📜

๘. สกฺกปฺหสุตฺตํ

๓๔๔. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา มคเธสุ วิหรติ, ปาจีนโต ราชคหสฺส อมฺพสณฺฑา นาม พฺราหฺมณคาโม, ตสฺสุตฺตรโต เวทิยเก ปพฺพเต อินฺทสาลคุหายํ. เตน โข ปน สมเยน สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส อุสฺสุกฺกํ อุทปาทิ ภควนฺตํ ทสฺสนาย. อถ โข สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส เอตทโหสิ – ‘‘กหํ นุ โข ภควา เอตรหิ วิหรติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติ? อทฺทสา โข สกฺโก เทวานมินฺโท ภควนฺตํ มคเธสุ วิหรนฺตํ ปาจีนโต ราชคหสฺส อมฺพสณฺฑา นาม พฺราหฺมณคาโม, ตสฺสุตฺตรโต เวทิยเก ปพฺพเต อินฺทสาลคุหายํ. ทิสฺวาน เทเว ตาวตึเส อามนฺเตสิ – ‘‘อยํ, มาริสา, ภควา มคเธสุ วิหรติ, ปาจีนโต ราชคหสฺส อมฺพสณฺฑา นาม พฺราหฺมณคาโม, ตสฺสุตฺตรโต เวทิยเก ปพฺพเต อินฺทสาลคุหายํ. ยทิ ปน, มาริสา, มยํ ตํ ภควนฺตํ ทสฺสนาย อุปสงฺกเมยฺยาม อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธ’’นฺติ? ‘‘เอวํ ภทฺทนฺตวา’’ติ โข เทวา ตาวตึสา สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส ปจฺจสฺโสสุํ.

๓๔๕. อถ โข สกฺโก เทวานมินฺโท ปฺจสิขํ คนฺธพฺพเทวปุตฺตํ [คนฺธพฺพปุตฺตํ (สฺยา.)] อามนฺเตสิ – ‘‘อยํ, ตาต ปฺจสิข, ภควา มคเธสุ วิหรติ ปาจีนโต ราชคหสฺส อมฺพสณฺฑา นาม พฺราหฺมณคาโม, ตสฺสุตฺตรโต เวทิยเก ปพฺพเต อินฺทสาลคุหายํ. ยทิ ปน , ตาต ปฺจสิข, มยํ ตํ ภควนฺตํ ทสฺสนาย อุปสงฺกเมยฺยาม อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธ’’นฺติ? ‘‘เอวํ ภทฺทนฺตวา’’ติ โข ปฺจสิโข คนฺธพฺพเทวปุตฺโต สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส ปฏิสฺสุตฺวา เพลุวปณฺฑุวีณํ อาทาย สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส อนุจริยํ อุปาคมิ.

๓๔๖. อถ โข สกฺโก เทวานมินฺโท เทเวหิ ตาวตึเสหิ ปริวุโต ปฺจสิเขน คนฺธพฺพเทวปุตฺเตน ปุรกฺขโต เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย ปสาริตํ วา พาหํ สมิฺเชยฺย; เอวเมว เทเวสุ ตาวตึเสสุ อนฺตรหิโต มคเธสุ ปาจีนโต ราชคหสฺส อมฺพสณฺฑา นาม พฺราหฺมณคาโม, ตสฺสุตฺตรโต เวทิยเก ปพฺพเต ปจฺจุฏฺาสิ. เตน โข ปน สมเยน เวทิยโก ปพฺพโต อติริว โอภาสชาโต โหติ อมฺพสณฺฑา จ พฺราหฺมณคาโม ยถา ตํ เทวานํ เทวานุภาเวน. อปิสฺสุทํ ปริโต คาเมสุ มนุสฺสา เอวมาหํสุ – ‘‘อาทิตฺตสฺสุ นามชฺช เวทิยโก ปพฺพโต ฌายติสุ [ฌายตสฺสุ (สฺยา.), ปชฺฌายิตสฺสุ (สี. ปี.)] นามชฺช เวทิยโก ปพฺพโต ชลติสุ [ชลตสฺสุ (สฺยา.), ชลิตสฺสุ (สี. ปี.)] นามชฺช เวทิยโก ปพฺพโต กึสุ นามชฺช เวทิยโก ปพฺพโต อติริว โอภาสชาโต อมฺพสณฺฑา จ พฺราหฺมณคาโม’’ติ สํวิคฺคา โลมหฏฺชาตา อเหสุํ.

๓๔๗. อถ โข สกฺโก เทวานมินฺโท ปฺจสิขํ คนฺธพฺพเทวปุตฺตํ อามนฺเตสิ – ‘‘ทุรุปสงฺกมา โข, ตาต ปฺจสิข, ตถาคตา มาทิเสน, ฌายี ฌานรตา, ตทนฺตรํ [ตทนนฺตรํ (สี. สฺยา. ปี. ก.)] ปฏิสลฺลีนา. ยทิ ปน ตฺวํ, ตาต ปฺจสิข, ภควนฺตํ ปมํ ปสาเทยฺยาสิ, ตยา, ตาต, ปมํ ปสาทิตํ ปจฺฉา มยํ ตํ ภควนฺตํ ทสฺสนาย อุปสงฺกเมยฺยาม อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธ’’นฺติ. ‘‘เอวํ ภทฺทนฺตวา’’ติ โข ปฺจสิโข คนฺธพฺพเทวปุตฺโต สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส ปฏิสฺสุตฺวา เพลุวปณฺฑุวีณํ อาทาย เยน อินฺทสาลคุหา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘เอตฺตาวตา เม ภควา เนว อติทูเร ภวิสฺสติ นาจฺจาสนฺเน, สทฺทฺจ เม โสสฺสตี’’ติ เอกมนฺตํ อฏฺาสิ.

ปฺจสิขคีตคาถา

๓๔๘. เอกมนฺตํ ิโต โข ปฺจสิโข คนฺธพฺพเทวปุตฺโต เพลุวปณฺฑุวีณํ [เวฬุวปณฺฑุวีณํ อาทาย (สฺยา.)] อสฺสาเวสิ, อิมา จ คาถา อภาสิ พุทฺธูปสฺหิตา ธมฺมูปสฺหิตา สงฺฆูปสฺหิตา อรหนฺตูปสฺหิตา กามูปสฺหิตา –

‘‘วนฺเท เต ปิตรํ ภทฺเท, ติมฺพรุํ สูริยวจฺฉเส;

เยน ชาตาสิ กลฺยาณี, อานนฺทชนนี มม.

‘‘วาโตว เสทตํ กนฺโต, ปานียํว ปิปาสโต;

องฺคีรสิ ปิยาเมสิ, ธมฺโม อรหตามิว.

‘‘อาตุรสฺเสว เภสชฺชํ, โภชนํว ชิฆจฺฉโต;

ปรินิพฺพาปย มํ ภทฺเท, ชลนฺตมิว วารินา.

‘‘สีโตทกํ โปกฺขรณึ, ยุตฺตํ กิฺชกฺขเรณุนา;

นาโค ฆมฺมาภิตตฺโตว, โอคาเห เต ถนูทรํ.

‘‘อจฺจงฺกุโสว นาโคว, ชิตํ เม ตุตฺตโตมรํ;

การณํ นปฺปชานามิ, สมฺมตฺโต ลกฺขณูรุยา.

‘‘ตยิ เคธิตจิตฺโตสฺมิ, จิตฺตํ วิปริณามิตํ;

ปฏิคนฺตุํ น สกฺโกมิ, วงฺกฆสฺโตว อมฺพุโช.

