📜

๖. มหาโควินฺทสุตฺตวณฺณนา

๒๙๓. เอวํเม สุตนฺติ มหาโควินฺทสุตฺตํ. ตตฺรายมนุตฺตานปทวณฺณนา – ปฺจสิโขติ ปฺจจูโฬ ปฺจกุณฺฑลิโก. โส กิร มนุสฺสปเถ ปุฺกมฺมกรณกาเล ทหโร ปฺจจูฬกทารกกาเล วจฺฉปาลกเชฏฺโก หุตฺวา อฺเปิ ทารเก คเหตฺวา พหิคาเม จตุมคฺคฏฺาเนสุ สาลํ กโรนฺโต โปกฺขรณึ ขณนฺโต เสตุํ พนฺธนฺโต วิสมํ มคฺคํ สมํ กโรนฺโต ยานานํ อกฺขปฏิฆาตนรุกฺเข หรนฺโตติ เอวรูปานิ ปุฺานิ กโรนฺโต วิจริตฺวา ทหโรว กาลมกาสิ. ตสฺส โส อตฺตภาโว อิฏฺโ กนฺโต มนาโป อโหสิ. โส กาลํ กตฺวา จาตุมหาราชิกเทวโลเก นวุติวสฺสสตสหสฺสปฺปมาณํ อายุํ คเหตฺวา นิพฺพตฺติ. ตสฺส ติคาวุตปฺปมาโณ สุวณฺณกฺขนฺธสทิโส อตฺตภาโว อโหสิ. โส สกฏสหสฺสมตฺตํ อาภรณํ ปสาเธตฺวา นวกุมฺภมตฺเต คนฺเธ วิลิมฺปิตฺวา ทิพฺพรตฺตวตฺถธโร รตฺตสุวณฺณกณฺณิกํ ปิฬนฺธิตฺวา ปฺจหิ กุณฺฑลเกหิ ปิฏฺิยํ วตฺตมาเนหิ ปฺจจูฬกทารกปริหาเรเนว วิจรติ. เตเนตํ ‘‘ปฺจสิโข’’ ตฺเวว สฺชานนฺติ.

อภิกฺกนฺตาย รตฺติยาติ อภิกฺกนฺตาย ขีณาย รตฺติยา, เอกโกฏฺาสํ อตีตายาติ อตฺโถ. อภิกฺกนฺตวณฺโณติ อติอิฏฺกนฺตมนาปวณฺโณ. ปกติยาปิ เหส กนฺตวณฺโณ, อลงฺกริตฺวา อาคตตฺตา ปน อภิกฺกนฺตวณฺโณ อโหสิ. เกวลกปฺปนฺติ อนวเสสํ สมนฺตโต. อนวเสสตฺโถ เอตฺถ เกวลสทฺโท. เกวลปริปุณฺณนฺติ เอตฺถ วิย. สมนฺตโต อตฺโถ กปฺปสทฺโท, เกวลกปฺปํ เชตวนนฺติอาทีสุ วิย. โอภาเสตฺวาติ อาภาย ผริตฺวา, จนฺทิมา วิย สูริโย วิย จ เอโกภาสํ เอกปชฺโชตํ กริตฺวาติ อตฺโถ.

เทวสภาวณฺณนา

๒๙๔. สุธมฺมายํ สภายนฺติ สุธมฺมาย นาม อิตฺถิยา รตนมตฺตกณฺณิกรุกฺขนิสฺสนฺเทน นิพฺพตฺตสภายํ . ตสฺสา กิร ผลิกมยา ภูมิ, มณิมยา อาณิโย , สุวณฺณมยา ถมฺภา, รชตมยา ถมฺภฆฏิกา จ สงฺฆาตา จ, ปวาฬมยานิ วาฬรูปานิ, สตฺตรตนมยา โคปานสิโย จ ปกฺขปาสกา จ มุขวฏฺฏิ จ, อินฺทนีลอิฏฺกาหิ ฉทนํ, โสวณฺณมยํ ฉทนปีํ, รชตมยา ถูปิกา, อายามโต จ วิตฺถารโต จ ตีณิ โยชนสตานิ, ปริกฺเขปโต นวโยชนสตานิ, อุพฺเพธโต ปฺจโยชนสตานิ, เอวรูปายํ สุธมฺมายํ สภายํ.

ธตรฏฺโติอาทีสุ ธตรฏฺโ คนฺธพฺพราชา คนฺธพฺพเทวตานํ โกฏิสตสหสฺเสน ปริวุโต โกฏิสตสหสฺสสุวณฺณมยานิ ผลกานิ จ สุวณฺณสตฺติโย จ คาหาเปตฺวา ปุรตฺถิมาย ทิสาย ปจฺฉิมาภิมุโข ทฺวีสุ เทวโลเกสุ เทวตา ปุรโต กตฺวา นิสินฺโน.

วิรูฬฺหโก กุมฺภณฺฑราชา กุมฺภณฺฑเทวตานํ โกฏิสตสหสฺเสน ปริวุโต โกฏิสตสหสฺสรชตมยานิ ผลกานิ จ สุวณฺณสตฺติโย จ คาหาเปตฺวา ทกฺขิณาย ทิสาย อุตฺตราภิมุโข ทฺวีสุ เทวโลเกสุ เทวตา ปุรโต กตฺวา นิสินฺโน.

วิรูปกฺโข นาคราชา นาคานํ โกฏิสตสหสฺเสน ปริวุโต โกฏิสตสหสฺสมณิมยานิ มหาผลกานิ จ สุวณฺณสตฺติโย จ คาหาเปตฺวา ปจฺฉิมาย ทิสาย ปุรตฺถิมาภิมุโข ทฺวีสุ เทวโลเกสุ เทวตา ปุรโต กตฺวา นิสินฺโน.

เวสฺสวโณ ยกฺขราชา ยกฺขานํ โกฏิสตสหสฺเสน ปริวุโต โกฏิสตสหสฺสปวาฬมยานิ มหาผลกานิ จ สุวณฺณสตฺติโย จ คาหาเปตฺวา อุตฺตราย ทิสาย ทกฺขิณาภิมุโข ทฺวีสุ เทวโลเกสุ เทวตา ปุรโต กตฺวา นิสินฺโนติ เวทิตพฺโพ.

อถ ปจฺฉา อมฺหากํ อาสนํ โหตีติ เตสํ ปจฺฉโต อมฺหากํ นิสีทิตุํ โอกาโส ปาปุณาติ. ตโต ปรํ ปวิสิตุํ วา ปสฺสิตุํ วา น ลภาม. สนฺนิปาตการณํ ปเนตฺถ ปุพฺเพ วุตฺตํ จตุพฺพิธเมว. เตสุ วสฺสูปนายิกสงฺคโห วิตฺถาริโต. ยถา ปน วสฺสูปนายิกาย, เอวํ มหาปวารณายปิ ปุณฺณมทิวเส สนฺนิปติตฺวา ‘‘อชฺช กตฺถ คนฺตฺวา กสฺส สนฺติเก ปวาเรสฺสามา’’ติ มนฺเตนฺติ. ตตฺถ สกฺโก เทวานมินฺโท เยภุยฺเยน ปิยงฺคุทีปมหาวิหารสฺมึเยว ปวาเรติ. เสสา เทวตา ปาริจฺฉตฺตกาทีนิ ทิพฺพปุปฺผานิ เจว ทิพฺพจนฺทนจุณฺณานิ จ คเหตฺวา อตฺตโน อตฺตโน มนาปฏฺานเมว คนฺตฺวา ปวาเรนฺติ. เอวํ ปวารณสงฺคหตฺถาย สนฺนิปตนฺติ .

เทวโลเก ปน อาสาวตี นาม ลตา อตฺถิ. สา ปุปฺผิสฺสตีติ เทวา วสฺสสหสฺสํ อุปฏฺานํ คจฺฉนฺติ. ปาริจฺฉตฺตเก ปุปฺผมาเน เอกวสฺสํ อุปฏฺานํ คจฺฉนฺติ. เต ตสฺส ปณฺฑุปลาสาทิภาวโต ปฏฺาย อตฺตมนา โหนฺติ. ยถาห –

‘‘ยสฺมึ, ภิกฺขเว, สมเย เทวานํ ตาวตึสานํ ปาริจฺฉตฺตโก โกวิฬาโร ปณฺฑุปลาโส โหติ, อตฺตมนา, ภิกฺขเว, เทวา ตาวตึสา ตสฺมึ สมเย โหนฺติ – ‘ปณฺฑุปลาโส โข ทานิ ปาริจฺฉตฺตโก โกวิฬาโร, น จิรสฺเสว ปนฺนปลาโส ภวิสฺสตี’ติ. ยสฺมึ, ภิกฺขเว, สมเย เทวานํ ตาวตึสานํ ปาริจฺฉตฺตโก โกวิฬาโร ปนฺนปลาโส โหติ, ขารกชาโต โหติ, ชาลกชาโต โหติ, กุฏุมลกชาโต โหติ, โกรกชาโต โหติ. อตฺตมนา, ภิกฺขเว, เทวา ตาวตึสา ตสฺมึ สมเย โหนฺติ – ‘โกรกชาโต ทานิ ปาริจฺฉตฺตโก โกวิฬาโร น จิรสฺเสว สพฺพปาลิผุลฺโล ภวิสฺสตี’ติ (อ. นิ. ๗.๖๙).

สพฺพปาลิผุลฺลสฺส โข ปน, ภิกฺขเว, ปาริจฺฉตฺตกสฺส โกวิฬารสฺส สมนฺตา ปฺาส โยชนานิ อาภาย ผุฏํ โหติ, อนุวาตํ โยชนสตํ คนฺโธ คจฺฉติ. อยมานุภาโว ปาริจฺฉตฺตกสฺส โกวิฬารสฺสา’’ติ.

ปุปฺผิเต ปาริจฺฉตฺตเก อาโรหณกิจฺจํ วา องฺกุสกํ คเหตฺวา นมนกิจฺจํ วา ปุปฺผาหรณตฺถํ จงฺโกฏกกิจฺจํ วา นตฺถิ, กนฺตนกวาโต อุฏฺหิตฺวา ปุปฺผานิ วณฺฏโต กนฺตติ, สมฺปฏิจฺฉนกวาโต สมฺปฏิจฺฉติ, ปเวสนกวาโต สุธมฺมํ เทวสภํ ปเวเสติ, สมฺมชฺชนกวาโต ปุราณปุปฺผานิ นีหรติ, สนฺถรณกวาโต ปตฺตกณฺณิกเกสรานิ นจฺจนฺโต สนฺถรติ, มชฺฌฏฺาเน ธมฺมาสนํ โหติ. โยชนปฺปมาโณ รตนปลฺลงฺโก อุปริ ติโยชเนน เสตจฺฉตฺเตน ธารยมาเนน, ตทนนฺตรํ สกฺกสฺส เทวรฺโ อาสนํ อตฺถริยติ. ตโต เตตฺตึสาย เทวปุตฺตานํ, ตโต อฺาสํ มเหสกฺขเทวตานํ. อฺตรเทวตานํ ปน ปุปฺผกณฺณิกาว อาสนํ โหติ.

เทวา เทวสภํ ปวิสิตฺวา นิสีทนฺติ. ตโต ปุปฺเผหิ เรณุวฏฺฏิ อุคฺคนฺตฺวา อุปริ กณฺณิกํ อาหจฺจ นิปตมานา เทวตานํ ติคาวุตปฺปมาณํ อตฺตภาวํ ลาขารสปริกมฺมสชฺชิตํ วิย กโรติ. เตสํ สา กีฬา จตูหิ มาเสหิ ปริโยสานํ คจฺฉติ. เอวํ ปาริจฺฉตฺตกกีฬานุภวนตฺถาย สนฺนิปตนฺติ.

มาสสฺส ปน อฏฺทิวเส เทวโลเก มหาธมฺมสวนํ ฆุสติ. ตตฺถ สุธมฺมายํ เทวสภายํ สนงฺกุมาโร วา มหาพฺรหฺมา, สกฺโก วา เทวานมินฺโท, ธมฺมกถิกภิกฺขุ วา, อฺตโร วา ธมฺมกถิโก เทวปุตฺโต ธมฺมกถํ กเถติ. อฏฺมิยํ ปกฺขสฺส จตุนฺนํ มหาราชานํ อมจฺจา, จาตุทฺทสิยํ ปุตฺตา, ปนฺนรเส สยํ จตฺตาโร มหาราชาโน นิกฺขมิตฺวา สุวณฺณปฏฺฏฺจ ชาติหิงฺคุลกฺจ คณฺหิตฺวา คามนิคมราชธานิโย อนุวิจรนฺติ. เต – ‘‘อสุกา นาม อิตฺถี วา ปุริโส วา พุทฺธํ สรณํ คโต, ธมฺมํ สรณํ คโต. สงฺฆํ สรณํ คโต. ปฺจสีลานิ รกฺขติ. มาสสฺส อฏฺ อุโปสเถ กโรติ. มาตุอุปฏฺานํ ปูเรติ. ปิตุอุปฏฺานํ ปูเรติ. อสุกฏฺาเน อุปฺปลหตฺถกสเตน ปุปฺผกุมฺเภน ปูชา กตา. ทีปสหสฺสํ อาโรปิตํ. อกาลธมฺมสวนํ การิตํ. ฉตฺตเวทิกา ปุฏเวทิกา กุจฺฉิเวทิกา สีหาสนํ สีหโสปานํ การิตํ. ตีณิ สุจริตานิ ปูเรติ. ทสกุสลกมฺมปเถ สมาทาย วตฺตตี’’ติ สุวณฺณปฏฺเฏ ชาติหิงฺคุลเกน ลิขิตฺวา อาหริตฺวา ปฺจสิขสฺส หตฺเถ เทนฺติ. ปฺจสิโข มาตลิสฺส หตฺเถ เทติ. มาตลิ สงฺคาหโก สกฺกสฺส เทวรฺโ เทติ.

ยทา ปุฺกมฺมการกา พหู น โหนฺติ, โปตฺถโก ขุทฺทโก โหติ, ตํ ทิสฺวาว เทวา – ‘‘ปมตฺโต, วต โภ มหาชโน วิหรติ, จตฺตาโร อปายา ปริปูริสฺสนฺติ, ฉ เทวโลกา ตุจฺฉา ภวิสฺสนฺตี’’ติ อนตฺตมนา โหนฺติ. สเจ ปน โปตฺถโก มหา โหติ, ตํ ทิสฺวาว เทวา – ‘‘อปฺปมตฺโต, วต โภ, มหาชโน วิหรติ, จตฺตาโร อปายา สุฺา ภวิสฺสนฺติ , ฉ เทวโลกา ปริปูริสฺสนฺติ, พุทฺธสาสเน ปุฺานิ กริตฺวา อาคเต มหาปุฺเ ปุรกฺขตฺวา นกฺขตฺตํ กีฬิตุํ ลภิสฺสามา’’ติ อตฺตมนา โหนฺติ. ตํ โปตฺถกํ คเหตฺวา สกฺโก เทวราชา วาเจติ. ตสฺส ปกตินิยาเมน กเถนฺตสฺส สทฺโท ทฺวาทส โยชนานิ คณฺหาติ. อุจฺเจน สเรน กเถนฺตสฺส จ สกลํ ทสโยชนสหสฺสํ เทวนครํ ฉาเทตฺวา ติฏฺติ. เอวํ ธมฺมสวนตฺถาย สนฺนิปตนฺติ. อิธ ปน ปวารณสงฺคหตฺถาย สนฺนิปติตาติ เวทิตพฺพา.

ตถาคตํ นมสฺสนฺตาติ นวหิ การเณหิ ตถาคตํ นมสฺสมานา . ธมฺมสฺส จ สุธมฺมตนฺติ สฺวากฺขาตตาทิเภทํ ธมฺมสฺส สุธมฺมตํ อุชุปฺปฏิปนฺนตาทิเภทํ สงฺฆสฺส จ สุปฺปฏิปตฺตินฺติ อตฺโถ.

อฏฺยถาภุจฺจวณฺณนา

๒๙๖. ยถาภุจฺเจติ ยถาภูเต ยถาสภาเว. วณฺเณติ คุเณ. ปยิรุทาหาสีติ กเถสิ. พหุชนหิตายปฏิปนฺโนติ กถํ ปฏิปนฺโน? ทีปงฺกรปาทมูเล อฏฺ ธมฺเม สโมธาเนตฺวา พุทฺธตฺถาย อภินีหรมาโนปิ พหุชนหิตาย ปฏิปนฺโน นาม โหติ.

ทานปารมี, สีลปารมี, เนกฺขมฺมปารมี, ปฺาปารมี, วีริยปารมี, ขนฺติปารมี, สจฺจปารมี, อธิฏฺานปารมี, เมตฺตาปารมี, อุเปกฺขาปารมีติ กปฺปสตสหสฺสาธิกานิ จตฺตาริ อสงฺขฺเยยฺยานิ อิมา ทส ปารมิโย ปูเรนฺโตปิ พหุชนหิตาย ปฏิปนฺโน.

ขนฺติวาทิตาปสกาเล, จูฬธมฺมปาลกุมารกาเล, ฉทฺทนฺตนาคราชกาเล, ภูริทตฺตจมฺเปยฺยสงฺขปาลนาคราชกาเล, มหากปิกาเล จ ตาทิสานิ ทุกฺกรานิ กโรนฺโตปิ พหุชนหิตาย ปฏิปนฺโน. เวสฺสนฺตรตฺตภาเว ตฺวา สตฺตสตกมหาทานํ ทตฺวา สตฺตสุ าเนสุ ปถวึ กมฺเปตฺวา ปารมีกูฏํ คณฺหนฺโตปิ พหุชนหิตาย ปฏิปนฺโน. ตโต อนนฺตเร อตฺตภาเว ตุสิตปุเร ยาวตายุกํ ติฏฺนฺโตปิ พหุชนหิตาย ปฏิปนฺโน.

ตตฺถ ปฺจ ปุพฺพนิมิตฺตานิ ทิสฺวา ทสสหสฺสจกฺกวาฬเทวตาหิ ยาจิโต ปฺจ มหาวิโลกนานิ วิโลเกตฺวา เทวานํ สงฺคหตฺถาย ปฏิฺํ ทตฺวา ตุสิตปุรา จวิตฺวา มาตุกุจฺฉิยํ ปฏิสนฺธึ คณฺหนฺโตปิ พหุชนหิตาย ปฏิปนฺโน.

ทส มาเส มาตุกุจฺฉิยํ วสิตฺวา ลุมฺพินีวเน มาตุกุจฺฉิโต นิกฺขมนฺโตปิ, เอกูนตึสวสฺสานิ อคารํ อชฺฌาวสิตฺวา มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขมิตฺวา อโนมนทีตีเร ปพฺพชนฺโตปิ, ฉพฺพสฺสานิ ปธาเนน อตฺตานํ กิลเมตฺวา โพธิปลฺลงฺกํ อารุยฺห สพฺพฺุตฺาณํ ปฏิวิชฺฌนฺโตปิ, สตฺตสตฺตาหํ โพธิมณฺเฑ ยาเปนฺโตปิ, อิสิปตนํ อาคมฺม อนุตฺตรํ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตนฺโตปิ, ยมกปาฏิหาริยํ กโรนฺโตปิ, เทโวโรหณํ โอโรหนฺโตปิ, พุทฺโธ หุตฺวา ปฺจจตฺตาลีส วสฺสานิ ติฏฺนฺโตปิ, อายุสงฺขารํ โอสฺสชนฺโตปิ, ยมกสาลานมนฺตเร อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายนฺโตปิ พหุชนหิตาย ปฏิปนฺโน. ยาวสฺส สาสปมตฺตาปิ ธาตุโย ธรนฺติ, ตาว พหุชนหิตาย ปฏิปนฺโนติ เวทิตพฺโพ. เสสปทานิ เอตสฺเสว เววจนานิ. ตตฺถ ปจฺฉิมํ ปจฺฉิมํ ปุริมสฺส ปุริมสฺส อตฺโถ.

เนว อตีตํเส สมนุปสฺสาม, น ปเนตรหีติ อตีเตปิ พุทฺธโต อฺํ น สมนุปสฺสาม, อนาคเตปิ น สมนุปสฺสาม, เอตรหิ ปน อฺสฺส สตฺถุโน อภาวโตเยว อฺตฺร เตน ภควตา น สมนุปสฺสามาติ อยเมตฺถ อตฺโถ. อฏฺกถายมฺปิ หิ – ‘‘อตีตานาคตา พุทฺธา อมฺหากํ สตฺถารา สทิสาเยว, กึ สกฺโก กเถตี’’ติ วิจาเรตฺวา – ‘‘เอตรหิ พหุชนหิตาย ปฏิปนฺโน สตฺถา อมฺหากํ สตฺถารํ มุฺจิตฺวา อฺโ โกจิ นตฺถิ, ตสฺมา น ปสฺสามาติ กเถตี’’ติ วุตฺตํ. ยถา จ เอตฺถ, เอวํ อิโต ปเรสุปิ ปเทสุ อยมตฺโถ เวทิตพฺโพ. สฺวากฺขาตาทีนิ จ กุสลาทีนิ จ วุตฺตตฺถาเนว.

คงฺโคทกํ ยมุโนทเกนาติ คงฺคายมุนานํ สมาคมฏฺาเน อุทกํ วณฺเณนปิ คนฺเธนปิ รเสนปิ สํสนฺทติ สเมติ, มชฺเฌ ภินฺนสุวณฺณํ วิย เอกสทิสเมว โหติ, น มหาสมุทฺทอุทเกน สํสฏฺกาเล วิย วิสทิสํ. ปริสุทฺธสฺส นิพฺพานสฺส ปฏิปทาปิ ปริสุทฺธาว. น หิ ทหรกาเล เวชฺชกมฺมาทีนิ กตฺวา อโคจเร จริตฺวา มหลฺลกกาเล นิพฺพานํ ทฏฺุํ สกฺกา, นิพฺพานคามินี ปน ปฏิปทา ปริสุทฺธาว วฏฺฏติ อากาสูปมา. ยถา หิ อากาสมฺปิ อลคฺคํ ปริสุทฺธํ จนฺทิมสูริยานํ อากาเส อิจฺฉิติจฺฉิตฏฺานํ คจฺฉนฺตานํ วิย นิพฺพานํ คจฺฉนฺตสฺส ภิกฺขุโน ปฏิปทาปิ กุเล วา คเณ วา อลคฺคา อพทฺธา อากาสูปมา วฏฺฏติ. สา ปเนสา ตาทิสาว ภควตา ปฺตฺตา กถิตา เทสิตา. เตน วุตฺตํ – ‘‘สํสนฺทติ นิพฺพานฺจ ปฏิปทา จา’’ติ.

ปฏิปนฺนานนฺติ ปฏิปทาย ิตานํ. วุสิตวตนฺติ วุตฺถวาสานํ เอเตสํ. ลทฺธสหาโยติ เอเตสํ ตตฺถ ตตฺถ สห อยนโต สหาโย. ‘‘อทุติโย อสหาโย อปฺปฏิสโม’’ติ อิทํ ปน อสทิสฏฺเน วุตฺตํ. อปนุชฺชาติ เตสํ มชฺเฌปิ ผลสมาปตฺติยา วิหรนฺโต จิตฺเตน อปนุชฺช, อปนุชฺเชว เอการามตํ อนุยุตฺโต วิหรตีติ อตฺโถ.

