📜
๑๐. ปายาสิราชฺสุตฺตวณฺณนา
๔๐๖. ภควตา ¶ ¶ ¶ เอวํ คหิตนามตฺตาติ โยชนา. ยสฺมา ราชปุตฺตา โลเก ‘‘กุมาโร’’ติ โวหรียนฺติ. อยฺจ รฺโ กิตฺติมปุตฺโต, ตสฺมา อาห ‘‘รฺโ…เป… สฺชานึสู’’ติ.
อสฺสาติ เถรสฺส. ปฺุานิ กโรนฺโต กปฺปสตสหสฺสํ เทเวสุ เจว มนุสฺเสสุ จ อุปฺปชฺชิตฺวา วิเสสํ นิพฺพตฺเตตุํ นาสกฺขิ อินฺทฺริยานํ อปริปกฺกตฺตา. ตติยทิวเสติ ปพฺพตํ อารุฬฺหทิวสโต ตติเย ทิวเส.
เตสํ สาวกโพธิยา นิยตตาย, ปฺุสมฺภารสฺส จ สาติสยตฺตา วินิปาตํ อคนฺตฺวา เอกํ พุทฺธนฺตรํ…เป… อนุภวนฺตานํ. เทวตายาติ ปุพฺเพ สหธมฺมจารินิยา สุทฺธาวาสเทวตาย.
‘‘กุลทาริกาย กุจฺฉิมฺหิ อุปฺปนฺโน’’ติ วตฺวา ตํ เอวสฺส อุปฺปนฺนภาวํ มูลโต ปฏฺาย ทสฺเสตุํ ‘‘สา จา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สาติ กุลทาริกา. จ-สทฺโท พฺยติเรกตฺโถ, เตน วุจฺจมานํ วิเสสํ โชเตติ. กุลฆรนฺติ ปติกุลเคหํ. คพฺภนิมิตฺตนฺติ คพฺภสฺส สณฺิตภาวนิมิตฺตํ. สติปิ วิสาขาย จ สาวตฺถิวาสิกุลปริยาปนฺนตฺเต ตสฺสา ตตฺถ ปธานภาวทสฺสนตฺถํ ‘‘วิสาขฺจา’’ติ วุตฺตํ ยถา ‘‘พฺราหฺมณา อาคตา วาสิฏฺโปิ อาคโต’’ติ. เทวตาติ อิธปิ สา เอว สุทฺธาวาสเทวตา. ปฺเหติ ‘‘ภิกฺขุ ภิกฺขุ อยํ วมฺมิโก’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๒๔๙) อาคเต ปนฺนรสปฺเห.
เสตพฺยาติ อิตฺถิลิงฺควเสน ตสฺส นครสฺส นามํ.อุตฺตเรนาติ ¶ เอน-สทฺทโยเคน ‘‘เสตพฺย’’นฺติ อุปโยควจนํ ปาฬิยํ วุตฺตํ. อตฺถวจเนน ปน อุตฺตรสทฺทํ อเปกฺขิตฺวา เสตพฺยโตติ นิสฺสกฺกปฺปโยโค กโต. อนภิสิตฺตกราชาติ ขตฺติยชาติโก อภิเสกํ อปฺปตฺโต.
ปายาสิราชฺวตฺถุวณฺณนา
๔๐๗. ทิฏฺิเยว ¶ ทิฏฺิคตนฺติ คต-สทฺเทน ปทวฑฺฒนมาห, ทิฏฺิยา วา คตมตฺตํ ¶ ทิฏฺิคตํ, อยาถาวคฺคาหิตาย คนฺตพฺพาภาวโต ทิฏฺิยา คหณมตฺตํ, เกวโล มิจฺฉาภินิเวโสติ อตฺโถ, ตํ ปน ทิฏฺิคตํ ตสฺส อโยนิโสมนสิการาทิวเสน อุปฺปชฺชิตฺวา ปฏิปกฺขสมฺมุขีภาวาภาวโต, อนุรูปาหารลาภโต จ สมุทาจารปฺปตฺตํ ชาตนฺติ ปาฬิยํ ‘‘อุปฺปนฺนํ โหตี’’ติ วุตฺตํ. ตํ ตํ การณํ อปทิสิตฺวาติ ตโต อิธาคจฺฉนกสฺส, อิโต ตตฺถ คจฺฉนกสฺส จ อปทิสนโต ‘‘ตตฺถ ตตฺเถว สตฺตานํ อุจฺฉิชฺชนโต’’ติ เอวมาทิ ตํ ตํ การณํ ปฏิรูปกํ อปทิสิตฺวา.
๔๐๘. อาปนฺนานธิปฺเปตตฺถวิสเย อยํ ปุรา-สทฺทปโยโคติ อาห ‘‘ปุรา…เป… สฺาเปตีติ ยาว น สฺาเปตี’’ติ.
จนฺทิมสูริยอุปมาวณฺณนา
๔๑๑. ยถา จนฺทิมสูริยา อุฬารวิปุโลภาสตาย อฺเน โอภาเสน อนภิภวนียา, เอวมยมฺปิ ปฺาโอภาเสนาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘จนฺทิม…เป… อฺเนา’’ติอาทิมาห. อาทีหีติ อาทิ-สทฺเทน ‘‘กิตฺตเก าเน เอเต ปวตฺเตนฺติ, กิตฺตกฺจ านํ เนสํ อาภา ผรตี’’ติ เอวมาทิมฺปิ โจทนํ สงฺคณฺหาติ. ปลิเวเสฺสตีติ อาพนฺธิสฺสติ, อนุยฺุชิสฺสตีติ อตฺโถ. นิพฺเพเตุํ ตํ วิสฺสชฺเชตุํ. ตสฺมาติ ยสฺมา ¶ ยถาวุตฺตํ โจทนํ นิพฺเพเตุํ น สกฺโกติ, ตสฺมา. อตฺตโน อนิจฺฉิตํ สงฺฆาตนํ ปกฺขํ ปฏิชานนฺโต ‘‘ปรสฺมึ โลเก, น อิมสฺมิ’’นฺติอาทิมาห.
กถํ ปนายํ นตฺถิกทิฏฺิ ‘‘เทโว’’ติ ปฏิชานาตีติ ตตฺถ การณํ ทสฺเสตุํ ‘‘ภควา ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘เทวาปิ เทวตฺตภาเวเนว อุจฺฉิชฺชนฺติ, มนุสฺสาปิ มนุสฺสตฺตภาเวเนว อุจฺฉิชฺชนฺตี’’ติ เอวํ วา อสฺส ทิฏฺิ, เอวฺจ กตฺวา ‘‘เทวา เต, น มนุสฺสา’’ติ วจนฺจ น วิรุชฺฌติ. เอวํ จนฺเทติ จนฺทวิมาเน, น จ จนฺเท วา กถิยนฺเต.
๔๑๒. อาพาโธ เอเตสํ อตฺถีติ อาพาธิกา. ทุกฺขํ สฺชาตํ เอเตสนฺติ ทุกฺขิตา. สทฺธาย อยิตพฺพา สทฺธายิกา, สทฺธาย ปวตฺติฏฺานภูตา. เตนาห ‘‘อหํ ตุมฺเห’’ติอาทิ. ปจฺจโย ปตฺติยายนํ เอเตสุ อตฺถีติ ปจฺจยิกา.
โจรอุปมาวณฺณนา
๔๑๓. อุทฺทิสิตฺวาติ ¶ ¶ อุเปจฺจ ทสฺเสตฺวา. กมฺมการณิกสตฺเตสูติ เนรยิกานํ สงฺฆาตนกสตฺเตสุ. กมฺมเมวาติ เตหิ เตหิ เนรยิเกหิ กตกมฺมเมว. กมฺมการณํ กโรตีติ อายูหนานุรูปํ ตํ ตํ การณํ กโรติ, ตถา ทุกฺขํ อุปฺปาเทตีติ อตฺโถ. นิรยปาลาติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท อาทิอตฺโถ, เตน ตตฺถ สพฺพํ นิรยกณฺฑปาฬึ (ม. นิ. ๓.๒๕๙) สงฺคณฺหาติ. เอวํ สุตฺตโต (ม. นิ. ๓.๒๕๙) นิรยปาลานํ อตฺถิภาวํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ยุตฺติโตปิ ทสฺเสตุํ ‘‘มนุสฺสโลเก’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เนรยิเก นิรเย ปาเลนฺติ ตโต นิคฺคนฺตุํ อปฺปทานวเสน รกฺขนฺตีติ นิรยปาลา. ยํ ปเนตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ ปปฺจสูทนีฏีกายํ คเหตพฺพํ.
คูถกูปปุริสอุปมาวณฺณนา
๔๑๕. นิมฺมชฺชถาติ ¶ นิรวเสสโต มชฺชถ โสเธถ. ตํ ปน ตสฺส ตสฺส คูถสฺส ตถา โสธนํ อปนยนํ โหตีติ อาห ‘‘อปเนถา’’ติ.
อสุจีติ อสุทฺโธ, โส ปน ยสฺมา มนวฑฺฒนโก มโนหโร น โหติ, ตสฺมา อาห ‘‘อมนาโป’’ติ. อสุจิสงฺขาตํ อสุจิภาคตํ อตฺตโน สภาวตํ คโต ปตฺโตติ อสุจิสงฺขาโตติ อาห ‘‘อสุจิโกฏฺาสภูโต’’ติ. ทุคฺคนฺโธติ ทุฏฺคนฺโธ อนิฏฺคนฺโธ, โส ปน น โย โกจิ, อถ โข ปูติคนฺโธติ อาห ‘‘กุณปคนฺโธ’’ติ. ชิคุจฺฉิตพฺพยุตฺโตติ หีฬิตพฺพยุตฺโต. ปฏิกูโล ฆานินฺทฺริยสฺส ปฏิกูลรูโป. อุพฺพาธตีติ อุปรูปริ พาธติ. มนุสฺสานํ คนฺโธ…เป… พาธติ อติวิย อสุจิสภาวตฺตา, อสุจิมฺหิเยว ชาตสํวทฺธนภาวโต, เทวานฺจ ฆานปสาทสฺส ติกฺขวิสทภาวโต.
๔๑๖. ทูเร นิพฺพตฺตา ปรนิมฺมิตวสวตฺติอาทโย.
๔๑๙. สุนฺทรธมฺเมติ โสภนคุเณ. สุคติสุขนฺติ สุคติ เจว ตปฺปริยาปนฺนํ สุขฺจ.
คพฺภินีอุปมาวณฺณนา
๔๒๐. ปฺุกมฺมโต ¶ เอติ อุปฺปชฺชตีติ อโย, สุขํ. ตปฺปฏิปกฺขโต อนโย, ทุกฺขํ ¶ . อปกฺกนฺติ น สิทฺธํ น นิฏฺานปฺปตฺตํ. น ปริปาเจนฺติ น นิฏฺานํ ปาเปนฺติ. น อุปจฺฉินฺทนฺติ อตฺตวินิปาตสฺส สาวชฺชภาวโต. อาคเมนฺตีติ อุทิกฺขนฺติ. นิพฺพิสนฺติ ยสฺส ปน ตํ กมฺมผลํ นิพฺพิสนฺโต นิยฺุชนฺโต, นิพฺพิสนฺติ วา นิพฺเพสํ เวตนํ ปฏิกงฺขนฺโต ภตปุริโส ยถา.
๔๒๑. อุพฺภินฺทิตฺวาติ อุปสคฺเคน ปทวฑฺฒนมตฺตนฺติ อาห ‘‘ภินฺทิตฺวา’’ติ.
สุปินกอุปมาวณฺณนา
๔๒๒. ‘‘นิกฺขมนฺตํ วา ปวิสนฺตํ วา ชีว’’นฺติ อิทํ ตสฺส อชฺฌาสยวเสน วุตฺตํ. โส หิ ‘‘สตฺตานํ สุปินทสฺสนกาเล ¶ อตฺตภาวโต ชีโว พหิ นิกฺขมิตฺวา ตํตํอารามรามเณยฺยกทสฺสนาทิวเสน อิโต จิโต จ ปริพฺภมิตฺวา ปุนเทว อตฺตภาวํ อนุปวิสตี’’ติ เอวํ ปวตฺตมิจฺฉาคาหวิปลฺลตฺตจิตฺโต. อถสฺส เถโร ขุทฺทกาย อาณิยา วิปุลํ อาณึ นีหรนฺโต วิย ชีวสมฺามุเขน อุจฺเฉททิฏฺึ นีหริตุกาโม ‘‘อปิ นุ ตา ตุยฺหํ ชีวํ ปสฺสนฺติ ปวิสนฺตํ วา นิกฺขมนฺตํ วา’’ติ อาห. ยตฺถ ปน ตถารูปา ชีวสมฺา, ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘จิตฺตาจารํ ชีวนฺติ คเหตฺวา อาหา’’ติ วุตฺตํ.
๔๒๓. เวเตฺวาติ เวขทานสงฺเขเปน เวเตฺวา. จวนกาเลติ จวนสฺส จุติยา ปตฺตกาเล, น จวมานกาเล. รูปกฺขนฺธมตฺตเมวาติ กติปยรูปธมฺมสงฺฆาตมตฺตเมว. อุตุสมุฏฺานรูปธมฺมสมูหมตฺตเมว หิ ตทา ลพฺภติ, มตฺต-สทฺโท วา วิเสสนิวตฺติอตฺโถ, เตน กมฺมชาทิติสนฺตติรูปวิเสสํ นิวตฺเตติ. อปฺปวตฺตา โหนฺตีติ อปฺปวตฺติกา โหนฺติ, น อุปลพฺภตีติ อตฺโถ. วิฺาเณ ปน ชีวสฺี, ตสฺมา ‘‘วิฺาณกฺขนฺโธ คจฺฉตี’’ติ อาห, ตตฺถ อนุปลพฺภนโตติ อธิปฺปาโย.
สนฺตตฺตอโยคุฬอุปมาวณฺณนา
๔๒๔. วูปสนฺตเตชนฺติ วิคตุสฺมํ.
๔๒๕. อามโตติ เอตฺถ อา-สทฺโท อามิส-สทฺโท วิย อุปฑฺฒปริยาโยติ อาห ‘‘อทฺธมโต’’ติ, อามโตติ วา อีสํ ทรเถน ¶ อุสฺมนา ยุตฺตมรโณ มรนฺโตติ อตฺโถ. มียมาโน หิ ¶ อวิคตุสฺโม โหติ, น มโต วิย วิคตุสฺโม. เตนาห ‘‘มริตุํ อารทฺโธ โหตี’’ติ. ตถา ¶ รูปสฺส โอธุนนํ นามสฺส โอรโต ปริวตฺตนเมวาติ อาห ‘‘โอรโต กโรถา’’ติ. โอรโต กาตุกามสฺส ปน สํปริวตฺตนํ สนฺธุนนํ, ตํ ปน ปรโต กรณนฺติ อาห ‘‘ปรโต กโรถา’’ติ. ปรมุขํ กตสฺส อิโต จิโต ปริวตฺตนํ นิทฺธุนนนฺติ อาห ‘‘อปราปรํ กโรถา’’ติ. อินฺทฺริยานิ อปริภินฺนานีติ อธิปฺปาเยน ‘‘ตฺจายตนํ น ปฏิสํเวเทตี’’ติ วุตฺตํ.
สงฺขธมอุปมาวณฺณนา
๔๒๖. สงฺขํ ธมติ, ธมาเปตีติ วา สงฺขธโม. อุปลาเปตฺวาติ อุปรูปริ สทฺทโยควเสน สลฺลาเปตฺวา, สทฺทยุตฺตํ กตฺวาติ อตฺโถ. ตํ ปน อตฺถโต ธมนเมวาติ อาห ‘‘ธมิตฺวา’’ติ.
อคฺคิกชฏิลอุปมาวณฺณนา
๔๒๘. อาหิโต อคฺคิ เอตสฺส อตฺถีติ อคฺคิโก, สฺวาสฺส อคฺคิกภาโว ยสฺมา อคฺคิหุตมาลาเวทิสมฺปาทเนหิ เจว อินฺธนธูมพริหิสสปฺปิเตลูปหรเณหิ พลิปุปฺผธูมคนฺธาทิอุปหาเรหิ จ ตสฺส ปยิรุปาสนาย อิจฺฉิโต, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘อคฺคิปริจารโก’’ติ. อายุํ ปาปุณาเปยฺยนฺติ ยถา จิรชีวี โหติ, เอวํ อายุํ ปจฺฉิมวยํ ปาเปยฺยํ. วฑฺฒึ คเมยฺยนฺติ สรีราวยเว, คุณาวยเว จ ผาตึ ปาเปยฺยํ. อรณี ยุคฬนฺติ อุตฺตรารณี, อธรารณีติ อรณีทฺวยํ.
๔๒๙. เอวนฺติ ‘‘พาโล ปายาสิราชฺโ’’ติอาทิปฺปกาเรน. ตยาติ เถรํ สนฺธาย วทติ. วุตฺตยุตฺตการณมกฺขลกฺขเณนาติ วุตฺตยุตฺตการณสฺส มกฺขนสภาเวน. ยุคคฺคาหลกฺขเณนาติ สมธุรคฺคหณลกฺขเณน. ปลาเสนาติ ปลาเสตีติ ปลาโส, ปรสฺส คุเณ อุตฺตริตเร ฑํสิตฺวา วิย ฉฑฺเฑนฺโต อตฺตโน คุเณหิ สเม กโรตีติ ¶ อตฺโถ. สมกรณรโส หิ ปลาโส, เตน ปลาเสน.
ทฺเวสตฺถวาหอุปมาวณฺณนา
๔๓๐. หริตกปตฺตนฺติ ¶ หริตพฺพปตฺตํ, อปฺปปตฺตนฺติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘อนฺตมโส’’ติอาทิ. สนฺนทฺธธนุกลาปนฺติ เอตฺถ กลาปนฺติ ตูณีรมาห, ตฺจ สนฺนยฺหโต ธนุนา วินา น สนฺนยฺหตีติ อาห ¶ ‘‘สนฺนทฺธธนุกลาป’’นฺติ. อาสิตฺโตทกานิ วฏุมานีติ คมนมคฺคา เจว ตํตํอุทกมคฺคา จ สมฺมเทว เทเวน ผุฏฺตฺตา ตหํ ตหํ ปคฺฆริตอุทก สนฺทมานอุทกา. เตนาห ‘‘ปริปุณฺณสลิลา มคฺคา จ กนฺทรา จา’’ติ.
ยถาภเตนาติ สกเฏสุ ยถาปิเตน, ยถา ‘‘อมฺม อิโต กโรหี’’ติ วุตฺเต เปสีติ อตฺโถ กรณกิริยาย กิริยาสามฺวาจีภาวโต. ตสฺมา ยถาโรปิเตน, ยถาคหิเตนาติ อตฺโถ วุตฺโต.
อกฺขธุตฺตกอุปมาวณฺณนา
๔๓๔. ปราชยคุฬนฺติ เยน คุเฬน, ยาย สลากาย ิตาย จ ปราชโย โหติ, ตํ อทสฺสนํ คเมนฺโต คิลติ.ปชฺโชหนนฺติ ปกาเรหิ ชุหนกมฺมํ. ตํ ปน พลิทานวเสน กรียตีติ อาห ‘‘พลิกมฺม’’นฺติ.
สาณภาริกอุปมาวณฺณนา
๔๓๖. คามปตฺตนฺติ คาโม เอว หุตฺวา อาปชฺชิตพฺพํ, สฺุภาเวน อนาวสิตพฺพํ. เตนาห ‘‘วุฏฺิตคามปเทโส’’ติ. คามปทนฺติ ยถา ปุริสสฺส ปาทนิกฺขิตฺตฏฺานํ อธิคตปริจฺเฉทํ ‘‘ปท’’นฺติ วุจฺจติ, เอวํ คามวาสีหิ อาวสิตฏฺานํ อธิคตนิวุตฺถาคารํ ‘‘คามปท’’นฺติ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘อยเมวตฺโถ’’ติ. สุสนฺนทฺโธติ ¶ สุเขน คเหตฺวา คมนโยคฺยตาวเสน สุฏฺุ สชฺชิโต. ตํ ปน สุสชฺชนํ สุฏฺุ พนฺธนวเสเนวาติ อาห ‘‘สุพทฺโธ’’ติ.
อยาทีนมฺปิ โลหภาเว สติปิ โลห-สทฺโท สาสเน ตมฺพโลเห นิรุฬฺโหติ อาห ‘‘โลหนฺติ ตมฺพโลห’’นฺติ.
สรณคมนวณฺณนา
๔๓๗. อภิรทฺโธติ ¶ อาราธิตจิตฺโต, สาสนสฺส อาราธิตจิตฺตตา ปสีทนวเสนาติ อาห ‘‘อภิปฺปสนฺโน’’ติ. ปฺหุปฏฺานานีติ ปฺเหสุ อุปฏฺานานิ มยา ปุจฺฉิตตฺเถสุ ตุมฺหากํ วิสฺสชฺชนวเสน าณุปฏฺานานิ.
ยฺกถาวณฺณนา
๔๓๘. สงฺฆาตนฺติ ¶ สํ-สทฺโท ปทวฑฺฒนมตฺตนฺติ อาห ‘‘ฆาต’’นฺติ. วิปากผเลนาติ สทิสผเลน. มหปฺผโล น โหติ ควาทิปาณฆาเตน อุปกฺกิลิฏฺภาวโต. คุณานิสํเสนาติ อุทฺทยผเลน. อานุภาวชุติยาติ ปฏิปกฺขวิคมนชนิเตน สภาวสงฺขาเตน เตเชน. น มหาชุติโก โหติ อปริสุทฺธภาวโต. วิปากวิปฺผารตายาติ วิปากผลสฺส วิปุลตาย, ปาริปูริยาติ อตฺโถ. ทุฏฺุเขตฺเตติ อุสภาทิโทเสหิ ทูสิตเขตฺเต, ตํ ปน วปฺปาภาวโต อสารํ โหตีติ อาห ‘‘นิสฺสารเขตฺเต’’ติ. ทุพฺภูเมติ กุจฺฉิตภูมิภาเค, สฺวาสฺส กุจฺฉิตภาโว อสารตาย วา สิยา นินฺนตาทิโทสวเสน วา. ตตฺถ ปโม ปกฺโข ปมปเทน ทสฺสิโตติ อิตรํ ทสฺเสนฺโต ‘‘วิสมภูมิภาเค’’ติ อาห. ทณฺฑาภิฆาตาทินา ฉินฺนภินฺนานิ. ปูตีนีติ โคมยเลปทานาทิสุเขน อสุกฺขาปิตตฺตา ปูติภาวํ คตานิ. ตานิ ปน ยสฺมา สารวนฺตานิ น โหนฺติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘นิสฺสารานี’’ติ. วาตาตปหตานีติ วาเตน จ อาตเปน จ วินฏฺพีชสามตฺถิยานิ. เตนาห ‘‘ปริยาทินฺนเตชานี’’ติ. ยํ ¶ ยถาชาตวีหิอาทิคเตน ตณฺฑุเลน องฺกุรุปฺปาทนโยคฺยพีชสามตฺถิยํ, ตํ ตณฺฑุลสาโร, ตสฺส อาทานํ คหณํ ตถาอุปฺปชฺชนเมว. เอตานิ ปน พีชานิ น ตาทิสานิ ขณฺฑาทิโทสวนฺตตาย. ธาราย เขตฺเต อนุปฺปเวสนํ นาม วสฺสนเมว, ตํ ปฏิกฺเขปวเสน ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘น สมฺมา วสฺเสยฺยา’’ติ. องฺกุรมูลปตฺตาทีหีติ เจตฺถ องฺกุรกนฺทาทีหิ อุทฺธํ วุทฺธึ, มูลชฏาทีหิ เหฏฺา วิรุฬฺหึ, ปตฺตปุปฺผาทีหิ สมนฺตโต จ เวปุลฺลนฺติ โยชนา.
อปรูปฆาเตนาติ ปเรสํ วิพาธเนน. อุปฺปนฺนปจฺจยโตติ นิพฺพตฺติตฆาสจฺฉาทนาทิเทยฺยธมฺมโต. ควาทิฆาเตนปิ หิ ตตฺถ ปฏิคฺคาหกานํ ฆาโส สงฺกียติ. ‘‘อปรูปฆาติตายา’’ติ อิทํ สีลวนฺตตาย การณวจนํ ¶ . คุณาติเรกนฺติ คุณาติริตฺตํ, สีลาทิโลกุตฺตรคุเณหิ วิสิฏฺนฺติ อตฺโถ. วิปุลาติ สทฺธาสมฺปทาทิวเสน อุฬารา.
อุตฺตรมาณววตฺถุวณฺณนา
๔๓๙. อถ โข เตหิ สกุณฺฑเกหิ ตณฺฑุเลหิ สิทฺธํภตฺตํ อุตฺตณฺฑุลเมว โหตีติ อาห ‘‘อุตฺตณฺฑุลภตฺต’’นฺติ. พิลงฺคํ วุจฺจติ อารนาลํ พิลงฺคโต นิพฺพตฺตนโต, ตเทว กฺชิยโต ชาตนฺติ กฺชิยํ, ตํ ทุติยํ เอตสฺสาติ พิลงฺคทุติยํ, ตํ ‘‘กฺชิกทุติย’’นฺติ จ วุตฺตํ. โธรกานีติ โธวิยานิ. ยสฺมา ถูลตรานิปิ ‘‘ถูลานี’’ติ วตฺตพฺพตํ อรหนฺติ, ตสฺมา ‘‘ถูลานิ ¶ จา’’ติ วุตฺตํ. คุฬทสานีติ สุตฺตานํ ถูลตาย, กฺชิกสฺส พหลตาย จ ปิณฺฑิตทสานิ. เตนาห ‘‘ปฺุชปฺุช…เป… ทสานี’’ติ. อนุทฺทิสตีติ อนุ อนุ กเถติ.
๔๔๐. อสกฺกจฺจนฺติ น สกฺกจฺจํ อนาทรการํ, ตํ ปน ¶ กมฺมผลสทฺธาย อภาเวน โหตีติ อาห ‘‘สทฺธาวิรหิต’’นฺติ. อจิตฺตีกตนฺติ จิตฺตีการปจฺจุปฏฺาปนวเสน น จิตฺตีกตํ. เตนาห ‘‘จิตฺตีการวิรหิต’’นฺติอาทิ. จิตฺตีการรหิตํ วา อจิตฺตีกตํ, ยถา กตํ ปเรสํ วิมฺหยาวหํ โหติ, ตถา อกตํ. จิตฺตสฺส อุฬารปณีตภาโว ปน อสกฺกจฺจทาเนเนว พาธิโต. อปวิทฺธนฺติ ฉฑฺฑนียธมฺมํ วิย อปวิทฺธํ กตฺวา, เอเตน ตสฺมึ ทาเน คารวากรณํ วทติ. เสรีสกํ นามาติ ‘‘เสรีสก’’นฺติ เอวํ นามกํ. ตุจฺฉนฺติ ปริชนปริจฺเฉทวิรหโต ริตฺตํ.
ปายาสิเทวปุตฺตวณฺณนา
๔๔๑. ตสฺสานุภาเวนาติ ตสฺส ทานสฺส อานุภาเวน. สิรีสรุกฺโขติ ปภสฺสรขนฺธวิฏปสาขาปลาสสมฺปนฺโน มนฺุทสฺสโน ทิพฺโพ สิรีสรุกฺโข. อฏฺาสีติ ผลสฺส กมฺมสริกฺขตํ ทสฺเสนฺโต วิมานทฺวาเร นิพฺพตฺติตฺวา อฏฺาสิ. ปุพฺพาจิณฺณวเสนาติ ปุริมชาติยํ ตตฺถ นิวาสปริจยนวเสน. น เกวลํ ปุพฺพาจิณฺณวเสเนว, อถ โข อุตุสุขุมวเสน ปีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตตฺถ กิรสฺส อุตุสุขํ โหตี’’ติ อาห.
โสติ ¶ อุตฺตโร มาณโว. ยทิ อสกฺกจฺจํ ทานํ ทตฺวา ปายาสิ ตตฺถ นิพฺพตฺโต, ปายาสิสฺส ปริจาริกา สกฺกจฺจํ ทานํ ทตฺวา กถํ ตตฺถ นิพฺพตฺตาติ อาห ‘‘ปายาสิสฺส ปนา’’ติ. นิกนฺติวเสนาติ ปายาสิมฺหิ สาเปกฺขาวเสน, ปุพฺเพปิ วา ตตฺถ นิวุตฺถปุพฺพตาย. ทิสาจาริกวิมานนฺติ อากาสฏฺํ หุตฺวา ทิสาสุ วิจรณกวิมานํ, น รุกฺขปพฺพตสิขราทิสมฺพนฺธํ. วฏฺฏนิอฏวิยนฺติ วิมานวีถิยนฺติ.
ปายาสิราชฺสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา.
นิฏฺิตา จ มหาวคฺคฏฺกถาย ลีนตฺถปฺปกาสนา.
มหาวคฺคฏีกา นิฏฺิตา.