📜
๕. ชนวสภสุตฺตํ
นาติกิยาทิพฺยากรณํ
๒๗๓. เอวํ ¶ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา นาติเก [นาทิเก (สี. สฺยา. ปี.)] วิหรติ คิฺชกาวสเถ. เตน โข ปน สมเยน ภควา ปริโต ปริโต ชนปเทสุ ปริจารเก อพฺภตีเต กาลงฺกเต อุปปตฺตีสุ พฺยากโรติ กาสิโกสเลสุ วชฺชิมลฺเลสุ เจติวํเสสุ [เจติยวํเสสุ (ก.)] กุรุปฺจาเลสุ มชฺฌสูรเสเนสุ [มจฺฉสุรเสเนสุ (สฺยา.), มจฺฉสูรเสเนสุ (สี. ปี.)] – ‘‘อสุ อมุตฺร อุปปนฺโน, อสุ อมุตฺร อุปปนฺโน [อุปปนฺโนติ (ก.)]. ปโรปฺาส นาติกิยา ปริจารกา อพฺภตีตา กาลงฺกตา ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติกา ตตฺถ ปรินิพฺพายิโน อนาวตฺติธมฺมา ตสฺมา โลกา. สาธิกา นวุติ นาติกิยา ปริจารกา อพฺภตีตา กาลงฺกตา ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา ราคโทสโมหานํ ตนุตฺตา สกทาคามิโน, สกิเทว [สกึเทว (ก.)] อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสนฺติ. สาติเรกานิ ปฺจสตานิ นาติกิยา ปริจารกา อพฺภตีตา กาลงฺกตา ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โสตาปนฺนา อวินิปาตธมฺมา นิยตา สมฺโพธิปรายณา’’ติ.
๒๗๔. อสฺโสสุํ ¶ โข นาติกิยา ปริจารกา – ‘‘ภควา กิร ปริโต ปริโต ชนปเทสุ ปริจารเก อพฺภตีเต กาลงฺกเต อุปปตฺตีสุ พฺยากโรติ กาสิโกสเลสุ วชฺชิมลฺเลสุ เจติวํเสสุ กุรุปฺจาเลสุ มชฺฌสูรเสเนสุ – ‘อสุ อมุตฺร อุปปนฺโน, อสุ อมุตฺร อุปปนฺโน. ปโรปฺาส นาติกิยา ปริจารกา อพฺภตีตา กาลงฺกตา ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา ¶ โอปปาติกา ตตฺถ ปรินิพฺพายิโน อนาวตฺติธมฺมา ตสฺมา โลกา. สาธิกา นวุติ นาติกิยา ปริจารกา อพฺภตีตา กาลงฺกตา ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา ราคโทสโมหานํ ตนุตฺตา สกทาคามิโน สกิเทว อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสนฺติ. สาติเรกานิ ปฺจสตานิ นาติกิยา ปริจารกา อพฺภตีตา กาลงฺกตา ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา ¶ โสตาปนฺนา ¶ อวินิปาตธมฺมา นิยตา สมฺโพธิปรายณา’ติ. เตน จ นาติกิยา ปริจารกา อตฺตมนา อเหสุํ ปมุทิตา ¶ ปีติโสมนสฺสชาตา ภควโต ปฺหเวยฺยากรณํ [ปฺหาเวยฺยากรณํ (สฺยา. ก.)] สุตฺวา.
๒๗๕. อสฺโสสิ โข อายสฺมา อานนฺโท – ‘‘ภควา กิร ปริโต ปริโต ชนปเทสุ ปริจารเก อพฺภตีเต กาลงฺกเต อุปปตฺตีสุ พฺยากโรติ กาสิโกสเลสุ วชฺชิมลฺเลสุ เจติวํเสสุ กุรุปฺจาเลสุ มชฺฌสูรเสเนสุ – ‘อสุ อมุตฺร อุปปนฺโน, อสุ อมุตฺร อุปปนฺโน. ปโรปฺาส นาติกิยา ปริจารกา อพฺภตีตา กาลงฺกตา ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติกา ตตฺถ ปรินิพฺพายิโน อนาวตฺติธมฺมา ตสฺมา โลกา. สาธิกา นวุติ นาติกิยา ปริจารกา อพฺภตีตา กาลงฺกตา ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา ราคโทสโมหานํ ตนุตฺตา สกทาคามิโน สกิเทว อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสนฺติ. สาติเรกานิ ปฺจสตานิ นาติกิยา ปริจารกา อพฺภตีตา กาลงฺกตา ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โสตาปนฺนา อวินิปาตธมฺมา นิยตา สมฺโพธิปรายณา’ติ. เตน จ นาติกิยา ปริจารกา อตฺตมนา อเหสุํ ปมุทิตา ปีติโสมนสฺสชาตา ภควโต ปฺหเวยฺยากรณํ สุตฺวา’’ติ.
อานนฺทปริกถา
๒๗๖. อถ โข อายสฺมโต อานนฺทสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อิเม โข ¶ ปนาปิ อเหสุํ มาคธกา ปริจารกา พหู เจว รตฺตฺู จ อพฺภตีตา กาลงฺกตา. สฺุา มฺเ องฺคมคธา องฺคมาคธเกหิ [องฺคมาคธิเกหิ (สฺยา.)] ปริจารเกหิ อพฺภตีเตหิ กาลงฺกเตหิ. เต โข ปนาปิ [เตน โข ปนาปิ (สฺยา.)] อเหสุํ พุทฺเธ ปสนฺนา ธมฺเม ปสนฺนา สงฺเฆ ปสนฺนา สีเลสุ ปริปูรการิโน. เต อพฺภตีตา กาลงฺกตา ภควตา อพฺยากตา; เตสมฺปิสฺส สาธุ เวยฺยากรณํ, พหุชโน ปสีเทยฺย, ตโต คจฺเฉยฺย สุคตึ. อยํ โข ปนาปิ อโหสิ ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร ธมฺมิโก ธมฺมราชา หิโต พฺราหฺมณคหปติกานํ เนคมานฺเจว ชานปทานฺจ. อปิสฺสุทํ มนุสฺสา กิตฺตยมานรูปา วิหรนฺติ – ‘เอวํ โน โส ธมฺมิโก ธมฺมราชา สุขาเปตฺวา ¶ กาลงฺกโต, เอวํ มยํ ตสฺส ธมฺมิกสฺส ธมฺมรฺโ วิชิเต ผาสุ [ผาสุกํ (สฺยา.)] วิหริมฺหา’ติ. โส โข ปนาปิ อโหสิ พุทฺเธ ปสนฺโน ธมฺเม ปสนฺโน สงฺเฆ ปสนฺโน สีเลสุ ปริปูรการี. อปิสฺสุทํ มนุสฺสา เอวมาหํสุ – ‘ยาว มรณกาลาปิ ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร ภควนฺตํ กิตฺตยมานรูโป กาลงฺกโต’ติ. โส อพฺภตีโต กาลงฺกโต ภควตา อพฺยากโต. ตสฺสปิสฺส สาธุ เวยฺยากรณํ พหุชโน ปสีเทยฺย, ตโต คจฺเฉยฺย สุคตึ. ภควโต โข ปน สมฺโพธิ มคเธสุ. ยตฺถ โข ปน ภควโต สมฺโพธิ มคเธสุ, กถํ ตตฺร ภควา ¶ มาคธเก ปริจารเก อพฺภตีเต กาลงฺกเต อุปปตฺตีสุ ¶ น พฺยากเรยฺย. ภควา เจ โข ปน มาคธเก ปริจารเก อพฺภตีเต กาลงฺกเต อุปปตฺตีสุ น พฺยากเรยฺย, ทีนมนา [นินฺนมนา (สฺยา.), ทีนมานา (สี. ปี.)] เตนสฺสุ มาคธกา ปริจารกา; เยน โข ¶ ปนสฺสุ ทีนมนา มาคธกา ปริจารกา กถํ เต ภควา น พฺยากเรยฺยา’’ติ?
๒๗๗. อิทมายสฺมา อานนฺโท มาคธเก ปริจารเก อารพฺภ เอโก รโห อนุวิจินฺเตตฺวา รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ ปจฺจุฏฺาย เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สุตํ เมตํ, ภนฺเต – ‘ภควา กิร ปริโต ปริโต ชนปเทสุ ปริจารเก อพฺภตีเต กาลงฺกเต อุปปตฺตีสุ พฺยากโรติ กาสิโกสเลสุ วชฺชิมลฺเลสุ เจติวํเสสุ กุรุปฺจาเลสุ มชฺฌสูรเสเนสุ – ‘‘อสุ อมุตฺร อุปปนฺโน, อสุ อมุตฺร อุปปนฺโน. ปโรปฺาส นาติกิยา ปริจารกา อพฺภตีตา กาลงฺกตา ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติกา ตตฺถ ปรินิพฺพายิโน อนาวตฺติธมฺมา ตสฺมา โลกา. สาธิกา นวุติ นาติกิยา ปริจารกา อพฺภตีตา กาลงฺกตา ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา ราคโทสโมหานํ ตนุตฺตา สกทาคามิโน, สกิเทว อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสนฺติ. สาติเรกานิ ปฺจสตานิ นาติกิยา ปริจารกา อพฺภตีตา กาลงฺกตา ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โสตาปนฺนา ¶ อวินิปาตธมฺมา นิยตา สมฺโพธิปรายณาติ. เตน จ นาติกิยา ปริจารกา อตฺตมนา อเหสุํ ปมุทิตา ปีติโสมนสฺสชาตา ภควโต ปฺหเวยฺยากรณํ สุตฺวา’’ติ ¶ . อิเม โข ปนาปิ, ภนฺเต, อเหสุํ มาคธกา ปริจารกา พหู เจว รตฺตฺู จ อพฺภตีตา กาลงฺกตา. สฺุา มฺเ องฺคมคธา องฺคมาคธเกหิ ปริจารเกหิ อพฺภตีเตหิ กาลงฺกเตหิ. เต โข ปนาปิ, ภนฺเต, อเหสุํ พุทฺเธ ปสนฺนา ธมฺเม ปสนฺนา สงฺเฆ ปสนฺนา สีเลสุ ปริปูรการิโน, เต อพฺภตีตา กาลงฺกตา ภควตา อพฺยากตา. เตสมฺปิสฺส สาธุ เวยฺยากรณํ, พหุชโน ปสีเทยฺย, ตโต คจฺเฉยฺย สุคตึ. อยํ โข ปนาปิ, ภนฺเต, อโหสิ ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร ธมฺมิโก ธมฺมราชา หิโต พฺราหฺมณคหปติกานํ เนคมานฺเจว ¶ ชานปทานฺจ. อปิสฺสุทํ มนุสฺสา กิตฺตยมานรูปา วิหรนฺติ – ‘เอวํ โน โส ธมฺมิโก ธมฺมราชา สุขาเปตฺวา กาลงฺกโต. เอวํ มยํ ตสฺส ธมฺมิกสฺส ธมฺมรฺโ วิชิเต ผาสุ วิหริมฺหา’ติ. โส โข ปนาปิ, ภนฺเต, อโหสิ พุทฺเธ ปสนฺโน ธมฺเม ปสนฺโน สงฺเฆ ปสนฺโน สีเลสุ ปริปูรการี. อปิสฺสุทํ มนุสฺสา เอวมาหํสุ – ‘ยาว มรณกาลาปิ ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร ภควนฺตํ กิตฺตยมานรูโป กาลงฺกโต’ติ. โส อพฺภตีโต กาลงฺกโต ภควตา อพฺยากโต; ตสฺสปิสฺส สาธุ เวยฺยากรณํ, พหุชโน ปสีเทยฺย, ตโต คจฺเฉยฺย สุคตึ. ภควโต โข ปน, ภนฺเต, สมฺโพธิ มคเธสุ. ยตฺถ โข ปน ¶ , ภนฺเต, ภควโต สมฺโพธิ มคเธสุ, กถํ ตตฺร ภควา มาคธเก ปริจารเก อพฺภตีเต ¶ กาลงฺกเต อุปปตฺตีสุ น พฺยากเรยฺย? ภควา เจ โข ปน, ภนฺเต, มาคธเก ปริจารเก อพฺภตีเต กาลงฺกเต อุปปตฺตีสุ น พฺยากเรยฺย ทีนมนา เตนสฺสุ มาคธกา ปริจารกา; เยน โข ปนสฺสุ ทีนมนา มาคธกา ปริจารกา กถํ เต ภควา น พฺยากเรยฺยา’’ติ. อิทมายสฺมา อานนฺโท มาคธเก ปริจารเก อารพฺภ ภควโต สมฺมุขา ปริกถํ กตฺวา อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ.
๒๗๘. อถ โข ภควา อจิรปกฺกนฺเต อายสฺมนฺเต อานนฺเท ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย นาติกํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. นาติเก ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต ปาเท ปกฺขาเลตฺวา คิฺชกาวสถํ ปวิสิตฺวา มาคธเก ปริจารเก อารพฺภ อฏฺึ กตฺวา [อฏฺิกตฺวา (สี. สฺยา. ปี.)] มนสิกตฺวา สพฺพํ เจตสา [สพฺพเจตสา (ปี.)] สมนฺนาหริตฺวา ปฺตฺเต อาสเน ¶ นิสีทิ – ‘‘คตึ เนสํ ชานิสฺสามิ อภิสมฺปรายํ, ยํคติกา เต ภวนฺโต ยํอภิสมฺปรายา’’ติ. อทฺทสา โข ภควา มาคธเก ปริจารเก ‘‘ยํคติกา เต ภวนฺโต ¶ ยํอภิสมฺปรายา’’ติ. อถ โข ภควา สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต คิฺชกาวสถา นิกฺขมิตฺวา วิหารปจฺฉายายํ ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ.
๒๗๙. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน ¶ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อุปสนฺตปทิสฺโส [อุปสนฺตปติโส (ก.)] ภนฺเต ภควา ภาติริว ภควโต มุขวณฺโณ วิปฺปสนฺนตฺตา อินฺทฺริยานํ. สนฺเตน นูนชฺช ภนฺเต ภควา วิหาเรน วิหาสี’’ติ? ‘‘ยเทว โข เม ตฺวํ, อานนฺท, มาคธเก ปริจารเก อารพฺภ สมฺมุขา ปริกถํ กตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกนฺโต, ตเทวาหํ นาติเก ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต ปาเท ปกฺขาเลตฺวา คิฺชกาวสถํ ปวิสิตฺวา มาคธเก ปริจารเก อารพฺภ อฏฺึ กตฺวา มนสิกตฺวา สพฺพํ เจตสา สมนฺนาหริตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทึ – ‘คตึ เนสํ ชานิสฺสามิ อภิสมฺปรายํ, ยํคติกา เต ภวนฺโต ยํอภิสมฺปรายา’ติ. อทฺทสํ โข อหํ, อานนฺท, มาคธเก ปริจารเก ‘ยํคติกา เต ภวนฺโต ยํอภิสมฺปรายา’’’ติ.
ชนวสภยกฺโข
๒๘๐. ‘‘อถ โข, อานนฺท, อนฺตรหิโต ยกฺโข สทฺทมนุสฺสาเวสิ – ‘ชนวสโภ อหํ ภควา ¶ ; ชนวสโภ อหํ สุคตา’ติ. อภิชานาสิ โน ตฺวํ, อานนฺท, อิโต ปุพฺเพ เอวรูปํ นามเธยฺยํ สุตํ [สุตฺวา (ปี.)] ยทิทํ ชนวสโภ’’ติ?
‘‘น โข อหํ, ภนฺเต, อภิชานามิ อิโต ปุพฺเพ เอวรูปํ นามเธยฺยํ สุตํ ยทิทํ ชนวสโภติ, อปิ จ เม, ภนฺเต, โลมานิ หฏฺานิ ‘ชนวสโภ’ติ นามเธยฺยํ สุตฺวา. ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, เอตทโหสิ – ‘น หิ ¶ นูน โส โอรโก ยกฺโข ภวิสฺสติ ยทิทํ เอวรูปํ นามเธยฺยํ สุปฺตฺตํ ยทิทํ ชนวสโภ’’ติ. ‘‘อนนฺตรา โข, อานนฺท, สทฺทปาตุภาวา อุฬารวณฺโณ ¶ เม ยกฺโข สมฺมุเข ปาตุรโหสิ ¶ . ทุติยมฺปิ สทฺทมนุสฺสาเวสิ – ‘พิมฺพิสาโร อหํ ภควา; พิมฺพิสาโร อหํ สุคตาติ. อิทํ สตฺตมํ โข อหํ, ภนฺเต, เวสฺสวณสฺส มหาราชสฺส สหพฺยตํ อุปปชฺชามิ, โส ตโต จุโต มนุสฺสราชา ภวิตุํ ปโหมิ [โส ตโต จุโต มนุสฺสราชา, อมนุสฺสราชา ทิวิ โหมิ (สี. ปี.)].
อิโต สตฺต ตโต สตฺต, สํสารานิ จตุทฺทส;
นิวาสมภิชานามิ, ยตฺถ เม วุสิตํ ปุเร.
๒๘๑. ‘ทีฆรตฺตํ โข อหํ, ภนฺเต, อวินิปาโต อวินิปาตํ สฺชานามิ, อาสา จ ปน เม สนฺติฏฺติ สกทาคามิตายา’ติ. ‘อจฺฉริยมิทํ อายสฺมโต ชนวสภสฺส ยกฺขสฺส, อพฺภุตมิทํ อายสฺมโต ชนวสภสฺส ยกฺขสฺส. ‘‘ทีฆรตฺตํ โข อหํ, ภนฺเต, อวินิปาโต อวินิปาตํ สฺชานามี’’ติ จ วเทสิ, ‘‘อาสา จ ปน เม สนฺติฏฺติ สกทาคามิตายา’’ติ จ วเทสิ, กุโตนิทานํ ปนายสฺมา ชนวสโภ ยกฺโข เอวรูปํ อุฬารํ วิเสสาธิคมํ สฺชานาตีติ? น อฺตฺร, ภควา, ตว สาสนา, น อฺตฺร [อฺตฺถ (สี. ปี.)], สุคต, ตว สาสนา; ยทคฺเค อหํ, ภนฺเต, ภควติ เอกนฺติกโต [เอกนฺตโต (สฺยา.), เอกนฺตคโต (ปี.)] อภิปฺปสนฺโน, ตทคฺเค อหํ, ภนฺเต, ทีฆรตฺตํ ¶ อวินิปาโต อวินิปาตํ สฺชานามิ, อาสา จ ปน เม สนฺติฏฺติ สกทาคามิตาย. อิธาหํ, ภนฺเต, เวสฺสวเณน มหาราเชน เปสิโต วิรูฬฺหกสฺส มหาราชสฺส สนฺติเก เกนจิเทว กรณีเยน อทฺทสํ ภควนฺตํ อนฺตรามคฺเค คิฺชกาวสถํ ¶ ปวิสิตฺวา มาคธเก ปริจารเก อารพฺภ อฏฺึ กตฺวา มนสิกตฺวา สพฺพํ เจตสา สมนฺนาหริตฺวา นิสินฺนํ – ‘‘คตึ เนสํ ชานิสฺสามิ อภิสมฺปรายํ, ยํคติกา เต ภวนฺโต ยํอภิสมฺปรายา’’ติ. อนจฺฉริยํ โข ปเนตํ, ภนฺเต, ยํ เวสฺสวณสฺส มหาราชสฺส ตสฺสํ ปริสายํ ภาสโต สมฺมุขา สุตํ สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – ‘‘ยํคติกา เต ภวนฺโต ยํอภิสมฺปรายา’’ติ. ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, เอตทโหสิ – ภควนฺตฺจ ทกฺขามิ, อิทฺจ ภควโต อาโรเจสฺสามีติ. อิเม โข เม, ภนฺเต, ทฺเวปจฺจยา ภควนฺตํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ’.
เทวสภา
๒๘๒. ‘ปุริมานิ ¶ ¶ , ภนฺเต, ทิวสานิ ปุริมตรานิ ตทหุโปสเถ ปนฺนรเส วสฺสูปนายิกาย ปุณฺณาย ปุณฺณมาย รตฺติยา เกวลกปฺปา จ เทวา ตาวตึสา สุธมฺมายํ สภายํ สนฺนิสินฺนา โหนฺติ สนฺนิปติตา. มหตี จ ทิพฺพปริสา [ทิพฺพา ปริสา (สี. ปี.)] สมนฺตโต นิสินฺนา โหนฺติ [นิสินฺนา โหติ (สี.), สนฺนิสินฺนา โหนฺติ สนฺนิปติตา (ก.)], จตฺตาโร จ มหาราชาโน จตุทฺทิสา นิสินฺนา โหนฺติ. ปุรตฺถิมาย ทิสาย ธตรฏฺโ มหาราชา ปจฺฉิมาภิมุโข [ปจฺฉาภิมุโข (ก.)] นิสินฺโน โหติ เทเว ปุรกฺขตฺวา; ทกฺขิณาย ทิสาย วิรูฬฺหโก มหาราชา อุตฺตราภิมุโข นิสินฺโน โหติ เทเว ปุรกฺขตฺวา; ปจฺฉิมาย ทิสาย วิรูปกฺโข มหาราชา ปุรตฺถาภิมุโข นิสินฺโน โหติ เทเว ปุรกฺขตฺวา; อุตฺตราย ทิสาย เวสฺสวโณ มหาราชา ทกฺขิณาภิมุโข นิสินฺโน โหติ เทเว ปุรกฺขตฺวา ¶ . ยทา, ภนฺเต, เกวลกปฺปา จ เทวา ตาวตึสา สุธมฺมายํ สภายํ สนฺนิสินฺนา โหนฺติ สนฺนิปติตา, มหตี จ ทิพฺพปริสา สมนฺตโต นิสินฺนา โหนฺติ, จตฺตาโร จ มหาราชาโน จตุทฺทิสา นิสินฺนา ¶ โหนฺติ. อิทํ เนสํ โหติ อาสนสฺมึ; อถ ปจฺฉา อมฺหากํ อาสนํ โหติ. เย เต, ภนฺเต, เทวา ภควติ พฺรหฺมจริยํ จริตฺวา อธุนูปปนฺนา ตาวตึสกายํ, เต อฺเ เทเว อติโรจนฺติ วณฺเณน เจว ยสสา จ. เตน สุทํ, ภนฺเต, เทวา ตาวตึสา อตฺตมนา โหนฺติ ปมุทิตา ปีติโสมนสฺสชาตา ‘‘ทิพฺพา วต โภ กายา ปริปูเรนฺติ, หายนฺติ อสุรกายา’’ติ. อถ โข, ภนฺเต, สกฺโก เทวานมินฺโท เทวานํ ตาวตึสานํ สมฺปสาทํ วิทิตฺวา อิมาหิ คาถาหิ อนุโมทิ –
‘‘โมทนฺติ วต โภ เทวา, ตาวตึสา สหินฺทกา [สอินฺทกา (สี.)];
ตถาคตํ นมสฺสนฺตา, ธมฺมสฺส จ สุธมฺมตํ.
นเว เทเว จ ปสฺสนฺตา, วณฺณวนฺเต ยสสฺสิเน [ยสสฺสิโน (สฺยา.)];
สุคตสฺมึ พฺรหฺมจริยํ, จริตฺวาน อิธาคเต.
เต อฺเ อติโรจนฺติ, วณฺเณน ยสสายุนา;
สาวกา ภูริปฺสฺส, วิเสสูปคตา อิธ.
อิทํ ¶ ทิสฺวาน นนฺทนฺติ, ตาวตึสา สหินฺทกา;
ตถาคตํ นมสฺสนฺตา, ธมฺมสฺส จ สุธมฺมต’’นฺติ.
‘เตน ¶ ¶ สุทํ, ภนฺเต, เทวา ตาวตึสา ภิยฺโยโสมตฺตาย อตฺตมนา โหนฺติ ปมุทิตา ปีติโสมนสฺสชาตา ‘‘ทิพฺพา วต, โภ, กายา ปริปูเรนฺติ, หายนฺติ อสุรกายา’’ติ. อถ โข, ภนฺเต, เยนตฺเถน เทวา ตาวตึสา สุธมฺมายํ สภายํ สนฺนิสินฺนา โหนฺติ สนฺนิปติตา, ตํ อตฺถํ จินฺตยิตฺวา ตํ อตฺถํ มนฺตยิตฺวา วุตฺตวจนาปิ ตํ [วุตฺตวจนา นามิทํ (ก.)] จตฺตาโร มหาราชาโน ¶ ตสฺมึ อตฺเถ โหนฺติ. ปจฺจานุสิฏฺวจนาปิ ตํ [ปจฺจานุสิฏฺวจนา นามิทํ (ก.)] จตฺตาโร มหาราชาโน ตสฺมึ อตฺเถ โหนฺติ, สเกสุ สเกสุ อาสเนสุ ิตา อวิปกฺกนฺตา [อธิปกฺกนฺตา (ก.)].
เต วุตฺตวากฺยา ราชาโน, ปฏิคฺคยฺหานุสาสนึ;
วิปฺปสนฺนมนา สนฺตา, อฏฺํสุ สมฺหิ อาสเนติ.
๒๘๓. ‘อถ โข, ภนฺเต, อุตฺตราย ทิสาย อุฬาโร อาโลโก สฺชายิ, โอภาโส ปาตุรโหสิ อติกฺกมฺเมว เทวานํ เทวานุภาวํ. อถ โข, ภนฺเต, สกฺโก เทวานมินฺโท เทเว ตาวตึเส อามนฺเตสิ – ‘‘ยถา โข, มาริสา, นิมิตฺตานิ ทิสฺสนฺติ, อุฬาโร อาโลโก สฺชายติ, โอภาโส ปาตุภวติ, พฺรหฺมา ปาตุภวิสฺสติ. พฺรหฺมุโน เหตํ ปุพฺพนิมิตฺตํ ปาตุภาวาย ยทิทํ อาโลโก สฺชายติ โอภาโส ปาตุภวตีติ.
‘‘ยถา นิมิตฺตา ทิสฺสนฺติ, พฺรหฺมา ปาตุภวิสฺสติ;
พฺรหฺมุโน เหตํ นิมิตฺตํ, โอภาโส วิปุโล มหา’’ติ.
สนงฺกุมารกถา
๒๘๔. ‘อถ โข, ภนฺเต, เทวา ตาวตึสา ยถาสเกสุ อาสเนสุ นิสีทึสุ – ‘‘โอภาสเมตํ สฺสาม, ยํวิปาโก ภวิสฺสติ, สจฺฉิกตฺวาว นํ คมิสฺสามา’’ติ. จตฺตาโรปิ มหาราชาโน ยถาสเกสุ อาสเนสุ นิสีทึสุ – ‘‘โอภาสเมตํ สฺสาม ยํวิปาโก ภวิสฺสติ, สจฺฉิกตฺวาว ¶ นํ คมิสฺสามา’’ติ. อิทํ สุตฺวา เทวา ตาวตึสา เอกคฺคา ¶ สมาปชฺชึสุ – ‘‘โอภาสเมตํ สฺสาม, ยํวิปาโก ภวิสฺสติ, สจฺฉิกตฺวาว นํ คมิสฺสามา’’ติ.
‘ยทา, ภนฺเต, พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร เทวานํ ¶ ตาวตึสานํ ปาตุภวติ, โอฬาริกํ อตฺตภาวํ อภินิมฺมินิตฺวา ปาตุภวติ. โย โข ปน, ภนฺเต, พฺรหฺมุโน ปกติวณฺโณ อนภิสมฺภวนีโย โส เทวานํ ตาวตึสานํ จกฺขุปถสฺมึ. ยทา, ภนฺเต, พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร เทวานํ ตาวตึสานํ ปาตุภวติ ¶ , โส อฺเ เทเว อติโรจติ วณฺเณน เจว ยสสา จ. เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, โสวณฺโณ วิคฺคโห มานุสํ วิคฺคหํ อติโรจติ; เอวเมว โข, ภนฺเต, ยทา พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร เทวานํ ตาวตึสานํ ปาตุภวติ, โส อฺเ เทเว อติโรจติ วณฺเณน เจว ยสสา จ. ยทา, ภนฺเต, พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร เทวานํ ตาวตึสานํ ปาตุภวติ, น ตสฺสํ ปริสายํ โกจิ เทโว อภิวาเทติ วา ปจฺจุฏฺเติ วา อาสเนน วา นิมนฺเตติ. สพฺเพว ตุณฺหีภูตา ปฺชลิกา ปลฺลงฺเกน นิสีทนฺติ – ‘‘ยสฺสทานิ เทวสฺส ปลฺลงฺกํ อิจฺฉิสฺสติ พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร, ตสฺส เทวสฺส ปลฺลงฺเก นิสีทิสฺสตี’’ติ.
‘ยสฺส โข ปน, ภนฺเต, เทวสฺส พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร ปลฺลงฺเก นิสีทติ, อุฬารํ โส ลภติ เทโว เวทปฏิลาภํ; อุฬารํ โส ลภติ เทโว โสมนสฺสปฏิลาภํ. เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, ราชา ขตฺติโย มุทฺธาวสิตฺโต อธุนาภิสิตฺโต รชฺเชน, อุฬารํ โส ลภติ เวทปฏิลาภํ, อุฬารํ โส ลภติ โสมนสฺสปฏิลาภํ. เอวเมว โข, ภนฺเต, ยสฺส เทวสฺส พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร ปลฺลงฺเก นิสีทติ, อุฬารํ โส ลภติ เทโว เวทปฏิลาภํ, อุฬารํ โส ลภติ เทโว โสมนสฺสปฏิลาภํ. อถ ¶ ¶ , ภนฺเต, พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร โอฬาริกํ อตฺตภาวํ อภินิมฺมินิตฺวา กุมารวณฺณี [กุมารวณฺโณ (สฺยา. ก.)] หุตฺวา ปฺจสิโข เทวานํ ตาวตึสานํ ปาตุรโหสิ. โส เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา อากาเส อนฺตลิกฺเข ปลฺลงฺเกน นิสีทิ. เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, พลวา ปุริโส สุปจฺจตฺถเต วา ปลฺลงฺเก สเม วา ภูมิภาเค ปลฺลงฺเกน นิสีเทยฺย; เอวเมว โข, ภนฺเต, พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา อากาเส อนฺตลิกฺเข ปลฺลงฺเกน นิสีทิตฺวา เทวานํ ตาวตึสานํ สมฺปสาทํ วิทิตฺวา อิมาหิ คาถาหิ อนุโมทิ –
‘‘โมทนฺติ ¶ วต โภ เทวา, ตาวตึสา สหินฺทกา;
ตถาคตํ นมสฺสนฺตา, ธมฺมสฺส จ สุธมฺมตํ.
‘‘นเว เทเว จ ปสฺสนฺตา, วณฺณวนฺเต ยสสฺสิเน;
สุคตสฺมึ พฺรหฺมจริยํ, จริตฺวาน อิธาคเต.
‘‘เต อฺเ อติโรจนฺติ, วณฺเณน ยสสายุนา;
สาวกา ภูริปฺสฺส, วิเสสูปคตา อิธ.
‘‘อิทํ ¶ ทิสฺวาน นนฺทนฺติ, ตาวตึสา สหินฺทกา;
ตถาคตํ นมสฺสนฺตา, ธมฺมสฺส จ สุธมฺมต’’นฺติ.
๒๘๕. ‘อิมมตฺถํ, ภนฺเต, พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร ภาสิตฺถ; อิมมตฺถํ, ภนฺเต, พฺรหฺมุโน สนงฺกุมารสฺส ภาสโต อฏฺงฺคสมนฺนาคโต สโร โหติ วิสฺสฏฺโ จ วิฺเยฺโย จ มฺชุ จ สวนีโย จ พินฺทุ จ อวิสารี จ คมฺภีโร จ นินฺนาที จ. ยถาปริสํ โข ปน, ภนฺเต, พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร สเรน วิฺาเปติ; น จสฺส พหิทฺธา ปริสาย ¶ โฆโส นิจฺฉรติ. ยสฺส โข ปน, ภนฺเต, เอวํ อฏฺงฺคสมนฺนาคโต สโร โหติ, โส วุจฺจติ ‘‘พฺรหฺมสฺสโร’’ติ.
‘อถ โข, ภนฺเต, พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร เตตฺตึเส อตฺตภาเว อภินิมฺมินิตฺวา เทวานํ ตาวตึสานํ ปจฺเจกปลฺลงฺเกสุ ¶ ปลฺลงฺเกน [ปจฺเจกปลฺลงฺเกน (ก.)] นิสีทิตฺวา เทเว ตาวตึเส อามนฺเตสิ – ‘‘ตํ กึ มฺนฺติ, โภนฺโต เทวา ตาวตึสา, ยาวฺจ โส ภควา พหุชนหิตาย ปฏิปนฺโน พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ. เย หิ เกจิ, โภ, พุทฺธํ สรณํ คตา ธมฺมํ สรณํ คตา สงฺฆํ สรณํ คตา สีเลสุ ปริปูรการิโน เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปฺเปกจฺเจ ปรนิมฺมิตวสวตฺตีนํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชนฺติ, อปฺเปกจฺเจ นิมฺมานรตีนํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชนฺติ, อปฺเปกจฺเจ ตุสิตานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชนฺติ, อปฺเปกจฺเจ ยามานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชนฺติ, อปฺเปกจฺเจ ตาวตึสานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชนฺติ, อปฺเปกจฺเจ จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชนฺติ. เย สพฺพนิหีนํ กายํ ปริปูเรนฺติ, เต คนฺธพฺพกายํ ปริปูเรนฺตี’’’ติ.
๒๘๖. ‘อิมมตฺถํ ¶ , ภนฺเต, พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร ภาสิตฺถ; อิมมตฺถํ, ภนฺเต, พฺรหฺมุโน สนงฺกุมารสฺส ภาสโต โฆโสเยว เทวา มฺนฺติ – ‘‘ยฺวายํ มม ปลฺลงฺเก สฺวายํ เอโกว ภาสตี’’ติ.
เอกสฺมึ ภาสมานสฺมึ, สพฺเพ ภาสนฺติ นิมฺมิตา;
เอกสฺมึ ตุณฺหิมาสีเน, สพฺเพ ตุณฺหี ภวนฺติ เต.
ตทาสุ ¶ เทวา มฺนฺติ, ตาวตึสา สหินฺทกา;
ยฺวายํ มม ปลฺลงฺกสฺมึ, สฺวายํ เอโกว ภาสตีติ.
‘อถ ¶ โข, ภนฺเต, พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร เอกตฺเตน อตฺตานํ อุปสํหรติ, เอกตฺเตน อตฺตานํ อุปสํหริตฺวา สกฺกสฺส ¶ เทวานมินฺทสฺส ปลฺลงฺเก ปลฺลงฺเกน นิสีทิตฺวา เทเว ตาวตึเส อามนฺเตสิ –
ภาวิตอิทฺธิปาโท
๒๘๗. ‘‘‘ตํ กึ มฺนฺติ, โภนฺโต เทวา ตาวตึสา, ยาว สุปฺตฺตา จิเม เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ปฺตฺตา อิทฺธิปหุตาย [อิทฺธิพหุลีกตาย (สฺยา.)] อิทฺธิวิสวิตาย [อิทฺธิวิเสวิตาย (สฺยา.)] อิทฺธิวิกุพฺพนตาย. กตเม จตฺตาโร? อิธ โภ ภิกฺขุ ฉนฺทสมาธิปฺปธานสงฺขารสมนฺนาคตํ อิทฺธิปาทํ ภาเวติ. วีริยสมาธิปฺปธานสงฺขารสมนฺนาคตํ อิทฺธิปาทํ ภาเวติ. จิตฺตสมาธิปฺปธานสงฺขารสมนฺนาคตํ อิทฺธิปาทํ ภาเวติ. วีมํสาสมาธิปฺปธานสงฺขารสมนฺนาคตํ อิทฺธิปาทํ ภาเวติ. อิเม โข, โภ, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ปฺตฺตา อิทฺธิปหุตาย อิทฺธิวิสวิตาย อิทฺธิวิกุพฺพนตาย.
‘‘‘เย หิ เกจิ โภ อตีตมทฺธานํ สมณา วา พฺราหฺมณา วา อเนกวิหิตํ อิทฺธิวิธํ ปจฺจนุโภสุํ, สพฺเพ เต อิเมสํเยว จตุนฺนํ อิทฺธิปาทานํ ภาวิตตฺตา พหุลีกตตฺตา. เยปิ หิ เกจิ โภ อนาคตมทฺธานํ สมณา วา พฺราหฺมณา วา อเนกวิหิตํ อิทฺธิวิธํ ปจฺจนุโภสฺสนฺติ, สพฺเพ ¶ เต อิเมสํเยว จตุนฺนํ อิทฺธิปาทานํ ภาวิตตฺตา พหุลีกตตฺตา. เยปิ หิ เกจิ โภ เอตรหิ สมณา วา พฺราหฺมณา วา อเนกวิหิตํ อิทฺธิวิธํ ปจฺจนุโภนฺติ, สพฺเพ เต อิเมสํเยว จตุนฺนํ อิทฺธิปาทานํ ภาวิตตฺตา พหุลีกตตฺตา. ปสฺสนฺติ โน โภนฺโต เทวา ตาวตึสา มมปิมํ ¶ เอวรูปํ อิทฺธานุภาว’’นฺติ? ‘‘เอวํ มหาพฺรหฺเม’’ติ. ‘‘อหมฺปิ โข โภ อิเมสํเยว จตุนฺนฺจ อิทฺธิปาทานํ ¶ ภาวิตตฺตา พหุลีกตตฺตา เอวํ มหิทฺธิโก เอวํมหานุภาโว’’ติ. อิมมตฺถํ, ภนฺเต, พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร ภาสิตฺถ. อิมมตฺถํ, ภนฺเต, พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร ภาสิตฺวา เทเว ตาวตึเส อามนฺเตสิ –
ติวิโธ โอกาสาธิคโม
๒๘๘. ‘‘‘ตํ กึ มฺนฺติ, โภนฺโต เทวา ตาวตึสา, ยาวฺจิทํ เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ตโย โอกาสาธิคมา อนุพุทฺธา สุขสฺสาธิคมาย. กตเม ตโย? อิธ โภ เอกจฺโจ สํสฏฺโ วิหรติ กาเมหิ สํสฏฺโ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ. โส อปเรน สมเยน ¶ อริยธมฺมํ สุณาติ, โยนิโส มนสิ กโรติ, ธมฺมานุธมฺมํ ปฏิปชฺชติ. โส อริยธมฺมสฺสวนํ อาคมฺม โยนิโสมนสิการํ ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปตฺตึ อสํสฏฺโ วิหรติ กาเมหิ อสํสฏฺโ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ. ตสฺส อสํสฏฺสฺส กาเมหิ อสํสฏฺสฺส อกุสเลหิ ธมฺเมหิ อุปฺปชฺชติ สุขํ, สุขา ภิยฺโย โสมนสฺสํ. เสยฺยถาปิ, โภ, ปมุทา ปาโมชฺชํ [ปามุชฺชํ (ปี. ก.)] ชาเยถ, เอวเมว ¶ โข, โภ, อสํสฏฺสฺส กาเมหิ อสํสฏฺสฺส อกุสเลหิ ธมฺเมหิ อุปฺปชฺชติ สุขํ, สุขา ภิยฺโย โสมนสฺสํ. อยํ โข, โภ, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ปโม โอกาสาธิคโม อนุพุทฺโธ สุขสฺสาธิคมาย.
‘‘‘ปุน จปรํ, โภ, อิเธกจฺจสฺส โอฬาริกา กายสงฺขารา อปฺปฏิปฺปสฺสทฺธา โหนฺติ, โอฬาริกา วจีสงฺขารา อปฺปฏิปฺปสฺสทฺธา โหนฺติ, โอฬาริกา จิตฺตสงฺขารา อปฺปฏิปฺปสฺสทฺธา โหนฺติ. โส อปเรน สมเยน อริยธมฺมํ สุณาติ, โยนิโส มนสิ กโรติ, ธมฺมานุธมฺมํ ปฏิปชฺชติ. ตสฺส อริยธมฺมสฺสวนํ อาคมฺม โยนิโสมนสิการํ ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปตฺตึ โอฬาริกา กายสงฺขารา ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺติ, โอฬาริกา วจีสงฺขารา ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺติ, โอฬาริกา จิตฺตสงฺขารา ¶ ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺติ. ตสฺส โอฬาริกานํ กายสงฺขารานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิยา โอฬาริกานํ วจีสงฺขารานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิยา โอฬาริกานํ จิตฺตสงฺขารานํ ¶ ปฏิปฺปสฺสทฺธิยา อุปฺปชฺชติ สุขํ, สุขา ภิยฺโย โสมนสฺสํ. เสยฺยถาปิ, โภ, ปมุทา ปาโมชฺชํ ชาเยถ, เอวเมว โข โภ โอฬาริกานํ กายสงฺขารานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิยา โอฬาริกานํ วจีสงฺขารานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิยา โอฬาริกานํ จิตฺตสงฺขารานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิยา อุปฺปชฺชติ สุขํ, สุขา ภิยฺโย โสมนสฺสํ. อยํ โข, โภ, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ทุติโย โอกาสาธิคโม อนุพุทฺโธ สุขสฺสาธิคมาย.
‘‘‘ปุน จปรํ, โภ, อิเธกจฺโจ ¶ ‘อิทํ กุสล’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, ‘อิทํ อกุสล’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. ‘อิทํ สาวชฺชํ อิทํ อนวชฺชํ, อิทํ เสวิตพฺพํ อิทํ น เสวิตพฺพํ, อิทํ หีนํ อิทํ ปณีตํ, อิทํ กณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาค’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. โส อปเรน สมเยน อริยธมฺมํ สุณาติ, โยนิโส มนสิ กโรติ, ธมฺมานุธมฺมํ ปฏิปชฺชติ. โส อริยธมฺมสฺสวนํ อาคมฺม โยนิโสมนสิการํ ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปตฺตึ, ‘อิทํ กุสล’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อิทํ อกุสล’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ. อิทํ สาวชฺชํ อิทํ อนวชฺชํ, อิทํ เสวิตพฺพํ อิทํ น เสวิตพฺพํ, อิทํ หีนํ อิทํ ปณีตํ, อิทํ กณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาค’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ. ตสฺส เอวํ ชานโต เอวํ ปสฺสโต อวิชฺชา ปหียติ, วิชฺชา อุปฺปชฺชติ. ตสฺส อวิชฺชาวิราคา วิชฺชุปฺปาทา อุปฺปชฺชติ สุขํ, สุขา ภิยฺโย โสมนสฺสํ. เสยฺยถาปิ, โภ, ปมุทา ปาโมชฺชํ ชาเยถ ¶ , เอวเมว โข, โภ, อวิชฺชาวิราคา วิชฺชุปฺปาทา อุปฺปชฺชติ สุขํ, สุขา ภิยฺโย โสมนสฺสํ. อยํ โข, โภ, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ตติโย โอกาสาธิคโม อนุพุทฺโธ สุขสฺสาธิคมาย. อิเม ¶ ¶ โข, โภ, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ตโย โอกาสาธิคมา อนุพุทฺธา สุขสฺสาธิคมายา’’ติ. อิมมตฺถํ, ภนฺเต, พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร ภาสิตฺถ, อิมมตฺถํ, ภนฺเต, พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร ภาสิตฺวา เทเว ตาวตึเส อามนฺเตสิ –
จตุสติปฏฺานํ
๒๘๙. ‘‘‘ตํ กึ มฺนฺติ, โภนฺโต เทวา ตาวตึสา, ยาว สุปฺตฺตา จิเม เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน จตฺตาโร สติปฏฺานา ปฺตฺตา กุสลสฺสาธิคมาย. กตเม จตฺตาโร? อิธ ¶ , โภ, ภิกฺขุ อชฺฌตฺตํ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ. อชฺฌตฺตํ กาเย กายานุปสฺสี วิหรนฺโต ตตฺถ สมฺมา สมาธิยติ, สมฺมา วิปฺปสีทติ. โส ตตฺถ สมฺมา สมาหิโต สมฺมา วิปฺปสนฺโน พหิทฺธา ปรกาเย าณทสฺสนํ อภินิพฺพตฺเตติ. อชฺฌตฺตํ เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี วิหรติ…เป… พหิทฺธา ปรเวทนาสุ าณทสฺสนํ อภินิพฺพตฺเตติ. อชฺฌตฺตํ จิตฺเต จิตฺตานุปสฺสี วิหรติ…เป… พหิทฺธา ปรจิตฺเต าณทสฺสนํ อภินิพฺพตฺเตติ. อชฺฌตฺตํ ¶ ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ. อชฺฌตฺตํ ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรนฺโต ตตฺถ สมฺมา สมาธิยติ, สมฺมา วิปฺปสีทติ. โส ตตฺถ สมฺมา สมาหิโต สมฺมา วิปฺปสนฺโน พหิทฺธา ปรธมฺเมสุ าณทสฺสนํ อภินิพฺพตฺเตติ. อิเม โข, โภ, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน จตฺตาโร สติปฏฺานา ปฺตฺตา กุสลสฺสาธิคมายา’’ติ. อิมมตฺถํ, ภนฺเต, พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร ภาสิตฺถ. อิมมตฺถํ, ภนฺเต, พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร ภาสิตฺวา เทเว ตาวตึเส อามนฺเตสิ –
สตฺต สมาธิปริกฺขารา
๒๙๐. ‘‘‘ตํ กึ มฺนฺติ, โภนฺโต เทวา ตาวตึสา, ยาว สุปฺตฺตา จิเม เตน ภควตา ¶ ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน สตฺต สมาธิปริกฺขารา สมฺมาสมาธิสฺส ปริภาวนาย สมฺมาสมาธิสฺส ปาริปูริยา. กตเม สตฺต? สมฺมาทิฏฺิ สมฺมาสงฺกปฺโป สมฺมาวาจา สมฺมากมฺมนฺโต สมฺมาอาชีโว ¶ สมฺมาวายาโม สมฺมาสติ. ยา โข, โภ, อิเมหิ สตฺตหงฺเคหิ จิตฺตสฺส เอกคฺคตา ปริกฺขตา, อยํ วุจฺจติ, โภ, อริโย สมฺมาสมาธิ สอุปนิโส อิติปิ สปริกฺขาโร อิติปิ. สมฺมาทิฏฺิสฺส โภ, สมฺมาสงฺกปฺโป ปโหติ, สมฺมาสงฺกปฺปสฺส สมฺมาวาจา ปโหติ, สมฺมาวาจสฺส สมฺมากมฺมนฺโต ปโหติ. สมฺมากมฺมนฺตสฺส สมฺมาอาชีโว ปโหติ, สมฺมาอาชีวสฺส สมฺมาวายาโม ปโหติ, สมฺมาวายามสฺส สมฺมาสติ ปโหติ ¶ , สมฺมาสติสฺส สมฺมาสมาธิ ปโหติ, สมฺมาสมาธิสฺส สมฺมาาณํ ปโหติ, สมฺมาาณสฺส สมฺมาวิมุตฺติ ปโหติ. ยฺหิ ตํ, โภ, สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม สนฺทิฏฺิโก อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปเนยฺยิโก ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิฺูหิ อปารุตา อมตสฺส ¶ ทฺวารา’ติ อิทเมว ตํ สมฺมา วทมาโน วเทยฺย. สฺวากฺขาโต หิ, โภ, ภควตา ธมฺโม สนฺทิฏฺิโก, อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปเนยฺยิโก ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิฺูหิ อปารุตา อมตสฺส ทฺวารา [ทฺวาราติ (สฺยา. ก.)].
‘‘‘เย หิ เกจิ, โภ, พุทฺเธ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคตา, ธมฺเม อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคตา, สงฺเฆ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคตา, อริยกนฺเตหิ สีเลหิ สมนฺนาคตา ¶ , เย จิเม โอปปาติกา ธมฺมวินีตา สาติเรกานิ จตุวีสติสตสหสฺสานิ มาคธกา ปริจารกา อพฺภตีตา กาลงฺกตา ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โสตาปนฺนา อวินิปาตธมฺมา นิยตา สมฺโพธิปรายณา. อตฺถิ เจเวตฺถ สกทาคามิโน.
‘‘อตฺถายํ [อถายํ (สี. สฺยา.)] อิตรา ปชา, ปฺุาภาคาติ เม มโน;
สงฺขาตุํ โนปิ สกฺโกมิ, มุสาวาทสฺส โอตฺตปฺป’’นฺติ.
๒๙๑. ‘อิมมตฺถํ, ภนฺเต, พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร ภาสิตฺถ, อิมมตฺถํ, ภนฺเต, พฺรหฺมุโน สนงฺกุมารสฺส ภาสโต เวสฺสวณสฺส มหาราชสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘‘อจฺฉริยํ วต โภ, อพฺภุตํ ¶ วต โภ, เอวรูโปปิ นาม อุฬาโร สตฺถา ภวิสฺสติ, เอวรูปํ อุฬารํ ธมฺมกฺขานํ, เอวรูปา อุฬารา วิเสสาธิคมา ปฺายิสฺสนฺตี’’ติ. อถ, ภนฺเต, พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร เวสฺสวณสฺส มหาราชสฺส เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย เวสฺสวณํ มหาราชานํ เอตทโวจ – ‘‘ตํ กึ มฺติ ภวํ เวสฺสวโณ มหาราชา อตีตมฺปิ อทฺธานํ เอวรูโป อุฬาโร สตฺถา อโหสิ, เอวรูปํ อุฬารํ ธมฺมกฺขานํ, เอวรูปา อุฬารา วิเสสาธิคมา ปฺายึสุ. อนาคตมฺปิ ¶ อทฺธานํ เอวรูโป อุฬาโร สตฺถา ภวิสฺสติ, เอวรูปํ อุฬารํ ธมฺมกฺขานํ, เอวรูปา อุฬารา วิเสสาธิคมา ปฺายิสฺสนฺตี’’’ติ.
๒๙๒. ‘‘‘อิมมตฺถํ, ภนฺเต, พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร เทวานํ ตาวตึสานํ อภาสิ, อิมมตฺถํ เวสฺสวโณ มหาราชา พฺรหฺมุโน สนงฺกุมารสฺส เทวานํ ¶ ตาวตึสานํ ภาสโต ¶ สมฺมุขา สุตํ [สุตฺวา (สี. ปี.)] สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ สยํ ปริสายํ อาโรเจสิ’’.
อิมมตฺถํ ชนวสโภ ยกฺโข เวสฺสวณสฺส มหาราชสฺส สยํ ปริสายํ ภาสโต สมฺมุขา สุตํ สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ [ปฏิคฺคเหตฺวา (สี. ปี.)] ภควโต อาโรเจสิ. อิมมตฺถํ ภควา ชนวสภสฺส ยกฺขสฺส สมฺมุขา สุตฺวา สมฺมุขา ปฏิคฺคเหตฺวา สามฺจ อภิฺาย อายสฺมโต อานนฺทสฺส อาโรเจสิ, อิมมตฺถมายสฺมา อานนฺโท ภควโต สมฺมุขา สุตฺวา สมฺมุขา ปฏิคฺคเหตฺวา อาโรเจสิ ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีนํ ¶ อุปาสกานํ อุปาสิกานํ. ตยิทํ พฺรหฺมจริยํ อิทฺธฺเจว ผีตฺจ วิตฺถาริกํ พาหุชฺํ ปุถุภูตํ ยาว เทวมนุสฺเสหิ สุปฺปกาสิตนฺติ.
ชนวสภสุตฺตํ นิฏฺิตํ ปฺจมํ.