📜
๒. อุทุมฺพริกสุตฺตวณฺณนา
นิคฺโรธปริพฺพาชกวตฺถุวณฺณนา
๔๙. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตนฺติ อุทุมฺพริกสุตฺตํ. ตตฺรายมปุพฺพปทวณฺณนา – ปริพฺพาชโกติ ฉนฺนปริพฺพาชโก. อุทุมฺพริกาย ปริพฺพาชการาเมติ อุทุมฺพริกาย เทวิยา สนฺตเก ปริพฺพาชการาเม. สนฺธาโนติ ตสฺส นามํ. อยํ ปน มหานุภาโว ปริวาเรตฺวา วิจรนฺตานํ ปฺจนฺนํ อุปาสกสตานํ อคฺคปุริโส อนาคามี ภควตา มหาปริสมชฺเฌ เอวํ สํวณฺณิโต –
‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคโต สนฺธาโน คหปติ ตถาคเต นิฏฺงฺคโต สทฺธมฺเม อิริยติ. กตเมหิ ฉหิ? พุทฺเธ อเวจฺจปฺปสาเทน ธมฺเม อเวจฺจปฺปสาเทน สงฺเฆ อเวจฺจปฺปสาเทน อริเยน สีเลน อริเยน าเณน อริยาย วิมุตฺติยา. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหิ องฺเคหิ สมนฺนาคโต สนฺธาโน คหปติ ตถาคเต นิฏฺงฺคโต สทฺธมฺเม อิริยตี’’ติ (อ. นิ. ๖.๑๒๐-๑๓๙).
โส ปาโตเยว อุโปสถงฺคานิ อธิฏฺาย ปุพฺพณฺหสมเย พุทฺธปฺปมุขสฺส สงฺฆสฺส ทานํ ทตฺวา ภิกฺขูสุ วิหารํ คเตสุ ฆเร ขุทฺทกมหลฺลกานํ ทารกานํ สทฺเทน อุพฺพาฬฺโห สตฺถุ สนฺติเก ‘‘ธมฺมํ โสสฺสามี’’ติ นิกฺขนฺโต. เตน วุตฺตํ ทิวา ทิวสฺส ราชคหา นิกฺขมีติ. ตตฺถ ทิวา ทิวสฺสาติ ทิวสสฺส ทิวา นาม มชฺฌนฺหาติกฺกโม, ตสฺมึ ทิวสสฺสาปิ ทิวาภูเต อติกฺกนฺตมตฺเต มชฺฌนฺหิเก นิกฺขมีติ อตฺโถ. ปฏิสลฺลีโนติ ตโต ตโต รูปาทิโคจรโต จิตฺตํ ปฏิสํหริตฺวา นิลีโน ฌานรติเสวนาวเสน เอกีภาวํ คโต. มโนภาวนียานนฺติ มนวฑฺฒกานํ. เย จ อาวชฺชโต มนสิกโรโต จิตฺตํ วินีวรณํ โหติ อุนฺนมติ วฑฺฒติ.
๕๐. อุนฺนาทินิยาติอาทีนิ โปฏฺปาทสุตฺเต วิตฺถาริตนเยเนว เวทิตพฺพานิ.
๕๑. ยาวตาติ ¶ ¶ ¶ ยตฺตกา. อยํ เตสํ อฺตโรติ อยํ เตสํ อพฺภนฺตโร เอโก สาวโก, ภควโต กิร สาวกา คิหิอนาคามิโนเยว ปฺจสตา ราชคเห ปฏิวสนฺติ. เยสํ เอเกกสฺส ปฺจ ปฺจ อุปาสกสตานิ ปริวารา, เต สนฺธาย ‘‘อยํ เตสํ อฺตโร’’ติ อาห. อปฺเปว นามาติ ตสฺส อุปสงฺกมนํ ปตฺถยมาโน อาห. ปตฺถนาการณํ ปน โปฏฺปาทสุตฺเต วุตฺตเมว.
๕๒. เอตทโวจาติ อาคจฺฉนฺโต อนฺตรามคฺเคเยว เตสํ กถาย สุตตฺตา เอตํ อฺถา โข อิเมติอาทิวจนํ อโวจ. ตตฺถ อฺติตฺถิยาติ ทสฺสเนนปิ อากปฺเปนปิ กุตฺเตนปิ อาจาเรนปิ วิหาเรนปิ อิริยาปเถนปิ อฺเ ติตฺถิยาติ อฺติตฺถิยา. สงฺคมฺม สมาคมฺมาติ สงฺคนฺตฺวา สมาคนฺตฺวา ราสิ หุตฺวา นิสินฺนฏฺาเน. อรฺวนปตฺถานีติ อรฺวนปตฺถานิ คามูปจารโต มุตฺตานิ ทูรเสนาสนานิ. ปนฺตานีติ ทูรตรานิ มนุสฺสูปจารวิรหิตานิ. อปฺปสทฺทานีติ วิหารูปจาเรน คจฺฉโต อทฺธิกชนสฺสปิ สทฺเทน มนฺทสทฺทานิ. อปฺปนิคฺโฆสานีติ อวิภาวิตตฺเถน นิคฺโฆเสน มนฺทนิคฺโฆสานิ. วิชนวาตานีติ อนฺโตสฺจาริโน ชนสฺส วาเตน วิคตวาตานิ. มนุสฺสราหสฺเสยฺยกานีติ มนุสฺสานํ รหสฺสกรณสฺส ยุตฺตานิ อนุจฺฉวิกานิ. ปฏิสลฺลานสารุปฺปานีติ เอกีภาวสฺส อนุรูปานิ. อิติ สนฺธาโน คหปติ ‘‘อโห มม สตฺถา โย เอวรูปานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวตี’’ติ อฺชลึ ปคฺคยฺห อุตฺตมงฺเค สิรสฺมึ ปติฏฺเปตฺวา อิมํ อุทานํ อุทาเนนฺโต นิสีทิ.
