📜
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
ทีฆนิกาเย
ปาถิกวคฺคฏฺกถา
๑. ปาถิกสุตฺตวณฺณนา
สุนกฺขตฺตวตฺถุวณฺณนา
๑. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตํ…เป… มลฺเลสุ วิหรตีติ ปาถิกสุตฺตํ. ตตฺรายํ อปุพฺพปทวณฺณนา. มลฺเลสุ วิหรตีติ มลฺลา นาม ชานปทิโน ราชกุมารา, เตสํ นิวาโส เอโกปิ ชนปโท รุฬฺหีสทฺเทน ‘‘มลฺลา’’ติ วุจฺจติ, ตสฺมึ มลฺเลสุ ชนปเท. ‘‘อนุปิยํ นาม มลฺลานํ นิคโม’’ติ อนุปิยนฺติ เอวํนามโก มลฺลานํ ชนปทสฺส เอโก นิคโม, ตํ โคจรคามํ กตฺวา เอกสฺมึ ฉายูทกสมฺปนฺเน วนสณฺเฑ วิหรตีติ อตฺโถ. อโนปิยนฺติปิ ปาโ. ปาวิสีติ ปวิฏฺโ. ภควา ปน น ตาว ปวิฏฺโ, ปวิสิสฺสามีติ นิกฺขนฺตตฺตา ปน ปาวิสีติ วุตฺโต. ยถา กึ, ยถา ‘‘คามํ คมิสฺสามี’’ติ นิกฺขนฺโต ปุริโส ตํ คามํ อปตฺโตปิ ‘‘กุหึ อิตฺถนฺนาโม’’ติ ¶ วุตฺเต ‘‘คามํ คโต’’ติ วุจฺจติ, เอวํ. เอตทโหสีติ คามสมีเป ตฺวา สูริยํ โอโลเกนฺตสฺส เอตทโหสิ. อติปฺปโค โขติ อติวิย ปโค โข, น ตาว กุเลสุ ยาคุภตฺตํ นิฏฺิตนฺติ. กึ ปน ภควา กาลํ อชานิตฺวา นิกฺขนฺโตติ? น อชานิตฺวา. ปจฺจูสกาเลเยว หิ ภควา าณชาลํ ปตฺถริตฺวา โลกํ โวโลเกนฺโต าณชาลสฺส อนฺโต ปวิฏฺํ ภคฺควโคตฺตํ ฉนฺนปริพฺพาชกํ ทิสฺวา ‘‘อชฺชาหํ อิมสฺส ปริพฺพาชกสฺส มยา ปุพฺเพ กตการณํ สมาหริตฺวา ธมฺมํ กเถสฺสามิ, สา ธมฺมกถา ¶ อสฺส มยิ ปสาทปฺปฏิลาภวเสน สผลา ภวิสฺสตี’’ติ ตฺวาว ปริพฺพาชการามํ ปวิสิตุกาโม อติปฺปโคว นิกฺขมิ. ตสฺมา ตตฺถ ปวิสิตุกามตาย เอวํ จิตฺตํ อุปฺปาเทสิ.
๒. เอตทโวจาติ ¶ ภควนฺตํ ทิสฺวา มานถทฺธตํ อกตฺวา สตฺถารํ ปจฺจุคฺคนฺตฺวา เอตํ เอตุ โข, ภนฺเตติอาทิกํ วจนํ อโวจ. อิมํ ปริยายนฺติ อิมํ วารํ, อชฺช อิมํ อาคมนวารนฺติ อตฺโถ. กึ ปน ภควา ปุพฺเพปิ ตตฺถ คตปุพฺโพติ? น คตปุพฺโพ, โลกสมุทาจารวเสน ปน เอวมาห. โลกิยา หิ จิรสฺสํ อาคตมฺปิ อนาคตปุพฺพมฺปิ มนาปชาติกํ อาคตํ ทิสฺวา ‘‘กุโต ภวํ อาคโต, จิรสฺสํ ภวํ อาคโต, กถํ เต อิธาคมนมคฺโค าโต, กึ มคฺคมูฬฺโหสี’’ติอาทีนิ วทนฺติ. ตสฺมา อยมฺปิ โลกสมุทาจารวเสน เอวมาหาติ เวทิตพฺโพ. อิทมาสนนฺติ อตฺตโน นิสินฺนาสนํ ปปฺโผเฏตฺวา สมฺปาเทตฺวา ททมาโน เอวมาห. สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโตติ สุนกฺขตฺโต นาม ลิจฺฉวิราชปุตฺโต. โส กิร ตสฺส คิหิสหาโย โหติ, กาเลน กาลํ ตสฺส สนฺติกํ คจฺฉติ. ปจฺจกฺขาโตติ ‘‘ปจฺจกฺขามิ ทานาหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ น ทานาหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ อุทฺทิสฺส วิหริสฺสามี’’ติ เอวํ ปฏิอกฺขาโต นิสฺสฏฺโ ปริจฺจตฺโต.
๓. ภควนฺตํ อุทฺทิสฺสาติ ภควา เม สตฺถา ‘‘ภควโต อหํ โอวาทํ ปฏิกโรมี’’ติ เอวํ อปทิสิตฺวา. โก สนฺโต กํ ปจฺจาจิกฺขสีติ ยาจโก วา ยาจิตกํ ปจฺจาจิกฺเขยฺย, ยาจิตโก วา ยาจกํ. ตฺวํ ปน เนว ยาจโก น ยาจิตโก, เอวํ สนฺเต, โมฆปุริส, โก สนฺโต โก สมาโน กํ ปจฺจาจิกฺขสีติ ทสฺเสติ. ปสฺส โมฆปุริสาติ ปสฺส ตุจฺฉปุริส. ยาวฺจ เต อิทํ อปรทฺธนฺติ ยตฺตกํ อิทํ ตว อปรทฺธํ, ยตฺตโก เต อปราโธ ตตฺตโก โทโสติ เอวาหํ ภคฺคว ตสฺส โทสํ อาโรเปสินฺติ ทสฺเสติ.
๔. อุตฺตริมนุสฺสธมฺมาติ ปฺจสีลทสสีลสงฺขาตา มนุสฺสธมฺมาอุตฺตริ. อิทฺธิปาฏิหาริยนฺติ อิทฺธิภูตํ ปาฏิหาริยํ. กเต วาติ กตมฺหิ วา. ยสฺสตฺถายาติ ยสฺส ทุกฺขกฺขยสฺส อตฺถาย. โส ¶ นิยฺยาติ ตกฺกรสฺสาติ ¶ โส ธมฺโม ตกฺกรสฺส ยถา มยา ธมฺโม เทสิโต, ตถา การกสฺส สมฺมา ปฏิปนฺนสฺส ปุคฺคลสฺส สพฺพวฏฺฏทุกฺขกฺขยาย อมตนิพฺพานสจฺฉิกิริยาย ¶ คจฺฉติ, น คจฺฉติ, สํวตฺตติ, น สํวตฺตตีติ ปุจฺฉติ. ตตฺร สุนกฺขตฺตาติ ตสฺมึ สุนกฺขตฺต มยา เทสิเต ธมฺเม ตกฺกรสฺส สมฺมา ทุกฺขกฺขยาย สํวตฺตมาเน กึ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริยํ กตํ กริสฺสติ, โก เตน กเตน อตฺโถ. ตสฺมิฺหิ กเตปิ อกเตปิ มม สาสนสฺส ปริหานิ นตฺถิ, เทวมนุสฺสานฺหิ อมตนิพฺพานสมฺปาปนตฺถาย อหํ ปารมิโย ปูเรสึ, น ปาฏิหาริยกรณตฺถายาติ ปาฏิหาริยสฺส นิรตฺถกตํ ทสฺเสตฺวา ‘‘ปสฺส, โมฆปุริสา’’ติ ทุติยํ โทสํ อาโรเปสิ.
๕. อคฺคฺนฺติ โลกปฺตฺตึ. ‘‘อิทํ นาม โลกสฺส อคฺค’’นฺติ เอวํ ชานิตพฺพมฺปิ อคฺคํ มริยาทํ น ตํ ปฺเปตีติ วทติ. เสสเมตฺถ อนนฺตรวาทานุสาเรเนว เวทิตพฺพํ.
๖. อเนกปริยาเยน โขติ อิทํ กสฺมา อารทฺธํ. สุนกฺขตฺโต กิร ‘‘ภควโต คุณํ มกฺเขสฺสามิ, ‘‘โทสํ ปฺเปสฺสามี’’ติ เอตฺตกํ วิปฺปลปิตฺวา ภควโต กถํ สุณนฺโต อปฺปติฏฺโ นิรโว อฏฺาสิ.
อถ ภควา – ‘‘สุนกฺขตฺต, เอวํ ตฺวํ มกฺขิภาเว ิโต สยเมว ครหํ ปาปุณิสฺสสี’’ติ มกฺขิภาเว อาทีนวทสฺสนตฺถํ อเนกปริยาเยนาติอาทิมาห. ตตฺถ อเนกปริยาเยนาติ อเนกการเณน. วชฺชิคาเมติ วชฺชิราชานํ คาเม, เวสาลีนคเร โน วิสหีติ นาสกฺขิ. โส อวิสหนฺโตติ โส สุนกฺขตฺโต ยสฺส ปุพฺเพ ติณฺณํ รตนานํ วณฺณํ กเถนฺตสฺส มุขํ นปฺปโหติ, โส ทานิ เตเนว มุเขน อวณฺณํ กเถติ, อทฺธา อวิสหนฺโต อสกฺโกนฺโต พฺรหฺมจริยํ จริตุํ อตฺตโน พาลตาย อวณฺณํ กเถตฺวา หีนายาวตฺโต. พุทฺโธ ปน สุพุทฺโธว, ธมฺโม สฺวากฺขาโตว, สงฺโฆ สุปฺปฏิปนฺโนว. เอวํ ตีณิ รตนานิ โถเมนฺตา มนุสฺสา ตุยฺเหว โทสํ ทสฺเสสฺสนฺตีติ. อิติ โข เตติ เอวํ โข เต, สุนกฺขตฺต, วตฺตาโร ภวิสฺสนฺติ. ตโต เอวํ โทเส อุปฺปนฺเน สตฺถา อตีตานาคเต อปฺปฏิหตาโณ, มยฺหํ เอวํ โทโส อุปฺปชฺชิสฺสตีติ ชานนฺโตปิ ปุเรตรํ น กเถสีติ วตฺตุํ น ลจฺฉสีติ ทสฺเสติ. อปกฺกเมวาติ ¶ อปกฺกมิเยว, อปกฺกนฺโต วา จุโตติ อตฺโถ. ยถา ¶ ตํ อาปายิโกติ ยถา อปาเย นิพฺพตฺตนารโห สตฺโต อปกฺกเมยฺย, เอวเมว อปกฺกมีติ อตฺโถ.
โกรกฺขตฺติยวตฺถุวณฺณนา
๗. เอกมิทาหนฺติ ¶ อิมินา กึ ทสฺเสติ? อิทํ สุตฺตํ ทฺวีหิ ปเทหิ อาพทฺธํ อิทฺธิปาฏิหาริยํ น กโรตีติ จ อคฺคฺํ น ปฺเปตีติ จ. ตตฺถ ‘‘อคฺคฺํ น ปฺเปตี’’ติ อิทํ ปทํ สุตฺตปริโยสาเน ทสฺเสสฺสติ. ‘‘ปาฏิหาริยํ น กโรตี’’ติ อิมสฺส ปน ปทสฺส อนุสนฺธิทสฺสนวเสน อยํ เทสนา อารทฺธา.
ตตฺถ เอกมิทาหนฺติ เอกสฺมึ อหํ. สมยนฺติ สมเย, เอกสฺมึ กาเล อหนฺติ อตฺโถ. ถูลูสูติ ถูลู นาม ชนปโท, ตตฺถ วิหรามิ. อุตฺตรกา นามาติ อิตฺถิลิงฺควเสน อุตฺตรกาติ เอวํนามโก ถูลูนํ ชนปทสฺส นิคโม, ตํ นิคมํ โคจรคามํ กตฺวาติ อตฺโถ. อเจโลติ นคฺโค. โกรกฺขตฺติโยติ อนฺโตวงฺกปาโท ขตฺติโย. กุกฺกุรวติโกติ สมาทินฺนกุกฺกุรวโต สุนโข วิย ฆายิตฺวา ขาทติ, อุทฺธนนฺตเร นิปชฺชติ, อฺมฺปิ สุนขกิริยเมว กโรติ. จตุกฺกุณฺฑิโกติ จตุสงฺฆฏฺฏิโต ทฺเว ชาณูนิ ทฺเว จ กปฺปเร ภูมิยํ เปตฺวา วิจรติ. ฉมานิกิณฺณนฺติ ภูมิยํ นิกิณฺณํ ปกฺขิตฺตํ ปิตํ. ภกฺขสนฺติ ภกฺขํ ยํกิฺจิ ขาทนียํ โภชนียํ. มุเขเนวาติ หตฺเถน อปรามสิตฺวา ขาทนียํ มุเขเนว ขาทติ, โภชนียมฺปิ มุเขเนว ภฺุชติ. สาธุรูโปติ สุนฺทรรูโป. อยํ สมโณติ อยํ อรหตํ สมโณ เอโกติ. ตตฺถ วตาติ ปตฺถนตฺเถ นิปาโต. เอวํ กิรสฺส ปตฺถนา อโหสิ ‘‘อิมินา สมเณน สทิโส อฺโ สมโณ นาม นตฺถิ, อยฺหิ อปฺปิจฺฉตาย วตฺถํ น นิวาเสติ, ‘เอส ปปฺโจ’ติ มฺมาโน ภิกฺขาภาชนมฺปิ น ปริหรติ, ฉมานิกิณฺณเมว ขาทติ, อยํ สมโณ นาม. มยํ ปน กึ สมณา’’ติ? เอวํ สพฺพฺุพุทฺธสฺส ปจฺฉโต จรนฺโตว อิมํ ปาปกํ วิตกฺกํ วิตกฺเกสิ.
