📜
๗. มหาสมยสุตฺตวณฺณนา
นิทานวณฺณนา
๓๓๑. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตนฺติ มหาสมยสุตฺตํ. ตตฺรายมปุพฺพปทวณฺณนา – สกฺเกสูติ อมฺพฏฺสุตฺเต วุตฺเตน อุปฺปตฺตินเยน ‘‘สกฺยา วต, โภ กุมารา’’ติ อุทานํ ปฏิจฺจ สกฺกาติ ลทฺธนามานํ ราชกุมารานํ นิวาโส เอโกปิ ชนปโท รุฬฺหีสทฺเทน ‘‘สกฺกา’’ติ วุจฺจติ, ตสฺมึ สกฺเกสุ ชนปเท. มหาวเนติ สยํชาเต อโรปิเต หิมวนฺเตน สทฺธึ เอกาพทฺเธ มหติ วเน. สพฺเพเหว อรหนฺเตหีติ อิมํ สุตฺตํ กถิตทิวเสเยว ปตฺตอรหตฺเตหิ.
ตตฺรายํ อนุปุพฺพิกถา – สากิยโกลิยา กิร กปิลวตฺถุนครสฺส จ โกลิยนครสฺส จ อนฺตเร โรหิณึ นาม นทึ เอเกเนว อาวรเณน พนฺธาเปตฺวา สสฺสานิ กโรนฺติ, อถ เชฏฺมูลมาเส สสฺเสสุ มิลายนฺเตสุ อุภยนครวาสิกานมฺปิ กมฺมกรา สนฺนิปตึสุ. ตตฺถ โกลิยนครวาสิโน อาหํสุ – ‘‘อิทํ อุทกํ อุภโต หริยมานํ น ตุมฺหากํ น อมฺหากํ ปโหสฺสติ, อมฺหากํ ปน สสฺสํ เอเกน อุทเกเนว นิปฺผชฺชิสฺสติ, อิทํ อุทกํ อมฺหากํ เทถา’’ติ. กปิลวตฺถุนครวาสิโน อาหํสุ – ‘‘ตุมฺเหสุ โกฏฺเ ปูเรตฺวา ิเตสุ มยํ รตฺตสุวณฺณนีลมณิกาฬกหาปเณ จ คเหตฺวา ปจฺฉิปสิพฺพกาทิหตฺถา น สกฺขิสฺสาม ตุมฺหากํ ฆรทฺวาเร วิจริตุํ, อมฺหากมฺปิ สสฺสํ เอเกเนว อุทเกน นิปฺผชฺชิสฺสติ, อิทํ อุทกํ อมฺหากํ เทถา’’ติ. ‘‘น ¶ มยํ ทสฺสามา’’ติ. ‘‘มยมฺปิ น ทสฺสามา’’ติ. เอวํ กลหํ วฑฺเฒตฺวา เอโก อุฏฺาย เอกสฺส ปหารํ อทาสิ, โสปิ อฺสฺสาติ เอวํ อฺมฺํ ปหริตฺวา ราชกุลานํ ชาตึ ฆฏฺเฏตฺวา กลหํ วฑฺฒยึสุ.
โกลิยกมฺมกรา วทนฺติ – ‘‘ตุมฺเห กปิลวตฺถุวาสิเก คเหตฺวา คชฺชถ, เย โสณสิงฺคาลาทโย วิย อตฺตโน ภคินีหิ สทฺธึ สํวสึสุ. เอเตสํ หตฺถิโน จ อสฺสา จ ผลกาวุธานิ ¶ จ อมฺหากํ กึ กริสฺสนฺตี’’ติ? สากิยกมฺมกราปิ วทนฺติ – ‘‘ตุมฺเห ทานิ กุฏฺิโน ทารเก คเหตฺวา คชฺชถ, เย อนาถา นิคฺคติกา ติรจฺฉานา วิย โกลรุกฺเข วสึสุ, เอเตสํ หตฺถิโน จ อสฺสา จ ผลกาวุธานิ จ อมฺหากํ ¶ กึ กริสฺสนฺตี’’ติ? เต คนฺตฺวา ตสฺมึ กมฺเม นิยุตฺตอมจฺจานํ กเถสุํ, อมจฺจา ราชกุลานํ กเถสุํ, ตโต สากิยา – ‘‘ภคินีหิ สทฺธึ สํวาสิกานํ ถามฺจ พลฺจ ทสฺเสสฺสามา’’ติ ยุทฺธสชฺชา นิกฺขมึสุ. โกลิยาปิ – ‘‘โกลรุกฺขวาสีนํ ถามฺจ พลฺจ ทสฺเสสฺสามา’’ติ ยุทฺธสชฺชา นิกฺขมึสุ.
ภควาปิ รตฺติยา ปจฺจูสสมเยว มหากรุณาสมาปตฺติโต วุฏฺาย โลกํ โวโลเกนฺโต อิเม เอวํ ยุทฺธสชฺเช นิกฺขมนฺเต อทฺทส. ทิสฺวา – ‘‘มยิ คเต อยํ กลโห วูปสมิสฺสติ นุ โข อุทาหุ โน’’ติ อุปธาเรนฺโต – ‘‘อหเมตฺถ คนฺตฺวา กลหวูปสมนตฺถํ ตีณิ ชาตกานิ กเถสฺสามิ, ตโต กลโห วูปสมิสฺสติ. อถ สามคฺคิทีปนตฺถาย ทฺเว ชาตกานิ กเถตฺวา อตฺตทณฺฑสุตฺตํ เทเสสฺสามิ. เทสนํ สุตฺวา อุภยนครวาสิโนปิ อฑฺฒติยานิ อฑฺฒติยานิ กุมารสตานิ ทสฺสนฺติ, อหํ เต ปพฺพชิสฺสามิ, ตทา มหาสมาคโม ภวิสฺสตี’’ติ สนฺนิฏฺานมกาสิ. ตสฺมา อิเมสุ ยุทฺธสชฺเชสุ นิกฺขมนฺเตสุ กสฺสจิ อนาโรเจตฺวา สยเมว ปตฺตจีวรมาทาย คนฺตฺวา ทฺวินฺนํ เสนานํ อนฺตเร อากาเส ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา ฉพฺพณฺณรสฺมิโย วิสฺสชฺเชตฺวา นิสีทิ.
กปิลวตฺถุวาสิโน ภควนฺตํ ทิสฺวาว – ‘‘อมฺหากํ าติเสฏฺโ สตฺถา อาคโต, ทิฏฺโ นุ โข เตน อมฺหากํ กลหการณภาโว’’ติ จินฺเตตฺวา – ‘‘น โข ปน สกฺกา ภควติ อาคเต อมฺเหหิ ปรสฺส สรีเร สตฺถํ ปาเตตุํ, โกลิยนครวาสิโน อมฺเห ¶ หนนฺตุ วา ปจนฺตุ วา’’ติ อาวุธานิ ฉฑฺเฑตฺวา ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา นิสีทึสุ. โกลิยนครวาสิโนปิ ตเถว จินฺเตตฺวา อาวุธานิ ฉฑฺเฑตฺวา ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา นิสีทึสุ.
ภควา ชานนฺโตว – ‘‘กสฺมา อาคตตฺถ มหาราชา’’ติ ปุจฺฉิ. ภควา, น ติตฺถกีฬาย น ปพฺพตกีฬาย น นทีกีฬาย น คิริทสฺสนตฺถํ, อิมสฺมึ ปน าเน สงฺคามํ ปจฺจุปฏฺเปตฺวา อาคตมฺหาติ. กึ นิสฺสาย โว กลโห มหาราชาติ? อุทกํ, ภนฺเตติ. อุทกํ กึ อคฺฆติ มหาราชาติ? อปฺปคฺฆํ, ภนฺเตติ. ปถวี นาม กึ อคฺฆติ มหาราชาติ? อนคฺฆา, ภนฺเตติ. ขตฺติยา กึ อคฺฆนฺติ มหาราชาติ? ขตฺติยา นาม อนคฺฆา ภนฺเตติ. อปฺปมูลกํ อุทกํ นิสฺสาย กิมตฺถํ อนคฺเฆ ขตฺติเย นาเสถ, มหาราชาติ? ‘‘กลเห อสฺสาโท นาม นตฺถิ, กลหวเสน มหาราชา อฏฺาเน เวรํ กตฺวา เอกาย รุกฺขเทวตาย กาฬสีเหน สทฺธึ พทฺธาฆาโต ¶ สกลมฺปิ ¶ อิมํ กปฺปํ อนุปฺปตฺโตเยวา’’ติ วตฺวา ผนฺทนชาตกํ กเถสิ. ตโต ‘‘ปรปตฺติเยน นาม มหาราชา น ภวิตพฺพํ. ปรปตฺติยา หุตฺวา หิ เอกสฺส สสกสฺส กถาย ติโยชนสหสฺสวิตฺถเต หิมวนฺเต จตุปฺปทคณา มหาสมุทฺทํ ปกฺขนฺทิโน อเหสุํ. ตสฺมา ปรปตฺติเยน น ภวิตพฺพ’’นฺติ วตฺวา ปถวีอุนฺทฺริยชาตกํ กเถสิ. ตโต – ‘‘กทาจิ, มหาราชา, ทุพฺพโลปิ มหพฺพลสฺส รนฺธํ วิวรํ ปสฺสติ, กทาจิ มหพฺพโล ทุพฺพลสฺส. ลฏุกิกาปิ หิ สกุณิกา หตฺถินาคํ ฆาเตสี’’ติ วตฺวา ลฏุกิกชาตกํ กเถสิ. เอวํ กลหวูปสมตฺถาย ตีณิ ชาตกานิ กเถตฺวา สามคฺคิปริทีปนตฺถาย ทฺเว ชาตกานิ กเถสิ. กถํ? สมคฺคานฺหิ มหาราชา โกจิ โอตารํ นาม ปสฺสิตุํ น สกฺโกตีติ วตฺวา รุกฺขธมฺมชาตกํ กเถสิ. ตโต ‘‘สมคฺคานํ มหาราชา โกจิ วิวรํ ปสฺสิตุํ นาสกฺขิ. ยทา ปน อฺมฺํ วิวาทมกํสุ, อถ เต เนสาทปุตฺโต ชีวิตา โวโรเปตฺวา อาทาย คโต. วิวาเท อสฺสาโท นาม นตฺถี’’ติ วตฺวา วฏฺฏกชาตกํ กเถสิ. เอวํ อิมานิ ปฺจ ชาตกานิ กเถตฺวา อวสาเน อตฺตทณฺฑสุตฺตํ กเถสิ.
ราชาโน ¶ ปสนฺนา – ‘‘สเจ สตฺถา นาคมิสฺส, มยํ สหตฺถา อฺมฺํเยว วธิตฺวา โลหิตนทึ ปวตฺตยิสฺสาม, อมฺหากํ ปุตฺตภาตโร เคหทฺวาเร น ปสฺเสยฺยาม, สาสนปฏิสาสนมฺปิ โน อาหรณโก น ภวิสฺสติ. สตฺถารํ นิสฺสาย โน ชีวิตํ ลทฺธํ. สเจ ปน สตฺถา อคารํ อชฺฌาวสิสฺส, ทฺวิสหสฺสทีปปริวาเรสุ จตูสุ มหาทีเปสุ รชฺชมสฺส หตฺถคตํ อภวิสฺส, อติเรกสหสฺสํ โข ปนสฺส ปุตฺตา อภวิสฺสํสุ, ตโต ขตฺติยปริวาโรว อวิจริสฺส. ตํ โข ปเนส สมฺปตฺตึ ปหาย นิกฺขมิตฺวา สมฺโพธึ ปตฺโต, อิทานิปิ ขตฺติยปริวาโรเยว วิจรตู’’ติ อุภยนครวาสิโน อฑฺฒติยานิ อฑฺฒติยานิ กุมารสตานิ อทํสุ. ภควา เต ปพฺพาเชตฺวา มหาวนํ อคมาสิ. เตสํ ครุคารววเสน น อตฺตโน รุจิยา ปพฺพชิตานํ อนภิรติ อุปฺปชฺชิ. ปุราณทุติยิกาโยปิ เนสํ ‘‘อยฺยปุตฺตา อุกฺกณฺนฺตุ, ฆราวาโส น สณฺาตี’’ติอาทีนิ วตฺวา สาสนํ เปเสนฺติ. เต อติเรกตรํ อุกฺกณฺึสุ.
ภควา อาวชฺชนฺโต เตสํ อนภิรตภาวํ ตฺวา ‘‘อิเม ภิกฺขู มาทิเสน พุทฺเธน สทฺธึ เอกโต วสนฺตา อุกฺกณฺนฺติ, หนฺท เนสํ กุณาลทหสฺส วณฺณํ กเถตฺวา ตตฺถ เนตฺวา อนภิรตึ วิโนเทสฺสามี’’ติ ¶ กุณาลทหสฺส วณฺณํ กเถสิ. เต ตํ ทฏฺุกามา อเหสุํ. ทฏฺุกามตฺถ, ภิกฺขเว, กุณาลทหนฺติ? อาม ภควาติ. ยทิ เอวํ, เอถ, คจฺฉามาติ. อิทฺธิมนฺตานํ ภควา คมนฏฺานํ มยํ กถํ คมิสฺสามาติ? ตุมฺเห คนฺตุกามา โหถ, อหํ มมานุภาเวน คเหตฺวา คมิสฺสามีติ. สาธุ, ภนฺเตติ. อถ ภควา ปฺจ ภิกฺขุสตานิ คเหตฺวา อากาเส อุปฺปติตฺวา ¶ กุณาลทเห ปติฏฺาย เต ภิกฺขู อาห – ‘‘ภิกฺขเว, อิมสฺมึ กุณาลทเห เยสํ มจฺฉานํ นามํ น ชานาถ, เตสํ นามํ ปุจฺฉถา’’ติ.
เต ปุจฺฉึสุ, ภควา ปุจฺฉิตปุจฺฉิตํ กเถสิ. น เกวลํ มจฺฉานํเยว, ตสฺมึ วนสณฺเฑ รุกฺขานมฺปิ ปพฺพตปาเท ทฺวิปทจตุปฺปทสกุณานมฺปิ นามานิ ปุจฺฉาเปตฺวา กเถสิ. อถ ทฺวีหิ สกุเณหิ มุขตุณฺฑเกน ฑํสิตฺวา คหิตทณฺฑเก นิสินฺโน กุณาลสกุณราชา ปุรโต ปจฺฉโต อุโภสุ ปสฺเสสุ สกุณสงฺฆปริวุโต อาคจฺฉติ. ภิกฺขู ตํ ทิสฺวา – ‘‘เอส, ภนฺเต, อิเมสํ สกุณานํ ราชา ภวิสฺสติ, ปริวารา เอเต เอตสฺสา’’ติ ¶ มฺามาติ. เอวเมว, ภิกฺขเว, อยมฺปิ มม วํโส มม ปเวณีติ. อิทานิ ตาว มยํ, ภนฺเต, เอเต สกุเณ ปสฺสาม. ยํ ปน ภควา ‘‘อยมฺปิ มม วํโส มม ปเวณี’’ติ อาห, ตํ โสตุกามมฺหาติ. โสตุกามตฺถ ภิกฺขเวติ? อาม, ภควาติ. เตน หิ สุณาถาติ ตีหิ คาถาสเตหิ มณฺเฑตฺวา กุณาลชาตกํ กเถนฺโต อนภิรตึ วิโนเทสิ. เทสนาปริโยสาเน สพฺเพปิ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหึสุ, มคฺเคเนว จ เนสํ อิทฺธิปิ อาคตา. ภควา – ‘‘โหตุ ตาว เอตฺตกํ เอเตสํ ภิกฺขูน’’นฺติ อากาเส อุปฺปติตฺวา มหาวนเมว อคมาสิ. เตปิ ภิกฺขู คมนกาเล ทสพลสฺส อานุภาเวน คนฺตฺวา อาคมนกาเล อตฺตโน อานุภาเวน ภควนฺตํ ปริวาเรตฺวา มหาวเน โอตรึสุ.
ภควา ปฺตฺตาสเน นิสีทิตฺวา เต ภิกฺขู อามนฺเตตฺวา – ‘‘เอถ, ภิกฺขเว, นิสีทถ, อุปริมคฺคตฺตยวชฺฌานํ โว กิเลสานํ ปหานาย กมฺมฏฺานํ กเถสฺสามี’’ติ กมฺมฏฺานํ กเถสิ. ภิกฺขู จินฺเตสุํ – ‘‘ภควา อมฺหากํ อนภิรตภาวํ ตฺวา กุณาลทหํ เนตฺวา อนภิรตึ วิโนเทสิ, ตตฺถ โสตาปตฺติผลปฺปตฺตานํ โน อิทานิ อิธ ติณฺณํ มคฺคานํ กมฺมฏฺานํ อทาสิ, น โข ปนมฺเหหิ ‘โสตาปนฺนา มย’นฺติ วีตินาเมตุํ วฏฺฏติ, อุตฺตมปุริสสทิเสหิ โน ภวิตุํ วฏฺฏตี’’ติ เต ทสพลสฺส ปาเท วนฺทิตฺวา อุฏฺาย นิสีทนํ ปปฺโผเฏตฺวา วิสุํ วิสุํ ปพฺภารรุกฺขมูเลสุ นิสีทึสุ.
ภควา ¶ จินฺเตสิ – ‘‘อิเม ภิกฺขู ปกติยาปิ อวิสฺสฏฺกมฺมฏฺานา, ลทฺธุปายสฺส ปน ภิกฺขุโน กิลมนการณํ นาม นตฺถิ. คจฺฉนฺตา คจฺฉนฺตา จ วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปตฺวา – ‘‘อตฺตนา อตฺตนา ปฏิลทฺธคุณํ อาโรเจสฺสามา’ติ มม สนฺติกํ อาคมิสฺสนฺติ. เอเตสุ อาคเตสุ ทสสหสฺสจกฺกวาเฬ เทวตา เอกจกฺกวาเฬ สนฺนิปติสฺสนฺติ, มหาสมโย ภวิสฺสติ, วิวิตฺเต โอกาเส มยา นิสีทิตุํ วฏฺฏตี’’ติ. ตโต วิวิตฺเต โอกาเส พุทฺธาสนํ ปฺเปตฺวา นิสีทิ.
สพฺพปมํ ¶ กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา คตเถโร สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิ. ตโต อปโร ตโต อปโรติ ปฺจสตาปิ ปทุมินิยํ ปทุมานิ วิย วิกสึสุ. สพฺพปมํ ¶ อรหตฺตปฺปตฺตภิกฺขุ – ‘‘ภควโต อาโรเจสฺสามี’’ติ ปลฺลงฺกํ วินิพฺภุชิตฺวา นิสีทนํ ปปฺโผเฏตฺวา อุฏฺาย ทสพลาภิมุโข อโหสิ. เอวํ อปโรปิ อปโรปีติ ปฺจสตาปิ ภตฺตสาลํ ปวิสนฺตา วิย ปฏิปาฏิยาว อาคมํสุ. ปมํ อาคโต วนฺทิตฺวา นิสีทนํ ปฺเปตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิตฺวา ปฏิลทฺธคุณํ อาโรเจตุกาโม – ‘‘อตฺถิ นุ โข อฺโ โกจิ, นตฺถี’’ติ นิวตฺติตฺวา อาคมนมคฺคํ โอโลเกนฺโต อปรมฺปิ อทฺทส อปรมฺปิ อทฺทส. อิติ สพฺเพปิ เต อาคนฺตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิตฺวา อยํ อิมสฺส หรายมาโน น กเถสิ, อยํ อิมสฺส หรายมาโน น กเถสีติ. ขีณาสวานํ กิร ทฺเว อาการา โหนฺติ – ‘‘อโห วต มยา ปฏิลทฺธคุณํ สเทวโก โลโก ขิปฺปเมว ปฏิวิชฺเฌยฺยา’’ติ จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ. ปฏิลทฺธภาวํ ปน นิธิลทฺธปุริโส วิย น อฺสฺส อาโรเจตุกาโม โหติ.
เอวํ โอสีทมตฺเต ปน ตสฺมึ อริยมณฺฑเล ปาจีนยุคนฺธรปริกฺเขปโต อพฺภา, มหิกา, ธูโม, รโช, ราหูติ อิเมหิ อุปกฺกิเลเสหิ วิปฺปมุตฺตํ พุทฺธุปฺปาทปฏิมณฺฑิตสฺส โลกสฺส รามเณยฺยกทสฺสนตฺถํ ปาจีนทิสาย อุกฺขิตฺตรชตมยมหาอาทาสมณฺฑลํ วิย, เนมิวฏฺฏิยํ คเหตฺวา ปริวตฺติยมานรชตจกฺกสสฺสิริกํ ปุณฺณจนฺทมณฺฑลํ อุลฺลงฺฆิตฺวา อนิลปถํ ปฏิปชฺชิตฺถ. อิติ เอวรูเป ขเณ ลเย มุหุตฺเต ภควา สกฺเกสุ วิหรติ กปิลวตฺถุสฺมึ มหาวเน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ ปฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหิ สพฺเพเหว อรหนฺเตหิ.
ตตฺถ ภควาปิ มหาสมฺมตสฺส วํเส อุปฺปนฺโน, เตปิ ปฺจสตา ภิกฺขู มหาสมฺมตสฺส กุเล อุปฺปนฺนา. ภควาปิ ขตฺติยคพฺเภ ชาโต, เตปิ ขตฺติยคพฺเภ ¶ ชาตา. ภควาปิ ราชปพฺพชิโต, เตปิ ราชปพฺพชิตา. ภควาปิ เสตจฺฉตฺตํ ปหาย หตฺถคตํ จกฺกวตฺติรชฺชํ นิสฺสชฺเชตฺวา ปพฺพชิโต, เตปิ เสตจฺฉตฺตํ ปหาย หตฺถคตานิ รชฺชานิ นิสฺสชฺเชตฺวา ปพฺพชิตา. อิติ ภควา ปริสุทฺเธ โอกาเส ปริสุทฺเธ รตฺติภาเค สยํ ปริสุทฺโธ ปริสุทฺธปริวาโร วีตราโค วีตราคปริวาโร วีตโทโส วีตโทสปริวาโร วีตโมโห วีตโมหปริวาโร นิตฺตณฺโห นิตฺตณฺหปริวาโร นิกฺกิเลโส นิกฺกิเลสปริวาโร สนฺโต สนฺตปริวาโร ทนฺโต ทนฺตปริวาโร มุตฺโต มุตฺตปริวาโร อติวิย วิโรจตีติ. วณฺณภูมิ ¶ นาเมสา, ยตฺตกํ สกฺโกติ, ตตฺตกํ วตฺตพฺพํ. อิติ อิเม ภิกฺขู สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘ปฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหิ สพฺเพเหว อรหนฺเตหี’’ติ.
เยภุยฺเยนาติ ¶ พหุตรา สนฺนิปติตา, มนฺทา น สนฺนิปติตา อสฺา อรูปาวจรเทวตา สมาปนฺนเทวตา จ. ตตฺรายํ สนฺนิปาตกฺกโม มหาวนสฺส กิร สามนฺตา เทวตา จลึสุ – ‘‘อายาม, โภ พุทฺธทสฺสนํ นาม พหูปการํ, ธมฺมสฺสวนํ พหูปการํ, ภิกฺขุสงฺฆทสฺสนํ พหูปการํ, อายาม อายามา’’ติ มหาสทฺทํ กุรุมานา อาคนฺตฺวา ภควนฺตฺจ ตํมุหุตฺตํ อรหตฺตปฺปตฺตขีณาสเว จ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺํสุ. เอเตเนว อุปาเยน ตาสํ ตาสํ สทฺทํ สุตฺวา สทฺทนฺตรอฑฺฒคาวุตคาวุตอฑฺฒโยชนโยชนาทิวเสน ติโยชนสหสฺสวิตฺถเต หิมวนฺเต, ติกฺขตฺตุํ เตสฏฺิยา นครสหสฺเสสุ, นวนวุติยา โทณมุขสตสหสฺเสสุ, ฉนฺนวุติยา ปฏฺฏนโกฏิสตสหสฺเสสุ, ฉปณฺณาสาย รตนากเรสูติ สกลชมฺพุทีเป, ปุพฺพวิเทเห, อปรโคยาเน, อุตฺตรกุรุมฺหิ, ทฺวีสุ ปริตฺตทีปสหสฺเสสูติ สกลจกฺกวาเฬ, ตโต ทุติยตติยจกฺกวาเฬติ เอวํ ทสสหสฺสจกฺกวาเฬสุ เทวตา สนฺนิปติตาติ เวทิตพฺพา. ทสสหสฺสจกฺกวาฬฺหิ อิธ ทสโลกธาตุโยติ อธิปฺเปตา. เตน วุตฺตํ – ‘‘ทสหิ จ โลกธาตูหิ เทวตา เยภุยฺเยน สนฺนิปติตา โหนฺตี’’ติ.
เอวํ สนฺนิปติตาหิ เทวตาหิ สกลจกฺกวาฬคพฺภํ ยาว พฺรหฺมโลกา สูจิฆเร นิรนฺตรํ ปกฺขิตฺตสูจีหิ วิย ปริปุณฺณํ โหติ. ตตฺร พฺรหฺมโลกสฺส เอวํ อุจฺจตฺตนํ เวทิตพฺพํ. โลหปาสาเท กิร สตฺตกูฏาคารสโม ปาสาโณ พฺรหฺมโลเก ตฺวา อโธ ขิตฺโต จตูหิ ¶ มาเสหิ ปถวึ ปาปุณาติ. เอวํ มหนฺเต โอกาเส ยถา เหฏฺา ตฺวา ขิตฺตานิ ปุปฺผานิ วา ธูโม วา อุปริ คนฺตุํ, อุปริ วา ตฺวา ขิตฺตสาสปา เหฏฺา โอตริตุํ อนฺตรํ น ลภนฺติ, เอวํ นิรนฺตรํ เทวตา อเหสุํ. ยถา โข ปน จกฺกวตฺติรฺโ นิสินฺนฏฺานํ อสมฺพาธํ โหติ, อาคตาคตา มเหสกฺขา ขตฺติยา โอกาสํ ลภนฺติเยว, ปรโต ปรโต ปน อติสมฺพาธํ โหติ, เอวเมว ภควโต นิสินฺนฏฺานํ อสมฺพาธํ, อาคตาคตา มเหสกฺขา เทวตา จ มหาพฺรหฺมาโน จ โอกาสํ ลภนฺติเยว. อปิสุทํ ¶ ภควโต อาสนฺนาสนฺนฏฺาเน มหาปรินิพฺพาเน วุตฺตนเยเนว วาลคฺคโกฏินิตุทนมตฺเต ปเทเส ทสปิ วีสมฺปิ สพฺพปรโต ตึสมฺปิ เทวตา สุขุเม สุขุเม อตฺตภาเว มาเปตฺวา อฏฺํสุ. สฏฺิ สฏฺิ เทวตา อฏฺํสุ.
สุทฺธาวาสกายิกานนฺติ สุทฺธาวาสวาสีนํ. สุทฺธาวาสา นาม สุทฺธานํ อนาคามิขีณาสวานํ อาวาสา ปฺจ พฺรหฺมโลกา. เอตทโหสีติ กสฺมา อโหสิ? เต กิร พฺรหฺมาโน สมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวา ยถาปริจฺเฉเทน วุฏฺิตา พฺรหฺมภวนํ โอโลเกนฺตา ปจฺฉาภตฺเต ภตฺตเคหํ วิย สฺุตํ อทฺทสํสุ. ตโต ‘‘กุหึ พฺรหฺมาโน คตา’’ติ อาวชฺชนฺตา มหาสมาคมํ ตฺวา – ‘‘อยํ สมาคโม มหา, มยํ โอหีนา, โอหีนกานํ โอกาโส ทุลฺลโภ โหติ, ตสฺมา ¶ คจฺฉนฺตา อตุจฺฉหตฺถา หุตฺวา เอเกกํ คาถํ อภิสงฺขริตฺวา คจฺฉาม. ตาย มหาสมาคเม จ อตฺตโน อาคตภาวํ ชานาเปสฺสาม, ทสพลสฺส จ วณฺณํ ภาสิสฺสามา’’ติ. อิติ เตสํ สมาปตฺติโต วุฏฺาย อาวชฺชิตตฺตา เอตทโหสิ.
๓๓๒. ภควโต ปุรโต ปาตุรเหสุนฺติ ปาฬิยํ ภควโต สนฺติเก อภิมุขฏฺาเนเยว โอติณฺณา วิย กตฺวา วุตฺตา, น โข ปเนตฺถ เอวํ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เต ปน พฺรหฺมโลเก ิตาเยว คาถา อภิสงฺขริตฺวา เอโก ปุรตฺถิมจกฺกวาฬมุขวฏฺฏิยํ โอตริ, เอโก ทกฺขิณจกฺกวาฬมุขวฏฺฏิยํ, เอโก ปจฺฉิมจกฺกวาฬมุขวฏฺฏิยํ, เอโก อุตฺตรจกฺกวาฬมุขวฏฺฏิยํ โอตริ. ตโต ปุรตฺถิมจกฺกวาฬมุขวฏฺฏิยํ โอติณฺณพฺรหฺมา นีลกสิณํ สมาปชฺชิตฺวา นีลรสฺมิโย วิสฺสชฺชิตฺวา ทสสหสฺสจกฺกวาฬเทวตานํ มณิจมฺมํ ปฏิมฺุจนฺโต วิย อตฺตโน อาคตภาวํ ชานาเปตฺวา พุทฺธวีถิ ¶ นาม เกนจิ โอตฺถริตุํ น สกฺกา, ตสฺมา ปหฏพุทฺธวีถิยาว อาคนฺตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิโต อตฺตนา อภิสงฺขตํ คาถํ อภาสิ.
ทกฺขิณจกฺกวาฬมุขวฏฺฏิยํ โอติณฺณพฺรหฺมาปิ ปีตกสิณํ สมาปชฺชิตฺวา ปีตรสฺมิโย สุวณฺณปภํ มฺุจิตฺวา ทสสหสฺสจกฺกวาฬเทวตานํ สุวณฺณปฏํ ปารุเปนฺโต วิย อตฺตโน อาคตภาวํ ชานาเปตฺวา ตเถว อฏฺาสิ. ปจฺฉิมจกฺกวาฬมุขวฏฺฏิยํ ¶ โอติณฺณพฺรหฺมาปิ โลหิตกสิณํ สมาปชฺชิตฺวา โลหิตรสฺมิโย มฺุจิตฺวา ทสสหสฺสจกฺกวาฬเทวตานํ รตฺตวรกมฺพเลน ปริกฺขิปนฺโต วิย อตฺตโน อาคตภาวํ ชานาเปตฺวา ตเถว อฏฺาสิ. อุตฺตรจกฺกวาฬมุขวฏฺฏิยํ โอติณฺณพฺรหฺมาปิ โอทาตกสิณํ สมาปชฺชิตฺวา โอทาตรสฺมิโย มฺุจิตฺวา ทสสหสฺสจกฺกวาฬเทวตานํ สุมนปฏํ ปารุปนฺโต วิย อตฺตโน อาคตภาวํ ชานาเปตฺวา ตเถว อฏฺาสิ.
ปาฬิยํ ปน ‘‘ภควโต ปุรโต ปาตุรเหสุํ. อถ โข ตา เทวตา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺํสู’’ติ เอวํ เอกกฺขณํ วิย ปุรโต ปาตุภาโว จ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ ิตภาโว จ วุตฺโต, โส อิมินา อนุกฺกเมน อโหสิ, เอกโต กตฺวา ปน ทสฺสิโต. คาถาภาสนํ ปน ปาฬิยํ วิสุํ วิสุํเยว วุตฺตํ.
ตตฺถ มหาสมโยติ มหาสมูโห. ปวนํ วุจฺจติ วนสณฺโฑ. อุภเยนปิ ภควา อิมสฺมึ วนสณฺเฑ อชฺช มหาสมูโห มหาสนฺนิปาโตติ อาห. ตโต เยสํ โส สนฺนิปาโต, เต ทสฺเสตุํ เทวกายา ¶ สมาคตาติ อาห. ตตฺถ เทวกายาติ เทวฆฏา. อาคตมฺห อิมํ ธมฺมสมยนฺติ เอวํ สมาคเต เทวกาเย ทิสฺวา มยมฺปิ อิมํ ธมฺมสมูหํ อาคตา. กึ การณา? ทกฺขิตาเย อปราชิตสงฺฆํ, เกนจิ อปราชิตํ อชฺเชว ตโย มาเร มทฺทิตฺวา วิชิตสงฺคามํ อิมํ อปราชิตสงฺฆํ ทสฺสนตฺถาย อาคตมฺหาติ อตฺโถ. โส ปน พฺรหฺมา อิมํ คาถํ ภาสิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปุรตฺถิมจกฺกวาฬมุขวฏฺฏิยํเยว อฏฺาสิ.
อถ ทุติโย วุตฺตนเยเนว อาคนฺตฺวา อภาสิ. ตตฺถ ตตฺร ภิกฺขโวติ ตสฺมึ สนฺนิปาตฏฺาเน ภิกฺขู. สมาทหํสูติ สมาธินา โยเชสุํ. จิตฺตมตฺตโน อุชุกํ อกํสูติ อตฺตโน จิตฺตํ สพฺเพ วงฺกกุฏิลชิมฺหภาเว หริตฺวา อุชุกํ อกรึสุ. สารถีว เนตฺตานิ คเหตฺวาติ ¶ ยถา สมปฺปวตฺเตสุ สินฺธเวสุ โอธสฺตปโตโท สารถิ สพฺพโยตฺตานิ คเหตฺวา อโจเทนฺโต อวาเรนฺโต ติฏฺติ, เอวํ ฉฬงฺคุเปกฺขาสมนฺนาคตา คุตฺตทฺวารา สพฺเพเปเต ปฺจสตา ภิกฺขู อินฺทฺริยานิ รกฺขนฺติ ปณฺฑิตา, เอเต ทฏฺุํ อิธาคตมฺห ภควาติ. โสปิ คนฺตฺวา ยถาาเนเยว อฏฺาสิ.
อถ ¶ ตติโย วุตฺตนเยเนว อาคนฺตฺวา อภาสิ. ตตฺถ เฉตฺวา ขีลนฺติ ราคโทสโมหขีลํ ฉินฺทิตฺวา. ปลิฆนฺติ ราคโทสโมหปลิฆเมว. อินฺทขีลนฺติปิ ราคโทสโมหอินฺทขีลเมว. อูหจฺจ มเนชาติ เอเต ตณฺหาเอชาย อภาเวน อเนชา ภิกฺขู อินฺทขีลํ อูหจฺจ สมูหนิตฺวา. เต จรนฺตีติ จตูสุ ทิสาสุ อปฺปฏิหตจาริกํ จรนฺติ. สุทฺธาติ นิรุปกฺกิเลสา. วิมลาติ นิมฺมลา. อิทํ ตสฺเสว เววจนํ. จกฺขุมตาติ ปฺจหิ จกฺขูหิ จกฺขุมนฺเตน. สุทนฺตาติ จกฺขุโตปิ ทนฺตา, โสตโตปิ ฆานโตปิ ชิวฺหาโตปิ กายโตปิ มนโตปิ ทนฺตา. สุสุนาคาติ ตรุณนาคา. เต เอวรูเปน อนุตฺตเรน โยคาจริเยน ทมิเต ตรุณนาเค ทสฺสนาย อาคตมฺห ภควาติ. โสปิ คนฺตฺวา ยถาาเนเยว อฏฺาสิ.
อถ จตุตฺโถ วุตฺตนเยเนว อาคนฺตฺวา อภาสิ. ตตฺถ คตาเสติ นิพฺเพมติกสรณคมเนน คตา. โสปิ คนฺตฺวา ยถาาเนเยว อฏฺาสิ.
เทวตาสนฺนิปาตวณฺณนา
๓๓๓. อถ ภควา โอโลเกนฺโต ปถวีตลโต ยาว จกฺกวาฬมุขวฏฺฏิปริจฺเฉทา ยาว อกนิฏฺพฺรหฺมโลกา เทวตาสนฺนิปาตํ ทิสฺวา จินฺเตสิ – ‘‘มหา อยํ เทวตาสมาคโม, ภิกฺขู ปน เอวํ มหา เทวตาย สมาคโมติ น ชานนฺติ, หนฺท, เนสํ อาจิกฺขามี’’ติ, เอวํ จินฺเตตฺวา ¶ ‘‘อถ โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสี’’ติ สพฺพํ วิตฺถาเรตพฺพํ. ตตฺถ เอตปรมาติ เอตํ ปรมํ ปมาณํ เอเตสนฺติ เอตปรมา. อิทานิ พุทฺธานํ ปน อภาวา ‘‘เยปิ เต, ภิกฺขเว, เอตรหี’’ติ ตติโย วาโร น วุตฺโต. อาจิกฺขิสฺสามิ, ภิกฺขเวติ กสฺมา อาห? เทวตานํ จิตฺตกลฺลตาชนนตฺถํ. เทวตา กิร จินฺเตสุํ – ‘‘ภควา เอวํ มหนฺเต สมาคเม มเหสกฺขานํเยว เทวตานํ นามโคตฺตานิ กเถสฺสติ, อปฺเปสกฺขานํ กึ กเถสฺสตี’’ติ? อถ ¶ ภควา ‘‘อิมา เทวตา กึ จินฺเตนฺตี’’ติ อาวชฺชนฺโต มุเขน หตฺถํ ปเวเสตฺวา หทยมํสํ มทฺทนฺโต วิย สภณฺฑํ โจรํ คณฺหนฺโต วิย จ ตํ ตาสํ จิตฺตาจารํ ตฺวา – ‘‘ทสสหสฺสจกฺกวาฬโต อาคตาคตานํ อปฺเปสกฺขมเหสกฺขานํ สพฺพาสมฺปิ เทวตานํ นามโคตฺตํ กเถสฺสามี’’ติ จินฺเตสิ.
พุทฺธา นาม มหนฺตา เอเต สตฺตวิเสสา, ยํ สเทวกสฺส ¶ โลกสฺส ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ มนสา, น กิฺจิ กตฺถจิ นีลาทิวเสน วิภตฺตรูปารมฺมเณสุ รูปารมฺมณํ วา เภรีสทฺทาทิวเสน วิภตฺตสทฺทารมฺมณาทีสุ วิสุํ วิสุํ สทฺทาทิอารมฺมณํ วา อตฺถิ, ยํ เอเตสํ าณมุเข อาปาถํ นาคจฺฉติ. ยถาห –
‘‘ยํ ภิกฺขเว สเทวกสฺส โลกสฺส…เป… สเทวมนุสฺสาย ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ มนสา, ตมหํ ชานามิ, ตมหํ ปสฺสามิ, ตมหํ อพฺภฺาสิ’’นฺติ (อ. นิ. ๔.๒๔).
เอวํ สพฺพตฺถ อปฺปฏิหตาโณ ภควา สพฺพาปิ ตา เทวตา ภพฺพาภพฺพวเสน ทฺเว โกฏฺาเส อกาสิ. ‘‘กมฺมาวรเณน วา สมนฺนาคตา’’ติอาทินา นเยน วุตฺตา สตฺตา อภพฺพา นาม. เต เอกวิหาเร วสนฺเตปิ พุทฺธา น โอโลเกนฺติ. วิปรีตา ปน ภพฺพา นาม, เต ทูเร วสนฺเตปิ คนฺตฺวา สงฺคณฺหนฺติ. ตสฺมา ตสฺมิมฺปิ เทวตาสนฺนิปาเต เย อภพฺพา, เต ปหาย ภพฺเพ ปริคฺคเหสิ. ปริคฺคเหตฺวา – ‘‘เอตฺตกา เอตฺถ ราคจริตา, เอตฺตกา โทสจริตา, เอตฺตกา โมหจริตา’’ติ จริตวเสน ฉ โกฏฺาเส อกาสิ. อถ เนสํ สปฺปายํ ธมฺมเทสนํ อุปธารยนฺโต – ‘‘ราคจริตานํ เทวตานํ สมฺมาปริพฺพาชนิยสุตฺตํ กเถสฺสามิ, โทสจริตานํ กลหวิวาทสุตฺตํ, โมหจริตานํ มหาพฺยูหสุตฺตํ, วิตกฺกจริตานํ จูฬพฺยูหสุตฺตํ, สทฺธาจริตานํ ตุวฏฺฏกปฏิปทํ, พุทฺธิจริตานํ ปุราเภทสุตฺตํ กเถสฺสามี’’ติ เทสนํ ววตฺถเปตฺวา ปุน ตํ ปริสํ มนสากาสิ – ‘‘อตฺตชฺฌาสเยน นุ โข ชาเนยฺย, ปรชฺฌาสเยน อตฺถุปฺปตฺติเกน ปุจฺฉาวเสนา’’ติ. ตโต ‘‘ปุจฺฉาวเสน ชาเนยฺยา’’ติ ตฺวา ‘‘อตฺถิ นุ โข โกจิ เทวตานํ อชฺฌาสยํ คเหตฺวา จริตวเสน ปฺหํ ปุจฺฉิตุํ สมตฺโถ’’ติ ‘‘เตสุ ปฺจสเตสุ ภิกฺขูสุ เอโกปิ ¶ น สกฺโกตี’’ติ อทฺทส. ตโต อสีติมหาสาวเก ทฺเว อคฺคสาวเก จ สมนฺนาหริตฺวา ‘‘เตปิ ¶ น สกฺโกนฺตี’’ติ ทิสฺวา จินฺเตสิ ‘‘สเจ ปจฺเจกพุทฺโธ ภเวยฺย, สกฺกุเณยฺย นุ โข’’ติ ‘‘โสปิ น สกฺกุเณยฺยา’’ติ ตฺวา ‘‘สกฺกสุยามาทีสุ โกจิ สกฺกุเณยฺยา’’ติ สมนฺนาหริ. สเจ หิ เตสุ โกจิ สกฺกุเณยฺย, ตํ ปุจฺฉาเปตฺวา อตฺตนา วิสฺสชฺเชยฺย, น ปน เตสุปิ โกจิ สกฺโกติ.
อถสฺส ¶ เอตทโหสิ – ‘‘มาทิโส พุทฺโธเยว สกฺกุเณยฺย, อตฺถิ ปน กตฺถจิ อฺโ พุทฺโธ’’ติ อนนฺตาสุ โลกธาตูสุ อนนฺตาณํ ปตฺถริตฺวา โอโลเกนฺโต อฺํ พุทฺธํ น อทฺทส. อนจฺฉริยฺเจตํ, ยํ อิทานิ อตฺตนา สมํ น ปสฺเสยฺย, โส ชาตทิวเสปิ พฺรหฺมชาลวณฺณนายํ วุตฺตนเยน อตฺตนา สมํ อปสฺสนฺโต – ‘‘อคฺโคหมสฺมิ โลกสฺสา’’ติ อปฺปฏิวตฺติยํ สีหนาทํ นทิ. เอวํ อฺํ อตฺตนา สมํ อปสฺสิตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘สเจ อหํ ปุจฺฉิตฺวา อหเมว วิสฺสชฺเชยฺยํ, เอวมฺเปตา เทวตา น สกฺขิสฺสนฺติ ปฏิวิชฺฌิตุํ. อฺสฺมึ ปน พุทฺเธเยว ปุจฺฉนฺเต มยิ จ วิสฺสชฺชนฺเต อจฺเฉรกํ ภวิสฺสติ, สกฺขิสฺสนฺติ จ เทวตา ปฏิวิชฺฌิตุํ, ตสฺมา นิมฺมิตพุทฺธํ มาเปสฺสามี’’ติ อภิฺาปาทกชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย – ‘‘ปตฺตจีวรคหณํ อาโลกิตวิโลกิตํ สมิฺชิตปสาริตฺจ มม สทิสํเยว โหตู’’ติ กามาวจรจิตฺเตหิ ปริกมฺมํ กตฺวา ปาจีนยุคนฺธรปริกฺเขปโต อุลฺลงฺฆมานํ จนฺทมณฺฑลํ ภินฺทิตฺวา นิกฺขมนฺตํ วิย รูปาวจรจิตฺเตน อธิฏฺาสิ.
เทวสงฺโฆ ตํ ทิสฺวา – ‘‘อฺโปิ นุ โข, โภ, จนฺโท อุคฺคโต’’ติ อาห. อถ จนฺทํ โอหาย อาสนฺนตเร ชาเต ‘‘น จนฺโท, สูริโย อุคฺคโต’’ติ, ปุน อาสนฺนตเร ชาเต ‘‘น สูริโย, เทววิมานํ เอก’’นฺติ, ปุน อาสนฺนตเร ชาเต ‘‘น เทววิมานํ, เทวปุตฺโต เอโก’’ติ, ปุน อาสนฺนตเร ชาเต ‘‘น เทวปุตฺโต, มหาพฺรหฺมา เอโก’’ติ, ปุน อาสนฺนตเร ชาเต ‘‘น มหาพฺรหฺมา, อปโรปิ โภ พุทฺโธ อาคโต’’ติ อาห. ตตฺถ ปุถุชฺชนเทวตา จินฺตยึสุ – ‘‘เอกพุทฺธสฺส ตาว อยํ เทวตาสนฺนิปาโต, ทฺวินฺนํ กีว มหนฺโต ภวิสฺสตี’’ติ. อริยเทวตา จินฺตยึสุ – ‘‘เอกิสฺสา โลกธาตุยา ทฺเว พุทฺธา นาม นตฺถิ, อทฺธา ภควตา อตฺตนา สทิโส อฺโ เอโก พุทฺโธ นิมฺมิโต’’ติ.
อถ ตสฺส เทวสงฺฆสฺส ปสฺสนฺตสฺเสว นิมฺมิตพุทฺโธ อาคนฺตฺวา ทสพลํ อวนฺทิตฺวาว สมฺมุขฏฺาเน สมสมํ กตฺวา มาปิเต อาสเน นิสีทิ. ภควโตปิ ทฺวตฺตึส มหาปุริสลกฺขณานิ, นิมฺมิตสฺสาปิ ทฺวตฺตึสาว, ภควโตปิ ¶ สรีรา ฉพฺพณฺณรสฺมิโย นิกฺขมนฺติ ¶ , นิมฺมิตสฺสาปิ, ภควโต สรีรรสฺมิโย นิมฺมิตสฺส สรีเร ปฏิหฺนฺติ, นิมฺมิตสฺส สรีรรสฺมิโย ภควโต กาเย ปฏิหฺนฺติ. ตา ทฺวินฺนมฺปิ พุทฺธานํ สรีรโต ¶ อุคฺคมฺม อกนิฏฺภวนํ อาหจฺจ ตโต ปฏินิวตฺติตฺวา เทวตานํ มตฺถกปริยนฺเต โอตริตฺวา จกฺกวาฬมุขวฏฺฏิยํ ปติฏฺหึสุ. สกลจกฺกวาฬคพฺภํ สุวณฺณมยวงฺกโคปานสีวินทฺธมิว เจติยฆรํ วิโรจิตฺถ. ทสสหสฺสจกฺกวาฬเทวตา เอกจกฺกวาเฬ ราสิภูตา ทฺวินฺนํ พุทฺธานํ รสฺมิคพฺภนฺตรํ ปวิสิตฺวา อฏฺํสุ. นิมฺมิตพุทฺโธ นิสีทนฺโตเยว ทสพลสฺส โพธิปลฺลงฺเก กิเลสปฺปหานํ อภิตฺถวนฺโต –
‘‘ปุจฺฉามิ มุนึ ปหูตปฺํ,
ติณฺณํ ปารงฺคตํ ปรินิพฺพุตํ ิตตฺตํ;
นิกฺขมฺม ฆรา ปนุชฺช กาเม,
กถํ ภิกฺขุ สมฺมา โส โลเก ปริพฺพเชยฺยา’’ติ. (สุ. นิ. ๓๖๑) –
คาถํ อภาสิ. สตฺถา เทวตานํ ตาว จิตฺตกลฺลตาชนนตฺถํ อาคตาคตานํ นามโคตฺตานิ กเถสฺสามีติ จินฺเตตฺวา อาจิกฺขิสฺสามิ, ภิกฺขเวติอาทิมาห.
๓๓๔. ตตฺถ สิโลกมนุกสฺสามีติ อกฺขรปทนิยมิตํ วจนสงฺฆาตํ ปวตฺตยิสฺสามิ. ยตฺถ ภุมฺมา ตทสฺสิตาติ เยสุ เยสุ าเนสุ ภุมฺมา เทวตา ตํ ตํ นิสฺสิตา. เย สิตา คิริคพฺภรนฺติอาทีหิ เตสํ ภิกฺขูนํ วณฺณํ กเถสิ, เย ภิกฺขู คิริกุจฺฉึ นิสฺสิตาติ อตฺโถ. ปหิตตฺตาติ เปสิตจิตฺตา. สมาหิตาติ อวิกฺขิตฺตา.
ปุถูติ พหุชนา. สีหาว สลฺลีนาติ สีหา วิย นิลีนา เอกตฺตํ อุปคตา. โลมหํสาภิสมฺภุโนติ โลมหํสํ อภิภวิตฺวา ิตา, นิพฺภยาติ วุตฺตํ โหติ. โอทาตมนสา สุทฺธาติ โอทาตจิตฺตา หุตฺวา สุทฺธา. วิปฺปสนฺนามนาวิลาติ วิปฺปสนฺนอนาวิลา.
ภิยฺโยปฺจสเต ตฺวาติ สมฺมาสมฺพุทฺเธน สทฺธึ อติเรกปฺจสเต ภิกฺขู ชานิตฺวา. วเน กาปิลวตฺถเวติ กปิลวตฺถุสมีปมฺหิ ชาเต วนสณฺเฑ. ตโต อามนฺตยี สตฺถาติ ตทา อามนฺตยิ. สาวเก ¶ สาสเน รเตติ อตฺตโน ธมฺมเทสนาย สวนนฺเต ชาตตฺตา สาวเก ¶ สิกฺขตฺตยสาสเน ¶ รตตฺตา สาสเน รเต. อิทํ สพฺพํ – ‘‘สิโลกมนุกสฺสามี’’ติ วจนโต อฺเน วุตฺตํ วิย กตฺวา วทติ.
เทวกายา อภิกฺกนฺตา, เต วิชานาถ ภิกฺขโวติ เต ทิพฺพจกฺขุนา วิชานาถาติ เนสํ ภิกฺขูนํ ทิพฺพจกฺขุาณาภินีหารตฺถาย กเถสิ. เต จ อาตปฺปมกรุํ, สุตฺวา พุทฺธสฺส สาสนนฺติ เต จ ภิกฺขู ตํ พุทฺธสาสนํ สุตฺวา ตาวเทว ตทตฺถาย วีริยํ กรึสุ.
เอวํ กตมตฺตาตปฺปานํเยว เตสํ ปาตุรหุ าณํ. กีทิสํ? อมนุสฺสานํ ทสฺสนํ ทิพฺพจกฺขุาณํ อุปฺปชฺชิ. น ตํ เตหิ ตสฺมึ ขเณ ปริกมฺมํ กตฺวา อุปฺปาทิตํ. อริยมคฺเคเนว หิ ตํ นิปฺผนฺนํ. อมนุสฺสทสฺสนตฺถํ ปนสฺส อภินีหารมตฺตเมว กตํ. สตฺถาปิ – ‘‘อตฺถิ ตุมฺหากํ าณํ, ตํ นีหริตฺวา เตน หิ เต วิชานาถา’’ติ อิทเมว สนฺธาย ‘‘เต วิชานาถ, ภิกฺขโว’’ติ อาห.
อปฺเปเก สตมทฺทกฺขุนฺติ เตสุ ภิกฺขูสุ เอกจฺเจ ภิกฺขู อมนุสฺสานํ สตํ อทฺทสํสุ. สหสฺสํ อถ สตฺตรินฺติ เอเก สหสฺสํ. เอเก สตฺตติ สหสฺสานิ.
สตํ เอเก สหสฺสานนฺติ เอเก สตสหสฺสํ อทฺทสํสุ. อปฺเปเกนนฺตมทฺทกฺขุนฺติ วิปุลํ อทฺทสํสุ, สตวเสน สหสฺสวเสน จ อปริจฺฉินฺเนปิ อทฺทสํสูติ อตฺโถ. กสฺมา? ยสฺมา ทิสา สพฺพา ผุฏา อหุํ, ภริตา สมฺปุณฺณาว อเหสุํ.
ตฺจ สพฺพํ อภิฺายาติ ยํ เตสุ เอเกเนเกน ทิฏฺํ, ตฺจ สพฺพํ ชานิตฺวา. ววตฺถิตฺวาน จกฺขุมาติ หตฺถตเล เลขํ วิย ปจฺจกฺขโต ววตฺถเปตฺวา ปฺจหิ จกฺขูหิ จกฺขุมา สตฺถา. ตโต อามนฺตยีติ ปุพฺเพ วุตฺตคาถเมว นามโคตฺตกิตฺตนตฺถาย อาห. ตุมฺเห เอเต วิชานาถ, ปสฺสถ, โอโลเกถ, เย โวหํ กิตฺตยิสฺสามีติ อยเมตฺถ สมฺพนฺโธ. คิราหีติ วจเนหิ. อนุปุพฺพโสติ อนุปฏิปาฏิยา.
๓๓๕. สตฺตสหสฺสา เต ยกฺขา, ภุมฺมา กาปิลวตฺถวาติ สตฺตสหสฺสา ตาเวตฺถ กปิลวตฺถุํ นิสฺสาย นิพฺพตฺตา ภุมฺมา ยกฺขาเยวาติ วทติ ¶ . อิทฺธิมนฺโตติ ¶ ทิพฺพอิทฺธิยุตฺตา. ชุติมนฺโตติ อานุภาวสมฺปนฺนา. วณฺณวนฺโตติ สรีรวณฺณสมฺปนฺนา. ยสสฺสิโนติ ปริวารสมฺปนฺนา. โมทมานา อภิกฺกามุนฺติ ตุฏฺจิตฺตา อาคตา. ภิกฺขูนํ สมิตึ วนนฺติ อิมํ มหาวนํ ภิกฺขูนํ สนฺติกํ ภิกฺขูนํ ¶ ทสฺสนตฺถาย อาคตา. อถ วา สมิตินฺติ สมูหํ, ภิกฺขุสมูหํ ทสฺสนาย อาคตาติปิ อตฺโถ.
ฉสหสฺสา เหมวตา, ยกฺขา นานตฺตวณฺณิโนติ ฉสหสฺสา เหมวตปพฺพเต นิพฺพตฺตยกฺขา, เต จ สพฺเพปิ นีลาทิวณฺณวเสน นานตฺตวณฺณา.
สาตาคิรา ติสหสฺสาติ สาตาคิริปพฺพเต นิพฺพตฺตยกฺขา ติสหสฺสา.
อิจฺเจเต โสฬสสหสฺสาติ เอเต สพฺเพปิ โสฬสสหสฺสา โหนฺติ.
เวสฺสามิตฺตา ปฺจสตาติ เวสฺสามิตฺตปพฺพเต นิพฺพตฺตา ปฺจสตา.
กุมฺภีโร ราชคหิโกติ ราชคหนคเร นิพฺพตฺโต กุมฺภีโร นาม ยกฺโข. เวปุลฺลสฺส นิเวสนนฺติ ตสฺส เวปุลฺลปพฺพโต นิเวสนํ นิวาสนฏฺานนฺติ อตฺโถ. ภิยฺโย นํ สตสหสฺสํ, ยกฺขานํ ปยิรุปาสตีติ ตํ อติเรกํ ยกฺขานํ สตสหสฺสํ ปยิรุปาสติ. กุมฺภีโร ราชคหิโก, โสปาคา สมิตึ วนนฺติ โสปิ กุมฺภีโร สปริวาโร อิมํ วนํ ภิกฺขุสมิตึ ทสฺสนตฺถาย อาคโต.
๓๓๖. ปุริมฺจ ทิสํ ราชา, ธตรฏฺโ ปสาสตีติ ปาจีนทิสํ อนุสาสติ. คนฺธพฺพานํ อธิปตีติ จตูสุปิ ทิสาสุ คนฺธพฺพานํ เชฏฺโก. สพฺเพ เต ตสฺส วเส วตฺตนฺติ. มหาราชา ยสสฺสิโสติ มหาปริวาโร เอโส มหาราชา.
ปุตฺตาปิ ¶ ตสฺส พหโว, อินฺทนามา มหพฺพลาติ ตสฺส ธตรฏฺสฺส พหโว มหพฺพลา ปุตฺตา, เต สพฺเพ สกฺกสฺส เทวรฺโ นามธารกา.
วิรูฬฺโห ตํ ปสาสตีติ ตํ ทิสํ วิรูฬฺโห อนุสาสติ.
ปุตฺตาปิ ตสฺสาติ ตสฺสาปิ ตาทิสาเยว ปุตฺตา. ปาฬิยํ ปน ‘‘มหพฺพลา’’ติ ลิขนฺติ. อฏฺกถายํ สพฺพวาเรสุ ‘‘มหาพลา’’ติ ปาโ.
‘‘ปุริมํ ¶ ¶ ทิสํ ธตรฏฺโ, ทกฺขิเณน วิรูฬฺหโก;
ปจฺฉิเมน วิรูปกฺโข, กุเวโร อุตฺตรํ ทิสํ.
จตฺตาโร เต มหาราชา, สมนฺตา จตุโร ทิสา;
ททฺทลฺลมานา อฏฺํสุ, วเน กาปิลวตฺถเว’’ติ.
อิมา ปน คาถา สพฺพสงฺคาหิกวเสน วุตฺตา.
อยฺเจตฺถ อตฺโถ – ทสสหสฺสจกฺกวาเฬ ธตรฏฺา นาม มหาราชาโน อตฺถิ. เต สพฺเพปิ โกฏิสตสหสฺสโกฏิสตสหสฺสคนฺธพฺพปริวารา อาคนฺตฺวา ปุรตฺถิมาย ทิสาย กปิลวตฺถุมหาวนโต ปฏฺาย จกฺกวาฬคพฺภํ ปูเรตฺวา ิตา. เอวํ ทกฺขิณทิสาทีสุ วิรูฬฺหกาทโย. เตเนวาห – ‘‘สมนฺตา จตุโร ทิสา, ททฺทลฺลมานา อฏฺํสู’’ติ. อิทฺหิ วุตฺตํ โหติ – ‘‘สมนฺตา จกฺกวาเฬหิ อาคนฺตฺวา จตุโร ทิสา ปพฺพตมตฺถเกสุ อคฺคิกฺขนฺธา วิย สุฏฺุ ชลมานา ิตา’’ติ. เต ปน ยสฺมา กปิลวตฺถุวนเมว สนฺธาย อาคตา, ตสฺมา จกฺกวาฬํ ปูเรตฺวา จกฺกวาเฬน สมสมา ิตาปิ – ‘‘วเน กาปิลวตฺถเว’’ติ วุตฺตา.
๓๓๗. เตสํ มายาวิโน ทาสา, อาคุํ วฺจนิกา สาติ เตสํ มหาราชานํ กตปาปปฏิจฺฉาทนลกฺขณาย มายาย ยุตฺตา กุฏิลาจารา ทาสา อตฺถิ, เย สมฺมุขปรมฺมุขวฺจนาหิ โลกํ วฺจนโต ‘‘วฺจนิกา’’ติ จ, เกราฏิยสาเยฺเยน สมนฺนาคตตฺตา ‘‘สา’’ติ จ วุจฺจนฺติ, เตปิ อาคตาติ อตฺโถ. มายา กุเฏณฺฑุ วิเฏณฺฑุ, วิฏุจฺจ วิฏุโฏ สหาติ เต ทาสา สพฺเพปิ มายาการกาว. นาเมน ปเนตฺถ เอโก กุเฏณฺฑุ นาม, เอโก วิเฏณฺฑุ นาม. ปาฬิยํ ปน ‘‘เวเฏณฺฑู’’ติ ลิขนฺติ. เอโก วิฏุจฺจ นาม, เอโก วิฏุโฏ นาม. สหาติ โสปิ วิฏุโฏ เตหิ สเหว อาคโต.
จนฺทโน ¶ กามเสฏฺโ จ, กินฺนิฆณฺฑุ นิฆณฺฑุ จาติ อปโร กินฺนิฆณฺฑุ นาม. ปาฬิยํ ปน ‘‘กินฺนุฆณฺฑู’’ติ ลิขนฺติ. นิฆณฺฑุ จาติ อฺโ นิฆณฺฑุ นาม, เอตฺตกา ทาสา. อิโต ปเร ปน –
‘‘ปนาโท ¶ โอปมฺโ จ, เทวสุโต จ มาตลิ;
จิตฺตเสโน จ คนฺธพฺโพ, นโฬ ราชา ชเนสโภ;
อาคุํ ปฺจสิโข เจว, ติมฺพรู สูริยวจฺฉสา’’ติ. –
อิเม ¶ เทวราชาโน. ตตฺถ เทวสุโตติ เทวสารถิ. จิตฺตเสโนติ จิตฺโต จ เสโน จ จิตฺตเสโน จ. คนฺธพฺโพติ อยํ จิตฺตเสโน คนฺธพฺพกายิโก เทวปุตฺโต, น เกวลํ เจส, สพฺเพ เปเต ปนาทาทโย คนฺธพฺพา เอว. นโฬราชาติ นฬการเทวปุตฺโต นาเมโก. ชเนสโภติ ชนวสโภ เทวปุตฺโต. อาคุํ ปฺจสิโข เจวาติ ปฺจสิโข เจว เทวปุตฺโต อาคโต. ติมฺพรูติ ติมฺพรู นาม คนฺธพฺพเทวราชา. สูริยวจฺฉสาติ ตสฺเสว ธีตา.
เอเต จฺเ จ ราชาโน, คนฺธพฺพา สห ราชุภีติ เอเต จ นามวเสน วุตฺตคนฺธพฺพราชาโน อฺเ จ เอเตหิ ราชูหิ สทฺธึ พหู คนฺธพฺพา. โมทมานา อภิกฺกามุํ, ภิกฺขูนํ สมิตึ วนนฺติ หฏฺตุฏฺจิตฺตา ภิกฺขุสงฺฆสมิตึ อิมํ วนํ อาคตาติ อตฺโถ.
๓๓๘. อถาคุํ นาคสา นาคา, เวสาลา สหตจฺฉกาติ นาคสทหวาสิกา จ เวสาลีวาสิกา จ นาคา สห ตจฺฉกนาคปริสาย อาคตาติ อตฺโถ. กมฺพลสฺสตราติ กมฺพโล จ อสฺสตโร จ. เอเต กิร สิเนรุปาเท วสนฺติ, สุปณฺเณหิปิ อนุทฺธรณียา มเหสกฺขนาคา ปายาคา สห าติภีติ ปยาคติตฺถวาสิโน จ สห าติสงฺเฆน อาคตา.
ยามุนา ธตรฏฺา จาติ ยมุนวาสิโน จ ธตรฏฺกุเล อุปฺปนฺนา นาคา จ. เอราวโณ มหานาโคติ เอราวโณ จ เทวปุตฺโต, ชาติยา นาโค น โหติ. นาคโวหาเรน ปเนส โวหริยติ. โสปาคาติ โสปิ อาคโต.
เย ¶ นาคราเช สหสา หรนฺตีติ เย อิเม วุตฺตปฺปกาเร นาเค โลภาภิภูตา สาหสํ กตฺวา หรนฺติ คณฺหนฺติ. ทิพฺพา ทิชา ปกฺขี วิสุทฺธจกฺขูติ ทิพฺพานุภาวโต ทิพฺพา มาตุกุจฺฉิโต จ อณฺฑโกสโต จาติ ทฺเว วาเร ชาตาติ ทิชา ปกฺขยุตฺตตาย ปกฺขี โยชนสตนฺตเรปิ โยชนสหสฺสนฺตเรปิ นาเค ทสฺสนสมตฺถจกฺขุตาย วิสุทฺธจกฺขู. เวหายสา ¶ เต วนมชฺฌปฺปตฺตาติ เต อากาเสเนว อิมํ มหาวนํ สมฺปตฺตา. จิตฺรา สุปณฺณา อิติ เตส นามนฺติ เตสํ ‘‘จิตฺรสุปณฺณา’’ติ นามํ.
อภยํ ¶ ตทา นาคราชานมาสิ, สุปณฺณโต เขมมกาสิ พุทฺโธติ ตสฺมา สพฺเพปิ เต อฺมฺํ สณฺหาหิ วาจาหิ อุปวฺหยนฺตา มิตฺตา วิย พนฺธวา วิย จ สมุลฺลปนฺตา สมฺโมทมานา อาลิงฺคนฺตา หตฺเถ คณฺหนฺตา อํสกูเฏ หตฺถํ เปนฺตา หฏฺตุฏฺจิตฺตา. นาคา สุปณฺณา สรณมกํสุ พุทฺธนฺติ พุทฺธํเยว สรณํ คตา.
๓๓๙. ชิตา วชิรหตฺเถนาติ อินฺเทน เทวรฺา ชิตา. สมุทฺทํ อสุราสิตาติ มหาสมุทฺทวาสิโน สุชาตาย อสุรกฺาย การณา สพฺเพปิ ภาตโร วาสวสฺเสเต, อิทฺธิมนฺโต ยสสฺสิโน.
เตสุ กาลกฺจา มหาภิสฺมาติ กาลกฺจา จ มหนฺเต ภึสเน อตฺตภาเว มาเปตฺวา อาคมึสุ. อสุรา ทานเวฆสาติ ทานเวฆสา นาม อฺเ ธนุคฺคหอสุรา. เวปจิตฺติ สุจิตฺติ จ, ปหาราโท นมุจี สหาติ เวปจิตฺติอสุโร, สุจิตฺติอสุโร จาติ เอเต จ อสุรา นมุจิ จ มาโร เทวปุตฺโต เอเตหิ สเหว อาคโต. อิเม อสุรา มหาสมุทฺทวาสิโน, อยํ ปรนิมฺมิตเทวโลกวาสี, กสฺมา เอเตหิ สหาคโตติ? อจฺฉนฺทิกตฺตา. เตปิ หิ อจฺฉนฺทิกา อภพฺพา, อยมฺปิ ตาทิโสเยว. ตสฺมา ธาตุโส สํสนฺทมาโน อาคโต.
สตฺจ พลิปุตฺตานนฺติ พลิโน มหาอสุรสฺส ปุตฺตานํ สตํ. สพฺเพ เวโรจนามกาติ สพฺเพ อตฺตโน มาตุลสฺส ราหุสฺเสว นามธรา. สนฺนยฺหิตฺวา พลิเสนนฺติ อตฺตโน พลิเสนํ สนฺนยฺหิตฺวา สพฺเพ กตสนฺนาหาว หุตฺวา. ราหุภทฺทมุปาคมุนฺติ ราหุอสุรินฺทํ อุปสงฺกมึสุ. สมโย ¶ ทานิ ภทฺทนฺเตติ ภทฺทํ ตว โหตุ, สมโย เต ภิกฺขูนํ สมิตึ วนํ อุปสงฺกมิตฺวา ภิกฺขุสงฺฆํ ทสฺสนายาติ อตฺโถ.
๓๔๐. อาโป จ เทวา ปถวี, เตโช วาโย ตทาคมุนฺติ อาโปกสิณาทีสุ ปริกมฺมํ กตฺวา นิพฺพตฺตา อาโปติอาทินามกา เทวา อาคมุํ. วรุณา วารณา เทวา, โสโม จ ยสสา สหาติ วรุณเทวตา ¶ , วารณเทวตา, โสมเทวตาติ เอวํ นามกา จ เทวา ยสสา นาม เทเวน สหาคตาติ อตฺโถ. เมตฺตากรุณากายิกาติ เมตฺตาฌาเน จ กรุณาฌาเน จ ปริกมฺมํ กตฺวา นิพฺพตฺตเทวา. อาคุํ เทวา ยสสฺสิโนติ เอเตปิ มหายสา เทวา อาคตา.
ทเสเต ทสธา กายา, สพฺเพ นานตฺตวณฺณิโนติ เต ทสธา ิตา ทส เทวกายา สพฺเพ นีลาทิวเสน นานตฺตวณฺณา อาคตาติ อตฺโถ.
เวณฺฑู ¶ จ เทวาติ เวณฺฑุเทวตา จ. สหลิ จาติ สหลิเทวตา จ. อสมา จ ทุเว ยมาติ อสมเทวตา จ ทฺเว จ ยมกา เทวา. จนฺทสฺสุปนิสา เทวา, จนฺทมาคุํ ปุรกฺขตฺวาติ จนฺทนิสฺสิตกา เทวา จนฺทํ ปุรโต กตฺวา อาคตา. ตถา สูริยนิสฺสิตกา เทวา สูริยํ ปุรกฺขตฺวา. นกฺขตฺตานิ ปุรกฺขตฺวาติ นกฺขตฺตนิสฺสิตาปิ เทวา นกฺขตฺตานิ ปุรโต กตฺวา อาคตา. อาคุํ มนฺทวลาหกาติ วาตวลาหกา, อพฺภวลาหกา, อุณฺหวลาหกา เอเต สพฺเพปิ วลาหกายิกา ‘‘มนฺทวลาหกา’’ นาม วุจฺจนฺติ. เตปิ อาคตาติ อตฺโถ. วสูนํ วาสโว เสฏฺโ, สกฺโกปาคา ปุรินฺทโทติ วสูนํ เทวตานํ เสฏฺโ วาสโว โย สกฺโกติ จ, ปุรินฺทโทติ จ วุจฺจติ, โสปิ อาคโต.
ทเสเต ทสธา กายาติ เอเตปิ ทส เทวกายา ทสธาว อาคตา. สพฺเพ นานตฺตวณฺณิโนติ นีลาทิวเสน นานตฺตวณฺณา.
อถาคุํ สหภู เทวาติ อถ สหภู นาม เทวา อาคตา. ชลมคฺคิสิขาริวาติ อคฺคิสิขา วิย ชลนฺตา. ชลมคฺคิ จ สิขาริวาติ อิมานิ เตสํ นามานีติปิ วุตฺตํ. อริฏฺกา จ โรชา จาติ อริฏฺกเทวา จ โรชเทวา จ. อุมาปุปฺผนิภาสิโนติ อุมาปุปฺผเทวา นาม เอเต เทวา ¶ . อุมาปุปฺผสทิสา หิ เตสํ สรีราภา, ตสฺมา ‘‘อุมาปุปฺผนิภาสิโน’’ติ วุจฺจนฺติ.
วรุณา สหธมฺมา จาติ เอเต จ ทฺเว ชนา. อจฺจุตา จ อเนชกาติ อจฺจุตเทวตา จ อเนชกเทวตา จ. สุเลยฺยรุจิรา ¶ อาคุนฺติ สุเลยฺยา จ รุจิรา จ อาคตา. อาคุํ วาสวเนสิโนติ วาสวเนสีเทวา นาม อาคตา. ทเสเต ทสธา กายาติ เอเตปิ ทสเทวกายา ทสธาว อาคตา.
สมานา มหาสมานาติ สมานา จ มหาสมานา จ. มานุสา มานุสุตฺตมาติ มานุสา จ มานุสุตฺตมา จ. ขิฑฺฑาปโทสิกา อาคุํ, อาคุํ มโนปโทสิกาติ ขิฑฺฑาปโทสิกา มโนปโทสิกา จ เทวา อาคตา.
อถาคุํ หรโย เทวาติ หริเทวา นาม อาคตา. เย จ โลหิตวาสิโนติ โลหิตวาสิโน จ อาคตา. ปารคา มหาปารคาติ เอเต จ ทุวิธา อาคตา. ทเสเต ทสธา กายาติ เอเตปิ ทสเทวกายา ทสธาว อาคตา.
สุกฺกา ¶ กรมฺภา อรุณา, อาคุํ เวฆนสา สหาติ เอเต สุกฺกาทโย ตโย, เตหิ สห เวฆนสา จ อาคตา. โอทาตคยฺหา ปาโมกฺขาติ โอทาตคยฺหา นาม ปาโมกฺขเทวา อาคตา. อาคุํ เทวา วิจกฺขณาติ วิจกฺขณา นาม เทวา อาคตา.
สทามตฺตา หารคชาติ สทามตฺตา จ หารคชา จ. มิสฺสกา จ ยสสฺสิโนติ ยสสมฺปนฺนา มิสฺสกเทวา จ. ถนยํ อาค ปชฺชุนฺโนติ ปชฺชุนฺโน จ เทวราชา ถนยนฺโต อาคโต. โย ทิสา อภิวสฺสตีติ โย ยํ ยํ ทิสํ ยาติ, ตตฺถ ตตฺถ เทโว วสฺสติ. ทเสเต ทสธา กายาติ เอเตปิ ทสเทวกายา ทสธา อาคตา.
เขมิยา ตุสิตา ยามาติ เขมิยา เทวา ตุสิตปุรวาสิโน จ ยามาเทวโลกวาสิโน จ. กถกา จ ยสสฺสิโนติ ยสสมฺปนฺนา กถกเทวา จ. ปาฬิยํ ปน ‘‘กฏฺกา จา’’ติ ลิขนฺติ. ลมฺพีตกา ลามเสฏฺาติ ลมฺพิตกเทวา จ ลามเสฏฺเทวา จ. โชตินามา จ อาสวาติ ปพฺพตมตฺถเก กตนฬคฺคิกฺขนฺโธ วิย โชตมานา โชติเทวา นาม อตฺถิ, เต จ อาสา จ เทวา อาคตาติ อตฺโถ. ปาฬิยํ ¶ ปน ‘‘ชาตินามา’’ติ ลิขนฺติ. อาสา เทวตา ฉนฺทวเสน อาสวาติ วุตฺตา. นิมฺมานรติโน อาคุํ, อถาคุํ ปรนิมฺมิตา. ทเสเต ทสธา กายาติ เอเตปิ ทส เทวกายา ทสธาว อาคตา.
สฏฺเเต ¶ เทวนิกายาติ เอเต จ อาโป จ เทวาติอาทิกา ฉ ทสกา สฏฺิ เทวนิกายา สพฺเพ นีลาทิวเสน นานตฺตวณฺณิโน. นามนฺวเยน อาคจฺฉุนฺติ นามภาเคน นามโกฏฺาเสน อาคตา. เย จฺเ สทิสา สหาติ เย จ อฺเปิ เตหิ สทิสา วณฺณโตปิ นามโตปิ เอตาทิสาเยว เสสจกฺกวาเฬสุ เทวา, เตปิ อาคตาเยวาติ เอกปเทเนว กลาปํ วิย ปุฏกํ วิย จ กตฺวา สพฺพา เทวตา นิทฺทิสติ.
เอวํ ทสสุ โลกธาตุสหสฺเสสุ เทวกาเย นิทฺทิสิตฺวา อิทานิ ยทตฺถํ เต อาคตา, ตํ ทสฺเสนฺโต ปวุฏฺชาตินฺติ คาถมาห. ตสฺสตฺโถ – ปวุฏฺา วิคตา ชาติ อสฺสาติ อริยสงฺโฆ ปวุฏฺชาติ นาม, ตํ ปวุฏฺชาตึ ราคโทสโมหขีลานํ อภาวา อขีลํ จตฺตาโร โอเฆ ตริตฺวา ิตตฺตา โอฆติณฺณํ จตุนฺนํ อาสวานํ อภาเวน อนาสวํ อริยสงฺฆํ ทกฺเขม ปสฺสิสฺสาม. เตสฺเว โอฆานํ ติณฺณตฺตา โอฆตรํ อาคุํ อกรณโต นาคํ. อสิตาติคนฺติ กาฬกภาวาตีตํ จนฺทํว สิริยา วิโรจมานํ ทสพลฺจ ทกฺเขม ปสฺสิสฺสามาติ เอตทตฺถํ สพฺเพปิ เต นามนฺวเยน อาคจฺฉุํ, เย จฺเ สทิสา สหาติ.
๓๔๑. อิทานิ ¶ พฺรหฺมาโน ทสฺเสนฺโต สุพฺรหฺมา ปรมตฺโต จาติอาทิมาห. ตตฺถ สุพฺรหฺมาติ เอโก พฺรหฺมา. ปรมตฺโตปิ พฺรหฺมาว. ปุตฺตา อิทฺธิมโต สหาติ เอเต อิทฺธิมโต พุทฺธสฺส ภควโต ปุตฺตา อริยพฺรหฺมาโน สเหว อาคตา. สนงฺกุมาโร ติสฺโส จาติ สนงฺกุมาโร จ ติสฺสมหาพฺรหฺมา จ. โสปาคาติ โสปิ อาคโต.
‘‘สหสฺสํ พฺรหฺมโลกานํ, มหาพฺรหฺมาภิติฏฺติ;
อุปปนฺโน ชุติมนฺโต, ภิสฺมากาโย ยสสฺสิ โส’’ติ. –
เอตฺถ ¶ สหสฺสํ พฺรหฺมโลกานนฺติ เอกงฺคุลิยา เอกสหสฺสจกฺกวาเฬ ทสหิ องฺคุลีหิ ทสสหสฺสิจกฺกวาเฬ อาโลกผรณสมตฺถานํ มหาพฺรหฺมานํ สหสฺสํ อาคตํ. มหาพฺรหฺมาภิติฏฺตีติ ยตฺถ เอเกโก มหาพฺรหฺมา อฺเ พฺรหฺเม อภิภวิตฺวา ติฏฺติ. อุปปนฺโนติ ¶ พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺโต. ชุติมนฺโตติ อานุภาวสมฺปนฺโน. ภิสฺมากาโยติ มหากาโย, ทฺวีหิ ตีหิ มาคธิเกหิ คามกฺเขตฺเตหิ สมปฺปมาณอตฺตภาโว. ยสสฺสิโสติ อตฺตภาวสิรีสงฺขาเตน ยเสน สมนฺนาคโต.
ทเสตฺถ อิสฺสรา อาคุํ, ปจฺเจกวสวตฺติโนติ เอตสฺมิฺจ พฺรหฺมสหสฺเส เย ปาฏิเยกฺกํ ปาฏิเยกฺกํ วสํ วตฺเตนฺติ, เอวรูปา ทส อิสฺสรา มหาพฺรหฺมาโน อาคตา. เตสฺจ มชฺฌโต อาค, หาริโต ปริวาริโตติ เตสํ พฺรหฺมานํ มชฺเฌ หาริโต นาม มหาพฺรหฺมา สตสหสฺสพฺรหฺมปริวาโร อาคโต.
๓๔๒. เต จ สพฺเพ อภิกฺกนฺเต, สอินฺเท เทเว สพฺรหฺมเกติ เต สพฺเพปิ สกฺกํ เทวราชานํ เชฏฺกํ กตฺวา อาคเต เทวกาเย, หาริตมหาพฺรหฺมานํ เชฏฺกํ กตฺวา อาคเต พฺรหฺมกาเย จ. มารเสนา อภิกฺกามีติ มารเสนา อภิคตา. ปสฺส กณฺหสฺส มนฺทิยนฺติ กาฬกสฺส มารส พาลภาวํ ปสฺสถ.
เอถ คณฺหถ พนฺธถาติ เอวํ อตฺตโน ปริสํ อาณาเปสิ. ราเคน พทฺธมตฺถุ โวติ สพฺพํ โว อิทํ เทวมณฺฑลํ ราเคน พทฺธํ โหตุ. สมนฺตา ปริวาเรถ, มา โว มฺุจิตฺถ โกจิ นนฺติ ตุมฺหากํ เอโกปิ เอเตสุ เอกมฺปิ มา มฺุจิ. ‘‘มา โว มฺุเจถา’’ติปิ ปาโ, เอเสวตฺโถ.
อิติ ตตฺถ มหาเสโน, กณฺโห เสนํ อเปสยีติ เอวํ ตตฺถ มหาสมเย มหาเสโน มาโร มารเสนํ ¶ อเปสยิ. ปาณินา ตลมาหจฺจาติ หตฺเถน ปถวีตลํ ปหริตฺวา. สรํ กตฺวาน เภรวนฺติ มารวิภึสกทสฺสนตฺถํ ภยานกํ สรฺจ กตฺวา.
ยถา ปาวุสฺสโก เมโฆ, ถนยนฺโต สวิชฺชุโกติ สวิชฺชุโก ปาวุสฺสกเมโฆ วิย มหาคชฺชิตํ คชฺชนฺโต. ตทา โส ปจฺจุทาวตฺตีติ ตสฺมึ สมเย โส มาโร ตํ วิภึสนกํ ทสฺเสตฺวา ปฏินิวตฺโต ¶ . สงฺกุทฺโธ อสยํ วเสติ สุฏฺุ กุทฺโธ กุปิโต กฺจิ วเส วตฺเตตุํ ¶ อสกฺโกนฺโต อสยํวเส อสยํวสี อตฺตโน วเสน อกามโก หุตฺวา นิวตฺโต. ภควา กิร ‘‘อยํ มาโร อิมํ มหาสมาคมํ ทิสฺวา ‘อภิสมยนฺตรายํ กริสฺสามี’ติ อนฺตรนฺตเร มารเสนํ เปเสตฺวา มารํ วิภึสกํ ทสฺเสตี’’ติ อฺาสิ. ปกติ เจสา ภควโต, ยตฺถ อภิสมโย น ภวิสฺสติ, ตตฺถ มารํ วิภึสกํ ทสฺเสนฺตํ น นิวาเรติ. ยตฺถ ปน อภิสมโย โหติ, ตตฺถ ยถา ปริสา เนว มารสฺส รูปํ ปสฺสติ, น สทฺทํ สุณาติ, เอวํ อธิฏฺาตีติ. อิมสฺมิฺจ สมาคเม มหาภิสมโย ภวิสฺสติ, ตสฺมา ยถา เทวตา เนว ตสฺส รูปํ ปสฺสนฺติ, น สทฺทํ สุณนฺติ, เอวํ อธิฏฺาสิ. เตน วุตฺตํ –‘‘ตทา โส ปจฺจุทาวตฺติ, สงฺกุทฺโธ อสยํวเส’’ติ.
๓๔๓. ตฺจ สพฺพํ อภิฺาย, ววตฺถิตฺวาน จกฺขุมาติ ตํ สพฺพํ ภควา ชานิตฺวา ววตฺถเปตฺวา จ.
มารเสนา อภิกฺกนฺตา, เต วิชานาถ ภิกฺขโวติ ภิกฺขเว มารเสนา อภิกฺกนฺตา, เต ตุมฺเห อตฺตโน อนุรูปํ วิชานาถ, ผลสมาปตฺตึ สมาปชฺชถาติ วทติ. อาตปฺปมกรุนฺติ ผลสมาปตฺตึ ปวิสนตฺถาย วีริยํ อารภึสุ. วีตราเคหิ ปกฺกามุนฺติ มาโร จ มารเสนา จ วีตราเคหิ อริเยหิ ทูรโตว อปกฺกมุํ. เนสํ โลมาปิ อิฺชยุนฺติ เตสํ วีตราคานํ โลมานิปิ น จาลยึสุ. อถ มาโร ภิกฺขุสงฺฆํ อารพฺภ อิมํ คาถํ อภาสิ –
‘‘สพฺเพ วิชิตสงฺคามา, ภยาตีตา ยสสฺสิโน;
โมทนฺติ สห ภูเตหิ, สาวกา เต ชเนสุตา’’ติ.
ตตฺถ โมทนฺติ สห ภูเตหีติ ทสพลสฺส สาสเน ภูเตหิ สฺชาเตหิ อริเยหิ สทฺธึ โมทนฺติ ปโมทนฺติ. ชเนสุตาติ ชเน วิสฺสุตา ปากฏา อภิฺาตา.
อิทํ ¶ ปน มหาสมยสุตฺตํ นาม เทวตานํ ปิยํ มนาปํ, ตสฺมา มงฺคลํ วทนฺเตน อภินวฏฺาเนสุ อิทเมว สุตฺตํ วตฺตพฺพํ. เทวตา กิร –‘‘อิมํ สุตฺตํ สุณิสฺสามา’’ติ ¶ โอหิตโสตา วิจรนฺติ. เทสนาปริโยสาเน ปนสฺส ¶ โกฏิสตสหสฺสเทวตา อรหตฺตํ ปตฺตา, โสตาปนฺนาทีนํ คณนา นตฺถิ.
เทวตานฺจสฺส ปิยมนาปภาเว อิทํ วตฺถุ – โกฏิปพฺพตวิหาเร กิร นาคเลณทฺวาเร นาครุกฺเข เอกา เทวธีตา วสติ. เอโก ทหโร อนฺโตเลเณ อิมํ สุตฺตํ สชฺฌายติ. เทวธีตา สุตฺวา สุตฺตปริโยสาเน มหาสทฺเทน สาธุการมทาสิ. โก เอโสติ. อหํ, ภนฺเต, เทวธีตาติ. กสฺมา สาธุการมทาสีติ? ภนฺเต, ทสพเลน มหาวเน นิสีทิตฺวา กถิตทิวเส อิมํ สุตฺตํ สุตฺวา อชฺช อสฺโสสึ, ภควตา กถิตโต เอกกฺขรมฺปิ อหาเปตฺวา สุคฺคหิโต อยํ ธมฺโม ตุมฺเหหีติ. ทสพลสฺส กถยโต สุตํ ตยาติ? อาม, ภนฺเตติ. มหา กิร เทวตาสนฺนิปาโต อโหสิ, ตฺวํ กตฺถ ิตา สุณีติ?
อหํ, ภนฺเต, มหาวนวาสิยา เทวตา, มเหสกฺขาสุ ปน เทวตาสุ อาคจฺฉนฺตีสุ ชมฺพุทีเป โอกาสํ นาลตฺถํ, อถ อิมํ ตมฺพปณฺณิทีปํ อาคนฺตฺวา ชมฺพุโกลปฏฺฏเน ตฺวา โสตุํ อารทฺธมฺหิ, ตตฺราปิ มเหสกฺขาสุ เทวตาสุ อาคจฺฉนฺตีสุ อนุกฺกเมน ปฏิกฺกมมานา โรหณชนปเท มหาคามสฺส ปิฏฺิภาคโต สมุทฺเท คลปฺปมาณํ อุทกํ ปวิสิตฺวา ตตฺถ ิตา อสฺโสสินฺติ. ตุยฺหํ ิตฏฺานโต ทูเร สตฺถารํ ปสฺสสิ เทวเตติ? กึ กเถถ, ภนฺเต, สตฺถา มหาวเน ธมฺมํ เทเสนฺโต นิรนฺตรํ มมฺเว โอโลเกตีติ มฺมานา โอตปฺปมานา อูมีสุ นิลยามีติ.
ตํ ทิวสํ กิร โกฏิสตสหสฺสเทวตา อรหตฺตํ ปตฺตา, ตุมฺเหปิ ตทา อรหตฺตํ ปตฺตาติ? นตฺถิ, ภนฺเต. อนาคามิผลํ ปตฺตตฺถ มฺเติ? นตฺถิ, ภนฺเต. สกทาคามิผลํ ปตฺตตฺถ มฺเติ? นตฺถิ, ภนฺเต. ตโย มคฺเค ปตฺตา เทวตา กิร คณนปถํ ¶ อตีตา, โสตาปนฺนา ชาตตฺถ มฺเติ? เทวตา ตํ ทิวสํ โสตาปตฺติผลํ ปตฺตตฺตา หรายมานา –‘‘อปุจฺฉิตพฺพํ ปุจฺฉติ อยฺโย’’ติ อาห. ตโต นํ โส ภิกฺขุ อาห – ‘‘สกฺกา ปน เทวเต, ตว อตฺตภาวํ อมฺหากํ ทสฺเสตุ’’นฺติ? น สกฺกา ภนฺเต สกลกายํ ¶ ทสฺเสตุํ, องฺคุลิปพฺพมตฺตํ ทสฺเสสฺสามิ อยฺยสฺสาติ กฺุจิกฉิทฺเทน องฺคุลึ อนฺโตเลณาภิมุขํ อกาสิ, จนฺทสหสฺสสูริยสหสฺสอุคฺคมนกาโล วิย อโหสิ. เทวธีตา ‘‘อปฺปมตฺตา, ภนฺเต, โหถา’’ติ ทหรภิกฺขุํ ¶ วนฺทิตฺวา อคมาสิ. เอวํ อิมํ สุตฺตํ เทวตานํ ปิยํ มนาปํ, มมายนฺติ นํ เทวตาติ.
อิติ สุมงฺคลวิลาสินิยา ทีฆนิกายฏฺกถายํ
มหาสมยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.