📜
๘. สิงฺคาลสุตฺตวณฺณนา
นิทานวณฺณนา
๒๔๒. เอวํ ¶ ¶ ¶ เม สุตนฺติ สิงฺคาลสุตฺตํ. ตตฺรายมนุตฺตานปทวณฺณนา – เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเปติ เวฬุวนนฺติ ตสฺส อุยฺยานสฺส นามํ. ตํ กิร เวฬูหิ ปริกฺขิตฺตํ อโหสิ อฏฺารสหตฺเถน จ ปากาเรน โคปุรฏฺฏาลกยุตฺตํ นีโลภาสํ มโนรมํ, เตน เวฬุวนนฺติ วุจฺจติ. กลนฺทกานฺเจตฺถ นิวาปํ อทํสุ, เตน กลนฺทกนิวาโปติ วุจฺจติ.
ปุพฺเพ กิร อฺตโร ราชา ตตฺถ อุยฺยานกีฬนตฺถํ อาคโต สุรามเทน มตฺโต ทิวา นิทฺทํ โอกฺกมิ. ปริชโนปิสฺส ‘‘สุตฺโต ราชา’’ติ ปุปฺผผลาทีหิ ปโลภิยมาโน อิโต จิโต จ ปกฺกามิ. อถ สุราคนฺเธน อฺตรสฺมา สุสิรรุกฺขา กณฺหสปฺโป นิกฺขมิตฺวา รฺโ อภิมุโข อาคจฺฉติ, ตํ ทิสฺวา รุกฺขเทวตา ‘‘รฺโ ชีวิตํ ทมฺมี’’ติ กาฬกเวเสน อาคนฺตฺวา กณฺณมูเล สทฺทมกาสิ. ราชา ปฏิพุชฺฌิ. กณฺหสปฺโป นิวตฺโต. โส ตํ ทิสฺวา ‘‘อิมาย กาฬกาย มม ชีวิตํ ทินฺน’’นฺติ กาฬกานํ ตตฺถ นิวาปํ ปฏฺเปสิ, อภยโฆสฺจ โฆสาเปสิ. ตสฺมา ตํ ตโต ปภุติ ‘‘กลนฺทกนิวาโป’’ติ สงฺขฺยํ คตํ. กลนฺทกาติ หิ กาฬกานํ เอตํ นามํ.
เตน โข ปน สมเยนาติ ยสฺมึ สมเย ภควา ราชคหํ โคจรคามํ กตฺวา เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเป วิหรติ, เตน สมเยน. สิงฺคาลโก คหปติปุตฺโตติ สิงฺคาลโกติ ตสฺส นามํ. คหปติปุตฺโตติ คหปติสฺส ปุตฺโต คหปติปุตฺโต. ตสฺส กิร ปิตา คหปติมหาสาโล, นิทหิตฺวา ปิตา จสฺส เคเห จตฺตาลีส ธนโกฏิโย ¶ อตฺถิ. โส ภควติ นิฏฺงฺคโต อุปาสโก โสตาปนฺโน, ภริยาปิสฺส โสตาปนฺนาเยว. ปุตฺโต ปนสฺส อสฺสทฺโธ อปฺปสนฺโน. อถ นํ มาตาปิตโร อภิกฺขณํ เอวํ โอวทนฺติ – ‘‘ตาต สตฺถารํ อุปสงฺกม, ธมฺมเสนาปตึ มหาโมคฺคลฺลานํ ¶ มหากสฺสปํ อสีติมหาสาวเก อุปสงฺกมา’’ติ. โส เอวมาห – ‘‘นตฺถิ มม ตุมฺหากํ สมณานํ อุปสงฺกมนกิจฺจํ, สมณานํ สนฺติกํ คนฺตฺวา วนฺทิตพฺพํ โหติ, โอนมิตฺวา วนฺทนฺตสฺส ปิฏฺิ รุชฺชติ, ชาณุกานิ ขรานิ โหนฺติ, ภูมิยํ นิสีทิตพฺพํ ¶ โหติ, ตตฺถ นิสินฺนสฺส วตฺถานิ กิลิสฺสนฺติ ชีรนฺติ, สมีเป นิสินฺนกาลโต ปฏฺาย กถาสลฺลาโป โหติ, ตสฺมึ สติ วิสฺสาโส อุปฺปชฺชติ, ตโต นิมนฺเตตฺวา จีวรปิณฺฑปาตาทีนิ ทาตพฺพานิ โหนฺติ. เอวํ สนฺเต อตฺโถ ปริหายติ, นตฺถิ มยฺหํ ตุมฺหากํ สมณานํ อุปสงฺกมนกิจฺจ’’นฺติ. อิติ นํ ยาวชีวํ โอวทนฺตาปิ มาตาปิตโร สาสเน อุปเนตุํ นาสกฺขึสุ.
อถสฺส ปิตา มรณมฺเจ นิปนฺโน ‘‘มม ปุตฺตสฺส โอวาทํ ทาตุํ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา ปุน จินฺเตสิ – ‘‘ทิสา ตาต นมสฺสาหี’’ติ เอวมสฺส โอวาทํ ทสฺสามิ, โส อตฺถํ อชานนฺโต ทิสา นมสฺสิสฺสติ, อถ นํ สตฺถา วา สาวกา วา ปสฺสิตฺวา ‘‘กึ กโรสี’’ติ ปุจฺฉิสฺสนฺติ. ตโต ‘‘มยฺหํ ปิตา ทิสา นมสฺสนํ กโรหีติ มํ โอวที’’ติ วกฺขติ. อถสฺส เต ‘‘น ตุยฺหํ ปิตา เอตา ทิสา นมสฺสาเปติ, อิมา ปน ทิสา นมสฺสาเปตี’’ติ ธมฺมํ เทเสสฺสนฺติ. โส พุทฺธสาสเน คุณํ ตฺวา ‘‘ปฺุกมฺมํ กริสฺสตี’’ติ. อถ นํ อามนฺตาเปตฺวา ‘‘ตาต, ปาโตว อุฏฺาย ฉ ทิสา นมสฺเสยฺยาสี’’ติ อาห. มรณมฺเจ นิปนฺนสฺส กถา นาม ยาวชีวํ อนุสฺสรณียา โหติ. ตสฺมา โส คหปติปุตฺโต ตํ ปิตุวจนํ อนุสฺสรนฺโต ตถา อกาสิ. ตสฺมา ‘‘กาลสฺเสว อุฏฺาย ราชคหา นิกฺขมิตฺวา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
๒๔๓. ปุถุทิสาติ พหุทิสา. อิทานิ ตา ทสฺเสนฺโต ปุรตฺถิมํ ทิสนฺติอาทิมาห. ปาวิสีติ น ตาว ปวิฏฺโ, ปวิสิสฺสามีติ นิกฺขนฺตตฺตา ปน อนฺตรามคฺเค วตฺตมาโนปิ เอวํ วุจฺจติ. อทฺทสา โข ภควาติ น อิทาเนว อทฺทส, ปจฺจูสสมเยปิ พุทฺธจกฺขุนา โลกํ โวโลเกนฺโต เอตํ ทิสา นมสฺสมานํ ทิสฺวา ‘‘อชฺช อหํ สิงฺคาลสฺส คหปติปุตฺตสฺส คิหิวินยํ สิงฺคาลสุตฺตนฺตํ กเถสฺสามิ, มหาชนสฺส สา กถา สผลา ภวิสฺสติ, คนฺตพฺพํ มยา เอตฺถา’’ติ. ตสฺมา ¶ ปาโตว นิกฺขมิตฺวา ราชคหํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ, ปวิสนฺโต จ นํ ตเถว อทฺทส. เตน วุตฺตํ – ‘‘อทฺทสา โข ภควา’’ติ. เอตทโวจาติ โส กิร อวิทูเร ิตมฺปิ สตฺถารํ น ปสฺสติ, ทิสาเยว นมสฺสติ. อถํ นํ ภควา สูริยรสฺมิสมฺผสฺเสน วิกสมานํ มหาปทุมํ วิย มุขํ วิวริตฺวา ‘‘กึ นุ โข ตฺวํ, คหปติปุตฺตา’’ติอาทิกํ เอตทโวจ.
ฉทิสาทิวณฺณนา
๒๔๔. ยถา ¶ ¶ กถํ ปน, ภนฺเตติ โส กิร ตํ ภควโต วจนํ สุตฺวาว จินฺเตสิ ‘‘ยา กิร มม ปิตรา ฉ ทิสา นมสฺสิตพฺพา’’ติ วุตฺตา, น กิร ตา เอตา, อฺา กิร อริยสาวเกน ฉ ทิสา นมสฺสิตพฺพา. หนฺทาหํ อริยสาวเกน นมสฺสิตพฺพา ทิสาเยว ปุจฺฉิตฺวา นมสฺสามีติ. โส ตา ปุจฺฉนฺโต ยถา กถํ ปน, ภนฺเตติอาทิมาห. ตตฺถ ยถาติ นิปาตมตฺตํ. กถํ ปนาติ อิทเมว ปุจฺฉาปทํ. กมฺมกิเลสาติ เตหิ กมฺเมหิ สตฺตา กิลิสฺสนฺติ, ตสฺมา กมฺมกิเลสาติ วุจฺจนฺติ. าเนหีติ การเณหิ. อปายมุขานีติ วินาสมุขานิ. โสติ โส โสตาปนฺโน อริยสาวโก. จุทฺทส ปาปกาปคโตติ เอเตหิ จุทฺทสหิ ปาปเกหิ ลามเกหิ อปคโต. ฉทฺทิสาปฏิจฺฉาทีติ ฉ ทิสา ปฏิจฺฉาเทนฺโต. อุโภโลกวิชยายาติ อุภินฺนํ อิธโลกปรโลกานํ วิชินนตฺถาย. อยฺเจว โลโก อารทฺโธ โหตีติ เอวรูปสฺส หิ อิธ โลเก ปฺจ เวรานิ น โหนฺติ, เตนสฺส อยฺเจว โลโก อารทฺโธ โหติ ปริโตสิโต เจว นิปฺผาทิโต จ. ปรโลเกปิ ปฺจ เวรานิ น โหนฺติ, เตนสฺส ปโร จ โลโก อาราธิโต โหติ. ตสฺมา โส กายสฺส เภทา ปรมฺมรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ.
๒๔๕. อิติ ภควา สงฺเขเปน มาติกํ เปตฺวา อิทานิ ตเมว วิตฺถาเรนฺโต กตมสฺส จตฺตาโร กมฺมกิเลสาติอาทิมาห. กมฺมกิเลโสติ กมฺมฺจ ตํ กิเลสสมฺปยุตฺตตฺตา กิเลโส จาติ กมฺมกิเลโส. สกิเลโสเยว หิ ปาณํ หนติ, นิกฺกิเลโส น หนติ, ตสฺมา ปาณาติปาโต ‘‘กมฺมกิเลโส’’ติ วุตฺโต. อทินฺนาทานาทีสุปิ เอเสว นโย. อถาปรนฺติ อปรมฺปิ เอตทตฺถปริทีปกเมว คาถาพนฺธํ อโวจาติ อตฺโถ.
จตุานาทิวณฺณนา
๒๔๖. ปาปกมฺมํ ¶ กโรตีติ อิทํ ภควา ยสฺมา การเก ทสฺสิเต อการโก ปากโฏ โหติ, ตสฺมา ‘‘ปาปกมฺมํ น กโรตี’’ติ มาติกํ เปตฺวาปิ เทสนากุสลตาย ปมตรํ การกํ ทสฺเสนฺโต อาห ¶ . ตตฺถ ฉนฺทาคตึ คจฺฉนฺโตติ ฉนฺเทน เปเมน อคตึ คจฺฉนฺโต อกตฺตพฺพํ กโรนฺโต. ปรปเทสุปิ เอเสว นโย. ตตฺถ โย ‘‘อยํ เม มิตฺโต วา สมฺภตฺโต วา สนฺทิฏฺโ วา าตโก วา ลฺชํ วา ปน เม เทตี’’ติ ฉนฺทวเสน อสฺสามิกํ สามิกํ กโรติ, อยํ ฉนฺทาคตึ คจฺฉนฺโต ปาปกมฺมํ กโรติ นาม. โย ‘‘อยํ เม เวรี’’ติ ปกติเวรวเสน ตงฺขณุปฺปนฺนโกธวเสน ¶ วา สามิกํ อสฺสามิกํ กโรติ, อยํ โทสาคตึ คจฺฉนฺโต ปาปกมฺมํ กโรติ นาม. โย ปน มนฺทตฺตา โมมูหตฺตา ยํ วา ตํ วา วตฺวา อสฺสามิกํ สามิกํ กโรติ, อยํ โมหาคตึ คจฺฉนฺโต ปาปกมฺมํ กโรติ นาม. โย ปน ‘‘อยํ ราชวลฺลโภ วา วิสมนิสฺสิโต วา อนตฺถมฺปิ เม กเรยฺยา’’ติ ภีโต อสฺสามิกํ สามิกํ กโรติ, อยํ ภยาคตึ คจฺฉนฺโต ปาปกมฺมํ กโรติ นาม. โย ปน ยํกิฺจิ ภาเชนฺโต ‘‘อยํ เม สนฺทิฏฺโ วา สมฺภตฺโต วา’’ติ เปมวเสน อติเรกํ เทติ, ‘‘อยํ เม เวรี’’ติ โทสวเสน อูนกํ เทติ, โมมูหตฺตา ทินฺนาทินฺนํ อชานมาโน กสฺสจิ อูนํ กสฺสจิ อธิกํ เทติ, ‘‘อยํ อิมสฺมึ อทิยฺยมาเน มยฺหํ อนตฺถมฺปิ กเรยฺยา’’ติ ภีโต กสฺสจิ อติเรกํ เทติ, โส จตุพฺพิโธปิ ยถานุกฺกเมน ฉนฺทาคติอาทีนิ คจฺฉนฺโต ปาปกมฺมํ กโรติ นาม.
อริยสาวโก ปน ชีวิตกฺขยํ ปาปุณนฺโตปิ ฉนฺทาคติอาทีนิ น คจฺฉติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อิเมหิ จตูหิ าเนหิ ปาปกมฺมํ น กโรตี’’ติ.
นิหียติ ยโส ตสฺสาติ ตสฺส อคติคามิโน กิตฺติยโสปิ ปริวารยโสปิ นิหียติ ปริหายติ.
ฉอปายมุขาทิวณฺณนา
๒๔๗. สุราเมรยมชฺชปฺปมาทฏฺานานุโยโคติ เอตฺถ สุราติ ปิฏฺสุรา ปูวสุรา โอทนสุรา กิณฺณปกฺขิตฺตา สมฺภารสํยุตฺตาติ ปฺจ สุรา. เมรยนฺติ ปุปฺผาสโว ผลาสโว มธฺวาสโว คุฬาสโว สมฺภารสํยุตฺโตติ ปฺจ อาสวา. ตํ สพฺพมฺปิ มทกรณวเสน มชฺชํ. ปมาทฏฺานนฺติ ปมาทการณํ. ยาย เจตนาย ตํ มชฺชํ ปิวติ, ตสฺส เอตํ อธิวจนํ. อนุโยโคติ ตสฺส สุราเมรยมชฺชปฺปมาทฏฺานสฺส อนุอนุโยโค ปุนปฺปุนํ กรณํ. ยสฺมา ปเนตํ อนุยุตฺตสฺส อุปฺปนฺนา เจว ¶ โภคา ปริหายนฺติ, อนุปฺปนฺนา จ นุปฺปชฺชนฺติ, ตสฺมา ‘‘โภคานํ อปายมุข’’นฺติ ¶ วุตฺตํ. วิกาลวิสิขาจริยานุโยโคติ อเวลาย วิสิขาสุ จริยานุยุตฺตตา.
สมชฺชาภิจรณนฺติ นจฺจาทิทสฺสนวเสน สมชฺชาคมนํ. อาลสฺยานุโยโคติ กายาลสิยตาย ยุตฺตปฺปยุตฺตตา.
สุราเมรยสฺส ฉอาทีนวาทิวณฺณนา
๒๔๘. เอวํ ¶ ฉนฺนํ อปายมุขานํ มาติกํ เปตฺวา อิทานิ ตานิ วิภชนฺโต ฉ โข เม, คหปติปุตฺต อาทีนวาติอาทิมาห. ตตฺถ สนฺทิฏฺิกาติ สามํ ปสฺสิตพฺพา, อิธโลกภาวินี. ธนชานีติ ธนหานิ. กลหปฺปวฑฺฒนีติ วาจากลหสฺส เจว หตฺถปรามาสาทิกายกลหสฺส จ วฑฺฒนี. โรคานํ อายตนนฺติ เตสํ เตสํ อกฺขิโรคาทีนํ เขตฺตํ. อกิตฺติสฺชนนีติ สุรํ ปิวิตฺวา หิ มาตรมฺปิ ปหรนฺติ ปิตรมฺปิ, อฺํ พหุมฺปิ อวตฺตพฺพํ วทนฺติ, อกตฺตพฺพํ กโรนฺติ. เตน ครหมฺปิ ทณฺฑมฺปิ หตฺถปาทาทิเฉทมฺปิ ปาปุณนฺติ, อิธโลเกปิ ปรโลเกปิ อกิตฺตึ ปาปุณนฺติ, อิติ เตสํ สา สุรา อกิตฺติสฺชนนี นาม โหติ. โกปีนนิทํสนีติ คุยฺหฏฺานฺหิ วิวริยมานํ หิรึ โกเปติ วินาเสติ, ตสฺมา ‘‘โกปีน’’นฺติ วุจฺจติ, สุรามทมตฺตา จ ตํ ตํ องฺคํ วิวริตฺวา วิจรนฺติ, เตน เนสํ สา สุรา โกปีนสฺส นิทํสนโต ‘‘โกปีนนิทํสนี’’ติ วุจฺจติ. ปฺาย ทุพฺพลิกรณีติ สาคตตฺเถรสฺส วิย กมฺมสฺสกตปฺํ ทุพฺพลํ กโรติ, ตสฺมา ‘‘ปฺาย ทุพฺพลิกรณี’’ติ วุจฺจติ. มคฺคปฺํ ปน ทุพฺพลํ กาตุํ น สกฺโกติ. อธิคตมคฺคานฺหิ สา อนฺโตมุขเมว น ปวิสติ. ฉฏฺํ ปทนฺติ ฉฏฺํ การณํ.
๒๔๙. อตฺตาปิสฺส อคุตฺโต อรกฺขิโต โหตีติ อเวลาย จรนฺโต หิ ขาณุกณฺฏกาทีนิปิ อกฺกมติ, อหินาปิ ยกฺขาทีหิปิ สมาคจฺฉติ, ตํ ตํ านํ คจฺฉตีติ ตฺวา เวริโนปิ นํ นิลียิตฺวา คณฺหนฺติ วา หนนฺติ วา. เอวํ อตฺตาปิสฺส อคุตฺโต โหติ อรกฺขิโต. ปุตฺตทาราปิ ‘‘อมฺหากํ ปิตา อมฺหากํ สามิ รตฺตึ วิจรติ, กิมงฺคํ ปน มย’’นฺติ อิติสฺส ปุตฺตธีตโรปิ ภริยาปิ ¶ พหิ ปตฺถนํ กตฺวา รตฺตึ จรนฺตา อนยพฺยสนํ ปาปุณนฺติ. เอวํ ปุตฺตทาโรปิสฺส อคุตฺโต อรกฺขิโต โหติ. สาปเตยฺยนฺติ ตสฺส ปุตฺตทารปริชนสฺส รตฺตึ จรณกภาวํ ตฺวา โจรา สฺุํ ¶ เคหํ ปวิสิตฺวา ยํ อิจฺฉนฺติ, ตํ หรนฺติ. เอวํ สาปเตยฺยมฺปิสฺส อคุตฺตํ อรกฺขิตํ โหติ. สงฺกิโย จ โหตีติ อฺเหิ กตปาปกมฺเมสุปิ ‘‘อิมินา กตํ ภวิสฺสตี’’ติ สงฺกิตพฺโพ โหติ. ยสฺส ยสฺส ฆรทฺวาเรน ยาติ, ตตฺถ ยํ อฺเน โจรกมฺมํ ปรทาริกกมฺมํ วา กตํ, ตํ ‘‘อิมินา กต’’นฺติ วุตฺเต อภูตํ อสนฺตมฺปิ ตสฺมึ รูหติ ปติฏฺาติ. พหูนฺจ ทุกฺขธมฺมานนฺติ เอตฺตกํ ทุกฺขํ, เอตฺตกํ โทมนสฺสนฺติ วตฺตุํ น สกฺกา, อฺสฺมึ ปุคฺคเล อสติ สพฺพํ วิกาลจาริมฺหิ อาหริตพฺพํ โหติ, อิติ โส พหูนํ ทุกฺขธมฺมานํ ปุรกฺขโต ปุเรคามี โหติ.
๒๕๐. กฺว ¶ นจฺจนฺติ ‘‘กสฺมึ าเน นฏนาฏกาทินจฺจํ อตฺถี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ยสฺมึ คาเม วา นิคเม วา ตํ อตฺถิ, ตตฺถ คนฺตพฺพํ โหติ, ตสฺส ‘‘สฺเว นจฺจทสฺสนํ คมิสฺสามี’’ติ อชฺช วตฺถคนฺธมาลาทีนิ ปฏิยาเทนฺตสฺเสว สกลทิวสมฺปิ กมฺมจฺเฉโท โหติ, นจฺจทสฺสเนน เอกาหมฺปิ ทฺวีหมฺปิ ตีหมฺปิ ตตฺเถว โหติ, อถ วุฏฺิสมฺปตฺติยาทีนิ ลภิตฺวาปิ วปฺปาทิกาเล วปฺปาทีนิ อกโรนฺตสฺส อนุปฺปนฺนา โภคา นุปฺปชฺชนฺติ, ตสฺส พหิ คตภาวํ ตฺวา อนารกฺเข เคเห โจรา ยํ อิจฺฉนฺติ, ตํ กโรนฺติ, เตนสฺส อุปฺปนฺนาปิ โภคา วินสฺสนฺติ. กฺว คีตนฺติอาทีสุปิ เอเสว นโย. เตสํ นานากรณํ พฺรหฺมชาเล วุตฺตเมว.
๒๕๑. ชยํ เวรนฺติ ‘‘ชิตํ มยา’’ติ ปริสมชฺเฌ ปรสฺส สาฏกํ วา เวนํ วา คณฺหาติ, โส ‘‘ปริสมชฺเฌ เม อวมานํ กโรสิ, โหตุ, สิกฺขาเปสฺสามิ น’’นฺติ ตตฺถ เวรํ พนฺธติ, เอวํ ชินนฺโต สยํ เวรํ ปสวติ. ชิโนติ อฺเน ชิโต สมาโน ยํ เตน ตสฺส เวนํ วา สาฏโก วา อฺํ วา ปน หิรฺสุวณฺณาทิวิตฺตํ คหิตํ, ตํ อนุโสจติ ‘‘อโหสิ วต เม, ตํ ตํ วต เม นตฺถี’’ติ ตปฺปจฺจยา โสจติ. เอวํ โส ชิโน วิตฺตํ อนุโสจติ. สภาคตสฺส วจนํ น รูหตีติ วินิจฺฉยฏฺาเน สกฺขิปุฏฺสฺส สโต วจนํ น รูหติ, น ปติฏฺาติ, ‘‘อยํ อกฺขโสณฺโฑ ชูตกโร, มา ตสฺส วจนํ คณฺหิตฺถา’’ติ วตฺตาโร ภวนฺติ. มิตฺตามจฺจานํ ¶ ปริภูโต โหตีติ ตฺหิ มิตามจฺจา เอวํ วทนฺติ – ‘‘สมฺม, ตฺวมฺปิ นาม กุลปุตฺโต ชูตกโร ฉินฺนภินฺนโก หุตฺวา วิจรสิ, น เต อิทํ ชาติโคตฺตานํ อนุรูปํ, อิโต ปฏฺาย มา เอวํ กเรยฺยาสี’’ติ. โส เอวํ วุตฺโตปิ เตสํ วจนํ น กโรติ. ตโต เตน สทฺธึ เอกโต น ติฏฺนฺติ ¶ น นิสีทนฺติ. ตสฺส การณา สกฺขิปุฏฺาปิ น กเถนฺติ. เอวํ มิตฺตามจฺจานํ ปริภูโต โหติ.
อาวาหวิวาหกานนฺติ อาวาหกา นาม เย ตสฺส ฆรโต ทาริกํ คเหตุกามา. วิวาหกา นาม เย ตสฺส เคเห ทาริกํ ทาตุกามา. อปตฺถิโต โหตีติ อนิจฺฉิโต โหติ. นาลํ ทารภรณายาติ ทารภรณาย น สมตฺโถ. เอตสฺส เคเห ทาริกา ทินฺนาปิ เอตสฺส เคหโต อาคตาปิ อมฺเหหิ เอว โปสิตพฺพา ภวิสฺสติเยว.
ปาปมิตฺตตาย ฉอาทีนวาทิวณฺณนา
๒๕๒. ธุตฺตาติ อกฺขธุตฺตา. โสณฺฑาติ อิตฺถิโสณฺฑา ภตฺตโสณฺฑา ปูวโสณฺฑา มูลกโสณฺฑา. ปิปาสาติ ปานโสณฺฑา. เนกติกาติ ปติรูปเกน วฺจนกา. วฺจนิกาติ สมฺมุขาวฺจนาหิ ¶ วฺจนิกา. สาหสิกาติ เอกาคาริกาทิสาหสิกกมฺมการิโน. ตฺยาสฺส มิตฺตา โหนฺตีติ เต อสฺส มิตฺตา โหนฺติ. อฺเหิ สปฺปุริเสหิ สทฺธึ น รมติ คนฺธมาลาทีหิ อลงฺกริตฺวา วรสยนํ อาโรปิตสูกโร คูถกูปมิว, เต ปาปมิตฺเตเยว อุปสงฺกมติ. ตสฺมา ทิฏฺเ เจว ธมฺเม สมฺปรายฺจ พหุํ อนตฺถํ นิคจฺฉติ.
๒๕๓. อติสีตนฺติ กมฺมํ น กโรตีติ มนุสฺเสหิ กาลสฺเสว วุฏฺาย ‘‘เอถ โภ กมฺมนฺตํ คจฺฉามา’’ติ วุตฺโต ‘‘อติสีตํ ตาว, อฏฺีนิ ภิชฺชนฺติ วิย, คจฺฉถ ตุมฺเห ปจฺฉา ชานิสฺสามี’’ติ อคฺคึ ตปนฺโต นิสีทติ. เต คนฺตฺวา กมฺมํ กโรนฺติ. อิตรสฺส กมฺมํ ปริหายติ. อติอุณฺหนฺติอาทีสุปิ เอเสว นโย.
โหติ ปานสขา นามาติ เอกจฺโจ ปานฏฺาเน สุราเคเหเยว สหาโย โหติ. ‘‘ปนฺนสขา’’ติปิ ปาโ, อยเมวตฺโถ. สมฺมิยสมฺมิโยติ สมฺม สมฺมาติ วทนฺโต สมฺมุเขเยว สหาโย โหติ, ปรมฺมุเข เวรีสทิโส โอตารเมว คเวสติ. อตฺเถสุ ¶ ชาเตสูติ ตถารูเปสุ กิจฺเจสุ สมุปฺปนฺเนสุ. เวรปฺปสโวติ เวรพหุลตา. อนตฺถตาติ อนตฺถการิตา. สุกทริยตาติ สุฏฺุ กทริยตา ถทฺธมจฺฉริยภาโว ¶ . อุทกมิว อิณํ วิคาหตีติ ปาสาโณ อุทกํ วิย สํสีทนฺโต อิณํ วิคาหติ.
รตฺตินุฏฺานเทสฺสินาติ รตฺตึ อนุฏฺานสีเลน. อติสายมิทํ อหูติ อิทํ อติสายํ ชาตนฺติ เย เอวํ วตฺวา กมฺมํ น กโรนฺติ. อิติ วิสฺสฏฺกมฺมนฺเตติ เอวํ วตฺวา ปริจฺจตฺตกมฺมนฺเต. อตฺถา อจฺเจนฺติ มาณเวติ เอวรูเป ปุคฺคเล อตฺถา อติกฺกมนฺติ, เตสุ น ติฏฺนฺติ.
ติณา ภิยฺโยติ ติณโตปิ อุตฺตริ. โส สุขํ น วิหายตีติ โส ปุริโส สุขํ น ชหาติ, สุขสมงฺคีเยว โหติ. อิมินา กถามคฺเคน อิมมตฺถํ ทสฺเสติ ‘‘คิหิภูเตน สตา เอตฺตกํ กมฺมํ น กาตพฺพํ, กโรนฺตสฺส วฑฺฒิ นาม นตฺถิ. อิธโลเก ปรโลเก ครหเมว ปาปุณาตี’’ติ.
มิตฺตปติรูปกาทิวณฺณนา
๒๕๔. อิทานิ ¶ โย เอวํ กโรโต อนตฺโถ อุปฺปชฺชติ, อฺานิ วา ปน ยานิ กานิจิ ภยานิ เยเกจิ อุปทฺทวา เยเกจิ อุปสคฺคา, สพฺเพ เต พาลํ นิสฺสาย อุปฺปชฺชนฺติ. ตสฺมา ‘‘เอวรูปา พาลา น เสวิตพฺพา’’ติ พาเล มิตฺตปติรูปเก อมิตฺเต ทสฺเสตุํ จตฺตาโรเม, คหปติปุตฺต อมิตฺตาติอาทิมาห. ตตฺถ อฺทตฺถุหโรติ สยํ ตุจฺฉหตฺโถ อาคนฺตฺวา เอกํเสน ยํกิฺจิ หรติเยว. วจีปรโมติ วจนปรโม วจนมตฺเตเนว ทายโก การโก วิย โหติ. อนุปฺปิยภาณีติ อนุปฺปิยํ ภณติ. อปายสหาโยติ โภคานํ อปาเยสุ สหาโย โหติ.
๒๕๕. เอวํ จตฺตาโร อมิตฺเต ทสฺเสตฺวา ปุน ตตฺถ เอเกกํ จตูหิ การเณหิ วิภชนฺโต จตูหิ โข, คหปติปุตฺตาติอาทิมาห. ตตฺถ อฺทตฺถุหโร โหตีติ เอกํเสน หารโกเยว โหติ. สหายสฺส เคหํ ริตฺตหตฺโถ อาคนฺตฺวา นิวตฺถสาฏกาทีนํ วณฺณํ ภาสติ, โส ‘‘อติวิย ตฺวํ สมฺม อิมสฺส วณฺณํ ภาสสี’’ติ อฺํ นิวาเสตฺวา ตํ เทติ. อปฺเปน พหุมิจฺฉตีติ ยํกิฺจิ อปฺปกํ ทตฺวา ตสฺส สนฺติกา พหุํ ปตฺเถติ. ภยสฺส ¶ กิจฺจํ กโรตีติ อตฺตโน ภเย อุปฺปนฺเน ตสฺส ทาโส วิย หุตฺวา ตํ ตํ กิจฺจํ กโรติ, อยํ สพฺพทา น กโรติ, ภเย ¶ อุปฺปนฺเน กโรติ, น เปเมนาติ อมิตฺโต นาม ชาโต. เสวติ อตฺถการณาติ มิตฺตสนฺถววเสน น เสวติ, อตฺตโน อตฺถเมว ปจฺจาสีสนฺโต เสวติ.
๒๕๖. อตีเตน ปฏิสนฺถรตีติ สหาเย อาคเต ‘‘หิยฺโย วา ปเร วา น อาคโตสิ, อมฺหากํ อิมสฺมึ วาเร สสฺสํ อติวิย นิปฺผนฺนํ, พหูนิ สาลิยวพีชาทีนิ เปตฺวา มคฺคํ โอโลเกนฺตา นิสีทิมฺห, อชฺช ปน สพฺพํ ขีณ’’นฺติ เอวํ อตีเตน สงฺคณฺหาติ. อนาคเตนาติ ‘‘อิมสฺมึ วาเร อมฺหากํ สสฺสํ มนาปํ ภวิสฺสติ, ผลภารภริตา สาลิอาทโย, สสฺสสงฺคเห กเต ตุมฺหากํ สงฺคหํ กาตุํ สมตฺถา ภวิสฺสามา’’ติ เอวํ อนาคเตน สงฺคณฺหาติ. นิรตฺถเกนาติ หตฺถิกฺขนฺเธ วา อสฺสปิฏฺเ วา นิสินฺโน สหายํ ทิสฺวา ‘‘เอหิ, โภ, อิธ นิสีทา’’ติ วทติ. มนาปํ สาฏกํ นิวาเสตฺวา ‘‘สหายกสฺส วต เม อนุจฺฉวิโก อฺโ ปน มยฺหํ นตฺถี’’ติ วทติ, เอวํ นิรตฺถเกน สงฺคณฺหาติ นาม. ปจฺจุปฺปนฺเนสุ กิจฺเจสุ พฺยสนํ ทสฺเสตีติ ‘‘สกเฏน เม อตฺโถ’’ติ วุตฺเต ‘‘จกฺกมสฺส ภินฺนํ, อกฺโข ฉินฺโน’’ติอาทีนิ วทติ.
๒๕๗. ปาปกมฺปิสฺส อนุชานาตีติ ปาณาติปาตาทีสุ ยํกิฺจิ กโรมาติ วุตฺเต ‘‘สาธุ สมฺม ¶ กโรมา’’ติ อนุชานาติ. กลฺยาเณปิ เอเสว นโย. สหาโย โหตีติ ‘‘อสุกฏฺาเน สุรํ ปิวนฺติ, เอหิ ตตฺถ คจฺฉามา’’ติ วุตฺเต สาธูติ คจฺฉติ. เอส นโย สพฺพตฺถ. อิติ วิฺายาติ ‘‘มิตฺตปติรูปกา เอเต’’ติ เอวํ ชานิตฺวา.
สุหทมิตฺตาทิวณฺณนา
๒๖๐. เอวํ น เสวิตพฺเพ ปาปมิตฺเต ทสฺเสตฺวา อิทานิ เสวิตพฺเพ กลฺยาณมิตฺเต ทสฺเสนฺโต ปุน จตฺตาโรเม, คหปติปุตฺตาติอาทิมาห. ตตฺถ สุหทาติ สุนฺทรหทยา.