อภินิปฺผนฺโนโข ปน ตสฺส ภควโต ลาโภติ ตสฺส ภควโต มหาลาโภ อุปฺปนฺโน. กทา ปฏฺาย อุปฺปนฺโน? อภิสมฺโพธึ ปตฺวา สตฺตสตฺตาหํ อติกฺกมิตฺวา อิสิปตเน ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตตฺวา อนุกฺกเมน เทวมนุสฺสานํ ทมนํ กโรนฺตสฺส ตโย ชฏิเล ปพฺพาเชตฺวา ราชคหํ คตสฺส พิมฺพิสารทมนโต ปฏฺาย อุปฺปนฺโน. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘เตน โข ปน สมเยน ภควา สกฺกโต โหติ ครุกโต มานิโต ปูชิโต อปจิโต ลาภี จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาราน’’นฺติ (สํ. นิ. ๒.๗๐). สตสหสฺสกปฺปาธิเกสุ จตูสุ อสงฺขฺเยยฺเยสุ อุสฺสนฺนปุฺนิสฺสนฺทสมุปฺปนฺโน ลาภสกฺกาโร มโหโฆ วิย อชฺโฌตฺถรมาโน อาคจฺฉติ.

เอกสฺมึ กิร สมเย ราชคเห สาวตฺถิยํ สาเกเต โกสมฺพิยํ พาราณสิยํ ภควโต ปฏิปาฏิภตฺตํ นาม อุปฺปนฺนํ, ตตฺเถโก – ‘‘อหํ สตํ วิสฺสชฺเชตฺวา ทานํ ทสฺสามี’’ติ ปณฺณํ ลิขิตฺวา วิหารทฺวาเร พนฺธิ. อฺโ – อหํ ทฺเว สตานิ. อฺโ – อหํ ปฺจ สตานิ. อฺโ – อหํ สหสฺสํ. อฺโ – อหํ ทฺเว สหสฺสานิ. อฺโ – อหํ ปฺจ. ทส. วีสติ. ปฺาสํ; อฺโ – อหํ สตสหสฺสํ. อฺโ – อหํ ทฺเว สตสหสฺสานิ วิสฺสชฺเชตฺวา ทานํ ทสฺสามี’’ติ ปณฺณํ ลิขิตฺวา วิหารทฺวาเร พนฺธิ. ชนปทจาริกํ จรนฺตมฺปิ โอกาสํ ลภิตฺวา – ‘‘ทานํ ทสฺสามี’’ติ สกฏานิ ปูเรตฺวา มหาชโน อนุพนฺธิเยว. ยถาห – ‘‘เตน โข ปน สมเยน ชานปทา มนุสฺสา พหุํ โลณมฺปิ เตลมฺปิ ตณฺฑุลมฺปิ ขาทนียมฺปิ สกเฏสุ อาโรเปตฺวา ภควโต ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต อนุพนฺธา โหนฺติ – ‘ยตฺถ ปฏิปาฏึ ลภิสฺสาม, ตตฺถ ภตฺตํ กริสฺสามา’ติ’’ (มหาว. ๒๘๒). เอวํ อฺานิปิ ขนฺธเก จ วินเย จ พหูนิ วตฺถูนิ เวทิตพฺพานิ.

อสทิสทาเน ปเนส ลาโภ มตฺถกํ ปตฺโต. เอกสฺมึ กิร สมเย ภควติ ชนปทจาริกํ จริตฺวา เชตวนํ สมฺปตฺเต ราชา นิมนฺเตตฺวา ทานํ อทาสิ. ทุติยทิวเส นาครา อทํสุ. ปุน เตสํ ทานโต อติเรกํ ราชา, ตสฺส ทานโต อติเรกํ นาคราติ เอวํ พหูสุ ทิวเสสุ คเตสุ ราชา จินฺเตสิ – ‘‘อิเม นาครา ทิวเส ทิวเส อติเรกตรํ กโรนฺติ, ปถวิสฺสโร ปน ราชา นาคเรหิ ทาเน ปราชิโตติ ครหา ภวิสฺสตี’’ติ. อถสฺส มลฺลิกา อุปายํ อาจิกฺขิ. โส ราชงฺคเณ สาลกลฺยาณิปทเรหิ มณฺฑปํ กาเรตฺวา ตํ นีลุปฺปเลหิ ฉาเทตฺวา ปฺจ อาสนสตานิ ปฺาเปตฺวา ปฺจ หตฺถิสตานิ อาสนานํ ปจฺฉาภาเค เปตฺวา เอเกเกน หตฺถินา เอเกกสฺส ภิกฺขุโน เสตจฺฉตฺตํ ธาราเปสิ. ทฺวินฺนํ ทฺวินฺนํ อาสนานํ อนฺตเร สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิตา เอเกกา ขตฺติยธีตา จตุชฺชาติยคนฺธํ ปิสติ. นิฏฺิตํ นิฏฺิตํ มชฺฌฏฺาเน คนฺธมฺพเณ ปกฺขิปติ, ตํ อปรา ขตฺติยธีตา นีลุปฺปลหตฺถเกน สมฺปริวตฺเตติ. เอวํ เอเกกสฺส ภิกฺขุโน ติสฺโส ติสฺโส ขตฺติยธีตโร ปริวารา, อปรา สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิตา อิตฺถี ตาลวณฺฏํ คเหตฺวา พีชติ, อฺา ธมกรณํ คเหตฺวา อุทกํ ปริสฺสาเวติ, อฺา ปตฺตโต อุทกํ หรติ. ภควโต จตฺตาริ อนคฺฆานิ อเหสุํ. ปาทกถลิกา อาธารโก อปสฺเสนผลกํ ฉตฺตปาทมณีติ อิมานิ จตฺตาริ อนคฺฆานิ อเหสุํ. สงฺฆนวกสฺส เทยฺยธมฺโม สตสหสฺสํ อคฺฆติ. ตสฺมิฺจ ทาเน องฺคุลิมาลตฺเถโร สงฺฆนวโก อโหสิ. ตสฺส อาสนสมีเป อานีโต หตฺถี ตํ อุปคนฺตุํ นาสกฺขิ. ตโต รฺโ อาโรเจสุํ. ราชา – ‘‘อฺโ หตฺถี นตฺถี’’ติ? ทุฏฺหตฺถี ปน อตฺถิ, อาเนตุํ น สกฺกาติ. สมฺมาสมฺพุทฺโธ – สงฺฆนวโก กตโร มหาราชาติ? องฺคุลิมาลตฺเถโร ภควาติ. เตน หิ ตํ ทุฏฺหตฺถึ อาเนตฺวา เปตุ, มหาราชาติ. หตฺถึ มณฺฑยิตฺวา อานยึสุ. โส เถรสฺส เตเชน นาสาวาตสฺจรณมตฺตมฺปิ กาตุํ นาสกฺขิ. เอวํ นิรนฺตรํ สตฺต ทิวสานิ ทานํ ทียิตฺถ. สตฺตเม ทิวเส ราชา ทสพลํ วนฺทิตฺวา – ‘‘ภควา มยฺหํ ธมฺมํ เทเสถา’’ติ อาห.

ตสฺสฺจ ปริสติ กาโฬ จ ชุณฺโห จาติ ทฺเว อมจฺจา โหนฺติ. กาโฬ จินฺเตสิ – ‘‘นสฺสติ ราชกุลสฺส สนฺตกํ, กึ นาเมเต เอตฺตกา ชนา กริสฺสนฺติ, ภุฺชิตฺวา วิหารํ คนฺตฺวา นิทฺทายิสฺสนฺเตว, อิทํ ปน เอโก ราชปุริโส ลภิตฺวา กึ นาม น กเรยฺย, อโห นสฺสติ รฺโ สนฺตก’’นฺติ. ชุณฺโห จินฺเตสิ – ‘‘มหนฺตํ อิทํ ราชตฺตนํ นาม, โก อฺโ อิทํ กาตุํ สกฺขิสฺสติ? กึ ราชา นาม โส, โย ราชตฺตเน ิโตปิ เอวรูปํ ทานํ ทาตุํ น สกฺโกตี’’ติ. ภควา ปริสาย อชฺฌาสยํ โอโลเกนฺโต เตสํ ทฺวินฺนํ อชฺฌาสยํ วิทิตฺวา – ‘‘สเจ อชฺช ชุณฺหสฺส อชฺฌาสเยน ธมฺมกถํ กเถมิ, กาฬสฺส สตฺตธา มุทฺธา ผลิสฺสติ . มยา โข ปน สตฺตานุทฺทยตาย ปารมิโย ปูริตา. ชุณฺโห อฺสฺมิมฺปิ ทิวเส มยิ ธมฺมํ กถยนฺเต มคฺคผลํ ปฏิวิชฺฌิสฺสติ, อิทานิ ปน กาฬํ โอโลเกสฺสามี’’ติ รฺโ จตุปฺปทิกเมว คาถํ อภาสิ –

‘‘น เว กทริยา เทวโลกํ วชนฺติ,

พาลา หเว นปฺปสํสนฺติ ทานํ;

ธีโร จ ทานํ อนุโมทมาโน,

เตเนว โส โหติ สุขี ปรตฺถา’’ติ. (ธ. ป. ๑๗๗);

ราชา อนตฺตมโน หุตฺวา – ‘‘มยา มหาทานํ ทินฺนํ, สตฺถา จ เม มนฺทเมว ธมฺมํ กเถสิ, นาสกฺขึ มฺเ ทสพลสฺส จิตฺตํ คเหตุ’’นฺติ. โส ภุตฺตปาตราโส วิหารํ คนฺตฺวา ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา ปุจฺฉิ – ‘‘มยา, ภนฺเต, มหนฺตํ ทานํ ทินฺนํ, อนุโมทนา จ เม น มหตี กตา, โก นุ โข เม, ภนฺเต, โทโส’’ติ? นตฺถิ, มหาราช, ตว โทโส, ปริสา ปน อปริสุทฺธา, ตสฺมา ธมฺมํ น เทเสสินฺติ. กสฺมา ปน ภควา ปริสา น สุทฺธาติ? สตฺถา ทฺวินฺนํ อมจฺจานํ ปริวิตกฺกํ อาโรเจสิ. ราชา กาฬํ ปุจฺฉิ – ‘‘เอวํ, ตาต, กาฬา’’ติ? ‘‘เอวํ, มหาราชา’’ติ. ‘‘มยิ มม สนฺตกํ ททมาเน ตว กตรํ านํ รุชฺชติ, น ตํ สกฺโกมิ ปสฺสิตุํ, ปพฺพาเชถ นํ มม รฏฺโต’’ติ อาห. ตโต ชุณฺหํ ปกฺโกสาเปตฺวา ปุจฺฉิ – ‘‘เอวํ กิร, ตาต, จินฺเตสี’’ติ? ‘‘อาม, มหาราชา’’ติ. ‘‘ตว จิตฺตานุรูปเมว โหตู’’ติ ตสฺมึเยว มณฺฑเป เอวํ ปฺตฺเตสุเยว อาสเนสุ ปฺจ ภิกฺขุสตานิ นิสีทาเปตฺวา ตาเยว ขตฺติยธีตโร ปริวาราเปตฺวา ราชเคหโต ธนํ คเหตฺวา มยา ทินฺนสทิสเมว สตฺต ทิวสานิ ทานํ เทหีติ. โส ตถา อทาสิ. ทตฺวา สตฺตเม ทิวเส – ‘‘ธมฺมํ ภควา เทเสถา’’ติ อาห.