‘‘วามูรุ สช มํ ภทฺเท, สช มํ มนฺทโลจเน;

ปลิสฺสช มํ กลฺยาณิ, เอตํ เม อภิปตฺถิตํ.

‘‘อปฺปโก วต เม สนฺโต, กาโม เวลฺลิตเกสิยา;

อเนกภาโว สมุปฺปาทิ, อรหนฺเตว ทกฺขิณา.

‘‘ยํ เม อตฺถิ กตํ ปุฺํ, อรหนฺเตสุ ตาทิสุ;

ตํ เม สพฺพงฺคกลฺยาณิ, ตยา สทฺธึ วิปจฺจตํ.

‘‘ยํ เม อตฺถิ กตํ ปุฺํ, อสฺมึ ปถวิมณฺฑเล;

ตํ เม สพฺพงฺคกลฺยาณิ, ตยา สทฺธึ วิปจฺจตํ.

‘‘สกฺยปุตฺโตว ฌาเนน, เอโกทิ นิปโก สโต;

อมตํ มุนิ ชิคีสาโน [ชิคึสาโน (สี. สฺยา. ปี.)], ตมหํ สูริยวจฺฉเส.

‘‘ยถาปิ มุนิ นนฺเทยฺย, ปตฺวา สมฺโพธิมุตฺตมํ;

เอวํ นนฺเทยฺยํ กลฺยาณิ, มิสฺสีภาวํ คโต ตยา.

‘‘สกฺโก เจ เม วรํ ทชฺชา, ตาวตึสานมิสฺสโร;

ตาหํ ภทฺเท วเรยฺยาเห, เอวํ กาโม ทฬฺโห มม.

‘‘สาลํว น จิรํ ผุลฺลํ, ปิตรํ เต สุเมธเส;

วนฺทมาโน นมสฺสามิ, ยสฺสา เสตาทิสี ปชา’’ติ.

๓๔๙. เอวํ วุตฺเต ภควา ปฺจสิขํ คนฺธพฺพเทวปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สํสนฺทติ โข เต, ปฺจสิข, ตนฺติสฺสโร คีตสฺสเรน, คีตสฺสโร จ ตนฺติสฺสเรน; น จ ปน [เนว ปน (สฺยา.)] เต ปฺจสิข, ตนฺติสฺสโร คีตสฺสรํ อติวตฺตติ, คีตสฺสโร จ ตนฺติสฺสรํ. กทา สํยูฬฺหา ปน เต, ปฺจสิข, อิมา คาถา พุทฺธูปสฺหิตา ธมฺมูปสฺหิตา สงฺฆูปสฺหิตา อรหนฺตูปสฺหิตา กามูปสฺหิตา’’ติ? ‘‘เอกมิทํ, ภนฺเต, สมยํ ภควา อุรุเวลายํ วิหรติ นชฺชา เนรฺชราย ตีเร อชปาลนิคฺโรเธ ปมาภิสมฺพุทฺโธ . เตน โข ปนาหํ, ภนฺเต, สมเยน ภทฺทา นาม สูริยวจฺฉสา ติมฺพรุโน คนฺธพฺพรฺโ ธีตา, ตมภิกงฺขามิ. สา โข ปน, ภนฺเต, ภคินี ปรกามินี โหติ; สิขณฺฑี นาม มาตลิสฺส สงฺคาหกสฺส ปุตฺโต, ตมภิกงฺขติ. ยโต โข อหํ, ภนฺเต, ตํ ภคินึ นาลตฺถํ เกนจิ ปริยาเยน. อถาหํ เพลุวปณฺฑุวีณํ อาทาย เยน ติมฺพรุโน คนฺธพฺพรฺโ นิเวสนํ เตนุปสงฺกมึ; อุปสงฺกมิตฺวา เพลุวปณฺฑุวีณํ อสฺสาเวสึ, อิมา จ คาถา อภาสึ พุทฺธูปสฺหิตา ธมฺมูปสฺหิตา สงฺฆูปสฺหิตา อรหนฺตูปสฺหิตา กามูปสฺหิตา –

‘‘วนฺเท เต ปิตรํ ภทฺเท, ติมฺพรุํ สูริยวจฺฉเส;

เยน ชาตาสิ กลฺยาณี, อานนฺทชนนี มม. …เป…

สาลํว น จิรํ ผุลฺลํ, ปิตรํ เต สุเมธเส;

วนฺทมาโน นมสฺสามิ, ยสฺสา เสตาทิสี ปชา’’ติ.

‘‘เอวํ วุตฺเต, ภนฺเต, ภทฺทา สูริยวจฺฉสา มํ เอตทโวจ – ‘น โข เม, มาริส, โส ภควา สมฺมุขา ทิฏฺโ อปิ จ สุโตเยว เม โส ภควา เทวานํ ตาวตึสานํ สุธมฺมายํ สภายํ อุปนจฺจนฺติยา. ยโต โข ตฺวํ, มาริส, ตํ ภควนฺตํ กิตฺเตสิ, โหตุ โน อชฺช สมาคโม’ติ. โสเยว โน, ภนฺเต, ตสฺสา ภคินิยา สทฺธึ สมาคโม อโหสิ. น จ ทานิ ตโต ปจฺฉา’’ติ.

สกฺกูปสงฺกม

๓๕๐. อถ โข สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส เอตทโหสิ – ‘‘ปฏิสมฺโมทติ ปฺจสิโข คนฺธพฺพเทวปุตฺโต ภควตา, ภควา จ ปฺจสิเขนา’’ติ. อถ โข สกฺโก เทวานมินฺโท ปฺจสิขํ คนฺธพฺพเทวปุตฺตํ อามนฺเตสิ – ‘‘อภิวาเทหิ เม ตฺวํ, ตาต ปฺจสิข, ภควนฺตํ – ‘สกฺโก, ภนฺเต, เทวานมินฺโท สามจฺโจ สปริชโน ภควโต ปาเท สิรสา วนฺทตี’ติ’’. ‘‘เอวํ ภทฺทนฺตวา’’ติ โข ปฺจสิโข คนฺธพฺพเทวปุตฺโต สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส ปฏิสฺสุตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทติ – ‘‘สกฺโก, ภนฺเต, เทวานมินฺโท สามจฺโจ สปริชโน ภควโต ปาเท สิรสา วนฺทตี’’ติ. ‘‘เอวํ สุขี โหตุ, ปฺจสิข, สกฺโก เทวานมินฺโท สามจฺโจ สปริชโน; สุขกามา หิ เทวา มนุสฺสา อสุรา นาคา คนฺธพฺพา เย จฺเ สนฺติ ปุถุกายา’’ติ.

๓๕๑. เอวฺจ ปน ตถาคตา เอวรูเป มเหสกฺเข ยกฺเข อภิวทนฺติ. อภิวทิโต สกฺโก เทวานมินฺโท ภควโต อินฺทสาลคุหํ ปวิสิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เทวาปิ ตาวตึสา อินฺทสาลคุหํ ปวิสิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺํสุ. ปฺจสิโขปิ คนฺธพฺพเทวปุตฺโต อินฺทสาลคุหํ ปวิสิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ.

เตน โข ปน สมเยน อินฺทสาลคุหา วิสมา สนฺตี สมา สมปาทิ, สมฺพาธา สนฺตี อุรุนฺทา [อุรุทฺทา (ก.)] สมปาทิ, อนฺธกาโร คุหายํ อนฺตรธายิ, อาโลโก อุทปาทิ ยถา ตํ เทวานํ เทวานุภาเวน.

๓๕๒. อถ โข ภควา สกฺกํ เทวานมินฺทํ เอตทโวจ – ‘‘อจฺฉริยมิทํ อายสฺมโต โกสิยสฺส, อพฺภุตมิทํ อายสฺมโต โกสิยสฺส ตาว พหุกิจฺจสฺส พหุกรณียสฺส ยทิทํ อิธาคมน’’นฺติ. ‘‘จิรปฏิกาหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุกาโม; อปิ จ เทวานํ ตาวตึสานํ เกหิจิ เกหิจิ [เกหิจิ (สฺยา.)] กิจฺจกรณีเยหิ พฺยาวโฏ; เอวาหํ นาสกฺขึ ภควนฺตํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ. เอกมิทํ, ภนฺเต, สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ สลฬาคารเก. อถ ขฺวาหํ, ภนฺเต, สาวตฺถึ อคมาสึ ภควนฺตํ ทสฺสนาย. เตน โข ปน, ภนฺเต, สมเยน ภควา อฺตเรน สมาธินา นิสินฺโน โหติ, ภูชติ [ภุฺชตี จ (สี. ปี.), ภุชคี (สฺยา.)] จ นาม เวสฺสวณสฺส มหาราชสฺส ปริจาริกา ภควนฺตํ ปจฺจุปฏฺิตา โหติ, ปฺชลิกา นมสฺสมานา ติฏฺติ. อถ ขฺวาหํ, ภนฺเต, ภูชตึ เอตทโวจํ – ‘อภิวาเทหิ เม ตฺวํ, ภคินิ, ภควนฺตํ – ‘‘สกฺโก, ภนฺเต, เทวานมินฺโท สามจฺโจ สปริชโน ภควโต ปาเท สิรสา วนฺทตี’’ติ. เอวํ วุตฺเต, ภนฺเต, สา ภูชติ มํ เอตทโวจ – ‘อกาโล โข, มาริส, ภควนฺตํ ทสฺสนาย; ปฏิสลฺลีโน ภควา’ติ. ‘เตน หี, ภคินิ, ยทา ภควา ตมฺหา สมาธิมฺหา วุฏฺิโต โหติ, อถ มม วจเนน ภควนฺตํ อภิวาเทหิ – ‘‘สกฺโก, ภนฺเต, เทวานมินฺโท สามจฺโจ สปริชโน ภควโต ปาเท สิรสา วนฺทตี’’ติ. กจฺจิ เม สา, ภนฺเต, ภคินี ภควนฺตํ อภิวาเทสิ? สรติ ภควา ตสฺสา ภคินิยา วจน’’นฺติ? ‘‘อภิวาเทสิ มํ สา, เทวานมินฺท, ภคินี, สรามหํ ตสฺสา ภคินิยา วจนํ. อปิ จาหํ อายสฺมโต เนมิสทฺเทน [จกฺกเนมิสทฺเทน (สฺยา.)] ตมฺหา สมาธิมฺหา วุฏฺิโต’’ติ. ‘‘เย เต, ภนฺเต, เทวา อมฺเหหิ ปมตรํ ตาวตึสกายํ อุปปนฺนา, เตสํ เม สมฺมุขา สุตํ สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – ‘ยทา ตถาคตา โลเก อุปฺปชฺชนฺติ อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา, ทิพฺพา กายา ปริปูเรนฺติ, หายนฺติ อสุรกายา’ติ. ตํ เม อิทํ, ภนฺเต, สกฺขิทิฏฺํ ยโต ตถาคโต โลเก อุปฺปนฺโน อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ, ทิพฺพา กายา ปริปูเรนฺติ, หายนฺติ อสุรกายาติ.

โคปกวตฺถุ

๓๕๓. ‘‘อิเธว, ภนฺเต, กปิลวตฺถุสฺมึ โคปิกา นาม สกฺยธีตา อโหสิ พุทฺเธ ปสนฺนา ธมฺเม ปสนฺนา สงฺเฆ ปสนฺนา สีเลสุ ปริปูรการินี. สา อิตฺถิตฺตํ [อิตฺถิจิตฺตํ (สฺยา.)] วิราเชตฺวา ปุริสตฺตํ [ปุริสจิตฺตํ (สฺยา.)] ภาเวตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺนา. เทวานํ ตาวตึสานํ สหพฺยตํ อมฺหากํ ปุตฺตตฺตํ อชฺฌุปคตา. ตตฺรปิ นํ เอวํ ชานนฺติ – ‘โคปโก เทวปุตฺโต, โคปโก เทวปุตฺโต’ติ. อฺเปิ, ภนฺเต, ตโย ภิกฺขู ภควติ พฺรหฺมจริยํ จริตฺวา หีนํ คนฺธพฺพกายํ อุปปนฺนา. เต ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิตา สมงฺคีภูตา ปริจารยมานา อมฺหากํ อุปฏฺานํ อาคจฺฉนฺติ อมฺหากํ ปาริจริยํ. เต อมฺหากํ อุปฏฺานํ อาคเต อมฺหากํ ปาริจริยํ โคปโก เทวปุตฺโต ปฏิโจเทสิ – ‘กุโตมุขา นาม ตุมฺเห , มาริสา, ตสฺส ภควโต ธมฺมํ อสฺสุตฺถ [อายุหิตฺถ (สฺยา.)] – อหฺหิ นาม อิตฺถิกา สมานา พุทฺเธ ปสนฺนา ธมฺเม ปสนฺนา สงฺเฆ ปสนฺนา สีเลสุ ปริปูรการินี อิตฺถิตฺตํ วิราเชตฺวา ปุริสตฺตํ ภาเวตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺนา, เทวานํ ตาวตึสานํ สหพฺยตํ สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส ปุตฺตตฺตํ อชฺฌุปคตา. อิธาปิ มํ เอวํ ชานนฺติ ‘‘โคปโก เทวปุตฺโต โคปโก เทวปุตฺโต’ติ. ตุมฺเห ปน, มาริสา, ภควติ พฺรหฺมจริยํ จริตฺวา หีนํ คนฺธพฺพกายํ อุปปนฺนา. ทุทฺทิฏฺรูปํ วต, โภ, อทฺทสาม, เย มยํ อทฺทสาม สหธมฺมิเก หีนํ คนฺธพฺพกายํ อุปปนฺเน’ติ. เตสํ, ภนฺเต, โคปเกน เทวปุตฺเตน ปฏิโจทิตานํ ทฺเว เทวา ทิฏฺเว ธมฺเม สตึ ปฏิลภึสุ กายํ พฺรหฺมปุโรหิตํ, เอโก ปน เทโว กาเม อชฺฌาวสิ.

๓๕๔. ‘‘‘อุปาสิกา จกฺขุมโต อโหสึ,

นามมฺปิ มยฺหํ อหุ ‘โคปิกา’ติ;

พุทฺเธ จ ธมฺเม จ อภิปฺปสนฺนา,

สงฺฆฺจุปฏฺาสึ ปสนฺนจิตฺตา.

‘‘‘ตสฺเสว พุทฺธสฺส สุธมฺมตาย,

สกฺกสฺส ปุตฺโตมฺหิ มหานุภาโว;

มหาชุตีโก ติทิวูปปนฺโน,

ชานนฺติ มํ อิธาปิ ‘โคปโก’ติ.

‘‘‘อถทฺทสํ ภิกฺขโว ทิฏฺปุพฺเพ,

คนฺธพฺพกายูปคเต วสีเน;

อิเมหิ เต โคตมสาวกาเส,

เย จ มยํ ปุพฺเพ มนุสฺสภูตา.

‘‘‘อนฺเนน ปาเนน อุปฏฺหิมฺหา,

ปาทูปสงฺคยฺห สเก นิเวสเน;

กุโตมุขา นาม อิเม ภวนฺโต,

พุทฺธสฺส ธมฺมานิ ปฏิคฺคเหสุํ [พุทฺธสฺส ธมฺมํ น ปฏิคฺคเหสุํ (สฺยา.)].

‘‘‘ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ หิ ธมฺโม,

สุเทสิโต จกฺขุมตานุพุทฺโธ;

อหฺหิ ตุมฺเหว อุปาสมาโน,

สุตฺวาน อริยาน สุภาสิตานิ.

‘‘‘สกฺกสฺส ปุตฺโตมฺหิ มหานุภาโว,

มหาชุตีโก ติทิวูปปนฺโน;

ตุมฺเห ปน เสฏฺมุปาสมานา,

อนุตฺตรํ พฺรหฺมจริยํ จริตฺวา.

‘‘‘หีนํ กายํ อุปปนฺนา ภวนฺโต,

อนานุโลมา ภวตูปปตฺติ;

ทุทฺทิฏฺรูปํ วต อทฺทสาม,

สหธมฺมิเก หีนกายูปปนฺเน.

‘‘‘คนฺธพฺพกายูปคตา ภวนฺโต,

เทวานมาคจฺฉถ ปาริจริยํ;

อคาเร วสโต มยฺหํ,

อิมํ ปสฺส วิเสสตํ.

‘‘‘อิตฺถี หุตฺวา สฺวชฺช ปุโมมฺหิ เทโว,

ทิพฺเพหิ กาเมหิ สมงฺคิภูโต’;

เต โจทิตา โคตมสาวเกน,

สํเวคมาปาทุ สเมจฺจ โคปกํ.

‘‘‘หนฺท วิยายาม [วิคายาม (สฺยา.), วิตายาม (ปี.)] พฺยายาม [วิยายมาม (สี. ปี.)],

มา โน มยํ ปรเปสฺสา อหุมฺหา’;

เตสํ ทุเว วีริยมารภึสุ,

อนุสฺสรํ โคตมสาสนานิ.

‘‘อิเธว จิตฺตานิ วิราชยิตฺวา,

กาเมสุ อาทีนวมทฺทสํสุ;

เต กามสํโยชนพนฺธนานิ,

ปาปิมโยคานิ ทุรจฺจยานิ.

‘‘นาโคว สนฺนานิ คุณานิ [สนฺทานคุณานิ (สี. ปี.), สนฺตานิ คุณานิ (สฺยา.)] เฉตฺวา,

เทเว ตาวตึเส อติกฺกมึสุ;

สอินฺทา เทวา สปชาปติกา,

สพฺเพ สุธมฺมาย สภายุปวิฏฺา.

‘‘เตสํ นิสินฺนานํ อภิกฺกมึสุ,

วีรา วิราคา วิรชํ กโรนฺตา;

เต ทิสฺวา สํเวคมกาสิ วาสโว,

เทวาภิภู เทวคณสฺส มชฺเฌ.

‘‘‘อิเมหิ เต หีนกายูปปนฺนา,

เทเว ตาวตึเส อภิกฺกมนฺติ’;

สํเวคชาตสฺส วโจ นิสมฺม,

โส โคปโก วาสวมชฺฌภาสิ.

‘‘‘พุทฺโธ ชนินฺทตฺถิ มนุสฺสโลเก,

กามาภิภู สกฺยมุนีติ ายติ;

ตสฺเสว เต ปุตฺตา สติยา วิหีนา,

โจทิตา มยา เต สติมชฺฌลตฺถุํ.

‘‘‘ติณฺณํ เตสํ อาวสิเนตฺถ [อวสีเนตฺถ (ปี.)] เอโก,

คนฺธพฺพกายูปคโต วสีโน;

ทฺเว จ สมฺโพธิปถานุสาริโน,

เทเวปิ หีเฬนฺติ สมาหิตตฺตา.

‘‘‘เอตาทิสี ธมฺมปฺปกาสเนตฺถ,

น ตตฺถ กึกงฺขติ โกจิ สาวโก;

นิติณฺณโอฆํ วิจิกิจฺฉฉินฺนํ,

พุทฺธํ นมสฺสาม ชินํ ชนินฺทํ’.

‘‘ยํ เต ธมฺมํ อิธฺาย,

วิเสสํ อชฺฌคํสุ [อชฺฌคมํสุ (สฺยา.)] เต;

กายํ พฺรหฺมปุโรหิตํ,

ทุเว เตสํ วิเสสคู.

‘‘ตสฺส ธมฺมสฺส ปตฺติยา,

อาคตมฺหาสิ มาริส;

กตาวกาสา ภควตา,

ปฺหํ ปุจฺเฉมุ มาริสา’’ติ.

๓๕๕. อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘ทีฆรตฺตํ วิสุทฺโธ โข อยํ ยกฺโข [สกฺโก (สี. สฺยา. ปี.)], ยํ กิฺจิ มํ ปฺหํ ปุจฺฉิสฺสติ, สพฺพํ ตํ อตฺถสฺหิตํเยว ปุจฺฉิสฺสติ, โน อนตฺถสฺหิตํ. ยฺจสฺสาหํ ปุฏฺโ พฺยากริสฺสามิ, ตํ ขิปฺปเมว อาชานิสฺสตี’’ติ.

๓๕๖. อถ โข ภควา สกฺกํ เทวานมินฺทํ คาถาย อชฺฌภาสิ –

‘‘ปุจฺฉ วาสว มํ ปฺหํ, ยํ กิฺจิ มนสิจฺฉสิ;

ตสฺส ตสฺเสว ปฺหสฺส, อหํ อนฺตํ กโรมิ เต’’ติ.

ปมภาณวาโร นิฏฺิโต.

๓๕๗. กตาวกาโส สกฺโก เทวานมินฺโท ภควตา อิมํ ภควนฺตํ [เทวานมินฺโท ภควนฺตํ อิมํ (สี. ปี.)] ปมํ ปฺหํ อปุจฺฉิ –

‘‘กึ สํโยชนา นุ โข, มาริส, เทวา มนุสฺสา อสุรา นาคา คนฺธพฺพา เย จฺเ สนฺติ ปุถุกายา, เต – ‘อเวรา อทณฺฑา อสปตฺตา อพฺยาปชฺชา วิหเรมุ อเวริโน’ติ อิติ จ เนสํ โหติ, อถ จ ปน สเวรา สทณฺฑา สสปตฺตา สพฺยาปชฺชา วิหรนฺติ สเวริโน’’ติ? อิตฺถํ สกฺโก เทวานมินฺโท ภควนฺตํ ปฺหํ [อิมํ ปมํ ปฺหํ (สี. ปี.)] อปุจฺฉิ. ตสฺส ภควา ปฺหํ ปุฏฺโ พฺยากาสิ –

‘‘อิสฺสามจฺฉริยสํโยชนา โข, เทวานมินฺท, เทวา มนุสฺสา อสุรา นาคา คนฺธพฺพา เย จฺเ สนฺติ ปุถุกายา, เต – ‘อเวรา อทณฺฑา อสปตฺตา อพฺยาปชฺชา วิหเรมุ อเวริโน’ติ อิติ จ เนสํ โหติ, อถ จ ปน สเวรา สทณฺฑา สสปตฺตา สพฺยาปชฺชา วิหรนฺติ สเวริโน’’ติ. อิตฺถํ ภควา สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส ปฺหํ ปุฏฺโ พฺยากาสิ. อตฺตมโน สกฺโก เทวานมินฺโท ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิ อนุโมทิ – ‘‘เอวเมตํ, ภควา, เอวเมตํ, สุคต. ติณฺณา เมตฺถ กงฺขา วิคตา กถํกถา ภควโต ปฺหเวยฺยากรณํ สุตฺวา’’ติ.

๓๕๘. อิติห สกฺโก เทวานมินฺโท ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา ภควนฺตํ อุตฺตรึ [อุตฺตรึ (สี. สฺยา. ปี.)] ปฺหํ อปุจฺฉิ –

‘‘อิสฺสามจฺฉริยํ ปน, มาริส, กึนิทานํ กึสมุทยํ กึชาติกํ กึปภวํ; กิสฺมึ สติ อิสฺสามจฺฉริยํ โหติ; กิสฺมึ อสติ อิสฺสามจฺฉริยํ น โหตี’’ติ? ‘‘อิสฺสามจฺฉริยํ โข, เทวานมินฺท, ปิยาปฺปิยนิทานํ ปิยาปฺปิยสมุทยํ ปิยาปฺปิยชาติกํ ปิยาปฺปิยปภวํ; ปิยาปฺปิเย สติ อิสฺสามจฺฉริยํ โหติ, ปิยาปฺปิเย อสติ อิสฺสามจฺฉริยํ น โหตี’’ติ.

‘‘ปิยาปฺปิยํ โข ปน, มาริส, กึนิทานํ กึสมุทยํ กึชาติกํ กึปภวํ; กิสฺมึ สติ ปิยาปฺปิยํ โหติ; กิสฺมึ อสติ ปิยาปฺปิยํ น โหตี’’ติ? ‘‘ปิยาปฺปิยํ โข, เทวานมินฺท, ฉนฺทนิทานํ ฉนฺทสมุทยํ ฉนฺทชาติกํ ฉนฺทปภวํ; ฉนฺเท สติ ปิยาปฺปิยํ โหติ; ฉนฺเท อสติ ปิยาปฺปิยํ น โหตี’’ติ.

‘‘ฉนฺโท โข ปน, มาริส, กึนิทาโน กึสมุทโย กึชาติโก กึปภโว; กิสฺมึ สติ ฉนฺโท โหติ; กิสฺมึ อสติ ฉนฺโท น โหตี’’ติ? ‘‘ฉนฺโท โข, เทวานมินฺท, วิตกฺกนิทาโน วิตกฺกสมุทโย วิตกฺกชาติโก วิตกฺกปภโว; วิตกฺเก สติ ฉนฺโท โหติ; วิตกฺเก อสติ ฉนฺโท น โหตี’’ติ.

‘‘วิตกฺโก โข ปน, มาริส, กึนิทาโน กึสมุทโย กึชาติโก กึปภโว; กิสฺมึ สติ วิตกฺโก โหติ; กิสฺมึ อสติ วิตกฺโก น โหตี’’ติ? ‘‘วิตกฺโก โข, เทวานมินฺท, ปปฺจสฺาสงฺขานิทาโน ปปฺจสฺาสงฺขาสมุทโย ปปฺจสฺาสงฺขาชาติโก ปปฺจสฺาสงฺขาปภโว; ปปฺจสฺาสงฺขาย สติ วิตกฺโก โหติ; ปปฺจสฺาสงฺขาย อสติ วิตกฺโก น โหตี’’ติ.

‘‘กถํ ปฏิปนฺโน ปน, มาริส, ภิกฺขุ ปปฺจสฺาสงฺขานิโรธสารุปฺปคามินึ ปฏิปทํ ปฏิปนฺโน โหตี’’ติ?

เวทนากมฺมฏฺานํ

๓๕๙. ‘‘โสมนสฺสํปาหํ [ปหํ (สี. ปี.), จาหํ (สฺยา. กํ.)], เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปิ. โทมนสฺสํปาหํ, เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปิ. อุเปกฺขํปาหํ, เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปิ.

๓๖๐. ‘‘โสมนสฺสํปาหํ, เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปีติ อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ, กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ตตฺถ ยํ ชฺา โสมนสฺสํ ‘อิมํ โข เม โสมนสฺสํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺตี’ติ, เอวรูปํ โสมนสฺสํ น เสวิตพฺพํ. ตตฺถ ยํ ชฺา โสมนสฺสํ ‘อิมํ โข เม โสมนสฺสํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺตี’ติ, เอวรูปํ โสมนสฺสํ เสวิตพฺพํ. ตตฺถ ยํ เจ สวิตกฺกํ สวิจารํ, ยํ เจ อวิตกฺกํ อวิจารํ, เย อวิตกฺเก อวิจาเร, เต [เส (สี. ปี.)] ปณีตตเร. โสมนสฺสํปาหํ, เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปีติ. อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

๓๖๑. ‘‘โทมนสฺสํปาหํ, เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ เสวิตพฺพมฺปิ , อเสวิตพฺพมฺปีติ. อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ, กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ตตฺถ ยํ ชฺา โทมนสฺสํ ‘อิมํ โข เม โทมนสฺสํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺตี’ติ, เอวรูปํ โทมนสฺสํ น เสวิตพฺพํ. ตตฺถ ยํ ชฺา โทมนสฺสํ ‘อิมํ โข เม โทมนสฺสํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺตี’ติ, เอวรูปํ โทมนสฺสํ เสวิตพฺพํ. ตตฺถ ยํ เจ สวิตกฺกํ สวิจารํ, ยํ เจ อวิตกฺกํ อวิจารํ, เย อวิตกฺเก อวิจาเร, เต ปณีตตเร. โทมนสฺสํปาหํ, เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปี’ติ อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

๓๖๒. ‘‘อุเปกฺขํปาหํ, เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปีติ อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ, กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ตตฺถ ยํ ชฺา อุเปกฺขํ ‘อิมํ โข เม อุเปกฺขํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺตี’ติ, เอวรูปา อุเปกฺขา น เสวิตพฺพา. ตตฺถ ยํ ชฺา อุเปกฺขํ ‘อิมํ โข เม อุเปกฺขํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺตี’ติ, เอวรูปา อุเปกฺขา เสวิตพฺพา. ตตฺถ ยํ เจ สวิตกฺกํ สวิจารํ, ยํ เจ อวิตกฺกํ อวิจารํ, เย อวิตกฺเก อวิจาเร, เต ปณีตตเร. อุเปกฺขํปาหํ, เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปีติ อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

๓๖๓. ‘‘เอวํ ปฏิปนฺโน โข, เทวานมินฺท, ภิกฺขุ ปปฺจสฺาสงฺขานิโรธสารุปฺปคามินึ ปฏิปทํ ปฏิปนฺโน โหตี’’ติ. อิตฺถํ ภควา สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส ปฺหํ ปุฏฺโ พฺยากาสิ. อตฺตมโน สกฺโก เทวานมินฺโท ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิ อนุโมทิ – ‘‘เอวเมตํ, ภควา, เอวเมตํ, สุคต, ติณฺณา เมตฺถ กงฺขา วิคตา กถํกถา ภควโต ปฺหเวยฺยากรณํ สุตฺวา’’ติ.

ปาติโมกฺขสํวโร

๓๖๔. อิติห สกฺโก เทวานมินฺโท ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา ภควนฺตํ อุตฺตรึ ปฺหํ อปุจฺฉิ –

‘‘กถํ ปฏิปนฺโน ปน, มาริส, ภิกฺขุ ปาติโมกฺขสํวราย ปฏิปนฺโน โหตี’’ติ? ‘‘กายสมาจารํปาหํ, เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปิ. วจีสมาจารํปาหํ, เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปิ. ปริเยสนํปาหํ, เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพ’’มฺปิ.

‘‘กายสมาจารํปาหํ , เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ เสวิตพฺพมฺปิ อเสวิตพฺพมฺปีติ อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ, กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ตตฺถ ยํ ชฺา กายสมาจารํ ‘อิมํ โข เม กายสมาจารํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺตี’ติ, เอวรูโป กายสมาจาโร น เสวิตพฺโพ. ตตฺถ ยํ ชฺา กายสมาจารํ ‘อิมํ โข เม กายสมาจารํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺตี’ติ, เอวรูโป กายสมาจาโร เสวิตพฺโพ. กายสมาจารํปาหํ, เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปีติ อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

‘‘วจีสมาจารํปาหํ , เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปี’ติ. อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ, กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ตตฺถ ยํ ชฺา วจีสมาจารํ ‘อิมํ โข เม วจีสมาจารํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺตี’ติ, เอวรูโป วจีสมาจาโร น เสวิตพฺโพ. ตตฺถ ยํ ชฺา วจีสมาจารํ ‘อิมํ โข เม วจีสมาจารํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺตี’ติ, เอวรูโป วจีสมาจาโร เสวิตพฺโพ. วจีสมาจารํปาหํ, เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปีติ อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

‘‘ปริเยสนํปาหํ , เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปีติ อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ, กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? ตตฺถ ยํ ชฺา ปริเยสนํ ‘อิมํ โข เม ปริเยสนํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺตี’ติ, เอวรูปา ปริเยสนา น เสวิตพฺพา. ตตฺถ ยํ ชฺา ปริเยสนํ ‘อิมํ โข เม ปริเยสนํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺตี’ติ, เอวรูปา ปริเยสนา เสวิตพฺพา. ปริเยสนํปาหํ, เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปีติ อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

‘‘เอวํ ปฏิปนฺโน โข, เทวานมินฺท, ภิกฺขุ ปาติโมกฺขสํวราย ปฏิปนฺโน โหตี’’ติ. อิตฺถํ ภควา สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส ปฺหํ ปุฏฺโ พฺยากาสิ. อตฺตมโน สกฺโก เทวานมินฺโท ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิ อนุโมทิ – ‘‘เอวเมตํ, ภควา, เอวเมตํ, สุคต. ติณฺณา เมตฺถ กงฺขา วิคตา กถํกถา ภควโต ปฺหเวยฺยากรณํ สุตฺวา’’ติ.

อินฺทฺริยสํวโร

๓๖๕. อิติห สกฺโก เทวานมินฺโท ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา ภควนฺตํ อุตฺตรึ ปฺหํ อปุจฺฉิ –

‘‘กถํ ปฏิปนฺโน ปน, มาริส, ภิกฺขุ อินฺทฺริยสํวราย ปฏิปนฺโน โหตี’’ติ? ‘‘จกฺขุวิฺเยฺยํ รูปํปาหํ, เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปิ. โสตวิฺเยฺยํ สทฺทํปาหํ, เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปิ. ฆานวิฺเยฺยํ คนฺธํปาหํ, เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปิ. ชิวฺหาวิฺเยฺยํ รสํปาหํ, เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปิ. กายวิฺเยฺยํ โผฏฺพฺพํปาหํ, เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปิ. มโนวิฺเยฺยํ ธมฺมํปาหํ, เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพมฺปิ, อเสวิตพฺพมฺปี’’ติ.

เอวํ วุตฺเต, สกฺโก เทวานมินฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ –

‘‘อิมสฺส โข อหํ, ภนฺเต, ภควตา สงฺขิตฺเตน ภาสิตสฺส เอวํ วิตฺถาเรน อตฺถํ อาชานามิ. ยถารูปํ, ภนฺเต, จกฺขุวิฺเยฺยํ รูปํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, เอวรูปํ จกฺขุวิฺเยฺยํ รูปํ น เสวิตพฺพํ . ยถารูปฺจ โข, ภนฺเต, จกฺขุวิฺเยฺยํ รูปํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, เอวรูปํ จกฺขุวิฺเยฺยํ รูปํ เสวิตพฺพํ. ยถารูปฺจ โข, ภนฺเต, โสตวิฺเยฺยํ สทฺทํ เสวโต…เป… ฆานวิฺเยฺยํ คนฺธํ เสวโต… ชิวฺหาวิฺเยฺยํ รสํ เสวโต… กายวิฺเยฺยํ โผฏฺพฺพํ เสวโต… มโนวิฺเยฺยํ ธมฺมํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, เอวรูโป มโนวิฺเยฺโย ธมฺโม น เสวิตพฺโพ. ยถารูปฺจ โข, ภนฺเต, มโนวิฺเยฺยํ ธมฺมํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, เอวรูโป มโนวิฺเยฺโย ธมฺโม เสวิตพฺโพ.

‘‘อิมสฺส โข เม, ภนฺเต, ภควตา สงฺขิตฺเตน ภาสิตสฺส เอวํ วิตฺถาเรน อตฺถํ อาชานโต ติณฺณา เมตฺถ กงฺขา วิคตา กถํกถา ภควโต ปฺหเวยฺยากรณํ สุตฺวา’’ติ.

๓๖๖. อิติห สกฺโก เทวานมินฺโท ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา ภควนฺตํ อุตฺตรึ ปฺหํ อปุจฺฉิ –

‘‘สพฺเพว นุ โข, มาริส, สมณพฺราหฺมณา เอกนฺตวาทา เอกนฺตสีลา เอกนฺตฉนฺทา เอกนฺตอชฺโฌสานา’’ติ? ‘‘น โข, เทวานมินฺท, สพฺเพ สมณพฺราหฺมณา เอกนฺตวาทา เอกนฺตสีลา เอกนฺตฉนฺทา เอกนฺตอชฺโฌสานา’’ติ.

‘‘กสฺมา ปน, มาริส, น สพฺเพ สมณพฺราหฺมณา เอกนฺตวาทา เอกนฺตสีลา เอกนฺตฉนฺทา เอกนฺตอชฺโฌสานา’’ติ? ‘‘อเนกธาตุ นานาธาตุ โข, เทวานมินฺท, โลโก. ตสฺมึ อเนกธาตุนานาธาตุสฺมึ โลเก ยํ ยเทว สตฺตา ธาตุํ อภินิวิสนฺติ, ตํ ตเทว ถามสา ปรามาสา อภินิวิสฺส โวหรนฺติ – ‘อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ. ตสฺมา น สพฺเพ สมณพฺราหฺมณา เอกนฺตวาทา เอกนฺตสีลา เอกนฺตฉนฺทา เอกนฺตอชฺโฌสานา’’ติ.

