📜

๓. มหาปรินิพฺพานสุตฺตํ

๑๓๑. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเต. เตน โข ปน สมเยน ราชา มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต วชฺชี อภิยาตุกาโม โหติ. โส เอวมาห – ‘‘อหํ หิเม วชฺชี เอวํมหิทฺธิเก เอวํมหานุภาเว อุจฺเฉจฺฉามิ [อุจฺเฉชฺชามิ (สฺยา. ปี.), อุจฺฉิชฺชามิ (ก.)] วชฺชี, วินาเสสฺสามิ วชฺชี, อนยพฺยสนํ อาปาเทสฺสามิ วชฺชี’’ติ [อาปาเทสฺสามิ วชฺชีติ (สพฺพตฺถ) อ. นิ. ๗.๒๒ ปสฺสิตพฺพํ].

๑๓๒. อถ โข ราชา มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต วสฺสการํ พฺราหฺมณํ มคธมหามตฺตํ อามนฺเตสิ – ‘‘เอหิ ตฺวํ, พฺราหฺมณ, เยน ภควา เตนุปสงฺกม; อุปสงฺกมิตฺวา มม วจเนน ภควโต ปาเท สิรสา วนฺทาหิ, อปฺปาพาธํ อปฺปาตงฺกํ ลหุฏฺานํ พลํ ผาสุวิหารํ ปุจฺฉ – ‘ราชา, ภนฺเต, มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต ภควโต ปาเท สิรสา วนฺทติ, อปฺปาพาธํ อปฺปาตงฺกํ ลหุฏฺานํ พลํ ผาสุวิหารํ ปุจฺฉตี’ติ. เอวฺจ วเทหิ – ‘ราชา, ภนฺเต, มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต วชฺชี อภิยาตุกาโม. โส เอวมาห – ‘‘อหํ หิเม วชฺชี เอวํมหิทฺธิเก เอวํมหานุภาเว อุจฺเฉจฺฉามิ วชฺชี, วินาเสสฺสามิ วชฺชี, อนยพฺยสนํ อาปาเทสฺสามี’’’ติ. ยถา เต ภควา พฺยากโรติ, ตํ สาธุกํ อุคฺคเหตฺวา มม อาโรเจยฺยาสิ. น หิ ตถาคตา วิตถํ ภณนฺตี’’ติ.

วสฺสการพฺราหฺมโณ

๑๓๓. ‘‘เอวํ, โภ’’ติ โข วสฺสกาโร พฺราหฺมโณ มคธมหามตฺโต รฺโ มาคธสฺส อชาตสตฺตุสฺส เวเทหิปุตฺตสฺส ปฏิสฺสุตฺวา ภทฺทานิ ภทฺทานิ ยานานิ โยเชตฺวา ภทฺทํ ภทฺทํ ยานํ อภิรุหิตฺวา ภทฺเทหิ ภทฺเทหิ ยาเนหิ ราชคหมฺหา นิยฺยาสิ, เยน คิชฺฌกูโฏ ปพฺพโต เตน ปายาสิ. ยาวติกา ยานสฺส ภูมิ, ยาเนน คนฺตฺวา, ยานา ปจฺโจโรหิตฺวา ปตฺติโกว เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข วสฺสกาโร พฺราหฺมโณ มคธมหามตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ราชา, โภ โคตม, มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต โภโต โคตมสฺส ปาเท สิรสา วนฺทติ, อปฺปาพาธํ อปฺปาตงฺกํ ลหุฏฺานํ พลํ ผาสุวิหารํ ปุจฺฉติ. ราชา [เอวฺจ วเทติ ราชา (ก.)], โภ โคตม, มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต วชฺชี อภิยาตุกาโม. โส เอวมาห – ‘อหํ หิเม วชฺชี เอวํมหิทฺธิเก เอวํมหานุภาเว อุจฺเฉจฺฉามิ วชฺชี, วินาเสสฺสามิ วชฺชี, อนยพฺยสนํ อาปาเทสฺสามี’’’ติ.

ราชอปริหานิยธมฺมา

๑๓๔. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปิฏฺิโต ิโต โหติ ภควนฺตํ พีชยมาโน [วีชยมาโน (สี.), วีชิยมาโน (สฺยา.)]. อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘กินฺติ เต, อานนฺท, สุตํ, ‘วชฺชี อภิณฺหํ สนฺนิปาตา สนฺนิปาตพหุลา’ติ? ‘‘สุตํ เมตํ, ภนฺเต – ‘วชฺชี อภิณฺหํ สนฺนิปาตา สนฺนิปาตพหุลา’’ติ. ‘‘ยาวกีวฺจ, อานนฺท, วชฺชี อภิณฺหํ สนฺนิปาตา สนฺนิปาตพหุลา ภวิสฺสนฺติ, วุทฺธิเยว, อานนฺท, วชฺชีนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.

‘‘กินฺติ เต, อานนฺท, สุตํ , ‘วชฺชี สมคฺคา สนฺนิปตนฺติ, สมคฺคา วุฏฺหนฺติ, สมคฺคา วชฺชิกรณียานิ กโรนฺตี’ติ? ‘‘สุตํ เมตํ, ภนฺเต – ‘วชฺชี สมคฺคา สนฺนิปตนฺติ, สมคฺคา วุฏฺหนฺติ, สมคฺคา วชฺชิกรณียานิ กโรนฺตี’’ติ. ‘‘ยาวกีวฺจ, อานนฺท, วชฺชี สมคฺคา สนฺนิปติสฺสนฺติ, สมคฺคา วุฏฺหิสฺสนฺติ, สมคฺคา วชฺชิกรณียานิ กริสฺสนฺติ, วุทฺธิเยว, อานนฺท, วชฺชีนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.

‘‘กินฺติ เต, อานนฺท, สุตํ, ‘วชฺชี อปฺตฺตํ น ปฺเปนฺติ, ปฺตฺตํ น สมุจฺฉินฺทนฺติ, ยถาปฺตฺเต โปราเณ วชฺชิธมฺเม สมาทาย วตฺตนฺตี’’’ติ? ‘‘สุตํ เมตํ, ภนฺเต – ‘วชฺชี อปฺตฺตํ น ปฺเปนฺติ, ปฺตฺตํ น สมุจฺฉินฺทนฺติ, ยถาปฺตฺเต โปราเณ วชฺชิธมฺเม สมาทาย วตฺตนฺตี’’’ติ. ‘‘ยาวกีวฺจ, อานนฺท, ‘‘วชฺชี อปฺตฺตํ น ปฺเปสฺสนฺติ, ปฺตฺตํ น สมุจฺฉินฺทิสฺสนฺติ, ยถาปฺตฺเต โปราเณ วชฺชิธมฺเม สมาทาย วตฺติสฺสนฺติ, วุทฺธิเยว, อานนฺท, วชฺชีนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.

‘‘กินฺติ เต, อานนฺท, สุตํ, ‘วชฺชี เย เต วชฺชีนํ วชฺชิมหลฺลกา, เต สกฺกโรนฺติ ครุํ กโรนฺติ [ครุกโรนฺติ (สี. สฺยา. ปี.)] มาเนนฺติ ปูเชนฺติ, เตสฺจ โสตพฺพํ มฺนฺตี’’’ติ? ‘‘สุตํ เมตํ, ภนฺเต – ‘วชฺชี เย เต วชฺชีนํ วชฺชิมหลฺลกา, เต สกฺกโรนฺติ ครุํ กโรนฺติ มาเนนฺติ ปูเชนฺติ, เตสฺจ โสตพฺพํ มฺนฺตี’’’ติ. ‘‘ยาวกีวฺจ, อานนฺท, วชฺชี เย เต วชฺชีนํ วชฺชิมหลฺลกา , เต สกฺกริสฺสนฺติ ครุํ กริสฺสนฺติ มาเนสฺสนฺติ ปูเชสฺสนฺติ, เตสฺจ โสตพฺพํ มฺิสฺสนฺติ, วุทฺธิเยว, อานนฺท, วชฺชีนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.

‘‘กินฺติ เต, อานนฺท, สุตํ, ‘วชฺชี ยา ตา กุลิตฺถิโย กุลกุมาริโย, ตา น โอกฺกสฺส ปสยฺห วาเสนฺตี’’’ติ? ‘‘สุตํ เมตํ, ภนฺเต – ‘วชฺชี ยา ตา กุลิตฺถิโย กุลกุมาริโย ตา น โอกฺกสฺส ปสยฺห วาเสนฺตี’’’ติ. ‘‘ยาวกีวฺจ, อานนฺท, วชฺชี ยา ตา กุลิตฺถิโย กุลกุมาริโย, ตา น โอกฺกสฺส ปสยฺห วาเสสฺสนฺติ, วุทฺธิเยว, อานนฺท, วชฺชีนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.

‘‘กินฺติ เต, อานนฺท, สุตํ, ‘วชฺชี ยานิ ตานิ

วชฺชีนํ วชฺชิเจติยานิ อพฺภนฺตรานิ เจว พาหิรานิ จ, ตานิ สกฺกโรนฺติ ครุํ กโรนฺติ มาเนนฺติ ปูเชนฺติ, เตสฺจ ทินฺนปุพฺพํ กตปุพฺพํ ธมฺมิกํ พลึ โน ปริหาเปนฺตี’’’ติ? ‘‘สุตํ เมตํ, ภนฺเต – ‘วชฺชี ยานิ ตานิ วชฺชีนํ วชฺชิเจติยานิ อพฺภนฺตรานิ เจว พาหิรานิ จ, ตานิ สกฺกโรนฺติ ครุํ กโรนฺติ มาเนนฺติ ปูเชนฺติ เตสฺจ ทินฺนปุพฺพํ กตปุพฺพํ ธมฺมิกํ พลึ โน ปริหาเปนฺตี’’’ติ. ‘‘ยาวกีวฺจ, อานนฺท, วชฺชี ยานิ ตานิ วชฺชีนํ วชฺชิเจติยานิ อพฺภนฺตรานิ เจว พาหิรานิ จ, ตานิ สกฺกริสฺสนฺติ ครุํ กริสฺสนฺติ มาเนสฺสนฺติ ปูเชสฺสนฺติ, เตสฺจ ทินฺนปุพฺพํ กตปุพฺพํ ธมฺมิกํ พลึ โน ปริหาเปสฺสนฺติ, วุทฺธิเยว, อานนฺท, วชฺชีนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.

‘‘กินฺติ เต, อานนฺท, สุตํ, ‘วชฺชีนํ อรหนฺเตสุ ธมฺมิกา รกฺขาวรณคุตฺติ สุสํวิหิตา, กินฺติ อนาคตา จ อรหนฺโต วิชิตํ อาคจฺเฉยฺยุํ, อาคตา จ อรหนฺโต วิชิเต ผาสุ วิหเรยฺยุ’’’นฺติ? ‘‘สุตํ เมตํ, ภนฺเต ‘วชฺชีนํ อรหนฺเตสุ ธมฺมิกา รกฺขาวรณคุตฺติ สุสํวิหิตา กินฺติ อนาคตา จ อรหนฺโต วิชิตํ อาคจฺเฉยฺยุํ, อาคตา จ อรหนฺโต วิชิเต ผาสุ วิหเรยฺยุ’’’นฺติ. ‘‘ยาวกีวฺจ, อานนฺท, วชฺชีนํ อรหนฺเตสุ ธมฺมิกา รกฺขาวรณคุตฺติ สุสํวิหิตา ภวิสฺสติ, กินฺติ อนาคตา จ อรหนฺโต วิชิตํ อาคจฺเฉยฺยุํ, อาคตา จ อรหนฺโต วิชิเต ผาสุ วิหเรยฺยุนฺติ. วุทฺธิเยว, อานนฺท, วชฺชีนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานี’’ติ.

๑๓๕. อถ โข ภควา วสฺสการํ พฺราหฺมณํ มคธมหามตฺตํ อามนฺเตสิ – ‘‘เอกมิทาหํ, พฺราหฺมณ, สมยํ เวสาลิยํ วิหรามิ สารนฺทเท [สานนฺทเร (ก.)] เจติเย. ตตฺราหํ วชฺชีนํ อิเม สตฺต อปริหานิเย ธมฺเม เทเสสึ. ยาวกีวฺจ, พฺราหฺมณ, อิเม สตฺต อปริหานิยา ธมฺมา วชฺชีสุ สฺสนฺติ, อิเมสุ จ สตฺตสุ อปริหานิเยสุ ธมฺเมสุ วชฺชี สนฺทิสฺสิสฺสนฺติ, วุทฺธิเยว, พฺราหฺมณ, วชฺชีนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานี’’ติ.

เอวํ วุตฺเต, วสฺสกาโร พฺราหฺมโณ มคธมหามตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เอกเมเกนปิ, โภ โคตม, อปริหานิเยน ธมฺเมน สมนฺนาคตานํ วชฺชีนํ วุทฺธิเยว ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ . โก ปน วาโท สตฺตหิ อปริหานิเยหิ ธมฺเมหิ. อกรณียาว [อกรณียา จ (สฺยา. ก.)], โภ โคตม, วชฺชี [วชฺชีนํ (ก.)] รฺา มาคเธน อชาตสตฺตุนา เวเทหิปุตฺเตน ยทิทํ ยุทฺธสฺส, อฺตฺร อุปลาปนาย อฺตฺร มิถุเภทา. หนฺท จ ทานิ มยํ, โภ โคตม, คจฺฉาม , พหุกิจฺจา มยํ พหุกรณียา’’ติ. ‘‘ยสฺสทานิ ตฺวํ, พฺราหฺมณ, กาลํ มฺสี’’ติ. อถ โข วสฺสกาโร พฺราหฺมโณ มคธมหามตฺโต ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ.

ภิกฺขุอปริหานิยธมฺมา

๑๓๖. อถ โข ภควา อจิรปกฺกนฺเต วสฺสกาเร พฺราหฺมเณ มคธมหามตฺเต อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘คจฺฉ ตฺวํ, อานนฺท, ยาวติกา ภิกฺขู ราชคหํ อุปนิสฺสาย วิหรนฺติ, เต สพฺเพ อุปฏฺานสาลายํ สนฺนิปาเตหี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา ยาวติกา ภิกฺขู ราชคหํ อุปนิสฺสาย วิหรนฺติ, เต สพฺเพ อุปฏฺานสาลายํ สนฺนิปาเตตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิโต โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สนฺนิปติโต, ภนฺเต, ภิกฺขุสงฺโฆ, ยสฺสทานิ, ภนฺเต, ภควา กาลํ มฺตี’’ติ.

อถ โข ภควา อุฏฺายาสนา เยน อุปฏฺานสาลา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. นิสชฺช โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘สตฺต โว, ภิกฺขเว, อปริหานิเย ธมฺเม เทเสสฺสามิ, ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิกโรถ, ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –

‘‘ยาวกีวฺจ , ภิกฺขเว, ภิกฺขู อภิณฺหํ สนฺนิปาตา สนฺนิปาตพหุลา ภวิสฺสนฺติ, วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.

‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู สมคฺคา สนฺนิปติสฺสนฺติ, สมคฺคา วุฏฺหิสฺสนฺติ, สมคฺคา สงฺฆกรณียานิ กริสฺสนฺติ , วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.

‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู อปฺตฺตํ น ปฺเปสฺสนฺติ, ปฺตฺตํ น สมุจฺฉินฺทิสฺสนฺติ, ยถาปฺตฺเตสุ สิกฺขาปเทสุ สมาทาย วตฺติสฺสนฺติ, วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.

‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู เย เต ภิกฺขู เถรา รตฺตฺู จิรปพฺพชิตา สงฺฆปิตโร สงฺฆปริณายกา, เต สกฺกริสฺสนฺติ ครุํ กริสฺสนฺติ มาเนสฺสนฺติ ปูเชสฺสนฺติ, เตสฺจ โสตพฺพํ มฺิสฺสนฺติ, วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.

‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู อุปฺปนฺนาย ตณฺหาย โปโนพฺภวิกาย น วสํ คจฺฉิสฺสนฺติ, วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.

‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู อารฺเกสุ เสนาสเนสุ สาเปกฺขา ภวิสฺสนฺติ, วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.

‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู ปจฺจตฺตฺเว สตึ อุปฏฺเปสฺสนฺติ – ‘กินฺติ อนาคตา จ เปสลา สพฺรหฺมจารี อาคจฺเฉยฺยุํ, อาคตา จ เปสลา สพฺรหฺมจารี ผาสุ [ผาสุํ (สี. สฺยา. ปี.)] วิหเรยฺยุ’นฺติ. วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.

‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, อิเม สตฺต อปริหานิยา ธมฺมา ภิกฺขูสุ สฺสนฺติ, อิเมสุ จ สตฺตสุ อปริหานิเยสุ ธมฺเมสุ ภิกฺขู สนฺทิสฺสิสฺสนฺติ, วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.

๑๓๗. ‘‘อปเรปิ โว, ภิกฺขเว, สตฺต อปริหานิเย ธมฺเม เทเสสฺสามิ, ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิกโรถ, ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –

‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู น กมฺมารามา ภวิสฺสนฺติ น กมฺมรตา น กมฺมารามตมนุยุตฺตา, วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.

‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู น ภสฺสารามา ภวิสฺสนฺติ น ภสฺสรตา น ภสฺสารามตมนุยุตฺตา, วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.

‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู น นิทฺทารามา ภวิสฺสนฺติ น นิทฺทารตา น นิทฺทารามตมนุยุตฺตา, วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.

‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู น สงฺคณิการามา ภวิสฺสนฺติ น สงฺคณิกรตา น สงฺคณิการามตมนุยุตฺตา, วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.

‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู น ปาปิจฺฉา ภวิสฺสนฺติ น ปาปิกานํ อิจฺฉานํ วสํ คตา, วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.

‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู น ปาปมิตฺตา ภวิสฺสนฺติ น ปาปสหายา น ปาปสมฺปวงฺกา, วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.

‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู น โอรมตฺตเกน วิเสสาธิคเมน อนฺตราโวสานํ อาปชฺชิสฺสนฺติ, วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.

‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, อิเม สตฺต อปริหานิยา ธมฺมา ภิกฺขูสุ สฺสนฺติ, อิเมสุ จ สตฺตสุ อปริหานิเยสุ ธมฺเมสุ ภิกฺขู สนฺทิสฺสิสฺสนฺติ, วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.

๑๓๘. ‘‘อปเรปิ โว, ภิกฺขเว, สตฺต อปริหานิเย ธมฺเม เทเสสฺสามิ…เป… ‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู สทฺธา ภวิสฺสนฺติ…เป… หิริมนา ภวิสฺสนฺติ… โอตฺตปฺปี ภวิสฺสนฺติ… พหุสฺสุตา ภวิสฺสนฺติ… อารทฺธวีริยา ภวิสฺสนฺติ… อุปฏฺิตสฺสตี ภวิสฺสนฺติ… ปฺวนฺโต ภวิสฺสนฺติ, วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ. ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, อิเม สตฺต อปริหานิยา ธมฺมา ภิกฺขูสุ สฺสนฺติ, อิเมสุ จ สตฺตสุ อปริหานิเยสุ ธมฺเมสุ ภิกฺขู สนฺทิสฺสิสฺสนฺติ, วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.

๑๓๙. ‘‘อปเรปิ โว, ภิกฺขเว, สตฺต อปริหานิเย ธมฺเม เทเสสฺสามิ, ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิกโรถ, ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –

‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สติสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวสฺสนฺติ…เป… ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวสฺสนฺติ… วีริยสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวสฺสนฺติ… ปีติสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวสฺสนฺติ… ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวสฺสนฺติ… สมาธิสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวสฺสนฺติ… อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวสฺสนฺติ, วุทฺธิเยว , ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.

‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, อิเม สตฺต อปริหานิยา ธมฺมา ภิกฺขูสุ สฺสนฺติ, อิเมสุ จ สตฺตสุ อปริหานิเยสุ ธมฺเมสุ ภิกฺขู สนฺทิสฺสิสฺสนฺติ, วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา โน ปริหานิ.

๑๔๐. ‘‘อปเรปิ โว, ภิกฺขเว, สตฺต อปริหานิเย ธมฺเม เทเสสฺสามิ, ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิกโรถ, ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –

‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู อนิจฺจสฺํ ภาเวสฺสนฺติ…เป… อนตฺตสฺํ ภาเวสฺสนฺติ… อสุภสฺํ ภาเวสฺสนฺติ… อาทีนวสฺํ ภาเวสฺสนฺติ… ปหานสฺํ ภาเวสฺสนฺติ… วิราคสฺํ ภาเวสฺสนฺติ… นิโรธสฺํ ภาเวสฺสนฺติ, วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.

‘‘ยาวกีวฺจ , ภิกฺขเว, อิเม สตฺต อปริหานิยา ธมฺมา ภิกฺขูสุ สฺสนฺติ, อิเมสุ จ สตฺตสุ อปริหานิเยสุ ธมฺเมสุ ภิกฺขู สนฺทิสฺสิสฺสนฺติ, วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.

๑๔๑. ‘‘ฉ, โว ภิกฺขเว, อปริหานิเย ธมฺเม เทเสสฺสามิ, ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิกโรถ, ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –

‘‘ยาวกีวฺจ , ภิกฺขเว, ภิกฺขู เมตฺตํ กายกมฺมํ ปจฺจุปฏฺาเปสฺสนฺติ สพฺรหฺมจารีสุ อาวิ เจว รโห จ, วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.

‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู เมตฺตํ วจีกมฺมํ ปจฺจุปฏฺาเปสฺสนฺติ …เป… เมตฺตํ มโนกมฺมํ ปจฺจุปฏฺาเปสฺสนฺติ สพฺรหฺมจารีสุ อาวิ เจว รโห จ, วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.

‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู, เย เต ลาภา ธมฺมิกา ธมฺมลทฺธา อนฺตมโส ปตฺตปริยาปนฺนมตฺตมฺปิ ตถารูเปหิ ลาเภหิ อปฺปฏิวิภตฺตโภคี ภวิสฺสนฺติ สีลวนฺเตหิ สพฺรหฺมจารีหิ สาธารณโภคี, วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.

‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู ยานิ กานิ สีลานิ อขณฺฑานิ อจฺฉิทฺทานิ อสพลานิ อกมฺมาสานิ ภุชิสฺสานิ วิฺูปสตฺถานิ [วิฺุปฺปสตฺถานิ (สี.)] อปรามฏฺานิ สมาธิสํวตฺตนิกานิ ตถารูเปสุ สีเลสุ สีลสามฺคตา วิหริสฺสนฺติ สพฺรหฺมจารีหิ อาวิ เจว รโห จ, วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.

‘‘ยาวกีวฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู ยายํ ทิฏฺิ อริยา นิยฺยานิกา, นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส สมฺมา ทุกฺขกฺขยาย, ตถารูปาย ทิฏฺิยา ทิฏฺิสามฺคตา วิหริสฺสนฺติ สพฺรหฺมจารีหิ อาวิ เจว รโห จ, วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานิ.

‘‘ยาวกีวฺจ , ภิกฺขเว, อิเม ฉ อปริหานิยา ธมฺมา ภิกฺขูสุ สฺสนฺติ, อิเมสุ จ ฉสุ อปริหานิเยสุ ธมฺเมสุ ภิกฺขู สนฺทิสฺสิสฺสนฺติ, วุทฺธิเยว, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานี’’ติ.

๑๔๒. ตตฺร สุทํ ภควา ราชคเห วิหรนฺโต คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเต เอตเทว พหุลํ ภิกฺขูนํ ธมฺมึ กถํ กโรติ – ‘‘อิติ สีลํ, อิติ สมาธิ, อิติ ปฺา. สีลปริภาวิโต สมาธิ มหปฺผโล โหติ มหานิสํโส. สมาธิปริภาวิตา ปฺา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา. ปฺาปริภาวิตํ จิตฺตํ สมฺมเทว อาสเวหิ วิมุจฺจติ, เสยฺยถิทํ – กามาสวา, ภวาสวา, อวิชฺชาสวา’’ติ.

๑๔๓. อถ โข ภควา ราชคเห ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อายามานนฺท, เยน อมฺพลฏฺิกา เตนุปสงฺกมิสฺสามา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปจฺจสฺโสสิ. อถ โข ภควา มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ เยน อมฺพลฏฺิกา ตทวสริ. ตตฺร สุทํ ภควา อมฺพลฏฺิกายํ วิหรติ ราชาคารเก. ตตฺราปิ สุทํ ภควา อมฺพลฏฺิกายํ วิหรนฺโต ราชาคารเก เอตเทว พหุลํ ภิกฺขูนํ ธมฺมึ กถํ กโรติ – ‘‘อิติ สีลํ อิติ สมาธิ อิติ ปฺา. สีลปริภาวิโต สมาธิ มหปฺผโล โหติ มหานิสํโส. สมาธิปริภาวิตา ปฺา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา. ปฺาปริภาวิตํ จิตฺตํ สมฺมเทว อาสเวหิ วิมุจฺจติ, เสยฺยถิทํ – กามาสวา, ภวาสวา, อวิชฺชาสวา’’ติ.

๑๔๔. อถ โข ภควา อมฺพลฏฺิกายํ ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อายามานนฺท, เยน นาฬนฺทา เตนุปสงฺกมิสฺสามา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปจฺจสฺโสสิ. อถ โข ภควา มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ เยน นาฬนฺทา ตทวสริ, ตตฺร สุทํ ภควา นาฬนฺทายํ วิหรติ ปาวาริกมฺพวเน .

สาริปุตฺตสีหนาโท

๑๔๕. อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เอวํ ปสนฺโน อหํ, ภนฺเต, ภควติ; น จาหุ น จ ภวิสฺสติ น เจตรหิ วิชฺชติ อฺโ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ภควตา ภิยฺโยภิฺตโร ยทิทํ สมฺโพธิย’’นฺติ. ‘‘อุฬารา โข เต อยํ, สาริปุตฺต, อาสภี วาจา [อาสภิวาจา (สฺยา.)] ภาสิตา, เอกํโส คหิโต, สีหนาโท นทิโต – ‘เอวํปสนฺโน อหํ, ภนฺเต, ภควติ; น จาหุ น จ ภวิสฺสติ น เจตรหิ วิชฺชติ อฺโ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ภควตา ภิยฺโยภิฺตโร ยทิทํ สมฺโพธิย’นฺติ.

‘‘กึ เต [กึ นุ (สฺยา. ปี. ก.)], สาริปุตฺต, เย เต อเหสุํ อตีตมทฺธานํ อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา, สพฺเพ เต ภควนฺโต เจตสา เจโต ปริจฺจ วิทิตา – ‘เอวํสีลา เต ภควนฺโต อเหสุํ อิติปิ, เอวํธมฺมา เอวํปฺา เอวํวิหารี เอวํวิมุตฺตา เต ภควนฺโต อเหสุํ อิติปี’’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’.

‘‘กึ ปน เต [กึ ปน (สฺยา. ปี. ก.)], สาริปุตฺต, เย เต ภวิสฺสนฺติ อนาคตมทฺธานํ อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา, สพฺเพ เต ภควนฺโต เจตสา เจโต ปริจฺจ วิทิตา – ‘เอวํสีลา เต ภควนฺโต ภวิสฺสนฺติ อิติปิ, เอวํธมฺมา เอวํปฺา เอวํวิหารี เอวํวิมุตฺตา เต ภควนฺโต ภวิสฺสนฺติ อิติปี’’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’.

‘‘กึ ปน เต, สาริปุตฺต, อหํ เอตรหิ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ เจตสา เจโต ปริจฺจ วิทิโต – ‘‘เอวํสีโล ภควา อิติปิ , เอวํธมฺโม เอวํปฺโ เอวํวิหารี เอวํวิมุตฺโต ภควา อิติปี’’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’.

‘‘เอตฺถ จ หิ เต, สาริปุตฺต, อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺเนสุ อรหนฺเตสุ สมฺมาสมฺพุทฺเธสุ เจโตปริยาณํ [เจโตปริฺายาณํ (สฺยา.), เจตสา เจโตปริยายาณํ (ก.)] นตฺถิ. อถ กิฺจรหิ เต อยํ, สาริปุตฺต, อุฬารา อาสภี วาจา ภาสิตา, เอกํโส คหิโต, สีหนาโท นทิโต – ‘เอวํปสนฺโน อหํ, ภนฺเต, ภควติ; น จาหุ น จ ภวิสฺสติ น เจตรหิ วิชฺชติ อฺโ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ภควตา ภิยฺโยภิฺตโร ยทิทํ สมฺโพธิย’’’นฺติ?

๑๔๖. ‘‘น โข เม, ภนฺเต, อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺเนสุ อรหนฺเตสุ สมฺมาสมฺพุทฺเธสุ เจโตปริยาณํ อตฺถิ, อปิ จ เม ธมฺมนฺวโย วิทิโต. เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, รฺโ ปจฺจนฺติมํ นครํ ทฬฺหุทฺธาปํ ทฬฺหปาการโตรณํ เอกทฺวารํ, ตตฺรสฺส โทวาริโก ปณฺฑิโต วิยตฺโต เมธาวี อฺาตานํ นิวาเรตา าตานํ ปเวเสตา. โส ตสฺส นครสฺส สมนฺตา อนุปริยายปถํ [อนุจริยายปถํ (สฺยา.)] อนุกฺกมมาโน น ปสฺเสยฺย ปาการสนฺธึ วา ปาการวิวรํ วา, อนฺตมโส พิฬารนิกฺขมนมตฺตมฺปิ. ตสฺส เอวมสฺส [น ปสฺเสยฺย ตสฺส เอวมสฺส (สฺยา.)] – ‘เย โข เกจิ โอฬาริกา ปาณา อิมํ นครํ ปวิสนฺติ วา นิกฺขมนฺติ วา, สพฺเพ เต อิมินาว ทฺวาเรน ปวิสนฺติ วา นิกฺขมนฺติ วา’ติ. เอวเมว โข เม, ภนฺเต, ธมฺมนฺวโย วิทิโต – ‘เย เต, ภนฺเต, อเหสุํ อตีตมทฺธานํ อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา , สพฺเพ เต ภควนฺโต ปฺจ นีวรเณ ปหาย เจตโส อุปกฺกิเลเส ปฺาย ทุพฺพลีกรเณ จตูสุ สติปฏฺาเนสุ สุปติฏฺิตจิตฺตา สตฺตโพชฺฌงฺเค ยถาภูตํ ภาเวตฺวา อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุชฺฌึสุ. เยปิ เต, ภนฺเต, ภวิสฺสนฺติ อนาคตมทฺธานํ อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา , สพฺเพ เต ภควนฺโต ปฺจ นีวรเณ ปหาย เจตโส อุปกฺกิเลเส ปฺาย ทุพฺพลีกรเณ จตูสุ สติปฏฺาเนสุ สุปติฏฺิตจิตฺตา สตฺต โพชฺฌงฺเค ยถาภูตํ ภาเวตฺวา อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุชฺฌิสฺสนฺติ. ภควาปิ, ภนฺเต, เอตรหิ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ปฺจ นีวรเณ ปหาย เจตโส อุปกฺกิเลเส ปฺาย ทุพฺพลีกรเณ จตูสุ สติปฏฺาเนสุ สุปติฏฺิตจิตฺโต สตฺต โพชฺฌงฺเค ยถาภูตํ ภาเวตฺวา อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธ’’’ติ.

๑๔๗. ตตฺรปิ สุทํ ภควา นาฬนฺทายํ วิหรนฺโต ปาวาริกมฺพวเน เอตเทว พหุลํ ภิกฺขูนํ ธมฺมึ กถํ กโรติ – ‘‘อิติ สีลํ, อิติ สมาธิ, อิติ ปฺา. สีลปริภาวิโต สมาธิ มหปฺผโล โหติ มหานิสํโส. สมาธิปริภาวิตา ปฺา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา. ปฺาปริภาวิตํ จิตฺตํ สมฺมเทว อาสเวหิ วิมุจฺจติ, เสยฺยถิทํ – กามาสวา, ภวาสวา, อวิชฺชาสวา’’ติ.

ทุสฺสีลอาทีนวา

๑๔๘. อถ โข ภควา นาฬนฺทายํ ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อายามานนฺท, เยน ปาฏลิคาโม เตนุปสงฺกมิสฺสามา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปจฺจสฺโสสิ . อถ โข ภควา มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ เยน ปาฏลิคาโม ตทวสริ. อสฺโสสุํ โข ปาฏลิคามิกา อุปาสกา – ‘‘ภควา กิร ปาฏลิคามํ อนุปฺปตฺโต’’ติ. อถ โข ปาฏลิคามิกา อุปาสกา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข ปาฏลิคามิกา อุปาสกา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อธิวาเสตุ โน, ภนฺเต, ภควา อาวสถาคาร’’นฺติ. อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวน. อถ โข ปาฏลิคามิกา อุปาสกา ภควโต อธิวาสนํ วิทิตฺวา อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา เยน อาวสถาคารํ เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา สพฺพสนฺถรึ [สพฺพสนฺถริตํ สตฺถตํ (สฺยา.), สพฺพสนฺถรึ สนฺถตํ (ก.)] อาวสถาคารํ สนฺถริตฺวา อาสนานิ ปฺเปตฺวา อุทกมณิกํ ปติฏฺาเปตฺวา เตลปทีปํ อาโรเปตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺํสุ. เอกมนฺตํ ิตา โข ปาฏลิคามิกา อุปาสกา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘สพฺพสนฺถริสนฺถตํ [สพฺพสนฺถรึ สนฺถตํ (สี. สฺยา. ปี. ก.)], ภนฺเต, อาวสถาคารํ, อาสนานิ ปฺตฺตานิ, อุทกมณิโก ปติฏฺาปิโต, เตลปทีโป อาโรปิโต; ยสฺสทานิ, ภนฺเต, ภควา กาลํ มฺตี’’ติ. อถ โข ภควา สายนฺหสมยํ [อิทํ ปทํ วินยมหาวคฺค น ทิสฺสติ]. นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน เยน อาวสถาคารํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปาเท ปกฺขาเลตฺวา อาวสถาคารํ ปวิสิตฺวา มชฺฌิมํ ถมฺภํ นิสฺสาย ปุรตฺถาภิมุโข [ปุรตฺถิมาภิมุโข (ก.)] นิสีทิ. ภิกฺขุสงฺโฆปิ โข ปาเท ปกฺขาเลตฺวา อาวสถาคารํ ปวิสิตฺวา ปจฺฉิมํ ภิตฺตึ นิสฺสาย ปุรตฺถาภิมุโข นิสีทิ ภควนฺตเมว ปุรกฺขตฺวา. ปาฏลิคามิกาปิ โข อุปาสกา ปาเท ปกฺขาเลตฺวา อาวสถาคารํ ปวิสิตฺวา ปุรตฺถิมํ ภิตฺตึ นิสฺสาย ปจฺฉิมาภิมุขา นิสีทึสุ ภควนฺตเมว ปุรกฺขตฺวา.

๑๔๙. อถ โข ภควา ปาฏลิคามิเก อุปาสเก อามนฺเตสิ – ‘‘ปฺจิเม, คหปตโย, อาทีนวา ทุสฺสีลสฺส สีลวิปตฺติยา. กตเม ปฺจ? อิธ, คหปตโย, ทุสฺสีโล สีลวิปนฺโน ปมาทาธิกรณํ มหตึ โภคชานึ นิคจฺฉติ. อยํ ปโม อาทีนโว ทุสฺสีลสฺส สีลวิปตฺติยา.

‘‘ปุน จปรํ, คหปตโย, ทุสฺสีลสฺส สีลวิปนฺนสฺส ปาปโก กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคจฺฉติ. อยํ ทุติโย อาทีนโว ทุสฺสีลสฺส สีลวิปตฺติยา.

‘‘ปุน จปรํ, คหปตโย, ทุสฺสีโล สีลวิปนฺโน ยฺเทว ปริสํ อุปสงฺกมติ – ยทิ ขตฺติยปริสํ ยทิ พฺราหฺมณปริสํ ยทิ คหปติปริสํ ยทิ สมณปริสํ – อวิสารโท อุปสงฺกมติ มงฺกุภูโต. อยํ ตติโย อาทีนโว ทุสฺสีลสฺส สีลวิปตฺติยา.

‘‘ปุน จปรํ, คหปตโย, ทุสฺสีโล สีลวิปนฺโน สมฺมูฬฺโห กาลงฺกโรติ. อยํ จตุตฺโถ อาทีนโว ทุสฺสีลสฺส สีลวิปตฺติยา.

‘‘ปุน จปรํ, คหปตโย, ทุสฺสีโล สีลวิปนฺโน กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ. อยํ ปฺจโม อาทีนโว ทุสฺสีลสฺส สีลวิปตฺติยา. อิเม โข, คหปตโย, ปฺจ อาทีนวา ทุสฺสีลสฺส สีลวิปตฺติยา.

สีลวนฺตอานิสํส

๑๕๐. ‘‘ปฺจิเม , คหปตโย, อานิสํสา สีลวโต สีลสมฺปทาย. กตเม ปฺจ? อิธ, คหปตโย, สีลวา สีลสมฺปนฺโน อปฺปมาทาธิกรณํ มหนฺตํ โภคกฺขนฺธํ อธิคจฺฉติ. อยํ ปโม อานิสํโส สีลวโต สีลสมฺปทาย.

‘‘ปุน จปรํ, คหปตโย, สีลวโต สีลสมฺปนฺนสฺส กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคจฺฉติ. อยํ ทุติโย อานิสํโส สีลวโต สีลสมฺปทาย.

‘‘ปุน จปรํ, คหปตโย, สีลวา สีลสมฺปนฺโน ยฺเทว ปริสํ อุปสงฺกมติ – ยทิ ขตฺติยปริสํ ยทิ พฺราหฺมณปริสํ ยทิ คหปติปริสํ ยทิ สมณปริสํ วิสารโท อุปสงฺกมติ อมงฺกุภูโต. อยํ ตติโย อานิสํโส สีลวโต สีลสมฺปทาย.

‘‘ปุน จปรํ, คหปตโย, สีลวา สีลสมฺปนฺโน อสมฺมูฬฺโห กาลงฺกโรติ. อยํ จตุตฺโถ อานิสํโส สีลวโต สีลสมฺปทาย.

‘‘ปุน จปรํ, คหปตโย, สีลวา สีลสมฺปนฺโน กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ. อยํ ปฺจโม อานิสํโส สีลวโต สีลสมฺปทาย. อิเม โข, คหปตโย, ปฺจ อานิสํสา สีลวโต สีลสมฺปทายา’’ติ.

๑๕๑. อถ โข ภควา ปาฏลิคามิเก อุปาสเก พหุเทว รตฺตึ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตฺวา สมาทเปตฺวา สมุตฺเตเชตฺวา สมฺปหํเสตฺวา อุยฺโยเชสิ – ‘‘อภิกฺกนฺตา โข, คหปตโย, รตฺติ, ยสฺสทานิ ตุมฺเห กาลํ มฺถา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข ปาฏลิคามิกา อุปาสกา ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกมึสุ. อถ โข ภควา อจิรปกฺกนฺเตสุ ปาฏลิคามิเกสุ อุปาสเกสุ สุฺาคารํ ปาวิสิ.

ปาฏลิปุตฺตนครมาปนํ

๑๕๒. เตน โข ปน สมเยน สุนิธวสฺสการา [สุนีธวสฺสการา (สฺยา. ก.)] มคธมหามตฺตา ปาฏลิคาเม นครํ มาเปนฺติ วชฺชีนํ ปฏิพาหาย. เตน สมเยน สมฺพหุลา เทวตาโย สหสฺเสว [สหสฺสสฺเสว (สี. ปี. ก.), สหสฺสเสว (ฏีกายํ ปานฺตรํ), สหสฺสสหสฺเสว (อุทานฏฺกถา)] ปาฏลิคาเม วตฺถูนิ ปริคฺคณฺหนฺติ. ยสฺมึ ปเทเส มเหสกฺขา เทวตา วตฺถูนิ ปริคฺคณฺหนฺติ, มเหสกฺขานํ ตตฺถ รฺํ ราชมหามตฺตานํ จิตฺตานิ นมนฺติ นิเวสนานิ มาเปตุํ. ยสฺมึ ปเทเส มชฺฌิมา เทวตา วตฺถูนิ ปริคฺคณฺหนฺติ, มชฺฌิมานํ ตตฺถ รฺํ ราชมหามตฺตานํ จิตฺตานิ นมนฺติ นิเวสนานิ มาเปตุํ. ยสฺมึ ปเทเส นีจา เทวตา วตฺถูนิ ปริคฺคณฺหนฺติ, นีจานํ ตตฺถ รฺํ ราชมหามตฺตานํ จิตฺตานิ นมนฺติ นิเวสนานิ มาเปตุํ. อทฺทสา โข ภควา ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน ตา เทวตาโย สหสฺเสว ปาฏลิคาเม วตฺถูนิ ปริคฺคณฺหนฺติโย. อถ โข ภควา รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ ปจฺจุฏฺาย อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘เก นุ โข [โก นุ โข (สี. สฺยา. ปี. ก.)], อานนฺท, ปาฏลิคาเม นครํ มาเปนฺตี’’ติ [มาเปตีติ (สี. สฺยา. ปี. ก.)]? ‘‘สุนิธวสฺสการา, ภนฺเต, มคธมหามตฺตา ปาฏลิคาเม นครํ มาเปนฺติ วชฺชีนํ ปฏิพาหายา’’ติ. ‘‘เสยฺยถาปิ, อานนฺท, เทเวหิ ตาวตึเสหิ สทฺธึ มนฺเตตฺวา, เอวเมว โข, อานนฺท, สุนิธวสฺสการา มคธมหามตฺตา ปาฏลิคาเม นครํ มาเปนฺติ วชฺชีนํ ปฏิพาหาย. อิธาหํ, อานนฺท, อทฺทสํ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สมฺพหุลา เทวตาโย สหสฺเสว ปาฏลิคาเม วตฺถูนิ ปริคฺคณฺหนฺติโย. ยสฺมึ , อานนฺท, ปเทเส มเหสกฺขา เทวตา วตฺถูนิ ปริคฺคณฺหนฺติ, มเหสกฺขานํ ตตฺถ รฺํ ราชมหามตฺตานํ จิตฺตานิ นมนฺติ นิเวสนานิ มาเปตุํ. ยสฺมึ ปเทเส มชฺฌิมา เทวตา วตฺถูนิ ปริคฺคณฺหนฺติ, มชฺฌิมานํ ตตฺถ รฺํ ราชมหามตฺตานํ จิตฺตานิ นมนฺติ นิเวสนานิ มาเปตุํ. ยสฺมึ ปเทเส นีจา เทวตา วตฺถูนิ ปริคฺคณฺหนฺติ, นีจานํ ตตฺถ รฺํ ราชมหามตฺตานํ จิตฺตานิ นมนฺติ นิเวสนานิ มาเปตุํ. ยาวตา, อานนฺท, อริยํ อายตนํ ยาวตา วณิปฺปโถ อิทํ อคฺคนครํ ภวิสฺสติ ปาฏลิปุตฺตํ ปุฏเภทนํ . ปาฏลิปุตฺตสฺส โข, อานนฺท, ตโย อนฺตรายา ภวิสฺสนฺติ – อคฺคิโต วา อุทกโต วา มิถุเภทา วา’’ติ.

๑๕๓. อถ โข สุนิธวสฺสการา มคธมหามตฺตา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทึสุ, สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺํสุ, เอกมนฺตํ ิตา โข สุนิธวสฺสการา มคธมหามตฺตา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อธิวาเสตุ โน ภวํ โคตโม อชฺชตนาย ภตฺตํ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆนา’’ติ. อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวน. อถ โข สุนิธวสฺสการา มคธมหามตฺตา ภควโต อธิวาสนํ วิทิตฺวา เยน สโก อาวสโถ เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา สเก อาวสเถ ปณีตํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฏิยาทาเปตฺวา ภควโต กาลํ อาโรจาเปสุํ – ‘‘กาโล, โภ โคตม, นิฏฺิตํ ภตฺต’’นฺติ.

อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน เยน สุนิธวสฺสการานํ มคธมหามตฺตานํ อาวสโถ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. อถ โข สุนิธวสฺสการา มคธมหามตฺตา พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตปฺเปสุํ สมฺปวาเรสุํ. อถ โข สุนิธวสฺสการา มคธมหามตฺตา ภควนฺตํ ภุตฺตาวึ โอนีตปตฺตปาณึ อฺตรํ นีจํ อาสนํ คเหตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺเน โข สุนิธวสฺสกาเร มคธมหามตฺเต ภควา อิมาหิ คาถาหิ อนุโมทิ –

‘‘ยสฺมึ ปเทเส กปฺเปติ, วาสํ ปณฺฑิตชาติโย;

สีลวนฺเตตฺถ โภเชตฺวา, สฺเต พฺรหฺมจารโย [พฺรหฺมจาริโน (สฺยา.)].

‘‘ยา ตตฺถ เทวตา อาสุํ, ตาสํ ทกฺขิณมาทิเส;

ตา ปูชิตา ปูชยนฺติ [ปูชิตา ปูชยนฺติ นํ (ก.)], มานิตา มานยนฺติ นํ.

‘‘ตโต นํ อนุกมฺปนฺติ, มาตา ปุตฺตํว โอรสํ;

เทวตานุกมฺปิโต โปโส, สทา ภทฺรานิ ปสฺสตี’’ติ.

อถ โข ภควา สุนิธวสฺสกาเร มคธมหามตฺเต อิมาหิ คาถาหิ อนุโมทิตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ.

๑๕๔. เตน โข ปน สมเยน สุนิธวสฺสการา มคธมหามตฺตา ภควนฺตํ ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต อนุพนฺธา โหนฺติ – ‘‘เยนชฺช สมโณ โคตโม ทฺวาเรน นิกฺขมิสฺสติ, ตํ โคตมทฺวารํ นาม ภวิสฺสติ. เยน ติตฺเถน คงฺคํ นทึ ตริสฺสติ, ตํ โคตมติตฺถํ นาม ภวิสฺสตี’’ติ. อถ โข ภควา เยน ทฺวาเรน นิกฺขมิ , ตํ โคตมทฺวารํ นาม อโหสิ. อถ โข ภควา เยน คงฺคา นที เตนุปสงฺกมิ. เตน โข ปน สมเยน คงฺคา นที ปูรา โหติ สมติตฺติกา กากเปยฺยา. อปฺเปกจฺเจ มนุสฺสา นาวํ ปริเยสนฺติ, อปฺเปกจฺเจ อุฬุมฺปํ ปริเยสนฺติ, อปฺเปกจฺเจ กุลฺลํ พนฺธนฺติ อปารา [ปารา (สี. สฺยา. ก.), โอรา (วิ. มหาวคฺค)], ปารํ คนฺตุกามา. อถ โข ภควา – เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิฺเชยฺย, เอวเมว – คงฺคาย นทิยา โอริมตีเร อนฺตรหิโต ปาริมตีเร ปจฺจุฏฺาสิ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน. อทฺทสา โข ภควา เต มนุสฺเส อปฺเปกจฺเจ นาวํ ปริเยสนฺเต อปฺเปกจฺเจ อุฬุมฺปํ ปริเยสนฺเต อปฺเปกจฺเจ กุลฺลํ พนฺธนฺเต อปารา ปารํ คนฺตุกาเม. อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –

‘‘เย ตรนฺติ อณฺณวํ สรํ, เสตุํ กตฺวาน วิสชฺช ปลฺลลานิ;

กุลฺลฺหิ ชโน พนฺธติ [กุลฺลํ ชโน จ พนฺธติ (สฺยา.), กุลฺลํ หิ ชโน ปพนฺธติ (สี. ปี. ก.)], ติณฺณา [นิติณฺณา, น ติณฺณา (ก.)] เมธาวิโน ชนา’’ติ.

ปมภาณวาโร.

อริยสจฺจกถา

๑๕๕. อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อายามานนฺท, เยน โกฏิคาโม เตนุปสงฺกมิสฺสามา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปจฺจสฺโสสิ. อถ โข ภควา มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ เยน โกฏิคาโม ตทวสริ. ตตฺร สุทํ ภควา โกฏิคาเม วิหรติ. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ –

‘‘จตุนฺนํ , ภิกฺขเว, อริยสจฺจานํ อนนุโพธา อปฺปฏิเวธา เอวมิทํ ทีฆมทฺธานํ สนฺธาวิตํ สํสริตํ มมฺเจว ตุมฺหากฺจ. กตเมสํ จตุนฺนํ? ทุกฺขสฺส, ภิกฺขเว, อริยสจฺจสฺส อนนุโพธา อปฺปฏิเวธา เอวมิทํ ทีฆมทฺธานํ สนฺธาวิตํ สํสริตํ มมฺเจว ตุมฺหากฺจ. ทุกฺขสมุทยสฺส, ภิกฺขเว, อริยสจฺจสฺส อนนุโพธา อปฺปฏิเวธา เอวมิทํ ทีฆมทฺธานํ สนฺธาวิตํ สํสริตํ มมฺเจว ตุมฺหากฺจ. ทุกฺขนิโรธสฺส, ภิกฺขเว, อริยสจฺจสฺส อนนุโพธา อปฺปฏิเวธา เอวมิทํ ทีฆมทฺธานํ สนฺธาวิตํ สํสริตํ มมฺเจว ตุมฺหากฺจ. ทุกฺขนิโรธคามินิยา ปฏิปทาย, ภิกฺขเว, อริยสจฺจสฺส อนนุโพธา อปฺปฏิเวธา เอวมิทํ ทีฆมทฺธานํ สนฺธาวิตํ สํสริตํ มมฺเจว ตุมฺหากฺจ. ตยิทํ, ภิกฺขเว, ทุกฺขํ อริยสจฺจํ อนุพุทฺธํ ปฏิวิทฺธํ, ทุกฺขสมุทยํ [ทุกฺขสมุทโย (สฺยา.)] อริยสจฺจํ อนุพุทฺธํ ปฏิวิทฺธํ, ทุกฺขนิโรธํ [ทุกฺขนิโรโธ (สฺยา.)] อริยสจฺจํ อนุพุทฺธํ ปฏิวิทฺธํ, ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา อริยสจฺจํ อนุพุทฺธํ ปฏิวิทฺธํ, อุจฺฉินฺนา ภวตณฺหา, ขีณา ภวเนตฺติ, นตฺถิทานิ ปุนพฺภโว’’ติ. อิทมโวจ ภควา. อิทํ วตฺวาน สุคโต อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –

‘‘จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ, ยถาภูตํ อทสฺสนา;

สํสิตํ ทีฆมทฺธานํ, ตาสุ ตาสฺเวว ชาติสุ.

ตานิ เอตานิ ทิฏฺานิ, ภวเนตฺติ สมูหตา;

อุจฺฉินฺนํ มูลํ ทุกฺขสฺส, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว’’ติ.

ตตฺรปิ สุทํ ภควา โกฏิคาเม วิหรนฺโต เอตเทว พหุลํ ภิกฺขูนํ ธมฺมึ กถํ กโรติ – ‘‘อิติ สีลํ, อิติ สมาธิ, อิติ ปฺา. สีลปริภาวิโต สมาธิ มหปฺผโล โหติ มหานิสํโส. สมาธิปริภาวิตา ปฺา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา. ปฺาปริภาวิตํ จิตฺตํ สมฺมเทว อาสเวหิ วิมุจฺจติ, เสยฺยถิทํ – กามาสวา, ภวาสวา, อวิชฺชาสวา’’ติ.

อนาวตฺติธมฺมสมฺโพธิปรายณา

๑๕๖. อถ โข ภควา โกฏิคาเม ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อายามานนฺท, เยน นาติกา [นาทิกา (สฺยา. ปี.)] เตนุปงฺกมิสฺสามา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปจฺจสฺโสสิ. อถ โข ภควา มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ เยน นาติกา ตทวสริ. ตตฺรปิ สุทํ ภควา นาติเก วิหรติ คิฺชกาวสเถ. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สาฬฺโห นาม, ภนฺเต, ภิกฺขุ นาติเก กาลงฺกโต, ตสฺส กา คติ, โก อภิสมฺปราโย? นนฺทา นาม, ภนฺเต, ภิกฺขุนี นาติเก กาลงฺกตา, ตสฺสา กา คติ, โก อภิสมฺปราโย? สุทตฺโต นาม, ภนฺเต, อุปาสโก นาติเก กาลงฺกโต, ตสฺส กา คติ, โก อภิสมฺปราโย? สุชาตา นาม, ภนฺเต, อุปาสิกา นาติเก กาลงฺกตา, ตสฺสา กา คติ , โก อภิสมฺปราโย? กุกฺกุโฏ [กกุโธ (สฺยา.)] นาม, ภนฺเต, อุปาสโก นาติเก กาลงฺกโต, ตสฺส กา คติ, โก อภิสมฺปราโย? กาฬิมฺโพ [กาลิงฺโค (ปี.), การฬิมฺโพ (สฺยา.)] นาม, ภนฺเต, อุปาสโก…เป… นิกโฏ นาม, ภนฺเต, อุปาสโก… กฏิสฺสโห [กฏิสฺสโภ (สี. ปี.)] นาม, ภนฺเต, อุปาสโก… ตุฏฺโ นาม, ภนฺเต, อุปาสโก… สนฺตุฏฺโ นาม, ภนฺเต, อุปาสโก… ภทฺโท [ภโฏ (สฺยา.)] นาม, ภนฺเต, อุปาสโก… สุภทฺโท [สุภโฏ (สฺยา.)] นาม, ภนฺเต, อุปาสโก นาติเก กาลงฺกโต, ตสฺส กา คติ, โก อภิสมฺปราโย’’ติ?

๑๕๗. ‘‘สาฬฺโห, อานนฺท, ภิกฺขุ อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหาสิ. นนฺทา, อานนฺท, ภิกฺขุนี ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติกา ตตฺถ ปรินิพฺพายินี อนาวตฺติธมฺมา ตสฺมา โลกา. สุทตฺโต, อานนฺท, อุปาสโก ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา ราคโทสโมหานํ ตนุตฺตา สกทาคามี สกิเทว อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสติ. สุชาตา, อานนฺท, อุปาสิกา ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โสตาปนฺนา อวินิปาตธมฺมา นิยตา สมฺโพธิปรายณา [ปรายนา (สี. สฺยา. ปี. ก.)]. กุกฺกุโฏ, อานนฺท, อุปาสโก ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติโก ตตฺถ ปรินิพฺพายี อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกา. กาฬิมฺโพ, อานนฺท, อุปาสโก…เป… นิกโฏ, อานนฺท, อุปาสโก… กฏิสฺสโห , อานนฺท, อุปาสโก… ตุฏฺโ, อานนฺท, อุปาสโก … สนฺตุฏฺโ, อานนฺท, อุปาสโก… ภทฺโท, อานนฺท, อุปาสโก… สุภทฺโท, อานนฺท, อุปาสโก ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติโก ตตฺถ ปรินิพฺพายี อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกา . ปโรปฺาสํ, อานนฺท, นาติเก อุปาสกา กาลงฺกตา, ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติกา ตตฺถ ปรินิพฺพายิโน อนาวตฺติธมฺมา ตสฺมา โลกา. สาธิกา นวุติ [ฉาธิกา นวุติ (สฺยา.)], อานนฺท, นาติเก อุปาสกา กาลงฺกตา ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา ราคโทสโมหานํ ตนุตฺตา สกทาคามิโน สกิเทว อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสนฺติ. สาติเรกานิ [ทสาติเรกานิ (สฺยา.)], อานนฺท, ปฺจสตานิ นาติเก อุปาสกา กาลงฺกตา, ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โสตาปนฺนา อวินิปาตธมฺมา นิยตา สมฺโพธิปรายณา.

ธมฺมาทาสธมฺมปริยายา

๑๕๘. ‘‘อนจฺฉริยํ โข ปเนตํ, อานนฺท, ยํ มนุสฺสภูโต กาลงฺกเรยฺย. ตสฺมึเยว [ตสฺมึ ตสฺมึ เจ (สี. ปี.), ตสฺมึ ตสฺมึ โข (สฺยา.)] กาลงฺกเต ตถาคตํ อุปสงฺกมิตฺวา เอตมตฺถํ ปุจฺฉิสฺสถ, วิเหสา เหสา, อานนฺท, ตถาคตสฺส. ตสฺมาติหานนฺท, ธมฺมาทาสํ นาม ธมฺมปริยายํ เทเสสฺสามิ, เยน สมนฺนาคโต อริยสาวโก อากงฺขมาโน อตฺตนาว อตฺตานํ พฺยากเรยฺย – ‘ขีณนิรโยมฺหิ ขีณติรจฺฉานโยนิ ขีณเปตฺติวิสโย ขีณาปายทุคฺคติวินิปาโต, โสตาปนฺโนหมสฺมิ อวินิปาตธมฺโม นิยโต สมฺโพธิปรายโณ’ติ.

๑๕๙. ‘‘กตโม จ โส, อานนฺท, ธมฺมาทาโส ธมฺมปริยาโย, เยน สมนฺนาคโต อริยสาวโก อากงฺขมาโน อตฺตนาว อตฺตานํ พฺยากเรยฺย – ‘ขีณนิรโยมฺหิ ขีณติรจฺฉานโยนิ ขีณเปตฺติวิสโย ขีณาปายทุคฺคติวินิปาโต, โสตาปนฺโนหมสฺมิ อวินิปาตธมฺโม นิยโต สมฺโพธิปรายโณ’ติ?

‘‘อิธานนฺท , อริยสาวโก พุทฺเธ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต โหติ – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’ติ.

‘‘ธมฺเม อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต โหติ – ‘สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม สนฺทิฏฺิโก อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปเนยฺยิโก ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิฺูหี’ติ.

‘‘สงฺเฆ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต โหติ – ‘สุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ, อุชุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ, ายปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ, สามีจิปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ ยทิทํ จตฺตาริ ปุริสยุคานิ อฏฺ ปุริสปุคฺคลา, เอส ภควโต สาวกสงฺโฆ อาหุเนยฺโย ปาหุเนยฺโย ทกฺขิเณยฺโย อฺชลิกรณีโย อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ โลกสฺสา’ติ.

‘‘อริยกนฺเตหิ สีเลหิ สมนฺนาคโต โหติ อขณฺเฑหิ อจฺฉิทฺเทหิ อสพเลหิ อกมฺมาเสหิ ภุชิสฺเสหิ วิฺูปสตฺเถหิ อปรามฏฺเหิ สมาธิสํวตฺตนิเกหิ.

‘‘อยํ โข โส, อานนฺท, ธมฺมาทาโส ธมฺมปริยาโย, เยน สมนฺนาคโต อริยสาวโก อากงฺขมาโน อตฺตนาว อตฺตานํ พฺยากเรยฺย – ‘ขีณนิรโยมฺหิ ขีณติรจฺฉานโยนิ ขีณเปตฺติวิสโย ขีณาปายทุคฺคติวินิปาโต, โสตาปนฺโนหมสฺมิ อวินิปาตธมฺโม นิยโต สมฺโพธิปรายโณ’’’ติ.

ตตฺรปิ สุทํ ภควา นาติเก วิหรนฺโต คิฺชกาวสเถ เอตเทว พหุลํ ภิกฺขูนํ ธมฺมึ กถํ กโรติ –

‘‘อิติ สีลํ อิติ สมาธิ อิติ ปฺา. สีลปริภาวิโต สมาธิ มหปฺผโล โหติ มหานิสํโส. สมาธิปริภาวิตา ปฺา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา. ปฺาปริภาวิตํ จิตฺตํ สมฺมเทว อาสเวหิ วิมุจฺจติ, เสยฺยถิทํ – กามาสวา, ภวาสวา, อวิชฺชาสวา’’ติ.

๑๖๐. อถ โข ภควา นาติเก ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อายามานนฺท, เยน เวสาลี เตนุปสงฺกมิสฺสามา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปจฺจสฺโสสิ. อถ โข ภควา มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ เยน เวสาลี ตทวสริ. ตตฺร สุทํ ภควา เวสาลิยํ วิหรติ อมฺพปาลิวเน. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ –

‘‘สโต, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิหเรยฺย สมฺปชาโน, อยํ โว อมฺหากํ อนุสาสนี. กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สโต โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ. เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี…เป… จิตฺเต จิตฺตานุปสฺสี…เป… ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สโต โหติ.

‘‘กถฺจ , ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สมฺปชาโน โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อภิกฺกนฺเต ปฏิกฺกนฺเต สมฺปชานการี โหติ, อาโลกิเต วิโลกิเต สมฺปชานการี โหติ, สมิฺชิเต ปสาริเต สมฺปชานการี โหติ, สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธารเณ สมฺปชานการี โหติ, อสิเต ปีเต ขายิเต สายิเต สมฺปชานการี โหติ, อุจฺจารปสฺสาวกมฺเม สมฺปชานการี โหติ, คเต ิเต นิสินฺเน สุตฺเต ชาคริเต ภาสิเต ตุณฺหีภาเว สมฺปชานการี โหติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สมฺปชาโน โหติ. สโต, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิหเรยฺย สมฺปชาโน, อยํ โว อมฺหากํ อนุสาสนี’’ติ.

อมฺพปาลีคณิกา

๑๖๑. อสฺโสสิ โข อมฺพปาลี คณิกา – ‘‘ภควา กิร เวสาลึ อนุปฺปตฺโต เวสาลิยํ วิหรติ มยฺหํ อมฺพวเน’’ติ. อถ โข อมฺพปาลี คณิกา ภทฺทานิ ภทฺทานิ ยานานิ โยชาเปตฺวา ภทฺทํ ภทฺทํ ยานํ อภิรุหิตฺวา ภทฺเทหิ ภทฺเทหิ ยาเนหิ เวสาลิยา นิยฺยาสิ. เยน สโก อาราโม เตน ปายาสิ. ยาวติกา ยานสฺส ภูมิ, ยาเนน คนฺตฺวา, ยานา ปจฺโจโรหิตฺวา ปตฺติกาว เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อมฺพปาลึ คณิกํ ภควา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสสิ สมาทเปสิ สมุตฺเตเชสิ สมฺปหํเสสิ. อถ โข อมฺพปาลี คณิกา ภควตา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิตา สมาทปิตา สมุตฺเตชิตา สมฺปหํสิตา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อธิวาเสตุ เม, ภนฺเต, ภควา สฺวาตนาย ภตฺตํ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆนา’’ติ. อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวน. อถ โข อมฺพปาลี คณิกา ภควโต อธิวาสนํ วิทิตฺวา อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ.

อสฺโสสุํ โข เวสาลิกา ลิจฺฉวี – ‘‘ภควา กิร เวสาลึ อนุปฺปตฺโต เวสาลิยํ วิหรติ อมฺพปาลิวเน’’ติ. อถ โข เต ลิจฺฉวี ภทฺทานิ ภทฺทานิ ยานานิ โยชาเปตฺวา ภทฺทํ ภทฺทํ ยานํ อภิรุหิตฺวา ภทฺเทหิ ภทฺเทหิ ยาเนหิ เวสาลิยา นิยฺยึสุ. ตตฺร เอกจฺเจ ลิจฺฉวี นีลา โหนฺติ นีลวณฺณา นีลวตฺถา นีลาลงฺการา, เอกจฺเจ ลิจฺฉวี ปีตา โหนฺติ ปีตวณฺณา ปีตวตฺถา ปีตาลงฺการา, เอกจฺเจ ลิจฺฉวี โลหิตา โหนฺติ โลหิตวณฺณา โลหิตวตฺถา โลหิตาลงฺการา, เอกจฺเจ ลิจฺฉวี โอทาตา โหนฺติ โอทาตวณฺณา โอทาตวตฺถา โอทาตาลงฺการา. อถ โข อมฺพปาลี คณิกา ทหรานํ ทหรานํ ลิจฺฉวีนํ อกฺเขน อกฺขํ จกฺเกน จกฺกํ ยุเคน ยุคํ ปฏิวฏฺเฏสิ [ปริวตฺเตสิ (วิ. มหาวคฺค)]. อถ โข เต ลิจฺฉวี อมฺพปาลึ คณิกํ เอตทโวจุํ – ‘‘กึ, เช อมฺพปาลิ , ทหรานํ ทหรานํ ลิจฺฉวีนํ อกฺเขน อกฺขํ จกฺเกน จกฺกํ ยุเคน ยุคํ ปฏิวฏฺเฏสี’’ติ? ‘‘ตถา หิ ปน เม, อยฺยปุตฺตา, ภควา นิมนฺติโต สฺวาตนาย ภตฺตํ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆนา’’ติ. ‘‘เทหิ, เช อมฺพปาลิ, เอตํ [เอกํ (ก.)] ภตฺตํ สตสหสฺเสนา’’ติ. ‘‘สเจปิ เม, อยฺยปุตฺตา, เวสาลึ สาหารํ ทสฺสถ [ทชฺเชยฺยาถ (วิ. มหาวคฺค)], เอวมหํ ตํ [เอวมฺปิ มหนฺตํ (สฺยา.), เอวํ มหนฺตํ (สี. ปี.)] ภตฺตํ น ทสฺสามี’’ติ [เนว ทชฺชาหํ ตํ ภตฺตนฺติ (วิ. มหาวคฺค)]. อถ โข เต ลิจฺฉวี องฺคุลึ โผเฏสุํ – ‘‘ชิตมฺห [ชิตมฺหา (พหูสุ)] วต โภ อมฺพกาย, ชิตมฺห วต โภ อมฺพกายา’’ติ [‘‘ชิตมฺหา วต โภ อมฺพปาลิกาย วฺจิตมฺหา วต โภ อมฺพปาลิกายา’’ติ (สฺยา.)].

อถ โข เต ลิจฺฉวี เยน อมฺพปาลิวนํ เตน ปายึสุ. อทฺทสา โข ภควา เต ลิจฺฉวี ทูรโตว อาคจฺฉนฺเต. ทิสฺวาน ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘เยสํ [เยหิ (วิ. มหาวคฺค)], ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ เทวา ตาวตึสา อทิฏฺปุพฺพา, โอโลเกถ, ภิกฺขเว, ลิจฺฉวิปริสํ; อปโลเกถ, ภิกฺขเว , ลิจฺฉวิปริสํ; อุปสํหรถ, ภิกฺขเว, ลิจฺฉวิปริสํ – ตาวตึสสทิส’’นฺติ. อถ โข เต ลิจฺฉวี ยาวติกา ยานสฺส ภูมิ, ยาเนน คนฺตฺวา, ยานา ปจฺโจโรหิตฺวา ปตฺติกาว เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺเน โข เต ลิจฺฉวี ภควา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสสิ สมาทเปสิ สมุตฺเตเชสิ สมฺปหํเสสิ. อถ โข เต ลิจฺฉวี ภควตา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิตา สมาทปิตา สมุตฺเตชิตา สมฺปหํสิตา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อธิวาเสตุ โน, ภนฺเต, ภควา สฺวาตนาย ภตฺตํ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆนา’’ติ. อถ โข ภควา เต ลิจฺฉวี เอตทโวจ – ‘‘อธิวุตฺถํ [อธิวาสิตํ (สฺยา.)] โข เม, ลิจฺฉวี, สฺวาตนาย อมฺพปาลิยา คณิกาย ภตฺต’’นฺติ. อถ โข เต ลิจฺฉวี องฺคุลึ โผเฏสุํ – ‘‘ชิตมฺห วต โภ อมฺพกาย, ชิตมฺห วต โภ อมฺพกายา’’ติ. อถ โข เต ลิจฺฉวี ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกมึสุ.

๑๖๒. อถ โข อมฺพปาลี คณิกา ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน สเก อาราเม ปณีตํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฏิยาทาเปตฺวา ภควโต กาลํ อาโรจาเปสิ – ‘‘กาโล, ภนฺเต, นิฏฺิตํ ภตฺต’’นฺติ. อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน เยน อมฺพปาลิยา คณิกาย นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. อถ โข อมฺพปาลี คณิกา พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตปฺเปสิ สมฺปวาเรสิ. อถ โข อมฺพปาลี คณิกา ภควนฺตํ ภุตฺตาวึ โอนีตปตฺตปาณึ อฺตรํ นีจํ อาสนํ คเหตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข อมฺพปาลี คณิกา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิมาหํ, ภนฺเต, อารามํ พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ. ปฏิคฺคเหสิ ภควา อารามํ. อถ โข ภควา อมฺพปาลึ คณิกํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตฺวา สมาทเปตฺวา สมุตฺเตเชตฺวา สมฺปหํเสตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ. ตตฺรปิ สุทํ ภควา เวสาลิยํ วิหรนฺโต อมฺพปาลิวเน เอตเทว พหุลํ ภิกฺขูนํ ธมฺมึ กถํ กโรติ – ‘‘อิติ สีลํ, อิติ สมาธิ, อิติ ปฺา. สีลปริภาวิโต สมาธิ มหปฺผโล โหติ มหานิสํโส. สมาธิปริภาวิตา ปฺา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา. ปฺาปริภาวิตํ จิตฺตํ สมฺมเทว อาสเวหิ วิมุจฺจติ, เสยฺยถิทํ – กามาสวา, ภวาสวา, อวิชฺชาสวา’’ติ.

เวฬุวคามวสฺสูปคมนํ

๑๖๓. อถ โข ภควา อมฺพปาลิวเน ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อายามานนฺท, เยน เวฬุวคามโก [เพฬุวคามโก (สี. ปี.)] เตนุปสงฺกมิสฺสามา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปจฺจสฺโสสิ. อถ โข ภควา มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ เยน เวฬุวคามโก ตทวสริ. ตตฺร สุทํ ภควา เวฬุวคามเก วิหรติ. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘เอถ ตุมฺเห, ภิกฺขเว, สมนฺตา เวสาลึ ยถามิตฺตํ ยถาสนฺทิฏฺํ ยถาสมฺภตฺตํ วสฺสํ อุเปถ [อุปคจฺฉถ (สฺยา.)]. อหํ ปน อิเธว เวฬุวคามเก วสฺสํ อุปคจฺฉามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา สมนฺตา เวสาลึ ยถามิตฺตํ ยถาสนฺทิฏฺํ ยถาสมฺภตฺตํ วสฺสํ อุปคจฺฉึสุ. ภควา ปน ตตฺเถว เวฬุวคามเก วสฺสํ อุปคจฺฉิ.

๑๖๔. อถ โข ภควโต วสฺสูปคตสฺส ขโร อาพาโธ อุปฺปชฺชิ, พาฬฺหา เวทนา วตฺตนฺติ มารณนฺติกา. ตา สุทํ ภควา สโต สมฺปชาโน อธิวาเสสิ อวิหฺมาโน. อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘น โข เมตํ ปติรูปํ, ยฺวาหํ อนามนฺเตตฺวา อุปฏฺาเก อนปโลเกตฺวา ภิกฺขุสงฺฆํ ปรินิพฺพาเยยฺยํ. ยํนูนาหํ อิมํ อาพาธํ วีริเยน ปฏิปณาเมตฺวา ชีวิตสงฺขารํ อธิฏฺาย วิหเรยฺย’’นฺติ. อถ โข ภควา ตํ อาพาธํ วีริเยน ปฏิปณาเมตฺวา ชีวิตสงฺขารํ อธิฏฺาย วิหาสิ. อถ โข ภควโต โส อาพาโธ ปฏิปสฺสมฺภิ. อถ โข ภควา คิลานา วุฏฺิโต [คิลานวุฏฺิโต (สทฺทนีติ)] อจิรวุฏฺิโต เคลฺา วิหารา นิกฺขมฺม วิหารปจฺฉายายํ ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ทิฏฺโ เม, ภนฺเต, ภควโต ผาสุ; ทิฏฺํ เม, ภนฺเต, ภควโต ขมนียํ, อปิ จ เม, ภนฺเต, มธุรกชาโต วิย กาโย. ทิสาปิ เม น ปกฺขายนฺติ; ธมฺมาปิ มํ น ปฏิภนฺติ ภควโต เคลฺเน, อปิ จ เม, ภนฺเต, อโหสิ กาจิเทว อสฺสาสมตฺตา – ‘น ตาว ภควา ปรินิพฺพายิสฺสติ, น ยาว ภควา ภิกฺขุสงฺฆํ อารพฺภ กิฺจิเทว อุทาหรตี’’’ติ.

๑๖๕. ‘‘กึ ปนานนฺท, ภิกฺขุสงฺโฆ มยิ ปจฺจาสีสติ [ปจฺจาสึสติ (สี. สฺยา.)]? เทสิโต, อานนฺท, มยา ธมฺโม อนนฺตรํ อพาหิรํ กริตฺวา. นตฺถานนฺท, ตถาคตสฺส ธมฺเมสุ อาจริยมุฏฺิ. ยสฺส นูน, อานนฺท, เอวมสฺส – ‘อหํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปริหริสฺสามี’ติ วา ‘มมุทฺเทสิโก ภิกฺขุสงฺโฆ’ติ วา, โส นูน, อานนฺท, ภิกฺขุสงฺฆํ อารพฺภ กิฺจิเทว อุทาหเรยฺย. ตถาคตสฺส โข, อานนฺท, น เอวํ โหติ – ‘อหํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปริหริสฺสามี’ติ วา ‘มมุทฺเทสิโก ภิกฺขุสงฺโฆ’ติ วา. สกึ [กึ (สี. ปี.)], อานนฺท, ตถาคโต ภิกฺขุสงฺฆํ อารพฺภ กิฺจิเทว อุทาหริสฺสติ. อหํ โข ปนานนฺท, เอตรหิ ชิณฺโณ วุทฺโธ มหลฺลโก อทฺธคโต วโยอนุปฺปตฺโต. อาสีติโก เม วโย วตฺตติ. เสยฺยถาปิ, อานนฺท, ชชฺชรสกฏํ เวมิสฺสเกน [เวฬุมิสฺสเกน (สฺยา.), เวฆมิสฺสเกน (ปี.), เวธมิสฺสเกน, เวขมิสฺสเกน (ก.)] ยาเปติ, เอวเมว โข, อานนฺท, เวมิสฺสเกน มฺเ ตถาคตสฺส กาโย ยาเปติ. ยสฺมึ, อานนฺท, สมเย ตถาคโต สพฺพนิมิตฺตานํ อมนสิการา เอกจฺจานํ เวทนานํ นิโรธา อนิมิตฺตํ เจโตสมาธึ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, ผาสุตโร, อานนฺท, ตสฺมึ สมเย ตถาคตสฺส กาโย โหติ. ตสฺมาติหานนฺท, อตฺตทีปา วิหรถ อตฺตสรณา อนฺสรณา, ธมฺมทีปา ธมฺมสรณา อนฺสรณา. กถฺจานนฺท, ภิกฺขุ อตฺตทีโป วิหรติ อตฺตสรโณ อนฺสรโณ, ธมฺมทีโป ธมฺมสรโณ อนฺสรโณ? อิธานนฺท, ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ อตาปี สมฺปชาโน สติมา, วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ. เวทนาสุ…เป… จิตฺเต…เป… ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา, วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ. เอวํ โข, อานนฺท, ภิกฺขุ อตฺตทีโป วิหรติ อตฺตสรโณ อนฺสรโณ, ธมฺมทีโป ธมฺมสรโณ อนฺสรโณ . เย หิ เกจิ, อานนฺท, เอตรหิ วา มม วา อจฺจเยน อตฺตทีปา วิหริสฺสนฺติ อตฺตสรณา อนฺสรณา, ธมฺมทีปา ธมฺมสรณา อนฺสรณา, ตมตคฺเค เม เต, อานนฺท, ภิกฺขู ภวิสฺสนฺติ เย เกจิ สิกฺขากามา’’ติ.

ทุติยภาณวาโร.

นิมิตฺโตภาสกถา

๑๖๖. อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เวสาลึ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. เวสาลิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘คณฺหาหิ, อานนฺท, นิสีทนํ, เยน จาปาลํ เจติยํ [ปาวาลํ (เจติยํ (สฺยา.)] เตนุปสงฺกมิสฺสาม ทิวา วิหารายา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา นิสีทนํ อาทาย ภควนฺตํ ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต อนุพนฺธิ. อถ โข ภควา เยน จาปาลํ เจติยํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. อายสฺมาปิ โข อานนฺโท ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ.

๑๖๗. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘รมณียา, อานนฺท, เวสาลี, รมณียํ อุเทนํ เจติยํ, รมณียํ โคตมกํ เจติยํ, รมณียํ สตฺตมฺพํ [สตฺตมฺพกํ (ปี.)] เจติยํ, รมณียํ พหุปุตฺตํ เจติยํ, รมณียํ สารนฺททํ เจติยํ, รมณียํ จาปาลํ เจติยํ. ยสฺส กสฺสจิ, อานนฺท, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ภาวิตา พหุลีกตา ยานีกตา วตฺถุกตา อนุฏฺิตา ปริจิตา สุสมารทฺธา, โส อากงฺขมาโน กปฺปํ วา ติฏฺเยฺย กปฺปาวเสสํ วา. ตถาคตสฺส โข, อานนฺท, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ภาวิตา พหุลีกตา ยานีกตา วตฺถุกตา อนุฏฺิตา ปริจิตา สุสมารทฺธา, โส อากงฺขมาโน [อากงฺขมาโน (?)], อานนฺท, ตถาคโต กปฺปํ วา ติฏฺเยฺย กปฺปาวเสสํ วา’’ติ. เอวมฺปิ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควตา โอฬาริเก นิมิตฺเต กยิรมาเน โอฬาริเก โอภาเส กยิรมาเน นาสกฺขิ ปฏิวิชฺฌิตุํ; น ภควนฺตํ ยาจิ – ‘‘ติฏฺตุ, ภนฺเต, ภควา กปฺปํ, ติฏฺตุ สุคโต กปฺปํ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสาน’’นฺติ, ยถา ตํ มาเรน ปริยุฏฺิตจิตฺโต. ทุติยมฺปิ โข ภควา…เป… ตติยมฺปิ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘รมณียา, อานนฺท, เวสาลี, รมณียํ อุเทนํ เจติยํ, รมณียํ โคตมกํ เจติยํ, รมณียํ สตฺตมฺพํ เจติยํ, รมณียํ พหุปุตฺตํ เจติยํ, รมณียํ สารนฺททํ เจติยํ, รมณียํ จาปาลํ เจติยํ. ยสฺส กสฺสจิ, อานนฺท, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ภาวิตา พหุลีกตา ยานีกตา วตฺถุกตา อนุฏฺิตา ปริจิตา สุสมารทฺธา, โส อากงฺขมาโน กปฺปํ วา ติฏฺเยฺย กปฺปาวเสสํ วา. ตถาคตสฺส โข, อานนฺท, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ภาวิตา พหุลีกตา ยานีกตา วตฺถุกตา อนุฏฺิตา ปริจิตา สุสมารทฺธา, โส อากงฺขมาโน, อานนฺท, ตถาคโต กปฺปํ วา ติฏฺเยฺย กปฺปาวเสสํ วา’’ติ. เอวมฺปิ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควตา โอฬาริเก นิมิตฺเต กยิรมาเน โอฬาริเก โอภาเส กยิรมาเน นาสกฺขิ ปฏิวิชฺฌิตุํ ; น ภควนฺตํ ยาจิ – ‘‘ติฏฺตุ , ภนฺเต, ภควา กปฺปํ, ติฏฺตุ สุคโต กปฺปํ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสาน’’นฺติ, ยถา ตํ มาเรน ปริยุฏฺิตจิตฺโต. อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘คจฺฉ ตฺวํ, อานนฺท, ยสฺสทานิ กาลํ มฺสี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา อวิทูเร อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล นิสีทิ.

มารยาจนกถา

๑๖๘. อถ โข มาโร ปาปิมา อจิรปกฺกนฺเต อายสฺมนฺเต อานนฺเท เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิโต โข มาโร ปาปิมา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ปรินิพฺพาตุทานิ, ภนฺเต, ภควา, ปรินิพฺพาตุ สุคโต, ปรินิพฺพานกาโล ทานิ, ภนฺเต, ภควโต. ภาสิตา โข ปเนสา, ภนฺเต, ภควตา วาจา – ‘น ตาวาหํ, ปาปิม, ปรินิพฺพายิสฺสามิ, ยาว เม ภิกฺขู น สาวกา ภวิสฺสนฺติ วิยตฺตา วินีตา วิสารทา พหุสฺสุตา ธมฺมธรา ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺนา สามีจิปฺปฏิปนฺนา อนุธมฺมจาริโน, สกํ อาจริยกํ อุคฺคเหตฺวา อาจิกฺขิสฺสนฺติ เทเสสฺสนฺติ ปฺเปสฺสนฺติ ปฏฺเปสฺสนฺติ วิวริสฺสนฺติ วิภชิสฺสนฺติ อุตฺตานี [อุตฺตานึ (ก.), อุตฺตานิ (สี. ปี.)] กริสฺสนฺติ, อุปฺปนฺนํ ปรปฺปวาทํ สหธมฺเมน สุนิคฺคหิตํ นิคฺคเหตฺวา สปฺปาฏิหาริยํ ธมฺมํ เทเสสฺสนฺตี’ติ . เอตรหิ โข ปน, ภนฺเต, ภิกฺขู ภควโต สาวกา วิยตฺตา วินีตา วิสารทา พหุสฺสุตา ธมฺมธรา ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺนา สามีจิปฺปฏิปนฺนา อนุธมฺมจาริโน, สกํ อาจริยกํ อุคฺคเหตฺวา อาจิกฺขนฺติ เทเสนฺติ ปฺเปนฺติ ปฏฺเปนฺติ วิวรนฺติ วิภชนฺติ อุตฺตานีกโรนฺติ, อุปฺปนฺนํ ปรปฺปวาทํ สหธมฺเมน สุนิคฺคหิตํ นิคฺคเหตฺวา สปฺปาฏิหาริยํ ธมฺมํ เทเสนฺติ. ปรินิพฺพาตุทานิ, ภนฺเต, ภควา, ปรินิพฺพาตุ สุคโต, ปรินิพฺพานกาโลทานิ, ภนฺเต, ภควโต.

‘‘ภาสิตา โข ปเนสา, ภนฺเต, ภควตา วาจา – ‘น ตาวาหํ, ปาปิม, ปรินิพฺพายิสฺสามิ, ยาว เม ภิกฺขุนิโย น สาวิกา ภวิสฺสนฺติ วิยตฺตา วินีตา วิสารทา พหุสฺสุตา ธมฺมธรา ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺนา สามีจิปฺปฏิปนฺนา อนุธมฺมจารินิโย, สกํ อาจริยกํ อุคฺคเหตฺวา อาจิกฺขิสฺสนฺติ เทเสสฺสนฺติ ปฺเปสฺสนฺติ ปฏฺเปสฺสนฺติ วิวริสฺสนฺติ วิภชิสฺสนฺติ อุตฺตานีกริสฺสนฺติ, อุปฺปนฺนํ ปรปฺปวาทํ สหธมฺเมน สุนิคฺคหิตํ นิคฺคเหตฺวา สปฺปาฏิหาริยํ ธมฺมํ เทเสสฺสนฺตี’ติ . เอตรหิ โข ปน, ภนฺเต, ภิกฺขุนิโย ภควโต สาวิกา วิยตฺตา วินีตา วิสารทา พหุสฺสุตา ธมฺมธรา ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺนา สามีจิปฺปฏิปนฺนา อนุธมฺมจารินิโย , สกํ อาจริยกํ อุคฺคเหตฺวา อาจิกฺขนฺติ เทเสนฺติ ปฺเปนฺติ ปฏฺเปนฺติ วิวรนฺติ วิภชนฺติ อุตฺตานีกโรนฺติ, อุปฺปนฺนํ ปรปฺปวาทํ สหธมฺเมน สุนิคฺคหิตํ นิคฺคเหตฺวา สปฺปาฏิหาริยํ ธมฺมํ เทเสนฺติ. ปรินิพฺพาตุทานิ, ภนฺเต, ภควา, ปรินิพฺพาตุ สุคโต, ปรินิพฺพานกาโลทานิ, ภนฺเต, ภควโต.

‘‘ภาสิตา โข ปเนสา, ภนฺเต, ภควตา วาจา – ‘น ตาวาหํ, ปาปิม, ปรินิพฺพายิสฺสามิ, ยาว เม อุปาสกา น สาวกา ภวิสฺสนฺติ วิยตฺตา วินีตา วิสารทา พหุสฺสุตา ธมฺมธรา ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺนา สามีจิปฺปฏิปนฺนา อนุธมฺมจาริโน, สกํ อาจริยกํ อุคฺคเหตฺวา อาจิกฺขิสฺสนฺติ เทเสสฺสนฺติ ปฺเปสฺสนฺติ ปฏฺเปสฺสนฺติ วิวริสฺสนฺติ วิภชิสฺสนฺติ อุตฺตานีกริสฺสนฺติ, อุปฺปนฺนํ ปรปฺปวาทํ สหธมฺเมน สุนิคฺคหิตํ นิคฺคเหตฺวา สปฺปาฏิหาริยํ ธมฺมํ เทเสสฺสนฺตี’ติ. เอตรหิ โข ปน, ภนฺเต, อุปาสกา ภควโต สาวกา วิยตฺตา วินีตา วิสารทา พหุสฺสุตา ธมฺมธรา ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺนา สามีจิปฺปฏิปนฺนา อนุธมฺมจาริโน, สกํ อาจริยกํ อุคฺคเหตฺวา อาจิกฺขนฺติ เทเสนฺติ ปฺเปนฺติ ปฏฺเปนฺติ วิวรนฺติ วิภชนฺติ อุตฺตานีกโรนฺติ, อุปฺปนฺนํ ปรปฺปวาทํ สหธมฺเมน สุนิคฺคหิตํ นิคฺคเหตฺวา สปฺปาฏิหาริยํ ธมฺมํ เทเสนฺติ. ปรินิพฺพาตุทานิ , ภนฺเต, ภควา, ปรินิพฺพาตุ สุคโต, ปรินิพฺพานกาโลทานิ , ภนฺเต, ภควโต.

‘‘ภาสิตา โข ปเนสา, ภนฺเต, ภควตา วาจา – ‘น ตาวาหํ, ปาปิม ปรินิพฺพายิสฺสามิ, ยาว เม อุปาสิกา น สาวิกา ภวิสฺสนฺติ วิยตฺตา วินีตา วิสารทา พหุสฺสุตา ธมฺมธรา ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺนา สามีจิปฺปฏิปนฺนา อนุธมฺมจารินิโย, สกํ อาจริยกํ อุคฺคเหตฺวา อาจิกฺขิสฺสนฺติ เทเสสฺสนฺติ ปฺเปสฺสนฺติ ปฏฺเปสฺสนฺติ วิวริสฺสนฺติ วิภชิสฺสนฺติ อุตฺตานีกริสฺสนฺติ, อุปฺปนฺนํ ปรปฺปวาทํ สหธมฺเมน สุนิคฺคหิตํ นิคฺคเหตฺวา สปฺปาฏิหาริยํ ธมฺมํ เทเสสฺสนฺตี’ติ. เอตรหิ โข ปน, ภนฺเต, อุปาสิกา ภควโต สาวิกา วิยตฺตา วินีตา วิสารทา พหุสฺสุตา ธมฺมธรา ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺนา สามีจิปฺปฏิปนฺนา อนุธมฺมจารินิโย, สกํ อาจริยกํ อุคฺคเหตฺวา อาจิกฺขนฺติ เทเสนฺติ ปฺเปนฺติ ปฏฺเปนฺติ วิวรนฺติ วิภชนฺติ อุตฺตานีกโรนฺติ, อุปฺปนฺนํ ปรปฺปวาทํ สหธมฺเมน สุนิคฺคหิตํ นิคฺคเหตฺวา สปฺปาฏิหาริยํ ธมฺมํ เทเสนฺติ. ปรินิพฺพาตุทานิ, ภนฺเต, ภควา, ปรินิพฺพาตุ สุคโต, ปรินิพฺพานกาโลทานิ, ภนฺเต, ภควโต.

‘‘ภาสิตา โข ปเนสา, ภนฺเต, ภควตา วาจา – ‘น ตาวาหํ, ปาปิม, ปรินิพฺพายิสฺสามิ , ยาว เม อิทํ พฺรหฺมจริยํ น อิทฺธํ เจว ภวิสฺสติ ผีตฺจ วิตฺถาริกํ พาหุชฺํ ปุถุภูตํ ยาว เทวมนุสฺเสหิ สุปฺปกาสิต’นฺติ. เอตรหิ โข ปน, ภนฺเต, ภควโต พฺรหฺมจริยํ อิทฺธํ เจว ผีตฺจ วิตฺถาริกํ พาหุชฺํ ปุถุภูตํ, ยาว เทวมนุสฺเสหิ สุปฺปกาสิตํ. ปรินิพฺพาตุทานิ, ภนฺเต, ภควา, ปรินิพฺพาตุ สุคโต, ปรินิพฺพานกาโลทานิ, ภนฺเต, ภควโต’’ติ .

เอวํ วุตฺเต ภควา มารํ ปาปิมนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อปฺโปสฺสุกฺโก ตฺวํ, ปาปิม, โหหิ, น จิรํ ตถาคตสฺส ปรินิพฺพานํ ภวิสฺสติ. อิโต ติณฺณํ มาสานํ อจฺจเยน ตถาคโต ปรินิพฺพายิสฺสตี’’ติ.

อายุสงฺขารโอสฺสชฺชนํ

๑๖๙. อถ โข ภควา จาปาเล เจติเย สโต สมฺปชาโน อายุสงฺขารํ โอสฺสชิ. โอสฺสฏฺเ จ ภควตา อายุสงฺขาเร มหาภูมิจาโล อโหสิ ภึสนโก สโลมหํโส [โลมหํโส (สฺยา.)], เทวทุนฺทุภิโย [เทวทุทฺรภิโย (ก.)] จ ผลึสุ . อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –

‘‘ตุลมตุลฺจ สมฺภวํ, ภวสงฺขารมวสฺสชิ มุนิ;

อชฺฌตฺตรโต สมาหิโต, อภินฺทิ กวจมิวตฺตสมฺภว’’นฺติ.

มหาภูมิจาลเหตุ

๑๗๐. อถ โข อายสฺมโต อานนฺทสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อจฺฉริยํ วต โภ, อพฺภุตํ วต โภ, มหา วตายํ ภูมิจาโล; สุมหา วตายํ ภูมิจาโล ภึสนโก สโลมหํโส; เทวทุนฺทุภิโย จ ผลึสุ. โก นุ โข เหตุ โก ปจฺจโย มหโต ภูมิจาลสฺส ปาตุภาวายา’’ติ?

อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ, เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อจฺฉริยํ, ภนฺเต, อพฺภุตํ, ภนฺเต, มหา วตายํ, ภนฺเต, ภูมิจาโล; สุมหา วตายํ , ภนฺเต, ภูมิจาโล ภึสนโก สโลมหํโส; เทวทุนฺทุภิโย จ ผลึสุ. โก นุ โข, ภนฺเต , เหตุ โก ปจฺจโย มหโต ภูมิจาลสฺส ปาตุภาวายา’’ติ?

๑๗๑. ‘‘อฏฺ โข อิเม, อานนฺท, เหตู, อฏฺ ปจฺจยา มหโต ภูมิจาลสฺส ปาตุภาวาย. กตเม อฏฺ? อยํ, อานนฺท, มหาปถวี อุทเก ปติฏฺิตา, อุทกํ วาเต ปติฏฺิตํ, วาโต อากาสฏฺโ. โหติ โข โส, อานนฺท, สมโย, ยํ มหาวาตา วายนฺติ. มหาวาตา วายนฺตา อุทกํ กมฺเปนฺติ. อุทกํ กมฺปิตํ ปถวึ กมฺเปติ. อยํ ปโม เหตุ ปโม ปจฺจโย มหโต ภูมิจาลสฺส ปาตุภาวาย.

‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, สมโณ วา โหติ พฺราหฺมโณ วา อิทฺธิมา เจโตวสิปฺปตฺโต, เทโว วา มหิทฺธิโก มหานุภาโว, ตสฺส ปริตฺตา ปถวีสฺา ภาวิตา โหติ, อปฺปมาณา อาโปสฺา. โส อิมํ ปถวึ กมฺเปติ สงฺกมฺเปติ สมฺปกมฺเปติ สมฺปเวเธติ. อยํ ทุติโย เหตุ ทุติโย ปจฺจโย มหโต ภูมิจาลสฺส ปาตุภาวาย.

‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ยทา โพธิสตฺโต ตุสิตกายา จวิตฺวา สโต สมฺปชาโน มาตุกุจฺฉึ โอกฺกมติ, ตทายํ ปถวี กมฺปติ สงฺกมฺปติ สมฺปกมฺปติ สมฺปเวธติ. อยํ ตติโย เหตุ ตติโย ปจฺจโย มหโต ภูมิจาลสฺส ปาตุภาวาย.

‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ยทา โพธิสตฺโต สโต สมฺปชาโน มาตุกุจฺฉิสฺมา นิกฺขมติ, ตทายํ ปถวี กมฺปติ สงฺกมฺปติ สมฺปกมฺปติ สมฺปเวธติ. อยํ จตุตฺโถ เหตุ จตุตฺโถ ปจฺจโย มหโต ภูมิจาลสฺส ปาตุภาวาย.

‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ยทา ตถาคโต อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุชฺฌติ, ตทายํ ปถวี กมฺปติ สงฺกมฺปติ สมฺปกมฺปติ สมฺปเวธติ. อยํ ปฺจโม เหตุ ปฺจโม ปจฺจโย มหโต ภูมิจาลสฺส ปาตุภาวาย.

‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ยทา ตถาคโต อนุตฺตรํ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตติ, ตทายํ ปถวี กมฺปติ สงฺกมฺปติ สมฺปกมฺปติ สมฺปเวธติ. อยํ ฉฏฺโ เหตุ ฉฏฺโ ปจฺจโย มหโต ภูมิจาลสฺส ปาตุภาวาย.

‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ยทา ตถาคโต สโต สมฺปชาโน อายุสงฺขารํ โอสฺสชฺชติ, ตทายํ ปถวี กมฺปติ สงฺกมฺปติ สมฺปกมฺปติ สมฺปเวธติ. อยํ สตฺตโม เหตุ สตฺตโม ปจฺจโย มหโต ภูมิจาลสฺส ปาตุภาวาย.

‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ยทา ตถาคโต อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายติ, ตทายํ ปถวี กมฺปติ สงฺกมฺปติ สมฺปกมฺปติ สมฺปเวธติ. อยํ อฏฺโม เหตุ อฏฺโม ปจฺจโย มหโต ภูมิจาลสฺส ปาตุภาวาย. อิเม โข, อานนฺท, อฏฺ เหตู, อฏฺ ปจฺจยา มหโต ภูมิจาลสฺส ปาตุภาวายา’’ติ.

อฏฺ ปริสา

๑๗๒. ‘‘อฏฺ โข อิมา, อานนฺท, ปริสา. กตมา อฏฺ? ขตฺติยปริสา, พฺราหฺมณปริสา, คหปติปริสา, สมณปริสา, จาตุมหาราชิกปริสา [จาตุมฺมหาราชิกปริสา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)], ตาวตึสปริสา, มารปริสา, พฺรหฺมปริสา. อภิชานามิ โข ปนาหํ, อานนฺท , อเนกสตํ ขตฺติยปริสํ อุปสงฺกมิตา. ตตฺรปิ มยา สนฺนิสินฺนปุพฺพํ เจว สลฺลปิตปุพฺพฺจ สากจฺฉา จ สมาปชฺชิตปุพฺพา . ตตฺถ ยาทิสโก เตสํ วณฺโณ โหติ, ตาทิสโก มยฺหํ วณฺโณ โหติ. ยาทิสโก เตสํ สโร โหติ, ตาทิสโก มยฺหํ สโร โหติ. ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสมิ สมาทเปมิ สมุตฺเตเชมิ สมฺปหํเสมิ. ภาสมานฺจ มํ น ชานนฺติ – ‘โก นุ โข อยํ ภาสติ เทโว วา มนุสฺโส วา’ติ? ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตฺวา สมาทเปตฺวา สมุตฺเตเชตฺวา สมฺปหํเสตฺวา อนฺตรธายามิ. อนฺตรหิตฺจ มํ น ชานนฺติ – ‘โก นุ โข อยํ อนฺตรหิโต เทโว วา มนุสฺโส วา’ติ? อภิชานามิ โข ปนาหํ, อานนฺท, อเนกสตํ พฺราหฺมณปริสํ…เป… คหปติปริสํ… สมณปริสํ… จาตุมหาราชิกปริสํ… ตาวตึสปริสํ… มารปริสํ… พฺรหฺมปริสํ อุปสงฺกมิตา. ตตฺรปิ มยา สนฺนิสินฺนปุพฺพํ เจว สลฺลปิตปุพฺพฺจ สากจฺฉา จ สมาปชฺชิตปุพฺพา. ตตฺถ ยาทิสโก เตสํ วณฺโณ โหติ, ตาทิสโก มยฺหํ วณฺโณ โหติ. ยาทิสโก เตสํ สโร โหติ, ตาทิสโก มยฺหํ สโร โหติ. ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสมิ สมาทเปมิ สมุตฺเตเชมิ สมฺปหํเสมิ. ภาสมานฺจ มํ น ชานนฺติ – ‘โก นุ โข อยํ ภาสติ เทโว วา มนุสฺโส วา’ติ? ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตฺวา สมาทเปตฺวา สมุตฺเตเชตฺวา สมฺปหํเสตฺวา อนฺตรธายามิ. อนฺตรหิตฺจ มํ น ชานนฺติ – ‘โก นุ โข อยํ อนฺตรหิโต เทโว วา มนุสฺโส วา’ติ? อิมา โข, อานนฺท, อฏฺ ปริสา.

อฏฺ อภิภายตนานิ

๑๗๓. ‘‘อฏฺ โข อิมานิ, อานนฺท, อภิภายตนานิ. กตมานิ อฏฺ ? อชฺฌตฺตํ รูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ ปริตฺตานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ. ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ เอวํสฺี โหติ. อิทํ ปมํ อภิภายตนํ.

‘‘อชฺฌตฺตํ รูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ อปฺปมาณานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ. ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ เอวํสฺี โหติ. อิทํ ทุติยํ อภิภายตนํ.

‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ ปริตฺตานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ. ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ เอวํสฺี โหติ. อิทํ ตติยํ อภิภายตนํ.

‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ อปฺปมาณานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ. ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ เอวํสฺี โหติ. อิทํ จตุตฺถํ อภิภายตนํ.

‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ นีลานิ นีลวณฺณานิ นีลนิทสฺสนานิ นีลนิภาสานิ. เสยฺยถาปิ นาม อุมาปุปฺผํ นีลํ นีลวณฺณํ นีลนิทสฺสนํ นีลนิภาสํ. เสยฺยถา วา ปน ตํ วตฺถํ พาราณเสยฺยกํ อุภโตภาควิมฏฺํ นีลํ นีลวณฺณํ นีลนิทสฺสนํ นีลนิภาสํ. เอวเมว อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ นีลานิ นีลวณฺณานิ นีลนิทสฺสนานิ นีลนิภาสานิ. ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ เอวํสฺี โหติ. อิทํ ปฺจมํ อภิภายตนํ.

‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ ปีตานิ ปีตวณฺณานิ ปีตนิทสฺสนานิ ปีตนิภาสานิ. เสยฺยถาปิ นาม กณิการปุปฺผํ ปีตํ ปีตวณฺณํ ปีตนิทสฺสนํ ปีตนิภาสํ. เสยฺยถา วา ปน ตํ วตฺถํ พาราณเสยฺยกํ อุภโตภาควิมฏฺํ ปีตํ ปีตวณฺณํ ปีตนิทสฺสนํ ปีตนิภาสํ. เอวเมว อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ ปีตานิ ปีตวณฺณานิ ปีตนิทสฺสนานิ ปีตนิภาสานิ. ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ เอวํสฺี โหติ. อิทํ ฉฏฺํ อภิภายตนํ.

‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ โลหิตกานิ โลหิตกวณฺณานิ โลหิตกนิทสฺสนานิ โลหิตกนิภาสานิ. เสยฺยถาปิ นาม พนฺธุชีวกปุปฺผํ โลหิตกํ โลหิตกวณฺณํ โลหิตกนิทสฺสนํ โลหิตกนิภาสํ. เสยฺยถา วา ปน ตํ วตฺถํ พาราณเสยฺยกํ อุภโตภาควิมฏฺํ โลหิตกํ โลหิตกวณฺณํ โลหิตกนิทสฺสนํ โลหิตกนิภาสํ. เอวเมว อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ โลหิตกานิ โลหิตกวณฺณานิ โลหิตกนิทสฺสนานิ โลหิตกนิภาสานิ. ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ เอวํสฺี โหติ. อิทํ สตฺตมํ อภิภายตนํ.

‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ โอทาตานิ โอทาตวณฺณานิ โอทาตนิทสฺสนานิ โอทาตนิภาสานิ. เสยฺยถาปิ นาม โอสธิตารกา โอทาตา โอทาตวณฺณา โอทาตนิทสฺสนา โอทาตนิภาสา. เสยฺยถา วา ปน ตํ วตฺถํ พาราณเสยฺยกํ อุภโตภาควิมฏฺํ โอทาตํ โอทาตวณฺณํ โอทาตนิทสฺสนํ โอทาตนิภาสํ. เอวเมว อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ โอทาตานิ โอทาตวณฺณานิ โอทาตนิทสฺสนานิ โอทาตนิภาสานิ. ‘ตานิ อภิภุยฺย ชานามิ ปสฺสามี’ติ เอวํสฺี โหติ. อิทํ อฏฺมํ อภิภายตนํ . อิมานิ โข, อานนฺท, อฏฺ อภิภายตนานิ.

อฏฺ วิโมกฺขา

๑๗๔. ‘‘อฏฺ โข อิเม, อานนฺท, วิโมกฺขา. กตเม อฏฺ? รูปี รูปานิ ปสฺสติ, อยํ ปโม วิโมกฺโข. อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ, อยํ ทุติโย วิโมกฺโข. สุภนฺเตว อธิมุตฺโต โหติ, อยํ ตติโย วิโมกฺโข. สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา ‘อนนฺโต อากาโส’ติ อากาสานฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, อยํ จตุตฺโถ วิโมกฺโข. สพฺพโส อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘อนนฺตํ วิฺาณ’นฺติ วิฺาณฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, อยํ ปฺจโม วิโมกฺโข. สพฺพโส วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘นตฺถิ กิฺจี’ติ อากิฺจฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, อยํ ฉฏฺโ วิโมกฺโข. สพฺพโส อากิฺจฺายตนํ สมติกฺกมฺม เนวสฺานาสฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ สตฺตโม วิโมกฺโข. สพฺพโส เนวสฺานาสฺายตนํ สมติกฺกมฺม สฺาเวทยิตนิโรธํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, อยํ อฏฺโม วิโมกฺโข. อิเม โข, อานนฺท, อฏฺ วิโมกฺขา.

๑๗๕. ‘‘เอกมิทาหํ , อานนฺท, สมยํ อุรุเวลายํ วิหรามิ นชฺชา เนรฺชราย ตีเร อชปาลนิคฺโรเธ ปมาภิสมฺพุทฺโธ. อถ โข, อานนฺท, มาโร ปาปิมา เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิโต โข, อานนฺท, มาโร ปาปิมา มํ เอตทโวจ – ‘ปรินิพฺพาตุทานิ, ภนฺเต, ภควา; ปรินิพฺพาตุ สุคโต, ปรินิพฺพานกาโลทานิ, ภนฺเต, ภควโต’ติ. เอวํ วุตฺเต อหํ, อานนฺท, มารํ ปาปิมนฺตํ เอตทโวจํ –

‘‘‘น ตาวาหํ, ปาปิม, ปรินิพฺพายิสฺสามิ, ยาว เม ภิกฺขู น สาวกา ภวิสฺสนฺติ วิยตฺตา วินีตา วิสารทา พหุสฺสุตา ธมฺมธรา ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺนา สามีจิปฺปฏิปนฺนา อนุธมฺมจาริโน, สกํ อาจริยกํ อุคฺคเหตฺวา อาจิกฺขิสฺสนฺติ เทเสสฺสนฺติ ปฺเปสฺสนฺติ ปฏฺเปสฺสนฺติ วิวริสฺสนฺติ วิภชิสฺสนฺติ อุตฺตานีกริสฺสนฺติ, อุปฺปนฺนํ ปรปฺปวาทํ สหธมฺเมน สุนิคฺคหิตํ นิคฺคเหตฺวา สปฺปาฏิหาริยํ ธมฺมํ เทเสสฺสนฺติ.

‘‘‘น ตาวาหํ, ปาปิม, ปรินิพฺพายิสฺสามิ, ยาว เม ภิกฺขุนิโย น สาวิกา ภวิสฺสนฺติ วิยตฺตา วินีตา วิสารทา พหุสฺสุตา ธมฺมธรา ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺนา สามีจิปฺปฏิปนฺนา อนุธมฺมจารินิโย, สกํ อาจริยกํ อุคฺคเหตฺวา อาจิกฺขิสฺสนฺติ เทเสสฺสนฺติ ปฺเปสฺสนฺติ ปฏฺเปสฺสนฺติ วิวริสฺสนฺติ วิภชิสฺสนฺติ อุตฺตานีกริสฺสนฺติ, อุปฺปนฺนํ ปรปฺปวาทํ สหธมฺเมน สุนิคฺคหิตํ นิคฺคเหตฺวา สปฺปาฏิหาริยํ ธมฺมํ เทเสสฺสนฺติ.

‘‘‘น ตาวาหํ, ปาปิม, ปรินิพฺพายิสฺสามิ, ยาว เม อุปาสกา น สาวกา ภวิสฺสนฺติ วิยตฺตา วินีตา วิสารทา พหุสฺสุตา ธมฺมธรา ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺนา สามีจิปฺปฏิปนฺนา อนุธมฺมจาริโน, สกํ อาจริยกํ อุคฺคเหตฺวา อาจิกฺขิสฺสนฺติ เทเสสฺสนฺติ ปฺเปสฺสนฺติ ปฏฺเปสฺสนฺติ วิวริสฺสนฺติ วิภชิสฺสนฺติ อุตฺตานีกริสฺสนฺติ, อุปฺปนฺนํ ปรปฺปวาทํ สหธมฺเมน สุนิคฺคหิตํ นิคฺคเหตฺวา สปฺปาฏิหาริยํ ธมฺมํ เทเสสฺสนฺติ.

‘‘‘น ตาวาหํ, ปาปิม, ปรินิพฺพายิสฺสามิ, ยาว เม อุปาสิกา น สาวิกา ภวิสฺสนฺติ วิยตฺตา วินีตา วิสารทา พหุสฺสุตา ธมฺมธรา ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺนา สามีจิปฺปฏิปนฺนา อนุธมฺมจารินิโย, สกํ อาจริยกํ อุคฺคเหตฺวา อาจิกฺขิสฺสนฺติ เทเสสฺสนฺติ ปฺเปสฺสนฺติ ปฏฺเปสฺสนฺติ วิวริสฺสนฺติ วิภชิสฺสนฺติ อุตฺตานีกริสฺสนฺติ, อุปฺปนฺนํ ปรปฺปวาทํ สหธมฺเมน สุนิคฺคหิตํ นิคฺคเหตฺวา สปฺปาฏิหาริยํ ธมฺมํ เทเสสฺสนฺติ.

‘‘‘น ตาวาหํ, ปาปิม, ปรินิพฺพายิสฺสามิ, ยาว เม อิทํ พฺรหฺมจริยํ น อิทฺธฺเจว ภวิสฺสติ ผีตฺจ วิตฺถาริกํ พาหุชฺํ ปุถุภูตํ ยาว เทวมนุสฺเสหิ สุปฺปกาสิต’นฺติ.

๑๗๖. ‘‘อิทาเนว โข, อานนฺท, อชฺช จาปาเล เจติเย มาโร ปาปิมา เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิโต โข, อานนฺท, มาโร ปาปิมา มํ เอตทโวจ – ‘ปรินิพฺพาตุทานิ, ภนฺเต, ภควา, ปรินิพฺพาตุ สุคโต, ปรินิพฺพานกาโลทานิ, ภนฺเต, ภควโต. ภาสิตา โข ปเนสา, ภนฺเต, ภควตา วาจา – ‘‘น ตาวาหํ, ปาปิม , ปรินิพฺพายิสฺสามิ , ยาว เม ภิกฺขู น สาวกา ภวิสฺสนฺติ…เป… ยาว เม ภิกฺขุนิโย น สาวิกา ภวิสฺสนฺติ…เป… ยาว เม อุปาสกา น สาวกา ภวิสฺสนฺติ…เป… ยาว เม อุปาสิกา น สาวิกา ภวิสฺสนฺติ…เป… ยาว เม อิทํ พฺรหฺมจริยํ น อิทฺธฺเจว ภวิสฺสติ ผีตฺจ วิตฺถาริกํ พาหุชฺํ ปุถุภูตํ, ยาว เทวมนุสฺเสหิ สุปฺปกาสิต’’นฺติ. เอตรหิ โข ปน, ภนฺเต, ภควโต พฺรหฺมจริยํ อิทฺธฺเจว ผีตฺจ วิตฺถาริกํ พาหุชฺํ ปุถุภูตํ, ยาว เทวมนุสฺเสหิ สุปฺปกาสิตํ. ปรินิพฺพาตุทานิ, ภนฺเต, ภควา, ปรินิพฺพาตุ สุคโต, ปรินิพฺพานกาโลทานิ, ภนฺเต, ภควโต’ติ.

๑๗๗. ‘‘เอวํ วุตฺเต, อหํ, อานนฺท, มารํ ปาปิมนฺตํ เอตทโวจํ – ‘อปฺโปสฺสุกฺโก ตฺวํ, ปาปิม, โหหิ, นจิรํ ตถาคตสฺส ปรินิพฺพานํ ภวิสฺสติ. อิโต ติณฺณํ มาสานํ อจฺจเยน ตถาคโต ปรินิพฺพายิสฺสตี’ติ. อิทาเนว โข, อานนฺท, อชฺช จาปาเล เจติเย ตถาคเตน สเตน สมฺปชาเนน อายุสงฺขาโร โอสฺสฏฺโ’’ติ.

อานนฺทยาจนกถา

๑๗๘. เอวํ วุตฺเต อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ติฏฺตุ, ภนฺเต, ภควา กปฺปํ, ติฏฺตุ สุคโต กปฺปํ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสาน’’นฺติ.

‘‘อลํทานิ, อานนฺท. มา ตถาคตํ ยาจิ, อกาโลทานิ, อานนฺท, ตถาคตํ ยาจนายา’’ติ. ทุติยมฺปิ โข อายสฺมา อานนฺโท…เป… ตติยมฺปิ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ติฏฺตุ, ภนฺเต, ภควา กปฺปํ, ติฏฺตุ สุคโต กปฺปํ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสาน’’นฺติ.

‘‘สทฺทหสิ ตฺวํ, อานนฺท, ตถาคตสฺส โพธิ’’นฺติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘อถ กิฺจรหิ ตฺวํ, อานนฺท, ตถาคตํ ยาวตติยกํ อภินิปฺปีเฬสี’’ติ? ‘‘สมฺมุขา เมตํ, ภนฺเต, ภควโต สุตํ สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – ‘ยสฺส กสฺสจิ, อานนฺท, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ภาวิตา พหุลีกตา ยานีกตา วตฺถุกตา อนุฏฺิตา ปริจิตา สุสมารทฺธา, โส อากงฺขมาโน กปฺปํ วา ติฏฺเยฺย กปฺปาวเสสํ วา. ตถาคตสฺส โข, อานนฺท, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ภาวิตา พหุลีกตา ยานีกตา วตฺถุกตา อนุฏฺิตา ปริจิตา สุสมารทฺธา. โส อากงฺขมาโน, อานนฺท, ตถาคโต กปฺปํ วา ติฏฺเยฺย กปฺปาวเสสํ วา’’’ติ. ‘‘สทฺทหสิ ตฺวํ, อานนฺทา’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตสฺมาติหานนฺท, ตุยฺเหเวตํ ทุกฺกฏํ, ตุยฺเหเวตํ อปรทฺธํ, ยํ ตฺวํ ตถาคเตน เอวํ โอฬาริเก นิมิตฺเต กยิรมาเน โอฬาริเก โอภาเส กยิรมาเน นาสกฺขิ ปฏิวิชฺฌิตุํ, น ตถาคตํ ยาจิ – ‘ติฏฺตุ, ภนฺเต, ภควา กปฺปํ, ติฏฺตุ สุคโต กปฺปํ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสาน’’นฺติ. สเจ ตฺวํ, อานนฺท, ตถาคตํ ยาเจยฺยาสิ, ทฺเวว เต วาจา ตถาคโต ปฏิกฺขิเปยฺย, อถ ตติยกํ อธิวาเสยฺย. ตสฺมาติหานนฺท, ตุยฺเหเวตํ ทุกฺกฏํ, ตุยฺเหเวตํ อปรทฺธํ.

๑๗๙. ‘‘เอกมิทาหํ, อานนฺท, สมยํ ราชคเห วิหรามิ คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเต. ตตฺราปิ โข ตาหํ, อานนฺท, อามนฺเตสึ – ‘รมณียํ, อานนฺท, ราชคหํ, รมณีโย, อานนฺท, คิชฺฌกูโฏ ปพฺพโต. ยสฺส กสฺสจิ, อานนฺท, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ภาวิตา พหุลีกตา ยานีกตา วตฺถุกตา อนุฏฺิตา ปริจิตา สุสมารทฺธา, โส อากงฺขมาโน กปฺปํ วา ติฏฺเยฺย กปฺปาวเสสํ วา. ตถาคตสฺส โข, อานนฺท, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ภาวิตา พหุลีกตา ยานีกตา วตฺถุกตา อนุฏฺิตา ปริจิตา สุสมารทฺธา, โส อากงฺขมาโน, อานนฺท, ตถาคโต กปฺปํ วา ติฏฺเยฺย กปฺปาวเสสํ วา’ติ. เอวมฺปิ โข ตฺวํ, อานนฺท, ตถาคเตน โอฬาริเก นิมิตฺเต กยิรมาเน โอฬาริเก โอภาเส กยิรมาเน นาสกฺขิ ปฏิวิชฺฌิตุํ, น ตถาคตํ ยาจิ – ‘ติฏฺตุ, ภนฺเต, ภควา กปฺปํ, ติฏฺตุ สุคโต กปฺปํ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสาน’นฺติ. สเจ ตฺวํ, อานนฺท, ตถาคตํ ยาเจยฺยาสิ, ทฺเว เต วาจา ตถาคโต ปฏิกฺขิเปยฺย, อถ ตติยกํ อธิวาเสยฺย. ตสฺมาติหานนฺท, ตุยฺเหเวตํ ทุกฺกฏํ, ตุยฺเหเวตํ อปรทฺธํ.

๑๘๐. ‘‘เอกมิทาหํ, อานนฺท, สมยํ ตตฺเถว ราชคเห วิหรามิ โคตมนิคฺโรเธ…เป… ตตฺเถว ราชคเห วิหรามิ โจรปปาเต… ตตฺเถว ราชคเห วิหรามิ เวภารปสฺเส สตฺตปณฺณิคุหายํ… ตตฺเถว ราชคเห วิหรามิ อิสิคิลิปสฺเส กาฬสิลายํ… ตตฺเถว ราชคเห วิหรามิ สีตวเน สปฺปโสณฺฑิกปพฺภาเร… ตตฺเถว ราชคเห วิหรามิ ตโปทาราเม… ตตฺเถว ราชคเห วิหรามิ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเป… ตตฺเถว ราชคเห วิหรามิ ชีวกมฺพวเน… ตตฺเถว ราชคเห วิหรามิ มทฺทกุจฺฉิสฺมึ มิคทาเย ตตฺราปิ โข ตาหํ, อานนฺท, อามนฺเตสึ – ‘รมณียํ, อานนฺท, ราชคหํ, รมณีโย คิชฺฌกูโฏ ปพฺพโต, รมณีโย โคตมนิคฺโรโธ, รมณีโย โจรปปาโต, รมณียา เวภารปสฺเส สตฺตปณฺณิคุหา, รมณียา อิสิคิลิปสฺเส กาฬสิลา, รมณีโย สีตวเน สปฺปโสณฺฑิกปพฺภาโร , รมณีโย ตโปทาราโม, รมณีโย เวฬุวเน กลนฺทกนิวาโป, รมณียํ ชีวกมฺพวนํ, รมณีโย มทฺทกุจฺฉิสฺมึ มิคทาโย. ยสฺส กสฺสจิ, อานนฺท, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ภาวิตา พหุลีกตา ยานีกตา วตฺถุกตา อนุฏฺิตา ปริจิตา สุสมารทฺธา…เป… อากงฺขมาโน, อานนฺท, ตถาคโต กปฺปํ วา ติฏฺเยฺย กปฺปาวเสสํ วา’ติ. เอวมฺปิ โข ตฺวํ, อานนฺท, ตถาคเตน โอฬาริเก นิมิตฺเต กยิรมาเน โอฬาริเก โอภาเส กยิรมาเน นาสกฺขิ ปฏิวิชฺฌิตุํ, น ตถาคตํ ยาจิ – ‘ติฏฺตุ, ภนฺเต, ภควา กปฺปํ, ติฏฺตุ สุคโต กปฺปํ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสาน’นฺติ. สเจ ตฺวํ, อานนฺท, ตถาคตํ ยาเจยฺยาสิ, ทฺเวว เต วาจา ตถาคโต ปฏิกฺขิเปยฺย, อถ ตติยกํ อธิวาเสยฺย. ตสฺมาติหานนฺท, ตุยฺเหเวตํ ทุกฺกฏํ, ตุยฺเหเวตํ อปรทฺธํ.

๑๘๑. ‘‘เอกมิทาหํ, อานนฺท, สมยํ อิเธว เวสาลิยํ วิหรามิ อุเทเน เจติเย. ตตฺราปิ โข ตาหํ, อานนฺท, อามนฺเตสึ – ‘รมณียา, อานนฺท, เวสาลี, รมณียํ อุเทนํ เจติยํ. ยสฺส กสฺสจิ, อานนฺท, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ภาวิตา พหุลีกตา ยานีกตา วตฺถุกตา อนุฏฺิตา ปริจิตา สุสมารทฺธา, โส อากงฺขมาโน กปฺปํ วา ติฏฺเยฺย กปฺปาวเสสํ วา. ตถาคตสฺส โข, อานนฺท, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ภาวิตา พหุลีกตา ยานีกตา วตฺถุกตา อนุฏฺิตา ปริจิตา สุสมารทฺธา, โส อากงฺขมาโน, อานนฺท, ตถาคโต กปฺปํ วา ติฏฺเยฺย กปฺปาวเสสํ วา’ติ. เอวมฺปิ โข ตฺวํ, อานนฺท, ตถาคเตน โอฬาริเก นิมิตฺเต กยิรมาเน โอฬาริเก โอภาเส กยิรมาเน นาสกฺขิ ปฏิวิชฺฌิตุํ, น ตถาคตํ ยาจิ – ‘ติฏฺตุ, ภนฺเต, ภควา กปฺปํ, ติฏฺตุ สุคโต กปฺปํ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสาน’นฺติ. สเจ ตฺวํ, อานนฺท, ตถาคตํ ยาเจยฺยาสิ, ทฺเวว เต วาจา ตถาคโต ปฏิกฺขิเปยฺย, อถ ตติยกํ อธิวาเสยฺย, ตสฺมาติหานนฺท, ตุยฺเหเวตํ ทุกฺกฏํ, ตุยฺเหเวตํ อปรทฺธํ.

๑๘๒. ‘‘เอกมิทาหํ , อานนฺท, สมยํ อิเธว เวสาลิยํ วิหรามิ โคตมเก เจติเย …เป… อิเธว เวสาลิยํ วิหรามิ สตฺตมฺเพ เจติเย… อิเธว เวสาลิยํ วิหรามิ พหุปุตฺเต เจติเย… อิเธว เวสาลิยํ วิหรามิ สารนฺทเท เจติเย… อิทาเนว โข ตาหํ, อานนฺท, อชฺช จาปาเล เจติเย อามนฺเตสึ – ‘รมณียา, อานนฺท, เวสาลี, รมณียํ อุเทนํ เจติยํ, รมณียํ โคตมกํ เจติยํ, รมณียํ สตฺตมฺพํ เจติยํ, รมณียํ พหุปุตฺตํ เจติยํ, รมณียํ สารนฺททํ เจติยํ, รมณียํ จาปาลํ เจติยํ. ยสฺส กสฺสจิ, อานนฺท, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ภาวิตา พหุลีกตา ยานีกตา วตฺถุกตา อนุฏฺิตา ปริจิตา สุสมารทฺธา, โส อากงฺขมาโน กปฺปํ วา ติฏฺเยฺย กปฺปาวเสสํ วา. ตถาคตสฺส โข, อานนฺท, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ภาวิตา พหุลีกตา ยานีกตา วตฺถุกตา อนุฏฺิตา ปริจิตา สุสมารทฺธา, โส อากงฺขมาโน, อานนฺท, ตถาคโต กปฺปํ วา ติฏฺเยฺย กปฺปาวเสสํ วา’ติ. เอวมฺปิ โข ตฺวํ, อานนฺท, ตถาคเตน โอฬาริเก นิมิตฺเต กยิรมาเน โอฬาริเก โอภาเส กยิรมาเน นาสกฺขิ ปฏิวิชฺฌิตุํ, น ตถาคตํ ยาจิ – ‘ติฏฺตุ ภควา กปฺปํ, ติฏฺตุ สุคโต กปฺปํ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสาน’นฺติ. สเจ ตฺวํ, อานนฺท, ตถาคตํ ยาเจยฺยาสิ, ทฺเวว เต วาจา ตถาคโต ปฏิกฺขิเปยฺย, อถ ตติยกํ อธิวาเสยฺย. ตสฺมาติหานนฺท, ตุยฺเหเวตํ ทุกฺกฏํ, ตุยฺเหเวตํ อปรทฺธํ.

๑๘๓. ‘‘นนุ เอตํ [เอวํ (สฺยา. ปี.)], อานนฺท, มยา ปฏิกจฺเจว [ปฏิคจฺเจว (สี. ปี.)] อกฺขาตํ – ‘สพฺเพเหว ปิเยหิ มนาเปหิ นานาภาโว วินาภาโว อฺถาภาโว. ตํ กุเตตฺถ, อานนฺท, ลพฺภา, ยํ ตํ ชาตํ ภูตํ สงฺขตํ ปโลกธมฺมํ, ตํ วต มา ปลุชฺชีติ เนตํ านํ วิชฺชติ’. ยํ โข ปเนตํ, อานนฺท, ตถาคเตน จตฺตํ วนฺตํ มุตฺตํ ปหีนํ ปฏินิสฺสฏฺํ โอสฺสฏฺโ อายุสงฺขาโร, เอกํเสน วาจา ภาสิตา – ‘น จิรํ ตถาคตสฺส ปรินิพฺพานํ ภวิสฺสติ. อิโต ติณฺณํ มาสานํ อจฺจเยน ตถาคโต ปรินิพฺพายิสฺสตี’ติ. ตฺจ [ตํ วจนํ (สี.)] ตถาคโต ชีวิตเหตุ ปุน ปจฺจาวมิสฺสตีติ [ปจฺจาคมิสฺสตีติ (สฺยา. ก.)] เนตํ านํ วิชฺชติ. อายามานนฺท, เยน มหาวนํ กูฏาคารสาลา เตนุปสงฺกมิสฺสามา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปจฺจสฺโสสิ.

อถ โข ภควา อายสฺมตา อานนฺเทน สทฺธึ เยน มหาวนํ กูฏาคารสาลา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘คจฺฉ ตฺวํ, อานนฺท, ยาวติกา ภิกฺขู เวสาลึ อุปนิสฺสาย วิหรนฺติ, เต สพฺเพ อุปฏฺานสาลายํ สนฺนิปาเตหี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา ยาวติกา ภิกฺขู เวสาลึ อุปนิสฺสาย วิหรนฺติ, เต สพฺเพ อุปฏฺานสาลายํ สนฺนิปาเตตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิโต โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สนฺนิปติโต, ภนฺเต, ภิกฺขุสงฺโฆ, ยสฺสทานิ, ภนฺเต, ภควา กาลํ มฺตี’’ติ.

๑๘๔. อถ โข ภควา เยนุปฏฺานสาลา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. นิสชฺช โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, เย เต มยา ธมฺมา อภิฺา เทสิตา, เต โว สาธุกํ อุคฺคเหตฺวา อาเสวิตพฺพา ภาเวตพฺพา พหุลีกาตพฺพา, ยถยิทํ พฺรหฺมจริยํ อทฺธนิยํ อสฺส จิรฏฺิติกํ, ตทสฺส พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ. กตเม จ เต, ภิกฺขเว, ธมฺมา มยา อภิฺา เทสิตา, เย โว สาธุกํ อุคฺคเหตฺวา อาเสวิตพฺพา ภาเวตพฺพา พหุลีกาตพฺพา, ยถยิทํ พฺรหฺมจริยํ อทฺธนิยํ อสฺส จิรฏฺิติกํ, ตทสฺส พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ. เสยฺยถิทํ – จตฺตาโร สติปฏฺานา จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ปฺจินฺทฺริยานิ ปฺจ พลานิ สตฺต โพชฺฌงฺคา อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค. อิเม โข เต, ภิกฺขเว, ธมฺมา มยา อภิฺา เทสิตา, เย โว สาธุกํ อุคฺคเหตฺวา อาเสวิตพฺพา ภาเวตพฺพา พหุลีกาตพฺพา, ยถยิทํ พฺรหฺมจริยํ อทฺธนิยํ อสฺส จิรฏฺิติกํ, ตทสฺส พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสาน’’นฺติ.

๑๘๕. อถ โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘หนฺททานิ, ภิกฺขเว, อามนฺตยามิ โว, วยธมฺมา สงฺขารา, อปฺปมาเทน สมฺปาเทถ. นจิรํ ตถาคตสฺส ปรินิพฺพานํ ภวิสฺสติ. อิโต ติณฺณํ มาสานํ อจฺจเยน ตถาคโต ปรินิพฺพายิสฺสตี’’ติ. อิทมโวจ ภควา, อิทํ วตฺวาน สุคโต อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา [อิโต ปรํ สฺยามโปตฺถเก เอวํปิ ปาโ ทิสฺสติ –§ทหราปิ จ เย วุทฺธา, เย พาลา เย จ ปณฺฑิตา.§อฑฺฒาเจว ทลิทฺทา จ, สพฺเพ มจฺจุปรายนา.§ยถาปิ กุมฺภการสฺส, กตํ มตฺติกภาชนํ.§ขุทฺทกฺจ มหนฺตฺจ, ยฺจ ปกฺกํ ยฺจ อามกํ.§สพฺพํ เภทปริยนฺตํ, เอวํ มจฺจาน ชีวิตํ.§อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา]. –

‘‘ปริปกฺโก วโย มยฺหํ, ปริตฺตํ มม ชีวิตํ;

ปหาย โว คมิสฺสามิ, กตํ เม สรณมตฺตโน.

‘‘อปฺปมตฺตา สตีมนฺโต, สุสีลา โหถ ภิกฺขโว;

สุสมาหิตสงฺกปฺปา, สจิตฺตมนุรกฺขถ.

‘‘โย อิมสฺมึ ธมฺมวินเย, อปฺปมตฺโต วิหสฺสติ;

ปหาย ชาติสํสารํ, ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสตี’’ติ [วิหริสฺสติ (สฺยา.), วิเหสฺสติ (สี.)].

ตติโย ภาณวาโร.

นาคาปโลกิตํ

๑๘๖. อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เวสาลึ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. เวสาลิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฺปฏิกฺกนฺโต นาคาปโลกิตํ เวสาลึ อปโลเกตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อิทํ ปจฺฉิมกํ, อานนฺท, ตถาคตสฺส เวสาลิยา ทสฺสนํ ภวิสฺสติ. อายามานนฺท, เยน ภณฺฑคาโม [ภณฺฑุคาโม (ก.)] เตนุปสงฺกมิสฺสามา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปจฺจสฺโสสิ.

อถ โข ภควา มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ เยน ภณฺฑคาโม ตทวสริ. ตตฺร สุทํ ภควา ภณฺฑคาเม วิหรติ. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘จตุนฺนํ, ภิกฺขเว, ธมฺมานํ อนนุโพธา อปฺปฏิเวธา เอวมิทํ ทีฆมทฺธานํ สนฺธาวิตํ สํสริตํ มมฺเจว ตุมฺหากฺจ. กตเมสํ จตุนฺนํ? อริยสฺส, ภิกฺขเว, สีลสฺส อนนุโพธา อปฺปฏิเวธา เอวมิทํ ทีฆมทฺธานํ สนฺธาวิตํ สํสริตํ มมํ เจว ตุมฺหากฺจ. อริยสฺส, ภิกฺขเว, สมาธิสฺส อนนุโพธา อปฺปฏิเวธา เอวมิทํ ทีฆมทฺธานํ สนฺธาวิตํ สํสริตํ มมํ เจว ตุมฺหากฺจ. อริยาย, ภิกฺขเว, ปฺาย อนนุโพธา อปฺปฏิเวธา เอวมิทํ ทีฆมทฺธานํ สนฺธาวิตํ สํสริตํ มมํ เจว ตุมฺหากฺจ. อริยาย, ภิกฺขเว, วิมุตฺติยา อนนุโพธา อปฺปฏิเวธา เอวมิทํ ทีฆมทฺธานํ สนฺธาวิตํ สํสริตํ มมํ เจว ตุมฺหากฺจ. ตยิทํ, ภิกฺขเว, อริยํ สีลํ อนุพุทฺธํ ปฏิวิทฺธํ, อริโย สมาธิ อนุพุทฺโธ ปฏิวิทฺโธ, อริยา ปฺา อนุพุทฺธา ปฏิวิทฺธา, อริยา วิมุตฺติ อนุพุทฺธา ปฏิวิทฺธา, อุจฺฉินฺนา ภวตณฺหา, ขีณา ภวเนตฺติ, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว’’ติ. อิทมโวจ ภควา, อิทํ วตฺวาน สุคโต อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –

‘‘สีลํ สมาธิ ปฺา จ, วิมุตฺติ จ อนุตฺตรา;

อนุพุทฺธา อิเม ธมฺมา, โคตเมน ยสสฺสินา.

‘‘อิติ พุทฺโธ อภิฺาย, ธมฺมมกฺขาสิ ภิกฺขุนํ;

ทุกฺขสฺสนฺตกโร สตฺถา, จกฺขุมา ปรินิพฺพุโต’’ติ.

ตตฺราปิ สุทํ ภควา ภณฺฑคาเม วิหรนฺโต เอตเทว พหุลํ ภิกฺขูนํ ธมฺมึ กถํ กโรติ – ‘‘อิติ สีลํ, อิติ สมาธิ, อิติ ปฺา. สีลปริภาวิโต สมาธิ มหปฺผโล โหติ มหานิสํโส. สมาธิปริภาวิตา ปฺา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา. ปฺาปริภาวิตํ จิตฺตํ สมฺมเทว อาสเวหิ วิมุจฺจติ, เสยฺยถิทํ – กามาสวา, ภวาสวา, อวิชฺชาสวา’’ติ.

จตุมหาปเทสกถา

๑๘๗. อถ โข ภควา ภณฺฑคาเม ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อายามานนฺท, เยน หตฺถิคาโม, เยน อมฺพคาโม, เยน ชมฺพุคาโม, เยน โภคนครํ เตนุปสงฺกมิสฺสามา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปจฺจสฺโสสิ. อถ โข ภควา มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ เยน โภคนครํ ตทวสริ. ตตฺร สุทํ ภควา โภคนคเร วิหรติ อานนฺเท [สานนฺทเร (ก.)] เจติเย. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, มหาปเทเส เทเสสฺสามิ, ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิกโรถ, ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ , ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –

๑๘๘. ‘‘อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ วเทยฺย – ‘สมฺมุขา เมตํ, อาวุโส, ภควโต สุตํ สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ, อยํ ธมฺโม อยํ วินโย อิทํ สตฺถุสาสน’นฺติ. ตสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ภาสิตํ เนว อภินนฺทิตพฺพํ นปฺปฏิกฺโกสิตพฺพํ. อนภินนฺทิตฺวา อปฺปฏิกฺโกสิตฺวา ตานิ ปทพฺยฺชนานิ สาธุกํ อุคฺคเหตฺวา สุตฺเต โอสาเรตพฺพานิ [โอตาเรตพฺพานิ], วินเย สนฺทสฺเสตพฺพานิ. ตานิ เจ สุตฺเต โอสาริยมานานิ [โอตาริยมานานิ] วินเย สนฺทสฺสิยมานานิ น เจว สุตฺเต โอสรนฺติ [โอตรนฺติ (สี. ปี. อ. นิ. ๔.๑๘๐], น จ วินเย สนฺทิสฺสนฺติ, นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ – ‘อทฺธา, อิทํ น เจว ตสฺส ภควโต วจนํ; อิมสฺส จ ภิกฺขุโน ทุคฺคหิต’นฺติ. อิติเหตํ, ภิกฺขเว, ฉฑฺเฑยฺยาถ. ตานิ เจ สุตฺเต โอสาริยมานานิ วินเย สนฺทสฺสิยมานานิ สุตฺเต เจว โอสรนฺติ, วินเย จ สนฺทิสฺสนฺติ, นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ – ‘อทฺธา, อิทํ ตสฺส ภควโต วจนํ; อิมสฺส จ ภิกฺขุโน สุคฺคหิต’นฺติ. อิทํ, ภิกฺขเว, ปมํ มหาปเทสํ ธาเรยฺยาถ.

‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ วเทยฺย – ‘อมุกสฺมึ นาม อาวาเส สงฺโฆ วิหรติ สเถโร สปาโมกฺโข. ตสฺส เม สงฺฆสฺส สมฺมุขา สุตํ สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ, อยํ ธมฺโม อยํ วินโย อิทํ สตฺถุสาสน’นฺติ. ตสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ภาสิตํ เนว อภินนฺทิตพฺพํ นปฺปฏิกฺโกสิตพฺพํ. อนภินนฺทิตฺวา อปฺปฏิกฺโกสิตฺวา ตานิ ปทพฺยฺชนานิ สาธุกํ อุคฺคเหตฺวา สุตฺเต โอสาเรตพฺพานิ, วินเย สนฺทสฺเสตพฺพานิ. ตานิ เจ สุตฺเต โอสาริยมานานิ วินเย สนฺทสฺสิยมานานิ น เจว สุตฺเต โอสรนฺติ, น จ วินเย สนฺทิสฺสนฺติ, นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ – ‘อทฺธา, อิทํ น เจว ตสฺส ภควโต วจนํ; ตสฺส จ สงฺฆสฺส ทุคฺคหิต’นฺติ. อิติเหตํ, ภิกฺขเว, ฉฑฺเฑยฺยาถ. ตานิ เจ สุตฺเต โอสาริยมานานิ วินเย สนฺทสฺสิยมานานิ สุตฺเต เจว โอสรนฺติ วินเย จ สนฺทิสฺสนฺติ, นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ – ‘อทฺธา , อิทํ ตสฺส ภควโต วจนํ; ตสฺส จ สงฺฆสฺส สุคฺคหิต’นฺติ. อิทํ, ภิกฺขเว, ทุติยํ มหาปเทสํ ธาเรยฺยาถ.

‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ วเทยฺย – ‘อมุกสฺมึ นาม อาวาเส สมฺพหุลา เถรา ภิกฺขู วิหรนฺติ พหุสฺสุตา อาคตาคมา ธมฺมธรา วินยธรา มาติกาธรา. เตสํ เม เถรานํ สมฺมุขา สุตํ สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – อยํ ธมฺโม อยํ วินโย อิทํ สตฺถุสาสน’นฺติ. ตสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ภาสิตํ เนว อภินนฺทิตพฺพํ…เป… น จ วินเย สนฺทิสฺสนฺติ, นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ – ‘อทฺธา, อิทํ น เจว ตสฺส ภควโต วจนํ; เตสฺจ เถรานํ ทุคฺคหิต’นฺติ. อิติเหตํ, ภิกฺขเว, ฉฑฺเฑยฺยาถ. ตานิ เจ สุตฺเต โอสาริยมานานิ…เป… วินเย จ สนฺทิสฺสนฺติ, นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ – ‘อทฺธา, อิทํ ตสฺส ภควโต วจนํ; เตสฺจ เถรานํ สุคฺคหิต’นฺติ. อิทํ, ภิกฺขเว, ตติยํ มหาปเทสํ ธาเรยฺยาถ.

‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ วเทยฺย – ‘อมุกสฺมึ นาม อาวาเส เอโก เถโร ภิกฺขุ วิหรติ พหุสฺสุโต อาคตาคโม ธมฺมธโร วินยธโร มาติกาธโร. ตสฺส เม เถรสฺส สมฺมุขา สุตํ สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – อยํ ธมฺโม อยํ วินโย อิทํ สตฺถุสาสน’นฺติ. ตสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ภาสิตํ เนว อภินนฺทิตพฺพํ นปฺปฏิกฺโกสิตพฺพํ. อนภินนฺทิตฺวา อปฺปฏิกฺโกสิตฺวา ตานิ ปทพฺยฺชนานิ สาธุกํ อุคฺคเหตฺวา สุตฺเต โอสาริตพฺพานิ, วินเย สนฺทสฺเสตพฺพานิ. ตานิ เจ สุตฺเต โอสาริยมานานิ วินเย สนฺทสฺสิยมานานิ น เจว สุตฺเต โอสรนฺติ, น จ วินเย สนฺทิสฺสนฺติ, นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ – ‘อทฺธา, อิทํ น เจว ตสฺส ภควโต วจนํ; ตสฺส จ เถรสฺส ทุคฺคหิต’นฺติ. อิติเหตํ, ภิกฺขเว, ฉฑฺเฑยฺยาถ. ตานิ จ สุตฺเต โอสาริยมานานิ วินเย สนฺทสฺสิยมานานิ สุตฺเต เจว โอสรนฺติ, วินเย จ สนฺทิสฺสนฺติ , นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ – ‘อทฺธา , อิทํ ตสฺส ภควโต วจนํ; ตสฺส จ เถรสฺส สุคฺคหิต’นฺติ. อิทํ, ภิกฺขเว, จตุตฺถํ มหาปเทสํ ธาเรยฺยาถ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร มหาปเทเส ธาเรยฺยาถา’’ติ.

ตตฺรปิ สุทํ ภควา โภคนคเร วิหรนฺโต อานนฺเท เจติเย เอตเทว พหุลํ ภิกฺขูนํ ธมฺมึ กถํ กโรติ – ‘‘อิติ สีลํ, อิติ สมาธิ, อิติ ปฺา. สีลปริภาวิโต สมาธิ มหปฺผโล โหติ มหานิสํโส . สมาธิปริภาวิตา ปฺา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา. ปฺาปริภาวิตํ จิตฺตํ สมฺมเทว อาสเวหิ วิมุจฺจติ, เสยฺยถิทํ – กามาสวา, ภวาสวา, อวิชฺชาสวา’’ติ.

กมฺมารปุตฺตจุนฺทวตฺถุ

๑๘๙. อถ โข ภควา โภคนคเร ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อายามานนฺท, เยน ปาวา เตนุปสงฺกมิสฺสามา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปจฺจสฺโสสิ. อถ โข ภควา มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ เยน ปาวา ตทวสริ. ตตฺร สุทํ ภควา ปาวายํ วิหรติ จุนฺทสฺส กมฺมารปุตฺตสฺส อมฺพวเน. อสฺโสสิ โข จุนฺโท กมฺมารปุตฺโต – ‘‘ภควา กิร ปาวํ อนุปฺปตฺโต, ปาวายํ วิหรติ มยฺหํ อมฺพวเน’’ติ. อถ โข จุนฺโท กมฺมารปุตฺโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข จุนฺทํ กมฺมารปุตฺตํ ภควา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสสิ สมาทเปสิ สมุตฺเตเชสิ สมฺปหํเสสิ. อถ โข จุนฺโท กมฺมารปุตฺโต ภควตา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิโต สมาทปิโต สมุตฺเตชิโต สมฺปหํสิโต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อธิวาเสตุ เม, ภนฺเต, ภควา สฺวาตนาย ภตฺตํ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆนา’’ติ. อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวน. อถ โข จุนฺโท กมฺมารปุตฺโต ภควโต อธิวาสนํ วิทิตฺวา อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ.

อถ โข จุนฺโท กมฺมารปุตฺโต ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน สเก นิเวสเน ปณีตํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฏิยาทาเปตฺวา ปหูตฺจ สูกรมทฺทวํ ภควโต กาลํ อาโรจาเปสิ – ‘‘กาโล, ภนฺเต, นิฏฺิตํ ภตฺต’’นฺติ. อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน เยน จุนฺทสฺส กมฺมารปุตฺตสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. นิสชฺช โข ภควา จุนฺทํ กมฺมารปุตฺตํ อามนฺเตสิ – ‘‘ยํ เต, จุนฺท, สูกรมทฺทวํ ปฏิยตฺตํ, เตน มํ ปริวิส. ยํ ปนฺํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฏิยตฺตํ, เตน ภิกฺขุสงฺฆํ ปริวิสา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข จุนฺโท กมฺมารปุตฺโต ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา ยํ อโหสิ สูกรมทฺทวํ ปฏิยตฺตํ, เตน ภควนฺตํ ปริวิสิ. ยํ ปนฺํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฏิยตฺตํ , เตน ภิกฺขุสงฺฆํ ปริวิสิ. อถ โข ภควา จุนฺทํ กมฺมารปุตฺตํ อามนฺเตสิ – ‘‘ยํ เต, จุนฺท, สูกรมทฺทวํ อวสิฏฺํ, ตํ โสพฺเภ นิขณาหิ. นาหํ ตํ, จุนฺท, ปสฺสามิ สเทวเก โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย, ยสฺส ตํ ปริภุตฺตํ สมฺมา ปริณามํ คจฺเฉยฺย อฺตฺร ตถาคตสฺสา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข จุนฺโท กมฺมารปุตฺโต ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา ยํ อโหสิ สูกรมทฺทวํ อวสิฏฺํ, ตํ โสพฺเภ นิขณิตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข จุนฺทํ กมฺมารปุตฺตํ ภควา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตฺวา สมาทเปตฺวา สมุตฺเตเชตฺวา สมฺปหํเสตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ.

๑๙๐. อถ โข ภควโต จุนฺทสฺส กมฺมารปุตฺตสฺส ภตฺตํ ภุตฺตาวิสฺส ขโร อาพาโธ อุปฺปชฺชิ, โลหิตปกฺขนฺทิกา ปพาฬฺหา เวทนา วตฺตนฺติ มารณนฺติกา. ตา สุทํ ภควา สโต สมฺปชาโน อธิวาเสสิ อวิหฺมาโน. อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อายามานนฺท, เยน กุสินารา เตนุปสงฺกมิสฺสามา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปจฺจสฺโสสิ.

จุนฺทสฺส ภตฺตํ ภุฺชิตฺวา, กมฺมารสฺสาติ เม สุตํ;

อาพาธํ สมฺผุสี ธีโร, ปพาฬฺหํ มารณนฺติกํ.

ภุตฺตสฺส จ สูกรมทฺทเวน,

พฺยาธิปฺปพาฬฺโห อุทปาทิ สตฺถุโน;

วิเรจมาโน [วิริจฺจมาโน (สี. สฺยา. ก.), วิริฺจมาโน (?)] ภควา อโวจ,

คจฺฉามหํ กุสินารํ นครนฺติ.

ปานียาหรณํ

๑๙๑. อถ โข ภควา มคฺคา โอกฺกมฺม เยน อฺตรํ รุกฺขมูลํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อิงฺฆ เม ตฺวํ, อานนฺท, จตุคฺคุณํ สงฺฆาฏึ ปฺเปหิ, กิลนฺโตสฺมิ, อานนฺท, นิสีทิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา จตุคฺคุณํ สงฺฆาฏึ ปฺเปสิ. นิสีทิ ภควา ปฺตฺเต อาสเน. นิสชฺช โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อิงฺฆ เม ตฺวํ, อานนฺท, ปานียํ อาหร, ปิปาสิโตสฺมิ, อานนฺท, ปิวิสฺสามี’’ติ. เอวํ วุตฺเต อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิทานิ, ภนฺเต, ปฺจมตฺตานิ สกฏสตานิ อติกฺกนฺตานิ, ตํ จกฺกจฺฉินฺนํ อุทกํ ปริตฺตํ ลุฬิตํ อาวิลํ สนฺทติ. อยํ, ภนฺเต, กกุธา [กกุถา (สี. ปี.)] นที อวิทูเร อจฺโฉทกา สาโตทกา สีโตทกา เสโตทกา [เสตกา (สี.)] สุปฺปติตฺถา รมณียา. เอตฺถ ภควา ปานียฺจ ปิวิสฺสติ, คตฺตานิ จ สีตี [สีตํ (สี. ปี. ก.)] กริสฺสตี’’ติ.

ทุติยมฺปิ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อิงฺฆ เม ตฺวํ, อานนฺท, ปานียํ อาหร, ปิปาสิโตสฺมิ, อานนฺท, ปิวิสฺสามี’’ติ. ทุติยมฺปิ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิทานิ, ภนฺเต, ปฺจมตฺตานิ สกฏสตานิ อติกฺกนฺตานิ, ตํ จกฺกจฺฉินฺนํ อุทกํ ปริตฺตํ ลุฬิตํ อาวิลํ สนฺทติ. อยํ, ภนฺเต, กกุธา นที อวิทูเร อจฺโฉทกา สาโตทกา สีโตทกา เสโตทกา สุปฺปติตฺถา รมณียา. เอตฺถ ภควา ปานียฺจ ปิวิสฺสติ, คตฺตานิ จ สีตีกริสฺสตี’’ติ.

ตติยมฺปิ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อิงฺฆ เม ตฺวํ, อานนฺท, ปานียํ อาหร, ปิปาสิโตสฺมิ, อานนฺท, ปิวิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา ปตฺตํ คเหตฺวา เยน สา นทิกา เตนุปสงฺกมิ. อถ โข สา นทิกา จกฺกจฺฉินฺนา ปริตฺตา ลุฬิตา อาวิลา สนฺทมานา, อายสฺมนฺเต อานนฺเท อุปสงฺกมนฺเต อจฺฉา วิปฺปสนฺนา อนาวิลา สนฺทิตฺถ [สนฺทติ (สฺยา.)]. อถ โข อายสฺมโต อานนฺทสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อจฺฉริยํ วต, โภ, อพฺภุตํ วต, โภ, ตถาคตสฺส มหิทฺธิกตา มหานุภาวตา. อยฺหิ สา นทิกา จกฺกจฺฉินฺนา ปริตฺตา ลุฬิตา อาวิลา สนฺทมานา มยิ อุปสงฺกมนฺเต อจฺฉา วิปฺปสนฺนา อนาวิลา สนฺทตี’’ติ. ปตฺเตน ปานียํ อาทาย เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อจฺฉริยํ, ภนฺเต, อพฺภุตํ, ภนฺเต, ตถาคตสฺส มหิทฺธิกตา มหานุภาวตา. อิทานิ สา ภนฺเต นทิกา จกฺกจฺฉินฺนา ปริตฺตา ลุฬิตา อาวิลา สนฺทมานา มยิ อุปสงฺกมนฺเต อจฺฉา วิปฺปสนฺนา อนาวิลา สนฺทิตฺถ. ปิวตุ ภควา ปานียํ ปิวตุ สุคโต ปานีย’’นฺติ. อถ โข ภควา ปานียํ อปายิ.

ปุกฺกุสมลฺลปุตฺตวตฺถุ

๑๙๒. เตน โรโข ปน สมเยน ปุกฺกุโส มลฺลปุตฺโต อาฬารสฺส กาลามสฺส สาวโก กุสินาราย ปาวํ อทฺธานมคฺคปฺปฏิปฺปนฺโน โหติ. อทฺทสา โข ปุกฺกุโส มลฺลปุตฺโต ภควนฺตํ อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล นิสินฺนํ. ทิสฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ปุกฺกุโส มลฺลปุตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อจฺฉริยํ, ภนฺเต, อพฺภุตํ, ภนฺเต, สนฺเตน วต, ภนฺเต, ปพฺพชิตา วิหาเรน วิหรนฺติ. ภูตปุพฺพํ, ภนฺเต , อาฬาโร กาลาโม อทฺธานมคฺคปฺปฏิปฺปนฺโน มคฺคา โอกฺกมฺม อวิทูเร อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล ทิวาวิหารํ นิสีทิ. อถ โข, ภนฺเต, ปฺจมตฺตานิ สกฏสตานิ อาฬารํ กาลามํ นิสฺสาย นิสฺสาย อติกฺกมึสุ. อถ โข, ภนฺเต, อฺตโร ปุริโส ตสฺส สกฏสตฺถสฺส [สกฏสตสฺส (ก.)] ปิฏฺิโต ปิฏฺิโต อาคจฺฉนฺโต เยน อาฬาโร กาลาโม เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อาฬารํ กาลามํ เอตทโวจ – ‘อปิ, ภนฺเต, ปฺจมตฺตานิ สกฏสตานิ อติกฺกนฺตานิ อทฺทสา’ติ? ‘น โข อหํ, อาวุโส, อทฺทส’นฺติ. ‘กึ ปน, ภนฺเต, สทฺทํ อสฺโสสี’ติ? ‘น โข อหํ, อาวุโส, สทฺทํ อสฺโสสิ’นฺติ. ‘กึ ปน, ภนฺเต, สุตฺโต อโหสี’ติ? ‘น โข อหํ, อาวุโส, สุตฺโต อโหสิ’นฺติ. ‘กึ ปน, ภนฺเต, สฺี อโหสี’ติ? ‘เอวมาวุโส’ติ. ‘โส ตฺวํ, ภนฺเต, สฺี สมาโน ชาคโร ปฺจมตฺตานิ สกฏสตานิ นิสฺสาย นิสฺสาย อติกฺกนฺตานิ เนว อทฺทส, น ปน สทฺทํ อสฺโสสิ; อปิสุ [อปิ หิ (สี. สฺยา. ปี.)] เต, ภนฺเต, สงฺฆาฏิ รเชน โอกิณฺณา’ติ? ‘เอวมาวุโส’ติ. อถ โข, ภนฺเต, ตสฺส ปุริสสฺส เอตทโหสิ – ‘อจฺฉริยํ วต โภ, อพฺภุตํ วต โภ, สนฺเตน วต โภ ปพฺพชิตา วิหาเรน วิหรนฺติ. ยตฺร หิ นาม สฺี สมาโน ชาคโร ปฺจมตฺตานิ สกฏสตานิ นิสฺสาย นิสฺสาย อติกฺกนฺตานิ เนว ทกฺขติ, น ปน สทฺทํ โสสฺสตี’ติ! อาฬาเร กาลาเม อุฬารํ ปสาทํ ปเวเทตฺวา ปกฺกามี’’ติ.

๑๙๓. ‘‘ตํ กึ มฺสิ, ปุกฺกุส, กตมํ นุ โข ทุกฺกรตรํ วา ทุรภิสมฺภวตรํ วา – โย วา สฺี สมาโน ชาคโร ปฺจมตฺตานิ สกฏสตานิ นิสฺสาย นิสฺสาย อติกฺกนฺตานิ เนว ปสฺเสยฺย, น ปน สทฺทํ สุเณยฺย; โย วา สฺี สมาโน ชาคโร เทเว วสฺสนฺเต เทเว คฬคฬายนฺเต วิชฺชุลฺลตาสุ [วิชฺชุตาสุ (สี. สฺยา. ปี.)] นิจฺฉรนฺตีสุ อสนิยา ผลนฺติยา เนว ปสฺเสยฺย, น ปน สทฺทํ สุเณยฺยา’’ติ? ‘‘กิฺหิ, ภนฺเต, กริสฺสนฺติ ปฺจ วา สกฏสตานิ ฉ วา สกฏสตานิ สตฺต วา สกฏสตานิ อฏฺ วา สกฏสตานิ นว วา สกฏสตานิ [นว วา สกฏสตานิ ทส วา สกฏสตานิ (สี.)], สกฏสหสฺสํ วา สกฏสตสหสฺสํ วา. อถ โข เอตเทว ทุกฺกรตรํ เจว ทุรภิสมฺภวตรฺจ โย สฺี สมาโน ชาคโร เทเว วสฺสนฺเต เทเว คฬคฬายนฺเต วิชฺชุลฺลตาสุ นิจฺฉรนฺตีสุ อสนิยา ผลนฺติยา เนว ปสฺเสยฺย, น ปน สทฺทํ สุเณยฺยา’’ติ.

‘‘เอกมิทาหํ, ปุกฺกุส, สมยํ อาตุมายํ วิหรามิ ภุสาคาเร. เตน โข ปน สมเยน เทเว วสฺสนฺเต เทเว คฬคฬายนฺเต วิชฺชุลฺลตาสุ นิจฺฉรนฺตีสุ อสนิยา ผลนฺติยา อวิทูเร ภุสาคารสฺส ทฺเว กสฺสกา ภาตโร หตา จตฺตาโร จ พลิพทฺทา [พลิพทฺทา (สี. ปี.)]. อถ โข, ปุกฺกุส, อาตุมาย มหาชนกาโย นิกฺขมิตฺวา เยน เต ทฺเว กสฺสกา ภาตโร หตา จตฺตาโร จ พลิพทฺทา เตนุปสงฺกมิ. เตน โข ปนาหํ, ปุกฺกุส, สมเยน ภุสาคารา นิกฺขมิตฺวา ภุสาคารทฺวาเร อพฺโภกาเส จงฺกมามิ. อถ โข, ปุกฺกุส, อฺตโร ปุริโส ตมฺหา มหาชนกายา เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิตํ โข อหํ, ปุกฺกุส, ตํ ปุริสํ เอตทโวจํ – ‘กึ นุ โข เอโส, อาวุโส, มหาชนกาโย สนฺนิปติโต’ติ? ‘อิทานิ , ภนฺเต, เทเว วสฺสนฺเต เทเว คฬคฬายนฺเต วิชฺชุลฺลตาสุ นิจฺฉรนฺตีสุ อสนิยา ผลนฺติยา ทฺเว กสฺสกา ภาตโร หตา จตฺตาโร จ พลิพทฺทา. เอตฺเถโส มหาชนกาโย สนฺนิปติโต. ตฺวํ ปน, ภนฺเต, กฺว อโหสี’ติ? ‘อิเธว โข อหํ, อาวุโส, อโหสิ’นฺติ. ‘กึ ปน, ภนฺเต, อทฺทสา’ติ? ‘น โข อหํ, อาวุโส, อทฺทส’นฺติ. ‘กึ ปน, ภนฺเต, สทฺทํ อสฺโสสี’ติ? ‘น โข อหํ, อาวุโส, สทฺทํ อสฺโสสิ’นฺติ. ‘กึ ปน, ภนฺเต, สุตฺโต อโหสี’ติ? ‘น โข อหํ, อาวุโส, สุตฺโต อโหสิ’นฺติ. ‘กึ ปน, ภนฺเต, สฺี อโหสี’ติ? ‘เอวมาวุโส’ติ. ‘โส ตฺวํ, ภนฺเต, สฺี สมาโน ชาคโร เทเว วสฺสนฺเต เทเว คฬคฬายนฺเต วิชฺชุลฺลตาสุ นิจฺฉรนฺตีสุ อสนิยา ผลนฺติยา เนว อทฺทส, น ปน สทฺทํ อสฺโสสี’ติ? ‘‘เอวมาวุโส’’ติ?

‘‘อถ โข, ปุกฺกุส, ปุริสสฺส เอตทโหสิ – ‘อจฺฉริยํ วต โภ, อพฺภุตํ วต โภ, สนฺเตน วต โภ ปพฺพชิตา วิหาเรน วิหรนฺติ. ยตฺร หิ นาม สฺี สมาโน ชาคโร เทเว วสฺสนฺเต เทเว คฬคฬายนฺเต วิชฺชุลฺลตาสุ นิจฺฉรนฺตีสุ อสนิยา ผลนฺติยา เนว ทกฺขติ, น ปน สทฺทํ โสสฺสตี’ติ [สุณิสฺสติ (สฺยา.)]. มยิ อุฬารํ ปสาทํ ปเวเทตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามี’’ติ.

เอวํ วุตฺเต ปุกฺกุโส มลฺลปุตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เอสาหํ, ภนฺเต, โย เม อาฬาเร กาลาเม ปสาโท ตํ มหาวาเต วา โอผุณามิ สีฆโสตาย [สิงฺฆโสตาย (ก.)] วา นทิยา ปวาเหมิ. อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต, อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต! เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย ‘จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตี’ติ; เอวเมวํ ภควตา อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโต. เอสาหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจ. อุปาสกํ มํ ภควา ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ.

๑๙๔. อถ โข ปุกฺกุโส มลฺลปุตฺโต อฺตรํ ปุริสํ อามนฺเตสิ – ‘‘อิงฺฆ เม ตฺวํ, ภเณ, สิงฺคีวณฺณํ ยุคมฏฺํ ธารณียํ อาหรา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข โส ปุริโส ปุกฺกุสสฺส มลฺลปุตฺตสฺส ปฏิสฺสุตฺวา ตํ สิงฺคีวณฺณํ ยุคมฏฺํ ธารณียํ อาหริ [อาหรสิ (ก.)]. อถ โข ปุกฺกุโส มลฺลปุตฺโต ตํ สิงฺคีวณฺณํ ยุคมฏฺํ ธารณียํ ภควโต อุปนาเมสิ – ‘‘อิทํ, ภนฺเต, สิงฺคีวณฺณํ ยุคมฏฺํ ธารณียํ, ตํ เม ภควา ปฏิคฺคณฺหาตุ อนุกมฺปํ อุปาทายา’’ติ. ‘‘เตน หิ, ปุกฺกุส, เอเกน มํ อจฺฉาเทหิ, เอเกน อานนฺท’’นฺติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข ปุกฺกุโส มลฺลปุตฺโต ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา เอเกน ภควนฺตํ อจฺฉาเทติ, เอเกน อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ. อถ โข ภควา ปุกฺกุสํ มลฺลปุตฺตํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสสิ สมาทเปสิ สมุตฺเตเชสิ สมฺปหํเสสิ. อถ โข ปุกฺกุโส มลฺลปุตฺโต ภควตา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิโต สมาทปิโต สมุตฺเตชิโต สมฺปหํสิโต อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ.

๑๙๕. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท อจิรปกฺกนฺเต ปุกฺกุเส มลฺลปุตฺเต ตํ สิงฺคีวณฺณํ ยุคมฏฺํ ธารณียํ ภควโต กายํ อุปนาเมสิ. ตํ ภควโต กายํ อุปนามิตํ หตจฺจิกํ วิย [วีตจฺจิกํวิย (สี. ปี.)] ขายติ. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อจฺฉริยํ, ภนฺเต, อพฺภุตํ, ภนฺเต, ยาว ปริสุทฺโธ, ภนฺเต, ตถาคตสฺส ฉวิวณฺโณ ปริโยทาโต. อิทํ, ภนฺเต, สิงฺคีวณฺณํ ยุคมฏฺํ ธารณียํ ภควโต กายํ อุปนามิตํ หตจฺจิกํ วิย ขายตี’’ติ. ‘‘เอวเมตํ, อานนฺท, เอวเมตํ, อานนฺท ทฺวีสุ กาเลสุ อติวิย ตถาคตสฺส กาโย ปริสุทฺโธ โหติ ฉวิวณฺโณ ปริโยทาโต. กตเมสุ ทฺวีสุ? ยฺจ, อานนฺท, รตฺตึ ตถาคโต อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุชฺฌติ, ยฺจ รตฺตึ อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายติ. อิเมสุ โข, อานนฺท, ทฺวีสุ กาเลสุ อติวิย ตถาคตสฺส กาโย ปริสุทฺโธ โหติ ฉวิวณฺโณ ปริโยทาโต. ‘‘อชฺช โข, ปนานนฺท, รตฺติยา ปจฺฉิเม ยาเม กุสินารายํ อุปวตฺตเน มลฺลานํ สาลวเน อนฺตเรน [อนฺตเร (สฺยา.)] ยมกสาลานํ ตถาคตสฺส ปรินิพฺพานํ ภวิสฺสติ [ภวิสฺสตีติ (ก.)]. อายามานนฺท, เยน กกุธา นที เตนุปสงฺกมิสฺสามา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปจฺจสฺโสสิ.

สิงฺคีวณฺณํ ยุคมฏฺํ, ปุกฺกุโส อภิหารยิ;

เตน อจฺฉาทิโต สตฺถา, เหมวณฺโณ อโสภถาติ.

๑๙๖. อถ โข ภควา มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ เยน กกุธา นที เตนุปสงฺกมิ ; อุปสงฺกมิตฺวา กกุธํ นทึ อชฺโฌคาเหตฺวา นฺหตฺวา จ ปิวิตฺวา จ ปจฺจุตฺตริตฺวา เยน อมฺพวนํ เตนุปสงฺกมิ. อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ จุนฺทกํ อามนฺเตสิ – ‘‘อิงฺฆ เม ตฺวํ, จุนฺทก, จตุคฺคุณํ สงฺฆาฏึ ปฺเปหิ, กิลนฺโตสฺมิ, จุนฺทก, นิปชฺชิสฺสามี’’ติ.

‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา จุนฺทโก ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา จตุคฺคุณํ สงฺฆาฏึ ปฺเปสิ. อถ โข ภควา ทกฺขิเณน ปสฺเสน สีหเสยฺยํ กปฺเปสิ ปาเท ปาทํ อจฺจาธาย สโต สมฺปชาโน อุฏฺานสฺํ มนสิกริตฺวา. อายสฺมา ปน จุนฺทโก ตตฺเถว ภควโต ปุรโต นิสีทิ.

คนฺตฺวาน พุทฺโธ นทิกํ กกุธํ,

อจฺโฉทกํ สาตุทกํ วิปฺปสนฺนํ;

โอคาหิ สตฺถา อกิลนฺตรูโป [สุกิลนฺตรูโป (สี. ปี.)],

ตถาคโต อปฺปฏิโม จ [อปฺปฏิโมธ (ปี.)] โลเก.

นฺหตฺวา จ ปิวิตฺวา จุทตาริ สตฺถา [ปิวิตฺวา จุนฺทเกน, ปิวิตฺวา จ อุตฺตริ (ก.)],

ปุรกฺขโต ภิกฺขุคณสฺส มชฺเฌ;

วตฺตา [สตฺถา (สี. สฺยา. ปี.)] ปวตฺตา ภควา อิธ ธมฺเม,

อุปาคมิ อมฺพวนํ มเหสิ.

อามนฺตยิ จุนฺทกํ นาม ภิกฺขุํ,

จตุคฺคุณํ สนฺถร เม นิปชฺชํ;

โส โจทิโต ภาวิตตฺเตน จุนฺโท,

จตุคฺคุณํ สนฺถริ ขิปฺปเมว.

นิปชฺชิ สตฺถา อกิลนฺตรูโป,

จุนฺโทปิ ตตฺถ ปมุเข [สมุเข (ก.)] นิสีทีติ.

๑๙๗. อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘สิยา โข [โย โข (ก.)], ปนานนฺท, จุนฺทสฺส กมฺมารปุตฺตสฺส โกจิ วิปฺปฏิสารํ อุปฺปาเทยฺย – ‘ตสฺส เต, อาวุโส จุนฺท, อลาภา ตสฺส เต ทุลฺลทฺธํ, ยสฺส เต ตถาคโต ปจฺฉิมํ ปิณฺฑปาตํ ปริภุฺชิตฺวา ปรินิพฺพุโต’ติ. จุนฺทสฺส, อานนฺท, กมฺมารปุตฺตสฺส เอวํ วิปฺปฏิสาโร ปฏิวิเนตพฺโพ – ‘ตสฺส เต, อาวุโส จุนฺท, ลาภา ตสฺส เต สุลทฺธํ, ยสฺส เต ตถาคโต ปจฺฉิมํ ปิณฺฑปาตํ ปริภุฺชิตฺวา ปรินิพฺพุโต. สมฺมุขา เมตํ, อาวุโส จุนฺท, ภควโต สุตํ สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – ทฺเว เม ปิณฺฑปาตา สมสมผลา [สมา สมผลา (ก.)] สมวิปากา [สมสมวิปากา (สี. สฺยา. ปี.)], อติวิย อฺเหิ ปิณฺฑปาเตหิ มหปฺผลตรา จ มหานิสํสตรา จ. กตเม ทฺเว? ยฺจ ปิณฺฑปาตํ ปริภุฺชิตฺวา ตถาคโต อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุชฺฌติ, ยฺจ ปิณฺฑปาตํ ปริภุฺชิตฺวา ตถาคโต อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายติ. อิเม ทฺเว ปิณฺฑปาตา สมสมผลา สมวิปากา , อติวิย อฺเหิ ปิณฺฑปาเตหิ มหปฺผลตรา จ มหานิสํสตรา จ. อายุสํวตฺตนิกํ อายสฺมตา จุนฺเทน กมฺมารปุตฺเตน กมฺมํ อุปจิตํ, วณฺณสํวตฺตนิกํ อายสฺมตา จุนฺเทน กมฺมารปุตฺเตน กมฺมํ อุปจิตํ, สุขสํวตฺตนิกํ อายสฺมตา จุนฺเทน กมฺมารปุตฺเตน กมฺมํ อุปจิตํ, ยสสํวตฺตนิกํ อายสฺมตา จุนฺเทน กมฺมารปุตฺเตน กมฺมํ อุปจิตํ, สคฺคสํวตฺตนิกํ อายสฺมตา จุนฺเทน กมฺมารปุตฺเตน กมฺมํ อุปจิตํ, อาธิปเตยฺยสํวตฺตนิกํ อายสฺมตา จุนฺเทน กมฺมารปุตฺเตน กมฺมํ อุปจิต’นฺติ. จุนฺทสฺส, อานนฺท, กมฺมารปุตฺตสฺส เอวํ วิปฺปฏิสาโร ปฏิวิเนตพฺโพ’’ติ. อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –

‘‘ททโต ปุฺํ ปวฑฺฒติ,

สํยมโต เวรํ น จียติ;

กุสโล จ ชหาติ ปาปกํ,

ราคโทสโมหกฺขยา สนิพฺพุโต’’ติ.

จตุตฺโถ ภาณวาโร.

ยมกสาลา

๑๙๘. อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อายามานนฺท, เยน หิรฺวติยา นทิยา ปาริมํ ตีรํ, เยน กุสินารา อุปวตฺตนํ มลฺลานํ สาลวนํ เตนุปสงฺกมิสฺสามา’’ติ . ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปจฺจสฺโสสิ. อถ โข ภควา มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ เยน หิรฺวติยา นทิยา ปาริมํ ตีรํ, เยน กุสินารา อุปวตฺตนํ มลฺลานํ สาลวนํ เตนุปสงฺกมิ. อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อิงฺฆ เม ตฺวํ, อานนฺท, อนฺตเรน ยมกสาลานํ อุตฺตรสีสกํ มฺจกํ ปฺเปหิ, กิลนฺโตสฺมิ, อานนฺท, นิปชฺชิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา อนฺตเรน ยมกสาลานํ อุตฺตรสีสกํ มฺจกํ ปฺเปสิ. อถ โข ภควา ทกฺขิเณน ปสฺเสน สีหเสยฺยํ กปฺเปสิ ปาเท ปาทํ อจฺจาธาย สโต สมฺปชาโน.

เตน โข ปน สมเยน ยมกสาลา สพฺพผาลิผุลฺลา โหนฺติ อกาลปุปฺเผหิ. เต ตถาคตสฺส สรีรํ โอกิรนฺติ อชฺโฌกิรนฺติ อภิปฺปกิรนฺติ ตถาคตสฺส ปูชาย. ทิพฺพานิปิ มนฺทารวปุปฺผานิ อนฺตลิกฺขา ปปตนฺติ, ตานิ ตถาคตสฺส สรีรํ โอกิรนฺติ อชฺโฌกิรนฺติ อภิปฺปกิรนฺติ ตถาคตสฺส ปูชาย. ทิพฺพานิปิ จนฺทนจุณฺณานิ อนฺตลิกฺขา ปปตนฺติ, ตานิ ตถาคตสฺส สรีรํ โอกิรนฺติ อชฺโฌกิรนฺติ อภิปฺปกิรนฺติ ตถาคตสฺส ปูชาย. ทิพฺพานิปิ ตูริยานิ อนฺตลิกฺเข วชฺชนฺติ ตถาคตสฺส ปูชาย. ทิพฺพานิปิ สงฺคีตานิ อนฺตลิกฺเข วตฺตนฺติ ตถาคตสฺส ปูชาย.

๑๙๙. อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘สพฺพผาลิผุลฺลา โข, อานนฺท, ยมกสาลา อกาลปุปฺเผหิ. เต ตถาคตสฺส สรีรํ โอกิรนฺติ อชฺโฌกิรนฺติ อภิปฺปกิรนฺติ ตถาคตสฺส ปูชาย. ทิพฺพานิปิ มนฺทารวปุปฺผานิ อนฺตลิกฺขา ปปตนฺติ, ตานิ ตถาคตสฺส สรีรํ โอกิรนฺติ อชฺโฌกิรนฺติ อภิปฺปกิรนฺติ ตถาคตสฺส ปูชาย. ทิพฺพานิปิ จนฺทนจุณฺณานิ อนฺตลิกฺขา ปปตนฺติ, ตานิ ตถาคตสฺส สรีรํ โอกิรนฺติ อชฺโฌกิรนฺติ อภิปฺปกิรนฺติ ตถาคตสฺส ปูชาย. ทิพฺพานิปิ ตูริยานิ อนฺตลิกฺเข วชฺชนฺติ ตถาคตสฺส ปูชาย. ทิพฺพานิปิ สงฺคีตานิ อนฺตลิกฺเข วตฺตนฺติ ตถาคตสฺส ปูชาย. น โข, อานนฺท, เอตฺตาวตา ตถาคโต สกฺกโต วา โหติ ครุกโต วา มานิโต วา ปูชิโต วา อปจิโต วา. โย โข, อานนฺท, ภิกฺขุ วา ภิกฺขุนี วา อุปาสโก วา อุปาสิกา วา ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน วิหรติ สามีจิปฺปฏิปนฺโน อนุธมฺมจารี, โส ตถาคตํ สกฺกโรติ ครุํ กโรติ มาเนติ ปูเชติ อปจิยติ [อิทํ ปทํ สีสฺยาอิโปตฺถเกสุ น ทิสฺสติ], ปรมาย ปูชาย. ตสฺมาติหานนฺท, ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺนา วิหริสฺสาม สามีจิปฺปฏิปนฺนา อนุธมฺมจาริโนติ. เอวฺหิ โว, อานนฺท, สิกฺขิตพฺพ’’นฺติ.

อุปวาณตฺเถโร

๒๐๐. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา อุปวาโณ ภควโต ปุรโต ิโต โหติ ภควนฺตํ พีชยมาโน. อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อุปวาณํ อปสาเรสิ – ‘‘อเปหิ, ภิกฺขุ, มา เม ปุรโต อฏฺาสี’’ติ. อถ โข อายสฺมโต อานนฺทสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อยํ โข อายสฺมา อุปวาโณ ทีฆรตฺตํ ภควโต อุปฏฺาโก สนฺติกาวจโร สมีปจารี. อถ จ ปน ภควา ปจฺฉิเม กาเล อายสฺมนฺตํ อุปวาณํ อปสาเรติ – ‘อเปหิ ภิกฺขุ, มา เม ปุรโต อฏฺาสี’ติ. โก นุ โข เหตุ, โก ปจฺจโย, ยํ ภควา อายสฺมนฺตํ อุปวาณํ อปสาเรติ – ‘อเปหิ, ภิกฺขุ, มา เม ปุรโต อฏฺาสี’ติ? อถ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘อยํ, ภนฺเต, อายสฺมา อุปวาโณ ทีฆรตฺตํ ภควโต อุปฏฺาโก สนฺติกาวจโร สมีปจารี. อถ จ ปน ภควา ปจฺฉิเม กาเล อายสฺมนฺตํ อุปวาณํ อปสาเรติ – ‘‘อเปหิ, ภิกฺขุ, มา เม ปุรโต อฏฺาสี’’ติ. โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ, โก ปจฺจโย, ยํ ภควา อายสฺมนฺตํ อุปวาณํ อปสาเรติ – ‘‘อเปหิ, ภิกฺขุ, มา เม ปุรโต อฏฺาสี’’ติ? ‘‘เยภุยฺเยน, อานนฺท, ทสสุ โลกธาตูสุ เทวตา สนฺนิปติตา ตถาคตํ ทสฺสนาย. ยาวตา, อานนฺท, กุสินารา อุปวตฺตนํ มลฺลานํ สาลวนํ สมนฺตโต ทฺวาทส โยชนานิ, นตฺถิ โส ปเทโส วาลคฺคโกฏินิตุทนมตฺโตปิ มเหสกฺขาหิ เทวตาหิ อปฺผุโฏ. เทวตา, อานนฺท, อุชฺฌายนฺติ – ‘ทูรา จ วตมฺห อาคตา ตถาคตํ ทสฺสนาย. กทาจิ กรหจิ ตถาคตา โลเก อุปฺปชฺชนฺติ อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา. อชฺเชว รตฺติยา ปจฺฉิเม ยาเม ตถาคตสฺส ปรินิพฺพานํ ภวิสฺสติ. อยฺจ มเหสกฺโข ภิกฺขุ ภควโต ปุรโต ิโต โอวาเรนฺโต, น มยํ ลภาม ปจฺฉิเม กาเล ตถาคตํ ทสฺสนายา’’’ติ.

๒๐๑. ‘‘กถํภูตา ปน, ภนฺเต, ภควา เทวตา มนสิกโรตี’’ติ [มนสิ กโรนฺตีติ (สฺยา. ก.)]? ‘‘สนฺตานนฺท, เทวตา อากาเส ปถวีสฺินิโย เกเส ปกิริย กนฺทนฺติ, พาหา ปคฺคยฺห กนฺทนฺติ, ฉินฺนปาตํ ปปตนฺติ [ฉินฺนํปาทํวิย ปปตนฺติ (สฺยา.)], อาวฏฺฏนฺติ, วิวฏฺฏนฺติ – ‘อติขิปฺปํ ภควา ปรินิพฺพายิสฺสติ, อติขิปฺปํ สุคโต ปรินิพฺพายิสฺสติ, อติขิปฺปํ จกฺขุํ [จกฺขุมา (สฺยา. ก.)] โลเก อนฺตรธํอายิสฺสตี’ติ.

‘‘สนฺตานนฺท, เทวตา ปถวิยํ ปถวีสฺินิโย เกเส ปกิริย กนฺทนฺติ, พาหา ปคฺคยฺห กนฺทนฺติ, ฉินฺนปาตํ ปปตนฺติ, อาวฏฺฏนฺติ, วิวฏฺฏนฺติ – ‘อติขิปฺปํ ภควา ปรินิพฺพายิสฺสติ, อติขิปฺปํ สุคโต ปรินิพฺพายิสฺสติ, อติขิปฺปํ จกฺขุํ โลเก อนฺตรธายิสฺสตี’’’ติ.

‘‘ยา ปน ตา เทวตา วีตราคา, ตา สตา สมฺปชานา อธิวาเสนฺติ – ‘อนิจฺจา สงฺขารา, ตํ กุเตตฺถ ลพฺภา’ติ.

จตุสํเวชนียฏฺานานิ

๒๐๒. ‘‘ปุพฺเพ , ภนฺเต, ทิสาสุ วสฺสํ วุฏฺา [วสฺสํวุตฺถา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ภิกฺขู อาคจฺฉนฺติ ตถาคตํ ทสฺสนาย. เต มยํ ลภาม มโนภาวนีเย ภิกฺขู ทสฺสนาย, ลภาม ปยิรุปาสนาย. ภควโต ปน มยํ, ภนฺเต, อจฺจเยน น ลภิสฺสาม มโนภาวนีเย ภิกฺขู ทสฺสนาย, น ลภิสฺสาม ปยิรุปาสนายา’’ติ.

‘‘จตฺตาริมานิ, อานนฺท, สทฺธสฺส กุลปุตฺตสฺส ทสฺสนียานิ สํเวชนียานิ านานิ. กตมานิ จตฺตาริ? ‘อิธ ตถาคโต ชาโต’ติ, อานนฺท, สทฺธสฺส กุลปุตฺตสฺส ทสฺสนียํ สํเวชนียํ านํ. ‘อิธ ตถาคโต อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธ’ติ, อานนฺท, สทฺธสฺส กุลปุตฺตสฺส ทสฺสนียํ สํเวชนียํ านํ. ‘อิธ ตถาคเตน อนุตฺตรํ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺติต’นฺติ, อานนฺท, สทฺธสฺส กุลปุตฺตสฺส ทสฺสนียํ สํเวชนียํ านํ. ‘อิธ ตถาคโต อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพุโต’ติ, อานนฺท, สทฺธสฺส กุลปุตฺตสฺส ทสฺสนียํ สํเวชนียํ านํ. อิมานิ โข , อานนฺท, จตฺตาริ สทฺธสฺส กุลปุตฺตสฺส ทสฺสนียานิ สํเวชนียานิ านานิ.

‘‘อาคมิสฺสนฺติ โข, อานนฺท, สทฺธา ภิกฺขู ภิกฺขุนิโย อุปาสกา อุปาสิกาโย – ‘อิธ ตถาคโต ชาโต’ติปิ, ‘อิธ ตถาคโต อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธ’ติปิ, ‘อิธ ตถาคเตน อนุตฺตรํ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺติต’นฺติปิ, ‘อิธ ตถาคโต อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพุโต’ติปิ. เย หิ เกจิ, อานนฺท, เจติยจาริกํ อาหิณฺฑนฺตา ปสนฺนจิตฺตา กาลงฺกริสฺสนฺติ, สพฺเพ เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชิสฺสนฺตี’’ติ.

อานนฺทปุจฺฉากถา

๒๐๓. ‘‘กถํ มยํ, ภนฺเต, มาตุคาเม ปฏิปชฺชามา’’ติ? ‘‘อทสฺสนํ, อานนฺทา’’ติ. ‘‘ทสฺสเน, ภควา, สติ กถํ ปฏิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ? ‘‘อนาลาโป, อานนฺทา’’ติ . ‘‘อาลปนฺเตน ปน, ภนฺเต, กถํ ปฏิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ? ‘‘สติ, อานนฺท, อุปฏฺาเปตพฺพา’’ติ.

๒๐๔. ‘‘กถํ มยํ, ภนฺเต, ตถาคตสฺส สรีเร ปฏิปชฺชามา’’ติ? ‘‘อพฺยาวฏา ตุมฺเห, อานนฺท, โหถ ตถาคตสฺส สรีรปูชาย. อิงฺฆ ตุมฺเห, อานนฺท, สารตฺเถ ฆฏถ อนุยุฺชถ [สทตฺเถ อนุยุฺชถ (สี. สฺยา.), สทตฺถํ อนุยุฺชถ (ปี.), สารตฺเถ อนุยุฺชถ (ก.)], สารตฺเถ อปฺปมตฺตา อาตาปิโน ปหิตตฺตา วิหรถ. สนฺตานนฺท, ขตฺติยปณฺฑิตาปิ พฺราหฺมณปณฺฑิตาปิ คหปติปณฺฑิตาปิ ตถาคเต อภิปฺปสนฺนา, เต ตถาคตสฺส สรีรปูชํ กริสฺสนฺตี’’ติ.

๒๐๕. ‘‘กถํ ปน, ภนฺเต, ตถาคตสฺส สรีเร ปฏิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ? ‘‘ยถา โข, อานนฺท, รฺโ จกฺกวตฺติสฺส สรีเร ปฏิปชฺชนฺติ, เอวํ ตถาคตสฺส สรีเร ปฏิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ. ‘‘กถํ ปน, ภนฺเต, รฺโ จกฺกวตฺติสฺส สรีเร ปฏิปชฺชนฺตี’’ติ? ‘‘รฺโ, อานนฺท, จกฺกวตฺติสฺส สรีรํ อหเตน วตฺเถน เวเนฺติ, อหเตน วตฺเถน เวเตฺวา วิหเตน กปฺปาเสน เวเนฺติ, วิหเตน กปฺปาเสน เวเตฺวา อหเตน วตฺเถน เวเนฺติ. เอเตนุปาเยน ปฺจหิ ยุคสเตหิ รฺโ จกฺกวตฺติสฺส สรีรํ [สรีเร (สฺยา. ก.)] เวเตฺวา อายสาย เตลโทณิยา ปกฺขิปิตฺวา อฺิสฺสา อายสาย โทณิยา ปฏิกุชฺชิตฺวา สพฺพคนฺธานํ จิตกํ กริตฺวา รฺโ จกฺกวตฺติสฺส สรีรํ ฌาเปนฺติ. จาตุมหาปเถ [จาตุมฺมหาปเถ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] รฺโ จกฺกวตฺติสฺส ถูปํ กโรนฺติ . เอวํ โข, อานนฺท, รฺโ จกฺกวตฺติสฺส สรีเร ปฏิปชฺชนฺติ. ยถา โข, อานนฺท, รฺโ จกฺกวตฺติสฺส สรีเร ปฏิปชฺชนฺติ, เอวํ ตถาคตสฺส สรีเร ปฏิปชฺชิตพฺพํ. จาตุมหาปเถ ตถาคตสฺส ถูโป กาตพฺโพ. ตตฺถ เย มาลํ วา คนฺธํ วา จุณฺณกํ [วณฺณกํ (สี. ปี.)] วา อาโรเปสฺสนฺติ วา อภิวาเทสฺสนฺติ วา จิตฺตํ วา ปสาเทสฺสนฺติ เตสํ ตํ ภวิสฺสติ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย.

ถูปารหปุคฺคโล

๒๐๖. ‘‘จตฺตาโรเม, อานนฺท, ถูปารหา. กตเม จตฺตาโร? ตถาคโต อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ถูปารโห, ปจฺเจกสมฺพุทฺโธ ถูปารโห, ตถาคตสฺส สาวโก ถูปารโห, ราชา จกฺกวตฺตี [จกฺกวตฺติ (สฺยา. ก.)] ถูปารโหติ.

‘‘กิฺจานนฺท , อตฺถวสํ ปฏิจฺจ ตถาคโต อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ถูปารโห? ‘อยํ ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ถูโป’ติ, อานนฺท, พหุชนา จิตฺตํ ปสาเทนฺติ. เต ตตฺถ จิตฺตํ ปสาเทตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺติ. อิทํ โข, อานนฺท, อตฺถวสํ ปฏิจฺจ ตถาคโต อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ถูปารโห.

‘‘กิฺจานนฺท, อตฺถวสํ ปฏิจฺจ ปจฺเจกสมฺพุทฺโธ ถูปารโห? ‘อยํ ตสฺส ภควโต ปจฺเจกสมฺพุทฺธสฺส ถูโป’ติ, อานนฺท, พหุชนา จิตฺตํ ปสาเทนฺติ. เต ตตฺถ จิตฺตํ ปสาเทตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺติ. อิทํ โข, อานนฺท, อตฺถวสํ ปฏิจฺจ ปจฺเจกสมฺพุทฺโธ ถูปารโห.

‘‘กิฺจานนฺท, อตฺถวสํ ปฏิจฺจ ตถาคตสฺส สาวโก ถูปารโห? ‘อยํ ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สาวกสฺส ถูโป’ติ อานนฺท, พหุชนา จิตฺตํ ปสาเทนฺติ. เต ตตฺถ จิตฺตํ ปสาเทตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺติ. อิทํ โข, อานนฺท, อตฺถวสํ ปฏิจฺจ ตถาคตสฺส สาวโก ถูปารโห.

‘‘กิฺจานนฺท, อตฺถวสํ ปฏิจฺจ ราชา จกฺกวตฺตี ถูปารโห? ‘อยํ ตสฺส ธมฺมิกสฺส ธมฺมรฺโ ถูโป’ติ, อานนฺท, พหุชนา จิตฺตํ ปสาเทนฺติ. เต ตตฺถ จิตฺตํ ปสาเทตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺติ. อิทํ โข, อานนฺท, อตฺถวสํ ปฏิจฺจ ราชา จกฺกวตฺตี ถูปารโห. อิเม โข, อานนฺท จตฺตาโร ถูปารหา’’ติ.

อานนฺทอจฺฉริยธมฺโม

๒๐๗. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท วิหารํ ปวิสิตฺวา กปิสีสํ อาลมฺพิตฺวา โรทมาโน อฏฺาสิ – ‘‘อหฺจ วตมฺหิ เสโข สกรณีโย, สตฺถุ จ เม ปรินิพฺพานํ ภวิสฺสติ, โย มม อนุกมฺปโก’’ติ. อถ โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘กหํ นุ โข, ภิกฺขเว, อานนฺโท’’ติ? ‘‘เอโส, ภนฺเต, อายสฺมา อานนฺโท วิหารํ ปวิสิตฺวา กปิสีสํ อาลมฺพิตฺวา โรทมาโน ิโต – ‘อหฺจ วตมฺหิ เสโข สกรณีโย, สตฺถุ จ เม ปรินิพฺพานํ ภวิสฺสติ, โย มม อนุกมฺปโก’’’ติ. อถ โข ภควา อฺตรํ ภิกฺขุํ อามนฺเตสิ – ‘‘เอหิ ตฺวํ, ภิกฺขุ, มม วจเนน อานนฺทํ อามนฺเตหิ – ‘สตฺถา ตํ, อาวุโส อานนฺท, อามนฺเตตี’’’ติ. ‘‘เอวํ , ภนฺเต’’ติ โข โส ภิกฺขุ ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘สตฺถา ตํ, อาวุโส อานนฺท, อามนฺเตตี’’ติ. ‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ตสฺส ภิกฺขุโน ปฏิสฺสุตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘อลํ, อานนฺท, มา โสจิ มา ปริเทวิ, นนุ เอตํ, อานนฺท, มยา ปฏิกจฺเจว อกฺขาตํ – ‘สพฺเพเหว ปิเยหิ มนาเปหิ นานาภาโว วินาภาโว อฺถาภาโว’; ตํ กุเตตฺถ, อานนฺท, ลพฺภา. ยํ ตํ ชาตํ ภูตํ สงฺขตํ ปโลกธมฺมํ, ตํ วต ตถาคตสฺสาปิ สรีรํ มา ปลุชฺชี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ. ทีฆรตฺตํ โข เต, อานนฺท, ตถาคโต ปจฺจุปฏฺิโต เมตฺเตน กายกมฺเมน หิเตน สุเขน อทฺวเยน อปฺปมาเณน, เมตฺเตน วจีกมฺเมน หิเตน สุเขน อทฺวเยน อปฺปมาเณน, เมตฺเตน มโนกมฺเมน หิเตน สุเขน อทฺวเยน อปฺปมาเณน. กตปุฺโสิ ตฺวํ, อานนฺท, ปธานมนุยุฺช, ขิปฺปํ โหหิสิ อนาสโว’’ติ.

๒๐๘. อถ โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘เยปิ เต, ภิกฺขเว, อเหสุํ อตีตมทฺธานํ อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา, เตสมฺปิ ภควนฺตานํ เอตปฺปรมาเยว อุปฏฺากา อเหสุํ, เสยฺยถาปิ มยฺหํ อานนฺโท. เยปิ เต, ภิกฺขเว, ภวิสฺสนฺติ อนาคตมทฺธานํ อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา, เตสมฺปิ ภควนฺตานํ เอตปฺปรมาเยว อุปฏฺากา ภวิสฺสนฺติ, เสยฺยถาปิ มยฺหํ อานนฺโท. ปณฺฑิโต, ภิกฺขเว, อานนฺโท; เมธาวี, ภิกฺขเว, อานนฺโท. ชานาติ ‘อยํ กาโล ตถาคตํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ ภิกฺขูนํ, อยํ กาโล ภิกฺขุนีนํ, อยํ กาโล อุปาสกานํ , อยํ กาโล อุปาสิกานํ, อยํ กาโล รฺโ ราชมหามตฺตานํ ติตฺถิยานํ ติตฺถิยสาวกาน’นฺติ.

๒๐๙. ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา [อพฺภุตธมฺมา (สฺยา. ก.)] อานนฺเท. กตเม จตฺตาโร? สเจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุปริสา อานนฺทํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมติ, ทสฺสเนน สา อตฺตมนา โหติ. ตตฺร เจ อานนฺโท ธมฺมํ ภาสติ, ภาสิเตนปิ สา อตฺตมนา โหติ. อติตฺตาว, ภิกฺขเว, ภิกฺขุปริสา โหติ, อถ โข อานนฺโท ตุณฺหี โหติ. สเจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนีปริสา อานนฺทํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมติ, ทสฺสเนน สา อตฺตมนา โหติ. ตตฺร เจ อานนฺโท ธมฺมํ ภาสติ, ภาสิเตนปิ สา อตฺตมนา โหติ. อติตฺตาว, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนีปริสา โหติ, อถ โข อานนฺโท ตุณฺหี โหติ. สเจ, ภิกฺขเว, อุปาสกปริสา อานนฺทํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมติ, ทสฺสเนน สา อตฺตมนา โหติ. ตตฺร เจ อานนฺโท ธมฺมํ ภาสติ, ภาสิเตนปิ สา อตฺตมนา โหติ. อติตฺตาว, ภิกฺขเว, อุปาสกปริสา โหติ, อถ โข อานนฺโท ตุณฺหี โหติ. สเจ, ภิกฺขเว, อุปาสิกาปริสา อานนฺทํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมติ, ทสฺสเนน สา อตฺตมนา โหติ. ตตฺร เจ, อานนฺโท, ธมฺมํ ภาสติ, ภาสิเตนปิ สา อตฺตมนา โหติ. อติตฺตาว, ภิกฺขเว, อุปาสิกาปริสา โหติ, อถ โข อานนฺโท ตุณฺหี โหติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา อานนฺเท.

‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา รฺเ จกฺกวตฺติมฺหิ. กตเม จตฺตาโร ? สเจ, ภิกฺขเว, ขตฺติยปริสา ราชานํ จกฺกวตฺตึ ทสฺสนาย อุปสงฺกมติ, ทสฺสเนน สา อตฺตมนา โหติ. ตตฺร เจ ราชา จกฺกวตฺตี ภาสติ, ภาสิเตนปิ สา อตฺตมนา โหติ. อติตฺตาว, ภิกฺขเว, ขตฺติยปริสา โหติ. อถ โข ราชา จกฺกวตฺตี ตุณฺหี โหติ. สเจ ภิกฺขเว, พฺราหฺมณปริสา…เป… คหปติปริสา…เป… สมณปริสา ราชานํ จกฺกวตฺตึ ทสฺสนาย อุปสงฺกมติ, ทสฺสเนน สา อตฺตมนา โหติ. ตตฺร เจ ราชา จกฺกวตฺตี ภาสติ, ภาสิเตนปิ สา อตฺตมนา โหติ. อติตฺตาว, ภิกฺขเว, สมณปริสา โหติ, อถ โข ราชา จกฺกวตฺตี ตุณฺหี โหติ. เอวเมว โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโรเม อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา อานนฺเท. สเจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุปริสา อานนฺทํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมติ, ทสฺสเนน สา อตฺตมนา โหติ. ตตฺร เจ อานนฺโท ธมฺมํ ภาสติ, ภาสิเตนปิ สา อตฺตมนา โหติ. อติตฺตาว, ภิกฺขเว, ภิกฺขุปริสา โหติ. อถ โข อานนฺโท ตุณฺหี โหติ. สเจ, ภิกฺขเว ภิกฺขุนีปริสา…เป… อุปาสกปริสา…เป… อุปาสิกาปริสา อานนฺทํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมติ, ทสฺสเนน สา อตฺตมนา โหติ. ตตฺร เจ อานนฺโท ธมฺมํ ภาสติ, ภาสิเตนปิ สา อตฺตมนา โหติ. อติตฺตาว, ภิกฺขเว, อุปาสิกาปริสา โหติ. อถ โข อานนฺโท ตุณฺหี โหติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา อานนฺเท’’ติ.

มหาสุทสฺสนสุตฺตเทสนา

๒๑๐. เอวํ วุตฺเต อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘มา, ภนฺเต, ภควา อิมสฺมึ ขุทฺทกนครเก อุชฺชงฺคลนครเก สาขานครเก ปรินิพฺพายิ. สนฺติ, ภนฺเต, อฺานิ มหานครานิ, เสยฺยถิทํ – จมฺปา ราชคหํ สาวตฺถี สาเกตํ โกสมฺพี พาราณสี; เอตฺถ ภควา ปรินิพฺพายตุ. เอตฺถ พหู ขตฺติยมหาสาลา, พฺราหฺมณมหาสาลา คหปติมหาสาลา ตถาคเต อภิปฺปสนฺนา. เต ตถาคตสฺส สรีรปูชํ กริสฺสนฺตี’’ติ ‘‘มาเหวํ, อานนฺท, อวจ; มาเหวํ, อานนฺท, อวจ – ‘ขุทฺทกนครกํ อุชฺชงฺคลนครกํ สาขานครก’นฺติ.

‘‘ภูตปุพฺพํ, อานนฺท, ราชา มหาสุทสฺสโน นาม อโหสิ จกฺกวตฺตี ธมฺมิโก ธมฺมราชา จาตุรนฺโต วิชิตาวี ชนปฺปทตฺถาวริยปฺปตฺโต สตฺตรตนสมนฺนาคโต. รฺโ, อานนฺท, มหาสุทสฺสนสฺส อยํ กุสินารา กุสาวตี นาม ราชธานี อโหสิ, ปุรตฺถิเมน จ ปจฺฉิเมน จ ทฺวาทสโยชนานิ อายาเมน; อุตฺตเรน จ ทกฺขิเณน จ สตฺตโยชนานิ วิตฺถาเรน. กุสาวตี, อานนฺท, ราชธานี อิทฺธา เจว อโหสิ ผีตา จ พหุชนา จ อากิณฺณมนุสฺสา จ สุภิกฺขา จ. เสยฺยถาปิ, อานนฺท, เทวานํ อาฬกมนฺทา นาม ราชธานี อิทฺธา เจว โหติ ผีตา จ พหุชนา จ อากิณฺณยกฺขา จ สุภิกฺขา จ; เอวเมว โข, อานนฺท, กุสาวตี ราชธานี อิทฺธา เจว อโหสิ ผีตา จ พหุชนา จ อากิณฺณมนุสฺสา จ สุภิกฺขา จ. กุสาวตี, อานนฺท, ราชธานี ทสหิ สทฺเทหิ อวิวิตฺตา อโหสิ ทิวา เจว รตฺติฺจ, เสยฺยถิทํ – หตฺถิสทฺเทน อสฺสสทฺเทน รถสทฺเทน เภริสทฺเทน มุทิงฺคสทฺเทน วีณาสทฺเทน คีตสทฺเทน สงฺขสทฺเทน สมฺมสทฺเทน ปาณิตาฬสทฺเทน ‘อสฺนาถ ปิวถ ขาทถา’ติ ทสเมน สทฺเทน.

‘‘คจฺฉ ตฺวํ, อานนฺท, กุสินารํ ปวิสิตฺวา โกสินารกานํ มลฺลานํ อาโรเจหิ – ‘อชฺช โข, วาเสฏฺา, รตฺติยา ปจฺฉิเม ยาเม ตถาคตสฺส ปรินิพฺพานํ ภวิสฺสติ. อภิกฺกมถ วาเสฏฺา, อภิกฺกมถ วาเสฏฺา. มา ปจฺฉา วิปฺปฏิสาริโน อหุวตฺถ – อมฺหากฺจ โน คามกฺเขตฺเต ตถาคตสฺส ปรินิพฺพานํ อโหสิ, น มยํ ลภิมฺหา ปจฺฉิเม กาเล ตถาคตํ ทสฺสนายา’’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย อตฺตทุติโย กุสินารํ ปาวิสิ.

มลฺลานํ วนฺทนา

๒๑๑. เตน โข ปน สมเยน โกสินารกา มลฺลา สนฺธาคาเร [สนฺถาคาเร (สี. สฺยา. ปี.)] สนฺนิปติตา โหนฺติ เกนจิเทว กรณีเยน. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน โกสินารกานํ มลฺลานํ สนฺธาคารํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา โกสินารกานํ มลฺลานํ อาโรเจสิ – ‘‘อชฺช โข, วาเสฏฺา, รตฺติยา ปจฺฉิเม ยาเม ตถาคตสฺส ปรินิพฺพานํ ภวิสฺสติ. อภิกฺกมถ วาเสฏฺา อภิกฺกมถ วาเสฏฺา. มา ปจฺฉา วิปฺปฏิสาริโน อหุวตฺถ – ‘อมฺหากฺจ โน คามกฺเขตฺเต ตถาคตสฺส ปรินิพฺพานํ อโหสิ, น มยํ ลภิมฺหา ปจฺฉิเม กาเล ตถาคตํ ทสฺสนายา’’’ติ. อิทมายสฺมโต อานนฺทสฺส วจนํ สุตฺวา มลฺลา จ มลฺลปุตฺตา จ มลฺลสุณิสา จ มลฺลปชาปติโย จ อฆาวิโน ทุมฺมนา เจโตทุกฺขสมปฺปิตา อปฺเปกจฺเจ เกเส ปกิริย กนฺทนฺติ, พาหา ปคฺคยฺห กนฺทนฺติ, ฉินฺนปาตํ ปปตนฺติ, อาวฏฺฏนฺติ วิวฏฺฏนฺติ – ‘อติขิปฺปํ ภควา ปรินิพฺพายิสฺสติ, อติขิปฺปํ สุคโต ปรินิพฺพายิสฺสติ, อติขิปฺปํ จกฺขุํ โลเก อนฺตรธายิสฺสตี’ติ. อถ โข มลฺลา จ มลฺลปุตฺตา จ มลฺลสุณิสา จ มลฺลปชาปติโย จ อฆาวิโน ทุมฺมนา เจโตทุกฺขสมปฺปิตา เยน อุปวตฺตนํ มลฺลานํ สาลวนํ เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมึสุ. อถ โข อายสฺมโต อานนฺทสฺส เอตทโหสิ – ‘‘สเจ โข อหํ โกสินารเก มลฺเล เอกเมกํ ภควนฺตํ วนฺทาเปสฺสามิ, อวนฺทิโต ภควา โกสินารเกหิ มลฺเลหิ ภวิสฺสติ, อถายํ รตฺติ วิภายิสฺสติ. ยํนูนาหํ โกสินารเก มลฺเล กุลปริวตฺตโส กุลปริวตฺตโส เปตฺวา ภควนฺตํ วนฺทาเปยฺยํ – ‘อิตฺถนฺนาโม, ภนฺเต, มลฺโล สปุตฺโต สภริโย สปริโส สามจฺโจ ภควโต ปาเท สิรสา วนฺทตี’ติ. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท โกสินารเก มลฺเล กุลปริวตฺตโส กุลปริวตฺตโส เปตฺวา ภควนฺตํ วนฺทาเปสิ – ‘อิตฺถนฺนาโม, ภนฺเต, มลฺโล สปุตฺโต สภริโย สปริโส สามจฺโจ ภควโต ปาเท สิรสา วนฺทตี’’’ติ. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เอเตน อุปาเยน ปเมเนว ยาเมน โกสินารเก มลฺเล ภควนฺตํ วนฺทาเปสิ.

สุภทฺทปริพฺพาชกวตฺถุ

๒๑๒. เตน โข ปน สมเยน สุภทฺโท นาม ปริพฺพาชโก กุสินารายํ ปฏิวสติ. อสฺโสสิ โข สุภทฺโท ปริพฺพาชโก – ‘‘อชฺช กิร รตฺติยา ปจฺฉิเม ยาเม สมณสฺส โคตมสฺส ปรินิพฺพานํ ภวิสฺสตี’’ติ. อถ โข สุภทฺทสฺส ปริพฺพาชกสฺส เอตทโหสิ – ‘‘สุตํ โข ปน เมตํ ปริพฺพาชกานํ วุฑฺฒานํ มหลฺลกานํ อาจริยปาจริยานํ ภาสมานานํ – ‘กทาจิ กรหจิ ตถาคตา โลเก อุปฺปชฺชนฺติ อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา’ติ. อชฺเชว รตฺติยา ปจฺฉิเม ยาเม สมณสฺส โคตมสฺส ปรินิพฺพานํ ภวิสฺสติ. อตฺถิ จ เม อยํ กงฺขาธมฺโม อุปฺปนฺโน, เอวํ ปสนฺโน อหํ สมเณ โคตเม, ‘ปโหติ เม สมโณ โคตโม ตถา ธมฺมํ เทเสตุํ, ยถาหํ อิมํ กงฺขาธมฺมํ ปชเหยฺย’’’นฺติ. อถ โข สุภทฺโท ปริพฺพาชโก เยน อุปวตฺตนํ มลฺลานํ สาลวนํ, เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘สุตํ เมตํ, โภ อานนฺท, ปริพฺพาชกานํ วุฑฺฒานํ มหลฺลกานํ อาจริยปาจริยานํ ภาสมานานํ – ‘กทาจิ กรหจิ ตถาคตา โลเก อุปฺปชฺชนฺติ อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา’ติ. อชฺเชว รตฺติยา ปจฺฉิเม ยาเม สมณสฺส โคตมสฺส ปรินิพฺพานํ ภวิสฺสติ. อตฺถิ จ เม อยํ กงฺขาธมฺโม อุปฺปนฺโน – เอวํ ปสนฺโน อหํ สมเณ โคตเม ‘ปโหติ เม สมโณ โคตโม ตถา ธมฺมํ เทเสตุํ, ยถาหํ อิมํ กงฺขาธมฺมํ ปชเหยฺย’นฺติ. สาธาหํ, โภ อานนฺท, ลเภยฺยํ สมณํ โคตมํ ทสฺสนายา’’ติ. เอวํ วุตฺเต อายสฺมา อานนฺโท สุภทฺทํ ปริพฺพาชกํ เอตทโวจ – ‘‘อลํ, อาวุโส สุภทฺท, มา ตถาคตํ วิเหเสิ, กิลนฺโต ภควา’’ติ. ทุติยมฺปิ โข สุภทฺโท ปริพฺพาชโก…เป… ตติยมฺปิ โข สุภทฺโท ปริพฺพาชโก อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘สุตํ เมตํ, โภ อานนฺท, ปริพฺพาชกานํ วุฑฺฒานํ มหลฺลกานํ อาจริยปาจริยานํ ภาสมานานํ – ‘กทาจิ กรหจิ ตถาคตา โลเก อุปฺปชฺชนฺติ อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา’ติ. อชฺเชว รตฺติยา ปจฺฉิเม ยาเม สมณสฺส โคตมสฺส ปรินิพฺพานํ ภวิสฺสติ. อตฺถิ จ เม อยํ กงฺขาธมฺโม อุปฺปนฺโน – เอวํ ปสนฺโน อหํ สมเณ โคตเม, ‘ปโหติ เม สมโณ โคตโม ตถา ธมฺมํ เทเสตุํ, ยถาหํ อิมํ กงฺขาธมฺมํ ปชเหยฺย’นฺติ. สาธาหํ, โภ อานนฺท, ลเภยฺยํ สมณํ โคตมํ ทสฺสนายา’’ติ. ตติยมฺปิ โข อายสฺมา อานนฺโท สุภทฺทํ ปริพฺพาชกํ เอตทโวจ – ‘‘อลํ, อาวุโส สุภทฺท, มา ตถาคตํ วิเหเสิ, กิลนฺโต ภควา’’ติ.

๒๑๓. อสฺโสสิ โข ภควา อายสฺมโต อานนฺทสฺส สุภทฺเทน ปริพฺพาชเกน สทฺธึ อิมํ กถาสลฺลาปํ. อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อลํ, อานนฺท, มา สุภทฺทํ วาเรสิ, ลภตํ, อานนฺท, สุภทฺโท ตถาคตํ ทสฺสนาย. ยํ กิฺจิ มํ สุภทฺโท ปุจฺฉิสฺสติ, สพฺพํ ตํ อฺาเปกฺโขว ปุจฺฉิสฺสติ, โน วิเหสาเปกฺโข. ยํ จสฺสาหํ ปุฏฺโ พฺยากริสฺสามิ, ตํ ขิปฺปเมว อาชานิสฺสตี’’ติ. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท สุภทฺทํ ปริพฺพาชกํ เอตทโวจ – ‘‘คจฺฉาวุโส สุภทฺท, กโรติ เต ภควา โอกาส’’นฺติ. อถ โข สุภทฺโท ปริพฺพาชโก เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ, สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข สุภทฺโท ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เยเม, โภ โคตม, สมณพฺราหฺมณา สงฺฆิโน คณิโน คณาจริยา าตา ยสสฺสิโน ติตฺถกรา สาธุสมฺมตา พหุชนสฺส, เสยฺยถิทํ – ปูรโณ กสฺสโป, มกฺขลิ โคสาโล, อชิโต เกสกมฺพโล, ปกุโธ กจฺจายโน, สฺจโย เพลฏฺปุตฺโต, นิคณฺโ นาฏปุตฺโต, สพฺเพเต สกาย ปฏิฺาย อพฺภฺึสุ, สพฺเพว น อพฺภฺึสุ , อุทาหุ เอกจฺเจ อพฺภฺึสุ, เอกจฺเจ น อพฺภฺึสู’’ติ? ‘‘อลํ, สุภทฺท, ติฏฺเตตํ – ‘สพฺเพเต สกาย ปฏิฺาย อพฺภฺึสุ, สพฺเพว น อพฺภฺึสุ, อุทาหุ เอกจฺเจ อพฺภฺึสุ, เอกจฺเจ น อพฺภฺึสู’ติ. ธมฺมํ เต, สุภทฺท, เทเสสฺสามิ; ตํ สุณาหิ สาธุกํ มนสิกโรหิ, ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข สุภทฺโท ปริพฺพาชโก ภควโต ปจฺจสฺโสสิ. ภควา เอตทโวจ –

๒๑๔. ‘‘ยสฺมึ โข, สุภทฺท, ธมฺมวินเย อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค น อุปลพฺภติ, สมโณปิ ตตฺถ น อุปลพฺภติ. ทุติโยปิ ตตฺถ สมโณ น อุปลพฺภติ. ตติโยปิ ตตฺถ สมโณ น อุปลพฺภติ. จตุตฺโถปิ ตตฺถ สมโณ น อุปลพฺภติ. ยสฺมิฺจ โข, สุภทฺท, ธมฺมวินเย อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค อุปลพฺภติ, สมโณปิ ตตฺถ อุปลพฺภติ, ทุติโยปิ ตตฺถ สมโณ อุปลพฺภติ, ตติโยปิ ตตฺถ สมโณ อุปลพฺภติ, จตุตฺโถปิ ตตฺถ สมโณ อุปลพฺภติ. อิมสฺมึ โข, สุภทฺท, ธมฺมวินเย อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค อุปลพฺภติ, อิเธว, สุภทฺท, สมโณ, อิธ ทุติโย สมโณ, อิธ ตติโย สมโณ, อิธ จตุตฺโถ สมโณ, สุฺา ปรปฺปวาทา สมเณภิ อฺเหิ [อฺเ (ปี.)]. อิเม [อิเธว (ก.)], สุภทฺท, ภิกฺขู สมฺมา วิหเรยฺยุํ, อสุฺโ โลโก อรหนฺเตหิ อสฺสาติ.

‘‘เอกูนตึโส วยสา สุภทฺท,

ยํ ปพฺพชึ กึกุสลานุเอสี;

วสฺสานิ ปฺาส สมาธิกานิ,

ยโต อหํ ปพฺพชิโต สุภทฺท.

ายสฺส ธมฺมสฺส ปเทสวตฺตี,

อิโต พหิทฺธา สมโณปิ นตฺถิ.

‘‘ทุติโยปิ สมโณ นตฺถิ. ตติโยปิ สมโณ นตฺถิ. จตุตฺโถปิ สมโณ นตฺถิ. สุฺา ปรปฺปวาทา สมเณภิ อฺเหิ. อิเม จ, สุภทฺท, ภิกฺขู สมฺมา วิหเรยฺยุํ, อสุฺโ โลโก อรหนฺเตหิ อสฺสา’’ติ.

๒๑๕. เอวํ วุตฺเต สุภทฺโท ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต, อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต. เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย, ‘จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตี’ติ, เอวเมวํ ภควตา อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโต. เอสาหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจ. ลเภยฺยาหํ, ภนฺเต, ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, ลเภยฺยํ อุปสมฺปท’’นฺติ. ‘‘โย โข, สุภทฺท, อฺติตฺถิยปุพฺโพ อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อากงฺขติ ปพฺพชฺชํ, อากงฺขติ อุปสมฺปทํ, โส จตฺตาโร มาเส ปริวสติ. จตุนฺนํ มาสานํ อจฺจเยน อารทฺธจิตฺตา ภิกฺขู ปพฺพาเชนฺติ อุปสมฺปาเทนฺติ ภิกฺขุภาวาย. อปิ จ เมตฺถ ปุคฺคลเวมตฺตตา วิทิตา’’ติ. ‘‘สเจ, ภนฺเต, อฺติตฺถิยปุพฺพา อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อากงฺขนฺตา ปพฺพชฺชํ อากงฺขนฺตา อุปสมฺปทํ จตฺตาโร มาเส ปริวสนฺติ, จตุนฺนํ มาสานํ อจฺจเยน อารทฺธจิตฺตา ภิกฺขู ปพฺพาเชนฺติ อุปสมฺปาเทนฺติ ภิกฺขุภาวาย. อหํ จตฺตาริ วสฺสานิ ปริวสิสฺสามิ, จตุนฺนํ วสฺสานํ อจฺจเยน อารทฺธจิตฺตา ภิกฺขู ปพฺพาเชนฺตุ อุปสมฺปาเทนฺตุ ภิกฺขุภาวายา’’ติ.

อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘เตนหานนฺท, สุภทฺทํ ปพฺพาเชหี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปจฺจสฺโสสิ. อถ โข สุภทฺโท ปริพฺพาชโก อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘ลาภา โว, อาวุโส อานนฺท; สุลทฺธํ โว, อาวุโส อานนฺท, เย เอตฺถ สตฺถุ [สตฺถารา (สฺยา.)] สมฺมุขา อนฺเตวาสิกาภิเสเกน อภิสิตฺตา’’ติ. อลตฺถ โข สุภทฺโท ปริพฺพาชโก ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, อลตฺถ อุปสมฺปทํ. อจิรูปสมฺปนฺโน โข ปนายสฺมา สุภทฺโท เอโก วูปกฏฺโ อปฺปมตฺโต อาตาปี ปหิตตฺโต วิหรนฺโต นจิรสฺเสว – ‘ยสฺสตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ’ ตทนุตฺตรํ พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหาสิ. ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’ติ อพฺภฺาสิ. อฺตโร โข ปนายสฺมา สุภทฺโท อรหตํ อโหสิ. โส ภควโต ปจฺฉิโม สกฺขิสาวโก อโหสีติ.

ปฺจโม ภาณวาโร.

ตถาคตปจฺฉิมวาจา

๒๑๖. อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘สิยา โข ปนานนฺท, ตุมฺหากํ เอวมสฺส – ‘อตีตสตฺถุกํ ปาวจนํ, นตฺถิ โน สตฺถา’ติ. น โข ปเนตํ, อานนฺท, เอวํ ทฏฺพฺพํ. โย โว, อานนฺท, มยา ธมฺโม จ วินโย จ เทสิโต ปฺตฺโต, โส โว มมจฺจเยน สตฺถา. ยถา โข ปนานนฺท, เอตรหิ ภิกฺขู อฺมฺํ อาวุโสวาเทน สมุทาจรนฺติ, น โข มมจฺจเยน เอวํ สมุทาจริตพฺพํ. เถรตเรน, อานนฺท, ภิกฺขุนา นวกตโร ภิกฺขุ นาเมน วา โคตฺเตน วา อาวุโสวาเทน วา สมุทาจริตพฺโพ. นวกตเรน ภิกฺขุนา เถรตโร ภิกฺขุ ‘ภนฺเต’ติ วา ‘อายสฺมา’ติ วา สมุทาจริตพฺโพ. อากงฺขมาโน, อานนฺท, สงฺโฆ มมจฺจเยน ขุทฺทานุขุทฺทกานิ สิกฺขาปทานิ สมูหนตุ. ฉนฺนสฺส, อานนฺท, ภิกฺขุโน มมจฺจเยน พฺรหฺมทณฺโฑ ทาตพฺโพ’’ติ. ‘‘กตโม ปน, ภนฺเต, พฺรหฺมทณฺโฑ’’ติ? ‘‘ฉนฺโน, อานนฺท, ภิกฺขุ ยํ อิจฺเฉยฺย, ตํ วเทยฺย. โส ภิกฺขูหิ เนว วตฺตพฺโพ, น โอวทิตพฺโพ, น อนุสาสิตพฺโพ’’ติ.

๒๑๗. อถ โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘สิยา โข ปน, ภิกฺขเว, เอกภิกฺขุสฺสาปิ กงฺขา วา วิมติ วา พุทฺเธ วา ธมฺเม วา สงฺเฆ วา มคฺเค วา ปฏิปทาย วา, ปุจฺฉถ, ภิกฺขเว, มา ปจฺฉา วิปฺปฏิสาริโน อหุวตฺถ – ‘สมฺมุขีภูโต โน สตฺถา อโหสิ , น มยํ สกฺขิมฺหา ภควนฺตํ สมฺมุขา ปฏิปุจฺฉิตุ’’’ นฺติ. เอวํ วุตฺเต เต ภิกฺขู ตุณฺหี อเหสุํ. ทุติยมฺปิ โข ภควา…เป… ตติยมฺปิ โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘สิยา โข ปน, ภิกฺขเว, เอกภิกฺขุสฺสาปิ กงฺขา วา วิมติ วา พุทฺเธ วา ธมฺเม วา สงฺเฆ วา มคฺเค วา ปฏิปทาย วา, ปุจฺฉถ, ภิกฺขเว, มา ปจฺฉา วิปฺปฏิสาริโน อหุวตฺถ – ‘สมฺมุขีภูโต โน สตฺถา อโหสิ , น มยํ สกฺขิมฺหา ภควนฺตํ สมฺมุขา ปฏิปุจฺฉิตุ’’’ นฺติ. ตติยมฺปิ โข เต ภิกฺขู ตุณฺหี อเหสุํ. อถ โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘สิยา โข ปน, ภิกฺขเว, สตฺถุคารเวนปิ น ปุจฺเฉยฺยาถ. สหายโกปิ, ภิกฺขเว, สหายกสฺส อาโรเจตู’’ติ. เอวํ วุตฺเต เต ภิกฺขู ตุณฺหี อเหสุํ. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อจฺฉริยํ, ภนฺเต, อพฺภุตํ, ภนฺเต, เอวํ ปสนฺโน อหํ, ภนฺเต, อิมสฺมึ ภิกฺขุสงฺเฆ, ‘นตฺถิ เอกภิกฺขุสฺสาปิ กงฺขา วา วิมติ วา พุทฺเธ วา ธมฺเม วา สงฺเฆ วา มคฺเค วา ปฏิปทาย วา’’’ติ. ‘‘ปสาทา โข ตฺวํ, อานนฺท, วเทสิ, าณเมว เหตฺถ, อานนฺท, ตถาคตสฺส. นตฺถิ อิมสฺมึ ภิกฺขุสงฺเฆ เอกภิกฺขุสฺสาปิ กงฺขา วา วิมติ วา พุทฺเธ วา ธมฺเม วา สงฺเฆ วา มคฺเค วา ปฏิปทาย วา. อิเมสฺหิ, อานนฺท, ปฺจนฺนํ ภิกฺขุสตานํ โย ปจฺฉิมโก ภิกฺขุ, โส โสตาปนฺโน อวินิปาตธมฺโม นิยโต สมฺโพธิปรายโณ’’ติ.

๒๑๘. อถ โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘หนฺท ทานิ, ภิกฺขเว, อามนฺตยามิ โว, วยธมฺมา สงฺขารา อปฺปมาเทน สมฺปาเทถา’’ติ. อยํ ตถาคตสฺส ปจฺฉิมา วาจา.

ปรินิพฺพุตกถา

๒๑๙. อถ โข ภควา ปมํ ฌานํ สมาปชฺชิ, ปมชฺฌานา วุฏฺหิตฺวา ทุติยํ ฌานํ สมาปชฺชิ, ทุติยชฺฌานา วุฏฺหิตฺวา ตติยํ ฌานํ สมาปชฺชิ, ตติยชฺฌานา วุฏฺหิตฺวา จตุตฺถํ ฌานํ สมาปชฺชิ. จตุตฺถชฺฌานา วุฏฺหิตฺวา อากาสานฺจายตนํ สมาปชฺชิ, อากาสานฺจายตนสมาปตฺติยา วุฏฺหิตฺวา วิฺาณฺจายตนํ สมาปชฺชิ, วิฺาณฺจายตนสมาปตฺติยา วุฏฺหิตฺวา อากิฺจฺายตนํ สมาปชฺชิ, อากิฺจฺายตนสมาปตฺติยา วุฏฺหิตฺวา เนวสฺานาสฺายตนํ สมาปชฺชิ, เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺติยา วุฏฺหิตฺวา สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปชฺชิ.

อถ โข อายสฺมา อานนฺโท อายสฺมนฺตํ อนุรุทฺธํ เอตทโวจ – ‘‘ปรินิพฺพุโต, ภนฺเต อนุรุทฺธ , ภควา’’ติ. ‘‘นาวุโส อานนฺท, ภควา ปรินิพฺพุโต, สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปนฺโน’’ติ.

อถ โข ภควา สฺาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติยา วุฏฺหิตฺวา เนวสฺานาสฺายตนํ สมาปชฺชิ, เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺติยา วุฏฺหิตฺวา อากิฺจฺายตนํ สมาปชฺชิ, อากิฺจฺายตนสมาปตฺติยา วุฏฺหิตฺวา วิฺาณฺจายตนํ สมาปชฺชิ, วิฺาณฺจายตนสมาปตฺติยา วุฏฺหิตฺวา อากาสานฺจายตนํ สมาปชฺชิ, อากาสานฺจายตนสมาปตฺติยา วุฏฺหิตฺวา จตุตฺถํ ฌานํ สมาปชฺชิ, จตุตฺถชฺฌานา วุฏฺหิตฺวา ตติยํ ฌานํ สมาปชฺชิ, ตติยชฺฌานา วุฏฺหิตฺวา ทุติยํ ฌานํ สมาปชฺชิ, ทุติยชฺฌานา วุฏฺหิตฺวา ปมํ ฌานํ สมาปชฺชิ, ปมชฺฌานา วุฏฺหิตฺวา ทุติยํ ฌานํ สมาปชฺชิ, ทุติยชฺฌานา วุฏฺหิตฺวา ตติยํ ฌานํ สมาปชฺชิ, ตติยชฺฌานา วุฏฺหิตฺวา จตุตฺถํ ฌานํ สมาปชฺชิ, จตุตฺถชฺฌานา วุฏฺหิตฺวา สมนนฺตรา ภควา ปรินิพฺพายิ.

๒๒๐. ปรินิพฺพุเต ภควติ สห ปรินิพฺพานา มหาภูมิจาโล อโหสิ ภึสนโก สโลมหํโส. เทวทุนฺทุภิโย จ ผลึสุ. ปรินิพฺพุเต ภควติ สห ปรินิพฺพานา พฺรหฺมาสหมฺปติ อิมํ คาถํ อภาสิ –

‘‘สพฺเพว นิกฺขิปิสฺสนฺติ, ภูตา โลเก สมุสฺสยํ;

ยตฺถ เอตาทิโส สตฺถา, โลเก อปฺปฏิปุคฺคโล;

ตถาคโต พลปฺปตฺโต, สมฺพุทฺโธ ปรินิพฺพุโต’’ติ.

๒๒๑. ปรินิพฺพุเต ภควติ สห ปรินิพฺพานา สกฺโก เทวานมินฺโท อิมํ คาถํ อภาสิ –

‘‘อนิจฺจา วต สงฺขารา, อุปฺปาทวยธมฺมิโน;

อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌนฺติ, เตสํ วูปสโม สุโข’’ติ.

๒๒๒. ปรินิพฺพุเต ภควติ สห ปรินิพฺพานา อายสฺมา อนุรุทฺโธ อิมา คาถาโย อภาสิ –

‘‘นาหุ อสฺสาสปสฺสาโส, ิตจิตฺตสฺส ตาทิโน;

อเนโช สนฺติมารพฺภ, ยํ กาลมกรี มุนิ.

‘‘อสลฺลีเนน จิตฺเตน, เวทนํ อชฺฌวาสยิ;

ปชฺโชตสฺเสว นิพฺพานํ, วิโมกฺโข เจตโส อหู’’ติ.

๒๒๓. ปรินิพฺพุเต ภควติ สห ปรินิพฺพานา อายสฺมา อานนฺโท อิมํ คาถํ อภาสิ –

‘‘ตทาสิ ยํ ภึสนกํ, ตทาสิ โลมหํสนํ;

สพฺพาการวรูเปเต, สมฺพุทฺเธ ปรินิพฺพุเต’’ติ.

๒๒๔. ปรินิพฺพุเต ภควติ เย เต ตตฺถ ภิกฺขู อวีตราคา อปฺเปกจฺเจ พาหา ปคฺคยฺห กนฺทนฺติ, ฉินฺนปาตํ ปปตนฺติ, อาวฏฺฏนฺติ วิวฏฺฏนฺติ, ‘‘อติขิปฺปํ ภควา ปรินิพฺพุโต , อติขิปฺปํ สุคโต ปรินิพฺพุโต, อติขิปฺปํ จกฺขุํ โลเก อนฺตรหิโต’’ติ. เย ปน เต ภิกฺขู วีตราคา, เต สตา สมฺปชานา อธิวาเสนฺติ – ‘‘อนิจฺจา สงฺขารา, ตํ กุเตตฺถ ลพฺภา’’ติ.

๒๒๕. อถ โข อายสฺมา อนุรุทฺโธ ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อลํ, อาวุโส, มา โสจิตฺถ มา ปริเทวิตฺถ. นนุ เอตํ, อาวุโส, ภควตา ปฏิกจฺเจว อกฺขาตํ – ‘สพฺเพเหว ปิเยหิ มนาเปหิ นานาภาโว วินาภาโว อฺถาภาโว’. ตํ กุเตตฺถ, อาวุโส, ลพฺภา. ‘ยํ ตํ ชาตํ ภูตํ สงฺขตํ ปโลกธมฺมํ, ตํ วต มา ปลุชฺชี’ติ, เนตํ านํ วิชฺชติ . เทวตา, อาวุโส, อุชฺฌายนฺตี’’ติ. ‘‘กถํภูตา ปน, ภนฺเต, อายสฺมา อนุรุทฺโธ เทวตา มนสิ กโรตี’’ติ [ภนฺเต อนุรุทฺธ เทวตา มนสิ กโรนฺตีติ (สฺยา. ก.)]?

‘‘สนฺตาวุโส อานนฺท, เทวตา อากาเส ปถวีสฺินิโย เกเส ปกิริย กนฺทนฺติ, พาหา ปคฺคยฺห กนฺทนฺติ, ฉินฺนปาตํ ปปตนฺติ, อาวฏฺฏนฺติ, วิวฏฺฏนฺติ – ‘อติขิปฺปํ ภควา ปรินิพฺพุโต, อติขิปฺปํ สุคโต ปรินิพฺพุโต, อติขิปฺปํ จกฺขุํ โลเก อนฺตรหิโต’ติ. สนฺตาวุโส อานนฺท, เทวตา ปถวิยา ปถวีสฺินิโย เกเส ปกิริย กนฺทนฺติ, พาหา ปคฺคยฺห กนฺทนฺติ, ฉินฺนปาตํ ปปตนฺติ, อาวฏฺฏนฺติ, วิวฏฺฏนฺติ – ‘อติขิปฺปํ ภควา ปรินิพฺพุโต , อติขิปฺปํ สุคโต ปรินิพฺพุโต, อติขิปฺปํ จกฺขุํ โลเก อนฺตรหิโต’ติ. ยา ปน ตา เทวตา วีตราคา, ตา สตา สมฺปชานา อธิวาเสนฺติ – ‘อนิจฺจา สงฺขารา, ตํ กุเตตฺถ ลพฺภา’ติ. อถ โข อายสฺมา จ อนุรุทฺโธ อายสฺมา จ อานนฺโท ตํ รตฺตาวเสสํ ธมฺมิยา กถาย วีตินาเมสุํ.

๒๒๖. อถ โข อายสฺมา อนุรุทฺโธ อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘คจฺฉาวุโส อานนฺท, กุสินารํ ปวิสิตฺวา โกสินารกานํ มลฺลานํ อาโรเจหิ – ‘ปรินิพฺพุโต, วาเสฏฺา, ภควา, ยสฺสทานิ กาลํ มฺถา’’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท อายสฺมโต อนุรุทฺธสฺส ปฏิสฺสุตฺวา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย อตฺตทุติโย กุสินารํ ปาวิสิ. เตน โข ปน สมเยน โกสินารกา มลฺลา สนฺธาคาเร สนฺนิปติตา โหนฺติ เตเนว กรณีเยน. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน โกสินารกานํ มลฺลานํ สนฺธาคารํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา โกสินารกานํ มลฺลานํ อาโรเจสิ – ‘ปรินิพฺพุโต, วาเสฏฺา, ภควา, ยสฺสทานิ กาลํ มฺถา’ติ. อิทมายสฺมโต อานนฺทสฺส วจนํ สุตฺวา มลฺลา จ มลฺลปุตฺตา จ มลฺลสุณิสา จ มลฺลปชาปติโย จ อฆาวิโน ทุมฺมนา เจโตทุกฺขสมปฺปิตา อปฺเปกจฺเจ เกเส ปกิริย กนฺทนฺติ, พาหา ปคฺคยฺห กนฺทนฺติ, ฉินฺนปาตํ ปปตนฺติ, อาวฏฺฏนฺติ, วิวฏฺฏนฺติ – ‘‘อติขิปฺปํ ภควา ปรินิพฺพุโต, อติขิปฺปํ สุคโต ปรินิพฺพุโต, อติขิปฺปํ จกฺขุํ โลเก อนฺตรหิโต’’ติ.

พุทฺธสรีรปูชา

๒๒๗. อถ โข โกสินารกา มลฺลา ปุริเส อาณาเปสุํ – ‘‘เตน หิ, ภเณ, กุสินารายํ คนฺธมาลฺจ สพฺพฺจ ตาฬาวจรํ สนฺนิปาเตถา’’ติ. อถ โข โกสินารกา มลฺลา คนฺธมาลฺจ สพฺพฺจ ตาฬาวจรํ ปฺจ จ ทุสฺสยุคสตานิ อาทาย เยน อุปวตฺตนํ มลฺลานํ สาลวนํ, เยน ภควโต สรีรํ เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควโต สรีรํ นจฺเจหิ คีเตหิ วาทิเตหิ มาเลหิ คนฺเธหิ สกฺกโรนฺตา ครุํ กโรนฺตา มาเนนฺตา ปูเชนฺตา เจลวิตานานิ กโรนฺตา มณฺฑลมาเฬ ปฏิยาเทนฺตา เอกทิวสํ วีตินาเมสุํ.

อถ โข โกสินารกานํ มลฺลานํ เอตทโหสิ – ‘‘อติวิกาโล โข อชฺช ภควโต สรีรํ ฌาเปตุํ, สฺเว ทานิ มยํ ภควโต สรีรํ ฌาเปสฺสามา’’ติ. อถ โข โกสินารกา มลฺลา ภควโต สรีรํ นจฺเจหิ คีเตหิ วาทิเตหิ มาเลหิ คนฺเธหิ สกฺกโรนฺตา ครุํ กโรนฺตา มาเนนฺตา ปูเชนฺตา เจลวิตานานิ กโรนฺตา มณฺฑลมาเฬ ปฏิยาเทนฺตา ทุติยมฺปิ ทิวสํ วีตินาเมสุํ, ตติยมฺปิ ทิวสํ วีตินาเมสุํ, จตุตฺถมฺปิ ทิวสํ วีตินาเมสุํ, ปฺจมมฺปิ ทิวสํ วีตินาเมสุํ, ฉฏฺมฺปิ ทิวสํ วีตินาเมสุํ.

อถ โข สตฺตมํ ทิวสํ โกสินารกานํ มลฺลานํ เอตทโหสิ – ‘‘มยํ ภควโต สรีรํ นจฺเจหิ คีเตหิ วาทิเตหิ มาเลหิ คนฺเธหิ สกฺกโรนฺตา ครุํ กโรนฺตา มาเนนฺตา ปูเชนฺตา ทกฺขิเณน ทกฺขิณํ นครสฺส หริตฺวา พาหิเรน พาหิรํ ทกฺขิณโต นครสฺส ภควโต สรีรํ ฌาเปสฺสามา’’ติ.

๒๒๘. เตน โข ปน สมเยน อฏฺ มลฺลปาโมกฺขา สีสํนฺหาตา อหตานิ วตฺถานิ นิวตฺถา ‘‘มยํ ภควโต สรีรํ อุจฺจาเรสฺสามา’’ติ น สกฺโกนฺติ อุจฺจาเรตุํ. อถ โข โกสินารกา มลฺลา อายสฺมนฺตํ อนุรุทฺธํ เอตทโวจุํ – ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต อนุรุทฺธ, เหตุ โก ปจฺจโย, เยนิเม อฏฺ มลฺลปาโมกฺขา สีสํนฺหาตา อหตานิ วตฺถานิ นิวตฺถา ‘มยํ ภควโต สรีรํ อุจฺจาเรสฺสามา’ติ น สกฺโกนฺติ อุจฺจาเรตุ’’นฺติ? ‘‘อฺถา โข, วาเสฏฺา, ตุมฺหากํ อธิปฺปาโย, อฺถา เทวตานํ อธิปฺปาโย’’ติ. ‘‘กถํ ปน, ภนฺเต, เทวตานํ อธิปฺปาโย’’ติ? ‘‘ตุมฺหากํ โข, วาเสฏฺา, อธิปฺปาโย – ‘มยํ ภควโต สรีรํ นจฺเจหิ คีเตหิ วาทิเตหิ มาเลหิ คนฺเธหิ สกฺกโรนฺตา ครุํ กโรนฺตา มาเนนฺตา ปูเชนฺตา ทกฺขิเณน ทกฺขิณํ นครสฺส หริตฺวา พาหิเรน พาหิรํ ทกฺขิณโต นครสฺส ภควโต สรีรํ ฌาเปสฺสามา’ติ; เทวตานํ โข, วาเสฏฺา, อธิปฺปาโย – ‘มยํ ภควโต สรีรํ ทิพฺเพหิ นจฺเจหิ คีเตหิ วาทิเตหิ คนฺเธหิ สกฺกโรนฺตา ครุํ กโรนฺตา มาเนนฺตา ปูเชนฺตา อุตฺตเรน อุตฺตรํ นครสฺส หริตฺวา อุตฺตเรน ทฺวาเรน นครํ ปเวเสตฺวา มชฺเฌน มชฺฌํ นครสฺส หริตฺวา ปุรตฺถิเมน ทฺวาเรน นิกฺขมิตฺวา ปุรตฺถิมโต นครสฺส มกุฏพนฺธนํ นาม มลฺลานํ เจติยํ เอตฺถ ภควโต สรีรํ ฌาเปสฺสามา’ติ. ‘‘ยถา, ภนฺเต, เทวตานํ อธิปฺปาโย, ตถา โหตู’’ติ.

๒๒๙. เตน โข ปน สมเยน กุสินารา ยาว สนฺธิสมลสํกฏีรา ชณฺณุมตฺเตน โอธินา มนฺทารวปุปฺเผหิ สนฺถตา [สณฺิตา (สฺยา.)] โหติ. อถ โข เทวตา จ โกสินารกา จ มลฺลา ภควโต สรีรํ ทิพฺเพหิ จ มานุสเกหิ จ นจฺเจหิ คีเตหิ วาทิเตหิ มาเลหิ คนฺเธหิ สกฺกโรนฺตา ครุํ กโรนฺตา มาเนนฺตา ปูเชนฺตา อุตฺตเรน อุตฺตรํ นครสฺส หริตฺวา อุตฺตเรน ทฺวาเรน นครํ ปเวเสตฺวา มชฺเฌน มชฺฌํ นครสฺส หริตฺวา ปุรตฺถิเมน ทฺวาเรน นิกฺขมิตฺวา ปุรตฺถิมโต นครสฺส มกุฏพนฺธนํ นาม มลฺลานํ เจติยํ เอตฺถ จ ภควโต สรีรํ นิกฺขิปึสุ.

๒๓๐. อถ โข โกสินารกา มลฺลา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจุํ – ‘‘กถํ มยํ, ภนฺเต อานนฺท, ตถาคตสฺส สรีเร ปฏิปชฺชามา’’ติ? ‘‘ยถา โข, วาเสฏฺา, รฺโ จกฺกวตฺติสฺส สรีเร ปฏิปชฺชนฺติ, เอวํ ตถาคตสฺส สรีเร ปฏิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ. ‘‘กถํ ปน, ภนฺเต อานนฺท, รฺโ จกฺกวตฺติสฺส สรีเร ปฏิปชฺชนฺตี’’ติ? ‘‘รฺโ, วาเสฏฺา, จกฺกวตฺติสฺส สรีรํ อหเตน วตฺเถน เวเนฺติ, อหเตน วตฺเถน เวเตฺวา วิหเตน กปฺปาเสน เวเนฺติ, วิหเตน กปฺปาเสน เวเตฺวา อหเตน วตฺเถน เวเนฺติ. เอเตน อุปาเยน ปฺจหิ ยุคสเตหิ รฺโ จกฺกวตฺติสฺส สรีรํ เวเตฺวา อายสาย เตลโทณิยา ปกฺขิปิตฺวา อฺิสฺสา อายสาย โทณิยา ปฏิกุชฺชิตฺวา สพฺพคนฺธานํ จิตกํ กริตฺวา รฺโ จกฺกวตฺติสฺส สรีรํ ฌาเปนฺติ. จาตุมหาปเถ รฺโ จกฺกวตฺติสฺส ถูปํ กโรนฺติ . เอวํ โข, วาเสฏฺา, รฺโ จกฺกวตฺติสฺส สรีเร ปฏิปชฺชนฺติ. ยถา โข, วาเสฏฺา, รฺโ จกฺกวตฺติสฺส สรีเร ปฏิปชฺชนฺติ, เอวํ ตถาคตสฺส สรีเร ปฏิปชฺชิตพฺพํ. จาตุมหาปเถ ตถาคตสฺส ถูโป กาตพฺโพ. ตตฺถ เย มาลํ วา คนฺธํ วา จุณฺณกํ วา อาโรเปสฺสนฺติ วา อภิวาเทสฺสนฺติ วา จิตฺตํ วา ปสาเทสฺสนฺติ, เตสํ ตํ ภวิสฺสติ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’ติ. อถ โข โกสินารกา มลฺลา ปุริเส อาณาเปสุํ – ‘‘เตน หิ, ภเณ, มลฺลานํ วิหตํ กปฺปาสํ สนฺนิปาเตถา’’ติ.

อถ โข โกสินารกา มลฺลา ภควโต สรีรํ อหเตน วตฺเถน เวเตฺวา วิหเตน กปฺปาเสน เวเสุํ, วิหเตน กปฺปาเสน เวเตฺวา อหเตน วตฺเถน เวเสุํ. เอเตน อุปาเยน ปฺจหิ ยุคสเตหิ ภควโต สรีรํ เวเตฺวา อายสาย เตลโทณิยา ปกฺขิปิตฺวา อฺิสฺสา อายสาย โทณิยา ปฏิกุชฺชิตฺวา สพฺพคนฺธานํ จิตกํ กริตฺวา ภควโต สรีรํ จิตกํ อาโรเปสุํ.

มหากสฺสปตฺเถรวตฺถุ

๒๓๑. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา มหากสฺสโป ปาวาย กุสินารํ อทฺธานมคฺคปฺปฏิปฺปนฺโน โหติ มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ ปฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหิ. อถ โข อายสฺมา มหากสฺสโป มคฺคา โอกฺกมฺม อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล นิสีทิ. เตน โข ปน สมเยน อฺตโร อาชีวโก กุสินาราย มนฺทารวปุปฺผํ คเหตฺวา ปาวํ อทฺธานมคฺคปฺปฏิปฺปนฺโน โหติ. อทฺทสา โข อายสฺมา มหากสฺสโป ตํ อาชีวกํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ, ทิสฺวา ตํ อาชีวกํ เอตทโวจ – ‘‘อปาวุโส, อมฺหากํ สตฺถารํ ชานาสี’’ติ? ‘‘อามาวุโส, ชานามิ, อชฺช สตฺตาหปรินิพฺพุโต สมโณ โคตโม. ตโต เม อิทํ มนฺทารวปุปฺผํ คหิต’’นฺติ. ตตฺถ เย เต ภิกฺขู อวีตราคา อปฺเปกจฺเจ พาหา ปคฺคยฺห กนฺทนฺติ, ฉินฺนปาตํ ปปตนฺติ, อาวฏฺฏนฺติ, วิวฏฺฏนฺติ – ‘‘อติขิปฺปํ ภควา ปรินิพฺพุโต, อติขิปฺปํ สุคโต ปรินิพฺพุโต, อติขิปฺปํ จกฺขุํ โลเก อนฺตรหิโต’’ติ. เย ปน เต ภิกฺขู วีตราคา, เต สตา สมฺปชานา อธิวาเสนฺติ – ‘‘อนิจฺจา สงฺขารา, ตํ กุเตตฺถ ลพฺภา’’ติ.

๒๓๒. เตน โข ปน สมเยน สุภทฺโท นาม วุทฺธปพฺพชิโต ตสฺสํ ปริสายํ นิสินฺโน โหติ. อถ โข สุภทฺโท วุทฺธปพฺพชิโต เต ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘อลํ, อาวุโส, มา โสจิตฺถ, มา ปริเทวิตฺถ, สุมุตฺตา มยํ เตน มหาสมเณน. อุปทฺทุตา จ โหม – ‘อิทํ โว กปฺปติ, อิทํ โว น กปฺปตี’ติ. อิทานิ ปน มยํ ยํ อิจฺฉิสฺสาม, ตํ กริสฺสาม, ยํ น อิจฺฉิสฺสาม, น ตํ กริสฺสามา’’ติ. อถ โข อายสฺมา มหากสฺสโป ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อลํ, อาวุโส, มา โสจิตฺถ, มา ปริเทวิตฺถ. นนุ เอตํ , อาวุโส, ภควตา ปฏิกจฺเจว อกฺขาตํ – ‘สพฺเพเหว ปิเยหิ มนาเปหิ นานาภาโว วินาภาโว อฺถาภาโว’. ตํ กุเตตฺถ, อาวุโส, ลพฺภา. ‘ยํ ตํ ชาตํ ภูตํ สงฺขตํ ปโลกธมฺมํ, ตํ ตถาคตสฺสาปิ สรีรํ มา ปลุชฺชี’ติ, เนตํ านํ วิชฺชตี’’ติ.

๒๓๓. เตน โข ปน สมเยน จตฺตาโร มลฺลปาโมกฺขา สีสํนฺหาตา อหตานิ วตฺถานิ นิวตฺถา – ‘‘มยํ ภควโต จิตกํ อาฬิมฺเปสฺสามา’’ติ น สกฺโกนฺติ อาฬิมฺเปตุํ. อถ โข โกสินารกา มลฺลา อายสฺมนฺตํ อนุรุทฺธํ เอตทโวจุํ – ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต อนุรุทฺธ, เหตุ โก ปจฺจโย, เยนิเม จตฺตาโร มลฺลปาโมกฺขา สีสํนฺหาตา อหตานิ วตฺถานิ นิวตฺถา – ‘มยํ ภควโต จิตกํ อาฬิมฺเปสฺสามา’ติ น สกฺโกนฺติ อาฬิมฺเปตุ’’นฺติ? ‘‘อฺถา โข, วาเสฏฺา, เทวตานํ อธิปฺปาโย’’ติ. ‘‘กถํ ปน, ภนฺเต, เทวตานํ อธิปฺปาโย’’ติ? ‘‘เทวตานํ โข, วาเสฏฺา, อธิปฺปาโย – ‘อยํ อายสฺมา มหากสฺสโป ปาวาย กุสินารํ อทฺธานมคฺคปฺปฏิปฺปนฺโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ ปฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหิ. น ตาว ภควโต จิตโก ปชฺชลิสฺสติ, ยาวายสฺมา มหากสฺสโป ภควโต ปาเท สิรสา น วนฺทิสฺสตี’’’ติ. ‘‘ยถา, ภนฺเต, เทวตานํ อธิปฺปาโย, ตถา โหตู’’ติ.

๒๓๔. อถ โข อายสฺมา มหากสฺสโป เยน กุสินารา มกุฏพนฺธนํ นาม มลฺลานํ เจติยํ, เยน ภควโต จิตโก เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เอกํสํ จีวรํ กตฺวา อฺชลึ ปณาเมตฺวา ติกฺขตฺตุํ จิตกํ ปทกฺขิณํ กตฺวา ภควโต ปาเท สิรสา วนฺทิ. ตานิปิ โข ปฺจภิกฺขุสตานิ เอกํสํ จีวรํ กตฺวา อฺชลึ ปณาเมตฺวา ติกฺขตฺตุํ จิตกํ ปทกฺขิณํ กตฺวา ภควโต ปาเท สิรสา วนฺทึสุ. วนฺทิเต จ ปนายสฺมตา มหากสฺสเปน เตหิ จ ปฺจหิ ภิกฺขุสเตหิ สยเมว ภควโต จิตโก ปชฺชลิ.

๒๓๕. ฌายมานสฺส โข ปน ภควโต สรีรสฺส ยํ อโหสิ ฉวีติ วา จมฺมนฺติ วา มํสนฺติ วา นฺหารูติ วา ลสิกาติ วา, ตสฺส เนว ฉาริกา ปฺายิตฺถ, น มสิ; สรีราเนว อวสิสฺสึสุ. เสยฺยถาปิ นาม สปฺปิสฺส วา เตลสฺส วา ฌายมานสฺส เนว ฉาริกา ปฺายติ, น มสิ; เอวเมว ภควโต สรีรสฺส ฌายมานสฺส ยํ อโหสิ ฉวีติ วา จมฺมนฺติ วา มํสนฺติ วา นฺหารูติ วา ลสิกาติ วา, ตสฺส เนว ฉาริกา ปฺายิตฺถ, น มสิ; สรีราเนว อวสิสฺสึสุ. เตสฺจ ปฺจนฺนํ ทุสฺสยุคสตานํ ทฺเวว ทุสฺสานิ น ฑยฺหึสุ ยฺจ สพฺพอพฺภนฺตริมํ ยฺจ พาหิรํ. ทฑฺเฒ จ โข ปน ภควโต สรีเร อนฺตลิกฺขา อุทกธารา ปาตุภวิตฺวา ภควโต จิตกํ นิพฺพาเปสิ. อุทกสาลโตปิ [อุทกํ สาลโตปิ (สี. สฺยา. กํ.)] อพฺภุนฺนมิตฺวา ภควโต จิตกํ นิพฺพาเปสิ. โกสินารกาปิ มลฺลา สพฺพคนฺโธทเกน ภควโต จิตกํ นิพฺพาเปสุํ. อถ โข โกสินารกา มลฺลา ภควโต สรีรานิ สตฺตาหํ สนฺธาคาเร สตฺติปฺชรํ กริตฺวา ธนุปาการํ ปริกฺขิปาเปตฺวา [ปริกฺขิปิตฺวา (สฺยา.)] นจฺเจหิ คีเตหิ วาทิเตหิ มาเลหิ คนฺเธหิ สกฺกรึสุ ครุํ กรึสุ มาเนสุํ ปูเชสุํ.

สรีรธาตุวิภาชนํ

๒๓๖. อสฺโสสิ โข ราชา มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต – ‘‘ภควา กิร กุสินารายํ ปรินิพฺพุโต’’ติ. อถ โข ราชา มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต โกสินารกานํ มลฺลานํ ทูตํ ปาเหสิ – ‘‘ภควาปิ ขตฺติโย อหมฺปิ ขตฺติโย, อหมฺปิ อรหามิ ภควโต สรีรานํ ภาคํ, อหมฺปิ ภควโต สรีรานํ ถูปฺจ มหฺจ กริสฺสามี’’ติ.

อสฺโสสุํ โข เวสาลิกา ลิจฺฉวี – ‘‘ภควา กิร กุสินารายํ ปรินิพฺพุโต’’ติ. อถ โข เวสาลิกา ลิจฺฉวี โกสินารกานํ มลฺลานํ ทูตํ ปาเหสุํ – ‘‘ภควาปิ ขตฺติโย มยมฺปิ ขตฺติยา, มยมฺปิ อรหาม ภควโต สรีรานํ ภาคํ, มยมฺปิ ภควโต สรีรานํ ถูปฺจ มหฺจ กริสฺสามา’’ติ.

อสฺโสสุํ โข กปิลวตฺถุวาสี สกฺยา – ‘‘ภควา กิร กุสินารายํ ปรินิพฺพุโต’’ติ. อถ โข กปิลวตฺถุวาสี สกฺยา โกสินารกานํ มลฺลานํ ทูตํ ปาเหสุํ – ‘‘ภควา อมฺหากํ าติเสฏฺโ , มยมฺปิ อรหาม ภควโต สรีรานํ ภาคํ, มยมฺปิ ภควโต สรีรานํ ถูปฺจ มหฺจ กริสฺสามา’’ติ.

อสฺโสสุํ โข อลฺลกปฺปกา พุลโย [ถูลโย (สฺยา.)] – ‘‘ภควา กิร กุสินารายํ ปรินิพฺพุโต’’ติ. อถ โข อลฺลกปฺปกา พุลโย โกสินารกานํ มลฺลานํ ทูตํ ปาเหสุํ – ‘‘ภควาปิ ขตฺติโย มยมฺปิ ขตฺติยา, มยมฺปิ อรหาม ภควโต สรีรานํ ภาคํ, มยมฺปิ ภควโต สรีรานํ ถูปฺจ มหฺจ กริสฺสามา’’ติ .

อสฺโสสุํ โข รามคามกา โกฬิยา – ‘‘ภควา กิร กุสินารายํ ปรินิพฺพุโต’’ติ. อถ โข รามคามกา โกฬิยา โกสินารกานํ มลฺลานํ ทูตํ ปาเหสุํ – ‘‘ภควาปิ ขตฺติโย มยมฺปิ ขตฺติยา, มยมฺปิ อรหาม ภควโต สรีรานํ ภาคํ, มยมฺปิ ภควโต สรีรานํ ถูปฺจ มหฺจ กริสฺสามา’’ติ.

อสฺโสสิ โข เวฏฺทีปโก พฺราหฺมโณ – ‘‘ภควา กิร กุสินารายํ ปรินิพฺพุโต’’ติ. อถ โข เวฏฺทีปโก พฺราหฺมโณ โกสินารกานํ มลฺลานํ ทูตํ ปาเหสิ – ‘‘ภควาปิ ขตฺติโย อหํ ปิสฺมิ พฺราหฺมโณ, อหมฺปิ อรหามิ ภควโต สรีรานํ ภาคํ, อหมฺปิ ภควโต สรีรานํ ถูปฺจ มหฺจ กริสฺสามี’’ติ.

อสฺโสสุํ โข ปาเวยฺยกา มลฺลา – ‘‘ภควา กิร กุสินารายํ ปรินิพฺพุโต’’ติ. อถ โข ปาเวยฺยกา มลฺลา โกสินารกานํ มลฺลานํ ทูตํ ปาเหสุํ – ‘‘ภควาปิ ขตฺติโย มยมฺปิ ขตฺติยา, มยมฺปิ อรหาม ภควโต สรีรานํ ภาคํ, มยมฺปิ ภควโต สรีรานํ ถูปฺจ มหฺจ กริสฺสามา’’ติ.

เอวํ วุตฺเต โกสินารกา มลฺลา เต สงฺเฆ คเณ เอตทโวจุํ – ‘‘ภควา อมฺหากํ คามกฺเขตฺเต ปรินิพฺพุโต, น มยํ ทสฺสาม ภควโต สรีรานํ ภาค’’นฺติ.

๒๓๗. เอวํ วุตฺเต โทโณ พฺราหฺมโณ เต สงฺเฆ คเณ เอตทโวจ –

‘‘สุณนฺตุ โภนฺโต มม เอกวาจํ,

อมฺหาก [ฉนฺทานุรกฺขณตฺถํ นิคฺคหีตโลโป]; พุทฺโธ อหุ ขนฺติวาโท;

หิ สาธุ ยํ อุตฺตมปุคฺคลสฺส,

สรีรภาเค สิยา สมฺปหาโร.

สพฺเพว โภนฺโต สหิตา สมคฺคา,

สมฺโมทมานา กโรมฏฺภาเค;

วิตฺถาริกา โหนฺตุ ทิสาสุ ถูปา,

พหู ชนา จกฺขุมโต ปสนฺนา’’ติ.

๒๓๘. ‘‘เตน หิ, พฺราหฺมณ, ตฺวฺเว ภควโต สรีรานิ อฏฺธา สมํ สวิภตฺตํ วิภชาหี’’ติ. ‘‘เอวํ, โภ’’ติ โข โทโณ พฺราหฺมโณ เตสํ สงฺฆานํ คณานํ ปฏิสฺสุตฺวา ภควโต สรีรานิ อฏฺธา สมํ สุวิภตฺตํ วิภชิตฺวา เต สงฺเฆ คเณ เอตทโวจ – ‘‘อิมํ เม โภนฺโต ตุมฺพํ ททนฺตุ อหมฺปิ ตุมฺพสฺส ถูปฺจ มหฺจ กริสฺสามี’’ติ. อทํสุ โข เต โทณสฺส พฺราหฺมณสฺส ตุมฺพํ.

อสฺโสสุํ โข ปิปฺปลิวนิยา [ปิปฺผลิวนิยา (สฺยา.)] โมริยา – ‘‘ภควา กิร กุสินารายํ ปรินิพฺพุโต’’ติ. อถ โข ปิปฺปลิวนิยา โมริยา โกสินารกานํ มลฺลานํ ทูตํ ปาเหสุํ – ‘‘ภควาปิ ขตฺติโย มยมฺปิ ขตฺติยา, มยมฺปิ อรหาม ภควโต สรีรานํ ภาคํ, มยมฺปิ ภควโต สรีรานํ ถูปฺจ มหฺจ กริสฺสามา’’ติ. ‘‘นตฺถิ ภควโต สรีรานํ ภาโค, วิภตฺตานิ ภควโต สรีรานิ. อิโต องฺคารํ หรถา’’ติ. เต ตโต องฺคารํ หรึสุ [อาหรึสุ (สฺยา. ก.)].

ธาตุถูปปูชา

๒๓๙. อถ โข ราชา มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต ราชคเห ภควโต สรีรานํ ถูปฺจ มหฺจ อกาสิ. เวสาลิกาปิ ลิจฺฉวี เวสาลิยํ ภควโต สรีรานํ ถูปฺจ มหฺจ อกํสุ. กปิลวตฺถุวาสีปิ สกฺยา กปิลวตฺถุสฺมึ ภควโต สรีรานํ ถูปฺจ มหฺจ อกํสุ. อลฺลกปฺปกาปิ พุลโย อลฺลกปฺเป ภควโต สรีรานํ ถูปฺจ มหฺจ อกํสุ. รามคามกาปิ โกฬิยา รามคาเม ภควโต สรีรานํ ถูปฺจ มหฺจ อกํสุ. เวฏฺทีปโกปิ พฺราหฺมโณ เวฏฺทีเป ภควโต สรีรานํ ถูปฺจ มหฺจ อกาสิ. ปาเวยฺยกาปิ มลฺลา ปาวายํ ภควโต สรีรานํ ถูปฺจ มหฺจ อกํสุ. โกสินารกาปิ มลฺลา กุสินารายํ ภควโต สรีรานํ ถูปฺจ มหฺจ อกํสุ. โทโณปิ พฺราหฺมโณ ตุมฺพสฺส ถูปฺจ มหฺจ อกาสิ. ปิปฺปลิวนิยาปิ โมริยา ปิปฺปลิวเน องฺคารานํ ถูปฺจ มหฺจ อกํสุ. อิติ อฏฺ สรีรถูปา นวโม ตุมฺพถูโป ทสโม องฺคารถูโป. เอวเมตํ ภูตปุพฺพนฺติ.

๒๔๐. อฏฺโทณํ จกฺขุมโต สรีรํ, สตฺตโทณํ ชมฺพุทีเป มเหนฺติ.

เอกฺจ โทณํ ปุริสวรุตฺตมสฺส, รามคาเม นาคราชา มเหติ.

เอกาหิ ทาา ติทิเวหิ ปูชิตา, เอกา ปน คนฺธารปุเร มหียติ;

กาลิงฺครฺโ วิชิเต ปุเนกํ, เอกํ ปน นาคราชา มเหติ.

ตสฺเสว เตเชน อยํ วสุนฺธรา,

อายาคเสฏฺเหิ มหี อลงฺกตา;

เอวํ อิมํ จกฺขุมโต สรีรํ,

สุสกฺกตํ สกฺกตสกฺกเตหิ.

เทวินฺทนาคินฺทนรินฺทปูชิโต ,

มนุสฺสินฺทเสฏฺเหิ ตเถว ปูชิโต;

ตํ วนฺทถ [ตํ ตํ วนฺทถ (สฺยา.)] ปฺชลิกา ลภิตฺวา,

พุทฺโธ หเว กปฺปสเตหิ ทุลฺลโภติ.

จตฺตาลีส สมา ทนฺตา, เกสา โลมา จ สพฺพโส;

เทวา หรึสุ เอเกกํ, จกฺกวาฬปรมฺปราติ.

มหาปรินิพฺพานสุตฺตํ นิฏฺิตํ ตติยํ.