📜

๙. อาฏานาฏิยสุตฺตวณฺณนา

ปมภาณวารวณฺณนา

๒๗๕. เอวํเม สุตนฺติ อาฏานาฏิยสุตฺตํ. ตตฺรายมปุพฺพปทวณฺณนา – จตุทฺทิสํ รกฺขํ เปตฺวาติ อสุรเสนาย นิวารณตฺถํ สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส จตูสุ ทิสาสุ อารกฺขํ เปตฺวา. คุมฺพํ เปตฺวาติ พลคุมฺพํ เปตฺวา. โอวรณํ เปตฺวาติ จตูสุ ทิสาสุ อารกฺขเก เปตฺวา. เอวํ สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส อารกฺขํ สุสํวิหิตํ กตฺวา อาฏานาฏนคเร นิสินฺนา สตฺต พุทฺเธ อารพฺภ อิมํ ปริตฺตํ พนฺธิตฺวา ‘‘เย สตฺถุ ธมฺมอาณํ อมฺหากฺจ ราชอาณํ น สุณนฺติ, เตสํ อิทฺจิทฺจ กริสฺสามา’’ติ สาวนํ กตฺวา อตฺตโนปิ จตูสุ ทิสาสุ มหติยา จ ยกฺขเสนายาติอาทีหิ จตูหิ เสนาหิ อารกฺขํ สํวิทหิตฺวา อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา…เป… เอกมนฺตํ นิสีทึสุ.

อภิกฺกนฺตาย รตฺติยาติ เอตฺถ อภิกฺกนฺตสทฺโท ขยสุนฺทราภิรูปอพฺภนุโมทนาทีสุ ทิสฺสติ. ตตฺถ ‘‘อภิกฺกนฺตา, ภนฺเต รตฺติ, นิกฺขนฺโต ปโม ยาโม, จิรนิสินฺโน ภิกฺขุสงฺโฆ อุทฺทิสตุ, ภนฺเต, ภควา ภิกฺขูนํ ปาติโมกฺข’’นฺติ (อ. นิ. ๘.๒๐) เอวมาทีสุ ขเย ทิสฺสติ. ‘‘อยํ อิเมสํ จตุนฺนํ ปุคฺคลานํ อภิกฺกนฺตตโร ปณีตตโร จา’’ติ (อ. นิ. ๔.๑๐๐) เอวมาทีสุ สุนฺทเร.

‘‘โก เม วนฺทติ ปาทานิ, อิทฺธิยา ยสสา ชลํ;

อภิกฺกนฺเตน วณฺเณน, สพฺพา โอภาสยํ ทิสา’’ติ. (วิ. ว. ๘๕๗);

เอวมาทีสุ อภิรูเป. ‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตมาติ (ปารา. ๑๕) เอวมาทีสุ อพฺภนุโมทเน . อิธ ปน ขเย. เตน อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา, ปริกฺขีณาย รตฺติยาติ วุตฺตํ โหติ.

อภิกฺกนฺตวณฺณาติ อิธ อภิกฺกนฺตสทฺโท อภิรูเป. วณฺณสทฺโท ปน ฉวิถุติกุลวคฺคการณสณฺานปมาณรูปายตนาทีสุ ทิสฺสติ. ตตฺถ ‘‘สุวณฺณวณฺโณสิ ภควา’’ติ (ม. นิ. ๒.๓๙๙) เอวมาทีสุ ฉวิยํ. ‘‘กทา สฺูฬฺหา ปน เต, คหปติ, อิเม สมณสฺส โคตมสฺส วณฺณา’’ติ (ม. นิ. ๒.๗๗) เอวมาทีสุ ถุติยํ. ‘‘จตฺตาโรเม , โภ โคตม, วณฺณา’’ติ (ที. นิ. ๑.๒๖๖) เอวมาทีสุ กุลวคฺเค. ‘‘อถ เกน นุ วณฺเณน คนฺธเถโนติ วุจฺจตี’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๒๓๔) การเณ. ‘‘มหนฺตํ หตฺถิราชวณฺณํ อภินิมฺมินิตฺวา’’ติ (สํ. นิ. ๑.๑๓๘) เอวมาทีสุ สณฺาเน. ‘‘ตโย ปตฺตสฺส วณฺณา’’ติ (ปารา. ๖๐๒) เอวมาทีสุ ปมาเณ. ‘‘วณฺโณ คนฺโธ รโส โอชา’’ติ เอวมาทีสุ รูปายตเน. โส อิธ ฉวิยํ ทฏฺพฺโพ. เตน ‘‘อภิกฺกนฺตวณฺณา อภิรูปจฺฉวี’’ติ วุตฺตํ โหติ.

