📜

๖. มหาโควินฺทสุตฺตํ

๒๙๓. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเต. อถ โข ปฺจสิโข คนฺธพฺพปุตฺโต อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺโณ เกวลกปฺปํ คิชฺฌกูฏํ ปพฺพตํ โอภาเสตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิโต โข ปฺจสิโข คนฺธพฺพปุตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ยํ โข เม, ภนฺเต, เทวานํ ตาวตึสานํ สมฺมุขา สุตํ สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ, อาโรเจมิ ตํ ภควโต’’ติ. ‘‘อาโรเจหิ เม ตฺวํ, ปฺจสิขา’’ติ ภควา อโวจ.

เทวสภา

๒๙๔. ‘‘ปุริมานิ, ภนฺเต, ทิวสานิ ปุริมตรานิ ตทหุโปสเถ ปนฺนรเส ปวารณาย ปุณฺณาย ปุณฺณมาย รตฺติยา เกวลกปฺปา จ เทวา ตาวตึสา สุธมฺมายํ สภายํ สนฺนิสินฺนา โหนฺติ สนฺนิปติตา; มหตี จ ทิพฺพปริสา สมนฺตโต นิสินฺนา โหนฺติ, จตฺตาโร จ มหาราชาโน จตุทฺทิสา นิสินฺนา โหนฺติ; ปุรตฺถิมาย ทิสาย ธตรฏฺโ มหาราชา ปจฺฉิมาภิมุโข นิสินฺโน โหติ เทเว ปุรกฺขตฺวา; ทกฺขิณาย ทิสาย วิรูฬฺหโก มหาราชา อุตฺตราภิมุโข นิสินฺโน โหติ เทเว ปุรกฺขตฺวา; ปจฺฉิมาย ทิสาย วิรูปกฺโข มหาราชา ปุรตฺถาภิมุโข นิสินฺโน โหติ เทเว ปุรกฺขตฺวา; อุตฺตราย ทิสาย เวสฺสวโณ มหาราชา ทกฺขิณาภิมุโข นิสินฺโน โหติ เทเว ปุรกฺขตฺวา. ยทา ภนฺเต, เกวลกปฺปา จ เทวา ตาวตึสา สุธมฺมายํ สภายํ สนฺนิสินฺนา โหนฺติ สนฺนิปติตา, มหตี จ ทิพฺพปริสา สมนฺตโต นิสินฺนา โหนฺติ, จตฺตาโร จ มหาราชาโน จตุทฺทิสา นิสินฺนา โหนฺติ, อิทํ เนสํ โหติ อาสนสฺมึ; อถ ปจฺฉา อมฺหากํ อาสนํ โหติ.

‘‘เย เต, ภนฺเต, เทวา ภควติ พฺรหฺมจริยํ จริตฺวา อธุนูปปนฺนา ตาวตึสกายํ, เต อฺเ เทเว อติโรจนฺติ วณฺเณน เจว ยสสา จ. เตน สุทํ, ภนฺเต, เทวา ตาวตึสา อตฺตมนา โหนฺติ ปมุทิตา ปีติโสมนสฺสชาตา; ‘ทิพฺพา วต, โภ, กายา ปริปูเรนฺติ, หายนฺติ อสุรกายา’ติ.

๒๙๕. ‘‘อถ โข, ภนฺเต, สกฺโก เทวานมินฺโท เทวานํ ตาวตึสานํ สมฺปสาทํ วิทิตฺวา อิมาหิ คาถาหิ อนุโมทิ –

‘โมทนฺติ วต โภ เทวา, ตาวตึสา สหินฺทกา;

ตถาคตํ นมสฺสนฺตา, ธมฺมสฺส จ สุธมฺมตํ.

นเว เทเว จ ปสฺสนฺตา, วณฺณวนฺเต ยสสฺสิเน;

สุคตสฺมึ พฺรหฺมจริยํ, จริตฺวาน อิธาคเต.

เต อฺเ อติโรจนฺติ, วณฺเณน ยสสายุนา;

สาวกา ภูริปฺสฺส, วิเสสูปคตา อิธ.

อิทํ ทิสฺวาน นนฺทนฺติ, ตาวตึสา สหินฺทกา;

ตถาคตํ นมสฺสนฺตา, ธมฺมสฺส จ สุธมฺมต’นฺติ.

‘‘เตน สุทํ , ภนฺเต, เทวา ตาวตึสา ภิยฺโยโส มตฺตาย อตฺตมนา โหนฺติ ปมุทิตา ปีติโสมนสฺสชาตา; ‘ทิพฺพา วต, โภ, กายา ปริปูเรนฺติ, หายนฺติ อสุรกายา’’’ติ.

อฏฺ ยถาภุจฺจวณฺณา

๒๙๖. ‘‘อถ โข, ภนฺเต, สกฺโก เทวานมินฺโท เทวานํ ตาวตึสานํ สมฺปสาทํ วิทิตฺวา เทเว ตาวตึเส อามนฺเตสิ – ‘อิจฺเฉยฺยาถ โน ตุมฺเห, มาริสา, ตสฺส ภควโต อฏฺ ยถาภุจฺเจ วณฺเณ โสตุ’นฺติ? ‘อิจฺฉาม มยํ, มาริส, ตสฺส ภควโต อฏฺ ยถาภุจฺเจ วณฺเณ โสตุ’นฺติ. อถ โข, ภนฺเต, สกฺโก เทวานมินฺโท เทวานํ ตาวตึสานํ ภควโต อฏฺ ยถาภุจฺเจ วณฺเณ ปยิรุทาหาสิ – ‘ตํ กึ มฺนฺติ, โภนฺโต เทวา ตาวตึสา? ยาวฺจ โส ภควา พหุชนหิตาย ปฏิปนฺโน พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ. เอวํ พหุชนหิตาย ปฏิปนฺนํ พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ อิมินาปงฺเคน สมนฺนาคตํ สตฺถารํ เนว อตีตํเส สมนุปสฺสาม, น ปเนตรหิ, อฺตฺร เตน ภควตา.

‘‘สฺวากฺขาโต โข ปน เตน ภควตา ธมฺโม สนฺทิฏฺิโก อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปเนยฺยิโก ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิฺูหิ. เอวํ โอปเนยฺยิกสฺส ธมฺมสฺส เทเสตารํ อิมินาปงฺเคน สมนฺนาคตํ สตฺถารํ เนว อตีตํเส สมนุปสฺสาม, น ปเนตรหิ, อฺตฺร เตน ภควตา.

‘‘อิทํ กุสลนฺติ โข ปน เตน ภควตา สุปฺตฺตํ, อิทํ อกุสลนฺติ สุปฺตฺตํ. อิทํ สาวชฺชํ อิทํ อนวชฺชํ, อิทํ เสวิตพฺพํ อิทํ น เสวิตพฺพํ, อิทํ หีนํ อิทํ ปณีตํ, อิทํ กณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาคนฺติ สุปฺตฺตํ. เอวํ กุสลากุสลสาวชฺชานวชฺชเสวิตพฺพาเสวิตพฺพหีน-ปณีตกณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาคานํ ธมฺมานํ ปฺเปตารํ อิมินาปงฺเคน สมนฺนาคตํ สตฺถารํ เนว อตีตํเส สมนุปสฺสาม, น ปเนตรหิ, อฺตฺร เตน ภควตา.

‘‘สุปฺตฺตา โข ปน เตน ภควตา สาวกานํ นิพฺพานคามินี ปฏิปทา, สํสนฺทติ นิพฺพานฺจ ปฏิปทา จ. เสยฺยถาปิ นาม คงฺโคทกํ ยมุโนทเกน สํสนฺทติ สเมติ, เอวเมว สุปฺตฺตา เตน ภควตา สาวกานํ นิพฺพานคามินี ปฏิปทา, สํสนฺทติ นิพฺพานฺจ ปฏิปทา จ. เอวํ นิพฺพานคามินิยา ปฏิปทาย ปฺเปตารํ อิมินาปงฺเคน สมนฺนาคตํ สตฺถารํ เนว อตีตํเส สมนุปสฺสาม, น ปเนตรหิ, อฺตฺร เตน ภควตา.

‘‘อภินิปฺผนฺโน [อภินิปฺปนฺโน (ปี. ก.)] โข ปน ตสฺส ภควโต ลาโภ อภินิปฺผนฺโน สิโลโก, ยาว มฺเ ขตฺติยา สมฺปิยายมานรูปา วิหรนฺติ, วิคตมโท โข ปน โส ภควา อาหารํ อาหาเรติ. เอวํ วิคตมทํ อาหารํ อาหรยมานํ อิมินาปงฺเคน สมนฺนาคตํ สตฺถารํ เนว อตีตํเส สมนุปสฺสาม, น ปเนตรหิ, อฺตฺร เตน ภควตา.

‘‘ลทฺธสหาโย โข ปน โส ภควา เสขานฺเจว ปฏิปนฺนานํ ขีณาสวานฺจ วุสิตวตํ. เต ภควา อปนุชฺช เอการามตํ อนุยุตฺโต วิหรติ. เอวํ เอการามตํ อนุยุตฺตํ อิมินาปงฺเคน สมนฺนาคตํ สตฺถารํ เนว อตีตํเส สมนุปสฺสาม, น ปเนตรหิ, อฺตฺร เตน ภควตา.

‘‘ยถาวาที โข ปน โส ภควา ตถาการี, ยถาการี ตถาวาที, อิติ ยถาวาที ตถาการี, ยถาการี ตถาวาที. เอวํ ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺนํ อิมินาปงฺเคน สมนฺนาคตํ สตฺถารํ เนว อตีตํเส สมนุปสฺสาม, น ปเนตรหิ, อฺตฺร เตน ภควตา.

‘‘ติณฺณวิจิกิจฺโฉ โข ปน โส ภควา วิคตกถํกโถ ปริโยสิตสงฺกปฺโป อชฺฌาสยํ อาทิพฺรหฺมจริยํ. เอวํ ติณฺณวิจิกิจฺฉํ วิคตกถํกถํ ปริโยสิตสงฺกปฺปํ อชฺฌาสยํ อาทิพฺรหฺมจริยํ อิมินาปงฺเคน สมนฺนาคตํ สตฺถารํ เนว อตีตํเส สมนุปสฺสาม, น ปเนตรหิ, อฺตฺร เตน ภควตา’ติ.