๕๓. เอวํ วุตฺเตติ เอวํ สนฺธาเนน คหปตินา อุทานํ อุทาเนนฺเตน วุตฺเต. นิคฺโรโธ ปริพฺพาชโก อยํ คหปติ มม สนฺติเก นิสินฺโนปิ อตฺตโน สตฺถารํเยว โถเมติ อุกฺกํสติ, อมฺเห ปน อตฺถีติปิ น มฺติ, เอตสฺมึ อุปฺปนฺนโกปํ สมณสฺส โคตมสฺส อุปริ ปาเตสฺสามีติ สนฺธานํ คหปตึ เอตทโวจ.
ยคฺเฆติ โจทนตฺเถ นิปาโต. ชาเนยฺยาสีติ พุชฺเฌยฺยาสิ ปสฺเสยฺยาสิ. เกน สมโณ โคตโม สทฺธึ สลฺลปตีติ เกน การเณน เกน ¶ ปุคฺคเลน สทฺธึ สมโณ โคตโม สลฺลปติ วทติ ภาสติ. กึ ¶ วุตฺตํ โหติ – ‘‘ยทิ กิฺจิ สลฺลาปการณํ ภเวยฺย, ยทิ วา โกจิ สมณสฺส โคตมสฺส สนฺติกํ สลฺลาปตฺถิโก คจฺเฉยฺย, สลฺลเปยฺย, น ปน การณํ อตฺถิ, น ตสฺส สนฺติกํ โกจิ คจฺฉติ, สฺวายํ เกน สมโณ โคตโม สทฺธึ สลฺลปติ, อสลฺลปนฺโต กถํ อุนฺนาที ภวิสฺสตี’’ติ.
สากจฺฉนฺติ สํสนฺทนํ. ปฺาเวยฺยตฺติยนฺติ อุตฺตรปจฺจุตฺตรนเยน าณพฺยตฺตภาวํ. สฺุาคารหตาติ ¶ สฺุาคาเรสุ นฏฺา, สมเณน หิ โคตเมน โพธิมูเล อปฺปมตฺติกา ปฺา อธิคตา, สาปิสฺส สฺุาคาเรสุ เอกกสฺส นิสีทโต นฏฺา. ยทิ ปน มยํ วิย คณสงฺคณิกํ กตฺวา นิสีเทยฺย, นาสฺส ปฺา นสฺเสยฺยาติ ทสฺเสติ. อปริสาวจโรติ อวิสารทตฺตา ปริสํ โอตริตุํ น สกฺโกติ. นาลํ สลฺลาปายาติ น สมตฺโถ สลฺลาปํ กาตุํ. อนฺตมนฺตาเนวาติ โกจิ มํ ปฺหํ ปุจฺเฉยฺยาติ ปฺหาภีโต อนฺตมนฺตาเนว ปนฺตเสนาสนานิ เสวติ. โคกาณาติ เอกกฺขิหตา กาณคาวี. สา กิร ปริยนฺตจารินี โหติ, อนฺตมนฺตาเนว เสวติ. สา กิร กาณกฺขิภาเวน วนนฺตาภิมุขีปิ น สกฺโกติ ภวิตุํ. กสฺมา? ยสฺมา ปตฺเตน วา สาขาย วา กณฺฏเกน วา ปหารสฺส ภายติ. คุนฺนํ อภิมุขีปิ น สกฺโกติ ภวิตุํ. กสฺมา? ยสฺมา สิงฺเคน วา กณฺเณน วา วาเลน วา ปหารสฺส ภายติ. อิงฺฆาติ โจทนตฺเถ นิปาโต. สํสาเทยฺยามาติ เอกปฺหปุจฺฉเนเนว สํสาทนํ วิสาทมาปนฺนํ กเรยฺยาม. ตุจฺฉกุมฺภีว นนฺติ ริตฺตฆฏํ วิย นํ. โอโรเธยฺยามาติ วินนฺเธยฺยาม. ปูริตฆโฏ หิ อิโต จิโต จ ปริวตฺเตตฺวา น สุวินนฺธนีโย โหติ. ริตฺตโก ยถารุจิ ปริวตฺเตตฺวา สกฺกา โหติ วินนฺธิตุํ, เอวเมว หตปฺตาย ริตฺตกุมฺภิสทิสํ สมณํ โคตมํ วาทวินนฺธเนน สมนฺตา วินนฺธิสฺสามาติ วทติ.
อิติ ปริพฺพาชโก สตฺถุ สุวณฺณวณฺณํ นลาฏมณฺฑลํ อปสฺสนฺโต ทสพลสฺส ปรมฺมุขา อตฺตโน พลํ ทีเปนฺโต อสมฺภินฺนํ ขตฺติยกุมารํ ชาติยา ฆฏฺฏยนฺโต จณฺฑาลปุตฺโต วิย อสมฺภินฺนเกสรสีหํ ¶ มิคราชานํ ถาเมน ฆฏฺเฏนฺโต ชรสิงฺคาโล วิย จ นานปฺปการํ ตุจฺฉคชฺชิตํ คชฺชิ. อุปาสโกปิ จินฺเตสิ ‘‘อยํ ปริพฺพาชโก อติ วิย คชฺชติ, อวีจิผุสนตฺถาย ปาทํ, ภวคฺคคฺคหณตฺถาย หตฺถํ ปสารยนฺโต วิย นิรตฺถกํ วายมติ. สเจ เม สตฺถา อิมํ านมาคจฺเฉยฺย, อิมสฺส ปริพฺพาชกสฺส ¶ ยาว ภวคฺคา อุสฺสิตํ มานทฺธชํ านโสว โอปาเตยฺยา’’ติ.
๕๔. ภควาปิ เตสํ ตํ กถาสลฺลาปํ อสฺโสสิเยว. เตน วุตฺตํ ‘‘อสฺโสสิ โข อิมํ กถาสลฺลาป’’นฺติ.
สุมาคธายาติ สุมาคธา นาม โปกฺขรณี, ยสฺสา ตีเร นิสินฺโน อฺตโร ปุริโส ปทุมนาฬนฺตเรหิ อสุรภวนํ ปวิสนฺตํ อสุรเสนํ อทฺทส. โมรนิวาโปติ นิวาโป วุจฺจติ ภตฺตํ, ยตฺถ โมรานํ อภเยน สทฺธึ นิวาโป ทินฺโน, ตํ านนฺติ อตฺโถ. อพฺโภกาเสติ องฺคณฏฺาเน. อสฺสาสปตฺตาติ ตุฏฺิปตฺตา โสมนสฺสปตฺตา. อชฺฌาสยนฺติ อุตฺตมนิสฺสยภูตํ. อาทิพฺรหฺมจริยนฺติ ¶ ปุราณพฺรหฺมจริยสงฺขาตํ อริยมคฺคํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘โก นาม โส, ภนฺเต, ธมฺโม เยน ภควตา สาวกา วินีตา อชฺฌาสยาทิพฺรหฺมจริยภูตํ อริยมคฺคํ ปูเรตฺวา อรหตฺตาธิคมวเสน อสฺสาสปตฺตา ปฏิชานนฺตี’’ติ.
ตโปชิคุจฺฉาวาทวณฺณนา
๕๕. วิปฺปกตาติ มมาคมนปจฺจยา อนิฏฺิตา, ว หุตฺวา ิตา, กเถหิ, อหเมตํ นิฏฺเปตฺวา มตฺถกํ ปาเปตฺวา ทสฺเสมีติ สพฺพฺุปวารณํ ปวาเรสิ.
๕๖. ทุชฺชานํ โขติ ภควา ปริพฺพาชกสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘อยํ ปริพฺพาชโก มยา สาวกานํ เทเสตพฺพํ ธมฺมํ เตหิ ปูเรตพฺพํ ปฏิปตฺตึ ปุจฺฉติ, สจสฺสาหํ อาทิโตว ตํ กเถสฺสามิ, กถิตมฺปิ นํ น ชานิสฺสติ, อยํ ปน วีริเยน ปาปชิคุจฺฉนวาโท, หนฺทาหํ เอตสฺเสว วิสเย ปฺหํ ปุจฺฉาเปตฺวา ปุถุสมณพฺราหฺมณานํ ลทฺธิยา นิรตฺถกภาวํ ทสฺเสมิ. อถ ปจฺฉา อิมํ ปฺหํ พฺยากริสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ทุชฺชานํ โข เอตนฺติอาทิมาห. ตตฺถ สเก อาจริยเกติ อตฺตโน อาจริยวาเท. อธิเชคุจฺเฉติ วีริเยน ปาปชิคุจฺฉนภาเว. กถํ สนฺตาติ กถํ ภูตา. ตโปชิคุจฺฉาติ วีริเยน ปาปชิคุจฺฉา ปาปวิวชฺชนา. ปริปุณฺณาติ ปริสุทฺธา. กถํ ¶ อปริปุณฺณาติ กถํ อปริสุทฺธา โหตีติ เอวํ ปุจฺฉาติ. ยตฺร หิ นามาติ โย นาม.
๕๗. อปฺปสทฺเท ¶ กตฺวาติ นิรเว อปฺปสทฺเท กตฺวา. โส กิร จินฺเตสิ – ‘‘สมโณ โคตโม เอกํ ปฺหมฺปิ น กเถติ, สลฺลาปกถาปิสฺส อติพหุกา นตฺถิ, อิเม ปน อาทิโต ปฏฺาย สมณํ โคตมํ อนุวตฺตนฺติ เจว ปสํสนฺติ จ, หนฺทาหํ อิเม นิสฺสทฺเท กตฺวา สยํ กเถมี’’ติ. โส ตถา อกาสิ. เตน วุตฺตํ ‘‘อปฺปสทฺเท กตฺวา’’ติ. ‘‘ตโปชิคุจฺฉวาทา’’ติอาทีสุ ตโปชิคุจฺฉํ วทาม, มนสาปิ ตเมว สารโต คเหตฺวา วิจราม, กาเยนปิมฺหา ตเมว อลฺลีนา, นานปฺปการกํ อตฺตกิลมถานุโยคมนุยุตฺตา วิหรามาติ อตฺโถ.
อุปกฺกิเลสวณฺณนา
๕๘. ตปสฺสีติ ตปนิสฺสิตโก. ‘‘อเจลโก’’ติอาทีนิ สีหนาเท (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๓๙๓) ¶ วิตฺถาริตนเยเนว เวทิตพฺพานิ. ตปํ สมาทิยตีติ อเจลกภาวาทิกํ ตปํ สมฺมา อาทิยติ, ทฬฺหํ คณฺหาติ. อตฺตมโน โหตีติ โก อฺโ มยา สทิโส อิมสฺมึ ตเป อตฺถีติ ตุฏฺมโน โหติ. ปริปุณฺณสงฺกปฺโปติ อลเมตฺตาวตาติ เอวํ ปริโยสิตสงฺกปฺโป, อิทฺจ ติตฺถิยานํ วเสน อาคตํ. สาสนาวจเรนาปิ ปน ทีเปตพฺพํ. เอกจฺโจ หิ ธุตงฺคํ สมาทิยติ, โส เตเนว ธุตงฺเคน โก อฺโ มยา สทิโส ธุตงฺคธโรติ อตฺตมโน โหติ ปริปุณฺณสงฺกปฺโป. ตปสฺสิโน อุปกฺกิเลโส โหตีติ ทุวิธสฺสาเปตสฺส ตปสฺสิโน อยํ อุปกฺกิเลโส โหติ. เอตฺตาวตายํ ตโป อุปกฺกิเลโส โหตีติ วทามิ.
อตฺตานุกฺกํเสตีติ ‘‘โก มยา สทิโส อตฺถี’’ติ อตฺตานํ อุกฺกํสติ อุกฺขิปติ. ปรํ วมฺเภตีติ ‘‘อยํ น มาทิโส’’ติ ปรํ สํหาเรติ อวกฺขิปติ.
มชฺชตีติ มานมทกรเณน มชฺชติ. มุจฺฉตีติ มุจฺฉิโต โหติ คธิโต อชฺฌาปนฺโน. ปมาทมาปชฺชตีติ เอตเทว สารนฺติ ปมาทมาปชฺชติ. สาสเน ปพฺพชิโตปิ ธุตงฺคสุทฺธิโก โหติ, น กมฺมฏฺานสุทฺธิโก. ธุตงฺคเมว อรหตฺตํ วิย สารโต ปจฺเจติ.
๕๙. ลาภสกฺการสิโลกนฺติ ¶ เอตฺถ จตฺตาโร ปจฺจยา ลพฺภนฺตีติ ¶ ลาภา, เตเยว สุฏฺุ กตฺวา ปฏิสงฺขริตฺวา ลทฺธา สกฺกาโร, วณฺณภณนํ สิโลโก. อภินิพฺพตฺเตตีติ อเจลกาทิภาวํ เตรสธุตงฺคสมาทานํ วา นิสฺสาย มหาลาโภ อุปฺปชฺชติ, ตสฺมา ‘‘อภินิพฺพตฺเตตี’’ติ วุตฺโต. เสสเมตฺถ ปุริมวารนเยเนว ทุวิธสฺสาปิ ตปสฺสิโน วเสน เวทิตพฺพํ.
๖๐. โวทาสํ อาปชฺชตีติ ทฺเวภาคํ อาปชฺชติ, ทฺเว ภาเค กโรติ. ขมตีติ รุจฺจติ. นกฺขมตีติ น รุจฺจติ. สาเปกฺโข ปชหตีติ สตณฺโห ปชหติ. กถํ? ปาโตว ขีรภตฺตํ ภุตฺโต โหติ. อถสฺส มํสโภชนํ อุปเนติ. ตสฺส เอวํ โหติ ‘‘อิทานิ เอวรูปํ กทา ลภิสฺสาม, สเจ ชาเนยฺยาม, ปาโตว ขีรภตฺตํ น ภฺุเชยฺยาม, กึ มยา สกฺกา กาตุํ, คจฺฉ โภ, ตฺวเมว ภฺุชา’’ติ ชีวิตํ ปริจฺจชนฺโต วิย สาเปกฺโข ปชหติ. คธิโตติ เคธชาโต. มุจฺฉิโตติ พลวตณฺหาย มุจฺฉิโต สํมุฏฺสฺสตี หุตฺวา. อชฺฌาปนฺโนติ อามิเส อติลคฺโค, ‘‘ภฺุชิสฺสถ, อาวุโส’’ติ ธมฺมนิมนฺตนมตฺตมฺปิ อกตฺวา มหนฺเต มหนฺเต กพเฬ กโรติ. อนาทีนวทสฺสาวีติอาทีนวมตฺตมฺปิ น ปสฺสติ. อนิสฺสรณปฺโติ อิธ มตฺตฺุตานิสฺสรณปจฺจเวกฺขณปริโภคมตฺตมฺปิ ¶ น กโรติ. ลาภสกฺการสิโลกนิกนฺติเหตูติ ลาภาทีสุ ตณฺหาเหตุ.
๖๑. สํภกฺเขตีติ สํขาทติ. อสนิวิจกฺกนฺติ วิจกฺกสณฺานา อสนิเยว. อิทํ วุตฺตํ โหติ ‘‘อสนิวิจกฺกํ อิมสฺส ทนฺตกูฏํ มูลพีชาทีสุ น กิฺจิ น สํภฺุชติ. อถ จ ปน นํ สมณปฺปวาเทน สมโณติ สฺชานนฺตี’’ติ. เอวํ อปสาเทติ อวกฺขิปติ. อิทํ ติตฺถิยวเสน อาคตํ. ภิกฺขุวเสน ปเนตฺถ อยํ โยชนา, อตฺตนา ธุตงฺคธโร โหติ, โส อฺํ เอวํ อปสาเทติ ‘‘กึ สมณา นาม อิเม สมณมฺหาติ วทนฺติ, ธุตงฺคมตฺตมฺปิ นตฺถิ, อุทฺเทสภตฺตาทีนิ ปริเยสนฺตา ปจฺจยพาหุลฺลิกา วิจรนฺตี’’ติ. ลูขาชีวินฺติ อเจลกาทิวเสน วา ธุตงฺควเสน วา ลูขาชีวึ. อิสฺสามจฺฉริยนฺติ ปรสฺส สกฺการาทิสมฺปตฺติขียนลกฺขณํ ¶ อิสฺสํ, สกฺการาทิกรณอกฺขมนลกฺขณํ มจฺฉริยฺจ.
๖๒. อาปาถกนิสาที ¶ โหตีติ มนุสฺสานํ อาปาเถ ทสฺสนฏฺาเน นิสีทติ. ยตฺถ เต ปสฺสนฺติ, ตตฺถ ิโต วคฺคุลิวตํ จรติ, ปฺจาตปํ ตปฺปติ, เอกปาเทน ติฏฺติ, สูริยํ นมสฺสติ. สาสเน ปพฺพชิโตปิ สมาทินฺนธุตงฺโค สพฺพรตฺตึ สยิตฺวา มนุสฺสานํ จกฺขุปเถ ตปํ กโรติ, มหาสายนฺเหเยว จีวรกุฏึ กโรติ, สูริเย อุคฺคเต ปฏิสํหรติ, มนุสฺสานํ อาคตภาวํ ตฺวา ฆณฺฑึ ปหริตฺวา จีวรํ มตฺถเก เปตฺวา จงฺกมํ โอตรติ, สมฺมฺุชนึ คเหตฺวา วิหารงฺคณํ สมฺมชฺชติ.
อตฺตานนฺติ อตฺตโน คุณํ อทสฺสยมาโนติ เอตฺถ อ-กาโร นิปาตมตฺตํ, ทสฺสยมาโนติ อตฺโถ. อิทมฺปิ เม ตปสฺมินฺติ อิทมฺปิ กมฺมํ มเมว ตปสฺมึ, ปจฺจตฺเต วา ภุมฺมํ, อิทมฺปิ มม ตโปติ อตฺโถ. โส หิ อสุกสฺมึ าเน อเจลโก อตฺถิ มุตฺตาจาโรติอาทีนิ สุตฺวา อมฺหากํ เอส ตโป, อมฺหากํ โส อนฺเตวาสิโกติอาทีนิ ภณติ. อสุกสฺมึ วา ปน าเน ปํสุกูลิโก ภิกฺขุ อตฺถีติอาทีนิ สุตฺวา อมฺหากํ เอส ตโป, อมฺหากํ โส อนฺเตวาสิโกติอาทีนิ ภณติ.
กิฺจิเทวาติ กิฺจิ วชฺชํ ทิฏฺิคตํ วา. ปฏิจฺฉนฺนํ เสวตีติ ยถา อฺเ น ชานนฺติ, เอวํ เสวติ. อกฺขมมานํ อาห ขมตีติ อรุจฺจมานํเยว รุจฺจติ เมติ วทติ. อตฺตนา กตํ อติมหนฺตมฺปิ วชฺชํ อปฺปมตฺตกํ กตฺวา ปฺเปติ, ปเรน กตํ ทุกฺกฏมตฺตํ วีติกฺกมมฺปิ ปาราชิกสทิสํ กตฺวา ทสฺเสติ. อนฺุเยฺยนฺติ อนุชานิตพฺพํ อนุโมทิตพฺพํ.
๖๓. โกธโน ¶ โหติ อุปนาหีติ กุชฺฌนลกฺขเณน โกเธน, เวรอปฺปฏินิสฺสคฺคลกฺขเณน อุปนาเหน จ สมนฺนาคโต. มกฺขี โหติ ปฬาสีติ ปรคุณมกฺขนลกฺขเณน มกฺเขน, ยุคคฺคาหลกฺขเณน ปฬาเสน จ สมนฺนาคโต.
อิสฺสุกี โหติ มจฺฉรีติ ปรสกฺการาทีสุ อุสูยนลกฺขณาย อิสฺสาย, อาวาสกุลลาภวณฺณธมฺเมสุ มจฺฉรายนลกฺขเณน ปฺจวิธมจฺเฉเรน จ สมนฺนาคโต โหติ. สโ โหติ มายาวีติ เกราฏิกลกฺขเณน สาเยฺเยน, กตปฺปฏิจฺฉาทนลกฺขณาย มายาย จ สมนฺนาคโต ¶ โหติ. ถทฺโธ ¶ โหติ อติมานีติ นิสฺสิเนหนิกฺกรุณถทฺธลกฺขเณน ถมฺเภน, อติกฺกมิตฺวา มฺนลกฺขเณน อติมาเนน จ สมนฺนาคโต โหติ. ปาปิจฺโฉ โหตีติ อสนฺตสมฺภาวนปตฺถนลกฺขณาย ปาปิจฺฉตาย สมนฺนาคโต โหติ. ปาปิกานนฺติ ตาสํเยว ลามกานํ อิจฺฉานํ วสํ คโต. มิจฺฉาทิฏฺิโกติ นตฺถิ ทินฺนนฺติอาทินยปฺปวตฺตาย อยาถาวทิฏฺิยา อุเปโต. อนฺตคฺคาหิกายาติ สาเยว ทิฏฺิ อุจฺเฉทนฺตสฺส คหิตตฺตา ‘‘อนฺตคฺคาหิกา’’ติ วุจฺจติ, ตาย สมนฺนาคโตติ อตฺโถ. สนฺทิฏฺิปรามาสีติอาทีสุ สยํ ทิฏฺิ สนฺทิฏฺิ, สนฺทิฏฺิเมว ปรามสติ คเหตฺวา วทตีติ สนฺทิฏฺิปรามาสี. อาธานํ วุจฺจติ ทฬฺหํ สุฏฺุ ปิตํ, ตถา กตฺวา คณฺหาตีติ อาธานคฺคาหี. อริฏฺโ วิย น สกฺกา โหติ ปฏินิสฺสชฺชาเปตุนฺติ ทุปฺปฏินิสฺสคฺคี. ยทิเมติ ยทิ อิเม.
ปริสุทฺธปปฏิกปฺปตฺตกถาวณฺณนา
๖๔. อิธ, นิคฺโรธ, ตปสฺสีติ เอวํ ภควา อฺติตฺถิเยหิ คหิตลทฺธึ เตสํ รกฺขิตํ ตปํ สพฺพเมว สํกิลิฏฺนฺติ อุปกฺกิเลสปาฬึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ปริสุทฺธปาฬิทสฺสนตฺถํ เทสนมารภนฺโต อิธ, นิคฺโรธาติอาทิมาห. ตตฺถ ‘‘น อตฺตมโน’’ติอาทีนิ วุตฺตวิปกฺขวเสเนว เวทิตพฺพานิ. สพฺพวาเรสุ จ ลูขตปสฺสิโน เจว ธุตงฺคธรสฺส จ วเสน โยชนา เวทิตพฺพา. เอวํ โส ตสฺมึ าเน ปริสุทฺโธ โหตีติ เอวํ โส เตน น อตฺตมนตา น ปริปุณฺณสงฺกปฺปภาวสงฺขาเตน การเณน ปริสุทฺโธ นิรุปกฺกิเลโส โหติ, อุตฺตริ วายมมาโน กมฺมฏฺานสุทฺธิโก หุตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ. อิมินา นเยน สพฺพวาเรสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
๖๙. อทฺธา โข, ภนฺเตติ ภนฺเต เอวํ สนฺเต เอกํเสเนว วีริเยน ปาปชิคุจฺฉนวาโท ปริสุทฺโธ โหตีติ อนุชานาติ. อิโต ปรฺจ อคฺคภาวํ วา สารภาวํ วา อชานนฺโต อคฺคปฺปตฺตา สารปฺปตฺตา จาติ อาห. อถสฺส ภควา สารปฺปตฺตภาวํ ปฏิเสเธนฺโต น โข นิคฺโรธาติอาทิมาห ¶ . ปปฏิกปฺปตฺตา โหตีติ สารวโต รุกฺขสฺส สารํ เผคฺคุํ ตจฺจ อติกฺกมฺม พหิปปฏิกสทิสา โหตีติ ทสฺเสติ.
ปริสุทฺธตจปฺปตฺตาทิกถาวณฺณนา
๗๐. อคฺคํ ¶ ¶ ปาเปตูติ เทสนาวเสน อคฺคํ ปาเปตฺวา เทเสตุ, สารํ ปาเปตฺวา เทเสตูติ ทสพลํ ยาจติ. จาตุยามสํวรสํวุโตติ จตุพฺพิเธน สํวเรน ปิหิโต. น ปาณํ อติปาเตตีติ ปาณํ น หนติ. น ภาวิตมาสีสตีติ ภาวิตํ นาม เตสํ สฺาย ปฺจ กามคุณา, เต น อาสีสติ น เสวตีติ อตฺโถ.
อทุํ จสฺส โหตีติ เอตฺจสฺส อิทานิ วุจฺจมานํ ‘‘โส อภิหรตี’’ติอาทิลกฺขณํ. ตปสฺสิตายาติ ตปสฺสิภาเวน โหติ. ตตฺถ โส อภิหรตีติ โส ตํ สีลํ อภิหรติ, อุปรูปริ วฑฺเฒติ. สีลํ เม ปริปุณฺณํ, ตโป อารทฺโธ, อลเมตฺตาวตาติ น วีริยํ วิสฺสชฺเชติ. โน หีนายาวตฺตตีติ หีนาย คิหิภาวตฺถาย น อาวตฺตติ. สีลโต อุตฺตริ วิเสสาธิคมตฺถาย วีริยํ กโรติเยว, เอวํ กโรนฺโต โส วิวิตฺตํ เสนาสนํ ภชติ. ‘‘อรฺ’’นฺติอาทีนิ สามฺผเล (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๒๑๖) วิตฺถาริตาเนว. ‘‘เมตฺตาสหคเตนา’’ติอาทีนิ วิสุทฺธิมคฺเค วณฺณิตานิ. ตจปฺปตฺตาติ ปปฏิกโต อพฺภนฺตรํ ตจํ ปตฺตา. เผคฺคุปฺปตฺตาติ ตจโต อพฺภนฺตรํ เผคฺคุํ ปตฺตา, เผคฺคุสทิสา โหตีติ อตฺโถ.
๗๔. ‘‘เอตฺตาวตา, โข นิคฺโรธ, ตโปชิคุจฺฉา อคฺคปฺปตฺตา จ โหติ สารปฺปตฺตา จา’’ติ อิทํ ภควา ติตฺถิยานํ วเสนาห. ติตฺถิยานฺหิ ลาภสกฺกาโร รุกฺขสฺส สาขาปลาสสทิโส. ปฺจสีลมตฺตกํ ปปฏิกสทิสํ. อฏฺสมาปตฺติมตฺตํ ตจสทิสํ. ปุพฺเพนิวาสาณาวสานา อภิฺา เผคฺคุสทิสา. ทิพฺพจกฺขุํ ปเนเต อรหตฺตนฺติ คเหตฺวา วิจรนฺติ. เตน เนสํ ตํ รุกฺขสฺส สารสทิสํ. สาสเน ปน ลาภสกฺกาโร สาขาปลาสสทิโส. สีลสมฺปทา ปปฏิกสทิสา. ฌานสมาปตฺติโย ตจสทิสา. โลกิยาภิฺา เผคฺคุสทิสา. มคฺคผลํ สาโร. อิติ ภควตา อตฺตโน สาสนํ โอนตวินตผลภารภริตรุกฺขูปมาย อุปมิตํ. โส เทสนากุสลตาย ตโต ตจสารสมฺปตฺติโต มม สาสนํ อุตฺตริตรฺเจว ปณีตตรฺจ, ตํ ตุวํ กทา ชานิสฺสสีติ ¶ อตฺตโนเทสนาย วิเสสภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘อิติ โข นิคฺโรธา’’ติ เทสนํ อารภิ ¶ . เต ปริพฺพาชกาติ เต ตสฺส ปริวารา ตึสสตสงฺขฺยา ปริพฺพาชกา. เอตฺถ มยํ อนสฺสามาติ เอตฺถ อเจลกปาฬิอาทีสุ, อิทํ วุตฺตํ โหติ ‘‘อมฺหากํ อเจลกปาฬิมตฺตมฺปิ นตฺถิ ¶ , กุโต ปริสุทฺธปาฬิ. อมฺหากํ ปริสุทฺธปาฬิมตฺตมฺปิ นตฺถิ, กุโต จาตุยามสํวราทีนิ. จาตุยามสํวโรปิ นตฺถิ, กุโต อรฺวาสาทีนิ. อรฺวาโสปิ นตฺถิ, กุโต นีวรณปฺปหานาทีนิ. นีวรณปฺปหานมฺปิ นตฺถิ, กุโต พฺรหฺมวิหาราทีนิ. พฺรหฺมวิหารมตฺตมฺปิ นตฺถิ, กุโต ปุพฺเพนิวาสาทีนิ. ปุพฺเพนิวาสาณมตฺตมฺปิ นตฺถิ, กุโต อมฺหากํ ทิพฺพจกฺขุ. เอตฺถ มยํ สอาจริยกา นฏฺา’’ติ. อิโต ภิยฺโย อุตฺตริตรนฺติ อิโต ทิพฺพจกฺขุาณาธิคมโต ภิยฺโย อฺํ อุตฺตริตรํ วิเสสาธิคมํ มยํ สุติวเสนาปิ น ชานามาติ วทนฺติ.
นิคฺโรธสฺสปชฺฌายนวณฺณนา
๗๕. อถ นิคฺโรธํ ปริพฺพาชกนฺติ เอวํ กิรสฺส อโหสิ ‘‘อิเม ปริพฺพาชกา อิทานิ ภควโต ภาสิตํ สุสฺสูสนฺติ, อิมินา จ นิคฺโรเธน ภควโต ปรมฺมุขา กกฺขฬํ ทุราสทวจนํ วุตฺตํ, อิทานิ อยมฺปิ โสตุกาโม ชาโต, กาโล ทานิ เม อิมสฺส มานทฺธชํ นิปาเตตฺวา ภควโต สาสนํ อุกฺขิปิตุ’’นฺติ. อถ นิคฺโรธํ ปริพฺพาชกํ เอตทโวจ. อปรมฺปิสฺส อโหสิ ‘‘อยํ มยิ อกเถนฺเต สตฺถารํ น ขมาเปสฺสติ, ตทสฺส อนาคเต อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺติสฺสติ, มยา ปน กถิเต ขมาเปสฺสติ, ตทสฺส ภวิสฺสติ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’ติ. อถ นิคฺโรธํ ปริพฺพาชกํ เอตทโวจ. อปริสาวจรํ ปน นํ กโรถาติ เอตฺถ ปนาติ นิปาโต, อถ นํ อปริสาวจรํ กโรถาติ อตฺโถ. ‘‘อปริสาวจเรต’’นฺติปิ ปาโ, อปริสาวจรํ วา เอตํ กโรถ, โคกาณาทีนํ วา อฺตรนฺติ อตฺโถ.
โคกาณนฺติ เอตฺถาปิ โคกาณํ ปริยนฺตจารินึ วิย กโรถาติ อตฺโถ. ตุณฺหีภูโตติ ตุณฺหีภาวํ อุปคโต. มงฺกุภูโตติ นิตฺเตชตํ อาปนฺโน. ปตฺตกฺขนฺโธติ โอนตคีโว. อโธมุโขติ เหฏฺามุโข.
๗๖. พุทฺโธ ¶ ¶ โส ภควา โพธายาติ สยํ พุทฺโธ สตฺตานมฺปิ จตุสจฺจโพธตฺถาย ธมฺมํ เทเสติ. ทนฺโตติ จกฺขุโตปิ ทนฺโต…เป… มนโตปิ ทนฺโต. ทมถายาติ อฺเสมฺปิ ทมนตฺถาย เอว, น วาทตฺถาย. สนฺโตติ ราคสนฺตตาย สนฺโต, โทสโมหสนฺตตาย สพฺพ อกุสลสพฺพาภิสงฺขารสนฺตตาย สนฺโต. สมถายาติ มหาชนสฺส ราคาทิสมนตฺถาย ธมฺมํ เทเสติ. ติณฺโณติ จตฺตาโร โอเฆ ติณฺโณ. ตรณายาติ มหาชนสฺส โอฆนิตฺถรณตฺถาย. ปรินิพฺพุโตติ กิเลสปรินิพฺพาเนน ปรินิพฺพุโต. ปรินิพฺพานายาติ มหาชนสฺสาปิ สพฺพกิเลสปรินิพฺพานตฺถาย ธมฺมํ เทเสติ.
พฺรหฺมจริยปริโยสานาทิวณฺณนา
๗๗. อจฺจโยติอาทีนิ ¶ สามฺผเล (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๒๕๐) วุตฺตานิ. อุชุชาติโกติ กายวงฺกาทิวิรหิโต อุชุสภาโว. อหมนุสาสามีติ อหํ ตาทิสํ ปุคฺคลํ อนุสาสามิ, ธมฺมํ อสฺส เทเสมิ. สตฺตาหนฺติ สตฺตทิวสานิ, อิทํ สพฺพมฺปิ ภควา ทนฺธปฺํ ปุคฺคลํ สนฺธายาห อสโ ปน อมายาวี อุชุชาติโก ตํมุหุตฺเตเนว อรหตฺตํ ปตฺตุํ สกฺขิสฺสติ. อิติ ภควา ‘‘อส’’นฺติอาทิวจเนน สโ หิ วงฺกวงฺโก, มยาปิ น สกฺกา อนุสาสิตุนฺติ ทีเปนฺโต ปริพฺพาชกํ ปาเทสุ คเหตฺวา มหาเมรุปาทตเล วิย ขิปิตฺถ. กสฺมา? อยฺหิ อติสโ, กุฏิลจิตฺโต สตฺถริ เอวํ กเถนฺเตปิ พุทฺธธมฺมสงฺเฆสุ นาธิมุจฺจติ, อธิมุจฺจนตฺถาย โสตํ น โอทหติ, โกหฺเ ิโต สตฺถารํ ขมาเปติ. ตสฺมา ภควา ตสฺสชฺฌาสยํ วิทิตฺวา ‘‘เอตุ วิฺู ปุริโส อสโ’’ติอาทิมาห. สํ ปนาหํ อนุสาสิตุํ น สกฺโกมีติ.
๗๘. อนฺเตวาสิกมฺยตาติ อนฺเตวาสิกมฺยตาย, อมฺเห อนฺเตวาสิเก อิจฺฉนฺโต. เอวมาหาติ ‘‘เอตุ วิฺุปุริโส’’ติอาทิมาห. โย เอว โว อาจริโยติ โย เอว ตุมฺหากํ ปกติยา อาจริโย. อุทฺเทสา โน จาเวตุกาโมติ อตฺตโน อนุสาสนึ คาหาเปตฺวา อมฺเห อมฺหากํ อุทฺเทสโต จาเวตุกาโม. โส ¶ เอว โว อุทฺเทโส โหตูติ โย ตุมฺหากํ ปกติยา อุทฺเทโส, โส ตุมฺหากํเยว โหตุ ¶ , น มยํ ตุมฺหากํ อุทฺเทเสน อตฺถิกา. อาชีวาติ อาชีวโต. อกุสลสงฺขาตาติ อกุสลาติ โกฏฺาสํ ปตฺตา. อกุสลา ธมฺมาติ ทฺวาทส อกุสลจิตฺตุปฺปาทธมฺมา ตณฺหาเยว วา วิเสเสน. สา หิ ปุนพฺภวกรณโต ‘‘โปโนพฺภวิกา’’ติ วุตฺตา. สทรถาติ กิเลสทรถสมฺปยุตฺตา. ชาติชรามรณิยาติ ชาติชรามรณานํ ปจฺจยภูตา. สํกิเลสิกา ธมฺมาติ ทฺวาทส อกุสลจิตฺตุปฺปาทา. โวทานิยาติ, สมถวิปสฺสนา ธมฺมา. เต หิ สตฺเต โวทาเปนฺติ, ตสฺมา ‘‘โวทานิยา’’ติ วุจฺจนฺติ. ปฺาปาริปูรินฺติ มคฺคปฺาปาริปูรึ. เวปุลฺลตฺตฺจาติ ผลปฺาเวปุลฺลตํ, อุโภปิ วา เอตานิ อฺมฺเววจนาเนว. อิทํ วุตฺตํ โหติ ‘‘ตโต ตุมฺเห มคฺคปฺฺเจว ผลปฺฺจ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสถา’’ติ. เอวํ ภควา ปริพฺพาชเก อารพฺภ อตฺตโน โอวาทานุสาสนิยา ผลํ ทสฺเสนฺโต อรหตฺตนิกูเฏน เทสนํ นิฏฺเปสิ.
๗๙. ยถา ตํ มาเรนาติ ยถา มาเรน ปริยุฏฺิตจิตฺตา นิสีทนฺติ เอวเมว ตุณฺหีภูตา…เป… อปฺปฏิภานา นิสินฺนา.
มาโร ¶ กิร สตฺถา อติวิย คชฺชนฺโต พุทฺธพลํ ทีเปตฺวา อิเมสํ ปริพฺพาชกานํ ธมฺมํ เทเสติ, กทาจิ ธมฺมาภิสมโย ภเวยฺย, หนฺทาหํ ปริยุฏฺามีติ โส เตสํ จิตฺตานิ ปริยุฏฺาสิ. อปฺปหีนวิปลฺลาสานฺหิ จิตฺตํ มารสฺส ยถากามกรณียํ โหติ. เตปิ มาเรน ปริยุฏฺิตจิตฺตา ถทฺธงฺคปจฺจงฺคา วิย ตุณฺหี อปฺปฏิภานา นิสีทึสุ. อถ สตฺถา อิเม ปริพฺพาชกา อติวิย นิรวา หุตฺวา นิสินฺนา, กึ นุ โขติ อาวชฺชนฺโต มาเรน ปริยุฏฺิตภาวํ อฺาสิ. สเจ ปน เตสํ มคฺคผลุปฺปตฺติเหตุ ภเวยฺย, มารํ ปฏิพาหิตฺวาปิ ภควา ธมฺมํ เทเสยฺย, โส ปน เตสํ นตฺถิ. ‘‘สพฺเพปิ เม ตุจฺฉปุริสา’’ติ อฺาสิ. เตน วุตฺตํ ‘‘อถ โข ภควโต เอตทโหสิ สพฺเพปิ เม โมฆปุริสา’’ติอาทิ.
ตตฺถ ผุฏฺา ปาปิมตาติ ปาปิมตา มาเรน ผุฏฺา. ยตฺร หิ นามาติ เยสุ นาม. อฺาณตฺถมฺปีติ ¶ ชานนตฺถมฺปิ. กึ กริสฺสติ สตฺตาโหติ สมเณน โคตเมน ปริจฺฉินฺนสตฺตาโห อมฺหากํ กึ กริสฺสติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ ‘‘สมเณน โคตเมน ‘สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสติ สตฺตาห’นฺติ วุตฺตํ, โส สตฺตาโห อมฺหากํ กึ อปฺผาสุกํ กริสฺสติ. ¶ หนฺท มยํ สตฺตาหพฺภนฺตเร เอตํ ธมฺมํ สจฺฉิกาตุํ สกฺกา, น สกฺกาติ อฺาณตฺถมฺปิ พฺรหฺมจริยํ จริสฺสามา’’ติ. อถ วา ชานาม ตาวสฺส ธมฺมนฺติ เอกทิวเส เอกวารํ อฺาณตฺถมฺปิ เอเตสํ จิตฺตํ นุปฺปนฺนํ, สตฺตาโห ปน เอเตสํ กุสีตานํ กึ กริสฺสติ, กึ สกฺขิสฺสนฺติ เต สตฺตาหํ ปูเรตุนฺติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโย. สีหนาทนฺติ ปรวาทภินฺทนํ สกวาทสมุสฺสาปนฺจ อภีตนาทํ นทิตฺวา. ปจฺจุปฏฺาสีติ ปติฏฺิโต. ตาวเทวาติ ตสฺมิฺเว ขเณ. ราชคหํ ปาวิสีติ ราชคหเมว ปวิฏฺโ. เตสํ ปน ปริพฺพาชกานํ กิฺจาปิ อิทํ สุตฺตนฺตํ สุตฺวา วิเสโส น นิพฺพตฺโต, อายตึ ปน เนสํ วาสนาย ปจฺจโย ภวิสฺสตีติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
สุมงฺคลวิลาสินิยา ทีฆนิกายฏฺกถาย
อุทุมฺพริกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.