‘‘สพฺเพว นุ โข, มาริส, สมณพฺราหฺมณา อจฺจนฺตนิฏฺา อจฺจนฺตโยคกฺเขมี อจฺจนฺตพฺรหฺมจารี อจฺจนฺตปริโยสานา’’ติ? ‘‘น โข, เทวานมินฺท, สพฺเพ สมณพฺราหฺมณา อจฺจนฺตนิฏฺา อจฺจนฺตโยคกฺเขมี อจฺจนฺตพฺรหฺมจารี อจฺจนฺตปริโยสานา’’ติ.

‘‘กสฺมา ปน, มาริส, น สพฺเพ สมณพฺราหฺมณา อจฺจนฺตนิฏฺา อจฺจนฺตโยคกฺเขมี อจฺจนฺตพฺรหฺมจารี อจฺจนฺตปริโยสานา’’ติ? ‘‘เย โข, เทวานมินฺท, ภิกฺขู ตณฺหาสงฺขยวิมุตฺตา เต อจฺจนฺตนิฏฺา อจฺจนฺตโยคกฺเขมี อจฺจนฺตพฺรหฺมจารี อจฺจนฺตปริโยสานา. ตสฺมา น สพฺเพ สมณพฺราหฺมณา อจฺจนฺตนิฏฺา อจฺจนฺตโยคกฺเขมี อจฺจนฺตพฺรหฺมจารี อจฺจนฺตปริโยสานา’’ติ.

อิตฺถํ ภควา สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส ปฺหํ ปุฏฺโ พฺยากาสิ. อตฺตมโน สกฺโก เทวานมินฺโท ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิ อนุโมทิ – ‘‘เอวเมตํ, ภควา, เอวเมตํ, สุคต. ติณฺณา เมตฺถ กงฺขา วิคตา กถํกถา ภควโต ปฺหเวยฺยากรณํ สุตฺวา’’ติ.

๓๖๗. อิติห สกฺโก เทวานมินฺโท ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ –

‘‘เอชา, ภนฺเต, โรโค, เอชา คณฺโฑ, เอชา สลฺลํ, เอชา อิมํ ปุริสํ ปริกฑฺฒติ ตสฺส ตสฺเสว ภวสฺส อภินิพฺพตฺติยา. ตสฺมา อยํ ปุริโส อุจฺจาวจมาปชฺชติ . เยสาหํ, ภนฺเต, ปฺหานํ อิโต พหิทฺธา อฺเสุ สมณพฺราหฺมเณสุ โอกาสกมฺมมฺปิ นาลตฺถํ, เต เม ภควตา พฺยากตา. ทีฆรตฺตานุสยิตฺจ ปน [ทีฆรตฺตานุปสฺสตา, ยฺจ ปน (สฺยา.), ทีฆรตฺตานุสยิโน, ยฺจ ปน (สี. ปี.)] เม วิจิกิจฺฉากถํกถาสลฺลํ, ตฺจ ภควตา อพฺพุฬฺห’’นฺติ.

‘‘อภิชานาสิ โน ตฺวํ, เทวานมินฺท, อิเม ปฺเห อฺเ สมณพฺราหฺมเณ ปุจฺฉิตา’’ติ? ‘‘อภิชานามหํ, ภนฺเต, อิเม ปฺเห อฺเ สมณพฺราหฺมเณ ปุจฺฉิตา’’ติ. ‘‘ยถา กถํ ปน เต, เทวานมินฺท, พฺยากํสุ? สเจ เต อครุ ภาสสฺสู’’ติ. ‘‘น โข เม, ภนฺเต, ครุ ยตฺถสฺส ภควา นิสินฺโน ภควนฺตรูโป วา’’ติ. ‘‘เตน หิ, เทวานมินฺท, ภาสสฺสู’’ติ. ‘‘เยสฺวาหํ [เยสาหํ (สี. สฺยา. ปี.)], ภนฺเต , มฺามิ สมณพฺราหฺมณา อารฺิกา ปนฺตเสนาสนาติ, ตฺยาหํ อุปสงฺกมิตฺวา อิเม ปฺเห ปุจฺฉามิ, เต มยา ปุฏฺา น สมฺปายนฺติ, อสมฺปายนฺตา มมํเยว ปฏิปุจฺฉนฺติ – ‘โก นาโม อายสฺมา’ติ? เตสาหํ ปุฏฺโ พฺยากโรมิ – ‘อหํ โข, มาริส, สกฺโก เทวานมินฺโท’ติ. เต มมํเยว อุตฺตริ ปฏิปุจฺฉนฺติ – ‘กึ ปนายสฺมา, เทวานมินฺท [เทวานมินฺโท (สี. ปี.)], กมฺมํ กตฺวา อิมํ านํ ปตฺโต’ติ? เตสาหํ ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ เทเสมิ. เต ตาวตเกเนว อตฺตมนา โหนฺติ – ‘สกฺโก จ โน เทวานมินฺโท ทิฏฺโ, ยฺจ โน อปุจฺฉิมฺหา, ตฺจ โน พฺยากาสี’ติ. เต อฺทตฺถุ มมํเยว สาวกา สมฺปชฺชนฺติ, น จาหํ เตสํ. อหํ โข ปน, ภนฺเต, ภควโต สาวโก โสตาปนฺโน อวินิปาตธมฺโม นิยโต สมฺโพธิปรายโณ’’ติ .

โสมนสฺสปฏิลาภกถา

๓๖๘. ‘‘อภิชานาสิ โน ตฺวํ, เทวานมินฺท, อิโต ปุพฺเพ เอวรูปํ เวทปฏิลาภํ โสมนสฺสปฏิลาภ’’นฺติ? ‘‘อภิชานามหํ , ภนฺเต, อิโต ปุพฺเพ เอวรูปํ เวทปฏิลาภํ โสมนสฺสปฏิลาภ’’นฺติ. ‘‘ยถา กถํ ปน ตฺวํ, เทวานมินฺท, อภิชานาสิ อิโต ปุพฺเพ เอวรูปํ เวทปฏิลาภํ โสมนสฺสปฏิลาภ’’นฺติ?

‘‘ภูตปุพฺพํ, ภนฺเต, เทวาสุรสงฺคาโม สมุปพฺยูฬฺโห [สมูปพฺพุฬฺโห (สี. ปี.)] อโหสิ. ตสฺมึ โข ปน, ภนฺเต, สงฺคาเม เทวา ชินึสุ, อสุรา ปราชยึสุ [ปราชึสุ (สี. ปี.)]. ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, ตํ สงฺคามํ อภิวิชินิตฺวา วิชิตสงฺคามสฺส เอตทโหสิ – ‘ยา เจว ทานิ ทิพฺพา โอชา ยา จ อสุรา โอชา, อุภยเมตํ [อุภยเมตฺถ (สฺยา.)] เทวา ปริภุฺชิสฺสนฺตี’ติ. โส โข ปน เม, ภนฺเต, เวทปฏิลาโภ โสมนสฺสปฏิลาโภ สทณฺฑาวจโร สสตฺถาวจโร น นิพฺพิทาย น วิราคาย น นิโรธาย น อุปสมาย น อภิฺาย น สมฺโพธาย น นิพฺพานาย สํวตฺตติ. โย โข ปน เม อยํ, ภนฺเต, ภควโต ธมฺมํ สุตฺวา เวทปฏิลาโภ โสมนสฺสปฏิลาโภ, โส อทณฺฑาวจโร อสตฺถาวจโร เอกนฺตนิพฺพิทาย วิราคาย นิโรธาย อุปสมาย อภิฺาย สมฺโพธาย นิพฺพานาย สํวตฺตตี’’ติ.