เกวลกปฺปนฺติ เอตฺถ เกวลสทฺโท อนวเสสเยภุยฺยอพฺยามิสฺสานติเรกทฬฺหตฺถวิสํโยคาทิอเนกตฺโถ. ตถา หิสฺส ‘‘เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริย’’นฺติ (ปารา. ๑) เอวมาทีสุ อนวเสสตา อตฺโถ. ‘‘เกวลกปฺปา จ องฺคมาคธา ปหูตํ ขาทนียํ โภชนียํ อาทาย อภิกฺกมิตุกามา โหนฺตี’’ติ (มหาว. ๔๓) เอวมาทีสุ เยภุยฺยตา. ‘‘เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส สมุทโย โหตี’’ติ (มหาว. ๑) เอวมาทีสุ อพฺยามิสฺสตา. ‘‘เกวลํ สทฺธามตฺตกํ นูน อยมายสฺมา’’ติ (อ. นิ. ๖.๕๕) เอวมาทีสุ อนติเรกตา. ‘‘อายสฺมโต, ภนฺเต, อนุรุทฺธสฺส พาหิโก นาม สทฺธิวิหาริโก เกวลกปฺปํ สงฺฆเภทาย ิโต’’ติ (อ. นิ. ๔.๒๔๓) เอวมาทีสุ ทฬฺหตฺถตา. ‘‘เกวลี วุสิตวา อุตฺตมปุริโสติ วุจฺจตี’’ติ (อ. นิ. ๑๐.๑๒) เอวมาทีสุ วิสํโยโค. อิธ ปนสฺส อนวเสสตฺโถ อธิปฺเปโต.

กปฺปสทฺโท ปนายํ อภิสทฺทหนโวหารกาลปฺตฺติเฉทนวิกปฺปเลสสมนฺตภาวาทิอเนกตฺโถ. ตถา หิสฺส ‘‘โอกปฺปนิยเมตํ โภโต โคตมสฺส. ยถา ตํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสา’’ติ (ม. นิ. ๑.๓๘๗) เอวมาทีสุ อภิสทฺทหนมตฺโถ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปฺจหิ สมณกปฺเปหิ ผลํ ปริภุฺชิตุ’’นฺติ (จูฬว. ๒๕๐) เอวมาทีสุ โวหาโร. ‘‘เยน สุทํ นิจฺจกปฺปํ วิหรามี’’ติ (ม. นิ. ๑.๓๘๗) เอวมาทีสุ กาโล. ‘‘อิจฺจายสฺมา กปฺโป’’ติ (สุ. นิ. ๑๐๙๘) เอวมาทีสุ ปฺตฺติ. ‘‘อลงฺกโต กปฺปิตเกสมสฺสู’’ติ (วิ. ว. ๑๐๙๔) เอวมาทีสุ เฉทนํ. ‘‘กปฺปติ ทฺวงฺคุลกปฺโป’’ติ (จูฬว. ๔๔๖) เอวมาทีสุ วิกปฺโป, อตฺถิ กปฺโป นิปชฺชิตุ’’นฺติ (อ. นิ. ๘.๘๐) เอวมาทีสุ เลโส. ‘‘เกวลกปฺปํ เวฬุวนํ โอภาเสตฺวา’’ติ (สํ. นิ. ๑.๙๔) เอวมาทีสุ สมนฺตภาโว. อิธ ปน สมนฺตภาโว อตฺโถ อธิปฺเปโต. ตสฺมา ‘‘เกวลกปฺปํ คิชฺฌกูฏ’’นฺติ เอตฺถ อนวเสสํ สมนฺตโต คิชฺฌกูฏนฺติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

โอภาเสตฺวาติ วตฺถมาลาลงฺการสรีรสมุฏฺิตาย อาภาย ผริตฺวา, จนฺทิมา วิย สูริโย วิย จ เอโกภาสํ เอกปชฺโชตํ กริตฺวาติ อตฺโถ. เอกมนฺตํ นิสีทึสูติ เทวตานํ ทสพลสฺส สนฺติเก นิสินฺนฏฺานํ นาม น พหุ, อิมสฺมึ ปน สุตฺเต ปริตฺตคารววเสน นิสีทึสุ.

๒๗๖. เวสฺสวโณติ กิฺจาปิ จตฺตาโร มหาราชาโน อาคตา, เวสฺสวโณ ปน ทสพลสฺส วิสฺสาสิโก กถาปวตฺตเน พฺยตฺโต สุสิกฺขิโต, ตสฺมา เวสฺสวโณ มหาราชา ภควนฺตํ เอตทโวจ. อุฬาราติ มเหสกฺขานุภาวสมฺปนฺนา. ปาณาติปาตา เวรมณิยาติ ปาณาติปาเต ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกํ อาทีนวํ ทสฺเสตฺวา ตโต เวรมณิยา ธมฺมํ เทเสติ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. ตตฺถ สนฺติ อุฬารา ยกฺขา นิวาสิโนติ เตสุ เสนาสเนสุ สนฺติ อุฬารา ยกฺขา นิพทฺธวาสิโน. อาฏานาฏิยนฺติ อาฏานาฏนคเร พทฺธตฺตา เอวํนามํ. กึ ปน ภควโต อปจฺจกฺขธมฺโม นาม อตฺถีติ, นตฺถิ. อถ กสฺมา เวสฺสวโณ ‘‘อุคฺคณฺหาตุ, ภนฺเต, ภควา’’ติอาทิมาห? โอกาสกรณตฺถํ. โส หิ ภควนฺตํ อิมํ ปริตฺตํ สาเวตุํ โอกาสํ กาเรนฺโต เอวมาห. สตฺถุ กถิเต อิมํ ปริตฺตํ ครุ ภวิสฺสตีติปิ อาห. ผาสุวิหารายาติ คมนฏฺานาทีสุ จตูสุ อิริยาปเถสุ สุขวิหาราย.