เอตทโวจาติ ¶ ภควา กิร จินฺเตสิ ‘‘อยํ สุนกฺขตฺโต ปาปชฺฌาสโย, กึ นุ อิมํ ทิสฺวา จินฺเตสี’’ติ? อเถวํ จินฺเตนฺโต ตสฺส อชฺฌาสยํ วิทิตฺวา ‘‘อยํ โมฆปุริโส มาทิสสฺส สพฺพฺุโน ปจฺฉโต อาคจฺฉนฺโต ¶ อเจลํ อรหาติ มฺติ, อิเธว ทานายํ พาโล นิคฺคหํ อรหตี’’ติ อนิวตฺติตฺวาว เอตํ ตฺวมฺปิ นามาติอาทิวจนมโวจ. ตตฺถ ตฺวมฺปิ นามาติ ครหตฺเถ ปิกาโร. ครหนฺโต หิ นํ ภควา ‘‘ตฺวมฺปิ นามา’’ติ อาห. ‘‘ตฺวมฺปิ นาม เอวํ หีนชฺฌาสโย, อหํ สมโณ สกฺยปุตฺติโยติ เอวํ ปฏิชานิสฺสสี’’ติ อยฺเหตฺถ อธิปฺปาโย. กึ ปน มํ, ภนฺเตติ มยฺหํ, ภนฺเต, กึ คารยฺหํ ทิสฺวา ภควา ‘‘เอวมาหา’’ติ ปุจฺฉติ. อถสฺส ภควา อาจิกฺขนฺโต ‘‘นนุ เต’’ติอาทิมาห. มจฺฉรายตีติ ‘‘มา อฺสฺส ¶ อรหตฺตํ โหตู’’ติ กึ ภควา เอวํ อรหตฺตสฺส มจฺฉรายตีติ ปุจฺฉติ. น โข อหนฺติ อหํ, โมฆปุริส, สเทวกสฺส โลกสฺส อรหตฺตปฺปฏิลาภเมว ปจฺจาสีสามิ, เอตทตฺถเมว เม พหูนิ ทุกฺกรานิ กโรนฺเตน ปารมิโย ปูริตา, น โข อหํ, โมฆปุริส, อรหตฺตสฺส มจฺฉรายามิ. ปาปกํ ทิฏฺิคตนฺติ น อรหนฺตํ อรหาติ, อรหนฺเต จ อนรหนฺโตติ เอวํ ตสฺส ทิฏฺิ อุปฺปนฺนา. ตํ สนฺธาย ‘‘ปาปกํ ทิฏฺิคต’’นฺติ อาห. ยํ โข ปนาติ ยํ เอตํ อเจลํ เอวํ มฺสิ. สตฺตมํ ทิวสนฺติ สตฺตเม ทิวเส. อลสเกนาติ อลสกพฺยาธินา. กาลงฺกริสฺสตีติ อุทฺธุมาตอุทโร มริสฺสติ.
กาลกฺจิกาติ เตสํ อสุรานํ นามํ. เตสํ กิร ติคาวุโต อตฺตภาโว อปฺปมํสโลหิโต ปุราณปณฺณสทิโส กกฺกฏกานํ วิย อกฺขีนิ นิกฺขมิตฺวา มตฺถเก ติฏฺนฺติ, มุขํ สูจิปาสกสทิสํ มตฺถกสฺมึเยว โหติ, เตน โอณมิตฺวา โคจรํ คณฺหนฺติ. พีรณตฺถมฺพเกติ พีรณติณตฺถมฺโพ ตสฺมึ สุสาเน อตฺถิ, ตสฺมา ตํ พีรณตฺถมฺพกนฺติ วุจฺจติ.
เตนุปสงฺกมีติ ภควติ เอตฺตกํ วตฺวา ตสฺมึ คาเม ปิณฺฑาย จริตฺวา วิหารํ คเต วิหารา นิกฺขมิตฺวา อุปสงฺกมิ. เยน ตฺวนฺติ เยน การเณน ตฺวํ. ยสฺมาปิ ภควตา พฺยากโต, ตสฺมาติ อตฺโถ. มตฺตํ ¶ มตฺตนฺติ ปมาณยุตฺตํ ปมาณยุตฺตํ. ‘‘มนฺตา มนฺตา’’ติปิ ปาโ, ปฺาย อุปปริกฺขิตฺวา อุปปริกฺขิตฺวาติ อตฺโถ. ยถา สมณสฺส โคตมสฺสาติ ยถา สมณสฺส โคตมสฺส มิจฺฉา วจนํ อสฺส, ตถา กเรยฺยาสีติ อาห. เอวํ วุตฺเต อเจโล สุนโข วิย อุทฺธนฏฺาเน นิปนฺโน สีสํ อุกฺขิปิตฺวา อกฺขีนิ อุมฺมีเลตฺวา โอโลเกนฺโต กึ กเถสิ ‘‘สมโณ นาม ¶ โคตโม อมฺหากํ เวรี วิสภาโค, สมณสฺส โคตมสฺส อุปฺปนฺนกาลโต ปฏฺาย มยํ สูริเย อุคฺคเต ขชฺโชปนกา วิย ชาตา. สมโณ โคตโม อมฺเห, เอวํ วาจํ วเทยฺย อฺถา วา. เวริโน ปน กถา นาม ตจฺฉา น โหติ, คจฺฉ ตฺวํ อหเมตฺถ กตฺตพฺพํ ชานิสฺสามี’’ติ วตฺวา ปุนเทว นิปชฺชิ.
๘. เอกทฺวีหิกายาติ เอกํ ทฺเวติ วตฺวา คเณสิ. ยถา ตนฺติ ยถา อสทฺทหมาโน โกจิ คเณยฺย, เอวํ คเณสิ. เอกทิวสฺจ ติกฺขตฺตุํ อุปสงฺกมิตฺวา เอโก ทิวโส อตีโต, ทฺเว ทิวสา อตีตาติ อาโรเจสิ. สตฺตมํ ทิวสนฺติ โส กิร สุนกฺขตฺตสฺส วจนํ สุตฺวา สตฺตาหํ นิราหาโรว อโหสิ. อถสฺส สตฺตเม ทิวเส เอโก อุปฏฺาโก ‘‘อมฺหากํ กุลูปกสมณสฺส อชฺช สตฺตโม ทิวโส เคหํ อนาคจฺฉนฺตสฺส อผาสุ นุ โข ชาต’’นฺติ สูกรมํสํ ปจาเปตฺวา ภตฺตมาทาย คนฺตฺวา ปุรโต ภูมิยํ นิกฺขิปิ. อเจโล ทิสฺวา จินฺเตสิ ‘‘สมณสฺส โคตมสฺส กถา ¶ ตจฺฉา วา อตจฺฉา วา โหตุ, อาหารํ ปน ขาทิตฺวา สุหิตสฺส เม มรณมฺปิ สุมรณ’’นฺติ ทฺเว หตฺเถ ชณฺณุกานิ จ ภูมิยํ เปตฺวา กุจฺฉิปูรํ ภฺุชิ. โส รตฺติภาเค ชีราเปตุํ อสกฺโกนฺโต อลสเกน กาลมกาสิ. สเจปิ หิ โส ‘‘น ภฺุเชยฺย’’นฺติ จินฺเตยฺย, ตถาปิ ตํ ทิวสํ ภฺุชิตฺวา อลสเกน กาลํ กเรยฺย. อทฺเวชฺฌวจนา หิ ตถาคตาติ.
พีรณตฺถมฺพเกติ ติตฺถิยา กิร ‘‘กาลงฺกโต โกรกฺขตฺติโย’’ติ สุตฺวา ทิวสานิ คเณตฺวา อิทํ ตาว สจฺจํ ชาตํ, อิทานิ นํ อฺตฺถ ฉฑฺเฑตฺวา ‘‘มุสาวาเทน สมณํ โคตมํ นิคฺคณฺหิสฺสามา’’ติ คนฺตฺวา ตสฺส สรีรํ วลฺลิยา พนฺธิตฺวา อากฑฺฒนฺตา ‘‘เอตฺถ ฉฑฺเฑสฺสาม, เอตฺถ ฉฑฺเฑสฺสามา’’ติ คจฺฉนฺติ. คตคตฏฺานํ องฺคณเมว โหติ. เต กฑฺฒมานา พีรณตฺถมฺพกสุสานํเยว คนฺตฺวา สุสานภาวํ ตฺวา ‘‘อฺตฺถ ฉฑฺเฑสฺสามา’’ติ อากฑฺฒึสุ. อถ ¶ เนสํ วลฺลิ ฉิชฺชิตฺถ, ปจฺฉา จาเลตุํ นาสกฺขึสุ. เต ตโตว ปกฺกนฺตา. เตน วุตฺตํ – ‘‘พีรณตฺถมฺพเก สุสาเน ฉฑฺเฑสุ’’นฺติ.
๙. เตนุปสงฺกมีติ กสฺมา อุปสงฺกมิ? โส กิร จินฺเตสิ ‘‘อวเสสํ ตาว สมณสฺส โคตมสฺส วจนํ สเมติ, มตสฺส ปน อุฏฺาย อฺเน สทฺธึ กถนํ นาม นตฺถิ, หนฺทาหํ คนฺตฺวา ปุจฺฉามิ. สเจ กเถติ, สุนฺทรํ. โน ¶ เจ กเถติ, สมณํ โคตมํ มุสาวาเทน นิคฺคณฺหิสฺสามี’’ติ อิมินา การเณน อุปสงฺกมิ. อาโกเฏสีติ ปหริ. ชานามิ อาวุโสติ มตสรีรํ อุฏฺหิตฺวา กเถตุํ สมตฺถํ นาม นตฺถิ, อิทํ กถํ กเถสีติ? พุทฺธานุภาเวน. ภควา กิร โกรกฺขตฺติยํ อสุรโยนิโต อาเนตฺวา สรีเร อธิโมเจตฺวา กถาเปสิ. ตเมว วา สรีรํ กถาเปสิ, อจินฺเตยฺโย หิ พุทฺธวิสโย.
๑๐. ตเถว ตํ วิปากนฺติ ตสฺส วจนสฺส วิปากํ ตเถว, อุทาหุ โนติ ลิงฺควิปลฺลาโส กโต, ตเถว โส วิปาโกติ อตฺโถ. เกจิ ปน ‘‘วิปกฺก’’นฺติปิ ปนฺติ, นิพฺพตฺตนฺติ อตฺโถ.
เอตฺถ ตฺวา ปาฏิหาริยานิ สมาเนตพฺพานิ. สพฺพาเนว เหตานิ ปฺจ ปาฏิหาริยานิ โหนฺติ. ‘‘สตฺตเม ทิวเส มริสฺสตี’’ติ วุตฺตํ, โส ตเถว มโต, อิทํ ปมํ ปาฏิหาริยํ. ‘‘อลสเกนา’’ติ วุตฺตํ, อลสเกเนว มโต, อิทํ ทุติยํ. ‘‘กาลกฺจิเกสุ นิพฺพตฺติสฺสตี’’ติ วุตฺตํ, ตตฺเถว นิพฺพตฺโต, อิทํ ตติยํ. ‘‘พีรณตฺถมฺพเก สุสาเน ฉฑฺเฑสฺสนฺตี’’ติ วุตฺตํ, ตตฺเถว ฉฑฺฑิโต ¶ , อิทํ จตุตฺถํ. ‘‘นิพฺพตฺตฏฺานโต อาคนฺตฺวา สุนกฺขตฺเตน สทฺธึ กเถสฺสตี’’ติ วุตฺโต, โส กเถสิเยว, อิทํ ปฺจมํ ปาฏิหาริยํ.
อเจลกฬารมฏฺฏกวตฺถุวณฺณนา
๑๑. กฬารมฏฺฏโกติ นิกฺขนฺตทนฺตมตฺตโก. นามเมว วา ตสฺเสตํ. ลาภคฺคปฺปตฺโตติ ลาภคฺคํ ปตฺโต, อคฺคลาภํ ปตฺโตติ วุตฺตํ โหติ. ยสคฺคปฺปตฺโตติ ยสคฺคํ อคฺคปริวารํ ปตฺโต. วตปทานีติ วตานิเยว, วตโกฏฺาสา วา. สมตฺตานีติ คหิตานิ. สมาทินฺนานีติ ตสฺเสว เววจนํ. ปุรตฺถิเมน เวสาลินฺติ เวสาลิโต อวิทูเร ปุรตฺถิมาย ทิสาย. เจติยนฺติ ¶ ยกฺขเจติยฏฺานํ. เอส นโย สพฺพตฺถ.
๑๒. เยน อเจลโกติ ภควโต วตฺตํ กตฺวา เยน อเจโล กฬารมฏฺฏโก เตนุปสงฺกมิ. ปฺหํ อปุจฺฉีติ คมฺภีรํ ติลกฺขณาหตํ ปฺหํ ปุจฺฉิ. น สมฺปายาสีติ น สมฺมา าณคติยา ปายาสิ, อนฺโธ วิย วิสมฏฺาเน ตตฺถ ตตฺเถว ปกฺขลิ. เนว อาทึ, น ปริโยสานมทฺทส. อถ ¶ วา ‘‘น สมฺปายาสี’’ติ น สมฺปาเทสิ, สมฺปาเทตฺวา กเถตุํ นาสกฺขิ. อสมฺปายนฺโตติ กพรกฺขีนิ ปริวตฺเตตฺวา โอโลเกนฺโต ‘‘อสิกฺขิตกสฺส สนฺติเก วุฏฺโสิ, อโนกาเสปิ ปพฺพชิโต ปฺหํ ปุจฺฉนฺโต วิจรสิ, อเปหิ มา เอตสฺมึ าเน อฏฺาสี’’ติ วทนฺโต. โกปฺจ โทสฺจ อปฺปจฺจยฺจ ปาตฺวากาสีติ กุปฺปนาการํ โกปํ, ทุสฺสนาการํ โทสํ, อตุฏฺาการภูตํ โทมนสฺสสงฺขาตํ อปฺปจฺจยฺจ ปากฏมกาสิ. อาสาทิมฺหเสติ อาสาทิยิมฺห ฆฏฺฏยิมฺห. มา วต โน อโหสีติ อโห วต เม น ภเวยฺย. มํ วต โน อโหสีติปิ ปาโ. ตตฺถ มนฺติ สามิวจนตฺเถ อุปโยควจนํ, อโหสิ วต นุ มมาติ อตฺโถ. เอวฺจ ปน จินฺเตตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา ‘‘ขมถ เม, ภนฺเต’’ติ ตํ ขมาเปสิ. โสปิ อิโต ปฏฺาย อฺํ กิฺจิ ปฺหํ นาม น ปุจฺฉิสฺสสีติ. อาม น ปุจฺฉิสฺสามีติ. ยทิ เอวํ คจฺฉ, ขมามิ เตติ ตํ อุยฺโยเชสิ.
๑๔. ปริหิโตติ ปริทหิโต นิวตฺถวตฺโถ. สานุจาริโกติ อนุจาริกา วุจฺจติ ภริยา, สห อนุจาริกาย สานุจาริโก, ตํ ตํ พฺรหฺมจริยํ ปหาย สภริโยติ อตฺโถ. โอทนกุมฺมาสนฺติ สุรามํสโต อติเรกํ โอทนมฺปิ กุมฺมาสมฺปิ ภฺุชมาโน. ยสา นิหีโนติ ยํ ลาภคฺคยสคฺคํ ปตฺโต, ตโต ปริหีโน หุตฺวา. ‘‘กตํ โหติ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อิทฺธิปาฏิหาริย’’นฺติ อิธ สตฺตวตปทาติกฺกมวเสน สตฺต ปาฏิหาริยานิ เวทิตพฺพานิ.
อเจลปาถิกปุตฺตวตฺถุวณฺณนา
๑๕. ปาถิกปุตฺโตติ ¶ ปาถิกสฺส ปุตฺโต. าณวาเทนาติ าณวาเทน สทฺธึ. อุปฑฺฒปถนฺติ ¶ โยชนํ เจ, โน อนฺตเร ภเวยฺย, โคตโม อฑฺฒโยชนํ, อหํ อฑฺฒโยชนํ. เอส นโย อฑฺฒโยชนาทีสุ. เอกปทวารมฺปิ อติกฺกมฺม คจฺฉโต ชโย ภวิสฺสติ, อนาคจฺฉโต ปราชโยติ. เต ตตฺถาติ เต มยํ ตตฺถ สมาคตฏฺาเน. ตทฺทิคุณํ ตทฺทิคุณาหนฺติ ตโต ตโต ทิคุณํ ทิคุณํ อหํ กริสฺสามิ, ภควตา สทฺธึ ปาฏิหาริยํ กาตุํ อสมตฺถภาวํ ชานนฺโตปิ ‘‘อุตฺตมปุริเสน สทฺธึ ปฏฺเปตฺวา อสกฺกุณนฺตสฺสาปิ ปาสํโส โหตี’’ติ ตฺวา เอวมาห. นครวาสิโนปิ ¶ ตํ สุตฺวา ‘‘อสมตฺโถ นาม เอวํ น คชฺชติ, อทฺธา อยมฺปิ อรหา ภวิสฺสตี’’ติ ตสฺส มหนฺตํ สกฺการมกํสุ.
๑๖. เยนาหํ เตนุปสงฺกมีติ ‘‘สุนกฺขตฺโต กิร ปาถิกปุตฺโต เอวํ วทตี’’ติ อสฺโสสิ. อถสฺส หีนชฺฌาสยตฺตา หีนทสฺสนาย จิตฺตํ อุทปาทิ.
โส ภควโต วตฺตํ กตฺวา ภควติ คนฺธกุฏึ ปวิฏฺเ ปาถิกปุตฺตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ปุจฺฉิ ‘‘ตุมฺเห กิร เอวรูปึ กถํ กเถถา’’ติ? ‘‘อาม, กเถมา’’ติ. ยทิ เอวํ ‘‘มา ภายิตฺถ วิสฺสตฺถา ปุนปฺปุนํ เอวํ วทถ, อหํ สมณสฺส โคตมสฺส อุปฏฺาโก, ตสฺส วิสยํ วิชานามิ, ตุมฺเหหิ สทฺธึ ปาฏิหาริยํ กาตุํ น สกฺขิสฺสติ, อหํ สมณสฺส โคตมสฺส กเถตฺวา ภยํ อุปฺปาเทตฺวา ตํ อฺโต คเหตฺวา คมิสฺสามิ, ตุมฺเห มา ภายิตฺถา’’ติ ตํ อสฺสาเสตฺวา ภควโต สนฺติกํ คโต. เตน วุตฺตํ ‘‘เยนาหํ เตนุปสงฺกมี’’ติ. ตํ วาจนฺติอาทีสุ ‘‘อหํ อพุทฺโธว สมาโน พุทฺโธมฺหีติ วิจรึ, อภูตํ เม กถิตํ นาหํ พุทฺโธ’’ติ วทนฺโต ตํ วาจํ ปชหติ นาม. รโห นิสีทิตฺวา จินฺตยมาโน ‘‘อหํ ‘เอตฺตกํ กาลํ อพุทฺโธว สมาโน พุทฺโธมฺหี’ติ วิจรึ, อิโต ทานิ ปฏฺาย นาหํ พุทฺโธ’’ติ จินฺตยนฺโต ตํ จิตฺตํ ปชหติ นาม. ‘‘อหํ ‘เอตฺตกํ กาลํ อพุทฺโธว สมาโน พุทฺโธมฺหี’ติ ปาปกํ ทิฏฺึ คเหตฺวา วิจรึ, อิโต ทานิ ปฏฺาย อิมํ ทิฏฺึ ปชหามี’’ติ ปชหนฺโต ตํ ทิฏฺึ ปฏินิสฺสชฺชติ นาม. เอวํ อกโรนฺโต ปน ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวาติ วุจฺจติ. วิปเตยฺยาติ พนฺธนา มุตฺตตาลปกฺกํ วิย คีวโต ปเตยฺย, สตฺตธา วา ปน ผเลยฺย.
๑๗. รกฺขเตตนฺติ ¶ รกฺขตุ เอตํ. เอกํเสนาติ นิปฺปริยาเยน. โอธาริตาติ ภาสิตา. อเจโล ¶ จ, ภนฺเต, ปาถิกปุตฺโตติ เอวํ เอกํเสน ภควโต วาจาย โอธาริตาย สเจ อเจโล ปาถิกปุตฺโต. วิรูปรูเปนาติ วิคตรูเปน วิคจฺฉิตสภาเวน รูเปน อตฺตโน รูปํ ปหาย อทิสฺสมาเนน กาเยน. สีหพฺยคฺฆาทิวเสน วา วิวิธรูเปน สมฺมุขีภาวํ อาคจฺเฉยฺย. ตทสฺส ภควโต มุสาติ เอวํ สนฺเต ภควโต ตํ วจนํ มุสา ภเวยฺยาติ มุสาวาเทน นิคฺคณฺหาติ. เปตฺวา กิร เอตํ น อฺเน ภควา มุสาวาเทน นิคฺคหิตปุพฺโพติ.
๑๘. ทฺวยคามินีติ ¶ สรูเปน อตฺถิภาวํ, อตฺเถน นตฺถิภาวนฺติ เอวํ ทฺวยคามินี. อลิกตุจฺฉนิปฺผลวาจาย เอตํ อธิวจนํ.
๑๙. อชิโตปิ นาม ลิจฺฉวีนํ เสนาปตีติ โส กิร ภควโต อุปฏฺาโก อโหสิ, โส กาลมกาสิ. อถสฺส สรีรกิจฺจํ กตฺวา มนุสฺสา ปาถิกปุตฺตํ ปุจฺฉึสุ ‘‘กุหึ นิพฺพตฺโต เสนาปตี’’ติ? โส อาห – ‘‘มหานิรเย นิพฺพตฺโต’’ติ. อิทฺจ ปน วตฺวา ปุน อาห ‘‘ตุมฺหากํ เสนาปติ มม สนฺติกํ อาคมฺม อหํ ตุมฺหากํ วจนมกตฺวา สมณสฺส โคตมสฺส วาทํ ปติฏฺเปตฺวา นิรเย นิพฺพตฺโตมฺหี’’ติ ปโรทิตฺถาติ. เตนุปสงฺกมิ ทิวาวิหารายาติ เอตฺถ ‘‘ปาฏิหาริยกรณตฺถายา’’ติ กสฺมา น วทติ? อภาวา. สมฺมุขีภาโวปิ หิสฺส เตน สทฺธึ นตฺถิ, กุโต ปาฏิหาริยกรณํ, ตสฺมา ตถา อวตฺวา ‘‘ทิวาวิหารายา’’ติ อาห.
อิทฺธิปาฏิหาริยกถาวณฺณนา
๒๐. คหปติเนจยิกาติ คหปติ มหาสาลา. เตสฺหิ มหาธนธฺนิจโย, ตสฺมา ‘‘เนจยิกา’’ติ วุจฺจนฺติ. อเนกสหสฺสาติ สหสฺเสหิปิ อปริมาณคณนา. เอวํ มหตึ กิร ปริสํ เปตฺวา สุนกฺขตฺตํ อฺโ สนฺนิปาเตตุํ สมตฺโถ นตฺถิ. เตเนว ภควา เอตฺตกํ กาลํ สุนกฺขตฺตํ คเหตฺวา วิจริ.
๒๑. ภยนฺติ จิตฺตุตฺราสภยํ. ฉมฺภิตตฺตนฺติ สกลสรีรจลนํ. โลมหํโสติ โลมานํ อุทฺธคฺคภาโว. โส กิร จินฺเตสิ – ‘‘อหํ ¶ อติมหนฺตํ กถํ กเถตฺวา สเทวเก โลเก อคฺคปุคฺคเลน สทฺธึ ปฏิวิรุทฺโธ, มยฺหํ โข ปนพฺภนฺตเร อรหตฺตํ วา ปาฏิหาริยกรณเหตุ วา นตฺถิ, สมโณ ปน โคตโม ปาฏิหาริยํ กริสฺสติ, อถสฺส ปาฏิหาริยํ ทิสฺวา มหาชโน ‘ตฺวํ ทานิ ปาฏิหาริยํ กาตุํ อสกฺโกนฺโต กสฺมา อตฺตโน ปมาณมชานิตฺวา โลเก อคฺคปุคฺคเลน สทฺธึ ปฏิมลฺโล หุตฺวา คชฺชสี’ติ กฏฺเลฑฺฑุทณฺฑาทีหิ วิเหเสฺสตี’’ติ. เตนสฺส มหาชนสนฺนิปาตฺเจว ¶ เตน ภควโต จ อาคมนํ สุตฺวา ภยํ วา ฉมฺภิตตฺตํ วา โลมหํโส วา อุทปาทิ. โส ตโต ทุกฺขา มุจฺจิตุกาโม ตินฺทุกขาณุกปริพฺพาชการามํ อคมาสิ. ตมตฺถํ ทสฺเสตุํ อถ โข ภควาติอาทิมาห ¶ . ตตฺถ อุปสงฺกมีติ น เกวลํ อุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ปน ทูรํ อฑฺฒโยชนนฺตรํ ปริพฺพาชการามํ ปวิฏฺโ. ตตฺถปิ จิตฺตสฺสาทํ อลภมาโน อนฺตนฺเตน อาวิชฺฌิตฺวา อารามปจฺจนฺเต เอกํ คหนฏฺานํ อุปธาเรตฺวา ปาสาณผลเก นิสีทิ. อถ ภควา จินฺเตสิ – ‘‘สเจ อยํ พาโล กสฺสจิเทว กถํ คเหตฺวา อิธาคจฺเฉยฺย, มา นสฺสตุ พาโล’’ติ ‘‘นิสินฺนปาสาณผลกํ ตสฺส สรีเร อลฺลีนํ โหตู’’ติ อธิฏฺาสิ. สห อธิฏฺานจิตฺเตน ตํ ตสฺส สรีเร อลฺลียิ. โส มหาอทฺทุพนฺธนพทฺโธ วิย ฉินฺนปาโท วิย จ อโหสิ.
อสฺโสสีติ อิโต จิโต จ ปาถิกปุตฺตํ ปริเยสมานา ปริสา ตสฺส อนุปทํ คนฺตฺวา นิสินฺนฏฺานํ ตฺวา อาคเตน อฺตเรน ปุริเสน ‘‘ตุมฺเห กํ ปริเยสถา’’ติ วุตฺเต ปาถิกปุตฺตนฺติ. โส ‘‘ตินฺทุกขาณุกปริพฺพาชการาเม นิสินฺโน’’ติ วุตฺตวจเนน อสฺโสสิ.
๒๒. สํสปฺปตีติ โอสีทติ. ตตฺเถว สฺจรติ. ปาวฬา วุจฺจติ อานิสทฏฺิกา.
๒๓. ปราภูตรูโปติ ปราชิตรูโป, วินฏฺรูโป วา.
๒๕. โคยุเคหีติ โคยุตฺเตหิ สตมตฺเตหิ วา สหสฺสมตฺเตหิ วา ยุเคหิ. อาวิฺเฉยฺยามาติ อากฑฺเฒยฺยาม. ฉิชฺเชยฺยุนฺติ ฉินฺเทยฺยุํ. ปาถิกปุตฺโต ¶ วา พนฺธฏฺาเน ฉิชฺเชยฺย.
๒๖. ทารุปตฺติกนฺเตวาสีติ ทารุปตฺติกสฺส อนฺเตวาสี. ตสฺส กิร เอตทโหสิ ‘‘ติฏฺตุ ตาว ปาฏิหาริยํ, สมโณ โคตโม ‘อเจโล ปาถิกปุตฺโต อาสนาปิ น วุฏฺหิสฺสตี’ติ อาห. หนฺทาหํ คนฺตฺวา เยน เกนจิ อุปาเยน ตํ อาสนา วุฏฺาเปมิ. เอตฺตาวตา จ สมณสฺส โคตมสฺส ปราชโย ภวิสฺสตี’’ติ. ตสฺมา เอวมาห.
๒๗. สีหสฺสาติ จตฺตาโร สีหา ติณสีโห จ กาฬสีโห จ ปณฺฑุสีโห จ เกสรสีโห จ. เตสํ จตุนฺนํ สีหานํ เกสรสีโห อคฺคตํ คโต, โส อิธาธิปฺเปโต. มิครฺโติ สพฺพจตุปฺปทานํ รฺโ. อาสยนฺติ นิวาสํ. สีหนาทนฺติ อภีตนาทํ. โคจราย ¶ ปกฺกเมยฺยนฺติ อาหารตฺถาย ปกฺกเมยฺยํ. วรํ วรนฺติ อุตฺตมุตฺตมํ, ถูลํ ถูลนฺติ อตฺโถ. มุทุมํสานีติ มุทูนิ มํสานิ ¶ . ‘‘มธุมํสานี’’ติปิ ปาโ, มธุรมํสานีติ อตฺโถ. อชฺฌุเปยฺยนฺติ อุปคจฺเฉยฺยํ. สีหนาทํ นทิตฺวาติ เย ทุพฺพลา ปาณา, เต ปลายนฺตูติ อตฺตโน สูรภาวสนฺนิสฺสิเตน การฺุเน นทิตฺวา.
๒๘. วิฆาสสํวฑฺโฒติ วิฆาเสน สํวฑฺโฒ, วิฆาสํ ภกฺขิตา ติริตฺตมํสํ ขาทิตฺวา วฑฺฒิโต. ทิตฺโตติ ทปฺปิโต ถูลสรีโร. พลวาติ พลสมฺปนฺโน. เอตทโหสีติ กสฺมา อโหสิ? อสฺมิมานโทเสน.
ตตฺรายํ อนุปุพฺพิกถา – เอกทิวสํ กิร โส สีโห โคจรโต นิวตฺตมาโน ตํ สิงฺคาลํ ภเยน ปลายมานํ ทิสฺวา การฺุชาโต หุตฺวา ‘‘วยส, มา ภายิ, ติฏฺ โก นาม ตฺว’’นฺติ อาห. ชมฺพุโก นามาหํ สามีติ. วยส, ชมฺพุก, อิโต ปฏฺาย มํ อุปฏฺาตุํ สกฺขิสฺสสีติ. อุปฏฺหิสฺสามีติ. โส ตโต ปฏฺาย อุปฏฺาติ. สีโห โคจรโต อาคจฺฉนฺโต มหนฺตํ มหนฺตํ มํสขณฺฑํ อาหรติ. โส ตํ ขาทิตฺวา อวิทูเร ปาสาณปิฏฺเ วสติ. โส กติปาหจฺจเยเนว ถูลสรีโร มหาขนฺโธ ชาโต. อถ นํ สีโห อโวจ – ‘‘วยส, ชมฺพุก, มม วิชมฺภนกาเล อวิทูเร ตฺวา ‘วิโรจ สามี’ติ วตฺตุํ สกฺขิสฺสสี’’ติ. สกฺโกมิ สามีติ. โส ตสฺส วิชมฺภนกาเล ตถา กโรติ ¶ . เตน สีหสฺส อติเรโก อสฺมิมาโน โหติ.
อเถกทิวสํ ชรสิงฺคาโล อุทกโสณฺฑิยํ ปานียํ ปิวนฺโต อตฺตโน ฉายํ โอโลเกนฺโต อทฺทส อตฺตโน ถูลสรีรตฺเจว มหาขนฺธตฺจ. ทิสฺวา ‘ชรสิงฺคาโลสฺมี’ติ มนํ อกตฺวา ‘‘อหมฺปิ สีโห ชาโต’’ติ มฺิ. ตโต อตฺตนาว อตฺตานํ เอตทโวจ – ‘‘วยส, ชมฺพุก, ยุตฺตํ นาม ตว อิมินา อตฺตภาเวน ปรสฺส อุจฺฉิฏฺมํสํ ขาทิตุํ, กึ ตฺวํ ปุริโส น โหสิ, สีหสฺสาปิ จตฺตาโร ปาทา ทฺเว ทาา ทฺเว กณฺณา เอกํ นงฺคุฏฺํ, ตวปิ สพฺพํ ตเถว, เกวลํ ตว เกสรภารมตฺตเมว นตฺถี’’ติ. ตสฺเสวํ จินฺตยโต อสฺมิมาโน วฑฺฒิ. อถสฺส เตน อสฺมิมานโทเสน เอตํ ‘‘โก จาห’’นฺติอาทิ มฺิตมโหสิ. ตตฺถ โก จาหนฺติ อหํ โก, สีโห มิคราชา โก, น เม าติ, น สามิโก, กิมหํ ¶ ตสฺส นิปจฺจการํ กโรมีติ อธิปฺปาโย. สิงฺคาลกํเยวาติ สิงฺคาลรวเมว. เภรณฺฑกํเยวาติ อปฺปิยอมนาปสทฺทเมว. เก จ ฉเว สิงฺคาเลติ โก จ ลามโก สิงฺคาโล. เก ปน สีหนาเทติ โก ปน สีหนาโท สิงฺคาลสฺส จ สีหนาทสฺส จ โก สมฺพนฺโธติ อธิปฺปาโย. สุคตาปทาเนสูติ สุคตลกฺขเณสุ. สุคตสฺส สาสนสมฺภูตาสุ ตีสุ สิกฺขาสุ. กถํ ปเนส ตตฺถ ชีวติ? เอตสฺส หิ จตฺตาโร ปจฺจเย ททมานา ¶ สีลาทิคุณสมฺปนฺนานํ สมฺพุทฺธานํ เทมาติ เทนฺติ, เตน เอส อพุทฺโธ สมาโน พุทฺธานํ นิยามิตปจฺจเย ปริภฺุชนฺโต สุคตาปทาเนสุ ชีวติ นาม. สุคตาติริตฺตานีติ เตสํ กิร โภชนานิ ททมานา พุทฺธานฺจ พุทฺธสาวกานฺจ ทตฺวา ปจฺฉา อวเสสํ สายนฺหสมเย เทนฺติ. เอวเมส สุคตาติริตฺตานิ ภฺุชติ นาม. ตถาคเตติ ตถาคตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ อาสาเทตพฺพํ ฆฏฺฏยิตพฺพํ. อถ วา ‘‘ตถาคเต’’ติอาทีนิ อุปโยคพหุวจนาเนว. อาสาเทตพฺพนฺติ อิทมฺปิ พหุวจนเมว เอกวจนํ วิย วุตฺตํ. อาสาทนาติ อหํ พุทฺเธน สทฺธึ ปาฏิหาริยํ กริสฺสามีติ ฆฏฺฏนา.
๒๙. สเมกฺขิยานาติ สเมกฺขิตฺวา, มฺิตฺวาติ อตฺโถ. อมฺีติ ปุน อมฺิตฺถ โกตฺถูติ ¶ สิงฺคาโล.
๓๐. อตฺตานํ วิฆาเส สเมกฺขิยาติ โสณฺฑิยํ อุจฺฉิฏฺโทเก ถูลํ อตฺตภาวํ ทิสฺวา. ยาว อตฺตานํ น ปสฺสตีติ ยาว อหํ สีหวิฆาสสํวฑฺฒิตโก ชรสิงฺคาโลติ เอวํ ยถาภูตํ อตฺตานํ น ปสฺสติ. พฺยคฺโฆติ มฺตีติ สีโหหมสฺมีติ มฺติ, สีเหน วา สมานพโล พฺยคฺโฆเยว อหนฺติ มฺติ.
๓๑. ภุตฺวาน เภเกติ อาวาฏมณฺฑูเก ขาทิตฺวา. ขลมูสิกาโยติ ขเลสุ มูสิกาโย จ ขาทิตฺวา. กฏสีสุ ขิตฺตานิ จ โกณปานีติ สุสาเนสุ ฉฑฺฑิตกุณปานิ จ ขาทิตฺวา. มหาวเนติ มหนฺเต วนสฺมึ. สฺุวเนติ ตุจฺฉวเน. วิวฑฺโฒติ วฑฺฒิโต. ตเถว โส สิงฺคาลกํ อนทีติ เอวํ สํวฑฺโฒปิ มิคราชาหมสฺมีติ มฺิตฺวาปิ ยถา ปุพฺเพ ทุพฺพลสิงฺคาลกาเล, ตเถว โส สิงฺคาลรวํเยว อรวีติ ¶ . อิมายปิ คาถาย เภกาทีนิ ภุตฺวา วฑฺฒิตสิงฺคาโล วิย ลาภสกฺการคิทฺโธ ตฺวนฺติ ปาถิกปุตฺตเมว ฆฏฺเฏสิ.
นาเคหีติ หตฺถีหิ. มหาพนฺธนาติ มหตา กิเลสพนฺธนา โมเจตฺวา. มหาวิทุคฺคาติ มหาวิทุคฺคํ นาม จตฺตาโร โอฆา. ตโต อุทฺธริตฺวา นิพฺพานถเล ปติฏฺเปตฺวา.
อคฺคฺปฺตฺติกถาวณฺณนา
๓๖. อิติ ‘‘ภควา เอตฺตเกน กถามคฺเคน ปาฏิหาริยํ น กโรตี’’ติ ปทสฺส อนุสนฺธึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ‘‘น อคฺคฺํ ปฺาเปตี’’ติ อิมสฺส อนุสนฺธึ ทสฺเสนฺโต อคฺคฺฺจาหนฺติ เทสนํ ¶ อารภิ. ตตฺถ อคฺคฺฺจาหนฺติ อหํ, ภคฺคว, อคฺคฺฺจ ปชานามิ โลกุปฺปตฺติจริยวํสฺจ. ตฺจ ปชานามีติ น เกวลํ อคฺคฺเมว, ตฺจ อคฺคฺํ ปชานามิ. ตโต จ อุตฺตริตรํ สีลสมาธิโต ปฏฺาย ยาว สพฺพฺุตฺาณา ปชานามิ. ตฺจ ปชานํ น ปรามสามีติ ตฺจ ปชานนฺโตปิ อหํ อิทํ นาม ปชานามีติ ตณฺหาทิฏฺิมานวเสน น ปรามสามิ. นตฺถิ ตถาคตสฺส ปรามาโสติ ทีเปติ. ปจฺจตฺตฺเว ¶ นิพฺพุติ วิทิตาติ อตฺตนาเยว อตฺตนิ กิเลสนิพฺพานํ วิทิตํ. ยทภิชานํ ตถาคโตติ ยํ กิเลสนิพฺพานํ ชานนฺโต ตถาคโต. โน อนยํ อาปชฺชตีติ อวิทิตนิพฺพานา ติตฺถิยา วิย อนยํ ทุกฺขํ พฺยสนํ นาปชฺชติ.
๓๗. อิทานิ ยํ ตํ ติตฺถิยา อคฺคฺํ ปฺเปนฺติ, ตํ ทสฺเสนฺโต สนฺติ ภคฺควาติอาทิมาห. ตตฺถ อิสฺสรกุตฺตํ พฺรหฺมกุตฺตนฺติ อิสฺสรกตํ พฺรหฺมกตํ, อิสฺสรนิมฺมิตํ พฺรหฺมนิมฺมิตนฺติ อตฺโถ. พฺรหฺมา เอว หิ เอตฺถ อาธิปจฺจภาเวน อิสฺสโรติ เวทิตพฺโพ. อาจริยกนฺติ อาจริยภาวํ อาจริยวาทํ. ตตฺถ อาจริยวาโท อคฺคฺํ. อคฺคฺํ ปน เอตฺถ เทสิตนฺติ กตฺวา โส อคฺคฺํ ตฺเวว วุตฺโต. กถํ วิหิตกนฺติ เกน วิหิตํ กินฺติ วิหิตํ. เสสํ พฺรหฺมชาเล วิตฺถาริตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
๔๑. ขิฑฺฑาปโทสิกนฺติ ขิฑฺฑาปโทสิกมูลํ.
๔๗. อสตาติ ¶ อวิชฺชมาเนน, อสํวิชฺชมานฏฺเนาติ อตฺโถ. ตุจฺฉาติ ตุจฺเฉน อนฺโตสารวิรหิเตน. มุสาติ มุสาวาเทน. อภูเตนาติ ภูตตฺถวิรหิเตน. อพฺภาจิกฺขนฺตีติ อภิอาจิกฺขนฺติ. วิปรีโตติ วิปรีตสฺโ วิปรีตจิตฺโต. ภิกฺขโว จาติ น เกวลํ สมโณ โคตโมเยว, เย จ อสฺส อนุสิฏฺึ กโรนฺติ, เต ภิกฺขู จ วิปรีตา. อถ ยํ สนฺธาย วิปรีโตติ วทนฺติ, ตํ ทสฺเสตุํ สมโณ โคตโมติอาทิ วุตฺตํ. สุภํ วิโมกฺขนฺติ วณฺณกสิณํ. อสุภนฺตฺเววาติ สุภฺจ อสุภฺจ สพฺพํ อสุภนฺติ เอวํ ปชานาติ. สุภนฺตฺเวว ตสฺมึ สมเยติ สุภนฺติ เอว จ ตสฺมึ สมเย ปชานาติ, น อสุภํ. ภิกฺขโว จาติ เย เต เอวํ วทนฺติ, เตสํ ภิกฺขโว จ อนฺเตวาสิกสมณา วิปรีตา. ปโหตีติ สมตฺโถ ปฏิพโล.
๔๘. ทุกฺกรํ โขติ อยํ ปริพฺพาชโก ยทิทํ ‘‘เอวํปสนฺโน อหํ, ภนฺเต’’ติอาทิมาห, ตํ สาเยฺเยน โกหฺเน อาห. เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘สมโณ โคตโม มยฺหํ เอตฺตกํ ¶ ธมฺมกถํ ¶ กเถสิ, ตมหํ สุตฺวาปิ ปพฺพชิตุํ น สกฺโกมิ, มยา เอตสฺส สาสนํ ปฏิปนฺนสทิเสน ภวิตุํ วฏฺฏตี’’ติ. ตโต โส สาเยฺเยน โกหฺเน เอวมาห. เตนสฺส ภควา มมฺมํ ฆฏฺเฏนฺโต วิย ‘‘ทุกฺกรํ โข เอตํ, ภคฺคว ตยา อฺทิฏฺิเกนา’’ติอาทิมาห. ตํ โปฏฺปาทสุตฺเต วุตฺตตฺถเมว. สาธุกมนุรกฺขาติ สุฏฺุ อนุรกฺข.
อิติ ภควา ปสาทมตฺตานุรกฺขเณ ปริพฺพาชกํ นิโยเชสิ. โสปิ เอวํ มหนฺตํ สุตฺตนฺตํ สุตฺวาปิ นาสกฺขิ กิเลสกฺขยํ กาตุํ. เทสนา ปนสฺส อายตึ วาสนาย ปจฺจโย อโหสิ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
สุมงฺคลวิลาสินิยา ทีฆนิกายฏฺกถาย
ปาถิกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.