📜

๕. ชนวสภสุตฺตวณฺณนา

นาติกิยาทิพฺยากรณวณฺณนา

๒๗๓-๒๗๕. ‘‘ปริโต’’ติ ปทํ ยถา สมนฺตตฺถวาจโก, เอวํ สมีปตฺถวาจโกปิ โหตีติ สมนฺตา สามนฺตาติ อตฺโถ วุตฺโต. อาเมฑิเตน ปน สมนฺตตฺโถ โชติโต. ยสฺส ปน สามนฺตา ชนปเทสุ ‘‘นาติเก วิหรตี’’ติ วุตฺตตฺตา นาติกสฺสาติ วิฺาโต ยมตฺโถ. ยสฺส ปริโต ชนปเทสุ พฺยากโรติ, ตตฺถ ปริจารการกานํ พฺยากรณํ อวุตฺตสิทฺธํ, นิทสฺสนวเสน วา ตสฺส วกฺขมานตฺตา ‘‘ปริโต ปริโต ชนปเทสุ’’ อิจฺเจว วุตฺตํ. ปริจารเกติ อุปาสเก. เตนาห ‘‘พุทฺธธมฺมสงฺฆานํ ปริจารเก’’ติ. อุปปตฺตีสูติ นิพฺพตฺตีสุ. าณคติปุฺานํ อุปปตฺตีสูติ เอตฺถ าณคตูปปตฺติ นาม ตสฺส ตสฺส มคฺคาณคมนสฺส นิพฺพตฺติ. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ ปริกฺขยา’’ติอาทิ. ปุฺูปปตฺติ นาม ตํตํเทวนิกายูปปตฺติ. สพฺพตฺถาติ ‘‘วชฺชิมลฺเลสู’’ติอาทิเก สพฺพตฺถ จตูสุปิ ปเทสุ. ปุริเมสูติ ปาฬิยํ วุตฺเต สนฺธายาห. ทสสุเยวาติ เตสุ เอว ทสสุ ชนปเทสุ. ปริจารเก พฺยากโรติ พฺยกาตพฺพานํ พหูนํ ตตฺถ ลพฺภนโต. นาติเก ภวา นาติกิยา.

นิฏฺงฺคตาติ นิฏฺํ นิจฺฉยํ อุปคตา.

อานนฺทปริกถาวณฺณนา

๒๗๖. ยสฺมา สงฺฆสุปฺปฏิปตฺติ นาม ธมฺมสุธมฺมตาย, ธมฺมสุธมฺมตา จ พุทฺธสุพุทฺธตาย, ตสฺมา ‘‘อโห ธมฺโม, อโห สงฺโฆ’’ติ ธมฺมสงฺฆคุณกิตฺตนาปิ อตฺถโต พุทฺธคุณกิตฺตนา เอว โหตีติ ‘‘ภควนฺตํ กิตฺตยมานรูปา’’ติ ปทสฺส ‘‘อโห ธมฺโม’’ติอาทินาปิ อตฺโถ วุตฺโต.

๒๗๘. าณคตีติ ‘‘ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา’’ติอาทินา อาคตํ ปหาตพฺพปหานวเสน ปวตฺตํ มคฺคาณคมนํ. ยสฺมา ตสฺสา เอว าณคติยา วเสน ตสฺส ตสฺส อริยปุคฺคลสฺส โอปปาติกตาทิวิเสโส, ตสฺมา ตํ ตาทิสํ ตสฺส อภิสมฺปรายํ สนฺธายาห ‘‘าณาภิสมฺปรายเมวา’’ติ.

๒๗๙. อุปสนฺตํ ปติ สมฺมติ อาโลกียตีติ อุปสนฺตปติโส. อุปสนฺตทสฺสโน อุปสนฺตอุสฺสนฺโน. ภาติริวาติ เอตฺถ -กาโร ปทสนฺธิกโร, อิว-สทฺโท ภุสตฺโถติ อาห ‘‘อติวิย ภาตี’’ติ.

ชนวสภยกฺขวณฺณนา

๒๘๐. เชฏฺกภาเวน ชเน วสภสทิโสติ ชนวสโภติ อสฺส เทวปุตฺตสฺส นามํ อโหสิ.

อิโต เทวโลกา จวิตฺวา สตฺตกฺขตฺตุํ มนุสฺสโลเก ราชภูตสฺส. มนุสฺสโลกา จวิตฺวา สตฺตกฺขตฺตุํ เทวภูตสฺส. เอตฺเถวาติ เอตสฺมึเยว จาตุมหาราชิกภเว, เอตฺถาปิ เวสฺสวณสฺส สหพฺยตาวเสน.

๒๘๑. อาสิสนํ อาสา, ปตฺถนา. อาสาสีเสน เจตฺถ กตฺตุกมฺยตากุสลจฺฉนฺทํ วทติ. เตเนวาห ‘‘สกทาคามิมคฺคตฺถายา’’ติอาทิ. ยทคฺเคติ เอตฺถ อคฺค-สทฺโท อาทิปริยาโยติ อาห ‘‘ตํ ทิวสํ อาทึ กตฺวา’’ติ. ‘‘ปุริมํ…เป… อวินิปาโต’’ติ อิทํ ยถา ตตฺตกํ กาลํ สุคติโต สุคตูปปตฺติเยว อโหสิ, ตถา กตูปจิตกุสลกมฺมตฺตา. ผุสฺสสฺส สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส กาลโต ปภุติ หิ สมฺภตวิวฏฺฏูปนิสฺสยกุสลสมฺภาโร เอส เทวปุตฺโต. อนจฺฉริยนฺติ อนุ อนุ อจฺฉริยํ. เตนาห ‘‘ปุนปฺปุนํ อจฺฉริยเมวา’’ติ. สยํปริสายาติ สกาย ปริสาย. ภควโต ทิฏฺสทิสเมวาติ อาวชฺชนสมนนฺตรํ ยถา เต ภควโต จตุวีสติสตสหสฺสมตฺตา สตฺตา าณคติโต ทิฏฺา, เอวํ ตุมฺเหหิ ทิฏฺสทิสเมว. เวสฺสวณสฺส สมฺมุขา สุตํ มยาติ วทติ.

เทวสภาวณฺณนา

๒๘๒. วสฺสูปนายิกสงฺคหตฺถนฺติ วสฺสูปนายิกาย อารกฺขาสํวิธานวเสน ภิกฺขูนํ สงฺคหณตฺถํ ‘‘วสฺสูปคตา ภิกฺขู เอวํ สุเขน สมณธมฺมํ กโรนฺตี’’ติ, ปวารณสงฺคโห ปนสฺส ปวาเรตฺวา สตฺถุ สนฺติกํ คจฺฉนฺตานํ ภิกฺขูนํ อนฺตรามคฺเค ปริสฺสยปริหรณตฺถํ. ธมฺมสฺสวนตฺถํ ทูรฏฺานํ คจฺฉนฺเตสุปิ เอเสว นโย. อตฺตนาปิ อาคนฺตฺวา ธมฺมสฺสวนตฺถํ สนฺนิปติเยว. เอตฺเถตฺถาติ เอตฺถ เอตฺถ อยฺยานํ วสนฏฺาเน.

ตทาปีติ ‘‘ปุริมานิ ภนฺเต ทิวสานี’’ติ วุตฺตกาเลปิ. เอเตเนว การเณนาติ วสฺสูปนายิกนิมิตฺตเมว. เตนาห ปาฬิยํ ‘‘ตทหุโปสเถ ปนฺนรเส วสฺสูปนายิกายา’’ติอาทิ. อาสเนปิ นิสชฺชาย สุธมฺมาย เทวสภาย ปมํ เทเวสุ ตาวตึเสสุ นิสินฺเนสุ ตสฺสา จตูสุ ทฺวาเรสุ จตฺตาโร มหาราชาโน นิสีทนฺติ, อิทํ เนสํ อาสเน นิสชฺชาย จาริตฺตํ โหติ.

เยนตฺเถนาติ เยน กิจฺเจน เยน ปโยชเนน. อารกฺขตฺถนฺติ อารกฺขภูตมตฺถํ. วุตฺตํ วจนํ เอเตสนฺติ วุตฺตวจนา, มหาราชาโน.

๒๘๓. อติกฺกมิตฺวาติ อภิภวิตฺวา.

สนงฺกุมารกถาวณฺณนา

๒๘๔. อภิสมฺภวิตุํ อธิคนฺตุํ อสกฺกุเณยฺโย อนภิสมฺภวนีโย. เตนาห ‘‘อปฺปตฺตพฺโพ’’ติอาทิ. จกฺขุเยว ปโถ รูปทสฺสนสฺส มคฺโค อุปาโยติ จกฺขุปโถ, ตสฺมึ จกฺขุปถสฺมินฺติ อาห ‘‘จกฺขุปสาเท’’ติ, จกฺขุสฺส โคจรโยคฺโค วา จกฺขุปโถติ อาห ‘‘อาปาเถ วา’’ติ. นาภิภวตีติ น อภิภวติ, โคจรภาวํ น คจฺฉตีติ อตฺโถ. เหฏฺา เหฏฺาติ ตาวตึสโต ปฏฺาย เหฏฺา เหฏฺา, น จาตุมหาราชิกโต ปฏฺาย, นาปิ พฺรหฺมปาริสชฺชโต ปฏฺาย. ‘‘จาตุมหาราชิกา หิ ตาวตึสานํ ยถา ชาติรูปานิ ปสฺสิตุํ สกฺโกนฺติ, ตถา พฺรหฺมาโน เหฏฺิมา อุปริมาน’’นฺติ เกจิ, ตํ น ยุตฺตํ. น หิ เหฏฺิมา พฺรหฺมาโน อุปริมานํ มูลปฏิสนฺธิรูปํ ปสฺสิตุํ สกฺโกนฺติ, มาปิตเมว ปสฺสิตุํ สกฺโกนฺตีติ ทฏฺพฺพํ.

สุณนฺโตวนิทฺทํ โอกฺกมีติ คติโย อุปธาเรนฺโต พหิ วิสฏวิตกฺกวิจฺเฉเทน สงฺโกจํ อาปนฺนจิตฺตตาย. มยฺหํ อยฺยกสฺสาติ ภควนฺตํ สนฺธาย วทติ.

ปฺจ สิขา เอตสฺสาติ ปฺจสิโข, ปฺจสิโข วิย ปฺจสิโขติ อาห ‘‘ปฺจสิขคนฺธพฺพสทิโส’’ติ. มมายนฺตีติ ปิยายนฺติ.

๒๘๕. สุมุตฺโตติ สรโทเสหิ สุฏฺุ มุตฺโต. เยหิ ปิตฺตเสมฺหาทีหิ ปลิพุทฺธตฺตา สโร อวิสฺสฏฺโ สิยา, ตทภาวโต วิสฺสฏฺโติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อปลิพุทฺโธ’’ติ. วิฺาเปตีติ วิฺเยฺโย, อนฺโตคธเหตุอตฺโถ กตฺตุสาธโน เอส วิฺเยฺยสทฺโทติ อาห ‘‘อตฺถวิฺาปโน’’ติ. สรสฺส มธุรตา นาม มทฺทวนฺติ อาห ‘‘มธุโร มุทู’’ติ. สวนํ อรหตีติ สวนีโย. สวนารหตาย จ อาปาถสุขตายาติ อาห ‘‘กณฺณสุโข’’ติ. พินฺทูติ ปิณฺฑิโต. อาโกฏิตภินฺนกํสสทฺโท วิย อเนกาวยโว อหุตฺวา นิรวยโว, เอกภาโวติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘เอกคฺฆโน’’ติ, เอเตเนวสฺส อวิสาริตา สํวณฺณิตา ทฏฺพฺพา. คมฺภีรุปฺปตฺติฏฺานตาย จสฺส คมฺภีรตาติ อาห ‘‘นาภิมูลโต’’ติอาทิ. เอวํ สมุฏฺิโตติ ชีวฺหาทิปฺปหารมตฺตสมุฏฺิโต. อมธุโร จ โหติ อุปฺปตฺติฏฺานานํ ปริลหุภาวโต. น จ ทูรํ สาเวติ วีรภาวาภาวโต. นินฺนาที สุวิปุลภาวโต สวิเสสํ นินฺนาโท, ปาสํสนินฺนาโท วา. เตนาห ‘‘มหาเมฆ…เป… ยุตฺโต’’ติ.

ปจฺฉิมํ ปจฺฉิมนฺติ ทุติยํ, จตุตฺถํ, ฉฏฺํ, อฏฺมฺจ ปทํ. ปุริมสฺส ปุริมสฺสาติ ยถากฺกมํ ปมสฺส, ตติยสฺส, ปฺจมสฺส, สตฺตมสฺส จ. อตฺโถเยวาติ อตฺถนิทฺเทโส เอว. วิสฺสฏฺตา หิสฺส วิฺเยฺยตาย เวทิตพฺพา, มฺชุภาโว สวนียตาย, พินฺทุภาโว อวิสาริตาย, คมฺภีรภาโว นินฺนาทิตายาติ. ยถาปริสนฺติ เอตฺถ ยถา-สทฺโท ปริมาณวาจี, น ปการาทิวาจีติ อาห ‘‘ยตฺตกาปริสา’’ติ, เตน ปริสปฺปมาณํ เอวสฺส สโร นิจฺฉรติ, อยมสฺส ธมฺมตาติ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘ตตฺตกเมวา’’ติอาทิ.

‘‘เย หิ เกจี’’ติอาทิ ‘‘ยาวฺจ โส ภควา’’ติอาทินา วุตฺตสฺส อตฺถสฺส เหตุกิตฺตนวเสน สมตฺถนํ สรเณสุ เนสํ นิจฺจเสวเนน, สีเลสุ จ ปติฏฺาปเนน ฉกามสคฺคสมฺปตฺติอนุปฺปาทนโต. เตนาห ‘‘เย หิ เกจิ…เป… วทตี’’ติ. นิพฺเพมติกคหิตสรเณติ มคฺเคนาคตสรณคมเน. เต หิ สพฺพโส สมุคฺฆาติตวิจิกิจฺฉตาย รตนตฺตเย อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคตาเยว, โปถุชฺชนิกสทฺธาย วเสน พุทฺธาทีนํ คุเณ โอคาเหตฺวา ชานนฺติ, อปรเนยฺยพุทฺธิโน เต ปริยายโต นิพฺเพมติกคหิตสรณา เวทิตพฺพา. คนฺธพฺพเทวคณนฺติ คนฺธพฺพเทวสมูหํ. ตุกา วุจฺจติ ขีริณี ยา ตุกาติปิ วุจฺจติ. ตสฺสา จุณฺณํ ตุกาปิฏฺํ. ตํ โกฏฺเฏตฺวา ปกฺขิตฺตํ ฆนํ นิรนฺตรจิตํ หุตฺวา ติฏฺติ.

ภาวิตอิทฺธิปาทวณฺณนา

๒๘๗. สุปฺตฺตาติ สุฏฺุ ปกาเรหิ าปิตา โพธิตา, อสงฺกรโต วา ปิตา, ตํ ปน โพธนํ, อสงฺกรโต ปนฺจ อตฺถโต เทสนา เอวาติ อาห ‘‘สุกถิตา’’ติ. อิชฺฌนฏฺเนาติ สมิชฺฌนฏฺเน, นิปฺปชฺชนสฺส การณภาเวนาติ อตฺโถ. ปติฏฺานฏฺเนาติ อธิฏฺานฏฺเน. อิทฺธิยา ปาโทติ อิทฺธิปาโท, อิทฺธิยา อธิคมุปาโยติ อตฺโถ. เตน หิ ยสฺมา อุปรูปริ วิเสสสงฺขาตํ อิทฺธึ ปชฺชนฺติ ปาปุณนฺติ, ตสฺมา ‘‘ปาโท’’ติ วุจฺจติ. อิชฺฌตีติ อิทฺธิ, สมิชฺฌติ นิปฺปชฺชตีติ อตฺโถ. อิทฺธิ เอว ปาโท อิทฺธิปาโท, อิทฺธิโกฏฺาโสติ อตฺโถ. เอวํ ตาว ‘‘จตฺตาโร อิทฺธิปาทา’’ติ เอตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิทฺธิปโหนกตายาติ อิทฺธิยา นิปฺผาทเน สมตฺถภาวาย. อิทฺธิวิสวิตายาติ อิทฺธิยา นิปฺผาทเน โยคฺยภาวาย. อเนกตฺถตฺตา หิ ธาตูนํ โยคฺยตฺโถ วิ-ปุพฺโพ สุ-สทฺโท, วิสวนํ วา ปชฺชนํ วิสวิตา, ตตฺถ กามการิตา วิสวิตา. เตนาห ‘‘ปุนปฺปุน’’นฺติอาทิ. อิทฺธิวิกุพฺพนตายาติ วิกุพฺพนิทฺธิยา วิวิธรูปกรณาย. เตนาห ‘‘นานปฺปการโต กตฺวา ทสฺสนตฺถายา’’ติ.

‘‘ฉนฺทฺจ ภิกฺขุ อธิปตึ กริตฺวา ลภติ สมาธึ, ลภติ จิตฺตสฺเสกคฺคตํ, อยํ วุจฺจติ ฉนฺทสมาธี’’ติ (วิภ. ๔๓๒) อิมาย ปาฬิยา ฉนฺทาธิปติ สมาธิ ฉนฺทสมาธีติ อธิปติสทฺทโลปํ กตฺวา สมาโส วุตฺโตติ วิฺายติ, อธิปติสทฺทตฺถทสฺสนวเสน ปน ‘‘ฉนฺทเหตุโก, ฉนฺทาธิโก วา สมาธิ ฉนฺทสสมาธี’’ติ อฏฺกถายํวุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ‘‘ปธานภูตาติ วีริยภูตา’’ติ เกจิ วทนฺติ. สงฺขตสงฺขาราทินิวตฺตนตฺถฺหิ ปธานคฺคหณนฺติ. อถ วา ตํ ตํ วิเสสํ สงฺขโรตีติ สงฺขาโร, สพฺพมฺปิ วีริยํ. ตตฺถ จตุกิจฺจสาธกโต อฺสฺส นิวตฺตนตฺถํ ปธานคฺคหณนฺติ ปธานภูตา เสฏฺภูตาติ อตฺโถ. จตุพฺพิธสฺส ปน วีริยสฺส อธิปฺเปตตฺตา พหุวจนนิทฺเทโส กโต. วิสุํ สมาสโยชนวเสน โย ปุพฺเพ อิทฺธิปาทตฺโถ ปาทสฺส อุปายตฺถตํ, โกฏฺาสตฺถตฺจ คเหตฺวา ยถาโยควเสน อิธ วุตฺโต, โส วกฺขมานานํ ปฏิลาภปุพฺพภาคานํ กตฺตุกรณิทฺธิภาวํ, อุตฺตรจูฬภาชนีเย วา วุตฺเตหิ ฉนฺทาทีหิ อิทฺธิปาเทหิ สาเธตพฺพาย อิทฺธิยา กตฺติทฺธิภาวํ, ฉนฺทาทีนฺจ กรณิทฺธิภาวํ สนฺธาย วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ, ตสฺมา ‘‘อิชฺฌนฏฺเน อิทฺธี’’ติ เอตฺถ กตฺตุอตฺโถ, กรณตฺโถ จ เอกชฺฌํ คเหตฺวา วุตฺโตติ กตฺตุอตฺถํ ตาว ทสฺเสตุํ ‘‘นิปฺผตฺติปริยาเยน อิชฺฌนฏฺเน วา’’ติ วตฺวา อิตรํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิชฺฌนฺติเอตายา’’ติอาทิมาห. วุตฺตนฺติ กตฺถ วุตฺตํ? อิทฺธิปาทวิภงฺคปาเ. (วิภ. ๔๓๔) ตถาภูตสฺสาติ เตนากาเรน ภูตสฺส, เต ฉนฺทาทิธมฺเม ปฏิลภิตฺวา ิตสฺสาติ อตฺโถ. ‘‘เวทนากฺขนฺโธ’’ติอาทีหิ ฉนฺทาทโย อนฺโตกตฺวา จตฺตาโรปิ ขนฺธา กถิตา. เสเสสูติ เสสิทฺธิปาเทสุ.

วีริยิทฺธิปาทนิทฺเทเส ‘‘วีริยสมาธิปธานสงฺขารสมนฺนาคต’’นฺติ ทฺวิกฺขตฺตุํ วีริยํ อาคตํ. ตตฺถ ปุริมํ สมาธิวิเสสนํ ‘‘วีริยาธิปติ สมาธิ วีริยสมาธี’’ติ, ทุติยํ สมนฺนาคมงฺคทสฺสนํ. ทฺเวเยว หิ สพฺพตฺถ สมนฺนาคมงฺคานิ, สมาธิ, ปธานสงฺขาโร จ. ฉนฺทาทโย หิ สมาธิวิเสสนานิ, ปธานสงฺขาโร ปน ปธานวจเนเนว วิเสสิโต, น ฉนฺทาทีหีติ น อิธ วีริยาธิปติตา ปธานสงฺขารสฺส วุตฺตา โหติ. วีริยฺจ สมาธึ วิเสเสตฺวา ิตเมว, สมนฺนาคมงฺควเสน ปน ปธานสงฺขารวจเนน วุตฺตนฺติ นาปิ ทฺวีหิ วีริเยหิ สมนฺนาคโม วุตฺโต โหติ. ยสฺมา ปน ฉนฺทาทีหิ วิสิฏฺโ สมาธิ, ตถาวิสิฏฺเเนว จ เตน สมฺปยุตฺโต ปธานสงฺขาโร, เสสธมฺมา จ, ตสฺมา สมาธิวิเสสนานํ วเสน จตฺตาโร อิทฺธิปาทา วุตฺตา, วิเสสนภาโว จ ฉนฺทาทีนํ ตํตํอวสฺสยทสฺสนวเสน โหตีติ ‘‘ฉนฺทสมาธิ…เป… อิทฺธิปาท’’นฺติ เอตฺถ นิสฺสยตฺเถปิ ปาท-สทฺเท อุปายตฺเถน ฉนฺทาทีนํ อิทฺธิปาทตา วุตฺตา โหติ. เตเนว หิ อภิธมฺเม อุตฺตรจูฬภาชนีเย (วิภ. ๔๕๖) ‘‘จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ฉนฺทิทฺธิปาโท’’ติอาทินา ฉนฺทาทีนเมว อิทฺธิปาทตา วุตฺตา. ปฺหปุจฺฉเก (วิภ. ๔๕๗ อาทโย) ‘‘จตฺตาโร อิทฺธิปาทา อิธ ภิกฺขุ ฉนฺทสมาธี’’ติอาทินา จ อุทฺเทสํ กตฺวาปิ ปุน ฉนฺทาทีนํเยว กุสลาทิภาโว วิภตฺโต. อุปายิทฺธิปาททสฺสนตฺถเมว หิ นิสฺสยิทฺธิปาททสฺสนํ กตํ, อฺถา จตุพฺพิธตา น สิยาติ. อยเมตฺถ ปาฬิวเสน อตฺถวินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. อิทานิ ปฏิลาภปุพฺพภาคานํ วเสน อิทฺธิปาเท วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิ วุตฺตํ, ตํ สุวิฺเยฺยเมว. อิธ อิทฺธิปาทกถา สงฺเขเปเนว วุตฺตาติ อาห ‘‘วิตฺถาเรน ปน…เป… วุตฺตา’’ติ.

เกจีติ อภยคิริวาสิโน. เตสุ หิ เอกจฺเจ ‘‘อิทฺธิ นาม อนิปฺผนฺนา’’ติ วทนฺติ, เอกจฺเจ ‘‘อิทฺธิปาโท ปน อนิปฺผนฺโน’’ติ วทนฺติ, อนิปฺผนฺโนติ จ ปรมตฺถโต อสิทฺโธ, นตฺถีติ อตฺโถ. อาภโตติ อภิธมฺมปาโต (วิภ. ๔๕๘) ทีฆนิกายฏฺกถายํ (ที. นิ. อฏฺ. ๒.๒๘๗) อานีโต ปุริมนยโต อฺเนากาเรน เทสนาย ปวตฺตตฺตา. ฉนฺโท เอว อิทฺธิปาโท ฉนฺทิทฺธิปาโท. เอเสว นโย เสเสสุปิ. อิเม ปนาติ อิมสฺมึ สุตฺเต อาคตา อิทฺธิปาทา . รฏฺปาลตฺเถโร (ม. นิ. ๒.๒๙๓; อ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๒๑๐; อป. อฏฺ. ๒.รฏฺปาลตฺเถรอปทานวณฺณนาย วิตฺถาโร) ‘‘ฉนฺเท สติ กถํ นานุชานิสฺสนฺตี’’ติ สตฺตาหํ ภตฺตานิ อภุฺชิตฺวา มาตาปิตโร อนุชานาเปตฺวา ปพฺพชิตฺวา ฉนฺทเมว อวสฺสาย โลกุตฺตรํ ธมฺมํ นิพฺพตฺเตสีติ อาห ‘‘รฏฺปาลตฺเถโร…เป… นิพฺพตฺเตสี’’ติ. โสณตฺเถโร (มหาว. ๒๔๓; อ. นิ. ๖.๕๕; เถรคา. อฏฺ. เตรสนิปาต; อป. อฏฺ. ๒.โสณโกฏิวีสตฺเถรอปทานวณฺณนาย วิตฺถาโร) ภาวนมนุยุตฺโต อารทฺธวีริโย ปรมสุขุมาโล ปาเทสุ โผเฏสุ ชาเตสุปิ วีริยํ นปฺปฏิปสฺสมฺเภสีติ อาห ‘‘โสณตฺเถโร วีริยํ ธุรํ กตฺวา’’ติ. สมฺภูตตฺเถโร (เถรคา. อฏฺ. ๒.สมฺมูตตฺเถรคาถาวณฺณนาย วิตฺถาโร) ‘‘จิตฺตวโต กึ นาม น สิชฺฌตี’’ติ จิตฺตํ ปุพฺพงฺคมํ กตฺวา ภาวนํ อาราเธสีติ อาห ‘‘สมฺภูตตฺเถโร จิตฺตํ ธุรํ กตฺวา’’ติ. โมฆตฺเถโร วีมํสํ อวสฺสยิ, ตสฺมา ตสฺส ภควา ‘‘สุฺโต โลกํ อเวกฺขสฺสู’’ติ (สุ. นิ. ๑๑๒๕; พุ. วํ. ๕๔.๓๕๓; มหา. นิ. ๑๘๖; จูฬนิ. โมฆราชมาณวปุจฺฉา ๑๔๔; โมฆราชมาณวปุจฺฉานิทฺเทเส ๘๘; เนตฺติ. ๕; เปฏโก. ๒๒, ๓๑) สุฺตากถํ กเถสิ, ปฺานิสฺสิตมานนิคฺคหตฺถํ, ปฺาย ปริคฺคหตฺถฺจ ทฺวิกฺขตฺตุํ ปุจฺฉิโต สมาโน ปฺหํ กเถสิ. เตนาห ‘‘อายสฺมา โมฆราชา วีมํสํ ธุรํ กตฺวา’’ติ.

ปุนปฺปุนํ ฉนฺทุปฺปาทนํ เปสนํ วิย โหตีติ ฉนฺทสฺส อุปฏฺานสทิสตา วุตฺตา.

ปรกฺกเมนาติ ปรกฺกมสีเสน สูรภาวํ วทติ. ถามภาวโต จ วีริยสฺส สูรภาวสทิสตา ทฏฺพฺพา.

จินฺตนปฺปธานตฺตา จิตฺตสฺส มนฺตสํวิธานสทิสตา วุตฺตา.

ชาติสมฺปตฺติ นาม วิสิฏฺชาติตา. ‘‘สพฺพธมฺเมสุ จ ปฺา เสฏฺา’’ติ วีมํสาย ชาติสมฺปตฺติสทิสตา วุตฺตา. สมฺโมหวิโนทนิยํ (วิภ. อฏฺ. ๔๓๓) ปน จิตฺติทฺธิปาทสฺส ชาติสมฺปตฺติสทิสตา, วีมํสิทฺธิปาทสฺส มนฺตพลสทิสตา จ โยชิตา.

อเนกํ วิหิตํ วิธํ เอตสฺสาติ อเนกวิหิตนฺติ อาห ‘‘อเนกวิธ’’นฺติ. วิธ-สทฺโท โกฏฺาสปริยาโย ‘‘เอกวิเธน าณวตฺถู’’ติอาทีสุ (วิภ. ๗๕๑) วิยาติ อาห ‘‘อิทฺธิวิธนฺติ อิทฺธิโกฏฺาส’’นฺติ.

ติวิธโอกาสาธิคมวณฺณนา

๒๘๘. ‘‘สุขสฺสา’’ติ อิทํ ติณฺณมฺปิ สุขานํ สาธารณวจนนฺติ อาห ‘‘ฌานสุขสฺส มคฺคสุขสฺส ผลสุขสฺสา’’ติ. นานปฺปนาปตฺตตาย ปน อปฺปธานตฺตา อุปจารชฺฌานสุขสฺส, วิปสฺสนาสุขสฺส เจตฺถ อคฺคหณํ. ปุริเมสุ ตาว ทฺวีสุ โอกาสาธิคเมสุ ตีณิปิ สุขานิ ลพฺภนฺติ, ตติเย ปน กถนฺติ? ตตฺถ กามํ ตีณิ น ลพฺภนฺติ, ทฺเว ปน ลพฺภนฺติเยว. ยถาลาภวเสน เหตํ วุตฺตํ. ‘‘สกฺขรกถลมฺปิ มจฺฉคุมฺพมฺปิ จรนฺตมฺปิ ติฏฺนฺตมฺปี’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๒๔๙; ม. นิ. ๑.๔๓๓; ๒.๒๕๙; อ. นิ. ๑.๔๕, ๔๖) วิย. สํสฏฺโติ สํสคฺคํ อุปคโต สมงฺคีภูโต, โส ปน เตหิ สมนฺนาคตจิตฺโตปิ โหตีติ วุตฺตํ ‘‘สมฺปยุตฺตจิตฺโต’’ติ. อริยธมฺมนฺติ อริยภาวกรํ ธมฺมํ. อุปายโตติ วิธิโต. ปถโตติ มคฺคโต. การณโตติ เหตุโต. เยน หิ วิธินา ธมฺมานุธมฺมปฏิปตฺติ โหติ, โส อุเปติ เอเตนาติ อุปาโย, โส ตทธิคมสฺส มคฺคภาวโต ปโถ, ตสฺส กรณโต การณนฺติ จ วุจฺจติ.

‘‘อนิจฺจนฺติอาทิวเสน มนสิ กโรตี’’ติ สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ วิวริตุํ ‘‘โยนิโส มนสิกาโร นามา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อุปายมนสิกาโรติ กุสลธมฺมปฺปวตฺติยา การณภูโต มนสิกาโร. ปถมนสิกาโรติ ตสฺส เอว มคฺคภูโต มนสิกาโร. อนิจฺเจติ อาทิอนฺตวนฺตตาย, อนจฺจนฺติกตาย จ อนิจฺเจ เตภูมเก สงฺขาเร ‘‘อนิจฺจ’’นฺติ มนสิกาโรติ โยชนา. เอเสว นโย เสเสสุปิ. อยํ ปน วิเสโส ตสฺมึเยว อุทยพฺพยปฏิปีฬนตาย ทุกฺขนโต, ทุกฺขมโต จ ทุกฺเข, อวสวตฺตนตฺเถน, อนตฺตสภาวตาย จ อนตฺตนิ, อสุจิสภาวตาย อสุเภ. สพฺพมฺปิ หิ เตภูมกํ สงฺขตํ กิเลสาสุจิปคฺฆรณโต ‘‘อสุภ’’นฺตฺเวว วตฺตุํ อรหติ. สจฺจานุโลมิเกน วาติ สจฺจาภิสมยสฺส อนุโลมนวเสน. ‘‘จิตฺตสฺส อาวฏฺฏนา’’ติอาทินา อาวชฺชนาย ปจฺจยภูตา ตโต ปุริมุปฺปนฺนา มโนทฺวาริกา กุสลชวนปฺปวตฺติ ผลโวหาเรเนว ตถา วุตฺตา. ตสฺสา หิ วเสน สา กุสลุปฺปตฺติยา อุปนิสฺสโย โหตีติ. อาวชฺชนา หิ ภวงฺคจิตฺตํ อาวฏฺเฏตีติ จิตฺตสฺส อาวฏฺฏนา, อนุ อนุ อาวฏฺเฏตีติ อนฺวาวฏฺฏนา. ภวงฺคารมฺมณโต อฺํ อาภุชตีติ อาโภโค. สมนฺนาหรตีติ สมนฺนาหาโร. ตเทวารมฺมณํ อตฺตานํ อนุพนฺธิตฺวา อนุพนฺธิตฺวา อุปฺปชฺชมาเน มนสิ กโรติ เปตีติ มนสิกาโร. อยํ วุจฺจตีติ อยํ อุปายมนสิการลกฺขโณ โยนิโสมนสิกาโร นาม วุจฺจติ, ยสฺส วเสน ปุคฺคโล ทุกฺขาทีนิ สจฺจานิ อาวชฺชิตุํ สกฺโกติ.

อสํสฏฺโติ น สํสฏฺโ กามาทีหิ วิวิตฺโต วินาภูโต. กามาทิวิสํสคฺคเหตุ อุปฺปชฺชนกสุขํ นาม วิเวกชํ ปีติสุขนฺติ อาห ‘‘ปมชฺฌานสุข’’นฺติ. กามํ ปมชฺฌานสุขมฺปิ โสมนสฺสเมว, สุตฺเตสุ ปน ตํ กายิกสุขสฺสาปิ ปจฺจยภาวโต วิเสสโต ‘‘สุข’’นฺตฺเวว วุจฺจตีติ อิธาปิ ฌานภูตํ โสมนสฺสํ สุขนฺติ, อิตรํ โสมนสฺสํ. เตน วุตฺตํ ‘‘สุขา’’ติ. เหตุมฺหิ นิสฺสกฺกวจนนฺติ อาห ‘‘ฌานสุขปจฺจยา’’ติ. อปราปรํ โสมนสฺสนฺติ ฌานาธิคมเหตุ ปจฺจเวกฺขณาทิวเสน ปุนปฺปุนํ อุปฺปชฺชนกโสมนสฺสํ.

ปโมทนํ ปมุโท, ตรุณปีติ, ตโต ปมุทา. ‘‘ปาโมชฺชํ ปีตตฺถายา’’ติอาทีสุ ตรุณปีติ ‘‘ปาโมชฺช’’นฺติ วุจฺจติ, อิธ ปน ปกฏฺโ มุโท ปมุโท ปาโมชฺชนฺติ อธิปฺเปตํ, ตฺจ โสมนสฺสรหิตํ นตฺถีติ อวินาภาวิตาย ‘‘พลวตรํ ปีติโสมนสฺส’’นฺติ วุตฺตํ. ฌานสฺส อุชุวิปจฺจนีกตํ สนฺธาย ‘‘ปฺจ นีวรณานิ วิกฺขมฺเภตฺวา’’ติ วุตฺตํ. ฌานํ ปน ตเทกฏฺเ สพฺเพปิ กิเลเส, สพฺเพปิ อกุสเล ธมฺเม วิกฺขมฺเภติเยว, อตฺตโน โอกาสํ คเหตฺวา ติฏฺติ ปฏิปกฺขธมฺเมหิ อนภิภวนียโต. ตสฺมาติ โอกาสคฺคหณโต, ลทฺโธกาสตายาติ อตฺโถ. มคฺคผลสุขาธิคมาย โอกาสภาวโต วา โอกาโส, อสฺส อธิคโม โอกาสาธิคโม. ปุริมปกฺเข ปน โอกาสํ อวสรํ อธิคจฺฉติ เอเตนาติ โอกาสาธิคโม.

รูปสภาวตาย , เอกนฺตรูปาธีนวุตฺติตาย, สวิปฺผาริกตาย จ อานาปานวิตกฺกวิจารานํ ถูลภาวํ อนุชานนฺโต ‘‘กายวจีสงฺขารา ตาว โอฬาริกา โหนฺตู’’ติ อาห. ตพฺพิธุรตาย ปน เอกจฺจานํ เวทนาสฺานํ ถูลตํ อนนุชานนฺโต ‘‘จิตฺตสงฺขารา กถํ โอฬาริกา’’ติ อาห. อิตโร ‘‘อปฺปหีนตฺตา’’ติ การณํ วตฺวา ‘‘กายสงฺขารา หี’’ติอาทินา ตมตฺถํ วิวรติ. เตติ จิตฺตสงฺขารา. อปฺปหีนา สงฺขารา ลพฺภมานสงฺขารนิมิตฺตตาย ‘‘โอฬาริกา’’ติ วตฺตุํ อรหนฺติ, ปหีนา ปน ตทภาวโต ‘‘สุขุมา’’ติ อาห ‘‘ปหีเน อุปาทายอปฺปหีนตฺตา โอฬาริกา นาม ชาตา’’ติ. ปาฬิยํ ‘‘กายสงฺขารานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิยา’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘สุขนฺติ จตุตฺถชฺฌานิกผลสมาปตฺติสุข’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘จิตฺตสงฺขารานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิยา’’ติ ปน วุตฺตตฺตา ‘‘นิโรธา วุฏฺหนฺตสฺสา’’ติ วุตฺตํ. วจีสงฺขารปฏิปฺปสฺสทฺธิ กายสงฺขารปฏิปฺปสฺสทฺธิยาว สิทฺธาติ เวทิตพฺพา. เตเนวาห ‘‘ทุติย…เป… วิสุํ น วุตฺตานี’’ติ. ปาฬิยํ ปน อตฺถโต สิทฺธาปิ สุปากฏภาเวน วิภาเวตุํ สรูปโต คณฺหาติ. น หิ อริยวินเย อตฺถาปตฺติวิภาวนา อภิธมฺมเทสนาย ปกตีติ. ยถา นีวรณวิกฺขมฺภนฺจ ปมสฺส ฌานสฺส อธิคมาย อุปาโย, เอวํ สุขทุกฺขวิกฺขมฺภนํ จตุตฺถสฺส ฌานสฺส อธิคมาย อุปาโยติ ‘‘จตุตฺถชฺฌานํ สุขํ ทุกฺขํ วิกฺขมฺเภตฺวา’’ติ วุตฺตํ. เสสํ เหฏฺา วุตฺตนยเมว.

อวิชฺชาราคาทีหิ สห วชฺเชหีติ สาวชฺชํ, อกุสลํ, ตทภาวโต อนวชฺชํ กุสลํ. อตฺตโน หิตสุขํ อากงฺขนฺเตน เสวนียโต เสวิตพฺพํ, กุสลํ, ตพฺพิปริยายโต น เสวิตพฺพํ, อกุสลํ. ลามกภาเวน หีนํ, อกุสลํ, เสฏฺภาเวน ปณีตํ, กุสลนฺติ สาวชฺชทุกาทโย ตโยปิ ทุกา ยถารหํ เอเตสํ กุสลากุสลกมฺมปถานํ วเสเนว เวทิตพฺพา. สพฺพนฺติ ยถาวุตฺตํ สพฺพํ จตูหิ ทุเกหิ สงฺคหิตํ ธมฺมชาตํ. ยถารหํ กณฺหฺจ สุกฺกฺจ ปฏิทฺวนฺทิภาวโต, สปฺปฏิภาคฺจ อปฺปฏิภาคฺจ อทฺวยภาวโต. วฏฺฏปฏิจฺฉาทิกา อวิชฺชา ปหียติ จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ สมฺมเทว ปฏิวิชฺฌนโต. ตโต เอว อรหตฺตมคฺควิชฺชา อุปฺปชฺชติ. สุขนฺติ เอวํ กมฺมปถมุเขน เตภูมกธมฺเม สมฺมสิตฺวา วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา มคฺคปฏิปาฏิยา อรหตฺเต ปติฏฺหนฺตสฺส ยํ อรหตฺตมคฺคสุขฺเจว อรหตฺตผลสุขฺจ, ตํ อิธ ‘‘สุข’’นฺติ อธิปฺเปตํ. อนฺโตคธา เอว นานนฺตริยภาวโต.

อฏฺตึสารมฺมณวเสนาติ ปาฬิยํ อาคตานํ อฏฺตึสาย กมฺมฏฺานานํ วเสน. วิตฺถาเรตฺวา กเถตพฺพา ปมชฺฌานาทิวเสน อาคตตฺตาติ อธิปฺปาโย. ‘‘กถ’’นฺติอาทินา ตเมว วิตฺถาเรตฺวา กถนํ นยโต ทสฺเสติ. ‘‘จตุวีสติยา าเนสู’’ติอาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ มหาปรินิพฺพานวณฺณนายํ (ที. นิ. อฏฺ. ๒.๒๑๙) วุตฺตเมว. ‘‘นิโรธสมาปตฺตึ ปาเปตฺวา’’ติ อิมินา อรูปชฺฌานานิปิ คหิตานิ โหนฺติ เตหิ วินา นิโรธสมาปตฺติสมาปชฺชนสฺส อสมฺภวโต, จตุตฺถชฺฌานสภาวตฺตา จ เตสํ. ทส อุปจารชฺฌานานีติ เปตฺวา กายคตาสตึ อานาปานฺจ อฏฺ อนุสฺสติโย, สฺาววตฺถานฺจาติ ทส อุปจารชฺฌานานิ. อธิสีลํ นาม สมาธิสํวตฺตนิยนฺติ ตสฺส เหฏฺิมนฺเตน ปมชฺฌานํ ปริโยสานนฺติ วุตฺตํ ‘‘อธิสีลสิกฺขา ปมํ โอกาสาธิคมํ ภชตี’’ติ. อธิจิตฺตํ นาม จตุตฺถชฺฌานนิฏฺํ ตทนฺโตคธตฺตา อรูปชฺฌานานํ, ตปฺปริโยสานตฺตา ผลชฺฌานานนฺติ วุตฺตํ ‘‘อธิจิตฺตสิกฺขา ทุติย’’นฺติ. มตฺถกปฺปตฺตา อธิปฺาสิกฺขา นาม อคฺคมคฺควิชฺชาติ อาห ‘‘อธิปฺาสิกฺขา ตติย’’นฺติ. สิกฺขตฺตยวเสน ตโย โอกาสาธิคเม นีหรนฺเตน ยถารหํ ตํตํสุตฺตวเสนปิ นีหริตพฺพนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สามฺผเลปี’’ติอาทิมาห.

ยทคฺเคน จ ติสฺโส สิกฺขา ยถากฺกมํ ตโย โอกาสาธิคเม ภชนฺติ, ตทคฺเคน ตปฺปธานตฺตา ยถากฺกมํ ตีณิ ปิฏกานิ เต ภชนฺตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘ตีสุ ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตีณิปิฏกานิ วิภชิตฺวาติ ติณฺณํ โอกาสาธิคมานํ วเสน ยถานุปุพฺพํ ตีณิ ปิฏกานิ วิตฺถาเรตฺวา กเถตุํ ลภิสฺสามาติ. สโมธาเนตฺวาติ สมาโยเชตฺวา ตตฺถ วุตฺตมตฺถํ อิมสฺส สุตฺตสฺส อตฺถภาเวน สมาเนตฺวา. ทุกฺกถิตนฺติ อสมฺพนฺธกถเนน, อติปปฺจกถเนน วา ทุฏฺุ กถิตนฺติ น สกฺกา วตฺตุํ ตถากถนสฺเสว สุกถนภาวโตติ อาห ‘‘เตปิฏกํ…เป… สุกถิตํ โหตี’’ติ.

จตุสติปฏฺานวณฺณนา

๒๘๙. น เกวลํ อภิธมฺมปริยาเยเนว กุสลฏฺโ คเหตพฺโพ, อถ โข พาหิติกปริยาเยน ปีติ อาห ‘‘ผลกุสลสฺส จา’’ติ. เขมฏฺเนาติ จตูหิปิ โยเคหิ อนุปทฺทวภาเวน . สมฺมา สมาหิโตติ สมถวเสน เจว วิปสฺสนาวเสน จ สุฏฺุ สมาหิโต. เอกคฺคจิตฺโตติ วิกฺเขปสฺส ทูรสมุสฺสาริตตฺตา เอกคฺคตํ อวิกฺเขปํ ปตฺตจิตฺโต. อตฺตโน กายโตติ อชฺฌตฺตํ กาเย กายานุปสฺสนาวเสน สมฺมา สมาหิตจิตฺโต สมาโน ‘‘สมาหิโต ยถาภูตํ ปชานาติ ปสฺสตี’’ติ (สํ. นิ. ๓.๕; ๕.๑๐๗๑, ๑๐๗๒; เนตฺติ. ๔๐; มิ. ป. ๑.๑๔) วจนโต. ตตฺถ าณทสฺสนํ นิพฺพตฺเตนฺโต ตโต พหิทฺธา ปรสฺส กาเยปิ าณทสฺสนํ นิพฺพตฺเตติ. เตนาห ‘‘ปรสฺส กายาภิมุขํ าณํ เปเสตี’’ติ. สมฺมา วิปฺปสีทตีติ สมฺมา สมาธานปจฺจเยน อภิปฺปสาเทน าณูปสฺหิเตน อชฺฌตฺตํ กายํ โอกปฺเปติ. สพฺพตฺถาติ สพฺพฏฺาเนสุ. สติ กถิตาติ โยชนา. โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกา กถิตา อนุปสฺสนาาณทสฺสนานํ ตทุภยสาธารณภาวโต.

สตฺตสมาธิปริกฺขารวณฺณนา

๒๙๐. เอตฺถาติ อิมิสฺสา กถาย. ฌานกฺขสฺส วีริยจกฺกสฺส อริยมคฺครถสฺส สีลํ วิภูสนภาเวน วุตฺตนฺติ อาห ‘‘อลงฺกาโร ปริกฺขาโร นามา’’ติ. สตฺตหิ นครปริกฺขาเรหีติ นครํ ปริวาเรตฺวา รกฺขณเกหิ กตปริกฺเขโป, ปริขา, อุทฺทาโป, ปากาโร, เอสิกา, ปลิฆา, ปาการปกฺขณฺฑิลนฺติ อิเมหิ สตฺตหิ นครปริกฺขาเรหิ. สมฺภรียติ ผลํ เอเตนาติ สมฺภาโร, การณํ. เภสชฺชฺหิ พฺยาธิวูปสมเนน ชีวิตสฺส การณํ. ปริวารปริกฺขารวเสนาติ ปริวารสงฺขาตปริกฺขารวเสน. ปริกฺขาโร หิ สมฺมาทิฏฺิยาทโย มคฺคธมฺมา สมฺมาสมาธิสฺส สหชาตาทิปจฺจยภาเวน ปริกรณโต อภิสงฺขรณโต. อุเปจฺจ นิสฺสียตีติ อุปนิสา, สห อุปนิสายาติ สอุปนิโสติ อาห ‘‘สอุปนิสฺสโย’’ติ, สหการีการณภูโต ธมฺมสมูโห อิธ ‘‘อุปนิสฺสโย’’ติ อธิปฺเปโต. สมฺมา ปสตฺถา สุนฺทรา ทิฏฺิ เอตสฺสาติ สมฺมาทิฏฺิ, ปุคฺคโล, ตสฺส สมฺมาทิฏฺิสฺส. โส ปน ยสฺมา ปติฏฺิตสมฺมาทิฏฺิโก, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘สมฺมาทิฏฺิยํ ิตสฺสา’’ติ. สมฺมาสงฺกปฺโป ปโหตีติ มคฺคสมฺมาทิฏฺิยา ทุกฺขาทีสุ ปริชานนาทิกิจฺจํ สาเธนฺติยา กามวิตกฺกาทิเก สมุคฺฆาเฏนฺโต สมฺมาสงฺกปฺโป ยถา อตฺตโน กิจฺจสาธเน ปโหติ, ตถา ปวตฺตึ ปนสฺส ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘สมฺมาสงฺกปฺโป ปวตฺตตี’’ติ. เอส นโย สพฺพปเทสูติ ‘‘สมฺมาสงฺกปฺปสฺส สมฺมาวาจา ปโหตี’’ติอาทีสุ เสสปเทสุ ยถาวุตฺตมตฺถํ อติทิสติ.

เอตฺถ จ ยสฺมา นิพฺพานาธิคมาย ปฏิปนฺนสฺส โยคิโน พหูปการา สมฺมาทิฏฺิ. ตถา หิ สา ‘‘ปฺาปชฺโชโต, ปฺาสตฺถ’’นฺติ จ วุตฺตา. ตาย หิ โส อวิชฺชนฺธการํ วิธมิตฺวา กิเลสโจเร ฆาเตนฺโต เขเมน นิพฺพานํ ปาปุณาติ, ตสฺมา อริยมคฺคกถายํ สมฺมาทิฏฺิ อาทิโต คยฺหติ, อิธ ปน ปุคฺคลาธิฏฺานเทสนาย ‘‘สมฺมาทิฏฺิสฺสา’’ติ วุตฺตํ. ยสฺมา ปน สมฺมาทิฏฺิปุคฺคโล เนกฺขมฺมสงฺกปฺปาทิวเสน สมฺมเทว สงฺกปฺเปติ, น มิจฺฉากามสงฺกปฺปาทิวเสน, ตสฺมา สมฺมาทิฏฺิสฺส สมฺมาสงฺกปฺโป ปโหติ. ยสฺมา จ สมฺมาสงฺกปฺโป สมฺมาวาจาย อุปการโก. ยถาห ‘‘ปุพฺเพ โข คหปติ วิตกฺเกตฺวา วิจาเรตฺวา ปจฺฉา วาจํ ภินฺทตี’’ติ, (สํ. นิ. ๒.๓๔๘) ตสฺมา สมฺมาสงฺกปฺปสฺส สมฺมาวาจา ปโหติ. ยสฺมา ปน ‘‘อิทฺจิทฺจ กริสฺสามา’’ติ หิ ปมํ วาจาย สํวิทหิตฺวา เยภุยฺเยน เต เต กมฺมนฺตา สมฺมา ปโยชียนฺติ, ตสฺมา วาจา กายกมฺมสฺส อุปการิกาติ สมฺมาวาจสฺส สมฺมากมฺมนฺโต ปโหติ. ยสฺมา ปน จตุพฺพิธํ วจีทุจฺจริตํ, ติวิธฺจ กายทุจฺจริตํ ปหาย อุภยํ สุจริตํ ปูเรนฺตสฺเสว อาชีวฏฺมกสีลํ ปูรติ, น อิตรสฺส , ตสฺมา สมฺมาวาจสฺส สมฺมากมฺมนฺตสฺส จ สมฺมาอาชีโว ปโหติ. วิสุทฺธิทิฏฺิสมุทาคตสมฺมาอาชีวสฺส โยนิโส ปธานสฺส สมฺภวโต สมฺมาอาชีวสฺส สมฺมาวายาโม ปโหติ. โยนิโส ปทหนฺตสฺส กายาทีสุ จตูสุ วตฺถูสุ สติ สูปฏฺิตา โหตีติ สมฺมาวายามสฺส สมฺมาสติ ปโหติ. ยสฺมา เอวํ สูปฏฺิตา สติ สมาธิสฺส อุปการานุปการานํ ธมฺมานํ คติโย สมนฺเนสิตฺวา ปโหติ เอกตฺตารมฺมเณ จิตฺตํ สมาธาตุํ, ตสฺมา สมฺมาสติสฺส สมฺมาสมาธิ ปโหตีติ. อยฺจ นโย ปุพฺพภาเค นานากฺขณิกานํ สมฺมาทิฏฺิอาทีนํ วเสน วุตฺโต, มคฺคกฺขเณ ปน สมฺมาทิฏฺิอาทีนํ ตสฺส ตสฺส สหชาตาทิวเสน วุตฺโต ‘‘สมฺมาทิฏฺิสฺส สมฺมาสงฺกปฺโป ปโหตี’’ติอาทีนํ ปทานมตฺโถ ยุตฺโต, อยเมว จ อิธาธิปฺเปโต. เตนาห ‘‘อยํ ปนตฺโถ’’ติอาทิ.

มคฺคาเณติ มคฺคปริยาปนฺนาเณ ิตสฺส ตํสมงฺคิโน. มคฺคปฺา หิ จตุนฺนํ สจฺจานํ สมฺมาทสฺสนฏฺเน ‘‘มคฺคสมฺมาทิฏฺี’’ติ วุตฺตา, สา เอว เนสํ ยาถาวโต ชานนโต ปฏิวิชฺฌนโต อิธ ‘‘มคฺคาณ’’นฺติปิ วุตฺตา. มคฺควิมุตฺตีติ มคฺเคน กิเลสานํ วิมุจฺจนํ สมุจฺเฉทปฺปหานเมว. ผลสมฺมาทิฏฺิ เอว ‘‘ผลสมฺมาาณ’’นฺติ ปริยาเยน วุตฺตํ, ปริยายวจนฺจ วุตฺตนยานุสาเรน เวทิตพฺพํ. ผลวิมุตฺติ ปน ปฏิปฺปสฺสทฺธิปฺปหานํ ทฏฺพฺพํ.

อมตสฺส ทฺวาราติ อริยมคฺคมาห. โส ปน วินา จ อาจริยมุฏฺินา อนนฺตรํ อพาหิรํ กริตฺวา ยาวเทว มนุสฺเสหิ สุปฺปกาสิตตฺตา วิวโฏ. ธมฺมวินีตาติ อริยธมฺเม วินีตา. โส ปเนตฺถ กิเลสานํ สมุจฺเฉทวินยวเสน เวทิตพฺโพติ อาห ‘‘สมฺมานิยฺยาเนน นิยฺยาตา’’ติ.

อตฺถีติ ปุถุตฺถวิสยํ นิปาตปทํ ‘‘อตฺถิ อิมสฺมึ กาเย เกสา’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๓๗๗; ม. นิ. ๑.๑๑๐; ๓.๑๕๔; สํ. นิ. ๔.๑๒๗; อ. นิ. ๖.๒๙; ๑๐.๖๐; วิภ. ๓๕๖; ขุ. ปา. ๒.๑.ทฺวตฺตึสอาการ; เนตฺติ. ๔๗) วิยาติ อาห ‘‘อนาคามิโน จ อตฺถี’’ติ. เตเนวาห ‘‘อตฺถิ เจเวตฺถ สกทาคามิโน’’ติ. พหิทฺธา สํโยชนปจฺจโย นิพฺพตฺติเหตุภูโต ปุฺภาโค เอติสฺสา อตฺถีติ ปุฺภาคา, อติสยวิสิฏฺโ เจตฺถ อตฺถิอตฺโถ เวทิตพฺโพ. โอตฺตปฺปมาโนติ อุตฺตสนฺโต ภายนฺโต. น ปน นตฺถิ, อตฺถิ เอวาติ ทีเปติ.

๒๙๑. อสฺสาติ เวสฺสวณสฺส. ลทฺธิ ปน น อตฺถิ ปฏิวิทฺธสจฺจตฺตา. ‘‘อภิสมเย วิเสโส นตฺถี’’ติ เอเตน สพฺเพปิ สพฺพฺุคุณา สพฺพพุทฺธานํ สทิสา เอวาติ ทสฺเสติ.

๒๙๒. การณสฺส เอกรูปตฺตา อิมานิ ปน ปทานีติ น เกวลํ ‘‘ตยิทํ พฺรหฺมจริย’’นฺติอาทีนิ ปทานิ, อถ โข ‘‘อิมมตฺถํ ชนวสโภ ยกฺโข’’ติอาทีนิ ปทานิ ปีติ.

ชนวสภสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา.