📜
๕. สมฺปสาทนียสุตฺตวณฺณนา
สาริปุตฺตสีหนาทวณฺณนา
๑๔๑. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตนฺติ สมฺปสาทนียสุตฺตํ. ตตฺรายมนุตฺตานปทวณฺณนา – นาฬนฺทายนฺติ นาฬนฺทาติ เอวํนามเก นคเร, ตํ นครํ โคจรคามํ กตฺวา. ปาวาริกมฺพวเนติ ทุสฺสปาวาริกเสฏฺิโน อมฺพวเน. ตํ กิร ตสฺส อุยฺยานํ อโหสิ. โส ภควโต ธมฺมเทสนํ สุตฺวา ภควติ ปสนฺโน ตสฺมึ อุยฺยาเน กุฏิเลณมณฺฑปาทิปฏิมณฺฑิตํ ภควโต วิหารํ กตฺวา นิยฺยาเตสิ. โส วิหาโร ชีวกมฺพวนํ วิย ‘‘ปาวาริกมฺพวน’’นฺตฺเวว สงฺขฺยํ คโต, ตสฺมึ ปาวาริกมฺพวเน วิหรตีติ อตฺโถ. ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เอวํปสนฺโน อหํ, ภนฺเต, ภควตี’’ติ. กสฺมา เอวํ อโวจ? อตฺตโน อุปฺปนฺนโสมนสฺสปเวทนตฺถํ.
ตตฺรายมนุปุพฺพิกถา – เถโร กิร ตํทิวสํ กาลสฺเสว สรีรปฺปฏิชคฺคนํ กตฺวา สุนิวตฺถนิวาสโน ปตฺตจีวรมาทาย ปาสาทิเกหิ อภิกฺกนฺตาทีหิ เทวมนุสฺสานํ ปสาทํ อาวหนฺโต นาฬนฺทวาสีนํ หิตสุขมนุพฺรูหยนฺโต ปิณฺฑาย ปวิสิตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต วิหารํ คนฺตฺวา สตฺถุ วตฺตํ ทสฺเสตฺวา สตฺถริ คนฺธกุฏึ ปวิฏฺเ สตฺถารํ วนฺทิตฺวา อตฺตโน ทิวาฏฺานํ อคมาสิ. ตตฺถ สทฺธิวิหาริกนฺเตวาสิเกสุ วตฺตํ ทสฺเสตฺวา ปฏิกฺกนฺเตสุ ทิวาฏฺานํ สมฺมชฺชิตฺวา จมฺมกฺขณฺฑํ ปฺเปตฺวา อุทกตุมฺพโต อุทเกน หตฺถปาเท สีตเล กตฺวา ติสนฺธิปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา กาลปริจฺเฉทํ กตฺวา ผลสมาปตฺตึ สมาปชฺชิ.
โส ยถาปริจฺฉินฺนกาลวเสน สมาปตฺติโต วุฏฺาย อตฺตโน คุเณ อนุสฺสริตุมารทฺโธ. อถสฺส คุเณ อนุสฺสรโต สีลํ อาปาถมาคตํ. ตโต ปฏิปาฏิยาว สมาธิ ปฺา วิมุตฺติ วิมุตฺติาณทสฺสนํ ปมํ ฌานํ ทุติยํ ฌานํ ตติยํ ฌานํ จตุตฺถํ ฌานํ อากาสานฺจายตนสมาปตฺติ วิฺานฺจายตนสมาปตฺติ อากิฺจฺายตนสมาปตฺติ ¶ เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺติ ¶ วิปสฺสนาาณํ มโนมยิทฺธิาณํ อิทฺธิวิธาณํ ทิพฺพโสตาณํ เจโตปริยาณํ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณํ ทิพฺพจกฺขุาณํ…เป… โสตาปตฺติมคฺโค โสตาปตฺติผลํ…เป… อรหตฺตมคฺโค อรหตฺตผลํ อตฺถปฏิสมฺภิทา ธมฺมปฏิสมฺภิทา นิรุตฺติปฏิสมฺภิทา ปฏิภานปฏิสมฺภิทา สาวกปารมีาณํ. อิโต ปฏฺาย กปฺปสตสหสฺสาธิกสฺส อสงฺขฺเยยฺยสฺส อุปริ อโนมทสฺสีพุทฺธสฺส ปาทมูเล กตํ อภินีหารํ อาทึ กตฺวา อตฺตโน คุเณ อนุสฺสรโต ยาว นิสินฺนปลฺลงฺกา คุณา อุปฏฺหึสุ.
เอวํ ¶ เถโร อตฺตโน คุเณ อนุสฺสรมาโน คุณานํ ปมาณํ วา ปริจฺเฉทํ วา ทฏฺุํ นาสกฺขิ. โส จินฺเตสิ – ‘‘มยฺหํ ตาว ปเทสาเณ ิตสฺส สาวกสฺส คุณานํ ปมาณํ วา ปริจฺเฉโท วา นตฺถิ. อหํ ปน ยํ สตฺถารํ อุทฺทิสฺส ปพฺพชิโต, กีทิสา นุ โข ตสฺส คุณา’’ติ ทสพลสฺส คุเณ อนุสฺสริตุํ อารทฺโธ. โส ภควโต สีลํ นิสฺสาย, สมาธึ ปฺํ วิมุตฺตึ วิมุตฺติาณทสฺสนํ นิสฺสาย, จตฺตาโร สติปฏฺาเน นิสฺสาย, จตฺตาโร สมฺมปฺปธาเน จตฺตาโร อิทฺธิปาเท จตฺตาโร มคฺเค จตฺตาริ ผลานิ จตสฺโส ปฏิสมฺภิทา จตุโยนิปริจฺเฉทกาณํ จตฺตาโร อริยวํเส นิสฺสาย ทสพลสฺส คุเณ อนุสฺสริตุมารทฺโธ.
ตถา ปฺจ ปธานิยงฺคานิ, ปฺจงฺคิกํสมฺมาสมาธึ, ปฺจินฺทฺริยานิ, ปฺจ พลานิ, ปฺจ นิสฺสรณิยา ธาตุโย, ปฺจ วิมุตฺตายตนานิ, ปฺจ วิมุตฺติปริปาจนิยา ปฺา, ฉ สารณีเย ธมฺเม, ฉ อนุสฺสติฏฺานานิ, ฉ คารเว, ฉ นิสฺสรณิยา ธาตุโย, ฉ สตตวิหาเร, ฉ อนุตฺตริยานิ, ฉ นิพฺเพธภาคิยา ปฺา, ฉ อภิฺา, ฉ อสาธารณาณานิ, สตฺต อปริหานิเย ธมฺเม, สตฺต อริยธนานิ, สตฺต โพชฺฌงฺเค, สตฺต สปฺปุริสธมฺเม, สตฺต นิชฺชรวตฺถูนิ, สตฺต ปฺา, สตฺต ทกฺขิเณยฺยปุคฺคเล, สตฺต ขีณาสวพลานิ, อฏฺ ปฺาปฏิลาภเหตู, อฏฺ สมฺมตฺตานิ, อฏฺ โลกธมฺมาติกฺกเม, อฏฺ อารมฺภวตฺถูนิ, อฏฺ อกฺขณเทสนา, อฏฺ มหาปุริสวิตกฺเก, อฏฺ อภิภายตนานิ, อฏฺ วิโมกฺเข, นว โยนิโสมนสิการมูลเก ธมฺเม, นว ปาริสุทฺธิปธานิยงฺคานิ, นว สตฺตาวาสเทสนา, นว อาฆาตปฺปฏิวินเย, นว ปฺา, นว นานตฺตานิ, นว อนุปุพฺพวิหาเร, ทส นาถกรเณ ธมฺเม, ทส กสิณายตนานิ, ทส กุสลกมฺมปเถ, ทส ตถาคตพลานิ, ทส สมฺมตฺตานิ, ทส อริยวาเส, ทส อเสกฺขธมฺเม, เอกาทส เมตฺตานิสํเส, ทฺวาทส ธมฺมจกฺกากาเร, เตรส ธุตงฺคคุเณ ¶ , จุทฺทส พุทฺธาณานิ, ปฺจทส วิมุตฺติปริปาจนิเย ธมฺเม, โสฬสวิธํ อานาปานสฺสตึ, อฏฺารส พุทฺธธมฺเม, เอกูนวีสติ ปจฺจเวกฺขณาณานิ, จตุจตฺตาลีส าณวตฺถูนิ, ปโรปณฺณาส กุสลธมฺเม, สตฺตสตฺตติ าณวตฺถูนิ, จตุวีสติโกฏิสตสหสฺสสมาปตฺติสฺจรมหาวชิราณํ ¶ นิสฺสาย ทสพลสฺส คุเณ อนุสฺสริตุํ อารภิ.
ตสฺมึเยว ¶ จ ทิวาฏฺาเน นิสินฺโนเยว อุปริ ‘‘อปรํ ปน, ภนฺเต, เอตทานุตฺตริย’’นฺติ อาคมิสฺสนฺติ โสฬส อปรมฺปริยธมฺมา, เตปิ นิสฺสาย อนุสฺสริตุํ อารภิ. โส ‘‘กุสลปฺตฺติยํ อนุตฺตโร มยฺหํ สตฺถา, อายตนปฺตฺติยํ อนุตฺตโร, คพฺภาวกฺกนฺติยํ อนุตฺตโร, อาเทสนาวิธาสุ อนุตฺตโร, ทสฺสนสมาปตฺติยํ อนุตฺตโร, ปุคฺคลปฺตฺติยํ อนุตฺตโร, ปธาเน อนุตฺตโร, ปฏิปทาสุ อนุตฺตโร, ภสฺสสมาจาเร อนุตฺตโร, ปุริสสีลสมาจาเร อนุตฺตโร, อนุสาสนีวิธาสุ อนุตฺตโร, ปรปุคฺคลวิมุตฺติาเณ อนุตฺตโร, สสฺสตวาเทสุ อนุตฺตโร, ปุพฺเพนิวาสาเณ อนุตฺตโร, ทิพฺพจกฺขุาเณ อนุตฺตโร, อิทฺธิวิเธ อนุตฺตโร, อิมินา จ อิมินา จ อนุตฺตโร’’ติ เอวํ ทสพลสฺส คุเณ อนุสฺสรนฺโต ภควโต คุณานํ เนว อนฺตํ, น ปมาณํ ปสฺสิ. เถโร อตฺตโนปิ ตาว คุณานํ อนฺตํ วา ปมาณํ วา นาทฺทส, ภควโต คุณานํ กึ ปสฺสิสฺสติ? ยสฺส ยสฺส หิ ปฺา มหตี าณํ วิสทํ, โส โส พุทฺธคุเณ มหนฺตโต สทฺทหติ. โลกิยมหาชโน อุกฺกาสิตฺวาปิ ขิปิตฺวาปิ ‘‘นโม พุทฺธาน’’นฺติ อตฺตโน อตฺตโน อุปนิสฺสเย ตฺวา พุทฺธานํ คุเณ อนุสฺสรติ. สพฺพโลกิยมหาชนโต เอโก โสตาปนฺโน พุทฺธคุเณ มหนฺตโต สทฺทหติ. โสตาปนฺนานํ สตโตปิ สหสฺสโตปิ เอโก สกทาคามี. สกทาคามีนํ สตโตปิ สหสฺสโตปิ เอโก อนาคามี. อนาคามีนํ สตโตปิ สหสฺสโตปิ เอโก อรหา พุทฺธคุเณ มหนฺตโต สทฺทหติ. อวเสสอรหนฺเตหิ อสีติ มหาเถรา พุทฺธคุเณ มหนฺตโต สทฺทหนฺติ. อสีติมหาเถเรหิ จตฺตาโร มหาเถรา. จตูหิ มหาเถเรหิ ทฺเว อคฺคสาวกา. เตสุปิ สาริปุตฺตตฺเถโร, สาริปุตฺตตฺเถรโตปิ เอโก ปจฺเจกพุทฺโธ พุทฺธคุเณ มหนฺตโต สทฺทหติ. สเจ ปน สกลจกฺกวาฬคพฺเภ สงฺฆาฏิกณฺเณน สงฺฆาฏิกณฺณํ ¶ ปหริยมานา นิสินฺนา ปจฺเจกพุทฺธา พุทฺธคุเณ อนุสฺสเรยฺยุํ, เตหิ สพฺเพหิปิ เอโก สพฺพฺุพุทฺโธว พุทฺธคุเณ มหนฺตโต สทฺทหติ.
เสยฺยถาปิ นาม มหาชโน ‘‘มหาสมุทฺโท คมฺภีโร อุตฺตาโน’’ติ ชานนตฺถํ โยตฺตานิ วฏฺเฏยฺย, ตตฺถ โกจิ พฺยามปฺปมาณํ โยตฺตํ วฏฺเฏยฺย, โกจิ ทฺเว พฺยามํ, โกจิ ทสพฺยามํ, โกจิ วีสติพฺยามํ, โกจิ ตึสพฺยามํ, โกจิ จตฺตาลีสพฺยามํ, โกจิ ปฺาสพฺยามํ, โกจิ สตพฺยามํ, โกจิ สหสฺสพฺยามํ ¶ , โกจิ จตุราสีติพฺยามสหสฺสํ. เต นาวํ อารุยฺห, สมุทฺทมชฺเฌ อุคฺคตปพฺพตาทิมฺหิ วา ตฺวา อตฺตโน อตฺตโน โยตฺตํ โอตาเรยฺยุํ, เตสุ ยสฺส โยตฺตํ พฺยามมตฺตํ, โส พฺยามมตฺตฏฺาเนเยว อุทกํ ชานาติ…เป… ยสฺส จตุราสีติพฺยามสหสฺสํ, โส จตุราสีติพฺยามสหสฺสฏฺาเนเยว อุทกํ ชานาติ. ปรโต อุทกํ เอตฺตกนฺติ น ชานาติ. มหาสมุทฺเท ¶ ปน น ตตฺตกํเยว อุทกํ, อถ โข อนนฺตมปริมาณํ. จตุราสีติโยชนสหสฺสํ คมฺภีโร หิ มหาสมุทฺโท, เอวเมว เอกพฺยามโยตฺตโต ปฏฺาย นวพฺยามโยตฺเตน าตอุทกํ วิย โลกิยมหาชเนน ทิฏฺพุทฺธคุณา เวทิตพฺพา. ทสพฺยามโยตฺเตน ทสพฺยามฏฺาเน าตอุทกํ วิย โสตาปนฺเนน ทิฏฺพุทฺธคุณา. วีสติพฺยามโยตฺเตน วีสติพฺยามฏฺาเน าตอุทกํ วิย สกทาคามินา ทิฏฺพุทฺธคุณา. ตึสพฺยามโยตฺเตน ตึสพฺยามฏฺาเน าตอุทกํ วิย อนาคามินา ทิฏฺพุทฺธคุณา. จตฺตาลีสพฺยามโยตฺเตน จตฺตาลีสพฺยามฏฺาเน าตอุทกํ วิย อรหตา ทิฏฺพุทฺธคุณา. ปฺาสพฺยามโยตฺเตน ปฺาสพฺยามฏฺาเน าตอุทกํ วิย อสีติมหาเถเรหิ ทิฏฺพุทฺธคุณา. สตพฺยามโยตฺเตน สตพฺยามฏฺาเน าตอุทกํ วิย จตูหิ มหาเถเรหิ ทิฏฺพุทฺธคุณา. สหสฺสพฺยามโยตฺเตน สหสฺสพฺยามฏฺาเน าตอุทกํ วิย มหาโมคฺคลฺลานตฺเถเรน ทิฏฺพุทฺธคุณา. จตุราสีติพฺยามสหสฺสโยตฺเตน จตุราสีติพฺยามสหสฺสฏฺาเน าตอุทกํ วิย ธมฺมเสนาปตินา สาริปุตฺตตฺเถเรน ทิฏฺพุทฺธคุณา. ตตฺถ ยถา โส ปุริโส มหาสมุทฺเท อุทกํ นาม น เอตฺตกํเยว, อนนฺตมปริมาณนฺติ คณฺหาติ, เอวเมว อายสฺมา สาริปุตฺโต ธมฺมนฺวเยน อนฺวยพุทฺธิยา อนุมาเนน นยคฺคาเหน สาวกปารมีาเณ ตฺวา ทสพลสฺส ¶ คุเณ อนุสฺสรนฺโต ‘‘พุทฺธคุณา อนนฺตา อปริมาณา’’ติ สทฺทหิ.
