📜

๙. มหาสติปฏฺานสุตฺตวณฺณนา

อุทฺเทสวารกถาวณฺณนา

๓๗๓. ‘‘กสฺมา ภควา อิทํ สุตฺตมภาสี’’ติ อสาธารณํ สมุฏฺานํ ปุจฺฉติ, สาธารณํ ปน ‘‘ปากฏ’’นฺติ อนามสิตฺวา ‘‘กุรุรฏฺวาสีน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. สมุฏฺานนฺติ หิ เทสนานิทานํ, ตํ สาธารณาสาธารณเภทโต ทุวิธํ, สาธารณมฺปิ อชฺฌตฺติกพาหิรเภทโต ทุวิธํ. ตตฺถ สาธารณํ อชฺฌตฺติกํ สมุฏฺานํ นาม ภควโต มหากรุณา. ตาย หิ สมุสฺสาหิตสฺส ภควโต เวเนยฺยานํ ธมฺมเทสนาย จิตฺตํ อุทปาทิ. ยถาห ‘‘สตฺเตสุ จ การุฺตํ ปฏิจฺจ พุทฺธจกฺขุนา โลกํ โวโลเกสี’’ติอาทิ. (ที. นิ. ๒.๖๙; ม. นิ. ๑.๒๘๓; ๒.๓๓๙; สํ. นิ. ๑.๑๗๒; มหาว. ๙) พาหิรํ ปน สาธารณํ สมุฏฺานํ นาม ทสสหสฺสมหาพฺรหฺมปริวารสฺส สหมฺปติมหาพฺรหฺมุโน อชฺเฌสนํ. ตถา จาห ‘‘พฺรหฺมุโน จ อชฺเฌสนํ วิทิตฺวา’’ติ. (ที. นิ. ๒.๖๙; ม. นิ. ๑.๒๘๓; ๒.๓๓๙; สํ. นิ. ๑.๑๗๙; มหาว. ๙) ตทชฺเฌสนุตฺตรกาลฺหิ ธมฺมปจฺจเวกฺขณาชนิตํ อปฺโปสฺสุกฺกตํ ปฏิปสฺสมฺเภตฺวา ภควา ธมฺมํ เทเสตุํ อุสฺสาหชาโต อโหสิ. ยถา จ มหากรุณา, เอวํ ทสพลาณาทโย จ เทสนาย อชฺฌตฺตสมุฏฺานภาเว วตฺตพฺพา. สพฺพฺหิ เยฺยธมฺมํ, เตสํ เทเสตพฺพปฺปการํ, สตฺตานฺจ อาสยานุสยาทึ ยาถาวโต ชานิตฺวา ภควา านาฏฺานาทีสุ โกสลฺเลน เวเนยฺยชฺฌาสยานุรูปํ วิจิตฺตนยเทสนํ ปวตฺเตสีติ. อสาธารณมฺปิ อชฺฌตฺติกพาหิรเภทโต ทุวิธเมว. ตตฺถ อชฺฌตฺติกํ ยาย มหากรุณาย, เยน จ เทสนาาเณน อิทํ สุตฺตํ ปวตฺติตํ, ตทุภยํ เวทิตพฺพํ, พาหิรํ ปน ทสฺเสตุํ ‘‘กุรุรฏฺวาสีน’’นฺติอาทิมาห. เตน วุตฺตํ ‘‘อสาธารณํ สมุฏฺานํ ปุจฺฉตี’’ติ, เตน ‘‘อตฺตชฺฌาสยาทีสุ จตูสุ สุตฺตนิกฺเขเปสุ กตโรย’’นฺติ สุตฺตนิกฺเขโป ปุจฺฉิโต โหตีติ อิตโร ‘‘กุรุรฏฺวาสีน’’นฺติอาทินา ‘‘ปรชฺฌาสโยยํ สุตฺตนิกฺเขโป’’ติ ทสฺเสติ.

กุรุรฏฺํ กิร ตทา ตํนิวาสิสตฺตานํ โยนิโสมนสิการวนฺตตาทินา เยภุยฺเยน สุปฺปฏิปนฺนตาย, ปุพฺเพ จ กตปุฺตาพเลน ตทา อุตุอาทิสมฺปตฺติยุตฺตเมว อโหสิ. เตน วุตฺตํ ‘‘อุตุปจฺจยาทิสมฺปนฺนตฺตา’’ติ. อาทิ-สทฺเทน โภชนาทิสมฺปตฺตึ สงฺคณฺหาติ. เกจิ ปน ‘‘ปุพฺเพ ปวตฺตกุรุวตฺตธมฺมานุฏฺานวาสนาย อุตฺตรกุรุ วิย เยภุยฺเยน อุตุอาทิสมฺปนฺนเมว โหนฺตํ ภควโต กาเล สาติสยํ อุตุสปฺปายาทิยุตฺตํ ตํ รฏฺํ อโหสี’’ติ วทนฺติ. จิตฺตสรีรกลฺลตายาติ จิตฺตสฺส, สรีรสฺส จ อโรคตาย. อนุคฺคหิตปฺาพลาติ ลทฺธูปการาณานุภาวา, อนุ อนุ วา อาจิณฺณปฺาเตชา. เอกวีสติยา าเนสุติ กายานุปสฺสนาวเสน จุทฺทสสุ าเนสุ, เวทนานุปสฺสนาวเสน เอกสฺมึ าเน, ตถา จิตฺตานุปสฺสนาวเสน, ธมฺมานุปสฺสนาวเสน ปฺจสุ าเนสูติ เอวํ เอกวีสติยา าเนสุ. กมฺมฏฺานํ อรหตฺเต ปกฺขิปิตฺวาติ จตุสจฺจกมฺมฏฺานํ ยถา อรหตฺตํ ปาเปติ, เอวํ เทสนาวเสน อรหตฺเต ปกฺขิปิตฺวา. สุวณฺณจงฺโกฏกสุวณฺณมฺชูสาสุ ปกฺขิตฺตานิ สุมนจมฺปกาทินานาปุปฺผานิ, มณิมุตฺตาทิสตฺตรตนานิ จ ยถา ภาชนสมฺปตฺติยา สวิเสสํ โสภนฺติ, กิจฺจกรานิ จ โหนฺติ มนุฺภาวโต, เอวํ สีลทสฺสนาทิสมฺปตฺติยา ภาชนวิเสสภูตาย กุรุรฏฺวาสิปริสาย เทสิตา ภควโต อยํ เทสนา ภิยฺโยโส มตฺตาย โสภติ, กิจฺจการี จ โหตีติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ ‘‘ยถา หิ ปุริโส’’ติอาทินา. เอตฺถาติ กุรุรฏฺเ.

ปกติยาติ สรสโตปิ, อิมิสฺสา สติปฏฺานสุตฺตเทสนาย ปุพฺเพปีติ อธิปฺปาโย. อนุยุตฺตา วิหรนฺติ สตฺถุ เทสนานุสารโต ภาวนานุโยคํ.

วิสฺสฏฺอตฺตภาเวนาติ อนิจฺจาทิวเสน กิสฺมิฺจิ โยนิโสมนสิกาเร จิตฺตํ อนิโยเชตฺวา รูปาทิอารมฺมเณ อภิรติวเสน วิสฺสฏฺจิตฺเตน ภวิตุํ น วฏฺฏติ, ปมาทวิหารํ ปหาย อปฺปมตฺเตน ภวิตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย.

เอกายโนติ เอตฺถ อยน-สทฺโท มคฺคปริยาโย. น เกวลํ อยนเมว, อถ โข อฺเปิ พหู มคฺคปริยายาติ ปทุทฺธารํ กโรนฺโต ‘‘มคฺคสฺส หี’’ติ อาทึ วตฺวา ยทิ มคฺคปริยาโย อยน-สทฺโท, กสฺมา ปุน ‘‘มคฺโค’’ติ วุตฺตนฺติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘ตสฺมา’’ติอาทิ. ตตฺถ เอกมคฺโคติ เอโก เอว มคฺโค. น หิ นิพฺพานคามิมคฺโค อฺโ อตฺถีติ. นนุ สติปฏฺานํ อิธ มคฺโคติ อธิปฺเปตํ, ตทฺเ จ พหู มคฺคธมฺมา อตฺถีติ? สจฺจํ อตฺถิ, เต ปน สติปฏฺานคฺคหเณเนว คหิตา ตทวินาภาวโต. ตถา หิ าณวีริยาทโย นิทฺเทเส คหิตา, อุทฺเทเส ปน สติยา เอว คหณํ เวเนยฺยชฺฌาสยวเสนาติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘น ทฺวิธาปถภูโต’’ติ อิมินา อิมสฺส มคฺคสฺส อเนกมคฺคภาวาภาวํ วิย อนิพฺพานคามิภาวาภาวฺจ ทสฺเสติ. เอเกนาติ อสหาเยน. อสหายตา จ ทุวิธา อตฺตทุติยตาภาเวน วา, ยา ‘‘วูปกฏฺกายตา’’ติ วุจฺจติ, ตณฺหาทุติยตาภาเวน วา, ยา ‘‘ปวิวิตฺตจิตฺตตา’’ติ วุจฺจติ. เตนาห ‘‘วูปกฏฺเน ปวิวิตฺตจิตฺเตนา’’ติ. เสฏฺโปิ โลเก ‘‘เอโก’’ติ วุจฺจติ ‘‘ยาว ปเร เอกาหํ โว กโรมี’’ติอาทีสูติ อาห ‘‘เอกสฺสาติ เสฏฺสฺสา’’ติ. ยทิ สํสารโต นิสฺสรณฏฺโ อยนฏฺโ, อฺเสมฺปิ อุปนิสฺสยสมฺปนฺนานํ สาธารณโต, กถํ ภควโตติ อาห ‘‘กิฺจาปี’’ติอาทิ. อิมสฺมึ โขติ เอตฺถ โข-สทฺโท อวธารเณ, ตสฺมา อิมสฺมึ เยวาติ อตฺโถ. เทสนาเภโทเยว เหโส, ยทิทํ ‘‘มคฺโค’’ติ วา ‘‘อยโน’’ติ วา. อยน-สทฺโท วา กมฺมกรณาทิวิภาโค. เตนาห ‘‘อตฺถโต ปน เอโก วา’’ติ.

นานามุขภาวนานยปฺปวตฺโตติ กายานุปสฺสนาทิมุเขน ตตฺถาปิ อานาปานาทิมุเขน ภาวนานเยน ปวตฺโต. เอกายนนฺติ เอกคามินํ, นิพฺพานคามินนฺติ อตฺโถ. นิพฺพานฺหิ อทุติยภาวโต, เสฏฺภาวโต จ ‘‘เอก’’นฺติ วุจฺจติ. ยถาห ‘‘เอกฺหิ สจฺจํ น ทุตียมตฺถี’’ติ (สุ. นิ. ๘๙๐). ‘‘ยาวตา ภิกฺขเว ธมฺมา สงฺขตา วา อสงฺขตา วา วิราโค เตสํ อคฺคํ อกฺขายตี’’ติ. (อ. นิ. ๔.๓๔; อิติวุ. ๙๐) ขโย เอว อนฺโตติ ขยนฺโต, ชาติยา ขยนฺตํ ทิฏฺวาติ ชาติขยนฺตทสฺสี. อวิภาเคน สพฺเพปิ สตฺเต หิเตน อนุกมฺปตีติ หิตานุกมฺปี. อตรึสูติ ตรึสุ. ปุพฺเพติ ปุริมกา พุทฺธา, ปุพฺเพ วา อตีตกาเล.

นฺติ เตสํ วจนํ, ตํ วา กิริยาวุตฺติวาจกตฺตํ น ยุชฺชติ. น หิ สงฺเขยฺยปฺปธานตาย สตฺตวาจิโน เอกสทฺทสฺส กิริยาวุตฺติวาจกตา อตฺถิ. ‘‘สกิมฺปิ อุทฺธํ คจฺเฉยฺยา’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๗.๗๒) วิย สกึ อยโนติ อิมินา พฺยฺชเนน ภวิตพฺพํ. เอวมตฺถํ โยเชตฺวาติ ‘‘เอกํ อยนํ อสฺสา’’ติ เอวํ สมาสปทตฺถํ โยเชตฺวา. อุภยถาปีติ ปุริมนเยน, ปจฺฉิมนเยน จ. น ยุชฺชติ อิธาธิปฺเปตมคฺคสฺส อเนกวารํ ปวตฺติสพฺภาวโต. เตนาห ‘‘กสฺมา’’ติอาทิ. ‘‘อเนกวารมฺปิ อยตี’’ติ ปุริมนยสฺส อยุตฺตตาทสฺสนํ, ‘‘อเนกฺจสฺส อยนํ โหตี’’ติ ปจฺฉิมนยสฺส.

อิมสฺมึปเทติ ‘‘เอกายโน อยํ ภิกฺขเว มคฺโค’’ติ อิมสฺมึ วากฺเย, อิมสฺมึ วา ‘‘ปุพฺพภาคมคฺโค, โลกุตฺตรมคฺโค’’ติ วิธานปเท. มิสฺสกมคฺโคติ โลกิเยน มิสฺสโก โลกุตฺตรมคฺโค . วิสุทฺธิอาทีนํ นิปฺปริยายเหตุกํ สงฺคณฺหนฺโต อาจริยตฺเถโร ‘‘มิสฺสกมคฺโค’’ติ อาห. อิตโร ปริยายเหตุ อิธาธิปฺเปโตติ ‘‘ปุพฺพภาคมคฺโค’’ติ อโวจ.

สทฺทํ สุตฺวาติ ‘‘กาโล ภนฺเต ธมฺมสวนายา’’ติ กาลาโรจนสทฺทํ ปจฺจกฺขโต, ปรมฺปราย จ สุตฺวา. เอวํ อุกฺขิปิตฺวาติ เอวํ ‘‘สุนฺทรํ มโนหรํ อิมํ กถํ ฉฑฺเฑมา’’ติ อฉฑฺเฑนฺตา อุจฺฉุภารํ วิย ปคฺคเหตฺวา น วิจรนฺติ. อาลุเฬตีติ วิลุฬิโต อากุโล โหตีติ อตฺโถ. เอกายนมคฺโค วุจฺจติ ปุพฺพภาคสติปฏฺานมคฺโคติ เอตฺตาวตา อิธาธิปฺเปตตฺเถ สิทฺเธ ตสฺเสว อลงฺการตฺถํ โส ปน ยสฺส ปุพฺพภาคมคฺโค, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘มคฺคานฏฺงฺคิโก’’ติอาทิกา คาถาปิ ปฏิสมฺภิทามคฺคโตว อาเนตฺวา ปิตา.

นิพฺพานคมนฏฺเนาติ นิพฺพานํ คจฺฉติ อธิคจฺฉติ เอเตนาติ นิพฺพานคมนํ,โสเยว อวิปรีตสภาวตาย อตฺโถ, เตน นิพฺพานคมนฏฺเน, นิพฺพานาธิคมูปายตายาติ อตฺโถ. มคฺคนียฏฺเนาติ คเวสิตพฺพตาย. ‘‘คมนียฏฺเนา’’ติ วา ปาโ, อุปคนฺตพฺพตายาติ อตฺโถ. ‘‘ราคาทีหี’’ติ อิมินา ราคโทสโมหานํเยว คหณํ ‘‘ราโค มลํ, โทโส มลํ, โมโห มล’’นฺติ (วิภ. ๙๒๔) วจนโต. ‘‘อภิชฺฌาวิสมโลภาทีหี’’ติ ปน อิมินา สพฺเพสมฺปิ อุปกฺกิเลสานํ สงฺคณฺหนตฺถํ เต วิสุํ อุทฺธฏา. ‘‘สตฺตานํ วิสุทฺธิยา’’ติ วุตฺตสฺส อตฺถสฺส เอกนฺติกตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตถา หี’’ติอาทิมาห. กามํ ‘‘วิสุทฺธิยา’’ติ สามฺโชตนา, จิตฺตสฺเสว ปน วิสุทฺธิ อิธาธิปฺเปตาติ ทสฺเสตุํ ‘‘รูปมลวเสน ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. น เกวลํ อฏฺกถาวจนเมว, อถ โข อิทํ เอตฺถ อาหจฺจ ภาสิตนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตถา หี’’ติอาทิมาห.

สา ปนายํ จิตฺตวิสุทฺธิ สิชฺฌมานา ยสฺมา โสกาทีนํ อนุปฺปาทาย สํวตฺตติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘โสกปริเทวานํ สมติกฺกมายา’’ติอาทิ. ตตฺถ โสจนํ าติพฺยสนาทินิมิตฺตํ เจตโส สนฺตาโป อนฺโตนิชฺฌานํ โสโก. าติพฺยสนาทินิมิตฺตเมว โสกาวติณฺณโต ‘‘กหํ เอกปุตฺตก กหํ เอกปุตฺตกา’’ติอาทินา (ม. นิ. ๒.๓๕๓, ๓๕๔; สํ. นิ. ๒.๖๓) ปริเทวนวเสน วาจาวิปฺปลาโป ปริทวนํ ปริเทโว. อายตึ อนุปฺปชฺชนํ อิธ สมติกฺกโมติ อาห ‘‘ปหานายา’’ติ. ตํ ปนสฺส สมติกฺกมาวหตํ นิทสฺสนวเสน ทสฺเสนฺโต ‘‘อยฺหี’’ติอาทิมาห.

ตตฺถ ยํ ปุพฺเพ, ตํ วิโสเธหีติ อตีเตสุ ขนฺเธสุ ตณฺหาสํกิเลสวิโสธนํ วุตฺตํ. ปจฺฉาติ ปรโต . เตติ ตุยฺหํ. มาหูติ มา อหุ. กิฺจนนฺติ ราคาทิกิฺจนํ, เอเตน อนาคเตสุ ขนฺเธสุ สํกิเลสวิโสธนํ วุตฺตํ. มชฺเฌติ ตทุภยเวมชฺเฌ. โน เจ คเหสฺสสีติ น อุปาทิยิสฺสสิ เจ, เอเตน ปจฺจุปฺปนฺเน ขนฺธปฺปพนฺเธ อุปาทานปฺปวตฺติ วุตฺตา. อุปสนฺโต จริสฺสสีติ เอวํ อทฺธตฺตยคตสํกิเลสวิโสธเน สติ นิพฺพุตสพฺพปริฬาหตาย อุปสนฺโต หุตฺวา วิหริสฺสสีติ อรหตฺตนิกูเฏน คาถํ นิฏฺเปสิ. เตนาห ‘‘อิมํ คาถ’’นฺติอาทิ.

ปุตฺตาติ โอรสา, อฺเปิ วา ทินฺนกกิตฺติมาทโย เย เกจิ. ปิตาติ ชนโก, อฺเปิ วา ปิตุฏฺานิยา. พนฺธวาติ าตกา. อยฺเหตฺถ อตฺโถ – ปุตฺตา วา ปิตา วา พนฺธวา วา อนฺตเกน มจฺจุนา อธิปนฺนสฺส อภิภูตสฺส มรณโต ตาณาย น โหนฺติ. กสฺมา? นตฺถิ าตีสุ ตาณตาติ. น หิ าตีนํ วเสน มรณโต อารกฺขา อตฺถิ, ตสฺมา ปฏาจาเร ‘‘อุโภ ปุตฺตา กาลงฺกตา’’ติอาทินา (อป. เถรี ๑.๔๙๘) มา นิรตฺถกํ ปริเทวิ, ธมฺมํเยว ปน ยาถาวโต ปสฺสาติ อธิปฺปาโย. โสตาปตฺติผเล ปติฏฺิตาติ ยถานุโลมํ ปวตฺติตาย สามุกฺกํสิกาย ธมฺมเทสนาย ปริโยสาเน สหสฺสนยปฏิมณฺฑิเต โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ. กถํ ปนายํ สติปฏฺานมคฺควเสน โสตาปตฺติผเล ปติฏฺาสีติ อาห ‘‘ยสฺมา ปนา’’ติอาทิ. น หิ จตุสจฺจกมฺมฏฺานกถาย วินา สาวกานํ อริยมคฺคาธิคโม อตฺถิ. ‘‘อิมํ คาถํ สุตฺวา’’ติ ปนิทํ โสกวิโนทนวเสน ปวตฺติตาย คาถาย ปมํ สุตตฺตา วุตฺตํ, สาปิ หิ สจฺจเทสนาย ปริวารพนฺธา เอว อนิจฺจตากถาติ กตฺวา. อิตรคาถายํ ปน วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. ภาวนาติ ปฺาภาวนา. สา หิ อิธ อธิปฺเปตา. ตสฺมาติ ยสฺมา รูปาทีนํ อนิจฺจาทิโต อนุปสฺสนาปิ สติปฏฺานภาวนาว, ตสฺมา. เตปีติ สนฺตติมหามตฺตปฏาจาราปิ.

ปฺจสเตโจเรติ สตสตโจรปริวาเร ปฺจโจเร ปฏิปาฏิยา เปเสสิ, เต อรฺํ ปวิสิตฺวา เถรํ ปริเยสนฺตา อนุกฺกเมน เถรสฺส สมีเป สมาคจฺฉึสุ. เตนาห ‘‘เต คนฺตฺวา เถรํ ปริวาเรตฺวา นิสีทึสู’’ติ. เวทนํ วิกฺขมฺเภตฺวาติ อูรุฏฺิเภทปจฺจยํ ทุกฺขเวทนํ อมนสิกาเรน วิโนเทตฺวา. ปีติปาโมชฺชํ อุปฺปชฺชิ วิปฺปฏิสารเลสสฺสปิ อสมฺภวโต. เตนาห ‘‘ปริสุทฺธํ สีลํ นิสฺสายา’’ติ. เถรสฺส หิ สีลํ ปจฺจเวกฺขโต ปริสุทฺธํ สีลํ นิสฺสาย อุฬารํ ปีติปาโมชฺชํ อุปฺปชฺชมานํ อูรุฏฺิเภทชนิตํ ทุกฺขเวทนํ วิกฺขมฺเภสิ. ติยามรตฺตินฺติ อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ, เตนสฺส วิปสฺสนายํ อปฺปมาทํ, ปฏิปตฺติอุสฺสุกฺกาปนฺจ ทสฺเสติ. ปาทานีติ ปาเท. สํยเมสฺสามีติ สฺเปสฺสามิ, สฺตฺตึ กริสฺสามีติ อตฺโถ. อฏฺฏิยามีติ ชิคุจฺฉามิ. หรายามีติ ลชฺชามิ. วิปสฺสิสนฺติ สมฺปสฺสึ.

ปจลายนฺตานนฺติ ปจลายิกานํ นิทฺทํ อุปคตานํ. อคตินฺติ อโคจรํ. วตสมฺปนฺโนติ ธุตคุณสมฺปนฺโน. ปมาทนฺติ ปจลายนํ สนฺธายาห. โอรุทฺธมานโสติ อุปรุทฺธอธิจิตฺโต. ปฺชรสฺมินฺติ สรีเร. สรีรฺหิ นฺหารุสมฺพนฺธอฏฺิสงฺฆาฏตาย อิธ ‘‘ปฺชร’’นฺติ วุตฺตํ.

ปีตวณฺณาย ปน ปฏากาย กายํ ปริหรณโต, มลฺลยุทฺธจิตฺตกตาย จ ‘‘ปีตมลฺโล’’ติ ปฺาโต ปพฺพชิตฺวา ปีตมลฺลตฺเถโร นาม ชาโต. ตีสุ รชฺเชสูติ ปณฺฑุโจฬโคฬรชฺเชสุ. ‘‘สพฺพมลฺลา สีหฬทีเป สกฺการสมฺมานํ ลภนฺตี’’ติ ตมฺพปณฺณิทีปํ อาคมฺม. ตํเยว องฺกุสํ กตฺวาติ ‘‘รูปาทโย ‘มมา’ติ น คเหตพฺพา’’ติ นตุมฺหากวคฺเคน ปกาสิตมตฺถํ อตฺตโน จิตฺตมตฺตหตฺถิโน องฺกุสํ กตฺวา. ปาเทสุ อวหนฺเตสูติ อติเวลํ จงฺกมเนน อกฺกมิตุํ อสมตฺเถสุ. ชณฺณุเกหิ จงฺกมติ ‘‘นิสินฺเน นิทฺทาย อวสโร โหตี’’ติ. พฺยากริตฺวาติ อตฺตโน วีริยารมฺภสฺส สผลตาปเวทนมุเขน สพฺรหฺมจารีนํ ตตฺถ อุสฺสาหํ ชเนนฺโต อฺํ พฺยากริตฺวา. ภาสิตนฺติ วจนํ, กสฺส ปน ตนฺติ อาห ‘‘พุทฺธเสฏฺสฺส สพฺพโลกคฺควาทิโน’’ติ. ‘‘น ตุมฺหาก’’นฺติอาทิ ตสฺส ปวตฺติอาการทสฺสนํ. ตยิทํ เม สงฺขารานํ อจฺจนฺตวูปสมการณนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อนิจฺจา วตา’’ติ คาถมาหริ, เตน อิทานาหํ สงฺขารานํ ขเณ ขเณ ภงฺคสงฺขาตสฺส โรคสฺส อภาเวน อโรโค ปรินิพฺพุโตติ ทสฺเสติ.

อสฺสาติ สกฺกสฺส. อุปปตฺตีติ เทวูปปตฺติ. ปุน ปากติกาว อโหสิ สกฺกภาเวเนว อุปปนฺนตฺตา.

สุพฺรหฺมาติ เอวํนาโม. อจฺฉรานํ นิรยูปปตฺตึ ทิสฺวา ตโต ปภุติ สตตํ ปวตฺตมานํ อตฺตโน จิตฺตุตฺราสํ สนฺธายาห ‘‘นิจฺจํ อุตฺรสฺตมิทํ จิตฺต’’นฺติอาทิ. ตตฺถ อุตฺรสฺตนฺติ สนฺตสฺตํ ภีตํ . อุพฺพิคฺคนฺติ สํวิคฺคํ. อุตฺรสฺตนฺติ วา สํวิคฺคํ. อุพฺพิคฺคนฺติ ภยวเสน สห นิสฺสเยน สฺจลิตํ. อนุปฺปนฺเนสูติ อนาคเตสุ. กิจฺเจสูติ เตสุ เตสุ อิติกตฺตพฺเพสุ. ‘‘กิจฺเฉสู’’ติ วา ปาโ, ทุกฺเขสูติ อตฺโถ, นิมิตฺตตฺเถ เจตํ ภุมฺมํ, ภาวิทุกฺขนิมิตฺตนฺติ อตฺโถ. อุปฺปติเตสูติ อุปฺปนฺเนสุ กิจฺเจสูติ โยชนา. ตทา อตฺตโน ปริวารสฺส อุปฺปนฺนํ ทุกฺขํ สนฺธาย วทติ.

โพชฺฌาติ โพธิโต, อริยมคฺคโตติ อตฺโถ. ‘‘อฺตฺรา’’ติ จ ปทํ อเปกฺขิตฺวา นิสฺสกฺกวจนํ, โพธึ เปตฺวาติ อตฺโถ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. ตปสาติ ตโปกมฺมโต, เตน มคฺคาธิคมสฺส อุปายภูตํ สลฺเลขปฏิปทํ ทสฺเสติ. อินฺทฺริยสํวราติ มนจฺฉฏฺานํ อินฺทฺริยานํ สํวรณโต , เอเตน สติสํวรสีเสน สพฺพมฺปิ สํวรสีลํ, ลกฺขณหารนเยน วา สพฺพมฺปิ จตุปาริสุทฺธิสีลํ ทสฺเสติ. สพฺพนิสฺสคฺคาติ สพฺพสฺสปิ นิสฺสชฺชนโต สพฺพกิเลสปฺปหานโต. กิเลเสสุ หิ นิสฺสฏฺเสุ กมฺมวฏฺฏํ, วิปากวฏฺฏฺจ นิสฺสฏฺเมว โหตีติ. โสตฺถินฺติ เขมํ อนุปทฺทวตํ.

ายติ นิจฺฉเยน กมติ นิพฺพานํ, ตํ วา ายติ ปฏิวิชฺฌียติ เอเตนาติ าโย, อริยมคฺโคติ อาห ‘‘าโย วุจฺจติ อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค’’ติ. ตณฺหาวานวิรหิตตฺตาติ ตณฺหาสงฺขาตวานวิวิตฺตตฺตา. ตณฺหา หิ ขนฺเธหิ ขนฺธํ, กมฺมุนา ผลํ, สตฺเตหิ จ ทุกฺขํ วินติ สํสิพฺพตีติ ‘‘วาน’’นฺติ วุจฺจติ, ตยิทํ นตฺถิ เอตฺถ วานํ, น วา เอตสฺมึ อธิคเต ปุคฺคลสฺส วานนฺติ นิพฺพานํ, อสงฺขตา ธาตุ. ปรปฺปจฺจเยน วินา ปจฺจกฺขกรณํ สจฺฉิกิริยาติ อาห ‘‘อตฺตปจฺจกฺขตายา’’ติ.

นนุ ‘‘วิสุทฺธิยา’’ติ จิตฺตวิสุทฺธิยา อธิปฺเปตตฺตา วิสุทฺธิคฺคหเณเนเวตฺถ โสกสมติกฺกมาทโยปิ คหิตา เอว โหนฺติ, เต ปุน กสฺมา คหิตาติ อนุโยคํ สนฺธาย ‘‘ตตฺถ กิฺจาปี’’ติอาทิ วุตฺตํ. สาสนยุตฺติโกวิเทติ สจฺจปฏิจฺจสมุปฺปาทาทิลกฺขณายํ ธมฺมนีติยํ เฉเก. ตํ ตมตฺถําเปตีติ เย เย โพธเนยฺยปุคฺคลา สงฺเขปวิตฺถาราทิวเสน ยถา ยถา โพเธตพฺพา, อตฺตโน เทสนาวิลาเสน ภควา เต เต ตถา ตถา โพเธนฺโต ตํ ตมตฺถํ าเปติ. ตํ ตํ ปากฏํ กตฺวา ทสฺเสนฺโตติ อตฺถาปตฺตึ อคเณนฺโต ตํ ตมตฺถํ ปากฏํ กตฺวา ทสฺเสนฺโต. น หิ สมฺมาสมฺพุทฺโธ อตฺถาปตฺติาปกาทิสาธนียวจนาติ. สํวตฺตตีติ ชายติ, โหตีติ อตฺโถ. ยสฺมา อนติกฺกนฺตโสกปริเทวสฺส น กทาจิ จิตฺตวิสุทฺธิ อตฺถิ โสกปริเทวสมติกฺกมนมุเขเนว จิตฺตวิสุทฺธิยา อิชฺฌนโต, ตสฺมา อาห ‘‘โสกปริเทวานํ สมติกฺกเมน โหตี’’ติ. ยสฺมา ปน โทมนสฺสปจฺจเยหิ ทุกฺขธมฺเมหิ ผุฏฺํ ปุถุชฺชนํ โสกาทโย อภิภวนฺติ, ปริฺาเตสุ จ เตสุ เต น โหนฺติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘โสกปริเทวานํ สมติกฺกโม ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคเมนา’’ติ. ายสฺสาติ อคฺคมคฺคสฺส, ตติยมคฺคสฺส จ. ตทธิคเมน หิ ยถากฺกมํ ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคโม. สจฺฉิกิริยาภิสมยสหภาวีปิ อิตราภิสมโย ตทวินาภาวโต สจฺฉิกิริยาภิสมยเหตุโก วิย วุตฺโต. ายสฺสาธิคโม นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยายาติ ผลาเณน วา ปจฺจกฺขกรณํ สนฺธาย วุตฺตํ, ‘‘นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยายา’’ติ สมฺปทานวจนฺเจตํ ทฏฺพฺพํ.

วณฺณภณนนฺติ ปสํสาวจนํ. ตยิทํ น อิเธว, อถ โข อฺตฺถาปิ สตฺถุ อาจิณฺณํ เอวาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยเถว หี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อาทิมฺหิ กลฺยาณมาทิ วา กลฺยาณํ เอตสฺสาติ อาทิกลฺยาณํ. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย. อตฺถสมฺปตฺติยา สาตฺถํ. พฺยฺชนสมฺปตฺติยา สพฺยฺชนํ. สีลาทิปฺจธมฺมกฺขนฺธปาริปูริโต, อุปเนตพฺพสฺส อภาวโต จ เกวลปริปุณฺณํ. นิรุปกฺกิเลสโต อปเนตพฺพสฺส จ อภาวโต ปริสุทฺธํ. เสฏฺจริยภาวโต สาสนพฺรหฺมจริยํ, มคฺคพฺรหฺมจริยฺจ โว ปกาเสสฺสามีติ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๑๔๗) วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. อริยวํสาติ อริยานํ พุทฺธาทีนํ วํสา ปเวณิโย. อคฺคฺาติ อคฺคาติ ชานิตพฺพา สพฺพวํเสหิ เสฏฺภาวโต. รตฺตฺาติ จิรรตฺตาติ ชานิตพฺพา. วํสฺาติ พุทฺธาทีนํ วํสาติ ชานิตพฺพา. โปราณาติ ปุราตนา อนธุนาตนตฺตา. อสงฺกิณฺณาติ อวิกิณฺณา อนปนีตา. อสงฺกิณฺณปุพฺพาติ ‘‘กึ อิเมหี’’ติ อริเยหิ น อปนีตปุพฺพา . น สงฺกียนฺตีติ อิทานิปิ เตหิ น อปนียนฺติ. น สงฺกียิสฺสนฺตีติ อนาคเตปิ เตหิ น อปนียิสฺสนฺติ. อปฺปฏิกุฏฺา…เป… วิฺูหีติ เย โลเก วิฺู สมณพฺราหฺมณา, เตหิ อปฺปจฺจกฺขตา อนินฺทิตา, อครหิตาติ อตฺโถ. ‘‘วิสุทฺธิยา’’ติอาทีหีติ วิสุทฺธิอาทิทีปเนหิ. ปเทหีติ วากฺเยหิ, วิสุทฺธิอตฺถตาทิเภทภินฺเนหิ วา ธมฺมโกฏฺาเสหิ. อุปทฺทเวติ อนตฺเถ. วิสุทฺธินฺติ วิสุชฺฌนํ สํกิเลสปฺปหานํ. วาจุคฺคตกรณํ อุคฺคโห. ปริยาปุณนํ ปริจโย. อตฺถสฺส หทเย ปนํ ธารณํ. ปริวตฺตนํ วาจนํ.

คนฺธารโกติ คนฺธารเทเส อุปฺปนฺโน. ปโหนฺตีติ สกฺโกนฺติ. อนิยฺยานิกมคฺคาติ มิจฺฉามคฺคา, มิจฺฉตฺตนิยตานิยตมคฺคาปิ วา. สุวณฺณนฺติ กูฏสุวณฺณมฺปิ วุจฺจติ. มณีติ กาจมณิปิ, มุตฺตาติ เวฬุชาปิ, ปวาฬนฺติ ปลฺลโวปิ วุจฺจตีติ รตฺตชมฺพุนทาทิปเทหิ เต วิเสสิตา.

น ตโต เหฏฺาติ อิธาธิปฺเปตกายาทีนํ เวทนาทิสภาวตฺตาภาวา, กายเวทนาจิตฺตวิมุตฺตสฺส เตภูมกธมฺมสฺส วิสุํ วิปลฺลาสวตฺถนฺตรภาเวน คหิตตฺตา จ เหฏฺา คหเณสุ วิปลฺลาสวตฺถูนํ อนิฏฺานํ สนฺธาย วุตฺตํ, ปฺจมสฺส ปน วิปลฺลาสวตฺถุโน อภาวา ‘‘น อุทฺธ’’นฺติ อาห. อารมฺมณวิภาเคน เหตฺถ สติปฏฺานวิภาโคติ. ตโย สติปฏฺานาติ สติปฏฺาน-สทฺทสฺส อตฺถุทฺธารทสฺสนํ, น อิธ ปาฬิยํ วุตฺตสฺส สติปฏฺาน-สทฺทสฺส อตฺถทสฺสนนฺติ. อาทีสุ หิ สติโคจโรติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ‘‘ผสฺสสมุทยา เวทนานํ สมุทโย, นามรูปสมุทยา จิตฺตสฺส สมุทโย, มนสิการสมุทยา ธมฺมานํ สมุทโย’’ติ (สํ. นิ. ๕.๔๐๘) ‘‘สติปฏฺานา’’ติ วุตฺตานํ สภิโคจรานํ ปกาสเก สุตฺตปฺปเทเส สงฺคณฺหาติ. เอวํ ‘‘ปฏิสมฺภิทาปาฬิย’’มฺปิ (ปฏิ. ม. ๒.๓๔) อวเสสปาฬิปฺปเทสทสฺสนตฺโถ อาทิ-สทฺโท ทฏฺพฺโพ. สติยา ปฏฺานนฺติ สติยา ปติฏฺาตพฺพฏฺานํ. ทานาทีนิ กโรนฺตสฺส รูปาทีนิ สติยา านํ โหนฺตีติ ตํนิวารณตฺถมาห ‘‘ปธานํ าน’’นฺติ. -สทฺโท หิ อิธ ‘‘ปณีตา ธมฺมา’’ติอาทีสุ (ธ. สํ. มาติกา ๑๔) วิย ปธานตฺถทีปโกติ อธิปฺปาโย.

อริโยติ อริยํ สพฺพสตฺตเสฏฺํ สมฺมาสมฺพุทฺธมาห. เอตฺถาติ เอตสฺมึ สฬายตนวิภงฺคสุตฺเต.(ม. นิ. ๓.๓๑๐) สุตฺเตกเทเสน หิ สุตฺตํ ทสฺเสติ. ตตฺถ หิ –

‘‘ตโย สติปฏฺานา ยทริโย…เป… อรหตีติ อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ, กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ. อิธ, ภิกฺขเว, สตฺถา สาวกานํ ธมฺมํ เทเสติ อนุกมฺปโก หิเตสี อนุกมฺปํ อุปาทาย ‘อิทํ โว หิตาย อิทํ โว สุขายา’ติ. ตสฺส สาวกา น สุสฺสูสนฺติ. น โสตํ โอทหนฺติ, น อฺา จิตฺตํ อุปฏฺเปนฺติ, โวกฺกมฺม จ สตฺถุ สาสนา วตฺตนฺติ. ตตฺร, ภิกฺขเว, ตถาคโต น เจว อนตฺตมโน โหติ, น จ อนตฺตมนตํ ปฏิสํเวเทติ, อนวสฺสุโต จ วิหรติ สโต สมฺปชาโน. อิทํ, ภิกฺขเว, ปมํ สติปฏฺานํ. ยทริโย เสวติ…เป… อรหติ.

ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, สตฺถา…เป...อิทํ โว สุขายาติ . ตสฺส เอกจฺเจ สาวกา น สุสฺสูสนฺติ…เป… น จ โวกฺกมฺม สตฺถุ สาสนา วตฺตนฺติ. ตตฺร, ภิกฺขเว, ตถาคโต น เจว อนตฺตมโน โหติ, น จ อนตฺตมนตํ ปฏิสํเวเทติ, น จ อตฺตมโน โหติ, น จ อตฺตมนตํ ปฏิสํเวเทติ, อนตฺตมนตา จ อตฺตมนตา จ ตทุภยํ อภินิวชฺเชตฺวา อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโน. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ทุติยํ.

ปุน จปรํ, ภิกฺขเว…เป… สุขายาติ, ตสฺส สาวกา สุสฺสูสนฺติ…เป… วตฺตนฺติ. ตตฺร, ภิกฺขเว, ตถาคโต อตฺตมโน เจว โหติ, อตฺตมนตฺจ ปฏิสํเวเทติ, อนวสฺสุโต จ วิหรติ สโต สมฺปชาโน. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ตติย’’นฺติ (ม. นิ. ๓.๓๑๑).

เอวํ ปฏิฆานุนเยหิ อนวสฺสุตตา, นิจฺจํ อุปฏฺิตสฺสติตาย ตทุภยวีติวตฺตตา ‘‘สติปฏฺาน’’นฺติ วุตฺตา. พุทฺธานํเยว หิ นิจฺจํ อุปฏฺิตสฺสติตา โหติ อาเวณิกธมฺมภาวโต, น ปจฺเจกพุทฺธาทีนํ. -สทฺโท อารมฺภํ โชเตติ, อารมฺโภ จ ปวตฺตีติ กตฺวา อาห ‘‘ปวตฺตยิตพฺพโตติ อตฺโถ’’ติ. สติยา กรณภูตาย ปฏฺานํ ปฏฺเปตพฺพํ สติปฏฺานํ. อน-สทฺโท หิ พหุลํวจเนน กมฺมตฺโถปิ โหตีติ. ตถาสฺส กตฺตุอตฺโถปิ ลพฺภตีติ ‘‘ปฏฺาตีติ ปฏฺาน’’นฺติ วุตฺตํ. ปฏฺาตีติ เอตฺถ -สทฺโท ภุสตฺถวิสิฏฺํ ปกฺขนฺทนํ ทีเปตีติ ‘‘โอกฺกนฺทิตฺวา ปกฺขนฺทิตฺวา ปตฺถริตฺวา ปวตฺตตีติ อตฺโถ’’ติ อาห. ปุน ภาวตฺถํ สติ, สทฺทํ, ปฏฺานสทฺทฺจ วณฺเณนฺโต ‘‘อถ วา’’ติอาทิมาห, เตน ปุริมวิกปฺเป สติ, สทฺโท, ปฏฺาน-สทฺโท จ กตฺตุอตฺโถติ วิฺายติ. สรณฏฺเนาติ จิรกตสฺส, จิรภาสิตสฺส จ อนุสฺสรณฏฺเน. อิทนฺติ ยํ ‘‘สติเยว สติปฏฺาน’’นฺติ วุตฺตํ, อิทํ. อิธ อิมสฺมึ สุตฺตปเทเส อธิปฺเปตํ.

ยทิ เอวนฺติ. ยทิ สติ เอว สติปฏฺานํ, สติ นาม เอโก ธมฺโม, เอวํ สนฺเต กสฺมา ‘‘สติปฏฺานา’’ติ พหุวจนนฺติ อาห ‘‘สติพหุตฺตา’’ติอาทิ. ยทิ พหุกา ตา สติโย, อถ กสฺมา ‘‘มคฺโค’’ติ เอกวจนนฺติ โยชนา. มคฺคฏฺเนาติ นิยฺยานฏฺเน. นิยฺยานิโก หิ มคฺคธมฺโม, เตเนว นิยฺยานิกภาเวน เอกตฺตูปคโต เอกนฺตโต นิพฺพานํ คจฺฉติ, อตฺถิเกหิ จ ตทตฺถํ มคฺคียตีติ อาห ‘‘วุตฺตฺเหต’’นฺติ, อตฺตนาว ปุพฺเพ วุตฺตํ ปจฺจาหรติ. ตตฺถ จตสฺโสปิ เจตาติ กายานุปสฺสนาทิวเสน จตุพฺพิธาปิ จ เอตา สติโย. อปรภาเคติ อริยมคฺคกฺขเณ. กิจฺจํ สาธยมานาติ ปุพฺพภาเค กายาทีสุ สุภสฺาทิวิธมนวเสน วิสุํ วิสุํ ปวตฺติตฺวา มคฺคกฺขเณ สติเยว ตตฺถ จตุพฺพิธสฺสปิ วิปลฺลาสสฺส สมุจฺเฉทวเสน ปหานกิจฺจํ สาธยมานา อารมฺมณกรณวเสน นิพฺพานํ คจฺฉติ. จตุกิจฺจสาธเนเนว เหตฺถ พหุวจนนิทฺเทโส. เอวฺจ สตีติ เอวํ มคฺคฏฺเน เอกตฺตํ อุปาทาย ‘‘มคฺโค’’ติ เอกวจเนน, อารมฺมณเภเทน จตุพฺพิธตํ อุปาทาย ‘‘จตฺตาโร’’ติ จ วตฺตพฺพตาย สติ วิชฺชมานตฺตา. วจนานุสนฺธินา ‘‘เอกายโน อย’’นฺติอาทิกา เทสนา สานุสนฺธิกาว, น อนนุสนฺธิกาติ อธิปฺปาโย. วุตฺตเมวตฺถํ นิทสฺสเนน ปฏิปาเทตุํ ‘‘มารเสนปฺปมทฺทน’’นฺติ (สํ. นิ. ๕.๒๒๔) สุตฺตปทํ อาเนตฺวา ‘‘ยถา’’ติอาทินา นิทสฺสนํ สํสนฺทติ. ‘‘ตสฺมา’’ติอาทิ นิคมนํ.

วิเสสโต กาโย, เวทนา จ อสฺสาทสฺส การณนฺติ ตปฺปหานตฺถํ เตสุ ตณฺหาวตฺถูสุ โอฬาริกสุขุเมสุ อสุภทุกฺขภาวทสฺสนานิ มนฺทติกฺขปฺเหิ ตณฺหาจริเตหิ สุกรานีติ ตานิ เตสํ ‘‘วิสุทฺธิมคฺโค’’ติ วุตฺตานิ. ตถา ‘‘นิจฺจํ อตฺตา’’ติ อภินิเวสวตฺถุตาย ทิฏฺิยา วิเสสการเณสุ จิตฺตธมฺเมสุ อนิจฺจานตฺตตาทสฺสนานิ สราคาทิวเสน, สฺาผสฺสาทิวเสน, นีวรณาทิวเสน จ นาติปฺปเภทาติปฺปเภทคเตสุ เตสุ ตปฺปหานตฺถํ มนฺทติกฺขปฺานํ ทิฏฺิจริตานํ สุกรานีติ เตสํ ตานิ ‘‘วิสุทฺธิมคฺโค’’ติ วุตฺตานิ. เอตฺถ จ ยถา จิตฺตธมฺมานมฺปิ ตณฺหาย วตฺถุภาโว สมฺภวติ, ตถา กายเวทนานมฺปิ ทิฏฺิยาติ สติปิ เนสํ จตุนฺนมฺปิ ตณฺหาทิฏฺิวตฺถุภาเว โย ยสฺสา สาติสยปจฺจโย, ตํ ทสฺสนตฺถํ วิเสสคฺคหณํ กตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ติกฺขปฺสมถยานิโก โอฬาริการมฺมณํ ปริคฺคณฺหนฺโต ตตฺถ อฏฺตฺวา ฌานํ สมาปชฺชิตฺวา อุฏฺาย เวทนํ ปริคฺคณฺหาตีติ วุตฺตํ ‘‘โอฬาริการมฺมเณ อสณฺหนโต’’ติ. วิปสฺสนายานิกสฺส ปน สุขุเม จิตฺเต, ธมฺเมสุ จ จิตฺตํ ปกฺขนฺทตีติ จิตฺตธมฺมานุปสฺสนานํ มนฺทติกฺขปฺวิปสฺสนายานิกานํ วิสุทฺธิมคฺคตา วุตฺตา.

เตสํ ตตฺถาติ เอตฺถ ตตฺถ-สทฺทสฺส ‘‘ปหานตฺถ’’นฺติ เอเตน โยชนา. ปรโต เตสํ ตตฺถาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ปฺจ กามคุณา สวิเสสา กาเย ลพฺภนฺตีติ วิเสเสน กาโย กาโมฆสฺส วตฺถุ, ภเวสุ สุขคฺคหณวเสน ภวสฺสาโท โหตีติ ภโวฆสฺส เวทนา วตฺถุ, สนฺตติฆนคฺคหณวเสน วิเสสโต จิตฺเต อตฺตาภินิเวโส โหตีติ ทิฏฺโฆสฺส จิตฺตํ วตฺถุ, ธมฺเมสุ วินิพฺโภคสฺส ทุกฺกรตฺตา, ธมฺมานํ ธมฺมมตฺตตาย ทุปฺปฏิวิชฺฌตฺตา จ สมฺโมโห โหตีติ อวิชฺโชฆสฺส ธมฺมา วตฺถุ, ตสฺมา เตสุ เตสํ ปหานตฺถํ จตฺตาโรว วุตฺตา.

เอวํ กายาทีนํ กาโมฆาทิวตฺถุภาวกถเนเนว กามโยคกามาสวาทีนมฺปิ วตฺถุภาโว ทีปิโต โหติ โอเฆหิ เตสํ อตฺถโต อนฺตฺตา. ยทคฺเคน จ กาโย กาโมฆาทีนํ วตฺถุ, ตทคฺเคน อภิชฺฌากายคนฺถสฺส วตฺถุ. ‘‘ทุกฺขาย เวทนาย ปฏิฆานุสโย อนุเสตี’’ติ ทุกฺขทุกฺขวิปริณามทุกฺขสงฺขารทุกฺขภูตา เวทนา วิเสเสน พฺยาปาทกายคนฺถสฺส วตฺถุ. จิตฺเต นิจฺจคฺคหณวเสน สสฺสตสฺส อตฺตโน สีเลน สุทฺธีติ อาทิ ปรามสนํ โหตีติ สีลพฺพตปรามาสสฺส จิตฺตํ วตฺถุ. นามรูปปริจฺเฉเทน ภูตํ ภูตโต อปสฺสนฺตสฺส ภววิภวทิฏฺิสงฺขาโต อิทํสจฺจาภินิเวโส โหตีติ ตสฺส ธมฺมา วตฺถุ. กายสฺส กามุปาทานวตฺถุตา วุตฺตนยาว. ยทคฺเคน หิ กาโย กาโมฆสฺส วตฺถุ, ตทคฺเคน กามุปาทานสฺสปิ วตฺถุ อตฺถโต อภินฺนตฺตา. สุขเวทนสฺสาทวเสน ปรโลกนิรเปกฺโข ‘‘นตฺถิ ทินฺน’’นฺติอาทิกํ (ที. นิ. ๑.๑๗๑; ม. นิ. ๑.๔๔๕; ๒.๙๕, ๒๒๕; ๓.๙๑, ๑๑๖; สํ. นิ. ๓.๒๑๐; ธ. ส. ๑๒๒๑; วิภ. ๙๓๘) ปรามาสํ อุปฺปาเทตีติ ทิฏฺุปาทานสฺส เวทนา วตฺถุ . จิตฺตธมฺมานํ อิตรุปาทานวตฺถุตา ตติยจตุตฺถคนฺถโยชนายํ วุตฺตนยา เอว. กายเวทนานํ ฉนฺทโทสาคติวตฺถุตา กาโมฆพฺยาปาทกายคนฺถโยชนายํ วุตฺตนยา เอว. สนฺตติฆนคฺคหณวเสน สราคาทิจิตฺเต สมฺโมโห โหตีติ โมหาคติยา จิตฺตํ วตฺถุ. ธมฺมสภาวานวโพเธ ภยํ โหตีติ ภยาคติยา ธมฺมา วตฺถุ.

อาหารสมุทยา กายสฺส สมุทยา, ผสฺสสมุทยา เวทนานํ สมุทโย, (สํ. นิ. ๕.๔๐๘) สงฺขารปจฺจยา วิฺาณํ, วิฺาณปจฺจยา นามรูปนฺติ (ม. นิ. ๓.๑๒๖; อุทา. ๑; วิภ. ๒๒๕) วจนโต กายาทีนํ สมุทยภูตา กพฬีการผสฺสมโนสฺเจตนาวิฺาณาหารา กายาทิปริชานเนน ปริฺาตา โหนฺตีติ อาห ‘‘จตุพฺพิธาหารปริฺตฺถ’’นฺติ. ปกรณนโยติ เนตฺติปกรณวเสน สุตฺตนฺตสํวณฺณนานโย.

สรณวเสนาติ กายาทีนํ, กุสลาทิธมฺมานฺจ อุปธารณวเสน. สรนฺติ คจฺฉนฺติ นิพฺพานํ เอตายาติ สตีติ อิมสฺมึ อตฺเถ เอกตฺเต เอกสภาเว นิพฺพาเน สโมสรณํ สมาคโม เอกตฺตสโมสรณํ. เอตเทว หิ ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา หี’’ติอาทิ วุตฺตํ.

เอกนิพฺพานปเวสเหตุภูโต วา สมานตาย เอโก สติปฏฺานสภาโว เอกตฺตํ, ตตฺถ สโมสรณํ เอกตฺตสโมสรณํ, ตํสภาคตาว, เอกนิพฺพานปเวสเหตุภาวํ ปน ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา’’ติอาทิมาห. เอตสฺมึ อตฺเถ สรเณกตฺตสโมสรณานิ สเหว สติปฏฺาเนกภาวสฺส การณตฺเตน วุตฺตานีติ ทฏฺพฺพานิ, ปุริมสฺมึ วิสุํ. สรณวเสนาติ วา คมนวเสนาติ อตฺเถ สติ ตเทว คมนํ สโมสรณนฺติ, สโมสรเณ วา สติ-สทฺทตฺถวเสน อวุจฺจมาเน ธารณตาว สตีติ สติ-สทฺทตฺถนฺตราภาวา ปุริมํ สติภาวสฺส การณํ, ปจฺฉิมํ เอกภาวสฺสาติ นิพฺพานสโมสรเณปิ สหิตาเนว ตานิ สติปฏฺาเนกภาวสฺส การณานิ วุตฺตานิ โหนฺติ.

‘‘จุทฺทสวิเธน, นววิเธน, โสฬสวิเธน, ปฺจวิเธนา’’ติ อิทํ อุปริ ปาฬิยํ (ที. นิ. ๒.๓๗๔) อาคตานํ อานาปานปพฺพาทีนํ วเสน วุตฺตํ, เตสํ ปน อนนฺตรเภทวเสน, ตทนุคตเภทวเสน จ ภาวนาย อเนกวิธตา ลพฺภติเยว, จตูสุ ทิสาสุ อุฏฺานกภณฺฑสทิสตา กายานุปสฺสนาทิตํตํสติปฏฺานภาวนานุภาวสฺส ทฏฺพฺพา.

กเถตุกมฺยตาปุจฺฉา อิตราสํ ปุจฺฉานํ อิธ อสมฺภวโต, นิทฺเทสาทิวเสน เทเสตุกมฺยตาย จ ตถา วุตฺตตฺตา. ‘‘อิธา’’ติ วุจฺจมานปฏิปตฺติสมฺปาทกสฺส ภิกฺขุโน สนฺนิสฺสยทสฺสนํ, โส จสฺส สนฺนิสฺสโย สาสนโต อฺโ นตฺถีติ วุตฺตํ ‘‘อิธาติ อิมสฺมึ สาสเน’’ติ. ธมฺม…เป… ลปนเมตํ เตสํ อตฺตโน สมฺมุขาภิมุขภาวกรณตฺถํ, ตฺจ ธมฺมสฺส สกฺกจฺจสวนตฺถํ. ‘‘โคจเร ภิกฺขเว จรถ สเก เปตฺติเก วิสเย’’ติอาทิ (ที. นิ. ๓.๘๐; สํ. นิ. ๕.๓๗๒) วจนโต ภิกฺขุโคจรา เอเต ธมฺมา, ยทิทํ กายานุปสฺสนาทโย. ตตฺถ ยสฺมา กายานุปสฺสนาทิปฏิปตฺติยา ภิกฺขุ โหติ, ตสฺมา ‘‘กายานุปสฺสี วิหรตี’’ติอาทินา ภิกฺขุํ ทสฺเสติ ภิกฺขุมฺหิ ตํนิยมโตติ อาห ‘‘ปฏิปตฺติยา ภิกฺขุภาวทสฺสนโต’’ติ. สตฺถุจริยานุวิธายกตฺตา, สกลสาสนสมฺปฏิคฺคาหกตฺตา จ สพฺพปฺปการาย อนุสาสนิยา ภาชนภาโว. ตสฺมึ คหิเตติ ภิกฺขุมฺหิ คหิเต. ภิกฺขุปริสาย เชฏฺภาวโต ราชคมนาเยน อิตรา ปริสาปิ อตฺถโต คหิตาว โหนฺตีติ อาห ‘‘เสสา’’ติอาทิ. เอวํ ปมํ การณํ วิภชิตฺวา อิตรมฺปิ วิภชิตุํ ‘‘โย จ อิม’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.

สมํ จเรยฺยาติ กายาทิ วิสมจริยํ ปหาย กายาทีหิ สมํ จเรยฺย. ราคาทิวูปสเมน สนฺโต, อินฺทฺริยทเมน ทนฺโต, จตุมคฺคนิยาเมน นิยโต, เสฏฺจริตาย พฺรหฺมจารี, สพฺพตฺถ กายทณฺฑาทิโอโรปเนน นิธาย ทณฺฑํ. อริยภาเว ิโต โส เอวรูโป พาหิตปาปสมิตปาปภินฺนกิเลสตาหิ ‘‘พฺราหฺมโณ, สมโณ, ภิกฺขู’’ติ จ เวทิตพฺโพ.

‘‘อยฺเจว กาโย, พหิทฺธา จ นามรูป’’นฺติอาทีสุ ขนฺธปฺจกํ, ตถา ‘‘สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๒๗๑, ๒๘๗; ปารา. ๑๑), ‘‘ยา ตสฺมึ สมเย กายสฺส ปสฺสทฺธิ ปฏิปฺปสฺสทฺธี’’ติอาทีสุ จ เวทนาทโย เจตสิกา ขนฺธา กาโยติ วุจฺจนฺตีติ ตโต วิเสสนตฺถํ ‘‘กาเยติ รูปกาเย’’ติ อาห. เกสาทีนฺจ ธมฺมานนฺติ เกสาทิสฺิตานํ ภูตุปาทาธมฺมานํ. เอวํ ‘‘จยฏฺโ สรีรฏฺโ กายฏฺโ’’ติ สทฺทนเยน กาย-สทฺทํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ นิรุตฺตินเยนปิ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา จา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อายนฺตีติ อุปฺปชฺชนฺติ.

อสมฺมิสฺสโตติ เวทนาทโยปิ เอตฺถ สิตา, เอตฺถ ปฏิพทฺธาติ กาเย เวทนาทิอนุปสฺสนาปสงฺเคปิ อาปนฺเน ตโต อสมฺมิสฺสโตติ อตฺโถ. สมูหวิสยตาย จสฺส กาย-สทฺทสฺส, สมุทายุปาทานตาย จ อสุภาการสฺส ‘‘กาเย’’ติ เอกวจนํ, ตถา อารมฺมณาทิวิภาเคน อเนกเภทภินฺนมฺปิ จิตฺตํ จิตฺตภาวสามฺเน เอกชฺฌํ คเหตฺวา ‘‘จิตฺเต’’ติ เอกวจนํ, เวทนา ปน สุขาทิเภทภินฺนา วิสุํ วิสุํ อนุปสฺสิตพฺพาติ ทสฺเสนฺเตน ‘‘เวทนาสู’’ติ พหุวจเนน วุตฺตา, ตเถว จ นิทฺเทโส ปวตฺติโต, ธมฺมา จ ปโรปณฺณาสเภทา, อนุปสฺสิตพฺพากาเรน จ อเนกเภทา เอวาติ เตปิ พหุวจนวเสเนว วุตฺตา.

อวยวีคาหสมฺาติธาวนสาราทานาภินิเวสนิเสธนตฺถํ กายํ องฺคปจฺจงฺเคหิ, ตานิ จ เกสาทีหิ, เกสาทิเก จ ภูตุปาทายรูเปหิ วินิพฺภุฺชนฺโต ‘‘ตถา น กาเย’’ติอาทิมาห. ปาสาทาทินคราวยวสมูเห อวยวีวาทิโนปิ อวยวีคาหํ น กโรนฺติ, ‘‘นครํ นาม โกจิ อตฺโถ อตฺถี’’ติ ปน เกสฺจิ สมฺาติธาวนํ สิยาติ อิตฺถิปุริสาทิสมฺาติธาวเน นครนิทสฺสนํ วุตฺตํ. องฺคปจฺจงฺคสมูโห, เกสโลมาทิสมูโห, ภูตุปาทายสมูโห จ ยถาวุตฺตสมูโห, ตพฺพินิมุตฺโต กาโยปิ นาม โกจิ นตฺถิ, ปเคว อิตฺถิอาทโยติ อาห ‘‘กาโย วา อิตฺถี วา ปุริโส วา อฺโ วา โกจิ ธมฺโม ทิสฺสตี’’ติ. ‘‘โกจิ ธมฺโม’’ติ อิมินา สตฺตชีวาทึ ปฏิกฺขิปติ, อวยวี ปน กายปฏิกฺเขเปเนว ปฏิกฺขิตฺโตติ. ยทิ เอวํ กถํ กายาทิสมฺาติธาวนานีติ อาห ‘‘ยถาวุตฺตธมฺม…เป… กโรนฺตี’’ติ. ตถา ตถาติ กายาทิอากาเรน.

ยํปสฺสตีติ ยํ อิตฺถึ, ปุริสํ วา ปสฺสติ. นนุ จกฺขุนา อิตฺถิปุริสทสฺสนํ นตฺถีติ? สจฺจเมตํ, ‘‘อิตฺถึ ปสฺสามิ, ปุริสํ ปสฺสามี’’ติ ปน ปวตฺตสฺาย วเสน ‘‘ยํ ปสฺสตี’’ติ วุตฺตํ มิจฺฉาทสฺสเนน วา ทิฏฺิยา ยํ ปสฺสติ, น ตํ ทิฏฺํ ตํ รูปายตนํ น โหตีติ อตฺโถ วิปรีตคฺคาหวเสน มิจฺฉาปริกปฺปิตรูปตฺตา. อถ วา ตํ เกสาทิภูตุปาทายสมูหสงฺขาตํ ทิฏฺํ น โหติ, อจกฺขุวิฺาณวิฺเยฺยตฺตา ทิฏฺํ วา ตํ น โหติ. ยํ ทิฏฺํ, ตํ น ปสฺสตีติ ยํ รูปายตนํ เกสาทิภูตุปาทายสมูหสงฺขาตํ ทิฏฺํ, ตํ ปฺาจกฺขุนา ภูตโต น ปสฺสตีติ อตฺโถ. อปสฺสํ พชฺฌเตติ อิมํ อตฺตภาวํ ยถาภูตํ ปฺาจกฺขุนา อปสฺสนฺโต ‘‘เอตํ มม, เอโส หมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’’ติ กิเลสพนฺธเนน พชฺฌติ.

น อฺธมฺมานุปสฺสีติ น อฺสภาวานุปสฺสี, อสุภาทิโต อฺาการานุปสฺสี น โหตีติ อตฺโถ. ‘‘กึ วุตฺตํ โหตี’’ติอาทินา ตํ เอวตฺถํ ปากฏํ กโรติ. ปถวีกายนฺติ เกสาทิโกฏฺาสํ ปถวึ ธมฺมสมูหตฺตา ‘‘กาโย’’ติ วทติ, ลกฺขณปถวิเมว วา อเนกปฺปเภทํ สกลสรีรคตํ, ปุพฺพาปริยภาเวน จ ปวตฺตมานํ สมูหวเสน คเหตฺวา ‘‘กาโย’’ติ วทติ. ‘‘อาโปกาย’’นฺติอาทีสุปิ เอเสว นโย.

เอวํ คเหตพฺพสฺสาติ ‘‘อหํ มม’’นฺติ เอวํ อตฺตตฺตนิยภาเวน อนฺธพาเลหิ คเหตพฺพสฺส.

อิทานิ สตฺตนฺนํ อนุปสฺสนาการานมฺปิ วเสน กายานุปสฺสนํ ทสฺเสตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ อนิจฺจโต อนุปสฺสตีติ จตุสมุฏฺานิกํ กายํ ‘‘อนิจฺจ’’นฺติ อนุปสฺสติ, เอวํ ปสฺสนฺโต เอวฺจสฺส อนิจฺจาการมฺปิ ‘‘อนุปสฺสตี’’ติ วุจฺจติ. ตถาภูตสฺส จสฺส นิจฺจคฺคาหสฺส เลโสปิ น โหตีติ วุตฺตํ ‘‘โน นิจฺจโต’’ติ. ตถา เหส ‘‘นิจฺจสฺํ ปชหตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๓.๓๕) วุตฺโต. เอตฺถ จ ‘‘อนิจฺจโต เอว อนุปสฺสตี’’ติ เอว-กาโร ลุตฺตนิทฺทิฏฺโติ เตน นิวตฺติตมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘โน นิจฺจโต’’ติ วุตฺตํ. น เจตฺถ ทุกฺขโต อนุปสฺสนาทินิวตฺตนํ อาสงฺกิตพฺพํ ปฏิโยคีนิวตฺตนปรตฺตา เอว-การสฺส, อุปริ เทสนารุฬฺหตฺตา จ ตาสํ. ‘‘ทุกฺขโต อนุปสฺสตี’’ติอาทีสุปิ เอเสว นโย. อยํ ปน วิเสโส – อนิจฺจสฺส ทุกฺขตฺตา ตเมว จ กายํ ทุกฺขโต อนุปสฺสติ, ทุกฺขสฺส อนตฺตตฺตา อนตฺตโต อนุปสฺสติ. ยสฺมา ปน ยํ อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา, น ตํ อภินนฺทิตพฺพํ, ยฺจ น อภินนฺทิตพฺพํ, น ตตฺถ รฺชิตพฺพํ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘นิพฺพินฺทติ, โน นนฺทติ. วิรชฺชติ, โน รชฺชตี’’ติ. โส เอวํ อรชฺชนฺโต ราคํ นิโรเธติ, โน สมุเทติ สมุทยํ น กโรตีติ อตฺโถ. เอวํ ปฏิปนฺโน จ ปฏินิสฺสชฺชติ, โน อาทิยติ. อยฺหิ อนิจฺจาทิอนุปสฺสนา ตทงฺควเสน สทฺธึ กายํ ตนฺนิสฺสยขนฺธาภิสงฺขาเรหิ กิเลสานํ ปริจฺจชนโต, สงฺขตโทสทสฺสเนน ตพฺพิปรีเต นิพฺพาเน ตนฺนินฺนตาย ปกฺขนฺทนโต ‘‘ปริจฺจาคปฏินิสฺสคฺโค เจว ปกฺขนฺทนปฏินิสฺสคฺโค จา’’ติ วุจฺจติ, ตสฺมา ตาย สมนฺนาคโต ภิกฺขุ วุตฺตนเยน กิเลเส ปริจฺจชติ, นิพฺพาเน จ ปกฺขนฺทติ, ตถาภูโต จ นิพฺพตฺตนวเสน กิเลเส น อาทิยติ, นาปิ อโทสทสฺสิตาวเสน สงฺขตารมฺมณํ, เตน วุตฺตํ ‘‘ปฏินิสฺสชฺชติ, โน อาทิยตี’’ติ. อิทานิสฺส ตาหิ อนุปสฺสนาหิ เยสํ ธมฺมานํ ปหานํ โหติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อนิจฺจโต อนุปสฺสนฺโต นิจฺจสฺํ ปชหตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ นิจฺจสฺนฺติ ‘‘สงฺขารา นิจฺจา’’ติ เอวํ ปวตฺตํ วิปรีตสฺํ. ทิฏฺิจิตฺตวิปลฺลาสปฺปหานมุเขเนว สฺาวิปลฺลาสปฺปหานนฺติ สฺาคฺคหณํ, สฺาสีเสน วา เตสมฺปิ คหณํ ทฏฺพฺพํ. นนฺทินฺติ สปฺปีติกตณฺหํ. เสสํ วุตฺตนยเมว.

‘‘วิหรตี’’ติ อิมินา กายานุปสฺสนาสมงฺคิโน อิริยาปถวิหาโร วุตฺโตติ อาห ‘‘อิริยตี’’ติ, อิริยาปถํ ปวตฺเตตีติ อตฺโถ. อารมฺมณกรณวเสน อภิพฺยาปนโต ‘‘ตีสุ ภเวสู’’ติ วุตฺตํ, อุปฺปชฺชนวเสน ปน กิเลสา ปริตฺตภูมกา เอวาติ. ยทิปิ กิเลสานํ ปหานํ อาตาปนนฺติ ตํ สมฺมาทิฏฺิอาทีนมฺปิ อตฺเถว, อาตปฺป-สทฺโท วิย ปน อาตาปสทฺโท วีริเยเยว นิรุฬฺโหติ วุตฺตํ ‘‘วีริยสฺเสตํ นาม’’นฺติ. อถ วา ปฏิปกฺขปฺปหาเน สมฺปยุตฺตธมฺมานํ อพฺภุสฺสหนวเสน ปวตฺตมานสฺส วีริยสฺส สาติสยํ ตทาตาปนนฺติ วีริยเมว ตถา วุจฺจติ, น อฺเ ธมฺมา. อาตาปีติ จายมีกาโร ปสํสาย, อติสยสฺส วา ทีปโกติ อาตาปีคหเณน สมฺมปฺปธานสมงฺคิตํ ทสฺเสติ. สมฺมา, สมนฺตโต, สามฺจ ปชานนฺโต สมฺปชาโน, อสมฺมิสฺสโต ววตฺถาเน อฺธมฺมานุปสฺสิตาภาเวน สมฺมา อวิปรีตํ, สพฺพาการปชานเนน สมนฺตโต, อุปรูปริ วิเสสาวหภาเวน ปวตฺติยา สามํ ปชานนฺโตติ อตฺโถ . ยทิ ปฺาย อนุปสฺสติ, กถํ สติปฏฺานตาติ อาห ‘‘น หี’’ติอาทิ. สพฺพตฺถิกนฺติ สพฺพตฺถ ภวํ สพฺพตฺถ ลีเน, อุทฺธเต จ จิตฺเต อิจฺฉิตพฺพตฺตา. สพฺเพ วา ลีเน, อุทฺธเต จ ภาเวตพฺพา โพชฺฌงฺคา อตฺถิกา เอตายาติ สพฺพตฺถิกา. สติยา ลทฺธุปการาย เอว ปฺาย เอตฺถ ยถาวุตฺเต กาเย กมฺมฏฺานิโก ภิกฺขุ กายานุปสฺสี วิหรติ. อนฺโต สงฺเขโป อนฺโตโอลียโน, โกสชฺชนฺติ อตฺโถ. อุปายปริคฺคเหติ เอตฺถ สีลวิโสธนาทิ, คณนาทิ, อุคฺคหโกสลฺลาทิ จ อุปาโย, ตพฺพิปริยายโต อนุปาโย เวทิตพฺโพ. ยสฺมา จ อุปฏฺิตสฺสติ ยถาวุตฺตํ อุปายํ น ปริจฺจชติ, อนุปายฺจ น อุปาทิยติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘มุฏฺสฺสตี…เป… อสมตฺโถ โหตี’’ติ. เตนาติ อุปายานุปายานํ ปริคฺคหปริวชฺชเนสุ, ปริจฺจาคาปริคฺคเหสุ จ อสมตฺถภาเวน. อสฺส โยคิโน.

ยสฺมา สติเยเวตฺถ สติปฏฺานํ วุตฺตํ, ตสฺมาสฺส สมฺปยุตฺตธมฺมา วีริยาทโย องฺคนฺติ อาห ‘‘สมฺปโยคงฺคฺจสฺส ทสฺเสตฺวา’’ติ. องฺค-สทฺโท เจตฺถ การณปริยาโย ทฏฺพฺโพ. สติคฺคหเณเนว เจตฺถ สมาธิสฺสาปิ คหณํ ทฏฺพฺพํ ตสฺสา สมาธิกฺขนฺเธ สงฺคหิตตฺตา. ยสฺมา วา สติสีเสนายํ เทสนา. น หิ เกวลาย สติยา กิเลสปฺปหานํ สมฺภวติ, นิพฺพานาธิคโม วา, นาปิ เกวลา สติ ปวตฺตติ, ตสฺมาสฺส ฌานเทสนายํ สวิตกฺกาทิวจนสฺส วิย สมฺปโยคงฺคทสฺสนตาติ องฺค-สทฺทสฺส อวยวปริยายตา ทฏฺพฺพา. ปหานงฺคนฺติ ‘‘วิวิจฺเจว กาเมหี’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๒๒๖; ม. นิ. ๑.๒๗๑, ๒๘๗, ๒๙๗; สํ. นิ. ๒.๑๕๒; อ. นิ. ๔.๑๒๓; ปารา. ๑๑) วิย ปหาตพฺพงฺคํ ทสฺเสตุํ. ยสฺมา เอตฺถ โลกิยมคฺโค อธิปฺเปโต, น โลกุตฺตรมคฺโค, ตสฺมา ปุพฺพภาคิยเมว วินยํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตทงฺควินเยน วา วิกฺขมฺภนวินเยน วา’’ติ อาห. เตสํ ธมฺมานนฺติ เวทนาทิธมฺมานํ. เตสฺหิ ตตฺถ อนธิปฺเปตตฺตา ‘‘อตฺถุทฺธารนเยเนตํ วุตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. ตตฺถาติ วิภงฺเค. เอตฺถาติ ‘‘โลเก’’ติ เอตสฺมึ ปเท.

อวิเสเสน ทฺวีหิปิ นีวรณปฺปหานํ วุตฺตนฺติ กตฺวา ปุน เอเกเกน วุตฺตํ ปหานวิเสสํ ทสฺเสตุํ ‘‘วิเสเสนา’’ติ อาห. อถ วา ‘‘วิเนยฺย นีวรณานี’’ติ อวตฺวา อภิชฺฌาโทมนสฺสวินยวจนสฺส ปโยชนํ ทสฺเสนฺโต ‘‘วิเสเสนา’’ติอาทิมาห. กายานุปสฺสนาภาวนาย หิ อุชุวิปจฺจนีกานํ อนุโรธวิโรธาทีนํ ปหานทสฺสนํ เอตสฺส ปโยชนนฺติ. กายสมฺปตฺติมูลกสฺสาติ รูปพลโยพฺพนาโรคฺยาทิสรีรสมฺปทานิมิตฺตสฺส. วุตฺตวิปริยายโต กายวิปตฺติมูลโก วิโรโธ เวทิตพฺโพ. กายภาวนายาติ กายานุปสฺสนาภาวนาย. สา หิ อิธ กายภาวนาติ อธิปฺเปตา. สุภสุขภาวาทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน มนุฺนิจฺจตาทิสงฺคโห ทฏฺพฺโพ. อสุภาสุขภาวาทีนนฺติ เอตฺถ ปน อาทิ-สทฺเทน อมนุฺอนิจฺจตาทีนํ. เตนาติ อนุโรธาทิปฺปหานวจเนน. ‘‘โยคานุภาโว หี’’ติอาทิ วุตฺตสฺเสวตฺถสฺส ปากฏกรณํ. โยคานุภาโว หิ ภาวนานุภาโว. โยคสมตฺโถติ โยคมนุยุฺชิตุํ สมตฺโถ. ปุริเมน หิ ‘‘อนุโรธวิโรธวิปฺปมุตฺโต’’ติอาทิวจเนน ภาวนํ อนุยุตฺตสฺส อานิสํโส วุตฺโต, ทุติเยน ภาวนํ อนุยุฺชนฺตสฺส ปฏิปตฺติ. น หิ อนุโรธวิโรธาทีหิ อุปทฺทุตสฺส ภาวนา อิชฺฌติ.

อนุปสฺสีติเอตฺถาติ ‘‘อนุปสฺสี’’ติ เอตสฺมึ ปเท ลพฺภมานาย อนุปสฺสนาย อนุปสฺสนาโชตนาย กมฺมฏฺานํ วุตฺตนฺติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ, อฺถา ‘‘อนุปสฺสนายา’’ติ กรณวจนํ น ยุชฺเชยฺย. อนุปสฺสนา เอว หิ กมฺมฏฺานํ, น เอตฺถ อารมฺมณํ อธิปฺเปตํ, ยุชฺชติ วา. กายปริหรณํ วุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. กมฺมฏฺานปริหรณสฺส เจตฺถ อตฺถสิทฺธตฺตา ‘‘กายปริหรณ’’นฺตฺเวว วุตฺตํ. กมฺมฏฺานิกสฺส หิ กายปริหรณํ ยาวเทว กมฺมฏฺานํ ปริหรณตฺถนฺติ. กมฺมฏฺานปริหรณสฺส วา ‘‘อาตาปี’’ติอาทินา (ที. นิ. ๒.๓๗๓) วุจฺจมานตฺตา ‘‘กายปริหรณ’’นฺตฺเวว วุตฺตํ. กายคฺคหเณน วา นามกายสฺสาปิ คหณํ, น รูปกายสฺเสว, เตเนว กมฺมฏฺานปริหรณมฺปิ สงฺคหิตํ โหติ, เอวฺจ กตฺวา ‘‘วิหรตีติ เอตฺถ วุตฺตวิหาเรนา’’ติ เอตฺถคฺคหณฺจ สมตฺถิตํ โหติ ‘‘กายานุปสฺสี วิหรตี’’ติ วิหารสฺส วิเสเสตฺวา วุตฺตตฺตา. ‘‘อาตาปี’’ติอาทิ ปน สงฺเขปโต วุตฺตสฺส กมฺมฏฺานปริหรณสฺส สห สาธเนน วิตฺถาเรตฺวา ทสฺสนํ. อาตาเปนาติ อาตาปคฺคหเณน. ‘‘สติสมฺปชฺเนา’’ติอาทีสุปิ เอเสว นโย. สพฺพตฺถกกมฺมฏฺานนฺติ พุทฺธานุสฺสติ, เมตฺตา, มรณสฺสติ , อสุภภาวนา จ. อิทฺหิ จตุกฺกํ โยคินา ปริหริยมานํ ‘‘สพฺพตฺถกกมฺมฏฺาน’’นฺติ วุจฺจติ, สพฺพตฺถ กมฺมฏฺานานุโยคสฺสารกฺขภูตตฺตา สติสมฺปชฺพเลน อวิจฺฉินฺนสฺส ปริหริตพฺพตฺตา สติสมฺปชฺคฺคหเณน ตสฺส วุตฺตตา วุตฺตา. สติยา วา สมโถ วุตฺโต ตสฺสา สมาธิกฺขนฺเธน สงฺคหิตตฺตา.

วิภงฺเค(วิภ. กายานุปสฺสนานิทฺเทเส) ปน อตฺโถ วุตฺโตติ โยชนา. เตนาติ สทฺทตฺถํ อนาทิยิตฺวา ภาวตฺถสฺเสว วิภชนวเสน ปวตฺเตน วิภงฺคปาเน สห. อฏฺกถานโยติ สทฺทตฺถสฺสาปิ วิวรณวเสน ยถารหํ วุตฺโต อตฺถสํวณฺณนานโย. ยถา สํสนฺทตีติ ยถา อตฺถโต, อธิปฺปายโต จ อวิโลเมนฺโต อฺทตฺถุ สํสนฺทติ สเมติ, เอวํ เวทิตพฺโพ.

เวทนาทีนํ ปุน วจเนติ เอตฺถ นิสฺสยปจฺจยภาววเสน จิตฺตธมฺมานํ เวทนาสนฺนิสฺสิตตฺตา, ปฺจโวการภเว อรูปธมฺมานํ รูปปฏิพทฺธวุตฺติโต จ เวทนาย กายาทิอนุปสฺสนาปฺปสงฺเคปิ อาปนฺเน ตโต อสมฺมิสฺสโต ววตฺถานํ ทสฺสนตฺถํ, ฆนวินิพฺโภคาทิทสฺสนตฺถฺจ ทุติยํ เวทนาคฺคหณํ, เตน น เวทนายํ กายานุปสฺสี, จิตฺตธมฺมานุปสฺสี วา, อถ โข เวทนานุปสฺสี เอวาติ เวทนาสงฺขาเต วตฺถุสฺมึ เวทนานุปสฺสนาการสฺเสว ทสฺสเนน อสมฺมิสฺสโต ววตฺถานํ ทสฺสิตํ โหติ. ตถา ‘‘ยสฺมึ สมเย สุขา เวทนา, น ตสฺมึ สมเย ทุกฺขา, อทุกฺขมสุขา วา เวทนา, ยสฺมึ วา ปน สมเย ทุกฺขา, อทุกฺขมสุขา วา เวทนา, น ตสฺมึ สมเย อิตรา เวทนา’’ติ เวทนาภาวสามฺเ อวตฺวา ตํ ตํ เวทนํ วินิพฺภุชฺชิตฺวา ทสฺสเนน ฆนวินิพฺโภโค ธุวภาววิเวโก ทสฺสิโต โหติ, เตน ตาสํ ขณมตฺตาวฏฺานทสฺสเนน อนิจฺจตาย , ตโต เอว ทุกฺขตาย, อนตฺตตาย จ ทสฺสนํ วิภาวิตํ โหติ. ฆนวินิพฺโภคาทีติ อาทิ-สทฺเทน อยมฺปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อยฺหิ เวทนายํ เวทนานุปสฺสี เอว, น อฺธมฺมานุปสฺสี. กึ วุตฺตํ โหติ – ยถา นาม พาโล อมณิสภาเวปิ อุทกปุพฺพุฬเก มณิอาการานุปสฺสี โหติ, น เอวํ อยํ ิติรมณีเยปิ เวทยิเต, ปเคว อิตรสฺมึ มนุฺาการานุปสฺสี, อถ โข ขณปภงฺคุรตาย, อวสวตฺติตาย กิเลสาสุจิปคฺฆรณตาย จ อนิจฺจอนตฺตอสุภาการานุปสฺสี, วิปริณามทุกฺขตาย, สงฺขารทุกฺขตาย จ วิเสสโต ทุกฺขานุปสฺสี เยวาติ. เอวํ จิตฺต ธมฺเมสุปิ ยถารหํ ปุนวจเน ปโยชนํ วตฺตพฺพํ. โลกิยา เอว สมฺมสนจารสฺส อธิปฺเปตตฺตา. ‘‘เกวลํ ปนิธา’’ติอาทินา ‘‘อิธ เอตฺตกํ เวทิตพฺพ’’นฺติ เวทิตพฺพปริจฺเฉทํ ทสฺเสติ. ‘‘เอส นโย’’ติ อิมินา ยถา จิตฺตํ, ธมฺมา จ อนุปสฺสิตพฺพา, ตถา ตานิ อนุปสฺสนฺโต จิตฺเต จิตฺตานุปสฺสี, ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสีติ เวทิตพฺโพติ อิมมตฺถํ อติทิสติ. ทุกฺขโตติ ทุกฺขสภาวโต, ทุกฺขนฺติ อนุปสฺสิตพฺพาติ อตฺโถ. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย.

โย สุขํ ทุกฺขโต อทฺทาติ โย ภิกฺขุ สุขํ เวทนํ วิปริณามทุกฺขตาย ‘‘ทุกฺขา’’ติ ปฺาจกฺขุนา อทฺทกฺขิ. ทุกฺขํ อทฺทกฺขิ สลฺลโตติ ทุกฺขํ เวทนํ ปีฬาชนนโต, อนฺโตตุทนโต, ทุนฺนีหรณโต จ สลฺลโต อทฺทกฺขิ ปสฺสิ. อทุกฺขมสุขนฺติ อุเปกฺขาเวทนํ. สนฺตนฺติ สุขทุกฺขานิ วิย อโนฬาริกตาย, ปจฺจยวเสน วูปสนฺตสภาวตาย จ สนฺตํ. อนิจฺจโตติ หุตฺวาอภาวโต, อุทยวยวนฺตโต, ตาวกาลิกโต, นิจฺจปฏิปกฺขโต จ ‘‘อนิจฺจ’’นฺติ โย อทฺทกฺขิ. ส เว สมฺมทฺทโสภิกฺขุ เอกํเสน, ปริพฺยตฺตํ วา เวทนาย สมฺมาปสฺสนโกติ อตฺโถ.

ทุกฺขาติปีติ สงฺขารทุกฺขตาย ทุกฺขา อิติปิ. ตํ ทุกฺขสฺมินฺติ สพฺพํ ตํ เวทยิตํ ทุกฺขสฺมึ อนฺโตคธํ ปริยาปนฺนํ วทามิ สงฺขารทุกฺขตานติวตฺตนโต. สุขทุกฺขโตปิ จาติ สุขาทีนํ ิติวิปริณามาณสุขตาย, วิปริณามิติอฺาณทุกฺขตาย จ วุตฺตตฺตา ติสฺโสปิ จ สุขโต, ติสฺโสปิ จ ทุกฺขโต อนุปสฺสิตพฺพาติ อตฺโถ. สตฺต อนุปสฺสนา เหฏฺา ปกาสิตา เอว. เสสนฺติ ยถาวุตฺตํ สุขาทิวิภาคโต เสสํ สามิสนิรามิสาทิเภทํ เวทนานุปสฺสนายํ วตฺตพฺพํ.

อารมฺมณ…เป… เภทานนฺติ รูปาทิอารมฺมณนานตฺตสฺส นีลาทิตพฺเภทสฺส, ฉนฺทาทิอธิปตินานตฺตสฺส หีนาทิตพฺเภทสฺส, าณฌานาทิสหชาตนานตฺตสฺส สสงฺขาริกาสงฺขาริกสวิตกฺกาทิตพฺเภทสฺส, กามาวจราทิภูมินานตฺตสฺส อุกฺกฏฺมชฺฌิมาทิตพฺเภทสฺส, กุสลาทิกมฺมนานตฺตสฺส เทวคติสํวตฺตนิยตาทิตพฺเภทสฺส, กณฺหสุกฺกวิปากนานตฺตสฺส ทิฏฺธมฺมเวทนียตาทิตพฺเภทสฺส, ปริตฺตภูมกาทิกิริยานานตฺตสฺส ติเหตุกาทิตพฺเภทสฺส วเสน อนุปสฺสิตพฺพนฺติ โยชนา. อาทิ-สทฺเทน สวตฺถุกาวตฺถุกาทินานตฺตสฺส ปุคฺคลตฺตยสาธารณาทิตพฺเภทสฺส จ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. สลกฺขณสามฺลกฺขณานนฺติ ผุสนาทิตํตํลกฺขณานฺเจว อนิจฺจตาทิสามฺลกฺขณานฺจ วเสนาติ โยชนา. สุฺตธมฺมสฺสาติ อนตฺตตาสงฺขาตสุฺตาสภาวสฺส. ยํ วิภาเวตุํ อภิธมฺเม‘‘ตสฺมึ โข ปน สมเย ธมฺมา โหนฺติ, ขนฺธา โหนฺตี’’ติอาทินา (ธ. ส. ๑๒๑) สุฺตาวารเทสนา ปวตฺตา, ตํ ปหีนเมว ปุพฺเพ ปหีนตฺตา, ตสฺมา ตสฺส ตสฺส ปุน ปหานํ น วตฺตพฺพํ. น หิ กิเลสา ปหียมานา อารมฺมณวิภาเคน ปหียนฺติ อนาคตานํเยว อุปฺปชฺชนารหานํ ปหาตพฺพตฺตา, ตสฺมา อภิชฺฌาทีนํ เอกตฺถ ปหานํ วตฺวา อิตรตฺถ น วตฺตพฺพํ เอวาติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ ‘‘กามฺเจตฺถา’’ติอาทินา. อถ วา มคฺคจิตฺตกฺขเณ เอกตฺถ ปหีนํ สพฺพตฺถ ปหีนเมว โหตีติ วิสุํ วิสุํ ปหานํ น วตฺตพฺพํ. มคฺเคน หิ ปหีนาติ วตฺตพฺพตํ อรหนฺติ. ตตฺถ ปุริมาย โจทนาย นานาปุคฺคลปริหาโร, น หิ เอกสฺส ปหีนํ ตโต อฺสฺส ปหีนํ นาม โหติ. ปจฺฉิมาย นานาจิตฺตกฺขณิกปริหาโร. นานาจิตฺตกฺขเณติ หิ โลกิยมคฺคจิตฺตกฺขเณติ อธิปฺปาโย. ปุพฺพภาคมคฺโค หิ อิธาธิปฺเปโต. โลกิยภาวนาย จ กาเย ปหีนํ น เวทนาทีสุ วิกฺขมฺภิตํ โหติ. ยทิปิ นปฺปวตฺเตยฺย, ปฏิปกฺขภาวนาย สุปฺปหีนตฺตา ตตฺถ สา ‘‘อภิชฺฌาโทมนสฺสสฺส อปฺปวตฺตี’’ติ น วตฺตพฺพา, ตสฺมา ปุนปิ ตปฺปหานํ วตฺตพฺพเมว. เอกตฺถ ปหีนํ เสเสสุปิ ปหีนํ โหตีติ โลกุตฺตรสติปฏฺานภาวนํ, โลกิยภาวนาย วา สพฺพตฺถ อปฺปวตฺติมตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘ปฺจปิ ขนฺธา อุปาทานกฺขนฺธา โลโก’’ติ (วิภ. ๓๖๒, ๓๖๔, ๓๖๖) หิ วิภงฺเคจตูสุปิ าเนสุ วุตฺตนฺติ.

อุทฺเทสวารวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา.

กายานุปสฺสนา

อานาปานปพฺพวณฺณนา

๓๗๔. อารมฺมณวเสนาติ อนุปสฺสิตพฺพกายาทิอารมฺมณวเสน. จตุธา ภินฺทิตฺวาติ อุทฺเทสวเสน จตุธา ภินฺทิตฺวา. ตโต จตุพฺพิธสติปฏฺานโต เอเกกํ สติปฏฺานํ คเหตฺวา กายํ วิภชนฺโตติ ปาเสโส.

กถฺจาติ เอตฺถ กถนฺติ ปการปุจฺฉา, เตน นิทฺทิสิยมาเน กายานุปสฺสนาปกาเร ปุจฺฉติ. -สทฺโท พฺยติเรโก, เตน อุทฺเทสวาเรน อปากฏํ นิทฺเทสวาเรน วิภาวิยมานํ วิเสสํ โชเตติ. พาหิรเกสุปิ อิโต เอกเทสสฺส สมฺภวโต สพฺพปฺปการคฺคหณํ กตํ ‘‘สพฺพปฺปการกายานุปสฺสนานิพฺพตฺตกสฺสา’’ติ, เตน เย อิเม อานาปานปพฺพาทิวเสน อาคตา จุทฺทสปฺปการา, ตทนฺโตคธา จ อชฺฌตฺตาทิอนุปสฺสนาปฺปการา, ตถา กายคตาสติสุตฺเต (ม. นิ. ๓.๑๕๓) วุตฺตา เกสาทิวณฺณสณฺานกสิณารมฺมณจตุกฺกชฺฌานปฺปการา, โลกิยาทิปฺปการา จ, เต สพฺเพปิ อนวเสสโต สงฺคณฺหาติ. อิเม จ ปการา อิมสฺมึเยว สาสเน, น อิโต พหิทฺธาติ วุตฺตํ ‘‘สพฺพปฺปการ…เป… ปฏิเสธโน จา’’ติ. ตตฺถ ตถาภาวปฏิเสธโนติ สพฺพปฺปการกายานุปสฺสนานิพฺพตฺตกสฺส ปุคฺคลสฺส อฺสาสนสฺส นิสฺสยภาวปฏิเสธโน, เอเตน อิธ ภิกฺขเวติ เอตฺถ อิธ-สทฺโท อนฺโตคธเอวสทฺทตฺโถติ ทสฺเสติ. สนฺติ หิ เอกปทานิปิ อวธารณานิ ยถา ‘‘วายุภกฺโข’’ติ. เตนาห ‘‘อิเธว ภิกฺขเวสมโณ’’ติอาทิ. ปริปุณฺณสมณปฺปกรณธมฺโม หิ โส ปุคฺคโล, โย สพฺพปฺปการกายานุปสฺสนานิพฺพตฺตโก. ปรปฺปวาทาติ ปเรสํ อฺติตฺถิยานํ นานปฺปการา วาทา ติตฺถายตนานิ.

อรฺาทิกสฺเสว ภาวนานุรูปเสนาสนตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อิมสฺสหี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ทุทฺทโม ทมถํ อนุปคโต โคโณ กูฏโคโณ. โทหนกาเล ยถา ถเนหิ อนวเสสโต ขีรํ น ปคฺฆรติ, เอวํ โทหปฏิพนฺธินี กูฏเธนุ. รูป-สทฺทาทิเก ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชนกอสฺสาโท รูปารมฺมณาทิรโส. ปุพฺเพ อาจิณฺณารมฺมณนฺติ ปพฺพชฺชโต ปุพฺเพ, อนาทิมติ วา สํสาเร ปริจิตารมฺมณํ. นิพนฺเธยฺยาติ พนฺเธยฺย. สติยาติ สมฺมเทว กมฺมฏฺานสฺส สลฺลกฺขณวเสน ปวตฺตาย สติยา. อารมฺมเณติ กมฺมฏฺานารมฺมเณ. ทฬฺหนฺติ ถิรํ, ยถา สโตการิสฺส อุปจารปฺปนาเภโท สมาธิ อิชฺฌติ, ตถา ถามคตํ กตฺวาติ อตฺโถ.

วิเสสาธิคมทิฏฺธมฺมสุขวิหารปทฏฺานนฺติ สพฺเพสํ พุทฺธานํ, เอกจฺจานํ ปจฺเจกพุทฺธานํ, พุทฺธสาวกานฺจ วิเสสาธิคมสฺส อฺเน กมฺมฏฺาเนน อธิคตวิเสสานํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารสฺส ปทฏฺานภูตํ.

วตฺถุวิชฺชาจริโย วิย ภควา โยคีนํ อนุรูปนิวาสฏฺานุปทิสนโต. ภิกฺขุ ทีปิสทิโส อรฺเ เอกโก วิหริตฺวา ปฏิปกฺขนิมฺมถนวเสน อิจฺฉิตตฺถสาธนโต ผลมุตฺตมนฺติ สามฺผลํ สนฺธาย วทติ. ปรกฺกมชวโยคฺคภูมินฺติ ภาวนุสฺสาหชวสฺส โยคฺคกรณภูมิภูตํ.

อทฺธานวเสน ปวตฺตานํ อสฺสาสปสฺสาสานํ วเสน ทีฆํ วา อสฺสสนฺโต, อิตฺตรวเสน ปวตฺตานํ อสฺสาสปสฺสาสานํ วเสน รสฺสํ วา อสฺสสนฺโตติ โยชนา. เอวํ สิกฺขโตติ อสฺสาสปสฺสาสานํ ทีฆรสฺสตาปชานนสพฺพกายปฺปฏิสํเวทนโอฬาริโกฬาริกปฏิปฺปสฺสมฺภนวเสน ภาวนํ สิกฺขโต, ตถาภูโต วา หุตฺวา ติสฺโส สิกฺขา ปวตฺตยโต. อสฺสาสปสฺสาสนิมิตฺเตติ อสฺสาสปสฺสาสสนฺนิสฺสเยน อุปฏฺิตปฏิภาคนิมิตฺเต. อสฺสาสปสฺสาเส ปริคฺคณฺหาติ รูปมุเขน วิปสฺสนํ อภินิวิสนฺโต, โย ‘‘อสฺสาสปสฺสาสกมฺมิโก’’ติ วุตฺโต. ฌานงฺคานิ ปริคฺคณฺหาติ อรูปมุเขน วิปสฺสนํ อภินิวิสนฺโต. วตฺถุ นาม กรชกาโย จิตฺตเจตสิกานํ ปวตฺติฏฺานภาวโต. อฺโ สตฺโต วา ปุคฺคโล วา นตฺถีติ วิสุทฺธิทิฏฺิ ‘‘ตยิทํ ธมฺมมตฺตํ, น อเหตุกํ, นาปิ อิสฺสราทิวิสมเหตุกํ, อถ โข อวิชฺชาทิเหตุก’’นฺติ อทฺธาตฺตเยปิ กงฺขาวิตรเณน วิติณฺณกงฺโข. ‘‘ยํ กิฺจิ ภิกฺขุ รูป’’นฺติอาทินา (ม. นิ. ๑.๓๖๑; ๒.๑๑๓; ๓.๘๖, ๘๙; ปฏิ. ม. ๑.๕๔) นเยน กลาปสมฺมสนวเสน ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวา. อุทยวยานุปสฺสนาทิวเสน วิปสฺสนํ วฑฺเฒนฺโต. อนุกฺกเมน มคฺคปฏิปาฏิยา.

‘‘ปรสฺส วา อสฺสาสปสฺสาสกาเย’’ติ อิทํ สมฺมสนวารวเสนายํ ปาฬิ ปวตฺตาติ กตฺวา วุตฺตํ, สมถวเสน ปน ปรสฺส อสฺสาสปสฺสาสกาเย อปฺปนานิมิตฺตุปฺปตฺติ เอว นตฺถิ. อฏฺเปตฺวาติ อนฺตรนฺตรา น เปตฺวา. อปราปรํ สฺจรณกาโลติ อชฺฌตฺตพหิทฺธาธมฺเมสุปิ นิรนฺตรํ วา ภาวนาย ปวตฺตนกาโล กถิโต. เอกสฺมึ กาเล ปนิทํ อุภยํ น ลพฺภตีติ ‘‘อชฺฌตฺตํ, พหิทฺธา’’ติ จ วุตฺตํ อิทํ ธมฺมทฺวยํ ฆฏิตํ เอกสฺมึ กาเล เอกโต อารมฺมณภาเวน น ลพฺภติ, เอกชฺฌํ อาลมฺพิตุํ น สกฺกาติ อตฺโถ.

สมุเทติ เอตสฺมาติ สมุทโย, โส เอว การณฏฺเน ธมฺโมติ สมุทยธมฺโม. อสฺสาสปสฺสาสานํ อุปฺปตฺติเหตุ กรชกายาทิ, ตสฺส อนุปสฺสนสีโล สมุทยธมฺมานุปสฺสี, ตํ ปน สมุทยธมฺมํ อุปมาย ทสฺเสนฺโต ‘‘ยถา นามา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ภสฺตนฺติ รุตฺตึ. คคฺครนาฬินฺติ อุกฺกาปนาฬึ. เตติ กรชกายาทิเก. ยถา อสฺสาสปสฺสาสกาโย กรชกายาทิสมฺพนฺธี ตํนิมิตฺตตาย, เอวํ กรชกายาทโยปิ อสฺสาสปสฺสาสกายสมฺพนฺธิโน ตํนิมิตฺตภาเวนาติ ‘‘สมุทยธมฺมา กายสฺมิ’’นฺติ วตฺตพฺพตํ ลภนฺตีติ วุตฺตํ ‘‘สมุทย…เป… วุจฺจตี’’ติ. ปกติวาจี วา ธมฺม-สทฺโท ‘‘ชาติธมฺมาน’’นฺติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๑๓๑; ๓.๓๑๐; ปฏิ. ม. ๑.๓๓) วิยาติ กายสฺส ปจฺจยสมวาเย อุปฺปชฺชนกปกติกายานุปสฺสี วา ‘‘สมุทยธมฺมานุปสฺสี’’ติ วุตฺโต. เตนาห ‘‘กรชกายฺจา’’ติอาทิ. เอวฺจ กตฺวา กายสฺมินฺติ ภุมฺมวจนํ สุฏฺุตรํ ยุชฺชติ.

วยธมฺมานุปสฺสีติ เอตฺถ อเหตุกตฺเตปิ วินาสสฺส เยสํ เหตุธมฺมานํ อภาเว ยํ น โหติ, ตทภาโว ตสฺส อภาวสฺส เหตุ วิย โวหรียตีติ อุปจารโต กรชกายาทิอภาโว อสฺสาสปสฺสาสกายสฺส วยการณํ วุตฺโต. เตนาห ‘‘ยถา ภสฺตายา’’ติอาทิ . อยํ ตาเวตฺถ ปมวิกปฺปวเสน อตฺถวิภาวนา. ทุติยวิกปฺปวเสน อุปจาเรน วินาเยว อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

อชฺฌตฺตพหิทฺธานุปสฺสนา วิย ภินฺนวตฺถุวิสยตาย สมุทยวยธมฺมานุปสฺสนาปิ เอกกาเล น ลพฺภตีติ อาห ‘‘กาเลน สมุทยํ กาเลน วยํ อนุปสฺสนฺโต’’ติ. ‘‘อตฺถิ กาโย’’ติ เอว-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโติ ‘‘กาโยว อตฺถี’’ติ วตฺวา อวธารเณน นิวตฺติตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘น สตฺโต’’ติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ – โย รูปาทีสุ สตฺตวิสตฺตตาย, ปเรสฺจ สชฺชาปนฏฺเน, สตฺวคุณโยคโต วา ‘‘สตฺโต’’ติ ปเรหิ ปริกปฺปิโต, ตสฺส สตฺตนิกายสฺส ปูรณโต จ จวนุปปชฺชนธมฺมตาย คลนโต จ ‘‘ปุคฺคโล’’ติ, ถียติ สํหฺติ เอตฺถ คพฺโภติ ‘‘อิตฺถี’’ติ, ปุริ ปุเร ภาเค เสติ ปวตฺตตีติ ‘‘ปุริโส’’ติ, อาหิโต อหํ มาโน เอตฺถาติ ‘‘อตฺตา’’ติ, อตฺตโน สนฺตกภาเวน ‘‘อตฺตนิย’’นฺติ, ปโร น โหตีติ กตฺวา ‘‘อห’’นฺติ, มม สนฺตกนฺติ กตฺวา ‘‘มมา’’ติ, วุตฺตปฺปการวินิมุตฺโต อฺโติ กตฺวา ‘‘โกจี’’ติ, ตสฺส สนฺตกภาเวน ‘‘กสฺสจี’’ติ, วิกปฺเปตพฺโพ โกจิ นตฺถิ, เกวลํ ‘‘กาโย เอว อตฺถี’’ติ. ทสหิปิ ปเทหิ อตฺตตฺตนิยสุฺตเมว กายสฺส วิภาเวติ. เอวนฺติ ‘‘กาโยว อตฺถี’’ติอาทินา วุตฺตปฺปกาเรน.

าณปมาณตฺถายาติ กายานุปสฺสนาาณํ ปรํ ปมาณํ ปาปนตฺถาย. สติปมาณตฺถายาติ กายปริคฺคาหิกํ สตึ ปวตฺตนสตึ ปรํ ปมาณํ ปาปนตฺถาย. อิมสฺส หิ วุตฺตนเยน ‘‘อตฺถิ กาโย’’ติ อปราปรุปฺปตฺติวเสน ปจฺจุปฏฺิตา สติ ภิยฺโยโส มตฺตาย ตตฺถ าณสฺส, สติยา จ ปริพฺรูหนาย โหติ. เตนาห ‘‘สติสมฺปชฺานํ วุฑฺฒตฺถายา’’ติ. อิมิสฺสา ภาวนาย ตณฺหาทิฏฺิคฺคาหานํ อุชุปฏิปกฺขตฺตา วุตฺตํ ‘‘ตณฺหา…เป… วิหรตี’’ติ. ตถาภูโต จ โลเก กิฺจิปิ ‘‘อห’’นฺติ วา ‘‘มม’’นฺติ วา คเหตพฺพํ น ปสฺสติ, กุโต คณฺเหยฺยาติ อาห ‘‘น จ กิฺจี’’ติอาทิ. เอวมฺปีติ เอตฺถ ปิ-สทฺโท เหฏฺา นิทฺทิฏฺสฺส ตาทิสสฺส อตฺถสฺส อภาวโต อวุตฺตสมุจฺจยตฺโถติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อุปริ อตฺถํ อุปาทายา’’ติ อาห ยถา ‘‘อนฺตมโส ติรจฺฉานคตายปิ, อยมฺปิ ปาราชิโก โหตี’’ติ. (ปารา. ๔๒) เอวนฺติ ปน นิทฺทิฏฺาการสฺส ปจฺจามสนํ นิคมนวเสน กตนฺติ อาห ‘‘อิมินา ปน…เป… ทสฺเสตี’’ติ.

ปุพฺพภาคสติปฏฺานสฺส อิธ อธิปฺเปตตฺตา วุตฺตํ ‘‘สติ ทุกฺขสจฺจ’’นฺติ. สา ปน สติ ยสฺมึ อตฺตภาเว, ตสฺส สมุฏฺาปิกา ตณฺหา, ตสฺสาปิ สมุฏฺาปิกา เอว นาม โหติ ตทภาเว อภาวโตติ อาห ‘‘ตสฺสา สมุฏฺาปิกา ปุริมตณฺหา’’ติ, ยถา ‘‘สงฺขารปจฺจยา’’ติ (ม. นิ. ๓.๑๒๖; อุทา. ๑; วิภ. ๔๘๔). ตํวิฺาณพีชตํสนฺตติสมฺภูโต สพฺโพปิ โลกิโย วิฺาณปฺปพนฺโธ ‘‘สงฺขารปจฺจยา วิฺาณํ’’ ตฺเวว วุจฺจติ สุตฺตนฺตนเยน. อปฺปวตฺตีติ อปฺปวตฺตินิมิตฺตํ, อุภินฺนํ อปฺปวตฺติยา นิมิตฺตภูโตติ อตฺโถ. น ปวตฺตติ เอตฺถาติ วา อปฺปวตฺติ. ‘‘ทุกฺขปริชานโน’’ติอาทิ เอกนฺตโต จตุกิจฺจสาธนวเสเนว อริยมคฺคสฺส ปวตฺตีติ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. อวุตฺตสิทฺโธ หิ ตสฺส ภาวนาปฏิเวโธ. จตุสจฺจวเสนาติ จตุสจฺจกมฺมฏฺานวเสน. อุสฺสกฺกิตฺวาติ วิสุทฺธิปรมฺปราย อารุหิตฺวา, ภาวนํ อุปริ เนตฺวาติ อตฺโถ. นิยฺยานมุขนฺติ วฏฺฏทุกฺขโต นิสฺสรณูปาโย.

อานาปานปพฺพวณฺณนา นิฏฺิตา.

อิริยาปถปพฺพวณฺณนา

๓๗๕. อิริยาปถวเสนาติ อิริยนํ อิริยา, กิริยา, อิธ ปน กายิกปโยโค เวทิตพฺโพ. อิริยานํ ปโถ ปวตฺติมคฺโคติ อิริยาปโถ, คมนาทิวเสน ปวตฺตา สรีราวตฺถา. คจฺฉนฺโต วา หิ สตฺโต กาเยน กาตพฺพกิริยํ กโรติ ิโต วา นิสินฺโน วา นิปนฺโน วาติ, เตสํ อิริยาปถานํ วเสน, อิริยาปถวิภาเคนาติ อตฺโถ. ปุน จปรนฺติ ปุน จ อปรํ, ยถาวุตฺตอานาปานกมฺมฏฺานโต ภิยฺโยปิ อฺํ กายานุปสฺสนากมฺมฏฺานํ กเถมิ, สุณาถาติ วา อธิปฺปาโย . ‘‘คจฺฉนฺโต วา’’ติอาทิ คมนาทิมตฺตชานนสฺส, คมนาทิคตวิเสสชานนสฺส จ สาธารณวจนํ, ตตฺถ คมนาทิมตฺตชานนํ น อิธ นาธิปฺเปตํ, คมนาทิคตวิเสสชานนํ ปน อธิปฺเปตนฺติ ตํ วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถ กาม’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. สตฺตูปลทฺธินฺติ ‘‘สตฺโต อตฺถี’’ติ อุปลทฺธึ สตฺตคฺคาหํ. น ปชหติ น ปริจฺจชติ ‘‘อหํ คจฺฉามิ, มม คมน’’นฺติ คาหสพฺภาวโต. ตโต เอว อตฺตสฺํ ‘‘อตฺถิ อตฺตา การโก เวทโก’’ติ เอวํ ปวตฺตํ วิปรีตสฺํ น อุคฺฆาเฏติ นาปเนติ อปฺปฏิปกฺขภาวโต, อนนุพฺรูหนโต วา. เอวํ ภูตสฺส จสฺส กุโต กมฺมฏฺานาทิภาโวติ อาห ‘‘กมฺมฏฺานํ วา สติปฏฺานภาวนา วา น โหตี’’ติ. ‘‘อิมสฺส ปนา’’ติอาทิ สุกฺกปกฺโข, ตสฺส วุตฺตวิปริยาเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ตเมว หิ อตฺถํ วิวริตุํ ‘‘อิทฺหี’’ติอาทิ วุตฺตํ.

ตตฺถ โก คจฺฉตีติ สาธนํ, กิริยฺจ อวินิพฺภุตฺตํ กตฺวา คมนกิริยาย กตฺตุปุจฺฉา, สา กตฺตุภาววิสิฏฺอตฺตปฏิกฺเขปตฺถา ธมฺมมตฺตสฺเสว คมนสิทฺธิทสฺสนโต. กสฺส คมนนฺติ ตเมวตฺถํ ปริยายนฺตเรน วทติ สาธนํ, กิริยฺจ วินิพฺภุตฺตํ กตฺวา คมนกิริยาย อกตฺตุสมฺพนฺธีภาววิภาวนโต. ปฏิกฺเขปตฺถฺหิ อนฺโตนีตํ กตฺวา อุภยตฺถํ กึ-สทฺโท ปวตฺโต. กึ การณาติ ปน ปฏิกฺขิตฺตกตฺตุกาย คมนกิริยาย อวิปรีตการณปุจฺฉา. อิทฺหิ คมนํ นาม อตฺตา มนสา สํยุชฺชติ, มโน อินฺทฺริเยหิ, อินฺทฺริยานิ อตฺเตหีติ เอวมาทิ มิจฺฉาการณวินิมุตฺตอนุรูปปจฺจยเหตุโก ธมฺมานํ ปวตฺติอาการวิเสโส. เตนาห ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิ.

น โกจิ สตฺโต วา ปุคฺคโล วา คจฺฉติ ธมฺมมตฺตสฺเสว คมนสิทฺธิโต, ตพฺพินิมุตฺตสฺส จ กสฺสจิ อภาวโต. อิทานิ ธมฺมมตฺตสฺเสว คมนสิทฺธึ ทสฺเสตุํ ‘‘จิตฺตกิริยาวาโยธาตุวิปฺผาเรนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ จิตฺตกิริยา จ สา, วาโยธาตุยา วิปฺผาโร วิปฺผนฺทนฺจาติ จิตฺตกิริยาวาโยธาตุวิปฺผาโร, เตน. เอตฺถ จ จิตฺตกิริยคฺคหเณน อนินฺทฺริยพทฺธวาโยธาตุวิปฺผารํ นิวตฺเตติ, วาโยธาตุวิปฺผารคฺคหเณน เจตนาวจีวิฺตฺติเภทํ จิตฺตกิริยํ นิวตฺเตติ, อุภเยน ปน กายวิฺตฺตึ วิภาเวติ. ‘‘คจฺฉตี’’ติ วตฺวา ยถา ปวตฺตมาเน กาเย ‘‘คจฺฉตี’’ติ โวหาโร โหติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตสฺมา’’ติอาทิ วุตฺตํ. นฺติ คนฺตุกามตาวเสน ปวตฺตจิตฺตํ. วายํ ชเนตีติ วาโยธาตุอธิกํ รูปกลาปํ อุปฺปาเทติ, อธิกตา เจตฺถ สามตฺถิยโต, น ปมาณโต. คมนจิตฺตสมุฏฺิตํ สหชาตรูปกายสฺส ถมฺภนสนฺธารณจลนานํ ปจฺจยภูเตน อาการวิเสเสน ปวตฺตมานํ วาโยธาตุํ สนฺธายาห ‘‘วาโย วิฺตฺตึ ชเนตี’’ติ. อธิปฺปายสหภาวี หิ วิกาโร วิฺตฺติ. ยถาวุตฺตอธิกภาเวเนว จ วาโยคหณํ , น วาโยธาตุยา เอว ชนกภาวโต, อฺถา วิฺตฺติยา อุปาทายรูปภาโว ทุรุปปาโท สิยา. ปุรโต อภินีหาโร ปุรโตภาเคน กายสฺส ปวตฺตนํ, โย ‘‘อภิกฺกโม’’ติ วุจฺจติ.

‘‘เอเสว นโย’’ติ อติเทเสน สงฺเขปโต วตฺวา ตมตฺถํ วิวริตุํ ‘‘ตตฺราปิ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. โกฏิโต ปฏฺายาติ เหฏฺิมโกฏิโต ปฏฺาย ปาทตลโต ปฏฺาย. อุสฺสิตภาโวติ อุพฺพิทฺธภาโว.

เอวํ ปชานโตติ เอวํ จิตฺตกิริยวาโยธาตุวิปฺผาเรเนว คมนาทิ โหตีติ ปชานโต. ตสฺส เอวํ ปชานนาย นิจฺฉยคมนตฺถํ ‘‘เอวํ โหตี’’ติ วิจารณา วุจฺจติ โลเก ยถาภูตํ อชานนฺเตหิ มิจฺฉาภินิเวสวเสน, โลกโวหารวเสน วา. อตฺถิ ปนาติ อตฺตโน เอวํ วีมํสนวเสน ปุจฺฉาวจนํ. นตฺถีติ นิจฺฉยวเสน สตฺตสฺส ปฏิกฺเขปวจนํ. ‘‘ยถา ปนา’’ติอาทิ ตสฺเสว อตฺถสฺส อุปมาย วิภาวนํ, ตํ สุวิฺเยฺยเมว.

นาวา มาลุตเวเคนาติ ยถา อเจตนา นาวา วาตเวเคน เทสนฺตรํ ยาติ, ยถา จ อเจตโน เตชนํ กณฺโฑ ชิยาเวเคน เทสนฺตรํ ยาติ, ตถา อเจตโน กาโย วาตาหโต ยถาวุตฺตวายุนา นีโต เทสนฺตรํ ยาตีติ เอวํ อุปมาสํสนฺทนํ เวทิตพฺพํ. สเจ ปน โกจิ วเทยฺย ‘‘ยถา นาวาเตชนานํ เปลฺลกสฺส ปุริสสฺส วเสน เทสนฺตรคมนํ, เอวํ กายสฺสาปี’’ติ, โหตุ, เอวํ อิจฺฉิโต วายมตฺโถ ยถา หิ นาวาเตชนานํ สํหตลกฺขณสฺเสว ปุริสสฺส วเสน คมนํ, น อสํหตลกฺขณสฺส, เอวํ กายสฺสาปีติ. กา โน หานิ, ภิยฺโยปิ ธมฺมมตฺตตาว ปติฏฺํ ลภติ, น ปุริสวาโท. เตนาห ‘‘ยนฺตสุตฺตวเสนา’’ติอาทิ.

ตตฺถ ปยุตฺตนฺติ เหฏฺา วุตฺตนเยน คมนาทิกิริยาวเสน ปจฺจเยหิ ปโยชิตํ. าตีติ ติฏฺติ. เอตฺถาติ อิมสฺมึ โลเก. วินา เหตุปจฺจเยติ คนฺตุกามตาจิตฺตตํสมุฏฺานวาโยธาตุอาทิเหตุปจฺจเยหิ วินา. ติฏฺเติ ติฏฺเยฺย. วเชติ วเชยฺย คจฺเฉยฺย โก นามาติ สมฺพนฺโธ. ปฏิกฺเขปตฺโถ เจตฺถ กึ-สทฺโทติ เหตุปจฺจยวิรเหน านคมนปฏิกฺเขปมุเขน สพฺพายปิ ธมฺมปฺปวตฺติยา ปจฺจยาธีนวุตฺติตาวิภาวเนน อตฺตสุฺตา วิย อนิจฺจทุกฺขตาปิ วิภาวิตาติ ทฏฺพฺพา.

ปณิหิโตติ ยถา ยถา ปจฺจเยหิ ปกาเรหิ นิหิโต ปิโต. สพฺพสงฺคาหิกวจนนฺติ สพฺเพสมฺปิ จตุนฺนํ อิริยาปถานํ เอกชฺฌํ สงฺคณฺหนวจนํ, ปุพฺเพ วิสุํ วิสุํ อิริยาปถานํ วุตฺตตฺตา อิทํ เนสํ เอกชฺฌํ คเหตฺวา วจนนฺติ อตฺโถ. ปุริมนโย วา อิริยาปถปฺปธาโน วุตฺโตติ ตตฺถ กาโย อปฺปธาโน อนุนิปฺผาทีติ อิธ กายํ ปธานํ, อปธานฺจ อิริยาปถํ อนุนิปฺผาทึ กตฺวา ทสฺเสตุํ ทุติยนโย วุตฺโตติ เอวมฺเปตฺถ ทฺวินฺนํ นยานํ วิเสโส เวทิตพฺโพ. ิโตติ ปวตฺโต.

อิริยาปถปริคฺคณฺหนมฺปิ อิริยาปถวโต กายสฺเสว ปริคฺคณฺหนํ ตสฺส อวตฺถาวิเสสภาวโตติ วุตฺตํ ‘‘อิริยาปถปริคฺคณฺหเนน กาเย กายานุปสฺสี วิหรตี’’ติ. เตเนเวตฺถ รูปกฺขนฺธวเสเนว สมุทยาทโย อุทฺธฏา. เอส นโย เสสวาเรสุปิ. อาทินาติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ยถา ‘‘ตณฺหาสมุทยา กมฺมสมุทยา อาหารสมุทยา’’ติ นิพฺพตฺติลกฺขณํ ปสฺสนฺโตปิ รูปกฺขนฺธสฺส อุทยํ ปสฺสตีติ อิเม จตฺตาโร อาการา สงฺคยฺหนฺติ, เอวํ ‘‘อวิชฺชานิโรธา’’ติ อาทโยปิ ปฺจ อาการา สงฺคหิตาติ ทฏฺพฺพา. เสสํ วุตฺตนยเมว.

อิริยาปถปพฺพวณฺณนา นิฏฺิตา.

จตุสมฺปชฺปพฺพวณฺณนา

๓๗๖. จตุสมฺปชฺวเสนาติ สมนฺตโต ปกาเรหิ, ปกฏฺํ วา สวิเสสํ ชานาตีติ สมฺปชาโน, สมฺปชานสฺส ภาโว สมฺปชฺํ, ตถาปวตฺตํ าณํ, หตฺถวิการาทิเภทภินฺนตฺตา จตฺตาริ สมฺปชฺานิ สมาหฏานิ จตุสมฺปชฺํ, ตสฺส วเสน. ‘‘อภิกฺกนฺเต’’ติอาทีนิ สามฺผเล (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๒๑๔; ที. นิ. ฏี. ๑.๒๑๔ วากฺยขนฺเธปิ) วณฺณิตานิ, น ปุน วณฺเณตพฺพานิ, ตสฺมา ตํตํสํวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนาปิ ตตฺถ วิหิตนเยเนว คเหตพฺพา. ‘‘อภิกฺกนฺเต ปฏิกฺกนฺเต สมฺปชานการี โหตี’’ติอาทิ วจนโต อภิกฺกมาทิคตจตุสมฺปชฺปริคฺคณฺหเนน รูปกายสฺเสเวตฺถ สมุทยธมฺมานุปสฺสิตาทิ อธิปฺเปโตติ อาห ‘‘รูปกฺขนฺธสฺเสว สมุทโย จ วโย จนีหริตพฺโพ’’ติ. รูปธมฺมานํเยว หิ ปวตฺติอาการวิเสสา อภิกฺกมาทโยติ. เสสํ วุตฺตนยเมว.

จตุสมฺปชฺปพฺพวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปฏิกฺกูลมนสิการปพฺพวณฺณนา

๓๗๗. ปฏิกฺกูลมนสิการวเสนาติ ชิคุจฺฉนียตาย ปฏิกูลเมว ปฏิกฺกูลํ, โย ปฏิกฺกูลสภาโว ปฏิกฺกูลากาโร, ตสฺส มนสิ กรณวเสน. อนฺตเรนาปิ หิ ภาววาจินํ สทฺทํ ภาวตฺโถ วิฺายติ ยถา ‘‘ปฏสฺส สุกฺก’’นฺติ. ยสฺมา วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๑๘๒) วุตฺตํ, ตสฺมา ตตฺถ, ตํสํวณฺณนายฺจ (วิสุทฺธิ. ฏี. ๑.๑๘๒ อาทโย) วุตฺตนเยน ‘‘อิมเมว กาย’’นฺติ อาทีนมตฺโถ เวทิตพฺโพ.

วตฺถาทีหิ ปสิพฺพกากาเรน พนฺธิตฺวา กตํ อาวาฏนํ ปุโตฬิ. นานาการา เอกสฺมึ าเน สมฺมิสฺสาติ เอตฺตาวตา นานาวณฺณานํ เกสาทีนฺจ อุปเมยฺยตา. วิภูตกาโลติ ปณฺณตฺตึ สมติกฺกมิตฺวา เกสาทีนํ อสุภาการสฺส อุปฏฺิตกาโล. อิติ-สทฺทสฺส อาการตฺถตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘เอว’’นฺติ วตฺวา ตํ อาการํ สรูปโต ทสฺเสนฺโต ‘‘เกสาทิปริคฺคณฺหเนนา’’ติอาทิมาห. เกสาทิสฺิตานฺหิ อสุจิภาวานํ ปรมทุคฺคนฺธเชคุจฺฉปฏิกฺกูลาการสฺส สมุทยโต อนุปสฺสนา อิธ กายานุปสฺสนาติ. เสสํ วุตฺตนยเมว.

ปฏิกฺกูลมนสิการปพฺพวณฺณนา นิฏฺิตา.

ธาตุมนสิการปพฺพวณฺณนา

๓๗๘. ธาตุมนสิการวเสนาติ ปถวีธาตุอาทิกา จตสฺโส ธาตุโย อารพฺภ ปวตฺตภาวนามนสิการวเสน, จตุธาตุววตฺถานวเสนาติ อตฺโถ. ธาตุมนสิกาโร, ธาตุกมฺมฏฺานํ, จตุธาตุววตฺถานนฺติ หิ อตฺถโต เอกํ. โคฆาตโกติ ชีวิกตฺถาย คุนฺนํ ฆาตโก. อนฺเตวาสิโกติ กมฺมกรณวเสน ตสฺส สมีปวาสี ตํ นิสฺสาย ชีวนโก . วินิวิชฺฌิตฺวาติ เอกสฺมึ าเน อฺมฺํ วินิวิชฺฌิตฺวา. มหาปถานํ เวมชฺฌฏฺานสงฺขาเตติ จตุนฺนํ มหาปถานํ ตาย เอว วินิวิชฺฌนฏฺานตาย เวมชฺฌสงฺขาเต. ยสฺมา เต จตฺตาโร มหาปถา จตูหิ ทิสาหิ อาคนฺตฺวา ตตฺถ สโมหิตา วิย โหนฺติ, ตสฺมา ตํ านํ จตุมหาปถํ, ตสฺมึ จตุมหาปเถ. ิต-สทฺโท ‘‘ิโต วา’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๒๖๓; อ. นิ. ๕.๒๘) านสงฺขาตอิริยาปถสมงฺคิตาย, า-สทฺทสฺส วา คตินิวตฺติอตฺถตาย อฺตฺถ เปตฺวา คมนํ เสสอิริยาปถสมงฺคิตาย โพธโก, อิธ ปน ยถา ตถา รูปกายสฺส ปวตฺติอาการโพธโก อธิปฺเปโตติ อาห ‘‘จตุนฺนํ อิริยาปถานํ เยน เกนจิ อากาเรน ิตตฺตา ยถา ิต’’นฺติ. ตตฺถ อากาเรนาติ านาทินา รูปกายสฺส ปวตฺติอากาเรน. านาทโย หิ อิริยาปถสงฺขาตาย กิริยาย ปโถ ปวตฺติมคฺโคติ ‘‘อิริยาปโถ’’ติ วุจฺจนฺตีติ วุตฺโต วายมตฺโถ. ยถาิตนฺติ ยถาปวตฺตํ, ยถาวุตฺตํ านเมเวตฺถ ปณิธานนฺติ อธิปฺเปตนฺติ อาห ‘‘ยถา ิตตฺตา จ ยถาปณิหิต’’นฺติ. ‘‘ิต’’นฺติ วา กายสฺส านสงฺขาตอิริยาปถสมาโยคปริทีปนํ, ‘‘ปณิหิต’’นฺติ ตทฺอิริยาปถสมาโยคปริทีปนํ. ‘‘ิต’’นฺติ วา กายสงฺขาตานํ รูปธมฺมานํ ตสฺมึ ตสฺมึ ขเณ สกิจฺจวเสน อวฏฺานปริทีปนํ, ปณิหิตนฺติ ปจฺจยวเสน เตหิ เตหิ ปจฺจเยหิ ปการโต นิหิตํ ปณิหิตนฺติ เอวมฺเปตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ปจฺจเวกฺขตีติ ปติ ปติ อเวกฺขติ, าณจกฺขุนา วินิพฺภุชฺชิตฺวา วิสุํ วิสุํ ปสฺสติ.

อิทานิ วุตฺตเมวตฺถํ ภาวตฺถวิภาวนวเสน ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา โคฆาตกสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ โปเสนฺตสฺสาติ มํสูปจยปริพฺรูหนาย กุณฺฑกภตฺตกปฺปาสฏฺิอาทีหิ สํวฑฺเฒนฺตสฺส. วธิตํ มตนฺติ หึสิตํ หุตฺวา มตํ. มตนฺติ จ มตมตฺตํ. เตเนวาห ‘‘ตาวเทวา’’ติ. คาวีติ สฺา น อนฺตรธายตีติ ยานิ องฺคปจฺจงฺคานิ ยถาสนฺนิวิฏฺานิ อุปาทาย คาวีสมฺา มตมตฺตายปิ คาวิยา เตสํ ตํสนฺนิเวสสฺส อวินฏฺตฺตา. วิลียนฺติ ภิชฺชนฺติ วิภุชฺชนฺตีติ พีลา, ภาคา ว-การสฺส พ-การํ, อิการสฺส จ อีการํ กตฺวา. พีลโสติ พีลํ พีลํ กตฺวา. วิภชิตฺวาติ อฏฺิสงฺฆาตโต มํสํ วิเวเจตฺวา, ตโต วา วิเวจิตํ มํสํ ภาคโส กตฺวา. เตเนวาห ‘‘มํสสฺา ปวตฺตตี’’ติ. ปพฺพชิตสฺสาปิ อปริคฺคหิตกมฺมฏฺานสฺส. ฆนวินิพฺโภคนฺติ สนฺตติสมูหกิจฺจฆนานํ วินิพฺภุชฺชนํ วิเวจนํ. ธาตุโสปจฺจเวกฺขโตติ ฆนวินิพฺโภคกรเณน ธาตุํ ธาตุํ ปถวีอาทิธาตุํ วิสุํ วิสุํ กตฺวา ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส. สตฺตสฺาติ อตฺตานุทิฏฺิวเสน ปวตฺตา สตฺตสฺาติ วทนฺติ, โวหารวเสน ปวตฺตสตฺตสฺายปิ ตทา อนฺตรธานํ ยุตฺตเมว ยาถาวโต ฆนวินิพฺโภคสฺส สมฺปาทนโต. เอวฺหิ สติ ยถาวุตฺตโอปมฺมตฺเถน อุปเมยฺยตฺโถ อฺทตฺถุ สํสนฺทติ สเมติ. เตเนวาห ‘‘ธาตุวเสเนว จิตฺตํ สนฺติฏฺตี’’ติ. ทกฺโขติ เฉโก ตํตํสมฺาย กุสโล ‘‘ยถาชาเต สูนสฺมึ นงฺคุฏฺขุรวิสาณาทิวนฺเต อฏฺิมํสาทิอวยวสมุทาเย อวิภตฺเต คาวีสมฺา, น วิภตฺเต. วิภตฺเต ปน อฏฺิมํสาทิอวยวสมฺา’’ติ ชานนโต. จตุมหาปโถ วิย จตุอิริยาปโถติ คาวิยา ิตจตุมหาปโถ วิย กายสฺส ปวตฺติมคฺคภูโต จตุพฺพิโธ อิริยาปโถ ยสฺมา วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๓๐๕) วิตฺถาริตา, ตสฺมา ตตฺถ, ตํสํวณฺณนายฺจ (วิสุทฺธิ. ฏี. ๑.๓๐๖) วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ. เสสํ วุตฺตนยเมว.

ธาตุมนสิการปพฺพวณฺณนา นิฏฺิตา.

นวสิวถิกปพฺพวณฺณนา

๓๗๙. สิวถิกาย อปวิทฺธอุทฺธุมาตกาทิปฏิสํยุตฺตานํ โอธิโส ปวตฺตานํ กถานํ, ตทภิเธยฺยานฺจ อุทฺธุมาตกาทิอสุภภาคานํ สิวถิกปพฺพานีติ สงฺคีติกาเรหิ คหิตสมฺา . เตนาห ‘‘สิวถิกปพฺเพหิ วิภชิตุ’’นฺติ. มริตฺวา เอกาหาติกฺกนฺตํ เอกาหมตํ. อุทฺธํ ชีวิตปริยาทานาติ ชีวิตกฺขยโต อุปริ มรณโต ปรํ. สมุคฺคเตนาติ สมุฏฺิเตน. อุทฺธุมาตตฺตาติ อุทฺธํ อุทฺธํ ธุมาตตฺตา สูนตฺตา. เสตรตฺเตหิ วิปริภินฺนํ วิมิสฺสิตํ นีลํ วินีลํ, ปุริมวณฺณวิปริณามภูตํ วา นีลํ วินีลํ. วินีลเมว วินีลกนฺติ ก-กาเรน ปทวฑฺฒนํ อนตฺถนฺตรโต ยถา ‘‘ปีตกํ โลหิตก’’นฺติ (ธ. ส. ๖๑๖). ปฏิกฺกูลตฺตาติ ชิคุจฺฉนียตฺตา. กุจฺฉิตํ วินีลนฺติ วินีลกนฺติ กุจฺฉนตฺโถ วา อยํ ก-กาโรติ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ ยถา ‘‘ปาปโก กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคจฺฉตี’’ติ. (ที. นิ. ๓.๓๑๖; อ. นิ. ๕.๒๑๓; มหาว. ๒๘๕) ปริภินฺนฏฺาเนหิ กากกงฺกาทีหิ. วิสฺสนฺทมานปุพฺพนฺติ วิสฺสวนฺตปุพฺพํ, ตหํ ตหํ ปคฺฆรนฺตปุพฺพนฺติ อตฺโถ. ตถาภาวนฺติ วิสฺสนฺทมานปุพฺพภาวํ.

โสภิกฺขูติ โย ‘‘ปสฺเสยฺย สรีรํ สิวถิกาย ฉฑฺฑิต’’นฺติ วุตฺโต, โส ภิกฺขุ. อุปสํหรติ สทิสตํ. ‘‘อยมฺปิ โข’’ติอาทิ อุปสํหรณาการทสฺสนํ. อายูติ รูปชีวิตินฺทฺริยํ, อรูปชีวิตินฺทฺริยํ ปเนตฺถ วิฺาณคติกเมว. อุสฺมาติ กมฺมชเตโช. เอวํ ปูติกสภาโวเยวาติ เอวํ อติวิย ทุคฺคนฺธเชคุจฺฉปฏิกฺกูลปูภิกสภาโว เอว, น อายุอาทีนํ อวิคเม วิย มตฺตโสติ อธิปฺปาโย. เอทิโส ภวิสฺสตีติ เอวํภาวีติ อาห ‘‘เอวํ อุทฺธุมาตาทิเภโท ภวิสฺสตี’’ติ.

ลุฺจิตฺวา ลุฺจิตฺวาติ อุปฺปาเฏตฺวา อุปฺปาเฏตฺวา. สาวเสสมํสโลหิตยุตฺตนฺติ สพฺพโส อขาทิตตฺตา ตหํ ตหํ เสเสน อปฺปาวเสเสน มํสโลหิเตน ยุตฺตํ. ‘‘อฺเน หตฺถฏฺิก’’นฺติ อวิเสเสน หตฺถฏฺิกานํ วิปฺปกิณฺณตา โชติตาติ อนวเสสโต เตสํ วิปฺปกิณฺณตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘จตุสฏฺิเภทมฺปี’’ติอาทิมาห .

เตโรวสฺสิกานีติ ติโรวสฺสํ คตานิ, ตานิ ปน สํวจฺฉรํ วีติวตฺตานิ โหนฺตีติ อาห ‘‘อติกฺกนฺตสํวจฺฉรานี’’ติ. ปุราณตาย ฆนภาววิคเมน วิจุณฺณตา อิธ ปูติภาโวติ โส ยถา โหติ, ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อพฺโภกาเส’’ติอาทิมาห. เตโรวสฺสิกาเนวาติ สํวจฺฉรมตฺตาติกฺกนฺตานิ เอว. ขชฺชมานตาทิวเสน ทุติยสิวถิกปพฺพาทีนํ ววตฺถาปิตตฺตา วุตฺตํ ‘‘ขชฺชมานตาทีนํ วเสน โยชนา กาตพฺพา’’ติ.

นวสิวถิกปพฺพวณฺณนา นิฏฺิตา.

อิมาเนว ทฺเวติ อวธารเณน อปฺปนากมฺมฏฺานํ ตตฺถ นิยเมติ อฺปพฺเพสุ ตทภาวโต. ยโต หิ เอว-กาโร, ตโต อฺตฺถ นิยเมติ, เตน ปพฺพทฺวยสฺส วิปสฺสนากมฺมฏฺานตาปิ อปฺปฏิสิทฺธา ทฏฺพฺพา อนิจฺจตาทิทสฺสนโต. สงฺขาเรสุ อาทีนววิภาวนานิ สิวถิกปพฺพานีติ อาห ‘‘สิวถิกานํ อาทีนวานุปสฺสนาวเสน วุตฺตตฺตา’’ติ. อิริยาปถปพฺพาทีนํ อปฺปนาวหตา ปากฏา เอวาติ ‘‘เสสานิ ทฺวาทสปี’’ติ วุตฺตํ. ยํ ปเนตฺถ อตฺถโต อวิภตฺตํ. ตํ สุวิฺเยฺยเมว.

กายานุปสฺสนาวณฺณนา นิฏฺิตา.

เวทนานุปสฺสนาวณฺณนา

๓๘๐. สุขํเวทนนฺติ เอตฺถ สุขยตีติ สุขา. สมฺปยุตฺตธมฺเม, กายฺจ ลทฺธสฺสาเท กโรตีติ อตฺโถ. สุฏฺุ วา ขาทติ, ขนติ วา กายิกํ, เจตสิกฺจาพาธนฺติ สุขา. ‘‘สุกรํ โอกาสทานํ เอติสฺสาติ สุขา’’ติ อปเร. เวทยติ อารมฺมณรสํ อนุภวตีติ เวทนา. เวทยมาโนติ อนุภวมาโน. ‘‘กาม’’นฺติอาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ อิริยาปถปพฺเพ วุตฺตนยเมว. สมฺปชานสฺส เวทิยนํ สมฺปชานเวทิยนํ.

วตฺถุอารมฺมณาติ รูปาทิอารมฺมณา. รูปาทิอารมฺมณฺเหตฺถ เวทนาย ปวตฺติฏฺานตาย ‘‘วตฺถู’’ติ อธิปฺเปตํ . อสฺสาติ ภเวยฺย. ธมฺมวินิมุตฺตสฺส กตฺตุ อภาวโต ธมฺมสฺเสว กตฺตุภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘เวทนาว เวทยตี’’ติ อาห. ‘‘โวหารมตฺตํ โหตี’’ติ เอเตน ‘‘สุขํ เวทนํ เวทยมาโน สุขํ เวทนํ เวทยามี’’ติ อิทํ โวหารมตฺตนฺติ ทสฺเสติ.

นิตฺถุนนฺโตติ พลวโต เวทนาเวคสฺส นิโรธเน อาทีนวํ ทิสฺวา ตสฺส อวสรทานวเสน นิตฺถุนนฺโต . เวคสนฺธารเณ หิ อติมหนฺตํ ทุกฺขํ อุปฺปชฺชตีติ อฺมฺปิ วิการํ อุปฺปาเทยฺย, เตน เถโร อปราปรํ ปริวตฺตติ. วีริยสมถํ โยเชตฺวาติ อธิวาสนวีริยสฺส อธิมตฺตตฺตา ตสฺส หาปนวเสน สมาธินา สมรสตาปาทเนน วีริยสมถํ โยเชตฺวา. สห ปฏิสมฺภิทาหีติ โลกุตฺตรปฏิสมฺภิทาหิ สห. อริยมคฺคกฺขเณ หิ ปฏิสมฺภิทานํ อสมฺโมหวเสน อธิคโม, อตฺถปฏิสมฺภิทาย ปน อารมฺมณกรณวเสนปิ. โลกิยานมฺปิ วา สติ อุปฺปตฺติกาเล ตตฺถ สมตฺถตํ สนฺธายาห ‘‘สห ปฏิสมฺภิทาหี’’ติ. สมสีสีติ วารสมสีสี หุตฺวา, ปจฺจเวกฺขณวารสฺส อนนฺตรวาเร ปรินิพฺพายีติ อตฺโถ.

ยถา จ สุขํ, เอวํ ทุกฺขนฺติ ยถา ‘‘สุขํ โก เวทยตี’’ติอาทินา สมฺปชานเวทิยนํ สนฺธาย วุตฺตํ, เอวํ ทุกฺขมฺปิ. ตตฺถ ทุกฺขยตีติ ทุกฺขา, สมฺปยุตฺตธมฺเม, กายฺจ ปีเฬติ วิพาธตีติ อตฺโถ. ทุฏฺุํ วา ขาทติ, ขนติ กายิกํ, เจตสิกฺจ สาตนฺติ ทุกฺขา. ‘‘ทุกฺกรํ โอกาสทานํ เอติสฺสาติ ทุกฺขา’’ติ อปเร. อรูปกมฺมฏฺานนฺติ อรูปปริคฺคหํ, อรูปธมฺมมุเขน วิปสฺสนาภินิเวสนนฺติ อตฺโถ. น ปากฏํ โหติ ผสฺสสฺส, จิตฺตสฺส จ อวิภูตาการตฺตา. เตนาห ‘‘อนฺธการํ วิย ขายตี’’ติ. ‘‘น ปากฏํโหตี’’ติ จ อิทํ ตาทิเส ปุคฺคเล สนฺธาย วุตฺตํ, เตสํ อาทิโต เวทนาว วิภูตตรา หุตฺวา อุปฏฺาติ. เอวฺหิ ยํ วุตฺตํ สกฺกปฺหวณฺณนา ทีสุ ‘‘ผสฺโส ปากโฏ โหติ, วิฺาณํ ปากฏํ โหตี’’ติ, (ที. นิ. อฏฺ. ๒.๓๕๙) ตํ อวิโรธิตํ โหติ. เวทนาวเสน กถิยมานํ กมฺมฏฺานํ ปากฏํ โหตีติ โยชนา. ‘‘เวทนานํ อุปฺปตฺติปากฏตายา’’ติ จ อิทํ สุขทุกฺขเวทนานํ วเสน วุตฺตํ. ตาสฺหิ ปวตฺติ โอฬาริกา, น อิตราย. ตทุภยคฺคหณมุเขน วา คเหตพฺพตฺตา อิตรายปิ ปวตฺติ วิฺูนํ ปากฏา เอวาติ ‘‘เวทนาน’’นฺติ อวิเสสคฺคหณํ ทฏฺพฺพํ. สกฺกปฺเห วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ, ตสฺมา ตตฺถ วตฺตพฺโพ อตฺถวิเสโส ตตฺถ ลีนตฺถปฺปกาสนิยํ วุตฺตนเยเนว คเหตพฺโพ.

ปุพฺเพ ‘‘วตฺถุํ อารมฺมณํ กตฺวา เวทนาว เวทยตี’’ติ เวทนาย อารมฺมณาธีนวุตฺติตาย จ อนตฺตตาย จ ปชานนํ วุตฺตํ, อิทานิ ตสฺสา อนิจฺจตาทิปชานนํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อยํ อปโรปิ ปชานนปริยาโย’’ติ อาห. ยถา เอกสฺมึ ขเณ จิตฺตทฺวยสฺส อสมฺภโว เอกชฺฌํ อเนกนฺตปจฺจยาภาวโต, เอวํ เวทนาทฺวยสฺส วิสิฏฺารมฺมณวุตฺติโต จาติ อาห ‘‘สุขเวทนากฺขเณ ทุกฺขาย เวทนาย อภาวโต’’ติ. นิทสฺสนมตฺตฺเจตํ ตทา อุเปกฺขาเวทนายปิ อภาวโต, เตน สุขเวทนากฺขเณ ภูตปุพฺพานํ อิตรเวทนานํ หุตฺวาอภาวปชานเนน สุขเวทนายปิ หุตฺวา อภาโว าโต เอว โหตีติ ตสฺสา ปากฏภาวเมว ทสฺเสนฺโต ‘‘อิมิสฺสา จสุขาย เวทนาย อิโต ปมํอภาวโต’’ติ อาห, เอเตเนว จ ตาสมฺปิ เวทนานํ ปากฏภาโว ทสฺสิโตติ ทฏฺพฺพํ. เตนาห ‘‘เวทนา นาม อนิจฺจา อธุวา วิปริณามธมฺมา’’ติ. อนิจฺจคฺคหเณน หิ เวทนานํ วิทฺธํสนภาโว ทสฺสิโต วิทฺธสฺเต อนิจฺจตาย สุวิฺเยฺยตฺตา. อธุวคฺคหเณน ปากฏภาโว ตสฺส อสทาภาวิตาทิภาวนโต. วิปริณามคฺคหเณน ทุกฺขภาโว ตสฺส อฺถตฺตทีปนโต, เตน สุขาปิ เวทนา ทุกฺขา, ปเคว อิตราติ ติสฺสนฺนมฺปิ เวทนานํ ทุกฺขตา ทสฺสิตา โหติ. อิติ ‘‘ยทนิจฺจํ ทุกฺขํ, ตํ เอกนฺตโต อนตฺตา’’ติ ตีสุปิ เวทนาสุ ลกฺขณตฺตยปชานนา โชติตาติ ทฏฺพฺพํ. เตนาห ‘‘อิติห ตตฺถ สมฺปชาโน โหตี’’ติ.

อิทานิ ตมตฺถํ สุตฺเตน (ม. นิ. ๒.๒๐๕) สาเธตุํ ‘‘วุตฺตมฺปิ เจต’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ เนว ตสฺมึ สมเย ทุกฺขํ เวทนํ เวเทตีติ ตสฺมึ สุขเวทนาสมงฺคิสมเย เนว ทุกฺขํ เวทนํ เวเทติ นิรุทฺธตฺตา, อนุปฺปนฺนตฺตา จ ยถากฺกมํ อตีตานาคตานํ. ปจฺจุปฺปนฺนาย ปน อสมฺภโว วุตฺโต เอว. สกิจฺจกฺขณมตฺตาวฏฺานโต อนิจฺจา. สเมจฺจ สมฺภุยฺย ปจฺจเยหิ กตตฺตา สงฺขตา. วตฺถารมฺมณาทิปจฺจยํ ปฏิจฺจ อุปฺปนฺนตฺตา ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนา. ขยวยปลุชฺชนนิรุชฺฌนปกติตาย ขยธมฺมา วยธมฺมา วิราคธมฺมา นิโรธธมฺมาติ ทฏฺพฺพา.

กิเลเสหิ อามสิตพฺพโต อามิสํ นาม, ปฺจ กามคุณา, อารมฺมณกรณวเสน สห อามิเสหีติ สามิสํ. เตนาห ‘‘ปฺจกามคุณามิสนิสฺสิตา’’ติ.

อิโต ปรนฺติ ‘‘อตฺถิ เวทนา’’ติ เอวมาทิ ปาฬึ สนฺธายาห ‘‘กายานุปสฺสนายํ วุตฺตนยเมวา’’ติ.

เวทนานุปสฺสนาวณฺณนา นิฏฺิตา.

จิตฺตานุปสฺสนาวณฺณนา

๓๘๑. สมฺปโยควเสน ปวตฺตมาเนน สห ราเคนาติ สราคํ. เตนาห ‘‘โลภสหคต’’นฺติ. วีตราคนฺติ เอตฺถ กามํ สราคปทปฏิโยคินา วีตราคปเทน ภวิตพฺพํ, สมฺมสนจารสฺส ปน อธิปฺเปตตฺตา เตภูมกสฺเสว คหณนฺติ ‘‘โลกิยกุสลาพฺยากต’’นฺติ วตฺวา ‘‘อิทํ ปนา’’ติอาทินา ตเมว อธิปฺปายํ วิวรติ. เสสานิ ทฺเว โทสมูลานิ, ทฺเว โมหมูลานีติ จตฺตาริ อกุสลจิตฺตานิ. เตสฺหิ ราเคน สมฺปโยคาภาวโต นตฺเถว สราคตา, ตํนิมิตฺตกตาย ปน สิยา ตํสหิตกาเล โสติ นตฺเถว วีตราคตาปีติ ทุกฺขวินิมุตฺตตา เอเวตฺถ ลพฺภตีติ อาห ‘‘เนว ปุริมปทํ น ปจฺฉิมปทํ ภชนฺตี’’ติ. ยทิ เอวํ ปเทสิกํ ปชานนํ อาปชฺชตีติ? นาปชฺชติ, ทุกนฺตรปริยาปนฺนตฺตา เตสํ. เย ปน ‘‘ปฏิปกฺขภาเว อคยฺหมาเน สมฺปโยคาภาโว เอเวตฺถ ปมาณํ เอกจฺจอพฺยากตานํ วิยา’’ติ อิจฺฉนฺติ, เตสํ มเตน เสสากุสลจิตฺตานมฺปิ ทุติยปทสงฺคโห เวทิตพฺโพ . ทุติยทุเกปิ วุตฺตนเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อกุสลมูเลสุ สห โมเหเนว วตฺตตีติ สโมหนฺติ อาห ‘‘วิจิกิจฺฉาสหคตฺเจว อุทฺธจฺจสหคตฺจา’’ติ. ยสฺมา เจตฺถ ‘‘สเหว โมเหนาติ สโมห’’นฺติ ปุริมปทาวธารณมฺปิ ลพฺภติเยว, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ยสฺมา ปนา’’ติอาทิ. ยถา ปน อติมูฬฺหตาย ปาฏิปุคฺคลิกนเยน สวิเสสโมหวนฺตตาย ‘‘โมมูหจิตฺต’’นฺติ วตฺตพฺพโต วิจิกิจฺฉาอุทฺธจฺจสหคตทฺวยํ วิเสสโต ‘‘สโมห’’นฺติ วุจฺจติ, น ตถา เสสากุสลจิตฺตานีติ ‘‘วฏฺฏนฺติเยวา’’ติ สาสงฺกํ วทติ. สมฺปโยควเสน ถินมิทฺเธน อนุปติตํ อนุคตนฺติ ถินมิทฺธานุปติตํ, ปฺจวิธํสสงฺขาริกากุสลจิตฺตํ สงฺกุจิตจิตฺตํ, สงฺกุจิตจิตฺตํ นาม อารมฺมเณ สงฺโกจนวเสน ปวตฺตนโต. ปจฺจยวิเสสวเสน ถามชาเตน อุทฺธจฺเจน สหคตํ สํสฏฺนฺติ อุทฺธจฺจสหคตํ, อฺถา สพฺพมฺปิ อกุสลจิตฺตํ อุทฺธจฺจสหคตเมวาติ. ปสฏจิตฺตํ นาม อารมฺมเณ สวิเสสํ วิกฺเขปวเสน วิสฏภาเวน ปวตฺตนโต.

กิเลสวิกฺขมฺภนสมตฺถตาย วิปุลผลตาย จ ทีฆสนฺตานตาย จ มหนฺตภาวํ คตํ, มหนฺเตหิ วา อุฬารจฺฉนฺทาทีหิ คตํ ปฏิปนฺนนฺติ มหคฺคตํ, ตํ ปน รูปารูปภูมิคตํ ตโต มหนฺตสฺส โลเก อภาวโต. เตนาห ‘‘รูปารูปาวจร’’นฺติ. ตสฺส เจตฺถ ปฏิโยคี ปริตฺตํ เอวาติ อาห ‘‘อมหคฺคตนฺติ กามาวจร’’นฺติ. อตฺตานํ อุตฺตริตุํ สมตฺเถหิ สห อุตฺตเรหีติ สอุตฺตรํ. ตปฺปฏิปกฺเขน อนุตฺตรํ. ตทุภยํ อุปาทายุปาทาย เวทิตพฺพนฺติ อาห ‘‘สอุตฺตรนฺติ กามาวจรนฺติอาทิ. ปฏิปกฺขวิกฺขมฺภนสมตฺเถน สมาธินา สมฺมเทว อาหิตํ สมาหิตํ. เตนาห ‘‘ยสฺสา’’ติอาทิ. ยสฺสาติ ยสฺส จิตฺตสฺส. ยถาวุตฺเตน สมาธินา น สมาหิตนฺติ อสมาหิตํ. เตนาห ‘‘อุภยสมาธิรหิต’’นฺติ. ตทงฺควิมุตฺติยา วิมุตฺตํ, กามาวจรกุสลจิตฺตํ, วิกฺขมฺภนวิมุตฺติยา วิมุตฺตํ, มหคฺคตจิตฺตนฺติ ตทุภยํ สนฺธายาห ‘‘ตทงฺควิกฺขมฺภนวิมุตฺตีหิ วิมุตฺต’’นฺติ. ยตฺถ ตทุภยวิมุตฺติ นตฺถิ, ตํ อุภยวิมุตฺติรหิตนฺติ คยฺหมาเน โลกุตฺตรจิตฺเตปิ สิยาสงฺกาติ ตํ นิวตฺตนตฺถํ ‘‘สมุจฺเฉท…เป… โอกาโสว นตฺถี’’ติ อาห. โอกาสภาโว จ สมฺมสนจารสฺส อธิปฺเปตตฺตา เวทิตพฺโพ. ยํ ปเนตฺถ อตฺถโต อวิภตฺตํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานเมว.

จิตฺตานุปสฺสนาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ธมฺมานุปสฺสนา

นีวรณปพฺพวณฺณนา

๓๘๒. ปหาตพฺพาทิธมฺมวิภาคทสฺสนวเสน ปฺจธา ธมฺมานุปสฺสนา นิทฺทิฏฺาติ อยมตฺโถ ปาฬิโต เอว วิฺายตีติ ตมตฺถํ อุลฺลิงฺเคนฺโต ‘‘ปฺจวิเธน ธมฺมานุปสฺสนํ กเถตุ’’นฺติ อาห. ยทิ เอวํ กสฺมา นีวรณาทิวเสเนว นิทฺทิฏฺนฺติ? วิเนยฺยชฺฌาสยโต. เยสฺหิ เวเนยฺยานํ ปหาตพฺพธมฺเมสุ ปมํ นีวรณานิ วิภาเคน วตฺตพฺพานิ, เตสํ วเสเนตฺถ ภควตา ปมํ นีวรเณสุ ธมฺมานุปสฺสนา กถิตา. ตถา หิ กายานุปสฺสนาปิ สมถปุพฺพงฺคมา เทสิตา, ตโต ปริฺเยฺเยสุ ขนฺเธสุ, อายตเนสุ จ ภาเวตพฺเพสุ โพชฺฌงฺเคสุ, ปริฺเยฺยาทิวิภาเคสุ สจฺเจสุ จ อุตฺตรา เทสนา, ตสฺมา เจตฺถ สมถภาวนาปิ ยาวเทว วิปสฺสนตฺถา อิจฺฉิตา. วิปสฺสนาปธานา, วิปสฺสนาพหุลา จ สติปฏฺานเทสนาติ ตสฺสา วิปสฺสนาภินิเวสวิภาเคน เทสิตภาวํ วิภาเวนฺโต ‘‘อปิจา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ขนฺธายตนทุกฺขสจฺจวเสน มิสฺสกปริคฺคหกถนํ ทฏฺพฺพํ. สฺาสงฺขารกฺขนฺธปริคฺคหมฺปีติ ปิ-สทฺเทน สกลปฺจุปาทานกฺขนฺธปริคฺคหํ สมฺปิณฺเฑติ อิตเรสํ ตทนฺโตคธตฺตา.

‘‘กณฺหสุกฺกธมฺมานํ ยุคนนฺธตา นตฺถี’’ติ ปชานนกาเล อภาวา ‘‘อภิณฺหสมุทาจารวเสนา’’ติ วุตฺตํ. สํวิชฺชมานนฺติ อตฺตโน สนฺตาเน อุปลพฺภมานํ. ยถาติ เยนากาเรน, โส ปน ‘‘กามจฺฉนฺทสฺส อุปฺปาโท โหตี’’ติ วุตฺตตฺตา กามจฺฉนฺทสฺส การณากาโรว, อตฺถโต การณเมวาติ อาห ‘‘เยน การเณนา’’ติ. -สทฺโท วกฺขมานตฺถสมุจฺจยตฺโถ.

ตตฺถาติ ‘‘ยถา จา’’ติอาทินา วุตฺตปเท. สุภมฺปีติ กามจฺฉนฺโทปิ. โส หิ อตฺตโน คหณากาเรน ‘‘สุภ’’นฺติ วุตฺโต, เตนากาเรน ปวตฺตนกสฺส อฺสฺส กามจฺฉนฺทสฺส นิมิตฺตตฺตา ‘‘นิมิตฺต’’นฺติ จ. อิฏฺํ, อิฏฺากาเรน วา คยฺหมานํ รูปาทิ สุภารมฺมณํ. อากงฺขิตสฺส หิตสุขสฺส ปตฺติยา อนุปายภูโต มนสิกาโร อนุปายมนสิกาโร. ตนฺติ อโยนิโสมนสิการํ . ตตฺถาติ ตสฺมึ สภาคเหตุภูเต, อารมฺมณภูเต จ ทุวิเธ สุภนิมิตฺเต. อาหาโรติ ปจฺจโย อตฺตโน ผลํ อาหรตีติ กตฺวา.

อสุภนฺติ อสุภชฺฌานํ อุตฺตรปทโลเปน, ตํ ปน ทสสุ อวิฺาณกอสุเภสุ จ เกสาทีสุ สวิฺาณกอสุเภสุ จ ปวตฺตํ ทฏฺพฺพํ. เกสาทีสุ หิ สฺา ‘‘อสุภสฺา’’ติ คิริมานนฺทสุตฺเต (อ. นิ. ๑๐.๖๐) วุตฺตา. เอตฺถ จ จตุพฺพิธสฺส อโยนิโสมนสิการสฺส, โยนิโสมนสิการสฺส จ คหณํ นิรวเสสทสฺสนตฺถํ กตนฺติ ทฏฺพฺพํ, เตสุ ปน อสุเภสุ ‘‘สุภ’’นฺติ, ‘‘อสุภ’’นฺติ จ มนสิกาโร อิธาธิปฺเปโต, ตทนุกูลตฺตา ปน อิตเร ปีติ.

เอกาทสสุ อสุเภสุ ปฏิกฺกูลาการสฺส อุคฺคณฺหนํ, ยถา วา ตตฺถ อุคฺคหนิมิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, ตถา ปฏิปตฺติ อสุภนิมิตฺตสฺส อุคฺคโห. อุปจารปฺปนาวหาย อสุภภาวนาย อนุยุฺชนา อสุภภาวนานุโยโค. ‘‘โภชเน มตฺตฺุโน มิตาหารสฺส ถินมิทฺธาภิภวาภาวา โอตารํ อลภมาโน กามจฺฉนฺโท ปหียตี’’ติ วทนฺติ, อยเมว จ อตฺโถ นิทฺเทเสปิ วุจฺจติ. โย ปน โภชนสฺส ปฏิกฺกูลตํ, ตพฺพิปริณามสฺส ตทาธารสฺส ตสฺส จ อุปนิสฺสยภูตสฺส อติวิย เชคุจฺฉตํ, กายสฺส จ อาหารฏฺิติกตฺตํ สมฺมเทว ชานาติ, โส สพฺพโส โภชเน ปมาณสฺส ชานเนน โภชเนมตฺตฺู นาม. ตาทิสสฺส หิ กามจฺฉนฺโท ปหียเตว.

อสุภกมฺมิกติสฺสตฺเถโร ทนฺตฏฺิทสฺสาวี. ปหีนสฺสาติ วิกฺขมฺภนวเสน ปหีนสฺส. อิโต ปเรสุปิ เอวรูเปสุ าเนสุ เอเสว นโย. อภิธมฺมปริยาเยน (ธ. ส. ๑๑๕๙, ๑๕๐๓) สพฺโพปิ โลโภ กามจฺฉนฺทนีวรณนฺติ อาห ‘‘อรหตฺตมคฺเคนา’’ติ.

ปฏิฆมฺปิ ปุริมุปฺปนฺนํ ปฏิฆนิมิตฺตํ ปรโต อุปฺปชฺชนกสฺส ปฏิฆสฺส การณนฺติ กตฺวา.

เมชฺชติ สินิยฺหตีติ มิตฺโต, หิเตสี ปุคฺคโล, ตสฺมึ มิตฺเต ภวา, มิตฺตสฺส วา เอสาติ เมตฺตา, หิเตสิตา, ตสฺสา เมตฺตาย. อปฺปนาปิ อุปจาโรปิ วฏฺฏติ สาธารณวจนภาวโต. ‘‘เจโตวิมุตฺตี’’ติ วุตฺเต อปฺปนาว วฏฺฏติ อปฺปนํ อปฺปตฺตาย ปฏิปกฺขโต สุฏฺุ มุจฺจนสฺส อภาวโต. นฺติ โยนิโสมนสิการํ. ตตฺถาติ เมตฺตาย. พหุลํ ปวตฺตยโตติ พหุลีการวโต.

สตฺเตสุ เมตฺตายนสฺส หิตูปสํหารสฺส อุปฺปาทนํ ปวตฺตนํ เมตฺตานิมิตฺตสฺส อุคฺคโห, ปมุปฺปนฺโน เมตฺตามนสิกาโร ปรโต อุปฺปชฺชนกสฺส การณภาวโต เมตฺตามนสิกาโรว เมตฺตานิมิตฺตํ. กมฺมเมว สกํ เอเตสนฺติ กมฺมสฺสกา, สตฺตา, ตพฺภาโว กมฺมสฺสกตา, กมฺมทายาทตา. โทสเมตฺตาสุ ยาถาวโต อาทีนวานิสํสานํ ปฏิสงฺขานํ วีมํสา อิธ ปฏิสงฺขานํ. เมตฺตาวิหาริกลฺยาณมิตฺตวนฺตตา อิธ กลฺยาณมิตฺตตา. โอทิสฺสกอโนทิสฺสกทิสาผรณานนฺติ (โอธิสกอโนธิสกทิสาผรณานํ ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๑๕) อตฺตอติปิยสหายมชฺฌตฺตเวริวเสน โอทิสฺสกตา, สีมาสมฺเภเท กเต อโนทิสฺสกตา. เอกาทิทิสาผรณวเสน ทิสาผรณตา เมตฺตาย อุคฺคหเณ เวทิตพฺพา. วิหารรจฺฉาคามาทิวเสน วา โอทิสฺสกทิสาผรณํ. วิหาราทิอุทฺเทสรหิตํ ปุรตฺถิมาทิทิสาวเสน อโนทิสฺสกทิสาผรณนฺติ เอวํ ทฺวิธา อุคฺคหณํ สนฺธาย ‘‘โอทิสฺสกอโนทิสฺสกทิสาผรณาน’’นฺติ วุตฺตํ. อุคฺคโหติ จ ยาว อุปจารา ทฏฺพฺโพ. อุคฺคหิตาย อาเสวนา ภาวนา. ตตฺถ สพฺเพ สตฺตา, ปาณา, ภูตา, ปุคฺคลา, อตฺตภาวปริยาปนฺนาติ เอเตสํ วเสน ปฺจวิธา, เอเกกสฺมึ อเวรา โหนฺตุ , อพฺยาปชฺฌา, อนีฆา, สุขี อตฺตานํ ปริหรนฺตูติ จตุธา ปวตฺติโต วีสติวิธา อโนทิสฺสกผรณา เมตฺตา. สพฺพา อิตฺถิโย, ปุริสา, อริยา, อนริยา, เทวา, มนุสฺสา, วินิปาติกาติ สตฺโตธิกรณวเสน ปวตฺตา สตฺตวิธา, อฏฺวีสติ วิธา วา, ทสหิ ทิสาหิ ทิโสธิกรณวเสน ปวตฺตา ทสวิธา, เอเกกาย วา ทิสาย สตฺตาทิอิตฺถาทิอเวราทิเภเทน อสีตาธิกจตุสตปฺปเภทา จ โอธิโส ผรณา เวทิตพฺพา.

เยน อโยนิโสมนสิกาเรน อรติอาทิกานิ อุปฺปชฺชนฺติ, โส อรติอาทีสุ อโยนิโสมนสิกาโร. เตน นิปฺผาเทตพฺเพ หิ อิทํ ภุมฺมํ. เอส นโย อิโต ปเรสุปิ. อุกฺกณฺิตา ปนฺตเสนาสเนสุ, อธิกุสลธมฺเมสุ จ อุปฺปชฺชนภาวริฺจนา. กายวินมนาติ กรชกายสฺส วิรูเปนากาเรน นมนา. ลีนากาโรติ สงฺโกจาปตฺติ.

กุสลธมฺมปฏิปตฺติยา ปฏฺปนสภาวตาย, ตปฺปฏิปกฺขานํ วิโสสนสภาวตาย จ อารมฺภธาตุอาทิโต ปวตฺตวีริยนฺติ อาห ‘‘ปมารมฺภวีริย’’นฺติ. ยสฺมา ปมารมฺภมตฺตสฺส โกสชฺชวิธมนํ, ถามคมนฺจ นตฺถิ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘โกสชฺชโต นิกฺขนฺตตาย ตโต พลวตร’’นฺติ . ยสฺมา ปน อปราปรุปฺปตฺติยา ลทฺธาเสวนํ อุปรูปริ วิเสสํ อาวหนฺตํ อติวิย ถามคตเมว โหติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ปรํ ปรํ านํ อกฺกมนโต ตโตปิ พลวตร’’นฺติ.

อติโภชเน นิมิตฺตคฺคาโหติ อติโภชเน ถินมิทฺธสฺส นิมิตฺตคฺคาโห , เอตฺตเก ภุตฺเต ตํ โภชนํ ถินมิทฺธสฺส การณํ โหติ, เอตฺตเก น โหตีติ ถินมิทฺธสฺส การณาการณคาโห โหตีติ อตฺโถ. พฺยติเรกวเสน เจตํ วุตฺตํ, ตสฺมา ‘‘เอตฺตเก ภุตฺเต ตํ โภชนํ ถินมิทฺธสฺส การณํ น โหตี’’ติ โภชเน มตฺตฺุตา จ อตฺถโต ทสฺสิตาติ ทฏฺพฺพํ. เตนาห ‘‘จตุปฺจ…เป… น โหตี’’ติ. ทิวา สูริยาโลกนฺติ ทิวา คหิตนิมิตฺตํ สูริยาโลกํ รตฺติยํ มนสิ กโรนฺตสฺสาปีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ธุตงฺคานํ วีริยนิสฺสิตตฺตา วุตฺตํ ‘‘ธุตงฺคนิสฺสิตสปฺปายกถายปี’’ติ.

กุกฺกุจฺจมฺปิ กตากตานุโสจนวเสน ปวตฺตมานํ เจตโส อวูปสมาวหตาย อุทฺธจฺเจน สมานลกฺขณเมวาติ ‘‘อวูปสโม นาม อวูปสนฺตากาโร, อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจเมเวตํ อตฺถโต’’ติ วุตฺตํ.

พหุสฺสุตสฺส คนฺถโต, อตฺถโต จ สุตฺตาทีนิ วิจาเรนฺตสฺส ตพฺพหุลวิหาริโน อตฺถเวทาทิปฏิลาภสพฺภาวโต วิกฺเขโป น โหตีติ, ยถาวิธิปฏิปตฺติยา, ยถานุรูปปติการปฺปวตฺติยา จ กตากตานุโสจนฺจ น โหตีติ ‘‘พาหุสจฺเจนปิ…เป… อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ปหียตี’’ติ อาห. ยทคฺเคน พาหุสจฺเจน อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ปหียติ, ตทคฺเคน ปริปุจฺฉกตาวินยปกตฺุตาหิปิ ตํ ปหียตีติ ทฏฺพฺพํ. วุทฺธเสวิตา จ วุทฺธสีลิตํ อาวหตีติ เจโตวูปสมกรตฺตา อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจปฺปหานการี วุตฺตา. วุทฺธตฺตํ ปน อนเปกฺขิตฺวา กุกฺกุจฺจวิโนทกา วินยธรา กลฺยาณมิตฺตา วุตฺตาติ ทฏฺพฺพา. วิกฺเขโป จ ปพฺพชิตานํ เยภุยฺเยน กุกฺกุจฺจเหตุโก โหตีติ ‘‘กปฺปิยากปฺปิยปริปุจฺฉาพหุลสฺสา’’ติอาทินา วินยนเยเนว ปริปุจฺฉกตาทโย นิทฺทิฏฺา. ปหีเน อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺเจติ นิทฺธารเณ ภุมฺมํ. กุกฺกุจฺจสฺส โทมนสฺสสหคตตฺตา อนาคามิมคฺเคน อายตึ อนุปฺปาโท วุตฺโต.

ติฏฺติ ปวตฺตติ เอตฺถาติ านียา วิจิกิจฺฉาย านียา วิจิกิจฺฉาานียา, วิจิกิจฺฉาย การณภูตา ธมฺมา, ติฏฺตีติ วา านียา, วิจิกิจฺฉา านียา เอติสฺสาติ วิจิกิจฺฉาานียา, อตฺถโต วิจิกิจฺฉา เอว. สา หิ ปุริมุปฺปนฺนา ปรโต อุปฺปชฺชนกวิจิกิจฺฉาย สภาคเหตุตาย อสาธารณํ การณํ.

กุสลากุสลาติ โกสลฺลสมฺภูตฏฺเน กุสลา, ตปฺปฏิปกฺขโต อกุสลา. เย อกุสลา, เต สาวชฺชา, อเสวิตพฺพา, หีนา จ. เย กุสลา, เต อนวชฺชา, เสวิตพฺพา,ปณีตา จ. กุสลา วา หีเนหิ ฉนฺทาทีหิ อารทฺธา หีนา, ปณีเตหิ ปณีตา. กณฺหาติ กาฬกา จิตฺตสฺส อปภสฺสรภาวกรณา. สุกฺกาติ โอทาตา จิตฺตสฺส ปภสฺสรภาวกรณา. กณฺหาภิชาติเหตุโต วา กณฺหา. สุกฺกาภิชาติเหตุโต สุกฺกา. เต เอว สปฺปฏิภาคา. กณฺหา หิ อุชุวิปจฺจนีกตาย สุกฺกสปฺปฏิภาคา, ตถา สุกฺกาปิ อิตเรหิ. อถ วา กณฺหสุกฺกา จ สปฺปฏิภาคา จ กณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาคา. สุขา หิ เวทนา ทุกฺขาย เวทนาย สปฺปฏิภาคา, ทุกฺขา จ เวทนา สุขาย เวทนาย สปฺปฏิภาคาติ.

กามํ พาหุสจฺจปริปุจฺฉกตาหิ สพฺพาปิ อฏฺวตฺถุกา วิจิกิจฺฉา ปหียติ, ตถาปิ รตนตฺตยวิจิกิจฺฉามูลิกา เสสวิจิกิจฺฉาติ กตฺวา อาห ‘‘ตีณิ รตนานิ อารพฺภา’’ติ. รตนตฺตยคุณาวโพเธ ‘‘สตฺถริ กงฺขตี’’ติอาทิ (ธ. ส. ๑๐๐๘, ๑๑๒๓, ๑๑๖๗, ๑๒๔๑, ๑๒๖๓, ๑๒๗๐; วิภ. ๙๑๕) วิจิกิจฺฉาย อสมฺภโวติ. วินเย ปกตฺุตา ‘‘สิกฺขาย กงฺขตี’’ติ วุตฺตาย วิจิกิจฺฉาย ปหานํ กโรตีติ อาห ‘‘วินเย จิณฺณวสีภาวสฺสาปี’’ติ. โอกปฺปนิยสทฺธาสงฺขาตอธิโมกฺขพหุลสฺสาติ สทฺเธยฺยวตฺถุโน อนุปวิสนสทฺธาสงฺขาตอธิโมกฺเขน อธิมุจฺจนพหุลสฺส, อธิมุจฺจนฺจ อธิโมกฺขุปฺปาทนเมวาติ ทฏฺพฺพํ, สทฺธาย วา นินฺนโปณตาอธิมุตฺติ อธิโมกฺโข.

สมุทยวยาติ สมุทยวยธมฺมา. สุภนิมิตฺตอสุภนิมิตฺตาทีสูติ ‘‘สุภนิมิตฺตาทีสุ อสุภนิมิตฺตาทีสู’’ติ อาทิ-สทฺโท ปจฺเจกํ โยเชตพฺโพ. ตตฺถ ปเมน อาทิ-สทฺเทน ปฏิฆนิมิตฺตาทีนํ สงฺคโห, ทุติเยนเมตฺตาเจโตวิมุตฺติอาทีนํ. เสสเมตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ วุตฺตนยเมว.

นีวรณปพฺพวณฺณนา นิฏฺิตา.

ขนฺธปพฺพวณฺณนา

๓๘๓. อุปาทาเนหิ อารมฺมณกรณาทิวเสน อุปาทาตพฺพา วา ขนฺธา อุปาทานกฺขนฺธา.

อิติรูปนฺติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท อิทํ-สทฺเทน สมานตฺโถติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘อิทํ รูป’’นฺติ. ตยิทํ สรูปคฺคหณภาวโต อนวเสสปริยาทานํ โหตีติ อาห ‘‘เอตฺตกํ รูปํ, น อิโต ปรํ รูปํ อตฺถี’’ติ. อิตีติ วา ปการตฺเถ นิปาโต, ตสฺมา ‘‘อิติ รูป’’นฺติ อิมินา ภูตุปาทาทิวเสน ยตฺตโก รูปสฺส ปเภโท, เตน สทฺธึ รูปํ อนวเสสโต ปริยาทิยิตฺวา ทสฺเสติ. สภาวโตติ รุปฺปนสภาวโต, จกฺขาทิวณฺณาทิสภาวโต จ. เวทนาทีสุปีติ เอตฺถ ‘‘อยํ เวทนา, เอตฺตกา เวทนา, น อิโต ปรํ เวทนา อตฺถีติ สภาวโต เวทนํ ปชานาตี’’ติอาทินา, สภาวโตติ จ ‘‘อนุภวนสภาวโต, สาตาทิสภาวโต จา’’ติ เอวมาทินา โยเชตพฺพํ. เสสํ วุตฺตนยตฺตา สุวิฺเยฺยเมว.

ขนฺธปพฺพวณฺณนา นิฏฺิตา.

อายตนปพฺพวณฺณนา

๓๘๔. ฉสุ อชฺฌตฺติกพาหิเรสูติ ‘‘ฉสุ อชฺฌตฺติเกสุ ฉสุ พาหิเรสู’’ติ ‘‘ฉสู’’ติ ปทํ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. กสฺมา ปเนตานิ อุภยานิ ฉเฬว วุตฺตานิ? ฉวิฺาณกายุปฺปตฺติทฺวารารมฺมณววตฺถานโต. จกฺขุวิฺาณวีถิยา ปริยาปนฺนสฺส หิ วิฺาณกายสฺส จกฺขายตนเมว อุปฺปตฺติทฺวารํ, รูปายตนเมว จ อารมฺมณํ, ตถา อิตรานิ อิตเรสํ, ฉฏฺสฺส ปน ภวงฺคมนสงฺขาโต มนายตเนกเทโส อุปฺปตฺติทฺวารํ, อสาธารณฺจ ธมฺมายตนํ อารมฺมณํ. จกฺขตีติ จกฺขุ, รูปํ อสฺสาเทติ, วิภาเวติ จาติ อตฺโถ. สุณาตีติ โสตํ. ฆายตีติ ฆานํ. ชีวิตนิมิตฺตตาย รโส ชีวิตํ, ตํ ชีวิตํ อวฺหายตีติ ชิวฺหา. กุจฺฉิตานํ สาสวธมฺมานํ อาโย อุปฺปตฺติเทโสติ กาโย. มุนาติ อารมฺมณํ วิชานาตีติ มโน. รูปยติ วณฺณวิการํ อาปชฺชมานํ หทยงฺคตภาวํ ปกาเสตีติ รูปํ. สปฺปติ อตฺตโน ปจฺจเยหิ หรียติ โสตวิฺเยฺยภาวํ คมียตีติ สทฺโท. คนฺธยติ อตฺตโน วตฺถุํ สูเจตีติ คนฺโธ. รสนฺติ ตํ สตฺตา อสฺสาเทนฺตีติ รโส. ผุสียตีติ โผฏฺพฺพํ. อตฺตโน สภาวํ ธาเรนฺตีติ ธมฺมา. สพฺพานิ ปน อายานํ ตนนาทิอตฺเถน อายตนานิ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน วิสุทฺธิมคฺคสํวณฺณนายํ (วิสุทฺธิ. ๒.๕๑๐, ๕๑๑, ๕๑๒; วิสุทฺธิ. ฏี. ๒.๕๑๐) วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.

จกฺขุฺจปชานาตีติ (ที. นิ. ๒.๓๘๔; ม. นิ. ๑.๑๑๗) เอตฺถ จกฺขุ นาม ปสาทจกฺขุ, น สสมฺภารจกฺขุ, นาปิ ทิพฺพจกฺขุอาทิกนฺติ อาห จกฺขุปสาทนฺติ. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘ยํ จกฺขุ จตุนฺนํ มหาภูตานํ อุปาทาย ปสาโท’’ติ. (ธ. ส. ๕๙๖) -สทฺโท วกฺขมานตฺถสมุจฺจยตฺโถ. ยาถาวสรสลกฺขณวเสนาติ อวิปรีตสฺส อตฺตโน รสสฺส เจว ลกฺขณสฺส จ วเสน, รูเปสุ อาวิฺฉนกิจฺจสฺส เจว รูปาภิฆาตารหภูตปสาทลกฺขณสฺส จ ทฏฺุกามตานิทานกมฺมสมุฏฺานภูตปสาทลกฺขณสฺส จ วเสนาติ อตฺโถ. อถ วา ยาถาวสรสลกฺขณวเสนาติ ยาถาวสรสวเสน เจว ลกฺขณวเสน จ, ยาถาวสรโสติ จ อวิปรีตสภาโว เวทิตพฺโพ. โส หิ รสียติ อวิรทฺธปฏิเวธวเสน อสฺสาทียติ รมียตีติ ‘‘รโส’’ติ วุจฺจติ, ตสฺมา สลกฺขณวเสนาติ วุตฺตํ โหติ. ลกฺขณวเสนาติ อนิจฺจาทิสามฺลกฺขณวเสน.

‘‘จกฺขุฺจ ปฏิจฺจ รูเป จ อุปฺปชฺชติ จกฺขุวิฺาณ’’นฺติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๒๐๔, ๔๐๐; ม. นิ. ๓.๔๒๑, ๔๒๕, ๔๒๖; สํ. นิ. ๒.๔๓, ๔๕; ๒.๔.๖๐) สมุทิตานิเยว รูปายตนานิ จกฺขุวิฺาณุปฺปตฺติเหตุ, น วิสุํ วิสุนฺติ อิมสฺส อตฺถสฺส โชตนตฺถํ ‘‘รูเป จา’’ติ ปุถุวจนคฺคหณํ, ตาย เอว จ เทสนาคติยา กามํ อิธาปิ ‘‘รูเป จ ปชานาตี’’ติ วุตฺตํ, รูปภาวสามฺเน ปน สพฺพํ เอกชฺฌํ คเหตฺวา พหิทฺธา จตุสมุฏฺานิกรูปฺจาติ เอกวจนวเสน อตฺโถ. สรสลกฺขณ วเสนาติ จกฺขุวิฺาณสฺส วิสยภาวกิจฺจสฺส วเสน เจว จกฺขุปฏิหนนลกฺขณสฺส วเสน จาติ โยเชตพฺพํ.

อุภยํ ปฏิจฺจาติ จกฺขุํ อุปนิสฺสยปจฺจยวเสน ปจฺจยภูตํ, รูเป อารมฺมณาธิปติอารมฺมณูปนิสฺสยวเสน ปจฺจยภูเต จ ปฏิจฺจ. กามํ อยํ สุตฺตนฺตสํวณฺณนา, นิปฺปริยายกถา นาม อภิธมฺมสนฺนิสฺสิตา เอวาติ อภิธมฺมนเยเนว สํโยชนานิ ทสฺเสนฺโต ‘‘กามราค…เป… อวิชฺชาสํโยชน’’นฺติ อาห. ตตฺถ กาเมสุ ราโค, กาโม จ โส ราโค จาติ วา กามราโค. โส เอว พนฺธนฏฺเน สํโยชนํ. อยฺหิ ยสฺส สํวิชฺชติ, ตํ ปุคฺคลํ วฏฺฏสฺมึ สํโยเชติ พนฺธติ อิติ ทุกฺเขน สตฺตํ, ภวาทิเก วา ภวนฺตราทีหิ, กมฺมุนา วา วิปากํ สํโยเชติ พนฺธตีติ สํโยชนํ. เอวํ ปฏิฆสํโยชํอาทีนมฺปิ ยถารหมตฺโถ วตฺตพฺโพ. สรสลกฺขณวเสนาติ เอตฺถ ปน สตฺตสฺส วฏฺฏโต อนิสฺสชฺชนสงฺขาตสฺส อตฺตโน กิจฺจสฺส เจว ยถาวุตฺตพนฺธนสงฺขาตสฺส ลกฺขณสฺส จ วเสนาติ โยเชตพฺพํ.

ภวสฺสาททิฏฺิสฺสาทนิวตฺตนตฺถํ กามสฺสาทคฺคหณํ. อสฺสาทยโตติ อภิรมนฺตสฺส. อภินนฺทโตติ สปฺปีติกตณฺหาวเสน นนฺทนฺตสฺส. ปททฺวเยนาปิ พลวโต กามราคสฺส ปจฺจยภูตา กามราคุปฺปตฺติ วุตฺตา. เอส นโย เสเสสุปิ. อนิฏฺารมฺมเณติ เอตฺถ ‘‘อาปาถคเต’’ติ วิภตฺติวิปริณามนวเสน ‘‘อาปาถคต’’นฺติ ปทํ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. เอตํ อารมฺมณนฺติ เอตํ เอวํสุขุมํ เอวํทุพฺพิภาคํ อารมฺมณํ. ‘‘นิจฺจํ ธุว’’นฺติ อิทํ นิทสฺสนมตฺตํ. ‘‘อุจฺฉิชฺชิสฺสติ วินสฺสิสฺสตีติ คณฺหโต’’ติ เอวมาทีนมฺปิ สงฺคโห อิจฺฉิตพฺโพ. ปมาย สกฺกายทิฏฺิยา อนุโรธวเสน ‘‘สตฺโต นุ โข’’ติ, อิตราย อนุโรธวเสน ‘‘สตฺตสฺส นุ โข’’ติ วิจิกิจฺฉโต. อตฺตตฺตนิยาทิคาหานุคตา หิ วิจิกิจฺฉา ทิฏฺิยา อสติ อภาวโต. ภวํ ปตฺเถนฺตสฺสาติ ‘‘อีทิเส สมฺปตฺติภเว ยสฺมา อมฺหากํ อิทํ อิฏฺํ รูปารมฺมณํ สุลภํ ชาตํ, ตสฺมา อายติมฺปิ เอทิโส, อิโต วา อุตฺตริตโร สมฺปตฺติภโว ภเวยฺยา’’ติ ภวํ นิกาเมนฺตสฺส. เอวรูปนฺติ เอวรูปํ รูปํ. ตํสทิเส หิ ตพฺโพหารวเสเนวํ วุตฺตํ. ภวติ หิ ตํสทิเสสุ ตพฺโพหาโร ยถา ‘‘สา เอว ติตฺติรี, ตานิ เอว โอสธานี’’ติ. อุสูยโตติ อุสูยํ อิสฺสํ อุปฺปาทยโต. อฺสฺส มจฺฉรายโตติ อฺเน อสาธารณภาวกรเณน มจฺฉริยํ กโรโต. สพฺเพเหว ยถาวุตฺเตหิ นวหิ สํโยชเนหิ.

ตฺจ การณนฺติ สุภนิมิตฺตปฏิฆนิมิตฺตาทิวิภาคํ อิฏฺานิฏฺาทิรูปารมฺมณฺเจว ตชฺชาโยนิโสมนสิการฺจาติ ตสฺส ตสฺส สํโยชนสฺส การณํ. อวิกฺขมฺภิตาสมูหตภูมิลทฺธุปฺปนฺนํ ตํ สนฺธาย ‘‘อปฺปหีนฏฺเน อุปฺปนฺนสฺสา’’ติ วุตฺตํ. วตฺตมานุปฺปนฺนตา สมุทาจารคฺคหเณเนว คหิตา. เยน การเณนาติ เยน วิปสฺสนาสมถภาวนาสงฺขาเตน การเณน . ตฺหิ ตสฺส ตทงฺควเสน เจว วิกฺขมฺภนวเสน จ ปหานการณํ. อิสฺสามจฺฉริยานํ อปายคมนียตาย ปมมคฺควชฺฌตา วุตฺตา. ยทิ เอวํ ‘‘ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โสตาปนฺโน โหตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๒๔๑) สุตฺตปทํ กถนฺติ? ตํ สุตฺตนฺตปริยาเยน วุตฺตํ. ยถานุโลมสาสนา หิ สุตฺตนฺตเทสนา, อยํ ปน อภิธมฺมนเยน สํวณฺณนาติ นายํ โทโสติ. โอฬาริกสฺสาติ ถูลสฺส, ยโต อภิณฺหสมุปฺปตฺติปริยุฏฺานติพฺพตาว โหติ. อณุสหคตสฺสาติ วุตฺตปฺปการาภาเวน อณุภาวํ สุขุมภาวํ คตสฺส. อุทฺธจฺจสํโยชนสฺสเปตฺถ อนุปฺปาโท วุตฺโตเยวาติ ทฏฺพฺโพ ยถาวุตฺตสํโยชเนหิ อวินาภาวโต. เอกตฺถตาย โสตาทีนํ สภาวสรสลกฺขณวเสน ปชานนา, ตปฺปจฺจยานํ สํโยชนานํ อุปฺปาทาทิปชานนา จ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เอเสว นโย’’ติ อติทิสติ.

อตฺตโน วา ธมฺเมสูติ อตฺตโน อชฺฌตฺติกายตนธมฺเมสุ, อตฺตโน อุภยธมฺเมสุ วา. อิมสฺมึ ปกฺเข อชฺฌตฺติกายตนปริคฺคณฺหเนนาติ อชฺฌตฺติกายตนปริคฺคณฺหนมุเขนาติ อตฺโถ. เอวฺจ อนวเสสโต สปรสนฺตาเนสุ อายตนานํ ปริคฺคโห สิทฺโธ โหติ. ปรสฺสวา ธมฺเมสูติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. รูปายตนสฺสาติ อฑฺเฒกาทสปฺปเภทสฺส รูปสภาวสฺส อายตนสฺส รูปกฺขนฺเธ ‘‘วุตฺตนเยน นีหริตพฺโพ’’ติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. เสสกฺขนฺเธสูติ เวทนาสฺาสงฺขารกฺขนฺเธสุ. วุตฺตนเยนาติ อิมินา อติเทเสน รูปกฺขนฺเธ ‘‘อาหารสมุทยา’’ติ วิฺาณกฺขนฺเธ ‘‘นามรูปสมุทยา’’ติ เสสขนฺเธสุ ‘‘ผสฺสสมุทยา’’ติ อิมํ วิเสสํ วิภาเวติ, อิตรํ ปน สพฺพตฺถ สมานนฺติ ขนฺธปพฺเพ วิย อายตนปพฺเพปิ โลกุตฺตรนิวตฺตนํ ปาฬิยํ คหิตํ นตฺถีติ วุตฺตํ ‘‘โลกุตฺตรธมฺมา น คเหตพฺพา’’ติ. เสสํ วุตฺตนยเมว.

อายตนปพฺพวณฺณนา นิฏฺิตา.

โพชฺฌงฺคปพฺพวณฺณนา

๓๘๕. พุชฺฌนกสตฺตสฺสาติ กิเลสนิทฺทาย ปฏิพุชฺฌนกสตฺตสฺส, อริยสจฺจานํ วา ปฏิวิชฺฌนกสตฺตสฺส. องฺเคสูติ การเณสุ, อวยเวสุ วา . อุทยวยาณุปฺปตฺติโต ปฏฺาย สมฺโพธิปฏิปทายํ ิโต นาม โหตีติ อาห ‘‘อารทฺธวิปสฺสกโต ปฏฺาย โยคาวจโรติ สมฺโพธี’’ติ. สุตฺตนฺตเทสนา นาม ปริยายกถา, อยฺจ สติปฏฺานเทสนา โลกิยมคฺควเสน ปวตฺตาติ วุตฺตํ ‘‘โยคาวจโรติ สมฺโพธี’’ติ, อฺถา ‘‘อริยสาวโก’’ติ วเทยฺย.

‘‘สติสมฺโพชฺฌงฺคฏฺานียา’’ติ ปทสฺส อตฺโถ ‘‘วิจิกิจฺฉาฏฺานียา’’ติ เอตฺถ วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ. นฺติ โยนิโสมนสิการํ. ตตฺถาติ สติยํ, นิปฺผาเทตพฺเพ เจตํ ภุมฺมํ.

สติ จ สมฺปชฺฺจ สติสมฺปชฺํ. อถ วา สติปฺปธานํ อภิกฺกนฺตาทิสาตฺถกภาวปริคฺคณฺหนาณํ สติสมฺปชฺํ. ตํ สพฺพตฺถ สโตการีภาวาวหตฺตา สติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย โหติ. ยถา ปจฺจนีกธมฺมปฺปหานํ, อนุรูปธมฺมเสวนา จ อนุปฺปนฺนานํ กุสลานํ ธมฺมานํ อุปฺปาทาย โหติ, เอวํ สติรหิตปุคฺคลวิวชฺชนา, สโตการีปุคฺคลเสวนา, ตตฺถ จ ยุตฺตปฺปยุตฺตตา สติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย โหตีติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ ‘‘สติสมฺปชฺ’’นฺติอาทินา. ติสฺสทตฺตตฺเถโร นาม, โย โพธิมณฺเฑ สุวณฺณสลากํ คเหตฺวา ‘‘อฏฺารสสุ ภาสาสุ กตรภาสาย ธมฺมํ กเถมี’’ติ ปริสํ ปวาเรสิ. อภยตฺเถโรติ ทตฺตาภยตฺเถรมาห.

ธมฺมานํ, ธมฺเมสุ วา วิจโย ธมฺมวิจโย, โส เอว สมฺโพชฺฌงฺโค, ตสฺส ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส. ‘‘กุสลากุสลา ธมฺมา’’ติอาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตนยเมว. ตตฺถ โยนิโสมนสิการพหุลีกาโรติ กุสลาทีนํ ตํตํสภาวสรสลกฺขณอาทิกสฺส ยาถาวโต อวพุชฺฌนวเสน อุปฺปนฺโน าณสมฺปยุตฺตจิตฺตุปฺปาโท. โส หิ อวิปรีตมนสิการตาย ‘‘โยนิโสมนสิกาโร’’ติ วุตฺโต, ตทาโภคตาย อาวชฺชนาปิ ตคฺคติกา เอว, ตสฺส อภิณฺหํ ปวตฺตนํ พหุลีกาโร. ภิยฺโยภาวายาติ ปุนปฺปุนํ ภาวาย. เวปุลฺลายาติ วิปุลภาวาย. ปาริปูริยาติ ปริพฺรูหนาย.

ปริปุจฺฉกตาติ ปริโยคาเหตฺวา ปุจฺฉกภาโว. อาจริเย ปยิรุปาสิตฺวา ปฺจปิ นิกาเย สห อฏฺกถาย ปริโยคาเหตฺวา ยํ ยํ ตตฺถ คณฺิฏฺานภูตํ, ตํ ตํ ‘‘อิทํ ภนฺเต กถํ, อิมสฺส โก อตฺโถ’’ติ ขนฺธายตนาทิอตฺถํ ปุจฺฉนฺตสฺส ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺโค อุปฺปชฺชติ. เตนาห ‘‘ขนฺธธาตุ…เป… พหุลตา’’ติ. วตฺถูนํ วิสทภาวกรณนฺติ เอตฺถ จิตฺตเจตสิกานํ ปวตฺติฏฺานภาวโต สรีรํ, ตปฺปฏิพทฺธานิ จีวรานิ จ ‘‘วตฺถูนี’’ติ อธิปฺเปตานิ, ตานิ ยถา จิตฺตสฺส สุขาวหานิ โหนฺติ, ตถา กรณํ เตสํ วิสทภาวกรณํ. เตน วุตฺตํ ‘‘อชฺฌตฺติกพาหิราน’’นฺติอาทิ. อุสฺสนฺนโทสนฺติ วาตาทิอุสฺสนฺนโทสํ. เสทมลมกฺขิตนฺติ เสเทน เจว ชลฺลิกาสงฺขาเตน สรีรมเลน จ มกฺขิตํ. -สทฺเทน อฺมฺปิ สรีรสฺส, จิตฺตสฺส จ ปีฬาวหํ สงฺคณฺหาติ. เสนาสนํ วาติ วา-สทฺเทน ปตฺตาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. อวิสเท สติ, วิสยภูเต วา. กถํ ภาวนมนุยุตฺตสฺส ตานิ วิสโย? อนฺตรนฺตรา ปวตฺตนกจิตฺตุปฺปาทวเสเนวํ วุตฺตํ. เต หิ จิตฺตุปฺปาทา จิตฺเตกคฺคตาย อปริสุทฺธภาวาย สํวตฺตนฺติ. จิตฺตเจตสิเกสุ นิสฺสยาทิปจฺจยภูเตสุ. าณมฺปีติ ปิ-สทฺโท สมฺปิณฺฑนตฺโถ, เตน น เกวลํ ตํ วตฺถุเยว, อถ โข ตสฺมึ อปริสุทฺเธ าณมฺปิ อปริสุทฺธํ โหตีติ นิสฺสยาปริสุทฺธิยา ตํนิสฺสิตาปริสุทฺธิ วิย วิสยสฺส อปริสุทฺธตาย วิสยิโน อปริสุทฺธึ ทสฺเสติ.

สมภาวกรณนฺติ กิจฺจโต อนูนาธิกภาวกรณํ. สทฺเธยฺยวตฺถุสฺมึ ปจฺจยวเสน อธิโมกฺขกิจฺจสฺส ปฏุตรภาเวน, ปฺาย อวิสทตาย, วีริยาทีนฺจ สิถิลตาทินา สทฺธินฺทฺริยํ พลวํ โหติ. เตนาห ‘‘อิตรานิ มนฺทานี’’ติ. ตโตติ ตสฺมา สทฺธินฺทฺริยสฺส พลวภาวโต , อิตเรสฺจ มนฺทตฺตา. โกสชฺชปกฺเข ปติตุํ อทตฺวา สมฺปยุตฺตธมฺมานํ ปคฺคณฺหนํ อนุพลปฺปทานํ ปคฺคโห, ปคฺคโหว กิจฺจํ ปคฺคหกิจฺจํ, ‘‘กาตุํ น สกฺโกตี’’ติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. อารมฺมณํ อุปคนฺตฺวา านํ, อนิสฺสชฺชนํ วา อุปฏฺานํ. วิกฺเขปปฏิกฺเขโป, เยน วา สมฺปยุตฺตา อวิกฺขิตฺตา โหนฺติ, โส อวิกฺเขโป. รูปคตํ วิย จกฺขุนา เยน ยาถาวโต วิสยสภาวํ ปสฺสติ, ตํ ทสฺสนกิจฺจํ. กาตุํ น สกฺโกติ พลวตา สทฺธินฺทฺริเยน อภิภูตตฺตา. สหชาตธมฺเมสุ หิ อินฺทฏฺํ กาเรนฺตานํ สหปวตฺตมานานํ ธมฺมานํ เอกรสตาวเสเนว อตฺถสิทฺธิ, น อฺถา. ตสฺมาติ วุตฺตเมวตฺถํ การณภาเวน ปจฺจามสติ. นฺติ สทฺธินฺทฺริยํ . ธมฺมสภาวปจฺจเวกฺขเณนาติ ยสฺส สทฺเธยฺยสฺส วตฺถุโน อุฬารตาทิคุเณ อธิมุจฺจนสฺส สาติสยปฺปวตฺติยา สทฺธินฺทฺริยํ พลวํ ชาตํ, ตสฺส ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนตาทิวิภาคโต ยาถาวโต วีมํสเนน. เอวฺหิ เอวํธมฺมตานเยน สภาวสรสโต ปริคฺคยฺหมาเน สวิปฺผาโร อธิโมกฺโข น โหติ ‘‘อยํ อิเมสํ ธมฺมานํ สภาโว’’ติ ปริชานนวเสน ปฺาพฺยาปารสฺส สาติสยตฺตา. ธุริยธมฺเมสุ หิ ยถา สทฺธาย พลวภาเว ปฺาย มนฺทภาโว โหติ, เอวํ ปฺาย พลวภาเว สทฺธาย มนฺทภาโว โหตีติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ตํ ธมฺมสภาวปจฺจเวกฺขเณน วา, ยถา วา มนสิกโรโต พลวํ ชาตํ, ตถา อมนสิกาเรน หาเปตพฺพ’’นฺติ. ตถา อมนสิกาเรนาติ เยนากาเรน ภาวนํ อนุยุฺชนฺตสฺส สทฺธินฺทฺริยํ พลวํ ชาตํ, เตนากาเรน ภาวนาย อนนุยุฺชนโตติ วุตฺตํ โหติ. อิธ ทุวิเธน สทฺธินฺทฺริยสฺส พลวภาโว อตฺตโน วา ปจฺจยวิเสเสน กิจฺจุตฺตริยโต, วีริยาทีนํ วา มนฺทกิจฺจตาย. ตตฺถ ปมวิกปฺเป หาปนวิธิ ทสฺสิโต. ทุติยกปฺเป ปน ยถา มนสิ กโรโต วีริยาทีนํ มนฺทกิจฺจตาย สทฺธินฺทฺริยํ พลวํ ชาตํ, ตถา อมนสิกาเรน, วีริยาทีนํ ปฏุกิจฺจภาวาวเหน มนสิกาเรน สทฺธินฺทฺริยํ เตหิ สมรสํ กโรนฺเตน หาเปตพฺพํ. อิมินา นเยน เสสินฺทฺริเยสุปิ หาปนวิธิ เวทิตพฺโพ.

วกฺกลิตฺเถรวตฺถูติ. โส หิ อายสฺมา สทฺธาธิมุตฺตตาย กตาธิกาโร สตฺถุ รูปกายทสฺสนปฺปสุโต เอว หุตฺวา วิหรนฺโต สตฺถารา ‘‘กึ เต วกฺกลิ อิมินา ปูติกาเยน ทิฏฺเน, โย โข วกฺกลิ ธมฺมํ ปสฺสติ, โส มํ ปสฺสตี’’ติอาทินา (สํ. นิ. ๓.๘๗; ที. นิ. อฏฺ. ๑.ปมมหาสงฺคีติกถา; อ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๒๐๘; ธ. ป. อฏฺ. ๒.๓๘๐; ปฏิ. ม. อฏฺ. ๒.๒.๑๓๐; ธ. ส. อฏฺ. ๑๐๐๗; เถรคา. อฏฺ. ๒.วกฺกลิตฺเถรคาถาวณฺณนา) โอวทิตฺวา กมฺมฏฺาเน นิโยชิโตปิ ตํ อนนุยุฺชนฺโต ปณามิโต อตฺตานํ วินิปาเตตุํ ปปาตฏฺานํ อภิรุหิ, อถ นํ สตฺถา ยถานิสินฺโนว โอภาสํ วิสฺสชฺชเนน อตฺตานํ ทสฺเสตฺวา –

‘‘ปาโมชฺชพหุโล ภิกฺขุ, ปสนฺโน พุทฺธสาสเน;

อธิคจฺเฉ ปทํ สนฺตํ, สงฺขารูปสมํ สุข’’นฺติ. (ธ. ป. ๓๘๑) –

คาถํ วตฺวา ‘‘เอหิ วกฺกลี’’ติ อาห. โส เตน อมเตเนว อภิสิตฺโต หฏฺตุฏฺโ หุตฺวา วิปสฺสนํ ปฏฺเปสิ. สทฺธาย พลวภาวโต วิปสฺสนาวีถึ น โอตรติ, ตํ ตฺวา ภควา ตสฺส อินฺทฺริยสมตฺตปฏิปาทนาย กมฺมฏฺานํ โสเธตฺวา อทาสิ. โส สตฺถารา ทินฺนนเย ตฺวา วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา มคฺคปฺปฏิปาฏิยา อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตเนตํ วุตฺตํ ‘‘วกฺกลิตฺเถรวตฺถุ เจตฺถ นิทสฺสน’’นฺติ. เอตฺถาติ สทฺธินฺทฺริยสฺส อธิมตฺตภาเว เสสินฺทฺริยานํ สกิจฺจากรเณ.

อิตรกิจฺจเภทนฺติ อุปฏฺานาทิกิจฺจวิเสสํ. ปสฺสทฺธาทีติ อาทิ-สทฺเทน สมาธิอุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคานํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. หาเปตพฺพนฺติ ยถา สทฺธินฺทฺริยสฺส พลวภาโว ธมฺมสภาวปจฺจเวกฺขเณน หายติ, เอวํ วีริยินฺทฺริยสฺส อธิมตฺตตา ปสฺสทฺธิอาทิภาวนาย หายติ สมาธิปกฺขิยตฺตา ตสฺสา. ตถา หิ สมาธินฺทฺริยสฺส อธิมตฺตตํ โกสชฺชปาตโต รกฺขนฺตี วีริยาทิภาวนา วิย วีริยินฺทฺริยสฺส อธิมตฺตตํ อุทฺธจฺจปาตโต รกฺขนฺตี เอกํสโต หาเปติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ปสฺสทฺธอาทิภาวนาย หาเปตพฺพ’’นฺติ. โสณตฺเถรสฺส วตฺถูติ สุกุมารโสณตฺเถรสฺส วตฺถุ. (มหาว. ๒๔๒; อ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๒๐๕) โส หิ อายสฺมา สตฺถุ สนฺติเก กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา สีตวเน วิหรนฺโต ‘‘มม สรีรํ สุขุมาลํ, น จ สกฺกา สุเขเนว สุขํ อธิคนฺตุํ, กิลเมตฺวาปิ สมณธมฺโม กาตพฺโพ’’ติ ตํ านจงฺกมเมว อธิฏฺาย ปธานํ อนุยุฺชนฺโต ปาทตเลสุ โผเฏสุ อุฏฺิเตสุปิ เวทนํ อชฺฌุเปกฺขิตฺวา ทฬฺหํ วีริยํ กโรนฺโต อจฺจารทฺธวีริยตาย วิเสสํ นิพฺพตฺเตตุํ นาสกฺขิ. สตฺถา ตตฺถ คนฺตฺวา วีณูปโมวาเทน โอวทิตฺวา วีริยสมตาโยชนวีถึ ทสฺเสนฺโต กมฺมฏฺานํ โสเธตฺวา คิชฺฌกูฏํ คโต. เถโรปิ สตฺถารา ทินฺนนเยน วีริยสมตํ โยเชตฺวา ภาเวนฺโต วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา อรหตฺเต ปติฏฺาสิ. เตน วุตฺตํ ‘‘โสณตฺเถรสฺส วตฺถุ ทสฺเสตพฺพ’’นฺติ. เสเสสุปีติ สติสมาธิปฺินฺทฺริเยสุปิ.

สมตนฺติ สทฺธาปฺานํ อฺมฺํ อนูนานธิกภาวํ, ตถา สมาธิวีริยานํ. ยถา หิ สทฺธาปฺานํ วิสุํ วิสุํ ธุริยธมฺมภูตานํ กิจฺจโต อฺมฺํ นาติวตฺตนํ วิเสสโต อิจฺฉิตพฺพํ, ยโต เนสํ สมธุรตาย อปฺปนา สมฺปชฺชติ, เอวํ สมาธิวีริยานํ โกสชฺชุทฺธจฺจปกฺขิกานํ สมรสตาย สติ อฺมฺูปตฺถมฺภนโต สมฺปยุตฺตธมฺมานํ อนฺตทฺวยปาตาภาเวน สมฺมเทว อปฺปนา อิชฺฌติ. ‘‘พลวสทฺโธ’’ติอาทิ พฺยติเรกมุเขน วุตฺตสฺเสว อตฺถสฺส สมตฺถนํ. ตสฺสตฺโถ โย พลวติยา สทฺธาย สมนฺนาคโต อวิสทาโณ, โส มุธปฺปสนฺโน โหติ, น อเวจฺจปฺปสนฺโน. ตถา หิ อวตฺถุสฺมึ ปสีทติ เสยฺยถาปิ ติตฺถิยสาวกา. เกราฏิกปกฺขนฺติ สาเยฺยปกฺขํ ภชติ. สทฺธาหีนาย ปฺาย อติธาวนฺโต ‘‘เทยฺยวตฺถุปริจฺจาเคน วินา จิตฺตุปฺปาทมตฺเตนปิ ทานมยํ ปุฺํ โหตี’’ติอาทีนิ ปริกปฺเปติ เหตุปติรูปเกหิ วฺจิโต, เอวํภูโต จ สุกฺขตกฺกวิลุตฺตจิตฺโต ปณฺฑิตานํ วจนํ นาทิยติ สฺตฺตึ น คจฺฉติ. เตนาห ‘‘เภสชฺชสมุฏฺิโต วิย โรโค อเตกิจฺโฉ โหตี’’ติ. ยถา เจตฺถ สทฺธาปฺานํ อฺมฺํ วิสมภาโว น อตฺถาวโห, อนตฺถาวโหว, เอวํ, สมาธิวีริยานํ อฺมฺํ วิสมภาโว น อตฺถาวโห, อนตฺถาวโหว, ตถา น อวิกฺเขปาวโห, วิกฺเขปาวโหวาติ. โกสชฺชํ อภิภวติ, เตน อปฺปนํ น ปาปุณาตีติ อธิปฺปาโย. อุทฺธจฺจํ อภิภวตีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ตทุภยนฺติ สทฺธาปฺาทฺวยํ, สมาธิวีริยทฺวยฺจ. สมํ กาตพฺพนฺติ สมรสํ กาตพฺพํ .

สมาธิกมฺมิกสฺสาติ สมถกมฺมฏฺานิกสฺส. เอวนฺติ เอวํ สนฺเต, สทฺธาย โถกํ พลวภาเว สตีติ อตฺโถ. สทฺทหนฺโตติ ‘‘ปถวี ปถวีติ มนสิกรณมตฺเตน กถํ ฌานุปฺปตฺตี’’ติ อจินฺเตตฺวา ‘‘อทฺธา สมฺมาสมฺพุทฺเธน วุตฺตวิธิ อิชฺฌิสฺสตี’’ติ สทฺทหนฺโต สทฺธํ ชเนนฺโต. โอกปฺเปนฺโตติ อารมฺมณํ อนุปวิสิตฺวา วิย อธิมุจฺจนวเสน อวกปฺเปนฺโต ปกฺขนฺทนฺโต. เอกคฺคตา พลวตี วฏฺฏติ สมาธิปฺปธานตฺตา ฌานสฺส. อุภินฺนนฺติ สมาธิปฺานํ. สมาธิกมฺมิกสฺส สมาธิโน อธิมตฺตตาย ปฺาย อธิมตฺตตาปิ อิจฺฉิตพฺพาติ อาห ‘‘สมตายปี’’ติ, สมภาเวนาปีติ อตฺโถ. อปฺปนาติ โลกิยปฺปนา. ตถา หิ ‘‘โหติเยวา’’ติ สาสงฺกํ วทติ. โลกุตฺตรปฺปนา ปน เตสํ สมภาเวเนว อิจฺฉิตา. ยถาห ‘‘สมถวิปสฺสนํ ยุคนนฺธํ ภาเวตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๑๗๐; ปฏิ. ม. ๒.๕).

ยทิ วิเสสโต สทฺธาปฺานํ, สมาธิวีริยานฺจ สมตาว อิจฺฉิตา, กถํ สตีติ อาห ‘‘สติ ปน สพฺพตฺถ พลวตี วฏฺฏตี’’ติ. สพฺพตฺถาติ ลีนุทฺธจฺจปกฺขิเกสุ ปฺจสุ อินฺทฺริเยสุ. อุทฺธจฺจปกฺขิเกกเทเส คณฺหนฺโต ‘‘สทฺธาวีริยปฺาน’’นฺติ อาห. อฺถา ปีติ จ คเหตพฺพา สิยา. ตถา หิ ‘‘โกสชฺชปกฺขิเกน สมาธินา’’ อิจฺเจว วุตฺตํ, น ‘‘ปสฺสทฺธิสมาธิอุเปกฺขาหี’’ติ. สาติ สติ. สพฺเพสุ ราชกมฺเมสุ นิยุตฺโต สพฺพกมฺมิโก. เตนาติ เตน สพฺพตฺถ อิจฺฉิตพฺพฏฺเน การเณน. อาห อฏฺกถายํ. สพฺพตฺถ นิยุตฺตา สพฺพตฺถิกา สพฺพตฺถ ลีเน, อุทฺธเต จ จิตฺเต อิจฺฉิตพฺพตฺตา, สพฺเพ วา ลีเน, อุทฺธเต จ จิตฺเต ภาเวตพฺพา โพชฺฌงฺคา อตฺถิกา เอตายาติ สพฺพตฺถิกา. จิตฺตนฺติ กุสลํ จิตฺตํ. ตสฺส หิ สติ ปฏิสรณํ ปรายณํ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย. เตนาห ‘‘อารกฺขปจฺจุปฏฺานา’’ติอาทิ.

ขนฺธาทิเภเท อโนคาฬฺหปฺานนฺติ ปริยตฺติพาหุสจฺจวเสนปิ ขนฺธายตนาทีสุ อปฺปติฏฺิตพุทฺธีนํ. พหุสฺสุตเสวนา หิ สุตมยาณาวหา. ตรุณวิปสฺสนาสมงฺคีปิ ภาวนามยาเณ ิตตฺตา เอกํสโต ปฺวา เอว นาม โหตีติ อาห ‘‘สมปฺาส ลกฺขณปริคฺคาหิกาย อุทยพฺพยปฺาย สมนฺนาคตปุคฺคลเสวนา’’ติ. เยฺยธมฺมสฺส คมฺภีรภาววเสน ตปฺปริจฺเฉทกาณสฺส คมฺภีรภาวคฺคหณนฺติ อาห ‘‘คมฺภีเรสุ ขนฺธาทีสุ ปวตฺตาย คมฺภีรปฺายา’’ติ. ตฺหิ เยฺยํ ตาทิสาย ปฺาย จริตพฺพโต คมฺภีราณจริยํ, ตสฺสา วา ปฺาย ตตฺถ ปเภทโต ปวตฺติ คมฺภีราณจริยา, ตสฺสา ปจฺจเวกฺขณาติ อาห ‘‘คมฺภีรปฺาย ปเภทปจฺจเวกฺขณา’’ติ. ยถา สติเวปุลฺลปฺปตฺโต นาม อรหา เอว, เอวํ ปฺาเวปุลฺลปฺปตฺโตติปิ โส เอวาติ อาห ‘‘อรหตฺตมคฺเคน ภาวนาปาริปูรี โหตี’’ติ. วีริยาทีสุปิ เอเสว นโย.

‘‘ตตฺตํ อโยขิลํ หตฺเถ คเมนฺตี’’ติอาทินา (ม. นิ. ๓.๒๕๐, ๒๖๗; อ. นิ. ๓.๓๖) วุตฺตปฺจวิธพนฺธนกมฺมการณา นิรเย นิพฺพตฺตสตฺตสฺส เยภุยฺเยน สพฺพปมํ กโรนฺตีติ, เทวทูตสุตฺตาทีสุ ตสฺส อาทิโต วุตฺตตฺตา จ อาห ‘‘ปฺจวิธพนฺธนกมฺมการณโต ปฏฺายา’’ติ. สกฏวหนาทิกาเลติ อาทิ-สทฺเทน ตทฺมนุสฺเสหิ, ติรจฺฉาเนหิ จ วิพาธิยมานกาลํ สงฺคณฺหาติ. ‘‘เอกํ พุทฺธนฺตร’’นฺติ อิทํ อปราปรํ เปเตสุ เอว อุปฺปชฺชนกสตฺตวเสน วุตฺตํ, เอกจฺจานํ วา เปตานํ เอกจฺจติรจฺฉานานํ วิย ตถา ทีฆายุกตาปิ สิยาติ ตถา วุตฺตํ. ตถา หิ ‘‘กาโล นาคราชา จตุนฺนํ พุทฺธานํ สมฺมุขีภาวํ ลภิตฺวา ิโต เมตฺเตยฺยสฺสปิ ภควโต สมฺมุขีภาวํ ลภิสฺสตี’’ติ วทนฺติ, ยํ ตสฺส กปฺปายุกตา วุตฺตา.

อานิสํสทสฺสาวิโนติ ‘‘วีริยายตฺโต เอว สพฺโพ โลกุตฺตโร, โลกิโย จ วิเสสาธิคโม’’ติ เอวํ วีริเย อานิสํสทสฺสนสีลสฺส. คมนวีถินฺติ สปุพฺพภาคํ นิพฺพานคามินึ ปฏิปทํ, สห วิปสฺสนาย อริยมคฺคปฏิปาฏิ , สตฺตวิสุทฺธิปรมฺปรา วา. สา หิ ภิกฺขุโน วฏฺฏนิยฺยานาย คนฺตพฺพา ปฏิปทาติ กตฺวา คมนวีถิ นาม. กายทฬฺหีพหุโลติ ยถา ตถา กายสฺส ทฬฺหีกมฺมปฺปสุโต. ปิณฺฑนฺติ รฏฺปิณฺฑํ. ปจฺจยทายกานํ อตฺตนิ การสฺส อตฺตโน สมฺมาปฏิปตฺติยา มหปฺผลภาวสฺส กรเณน ปิณฺฑสฺส ภิกฺขาย ปฏิปูชนา ปิณฺฑาปจายนํ.

นีหรนฺโตติ ปตฺตถวิกโต นีหรนฺโต. ตํ สทฺทํ สุตฺวาติ ตํ อุปาสิกาย วจนํ อตฺตโน วสนปณฺณสาลทฺวาเร ิโตว ปฺจาภิฺตาย ทิพฺพโสเตน สุตฺวา. มนุสฺสสมฺปตฺติ, ทิพฺพสมฺปตฺติ, นิพฺพานสมฺปตฺตีติ อิมา ติสฺโส สมฺปตฺติโย. ทาตุํ สกฺขิสฺสสีติ ‘‘ตยิ กเตน ทานมเยน, เวยฺยาวจฺจมเยน จ ปุฺกมฺเมน เขตฺตวิเสสภาวูปคมเนน อปราปรํ เทวมนุสฺสสมฺปตฺติโย, อนฺเต นิพฺพานสมฺปตฺติฺจ ทาตุํ สกฺขิสฺสสี’’ติ เถโร อตฺตานํ ปุจฺฉติ. สิตํ กโรนฺโต วาติ ‘‘อกิจฺเฉเนว มยา วฏฺฏทุกฺขํ สมติกฺกนฺต’’นฺติ ปจฺจเวกฺขณาวสาเน สฺชาตปาโมชฺชวเสน สิตํ กโรนฺโต เอว.

วิปฺปฏิปนฺนนฺติ ชาติธมฺมกุลธมฺมาทิลงฺฆเนน อสมฺมาปฏิปนฺนํ. เอวํ ยถา อสมฺมาปฏิปนฺโน ปุตฺโต ตาย เอว อสมฺมาปฏิปตฺติยา กุลสนฺตานโต พาหิโร หุตฺวา ปิตุ สนฺติกา ทายชฺชสฺส น ภาคี, เอวํ. กุสีโตปิ เตน กุสีตภาเวน อสมฺมาปฏิปนฺโน สตฺถุ สนฺติกา ลทฺธพฺพอริยธนทายชฺชสฺส น ภาคี. อารทฺธวีริโยว ลภติ สมฺมาปฏิปชฺชนโต. อุปฺปชฺชติ วีริยสมฺโพชฺฌงฺโคติ โยชนา, เอวํ สพฺพตฺถ.

มหาติ สีลาทีหิ คุเณหิ มหนฺโต วิปุโล อนฺสาธารโณ. ตํ ปนสฺส คุณมหตฺตํ ทสสหสฺสิโลกธาตุกมฺปเนน โลเก ปากฏนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สตฺถุโน หี’’ติอาทิมาห.

ยสฺมา สตฺถุสาสเน ปพฺพชิตสฺส ปพฺพชฺชูปคเมน สกฺยปุตฺตสฺสภาโว สมฺปชายติ, ตสฺมา พุทฺธปุตฺตภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อสมฺภินฺนายา’’ติอาทิมาห.

อลสานํ ภาวนาย นามมตฺตมฺปิ อชานนฺตานํ กายทฬฺหีพหุลานํ ยาวทตฺถํ ภุฺชิตฺวา เสยฺยสุขาทิอนุยุฺชนกานํ ติรจฺฉานกถิกานํ ปุคฺคลานํ ทูรโต วชฺชนา กุสีตปุคฺคลปริวชฺชนา. ‘‘ทิวสํ จงฺกเมน นิสชฺชายา’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๔๒๓; ๓.๖๕; สํ. นิ. ๔.๑๒๐; มหานิ. ๑๖๑) ภาวนารทฺธวเสน อารทฺธวีริยานํ ทฬฺหปรกฺกมานํ กาเลน กาลํ อุปสงฺกมนา อารทฺธวีริยปุคฺคลเสวนา. เตนาห ‘‘กุจฺฉึ ปูเรตฺวา’’ติอาทิ. วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๖๔) ปน ชาติมหตฺตปจฺจเวกฺขณา, สพฺรหฺมจารีมหตฺตปจฺจเวกฺขณาติ อิทํ ทฺวยํ น คหิตํ, ถินมิทฺธวิโนทนตา, สมฺมปฺปธานปจฺจเวกฺขณตาติ อิทํ ทฺวยํ คหิตํ. ตตฺถ อานิสํสทสฺสาวิตาย เอว สมฺมปฺปธานปจฺจเวกฺขณา คหิตา โหติ โลกิยโลกุตฺตรวิเสสาธิคมสฺส วีริยายตฺตตาทสฺสนภาวโต. ถินมิทฺธวิโนทนํ ตทธิมุตฺตตาย เอว คหิตํ โหติ, วีริยุปฺปาทเน ยุตฺตปฺปยุตฺตสฺส ถินมิทฺธวิโนทนํ อตฺถสิทฺธเมว. ตตฺถ ถินมิทฺธวิโนทนกุสีตปุคฺคลปริวชฺชนอารทฺธวีริยปุคฺคลเสวน- ตทธิมุตฺตตาปฏิปกฺขวิธมนปจฺจยูปสํหารวเสน, อปายภยปจฺจเวกฺขณาทโย สมุตฺเตชนวเสน วีริยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทกา ทฏฺพฺพา.

ปุริมุปฺปนฺนา ปีติ ปรโต อุปฺปชฺชนกปีติยา วิเสสการณสภาคเหตุภาวโต ‘‘ปีติเยว ปีติสมฺโพชฺฌงฺคฏฺานียา ธมฺมา’’ติ วุตฺตา, ตสฺสา ปน พหุโส ปวตฺติยา ปุถุตฺตํ อุปาทาย พหุวจนนิทฺเทโส. ยถา สา อุปฺปชฺชติ, เอวํ ปฏิปตฺติ ตสฺสา อุปฺปาทกมนสิกาโร.

‘‘พุทฺธานุสฺสตี’’ติอาทีสุ วตฺตพฺพํ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๑๒๓) วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

พุทฺธานุสฺสติยา อุปจารสมาธินิฏฺตฺตา วุตฺตํ ‘‘ยาว อุปจารา’’ติ. สกลสรีรํ ผรมาโนติ ปีติสมุฏฺาเนหิ ปณีตรูเปหิ สกลสรีรํ ผรมาโน. ธมฺมคุเณ อนุสฺสรนฺตสฺสาปิ ยาว อุปจารา สกลสรีรํ ผรมาโน ปีติสมฺโพชฺฌงฺโค อุปฺปชฺชตีติ โยชนา, เอวํ เสสอนุสฺสตีสุ. ปสาทนียสุตฺตนฺตปจฺจเวกฺขณายฺจ โยเชตพฺพํ ตสฺสาปิ วิมุตฺตายตนภาเวน ตคฺคติกตฺตา. สงฺขารานํ สปฺปเทสวูปสเมปิ นิปฺปเทสวูปสเม วิย ตถา ปฺาย ปวตฺติโต ภาวนามนสิกาโร กิเลสวิกฺขมฺภนสมตฺโถ หุตฺวา อุปจารสมาธึ อาวหนฺโต ตถารูปปีติโสมนสฺสสมนฺนาคโต ปีติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย โหตีติ อาห ‘‘สมาปตฺติยา…เป… ปจฺจเวกฺขนฺตสฺสาปี’’ติ. ตตฺถ ‘‘วิกฺขมฺภิตา กิเลสา’’ติ ปาโ. เต หิ น สมุทาจรนฺตีติ. อิติ-สทฺโท การณตฺโถ, ยสฺมา น สมุทาจรนฺติ, ตสฺมา ตํ เนสํ อสมุทาจารํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺสาติ โยชนา . น หิ กิเลเส ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส โพชฺฌงฺคุปฺปตฺติ ยุตฺตา. ปสาทนีเยสุ าเนสุ ปสาทสิเนหาภาเวน ถูสสมหทยตา ลูขตา, สา ตตฺถ อาทรคารวากรเณน วิฺายตีติ อาห ‘‘อสกฺกจฺจกิริยาย สํสูจิตลูขภาเว’’ติ.

กายจิตฺตทรถวูปสมลกฺขณา ปสฺสทฺธิ เอว ยถาวุตฺตโพธิองฺคภูโต ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺโค, ตสฺส ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส เอวํ อุปฺปาโท โหตีติ โยชนา.

ปณีตโภชนเสวนตาติ ปณีตสปฺปายโภชนเสว นตา . อุตุอิริยาปถสุขคฺคหเณน สปฺปายอุตุอิริยาปถคฺคหณํ ทฏฺพฺพํ. ตฺหิ ติวิธมฺปิ สปฺปายํ เสวิยมานํ กายสฺส กลฺลตาปาทนวเสน จิตฺตสฺส กลฺลตํ อาวหนฺตํ ทุวิธายปิ ปสฺสทฺธิยา การณํ โหติ. อเหตุกํ สตฺเตสุ ลพฺภมานํ สุขทุกฺขนฺติ อยเมโก อนฺโต, อิสฺสราทิวิสมเหตุกนฺติ ปน อยํ ทุติโย. เอเต อุโภ อนฺเต อนุปคมฺม ยถาสกํ กมฺมุนา โหตีติ อยํ มชฺฌิมา ปฏิปตฺติ. มชฺฌตฺโต ปโยโค ยสฺส โส มชฺฌตฺตปโยโค, ตสฺส ภาโว มชฺฌตฺตปโยคตา. อยฺหิ ปหาย สารทฺธกายตํ ปสฺสทฺธกายตาย การณํ โหนฺตี ปสฺสทฺธิทฺวยํ อาวหติ, เอเตเนว สารทฺธกายปุคฺคลปริวชฺชนปสฺสทฺธกายปุคฺคลเสวนานํ ตทาวหนตา สํวณฺณิตาติ ทฏฺพฺพํ.

ยถาสมาหิตาการสลฺลกฺขณวเสน คยฺหมาโน ปุริมุปฺปนฺโน สมโถ เอว สมถนิมิตฺตํ. นานารมฺมเณ ปริพฺภมเนน วิวิธํ อคฺคํ เอตสฺสาติ พฺยคฺโค, วิกฺเขโป. ตถา หิ โส อนวฏฺานรโส, ภนฺตตาปจฺจุปฏฺาโน จ วุตฺโต, เอกคฺคตาภาวโต พฺยคฺคปฏิปกฺโขติ อพฺยคฺโค, สมาธิ. โส เอว นิมิตฺตนฺติ ปุพฺเพ วิย วตฺตพฺพํ. เตนาห ‘‘อวิกฺเขปฏฺเน จ อพฺยคฺคนิมิตฺต’’นฺติ.

วตฺถุวิสทกิริยา, อินฺทฺริยสมตฺตปฏิปาทนา จ ปฺาวหา วุตฺตา, สมาธานาวหาปิ ตา โหนฺติ สมาธานาวหภาเวเนว ปฺาวหภาวโตติ วุตฺตํ ‘‘วตฺถุวิสท…เป… เวทิตพฺพา’’ติ.

กรณภาวนาโกสลฺลานํ อวินาภาวโต, รกฺขนโกสลฺลสฺส จ ตํมูลกตฺตา ‘‘นิมิตฺตกุสลตา นาม กสิณนิมิตฺตสฺส อุคฺคหณกุสลตา’’ อิจฺเจว วุตฺตํ. กสิณนิมิตฺตสฺสาติ จ นิทสฺสนมตฺตํ ทฏฺพฺพํ. อสุภนิมิตฺตสฺสาปิ หิ ยสฺส กสฺสจิ ฌานุปฺปตฺตินิมิตฺตสฺส อุคฺคหณโกสลฺลํ นิมิตฺตกุสลตา เอวาติ. อติสิถิลวีริยตาทีหีติ อาทิ-สทฺเทน ปฺาปโยคมนฺทตํ , ปโมทเวกลฺลฺจ สงฺคณฺหาติ. ตสฺส ปคฺคณฺหนนฺติ ตสฺส ลีนสฺส จิตฺตสฺส ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคาทิสมุฏฺาปเนน ลยาปตฺติโต สมุทฺธรณํ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา –

‘‘ยสฺมิฺจ โข, ภิกฺขเว, สมเย ลีนํ จิตฺตํ โหติ, กาโล ตสฺมึ สมเย ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย, กาโล วีริยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย, กาโล ปีติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย. ตํ กิสฺส เหตุ? ลีนํ, ภิกฺขเว, จิตฺตํ ตํ เอเตหิ ธมฺเมหิ สุสมุฏฺาปยํ โหติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ปุริโส ปริตฺตํ อคฺคึ อุชฺชาลิตุกาโม อสฺส, โส ตตฺถ สุกฺขานิ เจว ติณานิ ปกฺขิเปยฺย, สุกฺขานิ โคมยานิ ปกฺขิเปยฺย, สุกฺขานิ กฏฺานิ ปกฺขิเปยฺย, มุขวาตฺจ ทเทยฺย, น จ ปํสุเกน โอกิเรยฺย, ภพฺโพ นุ โข โส ปุริโส ปริตฺตํ อคฺคึ อุชฺชาลิตุนฺติ. เอวํ ภนฺเต’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๔).

เอตฺถ จ ยถาสกํ อาหารวเสน ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคาทีนํ ภาวนาสมุฏฺาปนาติ เวทิตพฺพา, สา อนนฺตรํ วิภาวิตา เอว. อารทฺธวีริยตาทีหีติ อาทิ-สทฺเทน ปฺาปโยคพลวตํ, ปโมทุพฺพิลาวนฺจ สงฺคณฺหาติ. ตสฺส นิคฺคณฺหนนฺติ ตสฺส อุทฺธตสฺส จิตฺตสฺส สมาธิสมฺโพชฺฌงฺคาทิสมุฏฺาปเนน อุทฺธตาปตฺติโต นิเสธนํ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ภควตา –

‘‘ยสฺมิฺจ โข, ภิกฺขเว, สมเย อุทฺธตํ จิตฺตํ โหติ, กาโล ตสฺมึ สมเย ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย, กาโล สมาธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย, กาโล อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย. ตํ กิสฺส เหตุ? อุทฺธตํ, ภิกฺขเว, จิตฺตํ ตํ เอเตหิ ธมฺเมหิ สุวูปสมยํ โหติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ปุริโส มหนฺตํ อคฺคิกฺขนฺธํ นิพฺพาเปตุกาโม อสฺส, โส ตตฺถ อลฺลานิ เจว ติณานิ…เป… ปํสุเกน จ โอกิเรยฺย, ภพฺโพ นุ โข โส ปุริโส มหนฺตํ อคฺคิกฺขนฺธํ นิพฺพาเปตุนฺติ. เอวํ ภนฺเต’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๔).

เอตฺถาปิ ยถาสกํ อาหารวเสน ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคาทีนํ ภาวนาสมุฏฺาปนาติ เวทิตพฺพา, ตตฺถ ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนา วุตฺตา เอว. สมาธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อนนฺตรํ วกฺขติ. ปฺาปโยคมนฺทตายาติ ปฺาพฺยาปารสฺส อปฺปภาเวน. ยถา หิ ทานํ อโลภปธานํ, สีลํ อโทสปธานํ, เอวํ ภาวนา อโมหปธานา. ตตฺถ ยทา ปฺา น พลวตี โหติ, ตทา ภาวนา ปุพฺเพนาปรํ วิเสสาวหา น โหติ, อนภิสงฺขโต วิย อาหาโร ปุริสสฺส โยคิโน จิตฺตสฺส อภิรุจึ น ชเนติ, เตน ตํ นิรสฺสาทํ โหติ, ตถา ภาวนาย สมฺมเทว อวีถิปฏิปตฺติยา อุปสมสุขํ น วินฺทติ, เตนาปิ จิตฺตํ นิรสฺสาทํ โหติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ปฺาปโยค…เป… นิรสฺสาทํ โหตี’’ติ. ตสฺส สํเวคุปฺปาทนํ, ปสาทุปฺปาทนฺจ ติกิจฺฉนนฺติ ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อฏฺ สํเวควตฺถูนี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ชาติชราพฺยาธิมรณานิ ยถารหํ สุคติยํ, ทุคฺคติยฺจ โหนฺตีติ ตทฺเมว ปฺจวิธพนฺธนาทิขุปฺปิปาสาทิ อฺมฺํ วิพาธนาทิเหตุกํ อปายทุกฺขํ ทฏฺพฺพํ, ตยิทํ สพฺพํ เตสํ เตสํ สตฺตานํ ปจฺจุปฺปนฺนภวนิสฺสิตํ คหิตนฺติ อตีเต อนาคเต จ กาเล วฏฺฏมูลกทุกฺขานิ วิสุํ คหิตานิ. เย ปน สตฺตา อาหารูปชีวิโน, ตตฺถ จ อุฏฺานผลูปชีวิโน, เตสํ อฺเหิ อสาธารณํ ชีวิกาทุกฺขํ อฏฺมํ สํเวควตฺถุ คหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. อยํ วุจฺจติ สมเย สมฺปหํสนาติ อยํ ภาวนาจิตฺตสฺส สมฺปหํสิตพฺพสมเย วุตฺตนเยน สํเวคชนนวเสน เจว ปสาทุปฺปาทนวเสน จ สมฺมเทว ปหํสนา, สํเวคชนนปุพฺพกปสาทุปฺปาทเนน โตสนาติ อตฺโถ.

สมฺมาปฏิปตฺตึ อาคมฺมาติ ลีนุทฺธจฺจวิรเหน, สมถวีถิปฏิปตฺติยา จ สมฺมา อวิสมํ สมฺมเทว ภาวนาปฏิปตฺตึ อาคมฺม. ‘‘อลีน’’นฺติอาทีสุ โกสชฺชปกฺขิกานํ ธมฺมานํ อนธิมตฺตตาย อลีนํ, อุทฺธจฺจปกฺขิกานํ อนธิมตฺตตาย อนุทฺธตํ, ปฺาปโยคสมฺปตฺติยา, อุปสมสุขาธิคเมน จ อนิรสฺสาทํ, ตโต เอว อารมฺมเณ สมปฺปวตฺตํสมถวีถิปฏิปนฺนํ. ตตฺถ อลีนตาย ปคฺคเห, อนุทฺธตตาย นิคฺคเห, อนิรสฺสาทตาย สมฺปหํสเน น พฺยาปารํ อาปชฺชติ. อลีนานุทฺธตตา หิ อารมฺมเณ สมปฺปวตฺตํ, อนิรสฺสาทตาย สมถวีถิปฏิปนฺนํ, สมปฺปวตฺติยา วา อลีนํ อนุทฺธตํ. สมถวีถิปฏิปตฺติยา อนิรสฺสาทนฺติ ทฏฺพฺพํ. อยํ วุจฺจติ สมเย อชฺฌุเปกฺขนตาติ อยํ อชฺฌุเปกฺขิตพฺพสมเย ภาวนาจิตฺตสฺส ปคฺคหนิคฺคหสมฺปหํสเนสุ อพฺยาวฏตาสงฺขาตํ ปฏิปกฺขํ อภิภุยฺย เปกฺขนา วุจฺจติ. ปฏิปกฺขวิกฺขมฺภนโต, วิปสฺสนาย อธิฏฺานภาวูปคมนโต จ อุปจารชฺฌานมฺปิ สมาธาน กิจฺจนิปฺผตฺติยา ปุคฺคลสฺส สมาหิตภาวสาธนํ เอวาติ ตตฺถ สมธุรภาเวนาห ‘‘อุปจารํ วา อปฺปนํ วา’’ติ.

อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคฏฺานียา ธมฺมาติ เอตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตนยานุสาเรน เวทิตพฺพํ. อนุโรธวิโรธวิปฺปหานวเสน มชฺฌตฺตภาโว อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคสฺส การณํ ตสฺมึ สติ สิชฺฌนโต, อสติ จ อสิชฺฌนโต. โส จ มชฺฌตฺตภาโว วิสยวเสน ทุวิโธติ อาห ‘‘สตฺตมชฺฌตฺตตา สงฺขารมชฺฌตฺตตา’’ติ. ตทุภเย จ วิรุชฺฌนํ ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคภาวนาย เอว ทูรีกตนฺติ อนุรุชฺฌนสฺเสว ปหานวิธึ ทสฺเสตุํ ‘‘สตฺตมชฺฌตฺตตา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘สตฺตสงฺขารเกลายนปุคฺคลปริวชฺชนตา’’ติ. อุเปกฺขาย หิ วิเสสโต ราโค ปฏิปกฺโข. ตถา จาห ‘‘อุเปกฺขา ราคพหุลสฺส วิสุทฺธิมคฺโค’’ติ (วิสุทฺธิ. ๑.๒๖๗). ทฺวีหากาเรหีติ กมฺมสฺสกตาปจฺจเวกฺขณํ, อตฺตสุฺตาปจฺจเวกฺขณนฺติ อิเมหิ ทฺวีหิ การเณหิ. ทฺวีเหวาติ อวธารณํ สงฺขฺยาสมานตาทสฺสนตฺถํ. สงฺขฺยา เอเวตฺถ สมานา, น สงฺขฺเยยฺยํ สพฺพถา สมานนฺติ. อสฺสามิกภาโว อนตฺตนิยตา. สติ หิ อตฺตนิ ตสฺส กิฺจนภาเวน จีวรํ, อฺํ วา กิฺจิ อตฺตนิยํ นาม สิยา, โส ปน โกจิ นตฺเถวาติ อธิปฺปาโย. อนทฺธนิยนฺติ น อทฺธานกฺขมํ น จิรฏฺายิ, อิตฺตรํ อนิจฺจนฺติ อตฺโถ. ตาวกาลิกนฺติ ตสฺเสว เววจนํ.

มมายตีติ มมตฺตํ กโรติ ‘‘มมา’’ติ ตณฺหาย ปริคฺคยฺห ติฏฺติ.

มมายนฺตาติ มานํ ทพฺพํ กโรนฺตา.

อยํ สติปฏฺานเทสนา ปุพฺพภาคมคฺควเสน เทสิตาติ ปุพฺพภาคิยโพชฺฌงฺเค สนฺธายาห ‘‘โพชฺฌงฺคปริคฺคาหิกา สติ ทุกฺขสจฺจ’’นฺติ. เสสํ วุตฺตนยตฺตา สุวิฺเยฺยเมว.

โพชฺฌงฺคปพฺพวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปมภาณวารวณฺณนา นิฏฺิตา.

จตุสจฺจปพฺพวณฺณนา

๓๘๖. ยถาสภาวโตติ อวิปรีตสภาวโต. พาธนกฺขณโต โย โย วา สภาโว ยถาสภาโว, ตโต, รุปฺปนาทิ กกฺขฬาทิสภาวโตติ อตฺโถ. ชนิกํ สมุฏฺาปิกนฺติ ปวตฺตลกฺขณสฺส ทุกฺขสฺส ชนิกํ นิมิตฺตลกฺขณสฺส สมุฏฺาปิกํ. ปุริมตณฺหนฺติ ยถาปริคฺคหิตสฺส ทุกฺขสฺส นิพฺพตฺติโต ปุเรตรํ สิทฺธํ ตณฺหํ. สิทฺเธ หิ การเณ ตสฺส ผลุปฺปตฺติ. อยํ ทุกฺขสมุทโยติ ปชานาตีติ โยชนา. อยํ ทุกฺขนิโรโธติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. อุภินฺนํ อปฺปวตฺตินฺติ ทุกฺขํ, สมุทโย จาติ ทฺวินฺนํ อปฺปวตฺตินิมิตฺตํ, ตทุภยํ น ปวตฺติ เอตายาติ อปฺปวตฺติ, อสงฺขตา ธาตุ. ทุกฺขํ ทุกฺขสจฺจํ ปริชานาติ ปริฺาภิสมยวเสน ปริจฺฉินฺทตีติ ทุกฺขปริชานโน, อริยมคฺโค, ตํ ทุกฺขปริชานนํ. เสสปททฺวเยปิ อิมินา นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

ทุกฺขสจฺจนิทฺเทสวณฺณนา

๓๘๘. เอวํ วุตฺตาติ เอวํ อุทฺเทสวเสน วุตฺตา. สพฺพสตฺตานํ ปริยาทานวจนํ พฺยาปนิจฺฉาวเสน อาเมฑิตนิทฺเทสภาวโต. สตฺตนิกาเยติ สตฺตานํ นิกาเย, สตฺตฆเฏ สตฺตสมูเหติ อตฺโถ. เทวมนุสฺสาทิเภทาสุ หิ คตีสุ ภุมฺมเทวาทิขตฺติยาทิหตฺถิอาทิขุปฺปิปาสิกาทิตํตํชาติวิสิฏฺโ สตฺตสมูโห สตฺตนิกาโย. นิปฺปริยายโต ขนฺธานํ ปมาภินิพฺพตฺติ ชาตีติ กตฺวา ‘‘ชนนํ ชาตี’’ติ วตฺวา สฺวายํ อุปฺปาทวิกาโร อปรินิปฺผนฺโน เยสุ ขนฺเธสุ อิจฺฉิตพฺโพ, เต เตเนว สทฺธึ ทสฺเสตุํ ‘‘สวิการาน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. สวิการานนฺติ อุปฺปาทสงฺขาเตน วิกาเรน สวิการานํ. ชาติอาทีนิ หิ ตีณิ ลกฺขณานิ ธมฺมานํ วิการวิเสสาติ. ‘‘อุปสคฺคมณฺฑิตเววจน’’นฺติ อิมินา เกวลํ อุปสคฺเคน ปทวฑฺฒนํ กตนฺติ ทสฺเสติ. อนุปวิฏฺากาเรนาติ อณฺฑโกสํ, วตฺถิโกสฺจ โอคาหนากาเรน. นิพฺพตฺติสงฺขาเตนาติ อายตนานํ ปาริปูริสํสิทฺธิสงฺขาเตน.

อถ วา ชนนํ ชาตีติ อปริปุณฺณายตนํ ชาติมาห. สฺชาตีติ สมฺปุณฺณายตนํ. สมฺปุณฺณา หิ ชาติ สฺชาติ. โอกฺกมนฏฺเน โอกฺกนฺตีติ อณฺฑชชลาพุชวเสน ชาติ. เต หิ อณฺฑโกสํ, วตฺถิโกสฺจ โอกฺกมนฺตา ปวิสนฺตา วิย ปฏิสนฺธึ คณฺหนฺติ. อภินิพฺพตฺตนฏฺเน อภินิพฺพตฺตีติ สํเสทชโอปปาติกวเสน. เต หิ ปากฏา เอว หุตฺวา นิพฺพตฺตนฺติ. อภิพฺยตฺตา นิพฺพตฺติ อภินิพฺพตฺติ. ‘‘ชนนํ ชาตี’’ติอาทิ อายตนวเสน, โยนิวเสน จ ทฺวีหิ ทฺวีหิ ปเทหิ สพฺพสตฺเต ปริยาทิยิตฺวา ชาตึ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ‘‘เตสํ เตสํ สตฺตานํ…เป… อภินิพฺพตฺตี’’ติ สตฺตวเสน วุตฺตตฺตา สมฺมุติกถา. ปาตุภาโวติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท อาทิอตฺโถ, ปการตฺโถ วา, เตน ‘‘อายตนานํ ปฏิลาโภ’’ติ อิมสฺส ปทสฺส สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. อยมฺปิ หิ ปรมตฺถกถาติ. เอกโวการภวาทีสูติ เอกจตุปฺจโวการภเวสุ. ตสฺมึ ขนฺธานํ ปาตุภาเว สติ. อายตนานํ ปฏิลาโภติ เอกจตุโวการภเวสุ ทฺวินฺนํ ทฺวินฺนํ อายตนานํ วเสน, เสเสสุ รูปธาตุยํ ปฏิสนฺธิกฺขเณ อุปฺปชฺชมานานํ ปฺจนฺนํ, กามธาตุยํ วิกลาวิกลินฺทฺริยานํ วเสน สตฺตนฺนํ, นวนฺนํ, ทสนฺนํ, ปุนทสนฺนํ, เอกาทสนฺนฺจ อายตนานํ วเสน สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. ปาตุภวนฺตาเนว, น กุโตจิ อาคตานิ. ปฏิลทฺธานิ นาม โหนฺติ สตฺตสนฺตานสฺส ตสฺส สํวิชฺชมานตฺตา. อายตนานํ ปฏิลาโภติ วา อายตนานํ อตฺตลาโภ เวทิตพฺโพ.

๓๘๙. สภาวนิทฺเทโสติ สรูปนิทฺเทโส. สรูปฺเหตํ ชิณฺณตาย, ยทิทํ ‘‘ชรา’’ติ, ‘‘วโยหานีติ วา. ชีรณเมว ชีรณตา, ชีรนฺตสฺส วา อากาโร ตา-สทฺเทน วุตฺโตติ อาห ‘‘อาการภาวนิทฺเทโส’’ติ. ขณฺฑิตทนฺตา ขณฺฑิตา นาม อุตฺตรปทโลเปน. ยสฺส วิการสฺส วเสน สตฺโต ‘‘ขณฺฑิโต’’ติ วุจฺจติ, ตํ ขณฺฑิจฺจํ. ตถา ปลิตานิ อสฺส สนฺตีติ ‘‘ปลิโต’’ติ วุจฺจติ, ตํ ปาลิจฺจํ. วลิตฺตจตาย วา วลิ ตโจ อสฺสาติ วลิตฺตโจ.

ผลูปจาเรนาติ ผลโวหาเรน.

๓๙๐. จวนเมว จวนตา, จวนฺตสฺส วา อากาโร ตา-สทฺเทน วุตฺโต. ขนฺธา ภิชฺชนฺตีติ เอกภวปริยาปนฺนสฺส ขนฺธสนฺตานสฺส ปริโยสานภูตา ขนฺธา ภิชฺชนฺติ, เตเนว เภเทน นิโรธนํ อทสฺสนํ คจฺฉนฺติ, ตสฺมา เภโท อนฺตรธานํ มรณํ. มจฺจุมรณนฺติ มจฺจุสงฺขาตํ เอกภวปริยาปนฺนชีวิตินฺทฺริยุปจฺเฉทภูตํ มรณํ. เตนาห ‘‘น ขณิกมรณ’’นฺติ. ‘‘มจฺจุ มรณ’’นฺติ สมาสํ อกตฺวา โย ‘‘มจฺจู’’ติ วุจฺจติ เภโท, ยฺจ มรณํ ปาณจาโค, อิทํ วุจฺจติ มรณนฺติ วิสุํ สมฺพนฺโธ น น ยุชฺชติ. กาลกิริยาติ มรณกาโล, อนติกฺกมนียตฺตา วิเสเสน ‘‘กาโล’’ติ วุตฺโตติ ตสฺส กิริยา, อตฺถโต จุติขนฺธานํ เภทปฺปตฺติเยว, กาลสฺส วา อนฺตกสฺส กิริยาติ ยา โลเก วุจฺจติ, สา จุติ, มรณนฺติ อตฺโถ. อยํ สพฺพาปิ สมฺมุติกถาว ‘‘ยํ เตสํ เตสํ สตฺตาน’’นฺติอาทินา สตฺตวเสน วุตฺตตฺตา. อยํ ปรมตฺถกถา ปรมตฺถโต ลพฺภมานานํ รุปฺปนาทิสภาวานํ ธมฺมานํ วินสฺสนโชตนาภาวโต.

อตฺตาติ ภวติ เอตฺถ จิตฺตนฺติ อตฺตภาโว, ขนฺธสมูโห, ตสฺส นิกฺเขโป นิกฺขิปนํ, ปาตนํ วินาโสติ อตฺโถ. อฏฺกถายํปน ‘‘มรณํ ปตฺตสฺสา’’ติอาทินา นิกฺเขปเหตุตาย ปตนํ ‘‘นิกฺเขโป’’ติ ผลูปจาเรน วุตฺตนฺติ ทสฺเสติ. ‘‘ขนฺธานํ เภโท’’ติ ปพนฺธวเสน ปวตฺตมานสฺส ธมฺมสมูหสฺส วินาสโชตนาติ เอกเทสโต ปรมตฺถกถา, ‘‘ชีวิตินฺทฺริยสฺส อุปจฺเฉโท’’ติ ปเนตฺถ น โกจิ โวหารเลโส ปีติ อาห ‘‘ชีวิตินฺทฺริยสฺส อุปจฺเฉโท ปน สพฺพาการโต ปรมตฺถโต มรณ’’นฺติ. เอวํ สนฺเตปิ ยสฺส ขนฺธเภทสฺส ปวตฺตตฺตา ‘‘ติสฺโส มโต, ผุสฺโส มโต’’ติ โวหาโร โหติ, โส เภโท ขนฺธปฺปพนฺธสฺส อนุปจฺฉินฺนตาย ‘‘สมฺมุติมรณ’’นฺติ วตฺตพฺพตํ อรหตีติ อาห ‘‘เอตเทว สมฺมุติมรณนฺติปิ วุจฺจตี’’ติ. เตนาห ‘‘ชีวิตินฺทฺริยุปจฺเฉทเมว หี’’ติอาทิ. สพฺพโส ปพนฺธสมุจฺเฉโท หิ สมุจฺเฉทมรณนฺติ.

๓๙๑. พฺยสเนนาติ อนตฺเถน. ‘‘ธมฺมปฏิสมฺภิทา’’ติอาทีสุ (วิภ. ๗๒๑) วิย ธมฺม-สทฺโท เหตุปริยาโยติ อาห ‘‘ทุกฺขการเณนา’’ติ. โสจนนฺติ ลกฺขิตพฺพตาย โสจนลกฺขโณ. โสจิตสฺส โสจนกสฺส ปุคฺคลสฺส, จิตฺตสฺส วา ภาโว โสจิตภาโว. อพฺภนฺตเรติ อตฺตภาวสฺส อนฺโต. อตฺตโน ลูขสภาวตาย โสเสนฺโต. ถามคมเนน สมนฺตโต โสสนวเสน ปริโสเสนฺโต.

๓๙๒. ‘‘อาทิสฺส อาทิสฺส เทวนฺติ ปริเทวนฺติ เอเตนาติ อาเทโว’’ติ อาเทวน-สทฺทํ กตฺวา อสฺสุโมจนาทิวิการํ อาปชฺชนฺตานํ ตพฺพิการาปตฺติยา โส สทฺโท การณภาเวน วุตฺโต. ตํตํ วณฺณนฺติ ตํ ตํ คุณํ. ตสฺเสวาติ อาเทวปริเทวสฺเสว. ภาวนิทฺเทสาติ ‘‘อาเทวิตตฺตํ ปริเทวิตตฺต’’นฺติ ภาวนิทฺเทสา.

๓๙๓. นิสฺสยภูโต กาโย เอตสฺส อตฺถีติ กายิกํ. เตนาห ‘‘กายปสาทวตฺถุก’’นฺติ. ทุกฺกรํ ขมนํ เอตสฺสาติ ทุกฺขมนํ, โส เอว อตฺโถ สภาโวติ ทุกฺขมนฏฺโ, เตน. สาตวิธุรตาย อสาตํ.

๓๙๔. เจตสิ ภวนฺติ เจตสิกํ, ตํ ปน ยสฺมา จิตฺเตน สมํ ปกาเรหิ ยุตฺตํ, ตสฺมา อาห ‘‘จิตฺตสมฺปยุตฺต’’นฺติ.

๓๙๕. สพฺพวิสยปฏิปตฺตินิวารณวเสน สมนฺตโต สีทนํ สํสีทนํ. อุฏฺาตุมฺปิ อสกฺกุเณยฺยตากรณวเสน อติพลวํ, วิรูปํ วา สีทนํ วิสีทนํ. จิตฺตกิลมโถติ วิสีทนากาเรน จิตฺตสฺส ปริเขโท. อุปายาโส, สยํ น ทุกฺโข โทสตฺตา, สงฺขารกฺขนฺธปริยาปนฺนธมฺมนฺตรตฺตา วา. เย ปน โทมนสฺสเมว ‘‘อุปายาโส’’ติ วเทยฺยุํ, เต ‘‘อุปายาโส ตีหิ ขนฺเธหิ เอเกนายตเนน เอกาย ธาตุยา สมฺปยุตฺโต, เอเกน ขนฺเธน เอเกนายตเนน เอกาย ธาตุยา เกหิจิ สมฺปยุตฺโต’’ติ (ธาตุ. ๒๔๙). อิมาย ปาฬิยา ปฏิกฺขิปิตพฺพา. อุป-สทฺโท ภุสตฺโถติ อาห ‘‘พลวตรํ อายาโส อุปายาโส’’ติ. ธมฺมมตฺตตาทีปโน ภาวนิทฺเทโส ธมฺมโต อฺสฺส กตฺตุอภาวโชตโน, อสติ จ กตฺตริ เตน กตฺตพฺพสฺส, ปริคฺคเหตพฺพสฺส จ อภาโว เอวาติ อาห ‘‘อตฺตตฺตนิยาภาวทีปกาภาวนิทฺเทสา’’ติ.

๓๙๘. ชาติธมฺมานนฺติ เอตฺถ ธมฺม-สทฺโท ปกติปริยาโยติ อาห ‘‘ชาติสภาวาน’’นฺติ, ชายนปกติกานนฺติ วุตฺตํ โหติ. มคฺคภาวนาย มคฺคภาวนิจฺฉาเหตุกตา อิจฺฉิตพฺพาติ ตาทิสํ อิจฺฉํ นิวตฺเตนฺโต ‘‘วินา มคฺคภาวน’’นฺติ อาห. อปโร นโย น โข ปเนตนฺติ ยเมตํ ‘‘อโห วต มยํ น ชาติธมฺมา อสฺสาม, น จ วต โน ชาติ อาคจฺเฉยฺยา’’ติ เอวํ ปหีนสมุทเยสุ อริเยสุ วิชฺชมานํ อชาติธมฺมตฺตํ, ปรินิพฺพุเตสุ จ วิชฺชมานํ ชาติยา อนาคมนํ อิจฺฉิตํ, ตํ อิจฺฉนฺตสฺสาปิ มคฺคภาวนาย วินา อปฺปตฺตพฺพโต , อนิจฺฉนฺตสฺสาปิ ภาวนาย ปตฺตพฺพโต น อิจฺฉาย ปตฺตพฺพํ นาม โหตีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. วกฺขมานตฺถสมฺปิณฺฑนตฺโถ ปิ-สทฺโทติ อาห ‘‘อุปริ เสสานิ อุปาทาย ปิ-กาโร’’ติ. นฺติ เหตุอตฺเถ กรเณ ปจฺจตฺตวจนนฺติ อาห ‘‘เยนปิ ธมฺเมนา’’ติ. เหตุอตฺโถ หิ อยํ ธมฺม-สทฺโท , อลพฺภเนยฺยภาโว เอตฺถ เหตุ เวทิตพฺโพ. นฺติ วา อิจฺฉิตสฺส วตฺถุโน อลพฺภนํ, เอวเมตฺถ ‘‘ยมฺปีติ เยนปี’’ติ วิภตฺติวิปลฺลาเสน อตฺโถ วุตฺโต. ยทา ปน ยํ-สทฺโท ‘‘อิจฺฉ’’นฺติ เอตํ อเปกฺขติ, ตทา อลาภวิสิฏฺา อิจฺฉา วุตฺตา โหติ. ยทา ปน ‘‘น ลภตี’’ติ เอตํ อเปกฺขติ, ตทา อิจฺฉาวิสิฏฺโ อลาโภ วุตฺโต โหติ, โส ปน อตฺถโต อฺโ ธมฺโม นตฺถิ, ตถาปิ อลพฺภเนยฺยวตฺถุคตา อิจฺฉาว วุตฺตา โหติ. สพฺพตฺถาติ ‘‘ชราธมฺมาน’’นฺติอาทินา อาคเตสุ สพฺพวาเรสุ.

สมุทยสจฺจนิทฺเทสวณฺณนา

๔๐๐. ปุนพฺภวกรณํ ปุโนพฺภโว อุตฺตรปทโลปํ กตฺวา มโน-สทฺทสฺส วิย ปุริมปทสฺส โอ-การนฺตตา ทฏฺพฺพา. อถ วา สีลนฏฺเน อิก-สทฺเทน คมิตตฺถตฺตา กิริยาวาจกสฺส สทฺทสฺส อทสฺสนํ ทฏฺพฺพํ ยถา ‘‘อสูปภกฺขนสีโล อสูปิโก’’ติ. สมฺโมหวิโนทนิยํ ปน ‘‘ปุนพฺภวํ เทติ, ปุนพฺภวาย สํวตฺตติ, ปุนปฺปุนํ ภเว นิพฺพตฺเตตีติ โปโนพฺภวิกา’’ติ (วิภ. อฏฺ. ๒๐๓) อตฺโถ วุตฺโต โส ‘‘ตทฺธิตา’’ อิติ พหุวจนนิทฺเทสโต, วิจิตฺตตฺตา วา ตทฺธิตวุตฺติยา, อภิธานลกฺขณตฺตา วา ตทฺธิตานํ เตสุปิ อตฺเถสุ โปโนพฺภวิกสทฺทสิทฺธิ สมฺภเวยฺยาติ กตฺวา วุตฺโต. ตตฺถ กมฺมุนา สหชาตา ปุนพฺภวํ เทติ, อสหชาตา กมฺมสหายภูตา ปุนพฺภวาย สํวตฺตติ, ทุวิธาปิ ปุนปฺปุนํ ภเว นิพฺพตฺเตตีติ ทฏฺพฺพา. นนฺทนฏฺเน, รฺชนฏฺเน จ นนฺทีราโค, โย จ นนฺทีราโค, ยา จ ตณฺหายนฏฺเน ตณฺหา, อุภยเมตํ เอกตฺถํ, พฺยฺชนเมว นานนฺติ ตณฺหา ‘‘นนฺทีราเคน สทฺธึ อตฺถโต เอกตฺตเมว คตา’’ติ วุตฺตา. ตพฺภาวตฺโถ เหตฺถ สห-สทฺโท ‘‘สนิทสฺสนา ธมฺมา’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ทุกมาติกา ๙) วิย. ตสฺมา นนฺทีราคสหคตาติ นนฺทีราคภาวํ คตา สพฺพาสุปิ อวตฺถาสุ นนฺทีราคภาวสฺส อปจฺจกฺขาย วตฺตนโตติ อตฺโถ. ราคสมฺพนฺเธน อุปฺปนฺนสฺสาติ วุตฺตํ. รูปารูปภวราคสฺส วิสุํ วุจฺจมานตฺตา กามภเว เอว ภวปตฺถนุปฺปตฺติ วุตฺตาติ เวทิตพฺพา.

ตสฺมึ ตสฺมึ ปิยรูเป ปมุปฺปตฺติวเสน ‘‘อุปฺปชฺชตี’’ติ วุตฺตํ, ปุนปฺปุนํ ปวตฺติวเสน ‘‘นิวิสตี’’ติ. ปริยุฏฺานานุสยวเสน วา อุปฺปตฺตินิเวสา โยเชตพฺพา. สมฺปตฺติยนฺติ มนุสฺสโสภคฺเค, เทวตฺเต จ. อตฺตโน จกฺขุนฺติ สวตฺถุกํ จกฺขุํ วทติ, สปสาทํ วา มํสปิณฺฑํ. วิปฺปสนฺนํ ปฺจปสาทนฺติ ปริสุทฺธสุปฺปสนฺนนีลปีตโลหิตกณฺหโอทาตวณฺณวนฺตํ. รชตปนาฬิกํ วิย ฉิทฺทํ อพฺภนฺตเร โอทาตตฺตา. ปามงฺคสุตฺตํ วิย อาลมฺพกณฺณพทฺธํ. ตุงฺคา อุจฺจา ทีฆา นาสิกา ตุงฺคนาสา, เอวํ ลทฺธโวหารํ อตฺตโน ฆานํ. ‘‘ลทฺธโวหารา’’ติ วา ปาโ, ตสฺมึ สติ ตุงฺคา นาสา เยสํ เต ตุงฺคนาสา, เอวํ ลทฺธโวหารา สตฺตา อตฺตโน ฆานนฺติ โยชนา กาตพฺพา. ชิวฺหํ…เป… มฺนฺติ วณฺณสณฺานโต, กิจฺจโต จ. กายํ…เป… มฺนฺติ อาโรหปริณาหสมฺปตฺติยา. มนํ…เป… มฺนฺติ อตีตาทิอตฺถจินฺตนสมตฺถํ. อตฺตนา ปฏิลทฺธานิ อชฺฌตฺตฺจ สรีรคนฺธาทีนิ, พหิทฺธา จ วิเลปนคนฺธาทีนิ. อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชตีติ ยทา อุปฺปชฺชมานา โหติ, ตทา เอตฺถ อุปฺปชฺชตีติ สามฺเน คหิตา อุปฺปาทกิริยา ลกฺขณภาเวน วุตฺตา, วิสยวิสิฏฺา จ ลกฺขิตพฺพภาเวน. น หิ สามฺวิเสเสหิ นานตฺตโวหาโร น โหตีติ. อุปฺปชฺชมานาติ วา อนิจฺฉิโต อุปฺปาโท เหตุภาเวน วุตฺโต, อุปฺปชฺชตีติ นิจฺฉิโต ผลภาเวน ยทิ อุปฺปชฺชมานา โหติ, เอตฺถ อุปฺปชฺชตีติ.

นิโรธสจฺจนิทฺเทสวณฺณนา

๔๐๑. ‘‘สพฺพานิ นิพฺพานเววจนาเนวา’’ติ วตฺวา ตมตฺถํ ปากฏตรํ กาตุํ ‘‘นิพฺพานฺหี’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ อาคมฺมาติ นิมิตฺตํ กตฺวา. นิพฺพานเหตุโก หิ ตณฺหาย อเสสวิราคนิโรโธ. ขยคมนวเสน วิรชฺชติ. อปฺปวตฺติคมนวเสน นิรุชฺฌติ. อนเปกฺขตาย จชนวเสน, หานิวเสน วา จชียติ. ปุน ยถา นปฺปวตฺตติ, ตถา ทูร ขิปนวเสน ปฏินิสฺสชฺชียติ. พนฺธนภูตาย โมจนวเสน มุจฺจติ. อสํกิเลสวเสน น อลฺลียติ. กสฺมา ปเนตํ นิพฺพานํ เอกเมว สมานํ นานานาเมหิ วุจฺจตีติ? ปฏิปกฺขนานตายาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เอกเมว หี’’ติอาทิมาห. สงฺขตธมฺมวิธุรสภาวตฺตา นิพฺพานสฺส นามานิปิ คุณเนมิตฺติกตฺตา สงฺขตธมฺมวิธุราเนว โหนฺตีติ วุตฺตํ ‘‘สพฺพสงฺขตานํ นามปฏิปกฺขวเสนา’’ติ. อเสสํ วิรชฺชติ ตณฺหา เอตฺถาติ อเสสวิราโคติ. เอส นโย เสเสสุปิ. อยํ ปน วิเสโส – นตฺถิ เอตสฺส อุปฺปาโท, น วา เอตสฺมึ อธิคเต ปุคฺคลสฺส อุปฺปาโทติ อนุปฺปาโท, อสงฺขตธมฺโม. ‘‘อปฺปวตฺต’’นฺติอาทีสุปิ อิมินา นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อายูหนํ สมุทโย, ตปฺปฏิปกฺขวเสน อนายูหนํ.

ตณฺหา อปฺปหีเน สติ ยตฺถ อุปฺปชฺชติ, ปหาเน ปน สติ ตตฺถ ตตฺเถวสฺสา อภาโว สุทสฺสิโตติ อาห ‘‘ตตฺเถว อภาวํ ทสฺเสตุ’’นฺติ. อปฺตฺตินฺติ อปฺาปนํ, ‘‘ติตฺต อลาพุ อตฺถี’’ติ โวหาราภาวํ วา. ติตฺตอลาพุวลฺลิยา อปฺปวตฺตึ อิจฺฉนฺโต ปุริโส วิย อริยมคฺโค, ตสฺส ตสฺสา อปฺปวตฺตินินฺนจิตฺตสฺส มูลจฺเฉทนํ วิย มคฺคสฺส นิพฺพานารมฺมณสฺส ตณฺหาย ปหานํ, ตทปฺปวตฺติ วิย ตณฺหาย อปฺปวตฺติภูตํ นิพฺพานํ ทฏฺพฺพํ.

ทุติยอุปมายํ ทกฺขิณทฺวารํ วิย นิพฺพานํ, โจรฆาตกา วิย มคฺโค. ทกฺขิณทฺวาเร ฆาติตาปิ โจรา ปจฺฉา ‘‘อฏวิยํ โจรา ฆาติตา’’ติ วุจฺจนฺติ, เอวํ นิพฺพานํ อาคมฺม นิรุทฺธาปิ ตณฺหา ‘‘จกฺขาทีสุ นิรุทฺธา’’ติ วุจฺจติ ตตฺถ กิจฺจกรณาภาวโตติ ทฏฺพฺพํ. ปุริมา วา อุปมา มคฺเคน นิรุทฺธาย ‘‘ปิยรูปสาตรูเปสุ นิรุทฺธา’’ติ วตฺตพฺพตาทสฺสนตฺถํ วุตฺตา, ปจฺฉิมา นิพฺพานํ อาคมฺม นิรุทฺธาย ‘‘ปิยรูปสาตรูเปสุ นิรุทฺธา’’ติ วตฺตพฺพตาทสฺสนตฺถํ วุตฺตาติ อยํ เอตาสํ วิเสโส.

มคฺคสจฺจนิทฺเทสวณฺณนา

๔๐๒. อฺมคฺคปฏิกฺเขปนตฺถนฺติ ติตฺถิเยหิ ปริกปฺปิตสฺส มคฺคสฺส ทุกฺขนิโรธคามินิปฏิปทาภาวปฏิกฺเขปนตฺถํ, อฺสฺส วา มคฺคภาวปฏิกฺเขโป อฺมคฺคปฏิกฺเขโป, ตทตฺถํ. ‘‘อย’’นฺติ ปน อตฺตโน, เตสุ จ ภิกฺขูสุ เอกจฺจานํ ปจฺจกฺขภาวโต อาสนฺนปจฺจกฺขวจนํ. อารกตฺตาติ นิรุตฺตินเยน อริยสทฺทสิทฺธิมาห. อริยภาวกรตฺตาติ อริยกรโณ อริโยติ อุตฺตรปทโลเปน, ปุคฺคลสฺส อริยภาวกรตฺตา อริยํ กโรตีติ วา อริโย, อริยผลปฏิลาภกรตฺตา วา อริยํ ผลํ ลภาเปติ ชเนตีติ อริโย. ปุริเมน เจตฺถ อตฺตโน กิจฺจวเสน, ปจฺฉิเมน ผลวเสน อริยนามลาโภ วุตฺโตติ ทฏฺพฺโพ. จตุสจฺจปฏิเวธาวหํ กมฺมฏฺานํ จตุสจฺจกมฺมฏฺานํ, จตุสจฺจํ วา อุทฺทิสฺส ปวตฺตํ ภาวนากมฺมํ โยคิโน สุขวิเสสานํ านภูตนฺติ จตุสจฺจกมฺมฏฺานํ. ปุริมานิ ทฺเว สจฺจานิวฏฺฏํ ปวตฺติเหตุภาวโต. ปจฺฉิมานิ วิวฏฺฏํ นิวตฺติตทธิคมุปายภาวโต. วฏฺเฏ กมฺมฏฺานาภินิเวโส สรูปโต ปริคฺคหสพฺภาวโต. วิวฏฺเฏ นตฺถิ อวิสยตฺตา, วิสยตฺเต จ ปโยชนาภาวโต. ปุริมานิ ทฺเว สจฺจานิ อุคฺคณฺหิตฺวาติ สมฺพนฺโธ. กมฺมฏฺานปาฬิยา หิ ตทตฺถสลฺลกฺขเณน วาจุคฺคตกรณํ อุคฺคโห. เตนาห ‘‘วาจาย ปุนปฺปุนํ ปริวตฺเตนฺโต’’ติ. อิฏฺํ กนฺตนฺติ นิโรธมคฺเคสุ นินฺนภาวํ ทสฺเสติ, น อภินนฺทนํ, ตนฺนินฺนภาโวเยว จ ตตฺถ กมฺมกรณํ ทฏฺพฺพํ.

เอกปฏิเวเธเนวาติ เอกาเณเนว ปฏิวิชฺฌเนน. ปฏิเวโธ ปฏิฆาตาภาเวน วิสเย นิสฺสงฺคจารสงฺขาตํ นิพฺพิชฺฌนํ. อภิสมโย อวิรชฺฌิตฺวา วิสยสฺส อธิคมสงฺขาโต อวโพโธ. ‘‘อิทํ ทุกฺขํ, เอตฺตกํ ทุกฺขํ, น อิโต ภิยฺโย’’ติ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ชานนเมว วุตฺตนเยน ปฏิเวโธติ ปริฺาปฏิเวโธ, เตน. อิทฺจ ยถา ตสฺมึ าเณ ปวตฺเต ปจฺฉา ทุกฺขสฺส สรูปาทิปริจฺเฉเท สมฺโมโห น โหติ, ตถา ปวตฺตึ คเหตฺวา วุตฺตํ, น ปน มคฺคาณสฺส ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติอาทินา (ม. นิ. ๒.๔๘๔; ๓.๑๐๔) ปวตฺตนโต. ปหีนสฺส ปุน อปฺปหาตพฺพตาย ปกฏฺํ หานํ จชนํ สมุจฺฉินฺทนํ, ปหานเมว วุตฺตนเยน ปฏิเวโธติ ปหานปฏิเวโธ, เตน. อยมฺปิ ยสฺมึ กิเลเส อปฺปหียมาเน มคฺคภาวนาย น ภวิตพฺพํ, อสติ จ มคฺคภาวนาย โย อุปฺปชฺเชยฺย, ตสฺส กิเลสสฺส ปฏิฆาตํ กโรนฺตสฺส อนุปฺปตฺติธมฺมตํ อาปาเทนฺตสฺส าณสฺส ตถาปวตฺติยํ ปฏิฆาตาภาเวน นิสฺสงฺคจารํ อุปาทาย เอวํ วุตฺโต. สจฺฉิกิริยา ปจฺจกฺขกรณํ อนุสฺสวาการปริวิตกฺกาทิเก มุฺจิตฺวา สรูปโต อารมฺมณกรณํ ‘‘อิทํ ต’’นฺติ ยถาสภาวโต คหณํ, สา เอว วุตฺตนเยน ปฏิเวโธติ สจฺฉิกิริยาปฏิเวโธ, เตน. อยํ ปนสฺส อาวรณสฺส อสมุจฺฉินฺทนโต าณํ นิโรธํ อาลมฺพิตุํ น สกฺโกติ, ตสฺส สมุจฺฉินฺทนโต ตํ สรูปโต วิภาเวนฺตเมว ปวตฺตตีติ เอวํ วุตฺโต. ภาวนา อุปฺปาทนา, วฑฺฒนา จ. ตตฺถ ปมมคฺเค อุปฺปาทนฏฺเน, ทุติยาทีสุ วฑฺฒนฏฺเน, อุภยตฺถาปิ วา อุภยถาปิ เวทิตพฺพํ. ปมมคฺเคปิ หิ ยถารหํ วุฏฺานคามินิยํ ปวตฺตํ ปริชานนาทึ วฑฺเฒนฺโต ปวตฺโตติ วฑฺฒนฏฺเน ภาวนา สกฺกา วิฺาตุํ. ทุติยาทีสุปิ อปฺปหีนกิเลสปฺปหานโต, ปุคฺคลนฺตรภาวสาธนโต จ อุปฺปาทนฏฺเน ภาวนา สกฺกา วิฺาตุํ, สา เอว วุตฺตนเยน ปฏิเวโธติ ภาวนาปฏิเวโธ, เตน. อยมฺปิ หิ ยถา าเณ ปวตฺเต ปจฺฉา มคฺคธมฺมานํ สรูปปริจฺเฉเท สมฺโมโห น โหติ, ตถา ปวตฺติเมว คเหตฺวา วุตฺโต.

ติฏฺนฺตุ ตาว ยถาธิคตา มคฺคธมฺมา, ยถาปวตฺเตสุ ผลธมฺเมสุปิ อยํ ยถาธิคตสจฺจธมฺเมสุ วิย วิคตสมฺโมโหว โหติ. เตเนวาห ‘‘ทิฏฺธมฺโม ปตฺตธมฺโม วิทิตธมฺโม ปริโยคาฬฺหธมฺโม’’ติ (มหาว. ๑๘; ที. นิ. ๑.๒๙๙; ม. นิ. ๒.๖๙) ยโต สจสฺส ธมฺมตาสฺโจทิตา ยถาธิคตสจฺจธมฺมาลมฺพนิโย มคฺควีถิโต ปรโต มคฺคผลปหีนาวสิฏฺกิเลสนิพฺพานานํ ปจฺจเวกฺขณา ปวตฺตนฺติ, ทุกฺขสจฺจมฺโมปิ สกฺกายทิฏฺิอาทโย. อยฺจ อตฺถวณฺณนา ‘‘ปริฺาภิสมเยนา’’ติอาทีสุปิ วิภาเวตพฺพา. เอกาภิสมเยน อภิสเมตีติ เอตฺถาห วิตณฺฑวาที ‘‘อริยมคฺคาณํ จตูสุ สจฺเจสุ นานาภิสมยวเสน กิจฺจกร’’นฺติ, โส อภิธมฺเม (กถา. ๒๗๔) โอธิโสกถาย สฺาเปตพฺโพ. อิทานิ ตเมว เอกาภิสมยํ วิตฺถารวเสน วิภาเวตุํ ‘‘เอวมสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘ปุพฺพภาเค…เป… ปฏิเวโธ โหตี’’ติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ ปฏิเวโธ ปุพฺพภาคิโย น โหตีติ? สจฺจเมตํ นิปฺปริยายโต, อิธ ปน อุคฺคหาทิวเสน ปวตฺโต อวโพโธ ปริยายโต ตถา วุตฺโต. ปฏิเวธนิมิตฺตตฺตา วา อุคฺคหาทิวเสน ปวตฺตํ ทุกฺขาทีสุ ปุพฺพภาเค าณํ ‘‘ปฏิเวโธ’’ติ วุตฺตํ, น ปฏิวิชฺฌนสภาวํ. กิจฺจโตติ ปุพฺพภาเคหิ ทุกฺขาทิาเณหิ กาตพฺพกิจฺจสฺส อิธ นิปฺผตฺติโต, อิมสฺเสว วา าณสฺส ทุกฺขาทิปฺปกาสนกิจฺจโต, ปริฺาทิโตติ อตฺโถ. อารมฺมณปฏิเวโธติ สจฺฉิกิริยาปฏิเวธมาห. สาติ ปจฺจเวกฺขณา. อิธาติ อิมสฺมึ าเน. อุคฺคหาทีสุ วุจฺจมาเนสุ น วุตฺตา อนวสรตฺตา. อธิคเม หิ สติ ตสฺสา สิยา อวสโร.

ตํเยว หิ อนวสรํ ทสฺเสตุํ ‘‘อิมสฺส จา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปุพฺเพ ปริคฺคหโตติ กมฺมฏฺานปริคฺคหโต ปุพฺเพ. อุคฺคหาทิวเสน สจฺจานํ ปริคฺคณฺหนฺหิ ปริคฺคโห. ตถา ตานิ ปริคฺคณฺหนโต มนสิการทฬฺหตาย ปุพฺพภาคิยา ทุกฺขปริฺาทโย โหนฺติ เยวาติ อาห ‘‘ปริคฺคหโต ปฏฺาย โหตี’’ติ. อปรภาเคติ มคฺคกฺขเณ. ทุทฺทสตฺตาติ อตฺตโน ปวตฺติกฺขณวเสน ปากฏานิปิ ปกติาเณน สภาวรสโต ทฏฺุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา. คมฺภีเรเนว จ ภาวนาาเณน, ตถาปิ มตฺถกปฺปตฺเตน อริยมคฺคาเณเนว ยาถาวโต ปสฺสิตพฺพตฺตา คมฺภีรานิ. เตนาห ‘‘ลกฺขณปฏิเวธโต ปน อุภยมฺปิ คมฺภีร’’นฺติ. อิตรานิ อสํกิลิฏฺอสํกิเลสิกตาย อจฺจนฺตสุขปฺปตฺตาย อนุปฺปตฺติภวตาย, อนุปฺปนฺนปุพฺพตาย จ ปวตฺติวเสน อปากฏตฺตา จ ปรมคมฺภีรตฺตา, ตถา ปรมคมฺภีราเณเนว ปสฺสิตพฺพตาย ปกติาเณน ทฏฺุํ น สกฺกุเณยฺยานีติ ทุทฺทสานิ. เตนาห ‘‘อิตเรสํ ปนา’’ติอาทิ. ปโยโคติ กิริยา, วายาโม วา. ตสฺส มหนฺตตรสฺส อิจฺฉิตพฺพตํ, ทุกฺกรตรตฺจ อุปมาหิ ทสฺเสติ ‘‘ภวคฺคคฺคหณตฺถ’’นฺติอาทินา. ปฏิเวธกฺขเณติ อริยสฺส มคฺคสฺส จตุสจฺจสมฺปฏิเวธกฺขเณ. เอกเมว ตํ าณนฺติ ทุกฺขาทีสุ ปริฺาทิกิจฺจสาธนวเสน เอกเมว ตํ มคฺคาณํ โหติ.

อิเมสุ ตีสุ าเนสูติ อิเมสุ วิรมิตพฺพตาวเสน โชติเตสุ ตีสุ กามพฺยาปาทวิหึสาวิตกฺกวตฺถูสุ. วิสุํ วิสุํ อุปฺปนฺนสฺส ติวิธอกุสลสงฺกปฺปสฺส. ปทปจฺเฉทโตติ เอตฺถ คตมคฺโค ‘‘ปท’’นฺติ วุจฺจติ, เยน จ อุปาเยน การเณน กามวิตกฺโก อุปฺปชฺชติ, โส ตสฺส คตมคฺโคติ ตสฺส ปจฺเฉโท ฆาโต ปทปจฺเฉโท, ตโต ปทปจฺเฉทโต. อนุปฺปตฺติธมฺมตาปาทนํ อนุปฺปตฺติสาธนํ, ตสฺส วเสน. มคฺคกิจฺจสาธเนน มคฺคงฺคํ ปูรยมาโน เอโกว ติวิธกิจฺจสาธโน กุสลสงฺกปฺโป อุปฺปชฺชติ. ติวิธากุสลสงฺกปฺปสมุจฺเฉทนเมว เหตฺถ ติวิธกิจฺจสาธนํ ทฏฺพฺพํ. อิมินา นเยน ‘‘อิเมสุ จตูสุ าเนสู’’ติอาทีสุปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

มุสาวาทาเวรมณิอาทโยติ เอตฺถ ยสฺมา สิกฺขาปทวิภงฺเค (วิภ. ๗๐๓) วิรติเจตนา, สพฺเพ สมฺปยุตฺตธมฺมา จ สิกฺขาปทานีติ อาคตานีติ ตตฺถ ปธานานํ วิรติเจตนานํ วเสน ‘‘วิรติโยปิ โหนฺติ เจตนาโยปี’’ติ (วิภ. อฏฺ. ๗๐๓) สมฺโมหวิโนทนิยํ วุตฺตํ, ตสฺมา เกจิ ‘‘อาทิ-สทฺเทน น เกวลํ ปิสุณวาจา เวรมณิอาทีนํเยว สงฺคโห, อถ โข ตาทิสานํ เจตนานมฺปิ สงฺคโห’’ติ วทนฺติ, ตํ ปุพฺพภาควเสน วุจฺจมานตฺตา ยุชฺเชยฺย, มุสาวาทาทีหิ วิรมณกาเล วา วิรติโย, สุภาสิตาทิวาจาภาสนาทิกาเล จ เจตนาโย โยเชตพฺพา, มคฺคกฺขเณ ปน วิรติโยว อิจฺฉิตพฺพา เจตนานํ อมคฺคงฺคตฺตา. เอกสฺส าณสฺส ทุกฺขาทิาณตา วิย, เอกาย วิรติยา มุสาวาทาทิวิรติภาโว วิย จ เอกาย เจตนาย สมฺมาวาจาทิกิจฺจตฺตยสาธนสภาวาภาวา สมฺมาวาจาทิภาวาสิทฺธิโต, ตํสิทฺธิยํ องฺคตฺตยตาสิทฺธิโต จ.

ภิกฺขุสฺส อาชีวเหตุกํ กายวจีทุจฺจริตํ นาม อโยนิโส อาหารปริเยสนเหตุกเมว สิยาติ อาห ‘‘ขาทนีย…เป… ทุจฺจริต’’นฺติ. กายวจีทุจฺจริตคฺคหณฺจ กายวจีทฺวาเรเยว อาชีวปโกโป, น มโนทฺวาเรติ ทสฺสนตฺถํ. เตนาห ‘‘อิเมสุเยว สตฺตสุ าเนสู’’ติ.

อนุปฺปนฺนานนฺติ อสมุทาจารวเสน วา อนนุภูตารมฺมณวเสน วา อนุปฺปนฺนานํ. อฺถา หิ อนมตคฺเค สํสาเร อนุปฺปนฺนา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา นาม น สนฺติ. เตนาห ‘‘เอกสฺมึ ภเว’’ติอาทิ. ยสฺมึ ภเว อยํ อิมํ วีริยํ อารภติ, ตสฺมึ เอกสฺมึ ภเว.ชเนตีติ อุปฺปาเทติ. ตาทิสํ ฉนฺทํ กุรุมาโน เอวํ ฉนฺทํ ชเนติ นาม. วายามํ กโรตีติ ปโยคํ ปรกฺกมํ กโรติ. วีริยํปวตฺเตตีติ กายิกเจตสิกวีริยํ ปการโต วตฺเตติ. วีริเยน จิตฺตํ ปคฺคหิตํ กโรตีติ เตเนว สหชาตวีริเยน จิตฺตํ อุกฺขิเปนฺโต โกสชฺชปาตโต นิเสธเนน ปคฺคหิตํ กโรติ. ปทหนํ ปวตฺเตตีติ ปธานํ วีริยํ กโรติ. ปฏิปาฏิยา ปเนตานิ จตฺตาริ ปทานิ อาเสวนาภาวนาพหุลีกมฺมสาตจฺจกิริยาหิ โยเชตพฺพานิ.

อุปฺปนฺนปุพฺพานนฺติ สทิสโวหาเรน วุตฺตํ. ภวติ หิ ตํสทิเสสุ ตพฺโพหาโร ยถา ‘‘สา เอว ติตฺติริ, ตานิ เอว โอสธานี’’ติ. เตนาห ‘‘อิทานิ ตาทิเส’’ติ. อุปฺปนฺนานนฺติ ‘‘อนุปฺปนฺนา’’ติ อวตฺตพฺพตํ อาปนฺนานํ. ปหานายาติ ปชหนตฺถาย. อนุปฺปนฺนานํ กุสลานนฺติ เอตฺถ กุสลาติ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อธิปฺเปตา, เตสฺจ อุปฺปาโท นาม อธิคโม ปฏิลาโภ, ตปฺปฏิกฺเขเปน อนุปฺปาโท อปฺปฏิลาโภติ อาห ‘‘อปฺปฏิลทฺธานํ ปมชฺฌานาทีน’’นฺติ. ‘‘ิติยา วีริยํ อารภตี’’ติ วุตฺเต น ขณิติ อธิปฺเปตา ตทตฺถํ วีริยารพฺเภน ปโยชนาภาวโต, อถ โข ปพนฺธิติ อธิปฺเปตาติ อาห ‘‘ปุนปฺปุนํ อุปฺปตฺติปพนฺธวเสน ิตตฺถ’’นฺติ. สมฺมุสฺสนํ ปฏิปกฺขธมฺมวเสน อทสฺสนมุปคมนนฺติ ตปฺปฏิกฺเขเปน อสมฺมุสฺสนํ อสมฺโมโสติ อาห ‘‘อสมฺโมสายาติ อวินาสนตฺถ’’นฺติ. ภิยฺโยภาโว ปุนปฺปุนํ ภวนํ, โส ปน อุปรูปริ อุปฺปตฺตีติ อาห ‘‘อุปริภาวายา’’ติ. เวปุลฺลํ อภิณฺหปฺปวตฺติยา ปคุณพลวภาวาปตฺตีติ วุตฺตํ ‘‘เวปุลฺลายาติ วิปุลภาวายา’’ติ, มหนฺตภาวายาติ อตฺโถ. ภาวนาย ปริปูรณตฺถนฺติ ฌานาทิภาวนาปริพฺรูหนตฺถํ.

จตูสุาเนสูติ อนุปฺปนฺนากุสลานุปฺปาทนาทีสุ จตูสุ าเนสุ. กิจฺจสาธนวเสนาติ จตุพฺพิธสฺสปิ กิจฺจสฺส เอกชฺฌํ นิปฺผาทนวเสน.

ฌานานิ ปุพฺพภาเคปิ มคฺคกฺขเณปิ นานาติ ยทิปิ สมาธิอุปการเกหิ อภินิโรปนานุมชฺชนสมฺปิยายนพฺรูหนสนฺตสุขสภาเวหิ วิตกฺกาทีหิ สมฺปโยคเภทโต ภาวนาติสยปฺปวตฺตานํ จตุนฺนํ ฌานานํ วเสน สมฺมาสมาธิ วิภตฺโต, ตถาปิ วายาโม วิย อนุปฺปนฺนากุสลานุปฺปาทนาทิจตุวายามกิจฺจํ, สติ วิย จ อสุภาสุขานิจฺจานตฺเตสุ กายาทีสุ สุภาทิสฺาปฺปหานจตุสติกิจฺจํ, เอโก สมาธิ จตุฌานสมาธิกิจฺจํ น สาเธตีติ ปุพฺพภาเคปิ ปมชฺฌานสมาธิ เอว มคฺคกฺขเณปิ, ตถา ปุพฺพภาเคปิ จตุตฺถชฺฌานสมาธิ เอว มคฺคกฺขเณ ปีติ อตฺโถ. นานามคฺควเสนาติ ปมมคฺคาทินานามคฺควเสน ฌานานิ นานา. ทุติยาทโยปิ มคฺคา ทุติยาทีนํ ฌานานํ. อยํ ปนสฺสาติ เอตฺถ มคฺคภาเวน จตุพฺพิธมฺปิ เอกตฺเตน คเหตฺวา ‘‘อสฺสา’’ติ วุตฺตํ, อสฺส มคฺคสฺสาติ อตฺโถ. อยนฺติ ปน อยํ ฌานวเสน สพฺพสทิสสพฺพาสทิเสกจฺจสทิสตา วิเสโส.

ปาทกชฺฌานนิยเมน โหตีติ อิธ ปาทกชฺฌานนิยมํ ธุรํ กตฺวา วุตฺตํ, ยถา เจตฺถ, เอวํ สมฺโมหวิโนทนิยมฺปิ (วิภ. อฏฺ. ๒๐๕). อฏฺสาลินิยํ (ธ. ส. อฏฺ. ๓๕๐) ปน วิปสฺสนานิยโม วุตฺโต สพฺพวาทาวิโรธโต, อิธ ปน สมฺมสิตชฺฌานปุคฺคลชฺฌาสยวาทนิวตฺตนโต ปาทกชฺฌานนิยโม วุตฺโต. วิปสฺสนานิยโม ปน สาธารณตฺตา อิธาปิ น ปฏิกฺขิตฺโตติ ทฏฺพฺโพ. อฺเ จ อาจริยวาทา ปรโต วกฺขมานา วิภชิตพฺพาติ ยถาวุตฺตเมว ตาว ปาทกชฺฌานนิยมํ วิภชนฺโต อาห ‘‘ปาทกชฺฌานนิยเมน ตาวา’’ติ. ปมชฺฌานิโก โหติ, ยสฺมา อาสนฺนปเทเส วุฏฺิตสมาปตฺติ มคฺคสฺส อตฺตโน สทิสภาวํ กโรติ ภูมิวณฺโณ วิย โคธาวณฺณสฺส. ปริปุณฺณาเนว โหนฺตีติ อฏฺ สตฺต จ โหนฺตีติ อตฺโถ. สตฺต โหนฺติ สมฺมาสงฺกปฺปสฺส อภาวโต. ฉ โหนฺติ ปีติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อภาวโต. มคฺคงฺคโพชฺฌงฺคานํ สตฺตฉภาวํ อติทิสติ ‘‘เอส นโย’’ติ. อรูเป จตุกฺกปฺจกชฺฌานํ…เป… วุตฺตํ อฏฺสาลินิยนฺติ อธิปฺปาโย. นนุ ตตฺถ ‘‘อรูเป ติกจตุกฺกชฺฌานํ อุปฺปชฺชตี’’ติ (ธ. ส. อฏฺ. ๓๕๐) วุตฺตํ , น ‘‘จตุกฺกปฺจกชฺฌาน’’นฺติ? สจฺจเมตํ, เยสุ ปน สํสโย อตฺถิ, เตสํ อุปฺปตฺติทสฺสเนน , เตน อตฺถโต ‘‘จตุกฺกปฺจกชฺฌานํ อุปฺปชฺชตี’’ติ วุตฺตเมว โหตีติ เอวมาหาติ เวทิตพฺพํ. สมุทายฺจ อเปกฺขิตฺวา ‘‘ตฺจ โลกุตฺตรํ, น โลกิย’’นฺติ อาห ‘‘อวยเวกตฺตํ ลิงฺคสมุทายสฺส วิเสสกํ โหตี’’ติ. จตุตฺถชฺฌานเมว หิ ตตฺถ โลกิยํ อุปฺปชฺชติ, น จตุกฺกํ, ปฺจกํ วาติ. เอตฺถ กถนฺติ ปาทกชฺฌานสฺส อภาวา กถํ ทฏฺพฺพนฺติ อตฺโถ. ตํฌานิกาวสฺส ตตฺถ ตโย มคฺคา อุปฺปชฺชนฺติ, ตชฺฌานิกํปมผลาทึ ปาทกํ กตฺวา อุปริมคฺคภาวนายาติ อธิปฺปาโย. ติกจตุกฺกชฺฌานิกํ ปน มคฺคํ ภาเวตฺวา ตตฺถ อุปฺปนฺนสฺส อรูปจตุตฺถชฺฌานํ, ตชฺฌานิกํ ผลฺจ ปาทกํ กตฺวา อุปริมคฺคภาวนาย อฺฌานิกาปิ อุปฺปชฺชนฺตีติ, ฌานงฺคาทินิยามิกา ปุพฺพาภิสงฺขารสมาปตฺติปาทกํ, น สมฺมสิตพฺพาติ ผลสฺสาปิ ปาทกตา ทฏฺพฺพา.

เกจิ ปนาติ โมรวาปีมหาทตฺตตฺเถรํ สนฺธายาห. ปุน เกจีติ ติปิฏกจูฬาภยตฺเถรํ . ตติยวาเร เกจีติ ‘‘ปาทกชฺฌานเมว นิยเมตี’’ติ เอวํ วาทินํ ติปิฏกจูฬนาคตฺเถรฺเจว อนนฺตรํ วุตฺเต ทฺเว จ เถเร เปตฺวา อิตเร เถเร สนฺธาย วทติ.

๔๐๓. สสนฺตติปริยาปนฺนานํ ทุกฺขสมุทยานํ อปฺปวตฺติภาเวน ปริคฺคยฺหมาโน นิโรโธปิ สสนฺตติปริยาปนฺโน วิย โหตีติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘อตฺตโน วา จตฺตาริ สจฺจานี’’ติ. ปรสฺส วาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. เตนาห ภควา ‘‘อิมสฺมึเยว พฺยามมตฺเต กเฬวเร สสฺิมฺหิ สมนเก โลกฺจ ปฺาเปมิ, โลกสมุทยฺจ ปฺาเปมิ, โลกนิโรธฺจ ปฺาเปมิ, โลกนิโรธคามินิปฏิปทฺจ ปฺาเปมี’’ติ (สํ. นิ. ๑.๑๐๗; อ. นิ. ๔.๔๕) กถํ ปน อาทิกมฺมิโก นิโรธมคฺคสจฺจานิ ปริคฺคณฺหาตีติ? อนุสฺสวาทิสิทฺธมาการํ ปริคฺคณฺหาติ. เอวฺจ กตฺวา โลกุตฺตรโพชฺฌงฺเค อุทฺทิสฺสาปิ ปริคฺคโห น วิรุชฺฌติ. ยถาสมฺภวโตติ สมฺภวานุรูปํ, เปตฺวา นิโรธสจฺจํ เสสสจฺจวเสน สมุทยวยาติ เวทิตพฺพาติ อตฺโถ.

จตุสจฺจปพฺพวณฺณนา นิฏฺิตา.

ธมฺมานุปสฺสนาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔๐๔. ‘‘อฏฺิกสงฺขลิกํ สมํส’’นฺติอาทิกา สตฺต สิวถิกา อฏฺิกกมฺมฏฺานตาย อิตราสํ อุทฺธุมาตกาทีนํ สภาเวเนวาติ นวนฺนํ สิวถิกานํ อปฺปนากมฺมฏฺานตา วุตฺตา. ทฺเวเยวาติ อานาปานํ, ทฺวตฺตึสากาโรติ อิมานิ ทฺเวเยว. อภินิเวโสติ วิปสฺสนาภินิเวโส, โส ปน สมฺมสนิยธมฺมปริคฺคโห. อิริยาปถา, อาโลกิตาทโย จ รูปธมฺมานํ อวตฺถาวิเสสมตฺตตาย น สมฺมสนุปคา วิฺตฺติอาทโย วิย. นีวรณโพชฺฌงฺคา อาทิโต น ปริคฺคเหตพฺพาติ วุตฺตํ ‘‘อิริยาปถ…เป… น ชายตี’’ติ. เกสาทิอปเทเสน ตทุปาทานธมฺมา วิย อิริยาปถาทิอปเทเสน ตทวตฺถา รูปธมฺมา ปริคฺคยฺหนฺติ, นีวรณาทิมุเขน จ ตํสมฺปยุตฺตา, ตํนิสฺสยธมฺมาติ อธิปฺปาเยน มหาสิวตฺเถโร จ อิริยาปถาทีสุปิ ‘‘อภินิเวโส ชายตี’’ติ อโวจ. ‘‘อตฺถิ นุ โข เม’’ติอาทิ ปน สภาวโต อิริยาปถาทีนํ อาทิกมฺมิกสฺส อนิจฺฉิตภาวทสฺสนํ. อปริฺาปุพฺพิกา หิ ปริฺาติ.

กามํ ‘‘อิธ ภิกฺขเว ภิกฺขู’’ติอาทินา อุทฺเทสนิทฺเทเสสุ ตตฺถ ตตฺถ ภิกฺขุคฺคหณํ กตํ ตํปฏิปตฺติยา ภิกฺขุภาวทสฺสนตฺถํ, เทสนา ปน สพฺพสาธารณาติ ทสฺเสตุํ ‘‘โย หิ โกจิ ภิกฺขเว’’ อิจฺเจว วุตฺตํ, น ภิกฺขุ เยวาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘โย หิ โกจิ ภิกฺขุ วา’’ติอาทิมาห. ทสฺสนมคฺเคน าตมริยาทํ อนติกฺกมิตฺวา ชานนฺตี สิขาปฺปตฺตา อคฺคมคฺคปฺา อฺา นาม, ตสฺส ผลภาวโต อคฺคผลํ ปีติ อาห ‘‘อฺาติ อรหตฺต’’นฺติ.

อปฺปตเรปิ กาเล สาสนสฺส นิยฺยานิกภาวํ ทสฺเสนฺโตติ โยชนา. นิยฺยาเตนฺโตติ นิคเมนฺโต.

มหาสติปฏฺานสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา.