📜
๑๐. ปายาสิสุตฺตํ
๔๐๖. เอวํ ¶ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ อายสฺมา กุมารกสฺสโป โกสเลสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ ปฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหิ เยน เสตพฺยา นาม โกสลานํ นครํ ตทวสริ. ตตฺร สุทํ อายสฺมา กุมารกสฺสโป เสตพฺยายํ วิหรติ อุตฺตเรน เสตพฺยํ สึสปาวเน [สีสปาวเน (สฺยา.)]. เตน โข ปน สมเยน ปายาสิ ราชฺโ เสตพฺยํ อชฺฌาวสติ สตฺตุสฺสทํ สติณกฏฺโทกํ สธฺํ ราชโภคฺคํ รฺา ปเสนทินา โกสเลน ทินฺนํ ราชทายํ พฺรหฺมเทยฺยํ.
ปายาสิราชฺวตฺถุ
๔๐๗. เตน โข ปน สมเยน ปายาสิสฺส ราชฺสฺส เอวรูปํ ปาปกํ ทิฏฺิคตํ อุปฺปนฺนํ โหติ – ‘‘อิติปิ นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ ¶ [สุกฏกฺกฏานํ (สี. ปี.)] กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’ติ. อสฺโสสุํ โข เสตพฺยกา พฺราหฺมณคหปติกา – ‘‘สมโณ ขลุ โภ กุมารกสฺสโป สมณสฺส โคตมสฺส สาวโก โกสเลสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ ปฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหิ เสตพฺยํ อนุปฺปตฺโต เสตพฺยายํ วิหรติ อุตฺตเรน เสตพฺยํ สึสปาวเน. ตํ โข ปน ภวนฺตํ กุมารกสฺสปํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต – ‘ปณฺฑิโต พฺยตฺโต เมธาวี พหุสฺสุโต จิตฺตกถี กลฺยาณปฏิภาโน วุทฺโธ [พุทฺโธ (สฺยา. ก.)] เจว อรหา จ. สาธุ โข ปน ตถารูปานํ อรหตํ ทสฺสนํ โหตี’’’ติ. อถ โข เสตพฺยกา พฺราหฺมณคหปติกา เสตพฺยาย นิกฺขมิตฺวา ¶ สงฺฆสงฺฆี คณีภูตา อุตฺตเรนมุขา คจฺฉนฺติ เยน สึสปาวนํ [เยน สึสปาวนํ, เตนุปสงฺกมนฺติ (สี. ปี.)].
๔๐๘. เตน โข ปน สมเยน ปายาสิ ราชฺโ อุปริปาสาเท ทิวาเสยฺยํ อุปคโต โหติ. อทฺทสา โข ปายาสิ ราชฺโ เสตพฺยเก พฺราหฺมณคหปติเก เสตพฺยาย นิกฺขมิตฺวา สงฺฆสงฺฆี คณีภูเต อุตฺตเรนมุเข คจฺฉนฺเต เยน สึสปาวนํ [เยน สึสปาวนํ, เตนุปสงฺกมนฺเต (สี. ปี.)], ทิสฺวา ขตฺตํ อามนฺเตสิ ¶ – ‘‘กึ นุ ¶ โข, โภ ขตฺเต, เสตพฺยกา พฺราหฺมณคหปติกา เสตพฺยาย นิกฺขมิตฺวา สงฺฆสงฺฆี คณีภูตา อุตฺตเรนมุขา คจฺฉนฺติ เยน สึสปาวน’’นฺติ [เอตฺถ ปน สพฺพตฺถปิ เอวเมว ทิสฺสติ, นตฺถิ ปานฺตรํ]?
‘‘อตฺถิ ¶ โข, โภ, สมโณ กุมารกสฺสโป, สมณสฺส โคตมสฺส สาวโก โกสเลสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ ปฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหิ เสตพฺยํ อนุปฺปตฺโต เสตพฺยายํ วิหรติ อุตฺตเรน เสตพฺยํ สึสปาวเน. ตํ โข ปน ภวนฺตํ กุมารกสฺสปํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต – ‘ปณฺฑิโต พฺยตฺโต เมธาวี พหุสฺสุโต จิตฺตกถี กลฺยาณปฏิภาโน วุทฺโธ เจว อรหา จา’ติ [อรหา จ (สฺยา. ก.)]. ตเมเต [ตเมนํ เต (สี. ก.), ตเมนํ (ปี.)] ภวนฺตํ กุมารกสฺสปํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมนฺตี’’ติ. ‘‘เตน หิ, โภ ขตฺเต, เยน เสตพฺยกา พฺราหฺมณคหปติกา เตนุปสงฺกม; อุปสงฺกมิตฺวา เสตพฺยเก พฺราหฺมณคหปติเก เอวํ วเทหิ – ‘ปายาสิ, โภ, ราชฺโ เอวมาห ¶ – อาคเมนฺตุ กิร ภวนฺโต, ปายาสิปิ ราชฺโ สมณํ กุมารกสฺสปํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสตี’ติ. ปุรา สมโณ กุมารกสฺสโป เสตพฺยเก พฺราหฺมณคหปติเก พาเล อพฺยตฺเต สฺาเปติ – ‘อิติปิ อตฺถิ ปโร โลโก, อตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, อตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’ติ. นตฺถิ หิ, โภ ขตฺเต, ปโร โลโก, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’ติ. ‘‘เอวํ โภ’’ติ โข โส ขตฺตา ปายาสิสฺส ราชฺสฺส ปฏิสฺสุตฺวา เยน เสตพฺยกา พฺราหฺมณคหปติกา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เสตพฺยเก พฺราหฺมณคหปติเก เอตทโวจ – ‘‘ปายาสิ, โภ, ราชฺโ เอวมาห, อาคเมนฺตุ กิร ภวนฺโต, ปายาสิปิ ราชฺโ สมณํ กุมารกสฺสปํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสตี’’ติ.
๔๐๙. อถ โข ปายาสิ ราชฺโ เสตพฺยเกหิ พฺราหฺมณคหปติเกหิ ปริวุโต เยน สึสปาวนํ เยนายสฺมา กุมารกสฺสโป เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา กุมารกสฺสเปน สทฺธึ ¶ สมฺโมทิ, สมฺโมทนียํ ¶ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เสตพฺยกาปิ โข พฺราหฺมณคหปติกา อปฺเปกจฺเจ อายสฺมนฺตํ กุมารกสฺสปํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ ¶ นิสีทึสุ; อปฺเปกจฺเจ อายสฺมตา กุมารกสฺสเปน สทฺธึ สมฺโมทึสุ; สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. อปฺเปกจฺเจ เยนายสฺมา กุมารกสฺสโป เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. อปฺเปกจฺเจ นามโคตฺตํ สาเวตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. อปฺเปกจฺเจ ตุณฺหีภูตา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ.
นตฺถิกวาโท
๔๑๐. เอกมนฺตํ ¶ นิสินฺโน โข ปายาสิ ราชฺโ อายสฺมนฺตํ กุมารกสฺสปํ เอตทโวจ – ‘‘อหฺหิ, โภ กสฺสป, เอวํวาที เอวํทิฏฺี – ‘อิติปิ นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’’ติ. ‘‘นาหํ, ราชฺ, เอวํวาทึ เอวํทิฏฺึ อทฺทสํ วา อสฺโสสึ วา. กถฺหิ นาม เอวํ วเทยฺย – ‘อิติปิ นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’ติ?
จนฺทิมสูริยอุปมา
๔๑๑. ‘‘เตน หิ, ราชฺ, ตฺเเวตฺถ ปฏิปุจฺฉิสฺสามิ, ยถา เต ขเมยฺย, ตถา นํ พฺยากเรยฺยาสิ. ตํ กึ มฺสิ, ราชฺ, อิเม จนฺทิมสูริยา อิมสฺมึ วา โลเก ปรสฺมึ วา, เทวา วา เต มนุสฺสา วา’’ติ? ‘‘อิเม, โภ กสฺสป, จนฺทิมสูริยา ปรสฺมึ โลเก, น อิมสฺมึ; เทวา เต น มนุสฺสา’’ติ. ‘‘อิมินาปิ โข เต, ราชฺ, ปริยาเยน เอวํ โหตุ – อิติปิ อตฺถิ ปโร โลโก, อตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, อตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’ติ.
๔๑๒. ‘‘กิฺจาปิ ภวํ กสฺสโป เอวมาห, อถ โข เอวํ เม เอตฺถ โหติ – ‘อิติปิ นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ ¶ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’’ติ. ‘‘อตฺถิ ปน, ราชฺ, ปริยาโย, เยน เต ปริยาเยน เอวํ โหติ – ‘อิติปิ นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’’ติ? ‘‘อตฺถิ ¶ , โภ กสฺสป, ปริยาโย, เยน เม ปริยาเยน เอวํ ¶ โหติ – ‘อิติปิ นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’’ติ. ‘‘ยถา กถํ วิย, ราชฺา’’ติ? ‘‘อิธ เม, โภ กสฺสป, มิตฺตามจฺจา าติสาโลหิตา ปาณาติปาตี อทินฺนาทายี กาเมสุมิจฺฉาจารี มุสาวาที ปิสุณวาจา ผรุสวาจา สมฺผปฺปลาปี อภิชฺฌาลู พฺยาปนฺนจิตฺตา มิจฺฉาทิฏฺี. เต อปเรน สมเยน อาพาธิกา โหนฺติ ทุกฺขิตา พาฬฺหคิลานา. ยทาหํ ชานามิ – ‘น ทานิเม อิมมฺหา อาพาธา วุฏฺหิสฺสนฺตี’ติ ตฺยาหํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วทามิ – ‘สนฺติ โข, โภ, เอเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – เย เต ปาณาติปาตี อทินฺนาทายี กาเมสุมิจฺฉาจารี มุสาวาที ปิสุณวาจา ผรุสวาจา สมฺผปฺปลาปี อภิชฺฌาลู พฺยาปนฺนจิตฺตา มิจฺฉาทิฏฺี, เต กายสฺส เภทา ¶ ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชนฺตี’ติ. ภวนฺโต โข ปาณาติปาตี อทินฺนาทายี กาเมสุมิจฺฉาจารี มุสาวาที ปิสุณวาจา ผรุสวาจา สมฺผปฺปลาปี อภิชฺฌาลู พฺยาปนฺนจิตฺตา มิจฺฉาทิฏฺี. สเจ เตสํ ภวตํ สมณพฺราหฺมณานํ สจฺจํ วจนํ, ภวนฺโต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชิสฺสนฺติ. สเจ, โภ, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺเชยฺยาถ, เยน เม อาคนฺตฺวา อาโรเจยฺยาถ – ‘อิติปิ อตฺถิ ปโร โลโก, อตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, อตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’ติ ¶ . ภวนฺโต โข ปน เม สทฺธายิกา ปจฺจยิกา, ยํ ภวนฺเตหิ ทิฏฺํ, ยถา สามํ ทิฏฺํ เอวเมตํ ภวิสฺสตี’ติ. เต เม ‘สาธู’ติ ปฏิสฺสุตฺวา ¶ เนว อาคนฺตฺวา อาโรเจนฺติ, น ปน ทูตํ ปหิณนฺติ. อยมฺปิ โข, โภ กสฺสป, ปริยาโย, เยน เม ปริยาเยน เอวํ โหติ – ‘อิติปิ นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’’ติ.
โจรอุปมา
๔๑๓. ‘‘เตน หิ, ราชฺ, ตฺเเวตฺถ ปฏิปุจฺฉิสฺสามิ. ยถา เต ขเมยฺย ตถา นํ พฺยากเรยฺยาสิ. ตํ กึ มฺสิ, ราชฺ, อิธ เต ปุริสา โจรํ อาคุจารึ คเหตฺวา ทสฺเสยฺยุํ – ‘อยํ เต, ภนฺเต, โจโร อาคุจารี; อิมสฺส ยํ อิจฺฉสิ, ตํ ทณฺฑํ ปเณหี’ติ. เต ตฺวํ เอวํ วเทยฺยาสิ – ‘เตน หิ, โภ, อิมํ ปุริสํ ทฬฺหาย รชฺชุยา ปจฺฉาพาหํ คาฬฺหพนฺธนํ พนฺธิตฺวา ¶ ขุรมุณฺฑํ กริตฺวา [กาเรตฺวา (สฺยา. ก.)] ขรสฺสเรน ปณเวน รถิกาย รถิกํ [รถิยาย รถิยํ (พหูสู)] สิงฺฆาฏเกน สิงฺฆาฏกํ ปริเนตฺวา ทกฺขิเณน ทฺวาเรน นิกฺขมิตฺวา ทกฺขิณโต นครสฺส อาฆาตเน สีสํ ฉินฺทถา’ติ. เต ‘สาธู’ติ ปฏิสฺสุตฺวา ตํ ปุริสํ ทฬฺหาย รชฺชุยา ปจฺฉาพาหํ คาฬฺหพนฺธนํ พนฺธิตฺวา ขุรมุณฺฑํ กริตฺวา ขรสฺสเรน ปณเวน รถิกาย รถิกํ สิงฺฆาฏเกน สิงฺฆาฏกํ ปริเนตฺวา ทกฺขิเณน ทฺวาเรน นิกฺขมิตฺวา ทกฺขิณโต นครสฺส อาฆาตเน นิสีทาเปยฺยุํ. ลเภยฺย นุ โข โส โจโร โจรฆาเตสุ – ‘อาคเมนฺตุ ตาว ภวนฺโต โจรฆาตา, อมุกสฺมึ ¶ เม คาเม วา นิคเม วา มิตฺตามจฺจา าติสาโลหิตา, ยาวาหํ เตสํ อุทฺทิสิตฺวา อาคจฺฉามี’ติ ¶ , อุทาหุ วิปฺปลปนฺตสฺเสว โจรฆาตา สีสํ ฉินฺเทยฺยุ’’นฺติ? ‘‘น หิ โส, โภ กสฺสป, โจโร ลเภยฺย โจรฆาเตสุ – ‘อาคเมนฺตุ ตาว ภวนฺโต โจรฆาตา อมุกสฺมึ เม คาเม วา นิคเม วา มิตฺตามจฺจา าติสาโลหิตา, ยาวาหํ เตสํ อุทฺทิสิตฺวา อาคจฺฉามี’ติ. อถ โข นํ วิปฺปลปนฺตสฺเสว โจรฆาตา สีสํ ฉินฺเทยฺยุ’’นฺติ. ‘‘โส หิ นาม, ราชฺ, โจโร มนุสฺโส มนุสฺสภูเตสุ โจรฆาเตสุ น ลภิสฺสติ – ‘อาคเมนฺตุ ตาว ภวนฺโต โจรฆาตา, อมุกสฺมึ เม คาเม ¶ วา นิคเม วา มิตฺตามจฺจา าติสาโลหิตา, ยาวาหํ เตสํ อุทฺทิสิตฺวา อาคจฺฉามี’ติ. กึ ปน เต มิตฺตามจฺจา าติสาโลหิตา ปาณาติปาตี อทินฺนาทายี กาเมสุมิจฺฉาจารี มุสาวาที ปิสุณวาจา ผรุสวาจา สมฺผปฺปลาปี อภิชฺฌาลู พฺยาปนฺนจิตฺตา มิจฺฉาทิฏฺี, เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปนฺนา ลภิสฺสนฺติ นิรยปาเลสุ – ‘อาคเมนฺตุ ตาว ภวนฺโต นิรยปาลา, ยาว มยํ ปายาสิสฺส ราชฺสฺส คนฺตฺวา อาโรเจม – ‘‘อิติปิ อตฺถิ ปโร โลโก, อตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, อตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’’ติ? อิมินาปิ โข เต, ราชฺ, ปริยาเยน เอวํ โหตุ – ‘อิติปิ อตฺถิ ปโร โลโก, อตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, อตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’’ติ.
๔๑๔. ‘‘กิฺจาปิ ¶ ภวํ กสฺสโป เอวมาห, อถ โข เอวํ เม เอตฺถ โหติ – ‘อิติปิ นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ ¶ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’ติ. ‘‘อตฺถิ ปน, ราชฺ, ปริยาโย เยน เต ปริยาเยน เอวํ โหติ – ‘อิติปิ นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’’ติ? ‘‘อตฺถิ, โภ กสฺสป, ปริยาโย, เยน เม ปริยาเยน เอวํ โหติ – ‘อิติปิ นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’’ติ. ‘‘ยถา กถํ วิย, ราชฺา’’ติ? ‘‘อิธ เม, โภ กสฺสป, มิตฺตามจฺจา าติสาโลหิตา ปาณาติปาตา ปฏิวิรตา อทินฺนาทานา ปฏิวิรตา กาเมสุมิจฺฉาจารา ¶ ปฏิวิรตา มุสาวาทา ปฏิวิรตา ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรตา ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรตา สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรตา อนภิชฺฌาลู อพฺยาปนฺนจิตฺตา สมฺมาทิฏฺี. เต อปเรน สมเยน อาพาธิกา โหนฺติ ทุกฺขิตา พาฬฺหคิลานา. ยทาหํ ชานามิ – ‘น ทานิเม อิมมฺหา อาพาธา วุฏฺหิสฺสนฺตี’ติ ตฺยาหํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วทามิ – ‘สนฺติ โข, โภ, เอเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – เย เต ปาณาติปาตา ปฏิวิรตา อทินฺนาทานา ปฏิวิรตา กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรตา มุสาวาทา ปฏิวิรตา ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรตา ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรตา สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรตา อนภิชฺฌาลู อพฺยาปนฺนจิตฺตา สมฺมาทิฏฺี เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺตีติ ¶ . ภวนฺโต โข ปาณาติปาตา ปฏิวิรตา อทินฺนาทานา ปฏิวิรตา กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรตา มุสาวาทา ปฏิวิรตา ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรตา ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรตา สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรตา อนภิชฺฌาลู อพฺยาปนฺนจิตฺตา สมฺมาทิฏฺี. สเจ เตสํ ภวตํ สมณพฺราหฺมณานํ สจฺจํ วจนํ, ภวนฺโต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชิสฺสนฺติ. สเจ, โภ, กายสฺส เภทา ¶ ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺเชยฺยาถ, เยน เม อาคนฺตฺวา อาโรเจยฺยาถ – ‘อิติปิ อตฺถิ ปโร โลโก, อตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, อตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’ติ. ภวนฺโต โข ปน เม สทฺธายิกา ปจฺจยิกา, ยํ ภวนฺเตหิ ทิฏฺํ, ยถา สามํ ทิฏฺํ เอวเมตํ ภวิสฺสตี’ติ. เต เม ‘สาธู’ติ ปฏิสฺสุตฺวา เนว อาคนฺตฺวา อาโรเจนฺติ, น ปน ทูตํ ปหิณนฺติ. อยมฺปิ โข, โภ กสฺสป, ปริยาโย, เยน เม ปริยาเยน เอวํ โหติ – ‘อิติปิ ¶ นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’’ติ.
คูถกูปปุริสอุปมา
๔๑๕. ‘‘เตน ¶ หิ, ราชฺ, อุปมํ เต กริสฺสามิ. อุปมาย มิเธกจฺเจ [อุปมายปิเธกจฺเจ (สี. สฺยา.), อุปมายปิอิเธกจฺเจ (ปี.)] วิฺู ปุริสา ภาสิตสฺส อตฺถํ อาชานนฺติ. เสยฺยถาปิ, ราชฺ, ปุริโส คูถกูเป สสีสกํ [สสีสโก (สฺยา.)] นิมุคฺโค อสฺส. อถ ตฺวํ ปุริเส อาณาเปยฺยาสิ – ‘เตน หิ, โภ, ตํ ปุริสํ ตมฺหา คูถกูปา อุทฺธรถา’ติ. เต ‘สาธู’ติ ปฏิสฺสุตฺวา ตํ ปุริสํ ตมฺหา คูถกูปา อุทฺธเรยฺยุํ. เต ตฺวํ เอวํ วเทยฺยาสิ – ‘เตน หิ, โภ, ตสฺส ปุริสสฺส กายา ¶ เวฬุเปสิกาหิ คูถํ สุนิมฺมชฺชิตํ นิมฺมชฺชถา’ติ. เต ‘สาธู’ติ ปฏิสฺสุตฺวา ตสฺส ปุริสสฺส กายา เวฬุเปสิกาหิ คูถํ สุนิมฺมชฺชิตํ นิมฺมชฺเชยฺยุํ. เต ตฺวํ เอวํ วเทยฺยาสิ – ‘เตน หิ, โภ, ตสฺส ปุริสสฺส กายํ ปณฺฑุมตฺติกาย ติกฺขตฺตุํ สุพฺพฏฺฏิตํ อุพฺพฏฺเฏถา’ติ [สุปฺปฏฺฏิตํ อุปฺปฏฺเฏถาติ (ก.)]. เต ตสฺส ปุริสสฺส กายํ ปณฺฑุมตฺติกาย ติกฺขตฺตุํ สุพฺพฏฺฏิตํ อุพฺพฏฺเฏยฺยุํ. เต ตฺวํ เอวํ วเทยฺยาสิ – ‘เตน หิ, โภ, ตํ ปุริสํ เตเลน อพฺภฺชิตฺวา สุขุเมน จุณฺเณน ติกฺขตฺตุํ สุปฺปโธตํ กโรถา’ติ. เต ตํ ปุริสํ เตเลน อพฺภฺชิตฺวา สุขุเมน จุณฺเณน ติกฺขตฺตุํ สุปฺปโธตํ กเรยฺยุํ. เต ตฺวํ เอวํ วเทยฺยาสิ – ‘เตน หิ, โภ, ตสฺส ปุริสสฺส เกสมสฺสุํ กปฺเปถา’ติ. เต ตสฺส ปุริสสฺส เกสมสฺสุํ กปฺเปยฺยุํ. เต ตฺวํ เอวํ วเทยฺยาสิ – ‘เตน หิ, โภ, ตสฺส ปุริสสฺส มหคฺฆฺจ มาลํ มหคฺฆฺจ วิเลปนํ มหคฺฆานิ จ วตฺถานิ อุปหรถา’ติ. เต ตสฺส ปุริสสฺส มหคฺฆฺจ มาลํ มหคฺฆฺจ วิเลปนํ ¶ มหคฺฆานิ จ วตฺถานิ อุปหเรยฺยุํ. เต ตฺวํ เอวํ วเทยฺยาสิ – ‘เตน หิ, โภ, ตํ ปุริสํ ปาสาทํ อาโรเปตฺวา ปฺจกามคุณานิ อุปฏฺาเปถา’ติ. เต ตํ ปุริสํ ปาสาทํ อาโรเปตฺวา ปฺจกามคุณานิ อุปฏฺาเปยฺยุํ.
‘‘ตํ กึ มฺสิ, ราชฺ, อปิ นุ ตสฺส ปุริสสฺส สุนฺหาตสฺส สุวิลิตฺตสฺส สุกปฺปิตเกสมสฺสุสฺส อามุกฺกมาลาภรณสฺส โอทาตวตฺถวสนสฺส อุปริปาสาทวรคตสฺส ปฺจหิ ¶ กามคุเณหิ สมปฺปิตสฺส สมงฺคีภูตสฺส ¶ ปริจารยมานสฺส ปุนเทว ตสฺมึ คูถกูเป นิมุชฺชิตุกามตา [นิมุชฺชิตุกามฺยตา (สฺยา. ก.)] อสฺสา’’ติ? ‘‘โน หิทํ, โภ กสฺสป’’. ‘‘ตํ กิสฺส เหตุ’’? ‘‘อสุจิ, โภ กสฺสป, คูถกูโป อสุจิ เจว อสุจิสงฺขาโต จ ทุคฺคนฺโธ จ ทุคฺคนฺธสงฺขาโต จ เชคุจฺโฉ จ เชคุจฺฉสงฺขาโต ¶ จ ปฏิกูโล จ ปฏิกูลสงฺขาโต จา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, ราชฺ, มนุสฺสา เทวานํ อสุจี เจว อสุจิสงฺขาตา จ, ทุคฺคนฺธา จ ทุคฺคนฺธสงฺขาตา จ, เชคุจฺฉา จ เชคุจฺฉสงฺขาตา จ, ปฏิกูลา จ ปฏิกูลสงฺขาตา จ. โยชนสตํ โข, ราชฺ, มนุสฺสคนฺโธ เทเว อุพฺพาธติ. กึ ปน เต มิตฺตามจฺจา าติสาโลหิตา ปาณาติปาตา ปฏิวิรตา อทินฺนาทานา ปฏิวิรตา กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรตา มุสาวาทา ปฏิวิรตา ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรตา ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรตา สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรตา อนภิชฺฌาลู อพฺยาปนฺนจิตฺตา สมฺมาทิฏฺี, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺนา เต อาคนฺตฺวา อาโรเจสฺสนฺติ – ‘อิติปิ อตฺถิ ปโร โลโก, อตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, อตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ ¶ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’ติ? อิมินาปิ โข เต, ราชฺ, ปริยาเยน เอวํ โหตุ – ‘อิติปิ อตฺถิ ปโร โลโก, อตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, อตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’’ติ.
๔๑๖. ‘‘กิฺจาปิ ภวํ กสฺสโป เอวมาห, อถ โข เอวํ เม เอตฺถ โหติ – ‘อิติปิ นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’’ติ. ‘‘อตฺถิ ปน, ราชฺ, ปริยาโย ¶ …เป… ‘‘อตฺถิ, โภ กสฺสป, ปริยาโย…เป… ``ยถา กถํ วิย, ราชฺาติ? ‘‘อิธ เม, โภ กสฺสป, มิตฺตามจฺจา าติสาโลหิตา ปาณาติปาตา ปฏิวิรตา อทินฺนาทานา ปฏิวิรตา กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรตา มุสาวาทา ปฏิวิรตา สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรตา, เต อปเรน สมเยน อาพาธิกา โหนฺติ ทุกฺขิตา พาฬฺหคิลานา. ยทาหํ ชานามิ – ‘น ทานิเม อิมมฺหา อาพาธา วุฏฺหิสฺสนฺตี’ติ ตฺยาหํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วทามิ – ‘สนฺติ โข, โภ, เอเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน – เย เต ปาณาติปาตา ปฏิวิรตา อทินฺนาทานา ปฏิวิรตา กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรตา มุสาวาทา ปฏิวิรตา สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรตา, เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺติ เทวานํ ตาวตึสานํ สหพฺยตนฺติ. ภวนฺโต โข ปาณาติปาตา ปฏิวิรตา อทินฺนาทานา ปฏิวิรตา กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรตา มุสาวาทา ปฏิวิรตา สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรตา. สเจ เตสํ ภวตํ สมณพฺราหฺมณานํ สจฺจํ วจนํ, ภวนฺโต กายสฺส เภทา ปรํ ¶ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชิสฺสนฺติ, เทวานํ ตาวตึสานํ สหพฺยตํ. สเจ, โภ, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺเชยฺยาถ ¶ เทวานํ ตาวตึสานํ สหพฺยตํ, เยน เม อาคนฺตฺวา อาโรเจยฺยาถ – `อิติปิ อตฺถิ ปโร โลโก, อตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, อตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโกติ. ภวนฺโต โข ¶ ปน เม สทฺธายิกา ปจฺจยิกา, ยํ ภวนฺเตหิ ทิฏฺํ, ยถา สามํ ¶ ทิฏฺํ เอวเมตํ ภวิสฺสตีติ. เต เม ‘สาธู’ติ ปฏิสฺสุตฺวา เนว อาคนฺตฺวา อาโรเจนฺติ, น ปน ทูตํ ปหิณนฺติ. อยมฺปิ โข, โภ กสฺสป, ปริยาโย, เยน เม ปริยาเยน เอวํ โหติ – ‘อิติปิ นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’’ติ.
ตาวตึสเทวอุปมา
๔๑๗. ‘‘เตน หิ, ราชฺ, ตฺเเวตฺถ ปฏิปุจฺฉิสฺสามิ; ยถา เต ขเมยฺย, ตถา นํ พฺยากเรยฺยาสิ. ยํ โข ปน, ราชฺ, มานุสฺสกํ วสฺสสตํ, เทวานํ ตาวตึสานํ เอโส เอโก รตฺตินฺทิโว [รตฺติทิโว (ก.)], ตาย รตฺติยา ตึสรตฺติโย มาโส, เตน มาเสน ทฺวาทสมาสิโย สํวจฺฉโร, เตน สํวจฺฉเรน ทิพฺพํ วสฺสสหสฺสํ เทวานํ ตาวตึสานํ อายุปฺปมาณํ. เย เต มิตฺตามจฺจา าติสาโลหิตา ปาณาติปาตา ปฏิวิรตา อทินฺนาทานา ปฏิวิรตา กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรตา มุสาวาทา ปฏิวิรตา สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรตา, เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺนา เทวานํ ตาวตึสานํ สหพฺยตํ. สเจ ปน เตสํ เอวํ ภวิสฺสติ – ‘ยาว มยํ ทฺเว วา ตีณิ วา รตฺตินฺทิวา ทิพฺเพหิ ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิตา สมงฺคีภูตา ปริจาเรม, อถ มยํ ปายาสิสฺส ราชฺสฺส คนฺตฺวา อาโรเจยฺยาม – ‘‘อิติปิ อตฺถิ ปโร โลโก, อตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, อตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’ติ. อปิ นุ เต อาคนฺตฺวา อาโรเจยฺยุํ ¶ – ‘อิติปิ อตฺถิ ปโร โลโก, อตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, อตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’’ติ? ‘‘โน หิทํ, โภ กสฺสป. อปิ หิ มยํ, โภ กสฺสป, จิรํ กาลงฺกตาปิ ภเวยฺยาม. โก ปเนตํ โภโต กสฺสปสฺส อาโรเจติ ¶ – ‘อตฺถิ เทวา ตาวตึสา’ติ วา ‘เอวํทีฆายุกา เทวา ตาวตึสา’ติ วา. น มยํ โภโต ¶ กสฺสปสฺส สทฺทหาม – ‘อตฺถิ เทวา ตาวตึสา’ติ วา ‘เอวํทีฆายุกา เทวา ตาวตึสา’ติ วา’’ติ.
ชจฺจนฺธอุปมา
๔๑๘. ‘‘เสยฺยถาปิ, ราชฺ, ชจฺจนฺโธ ปุริโส น ปสฺเสยฺย กณฺห – สุกฺกานิ รูปานิ ¶ , น ปสฺเสยฺย นีลกานิ รูปานิ, น ปสฺเสยฺย ปีตกานิ [มฺเชฏฺกานิ (สฺยา.)] รูปานิ, น ปสฺเสยฺย โลหิตกานิ รูปานิ, น ปสฺเสยฺย มฺชิฏฺกานิ รูปานิ, น ปสฺเสยฺย สมวิสมํ, น ปสฺเสยฺย ตารกานิ รูปานิ, น ปสฺเสยฺย จนฺทิมสูริเย. โส เอวํ วเทยฺย – ‘นตฺถิ กณฺหสุกฺกานิ รูปานิ, นตฺถิ กณฺหสุกฺกานํ รูปานํ ทสฺสาวี. นตฺถิ นีลกานิ รูปานิ, นตฺถิ นีลกานํ รูปานํ ทสฺสาวี. นตฺถิ ปีตกานิ รูปานิ, นตฺถิ ปีตกานํ รูปานํ ทสฺสาวี. นตฺถิ โลหิตกานิ รูปานิ, นตฺถิ โลหิตกานํ รูปานํ ทสฺสาวี. นตฺถิ มฺชิฏฺกานิ รูปานิ, นตฺถิ มฺชิฏฺกานํ รูปานํ ทสฺสาวี. นตฺถิ สมวิสมํ, นตฺถิ สมวิสมสฺส ทสฺสาวี. นตฺถิ ตารกานิ รูปานิ, นตฺถิ ตารกานํ รูปานํ ทสฺสาวี. นตฺถิ จนฺทิมสูริยา, นตฺถิ จนฺทิมสูริยานํ ทสฺสาวี. อหเมตํ น ชานามิ, อหเมตํ น ปสฺสามิ, ตสฺมา ตํ นตฺถี’ติ. สมฺมา นุ โข โส, ราชฺ, วทมาโน วเทยฺยา’’ติ? ‘‘โน หิทํ, โภ ¶ กสฺสป. อตฺถิ กณฺหสุกฺกานิ รูปานิ, อตฺถิ กณฺหสุกฺกานํ รูปานํ ทสฺสาวี. อตฺถิ นีลกานิ รูปานิ, อตฺถิ นีลกานํ รูปานํ ทสฺสาวี…เป… ¶ อตฺถิ สมวิสมํ, อตฺถิ สมวิสมสฺส ทสฺสาวี. อตฺถิ ตารกานิ รูปานิ, อตฺถิ ตารกานํ รูปานํ ทสฺสาวี. อตฺถิ จนฺทิมสูริยา, อตฺถิ จนฺทิมสูริยานํ ทสฺสาวี. ‘อหเมตํ น ชานามิ, อหเมตํ น ปสฺสามิ, ตสฺมา ตํ นตฺถี’ติ. น หิ โส, โภ กสฺสป, สมฺมา วทมาโน วเทยฺยา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข ตฺวํ, ราชฺ, ชจฺจนฺธูปโม มฺเ ปฏิภาสิ ยํ มํ ตฺวํ เอวํ วเทสิ’’.
‘‘โก ปเนตํ โภโต กสฺสปสฺส อาโรเจติ – ‘อตฺถิ เทวา ตาวตึสา’’ติ วา, ‘เอวํทีฆายุกา เทวา ตาวตึสา’ติ วา? น มยํ โภโต กสฺสปสฺส สทฺทหาม – ‘อตฺถิ เทวา ตาวตึสา’ติ วา ‘เอวํทีฆายุกา เทวา ตาวตึสา’ติ วา’’ติ. ‘‘น โข, ราชฺ, เอวํ ปโร โลโก ทฏฺพฺโพ, ยถา ตฺวํ มฺสิ อิมินา มํสจกฺขุนา. เย โข เต ราชฺ สมณพฺราหฺมณา อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวนฺติ ¶ , เต ตตฺถ อปฺปมตฺตา อาตาปิโน ปหิตตฺตา วิหรนฺตา ทิพฺพจกฺขุํ วิโสเธนฺติ. เต ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน อิมํ เจว โลกํ ปสฺสนฺติ ปรฺจ สตฺเต จ โอปปาติเก. เอวฺจ โข, ราชฺ, ปโร โลโก ทฏฺพฺโพ; นตฺเวว ยถา ตฺวํ มฺสิ อิมินา มํสจกฺขุนา. อิมินาปิ โข เต, ราชฺ, ปริยาเยน เอวํ โหตุ – ‘อิติปิ ¶ อตฺถิ ปโร โลโก, อตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, อตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’’ติ.
๔๑๙. ‘‘กิฺจาปิ ภวํ กสฺสโป เอวมาห, อถ โข เอวํ ¶ เม เอตฺถ โหติ – ‘อิติปิ นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’ติ ¶ . ‘‘อตฺถิ ปน, ราชฺ, ปริยาโย…เป… อตฺถิ, โภ กสฺสป, ปริยาโย…เป… ยถา กถํ วิย, ราชฺา’’ติ? ‘‘อิธาหํ, โภ กสฺสป, ปสฺสามิ สมณพฺราหฺมเณ สีลวนฺเต กลฺยาณธมฺเม ชีวิตุกาเม อมริตุกาเม สุขกาเม ทุกฺขปฏิกูเล. ตสฺส มยฺหํ, โภ กสฺสป, เอวํ โหติ – สเจ โข อิเม โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สีลวนฺโต กลฺยาณธมฺมา เอวํ ชาเนยฺยุํ – ‘อิโต โน มตานํ เสยฺโย ภวิสฺสตี’ติ. อิทานิเม โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สีลวนฺโต กลฺยาณธมฺมา วิสํ วา ขาเทยฺยุํ, สตฺถํ วา อาหเรยฺยุํ, อุพฺพนฺธิตฺวา วา กาลงฺกเรยฺยุํ, ปปาเต วา ปปเตยฺยุํ. ยสฺมา จ โข อิเม โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สีลวนฺโต กลฺยาณธมฺมา น เอวํ ชานนฺติ – ‘อิโต โน มตานํ เสยฺโย ภวิสฺสตี’ติ, ตสฺมา อิเม โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สีลวนฺโต กลฺยาณธมฺมา ชีวิตุกามา อมริตุกามา สุขกามา ทุกฺขปฏิกูลา อตฺตานํ น มาเรนฺติ [( ) นตฺถิ (สฺยา. ปี.)]. อยมฺปิ โข, โภ กสฺสป, ปริยาโย, เยน เม ปริยาเยน เอวํ โหติ – ‘อิติปิ นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’’ติ.
คพฺภินีอุปมา
๔๒๐. ‘‘เตน ¶ หิ, ราชฺ, อุปมํ เต กริสฺสามิ. อุปมาย มิเธกจฺเจ วิฺู ปุริสา ภาสิตสฺส อตฺถํ อาชานนฺติ. ภูตปุพฺพํ, ราชฺ, อฺตรสฺส พฺราหฺมณสฺส ¶ ทฺเว ปชาปติโย อเหสุํ. เอกิสฺสา ปุตฺโต อโหสิ ทสวสฺสุทฺเทสิโก วา ทฺวาทสวสฺสุทฺเทสิโก วา, เอกา คพฺภินี อุปวิชฺา. อถ โข โส พฺราหฺมโณ กาลมกาสิ. อถ โข โส มาณวโก มาตุสปตฺตึ [มาตุสปตึ (สฺยา.)] เอตทโวจ – ‘ยมิทํ, โภติ, ธนํ วา ธฺํ วา รชตํ วา ชาตรูปํ วา, สพฺพํ ตํ มยฺหํ ¶ ; นตฺถิ ตุยฺเหตฺถ กิฺจิ. ปิตุ เม [ปิตุ เม สนฺตโก (สฺยา.)] โภติ, ทายชฺชํ นิยฺยาเทหี’ติ [นียฺยาเตหีติ (สี. ปี.)]. เอวํ วุตฺเต สา พฺราหฺมณี ตํ มาณวกํ เอตทโวจ – ‘อาคเมหิ ตาว, ตาต, ยาว วิชายามิ. สเจ กุมารโก ภวิสฺสติ, ตสฺสปิ เอกเทโส ภวิสฺสติ; สเจ กุมาริกา ภวิสฺสติ, สาปิ เต โอปโภคฺคา [อุปโภคฺคา (สฺยา.)] ภวิสฺสตี’ติ. ทุติยมฺปิ โข โส มาณวโก มาตุสปตฺตึ เอตทโวจ – ‘ยมิทํ, โภติ, ธนํ วา ธฺํ วา รชตํ วา ชาตรูปํ วา, สพฺพํ ตํ มยฺหํ; นตฺถิ ตุยฺเหตฺถ กิฺจิ. ปิตุ เม, โภติ, ทายชฺชํ นิยฺยาเทหี’ติ. ทุติยมฺปิ โข สา พฺราหฺมณี ตํ มาณวกํ เอตทโวจ – ‘อาคเมหิ ตาว, ตาต, ยาว วิชายามิ. สเจ กุมารโก ภวิสฺสติ, ตสฺสปิ เอกเทโส ภวิสฺสติ; สเจ กุมาริกา ภวิสฺสติ สาปิ เต โอปโภคฺคา [อุปโภคฺคา (สฺยา.)] ภวิสฺสตี’ติ. ตติยมฺปิ โข โส มาณวโก มาตุสปตฺตึ เอตทโวจ – ‘ยมิทํ, โภติ, ธนํ วา ธฺํ วา รชตํ วา ชาตรูปํ ¶ วา ¶ , สพฺพํ ตํ มยฺหํ; นตฺถิ ตุยฺเหตฺถ กิฺจิ. ปิตุ เม, โภติ, ทายชฺชํ นิยฺยาเทหี’ติ.
‘‘อถ โข สา พฺราหฺมณี สตฺถํ คเหตฺวา โอวรกํ ปวิสิตฺวา อุทรํ โอปาเทสิ [อุปฺปาเตสิ (สฺยา.)] – ‘ยาว วิชายามิ ยทิ วา กุมารโก ยทิ วา กุมาริกา’ติ. สา อตฺตานํ เจว ชีวิตฺจ คพฺภฺจ สาปเตยฺยฺจ วินาเสสิ. ยถา ตํ พาลา อพฺยตฺตา อนยพฺยสนํ อาปนฺนา อโยนิโส ทายชฺชํ คเวสนฺตี, เอวเมว โข ตฺวํ, ราชฺ, พาโล อพฺยตฺโต อนยพฺยสนํ อาปชฺชิสฺสสิ อโยนิโส ปรโลกํ คเวสนฺโต ¶ ; เสยฺยถาปิ สา พฺราหฺมณี พาลา อพฺยตฺตา อนยพฺยสนํ อาปนฺนา อโยนิโส ทายชฺชํ คเวสนฺตี. น โข, ราชฺ, สมณพฺราหฺมณา สีลวนฺโต กลฺยาณธมฺมา อปกฺกํ ปริปาเจนฺติ; อปิ จ ปริปากํ อาคเมนฺติ. ปณฺฑิตานํ อตฺโถ หิ, ราชฺ, สมณพฺราหฺมณานํ สีลวนฺตานํ กลฺยาณธมฺมานํ ชีวิเตน. ยถา ยถา โข, ราชฺ, สมณพฺราหฺมณา สีลวนฺโต กลฺยาณธมฺมา จิรํ ทีฆมทฺธานํ ติฏฺนฺติ, ตถา ¶ ตถา พหุํ ปฺุํ ปสวนฺติ, พหุชนหิตาย จ ปฏิปชฺชนฺติ พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ. อิมินาปิ โข เต, ราชฺ, ปริยาเยน เอวํ โหตุ – ‘อิติปิ อตฺถิ ปโร โลโก, อตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, อตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’’ติ.
๔๒๑. ‘‘กิฺจาปิ ภวํ กสฺสโป เอวมาห, อถ โข เอวํ เม เอตฺถ โหติ – ‘อิติปิ นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’’ติ. ‘‘อตฺถิ ปน, ราชฺ, ปริยาโย…เป… อตฺถิ, โภ กสฺสป, ปริยาโย…เป… ยถา กถํ วิย, ราชฺา’’ติ? ‘‘อิธ เม, โภ กสฺสป, ปุริสา โจรํ ¶ อาคุจารึ คเหตฺวา ทสฺเสนฺติ – ‘อยํ เต, ภนฺเต, โจโร อาคุจารี; อิมสฺส ยํ อิจฺฉสิ, ตํ ทณฺฑํ ปเณหี’ติ. ตฺยาหํ เอวํ วทามิ – ‘เตน หิ, โภ, อิมํ ปุริสํ ชีวนฺตํเยว กุมฺภิยา ปกฺขิปิตฺวา มุขํ ปิทหิตฺวา อลฺเลน จมฺเมน โอนนฺธิตฺวา อลฺลาย มตฺติกาย พหลาวเลปนํ [พหลวิเลปนํ (สฺยา. ก.)] กริตฺวา ¶ อุทฺธนํ อาโรเปตฺวา อคฺคึ เทถา’ติ. เต เม ‘สาธู’ติ ปฏิสฺสุตฺวา ตํ ปุริสํ ชีวนฺตํเยว กุมฺภิยา ปกฺขิปิตฺวา มุขํ ปิทหิตฺวา อลฺเลน จมฺเมน โอนนฺธิตฺวา อลฺลาย มตฺติกาย พหลาวเลปนํ กริตฺวา อุทฺธนํ อาโรเปตฺวา อคฺคึ เทนฺติ. ยทา มยํ ชานาม ‘กาลงฺกโต โส ปุริโส’ติ, อถ นํ กุมฺภึ โอโรเปตฺวา อุพฺภินฺทิตฺวา มุขํ วิวริตฺวา สณิกํ นิลฺโลเกม [วิโลเกม (สฺยา.)] – ‘อปฺเปว นามสฺส ชีวํ นิกฺขมนฺตํ ปสฺเสยฺยามา’ติ. เนวสฺส มยํ ชีวํ นิกฺขมนฺตํ ปสฺสาม. อยมฺปิ โข, โภ กสฺสป, ปริยาโย, เยน เม ปริยาเยน เอวํ โหติ – ‘อิติปิ นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’’ติ.
สุปินกอุปมา
๔๒๒. ‘‘เตน ¶ หิ, ราชฺ, ตฺเเวตฺถ ปฏิปุจฺฉิสฺสามิ, ยถา เต ขเมยฺย, ตถา นํ พฺยากเรยฺยาสิ. อภิชานาสิ โน ตฺวํ, ราชฺ, ทิวา เสยฺยํ อุปคโต สุปินกํ ปสฺสิตา อารามรามเณยฺยกํ วนรามเณยฺยกํ ภูมิรามเณยฺยกํ โปกฺขรณีรามเณยฺยก’’นฺติ? ‘‘อภิชานามหํ, โภ กสฺสป, ทิวาเสยฺยํ อุปคโต สุปินกํ ปสฺสิตา อารามรามเณยฺยกํ วนรามเณยฺยกํ ภูมิรามเณยฺยกํ โปกฺขรณีรามเณยฺยก’’นฺติ. ‘‘รกฺขนฺติ ตํ ¶ ตมฺหิ สมเย ขุชฺชาปิ ¶ วามนกาปิ เวลาสิกาปิ [เจลาวิกาปิ (สฺยา.), เกฬายิกาปิ (สี.)] โกมาริกาปี’’ติ? ‘‘เอวํ, โภ กสฺสป, รกฺขนฺติ มํ ตมฺหิ สมเย ขุชฺชาปิ วามนกาปิ เวลาสิกาปิ [เจลาวิกาปิ (สฺยา.), เกฬายิกาปิ (สี.)] โกมาริกาปี’’ติ. ‘‘อปิ นุ ตา ตุยฺหํ ชีวํ ปสฺสนฺติ ปวิสนฺตํ วา นิกฺขมนฺตํ วา’’ติ? ‘‘โน ¶ หิทํ, โภ กสฺสป’’. ‘‘ตา หิ นาม, ราชฺ, ตุยฺหํ ชีวนฺตสฺส ชีวนฺติโย ชีวํ น ปสฺสิสฺสนฺติ ปวิสนฺตํ วา นิกฺขมนฺตํ วา. กึ ปน ตฺวํ กาลงฺกตสฺส ชีวํ ปสฺสิสฺสสิ ปวิสนฺตํ วา นิกฺขมนฺตํ วา. อิมินาปิ โข เต, ราชฺ, ปริยาเยน เอวํ โหตุ – ‘‘อิติปิ อตฺถิ ปโร โลโก, อตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, อตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’’ติ.
๔๒๓. ‘‘กิฺจาปิ ภวํ กสฺสโป เอวมาห, อถ โข เอวํ เม เอตฺถ โหติ – ‘อิติปิ นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’’ติ. ‘‘อตฺถิ ปน, ราชฺ, ปริยาโย…เป… ‘‘อตฺถิ, โภ กสฺสป, ปริยาโย…เป… ยถา กถํ วิย ราชฺา’’ติ? ‘‘อิธ เม, โภ กสฺสป, ปุริสา โจรํ อาคุจารึ คเหตฺวา ทสฺเสนฺติ – ‘อยํ เต, ภนฺเต, โจโร อาคุจารี; อิมสฺส ยํ อิจฺฉสิ, ตํ ทณฺฑํ ปเณหี’ติ. ตฺยาหํ เอวํ วทามิ – ‘เตน หิ, โภ, อิมํ ปุริสํ ชีวนฺตํเยว ตุลาย ตุเลตฺวา ชิยาย อนสฺสาสกํ มาเรตฺวา ปุนเทว ตุลาย ตุเลถา’ติ. เต เม ‘สาธู’ติ ปฏิสฺสุตฺวา ตํ ปุริสํ ชีวนฺตํเยว ตุลาย ตุเลตฺวา ชิยาย อนสฺสาสกํ มาเรตฺวา ปุนเทว ตุลาย ตุเลนฺติ. ยทา โส ชีวติ, ตทา ลหุตโร จ โหติ มุทุตโร ¶ จ กมฺมฺตโร จ. ยทา ปน โส กาลงฺกโต โหติ ตทา ครุตโร จ โหติ ปตฺถินฺนตโร จ อกมฺมฺตโร จ. อยมฺปิ โข, โภ กสฺสป, ปริยาโย, เยน เม ปริยาเยน เอวํ โหติ – ‘อิติปิ นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’’ติ.
สนฺตตฺตอโยคุฬอุปมา
๔๒๔. ‘‘เตน ¶ หิ, ราชฺ, อุปมํ เต กริสฺสามิ. อุปมาย มิเธกจฺเจ ¶ วิฺู ปุริสา ภาสิตสฺส อตฺถํ อาชานนฺติ. เสยฺยถาปิ, ราชฺ, ปุริโส ทิวสํ สนฺตตฺตํ ¶ อโยคุฬํ อาทิตฺตํ สมฺปชฺชลิตํ สโชติภูตํ ตุลาย ตุเลยฺย. ตเมนํ อปเรน สมเยน สีตํ นิพฺพุตํ ตุลาย ตุเลยฺย. กทา นุ โข โส อโยคุโฬ ลหุตโร วา โหติ มุทุตโร วา กมฺมฺตโร วา, ยทา วา อาทิตฺโต สมฺปชฺชลิโต สโชติภูโต, ยทา วา สีโต นิพฺพุโต’’ติ? ‘‘ยทา โส, โภ กสฺสป, อโยคุโฬ เตโชสหคโต จ โหติ วาโยสหคโต จ อาทิตฺโต สมฺปชฺชลิโต สโชติภูโต, ตทา ลหุตโร จ โหติ มุทุตโร จ กมฺมฺตโร จ. ยทา ปน โส อโยคุโฬ เนว เตโชสหคโต โหติ น วาโยสหคโต สีโต นิพฺพุโต, ตทา ครุตโร จ โหติ ปตฺถินฺนตโร จ อกมฺมฺตโร จา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, ราชฺ, ยทายํ กาโย อายุสหคโต จ โหติ อุสฺมาสหคโต จ วิฺาณสหคโต จ, ตทา ลหุตโร จ โหติ มุทุตโร จ กมฺมฺตโร จ. ยทา ปนายํ กาโย เนว อายุสหคโต โหติ น อุสฺมาสหคโต น วิฺาณสหคโต ตทา ¶ ครุตโร จ โหติ ปตฺถินฺนตโร จ อกมฺมฺตโร จ. อิมินาปิ โข เต, ราชฺ, ปริยาเยน เอวํ โหตุ – ‘อิติปิ อตฺถิ ปโร โลโก, อตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, อตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’’ติ.
๔๒๕. ‘‘กิฺจาปิ ภวํ กสฺสโป เอวมาห, อถ โข เอวํ เม เอตฺถ โหติ – ‘อิติปิ นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’’ติ. ‘‘อตฺถิ ปน, ราชฺ, ปริยาโย…เป… อตฺถิ, โภ กสฺสป, ปริยาโย…เป… ยถา กถํ วิย ราชฺา’’ติ? ‘‘อิธ เม, โภ กสฺสป, ปุริสา โจรํ อาคุจารึ คเหตฺวา ทสฺเสนฺติ – ‘อยํ เต, ภนฺเต, โจโร อาคุจารี; อิมสฺส ยํ อิจฺฉสิ ¶ , ตํ ทณฺฑํ ปเณหี’ติ. ตฺยาหํ เอวํ วทามิ – ‘เตน หิ, โภ, อิมํ ปุริสํ อนุปหจฺจ ฉวิฺจ จมฺมฺจ มํสฺจ นฺหารฺุจ อฏฺิฺจ อฏฺิมิฺชฺจ ชีวิตา โวโรเปถ, อปฺเปว นามสฺส ชีวํ นิกฺขมนฺตํ ปสฺเสยฺยามา’ติ. เต เม ‘สาธู’ติ ปฏิสฺสุตฺวา ตํ ปุริสํ อนุปหจฺจ ฉวิฺจ…เป… ชีวิตา โวโรเปนฺติ. ยทา โส อามโต โหติ, ตฺยาหํ เอวํ วทามิ – ‘เตน หิ, โภ, อิมํ ปุริสํ อุตฺตานํ นิปาเตถ, อปฺเปว นามสฺส ชีวํ นิกฺขมนฺตํ ปสฺเสยฺยามา’ติ. เต ตํ ปุริสํ อุตฺตานํ นิปาเตนฺติ. เนวสฺส มยํ ชีวํ นิกฺขมนฺตํ ปสฺสาม. ตฺยาหํ เอวํ วทามิ – ‘เตน หิ, โภ, อิมํ ปุริสํ อวกุชฺชํ นิปาเตถ… ปสฺเสน นิปาเตถ… ทุติเยน ปสฺเสน ¶ ¶ นิปาเตถ… อุทฺธํ เปถ… โอมุทฺธกํ เปถ… ปาณินา อาโกเฏถ… เลฑฺฑุนา อาโกเฏถ… ทณฺเฑน อาโกเฏถ… สตฺเถน อาโกเฏถ… โอธุนาถ สนฺธุนาถ ¶ นิทฺธุนาถ, อปฺเปว นามสฺส ชีวํ นิกฺขมนฺตํ ปสฺเสยฺยามา’ติ. เต ตํ ปุริสํ โอธุนนฺติ สนฺธุนนฺติ นิทฺธุนนฺติ. เนวสฺส มยํ ชีวํ นิกฺขมนฺตํ ปสฺสาม. ตสฺส ตเทว จกฺขุ โหติ เต รูปา, ตฺจายตนํ นปฺปฏิสํเวเทติ. ตเทว โสตํ โหติ เต สทฺทา, ตฺจายตนํ นปฺปฏิสํเวเทติ. ตเทว ฆานํ โหติ เต คนฺธา, ตฺจายตนํ นปฺปฏิสํเวเทติ ¶ . สาว ชิวฺหา โหติ เต รสา, ตฺจายตนํ นปฺปฏิสํเวเทติ. สฺเวว กาโย โหติ เต โผฏฺพฺพา, ตฺจายตนํ นปฺปฏิสํเวเทติ. อยมฺปิ โข, โภ กสฺสป, ปริยาโย, เยน เม ปริยาเยน เอวํ โหติ – ‘อิติปิ นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’’ติ.
สงฺขธมอุปมา
๔๒๖. ‘‘เตน หิ, ราชฺ, อุปมํ เต กริสฺสามิ. อุปมาย มิเธกจฺเจ วิฺู ปุริสา ภาสิตสฺส อตฺถํ อาชานนฺติ. ภูตปุพฺพํ, ราชฺ, อฺตโร สงฺขธโม สงฺขํ อาทาย ปจฺจนฺติมํ ชนปทํ อคมาสิ. โส เยน อฺตโร คาโม เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มชฺเฌ คามสฺส ิโต ติกฺขตฺตุํ สงฺขํ อุปลาเปตฺวา สงฺขํ ภูมิยํ นิกฺขิปิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. อถ โข, ราชฺ, เตสํ ปจฺจนฺตชนปทานํ [ปจฺจนฺตชานํ (สี.)] มนุสฺสานํ เอตทโหสิ ¶ – ‘อมฺโภ กสฺส นุ โข [เอตทโหสิ ‘‘กิสฺส ทุโข (ปี.)] เอโส สทฺโท เอวํรชนีโย เอวํกมนีโย เอวํมทนีโย เอวํพนฺธนีโย เอวํมุจฺฉนีโย’ติ. สนฺนิปติตฺวา ตํ สงฺขธมํ เอตทโวจุํ – ‘อมฺโภ, กสฺส นุ โข เอโส สทฺโท เอวํรชนีโย เอวํกมนีโย เอวํมทนีโย เอวํพนฺธนีโย เอวํมุจฺฉนีโย’ติ. ‘เอโส โข, โภ, สงฺโข นาม ยสฺเสโส สทฺโท เอวํรชนีโย เอวํกมนีโย เอวํมทนีโย เอวํพนฺธนีโย เอวํมุจฺฉนีโย’ติ. เต ตํ สงฺขํ อุตฺตานํ นิปาเตสุํ – ‘วเทหิ, โภ สงฺข, วเทหิ, โภ สงฺขา’ติ. เนว โส สงฺโข สทฺทมกาสิ. เต ตํ สงฺขํ อวกุชฺชํ นิปาเตสุํ, ปสฺเสน นิปาเตสุํ, ทุติเยน ปสฺเสน นิปาเตสุํ, อุทฺธํ เปสุํ, โอมุทฺธกํ เปสุํ, ปาณินา ¶ อาโกเฏสุํ, เลฑฺฑุนา อาโกเฏสุํ, ทณฺเฑน อาโกเฏสุํ, สตฺเถน อาโกเฏสุํ, โอธุนึสุ ¶ สนฺธุนึสุ นิทฺธุนึสุ – ‘วเทหิ, โภ สงฺข, วเทหิ, โภ สงฺขา’ติ. เนว โส สงฺโข สทฺทมกาสิ.
‘‘อถ โข, ราชฺ, ตสฺส สงฺขธมสฺส เอตทโหสิ – ‘ยาว พาลา อิเม ปจฺจนฺตชนปทามนุสฺสา, กถฺหิ นาม อโยนิโส สงฺขสทฺทํ คเวสิสฺสนฺตี’ติ. เตสํ เปกฺขมานานํ สงฺขํ คเหตฺวา ติกฺขตฺตุํ สงฺขํ อุปลาเปตฺวา สงฺขํ อาทาย ปกฺกามิ. อถ โข, ราชฺ, เตสํ ปจฺจนฺตชนปทานํ มนุสฺสานํ เอตทโหสิ – ‘ยทา กิร, โภ, อยํ สงฺโข นาม ปุริสสหคโต ¶ จ โหติ วายามสหคโต [วาโยสหคโต (สฺยา.)] จ วายุสหคโต จ, ตทายํ สงฺโข สทฺทํ กโรติ, ยทา ปนายํ สงฺโข เนว ปุริสสหคโต โหติ น วายามสหคโต น วายุสหคโต, นายํ สงฺโข สทฺทํ กโรตี’ติ ¶ . เอวเมว โข, ราชฺ, ยทายํ กาโย อายุสหคโต จ โหติ อุสฺมาสหคโต จ วิฺาณสหคโต จ, ตทา อภิกฺกมติปิ ปฏิกฺกมติปิ ติฏฺติปิ นิสีทติปิ เสยฺยมฺปิ กปฺเปติ, จกฺขุนาปิ รูปํ ปสฺสติ, โสเตนปิ สทฺทํ สุณาติ, ฆาเนนปิ คนฺธํ ฆายติ, ชิวฺหายปิ รสํ สายติ, กาเยนปิ โผฏฺพฺพํ ผุสติ, มนสาปิ ธมฺมํ วิชานาติ. ยทา ปนายํ กาโย เนว อายุสหคโต โหติ, น อุสฺมาสหคโต, น วิฺาณสหคโต, ตทา เนว อภิกฺกมติ น ปฏิกฺกมติ น ติฏฺติ น นิสีทติ น เสยฺยํ กปฺเปติ, จกฺขุนาปิ รูปํ น ปสฺสติ, โสเตนปิ สทฺทํ น สุณาติ, ฆาเนนปิ คนฺธํ น ฆายติ, ชิวฺหายปิ รสํ น สายติ, กาเยนปิ โผฏฺพฺพํ น ผุสติ, มนสาปิ ธมฺมํ น วิชานาติ. อิมินาปิ โข เต, ราชฺ, ปริยาเยน เอวํ โหตุ – ‘อิติปิ อตฺถิ ปโร โลโก, อตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, อตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’ติ [วิปาโกติ, ปมภาณวารํ (สฺยา.)].
๔๒๗. ‘‘กิฺจาปิ ภวํ กสฺสโป เอวมาห, อถ โข เอวํ ¶ เม เอตฺถ โหติ – ‘อิติปิ นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’’ติ. ‘‘อตฺถิ ปน, ราชฺ, ปริยาโย…เป… อตฺถิ, โภ กสฺสป, ปริยาโย…เป… ยถา กถํ วิย ราชฺา’’ติ? ‘‘อิธ เม, โภ กสฺสป, ปุริสา โจรํ อาคุจารึ คเหตฺวา ทสฺเสนฺติ – ‘อยํ เต, ภนฺเต, โจโร อาคุจารี, อิมสฺส ยํ อิจฺฉสิ, ตํ ¶ ทณฺฑํ ปเณหี’ติ. ตฺยาหํ เอวํ วทามิ – ‘เตน หิ, โภ, อิมสฺส ปุริสสฺส ฉวึ ฉินฺทถ ¶ , อปฺเปว นามสฺส ชีวํ ปสฺเสยฺยามา’ติ. เต ตสฺส ปุริสสฺส ฉวึ ฉินฺทนฺติ. เนวสฺส มยํ ชีวํ ปสฺสาม. ตฺยาหํ เอวํ วทามิ – ‘เตน หิ, โภ, อิมสฺส ปุริสสฺส จมฺมํ ฉินฺทถ, มํสํ ฉินฺทถ, นฺหารุํ ฉินฺทถ, อฏฺึ ฉินฺทถ, อฏฺิมิฺชํ ฉินฺทถ, อปฺเปว นามสฺส ชีวํ ปสฺเสยฺยามา’ติ. เต ตสฺส ปุริสสฺส อฏฺิมิฺชํ ฉินฺทนฺติ, เนวสฺส มยํ ชีวํ ปสฺเสยฺยาม. อยมฺปิ โข, โภ กสฺสป, ปริยาโย, เยน เม ปริยาเยน เอวํ โหติ – ‘อิติปิ นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’’ติ.
อคฺคิกชฏิลอุปมา
๔๒๘. ‘‘เตน หิ, ราชฺ, อุปมํ เต กริสฺสามิ. อุปมาย มิเธกจฺเจ วิฺู ปุริสา ภาสิตสฺส อตฺถํ อาชานนฺติ. ภูตปุพฺพํ, ราชฺ, อฺตโร อคฺคิโก ชฏิโล อรฺายตเน ¶ ปณฺณกุฏิยา สมฺมติ [วสติ (สี. ปี.)]. อถ โข, ราชฺ, อฺตโร ชนปเท สตฺโถ [สตฺโถ ชนปทปเทสา (สี.), ชนปโท สตฺถวาโส (สฺยา.), ชนปทปเทโส (ปี.)] วุฏฺาสิ. อถ โข โส สตฺโถ [สตฺถวาโส (สฺยา.)] ตสฺส อคฺคิกสฺส ชฏิลสฺส อสฺสมสฺส สามนฺตา เอกรตฺตึ วสิตฺวา ปกฺกามิ. อถ โข, ราชฺ, ตสฺส อคฺคิกสฺส ชฏิลสฺส เอตทโหสิ ¶ – ‘ยํนูนาหํ เยน โส สตฺถวาโส เตนุปสงฺกเมยฺยํ, อปฺเปว นาเมตฺถ กิฺจิ อุปกรณํ อธิคจฺเฉยฺย’นฺติ. อถ โข โส อคฺคิโก ชฏิโล กาลสฺเสว วุฏฺาย เยน โส สตฺถวาโส เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อทฺทส ตสฺมึ สตฺถวาเส ทหรํ กุมารํ มนฺทํ ¶ อุตฺตานเสยฺยกํ ฉฑฺฑิตํ. ทิสฺวานสฺส เอตทโหสิ – ‘น โข เม ตํ ปติรูปํ ยํ เม เปกฺขมานสฺส มนุสฺสภูโต กาลงฺกเรยฺย; ยํนูนาหํ อิมํ ทารกํ อสฺสมํ เนตฺวา อาปาเทยฺยํ โปเสยฺยํ วฑฺเฒยฺย’นฺติ. อถ โข โส อคฺคิโก ชฏิโล ตํ ทารกํ อสฺสมํ เนตฺวา อาปาเทสิ โปเสสิ วฑฺเฒสิ. ยทา โส ทารโก ทสวสฺสุทฺเทสิโก วา โหติ [อโหสิ (?)] ทฺวาทสวสฺสุทฺเทสิโก วา, อถ โข ตสฺส อคฺคิกสฺส ชฏิลสฺส ชนปเท กฺจิเทว กรณียํ อุปฺปชฺชิ. อถ โข โส อคฺคิโก ชฏิโล ตํ ทารกํ เอตทโวจ – ‘อิจฺฉามหํ, ตาต, ชนปทํ [นครํ (ก.)] คนฺตุํ; อคฺคึ, ตาต, ปริจเรยฺยาสิ. มา จ เต อคฺคิ นิพฺพายิ. สเจ จ เต อคฺคิ นิพฺพาเยยฺย, อยํ วาสี อิมานิ กฏฺานิ อิทํ อรณิสหิตํ, อคฺคึ นิพฺพตฺเตตฺวา อคฺคึ ¶ ปริจเรยฺยาสี’ติ. อถ โข โส อคฺคิโก ชฏิโล ตํ ทารกํ เอวํ อนุสาสิตฺวา ชนปทํ อคมาสิ. ตสฺส ขิฑฺฑาปสุตสฺส อคฺคิ นิพฺพายิ.
‘‘อถ โข ตสฺส ทารกสฺส เอตทโหสิ – ‘ปิตา โข มํ เอวํ อวจ – ‘‘อคฺคึ, ตาต, ปริจเรยฺยาสิ. มา จ เต อคฺคิ นิพฺพายิ. สเจ จ เต อคฺคิ นิพฺพาเยยฺย, อยํ วาสี อิมานิ กฏฺานิ อิทํ อรณิสหิตํ, อคฺคึ นิพฺพตฺเตตฺวา อคฺคึ ปริจเรยฺยาสี’’ติ. ยํนูนาหํ อคฺคึ นิพฺพตฺเตตฺวา อคฺคึ ปริจเรยฺย’นฺติ. อถ ¶ โข โส ทารโก อรณิสหิตํ วาสิยา ตจฺฉิ – ‘อปฺเปว นาม อคฺคึ อธิคจฺเฉยฺย’นฺติ. เนว โส อคฺคึ อธิคจฺฉิ. อรณิสหิตํ ทฺวิธา ผาเลสิ, ติธา ผาเลสิ, จตุธา ผาเลสิ, ปฺจธา ผาเลสิ, ทสธา ผาเลสิ, สตธา [วีสติธา (สฺยา.)] ผาเลสิ, สกลิกํ สกลิกํ อกาสิ, สกลิกํ สกลิกํ กริตฺวา อุทุกฺขเล โกฏฺเฏสิ, อุทุกฺขเล โกฏฺเฏตฺวา มหาวาเต โอปุนิ [โอผุนิ (สฺยา. ก.)] – ‘อปฺเปว นาม อคฺคึ อธิคจฺเฉยฺย’นฺติ. เนว โส อคฺคึ อธิคจฺฉิ.
‘‘อถ โข โส อคฺคิโก ชฏิโล ชนปเท ตํ กรณียํ ตีเรตฺวา เยน สโก อสฺสโม เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ตํ ทารกํ เอตทโวจ – ‘กจฺจิ เต, ตาต, อคฺคิ น นิพฺพุโต’ติ? ‘อิธ เม, ตาต, ขิฑฺฑาปสุตสฺส อคฺคิ นิพฺพายิ. ตสฺส เม เอตทโหสิ – ‘‘ปิตา โข มํ เอวํ อวจ อคฺคึ, ตาต, ปริจเรยฺยาสิ. มา จ เต, ตาต, อคฺคิ นิพฺพายิ. สเจ ¶ จ เต อคฺคิ นิพฺพาเยยฺย, อยํ วาสี อิมานิ กฏฺานิ อิทํ อรณิสหิตํ, อคฺคึ นิพฺพตฺเตตฺวา อคฺคึ ปริจเรยฺยาสีติ. ยํนูนาหํ อคฺคึ นิพฺพตฺเตตฺวา อคฺคึ ปริจเรยฺย’’นฺติ. อถ ขฺวาหํ, ตาต, อรณิสหิตํ วาสิยา ตจฺฉึ – ‘‘อปฺเปว นาม อคฺคึ อธิคจฺเฉยฺย’’นฺติ. เนวาหํ อคฺคึ อธิคจฺฉึ. อรณิสหิตํ ทฺวิธา ผาเลสึ, ติธา ผาเลสึ, จตุธา ผาเลสึ, ปฺจธา ผาเลสึ, ทสธา ผาเลสึ ¶ , สตธา ผาเลสึ, สกลิกํ สกลิกํ อกาสึ, สกลิกํ สกลิกํ กริตฺวา อุทุกฺขเล โกฏฺเฏสึ, อุทุกฺขเล โกฏฺเฏตฺวา มหาวาเต โอปุนึ – ‘‘อปฺเปว นาม อคฺคึ อธิคจฺเฉยฺย’’นฺติ. เนวาหํ อคฺคึ อธิคจฺฉิ’’’นฺติ. อถ โข ตสฺส อคฺคิกสฺส ชฏิลสฺส เอตทโหสิ – ‘ยาว พาโล อยํ ทารโก อพฺยตฺโต, กถฺหิ นาม อโยนิโส อคฺคึ คเวสิสฺสตี’ติ. ตสฺส เปกฺขมานสฺส อรณิสหิตํ คเหตฺวา ¶ อคฺคึ นิพฺพตฺเตตฺวา ตํ ทารกํ เอตทโวจ ¶ – ‘เอวํ โข, ตาต, อคฺคิ ¶ นิพฺพตฺเตตพฺโพ. น ตฺเวว ยถา ตฺวํ พาโล อพฺยตฺโต อโยนิโส อคฺคึ คเวสี’ติ. เอวเมว โข ตฺวํ, ราชฺ, พาโล อพฺยตฺโต อโยนิโส ปรโลกํ คเวสิสฺสสิ. ปฏินิสฺสชฺเชตํ, ราชฺ, ปาปกํ ทิฏฺิคตํ, ปฏินิสฺสชฺเชตํ, ราชฺ, ปาปกํ ทิฏฺิคตํ, มา เต อโหสิ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขายา’’ติ.
๔๒๙. ‘‘กิฺจาปิ ภวํ กสฺสโป เอวมาห, อถ โข เนวาหํ สกฺโกมิ อิทํ ปาปกํ ทิฏฺิคตํ ปฏินิสฺสชฺชิตุํ. ราชาปิ มํ ปเสนทิ โกสโล ชานาติ ติโรราชาโนปิ – ‘ปายาสิ ราชฺโ เอวํวาที เอวํทิฏฺี – ‘‘อิติปิ นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’ติ. สจาหํ, โภ กสฺสป, อิทํ ปาปกํ ทิฏฺิคตํ ปฏินิสฺสชฺชิสฺสามิ, ภวิสฺสนฺติ เม วตฺตาโร – ‘ยาว พาโล ปายาสิ ราชฺโ อพฺยตฺโต ทุคฺคหิตคาหี’ติ. โกเปนปิ นํ หริสฺสามิ, มกฺเขนปิ นํ หริสฺสามิ, ปลาเสนปิ นํ หริสฺสามี’’ติ.
ทฺเว สตฺถวาหอุปมา
๔๓๐. ‘‘เตน หิ, ราชฺ, อุปมํ เต กริสฺสามิ. อุปมาย มิเธกจฺเจ วิฺู ปุริสา ภาสิตสฺส อตฺถํ อาชานนฺติ. ภูตปุพฺพํ, ราชฺ, มหาสกฏสตฺโถ สกฏสหสฺสํ ปุรตฺถิมา ชนปทา ปจฺฉิมํ ชนปทํ อคมาสิ. โส เยน เยน คจฺฉิ, ขิปฺปํเยว ปริยาทิยติ ติณกฏฺโทกํ หริตกปณฺณํ. ตสฺมึ โข ปน สตฺเถ ทฺเว สตฺถวาหา อเหสุํ เอโก ¶ ปฺจนฺนํ ¶ สกฏสตานํ, เอโก ปฺจนฺนํ สกฏสตานํ. อถ โข เตสํ สตฺถวาหานํ เอตทโหสิ – ‘อยํ โข มหาสกฏสตฺโถ สกฏสหสฺสํ; เต มยํ เยน เยน คจฺฉาม, ขิปฺปเมว ปริยาทิยติ ติณกฏฺโทกํ ¶ หริตกปณฺณํ. ยํนูน มยํ อิมํ สตฺถํ ทฺวิธา วิภเชยฺยาม – เอกโต ปฺจ สกฏสตานิ เอกโต ปฺจ สกฏสตานี’ติ. เต ตํ สตฺถํ ทฺวิธา วิภชึสุ [วิภเชสุํ (ก.)] เอกโต ปฺจ สกฏสตานิ, เอกโต ปฺจ สกฏสตานิ. เอโก สตฺถวาโห พหุํ ติณฺจ กฏฺฺจ อุทกฺจ อาโรเปตฺวา สตฺถํ ปยาเปสิ [ปายาเปสิ (สี. ปี.)]. ทฺวีหตีหปยาโต โข ปน โส สตฺโถ อทฺทส ปุริสํ กาฬํ โลหิตกฺขํ [โลหิตกฺขึ (สฺยา.)] สนฺนทฺธกลาปํ [อาสนฺนทฺธกลาปํ (สฺยา.)] กุมุทมาลึ อลฺลวตฺถํ อลฺลเกสํ กทฺทมมกฺขิเตหิ จกฺเกหิ ¶ ภทฺเรน รเถน ปฏิปถํ อาคจฺฉนฺตํ’, ทิสฺวา เอตทโวจ – ‘กุโต, โภ, อาคจฺฉสี’ติ? ‘อมุกมฺหา ชนปทา’ติ. ‘กุหึ คมิสฺสสี’ติ? ‘อมุกํ นาม ชนปท’นฺติ. ‘กจฺจิ, โภ, ปุรโต กนฺตาเร มหาเมโฆ อภิปฺปวุฏฺโ’ติ? ‘เอวํ, โภ, ปุรโต กนฺตาเร มหาเมโฆ อภิปฺปวุฏฺโ, อาสิตฺโตทกานิ วฏุมานิ, พหุ ติณฺจ กฏฺฺจ ¶ อุทกฺจ. ฉฑฺเฑถ, โภ, ปุราณานิ ติณานิ กฏฺานิ อุทกานิ, ลหุภาเรหิ สกเฏหิ สีฆํ สีฆํ คจฺฉถ, มา โยคฺคานิ กิลมิตฺถา’ติ.
‘‘อถ โข โส สตฺถวาโห สตฺถิเก อามนฺเตสิ – ‘อยํ, โภ, ปุริโส เอวมาห – ‘‘ปุรโต กนฺตาเร มหาเมโฆ อภิปฺปวุฏฺโ, อาสิตฺโตทกานิ วฏุมานิ, พหุ ติณฺจ กฏฺฺจ อุทกฺจ. ฉฑฺเฑถ, โภ, ปุราณานิ ติณานิ กฏฺานิ อุทกานิ, ลหุภาเรหิ สกเฏหิ สีฆํ สีฆํ คจฺฉถ, มา ¶ โยคฺคานิ กิลมิตฺถา’’ติ. ฉฑฺเฑถ, โภ, ปุราณานิ ติณานิ กฏฺานิ อุทกานิ, ลหุภาเรหิ สกเฏหิ สตฺถํ ปยาเปถา’ติ. ‘เอวํ, โภ’ติ โข เต สตฺถิกา ตสฺส สตฺถวาหสฺส ปฏิสฺสุตฺวา ฉฑฺเฑตฺวา ปุราณานิ ติณานิ กฏฺานิ อุทกานิ ลหุภาเรหิ สกเฏหิ สตฺถํ ปยาเปสุํ. เต ปเมปิ สตฺถวาเส น อทฺทสํสุ ติณํ วา กฏฺํ วา อุทกํ วา. ทุติเยปิ สตฺถวาเส… ตติเยปิ สตฺถวาเส… จตุตฺเถปิ สตฺถวาเส… ปฺจเมปิ สตฺถวาเส… ฉฏฺเปิ สตฺถวาเส… สตฺตเมปิ สตฺถวาเส น อทฺทสํสุ ติณํ วา กฏฺํ วา อุทกํ วา. สพฺเพว อนยพฺยสนํ อาปชฺชึสุ. เย จ ตสฺมึ สตฺเถ อเหสุํ มนุสฺสา วา ปสู วา, สพฺเพ โส ยกฺโข อมนุสฺโส ภกฺเขสิ. อฏฺิกาเนว เสสานิ.
‘‘ยทา อฺาสิ ทุติโย สตฺถวาโห – ‘พหุนิกฺขนฺโต โข, โภ, ทานิ โส สตฺโถ’ติ พหุํ ติณฺจ กฏฺฺจ อุทกฺจ อาโรเปตฺวา สตฺถํ ปยาเปสิ. ทฺวีหตีหปยาโต โข ปน โส สตฺโถ อทฺทส ปุริสํ กาฬํ โลหิตกฺขํ สนฺนทฺธกลาปํ ¶ กุมุทมาลึ อลฺลวตฺถํ อลฺลเกสํ กทฺทมมกฺขิเตหิ จกฺเกหิ ภทฺเรน รเถน ปฏิปถํ อาคจฺฉนฺตํ, ทิสฺวา เอตทโวจ – ‘กุโต, โภ, อาคจฺฉสี’ติ? ‘อมุกมฺหา ชนปทา’ติ. ‘กุหึ คมิสฺสสี’ติ? ‘อมุกํ นาม ชนปท’นฺติ. ‘กจฺจิ, โภ, ปุรโต กนฺตาเร มหาเมโฆ อภิปฺปวุฏฺโ’ติ? ‘เอวํ, โภ, ปุรโต กนฺตาเร มหาเมโฆ อภิปฺปวุฏฺโ. อาสิตฺโตทกานิ วฏุมานิ, พหุ ¶ ติณฺจ กฏฺฺจ อุทกฺจ. ฉฑฺเฑถ ¶ ¶ , โภ, ปุราณานิ ติณานิ กฏฺานิ อุทกานิ, ลหุภาเรหิ สกเฏหิ สีฆํ สีฆํ คจฺฉถ, มา โยคฺคานิ กิลมิตฺถา’ติ.
‘‘อถ โข โส สตฺถวาโห สตฺถิเก อามนฺเตสิ – ‘อยํ, โภ, ‘‘ปุริโส เอวมาห – ปุรโต กนฺตาเร มหาเมโฆ อภิปฺปวุฏฺโ, อาสิตฺโตทกานิ วฏุมานิ, พหุ ติณฺจ กฏฺฺจ อุทกฺจ. ฉฑฺเฑถ, โภ, ปุราณานิ ติณานิ กฏฺานิ อุทกานิ, ลหุภาเรหิ สกเฏหิ สีฆํ สีฆํ คจฺฉถ; มา โยคฺคานิ กิลมิตฺถา’’ติ. อยํ โภ ปุริโส เนว อมฺหากํ มิตฺโต, น าติสาโลหิโต, กถํ มยํ อิมสฺส สทฺธาย คมิสฺสาม. น โว ฉฑฺเฑตพฺพานิ ปุราณานิ ติณานิ กฏฺานิ อุทกานิ, ยถาภเตน ภณฺเฑน สตฺถํ ปยาเปถ. น โน ปุราณํ ฉฑฺเฑสฺสามา’ติ. ‘เอวํ, โภ’ติ โข เต สตฺถิกา ตสฺส สตฺถวาหสฺส ปฏิสฺสุตฺวา ยถาภเตน ภณฺเฑน สตฺถํ ปยาเปสุํ. เต ปเมปิ สตฺถวาเส น อทฺทสํสุ ติณํ วา กฏฺํ ¶ วา อุทกํ วา. ทุติเยปิ สตฺถวาเส… ตติเยปิ สตฺถวาเส… จตุตฺเถปิ สตฺถวาเส… ปฺจเมปิ สตฺถวาเส… ฉฏฺเปิ สตฺถวาเส… สตฺตเมปิ สตฺถวาเส น อทฺทสํสุ ติณํ วา กฏฺํ วา อุทกํ วา. ตฺจ สตฺถํ อทฺทสํสุ อนยพฺยสนํ อาปนฺนํ. เย จ ตสฺมึ สตฺเถปิ อเหสุํ มนุสฺสา วา ปสู วา, เตสฺจ อฏฺิกาเนว อทฺทสํสุ เตน ยกฺเขน อมนุสฺเสน ภกฺขิตานํ.
‘‘อถ โข โส สตฺถวาโห สตฺถิเก อามนฺเตสิ – ‘อยํ โข, โภ, สตฺโถ อนยพฺยสนํ อาปนฺโน, ยถา ตํ เตน พาเลน ¶ สตฺถวาเหน ปริณายเกน. เตน หิ, โภ, ยานมฺหากํ สตฺเถ อปฺปสารานิ ปณิยานิ, ตานิ ฉฑฺเฑตฺวา, ยานิ อิมสฺมึ สตฺเถ มหาสารานิ ปณิยานิ, ตานิ อาทิยถา’ติ. ‘เอวํ, โภ’ติ โข เต สตฺถิกา ตสฺส สตฺถวาหสฺส ปฏิสฺสุตฺวา ยานิ สกสฺมึ สตฺเถ อปฺปสารานิ ปณิยานิ, ตานิ ฉฑฺเฑตฺวา ยานิ ตสฺมึ สตฺเถ มหาสารานิ ปณิยานิ, ตานิ อาทิยิตฺวา โสตฺถินา ตํ กนฺตารํ นิตฺถรึสุ, ยถา ตํ ปณฺฑิเตน สตฺถวาเหน ปริณายเกน. เอวเมว โข ตฺวํ, ราชฺ, พาโล อพฺยตฺโต อนยพฺยสนํ อาปชฺชิสฺสสิ อโยนิโส ปรโลกํ คเวสนฺโต เสยฺยถาปิ โส ปุริโม สตฺถวาโห. เยปิ ตว [เต (ก.)] โสตพฺพํ สทฺธาตพฺพํ [สทฺทหาตพฺพํ (ปี. ก.)] มฺิสฺสนฺติ, เตปิ อนยพฺยสนํ อาปชฺชิสฺสนฺติ, เสยฺยถาปิ เต สตฺถิกา. ปฏินิสฺสชฺเชตํ, ราชฺ ¶ , ปาปกํ ทิฏฺิคตํ; ปฏินิสฺสชฺเชตํ, ราชฺ, ปาปกํ ทิฏฺิคตํ. มา เต อโหสิ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขายา’’ติ.
๔๓๑. ‘‘กิฺจาปิ ภวํ กสฺสโป เอวมาห, อถ โข เนวาหํ สกฺโกมิ อิทํ ปาปกํ ทิฏฺิคตํ ปฏินิสฺสชฺชิตุํ. ราชาปิ มํ ปเสนทิ โกสโล ชานาติ ติโรราชาโนปิ – ‘ปายาสิ ราชฺโ ¶ เอวํวาที เอวํทิฏฺี – ‘‘อิติปิ ¶ นตฺถิ ปโร โลโก…เป… วิปาโก’’’ติ. สจาหํ, โภ กสฺสป, อิทํ ปาปกํ ทิฏฺิคตํ ปฏินิสฺสชฺชิสฺสามิ, ภวิสฺสนฺติ เม วตฺตาโร – ‘ยาว พาโล ปายาสิ ราชฺโ, อพฺยตฺโต ทุคฺคหิตคาหี’ติ. โกเปนปิ ¶ นํ หริสฺสามิ, มกฺเขนปิ นํ หริสฺสามิ, ปลาเสนปิ นํ หริสฺสามี’’ติ.
คูถภาริกอุปมา
๔๓๒. ‘‘เตน หิ, ราชฺ, อุปมํ เต กริสฺสามิ. อุปมาย มิเธกจฺเจ วิฺู ปุริสา ภาสิตสฺส อตฺถํ อาชานนฺติ. ภูตปุพฺพํ, ราชฺ, อฺตโร สูกรโปสโก ปุริโส สกมฺหา คามา อฺํ คามํ อคมาสิ. ตตฺถ อทฺทส ปหูตํ สุกฺขคูถํ ฉฑฺฑิตํ. ทิสฺวานสฺส เอตทโหสิ – ‘อยํ โข ปหุโต สุกฺขคูโถ ฉฑฺฑิโต, มม จ สูกรภตฺตํ [สูกรานํ ภกฺโข (สฺยา.)]; ยํนูนาหํ อิโต สุกฺขคูถํ หเรยฺย’นฺติ. โส อุตฺตราสงฺคํ ปตฺถริตฺวา ปหูตํ สุกฺขคูถํ อากิริตฺวา ภณฺฑิกํ พนฺธิตฺวา สีเส อุพฺพาเหตฺวา [อุจฺจาโรเปตฺวา (ก. สี. ก.)] อคมาสิ. ตสฺส อนฺตรามคฺเค มหาอกาลเมโฆ ปาวสฺสิ. โส อุคฺฆรนฺตํ ปคฺฆรนฺตํ ยาว อคฺคนขา คูเถน มกฺขิโต คูถภารํ อาทาย อคมาสิ. ตเมนํ มนุสฺสา ทิสฺวา เอวมาหํสุ – ‘กจฺจิ โน ตฺวํ, ภเณ, อุมฺมตฺโต, กจฺจิ วิเจโต, กถฺหิ นาม อุคฺฆรนฺตํ ปคฺฆรนฺตํ ยาว อคฺคนขา คูเถน มกฺขิโต คูถภารํ หริสฺสสี’ติ. ‘ตุมฺเห ขฺเวตฺถ, ภเณ, อุมฺมตฺตา, ตุมฺเห วิเจตา, ตถา ¶ หิ ปน เม สูกรภตฺต’นฺติ. เอวเมว โข ตฺวํ, ราชฺ, คูถภาริกูปโม [คูถหาริกูปโม (สี. ปี.)] มฺเ ปฏิภาสิ. ปฏินิสฺสชฺเชตํ, ราชฺ, ปาปกํ ทิฏฺิคตํ. ปฏินิสฺสชฺเชตํ, ราชฺ, ปาปกํ ทิฏฺิคตํ. มา เต อโหสิ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขายา’’ติ.
๔๓๓. ‘‘กิฺจาปิ ¶ ภวํ กสฺสโป เอวมาห, อถ โข เนวาหํ สกฺโกมิ อิทํ ปาปกํ ทิฏฺิคตํ ปฏินิสฺสชฺชิตุํ. ราชาปิ มํ ปเสนทิ โกสโล ชานาติ ติโรราชาโนปิ – ‘ปายาสิ ราชฺโ เอวํวาที เอวํทิฏฺี – ‘‘อิติปิ นตฺถิ ¶ ปโร โลโก…เป… วิปาโก’’ติ. สจาหํ, โภ กสฺสป, อิทํ ปาปกํ ทิฏฺิคตํ ปฏินิสฺสชฺชิสฺสามิ, ภวิสฺสนฺติ เม วตฺตาโร – ‘ยาว พาโล ปายาสิ ราชฺโ อพฺยตฺโต ทุคฺคหิตคาหี’ติ. โกเปนปิ นํ หริสฺสามิ, มกฺเขนปิ นํ หริสฺสามิ, ปลาเสนปิ นํ หริสฺสามี’’ติ.
อกฺขธุตฺตกอุปมา
๔๓๔. ‘‘เตน ¶ หิ, ราชฺ, อุปมํ เต กริสฺสามิ, อุปมาย มิเธกจฺเจ วิฺู ปุริสา ภาสิตสฺส อตฺถํ อาชานนฺติ. ภูตปุพฺพํ, ราชฺ, ทฺเว อกฺขธุตฺตา อกฺเขหิ ทิพฺพึสุ. เอโก อกฺขธุตฺโต อาคตาคตํ กลึ คิลติ. อทฺทสา โข ทุติโย อกฺขธุตฺโต ตํ อกฺขธุตฺตํ อาคตาคตํ กลึ คิลนฺตํ, ทิสฺวา ตํ อกฺขธุตฺตํ เอตทโวจ – ‘ตฺวํ โข, สมฺม, เอกนฺติเกน ชินาสิ, เทหิ เม, สมฺม, อกฺเข ปโชหิสฺสามี’ติ. ‘เอวํ สมฺมา’ติ โข โส อกฺขธุตฺโต ตสฺส อกฺขธุตฺตสฺส อกฺเข ปาทาสิ. อถ โข โส อกฺขธุตฺโต อกฺเข วิเสน ปริภาเวตฺวา ตํ อกฺขธุตฺตํ เอตทโวจ – ‘เอหิ โข, สมฺม, อกฺเขหิ ทิพฺพิสฺสามา’ติ. ‘เอวํ สมฺมา’ติ โข โส อกฺขธุตฺโต ตสฺส อกฺขธุตฺตสฺส ปจฺจสฺโสสิ. ทุติยมฺปิ โข เต อกฺขธุตฺตา อกฺเขหิ ทิพฺพึสุ. ทุติยมฺปิ โข โส ¶ อกฺขธุตฺโต อาคตาคตํ ¶ กลึ คิลติ. อทฺทสา โข ทุติโย อกฺขธุตฺโต ตํ อกฺขธุตฺตํ ทุติยมฺปิ อาคตาคตํ กลึ คิลนฺตํ, ทิสฺวา ตํ อกฺขธุตฺตํ เอตทโวจ –
‘‘ลิตฺตํ ปรเมน เตชสา, คิลมกฺขํ ปุริโส น พุชฺฌติ;
คิล เร คิล ปาปธุตฺตก [คิลิ เร ปาปธุตฺตก (ก.)], ปจฺฉา เต กฏุกํ ภวิสฺสตีติ.
‘‘เอวเมว โข ตฺวํ, ราชฺ, อกฺขธุตฺตกูปโม มฺเ ปฏิภาสิ. ปฏินิสฺสชฺเชตํ, ราชฺ, ปาปกํ ทิฏฺิคตํ; ปฏินิสฺสชฺเชตํ, ราชฺ, ปาปกํ ทิฏฺิคตํ. มา เต อโหสิ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขายา’’ติ.
๔๓๕. ‘‘กิฺจาปิ ภวํ กสฺสโป เอวมาห, อถ โข เนวาหํ สกฺโกมิ อิทํ ปาปกํ ทิฏฺิคตํ ปฏินิสฺสชฺชิตุํ. ราชาปิ มํ ปเสนทิ โกสโล ชานาติ ติโรราชาโนปิ – ‘ปายาสิ ราชฺโ เอวํวาที เอวํทิฏฺี – ‘‘อิติปิ นตฺถิ ปโร โลโก…เป… วิปาโก’’ติ. สจาหํ, โภ กสฺสป, อิทํ ปาปกํ ทิฏฺิคตํ ¶ ปฏินิสฺสชฺชิสฺสามิ, ภวิสฺสนฺติ เม วตฺตาโร – ‘ยาว พาโล ปายาสิ ราชฺโ อพฺยตฺโต ทุคฺคหิตคาหี’ติ. โกเปนปิ นํ หริสฺสามิ, มกฺเขนปิ นํ หริสฺสามิ, ปลาเสนปิ นํ หริสฺสามี’’ติ.
สาณภาริกอุปมา
๔๓๖. ‘‘เตน ¶ หิ, ราชฺ, อุปมํ เต กริสฺสามิ, อุปมาย มิเธกจฺเจ วิฺู ¶ ปุริสา ภาสิตสฺส อตฺถํ อาชานนฺติ. ภูตปุพฺพํ, ราชฺ, อฺตโร ชนปโท วุฏฺาสิ. อถ โข สหายโก สหายกํ อามนฺเตสิ – ‘อายาม, สมฺม, เยน โส ชนปโท เตนุปสงฺกมิสฺสาม, อปฺเปว นาเมตฺถ กิฺจิ ธนํ อธิคจฺเฉยฺยามา’ติ. ‘เอวํ สมฺมา’ติ โข สหายโก สหายกสฺส ปจฺจสฺโสสิ. เต เยน โส ชนปโท, เยน อฺตรํ คามปฏฺฏํ [คามปชฺชํ (สฺยา.), คามปตฺตํ (สี.)] เตนุปสงฺกมึสุ ¶ , ตตฺถ อทฺทสํสุ ปหูตํ สาณํ ฉฑฺฑิตํ, ทิสฺวา สหายโก สหายกํ อามนฺเตสิ – ‘อิทํ โข, สมฺม, ปหูตํ สาณํ ฉฑฺฑิตํ, เตน หิ, สมฺม, ตฺวฺจ สาณภารํ พนฺธ, อหฺจ สาณภารํ พนฺธิสฺสามิ, อุโภ สาณภารํ อาทาย คมิสฺสามา’ติ. ‘เอวํ สมฺมา’ติ โข สหายโก สหายกสฺส ปฏิสฺสุตฺวา สาณภารํ พนฺธิตฺวา เต อุโภ สาณภารํ อาทาย เยน อฺตรํ คามปฏฺฏํ เตนุปสงฺกมึสุ. ตตฺถ อทฺทสํสุ ปหูตํ สาณสุตฺตํ ฉฑฺฑิตํ, ทิสฺวา สหายโก สหายกํ อามนฺเตสิ – ‘ยสฺส โข, สมฺม, อตฺถาย อิจฺเฉยฺยาม สาณํ, อิทํ ปหูตํ สาณสุตฺตํ ฉฑฺฑิตํ. เตน หิ, สมฺม, ตฺวฺจ สาณภารํ ฉฑฺเฑหิ, อหฺจ สาณภารํ ฉฑฺเฑสฺสามิ, อุโภ สาณสุตฺตภารํ อาทาย คมิสฺสามา’ติ. ‘อยํ โข เม, สมฺม, สาณภาโร ทูราภโต จ สุสนฺนทฺโธ จ, อลํ เม ตฺวํ ปชานาหี’ติ. อถ โข โส สหายโก สาณภารํ ฉฑฺเฑตฺวา สาณสุตฺตภารํ อาทิยิ.
‘‘เต เยน อฺตรํ คามปฏฺฏํ เตนุปสงฺกมึสุ. ตตฺถ อทฺทสํสุ ปหูตา สาณิโย ฉฑฺฑิตา, ทิสฺวา สหายโก สหายกํ อามนฺเตสิ – ‘ยสฺส โข ¶ , สมฺม, อตฺถาย อิจฺเฉยฺยาม สาณํ วา สาณสุตฺตํ วา, อิมา ปหูตา สาณิโย ฉฑฺฑิตา. เตน หิ, สมฺม, ตฺวฺจ สาณภารํ ฉฑฺเฑหิ, อหฺจ สาณสุตฺตภารํ ฉฑฺเฑสฺสามิ, อุโภ สาณิภารํ อาทาย คมิสฺสามา’ติ ¶ . ‘อยํ โข เม, สมฺม, สาณภาโร ทูราภโต จ สุสนฺนทฺโธ จ, อลํ เม, ตฺวํ ปชานาหี’ติ. อถ โข โส สหายโก สาณสุตฺตภารํ ฉฑฺเฑตฺวา สาณิภารํ อาทิยิ.
‘‘เต ¶ เยน อฺตรํ คามปฏฺฏํ เตนุปสงฺกมึสุ. ตตฺถ อทฺทสํสุ ปหูตํ โขมํ ฉฑฺฑิตํ, ทิสฺวา…เป… ปหูตํ โขมสุตฺตํ ฉฑฺฑิตํ, ทิสฺวา… ปหูตํ โขมทุสฺสํ ฉฑฺฑิตํ, ทิสฺวา… ปหูตํ กปฺปาสํ ฉฑฺฑิตํ, ทิสฺวา… ปหูตํ กปฺปาสิกสุตฺตํ ฉฑฺฑิตํ, ทิสฺวา… ปหูตํ กปฺปาสิกทุสฺสํ ฉฑฺฑิตํ, ทิสฺวา… ปหูตํ อยํ [อยสํ (สฺยา.)] ฉฑฺฑิตํ, ทิสฺวา… ปหูตํ โลหํ ฉฑฺฑิตํ, ทิสฺวา… ปหูตํ ติปุํ ฉฑฺฑิตํ, ทิสฺวา… ปหูตํ สีสํ ฉฑฺฑิตํ, ทิสฺวา… ปหูตํ สชฺฌํ [สชฺฌุํ (สี. สฺยา. ปี.)] ฉฑฺฑิตํ, ทิสฺวา… ปหูตํ สุวณฺณํ ฉฑฺฑิตํ, ทิสฺวา สหายโก สหายกํ อามนฺเตสิ – ‘ยสฺส โข, สมฺม, อตฺถาย อิจฺเฉยฺยาม ¶ สาณํ วา สาณสุตฺตํ วา สาณิโย วา โขมํ วา โขมสุตฺตํ วา โขมทุสฺสํ วา กปฺปาสํ วา กปฺปาสิกสุตฺตํ วา กปฺปาสิกทุสฺสํ วา อยํ วา โลหํ วา ติปุํ วา สีสํ วา สชฺฌํ วา, อิทํ ปหูตํ สุวณฺณํ ฉฑฺฑิตํ. เตน หิ, สมฺม, ตฺวฺจ สาณภารํ ฉฑฺเฑหิ, อหฺจ สชฺฌภารํ [สชฺฌุภารํ (สี. สฺยา. ปี.)] ฉฑฺเฑสฺสามิ, อุโภ สุวณฺณภารํ อาทาย คมิสฺสามา’ติ. ‘อยํ โข เม, สมฺม, สาณภาโร ทูราภโต จ สุสนฺนทฺโธ ¶ จ, อลํ เม ตฺวํ ปชานาหี’ติ. อถ โข โส สหายโก สชฺฌภารํ ฉฑฺเฑตฺวา สุวณฺณภารํ อาทิยิ.
‘‘เต เยน สโก คาโม เตนุปสงฺกมึสุ. ตตฺถ โย โส สหายโก สาณภารํ อาทาย อคมาสิ, ตสฺส เนว มาตาปิตโร อภินนฺทึสุ, น ปุตฺตทารา อภินนฺทึสุ, น มิตฺตามจฺจา อภินนฺทึสุ, น จ ตโตนิทานํ สุขํ โสมนสฺสํ ¶ อธิคจฺฉิ. โย ปน โส สหายโก สุวณฺณภารํ อาทาย อคมาสิ, ตสฺส มาตาปิตโรปิ อภินนฺทึสุ, ปุตฺตทาราปิ อภินนฺทึสุ, มิตฺตามจฺจาปิ อภินนฺทึสุ, ตโตนิทานฺจ สุขํ โสมนสฺสํ อธิคจฺฉิ. ‘‘เอวเมว โข ตฺวํ, ราชฺ, สาณภาริกูปโม มฺเ ปฏิภาสิ. ปฏินิสฺสชฺเชตํ, ราชฺ, ปาปกํ ทิฏฺิคตํ; ปฏินิสฺสชฺเชตํ, ราชฺ, ปาปกํ ทิฏฺิคตํ. มา เต อโหสิ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขายา’’ติ.
สรณคมนํ
๔๓๗. ‘‘ปุริเมเนว ¶ อหํ โอปมฺเมน โภโต กสฺสปสฺส อตฺตมโน อภิรทฺโธ. อปิ จาหํ อิมานิ วิจิตฺรานิ ปฺหาปฏิภานานิ โสตุกาโม เอวาหํ ภวนฺตํ กสฺสปํ ปจฺจนีกํ กาตพฺพํ อมฺิสฺสํ. อภิกฺกนฺตํ, โภ กสฺสป, อภิกฺกนฺตํ, โภ กสฺสป. เสยฺยถาปิ, โภ กสฺสป, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย ‘จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตี’ติ เอวเมวํ โภตา กสฺสเปน อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโต. เอสาหํ, โภ กสฺสป, ตํ ภวนฺตํ โคตมํ สรณํ คจฺฉามิ, ธมฺมฺจ, ภิกฺขุสงฺฆฺจ. อุปาสกํ มํ ภวํ กสฺสโป ธาเรตุ ¶ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คตํ.
‘‘อิจฺฉามิ จาหํ, โภ กสฺสป, มหายฺํ ยชิตุํ, อนุสาสตุ มํ ภวํ กสฺสโป, ยํ มมสฺส ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’ติ.
ยฺกถา
๔๓๘. ‘‘ยถารูเป ¶ โข, ราชฺ, ยฺเ คาโว วา หฺนฺติ อเชฬกา วา หฺนฺติ, กุกฺกุฏสูกรา วา หฺนฺติ, วิวิธา วา ปาณา สํฆาตํ อาปชฺชนฺติ, ปฏิคฺคาหกา จ โหนฺติ มิจฺฉาทิฏฺี ¶ มิจฺฉาสงฺกปฺปา มิจฺฉาวาจา มิจฺฉากมฺมนฺตา มิจฺฉาอาชีวา มิจฺฉาวายามา มิจฺฉาสตี มิจฺฉาสมาธี, เอวรูโป โข, ราชฺ, ยฺโ น มหปฺผโล โหติ น มหานิสํโส น มหาชุติโก น มหาวิปฺผาโร. เสยฺยถาปิ, ราชฺ, กสฺสโก พีชนงฺคลํ อาทาย วนํ ปวิเสยฺย. โส ตตฺถ ทุกฺเขตฺเต ทุพฺภูเม อวิหตขาณุกณฺฏเก พีชานิ ปติฏฺาเปยฺย ขณฺฑานิ ปูตีนิ วาตาตปหตานิ อสารทานิ อสุขสยิตานิ. เทโว จ น กาเลน กาลํ สมฺมาธารํ อนุปฺปเวจฺเฉยฺย. อปิ นุ ตานิ พีชานิ วุทฺธึ วิรูฬฺหึ [วิรุฬฺหึ (โมคฺคลาเน)] เวปุลฺลํ อาปชฺเชยฺยุํ, กสฺสโก วา วิปุลํ ผลํ อธิคจฺเฉยฺยา’’ติ? ‘‘โน หิทํ [น เอวํ (สฺยา. ก.)] โภ กสฺสป’’. ‘‘เอวเมว โข, ราชฺ, ยถารูเป ยฺเ คาโว วา หฺนฺติ, อเชฬกา วา หฺนฺติ, กุกฺกุฏสูกรา วา หฺนฺติ, วิวิธา วา ปาณา สํฆาตํ อาปชฺชนฺติ, ปฏิคฺคาหกา จ โหนฺติ มิจฺฉาทิฏฺี มิจฺฉาสงฺกปฺปา มิจฺฉาวาจา มิจฺฉากมฺมนฺตา มิจฺฉาอาชีวา มิจฺฉาวายามา มิจฺฉาสตี ¶ มิจฺฉาสมาธี, เอวรูโป โข ¶ , ราชฺ, ยฺโ น มหปฺผโล โหติ น มหานิสํโส น มหาชุติโก น มหาวิปฺผาโร.
‘‘ยถารูเป จ โข, ราชฺ, ยฺเ เนว คาโว หฺนฺติ, น อเชฬกา หฺนฺติ, น กุกฺกุฏสูกรา หฺนฺติ, น วิวิธา วา ปาณา สํฆาตํ อาปชฺชนฺติ, ปฏิคฺคาหกา จ โหนฺติ สมฺมาทิฏฺี สมฺมาสงฺกปฺปา สมฺมาวาจา สมฺมากมฺมนฺตา สมฺมาอาชีวา สมฺมาวายามา สมฺมาสตี สมฺมาสมาธี, เอวรูโป โข, ราชฺ, ยฺโ มหปฺผโล โหติ มหานิสํโส มหาชุติโก มหาวิปฺผาโร. เสยฺยถาปิ, ราชฺ, กสฺสโก พีชนงฺคลํ อาทาย วนํ ปวิเสยฺย. โส ตตฺถ สุเขตฺเต สุภูเม สุวิหตขาณุกณฺฏเก พีชานิ ปติฏฺเปยฺย ¶ อขณฺฑานิ อปูตีนิ อวาตาตปหตานิ สารทานิ สุขสยิตานิ. เทโว จ กาเลน กาลํ สมฺมาธารํ อนุปฺปเวจฺเฉยฺย. อปิ นุ ตานิ พีชานิ วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺเชยฺยุํ, กสฺสโก วา วิปุลํ ผลํ อธิคจฺเฉยฺยา’’ติ? ‘‘เอวํ, โภ กสฺสป’’. ‘‘เอวเมว โข, ราชฺ, ยถารูเป ยฺเ เนว คาโว หฺนฺติ, น อเชฬกา หฺนฺติ, น กุกฺกุฏสูกรา หฺนฺติ, น วิวิธา วา ปาณา สํฆาตํ อาปชฺชนฺติ, ปฏิคฺคาหกา จ โหนฺติ สมฺมาทิฏฺี สมฺมาสงฺกปฺปา สมฺมาวาจา สมฺมากมฺมนฺตา สมฺมาอาชีวา สมฺมาวายามา สมฺมาสตี สมฺมาสมาธี, เอวรูโป โข, ราชฺ, ยฺโ มหปฺผโล โหติ มหานิสํโส มหาชุติโก มหาวิปฺผาโร’’ติ.
อุตฺตรมาณววตฺถุ
๔๓๙. อถ ¶ โข ปายาสิ ราชฺโ ทานํ ปฏฺเปสิ สมณพฺราหฺมณกปณทฺธิกวณิพฺพกยาจกานํ ¶ . ตสฺมึ โข ปน ทาเน เอวรูปํ โภชนํ ทียติ กณาชกํ พิลงฺคทุติยํ, โธรกานิ [โถรกานิ (สี. ปี.), โจรกานิ (สฺยา.)] จ วตฺถานิ คุฬวาลกานิ [คุฬคาฬกานิ (ก.)]. ตสฺมึ โข ปน ทาเน อุตฺตโร นาม มาณโว วาวโฏ [พฺยาวโฏ (สี. ปี.)] อโหสิ. โส ทานํ ทตฺวา เอวํ อนุทฺทิสติ – ‘‘อิมินาหํ ทาเนน ปายาสึ ราชฺเมว อิมสฺมึ โลเก สมาคจฺฉึ, มา ปรสฺมิ’’นฺติ. อสฺโสสิ โข ปายาสิ ราชฺโ – ‘‘อุตฺตโร ¶ กิร มาณโว ทานํ ทตฺวา เอวํ อนุทฺทิสติ – ‘อิมินาหํ ทาเนน ปายาสึ ราชฺเมว อิมสฺมึ โลเก สมาคจฺฉึ, มา ปรสฺมิ’’’นฺติ. อถ ¶ โข ปายาสิ ราชฺโ อุตฺตรํ มาณวํ อามนฺตาเปตฺวา เอตทโวจ – ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ, ตาต อุตฺตร, ทานํ ทตฺวา เอวํ อนุทฺทิสสิ – ‘อิมินาหํ ทาเนน ปายาสึ ราชฺเมว อิมสฺมึ โลเก สมาคจฺฉึ, มา ปรสฺมิ’’’นฺติ? ‘‘เอวํ, โภ’’. ‘‘กิสฺส ปน ตฺวํ, ตาต อุตฺตร, ทานํ ทตฺวา เอวํ อนุทฺทิสสิ – ‘อิมินาหํ ทาเนน ปายาสึ ราชฺเมว อิมสฺมึ โลเก สมาคจฺฉึ, มา ปรสฺมิ’นฺติ? นนุ มยํ, ตาต อุตฺตร, ปฺุตฺถิกา ทานสฺเสว ผลํ ปาฏิกงฺขิโน’’ติ? ‘‘โภโต โข ทาเน เอวรูปํ โภชนํ ทียติ กณาชกํ พิลงฺคทุติยํ, ยํ ภวํ ปาทาปิ [ปาทาสิ (ก.)] น อิจฺเฉยฺย สมฺผุสิตุํ [ฉุปิตุํ (ปี. ก.)], กุโต ภฺุชิตุํ, โธรกานิ จ วตฺถานิ คุฬวาลกานิ, ยานิ ภวํ ปาทาปิ [อจิตฺติกตํ (ก.)] น อิจฺเฉยฺย สมฺผุสิตุํ, กุโต ปริทหิตุํ. ภวํ โข ปนมฺหากํ ปิโย มนาโป, กถํ มยํ มนาปํ อมนาเปน สํโยเชมา’’ติ? ‘‘เตน หิ ตฺวํ, ตาต อุตฺตร, ยาทิสาหํ โภชนํ ภฺุชามิ, ตาทิสํ โภชนํ ¶ ปฏฺเปหิ. ยาทิสานิ จาหํ วตฺถานิ ปริทหามิ, ตาทิสานิ จ วตฺถานิ ปฏฺเปหี’’ติ. ‘‘เอวํ, โภ’’ติ โข อุตฺตโร มาณโว ปายาสิสฺส ราชฺสฺส ปฏิสฺสุตฺวา ยาทิสํ โภชนํ ปายาสิ ราชฺโ ภฺุชติ, ตาทิสํ โภชนํ ปฏฺเปสิ. ยาทิสานิ จ วตฺถานิ ปายาสิ ราชฺโ ปริทหติ, ตาทิสานิ จ วตฺถานิ ปฏฺเปสิ.
๔๔๐. อถ ¶ โข ปายาสิ ราชฺโ อสกฺกจฺจํ ทานํ ทตฺวา อสหตฺถา ทานํ ทตฺวา อจิตฺตีกตํ ทานํ ทตฺวา อปวิทฺธํ ทานํ ทตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชิ สฺุํ เสรีสกํ วิมานํ. โย ปน ตสฺส ทาเน วาวโฏ อโหสิ อุตฺตโร นาม มาณโว. โส สกฺกจฺจํ ทานํ ทตฺวา สหตฺถา ทานํ ทตฺวา จิตฺตีกตํ ทานํ ทตฺวา อนปวิทฺธํ ทานํ ทตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชิ เทวานํ ตาวตึสานํ สหพฺยตํ.
ปายาสิเทวปุตฺโต
๔๔๑. เตน ¶ โข ปน สมเยน อายสฺมา ควมฺปติ อภิกฺขณํ สฺุํ เสรีสกํ วิมานํ ทิวาวิหารํ คจฺฉติ. อถ โข ปายาสิ เทวปุตฺโต เยนายสฺมา ควมฺปติ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ ควมฺปตึ อภิวาเทตฺวา ¶ เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิตํ โข ปายาสึ เทวปุตฺตํ อายสฺมา ควมฺปติ เอตทโวจ – ‘‘โกสิ ตฺวํ, อาวุโส’’ติ? ‘‘อหํ, ภนฺเต, ปายาสิ ราชฺโ’’ติ. ‘‘นนุ ตฺวํ, อาวุโส, เอวํทิฏฺิโก อโหสิ – ‘อิติปิ นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ ¶ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’’ติ? ‘‘สจฺจาหํ, ภนฺเต, เอวํทิฏฺิโก อโหสึ – ‘อิติปิ นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’ติ. อปิ จาหํ อยฺเยน ¶ กุมารกสฺสเปน เอตสฺมา ปาปกา ทิฏฺิคตา วิเวจิโต’’ติ. ‘‘โย ปน เต, อาวุโส, ทาเน วาวโฏ อโหสิ อุตฺตโร นาม มาณโว, โส กุหึ อุปปนฺโน’’ติ? ‘‘โย เม, ภนฺเต, ทาเน วาวโฏ อโหสิ อุตฺตโร นาม มาณโว, โส สกฺกจฺจํ ทานํ ทตฺวา สหตฺถา ทานํ ทตฺวา จิตฺตีกตํ ทานํ ทตฺวา อนปวิทฺธํ ทานํ ทตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺโน เทวานํ ตาวตึสานํ สหพฺยตํ. อหํ ปน, ภนฺเต, อสกฺกจฺจํ ทานํ ทตฺวา อสหตฺถา ทานํ ทตฺวา อจิตฺตีกตํ ทานํ ทตฺวา อปวิทฺธํ ทานํ ทตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปนฺโน สฺุํ เสรีสกํ วิมานํ. เตน หิ, ภนฺเต ควมฺปติ, มนุสฺสโลกํ คนฺตฺวา เอวมาโรเจหิ – ‘สกฺกจฺจํ ทานํ เทถ, สหตฺถา ทานํ เทถ, จิตฺตีกตํ ทานํ เทถ, อนปวิทฺธํ ทานํ เทถ. ปายาสิ ราชฺโ อสกฺกจฺจํ ทานํ ทตฺวา อสหตฺถา ทานํ ทตฺวา อจิตฺตีกตํ ทานํ ทตฺวา อปวิทฺธํ ทานํ ทตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปนฺโน สฺุํ เสรีสกํ วิมานํ. โย ปน ตสฺส ทาเน วาวโฏ อโหสิ อุตฺตโร นาม มาณโว, โส สกฺกจฺจํ ทานํ ทตฺวา สหตฺถา ทานํ ทตฺวา จิตฺตีกตํ ทานํ ทตฺวา อนปวิทฺธํ ทานํ ทตฺวา ¶ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺโน เทวานํ ตาวตึสานํ สหพฺยต’’’นฺติ.
อถ โข อายสฺมา ควมฺปติ มนุสฺสโลกํ อาคนฺตฺวา เอวมาโรเจสิ – ‘‘สกฺกจฺจํ ทานํ เทถ, สหตฺถา ทานํ เทถ, จิตฺตีกตํ ทานํ เทถ, อนปวิทฺธํ ทานํ เทถ. ปายาสิ ราชฺโ อสกฺกจฺจํ ทานํ ทตฺวา อสหตฺถา ทานํ ทตฺวา อจิตฺตีกตํ ทานํ ทตฺวา อปวิทฺธํ ทานํ ทตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปนฺโน สฺุํ เสรีสกํ วิมานํ. โย ปน ตสฺส ทาเน วาวโฏ อโหสิ อุตฺตโร ¶ นาม มาณโว, โส สกฺกจฺจํ ทานํ ทตฺวา ¶ สหตฺถา ทานํ ทตฺวา จิตฺตีกตํ ทานํ ทตฺวา อนปวิทฺธํ ¶ ทานํ ทตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺโน เทวานํ ตาวตึสานํ สหพฺยต’’นฺติ.
ปายาสิสุตฺตํ นิฏฺิตํ ทสมํ.
มหาวคฺโค นิฏฺิโต.
ตสฺสุทฺทานํ –
มหาปทาน นิทานํ, นิพฺพานฺจ สุทสฺสนํ;
ชนวสภ โควินฺทํ, สมยํ สกฺกปฺหกํ;
มหาสติปฏฺานฺจ, ปายาสิ ทสมํ ภเว [สติปฏฺานปายาสิ, มหาวคฺคสฺส สงฺคโห (สี. ปี.) สติปฏฺานปายาสิ, มหาวคฺโคติ วุจฺจตีติ (สฺยา.)].
มหาวคฺคปาฬิ นิฏฺิตา.