📜
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
ทีฆนิกาโย
มหาวคฺคปาฬิ
๑. มหาปทานสุตฺตํ
ปุพฺเพนิวาสปฏิสํยุตฺตกถา
๑. เอวํ ¶ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม กเรริกุฏิกายํ. อถ โข สมฺพหุลานํ ภิกฺขูนํ ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตานํ กเรริมณฺฑลมาเฬ สนฺนิสินฺนานํ สนฺนิปติตานํ ปุพฺเพนิวาสปฏิสํยุตฺตา ธมฺมี กถา อุทปาทิ – ‘‘อิติปิ ปุพฺเพนิวาโส, อิติปิ ปุพฺเพนิวาโส’’ติ.
๒. อสฺโสสิ โข ภควา ทิพฺพาย โสตธาตุยา วิสุทฺธาย อติกฺกนฺตมานุสิกาย เตสํ ภิกฺขูนํ ¶ อิมํ กถาสลฺลาปํ. อถ โข ภควา อุฏฺายาสนา เยน กเรริมณฺฑลมาโฬ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ, นิสชฺช โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘กายนุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา; กา จ ปน โว อนฺตรากถา วิปฺปกตา’’ติ?
เอวํ วุตฺเต เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อิธ, ภนฺเต, อมฺหากํ ปจฺฉาภตฺตํ ¶ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตานํ กเรริมณฺฑลมาเฬ สนฺนิสินฺนานํ สนฺนิปติตานํ ¶ ปุพฺเพนิวาสปฏิสํยุตฺตา ธมฺมี กถา อุทปาทิ – ‘อิติปิ ปุพฺเพนิวาโส อิติปิ ปุพฺเพนิวาโส’ติ. อยํ โข โน, ภนฺเต, อนฺตรากถา วิปฺปกตา. อถ ภควา อนุปฺปตฺโต’’ติ.
๓. ‘‘อิจฺเฉยฺยาถ ¶ โน ตุมฺเห, ภิกฺขเว, ปุพฺเพนิวาสปฏิสํยุตฺตํ ธมฺมึ กถํ โสตุ’’นฺติ? ‘‘เอตสฺส, ภควา, กาโล; เอตสฺส, สุคต, กาโล; ยํ ภควา ปุพฺเพนิวาสปฏิสํยุตฺตํ ธมฺมึ กถํ กเรยฺย, ภควโต สุตฺวา [ภควโต วจนํ สุตฺวา (สฺยา.)] ภิกฺขู ธาเรสฺสนฺตี’’ติ. ‘‘เตน หิ, ภิกฺขเว, สุณาถ,สาธุกํ มนสิ กโรถ, ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –
๔. ‘‘อิโต โส, ภิกฺขเว, เอกนวุติกปฺเป ยํ [เอกนวุโต กปฺโป (สฺยา. กํ. ปี.)] วิปสฺสี ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โลเก อุทปาทิ. อิโต โส, ภิกฺขเว, เอกตึเส กปฺเป [เอกตึ สกปฺโป (สี.) เอกตึ โส กปฺโป (สฺยา. กํ. ปี.)] ยํ สิขี ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โลเก อุทปาทิ. ตสฺมิฺเว โข, ภิกฺขเว, เอกตึเส กปฺเป เวสฺสภู ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โลเก อุทปาทิ. อิมสฺมิฺเว [อิมสฺมึ (กตฺถจี)] โข, ภิกฺขเว, ภทฺทกปฺเป กกุสนฺโธ ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โลเก อุทปาทิ. อิมสฺมิฺเว โข, ภิกฺขเว, ภทฺทกปฺเป โกณาคมโน ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โลเก อุทปาทิ. อิมสฺมิฺเว โข, ภิกฺขเว, ภทฺทกปฺเป กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โลเก อุทปาทิ. อิมสฺมิฺเว โข, ภิกฺขเว, ภทฺทกปฺเป อหํ เอตรหิ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โลเก อุปฺปนฺโน.
๕. ‘‘วิปสฺสี, ภิกฺขเว, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ขตฺติโย ชาติยา ¶ อโหสิ, ขตฺติยกุเล อุทปาทิ. สิขี, ภิกฺขเว, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ขตฺติโย ชาติยา อโหสิ, ขตฺติยกุเล อุทปาทิ. เวสฺสภู, ภิกฺขเว, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ¶ ขตฺติโย ชาติยา อโหสิ, ขตฺติยกุเล อุทปาทิ. กกุสนฺโธ, ภิกฺขเว, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ พฺราหฺมโณ ชาติยา อโหสิ, พฺราหฺมณกุเล อุทปาทิ. โกณาคมโน, ภิกฺขเว, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ¶ พฺราหฺมโณ ชาติยา อโหสิ, พฺราหฺมณกุเล อุทปาทิ. กสฺสโป, ภิกฺขเว, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ พฺราหฺมโณ ชาติยา อโหสิ, พฺราหฺมณกุเล อุทปาทิ. อหํ, ภิกฺขเว, เอตรหิ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ขตฺติโย ชาติยา อโหสึ, ขตฺติยกุเล อุปฺปนฺโน.
๖. ‘‘วิปสฺสี ¶ , ภิกฺขเว, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โกณฺฑฺโ โคตฺเตน อโหสิ. สิขี, ภิกฺขเว, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โกณฺฑฺโ โคตฺเตน อโหสิ. เวสฺสภู, ภิกฺขเว, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โกณฺฑฺโ โคตฺเตน อโหสิ. กกุสนฺโธ, ภิกฺขเว, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ กสฺสโป โคตฺเตน อโหสิ. โกณาคมโน, ภิกฺขเว, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ กสฺสโป โคตฺเตน อโหสิ. กสฺสโป, ภิกฺขเว, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ กสฺสโป โคตฺเตน อโหสิ. อหํ, ภิกฺขเว, เอตรหิ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โคตโม โคตฺเตน อโหสึ.
๗. ‘‘วิปสฺสิสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อสีติวสฺสสหสฺสานิ ¶ อายุปฺปมาณํ อโหสิ. สิขิสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สตฺตติวสฺสสหสฺสานิ อายุปฺปมาณํ อโหสิ. เวสฺสภุสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สฏฺิวสฺสสหสฺสานิ อายุปฺปมาณํ อโหสิ. กกุสนฺธสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส จตฺตาลีสวสฺสสหสฺสานิ อายุปฺปมาณํ อโหสิ. โกณาคมนสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ตึสวสฺสสหสฺสานิ อายุปฺปมาณํ ¶ อโหสิ. กสฺสปสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส วีสติวสฺสสหสฺสานิ อายุปฺปมาณํ อโหสิ. มยฺหํ, ภิกฺขเว, เอตรหิ อปฺปกํ อายุปฺปมาณํ ปริตฺตํ ลหุกํ; โย จิรํ ชีวติ, โส วสฺสสตํ อปฺปํ วา ภิยฺโย.
๘. ‘‘วิปสฺสี, ภิกฺขเว, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ปาฏลิยา มูเล อภิสมฺพุทฺโธ. สิขี, ภิกฺขเว, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ปุณฺฑรีกสฺส มูเล อภิสมฺพุทฺโธ. เวสฺสภู, ภิกฺขเว, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ สาลสฺส มูเล อภิสมฺพุทฺโธ. กกุสนฺโธ, ภิกฺขเว, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ สิรีสสฺส มูเล อภิสมฺพุทฺโธ. โกณาคมโน, ภิกฺขเว, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ อุทุมฺพรสฺส มูเล อภิสมฺพุทฺโธ. กสฺสโป, ภิกฺขเว, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ นิคฺโรธสฺส มูเล อภิสมฺพุทฺโธ. อหํ, ภิกฺขเว, เอตรหิ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ อสฺสตฺถสฺส มูเล อภิสมฺพุทฺโธ.
๙. ‘‘วิปสฺสิสฺส ¶ ¶ , ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ขณฺฑติสฺสํ ¶ นาม สาวกยุคํ อโหสิ อคฺคํ ภทฺทยุคํ. สิขิสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อภิภูสมฺภวํ นาม สาวกยุคํ อโหสิ อคฺคํ ภทฺทยุคํ. เวสฺสภุสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส โสณุตฺตรํ นาม สาวกยุคํ อโหสิ อคฺคํ ภทฺทยุคํ. กกุสนฺธสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส วิธุรสฺชีวํ นาม สาวกยุคํ อโหสิ อคฺคํ ภทฺทยุคํ. โกณาคมนสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ภิยฺโยสุตฺตรํ นาม สาวกยุคํ อโหสิ อคฺคํ ¶ ภทฺทยุคํ. กสฺสปสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ติสฺสภารทฺวาชํ นาม สาวกยุคํ อโหสิ อคฺคํ ภทฺทยุคํ. มยฺหํ, ภิกฺขเว, เอตรหิ สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานํ นาม สาวกยุคํ อโหสิ อคฺคํ ภทฺทยุคํ.
๑๐. ‘‘วิปสฺสิสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ตโย สาวกานํ สนฺนิปาตา อเหสุํ. เอโก สาวกานํ สนฺนิปาโต อโหสิ อฏฺสฏฺิภิกฺขุสตสหสฺสํ, เอโก ¶ สาวกานํ สนฺนิปาโต อโหสิ ภิกฺขุสตสหสฺสํ, เอโก สาวกานํ สนฺนิปาโต อโหสิ อสีติภิกฺขุสหสฺสานิ. วิปสฺสิสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อิเม ตโย สาวกานํ สนฺนิปาตา อเหสุํ สพฺเพสํเยว ขีณาสวานํ.
‘‘สิขิสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ตโย สาวกานํ สนฺนิปาตา อเหสุํ. เอโก สาวกานํ สนฺนิปาโต อโหสิ ภิกฺขุสตสหสฺสํ, เอโก สาวกานํ สนฺนิปาโต อโหสิ อสีติภิกฺขุสหสฺสานิ, เอโก สาวกานํ สนฺนิปาโต อโหสิ สตฺตติภิกฺขุสหสฺสานิ. สิขิสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อิเม ตโย สาวกานํ สนฺนิปาตา อเหสุํ สพฺเพสํเยว ขีณาสวานํ.
‘‘เวสฺสภุสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ตโย สาวกานํ สนฺนิปาตา อเหสุํ. เอโก สาวกานํ สนฺนิปาโต อโหสิ อสีติภิกฺขุสหสฺสานิ, เอโก สาวกานํ สนฺนิปาโต อโหสิ สตฺตติภิกฺขุสหสฺสานิ, เอโก สาวกานํ สนฺนิปาโต อโหสิ ¶ สฏฺิภิกฺขุสหสฺสานิ. เวสฺสภุสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อิเม ตโย สาวกานํ สนฺนิปาตา อเหสุํ สพฺเพสํเยว ขีณาสวานํ.
‘‘กกุสนฺธสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส เอโก สาวกานํ สนฺนิปาโต อโหสิ ¶ จตฺตาลีสภิกฺขุสหสฺสานิ. กกุสนฺธสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อยํ เอโก สาวกานํ สนฺนิปาโต อโหสิ สพฺเพสํเยว ขีณาสวานํ.
‘‘โกณาคมนสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต ¶ สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส เอโก สาวกานํ สนฺนิปาโต อโหสิ ตึสภิกฺขุสหสฺสานิ. โกณาคมนสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อยํ เอโก สาวกานํ สนฺนิปาโต อโหสิ สพฺเพสํเยว ขีณาสวานํ.
‘‘กสฺสปสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส เอโก สาวกานํ สนฺนิปาโต อโหสิ วีสติภิกฺขุสหสฺสานิ. กสฺสปสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อยํ เอโก สาวกานํ สนฺนิปาโต อโหสิ สพฺเพสํเยว ขีณาสวานํ.
‘‘มยฺหํ, ภิกฺขเว, เอตรหิ เอโก ¶ สาวกานํ สนฺนิปาโต อโหสิ อฑฺฒเตฬสานิ ภิกฺขุสตานิ. มยฺหํ, ภิกฺขเว, อยํ เอโก สาวกานํ สนฺนิปาโต อโหสิ สพฺเพสํเยว ขีณาสวานํ.
๑๑. ‘‘วิปสฺสิสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อโสโก นาม ภิกฺขุ อุปฏฺาโก อโหสิ อคฺคุปฏฺาโก. สิขิสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส เขมงฺกโร นาม ภิกฺขุ อุปฏฺาโก อโหสิ อคฺคุปฏฺาโก. เวสฺสภุสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อุปสนฺโต นาม ภิกฺขุ อุปฏฺาโก อโหสิ อคฺคุปฏฺาโก. กกุสนฺธสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส พุทฺธิโช นาม ภิกฺขุ อุปฏฺาโก อโหสิ อคฺคุปฏฺาโก. โกณาคมนสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส โสตฺถิโช นาม ภิกฺขุ อุปฏฺาโก อโหสิ อคฺคุปฏฺาโก. กสฺสปสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สพฺพมิตฺโต นาม ¶ ภิกฺขุ อุปฏฺาโก อโหสิ อคฺคุปฏฺาโก. มยฺหํ, ภิกฺขเว, เอตรหิ อานนฺโท นาม ภิกฺขุ อุปฏฺาโก อโหสิ อคฺคุปฏฺาโก.
๑๒. ‘‘วิปสฺสิสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส พนฺธุมา นาม ราชา ปิตา อโหสิ. ¶ พนฺธุมตี นาม เทวี มาตา อโหสิ ชเนตฺติ [ชเนตฺตี (สฺยา.)]. พนฺธุมสฺส รฺโ พนฺธุมตี นาม นครํ ราชธานี อโหสิ.
‘‘สิขิสฺส ¶ , ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อรุโณ ¶ นาม ราชา ปิตา อโหสิ. ปภาวตี นาม เทวี มาตา อโหสิ ชเนตฺติ. อรุณสฺส รฺโ อรุณวตี นาม นครํ ราชธานี อโหสิ.
‘‘เวสฺสภุสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สุปฺปติโต นาม [สุปฺปตีโต นาม (สฺยา.)] ราชา ปิตา อโหสิ. วสฺสวตี นาม [ยสวตี นาม (สฺยา. ปี.)] เทวี มาตา อโหสิ ชเนตฺติ. สุปฺปติตสฺส รฺโ อโนมํ นาม นครํ ราชธานี อโหสิ.
‘‘กกุสนฺธสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อคฺคิทตฺโต นาม พฺราหฺมโณ ปิตา อโหสิ. วิสาขา นาม พฺราหฺมณี มาตา อโหสิ ชเนตฺติ. เตน โข ปน, ภิกฺขเว, สมเยน เขโม นาม ราชา อโหสิ. เขมสฺส รฺโ เขมวตี นาม นครํ ราชธานี อโหสิ.
‘‘โกณาคมนสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ยฺทตฺโต นาม พฺราหฺมโณ ปิตา อโหสิ. อุตฺตรา นาม พฺราหฺมณี มาตา อโหสิ ชเนตฺติ. เตน โข ปน, ภิกฺขเว, สมเยน โสโภ นาม ราชา อโหสิ. โสภสฺส รฺโ โสภวตี นาม นครํ ราชธานี อโหสิ.
‘‘กสฺสปสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส พฺรหฺมทตฺโต นาม พฺราหฺมโณ ปิตา อโหสิ. ธนวตี นาม พฺราหฺมณี มาตา อโหสิ ชเนตฺติ. เตน โข ปน, ภิกฺขเว, สมเยน กิกี ¶ นาม [กึ กี นาม (สฺยา.)] ราชา อโหสิ. กิกิสฺส รฺโ พาราณสี นาม นครํ ราชธานี อโหสิ.
‘‘มยฺหํ, ภิกฺขเว, เอตรหิ สุทฺโธทโน นาม ราชา ปิตา อโหสิ. มายา นาม เทวี มาตา อโหสิ ชเนตฺติ. กปิลวตฺถุ นาม นครํ ราชธานี อโหสี’’ติ. อิทมโวจ ภควา, อิทํ วตฺวาน ¶ สุคโต อุฏฺายาสนา วิหารํ ปาวิสิ.
๑๓. อถ ¶ โข เตสํ ภิกฺขูนํ อจิรปกฺกนฺตสฺส ภควโต อยมนฺตรากถา อุทปาทิ – ‘‘อจฺฉริยํ, อาวุโส, อพฺภุตํ, อาวุโส, ตถาคตสฺส มหิทฺธิกตา มหานุภาวตา. ยตฺร หิ นาม ตถาคโต อตีเต พุทฺเธ ปรินิพฺพุเต ฉินฺนปปฺเจ ฉินฺนวฏุเม ปริยาทินฺนวฏฺเฏ สพฺพทุกฺขวีติวตฺเต ¶ ชาติโตปิ อนุสฺสริสฺสติ, นามโตปิ อนุสฺสริสฺสติ, โคตฺตโตปิ อนุสฺสริสฺสติ, อายุปฺปมาณโตปิ อนุสฺสริสฺสติ, สาวกยุคโตปิ อนุสฺสริสฺสติ, สาวกสนฺนิปาตโตปิ อนุสฺสริสฺสติ – ‘เอวํชจฺจา เต ภควนฺโต อเหสุํ อิติปิ, เอวํนามา เอวํโคตฺตา เอวํสีลา เอวํธมฺมา เอวํปฺา เอวํวิหารี เอวํวิมุตฺตา เต ภควนฺโต อเหสุํ อิติปี’’’ติ.
‘‘กึ นุ โข, อาวุโส, ตถาคตสฺเสว นุ โข เอสา ธมฺมธาตุ สุปฺปฏิวิทฺธา, ยสฺสา ธมฺมธาตุยา สุปฺปฏิวิทฺธตฺตา ตถาคโต อตีเต พุทฺเธ ปรินิพฺพุเต ฉินฺนปปฺเจ ฉินฺนวฏุเม ปริยาทินฺนวฏฺเฏ สพฺพทุกฺขวีติวตฺเต ชาติโตปิ อนุสฺสรติ, นามโตปิ อนุสฺสรติ, โคตฺตโตปิ อนุสฺสรติ, อายุปฺปมาณโตปิ อนุสฺสรติ, สาวกยุคโตปิ อนุสฺสรติ, สาวกสนฺนิปาตโตปิ อนุสฺสรติ – ‘เอวํชจฺจา เต ภควนฺโต อเหสุํ อิติปิ, เอวํนามา เอวํโคตฺตา เอวํสีลา เอวํธมฺมา เอวํปฺา เอวํวิหารี เอวํวิมุตฺตา เต ¶ ภควนฺโต อเหสุํ อิติปี’ติ, อุทาหุ เทวตา ตถาคตสฺส เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ, เยน ตถาคโต อตีเต พุทฺเธ ปรินิพฺพุเต ฉินฺนปปฺเจ ฉินฺนวฏุเม ¶ ปริยาทินฺนวฏฺเฏ สพฺพทุกฺขวีติวตฺเต ชาติโตปิ อนุสฺสรติ, นามโตปิ อนุสฺสรติ, โคตฺตโตปิ อนุสฺสรติ, อายุปฺปมาณโตปิ อนุสฺสรติ, สาวกยุคโตปิ อนุสฺสรติ, สาวกสนฺนิปาตโตปิ อนุสฺสรติ – ‘เอวํชจฺจา เต ภควนฺโต อเหสุํ อิติปิ, เอวํนามา เอวํโคตฺตา เอวํสีลา เอวํธมฺมา เอวํปฺา เอวํวิหารี เอวํวิมุตฺตา ¶ เต ภควนฺโต อเหสุํ อิติปี’’’ติ. อยฺจ หิทํ เตสํ ภิกฺขูนํ อนฺตรากถา วิปฺปกตา โหติ.
๑๔. อถ โข ภควา สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต เยน กเรริมณฺฑลมาโฬ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. นิสชฺช โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘กายนุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา; กา จ ปน โว อนฺตรากถา วิปฺปกตา’’ติ?
เอวํ วุตฺเต เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อิธ, ภนฺเต, อมฺหากํ อจิรปกฺกนฺตสฺส ภควโต อยํ อนฺตรากถา อุทปาทิ – ‘อจฺฉริยํ, อาวุโส, อพฺภุตํ, อาวุโส, ตถาคตสฺส มหิทฺธิกตา มหานุภาวตา, ยตฺร หิ นาม ตถาคโต อตีเต พุทฺเธ ปรินิพฺพุเต ฉินฺนปปฺเจ ฉินฺนวฏุเม ปริยาทินฺนวฏฺเฏ สพฺพทุกฺขวีติวตฺเต ชาติโตปิ อนุสฺสริสฺสติ, นามโตปิ อนุสฺสริสฺสติ, โคตฺตโตปิ อนุสฺสริสฺสติ, อายุปฺปมาณโตปิ อนุสฺสริสฺสติ, สาวกยุคโตปิ อนุสฺสริสฺสติ, สาวกสนฺนิปาตโตปิ ¶ อนุสฺสริสฺสติ – ‘‘เอวํชจฺจา ¶ เต ภควนฺโต อเหสุํ อิติปิ ¶ , เอวํนามา เอวํโคตฺตา เอวํสีลา เอวํธมฺมา เอวํปฺา เอวํวิหารี เอวํวิมุตฺตา เต ภควนฺโต อเหสุํ อิติปี’’ติ. กึ นุ โข, อาวุโส, ตถาคตสฺเสว นุ โข เอสา ธมฺมธาตุ สุปฺปฏิวิทฺธา, ยสฺสา ธมฺมธาตุยา สุปฺปฏิวิทฺธตฺตา ตถาคโต อตีเต พุทฺเธ ปรินิพฺพุเต ฉินฺนปปฺเจ ฉินฺนวฏุเม ปริยาทินฺนวฏฺเฏ สพฺพทุกฺขวีติวตฺเต ชาติโตปิ อนุสฺสรติ, นามโตปิ อนุสฺสรติ, โคตฺตโตปิ อนุสฺสรติ, อายุปฺปมาณโตปิ อนุสฺสรติ, สาวกยุคโตปิ อนุสฺสรติ, สาวกสนฺนิปาตโตปิ อนุสฺสรติ – ‘‘เอวํชจฺจา เต ภควนฺโต อเหสุํ อิติปิ, เอวํนามา เอวํโคตฺตา เอวํสีลา เอวํธมฺมา เอวํปฺา เอวํวิหารี เอวํวิมุตฺตา เต ภควนฺโต อเหสุํ อิติปี’’ติ. อุทาหุ เทวตา ตถาคตสฺส เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ, เยน ตถาคโต อตีเต พุทฺเธ ปรินิพฺพุเต ฉินฺนปปฺเจ ฉินฺนวฏุเม ปริยาทินฺนวฏฺเฏ สพฺพทุกฺขวีติวตฺเต ชาติโตปิ อนุสฺสรติ, นามโตปิ อนุสฺสรติ, โคตฺตโตปิ อนุสฺสรติ, อายุปฺปมาณโตปิ อนุสฺสรติ, สาวกยุคโตปิ อนุสฺสรติ, สาวกสนฺนิปาตโตปิ อนุสฺสรติ – ‘เอวํชจฺจา เต ภควนฺโต อเหสุํ อิติปิ, เอวํนามา เอวํโคตฺตา เอวํสีลา เอวํธมฺมา เอวํปฺา เอวํวิหารี เอวํวิมุตฺตา ¶ เต ภควนฺโต อเหสุํ อิติปี’ติ? อยํ โข โน, ภนฺเต, อนฺตรากถา วิปฺปกตา, อถ ภควา อนุปฺปตฺโต’’ติ.
๑๕. ‘‘ตถาคตสฺเสเวสา, ภิกฺขเว, ธมฺมธาตุ สุปฺปฏิวิทฺธา, ยสฺสา ธมฺมธาตุยา สุปฺปฏิวิทฺธตฺตา ตถาคโต อตีเต พุทฺเธ ปรินิพฺพุเต ฉินฺนปปฺเจ ฉินฺนวฏุเม ปริยาทินฺนวฏฺเฏ สพฺพทุกฺขวีติวตฺเต ชาติโตปิ อนุสฺสรติ, นามโตปิ อนุสฺสรติ, โคตฺตโตปิ อนุสฺสรติ, อายุปฺปมาณโตปิ อนุสฺสรติ, สาวกยุคโตปิ อนุสฺสรติ, สาวกสนฺนิปาตโตปิ อนุสฺสรติ – ‘เอวํชจฺจา เต ภควนฺโต อเหสุํ อิติปิ, เอวํนามา เอวํโคตฺตา เอวํสีลา เอวํธมฺมา เอวํปฺา เอวํวิหารี เอวํวิมุตฺตา เต ภควนฺโต อเหสุํ อิติปี’ติ. เทวตาปิ ตถาคตสฺส เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ, เยน ตถาคโต อตีเต พุทฺเธ ปรินิพฺพุเต ฉินฺนปปฺเจ ฉินฺนวฏุเม ปริยาทินฺนวฏฺเฏ สพฺพทุกฺขวีติวตฺเต ชาติโตปิ อนุสฺสรติ, นามโตปิ อนุสฺสรติ, โคตฺตโตปิ อนุสฺสรติ, อายุปฺปมาณโตปิ อนุสฺสรติ, สาวกยุคโตปิ ¶ อนุสฺสรติ, สาวกสนฺนิปาตโตปิ อนุสฺสรติ – ‘เอวํชจฺจา เต ภควนฺโต อเหสุํ อิติปิ, เอวํนามา เอวํโคตฺตา เอวํสีลา เอวํธมฺมา เอวํปฺา เอวํวิหารี เอวํวิมุตฺตา เต ภควนฺโต อเหสุํ อิติปี’ติ.
‘‘อิจฺเฉยฺยาถ โน ตุมฺเห, ภิกฺขเว, ภิยฺโยโสมตฺตาย ปุพฺเพนิวาสปฏิสํยุตฺตํ ¶ ธมฺมึ กถํ โสตุ’’นฺติ? ‘‘เอตสฺส, ภควา, กาโล; เอตสฺส, สุคต, กาโล; ยํ ภควา ภิยฺโยโสมตฺตาย ปุพฺเพนิวาสปฏิสํยุตฺตํ ธมฺมึ กถํ กเรยฺย, ภควโต สุตฺวา ภิกฺขู ธาเรสฺสนฺตี’’ติ. ‘‘เตน หิ, ภิกฺขเว ¶ , สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ, ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –
๑๖. ‘‘อิโต โส, ภิกฺขเว, เอกนวุติกปฺเป ยํ วิปสฺสี ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โลเก อุทปาทิ. วิปสฺสี, ภิกฺขเว, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ขตฺติโย ชาติยา อโหสิ, ขตฺติยกุเล อุทปาทิ. วิปสฺสี, ภิกฺขเว, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โกณฺฑฺโ โคตฺเตน อโหสิ. วิปสฺสิสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อสีติวสฺสสหสฺสานิ อายุปฺปมาณํ อโหสิ. วิปสฺสี, ภิกฺขเว, ภควา อรหํ ¶ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ปาฏลิยา มูเล อภิสมฺพุทฺโธ. วิปสฺสิสฺส, ภิกฺขเว ¶ , ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ขณฺฑติสฺสํ นาม สาวกยุคํ อโหสิ อคฺคํ ภทฺทยุคํ. วิปสฺสิสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ตโย สาวกานํ สนฺนิปาตา อเหสุํ. เอโก สาวกานํ สนฺนิปาโต อโหสิ อฏฺสฏฺิภิกฺขุสตสหสฺสํ, เอโก สาวกานํ สนฺนิปาโต อโหสิ ภิกฺขุสตสหสฺสํ, เอโก สาวกานํ สนฺนิปาโต อโหสิ อสีติภิกฺขุสหสฺสานิ. วิปสฺสิสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อิเม ตโย สาวกานํ สนฺนิปาตา อเหสุํ สพฺเพสํเยว ขีณาสวานํ. วิปสฺสิสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อโสโก นาม ภิกฺขุ อุปฏฺาโก อโหสิ อคฺคุปฏฺาโก. วิปสฺสิสฺส, ภิกฺขเว, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส พนฺธุมา นาม ราชา ปิตา อโหสิ. พนฺธุมตี นาม ¶ เทวี มาตา อโหสิ ชเนตฺติ. พนฺธุมสฺส รฺโ พนฺธุมตี นาม นครํ ราชธานี อโหสิ.
โพธิสตฺตธมฺมตา
๑๗. ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสี โพธิสตฺโต ตุสิตา กายา จวิตฺวา สโต สมฺปชาโน มาตุกุจฺฉึ โอกฺกมิ. อยเมตฺถ ธมฺมตา.
๑๘. ‘‘ธมฺมตา, เอสา, ภิกฺขเว, ยทา โพธิสตฺโต ตุสิตา กายา จวิตฺวา มาตุกุจฺฉึ โอกฺกมติ. อถ สเทวเก โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย อปฺปมาโณ อุฬาโร โอภาโส ปาตุภวติ อติกฺกมฺเมว เทวานํ เทวานุภาวํ. ยาปิ ตา โลกนฺตริกา อฆา อสํวุตา อนฺธการา อนฺธการติมิสา ¶ , ยตฺถ ปิเม จนฺทิมสูริยา เอวํมหิทฺธิกา เอวํมหานุภาวา อาภาย นานุโภนฺติ, ตตฺถปิ อปฺปมาโณ อุฬาโร โอภาโส ปาตุภวติ อติกฺกมฺเมว เทวานํ เทวานุภาวํ. เยปิ ตตฺถ สตฺตา อุปปนฺนา, เตปิ เตโนภาเสน ¶ อฺมฺํ สฺชานนฺติ – ‘อฺเปิ กิร, โภ, สนฺติ สตฺตา อิธูปปนฺนา’ติ. อยฺจ ทสสหสฺสี โลกธาตุ สงฺกมฺปติ สมฺปกมฺปติ สมฺปเวธติ. อปฺปมาโณ จ อุฬาโร โอภาโส โลเก ปาตุภวติ อติกฺกมฺเมว เทวานํ เทวานุภาวํ. อยเมตฺถ ธมฺมตา.
๑๙. ‘‘ธมฺมตา ¶ เอสา, ภิกฺขเว, ยทา โพธิสตฺโต มาตุกุจฺฉึ โอกฺกนฺโต โหติ, จตฺตาโร นํ เทวปุตฺตา จตุทฺทิสํ [จาตุทฺทิสํ (สฺยา.)] รกฺขาย อุปคจฺฉนฺติ – ‘มา นํ โพธิสตฺตํ วา โพธิสตฺตมาตรํ วา มนุสฺโส วา อมนุสฺโส วา โกจิ วา วิเหเสี’ติ. อยเมตฺถ ธมฺมตา.
๒๐. ‘‘ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, ยทา โพธิสตฺโต มาตุกุจฺฉึ โอกฺกนฺโต โหติ, ปกติยา สีลวตี โพธิสตฺตมาตา โหติ, วิรตา ปาณาติปาตา, วิรตา อทินฺนาทานา, วิรตา กาเมสุมิจฺฉาจารา ¶ , วิรตา มุสาวาทา, วิรตา สุราเมรยมชฺชปฺปมาทฏฺานา. อยเมตฺถ ธมฺมตา.
๒๑. ‘‘ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, ยทา โพธิสตฺโต มาตุกุจฺฉึ โอกฺกนฺโต โหติ, น โพธิสตฺตมาตุ ปุริเสสุ มานสํ อุปฺปชฺชติ กามคุณูปสํหิตํ, อนติกฺกมนียา จ โพธิสตฺตมาตา โหติ เกนจิ ปุริเสน รตฺตจิตฺเตน. อยเมตฺถ ธมฺมตา.
๒๒. ‘‘ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, ยทา โพธิสตฺโต มาตุกุจฺฉึ โอกฺกนฺโต ¶ โหติ, ลาภินี โพธิสตฺตมาตา โหติ ปฺจนฺนํ กามคุณานํ. สา ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิตา สมงฺคีภูตา ปริจาเรติ. อยเมตฺถ ธมฺมตา.
๒๓. ‘‘ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, ยทา โพธิสตฺโต มาตุกุจฺฉึ โอกฺกนฺโต โหติ, น โพธิสตฺตมาตุ โกจิเทว อาพาโธ อุปฺปชฺชติ. สุขินี โพธิสตฺตมาตา โหติ อกิลนฺตกายา, โพธิสตฺตฺจ โพธิสตฺตมาตา ติโรกุจฺฉิคตํ ปสฺสติ สพฺพงฺคปจฺจงฺคึ อหีนินฺทฺริยํ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, มณิ เวฬุริโย สุโภ ชาติมา อฏฺํโส สุปริกมฺมกโต อจฺโฉ วิปฺปสนฺโน อนาวิโล สพฺพาการสมฺปนฺโน. ตตฺราสฺส [ตตฺรสฺส (สฺยา.)] สุตฺตํ อาวุตํ นีลํ วา ปีตํ วา โลหิตํ วา โอทาตํ วา ปณฺฑุสุตฺตํ วา. ตเมนํ จกฺขุมา ปุริโส หตฺเถ กริตฺวา ปจฺจเวกฺเขยฺย – ‘อยํ โข มณิ เวฬุริโย สุโภ ชาติมา อฏฺํโส สุปริกมฺมกโต อจฺโฉ วิปฺปสนฺโน อนาวิโล สพฺพาการสมฺปนฺโน. ตตฺริทํ สุตฺตํ อาวุตํ นีลํ วา ปีตํ วา โลหิตํ วา โอทาตํ วา ปณฺฑุสุตฺตํ วา’ติ. เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ยทา โพธิสตฺโต ¶ มาตุกุจฺฉึ โอกฺกนฺโต โหติ, น โพธิสตฺตมาตุ โกจิเทว อาพาโธ อุปฺปชฺชติ, สุขินี โพธิสตฺตมาตา โหติ อกิลนฺตกายา ¶ , โพธิสตฺตฺจ ¶ โพธิสตฺตมาตา ติโรกุจฺฉิคตํ ปสฺสติ สพฺพงฺคปจฺจงฺคึ อหีนินฺทฺริยํ. อยเมตฺถ ธมฺมตา.
๒๔. ‘‘ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, สตฺตาหชาเต โพธิสตฺเต โพธิสตฺตมาตา กาลงฺกโรติ ตุสิตํ กายํ อุปปชฺชติ. อยเมตฺถ ธมฺมตา.
๒๕. ‘‘ธมฺมตา ¶ เอสา, ภิกฺขเว, ยถา อฺา อิตฺถิกา นว วา ทส วา มาเส คพฺภํ กุจฺฉินา ปริหริตฺวา วิชายนฺติ, น เหวํ โพธิสตฺตํ โพธิสตฺตมาตา วิชายติ. ทเสว มาสานิ โพธิสตฺตํ โพธิสตฺตมาตา กุจฺฉินา ปริหริตฺวา วิชายติ. อยเมตฺถ ธมฺมตา.
๒๖. ‘‘ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, ยถา อฺา อิตฺถิกา นิสินฺนา วา นิปนฺนา วา วิชายนฺติ, น เหวํ โพธิสตฺตํ โพธิสตฺตมาตา วิชายติ. ิตาว โพธิสตฺตํ โพธิสตฺตมาตา วิชายติ. อยเมตฺถ ธมฺมตา.
๒๗. ‘‘ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, ยทา โพธิสตฺโต มาตุกุจฺฉิมฺหา นิกฺขมติ, เทวา ปมํ ปฏิคฺคณฺหนฺติ, ปจฺฉา มนุสฺสา. อยเมตฺถ ธมฺมตา.
๒๘. ‘‘ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, ยทา โพธิสตฺโต มาตุกุจฺฉิมฺหา นิกฺขมติ, อปฺปตฺโตว โพธิสตฺโต ปถวึ โหติ, จตฺตาโร นํ เทวปุตฺตา ปฏิคฺคเหตฺวา มาตุ ปุรโต เปนฺติ – ‘อตฺตมนา, เทวิ, โหหิ; มเหสกฺโข เต ปุตฺโต อุปฺปนฺโน’ติ. อยเมตฺถ ธมฺมตา.
๒๙. ‘‘ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, ยทา โพธิสตฺโต มาตุกุจฺฉิมฺหา นิกฺขมติ, วิสโทว นิกฺขมติ อมกฺขิโต อุเทน [อุทฺเทน (สฺยา.), อุทเรน (กตฺถจิ)] อมกฺขิโต เสมฺเหน อมกฺขิโต รุหิเรน อมกฺขิโต เกนจิ อสุจินา สุทฺโธ [วิสุทฺโธ (สฺยา.)] วิสโท. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, มณิรตนํ กาสิเก วตฺเถ นิกฺขิตฺตํ เนว มณิรตนํ กาสิกํ วตฺถํ มกฺเขติ, นาปิ กาสิกํ วตฺถํ มณิรตนํ มกฺเขติ. ตํ กิสฺส ¶ เหตุ? อุภินฺนํ สุทฺธตฺตา. เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ยทา โพธิสตฺโต มาตุกุจฺฉิมฺหา นิกฺขมติ, วิสโทว นิกฺขมติ อมกฺขิโต, อุเทน อมกฺขิโต ¶ เสมฺเหน ¶ อมกฺขิโต รุหิเรน อมกฺขิโต เกนจิ อสุจินา สุทฺโธ วิสโท. อยเมตฺถ ธมฺมตา.
๓๐. ‘‘ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, ยทา โพธิสตฺโต มาตุกุจฺฉิมฺหา นิกฺขมติ, ทฺเว อุทกสฺส ¶ ธารา อนฺตลิกฺขา ปาตุภวนฺติ – เอกา สีตสฺส เอกา อุณฺหสฺส เยน โพธิสตฺตสฺส อุทกกิจฺจํ กโรนฺติ มาตุ จ. อยเมตฺถ ธมฺมตา.
๓๑. ‘‘ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, สมฺปติชาโต โพธิสตฺโต สเมหิ ปาเทหิ ปติฏฺหิตฺวา อุตฺตราภิมุโข [อุตฺตเรนาภิมุโข (สฺยา.) อุตฺตเรนมุโข (ก.)] สตฺตปทวีติหาเรน คจฺฉติ เสตมฺหิ ฉตฺเต อนุธาริยมาเน, สพฺพา จ ทิสา อนุวิโลเกติ, อาสภึ วาจํ ภาสติ ‘อคฺโคหมสฺมิ โลกสฺส, เชฏฺโหมสฺมิ โลกสฺส, เสฏฺโหมสฺมิ โลกสฺส, อยมนฺติมา ชาติ, นตฺถิทานิ ปุนพฺภโว’ติ. อยเมตฺถ ธมฺมตา.
๓๒. ‘‘ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, ยทา โพธิสตฺโต มาตุกุจฺฉิมฺหา นิกฺขมติ, อถ สเทวเก โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย อปฺปมาโณ อุฬาโร โอภาโส ¶ ปาตุภวติ, อติกฺกมฺเมว เทวานํ เทวานุภาวํ. ยาปิ ตา โลกนฺตริกา อฆา อสํวุตา อนฺธการา อนฺธการติมิสา, ยตฺถ ปิเม จนฺทิมสูริยา เอวํมหิทฺธิกา เอวํมหานุภาวา อาภาย นานุโภนฺติ, ตตฺถปิ อปฺปมาโณ อุฬาโร โอภาโส ปาตุภวติ อติกฺกมฺเมว เทวานํ เทวานุภาวํ. เยปิ ตตฺถ สตฺตา อุปปนฺนา, เตปิ เตโนภาเสน อฺมฺํ สฺชานนฺติ – ‘อฺเปิ กิร, โภ, สนฺติ สตฺตา อิธูปปนฺนา’ติ. อยฺจ ทสสหสฺสี โลกธาตุ สงฺกมฺปติ สมฺปกมฺปติ สมฺปเวธติ อปฺปมาโณ จ อุฬาโร โอภาโส โลเก ปาตุภวติ อติกฺกมฺเมว เทวานํ เทวานุภาวํ. อยเมตฺถ ธมฺมตา.
ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขณา
๓๓. ‘‘ชาเต ¶ โข ปน, ภิกฺขเว, วิปสฺสิมฺหิ กุมาเร พนฺธุมโต รฺโ ปฏิเวเทสุํ – ‘ปุตฺโต เต, เทว [เทว เต (ก.)], ชาโต, ตํ เทโว ปสฺสตู’ติ. อทฺทสา โข, ภิกฺขเว, พนฺธุมา ราชา วิปสฺสึ กุมารํ, ทิสฺวา เนมิตฺเต พฺราหฺมเณ ¶ อามนฺตาเปตฺวา เอตทโวจ – ‘ปสฺสนฺตุ โภนฺโต เนมิตฺตา พฺราหฺมณา กุมาร’นฺติ. อทฺทสํสุ โข, ภิกฺขเว, เนมิตฺตา พฺราหฺมณา วิปสฺสึ กุมารํ, ทิสฺวา พนฺธุมนฺตํ ราชานํ เอตทโวจุํ – ‘อตฺตมโน, เทว, โหหิ, มเหสกฺโข เต ปุตฺโต อุปฺปนฺโน, ลาภา เต, มหาราช, สุลทฺธํ เต, มหาราช, ยสฺส เต กุเล เอวรูโป ปุตฺโต อุปฺปนฺโน. อยฺหิ, เทว, กุมาโร ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขเณหิ สมนฺนาคโต, เยหิ สมนฺนาคตสฺส มหาปุริสสฺส ทฺเวว คติโย ภวนฺติ อนฺา. สเจ อคารํ อชฺฌาวสติ, ราชา โหติ จกฺกวตฺตี ธมฺมิโก ธมฺมราชา จาตุรนฺโต วิชิตาวี ชนปทตฺถาวริยปฺปตฺโต สตฺตรตนสมนฺนาคโต. ตสฺสิมานิ สตฺตรตนานิ ภวนฺติ. เสยฺยถิทํ – จกฺกรตนํ หตฺถิรตนํ อสฺสรตนํ มณิรตนํ อิตฺถิรตนํ คหปติรตนํ ปริณายกรตนเมว ¶ ¶ สตฺตมํ. ปโรสหสฺสํ โข ปนสฺส ปุตฺตา ภวนฺติ สูรา วีรงฺครูปา ปรเสนปฺปมทฺทนา. โส อิมํ ปถวึ สาครปริยนฺตํ อทณฺเฑน อสตฺเถน ธมฺเมน อภิวิชิย อชฺฌาวสติ. สเจ โข ปน อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ, อรหํ โหติ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โลเก วิวฏจฺฉโท.
๓๔. ‘กตเมหิ จายํ, เทว, กุมาโร ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขเณหิ สมนฺนาคโต, เยหิ สมนฺนาคตสฺส มหาปุริสสฺส ทฺเวว คติโย ภวนฺติ อนฺา. สเจ อคารํ อชฺฌาวสติ, ราชา โหติ จกฺกวตฺตี ธมฺมิโก ธมฺมราชา จาตุรนฺโต วิชิตาปี ชนปทตฺถาวริยปฺปตฺโต สตฺตรตนสมนฺนาคโต. ตสฺสิมานิ สตฺตรตนานิ ภวนฺติ ¶ . เสยฺยถิทํ – จกฺกรตนํ หตฺถิรตนํ อสฺสรตนํ มณิรตนํ อิตฺถิรตนํ คหปติรตนํ ปริณายกรตนเมว สตฺตมํ. ปโรสหสฺสํ โข ปนสฺส ปุตฺตา ภวนฺติ สูรา วีรงฺครูปา ปรเสนปฺปมทฺทนา. โส อิมํ ปถวึ สาครปริยนฺตํ อทณฺเฑน อสตฺเถน ธมฺเมน อภิวิชิย อชฺฌาวสติ. สเจ โข ปน อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ, อรหํ โหติ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โลเก วิวฏจฺฉโท.
๓๕. ‘อยฺหิ, เทว, กุมาโร สุปฺปติฏฺิตปาโท. ยํ ปายํ, เทว, กุมาโร สุปฺปติฏฺิตปาโท. อิทมฺปิสฺส มหาปุริสสฺส มหาปุริสลกฺขณํ ภวติ.
‘อิมสฺส, เทว [อิมสฺส หิ เทว (?)], กุมารสฺส เหฏฺา ปาทตเลสุ จกฺกานิ ชาตานิ สหสฺสารานิ สเนมิกานิ สนาภิกานิ สพฺพาการปริปูรานิ. ยมฺปิ, อิมสฺส ¶ เทว, กุมารสฺส เหฏฺา ปาทตเลสุ จกฺกานิ ชาตานิ สหสฺสารานิ สเนมิกานิ สนาภิกานิ สพฺพาการปริปูรานิ, อิทมฺปิสฺส มหาปุริสสฺส มหาปุริสลกฺขณํ ภวติ.
‘อยฺหิ ¶ เทว, กุมาโร อายตปณฺหี…เป…
‘อยฺหิ, เทว, กุมาโร ทีฆงฺคุลี…
‘อยฺหิ, เทว, กุมาโร มุทุตลุนหตฺถปาโท…
‘อยฺหิ, เทว กุมาโร ชาลหตฺถปาโท…
‘อยฺหิ, เทว, กุมาโร อุสฺสงฺขปาโท…
‘อยฺหิ, เทว, กุมาโร เอณิชงฺโฆ…
‘อยฺหิ, เทว, กุมาโร ิตโกว อโนนมนฺโต อุโภหิ ปาณิตเลหิ ชณฺณุกานิ ปริมสติ [ปรามสติ (ก.)] ปริมชฺชติ…
‘อยฺหิ ¶ , เทว, กุมาโร โกโสหิตวตฺถคุยฺโห…
‘อยฺหิ, เทว, กุมาโร สุวณฺณวณฺโณ กฺจนสนฺนิภตฺตโจ…
‘อยฺหิ, เทว, กุมาโร สุขุมจฺฉวี; สุขุมตฺตา ¶ ฉวิยา รโชชลฺลํ กาเย น อุปลิมฺปติ [อุปลิปฺปติ (สฺยา.)] …
‘อยฺหิ, เทว, กุมาโร เอเกกโลโม; เอเกกานิ โลมานิ โลมกูเปสุ ชาตานิ…
‘อยฺหิ, เทว, กุมาโร อุทฺธคฺคโลโม; อุทฺธคฺคานิ โลมานิ ชาตานิ นีลานิ อฺชนวณฺณานิ กุณฺฑลาวฏฺฏานิ ทกฺขิณาวฏฺฏกชาตานิ…
‘อยฺหิ, เทว, กุมาโร พฺรหฺมุชุคตฺโต…
‘อยฺหิ, เทว, กุมาโร สตฺตุสฺสโท…
‘อยฺหิ ¶ , เทว, กุมาโร สีหปุพฺพทฺธกาโย…
‘อยฺหิ, เทว, กุมาโร จิตนฺตรํโส [ปิตนฺตรํโส (สฺยา.)] …
‘อยฺหิ, เทว, กุมาโร นิคฺโรธปริมณฺฑโล ยาวตกฺวสฺส กาโย ตาวตกฺวสฺส พฺยาโม, ยาวตกฺวสฺส พฺยาโม, ตาวตกฺวสฺส กาโย…
‘อยฺหิ ¶ , เทว, กุมาโร สมวฏฺฏกฺขนฺโธ…
‘อยฺหิ, เทว, กุมาโร รสคฺคสคฺคี…
‘อยฺหิ, เทว, กุมาโร สีหหนุ…
‘อยฺหิ, เทว, กุมาโร จตฺตาลีสทนฺโต…
‘อยฺหิ, เทว, กุมาโร สมทนฺโต…
‘อยฺหิ, เทว, กุมาโร อวิรฬทนฺโต…
‘อยฺหิ, เทว, กุมาโร สุสุกฺกทาโ…
‘อยฺหิ, เทว, กุมาโร ปหูตชิวฺโห…
‘อยฺหิ, เทว, กุมาโร พฺรหฺมสฺสโร กรวีกภาณี…
‘อยฺหิ, เทว, กุมาโร อภินีลเนตฺโต…
‘อยฺหิ, เทว, กุมาโร โคปขุโม…
อิมสฺส, เทว, กุมารสฺส อุณฺณา ภมุกนฺตเร ชาตา โอทาตา มุทุตูลสนฺนิภา. ยมฺปิ อิมสฺส เทว กุมารสฺส อุณฺณา ภมุกนฺตเร ชาตา โอทาตา มุทุตูลสนฺนิภา, อิทมฺปิมสฺส ¶ มหาปุริสสฺส มหาปุริสลกฺขณํ ภวติ.
‘อยฺหิ ¶ ¶ , เทว, กุมาโร อุณฺหีสสีโส. ยํ ปายํ, เทว, กุมาโร อุณฺหีสสีโส, อิทมฺปิสฺส มหาปุริสสฺส มหาปุริสลกฺขณํ ภวติ.
๓๖. ‘อิเมหิ โข อยํ, เทว, กุมาโร ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขเณหิ สมนฺนาคโต, เยหิ สมนฺนาคตสฺส มหาปุริสสฺส ทฺเวว คติโย ภวนฺติ อนฺา. สเจ อคารํ อชฺฌาวสติ, ราชา โหติ จกฺกวตฺตี ธมฺมิโก ธมฺมราชา จาตุรนฺโต วิชิตาวี ชนปทตฺถาวริยปฺปตฺโต สตฺตรตนสมนฺนาคโต. ตสฺสิมานิ สตฺตรตนานิ ภวนฺติ. เสยฺยถิทํ – จกฺกรตนํ หตฺถิรตนํ อสฺสรตนํ มณิรตนํ อิตฺถิรตนํ คหปติรตนํ ปริณายกรตนเมว สตฺตมํ. ปโรสหสฺสํ โข ปนสฺส ปุตฺตา ภวนฺติ สูรา วีรงฺครูปา ปรเสนปฺปมทฺทนา. โส อิมํ ปถวึ สาครปริยนฺตํ อทณฺเฑน อสตฺเถน ธมฺเมน [ธมฺเมน สเมน (สฺยา.)] อภิวิชิย อชฺฌาวสติ. สเจ โข ปน ¶ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ, อรหํ โหติ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โลเก วิวฏจฺฉโท’ติ.
วิปสฺสีสมฺา
๓๗. ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, พนฺธุมา ราชา เนมิตฺเต พฺราหฺมเณ อหเตหิ วตฺเถหิ อจฺฉาทาเปตฺวา [อจฺฉาเทตฺวา (สฺยา.)] สพฺพกาเมหิ สนฺตปฺเปสิ. อถ โข, ภิกฺขเว, พนฺธุมา ราชา วิปสฺสิสฺส กุมารสฺส ธาติโย อุปฏฺาเปสิ. อฺา ขีรํ ปาเยนฺติ, อฺา นฺหาเปนฺติ, อฺา ธาเรนฺติ, อฺา องฺเกน ปริหรนฺติ. ชาตสฺส โข ปน, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส กุมารสฺส เสตจฺฉตฺตํ ธารยิตฺถ ทิวา เจว รตฺติฺจ – ‘มา นํ สีตํ วา ¶ อุณฺหํ วา ติณํ วา รโช วา อุสฺสาโว วา พาธยิตฺถา’ติ. ชาโต โข ปน, ภิกฺขเว, วิปสฺสี กุมาโร พหุโน ชนสฺส ปิโย อโหสิ มนาโป. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อุปฺปลํ วา ¶ ปทุมํ วา ปุณฺฑรีกํ วา พหุโน ชนสฺส ปิยํ มนาปํ; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสี กุมาโร พหุโน ชนสฺส ปิโย อโหสิ มนาโป. สฺวาสฺสุทํ องฺเกเนว องฺกํ ปริหริยติ.
๓๘. ‘‘ชาโต โข ปน, ภิกฺขเว, วิปสฺสี กุมาโร มฺชุสฺสโร จ [กุมาโร พฺรหฺมสฺสโร มฺชุสฺสโร จ (สี. ก.)] อโหสิ วคฺคุสฺสโร จ มธุรสฺสโร จ เปมนิยสฺสโร จ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, หิมวนฺเต ปพฺพเต กรวีกา นาม สกุณชาติ มฺชุสฺสรา จ วคฺคุสฺสรา จ มธุรสฺสรา จ เปมนิยสฺสรา จ; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสี กุมาโร มฺชุสฺสโร จ อโหสิ วคฺคุสฺสโร จ มธุรสฺสโร จ เปมนิยสฺสโร จ.
๓๙. ‘‘ชาตสฺส ¶ โข ปน, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส กุมารสฺส กมฺมวิปากชํ ทิพฺพจกฺขุ ปาตุรโหสิ เยน สุทํ [เยน ทูรํ (สฺยา.)] สมนฺตา โยชนํ ปสฺสติ ทิวา เจว รตฺติฺจ.
๔๐. ‘‘ชาโต โข ปน, ภิกฺขเว, วิปสฺสี กุมาโร อนิมิสนฺโต เปกฺขติ เสยฺยถาปิ เทวา ตาวตึสา. ‘อนิมิสนฺโต กุมาโร เปกฺขตี’ติ โข, ภิกฺขเว [อนิมิสนฺโต เปกฺขติ, ชาตสฺส โข ปน ภิกฺขเว (ก.)], วิปสฺสิสฺส กุมารสฺส ‘วิปสฺสี วิปสฺสี’ ตฺเวว สมฺา อุทปาทิ.
๔๑. ‘‘อถ ¶ โข, ภิกฺขเว, พนฺธุมา ราชา อตฺถกรเณ [อฏฺฏ กรเณ (สฺยา.)] นิสินฺโน วิปสฺสึ กุมารํ องฺเก นิสีทาเปตฺวา อตฺเถ อนุสาสติ ¶ . ตตฺร สุทํ, ภิกฺขเว, วิปสฺสี กุมาโร ปิตุองฺเก นิสินฺโน วิเจยฺย ¶ วิเจยฺย อตฺเถ ปนายติ าเยน [อฏฺเฏ ปนายติ าเณน (สฺยา.)]. วิเจยฺย วิเจยฺย กุมาโร อตฺเถ ปนายติ าเยนาติ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส กุมารสฺส ภิยฺโยโสมตฺตาย ‘วิปสฺสี วิปสฺสี’ ตฺเวว สมฺา อุทปาทิ.
๔๒. ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, พนฺธุมา ราชา วิปสฺสิสฺส กุมารสฺส ตโย ปาสาเท การาเปสิ, เอกํ วสฺสิกํ เอกํ เหมนฺติกํ เอกํ คิมฺหิกํ; ปฺจ กามคุณานิ อุปฏฺาเปสิ. ตตฺร สุทํ, ภิกฺขเว, วิปสฺสี กุมาโร วสฺสิเก ปาสาเท จตฺตาโร มาเส [วสฺสิเก ปาสาเท วสฺสิเก] นิปฺปุริเสหิ ตูริเยหิ ปริจารยมาโน น เหฏฺาปาสาทํ โอโรหตี’’ติ.
ปมภาณวาโร.
ชิณฺณปุริโส
๔๓. ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสี กุมาโร พหูนํ วสฺสานํ พหูนํ วสฺสสตานํ พหูนํ วสฺสสหสฺสานํ อจฺจเยน สารถึ อามนฺเตสิ – ‘โยเชหิ, สมฺม สารถิ, ภทฺทานิ ภทฺทานิ ยานานิ อุยฺยานภูมึ คจฺฉาม สุภูมิทสฺสนายา’ติ. ‘เอวํ, เทวา’ติ โข, ภิกฺขเว, สารถิ วิปสฺสิสฺส กุมารสฺส ปฏิสฺสุตฺวา ภทฺทานิ ภทฺทานิ ยานานิ โยเชตฺวา วิปสฺสิสฺส กุมารสฺส ปฏิเวเทสิ – ‘ยุตฺตานิ โข เต, เทว, ภทฺทานิ ภทฺทานิ ยานานิ, ยสฺส ทานิ กาลํ มฺสี’ติ ¶ . อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสี กุมาโร ภทฺทํ ภทฺทํ ยานํ [ภทฺรํ ยานํ (สฺยา.), ภทฺทํ ยานํ (ปี.) จตฺตาโร มาเส (สี. ปี.)] อภิรุหิตฺวา ภทฺเทหิ ภทฺเทหิ ยาเนหิ อุยฺยานภูมึ นิยฺยาสิ.
๔๔. ‘‘อทฺทสา โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสี กุมาโร อุยฺยานภูมึ ¶ นิยฺยนฺโต ปุริสํ ชิณฺณํ โคปานสิวงฺกํ โภคฺคํ [ภคฺคํ (สฺยา.)] ทณฺฑปรายนํ ปเวธมานํ คจฺฉนฺตํ อาตุรํ ¶ คตโยพฺพนํ. ทิสฺวา สารถึ อามนฺเตสิ – ‘อยํ ปน, สมฺม สารถิ, ปุริโส กึกโต? เกสาปิสฺส น ยถา อฺเสํ, กาโยปิสฺส ¶ น ยถา อฺเส’นฺติ. ‘เอโส โข, เทว, ชิณฺโณ นามา’ติ. ‘กึ ปเนโส, สมฺม สารถิ, ชิณฺโณ นามา’ติ? ‘เอโส โข, เทว, ชิณฺโณ นาม. น ทานิ เตน จิรํ ชีวิตพฺพํ ภวิสฺสตี’ติ. ‘กึ ปน, สมฺม สารถิ, อหมฺปิ ชราธมฺโม, ชรํ อนตีโต’ติ? ‘ตฺวฺจ, เทว, มยฺจมฺห สพฺเพ ชราธมฺมา, ชรํ อนตีตา’ติ. ‘เตน หิ, สมฺม สารถิ, อลํ ทานชฺช อุยฺยานภูมิยา. อิโตว อนฺเตปุรํ ปจฺจนิยฺยาหี’ติ. ‘เอวํ, เทวา’ติ โข, ภิกฺขเว, สารถิ วิปสฺสิสฺส กุมารสฺส ปฏิสฺสุตฺวา ตโตว อนฺเตปุรํ ปจฺจนิยฺยาสิ. ตตฺร สุทํ, ภิกฺขเว, วิปสฺสี กุมาโร อนฺเตปุรํ คโต ทุกฺขี ทุมฺมโน ปชฺฌายติ – ‘ธิรตฺถุ กิร, โภ, ชาติ นาม, ยตฺร หิ นาม ชาตสฺส ชรา ปฺายิสฺสตี’ติ!
๔๕. ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, พนฺธุมา ราชา สารถึ อามนฺตาเปตฺวา เอตทโวจ – ‘กจฺจิ, สมฺม สารถิ, กุมาโร อุยฺยานภูมิยา อภิรมิตฺถ? กจฺจิ, สมฺม สารถิ, กุมาโร อุยฺยานภูมิยา อตฺตมโน อโหสี’ติ? ‘น โข, เทว, กุมาโร อุยฺยานภูมิยา อภิรมิตฺถ, น โข, เทว, กุมาโร อุยฺยานภูมิยา อตฺตมโน อโหสี’ติ. ‘กึ ปน, สมฺม สารถิ, อทฺทส กุมาโร อุยฺยานภูมึ นิยฺยนฺโต’ติ? ‘อทฺทสา ¶ โข, เทว, กุมาโร อุยฺยานภูมึ นิยฺยนฺโต ปุริสํ ชิณฺณํ โคปานสิวงฺกํ โภคฺคํ ทณฺฑปรายนํ ปเวธมานํ คจฺฉนฺตํ อาตุรํ คตโยพฺพนํ. ทิสฺวา มํ เอตทโวจ – ‘‘อยํ ปน, สมฺม สารถิ, ปุริโส กึกโต, เกสาปิสฺส น ยถา อฺเสํ, กาโยปิสฺส ¶ น ยถา อฺเส’’นฺติ? ‘‘เอโส โข, เทว, ชิณฺโณ นามา’’ติ. ‘‘กึ ปเนโส, สมฺม สารถิ, ชิณฺโณ นามา’’ติ? ‘‘เอโส โข, เทว, ชิณฺโณ นาม น ทานิ เตน จิรํ ชีวิตพฺพํ ภวิสฺสตี’’ติ. ‘‘กึ ปน, สมฺม สารถิ, อหมฺปิ ชราธมฺโม, ชรํ อนตีโต’’ติ? ‘‘ตฺวฺจ, เทว, มยฺจมฺห สพฺเพ ชราธมฺมา, ชรํ อนตีตา’’ติ.
‘‘‘เตน หิ, สมฺม สารถิ, อลํ ทานชฺช อุยฺยานภูมิยา, อิโตว อนฺเตปุรํ ปจฺจนิยฺยาหี’’’ติ. ‘‘เอวํ, เทวา’’ติ โข อหํ, เทว, วิปสฺสิสฺส กุมารสฺส ปฏิสฺสุตฺวา ตโตว ¶ อนฺเตปุรํ ปจฺจนิยฺยาสึ. โส โข, เทว, กุมาโร อนฺเตปุรํ คโต ทุกฺขี ทุมฺมโน ปชฺฌายติ – ‘‘ธิรตฺถุ กิร โภ ชาติ นาม, ยตฺร หิ นาม ชาตสฺส ชรา ปฺายิสฺสตี’’’ติ.
พฺยาธิตปุริโส
๔๖. ‘‘อถ ¶ โข, ภิกฺขเว, พนฺธุมสฺส รฺโ เอตทโหสิ –
‘มา เหว โข วิปสฺสี กุมาโร น รชฺชํ กาเรสิ, มา เหว วิปสฺสี กุมาโร อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิ, มา เหว เนมิตฺตานํ พฺราหฺมณานํ สจฺจํ อสฺส วจน’นฺติ. อถ โข, ภิกฺขเว, พนฺธุมา ราชา วิปสฺสิสฺส กุมารสฺส ภิยฺโยโสมตฺตาย ปฺจ กามคุณานิ อุปฏฺาเปสิ – ‘ยถา วิปสฺสี กุมาโร รชฺชํ กเรยฺย, ยถา วิปสฺสี กุมาโร น อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพเชยฺย, ยถา เนมิตฺตานํ พฺราหฺมณานํ มิจฺฉา อสฺส วจน’นฺติ.
‘‘ตตฺร สุทํ, ภิกฺขเว, วิปสฺสี กุมาโร ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิโต สมงฺคีภูโต ปริจาเรติ. อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสี กุมาโร พหูนํ วสฺสานํ…เป…
๔๗. ‘‘อทฺทสา ¶ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสี กุมาโร อุยฺยานภูมึ นิยฺยนฺโต ปุริสํ อาพาธิกํ ¶ ทุกฺขิตํ พาฬฺหคิลานํ สเก มุตฺตกรีเส ปลิปนฺนํ เสมานํ [สยมานํ (สฺยา. ก.)] อฺเหิ วุฏฺาปิยมานํ อฺเหิ สํเวสิยมานํ. ทิสฺวา สารถึ อามนฺเตสิ – ‘อยํ ปน, สมฺม สารถิ, ปุริโส กึกโต? อกฺขีนิปิสฺส น ยถา อฺเสํ, สโรปิสฺส [สิโรปิสฺส (สฺยา.)] น ยถา อฺเส’นฺติ? ‘เอโส โข, เทว, พฺยาธิโต นามา’ติ. ‘กึ ปเนโส, สมฺม สารถิ, พฺยาธิโต นามา’ติ? ‘เอโส โข, เทว, พฺยาธิโต นาม อปฺเปว นาม ตมฺหา อาพาธา วุฏฺเหยฺยา’ติ. ‘กึ ปน, สมฺม สารถิ, อหมฺปิ พฺยาธิธมฺโม, พฺยาธึ อนตีโต’ติ? ‘ตฺวฺจ, เทว, มยฺจมฺห สพฺเพ พฺยาธิธมฺมา, พฺยาธึ อนตีตา’ติ. ‘เตน หิ, สมฺม สารถิ, อลํ ทานชฺช อุยฺยานภูมิยา, อิโตว อนฺเตปุรํ ปจฺจนิยฺยาหี’ติ. ‘เอวํ เทวา’ติ โข, ภิกฺขเว, สารถิ วิปสฺสิสฺส กุมารสฺส ปฏิสฺสุตฺวา ตโตว อนฺเตปุรํ ปจฺจนิยฺยาสิ. ตตฺร สุทํ, ภิกฺขเว, วิปสฺสี กุมาโร อนฺเตปุรํ คโต ทุกฺขี ทุมฺมโน ปชฺฌายติ – ‘ธิรตฺถุ กิร โภ ชาติ นาม, ยตฺร หิ นาม ชาตสฺส ชรา ปฺายิสฺสติ, พฺยาธิ ปฺายิสฺสตี’ติ.
๔๘. ‘‘อถ ¶ โข, ภิกฺขเว, พนฺธุมา ราชา สารถึ อามนฺตาเปตฺวา เอตทโวจ – ‘กจฺจิ, สมฺม สารถิ, กุมาโร อุยฺยานภูมิยา อภิรมิตฺถ, กจฺจิ, สมฺม ¶ สารถิ, กุมาโร อุยฺยานภูมิยา อตฺตมโน อโหสี’ติ? ‘น โข, เทว, กุมาโร อุยฺยานภูมิยา อภิรมิตฺถ, น โข, เทว, กุมาโร อุยฺยานภูมิยา อตฺตมโน อโหสี’ติ. ‘กึ ปน, สมฺม สารถิ, อทฺทส กุมาโร ¶ อุยฺยานภูมึ นิยฺยนฺโต’ติ? ‘อทฺทสา โข, เทว, กุมาโร อุยฺยานภูมึ นิยฺยนฺโต ปุริสํ อาพาธิกํ ทุกฺขิตํ พาฬฺหคิลานํ สเก มุตฺตกรีเส ¶ ปลิปนฺนํ เสมานํ อฺเหิ วุฏฺาปิยมานํ อฺเหิ สํเวสิยมานํ. ทิสฺวา มํ เอตทโวจ – ‘‘อยํ ปน, สมฺม สารถิ, ปุริโส กึกโต, อกฺขีนิปิสฺส น ยถา อฺเสํ, สโรปิสฺส น ยถา อฺเส’’นฺติ? ‘‘เอโส โข, เทว, พฺยาธิโต นามา’’ติ. ‘‘กึ ปเนโส, สมฺม สารถิ, พฺยาธิโต นามา’’ติ? ‘‘เอโส โข, เทว, พฺยาธิโต นาม อปฺเปว นาม ตมฺหา อาพาธา วุฏฺเหยฺยา’’ติ. ‘‘กึ ปน, สมฺม สารถิ, อหมฺปิ พฺยาธิธมฺโม, พฺยาธึ อนตีโต’’ติ? ‘‘ตฺวฺจ, เทว, มยฺจมฺห สพฺเพ พฺยาธิธมฺมา, พฺยาธึ อนตีตา’’ติ. ‘‘เตน หิ, สมฺม สารถิ, อลํ ทานชฺช อุยฺยานภูมิยา, อิโตว อนฺเตปุรํ ปจฺจนิยฺยาหี’’ติ. ‘‘เอวํ, เทวา’’ติ โข อหํ, เทว, วิปสฺสิสฺส กุมารสฺส ปฏิสฺสุตฺวา ตโตว อนฺเตปุรํ ปจฺจนิยฺยาสึ. โส โข, เทว, กุมาโร อนฺเตปุรํ คโต ทุกฺขี ทุมฺมโน ปชฺฌายติ – ‘‘‘ธิรตฺถุ กิร โภ ชาติ นาม, ยตฺร หิ นาม ชาตสฺส ชรา ปฺายิสฺสติ, พฺยาธิ ปฺายิสฺสตี’’’ติ.
กาลงฺกตปุริโส
๔๙. ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, พนฺธุมสฺส รฺโ เอตทโหสิ – ‘มา เหว โข วิปสฺสี กุมาโร น รชฺชํ กาเรสิ, มา เหว วิปสฺสี กุมาโร อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิ, มา เหว เนมิตฺตานํ พฺราหฺมณานํ สจฺจํ อสฺส วจน’นฺติ. อถ โข, ภิกฺขเว, พนฺธุมา ราชา วิปสฺสิสฺส กุมารสฺส ภิยฺโยโสมตฺตาย ปฺจ กามคุณานิ อุปฏฺาเปสิ – ‘ยถา วิปสฺสี ¶ กุมาโร รชฺชํ กเรยฺย, ยถา วิปสฺสี กุมาโร น อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพเชยฺย, ยถา เนมิตฺตานํ พฺราหฺมณานํ มิจฺฉา อสฺส วจน’นฺติ.
‘‘ตตฺร สุทํ, ภิกฺขเว, วิปสฺสี กุมาโร ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิโต สมงฺคีภูโต ปริจาเรติ. อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสี กุมาโร พหูนํ วสฺสานํ…เป…
๕๐. ‘‘อทฺทสา ¶ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสี กุมาโร อุยฺยานภูมึ นิยฺยนฺโต มหาชนกายํ สนฺนิปติตํ ¶ นานารตฺตานฺจ ทุสฺสานํ วิลาตํ กยิรมานํ. ทิสฺวา สารถึ อามนฺเตสิ – ‘กึ นุ โข, โส, สมฺม สารถิ, มหาชนกาโย สนฺนิปติโต นานารตฺตานฺจ ทุสฺสานํ วิลาตํ กยิรตี’ติ? ‘เอโส ¶ โข, เทว, กาลงฺกโต นามา’ติ. ‘เตน หิ, สมฺม สารถิ, เยน โส กาลงฺกโต เตน รถํ เปเสหี’ติ. ‘เอวํ, เทวา’ติ โข, ภิกฺขเว, สารถิ วิปสฺสิสฺส กุมารสฺส ปฏิสฺสุตฺวา เยน โส กาลงฺกโต เตน รถํ เปเสสิ. อทฺทสา โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสี กุมาโร เปตํ กาลงฺกตํ, ทิสฺวา สารถึ อามนฺเตสิ – ‘กึ ปนายํ, สมฺม สารถิ, กาลงฺกโต นามา’ติ? ‘เอโส โข, เทว, กาลงฺกโต นาม. น ทานิ ตํ ทกฺขนฺติ มาตา วา ปิตา วา อฺเ วา าติสาโลหิตา, โสปิ น ทกฺขิสฺสติ มาตรํ วา ปิตรํ วา อฺเ วา าติสาโลหิเต’ติ. ‘กึ ปน, สมฺม สารถิ, อหมฺปิ มรณธมฺโม มรณํ อนตีโต; มมฺปิ น ทกฺขนฺติ เทโว วา เทวี วา อฺเ วา าติสาโลหิตา; อหมฺปิ น ทกฺขิสฺสามิ เทวํ วา เทวึ วา อฺเ วา าติสาโลหิเต’ติ? ‘ตฺวฺจ, เทว, มยฺจมฺห สพฺเพ มรณธมฺมา มรณํ อนตีตา; ตมฺปิ น ทกฺขนฺติ เทโว วา เทวี วา อฺเ ¶ วา าติสาโลหิตา; ตฺวมฺปิ น ทกฺขิสฺสสิ เทวํ วา เทวึ วา อฺเ วา าติสาโลหิเต’ติ. ‘เตน หิ, สมฺม สารถิ, อลํ ทานชฺช อุยฺยานภูมิยา, อิโตว อนฺเตปุรํ ปจฺจนิยฺยาหี’ติ. ‘เอวํ, เทวา’ติ โข, ภิกฺขเว, สารถิ วิปสฺสิสฺส กุมารสฺส ปฏิสฺสุตฺวา ตโตว อนฺเตปุรํ ปจฺจนิยฺยาสิ. ตตฺร สุทํ, ภิกฺขเว, วิปสฺสี กุมาโร อนฺเตปุรํ คโต ทุกฺขี ทุมฺมโน ปชฺฌายติ – ‘ธิรตฺถุ กิร, โภ, ชาติ นาม, ยตฺร หิ นาม ชาตสฺส ชรา ปฺายิสฺสติ, พฺยาธิ ปฺายิสฺสติ, มรณํ ปฺายิสฺสตี’ติ.
๕๑. ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, พนฺธุมา ราชา สารถึ อามนฺตาเปตฺวา เอตทโวจ – ‘กจฺจิ, สมฺม สารถิ, กุมาโร อุยฺยานภูมิยา อภิรมิตฺถ, กจฺจิ, สมฺม สารถิ, กุมาโร อุยฺยานภูมิยา อตฺตมโน อโหสี’ติ? ‘น ¶ โข, เทว, กุมาโร อุยฺยานภูมิยา อภิรมิตฺถ, น โข, เทว, กุมาโร อุยฺยานภูมิยา อตฺตมโน อโหสี’ติ. ‘กึ ปน, สมฺม สารถิ, อทฺทส กุมาโร อุยฺยานภูมึ นิยฺยนฺโต’ติ? ‘อทฺทสา โข, เทว, กุมาโร อุยฺยานภูมึ นิยฺยนฺโต มหาชนกายํ สนฺนิปติตํ นานารตฺตานฺจ ทุสฺสานํ วิลาตํ กยิรมานํ. ทิสฺวา มํ เอตทโวจ – ‘‘กึ นุ โข, โส ¶ , สมฺม สารถิ, มหาชนกาโย สนฺนิปติโต นานารตฺตานฺจ ทุสฺสานํ วิลาตํ กยิรตี’’ติ? ‘‘เอโส โข, เทว, กาลงฺกโต นามา’’ติ. ‘‘เตน หิ, สมฺม สารถิ, เยน โส กาลงฺกโต เตน รถํ เปเสหี’’ติ. ‘‘เอวํ เทวา’’ติ โข อหํ, เทว, วิปสฺสิสฺส กุมารสฺส ปฏิสฺสุตฺวา เยน โส ¶ กาลงฺกโต เตน รถํ เปเสสึ. อทฺทสา โข, เทว, กุมาโร เปตํ กาลงฺกตํ, ทิสฺวา มํ เอตทโวจ – ‘‘กึ ปนายํ, สมฺม สารถิ, กาลงฺกโต นามา’’ติ ¶ ? ‘‘เอโส โข, เทว, กาลงฺกโต นาม. น ทานิ ตํ ทกฺขนฺติ มาตา วา ปิตา วา อฺเ วา าติสาโลหิตา, โสปิ น ทกฺขิสฺสติ มาตรํ วา ปิตรํ วา อฺเ วา าติสาโลหิเต’’ติ. ‘‘กึ ปน, สมฺม สารถิ, อหมฺปิ มรณธมฺโม มรณํ อนตีโต; มมฺปิ น ทกฺขนฺติ เทโว วา เทวี วา อฺเ วา าติสาโลหิตา; อหมฺปิ น ทกฺขิสฺสามิ เทวํ วา เทวึ วา อฺเ วา าติสาโลหิเต’’ติ? ‘‘ตฺวฺจ, เทว, มยฺจมฺห สพฺเพ มรณธมฺมา มรณํ อนตีตา; ตมฺปิ น ทกฺขนฺติ เทโว วา เทวี วา อฺเ วา าติสาโลหิตา, ตฺวมฺปิ น ทกฺขิสฺสสิ เทวํ วา เทวึ วา อฺเ วา าติสาโลหิเต’’ติ. ‘‘เตน หิ, สมฺม สารถิ, อลํ ทานชฺช อุยฺยานภูมิยา, อิโตว อนฺเตปุรํ ปจฺจนิยฺยาหี’ติ. ‘‘‘เอวํ, เทวา’’ติ โข อหํ, เทว, วิปสฺสิสฺส กุมารสฺส ปฏิสฺสุตฺวา ตโตว อนฺเตปุรํ ปจฺจนิยฺยาสึ. โส โข, เทว, กุมาโร อนฺเตปุรํ คโต ทุกฺขี ทุมฺมโน ปชฺฌายติ – ‘‘ธิรตฺถุ กิร โภ ชาติ นาม, ยตฺร หิ นาม ชาตสฺส ชรา ปฺายิสฺสติ, พฺยาธิ ปฺายิสฺสติ, มรณํ ปฺายิสฺสตี’’’ติ.
ปพฺพชิโต
๕๒. ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, พนฺธุมสฺส รฺโ เอตทโหสิ – ‘มา เหว โข วิปสฺสี กุมาโร น รชฺชํ กาเรสิ, มา เหว วิปสฺสี กุมาโร อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิ, มา ¶ เหว เนมิตฺตานํ พฺราหฺมณานํ สจฺจํ อสฺส วจน’นฺติ. อถ ¶ โข, ภิกฺขเว, พนฺธุมา ราชา วิปสฺสิสฺส กุมารสฺส ภิยฺโยโสมตฺตาย ปฺจ กามคุณานิ อุปฏฺาเปสิ – ‘ยถา วิปสฺสี กุมาโร รชฺชํ กเรยฺย, ยถา วิปสฺสี กุมาโร น อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพเชยฺย, ยถา เนมิตฺตานํ พฺราหฺมณานํ มิจฺฉา อสฺส วจน’นฺติ.
‘‘ตตฺร สุทํ, ภิกฺขเว, วิปสฺสี กุมาโร ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิโต สมงฺคีภูโต ปริจาเรติ. อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสี กุมาโร พหูนํ วสฺสานํ ¶ พหูนํ วสฺสสตานํ พหูนํ วสฺสสหสฺสานํ อจฺจเยน สารถึ อามนฺเตสิ – ‘โยเชหิ, สมฺม สารถิ, ภทฺทานิ ภทฺทานิ ยานานิ, อุยฺยานภูมึ คจฺฉาม สุภูมิทสฺสนายา’ติ. ‘เอวํ, เทวา’ติ โข, ภิกฺขเว, สารถิ วิปสฺสิสฺส กุมารสฺส ปฏิสฺสุตฺวา ภทฺทานิ ภทฺทานิ ยานานิ โยเชตฺวา วิปสฺสิสฺส กุมารสฺส ปฏิเวเทสิ – ‘ยุตฺตานิ โข เต, เทว, ภทฺทานิ ภทฺทานิ ยานานิ, ยสฺส ทานิ กาลํ มฺสี’ติ. อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสี กุมาโร ภทฺทํ ภทฺทํ ยานํ อภิรุหิตฺวา ภทฺเทหิ ภทฺเทหิ ยาเนหิ อุยฺยานภูมึ นิยฺยาสิ.
๕๓. ‘‘อทฺทสา ¶ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสี กุมาโร อุยฺยานภูมึ นิยฺยนฺโต ปุริสํ ภณฺฑุํ ปพฺพชิตํ กาสายวสนํ. ทิสฺวา สารถึ อามนฺเตสิ – ‘อยํ ปน, สมฺม สารถิ, ปุริโส กึกโต? สีสํปิสฺส น ยถา อฺเสํ, วตฺถานิปิสฺส น ยถา อฺเส’นฺติ? ‘เอโส โข, เทว, ปพฺพชิโต นามา’ติ. ‘กึ ปเนโส, สมฺม สารถิ, ปพฺพชิโต นามา’ติ? ‘เอโส โข, เทว, ปพฺพชิโต นาม สาธุ ธมฺมจริยา สาธุ สมจริยา [สมฺมจริยา (ก.)] สาธุ กุสลกิริยา [กุสลจริยา (สฺยา.)] สาธุ ปฺุกิริยา สาธุ อวิหึสา สาธุ ภูตานุกมฺปา’ติ. ‘สาธุ โข โส, สมฺม สารถิ, ปพฺพชิโต นาม, สาธุ ¶ ธมฺมจริยา สาธุ สมจริยา สาธุ ¶ กุสลกิริยา สาธุ ปฺุกิริยา สาธุ อวิหึสา สาธุ ภูตานุกมฺปา. เตน หิ, สมฺม สารถิ, เยน โส ปพฺพชิโต เตน รถํ เปเสหี’ติ. ‘เอวํ, เทวา’ติ โข, ภิกฺขเว, สารถิ วิปสฺสิสฺส กุมารสฺส ปฏิสฺสุตฺวา เยน โส ปพฺพชิโต เตน รถํ เปเสสิ. อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสี กุมาโร ตํ ปพฺพชิตํ เอตทโวจ – ‘ตฺวํ ปน, สมฺม, กึกโต, สีสมฺปิ เต น ยถา อฺเสํ, วตฺถานิปิ เต น ยถา อฺเส’นฺติ? ‘อหํ โข, เทว, ปพฺพชิโต นามา’ติ. ‘กึ ปน ตฺวํ, สมฺม, ปพฺพชิโต นามา’ติ? ‘อหํ โข, เทว, ปพฺพชิโต นาม, สาธุ ธมฺมจริยา สาธุ สมจริยา สาธุ กุสลกิริยา สาธุ ปฺุกิริยา สาธุ อวิหึสา สาธุ ภูตานุกมฺปา’ติ. ‘สาธุ โข ตฺวํ, สมฺม, ปพฺพชิโต นาม สาธุ ธมฺมจริยา สาธุ สมจริยา สาธุ กุสลกิริยา สาธุ ปฺุกิริยา สาธุ อวิหึสา สาธุ ภูตานุกมฺปา’ติ.
โพธิสตฺตปพฺพชฺชา
๕๔. ‘‘อถ ¶ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสี กุมาโร สารถึ อามนฺเตสิ – ‘เตน หิ, สมฺม สารถิ, รถํ อาทาย อิโตว อนฺเตปุรํ ปจฺจนิยฺยาหิ. อหํ ปน อิเธว เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิสฺสามี’ติ. ‘เอวํ, เทวา’ติ โข, ภิกฺขเว, สารถิ วิปสฺสิสฺส ¶ กุมารสฺส ปฏิสฺสุตฺวา รถํ อาทาย ตโตว อนฺเตปุรํ ปจฺจนิยฺยาสิ. วิปสฺสี ปน กุมาโร ตตฺเถว เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิ.
มหาชนกายอนุปพฺพชฺชา
๕๕. ‘‘อสฺโสสิ โข, ภิกฺขเว, พนฺธุมติยา ราชธานิยา มหาชนกาโย จตุราสีติ ปาณสหสฺสานิ – ‘วิปสฺสี กิร กุมาโร เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา ¶ ¶ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต’ติ. สุตฺวาน เตสํ เอตทโหสิ – ‘น หิ นูน โส โอรโก ธมฺมวินโย, น สา โอรกา [โอริกา (สี. สฺยา.)] ปพฺพชฺชา, ยตฺถ วิปสฺสี กุมาโร เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต. วิปสฺสีปิ นาม กุมาโร เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิสฺสติ, กิมงฺคํ [กิมงฺค (สี.)] ปน มย’นฺติ.
‘‘อถ โข, โส ภิกฺขเว, มหาชนกาโย [มหาชนกาโย (สฺยา.)] จตุราสีติ ปาณสหสฺสานิ เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา วิปสฺสึ โพธิสตฺตํ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตํ อนุปพฺพชึสุ. ตาย สุทํ, ภิกฺขเว, ปริสาย ปริวุโต วิปสฺสี โพธิสตฺโต คามนิคมชนปทราชธานีสุ จาริกํ จรติ.
๕๖. ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘น โข เมตํ [น โข ปเนตํ (สฺยา.)] ปติรูปํ โยหํ อากิณฺโณ วิหรามิ, ยํนูนาหํ เอโก คณมฺหา วูปกฏฺโ วิหเรยฺย’นฺติ. อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสี โพธิสตฺโต อปเรน สมเยน เอโก ¶ คณมฺหา วูปกฏฺโ วิหาสิ ¶ , อฺเเนว ตานิ จตุราสีติ ปพฺพชิตสหสฺสานิ อคมํสุ, อฺเน มคฺเคน วิปสฺสี โพธิสตฺโต.
โพธิสตฺตอภินิเวโส
๕๗. ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส วาสูปคตสฺส รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘กิจฺฉํ วตายํ โลโก อาปนฺโน, ชายติ จ ชียติ จ มียติ จ [ชิยฺยติ จ มิยฺยติ จ (ก.)] จวติ จ อุปปชฺชติ จ, อถ จ ปนิมสฺส ทุกฺขสฺส ¶ นิสฺสรณํ นปฺปชานาติ ชรามรณสฺส, กุทาสฺสุ นาม อิมสฺส ทุกฺขสฺส นิสฺสรณํ ปฺายิสฺสติ ชรามรณสฺสา’ติ?
‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘กิมฺหิ นุ โข สติ ชรามรณํ โหติ, กึปจฺจยา ชรามรณ’นฺติ? อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส โยนิโส มนสิการา อหุ ปฺาย อภิสมโย – ‘ชาติยา โข สติ ชรามรณํ โหติ, ชาติปจฺจยา ชรามรณ’นฺติ.
‘‘อถ ¶ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘กิมฺหิ นุ โข สติ ชาติ โหติ, กึปจฺจยา ชาตี’ติ? อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส โยนิโส มนสิการา อหุ ปฺาย อภิสมโย – ‘ภเว โข สติ ชาติ โหติ, ภวปจฺจยา ชาตี’ติ.
‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘กิมฺหิ นุ โข สติ ภโว โหติ, กึปจฺจยา ภโว’ติ? อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส โยนิโส มนสิการา อหุ ปฺาย อภิสมโย – ‘อุปาทาเน โข สติ ภโว โหติ, อุปาทานปจฺจยา ภโว’ติ.
‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘กิมฺหิ นุ โข สติ อุปาทานํ โหติ, กึปจฺจยา ¶ อุปาทาน’นฺติ? อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส โยนิโส มนสิการา อหุ ปฺาย อภิสมโย – ‘ตณฺหาย โข สติ อุปาทานํ โหติ, ตณฺหาปจฺจยา อุปาทาน’นฺติ.
‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘กิมฺหิ นุ โข สติ ตณฺหา โหติ, กึปจฺจยา ตณฺหา’ติ? อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส ¶ โพธิสตฺตสฺส โยนิโส มนสิการา อหุ ปฺาย อภิสมโย – ‘เวทนาย โข สติ ตณฺหา โหติ, เวทนาปจฺจยา ตณฺหา’ติ.
‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘กิมฺหิ นุ โข สติ เวทนา โหติ, กึปจฺจยา เวทนา’ติ? อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส ¶ โยนิโส มนสิการา อหุ ปฺาย อภิสมโย – ‘ผสฺเส โข สติ เวทนา โหติ, ผสฺสปจฺจยา เวทนา’ติ.
‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘กิมฺหิ นุ โข สติ ผสฺโส โหติ, กึปจฺจยา ผสฺโส’ติ? อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส โยนิโส มนสิการา อหุ ปฺาย อภิสมโย – ‘สฬายตเน โข สติ ผสฺโส โหติ, สฬายตนปจฺจยา ผสฺโส’ติ.
‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘กิมฺหิ นุ โข สติ สฬายตนํ ¶ โหติ, กึปจฺจยา สฬายตน’นฺติ? อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส โยนิโส มนสิการา อหุ ปฺาย อภิสมโย – ‘นามรูเป โข สติ สฬายตนํ โหติ, นามรูปปจฺจยา สฬายตน’นฺติ.
‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘กิมฺหิ นุ โข สติ นามรูปํ โหติ, กึปจฺจยา นามรูป’นฺติ? อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส ¶ โพธิสตฺตสฺส โยนิโส มนสิการา อหุ ปฺาย อภิสมโย – ‘วิฺาเณ โข สติ นามรูปํ โหติ, วิฺาณปจฺจยา นามรูป’นฺติ.
‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘กิมฺหิ นุ โข สติ วิฺาณํ โหติ, กึปจฺจยา วิฺาณ’นฺติ? อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส โยนิโส มนสิการา อหุ ปฺาย อภิสมโย – ‘นามรูเป โข สติ วิฺาณํ โหติ, นามรูปปจฺจยา วิฺาณ’นฺติ.
๕๘. ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘ปจฺจุทาวตฺตติ โข อิทํ วิฺาณํ นามรูปมฺหา, นาปรํ คจฺฉติ. เอตฺตาวตา ชาเยถ ¶ วา ชิยฺเยถ วา มิยฺเยถ วา จเวถ วา อุปปชฺเชถ วา, ยทิทํ นามรูปปจฺจยา วิฺาณํ, วิฺาณปจฺจยา นามรูปํ, นามรูปปจฺจยา สฬายตนํ, สฬายตนปจฺจยา ผสฺโส, ผสฺสปจฺจยา เวทนา, เวทนาปจฺจยา ตณฺหา ¶ , ตณฺหาปจฺจยา อุปาทานํ, อุปาทานปจฺจยา ภโว, ภวปจฺจยา ชาติ, ชาติปจฺจยา ชรามรณํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา สมฺภวนฺติ. เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส สมุทโย โหติ’.
๕๙. ‘‘‘สมุทโย สมุทโย’ติ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส ปุพฺเพ อนนุสฺสุเตสุ ธมฺเมสุ จกฺขุํ อุทปาทิ, าณํ อุทปาทิ, ปฺา อุทปาทิ, วิชฺชา อุทปาทิ, อาโลโก อุทปาทิ.
๖๐. ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘กิมฺหิ นุ โข อสติ ชรามรณํ น โหติ, กิสฺส นิโรธา ชรามรณนิโรโธ’ติ? อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส โยนิโส มนสิการา อหุ ปฺาย อภิสมโย ¶ – ‘ชาติยา โข อสติ ชรามรณํ น โหติ, ชาตินิโรธา ชรามรณนิโรโธ’ติ.
‘‘อถ ¶ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘กิมฺหิ นุ โข อสติ ชาติ น โหติ, กิสฺส นิโรธา ชาตินิโรโธ’ติ? อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส โยนิโส มนสิการา อหุ ปฺาย อภิสมโย – ‘ภเว โข อสติ ชาติ น โหติ, ภวนิโรธา ชาตินิโรโธ’ติ.
‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘กิมฺหิ นุ โข อสติ ภโว น โหติ, กิสฺส นิโรธา ภวนิโรโธ’ติ? อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส โยนิโส มนสิการา อหุ ปฺาย อภิสมโย – ‘อุปาทาเน โข อสติ ภโว น โหติ, อุปาทานนิโรธา ภวนิโรโธ’ติ.
‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘กิมฺหิ นุ โข อสติ อุปาทานํ น โหติ, กิสฺส นิโรธา อุปาทานนิโรโธ’ติ? อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส โยนิโส มนสิการา อหุ ¶ ปฺาย อภิสมโย – ‘ตณฺหาย โข อสติ อุปาทานํ น โหติ, ตณฺหานิโรธา อุปาทานนิโรโธ’ติ.
‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘กิมฺหิ นุ โข อสติ ตณฺหา น โหติ, กิสฺส นิโรธา ตณฺหานิโรโธ’ติ? อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส โยนิโส มนสิการา อหุ ปฺาย อภิสมโย ¶ – ‘เวทนาย โข อสติ ตณฺหา น โหติ, เวทนานิโรธา ตณฺหานิโรโธ’ติ.
‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘กิมฺหิ นุ โข อสติ เวทนา น โหติ, กิสฺส นิโรธา เวทนานิโรโธ’ติ? อถ ¶ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส โยนิโส มนสิการา อหุ ปฺาย อภิสมโย – ‘ผสฺเส โข อสติ เวทนา น โหติ, ผสฺสนิโรธา เวทนานิโรโธ’ติ.
‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘กิมฺหิ นุ โข อสติ ผสฺโส น โหติ, กิสฺส นิโรธา ผสฺสนิโรโธ’ติ? อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส โยนิโส มนสิการา อหุ ปฺาย อภิสมโย – ‘สฬายตเน โข อสติ ผสฺโส น โหติ, สฬายตนนิโรธา ผสฺสนิโรโธ’ติ.
‘‘อถ ¶ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘กิมฺหิ นุ โข อสติ สฬายตนํ น โหติ, กิสฺส นิโรธา สฬายตนนิโรโธ’ติ? อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส โยนิโส มนสิการา อหุ ปฺาย อภิสมโย – ‘นามรูเป โข อสติ สฬายตนํ น โหติ, นามรูปนิโรธา สฬายตนนิโรโธ’ติ.
‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘กิมฺหิ นุ โข อสติ นามรูปํ น โหติ, กิสฺส นิโรธา นามรูปนิโรโธ’ติ? อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส โยนิโส มนสิการา อหุ ปฺาย อภิสมโย – ‘วิฺาเณ โข อสติ นามรูปํ น โหติ, วิฺาณนิโรธา นามรูปนิโรโธ’ติ.
‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘กิมฺหิ นุ โข อสติ วิฺาณํ น โหติ, กิสฺส นิโรธา วิฺาณนิโรโธ’ติ? อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส โยนิโส มนสิการา อหุ ¶ ปฺาย อภิสมโย – ‘นามรูเป โข อสติ วิฺาณํ น โหติ, นามรูปนิโรธา วิฺาณนิโรโธ’ติ.
๖๑. ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘อธิคโต ¶ โข มฺยายํ มคฺโค สมฺโพธาย ¶ ยทิทํ – นามรูปนิโรธา วิฺาณนิโรโธ, วิฺาณนิโรธา นามรูปนิโรโธ, นามรูปนิโรธา สฬายตนนิโรโธ, สฬายตนนิโรธา ผสฺสนิโรโธ, ผสฺสนิโรธา เวทนานิโรโธ, เวทนานิโรธา ตณฺหานิโรโธ, ตณฺหานิโรธา อุปาทานนิโรโธ, อุปาทานนิโรธา ภวนิโรโธ, ภวนิโรธา ชาตินิโรโธ, ชาตินิโรธา ชรามรณํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา นิรุชฺฌนฺติ. เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส นิโรโธ โหติ’.
๖๒. ‘‘‘นิโรโธ นิโรโธ’ติ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส โพธิสตฺตสฺส ปุพฺเพ อนนุสฺสุเตสุ ธมฺเมสุ จกฺขุํ อุทปาทิ, าณํ อุทปาทิ, ปฺา อุทปาทิ, วิชฺชา อุทปาทิ, อาโลโก อุทปาทิ.
๖๓. ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสี โพธิสตฺโต อปเรน สมเยน ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ อุทยพฺพยานุปสฺสี วิหาสิ – ‘อิติ รูปํ, อิติ รูปสฺส สมุทโย, อิติ รูปสฺส อตฺถงฺคโม; อิติ เวทนา, อิติ เวทนาย สมุทโย, อิติ เวทนาย อตฺถงฺคโม; อิติ สฺา, อิติ สฺาย สมุทโย, อิติ สฺาย อตฺถงฺคโม; อิติ สงฺขารา, อิติ สงฺขารานํ สมุทโย, อิติ สงฺขารานํ ¶ อตฺถงฺคโม; อิติ วิฺาณํ, อิติ วิฺาณสฺส สมุทโย, อิติ วิฺาณสฺส อตฺถงฺคโม’ติ, ตสฺส ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ อุทยพฺพยานุปสฺสิโน วิหรโต น จิรสฺเสว อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุจฺจี’’ติ.
ทุติยภาณวาโร.
พฺรหฺมยาจนกถา
๖๔. ‘‘อถ ¶ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส เอตทโหสิ – ‘ยํนูนาหํ ธมฺมํ เทเสยฺย’นฺติ. อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส ¶ ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ¶ เอตทโหสิ – ‘อธิคโต โข มฺยายํ ธมฺโม คมฺภีโร ทุทฺทโส ทุรนุโพโธ สนฺโต ปณีโต อตกฺกาวจโร นิปุโณ ปณฺฑิตเวทนีโย. อาลยรามา โข ปนายํ ปชา อาลยรตา อาลยสมฺมุทิตา. อาลยรามาย โข ปน ปชาย อาลยรตาย อาลยสมฺมุทิตาย ทุทฺทสํ อิทํ านํ ยทิทํ อิทปฺปจฺจยตาปฏิจฺจสมุปฺปาโท. อิทมฺปิ โข านํ ทุทฺทสํ ยทิทํ สพฺพสงฺขารสมโถ สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโค ตณฺหากฺขโย วิราโค นิโรโธ นิพฺพานํ. อหฺเจว โข ปน ธมฺมํ เทเสยฺยํ, ปเร จ เม น อาชาเนยฺยุํ; โส มมสฺส กิลมโถ, สา มมสฺส วิเหสา’ติ.
๖๕. ‘‘อปิสฺสุ, ภิกฺขเว, วิปสฺสึ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ อิมา อนจฺฉริยา คาถาโย ปฏิภํสุ ปุพฺเพ อสฺสุตปุพฺพา –
‘กิจฺเฉน เม อธิคตํ, หลํ ทานิ ปกาสิตุํ;
ราคโทสปเรเตหิ, นายํ ธมฺโม สุสมฺพุโธ.
‘ปฏิโสตคามึ นิปุณํ, คมฺภีรํ ทุทฺทสํ อณุํ;
ราครตฺตา น ทกฺขนฺติ, ตโมขนฺเธน อาวุฏา’ติ.
‘‘อิติห ¶ , ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ปฏิสฺจิกฺขโต อปฺโปสฺสุกฺกตาย จิตฺตํ นมิ, โน ธมฺมเทสนาย.
๖๖. ‘‘อถ ¶ โข, ภิกฺขเว, อฺตรสฺส มหาพฺรหฺมุโน วิปสฺสิสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย เอตทโหสิ ¶ – ‘นสฺสติ วต โภ โลโก, วินสฺสติ วต โภ โลโก, ยตฺร หิ นาม วิปสฺสิสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อปฺโปสฺสุกฺกตาย จิตฺตํ นมติ [นมิ (สฺยา. ก.), นมิสฺสติ (?)], โน ธมฺมเทสนายา’ติ. อถ โข โส, ภิกฺขเว, มหาพฺรหฺมา เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิฺเชยฺย; เอวเมว พฺรหฺมโลเก อนฺตรหิโต วิปสฺสิสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ปุรโต ปาตุรโหสิ. อถ โข โส, ภิกฺขเว, มหาพฺรหฺมา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา ทกฺขิณํ ชาณุมณฺฑลํ ปถวิยํ ¶ นิหนฺตฺวา [นิทหนฺโต (สฺยา.)] เยน วิปสฺสี ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา วิปสฺสึ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ เอตทโวจ – ‘เทเสตุ, ภนฺเต, ภควา ธมฺมํ, เทเสตุ สุคโต ธมฺมํ, สนฺติ [สนฺตี (สฺยา.)] สตฺตา อปฺปรชกฺขชาติกา; อสฺสวนตา ธมฺมสฺส ปริหายนฺติ, ภวิสฺสนฺติ ธมฺมสฺส อฺาตาโร’ติ.
๖๗. ‘‘เอวํ วุตฺเต [อถ โข (ก.)], ภิกฺขเว, วิปสฺสี ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ตํ มหาพฺรหฺมานํ เอตทโวจ – ‘มยฺหมฺปิ โข, พฺรหฺเม, เอตทโหสิ – ‘‘ยํนูนาหํ ธมฺมํ เทเสยฺย’’นฺติ. ตสฺส มยฺหํ, พฺรหฺเม, เอตทโหสิ – ‘‘อธิคโต โข มฺยายํ ธมฺโม คมฺภีโร ทุทฺทโส ทุรนุโพโธ สนฺโต ปณีโต อตกฺกาวจโร นิปุโณ ปณฺฑิตเวทนีโย. อาลยรามา โข ปนายํ ปชา อาลยรตา อาลยสมฺมุทิตา. อาลยรามาย โข ปน ปชาย อาลยรตาย อาลยสมฺมุทิตาย ¶ ทุทฺทสํ อิทํ านํ ยทิทํ อิทปฺปจฺจยตาปฏิจฺจสมุปฺปาโท. อิทมฺปิ โข านํ ทุทฺทสํ ยทิทํ สพฺพสงฺขารสมโถ สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโค ตณฺหากฺขโย วิราโค นิโรโธ นิพฺพานํ. อหฺเจว โข ปน ธมฺมํ เทเสยฺยํ, ปเร จ เม น อาชาเนยฺยุํ; โส มมสฺส กิลมโถ, สา มมสฺส วิเหสา’’ติ. อปิสฺสุ มํ, พฺรหฺเม ¶ , อิมา อนจฺฉริยา คาถาโย ปฏิภํสุ ปุพฺเพ อสฺสุตปุพฺพา –
‘‘กิจฺเฉน เม อธิคตํ, หลํ ทานิ ปกาสิตุํ;
ราคโทสปเรเตหิ, นายํ ธมฺโม สุสมฺพุโธ.
‘‘ปฏิโสตคามึ นิปุณํ, คมฺภีรํ ทุทฺทสํ อณุํ;
ราครตฺตา น ทกฺขนฺติ, ตโมขนฺเธน อาวุฏา’’ติ.
‘อิติห ¶ เม, พฺรหฺเม, ปฏิสฺจิกฺขโต อปฺโปสฺสุกฺกตาย จิตฺตํ นมิ, โน ธมฺมเทสนายา’ติ.
๖๘. ‘‘ทุติยมฺปิ โข, ภิกฺขเว, โส มหาพฺรหฺมา…เป… ตติยมฺปิ โข, ภิกฺขเว, โส มหาพฺรหฺมา วิปสฺสึ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ เอตทโวจ – ‘เทเสตุ, ภนฺเต, ภควา ธมฺมํ, เทเสตุ สุคโต ธมฺมํ, สนฺติ สตฺตา อปฺปรชกฺขชาติกา, อสฺสวนตา ธมฺมสฺส ปริหายนฺติ, ภวิสฺสนฺติ ธมฺมสฺส อฺาตาโร’ติ.
๖๙. ‘‘อถ ¶ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสี ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ พฺรหฺมุโน จ อชฺเฌสนํ วิทิตฺวา สตฺเตสุ จ การฺุตํ ปฏิจฺจ พุทฺธจกฺขุนา โลกํ โวโลเกสิ. อทฺทสา โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสี ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ พุทฺธจกฺขุนา โลกํ โวโลเกนฺโต สตฺเต อปฺปรชกฺเข มหารชกฺเข ติกฺขินฺทฺริเย มุทินฺทฺริเย สฺวากาเร ทฺวากาเร สุวิฺาปเย ทุวิฺาปเย [ทุวิฺาปเย ภพฺเพ อภพฺเพ (สฺยา.)] อปฺเปกจฺเจ ปรโลกวชฺชภยทสฺสาวิเน [ทสฺสาวิโน (สี. สฺยา. กํ. ก.)] วิหรนฺเต, อปฺเปกจฺเจ น ปรโลกวชฺชภยทสฺสาวิเน [ทสฺสาวิโน (สี. สฺยา. กํ. ก.)] วิหรนฺเต. เสยฺยถาปิ นาม อุปฺปลินิยํ วา ปทุมินิยํ ¶ วา ปุณฺฑรีกินิยํ วา อปฺเปกจฺจานิ อุปฺปลานิ วา ปทุมานิ วา ปุณฺฑรีกานิ วา อุทเก ชาตานิ อุทเก สํวฑฺฒานิ อุทกานุคฺคตานิ อนฺโต นิมุคฺคโปสีนิ. อปฺเปกจฺจานิ อุปฺปลานิ วา ปทุมานิ วา ปุณฺฑรีกานิ วา อุทเก ชาตานิ อุทเก สํวฑฺฒานิ สโมทกํ ิตานิ. อปฺเปกจฺจานิ อุปฺปลานิ วา ปทุมานิ วา ปุณฺฑรีกานิ วา อุทเก ชาตานิ อุทเก สํวฑฺฒานิ อุทกา อจฺจุคฺคมฺม ิตานิ อนุปลิตฺตานิ อุทเกน. เอวเมว ¶ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสี ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ พุทฺธจกฺขุนา โลกํ โวโลเกนฺโต อทฺทส สตฺเต อปฺปรชกฺเข มหารชกฺเข ติกฺขินฺทฺริเย มุทินฺทฺริเย สฺวากาเร ทฺวากาเร สุวิฺาปเย ทุวิฺาปเย อปฺเปกจฺเจ ปรโลกวชฺชภยทสฺสาวิเน วิหรนฺเต, อปฺเปกจฺเจ น ปรโลกวชฺชภยทสฺสาวิเน วิหรนฺเต.
๗๐. ‘‘อถ โข โส, ภิกฺขเว, มหาพฺรหฺมา วิปสฺสิสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย วิปสฺสึ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ คาถาหิ อชฺฌภาสิ –
‘เสเล ยถา ปพฺพตมุทฺธนิฏฺิโต, ยถาปิ ปสฺเส ชนตํ สมนฺตโต;
ตถูปมํ ธมฺมมยํ สุเมธ, ปาสาทมารุยฺห สมนฺตจกฺขุ.
‘โสกาวติณฺณํ ¶ [โสกาวกิณฺณํ (สฺยา.)] ชนตมเปตโสโก,
อเวกฺขสฺสุ ชาติชราภิภูตํ;
อุฏฺเหิ ¶ วีร วิชิตสงฺคาม,
สตฺถวาห อณณ วิจร โลเก.
เทสสฺสุ [เทเสตุ (สฺยา. ปี.)] ภควา ธมฺมํ,
อฺาตาโร ภวิสฺสนฺตี’ติ.
๗๑. ‘‘อถ ¶ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสี ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ตํ มหาพฺรหฺมานํ คาถาย อชฺฌภาสิ –
‘อปารุตา เตสํ อมตสฺส ทฺวารา,
เย โสตวนฺโต ปมฺุจนฺตุ สทฺธํ;
วิหึสสฺี ปคุณํ น ภาสึ,
ธมฺมํ ปณีตํ มนุเชสุ พฺรหฺเม’ติ.
‘‘อถ โข โส, ภิกฺขเว, มหาพฺรหฺมา ‘กตาวกาโส โขมฺหิ วิปสฺสินา ภควตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ธมฺมเทสนายา’ติ วิปสฺสึ ภควนฺตํ อรหนฺตํ ¶ สมฺมาสมฺพุทฺธํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ตตฺเถว อนฺตรธายิ.
อคฺคสาวกยุคํ
๗๒. ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส เอตทโหสิ – ‘กสฺส นุ โข อหํ ปมํ ธมฺมํ เทเสยฺยํ, โก อิมํ ธมฺมํ ขิปฺปเมว อาชานิสฺสตี’ติ? อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส เอตทโหสิ – ‘อยํ โข ขณฺโฑ จ ราชปุตฺโต ติสฺโส จ ปุโรหิตปุตฺโต พนฺธุมติยา ราชธานิยา ปฏิวสนฺติ ปณฺฑิตา วิยตฺตา เมธาวิโน ทีฆรตฺตํ อปฺปรชกฺขชาติกา. ยํนูนาหํ ขณฺฑสฺส จ ราชปุตฺตสฺส, ติสฺสสฺส จ ปุโรหิตปุตฺตสฺส ปมํ ธมฺมํ เทเสยฺยํ ¶ , เต อิมํ ธมฺมํ ขิปฺปเมว อาชานิสฺสนฺตี’ติ.
๗๓. ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสี ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ เสยฺยถาปิ นาม พลวา ¶ ปุริโส สมิฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิฺเชยฺย; เอวเมว โพธิรุกฺขมูเล อนฺตรหิโต พนฺธุมติยา ราชธานิยา เขเม มิคทาเย ปาตุรโหสิ. อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสี ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ทายปาลํ [มิคทายปาลํ (สฺยา.)] อามนฺเตสิ – ‘เอหิ ตฺวํ, สมฺม ทายปาล, พนฺธุมตึ ราชธานึ ปวิสิตฺวา ขณฺฑฺจ ราชปุตฺตํ ติสฺสฺจ ปุโรหิตปุตฺตํ เอวํ วเทหิ – วิปสฺสี, ภนฺเต, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ พนฺธุมตึ ราชธานึ อนุปฺปตฺโต เขเม มิคทาเย วิหรติ, โส ¶ ตุมฺหากํ ทสฺสนกาโม’ติ. ‘เอวํ, ภนฺเต’ติ โข, ภิกฺขเว, ทายปาโล วิปสฺสิสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ปฏิสฺสุตฺวา พนฺธุมตึ ราชธานึ ปวิสิตฺวา ขณฺฑฺจ ราชปุตฺตํ ติสฺสฺจ ปุโรหิตปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘วิปสฺสี, ภนฺเต, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ พนฺธุมตึ ราชธานึ อนุปฺปตฺโต เขเม มิคทาเย วิหรติ; โส ตุมฺหากํ ทสฺสนกาโม’ติ.
๗๔. ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, ขณฺโฑ จ ราชปุตฺโต ติสฺโส จ ¶ ปุโรหิตปุตฺโต ภทฺทานิ ภทฺทานิ ยานานิ โยชาเปตฺวา ภทฺทํ ภทฺทํ ยานํ อภิรุหิตฺวา ภทฺเทหิ ภทฺเทหิ ยาเนหิ พนฺธุมติยา ราชธานิยา นิยฺยึสุ. เยน เขโม มิคทาโย เตน ปายึสุ. ยาวติกา ยานสฺส ภูมิ, ยาเนน คนฺตฺวา ยานา ปจฺโจโรหิตฺวา ปตฺติกาว [ปทิกาว (สฺยา.)] เยน วิปสฺสี ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ เตนุปสงฺกมึสุ. อุปสงฺกมิตฺวา วิปสฺสึ ภควนฺตํ อรหนฺตํ ¶ สมฺมาสมฺพุทฺธํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ.
๗๕. ‘‘เตสํ วิปสฺสี ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ อนุปุพฺพึ กถํ [อานุปุพฺพิกถํ (สี. ปี.)] กเถสิ, เสยฺยถิทํ – ทานกถํ สีลกถํ สคฺคกถํ กามานํ อาทีนวํ โอการํ สํกิเลสํ เนกฺขมฺเม อานิสํสํ ปกาเสสิ. ยทา เต ภควา อฺาสิ กลฺลจิตฺเต มุทุจิตฺเต วินีวรณจิตฺเต อุทคฺคจิตฺเต ปสนฺนจิตฺเต, อถ ยา พุทฺธานํ สามุกฺกํสิกา ธมฺมเทสนา, ตํ ปกาเสสิ – ทุกฺขํ สมุทยํ นิโรธํ มคฺคํ. เสยฺยถาปิ นาม สุทฺธํ วตฺถํ อปคตกาฬกํ สมฺมเทว รชนํ ปฏิคฺคณฺเหยฺย, เอวเมว ขณฺฑสฺส จ ราชปุตฺตสฺส ติสฺสสฺส จ ปุโรหิตปุตฺตสฺส ตสฺมึเยว อาสเน วิรชํ วีตมลํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทิ – ‘ยํ กิฺจิ สมุทยธมฺมํ, สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺม’นฺติ.
๗๖. ‘‘เต ทิฏฺธมฺมา ปตฺตธมฺมา วิทิตธมฺมา ปริโยคาฬฺหธมฺมา ติณฺณวิจิกิจฺฉา วิคตกถํกถา เวสารชฺชปฺปตฺตา อปรปฺปจฺจยา สตฺถุสาสเน วิปสฺสึ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ เอตทโวจุํ – ‘อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต, อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต. เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร ¶ วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย ‘‘จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตี’’ติ. เอวเมวํ ภควตา อเนกปริยาเยน ธมฺโม ¶ ปกาสิโต. เอเต มยํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ สรณํ ¶ คจฺฉาม ธมฺมฺจ. ลเภยฺยาม มยํ, ภนฺเต, ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, ลเภยฺยาม อุปสมฺปท’นฺติ.
๗๗. ‘‘อลตฺถุํ โข ¶ , ภิกฺขเว, ขณฺโฑ จ ราชปุตฺโต, ติสฺโส จ ปุโรหิตปุตฺโต วิปสฺสิสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สนฺติเก ปพฺพชฺชํ อลตฺถุํ อุปสมฺปทํ. เต วิปสฺสี ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสสิ สมาทเปสิ สมุตฺเตเชสิ สมฺปหํเสสิ; สงฺขารานํ อาทีนวํ โอการํ สํกิเลสํ นิพฺพาเน [เนกฺขมฺเม (สฺยา.)] อานิสํสํ ปกาเสสิ. เตสํ วิปสฺสินา ภควตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิยมานานํ สมาทปิยมานานํ สมุตฺเตชิยมานานํ สมฺปหํสิยมานานํ นจิรสฺเสว อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตานิ วิมุจฺจึสุ.
มหาชนกายปพฺพชฺชา
๗๘. ‘‘อสฺโสสิ โข, ภิกฺขเว, พนฺธุมติยา ราชธานิยา มหาชนกาโย จตุราสีติปาณสหสฺสานิ – ‘วิปสฺสี กิร ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ พนฺธุมตึ ราชธานึ อนุปฺปตฺโต เขเม มิคทาเย วิหรติ. ขณฺโฑ จ กิร ราชปุตฺโต ติสฺโส จ ปุโรหิตปุตฺโต วิปสฺสิสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สนฺติเก เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตา’ติ. สุตฺวาน เนสํ เอตทโหสิ – ‘น หิ นูน โส โอรโก ธมฺมวินโย, น สา โอรกา ปพฺพชฺชา, ยตฺถ ขณฺโฑ จ ราชปุตฺโต ติสฺโส จ ปุโรหิตปุตฺโต เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตา. ขณฺโฑ จ ราชปุตฺโต ติสฺโส จ ปุโรหิตปุตฺโต เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิสฺสนฺติ, กิมงฺคํ ปน มย’นฺติ. อถ ¶ โข โส, ภิกฺขเว, มหาชนกาโย จตุราสีติปาณสหสฺสานิ พนฺธุมติยา ราชธานิยา นิกฺขมิตฺวา เยน เขโม มิคทาโย เยน วิปสฺสี ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ¶ เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา วิปสฺสึ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ.
๗๙. ‘‘เตสํ ¶ วิปสฺสี ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ อนุปุพฺพึ กถํ กเถสิ. เสยฺยถิทํ – ทานกถํ สีลกถํ สคฺคกถํ กามานํ อาทีนวํ โอการํ สํกิเลสํ เนกฺขมฺเม อานิสํสํ ปกาเสสิ. ยทา เต ภควา อฺาสิ กลฺลจิตฺเต มุทุจิตฺเต วินีวรณจิตฺเต อุทคฺคจิตฺเต ปสนฺนจิตฺเต ¶ , อถ ยา พุทฺธานํ สามุกฺกํสิกา ธมฺมเทสนา, ตํ ปกาเสสิ – ทุกฺขํ สมุทยํ นิโรธํ มคฺคํ. เสยฺยถาปิ นาม สุทฺธํ วตฺถํ อปคตกาฬกํ สมฺมเทว รชนํ ปฏิคฺคณฺเหยฺย, เอวเมว เตสํ จตุราสีติปาณสหสฺสานํ ตสฺมึเยว อาสเน วิรชํ วีตมลํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทิ – ‘ยํ กิฺจิ สมุทยธมฺมํ สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺม’นฺติ.
๘๐. ‘‘เต ทิฏฺธมฺมา ปตฺตธมฺมา วิทิตธมฺมา ปริโยคาฬฺหธมฺมา ติณฺณวิจิกิจฺฉา วิคตกถํกถา เวสารชฺชปฺปตฺตา อปรปฺปจฺจยา สตฺถุสาสเน วิปสฺสึ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ เอตทโวจุํ – ‘อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต, อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต. เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย ‘‘จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตี’’ติ. เอวเมวํ ภควตา อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโต. เอเต มยํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉาม ธมฺมฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจ [( ) นตฺถิ อฏฺกถายํ, ปาฬิยํ ปน สพฺพตฺถปิ ทิสฺสติ]. ลเภยฺยาม ¶ มยํ, ภนฺเต, ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ ลเภยฺยาม อุปสมฺปท’’นฺติ.
๘๑. ‘‘อลตฺถุํ โข, ภิกฺขเว, ตานิ จตุราสีติปาณสหสฺสานิ วิปสฺสิสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, อลตฺถุํ อุปสมฺปทํ. เต วิปสฺสี ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสสิ สมาทเปสิ สมุตฺเตเชสิ สมฺปหํเสสิ; สงฺขารานํ ¶ อาทีนวํ โอการํ สํกิเลสํ นิพฺพาเน อานิสํสํ ปกาเสสิ. เตสํ วิปสฺสินา ภควตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิยมานานํ สมาทปิยมานานํ สมุตฺเตชิยมานานํ สมฺปหํสิยมานานํ นจิรสฺเสว อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตานิ วิมุจฺจึสุ.
ปุริมปพฺพชิตานํ ธมฺมาภิสมโย
๘๒. ‘‘อสฺโสสุํ โข, ภิกฺขเว, ตานิ ปุริมานิ จตุราสีติปพฺพชิตสหสฺสานิ – ‘วิปสฺสี กิร ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ พนฺธุมตึ ราชธานึ ¶ อนุปฺปตฺโต เขเม มิคทาเย วิหรติ, ธมฺมฺจ กิร เทเสตี’ติ. อถ โข, ภิกฺขเว, ตานิ จตุราสีติปพฺพชิตสหสฺสานิ เยน พนฺธุมตี ราชธานี เยน เขโม มิคทาโย เยน วิปสฺสี ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา วิปสฺสึ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ.
๘๓. ‘‘เตสํ ¶ วิปสฺสี ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ อนุปุพฺพึ กถํ กเถสิ. เสยฺยถิทํ – ทานกถํ สีลกถํ สคฺคกถํ กามานํ อาทีนวํ โอการํ สํกิเลสํ เนกฺขมฺเม อานิสํสํ ปกาเสสิ. ยทา เต ภควา อฺาสิ กลฺลจิตฺเต มุทุจิตฺเต ¶ วินีวรณจิตฺเต อุทคฺคจิตฺเต ปสนฺนจิตฺเต, อถ ยา พุทฺธานํ สามุกฺกํสิกา ธมฺมเทสนา, ตํ ปกาเสสิ – ทุกฺขํ สมุทยํ นิโรธํ มคฺคํ. เสยฺยถาปิ นาม สุทฺธํ วตฺถํ อปคตกาฬกํ สมฺมเทว รชนํ ปฏิคฺคณฺเหยฺย, เอวเมว เตสํ จตุราสีติปพฺพชิตสหสฺสานํ ตสฺมึเยว อาสเน วิรชํ วีตมลํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทิ – ‘ยํ กิฺจิ สมุทยธมฺมํ สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺม’นฺติ.
๘๔. ‘‘เต ทิฏฺธมฺมา ปตฺตธมฺมา วิทิตธมฺมา ปริโยคาฬฺหธมฺมา ติณฺณวิจิกิจฺฉา วิคตกถํกถา เวสารชฺชปฺปตฺตา อปรปฺปจฺจยา สตฺถุสาสเน วิปสฺสึ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ เอตทโวจุํ – ‘อภิกฺกนฺตํ ¶ , ภนฺเต, อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต. เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย ‘‘จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตี’’ติ. เอวเมวํ ภควตา อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโต. เอเต มยํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉาม ธมฺมฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจ. ลเภยฺยาม มยํ, ภนฺเต, ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ ลเภยฺยาม อุปสมฺปท’’นฺติ.
๘๕. ‘‘อลตฺถุํ โข, ภิกฺขเว, ตานิ จตุราสีติปพฺพชิตสหสฺสานิ วิปสฺสิสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สนฺติเก ปพฺพชฺชํ อลตฺถุํ อุปสมฺปทํ. เต วิปสฺสี ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสสิ สมาทเปสิ สมุตฺเตเชสิ สมฺปหํเสสิ; สงฺขารานํ อาทีนวํ โอการํ สํกิเลสํ นิพฺพาเน อานิสํสํ ปกาเสสิ. เตสํ วิปสฺสินา ภควตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิยมานานํ ¶ สมาทปิยมานานํ ¶ สมุตฺเตชิยมานานํ สมฺปหํสิยมานานํ นจิรสฺเสว อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตานิ วิมุจฺจึสุ.
จาริกาอนุชานนํ
๘๖. ‘‘เตน โข ปน, ภิกฺขเว, สมเยน พนฺธุมติยา ราชธานิยา มหาภิกฺขุสงฺโฆ ปฏิวสติ อฏฺสฏฺิภิกฺขุสตสหสฺสํ. อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘มหา โข เอตรหิ ภิกฺขุสงฺโฆ พนฺธุมติยา ราชธานิยา ปฏิวสติ อฏฺสฏฺิภิกฺขุสตสหสฺสํ, ยํนูนาหํ ภิกฺขู อนุชาเนยฺยํ – ‘จรถ, ภิกฺขเว, จาริกํ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย ¶ อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ; มา เอเกน ทฺเว อคมิตฺถ; เทเสถ, ภิกฺขเว ¶ , ธมฺมํ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสถ. สนฺติ สตฺตา อปฺปรชกฺขชาติกา, อสฺสวนตา ธมฺมสฺส ปริหายนฺติ, ภวิสฺสนฺติ ธมฺมสฺส อฺาตาโร. อปิ จ ฉนฺนํ ฉนฺนํ วสฺสานํ อจฺจเยน พนฺธุมตี ราชธานี อุปสงฺกมิตพฺพา ปาติโมกฺขุทฺเทสายา’’’ติ.
๘๗. ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, อฺตโร มหาพฺรหฺมา วิปสฺสิสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิฺเชยฺย. เอวเมว พฺรหฺมโลเก อนฺตรหิโต วิปสฺสิสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ปุรโต ¶ ปาตุรโหสิ. อถ โข โส, ภิกฺขเว, มหาพฺรหฺมา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา เยน วิปสฺสี ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา วิปสฺสึ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ เอตทโวจ – ‘เอวเมตํ, ภควา, เอวเมตํ, สุคต. มหา โข, ภนฺเต, เอตรหิ ภิกฺขุสงฺโฆ พนฺธุมติยา ราชธานิยา ปฏิวสติ อฏฺสฏฺิภิกฺขุสตสหสฺสํ, อนุชานาตุ, ภนฺเต, ภควา ภิกฺขู – ‘‘จรถ, ภิกฺขเว, จาริกํ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ; มา เอเกน ทฺเว อคมิตฺถ; เทเสถ, ภิกฺขเว, ธมฺมํ อาทิกลฺยาณํ ¶ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสถ. สนฺติ สตฺตา อปฺปรชกฺขชาติกา, อสฺสวนตา ธมฺมสฺส ปริหายนฺติ, ภวิสฺสนฺติ ธมฺมสฺส อฺาตาโร’’ติ [อฺาตาโร (สฺสพฺพตฺถ)]. อปิ จ, ภนฺเต, มยํ ตถา กริสฺสาม ยถา ภิกฺขู ฉนฺนํ ฉนฺนํ วสฺสานํ อจฺจเยน พนฺธุมตึ ราชธานึ อุปสงฺกมิสฺสนฺติ ปาติโมกฺขุทฺเทสายา’ติ. อิทมโวจ, ภิกฺขเว, โส มหาพฺรหฺมา, อิทํ วตฺวา วิปสฺสึ ¶ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ตตฺเถว อนฺตรธายิ.
๘๘. ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสี ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘อิธ มยฺหํ, ภิกฺขเว, รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – มหา โข เอตรหิ ภิกฺขุสงฺโฆ พนฺธุมติยา ราชธานิยา ปฏิวสติ อฏฺสฏฺิภิกฺขุสตสหสฺสํ ¶ . ยํนูนาหํ ภิกฺขู อนุชาเนยฺยํ – ‘จรถ, ภิกฺขเว, จาริกํ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ; มา เอเกน ทฺเว อคมิตฺถ; เทเสถ, ภิกฺขเว, ธมฺมํ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสถ. สนฺติ สตฺตา ¶ อปฺปรชกฺขชาติกา, อสฺสวนตา ธมฺมสฺส ปริหายนฺติ, ภวิสฺสนฺติ ธมฺมสฺส อฺาตาโร. อปิ จ, ฉนฺนํ ฉนฺนํ วสฺสานํ อจฺจเยน พนฺธุมตี ราชธานี อุปสงฺกมิตพฺพา ปาติโมกฺขุทฺเทสายาติ.
‘‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, อฺตโร มหาพฺรหฺมา มม เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิฺเชยฺย, เอวเมว พฺรหฺมโลเก อนฺตรหิโต มม ปุรโต ปาตุรโหสิ. อถ โข โส, ภิกฺขเว, มหาพฺรหฺมา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา เยนาหํ เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา มํ เอตทโวจ – ‘‘เอวเมตํ, ภควา, เอวเมตํ, สุคต. มหา โข, ภนฺเต, เอตรหิ ภิกฺขุสงฺโฆ พนฺธุมติยา ราชธานิยา ปฏิวสติ อฏฺสฏฺิภิกฺขุสตสหสฺสํ. อนุชานาตุ, ภนฺเต, ภควา ภิกฺขู – ‘จรถ, ภิกฺขเว, จาริกํ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย ¶ สุขาย เทวมนุสฺสานํ; มา เอเกน ทฺเว อคมิตฺถ; เทเสถ, ภิกฺขเว, ธมฺมํ…เป… สนฺติ สตฺตา อปฺปรชกฺขชาติกา ¶ , อสฺสวนตา ธมฺมสฺส ปริหายนฺติ, ภวิสฺสนฺติ ธมฺมสฺส อฺาตาโร’ติ. อปิ ¶ จ, ภนฺเต, มยํ ตถา กริสฺสาม, ยถา ภิกฺขู ฉนฺนํ ฉนฺนํ วสฺสานํ อจฺจเยน พนฺธุมตึ ราชธานึ อุปสงฺกมิสฺสนฺติ ปาติโมกฺขุทฺเทสายา’’ติ. อิทมโวจ, ภิกฺขเว, โส มหาพฺรหฺมา, อิทํ วตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ตตฺเถว อนฺตรธายิ’.
‘‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, จรถ จาริกํ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ; มา เอเกน ทฺเว อคมิตฺถ; เทเสถ, ภิกฺขเว, ธมฺมํ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสถ. สนฺติ สตฺตา อปฺปรชกฺขชาติกา, อสฺสวนตา ธมฺมสฺส ปริหายนฺติ, ภวิสฺสนฺติ ธมฺมสฺส อฺาตาโร. อปิ จ, ภิกฺขเว, ฉนฺนํ ฉนฺนํ วสฺสานํ อจฺจเยน พนฺธุมตี ราชธานี อุปสงฺกมิตพฺพา ปาติโมกฺขุทฺเทสายา’ติ. อถ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขู เยภุยฺเยน เอกาเหเนว ชนปทจาริกํ ปกฺกมึสุ.
๘๙. ‘‘เตน โข ปน สมเยน ชมฺพุทีเป จตุราสีติ อาวาสสหสฺสานิ โหนฺติ. เอกมฺหิ หิ วสฺเส นิกฺขนฺเต เทวตา สทฺทมนุสฺสาเวสุํ – ‘นิกฺขนฺตํ โข, มาริสา, เอกํ วสฺสํ; ปฺจ ทานิ วสฺสานิ เสสานิ ¶ ; ปฺจนฺนํ วสฺสานํ อจฺจเยน พนฺธุมตี ราชธานี อุปสงฺกมิตพฺพา ปาติโมกฺขุทฺเทสายา’ติ. ทฺวีสุ วสฺเสสุ นิกฺขนฺเตสุ… ¶ ตีสุ วสฺเสสุ นิกฺขนฺเตสุ… จตูสุ วสฺเสสุ นิกฺขนฺเตสุ… ปฺจสุ วสฺเสสุ นิกฺขนฺเตสุ เทวตา สทฺทมนุสฺสาเวสุํ – ‘นิกฺขนฺตานิ โข ¶ , มาริสา, ปฺจวสฺสานิ; เอกํ ทานิ วสฺสํ เสสํ; เอกสฺส วสฺสสฺส อจฺจเยน พนฺธุมตี ราชธานี อุปสงฺกมิตพฺพา ปาติโมกฺขุทฺเทสายา’ติ. ฉสุ วสฺเสสุ นิกฺขนฺเตสุ เทวตา สทฺทมนุสฺสาเวสุํ – ‘นิกฺขนฺตานิ โข, มาริสา, ฉพฺพสฺสานิ, สมโย ทานิ พนฺธุมตึ ราชธานึ อุปสงฺกมิตุํ ปาติโมกฺขุทฺเทสายา’ติ. อถ โข เต, ภิกฺขเว, ภิกฺขู อปฺเปกจฺเจ สเกน อิทฺธานุภาเวน อปฺเปกจฺเจ เทวตานํ อิทฺธานุภาเวน เอกาเหเนว พนฺธุมตึ ราชธานึ อุปสงฺกมึสุ ปาติโมกฺขุทฺเทสายาติ [ปาติโมกฺขุทฺเทสาย (?)].
๙๐. ‘‘ตตฺร ¶ สุทํ, ภิกฺขเว, วิปสฺสี ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ภิกฺขุสงฺเฆ เอวํ ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสติ –
‘ขนฺตี ¶ ปรมํ ตโป ติติกฺขา,
นิพฺพานํ ปรมํ วทนฺติ พุทฺธา;
น หิ ปพฺพชิโต ปรูปฆาตี,
น สมโณ [สมโณ (สี. สฺยา. ปี.)] โหติ ปรํ วิเหยนฺโต.
‘สพฺพปาปสฺส อกรณํ, กุสลสฺส อุปสมฺปทา;
สจิตฺตปริโยทปนํ, เอตํ พุทฺธานสาสนํ.
‘อนูปวาโท อนูปฆาโต [อนุปวาโท อนุปฆาโต (ปี. ก.)], ปาติโมกฺเข จ สํวโร;
มตฺตฺุตา ¶ จ ภตฺตสฺมึ, ปนฺตฺจ สยนาสนํ;
อธิจิตฺเต จ อาโยโค, เอตํ พุทฺธานสาสน’นฺติ.
เทวตาโรจนํ
๙๑. ‘‘เอกมิทาหํ, ภิกฺขเว, สมยํ อุกฺกฏฺายํ วิหรามิ สุภควเน สาลราชมูเล. ตสฺส มยฺหํ, ภิกฺขเว, รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘น โข โส สตฺตาวาโส สุลภรูโป, โย มยา อนาวุตฺถปุพฺโพ [อนชฺฌาวุฏฺปุพฺโพ (ก. สี. ก.)] อิมินา ทีเฆน อทฺธุนา อฺตฺร สุทฺธาวาเสหิ เทเวหิ. ยํนูนาหํ เยน สุทฺธาวาสา เทวา เตนุปสงฺกเมยฺย’นฺติ. อถ ขฺวาหํ, ภิกฺขเว, เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิฺเชยฺย, เอวเมว อุกฺกฏฺายํ สุภควเน สาลราชมูเล อนฺตรหิโต อวิเหสุ เทเวสุ ปาตุรโหสึ ¶ . ตสฺมึ, ภิกฺขเว, เทวนิกาเย อเนกานิ เทวตาสหสฺสานิ อเนกานิ เทวตาสตสหสฺสานิ [อเนกานิ เทวตาสตานิ อเนกานิ เทวตาสหสฺสานิ (สฺยา.)] เยนาหํ เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺํสุ. เอกมนฺตํ ¶ ิตา โข, ภิกฺขเว, ตา เทวตา มํ เอตทโวจุํ – ‘อิโต โส, มาริสา, เอกนวุติกปฺเป ยํ วิปสฺสี ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โลเก อุทปาทิ. วิปสฺสี, มาริสา, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ขตฺติโย ชาติยา อโหสิ, ขตฺติยกุเล อุทปาทิ. วิปสฺสี, มาริสา, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โกณฺฑฺโ โคตฺเตน อโหสิ ¶ . วิปสฺสิสฺส, มาริสา, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อสีติวสฺสสหสฺสานิ อายุปฺปมาณํ อโหสิ. วิปสฺสี, มาริสา, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ปาฏลิยา มูเล อภิสมฺพุทฺโธ. วิปสฺสิสฺส, มาริสา, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ขณฺฑติสฺสํ นาม สาวกยุคํ อโหสิ อคฺคํ ภทฺทยุคํ. วิปสฺสิสฺส, มาริสา, ภควโต ¶ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ตโย สาวกานํ สนฺนิปาตา อเหสุํ. เอโก สาวกานํ สนฺนิปาโต อโหสิ อฏฺสฏฺิภิกฺขุสตสหสฺสํ. เอโก สาวกานํ สนฺนิปาโต อโหสิ ภิกฺขุสตสหสฺสํ. เอโก สาวกานํ สนฺนิปาโต อโหสิ อสีติภิกฺขุสหสฺสานิ. วิปสฺสิสฺส, มาริสา, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อิเม ตโย สาวกานํ สนฺนิปาตา อเหสุํ สพฺเพสํเยว ขีณาสวานํ. วิปสฺสิสฺส, มาริสา, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อโสโก นาม ภิกฺขุ อุปฏฺาโก อโหสิ อคฺคุปฏฺาโก. วิปสฺสิสฺส, มาริส, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส พนฺธุมา นาม ราชา ปิตา อโหสิ. พนฺธุมตี นาม เทวี มาตา อโหสิ ชเนตฺติ. พนฺธุมสฺส รฺโ พนฺธุมตี นาม นครํ ราชธานี อโหสิ. วิปสฺสิสฺส, มาริสา ¶ , ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส เอวํ อภินิกฺขมนํ อโหสิ เอวํ ปพฺพชฺชา เอวํ ปธานํ เอวํ อภิสมฺโพธิ เอวํ ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนํ. เต มยํ, มาริสา, วิปสฺสิมฺหิ ภควติ พฺรหฺมจริยํ จริตฺวา กาเมสุ กามจฺฉนฺทํ วิราเชตฺวา อิธูปปนฺนา’ติ …เป…
‘‘ตสฺมึเยว โข, ภิกฺขเว, เทวนิกาเย อเนกานิ เทวตาสหสฺสานิ อเนกานิ เทวตาสตสหสฺสานิ [อเนกานิ เทวตาสตานิ อเนกานิ เทวตาสหสฺสานิ (สฺยา. เอวมุปริปิ)] เยนาหํ เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺํสุ. เอกมนฺตํ ิตา โข, ภิกฺขเว, ตา เทวตา มํ เอตทโวจุํ – ‘อิมสฺมึเยว โข, มาริสา, ภทฺทกปฺเป ภควา เอตรหิ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โลเก อุปฺปนฺโน. ภควา, มาริสา, ขตฺติโย ชาติยา ขตฺติยกุเล อุปฺปนฺโน. ภควา, มาริสา, โคตโม โคตฺเตน. ภควโต, มาริสา, อปฺปกํ ¶ อายุปฺปมาณํ ปริตฺตํ ลหุกํ ¶ โย จิรํ ชีวติ, โส วสฺสสตํ อปฺปํ วา ภิยฺโย. ภควา, มาริสา, อสฺสตฺถสฺส มูเล อภิสมฺพุทฺโธ. ภควโต, มาริสา, สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานํ นาม สาวกยุคํ อโหสิ อคฺคํ ภทฺทยุคํ ¶ . ภควโต, มาริสา, เอโก สาวกานํ สนฺนิปาโต อโหสิ อฑฺฒเตฬสานิ ภิกฺขุสตานิ. ภควโต, มาริสา, อยํ เอโก สาวกานํ สนฺนิปาโต อโหสิ ¶ สพฺเพสํเยว ขีณาสวานํ. ภควโต, มาริสา, อานนฺโท นาม ภิกฺขุ อุปฏฺาโก อโหสิ อคฺคุปฏฺาโก. ภควโต, มาริสา, สุทฺโธทโน นาม ราชา ปิตา อโหสิ. มายา นาม เทวี มาตา อโหสิ ชเนตฺติ. กปิลวตฺถุ นาม นครํ ราชธานี อโหสิ. ภควโต, มาริสา, เอวํ อภินิกฺขมนํ อโหสิ เอวํ ปพฺพชฺชา เอวํ ปธานํ เอวํ อภิสมฺโพธิ เอวํ ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนํ. เต มยํ, มาริสา, ภควติ พฺรหฺมจริยํ จริตฺวา กาเมสุ กามจฺฉนฺทํ วิราเชตฺวา อิธูปปนฺนา’ติ.
๙๒. ‘‘อถ ขฺวาหํ, ภิกฺขเว, อวิเหหิ เทเวหิ สทฺธึ เยน อตปฺปา เทวา เตนุปสงฺกมึ…เป… อถ ขฺวาหํ, ภิกฺขเว, อวิเหหิ จ เทเวหิ อตปฺเปหิ จ เทเวหิ สทฺธึ เยน สุทสฺสา เทวา เตนุปสงฺกมึ. อถ ขฺวาหํ, ภิกฺขเว, อวิเหหิ จ เทเวหิ อตปฺเปหิ จ เทเวหิ สุทสฺเสหิ จ เทเวหิ สทฺธึ เยน สุทสฺสี เทวา เตนุปสงฺกมึ. อถ ขฺวาหํ, ภิกฺขเว, อวิเหหิ จ เทเวหิ อตปฺเปหิ จ เทเวหิ สุทสฺเสหิ จ เทเวหิ สุทสฺสีหิ จ เทเวหิ สทฺธึ เยน อกนิฏฺา เทวา เตนุปสงฺกมึ. ตสฺมึ, ภิกฺขเว, เทวนิกาเย อเนกานิ เทวตาสหสฺสานิ อเนกานิ เทวตาสตสหสฺสานิ เยนาหํ เตนุปสงฺกมึสุ, อุปสงฺกมิตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺํสุ ¶ .
‘‘เอกมนฺตํ ิตา โข, ภิกฺขเว, ตา เทวตา มํ เอตทโวจุํ – ‘อิโต โส, มาริสา, เอกนวุติกปฺเป ยํ วิปสฺสี ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โลเก อุทปาทิ. วิปสฺสี, มาริสา, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ขตฺติโย ชาติยา อโหสิ. ขตฺติยกุเล อุทปาทิ. วิปสฺสี, มาริสา, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โกณฺฑฺโ โคตฺเตน อโหสิ. วิปสฺสิสฺส, มาริสา, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อสีติวสฺสสหสฺสานิ อายุปฺปมาณํ อโหสิ. วิปสฺสี, มาริสา, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ปาฏลิยา มูเล อภิสมฺพุทฺโธ. วิปสฺสิสฺส, มาริสา, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ขณฺฑติสฺสํ นาม สาวกยุคํ อโหสิ อคฺคํ ภทฺทยุคํ. วิปสฺสิสฺส, มาริสา, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ตโย สาวกานํ สนฺนิปาตา อเหสุํ. เอโก สาวกานํ สนฺนิปาโต อโหสิ อฏฺสฏฺิภิกฺขุสตสหสฺสํ. เอโก สาวกานํ สนฺนิปาโต อโหสิ ¶ ภิกฺขุสตสหสฺสํ. เอโก สาวกานํ สนฺนิปาโต อโหสิ อสีติภิกฺขุสหสฺสานิ. วิปสฺสิสฺส, มาริสา, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อิเม ตโย สาวกานํ สนฺนิปาตา อเหสุํ สพฺเพสํเยว ขีณาสวานํ. วิปสฺสิสฺส, มาริสา, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อโสโก นาม ภิกฺขุ อุปฏฺาโก อโหสิ อคฺคุปฏฺาโก. วิปสฺสิสฺส, มาริสา, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส พนฺธุมา นาม ราชา ปิตา อโหสิ พนฺธุมตี นาม เทวี มาตา อโหสิ ¶ ชเนตฺติ. พนฺธุมสฺส รฺโ พนฺธุมตี นาม นครํ ราชธานี อโหสิ. วิปสฺสิสฺส, มาริสา, ภควโต อรหโต ¶ สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส เอวํ อภินิกฺขมนํ อโหสิ เอวํ ปพฺพชฺชา เอวํ ปธานํ เอวํ อภิสมฺโพธิ, เอวํ ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนํ. เต มยํ, มาริสา, วิปสฺสิมฺหิ ภควติ พฺรหฺมจริยํ จริตฺวา กาเมสุ กามจฺฉนฺทํ วิราเชตฺวา อิธูปปนฺนา’ติ. ตสฺมึเยว โข, ภิกฺขเว, เทวนิกาเย อเนกานิ เทวตาสหสฺสานิ อเนกานิ เทวตาสตสหสฺสานิ เยนาหํ เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺํสุ. เอกมนฺตํ ิตา โข, ภิกฺขเว, ตา เทวตา มํ เอตทโวจุํ – ‘อิโต โส, มาริสา, เอกตึเส กปฺเป ยํ สิขี ภควา…เป… เต มยํ, มาริสา, สิขิมฺหิ ภควติ ตสฺมิฺเว โข มาริสา, เอกตึเส กปฺเป ยํ เวสฺสภู ภควา…เป… เต มยํ, มาริสา, เวสฺสภุมฺหิ ภควติ…เป… อิมสฺมึเยว โข, มาริสา, ภทฺทกปฺเป กกุสนฺโธ โกณาคมโน กสฺสโป ภควา…เป… เต มยํ, มาริสา, กกุสนฺธมฺหิ โกณาคมนมฺหิ กสฺสปมฺหิ ภควติ พฺรหฺมจริยํ จริตฺวา กาเมสุ กามจฺฉนฺทํ วิราเชตฺวา อิธูปปนฺนา’ติ.
๙๓. ‘‘ตสฺมึเยว โข, ภิกฺขเว, เทวนิกาเย อเนกานิ เทวตาสหสฺสานิ อเนกานิ เทวตาสตสหสฺสานิ เยนาหํ เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺํสุ. เอกมนฺตํ ¶ ิตา โข, ภิกฺขเว, ตา เทวตา มํ เอตทโวจุํ – ‘อิมสฺมึเยว โข, มาริสา, ภทฺทกปฺเป ภควา เอตรหิ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โลเก อุปฺปนฺโน. ภควา, มาริสา, ขตฺติโย ชาติยา, ขตฺติยกุเล อุปฺปนฺโน. ภควา, มาริสา, โคตโม โคตฺเตน. ภควโต, มาริสา, อปฺปกํ อายุปฺปมาณํ ปริตฺตํ ลหุกํ โย จิรํ ชีวติ, โส วสฺสสตํ ¶ อปฺปํ วา ภิยฺโย. ภควา, มาริสา, อสฺสตฺถสฺส มูเล อภิสมฺพุทฺโธ. ภควโต, มาริสา, สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานํ นาม สาวกยุคํ อโหสิ อคฺคํ ภทฺทยุคํ. ภควโต ¶ , มาริสา, เอโก สาวกานํ สนฺนิปาโต อโหสิ อฑฺฒเตฬสานิ ภิกฺขุสตานิ. ภควโต, มาริสา, อยํ เอโก สาวกานํ สนฺนิปาโต อโหสิ สพฺเพสํเยว ขีณาสวานํ. ภควโต, มาริสา, อานนฺโท นาม ภิกฺขุ อุปฏฺาโก อคฺคุปฏฺาโก อโหสิ. ภควโต, มาริสา, สุทฺโธทโน นาม ราชา ปิตา อโหสิ. มายา นาม เทวี มาตา อโหสิ ชเนตฺติ. กปิลวตฺถุ นาม นครํ ราชธานี อโหสิ. ภควโต, มาริสา, เอวํ อภินิกฺขมนํ อโหสิ, เอวํ ปพฺพชฺชา, เอวํ ปธานํ, เอวํ อภิสมฺโพธิ, เอวํ ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนํ. เต มยํ, มาริสา, ภควติ พฺรหฺมจริยํ จริตฺวา กาเมสุ กามจฺฉนฺทํ วิราเชตฺวา อิธูปปนฺนา’ติ.
๙๔. ‘‘อิติ โข, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺเสเวสา ธมฺมธาตุ สุปฺปฏิวิทฺธา, ยสฺสา ธมฺมธาตุยา สุปฺปฏิวิทฺธตฺตา ¶ ตถาคโต อตีเต พุทฺเธ ปรินิพฺพุเต ฉินฺนปปฺเจ ฉินฺนวฏุเม ปริยาทินฺนวฏฺเฏ สพฺพทุกฺขวีติวตฺเต ชาติโตปิ อนุสฺสรติ, นามโตปิ อนุสฺสรติ, โคตฺตโตปิ ¶ อนุสฺสรติ, อายุปฺปมาณโตปิ อนุสฺสรติ, สาวกยุคโตปิ อนุสฺสรติ, สาวกสนฺนิปาตโตปิ อนุสฺสรติ ‘เอวํชจฺจา เต ภควนฺโต อเหสุํ’ อิติปิ. ‘เอวํนามา เอวํโคตฺตา เอวํสีลา เอวํธมฺมา เอวํปฺา เอวํวิหารี เอวํวิมุตฺตา เต ภควนฺโต อเหสุํ’ อิติปีติ.
‘‘เทวตาปิ ตถาคตสฺส เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ, เยน ตถาคโต อตีเต พุทฺเธ ¶ ปรินิพฺพุเต ฉินฺนปปฺเจ ฉินฺนวฏุเม ปริยาทินฺนวฏฺเฏ สพฺพทุกฺขวีติวตฺเต ชาติโตปิ อนุสฺสรติ, นามโตปิ อนุสฺสรติ, โคตฺตโตปิ อนุสฺสรติ, อายุปฺปมาณโตปิ อนุสฺสรติ, สาวกยุคโตปิ อนุสฺสรติ, สาวกสนฺนิปาตโตปิ อนุสฺสรติ ‘เอวํชจฺจา เต ภควนฺโต อเหสุํ’ อิติปิ. ‘เอวํนามา เอวํโคตฺตา เอวํสีลา เอวํธมฺมา เอวํปฺา เอวํวิหารี เอวํวิมุตฺตา เต ภควนฺโต อเหสุํ’ อิติปี’’ติ.
อิทมโวจ ภควา. อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ.
มหาปทานสุตฺตํ นิฏฺิตํ ปมํ.