสมารานํ วิชิตตฺตา ¶ วิชิตสงฺคาโม, ชาติกนฺตราทินิตฺถรณตฺถาย เวเนยฺยสตฺถวาหนสมตฺถตาย สตฺถวาโห, กามจฺฉนฺทอิณสฺส อภาวโต อณโณติ เวทิตพฺโพ.
๗๑. อปารุตาติ วิวฏา. อมตสฺส ทฺวาราติ อริยมคฺโค. โส หิ อมตสงฺขาตสฺส นิพฺพานสฺส ทฺวารํ. โส มยา วิวริตฺวา ปิโตติ ทสฺเสติ. ปมฺุจนฺตุ สทฺธนฺติ สพฺเพ อตฺตโน สทฺธํ ปมฺุจนฺตุ วิสฺสชฺเชนฺตุ. ปจฺฉิมปททฺวเย อยมตฺโถ, อหฺหิ อตฺตโน ปคุณํ สุปฺปวตฺติตมฺปิ อิมํ ปณีตํ อุตฺตมํ ธมฺมํ กายวาจากิลมถสฺี หุตฺวา น ภาสึ, อิทานิ ปน สพฺเพ ชนา สทฺธาภาชนํ อุปเนนฺตุ, ปูเรสฺสามิ เตสํ สงฺกปฺปนฺติ.
อคฺคสาวกยุควณฺณนา
๗๓. โพธิรุกฺขมูเลติ โพธิรุกฺขสฺส อวิทูเร อชปาลนิคฺโรเธ อนฺตรหิโตติ อตฺโถ. เขเม มิคทาเยติ อิสิปตนํ เตน สมเยน เขมํ นาม อุยฺยานํ โหติ, มิคานํ ปน อภยวาสตฺถาย ทินฺนตฺตา มิคทาโยติ วุจฺจติ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘เขเม มิคทาเย’’ติ. ยถา จ วิปสฺสี ภควา, เอวํ อฺเปิ พุทฺธา ปมํ ธมฺมเทสนตฺถาย คจฺฉนฺตา อากาเสน คนฺตฺวา ตตฺเถว โอตรนฺติ. อมฺหากํ ปน ภควา อุปกสฺส อาชีวกสฺส อุปนิสฺสยํ ทิสฺวา – ‘‘อุปโก อิมํ อทฺธานํ ปฏิปนฺโน, โส มํ ทิสฺวา สลฺลปิตฺวา คมิสฺสติ. อถ ปุน นิพฺพินฺทนฺโต อาคมฺม อรหตฺตํ สจฺฉิกริสฺสตี’’ติ ตฺวา อฏฺารสโยชนมคฺคํ ปทสาว อคมาสิ. ทายปาลํ อามนฺเตสีติ ทิสฺวาว ปุนปฺปุนํ โอโลเกตฺวา – ‘‘อยฺโย โน, ภนฺเต, อาคโต’’ติ วตฺวา อุปคตํ อามนฺเตสิ.
๗๕-๖. อนุปุพฺพึ กถนฺติ ทานกถํ, ทานานนฺตรํ สีลํ, สีลานนฺตรํ สคฺคํ, สคฺคานนฺตรํ มคฺคนฺติ เอวํ อนุปฏิปาฏิกถํ กเถสิ. ตตฺถ ทานกถนฺติ อิทํ ทานํ นาม สุขานํ นิทานํ, สมฺปตฺตีนํ มูลํ, โภคานํ ปติฏฺา, วิสมคตสฺส ตาณํ เลณํ คติ ปรายณํ, อิธโลกปรโลเกสุ ทานสทิโส อวสฺสโย ¶ ปติฏฺา อารมฺมณํ ตาณํ เลณํ คติ ปรายณํ นตฺถิ. อิทฺหิ อวสฺสยฏฺเน รตนมยสีหาสนสทิสํ, ปติฏฺานฏฺเน มหาปถวีสทิสํ, อารมฺมณฏฺเน ¶ อาลมฺพนรชฺชุสทิสํ. อิทฺหิ ทุกฺขนิตฺถรณฏฺเน นาวา, สมสฺสาสนฏฺเน สงฺคามสูโร, ภยปริตฺตาณฏฺเน สุสงฺขตนครํ, มจฺเฉรมลาทีหิ อนุปลิตฺตฏฺเน ปทุมํ, เตสํ นิทหนฏฺเน อคฺคิ, ทุราสทฏฺเน ¶ อาสีวิโส, อสนฺตาสนฏฺเน สีโห, พลวนฺตฏฺเน หตฺถี, อภิมงฺคลสมฺมตฏฺเน เสตอุสโภ, เขมนฺตภูมิสมฺปาปนฏฺเน วลาหกอสฺสราชา. ทานฺหิ โลเก สกฺกสมฺปตฺตึ มารสมฺปตฺตึ พฺรหฺมสมฺปตฺตึ จกฺกวตฺติสมฺปตฺตึ สาวกปารมิาณํ ปจฺเจกโพธิาณํ อภิสมฺโพธิาณํ เทตีติ เอวมาทิทานคุณปฏิสํยุตฺตํ กถํ.
ยสฺมา ปน ทานํ ททนฺโต สีลํ สมาทาตุํ สกฺโกติ, ตสฺมา ตทนนฺตรํ สีลกถํ กเถสิ. สีลกถนฺติ สีลํ นาเมตํ อวสฺสโย ปติฏฺา อารมฺมณํ ตาณํ เลณํ คติ ปรายณํ. อิธโลกปรโลกสมฺปตฺตีนฺหิ สีลสทิโส อวสฺสโย ปติฏฺา อารมฺมณํ ตาณํ เลณํ คติ ปรายณํ นตฺถิ, สีลสทิโส อลงฺกาโร นตฺถิ, สีลปุปฺผสทิสํ ปุปฺผํ นตฺถิ, สีลคนฺธสทิโส คนฺโธ นตฺถิ, สีลาลงฺกาเรน หิ อลงฺกตํ สีลกุสุมปิฬนฺธนํ สีลคนฺธานุลิตฺตํ สเทวโกปิ โลโก โอโลเกนฺโต ติตฺตึ น คจฺฉตีติ เอวมาทิสีลคุณปฏิสํยุตฺตํ กถํ.
อิทํ ปน สีลํ นิสฺสาย อยํ สคฺโค ลพฺภตีติ ทสฺเสตุํ สีลานนฺตรํ สคฺคกถํ กเถสิ. สคฺคกถนฺติ อยํ สคฺโค นาม อิฏฺโ กนฺโต มนาโป, นิจฺจเมตฺถ กีฬา, นิจฺจํ สมฺปตฺติโย ลพฺภนฺติ, จาตุมหาราชิกา เทวา นวุติวสฺสสตสหสฺสานิ ทิพฺพสุขํ ทิพฺพสมฺปตฺตึ ปฏิลภนฺติ, ตาวตึสา ติสฺโส จ วสฺสโกฏิโย สฏฺิ จ วสฺสสตสหสฺสานีติ เอวมาทิสคฺคคุณปฏิสํยุตฺตํ กถํ. สคฺคสมฺปตฺตึ กถยนฺตานฺหิ พุทฺธานํ มุขํ นปฺปโหติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ – ‘‘อเนกปริยาเยน โข อหํ, ภิกฺขเว, สคฺคกถํ กเถยฺย’’นฺติอาทิ.
เอวํ สคฺคกถาย ปโลเภตฺวา ปุน หตฺถึ อลงฺกริตฺวา ตสฺส โสณฺฑํ ฉินฺทนฺโต วิย – ‘‘อยมฺปิ สคฺโค อนิจฺโจ อทฺธุโว, น เอตฺถ ฉนฺทราโค ¶ กาตพฺโพ’’ติ ทสฺสนตฺถํ – ‘‘อปฺปสฺสาทา กามา พหุทุกฺขา พหุปายาสา, อาทีนโว เอตฺถ ภิยฺโย’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๒๓๕; ๒.๔๒) นเยน กามานํ อาทีนวํ ¶ โอการํ สํกิเลสํ กเถสิ. ตตฺถ อาทีนโวติ โทโส. โอกาโรติ อวกาโร ลามกภาโว. สํกิเลโสติ เตหิ สตฺตานํ สํสาเร สํกิลิสฺสนํ. ยถาห – ‘‘กิลิสฺสนฺติ วต โภ สตฺตา’’ติ (ม. นิ. ๒.๓๕๑). เอวํ กามาทีนเวน เตชฺชตฺวา เนกฺขมฺเม อานิสํสํ ปกาเสสิ, ปพฺพชฺชาย คุณํ ปกาเสสีติ อตฺโถ. เสสํ อมฺพฏฺสุตฺตวณฺณนายํ วุตฺตนยฺเจว อุตฺตานตฺถฺจ.
๗๗. อลตฺถุนฺติ กถํ อลตฺถุํ? เอหิภิกฺขุภาเวน. ภควา กิร เตสํ อิทฺธิมยปตฺตจีวรสฺสูปนิสฺสยํ โอโลเกนฺโต อเนกาสุ ชาตีสุ จีวรทานาทีนิ ทิสฺวา เอถ ภิกฺขโวติอาทิมาห ¶ . เต ตาวเทว ภณฺฑู กาสายวสนา อฏฺหิ ภิกฺขุปริกฺขาเรหิ สรีรปฏิมุกฺเกเหว วสฺสสติกตฺเถรา วิย ภควนฺตํ นมสฺสมานาว นิสีทึสุ.
สนฺทสฺเสสีติอาทีสุ อิธโลกตฺถํ สนฺทสฺเสสิ, ปรโลกตฺถํ สนฺทสฺเสสิ. อิธโลกตฺถํ ทสฺเสนฺโต อนิจฺจนฺติ ทสฺเสสิ, ทุกฺขนฺติ ทสฺเสสิ, อนตฺตาติ ทสฺเสสิ, ขนฺเธ ทสฺเสสิ, ธาตุโย ทสฺเสสิ, อายตนานิ ทสฺเสสิ, ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ ทสฺเสสิ, รูปกฺขนฺธสฺส อุทยํ ทสฺเสนฺโต ปฺจ ลกฺขณานิ ทสฺเสสิ, ตถา เวทนากฺขนฺธาทีนํ, ตถา วยํ ทสฺเสนฺโตปิ อุทยพฺพยวเสน ปฺาสลกฺขณานิ ทสฺเสสิ, ปรโลกตฺถํ ทสฺเสนฺโต นิรยํ ทสฺเสสิ, ติรจฺฉานโยนึ, เปตฺติวิสยํ, อสุรกายํ, ติณฺณํ กุสลานํ วิปากํ, ฉนฺนํ เทวโลกานํ, นวนฺนํ พฺรหฺมโลกานํ สมฺปตฺตึ ทสฺเสสิ.
สมาทเปสีติ จตุปาริสุทฺธิสีลเตรสธุตงฺคทสกถาวตฺถุอาทิเก กลฺยาณธมฺเม คณฺหาเปสิ.
สมุตฺเตเชสีติ สุฏฺุ อุตฺเตเชสิ, อพฺภุสฺสาเหสิ. อิธโลกตฺถฺเจว ปรโลกตฺถฺจ ตาเสตฺวา ตาเสตฺวา อธิคตํ วิย กตฺวา กเถสิ. ทฺวตฺตึสกมฺมการณปฺจวีสติมหาภยปฺปเภทฺหิ อิธโลกตฺถํ พุทฺเธ ภควติ ตาเสตฺวา ตาเสตฺวา กถยนฺเต ปจฺฉาพาหํ, คาฬฺหพนฺธนํ พนฺธิตฺวา จาตุมหาปเถ ปหารสเตน ตาเฬตฺวา ทกฺขิณทฺวาเรน ¶ นิยฺยมาโน วิย อาฆาตนภณฺฑิกาย ปิตสีโส วิย สูเล อุตฺตาสิโต วิย มตฺตหตฺถินา มทฺทิยมาโน วิย จ สํวิคฺโค โหติ. ปรโลกตฺถฺจ ¶ กถยนฺเต นิรยาทีสุ นิพฺพตฺโต วิย เทวโลกสมฺปตฺตึ อนุภวมาโน วิย จ โหติ.
สมฺปหํเสสีติ ปฏิลทฺธคุเณน โจเทสิ, มหานิสํสํ กตฺวา กเถสีติ อตฺโถ.
สงฺขารานํ อาทีนวนฺติ เหฏฺา ปมมคฺคาธิคมตฺถํ กามานํ อาทีนวํ กเถสิ, อิธ ปน อุปริมคฺคาธิคมตฺถํ – ‘‘อนิจฺจา, ภิกฺขเว, สงฺขารา อทฺธุวา อนสฺสาสิกา, ยาวฺจิทํ, ภิกฺขเว, อลเมว สพฺพสงฺขาเรสุ นิพฺพินฺทิตุํ อลํ วิรชฺชิตุํ อลํ วิมุจฺจิตุ’’นฺติอาทินา (อ. นิ. ๗.๖๖; สํ. นิ. ๒.๑๓๔) นเยน สงฺขารานํ อาทีนวฺจ ลามกภาวฺจ ตปฺปจฺจยฺจ กิลมถํ ปกาเสสิ. ยถา จ ตตฺถ เนกฺขมฺเม, เอวมิธ – ‘‘สนฺตมิทํ, ภิกฺขเว, นิพฺพานํ นาม ปณีตํ ตาณํ เลณ’’นฺติอาทินา นเยน นิพฺพาเน อานิสํสํ ปกาเสสิ.
มหาชนกายปพฺพชฺชาวณฺณนา
๗๘. มหาชนกาโยติ ¶ เตสํเยว ทฺวินฺนํ กุมารานํ อุปฏฺากชนกาโยติ.
๘๐. ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉาม, ธมฺมฺจาติ สงฺฆสฺส อปริปุณฺณตฺตา ทฺเววาจิกเมว สรณมคมํสุ.
๘๑. อลตฺถุนฺติ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว เอหิภิกฺขุภาเวเนว อลตฺถุํ. อิโต อนนฺตเร ปพฺพชิตวาเรปิ เอเสว นโย.
จาริกาอนุชานนวณฺณนา
๘๕. ปริวิตกฺโก อุทปาทีติ กทา อุทปาทิ? สมฺโพธิโต สตฺต สํวจฺฉรานิ สตฺต มาเส สตฺต ทิวเส อติกฺกมิตฺวา อุทปาทิ. ภควา กิร ปิตุสงฺคหํ กโรนฺโต วิหาสิ. ราชาปิ จินฺเตสิ – ‘‘มยฺหํ เชฏฺปุตฺโต นิกฺขมิตฺวา พุทฺโธ ชาโต, ทุติยปุตฺโต เม นิกฺขมิตฺวา อคฺคสาวโก ชาโต, ปุโรหิตปุตฺโต ทุติยอคฺคสาวโก, อิเม จ อวเสสา ภิกฺขู คิหิกาเลปิ มยฺหํ ปุตฺตเมว ปริวาเรตฺวา วิจรึสุ. อิเม สพฺเพ อิทานิปิ ¶ มยฺหํเยว ภาโร, อหเมว จ เน จตูหิ ปจฺจเยหิ อุปฏฺหิสฺสามิ, อฺเสํ โอกาสํ น ทสฺสามี’’ติ วิหารทฺวารโกฏฺกโต ปฏฺาย ยาว ราชเคหทฺวารา อุภยโต ขทิรปาการํ การาเปตฺวา กิลฺเชหิ ฉาทาเปตฺวา วตฺเถหิ ปฏิจฺฉาทาเปตฺวา อุปริ จ ฉาทาเปตฺวา สุวณฺณตารกวิจิตฺตํ สโมลมฺพิตตาลกฺขนฺธมตฺตํ วิวิธปุปฺผทามวิตานํ การาเปตฺวา เหฏฺา ภูมิยํ จิตฺตตฺถรเณหิ ¶ สนฺถราเปตฺวา อนฺโต อุโภสุ ปสฺเสสุ มาลาวจฺฉเก ปุณฺณฆเฏ, สกลมคฺควาสตฺถาย จ คนฺธนฺตเร ปุปฺผานิ ปุปฺผนฺตเร คนฺเธ จ ปาเปตฺวา ภควโต กาลํ อาโรจาเปสิ.
ภควา ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต อนฺโตสาณิยาว ราชเคหํคนฺตฺวา ภตฺตกิจฺจํ กตฺวา วิหารํ ปจฺจาคจฺฉติ. อฺโ โกจิ ทฏฺุมฺปิ น ลภติ, กุโต ปน ภิกฺขํ วา ทาตุํ, ปูชํ วา กาตุํ, ธมฺมํ วา โสตุํ. นาครา จินฺเตสุํ – ‘‘อชฺช สตฺถุ โลเก อุปฺปนฺนสฺส สตฺตมาสาธิกานิ สตฺตสํวจฺฉรานิ, มยฺจ ทฏฺุมฺปิ น ลภาม, ปเคว ภิกฺขํ วา ทาตุํ, ปูชํ วา กาตุํ, ธมฺมํ วา โสตุํ. ราชา – ‘มยฺหเมว พุทฺโธ, มยฺหเมว ธมฺโม, มยฺหเมว สงฺโฆ’ติ มมายิตฺวา สยเมว อุปฏฺหิ. สตฺถา จ อุปฺปชฺชมาโน สเทวกสฺส โลกสฺส อตฺถาย หิตาย อุปฺปนฺโน. น หิ รฺโเยว ¶ นิรโย อุณฺโห อสฺส, อฺเสํ นีลุปฺปลวนสทิโส. ตสฺมา ราชานํ วทาม. สเจ โน สตฺถารํ เทติ, อิจฺเจตํ กุสลํ. โน เจ เทติ, รฺา สทฺธึ ยุชฺฌิตฺวาปิ สงฺฆํ คเหตฺวา ทานาทีนิ ปฺุานิ กโรม. น สกฺกา โข ปน สุทฺธนาคเรเหว เอวํ กาตุํ, เอกํ เชฏฺปุริสมฺปิ คณฺหามา’’ติ.
เต เสนาปตึ อุปสงฺกมิตฺวา ตสฺเสตมตฺถํ อาโรเจตฺวา – ‘‘สามิ, กึ อมฺหากํ ปกฺโข โหสิ, อุทาหุ รฺโ’’ติ อาหํสุ. โส – ‘‘อหํ ตุมฺหากํ ปกฺโข โหมิ, อปิ จ โข ปน ปมทิวโส มยฺหํ ทาตพฺโพ’’ติ. เต สมฺปฏิจฺฉึสุ. โส ราชานํ อุปสงฺกมิตฺวา – ‘‘นาครา, เทว, ตุมฺหากํ กุปิตา’’ติ อาห. กิมตฺถํ ตาตาติ? สตฺถารํ กิร ตุมฺเหเยว อุปฏฺหถ, อมฺเห น ลภามาติ. สเจ อิทานิปิ ลภนฺติ, น กุปฺปนฺติ, อลภนฺตา ตุมฺเหหิ สทฺธึ ยุชฺฌิตุกามา เทวาติ. ยุชฺฌามิ, ตาต, นาหํ ภิกฺขุสงฺฆํ เทมีติ. เทว ตุมฺหากํ ทาสา ตุมฺเหหิ สทฺธึ ยุชฺฌามาติ วทนฺติ, ตุมฺเห กํ คณฺหิตฺวา ยุชฺฌิสฺสถาติ? นนุ ตฺวํ เสนาปตีติ? นาคเรหิ วินา น ¶ สมตฺโถ อหํ เทวาติ. ตโต ราชา – ‘‘พลวนฺโต นาครา, เสนาปติปิ เตสฺเว ปกฺโข’’ติ ตฺวา ‘‘อฺานิปิ สตฺตมาสาธิกานิ สตฺตสํวจฺฉรานิ มยฺหํ ภิกฺขุสงฺฆํ ททนฺตู’’ติ อาห. นาครา ¶ น สมฺปฏิจฺฉึสุ. ราชา – ‘‘ฉ วสฺสานิ, ปฺจ, จตฺตาริ, ตีณิ, ทฺเว, เอกวสฺส’’นฺติ หาเปสิ. เอวํ หาเปนฺเตปิ น สมฺปฏิจฺฉึสุ. อฺเ สตฺต ทิวเส ยาจิ. นาครา – ‘‘อติกกฺขฬํ ทานิ รฺา สทฺธึ กาตุํ น วฏฺฏตี’’ติ อนุชานึสุ.
ราชา สตฺตมาสาธิกานํ สตฺตนฺนํ สํวจฺฉรานํ สชฺชิตํ ทานมุขํ สตฺตนฺนเมว ทิวสานํ วิสฺสชฺเชตฺวา ฉ ทิวเส เกสฺจิ อปสฺสนฺตานํเยว ทานํ ทตฺวา สตฺตเม ทิวเส นาคเร ปกฺโกสาเปตฺวา – ‘‘สกฺขิสฺสถ, ตาต, เอวรูปํ ทานํ ทาตุ’’นฺติ อาห. เตปิ – ‘‘นนุ อมฺเหเยว นิสฺสาย ตํ เทวสฺส อุปฺปนฺน’’นฺติ วตฺวา – ‘‘สกฺขิสฺสามา’’ติ อาหํสุ. ราชา ปิฏฺิหตฺเถน อสฺสูนิ ปฺุฉมาโน ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา – ‘‘ภนฺเต, อหํ อฏฺสฏฺิภิกฺขุสตสหสฺสํ อฺสฺส วารํ อกตฺวา ยาวชีวํ จตูหิ ปจฺจเยหิ อุปฏฺหิสฺสามีติ จินฺเตสึ. นาครา น ทานิ เม อนฺุาตา, นาครา หิ ‘มยํ ทานํ ทาตุํ น ลภามา’ติ กุปฺปนฺติ. ภควา สฺเว ปฏฺาย เตสํ อนุคฺคหํ กโรถา’’ติ อาห.
อถ ทุติยทิวเส เสนาปติ มหาทานํ สชฺเชตฺวา – ‘‘อชฺช ยถา อฺโ โกจิ เอกภิกฺขมฺปิ น เทติ, เอวํ รกฺขถา’’ติ สมนฺตา ปุริเส เปสิ. ตํ ทิวสํ เสฏฺิภริยา โรทมานา ธีตรํ อาห – ‘‘สเจ, อมฺม, ตว ปิตา ชีเวยฺย, อชฺชาหํ ปมํ ทสพลํ โภเชยฺย’’นฺติ ¶ . สา ตํ อาห – ‘‘อมฺม, มา จินฺตยิ, อหํ ตถา กริสฺสามิ ยถา พุทฺธปฺปมุโข ภิกฺขุสงฺโฆ ปมํ อมฺหากํ ภิกฺขํ ปริภฺุชิสฺสตี’’ติ. ตโต สตสหสฺสคฺฆนิกาย สุวณฺณปาติยา นิรุทกปายาสสฺส ปูเรตฺวา สปฺปิมธุสกฺกราทีหิ อภิสงฺขริตฺวา อฺาย ปาติยา ปฏิกุชฺชิตฺวา ตํ สุมนมาลาคุเฬหิ ปริกฺขิปิตฺวา มาลาคุฬสทิสํ กตฺวา ภควโต คามํ ปวิสนเวลาย สยเมว อุกฺขิปิตฺวา ทาสิคณปริวุตา นครา นิกฺขมิ. อนฺตรามคฺเค เสนาปติอุปฏฺากา – ‘‘อมฺม, มา อิโต อคมา’’ติ วทนฺติ. มหาปฺุา นาม มนาปกถา โหนฺติ, น จ เตสํ ปุนปฺปุนํ ภณนฺตานํ กถา ปฏิกฺขิปิตุํ สกฺกา โหติ. สา – ‘‘จูฬปิตา มหาปิตา มาตุลา กิสฺส ตุมฺเห คนฺตุํ น เทถา’’ติ อาห. เสนาปตินา ¶ – ‘‘อฺสฺส กสฺสจิ ขาทนียโภชนียํ ทาตุํ มา เทถา’’ติ ปิตมฺห อมฺมาติ. กึ ปน เม หตฺเถ ขาทนียํ โภชนียํ ปสฺสถาติ? มาลาคุฬํ ปสฺสามาติ ¶ . กึ ตุมฺหากํ เสนาปติ มาลาคุฬปูชมฺปิ กาตุํ น เทตีติ? เทติ, อมฺมาติ. เตน หิ, อเปถ, อเปถาติ ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา มาลาคุฬํ คณฺหาเปถ ภควาติ อาห. ภควา เอกํ เสนาปติสฺสุปฏฺากํ โอโลเกตฺวา มาลาคุฬํ คณฺหาเปสิ. สา ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา – ‘‘ภควา, ภวาภเว นิพฺพตฺติยํ เม สติ ปริตสฺสนชีวิตํ นาม มา โหตุ, อยํ สุมนมาลา วิย นิพฺพตฺตนิพฺพตฺตฏฺาเน ปิยาว โหมิ, นาเมน จ สุมนา เยวา’’ติ ปตฺถนํ กตฺวา สตฺถารา – ‘‘สุขินี โหหี’’ติ วุตฺตา วนฺทิตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ.
ภควา เสนาปติสฺส เคหํ คนฺตฺวา ปฺตฺตาสเน นิสีทิ. เสนาปติ ยาคุํ คเหตฺวา อุปคฺฉิ, สตฺถา ปตฺตํ ปิทหิ. นิสินฺโน, ภนฺเต, ภิกฺขุสงฺโฆติ. อตฺถิ โน เอโก อนฺตรา ปิณฺฑปาโต ลทฺโธติ. โส มาลํ อปเนตฺวา ปิณฺฑปาตํ อทฺทส. จูฬุปฏฺาโก อาห – ‘‘สามิ, มาลาติ มํ วตฺวา มาตุคาโม วฺเจสี’’ติ. ปายาโส ภควนฺตํ อาทึ กตฺวา สพฺเพสํ ภิกฺขูนํ ปโหติ. เสนาปติปิ อตฺตโน เทยฺยธมฺมํ อทาสิ. สตฺถา ภตฺตกิจฺจํ กตฺวา มงฺคลํ วตฺวา ปกฺกามิ. เสนาปติ – ‘‘กา นาม สา ปิณฺฑปาตมทาสี’’ติ ปุจฺฉิ. เสฏฺิธีตา, สามีติ. สปฺปฺา สา อิตฺถี, เอวรูปาย ฆเร วสนฺติยา ปุริสสฺส สคฺคสมฺปตฺติ นาม น ทุลฺลภาติ ตํ อาเนตฺวา เชฏฺิกฏฺาเน เปสิ.
ปุนทิวเส นาครา ทานมทํสุ, ปุนทิวเส ราชาติ เอกนฺตริกาย ทานํ ทาตุํ อารภึสุ. ราชาปิ จรปุริเส เปตฺวา นาคเรหิ ทินฺนทานโต อติเรกตรํ เทติ, นาคราปิ ตเถว กตฺวา รฺา ทินฺนทานโต อติเรกตรํ. ราชเคเห นาฏกิตฺถิโย ทหรสามเณเร วทนฺติ – ‘‘คณฺหถ, ตาตา, น คหปติกานํ คตฺตวตฺถาทีสุ ปฺุฉิตฺวา พาฬทารกานํ เขฬสิงฺฆาณิกาทิโธวนหตฺเถหิ กตํ ¶ , สุจึ ปณีตํ กต’’นฺติ. ปุนทิวเส นาคราปิ ททมานา วทนฺติ – ‘‘คณฺหถ, ตาตา, น นครคามนิคมาทีสุ สงฺกฑฺฒิตตณฺฑุลขีรทธิสปฺปิอาทีหิ, น อฺเสํ ชงฺฆสีสปิฏฺิอาทีนิ ¶ ภฺชิตฺวา อาหราปิเตหิ กตํ, ชาติสปฺปิขีราทีหิเยว กต’’นฺติ. เอวํ สตฺตสุ สํวจฺฉเรสุ สตฺตสุ มาเสสุ สตฺตสุ ทิวเสสุ จ อติกฺกนฺเตสุ อถ ภควโต อยํ วิตกฺโก อุทปาทิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘สมฺโพธิโต สตฺต สํวจฺฉรานิ สตฺต มาสานิ สตฺต ทิวสานิ อติกฺกมิตฺวา อุทปาที’’ติ.