เถเรน หิ ทิฏฺพุทฺธคุเณหิ ธมฺมนฺวเยน คเหตพฺพพุทฺธคุณาเยว พหุตรา. ยถา กถํ วิย? ยถา อิโต นว อิโต นวาติ อฏฺารส โยชนานิ อวตฺถริตฺวา คจฺฉนฺติยา จนฺทภาคาย มหานทิยา ปุริโส สูจิปาเสน อุทกํ คณฺเหยฺย, สูจิปาเสน คหิตอุทกโต อคฺคหิตเมว พหุ โหติ. ยถา วา ปน ปุริโส มหาปถวิโต องฺคุลิยา ปํสุํ คณฺเหยฺย, องฺคุลิยา คหิตปํสุโต อวเสสปํสุเยว พหุ โหติ. ยถา วา ปน ปุริโส มหาสมุทฺทาภิมุขึ องฺคุลึ กเรยฺย, องฺคุลิอภิมุขอุทกโต ¶ อวเสสํ อุทกํเยว พหุ โหติ. ยถา จ ปุริโส อากาสาภิมุขึ องฺคุลึ กเรยฺย, องฺคุลิอภิมุขอากาสโต เสสอากาสปฺปเทโสว พหุ โหติ. เอวํ เถเรน ทิฏฺพุทฺธคุเณหิ อทิฏฺา คุณาว พหูติ เวทิตพฺพา. วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘พุทฺโธปิ พุทฺธสฺส ภเณยฺย วณฺณํ,
กปฺปมฺปิ เจ อฺมภาสมาโน;
ขีเยถ กปฺโป จิรทีฆมนฺตเร,
วณฺโณ น ขีเยถ ตถาคตสฺสา’’ติ.
เอวํ เถรสฺส อตฺตโน จ สตฺถุ จ คุเณ อนุสฺสรโต ยมกมหานทีมโหโฆ วิย อพฺภนฺตเร ¶ ปีติโสมนสฺสํ อวตฺถรมานํ วาโต วิย ภสฺตํ, อุพฺภิชฺชิตฺวา อุคฺคตอุทกํ วิย มหารหทํ สกลสรีรํ ปูเรติ. ตโต เถรสฺส ‘‘สุปตฺถิตา วต เม ปตฺถนา, สุลทฺธา เม ปพฺพชฺชา, ยฺวาหํ เอวํวิธสฺส สตฺถุ สนฺติเก ปพฺพชิโต’’ติ อาวชฺชนฺตสฺส พลวตรํ ปีติโสมนสฺสํ อุปฺปชฺชิ.
อถ เถโร ‘‘กสฺสาหํ อิมํ ปีติโสมนสฺสํ อาโรเจยฺย’’นฺติ จินฺเตนฺโต อฺโ โกจิ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา เทโว วา มาโร วา พฺรหฺมา วา มม อิมํ ปสาทํ อนุจฺฉวิกํ กตฺวา ปฏิคฺคเหตุํ น สกฺขิสฺสติ, อหํ อิมํ โสมนสฺสํ สตฺถุโนเยว ปเวเทยฺยามิ, สตฺถาว เม ปฏิคฺคณฺหิตุํ สกฺขิสฺสติ, โส หิ ติฏฺตุ มม ปีติโสมนสฺสํ, มาทิสสฺส สมณสตสฺส วา สมณสหสฺสสฺส วา สมณสตสหสฺสสฺส วา โสมนสฺสํ ปเวเทนฺตสฺส สพฺเพสํ มนํ คณฺหนฺโต ปฏิคฺคเหตุํ ¶ สกฺโกติ. เสยฺยถาปิ นาม อฏฺารส โยชนานิ อวตฺถรมานํ คจฺฉนฺตึ จนฺทภาคมหานทึ กุสุมฺภา วา กนฺทรา วา สมฺปฏิจฺฉิตุํ น สกฺโกนฺติ, มหาสมุทฺโทว ตํ สมฺปฏิจฺฉติ. มหาสมุทฺโท หิ ติฏฺตุ จนฺทภาคา, เอวรูปานํ นทีนํ สตมฺปิ สหสฺสมฺปิ สตสหสฺสมฺปิ สมฺปฏิจฺฉติ, น จสฺส เตน อูนตฺตํ วา ปูรตฺตํ วา ปฺายติ, เอวเมว สตฺถา มาทิสสฺส สมณสตสฺส สมณสหสฺสสฺส สมณสตสหสฺสสฺส วา ปีติโสมนสฺสํ ปเวเทนฺตสฺส สพฺเพสํ มนํ คณฺหนฺโต ปฏิคฺคเหตุํ สกฺโกติ. เสสา สมณพฺราหฺมณาทโย จนฺทภาคํ กุสุมฺภกนฺทรา วิย มม โสมนสฺสํ สมฺปฏิจฺฉิตุํ น สกฺโกนฺติ ¶ . หนฺทาหํ มม ปีติโสมนสฺสํ สตฺถุโนว อาโรเจมีติ ปลฺลงฺกํ วินิพฺภุชิตฺวา จมฺมกฺขณฺฑํ ปปฺโผเฏตฺวา อาทาย สายนฺหสมเย ปุปฺผานํ วณฺฏโต ฉิชฺชิตฺวา ปคฺฆรณกาเล สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา อตฺตโน โสมนสฺสํ ปเวเทนฺโต เอวํปสนฺโน อหํ, ภนฺเตติอาทิมาห. ตตฺถ เอวํปสนฺโนติ เอวํ อุปฺปนฺนสทฺโธ, เอวํ สทฺทหามีติ อตฺโถ. ภิยฺโยภิฺตโรติ ภิยฺยตโร อภิฺาโต, ภิยฺยตราภิฺโ วา, อุตฺตริตราโณติ อตฺโถ. สมฺโพธิยนฺติ สพฺพฺุตฺาเณ อรหตฺตมคฺคาเณ วา, อรหตฺตมคฺเคเนว หิ พุทฺธคุณา นิปฺปเทสา คหิตา โหนฺติ. ทฺเว หิ อคฺคสาวกา อรหตฺตมคฺเคเนว สาวกปารมีาณํ ปฏิลภนฺติ. ปจฺเจกพุทฺธา ปจฺเจกโพธิาณํ. พุทฺธา สพฺพฺุตฺาณฺเจว สกเล จ พุทฺธคุเณ. สพฺพฺหิ เนสํ อรหตฺตมคฺเคเนว อิชฺฌติ. ตสฺมา อรหตฺตมคฺคาณํ สมฺโพธิ นาม โหติ. เตน อุตฺตริตโร ภควตา นตฺถิ. เตนาห ‘‘ภควตา ภิยฺโยภิฺตโร ยทิทํ สมฺโพธิย’’นฺติ.
๑๔๒. อุฬาราติ เสฏฺา. อยฺหิ อุฬารสทฺโท ‘‘อุฬารานิ ขาทนียานิ ขาทนฺตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓๖๖) มธุเร อาคจฺฉติ. ‘‘อุฬาราย ขลุ ภวํ, วจฺฉายโน ¶ , สมณํ โคตมํ ปสํสาย ปสํสตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๒๘๐) เสฏฺเ. ‘‘อปฺปมาโณ อุฬาโร โอภาโส’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๓๒) วิปุเล. สฺวายมิธ เสฏฺเ อาคโต. เตน วุตฺตํ – ‘‘อุฬาราติ เสฏฺา’’ติ. อาสภีติ อุสภสฺส วาจาสทิสี อจลา อสมฺปเวธี. เอกํโส คหิโตติ อนุสฺสเวน วา อาจริยปรมฺปราย วา อิติกิราย ¶ วา ปิฏกสมฺปทาเนน วา อาการปริวิตกฺเกน วา ทิฏฺินิชฺฌานกฺขนฺติยา วา ตกฺกเหตุ วา นยเหตุ วา อกเถตฺวา ปจฺจกฺขโต าเณน ปฏิวิชฺฌิตฺวา วิย เอกํโส คหิโต, สนฺนิฏฺานกถาว กถิตาติ อตฺโถ.
สีหนาโทติ เสฏฺนาโท, เนว ทนฺธายนฺเตน น คคฺครายนฺเตน สีเหน วิย อุตฺตมนาโท นทิโตติ อตฺโถ. กึ เต สาริปุตฺตาติ อิมํ เทสนํ กสฺมา อารภีติ? อนุโยคทาปนตฺถํ. เอกจฺโจ หิ สีหนาทํ นทิตฺวา อตฺตโน สีหนาเท อนุโยคํ ทาตุํ น สกฺโกติ, นิฆํสนํ นกฺขมติ, เลเป ปติตมกฺกโฏ วิย โหติ. ยถา ธมมานํ อปริสุทฺธโลหํ ฌายิตฺวา ฌามองฺคาโร โหติ, เอวํ ฌามงฺคาโร วิย โหติ ¶ . เอโก สีหนาเท อนุโยคํ ทาปิยมาโน ทาตุํ สกฺโกติ, นิฆํสนํ ขมติ, ธมมานํ นิทฺโทสชาตรูปํ วิย อธิกตรํ โสภติ, ตาทิโส เถโร. เตน นํ ภควา ‘‘อนุโยคกฺขโม อย’’นฺติ ตฺวา สีหนาเท อนุโยคทาปนตฺถํ อิมมฺปิ เทสนํ อารภิ.
ตตฺถ สพฺเพ เตติ สพฺเพ เต ตยา. เอวํสีลาติอาทีสุ โลกิยโลกุตฺตรวเสน สีลาทีนิ ปุจฺฉติ. เตสํ วิตฺถารกถา มหาปทาเน กถิตาว.
กึ ปน เต, สาริปุตฺต, เย เต ภวิสฺสนฺตีติ อตีตา จ ตาว นิรุทฺธา, อปณฺณตฺติกภาวํ คตา ทีปสิขา วิย นิพฺพุตา, เอวํ นิรุทฺเธ อปณฺณตฺติกภาวํ คเต ตฺวํ กถํ ชานิสฺสสิ, อนาคตพุทฺธานํ ปน คุณา กินฺติ ตยา อตฺตโน จิตฺเตน ปริจฺฉินฺทิตฺวา วิทิตาติ ปุจฺฉนฺโต เอวมาห. กึ ปน เต, สาริปุตฺต, อหํ เอตรหีติ อนาคตาปิ พุทฺธา อชาตา อนิพฺพตฺตา อนุปฺปนฺนา, เตปิ กถํ ตฺวํ ชานิสฺสสิ? เตสฺหิ ชานนํ อปเท อากาเส ปททสฺสนํ วิย โหติ. อิทานิ มยา สทฺธึ เอกวิหาเร วสสิ, เอกโต ภิกฺขาย จรสิ, ธมฺมเทสนากาเล ทกฺขิณปสฺเส นิสีทสิ, กึ ปน มยฺหํ คุณา อตฺตโน เจตสา ปริจฺฉินฺทิตฺวา วิทิตา ตยาติ อนุยฺุชนฺโต เอวมาห.
เถโร ปน ปุจฺฉิเต ปุจฺฉิเต ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’ติ ปฏิกฺขิปติ. เถรสฺส จ วิทิตมฺปิ อตฺถิ ¶ อวิทิตมฺปิ อตฺถิ, กึ โส อตฺตโน วิทิตฏฺาเน ปฏิกฺเขปํ กโรติ, อวิทิตฏฺาเนติ? วิทิตฏฺาเน น กโรติ, อวิทิตฏฺาเนเยว กโรตีติ. เถโร กิร อนุโยเค อารทฺเธเยว อฺาสิ. น อยํ อนุโยโค สาวกปารมีาเณ, สพฺพฺุตฺาเณ อยํ อนุโยโคติ อตฺตโน สาวกปารมีาเณ ปฏิกฺเขปํ อกตฺวา อวิทิตฏฺาเน ¶ สพฺพฺุตฺาเณ ปฏิกฺเขปํ กโรติ. เตน อิทมฺปิ ทีเปติ ‘‘ภควา มยฺหํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนานํ พุทฺธานํ สีลสมาธิปฺาวิมุตฺติการณชานนสมตฺถํ สพฺพฺุตฺาณํ นตฺถี’’ติ.
เอตฺถาติ เอเตสุ อตีตาทิเภเทสุ พุทฺเธสุ. อถ กิฺจรหีติ อถ กสฺมา เอวํ าเณ อสติ ตยา เอวํ กถิตนฺติ วทติ.
๑๔๓. ธมฺมนฺวโยติ ธมฺมสฺส ปจฺจกฺขโต าณสฺส อนุโยคํ อนุคนฺตฺวา อุปฺปนฺนํ อนุมานาณํ นยคฺคาโห วิทิโต. สาวกปารมีาเณ ตฺวาว อิมินาว ¶ อากาเรน ชานามิ ภควาติ วทติ. เถรสฺส หิ นยคฺคาโห อปฺปมาโณ อปริยนฺโต. ยถา สพฺพฺุตฺาณสฺส ปมาณํ วา ปริยนฺโต วา นตฺถิ, เอวํ ธมฺมเสนาปติโน นยคฺคาหสฺส. เตน โส ‘‘อิมินา เอวํวิโธ, อิมินา อนุตฺตโร สตฺถา’’ติ ชานาติ. เถรสฺส หิ นยคฺคาโห สพฺพฺุตฺาณคติโก เอว. อิทานิ ตํ นยคฺคาหํ ปากฏํ กาตุํ อุปมาย ทสฺเสนฺโต เสยฺยถาปิ, ภนฺเตติอาทิมาห. ตตฺถ ยสฺมา มชฺฌิมปเทเส นครสฺส อุทฺธาปปาการาทีนิ ถิรานิ วา โหนฺตุ, ทุพฺพลานิ วา, สพฺพโส วา ปน มา โหนฺตุ, โจราสงฺกา น โหติ, ตสฺมา ตํ อคฺคเหตฺวา ปจฺจนฺติมนครนฺติ อาห. ทฬฺหุทฺธาปนฺติ ถิรปาการปาทํ. ทฬฺหปาการโตรณนฺติ ถิรปาการฺเจว ถิรปิฏฺสงฺฆาฏฺจ. เอกทฺวารนฺติ กสฺมา อาห? พหุทฺวาเร หิ นคเร พหูหิ ปณฺฑิตโทวาริเกหิ ภวิตพฺพํ. เอกทฺวาเร เอโกว วฏฺฏติ. เถรสฺส จ ปฺาย สทิโส อฺโ นตฺถิ. ตสฺมา อตฺตโน ปณฺฑิตภาวสฺส โอปมฺมตฺถํ เอกํเยว โทวาริกํ ทสฺเสตุํ เอกทฺวาร’’นฺติ อาห. ปณฺฑิโตติ ปณฺฑิจฺเจน สมนฺนาคโต. พฺยตฺโตติ เวยฺยตฺติเยน สมนฺนาคโต วิสทาโณ. เมธาวีติ านุปฺปตฺติกปฺาสงฺขาตาย เมธาย สมนฺนาคโต. อนุปริยายปถนฺติ อนุปริยายนามกํ ปาการมคฺคํ. ปาการสนฺธินฺติ ทฺวินฺนํ อิฏฺกานํ อปคตฏฺานํ. ปาการวิวรนฺติ ปาการสฺส ฉินฺนฏฺานํ.