สตฺถา ทฺวินฺนมฺปิ ทานานํ อนุโมทนํ เอกโต กตฺวา ทฺเว มหานทิโย เอโกฆปุณฺณา กุรุมาโน วิย มหาธมฺมเทสนํ เทเสสิ. เทสนาปริโยสาเน ชุณฺโห โสตาปนฺโน อโหสิ. ราชา ปสีทิตฺวา ทสพลสฺส พาหิรวตฺถุํ นาม อทาสิ. เอวํ อภินิปฺผนฺโน โข ปน ตสฺส ภควโต ลาโภติ เวทิตพฺโพ.

อภินิปฺผนฺโนสิโลโกติ วณฺณคุณกิตฺตนํ. โสปิ ภควโต ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนโต ปฏฺาย อภินิปฺผนฺโน. ตโต ปฏฺาย หิ ภควโต ขตฺติยาปิ วณฺณํ กเถนฺติ. พฺราหฺมณาปิ คหปตโยปิ นาคา สุปณฺณา คนฺธพฺพา เทวตา พฺรหฺมาโนปิ กิตฺตึ วตฺวา – ‘‘อิติปิ โส ภควา’’ติอาทินา. อฺติตฺถิยาปิ วรโรชสฺส สหสฺสํ ทตฺวา สมณสฺส โคตมสฺส อวณฺณํ กเถหีติ อุยฺโยเชสุํ. โส สหสฺสํ คเหตฺวา ทสพลํ ปาทตลโต ปฏฺาย ยาว เกสนฺตา อปโลกยมาโน ลิกฺขามตฺตมฺปิ วชฺชํ อทิสฺวา – ‘‘วิปฺปกิณฺณทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขเณ อสีติอนุพฺยฺชนวิภูสิเต พฺยามปฺปภาปริกฺขิตฺเต สุผุลฺลิตปาริจฺฉตฺตกตาราคณสมุชฺชลิตอนฺตลิกฺขวิจิตฺตกุสุมสสฺสิริกนนฺทนวนสทิเส อนวชฺชอตฺตภาเว อวณฺณํ วทนฺตสฺส มุขมฺปิ วิปริวตฺเตยฺย, มุทฺธาปิ สตฺตธา ผเลยฺย, อวณฺณํ วตฺตุํ อุปาโย นตฺถิ, วณฺณเมว วทิสฺสามี’’ติ ปาทตลโต ปฏฺาย ยาว เกสนฺตา อติเรกปทสหสฺเสน วณฺณเมว กเถสิ. ยมกปาฏิหาริเย ปเนส วณฺโณ นาม มตฺถกํ ปตฺโต. เอวํ อภินิปฺผนฺโน สิโลโกติ.

ยาว มฺเ ขตฺติยาติ ขตฺติยา พฺราหฺมณา เวสฺสา สุทฺทา นาคา สุปณฺณา ยกฺขา อสุรา เทวา พฺรหฺมาโนติ สพฺเพว เต สมฺปิยายมานรูปา หฏฺตุฏฺา วิหรนฺติ. วิคตมโท โข ปนาติ เอตฺตกา มํ ชนา สมฺปิยายมานรูปา วิหรนฺตีติ น มทปมตฺโต หุตฺวา ทวาทิวเสน อาหารํ อาหาเรติ, อฺทตฺถุ วิคตมโท โข ปน โส ภควา อาหารํ อาหาเรติ.

ยถาวาทีติ ยํ วาจาย วทติ, ตทนฺวยเมวสฺส กายกมฺมํ โหติ. ยฺจ กาเยน กโรติ, ตทนฺวยเมวสฺส วจีกมฺมํ โหติ. กาโย วา วาจํ, วาจา วา กายํ นาติกฺกมติ, วาจา กาเยน, กาโย จ วาจาย สเมติ. ยถา จ –

‘‘วาเมน สูกโร โหติ, ทกฺขิเณน อชามิโค;

สเรน เนลโก โหติ, วิสาเณน ชรคฺคโว’’ติ. –

อยํ สูกรยกฺโข สูกเร ทิสฺวา สูกรสทิสํ วามปสฺสํ ทสฺเสตฺวา เต คเหตฺวา ขาทติ, อชามิเค ทิสฺวา ตํสทิสํ ทกฺขิณปสฺสํ ทสฺเสตฺวา เต คเหตฺวา ขาทติ, เนลกวจฺฉเก ทิสฺวา วจฺฉกรวํ รวนฺโต เต คเหตฺวา ขาทติ, โคเณ ทิสฺวา เตสํ วิสาณสทิสานิ วิสาณานิ มาเปตฺวา เต ทูรโตว – ‘‘โคโณ วิย ทิสฺสตี’’ติ เอวํ อุปคเต คเหตฺวา ขาทติ. ยถา จ ธมฺมิกวายสชาตเก สกุเณหิ ปุฏฺโ วายโส – ‘‘อหํ วาตภกฺโข, วาตภกฺขตาย มุขํ วิวริตฺวา ปาณกานฺจ มรณภเยน เอเกเนว ปาเทน ิโต, ตสฺมา ตุมฺเหปิ –

‘‘ธมฺมํ จรถ ภทฺทํ โว, ธมฺมํ จรถ าตโย;

ธมฺมจารี สุขํ เสติ, อสฺมึ โลเก ปรมฺหิ จา’’ติ.

สกุเณสุ วิสฺสาสํ อุปฺปาเทสิ, ตโต –

‘‘ภทฺทโก วตายํ ปกฺขี, ทิโช ปรมธมฺมิโก;

เอกปาเทน ติฏฺนฺโต, ธมฺโม ธมฺโมติ ภาสตี’’ติ.

เอวํ วิสฺสาสมาคเต สกุเณ ขาทิตฺถ. เตน เตสํ วาจา กาเยน, กาโย จ วาจาย น สเมติ, น เอวํ ภควโต. ภควโต ปน วาจา กาเยน, กาโย จ วาจาย สเมติเยวาติ ทสฺเสติ.

ติณฺณา ตริตา วิจิกิจฺฉา อสฺสาติ ติณฺณวิจิกิจฺโฉ. ‘‘กถมิทํ กถมิท’’นฺติ เอวรูปา วิคตา กถํกถา อสฺสาติ วิคตกถํกโถ. ยถา หิ มหาชโน – ‘‘อยํ รุกฺโข, กึ รุกฺโข นาม, อยํ คาโม, อยํ ชนปโท, อิทํ รฏฺํ, กึ รฏฺํ นาม, กสฺมา นุ โข อยํ รุกฺโข อุชุกฺขนฺโธ, อยํ วงฺกกฺขนฺโธ, กสฺมา กณฺฏโก โกจิ อุชุโก โหติ, โกจิ วงฺโก, ปุปฺผํ กิฺจิ สุคนฺธํ, กิฺจิ ทุคฺคนฺธํ, ผลํ กิฺจิ มธุรํ, กิฺจิ อมธุร’’นฺติ สกงฺโขว โหติ, น เอวํ สตฺถา. สตฺถา หิ – ‘‘อิเมสํ นาม ธาตูนํ อุสฺสนฺนุสฺสนฺนตฺตา อิทํ เอวํ โหตี’’ติ วิคตกถํกโถว . ยถา จ ปมชฺฌานาทิลาภีนํ ทุติยชฺฌานาทีสุ กงฺขา โหติ. ปจฺเจกพุทฺธานมฺปิ หิ สพฺพฺุตฺาเณ ยาถาวสนฺนิฏฺานาภาวโต โวหารวเสน กงฺขา นาม โหติเยว, น เอวํ พุทฺธสฺส. โส หิ ภควา สพฺพตฺถ วิคตกถํกโถติ ทสฺเสติ.

ปริโยสิตสงฺกปฺโปติ ยถา เกจิ สีลมตฺเตน, เกจิ วิปสฺสนามตฺเตน, เกจิ ปมชฺฌาเนน…เป… เกจิ เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺติยา, เกจิ โสตาปนฺนภาวมตฺเตน…เป… เกจิ อรหตฺเตน, เกจิ สาวกปารมีาเณน, เกจิ ปจฺเจกโพธิาเณน ปริโยสิตสงฺกปฺปา ปริปุณฺณมโนรถา โหนฺติ, น เอวํ มม สตฺถา. มม ปน สตฺถา สพฺพฺุตฺาเณน ปริโยสิตสงฺกปฺโปติ ทสฺเสติ.

อชฺฌาสยํ อาทิพฺรหฺมจริยนฺติ กรณตฺเถ ปจฺจตฺตวจนํ, อธิกาสเยน อุตฺตมนิสฺสยภูเตน อาทิพฺรหฺมจริเยน โปราณพฺรหฺมจริยภูเตน จ อริยมคฺเคน ติณฺณวิจิกิจฺโฉ วิคตกถํกโถ ปริโยสิตสงฺกปฺโปติ อตฺโถ. ‘‘ปุพฺเพ อนนุสฺสุเตสุ ธมฺเมสุ สามํ สจฺจานิ อภิสมฺพุชฺฌิ, ตตฺถ จ สพฺพฺุตํ ปตฺโต, พเลสุ จ วสีภาว’’นฺติ หิ วจนโต ปริโยสิตสงฺกปฺปตาปิ ภควโต อริยมคฺเคเนว นิปฺผนฺนาติ.

๒๙๗. ยถริว ภควาติ ยถา ภควา, เอวํ เอกสฺมึ ชมฺพุทีปตเล จตูสุ ทิสาสุ จาริกํ จรมานา อโห วต จตฺตาโร ชินา ธมฺมํ เทเสยฺยุนฺติ ปจฺจาสิสมานา วทนฺติ. อถาปเร ตีสุ มณฺฑเลสุ เอกโต วิจรณภาวํ อากงฺขมานา ตโย สมฺมาสมฺพุทฺธาติ อาหํสุ. อปเร – ‘‘ทส ปารมิโย นาม ปูเรตฺวา จตุนฺนํ ติณฺณํ วา อุปฺปตฺติ ทุลฺลภา, สเจ ปน เอโก นิพทฺธวาสํ วสนฺโต ธมฺมํ เทเสยฺย, เอโก จาริกํ จรนฺโต, เอวมฺปิ ชมฺพุทีโป โสเภยฺย เจว, พหุฺจ หิตสุขมธิคจฺเฉยฺยา’’ติ จินฺเตตฺวา อโห วต, มาริสาติ อาหํสุ.

๒๙๘. อฏฺานเมตํ อนวกาโส ยนฺติ เอตฺถ านํ อวกาโสติ อุภยเมตํ การณาธิวจนเมว. การณฺหิ ติฏฺติ เอตฺถ ตทายตฺตวุตฺติตาย ผลนฺติ านํ. โอกาโส วิย จสฺส ตํ เตน วินา อฺตฺถ อภาวโตติ อวกาโส. นฺติ กรณตฺเถ ปจฺจตฺตํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘เยน การเณน เอกิสฺสา โลกธาตุยา ทฺเว พุทฺธา เอกโต อุปฺปชฺเชยฺยุํ, ตํ การณํ นตฺถี’’ติ.

เอตฺถ จ –

‘‘ยาวตา จนฺทิมสูริยา, ปริหรนฺติ ทิสา ภนฺติ วิโรจนา;

ตาว สหสฺสธา โลโก, เอตฺถ เต วตฺตเต วโส’’ติ. (ม. นิ. ๑.๕๐๓) –

คาถาย เอกจกฺกวาฬเมว เอกา โลกธาตุ. ‘‘สหสฺสี โลกธาตุ อกมฺปิตฺถา’’ติ (อ. นิ. ๓.๑๒๖) อาคตฏฺาเน จกฺกวาฬสหสฺสํ เอกา โลกธาตุ. ‘‘อากงฺขมาโน, อานนฺท, ตถาคโต ติสหสฺสิมหาสหสฺสิโลกธาตุํ สเรน วิฺาเปยฺย, โอภาเสน จ ผเรยฺยา’’ติ (อ. นิ. ๓.๘๑) อาคตฏฺาเน ติสหสฺสิมหาสหสฺสี เอกา โลกธาตุ. ‘‘อยฺจ ทสสหสฺสี โลกธาตู’’ติ (ม. นิ. ๓.๒๐๑) อาคตฏฺาเน ทสจกฺกวาฬสหสฺสานิ เอกา โลกธาตุ. ตํ สนฺธาย เอกิสฺสา โลกธาตุยาติ อาห. เอตฺตกฺหิ ชาติเขตฺตํ นาม. ตตฺราปิ เปตฺวา อิมสฺมึ จกฺกวาเฬ ชมฺพุทีปสฺส มชฺฌิมเทสํ น อฺตฺร พุทฺธา อุปฺปชฺชนฺติ ชาติเขตฺตโต ปน ปรํ พุทฺธานํ อุปฺปตฺติฏฺานเมว น ปฺายติ. เยนตฺเถนาติ เยน ปวารณสงฺคหตฺเถน.

