📜

๔. มหาสุทสฺสนสุตฺตํ

๒๔๑. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา กุสินารายํ วิหรติ อุปวตฺตเน มลฺลานํ สาลวเน อนฺตเรน ยมกสาลานํ ปรินิพฺพานสมเย. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘มา, ภนฺเต, ภควา อิมสฺมึ ขุทฺทกนครเก อุชฺชงฺคลนครเก สาขานครเก ปรินิพฺพายิ. สนฺติ, ภนฺเต, อฺานิ มหานครานิ. เสยฺยถิทํ – จมฺปา, ราชคหํ, สาวตฺถิ, สาเกตํ, โกสมฺพี, พาราณสี; เอตฺถ ภควา ปรินิพฺพายตุ. เอตฺถ พหู ขตฺติยมหาสาลา พฺราหฺมณมหาสาลา คหปติมหาสาลา ตถาคเต อภิปฺปสนฺนา, เต ตถาคตสฺส สรีรปูชํ กริสฺสนฺตี’’ติ.

๒๔๒. ‘‘มา เหวํ, อานนฺท, อวจ; มา เหวํ, อานนฺท, อวจ – ขุทฺทกนครกํ อุชฺชงฺคลนครกํ สาขานครก’’นฺติ.

กุสาวตีราชธานี

‘‘ภูตปุพฺพํ, อานนฺท, ราชา มหาสุทสฺสโน นาม อโหสิ ขตฺติโย มุทฺธาวสิตฺโต [ขตฺติโย มุทฺธาภิสิตฺโต (ก.), จกฺกวตฺตีธมฺมิโก ธมฺมราชา (มหาปรินิพฺพานสุตฺต)] จาตุรนฺโต วิชิตาวี ชนปทตฺถาวริยปฺปตฺโต . รฺโ, อานนฺท, มหาสุทสฺสนสฺส อยํ กุสินารา กุสาวตี นาม ราชธานี อโหสิ. ปุรตฺถิเมน จ ปจฺฉิเมน จ ทฺวาทสโยชนานิ อายาเมน, อุตฺตเรน จ ทกฺขิเณน จ สตฺตโยชนานิ วิตฺถาเรน. กุสาวตี, อานนฺท, ราชธานี อิทฺธา เจว อโหสิ ผีตา จ พหุชนา จ อากิณฺณมนุสฺสา จ สุภิกฺขา จ. เสยฺยถาปิ, อานนฺท , เทวานํ อาฬกมนฺทา นาม ราชธานี อิทฺธา เจว โหติ ผีตา จ [อิทฺธา เจว อโหสิ ผีตา จ (สฺยา.)] พหุชนา จ อากิณฺณยกฺขา จ สุภิกฺขา จ; เอวเมว โข, อานนฺท, กุสาวตี ราชธานี อิทฺธา เจว อโหสิ ผีตา จ พหุชนา จ อากิณฺณมนุสฺสา จ สุภิกฺขา จ. กุสาวตี, อานนฺท , ราชธานี ทสหิ สทฺเทหิ อวิวิตฺตา อโหสิ ทิวา เจว รตฺติฺจ, เสยฺยถิทํ – หตฺถิสทฺเทน อสฺสสทฺเทน รถสทฺเทน เภริสทฺเทน มุทิงฺคสทฺเทน วีณาสทฺเทน คีตสทฺเทน สงฺขสทฺเทน สมฺมสทฺเทน ปาณิตาฬสทฺเทน ‘อสฺนาถ ปิวถ ขาทถา’ติ ทสเมน สทฺเทน.

‘‘กุสาวตี, อานนฺท, ราชธานี สตฺตหิ ปากาเรหิ ปริกฺขิตฺตา อโหสิ. เอโก ปากาโร โสวณฺณมโย, เอโก รูปิยมโย, เอโก เวฬุริยมโย, เอโก ผลิกมโย, เอโก โลหิตงฺกมโย [โลหิตงฺคมโย (ก.), โลหิตกมโย (พฺยากรเณสุ)], เอโก มสารคลฺลมโย, เอโก สพฺพรตนมโย. กุสาวติยา, อานนฺท, ราชธานิยา จตุนฺนํ วณฺณานํ ทฺวารานิ อเหสุํ. เอกํ ทฺวารํ โสวณฺณมยํ, เอกํ รูปิยมยํ, เอกํ เวฬุริยมยํ, เอกํ ผลิกมยํ . เอเกกสฺมึ ทฺวาเร สตฺต สตฺต เอสิกา นิขาตา อเหสุํ ติโปริสงฺคา ติโปริสนิขาตา ทฺวาทสโปริสา อุพฺเพเธน. เอกา เอสิกา โสวณฺณมยา, เอกา รูปิยมยา, เอกา เวฬุริยมยา, เอกา ผลิกมยา, เอกา โลหิตงฺกมยา, เอกา มสารคลฺลมยา, เอกา สพฺพรตนมยา. กุสาวตี, อานนฺท, ราชธานี สตฺตหิ ตาลปนฺตีหิ ปริกฺขิตฺตา อโหสิ. เอกา ตาลปนฺติ โสวณฺณมยา, เอกา รูปิยมยา, เอกา เวฬุริยมยา, เอกา ผลิกมยา, เอกา โลหิตงฺกมยา, เอกา มสารคลฺลมยา, เอกา สพฺพรตนมยา. โสวณฺณมยสฺส ตาลสฺส โสวณฺณมโย ขนฺโธ อโหสิ, รูปิยมยานิ ปตฺตานิ จ ผลานิ จ. รูปิยมยสฺส ตาลสฺส รูปิยมโย ขนฺโธ อโหสิ, โสวณฺณมยานิ ปตฺตานิ จ ผลานิ จ. เวฬุริยมยสฺส ตาลสฺส เวฬุริยมโย ขนฺโธ อโหสิ, ผลิกมยานิ ปตฺตานิ จ ผลานิ จ. ผลิกมยสฺส ตาลสฺส ผลิกมโย ขนฺโธ อโหสิ, เวฬุริยมยานิ ปตฺตานิ จ ผลานิ จ. โลหิตงฺกมยสฺส ตาลสฺส โลหิตงฺกมโย ขนฺโธ อโหสิ, มสารคลฺลมยานิ ปตฺตานิ จ ผลานิ จ. มสารคลฺลมยสฺส ตาลสฺส มสารคลฺลมโย ขนฺโธ อโหสิ, โลหิตงฺกมยานิ ปตฺตานิ จ ผลานิ จ. สพฺพรตนมยสฺส ตาลสฺส สพฺพรตนมโย ขนฺโธ อโหสิ, สพฺพรตนมยานิ ปตฺตานิ จ ผลานิ จ. ตาสํ โข ปนานนฺท, ตาลปนฺตีนํ วาเตริตานํ สทฺโท อโหสิ วคฺคุ จ รชนีโย จ ขมนีโย [กมนีโย (สี. สฺยา. ปี.)] จ มทนีโย จ. เสยฺยถาปิ, อานนฺท, ปฺจงฺคิกสฺส ตูริยสฺส สุวินีตสฺส สุปฺปฏิตาฬิตสฺส สุกุสเลหิ สมนฺนาหตสฺส สทฺโท โหติ วคฺคุ จ รชนีโย จ ขมนีโย จ มทนีโย จ , เอวเมว โข, อานนฺท, ตาสํ ตาลปนฺตีนํ วาเตริตานํ สทฺโท อโหสิ วคฺคุ จ รชนีโย จ ขมนีโย จ มทนีโย จ. เย โข ปนานนฺท, เตน สมเยน กุสาวติยา ราชธานิยา ธุตฺตา อเหสุํ โสณฺฑา ปิปาสา, เต ตาสํ ตาลปนฺตีนํ วาเตริตานํ สทฺเทน ปริจาเรสุํ.

จกฺกรตนํ

๒๔๓. ‘‘ราชา , อานนฺท, มหาสุทสฺสโน สตฺตหิ รตเนหิ สมนฺนาคโต อโหสิ จตูหิ จ อิทฺธีหิ. กตเมหิ สตฺตหิ? อิธานนฺท, รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส ตทหุโปสเถ ปนฺนรเส สีสํนฺหาตสฺส อุโปสถิกสฺส อุปริปาสาทวรคตสฺส ทิพฺพํ จกฺกรตนํ ปาตุรโหสิ สหสฺสารํ สเนมิกํ สนาภิกํ สพฺพาการปริปูรํ. ทิสฺวา รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส เอตทโหสิ – ‘สุตํ โข ปเนตํ – ‘‘ยสฺส รฺโ ขตฺติยสฺส มุทฺธาวสิตฺตสฺส ตทหุโปสเถ ปนฺนรเส สีสํนฺหาตสฺส อุโปสถิกสฺส อุปริปาสาทวรคตสฺส ทิพฺพํ จกฺกรตนํ ปาตุภวติ สหสฺสารํ สเนมิกํ สนาภิกํ สพฺพาการปริปูรํ, โส โหติ ราชา จกฺกวตฺตี’’ติ. อสฺสํ นุ โข อหํ ราชา จกฺกวตฺตี’ติ.

