📜

๖. ปาสาทิกสุตฺตวณฺณนา

นิคณฺนาฏปุตฺตกาลงฺกิริยวณฺณนา

๑๖๔. เอวํเม สุตนฺติ ปาสาทิกสุตฺตํ. ตตฺรายมนุตฺตานปทวณฺณนา – เวธฺา นาม สกฺยาติ ธนุมฺหิ กตสิกฺขา เวธฺนามกา เอเก สกฺยา. เตสํ อมฺพวเน ปาสาเทติ เตสํ อมฺพวเน สิปฺปํ อุคฺคณฺหตฺถาย กโต ทีฆปาสาโท อตฺถิ, ตตฺถ วิหรติ. อธุนา กาลงฺกโตติ สมฺปติ กาลงฺกโต. ทฺเวธิกชาตาติ ทฺเวชฺฌชาตา, ทฺเวภาคา ชาตา. ภณฺฑนาทีสุ ภณฺฑนํ ปุพฺพภาคกลโห, ตํ ทณฺฑาทานาทิวเสน ปณฺณตฺติวีติกฺกมวเสน จ วฑฺฒิตํ กลโห. ‘‘น ตฺวํ อิมํ ธมฺมวินยํ อาชานาสี’’ติอาทินา นเยน วิรุทฺธวจนํ วิวาโท. วิตุทนฺตาติ วิชฺฌนฺตา. สหิตํ เมติ มม วจนํ อตฺถสฺหิตํ. อธิจิณฺณํ เต วิปราวตฺตนฺติ ยํ ตว อธิจิณฺณํ จิรกาลาเสวนวเสน ปคุณํ, ตํ มม วาทํ อาคมฺม นิวตฺตํ. อาโรปิโต เต วาโทติ ตุยฺหํ อุปริ มยา โทโส อาโรปิโต. จร วาทปฺปโมกฺขายาติ ภตฺตปุฏํ อาทาย ตํ ตํ อุปสงฺกมิตฺวา วาทปฺปโมกฺขตฺถาย อุตฺตริ ปริเยสมาโน วิจร. นิพฺเพเหิ วาติ อถ วา มยา อาโรปิตโทสโต อตฺตานํ โมเจหิ. สเจ ปโหสีติ สเจ สกฺโกสิ. วโธเยวาติ มรณเมว. นาฏปุตฺติเยสูติ นาฏปุตฺตสฺส อนฺเตวาสิเกสุ. นิพฺพินฺนรูปาติ อุกฺกณฺิตสภาวา อภิวาทนาทีนิปิ น กโรนฺติ. วิรตฺตรูปาติ วิคตเปมา. ปฏิวานรูปาติ เตสํ สกฺกจฺจกิริยโต นิวตฺตนสภาวา. ยถา ตนฺติ ยถา ทุรกฺขาตาทิสภาเว ธมฺมวินเย นิพฺพินฺนวิรตฺตปฺปฏิวานรูเปหิ ภวิตพฺพํ, ตเถว ชาตาติ อตฺโถ. ทุรกฺขาเตติ ทุกฺกถิเต. ทุปฺปเวทิเตติ ทุวิฺาปิเต. อนุปสมสํวตฺตนิเกติ ราคาทีนํ อุปสมํ กาตุํ อสมตฺเถ. ภินฺนถูเปติ ภินฺทปฺปติฏฺเ. เอตฺถ หิ นาฏปุตฺโตว เนสํ ปติฏฺฏฺเน ถูโป. โส ปน ภินฺโน มโต. เตน วุตฺตํ ‘‘ภินฺนถูเป’’ติ. อปฺปฏิสรเณติ ตสฺเสว อภาเวน ปฏิสรณวิรหิเต.

นนุ จายํ นาฏปุตฺโต นาฬนฺทวาสิโก, โส กสฺมา ปาวายํ กาลงฺกโตติ? โส กิร อุปาลินา คหปตินา ปฏิวิทฺธสจฺเจน ทสหิ คาถาหิ ภาสิเต พุทฺธคุเณ สุตฺวา อุณฺหํ โลหิตํ ฉฑฺเฑสิ. อถ นํ อผาสุกํ คเหตฺวา ปาวํ อคมํสุ. โส ตตฺถ กาลมกาสิ. กาลํ กุรุมาโน จ จินฺเตสิ – ‘‘มม ลทฺธิ อนิยฺยานิกา สารวิรหิตา, มยํ ตาว นฏฺา, อวเสสชโนปิ มา อปายปูรโก อโหสิ, สเจ ปนาหํ ‘มม สาสนํ อนิยฺยานิก’นฺติ วกฺขามิ, น สทฺทหิสฺสนฺติ, ยํนูนาหํ ทฺเวปิ ชเน น เอกนีหาเรน อุคฺคณฺหาเปยฺยํ, เต มมจฺจเยน อฺมฺํ วิวทิสฺสนฺติ, สตฺถา ตํ วิวาทํ ปฏิจฺจ เอกํ ธมฺมกถํ กเถสฺสติ, ตโต เต สาสนสฺส มหนฺตภาวํ ชานิสฺสนฺตี’’ติ.

อถ นํ เอโก อนฺเตวาสิโก อุปสงฺกมิตฺวา อาห – ‘‘ภนฺเต ตุมฺเห ทุพฺพลา, มยฺหมฺปิ อิมสฺมึ ธมฺเม สารํ อาจิกฺขถ, อาจริยปฺปมาณ’’นฺติ. ‘‘อาวุโส, ตฺวํ มมจฺจเยน สสฺสตนฺติ คณฺเหยฺยาสี’’ติ. อปโรปิ อุปสงฺกมิ, ตํ อุจฺเฉทํ คณฺหาเปสิ. เอวํ ทฺเวปิ ชเน เอกลทฺธิเก อกตฺวา พหู นานานีหาเรน อุคฺคณฺหาเปตฺวา กาลมกาสิ. เต ตสฺส สรีรกิจฺจํ กตฺวา สนฺนิปติตฺวา อฺมฺํ ปุจฺฉึสุ – ‘‘กสฺสาวุโส, อาจริโย สารํ อาจิกฺขี’’ติ? เอโก อุฏฺหิตฺวา มยฺหนฺติ อาห. กึ อาจิกฺขีติ? สสฺสตนฺติ. อปโร ตํ ปฏิพาหิตฺวา ‘‘มยฺหํ สารํ อาจิกฺขี’’ติ อาห. เอวํ สพฺเพ ‘‘มยฺหํ สารํ อาจิกฺขิ, อหํ เชฏฺโก’’ติ อฺมฺํ วิวาทํ วฑฺเฒตฺวา อกฺโกเส เจว ปริภาเส จ หตฺถปาทปฺปหาราทีนิ จ ปวตฺเตตฺวา เอกมคฺเคน ทฺเว อคจฺฉนฺตา นานาทิสาสุ ปกฺกมึสุ.

๑๖๕. อถ โข จุนฺโท สมณุทฺเทโสติ อยํ เถโร ธมฺมเสนาปติสฺส กนิฏฺภาติโก. ตํ ภิกฺขู อนุปสมฺปนฺนกาเล ‘‘จุนฺโท สมณุทฺเทโส’’ติ สมุทาจริตฺวา เถรกาเลปิ ตเถว สมุทาจรึสุ. เตน วุตฺตํ – ‘‘จุนฺโท สมณุทฺเทโส’’ติ.

‘‘ปาวายํ วสฺสํวุฏฺโ เยน สามคาโม, เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมี’’ติ กสฺมา อุปสงฺกมิ? นาฏปุตฺเต กิร กาลงฺกเต ชมฺพุทีเป มนุสฺสา ตตฺถ ตตฺถ กถํ ปวตฺตยึสุ ‘‘นิคณฺโ นาฏปุตฺโต เอโก สตฺถาติ ปฺายิตฺถ, ตสฺส กาลงฺกิริยาย สาวกานํ เอวรูโป วิวาโท ชาโต. สมโณ ปน โคตโม ชมฺพุทีเป จนฺโท วิย สูริโย วิย จ ปากโฏ, สาวกาปิสฺส ปากฏาเยว. กีทิโส นุ โข สมเณ โคตเม ปรินิพฺพุเต สาวกานํ วิวาโท ภวิสฺสตี’’ติ . เถโร ตํ กถํ สุตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อิมํ กถํ คเหตฺวา ทสพลสฺส อาโรเจสฺสามิ, สตฺถา เอตํ อฏฺุปฺปตฺตึ กตฺวา เอกํ เทสนํ กเถสฺสตี’’ติ. โส นิกฺขมิตฺวา เยน สามคาโม, เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมิ.

สามคาโมติ สามากานํ อุสฺสนฺนตฺตา ตสฺส คามสฺส นามํ. เยนายสฺมา อานนฺโทติ อุชุเมว ภควโต สนฺติกํ อคนฺตฺวา เยนสฺส อุปชฺฌาโย อายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมิ.

พุทฺธกาเล กิร สาริปุตฺตตฺเถโร จ อานนฺทตฺเถโร จ อฺมฺํ มมายึสุ. สาริปุตฺตตฺเถโร ‘‘มยา กาตพฺพํ สตฺถุ อุปฏฺานํ กโรตี’’ติ อานนฺทตฺเถรํ มมายิ. อานนฺทตฺเถโร ‘‘ภควโต สาวกานํ อคฺโค’’ติ สาริปุตฺตตฺเถรํ มมายิ. กุลทารเก จ ปพฺพาเชตฺวา สาริปุตฺตตฺเถรสฺส สนฺติเก อุปชฺฌํ คณฺหาเปสิ. สาริปุตฺตตฺเถโรปิ ตเถว อกาสิ. เอวํ เอกเมเกน อตฺตโน ปตฺตจีวรํ ทตฺวา ปพฺพาเชตฺวา อุปชฺฌํ คณฺหาปิตานิ ปฺจ ปฺจ ภิกฺขุสตานิ อเหสุํ. อายสฺมา อานนฺโท ปณีตานิ จีวราทีนิปิ ลภิตฺวา เถรสฺส อทาสิ.

ธมฺมรตนปูชา

เอโก กิร พฺราหฺมโณ จินฺเตสิ – ‘‘พุทฺธรตนสฺส จ สงฺฆรตนสฺส จ ปูชา ปฺายติ, กถํ นุ โข ธมฺมรตนํ ปูชิตํ โหตี’’ติ? โส ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา เอตมตฺถํ ปุจฺฉิ. ภควา อาห – ‘‘สเจปิ พฺราหฺมณ ธมฺมรตนํ ปูเชตุกาโม, เอกํ พหุสฺสุตํ ปูเชหี’’ติ. พหุสฺสุตํ, ภนฺเต, อาจิกฺขถาติ. ภิกฺขุสงฺฆํ ปุจฺฉาติ. โส ภิกฺขุสงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘พหุสฺสุตํ, ภนฺเต, อาจิกฺขถา’’ติ อาห. อานนฺทตฺเถโร พฺราหฺมณาติ. พฺราหฺมโณ เถรํ สหสฺสคฺฆนิเกน ติจีวเรน ปูเชสิ. เถโร ตํ คเหตฺวา ภควโต สนฺติกํ อคมาสิ. ภควา ‘‘กุโต, อานนฺท, ลทฺธ’’นฺติ อาห? เอเกน, ภนฺเต, พฺราหฺมเณน ทินฺนํ, อิทํ ปนาหํ อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ทาตุกาโมติ. เทหิ, อานนฺทาติ. จาริกํ ปกฺกนฺโต ภนฺเตติ. อาคตกาเล เทหีติ, สิกฺขาปทํ ภนฺเต, ปฺตฺตนฺติ. กทา ปน สาริปุตฺโต อาคมิสฺสตีติ? ทสาหมตฺเตน ภนฺเตติ. ‘‘อนุชานามิ, อานนฺท, ทสาหปรมํ อติเรกจีวรํ นิกฺขิปิตุ’’นฺติ สิกฺขาปทํ ปฺาเปสิ.

สาริปุตฺตตฺเถโรปิ ตเถว ยํกิฺจิ มนาปํ ลภติ, ตํ อานนฺทตฺเถรสฺส เทติ. โส อิมมฺปิ อตฺตโน กนิฏฺภาติกํ เถรสฺเสว สทฺธิวิหาริกํ อทาสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘เยนสฺส อุปชฺฌาโย อายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมี’’ติ. เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘อุปชฺฌาโย เม มหาปฺโ, โส อิมํ กถํ สตฺถุ อาโรเจสฺสติ, อถ สตฺถา ตทนุรูปํ ธมฺมํ เทเสสฺสตี’’ติ. กถาปาภตนฺติ กถาย มูลํ. มูลฺหิ ‘‘ปาภต’’นฺติ วุจฺจติ. ยถาห –

‘‘อปฺปเกนาปิ เมธาวี, ปาภเตน วิจกฺขโณ;

สมุฏฺาเปติ อตฺตานํ, อณุํ อคฺคึว สนฺธม’’นฺติ. (ชา. ๑.๑.๔);

ภควนฺตํ ทสฺสนายาติ ภควนฺตํ ทสฺสนตฺถาย. กึ ปนาเนน ภควา น ทิฏฺปุพฺโพติ? โน น ทิฏฺปุพฺโพ. อยฺหิ อายสฺมา ทิวา นว วาเร, รตฺตึ นว วาเรติ เอกาหํ อฏฺารส วาเร อุปฏฺานเมว คจฺฉติ. ทิวสสฺส ปน สตวารํ วา สหสฺสวารํ วา คนฺตุกาโม สมาโนปิ น อการณา คจฺฉติ, เอกํ ปฺหุทฺธารํ คเหตฺวาว คจฺฉติ. โส ตํ ทิวสํ เตน กถาปาภเตน คนฺตุกาโม เอวมาห.

อสมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิตธมฺมวินยวณฺณนา

๑๖๖. เอวฺเหตํ, จุนฺท, โหตีติ ภควา อานนฺทตฺเถเรน อาโรจิเตปิ ยสฺมา น อานนฺทตฺเถโร อิมิสฺสา กถาย สามิโก, จุนฺทตฺเถโร ปน สามิโก. โสว ตสฺสา อาทิมชฺฌปริโยสานํ ชานาติ. ตสฺมา ภควา เตน สทฺธึ กเถนฺโต ‘‘เอวฺเหตํ, จุนฺท, โหตี’’ติอาทิมาห . ตสฺสตฺโถ – จุนฺท เอวฺเหตํ โหติ ทุรกฺขาตาทิสภาเว ธมฺมวินเย สาวกา ทฺเวธิกชาตา ภณฺฑนาทีนิ กตฺวา มุขสตฺตีหิ วิตุทนฺตา วิหรนฺติ.

อิทานิ ยสฺมา อนิยฺยานิกสาสเนเนว นิยฺยานิกสาสนํ ปากฏํ โหติ, ตสฺมา อาทิโต อนิยฺยานิกสาสนเมว ทสฺเสนฺโต อิธ จุนฺท สตฺถา จ โหติ อสมฺมาสมฺพุทฺโธติอาทิมาห. ตตฺถ โวกฺกมฺม จ ตมฺหา ธมฺมา วตฺตตีติ น นิรนฺตรํ ปูเรติ, โอกฺกมิตฺวา โอกฺกมิตฺวา อนฺตรนฺตรํ กตฺวา วตฺตตีติ อตฺโถ. ตสฺส เต, อาวุโส, ลาภาติ ตสฺส ตุยฺหํ เอเต ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปตฺติอาทโย ลาภา. สุลทฺธนฺติ มนุสฺสตฺตมฺปิ เต สุลทฺธํ. ตถา ปฏิปชฺชตูติ เอวํ ปฏิปชฺชตุ. ยถา เต สตฺถารา ธมฺโม เทสิโตติ เยน เต อากาเรน สตฺถารา ธมฺโม กถิโต. โย จ สมาทเปตีติ โย จ อาจริโย สมาทเปติ. ยฺจ สมาทเปตีติ ยํ อนฺเตวาสึ สมาทเปติ. โย จ สมาทปิโตติ โย จ เอวํ สมาทปิโต อนฺเตวาสิโก. ยถา อาจริเยน สมาทปิตํ, ตถตฺถาย ปฏิปชฺชติ. สพฺเพ เตติ ตโยปิ เต. เอตฺถ หิ อาจริโย สมาทปิตตฺตา อปุฺํ ปสวติ, สมาทินฺนนฺเตวาสิโก สมาทินฺนตฺตา, ปฏิปนฺนโก ปฏิปนฺนตฺตา. เตน วุตฺตํ – ‘‘สพฺเพ เต พหุํ อปุฺํ ปสวนฺตี’’ติ. เอเตนุปาเยน สพฺพวาเรสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

๑๖๗. อปิเจตฺถ ายปฺปฏิปนฺโนติ การณปฺปฏิปนฺโน. ายมาราเธสฺสตีติ การณํ นิปฺผาเทสฺสติ. วีริยํ อารภตีติ อตฺตโน ทุกฺขนิพฺพตฺตกํ วีริยํ กโรติ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘ทุรกฺขาเต, ภิกฺขเว, ธมฺมวินเย โย อารทฺธวีริโย, โส ทุกฺขํ วิหรติ. โย กุสีโต, โส สุขํ วิหรตี’’ติ (อ. นิ. ๑.๓๑๘).

สมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิตธมฺมวินยาทิวณฺณนา

๑๖๘. เอวํ อนิยฺยานิกสาสนํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ นิยฺยานิกสาสนํ ทสฺเสนฺโต อิธ ปน, จุนฺท, สตฺถา จ โหติ สมฺมาสมฺพุทฺโธติอาทิมาห. ตตฺถ นิยฺยานิโกติ มคฺคตฺถาย ผลตฺถาย จ นิยฺยาติ.

๑๖๙. วีริยํ อารภตีติ อตฺตโน สุขนิปฺผาทกํ วีริยํ อารภติ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘สฺวากฺขาเต, ภิกฺขเว, ธมฺมวินเย โย กุสีโต, โส ทุกฺขํ วิหรติ. โย อารทฺธวีริโย, โส สุขํ วิหรตี’’ติ (อ. นิ. ๑.๓๑๙).

๑๗๐. อิติ ภควา นิยฺยานิกสาสเน สมฺมาปฏิปนฺนสฺส กุลปุตฺตสฺส ปสํสํ ทสฺเสตฺวา ปุน เทสนํ วฑฺเฒนฺโต อิธ, จุนฺท, สตฺถา จ โลเก อุทปาทีติอาทิมาห. ตตฺถ อวิฺาปิตตฺถาติ อโพธิตตฺถา. สพฺพสงฺคาหปทกตนฺติ สพฺพสงฺคหปเทหิ กตํ, สพฺพสงฺคาหิกํ กตํ น โหตีติ อตฺโถ. ‘‘สพฺพสงฺคาหปทคต’’นฺติปิ ปาโ, น สพฺพสงฺคาหปเทสุ คตํ, น เอกสงฺคหชาตนฺติ อตฺโถ. สปฺปาฏิหีรกตนฺติ นิยฺยานิกํ. ยาวเทวมนุสฺเสหีติ เทวโลกโต ยาว มนุสฺสโลกา สุปฺปกาสิตํ. อนุตปฺโป โหตีติ อนุตาปกโร โหติ. สตฺถา จ โน โลเกติ อิทํ เตสํ อนุตาปการทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. นานุตปฺโป โหตีติ สตฺถารํ อาคมฺม สาวเกหิ ยํ ปตฺตพฺพํ, ตสฺส ปตฺตตฺตา อนุตาปกโร น โหติ.

๑๗๒. เถโรติ ถิโร เถรการเกหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต. ‘‘รตฺตฺู’’ติอาทีนิ วุตฺตตฺถาเนว. เอเตหิ เจ ปีติ เอเตหิ เหฏฺา วุตฺเตหิ.

๑๗๓. ปตฺตโยคกฺเขมาติ จตูหิ โยเคหิ เขมตฺตา อรหตฺตํ อิธ โยคกฺเขมํ นาม, ตํ ปตฺตาติ อตฺโถ. อลํ สมกฺขาตุํ สทฺธมฺมสฺสาติ สมฺมุขา คหิตตฺตา อสฺส สทฺธมฺมํ สมฺมา อาจิกฺขิตุํ สมตฺถา.

๑๗๔. พฺรหฺมจาริโนติ พฺรหฺมจริยวาสํ วสมานา อริยสาวกา. กามโภคิโนติ คิหิโสตาปนฺนา. ‘‘อิทฺธฺเจวา’’ติอาทีนิ มหาปรินิพฺพาเน วิตฺถาริตาเนว. ลาภคฺคยสคฺคปตฺตนฺติ ลาภคฺคฺเจว ยสคฺคฺจ ปตฺตํ.

๑๗๕. สนฺติ โข ปน เม, จุนฺท, เอตรหิ เถรา ภิกฺขู สาวกาติ สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานาทโย เถรา. ภิกฺขุนิโยติ เขมาเถรีอุปฺปลวณฺณเถรีอาทโย. อุปาสกา สาวกา คิหี โอทาตวตฺถวสนา พฺรหฺมจาริโนติ จิตฺตคหปติหตฺถกอาฬวกาทโย. กามโภคิโนติ จูฬอนาถปิณฺฑิกมหาอนาถปิณฺฑิกาทโย. พฺรหฺมจารินิโยติ นนฺทมาตาทโย. กามโภคินิโยติ ขุชฺชุตฺตราทโย.

๑๗๖. สพฺพาการสมฺปนฺนนฺติ สพฺพการณสมฺปนฺนํ. อิทเมวนฺติ อิทเมว พฺรหฺมจริยํ, อิมเมว ธมฺมํ สมฺมา เหตุนา นเยน วทมาโน วเทยฺย. อุทกาสฺสุทนฺติ อุทโก สุทํ. ปสฺสํ น ปสฺสตีติ ปสฺสนฺโต น ปสฺสติ. โส กิร อิมํ ปฺหํ มหาชนํ ปุจฺฉิ. เตหิ ‘‘น ชานาม, อาจริย, กเถหิ โน’’ติ วุตฺโต โส อาห – ‘‘คมฺภีโร อยํ ปฺโห อาหารสปฺปาเย สติ โถกํ จินฺเตตฺวา สกฺกา กเถตุ’’นฺติ. ตโต เตหิ จตฺตาโร มาเส มหาสกฺกาเร กเต ตํ ปฺหํ กเถนฺโต กิฺจ ปสฺสํ น ปสฺสตีติอาทิมาห. ตตฺถ สาธุนิสิตสฺสาติ สุฏฺุนิสิตสฺส ติขิณสฺส, สุนิสิตขุรสฺส กิร ตลํ ปฺายติ, ธารา น ปฺายตีติ อยเมตฺถ อตฺโถ.

สงฺคายิตพฺพธมฺมาทิวณฺณนา

๑๗๗. สงฺคมฺม สมาคมฺมาติ สงฺคนฺตฺวา สมาคนฺตฺวา. อตฺเถน อตฺถํ, พฺยฺชเนน พฺยฺชนนฺติ อตฺเถน สห อตฺถํ, พฺยฺชเนนปิ สห พฺยฺชนํ สมาเนนฺเตหีติ อตฺโถ. สงฺคายิตพฺพนฺติ วาเจตพฺพํ สชฺฌายิตพฺพํ. ยถยิทํ พฺรหฺมจริยนฺติ ยถา อิทํ สกลํ สาสนพฺรหฺมจริยํ.

๑๗๘. ตตฺร เจติ ตตฺร สงฺฆมชฺเฌ, ตสฺส วา ภาสิเต. อตฺถฺเจว มิจฺฉา คณฺหาติ, พฺยฺชนานิ จ มิจฺฉา โรเปตีติ ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานา’’ติ เอตฺถ อารมฺมณํ ‘‘สติปฏฺาน’’นฺติ อตฺถํ คณฺหาติ. ‘‘สติปฏฺานานี’’ติ พฺยฺชนํ โรเปติ. อิมสฺส นุ โข, อาวุโส, อตฺถสฺสาติ ‘‘สติเยว สติปฏฺาน’’นฺติ. อตฺถสฺส ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานา’’ติ กึ นุ โข อิมานิ พฺยฺชนานิ, อุทาหุ จตฺตาริ สติปฏฺานานี’’ติ เอตานิ วา พฺยฺชนานิ. กตมานิ โอปายิกตรานีติ อิมสฺส อตฺถสฺส กตมานิ พฺยฺชนานิ อุปปนฺนตรานิ อลฺลีนตรานิ. อิเมสฺจพฺยฺชนานนฺติ ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานา’’ติ พฺยฺชนานํ ‘‘สติเยว สติปฏฺาน’’นฺติ กึ นุ โข อยํ อตฺโถ, อุทาหุ ‘‘อารมฺมณํ สติปฏฺาน’’นฺติ เอโส อตฺโถติ? อิมสฺส โข, อาวุโส, อตฺถสฺสาติ ‘‘อารมฺมณํ สติปฏฺาน’’นฺติ อิมสฺส อตฺถสฺส. ยา เจว เอตานีติ ยานิ เจว เอตานิ มยา วุตฺตานิ. ยา เจว เอโสติ โย เจว เอส มยา วุตฺโต. โส เนว อุสฺสาเทตพฺโพติ ตุมฺเหหิ ตาว สมฺมา อตฺเถ จ สมฺมา พฺยฺชเน จ าตพฺพํ. โส ปน เนว อุสฺสาเทตพฺโพ, น อปสาเทตพฺโพ. สฺาเปตพฺโพติ ชานาเปตพฺโพ. ตสฺส จ อตฺถสฺสาติ ‘‘สติเยว สติปฏฺาน’’นฺติ อตฺถสฺส จ. เตสฺจ พฺยฺชนานนฺติ ‘‘สติปฏฺานา’’ติ พฺยฺชนานํ. นิสนฺติยาติ นิสามนตฺถํ ธารณตฺถํ. อิมินา นเยน สพฺพวาเรสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

๑๘๑. ตาทิสนฺติ ตุมฺหาทิสํ. อตฺถุเปตนฺติ อตฺเถน อุเปตํ อตฺถสฺส วิฺาตารํ. พฺยฺชนุเปตนฺติ พฺยฺชเนหิ อุเปตํ พฺยฺชนานํ วิฺาตารํ. เอวํ เอตํ ภิกฺขุํ ปสํสถ. เอโส หิ ภิกฺขุ น ตุมฺหากํ สาวโก นาม, พุทฺโธ นาม เอส จุนฺทาติ. อิติ ภควา พหุสฺสุตํ ภิกฺขุํ อตฺตโน าเน เปสิ.

ปจฺจยานุฺาตการณาทิวณฺณนา

๑๘๒. อิทานิ ตโตปิ อุตฺตริตรํ เทสนํ วฑฺเฒนฺโต น โว อหํ, จุนฺทาติอาทิมาห. ตตฺถ ทิฏฺธมฺมิกา อาสวา นาม อิธโลเก ปจฺจยเหตุ อุปฺปชฺชนกา อาสวา. สมฺปรายิกา อาสวา นาม ปรโลเก ภณฺฑนเหตุ อุปฺปชฺชนกา อาสวา. สํวรายาติ ยถา เต น ปวิสนฺติ, เอวํ ปิทหนาย. ปฏิฆาตายาติ มูลฆาเตน ปฏิหนนาย. อลํ โว ตํ ยาวเทว สีตสฺส ปฏิฆาตายาติ ตํ ตุมฺหากํ สีตสฺส ปฏิฆาตาย สมตฺถํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ, ยํ โว มยา จีวรํ อนุฺาตํ, ตํ ปารุปิตฺวา ทปฺปํ วา มานํ วา กุรุมานา วิหริสฺสถาติ น อนุฺาตํ, ตํ ปน ปารุปิตฺวา สีตปฺปฏิฆาตาทีนิ กตฺวา สุขํ สมณธมฺมํ โยนิโส มนสิการํ กริสฺสถาติ อนุฺาตํ. ยถา จ จีวรํ, เอวํ ปิณฺฑปาตาทโยปิ. อนุปทสํวณฺณนา ปเนตฺถ วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา.

สุขลฺลิกานุโยคาทิวณฺณนา

๑๘๓. สุขลฺลิกานุโยคนฺติ สุขลฺลิยนานุโยคํ, สุขเสวนาธิมุตฺตนฺติ อตฺโถ. สุเขตีติ สุขิตํ กโรติ. ปีเณตีติ ปีณิตํ ถูลํ กโรติ.

๑๘๖. อฏฺิตธมฺมาติ นฏฺิตสภาวา. ชิวฺหา โน อตฺถีติ ยํ ยํ อิจฺฉนฺติ, ตํ ตํ กเถนฺติ, กทาจิ มคฺคํ กเถนฺติ, กทาจิ ผลํ กทาจิ นิพฺพานนฺติ อธิปฺปาโย. ชานตาติ สพฺพฺุตฺาเณน ชานนฺเตน. ปสฺสตาติ ปฺจหิ จกฺขูหิ ปสฺสนฺเตน. คมฺภีรเนโมติ คมฺภีรภูมึ อนุปวิฏฺโ. สุนิขาโตติ สุฏฺุ นิขาโต. เอวเมว โข, อาวุโสติ เอวํ ขีณาสโว อภพฺโพ นว านานิ อชฺฌาจริตุํ. ตสฺมึ อนชฺฌาจาโร อจโล อสมฺปเวธี. ตตฺถ สฺจิจฺจ ปาณํ ชีวิตา โวโรปนาทีสุ โสตาปนฺนาทโยปิ อภพฺพา. สนฺนิธิการกํ กาเม ปริภุฺชิตุนฺติ วตฺถุกาเม จ กิเลสกาเม จ สนฺนิธึ กตฺวา ปริภุฺชิตุํ. เสยฺยถาปิ ปุพฺเพ อคาริกภูโตติ ยถา ปุพฺเพ คิหิภูโต ปริภุฺชติ, เอวํ ปริภุฺชิตุํ อภพฺโพ.

ปฺหพฺยากรณวณฺณนา

๑๘๗. อคารมชฺเฌ วสนฺตา หิ โสตาปนฺนาทโย ยาวชีวํ คิหิพฺยฺชเนน ติฏฺนฺติ. ขีณาสโว ปน อรหตฺตํ ปตฺวาว มนุสฺสภูโต ปรินิพฺพาติ วา ปพฺพชติ วา. จาตุมหาราชิกาทีสุ กามาวจรเทเวสุ มุหุตฺตมฺปิ น ติฏฺติ. กสฺมา? วิเวกฏฺานสฺส อภาวา. ภุมฺมเทวตฺตภาเว ปน ิโต อรหตฺตํ ปตฺวาปิ ติฏฺติ. ตสฺส วเสน อยํ ปฺโห อาคโต. ภินฺนโทสตฺตา ปนสฺส ภิกฺขุภาโว เวทิตพฺโพ. อตีรกนฺติ อตีรํ อปริจฺเฉทํ มหนฺตํ. โน จ โข อนาคตนฺติ อนาคตํ ปน อทฺธานํ อารพฺภ เอวํ น ปฺเปติ, อตีตเมว มฺเ สมโณ โคตโม ชานาติ, น อนาคตํ. ตถา หิสฺส อตีเต อฑฺฒฉฏฺสตชาตกานุสฺสรณํ ปฺายติ. อนาคเต เอวํ พหุํ อนุสฺสรณํ น ปฺายตีติ อิมมตฺถํ มฺมานา เอวํ วเทยฺยุํ. ตยิทํ กึ สูติ อนาคเต อปฺาปนํ กึ นุ โข? กถํสูติ เกน นุ โข การเณน อชานนฺโตเยว นุ โข อนาคตํ นานุสฺสรติ, อนนุสฺสริตุกามตาย นานุสฺสรตีติ. อฺวิหิตเกน าณทสฺสเนนาติ ปจฺจกฺขํ วิย กตฺวา ทสฺสนสมตฺถตาย ทสฺสนภูเตน าเณน อฺตฺถวิหิตเกน าเณน อฺํ อารพฺภ ปวตฺเตน, อฺวิหิตกํ อฺํ อารพฺภ ปวตฺตมานํ าณทสฺสนํ สงฺคาเหตพฺพํ ปฺาเปตพฺพํ มฺนฺติ. เต หิ จรโต จ ติฏฺโต จ สุตฺตสฺส จ ชาครสฺส จ สตตํ สมิตํ าณทสฺสนํ ปจฺจุปฏฺิตํ มฺนฺติ, ตาทิสฺจ าณํ นาม นตฺถิ. ตสฺมา ยถริว พาลา อพฺยตฺตา, เอวํ มฺนฺตีติ เวทิตพฺโพ.

สตานุสารีติ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติสมฺปยุตฺตกํ. ยาวตกํ อากงฺขตีติ ยตฺตกํ าตุํ อิจฺฉติ, ตตฺตกํ ชานิสฺสามีติ าณํ เปเสสิ. อถสฺส ทุพฺพลปตฺตปุเฏ ปกฺขนฺทนาราโจ วิย อปฺปฏิหตํ อนิวาริตํ าณํ คจฺฉติ, เตน ยาวตกํ อากงฺขติ ตาวตกํ อนุสฺสรติ. โพธิชนฺติ โพธิมูเล ชาตํ. าณํ อุปฺปชฺชตีติ จตุมคฺคาณํ อุปฺปชฺชติ. อยมนฺติมา ชาตีติ เตน าเณน ชาติมูลสฺส ปหีนตฺตา ปุน อยมนฺติมา ชาติ. นตฺถิทานิ ปุนพฺภโวติ อปรมฺปิ าณํ อุปฺปชฺชติ. อนตฺถสํหิตนฺติ น อิธโลกตฺถํ วา ปรโลกตฺถํ วา นิสฺสิตํ. น ตํ ตถาคโต พฺยากโรตีติ ตํ ภารตยุทฺธสีตาหรณสทิสํ อนิยฺยานิกกถํ ตถาคโต น กเถติ. ภูตํ ตจฺฉํ อนตฺถสํหิตนฺติ ราชกถาทิติรจฺฉานกถํ. กาลฺู ตถาคโต โหตีติ กาลํ ชานาติ. สเหตุกํ สการณํ กตฺวา ยุตฺตปตฺตกาเลเยว กเถติ.

๑๘๘. ตสฺมา ตถาคโตติ วุจฺจตีติ ยถา ยถา คทิตพฺพํ, ตถา ตเถว คทนโต ทการสฺส ตการํ กตฺวา ตถาคโตติ วุจฺจตีติ อตฺโถ. ทิฏฺนฺติ รูปายตนํ. สุตนฺติ สทฺทายตนํ. มุตนฺติ มุตฺวา ปตฺวา คเหตพฺพโต คนฺธายตนํ รสายตนํ โผฏฺพฺพายตนํ. วิฺาตนฺติ สุขทุกฺขาทิธมฺมายตนํ. ปตฺตนฺติ ปริเยสิตฺวา วา อปริเยสิตฺวา วา ปตฺตํ. ปริเยสิตนฺติ ปตฺตํ วา อปตฺตํ วา ปริเยสิตํ. อนุวิจริตํ มนสาติ จิตฺเตน อนุสฺจริตํ. ‘‘ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺธ’’นฺติ อิมินา เอตํ ทสฺเสติ, ยฺหิ อปริมาณาสุ โลกธาตูสุ อิมสฺส สเทวกสฺส โลกสฺส นีลํ ปีตกนฺติอาทิ รูปารมฺมณํ จกฺขุทฺวาเร อาปาถมาคจฺฉติ, ‘‘อยํ สตฺโต อิมสฺมึ ขเณ อิมํ นาม รูปารมฺมณํ ทิสฺวา สุมโน วา ทุมฺมโน วา มชฺฌตฺโต วา ชาโต’’ติ สพฺพํ ตํ ตถาคตสฺส เอวํ อภิสมฺพุทฺธํ . ตถา ยํ อปริมาณาสุ โลกธาตูสุ อิมสฺส สเทวกสฺส โลกสฺส เภริสทฺโท มุทิงฺคสทฺโทติอาทิ สทฺทารมฺมณํ โสตทฺวาเร อาปาถมาคจฺฉติ. มูลคนฺโธ ตจคนฺโธติอาทิ คนฺธารมฺมณํ ฆานทฺวาเร อาปาถมาคจฺฉติ. มูลรโส ขนฺธรโสติอาทิ รสารมฺมณํ ชิวฺหาทฺวาเร อาปาถมาคจฺฉติ. กกฺขฬํ มุทุกนฺติอาทิ ปถวีธาตุเตโชธาตุวาโยธาตุเภทํ โผฏฺพฺพารมฺมณํ กายทฺวาเร อาปาถมาคจฺฉติ. ‘‘อยํ สตฺโต อิมสฺมึ ขเณ อิมํ นาม โผฏฺพฺพารมฺมณํ ผุสิตฺวา สุมโน วา ทุมฺมโน วา มชฺฌตฺโต วา ชาโต’’ติ สพฺพํ ตํ ตถาคตสฺส เอวํ อภิสมฺพุทฺธํ. ตถา ยํ อปริมาณาสุ โลกธาตูสุ อิมสฺส สเทวกสฺส โลกสฺส สุขทุกฺขาทิเภทํ ธมฺมารมฺมณํ มโนทฺวารสฺส อาปาถมาคจฺฉติ, ‘‘อยํ สตฺโต อิมสฺมึ ขเณ อิทํ นาม ธมฺมารมฺมณํ วิชานิตฺวา สุมโน วา ทุมฺมโน วา มชฺฌตฺโต วา ชาโต’’ติ สพฺพํ ตํ ตถาคตสฺส เอวํ อภิสมฺพุทฺธํ.

ยฺหิ , จุนฺท, อิเมสํ สตฺตานํ ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ตตฺถ ตถาคเตน อทิฏฺํ วา อสุตํ วา อมุตํ วา อวิฺาตํ วา นตฺถิ. อิมสฺส มหาชนสฺส ปริเยสิตฺวา ปตฺตมฺปิ อตฺถิ, ปริเยสิตฺวา อปฺปตฺตมฺปิ อตฺถิ. อปริเยสิตฺวา ปตฺตมฺปิ อตฺถิ, อปริเยสิตฺวา อปฺปตฺตมฺปิ อตฺถิ. สพฺพมฺปิ ตํ ตถาคตสฺส อปฺปตฺตํ นาม นตฺถิ, าเณน อสจฺฉิกตํ นาม. ‘‘ตสฺมา ตถาคโตติ วุจฺจตี’’ติ. ยํ ยถา โลเกน คตํ ตสฺส ตเถว คตตฺตา ‘‘ตถาคโต’’ติ วุจฺจติ. ปาฬิยํ ปน อภิสมฺพุทฺธนฺติ วุตฺตํ, ตํ คตสทฺเทน เอกตฺถํ. อิมินา นเยน สพฺพวาเรสุ ‘‘ตถาคโต’’ติ นิคมนสฺส อตฺโถ เวทิตพฺโพ, ตสฺส ยุตฺติ พฺรหฺมชาเล ตถาคตสทฺทวิตฺถาเร วุตฺตาเยว.

อพฺยากตฏฺานวณฺณนา

๑๘๙. เอวํ อตฺตโน อสมตํ อนุตฺตรตํ สพฺพฺุตํ ธมฺมราชภาวํ กเถตฺวา อิทานิ ‘‘ปุถุสมณพฺราหฺมณานํ ลทฺธีสุ มยา อฺาตํ อทิฏฺํ นาม นตฺถิ, สพฺพํ มม าณสฺส อนฺโตเยว ปริวตฺตตี’’ติ สีหนาทํ นทนฺโต านํ โข ปเนตํ, จุนฺท, วิชฺชตีติอาทิมาห. ตตฺถ ตถาคโตติ สตฺโต. น เหตํ, อาวุโส, อตฺถสํหิตนฺติ อิธโลกปรโลกอตฺถสํหิตํ น โหติ. น จ ธมฺมสํหิตนฺติ นวโลกุตฺตรธมฺมนิสฺสิตํ น โหติ. อาทิพฺรหฺมจริยกนฺติ สิกฺขตฺตยสงฺคหิตสฺส สกลสาสนพฺรหฺมจริยสฺส อาทิภูตํ น โหติ.