สนงฺกุมารกถาวณฺณนา

๓๐๐. วณฺเณน เจว ยสสา จาติ อลงฺการปริวาเรน จ ปุฺสิริยา จาติ อตฺโถ.

๓๐๑. สาธุ มหาพฺรหฺเมติ เอตฺถ สมฺปสาทเน สาธุสทฺโท. สงฺขาย โมทามาติ ชานิตฺวา โมทาม.

โควินฺทพฺราหฺมณวตฺถุวณฺณนา

๓๐๔. ยาว ทีฆรตฺตํ มหาปฺโว โส ภควาติ เอตฺตกนฺติ ปริจฺฉินฺทิตฺวา น สกฺกา วตฺตุํ, อถ โข ยาว ทีฆรตฺตํ อติจิรรตฺตํ มหาปฺโว โส ภควา. โนติ กถํ ตุมฺเห มฺถาติ. อถ สยเมเวตํ ปฺหํ พฺยากาตุกาโม – ‘‘อนจฺฉริยเมตํ, มาริสา, ยํ อิทานิ ปารมิโย ปูเรตฺวา โพธิปลฺลงฺเก ติณฺณํ มารานํ มตฺถกํ ภินฺทิตฺวา ปฏิวิทฺธอสาธารณาโณ โส ภควา มหาปฺโ ภเวยฺย, กิเมตฺถ อจฺฉริยํ, อปริปกฺกาย ปน โพธิยา ปเทสาเณ ิตสฺส สราคาทิกาเลปิ มหาปฺภาวเมว โว, มาริสา, กเถสฺสามี’’ติ ภวปฏิจฺฉนฺนการณํ อาหริตฺวา ทสฺเสนฺโต ภูตปุพฺพํ โภติอาทิมาห.

ปุโรหิโตติ สพฺพกิจฺจานิ อนุสาสนปุโรหิโต. โควินฺโทติ โควินฺทิยาภิเสเกน อภิสิตฺโต , ปกติยา ปนสฺส อฺเทว นามํ, อภิสิตฺตกาลโต ปฏฺาย ‘‘โควินฺโท’’ติ สงฺขฺยํ คโต. โชติปาโลติ โชตนโต จ ปาลนโต จ โชติปาโล. ตสฺส กิร ชาตทิวเส สพฺพาวุธานิ อุชฺโชตึสุ. ราชาปิ ปจฺจูสสมเย อตฺตโน มงฺคลาวุธํ ปชฺชลิตํ ทิสฺวา ภีโต อฏฺาสิ. โควินฺโท ปาโตว ราชูปฏฺานํ คนฺตฺวา สุขเสยฺยํ ปุจฺฉิ ราชา – ‘‘กุโต เม อาจริย, สุขเสยฺยา’’ติ วตฺวา ตํ การณํ อาโรเจสิ. มา ภายิ, มหาราช, มยฺหํ ปุตฺโต ชาโต, ตสฺสานุภาเวน สกลนคเร อาวุธานิ ปชฺชลึสูติ. ราชา – ‘‘กึ นุ โข เม กุมาโร ปจฺจตฺถิโก ภเวยฺยา’’ติ จินฺเตตฺวา สุฏฺุตรํ ภายิ. ‘‘กึ วิตกฺเกสิ มหาราชา’’ติ จ ปุฏฺโ ตมตฺถํ อาโรเจสิ. อถ นํ โควินฺโท ‘‘มา ภายิ มหาราช, เนโส กุมาโร ตุมฺหากํ ทุพฺภิสฺสติ, สกลชมฺพุทีเป ปน เตน สโม ปฺาย น ภวิสฺสติ, มม ปุตฺตสฺส วจเนน มหาชนสฺส กงฺขา ฉิชฺชิสฺสติ, ตุมฺหากฺจ สพฺพกิจฺจานิ อนุสาสิสฺสตี’’ติ สมสฺสาเสติ. ราชา ตุฏฺโ – ‘‘กุมารสฺส ขีรมูลํ โหตู’’ติ สหสฺสํ ทตฺวา ‘‘กุมารํ มหลฺลกกาเล มม ทสฺเสถา’’ติ อาห. กุมาโร อนุปุพฺเพน วุฑฺฒิมนุปฺปตฺโต. โชติตตฺตา ปนสฺส ปาลนสมตฺถตาย จ โชติปาโลตฺเวว นามํ อกํสุ. เตน วุตฺตํ – ‘‘โชตนโต จ ปาลนโต จ โชติปาโล’’ติ.

สมฺมา โวสฺสชฺชิตฺวาติ สมฺมา โวสฺสชฺชิตฺวา. อยเมว วา ปาโ. อลมตฺถทสตโรติ สมตฺโถ ปฏิพโล อตฺถทโส อลมตฺถทโส, ตํ อลมตฺถทสํ ติเรตีติ อลมตฺถทสตโร. โชติปาลสฺเสว มาณวสฺส อนุสาสนิยาติ โสปิ โชติปาลํเยว ปุจฺฉิตฺวา อนุสาสตีติ ทสฺเสติ.

๓๐๕. ภวมตฺถุภวนฺตํ โชติปาลนฺติ โภโต โชติปาลสฺส ภโว วุทฺธิ วิเสสาธิคโม สพฺพกลฺยาณฺเจว มงฺคลฺจ โหตูติ อตฺโถ. สมฺโมทนียํ กถนฺติ? ‘‘อลํ, มหาราช, มา จินฺตยิ, ธุวธมฺโม เอส สพฺพสตฺตาน’’นฺติอาทินา นเยน มรณปฺปฏิสํยุตฺตํ โสกวิโนทนปฏิสนฺถารกถํ ปริโยสาเปตฺวา. มา โน ภวํ โชติปาโล อนุสาสนิยาปจฺจพฺยาหาสีติ มา ปฏิพฺยากาสิ, ‘‘อนุสาสา’’ติ วุตฺโต – ‘‘นาหํ อนุสาสามี’’ติ โน มา อนุสาสนิยา ปจฺจกฺขาสีติ อตฺโถ. อภิสมฺโภสีติ สํวิทหิตฺวา ปฏฺเปสิ. มนุสฺสา เอวมาหํสูติ ตํ ปิตรา มหาปฺตรํ สพฺพกิจฺจานิ อนุสาสนฺตํ สพฺพกมฺเม อภิสมฺภวนฺตํ ทิสฺวา ตุฏฺจิตฺตา โควินฺโท วต, โภ, พฺราหฺมโณ, มหาโควินฺโท วต, โภ, พฺราหฺมโณติ เอวมาหํสุ. อิทํ วุตฺตํ โหติ, ‘‘โควินฺโท วต, โภ, พฺราหฺมโณ อโหสิ เอตสฺส ปิตา; อยํ ปน มหาโควินฺโท วต, โภ, พฺราหฺมโณ’’ติ.

รชฺชสํวิภชนวณฺณนา

๓๐๖. เยนเต ฉ ขตฺติยาติ เย เต ‘‘สหายา’’ติ วุตฺตา ฉ ขตฺติยา, เต กิร เรณุสฺส เอกปิติกา กนิฏฺภาตโร, ตสฺมา มหาโควินฺโท ‘‘อยํ อภิสิตฺโต เอเตสํ รชฺชสํวิภาคํ กเรยฺย วา น วา, ยํนูนาหํ เต ปฏิกจฺเจว เรณุสฺส สนฺติกํ เปเสตฺวา ปฏิฺํ คณฺหาเปยฺย’’นฺติ จินฺเตนฺโต เยน เต ฉ ขตฺติยา เตนุปสงฺกมิ. ราชกตฺตาโรติ ราชการกา อมจฺจา.

๓๐๗. มทนียา กามาติ มทกรา ปมาทกรา กามา. คจฺฉนฺเต คจฺฉนฺเต กาเล เอส อนุสฺสริตุมฺปิ น สกฺกุเณยฺย, ตสฺมา อายนฺตุ โภนฺโต อาคจฺฉนฺตูติ อตฺโถ.

๓๐๘. สรามหํ โภติ ตทา กิร มนุสฺสานํ สจฺจวาทิกาโล โหติ, ตสฺมา ‘‘กทา มยา วุตฺตํ, เกน ทิฏฺํ, เกน สุต’’นฺติ อภูตํ อวตฺวา ‘‘สรามหํ โภ’’ติ อาห. สมฺโมทนียํ กถนฺติ กึ มหาราช เทวตฺตํ คเต รฺเ มา จินฺตยิตฺถ, ธุวธมฺโม เอส สพฺพสตฺตานํ, เอวํภาวิโน สงฺขาราติ เอวรูปํ ปฏิสนฺถารกถํ. สพฺพานิ สกฏมุขานิ ปฏฺเปสีติ สพฺพานิ ฉ รชฺชานิ สกฏมุขานิ ปฏฺเปสิ. เอเกกสฺส รฺโ รชฺชํ ติโยชนสตํ โหติ, เรณุสฺส รฺโ รชฺโชสรณปเทโส ทสคาวุตํ, มชฺเฌ ปน เรณุสฺส รชฺชํ วิตานสทิสํ อโหสิ. กสฺมา เอวํ ปฏฺเปสีติ? กาเลน กาลํ ราชานํ ปสฺสิตุํ อาคจฺฉนฺตา อฺสฺส รชฺชํ อปีเฬตฺวา อตฺตโน อตฺตโน รชฺชปเทเสเนว อาคมิสฺสนฺติ เจว คมิสฺสนฺติ จ. ปรรชฺชํ โอติณฺณสฺส หิ – ‘‘ภตฺตํ เทถ, โคณํ เทถา’’ติ วทโต มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ – ‘‘อิเม ราชาโน อตฺตโน อตฺตโน วิชิเตน น คจฺฉนฺติ, อมฺหากํ ปีฬํ กโรนฺตี’’ติ. อตฺตโน วิชิเตน คจฺฉนฺตสฺส ‘‘อมฺหากํ สนฺติกา อิมินา อิทฺจิทฺจ ลทฺธพฺพเมวา’’ติ มนุสฺสา ปีฬํ น มฺนฺติ. อิมมตฺถํ จินฺตยิตฺวา มหาโควินฺโท ‘‘สมฺโมทมานา ราชาโน จิรํ รชฺชมนุสาสนฺตู’’ติ เอวํ ปฏฺเปสิ.

‘‘ทนฺตปุรํ กลิงฺคานํ, อสฺสกานฺจ โปตนํ;

มาหิสฺสติ อวนฺตีนํ, โสวีรานฺจ โรทุกํ.

มิถิลา จ วิเทหานํ, จมฺปา องฺเคสุ มาปิตา;

พาราณสี จ กาสีนํ, เอเต โควินฺทมาปิตา’’ติ. –

เอตานิ สตฺต นครานิ มหาโควินฺเทเนว เตสํ ราชูนํ อตฺถาย มาปิตานิ.

‘‘สตฺตภู พฺรหฺมทตฺโต จ, เวสฺสภู ภรโต สห;

เรณุ ทฺเว จ ธตรฏฺา, ตทาสุํ สตฺต ภารธา’’ติ. –

อิมานิ เตสํ สตฺตนฺนมฺปิ นามานิ. เตสุ หิ เอโก สตฺตภู นาม อโหสิ, เอโก พฺรหฺมทตฺโต นาม, เอโก เวสฺสภู นาม, เอโก เตเนว สห ภรโต นาม, เอโก เรณุ นาม, ทฺเว ปน ธตรฏฺาติ อิเม สตฺต ชมฺพุทีปตเล ภารธา มหาราชาโน อเหสุนฺติ.

ปมภาณวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

กิตฺติสทฺทอพฺภุคฺคมนวณฺณนา

๓๑๑. อุปสงฺกมึสูติ ‘‘อมฺหากํ อยํ อิสฺสริยสมฺปตฺติ น อฺสฺสานุภาเวน, มหาโควินฺทสฺสานุภาเวน นิปฺผนฺนา. มหาโควินฺโท อมฺเห สตฺต ราชาโน สมคฺเค กตฺวา ชมฺพุทีปตเล ปติฏฺาเปสิ, ปุพฺพูปการิสฺส ปน น สุกรา ปฏิกิริยา กาตุํ. อมฺเห สตฺตปิ ชเน เอโสเยว อนุสาสตุ, เอตํเยว เสนาปติฺจ ปุโรหิตฺจ กโรม, เอวํ โน วุทฺธิ ภวิสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา อุปสงฺกมึสุ. มหาโควินฺโทปิ – ‘‘มยา เอเต สมคฺคา กตา, สเจ เอเตสํ อฺโ เสนาปติ ปุโรหิโต จ ภวิสฺสติ, ตโต อตฺตโน อตฺตโน เสนาปติปุโรหิตานํ วจนํ คเหตฺวา อฺมฺํ ภินฺทิสฺสนฺติ, อธิวาเสมิ เนสํ เสนาปติฏฺานฺจ ปุโรหิตฏฺานฺจา’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘เอวํ โภ’’ติ ปจฺจสฺโสสิ.

สตฺต จ พฺราหฺมณมหาสาเลติ ‘‘อหํ สพฺพฏฺาเนสุ สมฺมุโข ภเวยฺยํ วา น วา, ยตฺถาหํ สมฺมุโข น ภวิสฺสามิ, ตตฺเถว เต กตฺตพฺพํ กริสฺสนฺตี’’ติ สตฺต อนุปุโรหิเต เปสิ. เต สนฺธาย อิทํ วุตฺตํ – ‘‘สตฺต จ พฺราหฺมณมหาสาเล’’ติ. ทิวสสฺส ทฺวิกฺขตฺตุํ วา สายํ ปาโต วา นหายนฺตีติ นหาตกา. วตจริยปริโยสาเน วา นหาตา, ตโต ปฏฺาย พฺราหฺมเณหิ สทฺธึ น ขาทนฺติ น ปิวนฺตีติ นหาตกา.

๓๑๒. อพฺภุคฺคจฺฉีติ อภิอุคฺคจฺฉิ. ตทา กิร มนุสฺสานํ ‘‘น พฺรหฺมุนา สทฺธึ อมนฺเตตฺวา สกฺกา เอวํ สกลชมฺพุทีปํ อนุสาสิตุ’’นฺติ นิสินฺนนิสินฺนฏฺาเน อยเมว กถา ปวตฺติตฺถ. น โข ปนาหนฺติ มหาปุริโส กิร – ‘‘อยํ มยฺหํ อภูโต วณฺโณ อุปฺปนฺโน, วณฺณุปฺปตฺติ โข ปน น ภาริยา, อุปฺปนฺนสฺส วณฺณสฺส รกฺขนเมว ภาริยํ, อยฺจ เม อจินฺเตตฺวา อมนฺเตตฺวา กโรนฺตสฺเสว วณฺโณ อุปฺปนฺโนว, จินฺเตตฺวา มนฺเตตฺวา กโรนฺตสฺส ปน วิตฺถาริกตโร ภวิสฺสตี’’ติ พฺรหฺมทสฺสเน อุปายํ ปริเยสนฺโต ตํ ทิสฺวา สุตํ โข ปน เมตนฺติอาทิอตฺถํ ปริวิตกฺเกสิ.

๓๑๓. เยนเรณุ ราชา เตนุปสงฺกมีติ เอวํ เม อนฺตรา ทฏฺุกาโม วา สลฺลปิตุกาโม วา น ภวิสฺสติ, ยโต ฉินฺนปลิโพโธ สุขํ วิหริสฺสามีติ ปลิโพธุปจฺเฉทนตฺถํ อุปสงฺกมิ, เอส นโย สพฺพตฺถ.

๓๑๖. สาทิสิโยติ สมวณฺณา สมชาติกา.

๓๑๗. นวํ สนฺธาคารํ กาเรตฺวาติ รตฺติฏฺานทิวาฏฺานจงฺกมนสมฺปนฺนํ วสฺสิเก จตฺตาโร มาเส วสนกฺขมํ พหิ นฬปริกฺขิตฺตํ วิจิตฺตํ อาวสถํ กาเรตฺวา. กรุณํ ฌานํ ฌายีติ กรุณาย ติกจตุกฺกชฺฌานํ ฌายิ, กรุณามุเขน ปเนตฺถ อวเสสาปิ ตโย พฺรหฺมวิหารา คหิตาว. อุกฺกณฺนา ปริตสฺสนาติ ฌานภูมิยํ ิตสฺส อนภิรติอุกฺกณฺนา วา ภยปริตสฺสนา วา นตฺถิ, พฺรหฺมุโน ปน อาคมนปตฺถนา อาคมนตณฺหา อหูติ อตฺโถ.

พฺรหฺมุนาสากจฺฉาวณฺณนา

๓๑๘. ภยนฺติ จิตฺตุตฺราสภยเมว. อชานนฺตาติ อชานมานา. กถํ ชาเนมุ ตํ มยนฺติ (ที. นิ. ๒.๑๗๙) มยํ กินฺติ ตํ ชานาม, อยํ กตฺถวาสิโก, กินฺนาโม, กึ โคตฺโตติอาทีนํ อาการานํ เกน อากาเรน ตํ ธารยามาติ อตฺโถ.

มํ เว กุมารํ ชานนฺตีติ มํ ‘‘กุมาโร’’ติ ‘‘ทหโร’’ติ ชานนฺติ. พฺรหฺมโลเกติ เสฏฺโลเก. สนนฺตนนฺติ จิรตนํ โปราณกํ . อหํ โส โปราณกุมาโร สนงฺกุมาโร นาม พฺรหฺมาติ ทสฺเสติ. เอวํ โควินฺท ชานาหีติ โควินฺท ปณฺฑิต, ตฺวํ เอวํ ชานาหิ, เอวํ มํ ธาเรหิ.

‘‘อาสนํ อุทกํ ปชฺชํ, มธุสากฺจ พฺรหฺมุโน;

อคฺเฆ ภวนฺตํ ปุจฺฉาม, อคฺฆํ กุรุตุ โน ภว’’นฺติ. –

เอตฺถ อคฺฆนฺติ อติถิโน อุปนาเมตพฺพํ วุจฺจติ. เตเนว อิทมาสนํ ปฺตฺตํ, เอตฺถ นิสีทถ, อิทํ อุทกํ ปริสุทฺธํ, อิโต ปานียํ ปิวถ, ปาเท โธวถ, อิทํ ปชฺชํ ปาทานํ หิตตฺถาย อภิสงฺขตํ เตลํ, อิโต ปาเท มกฺเขถ, อิทํ มธุสากนฺติ. โพธิสตฺตสฺส พฺรหฺมจริยํ น อฺเสํ พฺรหฺมจริยสทิสํ โหติ, น โส ‘‘อิทํ สฺเว, อิทํ ตติยทิวเส ภวิสฺสตี’’ติ สนฺนิธึ นาม กโรติ. มธุสากํ ปน อโลณํ อธูปนํ อตกฺกํ อุทเกน เสทิตสากํ, ตํ สนฺธาเยส – ‘‘อิทํ ปริภุฺชถา’’ติ วทนฺโต ‘‘อคฺเฆ ภวนฺตํ ปุจฺฉามา’’ติอาทิมาห. อิเม สพฺเพปิ อคฺฆา พฺรหฺมุโน อตฺถิ. เต อคฺเฆ ภวนฺตํ ปุจฺฉาม. เอวํ ปุจฺฉนฺตานฺจ อคฺฆํ กุรุตุ โน ภวํ, ปฏิคฺคณฺหาตุ โน ภวํ อิทมคฺฆนฺติ วุตฺตํ โหติ. กึ ปเนส – ‘‘อิโต เอกมฺปิ พฺรหฺมา น ภุฺชตี’’ติ อิทํ น ชานาตีติ. โน น ชานาติ, ชานนฺโตปิ อตฺตโน สนฺติเก อาคโต อติถิ ปุจฺฉิตพฺโพติ วตฺตสีเสน ปุจฺฉติ.

อถ โข พฺรหฺมา – ‘‘กึ นุ โข ปณฺฑิโต มม ปริโภคกรณาภาวํ ตฺวา ปุจฺฉติ, อุทาหุ โกหฺเ ตฺวา ปุจฺฉตี’’ติ สมนฺนาหรนฺโต ‘‘วตฺตสีเส ิโต ปุจฺฉตี’’ติ ตฺวา ปฏิคฺคณฺหิตุํ ทานิ เม วฏฺฏตีติ ปฏิคฺคณฺหาม เต อคฺฆํ, ยํ ตฺวํ โควินฺท ภาสสีติ อาห. ยํ ตฺวํ โควินฺท ภาสสิ – ‘‘อิทมาสนํ ปฺตฺตํ, เอตฺถ นิสีทถา’’ติอาทิ, ตตฺร เต มยํ อาสเน นิสินฺนา นาม โหม, ปานียํ ปีตา นาม โหม, ปาทาปิ เม โธตา นาม โหนฺตุ, เตเลนปิ มกฺขิตา นาม โหนฺตุ, อุทกสากมฺปิ ปริภุตฺตํ นาม โหตุ, ตยา ทินฺนํ อธิวาสิตกาลโต ปฏฺาย ยํ ยํ ตฺวํ ภาสสิ, ตํ ตํ มยา ปฏิคฺคหิตเมว โหติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ปฏิคฺคณฺหาม เต อคฺฆํ, ยํ ตฺวํ โควินฺท ภาสสี’’ติ. เอวํ ปน อคฺฆํ ปฏิคฺคณฺหิตฺวา ปฺหสฺส โอกาสํ กโรนฺโต ทิฏฺธมฺมหิตตฺถายาติอาทิมาห.

กงฺขีอกงฺขึ ปรเวทิเยสูติ อหํ สวิจิกิจฺโฉ ภวนฺตํ ปเรน สยํ อภิสงฺขตตฺตา ปรสฺส ปากเฏสุ ปรเวทิเยสุ ปฺเหสุ นิพฺพิจิกิจฺฉํ.

หิตฺวา มมตฺตนฺติ อิทํ มม, อิทํ มมาติ อุปกรณตณฺหํ จชิตฺวา. มนุเชสูติ สตฺเตสุ, มนุเชสุ โย โกจิ มนุโช มมตฺตํ หิตฺวาติ อตฺโถ. เอโกทิภูโตติ เอกีภูโต, เอโก ติฏฺนฺโต เอโก นิสีทนฺโตติ. วจนตฺโถ ปเนตฺถ เอโก อุเทติ ปวตฺตตีติ เอโกทิ, ตาทิโส ภูโตติ เอโกทิภูโต . กรุเณธิมุตฺโตติ กรุณาฌาเน อธิมุตฺโต, ตํ ฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวาติ อตฺโถ. นิรามคนฺโธติ วิสฺสคนฺธวิรหิโต. เอตฺถ ิโตติ เอเตสุ ธมฺเมสุ ิโต. เอตฺถ จ สิกฺขมาโนติ เอเตสุ ธมฺเมสุ สิกฺขมาโน. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน อุปริ มหาโควินฺเทน จ พฺรหฺมุนา จ วุตฺโตเยว.

๓๒๐. ตตฺถ เอเต อวิทฺวาติ เอเต อามคนฺเธ อหํ อวิทฺวา, น ชานามีติ อตฺโถ. อิธ พฺรูหิ ธีราติ เต เม ตฺวํ อิธ ธีร ปณฺฑิต, พฺรูหิ, วท. เกนาวฏา วาติ ปชา กุรุตูติ กตเมน กิเลสาวรเณน อาวริตา ปชา ปูติกา วายติ. อาปายิกาติ อปายูปคา. นิวุตพฺรหฺมโลกาติ นิวุโต ปิหิโต พฺรหฺมโลโก อสฺสาติ นิวุตพฺรหฺมโลโก. กตเมน กิเลเสน ปชาย พฺรหฺมโลกูปโค มคฺโค นิวุโต ปิหิโต ปฏิจฺฉนฺโนติ ปุจฺฉติ.

โกโธ โมสวชฺชํ นิกติ จ ทุพฺโภติ กุชฺฌนลกฺขโณ โกโธ จ, ปรวิสํวาทนลกฺขโณ มุสาวาโท จ, สทิสํ ทสฺเสตฺวา วฺจนลกฺขณา นิกติ จ, มิตฺตทุพฺภนลกฺขโณ ทุพฺโภ จ. กทริยตา อติมาโน อุสูยาติ ถทฺธมจฺฉริยลกฺขณา กทริยตา จ, อติกฺกมิตฺวา มฺนลกฺขโณ อติมาโน จ, ปรสมฺปตฺติขียนลกฺขณา อุสูยา จ. อิจฺฉา วิวิจฺฉา ปรเหนา จาติ ตณฺหาลกฺขณา อิจฺฉา จ, มจฺฉริยลกฺขณา วิวิจฺฉา จ, วิหึสาลกฺขณา ปรเหนา จ. โลโภ จ โทโส จ มโท จ โมโหติ ยตฺถ กตฺถจิ ลุพฺภนลกฺขโณ โลโภ จ, ทุสฺสนลกฺขโณ โทโส จ, มชฺชนลกฺขโณ มโท จ, มุยฺหนลกฺขโณ โมโห จ. เอเตสุ ยุตฺตา อนิรามคนฺธาติ เอเตสุ จุทฺทสสุ กิเลเสสุ ยุตฺตา ปชา นิรามคนฺธา น โหติ, อามคนฺธา สกุณปคนฺธา ปูติคนฺธาเยวาติ วทติ. อาปายิกา นิวุตพฺรหฺมโลกาติ เอสา ปน อาปายิกา เจว โหติ, ปฏิจฺฉนฺนพฺรหฺมโลกมคฺคา จาติ. อิทํ ปน สุตฺตํ กเถนฺเตน อามคนฺธสุตฺเตน ทีเปตฺวา กเถตพฺพํ, อามคนฺธสุตฺตมฺปิ อิมินา ทีเปตฺวา กเถตพฺพํ.

เต น สุนิมฺมทยาติ เต อามคนฺธา สุนิมฺมทยา สุเขน นิมฺมเทตพฺพา ปหาตพฺพา น โหนฺติ, ทุปฺปชหา ทุชฺชยาติ อตฺโถ. ยสฺส ทานิ ภวํ โควินฺโท กาลํ มฺตีติ ‘‘ยสฺสา ปพฺพชฺชาย ภวํ โควินฺโท กาลํ มฺติ, อยเมว โหตุ, เอวํ สติ มยฺหมฺปิ ตว สนฺติเก อาคมนํ สฺวาคมนํ ภวิสฺสติ, กถิตธมฺมกถา สุกถิตา ภวิสฺสติ, ตฺวํ ตาต สกลชมฺพุทีเป อคฺคปุริโส ทหโร ปมวเย ิโต, เอวํ มหนฺตํ นาม สมฺปตฺติสิริวิลาสํ ปหาย ตว ปพฺพชนํ นาม คนฺธหตฺถิโน อยพนฺธนํ ฉินฺทิตฺวา คมนํ วิย อติอุฬารํ, พุทฺธตนฺติ นาเมสา’’ติ มหาปุริสสฺส ทฬฺหีกมฺมํ กตฺวา พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร พฺรหฺมโลกเมว คโต.

เรณุราชอามนฺตนาวณฺณนา

๓๒๑. มหาปุริโสปิ ‘‘มม อิโตว นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชนํ นาม น ยุตฺตํ, อหํ ราชกุลสฺส อตฺถํ อนุสาสามิ, ตสฺมา รฺโ อาโรเจสฺสามิ. สเจ โสปิ ปพฺพชิสฺสติ, สุนฺทรเมว. โน เจ ปพฺพชิสฺสติ, ปุโรหิตฏฺานํ นิยฺยาเตตฺวา อหํ ปพฺพชิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ราชานํ อุปสงฺกมิ, เตน วุตฺตํ – ‘‘อถ โข โภ มหาโควินฺโท,…เป… นาหํ โปโรหจฺเจ รเม’’ติ.

ตตฺถ ตฺวํ ปชานสฺสุ รชฺเชนาติ ตว รชฺเชน ตฺวเมว ชานาหิ. นาหํ โปโรหิจฺเจ รเมติ อหํ ปุโรหิตภาเว น รมามิ, อุกฺกณฺิโตสฺมิ, อฺํ อนุสาสกํ ชานาหิ, นาหํ โปโรหิจฺเจ รเมติ.

อถ ราชา – ‘‘ธุวํ จตฺตาโร มาเส ปฏิสลฺลีนสฺส พฺราหฺมณสฺส เคเห โภคา มนฺทา ชาตา’’ติ จินฺเตตฺวา ธเนน นิมนฺเตนฺโต – ‘‘สเจ เต อูนํ กาเมหิ. อหํ ปริปูรยามิ เต’’ติ วตฺวา ปุน – ‘‘กินฺนุ โข เอส เอกโก วิหรนฺโต เกนจิ วิหึสิโต ภเวยฺยา’’ติ จินฺเตตฺวา,

‘‘โย ตํ หึสติ วาเรมิ, ภูมิเสนาปติ อหํ;

ตุวํ ปิตา อหํ ปุตฺโต, มา โน โควินฺท ปาชหี’’ติ. –

อาห . ตสฺสตฺโถ – โย ตํ หึสติ, ตํ วาเรมิ, เกวลํ ตุมฺเห ‘‘อสุโก’’ติ อาจิกฺขถ, อหเมตฺถ กตฺตพฺพํ ชานิสฺสามีติ. ภูมิเสนาปติ อหนฺติ อถ วา อหํ ปถวิยา สามี, สฺวาหํ อิมํ รชฺชํ ตุมฺเหเยว ปฏิจฺฉาเปสฺสามิ. ตุวํ ปิตา อหํ ปุตฺโตติ ตฺวํ ปิติฏฺาเน สฺสสิ, อหํ ปุตฺตฏฺาเน. โส ตฺวํ มม มนํ หริตฺวา อตฺตโนเยว มนํ โควินฺท, ปาเชหิ; ยถา อิจฺฉสิ ตถา ปวตฺตสฺสุ. อหํ ปน ตว มนํเยว อนุวตฺตนฺโต ตยา ทินฺนปิณฺฑํ ปริภุฺชนฺโต ตํ อสิจมฺมหตฺโถ วา อุปฏฺหิสฺสามิ, รถํ วา เต ปาเชสฺสามิ. ‘‘มา โน โควินฺท, ปชหี’’ติ วา ปาโ . ตสฺสตฺโถ – ตฺวํ ปิติฏฺาเน ติฏฺ, อหํ ปุตฺตฏฺาเน สฺสามิ. มา โน ตฺวํ โภ โควินฺท, ปชหิ, มา ปริจฺจชีติ. อถ มหาปุริโส ยํ ราชา จินฺเตสิ, ตสฺส อตฺตนิ อภาวํ ทสฺเสนฺโต –

‘‘น มตฺถิ อูนํ กาเมหิ, หึสิตา เม น วิชฺชติ;

อมนุสฺสวโจ สุตฺวา, ตสฺมาหํ น คเห รเม’’ติ. –

อาห. ตตฺถ น มตฺถีติ น เม อตฺถิ. คเหติ เคเห. อถ นํ ราชา ปุจฺฉิ –

‘‘อมนุสฺโส กถํ วณฺโณ, กึ เต อตฺถํ อภาสถ;

ยฺจ สุตฺวา ชหาสิ โน, เคเห อมฺเห จ เกวลี’’ติ.

ตตฺถ ชหาสิ โน, เคเห อมฺเห จ เกวลีติ พฺราหฺมณสฺส สมฺปตฺติภริเต เคเห สงฺคหวเสน อตฺตโน เคเห กโรนฺโต ยํ สุตฺวา อมฺหากํ เคเห จ อมฺเห จ เกวลี สพฺเพ อปริเสเส ชมฺพุทีปวาสิโน ชหาสีติ วทติ.

อถสฺส อาจิกฺขนฺโต มหาปุริโส อุปวุตฺถสฺส เม ปุพฺเพติอาทิมาห. ตตฺถ อุปวุตฺถสฺสาติ จตฺตาโร มาเส เอกีภาวํ อุปคนฺตฺวา วุตฺถสฺส. ยิฏฺกามสฺส เม สโตติ ยชิตุกามสฺส เม สมานสฺส. อคฺคิ ปชฺชลิโต อาสิ, กุสปตฺตปริตฺถโตติ กุสปตฺเตหิ ปริตฺถโต สปฺปิทธิมธุอาทีนิ ปกฺขิปิตฺวา อคฺคิ ชลยิตุมารทฺโธ อาสิ, เอวํ อคฺคึ ชาเลตฺวา ‘‘มหาชนสฺส ทานํ ทสฺสามี’’ติ เอวํ จินฺเตตฺวา ิตสฺส มมาติ อยเมตฺถ อตฺโถ.

สนนฺตโนติ สนงฺกุมาโร พฺรหฺมา. ตโต ราชา สยมฺปิ ปพฺพชิตุกาโม หุตฺวา สทฺทหามีติอาทิมาห. ตตฺถ กถํ วตฺเตถ อฺถาติ กถํ ตุมฺเห อฺถา วตฺติสฺสถ. เต ตํ อนุวตฺติสฺสามาติ เต มยมฺปิ ตุมฺเหเยว อนุวตฺติสฺสาม, อนุปพฺพชิสฺสามาติ อตฺโถ. ‘‘อนุวชิสฺสามา’’ติปิ ปาโ, ตสฺส อนุคจฺฉิสฺสามาติ อตฺโถ. อกาโจติ นิกฺกาโจ อกกฺกโส. โควินฺทสฺสานุสาสเนติ ตว โควินฺทสฺส สาสเน. ภวนฺตํ โควินฺทเมว สตฺถารํ กริตฺวา จริสฺสามาติ วทติ.

ฉ ขตฺติยอามนฺตนาวณฺณนา

๓๒๒. เยนเต ฉ ขตฺติยา เตนุปสงฺกมีติ เรณุํ ราชานํ ‘‘สาธุ มหาราช รชฺชํ นาม มาตรํ ปิตรํ ภาติภคินีอาทโยปิ มาเรตฺวา คณฺหนฺเตสุ สตฺเตสุ เอวํ มหนฺตํ รชฺชสิรึ ปหาย ปพฺพชิตุกาเมน อุฬารํ มหาราเชน กต’’นฺติ อุปตฺถมฺเภตฺวา ทฬฺหตรมสฺส อุสฺสาหํ กตฺวา อุปสงฺกมิ . เอวํ สมจินฺเตสุนฺติ รฺโ จินฺติตนเยเนว กทาจิ พฺราหฺมณสฺส โภคา ปริหีนา ภเวยฺยุนฺติ มฺมานา สมจินฺเตสุํ. ธเนน สิกฺเขยฺยามาติ อุปลาเปยฺยาม สงฺคณฺเหยฺยาม. ตาวตกํ อาหรียตนฺติ ตาวตกํ อาหราปิยตุ คณฺหิยตุ, ยตฺตกํ อิจฺฉถ, ตตฺตกํ คณฺหถาติ วุตฺตํ โหติ. ภวนฺตานํเยว วาหสาติ ภวนฺเต ปจฺจยํ กตฺวา, ตุมฺเหหิ ทินฺนตฺตาเยว ปหูตํ สาปเตยฺยํ ชาตํ.

๓๒๓. สเจ ชหถ กามานีติ สเจ วตฺถุกาเม จ กิเลสกาเม จ ปริจฺจชถ. ยตฺถ สตฺโต ปุถุชฺชโนติ เยสุ กาเมสุ ปุถุชฺชโน สตฺโต ลคฺโค ลคฺคิโต. อารมฺภวฺโห ทฬฺหา โหถาติ เอวํ สนฺเต วีริยํ อารภถ, อสิถิลปรกฺกมตํ อธิฏฺาย ทฬฺหา ภวถ. ขนฺตีพลสมาหิตาติ ขนฺติพเลน สมนฺนาคตา ภวถาติ ราชูนํ อุสฺสาหํ ชเนติ.

เอส มคฺโค อุชุมคฺโคติ เอส กรุณาฌานมคฺโค อุชุมคฺโค นาม. เอส มคฺโค อนุตฺตโรติ เอเสว พฺรหฺมโลกูปปตฺติยา อสทิสมคฺโค อุตฺตมมคฺโค นาม. สทฺธมฺโม สพฺภิ รกฺขิโตติ เอโส เอว จ พุทฺธปจฺเจกพุทฺธสาวเกหิ สพฺภิรกฺขิตธมฺโม นาม. อิติ กรุณาฌานสฺส วณฺณภณเนนาปิ เตสํ อนิวตฺตนตฺถาย ทฬฺหีกมฺมเมว กโรติ.

โก นุ โข ปน โภ ชานาติ ชีวิตานนฺติ โภ ชีวิตํ นาม อุทกปุปฺผุฬูปมํ ติณคฺเค อุสฺสาวพินฺทูปมํ ตงฺขณวิทฺธํสนธมฺมํ, ตสฺส โก คตึ ชานาติ, กิสฺมึ ขเณ ภิชฺชิสฺสติ? คมนีโย สมฺปราโยติ ปรโลโก ปน อวสฺสํ คนฺตพฺโพว, ตตฺถ ปณฺฑิเตน กุลปุตฺเตน มนฺตายํ โพทฺธพฺพํ. มนฺตา วุจฺจติ ปฺา, ตาย มนฺเตตพฺพํ พุชฺฌิตพฺพํ, อุปปริกฺขิตพฺพฺจ ชานิตพฺพฺจาติ อตฺโถ. กรณตฺเถ วา ภุมฺมํ. มนฺตายํ โพทฺธพฺพนฺติ มนฺตาย พุชฺฌิตพฺพํ, าเณน ชานิตพฺพนฺติ อตฺโถ. กึ พุชฺฌิตพฺพํ? ชีวิตสฺส ทุชฺชานตา, สมฺปรายสฺส จ อวสฺสํ คมนียตา, พุชฺฌิตฺวา จ ปน สพฺพปลิโพเธ ฉินฺทิตฺวา กตฺตพฺพํ กุสลํ จริตพฺพํ พฺรหฺมจริยํ. กสฺมา? ยสฺมา นตฺถิ ชาตสฺส อมรณํ.

พฺราหฺมณมหาสาลาทีนํ อามนฺตนาวณฺณนา

๓๒๔. อปฺเปสกฺขา จ อปฺปลาภา จาติ โภ ปพฺพชฺชา นาม อปฺปยสา เจว, ปพฺพชิตกาลโต ปฏฺาย หิ รชฺชํ ปหาย ปพฺพชิตํ วิเหเตฺวา วิเหเตฺวา ลามกํ อนาถํ กตฺวาว กเถนฺติ. อปฺปลาภา จ, สกลคามํ จริตฺวาปิ อชฺโฌหรณียํ ทุลฺลภเมว. อิทํ ปน พฺรหฺมฺํมเหสกฺขฺจ มหายสตฺตา, มหาลาภฺจ ลาภสกฺการสมฺปนฺนตฺตา. ภวฺหิ เอตรหิ สกลชมฺพุทีเป อคฺคปุโรหิโต สพฺพตฺถ อคฺคาสนํ อคฺโคทกํ อคฺคภตฺตํ อคฺคคนฺธํ อคฺคมาลํ ลภตีติ.

ราชาว รฺนฺติ อหฺหิ โภ เอตรหิ ปกติรฺํ มชฺเฌ จกฺกวตฺติราชา วิย. พฺรหฺมาว พฺรหฺมานนฺติ ปกติพฺรหฺมานํ มชฺเฌ มหาพฺรหฺมสทิโส. เทวตาว คหปติกานนฺติ อวเสสคหปติกานํ ปนมฺหิ สกฺกเทวราชสทิโส.

ภริยานํ อามนฺตนาวณฺณนา

๓๒๕. จตฺตารีสา ภริยา สาทิสิโยติ สาทิสิโยว จตฺตารีสา ภริยา, อฺา ปนสฺส ตีสุ วเยสุ นาฏกิตฺถิโย พหุกาเยว.

มหาโควินฺทปพฺพชฺชาวณฺณนา

๓๒๖. จาริกํ จรตีติ คามนิคมปฏิปาฏิยา จาริกํ จรติ, คตคตฏฺาเน พุทฺธโกลาหลํ วิย โหติ. มนุสฺสา ‘‘มหาโควินฺทปณฺฑิโต กิร อาคจฺฉตี’’ติ สุตฺวา ปุเรตรเมว มณฺฑปํ กาเรตฺวา มคฺคํ อลงฺกริตฺวา ปจฺจุคฺคนฺตฺวา คณฺหิตฺวา เอนฺติ, มหาลาภสกฺกาโร มโหโฆ วิย อชฺโฌตฺถรนฺโต อุปฺปชฺชิ. สตฺตปุโรหิตสฺสาติ สตฺตนฺนํ ราชูนํ ปุโรหิตสฺส. อิติ ยถา เอตรหิ เอวรูเปสุ วา าเนสุ กิสฺมิฺจิเทว ทุกฺเข อุปฺปนฺเน ‘‘นโม พุทฺธสฺสา’’ติ วทนฺติ, เอวํ ตทา ‘‘นมตฺถุ มหาโควินฺทสฺส พฺราหฺมณสฺส, นมตฺถุ สตฺตปุโรหิตสฺสา’’ติ วทนฺติ.

๓๒๗. เมตฺตาสหคเตนาติอาทินา นเยน ปาฬิยํ พฺรหฺมวิหาราว อาคตา, มหาปุริโส ปน สพฺพาปิ อฏฺ สมาปตฺติโย จ ปฺจ จ อภิฺาโย นิพฺพตฺเตสิ. สาวกานฺจ พฺรหฺมโลกสหพฺยตาย มคฺคํ เทเสสีติ พฺรหฺมโลเก พฺรหฺมุนา สหภาวาย มคฺคํ กเถสิ.

๓๒๘. สพฺเพนสพฺพนฺติ เย อฏฺ จ สมาปตฺติโย ปฺจ จ อภิฺาโย นิพฺพตฺเตสุํ. เย น สพฺเพน สพฺพํ สาสนํ อาชานึสูติ เย อฏฺสุ สมาปตฺตีสุ เอกสมาปตฺติมฺปิ น ชานึสุ, น สกฺขึสุ นิพฺพตฺเตตุํ. อโมฆาติ สวิปากา. อวฺฌาติ น วฺฌา. สพฺพนิหีนํ ปสวนฺติ คนฺธพฺพกายํ ปสวิ. สผลาติ อวเสสเทวโลกูปปตฺตีหิ สาตฺถา. สอุทฺรยาติ พฺรหฺมโลกูปปตฺติยา สวุฑฺฒิ.

๓๒๙. สรามหนฺติ สรามิ อหํ ปฺจสิข, อิมินา กิร ปเทน อยํ สุตฺตนฺโต พุทฺธภาสิโต นาม ชาโต. น นิพฺพิทายาติ น วฏฺเฏ นิพฺพินฺทนตฺถาย. น วิราคายาติ น วฏฺเฏ วิราคตฺถาย. น นิโรธายาติ น วฏฺฏสฺส นิโรธตฺถาย. น อุปสมายาติ น วฏฺฏสฺส อุปสมนตฺถาย. น อภิฺายาติ น วฏฺฏํ อภิชานนตฺถาย. น สมฺโพธายาติ น กิเลสนิทฺทาวิคเมน วฏฺฏโต ปพุชฺฌนตฺถาย. น นิพฺพานายาติ น อมตนิพฺพานตฺถาย.

เอกนฺตนิพฺพิทายาติ เอกนฺตเมว วฏฺเฏ นิพฺพินฺทนตฺถาย. เอตฺถ ปน นิพฺพิทายาติ วิปสฺสนา. วิราคายาติ มคฺโค. นิโรธาย อุปสมายาติ นิพฺพานํ. อภิฺาย สมฺโพธายาติ มคฺโค. นิพฺพานายาติ นิพฺพานเมว. เอวํ เอกสฺมึ าเน วิปสฺสนา, ตีสุ มคฺโค, ตีสุ นิพฺพานํ วุตฺตนฺติ เอวํ ววตฺถานกถา เวทิตพฺพา. ปริยาเยน ปน สพฺพานิเปตานิ มคฺคเววจนานิปิ นิพฺพานเววจนานิปิ โหนฺติเยว. สมฺมาทิฏฺิอาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ วิสุทฺธิมคฺเค สจฺจวณฺณนายํ วุตฺตเมว.

๓๓๐. เย น สพฺเพนสพฺพนฺติ เย จตฺตาโรปิ อริยมคฺเค ปริปูเรตุํ น ชานนฺติ, ตีณิ วา ทฺเว วา เอกํ วา นิพฺพตฺเตนฺติ. สพฺเพสํเยว อิเมสํ กุลปุตฺตานนฺติ พฺรหฺมจริยจิณฺณกุลปุตฺตานํ. อโมฆา…เป… สผลา สอุทฺรยาติ อรหตฺตนิกูเฏน เทสนํ นิฏฺาเปสิ.

ภควนฺตํอภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวาติ (ที. นิ. ๒.๑๘๘) ภควโต ธมฺมเทสนํ จิตฺเตน สมฺปฏิจฺฉนฺโต อภินนฺทิตฺวา วาจาย ปสํสมาโน อนุโมทิตฺวา มหนฺตํ อฺชลึ สิรสฺมึ ปติฏฺเปตฺวา ปสนฺนลาขารเส นิมุชฺชมาโน วิย ทสพลสฺส ฉพฺพณฺณรสฺมิชาลนฺตรํ ปวิสิตฺวา จตูสุ าเนสุ วนฺทิตฺวา ติกฺขตฺตุํ ปทกฺขิณํ กตฺวา ภควนฺตํ อภิตฺถวนฺโต อภิตฺถวนฺโต สตฺถุ ปุรโต อนฺตรธายิตฺวา อตฺตโน เทวโลกเมว อคมาสีติ.

อิติ สุมงฺคลวิลาสินิยา ทีฆนิกายฏฺกถายํ

มหาโควินฺทสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.