๒๗๗. จกฺขุมนฺตสฺสาติ น วิปสฺสีเยว จกฺขุมา, สตฺตปิ พุทฺธา จกฺขุมนฺโต, ตสฺมา เอเกกสฺส พุทฺธสฺส เอตานิ สตฺต สตฺต นามานิ โหนฺติ. สพฺเพปิ พุทฺธา จกฺขุมนฺโต, สพฺเพ สพฺพภูตานุกมฺปิโน, สพฺเพ นฺหาตกิเลสตฺตา นฺหาตกา. สพฺเพ มารเสนาปมทฺทิโน, สพฺเพ วุสิตวนฺโต, สพฺเพ วิมุตฺตา, สพฺเพ องฺคโต รสฺมีนํ นิกฺขนฺตตฺตา องฺคีรสา. น เกวลฺจ พุทฺธานํ เอตาเนว สตฺต นามานิ อสงฺขฺเยยฺยานิ นามานิ สคุเณน มเหสิโนติ วุตฺตํ.

เวสฺสวโณ ปน อตฺตโน ปากฏนามวเสน เอวมาห. เต ชนาติ อิธ ขีณาสวา ชนาติ อธิปฺเปตา. อปิสุณาถาติ เทสนาสีสมตฺตเมตํ, อมุสา อปิสุณา อผรุสา มนฺตภาณิโนติ อตฺโถ . มหตฺตาติ มหนฺตภาวํ ปตฺตา. ‘‘มหนฺตา’’ติปิ ปาโ, มหนฺตาติ อตฺโถ. วีตสารทาติ นิสฺสารทา วิคตโลมหํสา.

หิตนฺติ เมตฺตาผรเณน หิตํ. ยํ นมสฺสนฺตีติ เอตฺถ ยนฺติ นิปาตมตฺตํ. มหตฺตนฺติ มหนฺตํ. อยเมว วา ปาโ, อิทํ วุตฺตํ โหติ ‘‘เย จาปิ โลเก กิเลสนิพฺพาเนน นิพฺพุตา ยถาภูตํ วิปสฺสิสุํ, วิชฺชาทิคุณสมฺปนฺนฺจ หิตํ เทวมนุสฺสานํ โคตมํ นมสฺสนฺติ, เต ชนา อปิสุณา, เตสมฺปิ นมตฺถู’’ติ. อฏฺกถายํ ปน เต ชนา อปิสุณาติ เต พุทฺธา อปิสุณาติ เอวํ ปมคาถาย พุทฺธานํเยว วณฺโณ กถิโต, ตสฺมา ปมคาถา สตฺตนฺนํ พุทฺธานํ วเสน วุตฺตา. ทุติยคาถาย ‘‘โคตม’’นฺติ เทสนามุขมตฺตเมตํ. อยมฺปิ หิ สตฺตนฺนํเยว วเสน วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. อยฺเหตฺถ อตฺโถ – โลเก ปณฺฑิตา เทวมนุสฺสา ยํ นมสฺสนฺติ โคตมํ, ตสฺส จ ตโต ปุริมานฺจ พุทฺธานํ นมตฺถูติ.

๒๗๘. ยโต อุคฺคจฺฉตีติ ยโต านโต อุเทติ. อาทิจฺโจติ อทิติยา ปุตฺโต, เววจนมตฺตํ วา เอตํ สูริยสทฺทสฺส. มหนฺตํ มณฺฑลํ อสฺสาติ มณฺฑลีมหา. ยสฺส จุคฺคจฺฉมานสฺสาติ ยมฺหิ อุคฺคจฺฉมาเน. สํวรีปิ นิรุชฺฌตีติ รตฺติ อนฺตรธายติ. ยสฺส จุคฺคเตติ ยสฺมึ อุคฺคเต.

รหโทติ อุทกรหโท. ตตฺถาติ ยโต อุคฺคจฺฉติ สูริโย, ตสฺมึ าเน. สมุทฺโทติ โย โส รหโทติ วุตฺโต, โส น อฺโ, อถ โข สมุทฺโท. สริโตทโกติ วิสโฏทโก, สริตา นานปฺปการา นทิโย อสฺส อุทเก ปวิฏฺาติ วา สริโตทโก. เอวํ ตํ ตตฺถ ชานนฺตีติ ตํ รหทํ ตตฺถ เอวํ ชานนฺติ . กินฺติ ชานนฺติ? สมุทฺโท สริโตทโกติ เอวํ ชานนฺติ.

อิโตติ สิเนรุโต วา เตสํ นิสินฺนฏฺานโต วา. ชโนติ อยํ มหาชโน. เอกนามาติ อินฺทนาเมน เอกนามา. สพฺเพสํ กิร เตสํ สกฺกสฺส เทวรฺโ นามเมว นามมกํสุ. อสีติ ทส เอโก จาติ เอกนวุติชนา. อินฺทนามาติ อินฺโทติ เอวํนามา. พุทฺธํ อาทิจฺจพนฺธุนนฺติ กิเลสนิทฺทาปคมเนนาปิ พุทฺธํ. อาทิจฺเจน สมานโคตฺตตายปิ อาทิจฺจพนฺธุนํ. กุสเลน สเมกฺขสีติ อนวชฺเชน นิปุเณน วา สพฺพฺุตฺาเณน มหาชนํ โอโลเกสิ. อมนุสฺสาปิ ตํ วนฺทนฺตีติ อมนุสฺสาปิ ตํ ‘‘สพฺพฺุตฺาเณน มหาชนํ โอโลเกสี’’ติ วตฺวา วนฺทนฺติ. สุตํ เนตํ อภิณฺหโสติ เอตํ อมฺเหหิ อภิกฺขณํ สุตํ. ชินํ วนฺทถ โคตมํ, ชินํ วนฺทาม โคตมนฺติ อมฺเหหิ ปุฏฺา ชินํ วนฺทาม โคตมนฺติ วทนฺติ.

๒๗๙. เยนเปตา ปวุจฺจนฺตีติ เปตา นาม กาลงฺกตา, เต เยน ทิสาภาเคน นีหริยนฺตูติ วุจฺจนฺติ. ปิสุณา ปิฏฺิมํสิกาติ ปิสุณาวาจา เจว ปิฏฺิมํสํ ขาทนฺตา วิย ปรมฺมุขา ครหกา จ. เอเต จ เยน นีหริยนฺตูติ วุจฺจนฺติ, สพฺเพปิ เหเต ทกฺขิณทฺวาเรน นีหริตฺวา ทกฺขิณโต นครสฺส ฑยฺหนฺตุ วา ฉิชฺชนฺตุ วา หฺนฺตุ วาติ เอวํ วุจฺจนฺติ. อิโต สา ทกฺขิณา ทิสาติ เยน ทิสาภาเคน เต เปตา จ ปิสุณาทิกา จ นีหริยนฺตูติ วุจฺจนฺติ, อิโต สา ทกฺขิณา ทิสา. อิโตติ สิเนรุโต วา เตสํ นิสินฺนฏฺานโต วา. กุมฺภณฺฑานนฺติ เต กิร เทวา มโหทรา โหนฺติ, รหสฺสงฺคมฺปิ จ เนสํ กุมฺโภ วิย มหนฺตํ โหติ. ตสฺมา กุมฺภณฺฑาติ วุจฺจนฺติ.

๒๘๐. ยตฺถ โจคฺคจฺฉติ สูริโยติ ยสฺมึ ทิสาภาเค สูริโย อตฺถํ คจฺฉติ.

๒๘๑. เยนาติ เยน ทิสาภาเคน. มหาเนรูติ มหาสิเนรุ ปพฺพตราชา. สุทสฺสโนติ โสวณฺณมยตฺตา สุนฺทรทสฺสโน. สิเนรุสฺส หิ ปาจีนปสฺสํ รชตมยํ, ทกฺขิณปสฺสํ มณิมยํ , ปจฺฉิมปสฺสํ ผลิกมยํ, อุตฺตรปสฺสํ โสวณฺณมยํ, ตํ มนุฺทสฺสนํ โหติ. ตสฺมา เยน ทิสาภาเคน สิเนรุ สุทสฺสโนติ อยเมตฺถตฺโถ. มนุสฺสา ตตฺถ ชายนฺตีติ ตตฺถ อุตฺตรกุรุมฺหิ มนุสฺสา ชายนฺติ. อมมาติ วตฺถาภรณปานโภชนาทีสุปิ มมตฺตวิรหิตา. อปริคฺคหาติ อิตฺถิปริคฺคเหน อปริคฺคหา. เตสํ กิร ‘‘อยํ มยฺหํ ภริยา’’ติ มมตฺตํ น โหติ, มาตรํ วา ภคินึ วา ทิสฺวา ฉนฺทราโค นุปฺปชฺชติ.

นปิ นียนฺติ นงฺคลาติ นงฺคลานิปิ ตตฺถ ‘‘กสิกมฺมํ กริสฺสามา’’ติ น เขตฺตํ นียนฺติ. อกฏฺปากิมนฺติ อกฏฺเ ภูมิภาเค อรฺเ สยเมว ชาตํ. ตณฺฑุลปฺผลนฺติ ตณฺฑุลาว ตสฺส ผลํ โหติ.

ตุณฺฑิกีเร ปจิตฺวานาติ อุกฺขลิยํ อากิริตฺวา นิทฺธุมงฺคาเรน อคฺคินา ปจิตฺวา. ตตฺถ กิร โชติกปาสาณา นาม โหนฺติ. อถ โข เต ตโย ปาสาเณ เปตฺวา ตํ อุกฺขลึ อาโรเปนฺติ. ปาสาเณหิ เตโช สมุฏฺหิตฺวา ตํ ปจติ. ตโต ภุฺชนฺติ โภชนนฺติ ตโต อุกฺขลิโต โภชนเมว ภุฺชนฺติ, อฺโ สูโป วา พฺยฺชนํ วา น โหติ, ภุฺชนฺตานํ จิตฺตานุกูโลเยวสฺส รโส โหติ. เต ตํ านํ สมฺปตฺตานํ เทนฺติเยว, มจฺฉริยจิตฺตํ นาม น โหติ. พุทฺธปจฺเจกพุทฺธาทโยปิ มหิทฺธิกา ตตฺถ คนฺตฺวา ปิณฺฑปาตํ คณฺหนฺติ.