๘๗. อฺตโร ¶ มหาพฺรหฺมาติ ธมฺมเทสนํ อายาจิตพฺรหฺมาว.
๘๙. จตุราสีติ อาวาสสหสฺสานีติ จตุราสีติ วิหารสหสฺสานิ. เต สพฺเพปิ ทฺวาทสสหสฺสภิกฺขุคณฺหนกา มหาวิหารา อภยคิริเจติยปพฺพตจิตฺตลปพฺพตมหาวิหารสทิสาว อเหสุํ.
๙๐. ขนฺตี ปรมํ ตโปติ อธิวาสนขนฺติ นาม ปรมํ ตโป. ติติกฺขาติ ขนฺติยา เอว เววจนํ. ติติกฺขา สงฺขาตา อธิวาสนขนฺติ อุตฺตมํ ตโปติ อตฺโถ. นิพฺพานํ ปรมนฺติ สพฺพากาเรน ปน นิพฺพานํ ปรมนฺติ วทนฺติ พุทฺธา. น หิ ปพฺพชิโต ปรูปฆาตีติ โย อธิวาสนขนฺติวิรหิตตฺตา ปรํ อุปฆาเตติ พาเธติ หึสติ, โส ปพฺพชิโต นาม น โหติ. จตุตฺถปาโท ปน ตสฺเสว เววจนํ. ‘‘น หิ ปพฺพชิโต’’ติ เอตสฺส หิ น สมโณ โหตีติ เววจนํ. ปรูปฆาตีติ เอตสฺส ปรํ วิเหยนฺโตติ เววจนํ. อถ วา ปรูปฆาตีติ สีลูปฆาตี. สีลฺหิ อุตฺตมฏฺเน ปรนฺติ วุจฺจติ. โย จ สมโณ ปรํ ยํ กฺจิ สตฺตํ วิเหยนฺโต ปรูปฆาตี โหติ, อตฺตโน สีลํ วินาสโก, โส ปพฺพชิโต นาม น โหตีติ อตฺโถ. อถวา โย อธิวาสนขนฺติยา อภาวโต ปรูปฆาตี โหติ, ปรํ อนฺตมโส ฑํสมกสมฺปิ สฺจิจฺจ ชีวิตา โวโรเปติ, โส น หิ ปพฺพชิโต. กึ การณา? มลสฺส อปพฺพาชิตตฺตา. ‘‘ปพฺพาชยมตฺตโน มลํ, ตสฺมา ปพฺพชิโตติ วุจฺจตี’’ติ (ธ. ป. ๓๘๘) อิทฺหิ ปพฺพชิตลกฺขณํ. โยปิ น เหว โข อุปฆาเตติ, น มาเรติ, อปิ จ ทณฺฑาทีหิ วิเหเติ, โส ปรํ วิเหยนฺโต สมโณ น โหติ. กึ การณา? วิเหสาย อสมิตตฺตา. ‘‘สมิตตฺตา หิ ปาปานํ ¶ , สมโณติ ปวุจฺจตี’’ติ (ธ. ป. ๒๖๕) อิทฺหิ สมณลกฺขณํ.
ทุติยคาถาย สพฺพปาปสฺสาติ สพฺพากุสลสฺส. อกรณนฺติ อนุปฺปาทนํ. กุสลสฺสาติ จตุภูมิกกุสลสฺส. อุปสมฺปทาติ ปฏิลาโภ. สจิตฺตปริโยทปนนฺติ อตฺตโน จิตฺตโชตนํ, ตํ ปน ¶ อรหตฺเตน โหติ. อิติ สีลสํวเรน สพฺพปาปํ ปหาย สมถวิปสฺสนาหิ กุสลํ สมฺปาเทตฺวา อรหตฺตผเลน จิตฺตํ ปริโยทาเปตพฺพนฺติ เอตํ พุทฺธานํ สาสนํ โอวาโท อนุสิฏฺี ติ.
ตติยคาถาย ¶ อนูปวาโทติ วาจาย กสฺสจิ อนุปวทนํ. อนูปฆาโตติ กาเยน อุปฆาตสฺส อกรณํ. ปาติโมกฺเขติ ยํ ตํ ปอติโมกฺขํ, อติปโมกฺขํ, อุตฺตมสีลํ, ปาติ วา อคติวิเสเสหิ โมกฺเขติ ทุคฺคติภเยหิ, โย วา นํ ปาติ, ตํ โมกฺเขตีติ ‘‘ปาติโมกฺข’’นฺติ วุจฺจติ. ตสฺมึ ปาติโมกฺเข จ สํวโร. มตฺตฺุตาติ ปฏิคฺคหณปริโภควเสน ปมาณฺุตา. ปนฺตฺจ สยนาสนนฺติ สยนาสนฺจ สงฺฆฏฺฏนวิรหิตนฺติ อตฺโถ. ตตฺถ ทฺวีหิเยว ปจฺจเยหิ จตุปจฺจยสนฺโตโส ทีปิโต โหตีติ เวทิตพฺโพ. เอตํ พุทฺธาน สาสนนฺติ เอตํ ปรสฺส อนุปวทนํ อนุปฆาตนํ ปาติโมกฺขสํวโร ปฏิคฺคหณปริโภเคสุ มตฺตฺุตา อฏฺสมาปตฺติวสิภาวาย วิวิตฺตเสนาสนเสวนฺจ พุทฺธานํ สาสนํ โอวาโท อนุสิฏฺีติ. อิมา ปน สพฺพพุทฺธานํ ปาติโมกฺขุทฺเทสคาถา โหนฺตีติ เวทิตพฺพา.
เทวตาโรจนวณฺณนา
๙๑. เอตฺตาวตา จ อิมินา วิปสฺสิสฺส ภควโต อปทานานุสาเรน วิตฺถารกถเนน – ‘‘ตถาคตสฺเสเวสา, ภิกฺขเว, ธมฺมธาตุ สุปฺปฏิวิทฺธา’’ติ เอวํ วุตฺตาย ธมฺมธาตุยา สุปฺปฏิวิทฺธภาวํ ปกาเสตฺวา อิทานิ – ‘‘เทวตาปิ ตถาคตสฺส เอตมตฺถํ อาโรเจสุ’’นฺติ วุตฺตํ เทวตาโรจนํ ปกาเสตุํ เอกมิทาหนฺติอาทิมาห.
ตตฺถ สุภควเนติ เอวํนามเก วเน. สาลราชมูเลติ วนปฺปติเชฏฺกสฺส มูเล. กามจฺฉนฺทํ วิราเชตฺวาติ อนาคามิมคฺเคน มูลสมุคฺฆาตวเสน วิราเชตฺวา. ยถา จ วิปสฺสิสฺส, เอวํ เสสพุทฺธานมฺปิ สาสเน วุตฺถพฺรหฺมจริยา เทวตา อาโรจยึสุ, ปาฬิ ปน วิปสฺสิสฺส ¶ เจว อมฺหากฺจ ภควโต วเสน อาคตา.
ตตฺถ อตฺตโน สมฺปตฺติยา น หายนฺติ, น วิหายนฺตีติ อวิหา. น กฺจิ สตฺตํ ตปนฺตีติ อตปฺปา. สุนฺทรทสฺสนา อภิรูปา ปาสาทิกาติ สุทสฺสา. สุฏฺุ ปสฺสนฺติ, สุนฺทรเมเตสํ วา ทสฺสนนฺติ สุทสฺสี. สพฺเพเหว จ สคุเณหิ ภวสมฺปตฺติยา จ เชฏฺา, นตฺเถตฺถ กนิฏฺาติ อกนิฏฺา.
อิธ ¶ ¶ ตฺวา ภาณวารา สโมธาเนตพฺพา. อิมสฺมิฺหิ สุตฺเต วิปสฺสิสฺส ภควโต อปทานวเสน ตโย ภาณวารา วุตฺตา. ยถา จ วิปสฺสิสฺส, เอวํ สิขีอาทีนมฺปิ อปทานวเสน วุตฺตาว. ปาฬิ ปน สงฺขิตฺตา. อิติ สตฺตนฺนํ พุทฺธานํ วเสน อมฺหากํ ภควตา เอกวีสติ ภาณวารา กถิตา. ตถา อวิเหหิ. ตถา อตปฺเปหิ. ตถา สุทสฺเสหิ. ตถา สุทสฺสีหิ. ตถา อกนิฏฺเหีติ สพฺพมฺปิ ฉพฺพีสติภาณวารสตํ โหติ. เตปิฏเก พุทฺธวจเน อฺํ สุตฺตํ ฉพฺพีสติภาณวารสตปริมาณํ นาม นตฺถิ, สุตฺตนฺตราชา นาม อยํ สุตฺตนฺโตติ เวทิตพฺโพ. อิโต ปรํ อนุสนฺธิทฺวยมฺปิ นิยฺยาเตนฺโต อิติ โข ภิกฺขเวติอาทิมาห. ตํ สพฺพํ อุตฺตานเมวาติ.
อิติ สุมงฺคลวิลาสินิยา ทีฆนิกายฏฺกถายํ
มหาปทานสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.