๒๙๗. ‘‘อิเม โข, ภนฺเต, สกฺโก เทวานมินฺโท เทวานํ ตาวตึสานํ ภควโต อฏฺ ยถาภุจฺเจ วณฺเณ ปยิรุทาหาสิ. เตน สุทํ, ภนฺเต, เทวา ตาวตึสา ภิยฺโยโส มตฺตาย อตฺตมนา โหนฺติ ปมุทิตา ปีติโสมนสฺสชาตา ภควโต อฏฺ ยถาภุจฺเจ วณฺเณ สุตฺวา. ตตฺร, ภนฺเต, เอกจฺเจ เทวา เอวมาหํสุ – ‘อโห วต, มาริสา, จตฺตาโร สมฺมาสมฺพุทฺธา โลเก อุปฺปชฺเชยฺยุํ ธมฺมฺจ เทเสยฺยุํ ยถริว ภควา. ตทสฺส พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสาน’นฺติ. เอกจฺเจ เทวา เอวมาหํสุ – ‘ติฏฺนฺตุ, มาริสา, จตฺตาโร สมฺมาสมฺพุทฺธา, อโห วต, มาริสา, ตโย สมฺมาสมฺพุทฺธา โลเก อุปฺปชฺเชยฺยุํ ธมฺมฺจ เทเสยฺยุํ ยถริว ภควา. ตทสฺส พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสาน’นฺติ. เอกจฺเจ เทวา เอวมาหํสุ – ‘ติฏฺนฺตุ, มาริสา, ตโย สมฺมาสมฺพุทฺธา, อโห วต, มาริสา, ทฺเว สมฺมาสมฺพุทฺธา โลเก อุปฺปชฺเชยฺยุํ ธมฺมฺจ เทเสยฺยุํ ยถริว ภควา. ตทสฺส พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสาน’นฺติ.

๒๙๘. ‘‘เอวํ วุตฺเต , ภนฺเต, สกฺโก เทวานมินฺโท เทเว ตาวตึเส เอตทโวจ – ‘อฏฺานํ โข เอตํ, มาริสา, อนวกาโส, ยํ เอกิสฺสา โลกธาตุยา ทฺเว อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา อปุพฺพํ อจริมํ อุปฺปชฺเชยฺยุํ, เนตํ านํ วิชฺชติ. อโห วต, มาริสา, โส ภควา อปฺปาพาโธ อปฺปาตงฺโก จิรํ ทีฆมทฺธานํ ติฏฺเยฺย. ตทสฺส พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสาน’นฺติ. อถ โข, ภนฺเต, เยนตฺเถน เทวา ตาวตึสา สุธมฺมายํ สภายํ สนฺนิสินฺนา โหนฺติ สนฺนิปติตา, ตํ อตฺถํ จินฺตยิตฺวา ตํ อตฺถํ มนฺตยิตฺวา วุตฺตวจนาปิ ตํ จตฺตาโร มหาราชาโน ตสฺมึ อตฺเถ โหนฺติ. ปจฺจานุสิฏฺวจนาปิ ตํ จตฺตาโร มหาราชาโน ตสฺมึ อตฺเถ โหนฺติ, สเกสุ สเกสุ อาสเนสุ ิตา อวิปกฺกนฺตา.

เต วุตฺตวากฺยา ราชาโน, ปฏิคฺคยฺหานุสาสนึ;

วิปฺปสนฺนมนา สนฺตา, อฏฺํสุ สมฺหิ อาสเนติ.

๒๙๙. ‘‘อถ โข, ภนฺเต, อุตฺตราย ทิสาย อุฬาโร อาโลโก สฺชายิ, โอภาโส ปาตุรโหสิ อติกฺกมฺเมว เทวานํ เทวานุภาวํ. อถ โข, ภนฺเต, สกฺโก เทวานมินฺโท เทเว ตาวตึเส อามนฺเตสิ – ‘ยถา โข, มาริสา, นิมิตฺตานิ ทิสฺสนฺติ, อุฬาโร อาโลโก สฺชายติ, โอภาโส ปาตุภวติ , พฺรหฺมา ปาตุภวิสฺสติ; พฺรหฺมุโน เหตํ ปุพฺพนิมิตฺตํ ปาตุภาวาย, ยทิทํ อาโลโก สฺชายติ โอภาโส ปาตุภวตีติ.

‘ยถา นิมิตฺตา ทิสฺสนฺติ, พฺรหฺมา ปาตุภวิสฺสติ;

พฺรหฺมุโน เหตํ นิมิตฺตํ, โอภาโส วิปุโล มหา’ติ.

สนงฺกุมารกถา

๓๐๐. ‘‘อถ โข, ภนฺเต, เทวา ตาวตึสา ยถาสเกสุ อาสเนสุ นิสีทึสุ – ‘โอภาสเมตํ สฺสาม, ยํวิปาโก ภวิสฺสติ, สจฺฉิกตฺวาว นํ คมิสฺสามา’ติ. จตฺตาโรปิ มหาราชาโน ยถาสเกสุ อาสเนสุ นิสีทึสุ – ‘โอภาสเมตํ สฺสาม, ยํวิปาโก ภวิสฺสติ, สจฺฉิกตฺวาว นํ คมิสฺสามา’ติ. อิทํ สุตฺวา เทวา ตาวตึสา เอกคฺคา สมาปชฺชึสุ – ‘โอภาสเมตํ สฺสาม, ยํวิปาโก ภวิสฺสติ, สจฺฉิกตฺวาว นํ คมิสฺสามา’ติ.

‘‘ยทา, ภนฺเต, พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร เทวานํ ตาวตึสานํ ปาตุภวติ, โอฬาริกํ อตฺตภาวํ อภินิมฺมินิตฺวา ปาตุภวติ. โย โข ปน, ภนฺเต, พฺรหฺมุโน ปกติวณฺโณ, อนภิสมฺภวนีโย โส เทวานํ ตาวตึสานํ จกฺขุปถสฺมึ. ยทา, ภนฺเต, พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร เทวานํ ตาวตึสานํ ปาตุภวติ, โส อฺเ เทเว อติโรจติ วณฺเณน เจว ยสสา จ. เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, โสวณฺโณ วิคฺคโห มานุสํ วิคฺคหํ อติโรจติ, เอวเมว โข, ภนฺเต, ยทา พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร เทวานํ ตาวตึสานํ ปาตุภวติ, โส อฺเ เทเว อติโรจติ วณฺเณน เจว ยสสา จ. ยทา, ภนฺเต, พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร เทวานํ ตาวตึสานํ ปาตุภวติ, น ตสฺสํ ปริสายํ โกจิ เทโว อภิวาเทติ วา ปจฺจุฏฺเติ วา อาสเนน วา นิมนฺเตติ. สพฺเพว ตุณฺหีภูตา ปฺชลิกา ปลฺลงฺเกน นิสีทนฺติ – ‘ยสฺสทานิ เทวสฺส ปลฺลงฺกํ อิจฺฉิสฺสติ พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร, ตสฺส เทวสฺส ปลฺลงฺเก นิสีทิสฺสตี’ติ. ยสฺส โข ปน, ภนฺเต, เทวสฺส พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร ปลฺลงฺเก นิสีทติ, อุฬารํ โส ลภติ เทโว เวทปฏิลาภํ, อุฬารํ โส ลภติ เทโว โสมนสฺสปฏิลาภํ . เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, ราชา ขตฺติโย มุทฺธาวสิตฺโต อธุนาภิสิตฺโต รชฺเชน, อุฬารํ โส ลภติ เวทปฏิลาภํ, อุฬารํ โส ลภติ โสมนสฺสปฏิลาภํ, เอวเมว โข, ภนฺเต, ยสฺส เทวสฺส พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร ปลฺลงฺเก นิสีทติ, อุฬารํ โส ลภติ เทโว เวทปฏิลาภํ, อุฬารํ โส ลภติ เทโว โสมนสฺสปฏิลาภํ. อถ, ภนฺเต, พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร เทวานํ ตาวตึสานํ สมฺปสาทํ วิทิตฺวา อนฺตรหิโต อิมาหิ คาถาหิ อนุโมทิ –

‘โมทนฺติ วต โภ เทวา, ตาวตึสา สหินฺทกา;

ตถาคตํ นมสฺสนฺตา, ธมฺมสฺส จ สุธมฺมตํ.

‘นเว เทเว จ ปสฺสนฺตา, วณฺณวนฺเต ยสสฺสิเน;

สุคตสฺมึ พฺรหฺมจริยํ, จริตฺวาน อิธาคเต.

‘เต อฺเ อติโรจนฺติ, วณฺเณน ยสสายุนา;

สาวกา ภูริปฺสฺส, วิเสสูปคตา อิธ.

‘อิทํ ทิสฺวาน นนฺทนฺติ, ตาวตึสา สหินฺทกา;

ตถาคตํ นมสฺสนฺตา, ธมฺมสฺส จ สุธมฺมต’นฺติ.

๓๐๑. ‘‘อิมมตฺถํ, ภนฺเต, พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร อภาสิตฺถ. อิมมตฺถํ, ภนฺเต , พฺรหฺมุโน สนงฺกุมารสฺส ภาสโต อฏฺงฺคสมนฺนาคโต สโร โหติ วิสฺสฏฺโ จ วิฺเยฺโย จ มฺชุ จ สวนีโย จ พินฺทุ จ อวิสารี จ คมฺภีโร จ นินฺนาที จ. ยถาปริสํ โข ปน, ภนฺเต, พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร สเรน วิฺาเปติ, น จสฺส พหิทฺธา ปริสาย โฆโส นิจฺฉรติ. ยสฺส โข ปน, ภนฺเต, เอวํ อฏฺงฺคสมนฺนาคโต สโร โหติ, โส วุจฺจติ ‘พฺรหฺมสฺสโร’ติ. อถ โข, ภนฺเต, เทวา ตาวตึสา พฺรหฺมานํ สนงฺกุมารํ เอตทโวจุํ – ‘สาธุ, มหาพฺรหฺเม, เอตเทว มยํ สงฺขาย โมทาม; อตฺถิ จ สกฺเกน เทวานมินฺเทน ตสฺส ภควโต อฏฺ ยถาภุจฺจา วณฺณา ภาสิตา; เต จ มยํ สงฺขาย โมทามา’ติ.

อฏฺ ยถาภุจฺจวณฺณา

๓๐๒. ‘‘อถ , ภนฺเต, พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร สกฺกํ เทวานมินฺทํ เอตทโวจ – ‘สาธุ, เทวานมินฺท, มยมฺปิ ตสฺส ภควโต อฏฺ ยถาภุจฺเจ วณฺเณ สุเณยฺยามา’ติ. ‘เอวํ มหาพฺรหฺเม’ติ โข, ภนฺเต, สกฺโก เทวานมินฺโท พฺรหฺมุโน สนงฺกุมารสฺส ภควโต อฏฺ ยถาภุจฺเจ วณฺเณ ปยิรุทาหาสิ.

‘‘ตํ กึ มฺติ, ภวํ มหาพฺรหฺมา? ยาวฺจ โส ภควา พหุชนหิตาย ปฏิปนฺโน พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ. เอวํ พหุชนหิตาย ปฏิปนฺนํ พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ อิมินาปงฺเคน สมนฺนาคตํ สตฺถารํ เนว อตีตํเส สมนุปสฺสาม, น ปเนตรหิ, อฺตฺร เตน ภควตา.

‘‘สฺวากฺขาโต โข ปน เตน ภควตา ธมฺโม สนฺทิฏฺิโก อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปเนยฺยิโก ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิฺูหิ. เอวํ โอปเนยฺยิกสฺส ธมฺมสฺส เทเสตารํ อิมินาปงฺเคน สมนฺนาคตํ สตฺถารํ เนว อตีตํเส สมนุปสฺสาม, น ปเนตรหิ, อฺตฺร เตน ภควตา.

‘‘อิทํ กุสล’นฺติ โข ปน เตน ภควตา สุปฺตฺตํ, ‘อิทํ อกุสล’นฺติ สุปฺตฺตํ, ‘อิทํ สาวชฺชํ อิทํ อนวชฺชํ, อิทํ เสวิตพฺพํ อิทํ น เสวิตพฺพํ, อิทํ หีนํ อิทํ ปณีตํ, อิทํ กณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาค’นฺติ สุปฺตฺตํ. เอวํ กุสลากุสลสาวชฺชานวชฺชเสวิตพฺพาเสวิตพฺพหีนปณีตกณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาคานํ ธมฺมานํ ปฺาเปตารํ. อิมินาปงฺเคน สมนฺนาคตํ สตฺถารํ เนว อตีตํเส สมนุปสฺสาม, น ปเนตรหิ, อฺตฺร เตน ภควตา.

‘‘สุปฺตฺตา โข ปน เตน ภควตา สาวกานํ นิพฺพานคามินี ปฏิปทา สํสนฺทติ นิพฺพานฺจ ปฏิปทา จ. เสยฺยถาปิ นาม คงฺโคทกํ ยมุโนทเกน สํสนฺทติ สเมติ, เอวเมว สุปฺตฺตา เตน ภควตา สาวกานํ นิพฺพานคามินี ปฏิปทา สํสนฺทติ นิพฺพานฺจ ปฏิปทา จ. เอวํ นิพฺพานคามินิยา ปฏิปทาย ปฺาเปตารํ อิมินาปงฺเคน สมนฺนาคตํ สตฺถารํ เนว อตีตํเส สมนุปสฺสาม, น ปเนตรหิ, อฺตฺร เตน ภควตา.

‘‘อภินิปฺผนฺโน โข ปน ตสฺส ภควโต ลาโภ อภินิปฺผนฺโน สิโลโก, ยาว มฺเ ขตฺติยา สมฺปิยายมานรูปา วิหรนฺติ. วิคตมโท โข ปน โส ภควา อาหารํ อาหาเรติ. เอวํ วิคตมทํ อาหารํ อาหรยมานํ อิมินาปงฺเคน สมนฺนาคตํ สตฺถารํ เนว อตีตํเส สมนุปสฺสาม, น ปเนตรหิ, อฺตฺร เตน ภควตา.

‘‘ลทฺธสหาโย โข ปน โส ภควา เสขานฺเจว ปฏิปนฺนานํ ขีณาสวานฺจ วุสิตวตํ, เต ภควา อปนุชฺช เอการามตํ อนุยุตฺโต วิหรติ. เอวํ เอการามตํ อนุยุตฺตํ อิมินาปงฺเคน สมนฺนาคตํ สตฺถารํ เนว อตีตํเส สมนุปสฺสาม, น ปเนตรหิ, อฺตฺร เตน ภควตา.

‘‘ยถาวาที โข ปน โส ภควา ตถาการี, ยถาการี ตถาวาที; อิติ ยถาวาที ตถาการี, ยถาการี ตถาวาที. เอวํ ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปฺปนฺนํ อิมินาปงฺเคน สมนฺนาคตํ สตฺถารํ เนว อตีตํเส สมนุปสฺสาม, น ปเนตรหิ, อฺตฺร เตน ภควตา.

‘‘ติณฺณวิจิกิจฺโฉ โข ปน โส ภควา วิคตกถํกโถ ปริโยสิตสงฺกปฺโป อชฺฌาสยํ อาทิพฺรหฺมจริยํ . เอวํ ติณฺณวิจิกิจฺฉํ วิคตกถํกถํ ปริโยสิตสงฺกปฺปํ อชฺฌาสยํ อาทิพฺรหฺมจริยํ. อิมินาปงฺเคน สมนฺนาคตํ สตฺถารํ เนว อตีตํเส สมนุปสฺสาม, น ปเนตรหิ, อฺตฺร เตน ภควตา’ติ.

๓๐๓. ‘‘อิเม โข, ภนฺเต, สกฺโก เทวานมินฺโท พฺรหฺมุโน สนงฺกุมารสฺส ภควโต อฏฺ ยถาภุจฺเจ วณฺเณ ปยิรุทาหาสิ. เตน สุทํ, ภนฺเต, พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร อตฺตมโน โหติ ปมุทิโต ปีติโสมนสฺสชาโต ภควโต อฏฺ ยถาภุจฺเจ วณฺเณ สุตฺวา. อถ, ภนฺเต, พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร โอฬาริกํ อตฺตภาวํ อภินิมฺมินิตฺวา กุมารวณฺณี หุตฺวา ปฺจสิโข เทวานํ ตาวตึสานํ ปาตุรโหสิ . โส เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา อากาเส อนฺตลิกฺเข ปลฺลงฺเกน นิสีทิ. เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, พลวา ปุริโส สุปจฺจตฺถเต วา ปลฺลงฺเก สเม วา ภูมิภาเค ปลฺลงฺเกน นิสีเทยฺย, เอวเมว โข, ภนฺเต, พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา อากาเส อนฺตลิกฺเข ปลฺลงฺเกน นิสีทิตฺวา เทเว ตาวตึเส อามนฺเตสิ –

โควินฺทพฺราหฺมณวตฺถุ

๓๐๔. ‘‘ตํ กึ มฺนฺติ, โภนฺโต เทวา ตาวตึสา, ยาว ทีฆรตฺตํ มหาปฺโว โส ภควา อโหสิ. ภูตปุพฺพํ, โภ, ราชา ทิสมฺปติ นาม อโหสิ. ทิสมฺปติสฺส รฺโ โควินฺโท นาม พฺราหฺมโณ ปุโรหิโต อโหสิ. ทิสมฺปติสฺส รฺโ เรณุ นาม กุมาโร ปุตฺโต อโหสิ. โควินฺทสฺส พฺราหฺมณสฺส โชติปาโล นาม มาณโว ปุตฺโต อโหสิ. อิติ เรณุ จ ราชปุตฺโต โชติปาโล จ มาณโว อฺเ จ ฉ ขตฺติยา อิจฺเจเต อฏฺ สหายา อเหสุํ. อถ โข, โภ, อโหรตฺตานํ อจฺจเยน โควินฺโท พฺราหฺมโณ กาลมกาสิ. โควินฺเท พฺราหฺมเณ กาลงฺกเต ราชา ทิสมฺปติ ปริเทเวสิ – ‘‘ยสฺมึ วต, โภ, มยํ สมเย โควินฺเท พฺราหฺมเณ สพฺพกิจฺจานิ สมฺมา โวสฺสชฺชิตฺวา ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิตา สมงฺคีภูตา ปริจาเรม, ตสฺมึ โน สมเย โควินฺโท พฺราหฺมโณ กาลงฺกโต’’ติ. เอวํ วุตฺเต โภ เรณุ ราชปุตฺโต ราชานํ ทิสมฺปตึ เอตทโวจ – ‘‘มา โข ตฺวํ, เทว, โควินฺเท พฺราหฺมเณ กาลงฺกเต อติพาฬฺหํ ปริเทเวสิ. อตฺถิ, เทว, โควินฺทสฺส พฺราหฺมณสฺส โชติปาโล นาม มาณโว ปุตฺโต ปณฺฑิตตโร เจว ปิตรา, อลมตฺถทสตโร เจว ปิตรา; เยปิสฺส ปิตา อตฺเถ อนุสาสิ, เตปิ โชติปาลสฺเสว มาณวสฺส อนุสาสนิยา’’ติ. ‘‘เอวํ กุมารา’’ติ? ‘‘เอวํ เทวา’’ติ.

มหาโควินฺทวตฺถุ

๓๐๕. ‘‘อถ โข, โภ, ราชา ทิสมฺปติ อฺตรํ ปุริสํ อามนฺเตสิ – ‘‘เอหิ ตฺวํ, อมฺโภ ปุริส, เยน โชติปาโล นาม มาณโว เตนุปสงฺกม; อุปสงฺกมิตฺวา โชติปาลํ มาณวํ เอวํ วเทหิ – ‘ภวมตฺถุ ภวนฺตํ โชติปาลํ, ราชา ทิสมฺปติ ภวนฺตํ โชติปาลํ มาณวํ อามนฺตยติ, ราชา ทิสมฺปติ โภโต โชติปาลสฺส มาณวสฺส ทสฺสนกาโม’’’ติ. ‘‘เอวํ, เทวา’’ติ โข, โภ, โส ปุริโส ทิสมฺปติสฺส รฺโ ปฏิสฺสุตฺวา เยน โชติปาโล มาณโว เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา โชติปาลํ มาณวํ เอตทโวจ – ‘‘ภวมตฺถุ ภวนฺตํ โชติปาลํ, ราชา ทิสมฺปติ ภวนฺตํ โชติปาลํ มาณวํ อามนฺตยติ , ราชา ทิสมฺปติ โภโต โชติปาลสฺส มาณวสฺส ทสฺสนกาโม’’ติ. ‘‘เอวํ, โภ’’ติ โข โภ โชติปาโล มาณโว ตสฺส ปุริสสฺส ปฏิสฺสุตฺวา เยน ราชา ทิสมฺปติ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ทิสมฺปตินา รฺา สทฺธึ สมฺโมทิ; สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข, โภ, โชติปาลํ มาณวํ ราชา ทิสมฺปติ เอตทโวจ – ‘‘อนุสาสตุ โน ภวํ โชติปาโล, มา โน ภวํ โชติปาโล อนุสาสนิยา ปจฺจพฺยาหาสิ. เปตฺติเก ตํ าเน เปสฺสามิ, โควินฺทิเย อภิสิฺจิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, โภ’’ติ โข, โภ, โส โชติปาโล มาณโว ทิสมฺปติสฺส รฺโ ปจฺจสฺโสสิ. อถ โข, โภ, ราชา ทิสมฺปติ โชติปาลํ มาณวํ โควินฺทิเย อภิสิฺจิ, ตํ เปตฺติเก าเน เปสิ. อภิสิตฺโต โชติปาโล มาณโว โควินฺทิเย เปตฺติเก าเน ปิโต เยปิสฺส ปิตา อตฺเถ อนุสาสิ เตปิ อตฺเถ อนุสาสติ, เยปิสฺส ปิตา อตฺเถ นานุสาสิ, เตปิ อตฺเถ อนุสาสติ; เยปิสฺส ปิตา กมฺมนฺเต อภิสมฺโภสิ, เตปิ กมฺมนฺเต อภิสมฺโภติ, เยปิสฺส ปิตา กมฺมนฺเต นาภิสมฺโภสิ, เตปิ กมฺมนฺเต อภิสมฺโภติ. ตเมนํ มนุสฺสา เอวมาหํสุ – ‘‘โควินฺโท วต, โภ, พฺราหฺมโณ, มหาโควินฺโท วต, โภ, พฺราหฺมโณ’’ติ. อิมินา โข เอวํ, โภ, ปริยาเยน โชติปาลสฺส มาณวสฺส โควินฺโท มหาโควินฺโทตฺเวว สมฺา อุทปาทิ.

รชฺชสํวิภชนํ

๓๐๖. ‘‘อถ โข, โภ, มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ เยน เต ฉ ขตฺติยา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เต ฉ ขตฺติเย เอตทโวจ – ‘‘ทิสมฺปติ โข, โภ, ราชา ชิณฺโณ วุทฺโธ มหลฺลโก อทฺธคโต วโยอนุปฺปตฺโต, โก นุ โข ปน, โภ, ชานาติ ชีวิตํ? านํ โข ปเนตํ วิชฺชติ, ยํ ทิสมฺปติมฺหิ รฺเ กาลงฺกเต ราชกตฺตาโร เรณุํ ราชปุตฺตํ รชฺเช อภิสิฺเจยฺยุํ. อายนฺตุ, โภนฺโต, เยน เรณุ ราชปุตฺโต เตนุปสงฺกมถ; อุปสงฺกมิตฺวา เรณุํ ราชปุตฺตํ เอวํ วเทถ – ‘‘มยํ โข โภโต เรณุสฺส สหายา ปิยา มนาปา อปฺปฏิกูลา, ยํสุโข ภวํ ตํสุขา มยํ, ยํทุกฺโข ภวํ ตํทุกฺขา มยํ. ทิสมฺปติ โข, โภ, ราชา ชิณฺโณ วุทฺโธ มหลฺลโก อทฺธคโต วโยอนุปฺปตฺโต, โก นุ โข ปน, โภ, ชานาติ ชีวิตํ? านํ โข ปเนตํ วิชฺชติ, ยํ ทิสมฺปติมฺหิ รฺเ กาลงฺกเต ราชกตฺตาโร ภวนฺตํ เรณุํ รชฺเช อภิสิฺเจยฺยุํ. สเจ ภวํ เรณุ รชฺชํ ลเภถ, สํวิภเชถ โน รชฺเชนา’’ติ. ‘‘เอวํ โภ’’ติ โข, โภ, เต ฉ ขตฺติยา มหาโควินฺทสฺส พฺราหฺมณสฺส ปฏิสฺสุตฺวา เยน เรณุ ราชปุตฺโต เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา เรณุํ ราชปุตฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘มยํ โข โภโต เรณุสฺส สหายา ปิยา มนาปา อปฺปฏิกูลา ; ยํสุโข ภวํ ตํสุขา มยํ, ยํทุกฺโข ภวํ ตํทุกฺขา มยํ. ทิสมฺปติ โข, โภ, ราชา ชิณฺโณ วุทฺโธ มหลฺลโก อทฺธคโต วโยอนุปฺปตฺโต, โก นุ โข ปน โภ ชานาติ ชีวิตํ? านํ โข ปเนตํ วิชฺชติ, ยํ ทิสมฺปติมฺหิ รฺเ กาลงฺกเต ราชกตฺตาโร ภวนฺตํ เรณุํ รชฺเช อภิสิฺเจยฺยุํ. สเจ ภวํ เรณุ รชฺชํ ลเภถ, สํวิภเชถ โน รชฺเชนา’’ติ. ‘‘โก นุ โข, โภ, อฺโ มม วิชิเต สุโข ภเวถ [สุขา ภเวยฺยาถ (ก.), สุขํ ภเวยฺยาถ, สุขเมเธยฺยาถ (สี. ปี.),สุข เมเธถ (?)], อฺตฺร ภวนฺเตภิ? สจาหํ, โภ, รชฺชํ ลภิสฺสามิ, สํวิภชิสฺสามิ โว รชฺเชนา’’’ติ.

๓๐๗. ‘‘อถ โข, โภ, อโหรตฺตานํ อจฺจเยน ราชา ทิสมฺปติ กาลมกาสิ. ทิสมฺปติมฺหิ รฺเ กาลงฺกเต ราชกตฺตาโร เรณุํ ราชปุตฺตํ รชฺเช อภิสิฺจึสุ. อภิสิตฺโต เรณุ รชฺเชน ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิโต สมงฺคีภูโต ปริจาเรติ. อถ โข, โภ, มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ เยน เต ฉ ขตฺติยา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เต ฉ ขตฺติเย เอตทโวจ – ‘‘ทิสมฺปติ โข, โภ, ราชา กาลงฺกโต. อภิสิตฺโต เรณุ รชฺเชน ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิโต สมงฺคีภูโต ปริจาเรติ. โก นุ โข ปน, โภ, ชานาติ, มทนียา กามา? อายนฺตุ, โภนฺโต, เยน เรณุ ราชา เตนุปสงฺกมถ; อุปสงฺกมิตฺวา เรณุํ ราชานํ เอวํ วเทถ – ทิสมฺปติ โข, โภ, ราชา กาลงฺกโต, อภิสิตฺโต ภวํ เรณุ รชฺเชน, สรติ ภวํ ตํ วจน’’’นฺติ?

๓๐๘. ‘‘‘เอวํ , โภ’’ติ โข, โภ, เต ฉ ขตฺติยา มหาโควินฺทสฺส พฺราหฺมณสฺส ปฏิสฺสุตฺวา เยน เรณุ ราชา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา เรณุํ ราชานํ เอตทโวจุํ – ‘‘ทิสมฺปติ โข, โภ, ราชา กาลงฺกโต, อภิสิตฺโต ภวํ เรณุ รชฺเชน, สรติ ภวํ ตํ วจน’’นฺติ? ‘‘สรามหํ, โภ, ตํ วจนํ [วจนนฺติ (สฺยา. ก.)]. โก นุ โข, โภ, ปโหติ อิมํ มหาปถวึ อุตฺตเรน อายตํ ทกฺขิเณน สกฏมุขํ สตฺตธา สมํ สุวิภตฺตํ วิภชิตุ’’นฺติ? ‘‘โก นุ โข, โภ, อฺโ ปโหติ, อฺตฺร มหาโควินฺเทน พฺราหฺมเณนา’’ติ? อถ โข, โภ, เรณุ ราชา อฺตรํ ปุริสํ อามนฺเตสิ – ‘‘เอหิ ตฺวํ, อมฺโภ ปุริส, เยน มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ เตนุปสงฺกม; อุปสงฺกมิตฺวา มหาโควินฺทํ พฺราหฺมณํ เอวํ วเทหิ – ‘ราชา ตํ, ภนฺเต, เรณุ อามนฺเตตี’’’ติ. ‘‘เอวํ เทวา’’ติ โข, โภ, โส ปุริโส เรณุสฺส รฺโ ปฏิสฺสุตฺวา เยน มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มหาโควินฺทํ พฺราหฺมณํ เอตทโวจ – ‘‘ราชา ตํ, ภนฺเต, เรณุ อามนฺเตตี’’ติ. ‘‘เอวํ, โภ’’ติ โข, โภ, มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ ตสฺส ปุริสสฺส ปฏิสฺสุตฺวา เยน เรณุ ราชา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เรณุนา รฺา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข, โภ, มหาโควินฺทํ พฺราหฺมณํ เรณุ ราชา เอตทโวจ – ‘‘เอตุ, ภวํ โควินฺโท, อิมํ มหาปถวึ อุตฺตเรน อายตํ ทกฺขิเณน สกฏมุขํ สตฺตธา สมํ สุวิภตฺตํ วิภชตู’’ติ. ‘‘เอวํ, โภ’’ติ โข มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ เรณุสฺส รฺโ ปฏิสฺสุตฺวา อิมํ มหาปถวึ อุตฺตเรน อายตํ ทกฺขิเณน สกฏมุขํ สตฺตธา สมํ สุวิภตฺตํ วิภชิ. สพฺพานิ สกฏมุขานิ ปฏฺเปสิ [อฏฺเปสิ (สี. ปี.)]. ตตฺร สุทํ มชฺเฌ เรณุสฺส รฺโ ชนปโท โหติ.

๓๐๙. ทนฺตปุรํ กลิงฺคานํ [กาลิงฺคานํ (สฺยา. ปี. ก.)], อสฺสกานฺจ โปตนํ.

มเหสยํ [มาหิสฺสติ (สี. สฺยา. ปี.)] อวนฺตีนํ, โสวีรานฺจ โรรุกํ.

มิถิลา จ วิเทหานํ, จมฺปา องฺเคสุ มาปิตา;

พาราณสี จ กาสีนํ, เอเต โควินฺทมาปิตาติ.

๓๑๐. ‘‘อถ โข, โภ, เต ฉ ขตฺติยา ยถาสเกน ลาเภน อตฺตมนา อเหสุํ ปริปุณฺณสงฺกปฺปา – ‘‘ยํ วต โน อโหสิ อิจฺฉิตํ, ยํ อากงฺขิตํ, ยํ อธิปฺเปตํ, ยํ อภิปตฺถิตํ, ตํ โน ลทฺธ’’นฺติ.

‘‘สตฺตภู พฺรหฺมทตฺโต จ, เวสฺสภู ภรโต สห;

เรณุ ทฺเว ธตรฏฺา จ, ตทาสุํ สตฺต ภารธา’ติ.

ปมภาณวาโร นิฏฺิโต.

กิตฺติสทฺทอพฺภุคฺคมนํ

๓๑๑. ‘‘อถ โข, โภ, เต ฉ ขตฺติยา เยน มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา มหาโควินฺทํ พฺราหฺมณํ เอตทโวจุํ – ‘‘ยถา โข ภวํ โควินฺโท เรณุสฺส รฺโ สหาโย ปิโย มนาโป อปฺปฏิกูโล. เอวเมว โข ภวํ โควินฺโท อมฺหากมฺปิ สหาโย ปิโย มนาโป อปฺปฏิกูโล, อนุสาสตุ โน ภวํ โควินฺโท; มา โน ภวํ โควินฺโท อนุสาสนิยา ปจฺจพฺยาหาสี’’ติ. ‘‘เอวํ, โภ’’ติ โข มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ เตสํ ฉนฺนํ ขตฺติยานํ ปจฺจสฺโสสิ. อถ โข, โภ, มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ สตฺต จ ราชาโน ขตฺติเย มุทฺธาวสิตฺเต รชฺเช [มุทฺธาภิสิตฺเต รชฺเชน (สฺยา.)] อนุสาสิ, สตฺต จ พฺราหฺมณมหาสาเล สตฺต จ นฺหาตกสตานิ มนฺเต วาเจสิ.

๓๑๒. ‘‘อถ โข, โภ, มหาโควินฺทสฺส พฺราหฺมณสฺส อปเรน สมเยน เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคจฺฉิ [อพฺภุคฺคฺฉิ (สี. ปี.)] – ‘‘สกฺขิ มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ พฺรหฺมานํ ปสฺสติ, สกฺขิ มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ พฺรหฺมุนา สากจฺเฉติ สลฺลปติ มนฺเตตี’’ติ. อถ โข, โภ, มหาโควินฺทสฺส พฺราหฺมณสฺส เอตทโหสิ – ‘‘มยฺหํ โข เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต – ‘สกฺขิ มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ พฺรหฺมานํ ปสฺสติ, สกฺขิ มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ พฺรหฺมุนา สากจฺเฉติ สลฺลปติ มนฺเตตี’ติ. น โข ปนาหํ พฺรหฺมานํ ปสฺสามิ, น พฺรหฺมุนา สากจฺเฉมิ, น พฺรหฺมุนา สลฺลปามิ , น พฺรหฺมุนา มนฺเตมิ. สุตํ โข ปน เมตํ พฺราหฺมณานํ วุทฺธานํ มหลฺลกานํ อาจริยปาจริยานํ ภาสมานานํ – ‘โย วสฺสิเก จตฺตาโร มาเส ปฏิสลฺลียติ, กรุณํ ฌานํ ฌายติ, โส พฺรหฺมานํ ปสฺสติ พฺรหฺมุนา สากจฺเฉติ พฺรหฺมุนา สลฺลปติ พฺรหฺมุนา มนฺเตตี’ติ. ยํนูนาหํ วสฺสิเก จตฺตาโร มาเส ปฏิสลฺลีเยยฺยํ, กรุณํ ฌานํ ฌาเยยฺย’’นฺติ.

๓๑๓. ‘‘อถ โข, โภ, มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ เยน เรณุ ราชา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เรณุํ ราชานํ เอตทโวจ – ‘‘มยฺหํ โข, โภ, เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต – ‘สกฺขิ มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ พฺรหฺมานํ ปสฺสติ, สกฺขิ มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ พฺรหฺมุนา สากจฺเฉติ สลฺลปติ มนฺเตตี’ติ. น โข ปนาหํ, โภ, พฺรหฺมานํ ปสฺสามิ, น พฺรหฺมุนา สากจฺเฉมิ, น พฺรหฺมุนา สลฺลปามิ, น พฺรหฺมุนา มนฺเตมิ. สุตํ โข ปน เมตํ พฺราหฺมณานํ วุทฺธานํ มหลฺลกานํ อาจริยปาจริยานํ ภาสมานานํ – ‘โย วสฺสิเก จตฺตาโร มาเส ปฏิสลฺลียติ, กรุณํ ฌานํ ฌายติ, โส พฺรหฺมานํ ปสฺสติ, พฺรหฺมุนา สากจฺเฉติ พฺรหฺมุนา สลฺลปติ พฺรหฺมุนา มนฺเตตี’ติ. อิจฺฉามหํ, โภ, วสฺสิเก จตฺตาโร มาเส ปฏิสลฺลียิตุํ, กรุณํ ฌานํ ฌายิตุํ; นมฺหิ เกนจิ อุปสงฺกมิตพฺโพ อฺตฺร เอเกน ภตฺตาภิหาเรนา’’ติ. ‘‘ยสฺสทานิ ภวํ โควินฺโท กาลํ มฺตี’’ติ.

๓๑๔. ‘‘อถ โข, โภ, มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ เยน เต ฉ ขตฺติยา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เต ฉ ขตฺติเย เอตทโวจ – ‘‘มยฺหํ โข, โภ, เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต – ‘สกฺขิ มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ พฺรหฺมานํ ปสฺสติ, สกฺขิ มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ พฺรหฺมุนา สากจฺเฉติ สลฺลปติ มนฺเตตี’ติ. น โข ปนาหํ, โภ, พฺรหฺมานํ ปสฺสามิ, น พฺรหฺมุนา สากจฺเฉมิ, น พฺรหฺมุนา สลฺลปามิ, น พฺรหฺมุนา มนฺเตมิ. สุตํ โข ปน เมตํ พฺราหฺมณานํ วุทฺธานํ มหลฺลกานํ อาจริยปาจริยานํ ภาสมานานํ, ‘โย วสฺสิเก จตฺตาโร มาเส ปฏิสลฺลียติ, กรุณํ ฌานํ ฌายติ, โส พฺรหฺมานํ ปสฺสติ พฺรหฺมุนา สากจฺเฉติ พฺรหฺมุนา สลฺลปติ พฺรหฺมุนา มนฺเตตี’ติ. อิจฺฉามหํ, โภ, วสฺสิเก จตฺตาโร มาเส ปฏิสลฺลียิตุํ, กรุณํ ฌานํ ฌายิตุํ; นมฺหิ เกนจิ อุปสงฺกมิตพฺโพ อฺตฺร เอเกน ภตฺตาภิหาเรนา’’ติ. ‘‘ยสฺสทานิ ภวํ โควินฺโท กาลํ มฺตี’’’ติ.

๓๑๕. ‘‘อถ โข, โภ, มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ เยน เต สตฺต จ พฺราหฺมณมหาสาลา สตฺต จ นฺหาตกสตานิ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เต สตฺต จ พฺราหฺมณมหาสาเล สตฺต จ นฺหาตกสตานิ เอตทโวจ – ‘‘มยฺหํ โข, โภ, เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต – ‘สกฺขิ มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ พฺรหฺมานํ ปสฺสติ, สกฺขิ มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ พฺรหฺมุนา สากจฺเฉติ สลฺลปติ มนฺเตตี’ติ. น โข ปนาหํ, โภ, พฺรหฺมานํ ปสฺสามิ, น พฺรหฺมุนา สากจฺเฉมิ, น พฺรหฺมุนา สลฺลปามิ, น พฺรหฺมุนา มนฺเตมิ. สุตํ โข ปน เมตํ พฺราหฺมณานํ วุทฺธานํ มหลฺลกานํ อาจริยปาจริยานํ ภาสมานานํ – ‘โย วสฺสิเก จตฺตาโร มาเส ปฏิสลฺลียติ, กรุณํ ฌานํ ฌายติ, โส พฺรหฺมานํ ปสฺสติ, พฺรหฺมุนา สากจฺเฉติ, พฺรหฺมุนา สลฺลปติ, พฺรหฺมุนา มนฺเตตี’ติ. เตน หิ, โภ, ยถาสุเต ยถาปริยตฺเต มนฺเต วิตฺถาเรน สชฺฌายํ กโรถ, อฺมฺฺจ มนฺเต วาเจถ; อิจฺฉามหํ, โภ, วสฺสิเก จตฺตาโร มาเส ปฏิสลฺลียิตุํ, กรุณํ ฌานํ ฌายิตุํ; นมฺหิ เกนจิ อุปสงฺกมิตพฺโพ อฺตฺร เอเกน ภตฺตาภิหาเรนา’’ติ. ‘‘ยสฺส ทานิ ภวํ โควินฺโท กาลํ มฺตี’’ติ.

๓๑๖. ‘‘อถ โข, โภ, มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ เยน จตฺตารีสา ภริยา สาทิสิโย เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา จตฺตารีสา ภริยา สาทิสิโย เอตทโวจ – ‘‘มยฺหํ โข, โภตี, เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต – ‘สกฺขิ มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ พฺรหฺมานํ ปสฺสติ, สกฺขิ มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ พฺรหฺมุนา สากจฺเฉติ สลฺลปติ มนฺเตตี’ติ. น โข ปนาหํ, โภตี, พฺรหฺมานํ ปสฺสามิ, น พฺรหฺมุนา สากจฺเฉมิ, น พฺรหฺมุนา สลฺลปามิ, น พฺรหฺมุนา มนฺเตมิ. สุตํ โข ปน เมตํ พฺราหฺมณานํ วุทฺธานํ มหลฺลกานํ อาจริยปาจริยานํ ภาสมานานํ ‘โย วสฺสิเก จตฺตาโร มาเส ปฏิสลฺลียติ, กรุณํ ฌานํ ฌายติ, โส พฺรหฺมานํ ปสฺสติ, พฺรหฺมุนา สากจฺเฉติ, พฺรหฺมุนา สลฺลปติ, พฺรหฺมุนา มนฺเตตีติ, อิจฺฉามหํ, โภตี, วสฺสิเก จตฺตาโร มาเส ปฏิสลฺลียิตุํ, กรุณํ ฌานํ ฌายิตุํ; นมฺหิ เกนจิ อุปสงฺกมิตพฺโพ อฺตฺร เอเกน ภตฺตาภิหาเรนา’’ติ. ‘‘ยสฺส ทานิ ภวํ โควินฺโท กาลํ มฺตี’’’ติ.

๓๑๗. ‘‘อถ โข, โภ, มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ ปุรตฺถิเมน นครสฺส นวํ สนฺธาคารํ การาเปตฺวา วสฺสิเก จตฺตาโร มาเส ปฏิสลฺลียิ, กรุณํ ฌานํ ฌายิ; นาสฺสุธ โกจิ อุปสงฺกมติ [อุปสงฺกมิ (ปี.)] อฺตฺร เอเกน ภตฺตาภิหาเรน. อถ โข, โภ, มหาโควินฺทสฺส พฺราหฺมณสฺส จตุนฺนํ มาสานํ อจฺจเยน อหุเทว อุกฺกณฺนา อหุ ปริตสฺสนา – ‘‘สุตํ โข ปน เมตํ พฺราหฺมณานํ วุทฺธานํ มหลฺลกานํ อาจริยปาจริยานํ ภาสมานานํ – ‘โย วสฺสิเก จตฺตาโร มาเส ปฏิสลฺลียติ, กรุณํ ฌานํ ฌายติ, โส พฺรหฺมานํ ปสฺสติ, พฺรหฺมุนา สากจฺเฉติ พฺรหฺมุนา สลฺลปติ พฺรหฺมุนา มนฺเตตี’ติ. น โข ปนาหํ พฺรหฺมานํ ปสฺสามิ, น พฺรหฺมุนา สากจฺเฉมิ น พฺรหฺมุนา สลฺลปามิ น พฺรหฺมุนา มนฺเตมี’’’ติ.

พฺรหฺมุนา สากจฺฉา

๓๑๘. ‘‘อถ โข, โภ, พฺรหฺมา สนงฺกุมาโร มหาโควินฺทสฺส พฺราหฺมณสฺส เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิฺเชยฺย, เอวเมว, พฺรหฺมโลเก อนฺตรหิโต มหาโควินฺทสฺส พฺราหฺมณสฺส สมฺมุเข ปาตุรโหสิ. อถ โข, โภ, มหาโควินฺทสฺส พฺราหฺมณสฺส อหุเทว ภยํ อหุ ฉมฺภิตตฺตํ อหุ โลมหํโส ยถา ตํ อทิฏฺปุพฺพํ รูปํ ทิสฺวา. อถ โข, โภ, มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ ภีโต สํวิคฺโค โลมหฏฺชาโต พฺรหฺมานํ สนงฺกุมารํ คาถาย อชฺฌภาสิ –

‘‘‘วณฺณวา ยสวา สิริมา, โก นุ ตฺวมสิ มาริส;

อชานนฺตา ตํ ปุจฺฉาม, กถํ ชาเนมุ ตํ มย’’นฺติ.

‘‘มํ เว กุมารํ ชานนฺติ, พฺรหฺมโลเก สนนฺตนํ [สนนฺติจ (ก.)];

สพฺเพ ชานนฺติ มํ เทวา, เอวํ โควินฺท ชานหิ’’.

‘‘‘อาสนํ อุทกํ ปชฺชํ, มธุสากฺจ [มธุปากฺจ (สี. สฺยา. ปี.)] พฺรหฺมุโน;

อคฺเฆ ภวนฺตํ ปุจฺฉาม, อคฺฆํ กุรุตุ โน ภวํ’’.

‘‘ปฏิคฺคณฺหาม เต อคฺฆํ, ยํ ตฺวํ โควินฺท ภาสสิ;

ทิฏฺธมฺมหิตตฺถาย, สมฺปราย สุขาย จ;

กตาวกาโส ปุจฺฉสฺสุ, ยํ กิฺจิ อภิปตฺถิต’’นฺติ.

๓๑๙. ‘‘อถ โข, โภ, มหาโควินฺทสฺส พฺราหฺมณสฺส เอตทโหสิ – ‘‘กตาวกาโส โขมฺหิ พฺรหฺมุนา สนงฺกุมาเรน. กึ นุ โข อหํ พฺรหฺมานํ สนงฺกุมารํ ปุจฺเฉยฺยํ ทิฏฺธมฺมิกํ วา อตฺถํ สมฺปรายิกํ วา’ติ? อถ โข, โภ, มหาโควินฺทสฺส พฺราหฺมณสฺส เอตทโหสิ – ‘กุสโล โข อหํ ทิฏฺธมฺมิกานํ อตฺถานํ, อฺเปิ มํ ทิฏฺธมฺมิกํ อตฺถํ ปุจฺฉนฺติ. ยํนูนาหํ พฺรหฺมานํ สนงฺกุมารํ สมฺปรายิกฺเว อตฺถํ ปุจฺเฉยฺย’นฺติ. อถ โข, โภ, มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ พฺรหฺมานํ สนงฺกุมารํ คาถาย อชฺฌภาสิ –

‘‘ปุจฺฉามิ พฺรหฺมานํ สนงฺกุมารํ,

กงฺขี อกงฺขึ ปรเวทิเยสุ;

กตฺถฏฺิโต กิมฺหิ จ สิกฺขมาโน,

ปปฺโปติ มจฺโจ อมตํ พฺรหฺมโลก’’นฺติ.

‘‘หิตฺวา มมตฺตํ มนุเชสุ พฺรหฺเม,

เอโกทิภูโต กรุเณธิมุตฺโต [กรุณาธิมุตฺโต (สี. สฺยา. ปี.)];

นิรามคนฺโธ วิรโต เมถุนสฺมา,

เอตฺถฏฺิโต เอตฺถ จ สิกฺขมาโน;

ปปฺโปติ มจฺโจ อมตํ พฺรหฺมโลก’’นฺติ.

๓๒๐. ‘‘หิตฺวา มมตฺต’นฺติ อหํ โภโต อาชานามิ. อิเธกจฺโจ อปฺปํ วา โภคกฺขนฺธํ ปหาย มหนฺตํ วา โภคกฺขนฺธํ ปหาย อปฺปํ วา าติปริวฏฺฏํ ปหาย มหนฺตํ วา าติปริวฏฺฏํ ปหาย เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ, ‘อิติ หิตฺวา มมตฺต’นฺติ อหํ โภโต อาชานามิ. ‘เอโกทิภูโต’ติ อหํ โภโต อาชานามิ. อิเธกจฺโจ วิวิตฺตํ เสนาสนํ ภชติ อรฺํ รุกฺขมูลํ ปพฺพตํ กนฺทรํ คิริคุหํ สุสานํ วนปตฺถํ อพฺโภกาสํ ปลาลปุฺชํ, อิติ เอโกทิภูโต’ติ อหํ โภโต อาชานามิ. ‘กรุเณธิมุตฺโต’ติ อหํ โภโต อาชานามิ. อิเธกจฺโจ กรุณาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ, ตถา ทุติยํ, ตถา ตติยํ, ตถา จตุตฺถํ. อิติ อุทฺธมโธติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ กรุณาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน ผริตฺวา วิหรติ. อิติ ‘กรุเณธิมุตฺโต’ติ อหํ โภโต อาชานามิ. อามคนฺเธ จ โข อหํ โภโต ภาสมานสฺส น อาชานามิ.

‘‘เก อามคนฺธา มนุเชสุ พฺรหฺเม,

เอเต อวิทฺวา อิธ พฺรูหิ ธีร;

เกนาวฏา [เกนาวุฏา (สฺยา.)] วาติ ปชา กุรุตุ [กุรุรู (สฺยา.), กุรุฏฺรู (ปี.), กุรูรุ (?)],

อาปายิกา นิวุตพฺรหฺมโลกา’’ติ.

‘‘โกโธ โมสวชฺชํ นิกติ จ ทุพฺโภ,

กทริยตา อติมาโน อุสูยา;

อิจฺฉา วิวิจฺฉา ปรเหนา จ,

โลโภ จ โทโส จ มโท จ โมโห;

เอเตสุ ยุตฺตา อนิรามคนฺธา,

อาปายิกา นิวุตพฺรหฺมโลกา’’ติ.

‘‘ยถา โข อหํ โภโต อามคนฺเธ ภาสมานสฺส อาชานามิ. เต น สุนิมฺมทยา อคารํ อชฺฌาวสตา. ปพฺพชิสฺสามหํ, โภ, อคารสฺมา อนคาริย’’นฺติ. ‘‘ยสฺสทานิ ภวํ โควินฺโท กาลํ มฺตี’’ติ.

เรณุราชอามนฺตนา

๓๒๑. ‘‘อถ โข, โภ, มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ เยน เรณุ ราชา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เรณุํ ราชานํ เอตทโวจ – ‘‘อฺํ ทานิ ภวํ ปุโรหิตํ ปริเยสตุ, โย โภโต รชฺชํ อนุสาสิสฺสติ. อิจฺฉามหํ, โภ , อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตุํ. ยถา โข ปน เม สุตํ พฺรหฺมุโน อามคนฺเธ ภาสมานสฺส, เต น สุนิมฺมทยา อคารํ อชฺฌาวสตา. ปพฺพชิสฺสามหํ, โภ, อคารสฺมา อนคาริย’’นฺติ.

‘‘อามนฺตยามิ ราชานํ, เรณุํ ภูมิปตึ อหํ;

ตฺวํ ปชานสฺสุ รชฺเชน, นาหํ โปโรหิจฺเจ รเม’’.

‘‘สเจ เต อูนํ กาเมหิ, อหํ ปริปูรยามิ เต;

โย ตํ หึสติ วาเรมิ, ภูมิเสนาปติ อหํ;

ตุวํ ปิตา อหํ ปุตฺโต, มา โน โควินฺท ปาชหิ’’ [ปาเชหิ (อฏฺกถายํ สํวณฺณิตปานฺตรํ)].

‘‘นมตฺถิ อูนํ กาเมหิ, หึสิตา เม น วิชฺชติ;

อมนุสฺสวโจ สุตฺวา, ตสฺมาหํ น คเห รเม’’.

‘‘อมนุสฺโส กถํวณฺโณ, กึ เต อตฺถํ อภาสถ;

ยฺจ สุตฺวา ชหาสิ โน, เคเห อมฺเห จ เกวลี’’.

‘‘อุปวุตฺถสฺส เม ปุพฺเพ, ยิฏฺุกามสฺส เม สโต;

อคฺคิ ปชฺชลิโต อาสิ, กุสปตฺตปริตฺถโต’’.

‘‘ตโต เม พฺรหฺมา ปาตุรหุ, พฺรหฺมโลกา สนนฺตโน;

โส เม ปฺหํ วิยากาสิ, ตํ สุตฺวา น คเห รเม’’.

‘‘สทฺทหามิ อหํ โภโต, ยํ ตฺวํ โควินฺท ภาสสิ;

อมนุสฺสวโจ สุตฺวา, กถํ วตฺเตถ อฺถา.

‘‘เต ตํ อนุวตฺติสฺสาม, สตฺถา โควินฺท โน ภวํ;

มณิ ยถา เวฬุริโย, อกาโจ วิมโล สุโภ;

เอวํ สุทฺธา จริสฺสาม, โควินฺทสฺสานุสาสเน’’ติ.

‘‘‘สเจ ภวํ โควินฺโท อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิสฺสติ, มยมฺปิ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิสฺสาม. อถ ยา เต คติ, สา โน คติ ภวิสฺสตี’’ติ.

ฉ ขตฺติยอามนฺตนา

๓๒๒. ‘‘อถ โข, โภ, มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ เยน เต ฉ ขตฺติยา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เต ฉ ขตฺติเย เอตทโวจ – ‘‘อฺํ ทานิ ภวนฺโต ปุโรหิตํ ปริเยสนฺตุ, โย ภวนฺตานํ รชฺเช อนุสาสิสฺสติ. อิจฺฉามหํ, โภ, อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตุํ. ยถา โข ปน เม สุตํ พฺรหฺมุโน อามคนฺเธ ภาสมานสฺส, เต น สุนิมฺมทยา อคารํ อชฺฌาวสตา. ปพฺพชิสฺสามหํ, โภ, อคารสฺมา อนคาริย’’นฺติ. อถ โข, โภ, เต ฉ ขตฺติยา เอกมนฺตํ อปกฺกมฺม เอวํ สมจินฺเตสุํ – ‘‘อิเม โข พฺราหฺมณา นาม ธนลุทฺธา; ยํนูน มยํ มหาโควินฺทํ พฺราหฺมณํ ธเนน สิกฺเขยฺยามา’’ติ. เต มหาโควินฺทํ พฺราหฺมณํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวมาหํสุ – ‘‘สํวิชฺชติ โข, โภ, อิเมสุ สตฺตสุ รชฺเชสุ ปหูตํ สาปเตยฺยํ, ตโต โภโต ยาวตเกน อตฺโถ, ตาวตกํ อาหรียต’’นฺติ. ‘‘อลํ, โภ, มมปิทํ ปหูตํ สาปเตยฺยํ ภวนฺตานํเยว วาหสา. ตมหํ สพฺพํ ปหาย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิสฺสามิ. ยถา โข ปน เม สุตํ พฺรหฺมุโน อามคนฺเธ ภาสมานสฺส, เต น สุนิมฺมทยา อคารํ อชฺฌาวสตา, ปพฺพชิสฺสามหํ, โภ, อคารสฺมา อนคาริย’’นฺติ. อถ โข, โภ, เต ฉ ขตฺติยา เอกมนฺตํ อปกฺกมฺม เอวํ สมจินฺเตสุํ – ‘‘อิเม โข พฺราหฺมณา นาม อิตฺถิลุทฺธา; ยํนูน มยํ มหาโควินฺทํ พฺราหฺมณํ อิตฺถีหิ สิกฺเขยฺยามา’’ติ. เต มหาโควินฺทํ พฺราหฺมณํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวมาหํสุ – ‘‘สํวิชฺชนฺติ โข, โภ, อิเมสุ สตฺตสุ รชฺเชสุ ปหูตา อิตฺถิโย, ตโต โภโต ยาวติกาหิ อตฺโถ, ตาวติกา อานียต’’นฺติ. ‘‘อลํ, โภ, มมปิมา [มมปิตา (ก.), มมปิ (สี.)] จตฺตารีสา ภริยา สาทิสิโย. ตาปาหํ สพฺพา ปหาย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิสฺสามิ. ยถา โข ปน เม สุตํ พฺรหฺมุโน อามคนฺเธ ภาสมานสฺส, เต น สุนิมฺมทยา อคารํ อชฺฌาวสตา, ปพฺพชิสฺสามหํ, โภ, อคารสฺมา อนคาริยนฺติ’’.

๓๒๓. ‘‘สเจ ภวํ โควินฺโท อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิสฺสติ, มยมฺปิ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิสฺสาม, อถ ยา เต คติ, สา โน คติ ภวิสฺสตีติ.

‘‘สเจ ชหถ กามานิ, ยตฺถ สตฺโต ปุถุชฺชโน;

อารมฺภวฺโห ทฬฺหา โหถ, ขนฺติพลสมาหิตา.

‘‘เอส มคฺโค อุชุมคฺโค, เอส มคฺโค อนุตฺตโร;

สทฺธมฺโม สพฺภิ รกฺขิโต, พฺรหฺมโลกูปปตฺติยาติ.

‘‘เตน หิ ภวํ โควินฺโท สตฺต วสฺสานิ อาคเมตุ. สตฺตนฺนํ วสฺสานํ อจฺจเยน มยมฺปิ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิสฺสาม, อถ ยา เต คติ, สา โน คติ ภวิสฺสตี’’ติ.

‘‘‘อติจิรํ โข, โภ, สตฺต วสฺสานิ, นาหํ สกฺโกมิ, ภวนฺเต, สตฺต วสฺสานิ อาคเมตุํ. โก นุ โข ปน, โภ, ชานาติ ชีวิตานํ! คมนีโย สมฺปราโย, มนฺตายํ [มนฺตาย (พหูสุ)] โพทฺธพฺพํ, กตฺตพฺพํ กุสลํ, จริตพฺพํ พฺรหฺมจริยํ, นตฺถิ ชาตสฺส อมรณํ. ยถา โข ปน เม สุตํ พฺรหฺมุโน อามคนฺเธ ภาสมานสฺส, เต น สุนิมฺมทยา อคารํ อชฺฌาวสตา, ปพฺพชิสฺสามหํ, โภ, อคารสฺมา อนคาริย’’’นฺติ. ‘‘เตน หิ ภวํ โควินฺโท ฉพฺพสฺสานิ อาคเมตุ…เป… ปฺจ วสฺสานิ อาคเมตุ… จตฺตาริ วสฺสานิ อาคเมตุ… ตีณิ วสฺสานิ อาคเมตุ… ทฺเว วสฺสานิ อาคเมตุ… เอกํ วสฺสํ อาคเมตุ, เอกสฺส วสฺสสฺส อจฺจเยน มยมฺปิ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิสฺสาม, อถ ยา เต คติ, สา โน คติ ภวิสฺสตี’’ติ.

‘‘‘อติจิรํ โข, โภ, เอกํ วสฺสํ, นาหํ สกฺโกมิ ภวนฺเต เอกํ วสฺสํ อาคเมตุํ. โก นุ โข ปน, โภ, ชานาติ ชีวิตานํ! คมนีโย สมฺปราโย, มนฺตายํ โพทฺธพฺพํ, กตฺตพฺพํ กุสลํ , จริตพฺพํ พฺรหฺมจริยํ, นตฺถิ ชาตสฺส อมรณํ. ยถา โข ปน เม สุตํ พฺรหฺมุโน อามคนฺเธ ภาสมานสฺส, เต น สุนิมฺมทยา อคารํ อชฺฌาวสตา, ปพฺพชิสฺสามหํ, โภ, อคารสฺมา อนคาริย’’นฺติ. ‘‘เตน หิ ภวํ โควินฺโท สตฺต มาสานิ อาคเมตุ, สตฺตนฺนํ มาสานํ อจฺจเยน มยมฺปิ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิสฺสาม, อถ ยา เต คติ, สา โน คติ ภวิสฺสตี’’ติ.

‘‘‘อติจิรํ โข, โภ, สตฺต มาสานิ, นาหํ สกฺโกมิ ภวนฺเต สตฺต มาสานิ อาคเมตุํ. โก นุ โข ปน, โภ, ชานาติ ชีวิตานํ. คมนีโย สมฺปราโย, มนฺตายํ โพทฺธพฺพํ , กตฺตพฺพํ กุสลํ, จริตพฺพํ พฺรหฺมจริยํ, นตฺถิ ชาตสฺส อมรณํ. ยถา โข ปน เม สุตํ พฺรหฺมุโน อามคนฺเธ ภาสมานสฺส, เต น สุนิมฺมทยา อคารํ อชฺฌาวสตา, ปพฺพชิสฺสามหํ, โภ, อคารสฺมา อนคาริย’’นฺติ.

‘‘‘เตน หิ ภวํ โควินฺโท ฉ มาสานิ อาคเมตุ…เป… ปฺจ มาสานิ อาคเมตุ… จตฺตาริ มาสานิ อาคเมตุ… ตีณิ มาสานิ อาคเมตุ… ทฺเว มาสานิ อาคเมตุ… เอกํ มาสํ อาคเมตุ… อทฺธมาสํ อาคเมตุ, อทฺธมาสสฺส อจฺจเยน มยมฺปิ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิสฺสาม, อถ ยา เต คติ, สา โน คติ ภวิสฺสตี’’ติ.

‘‘‘อติจิรํ โข, โภ, อทฺธมาโส, นาหํ สกฺโกมิ ภวนฺเต อทฺธมาสํ อาคเมตุํ. โก นุ โข ปน, โภ, ชานาติ ชีวิตานํ! คมนีโย สมฺปราโย, มนฺตายํ โพทฺธพฺพํ, กตฺตพฺพํ กุสลํ, จริตพฺพํ พฺรหฺมจริยํ, นตฺถิ ชาตสฺส อมรณํ. ยถา โข ปน เม สุตํ พฺรหฺมุโน อามคนฺเธ ภาสมานสฺส, เต น สุนิมฺมทยา อคารํ อชฺฌาวสตา, ปพฺพชิสฺสามหํ, โภ, อคารสฺมา อนคาริย’’นฺติ. ‘‘เตน หิ ภวํ โควินฺโท สตฺตาหํ อาคเมตุ, ยาว มยํ สเก ปุตฺตภาตโร รชฺเชน [รชฺเช (สฺยา.)] อนุสาสิสฺสาม, สตฺตาหสฺส อจฺจเยน มยมฺปิ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิสฺสาม, อถ ยา เต คติ, สา โน คติ ภวิสฺสตี’’ติ. ‘‘น จิรํ โข, โภ, สตฺตาหํ, อาคเมสฺสามหํ ภวนฺเต สตฺตาห’’นฺติ.

พฺราหฺมณมหาสาลาทีนํ อามนฺตนา

๓๒๔. ‘‘อถ โข, โภ, มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ เยน เต สตฺต จ พฺราหฺมณมหาสาลา สตฺต จ นฺหาตกสตานิ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เต สตฺต จ พฺราหฺมณมหาสาเล สตฺต จ นฺหาตกสตานิ เอตทโวจ – ‘‘อฺํ ทานิ ภวนฺโต อาจริยํ ปริเยสนฺตุ, โย ภวนฺตานํ มนฺเต วาเจสฺสติ. อิจฺฉามหํ, โภ, อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตุํ. ยถา โข ปน เม สุตํ พฺรหฺมุโน อามคนฺเธ ภาสมานสฺส. เต น สุนิมฺมทยา อคารํ อชฺฌาวสตา, ปพฺพชิสฺสามหํ, โภ, อคารสฺมา อนคาริย’’นฺติ. ‘‘มา ภวํ โควินฺโท อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิ. ปพฺพชฺชา, โภ, อปฺเปสกฺขา จ อปฺปลาภา จ; พฺรหฺมฺํ มเหสกฺขฺจ มหาลาภฺจา’’ติ. ‘‘มา ภวนฺโต เอวํ อวจุตฺถ – ‘‘ปพฺพชฺชา อปฺเปสกฺขา จ อปฺปลาภา จ, พฺรหฺมฺํ มเหสกฺขฺจ มหาลาภฺจา’’ติ. โก นุ โข, โภ, อฺตฺร มยา มเหสกฺขตโร วา มหาลาภตโร วา! อหฺหิ, โภ, เอตรหิ ราชาว รฺํ พฺรหฺมาว พฺราหฺมณานํ [พฺรหฺมานํ (สี. ปี. ก.)] เทวตาว คหปติกานํ. ตมหํ สพฺพํ ปหาย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิสฺสามิ. ยถา โข ปน เม สุตํ พฺรหฺมุโน อามคนฺเธ ภาสมานสฺส, เต น สุนิมฺมทยา อคารํ อชฺฌาวสตา. ปพฺพชิสฺสามหํ, โภ, อคารสฺมา อนคาริย’’นฺติ. ‘‘สเจ ภวํ โควินฺโท อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิสฺสติ, มยมฺปิ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิสฺสาม, อถ ยา เต คติ, สา โน คติ ภวิสฺสตี’’ติ.

ภริยานํ อามนฺตนา

๓๒๕. ‘‘อถ โข, โภ, มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ เยน จตฺตารีสา ภริยา สาทิสิโย เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา จตฺตารีสา ภริยา สาทิสิโย เอตทโวจ – ‘‘ยา โภตีนํ อิจฺฉติ, สกานิ วา าติกุลานิ คจฺฉตุ อฺํ วา ภตฺตารํ ปริเยสตุ. อิจฺฉามหํ, โภตี, อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตุํ. ยถา โข ปน เม สุตํ พฺรหฺมุโน อามคนฺเธ ภาสมานสฺส, เต น สุนิมฺมทยา อคารํ อชฺฌาวสตา. ปพฺพชิสฺสามหํ, โภตี, อคารสฺมา อนคาริย’’นฺติ. ‘‘ตฺวฺเว โน าติ าติกามานํ, ตฺวํ ปน ภตฺตา ภตฺตุกามานํ. สเจ ภวํ โควินฺโท อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิสฺสติ, มยมฺปิ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิสฺสาม, อถ ยา เต คติ, สา โน คติ ภวิสฺสตี’’ติ.

มหาโควินฺทปพฺพชฺชา

๓๒๖. ‘‘อถ โข, โภ, มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ ตสฺส สตฺตาหสฺส อจฺจเยน เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิ. ปพฺพชิตํ ปน มหาโควินฺทํ พฺราหฺมณํ สตฺต จ ราชาโน ขตฺติยา มุทฺธาวสิตฺตา สตฺต จ พฺราหฺมณมหาสาลา สตฺต จ นฺหาตกสตานิ จตฺตารีสา จ ภริยา สาทิสิโย อเนกานิ จ ขตฺติยสหสฺสานิ อเนกานิ จ พฺราหฺมณสหสฺสานิ อเนกานิ จ คหปติสหสฺสานิ อเนเกหิ จ อิตฺถาคาเรหิ อิตฺถิโย เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา มหาโควินฺทํ พฺราหฺมณํ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตํ อนุปพฺพชึสุ. ตาย สุทํ, โภ, ปริสาย ปริวุโต มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ คามนิคมราชธานีสุ จาริกํ จรติ. ยํ โข ปน, โภ, เตน สมเยน มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ คามํ วา นิคมํ วา อุปสงฺกมติ, ตตฺถ ราชาว โหติ รฺํ, พฺรหฺมาว พฺราหฺมณานํ, เทวตาว คหปติกานํ. เตน โข ปน สมเยน มนุสฺสา ขิปนฺติ วา อุปกฺขลนฺติ วา เต เอวมาหํสุ – ‘‘นมตฺถุ มหาโควินฺทสฺส พฺราหฺมณสฺส, นมตฺถุ สตฺต ปุโรหิตสฺสา’’’ติ.

๓๒๗. ‘‘มหาโควินฺโท, โภ, พฺราหฺมโณ เมตฺตาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหาสิ, ตถา ทุติยํ, ตถา ตติยํ, ตถา จตุตฺถํ. อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ เมตฺตาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน ผริตฺวา วิหาสิ. กรุณาสหคเตน เจตสา…เป… มุทิตาสหคเตน เจตสา…เป… อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา…เป… อพฺยาปชฺเชน ผริตฺวา วิหาสิ สาวกานฺจ พฺรหฺมโลกสหพฺยตาย มคฺคํ เทเสสิ.

๓๒๘. ‘‘เย โข ปน, โภ, เตน สมเยน มหาโควินฺทสฺส พฺราหฺมณสฺส สาวกา สพฺเพน สพฺพํ สาสนํ อาชานึสุ. เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ พฺรหฺมโลกํ อุปปชฺชึสุ. เย น สพฺเพน สพฺพํ สาสนํ อาชานึสุ, เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปฺเปกจฺเจ ปรนิมฺมิตวสวตฺตีนํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชึสุ; อปฺเปกจฺเจ นิมฺมานรตีนํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชึสุ; อปฺเปกจฺเจ ตุสิตานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชึสุ; อปฺเปกจฺเจ ยามานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชึสุ; อปฺเปกจฺเจ ตาวตึสานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชึสุ; อปฺเปกจฺเจ จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชึสุ; เย สพฺพนิหีนํ กายํ ปริปูเรสุํ เต คนฺธพฺพกายํ ปริปูเรสุํ. อิติ โข, โภ [ปน (สฺยา. ก.)], สพฺเพสํเยว เตสํ กุลปุตฺตานํ อโมฆา ปพฺพชฺชา อโหสิ อวฺฌา สผลา สอุทฺรยา’’’ติ.

๓๒๙. ‘‘สรติ ตํ ภควา’’ติ? ‘‘สรามหํ, ปฺจสิข. อหํ เตน สมเยน มหาโควินฺโท พฺราหฺมโณ อโหสึ. อหํ เตสํ สาวกานํ พฺรหฺมโลกสหพฺยตาย มคฺคํ เทเสสึ. ตํ โข ปน เม, ปฺจสิข, พฺรหฺมจริยํ น นิพฺพิทาย น วิราคาย น นิโรธาย น อุปสมาย น อภิฺาย น สมฺโพธาย น นิพฺพานาย สํวตฺตติ, ยาวเทว พฺรหฺมโลกูปปตฺติยา.

อิทํ โข ปน เม, ปฺจสิข, พฺรหฺมจริยํ เอกนฺตนิพฺพิทาย วิราคาย นิโรธาย อุปสมาย อภิฺาย สมฺโพธาย นิพฺพานาย สํวตฺตติ. กตมฺจ ตํ, ปฺจสิข, พฺรหฺมจริยํ เอกนฺตนิพฺพิทาย วิราคาย นิโรธาย อุปสมาย อภิฺาย สมฺโพธาย นิพฺพานาย สํวตฺตติ? อยเมว อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค. เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฏฺิ สมฺมาสงฺกปฺโป สมฺมาวาจา สมฺมากมฺมนฺโต สมฺมาอาชีโว สมฺมาวายาโม สมฺมาสติ สมฺมาสมาธิ. อิทํ โข ตํ, ปฺจสิข, พฺรหฺมจริยํ เอกนฺตนิพฺพิทาย วิราคาย นิโรธาย อุปสมาย อภิฺาย สมฺโพธาย นิพฺพานาย สํวตฺตติ.

๓๓๐. ‘‘เย โข ปน เม, ปฺจสิข, สาวกา สพฺเพน สพฺพํ สาสนํ อาชานนฺติ, เต อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรนฺติ; เย น สพฺเพน สพฺพํ สาสนํ อาชานนฺติ, เต ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติกา โหนฺติ ตตฺถ ปรินิพฺพายิโน อนาวตฺติธมฺมา ตสฺมา โลกา. เย น สพฺเพน สพฺพํ สาสนํ อาชานนฺติ, อปฺเปกจฺเจ ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา ราคโทสโมหานํ ตนุตฺตา สกทาคามิโน โหนฺติ สกิเทว อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสนฺติ [กโรนฺติ (สี. ปี.)]. เย น สพฺเพน สพฺพํ สาสนํ อาชานนฺติ, อปฺเปกจฺเจ ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โสตาปนฺนา โหนฺติ อวินิปาตธมฺมา นิยตา สมฺโพธิปรายณา. อิติ โข, ปฺจสิข, สพฺเพสํเยว อิเมสํ กุลปุตฺตานํ อโมฆา ปพฺพชฺชา [ปพฺพชา อโหสิ (ก.)] อวฺฌา สผลา สอุทฺรยา’’ติ.

อิทมโวจ ภควา. อตฺตมโน ปฺจสิโข คนฺธพฺพปุตฺโต ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ตตฺเถวนฺตรธายีติ.

มหาโควินฺทสุตฺตํ นิฏฺิตํ ฉฏฺํ.