เจตโส อุปกฺกิเลเสติ ปฺจ นีวรณานิ จิตฺตํ อุปกฺกิเลเสนฺติ กิลิฏฺํ ¶ กโรนฺติ อุปตาเปนฺติ วิพาเธนฺติ, ตสฺมา ‘‘เจตโส อุปกฺกิเลสา’’ติ วุจฺจนฺติ. ปฺาย ทุพฺพลีกรเณติ นีวรณา อุปฺปชฺชมานา อนุปฺปนฺนาย ปฺาย อุปฺปชฺชิตุํ น เทนฺติ, อุปฺปนฺนาย ปฺาย วฑฺฒิตุํ น ¶ เทนฺติ, ตสฺมา ‘‘ปฺาย ทุพฺพลีกรณา’’ติ วุจฺจนฺติ. สุปฺปติฏฺิตจิตฺตาติ จตูสุ สติปฏฺาเนสุ สุฏฺุ ปิตจิตฺตา หุตฺวา. สตฺต โพชฺฌงฺเค ยถาภูตนฺติ สตฺต โพชฺฌงฺเค ยถาสภาเวน ภาเวตฺวา. อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธินฺติ อรหตฺตํ สพฺพฺุตฺาณํ วา ปฏิวิชฺฌึสูติ ทสฺเสติ.
อปิเจตฺถ สติปฏฺานาติ วิปสฺสนา. สมฺโพชฺฌงฺคา มคฺโค. อนุตฺตราสมฺมาสมฺโพธิ อรหตฺตํ. สติปฏฺานาติ วา มคฺคาติ วา โพชฺฌงฺคมิสฺสกา. สมฺมาสมฺโพธิ อรหตฺตเมว. ทีฆภาณกมหาสีวตฺเถโร ปนาห ‘‘สติปฏฺาเน ¶ วิปสฺสนาติ คเหตฺวา โพชฺฌงฺเค มคฺโค จ สพฺพฺุตฺาณฺจาติ คหิเต สุนฺทโร ปฺโห ภเวยฺย, น ปเนวํ คหิต’’นฺติ. อิติ เถโร สพฺพฺุพุทฺธานํ นีวรณปฺปหาเน สติปฏฺานภาวนาย สมฺโพธิยฺจ มชฺเฌ ภินฺนสุวณฺณรชตานํ วิย นานตฺตาภาวํ ทสฺเสติ.
อิธ ตฺวา อุปมา สํสนฺเทตพฺพา – อายสฺมา หิ สาริปุตฺโต ปจฺจนฺตนครํ ทสฺเสสิ, ปาการํ ทสฺเสสิ, ปริยายปถํ ทสฺเสสิ, ทฺวารํ ทสฺเสสิ, ปณฺฑิตโทวาริกํ ทสฺเสสิ, นครํ ปเวสนกนิกฺขมนเก โอฬาริเก ปาเณ ทสฺเสสิ, ปณฺฑิตโทวาริกสฺส เตสํ ปาณานํ ปากฏภาวฺจ ทสฺเสสิ. ตตฺถ กึ เกน สทิสนฺติ เจ. นครํ วิย หิ นิพฺพานํ, ปากาโร วิย สีลํ, ปริยายปโถ วิย หิรี, ทฺวารํ วิย อริยมคฺโค, ปณฺฑิตโทวาริโก วิย ธมฺมเสนาปติ, นครปฺปวิสนกนิกฺขมนกโอฬาริกปาณา วิย อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนา พุทฺธา, โทวาริกสฺส เตสํ ปาณานํ ปากฏภาโว วิย อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนพุทฺธานํ สีลสมถาทีหิ ปากฏภาโว. เอตฺตาวตา เถเรน ภควา เอวมหํ สาวกปารมีาเณ ตฺวา ธมฺมนฺวเยน นยคฺคาเหน ชานามีติ อตฺตโน สีหนาทสฺส อนุโยโค ทินฺโน โหติ.
๑๔๔. อิธาหํ, ภนฺเต, เยน ภควาติ อิมํ เทสนํ กสฺมา อารภิ ¶ ? สาวกปารมีาณสฺส นิปฺผตฺติทสฺสนตฺถํ. อยฺเหตฺถ อธิปฺปาโย, ภควา อหํ สาวกปารมีาณํ ปฏิลภนฺโต ปฺจนวุติปาสณฺเฑ น อฺํ เอกมฺปิ สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา อุปสงฺกมิตฺวา สาวกปารมีาณมฺปิ ปฏิลภึ, ตุมฺเหเยว อุปสงฺกมิตฺวา ตุมฺเห ปยิรุปาสนฺโต ปฏิลภินฺติ. ตตฺถ อิธาติ นิปาตมตฺตํ. อุปสงฺกมึ ธมฺมสวนายาติ ตุมฺเห อุปสงฺกมนฺโต ปนาหํ น จีวราทิเหตุ อุปสงฺกมนฺโต, ธมฺมสวนตฺถาย อุปสงฺกมนฺโต. เอวํ อุปสงฺกมิตฺวา สาวกปารมีาณํ ปฏิลภึ. กทา ปน เถโร ธมฺมสวนตฺถาย อุปสงฺกมนฺโตติ. สูกรขตเลเณ ภาคิเนยฺยทีฆนขปริพฺพาชกสฺส เวทนาปริคฺคหสุตฺตนฺตกถนทิวเส (ม. นิ. ๒.๒๐๕) ¶ อุปสงฺกมนฺโต, ตทาเยว สาวกปารมีาณํ ปฏิลภีติ. ตํทิวสฺหิ เถโร ตาลวณฺฏํ คเหตฺวา ภควนฺตํ พีชมาโน ิโต ตํ เทสนํ สุตฺวา ตตฺเถว สาวกปารมีาณํ ¶ หตฺถคตํ อกาสิ. อุตฺตรุตฺตรํ ปณีตปณีตนฺติ อุตฺตรุตฺตรฺเจว ปณีตปณีตฺจ กตฺวา เทเสสิ. กณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาคนฺติ กณฺหฺเจว สุกฺกฺจ. ตฺจ โข สปฺปฏิภาคํ สวิปกฺขํ กตฺวา. กณฺหํ ปฏิพาหิตฺวา สุกฺกํ, สุกฺกํ ปฏิพาหิตฺวา กณฺหนฺติ เอวํ สปฺปฏิภาคํ กตฺวา กณฺหสุกฺกํ เทเสสิ, กณฺหํ เทเสนฺโตปิ จ สอุสฺสาหํ สวิปากํ เทเสสิ, สุกฺกํ เทเสนฺโตปิ สอุสฺสาหํ สวิปากํ เทเสสิ.
ตสฺมึ ธมฺเม อภิฺา อิเธกจฺจํ ธมฺมํ ธมฺเมสุ นิฏฺมคมนฺติ ตสฺมึ เทสิเต ธมฺเม เอกจฺจํ ธมฺมํ นาม สาวกปารมีาณํ สฺชานิตฺวา ธมฺเมสุ นิฏฺมคมํ. กตเมสุ ธมฺเมสูติ? จตุสจฺจธมฺเมสุ. เอตฺถายํ เถรสลฺลาโป, กาฬวลฺลวาสี สุมตฺเถโร ตาว วทติ ‘‘จตุสจฺจธมฺเมสุ อิทานิ นิฏฺคมนการณํ นตฺถิ. อสฺสชิมหาสาวกสฺส หิ ทิฏฺทิวเสเยว โส ปมมคฺเคน จตุสจฺจธมฺเมสุ นิฏฺํ คโต, อปรภาเค สูกรขตเลณทฺวาเร อุปริ ตีหิ มคฺเคหิ จตุสจฺจธมฺเมสุ นิฏฺํ คโต, อิมสฺมึ ปน าเน ¶ ‘ธมฺเมสู’ติ พุทฺธคุเณสุ นิฏฺํ คโต’’ติ. โลกนฺตรวาสี จูฬสีวตฺเถโร ปน ‘‘สพฺพํ ตเถว วตฺวา อิมสฺมึ ปน าเน ‘ธมฺเมสู’ติ อรหตฺเต นิฏฺํ คโต’’ติ อาห. ทีฆภาณกติปิฏกมหาสีวตฺเถโร ปน ‘‘ตเถว ปุริมวาทํ วตฺวา อิมสฺมึ ปน าเน ‘ธมฺเมสู’ติ สาวกปารมีาเณ นิฏฺํ คโต’’ติ วตฺวา ‘‘พุทฺธคุณา ปน นยโต อาคตา’’ติ อาห.
สตฺถริ ปสีทินฺติ เอวํ สาวกปารมีาณธมฺเมสุ นิฏฺํ คนฺตฺวา ภิยฺโยโสมตฺตาย ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ วต โส ภควา’’ติ สตฺถริ ปสีทึ. สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโมติ สุฏฺุ อกฺขาโต สุกถิโต นิยฺยานิโก มคฺโค ผลตฺถาย นิยฺยาติ ราคโทสโมหนิมฺมทนสมตฺโถ.
สุปฺปฏิปนฺโน สงฺโฆติ พุทฺธสฺส ภควโต สาวกสงฺโฆปิ วงฺกาทิโทสวิรหิตํ สมฺมาปฏิปทํ ปฏิปนฺนตฺตา สุปฺปฏิปนฺโนติ ปสนฺโนมฺหิ ภควตีติ ทสฺเสติ.
กุสลธมฺมเทสนาวณฺณนา
๑๔๕. อิทานิ ทิวาฏฺาเน นิสีทิตฺวา สมาปชฺชิเต โสฬส อปราปริยธมฺเม ทสฺเสตุํ อปรํ ปน ภนฺเต เอตทานุตฺตริยนฺติ เทสนํ อารภิ. ตตฺถ ¶ อนุตฺตริยนฺติ อนุตฺตรภาโว. ยถา ภควา ¶ ธมฺมํ เทเสตีติ ยถา เยนากาเรน ยาย เทสนาย ภควา ธมฺมํ เทเสติ, สา ตุมฺหากํ เทสนา อนุตฺตราติ วทติ. กุสเลสุ ธมฺเมสูติ ตาย เทสนาย เทสิเตสุ กุสเลสุ ธมฺเมสุปิ ภควาว อนุตฺตโรติ ทีเปติ. ยา วา สา เทสนา, ตสฺสา ภูมึ ทสฺเสนฺโตปิ ‘‘กุสเลสุ ธมฺเมสู’’ติ อาห. ตตฺริเม กุสลา ธมฺมาติ ตตฺร กุสเลสุ ธมฺเมสูติ วุตฺตปเท อิเม กุสลา ธมฺมา นามาติ เวทิตพฺพา. ตตฺถ อาโรคฺยฏฺเน, อนวชฺชฏฺเน, โกสลฺลสมฺภูตฏฺเน, นิทฺทรถฏฺเน, สุขวิปากฏฺเนาติ ปฺจธา กุสลํ เวทิตพฺพํ. เตสุ ชาตกปริยายํ ปตฺวา อาโรคฺยฏฺเน กุสลํ วฏฺฏติ. สุตฺตนฺตปริยายํ ปตฺวา อนวชฺชฏฺเน. อภิธมฺมปริยายํ ปตฺวา โกสลฺลสมฺภูตนิทฺทรถสุขวิปากฏฺเน. อิมสฺมึ ปน าเน พาหิติกสุตฺตนฺตปริยาเยน (ม. นิ. ๒.๓๕๘) อนวชฺชฏฺเน กุสลํ ทฏฺพฺพํ.
จตฺตาโร สติปฏฺานาติ จุทฺทสวิเธน กายานุปสฺสนาสติปฏฺานํ, นววิเธน เวทนานุปสฺสนาสติปฏฺานํ ¶ , โสฬสวิเธน จิตฺตานุปสฺสนาสติปฏฺานํ, ปฺจวิเธน ธมฺมานุปสฺสนาสติปฏฺานนฺติ เอวํ นานานเยหิ วิภชิตฺวา สมถวิปสฺสนามคฺควเสน โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกา จตฺตาโร สติปฏฺานา เทสิตา. ผลสติปฏฺานํ ปน อิธ อนธิปฺเปตํ. จตฺตาโร สมฺมปฺปธานาติ ปคฺคหฏฺเน เอกลกฺขณา, กิจฺจวเสน นานากิจฺจา. ‘‘อิธ ภิกฺขุ อนุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ อนุปฺปาทายา’’ติอาทินา นเยน สมถวิปสฺสนามคฺควเสน โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกาว จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา เทสิตา. จตฺตาโร อิทฺธิปาทาติ อิชฺฌนฏฺเน เอกสงฺคหา, ฉนฺทาทิวเสน นานาสภาวา. ‘‘อิธ ภิกฺขุ ฉนฺทสมาธิปธานสงฺขารสมนฺนาคตํ อิทฺธิปาทํ ภาเวตี’’ติอาทินา นเยน สมถวิปสฺสนามคฺควเสน โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกาว จตฺตาโร อิทฺธิปาทา เทสิตา.
ปฺจินฺทฺริยานีติ อาธิปเตยฺยฏฺเน เอกลกฺขณานิ, อธิโมกฺขาทิสภาววเสน นานาสภาวานิ. สมถวิปสฺสนามคฺควเสเนว จ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกานิ สทฺธาทีนิ ปฺจินฺทฺริยานิ เทสิตานิ. ปฺจ พลานีติ อุปตฺถมฺภนฏฺเน อกมฺปิยฏฺเน วา เอกสงฺคหานิ, สลกฺขเณน นานาสภาวานิ ¶ . สมถวิปสฺสนามคฺควเสเนว โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกานิ สทฺธาทีนิ ปฺจ พลานิ เทสิตานิ. สตฺต โพชฺฌงฺคาติ นิยฺยานฏฺเน เอกสงฺคหา, อุปฏฺานาทินา สลกฺขเณน นานาสภาวา. สมถวิปสฺสนา มคฺควเสเนว โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกา สตฺต โพชฺฌงฺคา เทสิตา.
อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโคติ เหตุฏฺเน เอกสงฺคโห, ทสฺสนาทินา สลกฺขเณน นานาสภาโว. สมถวิปสฺสนามคฺควเสเนว ¶ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสโก อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค เทสิโตติ อตฺโถ.
อิธ, ภนฺเต, ภิกฺขุ อาสวานํ ขยาติ อิทํ กิมตฺถํ อารทฺธํ? สาสนสฺส ปริโยสานทสฺสนตฺถํ. สาสนสฺส หิ น เกวลํ มคฺเคเนว ปริโยสานํ โหติ, อรหตฺตผเลน ปน โหติ. ตสฺมา ตํ ทสฺเสตุํ อิทมารทฺธนฺติ เวทิตพฺพํ. เอตทานุตฺตริยํ, ภนฺเต, กุสเลสุ ธมฺเมสูติ ภนฺเต ยา อยํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ เอวํเทสนา, เอตทานุตฺตริยํ. ตํ ¶ ภควาติ ตํ เทสนํ ภควา อเสสํ สกลํ อภิชานาติ. ตํ ภควโตติ ตํ เทสนํ ภควโต อเสสํ อภิชานโต. อุตฺตริ อภิฺเยฺยํ นตฺถีติ ตทุตฺตริ อภิชานิตพฺพํ นตฺถิ, อยํ นาม อิโต อฺโ ธมฺโม วา ปุคฺคโล วา ยํ ภควา น ชานาตีติ อิทํ นตฺถิ. ยทภิชานํ อฺโ สมโณ วาติ ยํ ตุมฺเหหิ อนภิฺาตํ, ตํ อฺโ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา อภิชานนฺโต ภควตา ภิยฺโยภิฺตโร อสฺส, อธิกตรปฺโ ภเวยฺย. ยทิทํ กุสเลสุ ธมฺเมสูติ เอตฺถ ยทิทนฺติ นิปาตมตฺตํ, กุสเลสุ ธมฺเมสุ ภควตา อุตฺตริตโร นตฺถีติ อยเมตฺถตฺโถ. อิติ ภควาว กุสเลสุ ธมฺเมสุ อนุตฺตโรติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิมินาปิ การเณน เอวํปสนฺโน อหํ, ภนฺเต, ภควตี’’ติ ทีเปติ. อิโต ปเรสุ อปรํ ปนาติอาทีสุ วิเสสมตฺตเมว วณฺณยิสฺสาม. ปุริมวารสทิสํ ปน วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
อายตนปณฺณตฺติเทสนาวณฺณนา
๑๔๖. อายตนปณฺณตฺตีสูติ อายตนปฺาปนาสุ. อิทานิ ตา อายตนปฺตฺติโย ทสฺเสนฺโต ฉยิมานิ, ภนฺเตติอาทิมาห. อายตนกถา ปเนสา วิสุทฺธิมคฺเค วิตฺถาเรน กถิตา, เตน น ตํ วิตฺถารยิสฺสาม, ตสฺมา ตตฺถ วุตฺตนเยเนว สา วิตฺถารโต เวทิตพฺพา.
เอตทานุตฺตริยํ ¶ , ภนฺเต, อายตนปณฺณตฺตีสูติ ยายํ อายตนปณฺณตฺตีสุ อชฺฌตฺติกพาหิรววตฺถานาทิวเสน เอวํ เทสนา, เอตทานุตฺตริยํ. เสสํ วุตฺตนยเมว.
คพฺภาวกฺกนฺติเทสนาวณฺณนา
๑๔๗. คพฺภาวกฺกนฺตีสูติ คพฺโภกฺกมเนสุ. ตา คพฺภาวกฺกนฺติโย ทสฺเสนฺโต จตสฺโส อิมา, ภนฺเตติอาทิมาห. ตตฺถ อสมฺปชาโนติ อชานนฺโต สมฺมูฬฺโห หุตฺวา. มาตุกุจฺฉึ โอกฺกมตีติ ¶ ปฏิสนฺธิวเสน ปวิสติ. าตีติ วสติ. นิกฺขมตีติ นิกฺขมนฺโตปิ อสมฺปชาโน สมฺมูฬฺโหว นิกฺขมติ. อยํ ปมาติ อยํ ปกติโลกิยมนุสฺสานํ ปมา คพฺภาวกฺกนฺติ.
สมฺปชาโน มาตุกุจฺฉึ โอกฺกมตีติ โอกฺกมนฺโต สมฺปชาโน อสมฺมูฬฺโห หุตฺวา โอกฺกมติ.
อยํ ¶ ทุติยาติ อยํ อสีติมหาเถรานํ สาวกานํ ทุติยา คพฺภาวกฺกนฺติ. เต หิ ปวิสนฺตาว ชานนฺติ, วสนฺตา จ นิกฺขมนฺตา จ น ชานนฺติ.
อยํ ตติยาติ อยํ ทฺวินฺนฺจ อคฺคสาวกานํ ปจฺเจกโพธิสตฺตานฺจ ตติยา คพฺภาวกฺกนฺติ. เต กิร กมฺมเชหิ วาเตหิ อโธสิรา อุทฺธํปาทา อเนกสตโปริเส ปปาเต วิย โยนิมุเข ขิตฺตา ตาฬจฺฉิคฺคเฬน หตฺถี วิย สมฺพาเธน โยนิมุเขน นิกฺขมมานา อนนฺตํ ทุกฺขํ ปาปุณนฺติ. เตน เนสํ ‘‘มยํ นิกฺขมมฺหา’’ติ สมฺปชานตา น โหติ. เอวํ ปูริตปารมีนมฺปิ จ สตฺตานํ เอวรูเป าเน มหนฺตํ ทุกฺขํ อุปฺปชฺชตีติ อลเมว คพฺภาวาเส นิพฺพินฺทิตุํ อลํ วิรชฺชิตุํ.
อยํ จตุตฺถาติ อยํ สพฺพฺุโพธิสตฺตานํ วเสน จตุตฺถา คพฺภาวกฺกนฺติ. สพฺพฺุโพธิสตฺตา หิ มาตุกุจฺฉิสฺมึ ปฏิสนฺธึ คณฺหนฺตาปิ ชานนฺติ, ตตฺถ วสนฺตาปิ ชานนฺติ, นิกฺขมนฺตาปิ ชานนฺติ, นิกฺขมนกาเลปิ จ เต กมฺมชวาตา อุทฺธํปาเท อโธสิเร กตฺวา ขิปิตุํ น สกฺโกนฺติ, ทฺเว หตฺเถ ปสาเรตฺวา อกฺขีนิ อุมฺมีเลตฺวา ิตกาว นิกฺขมนฺติ. ภวคฺคํ อุปาทาย อวีจิอนฺตเร อฺโ ตีสุ กาเลสุ สมฺปชาโน นาม นตฺถิ เปตฺวา สพฺพฺุโพธิสตฺเต. เตเนว เนสํ มาตุกุจฺฉึ โอกฺกมนกาเล จ นิกฺขมนกาเล ¶ จ ทสสหสฺสิโลกธาตุ กมฺปตีติ. เสสเมตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
อาเทสนวิธาเทสนาวณฺณนา
๑๔๘. อาเทสนวิธาสูติ อาเทสนโกฏฺาเสสุ. อิทานิ ตา อาเทสนวิธา ทสฺเสนฺโต จตสฺโส อิมาติอาทิมาห. นิมิตฺเตน อาทิสตีติ อาคตนิมิตฺเตน คตนิมิตฺเตน ิตนิมิตฺเตน วา อิทํ นาม ภวิสฺสตีติ กเถติ.
ตตฺริทํ ¶ วตฺถุ – เอโก ราชา ติสฺโส มุตฺตา คเหตฺวา ปุโรหิตํ ปุจฺฉิ ‘‘กึ เม, อาจริย, หตฺเถ’’ติ? โส อิโต จิโต จ โอโลเกสิ. เตน จ สมเยน เอกา สรพู ‘‘มกฺขิกํ คเหสฺสามี’’ติ ปกฺขนฺทิ, คหณกาเล มกฺขิกา ปลาตา, โส มกฺขิกาย มุตฺตตฺตา ‘‘มุตฺตา มหาราชา’’ติ อาห. มุตฺตา ตาว โหตุ, กติ มุตฺตาติ? โส ปุน นิมิตฺตํ โอโลเกสิ. อถ อวิทูเร กุกฺกุโฏ ติกฺขตฺตุํ สทฺทํ นิจฺฉาเรสิ. พฺราหฺมโณ ‘‘ติสฺโส มหาราชา’’ติ อาห. เอวํ เอกจฺโจ อาคตนิมิตฺเตน กเถติ. เอเตนุปาเยน คติตนิ มิตฺเตหิปิ กถนํ เวทิตพฺพํ.
อมนุสฺสานนฺติ ยกฺขปิสาจาทีนํ. เทวตานนฺติ ¶ จาตุมหาราชิกาทีนํ. สทฺทํ สุตฺวาติ อฺสฺส จิตฺตํ ตฺวา กเถนฺตานํ สทฺทํ สุตฺวา. วิตกฺกวิปฺผารสทฺทนฺติ วิตกฺกวิปฺผารวเสน อุปฺปนฺนํ วิปฺปลปนฺตานํ สุตฺตปมตฺตาทีนํ สทฺทํ. สุตฺวาติ ตํ สทฺทํ สุตฺวา. ยํ วิตกฺกยโต ตสฺส โส สทฺโท อุปฺปนฺโน, ตสฺส วเสน ‘‘เอวมฺปิ เต มโน’’ติ อาทิสติ. มโนสงฺขารา ปณิหิตาติ จิตฺตสงฺขารา สุฏฺปิตา. วิตกฺเกสฺสตีติ วิตกฺกยิสฺสติ ปวตฺเตสฺสตีติ ปชานาติ. ชานนฺโต จ อาคมเนน ชานาติ, ปุพฺพภาเคน ชานาติ, อนฺโตสมาปตฺติยํ จิตฺตํ โอโลเกตฺวา ชานาติ. อาคมเนน ชานาติ นาม กสิณปริกมฺมกาเลเยว เยนากาเรน เอส กสิณภาวนํ อารทฺโธ ปมชฺฌานํ วา…เป… จตุตฺถชฺฌานํ วา อฏฺสมาปตฺติโย วา นิพฺพตฺเตสฺสตีติ ชานาติ. ปุพฺพภาเคน ชานาติ นาม สมถวิปสฺสนาย อารทฺธาเยว ชานาติ, เยนากาเรน เอส วิปสฺสนํ อารทฺโธ โสตาปตฺติมคฺคํ วา นิพฺพตฺเตสฺสติ, สกทาคามิมคฺคํ วา นิพฺพตฺเตสฺสติ, อนาคามิมคฺคํ วา นิพฺพตฺเตสฺสติ, อรหตฺตมคฺคํ วา นิพฺพตฺเตสฺสตีติ ชานาติ. อนฺโตสมาปตฺติยํ จิตฺตํ โอโลเกตฺวา ชานาติ นาม เยนากาเรน อิมสฺส มโนสงฺขารา สุฏฺปิตา, อิมสฺส นาม จิตฺตสฺส อนนฺตรา ¶ อิมํ นาม วิตกฺกํ วิตกฺเกสฺสติ. อิโต วุฏฺิตสฺส เอตสฺส หานภาคิโย วา สมาธิ ภวิสฺสติ, ิติภาคิโย วา วิเสสภาคิโย วา นิพฺเพธภาคิโย วา อภิฺาโย วา นิพฺพตฺเตสฺสตีติ ชานาติ.
ตตฺถ ปุถุชฺชโน เจโตปริยาณลาภี ปุถุชฺชนานํเยว จิตฺตํ ชานาติ, น อริยานํ. อริเยสุปิ เหฏฺิโม เหฏฺิโม อุปริมสฺส อุปริมสฺส จิตฺตํ น ชานาติ, อุปริโม ปน เหฏฺิมสฺส ชานาติ. เอเตสุ จ โสตาปนฺโน โสตาปตฺติผลสมาปตฺตึ สมาปชฺชติ. สกทาคามี, อนาคามี, อรหา, อรหตฺตผลสมาปตฺตึ สมาปชฺชติ. อุปริโม เหฏฺิมํ น สมาปชฺชติ. เตสฺหิ เหฏฺิมา เหฏฺิมา สมาปตฺติ ตตฺรุปปตฺติเยว โหติ. ตเถว ตํ โหตีติ อิทํ เอกํเสน ตเถว โหติ. เจโตปริยาณวเสน าตฺหิ อฺถาภาวี นาม นตฺถิ. เสสํ ปุริมนเยเนว โยเชตพฺพํ.
ทสฺสนสมาปตฺติเทสนาวณฺณนา
๑๔๙. อาตปฺปมนฺวายาติอาทิ ¶ พฺรหฺมชาเล วิตฺถาริตเมว. อยํ ปเนตฺถ ¶ สงฺเขโป, อาตปฺปนฺติ วีริยํ. ตเทว ปทหิตพฺพโต ปธานํ. อนุยฺุชิตพฺพโต อนุโยโค.อปฺปมาทนฺติ สติอวิปฺปวาสํ. สมฺมามนสิการนฺติ อนิจฺเจ อนิจฺจนฺติอาทิวเสน ปวตฺตํ อุปายมนสิการํ. เจโตสมาธินฺติ ปมชฺฌานสมาธึ. อยํ ปมา ทสฺสนสมาปตฺตีติ อยํ ทฺวตฺตึ สาการํ ปฏิกูลโต มนสิกตฺวา ปฏิกูลทสฺสนวเสน อุปฺปาทิตา ปมชฺฌานสมาปตฺติ ปมา ทสฺสนสมาปตฺติ นาม, สเจ ปน ตํ ฌานํ ปาทกํ กตฺวา โสตาปนฺโน โหติ, อยํ นิปฺปริยาเยเนว ปมา ทสฺสนสมาปตฺติ.
อติกฺกมฺม จาติ อติกฺกมิตฺวา จ. ฉวิมํสโลหิตนฺติ ฉวิฺจ มํสฺจ โลหิตฺจ. อฏฺึ ปจฺจเวกฺขตีติ อฏฺิ อฏฺีติ ปจฺจเวกฺขติ. อฏฺิ อฏฺีติ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อุปฺปาทิตา อฏฺิอารมฺมณา ทิพฺพจกฺขุปาทกชฺฌานสมาปตฺติ ทุติยา ทสฺสนสมาปตฺติ นาม. สเจ ปน ตํ ฌานํ ปาทกํ กตฺวา สกทาคามิมคฺคํ นิพฺพตฺเตติ. อยํ นิปฺปริยาเยน ทุติยา ทสฺสนสมาปตฺติ. กาฬวลฺลวาสี สุมตฺเถโร ปน ‘‘ยาว ตติยมคฺคา วฏฺฏตี’’ติ อาห.
วิฺาณโสตนฺติ ¶ วิฺาณเมว. อุภยโต อพฺโพจฺฉินฺนนฺติ ทฺวีหิปิ ภาเคหิ อจฺฉินฺนํ. อิธ โลเก ปติฏฺิตฺจาติ ฉนฺทราควเสน อิมสฺมิฺจ โลเก ปติฏฺิตํ. ทุติยปเทปิ เอเสว นโย. กมฺมํ วา กมฺมโต อุปคจฺฉนฺตํ อิธ โลเก ปติฏฺิตํ นาม. กมฺมภวํ อากฑฺฒนฺตํ ปรโลเก ปติฏฺิตํ นาม. อิมินา กึ กถิตํ? เสกฺขปุถุชฺชนานํ เจโตปริยาณํ กถิตํ. เสกฺขปุถุชฺชนานฺหิ เจโตปริยาณํ ตติยา ทสฺสนสมาปตฺติ นาม.
อิธ โลเก อปฺปติฏฺิตฺจาติ นิจฺฉนฺทราคตฺตา อิธโลเก จ อปฺปติฏฺิตํ. ทุติยปเทปิ เอเสว นโย. กมฺมํ วา กมฺมโต น อุปคจฺฉนฺตํ อิธ โลเก อปฺปติฏฺิตํ นาม. กมฺมภวํ อนากฑฺฒนฺตํ ปรโลเก อปฺปติฏฺิตํ นาม. อิมินา กึ กถิตํ? ขีณาสวสฺส เจโตปริยาณํ กถิตํ. ขีณาสวสฺส หิ เจโตปริยาณํ จตุตฺถา ทสฺสนสมาปตฺติ นาม.
อปิจ ทฺวตฺตึสากาเร อารทฺธวิปสฺสนาปิ ¶ ปมา ทสฺสนสมาปตฺติ. อฏฺิอารมฺมเณ อารทฺธวิปสฺสนา ทุติยา ทสฺสนสมาปตฺติ. เสกฺขปุถุชฺชนานํ เจโตปริยาณํ ขีณาสวสฺส เจโตปริยาณนฺติ อิทํ ปททฺวยํ นิจฺจลเมว. อปโร นโย ปมชฺฌานํ ปมา ทสฺสนสมาปตฺติ ¶ . ทุติยชฺฌานํ ทุติยา. ตติยชฺฌานํ ตติยา. จตุตฺถชฺฌานํ จตุตฺถา ทสฺสนสมาปตฺติ. ตถา ปมมคฺโค ปมา ทสฺสนสมาปตฺติ. ทุติยมคฺโค ทุติยา. ตติยมคฺโค ตติยา. จตุตฺถมคฺโค จตุตฺถา ทสฺสนสมาปตฺตีติ. เสสเมตฺถ ปุริมนเยเนว โยเชตพฺพํ.
ปุคฺคลปณฺณตฺติเทสนาวณฺณนา
๑๕๐. ปุคฺคลปณฺณตฺตีสูติ โลกโวหารวเสน ‘‘สตฺโต ปุคฺคโล นโร โปโส’’ติ เอวํ ปฺาเปตพฺพาสุ โลกปฺตฺตีสุ. พุทฺธานฺหิ ทฺเว กถา สมฺมุติกถา, ปรมตฺถกถาติ โปฏฺปาทสุตฺเต (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๔๓๙-๔๔๓) วิตฺถาริตา.
ตตฺถ ปุคฺคลปณฺณตฺตีสูติ อยํ สมฺมุติกถา. อิทานิ เย ปุคฺคเล ปฺเปนฺโต ปุคฺคลปณฺณตฺตีสุ ภควา อนุตฺตโร โหติ, เต ทสฺเสนฺโต สตฺติเม ภนฺเต ปุคฺคลา. อุภโตภาควิมุตฺโตติอาทิมาห. ตตฺถ อุภโตภาควิมุตฺโตติ ทฺวีหิ ภาเคหิ วิมุตฺโต, อรูปสมาปตฺติยา รูปกายโต ¶ วิมุตฺโต, มคฺเคน นามกายโต. โส จตุนฺนํ อรูปสมาปตฺตีนํ เอเกกโต วุฏฺาย สงฺขาเร สมฺมสิตฺวา อรหตฺตปฺปตฺตานํ, จตุนฺนํ, นิโรธา วุฏฺาย อรหตฺตปฺปตฺตอนาคามิโน จ วเสน ปฺจวิโธ โหติ.
ปาฬิ ปเนตฺถ ‘‘กตโม จ ปุคฺคโล อุภโตภาควิมุตฺโต? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อฏฺวิโมกฺเข กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ, ปฺาย จสฺส ทิสฺวา อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺตี’’ติ (ธาตุ. ๒๔) เอวํ อฏฺวิโมกฺขลาภิโน วเสน อาคตา. ปฺาย วิมุตฺโตติ ปฺาวิมุตฺโต. โส สุกฺขวิปสฺสโก จ, จตูหิ ฌาเนหิ วุฏฺาย อรหตฺตํ ปตฺตา จตฺตาโร จาติ อิเมสํ วเสน ปฺจวิโธว โหติ.
ปาฬิ ปเนตฺถ อฏฺวิโมกฺขปฏิกฺเขปวเสเนว อาคตา. ยถาห ‘‘น เหว โข อฏฺ วิโมกฺเข กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ. ปฺาย จสฺส ทิสฺวา อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ปฺาวิมุตฺโต’’ติ (ธาตุ. ๒๕).
ผุฏฺนฺตํ สจฺฉิ กโรตีติ กายสกฺขิ. โส ฌานผสฺสํ ปมํ ผุสติ, ปจฺฉา นิโรธํ นิพฺพานํ สจฺฉิกโรติ, โส โสตาปตฺติผลฏฺํ อาทึ กตฺวา ยาว อรหตฺตมคฺคฏฺา ¶ ฉพฺพิโธ โหตีติ เวทิตพฺโพ. เตเนวาห ‘‘อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อฏฺ วิโมกฺเข กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ, ปฺาย ¶ จสฺส ทิสฺวา เอกจฺเจ อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล กายสกฺขี’’ติ (ธาตุ. ๒๖).
ทิฏฺนฺตํ ปตฺโตติ ทิฏฺิปฺปตฺโต. ตตฺริทํ สงฺเขปลกฺขณํ, ทุกฺขา สงฺขารา สุโข นิโรโธติ าตํ โหติ ทิฏฺํ วิทิตํ สจฺฉิกตํ ปสฺสิตํ ปฺายาติ ทิฏฺิปฺปตฺโต. วิตฺถารโต ปเนโสปิ กายสกฺขิ วิย ฉพฺพิโธ โหติ. เตเนวาห – ‘‘อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อิทํ ทุกฺขนฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ…เป… อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทาติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ตถาคตปฺปเวทิตา จสฺส ธมฺมา ปฺาย โวทิฏฺา โหนฺติ โวจริตา, ปฺาย จสฺส ทิสฺวา เอกจฺเจ อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ทิฏฺิปฺปตฺโต’’ติ (ธาตุ. ๒๗).
สทฺธาย ¶ วิมุตฺโตติ สทฺธาวิมุตฺโต. โสปิ วุตฺตนเยเนว ฉพฺพิโธ โหติ. เตเนวาห – ‘‘อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อิทํ ทุกฺขนฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ, อยํ ทุกฺขสมุทโยติ ยถาภูตํ ปชานาติ, อยํ ทุกฺขนิโรโธติ ยถาภูตํ ปชานาติ, อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทาติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ตถาคตปฺปเวทิตา จสฺส ธมฺมา ปฺาย โวทิฏฺา โหนฺติ โวจริตา, ปฺาย จสฺส ทิสฺวา เอกจฺเจ อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ โน จ โข ยถา ทิฏฺิปฺปตฺตสฺส. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล สทฺธาวิมุตฺโต’’ติ (ธาตุ. ๒๘). เอเตสุ หิ สทฺธาวิมุตฺตสฺส ปุพฺพภาคมคฺคกฺขเณ สทฺทหนฺตสฺส วิย, โอกปฺเปนฺตสฺส วิย, อธิมุจฺจนฺตสฺส วิย จ กิเลสกฺขโย โหติ. ทิฏฺิปฺปตฺตสฺส ปุพฺพภาคมคฺคกฺขเณ กิเลสจฺเฉทกํ าณํ อทนฺธํ ติขิณํ สูรํ หุตฺวา วหติ. ตสฺมา ยถา นาม นาติติขิเณน อสินา กทลึ ฉินฺทนฺตสฺส ฉินฺนฏฺานํ น มฏฺํ โหติ, อสิ น สีฆํ วหติ, สทฺโท สุยฺยติ, พลวตโร วายาโม กาตพฺโพ โหติ, เอวรูปา สทฺธาวิมุตฺตสฺส ปุพฺพภาคมคฺคภาวนา. ยถา ปน อตินิสิเตน อสินา กทลึ ฉินฺทนฺตสฺส ฉินฺนฏฺานํ มฏฺํ โหติ, อสิ สีฆํ วหติ, สทฺโท น สุยฺยติ, พลวตรํ วายามกิจฺจํ น โหติ, เอวรูปา ปฺาวิมุตฺตสฺส ปุพฺพภาคมคฺคภาวนา เวทิตพฺพา.
ธมฺมํ อนุสฺสรตีติ ธมฺมานุสารี. ธมฺโมติ ปฺา, ปฺาปุพฺพงฺคมํ มคฺคํ ภาเวตีติ อตฺโถ. สทฺธานุสาริมฺหิปิ เอเสว นโย, อุโภเปเต โสตาปตฺติมคฺคฏฺาเยว. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘ยสฺส ปุคฺคลสฺส โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺนสฺส ปฺินฺทฺริยํ อธิมตฺตํ โหติ, ปฺาวาหึ ปฺาปุพฺพงฺคมํ อริยมคฺคํ ภาเวติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ธมฺมานุสารี’’ติ.
ตถา ¶ ‘‘ยสฺส ปุคฺคลสฺส โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺนสฺส สทฺธินฺทฺริยํ อธิมตฺตํ โหติ ¶ , สทฺธาวาหึ สทฺธาปุพฺพงฺคมํ อริยมคฺคํ ภาเวติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล สทฺธานุสารี’’ติ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถารโต ปเนสา อุภโตภาควิมุตฺตาทิกถา วิสุทฺธิมคฺเค ปฺาภาวนาธิกาเร วุตฺตา. ตสฺมา ตตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. เสสมิธาปิ ปุริมนเยเนว โยเชตพฺพํ.
ปธานเทสนาวณฺณนา
๑๕๑. ปธาเนสูติ อิธ ปทหนวเสน ‘‘สตฺต โพชฺฌงฺคา ปธานา’’ติ วุตฺตา. เตสํ วิตฺถารกถา มหาสติปฏฺาเน วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. เสสมิธาปิ ปุริมนเยเนว โยเชตพฺพํ.
ปฏิปทาเทสนาวณฺณนา
๑๕๒. ทุกฺขปฏิปทาทีสุ ¶ อยํ วิตฺถารนโย – ‘‘ตตฺถ กตมา ทุกฺขปฏิปทา ทนฺธาภิฺา ปฺา? ทุกฺเขน กสิเรน สมาธึ อุปฺปาเทนฺตสฺส ทนฺธํ ตํ านํ อภิชานนฺตสฺส ยา ปฺา ปชานนา…เป… อโมโห ธมฺมวิจโย สมฺมาทิฏฺิ, อยํ วุจฺจติ ทุกฺขปฏิปทา ทนฺธาภิฺา ปฺา. ตตฺถ กตมา ทุกฺขปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา ปฺา? ทุกฺเขน กสิเรน สมาธึ อุปฺปาเทนฺตสฺส ขิปฺปํ ตํ านํ อภิชานนฺตสฺส ยา ปฺา ปชานนา…เป… สมฺมาทิฏฺิ, อยํ วุจฺจติ ทุกฺขปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา ปฺา. ตตฺถ กตมา สุขปฏิปทา ทนฺธาภิฺา ปฺา? อกิจฺเฉน อกสิเรน สมาธึ อุปฺปาเทนฺตสฺส ทนฺธํ ตํ านํ อภิชานนฺตสฺส ยา ปฺา ปชานนา…เป… สมฺมาทิฏฺิ, อยํ วุจฺจติ สุขปฏิปทา ทนฺธาภิฺา ปฺา. ตตฺถ กตมา สุขปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา ปฺา? อกิจฺเฉน อกสิเรน สมาธึ อุปฺปาเทนฺตสฺส ขิปฺปํ ตํ านํ อภิชานนฺตสฺส ยา ปฺา ปชานนา…เป… สมฺมาทิฏฺิ, อยํ วุจฺจติ สุขปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา ปฺา’’ติ (วิภ. ๘๐๑). อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺโต. เสสมิธาปิ ปุริมนเยเนว โยเชตพฺพํ.
ภสฺสสมาจาราทิวณฺณนา
๑๕๓. น เจว มุสาวาทูปสฺหิตนฺติ ภสฺสสมาจาเร ิโตปิ กถามคฺคํ อนุปจฺฉินฺทิตฺวา กเถนฺโตปิ อิเธกจฺโจ ภิกฺขุ น เจว มุสาวาทูปสฺหิตํ ภาสติ. อฏฺ อนริยโวหาเร วชฺเชตฺวา อฏฺ อริยโวหารยุตฺตเมว ภาสติ. น ¶ จ เวภูติยนฺติ ภสฺสสมาจาเร ิโตปิ เภทกรวาจํ ¶ น ภาสติ. น จ เปสุณิยนฺติ ตสฺสาเยเวตํ เววจนํ. เวภูติยวาจา หิ ปิยภาวสฺส สฺุกรณโต ‘‘เปสุณิย’’นฺติ วุจฺจติ. นามเมวสฺสา เอตนฺติ มหาสีวตฺเถโร อโวจ. น จ สารมฺภชนฺติ สารมฺภชา จ ยา วาจา, ตฺจ น ภาสติ. ‘‘ตฺวํ ทุสฺสีโล’’ติ วุตฺเต, ‘‘ตฺวํ ทุสฺสีโล ตวาจริโย ทุสฺสีโล’’ติ วา, ‘‘ตุยฺหํ อาปตฺตี’’ติ วุตฺเต, ‘‘อหํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปาฏลิปุตฺตํ คโต’’ติอาทินา นเยน พหิทฺธา วิกฺเขปกถาปวตฺตํ วา กรณุตฺตริยวาจํ น ภาสติ. ชยาเปกฺโขติ ชยปุเรกฺขาโร หุตฺวา, ยถา หตฺถโก สกฺยปุตฺโต ติตฺถิยา นาม ธมฺเมนปิ อธมฺเมนปิ เชตพฺพาติ สจฺจาลิกํ ยํกิฺจิ ภาสติ, เอวํ ¶ ชยาเปกฺโข ชยปุเรกฺขาโร หุตฺวา น ภาสตีติ อตฺโถ. มนฺตา มนฺตา จ วาจํ ภาสตีติ เอตฺถ มนฺตาติ วุจฺจติ ปฺา, มนฺตาย ปฺาย. ปุน มนฺตาติ อุปปริกฺขิตฺวา. อิทํ วุตฺตํ โหติ, ภสฺสสมาจาเร ิโต ทิวสภาคมฺปิ กเถนฺโต ปฺาย อุปปริกฺขิตฺวา ยุตฺตกถเมว กเถตีติ. นิธานวตินฺติ หทเยปิ นิทหิตพฺพยุตฺตํ. กาเลนาติ ยุตฺตปตฺตกาเลน.
เอวํ ภาสิตา หิ วาจา อมุสา เจว โหติ อปิสุณา จ อผรุสา จ อสา จ อสมฺผปฺปลาปา จ. เอวรูปา จ อยํ วาจา จตุสจฺจนิสฺสิตาติปิ สิกฺขตฺตยนิสฺสิตาติปิ ทสกถาวตฺถุนิสฺสิตาติปิ เตรสธุตงฺคนิสฺสิตาติปิ สตฺตตฺตึสโพธิปกฺขิยธมฺมนิสฺสิตาติปิ มคฺคนิสฺสิตาติปิ วุจฺจติ. เตนาห เอตทานุตฺตริยํ, ภนฺเต, ภสฺสสมาจาเรติ ตํ ปุริมนเยเนว โยเชตพฺพํ.
สจฺโจ จสฺส สทฺโธ จาติ สีลาจาเร ิโต ภิกฺขุ สจฺโจ จ ภเวยฺย สจฺจกโถ สทฺโธ จ สทฺธาสมฺปนฺโน. นนุ เหฏฺา สจฺจํ กถิตเมว, อิธ กสฺมา ปุน วุตฺตนฺติ? เหฏฺา วาจาสจฺจํ กถิตํ. สีลาจาเร ิโต ปน ภิกฺขุ อนฺตมโส หสนกถายปิ มุสาวาทํ น กโรตีติ ทสฺเสตุํ อิธ วุตฺตํ. อิทานิ โส ธมฺเมน สเมน ชีวิตํ กปฺเปตีติ ทสฺสนตฺถํ น จ กุหโกติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ‘‘กุหโก’’ติอาทีนิ พฺรหฺมชาเล วิตฺถาริตานิ.
อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวาโร, โภชเน มตฺตฺูติ ฉสุ อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวาโร โภชเนปิ ปมาณฺู. สมการีติ ¶ สมจารี, กาเยน วาจาย มนสา จ กายวงฺกาทีนิ ปหาย สมํ จรตีติ อตฺโถ. ชาคริยานุโยคมนุยุตฺโตติ รตฺตินฺทิวํ ฉ โกฏฺาเส กตฺวา ‘‘ทิวสํ จงฺกเมน นิสชฺชายา’’ติ วุตฺตนเยเนว ชาคริยานุโยคํ ยุตฺตปฺปยุตฺโต วิหรติ. อตนฺทิโตติ นิตฺตนฺที กายาลสิยวิรหิโต. อารทฺธวีริโยติ กายิกวีริเยนาปิ อารทฺธวีริโย โหติ, คณสงฺคณิกํ วิโนเทตฺวา จตูสุ อิริยาปเถสุ อฏฺอารพฺภวตฺถุวเสน เอกวิหารี. เจตสิกวีริเยนาปิ อารทฺธวีริโย ¶ โหติ, กิเลสสงฺคณิกํ ปหาย วิโนเทตฺวา อฏฺสมาปตฺติวเสน เอกวิหารี. อปิ จ ยถา ตถา กิเลสุปฺปตฺตึ นิวาเรนฺโต เจตสิกวีริเยน อารทฺธวีริโย โหติ. ฌายีติ อารมฺมณลกฺขณูปนิชฺฌานวเสน ¶ ฌายี. สติมาติ จิรกตาทิอนุสฺสรณสมตฺถาย สติยา สมนฺนาคโต.
กลฺยาณปฏิภาโนติ วากฺกรณสมฺปนฺโน เจว โหติ ปฏิภานสมฺปนฺโน จ. ยุตฺตปฏิภาโน โข ปน โหติ โน มุตฺตปฏิภาโน. สีลสมาจารสฺมิฺหิ ิตภิกฺขุ มุตฺตปฏิภาโน น โหติ, ยุตฺตปฏิภาโน ปน โหติ วงฺคีสตฺเถโร วิย. คติมาติ คมนสมตฺถาย ปฺาย สมนฺนาคโต. ธิติมาติ ธารณสมตฺถาย ปฺาย สมนฺนาคโต. มติมาติ เอตฺถ ปน มตีติ ปฺาย นามเมว, ตสฺมา ปฺวาติ อตฺโถ. อิติ ตีหิปิ อิเมหิ ปเทหิ ปฺาว กถิตา. ตตฺถ เหฏฺา สมณธมฺมกรณวีริยํ กถิตํ, อิธ พุทฺธวจนคณฺหนวีริยํ. ตถา เหฏฺา วิปสฺสนาปฺา กถิตา, อิธ พุทฺธวจนคณฺหนปฺา. น จ กาเมสุ คิทฺโธติ วตฺถุกามกิเลสกาเมสุ อคิทฺโธ. สโต จ นิปโก จาติ อภิกฺกนฺตปฏิกฺกนฺตาทีสุ สตฺตสุ าเนสุ สติยา เจว าเณน จ สมนฺนาคโต จรตีติ อตฺโถ. เนปกฺกนฺติ ปฺา, ตาย สมนฺนาคตตฺตา นิปโกติ วุตฺโต. เสสมิธาปิ ปุริมนเยเนว โยเชตพฺพํ.
อนุสาสนวิธาทิวณฺณนา
๑๕๔. ปจฺจตฺตํ โยนิโส มนสิการาติ อตฺตโน อุปายมนสิกาเรน. ยถานุสิฏฺํ ตถา ปฏิปชฺชมาโนติ ยถา มยา อนุสิฏฺํ อนุสาสนี ทินฺนา, ตถา ปฏิปชฺชมาโน. ติณฺณํ ¶ สํโยชนานํ ปริกฺขยาติอาทิ วุตฺตตฺถเมว. เสสมิธาปิ ปุริมนเยเนว โยเชตพฺพํ.
๑๕๕. ปรปุคฺคลวิมุตฺติาเณติ โสตาปนฺนาทีนํ ปรปุคฺคลานํ เตน เตน มคฺเคน กิเลสวิมุตฺติาเณ. เสสมิธาปิ ปุริมนเยเนว โยเชตพฺพํ.
๑๕๖. อมุตฺราสึ เอวํนาโมติ เอโก ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรนฺโต นามโคตฺตํ ปริยาทิยมาโน คจฺฉติ. เอโก สุทฺธขนฺเธเยว อนุสฺสรติ, เอโก หิ สกฺโกติ, เอโก น สกฺโกติ. ตตฺถ โย สกฺโกติ, ตสฺส วเสน อคฺคเหตฺวา อสกฺโกนฺตสฺส วเสน คหิตํ. อสกฺโกนฺโต ปน กึ กโรติ? สุทฺธขนฺเธเยว อนุสฺสรนฺโต คนฺตฺวา อเนกชาติสตสหสฺสมตฺถเก ตฺวา นามโคตฺตํ ปริยาทิยมาโน โอตรติ. ตํ ทสฺเสนฺโต เอวํนาโมติอาทิมาห ¶ ¶ . โส เอวมาหาติ โส ทิฏฺิคติโก เอวมาห. ตตฺถ กิฺจาปิ สสฺสโตติ วตฺวา ‘‘เต จ สตฺตา สํสรนฺตี’’ติ วทนฺตสฺส วจนํ ปุพฺพาปรวิรุทฺธํ โหติ. ทิฏฺิคติกตฺตา ปเนส เอตํ น สลฺลกฺเขสิ. ทิฏฺิคติกสฺส หิ านํ วา นิยโม วา นตฺถิ. อิมํ คเหตฺวา อิมํ วิสฺสชฺเชติ, อิมํ วิสฺสชฺเชตฺวา อิมํ คณฺหาตีติ พฺรหฺมชาเล วิตฺถาริตเมเวตํ. อยํ ตติโย สสฺสตวาโทติ เถโร ลาภิสฺเสว วเสน ตโย สสฺสตวาเท อาห. ภควตา ปน ตกฺกีวาทมฺปิ คเหตฺวา พฺรหฺมชาเล จตฺตาโร วุตฺตา. เอเตสํ ปน ติณฺณํ วาทานํ วิตฺถารกถา พฺรหฺมชาเล (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๓๐) วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. เสสมิธาปิ ปุริมนเยเนว วิตฺถาเรตพฺพํ.
๑๕๗. คณนาย วาติ ปิณฺฑคณนาย. สงฺขาเนนาติ อจฺฉิทฺทกวเสน มโนคณนาย. อุภยถาปิ ปิณฺฑคณนเมว ทสฺเสติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ, วสฺสานํ สตวเสน สหสฺสวเสน สตสหสฺสวเสน โกฏิวเสน ปิณฺฑํ กตฺวาปิ เอตฺตกานิ วสฺสสตานีติ วา เอตฺตกา วสฺสโกฏิโยติ วา เอวํ สงฺขาตุํ น สกฺกา. ตุมฺเห ปน อตฺตโน ทสนฺนํ ปารมีนํ ปูริตตฺตา สพฺพฺุตฺาณสฺส สุปฺปฏิวิทฺธตฺตา ยสฺมา โว อนาวรณาณํ สูรํ วหติ. ตสฺมา เทสนาาณกุสลตํ ปุรกฺขตฺวา วสฺสคณนายปิ ปริยนฺติกํ กตฺวา กปฺปคณนายปิ ปริจฺฉินฺทิตฺวา เอตฺตกนฺติ ¶ ทสฺเสถาติ ทีเปติ. ปาฬิยตฺโถ ปเนตฺถ วุตฺตนโยเยว. เสสมิธาปิ ปุริมนเยเนว โยเชตพฺพํ.
๑๕๘. เอตทานุตฺตริยํ, ภนฺเต, สตฺตานํ จุตูปปาตาเณติ ภนฺเต ยาปิ อยํ สตฺตานํ จุติปฏิสนฺธิวเสน าณเทสนา, สาปิ ตุมฺหากํเยว อนุตฺตรา. อตีตพุทฺธาปิ เอวเมว เทเสสุํ. อนาคตาปิ เอวเมว เทเสสฺสนฺติ. ตุมฺเห เตสํ อตีตานาคตพุทฺธานํ าเณน สํสนฺทิตฺวาว เทสยิตฺถ. ‘‘อิมินาปิ การเณน เอวํปสนฺโน อหํ ภนฺเต ภควตี’’ติ ทีเปติ. ปาฬิยตฺโถ ปเนตฺถ วิตฺถาริโตเยว.
๑๕๙. สาสวา สอุปธิกาติ สโทสา สอุปารมฺภา. โน อริยาติ วุจฺจตีติ อริยิทฺธีติ น วุจฺจติ. อนาสวา อนุปธิกาติ นิทฺโทสา อนุปารมฺภา. อริยาติ วุจฺจตีติ อริยิทฺธีติ วุจฺจติ. อปฺปฏิกูลสฺี ¶ ตตฺถ วิหรตีติ กถํ อปฺปฏิกูลสฺี ตตฺถ วิหรตีติ? ปฏิกูเล สตฺเต เมตฺตํ ผรติ, สงฺขาเร ธาตุสฺํ อุปสํหรติ. ยถาห ‘‘กถํ ปฏิกูเล อปฺปฏิกูลสฺี วิหรติ (ปฏิ. ม. ๓.๙๗)? อนิฏฺสฺมึ วตฺถุสฺมึ เมตฺตาย วา ผรติ, ธาตุโต วา อุปสํหรตี’’ติ. ปฏิกูลสฺี ตตฺถ วิหรตีติ อปฺปฏิกูเล สตฺเต อสุภสฺํ ผรติ, สงฺขาเร อนิจฺจสฺํ อุปสํหรติ. ยถาห ‘‘กถํ อปฺปฏิกูเล ปฏิกูลสฺี ¶ วิหรติ? อิฏฺสฺมึ วตฺถุสฺมึ อสุภาย วา ผรติ, อนิจฺจโต วา อุปสํหรตี’’ติ. เอวํ เสสปเทสุปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
อุเปกฺขโก ตตฺถ วิหรตีติ อิฏฺเ อรชฺชนฺโต อนิฏฺเ อทุสฺสนฺโต ยถา อฺเ อสมเปกฺขเนน โมหํ อุปฺปาเทนฺติ, เอวํ อนุปฺปาเทนฺโต ฉสุ อารมฺมเณสุ ฉฬงฺคุเปกฺขาย อุเปกฺขโก วิหรติ. เอตทานุตฺตริยํ, ภนฺเต, อิทฺธิวิธาสูติ, ภนฺเต, ยา อยํ ทฺวีสุ อิทฺธีสุ เอวํเทสนา, เอตทานุตฺตริยํ. ตํ ภควาติ ตํ เทสนํ ภควา อเสสํ สกลํ อภิชานาติ. ตํ ภควโตติ ตํ เทสนํ ภควโต อเสสํ อภิชานโต. อุตฺตริ อภิฺเยฺยํ นตฺถีติ อุตฺตริ อภิชานิตพฺพํ นตฺถิ. อยํ นาม อิโต อฺโ ธมฺโม วา ปุคฺคโล วา ยํ ภควา น ชานาติ อิทํ นตฺถิ. ยทภิชานํ อฺโ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วาติ ยํ ตุมฺเหหิ อนภิฺาตํ อฺโ สมโณ วา ¶ พฺราหฺมโณ วา อภิชานนฺโต ภควตา ภิยฺโยภิฺตโร อสฺส, อธิกตรปฺโ ภเวยฺย. ยทิทํ อิทฺธิวิธาสูติ เอตฺถ ยทิทนฺติ นิปาตมตฺตํ. อิทฺธิวิธาสุ ภควตา อุตฺตริตโร นตฺถิ. อตีตพุทฺธาปิ หิ อิมา ทฺเว อิทฺธิโย เทเสสุํ, อนาคตาปิ อิมาว เทเสสฺสนฺติ. ตุมฺเหปิ เตสํ าเณน สํสนฺทิตฺวา อิมาว เทสยิตฺถ. อิติ ภควา อิทฺธิวิธาสุ อนุตฺตโรติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิมินาปิ การเณน เอวํปสนฺโน อหํ, ภนฺเต, ภควตี’’ติ ทีเปติ. เอตฺตาวตา เย ธมฺมเสนาปติ ทิวาฏฺาเน นิสีทิตฺวา โสฬส อปรมฺปริยธมฺเม สมฺมสิ, เตว ทสฺสิตา โหนฺติ.
อฺถาสตฺถุคุณทสฺสนาทิวณฺณนา
๑๖๐. อิทานิ อปเรนปิ อากาเรน ภควโต คุเณ ทสฺเสนฺโต ยํ ตํ ภนฺเตติอาทิมาห. ตตฺถ สทฺเธน กุลปุตฺเตนาติ สทฺธา กุลปุตฺตา ¶ นาม อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนา โพธิสตฺตา. ตสฺมา ยํ สพฺพฺุโพธิสตฺเตน ปตฺตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ. กึ ปน เตน ปตฺตพฺพํ? นว โลกุตฺตรธมฺมา. อารทฺธวีริเยนาติอาทีสุ ‘‘วีริยํ ถาโม’’ติอาทีนิ สพฺพาเนว วีริยเววจนานิ. ตตฺถ อารทฺธวีริเยนาติ ปคฺคหิตวีริเยน. ถามวตาติ ถามสมฺปนฺเนน ถิรวีริเยน. ปุริสถาเมนาติ เตน ถามวตา ยํ ปุริสถาเมน ปตฺตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ. อนนฺตรปททฺวเยปิ เอเสว นโย. ปุริสโธรยฺเหนาติ ยา อสมธุเรหิ พุทฺเธหิ วหิตพฺพา ธุรา, ตํ ธุรํ วหนสมตฺเถน มหาปุริเสน. อนุปฺปตฺตํ ตํ ภควตาติ ตํ สพฺพํ อตีตานาคตพุทฺเธหิ ปตฺตพฺพํ, สพฺพเมว อนุปฺปตฺตํ, ภควโต เอกคุโณปิ อูโน นตฺถีติ ทสฺเสติ. กาเมสุ กามสุขลฺลิกานุโยคนฺติ วตฺถุกาเมสุ กามสุขลฺลิกานุโยคํ. ยถา อฺเ เกณิยชฏิลาทโย สมณพฺราหฺมณา ‘‘โก ชานาติ ปรโลกํ ¶ . สุโข อิมิสฺสา ปริพฺพาชิกาย มุทุกาย โลมสาย พาหาย สมฺผสฺโส’’ติ โมฬิพนฺธาหิ ปริพฺพาชิกาหิ ปริจาเรนฺติ สมฺปตฺตํ สมฺปตฺตํ รูปาทิอารมฺมณํ อนุภวมานา กามสุขมนุยุตฺตา, น เอวมนุยุตฺโตติ ทสฺเสติ.
หีนนฺติ ลามกํ. คมฺมนฺติ คามวาสีนํ ธมฺมํ. โปถุชฺชนิกนฺติ ปุถุชฺชเนหิ เสวิตพฺพํ. อนริยนฺติ น นิทฺโทสํ. น วา อริเยหิ เสวิตพฺพํ. อนตฺถสฺหิตนฺติ อนตฺถสํยุตฺตํ. อตฺตกิลมถานุโยคนฺติ ¶ อตฺตโน อาตาปนปริตาปนานุโยคํ. ทุกฺขนฺติ ทุกฺขยุตฺตํ, ทุกฺขมํ วา. ยถา เอเก สมณพฺราหฺมณา กามสุขลฺลิกานุโยคํ ปริวชฺเชสฺสามาติ กายกิลมถํ อนุธาวนฺติ, ตโต มฺุจิสฺสามาติ กามสุขํ อนุธาวนฺติ, น เอวํ ภควา. ภควา ปน อุโภ เอเต อนฺเต วชฺเชตฺวา ยา สา ‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, มชฺฌิมา ปฏิปทา ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺธา จกฺขุกรณี’’ติ เอวํ วุตฺตา สมฺมาปฏิปตฺติ, ตเมว ปฏิปนฺโน. ตสฺมา ‘‘น จ อตฺตกิลมถานุโยค’’นฺติอาทิมาห.
อาภิเจตสิกานนฺติ อภิเจตสิกานํ, กามาวจรจิตฺตานิ อติกฺกมิตฺวา ิตานนฺติ อตฺโถ. ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานนฺติ อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว สุขวิหารานํ. โปฏฺปาทสุตฺตนฺตสฺมิฺหิ สปฺปีติกทุติยชฺฌานผลสมาปตฺติ กถิตา (ที. นิ. ๑.๔๓๒). ปาสาทิกสุตฺตนฺเต สห มคฺเคน วิปสฺสนาปาทกชฺฌานํ. ทสุตฺตรสุตฺตนฺเต ¶ จตุตฺถชฺฌานิกผลสมาปตฺติ. อิมสฺมึ สมฺปสาทนีเย ทิฏฺธมฺมสุขวิหารชฺฌานานิ กถิตานิ. นิกามลาภีติ ยถากามลาภี. อกิจฺฉลาภีติ อทุกฺขลาภี. อกสิรลาภีติ วิปุลลาภี.
อนุโยคทานปฺปการวณฺณนา
๑๖๑. เอกิสฺสา โลกธาตุยาติ ทสสหสฺสิโลกธาตุยา. ตีณิ หิ เขตฺตานิ – ชาติเขตฺตํ อาณาเขตฺตํ วิสยเขตฺตํ. ตตฺถ ชาติเขตฺตํ นาม ทสสหสฺสี โลกธาตุ. สา หิ ตถาคตสฺส มาตุกุจฺฉึ โอกฺกมนกาเล นิกฺขมนกาเล สมฺโพธิกาเล ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตเน อายุสงฺขาโรสฺสชฺชเน ปรินิพฺพาเน จ กมฺปติ. โกฏิสตสหสฺสจกฺกวาฬํ ปน อาณาเขตฺตํ นาม. อาฏานาฏิยโมรปริตฺตธชคฺคปริตฺตรตนปริตฺตาทีนฺหิ เอตฺถ อาณา วตฺตติ. วิสยเขตฺตสฺส ปน ปริมาณํ นตฺถิ, พุทฺธานฺหิ ‘‘ยาวตกํ าณํ, ตาวตกํ เยฺยํ, ยาวตกํ เยฺยํ ตาวตกํ าณํ, าณปริยนฺติกํ เยฺยํ, เยฺยปริยนฺติกํ าณ’’นฺติ (มหานิ. ๕๕) วจนโต อวิสโย นาม นตฺถิ.
อิเมสุ ¶ ปน ตีสุ เขตฺเตสุ เปตฺวา อิมํ จกฺกวาฬํ อฺสฺมึ จกฺกวาเฬ พุทฺธา อุปฺปชฺชนฺตีติ สุตฺตํ นตฺถิ, นุปฺปฺชนฺตีติ ปน อตฺถิ. ตีณิ ปิฏกานิ ¶ วินยปิฏกํ, สุตฺตนฺตปิฏกํ อภิธมฺมปิฏกํ. ติสฺโส สงฺคีติโย มหากสฺสปตฺเถรสฺส สงฺคีติ, ยสตฺเถรสฺส สงฺคีติ, โมคฺคลิปุตฺตติสฺสตฺเถรสฺส สงฺคีตีติ. อิมา ติสฺโส สงฺคีติโย อารุฬฺเห เตปิฏเก พุทฺธวจเน ‘‘อิมํ จกฺกวาฬํ มฺุจิตฺวา อฺตฺถ พุทฺธา อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ สุตฺตํ นตฺถิ, นุปฺปชฺชนฺตีติ ปน อตฺถิ.
อปุพฺพํ อจริมนฺติ อปุเร อปจฺฉา เอกโต นุปฺปชฺชนฺติ, ปุเร วา ปจฺฉา วา อุปฺปชฺชนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถ โพธิปลฺลงฺเก ‘‘โพธึ อปตฺวา น อุฏฺหิสฺสามี’’ติ นิสินฺนกาลโต ปฏฺาย ยาว มาตุกุจฺฉิสฺมึ ปฏิสนฺธิคฺคหณํ, ตาว ปุพฺเพติ น เวทิตพฺพํ. โพธิสตฺตสฺส หิ ปฏิสนฺธิคฺคหเณ ทสสหสฺสจกฺกวาฬกมฺปเนเนว เขตฺตปริคฺคโห กโต. อฺสฺส พุทฺธสฺส อุปฺปตฺติปิ นิวาริตา โหติ. ปรินิพฺพานโต ปฏฺาย จ ยาว สาสปมตฺตาปิ ธาตุโย ติฏฺนฺติ, ตาว ปจฺฉาติ น เวทิตพฺพํ. ธาตูสุ หิ ิตาสุ ¶ พุทฺธาปิ ิตาว โหนฺติ. ตสฺมา เอตฺถนฺตเร อฺสฺส พุทฺธสฺส อุปฺปตฺติ นิวาริตาว โหติ. ธาตุปรินิพฺพาเน ปน ชาเต อฺสฺส พุทฺธสฺส อุปฺปตฺติ น นิวาริตา.
ติปิฏกอนฺตรธานกถา
ตีณิ อนฺตรธานานิ นาม ปริยตฺติอนฺตรธานํ, ปฏิเวธอนฺตรธานํ, ปฏิปตฺติอนฺตรธานนฺติ. ตตฺถ ปริยตฺตีติ ตีณิ ปิฏกานิ. ปฏิเวโธติ สจฺจปฺปฏิเวโธ. ปฏิปตฺตีติ ปฏิปทา. ตตฺถ ปฏิเวโธ จ ปฏิปตฺติ จ โหติปิ น โหติปิ. เอกสฺมิฺหิ กาเล ปฏิเวธกรา ภิกฺขู พหู โหนฺติ, เอส ภิกฺขุ ปุถุชฺชโนติ องฺคุลึ ปสาเรตฺวา ทสฺเสตพฺโพ โหติ. อิมสฺมึเยว ทีเป เอกวารํ ปุถุชฺชนภิกฺขุ นาม นาโหสิ. ปฏิปตฺติปูรกาปิ กทาจิ พหู โหนฺติ, กทาจิ อปฺปา. อิติ ปฏิเวโธ จ ปฏิปตฺติ จ โหติปิ น โหติปิ. สาสนฏฺิติยา ปน ปริยตฺติ ปมาณํ. ปณฺฑิโต หิ เตปิฏกํ สุตฺวา ทฺเวปิ ปูเรติ.
ยถา อมฺหากํ โพธิสตฺโต อาฬารสฺส สนฺติเก ปฺจาภิฺา สตฺต จ สมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตตฺวา เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺติยา ปริกมฺมํ ปุจฺฉิ, โส น ชานามีติ อาห. ตโต อุทกสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา อธิคตวิเสสํ สํสนฺทิตฺวา เนวสฺานาสฺายตนสฺส ปริกมฺมํ ปุจฺฉิ, โส อาจิกฺขิ, ตสฺส วจนสมนนฺตรเมว มหาสตฺโต ตํ ฌานํ สมฺปาเทสิ, เอวเมว ¶ ปฺวา ภิกฺขุ ปริยตฺตึ สุตฺวา ทฺเวปิ ปูเรติ. ตสฺมา ปริยตฺติยา ิตาย สาสนํ ิตํ โหติ. ยทา ปน สา อนฺตรธายติ, ตทา ปมํ อภิธมฺมปิฏกํ นสฺสติ. ตตฺถ ปฏฺานํ สพฺพปมํ อนฺตรธายติ. อนุกฺกเมน ปจฺฉา ธมฺมสงฺคโห ¶ , ตสฺมึ อนฺตรหิเต อิตเรสุ ทฺวีสุ ปิฏเกสุ ิเตสุปิ สาสนํ ิตเมว โหติ.
ตตฺถ สุตฺตนฺตปิฏเก อนฺตรธายมาเน ปมํ องฺคุตฺตรนิกาโย เอกาทสกโต ปฏฺาย ยาว เอกกา อนฺตรธายติ, ตทนนฺตรํ สํยุตฺตนิกาโย จกฺกเปยฺยาลโต ปฏฺาย ยาว โอฆตรณา อนฺตรธายติ. ตทนนฺตรํ มชฺฌิมนิกาโย อินฺทฺริยภาวนโต ปฏฺาย ยาว มูลปริยายา อนฺตรธายติ. ตทนนฺตรํ ทีฆนิกาโย ทสุตฺตรโต ปฏฺาย ยาว พฺรหฺมชาลา อนฺตรธายติ. เอกิสฺสาปิ ทฺวินฺนมฺปิ คาถานํ ปุจฺฉา อทฺธานํ ¶ คจฺฉติ, สาสนํ ธาเรตุํ น สกฺโกติ, สภิยปุจฺฉา อาฬวกปุจฺฉา วิย จ. เอตา กิร กสฺสปพุทฺธกาลิกา อนฺตรา สาสนํ ธาเรตุํ นาสกฺขึสุ.
ทฺวีสุ ปน ปิฏเกสุ อนฺตรหิเตสุปิ วินยปิฏเก ิเต สาสนํ ติฏฺติ. ปริวารกฺขนฺธเกสุ อนฺตรหิเตสุ อุภโตวิภงฺเค ิเต ิตเมว โหติ. อุภโตวิภงฺเค อนฺตรหิเต มาติกายปิ ิตาย ิตเมว โหติ. มาติกาย อนฺตรหิตาย ปาติโมกฺขปพฺพชฺชาอุปสมฺปทาสุ ิตาสุ สาสนํ ติฏฺติ. ลิงฺคํ อทฺธานํ คจฺฉติ. เสตวตฺถสมณวํโส ปน กสฺสปพุทฺธกาลโต ปฏฺาย สาสนํ ธาเรตุํ นาสกฺขิ. ปฏิสมฺภิทาปตฺเตหิ วสฺสสหสฺสํ อฏฺาสิ. ฉฬภิฺเหิ วสฺสสหสฺสํ. เตวิชฺเชหิ วสฺสสหสฺสํ. สุกฺขวิปสฺสเกหิ วสฺสสหสฺสํ. ปาติโมกฺเขหิ วสฺสสหสฺสํ อฏฺาสิ. ปจฺฉิมกสฺส ปน สจฺจปฺปฏิเวธโต ปจฺฉิมกสฺส สีลเภทโต ปฏฺาย สาสนํ โอสกฺกิตํ นาม โหติ. ตโต ปฏฺาย อฺสฺส พุทฺธสฺส อุปฺปตฺติ น นิวาริตา.
สาสนอนฺตรหิตวณฺณนา
ตีณิ ปรินิพฺพานานิ นาม กิเลสปรินิพฺพานํ ขนฺธปรินิพฺพานํ ธาตุปรินิพฺพานนฺติ. ตตฺถ กิเลสปรินิพฺพานํ โพธิปลฺลงฺเก อโหสิ. ขนฺธปรินิพฺพานํ กุสินารายํ. ธาตุปรินิพฺพานํ อนาคเต ภวิสฺสติ. สาสนสฺส กิร โอสกฺกนกาเล อิมสฺมึ ตมฺพปณฺณิทีเป ธาตุโย สนฺนิปติตฺวา มหาเจติยํ คมิสฺสนฺติ. มหาเจติยโต นาคทีเป ราชายตนเจติยํ. ตโต มหาโพธิปลฺลงฺกํ คมิสฺสนฺติ. นาคภวนโตปิ เทวโลกโตปิ พฺรหฺมโลกโตปิ ธาตุโย มหาโพธิปลฺลงฺกเมว ¶ คมิสฺสนฺติ. สาสปมตฺตาปิ ธาตุโย น อนฺตรา นสฺสิสฺสนฺติ. สพฺพธาตุโย มหาโพธิปลฺลงฺเก ราสิภูตา สุวณฺณกฺขนฺโธ วิย เอกคฺฆนา หุตฺวา ฉพฺพณฺณรสฺมิโย วิสฺสชฺเชสฺสนฺติ.
ตา ทสสหสฺสิโลกธาตุํ ¶ ผริสฺสนฺติ, ตโต ทสสหสฺสจกฺกวาฬเทวตา สนฺนิปติตฺวา ‘‘อชฺช สตฺถา ปรินิพฺพาติ, อชฺช สาสนํ โอสกฺกติ, ปจฺฉิมทสฺสนํ ทานิ อิทํ อมฺหาก’’นฺติ ทสพลสฺส ปรินิพฺพุตทิวสโต มหนฺตตรํ การฺุํ กริสฺสนฺติ. เปตฺวา อนาคามิขีณาสเว อวเสสา ¶ สกภาเวน สนฺธาเรตุํ น สกฺขิสฺสนฺติ. ธาตูสุ เตโชธาตุ อุฏฺหิตฺวา ยาว พฺรหฺมโลกา อุคฺคจฺฉิสฺสติ. สาสปมตฺตายปิ ธาตุยา สติ เอกชาลา ภวิสฺสติ. ธาตูสุ ปริยาทานํ คตาสุ อุปจฺฉิชฺชิสฺสติ. เอวํ มหนฺตํ อานุภาวํ ทสฺเสตฺวา ธาตูสุ อนฺตรหิตาสุ สาสนํ อนฺตรหิตํ นาม โหติ.
ยาว น เอวํ อนฺตรธายติ, ตาว อจริมํ นาม โหติ. เอวํ อปุพฺพํ อจริมํ อุปฺปชฺเชยฺยุํ, เนตํ านํ วิชฺชติ. กสฺมา ปน อปุพฺพํ อจริมํ นุปฺปชฺชนฺตีติ? อนจฺฉริยตฺตา. พุทฺธา หิ อจฺฉริยมนุสฺสา. ยถาห – ‘‘เอกปุคฺคโล, ภิกฺขเว, โลเก อุปฺปชฺชมาโน อุปฺปชฺชติ อจฺฉริยมนุสฺโส. กตโม เอกปุคฺคโล? ตถาคโต อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติ (อ. นิ. ๑.๑๗๒). ยทิ จ ทฺเว วา จตฺตาโร วา อฏฺ วา โสฬส วา เอกโต อุปฺปชฺเชยฺยุํ, อนจฺฉริยา ภเวยฺยุํ. เอกสฺมิฺหิ วิหาเร ทฺวินฺนํ เจติยานมฺปิ ลาภสกฺกาโร อุฬาโร น โหติ. ภิกฺขูปิ พหุตาย น อจฺฉริยา ชาตา, เอวํ พุทฺธาปิ ภเวยฺยุํ, ตสฺมา นุปฺปชฺชนฺติ. เทสนาย จ วิเสสาภาวโต. ยฺหิ สติปฏฺานาทิเภทํ ธมฺมํ เอโก เทเสติ. อฺเน อุปฺปชฺชิตฺวาปิ โสว เทเสตพฺโพ สิยา, ตโต อนจฺฉริโย สิยา. เอกสฺมึ ปน ธมฺมํ เทเสนฺเต เทสนาปิ อจฺฉริยา โหติ, วิวาทภาวโต จ. พหูสุ หิ พุทฺเธสุ อุปฺปนฺเนสุ พหูนํ อาจริยานํ อนฺเตวาสิกา วิย อมฺหากํ พุทฺโธ ปาสาทิโก, อมฺหากํ พุทฺโธ มธุรสฺสโร ลาภี ปฺุวาติ วิวเทยฺยุํ. ตสฺมาปิ เอวํ นุปฺปชฺชนฺติ. อปิ เจตํ การณํ มิลินฺทรฺาปิ ปุฏฺเน นาคเสนตฺเถเรน วิตฺถาริตเมว. วุตฺตฺหิ ตตฺถ –
ภนฺเต, นาคเสน, ภาสิตมฺปิ เหตํ ภควตา ‘‘อฏฺานเมตํ, ภิกฺขเว, อนวกาโส, ยํ เอกิสฺสา โลกธาตุยา ทฺเว อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา อปุพฺพํ อจริมํ อุปฺปชฺเชยฺยุํ, เนตํ านํ วิชฺชตี’’ติ. เทสยนฺตา จ, ภนฺเต นาคเสน, สพฺเพปิ ¶ ตถาคตา สตฺตตึส โพธิปกฺขิเย ธมฺเม เทเสนฺติ, กถยมานา จ จตฺตาริ อริยสจฺจานิ กเถนฺติ, สิกฺขาเปนฺตา ¶ จ ตีสุ สิกฺขาสุ สิกฺขาเปนฺติ, อนุสาสมานา จ อปฺปมาทปฺปฏิปตฺติยํ อนุสาสนฺติ. ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, สพฺเพสมฺปิ ตถาคตานํ ¶ เอกา เทสนา เอกา กถา เอกสิกฺขา เอกานุสาสนี, เกน การเณน ทฺเว ตถาคตา เอกกฺขเณ นุปฺปชฺชนฺติ. เอเกนปิ ตาว พุทฺธุปฺปาเทน อยํ โลโก โอภาสชาโต, ยทิ ทุติโย พุทฺโธ ภเวยฺย, ทฺวินฺนํ ปภาย อยํ โลโก ภิยฺโยโสมตฺตาย โอภาสชาโต ภเวยฺย, โอวทมานา จ ทฺเว ตถาคตา สุขํ โอวเทยฺยุํ, อนุสาสมานา จ สุขํ อนุสาเสยฺยุํ, ตตฺถ เม การณํ เทเสหิ, ยถาหํ นิสฺสํสโย ภเวยฺย’’นฺติ.
อยํ, มหาราช, ทสสหสฺสี โลกธาตุ เอกพุทฺธธารณี, เอกสฺเสว ตถาคตสฺส คุณํ ธาเรติ, ยทิ ทุติโย พุทฺโธ อุปฺปชฺเชยฺย, นายํ ทสสหสฺสี โลกธาตุ ธาเรยฺย, จเลยฺย, กมฺเปยฺย, นเมยฺย, โอณเมยฺย, วินเมยฺย, วิกิเรยฺย, วิธเมยฺย, วิทฺธํเสยฺย, น านมุปคจฺเฉยฺย.
ยถา, มหาราช, นาวา เอกปุริสสนฺธารณี ภเวยฺย, เอกปุริเส อภิรูฬฺเห สา นาวา สมุปาทิกา ภเวยฺย, อถ ทุติโย ปุริโส อาคจฺเฉยฺย ตาทิโส อายุนา วณฺเณน วเยน ปมาเณน กิสถูเลน สพฺพงฺคปจฺจงฺเคน, โส ตํ นาวํ อภิรูเหยฺย, อปิ นุ สา, มหาราช, นาวา ทฺวินฺนมฺปิ ธาเรยฺยาติ? น หิ, ภนฺเต, จเลยฺย, กมฺเปยฺย, นเมยฺย, โอณเมยฺย, วินเมยฺย, วิกิเรยฺย, วิธเมยฺย, วิทฺธํเสยฺย, น านมุปคจฺเฉยฺย โอสีเทยฺย อุทเกติ. เอวเมว โข, มหาราช, อยํ ทสสหสฺสี โลกธาตุ เอกพุทฺธธารณี, เอกสฺเสว ตถาคตสฺส คุณํ ธาเรติ, ยทิ ทุติโย พุทฺโธ อุปฺปชฺเชยฺย, นายํ ทสสหสฺสี โลกธาตุ ธาเรยฺย…เป… น านมุปคจฺเฉยฺย.
ยถา วา ปน, มหาราช, ปุริโส ยาวทตฺถํ โภชนํ ภฺุเชยฺย ฉาเทนฺตํ ยาว กณฺมภิปูรยิตฺวา, โส ธาโต ปีณิโต ปริปุณฺโณ นิรนฺตโร ตนฺทีกโต อโนณมิตทณฺฑชาโต ปุนเทว ตาวตกํ โภชนํ ภฺุเชยฺย, อปิ นุ โข โส, มหาราช, ปุริโส สุขิโต ภเวยฺยาติ? น หิ, ภนฺเต ¶ , สกึ ภุตฺโตว มเรยฺยาติ; เอวเมว โข, มหาราช, อยํ ทสสหสฺสี โลกธาตุ เอกพุทฺธธารณี ¶ …เป… น านมุปคจฺเฉยฺยาติ.
กึ นุ โข, ภนฺเต นาคเสน, อติธมฺมภาเรน ปถวี จลตีติ? อิธ, มหาราช, ทฺเว ¶ สกฏา รตนปูริตา ภเวยฺยุํ ยาว มุขสมา, เอกสฺมา สกฏโต รตนํ คเหตฺวา เอกสฺมึ สกเฏ อากิเรยฺยุํ, อปิ นุ โข ตํ, มหาราช, สกฏํ ทฺวินฺนมฺปิ สกฏานํ รตนํ ธาเรยฺยาติ? น หิ, ภนฺเต, นาภิปิ ตสฺส ผเลยฺย, อราปิ ตสฺส ภิชฺเชยฺยุํ, เนมิปิ ตสฺส โอปเตยฺย, อกฺโขปิ ตสฺส ภิชฺเชยฺยาติ. กึ นุ โข, มหาราช, อติรตนภาเรน สกฏํ ภิชฺชตีติ? อาม, ภนฺเต,ติ. เอวเมว โข, มหาราช, อติธมฺมภาเรน ปถวี จลติ.
อปิจ, มหาราช, อิมํ การณํ พุทฺธพลปริทีปนาย โอสาริตํ อฺมฺปิ ตตฺถ อติรูปํ การณํ สุโณหิ, เยน การเณน ทฺเว สมฺมาสมฺพุทฺธา เอกกฺขเณ นุปฺปชฺชนฺติ. ยทิ, มหาราช, ทฺเว สมฺมาสมฺพุทฺธา เอกกฺขเณ อุปฺปชฺเชยฺยุํ, เตสํ ปริสาย วิวาโท อุปฺปชฺเชยฺย ‘‘ตุมฺหากํ พุทฺโธ อมฺหากํ พุทฺโธ’’ติ, อุภโต ปกฺขชาตา ภเวยฺยุํ. ยถา, มหาราช, ทฺวินฺนํ พลวามจฺจานํ ปริสาย วิวาโท อุปฺปชฺเชยฺย ‘‘ตุมฺหากํ อมจฺโจ อมฺหากํ อมจฺโจ’’ติ, อุภโต ปกฺขชาตา โหนฺติ; เอวเมว โข, มหาราช, ยทิ ทฺเว สมฺมาสมฺพุทฺธา เอกกฺขเณ อุปฺปชฺเชยฺยุํ, เตสํ ปริสาย วิวาโท อุปฺปชฺเชยฺย ‘‘ตุมฺหากํ พุทฺโธ, อมฺหากํ พุทฺโธ’’ติ, อุภโต ปกฺขชาตา ภเวยฺยุํ, อิทํ ตาว, มหาราช, เอกํ การณํ, เยน การเณน ทฺเว สมฺมาสมฺพุทฺธา เอกกฺขเณ นุปฺปชฺชนฺติ.
อปรมฺปิ, มหาราช, อุตฺตรึ การณํ สุโณหิ, เยน การเณน ทฺเว สมฺมาสมฺพุทฺธา เอกกฺขเณ นุปฺปชฺชนฺติ. ยทิ, มหาราช, ทฺเว สมฺมาสมฺพุทฺธา เอกกฺขเณ อุปฺปชฺเชยฺยุํ, ‘‘อคฺโค พุทฺโธ’’ติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉา ภเวยฺย, ‘‘เชฏฺโ พุทฺโธ’’ติ, เสฏฺโ พุทฺโธติ, วิสิฏฺโ พุทฺโธติ, อุตฺตโม พุทฺโธติ, ปวโร พุทฺโธติ, อสโม พุทฺโธติ ¶ , อสมสโม พุทฺโธติ, อปฺปฏิโม พุทฺโธติ, อปฺปฏิภาโค พุทฺโธติ, อปฺปฏิปุคฺคโล ¶ พุทฺโธติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉา ภเวยฺย. อิมมฺปิ โข ตฺวํ, มหาราช, การณํ อตฺถโต สมฺปฏิจฺฉ, เยน การเณน ทฺเว สมฺมาสมฺพุทฺธา เอกกฺขเณ นุปฺปชฺชนฺติ.
อปิจ โข, มหาราช, พุทฺธานํ ภควนฺตานํ สภาวปกติ เอสา, ยํ เอโกเยว พุทฺโธ โลเก อุปฺปชฺชติ. กสฺมา การณา? มหนฺตตาย สพฺพฺุพุทฺธคุณานํ, ยํ อฺมฺปิ, มหาราช, มหนฺตํ โหติ, ตํ เอกํเยว โหติ. ปถวี, มหาราช, มหนฺตี, สา เอกาเยว. สาคโร มหนฺโต, โส เอโกเยว. สิเนรุ คิริราชา มหนฺโต, โส เอโกเยว. อากาโส มหนฺโต, โส เอโกเยว. สกฺโก มหนฺโต, โส เอโกเยว. มาโร มหนฺโต ¶ , โส เอโกเยว. มหาพฺรหฺมา มหนฺโต, โส เอโกเยว. ตถาคโต อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ มหนฺโต, โส เอโกเยว โลกสฺมึ. ยตฺถ เต อุปฺปชฺชนฺติ, ตตฺถ อฺเสํ โอกาโส น โหติ. ตสฺมา, มหาราช, ตถาคโต อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ เอโกเยว โลเก อุปฺปชฺชตีติ. สุกถิโต, ภนฺเต นาคเสน, ปฺโห โอปมฺเมหิ การเณหีติ (มิ. ป. ๕.๑.๑).
ธมฺมสฺส จานุธมฺมนฺติ นววิธสฺส โลกุตฺตรธมฺมสฺส อนุธมฺมํ ปุพฺพภาคปฺปฏิปทํ. สหธมฺมิโกติ สการโณ. วาทานุวาโทติ วาโทเยว.
อจฺฉริยอพฺภุตวณฺณนา
๑๖๒. อายสฺมา อุทายีติ ตโย เถรา อุทายี นาม – ลาฬุทายี, กาฬุทายี, มหาอุทายีติ. อิธ มหาอุทายี อธิปฺเปโต. ตสฺส กิร อิมํ สุตฺตํ อาทิโต ปฏฺาย ยาว ปริโยสานา สุณนฺตสฺส อพฺภนฺตเร ปฺจวณฺณา ปีติ อุปฺปชฺชิตฺวา ปาทปิฏฺิโต สีสมตฺถกํ คจฺฉติ, สีสมตฺถกโต ปาทปิฏฺึ อาคจฺฉติ, อุภโต ปฏฺาย มชฺฌํ โอตรติ, มชฺฌโต ปฏฺาย อุภโต คจฺฉติ. โส นิรนฺตรํ ปีติยา ผุฏสรีโร พลวโสมนสฺเสน ทสพลสฺส คุณํ กเถนฺโต อจฺฉริยํ ภนฺเตติอาทิมาห. อปฺปิจฺฉตาติ นิตฺตณฺหตา. สนฺตุฏฺิตาติ จตูสุ ปจฺจเยสุ ตีหากาเรหิ ¶ สนฺโตโส. สลฺเลขตาติ สพฺพกิเลสานํ สลฺลิขิตภาโว. ยตฺร หิ นามาติ โย นาม. น อตฺตานํ ปาตุกริสฺสตีติ อตฺตโน คุเณ น อาวิ กริสฺสติ. ปฏากํ ปริหเรยฺยุนฺติ ‘‘โก อมฺเหหิ สทิโส อตฺถี’’ติ วทนฺตา ปฏากํ อุกฺขิปิตฺวา นาฬนฺทํ วิจเรยฺยุํ.
ปสฺส ¶ โข ตฺวํ, อุทายิ, ตถาคตสฺส อปฺปิจฺฉตาติ ปสฺส อุทายิ ยาทิสี ตถาคตสฺส อปฺปิจฺฉตาติ เถรสฺส วจนํ สมฺปฏิจฺฉนฺโต อาห. กึ ปน ภควา เนว อตฺตานํ ปาตุกโรติ, น อตฺตโน คุณํ กเถตีติ เจ? น, น กเถติ. อปฺปิจฺฉตาทีหิ กเถตพฺพํ, จีวราทิเหตุํ น กเถติ. เตเนวาห – ‘‘ปสฺส โข ตฺวํ, อุทายิ, ตถาคตสฺส อปฺปิจฺฉตา’’ติอาทิ. พุชฺฌนกสตฺตํ ปน อาคมฺม เวเนยฺยวเสน กเถติ. ยถาห –
‘‘น เม อาจริโย อตฺถิ, สทิโส เม น วิชฺชติ;
สเทวกสฺมึ โลกสฺมึ, นตฺถิ เม ปฏิปุคฺคโล’’ติ. (มหาว. ๑๑);
เอวํ ¶ ตถาคตสฺส คุณทีปิกา พหู คาถาปิ สุตฺตนฺตาปิ วิตฺถาเรตพฺพา.
๑๖๓. อภิกฺขณํ ภาเสยฺยาสีติ ปุนปฺปุนํ ภาเสยฺยาสิ. ปุพฺพณฺหสมเย เม กถิตนฺติ มา มชฺฌนฺหิกาทีสุ น กถยิตฺถ. อชฺช วา เม กถิตนฺติ มา ปรทิวสาทีสุ น กถยิตฺถาติ อตฺโถ. ปเวเทสีติ กเถสิ. อิมสฺส เวยฺยากรณสฺสาติ นิคฺคาถกตฺตา อิทํ สุตฺตํ ‘‘เวยฺยากรณ’’นฺติ วุตฺตํ. อธิวจนนฺติ นามํ. อิทํ ปน ‘‘อิติ หิท’’นฺติ ปฏฺาย ปทํ สงฺคีติกาเรหิ ปิตํ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
สุมงฺคลวิลาสินิยา ทีฆนิกายฏฺกถาย
สมฺปสาทนียสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.