๓๖๙. ‘‘กึ ปน ตฺวํ, เทวานมินฺท, อตฺถวสํ สมฺปสฺสมาโน เอวรูปํ เวทปฏิลาภํ โสมนสฺสปฏิลาภํ ปเวเทสี’’ติ? ‘‘ฉ โข อหํ, ภนฺเต, อตฺถวเส สมฺปสฺสมาโน เอวรูปํ เวทปฏิลาภํ โสมนสฺสปฏิลาภํ ปเวเทมิ.

‘‘อิเธว ติฏฺมานสฺส, เทวภูตสฺส เม สโต;

ปุนรายุ จ เม ลทฺโธ, เอวํ ชานาหิ มาริส.

‘‘อิมํ โข อหํ, ภนฺเต, ปมํ อตฺถวสํ สมฺปสฺสมาโน เอวรูปํ เวทปฏิลาภํ โสมนสฺสปฏิลาภํ ปเวเทมิ.

‘‘จุตาหํ ทิวิยา กายา, อายุํ หิตฺวา อมานุสํ;

อมูฬฺโห คพฺภเมสฺสามิ, ยตฺถ เม รมตี มโน.

‘‘อิมํ โข อหํ, ภนฺเต, ทุติยํ อตฺถวสํ สมฺปสฺสมาโน เอวรูปํ เวทปฏิลาภํ โสมนสฺสปฏิลาภํ ปเวเทมิ.

‘‘สฺวาหํ อมูฬฺหปฺสฺส [อมูฬฺหปฺหสฺส (?)], วิหรํ สาสเน รโต;

าเยน วิหริสฺสามิ, สมฺปชาโน ปฏิสฺสโต.

‘‘อิมํ โข อหํ, ภนฺเต, ตติยํ อตฺถวสํ สมฺปสฺสมาโน เอวรูปํ เวทปฏิลาภํ โสมนสฺสปฏิลาภํ ปเวเทมิ.

‘‘าเยน เม จรโต จ, สมฺโพธิ เจ ภวิสฺสติ;

อฺาตา วิหริสฺสามิ, สฺเวว อนฺโต ภวิสฺสติ.

‘‘อิมํ โข อหํ, ภนฺเต, จตุตฺถํ อตฺถวสํ สมฺปสฺสมาโน เอวรูปํ เวทปฏิลาภํ โสมนสฺสปฏิลาภํ ปเวเทมิ.

‘‘จุตาหํ มานุสา กายา, อายุํ หิตฺวาน มานุสํ;

ปุน เทโว ภวิสฺสามิ, เทวโลกมฺหิ อุตฺตโม.

‘‘อิมํ โข อหํ, ภนฺเต, ปฺจมํ อตฺถวสํ สมฺปสฺสมาโน เอวรูปํ เวทปฏิลาภํ โสมนสฺสปฏิลาภํ ปเวเทมิ.

‘‘เต [เย (?)] ปณีตตรา เทวา, อกนิฏฺา ยสสฺสิโน;

อนฺติเม วตฺตมานมฺหิ, โส นิวาโส ภวิสฺสติ.

‘‘อิมํ โข อหํ, ภนฺเต, ฉฏฺํ อตฺถวสํ สมฺปสฺสมาโน เอวรูปํ เวทปฏิลาภํ โสมนสฺสปฏิลาภํ ปเวเทมิ.

‘‘อิเม โข อหํ, ภนฺเต, ฉ อตฺถวเส สมฺปสฺสมาโน เอวรูปํ เวทปฏิลาภํ โสมนสฺสปฏิลาภํ ปเวเทมิ.

๓๗๐. ‘‘อปริโยสิตสงฺกปฺโป , วิจิกิจฺโฉ กถํกถี.

วิจรึ ทีฆมทฺธานํ, อนฺเวสนฺโต ตถาคตํ.

‘‘ยสฺสุ มฺามิ สมเณ, ปวิวิตฺตวิหาริโน;

สมฺพุทฺธา อิติ มฺาโน, คจฺฉามิ เต อุปาสิตุํ.

‘‘‘กถํ อาราธนา โหติ, กถํ โหติ วิราธนา’;

อิติ ปุฏฺา น สมฺปายนฺติ [สมฺโภนฺติ (สฺยา.)], มคฺเค ปฏิปทาสุ จ.

‘‘ตฺยสฺสุ ยทา มํ ชานนฺติ, สกฺโก เทวานมาคโต;

ตฺยสฺสุ มเมว ปุจฺฉนฺติ, ‘กึ กตฺวา ปาปุณี อิทํ’.

‘‘เตสํ ยถาสุตํ ธมฺมํ, เทสยามิ ชเน สุตํ [ชเนสุต (ก. สี.)];

เตน อตฺตมนา โหนฺติ, ‘ทิฏฺโ โน วาสโวติ จ’.

‘‘ยทา จ พุทฺธมทฺทกฺขึ, วิจิกิจฺฉาวิตารณํ;

โสมฺหิ วีตภโย อชฺช, สมฺพุทฺธํ ปยิรุปาสิย [ปยิรุปาสยึ (สฺยา. ก.)].

‘‘ตณฺหาสลฺลสฺส หนฺตารํ, พุทฺธํ อปฺปฏิปุคฺคลํ;

อหํ วนฺเท มหาวีรํ, พุทฺธมาทิจฺจพนฺธุนํ.

‘‘ยํ กโรมสิ พฺรหฺมุโน, สมํ เทเวหิ มาริส;

ตทชฺช ตุยฺหํ กสฺสาม [ทสฺสาม (สฺยา. ก.)], หนฺท สามํ กโรม เต.

‘‘ตฺวเมว อสิ [ตุวเมวสิ (ปี.)] สมฺพุทฺโธ, ตุวํ สตฺถา อนุตฺตโร;

สเทวกสฺมึ โลกสฺมึ, นตฺถิ เต ปฏิปุคฺคโล’’ติ.

๓๗๑. อถ โข สกฺโก เทวานมินฺโท ปฺจสิขํ คนฺธพฺพปุตฺตํ อามนฺเตสิ – ‘‘พหูปกาโร โข เมสิ ตฺวํ, ตาต ปฺจสิข, ยํ ตฺวํ ภควนฺตํ ปมํ ปสาเทสิ. ตยา, ตาต, ปมํ ปสาทิตํ ปจฺฉา มยํ ตํ ภควนฺตํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิมฺหา อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ. เปตฺติเก วา าเน ปยิสฺสามิ , คนฺธพฺพราชา ภวิสฺสสิ, ภทฺทฺจ เต สูริยวจฺฉสํ ทมฺมิ, สา หิ เต อภิปตฺถิตา’’ติ.

อถ โข สกฺโก เทวานมินฺโท ปาณินา ปถวึ ปรามสิตฺวา ติกฺขตฺตุํ อุทานํ อุทาเนสิ – ‘‘นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสา’’ติ.

อิมสฺมิฺจ ปน เวยฺยากรณสฺมึ ภฺมาเน สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส วิรชํ วีตมลํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทิ – ‘‘ยํ กิฺจิ สมุทยธมฺมํ, สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺม’’นฺติ. อฺเสฺจ อสีติยา เทวตาสหสฺสานํ , อิติ เย สกฺเกน เทวานมินฺเทน อชฺฌิฏฺปฺหา ปุฏฺา , เต ภควตา พฺยากตา. ตสฺมา อิมสฺส เวยฺยากรณสฺส สกฺกปฺหาตฺเวว อธิวจนนฺติ.

สกฺกปฺหสุตฺตํ นิฏฺิตํ อฏฺมํ.