๑๙๐. อิทํ ทุกฺขนฺติ โขติอาทีสุ ตณฺหํ เปตฺวา อวเสสา เตภุมฺมกา ธมฺมา อิทํ ทุกฺขนฺติ พฺยากตํ. ตสฺเสว ทุกฺขสฺส ปภาวิกา ชนิกา ตณฺหา ทุกฺขสมุทโยติ พฺยากตํ. อุภินฺนํ อปฺปวตฺติ ทุกฺขนิโรโธติ พฺยากตํ. ทุกฺขปริชานโน สมุทยปชหโน นิโรธสจฺฉิกรโณ อริยมคฺโค ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทาติ พฺยากตํ. ‘‘เอตฺหิ, อาวุโส, อตฺถสํหิต’’นฺติอาทีสุ เอตํ อิธโลกปรโลกอตฺถนิสฺสิตํ นวโลกุตฺตรธมฺมนิสฺสิตํ สกลสาสนพฺรหฺมจริยสฺส อาทิ ปธานํ ปุพฺพงฺคมนฺติ อยมตฺโถ.

ปุพฺพนฺตสหคตทิฏฺินิสฺสยวณฺณนา

๑๙๑. อิทานิ ยํ ตํ มยา น พฺยากตํ, ตํ อชานนฺเตน น พฺยากตนฺติ มา เอวํ สฺมกํสุ. ชานนฺโตว อหํ เอวํ ‘‘เอตสฺมึ พฺยากเตปิ อตฺโถ นตฺถี’’ติ น พฺยากรึ. ยํ ปน ยถา พฺยากาตพฺพํ, ตํ มยา พฺยากตเมวาติ สีหนาทํ นทนฺโต ปุน เยปิ เต, จุนฺทาติอาทิมาห. ตตฺถ ทิฏฺิโยว ทิฏฺินิสฺสยา, ทิฏฺินิสฺสิตกา ทิฏฺิคติกาติ อตฺโถ. อิทเมว สจฺจนฺติ อิทเมว ทสฺสนํ สจฺจํ. โมฆมฺนฺติ อฺเสํ วจนํ โมฆํ. อสยํกาโรติ อสยํ กโต.

๑๙๒. ตตฺราติ เตสุ สมณพฺราหฺมเณสุ. อตฺถิ นุ โข อิทํ อาวุโส วุจฺจตีติ, อาวุโส, ยํ ตุมฺเหหิ สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จาติ วุจฺจติ, อิทมตฺถิ นุ โข อุทาหุ นตฺถีติ เอวมหํ เต ปุจฺฉามีติ อตฺโถ. ยฺจ โข เต เอวมาหํสูติ ยํ ปน เต ‘‘อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ วทนฺติ, ตํ เตสํ นานุชานามิ. ปฺตฺติยาติ ทิฏฺิปฺตฺติยา. สมสมนฺติ สเมน าเณน สมํ. ยทิทํ อธิปฺตฺตีติ ยา อยํ อธิปฺตฺติ นาม. เอตฺถ อหเมว ภิยฺโย อุตฺตริตโร น มยา สโม อตฺถิ. ตตฺถ ยฺจ วุตฺตํ ‘‘ปฺตฺติยาติ ยฺจ อธิปฺตฺตี’’ติ อุภยเมตํ อตฺถโต เอกํ. เภทโต หิ ปฺตฺติ อธิปฺตฺตีติ ทฺวยํ โหติ. ตตฺถ ปฺตฺติ นาม ทิฏฺิปฺตฺติ. อธิปฺตฺติ นาม ขนฺธปฺตฺติ ธาตุปฺตฺติ อายตนปฺตฺติ อินฺทฺริยปฺตฺติ สจฺจปฺตฺติ ปุคฺคลปฺตฺตีติ เอวํ วุตฺตา ฉ ปฺตฺติโย. อิธ ปน ปฺตฺติยาติ เอตฺถาปิ ปฺตฺติ เจว อธิปฺตฺติ จ อธิปฺเปตา, อธิปฺตฺตีติ เอตฺถาปิ. ภควา หิ ปฺตฺติยาปิ อนุตฺตโร, อธิปฺตฺติยาปิ อนุตฺตโร. เตนาห – ‘‘อหเมว ตตฺถ ภิยฺโย ยทิทํ อธิปฺตฺตี’’ติ.

๑๙๖. ปหานายาติ ปชหนตฺถํ. สมติกฺกมายาติ ตสฺเสว เววจนํ. เทสิตาติ กถิตา. ปฺตฺตาติ ปิตา. สติปฏฺานภาวนาย หิ ฆนวินิพฺโภคํ กตฺวา สพฺพธมฺเมสุ ยาถาวโต ทิฏฺเสุ ‘‘สุทฺธสงฺขารปุฺโชยํ นยิธ สตฺตูปลพฺภตี’’ติ สนฺนิฏฺานโต สพฺพทิฏฺินิสฺสยานํ ปหานํ โหตีติ. เตน วุตฺตํ. ทิฏฺินิสฺสยานํ ปหานาย สมติกฺกมาย เอวํ มยา อิเม จตฺตาโร สติปฏฺานา เทสิตา ปฺตฺตา’’ติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

สุมงฺคลวิลาสินิยา ทีฆนิกายฏฺกถาย

ปาสาทิกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.