คาวึเอกขุรํ กตฺวาติ คาวึ คเหตฺวา เอกขุรํ วาหนเมว กตฺวา. ตํ อภิรุยฺห เวสฺสวณสฺส ปริจารกา ยกฺขา. อนุยนฺติ ทิโสทิสนฺติ ตาย ตาย ทิสาย จรนฺติ. ปสุํ เอกขุรํ กตฺวาติ เปตฺวา คาวึ อวเสสจตุปฺปทชาติกํ ปสุํ เอกขุรํ วาหนเมว กตฺวา ทิโสทิสํ อนุยนฺติ.

อิตฺถึ วา วาหนํ กตฺวาติ เยภุยฺเยน คพฺภินึ มาตุคามํ วาหนํ กริตฺวา. ตสฺสา ปิฏฺิยา นิสีทิตฺวา จรนฺติ. ตสฺสา กิร ปิฏฺิ โอนมิตุํ สหติ. อิตรา ปน อิตฺถิโย ยาเน โยเชนฺติ. ปุริสํ วาหนํ กตฺวาติ ปุริเส คเหตฺวา ยาเน โยเชนฺติ. คณฺหนฺตา จ สมฺมาทิฏฺิเก คเหตุํ น สกฺโกนฺติ. เยภุยฺเยน ปจฺจนฺติมมิลกฺขุวาสิเก คณฺหนฺติ. อฺตโร กิเรตฺถ ชานปโท เอกสฺส เถรสฺส สมีเป นิสีทิตฺวา นิทฺทายติ, เถโร ‘‘อุปาสก อติวิย นิทฺทายสี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘อชฺช, ภนฺเต, สพฺพรตฺตึ เวสฺสวณทาเสหิ กิลมิโตมฺหี’’ติ อาห.

กุมารึ วาหนํ กตฺวาติ กุมาริโย คเหตฺวา เอกขุรํ วาหนํ กตฺวา รเถ โยเชนฺติ. กุมารวาหเนปิ เอเสว นโย. ปจารา ตสฺส ราชิโนติ ตสฺส รฺโ ปริจาริกา. หตฺถิยานํ อสฺสยานนฺติ น เกวลํ โคยานาทีนิเยว, หตฺถิอสฺสยานาทีนิปิ อภิรุหิตฺวา วิจรนฺติ. ทิพฺพํ ยานนฺติ อฺมฺปิ เนสํ พหุวิธํ ทิพฺพยานํ อุปฏฺิตเมว โหติ, เอตานิ ตาว เนสํ อุปกปฺปนยานานิ. เต ปน ปาสาเท วรสยนมฺหิ นิปนฺนาปิ ปีสิวิกาทีสุ จ นิสินฺนาปิ วิจรนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ปาสาทา สิวิกา เจวา’’ติ. มหาราชสฺส ยสสฺสิโนติ เอวํ อานุภาวสมฺปนฺนสฺส ยสสฺสิโน มหาราชสฺส เอตานิ ยานานิ นิพฺพตฺตนฺติ.

ตสฺสจ นครา อหุ อนฺตลิกฺเข สุมาปิตาติ ตสฺส รฺโ อากาเส สุฏฺุ มาปิตา เอเต อาฏานาฏาทิกา นครา อเหสุํ, นครานิ ภวึสูติ อตฺโถ. เอกฺหิสฺส นครํ อาฏานาฏา นาม อาสิ, เอกํ กุสินาฏา นาม, เอกํ ปรกุสินาฏา นาม, เอกํ นาฏสูริยา นาม, เอกํ ปรกุสิฏนาฏา นาม.

อุตฺตเรน กสิวนฺโตติ ตสฺมึ ตฺวา อุชุํ อุตฺตรทิสาย กสิวนฺโต นาม อฺํ นครํ. ชโนฆมปเรน จาติ เอตสฺส อปรภาเค ชโนฆํ นาม อฺํ นครํ. นวนวติโยติ อฺมฺปิ นวนวติโย นาม เอกํ นครํ. อปรํ อมฺพรอมฺพรวติโย นาม. อาฬกมนฺทาติ อปรมฺปิ อาฬกมนฺทา นาม ราชธานี.

ตสฺมากุเวโร มหาราชาติ อยํ กิร อนุปฺปนฺเน พุทฺเธ กุเวโร นาม พฺราหฺมโณ หุตฺวา อุจฺฉุวปฺปํ กาเรตฺวา สตฺต ยนฺตานิ โยเชสิ. เอกิสฺสาย ยนฺตสาลาย อุฏฺิตํ อายํ อาคตาคตสฺส มหาชนสฺส ทตฺวา ปุฺํ อกาสิ. อวเสสสาลาหิ ตตฺเถว พหุตโร อาโย อุฏฺาสิ, โส เตน ปสีทิตฺวา อวเสสสาลาสุปิ อุปฺปชฺชนกํ คเหตฺวา วีสติ วสฺสสหสฺสานิ ทานํ อทาสิ. โส กาลํ กตฺวา จาตุมหาราชิเกสุ กุเวโร นาม เทวปุตฺโต ชาโต. อปรภาเค วิสาณาย ราชธานิยา รชฺชํ กาเรสิ. ตโต ปฏฺาย เวสฺสวโณติ วุจฺจติ.

ปจฺเจสนฺโต ปกาเสนฺตีติ ปฏิเอสนฺโต วิสุํ วิสุํ อตฺเถ อุปปริกฺขมานา อนุสาสมานา อฺเ ทฺวาทส ยกฺขรฏฺิกา ปกาเสนฺติ. เต กิร ยกฺขรฏฺิกา สาสนํ คเหตฺวา ทฺวาทสนฺนํ ยกฺขโทวาริกานํ นิเวเทนฺติ. ยกฺขโทวาริกา ตํ สาสนํ มหาราชสฺส นิเวเทนฺติ. อิทานิ เตสํ ยกฺขรฏฺิกานํ นามํ ทสฺเสนฺโต ตโตลาติอาทิมาห. เตสุ กิร เอโก ตโตลา นาม, เอโก ตตฺตลา นาม, เอโก ตโตตลา นาม, เอโก โอชสิ นาม, เอโก เตชสิ นาม, เอโก ตโตชสี นาม. สูโร ราชาติ เอโก สูโร นาม, เอโก ราชา นาม, เอโก สูโรราชา นาม, อริฏฺโ เนมีติ เอโก อริฏฺโ นาม, เอโก เนมิ นาม, เอโก อริฏฺเนมิ นาม.

รหโทปิตตฺถ ธรณี นามาติ ตตฺถ ปเนโก นาเมน ธรณี นาม อุทกรหโท อตฺถิ, ปณฺณาสโยชนา มหาโปกฺขรณี อตฺถีติ วุตฺตํ โหติ. ยโต เมฆา ปวสฺสนฺตีติ ยโต โปกฺขรณิโต อุทกํ คเหตฺวา เมฆา ปวสฺสนฺติ. วสฺสา ยโต ปตายนฺตีติ ยโต วุฏฺิโย อวตฺถรมานา นิคจฺฉนฺติ. เมเฆสุ กิร อุฏฺิเตสุ ตโต โปกฺขรณิโต ปุราณอุทกํ ภสฺสติ. อุปริ เมโฆ อุฏฺหิตฺวา ตํ โปกฺขรณึ นโวทเกน ปูเรติ. ปุราโณทกํ เหฏฺิมํ หุตฺวา นิกฺขมติ. ปริปุณฺณาย โปกฺขรณิยา วลาหกา วิคจฺฉนฺติ. สภาปีติ สภา. ตสฺสา กิร โปกฺขรณิยา ตีเร สาลวติยา นาม ลตาย ปริกฺขิตฺโต ทฺวาทสโยชนิโก รตนมณฺฑโป อตฺถิ, ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ.

ปยิรุปาสนฺตีติ นิสีทนฺติ. ตตฺถ นิจฺจผลา รุกฺขาติ ตสฺมึ าเน ตํ มณฺฑปํ ปริวาเรตฺวา สทา ผลิตา อมฺพชมฺพุอาทโย รุกฺขา นิจฺจปุปฺผิตา จ จมฺปกมาลาทโยติ ทสฺเสติ. นานาทิชคณายุตาติ วิวิธปกฺขิสงฺฆสมากุลา. มยูรโกฺจาภิรุทาติ มยูเรหิ โกฺจสกุเณหิ จ อภิรุทา อุปคีตา.

ชีวฺชีวกสทฺเทตฺถาติ ‘‘ชีว ชีวา’’ติ เอวํ วิรวนฺตานํ ชีวฺชีวกสกุณานมฺปิ เอตฺถ สทฺโท อตฺถิ. โอฏฺวจิตฺตกาติ ‘‘อุฏฺเหิ, จิตฺต, อุฏฺเหิ จิตฺตา’’ติ เอวํ วสฺสมานา อุฏฺวจิตฺตกสกุณาปิ ตตฺถ วิจรนฺติ. กุกฺกุฏกาติ วนกุกฺกุฏกา. กุฬีรกาติ สุวณฺณกกฺกฏกา. วเนติ ปทุมวเน. โปกฺขรสาตกาติ โปกฺขรสาตกา นาม สกุณา.

สุกสาฬิกสทฺเทตฺถาติ สุกานฺจ สาฬิกานฺจ สทฺโท เอตฺถ. ทณฺฑมาณวกานิ จาติ มนุสฺสมุขสกุณา. เต กิร ทฺวีหิ หตฺเถหิ สุวณฺณทณฺฑํ คเหตฺวา เอกํ โปกฺขรปตฺตํ อกฺกมิตฺวา อนนฺตเร โปกฺขรปตฺเต สุวณฺณทณฺฑํ นิกฺขิปนฺตา วิจรนฺติ. โสภติ สพฺพกาลํ สาติ สา โปกฺขรณี สพฺพกาลํ โสภติ. กุเวรนฬินีติ กุเวรสฺส นฬินี ปทุมสรภูตา, สา ธรณี นาม โปกฺขรณี สทา นิรนฺตรํ โสภติ.

๒๘๒. ยสฺส กสฺสจีติ อิทํ เวสฺสวโณ อาฏานาฏิยํ รกฺขํ นิฏฺเปตฺวา ตสฺสา ปริกมฺมํ ทสฺเสนฺโต อาห. ตตฺถ สุคฺคหิตาติ อตฺถฺจ พฺยฺชนฺจ ปริโสเธตฺวา สุฏฺุ อุคฺคหิตา. สมตฺตา ปริยาปุตาติ ปทพฺยฺชนานิ อหาเปตฺวา ปริปุณฺณํ อุคฺคหิตา. อตฺถมฺปิ ปาฬิมฺปิ วิสํวาเทตฺวา สพฺพโส วา ปน อปฺปคุณํ กตฺวา ภณนฺตสฺส หิ ปริตฺตํ เตชวนฺตํ น โหติ, สพฺพโส ปคุณํ กตฺวา ภณนฺตสฺเสว เตชวนฺตํ โหติ. ลาภเหตุ อุคฺคเหตฺวา ภณนฺตสฺสาปิ อตฺถํ น สาเธติ, นิสฺสรณปกฺเข ตฺวา เมตฺตํ ปุเรจาริกํ กตฺวา ภณนฺตสฺเสว อตฺถาย โหตีติ ทสฺเสติ. ยกฺขปจาโรติ ยกฺขปริจารโก.

วตฺถุํ วาติ ฆรวตฺถุํ วา. วาสํ วาติ ตตฺถ นิพทฺธวาสํ วา. สมิตินฺติ สมาคมํ. อนาวยฺหนฺติ น อาวาหยุตฺตํ. อวิวยฺหนฺติ น วิวาหยุตฺตํ. เตน สห อาวาหวิวาหํ น กเรยฺยุนฺติ อตฺโถ. อตฺตาหิปิ ปริปุณฺณาหีติ ‘‘กฬารกฺขิ กฬารทนฺตา’’ติ เอวํ เอเตสํ อตฺตภาวํ อุปเนตฺวา วุตฺตาหิ ปริปุณฺณพฺยฺชนาหิ ปริภาสาหิ ปริภาเสยฺยุํ ยกฺขอกฺโกเสหิ นาม อกฺโกเสยฺยุนฺติ อตฺโถ. ริตฺตมฺปิสฺส ปตฺตนฺติ ภิกฺขูนํ ปตฺตสทิสเมว โลหปตฺตํ โหติ. ตํ สีเส นิกฺกุชฺชิตํ ยาว คลวาฏกา ภสฺสติ. อถ นํ มชฺเฌ อโยขีเลน อาโกเฏนฺติ.

จณฺฑาติ โกธนา. รุทฺธาติ วิรุทฺธา. รภสาติ กรณุตฺตริยา. เนว มหาราชานํ อาทิยนฺตีติ วจนํ น คณฺหนฺติ, อาณํ น กโรนฺติ. มหาราชานํ ปุริสกานนฺติ อฏฺวีสติยกฺขเสนาปตีนํ. ปุริสกานนฺติ ยกฺขเสนาปตีนํ เย มนสฺสา เตสํ. อวรุทฺธา นามาติ ปจฺจามิตฺตา เวริโน. อุชฺฌาเปตพฺพนฺติ ปริตฺตํ วตฺวา อมนุสฺเส ปฏิกฺกมาเปตุํ อสกฺโกนฺเตน เอเตสํ ยกฺขานํ อุชฺฌาเปตพฺพํ, เอเต ชานาเปตพฺพาติ อตฺโถ.

ปริตฺตปริกมฺมกถา

อิธ ปน ตฺวา ปริตฺตสฺส ปริกมฺมํ กเถตพฺพํ. ปมเมว หิ อาฏานาฏิยสุตฺตํ น ภณิตพฺพํ, เมตฺตสุตฺตํ ธชคฺคสุตฺตํ รตนสุตฺตนฺติ อิมานิ สตฺตาหํ ภณิตพฺพานิ. สเจ มุฺจติ, สุนฺทรํ. โน เจ มุฺจติ, อาฏานาฏิยสุตฺตํ ภณิตพฺพํ, ตํ ภณนฺเตน ภิกฺขุนา ปิฏฺํ วา มํสํ วา น ขาทิตพฺพํ, สุสาเน น วสิตพฺพํ. กสฺมา? อมนุสฺสา โอกาสํ ลภนฺติ. ปริตฺตกรณฏฺานํ หริตุปลิตฺตํ กาเรตฺวา ตตฺถ ปริสุทฺธํ อาสนํ ปฺเปตฺวา นิสีทิตพฺพํ.

ปริตฺตการโก ภิกฺขุ วิหารโต ฆรํ เนนฺเตหิ ผลกาวุเธหิ ปริวาเรตฺวา เนตพฺโพ. อพฺโภกาเส นิสีทิตฺวา น วตฺตพฺพํ, ทฺวารวาตปานานิ ปิทหิตฺวา นิสินฺเนน อาวุธหตฺเถหิ สํปริวาริเตน เมตฺตจิตฺตํ ปุเรจาริกํ กตฺวา วตฺตพฺพํ. ปมํ สิกฺขาปทานิ คาหาเปตฺวา สีเล ปติฏฺิตสฺส ปริตฺตํ กาตพฺพํ. เอวมฺปิ โมเจตุํ อสกฺโกนฺเตน วิหารํ อาเนตฺวา เจติยงฺคเณ นิปชฺชาเปตฺวา อาสนปูชํ กาเรตฺวา ทีเป ชาลาเปตฺวา เจติยงฺคณํ สมฺมชฺชิตฺวา มงฺคลกถา วตฺตพฺพา. สพฺพสนฺนิปาโต โฆเสตพฺโพ. วิหารสฺส อุปวเน เชฏฺกรุกฺโข นาม โหติ, ตตฺถ ภิกฺขุสงฺโฆ ตุมฺหากํ อาคมนํ ปฏิมาเนตีติ ปหิณิตพฺพํ. สพฺพสนฺนิปาตฏฺาเน อนาคนฺตุํ นาม น ลพฺภติ. ตโต อมนุสฺสคหิตโก ‘‘ตฺวํ โก นามา’’ติ ปุจฺฉิตพฺโพ. นาเม กถิเต นาเมเนว อาลปิตพฺโพ. อิตฺถนฺนาม ตุยฺหํ มาลาคนฺธาทีสุ ปตฺติ อาสนปูชาย ปตฺติ ปิณฺฑปาเต ปตฺติ, ภิกฺขุสงฺเฆน ตุยฺหํ ปณฺณาการตฺถาย มหามงฺคลกถา วุตฺตา, ภิกฺขุสงฺเฆ คารเวน เอตํ มุฺจาหีติ โมเจตพฺโพ. สเจ น มุฺจติ, เทวตานํ อาโรเจตพฺพํ ‘‘ตุมฺเห ชานาถ, อยํ อมนุสฺโส อมฺหากํ วจนํ น กโรติ, มยํ พุทฺธอาณํ กริสฺสามา’’ติ ปริตฺตํ กาตพฺพํ. เอตํ ตาว คิหีนํ ปริกมฺมํ. สเจ ปน ภิกฺขุ อมนุสฺเสน คหิโต โหติ, อาสนานิ โธวิตฺวา สพฺพสนฺนิปาตํ โฆสาเปตฺวา คนฺธมาลาทีสุ ปตฺตึ ทตฺวา ปริตฺตํ ภณิตพฺพํ. อิทํ ภิกฺขูนํ ปริกมฺมํ.

วิกฺกนฺทิตพฺพนฺติ สพฺพสนฺนิปาตํ โฆสาเปตฺวา อฏฺวีสติ ยกฺขเสนาปตโย กนฺทิตพฺพา. วิรวิตพฺพนฺติ ‘‘อยํ ยกฺโข คณฺหาตี’’ติอาทีนิ ภณนฺเตน เตหิ สทฺธึ กเถตพฺพํ. ตตฺถ คณฺหาตีติ สรีเร อธิมุจฺจติ. อาวิสตีติ ตสฺเสว เววจนํ. อถ วา ลคฺคติ น อเปตีติ วุตฺตํ โหติ. เหเตีติ อุปฺปนฺนํ โรคํ วฑฺเฒนฺโต พาธติ. วิเหเตีติ ตสฺเสว เววจนํ. หึสตีติ อปฺปมํสโลหิตํ กโรนฺโต ทุกฺขาเปติ. วิหึสตีติ ตสฺเสว เววจนํ. น มุฺจตีติ อปฺปมาทคาโห หุตฺวา มุฺจิตุํ น อิจฺฉติ, เอวํ เอเตสํ วิรวิตพฺพํ.

๒๘๓. อิทานิ เยสํ เอวํ วิรวิตพฺพํ, เต ทสฺเสตุํ กตเมสํ ยกฺขานนฺติอาทิมาห. ตตฺถ อินฺโท โสโมติอาทีนิ เตสํ นามานิ. เตสุ เวสฺสามิตฺโตติ เวสฺสามิตฺตปพฺพตวาสี เอโก ยกฺโข. ยุคนฺธโรปิ ยุคนฺธรปพฺพตวาสีเยว. หิริ เนตฺติ จ มนฺทิโยติ หิริ จ เนตฺติ จ มนฺทิโย จ. มณิ มาณิ วโร ทีโฆติ มณิ จ มาณิ จ วโร จ ทีโฆ จ. อโถ เสรีสโก สหาติ เตหิ สห อฺโ เสรีสโก นาม. ‘‘อิเมสํ ยกฺขานํ…เป… อุชฺฌาเปตพฺพ’’นฺติ อยํ ยกฺโข อิมํ เหเติ วิเหเติ น มุฺจตีติ เอวํ เอเตสํ ยกฺขเสนาปตีนํ อาโรเจตพฺพํ. ตโต เต ภิกฺขุสงฺโฆ อตฺตโน ธมฺมอาณํ กโรติ, มยมฺปิ อมฺหากํ ยกฺขราชอาณํ กโรมาติ อุสฺสุกฺกํ กริสฺสนฺติ. เอวํ อมนุสฺสานํ โอกาโส น ภวิสฺสติ, พุทฺธสาวกานํ ผาสุวิหาโร จ ภวิสฺสตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อยํ โข สา, มาริส, อาฏานาฏิยา รกฺขา’’ติอาทิมาห. ตํ สพฺพํ, ตโต ปรฺจ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

สุมงฺคลวิลาสินิยา ทีฆนิกายฏฺกถาย

อาฏานาฏิยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.