๒๖๑. ปมตฺตํ รกฺขตีติ มชฺชํ ปิวิตฺวา คามมชฺเฌ วา คามทฺวาเร วา มคฺเค วา นิปนฺนํ ทิสฺวา ‘‘เอวํนิปนฺนสฺส โกจิเทว นิวาสนปารุปนมฺปิ หเรยฺยา’’ติ สมีเป นิสีทิตฺวา ปพุทฺธกาเล คเหตฺวา คจฺฉติ. ปมตฺตสฺส ¶ สาปเตยฺยนฺติ สหาโย ¶ พหิคโต วา โหติ สุรํ ปิวิตฺวา วา ปมตฺโต, เคหํ อนารกฺขํ ‘‘โกจิเทว ยํกิฺจิ หเรยฺยา’’ติ เคหํ ปวิสิตฺวา ตสฺส ธนํ รกฺขติ. ภีตสฺสาติ กิสฺมิฺจิเทว ภเย อุปฺปนฺเน ‘‘มา ภายิ, มาทิเส สหาเย ิเต กึ ภายสี’’ติ ตํ ภยํ หรนฺโต ปฏิสรณํ โหติ. ตทฺทิคุณํ โภคนฺติ กิจฺจกรณีเย อุปฺปนฺเน สหายํ อตฺตโน สนฺติกํ อาคตํ ทิสฺวา วทติ ‘‘กสฺมา อาคโตสี’’ติ? ราชกุเล กมฺมํ อตฺถีติ. กึ ลทฺธุํ วฏฺฏตีติ? เอโก กหาปโณติ. ‘‘นคเร กมฺมํ นาม น เอกกหาปเณน นิปฺผชฺชติ, ทฺเว คณฺหาหี’’ติ เอวํ ยตฺตกํ วทติ, ตโต ทิคุณํ เทติ.
๒๖๒. คุยฺหมสฺส อาจิกฺขตีติ อตฺตโน คุยฺหํ นิคูหิตุํ ยุตฺตกถํ อฺสฺส อกเถตฺวา ตสฺเสว อาจิกฺขติ. คุยฺหมสฺส ปริคูหตีติ เตน กถิตํ คุยฺหํ ยถา อฺโ น ชานาติ, เอวํ รกฺขติ. อาปทาสุ น วิชหตีติ อุปฺปนฺเน ภเย น ปริจฺจชติ. ชีวิตมฺปิสฺส อตฺถายาติ อตฺตโน ชีวิตมฺปิ ตสฺส สหายสฺส อตฺถาย ปริจฺจตฺตเมว โหติ, อตฺตโน ชีวิตํ อคเณตฺวาปิ ตสฺส กมฺมํ กโรติเยว.
๒๖๓. ปาปา นิวาเรตีติ อมฺเหสุ ปสฺสนฺเตสุ ปสฺสนฺเตสุ ตฺวํ เอวํ กาตุํ น ลภสิ, ปฺจ เวรานิ ทส อกุสลกมฺมปเถ มา กโรหีติ นิวาเรติ. กลฺยาเณ นิเวเสตีติ กลฺยาณกมฺเม ตีสุ สรเณสุ ปฺจสีเลสุ ทสกุสลกมฺมปเถสุ วตฺตสฺสุ, ทานํ เทหิ ปฺุํ กโรหิ ธมฺมํ สุณาหีติ เอวํ กลฺยาเณ นิโยเชติ. อสฺสุตํ สาเวตีติ อสฺสุตปุพฺพํ สุขุมํ นิปุณํ ¶ การณํ สาเวติ. สคฺคสฺส มคฺคนฺติ อิทํ กมฺมํ กตฺวา สคฺเค นิพฺพตฺตนฺตีติ เอวํ สคฺคสฺส มคฺคํ อาจิกฺขติ.
๒๖๔. อภเวนสฺส น นนฺทตีติ ตสฺส อภเวน อวุฑฺฒิยา ปุตฺตทารสฺส วา ปริชนสฺส วา ตถารูปํ ปาริชฺุํ ทิสฺวา วา สุตฺวา วา น นนฺทติ, อนตฺตมโน โหติ. ภเวนาติ วุฑฺฒิยา ตถารูปสฺส สมฺปตฺตึ วา ¶ อิสฺสริยปฺปฏิลาภํ วา ทิสฺวา วา สุตฺวา วา นนฺทติ, อตฺตมโน โหติ. อวณฺณํ ภณมานํ นิวาเรตีติ ‘‘อสุโก วิรูโป น ปาสาทิโก ทุชฺชาติโก ทุสฺสีโล’’ติ วา วุตฺเต ‘‘เอวํ มา ภณิ, รูปวา จ โส ปาสาทิโก ¶ จ สุชาโต จ สีลสมฺปนฺโน จา’’ติอาทีหิ วจเนหิ ปรํ อตฺตโน สหายสฺส อวณฺณํ ภณมานํ นิวาเรติ. วณฺณํ ภณมานํ ปสํสตีติ ‘‘อสุโก รูปวา ปาสาทิโก สุชาโต สีลสมฺปนฺโน’’ติ วุตฺเต ‘‘อโห สุฏฺุ วทสิ, สุภาสิตํ ตยา, เอวเมตํ, เอส ปุริโส รูปวา ปาสาทิโก สุชาโต สีลสมฺปนฺโน’’ติ เอวํ อตฺตโน สหายกสฺส ปรํ วณฺณํ ภณมานํ ปสํสติ.
๒๖๕. ชลํ อคฺคีว ภาสตีติ รตฺตึ ปพฺพตมตฺถเก ชลมาโน อคฺคิ วิย วิโรจติ.
โภเค สํหรมานสฺสาติ อตฺตานมฺปิ ปรมฺปิ อปีเฬตฺวา ธมฺเมน สเมน โภเค สมฺปิณฺเฑนฺตสฺส ราสึ กโรนฺตสฺส. ภมรสฺเสว อิรียโตติ ยถา ภมโร ปุปฺผานํ วณฺณคนฺธํ อโปถยํ ตุณฺเฑนปิ ปกฺเขหิปิ รสํ อาหริตฺวา อนุปุพฺเพน จกฺกปฺปมาณํ มธุปฏลํ กโรติ, เอวํ อนุปุพฺเพน มหนฺตํ โภคราสึ กโรนฺตสฺส. โภคา สนฺนิจยํ ยนฺตีติ ตสฺส โภคา นิจยํ คจฺฉนฺติ. กถํ? อนุปุพฺเพน อุปจิกาหิ สํวฑฺฒิยมาโน วมฺมิโก วิย. เตนาห ‘‘วมฺมิโกวุปจียตี’’ติ. ยถา วมฺมิโก อุปจิยติ, เอวํ นิจยํ ยนฺตีติ อตฺโถ.
สมาหตฺวาติ สมาหริตฺวา. อลมตฺโถติ ยุตฺตสภาโว สมตฺโถ วา ปริยตฺตรูโป ฆราวาสํ สณฺาเปตุํ.
อิทานิ ยถา วา ฆราวาโส สณฺเปตพฺโพ, ตถา โอวทนฺโต จตุธา วิภเช โภเคติอาทิมาห. ตตฺถ ส เว มิตฺตานิ คนฺถตีติ โส เอวํ วิภชนฺโต มิตฺตานิ คนฺถติ นาม อเภชฺชมานานิ เปติ. ยสฺส หิ โภคา สนฺติ, โส เอว มิตฺเต เปตุํ สกฺโกติ, น อิตโร.
เอเกน ¶ โภเค ภฺุเชยฺยาติ เอเกน โกฏฺาเสน โภเค ภฺุเชยฺย. ทฺวีหิ กมฺมํ ปโยชเยติ ทฺวีหิ โกฏฺาเสหิ กสิวาณิชฺชาทิกมฺมํ ปโยเชยฺย. จตุตฺถฺจ นิธาเปยฺยาติ จตุตฺถํ โกฏฺาสํ นิธาเปตฺวา เปยฺย. อาปทาสุ ภวิสฺสตีติ กุลานฺหิ น สพฺพกาลํ เอกสทิสํ วตฺตติ, กทาจิ ราชาทิวเสน อาปทาปิ อุปฺปชฺชนฺติ, ตสฺมา ¶ เอวํ อาปทาสุ อุปฺปนฺนาสุ ภวิสฺสตีติ ‘‘เอกํ โกฏฺาสํ นิธาเปยฺยา’’ติ อาห ¶ . อิเมสุ ปน จตูสุ โกฏฺาเสสุ กตรโกฏฺาสํ คเหตฺวา กุสลํ กาตพฺพนฺติ? ‘‘โภเค ภฺุเชยฺยา’’ติ วุตฺตโกฏฺาสํ. ตโต คณฺหิตฺวา ภิกฺขูนมฺปิ กปณทฺธิกาทีนมฺปิ ทาตพฺพํ, เปสการนฺหาปิตาทีนมฺปิ เวตนํ ทาตพฺพํ.
ฉทฺทิสาปฏิจฺฉาทนกณฺฑวณฺณนา
๒๖๖. อิติ ภควา เอตฺตเกน กถามคฺเคน เอวํ คหปติปุตฺตสฺส อริยสาวโก จตูหิ การเณหิ อกุสลํ ปหาย ฉหิ การเณหิ โภคานํ อปายมุขํ วชฺเชตฺวา โสฬส มิตฺตานิ เสวนฺโต ฆราวาสํ สณฺเปตฺวา ทารภรณํ กโรนฺโต ธมฺมิเกน อาชีเวน ชีวติ, เทวมนุสฺสานฺจ อนฺตเร อคฺคิกฺขนฺโธ วิย วิโรจตีติ วชฺชนียธมฺมวชฺชนตฺถํ เสวิตพฺพธมฺมเสวนตฺถฺจ โอวาทํ ทตฺวา อิทานิ นมสฺสิตพฺพา ฉ ทิสา ทสฺเสนฺโต กถฺจ คหปติปุตฺตาติอาทิมาห.
ตตฺถ ฉทฺทิสาปฏิจฺฉาทีติ ยถา ฉหิ ทิสาหิ อาคมนภยํ น อาคจฺฉติ, เขมํ โหติ นิพฺภยํ เอวํ วิหรนฺโต ‘‘ฉทฺทิสาปฏิจฺฉาที’’ติ วุจฺจติ. ‘‘ปุรตฺถิมา ทิสา มาตาปิตโร เวทิตพฺพา’’ติอาทีสุ มาตาปิตโร ปุพฺพุปการิตาย ปุรตฺถิมา ทิสาติ เวทิตพฺพา. อาจริยา ทกฺขิเณยฺยตาย ทกฺขิณา ทิสาติ. ปุตฺตทารา ปิฏฺิโต อนุพนฺธนวเสน ปจฺฉิมา ทิสาติ. มิตฺตามจฺจา ยสฺมา โส มิตฺตามจฺเจ นิสฺสาย เต เต ทุกฺขวิเสเส อุตฺตรติ, ตสฺมา อุตฺตรา ทิสาติ. ทาสกมฺมกรา ปาทมูเล ปติฏฺานวเสน เหฏฺิมา ทิสาติ. สมณพฺราหฺมณา คุเณหิ อุปริ ิตภาเวน อุปริมา ทิสาติ เวทิตพฺพา.
๒๖๗. ภโต เน ภริสฺสามีติ อหํ มาตาปิตูหิ ถฺํ ปาเยตฺวา หตฺถปาเท วฑฺเฒตฺวา มุเขน สิงฺฆาณิกํ อปเนตฺวา นหาเปตฺวา มณฺเฑตฺวา ภโต ภริโต ชคฺคิโต, สฺวาหํ อชฺช เต มหลฺลเก ปาทโธวนนฺหาปนยาคุภตฺตทานาทีหิ ภริสฺสามิ.
กิจฺจํ เนสํ กริสฺสามีติ อตฺตโน กมฺมํ เปตฺวา มาตาปิตูนํ ราชกุลาทีสุ อุปฺปนฺนํ กิจฺจํ ¶ คนฺตฺวา กริสฺสามิ. กุลวํสํ สณฺเปสฺสามีติ มาตาปิตูนํ สนฺตกํ เขตฺตวตฺถุหิรฺสุวณฺณาทึ อวินาเสตฺวา รกฺขนฺโตปิ ¶ กุลวํสํ สณฺเปติ นาม. มาตาปิตโร อธมฺมิกวํสโต หาเรตฺวา ¶ ธมฺมิกวํเส เปนฺโตปิ, กุลวํเสน อาคตานิ สลากภตฺตาทีนิ อนุปจฺฉินฺทิตฺวา ปวตฺเตนฺโตปิ กุลวํสํ สณฺเปติ นาม. อิทํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘กุลวํสํ สณฺเปสฺสามี’’ติ.
ทายชฺชํ ปฏิปชฺชามีติ มาตาปิตโร อตฺตโน โอวาเท อวตฺตมาเน มิจฺฉาปฏิปนฺเน ทารเก วินิจฺฉยํ ปตฺวา อปุตฺเต กโรนฺติ, เต ทายชฺชารหา น โหนฺติ. โอวาเท วตฺตมาเน ปน กุลสนฺตกสฺส สามิเก กโรนฺติ, อหํ เอวํ วตฺติสฺสามีติ อธิปฺปาเยน ‘‘ทายชฺชํ ปฏิปชฺชามี’’ติ วุตฺตํ.
ทกฺขิณํ อนุปฺปทสฺสามีติ เตสํ ปตฺติทานํ กตฺวา ตติยทิวสโต ปฏฺาย ทานํ อนุปฺปทสฺสามิ. ปาปา นิวาเรนฺตีติ ปาณาติปาตาทีนํ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกํ อาทีนวํ วตฺวา, ‘‘ตาต, มา เอวรูปํ กรี’’ติ นิวาเรนฺติ, กตมฺปิ ครหนฺติ. กลฺยาเณ นิเวเสนฺตีติ อนาถปิณฺฑิโก วิย ลฺชํ ทตฺวาปิ สีลสมาทานาทีสุ นิเวเสนฺติ. สิปฺปํ สิกฺขาเปนฺตีติ อตฺตโน โอวาเท ิตภาวํ ตฺวา วํสานุคตํ มุทฺทาคณนาทิสิปฺปํ สิกฺขาเปนฺติ. ปติรูเปนาติ กุลสีลรูปาทีหิ อนุรูเปน.
สมเย ทายชฺชํ นิยฺยาเทนฺตีติ สมเย ธนํ เทนฺติ. ตตฺถ นิจฺจสมโย กาลสมโยติ ทฺเว สมยา. นิจฺจสมเย เทนฺติ นาม ‘‘อุฏฺาย สมุฏฺาย อิมํ คณฺหิตพฺพํ คณฺห, อยํ เต ปริพฺพโย โหตุ, อิมินา กุสลํ กโรหี’’ติ เทนฺติ. กาลสมเย เทนฺติ นาม สิขาปนอาวาหวิวาหาทิสมเย เทนฺติ. อปิจ ปจฺฉิเม กาเล มรณมฺเจ นิปนฺนสฺส ‘‘อิมินา กุสลํ กโรหี’’ติ เทนฺตาปิ สมเย เทนฺติ นาม. ปฏิจฺฉนฺนา โหตีติ ยํ ปุรตฺถิมทิสโต ภยํ อาคจฺเฉยฺย, ยถา ตํ นาคจฺฉติ, เอวํ ปิหิตา โหติ. สเจ หิ ปุตฺตา วิปฺปฏิปนฺนา, อสฺสุ, มาตาปิตโร ทหรกาลโต ปฏฺาย ชคฺคนาทีหิ สมฺมา ปฏิปนฺนา, เอเต ทารกา, มาตาปิตูนํ อปฺปติรูปาติ เอตํ ภยํ อาคจฺเฉยฺย. ปุตฺตา สมฺมา ปฏิปนฺนา, มาตาปิตโร วิปฺปฏิปนฺนา, มาตาปิตโร ปุตฺตานํ นานุรูปาติ เอตํ ภยํ อาคจฺเฉยฺย. อุโภสุ วิปฺปฏิปนฺเนสุ ทุวิธมฺปิ ตํ ภยํ โหติ. สมฺมา ¶ ปฏิปนฺเนสุ สพฺพํ น โหติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ปฏิจฺฉนฺนา โหติ เขมา อปฺปฏิภยา’’ติ.
เอวฺจ ¶ ปน วตฺวา ภควา สิงฺคาลกํ เอตทโวจ – ‘‘น โข เต, คหปติปุตฺต, ปิตา โลกสมฺมตํ ปุรตฺถิมํ ทิสํ นมสฺสาเปติ. มาตาปิตโร ปน ¶ ปุรตฺถิมทิสาสทิเส กตฺวา นมสฺสาเปติ. อยฺหิ เต ปิตรา ปุรตฺถิมา ทิสา อกฺขาตา, โน อฺา’’ติ.
๒๖๘. อุฏฺาเนนาติ อาสนา อุฏฺาเนน. อนฺเตวาสิเกน หิ อาจริยํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา อาสนา วุฏฺาย ปจฺจุคฺคมนํ กตฺวา หตฺถโต ภณฺฑกํ คเหตฺวา อาสนํ ปฺเปตฺวา นิสีทาเปตฺวา พีชนปาทโธวนปาทมกฺขนานิ กาตพฺพานิ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘อุฏฺาเนนา’’ติ. อุปฏฺาเนนาติ ทิวสสฺส ติกฺขตฺตุํ อุปฏฺานคมเนน. สิปฺปุคฺคหณกาเล ปน อวสฺสกเมว คนฺตพฺพํ โหติ. สุสฺสูสายาติ สทฺทหิตฺวา สวเนน. อสทฺทหิตฺวา สุณนฺโต หิ วิเสสํ นาธิคจฺฉติ. ปาริจริยายาติ อวเสสขุทฺทกปาริจริยาย. อนฺเตวาสิเกน หิ อาจริยสฺส ปาโตว วุฏฺาย มุโขทกทนฺตกฏฺํ ทตฺวา ภตฺตกิจฺจกาเลปิ ปานียํ คเหตฺวา ปจฺจุปฏฺานาทีนิ กตฺวา วนฺทิตฺวา คนฺตพฺพํ. กิลิฏฺวตฺถาทีนิ โธวิตพฺพานิ, สายํ นหาโนทกํ ปจฺจุปฏฺเปตพฺพํ. อผาสุกาเล อุปฏฺาตพฺพํ. ปพฺพชิเตนปิ สพฺพํ อนฺเตวาสิกวตฺตํ กาตพฺพํ. อิทํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘ปาริจริยายา’’ติ. สกฺกจฺจํ สิปฺปปฏิคฺคหเณนาติ สกฺกจฺจํ ปฏิคฺคหณํ นาม โถกํ คเหตฺวา พหุวาเร สชฺฌายกรณํ, เอกปทมฺปิ วิสุทฺธเมว คเหตพฺพํ.
สุวินีตํ วิเนนฺตีติ ‘‘เอวํ เต นิสีทิตพฺพํ, เอวํ าตพฺพํ, เอวํ ขาทิตพฺพํ, เอวํ ภฺุชิตพฺพํ, ปาปมิตฺตา วชฺเชตพฺพา, กลฺยาณมิตฺตา เสวิตพฺพา’’ติ เอวํ อาจารํ สิกฺขาเปนฺติ วิเนนฺติ. สุคฺคหิตํ คาหาเปนฺตีติ ยถา สุคฺคหิตํ คณฺหาติ, เอวํ อตฺถฺจ พฺยฺชนฺจ โสเธตฺวา ปโยคํ ทสฺเสตฺวา คณฺหาเปนฺติ. มิตฺตามจฺเจสุ ปฏิยาเทนฺตีติ ‘‘อยํ อมฺหากํ อนฺเตวาสิโก พฺยตฺโต พหุสฺสุโต มยา สมสโม, เอตํ สลฺลกฺเขยฺยาถา’’ติ เอวํ คุณํ กเถตฺวา มิตฺตามจฺเจสุ ปติฏฺเปนฺติ.
ทิสาสุ ปริตฺตาณํ กโรนฺตีติ สิปฺปสิกฺขาปเนเนวสฺส สพฺพทิสาสุ ¶ รกฺขํ กโรนฺติ. อุคฺคหิตสิปฺโป หิ ยํ ยํ ทิสํ คนฺตฺวา สิปฺปํ ทสฺเสติ, ตตฺถ ตตฺถสฺส ลาภสกฺกาโร อุปฺปชฺชติ. โส อาจริเยน กโต นาม โหติ, คุณํ กเถนฺโตปิสฺส มหาชโน อาจริยปาเท โธวิตฺวา วสิตอนฺเตวาสิโก ¶ วต อยนฺติ ปมํ อาจริยสฺเสว คุณํ กเถนฺติ, พฺรหฺมโลกปฺปมาโณปิสฺส ลาโภ อุปฺปชฺชมาโน อาจริยสนฺตโกว โหติ. อปิจ ยํ วิชฺชํ ปริชปฺปิตฺวา คจฺฉนฺตํ อฏวิยํ โจรา น ปสฺสนฺติ, อมนุสฺสา วา ทีฆชาติอาทโย วา น วิเหเนฺติ, ตํ สิกฺขาเปนฺตาปิ ทิสาสุ ปริตฺตาณํ กโรนฺติ. ยํ วา โส ทิสํ คโต โหติ, ตโต ¶ กงฺขํ อุปฺปาเทตฺวา อตฺตโน สนฺติกํ อาคตมนุสฺเส ‘‘เอติสฺสํ ทิสายํ อมฺหากํ อนฺเตวาสิโก วสติ, ตสฺส จ มยฺหฺจ อิมสฺมึ สิปฺเป นานากรณํ นตฺถิ, คจฺฉถ ตเมว ปุจฺฉถา’’ติ เอวํ อนฺเตวาสิกํ ปคฺคณฺหนฺตาปิ ตสฺส ตตฺถ ลาภสกฺการุปฺปตฺติยา ปริตฺตาณํ กโรนฺติ นาม, ปติฏฺํ กโรนฺตีติ อตฺโถ. เสสเมตฺถ ปุริมนเยเนว โยเชตพฺพํ.
๒๖๙. ตติยทิสาวาเร สมฺมานนายาติ เทวมาเต ติสฺสมาเตติ เอวํ สมฺภาวิตกถากถเนน. อนวมานนายาติ ยถา ทาสกมฺมกราทโย โปเถตฺวา วิเหเตฺวา กเถนฺติ, เอวํ หีเฬตฺวา วิมาเนตฺวา อกถเนน. อนติจริยายาติ ตํ อติกฺกมิตฺวา พหิ อฺาย อิตฺถิยา สทฺธึ ปริจรนฺโต ตํ อติจรติ นาม, ตถา อกรเณน. อิสฺสริยโวสฺสคฺเคนาติ อิตฺถิโย หิ มหาลตาสทิสมฺปิ อาภรณํ ลภิตฺวา ภตฺตํ วิจาเรตุํ อลภมานา กุชฺฌนฺติ, กฏจฺฉุํ หตฺเถ เปตฺวา ตว รุจิยา กโรหีติ ภตฺตเคเห วิสฺสฏฺเ สพฺพํ อิสฺสริยํ วิสฺสฏฺํ นาม โหติ, เอวํ กรเณนาติ อตฺโถ. อลงฺการานุปฺปทาเนนาติ อตฺตโน วิภวานุรูเปน อลงฺการทาเนน. สุสํวิหิตกมฺมนฺตาติ ยาคุภตฺตปจนกาลาทีนิ อนติกฺกมิตฺวา ตสฺส ตสฺส สาธุกํ กรเณน สุฏฺุ สํวิหิตกมฺมนฺตา. สงฺคหิตปริชนาติ สมฺมานนาทีหิ เจว ปเหณกเปสนาทีหิ จ สงฺคหิตปริชนา. อิธ ปริชโน นาม สามิกสฺส เจว อตฺตโน จ าติชโน. อนติจารินีติ สามิกํ มฺุจิตฺวา อฺํ มนสาปิ น ปตฺเถติ. สมฺภตนฺติ กสิวาณิชฺชาทีนิ กตฺวา อาภตธนํ. ทกฺขา ¶ จ โหตีติ ยาคุภตฺตสมฺปาทนาทีสุ เฉกา นิปุณา โหติ. อนลสาติ นิกฺโกสชฺชา. ยถา อฺา กุสีตา นิสินฺนฏฺาเน นิสินฺนาว โหนฺติ ิตฏฺาเน ิตาว, เอวํ อหุตฺวา วิปฺผาริเตน จิตฺเตน สพฺพกิจฺจานิ นิปฺผาเทติ. เสสมิธาปิ ปุริมนเยเนว โยเชตพฺพํ.
๒๗๐. จตุตฺถทิสาวาเร ¶ อวิสํวาทนตายาติ ยสฺส ยสฺส นามํ คณฺหาติ, ตํ ตํ อวิสํวาเทตฺวา อิทมฺปิ อมฺหากํ เคเห อตฺถิ, อิทมฺปิ อตฺถิ, คเหตฺวา คจฺฉาหีติ เอวํ อวิสํวาเทตฺวา ทาเนน. อปรปชา จสฺส ปฏิปูเชนฺตีติ สหายสฺส ปุตฺตธีตโร ปชา นาม, เตสํ ปน ปุตฺตธีตโร จ นตฺตุปนตฺตกา จ อปรปชา นาม. เต ปฏิปูเชนฺติ เกฬายนฺติ มมายนฺติ มงฺคลกาลาทีสุ เตสํ มงฺคลาทีนิ กโรนฺติ. เสสมิธาปิ ปุริมนเยเนว เวทิตพฺพํ.
๒๗๑. ยถาพลํ กมฺมนฺตสํวิธาเนนาติ ทหเรหิ กาตพฺพํ มหลฺลเกหิ, มหลฺลเกหิ วา กาตพฺพํ ทหเรหิ, อิตฺถีหิ กาตพฺพํ ปุริเสหิ, ปุริเสหิ วา กาตพฺพํ อิตฺถีหิ อกาเรตฺวา ตสฺส ตสฺส พลานุรูเปเนว กมฺมนฺตสํวิธาเนน. ภตฺตเวตนานุปฺปทาเนนาติ อยํ ขุทฺทกปุตฺโต, อยํ เอกวิหารีติ ¶ ตสฺส ตสฺส อนุรูปํ สลฺลกฺเขตฺวา ภตฺตทาเนน เจว ปริพฺพยทาเนน จ. คิลานุปฏฺาเนนาติ อผาสุกกาเล กมฺมํ อกาเรตฺวา สปฺปายเภสชฺชาทีนิ ทตฺวา ปฏิชคฺคเนน. อจฺฉริยานํ รสานํ สํวิภาเคนาติ อจฺฉริเย มธุรรเส ลภิตฺวา สยเมว อขาทิตฺวา เตสมฺปิ ตโต สํวิภาคกรเณน. สมเย โวสฺสคฺเคนาติ นิจฺจสมเย จ กาลสมเย จ โวสฺสชฺชเนน. นิจฺจสมเย โวสฺสชฺชนํ นาม สกลทิวสํ กมฺมํ กโรนฺตา กิลมนฺติ. ตสฺมา ยถา น กิลมนฺติ, เอวํ เวลํ ตฺวา วิสฺสชฺชนํ. กาลสมเย โวสฺสคฺโค นาม ฉณนกฺขตฺตกีฬาทีสุ อลงฺการภณฺฑขาทนียโภชนียาทีนิ ทตฺวา วิสฺสชฺชนํ. ทินฺนาทายิโนติ โจริกาย กิฺจิ อคเหตฺวา สามิเกหิ ทินฺนสฺเสว อาทายิโน. สุกตกมฺมกราติ ‘‘กึ เอตสฺส กมฺเมน กเตน, น มยํ ¶ กิฺจิ ลภามา’’ติ อนุชฺฌายิตฺวา ตุฏฺหทยา ยถา ตํ กมฺมํ สุกตํ โหติ, เอวํ การกา. กิตฺติวณฺณหราติ ปริสมชฺเฌ กถาย สมฺปตฺตาย ‘‘โก อมฺหากํ สามิเกหิ สทิโส อตฺถิ, มยํ อตฺตโน ทาสภาวมฺปิ น ชานาม, เตสํ สามิกภาวมฺปิ น ชานาม, เอวํ โน อนุกมฺปนฺตี’’ติ คุณกถาหารกา. เสสมิธาปิ ปุริมนเยเนว โยเชตพฺพํ.
๒๗๒. เมตฺเตน กายกมฺเมนาติอาทีสุ เมตฺตจิตฺตํ ปจฺจุปฏฺเปตฺวา กตานิ กายกมฺมาทีนิ เมตฺตานิ นาม วุจฺจนฺติ. ตตฺถ ภิกฺขู นิมนฺเตสฺสามีติ วิหารคมนํ ¶ , ธมกรณํ คเหตฺวา อุทกปริสฺสาวนํ, ปิฏฺิปริกมฺมปาทปริกมฺมาทิกรณฺจ เมตฺตํ กายกมฺมํ นาม. ภิกฺขู ปิณฺฑาย ปวิฏฺเ ทิสฺวา ‘‘สกฺกจฺจํ ยาคุํ เทถ, ภตฺตํ เทถา’’ติอาทิวจนฺเจว, สาธุการํ ทตฺวา ธมฺมสวนฺจ สกฺกจฺจํ ปฏิสนฺถารกรณาทีนิ จ เมตฺตํ วจีกมฺมํ นาม. ‘‘อมฺหากํ กุลูปกตฺเถรา อเวรา โหนฺตุ อพฺยาปชฺชา’’ติ เอวํ จินฺตนํ เมตฺตํ มโนกมฺมํ นาม. อนาวฏทฺวารตายาติ อปิหิตทฺวารตาย. ตตฺถ สพฺพทฺวารานิ วิวริตฺวาปิ สีลวนฺตานํ อทายโก อการโก ปิหิตทฺวาโรเยว. สพฺพทฺวารานิ ปน ปิทหิตฺวาปิ เตสํ ทายโก การโก วิวฏทฺวาโรเยว. อิติ สีลวนฺเตสุ เคหทฺวารํ อาคเตสุ สนฺตํเยว นตฺถีติ อวตฺวา ทาตพฺพํ. เอวํ อนาวฏทฺวารตา นาม โหติ.
อามิสานุปฺปทาเนนาติ ปุเรภตฺตํ ปริภฺุชิตพฺพกํ อามิสํ นาม, ตสฺมา สีลวนฺตานํ ยาคุภตฺตสมฺปทาเนนาติ อตฺโถ. กลฺยาเณน มนสา อนุกมฺปนฺตีติ ‘‘สพฺเพ สตฺตา สุขิตา โหนฺตุ อเวรา อโรคา อพฺยาปชฺชา’’ติ เอวํ หิตผรเณน. อปิจ อุปฏฺากานํ เคหํ อฺเ สีลวนฺเต สพฺรหฺมจารี คเหตฺวา ปวิสนฺตาปิ กลฺยาเณน เจตสา อนุกมฺปนฺติ นาม. สุตํ ปริโยทาเปนฺตีติ ยํ เตสํ ปกติยา สุตํ อตฺถิ, ตสฺส อตฺถํ กเถตฺวา กงฺขํ วิโนเทนฺติ, ตถตฺตาย วา ปฏิปชฺชาเปนฺติ. เสสมิธาปิ ปุริมนเยเนว โยเชตพฺพํ.
๒๗๓. อลมตฺโตติ ¶ ปุตฺตทารภรณํ กตฺวา อคารํ อชฺฌาวสนสมตฺโถ. ปณฺฑิโตติ ทิสานมสฺสนฏฺาเน ปณฺฑิโต หุตฺวา. สณฺโหติ ¶ สุขุมตฺถทสฺสเนน สณฺหวาจาภณเนน วา สณฺโห หุตฺวา. ปฏิภานวาติ ทิสานมสฺสนฏฺาเน ปฏิภานวา หุตฺวา นิวาตวุตฺตีติ นีจวุตฺติ. อตฺถทฺโธติ ถมฺภรหิโต. อุฏฺานโกติ อุฏฺานวีริยสมฺปนฺโน. อนลโสติ นิกฺโกสชฺโช. อจฺฉินฺนวุตฺตีติ นิรนฺตรกรณวเสน อขณฺฑวุตฺติ. เมธาวีติ านุปฺปตฺติยา ปฺาย สมนฺนาคโต.
สงฺคาหโกติ จตูหิ สงฺคหวตฺถูหิ สงฺคหกโร. มิตฺตกโรติ มิตฺตคเวสโน. วทฺูติ ปุพฺพการินา, วุตฺตวจนํ ชานาติ. สหายกสฺส ฆรํ คตกาเล ‘‘มยฺหํ สหายกสฺส เวนํ เทถ, สาฏกํ เทถ, มนุสฺสานํ ภตฺตเวตนํ เทถา’’ติ วุตฺตวจนมนุสฺสรนฺโต ตสฺส อตฺตโน เคหํ ¶ อาคตสฺส ตตฺตกํ วา ตโต อติเรกํ วา ปฏิกตฺตาติ อตฺโถ. อปิจ สหายกสฺส ฆรํ คนฺตฺวา อิมํ นาม คณฺหิสฺสามีติ อาคตํ สหายกํ ลชฺชาย คณฺหิตุํ อสกฺโกนฺตํ อนิจฺฉาริตมฺปิ ตสฺส วาจํ ตฺวา เยน อตฺเถน โส อาคโต, ตํ นิปฺผาเทนฺโต วทฺู นาม. เยน เยน วา ปน สหายกสฺส อูนํ โหติ, โอโลเกตฺวา ตํ ตํ เทนฺโตปิ วทฺูเยว. เนตาติ ตํ ตํ อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ปฺาย เนตา. วิวิธานิ การณานิ ทสฺเสนฺโต เนตีติ วิเนตา. ปุนปฺปุนํ เนตีติ อนุเนตา.
ตตฺถ ตตฺถาติ ตสฺมึ ตสฺมึ ปุคฺคเล. รถสฺสาณีว ยายโตติ ยถา อาณิยา สติเยว รโถ ยาติ, อสติ น ยาติ, เอวํ อิเมสุ สงฺคเหสุ สติเยว โลโก วตฺตติ, อสติ น วตฺตติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘เอเต โข สงฺคหา โลเก, รถสฺสาณีว ยายโต’’ติ.
น มาตา ปุตฺตการณาติ ยทิ มาตา เอเต สงฺคเห ปุตฺตสฺส น กเรยฺย, ปุตฺตการณา มานํ วา ปูชํ วา น ลเภยฺย.
สงฺคหา เอเตติ อุปโยควจเน ปจฺจตฺตํ. ‘‘สงฺคเห เอเต’’ติ วา ปาโ. สมฺมเปกฺขนฺตีติ สมฺมา เปกฺขนฺติ. ปาสํสา จ ภวนฺตีติ ปสํสนียา จ ภวนฺติ.
๒๗๔. อิติ ภควา ยา ทิสา สนฺธาย เต คหปติปุตฺต ปิตา อาห ‘‘ทิสา นมสฺเสยฺยาสี’’ติ, อิมา ตา ฉ ทิสา. ยทิ ตฺวํ ปิตุ วจนํ กโรสิ, อิมา ทิสา นมสฺสาติ ทสฺเสนฺโต สิงฺคาลสฺส ปุจฺฉาย ตฺวา เทสนํ มตฺถกํ ปาเปตฺวา ราชคหํ ปิณฺฑาย ¶ ปาวิสิ ¶ . สิงฺคาลโกปิ สรเณสุ ปติฏฺาย จตฺตาลีสโกฏิธนํ พุทฺธสาสเน วิกิริตฺวา ปฺุกมฺมํ กตฺวา สคฺคปรายโณ อโหสิ. อิมสฺมิฺจ ปน สุตฺเต ยํ คิหีหิ กตฺตพฺพํ กมฺมํ นาม, ตํ อกถิตํ นตฺถิ, คิหิวินโย นามายํ สุตฺตนฺโต. ตสฺมา อิมํ สุตฺวา ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชมานสฺส วุทฺธิเยว ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานีติ.
สุมงฺคลวิลาสินิยา ทีฆนิกายฏฺกถาย
สิงฺคาลสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.