📜

๘. สกฺกปฺหสุตฺตวณฺณนา

นิทานวณฺณนา

๓๔๔. เอวํเม สุตนฺติ สกฺกปฺหสุตฺตํ. ตตฺรายมนุตฺตานปทวณฺณนา – อมฺพสณฺฑา นาม พฺราหฺมณคาโมติ โส กิร คาโม อมฺพสณฺฑานํ อวิทูเร นิวิฏฺโ, ตสฺมา ‘‘อมฺพสณฺฑา’’ ตฺเวว วุจฺจติ. เวทิยเก ปพฺพเตติ โส กิร ปพฺพโต ปพฺพตปาเท ชาเตน มณิเวทิกาสทิเสน นีลวนสณฺเฑน สมนฺตา ปริกฺขิตฺโต, ตสฺมา ‘เวทิยกปพฺพโต’ ตฺเวว สงฺขฺยํ คโต. อินฺทสาลคุหายนฺติ ปุพฺเพปิ สา ทฺวินฺนํ ปพฺพตานํ อนฺตเร คุหา, อินฺทสาลรุกฺโข จสฺสา ทฺวาเร, ตสฺมา ‘อินฺทสาลคุหา’ติ สงฺขฺยํ คตา. อถ นํ กุฏฺเฏหิ ปริกฺขิปิตฺวา ทฺวารวาตปานานิ โยเชตฺวา สุปรินิฏฺิตสุธากมฺมมาลากมฺมลตากมฺมวิจิตฺตํ เลณํ กตฺวา ภควโต อทํสุ. ปุริมโวหารวเสน ปน ‘‘อินฺทสาลคุหา’’ ตฺเวว นํ สฺชานนฺติ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘อินฺทสาลคุหาย’นฺติ.

อุสฺสุกฺกํ อุทปาทีติ ธมฺมิโก อุสฺสาโห อุปฺปชฺชิ. นนุ จ เอส อภิณฺหทสฺสาวี ภควโต, น โส เทวตาสนฺนิปาโต นาม อตฺถิ, ยตฺถายํ น อาคตปุพฺโพ, สกฺเกน สทิโส อปฺปมาทวิหารี เทวปุตฺโต นาม นตฺถิ. อถ กสฺมา พุทฺธทสฺสนํ อนาคตปุพฺพสฺส วิย อสฺส อุสฺสาโห อุทปาทีติ? มรณภเยน สนฺตชฺชิตตฺตา. ตสฺมึ กิรสฺส สมเย อายุ ปริกฺขีโณ, โส ปฺจ ปุพฺพนิมิตฺตานิ ทิสฺวา ‘‘ปริกฺขีโณ ทานิ เม อายู’’ติ อฺาสิ. เยสฺจ เทวปุตฺตานํ มรณนิมิตฺตานิ อาวิ ภวนฺติ, เตสุ เย ปริตฺตเกน ปุฺกมฺเมน เทวโลเก นิพฺพตฺตา, เต ‘‘กุหึ นุ โข อิทานิ นิพฺพตฺติสฺสามา’’ติ ภยํ สนฺตาสํ อาปชฺชนฺติ. เย กตภีรุตฺตานา พหุํ ปุฺํ กตฺวา นิพฺพตฺตา, เต อตฺตนา ทินฺนทานํ รกฺขิตสีลํ ภาวิตภาวนฺจ อาคมฺม ‘‘อุปริเทวโลเก สมฺปตฺตึ อนุภวิสฺสามา’’ติ น ภายนฺติ.

สกฺโก ปน เทวราชา ปุพฺพนิมิตฺตานิ ทิสฺวา ทสโยชนสหสฺสํ เทวนครํ, โยชนสหสฺสุพฺเพธํ เวชยนฺตํ, ติโยชนสติกํ สุธมฺมเทวสภํ, โยชนสตุพฺเพธํ ปาริจฺฉตฺตกํ, สฏฺิโยชนิกํ ปณฺฑุกมฺพลสิลํ, อฑฺฒติยา นาฏกโกฏิโย ทฺวีสุ เทวโลเกสุ เทวปริสํ, นนฺทนวนํ, จิตฺตลตาวนํ , มิสฺสกวนํ, ผารุสกวนนฺติ เอตํ สพฺพสมฺปตฺตึ โอโลเกตฺวา ‘‘นสฺสติ วต โภ เม อยํ สมฺปตฺตี’’ติ ภยาภิภูโต อโหสิ.

ตโต ‘‘อตฺถิ นุ โข โกจิ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา โลกปิตามโห มหาพฺรหฺมา วา, โย เม หทยนิสฺสิตํ โสกสลฺลํ สมุทฺธริตฺวา อิมํ สมฺปตฺตึ ถาวรํ กเรยฺยา’’ติ โอโลเกนฺโต กฺจิ อทิสฺวา ปุน อทฺทส ‘‘มาทิสานํ สตสหสฺสานมฺปิ อุปฺปนฺนํ โสกสลฺลํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ อุทฺธริตุํ ปฏิพโล’’ติ. อเถวํ ปริวิตกฺเกนฺตสฺส เตน โข ปน สมเยน สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส อุสฺสุกฺกํ อุทปาทิ ภควนฺตํ ทสฺสนาย.

กหํ นุ โข ภควา เอตรหิ วิหรตีติ กตรสฺมึ ชนปเท กตรํ นครํ อุปนิสฺสาย กสฺส ปจฺจเย ปริภุฺชนฺโต กสฺส อมตํ ธมฺมํ เทสยมาโน วิหรตีติ. อทฺทสา โขติ อทฺทกฺขิ ปฏิวิชฺฌิ. มาริสาติ ปิยวจนเมตํ, เทวตานํ ปาฏิเยกฺโก โวหาโร. นิทฺทุกฺขาติปิ วุตฺตํ โหติ. กสฺมา ปเนส เทเว อามนฺเตสิ? สหายตฺถาย. ปุพฺเพ กิเรส ภควติ สฬลฆเร วิหรนฺเต เอกโกว ทสฺสนาย อคมาสิ. สตฺถา ‘‘อปริปกฺกํ ตาวสฺส าณํ, กติปาหํ ปน อติกฺกมิตฺวา มยิ อินฺทสาลคุหายํ วิหรนฺเต ปฺจ ปุพฺพนิมิตฺตานิ ทิสฺวา มรณภยภีโต ทฺวีสุ เทวโลเกสุ เทวตาหิ สทฺธึ อุปสงฺกมิตฺวา จุทฺทส ปฺเห ปุจฺฉิตฺวา อุเปกฺขาปฺหวิสฺสชฺชนาวสาเน อสีติยา เทวตาสหสฺเสหิ สทฺธึ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา โอกาสํ นากาสิ. โส ‘‘มม ปุพฺเพปิ เอกกสฺส คตตฺตา สตฺถารา โอกาโส น กโต, อทฺธา เม นตฺถิ มคฺคผลสฺส อุปนิสฺสโย, เอกสฺส ปน อุปนิสฺสเย สติ จกฺกวาฬปริยนฺตายปิ ปริสาย ภควา ธมฺมํ เทเสติเยว. อวสฺสํ โข ปน ทฺวีสุ เทวโลเกสุ กสฺสจิ เทวสฺส อุปนิสฺสโย ภวิสฺสติ, ตํ สนฺธาย สตฺถา ธมฺมํ เทเสสฺสติ. ตํ สุตฺวา อหมฺปิ อตฺตโน โทมนสฺสํ วูปสเมสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา สหายตฺถาย อามนฺเตสิ.

เอวํ ภทฺทํ ตวาติ โข เทวา ตาวตึสาติ เอวํ โหตุ มหาราช, คจฺฉาม ภควนฺตํ ทสฺสนาย, ทุลฺลโภ พุทฺธุปฺปาโท, ภทฺทํ ตว, โย ตฺวํ ‘‘ปพฺพตกีฬํ นทีกีฬํ คจฺฉามา’’ติ อวตฺวา อมฺเห เอวรูเปสุ าเนสุ นิโยเชสีติ. ปจฺจสฺโสสุนฺติ ตสฺส วจนํ สิรสา สมฺปฏิจฺฉึสุ.

๓๔๕. ปฺจสิขํคนฺธพฺพเทวปุตฺตํ อามนฺเตสีติ เทเว ตาว อามนฺเตตุ, อิมํ กสฺมา วิสุํ อามนฺเตสิ? โอกาสกรณตฺถํ. เอวํ กิรสฺส อโหสิ ‘‘ทฺวีสุ เทวโลเกสุ เทวตา คเหตฺวา ธุเรน ปหรนฺตสฺส วิย สตฺถารํ อุปสงฺกมิตุํ น ยุตฺตํ, อยํ ปน ปฺจสิโข ทสพลสฺส อุปฏฺาโก วลฺลโภ อิจฺฉิติจฺฉิตกฺขเณ คนฺตฺวา ปฺหํ ปุจฺฉิตฺวา ธมฺมํ สุณาติ, อิมํ ปุรโต เปเสตฺวา โอกาสํ กาเรตฺวา อิมินา กโตกาเส อุปสงฺกมิตฺวา ปฺหํ ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ โอกาสกรณตฺถํ อามนฺเตสิ.

เอวํ ภทฺทํ ตวาติ โส ‘‘เอวํ มหาราช, โหตุ, ภทฺทํ ตว, โย ตฺวํ มํ ‘เอหิ, มาริส, อุยฺยานกีฬาทีนิ วา นฏสมชฺชาทีนิ วา ทสฺสนาย คจฺฉามา’ติ อวตฺวา ‘พุทฺธํ ปสฺสิสฺสาม, ธมฺมํ โสสฺสามา’ติ วทสี’’ติ ทฬฺหตรํ อุปตฺถมฺเภนฺโต เทวานมินฺทสฺส วจนํ ปฏิสฺสุตฺวา อนุจริยํ สหจรณํ เอกโต คมนํ อุปาคมิ.

ตตฺถ เพลุวปณฺฑุนฺติ เพลุวปกฺกํ วิย ปณฺฑุวณฺณํ. ตสฺส กิร โสวณฺณมยํ โปกฺขรํ, อินฺทนีลมโย ทณฺโฑ, รชตมยา ตนฺติโย, ปวาฬมยา เวกา, วีณาปตฺตกํ คาวุตํ, ตนฺติพนฺธนฏฺานํ คาวุตํ, อุปริ ทณฺฑโก คาวุตนฺติ ติคาวุตปฺปมาณา วีณา. อิติ โส ตํ วีณํ อาทาย สมปฺาสมุจฺฉนา มุจฺเฉตฺวา อคฺคนเขหิ ปหริตฺวา มธุรํ คีตสฺสรํ นิจฺฉาเรตฺวา เสสเทเว สกฺกสฺส คมนกาลํ ชานาเปนฺโต เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอวํ ตสฺส คีตวาทิตสฺาย สนฺนิปติเต เทวคเณ อถ โข สกฺโก เทวานมินฺโท…เป… เวทิยเก ปพฺพเต ปจฺจุฏฺาสิ.

๓๔๖. อติริว โอภาสชาโตติ อฺเสุ ทิวเสสุ เอกสฺเสว เทวสฺส วา มารสฺส วา พฺรหฺมุโน วา โอภาเสน โอภาสชาโต โหติ, ตํทิวสํ ปน ทฺวีสุ เทวโลเกสุ เทวตานํ โอภาเสน อติริว โอภาสชาโต เอกปชฺโชโต สหสฺสจนฺทสูริยอุคฺคตกาลสทิโส อโหสิ. ปริโต คาเมสุ มนุสฺสาติ สมนฺตา คาเมสุ มนุสฺสา. ปกติสายมาสกาเลเยว กิร คามมชฺเฌ ทารเกสุ กีฬนฺเตสุ ตตฺถ สกฺโก อคมาสิ, ตสฺมา มนุสฺสา ปสฺสิตฺวา เอวมาหํสุ. นนุ จ มชฺฌิมยาเม เทวตา ภควนฺตํ อุปสงฺกมนฺติ, อยํ กสฺมา ปมยามสฺสาปิ ปุริมภาเคเยว อาคโตติ? มรณภเยเนว ตชฺชิตตฺตา. กึสุ นามาติ กึสุ นาม โภ เอตํ, โก นุ โข อชฺช มเหสกฺโข เทโว วา พฺรหฺมา วา ภควนฺตํ ปฺหํ ปุจฺฉิตุํ ธมฺมํ โสตุํ อุปสงฺกมนฺโต, กถํสุ นาม โภ ภควา ปฺหํ วิสฺสชฺเชสฺสติ ธมฺมํ เทเสสฺสติ, ลาภา อมฺหากํ, เยสํ โน เอวํ เทวตานํ กงฺขาวิโนทโก สตฺถา อวิทูเร วิหาเร วสติ, เย ลภาม ถาลกภิกฺขมฺปิ กฏจฺฉุภิกฺขมฺปิ ทาตุนฺติ สํวิคฺคา โลมหฏฺชาตา อุทฺธคฺคโลมา หุตฺวา ทสนขสโมธานสมุชฺชลํ อฺชลึ สิรสฺมึ ปติฏฺเปตฺวา นมสฺสมานา อฏฺํสุ.

๓๔๗. ทุรุปสงฺกมาติ ทุปยิรุปาสิยา. อหํ สราโค สโทโส สโมโห, สตฺถา วีตราโค วีตโทโส วีตโมโห, ตสฺมา ทุปยิรุปาสิยา ตถาคตา มาทิเสน. ฌายีติ ลกฺขณูปนิชฺฌาเนน จ อารมฺมณูปนิชฺฌาเนน จ ฌายี. ตสฺมิฺเว ฌาเน รตาติ ฌานรตา. ตทนฺตรํ ปฏิสลฺลีนาติ ตทนฺตรํ ปฏิสลฺลีนา สมฺปติ ปฏิสลฺลีนา วา. ตสฺมา น เกวลํ ฌายี ฌานรตาติ ทุรุปสงฺกมา, อิทานิเมว ปฏิสลฺลีนาติปิ ทุรุปสงฺกมา. ปสาเทยฺยาสีติ อาราเธยฺยาสิ, โอกาสํ เม กาเรตฺวา ทเทยฺยาสีติ วทติ. เพลุวปณฺฑุวีณํ อาทายาติ นนุ ปุพฺเพว อาทินฺนาติ? อาม , อาทินฺนา. มคฺคคมนวเสน ปน อํสกูเฏ ลคฺคิตา, อิทานิ นํ วามหตฺเถ เปตฺวา วาทนสชฺชํ กตฺวา อาทิยิ. เตน วุตฺตํ ‘‘อาทายา’’ติ.

ปฺจสิขคีตคาถาวณฺณนา

๓๔๘. อสฺสาเวสีติ สาเวสิ. พุทฺธูปสฺหิตาติ พุทฺธํ อารพฺภ พุทฺธํ นิสฺสยํ กตฺวา ปวตฺตาติ อตฺโถ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย.

วนฺเท เต ปิตรํ ภทฺเท, ติมฺพรุํ สูริยวจฺฉเสติ เอตฺถ สูริยวจฺฉสาติ สูริยสมานสรีรา. ตสฺสา กิร เทวธีตาย ปาทนฺตโต รสฺมิ อุฏฺหิตฺวา เกสนฺตํ อาโรหติ, ตสฺมา พาลสูริยมณฺฑลสทิสา ขายติ, อิติ นํ ‘‘สูริยวจฺฉสา’’ติ สฺชานนฺติ. ตํ สนฺธายาห – ‘‘ภทฺเท, สูริยวจฺฉเส, ตว ปิตรํ ติมฺพรุํ คนฺธพฺพเทวราชานํ วนฺทามี’’ติ. เยน ชาตาสิ กลฺยาณีติ เยน การณภูเตน ยํ ติมฺพรุํ เทวราชานํ นิสฺสาย ตฺวํ ชาตา, กลฺยาณี สพฺพงฺคโสภนา. อานนฺทชนนี มมาติ มยฺหํ ปีติโสมนสฺสวฑฺฒนี.

วาโตว เสทตํ กนฺโตติ ยถา สฺชาตเสทานํ เสทหรณตฺถํ วาโต อิฏฺโ โหติ กนฺโต มนาโป, เอวนฺติ อตฺโถ. ปานียํว ปิปาสโตติ ปาตุมิจฺฉนฺตสฺส ปิปาสโต ปิปาสาภิภูตสฺส. องฺคีรสีติ องฺเค รสฺมิโย อสฺสาติ องฺคีรสี, ตเมว อารพฺภ อาลปนฺโต วทติ. ธมฺโม อรหตามิวาติ อรหนฺตานํ นวโลกุตฺตรธมฺโม วิย.

ชิฆจฺฉโตติ ภุฺชิตุกามสฺส ขุทาภิภูตสฺส. ชลนฺตมิว วารินาติ ยถา โกจิ ชลนฺตํ ชาตเวทํ อุทกกุมฺเภน นิพฺพาเปยฺย, เอวํ ตว การณา อุปฺปนฺนํ มม กามราคปริฬาหํ นิพฺพาเปหีติ วทติ.

ยุตฺตํ กิฺชกฺขเรณุนาติ ปทุมเกสรเรณุนา ยุตฺตํ. นาโค ฆมฺมาภิตตฺโต วาติ ฆมฺมาภิตตฺตหตฺถี วิย. โอคาเห เต ถนูทรนฺติ ยถา โส นาโค โปกฺขรณึ โอคาหิตฺวา ปิวิตฺวา อคฺคโสณฺฑมตฺตํ ปฺายมานํ กตฺวา นิมุคฺโค สุขํ สาตํ วินฺทติ, เอวํ กทา นุ โข เต ถนูทรํ ถนเวมชฺฌํ อุทรฺจ โอตริตฺวา อหํ สุขํ สาตํ ปฏิลภิสฺสามีติ วทติ.

‘‘อจฺจงฺกุโสว นาโคว, ชิตํ เม ตุตฺตโตมรํ;

การณํ นปฺปชานามิ, สมฺมตฺโต ลกฺขณูรุยา’’ติ. –

เอตฺถ ตุตฺตํ วุจฺจติ กณฺณมูเล วิชฺฌนอยทณฺฑโก. โตมรนฺติ ปาทาทีสุ วิชฺฌนทณฺฑโตมรํ. องฺกุโสติ มตฺถเก วิชฺฌนกุฏิลกณฺฏโก. โย จ นาโค ปภินฺนมตฺโต อจฺจงฺกุโส โหติ, องฺกุสํ อตีโต; องฺกุเสน วิชฺฌิยมาโนปิ วสํ น คจฺฉติ, โส ‘‘ชิตํ มยา ตุตฺตโตมรํ, โย อหํ องฺกุสสฺสปิ วสํ น คจฺฉามี’’ติ มททปฺเปน กิฺจิ การณํ น พุชฺฌติ. ยถา โส อจฺจงฺกุโส นาโค ‘‘ชิตํ เม ตุตฺตโตมร’’นฺติ กิฺจิ การณํ นปฺปชานาติ, เอวํ อหมฺปิ ลกฺขณสมฺปนฺนอูรุตาย ลกฺขณูรุยา สมฺมตฺโต มตฺโต ปมตฺโต อุมฺมตฺโต วิย กิฺจิ การณํ นปฺปชานามีติ วทติ. อถ วา อจฺจงฺกุโสว นาโค อหมฺปิ สมฺมตฺโต ลกฺขณูรุยา กิฺจิ ตโต วิราคการณํ นปฺปชานามิ. กสฺมา? ยสฺมา เตน นาเคน วิย ชิตํ เม ตุตฺตโตมรํ, น กสฺสจิ วทโต วจนํ อาทิยามิ.

ตยิ เคธิตจิตฺโตสฺมีติ ภทฺเท ลกฺขณูรุ ตยิ พทฺธจิตฺโตสฺมิ. เคธิตจิตฺโตติ วา เคธํ อชฺฌุเปตจิตฺโต. จิตฺตํ วิปริณามิตนฺติ ปกตึ ชหิตฺวา ิตํ. ปฏิคนฺตุํ น สกฺโกมีติ นิวตฺติตุํ น สกฺโกมิ. วงฺกฆสฺโตว อมฺพุโชติ พฬิสํ คิลิตฺวา ิตมจฺโฉ วิย. ‘‘ฆโส’’ติปิ ปาโ, อยเมวตฺโถ.

วามูรูติ วามากาเรน สณฺิตอูรุ, กทลิกฺขนฺธสทิสอูรูติ วา อตฺโถ. สชาติ อาลิงฺค. มนฺทโลจเนติ อิตฺถิโย น ติขิณํ นิชฺฌายนฺติ มนฺทํ อาโลเจนฺติ โอโลเกนฺติ, ตสฺมา ‘‘มนฺทโลจนา’’ติ วุจฺจนฺติ. ปลิสฺสชาติ สพฺพโตภาเคน อาลิงฺค. เอตํ เม อภิปตฺถิตนฺติ เอตํ มยา อภิณฺหํ ปตฺถิตํ.

อปฺปโก วต เม สนฺโตติ ปกติยาว มนฺโท สมาโน. เวลฺลิตเกสิยาติ เกสา มุฺจิตฺวา ปิฏฺิยํ วิสฺสฏฺกาเล สปฺโป วิย เวลฺลนฺตา คจฺฉนฺตา อสฺสาติ เวลฺลิตเกสี, ตสฺสา เวลฺลิตเกสิยา. อเนกภาโว สมุปฺปาทีติ อเนกวิโธ ชาโต. อเนกภาโคติ วา ปาโ. อรหนฺเตว ทกฺขิณาติ อรหนฺตมฺหิ ทินฺนทานํ วิย นานปฺปการโต ปภินฺโน.

ยํ เม อตฺถิ กตํ ปุฺนฺติ ยํ มยา กตํ ปุฺมตฺถิ. อรหนฺเตสุ ตาทิสูติ ตาทิลกฺขณปฺปตฺเตสุ อรหนฺเตสุ. ตยา สทฺธึ วิปจฺจตนฺติ สพฺพํ ตยา สทฺธิเมว วิปากํ เทตุ.

เอโกทีติ เอกีภาวํ คโต. นิปโก สโตติ เนปกฺกํ วุจฺจติ ปฺา, ตาย สมนฺนาคโตติ นิปโก. สติยา สมนฺนาคตตฺตา สโต. อมตํ มุนิ ชิคีสาโนติ ยถา โส พุทฺธมุนิ อมตํ นิพฺพานํ ชิคีสติ ปริเยสติ, เอวํ ตํ อหํ สูริยวจฺฉเส ชิคีสามิ ปริเยสามิ. ยถา วา โส อมตํ ชิคีสาโน เอสนฺโต คเวสนฺโต วิจรติ, เอวาหํ ตํ เอสนฺโต คเวสนฺโต วิจรามีติปิ อตฺโถ.

ยถาปิ มุนิ นนฺเทยฺย, ปตฺวา สมฺโพธิมุตฺตมนฺติ ยถา พุทฺธมุนิ โพธิปลฺลงฺเก นิสินฺโน สพฺพฺุตฺาณํ ปตฺวา นนฺเทยฺย โตเสยฺย. เอวํ นนฺเทยฺยนฺติ เอวเมว อหมฺปิ ตยา มิสฺสีภาวํ คโต นนฺเทยฺยํ, ปีติโสมนสฺสชาโต ภเวยฺยนฺติ วทติ.

ตาหํ ภทฺเท วเรยฺยาเหติ อเหติ อามนฺตนํ, อเห ภทฺเท สูริยวจฺฉเส, สกฺเกน เทวานมินฺเทน ‘‘กึ ทฺวีสุ เทวโลเกสุ เทวรชฺชํ คณฺหสิ, สุริยวจฺฉส’’นฺติ, เอวํ วเร ทินฺเน เทวรชฺชํ ปหาย ‘‘สูริยวจฺฉสํ คณฺหามี’’ติ เอวํ ตํ อหํ วเรยฺยํ อิจฺเฉยฺยํ คณฺเหยฺยนฺติ อตฺโถ.

สาลํว น จิรํ ผุลฺลนฺติ ตว ปิตุ นครทฺวาเร นจิรํ ปุปฺผิโต สาโล อตฺถิ. โส อติวิย มโนหโร. ตํ นจิรํ ผุลฺลสาลํ วิย. ปิตรํ เต สุเมธเสติ อติสสฺสิรีกํ ตว ปิตรํ วนฺทมาโน นมสฺสามิ นโม กโรมิ. ยสฺสาเสตาทิสี ปชาติ ยสฺส อาสิ เอตาทิสี ธีตา.

๓๔๙. สํสนฺทตีติ กสฺมา คีตสทฺทสฺส เจว วีณาสทฺทสฺส จ วณฺณํ กเถสิ? กึ ตตฺถ ภควโต สาราโค อตฺถีติ? นตฺถิ. ฉฬงฺคุเปกฺขาย อุเปกฺขโก ภควา เอตาทิเสสุ าเนสุ, เกวลํ อิฏฺานิฏฺํ ชานาติ, น ตตฺถ รชฺชติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘สํวิชฺชติ โข, อาวุโส, ภควโต จกฺขุ, ปสฺสติ ภควา จกฺขุนา รูปํ, ฉนฺทราโค ภควโต นตฺถิ, สุวิมุตฺตจิตฺโต ภควา. สํวิชฺชติ โข, อาวุโส, ภควโต โสต’’นฺติอาทิ (สํ. นิ. ๔.๒๓๒). สเจ ปน วณฺณํ น กเถยฺย, ปฺจสิโข ‘‘โอกาโส เม กโต’’ติ น ชาเนยฺย. อถ สกฺโก ‘‘ภควตา ปฺจสิขสฺส โอกาโส น กโต’’ติ เทวตา คเหตฺวา ตโตว ปฏินิวตฺเตยฺย, ตโต มหาชานิโย ภเวยฺย. วณฺเณ ปน กถิเต ‘‘กโต ภควตา ปฺจสิขสฺส โอกาโส’’ติ เทวตาหิ สทฺธึ อุปสงฺกมิตฺวา ปฺหํ ปุจฺฉิตฺวา วิสฺสชฺชนาวสาเน อสีติยา เทวตาสหสฺเสหิ สทฺธึ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิสฺสตีติ ตฺวา วณฺณํ กเถสิ.

ตตฺถ กทา สํยูฬฺหาติ กทา คนฺถิตา ปิณฺฑิตา. เตน โข ปนาหํ, ภนฺเต, สมเยนาติ เตน สมเยน ตสฺมึ ตุมฺหากํ สมฺโพธิปฺปตฺติโต ปฏฺาย อฏฺเม สตฺตาเห. ภทฺทา นาม สูริยวจฺฉสาติ นามโต ภทฺทา สรีรสมฺปตฺติยา สูริยวจฺฉสา. ภคินีติ โวหารวจนเมตํ, เทวธีตาติ อตฺโถ. ปรกามินีติ ปรํ กาเมติ อภิกงฺขติ.

อุปนจฺจนฺติยาติ นจฺจมานาย. สา กิร เอกสฺมึ สมเย จาตุมหาราชิกเทเวหิ สทฺธึ สกฺกสฺส เทวราชสฺส นจฺจํ ทสฺสนตฺถาย คตา, ตสฺมิฺจ ขเณ สกฺโก ตถาคตสฺส อฏฺ ยถาภุจฺเจ คุเณ ปยิรุทาหาสิ. เอวํ ตสฺมึ ทิวเส คนฺตฺวา นจฺจนฺตี อสฺโสสิ.

สกฺกูปสงฺกมวณฺณนา

๓๕๐. ปฏิสมฺโมทตีติ ‘‘สํสนฺทติ โข เต’’ติอาทีนิ วทนฺโต ภควา สมฺโมทติ, ปฺจสิโข ปฏิสมฺโมทติ. คาถา จ ภาสนฺโต ปฺจสิโข สมฺโมทติ, ภควา ปฏิสมฺโมทติ. อามนฺเตสีติ ชานาเปสิ. ตสฺส กิเรวํ อโหสิ ‘‘อยํ ปฺจสิโข มยา มม กมฺเมน เปสิโต อตฺตโน กมฺมํ กโรติ. เอวรูปสฺส สตฺถุ สนฺติเก ตฺวา กามคุณูปสฺหิตํ อนนุจฺฉวิกํ กเถสิ, นฏา นาม นิลฺลชฺชา โหนฺติ, กเถนฺโต วิปฺปการมฺปิ ทสฺเสยฺย, หนฺท นํ มม กมฺมํ ชานาเปมี’’ติ จินฺเตตฺวา อามนฺเตสิ.

๓๕๑. เอวฺจปน ตถาคตาติ ธมฺมสงฺคาหกตฺเถเรหิ ปิตวจนํ. อภิวทนฺตีติ อภิวาทนสมฺปฏิจฺฉเนน วฑฺฒิตวจเนน วทนฺติ. อภิวทิโตติ วฑฺฒิตวจเนน วุตฺโต.

อุรุนฺทา สมปาทีติ มหนฺตา วิวฏา อโหสิ, อนฺธกาโร คุหายํ อนฺตรธายิ. อาโลโก อุทปาทีติ โย ปกติยา คุหายํ อนฺธกาโร, โส อนฺตรหิโต, อาโลโก ชาโต. สพฺพเมตํ ธมฺมสงฺคาหกานํ วจนํ.

๓๕๒. จิรปฏิกาหํ, ภนฺเตติ จิรโต อหํ, จิรโต ปฏฺายาหํ ทสฺสนกาโมติ อตฺโถ. เกหิจิ เกหิจิ กิจฺจกรณีเยหีติ เทวานํ ธีตา จ ปุตฺตา จ องฺเก นิพฺพตฺตนฺติ, ปาทปริจาริกา อิตฺถิโย สยเน นิพฺพตฺตนฺติ, ตาสํ มณฺฑนปสาธนการิกา เทวตา สยนํ ปริวาเรตฺวา นิพฺพตฺตนฺติ, เวยฺยาวจฺจกรา อนฺโตวิมาเน นิพฺพตฺตนฺติ, เอเตสํ อตฺถาย อฑฺฑกรณํ นาม นตฺถิ. เย ปน สีมนฺตเร นิพฺพตฺตนฺติ, เต ‘‘ตว สนฺตกา, มม สนฺตกา’’ติ นิจฺเฉตุํ อสกฺโกนฺตา อฑฺฑํ กโรนฺติ, สกฺกํ เทวราชานํ ปุจฺฉนฺติ. โส ‘‘ยสฺส วิมานํ อาสนฺนตรํ, ตสฺส สนฺตกา’’ติ วทติ. สเจ ทฺเวปิ สมฏฺาเน โหนฺติ, ‘‘ยสฺส วิมานํ โอโลเกนฺตี ิตา, ตสฺส สนฺตกา’’ติ วทติ. สเจ เอกมฺปิ น โอโลเกติ, ตํ อุภินฺนํ กลหุปจฺเฉทนตฺถํ อตฺตโน สนฺตกํ กโรติ. กีฬาทีนิปิ กิจฺจานิ กรณียาเนว. เอวรูปานิ ตานิ กรณียานิ สนฺธาย ‘‘เกหิจิ เกหิจิ กิจฺจกรณีเยหี’’ติ อาห.

สลฬาคารเกติ สลฬมยคนฺธกุฏิยํ. อฺตเรน สมาธินาติ ตทา กิร ภควา สกฺกสฺเสว อปริปากคตํ าณํ วิทิตฺวา โอกาสํ อกาเรตุกาโม ผลสมาปตฺติวิหาเรน นิสีทิ. ตํ เอส อชานนฺโต ‘‘อฺตเรน สมาธินา’’ติ อาห. ภูชติ จ นามาติ ภูชตีติ ตสฺสา นามํ. ปริจาริกาติ ปาทปริจาริกา เทวธีตา. สา กิร ทฺเว ผลานิ ปตฺตา, เตนสฺสา เทวโลเก อภิรติเยว นตฺถิ. นิจฺจํ ภควโต อุปฏฺานํ อาคนฺตฺวา อฺชลึ สิรสิ เปตฺวา ภควนฺตํ นมสฺสมานา ติฏฺติ. เนมิสทฺเทน ตมฺหา สมาธิมฺหา วุฏฺิโตติ ‘‘สมาปนฺโน สทฺทํ สุณาตี’’ติ โน วต เร วตฺตพฺเพ, นนุ ภควา สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส ‘‘อปิจาหํ อายสฺมโต จกฺกเนมิสทฺเทน ตมฺหา สมาธิมฺหา วุฏฺิโต’’ติ ภณตีติ. ติฏฺตุ เนมิสทฺโท, สมาปนฺโน นาม อนฺโตสมาปตฺติยํ กณฺณมูเล ธมมานสฺส สงฺขยุคฬสฺสาปิ อสนิสนฺนิปาตสฺสาปิ สทฺทํ น สุณาติ. ภควา ปน ‘‘เอตฺตกํ กาลํ สกฺกสฺส โอกาสํ น กริสฺสามี’’ติ ปริจฺฉินฺทิตฺวา กาลวเสน ผลสมาปตฺตึ สมาปนฺโน. สกฺโก ‘‘น ทานิ เม สตฺถา โอกาสํ กโรตี’’ติ คนฺธกุฏึ ปทกฺขิณํ กตฺวา รถํ นิวตฺเตตฺวา เทวโลกาภิมุขํ เปเสสิ. คนฺธกุฏิปริเวณํ รถสทฺเทน สโมหิตํ ปฺจงฺคิกตูริยํ วิย อโหสิ. ภควโต ยถาปริจฺฉินฺนกาลวเสน สมาปตฺติโต วุฏฺิตสฺส รถสทฺเทเนว ปมาวชฺชนํ อุปฺปชฺชิ, ตสฺมา เอวมาห.

โคปกวตฺถุวณฺณนา

๓๕๓. สีเลสุ ปริปูรการินีติ ปฺจสุ สีเลสุ ปริปูรการินี. อิตฺถิตฺตํ วิราเชตฺวาติ อิตฺถิตฺตํ นาม อลํ, น หิ อิตฺถิตฺเต ตฺวา จกฺกวตฺติสิรึ, น สกฺกมารพฺรหฺมสิริโย ปจฺจนุภวิตุํ, น ปจฺเจกโพธึ, น สมฺมาสมฺโพธึ คนฺตุํ สกฺกาติ เอวํ อิตฺถิตฺตํ วิราเชติ นาม. มหนฺตมิทํ ปุริสตฺตํ นาม เสฏฺํ อุตฺตมํ, เอตฺถ ตฺวา สกฺกา เอตา สมฺปตฺติโย ปาปุณิตุนฺติ เอวํ ปน ปุริสตฺตํ ภาเวติ นาม. สาปิ เอวมกาสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อิตฺถิตฺตํ วิราเชตฺวา ปุริสตฺตํ ภาเวตฺวา’’ติ. หีนํ คนฺธพฺพกายนฺติ หีนํ ลามกํ คนฺธพฺพนิกายํ. กสฺมา ปน เต ปริสุทฺธสีลา ตตฺถ อุปฺปนฺนาติ? ปุพฺพนิกนฺติยา. ปุพฺเพปิ กิร เนสํ เอตเทว วสิตฏฺานํ, ตสฺมา นิกนฺติวเสน ตตฺถ อุปฺปนฺนา. อุปฏฺานนฺติ อุปฏฺานสาลํ. ปาริจริยนฺติ ปริจรณภาวํ. คีตวาทิเตหิ อมฺเห ปริจริสฺสามาติ อาคจฺฉนฺติ.

ปฏิโจเทสีติ สาเรสิ. โส กิร เต ทิสฺวา ‘‘อิเม เทวปุตฺตา อติวิย วิโรเจนฺติ อติวณฺณวนฺโต, กึ นุ โข กมฺมํ กตฺวา อาคตา’’ติ อาวชฺชนฺโต ‘‘ภิกฺขู อเหสุ’’นฺติ อทฺทส. ตโต ‘‘ภิกฺขู โหนฺตุ, สีเลสุ ปริปูรการิโน’’ติ อุปธาเรนฺโต ‘‘ปริปูรการิโน’’ติ อทฺทส. ‘‘ปริปูรการิโน โหนฺตุ, อฺโ คุโณ อตฺถิ นตฺถี’’ติ อุปธาเรนฺโต ‘‘ฌานลาภิโน’’ติ อทฺทส. ‘‘ฌานลาภิโน โหนฺตุ, กุหึ วาสิกา’’ติ อุปธาเรนฺโต ‘‘มยฺหํว กุลูปกา’’ติ อทฺทส. ปริสุทฺธสีลา นาม ฉสุ เทวโลเกสุ ยตฺถิจฺฉนฺติ, ตตฺถ นิพฺพตฺตนฺติ. อิเม ปน อุปริเทวโลเก จ น นิพฺพตฺตา. ฌานลาภิโน นาม พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺตนฺติ, อิเม จ พฺรหฺมโลเก น นิพฺพตฺตา. อหํ ปน เอเตสํ โอวาเท ตฺวา เทวโลกสามิกสฺส สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส ปลฺลงฺเก ปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺโต, อิเม หีเน คนฺธพฺพกาเย นิพฺพตฺตา. อฏฺิเวธปุคฺคลา นาเมเต วฏฺเฏตฺวา วฏฺเฏตฺวา คาฬฺหํ วิชฺฌิตพฺพาติ จินฺเตตฺวา กุโตมุขา นามาติอาทีหิ วจเนหิ ปฏิโจเทสิ.

ตตฺถ กุโตมุขาติ ภควติ อภิมุเข ธมฺมํ เทเสนฺเต ตุมฺเห กุโตมุขา กึ อฺา วิหิตา อิโต จิโต จ โอโลกยมานา อุทาหุ นิทฺทายมานา? ทุทฺทิฏฺรูปนฺติ ทุทฺทิฏฺสภาวํ ทฏฺุํ อยุตฺตํ . สหธมฺมิเกติ เอกสฺส สตฺถุ สาสเน สมาจิณฺณธมฺเม กตปุฺเ. เตสํ ภนฺเตติ เตสํ โคปเกน เทวปุตฺเตน เอวํ วตฺวา ปุน ‘‘อโห ตุมฺเห นิลฺลชฺชา อหิริกา’’ติอาทีหิ วจเนหิ ปฏิโจทิตานํ ทฺเว เทวา ทิฏฺเว ธมฺเม สตึ ปฏิลภึสุ.

กายํ พฺรหฺมปุโรหิตนฺติ เต กิร จินฺตยึสุ – ‘‘นเฏหิ นาม นจฺจนฺเตหิ คายนฺเตหิ วาเทนฺเตหิ อาคนฺตฺวา ทาโย นาม ลภิตพฺโพ อสฺส, อยํ ปน อมฺหากํ ทิฏฺกาลโต ปฏฺาย ปกฺขิตฺตโลณํ อุทฺธนํ วิย ตฏตฏายเตว, กึ นุ โข อิท’’นฺติ อาวชฺชนฺตา อตฺตโน สมณภาวํ ปริสุทฺธสีลตํ ฌานลาภิตํ ตสฺเสว กุลูปกภาวฺจ ทิสฺวา ‘‘ปริสุทฺธสีลา นาม ฉสุ เทวโลเกสุ ยถารุจิเต าเน นิพฺพตฺตนฺติ, ฌานลาภิโน พฺรหฺมโลเก. มยํ อุปริเทวโลเกปิ พฺรหฺมโลเกปิ นิพฺพตฺติตุํ นาสกฺขิมฺห. อมฺหากํ โอวาเท ตฺวา อยํ อิตฺถิกา อุปริ นิพฺพตฺตา, มยํ ภิกฺขู สมานา ภควติ พฺรหฺมจริยํ จริตฺวา หีเน คนฺธพฺพกาเย นิพฺพตฺตา. เตน โน อยํ เอวํ นิคฺคณฺหาตี’’ติ ตฺวา ตสฺส กถํ สุณนฺตาเยว เตสุ ทฺเว ชนา ปมชฺฌานสตึ ปฏิลภิตฺวา ฌานํ ปาทกํ กตฺวา สงฺขาเร สมฺมสนฺตา อนาคามิผเลเยว ปติฏฺหึสุ. อถ เนสํ โส ปริตฺโต กามาวจรตฺตภาโว ธาเรตุํ นาสกฺขิ. ตสฺมา ตาวเทว จวิตฺวา พฺรหฺมปุโรหิเตสุ นิพฺพตฺตา. โส จ เนสํ กาโย ตตฺถ ิตานํเยว นิพฺพตฺโต. เตน วุตฺตํ – ‘‘เตสํ, ภนฺเต, โคปเกน เทวปุตฺเตน ปฏิโจทิตานํ ทฺเว เทวา ทิฏฺเว ธมฺเม สตึ ปฏิลภึสุ กายํ พฺรหฺมปุโรหิต’’นฺติ.

ตตฺถ ทิฏฺเว ธมฺเมติ ตสฺมิฺเว อตฺตภาเว ฌานสตึ ปฏิลภึสุ. ตตฺเถว ตฺวา จุตา ปน กายํ พฺรหฺมปุโรหิตํ พฺรหฺมปุโรหิตสรีรํ ปฏิลภึสูติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เอโก ปน เทโวติ เอโก เทวปุตฺโต นิกนฺตึ ฉินฺทิตุํ อสกฺโกนฺโต กาเม อชฺฌวสิ, ตตฺเถว อาวาสิโก อโหสิ.

๓๕๔. สงฺฆฺจุปฏฺาสินฺติ สงฺฆฺจ อุปฏฺาสึ.

สุธมฺมตายาติ ธมฺมสฺส สุนฺทรภาเวน. ติทิวูปปนฺโนติ ติทิเว ติทสปุเร อุปปนฺโน. คนฺธพฺพกายูปคเต วสีเนติ คนฺธพฺพกายํ อาวาสิโก หุตฺวา อุปคเต. เย จ มยํ ปุพฺเพ มนุสฺสภูตาติ เย ปุพฺเพ มนุสฺสภูตา มยํ อนฺเนน ปาเนน อุปฏฺหิมฺหาติ อิมินา สทฺธึ โยเชตฺวา อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

ปาทูปสงฺคยฺหาติ ปาเท อุปสงฺคยฺห ปาทโธวนปาทมกฺขนานุปฺปทาเนน ปูเชตฺวา เจว วนฺทิตฺวา จ. สเก นิเวสเนติ อตฺตโน ฆเร. อิมสฺสาปิ ปทสฺส อุปฏฺหิมฺหาติ อิมินาว สมฺพนฺโธ.

ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพติ อตฺตนาว เวทิตพฺโพ. อริยาน สุภาสิตานีติ ตุมฺเหหิ วุจฺจมานานิ พุทฺธานํ ภควนฺตานํ สุภาสิตานิ.

ตุมฺเหปน เสฏฺมุปาสมานาติ อุตฺตมํ พุทฺธํ ภควนฺตํ อุปาสมานา อนุตฺตเร พุทฺธสาสเน วา. พฺรหฺมจริยนฺติ เสฏฺจริยํ. ภวตูปปตฺตีติ ภวนฺตานํ อุปปตฺติ.

อคาเร วสโต มยฺหนฺติ ฆรมชฺเฌ วสนฺตสฺส มยฺหํ.

สฺวชฺชาติ โส อชฺช. โคตมสาวเกนาติ อิธ โคปโก โคตมสาวโกติ วุตฺโต. สเมจฺจาติ สมาคนฺตฺวา.

หนฺทวิยายาม พฺยายามาติ หนฺท อุยฺยมาม พฺยายมาม. มา โน มยํ ปรเปสฺสา อหุมฺหาติ โนติ นิปาตมตฺตํ, มา มยํ ปรสฺส เปสนการกาว อหุมฺหาติ อตฺโถ. โคตมสาสนานีติ อิธ ปกติยา ปฏิวิทฺธํ ปมชฺฌานเมว โคตมสาสนานีติ วุตฺตํ, ตํ อนุสฺสรํ อนุสฺสริตฺวาติ อตฺโถ.

จิตฺตานิ วิราชยิตฺวาติ ปฺจกามคุณิกจิตฺตานิ วิราชยิตฺวา. กาเมสุ อาทีนวนฺติ วิกฺขมฺภนวเสน ปมชฺฌาเนน กาเมสุ อาทีนวํ อทฺทสํสุ, สมุจฺเฉทวเสน ตติยมคฺเคน. กามสํโยชนพนฺธนานีติ กามสฺโชนานิ จ กามพนฺธนานิ จ. ปาปิมโยคานีติ ปาปิมโต มารสฺส โยคภูตานิ, พนฺธนภูตานีติ อตฺโถ. ทุรจฺจยานีติ ทุรติกฺกมานิ. สอินฺทา เทวา สปชาปติกาติ อินฺทํ เชฏฺกํ กตฺวา อุปวิฏฺา สอินฺทา ปชาปตึ เทวราชานํ เชฏฺกํ กตฺวา อุปวิฏฺา สปชาปติกา. สภายุปวิฏฺาติ สภายํ อุปวิฏฺา, นิสินฺนาติ อตฺโถ.

วีราติ สูรา. วิราคาติ วีตราคา. วิรชํ กโรนฺตาติ วิรชํ อนาคามิมคฺคํ กโรนฺตา อุปฺปาเทนฺตา. นาโคว สนฺนานิ คุณานีติ กามสฺโชนพนฺธนานิ เฉตฺวา เทเว ตาวตึเส อติกฺกมึสุ. สํเวคชาตสฺสาติ ชาตสํเวคสฺส สกฺกสฺส.

กามาภิภูติ ทุวิธานมฺปิ กามานํ อภิภู. สติยา วิหีนาติ ฌานสติวิรหิตา.

ติณฺณํ เตสนฺติ เตสุ ตีสุ ชเนสุ. อาวสิเนตฺถ เอโกติ ตตฺถ หีเน กาเย เอโกเยว อาวาสิโก ชาโต. สมฺโพธิปถานุสาริโนติ อนาคามิมคฺคานุสาริโน. เทเวปิ หีเฬนฺตีติ ทฺเว เทวโลเก หีเฬนฺตา อโธกโรนฺตา อุปจารปฺปนาสมาธีหิ สมาหิตตฺตา อตฺตโน ปาทปํสุํ เทวตานํ มตฺถเก โอกิรนฺตา อากาเส อุปฺปติตฺวา คตาติ.

เอตาทิสี ธมฺมปฺปกาสเนตฺถาติ เอตฺถ สาสเน เอวรูปา ธมฺมปฺปกาสนา, ยาย สาวกา เอเตหิ คุเณหิ สมนฺนาคตา โหนฺติ. ตตฺถ กึ กงฺขติ โกจิ สาวโกติ กึ ตตฺถ เตสุ สาวเกสุ โกจิ เอกสาวโกปิ พุทฺธาทีสุ วา จาตุทฺทิสภาเว วา น กงฺขติ ‘‘สพฺพทิสาสุ อสชฺชมาโน อคยฺหมาโน วิหรตี’’ติ. อิทานิ ภควโต วณฺณํ ภณนฺโต ‘‘นิติณฺณโอฆํ วิจิกิจฺฉฉินฺนํ, พุทฺธํ นมสฺสาม ชินํ ชนินฺท’’นฺติ อาห. ตตฺถ วิจิกิจฺฉฉินฺนนฺติ ฉินฺนวิจิกิจฺฉํ. ชนินฺทนฺติ สพฺพโลกุตฺตมํ.

ยํ เต ธมฺมนฺติ ยํ ตว ธมฺมํ. อชฺฌคํสุ เตติ เต เทวปุตฺตา อธิคตา. กายํ พฺรหฺมปุโรหิตนฺติ อมฺหากํ ปสฺสนฺตานํเยว พฺรหฺมปุโรหิตสรีรํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยํ ตว ธมฺมํ ชานิตฺวา เตสํ ติณฺณํ ชนานํ เต ทฺเว วิเสสคู อมฺหากํ ปสฺสนฺตานํเยว กายํ พฺรหฺมปุโรหิตํ อธิคนฺตฺวา มคฺคผลวิเสสํ อชฺฌคํสุ, มยมฺปิ ตสฺส ธมฺมสฺส ปตฺติยา อาคตมฺหาสิ มาริสาติ. อาคตมฺหเสติ สมฺปตฺตมฺห. กตาวกาสา ภควตา, ปฺหํ ปุจฺเฉมุ มาริสาติ สเจ โน ภควา โอกาสํ กโรติ, อถ ภควตา กตาวกาสา หุตฺวา ปฺหํ, มาริส, ปุจฺเฉยฺยามาติ อตฺโถ.

มฆมาณววตฺถุ

๓๕๕. ทีฆรตฺตํ วิสุทฺโธ โข อยํ ยกฺโขติ จิรกาลโต ปภุติ วิสุทฺโธ. กีว จิรกาลโต? อนุปฺปนฺเน พุทฺเธ มคธรฏฺเ มจลคามเก มฆมาณวกาลโต ปฏฺาย. ตทา กิเรส เอกทิวสํ กาลสฺเสว วุฏฺาย คามมชฺเฌ มนุสฺสานํ คามกมฺมกรณฏฺานํ คนฺตฺวา อตฺตโน ิตฏฺานํ ปาทนฺเตเนว ปํสุกจวรํ อปเนตฺวา รมณียมกาสิ, อฺโ อาคนฺตฺวา ตตฺถ อฏฺาสิ. โส ตาวตเกเนว สตึ ปฏิลภิตฺวา มชฺเฌ คามสฺส ขลมณฺฑลมตฺตํ านํ โสเธตฺวา วาลุกํ โอกิริตฺวา ทารูนิ อาหริตฺวา สีตกาเล อคฺคึ กโรติ, ทหรา จ มหลฺลกา จ อาคนฺตฺวา ตตฺถ นิสีทนฺติ.

อถสฺส เอกทิวสํ เอตทโหสิ – ‘‘มยํ นครํ คนฺตฺวา ราชราชมหามตฺตาทโย ปสฺสาม, อิเมสุปิ จนฺทิมสูริเยสุ ‘จนฺโท นาม เทวปุตฺโต, สูริโย นาม เทวปุตฺโต’ติ วทนฺติ. กึ นุ โข กตฺวา เอเต เอตา สมฺปตฺติโย อธิคตา’’ติ? ตโต ‘‘นาฺํ กิฺจิ, ปุฺกมฺมเมว กตฺวา’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘มยาปิ เอวํวิธสมฺปตฺติทายกํ ปุฺกมฺมเมว กตฺตพฺพ’’นฺติ จินฺเตสิ.

โส กาลสฺเสว วุฏฺาย ยาคุํ ปิวิตฺวา วาสิผรสุกุทาลมุสลหตฺโถ จตุมหาปถํ คนฺตฺวา มุสเลน ปาสาเณ อุจฺจาเลตฺวา ปวฏฺเฏติ, ยานานํ อกฺขปฏิฆาตรุกฺเข หรติ, วิสมํ สมํ กโรติ, จตุมหาปเถ สาลํ กโรติ, โปกฺขรณึ ขณติ, เสตุํ พนฺธติ, เอวํ ทิวสํ กมฺมํ กตฺวา อตฺถงฺคเต สูริเย ฆรํ เอติ. ตํ อฺโ ปุจฺฉิ – ‘‘โภ, มฆ, ตฺวํ ปาโตว นิกฺขมิตฺวา สายํ อรฺโต เอสิ, กึ กมฺมํ กโรสี’’ติ? ปุฺกมฺมํ กโรมิ. สคฺคคามิมคฺคํ โสเธมีติ. กิมิทํ, โภ, ปุฺํ นามาติ? ตฺวํ น ชานาสีติ? อาม, น ชานามีติ. นครํ คตกาเล ทิฏฺปุพฺพา เต ราชราชมหามตฺตาทโยติ? อาม, ทิฏฺปุพฺพาติ. ปุฺกมฺมํ กตฺวา เตหิ ตํ านํ ลทฺธํ, อหมฺปิ เอวํวิธสมฺปตฺติทายกํ กมฺมํ กโรมิ. ‘‘จนฺโท นาม เทวปุตฺโต, สูริโย นาม เทวปุตฺโต’’ติ สุตปุพฺพํ ตยาติ? อาม สุตปุพฺพนฺติ. เอตสฺส สคฺคสฺส คมนมคฺคํ อหํ โสเธมีติ. อิทํ ปน ปุฺกมฺมํ กึ ตเวว วฏฺฏติ, อฺสฺส น วฏฺฏตีติ? น กสฺสเจตํ วาริตนฺติ. ยทิ เอวํ สฺเว อรฺํ คมนกาเล มยฺหมฺปิ สทฺทํ เทหีติ. ปุนทิวเส ตํ คเหตฺวา คโต, เอวํ ตสฺมึ คาเม เตตฺตึส มนุสฺสา ตรุณวยา สพฺเพ ตสฺเสว อนุวตฺตกา อเหสุํ. เต เอกจฺฉนฺทา หุตฺวา ปุฺกมฺมานิ กโรนฺตา วิจรนฺติ. ยํ ทิสํ คจฺฉนฺติ, มคฺคํ สมํ กโรนฺตา เอกทิวเสเนว กโรนฺติ, โปกฺขรณึ ขณนฺตา, สาลํ กโรนฺตา, เสตุํ พนฺธนฺตา เอกทิวเสเนว นิฏฺาเปนฺติ.

อถ เนสํ คามโภชโก จินฺเตสิ – ‘‘อหํ ปุพฺเพ เอเตสุ สุรํ ปิวนฺเตสุ ปาณฆาตาทีนิ กโรนฺเตสุ จ กหาปณาทิวเสน เจว ทณฺฑพลิวเสน จ ธนํ ลภามิ. อิทานิ เอเตสํ ปุฺกรณกาลโต ปฏฺาย เอตฺตโก อาโย นตฺถิ, หนฺท เน ราชกุเล ปริภินฺทามี’’ติ ราชานํ อุปสงฺกมิตฺวา โจเร, มหาราช, ปสฺสามีติ. กุหึ, ตาตาติ? มยฺหํ คาเมติ. กึ โจรา นาม, ตาตาติ? ราชาปราธิกา เทวาติ. กึ ชาติกาติ? คหปติชาติกา เทวาติ. คหปติกา กึ กริสฺสนฺติ, ตยา ชานมาเนน กสฺมา มยฺหํ น กถิตนฺติ? ภเยน, มหาราช, น กเถมิ, อิทานิ มา มยฺหํ โทสํ กเรยฺยาถาติ. อถ ราชา ‘‘อยํ มยฺหํ มหารวํ รวตี’’ติ สทฺทหิตฺวา ‘‘เตน หิ คจฺฉ, ตฺวเมว เน อาเนหี’’ติ พลํ ทตฺวา เปเสสิ. โส คนฺตฺวา ทิวสํ อรฺเ กมฺมํ กตฺวา สายมาสํ ภุฺชิตฺวา คามมชฺเฌ นิสีทิตฺวา ‘‘สฺเว กึ กมฺมํ กริสฺสาม, กึ มคฺคํ สมํ กโรม, โปกฺขรณึ ขณาม, เสตุํ พนฺธามา’’ติ มนฺตยมาเนเยว เต ปริวาเรตฺวา ‘‘มา ผนฺทิตฺถ, รฺโ อาณา’’ติ พนฺธิตฺวา ปายาสิ. อถ โข เนสํ อิตฺถิโย ‘‘สามิกา กิร โว ‘ราชาปราธิกา โจรา’ติ พนฺธิตฺวา นิยฺยนฺตี’’ติ สุตฺวา ‘‘อติจิเรน กูฏา เอเต ‘ปุฺกมฺมํ กโรมา’ติ ทิวเส ทิวเส อรฺเว อจฺฉนฺติ, สพฺพกมฺมนฺตา ปริหีนา, เคเห น กิฺจิ วฑฺฒติ, สุฏฺุ พทฺธา สุฏฺุ คหิตา’’ติ วทึสุ.

คามโภชโกปิ เต เนตฺวา รฺโ ทสฺเสสิ. ราชา อนุปปริกฺขิตฺวาเยว ‘‘หตฺถินา มทฺทาเปถา’’ติ อาห. เตสุ นียมาเนสุ มโฆ อิตเร อาห – ‘‘โภ, สกฺขิสฺสถ มม วจนํ กาตุ’’นฺติ? ตว วจนํ กโรนฺตาเยวมฺห อิมํ ภยํ ปตฺตา, เอวํ สนฺเตปิ ตว วจนํ กโรม, ภณ โภ, กึ กโรมาติ? เอตฺถ โภ วฏฺเฏ จรนฺตานํ นาม นิพทฺธํ เอตํ, กึ ปน ตุมฺเห โจราติ? น โจรมฺหาติ. อิมสฺส โลกสฺส สจฺจกิริยา นาม อวสฺสโย, ตสฺมา สพฺเพปิ ‘‘ยทิ อมฺเห โจรา, หตฺถี มทฺทตุ, อถ น โจรา, มา มทฺทตู’’ติ สจฺจกิริยํ กโรถาติ. เต ตถา อกํสุ. หตฺถี อุปคนฺตุมฺปิ น สกฺโกติ, วิรวนฺโต ปลายติ, หตฺถึ ตุตฺตโตมรงฺกุเสหิ โกฏฺเฏนฺตาปิ อุปเนตุํ น สกฺโกนฺติ. ‘‘หตฺถึ อุปเนตุํ น สกฺโกมา’’ติ รฺโ อาโรเจสุํ. เตน หิ อุปริ กเฏน ปฏิจฺฉาเทตฺวา มทฺทาเปถาติ. อุปริ กเฏ ทินฺเน ทิคุณรวํ วิรวนฺโต ปลายติ.

ราชา สุตฺวา เปสุฺการกํ ปกฺโกสาเปตฺวา อาห – ‘‘ตาต, หตฺถี มทฺทิตุํ น อิจฺฉตี’’ติ? อาม, เทว, เชฏฺกมาณโว มนฺตํ ชานาติ, มนฺตสฺเสว อยมานุภาโวติ. ราชา ตํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘มนฺโต กิร เต อตฺถี’’ติ ปุจฺฉิ? นตฺถิ, เทว, มยฺหํ มนฺโต, สจฺจกิริยํ ปน มยํ กริมฺห – ‘‘ยทิ อมฺเห รฺโ โจรา, มทฺทตุ, อถ น โจรา, มา มทฺทตู’’ติ, สจฺจกิริยาย โน เอส อานุภาโวติ. กึ ปน, ตาต, ตุมฺเห กมฺมํ กโรถาติ? อมฺเห, เทว, มคฺคํ สมํ กโรม, จตุมหาปเถ สาลํ กโรม , โปกฺขรณึ ขณาม, เสตุํ พนฺธาม, เอวรูปานิ ปุฺกมฺมานิ กโรนฺตา วิจริมฺหาติ.

อยํ ตุมฺเห กิมตฺถํ ปิสุเณสีติ? อมฺหากํ ปมตฺตกาเล อิทฺจิทฺจ ลภติ, อปฺปมตฺตกาเล ตํ นตฺถิ, เอเตน การเณนาติ. ตาต, อยํ หตฺถี นาม ติรจฺฉาโน, โสปิ ตุมฺหากํ คุเณ ชานาติ. อหํ มนุสฺโส หุตฺวาปิ น ชานามิ, ตุมฺหากํ วสนคามํ ตุมฺหากํเยว ปุน อหรณียํ กตฺวา เทมิ, อยมฺปิ หตฺถี ตุมฺหากํเยว โหตุ, เปสุฺการโกปิ ตุมฺหากํเยว ทาโส โหตุ. อิโต ปฏฺาย มยฺหมฺปิ ปุฺกมฺมํ กโรถาติ ธนํ ทตฺวา วิสฺสชฺเชสิ. เต ธนํ คเหตฺวา วาเรน วาเรน หตฺถึ อารุยฺห คจฺฉนฺตา มนฺตยนฺติ ‘‘โภ ปุฺกมฺมํ นาม อนาคตภวตฺถาย กริยติ, อมฺหากํ ปน อนฺโตอุทเก ปุปฺผิตํ นีลุปฺปลํ วิย อิมสฺมิฺเว อตฺตภาเว วิปากํ เทติ. อิทานิ อติเรกํ ปุฺํ กริสฺสามา’’ติ, กึ กโรมาติ? จตุมหาปเถ ถาวรํ กตฺวา มหาชนสฺส วิสฺสมนสาลํ กโรม, อิตฺถีหิ ปน สทฺธึ อปตฺติกํ กตฺวา กริสฺสาม, อมฺเหสุ หิ ‘‘โจรา’’ติ คเหตฺวา นียมาเนสุ อิตฺถีนํ เอกาปิ จินฺตามตฺตกมฺปิ อกตฺวา ‘‘สุพทฺธา สุคหิตา’’ติ อุฏฺหึสุ, ตสฺมา ตาสํ ปตฺตึ น ทสฺสามาติ. เต อตฺตโน เคหานิ คนฺตฺวา หตฺถิโน เตตฺตึสปิณฺฑํ เทนฺติ, เตตฺตึส ติณมุฏฺิโย อาหรนฺติ, ตํ สพฺพํ หตฺถิสฺส กุจฺฉิปูรํ ชาตํ. เต อรฺํ ปวิสิตฺวา รุกฺเข ฉินฺทนฺติ, ฉินฺนํ ฉินฺนํ หตฺถี กฑฺฒิตฺวา สกฏปเถ เปสิ. เต รุกฺเข ตจฺเฉตฺวา สาลาย กมฺมํ อารภึสุ.

มฆสฺส เคเห สุชาตา, สุธมฺมา, จิตฺตา, นนฺทาติ จตสฺโส ภริยาโย อเหสุํ. สุธมฺมา วฑฺฒกึ ปุจฺฉติ – ‘‘ตาต, อิเม สหายา กาลสฺเสว คนฺตฺวา สายํ เอนฺติ, กึ กมฺมํ กโรนฺตี’’ติ? ‘‘สาลํ กโรนฺติ, อมฺมา’’ติ. ‘‘ตาต, มยฺหมฺปิ สาลาย ปตฺตึ กตฺวา เทหี’’ติ. ‘‘อิตฺถีหิ อปตฺติกํ กโรมา’’ติ เอเต วทนฺตีติ. สา วฑฺฒกิสฺส อฏฺ กหาปเณ ทตฺวา ‘‘ตาต, เยน เกนจิ อุปาเยน มยฺหํ ปตฺติกํ กโรหี’’ติ อาห. โส ‘‘สาธุ อมฺมา’’ติ วตฺวา ปุเรตรํ วาสิผรสุํ คเหตฺวา คามมชฺเฌ ตฺวา ‘‘กึ โภ อชฺช อิมสฺมิมฺปิ กาเล น นิกฺขมถา’’ติ อุจฺจาสทฺทํ กตฺวา ‘‘สพฺเพ มคฺคํ อารุฬฺหา’’ติ ตฺวา ‘‘คจฺฉถ ตาว ตุมฺเห, มยฺหํ ปปฺโจ อตฺถี’’ติ เต ปุรโต กตฺวา อฺํ มคฺคํ อารุยฺห กณฺณิกูปคํ รุกฺขํ ฉินฺทิตฺวา ตจฺเฉตฺวา มฏฺํ กตฺวา อาหริตฺวา สุธมฺมาย เคเห เปสิ – ‘‘มยา เทหีติ วุตฺตทิวเส นีหริตฺวา ทเทยฺยาสี’’ติ.

อถ นิฏฺิเต ทพฺพสมฺภารกมฺเม ภูมิกมฺมโต ปฏฺาย จยพนฺธนถมฺภุสฺสาปน สงฺฆาฏโยชน กณฺณิกมฺจพนฺธเนสุ กเตสุ โส วฑฺฒกี กณฺณิกมฺเจ นิสีทิตฺวา จตูหิ ทิสาหิ โคปานสิโย อุกฺขิปิตฺวา ‘‘โภ เอกํ ปมุฏฺํ อตฺถี’’ติ อาห. กึ โภ ปมุฏฺํ, สพฺพเมว ตฺวํ ปมุสฺสสีติ. อิมา โภ โคปานสิโย กตฺถ ปติฏฺหิสฺสนฺตีติ? กณฺณิกา นาม ลทฺธุํ วฏฺฏตีติ. กุหึ โภ อิทานิ สกฺกา ลทฺธุนฺติ? กุลานํ เคเห สกฺกา ลทฺธุนฺติ. อาหิณฺฑนฺตา ปุจฺฉถาติ. เต อนฺโตคามํ ปวิสิตฺวา ปุจฺฉิตฺวา สุธมฺมาย ฆรทฺวาเร ‘‘อิมสฺมึ ฆเร กณฺณิกา อตฺถี’’ติ อาหํสุ. สา ‘‘อตฺถี’’ติ อาห. หนฺท มูลํ คณฺหาหีติ. มูลํ น คณฺหามิ, สเจ มม ปตฺตึ กโรถ, ทสฺสามีติ. เอถ โภ มาตุคามสฺส ปตฺตึ น กโรม, อรฺํ คนฺตฺวา รุกฺขํ ฉินฺทิสฺสามาติ นิกฺขมึสุ.

ตโต วฑฺฒกี ‘‘กึ น ลทฺธา, ตาต, กณฺณิกา’’ติ ปุจฺฉิ. เต ตมตฺถํ อาโรจยึสุ. วฑฺฒกี กณฺณิกมฺเจ นิสินฺโนว อากาสํ อุลฺโลเกตฺวา ‘‘โภ อชฺช นกฺขตฺตํ สุนฺทรํ, อิทํ อฺํ สํวจฺฉรํ อติกฺกมิตฺวา สกฺกา ลทฺธุํ, ตุมฺเหหิ จ ทุกฺเขน อาภตา ทพฺพสมฺภารา, เต สกลสํวจฺฉเรน อิมสฺมิฺเว าเน ปูติกา ภวิสฺสนฺติ. เทวโลเก นิพฺพตฺตกาเล ตสฺสาปิ เอกสฺมึ โกเณ สาลา โหตุ, อาหรถ น’’นฺติ อาห. สาปิ ยาว เต น ปุน อาคจฺฉนฺติ, ตาว กณฺณิกาย เหฏฺิมตเล ‘‘อยํ สาลา สุธมฺมา นามา’’ติ อกฺขรานิ ฉินฺทาเปตฺวา อหเตน วตฺเถน เวเตฺวา เปสิ. กมฺมิกา อาคนฺตฺวา – ‘‘อาหร, เร กณฺณิกํ , ยํ โหตุ ตํ โหตุ. ตุยฺหมฺปิ ปตฺตึ กริสฺสามา’’ติ อาหํสุ. สา นีหริตฺวา ‘‘ตาตา, ยาว อฏฺ วา โสฬส วา โคปานสิโย น อาโรหนฺติ, ตาว อิมํ วตฺถํ มา นิพฺเพยิตฺถา’’ติ วตฺวา อทาสิ. เต ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา คเหตฺวา โคปานสิโย อาโรเปตฺวาว วตฺถํ นิพฺเพเสุํ.

เอโก มหาคามิกมนุสฺโส อุทฺธํ อุลฺโลเกนฺโต อกฺขรานิ ทิสฺวา ‘‘กึ, โภ, อิท’’นฺติ อกฺขรฺุํ มนุสฺสํ ปกฺโกสาเปตฺวา ทสฺเสสิ. โส ‘‘สุธมฺมา นาม อยํ สาลา’’ติ อาห. ‘‘หรถ, โภ, มยํ อาทิโต ปฏฺาย สาลํ กตฺวา นามมตฺตมฺปิ น ลภาม, เอสา รตนมตฺเตน กณฺณิกรุกฺเขน สาลํ อตฺตโน นาเมน กาเรตี’’ติ วิรวนฺติ. วฑฺฒกี เตสํ วิรวนฺตานํเยว โคปานสิโย ปเวเสตฺวา อาณึ ทตฺวา สาลากมฺมํ นิฏฺาเปสิ.

สาลํ ติธา วิภชึสุ, เอกสฺมึ โกฏฺาเส อิสฺสรานํ วสนฏฺานํ อกํสุ, เอกสฺมึ ทุคฺคตานํ, เอกสฺมึ คิลานานํ. เตตฺตึส ชนา เตตฺตึส ผลกานิ ปฺเปตฺวา หตฺถิสฺส สฺํ อทํสุ – ‘‘อาคนฺตุโก อาคนฺตฺวา ยสฺส อตฺถเต ผลเก นิสีทติ, ตํ คเหตฺวา ผลกสามิกสฺเสว เคเห ปติฏฺเปหิ. ตสฺส ปาทปริกมฺมปิฏฺิปริกมฺมขาทนียโภชนียสยนานิ สพฺพานิ ผลกสามิกสฺเสว ภาโร ภวิสฺสตี’’ติ. หตฺถี อาคตาคตํ คเหตฺวา ผลกสามิกสฺส เคหํ เนติ, โส ตสฺส ตํ ทิวสํ กตฺตพฺพํ กโรติ.

มฆมาณโว สาลโต อวิทูเร าเน โกวิฬารรุกฺขํ โรปาเปสิ, มูเล จสฺส ปาสาณผลกํ อตฺถริ. นนฺทา นามสฺส ภริยา อวิทูเร โปกฺขรณึ ขณาเปสิ, จิตฺตา มาลาวจฺเฉ โรปาเปสิ, สพฺพเชฏฺิกา ปน อาทาสํ คเหตฺวา อตฺตภาวํ มณฺฑยมานาว วิจรติ. มโฆ ตํ อาห – ‘‘ภทฺเท, สุธมฺมา, สาลาย ปตฺติกา ชาตา, นนฺทา โปกฺขรณึ ขณาเปสิ, จิตฺตา มาลาวจฺเฉ โรปาเปสิ. ตว ปน ปุฺกมฺมํ นาม นตฺถิ, เอกํ ปุฺํ กโรหิ, ภทฺเท’’ติ สา ‘‘ตฺวํ กสฺส การณา กโรสิ, นนุ ตยา กตํ มยฺหเมวา’’ติ วตฺวา อตฺตภาวมณฺฑนเมว อนุยุฺชติ.

มโฆ ยาวตายุกํ ตฺวา ตโต จวิตฺวา ตาวตึสภวเน สกฺโก หุตฺวา นิพฺพตฺติ, เตปิ เตตฺตึส คามิกมนุสฺสา กาลงฺกตฺวา เตตฺตึส เทวปุตฺตา หุตฺวา ตสฺเสว สนฺติเก นิพฺพตฺตา. สกฺกสฺส เวชยนฺโต นาม ปาสาโท สตฺต โยชนสตานิ อุคฺคจฺฉิ, ธโช ตีณิ โยชนสตานิ อุคฺคจฺฉิ, โกวิฬารรุกฺขสฺส นิสฺสนฺเทน สมนฺตา ติโยชนสตปริมณฺฑโล ปฺจทสโยชนปริณาหกฺขนฺโธ ปาริจฺฉตฺตโก นิพฺพตฺติ, ปาสาณผลกสฺส นิสฺสนฺเทน ปาริจฺฉตฺตกมูเล สฏฺิโยชนิกา ปณฺฑุกมฺพลสิลา นิพฺพตฺติ. สุธมฺมาย กณฺณิกรุกฺขสฺส นิสฺสนฺเทน ติโยชนสติกา สุธมฺมา เทวสภา นิพฺพตฺติ. นนฺทาย โปกฺขรณิยา นิสฺสนฺเทน ปฺาสโยชนา นนฺทา นาม โปกฺขรณี นิพฺพตฺติ. จิตฺตาย มาลาวจฺฉวตฺถุนิสฺสนฺเทน สฏฺิโยชนิกํ จิตฺตลตาวนํ นาม อุยฺยานํ นิพฺพตฺติ.

สกฺโก เทวราชา สุธมฺมาย เทวสภาย โยชนิเก สุวณฺณปลฺลงฺเก นิสินฺโน ติโยชนิเก เสตจฺฉตฺเต ธาริยมาเน เตหิ เทวปุตฺเตหิ ตาหิ เทวกฺาหิ อฑฺฒติยาหิ นาฏกโกฏีหิ ทฺวีสุ เทวโลเกสุ เทวตาหิ จ ปริวาริโต มหาสมฺปตฺตึ โอโลเกนฺโต ตา ติสฺโส อิตฺถิโย ทิสฺวา ‘‘อิมา ตาว ปฺายนฺติ, สุชาตา กุหิ’’นฺติ โอโลเกนฺโต ‘‘อยํ มม วจนํ อกตฺวา คิริกนฺทราย พกสกุณิกา หุตฺวา นิพฺพตฺตา’’ติ ทิสฺวา เทวโลกโต โอตริตฺวา ตสฺสา สนฺติกํ คโต. สา ทิสฺวาว สฺชานิตฺวา อโธมุขา ชาตา. ‘‘พาเล, อิทานิ กึ สีสํ น อุกฺขิปสิ? ตฺวํ มม วจนํ อกตฺวา อตฺตภาวเมว มณฺฑยมานา วีตินาเมสิ. สุธมฺมาย จ นนฺทาย จ จิตฺตาย จ มหาสมฺปตฺติ นิพฺพตฺตา, เอหิ อมฺหากํ สมฺปตฺตึ ปสฺสา’’ติ เทวโลกํ เนตฺวา นนฺทาย โปกฺขรณิยา ปกฺขิปิตฺวา ปลฺลงฺเก นิสีทิ.

นาฏกิตฺถิโย ‘‘กุหึ คตตฺถ, มหาราชา’’ติ ปุจฺฉึสุ. โส อนาโรเจตุกาโมปิ ตาหิ นิปฺปีฬิยมาโน ‘‘สุชาตาย สนฺติก’’นฺติ อาห. กุหึ นิพฺพตฺตา, มหาราชาติ? กนฺทรปาเทติ. อิทานิ กุหินฺติ? นนฺทาโปกฺขรณิยํ เม วิสฺสฏฺาติ. เอถ, โภ, อมฺหากํ อยฺยํ ปสฺสามาติ สพฺพา ตตฺถ อคมํสุ. สา ปุพฺเพ สพฺพเชฏฺิกา หุตฺวา ตา อวมฺิตฺถ. อิทานิ ตาปิ ตํ ทิสฺวา – ‘‘ปสฺสถ, โภ อมฺหากํ อยฺยาย มุขํ กกฺกฏกวิชฺฌนสูลสทิส’’นฺติอาทีนิ วทนฺติโย เกฬึ อกํสุ. สา อติวิย อฏฺฏิยมานา สกฺกํ เทวราชานํ อาห – ‘‘มหาราช, อิมานิ สุวณฺณรชตมณิวิมานานิ วา นนฺทาโปกฺขรณี วา มยฺหํ กึ กริสฺสติ, ชาติภูมิเยว มหาราช สตฺตานํ สุขา, มํ ตตฺเถว กนฺทรปาเท วิสฺสชฺเชหี’’ติ. สกฺโก ตํ ตตฺถ วิสฺสชฺเชตฺวา ‘‘มม วจนํ กริสฺสสี’’ติ อาห. กริสฺสามิ, มหาราชาติ. ปฺจ สีลานิ คเหตฺวา อขณฺฑานิ กตฺวา รกฺข, กติปาเหน ตํ เอตาสํ เชฏฺิกํ กริสฺสามีติ. สา ตถา อกาสิ.

สกฺโก กติปาหสฺส อจฺจเยน ‘‘สกฺกา นุ โข สีลํ รกฺขิตุ’’นฺติ คนฺตฺวา มจฺฉรูเปน อุตฺตานโก หุตฺวา ตสฺสา ปุรโต อุทกปิฏฺเ โอสรติ, สา ‘‘มตมจฺฉโก ภวิสฺสตี’’ติ คนฺตฺวา สีเส อคฺคเหสิ. มจฺโฉ นงฺคุฏฺํ จาเลสิ. สา ‘‘ชีวติ มฺเ’’ติ อุทเก วิสฺสชฺเชสิ. สกฺโก อากาเส ตฺวา ‘‘สาธุ, สาธุ, รกฺขสิ สิกฺขาปทํ, เอวํ ตํ รกฺขมานํ กติปาเหเนว นาฏกานํ เชฏฺิกํ กริสฺสามี’’ติ อาห. ตสฺสาปิ ปฺจ วสฺสสตานิ อายุ อโหสิ. เอกทิวสมฺปิ อุทรปูรํ นาลตฺถํ, สุกฺขิตฺวา ปริสุกฺขิตฺวา มิลายมานาปิ สีลํ อขณฺเฑตฺวา กาลงฺกตฺวา พาราณสิยํ กุมฺภการเคเห นิพฺพตฺติ.

สกฺโก ‘‘กุหึ นิพฺพตฺตา’’ติ โอโลเกนฺโต ทิสฺวา ‘‘ตโต อิธ อาเนตุํ น สกฺกา, ชีวิตวุตฺติมสฺสา ทสฺสามี’’ติ สุวณฺณเอฬาลุกานํ ยานกํ ปูเรตฺวา มชฺเฌ คามสฺส มหลฺลกเวเสน นิสีทิตฺวา ‘‘เอฬาลุกานิ คณฺหถา’’ติ อุกฺกุฏฺิมกาสิ. สมนฺตา คามวาสิกา อาคนฺตฺวา ‘‘เทหิ, ตาตา’’ติ อาหํสุ. อหํ สีลรกฺขกานํ เทมิ, ตุมฺเห สีลํ รกฺขถาติ. ตาต มยํ สีลํ นาม กีทิสนฺติปิ น ชานาม, มูเลน เทหีติ. ‘‘สีลรกฺขกานํเยว ทมฺมี’’ติ อาห. ‘‘เอถ, เร โกสิ อยํ เอฬาลุกมหลฺลโก’’ติ สพฺเพ นิวตฺตึสุ.

สา ทาริกา ปุจฺฉิ – ‘‘อมฺม, ตุมฺเห เอฬาลุกตฺถาย คตา ตุจฺฉหตฺถาว อาคตา’’ติ. โกสิ, อมฺม, เอฬาลุกมหลฺลโก ‘‘อหํ สีลรกฺขกานํ ทมฺมี’’ติ วทติ, นูนิมสฺส ทาริกา สีลํ ขาทิตฺวา วตฺตนฺติ, มยํ สีลเมว น ชานามาติ. สา ‘‘มยฺหํ อานีตํ ภวิสฺสตี’’ติ คนฺตฺวา ‘‘เอฬาลุกํ, ตาต, เทหี’’ติ อาห. ‘‘ตฺวํ สีลานิ รกฺขสิ อมฺมา’’ติ? ‘‘อาม, ตาต รกฺขามี’’ติ. อิทํ มยา ตุยฺหเมว อาภตนฺติ เคหทฺวาเร ยาเนน สทฺธึ เปตฺวา ปกฺกามิ. สาปิ ยาวชีวํ สีลํ รกฺขิตฺวา จวิตฺวา เวปจิตฺติอสุรสฺส ธีตา หุตฺวา นิพฺพตฺติ. สีลนิสฺสนฺเทน ปาสาทิกา อโหสิ. โส ‘‘ธีตุวิวาหมงฺคลํ กริสฺสามี’’ติ อสุเร สนฺนิปาเตสิ.

สกฺโก ‘‘กุหึ นิพฺพตฺตา’’ติ โอโลเกนฺโต ‘‘อสุรภวเน นิพฺพตฺตา, อชฺชสฺสา วิวาหมงฺคลํ กริสฺสนฺตี’’ติ ทิสฺวา ‘‘อิทานิ ยํกิฺจิ กตฺวา อาเนตพฺพา มยา’’ติ อสุรวณฺณํ นิมฺมินิตฺวา คนฺตฺวา อสุรานํ อนฺตเร อฏฺาสิ. ‘‘ตว สามิกํ วเทหี’’ติ ตสฺสา หตฺเถ ปิตา ปุปฺผทามํ อทาสิ ‘‘ยํ อิจฺฉสิ, ตสฺสูปริ ขิปาหี’’ติ. สา โอโลเกนฺตี สกฺกํ ทิสฺวา ปุพฺพสนฺนิวาเสน สฺชาตสิเนหา ‘‘อยํ เม สามิโก’’ติ ตสฺสูปริ ทามํ ขิปิ. โส ตํ พาหาย คเหตฺวา อากาเส อุปฺปติ, ตสฺมึ ขเณ อสุรา สฺชานึสุ. เต ‘‘คณฺหถ, คณฺหถ, ชรสกฺกํ, เวริโก อมฺหากํ, น มยํ เอตสฺส ทาริกํ ทสฺสามา’’ติ อนุพนฺธึสุ. เวปจิตฺติ ปุจฺฉิ ‘‘เกนาหฏา’’ติ? ‘‘ชรสกฺเกน มหาราชา’’ติ. ‘‘อวเสเสสุ อยเมว เสฏฺโ, อเปถา’’ติ อาห. สกฺโก นํ เนตฺวา อฑฺฒติยโกฏินาฏกานํ เชฏฺิกฏฺาเน เปสิ. สา สกฺกํ วรํ ยาจิ – ‘‘มหาราช, มยฺหํ อิมสฺมึ เทวโลเก มาตา วา ปิตา วา ภาตา วา ภคินี วา นตฺถิ, ยตฺถ ยตฺถ คจฺฉสิ, ตตฺถ ตตฺถ มํ คเหตฺวาว คจฺฉ มหาราชา’’ติ. สกฺโก ‘‘สาธู’’ติ ปฏิฺํ อทาสิ.

เอวํ มจลคามเก มฆมาณวกาลโต ปฏฺาย วิสุทฺธภาวมสฺส สมฺปสฺสนฺโต ภควา ‘‘ทีฆรตฺตํ วิสุทฺโธ โข อยํ ยกฺโข’’ติ อาห. อตฺถสฺหิตนฺติ อตฺถนิสฺสิตํ การณนิสฺสิตํ.

ปฺหเวยฺยากรณวณฺณนา

๓๕๗. กึ สํโยชนาติ กึ พนฺธนา, เกน พนฺธเนน พทฺธา หุตฺวา. ปุถุกายาติ พหุชนา. อเวราติ อปฺปฏิฆา. อทณฺฑาติ อาวุธทณฺฑธนทณฺฑวินิมุตฺตา. อสปตฺตาติ อปจฺจตฺถิกา. อพฺยาปชฺชาติ วิคตโทมนสฺสา. วิหเรมุ อเวริโนติ อโห วต เกนจิ สทฺธึ อเวริโน วิหเรยฺยาม, กตฺถจิ โกปํ น อุปฺปาเทตฺวา อจฺฉราย คหิตกํ ชงฺฆสหสฺเสน สทฺธึ ปริภุฺเชยฺยามาติ ทานํ ทตฺวา ปูชํ กตฺวา จ ปตฺถยนฺติ. อิติ จ เนสํ โหตีติ เอวฺจ เนสํ อยํ ปตฺถนา โหติ. อถ จ ปนาติ เอวํ ปตฺถนาย สติปิ.

อิสฺสามจฺฉริยสํโยชนาติ ปรสมฺปตฺติขียนลกฺขณา อิสฺสา, อตฺตสมฺปตฺติยา ปเรหิ สาธารณภาวสฺส อสหนลกฺขณํ มจฺฉริยํ, อิสฺสา จ มจฺฉริยฺจ สํโยชนํ เอเตสนฺติ อิสฺสามจฺฉริยสํโยชนา. อยเมตฺถ สงฺเขโป. วิตฺถารโต ปน อิสฺสามจฺฉริยานิ อภิธมฺเม วุตฺตาเนว.

อาวาสมจฺฉริเยน ปเนตฺถ ยกฺโข วา เปโต วา หุตฺวา ตสฺเสว อาวาสสฺส สงฺการํ สีเสน อุกฺขิปิตฺวา วิจรติ. กุลมจฺฉริเยน ตสฺมึ กุเล อฺเสํ ทานาทีนิ กโรนฺเต ทิสฺวา ‘‘ภินฺนํ วติทํ กุลํ มมา’’ติ จินฺตยโต โลหิตมฺปิ มุขโต อุคฺคจฺฉติ, กุจฺฉิวิเรจนมฺปิ โหติ, อนฺตานิปิ ขณฺฑาขณฺฑานิ หุตฺวา นิกฺขมนฺติ. ลาภมจฺฉริเยน สงฺฆสฺส วา คณสฺส วา สนฺตเก ลาเภ มจฺฉรายิตฺวา ปุคฺคลิกปริโภเคน ปริภุฺชิตฺวา ยกฺโข วา เปโต วา มหาอชคโร วา หุตฺวา นิพฺพตฺตติ. สรีรวณฺณคุณวณฺณมจฺฉริเยน ปน ปริยตฺติธมฺมมจฺฉริเยน จ อตฺตโนว วณฺณํ วณฺเณติ, น ปเรสํ วณฺณํ, ‘‘กึ วณฺโณ เอโส’’ติ ตํ ตํ โทสํ วทนฺโต ปริยตฺติฺจ กสฺสจิ กิฺจิ อเทนฺโต ทุพฺพณฺโณ เจว เอฬมูโค จ โหติ.

อปิจ อาวาสมจฺฉริเยน โลหเคเห ปจฺจติ. กุลมจฺฉริเยน อปฺปลาโภ โหติ. ลาภมจฺฉริเยน คูถนิรเย นิพฺพตฺตติ. วณฺณมจฺฉริเยน ภเว นิพฺพตฺตสฺส วณฺโณ นาม น โหติ. ธมฺมมจฺฉริเยน กุกฺกุฬนิรเย นิพฺพตฺตติ. อิทํ ปน อิสฺสามจฺฉริยสํโยชนํ โสตาปตฺติมคฺเคน ปหียติ. ยาว ตํ นปฺปหียติ, ตาว เทวมนุสฺสา อเวรตาทีนิ ปตฺถยนฺตาปิ เวราทีหิ น ปริมุจฺจนฺติเยว.

ติณฺณา เมตฺถ กงฺขาติ เอตสฺมึ ปฺเห มยา ตุมฺหากํ วจนํ สุตฺวา กงฺขา ติณฺณาติ วทติ, น มคฺควเสน ติณฺณกงฺขตํ ทีเปติ. วิคตา กถํกถาติ อิทํ กถํ, อิทํ กถนฺติ อยมฺปิ กถํกถา วิคตา.

๓๕๘. นิทานาทีนิ วุตฺตตฺถาเนว. ปิยาปฺปิยนิทานนฺติ ปิยสตฺตสงฺขารนิทานํ มจฺฉริยํ, อปฺปิยสตฺตสงฺขารนิทานา อิสฺสา. อุภยํ วา อุภยนิทานํ. ปพฺพชิตสฺส หิ สทฺธิวิหาริกาทโย, คหฏฺสฺส ปุตฺตาทโย หตฺถิอสฺสาทโย วา สตฺตา ปิยา โหนฺติ เกฬายิตา มมายิตา, มุหุตฺตมฺปิ เต อปสฺสนฺโต อธิวาเสตุํ น สกฺโกติ. โส อฺํ ตาทิสํ ปิยสตฺตํ ลภนฺตํ ทิสฺวา อิสฺสํ กโรติ. ‘‘อิมินา อมฺหากํ กิฺจิ กมฺมํ อตฺถิ, มุหุตฺตํ ตาว นํ เทถา’’ติ ตเมว อฺเหิ ยาจิโต ‘‘น สกฺกา ทาตุํ, กิลมิสฺสติ วา อุกฺกณฺิสฺสติ วา’’ติอาทีนิ วตฺวา มจฺฉริยํ กโรติ. เอวํ ตาว อุภยมฺปิ ปิยสตฺตนิทานํ โหติ. ภิกฺขุสฺส ปน ปตฺตจีวรปริกฺขารชาตํ, คหฏฺสฺส วา อลงฺการาทิอุปกรณํ ปิยํ โหติ มนาปํ, โส อฺสฺส ตาทิสํ อุปฺปชฺชมานํ ทิสฺวา ‘‘อโห วตสฺส เอวรูปํ น ภเวยฺยา’’ติ อิสฺสํ กโรติ, ยาจิโต วาปิ ‘‘มยมฺเปตํ มมายนฺตา น ปริภุฺชาม, น สกฺกา ทาตุ’’นฺติ มจฺฉริยํ กโรติ. เอวํ อุภยมฺปิ ปิยสงฺขารนิทานํ โหติ. อปฺปิเย ปน เต วุตฺตปฺปกาเร สตฺเต จ สงฺขาเร จ ลภิตฺวา สเจปิสฺส เต อมนาปา โหนฺติ, ตถาปิ กิเลสานํ วิปรีตวุตฺติตาย ‘‘เปตฺวา มํ โก อฺโ เอวรูปสฺส ลาภี’’ติ อิสฺสํ วา กโรติ, ยาจิโต ตาวกาลิกมฺปิ อททมาโน มจฺฉริยํ วา กโรติ. เอวํ อุภยมฺปิ อปฺปิยสตฺตสงฺขารนิทานํ โหติ.

ฉนฺทนิทานนฺติ เอตฺถ ปริเยสนฉนฺโท, ปฏิลาภฉนฺโท, ปริโภคฉนฺโท, สนฺนิธิฉนฺโท, วิสฺสชฺชนฉนฺโทติ ปฺจวิโธ ฉนฺโท.

กตโม ปริเยสนฉนฺโท? อิเธกจฺโจ อติตฺโต ฉนฺทชาโต รูปํ ปริเยสติ, สทฺทํ. คนฺธํ. รสํ. โผฏฺพฺพํ ปริเยสติ, ธนํ ปริเยสติ. อยํ ปริเยสนฉนฺโท.

กตโม ปฏิลาภฉนฺโท? อิเธกจฺโจ อติตฺโต ฉนฺทชาโต รูปํ ปฏิลภติ, สทฺทํ. คนฺธํ. รสํ. โผฏฺพฺพํ ปฏิลภติ, ธนํ ปฏิลภติ. อยํ ปฏิลาภฉนฺโท.

กตโม ปริโภคฉนฺโท? อิเธกจฺโจ อติตฺโต ฉนฺทชาโต รูปํ ปริภุฺชติ, สทฺทํ. คนฺธํ. รสํ. โผฏฺพฺพํ ปริภุฺชติ, ธนํ ปริภุฺชติ. อยํ ปริโภคฉนฺโท.

กตโม สนฺนิธิฉนฺโท? อิเธกจฺโจ อติตฺโต ฉนฺทชาโต ธนสนฺนิจยํ กโรติ ‘‘อาปทาสุ ภวิสฺสตี’’ติ. อยํ สนฺนิธิฉนฺโท.

กตโม วิสฺสชฺชนฉนฺโท? อิเธกจฺโจ อติตฺโต ฉนฺทชาโต ธนํ วิสฺสชฺเชติ, หตฺถาโรหานํ, อสฺสาโรหานํ, รถิกานํ, ธนุคฺคหานํ – ‘‘อิเม มํ รกฺขิสฺสนฺติ โคปิสฺสนฺติ มมายิสฺสนฺติ สมฺปริวารยิสฺสนฺตี’’ติ. อยํ วิสฺสชฺชนฉนฺโท. อิเม ปฺจ ฉนฺทา. อิธ ตณฺหามตฺตเมว, ตํ สนฺธาย อิทํ วุตฺตํ.

วิตกฺกนิทาโนติ เอตฺถ ‘‘ลาภํ ปฏิจฺจ วินิจฺฉโย’’ติ (ที. นิ. ๒.๑๑๐) เอวํ วุตฺโต วินิจฺฉยวิตกฺโก วิตกฺโก นาม. วินิจฺฉโยติ ทฺเว วินิจฺฉยา ตณฺหาวินิจฺฉโย จ, ทิฏฺิวินิจฺฉโย จ. อฏฺสตํ ตณฺหาวิจริตํ ตณฺหาวินิจฺฉโย นาม. ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิโย ทิฏฺิวินิจฺฉโย นามาติ เอวํ วุตฺตตณฺหาวินิจฺฉยวเสน หิ อิฏฺานิฏฺปิยาปฺปิยววตฺถานํ น โหติ. ตเทว หิ เอกจฺจสฺส อิฏฺํ โหติ, เอกจฺจสฺส อนิฏฺํ ปจฺจนฺตราชมชฺฌิมเทสราชูนํ คณฺฑุปฺปาทมิคมํสาทีสุ วิย. ตสฺมึ ปน ตณฺหาวินิจฺฉยวินิจฺฉิเต ปฏิลทฺธวตฺถุสฺมึ ‘‘เอตฺตกํ รูปสฺส ภวิสฺสติ, เอตฺตกํ สทฺทสฺส, เอตฺตกํ คนฺธสฺส, เอตฺตกํ รสสฺส, เอตฺตกํ โผฏฺพฺพสฺส ภวิสฺสติ, เอตฺตกํ มยฺหํ ภวิสฺสติ, เอตฺตกํ ปรสฺส ภวิสฺสติ, เอตฺตกํ นิทหิสฺสามิ, เอตฺตกํ ปรสฺส ทสฺสามี’’ติ ววตฺถานํ วิตกฺกวินิจฺฉเยน โหติ. เตนาห ‘‘ฉนฺโท โข, เทวานมินฺท, วิตกฺกนิทาโน’’ติ.

ปปฺจสฺาสงฺขานิทาโนติ ตโย ปปฺจา ตณฺหาปปฺโจ, มานปปฺโจ, ทิฏฺิปปฺโจติ. ตตฺถ อฏฺสตตณฺหาวิจริตํ ตณฺหาปปฺโจ นาม. นววิโธ มาโน มานปปฺโจ นาม. ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิโย ทิฏฺิปปฺโจ นาม. เตสุ อิธ ตณฺหาปปฺโจ อธิปฺเปโต. เกนฏฺเน ปปฺโจ? มตฺตปมตฺตาการปาปนฏฺเน ปปฺโจ. ตํสมฺปยุตฺตา สฺา ปปฺจสฺา. สงฺขา วุจฺจติ โกฏฺาโส ‘‘สฺานิทานา หิ ปปฺจสงฺขา’’ติอาทีสุ วิย. อิติ ปปฺจสฺาสงฺขานิทาโนติ ปปฺจสฺาโกฏฺาสนิทาโน วิตกฺโกติ อตฺโถ.

ปปฺจสฺาสงฺขานิโรธสารุปฺปคามินินฺติ เอติสฺสา ปปฺจสฺาสงฺขาย ขยา นิโรโธ วูปสโม, ตสฺส สารุปฺปฺเจว ตตฺถ คามินึ จาติ สห วิปสฺสนาย มคฺคํ ปุจฺฉติ.

เวทนากมฺมฏฺานวณฺณนา

๓๕๙. อถสฺส ภควา โสมนสฺสํปาหนฺติ ติสฺโส เวทนา อารภิ. กึ ปน ภควตา ปุจฺฉิตํ กถิตํ, อปุจฺฉิตํ, สานุสนฺธิกํ, อนนุสนฺธิกนฺติ? ปุจฺฉิตเมว กถิตํ, โน อปุจฺฉิตํ, สานุสนฺธิกเมว, โน อนนุสนฺธิกํ. เทวตานฺหิ รูปโต อรูปํ ปากฏตรํ, อรูเปปิ เวทนา ปากฏตรา. กสฺมา? เทวตานฺหิ กรชกายํ สุขุมํ, กมฺมชํ พลวํ, กรชกายสฺส สุขุมตฺตา, กมฺมชสฺส พลวตฺตา เอกาหารมฺปิ อติกฺกมิตฺวา น ติฏฺนฺติ, อุณฺหปาสาเณ ปิตสปฺปิปิณฺฑิ วิย วิลียนฺตีติ สพฺพํ พฺรหฺมชาเล วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. ตสฺมา ภควา สกฺกสฺส ติสฺโส เวทนา อารภิ. ทุวิธฺหิ กมฺมฏฺานํ – รูปกมฺมฏฺานํ, อรูปกมฺมฏฺานฺจ. รูปปริคฺคโห, อรูปปริคฺคโหติปิ เอตเทว วุจฺจติ. ตตฺถ ภควา ยสฺส รูปํ ปากฏํ, ตสฺส สงฺเขปมนสิการวเสน วา วิตฺถารมนสิการวเสน วา จตุธาตุววตฺถานํ วิตฺถาเรนฺโต รูปกมฺมฏฺานํ กเถติ. ยสฺส อรูปํ ปากฏํ, ตสฺส อรูปกมฺมฏฺานํ กเถติ. กเถนฺโต จ ตสฺส วตฺถุภูตํ รูปกมฺมฏฺานํ ทสฺเสตฺวาว กเถติ, เทวานํ ปน อรูปกมฺมฏฺานํ ปากฏนฺติ อรูปกมฺมฏฺานวเสน เวทนา อารภิ.

ติวิโธ หิ อรูปกมฺมฏฺาเน อภินิเวโส – ผสฺสวเสน, เวทนาวเสน, จิตฺตวเสนาติ. กถํ? เอกจฺจสฺส หิ สงฺขิตฺเตน วา วิตฺถาเรน วา ปริคฺคหิเต รูปกมฺมฏฺาเน ตสฺมึ อารมฺมเณ จิตฺตเจตสิกานํ ปมาภินิปาโต ตํ อารมฺมณํ ผุสนฺโต อุปฺปชฺชมาโน ผสฺโส ปากโฏ โหติ. เอกจฺจสฺส ตํ อารมฺมณํ อนุภวนฺตี อุปฺปชฺชมานา เวทนา ปากฏา โหติ. เอกจฺจสฺส ตํ อารมฺมณํ ปริคฺคเหตฺวา ตํ วิชานนฺตํ อุปฺปชฺชมานํ วิฺาณํ ปากฏํ โหติ.

ตตฺถ ยสฺส ผสฺโส ปากโฏ โหติ, โสปิ น เกวลํ ผสฺโสว อุปฺปชฺชติ, เตน สทฺธึ ตเทว อารมฺมณํ อนุภวมานา เวทนาปิ อุปฺปชฺชติ, สฺชานมานา สฺาปิ, เจตยมานา เจตนาปิ, วิชานมานํ วิฺาณมฺปิ อุปฺปชฺชตีติ ผสฺสปฺจมเกเยว ปริคฺคณฺหาติ. ยสฺส เวทนา ปากฏา โหติ, โสปิ น เกวลํ เวทนาว อุปฺปชฺชติ, ตาย สทฺธึ ตเทว อารมฺมณํ ผุสมาโน ผสฺโสปิ อุปฺปชฺชติ, สฺชานมานา สฺาปิ, เจตยมานา เจตนาปิ, วิชานมานํ วิฺาณมฺปิ อุปฺปชฺชตีติ ผสฺสปฺจมเกเยว ปริคฺคณฺหาติ. ยสฺส วิฺาณํ ปากฏํ โหติ, โสปิ น เกวลํ วิฺาณเมว อุปฺปชฺชติ, เตน สทฺธึ ตเทวารมฺมณํ ผุสมาโน ผสฺโสปิ อุปฺปชฺชติ, อนุภวมานา เวทนาปิ, สฺชานมานา สฺาปิ, เจตยมานา เจตนาปิ อุปฺปชฺชตีติ ผสฺสปฺจมเกเยว ปริคฺคณฺหาติ.

โส ‘‘อิเม ผสฺสปฺจมกา ธมฺมา กึ นิสฺสิตา’’ติ อุปธาเรนฺโต ‘‘วตฺถุนิสฺสิตา’’ติ ปชานาติ. วตฺถุ นาม กรชกาโย, ยํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘อิทฺจ ปน เม วิฺาณํ เอตฺถ สิตํ เอตฺถ ปฏิพทฺธ’’นฺติ. โส อตฺถโต ภูตานิ เจว อุปาทารูปานิ จ. เอวเมตฺถ วตฺถุ รูปํ, ผสฺสปฺจมกา นามนฺติ นามรูปมตฺตเมว ปสฺสติ. รูปฺเจตฺถ รูปกฺขนฺโธ, นามํ จตฺตาโร อรูปิโน ขนฺธาติ ปฺจกฺขนฺธมตฺตํ โหติ. นามรูปวินิมุตฺตา หิ ปฺจกฺขนฺธา, ปฺจกฺขนฺธวินิมุตฺตํ วา นามรูปํ นตฺถิ. โส ‘‘อิเม ปฺจกฺขนฺธา กึ เหตุกา’’ติ อุปปริกฺขนฺโต ‘‘อวิชฺชาทิเหตุกา’’ติ ปสฺสติ. ตโต ‘‘ปจฺจโย เจว ปจฺจยุปฺปนฺนฺจ อิทํ, อฺโ สตฺโต วา ปุคฺคโล วา นตฺถิ, สุทฺธสงฺขารปุฺชมตฺตเมวา’’ติ สปฺปจฺจยนามรูปวเสน ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวา วิปสฺสนาปฏิปาฏิยา ‘‘อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา’’ติ สมฺมสนฺโต วิจรติ , โส อชฺช อชฺชาติ ปฏิเวธํ อากงฺขมาโน ตถารูเป ทิวเส อุตุสปฺปายํ, ปุคฺคลสปฺปายํ, โภชนสปฺปายํ, ธมฺมสวนสปฺปายํ วา ลภิตฺวา เอกปลฺลงฺเกน นิสินฺโนว วิปสฺสนํ มตฺถกํ ปาเปตฺวา อรหตฺเต ปติฏฺาติ. เอวมิเมสมฺปิ ติณฺณํ ชนานํ ยาว อรหตฺตา กมฺมฏฺานํ กถิตํ โหติ.

อิธ ปน ภควา อรูปกมฺมฏฺานํ กเถนฺโต เวทนาสีเสน กเถสิ. ผสฺสวเสน หิ วิฺาณวเสน วา กถิยมานํ เอตสฺส น ปากฏํ โหติ, อนฺธการํ วิย ขายติ. เวทนาวเสน ปน ปากฏํ โหติ. กสฺมา? เวทนานํ อุปฺปตฺติยา ปากฏตาย. สุขทุกฺขเวทนานฺหิ อุปฺปตฺติ ปากฏา. ยทา สุขํ อุปฺปชฺชติ, ตทา สกลํ สรีรํ โขเภนฺตํ มทฺทนฺตํ ผรมานํ อภิสนฺทยมานํ สตโธตสปฺปึ ขาทาปยนฺตํ วิย, สตปากเตลํ มกฺขยมานํ วิย, ฆฏสหสฺเสน ปริฬาหํ นิพฺพาปยมานํ วิย, ‘‘อโห สุขํ, อโห สุข’’นฺติ วาจํ นิจฺฉารยมานเมว อุปฺปชฺชติ. ยทา ทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ, ตทา สกลสรีรํ โขเภนฺตํ มทฺทนฺตํ ผรมานํ อภิสนฺทยมานํ ตตฺตผาลํ ปเวเสนฺตํ วิย, วิลีนตมฺพโลเหน อาสิฺจนฺตํ วิย, สุกฺขติณวนปฺปติมฺหิ อรฺเ ทารุอุกฺกากลาปํ ขิปมานํ วิย ‘‘อโห ทุกฺขํ, อโห ทุกฺข’’นฺติ วิปฺปลาปยมานเมว อุปฺปชฺชติ. อิติ สุขทุกฺขเวทนานํ อุปฺปตฺติ ปากฏา โหติ.

อทุกฺขมสุขา ปน ทุทฺทีปนา อนฺธกาเรน วิย อภิภูตา. สา สุขทุกฺขานํ อปคเม สาตาสาตปฏิกฺเขปวเสน มชฺฌตฺตาการภูตา อทุกฺขมสุขา เวทนาติ นยโต คณฺหนฺตสฺส ปากฏา โหติ. ยถา กึ? ยถา อนฺตรา ปิฏฺิปาสาณํ อารุหิตฺวา ปลาตสฺส มิคสฺส อนุปทํ คจฺฉนฺโต มิคลุทฺทโก ปิฏฺิปาสาณสฺส โอรภาเคปิ ปรภาเคปิ ปทํ ทิสฺวา มชฺเฌ อปสฺสนฺโตปิ ‘‘อิโต อารุฬฺโห, อิโต โอรุฬฺโห, มชฺเฌ ปิฏฺิปาสาเณ อิมินา ปเทเสน คโต ภวิสฺสตี’’ติ นยโต ชานาติ . เอวํ อารุฬฺหฏฺาเน ปทํ วิย หิ สุขเวทนาย อุปฺปตฺติ ปากฏา โหติ, โอรุฬฺหฏฺาเน ปทํ วิย ทุกฺขเวทนาย อุปฺปตฺติ ปากฏา โหติ, อิโต อารุยฺห, อิโต โอรุยฺห, มชฺเฌ เอวํ คโตติ นยโต คหณํ วิย สุขทุกฺขานํ อปคเม สาตาสาตปฏิกฺเขปวเสน มชฺฌตฺตาการภูตา อทุกฺขมสุขา เวทนาติ นยโต คณฺหนฺตสฺส ปากฏา โหติ. เอวํ ภควา ปมํ รูปกมฺมฏฺานํ กเถตฺวา ปจฺฉา อรูปกมฺมฏฺานํ เวทนาวเสน นิวตฺเตตฺวา ทสฺเสสิ.

น เกวลฺจ อิเธว เอวํ ทสฺเสสิ, มหาสติปฏฺาเน, มชฺฌิมนิกายมฺหิ สติปฏฺาเน, จูฬตณฺหาสงฺขเย, มหาตณฺหาสงฺขเย, จูฬเวทลฺลสุตฺเต, มหาเวทลฺลสุตฺเต, รฏฺปาลสุตฺเต, มาคณฺฑิยสุตฺเต, ธาตุวิภงฺเค, อาเนฺชสปฺปาเย, สกเล เวทนาสํยุตฺเตติ เอวํ อเนเกสุ สุตฺตนฺเตสุ ปมํ รูปกมฺมฏฺานํ กเถตฺวา ปจฺฉา อรูปกมฺมฏฺานํ เวทนาวเสน นิวตฺเตตฺวา ทสฺเสสิ. ยถา จ เตสุ เตสุ, เอวํ อิมสฺมิมฺปิ สกฺกปฺเห ปมํ รูปกมฺมฏฺานํ กเถตฺวา ปจฺฉา อรูปกมฺมฏฺานํ เวทนาวเสน นิวตฺเตตฺวา ทสฺเสสิ. รูปกมฺมฏฺานํ ปเนตฺถ เวทนาย อารมฺมณมตฺตกํเยว สงฺขิตฺตํ, ตสฺมา ปาฬิยํ นารุฬฺหํ ภวิสฺสติ.

๓๖๐. อรูปกมฺมฏฺาเน ยํ ตสฺส ปากฏํ เวทนาวเสน อภินิเวสมุขํ, ตเมว ทสฺเสตุํ โสมนสฺสํปาหํ, เทวานมินฺทาติอาทิมาห. ตตฺถ ทุวิเธนาติ ทฺวิวิเธน, ทฺวีหิ โกฏฺาเสหีติ อตฺโถ. เอวรูปํ โสมนสฺสํ น เสวิตพฺพนฺติ เอวรูปํ เคหสิตโสมนสฺสํ น เสวิตพฺพํ. เคหสิตโสมนสฺสํ นาม ‘‘ตตฺถ กตมานิ ฉ เคหสิตานิ โสมนสฺสานิ? จกฺขุวิฺเยฺยานํ รูปานํ อิฏฺานํ กนฺตานํ มนาปานํ มโนรมานํ โลกามิสปฏิสํยุตฺตานํ ปฏิลาภํ วา ปฏิลาภโต สมนุปสฺสโต, ปุพฺเพ วา ปฏิลทฺธปุพฺพํ อตีตํ นิรุทฺธํ วิปริณตํ สมนุสฺสรโต อุปฺปชฺชติ โสมนสฺสํ, ยํ เอวรูปํ โสมนสฺสํ, อิทํ วุจฺจติ เคหสิตํ โสมนสฺส’’นฺติ เอวํ ฉสุ ทฺวาเรสุ วุตฺตกามคุณนิสฺสิตํ โสมนสฺสํ (ม. นิ. ๓.๓๐๖).

เอวรูปํโสมนสฺสํ เสวิตพฺพนฺติ เอวรูปํ เนกฺขมฺมสิตํ โสมนสฺสํ เสวิตพฺพํ. เนกฺขมฺมสิตํ โสมนสฺสํ นาม – ‘‘ตตฺถ กตมานิ ฉ เนกฺขมฺมสิตานิ โสมนสฺสานิ? รูปานํ ตฺเวว อนิจฺจตํ วิทิตฺวา วิปริณามวิราคนิโรธํ ปุพฺเพ เจว รูปา เอตรหิ จ สพฺเพ เต รูปา อนิจฺจา, ทุกฺขา, วิปริณามธมฺมาติ เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ปสฺสโต อุปฺปชฺชติ โสมนสฺสํ, ยํ เอวรูปํ โสมนสฺสํ, อิทํ วุจฺจติ เนกฺขมฺมสิตํ โสมนสฺส’’นฺติ (ม. นิ. ๓.๓๐๘) เอวํ ฉสุ ทฺวาเรสุ อิฏฺารมฺมเณ อาปาถคเต อนิจฺจาทิวเสน วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา อุสฺสุกฺกาเปตุํ สกฺโกนฺตสฺส ‘‘อุสฺสุกฺกิตา เม วิปสฺสนา’’ติ โสมนสฺสชาตสฺส อุปฺปนฺนํ โสมนสฺสํ. เสวิตพฺพนฺติ อิทํ เนกฺขมฺมวเสน, วิปสฺสนาวเสน, อนุสฺสติวเสน, ปมชฺฌานาทิวเสน จ อุปฺปชฺชนกโสมนสฺสํ เสวิตพฺพํ นาม.

ตตฺถ ยํ เจ สวิตกฺกํ สวิจารนฺติ ตสฺมิมฺปิ เนกฺขมฺมสิเต โสมนสฺเส ยํ เนกฺขมฺมวเสน, วิปสฺสนาวเสน, อนุสฺสติวเสน, ปมชฺฌานวเสน จ อุปฺปนฺนํ สวิตกฺกํ สวิจารํ โสมนสฺสนฺติ ชาเนยฺย. ยํ เจ อวิตกฺกํ อวิจารนฺติ ยํ ปน ทุติยตติยชฺฌานวเสน อุปฺปนฺนํ อวิตกฺกํ อวิจารํ โสมนสฺสนฺติ ชาเนยฺย. เย อวิตกฺเก อวิจาเร, เต ปณีตตเรติ เอเตสุปิ ทฺวีสุ ยํ อวิตกฺกํ อวิจารํ, ตํ ปณีตตรนฺติ อตฺโถ.

อิมินา กึ กถิตํ โหติ? ทฺวินฺนํ อรหตฺตํ กถิตํ. กถํ? เอโก กิร ภิกฺขุ สวิตกฺกสวิจาเร โสมนสฺเส วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา ‘‘อิทํ โสมนสฺสํ กึ นิสฺสิต’’นฺติ อุปธาเรนฺโต ‘‘วตฺถุนิสฺสิต’’นฺติ ปชานาตีติ ผสฺสปฺจมเก วุตฺตนเยเนว อนุกฺกเมน อรหตฺเต ปติฏฺาติ. เอโก อวิตกฺกอวิจาเร โสมนสฺเส วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา วุตฺตนเยเนว อรหตฺเต ปติฏฺาติ. ตตฺถ อภินิวิฏฺโสมนสฺเสสุปิ สวิตกฺกสวิจารโต อวิตกฺกอวิจารํ ปณีตตรํ. สวิตกฺกสวิจารโสมนสฺสวิปสฺสนาโตปิ อวิตกฺกอวิจารวิปสฺสนา ปณีตตรา. สวิตกฺกสวิจารโสมนสฺสผลสมาปตฺติโตปิ อวิตกฺกอวิจารโสมนสฺสผลสมาปตฺติเยว ปณีตตรา. เตนาห ภควา ‘‘เย อวิตกฺเก อวิจาเร, เต ปณีตตเร’’ติ.

๓๖๑. เอวรูปํโทมนสฺสํ น เสวิตพฺพนฺติ เอวรูปํ เคหสิตโทมนสฺสํ น เสวิตพฺพํ. เคหสิตโทมนสฺสํ นาม – ‘‘ตตฺถ กตมานิ ฉ เคหสิตานิ โทมนสฺสานิ? จกฺขุวิฺเยฺยานํ รูปานํ อิฏฺานํ กนฺตานํ มนาปานํ มโนรมานํ โลกามิสปฏิสํยุตฺตานํ อปฺปฏิลาภํ วา อปฺปฏิลาภโต สมนุปสฺสโต ปุพฺเพ วา อปฏิลทฺธปุพฺพํ อตีตํ นิรุทฺธํ วิปริณตํ สมนุสฺสรโต อุปฺปชฺชติ โทมนสฺสํ, ยํ เอวรูปํ โทมนสฺสํ, อิทํ วุจฺจติ เคหสิตโทมนสฺส’’นฺติ (ม. นิ. ๓.๓๐๗). เอวํ ฉสุ ทฺวาเรสุ อิฏฺารมฺมณํ นานุภวึ, นานุภวิสฺสามิ, นานุภวามีติ วิตกฺกยโต อุปฺปนฺนํ กามคุณนิสฺสิตํ โทมนสฺสํ.

เอวรูปํ โทมนสฺสํ เสวิตพฺพนฺติ เอวรูปํ เนกฺขมฺมสิตโทมนสฺสํ เสวิตพฺพํ. เนกฺขมฺมสิตโทมนสฺสํ นาม – ‘‘ตตฺถ กตมานิ ฉ เนกฺขมฺมสิตานิ โทมนสฺสานิ? รูปานํ ตฺเวว อนิจฺจตํ วิทิตฺวา วิปริณามวิราคนิโรธํ ปุพฺเพ เจว รูปา เอตรหิ จ สพฺเพ เต รูปา อนิจฺจา, ทุกฺขา, วิปริณามธมฺมาติ เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺปปฺปฺาย ทิสฺวา อนุตฺตเรสุ วิโมกฺเขสุ ปิหํ อุปฏฺาเปติ ‘กุทาสฺสุ นามาหํ ตทายตนํ, อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสามิ, ยทริยา เอตรหิ อายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรนฺตี’ติ. อิติ อนุตฺตเรสุ วิโมกฺเขสุ ปิหํ อุปฏฺาปยโต อุปฺปชฺชติ ปิหปจฺจยา โทมนสฺสํ, ยํ เอวรูปํ โทมนสฺสํ, อิทํ วุจฺจติ เนกฺขมฺมสิตโทมนสฺส’’นฺติ (ม. นิ. ๓.๓๐๗) เอวํ ฉสุ ทฺวาเรสุ อิฏฺารมฺมเณ อาปาถคเต อนุตฺตรวิโมกฺขสงฺขาตอริยผลธมฺเมสุ ปิหํ อุปฏฺเปตฺวา ตทธิคมาย อนิจฺจาทิวเสน วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา อุสฺสุกฺกาเปตุมสกฺโกนฺตสฺส อิมมฺปิ ปกฺขํ, อิมมฺปิ มาสํ, อิมมฺปิ สํวจฺฉรํ วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา อริยภูมึ ปาปุณิตุํ นาสกฺขินฺติ อนุโสจโต อุปฺปนฺนํ โทมนสฺสํ. เสวิตพฺพนฺติ อิทํ เนกฺขมฺมวเสน, วิปสฺสนาวเสน, อนุสฺสติวเสน, ปมชฺฌานาทิวเสน จ อุปฺปชฺชนกโทมนสฺสํ เสวิตพฺพํ นาม.

ตตฺถ ยํ เจ สวิตกฺกสวิจารนฺติ ตสฺมิมฺปิ ทุวิเธ โทมนสฺเส เคหสิตโทมนสฺสเมว สวิตกฺกสวิจารโทมนสฺสํ นาม. เนกฺขมฺมวเสน, วิปสฺสนาวเสน, อนุสฺสติวเสน, ปมทุติยชฺฌานวเสน จ อุปฺปนฺนโทมนสฺสํ ปน อวิตกฺกอวิจารโทมนสฺสนฺติ เวทิตพฺพํ. นิปฺปริยาเยน ปน อวิตกฺกอวิจารโทมนสฺสํ นาม นตฺถิ. โทมนสฺสินฺทฺริยฺหิ เอกํเสน อกุสลฺเจว สวิตกฺกสวิจารฺจ, เอตสฺส ปน ภิกฺขุโน มฺนวเสน สวิตกฺกสวิจารนฺติ จ อวิตกฺกอวิจารนฺติ จ วุตฺตํ.

ตตฺรายํ นโย – อิธ ภิกฺขุ โทมนสฺสปจฺจยภูเต สวิตกฺกสวิจารธมฺเม อวิตกฺกอวิจารธมฺเม จ โทมนสฺสปจฺจยา เอว อุปฺปนฺเน มคฺคผลธมฺเม จ อฺเสํ ปฏิปตฺติทสฺสนวเสน โทมนสฺสนฺติ คเหตฺวา ‘‘กทา นุ โข เม สวิตกฺกสวิจารโทมนสฺเส วิปสฺสนา ปฏฺปิตา ภวิสฺสติ, กทา อวิตกฺกอวิจารโทมนสฺเส’’ติ จ ‘‘กทา นุ โข เม สวิตกฺกสวิจารโทมนสฺสผลสมาปตฺติ นิพฺพตฺติตา ภวิสฺสติ, กทา อวิตกฺกอวิจารโทมนสฺสผลสมาปตฺตี’’ติ จินฺเตตฺวา เตมาสิกํ, ฉมาสิกํ, นวมาสิกํ วา ปฏิปทํ คณฺหาติ. เตมาสิกํ คเหตฺวา ปมมาเส เอกํ ยามํ ชคฺคติ, ทฺเว ยาเม นิทฺทาย โอกาสํ กโรติ, มชฺฌิเม มาเส ทฺเว ยาเม ชคฺคติ, เอกํ ยามํ นิทฺทาย โอกาสํ กโรติ, ปจฺฉิมมาเส จงฺกมนิสชฺชาเยว ยาเปติ. เอวํ เจ อรหตฺตํ ปาปุณาติ, อิจฺเจตํ กุสลํ. โน เจ ปาปุณาติ, วิเสเสตฺวา ฉมาสิกํ คณฺหาติ. ตตฺราปิ ทฺเว ทฺเว มาเส วุตฺตนเยน ปฏิปชฺชิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิตุํ อสกฺโกนฺโต วิเสเสตฺวา นวมาสิกํ คณฺหาติ. ตตฺราปิ ตโย ตโย มาเส ตเถว ปฏิปชฺชิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิตุํ อสกฺโกนฺตสฺส ‘‘น ลทฺวํ วต เม สพฺรหฺมจารีหิ สทฺธึ วิสุทฺธิปวารณํ ปวาเรตุ’’นฺติ อาวชฺชโต โทมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ, อสฺสุธารา ปวตฺตนฺติ คามนฺตปพฺภารวาสีมหาสีวตฺเถรสฺส วิย.

มหาสีวตฺเถรวตฺถุ

เถโร กิร อฏฺารส มหาคเณ วาเจสิ. ตสฺโสวาเท ตฺวา ตึสสหสฺสา ภิกฺขู อรหตฺตํ ปาปุณึสุ. อเถโก ภิกฺขุ ‘‘มยฺหํ ตาว อพฺภนฺตเร คุณา อปฺปมาณา, กีทิสา นุ โข เม อาจริยสฺส คุณา’’ติ อาวชฺชนฺโต ปุถุชฺชนภาวํ ปสฺสิตฺวา ‘‘อมฺหากํ อาจริโย อฺเสํ อวสฺสโย โหติ, อตฺตโน ภวิตุํ น สกฺโกติ, โอวาทมสฺส ทสฺสามี’’ติ อากาเสน คนฺตฺวา วิหารสมีเป โอตริตฺวา ทิวาฏฺาเน นิสินฺนํ อาจริยํ อุปสงฺกมิตฺวา วตฺตํ ทสฺเสตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ.

เถโร – ‘‘กึ การณา อาคโตสิ ปิณฺฑปาติกา’’ติ อาห. เอกํ อนุโมทนํ คณฺหิสฺสามีติ อาคโตสฺมิ, ภนฺเตติ. โอกาโส น ภวิสฺสติ, อาวุโสติ? วิตกฺกมาฬเก ิตกาเล ปุจฺฉิสฺสามิ, ภนฺเตติ. ตสฺมึ าเน อฺเ ปุจฺฉนฺตีติ. ภิกฺขาจารมคฺเค, ภนฺเตติ. ตตฺราปิ อฺเ ปุจฺฉนฺตีติ. ทุปฏฺฏนิวาสนฏฺาเน, สงฺฆาฏิปารุปนฏฺาเน, ปตฺตนีหรณฏฺาเน, คาเม จริตฺวา อาสนสาลายํ ยาคุปีตกาเล, ภนฺเตติ. ตตฺถ อฏฺกถาเถรา อตฺตโน กงฺขํ วิโนเทนฺติ, อาวุโสติ. อนฺโตคามโต นิกฺขนฺตกาเล ปุจฺฉิสฺสามิ, ภนฺเตติ. ตตฺราปิ อฺเ ปุจฺฉนฺติ, อาวุโสติ. อนฺตรามคฺเค, ภนฺเต, โภชนสาลายํ ภตฺตกิจฺจปริโยสาเน, ภนฺเต, ทิวาฏฺาเน, ปาทโธวนกาเล, มุขโธวนกาเล, ภนฺเตติ? ตทา อฺเ ปุจฺฉนฺตีติ. ตโต ปฏฺาย ยาว อรุณา อปเร ปุจฺฉนฺติ, อาวุโสติ. ทนฺตกฏฺํ คเหตฺวา มุขโธวนตฺถํ คมนกาเล, ภนฺเตติ? ตทา อฺเ ปุจฺฉนฺตีติ. มุขํ โธวิตฺวา อาคมนกาเล, ภนฺเตติ? ตตฺราปิ อฺเ ปุจฺฉนฺตีติ. เสนาสนํ ปวิสิตฺวา นิสินฺนกาเล, ภนฺเตติ? ตตฺราปิ อฺเ ปุจฺฉนฺตีติ. ภนฺเต, นนุ มุขํ โธวิตฺวา เสนาสนํ ปวิสิตฺวา ตโย จตฺตาโร ปลฺลงฺเก อุสุมํ คาหาเปตฺวา โยนิโสมนสิกาเร กมฺมํ กโรนฺตานํ โอกาสกาเลน ภวิตพฺพํ สิยา, มรณขณมฺปิ น ลภิสฺสถ, ภนฺเต, ผลกสทิสตฺถ ภนฺเต ปรสฺส อวสฺสโย โหถ, อตฺตโน ภวิตุํ น สกฺโกถ, น เม ตุมฺหากํ อนุโมทนาย อตฺโถติ อากาเส อุปฺปติตฺวา อคมาสิ.

เถโร – ‘‘อิมสฺส ภิกฺขุโน ปริยตฺติยา กมฺมํ นตฺถิ, มยฺหํ ปน องฺกุสโก ภวิสฺสามีติ อาคโต’’ติ ตฺวา ‘‘อิทานิ โอกาโส น ภวิสฺสติ, ปจฺจูสกาเล คมิสฺสามี’’ติ ปตฺตจีวรํ สมีเป กตฺวา สพฺพํ ทิวสภาคํ ปมยามมชฺฌิมยามฺจ ธมฺมํ วาเจตฺวา ปจฺฉิมยาเม เอกสฺมึ เถเร อุทฺเทสํ คเหตฺวา นิกฺขนฺเต ปตฺตจีวรํ คเหตฺวา เตเนว สทฺธึ นิกฺขนฺโต. นิสินฺนอนฺเตวาสิกา อาจริโย เกนจิ ปปฺเจน นิกฺขนฺโตติ มฺึสุ. นิกฺขนฺโต เถโร โกจิ เทว สมานาจริยภิกฺขูติ สฺํ อกาสิ.

เถโร กิร ‘‘มาทิสสฺส อรหตฺตํ นาม กึ, ทฺวีหตีเหเนว ปาปุณิตฺวา ปจฺจาคมิสฺสามี’’ติ อนฺเตวาสิกานํ อนาโรเจตฺวาว อาสาฬฺหีมาสสฺส ชุณฺหปกฺขเตรสิยา นิกฺขนฺโต คามนฺตปพฺภารํ คนฺตฺวา จงฺกมํ อารุยฺห กมฺมฏฺานํ มนสิกโรนฺโต ตํ ทิวสํ อรหตฺตํ คเหตุํ นาสกฺขิ. อุโปสถทิวเส สมฺปตฺเต ‘‘ทฺวีหตีเหน อรหตฺตํ คณฺหิสฺสามีติ อาคโต , คเหตุํ ปน นาสกฺขึ. ตโย มาเส ปน ตีณิ ทิวสานิ วิย ยาว มหาปวารณา ตาว ชานิสฺสามี’’ติ วสฺสํ อุปคนฺตฺวาปิ คเหตุํ นาสกฺขิ. ปวารณาทิวเส จินฺเตสิ – ‘‘อหํ ทฺวีหตีเหน อรหตฺตํ คณฺหิสฺสามีติ อาคโต , เตมาเสนาปิ นาสกฺขึ, สพฺรหฺมจาริโน ปน วิสุทฺธิปวารณํ ปวาเรนฺตี’’ติ. ตสฺเสวํ จินฺตยโต อสฺสุธารา ปวตฺตนฺติ. ตโต ‘‘น มฺเจ มยฺหํ จตูหิ อิริยาปเถหิ มคฺคผลํ อุปฺปชฺชิสฺสติ, อรหตฺตํ อปฺปตฺวา เนว มฺเจ ปิฏฺึ ปสาเรสฺสามิ, น ปาเท โธวิสฺสามี’’ติ มฺจํ อุสฺสาเปตฺวา เปสิ. ปุน อนฺโตวสฺสํ ปตฺตํ, อรหตฺตํ คเหตุํ นาสกฺขิเยว. เอกูนตึสปวารณาสุ อสฺสุธารา ปวตฺตนฺติ. คามทารกา เถรสฺส ปาเทสุ ผาลิตฏฺานานิ กณฺฏเกหิ สิพฺพนฺติ, ทวํ กโรนฺตาปิ ‘‘อยฺยสฺส มหาสีวตฺเถรสฺส วิย ปาทา โหนฺตู’’ติ ทวํ กโรนฺติ.

เถโร ตึสสํวจฺฉเร มหาปวารณาทิวเส อาลมฺพณผลกํ นิสฺสาย ิโต ‘‘อิทานิ เม ตึส วสฺสานิ สมณธมฺมํ กโรนฺตสฺส, นาสกฺขึ อรหตฺตํ ปาปุณิตุํ, อทฺธา เม อิมสฺมึ อตฺตภาเว มคฺโค วา ผลํ วา นตฺถิ, น เม ลทฺธํ สพฺรหฺมจารีหิ สทฺธึ วิสุทฺธิปวารณํ ปวาเรตุ’’นฺติ จินฺเตสิ. ตสฺเสวํ จินฺตยโตว โทมนสฺสํ อุปฺปชฺชิ, อสฺสุธารา ปวตฺตนฺติ. อถ อวิทูรฏฺาเน เอกา เทวธีตา โรทมานา อฏฺาสิ. ‘‘โก เอตฺถ โรทสี’’ติ? ‘‘อหํ, ภนฺเต, เทวธีตา’’ติ. ‘‘กสฺมา โรทสี’’ติ? ‘‘โรทมาเนน มคฺคผลํ นิพฺพตฺติตํ, เตน อหมฺปิ เอกํ ทฺเว มคฺคผลานิ นิพฺพตฺเตสฺสามีติ โรทามิ, ภนฺเต’’ติ.

ตโต เถโร – ‘‘โภ มหาสีวตฺเถร, เทวตาปิ ตยา สทฺธึ เกฬึ กโรนฺติ, อนุจฺฉวิกํ นุ โข เต เอต’’นฺติ วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ อคฺคเหสิ. โส ‘‘อิทานิ นิปชฺชิสฺสามี’’ติ เสนาสนํ ปฏิชคฺคิตฺวา มฺจกํ ปฺเปตฺวา อุทกฏฺาเน อุทกํ ปจฺจุปฏฺเปตฺวา ‘‘ปาเท โธวิสฺสามี’’ติ โสปานผลเก นิสีทิ.

อนฺเตวาสิกาปิสฺส ‘‘อมฺหากํ อาจริยสฺส สมณธมฺมํ กาตุํ คจฺฉนฺตสฺส ตึส วสฺสานิ, สกฺขิ นุ โข วิเสสํ นิพฺพตฺเตตุํ, นาสกฺขี’’ติ อาวชฺชยมานา ‘‘อรหตฺตํ ปตฺวา ปาทโธวนตฺถํ นิสินฺโน’’ติ ทิสฺวา ‘‘อมฺหากํ อาจริโย อมฺหาทิเสสุ อนฺเตวาสิเกสุ ติฏฺนฺเตสุ ‘อตฺตนาว ปาเท โธวิสฺสตี’ติ อฏฺานเมตํ, อหํ โธวิสฺสามิ อหํ โธวิสฺสามี’’ติ ตึสสหสฺสานิปิ อากาเสน คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา ‘‘ปาเท โธวิสฺสาม, ภนฺเต’’ติ อาหํสุ. อาวุโส, อิทานิ ตึส วสฺสานิ โหนฺติ มม ปาทานํ อโธตานํ, ติฏฺถ, ตุมฺเห, อหเมว โธวิสฺสามีติ.

สกฺโกปิ อาวชฺชนฺโต – ‘‘มยฺหํ อยฺโย มหาสีวตฺเถโร อรหตฺตํ ปตฺโต ตึสสหสฺสานํ อนฺเตวาสิกานํ ‘ปาเท โธวิสฺสามา’ติ อาคตานํ ปาเท โธวิตุํ น เทติ. มาทิเส ปน อุปฏฺาเก ติฏฺนฺเต ‘มยฺหํ อยฺโย สยํ ปาเท โธวิสฺสตี’ติ อฏฺานเมตํ, อหํ โธวิสฺสามี’’ติ สนฺนิฏฺานํ กตฺวา สุชาตาย เทวิยา สทฺธึ ภิกฺขุสงฺฆสฺส สนฺติเก ปาตุรโหสิ. โส สุชํ อสุรกฺํ ปุรโต กตฺวา ‘‘อเปถ, ภนฺเต, มาตุคาโม’’ติ โอกาสํ กาเรตฺวา เถรํ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา ปุรโต อุกฺกุฏิโก นิสีทิตฺวา ‘‘ปาเท โธวิสฺสามิ, ภนฺเต’’ติ อาห. โกสิย, อิทานิ เม ตึส วสฺสานิ ปาทานํ อโธตานํ, เทวตานฺจ ปกติยาปิ มนุสฺสสรีรคนฺโธ นาม เชคุจฺโฉ, โยชนสเต ิตานมฺปิ กณฺเ อาสตฺตกุณปํ วิย โหติ, อหเมว โธวิสฺสามีติ. ภนฺเต, อยํ คนฺโธ นาม น ปฺายติ, ตุมฺหากํ ปน สีลคนฺโธ ฉ เทวโลเก อติกฺกมิตฺวา อุปริ ภวคฺคํ ปตฺวา ิโต. สีลคนฺธโต อฺโ อุตฺตริตโร คนฺโธ นาม นตฺถิ, ภนฺเต, ตุมฺหากํ สีลคนฺเธนมฺหิ อาคโตติ วามหตฺเถน โคปฺผกสนฺธิยํ คเหตฺวา ทกฺขิณหตฺเถน ปาทตลํ ปริมชฺชิ. ทหรกุมารสฺเสว ปาทา อเหสุํ. สกฺโก ปาเท โธวิตฺวา วนฺทิตฺวา เทวโลกเมว คโต.

เอวํ ‘‘น ลภามิ สพฺรหฺมจารีหิ สทฺธึ วิสุทฺธิปวารณํ ปวาเรตุ’’นฺติ อาวชฺชนฺตสฺส อุปฺปนฺนํ โทมนสฺสํ นิสฺสาย ภิกฺขุโน มฺนวเสน วิปสฺสนาย อารมฺมณมฺปิ วิปสฺสนาปิ มคฺโคปิ ผลมฺปิ สวิตกฺกสวิจารโทมนสฺสนฺติ จ อวิตกฺกาวิจารโทมนสฺสนฺติ จ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

ตตฺถ เอโก ภิกฺขุ สวิตกฺกสวิจารโทมนสฺเส วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา อิทํ โทมนสฺสํ กึ นิสฺสิตนฺติ อุปธาเรนฺโต วตฺถุนิสฺสิตนฺติ ปชานาตีติ ผสฺสปฺจมเก วุตฺตนเยเนว อนุกฺกเมน อรหตฺเต ปติฏฺาติ. เอโก อวิตกฺกาวิจาเร โทมนสฺเส วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา วุตฺตนเยเนว อรหตฺเต ปติฏฺาติ. ตตฺถ อภินิวิฏฺโทมนสฺเสสุปิ สวิตกฺกสวิจารโต อวิตกฺกอวิจารํ ปณีตตรํ. สวิตกฺกสวิจารโทมนสฺสวิปสฺสนาโตปิ อวิตกฺกาวิจารโทมนสฺสวิปสฺสนา ปณีตตรา. สวิตกฺกสวิจารโทมนสฺสผลสมาปตฺติโตปิ อวิตกฺกาวิจารโทมนสฺสผลสมาปตฺติเยว ปณีตตรา . เตนาห ภควา – ‘‘เย อวิตกฺกอวิจาเร เต ปณีตตเร’’ติ.

๓๖๒. เอวรูปา อุเปกฺขา น เสวิตพฺพาติ เอวรูปา เคหสิตอุเปกฺขา น เสวิตพฺพา. เคหสิตอุเปกฺขา นาม ‘‘ตตฺถ กตมา ฉ เคหสิตอุเปกฺขา. จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา อุปฺปชฺชติ อุเปกฺขา พาลสฺส มูฬฺหสฺส ปุถุชฺชนสฺส อโนธิชินสฺส อวิปากชินสฺส อนาทีนวทสฺสาวิโน อสฺสุตวโต ปุถุชฺชนสฺส, ยา เอวรูปา อุเปกฺขา, รูปํ สา นาติวตฺตติ, ตสฺมา สา อุเปกฺขา เคหสิตาติ วุจฺจตี’’ติ เอวํ ฉสุ ทฺวาเรสุ อิฏฺารมฺมเณ อาปาถคเต คุฬปิณฺฑิเก นิลีนมกฺขิกา วิย รูปาทีนิ อนติวตฺตมานา ตตฺเถว ลคฺคา ลคฺคิตา หุตฺวา อุปฺปนฺนา กามคุณนิสฺสิตา อุเปกฺขา น เสวิตพฺพา.

เอวรูปา อุเปกฺขา เสวิตพฺพาติ เอวรูปา เนกฺขมฺมสิตา อุเปกฺขา เสวิตพฺพา. เนกฺขมฺมสิตา อุเปกฺขา นาม – ‘‘ตตฺถ กตมา ฉ เนกฺขมฺมสิตา อุเปกฺขา? รูปานํ ตฺเวว อนิจฺจตํ วิทิตฺวา วิปริณามวิราคนิโรธํ ‘ปุพฺเพ เจว รูปา เอตรหิ จ, สพฺเพ เต รูปา อนิจฺจา, ทุกฺขา, วิปริณามธมฺมา’ติ เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ปสฺสโต อุปฺปชฺชติ อุเปกฺขา, ยา เอวรูปา อุเปกฺขา, รูปํ สา อติวตฺตติ, ตสฺมา สา อุเปกฺขา เนกฺขมฺมสิตาติ วุจฺจตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๓๐๘). เอวํ ฉสุ ทฺวาเรสุ อิฏฺานิฏฺอารมฺมเณ อาปาถคเต อิฏฺเ อรชฺชนฺตสฺส, อนิฏฺเ อทุสฺสนฺตสฺส, อสมเปกฺขเนน อสมฺมุยฺหนฺตสฺส อุปฺปนฺนา วิปสฺสนา าณสมฺปยุตฺตา อุเปกฺขา. อปิจ เวทนาสภาคา ตตฺร มชฺฌตฺตุเปกฺขาปิ เอตฺถ อุเปกฺขาว. ตสฺมา เสวิตพฺพาติ อยํ เนกฺขมฺมวเสน วิปสฺสนาวเสน อนุสฺสติฏฺานวเสน ปมทุติยตติยจตุตฺถชฺฌานวเสน จ อุปฺปชฺชนกอุเปกฺขา เสวิตพฺพา นาม.

เอตฺถ ยํ เจ สวิตกฺกํ สวิจารนฺติ ตายปิ เนกฺขมฺมสิตอุเปกฺขาย ยํ เนกฺขมฺมวเสน วิปสฺสนาวเสน อนุสฺสติฏฺานวเสน ปมชฺฌานวเสน จ อุปฺปนฺนํ สวิตกฺกสวิจารํ อุเปกฺขนฺติ ชาเนยฺย. ยํ เจ อวิตกฺกํ อวิจารนฺติ ยํ ปน ทุติยชฺฌานาทิวเสน อุปฺปนฺนํ อวิตกฺกาวิจารํ อุเปกฺขนฺติ ชาเนยฺย. เยอวิตกฺเก อวิจาเร เต ปณีตตเรติ เอตาสุ ทฺวีสุ ยา อวิตกฺกอวิจารา, สา ปณีตตราติ อตฺโถ. อิมินา กึ กถิตํ โหติ ? ทฺวินฺนํ อรหตฺตํ กถิตํ. เอโก หิ ภิกฺขุ สวิตกฺกสวิจารอุเปกฺขาย วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา อยํ อุเปกฺขา กึ นิสฺสิตาติ อุปธาเรนฺโต วตฺถุนิสฺสิตาติ ปชานาตีติ ผสฺสปฺจมเก วุตฺตนเยเนว อนุกฺกเมน อรหตฺเต ปติฏฺาติ. เอโก อวิตกฺกาวิจาราย อุเปกฺขาย วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา วุตฺตนเยเนว อรหตฺเต ปติฏฺาติ. ตตฺถ อภินิวิฏฺอุเปกฺขาสุปิ สวิตกฺกสวิจารโต อวิตกฺกาวิจารา ปณีตตรา. สวิตกฺกสวิจารอุเปกฺขาวิปสฺสนาโตปิ อวิตกฺกาวิจารอุเปกฺขาวิปสฺสนาปณีตตรา. สวิตกฺกสวิจารอุเปกฺขาผลสมาปตฺติโตปิ อวิตกฺกาวิจารุเปกฺขาผลสมาปตฺติเยว ปณีตตรา. เตนาห ภควา ‘‘เย อวิตกฺเก อวิจาเร เต ปณีตตเร’’ติ.

๓๖๓. เอวํ ปฏิปนฺโน โข, เทวานมินฺท, ภิกฺขุ ปปฺจสฺาสงฺขานิโรธสารุปฺปคามินึ ปฏิปทํ ปฏิปนฺโน โหตีติ ภควา อรหตฺตนิกูเฏน เทสนํ นิฏฺเปสิ. สกฺโก ปน โสตาปตฺติผลํ ปตฺโต. พุทฺธานฺหิ อชฺฌาสโย หีโน น โหติ, อุกฺกฏฺโว โหติ. เอกสฺสปิ พหูนมฺปิ ธมฺมํ เทเสนฺตา อรหตฺเตเนว กูฏํ คณฺหนฺติ. สตฺตา ปน อตฺตโน อนุรูเป อุปนิสฺสเย ิตา เกจิ โสตาปนฺนา โหนฺติ, เกจิ สกทาคามี, เกจิ อนาคามี, เกจิ อรหนฺโต. ราชา วิย หิ ภควา, ราชกุมารา วิย เวเนยฺยา. ยถา หิ ราชา โภชนกาเล อตฺตโน ปมาเณน ปิณฺฑํ อุทฺธริตฺวา ราชกุมารานํ อุปเนติ, เต ตโต อตฺตโน มุขปฺปมาเณเนว กพฬํ กโรนฺติ, เอวํ ภควา อตฺตชฺฌาสยานุรูปาย เทสนาย อรหตฺเตเนว กูฏํ คณฺหาติ. เวเนยฺยา อตฺตโน อุปนิสฺสยปฺปมาเณน ตโต โสตาปตฺติผลมตฺตํ วา สกทาคามิอนาคามิอรหตฺตผลเมว วา คณฺหนฺติ. สกฺโก ปน โสตาปนฺโน ชาโต. โสตาปนฺโน จ หุตฺวา ภควโต ปุรโตเยว จวิตฺวา ตรุณสกฺโก หุตฺวา นิพฺพตฺติ, เทวตานฺหิ จวมานานํ อตฺตภาวสฺส คตาคตฏฺานํ นาม น ปฺายติ, ทีปสิขาคมนํ วิย โหติ. ตสฺมา เสสเทวตา น ชานึสุ. สกฺโก ปน สยํ จุตตฺตา ภควา จ อปฺปฏิหตาณตฺตา ทฺเวว ชนา ชานึสุ. อถ สกฺโก จินฺเตสิ ‘‘มยฺหฺหิ ภควตา ตีสุ าเนสุ นิพฺพตฺติตผลเมว กถิตํ, อยฺจ ปน มคฺโค วา ผลํ วา สกุณิกาย วิย อุปฺปติตฺวา คเหตุํ น สกฺกา, อาคมนียปุพฺพภาคปฏิปทาย อสฺส ภวิตพฺพํ. หนฺทาหํ อุปริ ขีณาสวสฺส ปุพฺพภาคปฏิปทํ ปุจฺฉามี’’ติ.

ปาติโมกฺขสํวรวณฺณนา

๓๖๔. ตโต ตํ ปุจฺฉนฺโต กถํ ปฏิปนฺโน ปน, มาริสาติอาทิมาห. ตตฺถ ปาติโมกฺขสํวรายาติ อุตฺตมเชฏฺกสีลสํวราย. กายสมาจารมฺปีติอาทิ เสวิตพฺพกายสมาจาราทิวเสน ปาติโมกฺขสํวรทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. สีลกถา จ นาเมสา กมฺมปถวเสน วา ปณฺณตฺติวเสน วา กเถตพฺพา โหติ.

ตตฺถ กมฺมปถวเสน กเถนฺเตน อเสวิตพฺพกายสมาจาโร ตาว ปาณาติปาตอทินฺนาทานมิจฺฉาจาเรหิ กเถตพฺโพ. ปณฺณตฺติวเสน กเถนฺเตน กายทฺวาเร ปฺตฺตสิกฺขาปทวีติกฺกมวเสน กเถตพฺโพ. เสวิตพฺพกายสมาจาโร ปาณาติปาตาทิเวรมณีหิ เจว กายทฺวาเร ปฺตฺตสิกฺขาปทอวีติกฺกเมน จ กเถตพฺโพ. อเสวิตพฺพวจีสมาจาโร มุสาวาทาทิวจีทุจฺจริเตน เจว วจีทฺวาเร ปฺตฺตสิกฺขาปทวีติกฺกเมน จ กเถตพฺโพ. เสวิตพฺพวจีสมาจาโร มุสาวาทาทิเวรมณีหิ เจว วจีทฺวาเร ปฺตฺตสิกฺขาปทอวีติกฺกเมน จ กเถตพฺโพ.

ปริเยสนา ปน กายวาจาหิ ปริเยสนาเยว. สา กายวจีสมาจารคหเณน คหิตาปิ สมานา ยสฺมา อาชีวฏฺมกสีลํ นาม เอตสฺมิฺเว ทฺวารทฺวเย อุปฺปชฺชติ, น อากาเส, ตสฺมา อาชีวฏฺมกสีลทสฺสนตฺถํ วิสุํ วุตฺตา. ตตฺถ นเสวิตพฺพปริเยสนา อนริยปริเยสนาย กเถตพฺพา. เสวิตพฺพปริเยสนา อริยปริเยสนาย. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘ทฺเวมา, ภิกฺขเว, ปริเยสนา อนริยา จ ปริเยสนา, อริยา จ ปริเยสนา. กตมา จ, ภิกฺขเว, อนริยา ปริเยสนา? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ อตฺตนา ชาติธมฺโม สมาโน ชาติธมฺมํเยว ปริเยสติ, อตฺตนา ชราธมฺโม, พฺยาธิธมฺโม, มรณธมฺโม, โสกธมฺโม, สํกิเลสธมฺโม สมาโน สํกิเลสธมฺมํเยว ปริเยสติ.

กิฺจ, ภิกฺขเว, ชาติธมฺมํ วเทถ? ปุตฺตภริยํ, ภิกฺขเว , ชาติธมฺมํ, ทาสิทาสํ ชาติธมฺมํ อเชฬกํ ชาติธมฺมํ, กุกฺกุฏสูกรํ ชาติธมฺมํ, หตฺถิควาสฺสวฬวํ ชาติธมฺมํ, ชาตรูปรชตํ ชาติธมฺมํ. ชาติธมฺมา เหเต, ภิกฺขเว, อุปธโย, เอตฺถายํ คถิโต มุจฺฉิโต อชฺฌาปนฺโน อตฺตนา ชาติธมฺโม สมาโน ชาติธมฺมํเยว ปริเยสติ.

กิฺจ, ภิกฺขเว, ชราธมฺมํ วเทถ? ปุตฺตภริยํ, ภิกฺขเว, ชราธมฺมํ…เป… ชราธมฺมํเยว ปริเยสติ.

กิฺจ, ภิกฺขเว, พฺยาธิธมฺมํ วเทถ? ปุตฺตภริยํ, ภิกฺขเว, พฺยาธิธมฺมํ, ทาสิทาสํ พฺยาธิธมฺมํ, อเชฬกํ, กุกฺกุฏสูกรํ, หตฺถิควาสฺสวฬวํ พฺยาธิธมฺมํ. พฺยาธิธมฺมา เหเต, ภิกฺขเว, อุปธโย, เอตฺถายํ คถิโต มุจฺฉิโต อชฺฌาปนฺโน อตฺตนา พฺยาธิธมฺโม สมาโน พฺยาธิธมฺมํเยว ปริเยสติ.

กิฺจ, ภิกฺขเว, มรณธมฺมํ วเทถ? ปุตฺตภริยํ, ภิกฺขเว, มรณธมฺมํ…เป… มรณธมฺมํเยว ปริเยสติ.

กิฺจ, ภิกฺขเว, โสกธมฺมํ วเทถ? ปุตฺตภริยํ…เป… โสกธมฺมํเยว ปริเยสติ.

กิฺจ, ภิกฺขเว, สํกิเลสธมฺมํ วเทถ…เป… ชาตรูปรชตํ สํกิเลสธมฺมํ. สํกิเลสธมฺมา , เหเต, ภิกฺขเว, อุปธโย, เอตฺถายํ คถิโต มุจฺฉิโต อชฺฌาปนฺโน อตฺตนา สํกิเลสธมฺโม สมาโน สํกิเลสธมฺมํเยว ปริเยสติ. อยํ, ภิกฺขเว, อนริยา ปริเยสนาติ (ม. นิ. ๑.๒๗๔).

อปิจ กุหนาทิวเสน ปฺจวิธา, อโคจรวเสน ฉพฺพิธา เวชฺชกมฺมาทิวเสน เอกวีสติวิธา, เอวํ ปวตฺตา สพฺพาปิ อเนสนา อนริยปริเยสนาเยวาติ เวทิตพฺพา.

‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, อริยา ปริเยสนา? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ อตฺตนา ชาติธมฺโม สมาโน ชาติธมฺเม อาทีนวํ วิทิตฺวา อชาตํ อนุตฺตรํ โยคกฺเขมํ นิพฺพานํ ปริเยสติ, อตฺตนา ชราธมฺโม, พฺยาธิ, มรณ, โสก, สํกิเลสธมฺโม สมาโน สํกิเลสธมฺเม อาทีนวํ วิทิตฺวา อสํกิลิฏฺํ อนุตฺตรํ โยคกฺเขมํ นิพฺพานํ ปริเยสติ. อยํ อริยา ปริเยสนาติ (ม. นิ. ๑.๒๗๕).

อปิจ ปฺจ กุหนาทีนิ ฉ อโคจเร เอกวีสติวิธฺจ อเนสนํ วชฺเชตฺวา ภิกฺขาจริยาย ธมฺเมน สเมน ปริเยสนาปิ อริยปริเยสนาเยวาติ เวทิตพฺพา.

เอตฺถ จ โย โย ‘‘น เสวิตพฺโพ’’ติ วุตฺโต, โส โส ปุพฺพภาเค ปาณาติปาตาทีนํ สมฺภารปริเยสนาปโยคกรณคมนกาลโต ปฏฺาย น เสวิตพฺโพว. อิตโร อาทิโต ปฏฺาย เสวิตพฺโพ, อสกฺโกนฺเตน จิตฺตมฺปิ อุปฺปาเทตพฺพํ. อปิจ สงฺฆเภทาทีนํ อตฺถาย ปรกฺกมนฺตานํ เทวทตฺตาทีนํ วิย กายสมาจาโร น เสวิตพฺโพ, ทิวสสฺส ทฺวตฺติกฺขตฺตุํ ติณฺณํ รตนานํ อุปฏฺานคมนาทิวเสน ปวตฺโต ธมฺมเสนาปติมหาโมคฺคลฺลานตฺเถราทีนํ วิย กายสมาจาโร เสวิตพฺโพ. ธนุคฺคหเปสนาทิวเสน วาจํ ภินฺทนฺตานํ เทวทตฺตาทีนํ วิย วจีสมาจาโร น เสวิตพฺโพ, ติณฺณํ รตนานํ คุณกิตฺตนาทิวเสน ปวตฺโต ธมฺมเสนาปติมหาโมคฺคลฺลานตฺเถราทีนํ วิย วจีสมาจาโร เสวิตพฺโพ. อนริยปริเยสนํ ปริเยสนฺตานํ เทวทตฺตาทีนํ วิย ปริเยสนา น เสวิตพฺพา, อริยปริเยสนเมว ปริเยสนฺตานํ ธมฺมเสนาปติมหาโมคฺคลฺลานตฺเถราทีนํ วิย ปริเยสนา เสวิตพฺพา.

เอวํ ปฏิปนฺโน โขติ เอวํ อเสวิตพฺพํ กายวจีสมาจารํ ปริเยสนฺจ ปหาย เสวิตพฺพานํ ปาริปูริยา ปฏิปนฺโน, เทวานมินฺท, ภิกฺขุ ปาติโมกฺขสํวราย อุตฺตมเชฏฺกสีลสํวรตฺถาย ปฏิปนฺโน นาม โหตีติ ภควา ขีณาสวสฺส อาคมนียปุพฺพภาคปฏิปทํ กเถสิ.

อินฺทฺริยสํวรวณฺณนา

๓๖๕. ทุติยปุจฺฉายํ อินฺทฺริยสํวรายาติ อินฺทฺริยานํ ปิธานาย, คุตฺตทฺวารตาย สํวุตทฺวารตายาติ อตฺโถ. วิสฺสชฺชเน ปนสฺส จกฺขุวิฺเยฺยํ รูปมฺปีติอาทิ เสวิตพฺพรูปาทิวเสน อินฺทฺริยสํวรทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ตตฺถ เอวํ วุตฺเตติ เหฏฺา โสมนสฺสาทิปฺหาวิสฺสชฺชนานํ สุตตฺตา อิมินาปิ เอวรูเปน ภวิตพฺพนฺติ สฺชาตปฏิภาโน ภควตา เอวํ วุตฺเต สกฺโก เทวานมินฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ, เอตํ อิมสฺส โข อหํ, ภนฺเตติ อาทิกํ วจนํ อโวจ. ภควาปิสฺส โอกาสํ ทตฺวา ตุณฺหี อโหสิ. กเถตุกาโมปิ หิ โย อตฺถํ สมฺปาเทตุํ น สกฺโกติ, อตฺถํ สมฺปาเทตุํ สกฺโกนฺโต วา น กเถตุกาโม โหติ, น ตสฺส ภควา โอกาสํ กโรติ. อยํ ปน ยสฺมา กเถตุกาโม เจว, สกฺโกติ จ อตฺถํ สมฺปาเทตุํ เตนสฺส ภควา โอกาสมกาสิ.

ตตฺถ เอวรูปํ น เสวิตพฺพนฺติ อาทีสุ อยํ สงฺเขโป – ยํ รูปํ ปสฺสโต ราคาทโย อุปฺปชฺชนฺติ, ตํ น เสวิตพฺพํ น ทฏฺพฺพํ น โอโลเกตพฺพนฺติ อตฺโถ. ยํ ปน ปสฺสโต อสุภสฺา วา สณฺาติ, ปสาโท วา อุปฺปชฺชติ, อนิจฺจสฺาปฏิลาโภ วา โหติ, ตํ เสวิตพฺพํ.

ยํ จิตฺตกฺขรํ จิตฺตพฺยฺชนมฺปิ สทฺทํ สุณโต ราคาทโย อุปฺปชฺชนฺติ, เอวรูโป สทฺโท น เสวิตพฺโพ. ยํ ปน อตฺถนิสฺสิตํ ธมฺมนิสฺสิตํ กุมฺภทาสิคีตมฺปิ สุณนฺตสฺส ปสาโท วา อุปฺปชฺชติ, นิพฺพิทา วา สณฺาติ, เอวรูโป สทฺโท เสวิตพฺโพ.

ยํ คนฺธํ ฆายโต ราคาทโย อุปฺปชฺชนฺติ, เอวรูโป คนฺโธ น เสวิตพฺโพ. ยํ ปน คนฺธํ ฆายโต อสุภสฺาทิปฏิลาโภ โหติ, เอวรูโป คนฺโธ เสวิตพฺโพ.

ยํ รสํ สายโต ราคาทโย อุปฺปชฺชนฺติ, เอวรูโป รโส น เสวิตพฺโพ. ยํ ปน รสํ สายโต อาหาเร ปฏิกูลสฺา เจว อุปฺปชฺชติ, สายิตปจฺจยา จ กายพลํ นิสฺสาย อริยภูมึ โอกฺกมิตุํ สกฺโกติ, มหาสีวตฺเถรภาคิเนยฺยสีวสามเณรสฺส วิย ปริภุฺชนฺตสฺเสว กิเลสกฺขโย วา โหติ, เอวรูโป รโส เสวิตพฺโพ.

ยํ โผฏฺพฺพํ ผุสโต ราคาทโย อุปฺปชฺชนฺติ, เอวรูปํ โผฏฺพฺพํ น เสวิตพฺพํ. ยํ ปน ผุสโต สาริปุตฺตตฺเถราทีนํ วิย อาสวกฺขโย เจว, วีริยฺจ สุปคฺคหิตํ, ปจฺฉิมา จ ชนตา ทิฏฺานุคตึ อาปาทเนน อนุคฺคหิตา โหติ, เอวรูปํ โผฏฺพฺพํ เสวิตพฺพํ. สาริปุตฺตตฺเถโร กิร ตึส วสฺสานิ มฺเจ ปิฏฺึ น ปสาเรสิ. ตถา มหาโมคฺคลฺลานตฺเถโร. มหากสฺสปตฺเถโร วีสวสฺสสตํ มฺเจ ปิฏฺึ น ปสาเรสิ. อนุรุทฺธตฺเถโร ปฺาส วสฺสานิ. ภทฺทิยตฺเถโร ตึส วสฺสานิ. โสณตฺเถโร อฏฺารส วสฺสานิ. รฏฺปาลตฺเถโร ทฺวาทส. อานนฺทตฺเถโร ปนฺนรส. ราหุลตฺเถโร ทฺวาทส. พากุลตฺเถโร อสีติ วสฺสานิ. นาฬกตฺเถโร ยาวปรินิพฺพานา มฺเจ ปิฏฺึ น ปสาเรสีติ.

เย มโนวิฺเยฺเย ธมฺเม สมนฺนาหรนฺตสฺส ราคาทโย อุปฺปชฺชนฺติ, ‘‘อโห, วต ยํ ปเรสํ ปรวิตฺตูปกรณํ ตํ มมสฺสา’’ติอาทินา นเยน วา อภิชฺฌาทีนิ อาปาถมาคจฺฉนฺติ เอวรูปา ธมฺมา น เสวิตพฺพา. ‘‘สพฺเพ สตฺตา อเวรา โหนฺตู’’ติ เอวํ เมตฺตาทิวเสน, เย วา ปน ติณฺณํ เถรานํ ธมฺมา, เอวรูปา เสวิตพฺพา. ตโย กิร เถรา วสฺสูปนายิกทิวเส กามวิตกฺกาทโย อกุสลวิตกฺกา น วิตกฺเกตพฺพาติ กติกํ อกํสุ. อถ ปวารณทิวเส สงฺฆตฺเถโร สงฺฆนวกํ ปุจฺฉิ – ‘‘อาวุโส, อิมสฺมึ เตมาเส กิตฺตเก าเน จิตฺตสฺส ธาวิตุํ ทินฺน’’นฺติ? น, ภนฺเต, ปริเวณปริจฺเฉทโต พหิ ธาวิตุํ อทาสินฺติ. ทุติยํ ปุจฺฉิ – ‘‘ตว อาวุโส’’ติ? นิวาสเคหโต, ภนฺเต, พหิ ธาวิตุํ น อทาสินฺติ. อถ ทฺเวปิ เถรํ ปุจฺฉึสุ ‘‘ตุมฺหากํ ปน, ภนฺเต’’ติ? นิยกชฺฌตฺตขนฺธปฺจกโต, อาวุโส, พหิ ธาวิตุํ น อทาสินฺติ. ตุมฺเหหิ, ภนฺเต, ทุกฺกรํ กตนฺติ. เอวรูโป มโนวิฺเยฺโย ธมฺโม เสวิตพฺโพ.

๓๖๖. เอกนฺตวาทาติ เอโกเยว อนฺโต วาทสฺส เอเตสํ, น ทฺเวธา คตวาทาติ เอกนฺตวาทา, เอกฺเว วทนฺตีติ ปุจฺฉติ. เอกนฺตสีลาติ เอกาจารา. เอกนฺตฉนฺทาติ เอกลทฺธิกา. เอกนฺตอชฺโฌสานาติ เอกนฺตปริโยสานา.

อเนกธาตุ นานาธาตุ โข, เทวานมินฺท, โลโกติ เทวานมินฺท, อยํ โลโก อเนกชฺฌาสโย นานชฺฌาสโย. เอกสฺมึ คนฺตุกาเม เอโก าตุกาโม โหติ. เอกสฺมึ าตุกาเม เอโก สยิตุกาโม โหติ. ทฺเว สตฺตา เอกชฺฌาสยา นาม ทุลฺลภา. ตสฺมึ อเนกธาตุนานาธาตุสฺมึ โลเก ยํ ยเทว ธาตุํ ยํ ยเทว อชฺฌาสยํ สตฺตา อภินิวิสนฺติ คณฺหนฺติ, ตํ ตเทว. ถามสา ปรามาสาติ ถาเมน จ ปรามาเสน จ. อภินิวิสฺส โวหรนฺตีติ สุฏฺุ คณฺหิตฺวา โวหรนฺติ, กเถนฺติ ทีเปนฺติ กิตฺเตนฺติ. อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺนฺติ อิทํ อมฺหากเมว วจนํ สจฺจํ, อฺเสํ วจนํ โมฆํ ตุจฺฉํ นิรตฺถกนฺติ.

อจฺจนฺตนิฏฺาติ อนฺโต วุจฺจติ วินาโส, อนฺตํ อตีตา นิฏฺา เอเตสนฺติ อจฺจนฺตนิฏฺา. ยา เอเตสํ นิฏฺา, โย ปรมสฺสาโส นิพฺพานํ, ตํ สพฺเพสํ วินาสาติกฺกนฺตํ นิจฺจนฺติ วุจฺจติ. โยคกฺเขโมติ นิพฺพานสฺเสว นามํ, อจฺจนฺโต โยคกฺเขโม เอเตสนฺติ อจฺจนฺตโยคกฺเขมี. เสฏฺฏฺเน พฺรหฺมํ อริยมคฺคํ จรนฺตีติ พฺรหฺมจารี. อจฺจนฺตตฺถาย พฺรหฺมจารี อจฺจนฺตพฺรหฺมจารี. ปริโยสานนฺติปิ นิพฺพานสฺส นามํ. อจฺจนฺตํ ปริโยสานํ เอเตสนฺติ อจฺจนฺตปริโยสานา.

ตณฺหาสงฺขยวิมุตฺตาติ ตณฺหาสงฺขโยติ มคฺโคปิ นิพฺพานมฺปิ. มคฺโค ตณฺหํ สงฺขิณาติ วินาเสตีติ ตณฺหาสงฺขโย. นิพฺพานํ ยสฺมา ตํ อาคมฺม ตณฺหา สงฺขิยติ วินสฺสติ, ตสฺมา ตณฺหาสงฺขโย. ตณฺหาสงฺขเยน มคฺเคน วิมุตฺตา, ตณฺหาสงฺขเย นิพฺพาเน วิมุตฺตา อธิมุตฺตาติ ตณฺหาสงฺขยวิมุตฺตา.

เอตฺตาวตา จ ภควตา จุทฺทสปิ มหาปฺหา พฺยากตา โหนฺติ. จุทฺทส มหาปฺหา นาม อิสฺสามจฺฉริยํ เอโก ปฺโห, ปิยาปฺปิยํ เอโก, ฉนฺโท เอโก, วิตกฺโก เอโก, ปปฺโจ เอโก, โสมนสฺสํ เอโก, โทมนสฺสํ เอโก, อุเปกฺขา เอโก, กายสมาจาโร เอโก, วจีสมาจาโร เอโก, ปริเยสนา เอโก, อินฺทฺริยสํวโร เอโก, อเนกธาตุ เอโก, อจฺจนฺตนิฏฺา เอโกติ.

๓๖๗. เอชาติ จลนฏฺเน ตณฺหา วุจฺจติ. สา ปีฬนฏฺเน โรโค, อนฺโต ปทุสฺสนฏฺเน คณฺโฑ, อนุปฺปวิฏฺฏฺเน สลฺลํ. ตสฺมา อยํ ปุริโสติ ยสฺมา เอชา อตฺตนา กตกมฺมานุรูเปน ปุริสํ ตตฺถ ตตฺถ อภินิพฺพตฺตตฺถาย กฑฺฒติ, ตสฺมา อยํ ปุริโส เตสํ เตสํ ภวานํ วเสน อุจฺจาวจํ อาปชฺชติ. พฺรหฺมโลเก อุจฺโจ โหติ, เทวโลเก อวโจ. เทวโลเก อุจฺโจ, มนุสฺสโลเก อวโจ. มนุสฺสโลเก อุจฺโจ, อปาเย อวโจ. เยสาหํ, ภนฺเตติ เยสํ อหํ ภนฺเต. สนฺธิวเสน ปเนตฺถ ‘‘เยสาห’’นฺติ โหติ. ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตนฺติ ยถา มยา สุโต เจว อุคฺคหิโต จ, เอวํ. ธมฺมํ เทเสมีติ สตฺตวตปทํ ธมฺมํ เทเสมิ. น จาหํ เตสนฺติ อหํ ปน เตสํ สาวโก น สมฺปชฺชามิ. อหํ โข ปน, ภนฺเตติอาทินา อตฺตโน โสตาปนฺนภาวํ ชานาเปติ.

โสมนสฺสปฏิลาภกถาวณฺณนา

๓๖๘. เวทปฏิลาภนฺติ ตุฏฺิปฏิลาภํ. เทวาสุรสงฺคาโมติ เทวานฺจ อสุรานฺจ สงฺคาโม. สมุปพฺยูฬฺโหติ สมาปนฺโน นลาเฏน นลาฏํ ปหรณาการปฺปตฺโต วิย. เอเตสํ กิร กทาจิ มหาสมุทฺทปิฏฺเ สงฺคาโม โหติ ตตฺถ ปน เฉทนวิชฺฌนาทีหิ อฺมฺํ ฆาโต นาม นตฺถิ, ทารุเมณฺฑกยุทฺธํ วิย ชยปราชยมตฺตเมว โหติ. กทาจิ เทวา ชินนฺติ, กทาจิ อสุรา. ตตฺถ ยสฺมึ สงฺคาเม เทวา ปุน อปจฺจาคมนาย อสุเร ชินึสุ, ตํ สนฺธาย ตสฺมึ โข ปน ภนฺเตติอาทิมาห. อุภยเมตนฺติ อุภยํ เอตํ. ทุวิธมฺปิ โอชํ เอตฺถ เทวโลเก เทวาเยว ปริภุฺชิสฺสนฺตีติ เอวมสฺส อาวชฺชนฺตสฺส พลวปีติโสมนสฺสํ อุปฺปชฺชิ. สทณฺฑาวจโรติ สทณฺฑาวจรโก, ทณฺฑคฺคหเณน สตฺถคฺคหเณน สทฺธึ อโหสิ, น นิกฺขิตฺตทณฺฑสตฺโถติ ทสฺเสติ. เอกนฺตนิพฺพิทายาติ เอกนฺเตเนว วฏฺเฏ นิพฺพินฺทนตฺถายาติ สพฺพํ มหาโควินฺทสุตฺเต วุตฺตเมว.

๓๖๙. ปเวเทสีติ กเถสิ ทีเปสิ. อิเธวาติ อิมสฺมิฺเว โอกาเส. เทวภูตสฺส เม สโตติ เทวสฺส เม สโต. ปุนรายุ จ เม ลทฺโธติ ปุน อฺเน กมฺมวิปาเกน เม ชีวิตํ ลทฺธนฺติ, อิมินา อตฺตโน จุตภาวํ เจว อุปปนฺนภาวฺจ อาวิกโรติ.

ทิวิยา กายาติ ทิพฺพา อตฺตภาวา. อายุํ หิตฺวา อมานุสนฺติ ทิพฺพํ อายุํ ชหิตฺวา. อมูฬฺโห คพฺภเมสฺสามีติ นิยตคติกตฺตา อมูฬฺโห หุตฺวา. ยตฺถ เม รมตี มโนติ ยตฺถ เม มโน รมิสฺสติ, ตตฺเถว ขตฺติยกุลาทีสุ คพฺภํ อุปคจฺฉิสฺสามีติ สตฺตกฺขตฺตุํ เทเว จ มานุเส จาติ อิมมตฺถํ ทีเปติ.

าเยน วิหริสฺสามีติ มนุสฺเสสุ อุปปนฺโนปิ มาตรํ ชีวิตา โวโรปนาทีนํ อภพฺพตฺตา าเยน การเณน สเมน วิหริสฺสามีติ อตฺโถ.

สมฺโพธิเจ ภวิสฺสตีติ อิทํ สกทาคามิมคฺคํ สนฺธาย วทติ, สเจ สกทาคามี ภวิสฺสามีติ ทีเปติ. อฺาตา วิหริสฺสามีติ อฺาตา อาชานิตุกาโม หุตฺวา วิหริสฺสามิ. สฺเวว อนฺโต ภวิสฺสตีติ โส เอว เม มนุสฺสโลเก อนฺโต ภวิสฺสตีติ.

ปุนเทโว ภวิสฺสามิ, เทวโลกสฺมึ อุตฺตโมติ ปุน เทวโลกสฺมึ อุตฺตโม สกฺโก เทวานมินฺโท ภวิสฺสามีติ วทติ.

อนฺติเม วตฺตมานมฺหีติ อนฺติเม ภเว วตฺตมาเน. โส นิวาโส ภวิสฺสตีติ เย เต อายุนา จ ปฺาย จ อกนิฏฺา เชฏฺกา สพฺพเทเวหิ ปณีตตรา เทวา, อวสาเน เม โส นิวาโส ภวิสฺสติ . อยํ กิร ตโต สกฺกตฺตภาวโต จุโต ตสฺมึ อตฺตภาเว อนาคามิมคฺคสฺส ปฏิลทฺธตฺตา อุทฺธํโสโต อกนิฏฺคามี หุตฺวา อวิหาทีสุ นิพฺพตฺตนฺโต อวสาเน อกนิฏฺเ นิพฺพตฺติสฺสติ. ตํ สนฺธาย เอวมาห. เอส กิร อวิเหสุ กปฺปสหสฺสํ วสิสฺสติ, อตปฺเปสุ ทฺเว กปฺปสหสฺสานิ, สุทสฺเสสุ จตฺตาริ กปฺปสหสฺสานิ, สุทสฺสีสุ อฏฺ, อกนิฏฺเสุ โสฬสาติ เอกตึส กปฺปสหสฺสานิ พฺรหฺมอายุํ อนุภวิสฺสติ. สกฺโก เทวราชา อนาถปิณฺฑิโก คหปติ วิสาขา มหาอุปาสิกาติ ตโยปิ หิ อิเม เอกปฺปมาณอายุกา เอว, วฏฺฏาภิรตสตฺตา นาม เอเตหิ สทิสา สุขภาคิโน นาม นตฺถิ.

๓๗๐. อปริโยสิตสงฺกปฺโปติ อนิฏฺิตมโนรโถ. ยสฺสุ มฺามิ สมเณติ เย จ สมเณ ปวิวิตฺตวิหาริโนติ มฺามิ.

อาราธนาติ สมฺปาทนา. วิราธนาติ อสมฺปาทนา. น สมฺปายนฺตีติ สมฺปาเทตฺวา กเถตุํ น สกฺโกนฺติ.

อาทิจฺจพนฺธุนนฺติ อาทิจฺโจปิ โคตมโคตฺโต, ภควาปิ โคตมโคตฺโต, ตสฺมา เอวมาห. ยํ กโรมสีติ ยํ ปุพฺเพ พฺรหฺมุโน นมกฺการํ กโรม. สมํ เทเวหีติ เทเวหิ สทฺธึ, อิโต ปฏฺาย อิทานิ อมฺหากํ พฺรหฺมุโน นมกฺการกรณํ นตฺถีติ ทสฺเสติ. สามํ กโรมาติ นมกฺการํ กโรม.

๓๗๑. ปรามสิตฺวาติ ตุฏฺจิตฺโต สหายํ หตฺเถน หตฺถมฺหิ ปหรนฺโต วิย ปถวึ ปหริตฺวา, สกฺขิภาวตฺถาย วา ปหริตฺวา ‘‘ยถา ตฺวํ นิจฺจโล, เอวมหํ ภควตี’’ติ. อชฺฌิฏฺปฺหาติ อชฺเฌสิตปฺหา ปตฺถิตปฺหา. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

อิติ สุมงฺคลวิลาสินิยา ทีฆนิกายฏฺกถายํ

สกฺกปฺหสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.