๒๔๔. ‘‘อถ โข, อานนฺท, ราชา มหาสุทสฺสโน อุฏฺายาสนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา วาเมน หตฺเถน สุวณฺณภิงฺการํ คเหตฺวา ทกฺขิเณน หตฺเถน จกฺกรตนํ อพฺภุกฺกิริ – ‘ปวตฺตตุ ภวํ จกฺกรตนํ, อภิวิชินาตุ ภวํ จกฺกรตน’นฺติ. อถ โข ตํ, อานนฺท, จกฺกรตนํ ปุรตฺถิมํ ทิสํ ปวตฺติ [ปวตฺตติ (สฺยา. ก.)], อนฺวเทว [อนุเทว (สฺยา.)] ราชา มหาสุทสฺสโน สทฺธึ จตุรงฺคินิยา เสนาย, ยสฺมึ โข ปนานนฺท, ปเทเส จกฺกรตนํ ปติฏฺาสิ, ตตฺถ ราชา มหาสุทสฺสโน วาสํ อุปคจฺฉิ สทฺธึ จตุรงฺคินิยา เสนาย. เย โข ปนานนฺท, ปุรตฺถิมาย ทิสาย ปฏิราชาโน, เต ราชานํ มหาสุทสฺสนํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวมาหํสุ – ‘เอหิ โข มหาราช, สฺวาคตํ เต มหาราช, สกํ เต มหาราช, อนุสาส มหาราชา’ติ. ราชา มหาสุทสฺสโน เอวมาห – ‘ปาโณ น หนฺตพฺโพ, อทินฺนํ น อาทาตพฺพํ, กาเมสุ มิจฺฉา น จริตพฺพา, มุสา น ภณิตพฺพา, มชฺชํ น ปาตพฺพํ, ยถาภุตฺตฺจ ภุฺชถา’ติ . เย โข ปนานนฺท, ปุรตฺถิมาย ทิสาย ปฏิราชาโน, เต รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส อนุยนฺตา อเหสุํ. อถ โข ตํ, อานนฺท, จกฺกรตนํ ปุรตฺถิมํ สมุทฺทํ อชฺโฌคาเหตฺวา ปจฺจุตฺตริตฺวา ทกฺขิณํ ทิสํ ปวตฺติ…เป… ทกฺขิณํ สมุทฺทํ อชฺโฌคาเหตฺวา ปจฺจุตฺตริตฺวา ปจฺฉิมํ ทิสํ ปวตฺติ…เป… ปจฺฉิมํ สมุทฺทํ อชฺโฌคาเหตฺวา ปจฺจุตฺตริตฺวา อุตฺตรํ ทิสํ ปวตฺติ, อนฺวเทว ราชา มหาสุทสฺสโน สทฺธึ จตุรงฺคินิยา เสนาย. ยสฺมึ โข ปนานนฺท, ปเทเส จกฺกรตนํ ปติฏฺาสิ, ตตฺถ ราชา มหาสุทสฺสโน วาสํ อุปคจฺฉิ สทฺธึ จตุรงฺคินิยา เสนาย. เย โข ปนานนฺท, อุตฺตราย ทิสาย ปฏิราชาโน, เต ราชานํ มหาสุทสฺสนํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวมาหํสุ – ‘เอหิ โข มหาราช, สฺวาคตํ เต มหาราช, สกํ เต มหาราช, อนุสาส มหาราชา’ติ. ราชา มหาสุทสฺสโน เอวมาห – ‘ปาโณ น หนฺตพฺโพ, อทินฺนํ น อาทาตพฺพํ, กาเมสุ มิจฺฉา น จริตพฺพา, มุสา น ภณิตพฺพา, มชฺชํ น ปาตพฺพํ , ยถาภุตฺตฺจ ภุฺชถา’ติ. เย โข ปนานนฺท, อุตฺตราย ทิสาย ปฏิราชาโน , เต รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส อนุยนฺตา อเหสุํ.

๒๔๕. ‘‘อถ โข ตํ, อานนฺท, จกฺกรตนํ สมุทฺทปริยนฺตํ ปถวึ อภิวิชินิตฺวา กุสาวตึ ราชธานึ ปจฺจาคนฺตฺวา รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส อนฺเตปุรทฺวาเร อตฺถกรณปมุเข อกฺขาหตํ มฺเ อฏฺาสิ รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส อนฺเตปุรํ อุปโสภยมานํ. รฺโ, อานนฺท, มหาสุทสฺสนสฺส เอวรูปํ จกฺกรตนํ ปาตุรโหสิ.

หตฺถิรตนํ

๒๔๖. ‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส หตฺถิรตนํ ปาตุรโหสิ สพฺพเสโต สตฺตปฺปติฏฺโ อิทฺธิมา เวหาสงฺคโม อุโปสโถ นาม นาคราชา. ตํ ทิสฺวา รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส จิตฺตํ ปสีทิ – ‘ภทฺทกํ วต โภ หตฺถิยานํ, สเจ ทมถํ อุเปยฺยา’ติ. อถ โข ตํ, อานนฺท, หตฺถิรตนํ – เสยฺยถาปิ นาม คนฺธหตฺถาชานิโย ทีฆรตฺตํ สุปริทนฺโต, เอวเมว ทมถํ อุปคจฺฉิ. ภูตปุพฺพํ, อานนฺท, ราชา มหาสุทสฺสโน ตเมว หตฺถิรตนํ วีมํสมาโน ปุพฺพณฺหสมยํ อภิรุหิตฺวา สมุทฺทปริยนฺตํ ปถวึ อนุยายิตฺวา กุสาวตึ ราชธานึ ปจฺจาคนฺตฺวา ปาตราสมกาสิ. รฺโ, อานนฺท, มหาสุทสฺสนสฺส เอวรูปํ หตฺถิรตนํ ปาตุรโหสิ.

อสฺสรตนํ

๒๔๗. ‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส อสฺสรตนํ ปาตุรโหสิ สพฺพเสโต กาฬสีโส มุฺชเกโส อิทฺธิมา เวหาสงฺคโม วลาหโก นาม อสฺสราชา. ตํ ทิสฺวา รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส จิตฺตํ ปสีทิ – ‘ภทฺทกํ วต โภ อสฺสยานํ สเจ ทมถํ อุเปยฺยา’ติ. อถ โข ตํ , อานนฺท, อสฺสรตนํ เสยฺยถาปิ นาม ภทฺโท อสฺสาชานิโย ทีฆรตฺตํ สุปริทนฺโต, เอวเมว ทมถํ อุปคจฺฉิ. ภูตปุพฺพํ, อานนฺท, ราชา มหาสุทสฺสโน ตเมว อสฺสรตนํ วีมํสมาโน ปุพฺพณฺหสมยํ อภิรุหิตฺวา สมุทฺทปริยนฺตํ ปถวึ อนุยายิตฺวา กุสาวตึ ราชธานึ ปจฺจาคนฺตฺวา ปาตราสมกาสิ. รฺโ, อานนฺท, มหาสุทสฺสนสฺส เอวรูปํ อสฺสรตนํ ปาตุรโหสิ.

มณิรตนํ

๒๔๘. ‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส มณิรตนํ ปาตุรโหสิ. โส อโหสิ มณิ เวฬุริโย สุโภ ชาติมา อฏฺํโส สุปริกมฺมกโต อจฺโฉ วิปฺปสนฺโน อนาวิโล สพฺพาการสมฺปนฺโน. ตสฺส โข ปนานนฺท, มณิรตนสฺส อาภา สมนฺตา โยชนํ ผุฏา อโหสิ. ภูตปุพฺพํ, อานนฺท, ราชา มหาสุทสฺสโน ตเมว มณิรตนํ วีมํสมาโน จตุรงฺคินึ เสนํ สนฺนยฺหิตฺวา มณึ ธชคฺคํ อาโรเปตฺวา รตฺตนฺธการติมิสาย ปายาสิ. เย โข ปนานนฺท, สมนฺตา คามา อเหสุํ, เต เตโนภาเสน กมฺมนฺเต ปโยเชสุํ ทิวาติ มฺมานา. รฺโ, อานนฺท, มหาสุทสฺสนสฺส เอวรูปํ มณิรตนํ ปาตุรโหสิ.

อิตฺถิรตนํ

๒๔๙. ‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส อิตฺถิรตนํ ปาตุรโหสิ อภิรูปา ทสฺสนียา ปาสาทิกา ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคตา นาติทีฆา นาติรสฺสา นาติกิสา นาติถูลา นาติกาฬิกา นาจฺโจทาตา อติกฺกนฺตา มานุสิวณฺณํ [มานุสฺสิวณฺณํ (สฺยา.)] อปฺปตฺตา ทิพฺพวณฺณํ. ตสฺส โข ปนานนฺท, อิตฺถิรตนสฺส เอวรูโป กายสมฺผสฺโส โหติ, เสยฺยถาปิ นาม ตูลปิจุโน วา กปฺปาสปิจุโน วา. ตสฺส โข ปนานนฺท, อิตฺถิรตนสฺส สีเต อุณฺหานิ คตฺตานิ โหนฺติ, อุณฺเห สีตานิ. ตสฺส โข ปนานนฺท, อิตฺถิรตนสฺส กายโต จนฺทนคนฺโธ วายติ, มุขโต อุปฺปลคนฺโธ. ตํ โข ปนานนฺท, อิตฺถิรตนํ รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส ปุพฺพุฏฺายินี อโหสิ ปจฺฉานิปาตินี กิงฺการปฏิสฺสาวินี มนาปจารินี ปิยวาทินี. ตํ โข ปนานนฺท, อิตฺถิรตนํ ราชานํ มหาสุทสฺสนํ มนสาปิ โน อติจริ [อติจรี (ก.), อติจารี (สี. สฺยา. ปี.)], กุโต ปน กาเยน. รฺโ, อานนฺท, มหาสุทสฺสนสฺส เอวรูปํ อิตฺถิรตนํ ปาตุรโหสิ.

คหปติรตนํ

๒๕๐. ‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส คหปติรตนํ ปาตุรโหสิ. ตสฺส กมฺมวิปากชํ ทิพฺพจกฺขุ ปาตุรโหสิ เยน นิธึ ปสฺสติ สสฺสามิกมฺปิ อสฺสามิกมฺปิ. โส ราชานํ มหาสุทสฺสนํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวมาห – ‘อปฺโปสฺสุกฺโก ตฺวํ, เทว, โหหิ, อหํ เต ธเนน ธนกรณียํ กริสฺสามี’ติ. ภูตปุพฺพํ, อานนฺท, ราชา มหาสุทสฺสโน ตเมว คหปติรตนํ วีมํสมาโน นาวํ อภิรุหิตฺวา มชฺเฌ คงฺคาย นทิยา โสตํ โอคาหิตฺวา คหปติรตนํ เอตทโวจ – ‘อตฺโถ เม, คหปติ, หิรฺสุวณฺเณนา’ติ. ‘เตน หิ, มหาราช, เอกํ ตีรํ นาวา อุเปตู’ติ. ‘อิเธว เม, คหปติ, อตฺโถ หิรฺสุวณฺเณนา’ติ. อถ โข ตํ, อานนฺท, คหปติรตนํ อุโภหิ หตฺเถหิ อุทกํ โอมสิตฺวา ปูรํ หิรฺสุวณฺณสฺส กุมฺภึ อุทฺธริตฺวา ราชานํ มหาสุทสฺสนํ เอตทโวจ – ‘อลเมตฺตาวตา มหาราช, กตเมตฺตาวตา มหาราช, ปูชิตเมตฺตาวตา มหาราชา’ติ? ราชา มหาสุทสฺสโน เอวมาห – ‘อลเมตฺตาวตา คหปติ, กตเมตฺตาวตา คหปติ, ปูชิตเมตฺตาวตา คหปตี’ติ. รฺโ , อานนฺท, มหาสุทสฺสนสฺส เอวรูปํ คหปติรตนํ ปาตุรโหสิ.

ปริณายกรตนํ

๒๕๑. ‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส ปริณายกรตนํ ปาตุรโหสิ ปณฺฑิโต วิยตฺโต เมธาวี ปฏิพโล ราชานํ มหาสุทสฺสนํ อุปยาเปตพฺพํ อุปยาเปตุํ, อปยาเปตพฺพํ อปยาเปตุํ, เปตพฺพํ เปตุํ. โส ราชานํ มหาสุทสฺสนํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวมาห – ‘อปฺโปสฺสุกฺโก ตฺวํ, เทว, โหหิ, อหมนุสาสิสฺสามี’ติ. รฺโ, อานนฺท, มหาสุทสฺสนสฺส เอวรูปํ ปริณายกรตนํ ปาตุรโหสิ.

‘‘ราชา, อานนฺท, มหาสุทสฺสโน อิเมหิ สตฺตหิ รตเนหิ สมนฺนาคโต อโหสิ.

จตุอิทฺธิสมนฺนาคโต

๒๕๒. ‘‘ราชา, อานนฺท, มหาสุทสฺสโน จตูหิ อิทฺธีหิ สมนฺนาคโต อโหสิ. กตมาหิ จตูหิ อิทฺธีหิ? อิธานนฺท, ราชา มหาสุทสฺสโน อภิรูโป อโหสิ ทสฺสนีโย ปาสาทิโก ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคโต อติวิย อฺเหิ มนุสฺเสหิ. ราชา, อานนฺท, มหาสุทสฺสโน อิมาย ปมาย อิทฺธิยา สมนฺนาคโต อโหสิ.

‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ราชา มหาสุทสฺสโน ทีฆายุโก อโหสิ จิรฏฺิติโก อติวิย อฺเหิ มนุสฺเสหิ. ราชา, อานนฺท, มหาสุทสฺสโน อิมาย ทุติยาย อิทฺธิยา สมนฺนาคโต อโหสิ.

‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ราชา มหาสุทสฺสโน อปฺปาพาโธ อโหสิ อปฺปาตงฺโก สมเวปากินิยา คหณิยา สมนฺนาคโต นาติสีตาย นาจฺจุณฺหาย อติวิย อฺเหิ มนุสฺเสหิ. ราชา, อานนฺท, มหาสุทสฺสโน อิมาย ตติยาย อิทฺธิยา สมนฺนาคโต อโหสิ.

‘‘ปุน จปรํ , อานนฺท, ราชา มหาสุทสฺสโน พฺราหฺมณคหปติกานํ ปิโย อโหสิ มนาโป. เสยฺยถาปิ, อานนฺท, ปิตา ปุตฺตานํ ปิโย โหติ มนาโป, เอวเมว โข, อานนฺท, ราชา มหาสุทสฺสโน พฺราหฺมณคหปติกานํ ปิโย อโหสิ มนาโป. รฺโปิ, อานนฺท, มหาสุทสฺสนสฺส พฺราหฺมณคหปติกา ปิยา อเหสุํ มนาปา. เสยฺยถาปิ, อานนฺท, ปิตุ ปุตฺตา ปิยา โหนฺติ มนาปา, เอวเมว โข, อานนฺท, รฺโปิ มหาสุทสฺสนสฺส พฺราหฺมณคหปติกา ปิยา อเหสุํ มนาปา.

‘‘ภูตปุพฺพํ, อานนฺท, ราชา มหาสุทสฺสโน จตุรงฺคินิยา เสนาย อุยฺยานภูมึ นิยฺยาสิ. อถ โข, อานนฺท, พฺราหฺมณคหปติกา ราชานํ มหาสุทสฺสนํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวมาหํสุ – ‘อตรมาโน, เทว, ยาหิ, ยถา ตํ มยํ จิรตรํ ปสฺเสยฺยามา’ติ. ราชาปิ, อานนฺท, มหาสุทสฺสโน สารถึ อามนฺเตสิ – ‘อตรมาโน, สารถิ, รถํ เปเสหิ, ยถา อหํ พฺราหฺมณคหปติเก จิรตรํ ปสฺเสยฺย’นฺติ. ราชา, อานนฺท, มหาสุทสฺสโน อิมาย จตุตฺถิยา [จตุตฺถาย (สฺยา.)] อิทฺธิยา สมนฺนาคโต อโหสิ. ราชา, อานนฺท, มหาสุทสฺสโน อิมาหิ จตูหิ อิทฺธีหิ สมนฺนาคโต อโหสิ.

ธมฺมปาสาทโปกฺขรณี

๒๕๓. ‘‘อถ โข, อานนฺท, รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส เอตทโหสิ – ‘ยํนูนาหํ อิมาสุ ตาลนฺตริกาสุ ธนุสเต ธนุสเต โปกฺขรณิโย มาเปยฺย’นฺติ.

‘‘มาเปสิ โข, อานนฺท, ราชา มหาสุทสฺสโน ตาสุ ตาลนฺตริกาสุ ธนุสเต ธนุสเต โปกฺขรณิโย. ตา โข ปนานนฺท, โปกฺขรณิโย จตุนฺนํ วณฺณานํ อิฏฺกาหิ จิตา อเหสุํ – เอกา อิฏฺกา โสวณฺณมยา, เอกา รูปิยมยา, เอกา เวฬุริยมยา, เอกา ผลิกมยา.

‘‘ตาสุ โข ปนานนฺท, โปกฺขรณีสุ จตฺตาริ จตฺตาริ โสปานานิ อเหสุํ จตุนฺนํ วณฺณานํ, เอกํ โสปานํ โสวณฺณมยํ เอกํ รูปิยมยํ เอกํ เวฬุริยมยํ เอกํ ผลิกมยํ. โสวณฺณมยสฺส โสปานสฺส โสวณฺณมยา ถมฺภา อเหสุํ, รูปิยมยา สูจิโย จ อุณฺหีสฺจ. รูปิยมยสฺส โสปานสฺส รูปิยมยา ถมฺภา อเหสุํ, โสวณฺณมยา สูจิโย จ อุณฺหีสฺจ. เวฬุริยมยสฺส โสปานสฺส เวฬุริยมยา ถมฺภา อเหสุํ, ผลิกมยา สูจิโย จ อุณฺหีสฺจ. ผลิกมยสฺส โสปานสฺส ผลิกมยา ถมฺภา อเหสุํ, เวฬุริยมยา สูจิโย จ อุณฺหีสฺจ. ตา โข ปนานนฺท, โปกฺขรณิโย ทฺวีหิ เวทิกาหิ ปริกฺขิตฺตา อเหสุํ เอกา เวทิกา โสวณฺณมยา, เอกา รูปิยมยา. โสวณฺณมยาย เวทิกาย โสวณฺณมยา ถมฺภา อเหสุํ, รูปิยมยา สูจิโย จ อุณฺหีสฺจ. รูปิยมยาย เวทิกาย รูปิยมยา ถมฺภา อเหสุํ, โสวณฺณมยา สูจิโย จ อุณฺหีสฺจ. อถ โข, อานนฺท , รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส เอตทโหสิ – ‘ยํนูนาหํ อิมาสุ โปกฺขรณีสุ เอวรูปํ มาลํ โรปาเปยฺยํ อุปฺปลํ ปทุมํ กุมุทํ ปุณฺฑรีกํ สพฺโพตุกํ สพฺพชนสฺส อนาวฏ’นฺติ. โรปาเปสิ โข , อานนฺท, ราชา มหาสุทสฺสโน ตาสุ โปกฺขรณีสุ เอวรูปํ มาลํ อุปฺปลํ ปทุมํ กุมุทํ ปุณฺฑรีกํ สพฺโพตุกํ สพฺพชนสฺส อนาวฏํ.

๒๕๔. ‘‘อถ โข, อานนฺท, รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส เอตทโหสิ – ‘ยํนูนาหํ อิมาสํ โปกฺขรณีนํ ตีเร นฺหาปเก ปุริเส เปยฺยํ, เย อาคตาคตํ ชนํ นฺหาเปสฺสนฺตี’ติ. เปสิ โข, อานนฺท, ราชา มหาสุทสฺสโน ตาสํ โปกฺขรณีนํ ตีเร นฺหาปเก ปุริเส, เย อาคตาคตํ ชนํ นฺหาเปสุํ.

‘‘อถ โข, อานนฺท, รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส เอตทโหสิ – ‘ยํนูนาหํ อิมาสํ โปกฺขรณีนํ ตีเร เอวรูปํ ทานํ ปฏฺเปยฺยํ – อนฺนํ อนฺนฏฺิกสฺส [อนฺนตฺถิตสฺส (สี. สฺยา. กํ. ปี.), เอวํ สพฺพตฺถ ปกภิรูเปเนว ทิสฺสติ], ปานํ ปานฏฺิกสฺส, วตฺถํ วตฺถฏฺิกสฺส, ยานํ ยานฏฺิกสฺส, สยนํ สยนฏฺิกสฺส, อิตฺถึ อิตฺถิฏฺิกสฺส, หิรฺํ หิรฺฏฺิกสฺส, สุวณฺณํ สุวณฺณฏฺิกสฺสา’ติ. ปฏฺเปสิ โข, อานนฺท, ราชา มหาสุทสฺสโน ตาสํ โปกฺขรณีนํ ตีเร เอวรูปํ ทานํ – อนฺนํ อนฺนฏฺิกสฺส, ปานํ ปานฏฺิกสฺส, วตฺถํ วตฺถฏฺิกสฺส, ยานํ ยานฏฺิกสฺส, สยนํ สยนฏฺิกสฺส, อิตฺถึ อิตฺถิฏฺิกสฺส, หิรฺํ หิรฺฏฺิกสฺส, สุวณฺณํ สุวณฺณฏฺิกสฺส.

๒๕๕. ‘‘อถ โข, อานนฺท, พฺราหฺมณคหปติกา ปหูตํ สาปเตยฺยํ อาทาย ราชานํ มหาสุทสฺสนํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวมาหํสุ – ‘อิทํ, เทว, ปหูตํ สาปเตยฺยํ เทวฺเว อุทฺทิสฺส อาภตํ, ตํ เทโว ปฏิคฺคณฺหตู’ติ. ‘อลํ โภ, มมปิทํ ปหูตํ สาปเตยฺยํ ธมฺมิเกน พลินา อภิสงฺขตํ, ตฺจ โว โหตุ, อิโต จ ภิยฺโย หรถา’ติ. เต รฺา ปฏิกฺขิตฺตา เอกมนฺตํ อปกฺกมฺม เอวํ สมจินฺเตสุํ – ‘น โข เอตํ อมฺหากํ ปติรูปํ, ยํ มยํ อิมานิ สาปเตยฺยานิ ปุนเทว สกานิ ฆรานิ ปฏิหเรยฺยาม. ยํนูน มยํ รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส นิเวสนํ มาเปยฺยามา’ติ. เต ราชานํ มหาสุทสฺสนํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวมาหํสุ – ‘นิเวสนํ เต เทว, มาเปสฺสามา’ติ. อธิวาเสสิ โข, อานนฺท, ราชา มหาสุทสฺสโน ตุณฺหีภาเวน.

๒๕๖. ‘‘อถ โข, อานนฺท, สกฺโก เทวานมินฺโท รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย วิสฺสกมฺมํ [วิสุกมฺมํ (ก.)] เทวปุตฺตํ อามนฺเตสิ – ‘เอหิ ตฺวํ, สมฺม วิสฺสกมฺม, รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส นิเวสนํ มาเปหิ ธมฺมํ นาม ปาสาท’นฺติ. ‘เอวํ ภทฺทนฺตวา’ติ โข, อานนฺท, วิสฺสกมฺโม เทวปุตฺโต สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส ปฏิสฺสุตฺวา เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย ปสาริตํ วา พาหํ สมิฺเชยฺย, เอวเมว เทเวสุ ตาวตึเสสุ อนฺตรหิโต รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส ปุรโต ปาตุรโหสิ. อถ โข, อานนฺท, วิสฺสกมฺโม เทวปุตฺโต ราชานํ มหาสุทสฺสนํ เอตทโวจ – ‘นิเวสนํ เต เทว, มาเปสฺสามิ ธมฺมํ นาม ปาสาท’นฺติ. อธิวาเสสิ โข, อานนฺท, ราชา มหาสุทสฺสโน ตุณฺหีภาเวน.

‘‘มาเปสิ โข, อานนฺท, วิสฺสกมฺโม เทวปุตฺโต รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส นิเวสนํ ธมฺมํ นาม ปาสาทํ. ธมฺโม, อานนฺท, ปาสาโท ปุรตฺถิเมน ปจฺฉิเมน จ โยชนํ อายาเมน อโหสิ. อุตฺตเรน ทกฺขิเณน จ อฑฺฒโยชนํ วิตฺถาเรน. ธมฺมสฺส, อานนฺท, ปาสาทสฺส ติโปริสํ อุจฺจตเรน วตฺถุ จิตํ อโหสิ จตุนฺนํ วณฺณานํ อิฏฺกาหิ – เอกา อิฏฺกา โสวณฺณมยา, เอกา รูปิยมยา, เอกา เวฬุริยมยา, เอกา ผลิกมยา.

‘‘ธมฺมสฺส, อานนฺท, ปาสาทสฺส จตุราสีติ ถมฺภสหสฺสานิ อเหสุํ จตุนฺนํ วณฺณานํ – เอโก ถมฺโภ โสวณฺณมโย, เอโก รูปิยมโย, เอโก เวฬุริยมโย, เอโก ผลิกมโย. ธมฺโม, อานนฺท, ปาสาโท จตุนฺนํ วณฺณานํ ผลเกหิ สนฺถโต อโหสิ – เอกํ ผลกํ โสวณฺณมยํ, เอกํ รูปิยมยํ, เอกํ เวฬุริยมยํ, เอกํ ผลิกมยํ.

‘‘ธมฺมสฺส, อานนฺท, ปาสาทสฺส จตุวีสติ โสปานานิ อเหสุํ จตุนฺนํ วณฺณานํ – เอกํ โสปานํ โสวณฺณมยํ, เอกํ รูปิยมยํ, เอกํ เวฬุริยมยํ, เอกํ ผลิกมยํ. โสวณฺณมยสฺส โสปานสฺส โสวณฺณมยา ถมฺภา อเหสุํ รูปิยมยา สูจิโย จ อุณฺหีสฺจ. รูปิยมยสฺส โสปานสฺส รูปิยมยา ถมฺภา อเหสุํ โสวณฺณมยา สูจิโย จ อุณฺหีสฺจ. เวฬุริยมยสฺส โสปานสฺส เวฬุริยมยา ถมฺภา อเหสุํ ผลิกมยา สูจิโย จ อุณฺหีสฺจ. ผลิกมยสฺส โสปานสฺส ผลิกมยา ถมฺภา อเหสุํ เวฬุริยมยา สูจิโย จ อุณฺหีสฺจ.

‘‘ธมฺเม, อานนฺท, ปาสาเท จตุราสีติ กูฏาคารสหสฺสานิ อเหสุํ จตุนฺนํ วณฺณานํ – เอกํ กูฏาคารํ โสวณฺณมยํ, เอกํ รูปิยมยํ, เอกํ เวฬุริยมยํ , เอกํ ผลิกมยํ. โสวณฺณมเย กูฏาคาเร รูปิยมโย ปลฺลงฺโก ปฺตฺโต อโหสิ, รูปิยมเย กูฏาคาเร โสวณฺณมโย ปลฺลงฺโก ปฺตฺโต อโหสิ, เวฬุริยมเย กูฏาคาเร ทนฺตมโย ปลฺลงฺโก ปฺตฺโต อโหสิ, ผลิกมเย กูฏาคาเร สารมโย ปลฺลงฺโก ปฺตฺโต อโหสิ. โสวณฺณมยสฺส กูฏาคารสฺส ทฺวาเร รูปิยมโย ตาโล ิโต อโหสิ, ตสฺส รูปิยมโย ขนฺโธ โสวณฺณมยานิ ปตฺตานิ จ ผลานิ จ. รูปิยมยสฺส กูฏาคารสฺส ทฺวาเร โสวณฺณมโย ตาโล ิโต อโหสิ, ตสฺส โสวณฺณมโย ขนฺโธ, รูปิยมยานิ ปตฺตานิ จ ผลานิ จ. เวฬุริยมยสฺส กูฏาคารสฺส ทฺวาเร ผลิกมโย ตาโล ิโต อโหสิ, ตสฺส ผลิกมโย ขนฺโธ, เวฬุริยมยานิ ปตฺตานิ จ ผลานิ จ. ผลิกมยสฺส กูฏาคารสฺส ทฺวาเร เวฬุริยมโย ตาโล ิโต อโหสิ, ตสฺส เวฬุริยมโย ขนฺโธ, ผลิกมยานิ ปตฺตานิ จ ผลานิ จ.

๒๕๗. ‘‘อถ โข, อานนฺท, รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส เอตทโหสิ – ‘ยํนูนาหํ มหาวิยูหสฺส กูฏาคารสฺส ทฺวาเร สพฺพโสวณฺณมยํ ตาลวนํ มาเปยฺยํ, ยตฺถ ทิวาวิหารํ นิสีทิสฺสามี’ติ. มาเปสิ โข, อานนฺท, ราชา มหาสุทสฺสโน มหาวิยูหสฺส กูฏาคารสฺส ทฺวาเร สพฺพโสวณฺณมยํ ตาลวนํ, ยตฺถ ทิวาวิหารํ นิสีทิ. ธมฺโม, อานนฺท , ปาสาโท ทฺวีหิ เวทิกาหิ ปริกฺขิตฺโต อโหสิ, เอกา เวทิกา โสวณฺณมยา, เอกา รูปิยมยา. โสวณฺณมยาย เวทิกาย โสวณฺณมยา ถมฺภา อเหสุํ, รูปิยมยา สูจิโย จ อุณฺหีสฺจ. รูปิยมยาย เวทิกาย รูปิยมยา ถมฺภา อเหสุํ, โสวณฺณมยา สูจิโย จ อุณฺหีสฺจ.

๒๕๘. ‘‘ธมฺโม, อานนฺท, ปาสาโท ทฺวีหิ กิงฺกิณิกชาเลหิ [กิงฺกณิกชาเลหิ (สฺยา. ก.)] ปริกฺขิตฺโต อโหสิ – เอกํ ชาลํ โสวณฺณมยํ เอกํ รูปิยมยํ. โสวณฺณมยสฺส ชาลสฺส รูปิยมยา กิงฺกิณิกา อเหสุํ, รูปิยมยสฺส ชาลสฺส โสวณฺณมยา กิงฺกิณิกา อเหสุํ. เตสํ โข ปนานนฺท, กิงฺกิณิกชาลานํ วาเตริตานํ สทฺโท อโหสิ วคฺคุ จ รชนีโย จ ขมนีโย จ มทนีโย จ. เสยฺยถาปิ, อานนฺท, ปฺจงฺคิกสฺส ตูริยสฺส สุวินีตสฺส สุปฺปฏิตาฬิตสฺส สุกุสเลหิ [กุสเลหิ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] สมนฺนาหตสฺส สทฺโท โหติ, วคฺคุ จ รชนีโย จ ขมนีโย จ มทนีโย จ, เอวเมว โข, อานนฺท, เตสํ กิงฺกิณิกชาลานํ วาเตริตานํ สทฺโท อโหสิ วคฺคุ จ รชนีโย จ ขมนีโย จ มทนีโย จ. เย โข ปนานนฺท, เตน สมเยน กุสาวติยา ราชธานิยา ธุตฺตา อเหสุํ โสณฺฑา ปิปาสา, เต เตสํ กิงฺกิณิกชาลานํ วาเตริตานํ สทฺเทน ปริจาเรสุํ. นิฏฺิโต โข ปนานนฺท, ธมฺโม ปาสาโท ทุทฺทิกฺโข อโหสิ มุสติ จกฺขูนิ. เสยฺยถาปิ, อานนฺท, วสฺสานํ ปจฺฉิเม มาเส สรทสมเย วิทฺเธ วิคตวลาหเก เทเว อาทิจฺโจ นภํ อพฺภุสฺสกฺกมาโน [อพฺภุคฺคมมาโน (สี. ปี. ก.)] ทุทฺทิกฺโข [ทุทิกฺโข (ปี.)] โหติ มุสติ จกฺขูนิ; เอวเมว โข, อานนฺท, ธมฺโม ปาสาโท ทุทฺทิกฺโข อโหสิ มุสติ จกฺขูนิ.

๒๕๙. ‘‘อถ โข, อานนฺท, รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส เอตทโหสิ – ‘ยํนูนาหํ ธมฺมสฺส ปาสาทสฺส ปุรโต ธมฺมํ นาม โปกฺขรณึ มาเปยฺย’นฺติ. มาเปสิ โข, อานนฺท, ราชา มหาสุทสฺสโน ธมฺมสฺส ปาสาทสฺส ปุรโต ธมฺมํ นาม โปกฺขรณึ. ธมฺมา, อานนฺท, โปกฺขรณี ปุรตฺถิเมน ปจฺฉิเมน จ โยชนํ อายาเมน อโหสิ, อุตฺตเรน ทกฺขิเณน จ อฑฺฒโยชนํ วิตฺถาเรน. ธมฺมา, อานนฺท, โปกฺขรณี จตุนฺนํ วณฺณานํ อิฏฺกาหิ จิตา อโหสิ – เอกา อิฏฺกา โสวณฺณมยา, เอกา รูปิยมยา, เอกา เวฬุริยมยา, เอกา ผลิกมยา.

‘‘ธมฺมาย, อานนฺท, โปกฺขรณิยา จตุวีสติ โสปานานิ อเหสุํ จตุนฺนํ วณฺณานํ – เอกํ โสปานํ โสวณฺณมยํ, เอกํ รูปิยมยํ, เอกํ เวฬุริยมยํ, เอกํ ผลิกมยํ. โสวณฺณมยสฺส โสปานสฺส โสวณฺณมยา ถมฺภา อเหสุํ รูปิยมยา สูจิโย จ อุณฺหีสฺจ. รูปิยมยสฺส โสปานสฺส รูปิยมยา ถมฺภา อเหสุํ โสวณฺณมยา สูจิโย จ อุณฺหีสฺจ. เวฬุริยมยสฺส โสปานสฺส เวฬุริยมยา ถมฺภา อเหสุํ ผลิกมยา สูจิโย จ อุณฺหีสฺจ. ผลิกมยสฺส โสปานสฺส ผลิกมยา ถมฺภา อเหสุํ เวฬุริยมยา สูจิโย จ อุณฺหีสฺจ.

‘‘ธมฺมา, อานนฺท, โปกฺขรณี ทฺวีหิ เวทิกาหิ ปริกฺขิตฺตา อโหสิ – เอกา เวทิกา โสวณฺณมยา, เอกา รูปิยมยา. โสวณฺณมยาย เวทิกาย โสวณฺณมยา ถมฺภา อเหสุํ รูปิยมยา สูจิโย จ อุณฺหีสฺจ. รูปิยมยาย เวทิกาย รูปิยมยา ถมฺภา อเหสุํ โสวณฺณมยา สูจิโย จ อุณฺหีสฺจ.

‘‘ธมฺมา, อานนฺท, โปกฺขรณี สตฺตหิ ตาลปนฺตีหิ ปริกฺขิตฺตา อโหสิ – เอกา ตาลปนฺติ โสวณฺณมยา, เอกา รูปิยมยา, เอกา เวฬุริยมยา, เอกา ผลิกมยา, เอกา โลหิตงฺกมยา, เอกา มสารคลฺลมยา, เอกา สพฺพรตนมยา. โสวณฺณมยสฺส ตาลสฺส โสวณฺณมโย ขนฺโธ อโหสิ รูปิยมยานิ ปตฺตานิ จ ผลานิ จ. รูปิยมยสฺส ตาลสฺส รูปิยมโย ขนฺโธ อโหสิ โสวณฺณมยานิ ปตฺตานิ จ ผลานิ จ. เวฬุริยมยสฺส ตาลสฺส เวฬุริยมโย ขนฺโธ อโหสิ ผลิกมยานิ ปตฺตานิ จ ผลานิ จ. ผลิกมยสฺส ตาลสฺส ผลิกมโย ขนฺโธ อโหสิ เวฬุริยมยานิ ปตฺตานิ จ ผลานิ จ. โลหิตงฺกมยสฺส ตาลสฺส โลหิตงฺกมโย ขนฺโธ อโหสิ มสารคลฺลมยานิ ปตฺตานิ จ ผลานิ จ. มสารคลฺลมยสฺส ตาลสฺส มสารคลฺลมโย ขนฺโธ อโหสิ โลหิตงฺกมยานิ ปตฺตานิ จ ผลานิ จ. สพฺพรตนมยสฺส ตาลสฺส สพฺพรตนมโย ขนฺโธ อโหสิ, สพฺพรตนมยานิ ปตฺตานิ จ ผลานิ จ. ตาสํ โข ปนานนฺท, ตาลปนฺตีนํ วาเตริตานํ สทฺโท อโหสิ, วคฺคุ จ รชนีโย จ ขมนีโย จ มทนีโย จ. เสยฺยถาปิ, อานนฺท, ปฺจงฺคิกสฺส ตูริยสฺส สุวินีตสฺส สุปฺปฏิตาฬิตสฺส สุกุสเลหิ สมนฺนาหตสฺส สทฺโท โหติ วคฺคุ จ รชนีโย จ ขมนีโย จ มทนีโย จ, เอวเมว โข, อานนฺท, ตาสํ ตาลปนฺตีนํ วาเตริตานํ สทฺโท อโหสิ วคฺคุ จ รชนีโย จ ขมนีโย จ มทนีโย จ. เย โข ปนานนฺท, เตน สมเยน กุสาวติยา ราชธานิยา ธุตฺตา อเหสุํ โสณฺฑา ปิปาสา, เต ตาสํ ตาลปนฺตีนํ วาเตริตานํ สทฺเทน ปริจาเรสุํ.

‘‘นิฏฺิเต โข ปนานนฺท, ธมฺเม ปาสาเท นิฏฺิตาย ธมฺมาย จ โปกฺขรณิยา ราชา มหาสุทสฺสโน ‘เย [เย โก ปนานนฺท (สฺยา. ก.)] เตน สมเยน สมเณสุ วา สมณสมฺมตา พฺราหฺมเณสุ วา พฺราหฺมณสมฺมตา’, เต สพฺพกาเมหิ สนฺตปฺเปตฺวา ธมฺมํ ปาสาทํ อภิรุหิ.

ปมภาณวาโร.

ฌานสมฺปตฺติ

๒๖๐. ‘‘อถ โข, อานนฺท, รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส เอตทโหสิ – ‘กิสฺส นุ โข เม อิทํ กมฺมสฺส ผลํ กิสฺส กมฺมสฺส วิปาโก, เยนาหํ เอตรหิ เอวํมหิทฺธิโก เอวํมหานุภาโว’ติ? อถ โข, อานนฺท, รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส เอตทโหสิ – ‘ติณฺณํ โข เม อิทํ กมฺมานํ ผลํ ติณฺณํ กมฺมานํ วิปาโก, เยนาหํ เอตรหิ เอวํมหิทฺธิโก เอวํมหานุภาโว, เสยฺยถิทํ ทานสฺส ทมสฺส สํยมสฺสา’ติ.

‘‘อถ โข, อานนฺท, ราชา มหาสุทสฺสโน เยน มหาวิยูหํ กูฏาคารํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มหาวิยูหสฺส กูฏาคารสฺส ทฺวาเร ิโต อุทานํ อุทาเนสิ – ‘ติฏฺ, กามวิตกฺก, ติฏฺ, พฺยาปาทวิตกฺก, ติฏฺ, วิหึสาวิตกฺก. เอตฺตาวตา กามวิตกฺก, เอตฺตาวตา พฺยาปาทวิตกฺก, เอตฺตาวตา วิหึสาวิตกฺกา’ติ.

๒๖๑. ‘‘อถ โข, อานนฺท, ราชา มหาสุทสฺสโน มหาวิยูหํ กูฏาคารํ ปวิสิตฺวา โสวณฺณมเย ปลฺลงฺเก นิสินฺโน วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหาสิ. วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหาสิ. ปีติยา จ วิราคา อุเปกฺขโก จ วิหาสิ, สโต จ สมฺปชาโน สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทสิ, ยํ ตํ อริยา อาจิกฺขนฺติ – ‘อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารี’ติ ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหาสิ. สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา ปุพฺเพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหาสิ.

๒๖๒. ‘‘อถ โข, อานนฺท, ราชา มหาสุทสฺสโน มหาวิยูหา กูฏาคารา นิกฺขมิตฺวา โสวณฺณมยํ กูฏาคารํ ปวิสิตฺวา รูปิยมเย ปลฺลงฺเก นิสินฺโน เมตฺตาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหาสิ. ตถา ทุติยํ ตถา ตติยํ ตถา จตุตฺถํ. อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ เมตฺตาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน ผริตฺวา วิหาสิ. กรุณาสหคเตน เจตสา…เป… มุทิตาสหคเตน เจตสา…เป… อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหาสิ ตถา ทุติยํ ตถา ตติยํ ตถา จตุตฺถํ. อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน ผริตฺวา วิหาสิ.

จตุราสีติ นครสหสฺสาทิ

๒๖๓. ‘‘รฺโ, อานนฺท, มหาสุทสฺสนสฺส จตุราสีติ นครสหสฺสานิ อเหสุํ กุสาวตีราชธานิปฺปมุขานิ; จตุราสีติ ปาสาทสหสฺสานิ อเหสุํ ธมฺมปาสาทปฺปมุขานิ; จตุราสีติ กูฏาคารสหสฺสานิ อเหสุํ มหาวิยูหกูฏาคารปฺปมุขานิ; จตุราสีติ ปลฺลงฺกสหสฺสานิ อเหสุํ โสวณฺณมยานิ รูปิยมยานิ ทนฺตมยานิ สารมยานิ โคนกตฺถตานิ ปฏิกตฺถตานิ ปฏลิกตฺถตานิ กทลิมิคปวรปจฺจตฺถรณานิ สอุตฺตรจฺฉทานิ อุภโตโลหิตกูปธานานิ; จตุราสีติ นาคสหสฺสานิ อเหสุํ โสวณฺณาลงฺการานิ โสวณฺณธชานิ เหมชาลปฏิจฺฉนฺนานิ อุโปสถนาคราชปฺปมุขานิ; จตุราสีติ อสฺสสหสฺสานิ อเหสุํ โสวณฺณาลงฺการานิ โสวณฺณธชานิ เหมชาลปฏิจฺฉนฺนานิ วลาหกอสฺสราชปฺปมุขานิ; จตุราสีติ รถสหสฺสานิ อเหสุํ สีหจมฺมปริวารานิ พฺยคฺฆจมฺมปริวารานิ ทีปิจมฺมปริวารานิ ปณฺฑุกมฺพลปริวารานิ โสวณฺณาลงฺการานิ โสวณฺณธชานิ เหมชาลปฏิจฺฉนฺนานิ เวชยนฺตรถปฺปมุขานิ; จตุราสีติ มณิสหสฺสานิ อเหสุํ มณิรตนปฺปมุขานิ; จตุราสีติ อิตฺถิสหสฺสานิ อเหสุํ สุภทฺทาเทวิปฺปมุขานิ; จตุราสีติ คหปติสหสฺสานิ อเหสุํ คหปติรตนปฺปมุขานิ; จตุราสีติ ขตฺติยสหสฺสานิ อเหสุํ อนุยนฺตานิ ปริณายกรตนปฺปมุขานิ; จตุราสีติ เธนุสหสฺสานิ อเหสุํ ทุหสนฺทนานิ [ทุกูลสนฺทนานิ(ปี.)] ทุกูลสนฺทานานิ [ทุกูลสนฺทนานิ (ปี.) ทุกูลสนฺทานานิ (สํ. นิ. ๓.๙๖)] กํสูปธารณานิ; จตุราสีติ วตฺถโกฏิสหสฺสานิ อเหสุํ โขมสุขุมานํ กปฺปาสิกสุขุมานํ โกเสยฺยสุขุมานํ กมฺพลสุขุมานํ ; (รฺโ, อานนฺท, มหาสุทสฺสนสฺส) [( ) สี. อิโปตฺถเกสุ นตฺถิ] จตุราสีติ ถาลิปากสหสฺสานิ อเหสุํ สายํ ปาตํ ภตฺตาภิหาโร อภิหริยิตฺถ.

๒๖๔. ‘‘เตน โข ปนานนฺท, สมเยน รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส จตุราสีติ นาคสหสฺสานิ สายํ ปาตํ อุปฏฺานํ อาคจฺฉนฺติ. อถ โข, อานนฺท, รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส เอตทโหสิ – ‘อิมานิ โข เม จตุราสีติ นาคสหสฺสานิ สายํ ปาตํ อุปฏฺานํ อาคจฺฉนฺติ, ยํนูน วสฺสสตสฺส วสฺสสตสฺส อจฺจเยน ทฺเวจตฺตาลีสํ ทฺเวจตฺตาลีสํ นาคสหสฺสานิ สกึ สกึ อุปฏฺานํ อาคจฺเฉยฺยุ’นฺติ. อถ โข, อานนฺท, ราชา มหาสุทสฺสโน ปริณายกรตนํ อามนฺเตสิ – ‘อิมานิ โข เม, สมฺม ปริณายกรตน, จตุราสีติ นาคสหสฺสานิ สายํ ปาตํ อุปฏฺานํ อาคจฺฉนฺติ, เตน หิ, สมฺม ปริณายกรตน, วสฺสสตสฺส วสฺสสตสฺส อจฺจเยน ทฺเวจตฺตาลีสํ ทฺเวจตฺตาลีสํ นาคสหสฺสานิ สกึ สกึ อุปฏฺานํ อาคจฺฉนฺตู’ติ. ‘เอวํ, เทวา’ติ โข, อานนฺท, ปริณายกรตนํ รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส ปจฺจสฺโสสิ. อถ โข, อานนฺท, รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส อปเรน สมเยน วสฺสสตสฺส วสฺสสตสฺส อจฺจเยน ทฺเวจตฺตาลีสํ ทฺเวจตฺตาลีสํ นาคสหสฺสานิ สกึ สกึ อุปฏฺานํ อาคมํสุ.

สุภทฺทาเทวิอุปสงฺกมนํ

๒๖๕. ‘‘อถ โข, อานนฺท, สุภทฺทาย เทวิยา พหุนฺนํ วสฺสานํ พหุนฺนํ วสฺสสตานํ พหุนฺนํ วสฺสสหสฺสานํ อจฺจเยน เอตทโหสิ – ‘จิรํ ทิฏฺโ โข เม ราชา มหาสุทสฺสโน. ยํนูนาหํ ราชานํ มหาสุทสฺสนํ ทสฺสนาย อุปสงฺกเมยฺย’นฺติ. อถ โข, อานนฺท, สุภทฺทา เทวี อิตฺถาคารํ อามนฺเตสิ – ‘เอถ ตุมฺเห สีสานิ นฺหายถ ปีตานิ วตฺถานิ ปารุปถ. จิรํ ทิฏฺโ โน ราชา มหาสุทสฺสโน, ราชานํ มหาสุทสฺสนํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสามา’ติ. ‘เอวํ, อยฺเย’ติ โข, อานนฺท, อิตฺถาคารํ สุภทฺทาย เทวิยา ปฏิสฺสุตฺวา สีสานิ นฺหายิตฺวา ปีตานิ วตฺถานิ ปารุปิตฺวา เยน สุภทฺทา เทวี เตนุปสงฺกมิ. อถ โข, อานนฺท, สุภทฺทา เทวี ปริณายกรตนํ อามนฺเตสิ – ‘กปฺเปหิ, สมฺม ปริณายกรตน, จตุรงฺคินึ เสนํ, จิรํ ทิฏฺโ โน ราชา มหาสุทสฺสโน, ราชานํ มหาสุทสฺสนํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสามา’ติ. ‘เอวํ, เทวี’ติ โข, อานนฺท, ปริณายกรตนํ สุภทฺทาย เทวิยา ปฏิสฺสุตฺวา จตุรงฺคินึ เสนํ กปฺปาเปตฺวา สุภทฺทาย เทวิยา ปฏิเวเทสิ – ‘กปฺปิตา โข, เทวิ, จตุรงฺคินี เสนา, ยสฺสทานิ กาลํ มฺสี’ติ. อถ โข, อานนฺท, สุภทฺทา เทวี จตุรงฺคินิยา เสนาย สทฺธึ อิตฺถาคาเรน เยน ธมฺโม ปาสาโท เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ธมฺมํ ปาสาทํ อภิรุหิตฺวา เยน มหาวิยูหํ กูฏาคารํ เตนุปสงฺกมิ. อุปสงฺกมิตฺวา มหาวิยูหสฺส กูฏาคารสฺส ทฺวารพาหํ อาลมฺพิตฺวา อฏฺาสิ. อถ โข, อานนฺท, ราชา มหาสุทสฺสโน สทฺทํ สุตฺวา – ‘กึ นุ โข มหโต วิย ชนกายสฺส สทฺโท’ติ มหาวิยูหา กูฏาคารา นิกฺขมนฺโต อทฺทส สุภทฺทํ เทวึ ทฺวารพาหํ อาลมฺพิตฺวา ิตํ, ทิสฺวาน สุภทฺทํ เทวึ เอตทโวจ – ‘เอตฺเถว, เทวิ, ติฏฺ มา ปาวิสี’ติ. อถ โข, อานนฺท, ราชา มหาสุทสฺสโน อฺตรํ ปุริสํ อามนฺเตสิ – ‘เอหิ ตฺวํ, อมฺโภ ปุริส, มหาวิยูหา กูฏาคารา โสวณฺณมยํ ปลฺลงฺกํ นีหริตฺวา สพฺพโสวณฺณมเย ตาลวเน ปฺเปหี’ติ. ‘เอวํ, เทวา’ติ โข, อานนฺท, โส ปุริโส รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส ปฏิสฺสุตฺวา มหาวิยูหา กูฏาคารา โสวณฺณมยํ ปลฺลงฺกํ นีหริตฺวา สพฺพโสวณฺณมเย ตาลวเน ปฺเปสิ. อถ โข, อานนฺท, ราชา มหาสุทสฺสโน ทกฺขิเณน ปสฺเสน สีหเสยฺยํ กปฺเปสิ ปาเท ปาทํ อจฺจาธาย สโต สมฺปชาโน.

๒๖๖. ‘‘อถ โข, อานนฺท, สุภทฺทาย เทวิยา เอตทโหสิ – ‘วิปฺปสนฺนานิ โข รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส อินฺทฺริยานิ, ปริสุทฺโธ ฉวิวณฺโณ ปริโยทาโต, มา เหว โข ราชา มหาสุทสฺสโน กาลมกาสี’ติ ราชานํ มหาสุทสฺสนํ เอตทโวจ –

‘อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ นครสหสฺสานิ กุสาวตีราชธานิปฺปมุขานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ชเนหิ ชีวิเต อเปกฺขํ กโรหิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ ปาสาทสหสฺสานิ ธมฺมปาสาทปฺปมุขานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ชเนหิ ชีวิเต อเปกฺขํ กโรหิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ กูฏาคารสหสฺสานิ มหาวิยูหกูฏาคารปฺปมุขานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ชเนหิ ชีวิเต อเปกฺขํ กโรหิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ ปลฺลงฺกสหสฺสานิ โสวณฺณมยานิ รูปิยมยานิ ทนฺตมยานิ สารมยานิ โคนกตฺถตานิ ปฏิกตฺถตานิ ปฏลิกตฺถตานิ กทลิมิคปวรปจฺจตฺถรณานิ สอุตฺตรจฺฉทานิ อุภโตโลหิตกูปธานานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ชเนหิ, ชีวิเต อเปกฺขํ กโรหิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ นาคสหสฺสานิ โสวณฺณาลงฺการานิ โสวณฺณธชานิ เหมชาลปฏิจฺฉนฺนานิ อุโปสถนาคราชปฺปมุขานิ. เอตฺถ, เทว , ฉนฺทํ ชเนหิ ชีวิเต อเปกฺขํ กโรหิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ อสฺสสหสฺสานิ โสวณฺณาลงฺการานิ โสวณฺณธชานิ เหมชาลปฏิจฺฉนฺนานิ วลาหกอสฺสราชปฺปมุขานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ชเนหิ ชีวิเต อเปกฺขํ กโรหิ. อิมานิ เต, เทว จตุราสีติ รถสหสฺสานิ สีหจมฺมปริวารานิ พฺยคฺฆจมฺมปริวารานิ ทีปิจมฺมปริวารานิ ปณฺฑุกมฺพลปริวารานิ โสวณฺณาลงฺการานิ โสวณฺณธชานิ เหมชาลปฏิจฺฉนฺนานิ เวชยนฺตรถปฺปมุขานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ชเนหิ ชีวิเต อเปกฺขํ กโรหิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ มณิสหสฺสานิ มณิรตนปฺปมุขานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ชเนหิ ชีวิเต อเปกฺขํ กโรหิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ อิตฺถิสหสฺสานิ อิตฺถิรตนปฺปมุขานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ชเนหิ ชีวิเต อเปกฺขํ กโรหิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ คหปติสหสฺสานิ คหปติรตนปฺปมุขานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ชเนหิ ชีวิเต อเปกฺขํ กโรหิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ ขตฺติยสหสฺสานิ อนุยนฺตานิ ปริณายกรตนปฺปมุขานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ชเนหิ ชีวิเต อเปกฺขํ กโรหิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ เธนุสหสฺสานิ ทุหสนฺทนานิ กํสูปธารณานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ชเนหิ ชีวิเต อเปกฺขํ กโรหิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ วตฺถโกฏิสหสฺสานิ โขมสุขุมานํ กปฺปาสิกสุขุมานํ โกเสยฺยสุขุมานํ กมฺพลสุขุมานํ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ชเนหิ, ชีวิเต อเปกฺขํ กโรหิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ ถาลิปากสหสฺสานิ สายํ ปาตํ ภตฺตาภิหาโร อภิหริยติ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ชเนหิ ชีวิเต อเปกฺขํ กโรหี’ติ.

๒๖๗. ‘‘เอวํ วุตฺเต, อานนฺท, ราชา มหาสุทสฺสโน สุภทฺทํ เทวึ เอตทโวจ –

‘ทีฆรตฺตํ โข มํ ตฺวํ, เทวิ, อิฏฺเหิ กนฺเตหิ ปิเยหิ มนาเปหิ สมุทาจริตฺถ; อถ จ ปน มํ ตฺวํ ปจฺฉิเม กาเล อนิฏฺเหิ อกนฺเตหิ อปฺปิเยหิ อมนาเปหิ สมุทาจรสี’ติ. ‘กถํ จรหิ ตํ, เทว, สมุทาจรามี’ติ? ‘เอวํ โข มํ ตฺวํ, เทวิ, สมุทาจร – ‘‘สพฺเพเหว, เทว, ปิเยหิ มนาเปหิ นานาภาโว วินาภาโว อฺถาภาโว, มา โข ตฺวํ, เทว, สาเปกฺโข กาลมกาสิ, ทุกฺขา สาเปกฺขสฺส กาลงฺกิริยา, ครหิตา จ สาเปกฺขสฺส กาลงฺกิริยา. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ นครสหสฺสานิ กุสาวตีราชธานิปฺปมุขานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ปชห ชีวิเต อเปกฺขํ มากาสิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ ปาสาทสหสฺสานิ ธมฺมปาสาทปฺปมุขานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ปชห ชีวิเต อเปกฺขํ มากาสิ. อิมานิ เต , เทว, จตุราสีติ กูฏาคารสหสฺสานิ มหาวิยูหกูฏาคารปฺปมุขานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ปชห ชีวิเต อเปกฺขํ มากาสิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ ปลฺลงฺกสหสฺสานิ โสวณฺณมยานิ รูปิยมยานิ ทนฺตมยานิ สารมยานิ โคนกตฺถตานิ ปฏิกตฺถตานิ ปฏลิกตฺถตานิ กทลิมิคปวรปจฺจตฺถรณานิ สอุตฺตรจฺฉทานิ อุภโตโลหิตกูปธานานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ปชห ชีวิเต อเปกฺขํ มากาสิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ นาคสหสฺสานิ โสวณฺณาลงฺการานิ โสวณฺณธชานิ เหมชาลปฏิจฺฉนฺนานิ อุโปสถนาคราชปฺปมุขานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ปชห ชีวิเต อเปกฺขํ มากาสิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ อสฺสสหสฺสานิ โสวณฺณาลงฺการานิ โสวณฺณธชานิ เหมชาลปฏิจฺฉนฺนานิ วลาหกอสฺสราชปฺปมุขานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ปชห ชีวิเต อเปกฺขํ มากาสิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ รถสหสฺสานิ สีหจมฺมปริวารานิ พฺยคฺฆจมฺมปริวารานิ ทีปิจมฺมปริวารานิ ปณฺฑุกมฺพลปริวารานิ โสวณฺณาลงฺการานิ โสวณฺณธชานิ เหมชาลปฏิจฺฉนฺนานิ เวชยนฺตรถปฺปมุขานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ปชห ชีวิเต อเปกฺขํ มากาสิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ มณิสหสฺสานิ มณิรตนปฺปมุขานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ปชห ชีวิเต อเปกฺขํ มากาสิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ อิตฺถิสหสฺสานิ สุภทฺทาเทวิปฺปมุขานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ปชห ชีวิเต อเปกฺขํ มากาสิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ คหปติสหสฺสานิ คหปติรตนปฺปมุขานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ปชห ชีวิเต อเปกฺขํ มากาสิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ ขตฺติยสหสฺสานิ อนุยนฺตานิ ปริณายกรตนปฺปมุขานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ปชห ชีวิเต อเปกฺขํ มากาสิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ เธนุสหสฺสานิ ทุหสนฺทนานิ กํสูปธารณานิ. เอตฺถ เทว, ฉนฺทํ ปชห ชีวิเต อเปกฺขํ มากาสิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ วตฺถโกฏิสหสฺสานิ โขมสุขุมานํ กปฺปาสิกสุขุมานํ โกเสยฺยสุขุมานํ กมฺพลสุขุมานํ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ปชห ชีวิเต อเปกฺขํ มากาสิ. อิมานิ เต เทว จตุราสีติ ถาลิปากสหสฺสานิ สายํ ปาตํ ภตฺตาภิหาโร อภิหริยติ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ปชห ชีวิเต อเปกฺขํ มากาสี’’’ติ.

๒๖๘. ‘‘เอวํ วุตฺเต, อานนฺท, สุภทฺทา เทวี ปโรทิ อสฺสูนิ ปวตฺเตสิ. อถ โข, อานนฺท, สุภทฺทา เทวี อสฺสูนิ ปุฺฉิตฺวา [ปมชฺชิตฺวา (สี. สฺยา. ปี.), ปุฺชิตฺวา (ก.)] ราชานํ มหาสุทสฺสนํ เอตทโวจ –

‘สพฺเพเหว , เทว, ปิเยหิ มนาเปหิ นานาภาโว วินาภาโว อฺถาภาโว, มา โข ตฺวํ, เทว, สาเปกฺโข กาลมกาสิ, ทุกฺขา สาเปกฺขสฺส กาลงฺกิริยา, ครหิตา จ สาเปกฺขสฺส กาลงฺกิริยา. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ นครสหสฺสานิ กุสาวตีราชธานิปฺปมุขานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ปชห ชีวิเต อเปกฺขํ มากาสิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ ปาสาทสหสฺสานิ ธมฺมปาสาทปฺปมุขานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ปชห ชีวิเต อเปกฺขํ มากาสิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ กูฏาคารสหสฺสานิ มหาวิยูหกูฏาคารปฺปมุขานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ปชห ชีวิเต อเปกฺขํ มากาสิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ ปลฺลงฺกสหสฺสานิ โสวณฺณมยานิ รูปิยมยานิ ทนฺตมยานิ สารมยานิ โคนกตฺถตานิ ปฏิกตฺถตานิ ปฏลิกตฺถตานิ กทลิมิคปวรปจฺจตฺถรณานิ สอุตฺตรจฺฉทานิ อุภโตโลหิตกูปธานานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ปชห ชีวิเต อเปกฺขํ มากาสิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ นาคสหสฺสานิ โสวณฺณาลงฺการานิ โสวณฺณธชานิ เหมชาลปฏิจฺฉนฺนานิ อุโปสถนาคราชปฺปมุขานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ปชห ชีวิเต อเปกฺขํ มากาสิ. อิมานิ เต , เทว, จตุราสีติ อสฺสสหสฺสานิ โสวณฺณาลงฺการานิ โสวณฺณธชานิ เหมชาลปฏิจฺฉนฺนานิ วลาหกอสฺสราชปฺปมุขานิ . เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ปชห, ชีวิเต อเปกฺขํ มากาสิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ รถสหสฺสานิ สีหจมฺมปริวารานิ พฺยคฺฆจมฺมปริวารานิ ทีปิจมฺมปริวารานิ ปณฺฑุกมฺพลปริวารานิ โสวณฺณาลงฺการานิ โสวณฺณธชานิ เหมชาลปฏิจฺฉนฺนานิ เวชยนฺตรถปฺปมุขานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ปชห ชีวิเต อเปกฺขํ มากาสิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ มณิสหสฺสานิ มณิรตนปฺปมุขานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ปชห ชีวิเต อเปกฺขํ มากาสิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ อิตฺถิสหสฺสานิ อิตฺถิรตนปฺปมุขานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ปชห, ชีวิเต อเปกฺขํ มากาสิ. อิมานิ เต , เทว, จตุราสีติ คหปติสหสฺสานิ คหปติรตนปฺปมุขานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ปชห ชีวิเต อเปกฺขํ มากาสิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ ขตฺติยสหสฺสานิ อนุยนฺตานิ ปริณายกรตนปฺปมุขานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ปชห ชีวิเต อเปกฺขํ มากาสิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ เธนุสหสฺสานิ ทุหสนฺทนานิ กํสูปธารณานิ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ปชห ชีวิเต อเปกฺขํ มากาสิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ วตฺถโกฏิสหสฺสานิ โขมสุขุมานํ กปฺปาสิกสุขุมานํ โกเสยฺยสุขุมานํ กมฺพลสุขุมานํ. เอตฺถ, เทว, ฉนฺทํ ปชห ชีวิเต อเปกฺขํ มากาสิ. อิมานิ เต, เทว, จตุราสีติ ถาลิปากสหสฺสานิ สายํ ปาตํ ภตฺตาภิหาโร อภิหริยติ. เอตฺถ , เทว, ฉนฺทํ ปชห ชีวิเต อเปกฺขํ มากาสี’ติ.

พฺรหฺมโลกูปคมํ

๒๖๙. ‘‘อถ โข, อานนฺท, ราชา มหาสุทสฺสโน นจิรสฺเสว กาลมกาสิ. เสยฺยถาปิ, อานนฺท, คหปติสฺส วา คหปติปุตฺตสฺส วา มนุฺํ โภชนํ ภุตฺตาวิสฺส ภตฺตสมฺมโท โหติ, เอวเมว โข, อานนฺท, รฺโ มหาสุทสฺสนสฺส มารณนฺติกา เวทนา อโหสิ. กาลงฺกโต จ, อานนฺท, ราชา มหาสุทสฺสโน สุคตึ พฺรหฺมโลกํ อุปปชฺชิ. ราชา, อานนฺท, มหาสุทสฺสโน จตุราสีติ วสฺสสหสฺสานิ กุมารกีฬํ [กีฬิตํ (ก.), กีฬิกํ (สี. ปี.)] กีฬิ. จตุราสีติ วสฺสสหสฺสานิ โอปรชฺชํ กาเรสิ. จตุราสีติ วสฺสสหสฺสานิ รชฺชํ กาเรสิ. จตุราสีติ วสฺสสหสฺสานิ คิหิภูโต [คิหีภูโต (สี. ปี.)] ธมฺเม ปาสาเท พฺรหฺมจริยํ จริ [พฺรหฺมจริยมจริ (ก.)]. โส จตฺตาโร พฺรหฺมวิหาเร ภาเวตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา พฺรหฺมโลกูปโค อโหสิ.

๒๗๐. ‘‘สิยา โข ปนานนฺท, เอวมสฺส – ‘อฺโ นูน เตน สมเยน ราชา มหาสุทสฺสโน อโหสี’ติ, น โข ปเนตํ, อานนฺท, เอวํ ทฏฺพฺพํ. อหํ เตน สมเยน ราชา มหาสุทสฺสโน อโหสึ. มม ตานิ จตุราสีติ นครสหสฺสานิ กุสาวตีราชธานิปฺปมุขานิ, มม ตานิ จตุราสีติ ปาสาทสหสฺสานิ ธมฺมปาสาทปฺปมุขานิ, มม ตานิ จตุราสีติ กูฏาคารสหสฺสานิ มหาวิยูหกูฏาคารปฺปมุขานิ, มม ตานิ จตุราสีติ ปลฺลงฺกสหสฺสานิ โสวณฺณมยานิ รูปิยมยานิ ทนฺตมยานิ สารมยานิ โคนกตฺถตานิ ปฏิกตฺถตานิ ปฏลิกตฺถตานิ กทลิมิคปวรปจฺจตฺถรณานิ สอุตฺตรจฺฉทานิ อุภโตโลหิตกูปธานานิ, มม ตานิ จตุราสีติ นาคสหสฺสานิ โสวณฺณาลงฺการานิ โสวณฺณธชานิ เหมชาลปฏิจฺฉนฺนานิ อุโปสถนาคราชปฺปมุขานิ, มม ตานิ จตุราสีติ อสฺสสหสฺสานิ โสวณฺณาลงฺการานิ โสวณฺณธชานิ เหมชาลปฏิจฺฉนฺนานิ วลาหกอสฺสราชปฺปมุขานิ, มม ตานิ จตุราสีติ รถสหสฺสานิ สีหจมฺมปริวารานิ พฺยคฺฆจมฺมปริวารานิ ทีปิจมฺมปริวารานิ ปณฺฑุกมฺพลปริวารานิ โสวณฺณาลงฺการานิ โสวณฺณธชานิ เหมชาลปฏิจฺฉนฺนานิ เวชยนฺตรถปฺปมุขานิ, มม ตานิ จตุราสีติ มณิสหสฺสานิ มณิรตนปฺปมุขานิ, มม ตานิ จตุราสีติ อิตฺถิสหสฺสานิ สุภทฺทาเทวิปฺปมุขานิ, มม ตานิ จตุราสีติ คหปติสหสฺสานิ คหปติรตนปฺปมุขานิ, มม ตานิ จตุราสีติ ขตฺติยสหสฺสานิ อนุยนฺตานิ ปริณายกรตนปฺปมุขานิ, มม ตานิ จตุราสีติ เธนุสหสฺสานิ ทุหสนฺทนานิ กํสูปธารณานิ, มม ตานิ จตุราสีติ วตฺถโกฏิสหสฺสานิ โขมสุขุมานํ กปฺปาสิกสุขุมานํ โกเสยฺยสุขุมานํ กมฺพลสุขุมานํ, มม ตานิ จตุราสีติ ถาลิปากสหสฺสานิ สายํ ปาตํ ภตฺตาภิหาโร อภิหริยิตฺถ.

๒๗๑. ‘‘เตสํ โข ปนานนฺท, จตุราสีตินครสหสฺสานํ เอกฺเว ตํ นครํ โหติ, ยํ เตน สมเยน อชฺฌาวสามิ ยทิทํ กุสาวตี ราชธานี. เตสํ โข ปนานนฺท, จตุราสีติปาสาทสหสฺสานํ เอโกเยว โส ปาสาโท โหติ, ยํ เตน สมเยน อชฺฌาวสามิ ยทิทํ ธมฺโม ปาสาโท. เตสํ โข ปนานนฺท, จตุราสีติกูฏาคารสหสฺสานํ เอกฺเว ตํ กูฏาคารํ โหติ, ยํ เตน สมเยน อชฺฌาวสามิ ยทิทํ มหาวิยูหํ กูฏาคารํ. เตสํ โข ปนานนฺท, จตุราสีติปลฺลงฺกสหสฺสานํ เอโกเยว โส ปลฺลงฺโก โหติ, ยํ เตน สมเยน ปริภุฺชามิ ยทิทํ โสวณฺณมโย วา รูปิยมโย วา ทนฺตมโย วา สารมโย วา. เตสํ โข ปนานนฺท, จตุราสีตินาคสหสฺสานํ เอโกเยว โส นาโค โหติ, ยํ เตน สมเยน อภิรุหามิ ยทิทํ อุโปสโถ นาคราชา. เตสํ โข ปนานนฺท, จตุราสีติอสฺสสหสฺสานํ เอโกเยว โส อสฺโส โหติ, ยํ เตน สมเยน อภิรุหามิ ยทิทํ วลาหโก อสฺสราชา. เตสํ โข ปนานนฺท, จตุราสีติรถสหสฺสานํ เอโกเยว โส รโถ โหติ, ยํ เตน สมเยน อภิรุหามิ ยทิทํ เวชยนฺตรโถ. เตสํ โข ปนานนฺท, จตุราสีติอิตฺถิสหสฺสานํ เอกาเยว สา อิตฺถี โหติ, ยา เตน สมเยน ปจฺจุปฏฺาติ ขตฺติยานี วา เวสฺสินี [เวสฺสายินี (สฺยา.), เวลามิกานี (ก. สี. ปี.) เวลามิกา (สํ. นิ. ๓.๙๖)] วา. เตสํ โข ปนานนฺท, วา. เตสํ โข ปนานนฺท, จตุราสีติวตฺถโกฏิสหสฺสานํ เอกํเยว ตํ ทุสฺสยุคํ โหติ, ยํ เตน สมเยน ปริทหามิ โขมสุขุมํ วา กปฺปาสิกสุขุมํ วา โกเสยฺยสุขุมํ วา กมฺพลสุขุมํ วา. เตสํ โข ปนานนฺท, จตุราสีติถาลิปากสหสฺสานํ เอโกเยว โส ถาลิปาโก โหติ, ยโต นาฬิโกทนปรมํ ภุฺชามิ ตทุปิยฺจ สูเปยฺยํ.

๒๗๒. ‘‘ปสฺสานนฺท, สพฺเพเต สงฺขารา อตีตา นิรุทฺธา วิปริณตา. เอวํ อนิจฺจา โข, อานนฺท, สงฺขารา; เอวํ อทฺธุวา โข, อานนฺท, สงฺขารา; เอวํ อนสฺสาสิกา โข, อานนฺท, สงฺขารา! ยาวฺจิทํ, อานนฺท , อลเมว สพฺพสงฺขาเรสุ นิพฺพินฺทิตุํ, อลํ วิรชฺชิตุํ, อลํ วิมุจฺจิตุํ.

‘‘ฉกฺขตฺตุํ โข ปนาหํ, อานนฺท, อภิชานามิ อิมสฺมึ ปเทเส สรีรํ นิกฺขิปิตํ, ตฺจ โข ราชาว สมาโน จกฺกวตฺตี ธมฺมิโก ธมฺมราชา จาตุรนฺโต วิชิตาวี ชนปทตฺถาวริยปตฺโต สตฺตรตนสมนฺนาคโต, อยํ สตฺตโม สรีรนิกฺเขโป. น โข ปนาหํ, อานนฺท, ตํ ปเทสํ สมนุปสฺสามิ สเทวเก โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย ยตฺถ ตถาคโต อฏฺมํ สรีรํ นิกฺขิเปยฺยา’’ติ. อิทมโวจ ภควา, อิทํ วตฺวาน สุคโต อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –

‘‘อนิจฺจา วต สงฺขารา, อุปฺปาทวยธมฺมิโน;

อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌนฺติ, เตสํ วูปสโม สุโข’’ติ.

มหาสุทสฺสนสุตฺตํ นิฏฺิตํ จตุตฺถํ.