📜

๓. มหาปรินิพฺพานสุตฺตวณฺณนา

๑๓๑. ปูชนียภาวโต , พุทฺธสมฺปทฺจ ปหาย ปวตฺตตา มหนฺตฺจ ตํ ปรินิพฺพานฺจาติ มหาปรินิพฺพานํ; สวาสนปฺปหานโต มหนฺตํ กิเลสกฺขยํ นิสฺสาย ปวตฺตํ ปรินิพฺพานนฺติปิ มหาปรินิพฺพานํ; มหตา กาเลน มหตา วา คุณราสินา สาธิตํ ปรินิพฺพานนฺติปิ มหาปรินิพฺพานํ; มหนฺตภาวาย, ธาตูนํ พหุภาวาย ปรินิพฺพานนฺติปิ มหาปรินิพฺพานํ; มหโต โลกโต นิสฺสฏํ ปรินิพฺพานนฺติปิ มหาปรินิพฺพานํ; สพฺพโลกาสาธารณตฺตา พุทฺธานํ สีลาทิคุเณหิ มหโต พุทฺธสฺส ภควโต ปรินิพฺพานนฺติปิ มหาปรินิพฺพานํ; มหติ สาสเน ปติฏฺิเต ปรินิพฺพานนฺติปิ มหาปรินิพฺพานนฺติ พุทฺธสฺส ภควโต ปรินิพฺพานํ วุจฺจติ, ตปฺปฏิสํยุตฺตํ สุตฺตํ มหาปรินิพฺพานสุตฺตํ. คิชฺฌา เอตฺถ วสนฺตีติ คิชฺฌํ, คิชฺฌํ กูฏํ เอตสฺสาติ คิชฺฌกูโฏ, คิชฺฌํ วิย วา คิชฺฌํ, กูฏํ, ตํ เอตสฺสาติ คิชฺฌกูโฏ, ปพฺพโต, ตสฺมึ คิชฺฌกูเฏ. เตนาห ‘‘คิชฺฌา’’ติอาทิ. อภิยาตุกาโมติ เอตฺถ อภิ-สทฺโท อภิภวนตฺโถ, ‘‘อภิวิชานาตู’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๒๔๔; ๓.๘๕; ม. นิ. ๓.๒๕๖) วิยาติ อาห ‘‘อภิภวนตฺถาย ยาตุกาโม’’ติ. วชฺชิราชาโนติ ‘‘วชฺเชตพฺพา อิเม’’ติอาทิโต ปวตฺตํ วจนํ อุปาทาย ‘‘วชฺชี’’ติ ลทฺธนามา ราชาโน, วชฺชีรฏฺสฺส วา ราชาโน วชฺชิราชาโน. วชฺชิรฏฺสฺส ปน วชฺชิสมฺา ตนฺนิวาสิราชกุมารวเสน เวทิตพฺพา. ราชิทฺธิยาติ ราชภาวานุคเตน สภาเวน. โส ปน สภาโว เนสํ คณราชูนํ มิโถ สามคฺคิยา โลเก ปากโฏ, จิรฏฺายี จ อโหสีติ ‘‘สมคฺคภาวํ กเถสี’’ติ วุตฺตํ. อนุ อนุ ตํสมงฺคิโน ภาเวติ วฑฺเฒตีติ อนุภาโว, อนุภาโว เอว อานุภาโว, ปตาโป, โส ปน เนสํ ปตาโป หตฺถิอสฺสาทิวาหนสมฺปตฺติยา, ตตฺถ จ สุสิกฺขิตภาเวน โลเก ปากโฏ ชาโตติ ‘‘เอเตน…เป… กเถสี’’ติ วุตฺตํ. ตาฬจฺฉิคฺคเลนาติ กุฺจิกาฉิทฺเทน. อสนนฺติ สรํ. อติปาตยิสฺสนฺตีติ อติกฺกาเมนฺติ. โปงฺขานุโปงฺขนฺติ โปงฺขสฺส อนุโปงฺขํ, ปุริมสรสฺส โปงฺขปทานุคตโปงฺขํ อิตรํ สรํ กตฺวาติ อตฺโถ. อวิราธิตนฺติ อวิรชฺฌิตํ. อุจฺฉินฺทิสฺสามีติ อุมฺมูลนวเสน กุลสนฺตตึ ฉินฺทิสฺสามิ. อยนํ วฑฺฒนํ อโย, ตปฺปฏิกฺเขเปน อนโยติ อาห ‘‘อวฑฺฒิยา เอตํ นาม’’นฺติ. วิกฺขิปตีติ วิทูรโต ขิปติ, อปเนตีติ อตฺโถ.

คงฺคายนฺติ คงฺคาสมีเป. ปฏฺฏนคามนฺติ สกฏปฏฺฏนคามํ. อาณาติ อาณา วตฺตติ. อฑฺฒโยชนนฺติ จ ตสฺมึ ปฏฺฏเน อฑฺฒโยชนฏฺานวาสิโน สนฺธาย วุตฺตํ. ตตฺราติ ตสฺมึ ปฏฺฏเน. พลวาฆาตชาโตติ อุปฺปนฺนพลวโกโธ.

เมติ มยฺหํ. คเตนาติ คมเนน.

ราชอปริหานิยธมฺมวณฺณนา

๑๓๔. สีตํ วา อุณฺหํ วา นตฺถิ, ตายํ เวลายํ ปุฺานุภาเวน พุทฺธานํ สพฺพกาลํ สมสีตุณฺหาว อุตุ โหติ, ตํ สนฺธาย ตถา วุตฺตํ. อภิณฺหํ สนฺนิปาตาติ นิจฺจสนฺนิปาตา, ตํ ปน นิจฺจสนฺนิปาตตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ทิวสสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. สนฺนิปาตพหุลาติ ปจุรสนฺนิปาตา. โวสานนฺติ สงฺโกจํ. ‘‘ยาวกีว’’นฺติ เอกเมเวตํ ปทํ อนิยมโต ปริมาณวาจี, กาโล เจตฺถ อธิปฺเปโตติ อาห ‘‘ยตฺตกํ กาล’’นฺติ. ‘‘วุทฺธิเยวา’’ติอาทินา วุตฺตมตฺถํ พฺยติเรกมุเขน ทสฺเสตุํ ‘‘อภิณฺหํ อสนฺนิปตนฺตา หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อากุลาติ ขุภิตา, น ปสนฺนา. ภิชฺชิตฺวาติ วคฺคพนฺธโต วิภชฺช วิสุํ วิสุํ หุตฺวา.

สนฺนิปาตเภริยาติ สนฺนิปาตาโรจนเภริยา. อฑฺฒภุตฺตา วาติ สามิภุตฺตา จ. โอสีทมาเนติ หายมาเน.

ปุพฺเพ อกตนฺติ ปุพฺเพ อนิพฺพตฺตํ. สุงฺกนฺติ ภณฺฑํ คเหตฺวา คจฺฉนฺเตหิ ปพฺพตขณฺฑ นทีติตฺถคามทฺวาราทีสุ ราชปุริสานํ ทาตพฺพภาคํ. พลินฺติ นิปฺผนฺนสสฺสาทิโต ฉภาคํ, สตฺตภาคนฺติอาทินา ลทฺธกรํ. ทณฺฑนฺติ ทสวีสติกหาปณาทิกํ อปราธานุรูปํ คเหตพฺพธนทณฺฑํ. วชฺชิธมฺมนฺติ วชฺชิราชธมฺมํ. อิทานิ อปฺตฺตปฺาปนาทีสุ ตปฺปฏิกฺเขป อาทีนวานิสํเส วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ ‘‘เตสํ อปฺตฺต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ปาริจริยกฺขมาติ อุปฏฺานกฺขมา.

กุลโภคอิสฺสริยาทิวเสน มหตี มตฺตา ปมาณํ เอเตสนฺติ มหามตฺตา, นีติสตฺถวิหิเต วินิจฺฉเย ปิตา มหามตฺตา วินิจฺฉยมหามตฺตา, เตสํ. เทนฺตีติ นิยฺยาเตนฺติ. สเจ โจโรติ เอวํสฺิโน สเจ โหนฺติ. ปาปภีรุตาย อตฺตนา กิฺจิ อวตฺวา. ทณฺฑนีติสฺิเต โวหาเร นิยุตฺตาติ โวหาริกา, เย ‘‘ธมฺมฏฺา’’ติ วุจฺจนฺติ. สุตฺตธรา นีติสุตฺตธรา , อีทิเส โวหารวินิจฺฉเย นิยเมตฺวา ปิตา. ปรมฺปราภเตสุ อฏฺสุ กุเลสุ ชาตา อคติคมนวิรตา อฏฺมหลฺลกปุริสา อฏฺกุลิกา.

สกฺการนฺติ อุปการํ. ครุภาวํ ปจฺจุปฏฺเปตฺวาติ ‘‘อิเม อมฺหากํ ครุโน’’ติ ตตฺถ ครุภาวํ ปติ ปติ อุปฏฺเปตฺวา. มาเนนฺตีติ สมฺมาเนนฺติ, ตํ ปน สมฺมานนํ เตสุ เนสํ อตฺตมนตาปุพฺพกนฺติ อาห ‘‘มเนน ปิยายนฺตี’’ติ. นิปจฺจการนฺติ ปณิปาตํ. ทสฺเสนฺตีติ ‘‘อิเม อมฺหากํ ปิตามหา , มาตามหา’’ติอาทินา นีจจิตฺตา หุตฺวา ครุจิตฺตาการํ ทสฺเสนฺติ. สนฺธาเรตุนฺติ สมฺพนฺธํ อวิจฺฉินฺนํ กตฺวา ฆเฏตุํ.

ปสยฺหาการสฺสาติ พลกฺการสฺส. กามํ วุทฺธิยา ปูชนียตาย ‘‘วุทฺธิหานิโย’’ติ วุตฺตํ, อตฺโถ ปน วุตฺตานุกฺกเมเนว โยเชตพฺโพ, ปาฬิยํ วา ยสฺมา ‘‘วุทฺธิเยว ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานี’’ติ วุตฺตํ, ตสฺมา ตทนุกฺกเมน ‘‘วุทฺธิหานิโย’’ติ วุตฺตํ.

วิปจฺจิตุํ อลทฺโธกาเส ปาปกมฺเม, ตสฺส กมฺมสฺส วิปาเก วา อนวสโรว เทวโตปสคฺโค, ตสฺมึ ปน ลทฺโธกาเส สิยา เทวโตปสคฺคสฺส อวสโรติ อาห ‘‘อนุปฺปนฺนํ…เป… วฑฺเฒนฺตี’’ติ. เอเตเนว อนุปฺปนฺนํ สุขนฺติ เอตฺถาปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ‘‘พลกายสฺส ทิคุณติคุณตาทสฺสนํ, ปฏิภยภาวทสฺสน’’นฺติ เอวํ อาทินา เทวตานํ สงฺคามสีเส สหายตา เวทิตพฺพา.

อนิจฺฉิตนฺติ อนิฏฺํ. อาวรณโตติ นิเสธนโต. ยสฺส ธมฺมโต อนเปตา ธมฺมิยาติ อิธ ‘‘ธมฺมิกา’’ติ วุตฺตา. มิคสูกราทิฆาตาย สุนขาทีนํ กฑฺฒิตฺวา วนจรณํ วาโช, มิควา, ตตฺถ นิยุตฺตา, เต วา วาเชนฺติ เนนฺตีติ วาชิกา, มิควธจาริโน. จิตฺตปฺปวตฺตึ ปุจฺฉติ. กายิกวาจสิกปโยเคน หิ สา โลเก ปากฏา ปกาสภูตาติ.

๑๓๕. เทวายตนภาเวน จิตตฺตา, โลกสฺส จิตฺตีการฏฺานตฺตา จ เจติยํ อโหสิ.

กามํการวเสน กิฺจิปิ น กรณียาติ อกรณียา. กามํกาโร ปน หตฺถคตกรณวเสนาติ อาห ‘‘อคฺคเหตพฺพาติ อตฺโถ’’ติ. อภิมุขยุทฺเธนาติ อภิมุขํ อุชุกเมว สงฺคามกรเณน. อุปลาปนํ สามํ ทานฺจาติ ทสฺเสตุํ ‘‘อล’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. เภโทปิ อิธ อุปาโย เอวาติ วุตฺตํ ‘‘อฺตฺร มิถุเภทายา’’ติ. ยุทฺธสฺส ปน อนุปายตา ปเคว ปกาสิตา. อิทนฺติ ‘‘อฺตฺร อุปลาปนาย, อฺตฺร มิถุเภทา’’ติ จ อิทํ วจนํ. กถาย นยํ ลภิตฺวาติ ‘‘ยาวกีวฺจ…เป… โน ปริหานี’’ติ อิมาย ภควโต กถาย นยํ อุปายํ ลภิตฺวา.

อนุกมฺปายาติ วชฺชิราเชสุ อนุคฺคเหน. อสฺสาติ ภควโต.

กถนฺติ วชฺชีหิ สทฺธึ กาตพฺพยุทฺธกถํ. อุชุํ กริสฺสามีติ ปฏิราชาโน อาเนตฺวา ปาการปริขานํ อฺถาภาวาปาทเนน อุชุภาวํ กริสฺสามิ.

ปติฏฺิตคุโณติ ปติฏฺิตาจริยคุโณ. อิสฺสรา สนฺนิปตนฺตุ, มยํ อนิสฺสรา, ตตฺถ คนฺตฺวา กึ กริสฺสามาติ ลิจฺฉวิโน น สนฺนิปตึสูติ โยชนา. สูรา สนฺนิปตนฺตูติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย.

พลเภรินฺติ ยุทฺธาย พลกายสฺส อุฏฺานเภรึ.

ภิกฺขุอปริหานิยธมฺมวณฺณนา

๑๓๖. อปริหานาย หิตาติ อปริหานิยา, น ปริหายนฺติ เอเตหีติ วา อปริหานิยา, เต ปน ยสฺมา อปริหานิยา การกา นาม โหนฺติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘อปริหานิกเร’’ติ. ยสฺมา ปน เต ปริหานิกรานํ อุชุปฏิปกฺขภูตา, ตสฺมา อาห ‘‘วุทฺธิเหตุภูเต’’ติ. ยสฺมา ภควโต เทสนา อุปรูปริ าณาโลกํ ปสาเทนฺตี สตฺตานํ หทยนฺธการํ วิธมติ, ปกาเสตพฺเพ จ อตฺเถ หตฺถตเล อามลกํ วิย สุฏฺุตรํ ปากเฏ กตฺวา ทสฺเสติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘จนฺทสหสฺสํ…เป… กถยิสฺสามี’’ติ.

ยสฺมา ภควา ‘‘ตสฺส พฺราหฺมณสฺส สมฺมุขา วชฺชีนํ อภิณฺหสนฺนิปาตาทิปฏิปตฺตึ กเถนฺโตเยว อยํ อปริหานิยกถา อนิยฺยานิกา วฏฺฏนิสฺสิตา, มยฺหํ ปน สาสเน ตถารูปี กถา กเถตพฺพา, สา โหติ นิยฺยานิกา วิวฏฺฏนิสฺสิตา, ยาย สาสนํ มยฺหํ ปรินิพฺพานโต ปรมฺปิ อทฺธนิยํ อสฺส จิรฏฺิติก’’นฺติ จินฺเตสิ, ตสฺมา ภิกฺขู สนฺนิปาตาเปตฺวา เตสํ อปริหานิเย ธมฺเม เทเสนฺโต เตเนว นิยาเมน เทเสสิ. เตน วุตฺตํ ‘‘อิทํ วชฺชิสตฺตเก วุตฺตสทิสเมวา’’ติ. เอวํ สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ วิตฺถารโต ทสฺเสนฺโต ‘‘อิธาปิ จา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ‘‘ตโต’’ติอาทิ ทิสาสุ อาคตสาสเน วุตฺตํ ตํ กถนํ. วิหารสีมา อากุลา ยสฺมา, ตสฺมา อุโปสถปวารณา ิตา.

โอลียมานโกติ ปาฬิโต, อตฺถโต จ วินสฺสมาโน. อุกฺขิปาเปนฺตาติ ปคุณภาวกรเณน, อตฺถสํวณฺณเนน จ ปคฺคณฺหนฺตา.

สาวตฺถิยํ ภิกฺขู วิย ปาจิตฺติยํ เทสาเปตพฺโพติ (ปารา. ๕๖๕ วิตฺถารวตฺถุ). วชฺชิปุตฺตกา วิย ทสวตฺถุทีปเนน (จูฬว. ๔๔๖ วิตฺถารวตฺถุ). ‘‘คิหิคตานีติ คิหิปฏิสํยุตฺตานี’’ติ วทนฺติ. คิหีสุ คตานิ, เตหิ าตานิ คิหิคตานิ. ธูมกาโล เอตสฺสาติ ธูมกาลิกํ จิตกธูมวูปสมโต ปรํ อปฺปวตฺตนโต.

ถิรภาวปฺปตฺตาติ สาสเน ถิรภาวํ อนิวตฺติตภาวํ อุปคตา. เถรการเกหีติ เถรภาวสาธเกหิ สีลาทิคุเณหิ อเสกฺขธมฺเมหิ. พหู รตฺติโยติ ปพฺพชิตา หุตฺวา พหู รตฺติโย ชานนฺติ. สีลาทิคุเณสุ ปติฏฺาปนเมว สาสเน ปริณายกตาติ อาห ‘‘ตีสุ สิกฺขาสุ ปวตฺเตนฺตี’’ติ.

โอวาทํ น เทนฺติ อภาชนภาวโต. ปเวณีกถนฺติ อาจริยปรมฺปราภตํ สมฺมาปฏิปตฺติทีปนํ ธมฺมกถํ. สารภูตํ ธมฺมปริยายนฺติ สมถวิปสฺสนามคฺคผลสมฺปาปเนน สารภูตํ โพชฺฌงฺคโกสลฺลอนุตฺตรสีตีภาวอธิจิตฺตสุตฺตาทิธมฺมตนฺตึ.

ปุนพฺภวทานํ ปุนพฺภโว อุตฺตรปทโลเปน. อิตเรติ เย น ปจฺจยวสิกา น อามิสจกฺขุกา, เต น คจฺฉนฺติ ตณฺหาย วสํ.

อารฺเกสูติ อรฺภาเคสุ อรฺปริยาปนฺเนสุ. นนุ ยตฺถ กตฺถจิปิ ตณฺหา สาวชฺชา เอวาติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘คามนฺตเสนาสเนสุ หี’’ติอาทิ, เตน ‘‘อนุตฺตเรสุ วิโมกฺเขสุ ปิหํ อุปฏฺาปยโต’’ติ เอตฺถ วุตฺตสิเนหาทโย วิย อารฺเกสุ เสนาสเนสุ สาลยตา เสวิตพฺพปกฺขิยา เอวาติ ทสฺเสติ.

อตฺตนาวาติ สยเมว, เตน ปเรหิ อนุสฺสาหิตานํ สรเสเนว อนาคตานํ เปสลานํ ภิกฺขูนํ อาคมนํ, อาคตานฺจ ผาสุวิหารํ ปจฺจาสิสนฺตีติ ทสฺเสติ. อิมินา นีหาเรนาติ อิมาย ปฏิปตฺติยา. อคฺคหิตธมฺมคฺคหณนฺติ อคฺคหิตสฺส ปริยตฺติธมฺมสฺส อุคฺคหณํ. คหิตสชฺฌายกรณนฺติ อุคฺคหิตสฺส สุฏฺุ อตฺถจินฺตนํ. จินฺตนตฺโถ หิ สชฺฌายสทฺโท.

เอนฺตีติ อุปคจฺฉนฺติ. นิสีทนฺติ อาสนปฺาปนาทินา.

๑๓๗. อารมิตพฺพฏฺเน กมฺมํ อาราโม. กมฺเม รตา, น คนฺถธุเร, วาสธุเร วาติ กมฺมรตา, อนุยุตฺตาติ ตปฺปรภาเวน ปุนปฺปุนํ ปสุตา. อิติ กาตพฺพกมฺมนฺติ ตํ ตํ ภิกฺขูนํ กาตพฺพํ อุจฺจาวจกมฺมํ จีวรวิจารณาทิ. เตนาห ‘‘เสยฺยถิท’’นฺติอาทิ. อุปตฺถมฺภนนฺติ ทุปฏฺฏติปฏฺฏาทิกรณํ. ตฺหิ ปมปฏลาทีนํ อุปตฺถมฺภนการณตฺตา ตถา วุตฺตํ. ยทิ เอวํ กถํ อยํ กมฺมรามตา ปฏิกฺขิตฺตาติ อาห ‘‘เอกจฺโจ หี’’ติอาทิ.

กโรนฺโต เยวาติ ยถาวุตฺตติรจฺฉานกถํ กเถนฺโตเยว. อติรจฺฉานกถาภาเวปิ ตสฺส ตตฺถ ตปฺปรภาวทสฺสนตฺถํ อวธารณวจนํ. ปริยนฺตการีติ สปริยนฺตํ กตฺวา วตฺตา. ‘‘ปริยนฺตวตึ วาจํ ภาสิตา’’ติ (ที. นิ. ๑.๙, ๑๙๔) หิ วุตฺตํ. อปฺปภสฺโส วาติ ปริมิตกโถเยว เอกนฺเตน กเถตพฺพสฺเสว กถนโต. สมาปตฺติสมาปชฺชนํ อริโย ตุณฺหีภาโว.

นิทฺทายติเยวาติ นิทฺโทกฺกมเน อนาทีนวทสฺสี นิทฺทายติเยว. อิริยาปถปริวตฺตนาทินา น นํ วิโนเทติ.

เอวํ สํสฏฺโ วาติ วุตฺตนเยน คณสงฺคณิกาย สํสฏฺโ เอว วิหรติ.

ทุสฺสีลา ปาปิจฺฉา นามาติ สยํ นิสฺสีลา อสนฺตคุณสมฺภาวนิจฺฉาย สมนฺนาคตตฺตา ปาปา ลามกา อิจฺฉา เอเตสนฺติ ปาปิจฺฉา.

ปาปปุคฺคเลหิ เมตฺติกรณโต ปาปมิตฺตา. เตหิ สทา สห ปวตฺตเนน ปาปสหายา. ตตฺถ นินฺนตาทินา ตทธิมุตฺตตาย ปาปสมฺปวงฺกา.

๑๓๘. สทฺธา เอเตสํ อตฺถีติ สทฺธาติ อาห ‘‘สทฺธาสมฺปนฺนา’’ติ. อาคมนียปฏิปทาย อาคตสทฺธา อาคมนียสทฺธา, สา สาติสยา มหาโพธิสตฺตานํ ปโรปเทเสน วินา สทฺเธยฺยวตฺถุํ อวิปรีตโต โอคาเหตฺวา อธิมุจฺจนโตติ อาห ‘‘สพฺพฺุโพธิสตฺตานํ โหตี’’ติ. สจฺจปฏิเวธโต อาคตสทฺธา อธิคมสทฺธา สุรพนฺธาทีนํ (ที. นิ. อฏฺ. ๓.๑๑๘; ธ. ป. อฏฺ. ๑.สุปฺปพุทฺธกุฏฺิวตฺถุ; อุทา. อฏฺ. ๔๓) วิย. ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ ภควา’’ติอาทินา พุทฺธาทีสุ อุปฺปชฺชนกปสาโท ปสาทสทฺธา มหากปฺปินราชาทีนํ (อ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๒๓๑; ธ. ป. อฏฺ. ๑.มหากปฺปินตฺเถรวตฺถุ; เถรคา. อฏฺ. ๒.มหากปฺปินตฺเถรคาถาวณฺณนา, วิตฺถาโร) วิย. ‘‘เอวเมต’’นฺติ โอกฺกนฺติตฺวา ปกฺขนฺทิตฺวา สทฺทหนวเสน กปฺปนํ โอกปฺปนํ. ทุวิธาปีติ ปสาทสทฺธาปิ โอกปฺปนสทฺธาปิ. ตตฺถ ปสาทสทฺธา อปรเนยฺยรูปา โหติ สวนมตฺเตน ปสีทนโต. โอกปฺปนสทฺธา สทฺเธยฺยวตฺถุํ โอคาเหตฺวา อนุปวิสิตฺวา ‘‘เอวเมต’’นฺติ ปจฺจกฺขํ กโรนฺตี วิย ปวตฺตติ. เตนาห ‘‘สทฺธาธิมุตฺโต วกฺกลิตฺเถรสทิโส โหตี’’ติ. ตสฺส หีติ โอกปฺปนสทฺธาย สมนฺนาคตสฺส. หิรี เอตสฺส อตฺถีติ หิริ, หิริ มโน เอเตสนฺติ หิริมนาติ อาห ‘‘ปาป…เป… จิตฺตา’’ติ. ปาปโต โอตฺตปฺเปนฺติ อุพฺพิชฺชนฺติ ภายนฺตีติ โอตฺตปฺปี.

พหุ สุตํ สุตฺตเคยฺยาทิ เอเตนาติ พหุสฺสุโต, สุตคฺคหณํ เจตฺถ นิทสฺสนมตฺตํ ธารณปริจยปริปุจฺฉานุเปกฺขนทิฏฺินิชฺฌานานํ เปตฺถ อิจฺฉิตพฺพตฺตา. สวนมูลกตฺตา วา เตสมฺปิ ตคฺคหเณเนว คหณํ ทฏฺพฺพํ. อตฺถกาเมน ปริยาปุณิตพฺพโต, ทิฏฺธมฺมิกาทิปุริสตฺถสิทฺธิยา ปริยตฺตภาวโต จ ปริยตฺติ, ตีณิ ปิฏกานิ. สจฺจปฺปฏิเวโธ สจฺจานํ ปฏิวิชฺฌนํ. ตทปิ พาหุสจฺจํ ยถาวุตฺตพาหุสจฺจกิจฺจนิปฺผตฺติโต. ปริยตฺติ อธิปฺเปตา สจฺจปฏิเวธาวเหน พาหุสจฺเจน พหุสฺสุตภาวสฺส อิธ อิจฺฉิตตฺตา. โสติ ปริยตฺติพหุสฺสุโต. จตุพฺพิโธ โหติ ปฺจมสฺส ปการสฺส อภาวโต. สพฺพตฺถกพหุสฺสุโตติ นิสฺสยมุจฺจนกพหุสฺสุตาทโย วิย ปเทสิโก อหุตฺวา ปิฏกตฺตเย สพฺพตฺถกเมว พาหุสจฺจสพฺภาวโต สพฺพสฺส อตฺถสฺส กายนโต กถนโต สพฺพตฺถกพหุสฺสุโต. เต อิธ อธิปฺเปตา ปฏิปตฺติปฏิเวธสทฺธมฺมานํ มูลภูเต ปริยตฺติสทฺธมฺเม สุปฺปติฏฺิตภาวโต.

อารทฺธนฺติ ปคฺคหิตํ. ตํ ปน ทุวิธมฺปิ วีริยารมฺภวิภาเคน ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เอกกาติ เอกากิโน, วูปกฏฺวิหาริโนติ อตฺโถ.

ปุจฺฉิตฺวาติ ปรโต ปุจฺฉิตฺวา. สมฺปฏิจฺฉาเปตุนฺติ ‘‘ตฺวํ อสุกนาโม’’ติ วตฺวา เตหิ ‘‘อามา’’ติ ปฏิชานาเปตุนฺติ อตฺโถ. เอวํ จิรกตาทิอนุสฺสรณสมตฺถสติเนปกฺกานํ อปฺปกสิเรเนว สติสมฺโพชฺฌงฺคภาวนาปาริปูรึ คจฺฉตีติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘เอวรูเป ภิกฺขู สนฺธายา’’ติ วุตฺตํ. เตเนวาห ‘‘อปิจา’’ติอาทิ.

๑๓๙. พุชฺฌติ เอตายาติ ‘‘โพธี’’ติ ลทฺธนามาย สมฺมาทิฏฺิอาทิธมฺมสามคฺคิยา องฺโคติ โพชฺฌงฺโค, ปสตฺโถ, สุนฺทโร วา โพชฺฌงฺโค สมฺโพชฺฌงฺโค. อุปฏฺานลกฺขโณติ กายเวทนาจิตฺตธมฺมานํ อสุภทุกฺขานิจฺจานตฺตภาวสลฺลกฺขณสงฺขาตํ อารมฺมเณ อุปฏฺานํ ลกฺขณํ เอตสฺสาติ อุปฏฺานลกฺขโณ. จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ ปีฬนาทิปฺปการโต วิจโย อุปปริกฺขา ลกฺขณํ เอตสฺสาติ ปวิจยลกฺขโณ. อนุปฺปนฺนา กุสลานุปฺปาทนาทิวเสน จิตฺตสฺส ปคฺคโห ปคฺคณฺหนํ ลกฺขณํ เอตสฺสาติ ปคฺคหลกฺขโณ. ผรณํ วิปฺผาริกตา ลกฺขณํ เอตสฺสาติ ผรณลกฺขโณ. อุปสโม กายจิตฺตปริฬาหานํ วูปสมนํ ลกฺขณํ เอตสฺสาติ อุปสมลกฺขโณ. อวิกฺเขโป วิกฺเขปวิทฺธํสนํ ลกฺขณํ เอตสฺสาติ อวิกฺเขปลกฺขโณ. ลีนุทฺธจฺจรหิเต อธิจิตฺเต ปวตฺตมาเน ปคฺคหนิคฺคหสมฺปหํสเนสุ อพฺยาวฏตฺตา อชฺฌุเปกฺขนํ ปฏิสงฺขานํ ลกฺขณํ เอตสฺสาติ ปฏิสงฺขานลกฺขโณ.

จตูหิ การเณหีติ สติสมฺปชฺํ, มุฏฺสฺสติปุคฺคลปริวชฺชนา, อุปฏฺิตสฺสติปุคฺคลเสวนา, ตทธิมุตฺตตาติ อิเมหิ จตูหิ การเณหิ. ฉหิ การเณหีติ ปริปุจฺฉกตา, วตฺถุวิสทกิริยา, อินฺทฺริยสมตฺตปฏิปาทนา, ทุปฺปฺปุคฺคลปริวชฺชนา, ปฺวนฺตปุคฺคลเสวนา, ตทธิมุตฺตตาติ อิเมหิ ฉหิ การเณหิ. มหาสติปฏฺานวณฺณนายํ ปน ‘‘สตฺตหิ การเณหี’’ (ที. นิ. อฏฺ. ๒.๓๘๕; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๑๘) วกฺขติ, ตํ คมฺภีราณจริยาปจฺจเวกฺขณาติ อิมํ การณํ ปกฺขิปิตฺวา เวทิตพฺพํ. นวหิ การเณหีติ อปายภยปจฺจเวกฺขณา, คมนวีถิปจฺจเวกฺขณา, ปิณฺฑปาตสฺส อปจายนตา, ทายชฺชมหตฺตปจฺจเวกฺขณา, สตฺถุมหตฺตปจฺจเวกฺขณา, สพฺรหฺมจารีมหตฺตปจฺจเวกฺขณา, กุสีตปุคฺคลปริวชฺชนา, อารทฺธวีริยปุคฺคลเสวนา, ตทธิมุตฺตตาติ อิเมหิ นวหิ การเณหิ. มหาสติปฏฺานวณฺณนายํ (ที. นิ. อฏฺ. ๒.๓๘๕; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๑๘) ปน อานิสํสทสฺสาวิตา, ชาติมหตฺตปจฺจเวกฺขณาติ อิเมหิ สทฺธึ ‘‘เอกาทสา’’ติ วกฺขติ. ทสหิ การเณหีติ พุทฺธานุสฺสติ, ธมฺมานุสฺสติ, สงฺฆสีลจาคเทวตาอุปสมานุสฺสติ, ลูขปุคฺคลปริวชฺชนา, สินิทฺธปุคฺคลเสวนา, ตทธิมุตฺตตาติ อิเมหิ ทสหิ. มหาสติปฏฺานวณฺณนายํ (ที. นิ. อฏฺ. ๒.๓๘๕; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๑๘) ปน ปสาทนิยสุตฺตนฺตปจฺจเวกฺขณาย สทฺธึ ‘‘เอกาทสา’’ติ วกฺขติ. สตฺตหิ การเณหีติ ปณีตโภชนเสวนตา , อุตุสุขเสวนตา, อิริยาปถสุขเสวนตา, มชฺฌตฺตปโยคตา, สารทฺธกายปุคฺคลปริวชฺชนตา , ปสฺสทฺธกายปุคฺคลเสวนตา, ตทธิมุตฺตตาติ อิเมหิ สตฺตหิ. ทสหิ การเณหีติ วตฺถุวิสทกิริยา, อินฺทฺริยสมตฺตปฏิปาทนา, นิมิตฺตกุสลตา, สมเย จิตฺตสฺส ปคฺคหณํ, สมเย จิตฺตสฺส นิคฺคหณํ, สมเย จิตฺตสฺส สมฺปหํสนํ, สมเย จิตฺตสฺส อชฺฌุเปกฺขนํ, อสมาหิตปุคฺคลปริวชฺชนํ, สมาหิตปุคฺคลเสวนํ, ตทธิมุตฺตตาติ อิเมหิ ทสหิ การเณหิ. มหาสติปฏฺานวณฺณนายํ (ที. นิ. อฏฺ. ๒.๓๘๕; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๑๘) ปน ‘‘ฌานวิโมกฺขปจฺจเวกฺขณา’’ติ อิมินา สทฺธึ ‘‘เอกาทสหี’’ติ วกฺขติ. ปฺจหิ การเณหีติ สตฺตมชฺฌตฺตตา, สงฺขารมชฺฌตฺตตา, สตฺตสงฺขารเกลายนปุคฺคลปริวชฺชนา, สตฺตสงฺขารมชฺฌตฺตปุคฺคลเสวนา, ตทธิมุตฺตตาติ อิเมหิ ปฺจหิ การเณหิ. ยํ ปเนตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ มหาสติปฏฺานวณฺณนายํ (ที. นิ. อฏฺ. ๒.๓๘๕; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๑๘) อาคมิสฺสติ. กามํ โพธิปกฺขิยธมฺมา นาม นิปฺปริยายโต อริยมคฺคสมฺปยุตฺตา เอว นิยฺยานิกภาวโต. สุตฺตนฺตเทสนา นาม ปริยายกถาติ ‘‘อิมินา วิปสฺสนา…เป… กเถสี’’ติ วุตฺตํ.

๑๔๐. เตภูมเก สงฺขาเร ‘‘อนิจฺจา’’ติ อนุปสฺสติ เอตายาติ อนิจฺจานุปสฺสนา, ตถา ปวตฺตา วิปสฺสนา, สา ปน ยสฺมา อตฺตนา สหคตสฺาย ภาวิตาย วิภาวิตา เอว โหตีติ วุตฺตํ ‘‘อนิจฺจานุปสฺสนาย สทฺธึ อุปฺปนฺนสฺา’’ติ. สฺาสีเสน วายํ วิปสฺสนาย เอว นิทฺเทโส. อนตฺตสฺาทีสุปิ เอเสว นโย. โลกิยวิปสฺสนาปิ โหนฺติ, ยสฺมา ‘‘อนิจฺจ’’นฺติอาทินา ตา ปวตฺตนฺตีติ. โลกิยวิปสฺสนาปีติ ปิ-สทฺเทน มิสฺสกาเปตฺถ สนฺตีติ อตฺถโต อาปนฺนนฺติ อตฺถาปตฺติสิทฺธมตฺถํ นิทฺธาเรตฺวา สรูปโต ทสฺเสตุํ ‘‘วิราโค’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อาคตวเสนาติ ตถา อาคตปาฬิวเสน ‘‘วิราโค นิโรโธ’’ติ หิ ตตฺถ นิพฺพานํ วุตฺตนฺติ อิธ ‘‘วิราคสฺา, นิโรธสฺา’’ติ วุตฺตสฺา นิพฺพานารมฺมณาปิ สิยุํ. เตน วุตฺตํ ‘‘ทฺเว โลกุตฺตราปิ โหนฺตี’’ติ.

๑๔๑. เมตฺตา เอตสฺส อตฺถีติ เมตฺตํ, จิตฺตํ. ตํสมุฏฺานํ กายกมฺมํ เมตฺตํ กายกมฺมํ. เอส นโย เสสทฺวเยปิ. อิมานิปิ เมตฺตากายกมฺมาทีนิ ภิกฺขูนํ วเสน อาคตานิ เตสํ เสฏฺปริสภาวโต. ยถา ปน ภิกฺขูสุปิ ลพฺภนฺติ, เอวํ คิหีสุปิ ลพฺภนฺติ จตุปริสสาธารณตฺตาติ ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ภิกฺขูนฺหี’’ติอาทิมาห. กามํ อาทิพฺรหฺมจริยกธมฺมสฺสวเนนปิ เมตฺตากายกมฺมานิ ลพฺภนฺติ, นิปฺปริยายโต ปน จาริตฺตธมฺมสฺสวเนน อยมตฺโถ อิจฺฉิโตติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อาภิสมาจาริกธมฺมปูรณ’’นฺติ อาห. เตปิฏกมฺปิ พุทฺธวจนํ ปริปุจฺฉนอตฺถกถนวเสน ปวตฺติยมานํ หิตชฺฌาสเยน ปวตฺติตพฺพโต.

อาวีติ ปกาสํ, ปกาสภาโว เจตฺถ ยํ อุทฺทิสฺส ตํ กายกมฺมํ กรียติ, ตสฺส สมฺมุขภาวโตติ อาห ‘‘สมฺมุขา’’ติ. รโหติ อปฺปกาสํ, อปฺปกาสตา จ ยํ อุทฺทิสฺส ตํ กายกมฺมํ กรียติ, ตสฺส ปจฺจกฺขาภาวโตติ อาห ‘‘ปรมฺมุขา’’ติ. สหายภาวคมนํ เตสํ ปุรโต. อุภเยหีติ นวเกหิ, เถเรหิ จ.

ปคฺคยฺหาติ ปคฺคณฺหิตฺวา อุจฺจํ กตฺวา.

กามํ เมตฺตาสิเนหสินิทฺธานํ นยนานํ อุมฺมีลนา, ปสนฺเนน มุเขน โอโลกนฺจ เมตฺตํ กายกมฺมเมว, ยสฺส ปน จิตฺตสฺส วเสน นยนานํ เมตฺตาสิเนหสินิทฺธตา, มุขสฺส จ ปสนฺนตา, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘เมตฺตํ มโนกมฺมํ นามา’’ติ.

ลาภสทฺโท กมฺมสาธโน ‘‘ลาภาวต, ลาโภ ลทฺโธ’’ติอาทีสุ วิย, โส เจตฺถ ‘‘ธมฺมลทฺธา’’ติ วจนโต อตีตกาลิโกติ อาห ‘‘จีวราทโย ลทฺธปจฺจยา’’ติ. ธมฺมโต อาคตาติ ธมฺมิกา. เตนาห ‘‘ธมฺมลทฺธา’’ติ. อิมเมว หิ อตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘กุหนาที’’ติอาทิ วุตฺตํ. จิตฺเตน วิภชนปุพฺพกํ กาเยน วิภชนนฺติ มูลเมว ทสฺเสตุํ ‘‘เอวํ จิตฺเตน วิภชน’’นฺติ วุตฺตํ, เตน จิตฺตุปฺปาทมตฺเตนปิ ปฏิวิภาโค น กาตพฺโพติ ทสฺเสติ. อปฺปฏิวิภตฺตนฺติ ภาวนปุํสกนิทฺเทโส, อปฺปฏิวิภตฺตํ วา ลาภํ ภุฺชตีติ กมฺมนิทฺเทโส เอว.

ตํตํ เนว คิหีนํ เทติ อตฺตโน อาชีวโสธนตฺถํ. น อตฺตนา ภุฺชตีติ อตฺตนาว น ปริภุฺชติ ‘‘มยฺหํ อสาธารณโภคิตา มา โหตู’’ติ. ‘‘ปฏิคฺคณฺหนฺโต จ…เป… ปสฺสตี’’ติ อิมินา ตสฺส ลาภสฺส ตีสุปิ กาเลสุ สาธารณโต ปนํ ทสฺสิตํ. ‘‘ปฏิคฺคณฺหนฺโต จ สงฺเฆน สาธารณํ โหตู’’ติ อิมินา ปฏิคฺคหณกาโล ทสฺสิโต, ‘‘คเหตฺวา…เป… ปสฺสตี’’ติ อิมินา ปฏิคฺคหิตกาโล, ตทุภยํ ปน ตาทิเสน ปุพฺพาโภเคน วินา น โหตีติ อตฺถสิทฺโธ ปุริมกาโล. ตยิทํ ปฏิคฺคหณโต ปุพฺเพ วสฺส โหติ ‘‘สงฺเฆน สาธารณํ โหตูติ ปฏิคฺคเหสฺสามี’’ติ. ปฏิคฺคณฺหนฺตสฺส โหติ ‘‘สงฺเฆน สาธารณํ โหตูติ ปฏิคฺคณฺหามี’’ติ. ปฏิคฺคเหตฺวา โหติ ‘‘สงฺเฆน สาธารณํ โหตูติ ปฏิคฺคหิตํ มยา’’ติ เอวํ ติลกฺขณสมฺปนฺนํ กตฺวา ลทฺธลาภํ โอสานลกฺขณํ อวิโกเปตฺวา ปริภุฺชนฺโต สาธารณโภคี, อปฺปฏิวิภตฺตโภคี จ โหติ.

อิมํ ปน สารณียธมฺมนฺติ อิมํ จตุตฺถํ สริตพฺพยุตฺตธมฺมํ. น หิ…เป… คณฺหนฺติ, ตสฺมา สาธารณโภคิตา เอว ทุสฺสีลสฺส นตฺถีติ อารมฺโภปิ ตาว น สมฺภวติ, กุโต ปูรณนฺติ อธิปฺปาโย. ‘‘ปริสุทฺธสีโล’’ติ อิมินา ลาภสฺส ธมฺมิกภาวํ ทสฺเสติ. ‘‘วตฺตํ อขณฺเฑนฺโต’’ติ อิมินา อปฺปฏิวิภตฺตโภคิตํ, สาธารณโภคิตฺจ ทสฺเสติ. สติ ปน ตทุภเย สารณียธมฺโม ปูริโต เอว โหตีติ อาห ‘‘ปูเรตี’’ติ. ‘‘โอทิสฺสกํกตฺวา’’ติ เอเตน อโนทิสฺสกํ กตฺวา ปิตุโน, อาจริยุปชฺฌายาทีนํ วา เถราสนโต ปฏฺาย เทนฺตสฺส สารณียธมฺโมเยว โหตีติ. สารณียธมฺโม ปนสฺส น โหตีติ ปฏิชคฺคนฏฺาเน โอทิสฺสกํ กตฺวา ทินฺนตฺตา. เตนาห ‘‘ปลิโพธชคฺคนํ นาม โหตี’’ติอาทิ. ยทิ เอวํ สพฺเพน สพฺพํ สารณียธมฺมปูรกสฺส โอทิสฺสกทานํ น วฏฺฏตีติ? โน น วฏฺฏติ ยุตฺตฏฺาเนติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เตน ปนา’’ติอาทิมาห. คิลานาทีนํ โอทิสฺสกํ กตฺวา ทานํ อปฺปฏิวิภาคปกฺขิกํ ‘‘อสุกสฺส น ทสฺสามี’’ติ ปฏิกฺเขปสฺส อภาวโต. พฺยติเรกปฺปธาโน หิ ปฏิวิภาโค. เตนาห ‘‘อวเสส’’นฺติอาทิ. อทาตุมฺปีติ ปิ-สทฺเทน ทาตุมฺปิ วฏฺฏตีติ ทสฺเสติ, ตฺจ โข กรุณายนวเสน, น วตฺตปูรณวเสน.

สุสิกฺขิตายาติ สารณียธมฺมปูรณวิธิมฺหิ สุฏฺุ สิกฺขิตาย, สุกุสลายาติ อตฺโถ. อิทานิ ตสฺสา โกสลฺลํ ทสฺเสตุํ ‘‘สุสิกฺขิตาย หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘ทฺวาทสหิ วสฺเสหิ ปูรติ, น ตโต โอร’’นฺติ อิมินา ตสฺส ทุปฺปูรณํ ทสฺเสติ. ตถา หิ โส มหปฺผโล มหานิสํโส, ทิฏฺธมฺมิเกหิปิ ตาว ครุตเรหิ ผลานิสํเสหิ จ อนุคโต. ตํสมงฺคี จ ปุคฺคโล วิเสสลาภี อริยปุคฺคโล วิย โลเก อจฺฉริยพฺภุตธมฺมสมนฺนาคโต โหติ. ตถา หิ โส ทุปฺปชหํ ทานมยสฺส, สีลมยสฺส จ ปุฺสฺส ปฏิปกฺขธมฺมํ สุทูเร วิกฺขมฺภิตํ กตฺวา สุวิสุทฺเธน เจตสา โลเก ปากโฏ ปฺาโต หุตฺวา วิหรติ, ตสฺสิมมตฺถํ พฺยติเรกโต, อนฺวยโต จ วิภาเวตุํ ‘‘สเจ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ, ตํ สุวิฺเยฺยเมว.

อิทานิ เย สมฺปรายิเก, ทิฏฺธมฺมิเก จ อานิสํเส ทสฺเสตุํ ‘‘เอว’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. เนว อิสฺสา, น มจฺฉริยํ โหติ จิรกาลภาวนาย วิธุตภาวโต. มนุสฺสานํ ปิโย โหติ ปริจฺจาคสีลตาย วิสุทฺธตฺตา. เตนาห ‘‘ททํ ปิโย โหติ ภชนฺติ นํ พหู’’ติอาทิ (อ. นิ. ๕.๓๔). สุลภปจฺจโย โหติ ทานวเสน อุฬารชฺฌาสยานํ ปจฺจยลาภสฺส อิธานิสํสภาวโต ทานสฺส. ปตฺตคตํ อสฺส ทิยฺยมานํน ขียติ ปตฺตคตวเสน ทฺวาทสวสฺสิกสฺส มหาปตฺตสฺส อวิจฺเฉเทน ปูริตตฺตา. อคฺคภณฺฑํ ลภติ เทวสิกํ ทกฺขิเณยฺยานํ อคฺคโต ปฏฺาย ทานสฺส ทินฺนตฺตา. ภเยวา…เป… อาปชฺชนฺติ เทยฺยปฏิคฺคาหกวิกปฺปํ อกตฺวา อตฺตนิ นิรเปกฺขจิตฺเตน จิรกาลํ ทานปูรตาย ปสาทิตจิตฺตตฺตา.

ตตฺราติ เตสุ อานิสํเสสุ วิภาเวตพฺเพสุ. อิมานิ ตํ ทีปนานิ วตฺถูนิ การณานิ. อลภนฺตาปีติ อมหาปุฺตาย น ลาภิโน สมานาปิ. ภิกฺขาจารมคฺคสภาคนฺติ สภาคํ ตพฺภาคิยํ ภิกฺขาจารมคฺคํ ชานนฺติ.

อนุตฺตริมนุสฺสธมฺมตฺตา, เถรานํ สํสยวิโนทนตฺถฺจ ‘‘สารณียธมฺโม เม ภนฺเต ปูริโต’’ติ อาห. ตถา หิ ทุติยวตฺถุสฺมิมฺปิ เถเรน อตฺตา ปกาสิโต. มนุสฺสานํ ปิยตาย, สุลภปจฺจยตายปิ อิทํ วตฺถุเมว. ปตฺตคตาขียนสฺส ปน วิเสสํ วิภาวนโต ‘‘อิทํ ตาว…เป… เอตฺถ วตฺถุ’’นฺติ วุตฺตํ.

คิริภณฺฑมหาปูชายาติ เจติยคิริมฺหิ สกลลงฺกาทีเป, โยชนปฺปมาเณ สมุทฺเท จ นาวาสงฺฆาฏาทิเก เปตฺวา ทีปปุปฺผคนฺธาทีหิ กริยมานมหาปูชายํ. ปริยาเยนปีติ เลเสนปิ. อนุจฺฉวิกนฺติ สารณียธมฺมปูรณโตปิ อิทํ ยถาภูตปฺปเวทนํ ตุมฺหากํ อนุจฺฉวิกนฺติ อตฺโถ.

อนาโรเจตฺวาว ปลายึสุ โจรภเยน. ‘‘อตฺตโน ทุชฺชีวิกายา’’ติ จ วทนฺติ.

วฏฺฏิสฺสตีติ กปฺปิสฺสติ. เถรี สารณียธมฺมปูริกา อโหสิ, เถรสฺส ปน สีลเตเชเนว เทวตา อุสฺสุกฺกํ อาปชฺชิ.

นตฺถิ เอเตสํ ขณฺฑนฺติ อขณฺฑานิ. ตํ ปน เนสํ ขณฺฑํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อุปสมฺปนฺนสีลานํ อุทฺเทสกฺกเมน อาทิ อนฺตา เวทิตพฺพา. เตนาห ‘‘สตฺตสู’’ติอาทิ. อนุปสมฺปนฺนสีลานํ ปน สมาทานกฺกเมนปิ อาทิ อนฺตา ลพฺภนฺติ. ปริยนฺเต ฉินฺนสาฏโก วิยาติ วตฺถนฺเต, ทสนฺเต วา ฉินฺนวตฺถํ วิย, วิสทิสูทาหรณํ เจตํ ‘‘อขณฺฑานี’’ติ อิมสฺส อธิคตตฺตา. เอวํ เสสานิปิ อุทาหรณานิ. ขณฺฑิตภินฺนตา ขณฺฑํ, ตํ เอตสฺส อตฺถีติ ขณฺฑํ, สีลํ. ‘‘ฉิทฺท’’นฺติอาทีสุปิ เอเสว นโย. เวมชฺเฌ ภินฺนํ วินิวิชฺฌนวเสน วิสภาควณฺเณน คาวี วิยาติ สมฺพนฺโธ. สพลรหิตานิ อสพลานิ. ตถา อกมฺมาสานิ. สีลสฺส ตณฺหาทาสพฺยโต โมจนํ วิวฏฺฏูปนิสฺสยภาวาปาทนํ. ยสฺมา จ ตํสมงฺคีปุคฺคโล เสรี สยํวสี ภุชิสฺโส นาม โหติ, ตสฺมาปิ ภุชิสฺสานิ. เตเนวาห ‘‘ภุชิสฺสภาวการณโตภุชิสฺสานี’’ติ. สุปริสุทฺธภาเวน ปาสํสตฺตา วิฺุปสตฺถานิ. อิมินาหํ สีเลน เทโว วา ภเวยฺยํ, เทวฺตโร วา, ตตฺถ ‘‘นิจฺโจ ธุโว สสฺสโต’’ติ, ‘‘สีเลน สุทฺธี’’ติ จ เอวํ อาทินา ตณฺหาทิฏฺีหิ อปรามฏฺตฺตา. ‘‘อยํ เต สีเลสุ โทโส’’ติ จตูสุปิ วิปตฺตีสุ ยาย กายจิ วิปตฺติยา ทสฺสเนน ปรามฏฺุํ อนุทฺธํเสตุํ. สมาธิสํวตฺตนปฺปโยชนานิ สมาธิสํวตฺตนิกานิ.

สมานภาวูปคตสีลาติ สีลสมฺปตฺติยา สมานภาวํ อุปคตสีลา สภาควุตฺติกา. กามํ ปุถุชฺชนานฺจ จตุปาริสุทฺธิสีเล นานตฺตํ น สิยา, ตํ ปน น เอกนฺติกํ, อิทํ เอกนฺติกํ นิยตภาวโตติ อาห ‘‘นตฺถิ มคฺคสีเล นานตฺต’’นฺติ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตนฺติ มคฺคสีลํ สนฺธาย เอตํ ‘‘ยานิ ตานิ สีลานี’’ติอาทิ วุตฺตํ.

ยายนฺติ ยา อยํ มยฺหฺเจว ตุมฺหากฺจ ปจฺจกฺขภูตา . ทิฏฺีติ มคฺคสมฺมาทิฏฺิ. นิทฺโทสาติ นิธุตโทสา, สมุจฺฉินฺนราคาทิปาปธมฺมาติ อตฺโถ. นิยฺยาตีติ วฏฺฏทุกฺขโต นิสฺสรติ นิคจฺฉติ. สยํ นิยฺยนฺตสฺเสว หิ ‘‘ตํสมงฺคีปุคฺคลํ วฏฺฏทุกฺขโต นิยฺยาเปตี’’ติ วุจฺจติ. ยา สตฺถุ อนุสิฏฺิ, ตํ กโรตีติ ตกฺกโร, ตสฺส, ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชนกสฺสาติ อตฺโถ. สมานทิฏฺิภาวนฺติ สทิสทิฏฺิภาวํ สจฺจสมฺปฏิเวเธน อภินฺนทิฏฺิภาวํ. วุทฺธิเยวาติ อริยวินเย คุเณหิ วุฑฺฒิเยว, โน ปริหานีติ อยํ อปริหานิยธมฺมเทสนา อตฺตโนปิ สาสนสฺส อทฺธนิยตํ อากงฺขนฺเตน ภควตา อิธ เทสิตา.

๑๔๒. อาสนฺนปรินิพฺพานตฺตาติ กติปยมาสาธิเกน สํวจฺฉรมตฺเตน ปรินิพฺพานํ ภวิสฺสตีติ กตฺวา วุตฺตํ. เอตํเยวาติ ‘‘อิติ สีล’’นฺติอาทิกํเยว อิติ สีลนฺติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท ปการตฺโถ, ปริมาณตฺโถ จ เอกชฺฌํ กตฺวา คหิโตติ อาห ‘‘เอวํ สีลํ เอตฺตกํ สีล’’นฺติ. เอวํ สีลนฺติ เอวํ ปเภทํ สีลํ. เอตฺตกนฺติ เอตํ ปรมํ, น อิโต ภิยฺโย. จตุปาริสุทฺธิสีลนฺติ มคฺคสฺส สมฺภารภูตํ โลกิยจตุปาริสุทฺธิสีลํ. จิตฺเตกคฺคตา สมาธีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ยสฺมึ สีเล ตฺวาติ ยสฺมึ โลกุตฺตรกุสลสฺส ปทฏฺานภูเต ‘‘ปุพฺเพว โข ปนสฺส กายกมฺมํ วจีกมฺมํ อาชีโว สุปริสุทฺโธ โหตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๔๓๑; กถา. ๘๗๔) เอวํ วุตฺตสีเล ปติฏฺาย. เอโสติ มคฺคผลสมาธิ. ปริภาวิโตติ เตน สีเลน สพฺพโส ภาวิโต สมฺภาวิโต. มหปฺผโล โหติ มหานิสํโสติ มคฺคสมาธิ ตาว สามฺผเลหิ มหปฺผโล, วฏฺฏทุกฺขวูปสเมน มหานิสํโส. อิตโร ปฏิปฺปสฺสทฺธิปฺปหาเนน มหปฺผโล, นิพฺพุติสุขุปฺปตฺติยา มหานิสํโส. ยมฺหิ สมาธิมฺหิตฺวาติ ยสฺมึ โลกุตฺตรกุสลสฺส ปทฏฺานภูเต ปาทกชฺฌานสมาธิมฺหิ เจว วุฏฺานคามินิสมาธิมฺหิ จ ตฺวา. สาติ มคฺคผลปฺา. เตน ปริภาวิตาติ เตน ยถาวุตฺตสมาธินา สพฺพโส ภาวิตา ปริภาวิตา. มหปฺผลมหานิสํสตา สมาธิมฺหิ วุตฺตนเยน เวทิตพฺพา. อปิ จ เต โพชฺฌงฺคมคฺคงฺคฌานงฺคปฺปเภทเหตุตาย มหปฺผลา สตฺตทกฺขิเณยฺยปุคฺคลวิภาคเหตุตาย มหานิสํสาติ เวทิตพฺพา. ยาย ปฺาย ตฺวาติ ยายํ วิปสฺสนาปฺายํ, สมาธิวิปสฺสนาปฺายํ วา ตฺวา. สมถยานิกสฺส หิ สมาธิสหคตาปิ ปฺา มคฺคาธิคมาย วิเสสปจฺจโย โหติเยว. สมฺมเทวาติ สุฏฺุเยว ยถา อาสวานํ เลโสปิ นาวสิสฺสติ, เอวํ สพฺพโส อาสเวหิ วิมุจฺจติ. อคฺคมคฺคกฺขณฺหิ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ.

๑๔๓. โลกิยตฺถสทฺทานํ วิย อภิรนฺต-สทฺทสฺส สิทฺธิ ทฏฺพฺพา. อภิรนฺตํ อภิรตํ อภิรตีติ หิ อตฺถโต เอกํ. อภิรนฺต-สทฺโท จายํ อภิรุจิปริยาโย, น อสฺสาทปริยาโย. อสฺสาทวเสน หิ กตฺถจิ วสนฺตสฺส อสฺสาทวตฺถุวิคเมน สิยา ตสฺส ตตฺถ อนภิรติ, ยทิทํ ขีณาสวานํ นตฺถิ, ปเคว พุทฺธานนฺติ อาห ‘‘พุทฺธานํ…เป… นตฺถี’’ติ. อภิรติวเสน กตฺถจิ วสิตฺวา ตทภาวโต อฺตฺถ คมนํ นาม พุทฺธานํ นตฺถิ. เวเนยฺยวินยนตฺถํ ปน กตฺถจิ วสิตฺวา ตสฺมึ สิทฺเธ เวเนยฺยวินยนตฺถเมว ตโต อฺตฺถ คจฺฉนฺติ, อยเมตฺถ ยถารุจิ. อายามาติ เอตฺถ อา-สทฺโท ‘‘อาคจฺฉา’’ติ อิมินา สมานตฺโถติ อาห ‘‘เอหิ ยามา’’ติ. อยามาติ ปน ปาเ -กาโร นิปาตมตฺตํ. สนฺติกาวจรตฺตา เถรํ อาลปติ, น ปน ตทา สตฺถุ สนฺติเก วสนฺตานํ ภิกฺขูนํ อภาวโต. อปริจฺฉินฺนคณโน หิ ตทา ภควโต สนฺติเก ภิกฺขุสงฺโฆ . เตนาห ‘‘มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธิ’’นฺติ. อมฺพลฏฺิกาคมนนฺติ อมฺพลฏฺิกาคมนปฏิสํยุตฺตปามาห. ปาฏลิคมเนติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. อุตฺตานเมว อนนฺตรํ, เหฏฺา จ สํวณฺณิตรูปตฺตา.

สาริปุตฺตสีหนาทวณฺณนา

๑๔๕. ‘‘อายสฺมา สาริปุตฺโต’’ติอาทิ ปาชาตํ. สมฺปสาทนีเยติ สมฺปสาทนียสุตฺเต (ที. นิ. ๓.๑๔๑) วิตฺถาริตํ โปราณฏฺกถายํ, ตสฺมา มยมฺปิ ตตฺเถว นํ อตฺถโต วิตฺถารยิสฺสามาติ อธิปฺปาโย.

ทุสฺสีลอาทีนววณฺณนา

๑๔๘. อาคนฺตฺวา วสนฺติ เอตฺถ อาคนฺตุกาติ อาวสโถ, ตเทว อคารนฺติ อาห ‘‘อาวสถาคารนฺติ อาคนฺตุกานํ อาวสถเคห’’นฺติ. ทฺวินฺนํราชูนนฺติ ลิจฺฉวิราชมคธราชูนํ. สหายกาติ เสวกา. กุลานีติ กุฏุมฺพิเก. สนฺถตนฺติ สนฺถริ, สพฺพํ สนฺถริ สพฺพสนฺถริ, ตํ สพฺพสนฺถรึ. ภาวนปุํสกนิทฺเทโส จายํ. เตนาห ‘‘ยถา สพฺพํ สนฺถตํ โหติ, เอว’’นฺติ.

๑๔๙. ทุสฺสีโลติ เอตฺถ ทุ-สทฺโท อภาวตฺโถ ‘‘ทุปฺปฺโ’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๔๔๙; อ. นิ. ๕.๑๐) วิย, น ครหตฺโถติ อาห ‘‘อสีโล นิสฺสีโล’’ติ. ภินฺนสํวโรติ เอตฺถ โย สมาทินฺนสีโล เกนจิ การเณน สีลเภทํ ปตฺโต, โส ตาว ภินฺนสํวโร โหติ. โย ปน สพฺเพน สพฺพํ อสมาทินฺนสีโล อาจารหีโน, โส กถํ ภินฺนสํวโร นาม โหตีติ? โสปิ สาธุสมาจารสฺส ปริหานิยสฺส เภทิตตฺตา ภินฺนสํวโร เอว นาม. วิสฺสฏฺสํวโร สํวรรหิโตติ หิ วุตฺตํ โหติ.

ตํ ตํ สิปฺปฏฺานํ. มาฆาตกาเลติ ‘‘มา ฆาเตถ ปาณิโน’’ติ เอวํ มาฆาตาติ โฆสนํ โฆสิตทิวเส.

อพฺภุคฺคจฺฉติ ปาปโก กิตฺติสทฺโท.

อชฺฌาสเยน มงฺกุ โหติเยว วิปฺปฏิสาริภาวโต.

ตสฺสาติ ทุสฺสีลสฺส. สมาทาย ปวตฺติฏฺานนฺติ อุฏฺาย สมุฏฺาย กตการณํ. อาปาถํ อาคจฺฉตีติ ตํ มนโส อุปฏฺาติ. อุมฺมีเลตฺวา อิธโลกนฺติ อุมฺมีลนกาเล อตฺตโน ปุตฺตทาราทิทสฺสนวเสน อิธ โลกํ ปสฺสติ. นิมีเลตฺวา ปรโลกนฺติ นิมีลนกาเล คตินิมิตฺตุปฏฺานวเสน ปรโลกํ ปสฺสติ. เตนาห ‘‘จตฺตาโร อปายา’’ติอาทิ. ปฺจมปทนฺติ ‘‘กายสฺส เภทา’’ติอาทินา วุตฺโต ปฺจโม อาทีนวโกฏฺาโส.

สีลวนฺตอานิสํสวณฺณนา

๑๕๐. วุตฺตวิปริยาเยนาติ วุตฺตาย อาทีนวกถาย วิปริยาเยน. ‘‘อปฺปมตฺโต ตํ ตํ กสิวาณิชฺชาทึ ยถากาลํ สมฺปาเทตุํ สกฺโกตี’’ติอาทินา ‘‘ปาสํสํ สีลมสฺส อตฺถีติ สีลวา. สีลสมฺปนฺโนติ สีเลน สมนฺนาคโต. สมฺปนฺนสีโล’’ติ เอวมาทิกํ ปน อตฺถวจนํ สุกรนฺติ อนามฏฺํ.

๑๕๑. ปาฬิมุตฺตกายาติ สงฺคีติอนารุฬฺหาย ธมฺมิกถาย. ตตฺเถวาติ อาวสถาคาเร เอว.

ปาฏลิปุตฺตนครมาปนวณฺณนา

๑๕๒. อิสฺสริยมตฺตายาติ อิสฺสริยปฺปมาเณน, อิสฺสริเยน เจว วิตฺตูปกรเณน จาติ เอวํ วา อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อุปโภคูปกรณานิปิ หิ โลเก ‘‘มตฺตา’’ติ วุจฺจนฺติ. ปาฏลิคามํ นครํ กตฺวาติ ปุพฺเพ ‘‘ปาฏลิคาโม’’ติ ลทฺธนามํ านํ อิทานิ นครํ กตฺวา. มาเปนฺตีติ ปติฏฺาเปนฺติ. อายมุขปจฺฉินฺทนตฺถนฺติ อายทฺวารานํ อุปจฺเฉทนาย. ‘‘สหสฺสเสวา’’ติ วา ปาโ, สหสฺสโส เอว. เตนาห ‘‘เอเกกวคฺควเสน สหสฺสํ สหสฺสํ หุตฺวา’’ติ. ฆรวตฺถูนีติ ฆรปติฏฺาปนฏฺานานิ. จิตฺตานิ นมนฺตีติ ตํตํเทวตานุภาเวน ตตฺถ ตตฺเถว จิตฺตานิ นมนฺติ วตฺถุวิชฺชาปากานํ, ยตฺถ ยตฺถ ตาหิ วตฺถูนิ ปริคฺคหิตานิ. สิปฺปานุภาเวนาติ สิปฺปานุคตวิชฺชานุภาเวน. นาคคฺคาโหติ นาคานํ นิวาสปฺปริคฺคโห. เสสทฺวเยสุปิ เอเสว นโย. ปาสาโณติ อปฺปลกฺขณปาสาโณ. ขาณุโกติ โย โกจิ ขาณุโก . สิปฺปํ ชปฺปิตฺวา ตาทิสํ สารมฺภฏฺานํ ปริหริตฺวา อนารมฺเภ าเน ตาหิ วตฺถุปริคฺคาหิกาหิ เทวตาหิ สทฺธึ มนฺตยมานาวิย ตํตํเคหานิ มาเปนฺติ อุปเทสทานวเสน. เนสนฺติ วตฺถุวิชฺชาปากานํ, สพฺพาสํ เทวตานํ. มงฺคลํ วฑฺฒาเปสฺสนฺตีติ มงฺคลํ พฺรูเหสฺสนฺติ. ปณฺฑิตทสฺสนาทีนิ หิ อุตฺตมมงฺคลานิ. เตนาห ‘‘อถ มย’’นฺติอาทิ.

สทฺโท อพฺภุคฺคจฺฉติ อวยวธมฺเมน สมุทายสฺส อปทิสิตพฺพโต ยถา ‘‘อลงฺกโต เทวทตฺโต’’ติ.

อริยกมนุสฺสานนฺติ อริยเทสวาสิมนุสฺสานํ. ราสิวเสเนวาติ ‘‘สหสฺสํ สตสหสฺส’’นฺติอาทินา ราสิวเสเนว, อปฺปกสฺส ปน ภณฺฑสฺส กยวิกฺกโย อฺตฺถาปิ ลพฺภเตวาติ ‘‘ราสิวเสเนวา’’ติ วุตฺตํ. วาณิชาย ปโถ ปวตฺติฏฺานนฺติ วณิปฺปโถติ ปุริมวิกปฺเป อตฺโถ ทุติยวิกปฺเป ปน วาณิชานํ ปโถ ปวตฺติฏฺานนฺติ, วณิปฺปโถติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘วาณิชานํ วสนฏฺาน’’นฺติ อาห. ภณฺฑปุเฏ ภินฺทนฺติ โมเจนฺติ เอตฺถาติ ปุฏเภทนนฺติ อยเมตฺถ อตฺโถติ อาห ‘‘ภณฺฑปุเฏ…เป… วุตฺตํ โหตี’’ติ.

จ-การตฺโถ สมุจฺจยตฺโถ วา-สทฺโท.

๑๕๓. กาฬกณฺณี สตฺตาติ อตฺตนา กณฺหธมฺมพหุลตาย ปเรสฺจ กณฺหวิปากานตฺถนิพฺพตฺตินิมิตฺตตาย ‘‘กาฬกณฺณี’’ติ ลทฺธนามา ปรูปทฺทวกรา อปฺเปสกฺขสตฺตา. นฺติ ภควนฺตํ. ปุพฺพณฺหสมยนฺติ ปุพฺพณฺเห เอกํ สมยํ. คามปฺปวิสนนีหาเรนาติ คามปฺปเวสน นิวสนากาเรน. กายปฏิพทฺธํ กตฺวาติ จีวรํ ปารุปิตฺวา, ปตฺตํ หตฺเถน คเหตฺวาติ อตฺโถ.

เอตฺถาติ เอตสฺมึ วา สกปฺปิตปฺปเทเส. สฺเตติ สมฺมเทว สฺเต สุสํวุตกายวาจาจิตฺเต.

ปตฺตึ ทเทยฺยาติ อตฺตนา ปสุตํ ปุฺํ ตาสํ เทวตานํ อนุปฺปทชฺเชยฺย. ‘‘ปูชิตา’’ติอาทีสุ ตเทว ปตฺติทานํ ปูชา, อนาคเต เอว อุปทฺทเว อารกฺขสํวิธานํ ปฏิปูชา. ‘‘เยภุยฺเยน าติมนุสฺสา าติเปตานํ ปตฺติทานาทินา ปูชนมานนาทีนิ กโรนฺติ อิเม ปน อฺาตกาปิ สมานา ตถา กโรนฺติ, ตสฺมา เนสํ สกฺกจฺจํ อารกฺขา สํวิธาตพฺพา’’ติ อฺมฺํ สมฺปวาเรตฺวา เทวตา ตตฺถ อุสฺสุกฺกํ อาปชฺชนฺตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิเม’’ติอาทิมาห. พลิกมฺมกรณํ มานนํ, สมฺปติ อุปฺปนฺนปริสฺสยหรณํ ปฏิมานนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘เอเต’’ติอาทิ วุตฺตํ.

สุนฺทรานิ ปสฺสตีติ สุนฺทรานิ อิฏฺานิ เอว ปสฺสติ, น อนิฏฺานิ.

๑๕๔. อาณิโย โกฏฺเฏตฺวาติ ลหุเก ทารุทณฺเฑ คเหตฺวา กวาฏผลเก วิย อฺมฺํ สมฺพนฺเธ กาตุํ อาณิโย โกฏฺเฏตฺวา. นาวาสงฺเขเปน กตํ อุฬุมฺปํ, เวฬุนฬาทิเก สงฺฆริตฺวา วลฺลิอาทีหิ กลาปวเสน พนฺธิตฺวา กตฺตพฺพํ กุลฺลํ.

อุทกฏฺานสฺเสตํ อธิวจนนฺติ ยถาวุตฺตสฺส ยสฺส กสฺสจิ อุทกฏฺานสฺส เอตํ ‘‘อณฺณว’’นฺติ อธิวจนํ, สมุทฺทสฺเสวาติ อธิปฺปาโย. สรนฺติ อิธ นที อธิปฺเปตา สรติ สนฺทตีติ กตฺวา. คมฺภีรวิตฺถตนฺติ อคาธฏฺเน คมฺภีรํ, สกลโลกตฺตยพฺยาปิตาย วิตฺถตํ. วิสชฺชาติ อนาสชฺช อปฺปตฺวา. ปลฺลลานิ เตสํ อตรณโต. วินาเยว กุลฺเลนาติ อีทิสํ อุทกํ กุลฺเลน อีทิเสน วินา เอว ติณฺณา เมธาวิโน ชนา, ตณฺหาสรํ ปน อริยมคฺคสงฺขาตํ เสตุํ กตฺวา นิตฺติณฺณาติ โยชนา.

ปมภาณวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

อริยสจฺจกถาวณฺณนา

๑๕๕. มหาปนาทสฺส รฺโ. ปาสาทโกฏิยํกตคาโมติ ปาสาทสฺส ปติตถุปิกาย ปติฏฺิตฏฺาเน นิวิฏฺคาโม. อริยภาวกรานนฺติ เย ปฏิวิชฺฌนฺติ, เตสํ อริยภาวกรานํ นิมิตฺตสฺส กตฺตุภาวูปจารวเสเนว วุตฺตํ. ตจฺฉาวิปลฺลาสภูตภาเวน สจฺจานํ. อนุโพโธ ปุพฺพภาคิยํ าณํ, ปฏิเวโธ มคฺคาเณน อภิสมโย, ตตฺถ ยสฺมา อนุโพธปุพฺพโก ปฏิเวโธ อนุโพเธน วินา น โหติ, อนุโพโธปิ เอกจฺโจ ปฏิเวเธน สมฺพนฺโธ, ตทุภยาภาวเหตุกฺจ วฏฺเฏว สํสรณํ, ตสฺมา วุตฺตํ ปาฬิยํ ‘‘อนนุโพธา…เป… ตุมฺหากฺจา’’ติ. ปฏิสนฺธิคฺคหณวเสน ภวโต ภวนฺตรูปคมนํ สนฺธาวนํ, อปราปรํ จวนุปปชฺชนวเสน สฺจรณํ สํสรณนฺติ อาห ‘‘ภวโต’’ติอาทิ. สนฺธาวิตสํสริตปทานํ กมฺมสาธนตํ สนฺธายาห ‘‘มยา จ ตุมฺเหหิ จา’’ติ ปมวิกปฺเป. ทุติยวิกปฺเป ปน ภาวสาธนตํ หทเย กตฺวา ‘‘มมฺเจว ตุมฺหากฺจา’’ติ ยถารุตวเสเนว วุตฺตํ. นยนสมตฺถาติ ปาปนสมตฺถา, ทีฆรชฺชุนา พทฺธสกุณํ วิย รชฺชุหตฺโถ ปุริโส เทสนฺตรํ ตณฺหารชฺชุนา พทฺธํ สตฺตสนฺตานํ อภิสงฺขาโร ภวนฺตรํ เนติ เอตายาติ ภวเนตฺติ, ตณฺหา, สา อริยมคฺคสตฺเถน สุฏฺุ หตา ฉินฺนาติ ภวเนตฺติสมูหตา.

อนาวตฺติธมฺมสมฺโพธิปรายณวณฺณนา

๑๕๖. ทฺเว คามา ‘‘นาติกา’’ติ เอวํ ลทฺธนาโม, -การสฺส จายํ น-การาเทเสน นิทฺเทโส ‘‘อนิมิตฺตา น นายเร’’ติอาทีสุ (วิสุทฺธิ. ๑.๑๗๔; ชา. อฏฺ. ๒.๒.๓๔) วิย. เตนาห ‘‘าติคามเก’’ติ . คิฺชกา วุจฺจนฺติ อิฏฺกา, คิฺชกาหิ เอว กโต อาวสโถติ คิฺชกาวสโถ. โส กิร อาวาโส ยถา สุธาปริกมฺเมน สมฺปโยชนํ นตฺถิ, เอวํ อิฏฺกาหิ เอว จินิตฺวา ฉาเทตฺวา กโต. เตน วุตฺตํ ‘‘อิฏฺกามเย อาวสเถ’’ติ. ตุลาทณฺฑกวาฏผลกานิ ปน ทารุมยาเนว.

๑๕๗. โอรํ วุจฺจติ กามธาตุ, ปจฺจยภาเวน ตํ โอรํ ภชนฺตีติ โอรมฺภาคิยานิ, โอรมฺภาคสฺส วา หิตานิ โอรมฺภาคิยานิ. เตนาห ‘‘เหฏฺาภาคิยาน’’นฺติอาทิ. ตีหิ มคฺเคหีติ เหฏฺิเมหิ ตีหิ มคฺเคหิ. เตหิ ปหาตพฺพตาย หิ เนสํ สํโยชนานํ โอรมฺภาคิยตา. โอรมฺภฺชิยานิ วา โอรมฺภาคิยานิ วุตฺตานิ นิรุตฺตินเยน. อิทานิ พฺยติเรกมุเขน เนสํ โอรมฺภาคิยภาวํ วิภาเวตุํ ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิ วุตฺตํ. วิกฺขมฺภิตานิ สมตฺถตาวิฆาเตน ปุถุชฺชนานํ, สมุจฺฉินฺนานิ สพฺพโส อภาเวน อริยานํ รูปารูปภวูปปตฺติยา วิพนฺธาย น โหนฺตีติ วุตฺตํ ‘‘อวิกฺขมฺภิตานิ อสมุจฺฉินฺนานี’’ติ. นิพฺพตฺตวเสนาติ ปฏิสนฺธิคฺคหณวเสน. คนฺตุํ น เทนฺติ มหคฺคตคามิกมฺมายูหนสฺส วินิพนฺธนโต. สกฺกายทิฏฺิอาทีนิ ตีณิ สํโยชนานิ กามจฺฉนฺทพฺยาปาทา วิย มหคฺคตูปปตฺติยา อวินิพนฺธภูตานิปิ กามภวูปปตฺติยา วิเสสปจฺจยตฺตา ตตฺถ มหคฺคตภเว นิพฺพตฺตมฺปิ ตนฺนิพฺพตฺติเหตุกมฺมปริกฺขเย กามภวูปปตฺติปจฺจยตาย มหคฺคตภวโต อาเนตฺวา ปุน อิเธว กามภเว เอว นิพฺพตฺตาเปนฺติ, ตสฺมา สพฺพานิปิ ปฺจปิ สํโยชนานิ โอรมฺภาคิยานิ เอว. ปฏิสนฺธิวเสน อนาคมนสภาวาติ ปฏิสนฺธิคฺคหณวเสน ตสฺมา โลกา อิธ น อาคมนสภาวา. พุทฺธทสฺสนเถรทสฺสนธมฺมสฺสวนานํ ปนตฺถายสฺส อาคมนํ อนิวาริตํ.

กทาจิ กรหจิ อุปฺปตฺติยา สวิรฬาการตา ปริยุฏฺานมนฺทตาย อพหลตาติ ทฺเวธาปิ ตนุภาโว. อภิณฺหนฺติ พหุโส. พหลพหลาติ ติพฺพติพฺพา. ยตฺถ อุปฺปชฺชนฺติ, ตํ สนฺตานํ มทฺทนฺตา, ผรนฺตา, สาเธนฺตา, อนฺธการํ กโรนฺตา อุปฺปชฺชนฺติ, ทฺวีหิ ปน มคฺเคหิ ปหีนตฺตา ตนุกตนุกา มนฺทมนฺทา อุปฺปชฺชนฺติ. ‘‘ปุตฺตธีตโร โหนฺตี’’ติ อิทํ อการณํ. ตถา หิ องฺคปจฺจงฺคปรามสนมตฺเตนปิ เต โหนฺติ. อิทนฺติ ‘‘ราคโทสโมหานํ ตนุตฺตา’’ติ อิทํ วจนํ. ภวตนุกวเสนาติ อปฺปกภววเสน. นฺติ มหาสิวตฺเถรสฺส วจนํ ปฏิกฺขิตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. เย ภวา อริยานํ ลพฺภนฺติ, เต ปริปุณฺณลกฺขณภวา เอว. เย น ลพฺภนฺติ, ตตฺถ กีทิสํ ตํ ภวตนุกํ, ตสฺมา อุภยถาปิ ภวตนุกสฺส อสมฺภโว เอวาติ ทสฺเสตุํ ‘‘โสตาปนฺนสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อฏฺเม ภเว ภวตนุกํ นตฺถิ อฏฺมสฺเสว ภวสฺส สพฺพสฺเสว อภาวโต. เสเสสุปิ เอเสว นโย.

กามาวจรโลกํสนฺธาย วุตฺตํ อิตรสฺส โลกสฺส วเสน ตถา วตฺตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา. โย หิ สกทาคามี เทวมนุสฺสโลเกสุ โวมิสฺสกวเสน นิพฺพตฺตติ, โสปิ กามภววเสเนว ปริจฺฉินฺทิตพฺโพ. ภควตา จ กามโลเก ตฺวา ‘‘สกิเทว อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวา’’ติ วุตฺตํ, ‘‘อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวา’’ติ จ อิมินา ปฺจสุ สกทาคามีสุ จตฺตาโร วชฺเชตฺวา เอโกว คหิโต. เอกจฺโจ หิ อิธ สกทาคามิผลํ ปตฺวา อิเธว ปรินิพฺพายติ, เอกจฺโจ อิธ ปตฺวา เทวโลเก ปรินิพฺพายติ, เอกจฺโจ เทวโลเก ปตฺวา ตตฺเถว ปรินิพฺพายติ, เอกจฺโจ เทวโลเก ปตฺวา อิธูปปชฺชิตฺวา ปรินิพฺพายติ, อิเม จตฺตาโร อิธ น ลพฺภนฺติ. โย ปน อิธ ปตฺวา เทวโลเก ยาวตายุกํ วสิตฺวา ปุน อิธูปปชฺชิตฺวา ปรินิพฺพายติ, อยํ อิธ อธิปฺเปโต. อฏฺกถายํ ปน อิมํ โลกนฺติ กามภโว อธิปฺเปโตติ อิมมตฺถํ วิภาเวตุํ ‘‘สเจ หี’’ติอาทินา อฺํเยว จตุกฺกํ ทสฺสิตํ.

จตูสุ…เป… สภาโวติ อตฺโถ อปายคมนียานํ ปาปธมฺมานํ สพฺพโส ปหีนตฺตา. ธมฺมนิยาเมนาติ มคฺคธมฺมนิยาเมน. นิยโต อุปริมคฺคาธิคมสฺส อวสฺสํภาวิภาวโต. เตนาห ‘‘สมฺโพธิปรายโณ’’ติ.

ธมฺมาทาสธมฺมปริยายวณฺณนา

๑๕๘. เตสํ เตสํ าณคตินฺติ เตสํ เตสํ สตฺตานํ ‘‘อสุโก โสตาปนฺโน, อสุโก สกทาคามี’’ติอาทินา ตํตําณาธิคมนํ. าณูปปตฺตึ าณาภิสมฺปรายนฺติ ตโต ปรมฺปิ ‘‘นิยโต สมฺโพธิปรายโณ, สกิเทว อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสตี’’ติอาทินา จ าณสหิตํ อุปฺปตฺติปจฺจยภาวํ. โอโลเกนฺตสฺส าณจกฺขุนา เปกฺขนฺตสฺส กายกิลมโถว, น เตน กาจิ เวเนยฺยานํ อตฺถสิทฺธีติ อธิปฺปาโย. จิตฺตวิเหสาติ จิตฺตเขโท, สา กิเลสูปสํหิตตฺตา พุทฺธานํ นตฺถิ. อาทียติ อาโลกียติ อตฺตา เอเตนาติ อาทาสํ, ธมฺมภูตํ อาทาสํ ธมฺมาทาสํ, อริยมคฺคาณสฺเสตํ อธิวจนํ, เตน อริยสาวกา จตูสุ อริยสจฺเจสุ วิทฺธสฺตสมฺโมหตฺตา อตฺตานมฺปิ ยาถาวโต ตฺวา ยาถาวโต พฺยากเรยฺย, ตปฺปกาสนโต ปน ธมฺมปริยายสฺส สุตฺตสฺส ธมฺมาทาสตา เวทิตพฺพา. เยน ธมฺมาทาเสนาติ อิธ ปน มคฺคธมฺมเมว วทติ.

อเวจฺจ ยาถาวโต ชานิตฺวา ตนฺนิมิตฺตอุปฺปนฺนปสาโท อเวจฺจปสาโท, มคฺคาธิคเมน อุปฺปนฺนปสาโท , โส ปน ยสฺมา ปาสาณปพฺพโต วิย นิจฺจโล, น จ เกนจิ การเณน วิคจฺฉติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘อจเลน อจฺจุเตนา’’ติ.

‘‘ปฺจสีลานี’’ติ คหฏฺวเสเนตํ วุตฺตํ เตหิ เอกนฺตปริหรณียโต. อริยานํ ปน สพฺพานิ สีลานิ กนฺตาเนว. เตนาห ‘‘สพฺโพปิ ปเนตฺถ สํวโร ลพฺภติเยวา’’ติ.

สพฺเพสนฺติ สพฺเพสํ อริยานํ. สิกฺขาปทาวิโรเธนาติ ยถา ภูตโรจนาปตฺติ น โหติ, เอวํ. ยุตฺตฏฺาเนติ กาตุํ ยุตฺตฏฺาเน.

อมฺพปาลีคณิกาวตฺถุวณฺณนา

๑๖๑. ตทา กิร เวสาลี อิทฺธา ผีตา สพฺพงฺคสมฺปนฺนา อโหสิ เวปุลฺลปฺปตฺตา, ตํ สนฺธายาห ‘‘ขนฺธเก วุตฺตนเยน เวสาลิยา สมฺปนฺนภาโว เวทิตพฺโพ’’ติ. ตสฺมึ กิร ภิกฺขุสงฺเฆ ปฺจสตมตฺตา ภิกฺขู นวา อจิรปพฺพชิตา อเหสุํ โอสนฺนวีริยา จ. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘ตตฺถ กิร เอกจฺเจ ภิกฺขู โอสนฺนวีริยา’’ติอาทิ (ที. นิ. อฏฺ. ๒.๑๖๕). สติปจฺจุปฏฺานตฺถนฺติ เตสํ สติปจฺจุปฏฺาปนตฺถํ. สรตีติ กายาทิเก ยถาสภาวโต าณสมฺปยุตฺตาย สติยา อนุสฺสรติ อุปธาเรติ. สมฺปชานาตีติ สมํ ปกาเรหิ ชานาติ อวพุชฺฌติ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน ปรโต สติปฏฺานวณฺณนายํ (ที. นิ. อฏฺ. ๒.๓๗๓; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๐๖) อาคมิสฺสติ.

สพฺพสงฺคาหกนฺติ สรีรคตสฺส เจว วตฺถาลงฺการคตสฺส จาติ สพฺพสฺส นีลภาวสฺส สงฺคาหกํ วจนํ. ตสฺเสวาติ นีลาติ สพฺพสงฺคาหกวเสน วุตฺตอตฺถสฺเสว. วิภาคทสฺสนนฺติ ปเภททสฺสนํ. ยถา เต ลิจฺฉวิราชาโน อปีตาทิวณฺณา เอว เกจิ วิเลปนวเสน ปีตาทิวณฺณา ขายึสุ, เอวํ อนีลาทิวณฺณา เอว เกจิ วิเลปนวเสน นีลาทิวณฺณา ขายึสูติ วุตฺตํ ‘‘น เตสํ ปกติวณฺโณ นีโล’’ติอาทิ. นีโล มณิ เอเตสูติ นีลมณิ, อินฺทนีลมหานีลาทินีลรตนวินทฺธา อลงฺการา. เต กิร สุวณฺณวิรจิเต หิ มณิโอภาเสหิ เอกนีลา วิย ขายนฺติ. นีลมณิขจิตาติ นีลรตนปริกฺขิตฺตา. นีลวตฺถปริกฺขิตฺตาติ นีลวตฺถนีลกมฺปลปริกฺเขปา. นีลวมฺมิเกหีติ นีลกฆฏปริกฺขิตฺเตหิ. สพฺพปเทสูติ ‘‘ปีตา โหนฺตี’’ติอาทิสพฺพปเทสุ. ปริวฏฺเฏสีติ ปฏิฆฏฺเฏสิ. อาหรนฺติ อิมสฺมา ราชปุริสา พลินฺติ อาหาโร, ตปฺปตฺตชนปโทติ อาห ‘‘สาหารนฺติ สชนปท’’นฺติ. องฺคุลิโผโฏปิ องฺคุลิยา จาลนวเสเนว โหตีติ วุตฺตํ ‘‘องฺคุลึ จาเลสุ’’นฺติ. อมฺพกายาติ มาตุคาเมน. อุปจารวจนํ เหตํ อิตฺถีสุ, ยทิทํ ‘‘อมฺพกา มาตุคาโม ชนนิกา’’ติ.

อวโลเกถาติ อปวตฺติตฺวา โอโลกนํ โอโลเกถ. ตํ ปน อปวตฺติตฺวา โอโลกนํ อนุ อนุ ทสฺสนํ โหตีติ อาห ‘‘ปุนปฺปุนํ ปสฺสถา’’ติ. อุปเนถาติ ‘‘ยถายํ ลิจฺฉวิราชปริสา โสภาติสเยน ยุตฺตา, เอวํ ตาวตึสปริสา’’ติ อุปนยํ กโรถ. เตนาห ‘‘ตาวตึเสหิ สมเก กตฺวา ปสฺสถา’’ติ.

‘‘อุปสํหรถ ภิกฺขเว ลิจฺฉวิปริสํ ตาวตึสสทิส’’นฺติ นยิทํ นิมิตฺตคฺคาเห นิโยชนํ, เกวลํ ปน ทิพฺพสมฺปตฺติสทิสา เอเตสํ ราชูนํ อิสฺสริยสมฺปตฺตีติ อนุปุพฺพิกถาย สคฺคสมฺปตฺติกถนํ วิย ทฏฺพฺพํ. เตสุ ปน ภิกฺขูสุ เอกจฺจานํ ตตฺถ นิมิตฺตคฺคาโหปิ สิยา, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘นิมิตฺตคฺคาเห อุยฺโยเชตี’’ติ. หิตกามตาย เตสํ ภิกฺขูนํ ยถา อายสฺมโต นนฺทสฺส หิตกามตาย สคฺคสมฺปตฺติทสฺสนํ. เตนาห ‘‘ตตฺร กิรา’’ติอาทิ. โอสนฺนวีริยาติ สมฺมาปฏิปตฺติยํ อวสนฺนวีริยา, โอสฺสฏฺวีริยา วาติ อตฺโถ. อนิจฺจลกฺขณวิภาวนตฺถนฺติ เตสํ ราชูนํ วเสน ภิกฺขูนํ อนิจฺจลกฺขณวิภูตภาวตฺถํ.

เวฬุวคามวสฺสูปคมนวณฺณนา

๑๖๓. สมีเป เวฬุวคาโมติ ปุพฺพณฺหํ วา สายนฺหํ วา คนฺตฺวา นิวตฺตนโยคฺเย อาสนฺนฏฺาเน นิวิฏฺา ปริวารคาโม. สงฺคมฺมาติ สมฺมา คนฺตฺวา. อสฺสาติ ภควโต.

๑๖๔. ผรุโสติ กกฺขโฬ, ครุตโรติ อตฺโถ. วิสภาคโรโคติ ธาตุวิสภาคตาย สมุฏฺิโต พหลตรโรโค, น อาพาธมตฺตํ. าเณน ปริจฺฉินฺทิตฺวาติ เวทนานํ ขณิกตํ, ทุกฺขตํ, อตฺตสุฺตฺจ ยาถาวโต าเณน ปริจฺฉิชฺช ปริตุเลตฺวา. อธิวาเสสีติ ตา อภิภวนฺโต ยถาปริมทฺทิตาการสลฺลกฺขเณน อตฺตนิ อาโรเปตฺวา วาเสสิ, น ตาหิ อภิภุยฺยมาโน. เตนาห ‘‘อวิหฺมาโน’’ติอาทิ. อทุกฺขิยมาโนติ เจโตทุกฺขวเสน อทุกฺขิยมาโน , กายทุกฺขํ ปน ‘‘นตฺถี’’ติ น สกฺกา วตฺตุํ. อสติ หิ ตสฺมึ อธิวาสนาย เอว อสมฺภโวติ. อนามนฺเตตฺวาติ อนาลปิตฺวา. อนปโลเกตฺวาติ อวิสฺสชฺชิตฺวา. เตนาห ‘‘โอวาทานุสาสนึ อทตฺวาติ วุตฺตํ โหตี’’ติ. ปุพฺพภาควีริเยนาติ ผลสมาปตฺติยา ปริกมฺมวีริเยน. ผลสมาปตฺติวีริเยนาติ ผลสมาปตฺติสมฺปยุตฺตวีริเยน. วิกฺขมฺเภตฺวาติ วิโนเทตฺวา. ยถา นาม ปุปฺผนสมเย จมฺปกาทิรุกฺเข เวเข ทินฺเน ยาว โส เวโข นาปนียติ, ตาวสฺส ปุปฺผนสมตฺถตา วิกฺขมฺภิตา วิโนทิตา โหติ, เอวเมว ยถาวุตฺตวีริยเวขทาเนน ตา เวทนา สตฺถุ สรีเร ยถาปริจฺฉินฺนํ กาลํ วิกฺขมฺภิตา วิโนทิตา อเหสุํ. เตน วุตฺตํ ‘‘วิกฺขมฺเภตฺวาติ วิโนเทตฺวา’’ติ. ชีวิตมฺปิ ชีวิตสงฺขาโร กมฺมุนา สงฺขรียตีติ กตฺวา. ฉิชฺชมานํ วิโรธิปจฺจยสมาโยเคน ปโยคสมฺปตฺติยา ฆเฏตฺวา ปียติ. อธิฏฺายาติ อธิฏฺานํ กตฺวา. เตนาห ‘‘ทสมาเส มา อุปฺปชฺชิตฺถาติ สมาปตฺตึ สมาปชฺชี’’ติ. ตํ ปน ‘‘อธิฏฺานํ, ปวตฺตน’’นฺติ จ วตฺตพฺพตํ อรหตีติ วุตฺตํ ‘‘อธิฏฺหิตฺวา ปวตฺเตตฺวา’’ติ.

ขณิกสมาปตฺตีติ ตาทิสํ ปุพฺพาภิสงฺขารํ อกตฺวา านโส สมาปชฺชิตพฺพสมาปตฺติ. ปุน สรีรํ เวทนา อชฺโฌตฺถรติ สวิเสสปุพฺพาภิสงฺขารสฺส อกตตฺตา. รูปสตฺตกอรูปสตฺตกานิ วิสุทฺธิมคฺคสํวณฺณนาสุ (วิสุทฺธิ. ฏี. ๒.๗๐๖, ๗๑๗) วิตฺถาริตนเยน เวทิตพฺพานิ. สุฏฺุ วิกฺขมฺเภติ ปุพฺพาภิสงฺขารสฺส สาติสยตฺตา. อิทานิ ตมตฺถํ อุปมาย วิภาเวตุํ ‘‘ยถา นามา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อปพฺยูฬฺโหติ อปนีโต. จุทฺทสหากาเรหิ สนฺเนตฺวาติ เตสํเยว รูปสตฺตกอรูปสตฺตกานํ วเสน จุทฺทสหิ ปกาเรหิ วิปสฺสนาจิตฺตํ, สกลเมว วา อตฺตภาวํ วิสภาคโรคสฺชนิตลูขภาวนิโรคกรณาย สิเนเหตฺวา น อุปฺปชฺชิเยว สมฺมาสมฺพุทฺเธน สาติสยสมาปตฺติเวเคน สุวิกฺขมฺภิตตฺตา.

คิลาโน หุตฺวา ปุน วุฏฺิโตติ ปุพฺเพ คิลาโน หุตฺวา ปุน ตโต คิลานภาวโต วุฏฺิโต. มธุรกภาโว นาม สรีรสฺส ถมฺภิตตฺตํ, ตํ ปน ครุภาวปุพฺพกนฺติ อาห ‘‘สฺชาตครุภาโว สฺชาตถทฺธภาโว’’ติ. ‘‘นานาการโต น อุปฏฺหนฺตี’’ติ อิมินา ทิสาสมฺโมโหปิ เม อโหสิ โสกพเลนาติ ทสฺเสติ. สติปฏฺานาทิธมฺมาติ กายานุปสฺสนาทโย อนุปสฺสนาธมฺมา ปุพฺเพ วิภูตา หุตฺวา อุปฏฺหนฺตาปิ อิทานิ มยฺหํ ปากฏา น โหนฺติ.

๑๖๕. อพฺภนฺตรํ กโรติ นาม อตฺตนิเยว ปนโต. ปุคฺคลํ อพฺภนฺตรํ กโรติ นาม สมานตฺตตาวเสน ธมฺเมน ปุพฺเพ ตสฺส สงฺคณฺหโต. ทหรกาเลติ อตฺตโน ทหรกาเล. กสฺสจิ อกเถตฺวาติ กสฺสจิ อตฺตโน อนฺเตวาสิกสฺส อุปนิคูหภูตํ คนฺถํ อกเถตฺวา. มุฏฺึ กตฺวาติ มุฏฺิคตํ วิย รหสิภูตํ กตฺวา. ยสฺมึ วา นฏฺเ สพฺโพ ตํมูลโก ธมฺโม วินสฺสติ, โส อาทิโต มูลภูโต ธมฺโม, มุสฺสติ วินสฺสติ ธมฺโม เอเตน นฏฺเนาติ มุฏฺิ, ตํ ตถารูปํ มุฏฺึ กตฺวา ปริหริตฺวา ปิตํ กิฺจิ นตฺถีติ ทสฺเสติ.

อหเมวาติ อวธารณํ ภิกฺขุสงฺฆปริหรณสฺส อฺสาธารณิจฺฉาทสฺสนตฺถํ, อวธารเณน ปน วินา ‘‘อหํ ภิกฺขุสงฺฆ’’นฺติอาทิ ภิกฺขุสงฺฆปริหรเณ อหํการมมํการาภาวทสฺสนนฺติ ทฏฺพฺพํ. อุทฺทิสิตพฺพฏฺเนาติ ‘‘สตฺถา’’ติ อุทฺทิสิตพฺพฏฺเน. มา วาอเหสุํ ภิกฺขูติ อธิปฺปาโย. ‘‘มา วา อโหสี’’ติ วา ปาโ. เอวํ น โหตีติ ‘‘อหํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปริหริสฺสามี’’ติอาทิ อากาเรน จิตฺตปฺปวตฺติ น โหติ. ‘‘ปจฺฉิมวยอนุปฺปตฺตภาวทีปนตฺถํ วุตฺต’’นฺติ อิมินา วโย วิย พุทฺธกิจฺจมฺปิ ปริโยสิตกมฺมนฺติ ทีเปติ. สกฏสฺส พาหปฺปเทเส ทฬฺหีภาวาย เวทานํ พาหพนฺโธ. จกฺกเนมิสนฺธีนํ ทฬฺหีภาวาย เวทานํ จกฺกพนฺโธ.

ตมตฺถนฺติ เวมิสฺสเกน มฺเติ วุตฺตมตฺถํ. รูปาทโย เอว ธมฺมา สวิคฺคโห วิย อุปฏฺานโต รูปนิมิตฺตาทโย, เตสํ รูปนิมิตฺตาทีนํ. โลกิยานํ เวทนานนฺติ ยาสํ นิโรธเนน ผลสมาปตฺติ สมาปชฺชิตพฺพา, ตาสํ นิโรธา ผาสุ โหติ, ตถา พาฬฺหเวทนาภิตุนฺนสรีรสฺสาปิ. ตทตฺถายาติ ผลสมาปตฺติวิหารตฺถาย. ทฺวีหิ ภาเคหิ อาโป คโต เอตฺถาติ ทีโป, โอเฆน ปริคโต หุตฺวา อนชฺโฌตฺถโฏ ภูมิภาโค, อิธ ปน จตูหิปิ โอเฆหิ, สํสารมโหเฆเนว วา อนชฺโฌตฺถโฏ อตฺตา ‘‘ทีโป’’ติ อธิปฺเปโต. เตนาห ‘‘มหาสมุทฺทคตา’’ติอาทิ. อตฺตสฺสรณาติ อตฺตปฺปฏิสรณา. อตฺตคติกา วาติ อตฺตปรายณาว . มา อฺคติกาติ อฺํ กิฺจิ คตึ ปฏิสรณํ ปรายณํ มา จินฺตยิตฺถ. กสฺมา? อตฺตา นาเมตฺถ ปรมตฺถโต ธมฺโม อพฺภนฺตรฏฺเน, โส เอวํ สมฺปาทิโต ตุมฺหากํ ทีปํ ตาณํ คติ ปรายณนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ธมฺมทีปา’’ติอาทิ. ตถา จาห ‘‘อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ, โก หิ นาโถ ปโร สิยา’’ติ (ธ. ป. ๑๖๐, ๓๘๐) อุปเทสมตฺตเมว หิ ปรสฺมึ ปฏิพทฺธํ, อฺา สพฺพา สมฺปตฺติ ปุริสสฺส อตฺตาธีนา เอว. เตนาห ภควา ‘‘ตุมฺเหหิ กิจฺจํ อาตปฺปํ, อกฺขาตาโร ตถาคตา’’ติ (ธ. ป. ๒๗๖). ตมคฺเคติ ตมโยคสฺส อคฺเค ตสฺส อติกฺกนฺตาภาวโต. เตเนวาห ‘‘อิเม อคฺคตมา’’ติอาทิ. มมาติ มม สาสเน. สพฺเพปิ เต จตุสติปฏฺานโคจรา วาติ จตุพฺพิธํ สติปฏฺานํ ภาเวตฺวา พฺรูเหตฺวา ตเทว โคจรํ อตฺตโน ปวตฺติฏฺานํ กตฺวา ิตา เอว ภิกฺขู อคฺเค ภวิสฺสนฺติ.

ทุติยภาณวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

นิมิตฺโตภาสกถาวณฺณนา

๑๖๖. อเนกวารํ ภควา เวสาลิยํ วิหรติ, ตสฺมา อิมํ เวสาลิปฺปเวสนํ นิยเมตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘กทา ปาวิสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา อาคมนโต ปฏฺาย ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ภควา กิรา’’ติอาทิมาห. อาคตมคฺเคเนวาติ ปุพฺเพ ยาว เวฬุวคามกา อาคตมคฺเคเนว ปฏินิวตฺเตนฺโต. ยถาปริจฺเฉเทนาติ ยถาปริจฺฉินฺนกาเลน. ตโตติ ผลสมาปตฺติโต. อยนฺติ อิทานิ วุจฺจมานากาโร. ทิวาฏฺาโนโลกนาทิ ปรินิพฺพานสฺส เอกนฺติกภาวทสฺสนํ. โอสฺสฏฺโติ วิสฺสฏฺโ อายุสงฺขาโร ‘‘สตฺตาหเมว มยา ชีวิตพฺพ’’นฺติ.

เชฏฺกนิฏฺภาติกานนฺติ สพฺเพว สพฺรหฺมจาริโน สนฺธาย วทติ.

ปฏิปาเทสฺสามีติ มคฺคปฏิปตฺติยา นิโยเชสฺสามิ. มณิผลเกติ มณิขจิเต ปมุเข อตฺถตผลเก. ตํ ปมํทสฺสนนฺติ ยํ เวฬุวเน ปริพฺพาชกรูเปน อาคตสฺส สิทฺธํ ทสฺสนํ, ตํ ปมทสฺสนํ. ยํ วา อโนมทสฺสิสฺส ภควโต วจนํ สทฺทหนฺเตน ตทา อภินีหารกาเล ปจฺจกฺขโต วิย ตุมฺหากํ ทสฺสนํ สิทฺธํ, ตํ ปมทสฺสนํ. ปจฺจาคมนจาริกนฺติ ปจฺจาคมนตฺถํ จาริกํ.

สตฺตาหนฺติ อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ. เถรสฺส ชาโตวรกเคหํ กิร อิตรเคหโต วิเวกฏฺํ, วิวฏงฺคณฺจ, ตสฺมา เทวพฺรหฺมานํ อุปสงฺกมนโยคฺยนฺติ ‘‘ชาโตวรกํ ปฏิชคฺคถา’’ติ วุตฺตํ. โสติ อุปเรวโต. ตํ ปวตฺตินฺติ ตตฺถ วสิตุกามตาย วุตฺตํ ตํ.

‘‘ชานนฺตาปิ ตถาคตา ปุจฺฉนฺตี’’ติ (ปารา. ๑๖, ๑๖๕) อิมินา นีหาเรน เถโร ‘‘เก ตุมฺเห’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘ตฺวํ จตูหิ มหาราเชหิ มหนฺตตโร’’ติ ปุฏฺโ อตฺตโน มหตฺตํ สตฺถุ อุปริ ปกฺขิปนฺโต ‘‘อารามิกสทิสา เอเต อุปาสิเก อมฺหากํ สตฺถุโน’’ติ อาห. สาวกสมฺปตฺติกิตฺตนมฺปิ หิ อตฺถโต สตฺถุ สมฺปตฺตึเยว วิภาเวติ.

โสตาปตฺติผเล ปติฏฺายาติ เถรสฺส เทสนานุภาเวน, อตฺตโน จ อุปนิสฺสยสมฺปตฺติยา าณสฺส ปริปกฺกตฺตา โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิตฺวา.

อยนฺติ ยถาวุตฺตา. เอตฺถาติ ‘‘เวสาลึ ปิณฺฑาย ปาวิสี’’ติ เอตสฺมึ เวสาลีปเวเส. อนุปุพฺพีกถาติ อนุปุพฺพทีปนี กถา.

๑๖๗. อุเทนยกฺขสฺส เจติยฏฺาเนติ อุเทนสฺส นาม ยกฺขสฺส อายตนภาเวน อิฏฺกาหิ จิเต มหาชนสฺส จิตฺตีกตฏฺาเน. กตวิหาโรติ ภควนฺตํ อุทฺทิสฺส กตวิหาโร. วุจฺจตีติ ปุริมโวหาเรน ‘‘อุเทนเจติย’’นฺติ วุจฺจติ. โคตมกาทีสุปีติ ‘‘โคตมกเจติย’’นฺติ เอวํ อาทีสุปิ. เอเสว นโยติ เจติยฏฺาเน กตวิหารภาวํ อติทิสติ. วฑฺฒิตาติ ภาวนาปาริปูริวเสน ปริพฺรูหิตา. ปุนปฺปุนํ กตาติ ภาวนาย พหุลีกรเณน อปราปรํ ปวตฺติตา. ยุตฺตยานํ วิย กตาติ ยถา ยุตฺตํ อาชฺยานํ เฉเกน สารถินา อธิฏฺิตํ ยถารุจิ ปวตฺตติ, เอวํ ยถารุจิปวตฺติรหตํ คมิตา. ปติฏฺานฏฺเนาติ อธิฏฺานฏฺเน. วตฺถุ วิย กตาติ สพฺพโส อุปกฺกิเลสวิโสธเนน อิทฺธิวิสยตาย ปวตฺติฏฺานภาวโต สุวิโสธิตปริสฺสยวตฺถุ วิย กตา. อธิฏฺิตาติ ปฏิปกฺขทูรีภาวโต สุภาวิตภาเวน ตํตํอธิฏฺานโยคฺยตาย ปิตา . สมนฺตโต จิตาติ สพฺพภาเคน ภาวนุปจยํ คมิตา. เตนาห ‘‘สุวฑฺฒิตา’’ติ. สุฏฺุ สมารทฺธาติ อิทฺธิภาวนาย สิขาปฺปตฺติยา สมฺมเทว สํเสวิตา.

อนิยเมนาติ ‘‘ยสฺส กสฺสจี’’ติ อนิยมวจเนน. นิยเมตฺวาติ ‘‘ตถาคตสฺสา’’ติ สรูปทสฺสเนน นิยเมตฺวา. อายุปฺปมาณนฺติ ปรมายุปฺปมาณํ วทติ, ตสฺเสว คหเณ การณํ พฺรหฺมชาลสุตฺตวณฺณนายํ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๔๐; ที. นิ. ฏี. ๑.๔๐) วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. มหาสิวตฺเถโร ปน ‘‘มหาโพธิสตฺตานํ จริมภเว ปฏิสนฺธิทายิโน กมฺมสฺส อสงฺขฺเยยฺยายุกตาสํวตฺตนสมตฺถตํ หทเย เปตฺวา พุทฺธานํ อายุสงฺขารสฺส ปริสฺสยวิกฺขมฺภนสมตฺถตา ปาฬิยํ อาคตา เอวาติ อิมํ ภทฺทกปฺปเมว ติฏฺเยฺยา’’ติ อโวจ. ‘‘ขณฺฑิจฺจาทีหิ อภิภุยฺยตี’’ติ เอเตน ยถา อิทฺธิพเลน ชราย น ปฏิฆาโต, เอวํ เตน มรณสฺสปิ น ปฏิฆาโตติ อตฺถโต อาปนฺนเมวาติ. ‘‘กฺว สโร ขิตฺโต, กฺว จ นิปติโต’’ติ อฺถา วุฏฺิเตนาปิ เถรวาเทน อฏฺกถาวจนเมว สมตฺถิตนฺติ ทฏฺพฺพํ . เตนาห ‘‘โส น รุจฺจติ…เป… นิยมิต’’นฺติ.

ปริยุฏฺิตจิตฺโตติ ยถา กิฺจิ อตฺถานตฺถํ สลฺลกฺเขตุํ น สกฺกา, เอวํ อภิภูตจิตฺโต. โส ปน อภิภโว มหตา อุทโกเฆน อปฺปกสฺส อุทกสฺส อชฺโฌตฺถรณํ วิย อโหสีติ วุตฺตํ ‘‘อชฺโฌตฺถฏจิตฺโต’’ติ. อฺโปีติ เถรโต, อริเยหิ วา อฺโปิ โย โกจิ ปุถุชฺชโน. ปุถุชฺชนคฺคหณฺเจตฺถ ยถา สพฺเพน สพฺพํ อปฺปหีนวิปลฺลาโส มาเรน ปริยุฏฺิตจิตฺโต กิฺจิ อตฺถํ สลฺลกฺเขตุํ น สกฺโกติ, เอวํ เถโร ภควตา กตํ นิมิตฺโตภาสํ สพฺพโส น สลฺลกฺเขสีติ ทสฺสนตฺถํ. เตนาห ‘‘มาโร หี’’ติอาทิ. จตฺตาโร วิปลฺลาสาติ อสุเภ ‘‘สุภ’’นฺติ สฺาวิปลฺลาโส, จิตฺตวิปลฺลาโส, ทุกฺเข ‘‘สุข’’นฺติ สฺาวิปลฺลาโส, จิตฺตวิปลฺลาโสติ อิเม จตฺตาโร วิปลฺลาสา. เตนาติ ยทิปิ อิตเร อฏฺ วิปลฺลาสา ปหีนา, ตถาปิ ยถาวุตฺตานํ จตุนฺนํ วิปลฺลาสานํ อปฺปหีนภาเวน. อสฺสาติ เถรสฺส. มทฺทตีติ ผุสนมตฺเตน มทฺทนฺโต วิย โหติ, อฺถา เตน มทฺทิเต สตฺตานํ มรณเมว สิยา. กึ สกฺขิสฺสติ, น สกฺขิสฺสตีติ อธิปฺปาโย. กสฺมา น สกฺขิสฺสติ, นนุ เอส อคฺคสาวกสฺส กุจฺฉึ ปวิฏฺโติ? สจฺจํ ปวิฏฺโ, ตฺจ โข อตฺตโน อานุภาวทสฺสนตฺถํ, น วิพาธนาธิปฺปาเยน. วิพาธนาธิปฺปาเยน ปน อิธ ‘‘กึ สกฺขิสฺสตี’’ติ วุตฺตํ หทยมทฺทนสฺส อธิคตตฺตา. นิมิตฺโตภาสนฺติ เอตฺถ ‘‘ติฏฺตุ ภควา กปฺป’’นฺติ สกลกปฺปํ อวฏฺานยาจนาย ‘‘ยสฺส กสฺสจิ อานนฺท จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ภาวิตา’’ติอาทินา อฺาปเทเสน อตฺตโน จตุริทฺธิปาทภาวนานุภาเวน กปฺปํ อวฏฺานสมตฺถตาวเสน สฺุปฺปาทนํ นิมิตฺตํ, ตถา ปน ปริยายํ มุฺจิตฺวา อุชุกํเยว อตฺตโน อธิปฺปายวิภาวนํ โอภาโส. ชานนฺโตเยว วาติ มาเรน ปริยุฏฺิตภาวํ ชานนฺโต เอว. อตฺตโน อปราธเหตุโต สตฺตานํ โสโก ตนุโก โหติ, น พลวาติ อาห ‘‘โทสาโรปเนน โสกตนุกรณตฺถ’’นฺติ. กึ ปน เถโร มาเรน ปริยุฏฺิตจิตฺตกาเล ปวตฺตึ ปจฺฉา ชานาตีติ? น ชานาติ สภาเวน, พุทฺธานุภาเวน ปน อนุชานาติ.

มารยาจนกถาวณฺณนา

๑๖๘. อนตฺเถ นิโยเชนฺโต คุณมารเณน มาเรติ, วิราควิพนฺธเนน วา ชาตินิมิตฺตตาย ตตฺถ ตตฺถ ชาตํ ชาตํ มาเรนฺโต วิย โหตีติ ‘‘มาเรตีติ มาโร’’ติ วุตฺตํ. อติวิย ปาปตาย ปาปิมา. กณฺหธมฺเมหิ สมนฺนาคโต กณฺโห. วิราคาทิคุณานํ อนฺตกรณโต อนฺตโก. สตฺตานํ อนตฺถาวหปฏิปตฺตึ น มุจฺจตีติ นมุจิ. อตฺตโน มารปาเสน ปมตฺเต พนฺธติ, ปมตฺตา วา พนฺธู เอตสฺสาติ ปมตฺตพนฺธุ. สตฺตมสตฺตาหโต ปรํ สตฺต อหานิ สนฺธายาห ‘‘อฏฺเม สตฺตาเห’’ติ น ปน ปลฺลงฺกสตฺตาหาทิ วิย นิยตกิจฺจสฺส อฏฺมสตฺตาหสฺส นาม ลพฺภนโต. สตฺตมสตฺตาหสฺส หิ ปรโต อชปาลนิคฺโรธมูเล มหาพฺรหฺมุโน, สกฺกสฺส จ เทวรฺโ ปฏิฺาตธมฺมเทสนํ ภควนฺตํ ตฺวา ‘‘อิทานิ สตฺเต ธมฺมเทสนาย มม วิสยํ อติกฺกมาเปสฺสตี’’ติ สฺชาตโทมนสฺโส หุตฺวา ิโต จินฺเตสิ ‘‘หนฺท ทานาหํ นํ อุปาเยน ปรินิพฺพาเปสฺสามิ, เอวมสฺส มโนรโถ อฺถตฺตํ คมิสฺสติ, มม จ มโนรโถ อิชฺฌิสฺสตี’’ติ . เอวํ ปน จินฺเตตฺวา ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา เอกํ อนฺตํ ิโต ‘‘ปรินิพฺพาตุ ทานิ ภนฺเต ภควา’’ติอาทินา ปรินิพฺพานํ ยาจิ, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘อฏฺเม สตฺตาเห’’ติอาทิ. ตตฺถ อชฺชาติ อายุสงฺขาโรสฺสชฺชนทิวสํ สนฺธายาห. ภควา จสฺส อภิสนฺธึ ชานนฺโตปิ ตํ อนาวิกตฺวา ปรินิพฺพานสฺส อกาลภาวเมว ปกาเสนฺโต ยาจนํ ปฏิกฺขิปิ. เตนาห ‘‘น ตาวาห’’นฺติอาทิ.

มคฺควเสน วิยตฺตาติ สจฺจสมฺปฏิเวธเวยฺยตฺติเยน พฺยตฺตา. ตเถว วินีตาติ มคฺควเสน กิเลสานํ สมุจฺเฉทวินยเนน วินีตา. ตถา วิสารทาติ อริยมคฺคาธิคเมเนว สตฺถุสาสเน เวสารชฺชปฺปตฺติยา วิสารทา , สารชฺชกรานํ ทิฏฺิวิจิกิจฺฉาทิปาปธมฺมานํ วิคเมน วิสารทภาวํ ปตฺตาติ อตฺโถ. ยสฺส สุตสฺส วเสน วฏฺฏทุกฺขโต นิสฺสรณํ สมฺภวติ, ตํ อิธ อุกฺกฏฺนิทฺเทเสน ‘‘สุต’’นฺติ อธิปฺเปตนฺติ อาห ‘‘เตปิฏกวเสนา’’ติ. ติณฺณํ ปิฏกานํ สมูโห เตปิฏกํ, ตีณิ วา ปิฏกานิ ติปิฏกํ, ติปิฏกเมว เตปิฏกํ, ตสฺส วเสน. ตเมวาติ ยํ ตํ เตปิฏกํ โสตพฺพภาเวน ‘‘สุต’’นฺติ วุตฺตํ, ตเมว. ธมฺมนฺติ ปริยตฺติธมฺมํ. ธาเรนฺตีติ สุวณฺณภาชเน ปกฺขิตฺตสีหวสํ วิย อวินสฺสนฺตํ กตฺวา สุปฺปคุณสุปฺปวตฺติภาเวน ธาเรนฺติ หทเย เปนฺติ. อิติ ปริยตฺติธมฺมวเสน พหุสฺสุตธมฺมธรภาวํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ปฏิเวธธมฺมวเสนปิ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อถ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อริยธมฺมสฺสาติ มคฺคผลธมฺมสฺส, นววิธสฺสาปิ วา โลกุตฺตรธมฺมสฺส. อนุธมฺมภูตนฺติ อธิคมาย อนุรูปธมฺมภูตํ. อนุจฺฉวิกปฏิปทนฺติ จ ตเมว วิปสฺสนาธมฺมมาห, ฉพฺพิธา วิสุทฺธิโย วา. อนุธมฺมนฺติ ตสฺสา ยถาวุตฺตปฏิปทาย อนุรูปํ อภิสลฺเลขิตํ อปฺปิจฺฉตาทิธมฺมํ. จรณสีลาติ สมาทาย ปวตฺตนสีลา. อนุ มคฺคผลธมฺโม เอติสฺสาติ วา อนุธมฺมา, วุฏฺานคามินิวิปสฺสนา, ตสฺสา จรณสีลา. อตฺตโน อาจริยวาทนฺติ อตฺตโน อาจริยสฺส สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส วาทํ. สเทวกสฺส โลกสฺส อาจารสิกฺขาปเนน อาจริโย, ภควา. ตสฺส วาโท, จตุสจฺจเทสนา.

อาจิกฺขิสฺสนฺตีติ อาทิโต กเถสฺสนฺติ, อตฺตนา อุคฺคหิตนิยาเมน ปเร อุคฺคณฺหาเปสฺสนฺตีติ อตฺโถ. เทเสสฺสนฺตีติ วาเจสฺสนฺติ, ปาฬึ สมฺมา ปโพเธสฺสนฺตีติ อตฺโถ. ปฺาเปสฺสนฺตีติ ปชานาเปสฺสนฺติ, สงฺกาเปสฺสนฺตีติ อตฺโถ. ปฏฺเปสฺสนฺตีติ ปกาเรหิ เปสฺสนฺติ, ปกาเสสฺสนฺตีติ อตฺโถ. วิวริสฺสนฺตีติ วิวฏํ กริสฺสนฺติ. วิภชิสฺสนฺตีติ วิภตฺตํ กริสฺสนฺติ. อุตฺตานึ กริสฺสนฺตีติ อนุตฺตานํ คมฺภีรํ อุตฺตานํ ปากฏํ กริสฺสนฺติ. สห ธมฺเมนาติ เอตฺถ ธมฺม-สทฺโท การณปริยาโย ‘‘เหตุมฺหิ าณํ ธมฺมปฏิสมฺภิทา’’ติอาทีสุ (วิภ. ๒๗๐) วิยาติ อาห ‘‘สเหตุเกน สการเณน วจเนนา’’ติ. สปฺปาฏิหาริยนฺติ สนิสฺสรณํ , ยถา ปรวาทํ ภฺชิตฺวา สกวาโท ปติฏฺหติ, เอวํ เหตุทาหรเณหิ ยถาธิคตมตฺถํ สมฺปาเทตฺวา ธมฺมํ กเถสฺสนฺติ. เตนาห ‘‘นิยฺยานิกํ กตฺวา ธมฺมํ เทเสสฺสนฺตี’’ติ, นววิธํ โลกุตฺตรธมฺมํ ปโพเธสฺสนฺตีติ อตฺโถ. เอตฺถ จ ‘‘ปฺาเปสฺสนฺตี’’ติอาทีหิ ฉหิ ปเทหิ ฉ อตฺถปทานิ ทสฺสิตานิ, อาทิโต ปน ทฺวีหิ ปเทหิ ฉ พฺยฺชนปทานิ. เอตฺตาวตา เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ สํวณฺณนานเยน สงฺคเหตฺวา ทสฺสิตํ โหติ. วุตฺตฺเหตํ เนตฺติยํ ‘‘ทฺวาทสปทานิ สุตฺตํ, ตํ สพฺพํ พฺยฺชนฺจ อตฺโถ จา’’ติ (เนตฺติ. สงฺขาเร).

สิกฺขตฺตยสงฺคหิตนฺติ อธิสีลสิกฺขาทิสิกฺขตฺตยสงฺคหณํ. สกลํ สาสนพฺรหฺมจริยนฺติ อนวเสสํ สตฺถุสาสนภูตํ เสฏฺจริยํ. สมิทฺธนฺติ สมฺมเทว วฑฺฒิตํ. ฌานสฺสาทวเสนาติ เตหิ เตหิ ภิกฺขูหิ สมธิคตฌานสุขวเสน. วุทฺธิปฺปตฺตนฺติ อุฬารปณีตภาวคมเนน สพฺพโส ปริวุทฺธึ อุปคตํ. สพฺพปาลิผุลฺลํ วิย อภิฺาสมฺปตฺติวเสน อภิฺาสมฺปทาหิ สาสนาภิวุทฺธิยา มตฺถกปฺปตฺติโต. ปติฏฺิตวเสนาติ ปติฏฺานวเสน, ปติฏฺปฺปตฺติยาติ อตฺโถ. ปฏิเวธวเสน พหุโน ชนสฺส หิตนฺติ พาหุชฺํ. เตนาห ‘‘พหุชนาภิสมยวเสนา’’ติ. ปุถุ ปุถุลํ ภูตํ ชาตํ, ปุถุ วา ปุถุตฺตํ ภูตํ ปตฺตนฺติ ปุถุภูตํ. เตนาห ‘‘สพฺพาการ…เป… ปตฺต’’นฺติ. สุฏฺุ ปกาสิตนฺติ สุฏฺุ สมฺมเทว อาทิกลฺยาณาทิภาเวน ปเวทิตํ.

อายุสงฺขารโอสฺสชฺชนวณฺณนา

๑๖๙. สตึ สูปฏฺิตํ กตฺวาติ อยํ กายาทิวิภาโค อตฺตภาวสฺิโต ทุกฺขภาโร มยา เอตฺตกํ กาลํ วหิโต, อิทานิ ปน น วหิตพฺโพ, เอตสฺส อวหนตฺถํ จิรตรํ กาลํ อริยมคฺคสมฺภาโร สมฺภโต, สฺวายํ อริยมคฺโค ปฏิวิทฺโธ, ยโต อิเม กายาทโย อสุภาทิโต สมฺมเทว ปริฺาตา, จตุพฺพิธมฺปิ สมฺมาสตึ ยถาตถํ วิสเย สุฏฺุ อุปฏฺิตํ กตฺวา. าเณน ปริจฺฉินฺทิตฺวาติ ยสฺมา อิมสฺส อตฺตภาวสฺิตสฺส ทุกฺขภารสฺส วหเน ปโยชนภูตํ อตฺตหิตํ ตาว มหาโพธิมูเล เอว ปริสมาปิตํ, ปรหิตํ ปน พุทฺธเวเนยฺยวินยนํ ปริสมาปิตพฺพํ, ตํ อิทานิ มาสตฺตเยเนว ปริสมาปนํ ปาปุณิสฺสติ, ตสฺมา อภาสิ ‘‘วิสาขปุณฺณมายํ ปรินิพฺพายิสฺสามี’’ติ, เอวํ พุทฺธาเณน ปริจฺฉินฺทิตฺวา สพฺพภาเคน นิจฺฉยํ กตฺวา. อายุสงฺขารํ วิสฺสชฺชีติ อายุโน ชีวิตสฺส อภิสงฺขารกํ ผลสมาปตฺติธมฺมํ ‘‘น สมาปชฺชิสฺสามี’’ติ วิสฺสชฺชิ ตํวิสฺสชฺชเนเนว เตน อภิสงฺขริยมานํ ชีวิตสงฺขารํ ‘‘นปฺปวตฺเตสฺสามี’’ติ วิสฺสชฺชิ. เตนาห ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิ. านมหนฺตตายปิ ปวตฺติอาการมหนฺตตายปิ มหนฺโต ปถวีกมฺโป. ตตฺถ านมหนฺตตาย ภูมิจาลสฺส มหตฺตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตทา กิร…เป… กมฺปิตฺถา’’ติ วุตฺตํ. สา ปน ชาติกฺเขตฺตภูตา ทสสหสฺสี โลกธาตุ เอว, น ยา กาจิ, ยา มหาภินีหารมหาชาติอาทีสุปิ กมฺปิตฺถ. ตทาปิ ตตฺติกาย เอว กมฺปเน กึ การณํ ? ชาติกฺเขตฺตภาเวน ตสฺเสว อาทิโต ปริคฺคหสฺส กตตฺตา. ปริคฺคหกรณํ จสฺส ธมฺมตาวเสน เวทิตพฺพํ. ตถา หิ ปุริมพุทฺธานมฺปิ ตาวตกเมว ชาติกฺเขตฺตํ อโหสิ. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘ทสสหสฺสี โลกธาตู, นิสฺสทฺทา โหนฺติ นิรากุลา…เป… มหาสมุทฺโท อาภุชติ, ทสสหสฺสี ปกมฺปตี’’ติ จ อาทิ (พุ. วํ. ๘๔-๙๑). อุทกปริยนฺตํ กตฺวา ฉปฺปการปเวธเนน อวีตราเค ภึเสตีติ ภึสโน, โส เอว ภึสนโกติ อาห ‘‘ภยชนโก’’ติ. เทวเภริโยติ เทวทุนฺทุภิสทฺทสฺส ปริยายวจนมตฺตํ. น เจตฺถ กาจิ เภรี ‘‘เทวทุนฺทุภี’’ติ อธิปฺเปตา, อถ โข อุปฺปาตภาเวน ลพฺภมาโน อากาสคโต นิคฺโฆสสทฺโท. เตนาห ‘‘เทโว’’ติอาทิ. เทโวติ เมโฆ. ตสฺส หิ อจฺฉภาเวน อากาสสฺส วสฺสาภาเวน สุกฺขคชฺชิตสฺิเต สทฺเท นิจฺฉรนฺเต เทวทุนฺทุภิสมฺา. เตนาห ‘‘เทโว สุกฺขคชฺชิตํ คชฺชี’’ติ.

ปีติเวควิสฺสฏฺนฺติ ‘‘เอวํ จิรตรํ กาลํ วหิโต อยํ อตฺตภาวสฺิโต ทุกฺขภาโร, อิทานิ น จิรสฺเสว นิกฺขิปิสฺสตี’’ติ สฺชาตโสมนสฺโส ภควา สภาเวเนว ปีติเวควิสฺสฏฺํ อุทานํ อุทาเนสิ. เอวํ ปน อุทาเนนฺเตน อยมฺปิ อตฺโถ สาธิโต โหตีติ ทสฺสนตฺถํ อฏฺกถายํ ‘‘กสฺมา’’ติอาทิ วุตฺตํ.

ตุลียตีติ ตุลนฺติ ตุล-สทฺโท กมฺมสาธโนติ ทสฺเสตุํ ‘‘ตุลิต’’นฺติ วุตฺตํ. อปฺปานุภาวตาย ปริจฺฉินฺนํ. ตถา หิ ตํ ปริโต ขณฺฑิตภาเวน ‘‘ปริตฺต’’นฺติ วุจฺจติ. ปฏิปกฺขวิกฺขมฺภนโต ทีฆสนฺตานตาย, วิปุลผลตาย น ตุลํ น ปริจฺฉินฺนํ. เยหิ การเณหิ ปุพฺเพ อวิเสสโต มหคฺคตํ ‘‘อตุล’’นฺติ วุตฺตํ, ตานิ การณานิ รูปาวจรโต อารุปฺปสฺส สาติสยานิ วิชฺชนฺตีติ ‘‘อรูปาวจรํ อตุล’’นฺติ วุตฺตํ, อิตรฺจ ‘‘ตุล’’นฺติ, อปฺปวิปากํ ตีสุปิ กมฺเมสุ ยํ ตนุวิปากํ หีนํ, ตํ ตุลํ. พหุวิปากนฺติ ยํ มหาวิปากํ ปณีตํ, ตํ อตุลํ. ยํ ปเนตฺถ มชฺฌิมํ, ตํ หีนํ, อุกฺกฏฺนฺติ ทฺวิธา ภินฺทิตฺวา ทฺวีสุ ภาเคสุ ปกฺขิปิตพฺพํ. หีนตฺติกวณฺณนายํ วุตฺตนเยเนว อปฺปพหุวิปากตํ นิทฺธาเรตฺวา ตสฺส วเสน ตุลาตุลภาโว เวทิตพฺโพ. สมฺภวติ เอตสฺมาติ สมฺภโวติ อาห ‘‘สมฺภวสฺส เหตุภูต’’นฺติ. นิยกชฺฌตฺตรโตติ สสนฺตานธมฺเมสุ วิปสฺสนาวเสน, โคจราเสวนาย จ นิรโต. สวิปากํ สมานํ ปวตฺติวิปากมตฺตทายิกมฺมํ สวิปากฏฺเน สมฺภวํ. น จ ตํ กามาทิภวาภิสงฺขารกนฺติ ตโต วิเสสนตฺถํ ‘‘สมฺภว’’นฺติ วตฺวา ‘‘ภวสงฺขาร’’นฺติ วุตฺตํ. โอสฺสชฺชีติ อริยมคฺเคน อวสฺสชฺชิ . กวจํ วิย อตฺตภาวํ ปริโยนนฺธิตฺวา ิตํ อตฺตนิ สมฺภูตตฺตา อตฺตสมฺภวํ กิเลสฺจ อภินฺทีติ กิเลสเภทสหภาวิกมฺโมสฺสชฺชนํ ทสฺเสนฺโต ตทุภยสฺส การณํ อโวจ ‘‘อชฺฌตฺตรโต สมาหิโต’’ติ.

ตีเรนฺโตติ ‘‘อุปฺปาโท ภยํ, อนุปฺปาโท เขม’’นฺติอาทินา วีมํสนฺโต. ‘‘ตุเลนฺโต ตีเรนฺโต’’ติอาทินา สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ ‘‘ปฺจกฺขนฺธา’’ติ อาทึ วตฺวา ภวสงฺขารสฺส อวสฺสชฺชนาการํ สรูปโต ทสฺเสสิ. ‘‘เอว’’นฺติอาทินา ปน อุทานวณฺณนายํ อาทิโต วุตฺตมตฺถํ นิคมนวเสน ทสฺเสสิ.

มหาภูมิจาลวณฺณนา

๑๗๑. ยนฺติ กรเณ วา อธิกรเณ วา ปจฺจตฺตวจนนฺติ อธิปฺปาเยน อาห ‘‘เยน สมเยน, ยสฺมึ วา สมเย’’ติ. อุกฺเขปกวาตาติ อุทกสนฺธารกวาตํ อุปจฺฉินฺทิตฺวา ิตฏฺานโต เขปกวาตา. ‘‘สฏฺิ…เป… พหล’’นฺติ อิทํ ตสฺส วาตสฺส อุพฺเพธปฺปมาณเมว คเหตฺวา วุตฺตํ, อายามวิตฺถารโต ปน ทสสหสฺสจกฺกวาฬปฺปมาณมฺปิ อุทกสนฺธารกวาตํ อุปจฺฉินฺทติเยว. อากาเสติ ปุพฺเพ วาเตน ปติฏฺิโตกาเส. ปุน วาโตติ อุกฺเขปกวาเต ตถากตฺวา วิคเต อุทกสนฺธารกวาโต ปุน อาพนฺธิตฺวาคณฺหาติ ยถา ตํ อุทกํ น ภสฺสติ, เอวํ อุตฺถมฺเภนฺตํ อาพนฺธนวิตานวเสน พนฺธิตฺวา คณฺหาติ. ตโต อุทกํ อุคฺคจฺฉตีติ ตโต อาพนฺธิตฺวา คหณโต เตน วาเตน อุตฺถมฺภิตํ อุทกํ อุคฺคจฺฉติ อุปริ คจฺฉติ. โหติเยวาติ อนฺตรนฺตรา โหติเยว. พหลภาเวนาติ มหาปถวิยา มหนฺตภาเวน. สกลา หิ มหาปถวี ตทา โอคฺคจฺฉติ, อุคฺคจฺฉติ จ, ตสฺมา กมฺปนํ น ปฺายติ.

อิชฺฌนสฺสาติ อิจฺฉิตตฺถสิชฺฌนสฺส. อนุภวิตพฺพสฺสอิสฺสริยสมฺปตฺติอาทิกสฺส. ปริตฺตาติ ปฏิลทฺธมตฺตา นาติสุภาวิตา. ตถา จ ภาวนา พลวตี น โหตีติ อาห ‘‘ทุพฺพลา’’ติ. สฺาสีเสน หิ ภาวนา วุตฺตา. อปฺปมาณาติ ปคุณา สุภาวิตา. สา หิ ถิรา ทฬฺหตรา โหตีติ อาห ‘‘พลวา’’ติ. ‘‘ปริตฺตา ปถวีสฺา, อปฺปมาณา อาโปสฺา’’ติ เทสนามตฺตเมว, อาโปสฺาย ปน สุภาวิตาย ปถวีกมฺโป สุเขเนว อิชฺฌตีติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโย เวทิตพฺโพ. สํเวเชนฺโต ทิพฺพสมฺปตฺติยา ปมตฺตํ สกฺกํ เทวราชานํ. วีมํสนฺโต วา ตาวเทว สมธิคตํ อตฺตโน อิทฺธิพลํ. มหาโมคฺคลฺลานตฺเถรสฺส ปาสาทกมฺปนํ ปากฏนฺติ ตํ อนามสิตฺวา สงฺฆรกฺขิตสามเณรสฺส ปาสาทกมฺปนํ ทสฺเสตุํ ‘‘โส กิรายสฺมา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปูติมิสฺโส คนฺโธ เอตสฺสาติ ปูติคนฺโธ, เตน ปูติคนฺเธเนว อธิคตมาตุกุจฺฉิสมฺภวํ วิย คนฺเธเนว สีเสน, อติวิย ทารโก เอวาติ อตฺโถ.

อาจริยนฺติ อาจริยูปเทสํ. อิทฺธาภิสงฺขาโร นาม อิทฺธิวิธปฺปฏิปกฺขาทีภาเวน อิจฺฉิตพฺโพ, โส จ อุปาเย โกสลฺลสฺส อตฺตนา น สมฺมา อุคฺคหิตตฺตา น ตาว สิกฺขิโตติ อาห ‘‘อสิกฺขิตฺวาว ยุทฺธํ ปวิฏฺโสี’’ติ. ‘‘ปิลวนฺต’’นฺติ อิมินา สกลเมว ปาสาทวตฺถุํ อุทกํ กตฺวา อธิฏฺาตพฺพปาสาโทว ตตฺถ ปิลวตีติ ทสฺเสติ. อธิฏฺานกฺกมํ ปน อุปมาย ทสฺเสนฺโต ‘‘ตาต…เป… ชานาหี’’ติ อาห. ตตฺถ กปลฺลกปูวนฺติ อาสิตฺตกปูวํ, ตํ ปจนฺตา กปาเล ปมํ กิฺจิ ปิฏฺํ เปตฺวา อนุกฺกเมน วฑฺเฒตฺวา อนฺตนฺเตน ปริจฺฉินฺทนฺติ ปูวํ สมนฺตโต ปริจฺฉินฺนํ กตฺวา เปนฺติ, เอวํ ‘‘อาโปกสิณวเสน ‘ปาสาเทน ปติฏฺิตฏฺานํ อุทกํ โหตู’ติ อธิฏฺหนฺโต สมนฺตโต ปาสาทสฺส ยาว ปริยนฺตา ยถา อุทกํ โหติ, ตถา อธิฏฺาตพฺพ’’นฺติ อุปมาย อุปทิสติ.

มหาปทาเนวุตฺตเมวาติ ‘‘ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, ยทา โพธิสตฺโต ตุสิตา กายา จวิตฺวา มาตุกุจฺฉึ โอกฺกมตี’’ติ (ที. นิ. ๒.๑๘) วตฺวา ‘‘อยฺจ ทสสหสฺสี โลกธาตุ สงฺกมฺปติ สมฺปกมฺปติ สมฺปเวธตี’’ติ (ที. นิ. ๒.๑๘), ตถา ‘‘ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, ยทา โพธิสตฺโต มาตุกุจฺฉิมฺหา นิกฺขมตี’’ติ (ที. นิ. ๒.๓๐) วตฺวา ‘‘อยฺจ ทสสหสฺสี โลกธาตุ สงฺกมฺปติ สมฺปกมฺปติ สมฺปเวธตี’’ติ (ที. นิ. ๒.๓๒) จ มหาโพธิสตฺตสฺส คพฺโภกฺกนฺติยํ, อภิชาติยฺจ ธมฺมตาวเสน มหาปทาเนปถวีกมฺปสฺส วุตฺตตฺตา อิตเรสุปิ จตูสุ าเนสุ ปถวีกมฺโป ธมฺมตาวเสเนวาติ มหาปทาเนอตฺถโต วุตฺตํ เอวาติ อธิปฺปาโย.

อิทานิ เนสํ ปถวีกมฺปนํ การณโต, ปวตฺติอาการโต จ วิภาคํ ทสฺเสตุํ ‘‘อิติ อิเมสู’’ติอาทิ วุตฺตํ. ธาตุโกเปนาติ อุกฺเขปกธาตุสงฺขาตาย วาโยธาตุยา ปโกเปน. อิทฺธานุภาเวนาติ าณิทฺธิยา วา กมฺมวิปากชิทฺธิยา วา ปภาเวน, เตเชนาติ อตฺโถ. ปุฺเตเชนาติ ปุฺานุภาเวน, มหาโพธิสตฺตสฺส ปุฺพเลนาติ อตฺโถ. าณเตเชนาติ ปฏิเวธาณานุภาเวน. สาธุการทานวเสนาติ ยถา อนฺสาธารเณน ปฏิเวธาณานุภาเวน อภิหตา มหาปถวี อภิสมฺโพธิยํ อกมฺปิตฺถ, เอวํ อนฺสาธารเณน เทสนาาณานุภาเวน อภิหตา มหาปถวี อกมฺปิตฺถ, ตํ ปนสฺสา สาธุการทานํ วิย โหตีติ ‘‘สาธุการทานวเสนา’’ติ วุตฺตํ.

เยน ปน ภควา อสีติอนุพฺยฺชนปฏิมณฺฑิตทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขณ- (ที. นิ. ๒.๓๓; ๓.๑๙๘; ม. นิ. ๒.๓๘๕) วิจิตฺรรูปกาโย สพฺพาการปริสุทฺธสีลกฺขนฺธาทิคุณรตนสมิทฺธิธมฺมกาโย ปุฺมหตฺตถามมหตฺตยสมหอาอิทฺธิมหตฺตปฺามหตฺตานํ ปรมุกฺกํสคโต อสโม อสมสโม อปฺปฏิปุคฺคโล อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ อตฺตโน อตฺตภาวสฺิตํ ขนฺธปฺจกํ กปฺปํ วา กปฺปาวเสสํ วา เปตุํ สมตฺโถปิ สงฺขตธมฺมํ ปฏิชิคุจฺฉนาการปฺปวตฺเตน าณวิเสเสน ติณายปิ อมฺมาโน อายุสงฺขาโรสฺสชฺชนวิธินา นิรเปกฺโข โอสฺสชฺชิ. ตทนุภาวาภิหตา มหาปถวี อายุสงฺขาโรสฺสชฺชเน อกมฺปิตฺถ, ตํ ปนสฺสา การุฺสภาวสณฺิตา วิย โหตีติ วุตฺตํ ‘‘การุฺสภาเวนา’’ติ . ยสฺมา ภควา ปรินิพฺพานสมเย จตุวีสติโกฏิสตสหสฺสสงฺขฺยา สมาปตฺติโย สมาปชฺชิ อนฺตรนฺตรา ผลสมาปตฺติสมาปชฺชเนน, ตสฺส ปุพฺพภาเค สาติสยํ ติกฺขํ สูรํ วิปสฺสนาาณฺจ ปวตฺเตสิ, ‘‘ยทตฺถฺจ มยา เอวํ สุจิรกาลํ อนฺสาธารโณ ปรมุกฺกํสคโต าณสมฺภาโร สมฺภโต, อนุตฺตโร จ วิโมกฺโข สมธิคโต, ตสฺส วต เม สิขาปฺปตฺตผลภูตา อจฺจนฺตนิฏฺา อนุปาทิเสสนิพฺพานธาตุ อชฺช สมิชฺฌตี’’ติ ภิยฺโย อติวิย โสมนสฺสปฺปตฺตสฺส ภควโต ปีติวิปฺผาราทิคุณวิปุลตรานุภาโว ปเรหิ อสาธารณาณาติสโย อุทปาทิ, ยสฺส สมาปตฺติพลสมุปพฺรูหิตสฺส าณาติสยสฺส อานุภาวํ สนฺธาย อิทํ วุตฺตํ ‘‘ทฺเวเม ปิณฺฑปาตา สมสมผลา สมสมวิปากา’’ติอาทิ (อุทา. ๗๕), ตสฺมา ตสฺส อานุภาเวน สมภิหตา มหาปถวี อกมฺปิตฺถ. ตํ ปนสฺสา ตสฺสํ เวลายํ อาโรทนาการปฺปตฺติ วิย โหตีติ ‘‘อฏฺโม อาโรทเนนา’’ติ วุตฺตํ.

อิทานิ สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ วิวรนฺโต ‘‘มาตุกุจฺฉึ โอกฺกมนฺเต’’ติอาทิมาห. อยํ ปนตฺโถติ ‘‘สาธุการทานวเสนา’’ติอาทินา วุตฺโต อตฺโถ. ปถวีเทวตาย วเสนาติ เอตฺถ สมุทฺทเทวตา วิย มหาปถวิยา อธิเทวตา กิร นาม อตฺถิ. ตาทิเส การเณ สติ ตสฺสา จิตฺตวเสน อยํ มหาปถวี สงฺกมฺปติ สมฺปกมฺปติ สมฺปเวธติ, ยถา วาตวลาหกเทวตานํ จิตฺตวเสน วาตา วายนฺติ, สีตุณฺหอพฺภวสฺสวลาหกเทวตานํ จิตฺตวเสน สีตาทโย ภวนฺติ. ตถา หิ วิสาขปุณฺณมายํ อภิสมฺโพธิอตฺถํ โพธิรุกฺขมูเล นิสินฺนสฺส โลกนาถสฺส อนฺตรายกรณตฺถํ อุปฏฺิตํ มารพลํ วิธมิตุํ –

‘‘อเจตนายํ ปถวี, อวิฺาย สุขํ ทุขํ;

สาปิ ทานพลา มยฺหํ, สตฺตกฺขตฺตุํ ปกมฺปถา’’ติ. (จริยา. ๑.๑๒๔) –

วจนสมนนฺตรํ มหาปถวี ภิชฺชิตฺวา สปริสํ มารํ ปริวตฺเตสิ. เอตนฺติ สาธุการทานาทิ. ยทิปิ นตฺถิ อเจตนตฺตา, ธมฺมตาวเสน ปน วุตฺตนเยน สิยาติ สกฺกา วตฺตุํ. ธมฺมตา ปน อตฺถโต ธมฺมสภาโว, โส ปุฺธมฺมสฺส วา าณธมฺมสฺส วา อานุภาวสภาโวติ. ตยิทํ สพฺพํ วิจาริตเมว, เอวฺจ กตฺวา –

‘‘อิเม ธมฺเม สมฺมสโต, สภาวสรสลกฺขเณ;

ธมฺมเตเชน วสุธา, ทสสหสฺสี ปกมฺปถา’’ติ. (พุ. วํ. ๑.๑๖๖);

อาทิ วจนฺจ สมตฺถิตํ โหติ.

นิทฺทิฏฺนิทสฺสนนฺติ นิทฺทิฏฺสฺส อตฺถสฺส นิยฺยาตนํ, นิคมนนฺติ อตฺโถ. เอตฺตาวตาติ ปถวีกมฺปาทิอุปฺปาทชนเนน เจว ปถวีกมฺปสฺส ภควโต เหตุนิทสฺสเนน จ. ‘‘อทฺธา อชฺช ภควตา อายุสงฺขาโร โอสฺสฏฺโ’’ติ สลฺลกฺเขสิ ปาริเสสาเยน. เอวฺหิ ตทา เถโร ตมตฺถํ วีมํเสยฺย นายํ ภูมิกมฺโป ธาตุปฺปโกปเหตุโก ตสฺส อปฺายมานรูปตฺตา, พาหิรโกปิ อิสิ เอวํ มหานุภาโว พุทฺธกาเล นตฺถิ, สาสนิโกปิ สตฺถุ อนาโรเจตฺวา เอวํ กโรนฺโต นาม นตฺถิ, เสสานํ ปฺจนฺนํ อิทานิ อสมฺภโว, เอวํ ภูมิกมฺโป จายํ มหาภึสนโก สโลมหํโส อโหสิ, ตสฺมา ปาริเสสโต อาห ‘‘อชฺช ภควตา อายุสงฺขาโร โอสฺสฏฺโติ สลฺลกฺเขสี’’ติ.

อฏฺปริสวณฺณนา

๑๗๒. โอกาสํ อทตฺวาติ ‘‘ติฏฺตุ ภนฺเต ภควา กปฺป’’นฺติอาทิ (ที. นิ. ๒.๑๗๘) นยปฺปวตฺตาย เถรสฺส อายาจนาย อวสรํ อทตฺวา. อฺานิปิ อฏฺกานิ สมฺปิณฺเฑนฺโต เหตุอฏฺกโต อฺานิ ปริสาภิภายตนวิโมกฺขวเสน ตีณิ อฏฺกานิ สงฺคเหตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘อฏฺ โข อิมา’’ติอาทิมาห. ‘‘อายสฺมโต อานนฺทสฺส โสกุปฺปตฺตึ ปริหรนฺโต วิกฺเขปํ กโรนฺโต’’ติ เกจิ สหสา ภณิเต พลวโสโก อุปฺปชฺเชยฺยาติ.

สมาคนฺตพฺพโต, สมาคจฺฉตีติ วา สมาคโม, ปริสา. พิมฺพิสารปมุโข สมาคโม พิมฺพิสารสมาคโม. เสสทฺวเยปิ เอเสว นโย. พิมฺพิสาร…เป… สมาคมาทิสทิสํ ขตฺติยปริสนฺติ โยชนา. อฺเสุ จกฺกวาเฬสุปิ ลพฺภเตเยว สตฺถุ ขตฺติยปริสาทิอุปสงฺกมนํ. อาทิโต เตหิ สทฺธึ สตฺถุ ภาสนํ อาลาโป. กถนปฏิกถนํ สลฺลาโป. ธมฺมุปสฺหิตา ปุจฺฉา ปฏิปุจฺฉา ธมฺมสากจฺฉา. สณฺานํ ปฏิจฺจ กถนํ สณฺานปริยายตฺตา วณฺณ-สทฺทสฺส ‘‘มหนฺตํ หตฺถิราชวณฺณํ อภินิมฺมินิตฺวา’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๑๓๘) วิย. ‘‘เตส’’นฺติ ปทํ อุภยปทาเปกฺขํ ‘‘เตสมฺปิ ลกฺขณสณฺานํ วิย สตฺถุ สรีรสณฺานํ, เตสํ เกวลํ ปฺายติ เอวา’’ติ. นาปิ อามุกฺกมณิกุณฺฑโล ภควา โหตีติ โยชนา. ฉินฺนสฺสราติ ทฺวิธาภูตสฺสรา. คคฺครสฺสราติ ชชฺชริตสฺสรา. ภาสนฺตรนฺติ เตสํ สตฺตานํ ภาสโต อฺํ ภาสํ. วีมํสาติ จินฺตนา. ‘‘กิมตฺถํ…เป… เทเสตี’’ติ อิทํ นนุ อตฺตานํ ชานาเปตฺวา ธมฺเม กถิเต เตสํ สาติสโย ปสาโท โหตีติ อิมินา อธิปฺปาเยน วุตฺตํ? เยสํ อตฺตานํ อชานาเปตฺวาว ธมฺเม กถิเต ปสาโท โหติ, น ชานาเปตฺวา, ตาทิเส สนฺธาย สตฺถา ตถา กโรติ. ตตฺถ ปโยชนมาห ‘‘วาสนตฺถายา’’ติ. เอวํ สุโตปีติ เอวํ อวิฺาตเทสโก อวิฺาตาคมโนปิ สุโต ธมฺโม อตฺตโน ธมฺมสุธมฺมตาเยว อนาคเต ปจฺจโย โหติ สุณนฺตสฺส.

‘‘อานนฺทา’’ติอาทิโก สงฺคีติอนารุฬฺโห ปาฬิธมฺโม เอว ตถา ทสฺสิโต. เอส นโย อิโต ปเรสุปิ เอวรูเปสุ าเนสุ.

อฏฺอภิภายตนวณฺณนา

๑๗๓. อภิภวตีติ อภิภุ, ปริกมฺมํ, าณํ วา. อภิภุ อายตนํ เอตสฺสาติ อภิภายตนํ, ฌานํ. อภิภวิตพฺพํ วา อารมฺมณสงฺขาตํ อายตนํ เอตสฺสาติ อภิภายตนํ. อารมฺมณาภิภวนโต อภิภุ จ ตํ อายตนฺจ โยคิโน สุขวิเสสานํ อธิฏฺานภาวโต, มนายตนธมฺมายตนภาวโต วาติปิ สสมฺปยุตฺตํ ฌานํ อภิภายตนํ. เตนาห ‘‘อภิภวนการณานี’’ติอาทิ. ตานิ หีติ อภิภายตนสฺิตานิ ฌานานิ. ‘‘ปุคฺคลสฺส าณุตฺตริยตายา’’ติ อิทํ อุภยตฺถาปิ โยเชตพฺพํ. กถํ? ปฏิปกฺขภาเวน ปจฺจนีกธมฺเม อภิภวนฺติ ปุคฺคลสฺส าณุตฺตริยตาย อารมฺมณานิ อภิภวนฺติ. าณพเลเนว หิ อารมฺมณาภิภวนํ วิย ปฏิปกฺขาภิภโว ปีติ.

ปริกมฺมวเสน อชฺฌตฺตํ รูปสฺี, น อปฺปนาวเสน. น หิ ปฏิภาคนิมิตฺตารมฺมณา อปฺปนา อชฺฌตฺตวิสยา สมฺภวติ, ตํ ปน อชฺฌตฺตปริกมฺมวเสน ลทฺธํ กสิณนิมิตฺตํ อวิสุทฺธเมว โหติ, น พหิทฺธาปริกมฺมวเสน ลทฺธํ วิย วิสุทฺธํ.

ปริตฺตานีติ ยถาลทฺธานิ สุปฺปสราวมตฺตานิ. เตนาห ‘‘อวฑฺฒิตานี’’ติ. ปริตฺตวเสเนวาติ วณฺณวเสน อาโภเค วิชฺชมาเนปิ ปริตฺตวเสเนว อิทํ อภิภายตนํ วุตฺตํ. ปริตฺตตา เหตฺถ อภิภวนสฺส การณํ. วณฺณาโภเค สติปิ อสติปิ อภิภายตนภาวนา นาม ติกฺขปฺสฺเสว สมฺภวติ, น อิตรสฺสาติ อาห ‘‘าณุตฺตริโก ปุคฺคโล’’ติ. อภิภวิตฺวา สมาปชฺชตีติ เอตฺถ อภิภวนํ, สมาปชฺชนฺจ อุปจารชฺฌานาธิคมสมนนฺตรเมว อปฺปนาฌานุปฺปาทนนฺติ อาห ‘‘สห นิมิตฺตุปฺปาเทเนเวตฺถ อปฺปนํ ปาเปตี’’ติ. สห นิมิตฺตุปฺปาเทนาติ จ อปฺปนาปริวาสาภาวสฺส ลกฺขณํ วจนเมตํ. โย ‘‘ขิปฺปาภิฺโ’’ติ วุจฺจติ, ตโตปิ าณุตฺตรสฺเสว อภิภายตนภาวนา. เอตฺถาติ เอตสฺมึ นิมิตฺเต. อปฺปนํ ปาเปตีติ ภาวนํ อปฺปนํ เนติ.

เอตฺถ จ เกจิ ‘‘อุปฺปนฺเน อุปจารชฺฌาเน ตํ อารพฺภ เย เหฏฺิมนฺเตน ทฺเว ตโย ชวนวารา ปวตฺตนฺติ, เต อุปจารชฺฌานปกฺขิกา เอว, ตทนนฺตรฺจ ภวงฺคปริวาเสน, อุปจาราเสวนาย จ วินา อปฺปนา โหติ, สห นิมิตฺตุปฺปาเทเนว อปฺปนํ ปาเปตี’’ติ วทนฺติ, ตํ เตสํ มติมตฺตํ. น หิ ปริวาสิตปริกมฺเมน อปฺปนาวาโร อิจฺฉิโต, นาปิ มหคฺคตปฺปมาณชฺฌาเนสุ วิย อุปจารชฺฌาเน เอกนฺตโต ปจฺจเวกฺขณา อิจฺฉิตพฺพา, ตสฺมา อุปจารชฺฌานาธิคมนโต ปรํ กติปยภวงฺคจิตฺตาวสาเน อปฺปนํ ปาปุณนฺโต ‘‘สห นิมิตฺตุปฺปาเทเนเวตฺถ อปฺปนํ ปาเปตี’’ติ วุตฺโต. สห นิมิตฺตุปฺปาเทเนวาติ จ อธิปฺปายิกมิทํ วจนํ, น นีตตฺถํ, อธิปฺปาโย วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ, น อนฺโตสมาปตฺติยํ ตทา ตถารูปสฺส อาโภคสฺส อสมฺภวโต. สมาปตฺติโต วุฏฺิตสฺส อาโภโค ปุพฺพภาคภาวนายวเสน ฌานกฺขเณ ปวตฺตํ อภิภวนาการํ คเหตฺวา ปวตฺโตติ ทฏฺพฺพํ. อภิธมฺมฏฺกถายํ ปน ‘‘อิมินา ตสฺส ปุพฺพาโภโค กถิโต’’ติ (ธ. ส. อฏฺ. ๒๐๔) วุตฺตํ. อนฺโตสมาปตฺติยํ ตถา อาโภคาภาเว กสฺมา ‘‘ฌานสฺายปี’’ติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘อภิภวน…เป… อตฺถี’’ติ.

วฑฺฒิตปฺปมาณานีติ วิปุลปฺปมาณานีติ อตฺโถ, น เอกงฺคุลทฺวงฺคุลาทิวเสน วฑฺฒึ ปาปิตานีติ ตถา วฑฺฒนสฺเสเวตฺถ อสมฺภวโต. เตนาห ‘‘มหนฺตานี’’ติ. ภตฺตวฑฺฒิตกนฺติ ภุฺชนภาชนํ วฑฺเฒตฺวา ทินฺนภตฺตํ, เอกาสเน ปุริเสน ภุฺชิตพฺพภตฺตโต อุปฑฺฒภตฺตนฺติ อตฺโถ.

รูเป สฺา รูปสฺา, สา อสฺส อตฺถีติ รูปสฺี, น รูปสฺี อรูปสฺี, สฺาสีเสน ฌานํ วทติ. รูปสฺาย อนุปฺปาทนํ เอเวตฺถ อลาภิตา.

พหิทฺธาวอุปฺปนฺนนฺติ พหิทฺธา วตฺถุสฺมึเยว อุปฺปนฺนํ. อภิธมฺเม ปน ‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ ปริตฺตานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ…เป… อปฺปมาณานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานี’’ติ (ธ. ส. ๒๒๐) เอวํ จตุนฺนํ อภิภายตนานํ อาคตตฺตา อภิธมฺมฏฺกถายํ (ธ. ส. อฏฺ. ๒๐๔) ‘‘กสฺมา ปน ‘ยถา สุตฺตนฺเต อชฺฌตฺตํ รูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ ปริตฺตานีติอาทิ วุตฺตํ, เอวํ อวตฺวา อิธ จตูสุปิ อภิภายตเนสุ อชฺฌตฺตํ อรูปสฺิตาว วุตฺตา’ติ โจทนํ กตฺวา ‘อชฺฌตฺตรูปานํ อนภิภวนียโต’ติ การณํ วตฺวา, ตตฺถ วา หิ อิธ วา พหิทฺธา รูปาเนว อภิภวิตพฺพานิ, ตสฺมา ตานิ นิยมโต วตฺตพฺพานีติ ตตฺราปิ อิธาปิ วุตฺตานิ. ‘อชฺฌตฺตํ รูปสฺี’ติ อิทํ ปน สตฺถุ เทสนาวิลาสมตฺตเมวา’’ติ วุตฺตํ. เอตฺถ จ วณฺณาโภครหิตานิ, สหิตานิ จ สพฺพานิ ปริตฺตานิ ‘‘ปริตฺตานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานี’’ติ วุตฺตานิ, ตถา อปฺปมาณานิ ‘‘อปฺปมาณานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานี’’ติ. อตฺถิ หิ โส ปริยาโย ปริตฺตานิ อภิภุยฺย ตานิ เจ กทาจิ วณฺณวเสน อาภุชิตานิ โหนฺติ, สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ อภิภุยฺยาติ. ปริยายกถา หิ สุตฺตนฺตเทสนาติ. อภิธมฺเม (ธ. ส. ๒๒๒) ปน นิปฺปริยายเทสนตฺตา วณฺณาโภครหิตานิ วิสุํ วุตฺตานิ, ตถา สหิตานิ. อตฺถิ หิ อุภยตฺถ อภิภวนวิเสโสติ. ตถา อิธ ปริยายเทสนตฺตา วิโมกฺขานมฺปิ อภิภวนปริยาโย อตฺถีติ ‘‘อชฺฌตฺตํ รูปสฺี’’ติอาทินา ปมทุติยอภิภายตเนสุ ปมวิโมกฺโข, ตติยจตุตฺถอภิภายตเนสุ ทุติยวิโมกฺโข, วณฺณาภิภายตเนสุ ตติยวิโมกฺโข จ อภิภวนปฺปวตฺติโต สงฺคหิโต. อภิธมฺเม ปน นิปฺปริยายเทสนตฺตา วิโมกฺขาภิภายตนานิ อสงฺกรโต ทสฺเสตุํ วิโมกฺเข วชฺเชตฺวา อภิภายตนานิ กถิตานิ ; สพฺพานิ จ วิโมกฺขกิจฺจานิ ฌานานิ วิโมกฺขเทสนายํ วุตฺตานิ. ตเทตํ ‘‘อชฺฌตฺตํ รูปสฺี’’ติ อาคตสฺส อภิภายตนทฺวยสฺส อภิธมฺเม อภิภายตเนสุ อวจนโต ‘‘รูปี รูปานิ ปสฺสตี’’ติอาทีนฺจ สพฺพวิโมกฺขกิจฺจสาธารณวจนภาวโต ววตฺถานํ กตนฺติ วิฺายติ. ‘‘อชฺฌตฺตรูปานํ อนภิภวนียโต’’ติ อิทํ กตฺถจิปิ ‘‘อชฺฌตฺตํ รูปานิ ปสฺสตี’’ติ อวตฺวา สพฺพตฺถ ยํ วุตฺตํ ‘‘พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสตี’’ติ, ตสฺส การณวจนํ, เตน ยํ อฺเหตุกํ, ตํ เตน เหตุนา วุตฺตํ. ยํ ปน เทสนาวิลาสเหตุกํ อชฺฌตฺตํ อรูปสฺิตาย เอว อภิธมฺเม (ธ. ส. ๒๒๓) วจนํ, น ตสฺส อฺํ การณํ มคฺคิตพฺพนฺติ ทสฺเสติ. อชฺฌตฺตรูปานํ อนภิภวนียตา จ เตสํ พหิทฺธา รูปานํ วิย อภูตตฺตา. เทสนาวิลาโส จ ยถาวุตฺตววตฺถานวเสน เวทิตพฺโพ เวเนยฺยชฺฌาสยวเสน วิชฺชมานปริยายกถาภาวโต. ‘‘สุวณฺณทุพฺพณฺณานี’’ติ เอเตเนว สิทฺธตฺตา น นีลาทิ อภิภายตนานิ วตฺตพฺพานีติ เจ? ตํ น, นีลาทีสุ กตาธิการานํ นีลาทิภาวสฺเสว อภิภวนการณตฺตา. น หิ เตสํ ปริสุทฺธาปริสุทฺธวณฺณานํ ปริตฺตตา, อปฺปมาณตา วา อภิภวนการณํ, อถ โข นีลาทิภาโว เอวาติ. เอเตสุ จ ปริตฺตาทิกสิณรูเปสุ ยํ ยํ จริตสฺส อิมานิ อภิภายตนานิ อิชฺฌนฺติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อิเมสุ ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ.

สพฺพสงฺคาหกวเสนาติ สกลนีลวณฺณนีลนิทสฺสนนีลนิภาสานํ สาธารณวเสน. วณฺณวเสนาติ สภาววณฺณวเสน. นิทสฺสนวเสนาติ ปสฺสิตพฺพตาวเสน จกฺขุวิฺาณาทิวิฺาณวีถิยา คเหตพฺพตาวเสน. โอภาสวเสนาติ สปฺปภาสตาย อวภาสนวเสน. อุมาปุปฺผนฺติ อตสิปุปฺผํ. นีลเมว โหติ วณฺณสงฺกราภาวโต. พาราณสิสมฺภวนฺติ พาราณสิยํ สมุฏฺิตํ.

เอกจฺจสฺส อิโต พาหิรกสฺส อปฺปมาณํ อติวิตฺถาริตํ กสิณนิมิตฺตํ โอโลเกนฺตสฺส ภยํ อุปฺปชฺเชยฺย ‘‘กึ นุ โข อิทํ สกลํ โลกํ อภิภวิตฺวา อชฺโฌตฺถริตฺวา คณฺหาตี’’ติ, ตถาคตสฺส ปน ตาทิสํ ภยํ วา สารชฺชํ วา นตฺถีติ อภีตภาวทสฺสนตฺถเมว อานีตานิ.

อฏฺวิโมกฺขวณฺณนา

๑๗๔. อุตฺตานตฺถาเยว เหฏฺา อตฺถโต วิภตฺตตฺตา. เอกจฺจสฺส วิโมกฺโขติ โฆโสปิ ภยาวโห วฏฺฏาภิรตภาวโต, ตถาคตสฺส ปน วิโมกฺเข อุปสมฺปชฺช วิหรโตปิ ตํ นตฺถีติ อภีตภาวทสฺสนตฺถเมว อานีตานิ.

อานนฺทยาจนกถาวณฺณนา

๑๗๘. โพธีติ สพฺพฺุตฺาณํ. ตฺหิ ‘‘จตุมคฺคาณปฏิเวธ’’นฺตฺเวว วุตฺตํ สพฺพฺุตฺาณปฺปฏิเวธสฺส ตํมูลกตฺตา. เอวํ วุตฺตภาวนฺติ ‘‘อากงฺขมาโน อานนฺท ตถาคโต กปฺปํ วา ติฏฺเยฺยา’’ติ (ที. นิ. ๒.๑๖๖) เอวํ วุตฺตภาวํ.

๑๗๙. ตมฺปิ โอฬาริกนิมิตฺตํ กตํ ตสฺส มาเรน ปริยุฏฺิตเจตโส น ปฏิวิทฺธํ น สลฺลกฺขิตํ.

๑๘๓. อาทิเกหีติ เอวมาทีหิ มิตฺตามจฺจสุหชฺชาหิ. ปิยายิตพฺพโต ปิเยหิ. มนวฑฺฒนโต มนาเปหิ. ชาติยาติ ชาติอนุรูปคมเนน. นานาภาโว วิสุํภาโว อสมฺพทฺธภาโว. มรเณน วินาภาโวติ จุติยา เตนตฺตภาเวน อปุนราวตฺตนโต วิปฺปโยโค. ภเวน อฺถาภาโวติ ภวนฺตรคฺคหเณน ปุริมาการโต อฺาการตา ‘‘กามาวจรสตฺโต รูปาวจโร โหตี’’ติอาทินา, ตตฺถาปิ ‘‘มนุสฺโส เทโว โหตี’’ติอาทินาปิ โยเชตพฺโพ. กุเตตฺถ ลพฺภาติ กุโต กุหึ กิสฺมึ นาม าเน เอตฺถ เอตสฺมึ ขนฺธปฺปวตฺเต ‘‘ยํ ตํ ชาตํ…เป… มา ปลุชฺชี’’ติ ลทฺธุํ สกฺกา. น สกฺกา เอว ตาทิสสฺส การณสฺส อภาวโตติ อาห ‘‘เนตํ านํ วิชฺชตี’’ติ. เอวํ อจฺฉริยพฺภุตธมฺมํ ตถาคตสฺสาปิ สรีรํ, กิมงฺคํ ปน อฺเสนฺติ อธิปฺปาโย. ‘‘ปจฺจาวมิสฺสตี’’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ สตึ สูปฏฺิตํ กตฺวา าเณน ปริจฺฉินฺทิตฺวา อายุสงฺขารานํ โอสฺสฏฺตฺตา, พุทฺธกิจฺจสฺส จ ปริโยสาปิตตฺตา. น เหตฺถ มาสตฺตยโต ปรํ พุทฺธเวเนยฺยา ลพฺภนฺตีติ.

๑๘๔. สาสนสฺส จิรฏฺิติ นาม สสมฺภาเรหิ อริยมคฺคธมฺเมหิ เกวเลหีติ อาห ‘‘สพฺพํ โลกิยโลกุตฺตรวเสเนว กถิต’’นฺติ โลกิยาหิ สีลสมาธิปฺาหิ วินา โลกุตฺตรธมฺมสมธิคมสฺส อสมฺภวโต.

ตติยภาณวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

นาคาปโลกิตวณฺณนา

๑๘๖. นาคาปโลกิตนฺติ นาคสฺส วิย อปโลกิตํ, หตฺถินาคสฺส อปโลกนสทิสํ อปโลกนนฺติ อตฺโถ. อาหจฺจาติ ผุสิตฺวา. องฺกุสกลคฺคานิ วิยาติ องฺกุสกานิ วิย อฺมฺสฺมึ ลคฺคานิ อาสตฺตานิ หุตฺวา ิตานิ. เอกาพทฺธานีติ อฺมฺํ เอกโต อาพทฺธานิ. ตสฺมาติ คีวฏฺีนํ เอกคฺฆนานํ วิย เอกาพทฺธภาเวน, น เกวลํ คีวฏฺีนํเยว, อถ โข สพฺพานิปิ ตานิ พุทฺธานํ เปตฺวา พาหุสนฺธิอาทิกา ทฺวาทส มหาสนฺธิโย, องฺคุลิสนฺธิโย จ อิตรสนฺธีสุ เอกาพทฺธานิ หุตฺวา ิตานิ, ยโต เนสํ ปกติหตฺถีนํ โกฏิสหสฺสพลปฺปมาณํ กายพลํ โหติ. เวสาลินคราภิมุขํ อกาสิ กณฺฏกปริวตฺตเน วิย กปิลนคราภิมุขํ. ยทิ เอวํ กถํ ตํ นาคาปโลกิตํ นาม ชาตํ? ตทชฺฌาสยํ อุปาทาย. ภควา หิ นาคาปโลกิตวเสเนว อปโลเกตุกาโม ชาโต, ปุฺานุภาเวน ปนสฺส ปติฏฺิตฏฺานํ ปริวตฺติ, เตน ตํ ‘‘นาคาปโลกิตํ’’ ตฺเวว วุจฺจติ.

‘‘อิทํ ปจฺฉิมกํ อานนฺท ตถาคตสฺส เวสาลิยา ทสฺสน’’นฺติ นยิทํ เวสาลิยา อปโลกนสฺส การณวจนํ อเนกนฺติกตฺตา, ภูตกถนมตฺตํ ปเนตํ. มคฺคโสธนวเสน ตํ ทสฺเสตฺวา อฺเทเวตฺถ อปโลกนการณํ ทสฺเสตุกาโม ‘‘นนุ จา’’ติอาทิมาห. ตํ ตํ สพฺพํ ปจฺฉิมทสฺสนเมว อนุกฺกเมน กุสินารํ คนฺตฺวา ปรินิพฺพาตุกามตาย ตโต ตโต นิกฺขนฺตตฺตา. ‘‘อนจฺฉริยตฺตา’’ติ อิมินา ยถาวุตฺตํ อเนกนฺติกตฺตํ ปริหรติ, ตยิทํ โสธนมตฺตํ. อิทํ ปเนตฺถ อวิปรีตํ การณนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิ วุตฺตํ. น หิ ภควา สาเปกฺโข เวสาลึ อปโลเกสิ, ‘‘อิทํ ปน เม คมนํ อปุนราคมน’’นฺติ ทสฺสนมุเขน พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อปโลเกสิ. เตนาห ‘‘อปิจ เวสาลิราชาโน’’ติอาทิ.

อนฺตกโรติ สกลวฏฺฏทุกฺขสฺส สกสนฺตาเน, ปรสนฺตาเน จ วินาสกโร อภาวกโร. พุทฺธจกฺขุธมฺมจกฺขุทิพฺพจกฺขุมํสจกฺขุสมนฺตจกฺขุสงฺขาเตหิ ปฺจหิ จกฺขูหิ จกฺขุมา. สวาสนานํ กิเลสานํ สมุจฺฉินฺนตฺตา สาติสยํ กิเลสปรินิพฺพาเนน ปรินิพฺพุโต.

จตุมหาปเทสวณฺณนา

๑๘๗. มหาโอกาเสติ มหนฺเต โอกาเส. มหนฺตานิ ธมฺมสฺส ปติฏฺาปนฏฺานานิ. เยสุ ปติฏฺาปิโต ธมฺโม นิจฺฉียติ อสนฺเทหโต, กานิ ปน ตานิ? อาคมนวิสิฏฺานิ สุตฺโตตรณาทีนิ. ทุติยวิกปฺเป อปทิสนฺตีติ อปเทสา, ‘‘สมฺมุขา เมตํ อาวุโส ภควโต สุต’’นฺติอาทินา เกนจิ อาภตสฺส ‘‘ธมฺโม’’ติ วินิจฺฉินเน การณํ. กึ ปน ตนฺติ? ตสฺส ยถาภตสฺส สุตฺโตตรณาทิ เอว. ยทิ เอวํ กถํ จตฺตาโรติ? ยสฺมา ธมฺมสฺส ทฺเว สมฺปรายา สตฺถา, สาวกา จ, เตสุ จ สาวกา สงฺฆคณปุคฺคลวเสน ติวิธา , เอวํ ‘‘ตุมฺหากํ มยา ยํ ธมฺโม ปฏิคฺคหิโต’’ติ อปทิสิตพฺพานํ เภเทน จตฺตาโร. เตนาห ‘‘สมฺมุขา เม ตํ อาวุโส ภควโต สุต’’นฺติอาทิ. ตถา จ วุตฺตํ เนตฺติยํ ‘‘จตฺตาโร มหาปเทสา พุทฺธาปเทโส สงฺฆาปเทโส สมฺพหุลตฺเถราปเทโส เอกตฺเถราปเทโส. อิเม จตฺตาโร มหาปเทสา’’ติ (เนตฺติ. ๑๘) พุทฺโธ อปเทโส เอตสฺสาติ พุทฺธาปเทโส. เอส นโย เสเสสุปิ. เตนาห ‘‘พุทฺธาทโย…เป… มหาการณานี’’ติ.

๑๘๘. เนวอภินนฺทิตพฺพนฺติ น สมฺปฏิจฺฉิตพฺพํ. คนฺถสฺส สมฺปฏิจฺฉนํ นาม สวนนฺติ อาห ‘‘น โสตพฺพ’’นฺติ. ปทพฺยฺชนานีติ ปทานิ จ พฺยฺชนานิ จ, อตฺถปทานิ, พฺยฺชนปทานิ จาติ อตฺโถ. ปชฺชติ อตฺโถ เอเตหีติ ปทานิ, อกฺขราทีนิ พฺยฺชนปทานิ. ปชฺชิตพฺพโต ปทานิ, สงฺกาสนาทีนิ อตฺถปทานิ. อฏฺกถายํปน ‘‘‘ปทสงฺขาตานิ พฺยฺชนานี’ติ พฺยฺชนปทาเนว วุตฺตานี’’ติ เกจิ, ตํ น, อตฺถํ พฺยฺเชนฺตีติ พฺยฺชนานิ, พฺยฺชนปทานิ, เตหิ พฺยฺชิตพฺพโต พฺยฺชนานิ, อตฺถปทานีติ อุภยสงฺคหโต. อิมสฺมึ าเนติ เตนาภตสุตฺตสฺส อิมสฺมึ ปเทเส. ปาฬิ วุตฺตาติ เกวโล ปาฬิธมฺโม ปวตฺโต. อตฺโถ วุตฺโตติ ปาฬิยา อตฺโถ ปวตฺโต นิทฺทิฏฺโ. อนุสนฺธิ กถิโตติ ยถารทฺธเทสนาย, อุปริ เทสนาย จ อนุสนฺธานํ กถิตํ สมฺพนฺโธ กถิโต . ปุพฺพาปรํ กถิตนฺติ ปุพฺเพนาปรํ อวิรุชฺฌนฺเจว วิเสสาธานฺจ กถิตํ ปกาสิตํ. เอวํ ปาฬิธมฺมาทีนิ สมฺมเทว สลฺลกฺเขตฺวา คหณํ สาธุกํ อุคฺคหณนฺติ อาห ‘‘สุฏฺุ คเหตฺวา’’ติ. สุตฺเต โอตาเรตพฺพานีติ าเณน สุตฺเต โอคาเหตฺวา ตาเรตพฺพานิ, ตํ ปน โอคาเหตฺวา ตรณํ ตตฺถ โอตรณํ อนุปฺปเวสนํ โหตีติ วุตฺตํ ‘‘สุตฺเต โอตาเรตพฺพานี’’ติ. สํสนฺเทตฺวา ทสฺสนํ สนฺทสฺสนนฺติ อาห ‘‘วินเย สํสนฺเทตพฺพานี’’ติ.

กึ ปน ตํ สุตฺตํ, โก วา วินโยติ วิจารณาย อาจริยานํ มติเภทมุเขน ตมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘เอตฺถ จา’’ติอาทิ วุตฺตํ. วินโยติ วิภงฺคปามาห. โส หิ มาติกาสฺิตสฺส สุตฺตสฺส อตฺถสูจนโต ‘‘สุตฺต’’นฺติ วตฺตพฺพตํ อรหติ. วิวิธนยตฺตา, วิสิฏฺนยตฺตา จ วินโย, ขนฺธกปาโ. เอวนฺติ เอวํ สุตฺตวินเยสุ ปริคฺคยฺหมาเนสุ วินยปิฏกมฺปิ น ปริยาทียติ ปริวารปาฬิยา อสงฺคหิตตฺตา. สุตฺตนฺตาภิธมฺมปิฏกานิ วา สุตฺตํ อตฺถสูจนาทิอตฺถสมฺภวโต. เอวมฺปีติ ‘‘สุตฺตนฺตาภิธมฺมปิฏกานิ สุตฺตํ, วินยปิฏกํ วินโย’’ติ เอวํ สุตฺตวินยวิภาเค วุจฺจมาเนปิ. น ตาว ปริยาทียนฺตีติ น ตาว อนวเสสโต ปริคฺคยฺหนฺติ, กสฺมาติ อาห ‘‘อสุตฺตนามกฺหี’’ติอาทิ. ยสฺมา ‘‘สุตฺต’’นฺติ อิมํ นามํ อนาโรเปตฺวา สงฺคีตมฺปิ ชาตกาทิพุทฺธวจนํ อตฺถิ, ตสฺมา วุตฺตนเยน ตีณิ ปิฏกานิ น ปริยาทิณฺณานีติ. สุตฺตนิปาตอุทานอิติวุตฺตกาทีนิ ทีฆนิกายาทโย วิย สุตฺตนามํ อาโรเปตฺวา อสงฺคีตานีติ อธิปฺปาเย ปเนตฺถ ชาตกาทีหิ สทฺธึ ตานิปิ คหิตานิ. พุทฺธวํสจริยาปิฏกานํ ปเนตฺถ อคฺคหเณ การณํ มคฺคิตพฺพํ, กึ วา เตน มคฺคเนน? สพฺโพปายํ วณฺณนานโย เถรวาทํ ทสฺสนมุเขน ปฏิกฺขิตฺโต เอวาติ.

อตฺถีติ กึ อตฺถิ, อสุตฺตนามกํ พุทฺธวจนํ นตฺถิ เอวาติ ทสฺเสติ. ตถา หิ นิทานวณฺณนายํ (ที. นิ. ฏี. ๑.ปมมหาสงฺคีติกถาวณฺณนา; สารตฺถ. ฏี. ๑.ปมมหาสงฺคีติกถาวณฺณนา) อมฺเหหิ วุตฺตํ ‘‘สุตฺตนฺติ สามฺวิธิ, วิเสสวิธโย ปเร’’ติ. ตํ สพฺพํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘‘สุตฺตนฺติ วินโย’’ติอาทินา วุตฺตํ สํวณฺณนานยํ ‘‘นายมตฺโถ อิธาธิปฺเปโต’’ติ ปฏิโสเธตฺวา. วิเนติ เอเตน กิเลเสติ วินโย, กิเลสวินยนูปาโย, โส เอว จ นํ กโรตีติ การณนฺติ อาห ‘‘วินโย ปน การณ’’นฺติ.

ธมฺเมติ ปริยตฺติธมฺเม. สราคายาติ สราคภาวาย กามราคภวราคปริพฺรูหนาย. สฺโคายาติ ภวสํโยชนาย. อาจยายาติ วฏฺฏสฺส วฑฺฒนตฺถาย. มหิจฺฉตายาติ มหิจฺฉภาวาย. อสนฺตุฏฺิยาติ อสนฺตุฏฺิภาวาย. สงฺคณิกายาติ กิเลสสงฺคณคณสงฺคณวิหาราย. โกสชฺชายาติ กุสีตภาวาย. ทุพฺภรตายาติ ทุปฺโปสตาย. วิราคายาติ สกลวฏฺฏโต วิรชฺชนตฺถาย. วิสฺโคายาติ กามภวาทีหิ วิสํยุชฺชนตฺถาย. อปจยายาติ สพฺพสฺสาปิ วฏฺฏสฺส อปจยนาย, นิพฺพานายาติ อตฺโถ. อปฺปิจฺฉตายาติ ปจฺจยปฺปิจฺฉตาทิวเสน สพฺพโส อิจฺฉาปคมาย. สนฺตุฏฺิยาติ ทฺวาทสวิธสนฺตุฏฺิภาวาย. ปวิเวกายาติ ปวิวิตฺตภาวาย, กายวิเวกาทิตทงฺควิเวกาทิวิเวกสิทฺธิยา. วีริยารมฺภายาติ กายิกสฺส เจว, เจตสิกสฺส จ วีริยสฺส ปคฺคหณตฺถาย. สุภรตายาติ สุขโปสนตฺถาย. เอวํ โย ปริยตฺติธมฺโม อุคฺคหณธารณปริปุจฺฉามนสิการวเสน โยนิโส ปฏิปชฺชนฺตสฺส สราคาทิภาวปริวชฺชนสฺส การณํ หุตฺวา วิราคาทิภาวาย สํวตฺตติ, เอกํสโต เอโส ธมฺโม. เอโส วินโย, สมฺมเทว อปายาทีสุ อปตนวเสน ธารณโต, กิเลสานํ วินยนโต, สตฺถุ สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส โอวาทานุสิฏฺิภาวโต เอตํ สตฺถุสาสนนฺติ ธาเรยฺยาสิ ชาเนยฺยาสิ, อวพุชฺเฌยฺยาสีติ อตฺโถ. จตุสจฺจสฺส สูจนํ สุตฺตนฺติ อาห ‘‘สุตฺเตติ เตปิฏเก พุทฺธวจเน’’ติ. เตปิฏกฺหิ พุทฺธวจนํ สจฺจวินิมุตฺตํ นตฺถิ. ราคาทิวินยนการณํ ตถาคเตน สุตฺตปเทน ปกาสิตนฺติ อาห ‘‘วินเยติ เอตสฺมึ ราคาทิวินยการเณ’’ติ.

สุตฺเต โอสรณฺเจตฺถ เตปิฏเก พุทฺธวจเน ปริยาปนฺนตาวเสเนว เวทิตพฺพํ, น อฺถาติ อาห ‘‘สุตฺตปฏิปาฏิยา กตฺถจิ อนาคนฺตฺวา’’ติ. ฉลฺลึ อุฏฺเปตฺวาติ อโรคสฺส มหโต รุกฺขสฺส ติฏฺโต อุปกฺกเมน ฉลฺลิยา สกลิกาย, ปปฏิกาย วา อุฏฺปนํ วิย อโรคสฺส สาสนธมฺมสฺส ติฏฺโต พฺยฺชนมตฺเตน ตปฺปริยาปนฺนํ วิย หุตฺวา ฉลฺลิสทิสํ ปุพฺพาปรวิรุทฺธตาทิโทสํ อุฏฺเปตฺวา ปริทีเปตฺวา, ตาทิสานิ ปน เอกํสโต คุฬฺหเวสฺสนฺตราทิปริยาปนฺนานิ โหนฺตีติ อาห ‘‘คุฬฺหเวสฺสนฺตร…เป…ปฺายนฺตีติ อตฺโถ’’ติ . ราคาทิวินเยติ ราคาทีนํ วินยนตฺเถ. ตทาการตาย น ปฺายมานานิ น ทิสฺสมานานิ ฉฑฺเฑตพฺพานิ วชฺชิตพฺพานิ น คเหตพฺพานิ. สพฺพตฺถาติ สพฺพวาเรสุ.

อิมสฺมึปน าเนติ อิมสฺมึ มหาปเทสนิทฺเทสฏฺาเน. ‘‘สุตฺเต จตฺตาโร มหาปเทสา’’ติอาทินา วุตฺตมฺปิ อวุตฺเตน สทฺธึ คเหตฺวา ปกิณฺณกกถาย มาติกํ อุทฺทิสติ. าตุํ อิจฺฉิโต อตฺโถ ปฺโห, ตสฺส วิสฺสชฺชนานิ ปฺหาพฺยากรณานิ, อตฺถสูจนาทิอตฺเถน สุตฺตํ, ปาฬิ, ตํ สุตฺตํ อนุโลเมติ อนุกูเลตีติ สุตฺตานุโลมํ, มหาปเทโส. อาจริยา วทนฺติ สํวณฺเณนฺติ ปาฬึ เอเตนาติ อาจริยวาโท อฏฺกถา. ตสฺส ตสฺส เถรสฺส อตฺตโน เอว มติ อธิปฺปาโยติ อตฺตโนมติ. ธมฺมวินิจฺฉเย ปตฺเตติ ธมฺเม วินิจฺฉินิตพฺเพ อุปฏฺิเต. อิเมติ อนนฺตรํ วุตฺตา จตฺตาโร มหาปเทสา. ปมียติ ธมฺโม ปริจฺฉิชฺชติ วินิจฺฉียติ เอเตนาติ ปมาณํ. เตนาห ‘‘ยํ เอตฺถ สเมตี’’ติอาทิ. อิตรนฺติ มหาปเทเสสุ อสเมนฺตํ. ปุน อิตรนฺติ อกปฺปิยํ อนุโลเมนฺตํ กปฺปิยํ ปฏิพาหนฺตํ สนฺธายาห.

เอกํเสเนว พฺยากาตพฺโพ วิสฺสชฺเชตพฺโพติ เอกํสพฺยากรณีโย. วิภชฺชาติ ปุจฺฉิตมตฺถํ อวธารณาทิเภเทน วิภชิตฺวา. ปฏิปุจฺฉาติ ปุจฺฉนฺตํ ปุคฺคลํ ปฏิปุจฺฉิตฺวา. ปนีโยติ ติธาปิ อวิสฺสชฺชนียตฺตา ปนีโย พฺยากรณํ อกตฺวา เปตพฺโพ. ‘‘จกฺขุํ อนิจฺจ’’นฺติ ปฺเห อุตฺตรปทาวธารณํ สนฺธาย ‘‘เอกํเสเนว พฺยากาตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ นิจฺจตาย เลสสฺสาปิ ตตฺถ อภาวโต. ปุริมปทาวธารเณ ปน วิภชฺชพฺยากรณียตา จกฺขุโสเตสุ วิเสสตฺถสามฺตฺถานํ อสาธารณภาวโต. ทฺวินฺนํ เตสํ สทิสตาโจทนา ปฏิปุจฺฉนมุเขเนว พฺยากรณียา ปฏิกฺเขปวเสน, อนุฺาตวเสน จ วิสฺสชฺชิตพฺพโตติ อาห ‘‘ยถา จกฺขุ, ตถา โสตํ…เป… อยํ ปฏิปุจฺฉาพฺยากรณีโย ปฺโห’’ติ. ตํ ชีวํ ตํ สรีรนฺติ ชีวสรีรานํ อนฺตาปฺโห. ยสฺส เยน อนฺตาโจทิตา, โส เอว ปรมตฺถโต นุปลพฺภตีติ วฺฌาตนยสฺส มตฺเตยฺยตากิตฺตนสทิโสติ อพฺยากาตพฺพตาย ปนีโย วุตฺโตติ. อิมานิ จตฺตาริ ปฺหพฺยากรณานิ ปมาณํ เตเนว นเยน เตสํ ปฺหานํ พฺยากาตพฺพโต.

วินยมหาปเทโส กปฺปิยานุโลมวิธานโต นิปฺปริยายโต อนุโลมกปฺปิยํ นาม, มหาปเทสภาเวน ปน ตํสทิสตาย สุตฺตนฺตมหาปเทเสสุปิ ‘‘อนุโลมกปฺปิย’’นฺติ อยํ อฏฺกถาโวหาโร. ยทิปิ ตตฺถ ตตฺถ ภควตา ปวตฺติตปกิณฺณกเทสนาว อฏฺกถา, สา ปน ธมฺมสงฺคาหเกหิ ปมํ ตีณิ ปิฏกานิ สงฺคายิตฺวา ตสฺส อตฺถวณฺณนานุรูเปเนว วาจนามคฺคํ อาโรปิตตฺตา ‘‘อาจริยวาโท’’ติ วุจฺจติ อาจริยา วทนฺติ สํวณฺเณนฺติ ปาฬึ เอเตนาติ. เตนาห ‘‘อาจริยวาโท นาม อฏฺกถา’’ติ. ติสฺโส สงฺคีติโย อารุฬฺโห เอว จ พุทฺธวจนสฺส อตฺถสํวณฺณนาภูโต กถามคฺโค มหินฺทตฺเถเรน ตมฺพปณฺณิทีปํ อาภโต ปจฺฉา ตมฺพปณฺณิเยหิ มหาเถเรหิ สีหฬภาสาย ปิโต นิกายนฺตรลทฺธิสงฺกรปริหรณตฺถํ. อตฺตโนมติ นาม เถรวาโท. นยคฺคาเหนาติ สุตฺตาทิโต ลพฺภมานนยคฺคหเณน. อนุพุทฺธิยาติ สุตฺตาทีนิเยว อนุคตพุทฺธิยา. อตฺตโน ปฏิภานนฺติ อตฺตโน เอว ตสฺส อตฺถสฺส วุตฺตนเยน อุปฏฺานํ, ยถาอุปฏฺิตา อตฺถา เอว ตถา วุตฺตา. สเมนฺตเมว คเหตพฺพนฺติ ยถา สุตฺเตน สํสนฺทติ, เอวํ มหาปเทสโต อตฺถา อุทฺธริตพฺพาติ ทสฺเสติ. ปมาทปาวเสน อาจริยวาทสฺส กทาจิ ปาฬิยา อสํสนฺทนาปิ สิยา, โส น คเหตพฺโพติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อาจริยวาโทปิ สุตฺเตน สเมนฺโตเยวคเหตพฺโพ’’ติ. สพฺพทุพฺพลา ปุคฺคลสฺส สยํ ปฏิภานภาวโต. ตถา จ สาปิ คเหตพฺพา, กีทิสี? สุตฺเตน สเมนฺตา เยวาติ โยชนา. ตาสูติ ตีสุ สงฺคีตีสุ. ‘‘อาคตเมว ปมาณ’’นฺติ อิมินา มหากสฺสปาทีหิ สงฺคีตเมว ‘‘สุตฺต’’นฺติ อิธาธิปฺเปตนฺติ ตทฺสฺส สุตฺตภาวเมว ปฏิกฺขิปติ. ตทตฺถา เอว หิ ติสฺโส สงฺคีติโย. ตตฺถาติ คารยฺหสุตฺเต. น เจว สุตฺเต โอสรนฺติ, น จ วินเย สนฺทิสฺสนฺตีติ เวทิตพฺพานิ ตสฺส อสุตฺตภาวโต เตน ‘‘อนุโลมกปฺปิยํ สุตฺเตน สเมนฺตเมว คเหตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ เอวตฺถํ นิคมนวเสน นิทสฺเสติ. สพฺพตฺถ ‘‘น อิตร’’นฺติ วจนํ ตตฺถ ตตฺถ คหิตาวธารณผลทสฺสนํ ทฏฺพฺพํ.

กมฺมารปุตฺตจุนฺทวตฺถุวณฺณนา

๑๘๙. สูกรมทฺทวนฺติ วนวราหสฺส มุทุมํสํ. ยสฺมา จุนฺโท อริยสาวโก โสตาปนฺโน, อฺเ จ ภควโต, ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ อาหารํ ปฏิยาเทนฺตา อนวชฺชเมว ปฏิยาเทนฺติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ปวตฺตมํส’’นฺติ. ตํ กิราติ ‘‘นาติตรุณสฺสา’’ติอาทินา วุตฺตวิเสสํ. ตถา หิ ตํ ‘‘มุทุ เจว สินิทฺธฺจา’’ติ วุตฺตํ. มุทุมํสภาวโต หิ อภิสงฺขรณวิเสเสน จ ‘‘มทฺทว’’นฺติ วุตฺตํ. โอชํ ปกฺขิปึสุ ‘‘อยํ ภควโต ปจฺฉิมโก อาหาโร’’ติ ปุฺวิเสสาเปกฺขาย, ตํ ปน ตถาปกฺขิตฺตทิพฺโพชตาย ครุตรํ ชาตํ.

อฺเ ยํ ทุชฺชีรํ, ตํ อชานนฺตา ‘‘กสฺสจิ อทตฺวา วินาสิต’’นฺติ อุปวเทยฺยุนฺติ ปรูปวาทโมจนตฺถํ ภควา ‘‘นาหํ ต’’นฺติอาทินา สีหนาทํ นทติ.

๑๙๐. กถํ ปนายํ สีหนาโท นนุ ตํ ภควโตปิ สมฺมาปริณามํ น คตนฺติ? นยิทํ เอวํ ทฏฺพฺพํ, ยสฺมา ‘‘สมฺมเทว ตํ ภควโต ปริณามํ คต’’นฺติ วตฺตุํ อรหติ ตปฺปจฺจยา อุปฺปนฺนสฺส วิการสฺส อภาวโต, อฺปจฺจยสฺส จ วิการสฺส มุทุภาวํ อาปาทิตตฺตา. เตนาห ‘‘น ปน ภุตฺตปฺปจฺจยา’’ติอาทิ. น หิ ภควา, อฺเ วา ปน ขีณาสวา นวเวทนุปฺปาทนวเสน อาหารํ ปริภุฺชนฺติ อฏฺงฺคสมนฺนาคตเมว กตฺวา อาหารสฺส อุปภุฺชนโต. ยทิ เอวํ กสฺมา ปาฬิยํ ‘‘ภตฺตํ ภุตฺตาวิสฺส ขโร อาพาโธ อุปฺปชฺชี’’ติอาทิ วุตฺตํ? ตํ โภชนุตฺตรกาลํ อุปฺปนฺนตฺตา วุตฺตํ. ‘‘น ปน ภุตฺตปจฺจยา’’ติ วุตฺโต วายมตฺโถ อฏฺกถายํ. กตุปจิตสฺส ลทฺโธกาสสฺส กมฺมสฺส วเสน พลวติปิ โรเค อุปฺปนฺเน ครุสินิทฺธโภชนปฺปจฺจยา เวทนานิคฺคโห ชาโต, เตนาห ‘‘ยทิ หี’’ติอาทิ. ปตฺถิตฏฺาเนติ อิจฺฉิตฏฺาเน, อิจฺฉา จสฺส ตตฺถ คนฺตฺวา วิเนตพฺพเวเนยฺยาเปกฺขา ทฏฺพฺพา. คาถายมฺปิ ‘‘สุต’’นฺติ อิมินา สุตมตฺตํ, ปเรสํ วจนมตฺตเมตํ, น ปน โภชนปฺปจฺจยา อาพาธํ ผุสิ ธีโรติ ทสฺเสติ.

ปานียาหรณวณฺณนา

๑๙๑. ปสนฺนภาเวน อุทกสฺส อจฺฉภาโว เวทิตพฺโพติ อาห ‘‘อจฺโฉทกาติ ปสนฺโนทกา’’ติ. สาทุรสตฺตา สาตตาติ อาห ‘‘มธุโรทกา’’ติ. ตนุกเมว สลิลํ วิเสสโต สีตลํ, น พหลนฺติ อาห ‘‘ตนุสีตลสลิลา’’ติ. นิกฺกทฺทมาติ เสตภาวสฺส การณมาห. ปงฺกจิกฺขลฺลาทิวเสน หิ อุทกสฺส วิวณฺณตา, สภาวโต ปน ตํ เสตวณฺณํ เอวาติ.

ปุกฺกุสมลฺลปุตฺตวตฺถุวณฺณนา

๑๙๒. ธุรวาเตติ ปฏิมุขวาเต. ทีฆปิงฺคโลติ ทีโฆ หุตฺวา ปิงฺคลจกฺขุโก. ปิงฺคลกฺขิโก หิ โส ‘‘อาฬาโร’’ติ ปฺายิตฺถ. เอวรูปนฺติ ทกฺขติ กริสฺสติ ภวิสฺสตีติ อีทิสํ. อีทิเสสูติ ยตฺร ยํจาติ เอวรูปนิปาตสทฺทยุตฺตฏฺาเนสุ.

๑๙๓. วิจรนฺติโย เมฆคพฺภโต นิจฺฉรนฺติโย วิย โหนฺตีติ วุตฺตํ ‘‘นิจฺฉรนฺตีสูติ วิจรนฺตีสู’’ติ. นววิธายาติ นวปฺปการาย. นวสุ หิ ปกาเรสุ เอกวิธาปิ อสนิ ตปฺปริยาปนฺนตาย ‘‘นววิธา’’ ตฺเวว วุจฺจติ. อีทิสี หิ เอสา รุฬฺหิ อฏฺวิโมกฺขปตฺติปิ สมฺา วิย. อสฺํ กโรติ, โย ตสฺสา สทฺเทน , เตชสา จ อชฺโฌตฺถโฏ. เอกํ จกฺกนฺติ เอกํ มณฺฑลํ. สงฺการํ ตีเรนฺตี ปริจฺฉิชฺชนฺตี วิย ทสฺเสตีติ สเตรา. คคฺครายมานาติ คคฺคราติสทฺทํ กโรนฺตี, อนุรวทสฺสนฺเหตํ. กปิสีสาติ กปิสีสาการวตี. มจฺฉวิโลลิกาติ อุทเก ปริปฺผนฺทมานมจฺโฉ วิย วิลุฬิตาการา. กุกฺกุฏสทิสาติ ปสาริตปกฺขกุกฺกุฏาการา. นงฺคลสฺส กสฺสนกาเล กสฺสกานํ หตฺเถน คเหตพฺพฏฺาเน มณิกา โหติ, ตํ อุปาทาย นงฺคลํ ‘‘ทณฺฑมณิกา’’ติ วุจฺจติ, ตสฺมา ทณฺฑมณิกาการา ทณฺฑมณิกา. เตนาห ‘‘นงฺคลสทิสา’’ติ. เทเว วสฺสนฺเตปิ สโชติภูตตาย อุทเกน อเตเมตพฺพโต มหาสนิ ‘‘สุกฺขาสนี’’ติ วุตฺตา. เตนาห ‘‘ปติตฏฺานํ สมุคฺฆาเฏตี’’ติ.

ภุสาคารเกติ ภุสมเย อคารเก. ตตฺถ กิร มหนฺตํ ปลาลปุฺชํ อพฺภนฺตรโต ปลาลํ นิกฺกฑฺฒิตฺวา สาลาสทิสํ ปพฺพชิตานํ วสนโยคฺคฏฺานํ กตํ, ตทา ภควา ตตฺถ วสิ, ตํ ปน ขลมณฺฑลํ สาลาสทิสนฺติ อาห ‘‘ขลสาลาย’’นฺติ. เอตฺถาติ เหตุมฺหิ ภุมฺมวจนนฺติ อาห ‘‘เอตสฺมึ การเณ’’ติ, อสนิปาเตน ฉนฺนํ ชนานํ หตการเณติ อตฺโถ. โส ตฺวํ ภนฺเตติ อยเมว วา ปาโ.

๑๙๔. สิงฺคี นาม กิร อุตฺตมํ อติวิย ปภสฺสรํ พุทฺธานํ ฉวิวณฺโณภาสํ เทวโลกโต อาคตสุวณฺณํ. เตเนวาห ‘‘สิงฺคีสุวณฺณวณฺณ’’นฺติ. ‘‘กึ ปน เถโร ตํ คณฺหี’’ติ สยเมว ปุจฺฉํ สมุฏฺาเปตฺวา ตตฺถ การณํ ทสฺเสนฺโต ‘‘กิฺจาปี’’ติอาทิมาห. เตเนว การเณนาติ อุปฏฺากฏฺานสฺส มตฺถกปฺปตฺติ, ปเรสํ วจโนกาสปจฺเฉทนํ, เตน วตฺเถน สตฺถุ ปูชนํ, สตฺถุ อชฺฌาสยานุวตฺตนนฺติ อิมินา เตเนว ยถาวุตฺเตน จตุพฺพิเธน การเณน.

๑๙๕. เถโร จ ตาวเทว ตํ สิงฺคีวณฺณํ มฏฺทุสฺสํ ภควโต อุปนาเมสิ ‘‘ปฏิคฺคณฺหตุ เม ภนฺเต ภควา อิมํ มฏฺทุสฺสํ, ตํ มมสฺส ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’ติ. ปฏิคฺคเหสิ ภควา, ปฏิคฺคเหตฺวาว นํ ปริภุฺชิ . เตน วุตฺตํ ‘‘ภควาปิ ตโต เอกํ นิวาเสสิ, เอกํ ปารุปี’’ติ. ตาวเทว กิร ตํ ภิกฺขู โอวฏฺฏิกรณมตฺเตน ตุนฺนกมฺมํ นิฏฺาเปตฺวา เถรสฺส อุปเนสุํ, เถโร ภควโต อุปนาเมสิ. หตจฺจิกํ วิยาติ ปฏิหตปฺปภํ, วิย-สทฺโท นิปาตมตฺตํ. ภควโต หิ สรีรปฺปภาหิ อภิภุยฺยมานา ตสฺส วตฺถยุคสฺส ปภสฺสรตา นาโหสิ. อนฺตนฺเตเนวาติ อนฺโต อนฺโต เอว, อพฺภนฺตรโต เอวาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘พหิปนสฺส ปภา นตฺถี’’ติ.

‘‘ปสนฺนรูปํ สมุฏฺาเปตี’’ติ เอเตเนตสฺส อาหารสฺส ภุตฺตปฺปจฺจยา น โส โรโคติ อยมตฺโถ ทีปิโต. ทฺวีสุ กาเลสุ เอวํ โหติ ทฺวินฺนํ นิพฺพานธาตูนํ สมธิคมสมยภาวโต. อุปวตฺตเน อนฺตเรน ยมกสาลานนฺติ เอตฺถ วตฺตพฺพํ ปรโต อาคมิสฺสติ.

๑๙๖. สพฺพํสุวณฺณวณฺณเมว อโหสิ อติวิย ปริสุทฺธาย ปภสฺสราย เอกคฺฆนาย ภควโต สรีรปฺปภาย นิรนฺตรํ อภิภูตตฺตา.

ธมฺเมติ ปริยตฺติธมฺเม. ปวตฺตาติ ปาวจนภาเวน เทเสตา. ปุรโตว นิสีทิ โอวาทปฺปฏิกรณภาวโต.

๑๙๗. ทานานิสํสสงฺขาตาลาภาติ วณฺณทานพลทานาทิเภทา ทานสฺส อานิสํสสฺิตา ทิฏฺธมฺมิกา, สมฺปรายิกา จ ลาภา อิจฺฉิตพฺพา. เต อลาภาติ เต สพฺเพ ตุยฺหํ อลาภา, ลาภา เอว น โหนฺติ. ทิฏฺเว ธมฺเม ปจฺจกฺขภูเต อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว ภวา ทิฏฺธมฺมิกา. สมฺปเรตพฺพโต เปจฺจ คนฺตพฺพโต ‘‘สมฺปราโย’’ติ ลทฺธนาเม ปรโลเก ภวา สมฺปรายิกา. ทิฏฺธมฺมิกา จ สมฺปรายิกา จ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกา. ทานานิสํสสงฺขาตา ลาภาติ ทานานิสํสภูตา ลาภา. สพฺพถา สมเมว หุตฺวา สมํ ผลํ เอเตสํ น เอกเทเสนาติ สมสมผลา. ปิณฺฑปาตาติ ตพฺพิสยํ ทานมยํ ปุฺมาห.

ยทิ เขตฺตวเสน เนสํ สมผลตา อธิปฺเปตา, สติปิ เอกสนฺตานภาเว ปุถุชฺชนอรหนฺตภาวสิทฺธํ นนุ เตสํ เขตฺตํ วิสิฏฺนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘นนุ จา’’ติอาทิมาห. ปรินิพฺพานสมตายาติ กิเลสปรินิพฺพานขนฺธปรินิพฺพานภาเวน ปรินิพฺพานสมตาย. ‘‘ปริภุฺชิตฺวา ปรินิพฺพุโต’’ติ เอเตน ยถา ปณีตปิณฺฑปาตปริโภคูปตฺถมฺภิตรูปกายสนฺนิสฺสโย ธมฺมกาโย สุเขเนว กิเลเส ปริจฺจชิ, โภชนสปฺปายสํสิทฺธิยา เอวํ สุเขเนว ขนฺเธ ปริจฺจชีติ เอวํ กิเลสปริจฺจาคสฺส, ขนฺธปริจฺจาคสฺส จ สุขสิทฺธินิมิตฺตตาย อุภินฺนํ ปิณฺฑปาตานํ สมผลตา โชติตา. ‘‘ปิณฺฑปาตสีเสน จ ปิณฺฑปาตทานํ โชติต’’นฺติ วุตฺโต วายมตฺโถ. ยถา หิ สุชาตาย ‘‘อิมํ อาหารํ นิสฺสาย มยฺหํ เทวตาย วณฺณสุขพลาทิคุณา สมฺมเทว สมฺปชฺเชยฺยุ’’นฺติ อุฬาโร อชฺฌาสโย ตทา อโหสิ, เอวํ จุนฺทสฺสปิ กมฺมารปุตฺตสฺส ‘‘อิมํ อาหารํ นิสฺสาย ภควโต วณฺณสุขพลาทิคุณา สมฺมเทว สมฺปชฺเชยฺยุ’’นฺติ อุฬาโร อชฺฌาสโยติ เอวมฺปิ เนสํ อุภินฺนํ สมผลตา เวทิตพฺพา. สติปิ จตุวีสติโกฏิสตสหสฺสสมาปตฺตีนํ เทวสิกํ วฬฺชนสมาปตฺติภาเว ยถา ปน อภิสมฺพุชฺฌนทิวเส อภินววิปสฺสนํ ปฏฺเปนฺโต รูปสตฺตกาทิ (วิสุทฺธิ. ฏี. ๒.๗๐๗ วิตฺถาโร) วเสน จุทฺทสหากาเรหิ สนฺเนตฺวา มหาวิปสฺสนามุเขน ตา สมาปตฺติโย สมาปชฺชิ, เอวํ ปรินิพฺพานทิวเสปิ สพฺพา ตา สมาปชฺชีติ เอวํ สมาปตฺติสมตายปิ เตสํ สมผลตา. จุนฺทสฺส ตาว อนุสฺสรณํ อุฬารตรํ โหตุ ภควโต ทินฺนภาเวน อฺถตฺตาภาวโต, สุชาตาย ปน กถํ เทวตาย ทินฺนนฺติ? เอวํสฺิภาวโตติ อาห ‘‘สุชาตา จา’’ติอาทิ. อปรภาเคติ อภิสมฺโพธิโต อปรภาเค. ปุน อปรภาเคติ ปรินิพฺพานโต ปรโต. ธมฺมสีสนฺติ ธมฺมานํ มตฺถกภูตํ นิพฺพานํ. เม คหิตนฺติ มม วเสน คหิตํ. เตนาห ‘‘มยฺหํ กิรา’’ติอาทิ.

อธิปติภาโว อาธิปเตยฺยนฺติ อาห ‘‘เชฏฺภาวสํวตฺตนิยก’’นฺติ.

สํวเรติ สีลสํวเร. เวรนฺติ ปาณาติปาตาทิปฺจวิธํ เวรํ. ตฺหิ เวริธมฺมภาวโต, เวรเหตุตาย จ ‘‘เวร’’นฺติ วุจฺจติ. โกสลฺลํ วุจฺจติ าณํ, เตน ยุตฺโต กุสโลติ อาห ‘‘กุสโล ปน าณสมฺปนฺโน’’ติ. าณสมฺปทา นาม าณปาริปูรี, สา จ อคฺคมคฺควเสน เวทิตพฺพา, อคฺคมคฺโค จ นิรวเสสโต กิเลเส ปชหตีติ อาห ‘‘อริยมคฺเคน…เป… ชหาตี’’ติ. อิมํ ปาปกํ ชหิตฺวาติ ทาเนน ตาว โลภมจฺฉริยาทิปาปกํ, สีเลน ปาณาติปาตาทิปาปกํ ชหิตฺวา ตทงฺควเสน ปหาย ตโต สมถวิปสฺสนาธมฺเมหิ วิกฺขมฺภนวเสน, ตโต มคฺคปฏิปาฏิยา สมุจฺเฉทวเสน อนวเสสํ ปาปกํ ปหาย. ตถา ปหีนตฺตา เอว ราคาทีนํ ขยา กิเลสนิพฺพาเนน สพฺพโส กิเลสวูปสเมน นิพฺพุโต ปรินิพฺพุโตติ สอุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา เทสนาย กูฏํ คณฺหนฺโต ‘‘อิติ จุนฺทสฺส…เป… สมฺปสฺสมาโน อุทานํ อุทาเนสี’’ติ.

จตุตฺถภาณวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

ยมกสาลวณฺณนา

๑๙๘. เอวํตํ กุสินารายํ โหตีติ ยถา อนุราธปุรสฺส ถูปาราโม ทกฺขิณปจฺฉิมทิสายํ, เอวํ ตํ อุยฺยานํ กุสินาราย ทกฺขิณปจฺฉิมทิสายํ โหติ. ตสฺมาติ ยสฺมา นครํ ปวิสิตุกามา อุยฺยานโต อุเปจฺจ วตฺตนฺติ คจฺฉนฺติ เอเตนาติ ‘‘อุปวตฺตน’’นฺติ วุจฺจติ, ตํ สาลปนฺติภาเวน ิตํ สาลวนํ. อนฺตเรนาติ เวมชฺเฌ. ตสฺส กิร มฺจกสฺสาติ ตตฺถ ปฺปิยมานสฺส ตสฺส มฺจกสฺส. ตตฺราปิ…เป… เอโก ปาทภาคสฺส, ตสฺมา ‘‘อนฺตเรน ยมกสาลาน’’นฺติ วุตฺตํ. สํสิพฺพิตฺวาติ อฺมฺอาสตฺตวิฏปสาขตาย สํสิพฺพิตฺวา วิย. ‘‘ิตสาขา’’ติปิ วุตฺตํ อฏฺกถายํ. ยํ ปน ปาฬิยํ ‘‘อุตฺตรสีสกํ มฺจกํ ปฺเปหี’’ติ วุตฺตํ, ตํ ปจฺฉิมทสฺสนํ ทฏฺุํ อาคตานํ เทวตานํ ทฏฺุํ โยคฺยตาวเสน วุตฺตํ. เกจิ ปน ‘‘อุตฺตรทิสาวิโลกนมุขํ ปุพฺพทิสาสีสกํ กตฺวา มฺจกํ ปฺเปหีติ อตฺโถ’’ติ วทนฺติ, ตํ เตสํ มติมตฺตํ.

เอเต นาคานมุตฺตมาติ เอเต โคตฺตโต โคจริอาทินามกา หตฺถินาเคสุ พเลน เสฏฺตมา. มชฺฌิมฏฺกถายํ (ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๔๘) ปน เกจิ หตฺถิโน อิโต อฺถา อาคตา, โส ปน เนสํ นามมตฺตกโต เภโท ทฏฺพฺโพ.

ปริภุตฺตกาลโต ปฏฺาย…เป… ปริกฺขยํ คตํ, ‘‘น ปน ปริภุตฺตปฺปจฺจยา’’ติ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. จงฺควาเรติ อูมิยํ. กโตกาสสฺส กมฺมสฺส วเสน ยถาสมุฏฺิโต โรโค อาโรคฺยํ อภิมทฺทตีติ กตฺวา เอตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘วิยา’’ติ วุตฺตํ. ยสฺมา ภควา เหฏฺา วุตฺตนเยน กปฺปํ, กปฺปาวเสสํ วา าตุํ สมตฺโถ เอว, ตตฺตกํ กาลํ าเน ปโยชนาภาวโต อายุสงฺขาเร โอสฺสชฺชิตฺวา ตาทิสสฺส กมฺมสฺส โอกาสํ อทาสิ, ตสฺมา เอตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘วิยา’’ติปิ วตฺตุํ ยุชฺชติเยว.

กุสลํ กาตพฺพํ มฺิสฺสนฺติ ‘‘เอวํ มหปฺผลํ, เอวํ มหานิสํสํ, มหานุภาวฺจ ตํ กุสล’’นฺติ.

เอกสฺสาปิ สตฺตสฺส วฏฺฏทุกฺขวูปสโม พุทฺธานํ ครุตโร หุตฺวา อุปฏฺาติ อติทุลฺลภภาวโต, ตสฺมา ‘‘อปรมฺปิ ปสฺสตี’’ติอาทิ วุตฺตํ, สฺวายมตฺโถ มาคณฺฑิยสุตฺเตน (สุ. นิ. ๘๔๑) ทีเปตพฺโพ.

ตติยํ ปน การณํ สตฺตานํ อุปฺปชฺชนกอนตฺถปริหรณนฺติ ตํ ทสฺเสนฺโต ปุน ‘‘อปรมฺปิ ปสฺสตี’’ติอาทิมาห.

สีหเสยฺยนฺติ. เอตฺถ สยนํ เสยฺยา, สีหสฺส วิย เสยฺยา สีหเสยฺยา, ตํ สีหเสยฺยํ. อถ วา สีหเสยฺยนฺติ เสฏฺเสยฺยํ, ยทิทํ อตฺถทฺวยํ ปรโต อาคมิสฺสติ.

‘‘วาเมน ปสฺเสน เสนฺตี’’ติ เอวํ วุตฺตา กามโภคิเสยฺยา,ทกฺขิณปสฺเสน สยาโน นาม นตฺถิ ทกฺขิณหตฺถสฺส สรีรคฺคหณาทิโยคกฺขมโต, ปุริสวเสน เจตํ วุตฺตํ.

เอเกนปสฺเสน สยิตุํ น สกฺโกนฺติ ทุกฺขุปฺปตฺติโต.

อยํ สีหเสยฺยาติ อยํ เอวํ วุตฺตา สีหเสยฺยา. ‘‘เตชุสฺสทตฺตา’’ติ อิมินา สีหสฺส อภีรุภาวํ ทสฺเสติ. ภีรุกา หิ เสสมิคา อตฺตโน อาสยํ ปวิสิตฺวา สนฺตาสปุพฺพกํ ยถา ตถา สยนฺติ, สีโห ปน อภีรุภาวโต สโตการี ภิกฺขุ วิย สตึ อุปฏฺาเปตฺวาว สยติ. เตนาห ‘‘ปุริมปาเท’’ติอาทิ. ทกฺขิเณ ปุริมปาเท วามสฺส ปุริมปาทสฺส ปนวเสน ทฺเว ปุริมปาเท เอกสฺมึ าเน เปตฺวา. ปจฺฉิมปาเทติ ทฺเว ปจฺฉิมปาเท. วุตฺตนเยเนว อิธาปิ เอกสฺมึ าเน ปาทฏฺปนํ เวทิตพฺพํ, ิโตกาสสลฺลกฺขณํ อภีรุภาเวเนว. ‘‘สีสํ ปน อุกฺขิปิตฺวา’’ติอาทินา วุตฺตา สีหกิริยา อนุตฺราสปพุชฺฌนํ วิย อภีรุภาวสิทฺธา ธมฺมตาวเสเนวาติ เวทิตพฺพา. สีหวิชมฺภิตวิชมฺภนํ อติเวลํ เอกากาเรน ปิตานํ สรีราวยวานํ คมนาทิกิริยาสุ โยคฺยภาวาปาทนตฺถํ. ติกฺขตฺตุํ สีหนาทนทนํ อปฺเปสกฺขมิคชาตปริหรณตฺถํ.

เสติ อพฺยาวฏภาเวน ปวตฺตติ เอตฺถาติ เสยฺยา, จตุตฺถชฺฌานเมว เสยฺยา จตุตฺถชฺฌานเสยฺยา. กึ ปน ตํ จตุตฺถชฺฌานนฺติ? อานาปานจตุตฺถชฺฌานํ, ตโต หิ วุฏฺหิตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา ภควา อนุกฺกเมน อคฺคมคฺคํ อธิคนฺตฺวา ตถาคโต ชาโตติ. ‘‘ตยิทํ ปทฏฺานํ นาม, น เสยฺยา, ตถาปิ ยสฺมา ‘จตุตฺถชฺฌานา วุฏฺหิตฺวา สมนนฺตรา ภควา ปรินิพฺพายี’ติ (ที. นิ. ๒.๒๑๙) วกฺขติ, ตสฺมา โลกิยจตุตฺถชฺฌานสมาปตฺติ เอว ตถาคตเสยฺยา’’ติ เกจิ, เอวํ สติ ปรินิพฺพานกาลิกาว ตถาคตเสยฺยาติ อาปชฺชติ, น จ ภควา โลกิยจตุตฺถชฺฌานสมาปชฺชนพหุโล วิหาสิ. อคฺคผลวเสน ปวตฺตํ ปเนตฺถ จตุตฺถชฺฌานํ เวทิตพฺพํ. ตตฺถ ยถา สตฺตานํ นิทฺทุปคมนลกฺขณา เสยฺยา ภวงฺคจิตฺตวเสน โหติ, สา จ เนสํ ปมชาติสมนฺวยา เยภุยฺยวุตฺติกา, เอวํ ภควโต อริยชาติสมนฺวยํ เยภุยฺยวุตฺติกํ อคฺคผลภูตํ จตุตฺถชฺฌานํ ‘‘ตถาคตเสยฺยา’’ติ เวทิตพฺพํ. สีหเสยฺยา นาม เสฏฺเสยฺยาติ อาห ‘‘อุตฺตมเสยฺยา’’ติ.

นตฺถิ เอติสฺสา อุฏฺานนฺติ อนุฏฺานา, เสยฺยา, ตํ อนุฏฺานเสยฺยํ. ‘‘อิโต อุฏฺหิสฺสามี’’ติ มนสิการสฺส อภาวโต ‘‘อุฏฺานสฺํ มนสิ กริตฺวา’’ติ น วุตฺตํ.เอตฺถาติ เอตสฺมึ อนุฏฺานเสยฺยุปคมเน. กายวเสน อนุฏฺานํ, น จิตฺตวเสน, จิตฺตวเสน จ อนุฏฺานํ นาม นิทฺทุปคมนนฺติ ตทภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘นิทฺทาวเสนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ภวงฺคสฺสาติ นิทฺทุปคมนลกฺขณสฺส ภวงฺคสฺส.

สพฺพปาลิผุลฺลาติ สพฺพตฺถกเมว วิกสนวเสน ผุลฺลา, น เอกเทสวิกสนวเสน. เตนาห ‘‘สพฺเพ สมนฺตโต ปุปฺผิตา’’ติ. เอกจฺฉนฺนาติ สมฺผุลฺลปุปฺเผหิ เอกากาเรน สพฺพตฺเถว ฉาทิตา. อุลฺโลกปทุมานีติ เหฏฺา โอโลเกนฺตานิ วิย ติฏฺนปทุมานิ. โมรปิฺฉกลาโป วิย ปฺจวณฺณปุปฺผสฺฉาทิตตฺตา.

นนฺทโปกฺขรณีสมฺภวานีติ นนฺทโปกฺขรณีตีรสมฺภวานิ. มหาตุมฺพมตฺตนฺติ อาฬฺหกมตฺตํ. ปวิฏฺานีติ ขิตฺตานิ. สรีรเมว โอกิรนฺตีติ สรีรเมว อชฺโฌกิรนฺติ.

เทวตานํอุปกปฺปนจนฺทนจุณฺณานีติ สฏฺิปิ ปฺาสมฺปิ โยชนานิ วายนกเสตวณฺณจนฺทนจุณฺณานิ. ทิพฺพคนฺธชาลจุณฺณานีติ ทิพฺพคนฺธทิพฺพจุณฺณานิ. หริตาลอฺชนจุณฺณาทีนิปิ ทิพฺพานิ ปรมสุคนฺธานิ เอวาติ เวทิตพฺพานิ. เตเนวาห ‘‘สพฺพทิพฺพคนฺธวาสวิกติโย’’ติ.

เอกจกฺกวาเฬ สนฺนิปติตฺวา อนฺตลิกฺเข วชฺชนฺติ มหาภินิกฺขมนกาเล วิย.

ตาติ เทวตา. คนฺถมานา วาติ มาลํ รจนฺติโย เอว. อปรินิฏฺิตา วาติ ยถาธิปฺปายํ ปริโยสิตา เอว. หตฺเถน หตฺถนฺติ อตฺตโน หตฺเถน ปรสฺส หตฺถํ. คีวาย คีวนฺติ กณฺคาหวเสน อตฺตโน คีวาย ปรสฺส คีวํ. คเหตฺวาติ อามสิตฺวา. มหายโส มหายโสติ อาเมฑิตวเสน อฺมฺํ อาลาปวจนํ.

๑๙๙. มหนฺตํ อุสฺสาหนฺติ ตถาคตสฺส ปูชาสกฺการวเสน ปวตฺติยมานํ มหนฺตํ อุสฺสาหํ ทิสฺวา.

สาเยวปน ปฏิปทาติ ปุพฺพภาคปฏิปทา เอว. อนุจฺฉวิกตฺตาติ อธิคนฺตพฺพสฺส นววิธโลกุตฺตรธมฺมสฺส อนุรูปตฺตา.

สีลนฺติ จาริตฺตสีลมาห. อาจารปฺตฺตีติ จาริตฺตสีลํ. ยาว โคตฺรภุโตติ ยาว โคตฺรภุาณํ, ตาว ปวตฺเตตพฺพา สมถวิปสฺสนา สมฺมาปฏิปทา. อิทานิ ตํ สมฺมาปฏิปทํ พฺยติเรกโต, อนฺวยโต จ วิภาเวตุํ ‘‘ตสฺมา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ชินกาฬสุตฺตนฺติ ชินมหาวฑฺฒกินา ปิตํ วชฺเชตพฺพคเหตพฺพธมฺมสนฺทสฺสนกาฬสุตฺตํ สิกฺขาปทมริยาทํ, อุปาสโกปาสิกาวาเรสุ ‘‘คนฺธปูชํ มาลาปูชํ กโรตี’’ติ วจนํ จาริตฺตสีลปกฺเข เปตฺวา กรณํ สนฺธาย วุตฺตํ, เตน ภิกฺขุภิกฺขุนีนมฺปิ ตถากรณํ อนุฺาตเมวาติ ทฏฺพฺพํ.

อยฺหีติ ธมฺมานุธมฺมปฏิปทํ สนฺธาย วทติ.

อุปวาณตฺเถรวณฺณนา

๒๐๐. อปเนสีติ ิตปฺปเทสโต ยถา อปคจฺฉติ, เอวมกาสิ, น ปน นิพฺภจฺฉิ. เตนาห ‘‘อานนฺโท’’ติอาทิ. วุตฺตสทิสา วาติ สมจิตฺตปริยายเทสนายํ (อ. นิ. ๒.๓๗) วุตฺตสทิสา เอว. อาวาเรนฺโตติ ฉาเทนฺโต.

ยสฺมา กสฺสปสฺสพุทฺธสฺส เจติเย อารกฺขเทวตา อโหสิ, ตสฺมา เถโรว เตชุสฺสโท, น อฺเ อรหนฺโตติ อาเนตฺวา โยชนา.

อิทานิ อาคมนโต ปฏฺาย ตมตฺถํ วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ ‘‘วิปสฺสิมฺหิ กิร สมฺมาสมฺพุทฺเธ’’ติอาทิ อารทฺธํ. ‘‘จาตุมหาราชิกา เทวตา’’ติ อิทํ โคพลีพทฺทาเยน คเหตพฺพํ ภุมฺมเทวตาทีนมฺปิ ตปฺปริยาปนฺนตฺตา. เตสํ มนุสฺสานํ.

ตตฺถาติ กสฺสปสฺส ภควโต เจติเย.

๒๐๑. อธิวาเสนฺตีติ โรเจนฺติ.

ฉินฺนปาโต วิย ฉินฺนปาโต, ตํ ฉินฺนปาตํ, ภาวนปุํสกนิทฺเทโส ยํ. อาวฏฺฏนฺตีติ อภิมุขภาเวน วฏฺฏนฺติ. ยตฺถ ปติตา, ตโต กติปยรตนฏฺานํ วฏฺฏนวเสเนว คนฺตฺวา ปุน ยถาปติตเมว านํ วฏฺฏนวเสน อาคจฺฉนฺติ. เตนาห ‘‘อาวฏฺฏนฺติโยปติตฏฺานเมว อาคจฺฉนฺตี’’ติ. วิวฏฺฏนฺตีติ ยตฺถ ปติตา, ตโต วินิวฏฺฏนฺติ. เตนาห ‘‘ปติตฏฺานโต ปรภาคํ วฏฺฏมานา คจฺฉนฺตี’’ติ. ปุรโต วฏฺฏนํ อาวฏฺฏนํ, อิตรํ ติวิธมฺปิ วิวฏฺฏนนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เทวตา ธาเรตุํ น สกฺโกติ อุทกํ วิย โอสีทนโต. เตนาห ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิ. ตตฺถาติ ปกติปถวิยํ. เทวตา โอสีทนฺติ ธาตูนํ สณฺหสุขุมาลภาวโต. ปถวิยํปถวึ มาเปสุนฺติ ปกติปถวิยํ อตฺตโน สรีรํ ธาเรตุํ สมตฺถํ อิทฺธานุภาเวน ปถวึ มาเปสุํ.

กามํ โทมนสฺเส อสติปิ เอกจฺโจ ราโค โหติเยว, ราเค ปน อสติ โทมนสฺสสฺส อสมฺภโว เอวาติ ตเทกฏฺภาวโตติ อาห ‘‘วีตราคาติ ปหีนโทมนสฺสา’’ติ. สิลาถมฺภสทิสา อิฏฺานิฏฺเสุ นิพฺพิการตาย.

จตุสํเวชนียฏฺานวณฺณนา

๒๐๒. อปารคงฺคายาติ คงฺคาย โอรมฺภาเค. ‘‘สงฺการฉฑฺฑกสมฺมชฺชนิโย คเหตฺวา’’ติอาทิ อตฺตโน อตฺตโน วสนฏฺาเน วตฺตกรณาการทสฺสนํ. ‘‘เอวํ ทฺวีสุ กาเลสู’’ติอาทิ นิทสฺสนตฺถํ ปจฺจามสนํ, ตํ เหฏฺา อธิคตํ.

กมฺมสาธโน สมฺภาวนตฺโถ ภาวนีย-สทฺโทติ อาห ‘‘มนสา ภาวิเต สมฺภาวิเต’’ติ. ทุติยวิกปฺเป ปน ภาวนํ, วฑฺฒนฺจ ปฏิปกฺขปหานโตติ อาห ‘‘เย วา’’ติอาทิ.

พุทฺธาทีสุ ตีสุ วตฺถูสุ ปสนฺนจิตฺตสฺส, น กมฺมผลสทฺธามตฺเตน. สา จสฺส สทฺธาสมฺปทา เอวํ เวทิตพฺพาติ ผเลน เหตุํ ทสฺเสนฺโต ‘‘วตฺตสมฺปนฺนสฺสา’’ติ อาห. สํเวโค นาม สโหตฺตปฺปาณํ, อภิชาติฏฺานาทีนิปิ ตสฺส อุปฺปตฺติเหตูนิ ภวนฺตีติ อาห ‘‘สํเวคชนกานี’’ติ.

เจติยปูชนตฺถํ จาริกา เจติยจาริกา. สคฺเค ปติฏฺหิสฺสนฺติเยว พุทฺธคุณารมฺมณาย กุสลเจตนาย สคฺคสํวตฺตนิยภาวโต.

อานนฺทปุจฺฉากถาวณฺณนา

๒๐๓. เอตฺถาติ มาตุคาเม. อยํ อุตฺตมา ปฏิปตฺติ,ยทิทํ อทสฺสนํ, ทสฺสนมูลกตฺตา ตปฺปจฺจยานํ สพฺพานตฺถานํ. โลโภติ กามราโค. จิตฺตจลนา ปฏิปตฺติอนฺตรายกโร จิตฺตกฺโขโภ. มุรุมุราเปตฺวาติ สอฏฺิกํ กตฺวา ขาทเน อนุรวทสฺสนํ. อปริมิตํ กาลํ ทุกฺขานุภวนํ อปริจฺฉินฺนทุกฺขานุภวนํ. วิสฺสาโสติ วิสงฺโค ฆฏฺฏนาภาโว. โอตาโรติ ตตฺถ จิตฺตสฺส อนุปฺปเวโส. อสิหตฺเถน เวรีปุริเสน, ปิสาเจนาปิ ขาทิตุกาเมน. อาสีเทติ อกฺกมนาทิวเสน พาเธยฺย. อสฺสาติ มาตุคามสฺส. ปพฺพชิเตหิ กตฺตพฺพกมฺมนฺติ อามิสปฏิคฺคหณาทิ ปพฺพชิเตหิ กาตพฺพํ กมฺมํ. สตีติ วา กายคตาสติ อุปฏฺาเปตพฺพา.

๒๐๔. อตนฺติพทฺธาติ อภารวหา. เปสิตจิตฺตาติ นิพฺพานํ ปติ เปสิตจิตฺตา.

๒๐๕. วิหเตนาติ กปฺปาสวิหนนธนุนา ปพฺพชฏานํ วิชฏนวเสน หเตน. เตนาห ‘‘สุโปถิเตนา’’ติ, อสงฺกรณวเสน สุฏฺุ โปถิเตนาติ อตฺโถ, ทสฺสนียสํเวชนียฏฺานกิตฺตเนน จ วสนฏฺานํ กถิตํ.

อานนฺทอจฺฉริยธมฺมวณฺณนา

๒๐๗. เถรํ อทิสฺวา อามนฺเตสีติ ตตฺถ อทิสฺวา อาวชฺชนฺโต เถรสฺส ิตฏฺานํ, ปวตฺติฺจ ตฺวา อามนฺเตสิ.

กายกมฺมสฺส หิตภาโว หิตชฺฌาสเยน ปวตฺติตตฺตาติ อาห ‘‘หิตวุทฺธิยา กเตนา’’ติ. สุขภาโว กายิกทุกฺขาภาโว, เจตสิกสุขภาโว เจตสิกสุขสมุฏฺิตตฺตา จาติ วุตฺตํ ‘‘สุขโสมนสฺเสเนว กเตนา’’ติ. อาวิรโหวิภาคโต อทฺวยภาวโต อทฺวเยนาติ อิมมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา’’ติอาทิ วุตฺตํ. สตฺถุ เขตฺตภาวสมฺปตฺติยา, เถรสฺส อชฺฌาสยสมฺปตฺติยา จ ‘‘เอตฺตกมิท’’นฺติ ปมาณํ คเหตุํ อสกฺกุเณยฺยตาย ปมาณวิรหิตตฺตา ตสฺส กมฺมสฺสาติ อาห ‘‘จกฺกวาฬมฺปี’’ติอาทิ.

เอวํ ปวตฺติเตนาติ เอวํ โอทิสฺสกเมตฺตาภาวนาย วเสน ปวตฺติเตน. วิวฏฺฏูปนิสฺสยภูตํ กตํ อุปจิตํ ปุฺํ เอเตนาติ กตปุฺโ, อรหตฺตาธิคมาย กตาธิกาโรติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘อภินีหารสมฺปนฺโนสีติ ทสฺเสตี’’ติ.

๒๐๘. กตฺถจิ สงฺกุจิตํ หุตฺวา ิตํ มหาปถวึ ปตฺถรนฺโต วิย, ปฏิสํหฏํ หุตฺวา ิตํ อากาสํ วิตฺถาเรนฺโต วิย, จตุสฏฺาธิกโยชนสตสหสฺสุพฺเพธํ จกฺกวาฬคิรึ อโธ โอสาเรนฺโต วิย, อฏฺสฏฺาธิกสหสฺสโยชนสตสหสฺสุพฺเพธํ สิเนรุํ อุกฺขิเปนฺโต วิย, สตโยชนายามวิตฺถารํ มหาชมฺพุํ ขนฺเธ คเหตฺวา จาเลนฺโต วิยาติ ปฺจ หิ อุปมา หิ เถรสฺส คุณกถา มหนฺตภาวทสฺสนตฺถฺเจว อฺเสํ ทุกฺกฏภาวทสฺสนตฺถฺจ อาคตาว. เอเตเนว จาติ -สทฺเทน ‘‘อหํ เอตรหิ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ (ที. นิ. ๒.๔), ‘‘สเทวกสฺมึ โลกสฺมึ นตฺถิ เม ปฏิปุคฺคโล’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๘๕; ๒.๓๔๑; มหาว. ๑๑; กถา. ๔๐๕; มิ. ป. ๕.๑๑) จ เอวํ อาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. พฺยตฺโตติ ขนฺธโกสลฺลาทิสงฺขาเตน เวยฺยตฺติเยน สมนฺนาคโต. เมธาวีติ เมธาสงฺขาตาย สมฺมาภาวิตาย ปฺาย สมนฺนาคโต.

๒๐๙. ปฏิสนฺถารธมฺมนฺติ ปกติจาริตฺตวเสน วุตฺตํ, อุปคตานํ ปน ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีนฺจ ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนวเสน เจว จิตฺตรุจิวเสน จ ยถากาลํ ธมฺมํ เทเสติเยว, อุปาสโกปาสิกานํ ปน อุปนิสินฺนกถาวเสน.

มหาสุทสฺสนสุตฺตเทสนาวณฺณนา

๒๑๐. ขุทฺทก-สทฺโท ปติรูปวาจี, -สทฺโท อปฺปตฺโถติ อาห ‘‘ขุทฺทกนครเกติ นครปติรูปเก สมฺพาเธ ขุทฺทกนครเก’’ติ. ธุปรวิสาลสณฺานตาย ตํ ‘‘อุชฺชงฺคลนครก’’นฺติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘วิสมนครเก’’ติ. อฺเสํ มหานครานํ เอกเทสปฺปมาณตาย สาขาสทิเส. เอตฺถ จ ‘‘ขุทฺทกนครเก’’ติ อิมินา ตสฺส นครสฺส อปฺปกภาโว วุตฺโต, ‘‘อุชฺชงฺคลนครเก’’ติ อิมินา ภูมิวิปตฺติยา นิหีนภาโว, ‘‘สาขานครเก’’ติ อิมินา อปฺปธานภาโว. สารปฺปตฺตาติ วิภวสาราทินา สารมหตฺตํ ปตฺตา.

กหาปณสกฏนฺติ เอตฺถ ‘‘ทฺวิกุมฺภํ สกฏํ. กุมฺโภ ปน ทสมฺพโณ’’ติ วทนฺติ. ทฺเว ปวิสนฺตีติ ทฺเว กหาปณสกฏานิ ทฺเว อายวเสน ปวิสนฺติ.

สุภิกฺขาติ สุลภาหารา, สุนฺทราหารา จ. เตนาห ‘‘ขชฺชโภชฺชสมฺปนฺนา’’ติ. สทฺทํ กโรนฺเตติ รวสารินา ตุฏฺภาเวน โกฺจนาทํ กโรนฺเต. อวิวิตฺตาติ อสุฺา, กทาจิ รโถ ปมํ คจฺฉติ, ตํ อฺโ อนุพนฺธนฺโต คจฺฉติ, กทาจิ ทุติยํ วุตฺตรโถ ปมํ คจฺฉติ, อิตโร ตํ อนุพนฺธติ เอวํ อฺมฺํ อนุพนฺธมานา. เอตฺถาติ กุสาวตีนคเร. ตสฺส มหนฺตภาวโต เจว อิทฺธาทิภาวโต จ นิจฺจํ ปโยชิตาเนว เภริอาทีนิ ตูริยานิ, สมฺม สมฺมาติ วา อฺมฺํ ปิยาลาปสทฺโท สมฺม-สทฺโท. กํสตาฬาทิสพฺพตาฬาวจรสทฺโท ตาฬ-สทฺโท, กูฏเภริ-สทฺโท กุมฺภถูณสทฺโท.

เอวรูปาสทฺทา โหนฺติ กจวรากิณฺณวีถิตาย, อรฺเ กนฺทมูลปณฺณาทิคฺคหณาย, ตตฺถ ทุกฺขชีวิกตาย จาติ ยถากฺกมํ โยเชตพฺพํ. อิธ น เอวํ อโหสิ เทวโลเก วิย สพฺพโส ปริปุณฺณสมฺปตฺติกตาย.

มหนฺตํ โกลาหลนฺติ สทฺธาสมฺปนฺนานํ เทวตานํ, อุปาสกานฺจ วเสน ปุรโต ปุรโต มหตี อุคฺโฆสนา โหติ. ตตฺถ ภควนฺตํ อุทฺทิสฺส กตสฺส วิหารสฺส อภาวโต, ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ มหนฺตภาวโต เต อาคนฺตฺวา…เป… เปเสสิ. เปเสนฺโต จ ‘‘กถฺหิ นาม ภควา ปจฺฉิเม กาเล อตฺตโน ปวตฺตึ อมฺหากํ นาโรเจสิ, เนสํ โทมนสฺสํ มา อโหสี’’ติ ‘‘อชฺช โข วาเสฏฺา’’ติอาทินา สาสนํ เปเสสิ.

มลฺลานํ วนฺทนาวณฺณนา

๒๑๑. อฆํ ทุกฺขํ อาเวนฺติ ปกาเสนฺตีติ อฆาวิโน, ปากฏีภูตทุกฺขาติ อาห ‘‘อุปฺปนฺนทุกฺขา’’ติ. าติสาโลหิตภาเวน กุลํ ปริวตฺตติ เอตฺถาติ กุลปริวตฺตํ. ตํ ตํกุลีนภาเคน ิโต สตฺตนิกาโย ‘‘กุลปริวตฺตโส’’ติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘กุลปริวตฺต’’นฺติ. เต ปน ตํตํกุลปริวตฺตปริจฺฉินฺนา มลฺลราชาโน ตสฺมึ นคเร วีถิอาทิสภาเคน วสนฺตีติ วุตฺตํ ‘‘วีถิสภาเคน เจว รจฺฉาสภาเคน จา’’ติ.

สุภทฺทปริพฺพาชกวตฺถุวณฺณนา

๒๑๒. กงฺขา เอว กงฺขาธมฺโม. เอกโต วาติ ภูมึ อวิภชิตฺวา สาธารณโตว. พีชโต จ อคฺคํ คเหตฺวา อาหารํ สมฺปาเทตฺวา ทานํ พีชคฺคํ. คพฺภกาเลติ คพฺภธารณโต ปรํ ขีรคฺคหณกาเล. เตนาห ‘‘คพฺภํ ผาเลตฺวา ขีรํ นิหริตฺวา’’ติอาทิ. ปุถุกกาเลติ สสฺสานํ นาติปกฺเก ปุถุกโยคฺยผลกาเล. ลายนคฺคนฺติ ปกฺกสฺส สสฺสสฺส ลวเน ลวนารมฺเภ ทานํ อทาสิ. ลุนสฺส สสฺสสฺส เวณิวเสน พนฺธิตฺวา ปนํ เวณิกรณํ. ตสฺส อารมฺเภ ทานํ เวณคฺคํ. เวณิโย ปน เอกโต กตฺวา ราสิกรณํ กลาโป. ตตฺถ อคฺคทานํ กลาปคฺคํ. กลาปโต นีหริตฺวา มทฺทเน อคฺคทานํ ขลคฺคํ. มทฺทิตํ โอผุณิตฺวา ธฺสฺส ราสิกรเณ อคฺคทานํ ขลภณฺฑคฺคํ. ธฺสฺส ขลโต โกฏฺเ ปกฺขิปเน อคฺคทานํ โกฏฺคฺคํ. อุทฺธริตฺวาติ โกฏฺโต อุทฺธริตฺวา.

‘‘นวอคฺคทานานิ อทาสี’’ติ อิมินา ‘‘กถํ นุ โข อหํ สตฺถุ สนฺติเก อคฺคโตว มุจฺเจยฺย’’นฺติ อคฺคคฺคทานวเสน วิวฏฺฏูปนิสฺสยสฺส กุสลสฺส กตูปจิตตฺตา, าณสฺส จ ตถา ปริปากํ คตตฺตา อคฺคธมฺมเทสนาย ตสฺส ภาชนภาวํ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘อิมํ อคฺคธมฺมํ ตสฺส เทเสสฺสามี’’ติอาทิ. โอหียิตฺวา สงฺโกจํ อาปชฺชิตฺวา.

๒๑๓. อฺาตุกาโมว น สนฺทิฏฺึ ปรามาสี. อพฺภฺึสูติ สนฺเทหชาตสฺส ปุจฺฉาวจนนฺติ กตฺวา ชานึสูติ อตฺถมาห. เตนาห ปาฬิยํ ‘‘สพฺเพว น อพฺภฺึสู’’ติ. เนสนฺติ ปูรณาทีนํ. สา ปฏิฺาติ ‘‘กโรโต โข มหาราช การยโต’’ติอาทินา (ที. นิ. ๑.๑๖๖) ปฏิฺาตา, สพฺพฺุปฏิฺา เอว วา. นิยฺยานิกาติ สปฺปาฏิหาริยา, เตสํ วา สิทฺธนฺตสงฺขาตา ปฏิฺา วฏฺฏโต นิสฺสรณฏฺเน นิยฺยานิกาติ. สาสนสฺส สมฺปตฺติยา เตสํ สพฺพฺุตํ, ตพฺพิปริยายโต จ อสพฺพฺุตํ คจฺฉตีติ ทฏฺพฺพํ. เตนาห ‘‘ตสฺมา’’ติอาทิ. อตฺถาภาวโตติ สุภทฺทสฺส สาเธตพฺพอตฺถาภาวโต. โอกาสาภาวโตติ ตถา วิตฺถาริตํ กตฺวา ธมฺมํ เทเสตุํ อวสราภาวโต. อิทานิ ตเมว โอกาสาภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปมยามสฺมิ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.

๒๑๔. เยสํ สมณภาวกรานํ ธมฺมานํ สมฺปาทเนน สมโณ, เต ปน อุกฺกฏฺนิทฺเทเสน อริยมคฺคธมฺมาติ จตุมคฺคสํสิทฺธิยา ปาฬิยํ จตฺตาโร สมณา วุตฺตาติ เต พาหิรสมเย สพฺเพน สพฺพํ นตฺถีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปโม โสตาปนฺนสมโณ’’ติอาทิมาห. ปุริมเทสนายาติ ‘‘ยสฺมิฺจ โข, สุภทฺท, ธมฺมวินเย’’ติอาทินา วุตฺตาย เทสนาย. พฺยติเรกโต, อนฺวยโต จ อธิปฺเปโต อตฺโถ วิภาวียตีติ ปมนโยเปตฺถ ‘‘ปุริมเทสนายา’’ติ ปเทน สงฺคหิโต วาติ ทฏฺพฺโพ. อตฺตโน สาสนํ นิยเมนฺโต อาห ‘‘อิมสฺมึ โข’’ติ โยชนา. อารทฺธวิปสฺสเกหีติ สมาธิกมฺมิกวิปสฺสเกหิ, สิขาปฺปตฺตวิปสฺสเก สนฺธาย วุตฺตํ, น ปฏฺปิตวิปสฺสเน. อปเร ปน ‘‘พาหิรกสมเย วิปสฺสนารมฺภสฺส คนฺโถปิ นตฺเถวาติ อวิเสสวจนเมต’’นฺติ วทนฺติ. อธิคตฏฺานนฺติ อธิคตสฺส การณํ, ตทตฺถํ ปุพฺพภาคปฏิปทนฺติ อตฺโถ, เยน โสตาปตฺติมคฺโค อธิคโต, น อุปริมคฺโค, โส โสตาปตฺติมคฺเค ิโต อกุปฺปธมฺมตาย ตสฺส, ตตฺถ วา สิทฺธิโต ิตปุพฺโพ ภูตปุพฺพคติยาติ โสตาปตฺติมคฺคฏฺโ โสตาปนฺโน, น เสสอริยา ภูมนฺตรุปฺปตฺติโต. โสตาปนฺโน หิ อตฺตนา อธิคตฏฺานํ โสตาปตฺติมคฺคํ อฺสฺส กเถตฺวา โสตาปตฺติมคฺคฏฺํ กเรยฺย, น อฏฺมโก อสมฺภวโต. เอส นโย เสสมคฺคฏฺเสูติ เอตฺถาปิ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ปคุณํ กมฺมฏฺานนฺติ อตฺตโน ปคุณํ วิปสฺสนากมฺมฏฺานํ, เอเตเนว ‘‘อวิเสสวจน’’นฺติ วาโท ปฏิกฺขิตฺโตติ ทฏฺพฺโพ.

สพฺพฺุตฺาณํอธิปฺเปตํ. ตฺหิ สพฺพเยฺยธมฺมาวโพธเน ‘‘กุสลํ เฉกํ นิปุณ’’นฺติ วุจฺจติ ตตฺถ อสงฺคอปฺปฏิหตํ ปวตฺตตีติ กตฺวา. สมธิกานิ เอเกน วสฺเสน. ายนฺติ เอเตน จตุสจฺจธมฺมํ ยาถาวโต ปฏิวิชฺฌนฺตีติ าโย, โลกุตฺตรมคฺโคติ อาห ‘‘อริยมคฺคธมฺมสฺสา’’ติ. ปทิสฺสติ เอเตน อริยมคฺโค ปจฺจกฺขโต ทิสฺสตีติ ปเทโส, วิปสฺสนาติ วุตฺตํ ‘‘ปเทเส วิปสฺสนามคฺเค’’ติ. สมโณปีติ เอตฺถ ปิ-สทฺโท ‘‘ปเทสวตฺตี’’ติ เอตฺถาปิ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺโพติ อาห ‘‘ปเทสวตฺติ…เป… นตฺถีติ วุตฺตํ โหตี’’ติ.

๒๑๕. โสติ ตถาวุตฺโต อนฺเตวาสี. เตนาติ อาจริเยน. อตฺตโน าเน ปิโต โหติ ปรปพฺพาชนาทีสุ นิยุตฺตตฺตา.

สกฺขิสาวโกติ ปจฺจกฺขสาวโก, สมฺมุขสาวโกติ อตฺโถ. ภควติ ธรมาเนติ ธรมานสฺส ภควโต สนฺติเก. เสสทฺวเยปิ เอเสว นโย. สพฺโพปิ โสติ สพฺโพ โส ติวิโธปิ. อยํ ปน อรหตฺตํ ปตฺโต, ตสฺมา ปริปุณฺณคตาย มตฺถกปฺปตฺโต ปจฺฉิโม สกฺขิสาวโกติ.

ปฺจมภาณวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

ตถาคตปจฺฉิมวาจาวณฺณนา

๒๑๖. นฺติ ภิกฺขุสงฺฆสฺส โอวาทกงฺคํ ทสฺเสตุํ…เป… วุตฺตํ ธมฺมสงฺคาหเกหีติ อธิปฺปาโย. สุตฺตาภิธมฺมสงฺคหิตสฺส ธมฺมสฺส อติสชฺชนํ สมฺโพธนํ เทสนา, ตสฺเสว ปการโต าปนํ เวเนยฺยสนฺตาเน ปนํ ปฺาปนนฺติ ‘‘ธมฺโมปิ เทสิโต เจวปฺตฺโต จา’’ติ วุตฺตํ. ตถา วินยตนฺติสงฺคหิตสฺส กายวาจานํ วินยนโต ‘‘วินโย’’ติ ลทฺธาธิวจนสฺส อตฺถสฺส อติสชฺชนํ สมฺโพธนํ เทสนา, ตสฺเสว ปการโต าปนํ อสงฺกรโต ปนํ ปฺาปนนฺติ ‘‘วินโยปิ เทสิโต เจว ปฺตฺโต จา’’ติ วุตฺตํ. อธิสีลสิกฺขานิทฺเทสภาเวน สาสนสฺส มูลภูตตฺตา วินโย ปมํ สิกฺขิตพฺโพติ ตํ ตาว อยมุทฺเทสํ สรูปโต ทสฺเสนฺโต ‘‘มยา หิ โว’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สตฺตาปตฺติกฺขนฺธวเสนาติ สตฺตนฺนํ อาปตฺติกฺขนฺธานํ อวีติกฺกมนียตาวเสน . สตฺถุกิจฺจํ สาเธสฺสติ ‘‘อิทํ โว กตฺตพฺพํ, อิทํ โว น กตฺตพฺพ’’นฺติ กตฺตพฺพากตฺตพฺพสฺส วิภาเคน อนุสาสนโต.

เตนเตนากาเรนาติ เตน เตน เวเนยฺยานํ อชฺฌาสยานุรูเปน ปกาเรน. อิเม ธมฺเมติ อิเม สตฺตตึสโพธิปกฺขิยธมฺเม. ตปฺปธานตฺตา สุตฺตนฺตเทสนาย ‘‘สุตฺตนฺตปิฏกํ เทสิต’’นฺติ วุตฺตํ. สตฺถุกิจฺจํ สาเธสฺสติ ตํตํจริยานุรูปํ สมฺมาปฏิปตฺติยา อนุสาสนโต. กุสลากุสลาพฺยากตวเสน นว เหตู. ‘‘สตฺต ผสฺสา’’ติอาทิ สตฺตวิฺาณธาตุสมฺปโยควเสน วุตฺตํ. ธมฺมานุโลเม ติกปฏฺานาทโย ฉ, ตถา ธมฺมปจฺจนีเย, ธมฺมานุโลมปจฺจนีเย, ธมฺมปจฺจนียานุโลเมติ จตุวีสติ สมนฺตปฏฺานานิ เอตสฺสาติ จตุวีสติสมนฺตปฏฺานํ, ตํ ปน ปจฺจยานุโลมาทิวเสน วิภชิยมานํ อปริมาณนยํ เอวาติ อาห ‘‘อนนฺตนยมหาปฏฺานปฏิมณฺฑิต’’นฺติ. สตฺถุกิจฺจํ สาเธสฺสตีติ ขนฺธาทิวิภาเคน ายมานํ จตุสจฺจสมฺโพธาวหตฺตา สตฺถารา สมฺมาสมฺพุทฺเธน กาตพฺพกิจฺจํ นิปฺผาเทสฺสติ.

โอวทิสฺสนฺติ อนุสาสิสฺสนฺติ โอวาทานุสาสนีกิจฺจนิปฺผาทนโต.

จาริตฺตนฺติ สมุทาจารา, นเวสุ ปิยาลาปํ วุฑฺเฒสุ คารวาลาปนฺติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ภนฺเตติ วา อายสฺมาติ วา’’ติ. คารววจนํ เหตํ ยทิทํ ภนฺเตติ วา อายสฺมาติ วา, โลเก ปน ‘‘ตตฺร ภว’’นฺติ, ‘‘เทวานํ ปิยา’’ติ จ คารววจนเมว.

‘‘อากงฺขมาโน สมูหนตู’’ติ วุตฺเต ‘‘น อากงฺขมาโน น สมูหนตู’’ติปิ วุตฺตเมว โหตีติ อาห ‘‘วิกปฺปวจเนเนว เปสี’’ติ. พลนฺติ าณพลํ. ยทิ อสมูหนนํ ทิฏฺํ, ตเทว จ อิจฺฉิตํ, อถ กสฺมา ภควา ‘‘อากงฺขมาโน สมูหนตู’’ติ อโวจาติ? ตถารูปปุคฺคลชฺฌาสยวเสน. สนฺติ หิ เกจิ ขุทฺทานุขุทฺทกานิ สิกฺขาปทานิ สมาทาย สํวตฺติตุํ อนิจฺฉนฺตา, เตสํ ตถา อวุจฺจมาเน ภควติ วิฆาโต อุปฺปชฺเชยฺย, ตํ เตสํ ภวิสฺสติ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขาย, ตถา ปน วุตฺเต เตสํ วิฆาโต น อุปฺปชฺเชยฺย ‘‘อมฺหากํ เอวายํ โทโส, ยโต อมฺเหสุ เอว เกจิ สมูหนนํ น อิจฺฉนฺตี’’ติ. เกจิ ‘‘สกลสฺส ปน สาสนสฺส สงฺฆายตฺตภาวกรณตฺถํ ตถา วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ. ยฺจ กิฺจิ สตฺถารา สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ, ตํ สมณา สกฺยปุตฺติยา สิรสา สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ชีวิตํ วิย รกฺขนฺติ. ตถา หิ เต ‘‘ขุทฺทานุขุทฺทกานิ สิกฺขาปทานิ อากงฺขมาโน สงฺโฆ สมูหนตู’’ติ วุตฺเตปิ น สมูหนึสุ, อฺทตฺถุ ‘‘ปุรโต วิย ตสฺส อจฺจเยปิ รกฺขึสุ เอวา’’ติ สตฺถุสาสนสฺส , สงฺฆสฺส จ มหนฺตภาวทสฺสนตฺถมฺปิ ตถา วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ตถา หิ อายสฺมา อานนฺโท, อฺเปิ วา ภิกฺขู ‘‘กตมํ ปน ภนฺเต ขุทฺทกํ, กตมํ อนุขุทฺทก’’นฺติ น ปุจฺฉึสุ สมูหนชฺฌาสยสฺเสว อภาวโต.

น ตํ เอวํ คเหตพฺพนฺติ ‘‘นาคเสนตฺเถโร ขุทฺทานุขุทฺทกํ ชานาตี’’ติอาทินา วุตฺตํ ตํ เนสํ วจนํ อิมินา วุตฺตากาเรน น คเหตพฺพํ อธิปฺปายสฺส อวิทิตตฺตา. อิทานิ ตํ อธิปฺปายํ วิภาเวตุํ ‘‘นาคเสนตฺเถโรหี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ยสฺมา นาคเสนตฺเถโร (มิลินฺทปฺเห อเภชฺชวคฺเค วิตฺถาโร) ปเรสํ วาทปโถปจฺเฉทนตฺถํ สงฺคีติกาเล ธมฺมสงฺคาหกมหาเถเรหิ คหิตโกฏฺาเสสุ จ อนฺติมโกฏฺาสเมว คเหตฺวา มิลินฺทราชานํ ปฺาเปสิ. มหากสฺสปตฺเถโร ปน เอกสิกฺขาปทมฺปิ อสมูหนิตุกามตาย ตถา กมฺมวาจํ สาเวติ, ตสฺมา ตํ เตสํ วจนํ ตถา น คเหตพฺพํ.

๒๑๗. ทฺเวฬฺหกนฺติ ทฺวิธาคาโห, อเนกํสคฺคาโหติ อตฺโถ. วิมตีติ สํสยาปตฺติ. เตนาห ‘‘วินิจฺฉิตุํ อสมตฺถตา’’ติ. ตํ โว วทามีติ ตํ สํสยวนฺตํ ภิกฺขุํ สนฺธาย โว ตุมฺเห วทามิ.

นิกฺกงฺขภาวปจฺจกฺขกรณาณํ เยวาติ พุทฺธาทีสุ เตสํ ภิกฺขูนํ นิกฺกงฺขภาวสฺส ปจฺจกฺขการิยาภาวโต ตมตฺถํ ปฏิวิชฺฌิตฺวา ิตํ สพฺพฺุตฺาณเมว. เอตฺถ เอตสฺมึ อตฺเถ.

๒๑๘. อปฺปมชฺชนํ อปฺปมาโท, โส ปน อตฺถโต าณูปสฺหิตา สติ. ยสฺมา ตตฺถ สติยา พฺยาปาโร สาติสโย, ตสฺมา ‘‘สติอวิปฺปวาเสนา’’ติ วุตฺตํ. อปฺปมาทปเทเยว ปกฺขิปิตฺวา อทาสิ ตํ อตฺถโต, ตสฺส สกลสฺส พุทฺธวจนสฺส สงฺคณฺหนโต จ.

ปรินิพฺพุตกถาวณฺณนา

๒๑๙. ฌานาทีสุ, จิตฺเต จ ปรมุกฺกํสคตวสีภาวตาย ‘‘เอตฺตเก กาเล เอตฺตกา สมาปตฺติโย สมาปชฺชิตฺวา ปรินิพฺพายิสฺสามี’’ติ กาลปริจฺเฉทํ กตฺวา สมาปตฺติ สมาปชฺชนํ ‘‘ปรินิพฺพานปริกมฺม’’นฺติ อธิปฺเปตํ. เถโรติ อนุรุทฺธตฺเถโร.

อยมฺปิจาติ ยถาวุตฺตปฺจสฏฺิยา ฌานานํ สมาปนฺนภาวกถาปิ สงฺเขปกถา เอว, กสฺมา ? ยสฺมา ภควา ตทาปิ เทวสิกํ วฬฺชนสมาปตฺติโย สพฺพาปิ อปริหาเปตฺวา สมาปชฺชิ เอวาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘นิพฺพานปุรํ ปวิสนฺโต’’ติอาทิมาห.

อิมานิ ทฺเวปิ สมนนฺตราเนว ปจฺจเวกฺขณายปิ เยภุยฺเยนานนฺตริยกตาย ฌานปกฺขิกภาวโต, ยสฺมา ภวงฺคจิตฺตํ สพฺพปจฺฉิมํ, ตโต ภวโต จวนโต ‘‘จุตี’’ติ วุจฺจติ, ตสฺมา น เกวลํ อยเมว ภควา, อถ โข สพฺเพปิ สตฺตา ภวงฺคจิตฺเตเนว จวนฺตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘เย หิ เกจี’’ติอาทิ วุตฺตํ.

๒๒๐. ปฏิภาคปุคฺคลวิรหิโตติ สีลาทิคุเณหิ อสทิสตาย สทิสปุคฺคลรหิโต.

๒๒๑. สงฺขารา วูปสมนฺติ เอตฺถาติ วูปสโมติ เอวํสงฺขาตํ าตํ กถิตํ นิพฺพานํ.

๒๒๒. นฺติ ปจฺจตฺเต อุปโยควจนนฺติ อาห ‘‘โย กาลํ อกรี’’ติ.

สุวิกสิเตเนวาติ ปีติโสมนสฺสโยคโต สุฏฺุ วิกสิเตน มุทิเตน. เวทนํ อธิวาเสสิ อภาวสมุทโย กโต สุฏฺุ ปริฺาตตฺตา. อนาวรณวิโมกฺโข สพฺพโส นิพฺพุตภาวโต.

๒๒๓. อากโรนฺติ อตฺตโน ผลานิ สมานากาเร กโรนฺตีติ อาการา, การณานิ. สพฺพาการวรูเปเตติ สพฺเพหิ อาการวเรหิ อุตฺตมการเณหิ สีลาทิคุเณหิ สมนฺนาคเตติ อตฺโถ.

๒๒๕. กถํภูตาติ กีทิสาภูตา.

จุลฺลกทฺธานนฺติ ปริตฺตํ กาลํ ทฺวตฺตินาฑิกามตฺตํ เวลํ.

พุทฺธสรีรปูชาวณฺณนา

๒๒๗. กํสตาฬาทิ ตาฬํ อวจรติ เอตฺถาติ ‘‘ตาฬาวจร’’นฺติ วุจฺจติ อาตตาทิตูริยภณฺฑํ. เตนาห ‘‘สพฺพํ ตูริยภณฺฑ’’นฺติ.

ทกฺขิณทิสาภาเคเนวาติ อฺเน ทิสาภาเคน อนาหริตฺวา ยมกสาลานํ านโต ทกฺขิณทิสาภาเคเนว, ตโตปิ ทกฺขิณทิสาภาคํ หริตฺวา เนตฺวา.

เชตวนสทิเสติ สาวตฺถิยา เชตวนสทิเส าเน, ‘‘เชตวนสทิเส าเน’’ติปิ ปาโ.

๒๒๘. ปสาธนมงฺคลสาลายาติ อภิเสกกาเล อลงฺกรณมงฺคลสาลาย.

๒๒๙. เทวทานิโยติ ตสฺส โจรสฺส นามํ.

มหากสฺสปตฺเถรวตฺถุวณฺณนา

๒๓๑. ปาวายาติ ปาวา นครโต. อาวชฺชนปฏิพทฺธตฺตา ชานนสฺส อนาวชฺชิตตฺตา สตฺถุ ปรินิพฺพานํ อชานนฺโต ‘‘ทสพลํ ปสฺสิสฺสามี’’ติ เถโร จินฺเตสิ, สตฺถุ สรีเร วา สตฺถุสฺํ อุปฺปาเทนฺโต ตถา จินฺเตสิ. เตเนวาห ‘‘อถ ภควนฺตํ อุกฺขิปิตฺวา’’ติ. ‘‘ธุวํ ปรินิพฺพุโต ภวิสฺสตี’’ติ จินฺเตสิ ปาริเสสาเยน. ชานนฺโตปิ เถโร อาชีวกํ ปุจฺฉิเยว, ปุจฺฉเน ปน การณํ สยเมว ปกาเสตุํ ‘‘กึ ปนา’’ติอาทิ อารทฺธํ.

อชฺช สตฺตาหปรินิพฺพุโตติ อชฺช ทิวสโต ปฏิโลมโต สตฺตเม อหนิ ปรินิพฺพุโต.

๒๓๒. นาฬิยา วาปเกนาติ นาฬิยา เจว ถวิกาย จ.

มฺชุเกติ มฺชุภาณิเน มธุรสฺสเร. ปฏิภาเนยฺยเกติ ปฏิภานวนฺเต. ภุฺชิตฺวา ปาตพฺพยาคูติ ปมํ ภุฺชิตฺวา ปิวิตพฺพยาคุ.

ตสฺสาติ สุภทฺทสฺส วุฑฺฒปพฺพชิตสฺส.

อาราธิตสาสเนติ สมาหิตสาสเน. อลนฺติ สมตฺโถ. ปาโปติ ปาปปุคฺคโล. โอสกฺกาเปตุนฺติ หาเปตุํ อนฺตรธาเปตุํ.

ปฺหวาราติ ปฺหา วิย วิสฺสชฺชนานิ ‘‘ยสฺมึ สมเย กามาวจรํ กุสลํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหตี’’ติอาทินา, (ธ. ส. ๑.๑) ‘‘ยสฺมึ สมเย รูปูปปตฺติยา มคฺคํ ภาเวตี’’ติอาทินา (ธ. ส. ๑.๒๕๑) จ ปวตฺตานิ เอกํ ทฺเว ภูมนฺตรานิ.มูเล นฏฺเ ปิสาจสทิสา ภวิสฺสามาติ ยถา รุกฺเข อธิวตฺโถ ปิสาโจ ตสฺส สาขาปริวาเร นฏฺเ ขนฺธํ นิสฺสาย วสติ, ขนฺเธ นฏฺเ มูลํ นิสฺสาย วสติ, มูเล ปน นฏฺเ อนิสฺสโยว โหติ, ตถา ภวิสฺสามาติ อตฺโถ. อถ วา มูเล นฏฺเติ ปิสาเจน กิร รุกฺขคจฺฉาทีนํ กฺจิเทว มูลํ ฉินฺทิตฺวา อตฺตโน ปุตฺตสฺส ทินฺนํ, ยาว ตํ ตสฺส หตฺถโต น วิคจฺฉติ, ตาว โส ตํ ปเทสํ อทิสฺสมานรูโป วิจรติ. ยทา ปน ตสฺมึ เกนจิ อจฺฉินฺนภาเวน วา สติวิปฺปวาสวเสน วา นฏฺเ มนุสฺสานมฺปิ ทิสฺสมานรูโป วิจรติ, ตํ สนฺธายาห ‘‘มูเล นฏฺเ ปิสาจสทิสา ภวิสฺสามา’’ติ.

มํ กายสกฺขึ กตฺวาติ ตํ ปฏิปทํ กาเยน สจฺฉิกตวนฺตํ ตสฺมา ตสฺสา เทสนาย สกฺขิภูตํ มํ กตฺวา. ปฏิจฺฉาเปสิ ตํ ปฏิจฺฉาปนํ กสฺสปสุตฺเตน ทีเปตพฺพํ.

๒๓๓. จนฺทนฆฏิกาพาหุลฺลโต จนฺทนจิตกา.

ตํ สุตฺวาติ ตํ อายสฺมตา อนุรุทฺธตฺเถเรน วุตฺตํ เทวตานํ อธิปฺปายํ สุตฺวา.

๒๓๔. ทสิกตนฺตํ วาติ ปลิเวิตอหตกาสิกวตฺถานํ ทสาเนน ตนฺตุมตฺตมฺปิ วา. ทารุกฺขนฺธํ วาติ จนฺทนาทิจิตกทารุกฺขนฺธํ วา.

๒๓๕. สมุทาเยสุ ปวตฺตโวหารานํ อวยเวสุ ทิสฺสนโต สรีรสฺส อวยวภูตานิ อฏฺีนิ ‘‘สรีรานี’’ติ วุตฺตานิ.

น วิปฺปกิรึสูติ สรูเปเนว ิตาติ อตฺโถ. ‘‘เสสา วิปฺปกิรึสู’’ติ วตฺวา ยถา ปน ตา วิปฺปกิณฺณา อเหสุํ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิ วุตฺตํ.

อุทกธารา นิกฺขมิตฺวา นิพฺพาเปสุนฺติ เทวตานุภาเวน. เอวํ มหติโย พหู อุทกธารา กิมตฺถายาติ อาห ‘‘ภควโต จิตโก มหนฺโต’’ติ. มหา หิ โส วีสรตนสติโก. อฏฺทนฺตเกหีติ นงฺคเลหิ อฏฺเว หิ เนสํ ทนฺตสทิสานิ โปตฺถานิ โหนฺติ, ตสฺมา ‘‘อฏฺทนฺตกานี’’ติ วุจฺจติ.

ธมฺมกถาวปมาณนฺติ อติวิย อจฺฉริยพฺภุตภาวโต ปสฺสนฺตานํ, สุณนฺตานฺจ สาติสยํ ปสาทาวหภาวโต, สวิเสสํ พุทฺธานุภาวทีปนโต. ปรินิพฺพุตสฺส หิ พุทฺธสฺส ภควโต เอวรูโป อานุภาโวติ ตํ ปวตฺตึ กเถนฺตานํ ธมฺมกถิกานํ อตฺตโน าณพลานุรูปํ ปวตฺติยมานา ธมฺมกถา เอเวตฺถ ปมาณํ วณฺเณตพฺพสฺส อตฺถสฺส มหาวิสยตฺตา, ตสฺมา วณฺณนาภูมิ นาเมสาติ อธิปฺปาโย. จตุชฺชาติยคนฺธปริภณฺฑํ กาเรตฺวาติ ตครกุงฺกุมยวนปุปฺผตมาลปตฺตานิ ปิสิตฺวา กตคนฺเธน ปริภณฺฑํ กาเรตฺวา. ขจิตฺวาติ ตตฺถ ตตฺถ โอลมฺพนวเสน รเจตฺวา, คนฺธวตฺถูนิ คเหตฺวา คนฺถิตมาลา คนฺธทามานิ รตนาวฬิโย รตนทามานิ. พหิกิลฺชปริกฺเขปสฺส, อนฺโตสาณิปริกฺเขปสฺส กรเณน สาณิกิลฺชปริกฺเขปํ กาเรตฺวา. วาตคฺคาหินิโย ปฏากา วาตปฏากา. สรภรูปปาทโก ปลฺลงฺโก สรภมยปลฺลงฺโก, ตสฺมึ สรภมยปลฺลงฺเก.

สตฺติหตฺถา ปุริสา สตฺติโย ตํสหจรณโต ยถา ‘‘กุนฺตา ปจรนฺตี’’ติ, เตหิ สมนฺตโต รกฺขาปนํ ปฺจกรณนฺติ อาห ‘‘สตฺติหตฺเถหิ ปุริเสหิ ปริกฺขิปาเปตฺวา’’ติ. ธนูหีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. สนฺนาหควจฺฉิกํวิย กตฺวา นิรนฺตราวฏฺิตอารกฺขสนฺนาเหน ควจฺฉิชาลํ วิย กตฺวา.

สาธุกีฬิตนฺติ สปรหิตํ สาธนฏฺเน สาธู, เตสํ กีฬิตํ อุฬารปุฺปสวนโต, สมฺปรายิกตฺถาวิโรธิกํ กีฬาวิหารนฺติ อตฺโถ.

สรีรธาตุวิภชนวณฺณนา

๒๓๖. อิมินาว นิยาเมนาติ เยน นีหาเรน มหาตเล นิสินฺโน กฺจิ ปริหารํ อกตฺวา เกวลํ อิมินา นิยาเมเนว. สุปินโกติ ทุสฺสุปินโก. ทุกูลทุปฏฺฏํ นิวาเสตฺวาติ ทฺเว ทุกูลวตฺถานิ เอกชฺฌํ กตฺวา นิวาเสตฺวา. เอวฺหิ ตานิ โสกสมปฺปิตสฺสาปิ อภสฺสิตฺวา ติฏฺนฺติ.

อภิเสกสิฺจโกติ รชฺชาภิเสเก อภิเสกมงฺคลสิฺจโก อุตฺตมมงฺคลภาวโต. วิสฺี ชาโต ยถา ตํ ภควโต คุณวิเสสามตรสฺุตาย อวฏฺิตเปโม โปถุชฺชนิกสทฺธาย ปติฏฺิตปสาโท กตูปการตาย สฺชนิตจิตฺตมทฺทโว.

สุวณฺณพิมฺพิสกวณฺณนฺติ สุวิรจิต อปสฺเสนสทิสํ.

กสฺมา ปเนตฺถ ปาเวยฺยกา ปาฬิยํ สพฺพปจฺฉโต คหิตา, กึ เต กุสินาราย อาสนฺนตราปิ สพฺพปจฺฉโต อุฏฺิตา? อาม, สพฺพปจฺฉโต อุฏฺิตาติ ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถ ปาเวยฺยกา’’ติอาทิ วุตฺตํ.

ธาตุปาสนตฺถนฺติ สตฺถุ ธาตูนํ ปยิรุปาสนาย. เนสํ ปกฺขา อเหสุํ ‘‘าเยน เตสํ สนฺตกา ธาตุโย’’ติ.

๒๓๗. โทณคชฺชิตํ นาม อโวจ สตฺถุ อวตฺถตฺตยูปสํหิตํ. เอตทตฺถเมว หิ ภควา มคฺคํ คจฺฉนฺโต ‘‘ปจฺฉโต อาคจฺฉนฺโต โทโณ พฺราหฺมโณ ยาว เม ปทวฬฺชํ ปสฺสติ, ตาว มา วิคจฺฉตู’’ติ อธิฏฺาย อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล นิสีทิ. โทโณปิ โข พฺราหฺมโณ ‘‘อิมานิ สเทวเก โลเก อคฺคปุคฺคลสฺส ปทานี’’ติ สลฺลกฺเขนฺโต ปทานุสาเรน สตฺถุ สนฺติกํ อุปคจฺฉิ, สตฺถาปิสฺส ธมฺมํ เทเสสิ, เตนปิ โส ภควติ นิวิฏฺสทฺโธ อโหสิ. เอตทโวจ, กึ อโวจาติ อาห ‘‘สุณนฺตุ…เป… อโวจา’’ติ.

กาเยน เอกสนฺนิปาตา วาจาย เอกวจนา อภินฺนวจนา เอวํ สมคฺคา โหถ. ตสฺส ปนิทํ การณนฺติ อาห ‘‘สมฺโมทมานา’’ติ. เตนาห ‘‘จิตฺเตนาปิ อฺมฺํ สมฺโมทมานา โหถา’’ติ.

๒๓๘. ตโต ตโต สมาคตสงฺฆานนฺติ ตโต ตโต อตฺตโน วสนฏฺานโต สมาคนฺตฺวา สนฺนิปติตภาเวน สมาคตสงฺฆานํ. ตถา สมาปติตสมูหภาเวน สมาคตคณานํ. วจนสมฺปฏิจฺฉเนน ปฏิสฺสุณิตฺวา.

ธาตุถูปปูชาวณฺณนา

๒๓๙. ยกฺขคฺคาโห เทวตาเวโส. ขิปิตกํ ธาตุกฺโขภํ อุปฺปาเทตฺวา ขิปิตกโรโค. อโรจโก อาหารสฺส อรุจฺจนโรโค.

สตฺตมทิวเสติ สตฺตวสฺสสตฺตมาสโต ปรโต สตฺตเม ทิวเส. พลานุรูเปนาติ วิภวพลานุรูเปน.

ปจฺฉา สงฺคีติการกาติ ทุติยํ ตติยํ สงฺคีติการกา. ธาตูนํ อนฺตรายํ ทิสฺวาติ ตตฺถ ตตฺถ เจติเย ยถาปติฏฺาปิตภาเวเนว ิตานํ ธาตูนํ มิจฺฉาทิฏฺิกานํ วเสน อนฺตรายํ ทิสฺวา, มหาธาตุนิธาเนน สมฺมเทว รกฺขิตานํ อนาคเต อโสเกน ธมฺมรฺา ตโต อุทฺธริตฺวา วิตฺถาริตภาเว กเต สเทวกสฺส โลกสฺส หิตสุขาวหภาวฺจ ทิสฺวาติ อธิปฺปาโย. ปริจรณมตฺตเมวาติ คเหตฺวา ปริจริตพฺพธาตุมตฺตเมว. ราชูนํ หตฺเถ เปตฺวา, น เจติเยสุ. ตถา หิ ปจฺฉา อโสกมหาราชา เจติเยสุ ธาตูนํ น ลภติ.

ปุริมํ ปุริมํ กตสฺส คณฺหนโยคฺยํ ปจฺฉิมํ ปจฺฉิมํ กาเรนฺโต อฏฺ อฏฺ หริจนฺทนาทิมเย กรณฺเฑ จ ถูเป จ กาเรสิ. โลหิตจนฺทนมยาทีสุปิ เอเสว นโย. มณิกรณฺเฑสูติ โลหิตงฺกมสารคลฺลผลิกมเย เปตฺวา อวเสสมณิวิจิตฺตเกสุ กรณฺเฑสุ.

ถูปารามเจติยปฺปมาณนฺติ เทวานํปิยติสฺสมหาราเชน การิตเจติยปฺปมาณํ.

มาลา มา มิลายนฺตูติ ‘‘ยาว อโสโก ธมฺมราชา พหิ เจติยานิ กาเรตุํ อิโต ธาตุโย อุทฺธริสฺสติ, ตาว มาลา มา มิลายนฺตู’’ติ อธิฏฺหิตฺวา. อาวิฺฉนรชฺชุยนฺติ อคฺคฬาวิฺฉนรชฺชุยํ. กุฺจิกมุทฺทิกนฺติ ทฺวารวิวรณตฺถํ กุฺจิกฺเจว มุทฺทิกฺจ.

วาฬสงฺฆาตยนฺตนฺติ กุกฺกุลํ ปฏิภยทสฺสนํ อฺมฺปฏิพทฺธคมนาทิตาย สงฺฆาฏิตรูปกยนฺตํ โยเชสิ. เตนาห ‘‘กฏฺรูปกานี’’ติอาทิ. อาณิยา พนฺธิตฺวาติ อเนกกฏฺรูปวิจิตฺตยนฺตํ อตฺตโน เทวานุภาเวน เอกาย เอว อาณิยา พนฺธิตฺวา วิสฺสกมฺโม เทวโลกเมว คโต. ‘‘สมนฺตโต’’ติอาทิ ปน ตสฺมึ ธาตุนิทาเน อชาตสตฺตุโน กิจฺจวิเสสานุฏฺานทสฺสนํ.

‘‘อสุกฏฺาเน นาม ธาตุนิธาน’’นฺติ รฺา ปุจฺฉิเต ‘‘ตสฺมึ สนฺนิปาเต วิเสสลาภิโน นาเหสุ’’นฺติ เกจิ. ‘‘อตฺตานํ นิคูหิตฺวา ตสฺส วุฑฺฒตรสฺส วจนํ นิสฺสาย วีมํสนฺโต ชานิสฺสตีติ น กเถสุ’’นฺติ อปเร. ยกฺขทาสเกติ อุปหาราทิวิธินา เทวตาเวสนเก ภูตาวิคฺคาหเก.

อิมํปทนฺติ ‘‘เอวเมตํ ภูตปุพฺพ’’นฺติ ทุติยสงฺคีติกาเรหิ ปิตํ อิมํ ปทํ. มหาธาตุนิธานมฺปิ ตสฺส อตฺถํ กตฺวา ตติยสงฺคีติการาปิ ปยึสุ.

มหาปรินิพฺพานสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา.