📜
๖. มหาโควินฺทสุตฺตวณฺณนา
๒๙๓. ปฺจกุณฺฑลิโกติ ¶ ¶ ¶ วิสฺสฏฺปฺจเวณิโก. จตุมคฺคฏฺาเนสูติ จตุนฺนํ มคฺคานํ วินิวิชฺฌิตฺวา คตฏฺาเนสุ. ตตฺถ หิ กตา สาลาทโย จตูหิ ทิสาหิ อาคตมนุสฺสานํ อุปโภคกฺขมา โหนฺติ. ‘‘เอวรูปานี’’ติ อิมินา รุกฺขมูลโสธนาทีนิ เจว ยถาสตฺติ อนฺนทานาทีนิ จ ปฺุานิ สงฺคณฺหาติ. ‘‘สุวณฺณกฺขนฺธสทิโส อตฺตภาโว อิฏฺโ กนฺโต มนาโป อโหสี’’ติ ปาโ. สกฏสหสฺสมตฺตนฺติ วาหสหสฺสมตฺตํ, วาโห ปน วีสติ ขารี, ขารี โสฬสโทณมตฺตา, โทณํ โสฬส นาฬิโย เวทิตพฺพา. กุมฺภํ ทสมฺพณานิ. ‘‘สหสฺสนาฬิโย’’ติ เกจิ. รตฺตสุวณฺณกณฺณิกนฺติ รตฺตสุวณฺณมยํ วฏํสกํ.
ยสฺมา มชฺฌิมยาเม เอว เทวตา สตฺถารํ อุปสงฺกมิตุํ อวสรํ ลภนฺติ, ตสฺมา ‘‘เอกโกฏฺาสํ อตีตายา’’ติ วุตฺตํ. อติกฺกนฺตวณฺโณติ อติวิย กมนียรูโป, เกวลกปฺปนฺติ วา มนํ อูนํ อวเสสํ, อีสกํ อสมตฺตนฺติ อตฺโถ ภควโต หิ สมีปฏฺานํ มฺุจิตฺวา สพฺโพ คิชฺฌกูฏวิหาโร เตน โอภาสิโต. เตนาห ‘‘จนฺทิมา วิยา’’ติอาทิ.
เทวสภาวณฺณนา
๒๙๔. รตนมตฺตกณฺณิกรุกฺขนิสฺสนฺเทนาติ รตนปฺปมาณรุกฺขมยกูฏทานปฺุนิสฺสนฺเทน, ตสฺส วา ปฺุสฺส นิสฺสนฺทผลภาเวน. นิพฺพตฺตสภายนฺติ สมุฏฺิตอุปฏฺานสาลายํ. มณิมยาติ ปทุมราคาทิมณิมยา. อาณิโยติ ถมฺภตุลาสงฺฆาฏกาทีสุ วาฬรูปาทิสงฺฆาฏนกอาณิโย.
คนฺธพฺพราชาติ คนฺธพฺพกายิกานํ เทวตานํ ราชา. เย ¶ ตาวตึสานํ อาสนฺนวาสิโน จาตุมหาราชิกา เทวา, เต ปุรโต กโรนฺโต ‘‘ทฺวีสุ เทวโลเกสุ เทวตา ปุรโต กตฺวา นิสินฺโน’’ติ วุตฺโต. เสเสสุปิ ตีสุ าเนสุ เอเสว นโย.
นาคราชาติ ¶ นาคานํ อธิปติ, น ปน สยํ นาคชาติโก.
อาสติ นิสีทติ เอตฺถาติ อาสนํ, นิสชฺชฏฺานนฺติ อาห ‘‘นิสีทิตุํ โอกาโส’’ติ. ‘‘เอตฺถา’’ติ ปทํ นิปาตมตฺตํ, เอตฺถาติ วา เอตสฺมึ ปาเ. อตฺถุทฺธารนเยน ¶ วตฺตพฺพํ ปุพฺเพ วุตฺตํ จตุพฺพิธเมว. ตาวตึสา, เอกจฺเจ จ จาตุมหาราชิกา ยถาลทฺธาย สมฺปตฺติยา ถาวรภาวาย, อายตึ โสธนาย จ ปฺจ สีลานิ รกฺขนฺติ, เต ตสฺส วิโสธนตฺถํ ปวารณาสงฺคหํ กโรนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘มหาปวารณายา’’ติอาทิ.
วสฺสสหสฺสนฺติ มนุสฺสคณนาย วสฺสสหสฺสํ.
ปนฺนปลาโสติ ปติตปตฺโต. ขารกชาโตติ ชาตขุทฺทกมกุโฬ. เย หิ นีลปตฺตกา อติวิย ขุทฺทกา มกุฬา, เต ‘‘ขารกา’’ติ วุจฺจนฺติ. ชาลกชาโตติ เตหิเยว ขุทฺทกมกุเฬหิ ชาตชาลโก สพฺพโส ชาโล วิย ชาโต. เกจิ ปน ‘‘ชาลกชาโตติ เอกชาโล วิย ชาโต’’ติ อตฺถํ วทนฺติ. ปาริฉตฺตโก กิร ขารกคฺคหณกาเล สพฺพตฺถกเมว ปลฺลวิโก โหติ, เต จสฺส ปลฺลวา ปภสฺสรปวาฬวณฺณสมุชฺชลา โหนฺติ, เตน โส สพฺพโส สมุชฺชลนฺโต ติฏฺติ. กุฏุมลกชาโตติ สฺชาตมหามกุโฬ. โกรกชาโตติ สฺชาตสูจิเภโท สมฺปติ วิกสมานาวตฺโถ. สพฺพปาลิผุลฺโลติ สพฺพโส ผุลฺลิตวิกสิโต.
กนฺตนกวาโตติ เทวานํ ปฺุกมฺมปจฺจยา ปุปฺผานํ ฉินฺทนกวาโต. กนฺตตีติ ฉินฺทติ. สมฺปฏิจฺฉนกวาโตติ ฉินฺนานํ ฉินฺนานํ ปุปฺผานํ สมฺปฏิคฺคณฺหนกวาโต ¶ . นจฺจนฺโตติ นานาวิธภตฺตึ สนฺนิเวสวเสน นจฺจนํ กโรนฺโต. อฺตรเทวตานนฺติ นามโคตฺตวเสน อปฺปฺาตเทวตานํ.
เรณุวฏฺฏีติ เรณุสงฺฆาโต. กณฺณิกํ อาหจฺจาติ สุธมฺมาย กูฏํ อาหนฺตฺวา.
อฏฺ ทิวเสติ ปฺจมิยา สทฺธึ ปกฺเข จตฺตาโร ทิวเส สนฺธาย วุตฺตํ. ยถาวุตฺเตสุ อฏฺสุ ทิวเสสุ ธมฺมสฺสวนํ นิพทฺธํ ตทา ปวตฺตตีติ ตโต อฺทา การิตํ สนฺธายาห ‘‘อกาลธมฺมสฺสวนํ การิต’’นฺติ. เจติเย ฉตฺตสฺส เหฏฺา กาตพฺพเวทิกา ฉตฺตเวทิกา. เจติยํ ปริกฺขิปิตฺวา ปทกฺขิณกรณฏฺานํ อนฺโตกตฺวา กาตพฺพเวทิกา ปุฏเวทิกา. เจติยสฺส กุจฺฉึ ปริกฺขิปิตฺวา ¶ ตํ สมฺพนฺธเมว กตฺวา กาตพฺพเวทิกา กุจฺฉิเวทิกา. สีหรูปปาทกํ อาสนํ สีหาสนํ. อุโภสุ ปสฺเสสุ สีหรูปยุตฺตํ โสปานํ สีหโสปานํ.
อตฺตมนา ¶ โหนฺติ อนิยามนกภาวโต. เตเนวาห ‘‘มหาปฺุเ ปุรกฺขตฺวา’’ติอาทิ. ปวารณาสงฺคหตฺถาย สนฺนิปติตาติ เวทิตพฺพา ‘‘ตทหุโปสเถ ปนฺนรเส ปวารณาย ปุณฺณาย ปุณฺณมาย รตฺติยา’’ติ (ที. นิ. ๒.๒๙๔) วจนโต.
๒๙๕. นวหิ การเณหีติ ‘‘อิติปิ โส ภควา อรห’’นฺติอาทินา (ที. นิ. ๑.๑๕๗, ๒๕๕) วุตฺเตหิ อรหตฺตาทีหิ นวหิ พุทฺธานุภาวทีปเนหิ การเณหิ. ธมฺมสฺส จาติ เอตฺถ จ-สทฺโท อวุตฺตสมุจฺจยตฺโถติ เตน สมฺปิณฺฑิตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อุชุปฺปฏิปนฺนตาทิเภทํ สงฺฆสฺส จ สุปฺปฏิปตฺติ’’นฺติ อาห.
อฏฺยถาภุจฺจวณฺณนา
๒๙๖. ยถา อนนฺตเมว อานฺจํ, ภิสกฺกเมว เภสชฺชํ ¶ , เอวํ ยถาภูตา เอว ยถาภุจฺจาติ ปาฬิยํ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘ยถาภุจฺเจติ ยถาภูเต’’ติ. วณฺเณตพฺพโต กิตฺเตตพฺพโต วณฺณา, คุณา. กถํ ปฏิปนฺโนติ เหตุอวตฺถายํ, ผลอวตฺถายํ, สตฺตานํ อุปการา วตฺถายนฺติ ตีสุปิ อวตฺถาสุ โลกนาถสฺส พหุชนหิตาย ปฏิปตฺติยา กเถตุกมฺยตาปุจฺฉา. ตถา หิ นํ อาทิโต ปฏฺาย ยาว ปริโยสานา สงฺเขเปเนว ทสฺเสนฺโต ‘‘ทีปงฺกรปาทมูเล’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อภินีหรมาโนติ อภินีหารํ กโรนฺโต. ยํ ปเนตฺถ มหาภินีหาเร, ปารมีสุ จ วตฺตพฺพํ, ตํ พฺรหฺมชาลฏีกายํ (ที. นิ. ฏี. ๑.๗) วุตฺตํ เอวาติ ตตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
‘‘ขนฺติวาทิตาปสกาเล’’ติอาทิ (ชา. ๑.ขนฺตีวาทีชาตก) เหตุอวตฺถายเมว อนฺสาธารณาย สุทุกฺกราย พหุชนหิตาย ปฏิปตฺติยา วิภาวนํ. ยถาธิปฺเปตํ หิตสุขํ ยาย กิริยาย วินา น อิชฺฌติ, สาปิ ตทตฺถา เอวาติ ทสฺเสตุํ ‘‘ตุสิตปุเร ยาวตายุกํ ติฏฺนฺโตปี’’ติอาทิ วุตฺตํ.
ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนาทิ (สํ. นิ. ๕.๑๐๘๑; มหาว. ๑๓; ปฏิ. ม. ๓.๓๐) ปน นิพฺพตฺติตา พหุชนหิตาย ปฏิปตฺติ. อายุสงฺขาโรสฺสชฺชนมฺปิ ‘‘เอตฺตกํ กาลํ ติฏฺามี’’ติ ปวตฺติยา พหุชนหิตาย ปฏิปตฺติ. อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพานวเสน พหุชนหิตาย ¶ ปฏิปตฺติ. เตนาห ‘‘ยาวสฺสา’’ติอาทิ. เสสปทานีติ ‘‘พหุชนสุขายา’’ติอาทีนิ ปทานิ. ปจฺฉิมนฺติ ‘‘อตฺถาย หิตาย สุขายา’’ติ ¶ ปทตฺตยํ. ปุริมสฺสาติ ตโต ปุริมสฺส ปทตฺตยสฺส. อตฺโถติ อตฺถนิทฺเทโส.
ยทิปิ อตีเตนงฺเคน สมนฺนาคตา สตฺถาโร อเหสุํ, เตปิ ปน พุทฺธา เอวาติ อตฺถโต อมฺหากํ สตฺถา อนฺโติ อาห ‘‘อตีเตปิ พุทฺธโต อฺํ น สมนุปสฺสามา’’ติ. ยถา จ อตีเต, เอวํ อนาคเต จาติ อยมตฺโถ นยโต ลพฺภตีติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘อนาคเตปิ น สมนุปสฺสามา’’ติ. สกฺโก ปน เทวราชา ตมตฺถํ อตฺถาปนฺนเมว กตฺวา ‘‘น ปเนตรหิ’’ อิจฺเจวาห. กึ สกฺโก กเถตีติ วิจาเรตฺวาติ ‘‘เนว อตีตํเส สมนุปสฺสมา’ติ ¶ วทนฺโต สกฺโก กึ กเถตี’’ติ วิจารณํ สมุฏฺเปตฺวา. ยสฺมา อตีเต พุทฺธา อเหสุํ, อนาคเต ภวิสฺสนฺตีติ นายมตฺโถ สกฺเกน เทวราเชน ปริฺาโต, เต ปน พุทฺธสามฺเน อมฺหากํ ภควตา สทฺธึ คเหตฺวา เอตรหิ อฺสฺส สพฺเพน สพฺพํ อภาวโต ตถา วุตฺตนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘เอตรหี’’ติอาทิ วุตฺตํ. สฺวากฺขาตาทีนีติ สฺวากฺขาตปทาทีนิ. กุสลาทีนีติ ‘‘อิทํ กุสล’’นฺติอาทีนิ ปทานิ.
คงฺคายมุนานํ อสมาคมฏฺาเน อุทกํ ภินฺนวณฺณํ โหนฺตมฺปิ สมาคมฏฺาเน อภินฺนวณฺณํ เอวาติ อาห ‘‘วณฺเณนปิ สํสนฺทติ สเมตี’’ติ. ตตฺถ กิร คงฺโคทกสทิสเมว ยมุโนทกํ. ยถา นิพฺพานํ เกนจิ กิเลเสน อนุปกฺกิลิฏฺตาย ปริสุทฺธํ, เอวํ นิพฺพานคามินิปฏิปทาปิ เกนจิ กิเลเสน อนุปกฺกิลิฏฺตาย ปริสุทฺธาว อิจฺฉิตพฺพา. เตนาห ‘‘น หี’’ติอาทิ. เยน ปริสุทฺธตฺเถน นิพฺพานสฺส, นิพฺพานคามินิยา ปฏิปทาย จ อากาสูปมตา, โส เกนจิ อนุปเลโป, อนุปกฺกิเลโส จาติ อาห ‘‘อากาสมฺปิ อลคฺคํ ปริสุทฺธ’’นฺติ. อิทานิ ตมตฺถํ นิทสฺสเนน วิภูตํ กตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘จนฺทิมสูริยาน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. สํสนฺทติ ยุชฺชติ ปฏิปชฺชิตพฺพตาปฏิปชฺชเนหิ อฺมฺานุจฺฉวิกตาย.
ปฏิปทาย ิตานนฺติ ปฏิปทํ มคฺคปฏิปตฺตึ ปฏิปชฺชมานานํ. วุสิตวตนฺติ พฺรหฺมจริยวาสํ วุสิตวนฺตานํ เอเตสํ. ลทฺธสหาโยติ เอตาสํ ปฏิปทานํ วเสน ลทฺธสหาโย. ตตฺถ ตตฺถ สาวเกหิ สตฺถุ กาตพฺพกิจฺเจ. อิทํ ปน ‘‘อทุติโย’’ติอาทิ สุตฺตนฺตเร อาคตวจนํ อฺเหิ อสทิสฏฺเน วุตฺตํ, น ยถาวุตฺตสหายาภาวโต. อปนุชฺชาติ อปนีย วิวชฺเชตฺวา. ‘‘อปนุชฺชา’’ติ จ อนฺโตคธาวธารณํ ¶ อิทํ วจนํ เอกนฺติกตฺตา ตสฺส อปโนทสฺสาติ วุตฺตํ ‘‘อปนุชฺเชวา’’ติ.
ลพฺภตีติ ¶ ¶ ลาโภ, โส ปน อุกฺกํสคติวิชานเนน สาติสโย, วิปุโล เอว จ อิธาธิปฺเปโตติ อาห ‘‘มหาลาโภ อุปฺปนฺโน’’ติ. อุสฺสนฺนปฺุนิสฺสนฺทสมุปฺปนฺโนติ ยถาวุตฺตกาลํ สมฺภตสุวิปุลอุฬารตรปฺุาภิสนฺทโต นิพฺพตฺโต.‘‘อิเม นิพฺพตฺตา, อิโต ปรํ มยฺหํ โอกาโส นตฺถี’’ติ อุสฺสาหชาโต วิย อุปรูปริ วฑฺฒมาโน อุทปาทิ. สพฺพทิสาสุ หิ ยมกมหาเมโฆ อุฏฺหิตฺวา มหาเมฆํ วิย สพฺพปารมิโย ‘‘เอกสฺมึ อตฺตภาเว วิปากํ ทสฺสามา’’ติ สมฺปิณฺฑิตา วิย ภควโต อิทํ ลาภสกฺการสิโลกํ นิพฺพตฺตยึสุ, ตโต อนฺนปานวตฺถยานมาลาคนฺธวิเลปนาทิหตฺถา ขตฺติยพฺราหฺมณาทโย อุปคนฺตฺวา ‘‘กหํ พุทฺโธ, กหํ ภควา, กหํ เทวเทโว, กหํ นราสโภ, กหํ ปุริสสีโห’’ติ ภควนฺตํ ปริเยสนฺติ, สกฏสเตหิปิ ปจฺจเย อาหริตฺวา โอกาสํ อลภมานา สมนฺตา คาวุตปฺปมาณมฺปิ สกฏธุเรน สกฏธุรํ อาหจฺจ ติฏฺนฺติ เจว อนุพนฺธนฺติ จ อนฺธกวินฺทพฺราหฺมณาทโย วิย. สพฺพํ ขนฺธเก, เตสุ เตสุ จ สุตฺเตสุ อาคตนเยน เวทิตพฺพํ. เตนาห ‘‘ลาภสกฺกาโร มโหโฆ วิยา’’ติอาทิ.
ปฏิปาฏิภตฺตนฺติ พหูสุ ‘‘ทานํ ทสฺสามา’’ติ อาหฏปฏิปาฏิกาย อุฏฺิเตสุ อนุปฏิปาฏิยา ทาตพฺพ ภตฺตํ.
มตฺถกํ ปตฺโต อนฺสาธารณตฺตา ตสฺส ทานสฺส. อุปายํ อาจิกฺขิ นาครานํ อสกฺกุเณยฺยรูเปน ทานํ ทาเปตุํ. สาลกลฺยาณิรุกฺขา ราชปริคฺคหา อฺเหิ อสาธารณา, ตสฺมา เตสํ ปทเรหิ มณฺฑโป การิโต, หตฺถิโน จ ราชภณฺฑภูตา นาคเรหิ น สกฺกา ลทฺธุนฺติ เตหิ ฉตฺตํ ธาราปิตํ, ตถา ขตฺติยธีตาหิ เวยฺยาวจฺจํ การิตํ. ‘‘ปฺจ อาสนสตานี’’ติ อิทํ สาลกลฺยาณิมณฺฑเป ปฺตฺเต สนฺธาย วุตฺตํ, ตโต พหิ ปน พหูนิ ปฺตฺตานิ อเหสุํ ¶ . จตุชฺชาติยคนฺธํ ปิสติ พุทฺธปฺปมุขสฺส สงฺฆสฺส ปูชนตฺถฺเจว ปตฺตสฺส อุพฺพฏนตฺถฺจ. อุทกนฺติ ปตฺตโธวนอุทกํ. อนคฺฆานิ อเหสุํ อนคฺฆรตนาภิสงฺขตตฺตา.
สตฺตธา มุทฺธา ผลิสฺสติ อนาทรการณาทินา. กาฬํ โอโลเกสฺสามีติ กาฬํ เอวํ อนุเปกฺขิสฺสามิ, ตสฺส อุปฺปชฺชนกํ อนตฺถํ ปริหริสฺสามีติ อตฺโถ.
กทริยาติ ¶ ถทฺธมจฺฉริโน ปฺุกมฺมวิมุขา. เทวโลกํ น วชนฺติ ปฺุสฺส อกตตฺตา, มจฺฉริภาเวน จ ปาปสฺส ปสุตตฺตา. พาลาติ ทุจฺจินฺติตจินฺตนาทินา พาลลกฺขณยุตฺตา. นปฺปสํสนฺติ ทานํ ปสํสิตุมฺปิ น วิสหนฺติ. ธีโรติ ธีติสมฺปนฺโน อุฬารปฺโ ปเรหิ กตํ ทานํ ¶ อนุโมทมาโนปิ, เตเนว ทานานุโมทเนเนว. สุขี ปรตฺถาติ ปรโลเก กายิกเจตสิกสุขสมงฺคี โหติ.
วรโรโช นาม ตสฺมึ กาเล เอโก ขตฺติโย, ตสฺส วรโรชสฺส. อนวชฺช…เป… ผเลยฺย อภูตวาทิภาวโตติ อธิปฺปาโย. อติเรกปทสหสฺเสน ตึสาธิเกน อฑฺฒเตยฺยคาถาสเตน วณฺณเมว กเถสิ รูปปฺปสนฺนตาย จ.
ยาว มฺเ ขตฺติยาติ เอตฺถ ยาวาติ อวธิปริจฺเฉทวจนํ, อฺเติ นิปาตมตฺตํ, ยาว ขตฺติยา ขตฺติเย อวธึ กตฺวา สพฺเพ เทวมนุสฺสาติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘ขตฺติยา พฺราหฺมณา’’ติอาทิ. มทปมตฺโตติ ลาภสกฺการสิโลกมเทน ปมตฺโต เจว ตทนฺวเยน ปมาเทน ปมตฺโต จ หุตฺวา.
ตทนฺวยเมวาติ ตทนุคตเมว. วาจา…เป… สเมตีติ วจีกมฺมกายกมฺมานิ อฺมฺํ อวิรุทฺธานิ, อฺทตฺถุ สํสนฺทนฺติ. อชา เอว มิคาติ อชามิคา, เต อชามิเค.
ติณฺณวิจิกิจฺโฉ สพฺพโส อติกฺกนฺตวิจิกิจฺฉากนฺตาโร ¶ . นนุ จ สพฺเพปิ โสตาปนฺนา ติณฺณวิจิกิจฺฉา, วิคตกถํกถา จ? สจฺจเมตํ, อิทํ ปน น ตาทิสํ ติณฺณวิจิกิจฺฉตํ สนฺธาย วุตฺตํ, อถ โข สพฺพสฺมึ เยฺยธมฺเม สพฺพาการาวโพธสงฺขาตสนฺนิฏฺานวเสน สพฺพโส นิรากตํ สนฺธายาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยถา หี’’ติ อาทิมาห. อุสฺสนฺนุสฺสนฺนตฺตาติ ปโรปรภาวโต, อยฺจ อตฺโถ ภควโต อเนกธาตุนานาธาตุาณพเลนปิ อิชฺฌติ. สพฺพตฺถ วิคตกถํกโถ สพฺพทสฺสาวิภาวโต. สพฺเพสํ ปรมตฺถธมฺมานํ สจฺจาภิสมยวเสน ปฏิวิทฺธตฺตา วุตฺตํ ‘‘โวหารวเสนา’’ติ วา นามโคตฺตาทิวเสนาติ อตฺโถ.
ปริโยสิตสงฺกปฺโปติ สพฺพโส นิฏฺิตมโนรโถ. นนุ จ อริยมคฺเคน ปริโยสิตสงฺกปฺปตา นาม โสฬสกิจฺจสิทฺธิยา กตกรณียภาเวน, น สพฺพเยฺยธมฺมาวโพเธนาติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘ปุพฺเพ ¶ อนนุสฺสุเตสู’’ติอาทิ. สาวกานํ สาวกปารมิาณํ วิย, หิ ปจฺเจกพุทฺธานํ ปจฺเจกโพธิาณํ วิย จ สมฺมาสมฺพุทฺธานํ สพฺพฺุตฺาณํ จตุสจฺจาภิสมฺโพธปุพฺพกเมวาติ. อนนุสฺสุเตสูติ น อนุสฺสุเตสุ. สามนฺติ สยเมว. ปททฺวเยนาปิ ปรโต โฆเสน วินาติ ทสฺเสติ. ตตฺถาติ นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมํ, สจฺจาภิสมฺโพธนิมิตฺตนฺติ อตฺโถ. สจฺจาภิสมฺโพโธ จ อคฺคมคฺควเสนาติ ¶ ทฏฺพฺพํ. พเลสุ จ วสีภาวนฺติ ทสนฺนํ พลาณานํ ยถารุจิ ปวตฺติ. ชาตตฺตา ชาตาติ สมฺมาสมฺพุทฺเธ วทติ.
๒๙๗. ตตฺถ ตตฺถ ราชธานิอาทิเก นิพทฺธวาสํ วสนฺโต. ตีสุ มณฺฑเลสุ ยถากาลํ จาริกํ จรนฺโต.
๒๙๘. อสฺสาติ ผลสฺส. ตนฺติ การณํ. ทฺวินฺนมฺปิ เอกโต อุปฺปตฺติยา การณํ นตฺถิ, ปเคว ติณฺณํ, จตุนฺนํ วาติ. ‘‘เอตฺถ จา’’ติอาทิ ‘‘เอกิสฺสา โลกธาตุยา’’ติ วุตฺตโลกธาตุยา ¶ ปมาณปริจฺเฉททสฺสนตฺถํ อารทฺธํ.
ยาวตาติ ยตฺตเกน าเนน. ปริหรนฺตีติ สิเนรุํ ปริกฺขิปนฺตา ปริวตฺตนฺติ. ทิสาติ ทิสาสุ, ภุมฺมตฺเถ เอตํ ปจฺจตฺตวจนํ. ภนฺติ ทิพฺพนฺติ. วิโรจนาติ โอภาสนฺตา, วิโรจนา วา โสภมานา จนฺทิมสูริยา ภนฺติ, ตโต เอว ทิสา จ ภนฺติ.ตาว สหสฺสธาติ ตตฺตโก สหสฺสโลโก.
เอตฺตกนฺติ อิมํ จกฺกวาฬํ มชฺเฌ กตฺวา อิมินาว สทฺธึ จกฺกวาฬํ ทสสหสฺสํ. ยํ ปเนตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ มหาปทานวณฺณนายํ วุตฺตเมว. น ปฺายตีติ ตีสุ ปิฏเกสุ อนาคตตฺตา.
สนงฺกุมารกถาวณฺณนา
๓๐๐. วณฺเณนาติ รูปสมฺปตฺติยา. สุวิฺเยฺยตฺตา ตํ อนามสิตฺวา ยสสทฺทสฺเสว อตฺถมาห. อลงฺการปริวาเรนาติ อลงฺกาเรน จ ปริวาเรน จ. ปฺุสิริยาติ ปฺุิทฺธิยา.
๓๐๑. สมฺปสาทเนติ สมฺปสาทชนเน. สํปุพฺโพ ขา-สทฺโท ชานนตฺโถ ‘‘สงฺขาเยตํ ปฏิเสวตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๒.๑๖๘) วิยาติ อาห ‘‘ชานิตฺวา โมทามา’’ติ.
โควินฺทพฺราหฺมณวตฺถุวณฺณนา
๓๐๔. ยาว ¶ ทีฆรตฺตนฺติ ยาว ปริมาณโต, อปริมิตกาลปริทีปนเมตนฺติ อาห ‘‘เอตฺตกนฺติ…เป… อติจิรรตฺต’’นฺติ. มหาปฺโว โส ภควาติ เตน พฺรหฺมุนา อนุมติปุจฺฉาวเสน ¶ เทวานํ วุตฺตนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘มหาปฺโว โส ภควา. โนติ กถํ ตุมฺเห มฺถา’’ติ อาห. สยเมเวตํ ปฺหํ พฺยากาตุกาโม ‘‘ภูตปุพฺพํ โภ’’ติ อาทึ อาหาติ สมฺพนฺโธ. เอวํ ปน พฺยากโรนฺเตน อตฺถโต อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต นาม โหตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อนจฺฉริยเมต’’นฺติ อาทิมาห. ติณฺณํ มารานนฺติ ¶ กิเลสาภิสงฺขารเทวปุตฺตมารานํ. ‘‘อนจฺฉริยเมต’’นฺติ วุตฺตเมวตฺถํ นิคมนวเสน ‘‘กิเมตฺถ อจฺฉริย’’นฺติ ปุนปิ วุตฺตํ.
รฺโ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกอตฺถานํ ปุโร ธานโต ปุเร ปุเร สํวิธานโต ปุโรหิโตติ อาห ‘‘สพฺพกิจฺจานิอนุสาสนปุโรหิโต’’ติ. โควินฺทิยาภิเสเกนาติ โควินฺทสฺส าเน ปนาภิเสเกน. ตํ กิร ตสฺส พฺราหฺมณสฺส กุลปรมฺปราคตํ านนฺตรํ. โชติตตฺตาติ อาวุธานํ โชติตตฺตา. ปาลนสมตฺถตายาติ รฺโ, อปริมิตสฺส จ สตฺตกายสฺส อนตฺถโต ปริปาลนสมตฺถตาย.
สมฺมา โวสฺสชฺชิตฺวาติ สุฏฺุ ตสฺเสวาคารวภาเวน วิสฺสชฺชิตฺวา นิยฺยาเตตฺวา. ตํ ตมตฺถํ กิจฺจํ ปสฺสตีติ อตฺถทโส.
๓๐๕. ภวนํ วฑฺฒนํ ภโว, ภวติ เอเตนาติ วา ภโว, วฑฺฒิการณํ สนฺธิวเสน ม-การาคโม, โอ-การสฺส จ อ-การาเทสํ กตฺวา ‘‘ภวมตฺถู’’ติ วุตฺตํ. ภวนฺตํ โชติปาลนฺติ ปน สามิอตฺเถ อุปโยควจนนฺติ อาห ‘‘โภโต’’ติ. มา ปจฺจพฺยาหาสีติ มา ปฏิกฺขิปีติ อตฺโถ. โส ปน ปฏิกฺเขโป ปฏิวจนํ โหตีติ อาห ‘‘มา ปฏิพฺยาหาสี’’ติ. อภิสมฺโภสีติ กมฺมนฺตานํ สํวิธาเน สมตฺโถ โหตีติ อาห ‘‘สํวิทหิตฺวา’’ติ. ภวาภวํ, ปฺฺจ วินฺทิ ปฏิลภีติ โควินฺโท, มหนฺโต โควินฺโท มหาโควินฺโท. ‘‘โค’’ติ หิ ปฺาเยตํ อธิวจนํ คจฺฉติ อตฺเถ พุชฺฌตีติ.
รชฺชสํวิภชนวณฺณนา
๓๐๖. เอกปิติกา ¶ เวมาตุกา กนิฏฺภาตโร. อยํ อภิสิตฺโตติ อยํ เรณุ ราชกุมาโร ปิตุ อจฺจเยน รชฺเช อภิสิตฺโต. ราชการกาติ ราชปุตฺตํ รชฺเช ปติฏฺาเปตาโร.
๓๐๗. มเทนฺตีติ ¶ มทนียาติ กตฺตุสาธนตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘มทกรา’’ติ อาห. มทกรณํ ปน ปมาทสฺส วิเสสการณนฺติ วุตฺตํ ‘‘ปมาทกรา’’ติ.
๓๐๘. เรณุสฺส ¶ รชฺชสมีเป ทสคาวุตมตฺตวิตฺถตานิ หุตฺวา อปรภาเค ติโยชนสตํ วิตฺถตตฺตา สพฺพานิ ฉ รชฺชานิ สกฏมุขานิ ปฏฺเปสิ. วิตานสทิสํ จตุรสฺสภาวโต.
๓๑๐. สหาติ คาถาย ปทปริปูรณตฺถํ วุตฺตํ. ตสฺส อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘เตเนว สหา’’ติ อาห. สหาติ วา อวินาภาวตฺเถ นิปาโต, โส สห อาสุํ สตฺต ภารธาติ โยเชตพฺโพ, เตน เต เทสนฺตเร วสนฺตา วิจิตฺเตน สหภาวิโน อวินาภาวิโนติ ทีเปติ. รชฺชภารํ ธาเรนฺติ อตฺตนิ อาโรเปนฺติ วหนฺตีติ ภารธา.
ปมภาณวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
กิตฺติสทฺทอพฺภุคฺคมนวณฺณนา
๓๑๑. อนุปุโรหิเต เปสีติ อนุปุโรหิเต กตฺวา เปสิ, อนุปุโรหิเต วา าเน เปสิ. ติสวนํ กโรนฺเต สนฺธาย ‘‘ทิวสสฺส ติกฺขตฺตุ’’นฺติ วุตฺตํ. ทฺวีสุ สนฺธีสุ สวนํ กโรนฺเต สนฺธาย ‘‘สายํ, ปาโต วา’’ติ วุตฺตํ. ตโต ปฏฺายาติ วตจริยํ มตฺถกํ ปาเปตฺวา นฺหาตกาลโต ปภุติ.
๓๑๒. อภิอุคฺคจฺฉีติ อุฏฺหิ อุทปาทิ. อจินฺเตตฺวาติ ‘‘กถํ โข อหํ พฺรหฺมุนา สทฺธึ มนฺเตยฺย’’นฺติ อจินฺเตตฺวา เอวํ จิตฺตมฺปิ อนุปฺปาเทตฺวา. เตน สมาคมนสฺเสว อภาวโต อมนฺเตตฺวา. ตํ ทิสฺวาติ ตํ กรุณาพฺรหฺมวิหารภาวนํ พฺรหฺมทสฺสนูปายํ ทิสฺวา าณจกฺขุนา.
๓๑๓. เอวนฺติ ¶ เอวํ รฺโ อาโรเจตฺวา ปฏิสลฺลานํ อุปคเต. สพฺพตฺถาติ สพฺเพสุ ฉนฺนํ ขตฺติยานํ, สตฺตนฺนํ พฺราหฺมณมหาสาลานํ ¶ , สตฺตนฺนํ นาฏกสตานํ, จตฺตารีสาย จ ภริยานํ อาปุจฺฉนวาเรสุ.
๓๑๖. สาทิสิโยติ ชาติยา สาทิสิโยติ อาห ‘‘สมวณฺณา สมชาติกา’’ติ.
๓๑๗. สนฺถาคารนฺติ ฌานมนสิกาเรน พหิ วิสฏวิตกฺกวูปสมเนน จิตฺตสฺส สนฺถมฺภนํ ¶ อคารํ, ฌานสาลนฺติ อตฺโถ. คหิตาวาติ ภาวนานุโยเคน มหาสตฺเตน อตฺตโน จิตฺตสนฺตาเน อุปฺปาทนวเสน คหิตา เอว. นตฺถิ ฌาเนเนว วิกฺขมฺภิตตฺตา. วิเสสโต หิสฺส กรุณาย ภาวิตตฺตา อนภิรติ อุกฺกณฺนา นตฺถิ, เมตฺตาย ภาวิตตฺตา ภยปริตสฺสนา นตฺถิ. อุกฺกณฺนาติ ปน พฺรหฺมทสฺสเน อุสฺสุกฺกํ, ปริตสฺสนาติ ตทภิปตฺถนาติ อาห ‘‘พฺรหฺมุโน ปนา’’ติอาทิ.
พฺรหฺมุนาสากจฺฉาวณฺณนา
๓๑๘. จิตฺตุตฺราโสติ จิตฺตสฺส อุตฺราสนมตฺตํ. กถนฺติ สตฺตนิกายนิวาสฏฺานนามโคตฺตาทีนํ วเสน เกน ปกาเรน. เตนาห ‘‘กิ’’นฺติอาทิ.
โสติ เย เต ปนกนสนนฺตพนฺธสตนสนงฺกุมารกาลนามกา โลเก ปากฏา ปฺาตา พฺรหฺมาโน, เตสุ สนงฺกุมาโร นามาหนฺติ ทสฺเสติ.
อคฺฆนฺติ ครุฏฺานิยานํ ทาตพฺพํอาหารํ. มธุสากนฺติ มธุราหารํ, ยํ กิฺจิ อติถิโน ทาตพฺพํ อาหารํ อุปจารวเสน เอวํ วทติ. เตนาห ‘‘มธุสากํ ปนา’’ติอาทิ. ปุจฺฉามาติ นิมนฺตนวเสน ปุจฺฉาม.
๓๑๙. มหาสตฺโต จตฺตาโร พฺรหฺมวิหาเร ภาเวตฺวา ิโตปิ เตสุ ‘‘พฺรหฺมสหพฺยตาย มคฺโค’’ติ อนิพฺเพมติกตาย ‘‘กงฺขี’’ติ อโวจ. เกจิ ปน ‘‘ตโปกมฺเมน ปริกฺขีณสรีรตาย, พฺรหฺมสมาคเมน ภยาทิสมุปฺปตฺติยา จ ปฏิลทฺธมตฺเตหิ พฺรหฺมวิหาเรหิ ปริหีโน อโหสิ, ตสฺมา อวิกฺขมฺภิตวิจิกิจฺฉตาย ‘กงฺขี’ติ อโวจา’’ติ วทนฺติ. ปรสฺส เวทิยา วิทิตา ปรเวทิยา, เต ปน ตสฺส ปากฏา วิภูตาติ อาห ‘‘ปรสฺส ¶ ปากเฏสุ ปรเวทิเยสู’’ติ. ตตฺถ การณมาห ‘‘ปเรน สยํ อภิสงฺขตตฺตา’’ติ. มมาติ ¶ กมฺมํ มมํกาโร, มมตฺตนฺติ อาห ‘‘อิทํ มม…เป… ตณฺห’’นฺติ. ‘‘มม’’นฺติ กโรติ เอเตนาติ หิ มมํกาโร, ตถาปวตฺตา ตณฺหา. มนุเชสูติ นิทฺธารเณ ภุมฺมํ, น วิสเยติ อาห ‘‘มนุเชสุ โย โกจี’’ติ. ‘‘เอโกทิภูโต’’ติ ปทสฺส ภาวตฺถํ ตาว ทสฺเสนฺโต ‘‘เอกีภูโต’’ติ วตฺวา ปุน ตํ วิวรนฺโต ‘‘เอโก ติฏฺนฺโต เอโก นิสีทนฺโต’’ติ อาห. ตาทิโสติ เอโก หุตฺวา ปวตฺตนโก. ภูโตติ ชาโต. ฌาเน อธิมุตฺติ นาม ตสฺมึ นิพฺพตฺติเต, อนิพฺพตฺติเต กุโต อธิมุตฺตีติ อาห ‘‘ฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวาติ อตฺโถ’’ติ. วิสฺสคนฺโธ นาม โกธาทิกิเลสปริภาวนาติ เตสํ วิกฺขมฺภเนน ¶ วิสฺสคนฺธวิรหิโต. เอเตสุ ธมฺเมสูติ ปพฺพชฺชานํ วิเวกวาสกรุณาพฺรหฺมวิหาราทิธมฺเมสุ.
๓๒๐. อวิทฺวาติ น วิทิตวา. อาวริตาติ กุสลานํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมานํ อุปฺปตฺตินิวารเณน อาวริตา. ปูติกาติ พฺยาปนฺนจิตฺตตาทินา ปูติภูตา. กิเลสวเสน ทุคฺคนฺธํ วิสฺสคนฺธํ วายติ. นิรยาทิอปาเยสุ นิพฺพตฺตนสีลตาย อาปายิกาติ อาห ‘‘อปายูปคา’’ติ. โจราทีหิ อุปทฺทุตสฺส ปวิสิตุกามสฺส ปาการกวาฏปริขาทีหิ วิย นครํ โกธาทีหิ นิวุโต ปิหิโต พฺรหฺมโลโก อสฺสาติ นิวุตพฺรหฺมโลโก. ปุจฺฉติ ‘‘เกนาวฏา’’ติ วทนฺโต.
มุสาวาโทว โมสวชฺชํ ยถา ภิสกฺกเมว เภสชฺชํ. กุชฺฌนํ ทุสฺสนํ. ทิฏฺาทีสุ อทิฏฺาทิวาทิตาวเสน ปเรสํ วิสํวาทนํ ปรวิสํวาทนํ. สทิสํ ปติรูปํ ทสฺเสตฺวา ปโลภนํ สทิสํ ทสฺเสตฺวา วฺจนํ. มิตฺตานํ วิหึสนํ เมตฺติเภโท มิตฺตทุพฺภนํ. ทฬฺหมจฺฉริตา ถทฺธมจฺฉริยํ. อตฺตนิ วิชฺชมานํ นิหีนตํ, สทิสตํ วา อติกฺกมิตฺวา มฺนํ. ปเรสํ สมฺปตฺติยา อสหนํ ขียนํ. อตฺตสมฺปตฺติยา นิคูหนวเสน, ปเรหิ สาธารณภาวาสหนวเสน จ วิวิธา อิจฺฉา รุจิ เอตสฺสาติ วิวิจฺฉา. กทริยตาย ¶ มุทุกํ มจฺฉริยํ. ยตฺถ กตฺถจีติ สกสนฺตเก, ปรสนฺตเก, หีนาติเก จาติ ยตฺถ กตฺถจิ อารมฺมเณ. ลุพฺภนํ อารมฺมณสฺส คหณํ อภิคิชฺฌนํ. มชฺชนํ เสยฺยาทิวเสน มทนํ สมฺปคฺคโห. มุยฺหนํ อารมฺมณสฺส อนวโพโธ. เอเตสูติ เอเตสุ ยถาวุตฺเตสุ โกธาทีสุ สตฺตสนฺตานสฺส กิลิสฺสนโต วิพาธนโต, อุปตาปนโต จ กิเลสสฺิเตสุ ปาปธมฺเมสุ. ยุตฺตา ปยุตฺตา สมฺปยุตฺตา อวิรหิตา.
เอตฺถ ¶ จายํ พฺรหฺมา มหาสตฺเตน อามคนฺเธ สุปุฏฺโ อตฺตโน ยถาอุปฏฺิเต ปาปธมฺเม จุทฺทสหิ ปเทหิ วิภชิตฺวา กเถสิ, เต ปน ตาทิสํ ปวตฺติวิเสสํ อุปาทาย วุตฺตาปิ เกจิ ปุน วุตฺตา, อามคนฺธสุตฺเต (สุ. นิ. ๒๔๒) ปน วุตฺตาปิ เกจิ อิธ สพฺพโส น วุตฺตา, เอวํ สนฺเตปิ ลกฺขณหารนเยน, ตเทกฏฺตาย วา เตสํ เปตฺถ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. เตนาห ‘‘อิทํ ปน สุตฺต’’นฺติอาทิ. ตตฺถ อามคนฺธสุตฺเตน ทีเปตฺวาติ อิธ สรูปโต อวุตฺเต อามคนฺเธปิ วุตฺเตหิ เอกลกฺขณตาทินา อามคนฺธสุตฺเตน ปกาเสตฺวา กเถตพฺพํ ตตฺถ เนสํ สรูปโต กถิตตฺตา. อามคนฺธสุตฺตมฺปิ อิมินา ทีเปตพฺพํ อิธ วุตฺตานมฺปิ เกสฺจิ อามคนฺธานํ ตตฺถ อวุตฺตภาวโต. ยสฺมา อามคนฺธสุตฺเต วุตฺตาปิ อามคนฺธา อตฺถโต อิธ สงฺคหํ สโมสรณํ คจฺฉนฺติ, ตสฺมา อิธ วุตฺเต ปริหรณวเสน ทสฺเสนฺเตน ยสฺมา เจตฺถ เกจิ อภิธมฺมนเยน อกิเลสสภาวาปิ สตฺตสนฺตานสฺส ¶ วิพาธนฏฺเน ‘‘กิเลสา’’ติ วตฺตพฺพตํ อรหนฺติ, ตสฺมา ‘‘จุทฺทสสุ กิเลเสสู’’ติ วุตฺตํ.
นิมฺมาทํ มิลาปนํ เขปนนฺติ อาห ‘‘นิมฺมาเทตพฺพา ปหาตพฺพา’’ติ. พุทฺธตนฺตีติ พุทฺธภาวีนํ ปเวณี, พุทฺธภาวิโนปิ ‘‘พุทฺธา’’ติ วุจฺจนฺติ ยถา ‘‘อคมา ราชคหํ พุทฺโธ’’ติ. มหาปุริสสฺส ทฬฺหีกมฺมํ กตฺวาติ มหาปุริสสฺส ‘‘ปพฺพชิสฺสามห’’นฺติ ¶ ปวตฺตจิตฺตุปฺปาทสฺส ทฬฺหีกมฺมํ กตฺวา.
เรณุราชอามนฺตนาวณฺณนา
๓๒๑. มม มนํ หริตฺวาติ มม จิตฺตํ อปเนตฺวา ตสฺส วเสน อวตฺติตฺวา.
เอกีภาวํ อุปคนฺตฺวา วุตฺถสฺสาติ กายวิเวกปริพฺรูหเนน เอกีภาวํ อุปคนฺตฺวา ตโปกมฺมวเสน วุตฺถสฺส. กุสปตฺเตหิ ปริตฺถโตติ พริหิเสหิ เวทิยา สมนฺตโต สนฺถริโต. อกาโจติ วโณ วณสทิสขณฺฑิจฺจวิรหิโต. เตนาห ‘‘อกกฺกโส’’ติ.
ฉขตฺติยอามนฺตนาวณฺณนา
๓๒๒. สิกฺเขยฺยามาติ สิกฺขาเปยฺยาม, สิกฺขาปนฺเจตฺถ อตฺถิภาวาปาทนนฺติ อาห ‘‘อุปลาเปยฺยามา’’ติ.
๓๒๓. ยสฺส ¶ วีริยารมฺภสฺส, ขนฺติพลสฺส จ อภาเวน ปพฺพชิตานํ สมณธมฺโม ปริปุณฺโณ, ปริสุทฺโธ จ น โหติ, เตสุ วีริยารมฺภขนฺติพเลสุ เต เต นิโยเชตุํ ‘‘อารมฺภวฺโห’’ติอาทิ วุตฺตํ.
กรุณาฌานมคฺโคติ กรุณาฌานสงฺขาโต มคฺโค. อุชุมคฺโคติ พฺรหฺมโลกคมเน อุชุภูโต มคฺโค. อนุตฺตโรติ เสฏฺโ พฺรหฺมวิหารสภาวโต. เตนาห ‘‘อุตฺตมมคฺโค นามา’’ติ. สพฺภิ รกฺขิโต สาธูหิ ยถา ปริหานิ น โหติ, เอวํ ปฏิปกฺขทูรีกรเณน รกฺขิโต โคปิโต. ‘‘สทฺธมฺโม สพฺภิ วกฺขิโต’’ติ เกจิ ปนฺติ, เตสํ สปรหิตสาธเนน สาธูหิ พุทฺธาทีหิ กถิโต ปเวทิโตติ อตฺโถ.
ตงฺขณวิทฺธํสนธมฺมนฺติ ¶ ยสฺมึ ขเณ วิโรธิธมฺมสมาโยโค, ตสฺมึเยว ขเณ วินสฺสนสภาวํ, โย วา โส คมนสฺสาทานํ เทวปุตฺตานํ เหฏฺุปริเยน ปฏิมุขํ ธาวนฺตานํ สิรสิ, ปาเท จ พทฺธขุรธาราสมาคมนโตปิ สีฆตรตาย อติอิตฺตโร ปวตฺติกฺขโณ, เตเนว วินสฺสนสภาวํ. ตสฺส ชีวิตสฺส. คตินฺติ นิฏฺํ. มนฺตายนฺติ มนฺเตยฺยนฺติ ¶ วุตฺตํ โหตีติ อาห ‘‘มนฺเตตพฺพ’’นฺติ. กรณตฺเถ วา ภุมฺมนฺติ ‘‘มนฺตาย’’นฺติ อิทํ ภุมฺมํ กรณตฺเถ ทฏฺพฺพํ ยถา ‘‘าตาย’’นฺติ. สพฺพปลิโพเธติ สพฺเพปิ กุสลกิริยาย วิพนฺเธ อุปโรเธ.
พฺราหฺมณมหาสาลาทีนํ อามนฺตนาวณฺณนา
๓๒๔. อปฺเปสกฺขาติ อปฺปานุภาวาติ อาห ‘‘ปพฺพชิตกาลโต ปฏฺายา’’ติอาทิ.
จกฺกวตฺติ ราชา วิย สมฺภาวิโต.
มหาโควินฺทปพฺพชฺชาวณฺณนา
๓๒๘. สมาปตฺตีนํ อาชานนํ นาม อตฺตปจฺจกฺขตา, สจฺฉิกิริยาติ อาห ‘‘น สกฺขึสุ นิพฺพตฺเตตุ’’นฺติ.
๓๒๙. อิมินาติ ‘‘สรามห’’นฺติ อิมินา ปเทน. ‘‘สรามห’’นฺติ หิ วทนฺเตน ภควโต มหาพฺรหฺมุนา กถิตํ ‘‘ตเถว ต’’นฺติ ภควตา ปฏิฺาตเมว ชาตนฺติ. น วฏฺเฏ นิพฺพินฺทนตฺถาย จตุสจฺจกมฺมฏฺานกถาย อภาวโต. อสติ ปน วฏฺเฏ นิพฺพิทาย วิราคานํ อสมฺภโว เอวาติ อาห ¶ ‘‘น วิราคายา’’ติอาทิ. เอกนฺตเมว วฏฺเฏ นิพฺพินฺทนตฺถาย อเนกาการโวการวฏฺเฏ อาทีนววิภาวนโต.
‘‘นิพฺพิทายา’’ติ อิมินา ปเทน วิปสฺสนา วุตฺตา. เอส นโย เสเสสุปิ. ววตฺถานกถาติ วิปสฺสนามคฺคนิพฺพานานํ ตํตํปเทหิ ววตฺถเปตฺวา กถา. อยเมตฺถ นิปฺปริยายกถาติ อาห ‘‘ปริยาเยน ปนา’’ติอาทิ.
๓๓๐. ปริปูเรตุนฺติ ภาวนาปาริปูริวเสน ปริปุณฺเณ กาตุํ, นิพฺพตฺเตตุนฺติ อตฺโถ. พฺรหฺมจริยจิณฺณกุลปุตฺตานนฺติ ¶ จิณฺณมคฺคพฺรหฺมจริยานํ กุลปุตฺตานนฺติ อุกฺกฏฺนิทฺเทเสน อรหตฺตนิกูเฏน เทสนํ นิฏฺเปสิ.
อภินนฺทนํ นาม สมฺปฏิจฺฉนํ ‘‘อภินนฺทนฺติ อาคต’’นฺติอาทีสุ ¶ วิย, ตฺเจตฺถ อตฺถโต จิตฺตสฺส อตฺตมนตาติ อาห ‘‘จิตฺเตน สมฺปฏิจฺฉนฺโต อภินนฺทิตฺวา’’ติ. ‘‘สาธุ สาธู’’ติ วาจาย สมฺปหํสนา อนุโมทนาติ อาห ‘‘วาจาย สมฺปหํสมาโน อนุโมทิตฺวา’’ติ.
มหาโควินฺทสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา.